Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือครู หน้าที่พลเมือง ม.3

คู่มือครู หน้าที่พลเมือง ม.3

Published by weerayot, 2020-06-22 07:30:24

Description: คู่มือครู หน้าที่พลเมือง ม.3

Search

Read the Text Version

แจกฟรีเฉพาะครูผู้สอน คมู่ อื ครู อจท. ใชป้ ระกอบการสอนค่กู ับหนงั สือเรยี น เพ่ิม วิธีการสอนเพ่ือยกผลสมั ฤทธ์ิ ผ่านกระบวนการเรียนรู้ 5Es เพิ่ม กจิ กรรมการเรียนรู้ 5 ข้นั Big Five Learning เพม่ิ ข้อสอบเน้นการคิดเพ่ือพัฒนา การเรียนร้อู ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ใหม่ กิจกรรมบรู ณาการทกั ษะชวี ติ และการทำงานตามแนวคิด เศรษฐกจิ พอเพยี ง ภาพปกนม้ี ขี นาดเทา่ กบั หนงั สอื เรยี นฉบบั จรงิ ของนกั เรยี น































































































กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate กระตุนความสนใจ (ยอ จากฉบับนกั เรยี น 20%) ครยู กตวั อยางวัฒนธรรมสากล ๒) ระดับท้องถ่ิน องค์กรในท้องถ่ินต้องให้การส่งเสริมประชาชนให้เห็นคุณค่า ทเ่ี ปน ทีน่ ิยมแพรหลาย เชน ของเอกลักษณ์ไทย ช่วยกันคิดค้น เผยแพร ่ การแตง กาย เทคโนโลยตี า งๆ และน�าภูมิปัญญาของท้องถิ่นออกมาใช้ให้เป็น จากนั้นใหน ักเรียนออกมาเขียน ประโยชน์ อีกทั้งยกย่องผู้ทรงภูมิปัญญาหรือ วฒั นธรรมสากลที่นกั เรียนรูจ ัก ปราชญ์ท้องถ่ิน เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่คน บนกระดาน คนละ 1 อยา ง ทวั่ ไป สาํ รวจคน หา ๓) ระดับบุคคล นักเรียนและ ประชาชนทุกคนสามารถช่วยกันสอดส่องดูแล นกั เรยี นเลือกวัฒนธรรมทางวตั ถุ ถาวรวัตถตุ ่างๆ เช่น โบราณสถาน โบราณวัตถุ ทเี่ ปนวัฒนธรรมสากลมา 1 อยาง วัดวาอาราม เป็นตน้ ซงึ่ ถือเปน็ สมบตั ขิ องชาติ แลวทาํ การคนควาหาประวตั ิ ไม่ให้ถูกท�าลาย ช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าท ่ี ความเปน มา และจดุ กาํ เนดิ เพอ่ื เตรยี ม รวมทงั้ มพี ฤตกิ รรมทเี่ ปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี โดยการ ออกมาอภปิ รายหนา ชัน้ เรียน ใช้ของไทย พูดและเขียนภาษาไทยให้ถูกต้อง ในทองถิ่นแตละภาคมีวัฒนธรรมและภูมิปญญาท่ีมีคุณคา ส่งเสริมของไทย อีกท้ังส่งเสริมชาวต่างชาติ อธิบายความรู มากมาย เชน ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ ท่ีมกี ารทอผา ไหม ใหเ้ รยี นรวู้ ฒั นธรรมไทยอยา่ งกวา้ งขวาง มัดหมที่ ่ขี ึ้นชื่อ นกั เรียนนาํ ขอมูลที่ไดจากการ คน ควา เร่ืองวฒั นธรรมสากลออกมา ò. Ç²Ñ ¹¸ÃÃÁÊÒ¡Å อภปิ รายหนาชั้นเรยี น ระบบอินเทอรเน็ต เปนวัฒนธรรมสากลท่ีคนท่ัวโลก วฒั นธรรมสากลหรอื วฒั นธรรมนานาชาติ นกั เรยี นควรรู ตางยอมรับ และนํามาใชประโยชนทางการสื่อสารและ หมายถึง วัฒนธรรมท่ีเปนท่ียอมรับกันท่ัวไป การสบื คนขอ มลู อยางกวางขวางหรือเปนอารยธรรมท่ีไดรับการ ผา ไหมมัดหมี่ มคี วามโดดเดนท่ี ปฏิบัตติ ามกนั ท่ัวโลก เชน การแตงกายชดุ สากล ลวดลายอันสวยงาม ซ่งึ สรางขนึ้ จาก การใชภ าษาองั กฤษเปน ภาษากลางในการตดิ ตอ มอื ผาไหมมดั หม่ถี ือเปนภูมิปญญา สอื่ สาร การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย การ เกาแกท ี่ถา ยทอดสืบตอ กันมา คาเสรี การใชเครื่องจักรกล ระบบการสื่อสารที่ มากกวา 200 ป และในปจจุบนั ทันสมัย ความรูทางวิทยาศาสตร และมารยาท ไดร ับการยอมรบั จากชาวตา งชาติ ในการสมาคม เปนตน ในหลายประเทศ วัฒนธรรมสากลส่วนใหญ่มีถิ่นก�าเนิดใน @ มุม IT ทวปี ยโุ รปและอเมรกิ า ซง่ึ เปน็ แหลง่ ทมี่ กี ารพฒั นา วิทยาการและเทคโนโลยีมานาน ต้ังแต่คริสต์ ศึกษาคนควา ขอมลู เพิม่ เตมิ ศตวรรษท ี่ ๑๗-๑๘ หรอื ราว ๓๐๐-๔๐๐ ปมี าแลว้ เกี่ยวกับระบบอนิ เทอรเ นต็ ไดท ี่ http://www.bcoms.net 4๒ 42 คูมอื ครู

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate ตอมาชาวตะวันตกไดติดตอคาขายและขยายอิทธิพลไปยังภูมิภาคอ่ืนท่ัวโลกรวมท้ัง สํารวจคน หา ประเทศไทย เราจึงไดรับวัฒนธรรมเหลานี้เขามาเปนสวนหน่ึงของสังคมไทย กอใหเกิดการ ผสมผสานและประยกุ ตใ หส อดคลอ งเหมาะสมกบั สภาพแวดลอ มทางธรรมชาติ สงั คม และคา นยิ ม ครใู หนักเรียนแบง กลุม เพื่อ ของคนไทย วัฒนธรรมจากภายนอกจึงกลายเปน สวนหนึง่ ในการดาํ เนนิ ชีวิตของคนไทย ชว ยกนั คนหาขอ มลู วา ในอดตี ประเทศไทยไดมกี ารตดิ ตอ คาขาย ๒.๑ ความสําคญั ของวฒั นธรรมสากล กบั ชาติตะวนั ตกชาตใิ ดบาง และ ชาตไิ ทยไมไ ดต งั้ อยอู ยา งโดดเดยี่ ว แตผ กู พนั เกย่ี วขอ งกบั สงั คมเพอ่ื นบา น สงั คมตา งภมู ภิ าค แตละประเทศมีการตดิ ตอซ้อื ขาย และสงั คมตา งทวปี มานาน สาํ หรบั ชาตติ ะวนั ตก ชาวโปรตเุ กสเปน ชาตแิ รกทตี่ ดิ ตอ กบั ประเทศไทย สินคา อะไร ในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยไดนําปนไฟและกระสุนดินดํามาใชเม่ือประเทศไทยทําสงครามกับ ประเทศพมา ใน พ.ศ. ๒๐๘๑ สมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราช การใชปนไฟเปนอาวุธเพราะ อธบิ ายความรู มีอํานาจทะลุทะลวงและมีความแมนยําในการสังหารศัตรูสูงกวาการใชดาบ ของาว และกระบอง นับแตนน้ั มาปนไฟจึงเปน อาวุธของทหารไทยในการทําศึกสงคราม นกั เรยี นนําความรูท่ีไดจากการ ตอ มาในสมยั ตน รตั นโกสนิ ทร พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา เจา อยหู วั ทรงตกลงทาํ สนธสิ ญั ญา คน ควา เรื่องการทาํ การคา ระหวา ง เบาวริงกับประเทศอังกฤษใน พ.ศ. ๒๓๙๘ กอใหเกิดการคาเสรีกับตางประเทศข้ึน (ในอดีตน้ัน ประเทศไทยกบั ประเทศตะวันตก ประเทศไทยมีการผูกขาดการคากับตางประเทศโดยกรมพระคลังสินคา) และตอมาประเทศตางๆ มาอธิบายในประเด็นวา จากการ ในยุโรปก็เขามาทําสนธิสัญญากับประเทศไทยในลักษณะเดียวกัน กอใหเกิดความสัมพันธทาง คาขายในอดีตนั้น สงผลอยางไรตอ การทตู และการคา ของไทยเปน ไปอยา งกวา งขวาง วัฒนธรรมและการดาํ เนินชีวิตของ ดงั นั้น ประเทศไทยจึงนําศลิ ปะ วทิ ยาการแขนง คนไทย ตา งๆ จากยโุ รปเขา มาใชใ นการปฏริ ปู ประเทศให เกดิ ความทนั สมยั ทง้ั นส้ี ว นหนงึ่ เพอ่ื ใหป ระเทศ ขยายความเขา ใจ มคี วามเจรญิ รงุ เรือง ไมตกเปนอาณานิคมของ มหาอํานาจตะวันตกเฉกเชนประเทศเพื่อนบาน นกั เรยี นวิเคราะหถงึ แนวทาง ท่ียังคงยึดติดกับวัฒนธรรมและประเพณีด้ังเดิม ในการเชื่อมโยงการทาํ การคา กับ จนเปนเหตุใหประเทศตะวันตกเขายึดครองได ชาวตา งชาติ ควบคกู บั การเผยแพร โดยงาย วฒั นธรรมไทย เพือ่ ใหชาวตางชาติ ตวั อยา งสาํ คญั ของการนาํ ศลิ ปะ วทิ ยาการ ยอมรบั และมีความนยิ ม โดยจัดทํา และเทคโนโลยีจากประเทศตะวันตก หรือที่ เปนผงั ความคิดเพอ่ื นําเสนอหนา เรียกวา วัฒนธรรมสากล มาใชในการปฏิรูป ชั้นเรยี น ประเทศในยุครชั กาลที่ ๔ และรัชกาลท่ี ๕ แหง หลังจากที่ประเทศไทยมีการคาเสรีระหวางประเทศในสมัย กรงุ รตั นโกสินทร เชน รัชกาลที่ ๔ นับเปนจุดเริ่มตนในการรับเอาวิทยาการท่ี @ มุม IT ทนั สมยั จากตา งประเทศมาใชอ ยา งแพรห ลายจนถงึ ปจ จบุ นั ศึกษาคน ควา ขอมูลเพิม่ เตมิ เก่ียวกบั สนธิสญั ญาเบาวรงิ ไดที่ http://www.m-culture.go.th ๔๓ คมู ือครู 43


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook