Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1. ปริญญานิพนธ์

1. ปริญญานิพนธ์

Published by Lampang special education center, 2021-09-22 08:43:12

Description: 1. ปริญญานิพนธ์

Search

Read the Text Version

1128904766 137 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 และเนน้ เร่อื งความปลอดภยั ของการใชอ้ ปุ กรณใ์ นการทางาน ดา้ นการวดั และประเมนิ ผลควรมีการ ประเมินก่อนเรียน ระหวา่ งเรียน และหลงั เรียน ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 1 ...“ กระบวนการจดั การเรียนรูค้ วรสอนเป็นขนั้ เป็นตอนของ การทางาน และการวดั และประเมินผลควรมีการประเมินก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลงั เรียน”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 2 ...“ กระบวนการจดั การเรียนรูค้ วรสอนควรจัดกระบวนการ จดั การเรยี นรูโ้ ดยสาธิตใหเ้ ดก็ ดกู ่อน และใหเ้ ดก็ ทาตาม”... ผูเ้ ชยี่ วชาญคนที่ 3...“ ควรมแี รงเสริม”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 4 ...“ กระบวนการจดั การเรียนรูค้ วรสอนโดยการวเิ คราะหง์ าน และกระตนุ้ เตอื นบา้ ง”... 9. หลกั สตู รพฒั นาทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทาง สติปัญญาควรมีองคป์ ระกอบเหมือนกับหลกั สูตรท่วั ไป ควรสอนครบทุกงานตามท่ีกาหนดไวใ้ น นิยามศพั ท์ ขนั้ ตอนการสอนควรมีขนั้ นา ขนั้ สอน ขนั้ สรุป และอายทุ ่ีเหมาะสม คือ 13 ปีขนึ้ ไป ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 1 ...“ องคป์ ระกอบควรเหมือนหลกั สูตรท่วั ไป ควรสอนการทา ความสะอาดบา้ นโดยเฉพาะหอ้ งนอนของตนเอง การทาอาหารทตี่ นเองชอบและไม่ ยากจนเกินไป ทกั ษะการลา้ งจานชามที่ตนเองใชก้ ิน ซักเสือ้ ผา้ ของตนเอง ลา้ ง หอ้ งน้าที่ตนเองใช้ ขั้นตอนการสอนควรมีขั้นนา ขั้นสอน ขั้นสรุป และอายุที่ เหมาะสมคือเด็กเขา้ สู่วัยรุ่นหรือเร่ิมเขา้ สู่ระดบั มธั ยมศึกษาซ่ึงเขาน่าจะมีความ พรอ้ มเรอื่ งการช่วยเหลอื ตนเอง”... ผเู้ ชยี่ วชาญคนที่ 2...“ อายทุ เี่ หมาะสม คอื 13 ปีขนึ้ ไป”... ขอ้ เสนอแนะอ่ืน ๆ พบวา่ 1. ควรมีการสารวจสภาพครอบครวั ของเดก็ ก่อนเพ่ือประเมินความพรอ้ มดา้ นสถานท่ี และอปุ กรณท์ ่ีใชใ้ นการทางานบา้ น เพ่ือเดก็ จะไดป้ ระยกุ ตจ์ ากหอ้ งเรียนสบู่ า้ นได้ 2. ควรเลือกใชอ้ ปุ กรณท์ ่ีไมเ่ กิดอนั ตรายกบั เด็ก และสอนเร่อื งการระมดั ระวงั อนั ตราย จากการทางานดว้ ย 3. ไมค่ วรสอนเนือ้ หาท่ีมากเกินความจาเป็นของเดก็ เพ่ือใหเ้ ดก็ รูส้ ึกประสบผลสาเรจ็ ในการทางานไมล่ า้ ไปเสียกอ่ น

1128904766 138 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 จากระยะท่ี 1 การศกึ ษาสภาพปัจจบุ นั ความคาดหวงั และแนวทางการเสรมิ สรา้ งทกั ษะ การดารงชีวติ อิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา สรุปไดว้ า่ สภาพปัจจุบนั ของการเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสติปัญญา พบว่าสถานศกึ ษามีความจาเป็นอย่างมากในการเสริมสรา้ งทักษะ การดารงชีวิตอิสระในบ้านสาหรับเด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา เน่ืองจากทักษะการ ดารงชีวติ อิสระในบา้ นจะสนองตอบความตอ้ งการจาเป็นในชีวิตจรงิ ของเดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทาง สตปิ ัญญามากขนึ้ และเดก็ จะสามารถทางานบา้ นไดด้ ว้ ยตนเอง มีความภาคภมู ใิ จในตนเองและลด ภาระของผูป้ กครอง ปัจจุบนั มีการนาหลักสูตรการพฒั นาทกั ษะการดารงชีวิตไปใชใ้ นบางศนู ย์ การศกึ ษาพิเศษ เด็ก ๆ สว่ นใหญ่จะไดเ้ รียนทกั ษะการช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจาวนั เชน่ การ ดแู ลสุขอนามยั ของตนเอง เป็นตน้ ส่วนทกั ษะการทางานบา้ นจะไมไ่ ดส้ อนจริงจงั ซ่ึงครูจะใหเ้ ด็ก บางคนชว่ ยทางานบา้ งในสถานการณจ์ รงิ เม่ือครูตอ้ งทางานนนั้ ๆ ในหอ้ งเรียน เชน่ กวาดหอ้ งเรียน ซกั ผา้ ขีร้ วิ้ ชว่ ยเชด็ โต๊ะเรียน หรือลา้ งถาดอาหารเองตอนทานขา้ วเสร็จแลว้ เป็นตน้ สอนโดยใหเ้ ดก็ ทาตามแบบครู และเดก็ ทางานเหล่านีเ้ ม่ือครูส่งั เท่านนั้ สถานศกึ ษาสว่ นใหญ่ยงั ไมม่ ีหลกั สตู รการ พัฒนาทักษะการดารงชีวิตใชส้ อนในปัจจุบนั เป็นการเฉพาะ ยกเว้นบางศูนยก์ ารศึกษาพิเศษ ปัญหาท่ีพบจากการใช้ คือ เนือ้ หาในหลกั สูตรยังไม่ครอบคลุมงานบา้ นทงั้ หมดและยงั ไม่มีแนว ทางการจดั กิจกรรม ครูเขา้ ออกบอ่ ยและไม่เขา้ ใจการใชห้ ลกั สตู รเท่าท่ีควร เน่ืองจากท่ีผ่านมาใช้ เพียงหลกั สตู รชว่ ยเหลือระยะแรกเรม่ิ ซง่ึ เนน้ พฒั นาการ ความคาดหวงั ของผเู้ ก่ียวขอ้ งท่ีมีตอ่ การเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา พบว่า ผูม้ ีส่วนเก่ียวขอ้ งคาดหวงั ต่อกระบวนการ จัดการเรียนรูค้ วรสอนเป็นขนั้ เป็นตอนของการทางาน มีการเตรียมอุปกรณ์ ลงมือทา และเก็บ อปุ กรณท์ กุ ครงั้ ครูควร วเิ คราะหง์ านก่อน ครูควรมีการสาธิตการสอนรวมทงั้ มีการกระตนุ้ เตือนบา้ ง ตลอดจนมีแรงเสริมใหก้ ับเดก็ และความปลอดภยั ของการใชอ้ ุปกรณ์ ดา้ นการวดั และประเมินผล ของหลกั สตู รพฒั นาทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นของเด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา ควร มีการประเมินก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลงั เรียนดว้ ย การประเมินระหว่างเรียนควรเป็นการ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ จากการทางานจริงของเดก็ และควรประเมินครอบคลมุ ทงั้ พทุ ธิพสิ ยั ทกั ษะ พิสยั และจิตพิสยั เกณฑก์ ารประเมินควรสมั พนั ธก์ ับเกณฑก์ ารประเมินตามมาตรฐานการศึกษา เพ่ือใหส้ อดคลอ้ งกับการประเมินคณุ ภาพภายใน ดา้ นผลผลิตท่ีไดจ้ ากหลกั สตู รพฒั นาทกั ษะการ ดารงชีวิตอิสระในบา้ นในดา้ นความรู้ ทกั ษะ และเจตคติของเด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา คอื สามารถบอกไดว้ า่ ทาอยา่ งไร ลงมือทางานบา้ นของตนเองได้ และมีความสขุ ในการทางานบา้ น

1128904766 139 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 มีความกระตอื รือรน้ ไมเ่ ฉ่ือย เตม็ ใจทา ไมต่ อ้ งพง่ึ พงิ คนในบา้ นตลอดเวลา จนถึงสามารถหารายได้ จากการทางานบา้ นได้ แนวทางการเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวติ อสิ ระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ ง ทางสติปัญญา พบว่า ทักษะการดารงชีวิตอิสระในบ้านสาหรับเด็กท่ีมีความบกพร่องทาง สติปัญญาท่ีกาหนดไว้เพียงพอแลว้ ประกอบดว้ ยทักษะการทางานบา้ น ทักษะทาปรุงอาหาร ทกั ษะการลา้ งภาชนะ ทกั ษะการซกั ผา้ และทกั ษะการลา้ งหอ้ งนา้ เน่ืองจากเหมาะสมกบั ระดบั อายุ และระดบั ความสามารถของเด็ก ดา้ นกระบวนการจดั การเรียนรูค้ วรสอนเป็นขนั้ เป็นตอนของการ ทางาน ครูควรวิเคราะหง์ านก่อน มีการสาธิตการสอนรวมทงั้ มีการกระตนุ้ เตือนบา้ งตลอดจนมีแรง เสริมใหก้ ับเด็กและเน้นเร่ืองความปลอดภัยของการใชอ้ ุปกรณ์ในการทางาน ด้านการวัดและ ประเมินผลควรมีการประเมินก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลงั เรียน หลกั สตู รพฒั นาทกั ษะการ ดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญาควรมีองคป์ ระกอบเหมือนกบั หลกั สตู รท่วั ไป ควรสอนครบทกุ งานตามท่ีกาหนดไวใ้ นนิยามศพั ท์ ขนั้ ตอนการสอนควรมีขนั้ นา ขนั้ สอน ขนั้ สรุป และอายทุ ่ีเหมาะสม คอื 13 ปีขนึ้ ไป ระยะท่ี 2 ผลการสร้างหลักสูตรเพอื่ เสรมิ สร้างทักษะการดารงชวี ติ อสิ ระในบ้านสาหรับ เดก็ ทม่ี ีความบกพร่องทางสตปิ ัญญา การสรา้ งหลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสติปัญญาในระยะท่ี 2 นี้ ผวู้ ิจยั ดาเนินการรายงานผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล 2 ขนั้ ตอน คือ 1) สรา้ งหลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ ง ทางสตปิ ัญญา 2) ประเมินความเหมาะสมของหลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระใน บา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา พบวา่ 1. หลักสูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรับเด็กท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา พบวา่ มีองคป์ ระกอบของหลกั สตู รครบทงั้ 4 องคป์ ระกอบ ดงั ตาราง 22

140 ตาราง 22 องคป์ ระกอบของหลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวติ อสิ ระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา องคป์ ระกอบของหลกั สตู ร ขอบเขตเนือ้ หา เนือ้ หา ปก 1. การจดั การศกึ ษาในศนู ย์ การศกึ ษาพเิ ศษ คานา 2. ลกั ษณะของเดก็ ท่ีมีภาวะ 1128904766 สารบญั บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 1. จดุ มงุ่ หมายของหลกั สตู ร 1.1 เหตผุ ลและความจาเป็น 3. สอนทกั ษะวิชาการท่ีนาไปใช้ ไดจ้ รงิ (Functional SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 Academic Skills) 4. หลกั สตู รเชงิ การนาไปใชใ้ น ชีวติ (Functional Curriculum Model) 5. หลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ ง ทกั ษะการดารงชีวิตอิสระใน บา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา เนน้ การสอนกระบวนการทางาน ท่ีมีการเตรียมการทางาน และจบกระบวนการทางาน อยา่ งเป็นขนั้ เป็นตอน โดยใช้ รูปแบบการเรียนการสอน ทางตรง

ตาราง 22 (ตอ่ ) 141 องคป์ ระกอบของหลกั สตู ร ขอบเขตเนือ้ หา เนือ้ หา หลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะ 1. จดุ มงุ่ หมายของหลกั สตู ร 1.2 วสิ ยั ทศั น์ การดารงชีวติ อสิ ระในบา้ น สาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ ง (ตอ่ ) ทางสตปิ ัญญามงุ่ พฒั นาผเู้ รียน ท่ีมีความบกพรอ่ งทาง 1128904766 สตปิ ัญญาใหม้ ีความสามารถ ในการทางานบา้ นไดต้ าม SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 1.3 หลกั การ ขนั้ ตอนและสามารถนาไป ปฏิบตั ไิ ดใ้ นสถานท่ีท่ีตา่ ง ออกไป โดยมงุ่ เนน้ ผเู้ รยี นเป็น สาคญั บนพืน้ ฐานความเช่ือวา่ ทกุ คนสามารถเรียนรูแ้ ละ พฒั นาตนเองไดเ้ ตม็ ตาม ศกั ยภาพ เป็นหลกั สตู รมงุ่ สง่ เสรมิ ใหเ้ ด็ก ท่ีมีความบกพรอ่ งทาง สตปิ ัญญาพฒั นาตาม ธรรมชาติ เตม็ ศกั ยภาพ เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั มีโครงสรา้ ง ความยืดหย่นุ ทงั้ ดา้ นสาระการ เรียนรู้ เวลาและการจดั การ เรียนรู้ และเนน้ การจดั กิจกรรม การเรยี นการสอนตามขนั้ ตอน ของการทางาน

142 ตาราง 22 (ตอ่ ) องคป์ ระกอบของหลกั สตู ร ขอบเขตเนือ้ หา เนือ้ หา 1. จดุ มงุ่ หมายของหลกั สตู ร 1.4 จดุ มงุ่ หมาย ผเู้ รยี นท่ีมีความบกพรอ่ งทาง (ตอ่ ) สตปิ ัญญาสามารถทางานบา้ น ไดต้ ามขนั้ ตอนและสามารถ 1128904766 นาไปปฏิบตั ไิ ดใ้ นสถานท่ีท่ีตา่ ง ออกไป 1.5 คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1. ฟังคาส่งั เป็น SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 2. รบั รูแ้ ละยอมรบั 3. ปฏิบตั ิตาม 4. อดทนทางานจนเสรจ็ 5. ปอ้ งกนั อนั ตรายท่ีจะเกิดกบั ตนเองหรือผอู้ ่ืน 6. เพลิดเพลนิ ขณะทางาน 7. มีเจตคตทิ ่ีดแี ละถกู ตอ้ งตอ่ การทางานบา้ น 8. แสดงความช่ืนชมผลงาน 2. เนือ้ หาสาระ 2.1 มาตรฐานการเรียนรู้ 1. สาระการเรียนรูก้ ลมุ่ ทกั ษะ การทาความสะอาดบา้ น 2. สาระการเรยี นรูก้ ลมุ่ ทกั ษะ การปรุงอาหาร 3. สาระการเรียนรูก้ ลมุ่ ทกั ษะ การทาความสะอาดภาชนะ 4. สาระการเรียนรูก้ ลมุ่ ทกั ษะ การซกั เสือ้ ผา้

143 ตาราง 22 (ตอ่ ) องคป์ ระกอบของหลกั สตู ร ขอบเขตเนือ้ หา เนือ้ หา 2. เนือ้ หาสาระ (ตอ่ ) 2.1 มาตรฐานการเรยี นรู้ (ตอ่ ) 5. สาระการเรียนรูก้ ลมุ่ ทกั ษะ การทาความสะอาดหอ้ งนา้ 2.2 สาระการเรียนรู้ 1. สาระการเรียนรูท้ กั ษะการทา 1128904766 ความสะอาดบา้ น โดยมี กระบวนการทางานจาก SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 เร่มิ ตน้ จนสนิ้ สดุ งาน ไดแ้ ก่ (1) ปัดหยากไย่ (2) ปัดและ เชด็ (3) กวาดพืน้ และ (4) ถู พืน้ 2. สาระการเรียนรูท้ กั ษะการ ปรุงอาหาร โดยมี กระบวนการทางานจาก เร่มิ ตน้ จนสิน้ สดุ งาน ไดแ้ ก่ (1) เตรยี มอปุ กรณ์ (2) ลง มือทา (3) เก็บอปุ กรณ์ 3. สาระการเรียนรูก้ ลมุ่ ทกั ษะ การทาความสะอาดภาชนะ โดยมีกระบวนการทางาน จากเรม่ิ ตน้ จนสิน้ สดุ งาน ไดแ้ ก่ (1) เตรยี มอปุ กรณ์ (2) ลงมือทา และ (3) เก็บอปุ กรณ์

144 ตาราง 22 (ตอ่ ) องคป์ ระกอบของหลกั สตู ร ขอบเขตเนือ้ หา เนือ้ หา 4. สาระการเรียนรูก้ ลมุ่ ทกั ษะ 2. เนือ้ หาสาระ (ตอ่ ) 2.2 สาระการเรียนรู้ (ตอ่ ) การซกั เสือ้ ผา้ โดยมี 1128904766 กระบวนการทางานจาก เร่มิ ตน้ จนสนิ้ สดุ งาน ไดแ้ ก่ SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 2.3 โครงสรา้ งของหลกั สตู ร (1) เตรียมอปุ กรณ์ (2) ลง มือซกั และ (3) เก็บอปุ กรณ์ 5. สาระการเรียนรูก้ ลมุ่ ทกั ษะ การทาความสะอาดหอ้ งนา้ โดยมีกระบวนการทางาน จากเรม่ิ ตน้ จนสิน้ สดุ งาน ไดแ้ ก่ (1) เช็ดกระจก (2) ลา้ งผนงั หอ้ งนา้ (3) ลา้ ง สว้ ม และ (4) ลา้ งพืน้ หอ้ งนา้ 1. กลมุ่ ทกั ษะการทาความ สะอาดบา้ น เวลาเรยี น 40 ช่วั โมง นา้ หนกั คะแนน 30 2. กลมุ่ ทกั ษะการปรุงอาหาร เวลาเรยี น 20 ช่วั โมง นา้ หนกั คะแนน 15

145 ตาราง 22 (ตอ่ ) 1128904766 องคป์ ระกอบของหลกั สตู ร ขอบเขตเนือ้ หา เนือ้ หา 2. เนือ้ หาสาระ (ตอ่ ) 2.3 โครงสรา้ งของหลกั สตู ร 3. กลุ่มทักษะการทาความ SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 (ตอ่ ) 3. วธิ ีจดั การเรียนการสอน สะอาดภาชนะ 2.4 ตารางวิเคราะห์ เวลาเรยี น 20 ช่วั โมง มาตรฐานการเรยี นรู้ นา้ หนกั คะแนน 15 3.1 แนวทางการจดั การเรยี นรู้ 4. กลมุ่ ทกั ษะการซกั เสือ้ ผา้ เวลาเรียน 30 ช่วั โมง นา้ หนกั คะแนน 15 5. กลุ่มทักษะการทาความ สะอาดหอ้ งนา้ เวลาเรียน 40 ช่วั โมง นา้ หนกั คะแนน 25 ความรู้ (K) ทกั ษะท่ีสาคญั (P) คณุ ลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ (A) สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น (C) หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 บา้ นของฉนั นา่ อยู่ แผนการจดั การเรียนรู้ จานวน 4 แผน แผนการจดั การเรียนรูย้ ่อย จานวน 12 แผน

146 ตาราง 22 (ตอ่ ) 1128904766 องคป์ ระกอบของหลกั สตู ร ขอบเขตเนือ้ หา เนือ้ หา 3. วิธีจัดการเรียนการสอน 3.1 แนวทางการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ 2 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 อาหารของฉนั นา่ กิน (ตอ่ ) (ตอ่ ) แผนการจดั การเรียนรูย้ อ่ ย จานวน 3 แผน 4. การวดั และประเมนิ ผล 3.2 ส่ือและเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรู้ 3 ส่ิงอานวยความสะดวก ถว้ ยจานของฉนั นา่ หยิบใช้ 3.3 แหลง่ เรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรูย้ อ่ ย การวดั และประเมนิ ผล จานวน 3 แผน หนว่ ยการเรียนรู้ 4 เสือ้ ผา้ ของฉนั นา่ สวมใส่ แผนการจดั การเรียนรูย้ ่อย จานวน 3 แผน หนว่ ยการเรียนรู้ 5 หอ้ งนา้ ของฉนั สะอาดจงั แผนการจดั การเรียนรู้ จานวน 4 แผน แผนการจดั การเรียนรูย้ ่อย จานวน 8 แผน ส่ือของจรงิ ส่ือสนบั สนนุ การเรียนรูผ้ า่ นการ มอง ส่ือการสอนออนไลน์ จาลองหอ้ งเรยี นเสมือนบา้ น ประเมินผลก่อนและหลงั สอน เกณฑก์ ารประเมนิ 5 ระดบั การวดั และประเมินผล 5 ระดบั

147 ตาราง 22 (ตอ่ ) องคป์ ระกอบของหลกั สตู ร ขอบเขตเนือ้ หา เนือ้ หา ประเมนิ ขณะสอน 4. การวัดและประเมินผล การวดั และประเมนิ ผล (ตอ่ ) เกณฑก์ ารประเมนิ ความรู้ 5 ระดบั (ตอ่ ) เ ก ณ ฑ์ก า ร ป ร ะ เ มิ น ทัก ษ ะ กระบวนการ 5 ระดบั 1128904766 เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ 5 ระดบั SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 เอกสารอา้ งอิง 2. ความเหมาะสมของหลักสูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา พบวา่ 2.1 องคป์ ระกอบของหลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญามีความถูกตอ้ งและครบถว้ นตามทฤษฎีหลกั สตู ร แต่ ควรการกาหนดโครงสร้างเวลาเรียนในเนื้อหาสาระให้ครอบคลุม และอธิบายการวัดและ ประเมินผลใหช้ ดั เจน ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชีย่ วชาญคนที่ 1...“ องคป์ ระกอบทงั้ 4 มีความครบถว้ นของทฤษฎีหลกั สูตร แตเ่ นื้อหาสาระควรมกี ารกาหนดโครงสรา้ งเวลาเรียนให้ครอบคลมุ ”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 2...“ องค์ประกอบทงั้ 4 มีความครบถว้ นของทฤษฎีหลกั สูตร ควรอธิบายการวดั และประเมินผลใหเ้ หน็ ภาพมากขนึ้ ”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 3...“ องค์ประกอบทงั้ 4 มีความครบถว้ นของทฤษฎีหลกั สูตร แตเ่ นื้อหาสาระควรมกี ารกาหนดโครงสรา้ งเวลาเรยี นให้ครอบคลุม”... 2.2 จุดมุ่งหมายของหลักสูตร เนือ้ หาสาระ การจดั การเรียนรู้ และการวัดและ ประเมนิ ผล คอ่ นขา้ งมีความสอดคลอ้ งกนั ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 1...“ จุดมุ่งหมายของหลักสูตร เนือ้ หาสาระ การจดั การเรียนรู้ และการวดั และประเมนิ ผล มีความสอดคลอ้ งกนั ”...

1128904766 148 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 2...“ จุดมุ่งหมายของหลักสูตร เนือ้ หาสาระ การจดั การเรียนรู้ และการวดั และประเมินผล มีความสอดคลอ้ งกนั ”... 2.3 หลกั สูตรมีการกาหนดเน้ือหาสาระมีความถูกต้องตามหลักวิชาการ ทงั้ ในเชิง ของทฤษฎีของหลกั สตู รและในเชิงของการจดั การศกึ ษาพิเศษ ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผเู้ ชยี่ วชาญคนที่ 1...“ การกาหนดเน้อื หาสาระมคี วามถูกต้องตามหลักวชิ าการ ทงั้ ในเชิงของทฤษฎีของหลกั สูตรและในเชิงของการจดั การศกึ ษาพเิ ศษ เช่น การสอน ตรงจะช่วยใหเ้ ด็กทางานไดเ้ ป็นขนั้ เป็นตอน การวิเคราะหง์ านช่วยใหเ้ ดก็ ทางานได้ ทลี ะขนั้ และมีการใหแ้ รงเสริม”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 2...“ การกาหนดเนื้อหาสาระมีความถูกต้องตามแนวคิดและ ทฤษฎีการจดั การศกึ ษาพเิ ศษ”... ผูเ้ ชีย่ วชาญคนที่ 3...“ การกาหนดเน้ือหาสาระมีความถูกต้องตามหลักของการจัด การศกึ ษาสาหรับเดก็ พกิ าร”... 2.4 แผนการจัดการเรียนรูน้ ่าจะส่งเสริมการบรรลุจุดมุ่งหมายของหลักสูตร เน่ืองจากมีการใชท้ ฤษฎีทางการศกึ ษาพิเศษ เช่น รูปแบบการจดั การเรียนการสอนแบบตรง การ วิเคราะหง์ าน การให้แรงเสริม การใช้ส่ือทางสายตา เป็นตน้ รวมทัง้ มีการประเมินผลทัง้ ก่อน ระหวา่ งและหลงั เรยี น ดงั คากล่าวของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 1...“ แผนการจัดการเรียนรู้นา่ จะสง่ เสริมการบรรลจุ ุดม่งุ หมาย ของหลกั สูตร เนอื่ งจากมีการใชท้ ฤษฎีทางการศึกษาพเิ ศษ เช่น รูปแบบการจดั การ เรียนการสอนแบบตรง การวเิ คราะหง์ าน การใหแ้ รงเสรมิ เป็นตน้ ”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 2...“ แผนการจัดการเรียนรู้นา่ จะสง่ เสริมการบรรลจุ ุดม่งุ หมาย ของหลกั สูตร เนอื่ งจากมีการช่วยเหลอื ใหเ้ ด็กไดเ้ รียนไดง้ า่ ยขึน้ เช่น การใชส้ ือ่ ทาง สายตา การใชว้ สั ดจุ ริงมาเป็นสอื่ การสอน มีการสาธิตการสอนและใหเ้ ดก็ ไดล้ งมือ ฝึกจรงิ ”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 3...“ แผนการจัดการเรียนรู้น่าจะสง่ เสริมการบรรลจุ ุดม่งุ หมาย ของหลกั สูตร เนอื่ งจากมีการประเมินความสามารถพนื้ ฐานก่อนสอน มกี ารประเมิน ระหว่างเรียนทาใหค้ รูสามารถแก้ไขปัญหาได้ และมีการประเมินผลหลังเรียน เพอื่ ใหเ้ ปรียบเทยี บพฒั นาการได”้ ...

1128904766 149 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 ผูเ้ ชีย่ วชาญคนที่ 4...“ แผนการจัดการเรียนรู้น่าจะสง่ เสริมการบรรลจุ ุดม่งุ หมาย ของหลกั สูตร เนือ่ งจากมีการออกแบบใหม้ ีการจัดการเรียนการสอนแบบตรง การ วเิ คราะหง์ าน การใหแ้ รงเสรมิ และการใชส้ อื่ ทางสายตา”... 2.5 การวัดและประเมินผลมีความถูกตอ้ ง เป็นระบบ น่าเช่ือถือ เพราะมีการ ประเมินผลทงั้ ก่อน ระหวา่ งและหลงั เรียน รวมทงั้ มีเกณฑท์ ่ีสามารถวดั ไดเ้ หมาะกับเด็กพิเศษ แต่ การประเมินระหวา่ งเรียนควรวดั ทงั้ พทุ ธิพสิ ยั ทกั ษะพิสยั และจิตพิสยั ดงั คากล่าวของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผู้เชี่ยวชาญคนที่ 1...“ การวัดและประเมินผลมีความถูกต้อง เป็ นระบบ นา่ เชือ่ ถือ เพราะมีการประเมินผลทงั้ ก่อน ระหว่างและหลงั เรียน รวมทงั้ มีเกณฑ์ที่ สามารถวดั ได้ แตก่ ารประเมินระหว่างเรียนควรวดั ทงั้ พทุ ธิพสิ ยั ทกั ษะพสิ ยั และจิต พสิ ยั ”... ผู้เชี่ยวชาญคนที่ 2...“ การวัดและประเมินผลมีความถูกต้อง เป็ นระบบ น่าเชื่อถือ เพราะมีการประเมินผลทงั้ ก่อน ระหว่างและหลงั เรียน เหมาะกับเด็ก พเิ ศษ”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 3“ หลกั สูตรเพอื่ เสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ทมี่ ีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา มคี วามถูกตอ้ ง อยูใ่ นระดบั มาก ” 2.6 จุดมุ่งหมายของหลักสูตร ฯ มีความชัดเจนเป็นรูปธรรม สามารถวัดและ ประเมินผลไดเ้ หมาะสมกบั กลมุ่ เปา้ หมาย ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 1...“ จุดมุ่งหมายของหลักสูตร ฯ มีความชดั เจนเป็นรูปธรรม สามารถวดั และประเมนิ ผลได้ เหมาะสมกบั กลมุ่ เปา้ หมาย”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 2...“ จุดมุ่งหมายของหลักสูตร ฯ มีความเหมาะสมกบั เด็กทีม่ ี ความบกพร่องทางสตปิ ัญญา”... 2.7 เนือ้ หาสาระของหลกั สตู ร ฯ มีความครอบคลมุ สาระสาคญั และเหมาะสมกบั กลมุ่ เปา้ หมาย ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผู้เชี่ยวชาญคนที่ 1...“ เน้ือหาสาระของหลักสูตร ฯ มีความครอบคลุม สาระสาคญั และเหมาะสมกบั กลมุ่ เปา้ หมาย”... ผู้เชี่ยวชาญคนที่ 2...“ เน้ือหาสาระของหลักสูตร ฯ มีความครอบคลุม สาระสาคญั และเหมาะสมกบั เดก็ ทมี่ ีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา”...

1128904766 150 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 2.8 การออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้มีความเหมาะสมกับเด็กท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชีย่ วชาญคนที่ 1...“ การออกแบบแผนการจัดการเรียนรูม้ ีความเหมาะสมกบั เดก็ ทมี่ คี วามบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 2...“ การออกแบบแผนการจัดการเรียนรูม้ ีความเหมาะสมกับ กลมุ่ เปา้ หมาย”... 2.9 ส่ือและแหล่งเรียนรูม้ ีความเหมาะสมกบั กลมุ่ เปา้ หมาย ส่งเสรมิ กิจกรรมการ เรียนการสอน และนาไปใชใ้ นสถานการณจ์ รงิ ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผเู้ ชีย่ วชาญคนที่ 1...“ มคี วามเหมาะสมกบั เดก็ ทมี่ ีความบกพร่องทางสตปิ ัญญา เนอื่ งจากใชส้ อื่ ของจริง”... ผูเ้ ชีย่ วชาญคนที่ 2...“ มีความเหมาะสมกบั กลมุ่ เปา้ หมาย ส่งเสริมกิจกรรมการ เรยี นการสอน และนาไปใชใ้ นสถานการณ์จริง”... 2.10 แบบประเมินก่อนและหลังการเสริมสร้างทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น ฯ และแบบประเมินตามสภาพจริง ฯ ครอบคลุมส่ิงท่ีตอ้ งการประเมิน เน่ืองจากมีการประเมินก่อน เรียน ระหวา่ งเรียน และหลงั เรยี น มีความเหมาะสมกบั กลมุ่ เปา้ หมายเน่ืองจากมีการวิเคราะหง์ าน อยา่ งละเอียด ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 1...“ ครอบคลุมส่ิงที่ต้องการประเมิน และเหมาะสมกับ กลมุ่ เปา้ หมาย”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 2...“ ครอบคลุมส่งิ ทตี่ อ้ งการประเมิน เพราะมีการประเมินทงั้ กอ่ น ระหวา่ ง และหลงั ”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 3 “หลกั สูตรเพื่อเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา มีความเหมาะสมอยู่ในระดบั มาก ทสี่ ดุ ” 2.11 หลกั สูตร ฯ สามารถนาไปใชไ้ ดจ้ ริงในศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ สงั กัดสานัก บริหารงานการศึกษาพิเศษ เน่ืองจากใช้งบประมาณน้อย ส่ือการสอนหาง่าย มีผู้สอนเป็นครู การศกึ ษาพิเศษ และมีกลมุ่ เปา้ หมายท่ีมีความตอ้ งการจาเป็นตอ้ งเรียนทกั ษะการดารงชีวิตอิสระ ในบา้ น รวมทงั้ มีมีขนั้ ตอนการสอนชดั เจน ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้

1128904766 151 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 ผูเ้ ชีย่ วชาญคนที่ 1...“ นาไปใชไ้ ดจ้ ริง เพราะใชง้ บประมาณนอ้ ย มีครูการศกึ ษา พเิ ศษ และมกี ลมุ่ เปา้ หมายทมี่ ีความตอ้ งการจาเป็นตอ้ งเรยี นทกั ษะน”ี้ ... ผเู้ ชยี่ วชาญคนที่ 2...“ นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ เพราะเป็นทกั ษะทจี่ าเป็นตอ่ การดารงชีวิต ของเดก็ ทมี่ ีความบกพร่องทางสตปิ ัญญา”... ผูเ้ ชยี่ วชาญคนที่ 3...“ นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ เพราะมีขนั้ ตอนการสอนชดั เจน”... 2.12 หลกั สตู รอ่านแลว้ เขา้ ใจง่าย ไม่ย่งุ ยากซบั ซอ้ นในการนาไปใช้ เน่ืองจากมี แผนการจดั การเรียนรู้ มีแบบประเมินและมีการอธิบายวิธีการวดั ผลไดอ้ ย่างเขา้ ใจ ดงั คากลา่ วของ ผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผเู้ ชยี่ วชาญคนที่ 1...“ คมู่ อื อธิบายไดด้ ี อา่ นทาความเขา้ ใจไดเ้ อง”... ผเู้ ชีย่ วชาญคนที่ 2...“ คูม่ ือเขียนไดล้ ะเอยี ด ไม่ยากในการนาไปใช”้ ... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 3...“ คู่มือมีแผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินและการ อธิบายวธิ ีการวดั ผลไดอ้ ยา่ งเขา้ ใจ ครูนา่ จะนาไปใชไ้ ดไ้ มย่ าก”... 2.13 หลกั สตู ร ฯ จะทาใหค้ รูผสู้ อนเด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญามีความรู้ ความเขา้ ใจและสามารถนาไปใชพ้ ัฒนาทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรับเด็กท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ เน่ืองจากมีมีองคป์ ระกอบของหลกั สตู รครบ มีแบบ ประเมินกอ่ นเรียน มีแผนการจดั การเรยี นรู้ มีแบบประเมินขณะสอน และแบบประเมินหลงั สอน ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 1...“ ครูน่าจะนาไปใชส้ อนไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมี องคป์ ระกอบครบ มแี บบประเมินกอ่ นเรียน มีแผนการจดั การเรียนรู้ มีแบบประเมิน ขณะสอน และแบบประเมินหลงั สอน”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 2...“ ครูน่าจะนาไปใชส้ อนไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมี องคป์ ระกอบครบ”... 2.14 ครูผสู้ อนจะสามารถจดั หาส่ือการสอนและวดั ผลประเมนิ ผลตามหลกั สตู ร ฯ เน่ืองจากส่ือหาง่ายเป็นวสั ดทุ างานบา้ นซ่ึงมีอย่ทู ุกบา้ นและในสถานศกึ ษา และและมีการวดั ผล ประเมินผลตลอดเวลาทงั้ ก่อน ระหว่าง หลงั สอน และการวดั ผลในขณะสอนทาใหว้ ัดผลไดต้ าม สภาพจรงิ เน่ืองจากดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้

1128904766 152 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 1...“ มีความเป็นไปได้ เพราะสื่อเป็นวสั ดุทางานบา้ นซ่ึงมีอยู่ ทุกบา้ นและในสถานศึกษา และการวดั ผลประเมินผลในขณะสอนทาใหว้ ดั ผลได้ ตามสภาพจรงิ ”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 2...“ มีความเป็นไปได้ เพราะสือ่ เป็นวสั ดทุ างานบา้ นซ่ึงมีอยู่ ทกุ บา้ นและในสถานศกึ ษา และมกี ารวดั ผลประเมินผลตลอดเวลาทงั้ ก่อน ระหวา่ ง หลงั สอน”... ผูเ้ ชีย่ วชาญคนที่ 3...“ มีความเป็นไปได้ เพราะสอื่ หางา่ ยไม่ตอ้ งผลิตใหย้ งุ่ ยาก ”... 2.15 ผลท่ีได้จากการใช้หลักสูตร ฯ มีความคุ้มค่าเม่ือเทียบกับเวลาในการ ดาเนินการ เน่ืองจากเดก็ จะมีความรู้ ทกั ษะการทางานและเจตคตทิ ่ีดีตอ่ ทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระ ในบา้ นท่ีสามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ท่ีบา้ นได้ และอาจเป็นอาชีพรบั จา้ งไดใ้ นอนาคต ดงั คา กลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชีย่ วชาญคนที่ 1...“ คมุ้ คา่ เพราะเดก็ จะเกดิ ทกั ษะตดิ ตวั ”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 2...“ คมุ้ คา่ เพราะเด็กจะสามารถทางานบา้ นไดแ้ ละอาจเป็น ช่องทางประกอบอาชพี รบั จา้ งทางานบา้ นได”้ ... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 3...“ คมุ้ ค่า เพราะเด็กมีความรู้ ทกั ษะและเจตคติที่ดีต่อการ ทางานบา้ น”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 4 “หลกั สูตรเพือ่ เสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เดก็ ทมี่ ีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา มคี วามเป็นไปไดอ้ ยูใ่ นระดบั มากทสี่ ดุ ” 2.16 ปัญหาและความสาคญั ของหลกั สตู ร ฯ เป็นประโยชนต์ อ่ สว่ นรวม เน่ืองจาก การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาท่ีตอบสนองต่อความตอ้ งการของบริบท จะเกิดประโยชนต์ ่อ ผเู้ รียนอยา่ งแทจ้ รงิ ทาใหเ้ กิดนวตั กรรมอย่างตอ่ เน่ือง เม่ือผเู้ รียนมีความสามารถในการดารงชีวิต อย่างอิสระในบ้านและไม่เป็ นภาระของสังคมส่งผลต่อความภาคภูมิใจและคลายกังวลของ ผปู้ กครอง ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 1...“ เป็นประโยชนต์ อ่ ส่วนรวม เพราะส่งผลต่อความสามารถ ในการดารงชวี ติ ของเดก็ ทมี่ ีความบกพร่องทางสตปิ ัญญา สง่ ผลตอ่ ความภาคภูมิใจ และคลายกังวลของผู้ปกครอง สถานศึกษาสามารถปฏิบัติภารกิจได้บรรลุ วตั ถปุ ระสงค”์ ...

1128904766 153 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 2...“ เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เมื่อมีการพฒั นาหลักสูตร สถานศึกษาที่ตอบสนองต่อความตอ้ งการของบริบท และเกิดประโยชน์ต่อผูเ้ รียน อยา่ งแทจ้ รงิ กจ็ ะทาใหเ้ กดิ นวตั กรรมอยา่ งตอ่ เนอื่ ง”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 3...“ เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เมื่อเด็กสามารถดารงชีวิตได้ อยา่ งอสิ ระ ก็จะไมเ่ ป็นภาระของสงั คม”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 4...“ เป็นประโยชน์ เพราะทาใหส้ ถานศึกษามีหลักสูตรที่ เหมาะสมกบั บรบิ ทและกบั ความตอ้ งการของผูเ้ รยี น”... 2.17 หลกั สูตร ฯ มีประโยชน์ต่อการพัฒนาเด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา เน่ืองจากหลกั สตู รสอนให้เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญามีความรู้ ความเขา้ ใจ มีทกั ษะใน การทางาน และมีเจตคติท่ีดีตอ่ การทางานบา้ น ทาใหม้ ีความม่นั ใจและกลา้ ท่ีจะทางานบา้ นดว้ ย ตนเอง ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 1...“ มีประโยชน์ เพราะหลกั สูตรสอนใหเ้ ด็กมีความรู้ ความ เขา้ ใจ มที กั ษะในการทางาน และมีเจตคตทิ ดี่ ตี อ่ การทางานบา้ น”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 2...“ มีประโยชน์ เพราะหลกั สูตรสอนใหเ้ ด็กไดล้ งมือทาตาม ขนั้ ตอนการทางานดว้ ยตนเอง”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 3...“ มีประโยชน์ เพราะหลกั สูตรสอนใหเ้ ด็กมีความรู้ ความ เขา้ ใจ มีทกั ษะในการทางาน และมีเจตคตทิ ดี่ ตี อ่ การทางานบา้ น”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 4...“ มีประโยชน์ เพราะเด็กจะมีความม่ันใจและกลา้ ที่จะ ทางานมากขนึ้ ”... 2.18 หลกั สูตร ฯ มีประโยชนต์ ่อการพฒั นาการเรียนการสอนของครู เน่ืองจาก หลกั สตู รมีทงั้ แบบประเมินความสามารถก่อนและหลงั เรียน มีแบบประเมนิ ระหวา่ งสอน มีแผนการ จดั การเรียนรูท้ ่ีมีขนั้ ตอนการสอนอย่างละเอียดและถกู ตอ้ งตามรูปแบบการสอนตรง ส่งผลใหค้ รู นาไปสอนไดอ้ ย่างสะดวกและเป็นแนวทางใหค้ รูไปออกแบบแผนการจดั การเรียนรูใ้ นทกั ษะอ่ืน ๆ ตอ่ ไปได้ ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผู้เชี่ยวชาญคนที่ 1...“ มีประโยชน์ เพราะในหลักสูตรมีทั้งแบบประเมิน ความสามารถก่อนและหลงั เรียน มีแบบประเมินระหว่างสอน มีแผนการจัดการ เรียนรูท้ มี่ ีขนั้ ตอนการสอนอย่างละเอยี ดและถูกตอ้ งตามรูปแบบการสอนตรง สง่ ผล

1128904766 154 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 ใหค้ รูนาไปสอนไดอ้ ย่างสะดวกและเป็นแนวทางใหค้ รูไปออกแบบแผนการจัดการ เรียนรูใ้ นทกั ษะอนื่ ๆ ตอ่ ไปได”้ ... ผู้เชี่ยวชาญคนที่ 2...“ มีประโยชน์ เพราะในหลักสูตรมีทั้งแบบประเมิน ความสามารถก่อนและหลงั เรียน มีแบบประเมินระหว่างสอน มีแผนการจัดการ เรียนรูท้ มี่ ีขนั้ ตอนการสอนอยา่ งละเอยี ดและถูกตอ้ งตามรูปแบบการสอนตรง”... ผู้เชี่ยวชาญคนที่ 3...“ มีประโยชน์ เพราะในหลักสูตรมีทั้งแบบประเมิน ความสามารถก่อนและหลงั เรียน มีแบบประเมินระหว่างสอน มีแผนการจัดการ เรียนรูท้ ีม่ ีขนั้ ตอนการสอนอย่างละเอยี ด สง่ ผลใหค้ รูนาไปสอนไดอ้ ยา่ งสะดวกและ เป็นแนวทางใหค้ รูไปออกแบบแผนการจดั การเรียนรูใ้ นทกั ษะอนื่ ๆ ตอ่ ไปได”้ ... 2.19 หลักสูตร ฯ สามารถตอบสนองต่อความตอ้ งการจาเป็นในการเสริมสรา้ ง ทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น เน่ืองจากส่งผลใหเ้ ด็กสามารถทาความสะอาดบา้ น ทาอาหาร ลา้ งถว้ ยจาน ซกั ผา้ และลา้ งหอ้ งนา้ ไดด้ ว้ ยตนเอง ทาใหล้ ดการพง่ึ พาคนอ่ืนในบา้ น ดงั คากลา่ วของ ผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 1...“ ตอบสนอง เพราะเด็กสามารถทาความสะอาดบา้ น ทาอาหาร ลา้ งถว้ ยจาน ซักผา้ และลา้ งหอ้ งน้าไดด้ ว้ ยตนเอง ทาใหล้ ดการพ่งึ พา คนอนื่ ในบา้ น”... ผูเ้ ชีย่ วชาญคนที่ 3...“ ตอบสนอง เพราะเดก็ สามารถทางานบา้ นไดเ้ อง”... ผูเ้ ชีย่ วชาญคนที่ 5...“ ตอบสนอง เพราะเด็กสามารถทางานบา้ นไดด้ ว้ ยตนเอง ”... 2.20 หลกั สูตร ฯ สามารถนาไปประยุกตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชนต์ ่อการเสริมสรา้ ง ทกั ษะอ่ืน ๆ สาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญาได้ เน่ืองจากมีตวั อย่างแผนการจัดการ เรยี นรูแ้ ละแบบประเมนิ ท่ีใชว้ ดั ผลประเมนิ ผลท่ีชดั เจน ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 1...“ นาไปประยกุ ต์ได้ เพราะมีรูปแบบการสอน การออกแบบ สอื่ การวดั ผลประเมินผลทชี่ ดั เจน”... ผูเ้ ชยี่ วชาญคนที่ 2...“ นาไปประยกุ ตไ์ ด้ เพราะแผนการจดั การเรยี นรูช้ ดั เจน”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 3...“ นาไปประยกุ ตไ์ ด้ เพราะมีตวั อย่างแผนการจดั การเรียนรู้ และแบบประเมนิ ”...

1128904766 155 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 4 “หลกั สูตรเพื่อเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา มีอรรถประโยชน์ อยู่ในระดบั มาก ทสี่ ดุ ” 2.21 ขอ้ เสนอแนะอ่ืน ๆ พบวา่ 1. ควรกาหนดโครงสรา้ งเวลาเรียนให้ครอบคลุมและชัดเจน เช่น จานวน ช่วั โมงมากนอ้ ยตา่ งกนั อยา่ งไรและนา้ หนกั คะแนนใหส้ อดคลอ้ งกบั เนือ้ หา 2. ควรมีการออกแบบประเมนิ ท่ีใชว้ ดั ไดท้ งั้ พทุ ธิพสิ ยั ทกั ษะพสิ ยั และจิตพสิ ยั 3. แผนการจดั การเรียนรูค้ วรเพ่ิมส่ือประเภทปา้ ยกระดานส่ือสาร เพ่ือใหเ้ ดก็ เกิดความคดิ รวบยอดของการทางานใหเ้ สรจ็ จากระยะท่ี 2 การสรา้ งหลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา สรุปไดว้ า่ หลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระ ในบ้านสาหรับเด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา ประกอบด้วย 4 องคป์ ระกอบ ได้แก่ 1) จดุ มงุ่ หมายของหลกั สตู ร 2) เนือ้ หาสาระ ประกอบดว้ ย กล่มุ ทกั ษะการทาความสะอาดบา้ น กล่มุ ทกั ษะการปรุงอาหาร กล่มุ ทกั ษะการลา้ งภาชนะ กลมุ่ ทกั ษะการซกั เสือ้ ผา้ และกลมุ่ ทกั ษะการทา ความสะอาดหอ้ งนา้ 3) การจดั การเรียนรู้ และ 4) การวดั และประเมินผล ผลการประเมินความ เหมาะสมดา้ นความถูกตอ้ งอยู่ในระดบั มาก ดา้ นความเหมาะสมในระดบั มากท่ีสุด ดา้ นความ เป็นไปไดใ้ นระดบั มากท่ีสดุ และดา้ นอรรถประโยชนใ์ นระดบั มากท่ีสดุ ระยะท่ี 3 ผลการการทดลองใช้และปรับปรุงหลักสูตรเพอ่ื เสริมสร้างทกั ษะการดารงชวี ิต อสิ ระในบ้านสาหรับเดก็ ท่ีมคี วามบกพร่องทางสตปิ ัญญา การทดลองใช้และปรบั ปรุงหลักสูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา ผลการเปรียบเทียบทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญาก่อนและหลงั การใชห้ ลักสูตร สรุปผลการวิเคราะห์ ขอ้ มลู เป็นระดบั คะแนนความสามารถ รอ้ ยละของความกา้ วหนา้ ของทกั ษะการดารงชีวิตอิสระใน บา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา และผลการปรบั ปรุงหลกั สตู ร ดงั นี้ 1. ผลการเปรียบเทียบทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นของเด็กท่ีมีความบกพรอ่ ง ทางสตปิ ัญญาก่อนและหลงั การใชห้ ลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา มีผลการวิเคราะห์ ดงั ตาราง 23

156 ตาราง 23 ผลการเปรยี บเทียบทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระในบา้ นของเดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ ง ทางสตปิ ัญญาก่อนและหลงั การทดลองใชห้ ลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระในบา้ น สาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา เป็นรายบคุ คล 1128904766 เดก็ ทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระในบา้ น ความแตกตา่ ง แปลผล คนท่ี กอ่ นการสอน (X1) หลงั การสอน (X2) ของคะแนนความกา้ วหนา้ (คะแนนเตม็ 836) (คะแนนเตม็ 836) มีพฒั นาการ 1 X2 - X1 เพ่มิ ขนึ้ 190 738 +548 2 มีพฒั นาการ SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 196 754 +558 เพ่มิ ขนึ้ 3 210 770 +560 มีพฒั นาการ 4 เพ่มิ ขนึ้ คะแนน 209 759 +550 เฉล่ีย มีพฒั นาการ 201.25 755.25 +554 เพ่มิ ขนึ้ มีพฒั นาการ เพ่มิ ขนึ้ จากตาราง 23 พบว่า คะแนนทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพร่องทางสติปัญญาเพ่ิมขึน้ ตงั้ แต่ +548 ถึง +560 แสดงว่าเด็กท่ีมีความบกพร่องทาง สติปัญญา ทงั้ 4 คน ท่ีไดร้ บั การสอนโดยใชห้ ลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระใน บา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา สูงขึน้ กว่าก่อนการใชห้ ลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ ง ทกั ษะการดารงชีวติ อิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา ทงั้ 4 คน ทงั้ นีเ้ ดก็ ท่ีมี ความบกพร่องทางสติปัญญาไดแ้ สดงพฤติกรรมในขณะประเมินก่อนเรียน ขณะเรียน และหลงั เรยี นของเดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา ทงั้ 4 คน ดงั นี้ คนท่ี 1 เม่ือครูใชค้ าส่งั เพ่ือทดสอบวัดความสามารถพืน้ ฐาน ผเู้ รียนไม่สามารถ ปฏิบตั ติ ามคาส่งั ไดแ้ ตย่ ืนน่งิ เฉย แสดงทา่ ทางคลา้ ยกบั ตดั สนิ ใจเป็นเวลานานพอสมควร ครูจงึ สอน ผเู้ รียนใหร้ ูจ้ กั อปุ กรณ์ ขนั้ ตอนวิธีการ ผ่านการสาธิตและการเช่ือมโยงกิจกรรมกบั บตั รภาพส่ือทาง สายตา รวมถงึ การใชป้ า้ ยกระดานส่ือสารในการขีแ้ นะขนั้ ตอนท่ีไดท้ าสาเรจ็ แลว้ โดยนกั เรียนตงั้ ใจดู

1128904766 157 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 ท่ีครูสาธิต พยายามทาตามแบบ ตอบคาถามทุกครงั้ ท่ีครูถามดว้ ยเสียงเบา ในการฝึกครูใชก้ าร กระตนุ้ เตือนทางกาย กระตนุ้ เตือนดว้ ยท่าทาง และกระตนุ้ เตือนทางวาจา ควบคกู่ นั ไปและถอน หรือลดการกระตุน้ เตือนลงเม่ือเห็นว่าผเู้ รียนทาไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั สถานการณ์ นกั เรียนจดจา ขนั้ ตอนไดค้ อ่ นขา้ งเรว็ บางสถานการณเ์ ม่ือพบว่าผเู้ รียนขาดความม่นั ใจ เชน่ ตอบคาถามเสียงเบา เน่ืองจากเกรงวา่ จะตอบผดิ เป็นตน้ ครูจงึ ใชก้ ารเอย่ ถามเพ่ือชีแ้ นะและการเสรมิ แรงดว้ ยการชมเชย ร่วมดว้ ย ภายหลงั การฝึกครบถว้ นตามระยะเวลาครูใชค้ าส่งั เพ่ือใหผ้ เู้ รียนปฏิบตั ิกิจกรรม ผเู้ รียน สามารถจดจาขนั้ ตอนและปฏิบตั ิไดถ้ กู ตอ้ ง ดว้ ยความม่นั ใจ พรอ้ มกบั ติดบตั รภาพบนชุดส่ือทาง สายตาขนั้ ตอนตา่ ง ๆ และตดิ บตั รภาพบนปา้ ยกระดานส่ือสารเพ่ือบอกการเสรจ็ สิน้ ขนั้ ตอนไดด้ ว้ ย ตนเอง คนท่ี 2 เม่ือครูใช้คาส่ังเพ่ือทดสอบวัดความสามารถพืน้ ฐาน ผูเ้ รียนยืนน่ิงไม่ สามารถเร่มิ ตน้ ลงมือทากิจกรรมได้ ไมส่ ามารถบอกหรือชีอ้ ปุ กรณ์ ขนั้ ตอน วิธีการไดเ้ น่ืองจากไม่ รูจ้ กั อปุ กรณ์ ขนั้ ตอนวิธีการ ไม่มีประสบการณใ์ นการทากิจกรรมมาก่อน ครูจึงสอนใหน้ กั เรียนรูจ้ กั อปุ กรณ์ ขนั้ ตอนวิธีการ ผา่ นการสาธิต อธิบายขนั้ ตอนวิธีการพรอ้ มกับใชบ้ ตั รภาพส่ือทางสายตา เพ่ือเช่ือมโยงกบั อปุ กรณห์ รือกิจกรรมท่ีครูกาลงั ปฏิบตั อิ ยู่ รวมถึงการใชป้ า้ ยกระดานส่ือสารในการ ชีแ้ นะขนั้ ตอนท่ีไดท้ าสาเรจ็ แลว้ ในการฝึกครูใชก้ ารกระตนุ้ เตือนดว้ ยทางกาย ดว้ ยทา่ ทาง และดว้ ย ทางวาจาควบคกู่ นั ไป แตผ่ เู้ รียนยงั คงปฏิบตั ิกิจกรรมหรือเรียงลาดบั ขนั้ ตอนของกิจกรรมสลบั กนั อย่บู า้ งอนั เน่ืองจากนกั เรียนมกั จะทาดว้ ยความเรง่ รีบจนขาดความรอบคอบและคดิ ตรกึ ตรองกอ่ น เม่ือใหฝ้ ึกหลายรอบติดต่อกนั นกั เรียนมีความสบั สนมากขึน้ ตอ้ งหยดุ พกั ช่วั ครูเ่ พ่ือลดความกดดนั ภายในตวั เอง ผเู้ รียนมีความสนใจ ตงั้ ใจทาตามแบบครู จากท่ีนกั เรียนไดร้ บั การฝึกบ่อยครงั้ จน สามารถจดจาได้ ภายหลงั การฝึกครบถว้ นตามระยะเวลาครูใชค้ าส่งั เพ่ือใหผ้ เู้ รียนปฏิบตั ิกิจกรรม ผเู้ รยี นสามารถจดจาขนั้ ตอนและปฏิบตั ไิ ดถ้ กู ตอ้ ง ดว้ ยความม่นั ใจ พรอ้ มกับตดิ บตั รภาพบนชดุ ส่ือ ทางสายตาขนั้ ตอนตา่ ง ๆ และตดิ บตั รภาพบนปา้ ยกระดานส่ือสารเพ่ือบอกการเสร็จสนิ้ ขนั้ ตอนได้ ดว้ ยตนเอง คนท่ี 3 เม่ือครูใชค้ าส่งั เพ่ือทดสอบวดั ความสามารถพืน้ ฐาน ผเู้ รยี นยืนหนั หนา้ ไป ทางซา้ ยและขวาลกั ษณะกริยาคลา้ ยการมองหาส่ิงของแตไ่ มไ่ ดห้ ยิบอุปกรณใ์ ดมาวางเพ่ือปฏิบตั ิ กิจกรรม ไม่สามารถบอกหรือชีอ้ ุปกรณแ์ ละขนั้ ตอนวิธีการไดถ้ ูกตอ้ งตามลาดบั เน่ืองจากไม่รูจ้ กั อุปกรณแ์ ละวิธีการครูจึงสอนใหน้ กั เรียนรูจ้ กั อุปกรณผ์ ่านการสาธิต อธิบายขนั้ ตอนพรอ้ มกับใช้ บตั รภาพส่ือทางสายตาเพ่ือเช่ือมโยงกับอุปกรณห์ รือกิจกรรมท่ีครูกาลังปฏิบตั ิอยู่ รวมถึงการใช้ ปา้ ยกระดานส่ือสารในการชีแ้ นะขนั้ ตอนท่ีไดท้ าสาเร็จแลว้ ในการฝึกครูใชก้ ารกระตนุ้ เตือนดว้ ย

1128904766 158 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 ทา่ ทาง ดว้ ยทางวาจาควบคกู่ นั ไป ผเู้ รียนตงั้ ใจดทู ่ีครูสาธิต พยายามทาตามแบบ ตอบคาถามทกุ ครงั้ ท่ีครูถาม ผเู้ รียนสามารถจดจาไดค้ อ่ นขา้ งเร็ว แต่มกั จะปฏิบัติกิจกรรมดว้ ยความรีบเร่งทาให้ ขา้ มอปุ กรณบ์ างอย่างหรือขนั้ ตอนบางขนั้ ตอนไป ครูตอ้ งกระตนุ้ ดว้ ยท่าทางหรือทางวาจา จากท่ี ผเู้ รียนไดร้ บั การฝึกบ่อยครงั้ จนสามารถจดจาได้ ครูจึงลดระดบั การกระตนุ้ เตือนลงรว่ มกบั การให้ แรงเสรมิ ดว้ ยคาชมวา่ เก่งมากเม่ือผเู้ รียนสามารถทาได้ ภายหลงั รบั การฝึกครูใชค้ าส่งั เพ่ือใหผ้ เู้ รียน ปฏิบตั ิกิจกรรม ผเู้ รียนสามารถจดจาขนั้ ตอนและปฏิบตั ิไดถ้ กู ตอ้ ง ดว้ ยความม่นั ใจ พรอ้ มกบั ติด บตั รภาพบนชดุ ส่ือทางสายตาขนั้ ตอนตา่ ง ๆ และติดบตั รภาพบนปา้ ยกระดานส่ือสารเพ่ือบอกการ เสรจ็ สิน้ ขนั้ ตอนไดด้ ว้ ยตนเอง คนท่ี 4 เม่ือครูใชค้ าส่งั เพ่ือทดสอบวดั ความสามารถพืน้ ฐาน ผเู้ รียนไม่สามารถ บอกหรือชีอ้ ปุ กรณ์ ขนั้ ตอนวิธีการไดเ้ ม่ือใชเ้ วลาพอประมาณผเู้ รยี นแสดงบทบาทสมมตแิ ตไ่ มไ่ ดล้ ง มือปฏิบตั ิกิจกรรมจริงและขนั้ ตอนไม่ถกู ตอ้ งตามลาดบั ขนั้ ตอน ไม่สามารถบอกหรือชีอ้ ปุ กรณแ์ ละ ขนั้ ตอนวิธีการไดถ้ กู ตอ้ งตามลาดบั เน่ืองจากไม่รูจ้ กั อปุ กรณแ์ ละวิธีการครูจงึ สอนใหน้ กั เรียนรูจ้ กั อปุ กรณผ์ า่ นการสาธิต อธิบายขนั้ ตอนพรอ้ มกบั ใชบ้ ตั รภาพส่ือทางสายตาเพ่ือเช่ือมโยงกบั อุปกรณ์ หรือกิจกรรมท่ีครูกาลงั ปฏิบตั ิอยู่ รวมถึงการใชป้ ้ายกระดานส่ือสารในการชีแ้ นะขนั้ ตอนท่ีไดท้ า สาเรจ็ แลว้ ในการฝึกครูใชก้ ารกระตนุ้ เตือนดว้ ยท่าทาง ดว้ ยทางวาจาควบคกู่ นั ไป ผเู้ รียนตงั้ ใจดทู ่ี ครูสาธิต พยายามทาตามแบบ ตอบคาถามทุกครงั้ ท่ีครูถาม ผูเ้ รียนจดจาอุปกรณแ์ ละขัน้ ตอน วิธีการไดค้ ่อนขา้ งชา้ มกั จะขา้ มบางขนั้ ตอนไปครูตอ้ งกระตนุ้ ดว้ ยท่าทางหรือทางวาจา จากท่ี ผเู้ รียนไดร้ บั การฝึกบ่อยครงั้ จนสามารถจดจาได้ ครูจึงลดระดบั การกระตนุ้ เตือนลงรว่ มกบั การให้ แรงเสรมิ ดว้ ยคาชมวา่ เกง่ มากเม่ือผเู้ รียนสามารถทาได้ ภายหลงั รบั การฝึกครูใชค้ าส่งั เพ่ือใหผ้ เู้ รียน ปฏิบตั ิกิจกรรม ผเู้ รียนสามารถจดจาขนั้ ตอนและปฏิบตั ิไดถ้ ูกตอ้ ง ดว้ ยความม่นั ใจ พรอ้ มกับติด บตั รภาพบนชดุ ส่ือทางสายตาขนั้ ตอนตา่ ง ๆ และตดิ บตั รภาพบนปา้ ยกระดานส่ือสารเพ่ือบอกการ เสรจ็ สิน้ ขนั้ ตอนไดด้ ว้ ยตนเอง 2. ค่าดัชนีประสิทธิผล (Effectiveness Index: E.I.) ของหลักสูตรเพ่ือเสริมสรา้ ง ทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา มีผลการวิเคราะห์ ดงั ตาราง 24

159 ตาราง 24 ดชั นีประสิทธิผล (Effectiveness Index: E.I.) ของหลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ ง ทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 1128904766 จานวน คะแนน ผลรวม คะแนน ผลรวม คะแนน E.I. คดิ เป็น เดก็ ท่ีมี เตม็ คะแนน เฉล่ีย คะแนน เฉล่ีย 0.8728 รอ้ ยละ SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 ความ กอ่ นการ หลงั การ บกพรอ่ ง 836 สอน 201.25 สอน 755.25 87.28 ทาง สตปิ ัญญา 805 3021 (คน) 4 จากตาราง 24 พบว่า ทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรับเด็กท่ีมีความ บกพร่องทางสติปัญญา จานวน 4 คน ก่อนการสอนโดยใชห้ ลักสูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะการ ดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญาสามารถทาคะแนนจากการ ประเมินทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น ก่อนการสอน ประเมินโดยใชแ้ บบประเมินก่อนและหลงั การเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น ท่ีมีคะแนนเตม็ 836 คะแนน ไดผ้ ลรวมของเดก็ ท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา ทงั้ 4 คน เทา่ กบั 805 คะแนน มีคะแนนเฉล่ีย 201.25 คะแนน และ หลงั การสอนโดยใชห้ ลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา สามารถทาคะแนนจากการประเมินทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระในบา้ น หลงั การสอน ประเมินโดยใชแ้ บบประเมินก่อนและหลงั การเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น ฉบบั เดยี วกนั ไดผ้ ลรวมของเดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา ทงั้ 4 คน เทา่ กบั 3021 คะแนน มี คะแนนเฉล่ีย 755.25 คะแนน หาคา่ ดชั นีประสิทธิผล (E.I.) เท่ากับ 0.8728 โดยอา้ งอิงจากสูตร คานวณของ เผชิญ กิจระการ และสมนกึ ภทั ทิยธนี (2546) และบญุ ชม ศรีสะอาด (2554) ซ่งึ แสดง วา่ เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา ทงั้ 4 คน หลงั การสอนโดยใชห้ ลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะ การดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา มีคะแนนเพ่ิมขึน้ รอ้ ยละ 87.28

160 1128904766 3. รอ้ ยละของความกา้ วหนา้ ของทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นของเด็กท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญาท่ีไดร้ บั การสอนโดยใชห้ ลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระใน บา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา มีผลการวเิ คราะห์ ดงั ตาราง 25 ตาราง 25 รอ้ ยละของความกา้ วหนา้ ของทกั ษะการดารงชีวติ อิสระในบา้ นของเดก็ ท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญาท่ีไดร้ บั การสอนโดยใชห้ ลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระใน บา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา คะแนนเฉล่ียกอ่ นการสอน (X1) คะแนนเฉล่ียหลงั การสอน (X2) รอ้ ยละของความกา้ วหนา้ SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 201.25 755.25 66.27 จากตาราง 25 พบว่า คะแนนเฉล่ียก่อนการสอนโดยใชห้ ลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ ง ทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา และคะแนนเฉล่ีย หลงั การสอนโดยใชห้ ลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความ บกพร่องทางสติปัญญา เท่ากับ 201.25 และ 755.25 ตามลาดับ โดยมีค่าร้อยละของ ความก้าวหนา้ ของทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น เท่ากับรอ้ ยละ 66.27 ซ่ึงสูงกว่าเกณฑท์ ่ี กาหนด คิดเป็นรอ้ ยละ 25 โดยอา้ งอิงจากสตู รคานวณของพิชติ ฤทธิ์จรูญ (พิชิต ฤทธิ์จรูญ, 2561. น.217-218) แสดงว่า เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญาท่ีไดร้ บั การสอนโดยใชห้ ลักสูตรเพ่ือ เสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา สงู ขนึ้ กวา่ ก่อนการทดลอง 4. ทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระในบา้ นของเดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญาหลงั จาก การใชห้ ลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทาง สตปิ ัญญา อยใู่ นระดบั ดีเย่ียม ดงั ตาราง 26

161 ตาราง 26 ผลของทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นของเดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา หลงั การใชห้ ลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ ง ทางสตปิ ัญญา ผลของทกั ษะ ผลของทกั ษะ เปา้ หมาย การดารงชีวิต การดารงชีวติ การวิเคราะหง์ าน 1128904766 เดก็ (Task Analysis) อิสระในบา้ น ระดบั อสิ ระในบา้ น ระดบั คนท่ี ก่อนการสอน ความสามารถ หลงั การสอน ความสามารถ SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 (คะแนน (คะแนน เตม็ 836) เตม็ 836) 1 ทกั ษะการดารงชีวิต 190 ปรบั ปรุง 738 ดเี ย่ียม อิสระในบา้ น 196 ปรบั ปรุง 754 ดเี ย่ียม 2 ทกั ษะการดารงชีวิต อิสระในบา้ น 210 ปรบั ปรุง 770 ดเี ย่ียม 3 ทกั ษะการดารงชีวิต 209 ปรบั ปรุง 759 ดเี ย่ียม อสิ ระในบา้ น 201.25 ปรบั ปรุง 755.25 ดเี ย่ียม 4 ทกั ษะการดารงชีวิต อสิ ระในบา้ น คา่ เฉล่ีย จากตาราง 26 พบว่าเด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา ทงั้ 4 คน มีผลของ ทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น หลงั การสอนโดยใชห้ ลกั สูตรเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิต อิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา สงู กว่าเกณฑท์ ่ีกาหนดไวใ้ นระดบั ดี เด็ก ท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา ทั้ง 4 คน ไดค้ ะแนนอยู่ในเกณฑร์ ะดับดีเย่ียม (738 - 770 คะแนน) มีคา่ เฉล่ียเทา่ กบั 755.25 ซ่งึ สงู กว่าเกณฑท์ ่ีกาหนดไว้ โดยอา้ งอิงจากสตู รคานวณของ ชู ศรี วงศร์ ตั นะ (2560: 37) 5. ผลการปรบั ปรุงหลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา ในระยะท่ี 3 นี้ เป็นการศกึ ษาโดยผ่านกระบวนการสมั ภาษณ์ เชงิ ลกึ โดยเก็บขอ้ มลู ในวนั ท่ี 15 มกราคม พ.ศ. 2564 พบวา่

1128904766 162 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 5.1 หลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสติปัญญามีความครอบคลมุ องคป์ ระกอบ มีความชดั เจนและสมบรู ณแ์ ลว้ อ่านแลว้ เขา้ ใจสามารถนาไปใชไ้ ดค้ รูสามารถนาไปใชไ้ ด้ ไมต่ อ้ งปรบั ปรุง ดงั คากล่าวของเช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 1 ...“ หลกั สูตรมีความครอบคลุมองค์ประกอบ อ่านแลว้ เขา้ ใจสามารถนาไปใชไ้ ด้ ไม่ตอ้ งปรบั ปรุง”... ผเู้ ชีย่ วชาญคนที่ 2 ...“ หลกั สตู รสมบูรณแ์ ลว้ ไม่ตอ้ งปรบั ปรุง”... 5.2 คมู่ ือหลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพร่องทางสติปัญญา โดยภาพรวมคอ่ นขา้ งมีความสมบรู ณ์ อ่านเขา้ ใจง่าย ครูสามารถ นาไปใชไ้ ด้ ปรบั ปรุงหน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 บา้ นของฉนั น่าอยู่ ใหใ้ ชส้ ่ือการสอนถพู ืน้ ดว้ ยไมถ้ พู ืน้ แบบ รีดนา้ เพ่ือใหผ้ ูเ้ รียนสามารถเตรียมอปุ กรณไ์ ดด้ ว้ ยตนเอง และปรบั ปรุงหน่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 หอ้ งนา้ ของฉนั สะอาดจงั โดยตดั ขนั้ ตอนการเตรียมอปุ กรณใ์ นแผนจดั การเรียนรู้ ลา้ งสว้ มน่งั ราบและลา้ ง พืน้ หอ้ งนา้ รวมทงั้ ตดั ขนั้ ตอนการเก็บอปุ กรณใ์ นแผนจดั การเรียนรูล้ า้ งผนงั หอ้ งนา้ และลา้ งสว้ มน่ัง ราบ ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 1 ...“ โดยภาพรวมของคู่มือหลักสูตร ฯ ค่อนขา้ งสมบูรณ์ อา่ นเขา้ ใจงา่ ย ครูสามารถนาไปใชไ้ ด้ ทคี่ วรปรบั ปรุง คอื หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 บา้ น ของฉนั น่าอยู่ ตอ้ งปรบั เปลีย่ นอปุ กรณ์การทางานบา้ นใหน้ กั เรียนสามารถเตรยี มได้ เอง โดยไม่ตอ้ งคอยผูป้ กครองทาให้ เนือ่ งจากผูเ้ รียนมีความยากลาบากในการใช้ ไมม้ ็อบถูพืน้ แบบสอดผา้ และมดั จึงเปลี่ยนสือ่ ทผี่ ูเ้ รียนถนดั เป็นไมถ้ ูพนื้ แบบรีดนา้ และควรปรบั ปรุงวิธีการเตรียมอปุ กรณ์ถูพืน้ การลงมือถูพนื้ และเก็บอปุ กรณ์ถูพนื้ ใหส้ อดคลอ้ งกบั สอื่ ทใี่ ช้ คอื ไมถ้ ูพนื้ แบบรดี นา้ ”... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 2 ...“ โดยภาพรวมของคู่มือหลักสูตร ฯ ค่อนขา้ งสมบูรณ์ อ่านเขา้ ใจง่าย ครูสามารถนาไปใชไ้ ด้ ที่ควรปรับปรุง คือ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 5 หอ้ งนา้ ของฉนั สะอาดจงั เนือ่ งแผนการจดั การเรียนรู้ จานวน 4 แผน ทกุ แผนมีการ เตรียมอปุ กรณ์และเก็บอุปกรณ์ซ่ึงเป็นการทางานทีซ่ ้าซอ้ น ดงั นนั้ หากการทางาน ลา้ งตอ้ งใชอ้ ปุ กรณ์เดียวกนั ควรสอนเตรียมอปุ กรณ์ครงั้ เดียวและเก็บอปุ กรณ์เมื่อ เสรจ็ งานลา้ งทงั้ หมดในขนั้ ตอนสดุ ทา้ ย จึงควรปรบั แผนการจดั การเรยี นรู้ ดงั นี้ 1. แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 2 ลา้ งผนงั หอ้ งนา้ มีแผนการจดั การเรียนรูย้ ่อย จานวน 2 แผน คอื เตรียมอปุ กรณ์ลา้ งหอ้ งนา้ และลงมอื ลา้ งผนงั หอ้ งนา้

1128904766 163 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 2. แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 3 ลา้ งสว้ มแบบน่งั ราบ มีแผนการจัดการเรียนรูย้ ่อย จานวน 1 แผน คอื ลงมือลา้ งสว้ มแบบนง่ั ราบ โดยตดั แผนการจดั การเรยี นรูย้ ่อย เตรียมอุปกรณ์ออก เนื่องจากไดส้ อนเตรียมแลว้ ในแผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 2 และตดั แผนการจดั การเรียนรูย้ อ่ ย เก็บอปุ กรณ์ออก เนอื่ งจากตอ้ งใชอ้ ปุ กรณ์ใน การลา้ งแผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 4 ตอ่ 3. แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 4 ลา้ งพนื้ หอ้ งนา้ มีแผนการจดั การเรียนรูย้ ่อย จานวน 2 แผน คอื ลงมือลา้ งพนื้ หอ้ งนา้ และเก็บอปุ กรณ์ลา้ งหอ้ งนา้ จากเดิมหน่วยการเรียนรูท้ ี่ 5 มีทงั้ หมด 12 แผนการจดั การเรียนรูย้ ่อย เมื่อมีการ ปรบั ทาใหค้ งเหลอื แผนการจดั การเรยี นรูย้ ่อย จานวน 8 แผน ”... 5.3 แบบประเมินก่อนและหลงั การเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา มีการวิเคราะหง์ านในแต่ละขนั้ ตอนการทางานไว้ อยา่ งละเอียด มีการออกแบบใหก้ รอกคะแนนและสรุปผล ทาใหส้ ามารถเปรียบเทียบคะแนนก่อน และหลงั สอนไดช้ ดั เจน สามารถนาไปใช้ไดง้ ่าย ในกล่มุ ทกั ษะการทาความสะอาดบา้ นควรปรบั ขนั้ ตอนการเตรียมอปุ กรณ์ การลงมือถพู ืน้ และการเก็บอปุ กรณถ์ พู ืน้ ใหส้ อดคลอ้ งกบั ไมถ้ พู ืน้ แบบ รีดนา้ และกล่มุ ทกั ษะการทาความสะอาดหอ้ งนา้ ควรเตรียมอุปกรณล์ า้ งหอ้ งนา้ สาหรบั การลา้ ง ผนังหอ้ งนา้ ลา้ งสว้ มน่งั ราบและลา้ งพืน้ หอ้ งนา้ ในขนั้ ตอนเดียว และเก็บอุปกรณล์ า้ งหอ้ งนา้ ใน ขนั้ ตอนสดุ ทา้ ยหลงั จากลา้ งหอ้ งนา้ เสรจ็ แลว้ ทกุ ขนั้ ตอน ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 1 ...“ แบบประเมินก่อนและหลงั ฯ มีการวิเคราะห์งานใน แต่ละขัน้ ตอนการทางานไวอ้ ย่างละเอียด มีการออกแบบใหก้ รอกคะแนนและ สรุปผล ทาใหส้ ามารถเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลงั สอนไดช้ ดั เจน สามารถ นาไปใชไ้ ดง้ ่าย เนื่องจากนกั เรียนไม่สามารถเตรียมไมถ้ ูพนื้ แบบเหล็กหนบี ไดด้ ว้ ย ตนเอง จึงมีการปรบั เปลีย่ นเป็นไมถ้ ูพนื้ แบบรีดนา้ ซ่ึงนกั เรียนสามารถเตรียมไดเ้ อง โดยครูไม่ตอ้ งช่วย ดงั นนั้ ขนั้ ตอนการเตรียมอุปกรณ์ การลงมือถูพนื้ และการเก็บ อปุ กรณ์การถูพนื้ จึงมกี ารปรบั ปรุงใหส้ อดคลอ้ งกบั อปุ กรณ์ทใี่ ช”้ ... ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 2 ...“ แบบประเมินก่อนและหลงั ฯ สามารถนาไปใชไ้ ดง้ ่าย ควรเพ่ิมการเช็ดมือใหแ้ หง้ หลงั จากลา้ งมือใหส้ ะอาดในขั้นตอนสุดทา้ ยของการ ทางานทกุ งาน”...

1128904766 164 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 3 ...“ แบบประเมินก่อนและหลงั ฯ มีการวเิ คราะหง์ านในแต่ ละขนั้ ตอนการทางานไวอ้ ย่างละเอียด มีการออกแบบใหก้ รอกคะแนนและสรุปผล ทาใหส้ ามารถเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลงั สอนไดช้ ดั เจน สามารถนาไปใชไ้ ด้ ง่าย เนื่องจากการทาความสะอาดหอ้ งน้ามี 4 งาน ไดแ้ ก่ เช็ดกระจก ลา้ งผนงั หอ้ งนา้ ลา้ งสว้ มแบบน่งั ราบ และลา้ งพนื้ หอ้ งนา้ มีขนั้ ตอนการเตรียมอปุ กรณ์และ เก็บอปุ กรณ์ทกุ งาน ซ่ึงอปุ กรณ์ทเี่ ตรียมหรือเก็บเป็นอุปกรณ์เดียวกนั ดงั นนั้ จึงไม่ ตอ้ งประเมินการเตรียมอปุ กรณ์และเก็บอุปกรณ์ในทุกงาน เห็นควรปรบั ปรุง แบบ ประเมนิ ก่อนและหลงั ฯ”... 5.4 แบบประเมินตามสภาพจริงการเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา มีความครอบคลมุ การวดั ผลประเมินผลทงั้ ดา้ นความรู้ ทกั ษะกระบวนการ และเจตคติ อีกทงั้ มีเกณฑก์ ารวดั ผลท่ีชดั เจน จงึ มีความเหมาะสมและสามารถ นาไปใชไ้ ด้ ไมม่ ีรายการปรบั ปรุง ดงั คากลา่ วของผเู้ ช่ียวชาญ ดงั นี้ ผูเ้ ชี่ยวชาญคนที่ 1 ...“ แบบประเมินตามสภาพจริง ฯ มีความครอบคลุม การวัดผลประเมินผลทัง้ ดา้ นความรู้ ทักษะกระบวนการ และเจตคติ อีกทัง้ มี เกณฑ์ การวัดผลที่ชัดเจน จึงมีความเหมาะสมและสามารถนาไปใชไ้ ด้ ไม่มี รายการปรบั ปรุง”... จากระยะท่ี 3 การทดลองใชแ้ ละปรบั ปรุงหลกั สตู รเพ่ือการเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิต อิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา สรุปไดว้ ่า เด็กท่ีมีความบกพร่องทาง ส ติปั ญ ญ า มี ทักษะ กา ร ดารง ชี วิ ตอิ ส ระ ใ นบ้าน หลัง ก ารใ ช้หลักสูตรเ พ่ื อเ ส ริม ส ร้าง ทักษ ะ ก า ร ดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา สงู กวา่ ก่อนการใชห้ ลกั สตู ร ฯ หลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่อง ทางสติปัญญามีการปรบั ปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ และแบบประเมินก่อนและหลังเสริมสร้าง ทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญาใหม้ ีความสอดคลอ้ ง กบั ส่ือการสอนและขนั้ ตอนการสอนใหก้ ระชบั ขนึ้

1128904766 165 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 บทท่ี 5 สรุป อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ การพฒั นาหลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา มีสรุปผลการวจิ ยั อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ นาเสนอตามลาดบั ดงั นี้ ความมุ่งหมายของการวจิ ัย การวิจัยนีไ้ ด้ตั้งความมุ่งหมายหลักเพ่ือพัฒนาหลักสูตรเพ่ือเสริมสร้างทักษะการ ดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา ความม่งุ หมายย่อยของการ วิจยั ครงั้ นีป้ ระกอบดว้ ย 1. เพ่ือศึกษาสภาพปัจจุบัน ความคาดหวังและแนวทางการเสริมสร้างทักษะ การดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 2. เพ่ือสรา้ งหลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 3. เพ่ือทดลองใชแ้ ละปรบั ปรุงหลักสูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระใน บา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา วิธีดาเนินการวจิ ัย วิธีดาเนินการวิจัยมีลาดบั ขนั้ ตอนในการวิจัยเพ่ือพฒั นาหลักสูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะ การดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ดงั รายละเอียดตอ่ ไปนี้ ระยะท่ี 1 ศึกษาสภาพปัจจุบนั ความคาดหวังและแนวทางการเสริมสรา้ งทักษะการ ดารงชีวติ อสิ ระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 1. กลมุ่ เปา้ หมายท่ีใชใ้ นการวจิ ยั กลมุ่ เปา้ หมายไดแ้ ก่ ผเู้ ช่ียวชาญท่ีมีประสบการณใ์ นการทางานกบั เด็กท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา อยา่ งนอ้ ย 5 ปีขนึ้ ไป ไดแ้ ก่ ผปู้ กครองเดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา จานวน 1 คน ผบู้ ริหารศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษ จานวน 2 คน ครูศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ จานวน 2 คน นักกิจกรรมบาบัด จานวน 1 คน ผู้แทนจากองค์กรท่ีทางานเพ่ือเด็กท่ีมีความบกพร่องทาง สติปัญญา จานวน 1 คน และครูโรงเรียนการศึกษาพิเศษสาหรับเด็กท่ีมีความบกพร่องทาง

1128904766 166 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 สตปิ ัญญา จานวน 1 คน เลือกกลมุ่ เปา้ หมายโดยใชว้ ิธีเลือกแบบเจาะจง รวมจานวนทงั้ สิน้ 8 คน โดยใชว้ ธิ ีการสนทนากลมุ่ 2. เคร่อื งมือท่ีใชใ้ นการวิจยั เคร่ืองมือท่ีใช้ในการเก็บรวบรวมขอ้ มูล ไดแ้ ก่ ประเด็นการสนทนากลุ่ม เร่ือง สภาพปัจจบุ นั ความคาดหวงั และแนวทางการเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 3. วธิ ีการดาเนินการ สร้างประเด็นการสนทนากลุ่ม เร่ือง สภาพปัจจุบัน ความคาดหวังและแนว ทางการเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา โดยนาประเด็นการสนทนากลุ่มไปใหผ้ ูเ้ ช่ียวชาญดา้ นการพฒั นาหลกั สูตร ดา้ นการวัดผลและ ประเมินผล ดา้ นการศกึ ษาพิเศษ และดา้ นการสอนเดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา จานวน 5 ท่าน เพ่ือทาการตรวจสอบความตรงเชิงเนือ้ หา และผลท่ีไดจ้ ากการสนทนากล่มุ นามาวิเคราะห์ เนือ้ หา (Content Analysis) เพ่ือนาไปใชใ้ นการสรา้ งหลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิต อสิ ระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา ในระยะท่ี 2 ตอ่ ไป 4. การวิเคราะหข์ อ้ มลู ประเด็นการสนทนากลุ่ม เร่ือง สภาพปัจจุบนั ความคาดหวังและแนวทางการ เสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา ทาการ วิเคราะหข์ อ้ มลู โดยการวิเคราะหเ์ นือ้ หา ระยะท่ี 2 สรา้ งหลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 1. กลมุ่ เปา้ หมายท่ีใชใ้ นการวิจยั กลมุ่ เปา้ หมายไดแ้ ก่ ผเู้ ช่ียวชาญท่ีมีประสบการณใ์ นการทางานกบั เดก็ ท่ีมีความ ตอ้ งการพิเศษทางการศึกษา อย่างนอ้ ย 5 ปีขึน้ ไป ไดแ้ ก่ ผเู้ ช่ียวชาญดา้ นหลกั สตู รและการสอน จานวน 2 คน ผเู้ ช่ียวชาญดา้ นการวัดผลและประเมินผล จานวน 1 คน ผเู้ ช่ียวชาญดา้ นการศกึ ษา พิเศษ จานวน 1 คน ผเู้ ช่ียวชาญดา้ นการบริหารศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ จานวน 1 คน ผเู้ ช่ียวชาญ ดา้ นการสอนเด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา จานวน 1 คน ผเู้ ช่ียวชาญดา้ นการสอนในศนู ย์ การศึกษาพิเศษ จานวน 1 คน และผู้เช่ียวชาญด้านกิจกรรมบาบัด จานวน 1 คน เลือก กล่มุ เปา้ หมายโดยใชว้ ิธีเลือกแบบเจาะจง รวมจานวนทงั้ สิน้ 8 คน โดยใชว้ ิธีการสมั ภาษณเ์ ชิงลึก ทางโทรศพั ท์

1128904766 167 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 2. เคร่อื งมือท่ีใชใ้ นการวิจยั 2.1 เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ไดแ้ ก่ แบบสมั ภาษณเ์ ชิงลึกเพ่ือการ วิจยั เร่ือง การประเมินความเหมาะสมของรา่ งหลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระใน บา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 2.2 เคร่อื งมือท่ีใชใ้ นการวจิ ยั ไดแ้ ก่ 1) หลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 2) คมู่ ือหลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ี มีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 3) แบบประเมนิ ก่อนและหลงั การเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระในบา้ น สาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 4) แบบประเมินตามสภาพจริงการเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระใน บา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 3. วธิ ีการดาเนนิ การ 3.1 สรา้ งแบบสมั ภาษณเ์ ชิงลึกเพ่ือการวิจัย เร่ือง การประเมินความเหมาะสม ของร่างหลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่อง ทางสตปิ ัญญา โดยนาแบบสมั ภาษณเ์ ชงิ ลกึ เพ่ือการวจิ ยั ไปใหผ้ เู้ ช่ียวชาญดา้ นการพฒั นาหลกั สตู ร ดา้ นการวัดผลและประเมินผล ดา้ นการศึกษาพิเศษ และดา้ นการสอนเด็กท่ีมีความบกพร่อง ทางสติปัญญา จานวน 5 ทา่ น เพ่ือทาการตรวจสอบความตรงเชิงเนือ้ หา และนาไปประเมินความ เหมาะสมตอ่ ไป 3.2 สรา้ งหลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพร่องทางสติปัญญา โดยนาหลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรับเด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญาพรอ้ มกับแบบสัมภาษณ์เชิงลึกไปให้ผู้เช่ียวชาญ ดา้ นหลกั สตู รและการสอน ผเู้ ช่ียวชาญดา้ นการวดั ผลและประเมินผล ผเู้ ช่ียวชาญดา้ นการศึกษา พิเศษ ผูเ้ ช่ียวชาญดา้ นการบริหารศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ ผูเ้ ช่ียวชาญดา้ นการสอนเด็กท่ีมีความ บกพร่องทางสติปัญญา ผูเ้ ช่ียวชาญดา้ นการสอนในศูนยก์ ารศึกษาพิเศษ และผูเ้ ช่ียวชาญดา้ น กิจกรรมบาบดั จานวน 8 ท่าน เพ่ือทาการประเมินความเหมาะสมของหลักสูตรเพ่ือเสริมสรา้ ง ทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา และผลท่ีไดจ้ าก

1128904766 168 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 วิธีการสมั ภาษณเ์ ชิงลึกทางโทรศพั ทน์ ามาวิเคราะหเ์ นือ้ หา (Content Analysis) เพ่ือนาไปทดลอง ใชก้ บั กลมุ่ ตวั อยา่ งท่ีไมใ่ ชก่ ล่มุ ทดลอง ตอ่ ไป 3.3 สรา้ งค่มู ือหลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา โดยนาคมู่ ือหลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระ ในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญาไปใหผ้ เู้ ช่ียวชาญดา้ นการพฒั นาหลกั สตู ร ดา้ น การวัดผลและประเมินผล ดา้ นการศึกษาพิเศษ และดา้ นการสอนเด็กท่ีมีความบกพร่องทาง สตปิ ัญญา จานวน 5 ท่าน เพ่ือทาการตรวจสอบความตรงเชิงเนือ้ หา และนาไปทดลองใชก้ บั กล่มุ ตวั อยา่ งท่ีไมใ่ ชก่ ลมุ่ ทดลอง ตอ่ ไป 3.4 สรา้ งแบบประเมินก่อนและหลงั การเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระใน บา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา โดยนาแบบประเมินก่อนและหลงั การเสรมิ สรา้ ง ทกั ษะการดารงชีวติ อสิ ระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญาไปใหผ้ เู้ ช่ียวชาญดา้ น การพฒั นาหลกั สตู ร ดา้ นการวดั ผลและประเมินผล ดา้ นการศกึ ษาพิเศษ และดา้ นการสอนเดก็ ท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสติปัญญา จานวน 5 ทา่ น เพ่ือทาการตรวจสอบความตรงเชงิ เนือ้ หา กอ่ นนาไป ทดลองใชก้ บั กลมุ่ ตวั อยา่ งท่ีไมใ่ ชก่ ลมุ่ ทดลองและหาคา่ ความเช่ือม่นั ตอ่ ไป 3.5 สรา้ งแบบประเมินตามสภาพจริงการเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระใน บา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา โดยนาแบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ การเสรมิ สรา้ ง ทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา ไปใหผ้ เู้ ช่ียวชาญ ดา้ นการพฒั นาหลกั สูตร ดา้ นการวดั ผลและประเมินผล ดา้ นการศกึ ษาพิเศษ และดา้ นการสอน เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา จานวน 5 ท่าน เพ่ือทาการตรวจสอบความตรงเชิงเนือ้ หา กอ่ นนาไปทดลองใชก้ บั กลมุ่ ตวั อย่างท่ีไมใ่ ชก่ ลมุ่ ทดลองและหาคา่ ความเช่ือม่นั ตอ่ ไป 4. การวเิ คราะหข์ อ้ มลู 4.1 แบบสมั ภาษณเ์ ชิงลึกเพ่ือการวิจยั เร่ือง การประเมินความเหมาะสมของรา่ ง ค่มู ือหลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทาง สติปัญญา ทาการวิเคราะหข์ อ้ มูลโดยใชส้ ถิติ คา่ ดชั นีความสอดคลอ้ งของแบบสมั ภาษณเ์ ชิงลึก เพ่ือการวิจัย เร่ือง การประเมินความเหมาะสมของร่างค่มู ือหลักสูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการ ดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา ทาการวิเคราะหข์ อ้ มลู โดยใช้ สถิติ คา่ ดชั นีความสอดคลอ้ งของแบบสมั ภาษณเ์ ชงิ ลกึ 4.2 หลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา ทาการวิเคราะหข์ อ้ มลู โดยการวิเคราะหเ์ นือ้ หา (Content Analysis)

1128904766 169 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 4.3 คมู่ ือหลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสติปัญญา ทาการวิเคราะหข์ อ้ มลู โดยใชส้ ถิติ คา่ ดชั นีความสอดคลอ้ งของคมู่ ือ หลักสูตรเพ่ือเสริมสร้างทักษะการดารงชีวิตอิสระในบ้านสาหรับเด็กท่ีมีความบกพร่องทาง สตปิ ัญญา 4.4 แบบประเมินก่อนและหลงั การเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา ทาการวิเคราะหข์ ้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าดชั นีความ สอดคลอ้ งของแบบประเมินก่อนและหลงั การเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา และค่าความเช่ือม่ัน โดยพิจารณาจากค่าดัชนีความ สอดคล้องของผู้สังเกต โดยใช้สูตรการหาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างผู้สังเกตของ คณะกรรมการอตั รากาลงั ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลศริ ริ าช (2546) 4.5 แบบประเมินตามสภาพจริงการเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรับเด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา ทาการวิเคราะหข์ อ้ มูลโดยใช้สถิติ ค่าดัชนีความ สอดคลอ้ งของแบบประเมินตามสภาพจรงิ การเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา และค่าความเช่ือม่ัน โดยพิจารณาจากค่าดัชนีความ สอดคล้องของผู้สังเกต โดยใช้สูตรการหาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างผู้สังเกตของ คณะกรรมการอตั รากาลงั ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลศริ ริ าช (2546) ระยะท่ี 3 ทดลองใชแ้ ละปรบั ปรุงหลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระในบา้ น สาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา ขนั้ ตอนทดลองใชห้ ลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 1. ประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ ง ประชากร ไดแ้ ก่ เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญาระดบั ปานกลาง ซ่ึงไดร้ บั การวินิจฉัยจากแพทยแ์ ละมีบตั รประจาตวั คนพิการ อายรุ ะหว่าง 13 – 18 ปี ท่ีรบั บรกิ ารจากศนู ย์ การศกึ ษาพิเศษประจาจงั หวดั ลาปาง จานวน 4 คน โดยเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) 2. แบบแผนการวจิ ยั การวิจัยครงั้ นีเ้ ป็นการวิจยั ก่ึงทดลอง (Quasi-Experimental Designs) โดยใช้ แบบแผนการวิจยั One Group Pretest-Posttest Design

1128904766 170 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 3. เคร่อื งมือท่ีใชใ้ นการวิจยั 3.1 หลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 3.2 คมู่ ือหลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 3.3 แบบประเมินก่อนและหลงั การเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 3.4 แบบประเมินตามสภาพจรงิ การเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 4. วิธีการทดลอง ดาเนินการทดลองโดยใชห้ ลกั สตู ร ฯ ท่ีสรา้ งขนึ้ กบั กลมุ่ ตวั อยา่ ง โดยมีขนั้ ตอนการ ทดลองแบง่ เป็น 3 ระยะ ดงั นี้ 4.1 ระยะกอ่ นการทดลอง มีการดาเนนิ การ ดงั นี้ 4.1.1 การคดั เลือกกลมุ่ ตวั อยา่ ง 4.1.2 การเตรียมความพรอ้ ม 4.1.3 ประเมนิ ความสามารถพืน้ ฐาน (Pre-test) 4.1.4 จดั อบรมและสาธิตการสอนใหก้ บั ครูผสู้ อน 4.2 ระยะดาเนนิ การทดลอง มีการดาเนินการ ดงั นี้ ผวู้ ิจยั ดาเนินการทดลองร่วมกับครูผสู้ อนในการฝึกทักษะการดารงชีวิต อิสระในบา้ นโดยใชห้ ลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสติปัญญาท่ีสรา้ งขึน้ กับกล่มุ ตวั อย่าง ท่ีศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจงั หวัดลาปาง เร่ิมทาการทดลอง เม่ือวนั ท่ี 1 กรกฎาคม 2563 และสิน้ สุดการทดลองเม่ือวนั ท่ี 8 มกราคม 2564 ในระหว่างทดลองไดท้ าการประเมินความรู้ ทกั ษะกระบวนการ และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ขณะสอนโดยใชแ้ บบประเมินตามสภาพจรงิ การเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 4.3 ระยะหลงั การทดลอง มีการดาเนนิ การ ดงั นี้ 4.3.1 การประเมินทักษะการดารงชีวิตอิสระในบ้านหลังการทดลอง (Post-test) โดยใชแ้ บบประเมินชดุ เดยี วกบั แบบประเมนิ ก่อนการทดลอง

1128904766 171 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 4.3.2 สรุปผลวิเคราะหข์ อ้ มลู ตามเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนท่ีสรา้ งและอา้ งอิง จากแบบประเมินความสามารถพืน้ ฐานของศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจงั หวดั ลาปาง ประจาปี การศกึ ษา 2563 4.3.3 จดั ประชมุ ครู เพ่ือสะทอ้ นผลของการพฒั นาทักษะการดารงชีวิต อิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 4.3.4 จดั ทาวิดีโอการสอนทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ี มีความบกพร่องทางสติปัญญาเพ่ือใชเ้ ป็นส่ือการอบรมครูผสู้ อนและพ่ีเลีย้ งเด็กพิการตลอดจน ผปู้ กครองตอ่ ไป 5. การวเิ คราะหข์ อ้ มลู วิเคราะหข์ อ้ มลู เชิงปริมาณเปรียบเทียบทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นของเดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา ก่อนและหลงั การสอน โดยใชห้ ลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการ ดารงชีวิตอสิ ระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา สถิตทิ ่ีใชใ้ น การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เป็นสถิตเิ ชิงพรรณนา ไดแ้ ก่ คา่ เฉล่ีย (Mean) และคา่ รอ้ ยละ (Percentage) ขนั้ ตอนปรบั ปรุงหลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 1. กลมุ่ เปา้ หมายท่ีใชใ้ นการวจิ ยั กล่มุ เป้าหมาย ไดแ้ ก่ ครูผสู้ อนของกล่มุ ทดลองใชห้ ลกั สตู ร ฯ ในศูนยก์ ารศึกษา พเิ ศษประจาจงั หวดั ลาปาง จานวน 4 คน โดยเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) 2. เคร่อื งมือท่ีใชใ้ นการวิจยั เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มูล ไดแ้ ก่ แบบสมั ภาษณเ์ ชิงลึก เร่ือง การ ปรบั ปรุงหลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทาง สตปิ ัญญา 3. วิธีการดาเนินการ สรา้ งแบบสมั ภาษณเ์ ชิงลึก เร่ือง การปรบั ปรุงหลกั สูตรเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการ ดารงชีวติ อสิ ระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา โดยนาแบบสมั ภาษณเ์ ชิงลึกไป ใหผ้ เู้ ช่ียวชาญดา้ นการพฒั นาหลกั สูตร ดา้ นการวดั ผลและประเมินผล ดา้ นการศกึ ษาพิเศษ และ ดา้ นการสอนเด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา จานวน 5 ท่าน เพ่ือทาการตรวจสอบความ เท่ียงตรงเชงิ เนือ้ หา และผลท่ีไดจ้ ากการสมั ภาษณน์ ามาวิเคราะหเ์ นือ้ หา (Content Analysis) เพ่ือ

1128904766 172 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 นาไปใชใ้ นการปรบั ปรุงหลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญาในสมบรู ณต์ อ่ ไป 4. การวเิ คราะหข์ อ้ มลู แบบสัมภาษณ์เชิงลึก เร่ือง การปรับปรุงหลักสูตรเพ่ือเสริมสร้างทักษะการ ดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา ทาการวิเคราะหข์ อ้ มลู โดยการ วิเคราะหเ์ นือ้ หา สรุปผลการวจิ ัย ระยะท่ี 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน ความคาดหวังและแนวทางการเสริมสรา้ งทักษะการ ดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา การศกึ ษาสภาพปัจจบุ นั ความคาดหวงั และแนวทางการเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิต อิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา ประกอบดว้ ย 2 ขนั้ ตอน คือ 1) การสรา้ ง ประเด็นการสนทนากลมุ่ เร่ือง การศกึ ษาสภาพปัจจบุ นั ความคาดหวงั และแนวทางการเสรมิ สรา้ ง ทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา 2) ผลการศึกษา สภาพปัจจบุ นั ความคาดหวงั และแนวทางการเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 1. ประเด็นการสนทนากล่มุ เร่ือง การศกึ ษาสภาพปัจจบุ นั ความคาดหวงั และแนว ทางการเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา มี คา่ ดชั นีความสอดคลอ้ งอยรู่ ะหวา่ ง 0.80 – 1.00 2. ผลการศกึ ษาสภาพปัจจบุ นั ความคาดหวงั และแนวทางการเสรมิ สรา้ งทกั ษะการ ดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 2.1 สภาพปัจจบุ นั ของการเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา พบว่า สถานศกึ ษาส่วนใหญ่ยงั ไม่มีหลกั สูตรการพฒั นาทกั ษะ การดารงชีวิตใชส้ อนในปัจจุบนั เป็นการเฉพาะ เด็ก ๆ ส่วนใหญ่จะไดเ้ รียนทกั ษะการช่วยเหลือ ตนเองในชีวิตประจาวนั ปัญหาท่ีพบจากการใช้ คือ เนือ้ หาในหลกั สตู รยงั ไม่ครอบคลมุ งานบา้ น ทงั้ หมดและยงั ไมม่ ีแนวทางการจดั กิจกรรม 2.2 ความคาดหวงั ของผเู้ ก่ียวขอ้ งท่ีมีตอ่ การเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระ ในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา พบวา่ ดา้ นกระบวนการจดั การเรียนรูค้ วรสอน เป็นขนั้ เป็นตอนของการทางาน มีการเตรียมอุปกรณ์ ลงมือทา และเก็บอปุ กรณท์ ุกครงั้ ครูควรมี การ วิเคราะห์ การสาธิต การกระตนุ้ เตือน มีการเสริมแรง และสอนเร่ืองความปลอดภยั ของการใช้

1128904766 173 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 อปุ กรณ์ ดา้ นการวดั และประเมินผลควรมีการประเมินก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลงั เรียน และ ควรประเมินทั้ง พุทธิพิสัย ทักษะพิสัย และจิตพิสัย เกณฑก์ ารประเมินควรสัมพันธ์กับเกณฑ์ การประเมนิ ตามมาตรฐานการศกึ ษาเพ่ือใหส้ อดคลอ้ งกบั การประเมินคณุ ภาพภายใน ดา้ นผลผลิต ควรมีทกั ษะดา้ นความรู้ ทกั ษะ และเจตคตขิ องเดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 2.3 แนวทางการเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา พบว่า ทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทาง สติปัญญาควรประกอบดว้ ยทกั ษะการทางานบา้ น ทกั ษะทาปรุงอาหาร ทกั ษะการลา้ งภาชนะ ทักษะการซักเสือ้ ผา้ และทักษะการลา้ งหอ้ งนา้ ควรมีองคป์ ระกอบเหมือนกับหลักสูตรท่ัวไป ขนั้ ตอนการสอนควรมีขนั้ นา ขนั้ สอน ขนั้ สรุป และอายทุ ่ีเหมาะสม คือ 13 ปีขนึ้ ไป ระยะท่ี 2 สรา้ งหลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา การสรา้ งหลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรับเด็กท่ีมี ความบกพร่องทางสติปัญญา ประกอบดว้ ย 1) แบบสัมภาษณ์เชิงลึกเพ่ือการวิจัย เร่ือง การ ประเมินความเหมาะสมของร่างหลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา 2) หลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา 3) ค่มู ือหลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิต อิสระในบา้ นสาหรับเด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา 4) แบบประเมินก่อนและหลังการ เสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา และ 5) แบบประเมินตามสภาพจริงการเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา 1. แบบสมั ภาษณเ์ ชิงลึกเพ่ือการวิจยั เร่ือง การประเมินความเหมาะสมของรา่ ง ค่มู ือหลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทาง สตปิ ัญญา มีคา่ ดชั นีความสอดคลอ้ งเทา่ กบั 1.00 2. หลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสติปัญญา มีความเหมาะสมดา้ นความถูกตอ้ งในระดบั มาก ดา้ นความเหมาะสมใน ระดบั มากท่ีสดุ ดา้ นความเป็นไปไดใ้ นระดบั มากท่ีสดุ และดา้ นอรรถประโยชนใ์ นระดบั มากท่ีสดุ 3. ค่มู ือหลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา มีคา่ ดชั นีความสอดคลอ้ งเทา่ กบั 1.00

1128904766 174 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 4. แบบประเมินก่อนและหลงั การเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา มีคา่ ดชั นีความสอดคลอ้ งเทา่ กับ 1.00 และค่าความ เช่ือม่นั ระหวา่ งผปู้ ระเมินเทา่ กบั 87.50 5. แบบประเมินตามสภาพจริงการเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา มีคา่ ดชั นีความสอดคลอ้ งเทา่ กับ 1.00 และคา่ ความ เช่ือม่นั ระหวา่ งผปู้ ระเมนิ เทา่ กบั 83.33 จากระยะท่ี 2 การสรา้ งหลักสูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบ้าน สาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา สรุปไดว้ า่ หลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิต อิสระในบา้ นสาหรับเด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา ประกอบด้วย 1) จุดมุ่งหมายของ หลกั สตู ร 2) เนือ้ หาสาระ 3) การจดั การเรียนรู้ และ 4) การวดั และประเมินผล คมู่ ือหลกั สตู รเพ่ือ เ ส ริ ม ส ร้า ง ทัก ษ ะ ก า ร ด า ร ง ชี วิ ต อิ ส ร ะ ใ น บ้า น ส า ห รับ เ ด็ ก ท่ี มี ค ว า ม บ ก พ ร่อ ง ท า ง ส ติ ปั ญ ญ า ประกอบดว้ ย 5 หนว่ ยการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ 1) บา้ นของฉันนา่ อยู่ 2) อาหารของฉนั น่ากิน 3) ถว้ ยจาน ของฉนั นา่ หยิบใช้ 4) เสือ้ ผา้ ของฉนั น่าสวมใส่ และ 5) หอ้ งนา้ ของฉนั สะอาดจงั แบบประเมินก่อน และหลังการเสริมสร้างทักษะการดารงชีวิตอิสระในบ้านสาหรับเด็กท่ีมีความบกพร่องทาง สตปิ ัญญา ประกอบดว้ ยเกณฑก์ ารประเมิน 5 ระดบั และเกณฑก์ ารวดั ผลประเมินผล 5 ระดบั โดย ทงั้ การประเมินก่อนสอนและการประเมินหลงั สอนใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกนั ขนั้ ตอนการประเมนิ 3 ขนั้ ตอน คือ ขนั้ ตอนการเตรียมอุปกรณ์ ขนั้ ตอนการลงมือทา และขนั้ ตอนการเก็บอุปกรณ์ แบบประเมิน ตามสภาพจริงการเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทาง สติปัญญา มีเกณฑก์ ารวัดและประเมินผลการสอน 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ ดา้ นความรู้ (K: Knowledge) จานวน 5 ระดบั ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P: Practice) จานวน 5 ระดบั และดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A: Attribute) จานวน 5 ระดบั และการแปลผลระดบั คณุ ภาพมี 5 ระดบั เกณฑก์ าร ผา่ นคือ ระดบั 3-4 ระยะท่ี 3 ทดลองใชแ้ ละปรบั ปรุงหลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา การทดลองใชห้ ลักสูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา พบวา่ 1. เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญามีทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นหลงั การใช้ หลักสูตรเพ่ือเสริมสร้างทักษะการดารงชีวิตอิสระในบ้านสาหรับเด็กท่ีมีความบกพร่องทาง

1128904766 175 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 สตปิ ัญญา สงู กว่า ก่อนการใชห้ ลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา มีคะแนนเพ่มิ ขนึ้ รอ้ ยละ 87.28 2. เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญามีทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นหลงั การใช้ หลักสูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบ้านสาหรับเด็กท่ีมีความบกพร่องทาง สตปิ ัญญา อยใู่ นระดบั ดีเย่ียม มีคา่ เฉล่ียเทา่ กบั 755.25 การปรับปรุงหลักสูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรับเด็กท่ีมี ความบกพร่องทางสติปัญญา พบว่า หลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญามีการปรบั ปรุงแผนการจดั การเรียนเรียนรูใ้ นหน่วยการ เรียนรูท้ ่ี 5 เร่ือง หอ้ งนา้ ของฉันสะอาดจงั แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง การทาความสะอาดหอ้ งนา้ จากเดิมจานวน 12 แผนการจดั การเรียนรูย้ ่อย เหลือจานวน 8 แผนการจดั การเรียนรูย้ ่อย ไดแ้ ก่ การเตรยี มอปุ กรณเ์ ช็ดกระจก การลงมือเช็ดกระจก การเก็บอปุ กรณเ์ ช็ดกระจก การเตรียมอปุ กรณ์ ลา้ งหอ้ งนา้ การลงมือลา้ งผนงั หอ้ งนา้ การลงมือลา้ งสว้ มแบบน่งั ราบ การลงมือลา้ งพืน้ หอ้ งนา้ และ การเก็บอปุ กรณล์ า้ งหอ้ งนา้ โดยจดั ทาเป็นแผนการเรียนรูย้ ่อยในการเตรียมอปุ กรณก์ ารลา้ งผนงั หอ้ งนา้ ลา้ งสว้ มแบบน่งั ราบและลา้ งพืน้ หอ้ งนา้ เป็น 1 แผนการเรียนรูย้ ่อย จากเดิมแยกเป็น 3 แผนการเรียนรูย้ ่อย และแผนการเรียนรูย้ ่อย เก็บอปุ กรณก์ ารลา้ งผนงั หอ้ งนา้ ลา้ งสว้ มแบบน่งั ราบ และลา้ งพืน้ หอ้ งนา้ เป็น 1 แผนการเรียนรูย้ อ่ ย จากเดมิ แยกเป็น 3 แผนการเรยี นรูย้ อ่ ย เพ่ือใหผ้ เู้ รียน ไม่สบั สนและใชเ้ วลาในการนาไปเก็บและเตรียมอปุ กรณใ์ หม่ในขณะท่ียงั ทางานท่ีเดิม เน่ืองจาก เป็นงานซา้ ซอ้ นกนั นอกจากนนั้ มีการปรบั ปรุงแบบประเมินก่อนและหลงั การเสรมิ สรา้ งทกั ษะการ ดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญาในขนั้ ตอนย่อยของการทางาน ใหส้ อดคลอ้ งกับรูปแบบการเรียนของผูเ้ รียนและปรับส่ือการสอนท่ีเหมาะสมกับความตอ้ งการ จาเป็นของผู้เรียน ไดแ้ ก่ ไม้ถูพืน้ เปล่ียนจากไม้ถูพืน้ แบบสอดผ้าและมัด ซ่ึงผู้เรียนมีความ ยากลาบากในการหนีบผา้ และมดั เน่ืองจากผเู้ รียนกลา้ มเนือ้ มือไมแ่ ข็งแรงเหมือนผใู้ หญ่ท่วั ไป จึง เปล่ียนเป็นไมถ้ พู ืน้ แบบรีดนา้ ซ่งึ มีถงั ท่ีใชเ้ ทา้ เหยียบเพ่ือรีดนา้ ออกจากผา้ มอ็ บทาใหผ้ เู้ รียนเรยี นได้ ง่ายขนึ้ สว่ นแบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ การเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญามีความเหมาะสมไมต่ อ้ งปรบั ปรุง

1128904766 176 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 อภปิ รายผลการวจิ ัย ในการวิจยั ครงั้ นีม้ ีประเด็นท่ีนามาอภิปรายผลจานวน 3 ประเด็น คือ 1) ศึกษาสภาพ ปัจจบุ นั ความคาดหวงั และแนวทางการเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมี ความบกพร่องทางสติปัญญา 2) สรา้ งหลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา และ 3) ทดลองใชแ้ ละปรบั ปรุงหลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ ง ทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา ระยะท่ี 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน ความคาดหวังและแนวทางการเสริมสรา้ งทักษะการ ดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา การศกึ ษาสภาพปัจจบุ นั ความคาดหวงั และแนวทางการเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิต อิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา มีประเดน็ เพ่ือนามาอภิปราย ดงั นี้ 1. สภาพปัจจบุ นั ของการเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสติปัญญา พบวา่ ปัจจบุ นั มีการนาหลกั สตู รการพฒั นาทกั ษะการดารงชีวิตไปใช้ ในบางศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษ เดก็ ๆ สว่ นใหญ่จะไดเ้ รยี นทกั ษะการชว่ ยเหลือตนเองในชีวิตประจาวนั สถานศึกษาส่วนใหญ่ยงั ไม่มีหลักสูตรการพฒั นาทักษะการดารงชีวิตใชส้ อนในปัจจุบนั เป็นการ เฉพาะ ปัญหาท่ีพบจากการใช้ คือ เนือ้ หาในหลกั สตู รยงั ไมค่ รอบคลมุ งานบา้ นทงั้ หมดและยงั ไม่มี แนวทางการจดั กิจกรรม ซ่ึงสอดคลอ้ งกับขอ้ คน้ พบของสานกั บริหารงานการศึกษาพิเศษ (สานกั บริหารงานการศกึ ษาพิเศษ, 2559ก) ท่ีไดจ้ ากการนิเทศติดตามสถานศกึ ษานารอ่ งการใชห้ ลกั สตู ร จานวน 26 แห่ง พบว่าสถานศึกษาส่วนใหญ่ยงั ไม่ไดน้ าหลกั สตู รการดารงชีวิตไปใช้ บางแห่งจดั หอ้ งเรียนตามทกั ษะพืน้ ฐานของหลกั สตู รการช่วยเหลือระยะแรกเร่มิ โดยไมม่ ีกิจกรรมบรู ณาการท่ี สอดคลอ้ งกับชีวิตจริง และนอกจากนนั้ ยงั สอดคลอ้ งกบั งานวิจยั ของเบาค์ (Bouck, E. 2010) ได้ ศกึ ษา เร่ือง รายงานการฝึกทกั ษะชีวิตสาหรบั นกั เรียนท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญาทงั้ ในและ นอกโรงเรียน กล่มุ เป้าหมายเป็น นกั เรียนท่ีมีอายุระหว่าง 13 ถึง 16 ปี รบั บริการเกรด 7 และรบั บริการการศกึ ษาพิเศษ ผลการศกึ ษาพบว่า การฝึกทกั ษะชีวิตก่อใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ นกั เรียนท่ีมี ความบกพร่องทางสติปัญญา และมีการรายงานการใชห้ ลกั สูตรค่อนขา้ งนอ้ ย ขอ้ เสนอแนะควร วิจยั เพ่ิมเตมิ เก่ียวกบั การเรียนการสอนทกั ษะชีวิตในโรงเรียนท่ีมีอยใู่ นปัจจบุ นั รูปแบบการเรยี นการ สอนการทางาน การตอบสนองความตอ้ งการของบุคคลท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญาระดบั เล็กนอ้ ย นอกจากนนั้ การศกึ ษาสภาพปัจจบุ นั ถือเป็นขนั้ ตอนแรกของรูปแบบการพฒั นาหลกั สตู ร ท่ีจะตอ้ งวิเคราะหส์ ภาพปัญหา สารวจความตอ้ งการและความจาเป็นตา่ ง ๆ ของผมู้ ีสว่ นเก่ียวขอ้ ง กบั การใชห้ ลกั สตู ร ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั แนวคิดของนกั การศกึ ษาทงั้ ในตา่ งประเทศและในประเทศไทย

1128904766 177 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 (Taba, H. 1962; สงดั อุทรานนั ท,์ 2532; Oliva, P.F. 1992; กรมวิชาการ, 2544) สอดคลอ้ งกับ งานวิจยั ของ วิชาญ พนั ธุป์ ระเสริฐ (2551) ไดศ้ กึ ษาการพฒั นาหลกั สตู รฝึกอบรมครูวิทยาศาสตร์ เพ่ือออกแบบบทปฏิบตั ิการท่ีสอดแทรกภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน วฒั นพร พฒั นภักดี (2552) ไดศ้ กึ ษา การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเพ่ือพัฒนาสามัตถิยะดา้ นวิธีการสอนของคณาจารย์ คณะเภสัช ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และอัคพงศ์ สุขมาตย์ (2553) ไดศ้ ึกษาการพัฒนา หลักสูตรเสริมสรา้ งคุณลักษณะท่ีพึงประสงคข์ องนักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 ตามแนวคิด จิตตปัญญาศกึ ษา ซง่ึ ไดศ้ กึ ษาขอ้ มลู พืน้ ฐาน เป็นขนั้ ตอนแรกของการพฒั นาหลกั สตู รเชน่ เดียวกนั 2. ความคาดหวงั การเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา ดา้ นกระบวนการจดั การเรียนรูค้ วรสอนเป็นขนั้ เป็นตอนของการทางาน มี การเตรียมอปุ กรณ์ ลงมือทา และเก็บอปุ กรณท์ กุ ครงั้ ครูควรมีการ วเิ คราะห์ การสาธิต การกระตนุ้ เตือน มีการเสรมิ แรง และสอนเร่ืองความปลอดภยั ของการใชอ้ ุปกรณ์ ดา้ นการวดั และประเมินผล ควรมีการประเมินก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลงั เรียน และควรประเมินทงั้ พทุ ธิพสิ ยั ทกั ษะพิสยั และจิตพิสยั เกณฑก์ ารประเมินควรสมั พนั ธก์ บั เกณฑก์ ารประเมินตามมาตรฐานการศกึ ษาเพ่ือให้ สอดคลอ้ งกบั การประเมินคณุ ภาพภายใน ดา้ นผลผลิตควรมีทกั ษะด้านความรู้ ทกั ษะ และเจตคติ ของเด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา ซ่งึ สอดคลอ้ งกบั แนวคิดการเรียนการสอนทางตรง เป็น รูปแบบการสอนรูปแบบหน่งึ ท่ีเนน้ การแยกยอ่ ยทกั ษะการเรียนรูอ้ อกเป็นขนั้ ตอน (Joyce, B.R.; & Weil, M. 2009: 343-346) และสอดคลอ้ งกบั แนวคดิ จดุ มงุ่ หมายของหลกั สตู รท่ีจาแนกจดุ มงุ่ หมาย ตามแนวคดิ ของบลมู และคณะ (Bloom, B. S. et. al. 1956) จาแนกเป็น 3 ดา้ น คือ พฤตกิ รรมดา้ น ความรู้ ความคิดหรือดา้ นสติปัญญา พฤติกรรมดา้ นความรูส้ ึก และพฤติกรรมดา้ นการปฏิบัติ (ราตรี นนั สคุ นธ์, 2555: 35) นอกจากนนั้ การเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นมีความ จาเป็นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา สอดคลอ้ งกบั ขอ้ เสนอแนะจากการวิจัยของ สมพร คามลู (2554) ไดว้ จิ ยั เร่ือง ความสามารถในการชว่ ยเหลือตนเองดา้ นการแตง่ กายของเดก็ ท่ี มีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญาโดยการใชช้ ดุ กิจกรรมการแตง่ กาย ท่ีระบวุ า่ ควรทาวิจยั เพ่ือพฒั นา ทกั ษะการชว่ ยเหลือตนเองดา้ นอ่ืนๆ ท่ีมีความจาเป็นพืน้ ฐานในการใชช้ ีวิตประจาวนั สอดคลอ้ งกบั งานวิจยั ของเบาค์ (Bouck, E. 2010) ไดศ้ กึ ษา เร่ือง รายงานการฝึกทกั ษะชีวิตสาหรบั นกั เรียนท่ีมี ความบกพร่องทางสติปัญญาทัง้ ในและนอกโรงเรียน ผลการศึกษาพบว่า การฝึกทักษะชีวิต ก่อใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ นกั เรียนท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา และมีการรายงานการใชห้ ลกั สตู ร คอ่ นขา้ งนอ้ ย ขอ้ เสนอแนะควรวิจยั เพ่ิมเติมเก่ียวกับรูปแบบการเรียนการสอนการทางาน อีกทงั้ สอดคลอ้ งกับงานวิจยั ของ คิม (Kim, R. 2010) ไดศ้ กึ ษา เร่ือง การเพ่ิมการเขา้ ถึงท่ีอย่อู าศยั ของ

1128904766 178 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 ชุมชน: การศึกษาแห่งชาติเร่ือง ทักษะการใช้ชีวิตท่ีเป็ นอิสระและกิจกรรมชุมชน ท่ีได้ให้ ขอ้ เสนอแนะ วา่ ควรมีการวจิ ยั สารวจความคดิ เหน็ ของผเู้ ช่ียวชาญดา้ นหลกั สตู รเก่ียวกบั ทกั ษะและ กิจกรรมท่ีสาคญั สาหรบั นกั เรียนท่ีจะไดร้ บั ก่อนออกจากโรงเรียน และสอดคลอ้ งกับงานวิจยั ของ คลั เลน, ซิมมอนส์ และวีเวอร์ (Cullen, J. M.; Simmons-Reed, E. A.; & Weaver, L. 2016) ได้ ศกึ ษา เร่ือง การใชเ้ ทคโนโลยีวิดโี อในศตวรรษท่ี 21 กระตนุ้ เพ่ือสง่ เสรมิ ความเป็นอิสระของบุคคลท่ี มีบกพร่องทางสติปัญญาและพฒั นาการ ผลการศึกษาพบว่า ผลการปฏิบตั ิงานของบุคคลท่ีมี ความบกพร่องทางสติปัญญาดีขึน้ หลงั จากใหก้ ารช่วยเหลือระยะแรกผ่านการใชเ้ ทคโนโลยีจาก วิดีโอ ขอ้ เสนอแนะการวิจยั ควรส่งเสริมทกั ษะการใชช้ ีวิตประจาวนั ของบคุ คลท่ีมีความบกพรอ่ ง ทางสตปิ ัญญา 3. แนวทางการเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความ บกพร่องทางสติปัญญา ควรประกอบดว้ ยทกั ษะการทางานบา้ น ทกั ษะทาปรุงอาหาร ทกั ษะการ ลา้ งภาชนะ ทกั ษะการซกั เสือ้ ผา้ และทกั ษะการลา้ งหอ้ งนา้ ควรมีองคป์ ระกอบเหมือนกบั หลกั สตู ร ท่ัวไป ขัน้ ตอนการสอนควรมีขั้นนา ขัน้ สอน ขัน้ สรุป และอายุท่ีเหมาะสม คือ 13 ปีขึน้ ไป ซ่ึง สอดคลอ้ งกบั องคป์ ระกอบของทกั ษะการทางานบา้ น ซ่งึ ประกอบดว้ ย 1) การทาความสะอาดบา้ น 2) การซกั และจดั เก็บเสือ้ ผา้ 3) การจดั เตรียมและปรุงอาหาร 4) การทาความสะอาดภาชนะ และ 5) การทาความสะอาดเคร่ืองใชใ้ นครวั เรือน (Wehman, P. & Kregel, J. 2012; Puget Sound Educational Service District, 2006; Wehman, P. 2006; Mannix, D. 2009; Wehman, P. 2013; Henderson, L.; & Winram, P. 2014; สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ, 2558ก; Oakwood Solutions L.L.C. 2018; Wehman, P.; Kregel, J. 2020) และสอดคลอ้ งกับ (ร่าง) โปรแกรมการ พัฒนาทักษะการดารงชีวิตสาหรบั เด็กท่ีมีความตอ้ งการจาเป็นพิเศษของศูนยก์ ารศึกษาพิเศษ พุทธศกั ราช 2558 (สานกั บริหารงานการศกึ ษาพิเศษ, 2558ก) ซ่ึงระบกุ ารจดั การเรียนรูใ้ นแตล่ ะ ชว่ งวยั ท่ีเหมาะสมในการจดั การเรียนรูท้ ่ีมงุ่ เนน้ เร่อื งการทางานอยใู่ นชว่ งวยั 11 ปีขนึ้ ไป สอดคลอ้ ง กับงานวิจัยของ รูทีระ และคณะ (Ruteere, 2015) ไดศ้ ึกษาเร่ือง ประสบการณท์ ่ีทา้ ทายในการ สอนทกั ษะการดารงชีวิตประจาวนั ใหผ้ เู้ รียนท่ีมีภาวะบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา ซ่งึ ขอ้ เสนอแนะจาก การศกึ ษาการศกึ ษาพบวา่ โรงเรียนควรสรา้ งครูใหม้ ีความเช่ียวชาญในการสอนทกั ษะการดารงชีวิต ประจาวนั ใหผ้ ูเ้ รียนท่ีมีภาวะบกพร่องทางสติปัญญาเพ่ือใหค้ รูสามารถปรับเปล่ียนหอ้ งเรียนได้ เหมาะสมและวางแผนพร้อมทั้งประยุกต์ใช้แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลได้อย่างมี ประสิทธิภาพและเลือกใชว้ ิธีการสอนและส่ือการเรียนการสอนท่ีถกู ตอ้ ง เหมาะสม เพ่ือใหแ้ นใ่ จวา่ ผเู้ รียนไดร้ บั การสอนทกั ษะการดารงชีวิตประจาวนั เพ่ือการดารงชีวิตท่ีเป็นอิสระตอ่ ไป ตลอดจน

1128904766 179 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 งานวิจยั ของ ไวนก์ บู , โรเบริ ต์ สนั และชวารต์ ซ์ (Wynkoop. K.S., 2018)ท่ีไดศ้ กึ ษา เร่ือง ผลการใช้ วิดีโอตน้ แบบสองรายการท่ีมีต่อการสอนทักษะการดารงชีวิตอิสระของนกั เรียนออทิสติก และ บกพร่องทางสติปัญญา พบว่า นกั เรียนออทิสติกและนกั เรียนบกพร่องทางสติปัญญา มกั ขาด ทกั ษะในการดารงชีวิตท่ีเป็นอิสระท่ีเพียงพอต่อการดาเนินชีวิตประจาวัน มีความเส่ียงท่ีจะตอ้ ง พ่งึ พาผปู้ กครองตลอดเวลา การใชว้ ิดโี อตน้ แบบในการสอนทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระทาใหน้ กั เรียน ออทิสตกิ และนกั เรียนบกพรอ่ งทางสติปัญญามีความตอ้ งการการกระตนุ้ เตือนจากผใู้ หญ่นอ้ ยลง ในการดารงชีวิตอสิ ระ ระยะท่ี 2 สรา้ งหลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา การสรา้ งหลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา มีประเดน็ เพ่ือนามาอภิปราย ดงั นี้ หลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่อง ทางสติปัญญา ประกอบดว้ ย 4 องคป์ ระกอบ ไดแ้ ก่ 1) จดุ ม่งุ หมายของหลกั สตู ร 2) เนือ้ หาสาระ 3) การจดั การเรียนรู้ และ 4) การวดั และประเมนิ ผล โดยไดม้ าจากการสงั เคราะหอ์ งคป์ ระกอบของ หลกั สตู รของ ทาบา (Taba, H. 1962) ไทเลอร์ (Tyler, R. W. 1971) เซเลอร์ อเล็กซานเดอร์ และลู อิส (Saylor, J. G.; Alexander, W. M.; & Lewis, A. J. 1981) บญุ เลีย้ ง ทุมทอง (2554: 14-15) ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์ (2558: 3) นพเก้า ณ พัทลุง (ม.ป.ป.: 4) ซ่ึงสอดคล้องกับแนวคิดของนัก การศกึ ษาทงั้ ในต่างประเทศและในประเทศไทย (Taba, H. 1962; Tyler, R. W. 1971; Saylor, J. G.; Alexander, W. M.; & Lewis, A. J. 1981; บญุ เลีย้ ง ทมุ ทอง, 2554: 14-15; ชยั วฒั น์ สทุ ธิรตั น,์ 2558: 3; นพเกา้ ณ พทั ลงุ , ม.ป.ป.: 4) และสอดคลอ้ งกบั งานวจิ ยั ของ (วรามยั ใจม่นั , 2553) ได้ ศกึ ษาแนวทางการพฒั นาหลกั สตู รทอ้ งถ่ินกล่มุ สาระการเรียนรูศ้ ิลปะ เร่ือง การทอผา้ ลายตาจกั สาหรบั นกั เรียนมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 จงั หวดั กาญจนบรุ ี และ (พรรตั น์ ระนนั ท,์ 2559) ไดศ้ กึ ษา เร่ือง การพัฒนาหลักสูตรการอ่านภาษาไทยเชิงธุรกิจตามแนวคิดการศึกษาอิงมาตรฐานสาหรับ ชาวต่างชาติ ซ่ึงได้แบ่งองค์ประกอบหลักสูตรออกเป็น 4 องค์ประกอบเช่นเดียวกัน ได้แก่ วตั ถปุ ระสงค์ เนือ้ หา กิจกรรมการเรียนการสอน และการวดั การประเมินผล หลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่อง ทางสตปิ ัญญา ประกอบดว้ ย 5 หนว่ ยการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ 1) บา้ นของฉนั นา่ อยู่ จานวน 4 งาน รวม 12 แผนการจดั การเรยี นรู้ 2) อาหารของฉนั น่ากิน จานวน 1 งาน รวม 3 แผนการจดั การเรียนรู้ 3) ถว้ ย จานของฉันน่าหยับใช้ จานวน 1 งาน รวม 3 แผนการจดั การเรียนรู้ 4) เสือ้ ผา้ ของฉันน่าสวมใส่

1128904766 180 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 จานวน 1 งาน รวม 3 แผนการจดั การเรียนรู้ และ 5) หอ้ งนา้ ของฉันสะอาดจงั จานวน 4 งาน รวม 12 แผนการจดั การเรียนรู้ โดยแตล่ ะแผนการจัดการเรียนรูม้ ีการออกแบบกิจกรรมการเรียนการ สอนท่ีเป็นขนั้ เป็นตอนประกอบดว้ ย ขนั้ นา ขนั้ สอนและฝึก ขนั้ วดั ผลและขนั้ สรุป เป็นการวิเคราะห์ และสงั เคราะหจ์ ากแนวคิดรูปแบบการเรียนการสอนทางตรง (Joyce, B.R.; & Weil, M. 2009: 343-346) จดั เป็นรูปแบบการสอนรูปแบบหน่งึ ท่ีเนน้ การแยกยอ่ ยทกั ษะการเรียนรูอ้ อกเป็ นขนั้ ตอน มีการออกแบบกิจกรรมท่ีใชใ้ นการเรียนการสอนท่ีมีลาดบั ขนั้ ตอนชดั เจน ซ่งึ ผเู้ รียนจะตอ้ งประสบ ผลสาเรจ็ ทีละขนั้ ตอน กอ่ นท่ีจะเรียนในขนั้ ตอนตอ่ ๆ ไป นอกจากนนั้ แตล่ ะแผนการจดั การเรียนรูม้ ี การกาหนดส่ือและแหล่งเรียนเป็นส่ือของจริงและส่ือทางสายตา ซ่ึงผเู้ รียนจะไดเ้ รียนบนพืน้ ฐาน ของความตอ้ งการจาเป็นทงั้ ในปัจจุบนั และอนาคต ช่วยเตรียมผเู้ รียนใหม้ ีความพรอ้ มสาหรบั การ นาทกั ษะท่ีไดเ้ รียนไปใชไ้ ดต้ ลอดชีวิต เป็นไปตามแนวคิดของรูปแบบหลกั สตู รเชิงการนาไปใชใ้ น ชีวิต (Functional Curriculum Model) (Wehman, P. 2013.; Wehman, P. Kregel. J. 2020.) และสอดคลอ้ งกับงานวิจยั ของ สามารถ รตั นะสาคร (2554: 115-120) ท่ีไดศ้ ึกษาแนวทางการ พฒั นาหลกั สตู รสถานศกึ ษาอิงมาตรฐานตามแนวคิดพิพฒั นาการหนา้ ท่ีนยิ มเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะ สาคญั ของนกั เรียนท่ีมีความบกพรอ่ งทางการเห็นรว่ มกบั ความบกพรอ่ งอ่ืน ผลการศกึ ษาพบว่า มี แนวทางสาคญั 4 ประการ ไดแ้ ก่ ผเู้ รียนเป็นศนู ยก์ ลาง ผเู้ รียนมีทกั ษะท่ีสามารถนาไปใชภ้ ายหลงั จบการศกึ ษา ผเู้ รียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรูแ้ ละมีการแสดงความกา้ วหนา้ ของนักเรียน และการมีส่วนรว่ มของผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ งในทกุ ขนั้ ตอนของการพฒั นาหลกั สูตร ผลของการใชห้ ลกั สูตร พบวา่ ผเู้ รียนมีความสามารถในการปฏิบตั สิ งู กวา่ ก่อนการทดลองในทกุ ทกั ษะ สาหรบั การจดั การ เรียนการสอนโดยใชส้ ่ือของจริงภายใตส้ ถานการณจ์ ริงจะก่อใหเ้ กิดการเรียนรูท้ ่ีดีขึน้ ต่อเด็กท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา สอดคลอ้ งกบั อญั ชลี ยศย่ิง (2552) ไดว้ ิจยั เร่ือง การพฒั นาทกั ษะ การซือ้ ของสาหรับบุคคลท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญาโดยการสอนในสถานการณ์จริง กลมุ่ เปา้ หมายเป็นเพศชาย อายุ 17 ปี จานวน 1 คน ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญาระดบั ฝึกได้ ผลการวจิ ยั พบวา่ บคุ คลท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญามีสมาธิและแรงจงู ใจในการเรียนมากขนึ้ ส่วนดา้ นความตงั้ ใจและสนใจมีมากขนึ้ มีความม่นั ใจในคาตอบ สามารถปฏิบตั ไิ ดถ้ กู ตอ้ ง รวดเรว็ สามารถดารงชีวิตไดด้ ว้ ยตนเองโดยเฉพาะเร่ืองทกั ษะการซือ้ ของไดเ้ ป็นอยา่ งดี และสอดคลอ้ งกบั นลินทิญา นวฐิตกิ ลุ (2556) ไดว้ ิจยั เร่ือง การพฒั นาทกั ษะการเลือกซือ้ ของในชีวิตประจาวันของ เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญาโดยผา่ นสถานการณจ์ ริง ผลการวิจยั พบว่า การเรียนรูใ้ นแต่ ละแผน รวมทงั้ หมด 6 แผนการจดั การเรียนรู้ กรณีศกึ ษามีคะแนนเฉล่ียเพ่ิมขนึ้ จากเดมิ คือรอ้ ยละ 26.39 เป็นรอ้ ยละ 95.83 แสดงให้เห็นว่ากระบวนการเรียนการสอนผ่านสถานการณจ์ ริง นัน้

1128904766 181 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 สามารถช่วยพัฒนาทักษะการเลือกซื้อของในชีวิตประจาวันของเด็กท่ีมีความบกพร่องทาง สติปัญญา นอกจากนี้ จากการสงั เคราะหแ์ นวคิดการประเมินหลกั สูตรเชิงสรา้ งสรรค์ ซ่ึงมารุต พัฒผล (2558) กล่าวว่า การประเมินหลักสูตรประเมินก่อนนาหลักสูตรไปใช้โดยผูเ้ ช่ียวชาญ (Connoisseurship) เป็นการตรวจสอบคณุ ภาพของหลกั สตู รฉบบั ร่าง และใหข้ อ้ เสนอแนะท่ีเป็น ประโยชน์ โดยการพิจารณาองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ของหลกั สตู ร นบั วา่ เป็นกระบวนการท่ีสาคญั ท่ีสดุ ก่อนท่ีจะนาหลกั สูตรไปส่กู ารปฏิบตั ิ ผลปรากฏว่าจากการประเมินหลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะ การดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา มีความถกู ตอ้ งอยใู่ นระดบั มาก มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากท่ีสุด มีความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากท่ีสุด และมี อรรถประโยชน์ อยใู่ นระดบั มากท่ีสดุ รวมทงั้ ไดท้ าการปรบั ปรุงแกไ้ ขตามคาแนะนาของผเู้ ช่ียวชาญ จนไดห้ ลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทาง สติปัญญาท่ีมีความเหมาะสม จึงสรุปไดว้ ่าหลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระใน บา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญามีประสิทธิภาพ สามารถนาไปใชใ้ นการวิจัยได้ เป็นอยา่ งดี หลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่อง ทางสตปิ ัญญา มีการจดั ทาแบบประเมินก่อนและหลงั การเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระใน บา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา เป็นแบบประเมินท่ีใชก้ ารสงั เกตท่ีมีลกั ษณะเป็น แบบมาตราส่วนประมาณคา่ (Rating Scale) 5 ระดบั โดยใชม้ าตราส่วนประมาณค่าของลิเคิรท์ (บญุ ชม ศรสี ะอาด, 2554) ท่ีมีรายการประเมินตามประเภทของการกระตนุ้ เตือนตงั้ แตก่ ระตนุ้ เตือน มากท่ีสุดจนถึงไม่ตอ้ งกระตุน้ เตือน โดยมีหลักว่าจะถอนการช่วยเหลือจากมากท่ีสุดไปสู่การ ชว่ ยเหลือนอ้ ยท่ีสดุ คือ ถอนการกระตนุ้ เตือนทางกายก่อน ตอ่ มาถอนการกระตนุ้ เตือนดว้ ยทา่ ทาง และสุดทา้ ยถอนการกระตนุ้ เตือนทางวาจา สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (2559ข: 55-56) และลาดบั ขนั้ ตอนการกระตนุ้ เตือนนีจ้ ะมีอยา่ งนอ้ ยสามระดบั ระดบั แรกคือ ระดบั อิสระ เสมอตน้ เสมอปลาย (เช่น ไม่มีการใช้กระตุ้นเตือน) และระดบั ท่ีเหลือจะเรียงลาดับจากการให้ความ ช่วยเหลือระดบั นอ้ ยท่ีสุดไปจนถึงการใหค้ วามช่วยเหลือระดบั ท่ีมากท่ีสุด ระดบั สุดทา้ ยของการ กระตนุ้ เตือนนนั้ ควรเป็นการกระตนุ้ เตือนแบบควบคมุ ซ่ึงส่งผลใหผ้ ูเ้ รียนทาพฤติกรรมไดอ้ ย่าง ถกู ตอ้ ง (Neitzel, J. & Wolery, M. 2009) และเกณฑก์ ารประเมินมี 5 ระดบั สอดคลอ้ งกบั เกณฑ์ การให้คะแนนแบบประเมินความสามารถพื้นฐานและเกณฑ์การประเมินคุณภาพภายใน สถานศึกษาของศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง ประจาปีการศึกษา 2563 (ศูนย์ การศกึ ษาพิเศษประจาจงั หวดั ลาปาง, 2563) เพ่ือวิเคราะหแ์ ละสงั เคราะหใ์ หไ้ ดแ้ บบประเมินก่อน

1128904766 182 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 และหลงั การเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นท่ีเหมาะสมสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่อง ทางสติปัญญา ซ่งึ แบบประเมินก่อนและหลงั การเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระฉบบั นี้ มีการ แยกย่อยรายการประเมินทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นท่ีมีข้อคาถามเป็นลักษณะของการ วิเคราะห์งานเป็นขั้นตอนย่อย เพ่ือให้การประเมินทักษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นมีความ ครอบคลมุ และชดั เจนซ่งึ สอดคลอ้ งกบั ศนู ยพ์ ฒั นาวิชาชีพแหง่ ชาตขิ องบคุ คลออทิสซ่มึ (National Professional Development Center on ASD, 2010: 1) สมเกตุ อุทธโยธา (2560: 129) สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ (2561: 28) เวแมนและเครเกิล (Wehman, P.; Kregel, J. 2020: 164) ท่ีกล่าวว่า การวิเคราะหง์ านเป็นการย่อยงาน หรือเนือ้ หาวิชาท่ีตอ้ งการจะสอนเด็ก ในแต่ละครงั้ ของการสอน ออกเป็นขนั้ ตอนยอ่ ย ๆ หรือหลายขนั้ ตอนเล็ก ๆ โดยแตล่ ะขนั้ ตอนของงานจะเร่มิ จาก งานง่าย ๆ ท่ีเดก็ สามารถทาไดเ้ องและเพ่มิ ขนั้ ตอนตอ่ ไปทีละนอ้ ย จนเดก็ ทาไดจ้ นครบทกุ งานยอ่ ย นนั้ ในการเรียนครงั้ นนั้ ๆ นอกจากนี้ แบบประเมินก่อนและหลงั การเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิต อิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญาไดร้ บั การพิจารณาความเท่ียงตรงเชิง เนือ้ หา (Content Validity) จากผเู้ ช่ียวชาญท่ีมีประสบการณก์ ารทางานกบั เด็กท่ีมีความตอ้ งการ พิเศษ จานวน 5 คน พบวา่ ทกุ ขอ้ มีคา่ ดชั นีความสอดคลอ้ งเทา่ กบั 1 ซ่งึ สอดคลอ้ งกบั แนวคิดท่ีว่า คา่ ความเท่ียงตรงเชิงเนือ้ หา โดยค่าดชั นีความสอดคลอ้ งจากผเู้ ช่ียวชาญควรมีค่ามากกว่าหรือ เท่ากบั 0.5 (ลว้ น สายยศ และองั คณา สายยศ, 2543; สมโภชน์ อเนกสุข, 2554; ศิริชยั กาญจน วาสี, 2552) รวมทงั้ ไดท้ าการปรบั ปรุงแกไ้ ขตามคาแนะนาของผเู้ ช่ียวชาญจนไดแ้ บบประเมินก่อน และหลังการเสริมสร้างทักษะการดารงชีวิตอิสระในบ้านสาหรับเด็กท่ีมีความบกพร่อ งทาง สตปิ ัญญาท่ีมีความเหมาะสม อีกทงั้ แบบประเมินก่อนและหลงั การเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิต อิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญาไดผ้ า่ นการวิเคราะหค์ า่ ความเช่ือม่นั ของ แบบประเมิน โดยนาแบบประเมินฉบบั นีไ้ ปทดลองใชก้ ับนกั เรียนท่ีเป็นกล่มุ ตวั อย่างในการสรา้ ง แบบประเมิน จานวน 2 คน โดยใชผ้ ปู้ ระเมิน 2 คน พบว่าแบบประเมินมีคา่ ความเช่ือม่นั จากการ ประเมิน (Inter-Rater Reliability: IRR) เทา่ กบั 87.5 ซ่งึ สอดคลอ้ งกบั แนวคิดท่ีว่า คา่ ความเช่ือถือ ไดข้ องการสังเกต (Reliability Coefficient) ซ่ึงกาหนดระดับท่ียอมรับได้ไว้ไม่น้อยกว่า 80% (คณะกรรมการอตั รากาลงั ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลศริ ริ าช, 2546) จากการทดลองใชพ้ บวา่ แบบประเมินก่อนและหลงั การเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสติปัญญามีคา่ ความเช่ือม่นั ท่ีเหมาะสม จงึ สรุปไดว้ า่ แบบประเมินก่อนและหลงั การ เ ส ริม ส ร้า ง ทัก ษ ะ ก า ร ด า ร ง ชี วิ ต อิ ส ร ะ ใ น บ้า น ส า ห รับ เ ด็ ก ท่ี มี ค ว า ม บ ก พ ร่อ ง ท า ง ส ติ ปั ญ ญ ามี ประสทิ ธิภาพ สามารถนาไปใชใ้ นการวจิ ยั ไดเ้ ป็นอยา่ งดี

1128904766 183 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 นอกจากนนั้ หลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพร่องทางสติปัญญา มีการจดั ทาแบบประเมินตามสภาพจริงการเสริมสรา้ งทกั ษะการ ดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา เป็นแบบประเมินท่ีใชก้ าร สงั เกตขณะครูสอนท่ีมีลกั ษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณคา่ (Rating Scale) 5 ระดบั โดยใช้ มาตราสว่ นประมาณคา่ ของลิเคิรท์ (บญุ ชม ศรีสะอาด, 2554) เพ่ือวิเคราะหแ์ ละสงั เคราะหใ์ หไ้ ด้ แบบประเมินตามสภาพจริงการเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสติปัญญา ซ่งึ แบบประเมินตามสภาพจริงการเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระใน บา้ นฉบบั นี้ มีการแยกยอ่ ยรายการประเมินทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นท่ีมีขอ้ คาถามท่ีใชม้ ีวดั และประเมินผลการสอน 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ ดา้ นความรู้ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ และดา้ นคณุ ลกั ษณะ อันพึงประสงค์ ซ่ึงสอดคล้องกับ ราตรี นันทสุคนธ์ (2555: 35-46) ท่ีกล่าวว่า การจาแนก จดุ ม่งุ หมายทางการศึกษาตามแนวของบลมู และคณะ (Bloom, B. S.; et. al. 1956) แบ่งเป็น 3 ดา้ น คือ ดา้ นพุทธิพิสยั หรือดา้ นสติปัญญา ดา้ นจิตพิสยั หรือดา้ นความรูส้ ึก เจตคติ คา่ นิยม และ ดา้ นทกั ษะพิสยั หรือดา้ นการปฏิบตั ิ ดงั นนั้ การจาแนกจุดม่งุ หมายทางการศกึ ษา ตอ้ งจาแนกให้ ครอบคลมุ พฤติกรรมทงั้ 3 ดา้ น และแบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ การเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิต อิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา มีการแปลผลระดบั คณุ ภาพ 5 ระดบั เกณฑก์ ารผา่ นคือ ระดบั 3-4 สอดคลอ้ งกบั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนตามแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะ บคุ คลท่ีกาหนดไวใ้ นหลกั สตู รสถานศกึ ษาและเกณฑก์ ารประเมินคณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาของ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง ประจาปีการศกึ ษา 2563 (ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจา จงั หวดั ลาปาง, 2563) ตลอดจนมีความสอดคลอ้ งกบั การวดั และประเมินผลการเรยี นรูจ้ าเป็นตอ้ งมี การปรบั เปล่ียนใหส้ อดคลอ้ งกบั หลกั สตู รและการจดั การเรียนรูฐ้ านสมรรถนะ (คณะกรรมการอสิ ระ เพ่ือการปฏิรูปการศกึ ษาและสานกั งานเลขาธิการสภาการศึกษา, 2562: 4) ท่ีท่ีระบวุ ่าม่งุ วดั จาก พฤตกิ รรม การกระทา การปฏิบตั ิท่ีแสดงออกถึงความสามารถในการใชค้ วามรู้ ทกั ษะ เจตคติและ คุณลักษณะต่าง ๆ ตามเกณฑก์ ารปฏิบัติ ท่ีกาหนดเป็นการวัดอิงเกณฑ์ มิใช่ อิงกลุ่มและมี หลกั ฐานการปฏิบตั ิ ใชต้ รวจสอบไดจ้ ากการประเมินตามสภาพจรงิ นอกจากนี้ แบบประเมินตาม สภาพจริงการเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิตอิสระในบ้านสาหรับเด็กท่ีมีความบกพร่องทาง สติปัญญาไดร้ บั การพิจารณาความเท่ียงตรงเชิงเนือ้ หา (Content Validity) จากผูเ้ ช่ียวชาญท่ีมี ประสบการณก์ ารทางานกบั เด็กท่ีมีความตอ้ งการพเิ ศษ จานวน 5 คน พบวา่ ทกุ ขอ้ มีคา่ ดชั นีความ สอดคลอ้ งเท่ากับ 1 ซ่ึงสอดคลอ้ งกับแนวคิดท่ีว่าคา่ ความเท่ียงตรงเชิงเนือ้ หา โดยคา่ ดชั นีความ สอดคลอ้ งจากผเู้ ช่ียวชาญควรมีค่ามากกว่าหรือเท่ากบั 0.5 (ลว้ น สายยศ และองั คณา สายยศ,

1128904766 184 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 2543; สมโภชน์ อเนกสุข, 2554; ศิริชยั กาญจนวาสี, 2552) รวมทงั้ ไดท้ าการปรบั ปรุงแกไ้ ขตาม คาแนะนาของผูเ้ ช่ียวชาญจนไดแ้ บบประเมินตามสภาพจริงการเสริมสรา้ งทักษะการดารงชีวิต อิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญาท่ีมีความเหมาะสม อีกทงั้ แบบประเมิน ตามสภาพจริงการเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทาง สติปัญญาไดผ้ ่านการวิเคราะหค์ ่าความเช่ือม่นั ของแบบประเมิน โดยนาแบบประเมินฉบบั นีไ้ ป ทดลองใชก้ บั นกั เรยี นท่ีเป็นกลมุ่ ตวั อย่างในการสรา้ งแบบประเมิน จานวน 2 คน โดยใชผ้ ปู้ ระเมิน 2 คน พบว่าแบบประเมินมีค่าความเช่ือม่นั จากการประเมิน (Inter-Rater Reliability: IRR) เท่ากับ 83.33 ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั แนวคดิ ท่ีวา่ คา่ ความเช่ือถือไดข้ องการสงั เกต (Reliability Coefficient) ซง่ึ กาหนดระดบั ท่ียอมรับไดไ้ ว้ ไม่นอ้ ยกว่า 80% (คณะกรรมการอัตรากาลัง ฝ่ ายการพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช, 2546) จากการทดลองใชพ้ บว่า แบบประเมินตามสภาพจริงการเสริมสรา้ ง ทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญามีคา่ ความเช่ือม่นั ท่ี เหมาะสม จงึ สรุปไดว้ า่ แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ การเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ น สาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญามีประสิทธิภาพ สามารถนาไปใช้ในการวิจยั ไดเ้ ป็น อยา่ งดี ระยะท่ี 3 ทดลองใชห้ ลกั สตู รเพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอสิ ระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ี มีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา การทดลองใชห้ ลกั สูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมี ความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา ถือเป็นขนั้ ตอนท่ีสาคญั ของการพฒั นาหลกั สตู ร เป็นการนาหลกั สตู ร ท่ีพฒั นาขึน้ ไปสงั เกตและวัดผลจากการทดลองซ่ึงพิจารณาจากความม่งุ หมายของหลกั สูตร ซ่ึง สอดคลอ้ งกบั แนวคดิ ของนกั การศกึ ษาทงั้ ในตา่ งประเทศและในประเทศไทย (Taba, H. 1962; สงดั อทุ รานนั ท,์ 2532; Oliva, P.F. 1992; กรมวิชาการ, 2544) สอดคลอ้ งกบั งานวิจยั ของ วิชาญ พนั ธุ์ ประเสริฐ (2551) ได้ศึกษาการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมครูวิทยาศาสตร์เพ่ือออกแบบบท ปฏิบัติการท่ีสอดแทรกภูมิปัญญาท้องถ่ิน วัฒนพร พัฒนภักดี (2552) ไดศ้ ึกษาการพัฒนา หลักสูตรฝึกอบรมเพ่ือพัฒนาสามัตถิยะด้านวิธีการสอนของคณาจารย์ คณะเภสัชศา สตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และอัคพงศ์ สุขมาตย์ (2553) ได้ศึกษาการพัฒนาหลักสูตร เสริมสรา้ งคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงคข์ องนกั เรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 ตามแนวคิดจิตตปัญญา ศึกษา ท่ีได้พัฒนาหลักสูตรเป็น 4 ขั้นตอนสาคัญไดแ้ ก่ การศึกษาข้อมูลพืน้ ฐาน การยกร่าง หลกั สตู ร การทดลองใชห้ ลกั สตู ร และการประเมินหลกั สตู ร จากการทดลองใชก้ ับกล่มุ เป้าหมาย พบวา่ เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญามีทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นหลงั การใชห้ ลกั สตู ร

1128904766 185 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 เพ่ือเสรมิ สรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา อย่ใู น ระดบั ดีเย่ียม และเด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญามีทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นหลงั การ ใชห้ ลักสูตรเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทาง สตปิ ัญญา สงู กว่า ก่อนการใชห้ ลกั สตู รเพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เดก็ ท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา เหตุท่ีไดผ้ ลการทดลองเป็นเช่นนี้ เน่ืองจากมีการศึกษาสภาพ บรบิ ทของส่งิ แวดลอ้ มและอปุ กรณท์ ่ีใชใ้ นบา้ นรวมทงั้ การสอบถามผปู้ กครองก่อนลงมือทดลอง อีก ทัง้ อุปกรณท์ ่ีใช้ในการจดั การเรียนการสอนเป็นอุปกรณ์จริงท่ีใชใ้ นชีวิตประจาวัน สอนภายใต้ สถานการณ์จริง สอดคลอ้ งกับแนวคิดรูปแบบหลักสูตรเชิงการนาไปใช้ในชีวิต (Wehman, P. 2013.; Wehman, P.& Kregel. J. 2020) มีการออกแบบแผนการจดั การเรียนเรียนรูใ้ นกิจกรรม การการเรียนการสอนเป็นรูปแบบการเรียนการสอนทางตรงซ่ึงมีขนั้ ตอนชดั เจน สอนใหผ้ เู้ รียนทา กิจกรรมไดป้ ระสบผลสาเรจ็ ทีละขนั้ ตอน สอดคลอ้ งกบั แนวคิดของ ทิศนา แขมมณี (2560: 256) ท่ี ระบุว่าผลท่ีผูเ้ รียนจะไดร้ บั จากการเรียนตามรูปแบบการเรียนการสอนแบบทางตรงนี้ เป็นไป ตามลาดบั ขนั้ ตอน ไดเ้ ร็วและไดม้ ากในเวลาท่ีจากดั ผเู้ รียนตงั้ ใจทางานไดท้ ีละขนั้ ตอนจนครบ ทา ใหเ้ กิดความภาคภมู ใิ จ แผนการจดั การเรียนรูม้ ีการวเิ คราะหง์ านใหเ้ หมาะสมกบั ศกั ยภาพของกล่มุ ตวั อยา่ ง โดยจดั ลาดบั จากงา่ ยไปหายากก่อใหเ้ กิดการเรยี นรูแ้ ละบรรลเุ ปา้ หมายไดด้ ีขนึ้ สอดคลอ้ ง กบั แนวคดิ การวิเคราะหง์ านของ สจุ ินต์ สวา่ งศรี (2552: 56) นอกจากนนั้ แผนการจดั การเรียนรูย้ งั มีการออกแบบการกระตนุ้ เตือนเม่ือผเู้ รียนลืมในบางขนั้ ตอนและลดการกระตนุ้ เตือนลงเม่ือผเู้ รียน สามารถทาไดพ้ รอ้ มทงั้ ใหค้ าชมหรือปรบมือเป็นขวญั กาลงั ใจใหก้ บั ผเู้ รียน พรอ้ มทงั้ ใชบ้ ตั รภาพซง่ึ เป็นส่ือทางสายตาหรือส่ือสนบั สนนุ การเรียนรูผ้ ่านการมองช่วยในการกระตนุ้ เตือน ซ่งึ สอดคลอ้ ง กบั แนวคดิ ของ ไนทเ์ ซลิ และโวลอรี (Neitzel, J., & Wolery, M. 2009) ท่ีระบวุ า่ การกระตนุ้ เตือนจะ เรียงลาดบั จากการใหค้ วามช่วยเหลือระดบั นอ้ ยท่ีสุดไปจนถึงการใหค้ วามช่วยเหลือระดบั ท่ีมาก ท่ีสดุ และสานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ (2559ข: 55-56) ท่ีระบวุ า่ ครูตอ้ งคอ่ ย ๆ ถอนตวั กระตนุ้ เตอื นออกไป ซง่ึ เรยี กวา่ การสลายตวั กระตนุ้ เตือน (Fading Prompting) โดยมีหลกั วา่ จะถอนการ ช่วยเหลือจากมากท่ีสดุ ไปส่กู ารช่วยเหลือนอ้ ยท่ีสุด คือ ถอนการกระตนุ้ เตือนทางกายก่อน ตอ่ มา ถอนการกระตุน้ เตือนด้วยท่าทางและสุดทา้ ยถอนการกระตุ้นเตือนทางวาจา นอกจากนัน้ ยัง สอดคลอ้ งกบั แนวคิดการเสริมแรงทางบวกของสกินเนอร์ (Skinner, B.F. 1938) ท่ีไดร้ ะบุว่าการ เสริมแรงทางบวกเป็นการเพ่ิมความถ่ีของการเกิดของพฤตกิ รรมท่ีเกิดการเรียนรูใ้ หม่ อนั เป็นผลมา จากกรรมท่ีตามหลงั พฤติกรรม ก่อใหเ้ กิดพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ และสอดคลอ้ งกับการใชส้ ่ือ ทางสายตาหรอื การเรียนรูผ้ า่ นการมองว่าเป็นรูปแบบการเรยี นรูท้ ่ีดีของคนส่วนใหญ่โดยใชก้ ารมอง

1128904766 186 SWU iThesis gs601150008 dissertation / recv: 21052564 12:49:29 / seq: 89 และการสรา้ งภาพในสมอง เช่ือมโยงกบั ประสบการณเ์ ดิมท่ีเคยเรียนรูม้ าพฒั นาเป็นความคิดรวบ ยอดใหม่และขยายองค์ความรู้ของตนไปเร่ือย ๆ ดังนั้น การเรียนรู้ผ่านการมองจึงเป็นการ เปล่ียนแปลงพฤติกรรม กระบวนการคิด โครงสรา้ งความคิดในสมองของบคุ คล อนั เน่ืองมาจาก การรบั รูท้ างสายตาหรือจากการมองเหน็ (สมพร หวานเสรจ็ , 2552: 49) งานวิจัยท่ีสนับสนุนและแสดงให้เห็นว่า การเรียนการสอนแบบทางตรงทาให้การ เสริมสรา้ งทกั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญามีความ เหมาะสมและทาใหท้ กั ษะการดารงชีวิตอิสระในบา้ นสาหรบั เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางสติปัญญาดี ขนึ้ สอดคลอ้ งกบั งานวิจยั ของสรุ สั วดี ว่องไว (2553) ไดศ้ กึ ษาพฤติกรรมในการซือ้ และรบั ประทาน อาหารของนกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ท่ีมีภาวะออทิสตกิ อายรุ ะหวา่ ง 10-15 ปี จากการสอน ตรงรว่ มกบั การใชบ้ ตั รพลงั (Power Card) จานวน 5 คน ท่ีมีปัญหาการซือ้ และรบั ประทานอาหาร ผลการวิจยั พบว่า พฤตกิ รรมในการซือ้ อาหารและพฤตกิ รรมในการรบั ประทานอาหารของนกั เรียน หลงั การสอน ฯ อยใู่ นระดบั ดี และสงู ขนึ้ กวา่ ก่อนสอน นอกจากนนั้ ยงั สอดคลอ้ งกบั งานวิจยั ของ สริ ิ กร ปาชนะวงศ์ (2557) ไดศ้ กึ ษาความสามารถทางการอา่ นของนกั เรียนท่ีมีความบกพรอ่ งทางการ เรียนรู้ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 โดยใชว้ ิธีการสอนตรงร่วมกบั ชุดการสอนและการเสริมแรง โดยมี กลมุ่ เปา้ หมาย จานวน 6 คน โดยใชเ้ คร่ืองมือ 3 ชิน้ ไดแ้ ก่ 1) แผนการสอนการอ่านคาท่ีสะกดไม่ ตรงตามมาตราตวั สะกด 2) ชุดการสอน และ 3) แบบทดสอบวดั ความสามารถในการอ่าน ผล การศกึ ษาพบวา่ ความสามารถทางการอ่านคาของนกั เรียนท่ีมีความบกพรอ่ งทางการเรียนรูห้ ลงั การสอนตรงร่วมกบั ชุดการสอนและการเสริมแรงสงู กว่าก่อนการสอนอย่างมีนัยสาคญั ทางสถิติ และยงั สอดคล้องกับงานวิจยั ของหทยั ทิพย์ หนูมงกุฎ (2557) ไดศ้ ึกษาการสอนตรงร่วมกับส่ือ วิดที ศั นเ์ พ่ือเพ่มิ ความสามารถรบั รูอ้ ารมณผ์ อู้ ่ืนของเดก็ ออทิสตกิ ตวั อยา่ งท่ีใชใ้ นการศกึ ษาเป็นเด็ก ออทิสตกิ กาลงั ศกึ ษาอยทู่ ่ีหอ้ งเรียนคขู่ นานสาหรบั บคุ คลออทิสตกิ จานวน 2 คน ดาเนินการทดลอง เป็นระยะเวลา 4 สปั ดาห์ สปั ดาหล์ ะ 3 วนั วนั ละ 50 นาที เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการวิจยั ประกอบดว้ ย แผนการจัดการเรียนรู้ ส่ือวิดีทัศน์ และแบบประเมินความสามารถในการรับรู้อารมณ์ผู้อ่ืน ผลการวิจยั พบว่าเม่ือเปรียบเทียบก่อนและหลงั การสอนตรงรว่ มกับวิดีทศั น์ โดยใชส้ ถิตคิ า่ รอ้ ยละ พบว่า ความสามารถในการรบั รูอ้ ารมณผ์ ูอ้ ่ืนของเด็กออทิสติกหลงั ไดร้ บั การสอน ฯ และมีความ คงทนกวา่ ก่อนการสอน และยงั สอดคลอ้ งกบั งานวิจยั ของจินดารตั น์ ทองประพนั ธุ์ (2561) ไดว้ ิจยั การพฒั นาความสามารถรูค้ ่าจานวนและการบวกของนักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 ท่ีมีความ บกพรอ่ งทางสตปิ ัญญาระดบั เลก็ นอ้ ย จากการสอนโดยวธิ ีการสอนตรงรว่ มกบั เทคนคิ ทชั แมทซ์ กบั กลุ่มเป้าหมาย จานวน 5 คน ดาเนินการทดลองโดยใชแ้ บบแผนการทดลองแบบ One Group


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook