51 นนั่ เพราะเราเปดิ ใจในการรบั ฟงั เรยี กวา่ สวา่ ง การฟงั ระดบั นสี้ ามารถทำ� ใหเ้ กดิ ความคดิ I-in-you ทสี่ ดใหม่ เราจะสงั เกตตวั เราเองไดจ้ ากการพดู คยุ ที่ เกดิ การรบั รสู้ ภาวะตา่ งๆ รอบตวั สงิ่ ท่ี เรามอี ารมณค์ วามรสู้ กึ รว่ มไปกบั ผพู้ ดู เขา้ ใจสง่ิ เกิดข้ึนภายในตนเองและวงสนทนา เรยี กวา่ ทเี่ ขาเลา่ เหมอื นเราเปน็ คนๆ นนั้ ไมม่ คี วามรสู้ กึ I-in-now หงุดหงิดไม่เห็นด้วย เพราะไม่มัวไปสนใจส่ิง เหลา่ นน้ั เทา่ กบั ความรสู้ กึ ของผพู้ ดู ทพ่ี ดู ออกมา การฟงั ระดบั นเ้ี ปน็ การใหค้ วามสำ� คญั กบั ดว้ ยความรสู้ กึ แบบไหน สงิ่ ทป่ี รากฎในปจั จบุ นั แตล่ ะขณะและอนญุ าตให้ สงิ่ ทไี่ มร่ ู้ ไมพ่ อใจ ปรากฎขน้ึ มาไดอ้ ยา่ งรเู้ นอื้ รตู้ วั ถา้ เราเปน็ ผสู้ งั เกตการสนทนา เราจะเหน็ การฟงั แบบนจ้ี ากวงสนทนาทบี่ อกเลา่ ถงึ ความ เราสังเกตการฟังระดับน้ีได้จากการ ทกุ ขค์ วามเดอื ดรอ้ น ผปู้ ระสบภยั การเผชญิ กบั สภาวะจติ ภายในของเราเอง หากจติ เราสงบ ความยากลำ� บาก เนอื่ งจากผพู้ ดู นน้ั พดู มาจาก สวา่ ง การฟงั แบบนเี้ ปน็ สภาวะขน้ึ สงู ไปสญู่ าน หวั ใจ จากความรสู้ กึ และผฟู้ งั กใ็ สใ่ จในการรบั ฟงั แหง่ ปญั ญาได้ 4. การฟังจากแหล่งพลัง ทกั ษะการฟงั นน้ั กเ็ หมอื นกบั ทกั ษะอนื่ ๆ ภายในตน (Generative listening ทต่ี อ้ งมกี ารฝกึ ฝน และเพอ่ื ใหเ้ ราไดย้ กระดบั การ เรยี นรเู้ กยี่ วกบั การฟงั ของเรา การฝกึ ฝนจงึ ควร from the Deep Source) เปน็ การฟงั ที่ เปน็ การฝกึ กบั วงสนทนาทส่ี ะทอ้ นความคดิ ให้ ทำ� ใหเ้ ราเปดิ ตวั ตนทเ่ี ราจะเปน็ ได้ ไมย่ ดึ ตดิ กบั แกก่ นั และกนั ไดอ้ ยา่ งกลั ยาณมติ รทรี่ ว่ มเรยี นรู้ ความคดิ ความเชอื่ ความรสู้ กึ อนญุ าตใหส้ ง่ิ ไปด้วยกันหรือเราอาจจะมีโค้ช มีผู้เฝ้า ตา่ งๆ ผา่ นเขา้ มาสกู่ ารรบั รขู้ องเรา เปดิ รบั พลงั สงั เกตการณเ์ พอ่ื สะทอ้ นใหเ้ ราฟงั ถงึ ระดบั การ ภายในหรอื พลงั ธรรมชาติ (Open Will) การฟงั ฝกึ ฝนของเรา เมอ่ื เขาสะทอ้ นความคดิ ใหเ้ ราฟงั ทเี่ ชอื่ มกบั ตวั เราอยา่ งทจี่ ะเปน็ ได้ หรอื ตวั ตนทรี่ อ ตวั เราเองกส็ งั เกตตนเองซอ้ นไปอกี ทวี า่ แทจ้ รงิ ผดุ บงั เกดิ ในอนาคต (My high future possibility) แลว้ เราใชก้ ารฟงั ในระดบั ใด การฟงั แบบนไ้ี ดส้ ภาวะใจตอ้ งพรอ้ ม จติ สงบ นง่ิ
52 วธิ คี ดิ เชงิ กระบวนระบบ (Systems Thinking) ชยั วฒั น์ ถริ ะพนั ธ์ุ วธิ คี ดิ กระบวนระบบมใิ ชเ่ ปน็ วธิ คี ดิ ใหม่ เพราะเมอื่ กวา่ 2000 ปกี ม็ วี ธิ คี ดิ แบบนอ้ี ยแู่ ลว้ โดย นกั ปราชญช์ าวกรกี ชอ่ื เฮราคลติ เคยพดู วา่ ทกุ อยา่ ง “เลอ่ื นไหล” (Everything flows.) และหลกั อทิ ปั ปจยตาของพทุ ธธรรมกก็ ลา่ วถงึ เรอ่ื งน้ี เปน็ ตน้ “วธิ คี ดิ กระบวนระบบ” (Systems thinking) ในทศั นะของผม เปน็ เรอ่ื งของวธิ คี ดิ เกย่ี วกบั ระบบ บางทา่ นเคยถามผมวา่ ทำ� ไมตอ้ งเตมิ คำ� วา่ กระบวนระบบดว้ ยใหย้ งุ่ ยาก เพราะวา่ มกี ารพดู ถงึ เรอื่ ง “วธิ คี ดิ ระบบ” อยแู่ ลว้ เหตผุ ลทผ่ี มเตมิ คำ� วา่ “กระบวน” เขา้ ไปดว้ ย เพอ่ื ตอกยำ้� ความ แตกตา่ งของระบบสองระบบและวธิ คี ดิ สองวธิ คี ดิ
53 วธิ คี ดิ กระบวนระบบ (Systems thinking) วา่ ดว้ ยความสำ� คญั ของระบบแหง่ ธรรมชาติ ซง่ึ ยง่ิ ใหญเ่ หนอื ระบบใดๆ เปน็ ระบบเปดิ ทม่ี ชี วี ติ และมกี ระบวนการววิ ฒั นอ์ ยา่ งไมห่ ยดุ ยง้ั ในขณะ ท่ี “ทฤษฎรี ะบบ” ทบี่ างคนไดพ้ ดู ถงึ เปน็ วชิ าทส่ี อนในเชงิ วศิ วกรรมศาสตร์ หนกั ไปทางระบบไมม่ ชี วี ติ เปน็ ระบบกลไก ดงั นนั้ การใชค้ ำ� วา่ “กระบวนระบบ” จงึ ไมใ่ ชเ่ รอื่ งของการ “เลน่ คำ� ” แตม่ คี วาม สำ� คญั ทางภาษา และภาพแหง่ ความเขา้ ใจมาเกย่ี วขอ้ ง สว่ นทฤษฎอี น่ื ทผี่ มจดั วา่ อยใู่ นอาณาจกั รของวธิ คี ดิ กระบวนระบบดว้ ยกค็ อื ทฤษฎซี บั ซอ้ น (Complexity Theory) และทฤษฎไี รร้ ะเบยี บ (Chaos Theory) ทฤษฎไี รร้ ะเบยี บและทฤษฎซี บั ซอ้ นนน้ั เกดิ ขน้ึ มาหลงั ทฤษฎกี ระบวนระบบ สองทฤษฎซี ง่ึ พฒั นาขนึ้ มาในระยะ 20 ปหี ลงั เปน็ การสบื ทอดความรทู้ ฤษฎกี ระบวนระบบ ทฤษฎไี รร้ ะเบยี บ พยายามทำ� ความเขา้ ใจการเกดิ ระเบยี บในธรรมชาติ แลว้ ตอ่ มาทฤษฎซี บั ซอ้ นไดพ้ ฒั นาความรนู้ ใ้ี ห้ ลกึ ซง้ึ เขา้ ไปอกี วา่ กระบวนการทซี่ บั ซอ้ นนเี้ ขา้ ไปเกยี่ วขอ้ งอยา่ งไรและไดท้ ำ� ใหเ้ กดิ อะไรขนึ้ Roger Lewin นกั ชวี วทิ ยาผคู้ น้ ควา้ วจิ ยั เรอื่ งระบบซบั ซอ้ นบอกวา่ มนั มหี ลายหวั ขอ้ ทต่ี รง ขา้ มกนั ระหวา่ งทฤษฎกี ระบวนระบบและทฤษฎซี บั ซอ้ น แตท่ ง้ั สองความรมู้ เี รอื่ งสำ� คญั สองเรอ่ื งที่ ตรงกันคือ ความไม่เป็นเชิงเส้นหรือความไม่เป็นเส้นตรง (Non-linearity) และการผุดบังเกิด (Emergence) Roger Lewin ยำ้� วา่ ทฤษฎกี ระบวนระบบพดู ถงึ ความไมเ่ ปน็ เชงิ เสน้ แตไ่ มไ่ ดพ้ ดู ถงึ concept ทอ่ี ธบิ าย “การเปลยี่ นแปลงเลก็ ๆ ทสี่ ามารถนำ� ไปสผู่ ลสะเทอื นใหญ”่ ซงึ่ ประเดน็ นค้ี อื หวั ใจ ของทฤษฎไี รร้ ะเบยี บ เพราะมนั ไดจ้ บั ปรากฏการณน์ ม้ี าศกึ ษาทำ� ความเขา้ ใจ ทฤษฎนี ใ้ี หค้ วามกระจา่ ง แกเ่ ราวา่ ระบบทไี่ รร้ ะเบยี บ (Chaotic system) ซงึ่ ไมใ่ ชเ่ ปน็ การ “สมุ่ ” (not random) สามารถ อธบิ ายดว้ ยสมการงา่ ยๆ หรอื กฎงา่ ยๆ ได้ ทฤษฎไี รร้ ะเบยี บนน้ั พดู ถงึ ระบบซบั ซอ้ นในชว่ งทมี่ สี ภาพ วนุ่ วายไรร้ ะเบยี บ (Chaotic state) สว่ นวทิ ยาศาสตรซ์ บั ซอ้ น (Complex science) มองภาพกวา้ ง กวา่ คอื เหน็ วา่ ระบบมสี ามสภาพไดแ้ ก่ สภาพไรร้ ะเบยี บ (chaotic) สภาพเสถยี ร (stable) และ สภาพหรอื โซนของการปรบั ตวั อยา่ งสรา้ งสรรคร์ ะหวา่ งสองสภาพทกี่ ลา่ วมาในตอนแรก (Zone of creative adaptibility in between) ทฤษฎไี รร้ ะเบยี บถงึ แมว้ า่ จะเกดิ กอ่ น แตข่ ณะนกี้ ลายเปน็ สว่ น หนง่ึ ของวทิ ยาศาสตรซ์ บั ซอ้ น Systems thinking เปน็ รากฐานของ Chaos Theory ของ Complexity Theory ซง่ึ ทงั้ สอง ทฤษฎดี งั กลา่ วถอื เปน็ New Science หรอื วทิ ยาศาสตรใ์ หม่ สง่ิ ทน่ี า่ สนใจ ณ ตน้ ศตวรรษท่ี 21 คอื วทิ ยาศาสตรใ์ หม่ (New Science) ไดก้ ลบั เขา้ มามคี วามสมั พนั ธส์ อดประสานกบั ภมู ปิ ญั ญาโบราณ เมอ่ื กวา่ 2000 ปกี อ่ น ผมอยากจะฝากวา่ รายละเอยี ดใหท้ า่ นสนใจอา่ นหนงั สอื ตอ่ “จดุ เปลย่ี นแหง่ ศตวรรษ : The Turning Point” คนเขยี นคอื Fritjot Capra ซงึ่ เขยี น Toa and Physics และอกี เลม่ คอื Web of life อนั เปน็ เลม่ ลา่ สดุ ของ Capra จะทำ� ใหค้ วามรคู้ วามเขา้ ใจเรอ่ื ง Systems thinking นลี้ กึ ซง้ึ ยงิ่ ขน้ึ โดยเฉพาะกอ่ นทจ่ี ะเปน็ หนงั สอื Web of life หรอื ขา่ ยแหง่ ชวี ติ Capra ได้ เขยี นบทความเรอ่ื ง System View of Life แปลเปน็ ไทยวา่ ระบบทศั นะแหง่ ธรรมชาติ คอื พดู งา่ ยๆ วา่ ทกุ อยา่ งนใี้ นทส่ี ดุ กใ็ หค้ วามสำ� คญั ตอ่ เรอื่ งชวี ติ
54 ชวี ติ ในธรรมชาตเิ ปน็ ตวั สำ� คญั โดยเฉพาะ Capra จะนำ� เสนอเรอ่ื งทเี่ รยี กวา่ Deep Ecology ขน้ึ มา วธิ คี ดิ แบบ Deep Ecology ยดึ เอาระบบชวี ติ เปน็ ตวั สำ� คญั ตอนนที้ างดา้ นชวี วทิ ยาจะแซง ฟสิ กิ สข์ น้ึ มาแลว้ ในฐานะทางวทิ ยาศาสตร์ ซงึ่ แตก่ อ่ นฟสิ กิ สค์ รอบงำ� โลกมาเปน็ รอ้ ยปี ชวี วทิ ยาเรมิ่ มบี ทบาทมากขนึ้ เรอ่ื ยๆ ทา่ ทใี นการแกป้ ญั หา Problem solving approaches วธิ กี ารแกป้ ญั หาแนวจารตี มกั จะเปน็ อยา่ งนี้ : 1. ตรงแนว่ จาก “ปรากฏการณ”์ สู่ “ทางออกเลยทนั ท”ี โดยยงั ไมไ่ ดเ้ ขา้ ใจรากเหงา้ ของปญั หา 2. แกป้ ญั หาแบบแยกสว่ น 3. โฟกสั ไปทป่ี ญั หาดา้ นที่ “จบั ตอ้ งได”้ หรอื “วดั ” ได้ ขณะทปี่ ระเดน็ ยากๆ มกั เปน็ ดา้ น “softer organizational aspects” เชน่ อารมณ์ คณุ คา่ ไมไ่ ดใ้ หค้ วามสนใจวา่ เปน็ สว่ นสำ� คญั ของปญั หา 4. มกั ชอบทำ� ซำ้� กบั ทางออกทส่ี ำ� เรจ็ มาบา้ งเลก็ นอ้ ยในอดตี 5. ชอบเนน้ วา่ ทำ� อยา่ งไร “กลมุ่ อนื่ ” จะเปลยี่ นแปลง ผลของการแกป้ ญั หาแนวจารตี 1. “แทบไมม่ กี ำ� ลงั งดั ” ทง้ั ทล่ี งแรงมาก ใชท้ รพั ยากรมาก เพอ่ื จะทำ� ใหม้ นั ดขี น้ึ 2. การเปลยี่ นแปลงเกดิ ขนึ้ ชวั่ คราว ไมย่ งั่ ยนื หรอื ปรบั ปรงุ ใหด้ ขี น้ึ ในระยะสน้ั 3. เกดิ กลมุ่ ทไ่ี มไ่ วว้ างใจกนั และกนั 4. ชอบประชดประชนั /เยย้ หยนั (cynicism) ความเชอื่ ตอ่ ระบบ เรามกั ชอบคิดแบบน้ี เราควรคดิ วิธีใหม่ ความเชื่อมโยงระหวา่ งปญั หากบั สาเหตุ ความสันพนั ธ์ระหว่างปัญหากับสาเหตุ ของมัน เห็นได้ชดั และพบได้ง่าย มักเป็นทางอ้อม (indirect) และไม่ ชัดเจน เพอ่ื ทส่ี ่วนรวมจะได้รับผลทด่ี ที ่ีสุด เรา ต้องทำ�สว่ นยอ่ ยให้ดีทส่ี ดุ กอ่ น เพื่อจะใหส้ ว่ นรวมได้รับผลท่ีดีทส่ี ดุ เรา ตอ้ งปรับปรงุ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสว่ น ต่างๆ เหล่าน้ี
55 นโยบายท่สี ร้างข้นึ มาเพื่อทำ�ความ การแก้ปญั หาเฉพาะหนา้ (quick fix) สำ�เรจ็ ระยะสั้นจะนำ�ไปสู่ความสำ�เร็จ ในระยะยาว จะไมม่ อี ะไรดีขนึ้ หรอื ระยะยาวอย่างแนน่ อน อาจจะทำ�ใหแ้ ยล่ งไปกวา่ เดมิ เสยี ดว้ ยซำ้ � คนอ่ืนคอื ตัวปัญหาหรอื ควรรับผดิ เราก็มีสว่ นสรา้ งปญั หาโดยไม่รตู้ วั และ ชอบที่เกิดปัญหาและพวกนี้ต้อง ตัวเรามสี ว่ นสำ�คญั ในการแก้ปัญหาโดย เปล่ียนแปลง เปล่ยี นพฤติกรรมของตวั เราเอง คณุ ปู การของการคดิ กระบวนระบบ วธิ คี ดิ กระบวนระบบเปน็ การคดิ ทพี่ น้ จากคดิ เชงิ วเิ คราะห์ เพราะการคดิ เชงิ วเิ คราะหจ์ ะมี สมมตุ ฐิ านวา่ ขณะทเี่ รากำ� ลงั ศกึ ษาสงิ่ ใดสง่ิ หนง่ึ นนั้ สง่ิ นนั้ ๆ มนั หยดุ นงิ่ อยู่ ทำ� ใหส้ ามารถถอดองค์ ประกอบของมนั ออกไดเ้ ปน็ ชนิ้ ๆ และความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งชน้ิ สว่ นหรอื องคป์ ระกอบมไิ ดเ้ ปน็ สงิ่ ส�ำคัญ…แต่โลกท่ีเป็นจริงนั้นไม่เคยหยุดนิ่งเลยมันเคลื่อนไหวเปล่ียนแปลงตลอดเวลา ไม่ว่าใน ครอบครวั ในทที่ ำ� งาน ในชมุ ชน หรอื ในสงั คม วธิ คี ดิ กระบวนระบบจงึ ชว่ ยใหเ้ รา 1. มองเหน็ โลกรอบตวั เราเปน็ องคร์ วมมากกวา่ จะเหน็ เพยี งเหตกุ ารณแ์ ตล่ ะครงั้ หรอื เหน็ ภาพชวี ติ เปน็ “snapshots” 2. เหน็ และตระหนกั (sense) วา่ สว่ นยอ่ ยของระบบมนั ทำ� งานรว่ มกนั อยา่ งไร แทนทจ่ี ะ สว่ นตา่ งๆ เปน็ การ “สะสม” (collection) โดยไมไ่ ดเ้ กยี่ วขอ้ งกนั ระหวา่ งกนั 3. เหน็ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสว่ นยอ่ ยตา่ งๆ ทอี่ ยใู่ นระบบนนั้ สามารถมอี ทิ ธพิ ลตอ่ แบบแผน พฤตกิ รรม (patterns of behavior) และเหตกุ ารณน์ น้ั ๆ ไดอ้ ยา่ งไร 4. มคี วามเขา้ ใจคอื “ชวี ติ ” วา่ เคลอ่ื นไปตลอดและเปลยี่ นแปลงตลอดเวลา ไมไ่ ดส้ ถติ ยน์ ง่ิ 5. ชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจวา่ เหตกุ ารณห์ นงึ่ มอี ทิ ธพิ ลตอ่ เหตกุ ารณอ์ น่ื ถงึ แมว้ า่ เหตกุ ารณท์ ส่ี องเกดิ หลงั จากเหตกุ ารณแ์ รกไดเ้ กดิ ขนึ้ มานานแลว้ และ “อยไู่ กล” จากเหตกุ ารณค์ รงั้ แรก 6. ทำ� ใหร้ วู้ า่ “อะไร” (สงิ่ ) ทเี่ กดิ ขนึ้ รอบตวั เรานนั้ ขนึ้ อยกู่ บั “ตำ� แหนง่ ของเรา” ในระบบ และในขณะนนั้ 7. เกดิ การทา้ ทายสมมตุ ฐิ านเดมิ ของเราทคี่ ดิ วา่ โลกทำ� งานอยา่ งไร (How the world works.) มนั เปน็ การตง้ั คำ� ถามคอื แบบจำ� ลองความคดิ ของเรา (mental models) และ เรม่ิ เหน็ วา่ แบบจำ� ลองความคดิ เดมิ ของเรานนั้ มนั “จำ� กดั ” ศกั ยภาพเรา
56 8. ทำ� ใหเ้ ราเรม่ิ ตระหนกั ถงึ การกระทำ� ของเราหรอื การกระทำ� ของคนอนื่ วา่ มผี ลกระทบระยะ สนั้ และผลกระทบระยะยาวอะไรบา้ ง 9. ชว่ ยใหเ้ ราสนใจ “ทดลองตงั้ คำ� ถามใหม”่ เมอ่ื “สง่ิ นนั้ ” ไมไ่ ดด้ ำ� เนนิ ไปตามทางทเี่ รา วางแผนเอาไว้ เราไม่จ�ำเป็นต้องปฏิเสธการคิดเชิงวิเคราะห์ แต่เราต้องสนใจการน�ำเอาการคิดเชิง กระบวนระบบเขา้ มาประกอบใหส้ มบรู ณข์ น้ึ เราคาดวา่ จะเหน็ อะไรบา้ ง เมอ่ื ใชว้ ธิ คี ดิ กระบวนระบบ 1. ไมม่ คี ำ� ตอบทถ่ี กู ตอ้ งคำ� ตอบเดยี ว มนั มกี ารกระทำ� อนั เตม็ ไปดว้ ยศกั ยภาพ (potential actions) ทแี่ ตกตา่ งหลากหลาย บางปฏบิ ตั กิ ารกม็ ี “คานงดั ทรงพลงั ” (high leverage) บางการกระทำ� มี “คานงดั เลก็ ” (low leverage) บางปฏบิ ตั กิ ารทำ� ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายอนั พงึ ปรารถนา แตบ่ าง การกระทำ� กท็ ำ� ใหเ้ กดิ ผลขา้ งเคยี งทค่ี าดไมถ่ งึ หรอื ไมไ่ ดต้ ง้ั ใจ (ไมน่ า่ ปรารถนา) หรอื เรยี กวา่ side effects ดงั นนั้ ศลิ ปะของวธิ คี ดิ กระบวนระบบจงึ ครอบคลมุ “การเรยี นรเู้ พอื่ ใหเ้ หน็ และรจู้ กั ” (learning to recognize) วา่ ความเปน็ ไปไดท้ เ่ี ราจะทำ� นนั้ สามารถ “แตกแขนง” ออกไปได้ ทำ� ให้ เราตอ้ งสนใจพจิ ารณา ไตรต่ รองและเลอื กมนั (trade off of the action) 2. ไมส่ ามารถแบง่ ชา้ ง…ออกเปน็ ครง่ึ ตวั ระบบเสมอื นชา้ งทงั้ ตวั เราตอ้ งมองเหน็ ภาพรวมเพราะ การทเี่ ราจะไดผ้ ลลพั ธท์ ดี่ จี ากระบบซบั ซอ้ นนนั้ ขนึ้ อยกู่ บั การนำ� เอามติ หิ ลายแงห่ ลายมมุ ออกมา ใหเ้ หน็ มากทสี่ ดุ …โดยธรรมชาตขิ อง systems thinking มนั จะชใี้ หเ้ ราไดเ้ หน็ การพง่ึ พาอาศยั กนั และกนั และความจำ� เปน็ ทต่ี อ้ งรว่ มมอื กนั (need of collaboration) ดงั นน้ั เมอื่ เราทำ� งานตอ่ ไปจำ� เปน็ ตอ้ งหาสมาชกิ ใหมม่ าเพมิ่ โดยเฉพาะคนทเี่ คยคดิ วา่ “เขาเปน็ ศตั ร”ู นา่ จะกลบั มาเปน็ ผเู้ ลน่ ในฝง่ั เดยี วกบั เราได้ 3. สาเหตแุ ละผลลพั ธจ์ ะไมอ่ ยใู่ กลก้ นั …ไมว่ า่ จะเปน็ มติ ดิ า้ นกาละหรอื เทศะ เราตอ้ งวง่ิ ไปดสู ายธาร แหง่ การเปลยี่ นแปลง ทงั้ ทตี่ น้ นำ้� และปลายนำ�้ เพอ่ื คน้ หาสาเหตทุ แี่ ทจ้ รงิ ใหไ้ ด้ บอ่ ยครง้ั ปฏบิ ตั ิ การทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพเปน็ สงิ่ ละเอยี ดออ่ นทสี่ ดุ (Effective action is the subtlest.) ซงึ่ ไมม่ สี ตู ร สำ� เรจ็ ตายตวั เพราะบางครง้ั อาจใชค้ วามสงบ สยบเคลอ่ื นไหว แตบ่ างครง้ั อาจจะพบวา่ จดุ คาน งดั ท่ดี ีทีส่ ุดมาจากเรอื่ งราวบคุ คลหรอื ทรพั ยากรทนี่ อกเหนอื ความคาดหมาย (completely unexpected source) 4. คณุ มขี า้ วทงั้ จานทจ่ี ะกนิ – แตก่ นิ ทลี ะคำ� เรอื่ งทยี่ ากซบั ซอ้ นไมส่ ามารถจะจดั การใหเ้ สรจ็ ใน
ทนั ทที นั ใด ตอ้ งอดทนพอจะทำ� ใหเ้ สรจ็ เปน็ จงั หวะๆ ไป 57 5. ระวงั ทางตรง มกั พาเราลงเหว บอ่ ยครง้ั หนทางและวธิ กี ารทเี่ ราคดิ วา่ เปน็ เสน้ ทางทส่ี นั้ ทสี่ ดุ เดนิ สะดวกทส่ี ดุ จะสรา้ งปญั หาตดิ ตามมาอยา่ งมากมายชนดิ คาดไมถ่ งึ 6. พฤตกิ รรมทางระบบจะแยล่ ง กอ่ นทจี่ ะดขี น้ึ Jay Forrester ผเู้ ปน็ ปรมาจารยแ์ หง่ นกั คดิ กระบวนระบบ (Systems thinker) รนุ่ แรกๆ เรยี กระบบพลวตั (System dynamic) วา่ เปน็ “วทิ ยาศาสตรข์ องความทกุ ขแ์ บบใหม”่ (New dismal science--- limited understanding and fallibilities of the past and the assurance that today; thinking will be the source of tomorrow’s problem.) เพราะทำ� ใหค้ นเรม่ิ มองเหน็ ปญั หาทเี่ มอ่ื กอ่ นไมส่ ามารถนำ� มาถกได้ ปรากฏออกมาใหเ้ หน็ ซง่ึ มผี ลกระทบตอ่ ตวั เรา ใหเ้ ราตระหนกั วา่ วธิ คี ดิ เกา่ คอื ตวั สรา้ งปญั หา ความตื่นและตระหนักอันนี้จะสร้างความส�ำนึกที่เป็นพลังทวีคูณในตัวของเขาจนน�ำไปสู่การ เปลย่ี นแปลงทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ ระบบคอื อะไร? เรารจู้ กั ระบบจรงิ หรอื ไม?่ การทเ่ี ราจะเขา้ ใจคณุ สมบตั สิ ำ� คญั ของความเปน็ “ระบบ” ไดน้ น้ั ควรใชค้ ำ� ถามดงั ตอ่ ไปน้ี 1. สง่ิ ทเี่ ราเหน็ นนั้ มนั เปน็ “กอง” หรอื เปน็ “ระบบ” ระบบนน้ั ตอ้ งประกอบจากสองสว่ นหรอื มากกวา่ นนั้ เสมอ สว่ น “กอง” กป็ ระกอบดว้ ยสอง หรอื มากกวา่ เชน่ กนั แตถ่ า้ คณุ เพมิ่ อะไรเขา้ ไปในกองหรอื เอาบางอยา่ งในกองออกไป สง่ิ นนั้ ไมไ่ ด้ เปลย่ี นแปลงอนั ใด เชน่ กองขา้ วสาร คณุ ตกั ขา้ วออก หรอื เพม่ิ จำ� นวนเขา้ ไป มนั กย็ งั เปน็ กองขา้ วสาร เชน่ เดมิ การทเ่ี ราจะเขา้ ใจวา่ ระบบทำ� งานอยา่ งไร ขอใหม้ องทร่ี ะบบกายของเรา และเปรยี บเทยี บกบั ระบบรถยนต์ แตถ่ า้ เปน็ ระบบถา้ คณุ เอาบางสว่ นออกมนั เปลยี่ นไป เชน่ คณุ ตดั มอื ออกจากแขน มอื กท็ ำ� งานไมไ่ ด้ หรอื เอาแบตเตอรอี่ อกจากรถยนต์ รถกไ็ มแ่ ลน่ เราจะเหน็ วา่ ในระบบนนั้ สว่ นประกอบสำ� คญั ๆ จะมี “ความสมั พนั ธพ์ เิ ศษ” อยู่ ดงั นนั้ อปุ มา อปุ มยั ของชาวบา้ นทว่ี า่ “แมเ้ ราจะแบง่ ควายออกเปน็ 2 สว่ น เรากไ็ มไ่ ดค้ วาย 2 ตวั ” เราจะเหน็ วา่ “คณุ ภาพ” หรอื “ศกั ยภาพ” ของสว่ นประกอบหรอื สว่ นยอ่ ยมนั จะสญู หายไป เมอ่ื ถกู แยกออกจาก ระบบ ดงั นน้ั คณุ ภาพหรอื ศกั ยภาพจงึ เกดิ จาก “การปฏสิ มั พนั ธ”์ ระหวา่ งสว่ นตา่ งๆ ในระบบ (ดงั นนั้ การวเคราะหม์ นั จงึ ชว่ ยอะไรไมไ่ ดม้ าก ถา้ เราจะเขา้ ใจระบบโดยรวม)
58 2. ความเปน็ องคร์ วม “เหนอื กวา่ ” ความเปน็ ผลรวม? ระบบมชี วี ติ ทกุ ระบบประกอบขนึ้ ดว้ ยปรมิ าณของความปฏสิ มั พนั ธท์ เี่ ชอื่ มโยงเขา้ หากนั และ กันอย่างแน่นหนาจ�ำนวนหน่ึง ปริมาณความปฏิสัมพันธ์น้ีมีจ�ำนวนค่อนข้างมากทีเดียว ท�ำให้ คณุ สมบตั โิ ดยรวมของระบบทง้ั ระบบตา่ งไปจากการนำ� สว่ นยอ่ ยแตล่ ะสว่ นมาบวกเพมิ่ เขา้ ไปทลี ะสว่ น จนออกมาเปน็ “ผลรวม” นนั่ หมายความวา่ “คณุ สมบตั ”ิ ของระบบรวมหรอื “คณุ ภาพ” ของระบบ ใหญแ่ ตกตา่ งไปจากคณุ สมบตั ขิ องสว่ นยอ่ ย การวดั คณุ ภาพของระบบใหญไ่ มไ่ ดม้ าจากการวดั ปรมิ าณ ของสว่ นยอ่ ยทบี่ วกเพม่ิ เขา้ ไป เชน่ คณุ สมบตั ขิ องวงดนตรซี มิ โฟนี ซง่ึ บรรเลงเพลงไดไ้ พเราะเพราะ พรง้ิ เพราะมจี ำ� นวนนกั ดนตรใี นวงมาก แตม่ นั ขนึ้ อยกู่ บั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งวาทยากรผคู้ มุ วงกบั นกั ดนตรแี ละระหวา่ งนกั ดนตรดี ว้ ยกนั เอง เปน็ ตน้ 3. จดุ มงุ่ หมายหรอื เปา้ หมายของมนั คอื อะไร? ระบบตา่ งๆ ลว้ นมจี ดุ มงุ่ หมายหรอื เปา้ หมายของตนในความสมั พนั ธก์ บั ระบบใหญท่ ตี่ นเปน็ สว่ นหนงึ่ ในนนั้ เชน่ ในสงั คมกจ็ ะมสี งั คมยอ่ ยทม่ี อี ะไรเปน็ ของตน กลมุ่ อนรุ กั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มในสงั คม ไทยหรอื ในสงั คมโลก กลมุ่ รกั เพศเดยี วกนั สงั คมวยั รนุ่ … 4. รปู รา่ งของเหตแุ ละผลเปน็ วงจร? เราอาจจะคดิ รปู รา่ งการสมั พนั ธข์ องเหตแุ ละผลเปน็ เสน้ ตรง ก ข ค แตน่ กั คดิ กระบวนระบบ (Systems thinker) จะเหน็ รปู รา่ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งเหตกุ บั ผลเปน็ วงกลม มนั ไมไ่ ดเ้ ปน็ ความสมั พนั ธท์ างเดยี ว แตเ่ ปน็ ความสมั พนั ธป์ อ้ นกลบั (feedback) ก ข ค
59 5. สงิ่ ทเี่ ราประสบนน้ั เปน็ เหตกุ ารณท์ เี่ กดิ ขนึ้ ครงั้ เดยี วหรอื ? ถา้ เราสงั เกตเรอื่ งความเปน็ ระบบแลว้ จะเหน็ วา่ เหตกุ ารณท์ เี่ ราเหน็ นนั้ มนั มกั จะมใิ ชเ่ หตกุ ารณ์ ทเี่ กดิ ขนึ้ เพยี งครง้ั เดยี ว มนั มกั จะมพี ฤตกิ รรมของระบบทมี่ อี ะไรคลา้ ยๆ กนั เชน่ การทเ่ี ดก็ ๆ เลน่ แลว้ เกดิ ทะเลาะกนั จนถงึ ขนั้ ชกตอ่ ย หรอื บรษิ ทั แขง่ กนั ขายของโดยการลดราคาเพอ่ื เอาชนะ คแู่ ขง่ เปน็ ตน้ เรอ่ื งราว (stories) ทเ่ี กดิ ขน้ึ ตา่ งกรรม ตา่ งวาระนน้ั เราสามารถจบั แบบแผน ของเหตกุ ารณแ์ ละเรอ่ื งราวได้ ระบบอาจแบง่ ตามการปฏสิ มั พนั ธก์ บั ภายนอกได้ 2 ระบบใหญๆ่ คอื ระบบปดิ และระบบเปดิ ระบบปดิ เปรยี บเสมอื นเครอ่ื งจกั ร เปน็ ระบบของมนั ในตวั มขี อ้ โซห่ วั เทยี น มรี ะบบจดุ ระเบดิ อะไรทง้ั หลายเครอื่ งจกั รมนั ทำ� งานไปเรอ่ื ยๆ ตราบใดทมี่ พี ลงั งานเขา้ ไป ในรปู ของไฟฟา้ หรอื นำ้� มนั หรอื อะไรกแ็ ลว้ แต่ หรอื นำ้� ทเี่ ปน็ เครอ่ื งจกั รไอนำ้� ฝนจะตกฟา้ จะรอ้ งเครอื่ งจกั รกเ็ ดนิ ไปเรอื่ ยๆ ไมไ่ ด้ เปลยี่ นแปลงอะไร นค่ี อื ระบบทป่ี ดิ อยใู่ นตวั เอง เครอ่ื งจกั รเปน็ สญั ลกั ษณข์ องการคดิ แบบกระบวนการ เกา่ หรอื กระบวนทศั นเ์ กา่ ทเ่ี ราเรยี กวา่ กระบวนทศั นแ์ บบกลไก หรอื วทิ ยาศาสตรแ์ บบกลไก ขณะทรี่ ะบบเปดิ สามารถแบง่ ออกเปน็ 2 พวกคอื ระบบเปดิ ทมี่ ชี วี ติ และ ระบบเปดิ ทไี่ มม่ ี ชวี ติ การใชว้ ธิ คี ดิ ในกระบวนทศั นใ์ หมจ่ ะขอเนน้ ทรี่ ะบบเปดิ ทม่ี ชี วี ติ ซง่ึ จะมปี ฏสิ มั พนั ธก์ บั สภาพ แวดลอ้ มภายนอกตลอดเวลา เหมอื นรา่ งกายทเ่ี ปน็ ระบบทม่ี ชี วี ติ ระบบทอ่ี ยไู่ ดจ้ ากการหายใจ รบั ประทานอาหาร และขบั ถา่ ยออกมา เพอ่ื ใหเ้ หน็ วา่ ระบบเปดิ นมี่ นั มกี ารปฏสิ มั พนั ธก์ บั โลกภายนอก ตลอดเวลา อนั นค้ี อื สง่ิ สำ� คญั มาก System Thinking เนน้ ใชก้ บั ระบบเปดิ และในระบบเปดิ ทม่ี ชี วี ติ มนั จะมคี า่ มากกวา่ พเิ ศษ
60 คณุ สมบตั ขิ อง systems thinking ทเี่ ราสามารถนำ� มาใชใ้ นการทำ� งาน เชอื่ มโยงปฏสิ มั พนั ธข์ ององคป์ ระกอบตา่ งๆ หลกั การขอ้ 1 จะเขา้ ใจระบบทง้ั ระบบเมอ่ื คณุ สามารถนำ� องคป์ ระกอบของ ระบบตา่ งๆ มาเชอื่ มโยงปฏสิ มั พนั ธซ์ งึ่ กนั และกนั (คดิ เชงิ กระบวนระบบ คอื คดิ เชงิ เครอื ขา่ ย) ยกตวั อยา่ งงา่ ยๆ เชน่ ตวั ผม ถา้ ใครจะเขา้ ใจผมชอื่ ชยั วฒั น์ ตอ้ งเขา้ ใจวา่ ชยั วฒั นไ์ ดเ้ พยี งแต่ ประกอบดว้ ยระบบตา่ งๆ เชน่ ระบบหวั ใจ ระบบสมอง ระบบหมนุ เวยี นโลหติ ระบบทกุ อยา่ ง แต่ ตอ้ งเขา้ ใจสภาพทเี่ ปน็ องคร์ วมเกยี่ วกบั ผมทง้ั หมด เพราะในทส่ี ดุ ความเปน็ ชยั วฒั นไ์ มไ่ ดป้ ระกอบดว้ ย กาย แตป่ ระกอบดว้ ยใจและวญิ ญาณบางอยา่ ง และจติ วญิ ญาณของผมจะตอ้ งเกยี่ วขอ้ งกบั ทไ่ี ปทเ่ี กดิ การอบรมดแู ล สงั่ สอน พอ่ แม่ ทงั้ หมด ทกุ อยา่ งนแ่ี หละจงึ รวมกนั วา่ เปน็ ชยั วฒั น์ การจะเขา้ ใจระบบ ซงึ่ ระบบนน้ั เราจะมองแคเ่ ปน็ สว่ นๆ นนั้ ไมม่ ที างเขา้ ใจได้ ตอ้ งเชอื่ มโยงสว่ นเหลา่ นเ้ี ขา้ ดว้ ยกนั ตอ้ ง เขา้ ใจระบบทงั้ ระบบได ้ เชน่ เดยี วกนั ถา้ เราจะเขา้ ใจชมุ ชนหรอื ประชาคมใหไ้ ด้ คณุ ตอ้ งเขา้ ใจการปฏสิ มั พนั ธก์ นั ใน ชมุ ชน และเหน็ วา่ ชมุ ชนนไี้ ปปฏสิ มั พนั ธก์ บั ชมุ ชนอนื่ อยา่ งไร ซงึ่ วธิ คี ดิ แบบนต้ี า่ งจากวทิ ยาศาสตร์ แบบกลไกหรอื วธิ คี ดิ แบบกระบวนทศั นเ์ กา่ เพราะกระบวนทศั นเ์ กา่ นน้ั ถา้ คณุ จะเขา้ ใจอะไรบางสงิ่ บางอยา่ งนน้ั วธิ คี ดิ แบบเกา่ กจ็ ะมองแตต่ วั ปญั หาเทา่ นน้ั สมยั กอ่ นถา้ คณุ จะเขา้ ใจระบบนไี้ ดค้ ณุ เพยี ง แตจ่ บั เอาบางสงิ่ บางอยา่ งไดแ้ ลว้ คน้ ควา้ วเิ คราะหว์ จิ ยั ทสี่ ง่ิ นนั้ อยา่ งเดยี ว คณุ กจ็ ะสามารถอธบิ าย ทง้ั หมดได้ คณุ อยากเขา้ ใจสง่ิ หนงึ่ สมยั กอ่ น คณุ ไปวเิ คราะหว์ จิ ยั ทสี่ ง่ิ นนั้ อยา่ งเดยี ว คณุ กจ็ ะสามารถ อธบิ ายทงั้ หมดได้ คณุ อยากเขา้ ใจสงิ่ หนงึ่ สมยั กอ่ น คณุ ไปวเิ คราะหส์ ว่ นหนง่ึ สว่ นใดของมนั แลว้ กม็ า
61 อธบิ ายระบบใหญ่ หรอื สว่ นรวมทงั้ หมด เราจะเหน็ วา่ สมยั กอ่ นการคน้ ควา้ หลายเรอ่ื ง ทพี่ ยายาม อธบิ ายเรอ่ื งสงั คมไทย สงั คมชาวนาทไ่ี ปศกึ ษาวเิ คราะหโ์ ดยฝรง่ั ทไี่ ปศกึ ษาทฉ่ี ะเชงิ เทรา ทโี่ นน่ ทนี่ ี่ แลว้ กอ็ ธบิ ายเรอื่ งสงั คมชาวนาหรอื ชาวนาไทย ซงึ่ ชาวนาปกั ษใ์ ต้ ชาวนาอสี าน หรอื แมแ้ ตช่ าวนา สพุ รรณ กย็ งั แตกตา่ งกนั เพราะมนั มอี งคป์ ระกอบทแี่ ตกตา่ งกนั เพราะฉะนน้ั หวั ใจของระบบคดิ แบบกระบวนระบบ จงึ เปน็ ระบบคดิ แบบสงั เคราะห์ วธิ คี ดิ แบบกลไกหรอื วทิ ยาศาสตรแ์ บบเกา่ นน้ั จะมองแบบแยกสว่ น เขา้ ใจเพยี งสว่ นๆ เอาแตล่ ะสว่ นๆ มา อธบิ าย วเิ คราะห์ เมอ่ื คดิ วา่ เขา้ ใจสว่ นหนงึ่ สว่ นใดแลว้ จะสามารถเขา้ ใจอนั อน่ื ได้ ซง่ึ จรงิ ๆ แลว้ ไมใ่ ช่ เพราะฉะนนั้ ปญั หานมี้ นั จงึ เกดิ มากมายในสงั คมไทย โดยเฉพาะเปน็ การพฒั นา เนอื่ งจากการพฒั นา ประเทศไทยเปน็ การพฒั นาแบบวธิ คี ดิ แบบแยกสว่ น ความรถู้ กู แยกเปน็ สว่ นๆ พดู งา่ ยๆ วา่ พวก ทำ� งานดา้ นวศิ วโยธาเขาคดิ อยา่ งเดยี ววา่ อยกู่ รงุ เทพเขาใหส้ รา้ งถนนผมกส็ รา้ งถนน แตถ่ ามวา่ คณุ สรา้ งถนนแลว้ มผี ลกระทบตอ่ ชมุ ชนอยา่ งไรบา้ ง ถนนสายหนง่ึ ซง่ึ มคี วามกวา้ งรถวง่ิ ได้ 2 เลน รถวงิ่ ไดอ้ ยา่ งชา้ ๆ แตเ่ ขาบอกวา่ ถนนสายนเ้ี ปน็ ถนนสำ� คญั ถา้ คณุ ขยายถนนสายนขี้ นึ้ มาจะทำ� ใหก้ าร จราจรหลายแหง่ มนั คลอ่ งมากขนึ้ คณุ กข็ ยาย รถกว็ งิ่ เรว็ ขน้ึ สง่ิ ทเี่ กดิ ขนึ้ กบั ชมุ ชนคอื คนแก่ เดก็ ไมค่ อ่ ยกลา้ ขา้ มถนน เราจะเหน็ ถนนหลายสายพอถนนดี ความเรว็ ของรถวง่ิ เขา้ ไปปงั เดยี วชวี ติ ชมุ ชน พงั เลยทนั ที เขาบอกเขามองถนนแคถ่ นน แตไ่ มม่ องวา่ ถนนมนั เกยี่ วขอ้ งกบั ชวี ติ ชมุ ชน ประกอบ กบั ชมุ ชนอยา่ งไร นคี่ อื วธิ คี ดิ แบบแยกสว่ น เหมอื นอยา่ งทเี่ ราวจิ ารณพ์ วกนกั เศรษฐศาสตรจ์ ำ� นวนมาก คอื มองแตต่ วั เศรษฐศาสตร์ วดั แตต่ วั Input Output หรอื Demand Supply หรอื Cost กบั Return กำ� ไรกบั ทนุ แตไ่ มส่ ามารถที่ จะวเิ คราะหส์ ภาพทง้ั หมดทมี่ นั เปน็ สง่ิ ทเี่ ปน็ ความมง่ั คงั่ ของชาตไิ ด้ เพราะเราไปตคี วามมง่ั คงั่ ของชาติ เปน็ ตวั เลข GDP เปน็ ตวั เลขของสถติ กิ ารนำ� เขา้ นำ� ออก สถติ เิ ฉลย่ี รายหวั รายไดก้ แ็ ลว้ แต่ เหมอื น อยา่ งอเมรกิ าขณะนี้ ทกุ คนรดู้ วี า่ เปน็ ยคุ คลนิ ตนั ซงึ่ เปน็ ยคุ ทส่ี หรฐั เศรษฐกจิ รงุ่ เรอื งทส่ี ดุ รงุ่ เรอื งมากๆ แตถ่ ามวา่ ในดา้ นกลบั ของสงั คมสหรฐั มไี หม มมี หาศาลเหมอื นกนั ชวี ติ ครอบครวั แยม่ าก ปญั หาเดก็ ปญั หาอาชญากรรม กม็ ไี มน่ อ้ ย แตถ่ ามวา่ ได้ cost เหลา่ นไี้ หม มี แตน่ กั เศรษฐศาสตรไ์ มส่ นใจ cost เหลา่ นไ้ี มอ่ ยอู่ กี ดา้ นหนง่ึ เชน่ คนตดิ คกุ มาก cost คา่ ใชจ้ า่ ยเยอะ พอตำ� รวจไมม่ กี ำ� ลงั พอกต็ อ้ งสรา้ ง คนทท่ี ำ� งานกบั รกั ษาความปลอดภยั มากขนึ้ เปน็ กองทพั สว่ นตวั ทเ่ี รยี กวา่ Private army ทมี่ าดแู ล รกั ษาเปน็ เหตผุ ลอกี อนั หนงึ่ แลว้ พอคนมรี ายไดด้ ขี น้ึ มากขน้ึ แลว้ มพี วกคนกลมุ่ หนง่ึ ทม่ี กี ารใชจ้ าก การทำ� มาหากนิ เขาเรยี กวา่ System Analysis นกั วเิ คราะหร์ ะบบอยา่ งพวกทำ� งานดา้ นผจู้ ดั การ กองทนุ นกั ซอ้ื ขายเกง็ กำ� ไร เปน็ เดก็ ทจี่ บหนงั สอื ใหมๆ่ จากอเมรกิ าทเี่ กง่ มาก เดก็ เหลา่ นจ้ี ะเปน็ อภสิ ทิ ธชิ์ นของอเมรกิ า รำ่� รวยเปน็ มหาศาล ทำ� งานดา้ นวเิ คราะหร์ ะบบทำ� งานดา้ นตา่ งๆ และเปน็ ท่ี นา่ สนใจมาก มกี ารวเิ คราะหว์ า่ พวกเดก็ เหลา่ นเี้ มอื่ รำ�่ รวยขนึ้ มา ความผกู พนั กบั ทอ้ งถน่ิ ไมม่ เี ลย ไมม่ ี ความรกั ความผกู พนั กบั ทอ้ งถนิ่ เพราะชวี ติ ของเรา รายไดข้ องเขาไมใ่ ชอ่ ยใู่ นสหรฐั อเมรกิ า อยทู่ ่ี ตลาดหนุ้ อยา่ งเชน่ ตลาดหนุ้ เยอรมนั ของทโ่ี นน่ ทน่ี หี่ มด และชวี ติ ของเขา เขาไมค่ อ่ ยอยบู่ า้ น เพราะ ตอ้ งเดนิ ทางไปทโ่ี นน่ ทน่ี ตี่ ลอดเวลา เปน็ Cosmopolitan man เปน็ มนษุ ยข์ องโลกแตไ่ มม่ คี วามผกู พนั
62 กบั ความเปน็ อเมรกิ นั แตส่ งิ่ เหลา่ นไ้ี มม่ กี ารคำ� นวณออกมา และในทสี่ ดุ สงิ่ ทนี่ า่ สนใจคอื ระยะหลงั ๆ สง่ิ ทปี่ รากฏมาชดั เจนมากในสหรฐั คอื ความเปน็ อาสาสมคั รซงึ่ เปน็ วญิ ญาณอเมรกิ นั หายไปในระยะ 10 ปหี ลงั อยา่ งมหาศาล คนอเมรกิ นั จงึ ตา่ งคนตา่ งอยมู่ ากขน้ึ เพราะฉะนนั้ Commutarian movement ขบวนการประชาคมจงึ ถกู รอ้ื ฟน้ื ขน้ึ มาใหม่ อนั นเี้ ปน็ อกี ดา้ นของปญั หาวา่ ดว้ ยการพฒั นา ซง่ึ มาจาก การมองปญั หาทแี่ ยกสว่ นเฉพาะสว่ นขนึ้ มา โดยไมม่ องวา่ ระบบทงั้ หมดในโดยเฉพาะในสงั คมไทย อนั นแี้ หลง่ ทเี่ ปน็ เรอ่ื งทมี่ าทไ่ี ปของการคดิ แบบ 2 ขวั้ ทง้ั หลาย วธิ คี ดิ แบบแยกสว่ นทงั้ หลาย ทเี่ ราเหน็ ไดช้ ดั กไ็ ดแ้ กศ่ าสตรท์ งั้ หลายถกู แยกออกไปเรอ่ื ยๆ เปน็ สว่ นๆ เชน่ เศรษฐศาสตรย์ งั แยกเปน็ เศรษฐศาสตรแ์ บบ Econometric และทนี่ า่ สนใจกค็ อื วา่ เมอ่ื วธิ คี ดิ แบบนตี้ ามเขา้ มา การบรหิ ารการจดั กแ็ ยกสว่ นตามไปดว้ ย เราจะเหน็ ไดช้ ดั จากหนว่ ยงาน หลายๆ หนว่ ย เชน่ กรมปา่ ไมก้ บั กรมชลประทาน ถา้ มองเชงิ กระบวนระบบแลว้ นำ�้ กบั ปา่ มนั แยก กนั ไมไ่ ด้ แตเ่ มอื่ วธิ คี ดิ วธิ ศี กึ ษาอบรมมนั มาคนละทาง และในทส่ี ดุ แลว้ การกระทบระหวา่ งกรมปา่ ไมก้ บั กรมชลประทานกต็ อ้ งเกดิ ขนึ้ เหน็ ไหมครบั วา่ วธิ คี ดิ มนษุ ย์ ภาษา มนั เปลย่ี นไปหมดพรอ้ มๆ กบั การพฒั นาบางสงิ่ บางอยา่ ง การจดั การกเ็ ปลย่ี นไปดว้ ย เราเหน็ ไดช้ ดั ถงึ วธิ คี ดิ การเชอื่ มโยง การ แบง่ สว่ นของความรบั ผดิ ชอบขน้ึ มา หลักคิดแบบเช่ือมโยงหรือโลกทัศน์แบบองค์รวมนั้น หัวใจเน้นหนักท่ีการสังเคราะห์ (Synthesis) ฉะนน้ั เรอ่ื งนจี้ งึ เปน็ เรอ่ื งทส่ี ำ� คญั เพราะในทส่ี ดุ แลว้ การทำ� งานกบั ชมุ ชนกบั ประชาคม หรอื กบั เครอื ขา่ ยทงั้ หลายมนั ตอ้ งอาศยั ทกั ษะการเชอ่ื มโยงเปน็ หลกั หลกั การขอ้ 2 การคดิ แบบกระบวนระบบตอ้ งมองเหน็ วา่ ระบบมกี ารทบั ซอ้ น กนั เปน็ ชนั้ ๆ และเชอื่ มโยงกระทบถงึ กนั หมด ตวั อยา่ ง ชยั วฒั น์ เปน็ ระบบ ในชยั วฒั นม์ หี ลายระบบในตวั และระบบเหลา่ นม้ี นั สามารถยอ่ ย ไปเรอ่ื ยๆ จากระบบหมนุ เวยี นของโลหติ กม็ รี ะบบเสน้ เลอื ด หวั ใจ ตอ่ ไปเรอื่ ยๆ ไดจ้ นถงึ DNA ที่ เปน็ ระบบทเ่ี ลก็ ทสี่ ดุ ทสี่ ามารถแยกแยะตวั ผมไดว้ า่ ตวั ผมเปน็ ใคร ในขณะเดยี วกนั ชยั วฒั นก์ เ็ ปน็ สว่ นของระบบ คอื ระบบองคก์ ร Civicnet ซง่ึ เปน็ องคก์ รหนง่ึ เปน็ ระบบหนงึ่ สงั กดั อยใู่ นขบวนการ ของฝา่ ยประชาชน ขบวนการเคลอ่ื นไหวภาคพลเมอื ง และกเ็ ปน็ สว่ นหนง่ึ ของระบบสงั คมไทย และ กเ็ ปน็ สว่ นหนง่ึ ของแบบสงั คมสวุ รรณภมู ิ สงั คมสวุ รรณภมู กิ เ็ ปน็ สว่ นหนง่ึ ของสงั คมอาเซยี น อาเซยี น กเ็ ปน็ ระบบหนงึ่ ของสงั คมเอเชยี สงั คมเอเชยี เปน็ ระบบหนง่ึ ของสงั คมโลก และโลกกเ็ ปน็ สว่ นหนง่ึ ของระบบสรุ ยิ ะจกั รวาล ระบบสรุ ยิ ะจกั รวาลกเ็ ปน็ สว่ นหนงึ่ ของระบบเอกภพ มนั สามารถไตไ่ ปไดเ้ รอื่ ยๆ เหน็ ไหมครบั ทกุ อยา่ งมนั เปน็ ระบบทมี่ นั ซอ้ นกนั หมด คลา้ ยๆ กบั เปน็ ลำ� ดบั ชน้ั (Hierarchy) จรงิ ๆ เราอยากเลย่ี งคำ� นี้ แตท่ กุ อยา่ งมนั ซอ้ นกนั หมดตงั้ แตจ่ ว๋ิ สดุ ไปยงั ใหญส่ ดุ
systems thinking 25 ในขณะเดยี วกนั ตวั เรำกเ็ ปน็ สว่ นหนง่ึ ของระบบตำ่ งๆ ตงั้ แต่ ระบบครอบครวั ครอบค ใสนงั คระมบโลบกชมุกชเ็ หนน็ สชมวุ่ นชหนนกงเึ่็ ปในน็ รหะนบงึ่ บใสนรุรยิะบะจบกั ส2รงั ว5คำมลไทเปยน็ รตะน้ บบเสรำงั คจะมเไหทน็ ยไกดเ็ว้ ปำ่ น็มสรี วะ่ นบ6หบนซ3อ้งึ่ ขนอรงะรบะบบเบตสม็ งั ไคป ในขณะเดยี วกนั ตวั เรำกเ็ ปน็ สว่ นหนงึ่ ของระบบตำ่ งๆ ตงั้ แต่ ระบบครอบครวั ครอ ในระบบชมุ ชน ชมุ ชนกเ็ ปน็ หนงึ่ ในระบบสงั คมไทย ระบบสงั คมไทยกเ็ ปน็ สว่ นหนงึ่ ของระบบส สงั คมโลกกเ็ หน็ สว่ นหนงึ่ ในระบบสรุ ยิ ะจกั รวำล เปน็ ตน้ เรำจะเหน็ ไดว้ ำ่ มรี ะบบซอ้ นระบบเตม็ ะเดยี วกนั ตวั เรำกเ็ ปน็ สว่ นหนงึ่ ของระบบตำ่ งๆ ตงั้ แต่ ระบบครอบครวั ครอบครวั กเ็ ปน็ หนง่ึ ชมุ ชนกเ็ ปน็ หนง่ึ ในระบบสงั คมไทย ระบบสงั คมไทยกเ็ ปน็ สว่ นหนงึ่ ของระบบสงั คมโลก ระบบ สว่ นหนงึ่ ในระบบสรุ ยิ ะจกั รวำล เปน็ ตน้ เรำจะเหน็ ไดว้ ำ่ มรี ะบบซอ้ นระบบเตม็ ไปหมด หนณน็ ะสชเดมวุ่ นยีชหวนกนกนังเึ่็ ปในน็ ตรหวัะนเบรง่ึ บำใกสนเแก ็รุรปยิะลนั น็บะะหจสบทกัวม่สกุนรดงั วอหคหำยนมลลเาง่่ึพไกัขงทเรกอมปยางาน็นัะรรรตะมฉปะบน้ะกีบรบนาบะตเรน้ักสรำ่ซำงัาวงคจอ้รๆละมทนทีเตชไหก่ีตนั้เ่ีอ้ทน็ร2นัง้ัซงยาแไเอ้ไกหดพตปนเเ็นว็้ช่ตปดูกชำ่ คอื่เรน็ลนกั้มรวะมสอำนัรีำบ(เวะจ่โดมวชบHยนบะน่เเา่คiเงหบชวeหมเรกอ่ืดrนซลน็นอั“aมบัอ้ยีง่ึาบวเสrโขนวอดำ่cคายอกจรในัhด็มงรงบะันาyนวัแรดาบกร)ะปรนั้รอบะใบถญักคหจบเกบไตเรรบตญหหไสองิม็กมไ่ซำๆสงปบ่ั ไอก้าส้คอืคดไปุนรม็เดมนะรรหไทรหีเ้โปวคาัรมะทลเล่ีกอำ�อ่ืถบรดกำอืเย็กยาบงึปยาลนๆจจนน็ชรกำ่ะวถ๋ินะั้นั้หเวเลสบงึนทขหยมี่ดบดุงวึ่่ีา้กุลงคำีว่ใอำคนจวง“ยยา�ำสคี่ดเราน่ดมงิ่อะืาง้ีด็เหดมวหแชดบันน”ัอตื่ลอทมเ่งึ่กักปปสโมกุไกญน็ัยงิ่อมนั ารงใหยส้กกดระำา่ะบปนัมไ็ งขเดบหทรมอา้ะทมอืจงนั ตกหนม่ีดาซอ้มาถนกัอ้ รงบู่งึซนเกทเดรำ้อ้กชำอนื่ว่ีนนัอื่ร2งงทกหดมออนัเข่ีำมำโรนั วยหอจดำ”นซงมจงตอ้ะ้ีดงเั้ นมเแขกอื่ตคำ้ เนใัจ่ลรจวิ๋กา้ำสสยบเั หง่ิดๆุปหน็ไญันปกวำง่ึ่หยบั systems thinking ปญั หำระดบั สงั คม แตม่ มุ มองในกำรแกป้ ญั หำอำจแตกตำ่ งกนั ออกไป อยำ่ งเชน่ ปญั หำของกร คนจรจดั เมเรอ่ืำแจกะเป้ หญั น็ หวำ่ำใดนว้ รยะกบำบรซไลอ้ ค่นนระจบรจบดันอน้ั อกมจคี ำวกำรมมิ เคชอ่ืลมอโงยหงลกอนั ดหสมนดำมกหำลรวทงเี่ รใำหจอ้ะอเขกำ้ ไใปจหสงำ่ิ หกนน สง่ิ เหลา่ นม้ี นั ชว่ ยอเปะตนไ็ รอ้ปงญัแเหลหน็ว้ำคทววธิแี่ ำกคี มไ้ดิ เมชแต่อ่ื บกมบโย2นงใ้ี นเหดนั้อ้ อื ะนเไหใรหมกห้อื บั ลนเงัคราำ�คกน?ลเำ่หวลทำ่ ว่ีนำ่ ก้ี “ม็ เดำด็อดกี อแลกวไ้ มเส้พะรเำทะอื เขนำถไงึมดร่ วจู้ งะดไำปวไ”หนเมอื่มเนัรำไมเหใ่ น็ช เมอื่ เราเหน็ วา่ ระบกบรชปมงุ น้ัญเัหีทซหลพอ้ ำานฯรยกะรแนัดะตบั บมเ่ สชบนันง่ั คเซเปดมอ้ น็ยี นปวแกกญั ตบันั มห่ แปำมุ ลญัขมอะหองรงำปวู้ใกรา่นม็ะปกเหี ทญัำลรศหำแไยกทาชป้มยนั้ ญัหี หคหลลนำาำอเยหยำชรลจะนั้ำ่แดนตบั มี้ยกำตกปจำ่ตญั ำงวักกหอตนัำยำข่อองา่อจงงกงัหปไหมปญั วบู่ ดั หำ้ อนายเขปำ่ อองน็ ำเงปชจน่ญัซอ้ หปนำญั กคหนั วำกำขมบั อยปงำญัก กทม. หลายปญั หาแกไ้ มต่ กคงนา่ จยรๆจดั เชเมน่ อ่ื แพกนื้ปทญั รี่หมิ ำดวค้ ยลกอำงรหไลลค่ อนดจทรจ่ี ดั กอทอมกจ.ำกจระมิไลคค่ลนองจหรลจอดั ดอสอนกำจมาหกลรวมิ ง ใหอ้ อกไปหำ คลองหลอดที่ กทม. จะไลค่ เนปจน็ รปจญั ดั หอำอทกแ่ี จกาไ้ กมรต่ มิกค2ลอเดงอหื นลใอหดห้ ลสงั นคานมเหหลำ่วนงก้ี ทม็ ำ� ำใอหกี เ้ แปลน็ ว้ ทเท่ี พไ่ีรมำน่ะเา่ ขอำไยมู่ แร่ จู้ละะไปไหน มนั ไมใ เปน็ ปญั หาทง้ั หลาย จะเอาคกนรเงุหเทลพา่ ฯนอี้ แอตกม่ ไนปั เไปมน็ ใ่ หปหญ้ั าหกำนิขอไงปปโรนะน่เทมศาไนที่ยแลคะนถเาหมลวำ่ นา่ แม้ี กำตจ้ ำกกไตหำ่มงจสงั หอวงดัเดอื เปนน็ ปญั หำควำมย ใหห้ ลงั กม็ าอกี แลว้ เพราะคนเหลา่ นม้ี าจากตา่ งจหั วดั แกป้ ญั หาเหลา่ นไ้ี มต่ ก ปญั หา กทม. ไมไ่ ด้ เปน็ ปญั หาของ กทม. เอง แตเ่ ปน็ ปญั หาของประเทศไทย ถา้ จะแกป้ ญั หา กทม. ใหต้ กอาจจะตอ้ ง หน็ วำ่ ในระบบซอ้ นระบแกบทน้ นั้ี่ กมทคี มว.ำมเอเชงอ่ื ดมว้ โยงกแนัลหว้ มตดอ้ งไกปำแรกทท้เี่ รเ่ีำหจนะเอืขกำ้ ใวจา่ สรงิ่ ะหดนบั ง่ึ สงิ่กใทดไมด.้ คเรอื ำปญั หาความยากจนในทอ่ี นื่ ๆ ดว้ ย ชมอ่ื นั มสโายมงนารน้ั ถไเตหไ่มปอื ไดนเ้ครำ�อื่กกยาลๆรำ่สวง่ ทเวส่ีกุ ำ่ รอ“มิยเา่กดงด็ามรดนั กอเรกปะไน็ จมราส้ะยะบเอบทำ�ทอื นนม่ี าถนั จงึซดขอ้ วอนงงกดจนัำงั วหห”มวดเดัมตอ่ืคเา่ลรงา้ำๆยเหๆใน็ หกวม้ำ่บั รศีเะปกับน็ ยบลภมา� หาีดพลบั ำยฉะนน้ั ถา้ คณุ จะแกป้ ญั หา กทม. ให้ eเดraยี rวcกhบั y)ปญัจรหงิ ำๆกม็เรหี าลอตำยกยานชกน้ันเั้ ลหยี่ คลงำคณุ ยา� ตรนะอ้ ้ี ดแงบัไตปท่ ปแกุ ญักอป้หยำา่ญั งขหมองนัาหอซมอ้กี บู่นหำ้ กลนนั าหอยมำๆจดซตจอ้ ง้ั งันแหกตวนัจ่ ดัว๋ิกสบั ดใุปหไญั ปจ้ หยงั งำัหใรหวะดัญเบัส่ หชดุ ลมุ า่ชนม้ี ศี กั ยภาพดำ� รงตนอยไู่ ด้ มคี วาม สมอชคไกะนนง่ัแเมมเป้ชคเหกเต่ปอ่ืญดัมปน้็ นกม็แยี ญหัวโตปวำ่แำย2กหมญ่ัใตดงบันำมุนวม้ห่เดรดยมปนั้ำมุะว้อืกญอัขบยมนำองเกบหอหใใรงำนซไงำหมปใรลอก้กห้รอืนไค่นม็ะำลลนกนเรรหีจกเในงัค่คทำนขะแจลงัานจี้ำร�ศบกมค้รโหำแรกจำลไ�จบป้นแยกเทรลวนดักญนัชเชขจป้ำ่ยดัหอวมนั้นอั้่ืดัง็วญหัอลขนนอทัมำหกำค่อสหมคอว่ีอมโลนจนงำาคำี่ยกนำำำคีกี้เอมเวจจง“ขลหยกมน็ำำแำเากราลรดดจมำกยตระมนัิำ่แด็ลอเถปรดาก้นคชตไดกีมิงยบเัตปญัอื่มล้ีกลกอแคอำ่มมอำตลหกอืวปลงอโจงำวา่ไ้กา่ญกัาอยหำกมงเนังตงกกลเดหแกส้หทกพองต้ันอัำมิละทลนัอรผำ�ำขด่อเะำมอมกหทใองวู้อหะยดสจไามอืง.า่กเปาง้ันรห้กขนเดสกไหยอวู้ำมำถปนค็วไเงาม่อบู่เงึดขัำมลกบพยดหำ้มออา้ร่ำาำน่วลารจ้ยูหะรเยงงงาวปะแำ่ทไเลดอตปงไชระงน็ลเี่วำปำน่เเววัรญัปงวชะอใจำไา่ล”น่หญกัปซงหจหเใงออ้้ขญยะั็นหหเปใาจอนมเานา้อ้ำขญหเัดักยกอย่ืรมรคำ้อำไกหเนใาัา้ะอนักวขรปจยไำาดกำำอไอไมหสขรมปมไบเับังกหปงำอิ่ตอ่กยหใป่หหอกนง็จะชอ้รำญำักนนกินีแงวุ่ไกงกังรรเำง่ึ่หคทงหึ่จแทนิงุสเรำเป่อน่ีอเกพวะทหงิ่เทรญัน่ืใพบงดตเ้ัอะี่มพดกไบดไหน่ืรอรดเไอกยื่ีรมบัากำงน่ืดชท้้วลนขะนชกหยี่ี ก้าท่ีำอเมุอวลล้ีวบรัยเำ�งเกชยำำหราเบนบัรยยำา่เน็า้รางนไยีไหปจลนมแะอรไคกอู้นมรท้ยดอ่บัวู่อี่อยกา่นื่นาเามแกร(ลมอืจLว้งาะoใพเหnกหอdญทน็ oมมๆป่nนั .)ญั ทจเหขะงใั้ นหสาาขกวง่ลณผาอ่็ามลยยะีู่ แกไ้ มต่ ก 2 เดอื นใหห้ ลงั คนเหลำ่ นกี้ ม็ ำอกี แลว้ เพรำะเขำไมร่ จู้ ะไปไหน มนั ไมใ่ ชแ่ คป่ ญั หำของ ตม่ นั เปน็ ปญั หำของประเทศไทย คนเหลำ่ นม้ี ำจำกตำ่ งจงั หวดั เปน็ ปญั หำควำมยำกจน ไรท้ ท่ี ำ�
64 สะเทอื นกลบั มาตรงนเี้ อง ถา้ คดิ แบบวเิ คราะห์ คดิ แบบแยกสว่ น ปญั หา กทม. ตอ้ งแกท้ ี่ กทม. ปญั หาคลองหลอดตอ้ งแกท้ คี่ ลองหลอด แตไ่ มใ่ หโ้ อกาสคนอนื่ เขา ไมใ่ หโ้ อกาสใหท้ ท่ี ำ� มาหากนิ เขา กต็ อ้ งเขา้ มาทำ� ตรงน้ี แตถ่ า้ สรา้ งเงอื่ นไขใหเ้ ขาไมม่ าตรงน้ี แตส่ ามารถดำ� รงชวี ติ ไดท้ อี่ นื่ เขาไปอยทู่ ่ี อน่ื อนั นคี้ อื การมองปญั หาอยา่ งเชอื่ มโยง เรอ่ื งบางเรอ่ื งเราไมไ่ ดแ้ กต้ วั ของมนั เอง เราอาจแกจ้ าก ขา้ งบน แลว้ มากระทบขา้ งลา่ ง หรอื บางทปี ญั หามนั อยตู่ รงกลาง แตเ่ ราแกจ้ ากขา้ งลา่ งแลว้ สง่ ตรง ไปสขู่ า้ งบน นค่ี อื การเหน็ การเชอ่ื มโยงของระบบตา่ งๆ ทม่ี นั ซบั ซอ้ นกนั เปน็ ชนั้ ๆ จดุ คานงดั การหาจดุ คานงดั เพอื่ ลงมอื เพยี งเลก็ นอ้ ยแลว้ ทำ� ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงใหญ่ บางทเี ราไปแกท้ ป่ี รากฏการณไ์ มไ่ ด้ เราเหน็ ปรากฎการณเ์ ปน็ อยา่ งนแ้ี ลว้ จะแกอ้ ยา่ งนไี้ มม่ วี นั สำ� เรจ็ เหมอื นซอื้ เสยี งเลอื กตง้ั ไมม่ วี นั แกด้ ว้ ยการออกกฎหมายได้ ออกกฎหมายมากเทา่ ไหร่ การซอ้ื ขาย เสยี งกย็ งิ่ แพงขน้ึ เทา่ นนั้ แพงไมพ่ อ ยงั มกี ารฆา่ กนั เพอ่ื ทจี่ ะไดไ้ มเ่ ปน็ คแู่ ขง่ ปรากฏวา่ ปญั หาการเลอื ก ตง้ั คณุ ยง่ิ แกเ้ รอื่ งเลอื กตง้ั ยงั ไมส่ ำ� เรจ็ ยงิ่ ออกกฎหมายมากเทา่ ไหรย่ ง่ิ ไมม่ วี นั สำ� เรจ็ เหน็ ไหมครบั วา่ มนั เปน็ การลม้ เหลวของระบบการเมอื งไทยจากนกั รฐั ศาสตรอ์ ยา่ งเดยี ว นกั รฐั ศาสตรบ์ างทกี ม็ อง ระบบการเมอื ง โดยใหค้ วามสำ� คญั กบั การเลอื กตงั้ เรอ่ื งพรรคการเมอื ง การเลอื กตงั้ แลว้ กค็ วามเปน็ สส. แตไ่ มไ่ ดม้ องการเชอ่ื มโยงเอาปญั หาตา่ งๆ และผมรบั รองไดว้ า่ การแกป้ ญั หาเรอื่ งพรรคการเมอื ง เรอ่ื ง สส. เรอื่ งนกั เลอื กตง้ั ไมม่ วี นั จบ ถา้ จบั อยแู่ คต่ รงน้ี นคี่ อื การมองปญั หาแบบมองไมเ่ หน็ ความ เชอ่ื มโยงของระบบ และมองไมเ่ หน็ การซอ้ นกนั ของปญั หาวา่ เชอ่ื มโยงกนั อยา่ งไรนะครบั คำ� ถาม : ไมม่ ที ส่ี น้ิ สดุ แปลวา่ อะไรครบั แปลวา่ มนั ไมจ่ บหรอื มนั ไมม่ คี วามหวงั หรอื อะไร มนั ถงึ แกป้ ญั หาไมไ่ ด้ ชยั วฒั น์ : ไมใ่ ชค่ รบั มนั คนละเรอ่ื งกนั ครบั ไมม่ สี น้ิ สดุ คอื เชอ่ื มโยงกนั ไปเรอื่ ยๆ แตว่ า่ ผล สะเทอื นมมี ากมนี อ้ ยไมเ่ หมอื นกนั เทา่ นน้ั เองครบั คำ� วา่ มนั เชอื่ มกนั ไมม่ สี นิ้ สดุ เชน่ DNA กบั ตวั ผม มนั เชอื่ มกนั นะครบั ความเปน็ ตวั ผมกป็ รากฎใน DNA บางอยา่ งในตวั ผมพสิ จู นไ์ ดโ้ ดย DNA ใชไ่ หม ครบั และความเปน็ ตวั ผมเชอื่ มโยงกบั โลกไหม ถา้ ผมมองชวี ติ ของผม ผมเกดิ ทน่ี ครศรธี รรมราช มา โตทกี่ รงุ เทพฯ และไปเรยี นตา่ งประเทศ มนั กบ็ ม่ เพาะวธิ คี ดิ หลายอยา่ งขน้ึ มาดว้ ยในตวั พอสมควร เมอื่ ผมไปเรยี นตอ่ ตา่ งประเทศ ผมไดเ้ รยี นรบู้ างอยา่ งและผมเองกเ็ ชอ่ื มโยงกบั วฒั นธรรมภาคใตไ้ ดไ้ ม่ ทง้ิ กนั ผมกเ็ อาความรสู้ องสว่ นมาประสานกนั ไดร้ ะหวา่ งความรแู้ บบตะวนั ตกเขา้ กบั ความรตู้ ะวนั ออก สมมตุ อิ ยา่ งนค้ี ดิ ออกไหมครบั ผมจะไมป่ ฏเิ สธทงั้ สองฝา่ ย ทำ� ใหผ้ มเขา้ ใจ การเชอ่ื มโยงของสง่ิ เหลา่ นไ้ี ด้ ทนี ้ี ความไมส่ น้ิ สดุ ตรงไหน ไมส่ นิ้ สดุ หมายถงึ วา่ ทกุ อยา่ งในโลกมนั เชอ่ื มโยงกนั หมด เพยี ง วา่ อทิ ธพิ ลจากจกั รวาลจะมาถว่ งระบบโลกของเรามากนอ้ ยแคไ่ หน อนั นมี้ นั กแ็ ลว้ แตเ่ หตแุ ลว้ แตเ่ รอื่ ง อยา่ งทผ่ี มบอกวา่ มองจากสาเหตธุ รรมดา เอาระบบจกั รวาลไมเ่ หน็ จะเกย่ี วกบั โลกเทา่ ไหรเ่ ลย แต่ ถา้ มองในแงห่ ลมุ ดำ� ในดวงอาทติ ย์ ถา้ มมี ากขน้ึ แลว้ มนั เกยี่ วขอ้ งกบั ระบบแมเ่ หลก็ ทม่ี นั สง่ ถงึ โลก มนั เรม่ิ เกย่ี วแลว้ ถา้ มดี าวหางวงิ่ หลดุ วงโคจรออกมาแลว้ มาชนโลก เหมอื นกบั เมอ่ื กพ่ี นั ลา้ นปมี าแลว้ ท่ี
65 ทำ� ใหไ้ ดโนเสาร์ ซงึ่ เดยี๋ วนก้ี ย็ งั หาขอ้ สรปุ ไมไ่ ดว้ า่ ไดโนเสารต์ ายเพราะอะไรกนั แน่ แตท่ แ่ี นๆ่ คอื วา่ มนั มพี วกเศษสะเกด็ ดาวมาบนโลกนแี้ นน่ อน และทำ� ใหโ้ ลกนมี้ ปี ญั หาไปตงั้ นาน และถา้ มนั เกดิ ขนึ้ ละ่ แลว้ ถา้ ปฏกิ ริ ยิ าเรอื นกระจก ซงึ่ ทกุ คนกำ� ลงั พสิ จู นอ์ ยวู่ า่ เปน็ จรงิ มนั เปลยี่ นแปลงไปมนั จะเกดิ อะไร กบั ระบบนำ้� ขน้ึ นำ�้ ลง ระบบมหาสมทุ ร แลว้ ถา้ มหาสมทุ รสงู ขน้ึ อยา่ งตอนนที้ บี่ อกวา่ แถวบงั คลา เทศจมนำ�้ ลงทกุ ปๆี เพราะนำ�้ สงู ขน้ึ เรอื่ ยๆ เพราะวา่ อณุ หภมู ริ อ้ นขน้ึ เหน็ ไหมครบั วา่ ในทส่ี ดุ กเ็ ชอ่ื ม โยงมาถงึ วถิ ที ำ� มาหากนิ ความเดอื ดรอ้ นของเกษตรกรในบงั คลาเทศได้ หรอื ยงั กรงุ เทพฯ ตอ่ ไปอาจ จะนำ�้ ทว่ มมากกวา่ น้ี นานกวา่ นเ้ี พราะระดบั นำ้� ทะเลสงู กวา่ เมอ่ื กอ่ น หลักการข้อ 3 การคิดเชิงกระบวนระบบคือการคิดแบบสัมพันธ์กับบริบท (context) เปน็ การกำ� หนดขอบเขตการทำ� งานวา่ แคน่ พี้ อกอ่ นเพอื่ ใหเ้ กดิ ความชดั เจน ถา้ มากกวา่ นที้ ำ� ให้ เราบางทเี หน็ ภาพไมช่ ดั อยทู่ ต่ี วั เราทจ่ี ะมองวา่ อะไรคอื บรบิ ททจี่ ำ� เปน็ สมมตวิ า่ ชมุ ชนเราไดร้ บั ผลก ระเทอื นขนาดไหน กข็ นึ้ อยกู่ บั เราเองทจ่ี ะตอ้ งเปน็ ผกู้ ำ� หนดวา่ แคน่ ี้ พอหยดุ นอกเหนอื กวา่ นไ้ี มเ่ อา แลว้ เพราะเหมอื นกบั เราถามวา่ “ตายแลว้ ไปไหน” ผมกไ็ มร่ ู้ แตถ่ ามวา่ มนั เกย่ี วกบั เราไหม ตอบวา่ มนั เกยี่ ว เพราะเปน็ คำ� ถามของศาสนา มนั เขา้ มามอี ทิ ธพิ ลตอ่ วธิ คี ดิ มอี ทิ ธพิ ลตอ่ ความเชอื่ การก ระทำ� เชน่ ทำ� ไมแหไ่ ปทำ� บญุ กนั เยอะ ทำ� บญุ จะเอาบญุ แตถ่ ามวา่ จะเอาธรรมไหม ไมเ่ อานะ คน ไทยชอบทำ� บญุ แตไ่ มเ่ อาธรรมะ แลว้ ถามวา่ มนั เกย่ี วขอ้ งไหม มนั เกย่ี วกบั วถิ ชี วี ติ มหาศาลเลย คณุ ไปทำ� ผดิ ทำ� อะไรไมว่ า่ แตค่ ณุ ถวายเงนิ ใหพ้ ระ คณุ หลดุ พน้ นะ อา้ งไปยงั นน้ั เลย ทนี กี้ ก็ ลายเปน็ เรอ่ื ง ทำ� ชวั่ หลายๆ อยา่ งไดโ้ ดยไมม่ ปี ญั หา เพราะเอาเงนิ ไปซอื้ บญุ กข็ น้ึ สวรรคไ์ ด้ พน้ ทกุ ขไ์ ด้ ทนี ถี้ ามตอ่ วา่ เราจะนยิ าม (define) แคไ่ หน มนั ขน้ึ อยกู่ บั ผวู้ จิ ยั ทจ่ี ะตอ้ งเลอื กเอง ยกตวั อยา่ ง ตำ� บลทงุ่ หวงั ทอี่ ยแู่ ถวสงขลากบั หาดใหญ่ ถา้ จะวเิ คราะหช์ มุ ชนตำ� บลทงุ่ หวงั คณุ จะวเิ คราะหใ์ น ระดบั ไหน คณุ จะวเิ คราะหท์ างหาดใหญห่ รอื สงขลา กต็ อ้ งเลอื ก อยทู่ ว่ี า่ โครงการของเรามงี บประมาณ ขอ้ มลู ความตอ้ งการอะไร อนั นอี้ ยทู่ จี่ ะนยิ าม (define) ขน้ึ มา เราตอ้ งขดี เสน้ บรบิ ททจ่ี ะศกึ ษา ซง่ึ ในเวลาตอ่ มา เชน่ อกี 5 ปี กอ็ าจจะขดี เสน้ บรบิ ทใหมก่ ไ็ ด้ อยา่ งไรกต็ ามนะครบั ขอ้ 3 น้ี อยา่ งทบ่ี อกแลว้ เราคำ� นงึ ถงึ การขดี เสน้ แบง่ ระหวา่ งตวั ระบบ หรอื ปญั หากบั บรบิ ทของมนั สงิ่ นเี้ ปน็ สงิ่ ทน่ี า่ สนใจของ system thinking คอื วา่ เรามองทกุ อยา่ ง เชอ่ื มโยงกนั หมด แตข่ ณะเดยี วกนั ในการเชอ่ื มโยงนน้ั กม็ กี ารแบง่ เสน้ เพอื่ ใหเ้ หน็ เพอ่ื ใหเ้ ปน็ จดุ ทจี่ บั ได้ คำ� วา่ จบั ได้ ตอ้ งไดร้ ะดบั หนงึ่ มนั อธบิ ายอยา่ งไร ยกตวั อยา่ งงา่ ยๆ อยา่ งผม ผมไปทำ� งานใน กรงุ เทพฯ พยายามทำ� เรอื่ งฟน้ื ชมุ ชนในเมอื งเกา่ แถวถนนพระอาทติ ย์ แถวแพรง่ ภธู ร เวลาลงมอื ปฏบิ ตั กิ าร (Action) สงิ่ แรก ผมกต็ อ้ งขดี เสน้ ตามเขตพน้ื ทท่ี ผี่ มจะไปทำ� กอ่ น เพอ่ื สรา้ งเอกลกั ษณ์ ใหเ้ กดิ ขนึ้ เพราะคนในชมุ ชนเขาตอ้ งการเอกลกั ษณว์ า่ เขาเปน็ ใครอยตู่ รงไหน แลว้ ทำ� ไมเขาตอ้ งมา
66 รวมตวั กนั เพราะในทส่ี ดุ แลว้ เอกลกั ษณห์ รอื อตั ตลกั ษณส์ มั พนั ธก์ บั วธิ คี ดิ วธิ กี ารบอกวา่ น่ี “พวก เรานะ่ ” คนโนน้ ไมเ่ กยี่ วกนั แตเ่ วลาวเิ คราะห์ เราวเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธร์ ะหวา่ งชมุ ชนแพรง่ ภธู รกบั การเปลยี่ นแปลงของกรงุ เทพฯ อยา่ งนี้ การเปลย่ี นแปลงของกรงุ เทพฯ อยา่ งไร เชน่ คนชมุ ชนแพรง่ ภธู ร ซง่ึ ผมไปทำ� งานดว้ ยเปน็ ชมุ ชนทมี่ คี นจนี อยกู่ นั มานานกวา่ สรี่ นุ่ (ชวั่ อายคุ น) แลว้ และคนเหลา่ นที้ ำ� มาหากนิ ดว้ ยการคา้ ขาย โดยเฉพาะทำ� อาหาร ขายของขายสง่ิ ตา่ งๆ กบั ขา้ ราชการเปน็ สว่ นใหญ่ กระทรวงยตุ ธิ รรม กระทรวงกลาโหม กระทรวงตา่ งประเทศ และเมอื่ กระทรวงกลาโหม กระทรวง ตา่ งประเทศ ถกู นโยบายของกรงุ เทพฯ ของรฐั บาล ยา้ ยกระทรวงออกไปอยทู่ อี่ นื่ กม็ ผี ลกระทบตอ่ ชมุ ชนทนั ทเี ลย คอื ขา้ ราชการจำ� นวนลดลง ชมุ ชนเรม่ิ มรี ายไดต้ กลง เมอื่ มรี ายไดต้ กตำ่� ลง ชวี ติ ใน ชมุ ชนกเ็ หงาลง พอตกเยน็ สกั หนง่ึ ทมุ่ กม็ คี นจรจดั กม็ าเดนิ มาอะไรตา่ งๆ มโี สเภณี มคี นจรจดั มา เหน็ ไหมครบั ขณะทเี่ มอ่ื 3-4 ปกี อ่ นนน้ั ไมใ่ ชเ่ ลย ชวี ติ คกึ คกั ทงั้ วนั ทง้ั คนื เปน็ แหลง่ ทำ� มาหากนิ คนเดนิ เขา้ เดนิ ออก รายไดด้ ี เศรษฐกจิ ดพี อสมควร เหน็ ไหมครบั ในทส่ี ดุ แลว้ ความสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงระหวา่ งชมุ ชนแพรง่ ภธู ร ซงึ่ เปน็ สว่ นหนงึ่ ของกรงุ เทพฯ แตม่ เี อกลกั ษณ์ มอี ตั ตลกั ษณข์ องตวั แตไ่ ดร้ บั ผลสะเทอื นจากบรบิ ทใหญข่ องนโยบาย ยา้ ยทที่ ำ� งาน เวลาผมจะทำ� เรอื่ งแพรง่ ภธู รใหค้ นกรงุ เทพฯ สนใจ ใหน้ กั ศกึ ษาใหค้ นมาทำ� ขา่ ว ให้ คนในชมุ ชนเกดิ ความรว่ มมอื ผมกต็ อ้ งเอาเอกลกั ษณข์ องแพรง่ ภธู รขนึ้ มาเปน็ ตวั ตงั้ คอื แหลง่ ทำ� มา หากนิ แหลง่ อะไรตา่ งๆ ขนึ้ มา เพอ่ื ใหเ้ ขาเกดิ Identity เกดิ ความภมู ใิ จในการทำ� อนั นข้ี นึ้ มา เราคำ� นงึ ถงึ บรบิ ทจรงิ แตเ่ วลาทำ� นนั้ เราใชป้ ระโยชนจ์ ากการนยิ าม บรบิ ทในทน่ี คี้ อื กอ่ ใหเ้ กดิ ความเหน็ ความแตกตา่ ง การกอ่ ใหเ้ กดิ ความแตกตา่ งระหวา่ งอนั นกี้ บั อนั โนน้ ระหวา่ งพวกทา่ เตยี นกบั พวก แพรง่ ภธู ร ระหวา่ งแพรง่ ภธู รกบั พวกศาลเจา้ พอ่ เสอื ระหวา่ งศาลเจา้ พอ่ เสอื กบั พวกถนนดอกไม้ ทำ� ใหแ้ ตล่ ะคนมตี วั มตี นขนึ้ มา รวู้ า่ เราเปน็ ใคร อยตู่ รงไหน ทำ� ไมตอ้ งมารวมตวั กนั บรบิ ททำ� ใหเ้ กดิ ความ Belonging เราเปน็ ใคร อยทู่ ไ่ี หน ใครเปน็ เพอื่ นเรา ใครเปน็ ญาตพิ นี่ อ้ งเรา ทำ� ไมตอ้ งรว่ ม มอื กนั แตใ่ นขณะเดยี วกนั ขณะนค้ี ณุ กม็ องเชอื่ มโยง และมนั เกย่ี วกบั ระบบเมอื งเกา่ ทง้ั ระบบอยา่ งไร คณุ จะไมม่ ที างแกป้ ญั หาของคณุ ตก ถา้ คณุ ไมม่ องปญั หาเมอื งเกา่ ไปเชอ่ื มโยงกบั การพฒั นา กรงุ เทพฯ เพราะฉะนนั้ สง่ิ ทเี่ ปน็ ตวั อยา่ งทนี่ า่ สนใจมากอนั หนง่ึ ของทฤษฎกี ระบวนระบบทผี่ มเอาไป ใชไ้ ด้ กถ็ อื วา่ มองเมอื ง ใชว้ ธิ คี ดิ แบบนนั้ ไปจบั ปญั หาเรอ่ื งการวเิ คราะหแ์ ละแกป้ ญั หาเมอื ง ผมพยายาม จะนำ� Complexity theory เขา้ ไปใช้ ตอนนน้ั เคยทำ� งานมนั ไมถ่ งึ กบั เปน็ งานวจิ ยั หรอกครบั แต่ เปน็ การเตรยี มเพอื่ การวจิ ยั แลว้ ผมใชร้ ะบบนคี้ ดิ เขา้ ไปจบั แลว้ เหน็ ไดช้ ดั วา่ มนั ใชไ้ ดจ้ รงิ ๆ มนั สมั พนั ธ์ จรงิ แตม่ นั มเี อกลกั ษณ์ มตี วั มตี น มองเหน็ ภายใตร้ ะบบใหญใ่ นบรบิ ทนนั้ ยงั มลี กั ษณะรปู ธรรมอยู่ มี การขดี เสน้ ได้ แตใ่ นการขดี เสน้ นเ้ี ราเหน็ ความสมั พนั ธก์ นั ทำ� ใหเ้ ราเขา้ ใจในสงิ่ ทเี่ ราเรยี กวา่ วธิ คี ดิ แบบไมช่ ดั เจนขน้ึ (uncertainty principle) วา่ ในทสี่ ดุ แลว้ มนั ไมไ่ ดเ้ ปน็ เรอ่ื งทดี่ เู หมอื นขดั ดเู หมอื น แยง้ กนั แตใ่ นทส่ี ดุ มนั กส็ มั พนั ธก์ นั นะครบั กค็ อื เรอื่ งของ 2 ขวั้ คอื การคดิ แบบ 2 ขว้ั นนั่ เอง เหมอื น อยา่ งทเ่ี ราทำ� เรอ่ื งโลกาภวิ ฒั น์ คอื ความเปน็ ทอ้ งถน่ิ ความเปน็ ชมุ ชน เราอยดู่ ว้ ยกนั ในโลกแตแ่ ยก
67 ไมอ่ อก แตใ่ นการแยกไมอ่ อกนเี้ ราสามารถรกั ษาอะไรบางอยา่ งได้ เราสามารถสมดลุ ความสมั พนั ธ์ ระหวา่ ง 2 สง่ิ นไี้ ด้ หลกั การขอ้ 4 การคดิ เชงิ กระบวนระบบจะตอ้ งจบั ความสมั พนั ธ์ หรอื ปฏสิ มั พนั ธใ์ หไ้ ด้ (feedback) การคดิ แบบเชงิ กระบวนระบบจะตอ้ งจบั ความสมั พนั ธห์ รอื ปฏสิ มั พนั ธใ์ หไ้ ดห้ รอื จะเรยี กวา่ feedback ทแี่ ปลวา่ ยอ้ นกลบั ตวั นส้ี ำ� คญั มาก เนอื่ งจากเราบอกแลว้ วา่ ทกุ อยา่ งไมไ่ ดอ้ ยเู่ ปน็ สว่ นๆ ทกุ อยา่ งมคี วามสมั พนั ธเ์ ชอื่ มโยงถงึ กนั หมด เพราะฉะนนั้ จะเขา้ ใจสง่ิ เหลา่ นไ้ี ด้ ตอ้ งเขา้ ใจเรอื่ งของ เสน้ แหง่ ความปฏสิ มั พนั ธ์ หรอื ตอ่ feedback อาจจะสำ� คญั กวา่ ตวั ทเ่ี ปน็ เรอ่ื งนนั้ ถา้ เราคดิ แบบแยกสว่ น คดิ แบบวธิ คี ดิ กระบวนทศั นเ์ กา่ หรอื กระบวนทศั นแ์ บบกลไก เรา มองปญั หาความยากจน กจ็ ะมองในเรอ่ื งของความยากจนอยา่ งเดยี ว แตถ่ า้ เราใชท้ ฤษฎกี ระบวน ระบบเข้าไปจับ เราจะมองว่าความยากจนว่าสัมพันธ์กับเรื่องวัฒนธรรมถูกท�ำลาย กลายเป็น วฒั นธรรมแบบใหม่ วฒั นธรรมถกู ทำ� ลายนนั้ นำ� ไปสกู่ ารทำ� ลายสงิ่ แวดลอ้ ม ชวี ติ ทส่ี งิ่ แวดลอ้ มถกู ทำ� ลาย ยอ่ มทำ� ใหค้ ณุ ภาพชวี ติ เลวลง ทำ� ใหค้ นทำ� มาหากนิ ไดล้ ำ� บากขน้ึ เรอื่ ยๆ เกดิ ความยากจน และสง่ิ ทตี่ ามมาคอื โสเภณหี รอื ความยากจนเกยี่ วขอ้ งกบั การศกึ ษามไี มพ่ อ ปรากฏวา่ ถา้ จะแกค้ วาม ยากจน และสงิ่ ทต่ี ามมาคอื โสเภณหี รอื ความยากจน เกย่ี วขอ้ งกบั การศกึ ษาตำ�่ ปรากฏวา่ การเกดิ ความยากจนนนั้ ทำ� ไปทำ� มาไมไ่ ดอ้ ยทู่ ต่ี วั ความยากจนหรอก มนั ตอ้ งไปแกท้ ตี่ รงอน่ื เชน่ ระบบ นเิ วศน์ โอกาสการศกึ ษา เปน็ ตน้ เสน้ แหง่ ความสมั พนั ธ์ (Relationship) สำ� คญั กวา่ ตวั มนั เอง ซงึ่ ตา่ งจากวธิ คี ดิ แบบกลไก ทม่ี องเหน็ ปญั หา วเิ คราะหส์ ง่ิ นนั้ แลว้ กแ็ กม้ นั ตรงนน้ั แตจ่ รงิ ๆ ในวธิ คี ดิ แบบกระบวนระบบ ปญั หา ไมใ่ ชอ่ ยตู่ รงนนั้ มนั ตอ้ งไปดทู ตี่ รงอนื่ แลว้ กจ็ บั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งปจั จยั ตา่ งๆ และบรบิ ทของ ปญั หา เพราะฉะนนั้ ความสมั พนั ธย์ อ้ นไปมานี้ (feedback หรอื Relationship) เสน้ สายตวั นสี้ ำ� คญั มากในการวเิ คราะหส์ ภาพทแ่ี ทจ้ รงิ และสว่ นใหญก่ จ็ ะพลาด จะจบั ไมไ่ ด้ เพราะเสน้ ความสมั พนั ธน์ ี้ มองไมเ่ หน็ ดว้ ยตาเปลา่ ตอ้ งใชท้ างจนิ ตนาการ ตอ้ งการทำ� ใหอ้ อกมาเปน็ ภาพในการเขยี น ในการ วาดรปู แลว้ เชอื่ มเขา้ ดว้ ยกนั เราจงึ จะเหน็ ความสมั พนั ธข์ องสง่ิ ตา่ งๆ เราพดู ถงึ การโยงใยถงึ ปญั หาสงั คมไทย มที งั้ ปญั หาภายในประเทศและปญั หาเศรษฐกจิ โลก การเมอื งโลกเขา้ มาเกยี่ วขอ้ ง และทผี่ มบอกแลว้ วา่ เราจะตอ้ งจบั เสน้ ความสมั พนั ธใ์ หไ้ ด้ มนั มคี วาม สมั พนั ธห์ ลายความสมั พนั ธ์ แตบ่ างความสมั พนั ธแ์ ละจะมพี ลงั มากกวา่ ตวั อน่ื ๆ เราจะเรยี กวา่ Core feedback loop / Core loop หรอื Governing loop
68 ยกตวั อยา่ ง ประเทศไทย เศรษฐกจิ ไทยสมั พนั ธก์ บั หลายประเทศ สมั พนั ธก์ บั มาเลเซยี สมั พนั ธก์ บั พมา่ สมั พนั ธก์ บั กมั พชู า สมั พนั ธก์ บั ลาว สมั พนั ธก์ บั รสั เซยี สมั พนั ธก์ บั จนี สมั พนั ธก์ บั ญป่ี นุ่ ซง่ึ ความสมั พนั ธเ์ หลา่ นม้ี นี ำ�้ หนกั ไมเ่ ทา่ กนั แตท่ แี่ นๆ่ ถา้ เมอื่ ไหรอ่ เมรกิ าพงั ไปเทา่ นน้ั แหละ ครบั เศรษฐกจิ โลกเปลย่ี นมหาศาล เหน็ ไหมครบั วา่ ความสมั พนั ธข์ องเรากบั มาเลเซยี อนิ โดนเี ซยี ถงึ แมจ้ ะอยใู่ กลก้ ต็ าม ถงึ แมจ้ ะเปน็ อาเซยี นเหมอื นกนั กต็ าม แตก่ ป็ รากฏวา่ ถา้ ตลาดหนุ้ อเมรกิ าเปน็ อะไรขนึ้ มา เศรษฐกจิ อเมรกิ าเปลยี่ นทเี ดยี ว วอลสตรที มปี ญั หา ระบบโลกการเงนิ โลกทงั้ ระบบมี ปญั หาตามมาทนั ทเี ลย เหน็ ไหมครบั วา่ Core loop ตวั เดยี วมคี วามหมายมากกวา่ ความสมั พนั ธ์ อนื่ จำ� นวนมาก เพราะฉะนนั้ การทเ่ี ราจะจบั ความสมั พนั ธท์ ง้ั หลายใหด้ ี โดยเฉพาะในชมุ ชน เราจบั ไดไ้ หมวา่ ตวั เชอื่ มตวั ไหนทเี่ ปน็ ตวั เชอื่ มทส่ี าวถงึ ตวั เชอ่ื มอนื่ ๆ มหี ลายเรอ่ื งทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั สงั คมไทย แตถ่ าม วา่ loop ตวั ไหนหรอื มี loop อะไรบา้ งทม่ี คี วามสำ� คญั เดน่ กวา่ อนื่ ๆ สกั 2-3 loop ถา้ จบั เสน้ สมั พนั ธ์ หลกั ตรงนไ้ี ด้ จะคลคี่ ลายปญั หาไดง้ า่ ยเรอื่ ยๆ อยา่ งนเ้ี ปน็ ตน้ Systems thinking หรอื ทฤษฎกี ระบวนระบบนน้ั เปน็ ทฤษฎวี า่ ดว้ ยความสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยง เปน็ หลกั และตวั นคี้ อื การจบั feedback ทไ่ี มไ่ ดส้ มั พนั ธด์ า้ นเดยี ว แตส่ มั พนั ธก์ ลบั ไปกลบั มา โยงใย กนั ไปมาตลอดเวลา เอาใหอ้ กี ทใี หช้ ดั เจน ภายใตโ้ ลกทซี่ บั ซอ้ นเราไมร่ วู้ า่ อนั ไหนเปน็ เหตุ อนั ไหนเปน็ ผล อนั นอ้ี าจ จะเปน็ เหตกุ ไ็ ด้ แลว้ สง่ มาเปน็ ผล แลว้ ผลกลบั ไปเปน็ เหตุ สรา้ งผลใหมข่ นึ้ มาอกี มนั สามารถเชอื่ ม ไปไดเ้ รอื่ ยๆ การปฏสิ มั พนั ธห์ รอื feedback จงึ มคี วามสำ� คญั มาก อยา่ ลมื วา่ ในโลกนไี้ มไ่ ดม้ คี วาม สมั พนั ธแ์ ค่ 2 ตวั สงั คมไทยยงั มคี วามสมั พนั ธม์ หาศาลเลย หมบู่ า้ นบางหมบู่ า้ นความสมั พนั ธอ์ าจ จะไมเ่ ทา่ กบั หมบู่ า้ นอนื่ บางหมบู่ า้ นอาจจะมคี วามสมั พนั ธก์ นั ขา้ งนอกหรอื โลกนอ้ ยกวา่ บางหมบู่ า้ น อาจจะมคี วามสมั พนั ธด์ กี วา่ ใกลช้ ดิ กวา่ ผลกระทบแรงกวา่ กไ็ ด้ เพราะขนึ้ อยกู่ บั บรบิ ท บางหมบู่ า้ น อยใู่ กลก้ จ็ รงิ แตถ่ นนหนทางไมส่ ะดวก โทรศพั ทไ์ มพ่ ออะไรตา่ งๆ มไี มพ่ อความสมั พนั ธเ์ คลอื่ นไหว ระหวา่ งเมอื งกบั หมบู่ า้ น เมอื งกบั ตำ� บล กไ็ มแ่ รงใชไ่ หมครบั แตบ่ างหมบู่ า้ น ตำ� บลอยไู่ กลกนั ตง้ั 70-80 กโิ ลเมตร แตถ่ นนหนทางสะดวก ถนน 6 หรอื 4 เลนไปกลบั มใี ครๆ เขา้ มาอยมู่ ง่ั มอี ะไร ตา่ งๆ เขา้ มาอยมู่ งั่ ความสมั พนั ธม์ นั แรงกวา่ เปน็ พเิ ศษ เพราะฉะนน้ั เราจะเหน็ วา่ หลายอยา่ งในสงั คม มนั เปลยี่ นแปลงไปมหาศาล โดยเฉพาะภาคเหนอื เพราะมนั เกยี่ วขอ้ งกบั เรอ่ื งการคมนาคมการ สอื่ สาร การทำ� มาหากนิ ในเมอื ง และชนบท ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งเมอื งและชนบท ชนบทกบั ชนบท มนั เปน็ เหตซุ งึ่ กนั และกนั ยง่ิ มาเจอขอ้ มลู ขา่ วสารทาง ทวี ี วทิ ยุ และนกั ทอ่ งเทย่ี ว ความสมั พนั ธย์ ง่ิ หลายชน้ั เขา้ ไปอกี คำ� ถาม : อทิ ธพิ ลเหลา่ นเ้ี ปน็ ทงั้ เหตเุ ปน็ ทงั้ ผล ไมร่ อู้ นั ไหนผดิ อนั ไหนถกู ใครจะเปน็ คนบอก ครบั วา่ อนั ไหนเปน็ Core loop
คณุ ชยั วฒั น์ : ไมม่ ใี ครบอกนะ ตอ้ งฝกึ ฝนวเิ คราะหบ์ อ่ ยๆ จบั เสน้ เชอ่ื มบอ่ ยๆ 69 คำ� ถาม : เราในทน่ี ค้ี อื คนในชมุ ชนหรอื นกั วจิ ยั คณุ ชยั วฒั น์ : มนั กแ็ ลว้ แตว่ า่ เราในทน่ี ก้ี ค็ อื ตวั คณุ หรอื ถา้ คณุ ไมแ่ นใ่ จกอ็ าจจะหาจากชมุ ชน กไ็ ด้ อยา่ งผม ผมอยากจะคน้ หา ผมใชว้ ธิ นี งั่ คดิ คนเดยี ว แลว้ ผมคดิ วา่ ตวั นนี้ ะ แตผ่ มไมม่ นั่ ใจผมก็ ไปชวนพรรคพวกมาวเิ คราะห์ โดยทผ่ี มคยุ ใหฟ้ งั วา่ ผมคดิ อยา่ งนนี้ ะ พวกคณุ คดิ อยา่ งไร เหน็ ดว้ ย ไหมหรอื ไมเ่ หน็ ดว้ ยวเิ คราะหก์ นั ขน้ึ มา ตอ้ งเปน็ ความรรู้ ว่ มกนั เราในทนี่ คี้ อื วา่ จะเปน็ ตวั คนเดยี วหรอื เปน็ ทมี หรอื วา่ คนในชมุ ชนมาชว่ ยกนั คน้ หากไ็ ดแ้ ลว้ แต่ แตถ่ า้ ดที ส่ี ดุ ยงิ่ ระดมสมองคนไดม้ ากเทา่ ไหร่ ความแมน่ ยำ� กม็ มี ากขน้ึ เทา่ นน้ั โอกาสทคี่ นคนเดยี วจะมองเหน็ ชดั มนั ยาก เพราะฉะนนั้ ใน หวั ขอ้ องคก์ รเรยี นรู้ Team learning เปน็ เรอื่ งสำ� คญั การเรยี นเปน็ ทมี เขา้ ใจเปน็ ทมี เปน็ เรอื่ งใหญ่ เพราะฉะนน้ั ถา้ ใครสามารถมที มี อนั นไ้ี ดใ้ นการทำ� งานวจิ ยั สามารถดงึ การมสี ว่ นรว่ มในการวจิ ยั ได้ มาก โอกาสทจี่ ะถกู ตอ้ งกเ็ ปน็ ไปไดม้ าก อยา่ งไรกต็ ามทบี่ อกวา่ มนั ขน้ึ อยกู่ บั วา่ ใครเปน็ คนนยิ ามเปน็ คนขดี ตวั ทมี วจิ ยั นนั่ แหละหรอื ตวั คนวจิ ยั เปน็ คนคดิ เพราะวา่ โลกมนั ถกู สรา้ งดว้ ยจนิ ตนาการของเรา ฝรงั่ มนั กค็ ดิ แบบฝรงั่ ถา้ ฝรง่ั ทำ� งานวจิ ยั กจ็ ะมองจากมมุ ของเขา ถงึ แมว้ า่ จะทำ� ความเขา้ ใจ ถา้ เราทำ� เรากม็ องจากมมุ ของเรา ถา้ เอาชาวบา้ นกม็ องจากมมุ ของชาวบา้ น ทสี่ ำ� คญั คอื วา่ เวลาเราทำ� เราจะสามารถดงึ ความหลากหลาย นไี้ ดอ้ ยา่ งไร บางทอี าจจะคนเปน็ รอ้ ย คนคนเดยี วอาจจะคดิ เกง่ กวา่ กไ็ ด้ ไมแ่ นม่ นั ไมม่ อี ะไรแน่ ไมม่ ี ใครยนื ยนั ได้ ผมยงั ไมส่ ามารถยนื ยนั ไดเ้ ลย แตร่ ไู้ ดอ้ ยา่ งเดยี ววา่ หลายสง่ิ หลายอยา่ งนเ้ี รากพ็ สิ จู นม์ า แลว้ ในทางวทิ ยาศาสตร์ อยา่ งทฤษฎอี นั หนง่ึ ในทางฟสิ กิ สท์ บี่ อกวา่ ผสู้ งั เกตมอี ทิ ธพิ ลตอ่ สง่ิ ทถ่ี กู สงั เกต ในทางฟสิ กิ ส์ ไฮเซนแบรก์ (Heisenberg) คน้ พบ Uncertainly principle เขากลา่ ววา่ แสง เปน็ ไดท้ ง้ั คลน่ื และเปน็ ทงั้ วตั ถุ ขนึ้ อยกู่ บั วา่ ถา้ เรามองอยากเหน็ คลนื่ เรากเ็ หน็ คลนื่ แตถ่ า้ อยาก เหน็ เปน็ วตั ถกุ เ็ ปน็ วตั ถุ เหน็ ไหม เดมิ วทิ ยาศาสตรบ์ อกวา่ ผสู้ งั เกตเปน็ กลาง มกี ารแยกระหวา่ ง Subject กบั Object ผวู้ จิ ยั กบั ผถู้ กู วจิ ยั หรอื ผสู้ งั เกตกบั สง่ิ ทถี่ กู สงั เกต อนั นน้ั ไมใ่ ชเ่ สยี แลว้ วทิ ยาศาสตรส์ มยั ใหมไ่ มแ่ ยกเชน่ นน้ั เพราะวา่ ผวู้ จิ ยั เวลาคณุ ตงั้ คำ� ถามนนั้ เขากต็ อบตามคำ� ถามนน้ั กลายเปน็ วา่ ผวู้ จิ ยั เปน็ ผกู้ ำ� หนด ถา้ เราไมม่ น่ั ใจในตวั เองเรากท็ ำ� มาเปน็ ทมี ขนึ้ มา แลว้ เอาคำ� ถามของ ทมี เปน็ ตวั ไป observe ใชไ่ หมครบั ผมคดิ วา่ คำ� ถามนมี้ นั ตอ้ งอาศยั การเชค็ ไปเชค็ มาหลายครงั้ ใหเ้ รา มนั่ ใจวา่ ทเ่ี รา observe มนั ใชห่ รอื ไมใ่ ช่ มนั ถกู หรอื ไมถ่ กู นอกจากใหค้ นในชมุ ชนชว่ ยตอบกลบั แลว้ อาจจะมคี นภายนอกมาชว่ ยเราอกี ทวี า่ เรา observe ถกู หรอื สงั เกตถกู ไหม ความหลากหลายเปน็ สงิ่ ทด่ี อี าจจะไมจ่ รงิ กไ็ ดค้ รบั ถา้ หากวา่ องคป์ ระกอบของผเู้ ขา้ รว่ มนนั้ หนกั ไปในอยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ มองทอ่ี งคป์ ระกอบ ผมคดิ อยา่ งนนี้ ะครบั เพราะวา่ คนแตล่ ะคนในแตล่ ะ ชมุ ชนอาจจะมปี ระวตั ศิ าสตรท์ ต่ี า่ งกนั มกี ระบวนทศั นท์ ตี่ า่ งกนั มคี วามเชอื่ ทตี่ า่ งกนั ดงั นน้ั กเ็ ลยบอก
70 วา่ ความหลากหลายอยา่ งเดยี วไมเ่ พยี งพอ แตว่ า่ ความหลากหลายทมี่ อี งคป์ ระกอบทเี่ ทา่ เทยี มกนั หรอื พอๆ กนั หรอื เหมอื นกนั ผมเคยเหน็ คนหนง่ึ เอาเกมมาเลน่ กบั ผมนะครบั เขาบอกวา่ งานเรา ถา้ แบง่ ในกลมุ่ คนจะแบง่ เปน็ กระทงิ หนู เหยยี่ ว หมี คนบางคนอาจจะเปน็ เหยยี่ ว คดิ แตเ่ รอ่ื งวสิ ยั ทศั น์ คดิ ถงึ เรอื่ งเปน็ นามธรรมเยอะ คนบางคนเปน็ หนไู มก่ ลา้ สู้ ทำ� แคเ่ รอื่ งเลก็ ๆ คนบางคนอาจจะ เปน็ หมที ค่ี ดิ ถงึ การวางแผน คนบางคนอาจจะเปน็ กระทงิ ทม่ี งุ่ แตท่ จ่ี ะไปขา้ งหนา้ ถา้ องคป์ ระกอบที่ มคี วามหลากหลายแตไ่ มส่ มดลุ กนั อาจจะกอ่ เกดิ ความทไ่ี มก่ อ่ ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงไปในทางทด่ี ี กไ็ ดค้ รบั คำ� ถาม : ผมอยากเสนอสง่ิ ทเี่ ปน็ รปู ธรรม เมอื่ ประมาณ 2 อาทติ ยก์ อ่ น เราระดมวสิ ยั ทศั นแ์ ผนฯ 9 ทเี่ ชยี งใหม่ ภคู ำ� ปญั หาอนั หนง่ึ ของทมี ทำ� งาน ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกโรงเรยี นเปน็ หลกั รว่ มกบั สภาพฒั น์ ผมเขา้ ใจวา่ เขา Identify Core loop อนั หนง่ึ คอื ปญั หาของจงั หวดั เชยี งใหม่ อนั หนงึ่ คอื การทชี่ าวบา้ นมารว่ มชมุ นมุ มาประทว้ ง เปน็ ปญั หาเชยี งใหมท่ จ่ี ะตอ้ งชว่ ยกนั แก้ คง เหมอื นกบั ทพี่ ดู วา่ ถงึ แมอ้ งคป์ ระกอบจะหลากหลายแตก่ าร Identify Core loop ตรงนนั้ ถามวา่ ใครเปน็ คน Identify บนพนื้ ฐานอะไร คำ� ถามกค็ อื วา่ มนั ควรจะมหี ลกั เกณฑก์ วา้ งๆ ไหม หรอื วา่ ไมจ่ ำ� เปน็ จะตอ้ งมี หลายๆ ครงั้ ผมคดิ วา่ แมแ้ ตว่ งขา้ ราชการ สมมตจิ ะ Identify ปญั หาทางดา้ น การเกษตรผมคดิ วา่ ขา้ ราชการกอ็ าจจะ Identify Core loop อยา่ งหนงึ่ ขา้ ราชการเกษตรอกี คน อน่ื กอ็ าจจะ Identify Core loop อกี อนั หนง่ึ ตรงนเ้ี ราจะมที างออกอยา่ งไรครบั หรอื วา่ รว่ มกนั คณุ ชยั วฒั น์ : ไมม่ ที างหรอกครบั ยกเวน้ เอาผลงานจากการคดิ การกระทำ� มาพสิ จู นเ์ ลย คอื พดู งา่ ยๆ ใครคอื อยา่ งไรกม็ กั จะเชอื่ อยา่ งนนั้ ตกลงกนั ไมไ่ ด้ กค็ ณุ ลองคดิ ดนู ะครบั เพราะผมเอง กค็ ดิ ไมอ่ อก และผมเองกไ็ มม่ สี ทิ ธไิ ปบงั คบั คนอน่ื เขาวา่ น่ี ผมคดิ ถกู นะ ผมเหน็ โลกมาเยอะ คงไมม่ ี ทาง คณุ ไมเ่ ชอ่ื ผม ผมกไ็ มร่ จู้ ะทำ� อยา่ งไร กท็ ำ� อยา่ งไรได้ เมอื่ คณุ เชอ่ื อยา่ งทค่ี ณุ ใชก้ ระบวนการนี้ อกี 2 ปมี นั กจ็ ะบอกเราวา่ คณุ คดิ ผดิ คดิ ถกู บางเรอื่ งมนั ตอ้ งใหค้ วามเปน็ จรงิ มนั พสิ จู น์ เพราะเมอื่ คณุ คดิ คณุ กำ� หนดมนั กจ็ ะบอกวา่ ทค่ี ณุ คดิ ทคี่ ณุ กำ� หนดนะ มนั แกไ้ ดห้ รอื เปลา่ ถา้ แกไ้ มไ่ ดค้ ณุ กม็ ปี ญั หา บางอยา่ ง ผมไมม่ อี นั นแี้ ละผมกไ็ มค่ ดิ ทจ่ี ะไปบอกวา่ เฮย้ ! คอื ตวั นม้ี นั ไมม่ อี ะไรมายนื ยนั ได้ เพราะ การทจ่ี ะคดิ หาวา่ Core loop คอื อะไรนะ ตวั แปรมนั เยอะมาก แลว้ มนั กร็ ะหวา่ งหมบู่ า้ นตอ่ หมบู่ า้ น เมอื งตอ่ เมอื ง ทตี่ อ่ ทม่ี นั ไมเ่ หมอื นกนั และบางทปี ระเดน็ ยงั ไมเ่ หมอื นกนั เลย Subject ไมเ่ หมอื นกนั Core loop กเ็ ปลย่ี นแลว้ อนั นผี้ มปลอ่ ยเปดิ กวา้ ง
หลกั การขอ้ 5 71 คดิ เชงิ กระบวนระบบ คอื คดิ เปน็ กระบวนการ Systems Thinking is Process Thinking. เพราะทกุ อยา่ งไมม่ วี นั หยดุ นงิ่ โลกสมยั ใหมเ่ ปน็ โลกท่ี Dynamic พลวตั สงู เปลย่ี นตลอดเวลา ปรชั ญาตะวนั ออกกพ็ ดู ถงึ ความเปน็ อนจิ จงั หลกั แหง่ การเปลย่ี นแปลง ไมม่ กี ารหยดุ นงิ่ แลว้ ทน่ี า่ สนใจกค็ อื วา่ ทฤษฎสี มยั ใหม่ New Science ไมใ่ ช้ Science of Being แตเ่ ขยี นวา่ เปน็ Science of Becoming คอื สรรพสงิ่ เปลย่ี นไปตลอดเวลา เม่ือเราไม่แน่ใจว่าส่ิงที่เราคิดน้ันถูกหรือผิด ก็ต้องให้กระบวนการเป็นเคร่ืองช่วยพิสูจน์ กระบวนการระดมสมองทว่ี า่ ดว้ ยความแตกตา่ งหลากหลาย คณุ กต็ อ้ งรเู้ อาวา่ องคป์ ระกอบของคน ทคี่ ณุ เอามา เอยี งหรอื ไมเ่ อยี ง ถกู หรอื ไมถ่ กู ลองมาถก ลองมาคยุ และมาทบทวนวา่ “เอะ๊ มนั ใช่ หรอื เปลา่ ” ไมใ่ ชว่ า่ พอมาประชมุ กนั หนเดยี ว กบ็ อกวา่ ไดข้ อ้ สรปุ แลว้ ชดั เจน --- ไมม่ ที างหรอกครบั ตอ้ งมาถามใหมว่ า่ ใชห่ รอื เปลา่ เราคดิ ผดิ บา้ งไหม ตอ้ งมกี ารสงั เกต (observe) ตวั เราเองอกี ครงั้ เราไปทำ� วจิ ยั ถา้ เราไมม่ น่ั ใจอยากใหค้ นนอกถามเรากอ่ นวจิ ยั คณุ คดิ อะไรอยแู่ ลว้ คณุ คดิ ถกู ไหม แต่ ตวั เราไมต่ อ้ งการคนนอกเพราะ ถา้ เอาคนนอกกค็ อื การเอาอกี พวกทไ่ี มเ่ ขา้ ใจแบบเรา สมมตวิ า่ บางที อยา่ งผม ผมกไ็ มแ่ ครค์ นนอกเพราะผมบอกวา่ คนนอกบางพวกไมเ่ ขา้ ใจ Systems Thinking และ เปน็ คนทมี่ าตรวจสอบ ผมเปน็ คนทค่ี ดิ แบบแยกสว่ นแลว้ มาวเิ คราะหผ์ มซง่ึ ใชว้ ธิ คี ดิ แบบองคร์ วม เขา กบ็ อกอาจารยท์ ำ� ไมแบบนี้ ผดิ มนั มาคนละศนู ยต์ งั้ แตต่ น้ แลว้ แตถ่ า้ คณุ หาทค่ี ดิ เหมอื นใหม้ าสงั เกต กระบวนการ อนั นพี้ อจะใกลเ้ คยี ง แตถ่ า้ ไมม่ ที างทจี่ ะพสิ จู นไ์ ดก้ ต็ อ้ งทบทวนกนั เอง อาจจะ 2 เดอื น 3 เดอื นใหห้ ลงั มานงั่ ดใู หมว่ า่ มนั ใชไ่ หมหรอื เปลา่ มขี อ้ มลู พอไหม ใชไ่ หมครบั มนั เปน็ กระบวนการ เรยี นรแู้ ลว้ และทน่ี า่ สนใจกค็ อื วา่ หวั ใจทง้ั หมดนผี้ มทำ� กนั มาเราคดิ อะไรขนึ้ มา ไมใ่ ชไ่ ดแ้ ตข่ องเปน็ output เปน็ paper แตส่ ำ� คญั คอื เราเปลยี่ น Mental Model เปลยี่ นวธิ คี ดิ ไปดว้ ย ระหวา่ งโต้ ระหวา่ งเถยี ง ระหวา่ งคยุ กบั เพอ่ื น เราเชค็ ไปดว้ ยวา่ ในตวั วา่ ทำ� ไมเราคดิ อยา่ งนแ้ี ลว้ ทำ� ไมเขาคดิ อยา่ ง นน้ั คอื ตลอดเวลาเราสงั เกตตวั เองและผอู้ น่ื ในทสี่ ดุ แลว้ ทฤษฎกี ระบวนระบบทงั้ หลายซงึ่ หนงั สอื ชอื่ The Fifth Discipline ของ Peter Senge พดู ถงึ หลายทเ่ี ราทำ� กนั มาทง้ั หมดมนั จะเชอื่ มโยง สง่ิ นี้ ทงั้ หมดเขา้ ดว้ ยกนั ในกระบวนการเดยี วกนั คอื Personal Mastery การฝกึ ฝนพฒั นาศกั ยภาพ ตนเอง, Shared Vision อาจจะยังไม่จ�ำเป็นในการท�ำวิจัย แต่ถ้าในทางปฏิบัติต้องมีร่วม แนน่ อน, การเรยี นรเู ปน็ ทมี หรอื Team Learning จำ� เปน็ , และ Systems thinking Mental Model มนั เรม่ิ เปลยี่ นแลว้ แนน่ อนระหวา่ งทำ� เหน็ ไหมครบั ทำ� เรอ่ื งเดยี วมนั ไป process เชอ่ื มโยงทกุ อยา่ งเขา้ ดว้ ยกนั เพยี งแตว่ า่ คณุ จะวางจดุ ไหนเปน็ จดุ หนกั เปน็ ครง้ั เปน็ คราว มนั แลว้ แตเ่ ราอยากจะเอาอะไรเปน็ ตวั ตงั้ กอ่ นบางเรอ่ื ง เหมอื นอยา่ งผมไปหาหมอผมปว่ ยบางเรอ่ื ง หมออาจจะวเิ คราะหผ์ มทง้ั หมดได้ แตน่ ำ�้ หนกั ในการรกั ษาอาจจะตอ้ งมาเนน้ เชน่ เปน็ โรคความดนั
72 ทจ่ี ะตอ้ งใหก้ นิ ยาบางชนดิ เปน็ พเิ ศษ แลว้ จะตอ้ งทำ� อยา่ งไร อยา่ โมโหโทโสงา่ ย ออกกำ� ลงั กายบอ่ ยๆ อะไรตา่ งๆ มนั มเี รอ่ื งเชอ่ื มโยง ในการทำ� งานกบั สงั คมทซี่ บั ซอ้ นและมพี ลั วตั ในการเปลย่ี นแปลงสงู ทำ� ใหเ้ ราเขา้ ใจอะไรตา่ งๆ ไดด้ ขี นึ้ เยอะกวา่ เดมิ อนั นคี้ อื สภาพทงั้ หมด 5 ขอ้ น้ี เราจะเหน็ วา่ ทกุ อยา่ งนเี้ ชอื่ มโยงถงึ กนั หมดทกุ ขอ้ มนั เชอ่ื มโยงซง่ึ กนั และกนั ขอ้ หนงึ่ มนั เชอ่ื มไปอกี ขอ้ หนงึ่ แลว้ ทกุ อยา่ งมนั กจ็ ะกลบั เขา้ มาสเู่ รอ่ื ง การทำ� ใหใ้ นทส่ี ดุ แลว้ เรากจ็ ะเหน็ วา่ ความรู้ ความเขา้ ใจมนั แยกไมอ่ อกจากประสบการณช์ วี ติ และ การเรยี นรนู้ นั้ ไมไ่ ดเ้ รยี นรทู้ างสมองซกี ซา้ ยอยา่ งเดยี ว มนั เอาอารมณ์ ความรสู้ กึ มาแกไ้ ขพฒั นาตวั ตนเขา้ เกยี่ วขอ้ งดว้ ย ไมใ่ ชเ่ ราไปเทยี่ ววจิ ยั คนอน่ื เขาทว่ั แตล่ มื วจิ ยั ตวั เองไป รหู้ รอื เปลา่ ทเี่ ราไปวจิ ยั คนอน่ื เขานะ เราจะคดิ อะไรบา้ งอยใู่ นตวั ทำ� แบบนม้ี นั จะถกู ในทส่ี ดุ ตวั ปญั หาบางทกี ลายเปน็ ตวั เรา ดว้ ยซำ้� ความเปน็ จรงิ มนั เปน็ อยา่ งนน้ั แตเ่ รามอี วชิ าเขา้ มาบดบงั สง่ิ หนง่ึ ทน่ี า่ สนใจมากกเ็ หมอื นกบั ปญั หาสงั คมไทย หลายอยา่ งคนมองขา้ ม มนั มี loop อยู่ หลาย loop ในสงั คมไทยทท่ี ำ� ใหก้ ารเมอื งไทยไมข่ ยบั ทกุ คนจะดา่ นกั การเมอื ง จะดา่ อะไรหลายๆ อยา่ ง แตส่ ง่ิ หนง่ึ ไมเ่ คยดา่ คอื นกั ดา่ การเมอื ง คอื สอ่ื มวลชน เพราะสอื่ มวลชนเองมนั ไมเ่ ปลยี่ นวธิ ี คดิ คณุ ไปดวู เิ คราะหเ์ ถอะวเิ คราะหข์ า่ ว คณุ ไปเปดิ อา่ นดเู ลย 40 ปที ผ่ี า่ นมากบั ปนี ้ี มนั เหมอื นกนั ไหม ไมต่ า่ งกนั เลย Pattern เดยี วกนั แลว้ ในเมอื่ คนวจิ ารณม์ นั วจิ ารณซ์ ำ้� ซาก นกั การเมอื งจะไป ทำ� อะไรใหมไ่ ดไ้ ง มนั กซ็ ำ�้ ซากเหมอื นเดมิ นคี่ อื วงจรแหง่ ความซำ�้ ซากทง้ั หมดของสงั คม คอื ในทส่ี กุ แลว้ คนทไี่ ป observe เขามนั ลมื observe ตวั เองไปวา่ ตวั ทา่ นไดค้ ดิ อะไรใหมบ่ า้ งหรอื เปลา่ ในการ คดิ เหลา่ น้ี เมอ่ื ไมค่ ดิ ใหม่ มนั กซ็ ำ้� ๆ คำ� ถาม : ไมร่ วู้ า่ ตวั เองสบั สนหรอื เปลา่ เพราะวา่ พออาจารยบ์ อกวา่ การคดิ เชงิ กระบวน ระบบเราจะตอ้ งขดี เสน้ ดว้ ยตวั เอง ในการขดี เสน้ ของเรา จะเอาระยะเวลา หมายความวา่ เราจะ มอง Time frame วา่ เราจะมองแคน่ น้ี ะ การเปลย่ี นแปลงในชว่ งระยะเวลา 10 ปเี ทา่ นนั้ หลงั จาก นน้ั กระบวนการเปลย่ี นแปลงจะเปน็ อยา่ งไร เราจะตอ้ งคดิ ดเู องไปถงึ ขา้ งหนา้ ไหม หรอื วา่ เราจะคดิ เฉพาะแตก่ ระบวนการเปลยี่ นแปลงในชว่ งเวลา 10 ปี คณุ ชยั วฒั น์ : ผมไมไ่ ดบ้ อกแค่ Time frame นะครบั ผมบอกวา่ ขดี เสน้ ในทนี่ หี้ มายถงึ การ ขดี เสน้ ของพน้ื ทกี่ ไ็ ด้ ขดี เสน้ พน้ื ทเ่ี หมอื นทก่ี บั ผมยกตวั อยา่ งไงครบั ทผี่ มไปทำ� ทก่ี รงุ เทพฯ ขน้ึ มา ผมทำ� เรอื่ งเมอื งเกา่ ใชไ่ หมครบั และในเมอื งเกา่ ผมกไ็ ป focus ทต่ี รงแหง่ เหตผุ ลของการ focus เพอื่ ใหเ้ กดิ เอกลกั ษณภ์ ายในกลมุ่ อตั ตลกั ษณข์ องกลมุ่ ผมไมไ่ ดบ้ อกเรอื่ ง Time frame ทนี ก้ี ารคดิ ของ คณุ มนั ขน้ึ อยกู่ บั เราวจิ ยั เราตอ้ งการแคไ่ หน เพราะในทส่ี ดุ แลว้ การวจิ ยั มนั ตอ้ งมขี อ้ สรปุ ใหไ้ ดจ้ ดุ ๆ หนงึ่ การวจิ ยั ตอ้ งมขี อ้ สรปุ ถงึ ระยะเวลาหนง่ึ คณุ ตอ้ งสรปุ ใหไ้ ดว้ า่ อยา่ งนนี้ ะ ตอ้ งใหช้ ดั มาในบางเรอ่ื ง มนั ไมส่ ามารถไดค้ รอบคลมุ ไปหมด
73 คำ� ถาม : อยา่ งทก่ี ารอาจารยศ์ กึ ษาชมุ ชนแพรง่ ภธู รแลว้ อาจารยจ์ ะมองเขาไปถงึ เมอื่ ไหร่ คณุ ชยั วฒั น์ : กแ็ ลว้ แตเ่ ราจะตง้ั โจทย์ คณุ จะมองกป่ี ลี ะ 5 ปกี ไ็ ด้ 10 ปกี ไ็ ด้ ทนี ถ้ี า้ เราถาม วา่ เราตงั้ โจทยไ์ ปเพอื่ อะไร โจทยแ์ ตล่ ะโจทยม์ นั ตอ้ งมคี ำ� ถามวา่ มนั มคี วามหมายอะไร ทำ� ไมถงึ ตงั้ โจทยแ์ คน่ ้ี ถา้ เขาบอกวา่ 5 ปนี เ้ี ปน็ 5 ปสี ำ� คญั ถา้ 5 ปสี ำ� เรจ็ อยา่ งอน่ื อยา่ ไปตงั้ มนั เลย แตถ่ า้ บอกวา่ 5 ปไี มพ่ อตอ้ ง 10 ปี เพราะวา่ การเปลยี่ นแปลงนะมนั ยาวกวา่ นน้ั มนั แลว้ แตเ่ ราตงั้ โจทย์ อนั นม้ี นั กข็ น้ึ อยกู่ บั คนทจ่ี ะไปหาเอง หรอื บางทคี นใหเ้ งนิ เรากไ็ ดท้ เ่ี ปน็ คนตง้ั โจทย์ รสู้ กึ วา่ คนหาเงนิ จะเปน็ ตวั สำ� คญั กวา่ ดว้ ยซำ�้ เพราะในทส่ี ดุ แลว้ เราอยา่ คดิ วา่ ความสมั พนั ธท์ กุ อยา่ งเขา้ ดว้ ยกนั นะมนั ไมม่ กี ารแบง่ มนั มี การแบง่ ในความสมั พนั ธม์ นั มกี ารขดี เสน้ ของมนั ไปในตวั อยา่ งคำ� วา่ สงั คมไทย ในสงั คมไทยมพี วก ปกั ษใ์ ต้ พวกปกั ษใ์ ตก้ ม็ พี วกนครฯ พวกปตั ตานี พวกยะลา พวกพทั ลงุ พวกสรุ าษฎร์ คณุ ไมแ่ บง่ ไป บางพวก คณุ กต็ รวจหาบางสง่ิ บางอยา่ งทชี่ ดั เจนไมเ่ จอ เพราะในความเปน็ ปกั ษใ์ ตม้ นั มคี วามเชอื่ ม ทเี่ ปน็ ลกั ษณะปกั ษใ์ ตก้ จ็ รงิ แตใ่ นความเปน็ ปกั ษใ์ ต้ ความเปน็ นครฯ กบั สรุ าษฎร์ กบั พทั ลงุ กม็ คี วาม ตา่ งกนั ทนี ม้ี นั อยทู่ วี่ า่ เราจะวจิ ยั อะไร ความสมั พนั ธท์ ผ่ี มวา่ ไมใ่ ชท่ กุ อยา่ งมนั เหมอื นกนั หมด มนั มี ความตา่ งกนั อยใู่ นตวั เพราะ Systems Thinking มตี วั เชอ่ื มโยงและขดั แยง้ ไปในตวั การขดี เสน้ นถี้ า้ ไมม่ กี ารขดี เสน้ กไ็ มม่ กี ารเชอ่ื มโยง ฟงั ดมู นั เหมอื นกบั เลน่ ลน้ิ แตไ่ มใ่ ช่ เหมอื นกบั หยนิ หยาง เราไม่ สามารถคดิ ดา้ นเดยี วได้ คณุ จะไมม่ ที างเขา้ ใจ Local ไดถ้ า้ คณุ ไมเ่ อา Local ไปโยงกบั Global คณุ จะไมม่ วี นั เขา้ ใจชนบท ถา้ คณุ ไมโ่ ยงชนบทเขา้ กบั เมอื ง บางครง้ั คณุ ตอ้ งการการเปรยี บเทยี บ เพราะ เมอ่ื เกดิ การเปรยี บเทยี บมนั จงึ เกดิ การเขา้ ใจ ใชไ่ หมครบั เหมอื นอยา่ งทวี่ า่ น่ี “ผมเหน็ คณุ ” “ผมอยู่ น่ี !” มนั ตอ้ งปฏสิ มั พนั ธก์ นั ผมไมม่ ตี วั ตนถา้ ไมม่ สี งั คมใชไ่ หมครบั ถา้ ทกุ คนเกง่ หมดกจ็ ะไมม่ วี รี บรุ ษุ ไมม่ คี ำ� นี้ นค่ี อื ชวี ติ จรงิ ๆ มนั เปน็ อยา่ งนนั้ มนั ซบั ซอ้ น
74 การวเิ คราะห์ระบบทเ่ี ปรยี บเสมอื นภูเขานำ้ �แข็ง คดั ลอกจากหนังสือ Systems thinking วิธคี ิดกระบวนระบบ : ปิยนาถ ประยรู , ชัยวัฒน์ ถริ ะพันธ์ุ วธิ คี ดิ กระบวนระบบ (Systems thinking) มองระบบวา่ เปรยี บเสมอื นภเู ขานำ�้ แขง็ ใหเ้ ราลองนกึ ภาพภเู ขานำ�้ ขง็ ทมี่ สี ว่ นทโี่ ผลข่ นึ้ มาเหนอื นนำ�้ ใหเ้ ราเหน็ แลว้ จนิ ตนาการดวู า่ ภายใตภ้ เู ขานำ�้ แขง็ ทโี่ ผลข่ น้ึ มานน้ั เปน็ อยา่ งไร ยอดภเู ขาทปี่ รากฏอาจจะมแี คเ่ พยี งนดิ เดยี ว แตล่ กึ ลงไปใตน้ ำ้� นนั้ เกดิ จากการกอ่ ตวั ของนำ้� แขง็ กอ้ นมหมึ า วธิ คี ดิ กระบวนระบบ จงึ มองระบบดว้ ยวธิ คี ดิ 4 ระดบั ซง่ึ เปรยี บเสมอื นภเู ขานำ�้ แขง็ ไวด้ งั นี้ ภูเขาน้ำ�แข็ง 4 ระดับ 1 ระดบั ปรากฏการณ์ (Event) 2 ระดบั แนวโนม้ และแบบแผน (pattern) 3 ระดบั โครงสรา้ ง (structure) 4 ระดบั ภาพจำ� ลองความคดิ (mental model)
75 1. ระดบั ปรากฏการณ์ (Event) หรอื ระดบั เหตกุ ารณ์ หมายถงึ สงิ่ ทป่ี รากฏออกมาใหเ้ หน็ ไดด้ ว้ ย สายตา ดว้ ยการรบั รใู้ นระดบั เบอื้ งตน้ เชน่ เหตกุ ารณท์ เี่ ราสามารถไดเ้ หน็ ไดย้ นิ ไดร้ บั รวู้ า่ เกดิ เหตกุ ารณอ์ ยา่ งนข้ี น้ึ เชน่ เหตกุ ารณก์ ารฆา่ กนั ตายในภาคใต้ สหรฐั ถลม่ อริ กั ไขห้ วดั นก เขมร เผาสถานทตู ไทย ตำ� รวจยงิ กนั นเี่ ปน็ สงิ่ ทเ่ี ราเรยี กวา่ เหตกุ ารณห์ รอื ปรากฏการณท์ เ่ี ราเหน็ ยก ตวั อยา่ งอกี เรอ่ื งนงึ เพอื่ ใหเ้ ราวเิ คราะหใ์ นระดบั ตอ่ ๆ ไปอกี ตวั อยา่ ง เวลาทเี่ ราไปทตี่ กึ อบุ ตั เิ หตทุ ่ี โรงพยาบาล ปรากฏการณท์ เี่ ราจะเหน็ ไดแ้ ก่ ผปู้ ว่ ยโรคตา่ งๆ เชน่ โรคหวั ใจ ไขห้ วดั เบาหวาน ฯลฯ และถา้ เปน็ ชว่ งสงกรานต์ เหตกุ ารณท์ เ่ี ราเหน็ กจ็ ะมี คนหวั แตก แขนหกั ขาหกั ซง่ึ เกดิ จาก อบุ ตั เิ หตุ รถชน รถควำ่� รถลม้ เหตกุ ารณเ์ หลา่ นเ้ี รามองเหน็ ได้ 2. ระดบั แนวโนม้ และแบบแผน (pattern) แบบแผนพฤตกิ รรมของเหตกุ ารณ์ กค็ อื สงิ่ ที่ สะทอ้ นใหเ้ หน็ วา่ หากแบบแผนเปน็ เชน่ นี้ ปรากฏการณจ์ ะเปน็ เชน่ ไร แบบแผน (pattern) จงึ เหมอื น การไหลของนำ้� แบบแผนการไหลของน้ำ� เราจะเหน็ ไดว้ า่ การไหลของนำ�้ จะมบี างชว่ งทนี่ ำ้� จะไหลวน หรอื เปลย่ี นทศิ ทาง ซง่ึ เกดิ จาก หนิ หรอื สง่ิ กดี ขวางทอี่ ยใู่ ตน้ นำ้� ทมี่ าบงั คบั การไหลของนำ้� ทำ� ใหท้ ศิ ทางเปลยี่ นไป และหากมกี ารระเบดิ หนิ ใตน้ ำ้� ออก แบบแผน (pattern) การไหลของนำ�้ ของนำ้� กจ็ ะเปลย่ี นไป หนิ ใตน้ ำ�้ นน้ั เปรยี บเสมอื น โครงสรา้ งซง่ึ อยใู่ นระดบั ถดั ไป สว่ นแบบแผนการไหลของนำ�้ กข็ น้ึ อยกู่ บั โครงสรา้ งนน้ั นำ้� ใหเ้ ราเหน็ การ ไหลของนำ้� วา่ มที งั้ ไหลเออื่ ยและมวี นบางชว่ ง
76 การจบั แบบแผนของเหตกุ ารณ์ เชน่ คนทท่ี ำ� งานในโรงพยาบาล เชน่ แพทย์ พยาบาล จะ สามารถจบั แบบแผนของเหตกุ ารณใ์ นโรงพยาบาลไดโ้ ดยวดั จากการบนั ทกึ สถติ ิ ความถขี่ องการปว่ ย ของโรคตา่ งๆ หรอื อบุ ตั เิ หตจุ ะเกดิ ขนึ้ ในชว่ งใด ซงึ่ สถติ เิ หลา่ นจี้ ะทำ� ใหเ้ ราเหน็ อดตี นำ� ไปสกู่ ารวเิ คราะห์ แนวโนม้ ในอนาคตเพอ่ื จะวางแผนรองรบั ได้ ซงึ่ เปน็ การนำ� ไปสกู่ ารแกป้ ญั หาเชงิ รกุ ตวั อยา่ งตอ่ จาก ระดบั เหตกุ ารณใ์ นโรงพยาบาลทเ่ี ราพบเหตกุ ารณว์ า่ ชว่ งสงกรานต์ จะมคี นประสบอบุ ตั เิ หตุ บาดเจบ็ และเสยี ชวี ติ เยอะ เมอ่ื เกบ็ สถติ จิ ะพบวา่ ถนนชว่ งไหนทคี่ นประสบอบุ ตั เิ หตบุ อ่ ย สาเหตกุ ารประสบ อบุ ตั เิ หตคุ อื เมาแลว้ ขบั และความคกึ คะนอง พบวา่ ชว่ งเวลาไหนทคี่ นมกั ประสบอบุ ตั เิ หตุ แบบแผน เหลา่ นที้ ำ� ใหเ้ ราเหน็ แนวโนม้ การเกดิ ของเหตกุ ารณ์ รไู้ ดว้ า่ ชว่ งเวลาใด ถนนชว่ งไหน และเพราะเหตุ ใด การปอ้ งกนั เหตกุ ารณจ์ งึ รดั กมุ ยงิ่ ขน้ึ เชน่ การรณรงคเ์ รอ่ื งเมาไมข่ บั เพอ่ื ลดอบุ ตั เิ หตุ การขอ ความ รว่ มมอื ใหต้ ำ� รวจคอยดแู ลตรงถนนชว่ งอนั ตรายใหค้ นลดอตั ราความเรว็ ของรถ โดยเฉพาะในชว่ ง เวลาทมี่ อี บุ ตั เิ หตบุ อ่ ย ตอ้ งจบั ตาเปน็ พเิ ศษ สว่ นทางดา้ นโรงพยาบาล กม็ กี ารเตรยี มเลอื ดสำ� รอง เตรยี มหมอ อปุ กรณ์ เครอื่ งมอื เพอื่ ชว่ ยเหลอื ตา่ งๆ ใหพ้ รอ้ ม เปน็ ตน้ 3. ระดบั โครงสรา้ ง (structure) จากทอี่ ธบิ ายวา่ การไหลของนำ�้ นน้ั เกดิ จากโครงสรา้ งใต้ นำ�้ คอื หนิ โครงสรา้ งจงึ เปน็ ตวั กำ� หนดแบบแผนพฤตกิ รรมและสงิ่ ทแ่ี สดงออกมาซง่ึ ปรากฏใหเ้ หน็ เรา คงไดย้ นิ คำ� วา่ โครงสรา้ งบอ่ ยๆ เชน่ หลายคนบน่ วา่ โครงสรา้ งของระบบราชการทำ� ใหค้ นทำ� งานไมเ่ ตม็ ศกั ยภาพ นน่ั เพราะการทำ� งานภายใตโ้ ครงสรา้ งทม่ี กี ฎระเบยี บมากมาย ไมย่ ดื หยนุ่ ซง่ึ ฉดุ พลงั การ ทำ� งานของคนใหล้ ดนอ้ ยลง เราอาจจะเคยเหน็ วา่ หลายองคก์ รมโี ครงสรา้ งทด่ี ภู ายนอกแลว้ เหมอื น กนั แตภ่ ายในอาจมคี วามยดื หยนุ่ ตา่ งกนั เหมอื นกบั แตล่ ะกระทรวงทม่ี โี ครงสรา้ งของระบบราชการ เหมอื นกนั แตภ่ ายในนน้ั อกี ทห่ี นงึ่ แขง็ ตวั มกี ฎมากมายจนทำ� งานไมไ่ ด้ สว่ นอกี ทห่ี นง่ึ ไมใ่ ชไ่ มร่ กั ษา กฎระเบยี บแตม่ กี ารยดื หยนุ่ สงู ซง่ึ ชว่ ยใหค้ นทำ� งานไดเ้ ตม็ ทแี่ ละทำ� งานเสรจ็ ลลุ ว่ งไดผ้ ลดดี ว้ ย ยกตวั อยา่ งการแกป้ ญั หาเชงิ โครงสรา้ งของโรงพยาบาลแหง่ หนง่ึ ในจงั หวดั ขอนแกน่ ซงึ่ หลงั จากสามารถจบั แบบแผนของการ เกดิ อบุ ตั เิ หตบุ อ่ ยๆ ไดแ้ ลว้ วา่ มสี าเหตมุ าจากการเมาสรุ าแลว้ ขบั ข่ี มอเตอรไ์ ซดโ์ ดยไมส่ วมหมวกนริ ภยั ในชว่ งเวลาหลงั 4 ทมุ่ การแกป้ ญั หาของโรงพยาบาลกค็ อื นอกจากมกี ารรณรงคเ์ พอ่ื ลดอบุ ตั เิ หตแุ ลว้ ยงั รว่ มมอื กบั ตำ� รวจจราจรดกั จบั ปรบั ผทู้ เี่ มาแลว้ ขบั ข่ี มอเตอรไ์ ซดโ์ ดยไมส่ วมหมวดนริ ภยั หลงั 4 ทมุ่ และขอความรว่ มมอื รา้ นอาหารใหช้ ว่ ยรณรงคด์ ว้ ย ซง่ึ ทำ� ใหอ้ บุ ตั เิ หตทุ เ่ี กดิ ขนึ้ ลดนอ้ ยลงจนเกอื บหมดไป อกี สว่ นหนง่ึ กค็ อื ภายในระบบนน้ั โดยสว่ นใหญแ่ ลว้ ไมไ่ ดม้ เี พยี งโครงสรา้ งเดยี ว เชน่ เดยี ว กบั โครงสรา้ งการไหลของนำ้� ทไี่ มไ่ ดม้ เี พยี งกอ้ นหนิ เทา่ นนั้ แตม่ ที ง้ั ตน้ ไม้ เขอื่ นกน้ั นำ�้ ซากเรอื ลม่ โคง้ คงุ้ ตา่ งๆ ทอี่ ยรู่ มิ แมน่ ำ้� จงึ ทำ� ใหส้ ายนำ�้ คดเคยี้ วบาง มที งั้ ชว่ งนำ้� วน นำ้� นง่ิ นำ�้ เชย่ี ว หรอื กลายเปน็ นำ�้ ตกไปกม็ ี โครงสรา้ งของระบบอน่ื ๆ กเ็ ชน่ กนั ซงึ่ มโี ครงสรา้ งทสี่ ง่ ผลระดบั โลก ไปจนถงึ โครงสรา้ ง ในระดบั วธิ คี ดิ การคดิ เชงิ กระบวนระบบเรยี กวา่ โครงสรา้ งหลายชนั้ ซอ้ นกนั
โครงสรา้ งเชงิ สภาวะแวดลอ้ ม เปน็ โครงสรา้ งทเี่ ปน็ ภาพใหญร่ ะดบั โลก ไดแ้ ก่ 77 โครงสรา้ งดา้ นกฎระเบยี บ/กฎหมาย กฎหมายระดบั โลกและระหวา่ งประเทศ ซง่ึ เปน็ ผล กระทบกบั คนทว่ั โลก เชน่ กฎหมาย WTO ทำ� ใหก้ ารเขา้ มาของรา้ นคา้ ปลกี ขนาดใหญอ่ ยา่ งแมคโคร โลตสั สง่ ผลกระทบถงึ รา้ นคา้ ในหมบู่ า้ น โครงสรา้ งทางเศรษฐกจิ เนอ่ื งจากเศรษฐกจิ ของประเทศไทยยงั ตอ้ งพงึ่ พงิ การสง่ ออกสนิ คา้ ตา่ งๆ ใหก้ บั อเมรกิ า ญปี่ นุ่ สหภาพยโุ รป ถา้ ประเทศคคู่ า้ ของไทยเศรษฐกจิ ตกตำ่� จะสง่ ผลกระทบ ตอ่ การคา้ ระหวา่ งประเทศรวมไปถงึ เศรษฐกจิ ของไทยดว้ ย โครงสรา้ งด้านเทคโนโลยี ประเทศทม่ี ีความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยมี ากวา่ ประเทศอืน่ ๆ โครงสรา้ งทางเทคโนโลยที กี่ า้ วหนา้ ของเขากจ็ ะสง่ ผลกระทบถงึ เราดว้ ย เชน่ ขณะนป้ี ระเทศจนี กำ� ลงั พฒั นาทางดา้ นเทคโนโลยใี นการผลติ อยา่ งรวดเรว็ ผนวกกบั แรงงานในประเทศจนี มมี าก และ ราคา ถกู ทำ� ใหป้ ระเทศจนี มคี วามสามารถในการผลติ สงู กรณกี ารระเบดิ แกง่ หนิ ทลี่ ำ� นำ�้ โขง ทำ� ใหเ้ รอื สนิ คา้ จากประเทศจนี ผา่ นมาภมู ภิ าคเอเชยี ตะออกเฉยี งใตไ้ ดส้ ะดวกมากขนึ้ และหลงั จากนน้ั สนิ คา้ จาก จนี กจ็ ะไหลทะลกั เขา้ มาใน ภมู ภิ าคนเี้ ปน็ จำ� นวนมาก สง่ ผลใหป้ ระเทศจนี จะกลายเปน็ คแู่ ขง่ ทนี่ า่ กลวั ของ ไทย โครงสรา้ งทางการแขง่ ขนั เชน่ การแขง่ ขนั ดา้ นการทอ่ งเทยี่ วของภเู กต็ ทำ� ใหก้ ารเดนิ ทาง สะดวกสบายขน้ึ นกั ทอ่ งเทย่ี วหลง่ั ไหลเขา้ มามาก นอกจากสง่ ผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มภายในภเู กต็ โดยตรงแลว้ ปญั หาของภเู กต็ ทม่ี กี ารพดู ถงึ คอื เรอ่ื งชา้ งในจงั หวดั ภเู กต็ ทม่ี มี าเดนิ ตามถนนเตม็ ไป หมด เชอื่ มโยงกบั ปญั หาสง่ิ แวดลอ้ ม ปญั หาเรอื่ งปา่ ในจงั หวดั สรุ นิ ทร์ และวฒั นธรรมของชาวสว่ ย เลยี้ งชา้ ง ทตี่ อ้ งเอาตวั รอดทง้ั คนและชา้ งจากสภาพสง่ิ แวดลอ้ มทถี่ กู ทำ� ลาย และภเู กต็ เปน็ แหลง่ ทอ่ ง เทย่ี วทม่ี ผี คู้ นหลงั่ ไหลมามาก ชา้ งในจงั หวดั ภเู กต็ จงึ เพม่ิ ขนึ้ จากหลายๆ สาเหตเุ หลา่ น้ี โครงสรา้ งทางธรุ กจิ บรษิ ทั ทด่ี ำ� เนนิ ธรุ กจิ จำ� เปน็ ทจี่ ะตอ้ งรวู้ า่ บรษิ ทั อยตู่ รงสว่ นใดของตลาด และมคี วาม สมั พนั ธก์ บั ลกู คา้ อยา่ งไร เชน่ ยทุ ธศาสตรใ์ นการผลติ สนิ คา้ การจดั จำ� หนา่ ย ฯลฯ สว่ น โครงสรา้ งการทำ� งานดา้ นพฒั นาตา่ งๆ นน้ั กจ็ ำ� เปน็ ตอ้ งมองภาพรวมเหลา่ นเ้ี ชน่ กนั วา่ เรามบี ทบาท อยา่ งไรกบั สงั คม บทบาทของเรามพี ลงั ทจี่ ะกำ� หนดจดุ คานงดั ตรงไหนบา้ ง และควรทำ� อยา่ งไร เปน็ ตน้ โครงสรา้ งขององคก์ ร เราจำ� เปน็ ตอ้ งพจิ ารณาตง้ั แตโ่ ครงสรา้ งการบรหิ ารงาน ระบบตอบแทน พนกั งาน โครงสรา้ งขององคก์ รนจี้ ะรวมถงึ โครงสรา้ งการทำ� งานดา้ นสงั คมดว้ ยวา่ โครงสรา้ งเปน็ ลกั ษณะใด เชน่ กระจายอำ� นาจ หรอื รวมศนู ยไ์ วท้ ค่ี นใดคนหนง่ึ กระบวนการสอ่ื สารภายใน หรอื มี ระบบชว่ ยเหลอื เกอื้ กลู กนั อยา่ งไร เปน็ ตน้ กฎกตกิ าทเี่ ขยี นและไมไ่ ดเ้ ขยี น สถานทบ่ี างแหง่ จะมกี ฎ
78 กตกิ าบางอยา่ งทไี่ มไ่ ดร้ ะบหุ รอื เขยี นเอาไว้ แตเ่ ปน็ ทรี่ กู้ นั ทว่ั ไป เชน่ คนไทยมกี ตกิ าทไ่ี มไ่ ดเ้ ขยี นไว้ คอื เดก็ ตอ้ งเคารพผใู้ หญ่ เจอผอู้ าวโุ สตอ้ งยกมอื ไหว้ โครงสรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบคุ คล เปน็ เรอื่ งมนษุ ยส์ มั พนั ธร์ ะหวา่ งคนกบั คน และเรอื่ ง สำ� คญั อยา่ งมากในสงั คมไทย ระบบเสน้ สาย ระบบอปุ ถมั ภ์ และการเออ้ื ผลประโยชนใ์ หก้ นั และกนั ใน สงั คมไทยเปน็ เรอ่ื งทซี่ บั ซอ้ น เหน็ ไดช้ ดั เจนเมอื่ ถงึ ฤดแู ตง่ ตง้ั โยกยา้ ย หรอื ทำ� ไมการเลอื กตงั้ ใน ประเทศไทย จงึ ไมส่ ามารถกำ� จดั การซอื้ สทิ ธข์ิ ายเสยี งใหห้ มดไปได้ ทง้ั ๆ ทม่ี กี ารออกกฎหมายเลอื ก ตง้ั ทเี่ ขม้ งวดมาก เพราะโครงสรา้ งของระบบอปุ ถมั ภใ์ นสงั คมไทยนน้ั เขม้ แขง็ ยง่ิ กวา่ กฎหมาย เรา อาจพบวา่ บางคนสมคั รเรยี นปรญิ ญาโทกเ็ พอื่ ตอ้ งการความสมั พนั ธม์ ากกวา่ ความรหู้ รอื ใบปรญิ ญา เปน็ ตน้ เราตอ้ งพจิ ารณาความสมั พนั ธต์ า่ งๆ เหลา่ นใี้ หด้ ี โครงสรา้ งทางวธิ คี ดิ (Mental model) ทกุ คนเมอื่ คดิ อะไรกต็ ามจะมโี ครงสรา้ งทางความ คดิ เรยี กไดว้ า่ เปน็ กระบวนทศั น์ คา่ นยิ ม ทจี่ ะสง่ ผลตอ่ การกระทำ� เชน่ โครงสรา้ งวธิ คี ดิ ของกำ� นนั คน หนงึ่ เขามองการเลอื กตงั้ แบบไหน มองการเมอื งแบบไหน ถา้ มองแบบหวงั ผลทจี่ ะไตไ่ ปสรู่ ะดบั อำ� นาจทส่ี งู ขน้ึ ไปเลน่ การเมอื งระดบั ชาติ กำ� นนั กจ็ ะแสดงพฤตกิ รรม ดว้ ยการคบหาคนมากมาย มี บรวิ ารเพอื่ นพอ้ งไว้ ขยายอทิ ธพิ ล เพอ่ื ไวส้ ำ� หรบั เปน็ ฐานเสยี งใหก้ บั ตน โครงสรา้ งทางความคดิ ของ มนษุ ยใ์ นการมองโลก มองสงั คม จงึ เปน็ อารมณ์ ความคดิ และความรสู้ กึ นสิ ยั ใจคอของมนษุ ย์ เกย่ี วขอ้ งกบั - how I think = ฉนั มวี ธิ คี ดิ อยา่ งไร - how I view my self and my role = ฉนั ดตู วั เองวา่ เปน็ อยา่ งไร - Style / behavioral performance = พฤตกิ รรมทเี่ ราเลอื กจะทำ� คนทกุ คนเมอ่ื ทำ� งาน ก็ จะมรี ปู แบบและวธิ กี ารทำ� งานซง่ึ จะแตกตา่ งกนั ไปตามลกั ษณะของบคุ คล ถา้ หากเรายงั มองเรอ่ื งโครงสรา้ งไดไ้ มช่ ดั ใหน้ กึ ถงึ โครงสรา้ งของนำ�้ การกำ� หนดพฤตกิ รรม การไหลของนำ้� นน้ั เกดิ จากอะไรไดบ้ า้ ง และหากมกี ารเปลยี่ นโครงสรา้ งใตน้ ำ้� ดว้ ยการระเบดิ หนิ เปลย่ี น ทางไหลของนำ�้ ดว้ ยการขดุ คลองแยกสายน�้ำใหไ้ หลไปอกี ทาง หรือสร้างเขอื่ นกนั้ นำ้� นนั่ คอื การ เปลยี่ นแปลงโครงสรา้ งของนำ�้ การไหลของนำ�้ กจ็ ะเปลย่ี นแปลงไป ตามทโ่ี ครงสรา้ งกำ� หนด เรอ่ื ง ของ โครงสรา้ งจงึ มคี วามสำ� คญั ในการจดั การกบั ระบบทซ่ี บั ซอ้ น การเปลย่ี นโครงสรา้ งของแมน่ ำ�้ ทด่ี ำ� รง อยนู่ านนบั พนั ๆ ปี แกง่ ทถี่ กู ระเบดิ ออกไปจะมผี ลกระทบตอ่ ปลา และระบบนเิ วศนใ์ นนำ้� รวมถงึ ผคู้ น ทงั้ สองฝากฝง่ั เชน่ เดยี วกบั ทก่ี ำ� ลงั เกดิ ขน้ึ ทแ่ี มน่ ำ้� โขง ซง่ึ จะกระทบกบั วถิ ชี วี ติ ทงั้ ไทย ลาว และ กมั พชู า 4. ระดบั ภาพจำ� ลองความคดิ (mental model) วธิ คี ดิ หรอื แบบจำ� ลองความคดิ ของคน อนั เกดิ จากพน้ื ฐาน หรอื โครงสรา้ ง เปน็ การเชอ่ื มโยงกนั กบั สงิ่ ตา่ งๆ และหลอ่ หลอมออกมาเปน็ วธิ ี คดิ เปน็ เรอ่ื งของความเชอ่ื นสิ ยั พฤตกิ รรมของบคุ คล เราอาจจะเคยเหน็ บางคนทกี่ อ่ นจะเปน็ นกั การ
79 เมอื ง มบี คุ ลกิ อกี อยา่ งหนง่ึ แตพ่ อไปเปน็ นกั การเมอื งกม็ บี คุ ลกิ อกี อยา่ ง นน่ั เพราะโครงสรา้ งทางการ เมอื ง กำ� หนดใหว้ ธิ คี ดิ และพฤตกิ รรมของคนเปลยี่ นไปได้ บางคนเปน็ สอื่ มวลชนทคี่ นเชอื่ ถอื บางคน เปน็ นกั วชิ าการทหี่ ลายคนเคารพ แตเ่ มอ่ื เขา้ สโู่ ครงสรา้ งทางการเมอื ง พฤตกิ รรมทแี่ สดงออกอาจ ตรงกนั ขา้ ม กบั สงิ่ ทเ่ี ขาเคยพดู ไว้ เพราะฉะนนั้ โครงสรา้ งจงึ มผี ลตอ่ การเปลยี่ นวธิ คี ดิ และการเปลยี่ น วธิ คี ดิ กย็ อ่ ม มผี ลตอ่ โครงสรา้ งเชน่ กนั เมอ่ื เราคดิ อยา่ งไร เรามกั ทำ� อยา่ งนนั้ เมอ่ื เราเชอื่ อยา่ งไร เรา มกั ทำ� อยา่ งนน้ั เพราะฉะนนั้ เราจงึ ควรฝกึ วธิ คี ดิ วธิ กี ารมองเพอ่ื ใหเ้ กดิ โครงสรา้ งของสงิ่ ทด่ี ี และ รกั ษาโครงสรา้ งดๆี เอาไวไ้ ด้ นกั คดิ กระบวนระบบ (System thinker) ทเ่ี กง่ โดยเฉพาะมคี วามสามารถดา้ นการจดั การ องคก์ ร คอื คนทส่ี ามารถมองเหน็ 4 ระดบั และทำ� งานไปพรอ้ มๆ กนั ทง้ั ระดบั เหตกุ ารณ์ ระดบั แบบแผนพฤตกิ รรม (patterns of behavior) ระดบั โครงสรา้ งระบบ (System Structure) ระดบั ภาพจำ� ลองความคดิ (mental models) การแกป้ ญั หาเปน็ กลมุ่ ตา่ งจากการแกโ้ ดยปจั เจกบคุ คลอยา่ งไร? 1. เปา้ หมาย : ไมไ่ ดค้ ดิ วา่ ตนเองมคี ำ� ตอบทถี่ กู ตอ้ ง แตพ่ ฒั นาความเขา้ ใจใหด้ ที สี่ ดุ โดยใช้ “ความฉลาดรว่ มกนั ” 2. เครอื่ งมอื : ทกั ษะการวเิ คราะหเ์ ปน็ สง่ิ ดใี นชว่ งเรมิ่ ตน้ แตเ่ ครอื่ งมอื ทสี่ ำ� คญั ยง่ิ กวา่ คอื การ สบื คน้ (ตง้ั คำ� ถาม) และการสนทนาทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั วสิ ยั ทศั น/์ จดุ มงุ่ หมายทตี่ อ้ งการไปใหถ้ งึ โดยไมล่ มื สถานการณท์ เ่ี ปน็ จรงิ ในปจั จบุ นั (current reality) 3. ผลลพั ธ์ : ทำ� ใหเ้ กดิ ความรว่ มมอื และตดิ ตามงานนน้ั สำ� คญั กวา่ การตดั สนิ ใจทค่ี ดิ วา่ สดุ ยอด แลว้ (optimized decision) 4. ความรว่ มมอื และตดิ ตาม : ตอ้ งมาจากการเรยี นรู้ - มนั มคี วามเปน็ ไปไดท้ จ่ี ำ� เปน็ ตอ้ งแกไ้ ข ปรบั ปรงุ ซง่ึ จะชว่ ยใหเ้ พม่ิ ขดี ความสามารถ และปลดลอ็ คทยี่ ดึ ตดิ อยู่
80 การเปลย่ี นพฤตกิ รรม เนอื่ งจากการเปลย่ี นความคดิ 1. แรงจงู ใจ – คนมกั มแี รงจงู ใจทจ่ี ะเปลย่ี นเมอ่ื เขาเขา้ ใจดวี า่ เขามสี ว่ นในการสรา้ งปญั หา ที่ เปน็ อยวู่ นั น้ี 2. ความรว่ มมอื - คนมกั จะเตม็ ใจใหค้ วามรว่ มมอื เมอ่ื เขาเหน็ วา่ พฤตกิ รรมทไี่ มอ่ ยากมนี นั้ สว่ นหนง่ึ กม็ าจากการกระทำ� ของตวั เขาดว้ ย 3. โฟกสั – คนมกั จะประสานงานกนั ไดด้ ขี น้ึ และทำ� ใหก้ ารโฟกสั ไปยงั เรอ่ื งหนง่ึ เรอ่ื งใดยาวนาน ขน้ึ เมอื่ พวกเขาเหน็ “พลงั งดั ” ไดช้ ดั เจน 4. การเรยี นรู้ – คนมกั เปดิ รบั การเรยี นรู้ เมอ่ื เขาไดเ้ ขา้ ใจวา่ ขอ้ ตกลงทมี่ ที างออก รว่ มกนั นน้ั จะตอ้ งปรบั ไปตามสภาพการเปลยี่ นแปลงภายนอก และเมอื่ มขี อ้ มลู ใหมๆ่ เขา้ มา Embodying a Systemic Orientation (ทำ� ทศิ ทางเชงิ กระบวนระบบใหต้ ดิ ตวั ) 1. Curiosity มนี สิ ยั อยากรอู้ ยากเหน็ อยากรคู้ วามจรงิ 2. Clarity ฝกึ ฝนทำ� เรอื่ ง/ระบบทซี่ บั ซอ้ นใหเ้ ขา้ ใจไดง้ า่ ยขน้ึ 3. Compassion มเี มตตา เขา้ ใจและเหน็ อกเหน็ ใจคนอนื่ 4. Choice เรามที างเลอื ก ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งทำ� แบบเดมิ มนั มที างออก 5. Courage มคี วามกลา้ หาญ
พน้ื ทท่ี ส่ี ามารถเขา้ ไปทำ� ใหร้ ะบบเปลย่ี น 81 (Places to intervene in the system) จากคานงดั ทม่ี กี ำ� ลงั นอ้ ยสกู่ ำ� ลงั มาก 1. ตวั กำ� หนด ตวั แปร ตวั เลข (เชน่ การอดุ หนนุ ภาษี และมาตราฐาน เปน็ ตน้ ) 2. ขนาดของ “กนั ชน” สตอ๊ คเพอื่ รกั ษาเสถยี รภาพ และความสมั พทั ธข์ องการไหลเลอ่ื น 3. โครงสรา้ งของการเกบ็ รกั ษาสตอ๊ คทางวตั ถแุ ละการเคลอื่ นยา้ ยใหไ้ หลลน่ื (เชน่ เครอื ขา่ ย การขนสง่ โครงสรา้ งอายขุ องพลเมอื ง) 4. ระยะเวลาของการ delays เมอ่ื พจิ ารณากบั ความสมั พนั ธก์ บั การเปลย่ี นแปลงของระบบ 5. ความเขม้ แขง็ หรอื พลงั ของการปอ้ นกลบั คานกำ� ลงั ซง่ึ สามารถสง่ ผลสะเทอื นในความ พยายาม จะแกไ้ ขระบบ 6. สง่ิ ทไี่ ดร้ บั จากการปอ้ นกลบั เพมิ่ กำ� ลงั ทวคี ณู 7. โครงสรา้ งทเ่ี ออื้ ตอ่ การไหลลนื่ ของขอ้ มลู ขา่ วสาร (ใครบา้ งทมี่ โี อกาสเขา้ ถงึ และใครทไ่ี มม่ ี โอกาส เขา้ ถงึ ขอ้ มลู ) 8. กฎ ระเบยี บและกตกิ าของระบบ( เชน่ การใหร้ างวลั การลงโทษ ขอ้ อปุ สรรค) 9. พลงั หรอื อำ� นาจในการเพม่ิ เปลยี่ นแปลง ววิ ฒั นาการ หรอื การจดั ตง้ั ตนเองของระบบ 10. เปา้ หมายของระบบ 11. ชดุ ระบบความคดิ (mindset/mental models) หรอื กระบวนทศั น์ (paradigm) ทเ่ี ปน็ ตวั สรา้ งเปา้ หมายของระบบ โครงสรา้ งของระบบ กฎระเบยี บ delays และ ปจั จยั ตวั แปร ตา่ งๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ 12. พลงั ในการเปลยี่ นแปลง (transcend) กระบวนทศั น์ สรปุ จากบทความ “จดุ คานงดั : พน้ื ทที่ สี่ ามารถเขา้ ไปเปลย่ี นระบบ” (Leverage points: places to intervene in a system) โดย Donella Meadows
82 ตารางเปรยี บเทยี บความแตกตา่ งระหวา่ ง Linear Thinking VS Systems Thinking คิดแบบเส้นตรง คิดกระบวนระบบ Causality มันมกี ารสมั พันธ์ตรง การทำ�งานของระบบโดยสว่ นใหญถ่ ูกกำ�หนด เหตแุ ละผล (direct connection) โดยการพ่งึ พงิ อิงกนั (inter-dependent) กาลเวลา ระหวา่ งปรากฏการณ์ของ ระหวา่ งองค์ประกอบหรือธาตุต่างๆในระบบ ปญั หาและสาเหตุของ นน้ั ความสมั พันธ์มักเปน็ ทางอ้อม (indirect) ปัญหาที่ซ่อนอยู่ เป็นวงจรและเห็นไมถ่ นดั ทึกทักเอาวา่ ความสำ�เร็จ การแกไ้ ขปญั หาแบบฉับพลนั (quick fixes) ระยะสนั้ นน้ั เปน็ หลกั น้ัน พอเวลาผ่านไป (delayed) ระยะหนง่ึ ประกันความสำ�เร็จระยะ ความสำ�เรจ็ ทไี่ ดม้ าอยา่ งรวดเร็วก็จะถูกทำ�ให้ ยาว จางลงหรอื ถูกย้อนกลบั เป็นบูมเมอแรง ความรับผดิ ชอบ มักมองวา่ ปญั หาท่ีเกดิ ขึ้น มองเห็นและเข้าใจวา่ การกระทำ�บางกลุ่มมกั มาจากปจั จัยภายนอก จะมีผลกระทบดา้ นลบติดตามมาภายหลงั เข้ามากระทำ� และปจั จยั เมอ่ื เวลาผา่ นไปไดอ้ กี ระยะหนึ่ง อีกทัง้ สรา้ ง ตวั แปรเหลา่ นี้ควบคุมมัน ผลกระทบตอ่ พฤติกรรมของกลมุ่ อนื่ ดว้ ย ดัง ไมไ่ ด้ น้นั แตล่ ะกลุ่มจงึ สรา้ งปญั หาให้แก่กนั และกัน โดยไม่ต้ังใจ ในความพยายามจะแก้ปัญหาซ่ึง สง่ ผลให้ประสิทธิภาพของกลมุ่ อน่ื ลดถอย ยุทธศาสตร์ เมือ่ ยกระดับการทำ�งาน เพอื่ ยกระดบั การทำ�งานของระบบใหญ่ ตอ้ ง ของระบบใหญ่ เราตอ้ งยก ยกระดบั ความรคู้ วามสัมพันธ์ (relationship) ระดับการทำ�งาน การกระ ระหวา่ งสว่ นตา่ งๆ ทำ�ของแตล่ ะส่วนในระบบ นัน้ คน้ หาและนยิ าม (identify) เสน้ เชอ่ื ม โยงที่สำ�คญั ๆไม่กเ่ี ส้นให้ได้ (a few keys ม่งุ ความสนใจ ริเร่มิ interdependent) ซง่ึ จะมี “พลงั คานงัด” ลงมือทำ�อยา่ งเปน็ อิสระ ตอ่ การทำ�งานของระบบใหญ่ และทำ�ใหเ้ กดิ (โดยไม่ต้องเก่ยี วขอ้ ง การเปล่ียนแปลงเสน้ เช่อื มโยงสำ�คญั เหล่าน้ี กนั รเิ ริม่ ตา่ งคนต่างทำ� (shift) จนกระท่ังมกี ารประสาน สอดคลอ้ ง ไป) จะไปสูก่ ารปรบั ปรุง กันอย่างยงั่ ยนื เป็นเวลายาวนาน (improve) ของสว่ นทุกๆ สว่ นโดยอัตโนมัติ
83 กฎ 11 ขอ้ ของวธิ คี ดิ กระบวนระบบ การคดิ กระบวนระบบเปน็ วถิ แี หง่ การพนิ จิ พจิ ารณาโลก มนั เปน็ วธิ เี ดยี วทชี่ ว่ ยผนู้ ำ� ใหม้ เี ขม็ ทศิ เดนิ ทางในระบบทซี่ บั ซอ้ นปรบั เปลยี่ นตนตามสภาวะ(complex adaptive system) 1 ปญั หาวนั นม้ี าจากการแกป้ ญั หาของเมอื วานน้ี เราชอบกระโจนเขา้ สกู่ ารแกป้ ญั หาโดยไมฉ่ กุ ใจคดิ วา่ เรอื่ งทเี่ ราพยายามแกข้ ณะน้ี ไดม้ ผี คู้ น พยายามแกไ้ ขกอ่ นหนา้ นมี้ าแลว้ กค่ี รง้ั กหี่ น แลว้ มนั ไดส้ รา้ งปญั หาทเี่ ราไมไ่ ดต้ งั้ ใจใหม้ นั เกดิ ขนึ้ มาก่ี ครงั้ แลว้ และมนั ลม้ เหลวไดอ้ ยา่ งไร? ดงั เชน่ กรณแี กร้ ฐั ธรรมนญู ในปี 2559 ใหเ้ ปน็ ประชาธปิ ไตย ทสี่ มบรู ณส์ กดั กนั้ นกั การเมอื งและขา้ ราชทโ่ี กง ไมม่ ธี รรมภบิ าล นบั ไดป้ ระมาณ 20 ฉบบั ในรอบ 80 ปี และใครจะใหค้ วามมน่ั ใจไดว้ า่ การฏริ ปู การเมอื งครง้ั น้ี จะไมส่ รา้ งปญั หาใหมข่ น้ี มาอกี ในอกี ปสี องปขี า้ งหนา้ 2 ยง่ิ คณุ ผลกั แรงเทา่ ใด ระบบยง่ิ ผลกั แรงกลบั เทา่ นนั้ ดกู รณสี หรฐั อเมรกิ า เขา้ ไปแทรกแซง (intervention) การเมอื งในอริ คั ซเี รยี และลเิ บยี วา่ เปน็ ประเทศทป่ี กครองดว้ ยระบบเผดจ็ การ ไมม่ ปี ระชาธปิ ไตยและละเมอิ สทิ ธมิ นษุ ยชน ใชก้ ำ� ลงั ทหาร เขา้ ไปโคน่ ซดั ดมั หรอื สนบั สนนุ การใชอ้ าวธุ ลม้ กดั ดาฟ่ี และประธานาธบิ ดี อสั ซาด ทำ� ใหส้ งั คม เหลา่ นวี้ นุ่ วายโกลาหล เกดิ กลมุ่ กองทพั กอ่ การรา้ ยขน้ึ มาในหลายประเทศ หลายจงั หวดั บา้ นแตก สาแหรกขาด เปน็ ผอู้ พยพลภ้ี ยั ไปยงั ทวปี ยโุ รป ทำ� ใหก้ ารเมอื งและสงั คมในประชาคมอยี ไู มเ่ สถยี ร 3 พฤตกิ รรมของระบบดเู สมอื นจะดขี นึ้ กอ่ นทจี่ ะทรดุ ลง มนั เปน็ เหตเุ ปน็ ผลมาจากขอ้ 2) แตม่ นั ไมไ่ ดป้ รากฏใหเ้ หน็ ทนั ทที นั ใด เวลามนั จะผา่ นไป ระยะหนงึ่ (delay) จงึ ออกฤทธ์ิ มนั มกั จะเปน็ ผลขา้ งเคยี งทเ่ี ราไมไ่ ดค้ าดคดิ เชน่ การกนิ ยาโดป๊ บอ่ ยๆ แรกๆ รา่ งกายกก็ ระปรกี้ ระเปรา่ ดี กนิ ไปนานๆจนตดิ มนั ทำ� ใหอ้ วยั วะสว่ นอนื ๆ เสยี หาย เกดิ ความ เจบ็ ปว่ ยดว้ ยโรคใหม่ 4 ทางออกงา่ ยๆ ดจู ะดี มกั สรา้ งปญั หากลบั มาอกี มคี นพดู วา่ ถา้ คณุ มี คอ้ นอยใู่ นมอื คณุ จะเหน็ อนื่ ๆ เปน็ ตะปไู ปหมด ตอ้ งระมดั ระวงั ในการใช้ เครอ่ื งมอื ชนดิ เดยี วไปแกป้ ญั หากบั เรอื่ งทซ่ี บั ซอ้ น เพราะมปี จั จยั ตวั แปรคาดไมถ่ งึ ซอ่ นอยู่ ระวงั การ ใช้ “โมเดลแหง่ ความสำ� เรจ็ ” (best practice) ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในบางเรอื่ งบางพนื้ ที่ แลว้ รบี “ขยายโมเดลน”ี้ ใหเ้ ตม็ แผน่ ดนิ มนั จะนำ� มาสคู่ วามลม้ เหลว เพราะความซบั ซอ้ นของเงอื่ นไขปจั จยั ทางสงั คมไม่ เหมอื นกนั วฒั นธรรมแตล่ อ้ งทอ้ งถนิ่ บคุ ลกิ ของผนู้ ำ� และแกนนำ� ในแตล่ ะชมุ ชนกต็ า่ งกนั
84 5 การรกั ษาอาจจะแยเ่ สยี ยงิ่ กวา่ ตวั โรคเสยี อกี การเขา้ ไปแกป้ ญั หาหรอื แทรกแซงแบบผลผี ลาม หรอื ไมถ่ กู กาลเทศะ ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธเ์ รว็ ๆอาจ จะสรา้ งปญั หาใหเ้ ลวรา้ ยลงไปกวา่ เดมิ กไ็ ด้ ทำ� ใหผ้ ทู้ ไี่ ดร้ บั ความชว่ ยเหลอื ”เสพยต์ ดิ การพงึ่ พาจากขา้ ง นอก” เชน่ คอยประคบประหงมลกู ไมอ่ ยากใหล้ กู ลำ� บาก ตอ้ งพง่ึ พอ่ แมเ่ ปน็ เดก็ ไมร่ จู้ กั โตไมส่ ามารถ คดิ เอง รบั ผดิ ชอบตนเองได้ หรอื ทางสงั คมมงุ่ แกอ้ าการความยากจน โดยใหเ้ งนิ ชาวบา้ น แตไ่ ม่ คน้ หาสาเหตทุ แี่ ทจ้ รงิ ทที่ ำ� ใหช้ าวบา้ นยากจน เชน่ ขาดแหลง่ นำ�้ จะมาปลกู พชื เพราะระบบนเิ วศน์ เสอื่ ม นโยบายแจกกลา้ ยางเนน้ พชื เศรษฐกจิ เชงิ เดยี่ ว จนโคน่ ไมอ้ น่ื ทงิ้ ฯลฯ ทำ� ใหป้ ระชาชนคอย พง่ึ พา ราชการและนกั การเมอื ง ซงึ่ คนเหลา่ นยี้ ง่ิ คดิ โครงการแปลกลงมาจากขา้ งบน เพอ่ื ตนเองได้ ประโยชนเ์ ฉพาะหนา้ ทงั้ คะแนนเสยี งและเงนิ ทอนจากโครงการใหมๆ่ 6 ยงิ่ เรง่ ทำ� ใหย้ งิ่ ชา้ นทิ านอสี ป เรอ่ื งกระตา่ ยกบั เตา่ เปน็ อทุ าหรณเ์ ตอื นใจทด่ี ี สงั คมไทยและโลกวนั นบ้ี า้ คลง่ั ความเรว็ จะใหท้ กุ อยา่ งเรว็ ดงั ใจ เหมอื นเครอ่ื งจกั รเปดิ ปบุ๊ ตดิ ปบ๊ั ลมื ไปวา่ ทกุ ระบบโดยเฉพาะระบบ มชี วิ ติ ลว้ นแตม่ ลี กั ษณะพเิ ศษของตน มจี งั หวะและความเรว็ ของตน ลกู มา้ คลอดออกมาไดไ้ มน่ าน ยนื ได้ คอ่ ยๆเดนิ ได้ แตล่ กู คนคลอดออกมาเหลายเดอื นกวา่ จะคอแขง็ พลกิ ตวั ไดเ้ อง คอ่ ยคลาน และผา่ นไปเปน็ ปจี งึ เดนิ ได้ การพฒั นาทยี่ ง่ั ยนื ของชมุ ชนและสงั คมแตล่ ะพน้ื ทม่ี คี วามยากงา่ ย ชา้ เรว็ ตา่ งกนั ไมใ่ ชจ่ ะหาผนู้ ำ� ใหมม่ าแทนทสี่ ง่ั การแกไ้ ขสำ� เรจ็ ทนั ที ชมุ ชนทมี่ คี ณุ ภาพเขาจะใหค้ ณุ คา่ และความหมายของการเรยี นรรู้ ว่ มกนั ครนุ่ คดิ ดว้ ยกนั จนตกผลกึ สทู่ ำ� ดว้ ยกนั เปน็ กระบวนการที่ เรง่ ไมไ่ ด้ ยงิ่ ไปเรง่ ความเรว็ ของกระบวนการ “สกุ งอม” ผลลพั ธจ์ ะเสยี หาย เชน่ การเกบ็ เกย่ี วผลผลติ ทเ่ี รว็ เกนิ ไป ยอ่ มไดผ้ ลผลติ ทด่ี อ้ ยคณุ ภาพ ราคาถกู มากๆ เปน็ ตน้ 7 ในระบบซบั ซอ้ น สาเหตขุ องปญั หาและผลลพั ธข์ องมนั ไมไ่ ดส้ มั พนั ธ์ แบบตรงๆ ทงั้ สถานทแ่ี ละกาลเวลา เราสงั เกตบา้ งไหมวา่ เมอื่ ไปเทย่ี วภาคเหนอื หรอื อสี านในชว่ งอากาศเยน็ มากๆ ไปพกั ในโรงแรม
85 กวา่ จะหมนุ กอ๊ กนำ�้ รอ้ น นำ้� เยน็ จนอณุ หภมู อิ นุ่ สบายไดพ้ อดที ต่ี อ้ งการ ยงั ใชเ้ วลาในการปรบั จนู ไป มา รอ้ นทเี ยน็ ที แลว้ ในสงั คมทซ่ี บั ซอ้ นกวา่ จะระดมความคดิ เหน็ และลงมอื ทำ� ทดลองไปมา มนั จะ ตอ้ งใชเ้ วลาในการคน้ หา เหตปุ จั จยั และคนทำ� งานทข่ี องจรงิ จนพบความพอดี 8 การเปลย่ี นแปลงเลก็ ๆอาจสรา้ งผลสะเทอื นใหญไ่ ด-้ แตก่ ารหาจดุ คานงดั อนั ทรงพลงั น ี้ มกั หลบซอ่ นจากสายตาของเรา ดกู รณี การแพรร่ ะบาดของไวรสั ตา่ งๆ เชน่ ไขห้ วดั นก เมอรส์ หรอื แพรร่ ะบาดของซคิ กา้ ใน อเมรกิ าใตท้ เ่ี ลด็ ลอดมาถงึ เอเชยี และยโุ รป ดกู ารแกป้ ญั หาของหมอจนี ในการฝงั เขม็ รกั ษา เปน็ ตน้ 9 คณุ มขี า้ วเตม็ จาน..แตต่ อ้ งกนิ ทลี ะคำ� การคดิ แบบ ขาว หรอื ดำ� ฉนั ไดแ้ ตเ่ ธอเสยี มนั ใชไ้ มไ่ ดแ้ ลว้ ในโลกทสี่ รรพสงิ่ ลว้ นโยงใยกระทบ กนั ไปมา ตอ้ งฉนั ไดแ้ ละเธอกไ็ ดด้ ว้ ย..มนั ตอ้ งใชเ้ วลาและมขี นั้ ตอนในกระบวนการไปถงึ เปา้ หมายรว่ ม กนั ตอ้ งใหผ้ มู้ สี ว่ นรว่ มไดค้ ดิ รว่ มกนั ทลี ะกา้ วเพอื่ ไดภ้ าพใหญ่ 10 การผา่ ชา้ งตวั ใหญห่ นงึ่ ตวั ไมใ่ ชว่ า่ จะไดช้ า้ งตวั เลก็ สองตวั นะ ระบบมชี วี ติ ทซ่ี บั ซอ้ นมนั มเี หตปุ จั จยั ตวั แปรไมน่ อ้ ย ทงั้ เหน็ ไดง้ า่ ยและเหน็ ยาก อยา่ คดิ ทำ� อะไรแบบดว่ นได้ และเอางา่ ยเขา้ วา่ มนั จะผดิ หวงั 11 ไมม่ กี ารกลา่ วหาและโทษกนั เราทกุ คนรว่ มมสี ว่ นในการสรา้ งปญั หา จะรตู้ วั หรอื ไมก่ ต็ าม ดงั นน้ั การกลา่ วหาและกลา่ ว โทษคนอนื่ วา่ เปน็ คนสรา้ งปญั หา ไมไ่ ดช้ ว่ ยใหก้ ารแกป้ ญั หาดขี น้ึ เพราะเราเปน็ ดงั่ กนั และกนั ตามกฎ อทิ ปั ปจยตา
86 ปาฐกถาชเรอดิงเจอร์ 1997 โยงใยแหง่ ชวี ติ : ฟรติ จอ๊ ฟ คาปรา วรี ะ สมบรู ณ์ แปล [ฟริตจ๊อฟ คาปรา (Fritjot Capra) จบปริญญาเอกด้านฟิสิกส์ นอกจาก เปน็ นกั วทิ ยาศาสตรแ์ ลว้ เขายงั เปน็ นกั ทฤษฎรี ะบบ และมคี วาม สนใจปรชั ญาและ ศาสนาตะวนั ออกเปน็ อยา่ งยงิ่ หนงั สอื ของ คาปรา ทง้ั สาม เลม่ เปน็ หนงั สอื เชงิ วชิ าการทไ่ี ดร้ บั ความนยิ มอยา่ งสงู ไดแ้ ก่ The Tao of Physics (แปลเปน็ ไทย ชอ่ื เตา๋ แหง่ ฟสิ กิ ส)์ The Turing Point (แปลเปน็ ไทยชอื่ จดุ เปลย่ี นแหง่ ศตวรรษ) และ Uncommon Wisdom (แปลเปน็ ไทย ชอื่ บอ่ เกดิ เตา๋ แหง่ ฟสิ กิ ส)์ หนงั สอื เลม่ หลงั สดุ ของเขาคอื The Web of Life ตพี มิ พเ์ มอื่ ปี 2539 ปจั จบุ นั เขาสอนอยทู่ ่ี มหาวทิ ยาลยั แคลฟิ อรเ์ นยี เบริ ก์ เลย์ และเปน็ ผกู้ อ่ ตง้ั อำ� นวยการ สถาบนั เพอ่ื ความรอบรทู้ างนเิ วศวทิ ยา ปาฐกถาบทนี้ ฟรติ จอ๊ ฟ คาปรา (Fritjof Capra) แสดงเมอื่ ปี ค.ศ. 1997 ในงานปาฐกถาที่ ทรนี ติ ี้ คอลเลจ (Trinity College) กรงุ ดบั ลนิ สาธารณรฐั ไอรแ์ ลนด์ ซง่ึ จั ดข้ึ นเป็ นประจำ� ทุ กปี นั บตั้ งแต่ ปี 1995 โดยใชช้ อ่ื วา่ “ปาฐกถาชเรอ ดงิ เจอร์ (The Schrodinger Lectures” เพอ่ื เปน็ อนสุ รณแ์ ด่ เออรว์ นิ ชเรอดงิ เจอร์ (Erwin Schrodinger)]
ในเดอื นกมุ ภาพนั ธ์ ปี 1943 เออรว์ นิ 87 ชเรอดงิ เจอร์ (Erwin Schrodinger) นกั ฟสิ กิ ส์ ชาว ออสเตรยี หนง่ึ ในผวู้ างรากฐานใหแ้ กท่ ฤษฎี (Organism) ทม่ี ชี วี ติ อยทู่ ง้ั หลายนน้ั กระทำ� การ ควอนตมั ไดแ้ สดงคำ� บรรยายชมุ ดหนง่ึ ที่ ทรี อย่าง สอดคล้องร่วมกันเพื่อด�ำรงชีวิตอยู่ได้ นติ ้ี คอลเลจ กรงุ ดบั ลนิ ในหวั ขอ้ วา่ “ชวี ติ คอื อย่างไร ดังท่ี ซิดนีย์ เบรนเนอร์ (Sidney อะไร” การบรรยายครง้ั นนั้ นบั เปน็ การพลกิ ผนั Brenner) นกั อณชู วี วทิ ยา ชน้ั นำ� ทา่ นหนงึ่ ได้ ทศิ ทางของวทิ ยาศาสตรว์ า่ ดว้ ยชวี ติ เลยทเี ดยี ว ใหท้ ศั นะไวเ้ มอ่ื 25 ปกี อ่ นวา่ ในคำ� บรรยายดงั กลา่ วและในหนงั สอื ชอ่ื เดยี วกนั “ในแงห่ นงึ่ คณุ อาจกลา่ วไดว้ า่ งานดา้ น ทตี่ พี มิ พใ์ นเวลาตอ่ มา ชเรอดงิ เจอรไ์ ดน้ ำ� พนั ธศุ าสตรแ์ ละอณชู วี วทิ ยาในรอบหกสบิ ปที ี่ เสนอสมมตุ ฐิ านทช่ี ดั เจนและแมน่ ยำ� เกย่ี วกบั ผา่ นมา ถอื เปน็ ชว่ งพกั ทยี่ าวนานระหวา่ งการ โครงสรา้ งระดบั อณขู องยนี พนั ธกุ รรม ซง่ึ กระตนุ้ แสดง… ครนั้ เมอ่ื เราทำ� งานเสรจ็ ตามแผน เรา ใหน้ กั ชวี วทิ ยาเรมิ่ ใชค้ วามคดิ แนวใหมเ่ กย่ี วกบั กว็ นครบรอบวง กลบั มาทปี่ ญั หาทเี่ ราทง้ิ ไวไ้ ม่ พนั ธศุ าสตร์ อนั เปน็ การเปดิ พรมแดนใหมข่ อง ยอมแกต้ งั้ แตต่ น้ เชน่ ปญั หาทวี่ า่ องคาพยพที่ วทิ ยาศาสตรใ์ นสาขาทเ่ี รยี กวา่ “อณชู วี วทิ ยา เกดิ บาดแผลสามารถฟน้ื ฟโู ครงสรา้ งกลบั มาให้ (Molecular Biology)” เหมอื นทมี่ นั เคยมอี ยา่ งไมผ่ ดิ เพยี้ นไดอ้ ยา่ งไร ไข่ ในชว่ งหลายทศวรรษจากนน้ั มา สาขา สรา้ งองคาพยพขนึ้ มาไดอ้ ยา่ งไร… ผมคดิ วา่ ใน วชิ าดงั กลา่ วไดก้ อ่ ใหเ้ กดิ การคน้ พบทปี่ ระสบผล อกี 25 ปขี า้ งหนา้ เราจะตอ้ งสอนภาษาหนง่ึ ส�ำเร็จอย่างต่อเน่ือง และบรรลุจุดสูงสุดเม่ือ ใหก้ บั นกั ชวี วทิ ยา… ผมยงั ไมร่ วู้ า่ จะเรยี กมนั วา่ สามารถถอดรหสั ในยนี พนั ธกุ รรมได้ อยา่ งไร อยา่ งไรดี ยงั ไมม่ ใี ครร…ู้ มนั อาจจะเปน็ เรอ่ื งผดิ กต็ าม ความกา้ วหนา้ ทน่ี า่ ตนื่ ตาตนื่ ใจเหลา่ นก้ี ็ พลาดกไ็ ด้ ทเี่ ราเชอื่ วา่ ระบบกฎเกณฑท์ ง้ั หลาย มไิ ดท้ ำ� ใหน้ กั ชวี วทิ ยาสามารถตอบคำ� ถามทชี่ มปี รากฎในระดบั อณู เราอาจจะตอ้ งเลกิ มอง เรอดงิ เจอรไ์ ดต้ งั้ ไวว้ า่ “ชวี ติ คอื อะไร” แมแ้ ต่ สง่ิ ตา่ งๆ ในลกั ษณะการทำ� งานแบบจกั รกลของ นอ้ ย ทง้ั ยงั ไมส่ ามารถตอบคำ� ถามสบื เนอ่ื ง ที่ นาฬกิ า” เคยสรา้ งความฉงนฉงายใหแ้ กน่ กั วทิ ยาศาสตร์ นบั ตงั้ แตช่ ว่ งเวลาทเ่ี บรนเนอรไ์ ดแ้ สดง และนกั ปรชั ญามาเปน็ เวลาหลายรอ้ ยปไี ด้ เชน่ ทศั นะไว้ ภาษาใหมท่ ช่ี ว่ ยสรา้ งความเขา้ ใจซง่ึ คำ� ถามทว่ี า่ โครงสรา้ งอนั ซบั ซอ้ นววิ ฒั นาการ ความ ซบั ซอ้ นของระบบชวี ติ ทง้ั หลาย ไดแ้ ก่ ขนึ้ มาจากการรวมตวั อยา่ งไรก้ ฎเกณฑข์ องอณู ระบบองคาพยพ ระบบสังคม และระบบ ตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งไร ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งจติ กบั นเิ วศน์ – ไดถ้ อื กำ� เนดิ ขนึ้ อยา่ งจรงิ จงั คณุ อาจ สมองเปน็ อยา่ งไร วญิ ญาณ (Consciousness) จะเคยไดย้ นิ มาบา้ งเกย่ี วกบั แนวคดิ หลกั ๆ ของ คอื อะไร กระแสใหมท่ ใ่ี ชใ้ นการทำ� ความเขา้ ใจระบบซบั นกั อณชู วี วทิ ยาสามารถคน้ พบอฐิ บลอ็ ก ซอ้ นทงั้ หลาย เชน่ ความไรร้ ะเบยี บ (Chaos) ทเ่ี ปน็ องคป์ ระกอบพน้ื ฐานของชวี ติ ได้ แตน่ น่ั ไม่ วถิ โี นม้ ถว่ ง (Attractors) แฟรค็ ทลั (Fractals) สามารถทำ� ใหพ้ วกเขาเขา้ ใจไดว้ า่ องคาพยพ โครงสร้างกระจัดกระจาย (Dissipative Structures) การจดั องคก์ รดว้ ยตนเอง (Self- Organization) และอน่ื ๆ
88 และสถาบันทางสังคมและการเมืองอ่ืนๆ มากมาย ในชว่ งตน้ ทศวรรษท่ี 1980 ผมไดค้ ดิ ทสี่ ำ� คญั วสิ ยั ทศั นใ์ หมว่ า่ ดว้ ยชวี ติ นจี้ ะ บญั ญตั บิ ทสงั เคราะหก์ ารคน้ พบใหมๆ่ เหลา่ นี้ ชว่ ยเราสรา้ งและหลอ่ เลยี้ งชมุ ชนทย่ี งั่ ยนื อนั ประมวลขนึ้ เปน็ กรอบแนวคดิ ใหแ้ กค่ วามเขา้ ใจ นบั เปน็ ความทา้ ทายทย่ี ง่ิ ใหญแ่ หง่ ยคุ สมยั ของ ชวี ติ ในมติ ทิ างวทิ ยาศาสตร์ ผมใชเ้ วลาพฒั นา เรา เพราะจะชว่ ยใหเ้ ราเขา้ ใจไดว้ า่ ชมุ ชนใน และลงรายละเอยี ดบทสงั เคราะหข์ องผมนบั สบิ ธรรมชาตขิ องพชื สตั ว์ และองคาพยพระดบั ปี สนทนาถกเถยี งกบั นกั วทิ ยาศาสตรจ์ ำ� นวน จลุ ภาค ซงึ่ ประกอบขน้ึ เปน็ ระบบนเิ วศนน์ น้ั มาก และนำ� มาตพี มิ พใ์ นหนงั สอื “โยงใยแหง่ จดั องคก์ รของตนเองอยา่ งไร ในอนั ทจี่ ะธำ� รง ชวี ติ (The Web of Life)” ของผม ความยง่ั ยนื ทางนเิ วศนข์ องตนไวไ้ ด้ เรามเี รอื่ ง ทเ่ี รยี นรไู้ ดม้ ากจากปรชี าญาณแหง่ ธรรมชาตทิ ่ี จารตี ภมู ปิ ญั ญาในแนวการคดิ เชงิ ระบบ วา่ น้ี และทจี่ ะทำ� เชน่ นไี้ ด้ เราจะตอ้ งมคี วาม (System Thinking) และแบบจำ� ลองระบบ รอบรทู้ างนเิ วศน์ (Ecoliteracy) เราจะตอ้ ง ชีวิตที่พัฒนาข้ึนในช่วงทศวรรษต้นๆ ของ เขา้ ใจหลกั พน้ื ฐานของนเิ วศวทิ ยา เขา้ ใจภาษา ศตวรรษทย่ี ส่ี บิ เปน็ รากฐานดา้ นแนวคดิ และ ของธรรมชาติ กรอบความคดิ ทผี่ มนำ� เสนอใน ด้านประวัติศาสตร์ของกรอบความคิดทาง หนังสือของผมได้ชี้ให้เห็นว่า หลักแห่งนิเวศ วทิ ยาศาสตรอ์ ยา่ งใหมท่ ผี่ มจะบรรยายในคนื นี้ วทิ ยาดงั กลา่ วนเี้ ปน็ หลกั พนื้ ฐานของการจดั รปู อนั ทจ่ี รงิ บทสงั เคราะหท์ ฤษฎแี ละแบบจำ� ลอง องคก์ รของระบบชวี ติ ทงั้ หลายดว้ ยเชน่ กนั ดงั รว่ มสมยั ตา่ งๆ ทผี่ มนำ� เสนอ อาจถอื ไดว้ า่ เปน็ นน้ั ผมจงึ เชอ่ื วา่ โยงใยแหง่ ชวี ติ สามารถวาง เคา้ โครงของทฤษฎใี หมว่ า่ ดว้ ยระบบชวี ติ และ พนื้ ฐานทมี่ นั่ คงใหแ้ กค่ วามคดิ และปฏบิ ตั กิ าร สงิ่ ทกี่ ำ� ลงั อบุ ตั ขิ น้ึ ในแนวหนา้ ของวทิ ยาศาสตร์ ทางนเิ วศวทิ ยาได้ กค็ อื ทฤษฎวี ทิ ยาศาสตรอ์ นั สอดคลอ้ งลงตวั ท่ี สามารถใหภ้ าพรวมเปน็ หนง่ึ เดยี วของจติ วตั ถุ การอบุ ตั ขิ องการคดิ เชงิ ระบบ และชวี ติ ไดเ้ ปน็ ครงั้ แรก ผมขอเรม่ิ แสดงเคา้ โครงเกย่ี วกบั ความ เขา้ ใจอยา่ งใหมใ่ นเรอ่ื งของชวี ติ ดว้ ยมมุ มอง ด้วยเหตุที่สังคมอุตสาหกรรมถูก ประวตั ศิ าสตรข์ องกระแสการคดิ เชงิ ระบบโดย ครอบงำ� โดยการแบง่ แยกจติ ออกจากวตั ถตุ าม สงั เขป การคดิ เชงิ ระบบอบุ ตั ขิ นึ้ ในชว่ งทศวรรษ แนวทางของ เดคารต์ ส์ (Cartesian Split) ที่ 1920 พร้อมๆ กันในวิชาการสามสาขา และโดยกระบวนทศั นแ์ บบกลไกทส่ี บื เนอื่ งมา กลา่ วคอื ชวี วทิ ยาองคาพยพ (Organismic ตลอดสามรอ้ ยปที ผี่ า่ นมา วสิ ยั ทศั นอ์ ยา่ งใหม่ Biology) จิตวิทยาอินทรีย์รูป (Gestalt ทกี่ า้ วพน้ การแบง่ แยกดงั กลา่ วนไ้ี ดใ้ นทสี่ ดุ ไม่ Psychology) และนเิ วศวทิ ยา (Ecology) ใน เพียงแต่จะส่งผลต่อวงการวิทยาศาสตร์และ ปรัชญาเท่าน้ัน แต่ยังมีนัยในทางปฏิบัติ มหาศาล วสิ ยั ทศั นด์ งั กลา่ วนจ้ี ะเปลย่ี นวถิ ที เ่ี รา สมั พนั ธก์ นั และกนั และวถิ ที เี่ ราสมั พนั ธก์ บั สงิ่ แวดล้อม วิถีในการด�ำเนินสุขภาพของเรา ตลอดจนมมุ มององคก์ รธรุ กจิ ระบบการศกึ ษา
บรรดาวิชาการเหล่าน้ี นักวิทยาศาสตร์ต่าง 89 ศกึ ษาสำ� รวจระบบชวี ติ ตา่ งๆ ซง่ึ หมายถงึ องคร์ วม ทเ่ี ปน็ บรู ณาการ (Integrated Wholes) ซงึ่ มี และเคม”ี นกั ชวี ภาพเหน็ แยง้ และยนื ยนั วา่ จะ คุณสมบัติเฉพาะ อันไม่อาจถูกลดทอนให้ ตอ้ งเพม่ิ สภาวะทไ่ี มใ่ ชก่ ายภาพ เพม่ิ แนวคดิ วา่ เท่ากับคุณสมบัติของส่วนประกอบย่อยท้ัง ด้วยพลงั หรือสนามชีวภาพ เขา้ ไปในกฎของ หลายได้ ระบบชวี ติ ยอ่ มรวมถงึ องคาพยพแตล่ ะ ฟสิ กิ สแ์ ละเคมี จงึ จะอธบิ ายปรากฎการณท์ าง หนว่ ย สว่ นยอ่ ยขององคาพยพ และชมุ ชนแหง่ ชวี วทิ ยาได้ องคาพยพ เชน่ ระบบสงั คมและระบบนเิ วศ สำ� นกั ชวี วทิ ยาองคาพยพอบุ ตั ขิ น้ึ เปน็ ทาง นอกจากนี้ระบบชีวิตต่างๆ ยังครอบคลุม ทสี่ ามจากการถกเถยี งเพยี งววิ าทะดงั กลา่ ว นกั ขอบขา่ ยการศกึ ษาทกี่ วา้ งมาก ดงั นนั้ การคดิ ชวี วทิ ยา องคาพยพเหน็ ตรงขา้ มกบั ทงั้ นกั กลไก เชิงระบบจึงมีลักษณะเป็นสหวิทยาการโดย และนกั ชวี ภาพ พวกเขาเหน็ ดว้ ยวา่ จะเขา้ ใจ พื้นฐาน หรอื จะใหด้ กี วา่ นนั้ จะกลา่ ววา่ เปน็ ชวี ติ ไดก้ ต็ อ้ งเพม่ิ บางสง่ิ บางอยา่ งเขา้ ไปในกฎ แนวการศึกษาแบบ “ข้ามแขนงวิทยาการ ของฟสิ กิ สแ์ ละเคมี แตบ่ างสงิ่ บางอยา่ งทว่ี า่ นนั้ (Transdisciplinary)” กไ็ ด้ ไมใ่ ชส่ ภาวะใหม่ หากเปน็ ความรวู้ า่ ดว้ ยการจดั จากจดุ เรมิ่ ตน้ ของชวี วทิ ยา นกั ปรชั ญา องคก์ รของระบบชวี ติ หรอื ดงั ทพ่ี วกเขาเรยี กวา่ และนกั วทิ ยาศาสตรเ์ กดิ ความตระหนกั วา่ รปู “ความสมั พนั ธใ์ นการจดั องคก์ ร (Organizing แบบขององคาพยพทม่ี ชี วี ติ นน้ั เปน็ มากกวา่ Relations)” ของระบบชวี ติ เพยี งแคร่ ปู ทรงหรอื การจดั รปู ตายตวั ขององค์ นกั ชวี วทิ ยาองคาพยพนบั เปน็ กลมุ่ แรก ประกอบยอ่ ยขน้ึ เปน็ องคร์ วม นกั คดิ เชงิ ระบบ ท่ีวางแนวทางในการมองชีวิตด้วยทัศนะเชิง คนแรกแสดงความตระหนกั รนู้ ี้ ดว้ ยคำ� กลา่ ว ระบบ ทศั นะดงั กลา่ วนถี้ อื หลกั วา่ คณุ สมบตั ิ อนั มชี อ่ื ทวี่ า่ “องคร์ วมเปน็ มากกวา่ ผลรวมของ โดยแกน่ สารของระบบชวี ติ หนงึ่ ๆ เปน็ คณุ สมบตั ิ องคป์ ระกอบของมนั ” เฉพาะขององคร์ วม ซง่ึ ไมม่ ใี นองคป์ ระกอบใด นับเป็นเวลาหลายทศวรรษ ท่ีนัก ของมัน คุณสมบัติเหล่านี้เกิดขึ้นมาจาก ชวี วทิ ยาและนกั จติ วทิ ยาตอ้ งตอ่ กรกบั คำ� ถาม ปฏิกิริยาและความสัมพันธ์ระหว่างองค์ ทวี่ า่ ในลกั ษณะใดกนั แนท่ อ่ี งคร์ วมเปน็ มากกวา่ ประกอบต่างๆ คุณสมบัติดังกล่าวย่อมถูก ผลรวมขององคป์ ระกอบของมนั ในชว่ งนนั้ ก็ ทำ� ลายลงเมอ่ื ระบบนน้ั ๆ ถกู แบง่ ซอยยอ่ ยเปน็ เกิดการถกเถียงวิวาทะอย่างเข้มข้นระหว่าง สว่ นๆ โดดๆ ไมว่ า่ จะในทางรปู ธรรมหรอื ในทาง สำ� นกั คดิ สองกระแส ซงึ่ เปน็ ทรี่ จู้ กั กนั ในนาม ทฤษฎีก็ตาม และถึงแม้ว่าเราจะวิเคราะห์ ของส�ำนักกลไก (Mechanism) และส�ำนัก กำ� หนดหมายองคป์ ระกอบแตล่ ะสว่ นของระบบ ชวี ภาพ (Vitalism) นกั กลไกกลา่ ววา่ “องค์ ใดระบบหนง่ึ ได้ แตอ่ งคป์ ระกอบเหลา่ นไ้ี มไ่ ดอ้ ยู่ รวมไม่ใช่อะไรอ่ืนนอกจากผลรวมขององค์ โดยลำ� พงั และธรรมชาติ ขององคร์ วมยอ่ มแตก ประกอบของมัน ปรากฎการณ์ทางชีววิทยา ตา่ งจากเพยี งผลรวมขององคป์ ระกอบของมนั ทง้ั หมดลว้ นอธบิ ายไดโ้ ดยอาศยั กฎของฟสิ กิ ส์ เสมอ การวางแนวทศั นะขา้ งตน้ นใ้ี ชเ้ วลาหลาย ปที เี ดยี ว และแนวคดิ หลกั หลายประการของ การคดิ เชงิ ระบบกไ็ ดร้ บั การพฒั นาขน้ึ ในชว่ งนนั้
90 ลกั ษณะของการคดิ เชงิ ระบบ วิทยาศาสตร์แขนงใหม่ว่าด้วย นเิ วศวทิ ยา ซง่ึ เรมิ่ ตน้ ในชว่ งทศวรรษที่ 1920 ตรงน้ี ผมขอสรปุ ลกั ษณะสำ� คญั ๆ ของ ก็เพิม่ ความอดุ มใหแ้ ก่แนวการคดิ เชงิ ระบบท่ี การคดิ เชงิ ระบบ ดงั นี้ ระบบชวี ติ ทง้ั หลายลว้ น กำ� ลงั อบุ ตั ขิ น้ึ ดว้ ยการนำ� เสนอแนวคดิ ประการ เปน็ องคร์ วมทเี่ ปน็ บรู ณาการ ดงั นน้ั การคดิ เชงิ หนงึ่ ทส่ี ำ� คญั ยงิ่ คอื แนวคดิ วา่ ดว้ ยเครอื ขา่ ย ระบบจงึ หมายถงึ การเปลยี่ นยา้ ยมมุ มองจาก (Network) นบั แตจ่ ดุ เรมิ่ ตน้ ของนเิ วศวทิ ยา ก็ องค์ประกอบสู่ องค์รวม องค์รวมย่อมเป็น มีการมองชุมชนทางนิเวศวิทยาในฐานะส่ิงที่ มากกวา่ ผลรวมขององคป์ ระกอบของมนั และ ประกอบดว้ ยองคาพยพ ซงึ่ เชอ่ื มโยงถงึ กนั ใน สงิ่ ทมี่ ากกวา่ กค็ อื สมั พนั ธภาพ ดงั นน้ั การคดิ ลกั ษณะเครอื ขา่ ย ดว้ ยความสมั พนั ธท์ เี่ กดิ จาก เชิงระบบจึงเป็นการคิดในมุมมองของ การแสวงหาอาหาร แรกทเี ดยี วนกั นเิ วศวทิ ยา สมั พนั ธภาพ นอกจากนน้ั การเปลย่ี นยา้ ยมมุ บญั ญตั แิ นวคดิ เกย่ี วกบั สายโซอ่ าหาร (Food มองจากองค์ประกอบสู่องค์รวมยังอาศยั การ Chains) และวงจรอาหาร (Food Cycles) ตอ่ ยา้ ยจดุ โฟกสั จากตวั วตั ถมุ าอยทู่ ส่ี มั พนั ธภาพ มากข็ ยบั ขยายสแู่ นวคดิ วา่ ดว้ ยเครอื ขา่ ยอาหาร การทเี่ ราจะเขา้ ใจสมั พนั ธภาพนน้ั ไมใ่ ช่ (Food Web) ในปจั จบุ นั เร่ืองง่าย เพราะเป็นแนวทางสวนกระแส วิทยาศาสตร์ดังที่ส่ังสมกันมาในวัฒนธรรม แนน่ อนวา่ “โยงใยแหง่ ชวี ติ ” นนั้ เปน็ ตะวนั ตก วทิ ยาศาสตรบ์ อกเราวา่ จะตอ้ งชงั่ ความคดิ ทมี่ มี าแตโ่ บราณ ทงั้ กวี นกั ปรชั ญา ตวง วดั สรรพสง่ิ แตส่ มั พนั ธภาพเปน็ สง่ิ ทชี่ งั่ และนกั รหสั นยั ไดใ้ ชค้ วามคดิ แนวนมี้ าตลอด ตวงวดั ไมไ่ ด้ สมั พนั ธภาพเปน็ สง่ิ ทจี่ ะตอ้ งอาศยั ทกุ ยคุ ทกุ สมยั เพอื่ สอ่ื ความเขา้ ใจของพวกเขา การทำ� แผนที่ และนกี่ เ็ ปน็ การเปลย่ี นยา้ ยอกี ในเรอื่ งของการสานทอและการองิ อาศยั ซงึ่ กนั ประการหนงึ่ จากการวดั เปลยี่ นยา้ ยไปเปน็ การ และกันของปรากฏการณ์ทั้งหลาย ในขณะท่ี ทำ� แผนท่ี (Mapping) แนวคิดเร่ืองเครือข่ายเร่ิมโดดเด่นชัดเจนใน วงการนเิ วศวทิ ยานน้ั นกั คดิ เชงิ ระบบกเ็ รม่ิ นำ� เมอื่ คณุ ทำ� แผนทสี่ มั พนั ธภาพ คณุ จะ แบบจำ� ลองเรอ่ื งเครอื ขา่ ยมาใชก้ บั ระบบตา่ งๆ พบการกอ่ รปู กอ่ รา่ งทเ่ี กดิ ขน้ึ ซำ�้ แลว้ ซำ�้ เลา่ น่ี ในทกุ ระดบั โดยมององคาพยพในฐานะทเ่ี ปน็ คือสิ่งท่ีเราเรียกว่า แบบแผน (Pattern) เครอื ขา่ ยของอวยั วะและเซลล์ เหมอื นกบั ทน่ี กั แบบแผน คอื การกอ่ รปู กอ่ รา่ งของสมั พนั ธภาพ นเิ วศวทิ ยา มองระบบนเิ วศนว์ า่ เปน็ เครอื ขา่ ย ตา่ งๆ ซงึ่ ปรากฏขน้ึ แลว้ ปรากฏขน้ึ อกี ดงั นนั้ ขององคาพยพต่างๆ ท้ังหมดนี้น�ำไปสู่ความ การศึกษาสัมพันธภาพจึงน�ำไปสู่การศึกษา เขา้ ใจทว่ี า่ เครอื ขา่ ยคอื แบบแผนทปี่ รากฏอยู่ แบบแผน การคิดเชิงระบบเกี่ยวข้องกับการ ในชวี ติ ทง้ั หลายเหมอื นๆ กนั เราเหน็ ชวี ติ ในท่ี เปล่ียนย้ายมุมมองจากการมองมวลเนื้อหา ใดเรายอ่ มเหน็ เครอื ขา่ ยในทน่ี นั้ (Contents) สกู่ ารมองแบบแผน ยงิ่ ไปกวา่ นน้ั การทำ� แผนทส่ี มั พนั ธภาพ
และการศึกษาที่เก่ียวข้อง ไม่เพียงแต่กับ 91 สมั พนั ธภาพระหวา่ งสว่ นประกอบตา่ งๆ ของ ระบบใดระบบหนง่ึ เทา่ นน้ั แตย่ งั เกยี่ วขอ้ งกบั ท่ัวไปว่าด้วยระบบ (General Systems สมั พนั ธภาพระหวา่ งระบบนนั้ ๆ โดยองคร์ วมกบั Theory) และไซเบอรเ์ นตกิ ส์ (Cybernetics) ระบบทใี่ หญก่ วา่ ทแ่ี วดลอ้ มอยู่ สมั พนั ธภาพดงั ลดุ วกิ วอน แบรท์ าลนั ฟี (Ludwig von กลา่ วระหวา่ งตวั ระบบกบั สงิ่ แวดลอ้ มของมนั คอื Bertalanffy) นกั ชวี วทิ ยาชาวออสเตรเลยี ผู้ สงิ่ ทเ่ี ราหมายถงึ ในคำ� วา่ บรบิ ท คำ� วา่ “บรบิ ท รเิ รม่ิ นำ� เอาวสิ ยั ทศั นแ์ บบองคร์ วมมาแทนพน้ื (Context)” มาจากภาษาละตนิ – Contexere ฐานแบบกลไกของวทิ ยาศาสตร์ ไดส้ รา้ งทฤษฎี – แปลวา่ “ทอสานเขา้ ดว้ ยกนั ” จงึ มนี ยั หมาย ทวั่ ไปวา่ ดว้ ยระบบขน้ึ ในชว่ งทศวรรษ 1940 ถงึ ความคดิ เรอื่ งเครอื ขา่ ย และนา่ จะเปน็ คำ� ท่ี แบร์ทาลันฟี เชื่อเหมือนกับนักชีววิทยา เหมาะสมทส่ี ดุ ในการอธบิ ายลกั ษณะโดยรวม องคาพยพคนอื่นๆ ว่า ปรากฏการณ์ทาง ของการคดิ เชงิ ระบบ การคดิ เชงิ ระบบจงึ เปน็ ชวี วทิ ยาจำ� ตอ้ งอาศยั การคดิ แนวใหม่ เปา้ หมาย “การคดิ เชงิ บรบิ ท” (Contextual Thinking)” ของเขานน้ั อยทู่ กี่ ารสรา้ ง “วทิ ยาศาสตรท์ ว่ั ไปวา่ นอกจากนย้ี งั มแี นวทส่ี ำ� คญั อกี ประการ ดว้ ยองคร์ วม (General Science of Wholeness)” หนง่ึ ของการคดิ เชงิ ระบบ ซงึ่ ผมจะกลา่ วถงึ ใน ขนึ้ ในฐานะแขนงวชิ าหนง่ึ ทางคณติ ศาสตรท์ ม่ี ี ภายหลงั ไดแ้ ก่ การในมมุ มองของกระบวนการ ระเบยี บวธิ ชี ดั เจน ซงึ่ โดยลำ� ดบั ความเปน็ มาแลว้ นบั วา่ เกดิ ขนึ้ ภาย ในความเหน็ ของผม คณุ ปู การทยี่ ง่ิ ใหญ่ หลงั ดงั นน้ั การคดิ เชงิ ระบบจงึ หมายรวมทงั้ ท่ีสุดของแบร์ทาลันฟี อยู่ที่แนวคิดในเร่ือง การคิดเชงิ บริบทและการคิดเชงิ กระบวนการ “ระบบเปดิ (Open System)” ซง่ึ เปน็ การแยก (Process Thinking) ความแตกตา่ งระหวา่ งปรากฏการณท์ างชวี ภาพ กบั ปรากฏการณท์ างกายภาพ เขามองเหน็ วา่ ทฤษฎรี ะบบชว่ งคลาสสกิ ระบบชีวิตเป็นระบบเปิด ซ่ึงหมายความว่า แนวคดิ หลกั ๆ ของการคดิ เชงิ ระบบได้ ระบบชีวิตต่างๆ ต้องอาศัยการเล่ือนไหลต่อ รับการพัฒนาขึ้นมาระหว่างทศวรรษ 1920 เนอ่ื งของสสารและพลงั งานจากสภาพแวดลอ้ ม กบั 1930 ครนั้ ถงึ ทศวรรษ 1940 กม็ กี าร ในการด�ำรงชีวิตอยู่ ระบบเปิดเหล่านี้ธ�ำรง สรา้ งทฤษฎรี ะบบอยา่ งเปน็ จรงิ เปน็ จงั ขนึ้ ซงึ่ ตนเองอยู่ในภาวะสมดุลย์ท่ีห่างไกลจากจุด หมายความวา่ แนวคดิ ตา่ งๆ วา่ ดว้ ยระบบถกู ดุลยภาพคงที่ แต่ปรับตัวไปในลักษณะเลื่อน ประมวลเข้าในกรอบทฤษฎที เ่ี ป็นเหตเุ ปน็ ผล ไหลและแปรเปลยี่ นอยา่ งตอ่ เนอื่ ง แบรท์ าลนั ฟี รดั กมุ ใชใ้ นการอธบิ ายหลกั การจดั องคก์ รของ บัญญัติศัพท์ว่า “ภาวะสมดุลย์เลื่อนไหล ระบบชวี ติ ตา่ งๆ ทฤษฎเี หลา่ นี้ ซงึ่ ขา้ พเจา้ เรยี ก (Flowing Balance)” เพอื่ อธบิ ายภาวะสมดลุ ย์ วา่ “ทฤษฎรี ะบบชว่ งคลาสสกิ ” รวมถงึ ทฤษฎี ทปี่ รบั เปลย่ี นโดยตลอดดงั กลา่ วน้ี เขายงั มองวา่ ระบบเปดิ เชน่ นไี้ มอ่ าจใชค้ วามเขา้ ใจดา้ นเทอรโ์ ม ไดนามกิ ส์ (Thermodynamics) แบบเดมิ ซง่ึ เป็นทฤษฎีว่าด้วยระบบอันซับซ้อนที่มีอยู่ใน สมยั ของเขามาอธบิ ายได้ เขาจงึ เสนอวา่ จำ�
92 การสอ่ื สารในวงจรปดิ และเครอื ขา่ ยหมนุ เวยี น การศกึ ษาคน้ ควา้ ทางด้านนี้นำ� ไปส่แู นวคิดใน ตอ้ งมเี ทอรโ์ มไดนามกิ สแ์ นวใหมท่ ว่ี า่ ดว้ ยระบบ เรอ่ื งการปอ้ นกลบั (Feedback) และการกำ� กบั เปดิ เพอื่ นำ� มาใชอ้ ธบิ ายระบบชวี ติ แนวคดิ ของ ควบคมุ ตนเอง (Self-Regulation) และตอ่ มา ลดุ วกิ วอน แบรท์ าลนั ฟี ในเรอื่ งระบบเปดิ และ ก็ก่อให้เกิดแนวคิดในเร่ืองการจัดองค์กรด้วย ในเรอ่ื งทฤษฎที ว่ั ไปวา่ ดว้ ยระบบ ทำ� ใหก้ ารคดิ ตนเอง (Self-Organization) เชิงระบบก่อตัวเป็นความเคลื่อนไหวทาง แนวคดิ ในเรอ่ื งการปอ้ นกลบั ซง่ึ เปน็ ผล วทิ ยาศาสตรค์ รง้ั สำ� คญั นอกจากนี้ จดุ เนน้ ของ งานทสี่ ำ� คญั ทสี่ ดุ ประการหนง่ึ ของไซเบอรเ์ นตกิ ส์ เขาในเรอ่ื งการเลอื่ นไหลและภาวะสมดลุ เลอ่ื น นน้ั เกยี่ วพนั ใกลช้ ดิ กบั แบบแผนของเครอื ขา่ ย ไหล ก็ได้น�ำเสนอการคิดเชิงกระบวนการใน กลา่ วคอื ในเครอื ขา่ ยหนงึ่ ๆ คณุ จะพบระบบ ฐานะแงม่ นุ ทใ่ี หมแ่ ละมคี วามสำ� คญั ตอ่ ความคดิ หมุนเวียนและวงจรปิดและวงจรเหล่าน้ี วา่ ดว้ ยระบบ แตแ่ บรท์ าลนั ฟไี มอ่ าจสรปุ วาง สามารถเปน็ วงจรปอ้ นกลบั ได้ วงจรปอ้ นกลบั หลักวิชาด้านเทอร์โมไดนามิกส์อย่างใหม่ได้ (Feedback Loop) คอื การจดั ระเบยี บแบบ อยา่ งทเ่ี ขาประสงค์ ทง้ั นเ้ี พราะเขายงั ขาดหลกั หมนุ เวยี นเปน็ วฏั ฏะขององคป์ ระกอบทเ่ี ชอ่ื ม คณติ ศาสตรท์ เี่ หมาะสมตอ่ ภารกจิ นน้ั อกี สามสบิ โยงกนั อยา่ งเปน็ ปจั จยั การ จากจดุ เรม่ิ ตน้ ทส่ี ง่ ปตี อ่ มา อลิ ยา พรกิ อชนี (Ilya Prigogine) จงึ ผลไปตลอดทวั่ วงจร ในลกั ษณะทที่ ำ� ใหแ้ ตล่ ะ ประสบผลส�ำเร็จดังกล่าว โดยใช้หลัก องคป์ ระกอบสง่ ผลกระทบตอ่ องคป์ ระกอบทอ่ี ยู่ คณติ ศาสตรแ์ หง่ ความสลบั ซบั ซอ้ น ทไ่ี ดม้ กี าร ถดั ไป จนกระทงั่ องคป์ ระกอบตวั สดุ ทา้ ย “ปอ้ น” คดิ คน้ ขน้ึ ในชว่ งเวลาระหวา่ งนนั้ ผลกระทบ “กลบั ” สอู่ งคป์ ระกอบตวั แรกของวงจร ปรากฏการณป์ อ้ นกลบั นสี้ ำ� คญั อยา่ งยงิ่ ไซเบอรเ์ นติกส์ เปน็ ทฤษฎรี ะบบช่วง ตอ่ ระบบชวี ติ เนอื่ งเพราะมกี ารปอ้ นกลบั เครอื คลาสสกิ อกี ทฤษฎหี นง่ึ ซงึ่ เกดิ จากการงานของ ขา่ ยชวี ติ จงึ กำ� กบั ควบคมุ ตนเองและจดั องคก์ ร กลมุ่ นกั วทิ ยาศาสตรห์ ลายแขนงวชิ าการ รวม ตนเองได้ ตวั อยา่ งเชน่ ชมุ ชนหนง่ึ ๆ ยอ่ มกำ� กบั ท้ังนักคณิตศาสตร์อย่าง นอร์เบิร์ต ไวเนอร์ ควบคุมตวั มันเองได้ เรียนรู้จากขอ้ ผดิ พลาด (Norbert Wiener) และ จอหน์ วอน นวิ มาน ของมนั เองได้ เพราะความผดิ พลาดจะเดนิ ทาง (John von Newmann) นกั วทิ ยาศาสตรด์ า้ น และกลับมาโดยผ่านวงจรป้อนกลับน้ี ดังน้ัน ประสาทสมองอย่าง วอร์เร็น แม็คคัลล็อค ชมุ ชนจงึ สามารถจดั องคก์ รตวั เองและเรยี นรไู้ ด้ (Warren McCulloch) และนกั สงั คมศาสตร์ กระบวนการปอ้ นกลบั ทำ� ใหช้ มุ ชนมสี มรรถนะ อยา่ ง เกรกอรี เบทสนั (Gregory Bateson) ทางปญั ญาของตนเอง มคี วามสามารถในตวั และ มารก์ าเรต็ มดี (Margaret Mead) เองทจี่ ะเรยี นรู้ ดงั นนั้ เครอื ขา่ ยกด็ ี การปอ้ นกลบั กด็ ี ในเวลาไม่นานนัก ไซเบอร์เนติกส์ก็ การจดั องคก์ รดว้ ยตนเองกด็ ี ลว้ นเปน็ แนวคดิ กลายเปน็ ความเคลอ่ื นไหวทางภมู ปิ ญั ญาทที่ รง พลงั โดยพฒั นาอยา่ งเปน็ เอกเทศจากชวี วทิ ยา องคาพยพและทฤษฎที วั่ ไปวา่ ดว้ ยระบบ จดุ เนน้ หลกั ของไซเบอรเ์ นตกิ สอ์ ยทู่ แี่ บบแผนของ การจดั องคก์ ร โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ แบบแผนของ
ทเี่ ชอื่ มโยงกนั อยา่ งใกลช้ ดิ ระบบชวี ติ ทง้ั หลาย 93 จงึ เปน็ เครอื ขา่ ยทสี่ ามารถจดั องคก์ รดว้ ยตนเอง ทไี่ มใ่ ชเ่ สน้ ตรง เพราะเปน็ สมการทแ่ี กย้ าก ยก คณิตศาสตร์ใหม่ว่าด้วยความ ตัวอย่างเช่น การไหลอย่างราบร่ืนของน�้ำใน สลบั ซบั ซอ้ น แมน่ ำ�้ ทไี่ มม่ สี งิ่ กดี ขวาง เราเขยี นเปน็ สมการเสน้ ตรงได้ แตถ่ า้ มหี นิ กอ้ นหนงึ่ ในแมน่ ำ้� ทำ� ใหน้ ำ้� ถึงตรงนี้ ผมมาถึงจดุ ทส่ี �ำคัญทสี่ ุดใน เรม่ิ หมนุ วนปน่ั ปว่ น เกดิ เกลยี วคลนื่ เกดิ วงั วน การสรปุ นำ� เสนอความเปน็ มา กลา่ วคอื ไดเ้ กดิ ตา่ งๆ เราตอ้ งเขยี นเปน็ สมการทไ่ี มใ่ ชเ่ สน้ ตรง ความเปล่ียนแปลงครั้งส�ำคัญในการคิดเชิง การเคลอ่ื นไหวของนำ�้ เรมิ่ ซบั ซอ้ นจนดเู หมอื น ระบบระหวา่ งชว่ งคลาสสกิ ในทศวรรษที่ 1940 ไรร้ ะเบยี บ กบั ทฤษฎรี ะบบชวี ติ ทพี่ ฒั นาขนึ้ ในชว่ ง 25 ปที ่ี ในชว่ งทศวรรษ 1970 นกั วทิ ยาศาสตร์ ผา่ นมานี้ ขอ้ แตกตา่ งทเ่ี ดน่ ชดั ของทฤษฎใี หมๆ่ เรมิ่ มคี อมพวิ เตอรค์ วามเรว็ สงู ทช่ี ว่ ยใหพ้ วก เหลา่ นอี้ ยทู่ ภ่ี าษาทางคณติ ศาสตรอ์ ยา่ งใหม่ ซง่ึ เขาคดิ คำ� นวณและแกส้ มการทไ่ี มใ่ ชเ่ สน้ ตรงได้ เปดิ ทางใหน้ กั วทิ ยาศาสตรส์ ามารถจดั การใน และในการกระท�ำดงั กลา่ วพวกเขากไ็ ดค้ ดิ คน้ ทางคณติ ศาสตรก์ บั ความสลบั ซบั ซอ้ นมหาศาล เทคนิคข้ึนหลายประการ เป็นภาษาทาง ของระบบชวี ติ ตา่ งๆ ไดเ้ ปน็ ครง้ั แรก คณติ ศาสตรแ์ บบใหม่ ทเี่ ผยใหเ้ หน็ ถงึ แบบแผน เราตอ้ งตระหนกั วา่ แมแ้ ตร่ ะบบชวี ติ ท่ี อันน่าประหลาดใจยิ่งภายใต้พฤติกรรมอันดู สามญั ทส่ี ดุ อยา่ งเซลลแ์ บคทเี รยี กเ็ ปน็ เครอื คล้ายว่าไร้ระเบียบของระบบที่ไม่ใช่เส้นตรง ขา่ ยทส่ี ลบั ซบั ซอ้ นยงิ่ เกยี่ วเนอ่ื งกบั ปฏกิ ริ ยิ า หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง แบบแผนท่ีว่าน้ีก็คือ ทางเคมที อี่ งิ อาศยั กนั และกนั นบั พนั ๆ ประการ ระเบยี บทซ่ี อ่ นเรน้ อยภู่ ายใตภ้ าวะทดี่ เู หมอื นไร้ เวลานไี้ ดม้ กี ารพฒั นาชดุ แนวคดิ และเทคนคิ ชดุ ระเบยี บนน่ั เอง แทท้ จ่ี รงิ แลว้ ทฤษฎวี า่ ดว้ ย ใหม่ส�ำหรับจัดการกับความสลับซับซ้อนดัง ความไรร้ ะเบยี บกค็ อื ทฤษฎวี า่ ดว้ ยระเบยี บ แต่ กลา่ วแลว้ และเรมิ่ กอ่ รปู เปน็ กรอบคณติ ศาสตร์ เปน็ ระเบยี บอกี แบบหนง่ึ ซง่ึ มองดว้ ยตาเปลา่ ทร่ี ดั กมุ ทฤษฎคี วามไรร้ ะเบยี บ (Chaos Theory) ไมเ่ หน็ แตส่ ามารถคน้ พบไดด้ ว้ ยคณติ ศาสตร์ และเรขาคณติ แฟรค็ ทลั (Fractal Geometry) แนวใหมน่ ้ี เป็นแขนงวิชาที่ส�ำคัญของคณิตศาสตร์อย่าง เวลาคณุ แกส้ มการทไ่ี มใ่ ชเ่ สน้ ตรงดว้ ย ใหมว่ า่ ดว้ ยความสลบั ซบั ซอ้ นน้ี เทคนคิ ใหมๆ่ ดงั กลา่ วนี้ ผลลพั ธท์ ไ่ี ดไ้ มใ่ ชส่ ตู ร ลกั ษณะสำ� คญั ของคณติ ศาสตรแ์ นวใหม่ แต่เป็นรูปทรงท่ีแลเห็นได้ เป็นแบบแผนท่ี นก้ี ค็ อื เปน็ คณติ ศาสตรท์ ไ่ี มใ่ ชเ่ สน้ ตรง (Nonlinear) คอมพวิ เตอรส์ รา้ งขนึ้ ดงั นน้ั คณติ ศาสตรอ์ ยา่ ง ในวงการวทิ ยาศาสตร์ เราถกู สอนกันมาโดย ใหม่จึงเป็นคณิตศาสตร์ของแบบแผนหรือ ตลอดจนเมอื่ ไมน่ านมาน้ี ใหห้ ลกี เลย่ี งสมการ สัมพันธภาพ ส่ิงที่เรียกกันว่า “วิถีโน้มถ่วง (Attractor)” เปน็ ตวั อยา่ งของแบบแผนทาง คณิตศาสตร์ที่ว่าน้ี ซึ่งสร้างภาพความ เคลอ่ื นไหวเปลยี่ นแปลงของระบบใดระบบหนงึ่ ขนึ้ เปน็ รปู ทรงทแ่ี ลเหน็ ได้
94 ดงั นน้ั การทำ� ความเขา้ ใจแบบแผนจงึ เป็นส่ิงที่มีความส�ำคัญอย่างยิ่งยวดต่อความ ในชว่ งทศวรรษท่ี 1970 ความสนใจที่ เขา้ ใจทางวทิ ยาศาสตรเ์ กยี่ วกบั ชวี ติ แตเ่ ทา่ นี้ มตี อ่ สมการทไ่ี มใ่ ชเ่ สน้ ตรงไดก้ อ่ ใหเ้ กดิ ทฤษฎี คงไมพ่ อ เรายงั ตอ้ งทำ� ความเขา้ ใจโครงสรา้ ง ใหมๆ่ ทท่ี รงพลงั ชดุ หนงึ่ ทใ่ี ชใ้ นการอธบิ ายแง่ ของระบบ ถงึ ตรงนี้ เพอื่ แสดงใหค้ ณุ เหน็ วา่ แนว มมุ ตา่ งๆ ของระบบชวี ติ ทฤษฎเี หลา่ นขี้ า้ พเจา้ การศกึ ษาแบบแผนกบั แนวการศกึ ษาโครงสรา้ ง ไดอ้ ภปิ รายโดยละเอยี ดไวใ้ นหนงั สอื และเปน็ สามารถบรู ณาการกนั ไดอ้ ยา่ งไร ผมขอใหค้ ำ� สว่ นประกอบทขี่ า้ พเจา้ ใชใ้ นการสงั เคราะหส์ รา้ ง จำ� กดั ความทรี่ ดั กมุ ยง่ิ ขนึ้ แกแ่ นวทางทง้ั สอง แนวคดิ ใหมเ่ กย่ี วกบั ชวี ติ แบบแผนการจัดองค์กรของระบบใด กต็ าม ทง้ั ทมี่ ชี วี ติ และไมม่ ชี วี ติ คอื การจดั รปู บทสงั เคราะหใ์ หม่ ของสัมพันธภาพระหว่างองค์ประกอบต่างๆ ของระบบนนั้ ๆ อนั เปน็ ตวั กำ� หนดลกั ษณะโดย ขา้ พเจา้ เชอื่ วา่ กญุ แจทจ่ี ะไขสทู่ ฤษฎที ่ี แก่นสารของระบบน้ันเอง กล่าวอีกนัยหนึ่ง ครอบคลุมเก่ียวกับระบบชีวิตน้ัน อยู่ท่ีการ สมั พนั ธภาพบางประการจะตอ้ งมอี ยู่ ถา้ จะให้ สังเคราะห์แนวการศึกษาท�ำความเข้าใจ มกี ารรไู้ ดว้ า่ สง่ิ นน้ั ๆ คอื เกา้ อ้ี จกั รยาน หรอื ธรรมชาตสิ องแนวเขา้ ดว้ ยกนั ซงึ่ ทงั้ สองแนวก็ ตน้ ไม้ เปน็ ตน้ การจดั รปู ของสมั พนั ธภาพซง่ึ กอ่ เปน็ คแู่ ขง่ ขนั กนั มาตลอดเสน้ ทางประวตั ศิ าสตร์ ใหเ้ กดิ ลกั ษณะโดยแกน่ สารของระบบ คอื สง่ิ ที่ วทิ ยาศาสตร์ ไดแ้ ก่ การศกึ ษาแบบแผน (หรอื ข้าพเจ้าหมายถึงเมื่อพูดถึงแบบแผนการจัด สมั พนั ธภาพ ระเบยี บ คณุ ภาพ) กบั การศกึ ษา องคก์ รของมนั โครงสรา้ ง (หรอื องคป์ ระกอบ สสาร ปรมิ าณ ผมจะขอยกตัวอย่างเร่ืองน้ีด้วย จกั รยาน เพราะระบบทไ่ี มม่ ชี วี ติ เปน็ เรอ่ื งงา่ ย กำ� เนดิ และพฒั นาการของแนวคดิ เรอ่ื ง กวา่ ถา้ ผมถอดเอาสว่ นตา่ งๆ ของจกั รยานออก “แบบแผนของการจัดองค์กร (Pattern of มา ทง้ั อาน คนั บงั คบั ตวั โครง ลอ้ และสว่ น Organization)” เปน็ กระแสหลกั ของการคดิ เชงิ อน่ื ๆ เอามากองไวข้ า้ งหนา้ คณุ คณุ กย็ อ่ มจะ ระบบมาโดยตลอด นกั คดิ เชงิ ระบบในชว่ งแรกๆ บอกวา่ นไ่ี มใ่ ชจ่ กั รยาน ของพวกนเ้ี ปน็ สว่ น นยิ ามแบบแผนวา่ เปน็ การจดั รปู ของสมั พนั ธภาพ ต่างๆ ของจกั รยาน แล้วผมจะท�ำให้มนั เปน็ ต่างๆ นักนิเวศวิทยามองว่าเครือข่ายเป็น จกั รยานขนึ้ มาไดอ้ ยา่ งไร ผมกต็ อ้ งเอามนั มา แบบแผนทว่ั ไปของชวี ติ นกั ไซเบอรเ์ นตกิ สช์ ใ้ี ห้ ประกอบขนึ้ เปน็ ระเบยี บแบบหนง่ึ ! ระเบยี บดงั เหน็ วา่ การปอ้ นกลบั เปน็ แบบแผนหมนุ เวยี น กลา่ ว หรอื การจดั รปู สมั พนั ธภาพระหวา่ งสว่ น ของการส่งผลกระทบต่อเน่ืองกันไป และ ต่างๆ คือ สิ่งท่ีผมเรียกว่าแบบแผนการจัด คณติ ศาสตรแ์ นวใหมท่ เี่ กยี่ วขอ้ งกบั ความสลบั องคก์ ร ซบั ซอ้ นกเ็ ปน็ คณติ ศาสตรท์ ว่ี า่ ดว้ ยแบบแผนท่ี แลเหน็ ได้
ในการอธบิ ายแบบแผนการจดั องคก์ ร 95 ของจักรยาน ผมสามารถใช้ภาษาที่เป็น นามธรรมอธบิ ายสมั พนั ธภาพตา่ งๆ ได้ ผมไม่ ทำ� ความเขา้ กระบวนการแปรรปู และกระบวนการ จำ� เปน็ ตอ้ งบอกคณุ วา่ ตวั โครงจกั รยานทำ� ดว้ ย พฒั นา เหล็กกล้าหรืออะลูมิเนียม ยางรถท�ำมาจาก คณุ สมบตั ทิ เ่ี ดน่ ชดั ประการนข้ี องระบบ ยางประเภทไหน และอน่ื ๆ กลา่ วอกี นยั หนงึ่ ตวั ชวี ติ ทำ� ใหก้ ระบวนการ เปน็ หลกั เกณฑป์ ระการ เนื้อวัสดุทางกายภาพไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการ ทส่ี ามสำ� หรบั การอธบิ ายซงึ่ ธรรมชาตขิ องชวี ติ อธิบายแบบแผนการจัดองค์กร แต่เป็นส่วน ใหไ้ ดค้ รอบคลมุ ทวั่ ถงึ กระบวนการของชวี ติ กค็ อื หนึ่งของการอธิบายโครงสร้าง ซ่ึงผมให้ค�ำ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องอยู่ในองค์ประกอบ จำ� กดั ความวา่ เปน็ องคป์ ระกอบโครงสรา้ งทาง โครงสรา้ งทต่ี อ่ เนอื่ งของแบบแผนการจดั องคก์ ร วตั ถุ (Material Embodiment) ของแบบแผน ของระบบ ดงั นน้ั หลกั เกณฑใ์ นเรอื่ งกระบวนการ การจดั องคก์ รของระบบ จึงเป็นตัวเช่ือมโยงระหว่างแบบแผนกับ ในขณะที่การอธิบายแบบแผนการจัด โครงสรา้ ง องคก์ รเกยี่ วขอ้ งกบั การทำ� แผนทเี่ ชงิ นามธรรม หลักเกณฑ์ในเรื่องกระบวนการ ช่วย ใหก้ บั สมั พนั ธภาพ การอธบิ ายโครงสรา้ งจะ ขยายกรอบแนวคดิ ในการสงั เคราะหข์ องผมให้ เกยี่ วขอ้ งกบั องคป์ ระกอบทแี่ ทจ้ รงิ ทางกายภาพ ครอบคลมุ ทว่ั ถงึ หลกั เกณฑท์ ง้ั สามประการนี้ ของระบบ ไดแ้ ก่ รปู ทรงของมนั องคป์ ระกอบ ยงั องิ อาศยั กนั อยา่ งแยกไมอ่ อก แบบแผนการ ทางเคมขี องมนั และอน่ื ๆ จดั องคก์ รจะปรากฏไดก้ ต็ อ่ เมอ่ื มนั อยเู่ ปน็ สว่ น ตวั อยา่ งเรอื่ งจกั รยานเปน็ เรอื่ งงา่ ย คณุ ประกอบของโครงสร้างทางกายภาพ และใน สรา้ งภาพแบบแผนการจดั องคก์ รของมนั ขนึ้ ใน ระบบชวี ติ นนั้ การอยเู่ ปน็ สว่ นประกอบดงั กลา่ ว ใจได้ คณุ รา่ งภาพนนั้ ขน้ึ มาได้ คณุ หาวสั ดตุ า่ งๆ กเ็ ปน็ กระบวนการตอ่ เนอื่ ง เราอาจกลา่ วไดว้ า่ มาประกอบเปน็ จกั รยานขนึ้ ตามภาพรา่ งของ หลกั เกณฑท์ งั้ สาม – แบบแผน โครงสรา้ ง และ คณุ ได้ หลงั จากนน้ั จกั รยานกจ็ ะตงั้ อยตู่ รงนนั้ กระบวนการ – เปน็ มมุ มองปรากฏการณช์ วี ติ และทำ� อะไรดว้ ยตวั เองไมไ่ ด้ ทแ่ี ตกตา่ งแยกขาดจากกนั ไมไ่ ด้ ทงั้ หมดรวมกนั แตก่ บั ระบบชวี ติ สถานการณจ์ ะตา่ งกนั เป็นมิติแนวคิดสามประการในบทสังเคราะห์ มากทเี ดยี ว ดงั ทผ่ี มไดก้ ลา่ วมาแลว้ วา่ ระบบ ของผม ชวี ติ ทกุ ระบบเกย่ี วพนั กบั กระบวนการทางเคมี นย้ี อ่ มหมายความวา่ ในอนั ทจ่ี ะนยิ าม ทอี่ งิ อาศยั กนั นบั พนั ๆ ประการ ในระบบชวี ติ ระบบชวี ติ – กลา่ วอกี นยั หนง่ึ ในอนั ทจ่ี ะตอบ หน่ึงๆ ยังมีการเลื่อนไหลของสสารอย่างไม่ คำ� ถามของชเดอรงิ เจอรท์ ว่ี า่ “ชวี ติ คอื อะไร” – หยดุ นง่ิ มกี ารเตบิ โต มพี ฒั นาการ มวี วิ ฒั นาการ เราจะตอ้ งตอบคำ� ถามทง้ั สามประการใหไ้ ด้ คอื นับแต่จุดแรกเริม่ ของชีววทิ ยา การท�ำความ คำ� ถามทวี่ า่ โครงสรา้ งของระบบชวี ติ คอื อะไร เขา้ ใจโครงสรา้ งทม่ี ชี วี ติ ไมเ่ คยแยกขาดจากการ แบบแผนการจดั องคก์ รคอื อะไร กระบวนการ ของชวี ติ คอื อะไร ผมจะตอบคำ� ถามทงั้ สามเรยี ง ลำ� ดบั
96 ตามทฤษฎีของพริกอชีน โครงสร้าง กระจดั กระจายไมเ่ พยี งแตธ่ ำ� รงตวั เองในภาวะ โครงสรา้ งกระจดั กระจาย สมดลุ ทห่ี า่ งไกลจากจดุ ดลุ ยภาพเทา่ นน้ั แตม่ นั ยงั ววิ ฒั นาการตนเองไดอ้ กี ดว้ ย เมอื่ การเลอื่ น โครงสร้างของระบบชีวิตได้รับการ ไหลของพลงั งานและสสารทผี่ า่ นมนั เพม่ิ สงู ขน้ึ อธบิ ายอยา่ งละเอยี ดโดย อลิ ยา พรกิ อชนี ใน มนั อาจไปถงึ จดุ ไรเ้ สถยี รภาพและแปรรปู ตวั เอง ทฤษฎขี องเขาวา่ ดว้ ยโครงสรา้ งกระจดั กระจาย ไปเปน็ โครงสรา้ งใหมท่ ซี่ บั ซอ้ นยง่ิ ขนึ้ ปรากฏการณ์ (Dissipative Structures) พรกิ อชนี มองใน ทร่ี ะเบยี บอบุ ตั ขิ นึ้ ไดเ้ องน้ี เรยี กอกี อยา่ งวา่ การ แบบเดยี วกบั ลดุ วกิ วอน แบร์ ทาลนั ฟี วา่ จัดองค์กรด้วยตนเอง ซ่ึงเป็นพื้นฐานของ ระบบชีวิตเป็นระบบเปิด ที่สามารถธ�ำรง พฒั นาการการเรยี นรู้ และววิ ฒั นาการ กระบวนการของชีวิตของตัวเองได้ภายใต้ อตั โนปสทิ ธ์ิ สภาวะทไ่ี มใ่ ชจ่ ดุ ดลุ ยภาพ องคาพยพทม่ี ชี วี ติ ถงึ ตรงน้ี ผมจะพดู ถงึ มมุ มองทส่ี องใน มีลักษณะเฉพาะตัวอยู่ท่ีการเลื่อนไหล และ การทำ� ความเขา้ ใจธรรมชาตขิ องชวี ติ ไดแ้ ก่ มมุ เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเน่ืองในเมตาบอลิสม์ มองในเรอ่ื งแบบแผน แบบแผนการจดั องคก์ ร (Metabolism) ของมัน โดยเกี่ยวพันกับ ของระบบชวี ติ คอื เครอื ขา่ ยของสมั พนั ธภาพ ปฏกิ ริ ยิ าทางเคมนี บั พนั ๆ ประการ จดุ ดลุ ยภาพ ซึ่งก่อให้เกิดการท�ำงานในลักษณะที่องค์ ทางเคมแี ละในทางความรอ้ นจะเกดิ ขน้ึ กต็ อ่ เมอ่ื ประกอบแต่ละตัวจะสามารถแปรรูปและเข้า กระบวนการเหลา่ นมี้ าถงึ จดุ หยดุ นง่ิ กลา่ วอกี แทนที่องค์ประกอบอื่นๆ ของ เครือข่ายได้ นัยหนึ่ง องคาพยพท่ีอยู่ในจุดดุลยภาพก็คือ แบบแผนดังกล่าวน้ี ฮุมแบร์โต มาตุรานา องคาพยพทต่ี ายแลว้ สว่ นองคาพยพทมี่ ชี วี ติ (Humberto Maturana) และ ฟรานซสิ โก วาเรลา จะดำ� รงตนเองอยา่ งตอ่ เนอื่ งในภาวะทอ่ี ยไู่ กล (Francisco Varela) เรยี กวา่ “อตั โนปสทิ ธ”ิ์ จากจดุ ดลุ ยภาพ ซง่ึ เปน็ ภาวะแหง่ ชวี ติ และ (Autopoiesis) “Auto” แปลวา่ “ตนเอง” และ แมว้ า่ ภาวะนจ้ี ะแตกตา่ งจากจดุ ดลุ ยภาพ มนั ก็ “Poiesis” – มาจากรากศพั ทก์ รกี ซงึ่ เปน็ ทมี่ าของ ยงั เปน็ ภาวะทมี่ เี สถยี รภาพ โครงสรา้ งโดยรวม “Poetry” – แปลวา่ “การทำ� ขนึ้ (Making)” จะยงั คงอยใู่ นสภาพเดมิ ถงึ แมว้ า่ องคป์ ระกอบ ดงั นนั้ Autopoiesis จงึ แปลวา่ “การสรา้ งตนเอง ของมนั จะมกี ารเลอื่ นไหลเปลย่ี นแปลงอยา่ งตอ่ (Self-Making)” กลา่ วคอื เครอื ขา่ ย “สรา้ ง เนอ่ื งกต็ าม ตนเอง” ขนึ้ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง ตวั มนั เองถกู สรา้ งขน้ึ พรกิ อชนี เรยี กระบบเปดิ ตามทอี่ ธบิ าย โดยองคป์ ระกอบของมนั และในทางกลบั กนั มนั ไว้ในทฤษฎีของเขาว่า “โครงสร้าง กส็ รา้ งองคป์ ระกอบเหลา่ นนั้ ขนึ้ กระจดั กระจาย” เพอ่ื เนน้ ถงึ ปฏกิ ริ ยิ าทม่ี ตี อ่ กนั อยา่ งใกลช้ ดิ ระหวา่ งโครงสรา้ งในดา้ นหนง่ึ กบั การเลอื่ นไหลและแปรเปลยี่ น (หรอื การกระจดั กระจาย) ในอกี ดา้ นหนง่ึ
(“อตั โน” ใชแ้ ปลคำ� วา่ “Auto” สว่ นคำ� 97 วา่ “ปสทิ ธ”ิ หมายถงึ “ความสำ� เรจ็ ความปรากฏ” ใกลเ้ คยี งกบั ความหมายของแนวคดิ และใกล้ อยา่ งถงึ รากถงึ แกน่ ทเี ดยี ว ซง่ึ กห็ มายถงึ การ เคยี งกบั การออกเสยี งคำ� วา่ Poiesis – ผแู้ ปล) ขยายแนวคดิ ในเรอื่ งจติ ดว้ ยเชน่ กนั ตามทศั นะ อยา่ งใหมน่ ี้ พทุ ธภิ าวะเกยี่ วพนั กบั กระบวนการ พทุ ธภิ าวะ ทงั้ หมดของชวี ติ รวมทง้ั การรบั รู้ (Perception) อารมณค์ วามรสู้ กึ (Emotion) และพฤตกิ รรม มติ แิ นวคดิ สว่ นทส่ี ามของบทสงั เคราะห์ (Behavior) และไม่จ�ำเป็นต้องอาศัยเพียง ของผมคอื แงม่ มุ ดา้ นกระบวนการ ความเขา้ ใจ สมองและระบบประสาทเทา่ นนั้ กลา่ วในสว่ น ในเรอื่ งกระบวนชวี ติ อาจถอื เปน็ แงม่ มุ ทม่ี พี ลงั ของความเป็นมนุษย์ พุทธิภาวะยังรวมถึง ปฏวิ ตั เิ ปลยี่ นแปลงมากทส่ี ดุ ของทฤษฎรี ะบบ ภาษา จิตสังขาร (Conceptual Thought) ชวี ติ เพราะมนั หมายถงึ แนวคดิ ใหมว่ า่ ดว้ ยจติ สตสิ มั ปชญั ญะ (Self - Awareness) และคณุ หรือพุทธิภาวะ (Cognition) แนวคิดใหม่นี้ ลักษณ์อ่ืนๆ ทั้งหมดของวิญญาณมนุษย์ เกรกอรี เบทสนั เปน็ ผนู้ ำ� เสนอ จากนนั้ จงึ มี (Human Consciousness) การลงรายละเอียดในงานของมาตุรานาและ ผมเชื่อว่า ทฤษฎีซานติอาโกว่าด้วย วาเรลา โดยเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า “ทฤษฎี พทุ ธภิ าวะนี้ เปน็ ทฤษฎที างวทิ ยาศาสตรท์ ฤษฎี ซานตอิ าโกวา่ ดว้ ยพทุ ธภิ าวะ (The Santiago แรกทสี่ ามารถกา้ วพน้ การแยกจติ กบั วตั ถอุ อก Theory of Cognition)” จากกนั แบบเดสก์ ารต์ ไดส้ ำ� เรจ็ และมนี ยั สำ� คญั แนวความรู้ ความเข้าใจท่ีสำ� คัญของ ส่งผลกว้างไกลถึงที่สุด จิตกับวัตถุจะไม่เป็น ทฤษฎซี านตอิ าโก อยทู่ ก่ี ารนยิ ามใหพ้ ทุ ธภิ าวะ เรอ่ื งทอ่ี ยใู่ นการจดั แยกประเภทออกเปน็ สอง หรือกระบวนการของการรู้ เป็นส่ิงเดียวกับ อกี ตอ่ ไป แตส่ ามารถแลเหน็ ไดว้ า่ ทง้ั สองตา่ ง กระบวนการของชีวิต มาตุรานาอธิบายว่า เปน็ บญั ญตั ทิ ใี่ ชแ้ ทนแงม่ มุ สองดา้ นของปรากฎ พทุ ธภิ าวะ คอื กจิ กรรมทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การสรา้ ง การณช์ วี ติ ทเ่ี ปน็ สว่ นประกอบเชอื่ มโยงกนั ซงึ่ ก็ ตนเองและการธำ� รงสภาวะตนเองของเครอื ขา่ ย คือแง่มุมของกระบวนการและแง่มุมของ ทม่ี ชี วี ติ กลา่ วอกี นยั หนง่ึ พทุ ธภิ าวะ กค็ อื ตวั โครงสร้าง จิตกับวัตถุก็ดี กระบวนการกับ กระบวนการของชีวิตน่ันเอง ดังท่ีมาตุรานา โครงสรา้ งกด็ ี ลว้ นเชอื่ มตอ่ กนั อยา่ งแยกไมอ่ อก กลา่ ววา่ “ระบบชวี ติ คอื ระบบพทุ ธภิ าวะ และ ในทุกระดับของชีวิตนับแต่ระดับของเซลล์ท่ี การมชี วี ติ ในฐานะทเ่ี ปน็ กระบวนการอยา่ งหนงึ่ สามญั ทส่ี ดุ จติ นนั้ ปรากฏใหเ้ หน็ ในวตั ถทุ มี่ ชี วี ติ กค็ อื กระบวนการของพทุ ธภิ าวะ” ในฐานะทเี่ ปน็ กระบวนการจดั องคก์ รตนเอง นบั เราจะเหน็ ไดช้ ดั วา่ เรอื่ งทเ่ี รากำ� ลงั พดู เปน็ ครงั้ แรกทเี่ รามที ฤษฎวี ทิ ยาศาสตรท์ เ่ี ชอื่ ม ถงึ อยนู่ เี้ ปน็ การขยายแนวคดิ ในเรอ่ื งพทุ ธภิ าวะ โยงจติ วตั ถุ และชวี ติ เขา้ เปน็ หนง่ึ เดยี ว
ดร.ประมวล สธุ จี ารวุ ฒั น อาจารยภ์ าควชิ าวศิ วกรรมอตุ สาหการ 98 คณะวศิ วกรรมศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ประสบการณท์ ต่ี อ้ งเรยี นรใู้ นเรอ่ื งรถไฟฟา้ สื่อมวลชนโทรมาสอบถามผมเร่ือง จากบอร์ดบริหาร 2 บอร์ด คือ บอร์ดของ Airport Rail Link (ปกตผิ มจะเรยี กโครงการ SARL เอง (บรษิ ทั รถไฟฟา้ รฟท จำ� กดั หรอื นย้ี อ่ ๆ วา่ SARL ~ Suvarnabhumi Airport Rail รฟฟท.) และบอรด์ ของ รฟท. Link) ขอใหค้ วามเหน็ ไวต้ รงน้ี ตามนนี้ ะครบั แปลวา่ ปญั หาใหญส่ ดุ ของ SARL แท้ กรณขี อ้ บกพรอ่ งของ SARL ในเชา้ วนั ทจ่ี รงิ ไมใ่ ชแ่ คเ่ รอ่ื งเหตสุ ดุ วสิ ยั อยา่ งทเี่ กดิ แต่ นี้ มขี อ้ พจิ ารณาทตี่ อ้ งทำ� ความเขา้ ใจ และคดิ เปน็ เรอ่ื งวธิ บี รหิ ารจดั การ และ business model ตอ่ ไปยาวๆ เพอื่ อนาคต 8-9 ประเดน็ ทจี่ ะตอ้ งไดร้ บั การแกไ้ ขผา่ นการปฏริ ปู องคก์ ร 1. ภายใตเ้ งอ่ื นไขทก่ี ระบวนการบรหิ าร ถ้าไม่มีใครท�ำอะไร อีกไม่นานปัญหา จดั การงานซอ่ มบำ� รงุ ของ SARL ทแ่ี ตกตา่ งไป แบบวนั นกี้ จ็ ะวนกลบั มาอกี ซำ้� แลว้ ซำ�้ เลา่ จากโครงการ BTS และ MRT คอื ทาง SARL พยายามจะบรหิ ารกจิ กรรมการซอ่ มบำ� รงุ ดว้ ย 2. กระบวนการซอ่ มบำ� รงุ โดยพนกั งาน ตวั เอง (ไมไ่ ด้ outsource ใหก้ บั เอกชน อยา่ ง ของ รฟฟท. ไดผ้ า่ นการเรยี นรมู้ าแลว้ นบั ตง้ั แต่ ท่ี BTS และ MRT จา้ งบรษิ ทั Siemens เปน็ เปิดด�ำเนนิ การในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2553 ผดู้ ำ� เนนิ การ) สงิ่ ท่ี SARL ประสบปญั หาและ จวบจนถงึ ปจั จบุ นั กใ็ หบ้ รกิ ารมาแลว้ 5-6 ปี เปน็ อปุ สรรคหลกั จนสง่ ผลตอ่ ประสทิ ธภิ าพการ ในระหวา่ งนกี้ ผ็ า่ นวกิ ฤตมิ าแลว้ หลายครงั้ เรยี ก บริหารจัดการงานซ่อมบ�ำรุงคือ ไม่สามารถ ไดว้ า่ พนกั งานซอ๋ มบำ� รงุ ของ รฟฟท. ไดใ้ ชเ้ วลา จัดหาอะไหล่ได้ทันตามเวลา อันเน่ืองจาก ส่ังสมประสบการณ์มาพอสมควร และมีขีด กระบวนการจัดซ้ือท่ีผูกกับระเบียบของ ความสามารถทร่ี บั มอื ได้ กระทรวงการคลงั และตอ้ งผา่ นการพจิ ารณา
ทว่าปัญหาอันเกิดจากการขาดแคลน 99 อะไหล่ จนไมส่ ามารถดำ� เนนิ การซอ่ มบำ� รงุ ได้ ตามรอบเวลาทค่ี วรกระทำ� นา่ จะเปน็ ตน้ เหตุ บอรด์ ชดุ ปจั จบุ นั ตา่ งพยายามจะวา่ จา้ งบรษิ ทั หลกั ทนี่ ำ� ไปสสู่ ารพดั ปญั หาทค่ี ลา้ ยเปน็ ระเบดิ เอกชนรายอ่ืน ให้มารบั ผดิ ชอบกิจกรรมการ เวลาของ SARL ซอ่ มบำ� รงุ แทนการบรหิ ารจดั การดว้ ยพนกั งาน ของ รฟฟท. เอง ซงึ่ ในกรณนี ้ี โดยสว่ นตวั ผม ความไรป้ ระสทิ ธภิ าพนี้ กำ� ลงั เรม่ิ สน่ั คลอน เหน็ วา่ เปน็ การแกป้ ญั หาไมต่ รงจดุ นะครบั ตวั รฟฟท. เอง เมอื่ พนกั งานในแผนกงานซอ่ ม บำ� รงุ สว่ นหนงึ่ เรม่ิ ยา้ ยตวั เองไปอยบู่ รษิ ทั อน่ื ๆ (ข้อมูลน่าสนใจ และต้องสนใจเป็น ขดี ความสามารถในทมี บรหิ ารจดั การงานซอ่ ม พเิ ศษ คอื ณ วนั น้ี เจา้ ของเทคโนโลยอี ยา่ ง บำ� รงุ กก็ ำ� ลงั จะเรมิ่ มปี ญั หาในไมช่ า้ Siemens เองกไ็ มก่ ลา้ รบั งานซอ่ มบำ� รงุ SARL ในขณะน้ีนะครับ เพราะสภาพรถ “บอบช�้ำ” และเรอ่ื งนจ้ี ะกลายเปน็ เรอ่ื งใหญท่ จี่ ะ เกนิ กวา่ บรษิ ทั จะเสยี่ งรบั ผดิ ชอบไหว ยกเวน้ วา่ ผกู รวมไปกบั เรอ่ื งการขาดแคลนอะไหลเ่ พอื่ การ เงนิ หนาพอๆ กบั ซอื้ ขบวนรถไฟฟา้ ใหมก่ นั เลย ซอ่ มบำ� รงุ อยา่ งแนน่ อน ทเี ดยี ว) 3. วนั ที่ 26 สงิ หาคม 57 ผมและทมี ลา่ สดุ ทราบวา่ ปจั จบุ นั รฟฟท. กำ� ลงั งานวจิ ยั ทจ่ี ฬุ าฯ ไดเ้ คยออกมาตง้ั โตะ๊ แถลงขา่ ว อยใู่ นระหวา่ งรา่ งสญั ญาเพอ่ื วา่ จา้ งเอกชนราย ในนามจฬุ าฯ เรอื่ งความปลอดภยั ของระบบ หนงึ่ มารบั งาน ซง่ึ ผมไมท่ ราบวา่ จะสามารถเรม่ิ SARL ซง่ึ ในขณะนนั้ วงิ่ ใชง้ านไปแลว้ ราวๆ 1.3 งานไดเ้ มอ่ื ไหร่ ลา้ นกโิ ลเมตร (ควรทราบวา่ ตามคมู่ อื งานซอ่ ม บำ� รงุ ระบวุ า่ ระบบ SARL จะตอ้ งถกู นำ� เขา้ สู่ สรปุ เลยนะครบั สถานะ SARL ตอนนี้ กระบวนการซอ๋ มบำ� รงุ หนกั หรอื overhaul พดู หยาบๆ แบบไมเ่ กรงใจใคร คอื วกิ ฤติ และ เมอ่ื วงิ่ ใชง้ านครบ 1.2 ลา้ นกโิ ลเมตร บวกไม่ ไมม่ ใี ครรบั รองความปลอดภยั ไดน้ ะครบั เกิน 10% แล้วแต่สภาพการใช้งาน) น่ัน หมายความวา่ ในขณะเวลานน้ั SARL ถงึ วาระ 4. ในระยะสนั้ ระหวา่ งที่ รฟฟท. กำ� ลงั ตอ้ งซอ่ มบำ� รงุ ใหญแ่ ลว้ แตเ่ ทา่ ทผ่ี มทราบ จวบ มปี ญั หาการจดั การงานซอ่ มบำ� รงุ สง่ิ ทตี่ อ้ งเตรยี ม จนถงึ ปจั จบุ นั SARL วงิ่ มาแลว้ 1.6-1.7 ลา้ น การเพอ่ื รองรบั เหตฉุ กุ เฉนิ และเหตเุ มอื่ เชา้ ได้ กโิ ลเมตร โดยทย่ี งั ไมผ่ า่ นการซอ่ มบำ� รงุ หนกั ! พสิ จู นด์ ว้ ยตวั มนั เองวา่ รฟฟท. take action หรือตอบสนองกับเหตุฉุกเฉินช้าเกินไป คือ ถามว่า แล้วท�ำไมไม่ด�ำเนินการซ่อม ตอ้ งเตรยี มมาตรการฉกุ เฉนิ เพอ่ื รองกบั เหตไุ ม่ บำ� รงุ หนกั ? พงึ ประสงคใ์ หเ้ รว็ กวา่ น้ี ตอบได้ว่า ปัญหาเร่ิมต้นท่ีการไม่มี หากอะไหลไ่ มม่ ี ซอ่ มไม่ 100% กต็ อ้ ง อะไหล่ ตามมาดว้ ยความพยายามของบอรด์ response กบั ปญั หาเรว็ กวา่ นค้ี รบั บริหารตั้งแต่ชุดเก่า (ก่อนการปฏิวัติ) และ 5. SARL มขี บวนรถทซ่ี อื้ มาใชง้ านครง้ั แรก เปน็ รถแบบ Express 4 ขบวน และรถ แบบ City Line 5 ขบวน ใชๆ้ ไป กจ็ อดเสยี
100 ภาพจากเวบไซด์ ฐานเศรษฐกจิ 1 ขบวน เพ่ือถอดอะไหล่มาซ่อมให้กับ 8 ไดผ้ า่ นกระบวนการตรวจสอบแบบเดยี วกบั ท่ี ขบวนทเี่ หลอื แปลวา่ จรงิ ๆ กว็ งิ่ ไดแ้ ค่ 8 ขบวน BTS ทำ� ) และการตอบสนองตอ่ เหตฉุ กุ เฉนิ ชา้ กวา่ ทค่ี วรจะเปน็ เชน่ การปลอ่ ยใหผ้ โู้ ดยสาร ปลายปี 2558 ทผ่ี า่ นมา ทาง รฟฟท. ตดิ อยใู่ นรถนานกวา่ 30 นาที โดยไมม่ กี ารชว่ ย ไดย้ ตุ กิ ารใหบ้ รกิ ารรถไฟดว่ น Express เนอื่ ง ระบายอากาศ อาจสง่ ผลเสยี รนุ แรง และเหตุ เพราะหลายเหตผุ ล สว่ นหนงึ่ กม็ าจากปญั หา วนั นคี้ อื สญั ญาณเตอื นทตี่ อ้ งระวงั การซอ่ มบำ� รงุ ทำ� ใหม้ กี ารดดั แปลงสภาพรถไฟ Express มาใหบ้ รกิ ารแบบ City Line 8. ปญั หาของ SARL ดผู วิ เผนิ เปน็ เรอื่ ง การซอ่ มบำ� รงุ แตถ่ า้ มองลกึ ๆ มองยาวๆ นคี่ อื เทา่ ทผ่ี มทราบ ขณะนจ้ี อดเสยี ไปแลว้ เรอ่ื งโครงสรา้ งองคก์ ร เรอื่ งการบรหิ ารจดั การ 2 ขบวน วง่ิ ได้ 7 ขบวน แตเ่ อาเขา้ จรงิ ๆ กม็ ี เรอ่ื งยทุ ธศาสตร์ ไลเ่ รยี งไปจนถงึ เรอ่ื งความไม่ รถว่ิงได้แน่ๆ 5-6 ขบวน ด้วยสภาพความ พร้อมของไทยเอง ในการจะรับมือกับระบบ พรอ้ ม 60-70% ขนสง่ ระบบรางทจี่ ะมขี นาดใหญข่ น้ึ ๆ 6. ผมยงั ยนื ยนั คำ� พดู เดมิ ทเ่ี คยพดู ไว้ เรอ่ื งแคน่ ปี้ จั จบุ นั ยงั แกไ้ มไ่ ด้ แลว้ เรอ่ื ง เมอื่ เดอื นสงิ หาคม 2557 วา่ ระบบตรวจสอบ ในอนาคตจะแกก้ นั ไดอ้ ยา่ งไร ความพร้อมของ SARL จะไม่ยอมให้รถท่ีมี ปญั หาออกไปวงิ่ แตก่ ารไมผ่ า่ นการซอ่ มบำ� รงุ 9. SARL อยใู่ นสภาพวกิ ฤติ เวลาได้ หนกั ทะลไุ ปถงึ 1.6-1.7 ลา้ นกโิ ลเมตร ยอ่ ม พสิ จู นด์ ว้ ยตวั มนั เองแลว้ วา่ เงอ่ื นไขการบรหิ าร หมายถงึ “ทกุ อยา่ งกำ� ลงั ดำ� เนนิ ไปภายใตค้ วาม จดั การในปจั จบุ นั ไมท่ ำ� ใหท้ งั้ รฟฟท. + รฟท. ไมแ่ นน่ อน” ไมม่ ใี ครรบั รองผลไดน้ ะครบั สามารถทำ� อะไรได้ (ถา้ ทำ� ได้ คงทำ� ไปนานแลว้ ) 7. เหตุสุดวิสัยร้ายแรงอาจจะเกิดได้ นค่ี อื เวลาทที่ างรฐั บาล จะตอ้ งดำ� เนนิ จากความบกพรอ่ งของสภาพราง (แบบเดยี ว การอะไรบางอยา่ ง กอ่ นทท่ี กุ อยา่ งจะสายเกนิ ไป กบั กรณี BTS แตท่ นี่ า่ กลวั กวา่ คอื SARL ไม่
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232