Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 9.หน่วยการเรียนรู้ที่-7-เรื่องการคูณ1-1

9.หน่วยการเรียนรู้ที่-7-เรื่องการคูณ1-1

Published by ภัทราวลัย ลิ้นโป, 2022-01-11 05:59:51

Description: 9.หน่วยการเรียนรู้ที่-7-เรื่องการคูณ1-1

Search

Read the Text Version

51 ใบงานท่ี 7.5 การเปลย่ี นหมกู่ ารคูณ ชือ่ ........................................................สกุล....................................... ......................................................... 1. (2 x ) × 6 = 2 × (3 × 6) 2. (3 x 5) x 8 = 3 x ( ⃞ x 8) 3. (4 x 5) x 7 = 4 x ( x 7) 4 ( . ⃞ x 4) x 7 = 2 x (4 x 7) 5. ( ⃞ x 2) x 6 = 3 x (2 x 6) 6. 8 x (6 x 3) = (8 x 6) x 7. 6 x (4 x 5) = (6 x 4) x 8. ( x 7) x 6 = 4 x (7 x 6) 9. ( x 4) x 6 = 3 x (4 x 6) 10. ( x 8) x 9 = 7 x (8 x 9)

52 แบบบันทกึ คะแนนใบงานท่ี 7.5 เร่ือง การเปลย่ี นหมขู่ องการคณู กล่มุ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2562 เลขที่ ชอ่ื -สกุล คะแนนใบงาน สรปุ ผลการประเมนิ ที่ 7.5 (10) ผ่านเกณฑ์ ไมผ่ า่ นเกณฑ์ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เกณฑ์การประเมิน คะแนนท่ไี ดจ้ ากการทาใบงานที่ 7.5 ตง้ั แต่รอ้ ยละ 80 ข้นึ ไปถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

53 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั งิ านรายบคุ คล พฤตกิ รรม การแสดง การตอบ การยอมรับ ทางาน ฟงั คนอ่นื ตามท่ีได้รับ ท่ี ความสนใจ ความ คาถาม มอบหมาย หมายเหตุ คดิ เหน็ ช่ือ-สกลุ 43214321432143214321 เกณฑ์การวัดผล ให้คะแนนระดับคณุ ภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดังนี้ ดีมาก (4) สนใจฟัง ไมห่ ลับ ไม่พูดคยุ ในช้นั มคี าถามท่ีดี ตอบคาถามถูกตอ้ ง ทางานส่งครบตรงเวลา ดี (3) การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 70% ปานกลาง (2) การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50% ปรบั ปรุง (1) เขา้ ชน้ั เรยี น แตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก สง่ งานไม่ครบ ไม่ตรงเวลา ลงชอื่ ……………………………….ผูส้ งั เกต (…………………..………………….) …………/…………/………..

54 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 คาช้ีแจง ใหท้ าเครอื่ งหมาย  ลงในช่องแสดงระดบั คณุ ภาพ เลขท่ี ช่อื -สกุล พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออก / ระดบั คณุ ภาพ มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ ม่นั ในการทางาน 3 2103 2 103210 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

55 เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะ ดีเยย่ี ม ดี ผา่ น ไมผ่ า่ น อันพงึ ประสงค์ (3) (2) (1) (0) มีวินยั 1. ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง 1. ปฏิบัตติ าม 1. ปฏบิ ตั ติ าม 1. ไมป่ ฏบิ ัติตาม 2. ตรงต่อเวลา ขอ้ ตกลง ข้อตกลง ข้อตกลง 3. มสี ่วนร่วมปฏบิ ัติ 2. ตรงต่อเวลา 2. ตรงตอ่ เวลา 2. ไม่มสี ่วนร่วม กิจกรรมตา่ ง ๆ ได้ดี 3. มสี ว่ นร่วมปฏิบตั ิ 3. ไมม่ สี ว่ นรว่ ม ในกจิ กรรม 4. เป็นแบบอย่างที่ดี กจิ กรรมต่าง ๆ ได้ ในกิจกรรม ใฝ่เรยี นรู้ 1. เขา้ เรียนตรงเวลา 1. เข้าเรยี นตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรง 1.มาเขา้ เรยี น มุ่งมน่ั ในการทางาน 2.ไมม่ สี ว่ นร่วม 2. ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ 2. ต้งั ใจเรยี น เวลา ในกจิ กรรม 3. มีส่วนรว่ มใน 3. มสี ว่ นรว่ มใน 2. มสี ่วนรว่ มใน - ไม่มคี วาม รบั ผดิ ชอบ กิจกรรม กจิ กรรม กิจกรรม งานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 4. เป็นแบบอยา่ งทีด่ ี 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มีความ งานที่ไดร้ บั มอบหมาย งานท่ีไดร้ ับ รบั ผดิ ชอบ 2. มคี วามเพยี ร มอบหมาย งานทีไ่ ดร้ ับอบ พยายามในการเรยี นให้ 2. มีความพยายาม หมาย สาเร็จ ในการเรียนให้สาเรจ็ 2. มคี วามพยายาม 3. มกี ารปรบั ปรุงและ 3. มีการปรบั ปรงุ และ ในการเรยี นให้ พัฒนาการทางานให้ดี พฒั นาการทางานให้ สาเรจ็ ขน้ึ ดีขึน้ 4. เป็นแบบอยา่ งทด่ี ี

56 แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2562 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 ช่อื หน่วย การคณู เวลา 29 ช่วั โมง แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 6 เร่ือง ศนู ยก์ บั การคูณ และหน่งึ กบั การคณู เวลา 1 ชวั่ โมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั ค 1.2 เขา้ ใจถึงผลทเี่ กดิ ขน้ึ จากการดาเนินการของจานวนและความสัมพนั ธ์ ระหวา่ งการดาเนนิ การต่าง ๆ และสามารถใช้การดาเนินการในการแกป้ ญั หา ป.3/1 คณู จานวนนับไม่เกินหนึ่งแสนและศนู ย์ พรอ้ มท้ังตระหนกั ถึงความสมเหตสุ มผล ของคาตอบ ค 6.1 มคี วามสามารถในการแกป้ ญั หา การใหเ้ หตุผล การสื่อสาร การสือ่ ความหมาย ทางคณติ ศาสตร์และการนาเสนอ การเชอ่ื มโยงความรตู้ ่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์ และเชอื่ มโยงคณิตศาสตรก์ ับศาสตร์อ่ืน ๆ และมีความคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรค์ ป.3/4 ใช้ภาษาและสัญลักษณท์ างคณิตศาสตรใ์ นการส่ือสาร การสื่อความหมาย และการ นาเสนอได้อย่างถูกต้อง 2. สาระสาคัญ จานวนใดคณู กบั ศูนยห์ รือศนู ยค์ ณู กับจานวนใด ผลคูณจะเป็นศูนย์ จานวนใด ๆ คณู กับหน่งึ ผลคณู จะเทา่ กบั จานวนนนั้ เราสามารถนาความรนู้ ้ีไปใชใ้ นการหาผลคณู ใหร้ วดเรว็ ขึ้น 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ นักเรียนสามารถหาผลคณู ของศูนย์กับการคูณและหนึง่ กับการคูณได้ 4. สาระการเรียนรู้ จานวนใดคณู กบั ศูนย์หรอื ศนู ยค์ ณู กับจานวนใด ผลคูณจะเปน็ ศูนย์ จานวนใด ๆคณู กับหนงึ่ ผลคณู จะเทา่ กบั จานวนนนั้ เราสามารถนาความรู้น้ีไปใช้ในการหาผลคูณให้รวดเรว็ ขนึ้ 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา 6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวนิ ยั 6.2 ใฝเ่ รียนรู้ 6.3 มุ่งม่ันในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ วิธสี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการทางคณิตศาสตร์ (ทักษะการคิดคานวณทางคณติ ศาสตร)์ 7.1 ขั้นนาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1) ให้นกั เรียนทบทวนความร้เู รอื่ ง การเปลีย่ นหมู่ของการคูณ โดยครตู ิดแถบโจทย์ บนกระดาน แลว้ ใหผ้ ้แู ทนนกั เรียนออกมาเตมิ ตัวเลขให้ถกู ต้อง

57 ( × 11) × 6 = 12 × ( × ) (12, 11, 6) นกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง 7.2 ขน้ั สอน 1) ครวู างกลอ่ งเปลา่ บนโต๊ะ 2 กล่อง แตล่ ะกล่องไม่มีดนิ สออยู่เลย ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั แสดงความ คิดเห็น โดยครูถามคาถาม ดงั นี้ - มกี ลอ่ งเปล่ากี่กล่อง (2 กลอ่ ง) - แต่ละกล่องมดี นิ สอกี่แท่ง (0 แทง่ ) - หาจานวนดินสอทัง้ หมดได้อย่างไร (นาจานวนกลอ่ งดนิ สอคณู ด้วยจานวนดนิ สอ ในแตล่ ะกลอ่ ง) - เขยี นเปน็ ประโยคการคณู ได้อยา่ งไร ให้ผูแ้ ทนนกั เรียนออกมาเขียนบนกระดาน (2 × 0 = 0) - เมื่อใช้การสลับทีข่ องการคณู จะเขียนเปน็ ประโยคการคูณไดอ้ ย่างไร (2 × 0 = 0 × 2 = 0) จากนน้ั ครวู างดินสอในกล่องกล่องละ 1 แท่ง ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูถามคาถาม ดงั น้ี - แตล่ ะกล่องมีดนิ สอกแ่ี ทง่ (1 แท่ง) - ทั้งสองกล่องมดี นิ สอรวมกี่แทง่ (2 แทง่ ) - เขียนเป็นประโยคการคูณได้อย่างไร ให้ผูแ้ ทนนกั เรียนออกมาเขยี นบนกระดาน (2 × 1 = 2) - เมอื่ ใช้การสลับทีข่ องการคูณ จะเขียนเปน็ ประโยคการคูณได้อย่างไร (2 × 1 = 1 × 2 = 2) ครแู ละนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบ 2) ครูตดิ แถบโจทยบ์ นกระดาน แลว้ ให้นกั เรยี นออกมาแข่งขนั กันเติมคาตอบให้ถูกต้อง ดงั นี้ 1. 7 × 1 = 1 × (7) 2. × 0 = 0 × 11 (11) 3. 5 × = 1 × 5 (1) 4. 0 × = 16 × (16, 0) นักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง 3) นกั เรยี นรว่ มกันสรุปความรูเ้ รอื่ ง ศนู ย์กับการคูณและหน่งึ กบั การคณู โดยครถู ามคาถามดังน้ี - ศนู ยค์ ูณกับจานวนใด หรือจานวนใดคูณกับศนู ย์ ผลคณู เท่ากบั เท่าไร (ศูนย)์ - หน่ึงคณู กับจานวนใด หรอื จานวนใดคูณกับหนงึ่ ผลคูณเท่ากับเทา่ ไร (จานวนน้นั ) - เราจะนาความรนู้ ้ีไปใช้ในการคดิ คานวณได้อย่างไร (เมื่อหาผลคูณจากโจทย์ท่ีมี 0 หรือ 1 เป็นตัวตั้งหรอื ตัวคณู กส็ ามารถตอบเปน็ 0 หรือจานวนนบั ท่ไี มใ่ ช่ 1 ได้ทนั ที)

58 7.3 ข้นั สรปุ 1) นกั เรียนและครรู ่วมกันสรปุ ความรู้ ดงั นี้ - จานวนใดคูณกับศูนยห์ รอื ศนู ยค์ ูณกับจานวนใด ผลคณู จะเปน็ ศนู ย์ จานวนใด ๆ คณู กบั หนง่ึ ผลคูณจะเท่ากบั จานวนนน้ั เราสามารถนาความรนู้ ไี้ ปใช้ในการหาผลคูณให้รวดเร็วข้ึน 2) ให้นกั เรยี นทาใบงานที่ 7.6 8. สอื่ การเรียนรู้/แหลง่ เรยี นรู้ 8.1 แถบโจทย์ 8.2 กลอ่ งเปล่า 8.3 ดินสอ 8.4 ใบงานที่ 7.6 9. การวัดและประเมนิ ผล 9.1 วธิ กี ารวดั และประเมินผล 1) ตรวจใบงานที่ 7.6 2) สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล 3) สังเกตความมวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งม่ันในการทางาน 9.2 เครื่องมือ 1) ใบงานที่ 7.6 2) แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล 3) แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 9.3 เกณฑ์การประเมนิ 1) ทาใบงานที่ 7.6 ถูกตอ้ งไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 80 2) พฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คลได้ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 3) คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

59 ใบงานท่ี 7.6 ศนู ย์กบั การคูณ ,หน่งึ กบั การคูณ ช่ือ.......................................................สกลุ ....................................เลขท.ี่ .......................... .......................................................................................... คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นหาผลคณู ต่อไปน้ี 1. 0  1 = 11. 5  1 = 2. 3  0 = 12. 3  1 = 3. 5  0 = 13. 7  1 = 4. 0  6 = 14. 1  6 = 5. 0  4 = 15. 1  4 = 6. 7  0 = 16. 7  1 = 7. 0  5 = 17. 9  1 = 8. 2  0 = 18. 12  1 = 9. 0  8 = 19. 17  1 = 10. 9  0 = 20. 9  1 =

บตั รโจทย์ 60  2x0= 0x2= 4x0= 0x4= 5x0= 0x5= 3x0= 0x3= 6x0= 0x6= 9x0= 0x9= 7x0= 0x7= 8x0= 0x8=

บตั รโจทย์ 61  2x1= 1x2= 4x1= 1x4= 5x1= 1x5= 3x1= 1x3= 6x1= 1x6= 9x1= 1x9= 7x1= 1x7= 8x1= 1x8=

62 แบบบันทึกคะแนนใบงานท่ี 7.6 เร่อื ง ศนู ย์กบั การคูณและหนึ่งกบั การคณู กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2562 เลขท่ี ชอื่ -สกุล คะแนนใบงาน สรุปผลการประเมนิ ที่ 7.6 (20) ผ่านเกณฑ์ ไม่ผา่ นเกณฑ์ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เกณฑ์การประเมนิ คะแนนทีไ่ ด้จากการทาใบงานที่ 7.6 ตงั้ แต่รอ้ ยละ 80 ข้นึ ไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์

63 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั งิ านรายบคุ คล พฤตกิ รรม การแสดง การตอบ การยอมรับ ทางาน ฟงั คนอ่นื ตามท่ีได้รับ ท่ี ความสนใจ ความ คาถาม มอบหมาย หมายเหตุ คดิ เห็น ช่ือ-สกลุ 43214321432143214321 เกณฑ์การวัดผล ให้คะแนนระดับคณุ ภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดังนี้ ดีมาก (4) สนใจฟัง ไมห่ ลับ ไม่พูดคยุ ในชัน้ มคี าถามท่ดี ี ตอบคาถามถูกตอ้ ง ทางานส่งครบตรงเวลา ดี (3) การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 70% ปานกลาง (2) การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50% ปรบั ปรุง (1) เขา้ ชน้ั เรยี น แตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก สง่ งานไม่ครบ ไมต่ รงเวลา ลงชอื่ ……………………………….ผูส้ งั เกต (…………………..………………….) …………/…………/………..

64 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 คาช้ีแจง ใหท้ าเครอื่ งหมาย  ลงในช่องแสดงระดับคณุ ภาพ เลขท่ี ช่อื -สกุล พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออก / ระดบั คณุ ภาพ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ ม่นั ในการทางาน 3 2103 2 103210 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

65 เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะ ดีเยย่ี ม ดี ผา่ น ไมผ่ า่ น อันพงึ ประสงค์ (3) (2) (1) (0) มีวินยั 1. ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง 1. ปฏิบัตติ าม 1. ปฏบิ ตั ติ าม 1. ไมป่ ฏบิ ัติตาม 2. ตรงต่อเวลา ขอ้ ตกลง ข้อตกลง ข้อตกลง 3. มสี ่วนร่วมปฏบิ ัติ 2. ตรงต่อเวลา 2. ตรงตอ่ เวลา 2. ไม่มสี ่วนร่วม กิจกรรมตา่ ง ๆ ได้ดี 3. มสี ว่ นร่วมปฏิบตั ิ 3. ไมม่ สี ว่ นรว่ ม ในกจิ กรรม 4. เป็นแบบอย่างที่ดี กจิ กรรมต่าง ๆ ได้ ในกิจกรรม ใฝ่เรยี นรู้ 1. เขา้ เรียนตรงเวลา 1. เข้าเรยี นตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรง 1.มาเขา้ เรยี น มุ่งมน่ั ในการทางาน 2.ไมม่ สี ว่ นร่วม 2. ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ 2. ต้งั ใจเรยี น เวลา ในกจิ กรรม 3. มีส่วนรว่ มใน 3. มสี ว่ นรว่ มใน 2. มสี ่วนรว่ มใน - ไม่มคี วาม รบั ผดิ ชอบ กิจกรรม กจิ กรรม กิจกรรม งานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 4. เป็นแบบอยา่ งทีด่ ี 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มีความ งานที่ไดร้ บั มอบหมาย งานท่ีไดร้ ับ รบั ผดิ ชอบ 2. มคี วามเพยี ร มอบหมาย งานทีไ่ ดร้ ับอบ พยายามในการเรยี นให้ 2. มีความพยายาม หมาย สาเร็จ ในการเรียนให้สาเรจ็ 2. มคี วามพยายาม 3. มกี ารปรบั ปรุงและ 3. มีการปรบั ปรงุ และ ในการเรยี นให้ พัฒนาการทางานให้ดี พฒั นาการทางานให้ สาเรจ็ ขน้ึ ดีขึน้ 4. เป็นแบบอยา่ งทด่ี ี

66 แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2562 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 ช่ือหนว่ ย การคณู เวลา 29 ช่ัวโมง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 7 เรือ่ ง การคณู จานวนที่มหี น่งึ หลกั กบั จานวนทีม่ หี น่งึ หลัก เวลา 1 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั ค 1.2 เขา้ ใจถึงผลท่เี กิดขึน้ จากการดาเนนิ การของจานวนและความสัมพันธ์ระหว่างการ ดาเนนิ การตา่ ง ๆ และใชก้ ารดาเนนิ การในการแก้ปญั หา ป.3/1 บวก ลบ คูณ หาร และบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนับไมเ่ กนิ หน่งึ แสน และ ศนู ย์ พร้อมท้งั ตระหนกั ถึงความ สมเหตสุ มผลของคาตอบ ค 6.1 มีความสามารถในการแก้ปญั หา การให้เหตุผล การสอ่ื สาร การส่ือความหมาย ทาง คณติ ศาสตร์ และการนาเสนอ การเชอื่ มโยงความรู้ต่าง ๆ ทางคณติ ศาสตรแ์ ละเช่ือมโยงคณิตศาสตร์กับ ศาสตรอ์ น่ื ๆ และมีความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ ป.3/4 ใช้ภาษาและสัญลักษณท์ างคณติ ศาสตรใ์ นการส่ือสาร การส่ือความหมาย และการ นาเสนอได้อยา่ งถูกต้อง 2. สาระสาคญั การคณู จานวนที่มหี น่ึงหลักกบั จานวนท่ีมหี นง่ึ หลัก สามารถเขียนแสดงการหาผลคูณได้ในรปู การบวก 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ หาผลคณู จานวนที่มหี น่งึ หลักกับจานวนที่มีหนง่ึ หลักได้ 4. สาระการเรียนรู้ การคูณจานวนหนง่ึ หลักกับจานวนทม่ี ีหน่ึงหลกั 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา 6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 มีวินัย 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3 มงุ่ มั่นในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ วธิ ีสอนโดยการจดั การเรยี นร้แู บบร่วมมือ : เทคนิคคู่คิดสีส่ หาย 7.1 ขั้นนาเข้าส่บู ทเรยี น

67 1) ครใู หน้ กั เรียนทกุ คนหาผลคณู ของโจทยต์ อ่ ไปน้ี  (คาถามกระตนุ้ ความคดิ ) โดยเขยี น ในรูปการบวก สูตรคูณมคี วามสาคญั อยา่ งไรต่อการ -2x1 - 2x5 เรียนคณติ ศาสตร์(พิจารณาตามคาตอบ -2x2 - 2x6 ของนักเรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดลุ ยพนิ ิจของ -2x3 - 2x7 ครผู ู้สอน) -2x4 - 2x8 2) ครนู าอภิปรายเกี่ยวกับโจทย์ ขอ้ 1 วา่ เปน็ สตู รคณู แม่ 2 3) นักเรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ 7.2 ขน้ั สอน 1) นักเรียนจบั กลมุ่ ประมาณ 5-6 คน จบั คกู่ นั แลว้ คาถามกระตุ้นความคดิ รว่ มกันศึกษาใบความรู้เร่ือง การคูณจานวนท่ีมีหนึง่ หลักกบั จานวนที่มหี นึ่งหลัก  นกั เรยี นใช้สูตรคูณชว่ ยในการหา ผลคูณได้อยา่ งไร จงอธิบาย 2) นักเรียนแตล่ ะคู่ผลัดกันอภปิ รายความร้ทู ี่ศึกษามา จนเขา้ ใจตรงกัน (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรียน โดย ใหอ้ ยูใ่ นดุลยพินจิ ของครผู ู้สอน) 3) ครยู กตวั อย่างการหาผลคูณของจานวนท่ีมีหนงึ่ หลกั กบั จานวนท่ีมีหนึ่งหลกั 3-5 ตัวอยา่ ง 4) ครูอธิบายเพ่ิมเตมิ ว่า เพื่อให้ไดผ้ ลคณู รวดเรว็ ขึ้น นกั เรียนสามารถนาสตู รคณู มาใชใ้ นการหาผลคูณได้ จากนัน้ ให้นักเรียนทกุ คนท่องสตู รคูณแม่ 2 ถึง แม่ 9 พรอ้ มๆ กัน (ครูท่องเป็นตัวอย่าง แล้วให้นกั เรียนท่องตาม) 5) นักเรยี นทกุ คนทาใบงานที่ 7.7 เรื่อง การคูณ จานวนทม่ี ีหนึ่งหลักกับจานวนที่มีหน่ึงหลัก เสร็จ เรยี บร้อยแลว้ ให้จบั คกู่ ับเพ่ือนในกลมุ่ ผลดั กนั อธิบายคาตอบของใบงาน 6) นักเรียน 2 คู่ ในกลมุ่ เดยี วกนั ผลดั กันอธบิ ายคาตอบ ของคตู่ นให้เพอ่ื นอีกคหู่ นึง่ ฟัง แลว้ ให้แต่ละกลมุ่ สรุป คาตอบเป็นมตขิ องกลมุ่ 7) ครูขอตวั แทนกลุ่ม 2-3 กลุม่ นาเสนอคาตอบของใบ งาน โดยครตู รวจสอบความถกู ต้องและชมเชย กลมุ่ ทนี่ าเสนอได้ถูกต้องและแนะนากลุ่มทย่ี งั มี ข้อบกพร่องอยู่ 8) นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด

คาถามกระตนุ้ ความคิด 68 7.3 ขน้ั สรุป  นกั เรยี นสามารถใชป้ ระโยชน์ จากการเรียนเรอื่ งการคณู 1) นักเรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ อยา่ งไร(พิจารณาตามคาตอบ 2) ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปความร้เู กีย่ วกับการหา ของนักเรียน โดยให้อยใู่ น ผลคณู ของจานวนท่ีมีหน่ึงหลักกับจานวนท่มี ีหน่ึงหลกั ดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน) ว่าการคูณจานวนที่มหี น่งึ หลักกับจานวนทีม่ หี นึ่งหลัก สามารถเขยี นแสดงการหาผลคณู ได้ในรูปการบวก 8. สือ่ การเรยี นร/ู้ แหลง่ เรยี นรู้ 8.1 ใบงานท่ี 7.7 8.2 ใบความรู้ 9. การวดั และประเมินผล 9.1 วธิ ีการวัดและประเมินผล 1) ตรวจใบงานท่ี 7.7 2) สังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ 3) สงั เกตความรับผดิ ชอบ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่ันในการทางาน 9.2 เครื่องมือ 1) ใบงานท่ี 7.7 2) แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ 3) แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 9.3 เกณฑ์การประเมิน 1) ทาใบงานที่ 7.7 ถูกตอ้ งไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 80 2) พฤติกรรมการทางานรายกล่มุ ไดร้ ะดับ คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3) คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

69 ใบความรู้ การคูณ คือการดาเนนิ การทางคณิตศาสตร์อยา่ งหนง่ึ ทาใหเ้ กิดการเพิ่ม หรือลดจานวนจานวนหนึ่งเป็นอัตรา การคณู เป็นหนึ่งในส่ีของการดาเนินการ พื้นฐานของเลขคณิตมูลฐาน (การดาเนินการอย่างอ่นื ไดแ้ ก่ การบวก การลบ และการหาร) การคูณ สามารถนยิ ามบนจานวนธรรมชาติว่าเป็นการบวกทซ่ี ้า ๆ กนั ตวั อยา่ งเชน่ 3 คณู ด้วย 4 (หรอื เรียกโดยยอ่ วา่ 3 คณู 4) หมายถึงการบวก จานวน 4 เข้าไป 3 ชดุ ดังน้ี 4+4+4 = 3x4 = 12 ตัวอยา่ ง 1) 4 + 4 + 4 + 4 + 4 = 5 x 4 = 20 2) 6 + 6 + 6 + 6 = 4 x 6 = 24 3) 3 + 3 + 3 + 3+ 3 = 3 x 5 = 15

70 ใบงานที่ 7.7 9การคูณจานวนทม่ี ีหนงึ่ หลักกับจานวนที่มหี น่งึ หลกั คาช้แี จง ให้นกั เรยี นหาผลคูณของโจทยต์ ่อไปน้ี ตัวอยา่ ง 2  5 = 5 + 5 = 10 => 2  5 = 10 1. 3  4 = ............................ =.............................. => 2. 6  2 = ............................ =.............................. => 3. 2  7 = ............................ =.............................. => 4. 7  8 = ............................ =.............................. => 5. 4  6 = ............................ =.............................. => 6. 5  3 = ............................ =.............................. => 7. 8  8 = ............................ =.............................. => 8. 9  2 = ............................ =.............................. => 9. 6  6 = ............................ =.............................. => 10. 5  9 = ............................ =.............................. => 11. 4  7 = ............................ =.............................. => 12. 7  5 = ............................ =.............................. => 13. 8  2 = ............................ =.............................. => 14. 2  4 = ............................ =.............................. => 15. 3  9 = ............................ =.............................. =>

71 แบบบนั ทึกคะแนนใบงานท่ี 7.7 เรอื่ ง การคณู จานวนหนึ่งหลักกับจานวนหน่ึงหลัก กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2562 เลขที่ ช่อื -สกุล คะแนนใบงาน สรปุ ผลการประเมิน ท่ี 7.7 (15) ผา่ นเกณฑ์ ไม่ผา่ นเกณฑ์ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เกณฑก์ ารประเมิน คะแนนท่ไี ดจ้ ากการทาใบงานที่ 7.7 ต้งั แต่ร้อยละ 80 ข้นึ ไปถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

72 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ กลมุ่ ที่………….. พฤติกรรม ลาดับ ช่ือ-สกุล ความ การแสดง การรบั ฟงั ความตง้ั ใจ การมสี ่วน รวม ท่ี สมาชิกกลมุ่ ร่วมมอื ความ ความ ในการ รว่ มในการ คดิ เห็น คิดเห็น ทางาน อภปิ ราย 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประสทิ ธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ 90-100% หรือปฏิบตั ิบ่อยครั้ง ประสทิ ธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 70-89% หรือปฏิบตั บิ างคร้งั ดมี าก = 4 ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 50-69% หรอื ปฏิบัตคิ ร้ังเดยี ว ดี = 3 ประสทิ ธภิ าพตา่ กว่าเกณฑ์ 50% หรอื ไม่ปฏิบัตเิ ลย ปานกลาง = 2 ปรับปรุง = 1 ลงช่ือ………………………………ผู้สังเกต (…………………………….) ………./……………/………

73 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 คาช้ีแจง ใหท้ าเครอื่ งหมาย  ลงในช่องแสดงระดบั คณุ ภาพ เลขท่ี ช่อื -สกุล พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออก / ระดบั คณุ ภาพ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ ม่นั ในการทางาน 3 2103 2 103210 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

74 เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะ ดีเยย่ี ม ดี ผา่ น ไมผ่ า่ น อันพงึ ประสงค์ (3) (2) (1) (0) มีวินยั 1. ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง 1. ปฏิบัตติ าม 1. ปฏบิ ตั ติ าม 1. ไมป่ ฏบิ ัติตาม 2. ตรงต่อเวลา ขอ้ ตกลง ข้อตกลง ข้อตกลง 3. มสี ่วนร่วมปฏบิ ัติ 2. ตรงต่อเวลา 2. ตรงตอ่ เวลา 2. ไม่มสี ่วนร่วม กิจกรรมตา่ ง ๆ ได้ดี 3. มีส่วนรว่ มปฏิบตั ิ 3. ไมม่ สี ว่ นรว่ ม ในกจิ กรรม 4. เป็นแบบอย่างที่ดี กจิ กรรมต่าง ๆ ได้ ในกิจกรรม ใฝ่เรยี นรู้ 1. เขา้ เรียนตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรง 1.มาเขา้ เรยี น มุ่งมน่ั ในการทางาน 2.ไมม่ สี ว่ นร่วม 2. ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ 2. ต้งั ใจเรยี น เวลา ในกจิ กรรม 3. มีส่วนรว่ มใน 3. มสี ว่ นร่วมใน 2. มสี ่วนรว่ มใน - ไม่มคี วาม รบั ผดิ ชอบ กิจกรรม กจิ กรรม กิจกรรม งานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 4. เป็นแบบอยา่ งทีด่ ี 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มีความ งานที่ไดร้ บั มอบหมาย งานท่ีไดร้ ับ รบั ผดิ ชอบ 2. มคี วามเพยี ร มอบหมาย งานทีไ่ ดร้ ับอบ พยายามในการเรยี นให้ 2. มีความพยายาม หมาย สาเร็จ ในการเรียนให้สาเรจ็ 2. มคี วามพยายาม 3. มกี ารปรบั ปรุงและ 3. มกี ารปรบั ปรงุ และ ในการเรยี นให้ พัฒนาการทางานให้ดี พฒั นาการทางานให้ สาเรจ็ ขน้ึ ดีขึน้ 4. เป็นแบบอยา่ งทด่ี ี

75 แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 7 ชอื่ หน่วย การคูณ เวลา 29 ชัว่ โมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เร่ือง การคูณจานวนทีม่ ีหน่งึ หลกั กับ 10, 20, 30, ..., 90 เวลา 1 ชัว่ โมง 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั ค 1.2 เขา้ ใจถงึ ผลทเี่ กิดข้นึ จากการดาเนนิ การของจานวนและความสัมพนั ธ์ ระหว่างการดาเนินการต่าง ๆ และสามารถใช้การดาเนนิ การในการแกป้ ัญหา ป.3/1 คณู จานวนนบั ไม่เกนิ หนงึ่ แสนและศูนย์ พร้อมทง้ั ตระหนักถึงความสมเหตุสมผล ของคาตอบ ค 6.1 มีความสามารถในการแก้ปัญหา การใหเ้ หตผุ ล การสื่อสาร การส่อื ความหมาย ทางคณติ ศาสตรแ์ ละการนาเสนอ การเช่ือมโยงความร้ตู า่ ง ๆ ทางคณติ ศาสตร์ และเชื่อมโยงคณิตศาสตรก์ ับศาสตร์อ่ืน ๆ และมีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ ป.3/4 ใชภ้ าษาและสญั ลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ในการสื่อสาร การสือ่ ความหมาย และการนาเสนอ ได้อย่างถกู ต้อง 2. สาระสาคัญ จานวนใดคูณกบั 10, 20, 30, ..., 90 จะหาผลคณู ได้จากการนาจานวนนน้ั คูณกบั 1, 2, 3, ..., 9 และนา ผลคูณทไ่ี ด้คณู ด้วย 10 หรือกล่าวได้วา่ ผลคณู น้นั เติม 0 หนึ่งตัวตอ่ ทา้ ย 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ หาผลคณู จานวนหนึ่งหลักกับ 10, 20, 30, ..., 90 ได)้ 4. สาระการเรียนรู้ การคูณจานวนหน่งึ หลักกับ 10, 20, 30, ..., 90 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการส่อื สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย 6.2 ใฝเ่ รียนรู้ 6.3 มุง่ มนั่ ในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 7.1 ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน ครทุ บทวนความรู้เรื่อง การเขียนประโยคการบวกและการคณู โดยครูติดแผน่ ตารางสบิ จานวน 4 แผ่น บนกระดาน

76 ครถู ามคาถามนักเรยี น ดงั น้ี - มแี ผน่ ตารางสิบก่ีแผ่น (4 แผ่น) - ตารางสิบแตล่ ะแผน่ มีกี่หนว่ ย (10 หน่วย) - จะหาคาตอบของจานวนหน่วยท่ีมอี ยูท่ ัง้ หมดได้อยา่ งไร (นกั เรยี นอาจตอบวา่ การบวก หรอื การคูณกไ็ ด้) - คานวณหาจานวนท้ังหมดโดยใชป้ ระโยคการบวกได้อยา่ งไร ให้ผู้แทนนกั เรยี นออกมาเขยี น บนกระดาน (10 + 10 + 10 + 10 = 40 หน่วย) - คานวณหาจานวนทัง้ หมดโดยใช้ประโยคการคูณไดอ้ ยา่ งไร ให้ผ้แู ทนนกั เรียนออกมาเขียน บนกระดาน (4 × 10 = 40 หน่วย) 7.2 ขนั้ สอน 1) ครตู ิดภาพรปู ดาวบนกระดานแผน่ ละ 10 ดวง จานวน 3 แผน่ ซึ่งจะไดป้ ระโยคการคูณ 3 × 10 = 30 2) นกั เรียนสังเกตภาพและประโยคการคูณทไี่ ดจ้ ากกจิ กรรมในข้นั นา และข้ันน้ี แล้วร่วมกัน แสดงความคิดเหน็ ว่าประโยคการคูณทงั้ สองประโยคมสี ่ิงใดที่เหมือนกัน และแตกตา่ งกนั บา้ ง 3) ครูเขียนประโยคการคูณ 6 × 10 = บนกระดาน ให้นักเรียนยกมือบอกคาตอบพรอ้ มท้ังอธบิ าย ว่าหาคาตอบได้อย่างไร (นักเรียนแสดงความคดิ เหน็ ได้ตามประสบการณ์ของตนเอง) 4) ครตู ิดแถบโจทย์การคูณบนกระดาน แลว้ ให้ผู้แทนนักเรยี นออกมาเติมจานวนลงในช่องว่างคนละ 1 ขอ้ 4 × 10 = × 7 = 70 10 × = 90 ครูและนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง ครแู นะนานักเรียนเพิม่ เติมว่า การคณู จานวนทม่ี ีหนึ่งหลักด้วย 10 สามารถหาคาตอบ ไดโ้ ดยวิธกี ารนาจานวนที่มีหน่ึงหลกั คูณกับจานวนในหลักสบิ แลว้ เติม 0 ตอ่ ท้ายอีก 1 ตวั 5) ครูใหน้ ักเรยี นทาแบบฝกึ หดั เร่ือง การคูณจานวนที่มีหน่งึ หลักกับ 10, 20, 30, ..., 90 จากหนงั สือ เรียนหนังสอื เรยี นสาระการเรียนรู้พน้ื ฐานคณิตศาสตร์ (สสวท.)ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 หน้า 116 6) ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกันเฉลยคาตอบพร้อมใหน้ ักเรยี นอธบิ ายถงึ ผลของคาตอบทไ่ี ด้มา 7) ครูยกตัวอยา่ งการหาผลคูณของจานวนที่มหี นึ่งหลกั กับ 10, 20, 30, ..., 90 ให้นักเรียนดู 3-5 ตัวอยา่ ง จนนักเรียนเข้าใจ

77 7.3 ขนั้ สรปุ 1) นกั เรยี นทกุ คนร่วมกันสรปุ ความรู้เกย่ี วกับการคูณจานวนทีม่ หี น่งึ หลักกบั 10, 20, 30, ..., 90 จน ไดว้ า่ จานวนใดคูณกับ 10, 20, 30, ..., 90 จะหาผลคณู ได้จากการนาจานวนนน้ั คูณกบั 1, 2, 3, ..., 9 แลว้ คูณด้วย 10 หรอื เติม 0 หนง่ึ ตวั ต่อทา้ ย 2) นักเรยี นทาใบงานท่ี 7.8 8. สื่อการเรยี นรู/้ แหลง่ เรยี นรู้ 8.1 แถบโจทย์การคูณ 8.2 ตารางสิบ 8.3 ภาพดาว 8.4 ใบงานที่ 7.8 9. การวดั และประเมนิ ผล 9.1 วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล 1) ตรวจใบงานที่ 7.8 2) สังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล 3) สังเกตความรับผิดชอบ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมน่ั ในการทางาน 9.2 เครอื่ งมือ 1) ใบงานที่ 7.8 2) แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล 3) แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 9.3 เกณฑก์ ารประเมนิ 1) ทาใบงานที่ 7.8 ถกู ตอ้ งไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 80 2) พฤติกรรมการทางานรายบุคคลไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3) คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ได้ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

78 ใบงานท่ี 7.89การคณู จานวนทม่ี ีหนง่ึ หลักกบั 10, 20, ..., 90 ………………………………………………………………….. ชอื่ .................................................................สกลุ .................................................... ...... คาชแี้ จง ให้นกั เรียนหาผลคณู เติมลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกตอ้ ง 1. 6 x 1 = 6 x 10 = 2. 4 x 2 = 4 x 20 = 3. 7 x 8 = 7 x 80 = 4. 5 x 6 = 5 x 60 = 5. 3 x 8 = 3 x 80 = 6. 9 x 4 = 9 x 40 = 7. 8 x 4 = 8 x 40 =……………….. 8. 3 x 6 = 3 x 60 = 9. 7 x 9 = 7 x 90 = 10. 6 x 6 = 6 x 60 = 11. 8 x 7 = 8 x 70 = 12. 9 x 7 = 9 x 70 = 13. 9 x 3 = 9 x 30 = 14. 6 x 9 = 6 x 90 = 15. 8 x 4 = 8 x 40 =

79 แบบบันทกึ คะแนนใบงานท่ี 7.8 เร่อื ง การคณู หนงึ่ หลกั กับ10,20,30,...90 กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2562 เลขท่ี ชือ่ -สกุล คะแนนใบงาน สรปุ ผลการประเมิน ท่ี 7.8 (15) ผ่านเกณฑ์ ไมผ่ ่านเกณฑ์ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนนที่ไดจ้ ากการทาใบงานที่ 7.8 ต้ังแตร่ ้อยละ 80 ขึ้นไปถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

80 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัตงิ านรายบคุ คล พฤตกิ รรม การแสดง การตอบ การยอมรับ ทางาน ฟังคนอนื่ ตามที่ได้รับ ท่ี ความสนใจ ความ คาถาม มอบหมาย หมายเหตุ คดิ เห็น ช่ือ-สกลุ 43214321432143214321 เกณฑ์การวัดผล ให้คะแนนระดับคณุ ภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดังนี้ ดีมาก (4) สนใจฟัง ไมห่ ลับ ไม่พูดคยุ ในชัน้ มคี าถามท่ดี ี ตอบคาถามถูกต้อง ทางานส่งครบตรงเวลา ดี (3) การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 70% ปานกลาง (2) การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50% ปรบั ปรุง (1) เขา้ ชน้ั เรยี น แตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไม่ตรงเวลา ลงชื่อ……………………………….ผูส้ งั เกต (…………………..………………….) …………/…………/………..

81 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 คาช้ีแจง ใหท้ าเครอื่ งหมาย  ลงในช่องแสดงระดบั คณุ ภาพ เลขท่ี ช่อื -สกุล พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออก / ระดบั คณุ ภาพ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ ม่นั ในการทางาน 3 2103 2 103210 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

82 เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะ ดีเยย่ี ม ดี ผา่ น ไมผ่ า่ น อันพงึ ประสงค์ (3) (2) (1) (0) มีวินยั 1. ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง 1. ปฏิบัตติ าม 1. ปฏบิ ตั ติ าม 1. ไมป่ ฏบิ ัติตาม 2. ตรงต่อเวลา ขอ้ ตกลง ข้อตกลง ข้อตกลง 3. มสี ่วนร่วมปฏบิ ัติ 2. ตรงต่อเวลา 2. ตรงตอ่ เวลา 2. ไม่มสี ่วนร่วม กิจกรรมตา่ ง ๆ ได้ดี 3. มสี ว่ นร่วมปฏิบตั ิ 3. ไมม่ สี ว่ นรว่ ม ในกจิ กรรม 4. เป็นแบบอย่างที่ดี กจิ กรรมต่าง ๆ ได้ ในกิจกรรม ใฝ่เรยี นรู้ 1. เขา้ เรียนตรงเวลา 1. เข้าเรยี นตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรง 1.มาเขา้ เรยี น มุ่งมน่ั ในการทางาน 2.ไมม่ สี ว่ นร่วม 2. ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ 2. ต้งั ใจเรยี น เวลา ในกจิ กรรม 3. มีส่วนรว่ มใน 3. มสี ว่ นรว่ มใน 2. มสี ่วนรว่ มใน - ไม่มคี วาม รบั ผดิ ชอบ กิจกรรม กจิ กรรม กิจกรรม งานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 4. เป็นแบบอยา่ งทีด่ ี 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มีความ งานที่ไดร้ บั มอบหมาย งานท่ีไดร้ ับ รบั ผดิ ชอบ 2. มคี วามเพยี ร มอบหมาย งานทีไ่ ดร้ ับอบ พยายามในการเรยี นให้ 2. มีความพยายาม หมาย สาเร็จ ในการเรยี นให้สาเรจ็ 2. มคี วามพยายาม 3. มกี ารปรบั ปรุงและ 3. มีการปรบั ปรงุ และ ในการเรยี นให้ พัฒนาการทางานให้ดี พฒั นาการทางานให้ สาเรจ็ ขน้ึ ดีขึน้ 4. เป็นแบบอยา่ งทด่ี ี

83 แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2562 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 ชอ่ื หนว่ ย การคูณ เวลา 29 ชัว่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9 เร่อื ง การคูณจานวนที่มหี นงึ่ หลักกบั จานวนสองหลัก เวลา 1 ชัว่ โมง 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วดั ค 1.2 เขา้ ใจถึงผลทเ่ี กิดข้ึนจากการดาเนินการของจานวนและความสัมพนั ธ์ ระหวา่ งการดาเนนิ การตา่ ง ๆ และสามารถใชก้ ารดาเนินการในการแกป้ ญั หา ป.3/1 คูณจานวนนับไม่เกินหน่ึงแสนและศูนย์ พรอ้ มทั้งตระหนกั ถึงความสมเหตสุ มผล ของคาตอบ ค 6.1 มคี วามสามารถในการแกป้ ญั หา การใหเ้ หตผุ ล. การสอ่ื สาร การส่อื ความหมาย ทางคณติ ศาสตรแ์ ละการนาเสนอ การเชื่อมโยงความร้ตู า่ ง ๆ ทางคณติ ศาสตร์ และเชอื่ มโยงคณติ ศาสตรก์ ับศาสตร์อ่ืน ๆ และมีความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ ป.3/4 ใชภ้ าษาและสญั ลกั ษณ์ทางคณิตศาสตรใ์ นการส่ือสาร การส่อื ความหมาย และการนาเสนอ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 2. สาระสาคญั การคณู จานวนหนง่ึ หลักกับจานวนสองหลกั ทาได้โดยการคณู ทลี ะหลกั เรม่ิ จากการคูณในหลกั หนว่ ย แลว้ จึงคณู หลักถัดไปทางซา้ ยมือ ตามลาดบั 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ นักเรียนหาผลคณู ของจานวนหน่ึงหลกั กับจานวนสองหลกั ได้ 4. สาระการเรยี นรู้ การคูณจานวนหนึง่ หลักกับจานวนสองหลัก 5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 6.1 มวี ินัย 6.2 ใฝเ่ รยี นรู้ 6.3 มุ่งมัน่ ในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ 7.1 ขั้นนาเขา้ สู่บทเรยี น 1) ใหน้ ักเรยี นทบทวนความรูเ้ รอื่ ง การคูณจานวนท่มี ีหน่ึงหลกั กับ 10 โดยใหผ้ ูแ้ ทนนักเรยี น 1 คน กาหนดโจทย์การคูณ (เชน่ 8 × 10 = ) และให้ผแู้ ทนนกั เรียนอีก 1 คน หาผลคณู (8 × 10 = 80) ครแู ละนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง และร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั วธิ ีหาคาตอบ

84 7.2 ขั้นสอน 1) ครวู างดินสอ 2 กอง แตล่ ะกองมีดินสอ 14 แทง่ ดงั ภาพ ครถู ามคาถามนักเรียน ดังนี้ - มดี ินสอก่ีกอง (2 กอง) - แตล่ ะกองมดี นิ สอกี่แท่ง (14 แท่ง) - ถ้าต้องการหาจานวนดินสอทั้งหมด ใช้วิธกี ารใด (การคูณ) - เขยี นประโยคการคูณได้อย่างไร ให้ผู้แทนนกั เรียนออกมาเขยี นบนกระดาน (2 × 14 = ) ครูติดภาพหรอื วาดภาพดินสอบนกระดาน ให้นักเรียนสงั เกตและตอบคาถาม ดังนี้ - จากภาพ นกั เรยี นสังเกตเหน็ อะไร (14 กระจายเปน็ 10 + 4 ทงั้ สองกอง) - ถา้ จะนาจานวนมารวมกัน ควรรวมจานวนใดกอ่ น (4 + 4 เพราะเปน็ หลักหนว่ ย) - การรวมจานวนในหลกั หน่วย เขียนเปน็ ประโยคการบวกได้อย่างไร (4 + 4 = 8) - จากประโยคการบวก เขยี นเป็นประโยคการคณู ได้อย่างไร (2 × 4 = 8) - ตอ่ มานาจานวนใดมารวมกัน (10 + 10 ) - เขียนประโยคการคูณได้อย่างไร (2 × 10 = 20) - เมื่อนาผลบวกมารวมกันไดค้ าตอบเท่าไร ((2 × 10) + (2 × 4) = 28) จากน้ันครเู ขียนวธิ ที าบนกระดานใหน้ ักเรียนสังเกต ดงั น้ี 14 × 10 + 4× 22 20 + 8 = 28 2) ครูหาผลคณู โดยเขียนจานวนทไี่ ม่ได้อยู่ในรปู กระจาย และถามคาถามนักเรยี น ดังนี้ - หาผลคณู ของจานวนใดก่อน (2 × 4) เป็นการคูณหลักใด (หลกั หน่วยกบั หลกั หนว่ ย) ไดเ้ ทา่ ไร (8) - หาผลคูณของจานวนใดต่อไป (2 × 10) เปน็ การคูณหลักใด (หลกั หน่วยกับหลักสิบ) ไดเ้ ท่าไร (20) - หาผลคูณอยา่ งไร (นาผลคูณท้ังสองมาบวกกัน)

85 - ยังมีวธิ กี ารหาผลคณู วิธีอืน่ อีกหรือไม่ (มี) - ทาอย่างไร (ใหผ้ แู้ ทนนักเรียนออกมาแสดงวิธีทา) 1×42 วิธีลดั 1×24 5 8 2×4 28 5 20 2 × 10 28 9 - สรุปคาตอบได้อย่างไร (มีดินสอทง้ั หมด 28 แท่ง) ครแู ละนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 3) ครูติดแถบโจทย์การคณู บนกระดาน แลว้ ใหน้ ักเรียนแข่งขันกันออกมาเติมคาตอบ ครั้งละ 3 คน ดังนี้ 38 × 6 = (228) 49 × 9 = (441) 4 × 16 = (64) 8 × 28 = (224) 4) นักเรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 5 คน เพอื่ ร่วมกิจกรรม ดงั นี้ - ครูตดิ แถบโจทย์การคูณบนกระดาน - ใหผ้ ้แู ทนนักเรียนแตล่ ะกล่มุ ออกมาแข่งขนั กนั เขยี นผลคูณ - กลุม่ ใดตอบถูกต้องเปน็ กลุ่มท่ี 1 ได้ 1 คะแนน - ครูดาเนินกิจกรรมอีก 5 ครง้ั โดยผ้แู ทนกลุม่ ห้ามซ้าคนเดิม - นกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง - ครสู รปุ คะแนน ตัวอย่างแถบโจทย์การคูณ 81 9× 43 9× 69 59 99 5) นักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความรูเ้ รอ่ื ง การคูณจานวนหน่งึ หลกั กับจานวนสองหลัก โดยครถู ามคาถาม ดังน้ี - การคณู จานวนหนึง่ หลกั กับจานวนสองหลกั มวี ิธกี ารอยา่ งไร (นาตวั คูณไปคูณตัวตงั้ ที ละหลัก) - เรม่ิ คูณหลักใดก่อน (ตวั คณู กับหลกั หน่วยของตัวตัง้ ) - เรม่ิ คูณหลักใดต่อไป (ตัวคูณกับหลักสบิ ของตัวตง้ั ) - นาผลคูณที่ได้มาดาเนนิ การอยา่ งไร (นามาบวกกนั ) ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

86 7.3 ขัน้ สรปุ 1) นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดังน้ี - การคณู จานวนหนงึ่ หลักกับจานวนสองหลัก ทาได้โดยการคูณทีละหลกั เร่มิ จากหลักหนว่ ย แลว้ จงึ คณู หลักถดั ไปทางซา้ ยมือ ตามลาดบั 2) ครใู หน้ กั เรียนทาแบบฝึกหดั จากหนงั สือเรยี นสาระการเรียนรู้พื้นฐานคณิตศาสตร์ (สสวท. )ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 หนา้ ที่ 117 8. สอ่ื การเรียนรู้/แหลง่ เรียนรู้ 8.1 แถบโจทย์การคูณ 8.2 ดินสอ 8.3 แบบฝกึ หัดจากหนงั สือเรยี นสาระการเรยี นรู้พื้นฐานคณิตศาสตร์ (สสวท. )ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 9. การวดั และประเมินผล 9.1 วธิ ีการวัดและประเมินผล 1) ตรวจแบบฝึกหัดจากหนังสอื เรียนสาระการเรียนรู้พ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ (สสวท. )ช้นั ประถมศึกษา ปที ี่ 3 หนา้ ท่ี 117 2) สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ 3) สังเกตความรบั ผดิ ชอบ ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมนั่ ในการทางาน 9.2 เคร่อื งมอื 1) แบบฝกึ หัดจากหนังสอื เรยี นสาระการเรียนรู้พ้ืนฐานคณิตศาสตร์ (สสวท. )ชน้ั ประถมศึกษา ปที ี่ 3 2) แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ 3) แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 9.3 เกณฑก์ ารประเมนิ 1) ทาแบบฝกึ หัดจากหนงั สือเรียนสาระการเรยี นรู้พ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ (สสวท. )ชน้ั ประถมศึกษา ปที ่ี 3 หนา้ ที่ 117 ถูกต้องไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 80 2) พฤตกิ รรมการทางานรายกลมุ่ ได้ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 3) คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

87 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ กลุ่มท่ี………….. พฤติกรรม ลาดบั ชื่อ-สกลุ ความ การแสดง การรับฟงั ความตง้ั ใจ การมสี ่วน รวม ที่ สมาชกิ กลุม่ รว่ มมอื ความ ความ ในการ รว่ มในการ คดิ เหน็ คิดเห็น ทางาน อภปิ ราย 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การใหค้ ะแนน ประสทิ ธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ 90-100% หรอื ปฏบิ ตั ิบ่อยครั้ง ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 70-89% หรือปฏบิ ตั บิ างคร้งั ดมี าก = 4 ประสทิ ธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 50-69% หรอื ปฏิบัตคิ ร้ังเดยี ว ดี = 3 ประสทิ ธภิ าพตา่ กว่าเกณฑ์ 50% หรอื ไมป่ ฏิบัตเิ ลย ปานกลาง = 2 ปรับปรงุ = 1 ลงช่อื ………………………………ผู้สังเกต (…………………………….) ………./……………/………

88 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 คาช้ีแจง ใหท้ าเครอื่ งหมาย  ลงในช่องแสดงระดบั คณุ ภาพ เลขท่ี ช่อื -สกุล พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออก / ระดบั คณุ ภาพ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ ม่นั ในการทางาน 3 2103 2 103210 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

89 เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะ ดีเยย่ี ม ดี ผา่ น ไมผ่ า่ น อันพงึ ประสงค์ (3) (2) (1) (0) มีวินยั 1. ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง 1. ปฏิบัตติ าม 1. ปฏบิ ตั ติ าม 1. ไมป่ ฏบิ ัติตาม 2. ตรงต่อเวลา ขอ้ ตกลง ข้อตกลง ข้อตกลง 3. มสี ่วนร่วมปฏบิ ัติ 2. ตรงต่อเวลา 2. ตรงตอ่ เวลา 2. ไม่มสี ่วนร่วม กิจกรรมตา่ ง ๆ ได้ดี 3. มสี ว่ นร่วมปฏิบตั ิ 3. ไมม่ สี ว่ นรว่ ม ในกจิ กรรม 4. เป็นแบบอย่างที่ดี กจิ กรรมต่าง ๆ ได้ ในกิจกรรม ใฝ่เรยี นรู้ 1. เขา้ เรียนตรงเวลา 1. เข้าเรยี นตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรง 1.มาเขา้ เรยี น มุ่งมน่ั ในการทางาน 2.ไมม่ สี ว่ นร่วม 2. ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ 2. ต้งั ใจเรยี น เวลา ในกจิ กรรม 3. มีส่วนรว่ มใน 3. มสี ว่ นรว่ มใน 2. มสี ่วนรว่ มใน - ไม่มคี วาม รบั ผดิ ชอบ กิจกรรม กจิ กรรม กิจกรรม งานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 4. เป็นแบบอยา่ งทีด่ ี 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มีความ งานที่ไดร้ บั มอบหมาย งานท่ีไดร้ ับ รบั ผดิ ชอบ 2. มคี วามเพยี ร มอบหมาย งานทีไ่ ดร้ ับอบ พยายามในการเรยี นให้ 2. มีความพยายาม หมาย สาเร็จ ในการเรียนใหส้ าเรจ็ 2. มคี วามพยายาม 3. มกี ารปรบั ปรุงและ 3. มีการปรบั ปรงุ และ ในการเรยี นให้ พัฒนาการทางานให้ดี พฒั นาการทางานให้ สาเรจ็ ขน้ึ ดีขึน้ 4. เป็นแบบอยา่ งทด่ี ี

90 แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2562 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 ช่ือหนว่ ย การคณู เวลา 29 ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 10 เรือ่ ง การคูณจานวนทม่ี ีหน่งึ หลักกับจานวนเต็มร้อย เวลา 1 ช่ัวโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวดั ค 1.2 เข้าใจถงึ ผลทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการดาเนนิ การของจานวนและความสัมพนั ธ์ ระหว่างการดาเนินการต่าง ๆ และสามารถใชก้ ารดาเนินการในการแกป้ ญั หา ป.3/1 คณู จานวนนบั ไมเ่ กินหนง่ึ แสนและศูนย์ พรอ้ มทงั้ ตระหนักถึงความสมเหตสุ มผล ของคาตอบ ค 6.1 มีความสามารถในการแกป้ ัญหา การให้เหตผุ ล การสอื่ สาร การสื่อความหมาย ทางคณติ ศาสตร์และการนาเสนอ การเช่อื มโยงความรู้ตา่ ง ๆ ทางคณติ ศาสตร์ และเชื่อมโยงคณติ ศาสตร์กับศาสตร์อ่ืน ๆ และมีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ ป.3/4 ใช้ภาษาและสัญลกั ษณท์ างคณติ ศาสตร์ในการสื่อสาร การสือ่ ความหมาย และการนาเสนอ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง 2. สาระสาคญั การคณู จานวนหนึ่งหลกั กับ 100, 200, 300, ..., 900 นาเลขโดดท่ีไม่ใช่ 0 คูณกันแลว้ เติม 0 สองตวั ต่อจากผลคูณของเลขโดดน้ัน 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ หาผลคณู ของจานวนหนงึ่ หลักกับจานวนเต็มร้อยได้ 4. สาระการเรยี นรู้ การคูณจานวนหนึ่งหลักกับจานวนเตม็ ร้อย 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มวี ินยั 6.2 ใฝ่เรยี นรู้ 6.3 ม่งุ ม่ันในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 7.1 ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรียน 1) ให้นกั เรียนทบทวนความรเู้ ร่ือง การคณู จานวนท่มี ีหนึง่ หลกั กับ 10 โดยครูตดิ แถบประโยคการคณู บนกระดาน 4 × 10 = ใหผ้ แู้ ทนนักเรียน 2 คน ออกมาแข่งขันกนั หาคาตอบ (40) ครูและ นกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบ

91 7.2 ขนั้ สอน 1) ครตู ิดแผน่ ตารางร้อย 3 แผ่น บนกระดาน และถามคาถามนักเรียน ดังนี้ - มแี ผน่ ตารางรอ้ ยกี่แผ่น (3 แผน่ ) - แต่ละแผน่ มกี ีห่ นว่ ย (100 หนว่ ย) - คานวณหาจานวนทงั้ หมดโดยใช้ประโยคการบวกไดอ้ ย่างไร (100 + 100 + 100 = 300 หน่วย) - คานวณหาจานวนทั้งหมดโดยใช้ประโยคการคณู ได้อย่างไร (3 × 100 = 300 หน่วย) 2) ครูติดแถบโจทย์การคูณบนกระดาน 5 × 300 = ใหผ้ แู้ ทนนกั เรยี น ออกมาเขียนแสดงวธิ หี าคาตอบ ดงั นี้ 5 × 300 = 300 × 5 ×6 1,5005 ครถู ามคาถามนกั เรียน ดงั น้ี - นักเรียนใช้วิธีใดในการคูณ (คูณทีละหลัก เริ่มจากหลกั หนว่ ย หลักสิบ และหลกั ร้อย แลว้ ใส่ผลคูณใหต้ รงตามหลัก) - มีวธิ ีการคูณวิธอี ืน่ หรอื ไม่ (มี) ใช้วิธีใด (นาจานวนทม่ี ีหน่งึ หลกั คูณกับจานวนในหลกั รอ้ ย แล้วเติม 0 ต่อท้ายอกี 2 ตัว) 3) ครตู ิดแถบโจทย์การคูณบนกระดานคร้ังละ 1 ข้อ แล้วให้ผ้แู ทนนกั เรียนครง้ั ละ 3 คน แขง่ ขัน กันหาคาตอบ ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง ตัวอยา่ ง 1) 6 × 100 = (600) 2) 700 × 4 = (2,800) 3) 400 × 3 = (1,200) 4) 8 × 200 = (1,600) 4) ให้นักเรยี นทาใบงานที่ 7.9 ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกันตรวจความถูกต้อง

92 7.3 ขน้ั สรุป 1) นกั เรยี นและครูร่วมกันสรปุ ความรู้ ดงั นี้ - การคณู จานวนหนึง่ หลกั กบั จานวนสองหลกั ทาได้โดยการคณู ทลี ะหลกั เรม่ิ จากหลกั หน่วย แลว้ จึง คูณหลักถดั ไปทางซา้ ยมือ ตามลาดบั 2) ให้นกั เรียนแบบฝึกหัดจากหนังสอื เรียนสาระการเรียนรู้พน้ื ฐานคณิตศาสตร์ (สสวท. )ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 หน้าท่ี 118 8. สอื่ การเรยี นรู้/แหล่งเรยี นรู้ 8.1 แถบโจทย์การคูณ 8.2 แผ่นตารางร้อย 8.3 ใบงานที่ 7.9 8.4 หนงั สอื เรยี นสาระการเรยี นรูพ้ นื้ ฐานคณิตศาสตร์ (สสวท. )ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3 9. การวัดและประเมินผล 9.1 วธิ ีการวดั และประเมินผล 1) ตรวจแบบฝกึ หดั จากหนงั สือเรียนสาระการเรยี นรู้พนื้ ฐานคณิตศาสตร์ (สสวท.)ช้ันประถมศึกษา ปที ่ี 3 หนา้ ท่ี 118 2) ตรวจใบงานที่ 7.9 3) สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล 4) สงั เกตความรบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่ัน ในการทางาน 9.2 เครือ่ งมอื 1) แบบฝึกหัดจากหนังสือเรียนสาระการเรียนรพู้ น้ื ฐานคณติ ศาสตร์ (สสวท.)ช้ันประถมศกึ ษา ปที ่ี 3 หน้าท่ี 118 2) ใบงานที่ 7.9 3) แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล 4) แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 9.3 เกณฑก์ ารประเมนิ 1) ทาใบงานท่ี 7.9 ถูกตอ้ งไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 2) ทาแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ (สสวท.) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 หน้าท่ี 118 ถกู ต้องไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 3) พฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คลไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 4) คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ได้ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

93 ใบงานที่ 7.9 การคณู จานวนท่ีมีหนงึ่ หลักกับ100,200,300,...900 ชอ่ื .............................................................สกลุ ........................................................ ........................................................................... จงหาผลคณู 1). 200 x 7 = 2). 300 x 4 = 3). 600 x6 = 4). 400 x 2 = 5). 500 x 7 = 6). 300 x 9 = 7). 400 x 9 = 8). 900 x 8 = 9). 500 x 3 = 10). 800 x 4 =

94 แบบบันทกึ คะแนนใบงานที่ 7.9 เรอ่ื ง การคูณหนึง่ หลักกับ100,200,300,...900 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2562 เลขท่ี ช่ือ-สกุล คะแนนใบงาน สรุปผลการประเมนิ ท่ี 7.9 (10) ผา่ นเกณฑ์ ไม่ผ่านเกณฑ์ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนนที่ไดจ้ ากการทาใบงานที่ 7.9 ต้งั แตร่ ้อยละ 80 ข้ึนไปถือว่าผ่านเกณฑ์

95 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิงานรายบคุ คล พฤติกรรม การแสดง การตอบ การยอมรับ ทางาน ฟงั คนอ่นื ตามท่ีได้รับ ท่ี ความสนใจ ความ คาถาม มอบหมาย หมายเหตุ คิดเห็น ชือ่ -สกลุ 43214321432143214321 เกณฑ์การวัดผล ให้คะแนนระดับคุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั นี้ ดมี าก (4) สนใจฟัง ไม่หลบั ไม่พูดคยุ ในชัน้ มคี าถามทด่ี ี ตอบคาถามถูกตอ้ ง ทางานส่งครบตรงเวลา ดี (3) การแสดงออกอยูใ่ นเกณฑ์ประมาณ 70% ปานกลาง (2) การแสดงออกอย่ใู นเกณฑป์ ระมาณ 50% ปรับปรุง (1) เขา้ ชน้ั เรยี น แตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไม่ครบ ไม่ตรงเวลา ลงชือ่ ……………………………….ผูส้ งั เกต (…………………..………………….) …………/…………/………..

96 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 คาช้ีแจง ใหท้ าเครอื่ งหมาย  ลงในช่องแสดงระดบั คณุ ภาพ เลขท่ี ช่อื -สกุล พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออก / ระดบั คณุ ภาพ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ ม่นั ในการทางาน 3 2103 2 103210 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

97 เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะ ดีเยย่ี ม ดี ผา่ น ไมผ่ า่ น อันพงึ ประสงค์ (3) (2) (1) (0) มีวินยั 1. ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง 1. ปฏิบัตติ าม 1. ปฏบิ ตั ติ าม 1. ไมป่ ฏบิ ัติตาม 2. ตรงต่อเวลา ขอ้ ตกลง ข้อตกลง ข้อตกลง 3. มสี ่วนร่วมปฏบิ ัติ 2. ตรงต่อเวลา 2. ตรงตอ่ เวลา 2. ไม่มสี ่วนร่วม กิจกรรมตา่ ง ๆ ได้ดี 3. มสี ว่ นร่วมปฏิบตั ิ 3. ไมม่ สี ว่ นรว่ ม ในกจิ กรรม 4. เป็นแบบอย่างที่ดี กจิ กรรมต่าง ๆ ได้ ในกิจกรรม ใฝ่เรยี นรู้ 1. เขา้ เรียนตรงเวลา 1. เข้าเรยี นตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรง 1.มาเขา้ เรยี น มุ่งมน่ั ในการทางาน 2.ไมม่ สี ว่ นร่วม 2. ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ 2. ต้งั ใจเรยี น เวลา ในกจิ กรรม 3. มีส่วนรว่ มใน 3. มสี ว่ นรว่ มใน 2. มสี ่วนรว่ มใน - ไม่มคี วาม รบั ผดิ ชอบ กิจกรรม กจิ กรรม กิจกรรม งานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 4. เป็นแบบอยา่ งทีด่ ี 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มีความ งานที่ไดร้ บั มอบหมาย งานท่ีไดร้ ับ รบั ผดิ ชอบ 2. มคี วามเพยี ร มอบหมาย งานทีไ่ ดร้ ับอบ พยายามในการเรยี นให้ 2. มีความพยายาม หมาย สาเร็จ ในการเรียนให้สาเรจ็ 2. มคี วามพยายาม 3. มกี ารปรบั ปรุงและ 3. มีการปรบั ปรงุ และ ในการเรยี นให้ พัฒนาการทางานให้ดี พฒั นาการทางานให้ สาเรจ็ ขน้ึ ดีขึน้ 4. เป็นแบบอยา่ งทด่ี ี

98 แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2562 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 7 ช่ือหน่วย การคณู เวลา 29 ชวั่ โมง แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 11 เรอ่ื ง การคูณจานวนท่มี ีหนง่ึ กับจานวนสามหลกั ใด ๆ เวลา 1 ช่ัวโมง ทไี่ มม่ กี ารทด 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชี้วัด ค 1.2 เข้าใจถึงผลทีเ่ กดิ ขึ้นจากการดาเนินการของจานวนและความสัมพันธ์ ระหวา่ งการดาเนนิ การต่าง ๆ และสามารถใชก้ ารดาเนินการในการแก้ปัญหา ป.3/1 บวก ลบ คูณ หาร และบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนับไมเ่ กนิ หนง่ึ แสนและศนู ย์ พรอ้ มทั้งตระหนักถึงความสมเหตสุ มผลของคาตอบ ค 6.1 มีความสามารถในการแกป้ ญั หา การให้เหตผุ ล การส่อื สาร การส่ือความหมาย ทางคณิตศาสตร์และการนาเสนอ การเชื่อมโยงความรตู้ า่ ง ๆ ทางคณติ ศาสตร์ และเชื่อมโยงคณติ ศาสตรก์ ับศาสตร์อนื่ ๆ และมีความคิดรเิ ริ่มสร้างสรรค์ ป.3/4 ใช้ภาษาและสัญลกั ษณ์ทางคณติ ศาสตรใ์ นการส่ือสาร การสอ่ื ความหมาย และการนาเสนอ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง 2. สาระสาคัญ การคูณจานวนท่มี หี นึ่งหลักกับจานวนสามหลกั ใด ๆ เป็นการคณู จานวนสองจานวนท่ีไม่มีการทด สามารถหาคาตอบใหส้ มเหตุสมผลได้ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ หาผลคณู ของจานวนทม่ี สี องหลกั กับจานวนทม่ี สี ามหลัก (ไมม่ ีทด) ตามแนวตง้ั โดยวธิ ีลดั ได้ 4. สาระการเรยี นรู้ การคูณจานวนที่มีหนึ่งกบั จานวนสามหลกั ใด ๆท่ีไมม่ ีการทด 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มวี ินัย 6.2 ใฝเ่ รียนรู้ 6.3 ม่งุ มั่นในการทางาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ 7.1 ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1) ครูใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ การคดิ เลขเรว็ (ครผู ู้สอนหาตามความเหมาะสม) เพ่ือฝึกทกั ษะใหเ้ กิดความ ชานาญ แม่นยา และรวดเร็ว นกั เรยี นและครรู ่วมกนั เฉลยคาตอบ พร้อมทัง้ แนะนาหลักเกณฑ์ในการคดิ (5 นาท)ี 2) ครใู หน้ ักเรยี นท่องสูตรคูณแม่ 2 ถงึ แม่ 12 พร้อมกัน

99 7.2 ข้ันสอน 1) ครูสนทนากับนักเรยี นเกีย่ วกบั การหาผลคูณของจานวนท่มี ีหน่งึ หลักกบั จานวนท่ีมีสามหลัก และไม่มีการทดตามตวั อย่างหนงั สอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.3 หน้า 119 เช่น 3  213 = 2) ครูติดบัตรโจทย์การคณู จานวนที่มหี นง่ึ หลักกบั จานวนทีม่ สี ามหลัก (ไมม่ ีทด) บนกระดาน 3-5 ขอ้ จากนั้นครขู ออาสาสมคั รนักเรียนออกมาเขยี นแสดงขั้นตอนการคณู และหาคาตอบหน้าชนั้ เรยี น โดยครู ชมเชยนกั เรยี นทีท่ าได้ถูกตอ้ งและแนะนานกั เรียนที่ยงั แสดงวิธคี ณู ไมถ่ ูกต้องโดยชว่ ยแกไ้ ขให้ถูกต้อง 3) ใหน้ ักเรยี นแบง่ กลุ่มๆละ 4-5 คนชว่ ยกนั สร้างประโยคสญั ลกั ษณก์ ารคณู จานวนท่ีมีหนงึ่ หลกั กับ จานวนที่มีสามหลกั โดยไม่มกี ารทด พร้อมหาคาตอบแล้วนาเสนอหนา้ ช้นั กลมุ่ ละ 1-2 นาที 7.3 ขน้ั สรปุ 1) ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ดงั นี้ วธิ กี ารหาผลคูณของจานวนที่มีหนง่ึ หลกั กบั จานวนท่ีมสี ามหลกั โดยไม่มกี ารทดสามารถสลบั ที่ การคูณได้และนาไปใช้ในชวี ิตประจาวันได้ 2) นักเรียนทาใบงานท่ี 7.10 และแบบฝึกหดั คณติ ศาสตรใ์ นหนังสือเรยี น ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 หนา้ 120 8. สอื่ การเรียนรู้/แหลง่ เรียนรู้ 8.1 แถบโจทยก์ ารคณู 8.2 แบบฝึกคดิ เลขเร็ว 8.3 สตู รคณู 8.4 ใบงานที่ 7.10 8.5 หนงั สอื เรยี นสาระการเรียนรพู้ ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ (สสวท. )ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 9. การวดั และประเมินผล 9.1 วธิ ีการวดั และประเมินผล 1) ตรวจแบบฝึกหดั จากหนังสอื เรยี นสาระการเรยี นรู้พ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ (สสวท.)ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 หน้าที่ 120 2) ตรวจใบงานที่ 7.10 3) สงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ 4) สังเกตความรับผดิ ชอบ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมนั่ ในการทางาน 9.2 เครือ่ งมอื 1) แบบฝึกหัดจากหนังสอื เรยี นสาระการเรียนรู้พนื้ ฐานคณิตศาสตร์ (สสวท. )ชนั้ ประถมศึกษา ปที ี่ 3 หนา้ ที่ 120 2) ใบงานที่ 7.10 3) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม 4) แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

100 9.3 เกณฑ์การประเมิน 1) ทาใบงานท่ี 7.10 ถูกต้องไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80 2) ทาแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 หนา้ ที่ 120 ถูกตอ้ งไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 80 3) พฤติกรรมการทางานรายกล่มุ ไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook