52. ขอ้ ใดเปน็ ภาษีทางตรงทงั้ หมด 1) ภาษีเงินได้ ภาษที รพั ย์สนิ ภาษมี รดก 2) ภาษีศุลกากร ภาษมี ลู ค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิต 3) ภาษีเงนิ ได้ ภาษีทรพั ยส์ ิน ภาษมี ูลคา่ เพิ่ม 4) ภาษีมรดก ภาษีสรรพสามิต ภาษีทรัพย์สิน 53. การเก็บภาษีชนดิ ใดทชี่ ่วยเสรมิ ใหก้ ารเสียภาษเี ป็นธรรมย่งิ ขึ้น 1) ภาษีมูลคา่ เพ่ิม 2) ภาษสี รรพสามิต 3) ภาษีศลุ กากร 4) ภาษีมรดก 54. การเก็บภาษีศลุ กากรเป็นการเก็บภาษเี พอ่ื ทาํ ให้ประชาชนปรบั ตัวอย่างไร 1) ลดการบรโิ ภคสินค้าและบริการ 2) ลดการใชจ้ า่ ยสนิ คา้ และบรกิ าร 3) ลดการนําเขา้ สินค้าจากตา่ งประเทศ 4) ลดการส่งสนิ ค้าออกไปยงั ต่างประเทศ 55. ถา้ รัฐบาลต้องการหารายได้เพิม่ ข้นึ ให้มากทส่ี ุดจากการเกบ็ ภาษตี ่อหนว่ ยสนิ คา้ ควรใชว้ ธิ ใี ด 1) ขนึ้ ภาษีสนิ ค้าจาํ เปน็ 2) ขน้ึ ภาษีสนิ ค้าฟุ่มเฟอื ย 3) ขน้ึ ภาษีสินคา้ ปกติ 4) ขึ้นภาษปี ้าย 56. การคลงั ภาครฐั บาลมีการวางแผนดาํ เนนิ กจิ กรรมตามข้อใด 1) รายจ่ายเปน็ เคร่ืองกาํ หนดรายได้ 2) รายจา่ ยเปน็ เครอื่ งกําหนดภาษีอากร 3) รายได้เปน็ เครื่องกาํ หนดรายจา่ ย 4) รายไดเ้ ปน็ เคร่ืองกําหนดงบประมาณ 57. ตราสารกู้ยมื เงินทอ่ี อกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ปกตเิ ปน็ ตราสารระยะยาวเพื่อขายให้แก่ประชาชน และ จะใชเ้ งนิ คืนภายในระยะเวลาท่กี ําหนดพรอ้ มดอกเบีย้ เรยี กว่าอะไร 1) พันธบัตรรัฐบาล 2) ต๋ัวเงินคลัง 3) หนุ้ กู้ 4) ต๋ัวสญั ญาใชเ้ งนิ 58. ข้อใดเป็นนโยบายการแทรกแซงกลไกราคาของรฐั 1) การหาตลาดตา่ งประเทศเพ่ือยกระดบั ราคาสินคา้ ใหส้ ูงข้ึน 2) การนําสินค้าที่ขาดแคลนออกขายในตลาดเพื่อลดระดบั ราคาสินคา้ ใหต้ าํ่ ลง 3) การเกบ็ ภาษตี ่อหนว่ ยของสินคา้ ให้สูงขนึ้ เพ่ือเพม่ิ รายได้ใหก้ บั รฐั 4) การกําหนดค่าแรงขน้ั ตํ่าเพือ่ เพ่มิ รายไดใ้ หก้ ับแรงงาน 59. ในกรณที ีด่ ัชนีราคาสินคา้ ในตลาดมีแนวโน้มสงู ขนึ้ จะก่อใหเ้ กิดเหตกุ ารณใ์ ด 1) ภาวะเงินตึงตัว 2) ภาวะเงนิ เฟอ้ 3) ภาวะสินค้าล้นตลาด 4) ภาวะเศรษฐกจิ ตกตํา่ 60. ดัชนีราคาผู้บรโิ ภคเพม่ิ ขน้ึ 20% หมายความวา่ อย่างไร 1) ปริมาณสินคา้ ทุกชนิดเพิ่มข้นึ 20% 2) ราคาสินคา้ เพ่มิ ข้ึน 20% 3) รายไดท้ ี่แทจ้ ริงเพิ่มขนึ้ 20% 4) อตั ราเงินเฟ้อเพิม่ ข้นึ 20% โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปีท่ี 26 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (101)
61. ปัจจัยใดเป็นสาเหตหุ น่งึ ทําให้เกิดภาวะเงนิ เฟอ้ 2) อุปทานของสนิ ค้ามมี ากเกนิ ไป 1) ปรมิ าณเงินในระบบเศรษฐกจิ มีมากเกนิ ไป 4) การส่งั สนิ คา้ เขา้ มีมากเกินไป 3) อัตราดอกเบ้ยี ในท้องตลาดสูงเกินไป 62. ข้อใดเป็นสาเหตุของภาวะเงนิ เฟ้อซ่ึงเกิดจากปัจจัยด้านอุปสงค์ 1) การข้ึนราคานา้ํ มันดบิ ของประเทศในกลุม่ โอเปค 2) การเรยี กร้องคา่ จา้ งงานของสหภาพแรงงาน 3) การเพ่มิ ค่าใช้จ่ายของรฐั บาล 4) การเพิ่มอัตรากาํ ไรของนกั ธุรกจิ 63. ข้อใดเป็นสาเหตุใหเ้ กดิ ภาวะเงนิ เฟอ้ เน่อื งจากแรงดึงของอุปสงค์ 1) คา่ จา้ งแรงงานในประเทศสงู ขึน้ 2) รัฐบาลเพ่ิมเงนิ กองทุนหมบู่ ้าน 3) ราคานํ้ามนั ปรบั ตัวสูงขึ้นอยา่ งตอ่ เนี่อง 4) ราคาวัสดกุ อ่ สรา้ งสูงขน้ึ 64. ขอ้ ใดไมใ่ ช่สาเหตขุ องเงินเฟ้อที่เกดิ จากทางดา้ นอุปทาน 1) การเพม่ิ ขนึ้ ของปรมิ าณเงนิ ในประเทศ 2) การเพิ่มข้ึนของค่าแรง 3) การเพ่มิ ข้ึนของภาษนี ําเข้าวัตถุดบิ จากตา่ งประเทศ 4) การเพม่ิ ขน้ึ ของอัตราดอกเบย้ี 65. ข้อใดไม่ใช่ผลจากการที่ระดบั ราคาสินค้าโดยทว่ั ไปสูงขึ้นอยา่ งต่อเนอ่ื ง 1) อาํ นาจซือ้ ของเงิน 1 หนว่ ยลดลง 2) ค่าครองชพี ของประชาชนสูงขน้ึ 3) ลกู หน้ที ท่ี ําสญั ญากู้เงินระยะยาวจะเสยี เปรียบเจา้ หนี้ 4) การกระจายรายได้ไมเ่ ท่าเทยี มกนั มากข้นึ 66. ผทู้ ่ไี ด้ประโยชนจ์ ากภาวะเงนิ เฟอ้ คอื ขอ้ ใด 2) เจ้าของทดี่ ิน ลูกหน้ี 1) ผู้ใช้แรงงาน เจ้าหนี้ 4) กรรมกร พนักงานบรษิ ัท 3) ผู้มรี ายได้ต่ํา ผูร้ บั บํานาญ 67. การแก้ปญั หาเงนิ เฟอ้ อาจทาํ ไดโ้ ดยวธิ กี ารใด 1) ลดอตั ราดอกเบี้ย ลดอตั ราภาษี ลดการใช้จา่ ยของรัฐบาล 2) เพม่ิ อตั ราดอกเบย้ี เพม่ิ อตั ราภาษี ลดการใช้จ่ายของรฐั บาล 3) เพิ่มอัตราดอกเบีย้ เพิ่มอัตราภาษี เพิม่ การใช้จา่ ยของรัฐบาล 4) ลดอัตราดอกเบี้ย ลดอตั ราภาษี เพ่ิมการใชจ้ า่ ยของรัฐบาล 68. เมอ่ื เกดิ ภาวะเงินเฟ้อขึน้ ในระบบเศรษฐกจิ รัฐบาลสามารถแก้ปญั หาได้โดยวธิ ใี ด 1) ใชน้ โยบายการใชจ้ ่ายแบบงบประมาณสมดลุ 2) ลดการใช้จา่ ยของรัฐบาล 3) เพิม่ การใชจ้ า่ ยในรปู เงนิ โอน 4) ลดภาษเี งินไดบ้ ุคคลธรรมดา สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (102) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 26
69. ข้อใดไมใ่ ชห่ นา้ ที่ของธนาคารกลางในการควบคุมปริมาณเงนิ ท่หี มนุ เวียนในระบบเศรษฐกจิ เพ่ือแก้ไขปญั หา การว่างงานที่เกิดข้ึน 1) การลดอัตราดอกเบย้ี ของธนาคาร 2) การลดอตั ราเงนิ สดสาํ รองตามกฎหมาย 3) การลดอตั ราภาษที างตรงและทางออ้ ม 4) การรับซือ้ พันธบัตรรฐั บาลคนื จากประชาชน 70. ธนาคารแหง่ ประเทศไทยมีแนวโน้มจะขายพนั ธบตั รรัฐบาลให้ธนาคารพาณชิ ย์ในภาวะใดมากทีส่ ุด 1) ธนาคารแห่งประเทศไทยขาดธนบัตรทใ่ี ช้หมนุ เวยี น 2) เกิดภาวะเงินฝดื ค่อนข้างรุนแรง 3) เกิดภาวะเศรษฐกจิ เร่มิ ชะลอตัว 4) เกิดภาวะเงนิ เฟอ้ 71. เครือ่ งมอื ใดท่ธี นาคารกลางใชเ้ พอื่ ลดปรมิ าณเงินในระบบเศรษฐกิจ 1) เพ่มิ อตั ราเงนิ สาํ รองตามกฎหมาย 2) ซอ้ื พันธบตั รรัฐบาลคนื จากประชาชน 3) ลดอตั รารบั ช่วงซื้อลดต๋วั สัญญาใช้เงินจากธนาคารพาณิชย์ 4) ลดอตั ราดอกเบย้ี เงนิ กู้ที่ใหธ้ นาคารพาณิชยก์ ู้ 72. สิง่ ใดบอกใหร้ ูว้ ่าราคาสินคา้ และบริการในประเทศใดถูกหรือแพงกวา่ กนั 1) อัตราดอกเบย้ี 2) อตั รารับช่วงซือ้ ลด 3) อตั ราเงนิ เฟอ้ 4) อัตราแลกเปลยี่ น 73. ข้อใดแสดงวา่ เงนิ บาทแข็งค่าเมอ่ื เทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา 1) เงิน 1 บาทแลกดอลลารไ์ ด้จํานวนนอ้ ยลง 2) ใช้เงินบาทจาํ นวนน้อยลงในการแลกเงนิ 1 ดอลลาร์ 3) เงนิ 1 ดอลลารแ์ ลกเงินบาทได้จํานวนมากขึน้ 4) ใชเ้ งนิ บาทจํานวนมากข้นึ ในการแลกเงนิ 1 ดอลลาร์ 74. รัฐบาลประกาศเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลย่ี นจาก 1 ดอลลาร์ เท่ากับ 35 บาท เปน็ 1 ดอลลาร์ เทา่ กบั 30 บาท หมายความวา่ อย่างไร 1) เงินบาทมคี ่าสงู ข้ึน เพราะ 1 ดอลลารแ์ ลกเปน็ เงินบาทไดล้ ดลง ทําให้ชาวตา่ งประเทศเห็นวา่ สินคา้ ไทย แพงขึ้น 2) เงนิ บาทมีคา่ สูงข้นึ เพราะ 1 ดอลลารแ์ ลกเปน็ เงนิ บาทไดล้ ดลง ทําให้ราคาสินคา้ ไทยถูกลง 3) เงนิ บาทมีค่าลดลง เพราะ 1 ดอลลารแ์ ลกเปน็ เงนิ บาทไดเ้ พิ่มข้นึ ทําใหช้ าวตา่ งประเทศเห็นว่าสินคา้ ไทย ถูกลง 4) เงนิ บาทมคี า่ ลดลง เพราะ 1 ดอลลาร์แลกเป็นเงนิ บาทไดเ้ พ่ิมขึน้ ทําใหร้ าคาสินค้าไทยแพงขน้ึ โครงการแบรนดซ์ ัมเมอร์แคมป์ ปีท่ี 26 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (103)
75. ถา้ หากเงนิ บาทของไทยมีคา่ แข็งข้นึ มากเม่ือเทยี บกับเงินดอลลาร์สหรัฐอเมรกิ า จะทาํ ใหเ้ กิดผลขอ้ ใด 1) ราคาสนิ คา้ ไทยแพงข้นึ ในสายตาคนไทย 2) ราคาสนิ ค้าไทยถูกลงในสายตาชาวต่างประเทศ 3) ราคาสนิ ค้าจากต่างประเทศถกู ลงในสายตาคนไทย 4) ราคาสนิ ค้าจากตา่ งประเทศแพงขึ้นในสายตาชาวตา่ งประเทศ 76. ข้อใดไมใ่ ชผ่ ลทเี่ กดิ ขนึ้ ถา้ คา่ เงินบาทแขง็ ขนึ้ เมือ่ เทยี บกบั เงนิ ดอลลารส์ หรัฐ 1) ราคาน้าํ มนั ปิโตรเลยี มในประเทศจะลดลง 2) ราคารถยนตท์ ่สี ง่ ไปขายต่างประเทศจะถูกลง 3) เงนิ 1 บาท แลกเงนิ ดอลลาร์ไดม้ ากขน้ึ 4) เงิน 1 ดอลลาร์ แลกเงินบาทได้น้อยลง 77. ถา้ อตั ราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเปลี่ยนแปลงจาก 40 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 38 บาท ตอ่ 1 ดอลลารส์ หรฐั ฯ ประเทศไทยมแี นวโนม้ ท่ีจะเผชิญกับสถานการณ์ในขอ้ ใด 1) มลู ค่าจากสินคา้ สง่ ออกเพิม่ มากขนึ้ 2) ระดบั ราคาสนิ ค้าในประเทศเพมิ่ มากขน้ึ 3) การลงทุนจากสหรฐั อเมรกิ าเพิม่ ข้ึน 4) นักท่องเท่ยี วอเมริกามาท่องเทยี่ วในประเทศไทยลดลง 78. ถ้าอัตราแลกเปลย่ี นเงินเปลยี่ นจาก 35 บาท ตอ่ 1 ดอลลาร์เปน็ 30 บาทตอ่ 1 ดอลลาร์จะมีผลอย่างไร 1) ดลุ บญั ชีเดินสะพดั จะขาดดลุ มากขนึ้ 2) ดุลบัญชีทุนเคลอ่ื นยา้ ยจะแปรผนั มากขนึ้ 3) ดุลการค้าของไทยจะขาดดุลนอ้ ยลง 4) ดลุ การชาํ ระเงนิ ของไทยจะไดเ้ ปรียบมากขนึ้ 79. ถ้าอัตราแลกเปล่ียนเงินตราต่างประเทศเปลยี่ นแปลงจาก 42 บาทตอ่ 1 ดอลลาร์สหรฐั ฯ เป็น 35 บาทต่อ 1 ดอลลารส์ หรฐั ฯ ประเทศไทยมแี นวโนม้ วา่ จะเกดิ สภาพอยา่ งไรในตลาดเงนิ ของไทย 1) อุปสงค์ในเงนิ ดอลลาร์สหรัฐฯ จะสูงขึน้ 2) อุปสงค์ในเงนิ ดอลลาร์สหรฐั ฯ จะลดลง 3) อุปทานในเงนิ ดอลลาร์สหรัฐฯ จะคงที่ 4) เกดิ อัตราแลกเปลี่ยนดลุ ยภาพ 80. ขอ้ ใดเปน็ ทีม่ าของอปุ ทานเงนิ ตราตา่ งประเทศ 2) การซือ้ รถยนต์จากประเทศญปี่ ุ่น 1) การไปทอ่ งเที่ยวตา่ งประเทศ 4) การสง่ เงินไปลงทนุ ในประเทศกมั พูชา 3) การส่งขา้ วไปขายยงั ตา่ งประเทศ 81. สาเหตใุ ดทําให้เกดิ อุปสงคข์ องเงนิ ตราระหวา่ งประเทศ 1) การส่งออกผา้ ฝ้ายไทย 2) ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเทย่ี วในประเทศไทย 3) แรงงานไทยในตะวนั ออกกลางสง่ เงินกลับมาใหค้ รอบครัวในประเทศไทย 4) รฐั บาลไทยให้ทนุ นกั เรยี นไปเรยี นต่อตา่ งประเทศ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (104) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปที ่ี 26
82. ข้อใดเป็นผลกระทบจากการท่ีเงินบาทแข็งคา่ ขนึ้ อย่างตอ่ เน่อื ง ดลุ การค้าขาดดลุ เพิ่มขึ้น 1) กําไรจากการสง่ สินคา้ ออกลดลง การแขง่ ขนั กบั ประเทศค่แู ขง่ ยากขนึ้ ดุลการคา้ ขาดดลุ ลดลง 2) กาํ ไรจากการสง่ สินคา้ ออกเพมิ่ ขึน้ การแข่งขนั กบั ประเทศคู่แขง่ ยากขน้ึ ดุลการค้าขาดดุลลดลง 3) กาํ ไรจากการสง่ สินคา้ ออกลดลง การแข่งขนั กบั ประเทศคู่แข่งงา่ ยขึ้น ดุลการค้าขาดดลุ เพิ่มข้ึน 4) กําไรจากการส่งสนิ คา้ ออกเพิม่ ขน้ึ การแข่งขันกับประเทศค่แู ขง่ งา่ ยขึ้น 83. ขอ้ ใดเป็นรายการที่แสดงอยู่ในดลุ บญั ชีเดนิ สะพัด 1) ดุลการค้าและบรกิ าร รายได้ ดลุ บริจาค บัญชีทนุ สํารองระหว่างประเทศ 2) ดุลการชาํ ระเงิน บญั ชที ุนและการเงิน ดลุ การค้าและบริการ 3) ดลุ บริจาค บัญชที นุ และการเงิน 4) รายได้ ดุลการชําระเงิน บญั ชีทุนสํารองระหว่างประเทศ 84. ถ้าในปที ี่แลว้ ดลุ การชาํ ระเงินของประเทศไทยขาดดุล 2,500 ลา้ นบาท จะทําใหเ้ กดิ ผลตามข้อใด 1) ประเทศไทยต้องลดการนําเขา้ สนิ ค้าเป็นมูลคา่ 2,500 ล้านบาท 2) ทุนสาํ รองระหวา่ งประเทศของประเทศไทยจะตอ้ งลดลง 2,500 ล้านบาท 3) รัฐบาลไทยจะต้องลดการกยู้ มื เงินต่างประเทศลงเปน็ มูลคา่ 2,500 ลา้ นบาท 4) รฐั บาลไทยจะต้องลดงบประมาณรายจ่ายประจาํ ปีลงเป็นมูลคา่ 2,500 ลา้ นบาท 85. คาํ กลา่ วที่วา่ “บัญชเี ดนิ สะพดั ของประเทศไทยขาดดลุ ” มีความหมายอยา่ งไร 1) รายไดจ้ ากการสง่ ออกตาํ่ กว่ารายจ่ายในการนาํ เข้า 2) รายรับเงินตราตา่ งประเทศต่ํากวา่ รายจา่ ยเงินตราต่างประเทศ 3) รายรับจากการส่งออกและการลงทุนในตา่ งประเทศตํา่ กว่ารายจ่ายในการนําเข้าและคนื เงนิ ทนุ ให้ ต่างประเทศ 4) รายไดจ้ ากการขายสินคา้ และบรกิ ารให้ตา่ งประเทศตา่ํ กว่ารายจ่ายในการซ้อื สนิ คา้ และบริการจาก ตา่ งประเทศ 86. ถ้าประเทศไทยส่งเสรมิ บรรยากาศการลงทุนจนทําให้ชาวต่างประเทศเข้ามาลงทุนมากข้ึนจะมีผลทําให้เกิด การเกนิ ดุลในบญั ชีใด 1) บัญชีเดินสะพดั 2) บญั ชีทุนสํารอง 3) บญั ชที ุน 4) บญั ชเี งนิ โอน 87. ขอ้ ใดไม่อยใู่ นการบันทกึ รายการบัญชเี ดินสะพัด (Current Account) ของประเทศไทย 1) เงนิ ลงทนุ โดยตรงของคนไทยในตา่ งประเทศ 2) รายจ่ายของคนไทยในการซ้ือเคร่อื งจกั รกลจากญปี่ ุ่น 3) รายได้จากการทอ่ งเทย่ี วของไทย 4) รายได้จากกิจการรัฐพาณิชยข์ องไทย 88. เมอ่ื ดุลการชําระเงนิ ระหว่างประเทศขาดดุลจะมผี ลทําให้ยอดดลุ บญั ชีใดมคี า่ เป็นบวก 1) บัญชที ุนสํารอง 2) บัญชีทุน 3) บัญชีเดินสะพดั 4) บัญชเี งินโอน โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปีที่ 26 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (105)
89. เมอื่ ประเทศไทยมีทนุ สํารองระหวา่ งประเทศเพ่ิมขึน้ ย่อมแสดงว่าอะไร 1) ดุลการชําระเงินของไทยนน้ั ขาดดลุ และบัญชีทุนสํารองระหว่างประเทศมคี ่าเปน็ ลบ 2) ดลุ การชําระเงนิ ของไทยนั้นขาดดลุ และบญั ชที นุ สํารองระหว่างประเทศมคี า่ เป็นศูนย์ 3) ดลุ การชาํ ระเงนิ ของไทยนั้นเกนิ ดลุ และบัญชีทุนสํารองระหวา่ งประเทศมคี า่ เป็นบวก 4) ดลุ การชาํ ระเงินของไทยนัน้ เกนิ ดลุ และบญั ชีทนุ สาํ รองระหวา่ งประเทศมคี ่าเปน็ ลบ 90. การแกไ้ ขปัญหาดุลการชาํ ระเงนิ ระหว่างประเทศควรใช้มาตรการใด 1) เพ่มิ การสง่ ออกและลดการนาํ เข้า 2) เพิ่มการให้บริการแกต่ า่ งประเทศ 3) เพิ่มปริมาณเงนิ หมุนเวียนในระบบเศรษฐกจิ 4) เพ่มิ การลงทนุ ในตา่ งประเทศ 91. กิจกรรมทางเศรษฐกจิ ใดทส่ี ะทอ้ นให้เห็นว่าประเทศน้นั มีระบบเศรษฐกิจแบบเปิด 1) การลงทุนของหนว่ ยธรุ กจิ 2) การใช้จ่ายของภาครัฐบาล 3) การบริโภคและการออม 4) การนําเขา้ และส่งออก 92. ปัจจัยใดท่ีกอ่ ให้เกดิ การคา้ ระหว่างประเทศ 2) ความต้องการสินค้าจากต่างประเทศ 1) ความแตกตา่ งในทรัพยากรการผลติ 4) ปรมิ าณวัตถดุ บิ ของแตล่ ะประเทศ 3) ความตอ้ งการเงนิ ตราตา่ งประเทศ 93. การดาํ เนินนโยบายการคา้ แบบท่มุ ตลาด (Dumping) หมายถงึ ขอ้ ใด 1) การดาํ เนินนโยบายการคา้ เสรเี พือ่ ช่วยเหลอื เกษตรกรภายในประเทศ 2) การขายสนิ คา้ ให้ตา่ งประเทศในราคาตํา่ กวา่ ตน้ ทนุ การผลติ 3) การขายสินค้าให้ตา่ งประเทศในราคาสงู กวา่ ราคาตลาด 4) การขายสนิ ค้าใหต้ า่ งประเทศในราคาตลาดโดยไมจ่ าํ กดั ปริมาณการขาย 94. ขอ้ ใดเปน็ ลกั ษณะขน้ั ตน้ ของการรวมกลมุ่ อย่างงา่ ย 1) สหภาพศลุ กากร 2) เขตการคา้ เสรี 3) สหภาพเศรษฐกิจ 4) ตลาดรว่ ม 95. ปญั หาเศรษฐกจิ ของไทยข้อใดทีเ่ ปน็ ปัญหาเรือ้ รงั ติดต่อกนั มายาวนาน 1) ความเหลอ่ื มล้ําของการกระจายรายได้ 2) การวา่ งงาน 3) การขาดดลุ บัญชีทนุ สาํ รอง 4) เงินเฟอ้ 96. ขอ้ ใดไมใ่ ชส่ าเหตขุ องการเกดิ ปญั หาวิกฤตเศรษฐกจิ ของไทยใน พ.ศ. 2540 1) การขาดเสถยี รภาพของอตั ราแลกเปลย่ี นเงนิ ตรา 2) การขาดเสถียรภาพของงบประมาณแผ่นดนิ 3) การขาดเสถียรภาพของสถาบันการเงิน 4) การขาดเสถียรภาพของทางการเมอื งและขาดศรทั ธาในรัฐบาล 97. ข้อใดไมใ่ ชส่ าเหตุสําคญั ของวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกจิ ในปี 2540 1) การเปดิ เสรีทางการค้า 2) สมรรถภาพของอุตสาหกรรมไทยอยใู่ นระดบั ตํ่า 3) การพึง่ พาภาคเศรษฐกจิ ระหว่างประเทศอยใู่ นระดบั สงู 4) การพึ่งพาเงนิ ทุนจากตา่ งประเทศอยใู่ นระดับสูง สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (106) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปีท่ี 26
98. “ซับไพรม์ ” คอื อะไร 1) ปญั หาตลาดหนุ้ วอลสตรที ล่มในสหรัฐอเมรกิ า 2) การประกาศตัดสทิ ธพิ เิ ศษทางภาษีศลุ กากรและการคา้ ของสหรัฐอเมรกิ า 3) การเลอื กต้ังขนั้ ตน้ เพอื่ สรรหาตวั แทนพรรคข้ึนชงิ ตาํ แหนง่ ประธานาธบิ ดสี หรฐั อเมริกา 4) ปัญหาสนิ เชือ่ ด้อยคุณภาพในธรุ กิจอสงั หาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา 99. วิกฤตการณ์ราคานา้ํ มนั ในตลาดโลกทเ่ี พ่มิ สงู ขน้ึ ได้ส่งผลกระทบตอ่ เศรษฐกจิ ไทยหลายประการ ยกเว้นข้อใด 1) การขาดดุลการค้าเพ่ิมข้นึ 2) แรงงานขอปรบั อัตราค่าจ้างขนั้ ตาํ่ ให้สงู ขึน้ 3) ค่าครองชีพต่าํ เกดิ ภาวะเงินฝืด 4) การขยายตวั ทางเศรษฐกจิ ภาคเอกชนชะลอตัว 100. มาตรการในข้อใดชว่ ยแกป้ ัญหาการขาดดลุ การชําระเงินของประเทศ เพือ่ เพม่ิ การบริโภคการลงทุน 1) การเพิม่ อตั ราภาษสี ินค้าเขา้ และสินค้าออก 2) การผอ่ นคลายความเขม้ งวดในการซอื้ ขายเงินตราตา่ งประเทศ 3) การสง่ เสริมให้ชาวต่างประเทศมาทอ่ งเท่ียวและลงทนุ ในประเทศไทย 4) ธนาคารแหง่ ประเทศไทยสนบั สนนุ การให้สินเชือ่ ของธนาคารพาณชิ ย์ และการนาํ เข้า เฉลย TEST...รูทันขอสอบเศรษฐศาสตร ป 2558 1. Y 2. Z 3. [ 4. [ 5. X 6. Z 7. X 8. [ 9. X 10.Y 11. X 12. [ 13. Y 14. X 15. Y 16. Y 17. Z 18. Z 19. Z 20.Z 21. X 22. X 23. [ 24. X 25. Z 26. Y 27. Z 28. X 29. X 30.Z 31. Z 32. Z 33. [ 34. Y 35. X 36. [ 37. [ 38. X 39. X 40.Z 41. Y 42. X 43. X 44. X 45. Z 46. Z 47. X 48. X 49. X 50.Z 51. X 52. X 53. [ 54. Z 55. X 56. X 57. X 58. [ 59. Y 60.[ 61. X 62. Z 63. Y 64. X 65. Z 66. Y 67. Y 68. Y 69. Z 70.[ 71. X 72. [ 73. Y 74. X 75. Z 76. Y 77. [ 78. X 79. X 80.Z 81. [ 82. X 83. X 84. Y 85. [ 86. Z 87. X 88. X 89. [ 90.X 91. [ 92. X 93. Y 94. Y 95. X 96. Y 97. X 98. [ 99. Z 100.Z โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปีที่ 26 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (107)
มองสังคมศึกษาแบบครนู อ็ ค มองอยา งไร 1. อา่ นทุกอย่างท่ขี วางหน้า 1. กอ่ นจะอา่ น ศกึ ษาประเดน็ ดูสาระสังคมศกึ ษา 2. จําทุกอย่างทีอ่ า่ น วา่ แต่ละสาระ มเี นอ้ื หาอะไรบา้ ง 3. ท่องทุกอยา่ งที่มี 2. รู้เขารู้เรา ดนู ํ้าหนักความสาํ คัญของเนื้อหา ควรใหค้ วามสาํ คัญสว่ นใด มาก น้อย 3. อ่านและจบั ประเดน็ 4. เรียนทกุ ที่ ทเ่ี ค้าเรยี นกนั การเขียน - ให้ตนเองเขา้ ใจ 5. สอบออกมา ..................... 4. สอ่ื สารได้ บรรยาย - ผูอ้ ื่นเข้าใจ 5. ผลสอบออกมา ......................... สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (108) ____________________โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปที ี่ 26
ขอสอบเกา คอื คมั ภรี ช้นั ยอด จะบอกอะไรไดบ้ า้ ง 1. จํานวนขอ้ สอบ ตามแต่ละสาระ ตอบ 2. รูปแบบข้อสอบ ตอบ 3. ข้อสอบออกอะไรบา้ ง ตามลําดบั ความสาํ คญั โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปีท่ี 26 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (109)
สาระท่ี 1 ศาสนา เนื้อหาแบ่งออกเป็น 2 สว่ น และลาํ ดบั ความสาํ คัญของการออกขอ้ สอบ ดังน้ี ศาสนาสากล (30%) พระพทุ ธศาสนา (70%) 1. ศาสนาสากล (30%) 2. พระพทุ ธศาสนา (70%) - พ้ืนฐานศาสนา - อริยสจั ๔ → รู้ ละ ลุ เจรญิ - พุทธ คริสต์ อิสลาม - สติปฏั ฐาน → กาย เว จติ ธรรม - ศาสนพิธี และพราหมณ-์ ฮินดู - พุทธศาสนสภุ าษิต (ปีละ 1 ข้อ) - พระไตรปิฎก - พุทธสาวก, สาวิกา ชาวพทุ ธตวั อยา่ ง (ปลี ะ 1 คน) - ชาดก มกั วนออก ปีละ 1 ชาดก มหาชนก เวสสันดร และมโหสถ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (110) ____________________โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 26
ศาสนาสากล ภาพรวมของเน้อื หา จดุ สําคัญ 1. ความหมายของศาสนา - ความเชอื่ สาํ คัญต่อประเภทของศาสนา คาํ สงั่ สอนในเรอ่ื งของความดีงาม มงุ่ ใหพ้ ้นทุกข์ ท้งั เทวนิยม / อเทวนิยม 2. ความสาํ คัญของศาสนา - เมอื งสําคัญท่ีเก่ียวขอ้ งกับศาสนา เป็นเครื่องมือในการควบคุมและจัดระเบียบสังคม คานาอัน เป็นบ่อเกิดของวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียม- เบธเลเฮม ประเพณี เมกกะ 3. มูลเหตุของการเกิดศาสนา เมดินา ความกลัว, ความไม่รู้, เล่อื มใสศรัทธา, ปญั ญา - พัฒนาการจาก พราหมณ์-ฮินดู 4. องค์ประกอบของศาสนา ศาสดา, คัมภรี ,์ นกั บวช, พิธกี รรม, ศาสนสถาน ระบบท้ัง 6 5. จุดมงุ่ หมายสูงสดุ (นยายะ วเิ ศษษิกะ สางขยะ โยคะ - พราหมณ์-ฮินดู (โมกษะ) มีมางสา เวทานาตะ) และตรมี ูรติ - พทุ ธ (นพิ พาน) - ครสิ ต์ (อาณาจักรพระเจ้า) - จดุ เดน่ ของศาสนาตา่ งๆ อิสลาม - อิสลาม (พระอลั เลาะห์) - ซิกข์ (การยดึ มั่นใน “ธรรม”) 6. ประเภทของศาสนา แบง่ ตาม - ความสอดคล้องของแต่ละศาสนา 1) ผ้นู ับถอื (สากล, ประจําชาต)ิ 2) พระเจ้า (เทวนิยม, อเทวนิยม) 3) สถานทเ่ี กดิ - ปัจฉิมพจนข์ องเยซู - เอเชยี ตะวันตก ขอทรงยกโทษให้เขา เพราะเขาไดท้ าํ ไปในสิ่งที่ (ยูดาย โซโรอสั เตอร์ ครสิ ต์ อสิ ลาม) เขาไม่รู้ - เอเชียตะวันออก (ชนิ โต เตา๋ ขงจอ้ื ) - เอเชียใต้ (พราหมณ์-ฮินดู เชน พุทธ ซิกข)์ 7. การนบั ถอื ศักราชทางศาสนา 1) ฮิจเราะห์ศกั ราช (ปีทท่ี ่านนบีมุฮัมมัดอพยพ จากเมอื งเมกกะ <เมอื งเกิด> ไปเมอื งเมดินา เพือ่ เผยแผ่และประกาศศาสนาอสิ ลาม) 2) พุทธศักราช (พระพุทธเจ้าดบั ขนั ธปรินพิ พาน) 3) คริสตศกั ราช (พระเยซูเกดิ ) โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปที ี่ 26 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (111)
พระพทุ ธศาสนา ภาพรวมของเนื้อหา จดุ สําคัญ พระพุทธศาสนา สังคมชมพทู วีป - สถานทีใ่ นพทุ ธประวตั ิ ดูแควน้ เด่น จาก 16 แควน้ 1) ประสตู ิ (สวนลุมพินวี ัน ระหวา่ งกรงุ เทวทหะ พุทธศาสนาตงั้ มนั่ กบั กรุงกบิลพัสด์)ุ ศูนย์กลางวชิ าการ 2) ตรัสรู้ (ต้นโพธ)ิ์ รปู แบบการปกครอง 3) ปรนิ พิ พาน (ต้นสาระ นอกกรงุ กสุ นิ ารา) ราชาธิปไตย p สมบรู ณาญาสิทธริ าชย์ - ทศชาตชิ าดก สามัคคธี รรม, คณาธิปไตย p สาธารณรัฐ 1) เตมยี ชาดก (เนกขมั มบารม)ี มชั ฌิมชนบทกบั ปัจจันตชนบท 2) มหาชนกชาดก (วริ ยิ บารม)ี เกย่ี วกับพระพทุ ธองค์ 3) สวุ รรณสามชาดก (เมตตาบารมี) พระโพธิญาณ = ผบู้ ําเพ็ญความดีเพือ่ ทีจ่ ะบรรลุ 4) เนมิราชชาดก (อธิษฐานบารมี) เปน็ พระพทุ ธเจา้ ในอนาคต 5) มโหสถชาดก (ปญั ญาบารมี) ขัน้ ตอนการบรรลุ 6) ภรู ิทัตชาดก (ศีลบารม)ี ปฐม p มชั ฌมิ ยาม p ปัจฉมิ ยาม 7) จนั ทกุมารชาดก (ขันตบิ ารมี) 8) นารทชาดก (อุเบกขาบารมี) 9) วฑิ รู ชาดก (สัจจบารมี) วธิ กี ารสอนของพระพทุ ธองค์ 10)เวสสนั ดรชาดก (ทานบารมี) แจ่มแจง้ จูงใจ เรา้ ใหก้ ลา้ ปลกุ ให้ร่าเริง - พระสูตร ท่โี ปรดชาวโลก พระนามสะท้อนการเปน็ ผนู้ าํ 1) ธมั จกั รกปั ปวตั นสตู ร พระศาสดา พระโลกนาถ พระโลกเชษฐ และอรยิ สัจ ๔ พระโลกนายก พระทีฆทสั สี (ปฐมเทศนา) ทางสายกลาง สง่ั สอน ปัญจวัคคียจ์ นบรรลุโสดาบัน - หลักเหต-ุ ผล ในอริยสจั ๔ สะทอ้ นความเป็น 2) อนตั ตลกั ขณสตู ร สากล (อนตั ตาในขันธ์ ๕ สง่ั สอนปัญจวคั คีย์) - หลักทางสายกลาง = อย่ตู รงกลางระหว่าง 3) อาทติ ปริยายสตู ร (กเิ ลสตัณหา คือ ของร้อน สุข / ทุกข์ สั่งสอนชฎลิ 3 พีน่ อ้ ง) - สิ่งทช่ี าวพทุ ธควรพัฒนา ไดแ้ ก่ 4) โอวาทปาตโิ มกข์ (ทาํ ดี ละชั่ว ทําจติ ใหบ้ รสิ ทุ ธิ์ ศรทั ธา + ปัญญา สั่งสอนพระสงฆ์ 1,250 รปู ) - การทําสงั ฆกรรมสงฆ์ 5) ปัจฉิมโอวาท (ความไม่ประมาท สั่งสอน 4 5 10 20 และมากกวา่ พระอานนท์และพระสงฆ์) จะทําปวารณา และบวช ต้อง 5 รปู สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (112) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปีที่ 26
ภาพรวมของเนื้อหา จุดสําคญั - พระไตรปฎิ ก มี 3 หมวด - หลักธรรมพระพทุ ธศาสนากับหลกั 1) พระวนิ ยั ปิฎก (ว่าดว้ ยสกิ ขาบทภิกษุ ภิกษุณี) เศรษฐกจิ พอเพยี ง 2) พระสุตตนั ตปิฎก มตั ตัญญตุ า (รวบรวมพระธรรมเทศนาของพระพุทธเจา้ ) สันตฏุ ฐี ปะระมงั ธะนัง 3) พระอภิธรรมปิฎก อตั ตาหิ อัตตโน นาโถ (เป็นธรรมข้ันสูงในแงว่ ิชาการล้วนๆ) มชั ฌมิ าปฏิปทา - สาเหตุการสังคายนาพระไตรปิฎก คร้งั ท่ี 1 ธมั มญั ญตุ า + อตั ตญั ญุตา เกิดจากปรารภพระสภุ ัททะกล่าวจ้วงจาบพระธรรม- วินัย มพี ระมหากสั สปเถระเปน็ ประธานสงฆ์ จัดทาํ = รู้จักใชเ้ หตุผลในการดําเนนิ ชวี ิต เมอ่ื พระพทุ ธเจ้าปรนิ ิพพาน 3 เดือน ที่ถํา้ สัตตบรรณ- หลกั ธรรมพระพุทธศาสนากับสันติภาพ คหู า ขา้ งภเู ขาเวภาร สาราณยี ธรรม, สังควตั ถุ ๔, พรหมวหิ าร ๔ - หลักธรรม ทศพิธราชธรรม จักรวรรดิวัตร ๑๒ 1) อรยิ สัจ ๔ ราชสงั คหวัตถุ ๔ ธรรมท่ีควรรู้ (นาม-รปู , โลกธรรม ๘, จติ เจตสิก) สุภาษิต ปีละ 1 ธรรมท่ีควรละ (นิยาม ๕, กรรม ๑๒, อปุ าทาน ๔, พุทธสาวก พทุ ธสาวิกา 1 ปฏจิ จสมุปบาท, นวิ รณ์ ๕, มิจฉาวณชิ ชา ๕, พทุ ธศาสนกิ ชน 1 นิวรณ์ ๕, วิตก ๓) ธรรมทค่ี วรบรรลุ (ภาวนา ๔, วิมตุ ติ ๕) การสังคายนาพระไตรปฎิ ก ธรรมทคี่ วรเจริญ (พระสทั ธรรม ๓, อธปิ ไตย ๓, 1. หลงั นพิ พาน 3 เดือน ปัญญาวฒุ ิธรรม ๔, ทฏิ ฐธัมมิกตั ถะ ๔, พละ ๕, 2. แยกออกเป็น 2 นกิ าย อุบาสกธรรม ๕, โภคอาทิยะ ๕, อริยวัฑฒิ ๕, 3. อโศกมหาราช อปรหิ านิยธรรม ๗, ทศพิธราชธรรม ๑๐, 4. ศรีลังกา มงคล ๓๘) 5. จารึกเป็นตวั อักษร ภาษาบาลี 2) มรรค ๘ ไปสไู่ ตรสกิ ขา ศีล (สัมมาวาจา สมั มากัมมนั ตะ สมั มาอาชีวะ) หลกั ธรรมของศาสนาพทุ ธ สมาธิ (สมั มาวายามะ สมั มาสติ สัมมาสมาธ)ิ ปญั ญา (สัมมาทิฐิ สมั มาสงั กัปปะ) โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีท่ี 26 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (113)
ภาพรวมของเน้ือหา จุดสําคัญ พุทธศาสนสุภาษติ 1) จิตตํ ทนฺตํ สุขาวหํ (จติ ท่ีฝกึ ดแี ล้ว นาํ สุขมาให้) 2) น อจุ จฺ าวจํ ปณฺฑิตา ทสฺสยนฺติ (บณั ฑติ ย่อมไมแ่ สดงอาการขนึ้ ๆ ลงๆ) 3) นตฺถิ โลเก อนินฺทโิ ต (คนท่ีไมถ่ กู นินทาไมม่ ใี นโลก) 4) โกธํ ฆตวฺ า สขุ ํ เสติ (ฆ่าความโกรธไดย้ ่อมอยเู่ ป็นสุข) 5) ปฏริ ปู การี ธุรวา อฏุ ฐฺ าตา วนิ ฺทเต ธนํ (คนขยันเอาการเอางานกระทําเหมาะสมยอ่ ม หาทรัพย์ได)้ 6) วายเมเถว ปุริโส ยาว อตถฺ สฺส นิปฺปทา (เกิดเป็นคนควรจะพยายามจนกวา่ จะประสบ ความสาํ เรจ็ ) 7) ราชา มขุ ํ มนสุ ฺสานํ (พระราชา เปน็ ประมขุ ของประชาชน) 8) สติ โลกสมฺ ิ ชาคโร (สติเปน็ ธรรมเคร่อื งตื่นอย่ใู นโลก) 9) นิพพานํ ปรมํ สขุ ํ (นพิ พานเป็นสุขอยา่ งย่ิง) 10) นตถิ สนติปรํ สุขํ (สุขอืน่ ยิง่ กว่าความสงบไมม่ ี) วิธคี ดิ แบบโยนโิ สมนสกิ าร 1) อบุ ายมนสิการ (เปน็ การคิดหรือพจิ ารณาโดย อุบาย คือ การคิดอย่างมวี ิธีหรอื ถูกวธิ )ี 2) ปถมนสิการ (เป็นการคิดถกู ทาง ตอ่ เนื่องเป็นลําดบั ) 3) การณมนสิการ (การคดิ อย่างมีเหตผุ ล เป็นการ สบื ค้นตามแนวความสัมพันธส์ บื ทอดแหง่ เหตุ ปัจจยั พจิ ารณาสืบสาวหาสาเหตุ) 4) อปุ ปาทกมนสิการ (การคดิ การพิจารณาให้เกิดกุศลธรรม) สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (114) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 26
ภาพรวมของเนือ้ หา จุดสาํ คัญ หนา้ ทช่ี าวพทุ ธ 1. ศึกษาหาความรู้ คือ ความรทู้ ้งั ทางโลกและทางธรรม 2. ปฏบิ ัตติ ามหลักธรรมและพิธกี รรมทางศาสนา 3. เผยแผ่พทุ ธศาสนา สง่ เสริมกิจกรรม อปุ ถมั ภพ์ ทุ ธ- ศาสนา ปฏิบตั ธิ รรม 4. ปกป้องพุทธศาสนา พุทธสาวก พทุ ธสาวกิ า 1) พระอัสสชิ - พระอัสสชิเป็นผู้ชักจูงให้ “อุปติสสะ” (พระสารีบุตร) และ “โกลิตะ” (พระโมคคัลลานะ) สองนักบวช ปริพาชก บวชเป็นพระสงฆ์สาวกในพระพุทธศาสนา ซึ่ ง ต่ อ ม า ท่ า น ทั้ ง ส อ ง ไ ด้ รั บ ค ว า ม ไ ว้ ว า ง ใ จ จ า ก พระพุทธเจ้าให้ทําหน้าที่เป็นอัครสาวกเบ้ืองขวา และเบื้องซ้าย ตามลําดบั 2) พระกีสาโคตมเี ถรี - บตุ รของนางเสยี ชีวติ ทาํ ใหน้ างสตฟิ นั่ เฟอื น พระพทุ ธ- องคร์ บั สงั่ ใหน้ างไปหาเมล็ดพนั ธผ์ุ ักกาดจากบา้ น ของชาวบา้ นทไี่ มเ่ คยมีญาตพิ ี่นอ้ งเสยี ชวี ิต เพ่ือ นํามาใชป้ รงุ ยา แตน่ างหาไม่ได้ทาํ ใหน้ างรู้สจั ธรรม ของชวี ิต “เอตทัคคะ” ในดา้ นการครองจีวรเศรา้ หมอง 3) พระนางมลั ลิกา - เปน็ สตรีท่มี ีความงามแบบเบญจกัลยาณี (ผมงาม เนือ้ งาม กระดกู งาม ผวิ งาม และวัยงาม) - พันธุละเสนาบดีซึ่งเป็นสามีของพระนางถูกใส่ร้าย ว่าคิดก่อการกบฏ ทําให้พระเจ้าปเสนทิโกศล วางแผนลอบสังหารพันธุละเสนาบดี พร้อมท้ัง บุตรชายท่ีเป็นทหารจนหมด คร้ันเมื่อทราบข่าวร้าย พระนางมลั ลิกาสามารถควบคุมอารมณ์โศกเศร้าไว้ได้ และอบรมให้ลูกสะใภ้ให้อภัยในความผิดพลาดของ พระเจา้ ปเสนทิโกศลไม่ผูกพยาบาท ซ่งึ แสดงให้เห็น วา่ นางเป็น ผูม้ ขี ันตธิ รรม รูจ้ กั ใหอ้ ภยั โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปีที่ 26 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (115)
ภาพรวมของเนือ้ หา จุดสาํ คญั 4) หมอชีวก โกมารภัจจ์ - แม่เปน็ โสเภณี - เป็นหมอหลวงในราชสํานกั ของพระเจ้าพมิ พิสาร ถวายการรกั ษาอาการปว่ ยโรค “ภคนั ทลาพาธ” (ริดสีดวงทวาร) - ถวายสวนมะม่วงของตนให้เป็นที่ประทับของ พระพุทธเจา้ และพระสงฆส์ าวก (ชีวกมั พวนั ) เป็น วัดในพระพทุ ธศาสนาแหง่ ที่ 2 ของเมืองราชคฤห์ - กราบทูลให้พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติพระวินัย เพ่ิมเติม - อนุญาตให้พระภกิ ษรุ ับผ้าจวี รท่ชี าวบ้านนํามาถวายได้ - หา้ มมใิ หค้ นป่วยด้วยโรคติดตอ่ รา้ ยแรงมาบวชเปน็ พระภิกษุ 5) พระนาคเสนเถระ - มสี ติปญั ญาหลกั แหลม ปฏภิ าณไหวพรบิ ดี และ ตอบปัญหาขอ้ ซกั ถามทางธรรมของพระยามลิ นิ ท์ ไดอ้ ยา่ งคล่องแคลว่ - เปน็ ผู้รักการศกึ ษาเล่าเรียน แสวงหาความรทู้ ่ี เรยี กวา่ “ธัมมกามตา” 6) พระยามลิ นิ ท์ หรือเมนนั เดอร์ (Menandra) - เป็นกษตั รยิ เ์ ช้อื สายกรกี ปกครองอนิ เดยี - ทรงให้ทาํ เหรียญเป็นรูปตราธรรมจักร (เครือ่ งหมาย ของพระพทุ ธศาสนา) เพอ่ื เผยแผ่ และขยาย อาณาเขตพระพทุ ธศาสนาให้กว้างไกลออกไป 7) พระอนุรทุ ธะ - เจ้าชายอนุรุทธะรู้ว่าการงานของผู้ครองเรือนย่ิง ลําบาก จึงตัดสินพระทัยออกบวช ไปทูลขอ อนุญาตจากพระมารดา พระมารดาไม่ประสงค์จะ ให้ออกบวช จึงบ่ายเบ่ียงให้เจ้าชายอนุรุทธะไป ชวนเจ้าชายภัททิยะ เม่ือเจ้าชายภัททิยะตกลง พระทัยที่จะออกบวช ทําให้เจ้าชายท่ีเป็นพระ สหายทเ่ี หลือกไ็ ดต้ กลงพระทยั ออกบวชตาม - รกั สันโดษในปัจจยั 4 และมตี าทพิ ย์ โดยพจิ ารณา บุคคลทสี่ มควรสั่งสอนธรรม สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (116) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปที ่ี 26
ภาพรวมของเนอื้ หา จดุ สําคัญ 8) องคลุ มิ าล - องคุลิมาล นั้นมาจากคําว่า องคุลี (นิว้ มอื ) + มาล (สรอ้ ยคอ สาย หรือแถว) แปลว่า สร้อยคอทที่ าํ จากนิว้ มือ - เดิมชื่อ อหิงสกะ ถูกอาจารย์ยุยงว่าถ้าต้องการ สําเร็จวิชาให้ตัดนิ้ว 1,000 น้ิว องคุลิมาลทําจนครบ จนครบ 999 คน เม่ือมาพบพระพุทธเจ้าจึงตรัส ส่ังสอนจนขอบวชเป็นพุทธสาวก เมื่อบิณฑบาต ท้ังในและนอกเมอื งสาวัตถี มักถูกญาติพี่น้องของ ผู้ตายใช้ก้อนหินขว้างปาทําร้ายให้ได้รับบาดเจ็บ อยู่เสมอ จึงได้ช่ือว่าเป็นผู้มีความอดทนอดกลั้น เป็นคนขยันรักการศึกษาเล่าเรียน และเป็นคน มกั น้อย สันโดษ 9) พระธัมมทนิ นาเถรี - สามีได้ฟังพระธรรมเทศนาจากพระพุทธเจ้า และ ได้สําเร็จมรรคผลขน้ั อนาคามี ไม่ยินดีในกามกิเลส รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส และอธิบาย ความสุขในรสพระธรรมให้ภรรยาฟงั จนนางธัมม- ทนิ นาเถรีเกดิ ศรทั ธาประสงคจ์ ะบวชเปน็ ภิกษุณี - ได้รบั ยกย่องดา้ นธรรมกถกึ (ผู้แสดงธรรม) 10) จติ คหบดี - พบพระมหานามะ (หนึ่งในปญั จวคั คีย)์ เหน็ ท่าน สงบสาํ รวมนา่ เล่อื มใสมาก จึงมีความศรัทธาใน พระพุทธศาสนา - สร้างที่พํานักแก่พระมหานามะเพื่อเทศนา ชื่อสวน อมั พาฏการาม - จิตตคหบดกี ล่าวว่า “ศรทั ธาความเชอ่ื ที่ไม่คลอน แคลนในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ประเสรฐิ กวา่ ส่งิ ใดทั้งหมด” แสดงว่าเปน็ ผู้ศรัทธา ตง้ั ม่ันในพระรัตนตรยั โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 26 ___________________ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (117)
ภาพรวมของเนอ้ื หา จุดสาํ คญั 11) พระอานนท์ - ไดร้ ับการยกยอ่ งจากพระพทุ ธเจ้าวา่ เป็นเอตทัคคะ (ความเปน็ เลิศกวา่ ผู้อ่ืน) 5 ประการ ได้แก่ 1. เปน็ พหูสตู (ทรงจาํ พทุ ธวจนะได้มากทส่ี ุด) 2. เปน็ ผู้มีสติ 3. เปน็ ผู้มคี ติ (แนวในการจาํ พุทธวจนะ) 4. เปน็ ผ้มู ธี ติ ิ (ความเพยี ร) 5. เป็นพุทธอปุ ัฏฐากผเู้ ลศิ - เป็นผ้สู งั คายนาพระไตรปิฎก คร้งั ท่ี 1 - เป็นสหชาติของพระพุทธเจ้า (เกิดร่วมกับ พระพทุ ธเจ้า) 12) พระปฏาจาราเถรี - สามี บุตร และบิดามารดา เสียชีวิตท้ังหมดทําให้ นางสติ ฟ่ั นเฟื อน เม่ื อนางได้ ฟั งธรรมจาก พระพุทธเจ้าจึงขอบวชเป็นภิกษุณี เป็นยอดแห่ง พระวนิ ยั คือ จาํ พระวนิ ยั ได้มาก 13) จูฬสุภัททา - เป็นธดิ าของเศรษฐี ชอ่ื วา่ อนาถบิณฑิกเศรษฐี เม่ือนางแตง่ งานไปอยูบ่ า้ นของสามี พอ่ สามีช่ือ อุคคเศรษฐี ไดเ้ ชิญพวกชีเปลอื ยมา นางไมก่ ราบไหว้ และชี้ใหท้ างบา้ นของสามีศรัทธาในพระพทุ ธศาสนา 14) สมุ นมาลาการ - เปน็ ผเู้ ก็บดอกมะลถิ วายพระเจา้ พิมพสิ าร - เมื่อพระพุทธเจ้าทราบว่านายสุมนมาลาการ ศรทั ธาในพระองคจ์ งึ ตรัสแก่ภิกษุว่า เสด็จมาตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย บุคคลทํากรรมใดแล้วไม่เดือดร้อน ในภายหลัง เป็นผู้เอิบอิ่ม มีความสุขใจ น่ันแหละ เรียกวา่ กรรมดี - เป็นแบบอย่างท่ีดีด้านความศรัทธาต่อพระพุทธ- ศาสนา สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (118) ____________________โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปีที่ 26
ภาพรวมของเน้ือหา จดุ สําคัญ ชาวพทุ ธตัวอย่าง 1) สมเดจ็ พระวันรัต (เฮง เขมจาร)ี เปน็ ผบู้ ุกเบกิ การจดั การศึกษาของคณะสงฆ์ฝ่าย มหานกิ าย ณ วดั มหาธาตยุ ุวราชรังสฤษด์ิ ท่าพระจนั ทร์ กรงุ เทพมหานคร 2) พระอาจารย์มั่น ภูรทิ ตั โต เปน็ พระป่าหรือพระนักปฏบิ ัติ ดา้ นวิปัสสนากรรมฐาน ชอบธุดงค์ตามป่า ดาํ รงชวี ติ อย่างเรยี บงา่ ยถือสนั โดษ 3) อาจารยส์ ุชพี ปุญญานภุ าพ - เป็นนักปราชญท์ างพระพุทธศาสนา เป็นอาจารย์ สอนในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ผลงาน ไดแ้ ก่ - จัดทาํ นิตยสารธรรมจักษุ - รว่ มก่อต้ังองค์การพทุ ธศาสนิกสมั พนั ธแ์ ห่งโลก (พ.ส.ล.) ณ ประเทศศรลี งั กา - ก่อต้ังโรงเรียนสอนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ใน ประเทศไทย และยุวพทุ ธกิ สมาคมแหง่ ประเทศไทย สนับสนุนการจัดต้ังมหาวิทยาลัยสงฆ์ โดยเสนอ ให้ยกฐานะสภาการศึกษาของมหามกุฎราช- วทิ ยาลยั (วดั บวรนเิ วศนฯ์ ) เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ (ฝา่ ยธรรมยุต) 4) สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช - ทรงให้เสรีภาพในการเผยแผ่ศาสนาคริสต์แก่ บาทหลวงชาวฝร่ังเศส และยินยอมให้ราษฎร ชาวไทยเข้ารบั นบั ถือไดต้ ามศรัทธา - ทรงทาํ นุบํารงุ กิจการของพระพทุ ธศาสนา เชน่ ทรงบรู ณะวดั พระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นตน้ 5) พระธรรมโกศาจารย์ (พทุ ธทาสภกิ ข)ุ - จดั ต้ังสาํ นักสงฆ์ “สวนโมกขพลาราม” บริเวณ วัดธารน้าํ ไหล ท่ีสุราษฎรธ์ านี - ผลงานเด่น คอื การเผยแผธ่ รรมะ เช่น คูม่ อื มนษุ ย์ ตวั กูของกู แกน่ พุทธศาสน์ ธรรมโฆษณ์ พระพุทธเจา้ สอนอะไร เป็นต้น โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปีท่ี 26 ___________________ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (119)
ภาพรวมของเนอ้ื หา จดุ สําคัญ 6) พระปญั ญานนั ทภกิ ขุ - ได้รับรางวัล “สงั ขเ์ งนิ ” จากสมาคมนักประชาสัมพันธ-์ แหง่ ประเทศไทย - สมณศกั ดิท์ ท่ี ่านได้รบั ทา้ ยสุด คือ พระพรหมมงั คลา- จารย์ - เปน็ พระนักเทศน์ 7) ดร.อมั เบดการ์ - เกิดในวรรณะศูทร ต่อสู้เพ่ือความเสมอภาคของคน วรรณะศูทรและจัณฑาล เม่ือ พ.ศ. 2467 โดยใช้วิธี ต่อสู้แบบอหิงสา คือ สงบและสันติ ตลอดจนต่อสู้ ให้กับสตรีที่ถูกกดขี่และไม่ได้รับการยอมรับในความ เสมอภาคเทา่ เทียมกบั ชาย - ไดร้ ับสมญานามว่า มนษุ ย์กระดูกเหล็ก ฝีปากกลา้ และอภิชาตบตุ รของชาวหริจันทร์ (ชาวศูทร) 8) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจา้ อย่หู วั - การชาํ ระและการพิมพ์พระไตรปฎิ กเปน็ อกั ษรไทย ซง่ึ เสรจ็ ทันการฉลองรัชดาภเิ ษก (ครองราชย์ครบ 25 ป)ี - การสรา้ งวัดข้ึนใหมห่ ลายวดั คือ วดั ราชบพิธ วัดเทพศิรนิ ทราวาส วดั เบญจมบพิตร วัดอษั ฎางคน์ ิมติ วดั จฑุ าทศิ ราชธรรมสภา วดั นิเวศนธ์ รรมประวัติ และ ทรงปฏสิ ังขรณ์วดั มหาธาตุ โดยพระราชทรัพย์ส่วน พระองค์ของสมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟา้ - มหาวชริ ณุ หิศ วัดมหาธาตุ จงึ มีสรอ้ ยนามในเวลา ต่อมาว่า “วดั มหาธาตยุ ุวราชรงั สฤษฎิ”์ - สร้างวิทยาลยั สงฆ์ - ทรงตราพระราชบัญญัติเพื่อเป็นแนวในการบริหาร คณะสงฆ์ ปี ร.ศ. 121 นับเปน็ กฎหมายของพระสงฆไ์ ทย 9) พระโพธญิ าณเถร (ชา สุภัทโท) เป็นพระวิปัสสนา และเผยแผธ่ รรมะไปยงั ต่างประเทศ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (120) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปที ี่ 26
ภาพรวมของเนื้อหา จดุ สําคัญ 10) พระธรรมปิฎก (ป. อ. ปยุตโต) - ได้รบั รางวลั กติ ตคิ ุณสัมพันธ์ “สงั ขเ์ งิน” สาขาเผยแผ่ พระพทุ ธศาสนา - ไดร้ ับรางวัลการศกึ ษาเพื่อสนั ตภิ าพ จากองคก์ าร ยเู นสโก (UNESCO Prize for Peace Education) - เปน็ พระนักปราชญแ์ ละพระเทศน์ - ผลงานเด่น เช่น พจนานุกรมพทุ ธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม และประมวลศัพท,์ ธรรมนูญ- แห่งชวี ิต, เศรษฐศาสตรแ์ นวพทุ ธ, นิติศาสตรแ์ นว- พทุ ธ, พระไตรปิฎกฉบับคอมพวิ เตอร์ 11) อนาคาริก ธรรมปาละ - เปน็ คนศรีลงั กา เดิมชื่อ ดอน เดวดิ - พฒั นาปา่ อสิ ปิ ตนมฤคทายวนั ให้เป็นพทุ ธสถาน สําคัญ - เรียกรอ้ งให้พุทธคยา กลบั มาอย่ใู นความดแู ลของ ชาวพุทธ - รฐั บาลอนิ เดยี ยังไดน้ าํ สัญลักษณ์ของพระพทุ ธศาสนา ได้แก่ หวั สงิ หส์ ีห่ วั ของพระเจา้ อโศก กลายเป็น สญั ลกั ษณ์ประจําชาติของอินเดีย ธรรมจกั รท่ีฐานก็ ปรากฏอยูใ่ นธงชาติของอินเดียอกี ดว้ ย ศาสนพธิ ี แบ่งตามพิธี 1) กศุ ลพธิ ี พธิ กี รรมท่ดี งี าม บําเพ็ญกศุ ล เช่น การแสดงตนเปน็ พุทธมามกะ, รักษาอุโบสถศีล, เวยี นเทยี น 2) บญุ พธิ ี พิธที าํ บญุ ตามประเพณนี ิยมในครอบครัว ชาวพทุ ธ เช่น งานมงคล, งานอวมงคล 3) ทานพธิ ี ทานที่ถวายแกส่ งฆ์ เช่น ปาฏิบุคลกิ ทาน, สังฆทาน, ทอดกฐนิ โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 26 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (121)
ภาพรวมของเนื้อหา จดุ สาํ คญั วันสําคัญทางพุทธศาสนา 1) วนั มาฆบชู า - โอวาทปาตโิ มกข์ - จาตรุ งคสนั นบิ าต 2) วนั วสิ าขบูชา - ประสูติ ตรสั รู้ ปรนิ ิพพาน - สปั ดาหส์ ่งเสรมิ พระพทุ ธศาสนา - นางสชุ าดากวนข้าวมธุปายาสถวายก่อนตรสั รู้ (วันปลูกต้นไมป้ ระจําปขี องชาติ) 3) วันอาสาฬหบูชา - พระรตั นตรัยครบองค์ 3 - ธัมมจักกปั วัตนสูตร - อริยสงฆ์องคแ์ รก 4) วันอัฏฐมีบูชา วนั คล้ายวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระทมี่ กุฎพนั ธนเจดีย์ 5) วันเข้าพรรษา พระสงฆจ์ ําวัดนาน 3 เดือน 6) วนั ออกพรรษา - วนั มหาปวารณา (การว่ากล่าวตักเตือนกัน) - ตักบาตรเทโว 7) วันธรรมสวนะ มี 4 วันตอ่ 1 เดอื น สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (122) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีที่ 26
ขอสอบเกาชดุ ที่ 1 1. หลกั คาํ สอนของแต่ละศาสนามีความแตกตา่ งกนั ในเรื่องใด 1) การมคี วามอดทน 2) การมีความรกั ความเมตตา 3) การสงเคราะหช์ ว่ ยเหลอื กนั 4) การทําความดี ละเว้นความชว่ั 5) การบรรลเุ ป้าหมายของศาสนา 2. ข้อความเกีย่ วกับคมั ภรี พ์ ราหมณ-์ ฮินดูขอ้ ใดไม่ถูกต้อง 1) คัมภรี พ์ ราหมณ์ทุกประเภทสอนเร่อื งพรหมและอาตมนั 2) คมั ภรี พ์ ระเวทถอื วา่ เป็นสิง่ ท่ไี ด้ยนิ ได้ฟงั มาจากพระเจ้าโดยตรง 3) คัมภรี อ์ ุปนษิ ัทเป็นส่วนสรปุ ของพระเวทวา่ ดว้ ยการค้นคดิ ทางปรชั ญา 4) คมั ภรี ์ภควทั คตี าเนน้ เรอ่ื งการกระทาํ ทีป่ ราศจากความตอ้ งการส่งิ ตอบแทน 5) คมั ภีรธ์ รรมศาสตร์เปน็ ตาํ รากฎหมายวางระเบียบความประพฤติของประชาชนและสงั คม 3. ในศาสนาครสิ ต์ พธิ ใี ดเป็นการชาํ ระล้างบาปกําเนดิ 1) ศีลจ่มุ 2) ศลี กําลัง 3) ศีลแกบ้ าป 4) ศีลมหาสนทิ 5) ศลี เจิมคนไข้ครัง้ สุดท้าย 4. พธิ ใี ดถอื เปน็ ภารกิจท่มี สุ ลิมทุกคนต้องปฏิบตั ิโดยไม่มีข้อยกเวน้ 1) การละหมาด 2) การถือศีลอด 3) การปฏญิ าณตน 4) การบริจาคซะกาต 5) การประกอบพิธฮี จั ญ์ 5. เหตใุ ดพระพุทธศาสนาจึงได้ชอื่ วา่ มหี ลกั การและวธิ กี ารทเี่ ปน็ สากล 1) สอนเรื่องการพน้ ทกุ ข์ของมนษุ ย์ 2) ผ้คู นทวั่ โลกรจู้ กั และยอมรับนับถอื 3) ตอบสนองความตอ้ งการของคนทั่วไป 4) สอนกฎแห่งความเป็นจริงตามธรรมชาติ 5) เน้นการเอาชนะหรือควบคมุ ธรรมชาติได้ โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีท่ี 26 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (123)
6. ทา่ นอนาคารกิ ธรรมปาละ ไดช้ ือ่ วา่ เปน็ ชาวพุทธตัวอย่างด้วยเรอ่ื งใด 1) เป็นผใู้ ฝร่ ู้ใฝเ่ รียน 2) เป็นผมู้ ขี นั ติเขา้ ใจโลก 3) เป็นผู้ฟ้นื ฟูพระพทุ ธศาสนาในอินเดยี 4) เป็นผ้มู ีสตปิ ญั ญายอมสละชีวติ เพื่อบชู าพระพุทธเจา้ 5) เปน็ คนใจบญุ อุปถมั ภพ์ ระพทุ ธศาสนาดว้ ยศรทั ธามั่นคง 7. กรณีใดตรงกบั พุทธศาสนสุภาษติ ที่วา่ “วายเมเถว ปรุ โิ ส ยาว อตฺถสฺส นิปฺปทา” 1) โสภามนี ้ําใจดจี ึงเป็นท่รี ักของทกุ คน 2) สมศกั ดิ์เรียนจบแล้วจึงทํางานหาเลย้ี งตนเอง 3) สุพจน์ชว่ ยแมข่ ายของกอ่ นมาเรียนหนงั สอื ทุกวัน 4) สรุ างคม์ ีสมาธใิ นการทาํ งานจงึ ประสบความสําเร็จ 5) สาวติ รีขยันเรียนเพราะตงั้ ใจจะสอบเข้าแพทยใ์ หไ้ ด้ 8. ศีลอโุ บสถหมายถึงขอ้ ใด 1) ศีล 5 2) ศีล 8 3) ศีล 10 4) ศลี 227 5) ศีล 311 9. ฉลาดเป็นคนฉนุ เฉียวง่าย ชอบอาฆาตรา้ ยแตห่ ายเร็ว ในเรอ่ื งสตปิ ัฏฐานพระพทุ ธเจ้าทรงเปรยี บจิตเช่นนี้ อยูใ่ นประเภทใด 1) จิตหดหู่ 2) จิตมีราคะ 3) จิตมีโทสะ 4) จิตมโี มหะ 5) จิตไม่ใหญ่ 10. พระพทุ ธศาสนามีคําสอนเร่ืองความรัก ความเมตตา อยใู่ นหลกั ธรรมใด 1) วุฒธิ รรม ๔ 2) อริยวัฑฒิ ๕ 3) สังคหวตั ถุ ๔ 4) พรหมวหิ าร ๔ 5) สาราณียธรรม ๖ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (124) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปีที่ 26
ขอสอบเกา ชดุ ที่ 2 1. สภาพสงั คมชมพูทวีปสมัยพุทธกาลตรงกับขอ้ ใดมากทส่ี ดุ 1) ชาวอารยันสว่ นใหญ่อยู่ในเขตปัจจันตชนบท 2) การปกครองแบบศูนย์รวมในระบอบสมบูรณาญาสิทธริ าชย์ 3) ระบบวรรณะมี 4 วรรณะ ไดแ้ ก่ กษตั รยิ ์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร 4) วรรณะศทู รและพวกจัณฑาลถือเป็นชนชน้ั ท่ีมีฐานะตํา่ เสมอกนั 5) พระพรหมเปน็ เทพเจ้าสําคญั ทสี่ ดุ ในฐานะพระผ้สู รา้ งและทําลาย 2. ข้อใดไมส่ อดคล้องกับมัชฌมิ าปฏิปทา 1) มรรค ๘ 2) ไตรสิกขา 3) ขอ้ ปฏิบัตทิ ย่ี ดึ ทางสายกลาง 4) แนวทางปฏิบัติสู่การดบั ทกุ ข์ 5) หลักความจรงิ ของชวี ิต 4 ประการ 3. วทิ ยาศาสตร์สอดคล้องกบั พระพุทธศาสนาในเร่ืองใด 1) การศกึ ษาเรื่องจติ 2) ความสนใจเร่ืองจรยิ ธรรม 3) การศึกษาเฉพาะความเจริญทางวัตถุ 4) การม่งุ ประโยชน์ในการดํารงชวี ิตของมนุษย์ 5) การแสวงหาความจริงด้วยการพิสูจน์เชงิ ประจักษ์ 4. ธรรมทเ่ี ป็นเหตุให้ระลึกถงึ กนั มีความเคารพกนั ช่วยเหลือกัน และสามคั คีพร้อมเพรยี งกนั คอื ธรรมใด 1) อธปิ ไตย 2) อรยิ วฑั ฒิ 3) สาราณียธรรม 4) อปรหิ านยิ ธรรม 5) ทิฏฐธัมมิกตั ถสงั วัตตนิกธรรม 5. คุณคา่ ทางจรยิ ธรรมของนิยาม ๕ มหี ลายประการ ยกเวน้ ข้อใด 1) ทําให้รูส้ ภาวะของความทุกข์ 2) ทําให้ใจกวา้ งตรวจสอบปัญหาหลายๆ ด้าน 3) ทําใหเ้ ขา้ ใจกฎแหง่ กรรมวา่ มผี ลต่อชวี ติ มากทสี่ ดุ 4) ทาํ ใหม้ องเหน็ วา่ ชวี ิตประกอบด้วยปัจจัยหลากหลาย 5) ทาํ ใหเ้ หน็ วา่ ชวี ิตเปน็ กระบวนการทางธรรมชาตทิ ี่มีเหตุปจั จยั ตอ่ เนอื่ ง โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปีท่ี 26 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (125)
6. ผู้ท่ีมีปณิธานอยา่ งแรงกลา้ ท่จี ะให้ผ้ทู ีน่ บั ถอื ศาสนาต่างๆ ได้เขา้ ใจหลกั ธรรมทตี่ นนับถอื แลว้ สรา้ งความ ปรองดรองกนั ในทุกศาสนาคอื ใคร 1) ทา่ น ป.อ. ปยตุ โฺ ต 2) ทา่ นพทุ ธทาสภกิ ขุ 3) ทา่ นปัญญานันทภิกขุ 4) พระอาจารย์ชา สภุ ทโฺ ท 5) พระอาจารยม์ ่นั ภรู ิทตฺโต 7. หากตอ้ งการศกึ ษาประมวลพระธรรมเทศนา ประวตั ิ และเรอื่ งราวต่างๆ ควรสบื ค้นจากพระคัมภีร์ใด เปน็ หลักฐานช้ันที่ 1 1) ฎกี า 2) วนิ ยั ปิฎก 3) อรรถกถา 4) สตุ ตนั ตปฎิ ก 5) อภธิ รรมปฎิ ก 8. อกศุ ลกรรมและกุศลธรรมเป็นกรรมประเภทใด 1) กรรมตามมลู เหตุ 2) กรรมทใ่ี ห้ผลตามหนา้ ท่ี 3) กรรมตามการแสดงออก 4) กรรมที่ให้ผลตามกาลเวลา 5) กรรมท่ีให้ผลตามลําดบั ความแรง 9. วิธีคิดแบบใดเป็นแบบคุณคา่ แท้-คุณค่าเทยี ม 1) กอบซอ้ื รถยนต์คนั ใหญ่ เพราะโกน้ ่ังสบาย 2) กลุ ซือ้ รถยนต์ เพราะชอบรปู ลักษณ์สวยเท่ห์ 3) กานตซ์ ้ือรถยนตม์ อื สอง เพราะเพือ่ นชักชวน 4) กรซือ้ รถยนตร์ ุ่นเล็ก เพราะใชไ้ ดด้ ี ประหยัดนาํ้ มัน 5) ก้องซือ้ รถยนตย์ ่ีหอ้ ดังเพราะเปน็ ทน่ี ยิ ม ขายต่องา่ ย 10. สงั ฆชยนั ตีเกดิ ขน้ึ หลงั พุทธชยนั ตเี ปน็ เวลานานเท่าใด 1) 2 สปั ดาห์ 2) 4 สปั ดาห์ 3) 6 สัปดาห์ 4) 8 สปั ดาห์ 5) 3 เดือน สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (126) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปที ี่ 26
เฉลย แบบตวั เลอื ก 1 คําตอบท่ีถูกต้องทีส่ ดุ (ขอ้ สอบเก่าชุดที่ 1) 1. 5) 2. 4) 3. 1) 4. 3) 5. 4) 6. 3) 7. 5) 8. 2) 9. 3) 10. 4) แบบตัวเลือก 1 คาํ ตอบทถ่ี กู ตอ้ งท่สี ดุ (ข้อสอบเกา่ ชุดท่ี 2) 1. 3) 2. 5) 3. 5) 4. 3) 5. 2) 6. 2) 7. 4) 8. 3) 9. 4) 10. 4) โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปีที่ 26 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (127)
สาระที่ 4 ประวตั ิศาสตร เนอ้ื หาแบ่งออกเปน็ 3 สว่ น และลาํ ดบั ความสําคญั ของการออกข้อสอบ ดังนี้ พนื้ ฐานและ วธิ กี ารทาง ประวตั ิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย (20%) (40%) ประวตั ศิ าสตรส์ ากล (40%) 1. พ้ืนฐานและวิธกี ารทางประวัติศาสตร์ (20%) - พื้นฐาน (ความหมาย / การแบ่งยคุ สมัย / หลักฐานทางประวตั ิศาสตร)์ - วิธีการทางประวตั ิศาสตร์ 5 ขน้ั ตอน 2. ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย (40%) - การเมอื ง - เศรษฐกิจ - สงั คม - วัฒนธรรม - ความสมั พนั ธ์ระหว่างประเทศ (ดึงจุดเด่นทเี่ ป็น Highlight ของแตล่ ะยุค) (การปฏริ ปู การเมอื ง เศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรม (พระบรมไตรฯ / ร.5 / ร.7 ฯลฯ) 3. ประวัติศาสตร์สากล (40%) - การแบ่งยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตรส์ ากล (บางปเี ช่ือมกับประวตั ศิ าสตรไ์ ทย) - ประวตั ิศาสตรต์ ะวนั ตก - ประวตั ศิ าสตรต์ ะวันออก สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (128) ____________________โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปที ่ี 26
พ้ืนฐานทางประวัติศาสตรและวิธีการทางประวัติศาสตร ภาพรวมของเน้ือหา จดุ สาํ คญั 1. ความหมาย - บดิ าประวัตศิ าสตร์ ไทย, โลก ............................... - เกิดจากมนษุ ย,์ ธรรมชาติ ...................................................................... - เกดิ ในอดีต - การก้าวเขา้ สูย่ ุคประวัติศาสตรข์ องไทย, โลก - กระทบต่อคนส่วนใหญ่ ...................................................................... - ต้องอาศัยหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ ...................................................................... - ศกึ ษาถงึ ความคิด ความหวัง ความรู้สึก - คาํ ว่าประวัตศิ าสตร์ของไทย ................................ ทศั นคติ ...................................................................... 2. หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ - แยก ปฐมภูมิ, ทตุ ยิ ภูม,ิ ตตยิ ภมู ิ ได้ - ตามความสาํ คญั - บอกไดว้ า่ เปน็ หลักฐานอะไร ชนั้ ตน้ ปฐมภมู ิ ช้นั รอง ทตุ ยิ ภูมิ ตาํ นาน / พงศาวดาร / จดหมายเหตุ *อาจมี ตตยิ ภูมิ จารึก / วิทยานพิ นธ์ - ตามลกั ษณะ - นกั เรยี นควรเร่ิมศึกษาจากหลักฐานอะไร ลายลกั ษณ์อักษร เป็นลาํ ดบั แรก .................................................. ไมเ่ ปน็ ลายลกั ษณอ์ ักษร ...................................................................... - ตัวอักษรที่เกา่ แก่ของโลก, ของไทย หรือตามแหลง่ อารยธรรมของโลก ........................................... ...................................................................... - บอกได้ว่าเปน็ หลักฐานลักษณะใด ดนตรี / นาฏศิลป์ / Youtube ...................................................................... ...................................................................... 3. วธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์ - บอกไดว้ ่า กระบวนการแสวงหาขอ้ เท็จจริงในอดตี ความจริง คือ ................................................... 5 ข้นั ตอนทางประวัตศิ าสตร์ ขอ้ เท็จจริง คือ ................................................. กาํ หนดประเดน็ คน้ ควา้ รวบรวม - องคค์ วามรู้ใหม่ คอื ........................................... ตรวจสอบประเมิน (ภายนอก / ภายใน) ...................................................................... สรปุ เชอ่ื มโยง นาํ เสนอ - เหมือน / ตา่ งกบั วิธีทางวิทยาศาสตร์ ...................................................................... - ขั้นตอนใดสําคญั ทีส่ ุด ...................................................................... โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 26 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (129)
ประวัติศาสตรไทย ภาพรวมเนอ้ื หาประวตั ศิ าสตร์ไทย สมยั ประวัติศาสตรใ์ นดินแดนไทย 1 สมัยก่อนประวตั ศิ าสตรข์ องไทย ยุคหนิ ยคุ โลหะ สมัยประวตั ิศาสตร์ สมยั ประวตั ศิ าสตรข์ องไทย - เก่า - สาํ ริด ก่อนสโุ ขทยั 2 (สโุ ขทยั -ปจั จุบัน) 3 - กลาง - เหล็ก - ใหม่ - แวน่ แคว้นโบราณ - การเมอื ง - ความเป็นมาของ - เศรษฐกจิ - สังคมวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญา ชนชาตไิ ทย - ความสัมพันธก์ บั ตา่ งประเทศ อกั ษร เกา่ แกส่ ุด พบที่ ................................................... A สมัยประวตั ศิ าสตร์ สมัยกอ่ นประวตั ิศาสตร์ ยคุ กลาง ยคุ ใหม่ ยุครว่ ม ยุคหิน ยคุ โลหะ ยคุ โบราณ D E BC สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (130) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปที ี่ 26
ภาพรวมของเนอื้ หา จุดสาํ คญั c สมัยก่อนประวัติศาสตรข์ องไทย สมยั กอ่ นประวตั ศิ าสตรข์ องไทย - หลักเกณฑ์การแบง่ ยคุ ประวตั ิศาสตรข์ องไทย ยคุ หนิ ใชห้ ลักเกณฑ์อะไร - หนิ เกา่ - หนิ กลาง การเมืองการปกครอง / วฒั นธรรม - หินใหม่ - บอกลกั ษณะเดน่ แต่ละยุคได้ ลักษณะเครือ่ งมือ เครอื่ งใช้ - บอกสถานทีแ่ หลง่ ทีค่ น้ พบได้ - ฮัวบินเนยี น ยุคโลหะ - กลองมโหระทึก (อารยธรรมดองซอน) - ยคุ สําริด (ทองแดง + ดีบุก) - บ้านเชยี ง มรดกโลก ด้านอารยธรรม 2534 - ยุคเหล็ก (อารยธรรมสาํ รดิ เกา่ แก่สดุ ของไทย) - ภาพเขียนผาแตม้ อุบลราชธานี - พบมากมายหลายแหล่งในประเทศไทย ข้อสงั เกต 1. พัฒนาการในยคุ หินเกา่ l ใหม่ นอกจากเปน็ พฒั นาการทีด่ จู ากเครอ่ื งมือ เครือ่ งใช้แลว้ ยงั สามารถดูไดว้ า่ เป็นพฒั นาการจาก ทสี่ งู -ท่ีตาํ่ การอยูอ่ าศัยในถ้าํ l แมน่ ้ํา 2. สถานที่ค้นพบ สว่ นมากพบในภาคเหนือ ตก ใต้ อีสาน ส่วนภาคกลางจะพบน้อยกว่าทกุ ภาค 3. มนษุ ย์เริ่มสนใจความสวยงามมาแตย่ คุ หิน (ใหม่) 4. แบบแผนในการดํารงชีวิตเรม่ิ มมี าแตย่ ุคหนิ โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 26 ___________________ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (131)
ภาพรวมของเนอื้ หา จดุ สาํ คัญ d สมัยประวตั ศิ าสตร์ในดนิ แดนไทย สมยั ประวตั ศิ าสตร์กอ่ นสโุ ขทัย - อารยธรรมทล่ี งรากลกึ ในสงั คมไทย - ปจั จยั อะไรท่ีส่งผลตอ่ ความเจริญรุง่ เรอื ง อินเดีย จนี - สวุ รรณภูมิ = ดินแดนแห่งทองคาํ , ดนิ แดนไทย สุวรรณทวปี ปรากฏในหลกั ฐาน พัฒนาการเปน็ บา้ นเมอื ง แว่นแควน้ อาณาจกั ร อนิ เดีย = รามายณะ แวน่ แคว้นโบราณ ลุ่มนา้ํ ทะเล ทวารวด,ี ละโว,้ หริภญุ ชยั ตามพรลงิ ค์ โคตรบรู ณ์ ศรีวิชัย รบั อารยธรรมจาก รับอารยธรรมจาก ............................ ............................ ............................ ............................ ภาพรวมของเนือ้ หา จดุ สาํ คญั หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ ของแว่นแควน้ โบราณ สะท้อนถึงความสัมพันธก์ ับชาติต่างๆ ของไทย - ลูกปดั หนิ คาร์เนเลียน, อะเกต - ลูกปดั แก้วมตี า - ตะเกยี งโรมัน - ผา้ ป่านกญั ชา, ทพั พสี าํ ริด - คารเ์ นเลียน เทพนยิ ายกรกี , โรมัน - เหรียญกษาปณอ์ นิ เดีย สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (132) ____________________โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปีที่ 26
3 สมยั ประวตั ศิ าสตรข์ องไทย (สุโขทยั -ปจั จบุ ัน) การเมอื งการปกครองไทย ประชาธิปไตย สมบรู ณาญาสทิ ธริ าชย์ (สโุ ขทยั -ร.7) สุโขทัย อยุธยา ธนบุร-ี รตั นโกสินทร์ คณะราษฎร คณะทหาร ปติ ุราชา เทวราชา (2475-2500) จอมพล ป. ปฏริ ปู ปฏิรูป จอมพลสฤษด์ิ กษัตรยิ บ์ รมไตร ร.5 จอมพลถนอม 2475 เปลี่ยนแปลงการปกครอง ภาพรวมของเนอ้ื หา e สมยั ประวัติศาสตร์ของไทย การเมอื งการปกครองไทย ยุคสมบูรณาญาสิทธริ าชย์ จุดสําคญั ยุคประชาธปิ ไตย - ความแตกต่างและความเหมือนของการปกครองสมัย สุโขทยั , อยุธยา คอื ........................................... ...................................................................... - การปฏิรปู การปกครองของพระบรมไตรโลกนาถ คอื การรวมอาํ นาจคนื สกู่ ษัตริย์ - การปฏิรปู การปกครองสมัย ร.5 เป็นการดึงอํานาจ กลบั คืนสกู่ ษตั ริย์เช่นกัน ....................................................................... - การเปลี่ยนแปลงการปกครองของคณะราษฎร เปน็ การใชอ้ าํ นาจแบบ............................................... - การปกครองแบบรัฐนยิ ม ในสมยั จอมพล ป. ผนู้ ํามี บทบาทสูงในการปกครอง บทบาททหาร .................................................. ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... บทบาทประชาชน ............................................. 14 ต.ค. 16 .......................................................... 6 ต.ค. 19 ............................................................ 17 พ.ค. 35 .......................................................... 19 ก.ย. 49 .......................................................... โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปที ี่ 26 ___________________ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (133)
สังคมและวัฒนธรรม สงั คมสมยั ใหม่ สงั คมแบบโบราณ รับวฒั นธรรมจากตะวันออก เลิกไพร่ ระบบชนชนั้ เลกิ ทาส ระบบอุปถัมภ์ 2398 เลิกศกั ดนิ า, ยศ, บรรดาศักด์ิ ระบบศกั ดนิ า ระบบชนชัน้ สงั คมไทยปจั จุบัน ภาพรวมของเนื้อหา จุดสาํ คัญ สงั คมวฒั นธรรม และภูมิปญั ญา - การเลกิ ไพร่, ทาส ดูสาเหต,ุ ผล - ระบบอุปถมั ภ์ - ระบบชนชน้ั - บุคคลสาํ คญั อ่านให้ดี ออกปีละ 1 คน สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (134) ____________________โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 26
ความสัมพนั ธร์ ะหว่างประเทศ หลงั 2395 กอ่ น 2398 เน้นจักรวรรดินิยม สโุ ขทัย-รตั นโกสินทร์ การเสียดนิ แดน ร.4, ร.5 2398 ภาพรวมของเนื้อหา จุดสาํ คญั ความสมั พันธร์ ะหวา่ งประเทศ กอ่ น 2398 สุโขทยั -อยุธยา จะเนน้ ความสมั พนั ธ์กบั ชาติจนี อินเดีย อาหรับ และการเขา้ มาของชาตติ ะวันตก - สญั ญาการคา้ - วตั ถุประสงคก์ ารเขา้ มา เน้นเผยแผ่ศาสนา การค้า - อาจนําไปโยงกับเหตกุ ารณ์ประวัติศาสตร์สากล ยคุ แห่งการสํารวจ - ช่วงรัตนโกสนิ ทร์ตอนต้น บทบาท ชาติตะวนั ตก การกา้ วเรมิ่ เข้าส่ยู คุ จกั รวรรดนิ ยิ ม หลงั 2398 - การรับมือกับลัทธิจักรวรรดนิ ยิ ม - การเสียดนิ แดน, ทําสญั ญาเสียเปรยี บ - วเิ ทโศบายของ ร.5 - ไทยกับสงครามโลก 1, 2 - ยคุ สงครามเยน็ - บทบาทไทยกบั อาเซียน โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปที ี่ 26 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (135)
เศรษฐกิจ ดั้งเดมิ ยังชพี คา้ ขาย-สง่ ออก สุโขทัย-รัตนโกสินทร์ ร.4-ร.6 ร.6-ร.7 ร.7-ร.8 ร.8-ปจั จบุ นั ตกตา่ํ 2475-2489 ตอนต้น มแี บบแผน ร.4 สงคราม ทนุ นยิ ม 2398 ภยั ธรรมชาติ ทนุ นิยม เสรี ทาํ สัญญาเบาว์ริง ภาพรวมของเนื้อหา จุดสาํ คัญ เศรษฐกิจ กอ่ น 2398 - การค้าเสรี สุโขทัย p ตน้ อยุธยา - การคา้ ผูกขาด = ระบบพระคลังสนิ คา้ - ระบบภาษี + พื้นฐาน จงั กอบ อากร ส่วย ฤชา + ผูกป้ี + อากร สวน, นา + ระบบเจา้ ภาษี นายอากร - การค้าบรรณาการ - สินคา้ ผกู ขาด, ตอ้ งหา้ ม - สญั ญาการค้ากบั ชาติตะวันตก - ขอ้ ดี, ขอ้ เสยี ของเบาวร์ งิ หลงั 2398 - ระบบทนุ นิยมกาํ เนิดเกิดขน้ึ ร.4-ร.7 เริ่มทุนนยิ ม ร.7-ร.8 จอมพล ป. ทนุ นิยมโดยรฐั ร.8-ร.9 ทุนนยิ มเสรี เศรษฐกิจไทยหลังทาํ สัญญาเบาวร์ งิ เกิดอตุ สาหกรรม โรงสี, โรงน้ําแข็ง, โรงน้ําตาล - ปฏริ ปู การเงิน, ธนาคาร - เศรษฐกจิ ทนุ นยิ มโดยรฐั สมยั จอมพล ป. - ประชานยิ ม สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (136) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปีที่ 26
ขอ สอบเกาชุดที่ 1 1. ประเทศใดไม่ไดใ้ ชเ้ กณฑ์การนับพุทธศกั ราชโดยเรม่ิ นับ พ.ศ. 1 ตัง้ แตว่ นั ท่ีพระพทุ ธเจา้ เสด็จปรินิพพาน 1) ลาว 2) ไทย 3) พมา่ 4) กมั พชู า 5) ศรีลังกา 2. ศาสตราจารยศ์ ลิ ป์ พรี ะศรี มผี ลงานศลิ ปะดา้ นใดมากที่สดุ 1) จติ รกรรม 2) มัณฑนศลิ ป์ 3) ประณตี ศิลป์ 4) ประติมากรรม 5) สถาปตั ยกรรม 3. ทาสสมยั สุโขทยั เปน็ ทาสประเภทใด 1) ทาสเชลย 2) ทาสสนิ ไถ่ 3) ทาสทา่ นให้ 4) ทาสขัดดอก 5) ทาสในเรอื นเบ้ีย 4. สมเดจ็ พระเอกาทศรถทรงสง่ คณะราชทตู ไปเจริญสัมพนั ธไมตรที างการคา้ กับชาติใด 1) สเปน 2) อังกฤษ 3) ฝร่งั เศส 4) ฮอลันดา 5) โปรตเุ กส 5. งานศลิ ปกรรมใดไมอ่ ยใู่ นกลมุ่ ศลิ ปะแบบทวารวดี 1) ใบเสมา 2) ปราสาท 3) พระพิมพ์ 4) พระพุทธรูป 5) พระธาตุเจดีย์ โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีที่ 26 ___________________ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (137)
6. ข้อใดคอื รปู แบบของศิลปกรรมในสมยั สโุ ขทยั 1) พระพุทธรูปสําริด เจดยี ท์ รงลงั กา 2) พระพทุ ธรูปศลิ าทราย เจดียท์ รงลังกา 3) พระพุทธรปู ทรงเครอ่ื ง เจดยี ์ทรงดอกบัวตมู 4) พระพทุ ธรูปปูนป้ัน เจดียท์ รงย่อมมุ ไมส้ บิ สอง 5) พระพุทธรูปทรงเคร่ือง เจดยี ท์ รงยอ่ มุมไม้สิบสอง ขอ สอบเกา ชดุ ที่ 2 1. วฒั นธรรมฮวั บินเนียนท่พี บในดนิ แดนเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้อย่ใู นยุคใด 1) ยุคเหล็ก 2) ยุคสําริด 3) ยุคหินเกา่ 4) ยคุ หินใหม่ 5) ยคุ หินกลาง 2. ชาวจีนทีเ่ ดินทางเข้ามาค้าขายในสมยั อยธุ ยาและตน้ รัตนโกสินทรต์ ้องอยภู่ ายใตก้ ารดแู ลของหนว่ ยงานใด 1) กรมคลัง 2) กรมเวียง 3) กรมทา่ ขวา 4) กรมท่าซ้าย 5) กรมพระคลังสนิ ค้า 3. ศาสนสถานในศาสนาพราหมณ์-ฮินดแู ละพระพุทธศาสนานิกายมหายาน พบในบรเิ วณใดของประเทศไทย มากทสี่ ดุ 1) ภาคใต้ 2) ภาคกลาง 3) ภาคตะวนั ตก 4) ภาคตะวันออก 5) ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 4. คติการสร้างรูปเคารพแทนองคพ์ ระมหากษตั รยิ ใ์ นสังคมไทยสมัยอยธุ ยาถงึ ตน้ รัตนโกสนิ ทรน์ ยิ มสรา้ งแบบใด 1) พระรปู เหมือนจริง 2) พระพุทธรูปปางสมาธิ 3) พระพทุ ธรปู ทรงเครือ่ ง 4) พระโพธสิ ัตวอ์ วโลกเิ ตศวร 5) พระพทุ ธรูปฉลองพระองค์ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (138) ____________________โครงการแบรนดซ์ ัมเมอร์แคมป์ ปีท่ี 26
5. นโยบายการอนรุ ักษแ์ ละสง่ เสริมวัฒนธรรมเพ่อื การพัฒนาประเทศ เกดิ ขน้ึ ในรฐั บาลใด 1) นายควง อภัยวงศ์ 2) ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช 3) จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ 4) จอมพล ถนอม กิตติขจร 5) จอมพล แปลก พิบลู สงคราม เฉลย แบบตวั เลือก 1 คําตอบทถี่ ูกต้องที่สุด (ขอ้ สอบเกา่ ชดุ ที่ 1) 1. 2) 2. 4) 3. 1) 4. 4) 5. 2) 6. 1) แบบตัวเลอื ก 1 คําตอบทถี่ ูกตอ้ งท่ีสดุ (ข้อสอบเกา่ ชุดที่ 2) 1. 5) 2. 4) 3. 1) 4. 3) 5. 5) โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 26 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (139)
ประวัติศาสตร ความหมายของประวตั ิศาสตร ประวัตศิ าสตรม์ าจากคาํ วา่ History มาจากภาษากรกี ทวี่ ่า Historia ซึง่ แปลวา่ การสบื สาวหรอื ไต่สวน ความจริง คนแรกทใ่ี ชค้ าํ น้ี คอื เฮโรโดตสั ผเู้ ป็นบดิ าแห่งประวัติศาสตร์ หนงั สอื Historia ของเฮโรโดตสั เป็นเร่ืองสงครามเปอร์เซยี ระหว่างชาวกรีกและเปอรเ์ ซีย ความหมายของ “ประวตั ศิ าสตร์” ประกอบดว้ ย 4 สว่ น ท่อง หลักฐาน ผา่ นพน้ คนทาํ กรรมรวม 1. ประวตั ิศาสตร์ เป็นเพยี งบางส่วนของพฤติกรรมมนุษยท์ ่มี หี ลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ ดังนน้ั ประวัตศิ าสตร์เปล่ยี นแปลงได้ หากพบหลกั ฐานใหม่ 2. ประวัตศิ าสตร์ ในความหมายกวา้ ง เปน็ พฤติกรรมของมนษุ ย์ทผ่ี า่ นปจั จบุ ันไปแล้ว ในความหมายแคบ เป็นพฤติกรรมมนษุ ยท์ ผ่ี ่านไปแลว้ นานกวา่ 10 ปี 3. ประวตั ิศาสตร์ เปน็ ทุกสิ่งที่มนุษยร์ ู้สกึ ทํา คดิ หวงั สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (140) ____________________โครงการแบรนด์ซัมเมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 26
4. ประวตั ศิ าสตร์ เปน็ พฤตกิ รรมของมนุษย์ที่มผี ลต่อสังคม ทงั้ ในด้านท่ดี ีและไม่ดี ดงั นั้นประวตั ศิ าสตร์ จึงเปน็ เร่อื งของทุกคน และให้ความสาํ คัญกับพฤติกรรมของผนู้ าํ หรอื กลมุ่ ของผู้นาํ สังคม ขอ้ สังเกต มผี นู้ าํ เรอ่ื งราวนน้ั มาเรียบเรยี งด้วย วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ และเผยแพร่ให้คนจํานวนมากได้รู้ ประวัติศาสตร์ คอื เรื่องราวเกี่ยวกับมนษุ ยใ์ นอดีตท่มี หี ลักฐานหรอื ขอ้ มูลยนื ยนั และมผี ู้เหน็ วา่ มคี วามสาํ คญั สมควรท่ีจะบันทกึ เรอื่ งราวใหผ้ ู้อน่ื ได้ทราบ คุณคา่ ของประวัตศิ าสตร์ 1. รู้เขา รูเ้ รา เขา้ ใจทุกสิง่ ทุกอยา่ งทมี่ นษุ ย์สรา้ งขน้ึ ความขดั แยง้ และปัญหา ในสังคมหรอื ระหว่างสงั คม เกิดจากการท่ีเราไม่รจู้ กั ตัวเองและคนอืน่ 2. ความเจริญและความเสือ่ ม ทําให้เปน็ ผศู้ กึ ษาประวัตศิ าสตร์มคี วามคดิ ทนั สมัย ทันเหตกุ ารณ์ ทนั คน สามารถใชอ้ ดีตเป็นบทเรยี น และประวตั ศิ าสตร์ยังให้คา่ นยิ มทางจรยิ ธรรมแก่ผูศ้ กึ ษาไดเ้ ปน็ อยา่ งดี 3. ระบบคดิ เป็นเหตุเปน็ ผล เพราะสว่ นมากหลักฐานทางประวตั ศิ าสตรม์ กั ขดั แยง้ ทําให้การวเิ คราะห์ ประวัตศิ าสตรเ์ ปน็ เสมือนแบบฝกึ หัดใหเ้ ราพัฒนาการคดิ วเิ คราะห์ สมเด็จพระเจ้าบรวมวงศ์เธอฯ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ บิดาแห่งประวัตศิ าสตรไ์ ทย วธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร วิธีการทางประวัติศาสตร์ คือ วธิ ีการท่ีนักประวัติศาสตร์ใช้ในการสืบสาวไต่สวนเรอ่ื งราวในอดตี โดยการ วิเคราะห์ขอ้ มลู หลักฐานอย่างเปน็ ระบบ ระเบียบ เป็นลาํ ดบั ข้ันตอน เริ่มต้นทีค่ วามอยากร้อู ยากเห็นเกี่ยวกบั เรือ่ งบางเรือ่ งทางประวัติศาสตร์ โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปที ่ี 26 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (141)
ท่อง วธิ กี าร กํา กาํ หนดประเด็น ว่าจะศกึ ษา อะไร ท่ไี หน เมอ่ื ไร เกี่ยวขอ้ งกบั ใคร รวบ การคน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มูลหลกั ฐานต่างๆ ได้แก่ ถามผูร้ ู้ ดูเอกสาร ระบบ การจัดระบบข้อมลู นาํ ขอ้ มลู มาจดั หมวดหมู่ เชน่ เรียงลําดบั เวลา เรยี งตามลกั ษณะขอ้ มลู เคราะห์ การวิเคราะห์ หรือตรวจสอบความจริงจากหลักฐานและการตคี วามหลกั ฐาน การตรวจสอบ หลักฐานทําได้ 2 วิธี ไดแ้ ก่ ดแู ท้ แลรายละเอยี ด - การตรวจสอบภายนอก คือ ดวู ่าหลักฐานน้นั เปน็ ของแท้หรอื ไม่ เช่น ดูวา่ หลักฐานเขียนเม่อื ใด ภาษาสอดคลอ้ งกบั ยุคหรอื ไม่ ใครเขียน มอี คตหิ รอื ไม่ - การตรวจสอบภายใน คอื ดวู า่ เน้อื หานั้นมคี ณุ คา่ ทางประวัตศิ าสตร์ และขดั หรอื แย้งกบั ข้อมลู ทางประวัตศิ าสตรอ์ นื่ หรือไม่ ข้อสงั เกต การพจิ ารณาขอ้ มูลในตวั หลกั ฐาน เรียกว่า ขอ้ เท็จจริง หรอื ขอ้ สนเทศ ในหลกั ฐานแตล่ ะชน้ั *หากตรวจสอบและตคี วามหลักฐานแล้วผลลพั ธ์ท่ีไดจ้ ากการตรวจสอบจะกลายเปน็ ข้อเทจ็ จริง ทางประวัตศิ าสตร์ เรยี ง การเรยี บเรยี งและนําเสนอ สรปุ ขอ้ มูล ขอ้ เท็จจรงิ เพราะประวตั ศิ าสตร์ “ไมใ่ ช่” การรวบรวม ขอ้ เท็จจริงวา่ มีอะไรเกดิ ในอดีต แต่เปน็ การอธบิ ายลาํ ดบั เหตุการณใ์ นแงข่ องความสมั พันธ์ทเ่ี ป็นเหตุ เปน็ ผลสืบเนือ่ งกัน และข้นั ตอนนีถ้ อื เปน็ ขน้ั ตอนของการตอบประเดน็ ปญั หาทตี่ ง้ั ไวใ้ นขั้นตอนแรก ข้อสังเกต • ขัน้ ตอนที่ 2 การรวบรวมข้อมูล และขั้นตอนที่ 3 การจดั ระบบขอ้ มูล อาจมองเปน็ ข้นั ตอนเดียวกนั • ขัน้ ตอนที่ 5 การเรียบเรียงและนําเสนอ อาจเรียกว่า ข้นั ตอนการสงั เคราะหข์ อ้ มูล คณุ สมบตั ิของนักประวตั ิศาสตร์ คอื ความเป็นกลาง และการรกั ษาขอ้ เท็จจรงิ ทางประวตั ิศาสตร์ ห้ามใช้ค่านิยมแหง่ ยคุ สมยั หรืออคตติ ัดสนิ เหตุการณใ์ นอดีต แตต่ อ้ งทาํ ความเขา้ ใจความคิดของคนยุคนนั้ เชน่ พระเวสสนั ดร หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร ประเภทของหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ แบ่งได้เป็น 2 แบบ 1. จาํ แนกตามลําดบั ความสาํ คัญ เพื่อประเมนิ ความสาํ คญั ของหลักฐานได้ง่าย แบ่งออกเป็น • หลกั ฐานช้นั ต้นหรือหลักฐานปฐมภมู ิ คือ หลกั ฐานท่สี รา้ งขึน้ เวลานัน้ หรอื จากคาํ บอกเล่าของ ผู้ร่วมเหตกุ ารณ์ โดยไมค่ าํ นงึ วา่ จะเปน็ ลายลกั ษณ์อักษรหรอื ไม่ เช่น โบราณสถาน โบราณวัตถุ - หลกั ฐานช้ันต้นถอื เปน็ หลกั ฐานท่มี คี วามนา่ เช่ือถอื สูงสุด - หลักฐานชั้นต้นไมจ่ ําเป็นตอ้ งเปน็ ตน้ ฉบบั เดิม แต่รวมถึงฉบับสาํ เนาด้วย เช่น ประชมุ ศลิ า- จารกึ จัดพิมพ์โดยสํานักนายกรฐั มนตรี สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (142) ____________________โครงการแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ ปีท่ี 26
• หลกั ฐานช้ันรองหรือหลกั ฐานทุตยิ ภูมิ คือ หลักฐานที่สรา้ งหลังเหตุการณ์ หลกั ฐานประเภทน้ี มคี วามนา่ เช่อื ถือน้อยกวา่ หลกั ฐานปฐมภมู ิ - แตห่ ลกั ฐานช้นั ต้นอาจคลาดเคลอื่ นได้ หลักฐานชน้ั รองจึงอาจมคี ุณคา่ เทียบเทา่ หลักฐาน ช้นั ต้นหากหลกั ฐานช้ันรองมีการคัดเลือก วพิ ากษ์ ไดส้ มเหตุสมผลสอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมมากกวา่ • หลักฐานชัน้ ตตยิ ภมู ิ คือ หลกั ฐานท่นี ําไปสู่หลกั ฐานชนั้ ตน้ และช้นั รอง เชน่ สารานกุ รม 2. จําแนกตามลกั ษณะของหลักฐาน แบ่งออกเป็น • หลกั ฐานลายลักษณอ์ กั ษร เรยี กอกี อยา่ งวา่ หลักฐานสมยั ประวตั ศิ าสตร์ เพราะยคุ ประวัติศาสตร์ เรม่ิ ต้นเมือ่ สงั คมมีการประดษิ ฐต์ ัวอกั ษร โดยแบง่ เปน็ - จารกึ เปน็ หลกั ฐานลายลักษณ์อักษรที่เกา่ แก่ทีส่ ุดของไทย มที ้ังจารึกเป็นแผ่นหิน แผ่นเงนิ ทอง ดบี กุ และบนปชู นยี สถานและปชู นียวัตถุ จดุ ม่งุ หมายมักทาํ เพ่ือบนั ทกึ การทาํ บญุ หรอื ประกาศบุญตาม ความเชอ่ื ª จดุ เด่นของหลกั ฐานประเภทนี้ คือ แกไ้ ขยาก แข็งแรง ถูกต้อง แมน่ ยํา เพราะกษัตรยิ ์ หรอื บคุ คลสาํ คัญทาํ มกี ารระบวุ นั ที่ ª จุดด้อย คือ มักขาดรายละเอียด เพราะการจารกึ ใชเ้ วลานาน ตัวอักษรลบเลอื นชํารุด ยากแก่การตคี วามภาษา ความเป็นมาและอายุของจารึก ขอ้ สังเกต ศลิ าจารกึ ถือเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแกท่ ส่ี ุด จารึกพบทป่ี ราสาทพนมรุ้ง - ตาํ นาน คือ เร่ืองเล่าท่ีหาจดุ กาํ เนิดไมไ่ ด้ มักแสดงใหเ้ หน็ ค่านยิ มในอดีตท่เี ชื่อม่ันในศาสนา และเชอื่ มโยงเร่ืองราวกับพุทธประวตั ิ ª ขอ้ ดอ้ ย คือ ปัญหาเรื่องเวลา เพราะไมท่ ราบผูแ้ ตง่ อกี ท้งั ยงั มคี วามคลาดเคลอ่ื นสูง เพราะรวมเอานทิ านพ้นื บ้านและอิทธปิ าฏหิ าริย์ - พระราชพงศาวดาร คือ หนังสือท่ีรวบรวมเรอื่ งจากเอกสารสําคญั ท่ีกษัตริย์ให้แต่งไว้ โดยรวบรวมจากจดหมายเหตุ ปูมโหร ใบบอก เร่ืองราวมักเกีย่ วกบั กษตั รยิ ์และเหตุการณ์สาํ คัญ การเขียน พระราชพงศาวดารเร่ิมเมอ่ื สมยั อยุธยาจนถึงรัชกาลท่ี 5 พระราชพงศาวดารที่เก่าท่สี ดุ และนา่ เชอื่ ถอื ท่ีสุด คือ พระราชพงศาวดารกรงุ เกา่ ฉบบั หลวงประเสริฐ โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปีท่ี 26 ___________________ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (143)
ª จดุ เดน่ คอื รายละเอียดมากกวา่ หลกั ฐานประเภทอน่ื จุดดอ้ ย คือ เป็นเรอ่ื งเกีย่ วกบั ราชวงศ์ ซึง่ เป็นเพียงส่วนหนง่ึ ของประวตั ศิ าสตร์ไทย ไมม่ ีสว่ นท่ีเป็นประวตั ศิ าสตร์ชาติไทยสว่ นรวม ª พระราชพงศาวดาร ถือเป็นหลักฐานชนั้ รอง เพราะแตง่ ขึน้ หลังจากเหตกุ ารณผ์ ่านไปแล้ว - จดหมายเหตุ แตก่ อ่ น หมายถงึ การจดเรือ่ งราวตามวัน เดอื น ปี แตใ่ นปัจจบุ นั หมายถงึ เอกสารทางราชการท้ังหมด ทม่ี อี ายุ 25 ปีขนึ้ ไป จึงจะเรียกว่า จดหมายเหตุหรอื บรรณสาร จดหมายเหตุ ถือเปน็ หลักฐานชนั้ ต้น จดหมายเหตุของไทยมี 4 ประเภท ไดแ้ ก่ ª จดหมายเหตุของหลวง เรอ่ื งของกษัตริย์ และบ้านเมอื ง จดโดยข้าราชการ ª จดหมายเหตโุ หร เอกสารทโี่ หรจดบันทึก เก่ยี วกับความสัมพันธ์ระหวา่ งเหตกุ ารณ์ บา้ นเมืองกบั ดวงดาว เมื่อครบปีจะนาํ ทั้งหมดมารวม เรียกวา่ ปมู โหร ª จดหมายเหตุหรอื บันทกึ ของชาวตา่ งชาติ บันทึกโดยชาวต่างชาตทิ ีม่ าตดิ ตอ่ จดุ เด่น คือ ใหภ้ าพของวถิ ชี ีวติ และสภาพบ้านเมืองสมยั นน้ั ซ่ึงมกั ไม่ปรากฏในหลักฐานประเภทอ่นื จดุ ดอ้ ย คอื มอี คติทาง วัฒนธรรมแฝงอยู่ ª เอกสารประเภทคาํ ให้การ คอื คาํ บอกเล่าของคนที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยผู้จดไดป้ ระโยชน์ จากคาํ ให้การนน้ั เชน่ คาํ ใหก้ ารเฉลยศึก ขอ้ สังเกต จดหมายเหตมุ กั จะมกี ารสอดแทรกความเหน็ ของผเู้ ขยี นไว้ด้วย สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (144) ____________________โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 26
- หนังสือราชการหรือเอกสารการปกครอง คือ เอกสารการตดิ ต่อระหวา่ งหนว่ ยงานรฐั ถอื เป็นหลกั ฐานชั้นตน้ แตเ่ อกสารเหล่านมี้ ีเพียงแคเ่ อกสารการปกครองในสมัยรัตนโกสินทร์ จุดด้อย คอื มีข้อมลู ด้านเดียวจากรฐั บาลกลาง ได้แก่ ª ใบบอก คอื หนังสือรายงานเรอ่ื งต่างๆ จากหัวเมอื ง ª สารตรา คือ หนังสอื สง่ั การ จากเจ้านายไปยงั หัวเมอื ง ª ศุภอกั ษร คือ หนังสอื โต้ตอบ ระหว่างเสนาบดกี บั เจา้ ประเทศราช รวมทง้ั รายงานการ ประชมุ คาํ พพิ ากษาคดีความ และเอกสารราชการหน่วยงานต่างๆ - เอกสารสว่ นบคุ คล จดุ ด้อย คือ มักเขยี นแตด่ ้านดขี องคนเขียน ตัวอยา่ งเช่น ª บนั ทกึ เกีย่ วกบั การเมืองหลงั การเปลย่ี นแปลงการปกครอง คอื บันทกึ พระยาทรงสุรเดช ª เกย่ี วกบั พระราชกรณียกิจของรัชกาลท่ี 5 ตอนเสดจ็ ประภาพยุโรป คอื พระราชนพิ นธ์ ไกลบ้าน ซง่ึ เป็นพระราชหัตถเลขาท่พี ระราชทานแกพ่ ระเจา้ ลกู เธอเจ้าฟ้านภิ านภดล - หนงั สอื พิมพ์ นติ ยสาร วารสาร หนังสอื พิมพ์ฉบับแรกของไทย คอื บางกอกรคี อเดอร์ พมิ พใ์ นสมัยพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัว (รชั กาลที่ 4) สว่ นหนงั สอื พมิ พ์ฉบับแรกทดี่ ําเนนิ งานโดย คนไทย คอื หนังสือพิมพค์ อร์ต หรือคอรต์ ข่าวราชการ นิตยสารฉบบั แรกของไทย คือ ดรโุ ณวาท สือ่ สิ่งพิมพ์ เหลา่ น้ีสามารถคน้ หาไดจ้ าก หอสมุดแหง่ ชาติ โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปีที่ 26 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (145)
ข้อจํากัด คอื อาจคลาดเคลื่อนเพราะเรง่ รบี พมิ พ์หนังสือพิมพ์ หรอื เพราะบางรฐั บาลมกี าร ตดั เน้อื หาบางสว่ นกอ่ นออกเผยแพร่ (เซ็นเซอร)์ - งานนพิ นธ์ทางประวตั ศิ าสตร์ คอื งานเขยี นทางวิชาการ เช่น วทิ ยานพิ นธ์ สารนพิ นธ์ บทความ งานวจิ ัย ซึ่งถอื เป็นหลกั ฐานชัน้ รอง ª ข้อดี เหมาะกบั คนเพง่ิ ศกึ ษา เพราะคน้ คว้าเรียบเรยี งแล้ว รวมท้ังมกี ารเสนอแนวคดิ การตคี วามใหม่ๆ อยู่เร่ือยๆ ª ข้อเสีย เปน็ การเสนอภาพตามความคิดผเู้ ขยี น นอกจากนี้ ยังมหี ลกั ฐานลายลักษณอ์ ักษรอ่นื เช่น กฎหมาย และวรรณกรรม ท้งั น้ี หลักฐานลายลักษณอ์ ักษรต่างมขี ้อจํากัดตา่ งๆ กัน จงึ ต้องใช้หลักฐานหลายประเภท เพ่ือ ตรวจทานความถกู ต้อง • หลักฐานทีไ่ ม่เป็นลายลกั ษณ์อกั ษร มที ้ังหลักฐานสมัยก่อนประวัตศิ าสตร์และหลักฐานสมัย ประวัตศิ าสตร์ โดยอาจต้องอาศยั การประเมนิ จากนักวิชาการสาขาอืน่ ๆ หลักฐานที่ไมเ่ ปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษร แบง่ เปน็ 5 ประเภท ไดแ้ ก่ - หลกั ฐานทางโบราณคดี คือ สง่ิ ของท่มี นุษย์สร้างและเกิดเองตามธรรมชาติ มักใช้ศกึ ษา เร่ืองราวเกีย่ วกับการตง้ั ถิ่นฐาน ความสัมพันธ์ระหวา่ งมนุษยก์ ับสิง่ แวดลอ้ ม ª หลกั ฐานทางโบราณคดยี ุคก่อนประวตั ิศาสตร์ เช่น ภาพเขยี นสีถาํ้ ผาแดง หลุมศพ เครอื่ งป้ันดินเผา ª หลกั ฐานทางโบราณคดยี คุ รอยต่อ ได้แก่ แหลง่ ทอี่ ยู่อาศยั รอ่ งรอยคนั ดินและคูนํา้ ª หลักฐานทางโบราณคดียุคประวัติศาสตร์ ไดแ้ ก่ เจดีย์ สถปู พระพทุ ธรูป ใบเสมา สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (146) ____________________โครงการแบรนดซ์ ัมเมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 26
- หลกั ฐานทางศิลปกรรม ประกอบดว้ ย สถาปตั ยกรรม (กอ่ สรา้ ง) ประติมากรรม (ป้ัน) จิตรกรรม (เขยี น) ซึ่งบ่งบอกจินตนาการและภมู ิปัญญาของมนุษย์ รวมถึงสะทอ้ นถงึ สภาพแวดลอ้ มในแต่ละยุค - หลักฐานประเภทโสตทัศนวสั ดุ ไดแ้ ก่ ภาพถ่าย แผนที่ แถบบนั ทกึ เสียง ขอ้ มูลจากอินเตอร์เน็ต และขอ้ มลู จากมือถือ โดยทัว่ ไปหลกั ฐานลายลักษณอ์ ักษรมคี วามชดั เจนกว่าหลักฐานทไ่ี ม่เป็นลายลักษณ์อกั ษร แตห่ ลกั ฐานประเภทโสตทศั นวัสดุทีใ่ ห้ภาพและเสยี งจะใหข้ ้อมลู ท่ชี ดั เจนกว่า - นาฏศลิ ป์ ดนตรี เพลงพน้ื บา้ น โดยเพลงพนื้ บา้ นรวมถึงทา่ ราํ และดนตรี เปน็ ข้อมูลทาง ประวัตศิ าสตรไ์ ด้แตต่ อ้ งอาศยั การตีความของผูร้ ู้กอ่ น - หลกั ฐานประเภทบอกเล่า มักเปน็ ขอ้ มูลเกีย่ วกับอัตชวี ประวัติของคนสําคัญ แบง่ เปน็ 2 ลักษณะ ª ประเพณจี ากการบอกเลา่ คือ ประเพณีทีบ่ อกเลา่ เหตุการณ์ ความเช่ือ เช่น นทิ าน สภุ าษติ ปรศิ นาคาํ ทาย ใชเ้ ปน็ หลกั ฐานของประวตั ศิ าสตรย์ คุ โบราณ ª ประวัตศิ าสตรจ์ ากการบอกเลา่ คอื การบอกเลา่ จากผมู้ ีสว่ นร่วมหรือได้ฟังมาอกี ที ใชเ้ ป็น หลักฐานของประวตั ิศาสตรร์ ว่ มสมัย โครงการแบรนด์ซมั เมอร์แคมป์ ปีท่ี 26 ___________________ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (147)
ประวตั ิศาสตรสากล ยุคสมัยในประวตั ิศาสตรสากล อารยธรรมของโลกยุคกลาง (476–1500) จดุ เริ่มตน้ ของยุคกลาง คอื เมอ่ื อนารยชนเยอรมันเผา่ ต่างๆ เข้ามารกุ รานกรงุ โรมและดินแดนสว่ นอืน่ ๆ ของจักรวรรดิโรมนั ตะวนั ตก1 เมอื่ ศูนยก์ ลางอาํ นาจ หรือจกั รพรรดอิ อ่ นแอ ทาํ ใหเ้ กดิ ระบบการปกครอง- เศรษฐกจิ -สงั คมแบบใหม่ที่เรียกว่า ระบบฟิวดลั ระบบฟวิ ดัล (Feudalism) ในดนิ แดนจกั รวรรดโิ รมันตะวันตก ฟิวดัล หรือ ศักดินาสวามิภักดิ์ หมายถึง ความผูกพันแบบต่างตอบแทนในสังคม ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐาน ของการถือครองที่ดินระหว่างผู้มีสิทธิเป็นเจ้าของที่ดิน หรือลอร์ด (Lord) กับผู้รับมอบให้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน หรอื วัสซาล (Vassal) ระบบสะท้อนความขาดแคลนแรงงานในสงั คม เชน่ เดียวกบั ระบบไพร-่ ทาสของไทย • การเส่ือมสลายของระบบแมเนอร2์ การฟืน้ ฟูทางการค้า และการขยายตัวของอตุ สาหกรรม เกดิ กาฬโรคระบาดครงั้ ใหญใ่ นยุโรปทําใหพ้ ลเมืองยุโรป 1 ใน 3 เสยี ชีวิต สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (148) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอร์แคมป์ ปที ี่ 26
จดุ เดน่ สรปุ สาระสําคัญยุคกลาง ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ TIPS .............................................................................................................. - โรมนั เนสก์รับอทิ ธพิ ลจากโรมนั จึงมลี กั ษณะเหมอื นป้อมค่ายมรี ปู ทรงเป็น สเ่ี หลีย่ มผืนผ้า กาํ แพงหนา หน้าต่างบานเลก็ บรรยากาศภายในทบึ และมดื สลัว - โกธิคลกั ษณะโปร่งบาง ชดชอ้ ย หลังคาทรงแหลมสูงเสยี ดฟา้ ประตหู นา้ ต่าง เปลีย่ นเป็นทรงโค้งแหลม นาํ กระจกสตี ่างๆ มาตัดตอ่ กนั มหาวิหารโนเตรอดาม (Notre-Dame) มหาวหิ ารแซงตอ์ าเมียง (Saint Amiens) ในฝร่ังเศส มหาวิหารแหง่ เชวิญา่ (Cathedral สถาปตั ยกรรม of Sevilla) ในสเปน มหาวิหารแห่งโคโลญ (Cathedral of Cologne) ในเยอรมนี เศรษฐกิจ ……………..……………………….. ......…………………………………….. การศกึ ษา, - สมาคมอาชพี เรียกวา่ กลิ ด์ (Guild) ทําหนา้ ทค่ี วบคุมวิธกี ารผลติ คณุ ภาพของ วรรณกรรม สนิ ค้า ตั้งราคาจําหนา่ ยและการฝกึ งานใหผ้ ูท้ ี่จะเข้ามาสู่อาชพี ดงั กล่าว เกิดสมาคมพ่อคา้ สมาคมช่างฝีมือ - ระบบบัญชคี ู่ เพื่อแสดงฐานะหน้ีสินและทรัพย์สนิ ของกิจการแยกจากกันอย่างชดั เจน - ระบบสนิ เช่อื โดยใชต้ ั๋วเงิน เป็นหลักในการทําการค้าแทนเงินตรา - งานแสดงสนิ คา้ (Fair) - ธนาคารแหง่ แรก เมืองบาเซโลนาในสเปน - มหาวิทยาลยั แหง่ แรกที่โบลญั ญ่า - มหากาพย์ซองดอเจสต์ (Chanson de Geste) - เทวนคร (The City of God) ของนกั บุญออกสั ติน - มหาเทววทิ ยา (Summa Theologica) ของนกั บญุ ทอมสั อไควนสั - นิยายวีรคติ (นยิ ายโรมานซ)์ เชน่ กษตั รยิ อ์ าเธอรก์ ับอศั วินโตะ๊ กลม - นิทานฟาบลโิ อ เช่น แคนเทอร์เบอรีเทลส์ - นิทานอีสป โครงการแบรนด์ซมั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 26 ___________________ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (149)
การฟนฟศู ิลปวทิ ยาการ3 (Renaissance - Reborn) 1. ยุคกลาง (ยุคมืด) เหตทุ ี่เรยี กชอื่ ดังนกี้ ็เพราะยคุ นี้เป็นยุคท่ีองคพ์ ระสนั ตะปาปา ประมุขของศาสนจกั ร4 มีอํานาจสูงสุด ผกู ขาดการอธบิ ายโลกและจักรวาล เช่น โลกแบน ห้ามเดินเรือโดยหันหลังใหฝ้ ั่งเพราะจะตกโลก เป็นต้น โดยปราศจากการโตแ้ ย้งและใชป้ ญั ญาและเหตุผลซง่ึ เปรยี บเสมือนแสงสว่าง 1. ผกู ขาดการตคี วามพระคัมภีร์ 2. ค.ศ. 1515 สันตะปาปาลโี อท่ี 10 ขายใบไถบ่ าป เพื่อบูรณะมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ท่ีกรุงวาตกิ นั 3. จึงทาํ ให้ มารต์ ิน ลเู ธอร์ ร่างประกาศต่อต้านทีเ่ รียกว่า ญัตติ 95 ขอ้ และถือเปน็ จดุ เรม่ิ ต้นของ กระแสปฏิรปู ศาสนาคริสต์ (reformation) และการแตกนกิ ายครั้งแรก คือ กลมุ่ นกิ ายโปรเตสแตนต5์ (แปลวา่ ผตู้ อ่ ต้าน) โดยนกิ ายแรก คอื ลูเธอลนั ซ่งึ ต่อมากแ็ ยกออกอีกหลากหลายนิกาย เชน่ คาวนิ อังกลลิ ัน เป็นต้น 2. เมอื่ ชนชนั้ กลางเร่ิมปฏเิ สธศาสนจักรรวมถึงการอธิบายโลกและจกั รวาลตามพระคมั ภรี ์ ทําให้ต้อง หวนกลับไปหาความรู้ยุคโบราณกอ่ นทจี่ ะเกดิ ศาสนาคริสต์ ยุคนี้เรยี กวา่ ยุคฟน้ื ฟศู ลิ ปวทิ ยาการ (Renaissance) คอื การเกิดใหม่ (Rebirth) ของความร้กู รกี และโรมนั โดยมีศนู ยก์ ลางอย่ทู ีอ่ ิตาลี6 3. การต่อตา้ นศาสนจักรมีผลโดยตรงทาํ ใหเ้ กิดการปฏิวตั วิ ทิ ยาศาสตร์ในเวลาต่อมา โดยมจี ดุ เริ่มต้น จากหนงั สือ7 ของ นโิ คลัส โคเปอร์นคิ สั ท่ีมีแนวคดิ วา่ ดวงอาทติ ย์เป็นศนู ย์กลางระบบสรุ ิยะไมใ่ ชโ่ ลก นโิ คลสั โคเปอรน์ คิ ัส (Nicolaus Copernicus) สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (150) ____________________โครงการแบรนดซ์ มั เมอรแ์ คมป์ ปที ่ี 26
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224