Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 9.หน่วยการเรียนรู้ที่-7-เรื่องการคูณ1-1

9.หน่วยการเรียนรู้ที่-7-เรื่องการคูณ1-1

Published by ภัทราวลัย ลิ้นโป, 2022-01-11 05:59:51

Description: 9.หน่วยการเรียนรู้ที่-7-เรื่องการคูณ1-1

Search

Read the Text Version

1 หน่วยกาหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 เรอ่ื ง การคณู

2 แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2562 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 7 ชอื่ หน่วย การคณู เวลา 29 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง ทบทวนการบวกเชื่อมโยงการคณู เวลา 1 ชัว่ โมง 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้ีวัด ค 1.2 เข้าใจถงึ ผลท่เี กิดขน้ึ จากการดาเนนิ การของจานวนและความสัมพนั ธร์ ะหว่างการดาเนนิ การ ตา่ ง ๆ และใช้การดาเนนิ การในการแก้ปัญหา ป.3/1 บวก ลบ คูณ หาร และบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนับไมเ่ กินหนงึ่ แสน และศูนย์ พร้อมทัง้ ตระหนักถงึ ความ สมเหตสุ มผลของคาตอบ ป.3/4 ใชภ้ าษาและสญั ลักษณท์ างคณติ ศาสตรใ์ นการส่อื สาร การส่อื ความหมาย และการ นาเสนอได้อย่างถูกต้อง ค 6.1 มีความสามารถในการแก้ปัญหา การใหเ้ หตุผล การสื่อสาร การสอ่ื ความหมาย ทาง คณติ ศาสตร์ และการนาเสนอ การเชือ่ มโยงความรู้ต่าง ๆ ทางคณติ ศาสตรแ์ ละเช่ือมโยงคณติ ศาสตรก์ ับ ศาสตร์อน่ื ๆ และมีความคิดริเริม่ สร้างสรรค์ ป.3/4 ใช้ภาษาและสัญลกั ษณ์ทางคณิตศาสตรใ์ นการสือ่ สาร การสื่อความหมาย และการ นาเสนอได้อย่างถกู ต้อง 2. สาระสาคัญ การบวกจานวนทีเ่ ทา่ กนั หลายๆจานวน สามารถเขยี นแสดงไดด้ ว้ ยการคณู จานวนสองจานวน 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 อธิบายความหมายของการคูณได้ 3.2 เขยี นผลบวกใหอ้ ยูใ่ นรปู ของการคูณได้ 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 ความหมายของการคูณ การใช้เคร่อื งหมาย  5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการส่ือสาร(นักเรยี นฟงั และอ่านเพลงการบวก) 5.2 ความสามารถในการคิด (นักเรียนคิดวิเคราะห์คาถามท่คี รูกระตุ้นให้คิด) 6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 มวี นิ ัย(เข้าเรียนตรงตามเวลา) 6.2 ใฝ่เรยี นรู้(ตงั้ ใจเรียน) 6.3 ม่งุ ม่ันในการทางาน(ทางานเสร็จตามเวลาท่กี าหนด)

3 7. กิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1) ครูติดชาร์ตเน้ือเพลง การบวก บนกระดาน และให้นักเรียนชว่ ยกันร้องเพลงการบวก เพื่อทบทวนการบวกและเช่ือมโยงสู่การสอนเรื่องการคูณ ดังน้ี เพลง การบวก (ทานองคุณลาไย) ยงั จาไมเ่ คยลืมเลอื น ครเู ตือนพวกเธอเอาไว้ จานวนสามหลกั น้นั ไซร้ การบวกทาได้โดยบวกทีละหลกั (พูด) เรม่ิ บวกที่หลักหน่วยก่อน นะแมง่ ามงอนจึงมาหลกั สิบ จากนน้ั ไปทีห่ ลักร้อย แล้วแมแ่ น่งนอ้ ยก็ไม่ต้องรีบ ตรวจสอบความสมเหตสุ มผล นะแม่หนา้ มลจึงค่อยไปงบี (ทมี่ าของเพลง : แผนการสอนการคูณ บรษิ ัทอักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จากัด) จากเนื้อเพลง ครใู หน้ ักเรียนช่วยกันวิเคราะหห์ ลักการบวกเลขและนาเสนอ(ทักษะการสื่อสาร) 7.2 ขน้ั สอน 1.) แบง่ นกั เรียนทัง้ หมดออกเป็น 3 กลุ่ม เช่น ถา้ นกั เรยี นในหอ้ งมที ั้งหมด 50 คน แบ่งกลุ่ม 3 กลุม่ ได้ ดงั นี้ กลุ่มท่ี 1 มี 18 คน กลุ่มท่ี 2 มี 12 คน และกลุม่ ที่ 3 มี 20 คน จากน้นั กาหนดให้นักเรียนจดั กลุ่มใหม่ ดงั น้ี กลุม่ ที่ 1 ออกมายนื จับกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน กลมุ่ ที่ 2 ออกมายืนจบั กลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน กลมุ่ ท่ี 3 ออกมายืนจับกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน โดยทาทลี ะกลุ่มใช้เพลงประกอบตามความเหมาะสม ครถู ามนักเรียนแต่ละกล่มุ ดังนี้ เชน่ กลุ่มท่ี 1 มีนกั เรียนก่ีคน ยนื กลุ่มละก่ีคน ได้ท้ังหมดก่กี ลุ่ม มีนักเรียนก่ีคน จากน้นั ให้เขยี นอยใู่ นรูปการบวก 2.) แบ่งนักเรียนกลุ่มละ 3-5 คน ครูแจกตัวนับให้นักเรียนกลุ่มละ 20 อัน ให้แต่ละกลมุ่ จดั ตัว นบั เป็นกอง กองละเท่า ๆ กัน เช่น กลุม่ ท่ี 1 อาจจดั ครใู ช้คาถาม ดังน้ี - มตี วั นับทง้ั หมดกี่กอง (5 กอง) - แตล่ ะกองมีตัวนับก่ีอัน (4 อัน)

4 3.) ให้นกั เรยี นแต่ละกล่มุ นาตัวนบั ใสถ่ ุง ครูใชค้ าถามดงั น้ี - มีตัวนับทัง้ หมดกี่ถงุ (5 ถุง) - แตล่ ะถงุ มีตัวนับกอ่ี ัน (4 อนั ) - มตี ัวนบั ทั้งหมดกี่อัน (20 อัน) - นกั เรยี นหาคาตอบได้อยา่ งไร (การบวก) 4.) ให้แตล่ ะกลุ่มส่งตัวแทนออกมานาเสนอและวาดภาพประกอบ เช่น ภาพจานส้ม 5 จาน ๆ ละ 4 ผล ดงั น้ี 5.) ครูแนะนาการเขยี นแผนภาพเพ่ือหาคาตอบ ดังน้ี 6.) ครูแนะนาว่า 4 + 4 +4 + 4+ 4สามารถเขยี นให้อย่กู ารคณู เป็น 5 x 4 อ่านว่า หา้ คณู สี่ หมายถึง 5 กลุ่มของ 4 และแนะนานกั เรยี นว่า xเปน็ เคร่อื งหมายแสดงการคูณ พรอ้ มเขียนภาพ แล้วสรุป ดงั นี้ 4+4+4+4+4 = 5x4 = 20 ทาให้ครบทุกกลมุ่ แล้วให้สมาชกิ ทกุ คนในกลุ่มเขียนสรุปในสมดุ ของตนเอง 20

5 7.) ครตู ิดแผนภาพตัวนับบนกระดาน ดงั น้ี 6+6+6+6 = 4x6 24 = 24 8.) ครูใหน้ ักเรยี นวาดภาพมะนาว 6 ผลใน 1 จานจานวน 7 จานหลังจากนั้นครูให้นกั เรียนตดิ บัตร ตวั เลขลงใต้ภาพ ด้วยการบวกจานวนท่เี ท่ากันแลว้ เปลย่ี นมา เป็นการคูณและครูถามนักเรียนวา่ จาก 7 x 6 = 24 นักเรยี นสามารถบอกได้หรือไม่วา่ จานวน 7 ตวั แรกมาจากอะไร (จานวนจาน) จานวน 6 ตวั หลังมาจากอะไร (จานวนตวั นับในจาน) 9.) ครจู ดั กิจกรรมทานองเดียวกัน อกี 2-3 คร้ัง จนม่ันใจวา่ นักเรยี นทาได้อย่างคล่องแคลว่ และ ถกู ต้อง 10.) ครแู จกบตั รตัวเลข 1 ถึง 9 บตั รเครอ่ื งหมาย + และบตั รเคร่อื งหมายคณู x อยา่ งละ 10 แผน่ ใหน้ ักเรียนตดิ บนภาพท่นี ักเรียนวาดเองโดยติดอยู่ในรปู การบวกและการคูณ เช่น 3 + 3 + 3 + 3+ 3 = 5 x 3 = 15 11.) ให้นกั เรียนฝกึ ปฏิบัตเิ ช่นเดียวกับกจิ กรรมข้อ 3.5 อกี 2-3 ครง้ั จนกระท่ังม่นั ใจว่านกั เรยี น เขา้ ใจการเชื่อมโยงภาพควบคู่กบั สญั ลกั ษณท์ างคณติ ศาสตร์ 12.) ให้นกั เรียนฝกึ เขยี นเช่ือมโยงสญั ลักษณท์ างคณิตศาสตร์ระหว่างการบวกจานวนทเี่ ท่ากนั หลาย ๆ จานวนกบั การคณู ดังตวั อย่างต่อไปน้ี

6 5 + 5 = 10 10 2 x 5 = 10 การคณู การบวกจานวนทเี่ ท่ากันหลายคร้ัง 2 × 5 = 10 5 + 5 = 10 13.) กิจกรรมฝึกปฏิบัติ - นักเรียนกาหนดจานวนและภาพด้วยตนเอง - ให้ นกั เรยี น แปลงรูปแบบการบวกจานวนท่ีเทา่ กันหลาย ๆ จานวนเปน็ รปู แบบการคูณ ดังตัวอย่างต่อไปนี้ การบวกจานวนทเ่ี ท่ากนั หลายครัง้ การคณู ………………………… ………………………… - กจิ กรรมฝกึ ปฏิบตั ติ ามตวั อยา่ ง การบวกจานวนทเี่ ทา่ กนั หลายครง้ั การคูณ 4 + 4 + 4 = 12  ×  = 12  ×  = 12 3 + 3 + 3 + 3 = 12  ×  = 32 8 + 8 + 8 + 8 = 32  ×  = 30 6 + 6 + 6 + 6 + 6 = 30

7 7.3 ขั้นสรุป 1) นกั เรียนและครูร่วมกนั สรปุ กิจกรรมข้างต้นวา่ การบวกจานวนท่เี ท่ากันหลาย ๆ จานวน สามารถเขยี นแสดงได้ด้วยการคณู จานวนสองจานวน 2) นักเรียนทาใบงานที่ 7.1 และ 7.2 8. ส่อื การเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้ 8.1 ชาร์ตเพลง 8.2 ใบงานท่ี 7.1 และ7.2 8.3 ตัวนับ 8.4 แผนภาพ 8.5 บตั รตัวเลข 0 ถงึ 9 8.6 บัตรเครือ่ งหมาย + เครอื่ งหมาย x เครือ่ งหมาย = 9. การวดั และประเมินผล 9.1 วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล 1) ตรวจใบงานท่ี 7.1 2) ตรวจใบงานที่ 7.2 3) สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล 4) สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายกลุ่ม 5) สงั เกตความมีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ มน่ั ในการทางาน 9.2 เครอ่ื งมือ 1) ใบงานท่ี 7.1 2) ใบงานท่ี 7.2 3) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล 4) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายกลมุ่ 5) แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 9.3 เกณฑก์ ารประเมิน 1) ทาใบงานท่ี 7.1 ถูกตอ้ งไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 2) ทาใบงานที่ 7.2 ถูกต้องไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80 3) พฤติกรรมการทางานรายบคุ คลไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) พฤติกรรมการทางานรายกลมุ่ ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 5) คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ได้ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

8 ใบงานท่ี 7.1 เรอ่ื ง การบวกและการคูณ ให้เขียนประโยคสัญลักษณ์การคูณและหาคาตอบ

9 ใบงานท่ี 7.2 เรอื่ ง การบวกและการคูณ ใหเ้ ติมคาตอบลงใน □

10

11

12

13

14 แบบบันทกึ คะแนนใบงานท่ี 7.1 เรอ่ื ง ทบทวนการบวกเชื่อมโยงการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2562 เลขท่ี ช่ือ-สกุล คะแนนใบงาน สรปุ ผลการประเมิน ที่ 7.1 (9) ผ่านเกณฑ์ ไมผ่ ่านเกณฑ์ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เกณฑ์การประเมนิ คะแนนที่ไดจ้ ากการทาใบงานที่ 7.1 ตง้ั แต่รอ้ ยละ 80 ข้นึ ไปถือว่าผ่านเกณฑ์

15 แบบบันทกึ คะแนนใบงานท่ี 7.2 เรอ่ื ง ทบทวนการบวกเชื่อมโยงการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2562 เลขท่ี ช่ือ-สกุล คะแนนใบงาน สรปุ ผลการประเมิน ที่ 7.2 (9) ผ่านเกณฑ์ ไมผ่ ่านเกณฑ์ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เกณฑ์การประเมนิ คะแนนที่ไดจ้ ากการทาใบงานที่ 7.2 ตง้ั แต่รอ้ ยละ 80 ข้นึ ไปถือว่าผ่านเกณฑ์

16 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบัตงิ านรายบุคคล พฤตกิ รรม การแสดง การตอบ การยอมรับ ทางาน คาถาม ฟงั คนอ่นื ตามท่ีได้รับ ท่ี ความสนใจ ความ มอบหมาย หมายเหตุ คดิ เห็น ช่ือ-สกลุ 43214321432143214321 เกณฑ์การวัดผล ให้คะแนนระดับคณุ ภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั น้ี ดีมาก (4) สนใจฟัง ไมห่ ลับ ไม่พูดคยุ ในชัน้ มคี าถามท่ดี ี ตอบคาถามถกู ตอ้ ง ทางานส่งครบตรงเวลา ดี (3) การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 70% ปานกลาง (2) การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50% ปรบั ปรุง (1) เขา้ ชน้ั เรยี น แตก่ ารแสดงออกน้อยมาก ส่งงานไม่ครบ ไม่ตรงเวลา ลงชื่อ……………………………….ผูส้ งั เกต (…………………..………………….) …………/…………/………..

17 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ กลุ่มท่ี………….. พฤติกรรม ลาดับ ชื่อ-สกลุ ความ การแสดง การรับฟงั ความตง้ั ใจ การมสี ่วน รวม ท่ี สมาชกิ กลุม่ รว่ มมอื ความ ความ ในการ รว่ มในการ คิดเห็น คิดเห็น ทางาน อภปิ ราย 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การให้คะแนน ประสทิ ธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ 90-100% หรอื ปฏบิ ตั ิบ่อยครั้ง ดีมาก = 4 ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 70-89% หรือปฏบิ ตั บิ างคร้งั ดี = 3 ประสทิ ธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 50-69% หรอื ปฏิบัตคิ ร้ังเดยี ว ปานกลาง = 2 ประสทิ ธภิ าพต่ากวา่ เกณฑ์ 50% หรอื ไมป่ ฏิบัตเิ ลย ปรบั ปรุง = 1 ลงช่ือ………………………………ผู้สังเกต (…………………………….) ………./……………/………

18 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 คาช้ีแจง ใหท้ าเครอื่ งหมาย  ลงในช่องแสดงระดบั คณุ ภาพ เลขท่ี ช่อื -สกุล พฤตกิ รรมทแี่ สดงออก / ระดบั คณุ ภาพ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ ม่นั ในการทางาน 3 2103 2 103210 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

19 เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะ ดีเยย่ี ม ดี ผา่ น ไมผ่ า่ น อันพงึ ประสงค์ (3) (2) (1) (0) มีวินยั 1. ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง 1. ปฏิบัตติ าม 1. ปฏบิ ตั ติ าม 1. ไมป่ ฏบิ ัติตาม 2. ตรงต่อเวลา ขอ้ ตกลง ข้อตกลง ข้อตกลง 3. มสี ่วนร่วมปฏบิ ัติ 2. ตรงต่อเวลา 2. ตรงตอ่ เวลา 2. ไม่มสี ่วนร่วม กิจกรรมตา่ ง ๆ ได้ดี 3. มสี ว่ นร่วมปฏิบตั ิ 3. ไมม่ สี ว่ นรว่ ม ในกจิ กรรม 4. เป็นแบบอย่างที่ดี กจิ กรรมต่าง ๆ ได้ ในกิจกรรม ใฝ่เรยี นรู้ 1. เขา้ เรียนตรงเวลา 1. เข้าเรยี นตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรง 1.มาเขา้ เรยี น มุ่งมน่ั ในการทางาน 2.ไมม่ สี ว่ นร่วม 2. ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ 2. ต้งั ใจเรยี น เวลา ในกจิ กรรม 3. มีส่วนรว่ มใน 3. มสี ว่ นรว่ มใน 2. มสี ่วนรว่ มใน - ไม่มคี วาม รบั ผดิ ชอบ กิจกรรม กจิ กรรม กิจกรรม งานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 4. เป็นแบบอยา่ งทีด่ ี 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มีความ งานที่ไดร้ บั มอบหมาย งานท่ีไดร้ ับ รบั ผดิ ชอบ 2. มคี วามเพยี ร มอบหมาย งานทีไ่ ดร้ ับอบ พยายามในการเรยี นให้ 2. มีความพยายาม หมาย สาเร็จ ในการเรียนให้สาเรจ็ 2. มคี วามพยายาม 3. มกี ารปรบั ปรุงและ 3. มีการปรบั ปรงุ และ ในการเรยี นให้ พัฒนาการทางานให้ดี พฒั นาการทางานให้ สาเรจ็ ขน้ึ ดีขึน้ 4. เป็นแบบอยา่ งทด่ี ี

20 แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2562 เวลา 29 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 ชื่อหนว่ ย การคณู เวลา 1 ชัว่ โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เร่ือง ความหมายของการคูณ 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัด ค 1.2 เข้าใจถงึ ผลท่ีเกิดขึ้นจากการดาเนินการของจานวนและความสัมพันธ์ระหวา่ งการดาเนนิ การ ตา่ ง ๆ และใช้การดาเนินการในการแกป้ ัญหา ป.3/1 บวก ลบ คูณ หาร และบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนบั ไม่เกินหนง่ึ แสน และศูนย์ พรอ้ มทง้ั ตระหนักถงึ ความ สมเหตสุ มผลของคาตอบ ป.3/4 ใช้ภาษาและสัญลกั ษณท์ างคณติ ศาสตรใ์ นการสื่อสาร การสอ่ื ความหมาย และการ นาเสนอได้อยา่ งถกู ต้อง ค 6.1 มคี วามสามารถในการแกป้ ัญหา การให้เหตุผล การสอ่ื สาร การสือ่ ความหมาย ทาง คณติ ศาสตร์ และการนาเสนอ การเชื่อมโยงความรตู้ ่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์และเช่ือมโยงคณิตศาสตรก์ บั ศาสตรอ์ นื่ ๆ และมีความคิดริเริม่ สร้างสรรค์ ป.3/4 ใชภ้ าษาและสญั ลักษณ์ทางคณิตศาสตรใ์ นการส่อื สาร การสอื่ ความหมาย และการ นาเสนอได้อยา่ งถกู ต้อง 2. สาระสาคญั การบวกจานวนทเ่ี ทา่ กนั หลายๆจานวน สามารถเขยี นแสดงได้ดว้ ยการคูณจานวนสองจานวน 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 อธบิ ายความหมายของการคูณได้ 3.2 เขียนผลบวกให้อยใู่ นรูปของการคูณได้ 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 ความหมายของการคูณ การใชเ้ คร่ืองหมาย  5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด (นักเรียนคิดวิเคราะหค์ าถามทค่ี รูกระตนุ้ ให้คดิ ) 6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มวี นิ ยั 6.2 ใฝเ่ รยี นรู้ 6.3 มุง่ มน่ั ในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 7.1 ข้นั นาเขา้ ส่บู ทเรยี น ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น จานวน 10 ข้อ ให้เวลา 20 นาที

21 7.2 ขน้ั สอน 1) ครูทบทวนความหมายของการคูณ โดยยกตวั อย่าง 2×4 บนกระดานแล้วถามนักเรียนว่า ตวั อย่างท่ีครูให้มีความหมายอย่างไร และมคี ่าเท่าไร (อาจยกตวั อย่างเพิ่มเติมอีก 2-3 ตัวอย่าง) 2) ใหน้ ักเรยี นนั่งเป็นกลุ่มคละความสามารถ ใหต้ ัวแทนแต่ละกลมุ่ ออกมารับชดุ สรา้ งตารางสตู รคูณ (ตารางเปล่าสูตรคูณ หลอดน้าอัดลมกลุ่มละถงุ และกล่องเปลา่ กลมุ่ ละ 1 ใบ)เพ่ือเรียนรูเ้ รื่องการคูณ (ครูใช้ ของทหี่ าง่ายพบเหน็ ทวั่ ไปราคาไมแ่ พงเปน็ ความพอประมาณนักเรยี นเกดิ มิติด้านวัตถุ) โดยให้นกั เรียน เข้าแถวตามลาดบั มาก่อนหลงั และชมเชยนกั เรยี นที่ไหว้สวย (มติ ดิ า้ นวัฒนธรรม) แล้วใหน้ กั เรยี น ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมเพ่อื ให้ทราบความหมายของการคูณ ดังน้ี ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ หยบิ หลอดใส่ถงุ ครัง้ ละ 2 หลอด พรอ้ มกนั ๆ และตอบคาถามของครู ดังน้ี ให้นักเรยี นหยบิ หลอดใส่กลอ่ งครั้งที่ 1 แล้วนักเรยี นนบั ว่าในกล่องมีหลอดกี่หลอด เม่ือนักเรียน ตอบ 2 หลอด ให้ครูบันทึกผลไว้บนกระดานดังน้ี ครั้งที่ 1 หยบิ ครั้งละ 2 2 ให้นักเรยี นหยิบหลอดใส่กลอ่ งครั้งท่ี 2 แลว้ นักเรียนนบั วา่ ในกล่องมีหลอดกห่ี ลอด เมื่อนักเรยี น ตอบ 4 หลอด ใหค้ รูบันทึกผลไว้บนกระดานดังนี้ ครั้งที่ 1 2 หยิบครั้งละ 2 2 4 ใหน้ ักเรยี นหยบิ หลอดใส่กล่องครั้งท่ี 3 แลว้ นักเรยี นนับว่าในกล่องมหี ลอดกหี่ ลอด เมื่อนักเรียน ตอบ 6 หลอด ใหค้ รบู ันทึกผลไวบ้ นกระดานดังน้ี คร้ังท่ี 1 2 3 หยิบคร้ังละ 2 2 4 6 จากน้นั ครูใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันสรา้ งตารางการคณู จนถึงคร้ังที่ 12 คร้ังท่ี 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 หยบิ ครั้งละ 2 2 4 6 8 10 12 14 16 18 20 22 24 3) ครูกล่าวกับนักเรียนถงึ การบันทึกผลการหยิบเพ่ิมทลี ะเท่า ๆ กนั ครั้งละ 2 เช่นนีไ้ ปเรื่อย ๆ เราเรยี ก ตารางสูตรคูณแม่ 2 และฝึกใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงแบบสูตรคูณแม่ 2 ทกุ คน 2 เท่ียว 4) ครูตรวจสอบการคูณดว้ ยการถามเชน่ 2×3 หรือ 2×35 ถามแล้วให้นักเรียนตอบ(นักเรยี นบางคนอาจดู จากตารางสูตรคูณของกลุ่ม)ให้นกั เรียนเล่นเกม สตู รคณู หรรษา พาเพลนิ เพ่ือใหน้ ักเรียนเห็นคุณค่าของการ คณู (สูตรคูณแม่ 2) และเสริมสรา้ งอปุ นิสัยพอเพียงให้กบั นักเรียน (ครมู ีเหตุผลในการเลือกการเลน่ เกมในการ หาคา่ ของผลคูณด้วย 2 เพื่อใหเ้ หมาะสมกบั วัยของนักเรยี นท่ชี อบการเรยี นปนเล่นทาให้นักเรียนอยาก เรียนรู้มากขึ้น)

22 เกม สตู รคูณหรรษา กติกาการแข่งขัน 1. นักเรียนแตล่ ะกลุ่ม นาหลอดกาแฟท่ีครูได้แจกให้แล้ววางไวก้ ลางโต๊ะ 2. นักเรียนกาหนดเบอรห์ มายเลขประจาตวั ให้เพ่ือน ๆ ในกลุ่ม เช่น เด็กชายแดง เป็นหมายเลข 1 เด็กชายต้อย เป็นหมายเลข 2 เป็นตน้ 3. ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุม่ แข่งขันกนั หยิบหลอดตามคาส่ังของครู กลมุ่ ท่ีพร้อมตอบคาถามของครูให้ยืน ชูหลอดขึน้ กลุ่มทีย่ ืนชหู ลอดได้ถูกต้องจะได้แต้ม 1 แต้ม (หากมีการเสมอกัน ให้กลุ่มเสมอกันแข่งขันตามคาสง่ั ของครใู นรอบต่อไป) 4. คาสั่งที่ครูใชใ้ นการแข่งขนั “ใหน้ ักเรียนหมายเลข........ หยิบหลอดใหจ้ านวนหลอดเท่ากับของผลคูณของ 2 กับ 2” (ครูกาหนดหมายเลขเอง เพื่อความสนุกสนาน) “ใหน้ ักเรียนหมายเลข........ หยิบหลอดใหจ้ านวนหลอดเท่ากับของผลคูณของ 2 กับ 5” “ใหน้ ักเรียนหมายเลข........ หยิบหลอดให้จานวนหลอดเท่ากับของผลคูณของ 2 กบั 8” “ใหน้ ักเรียนหมายเลข........ หยิบหลอดใหจ้ านวนหลอดเท่ากับของผลคูณของ 2 กับ 12” “ให้นักเรียนหมายเลข........ หยิบหลอดให้จานวนหลอดเท่ากับของผลคูณของ 2 กับ 9” เป็นต้น (ครูฝึกทักษะตามความเหมาะสมกบั เวลา) จนสิ้นสดุ การเล่นเกม 5) นักเรียนนาหลอดคืนครูใหเ้ รียบร้อย (ฝึกการจดั เก็บของไว้ทเ่ี ดิมถือเป็นมิติดา้ นสิ่งแวดล้อม) และครูใช้ คาถามกระตุ้นให้นักเรยี นคิด(ครูจะต้องเชื่อมโยงใหน้ ักเรียนตระหนักและเห็นคุณค่าของ การมี “หลักคิด” บน พ้นื ฐานหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพีย ครูกระตุ้นให้นักเรียนคิดและพูด ด้วยคาพูดท่ีง่ายต่อความเขา้ ใจ) เชน่ 5.1 นักเรียนกลุ่มไหนนะที่ได้แต้มมากทีส่ ุดกลุ่มไหนนะ 5.2 พวกเราตบมือให้เพื่อนหน่อย 5.3 นกั เรียนกลุ่มที่ชนะทาอย่างไรกลุม่ นักเรียนถงึ ชนะ 5.4 ต่อไปถ้ามีการแข่งขันอย่างนี้อีก นักเรยี นจะทาอย่างไรจึงจะให้ได้แต้มมาก ๆ นักเรยี นจะ ช่วยกนั ตอบ ช่วยเพ่ือนคิดหาคาตอบ ชว่ ยกันตรวจสอบคาตอบ ช่วยเพ่ือนหยิบหลอด ต้ังใจฟังคาถามของครูให้ดี ช่วยจบั เพื่อนให้ยืนชูหลอด และต้องแม่นในสูตรคูณ (เป็นภูมิคุ้มกัน) 6) ครูสรุป ดังน้ี ถ้านักเรยี น มีนา้ ใจต่อกัน ได้ช่วยเหลือกัน มีความสามัคคีกันงานก็จะสาเรจ็ ด้วยดี 7) ครตู รวจสอบความรู้นักเรียนก่อนให้ทาใบงาน โดยใช้ครูใชค้ าถามกระตนุ้ ใหค้ ิด ดังน้ี - สองคูณด้วยห้ามผี ลลพั ธเ์ ป็นเท่าไร - สองคณู กบั จานวนใดจึงมีผลลัพธ์เป็น 10 - 27 เกิดจากการคูณของ 3 กบั จานวนใด - 54 เกิดจากการคูณของ 9 กบั จานวนใด 7.3 ขนั้ สรุป 1) นักเรยี นทกุ คนร่วมกนั สรุปความรู้เกย่ี วกับความหมายของการคณู จนไดว้ า่ “การบวกจานวนที่ เท่ากนั หลายๆจานวน สามารถเขยี นแสดงไดด้ ว้ ยการคณู จานวนสองจานวน” 2) ให้นักเรียนทาใบงานที่ 7.3 เป็นการบ้าน เพ่ือฝึกทักษะการคูณทาให้เกิดความแม่นยาและให้ นกั เรียน

23 ฝึกท่องสูตรคูณแม่ 2 ถึงแม่ 12 ในช่วงเวลาที่ว่าง 8. สอื่ การเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 8.1. เกม สูตรคูณหรรษา 8.2. หลอดกาแฟ 8.3 ใบงานที่ 7.3 8.4 ตารางเปล่าเพ่ือสรา้ งสตู รคณู 9. การวัดและประเมนิ ผล 9.1 วธิ ีการวดั และประเมินผล 1) ตรวจใบงานท่ี 7.3 2) สังเกตพฤติกรรมการทางานรายกลุ่ม 3) สงั เกตความมีวินัย,ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมุง่ มน่ั ในการทางาน 9.2 เคร่ืองมือ 1) ใบงานที่ 7.3 2) แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายกลมุ่ 3) แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 9.3 เกณฑก์ ารประเมนิ 1) ทาใบงานท่ี 7.3 ถกู ต้องไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 2) พฤติกรรมการทางานรายกลมุ่ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3) คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ได้ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

24 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 การคูณพาเพลิน คาชีแ้ จง ให้นกั เรยี นเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว จากโจทย์ ข้อ 1-6 ควรเติมจานวนใดลงใน  7. ข้อใดมผี ลคณู เท่ากบั 2,580  3 1. 3  400 =  ก. 1,260  4 ก. 1,200 ข. 2,200 ข. 3,870  2 ค. 3,400 ง. 4,300 ค. 3,920  3 2. 6  4,000 =  ง. 3,850  2 ก. 6,000 ข. 10,000 8. ขอ้ ใดถูกต้อง ค. 24,000 ง. 48,000 ก. 280  6 = 1,280 3. 7  208 =  ข. 23  32 = 763 ก. 1,450 ข. 1,452 ค. 40  50 = 200 ค. 1,454 ง. 1,456 ง. 26  30 = 780 4. 1,243  3 =  9. สดุ าไดเ้ งนิ มาโรงเรียนวนั ละ 30 บาท เป็นเวลา ก. 3,529 ข. 3,629 12 วนั สุดาไดเ้ งินทง้ั หมดเท่าไร ค. 3,729 ง. 3,829 ก. 360 บาท ข. 370 บาท 5. 12  72 =  ค. 380 บาท ง. 390 บาท ก. 96 ข. 864 10. ที่ดนิ จัดสรรแหง่ หนง่ึ มี 15 แปลง แปลงละ 85 ค. 1,082 ง. 1,280 ตารางวา ทีด่ นิ จัดสรรแหง่ นีม้ พี ้นื ท่ีท้งั หมด 6. 43  36 =  เทา่ ไร ก. 4,336 ข. 1,548 ก. 975 ตารางวา ค. 1,290 ง. 258 ข. 1,075 ตารางวา ค. 1,175 ตารางวา ง. 1,275 ตารางวา gเ เฉเฉ gเฉลย

25 1. ก 2. ค 3. ง 4. ค 5. ข 6. ข 7. ข 8. ง 9. ก 10. ง

26 ใบงานที่ 7.3 เรือ่ ง ความหมายของการคูณ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ชอ่ื ………………………………………………………………………….เลขท…่ี …………………… คาสั่ง จงหาผลคูณ โดยการเขยี นในรปู ของการบวก 1. 2 × 4 = 2. 3 × 5 = 3. 5 × 6 = 4. 4 × 7 = 5. 8 × 5 = 6. 7 × 6 = 7. 9 × 7 = 8. 4 × 8 = 9. 8 × 7 = 10. 5 × 9 =

27 แบบบนั ทึกคะแนนใบงานท่ี 7.3 เร่ือง ความหมายของการคณู กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2562 เลขท่ี ชอื่ -สกุล คะแนนใบงาน สรปุ ผลการประเมิน ท่ี 7.3 (10) ผา่ นเกณฑ์ ไมผ่ า่ นเกณฑ์ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การประเมิน คะแนนทไ่ี ดจ้ ากการทาใบงานท่ี 7.3 ต้ังแตร่ อ้ ยละ 80 ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์

28 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ กลุ่มท่ี………….. พฤติกรรม ลาดบั ชื่อ-สกลุ ความ การแสดง การรับฟงั ความตง้ั ใจ การมสี ่วน รวม ที่ สมาชกิ กลุม่ รว่ มมอื ความ ความ ในการ รว่ มในการ คดิ เหน็ คิดเห็น ทางาน อภปิ ราย 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การใหค้ ะแนน ประสทิ ธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ 90-100% หรอื ปฏบิ ตั ิบ่อยครั้ง ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 70-89% หรือปฏบิ ตั บิ างคร้งั ดมี าก = 4 ประสทิ ธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 50-69% หรอื ปฏิบัตคิ ร้ังเดยี ว ดี = 3 ประสทิ ธภิ าพตา่ กว่าเกณฑ์ 50% หรอื ไมป่ ฏิบัตเิ ลย ปานกลาง = 2 ปรับปรงุ = 1 ลงช่อื ………………………………ผู้สังเกต (…………………………….) ………./……………/………

29 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 คาช้ีแจง ใหท้ าเครอื่ งหมาย  ลงในช่องแสดงระดบั คณุ ภาพ เลขท่ี ช่อื -สกุล พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออก / ระดบั คณุ ภาพ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ ม่นั ในการทางาน 3 2103 2 103210 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

30 เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะ ดีเยย่ี ม ดี ผา่ น ไมผ่ า่ น อันพงึ ประสงค์ (3) (2) (1) (0) มีวินยั 1. ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง 1. ปฏิบัตติ าม 1. ปฏบิ ตั ติ าม 1. ไมป่ ฏบิ ัติตาม 2. ตรงต่อเวลา ขอ้ ตกลง ข้อตกลง ข้อตกลง 3. มสี ่วนร่วมปฏบิ ัติ 2. ตรงต่อเวลา 2. ตรงตอ่ เวลา 2. ไม่มสี ่วนร่วม กิจกรรมตา่ ง ๆ ได้ดี 3. มีส่วนรว่ มปฏิบตั ิ 3. ไมม่ สี ว่ นรว่ ม ในกจิ กรรม 4. เป็นแบบอย่างที่ดี กจิ กรรมต่าง ๆ ได้ ในกิจกรรม ใฝ่เรยี นรู้ 1. เขา้ เรียนตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรง 1.มาเขา้ เรยี น มุ่งมน่ั ในการทางาน 2.ไมม่ สี ว่ นร่วม 2. ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ 2. ต้งั ใจเรยี น เวลา ในกจิ กรรม 3. มีส่วนรว่ มใน 3. มสี ว่ นร่วมใน 2. มสี ่วนรว่ มใน - ไม่มคี วาม รบั ผดิ ชอบ กิจกรรม กจิ กรรม กิจกรรม งานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 4. เป็นแบบอยา่ งทีด่ ี 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มีความ งานที่ไดร้ บั มอบหมาย งานท่ีไดร้ ับ รบั ผดิ ชอบ 2. มคี วามเพยี ร มอบหมาย งานทีไ่ ดร้ ับอบ พยายามในการเรยี นให้ 2. มีความพยายาม หมาย สาเร็จ ในการเรียนให้สาเรจ็ 2. มคี วามพยายาม 3. มกี ารปรบั ปรุงและ 3. มกี ารปรบั ปรงุ และ ในการเรยี นให้ พัฒนาการทางานให้ดี พฒั นาการทางานให้ สาเรจ็ ขน้ึ ดีขึน้ 4. เป็นแบบอยา่ งทด่ี ี

31 แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2562 เวลา 29 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 7 ช่ือหน่วย การคณู เวลา 1 ช่วั โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 เรื่อง ความหมายของการคูณ(ตอ่ ) 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้ีวดั ค 1.2 เข้าใจถงึ ผลทเี่ กิดขน้ึ จากการดาเนินการของจานวนและความสัมพันธ์ระหว่างการดาเนนิ การ ต่าง ๆ และใช้การดาเนนิ การในการแกป้ ญั หา ป.3/1 บวก ลบ คูณ หาร และบวก ลบ คณู หารระคนของจานวนนบั ไม่เกนิ หนึ่งแสน และศนู ย์ พร้อมทง้ั ตระหนกั ถึงความ สมเหตุสมผลของคาตอบ ป.3/4 ใช้ภาษาและสัญลกั ษณ์ทางคณิตศาสตรใ์ นการสอื่ สาร การส่ือความหมาย และการ นาเสนอได้อยา่ งถกู ต้อง ค 6.1 มีความสามารถในการแก้ปัญหา การให้เหตผุ ล การสื่อสาร การสื่อความหมาย ทาง คณติ ศาสตร์ และการนาเสนอ การเชือ่ มโยงความรูต้ ่าง ๆ ทางคณติ ศาสตร์และเชื่อมโยงคณติ ศาสตรก์ บั ศาสตร์อ่นื ๆ และมีความคิดรเิ ร่มิ สร้างสรรค์ ป.3/4 ใชภ้ าษาและสัญลักษณท์ างคณติ ศาสตรใ์ นการสอื่ สาร การส่ือความหมาย และการนาเสนอ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 2. สาระสาคญั การบวกจานวนท่เี ทา่ กันหลายๆจานวน สามารถเขยี นแสดงไดด้ ้วยการคูณจานวนสองจานวน 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 อธิบายความหมายของการคูณได้ 3.2 เขียนผลบวกใหอ้ ยูใ่ นรูปของการคูณได้ 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 ความหมายของการคูณ การใชเ้ ครอ่ื งหมาย  5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด (นกั เรียนคดิ วิเคราะห์คาถามทีค่ รูกระตนุ้ ให้คิด) 6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 6.1 มีวินยั 6.2 ใฝ่เรยี นรู้ 6.3 มุ่งมั่นในการทางาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ 7.3 ข้ันนาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1) ใหน้ ักเรียนรอ้ งเพลง ความหมายของการคูณ

32 เพลง ความหมายการคณู เนื้อร้อง สมพงษ ์ แปลงประสพโชค ทานอง ยวนยาแหล หก คณู ห้า หก คณู ห้า ขอบอกคุณวา่ เอา ห้า บวกกัน หกตัว แต่ หา้ คณู หก นน้ั เอา หก หา้ ตวั แต่ หา้ คูณ หก นนั้ เอา หก หา้ ตัว บวกกนั ใหถ้ ว้ นทั่ว เอา หก ห้าตัวบวกกนั เอย 7.4 ขนั้ สอน (ใช้วิธีการสอนแบบร่วมมอื รว่ มใจ) 1) ครูทบทวนความรู้เดิมจากเมื่อช่ัวโมงท่ีแลว้ โดยครูยกตวั อย่าง 1-2 ตวั อยา่ งเช่น 2 + 2 + 2 + 2 เขียนในรูปการคูณได้เปน็ 2×4 มคี ่าเทา่ กบั 8 3 + 3 + 3 + 3 เขยี นในรูปการคูณได้เป็น 3×4 มคี ่าเท่ากับ 12 2) ให้นักเรยี นน่ังเป็นกลมุ่ คละความสามารถ ประมาณ 4-5 คน ใหต้ ัวแทนแตล่ ะกลุม่ ออกมารับวสั ดุ และอปุ กรณ์(กระดาษA4 2 แผน่ ,หลอดหลอดนา้ อดั ลม 5 หลอด,เมล็ดแตงโม 30 เมล็ด ,ยางวงใหญ่ 6 วง กาวลาเท็กซ์ ,กรรไกร และสีเมจิกคละสี 3 แท่ง) เพื่อเรียนรเู้ ร่ืองความหมายของการคูณ โดยให้ นักเรียนเข้าแถวตามลาดบั มาก่อนหลงั และชมเชยนกั เรียนที่ไหวส้ วย (มติ ดิ า้ น วัฒนธรรม) แลว้ ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั กิ ิจกรรมเพ่ือใหท้ ราบความหมายของการคูณ ดงั น้ี 3) ครชู ี้แจงใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มเลือกประธานและเลขา เพ่ือทาหนา้ ที่ดาเนนิ กิจกรรมสร้างชิ้นงานโดย ครูใหเ้ วลาประมาณ 25 นาที และให้สมาชิกภายในกลุ่มช่วยกันระดมความคิดร่วมมือกนั ทา กิจกรรม 4) ครูชีแ้ จงเพิ่มเติมวา่ วสั ดุอปุ กรณท์ ี่ครูแจกให้แตล่ ะกลุ่มๆชว่ ยกันคิดออกแบบวา่ จะใชอ้ ุปกรณใ์ ดบ้าง ในการสร้างชิ้นงานไม่จาเปน็ ต้องใชว้ ัสดุทุกชนิดอาจเลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง 5) ครูคอยเดินดูการทางานของแต่ละกลุ่มและช่วยช้ีแนะหากบางกลุ่มเกิดปัญหา 6) เม่ือไดช้ ิ้นงานแล้วใหแ้ ต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนาเสนอผลงานของตวั เอง 7) ครูและนักเรียนชว่ ยกันตรวจสอบชน้ิ งานความสาเร็จของแตล่ ะกลุ่ม 8) นาผลงานติดบนป้านนเิ ทศของชน้ั เรียน(นักเรยี นจะมีความภูมิใจในผลงานของตัวเอง) 7.3 ขน้ั สรปุ ครูและนกั เรียนทุกคนรว่ มกันสรุปความรูเ้ กยี่ วกบั ความหมายของการคูณจากการร่วมกันทา กจิ กรรมจนไดช้ ้นิ งานว่า“การบวกจานวนทเี่ ท่ากนั หลายๆจานวน สามารถเขียนแสดงได้ด้วยการคูณ จานวนสองจานวน”(จากการทากิจกรรมน้จี ะทาใหน้ ักเรยี นจดจาความหมายของการคณู ไดด้ ีย่ิงขน้ึ ) 8. ส่อื การเรยี นร้/ู แหลง่ เรยี นรู้ 8.1 เพลง 8.2 กระดาษA4 2 แผ่น 8.3 หลอดหลอดนา้ อัดลม 5 หลอด

33 8.4 เมล็ดแตงโม 30 เมล็ด 8.5 ยางวงใหญ่ 6 วง 8.6 กาวลาเท็กซ์ 8.7 กรรไกร 8.8 สีเมจิกคละสี 3 แทง่ 9. การวดั และประเมินผล 9.1 วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล 1) ตรวจชน้ิ งาน 2) สังเกตพฤติกรรมการทางานรายกลุ่ม 3) สังเกตความมวี นิ ยั ,ใฝเ่ รยี นรู้และมงุ่ ม่ันในการทางาน 9.2 เครื่องมอื 1) แบบประเมินชน้ิ งาน 2) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายกล่มุ 3) แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 9.3 เกณฑก์ ารประเมิน 1) ประเมนิ ตามสภาพจรงิ 2) ทาช้ินงานถกู ต้องไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 3) พฤติกรรมการทางานรายกลุ่มได้ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

34 แบบประเมนิ ช้นิ งานผู้เรยี น ชื่อกลุม่ .................................................................................. ชั้น …………………........ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 7 แผนการเรยี นรู้ท่ี 3 ความหมายของการคูณ คาช้ีแจง: ใหผ้ ปู้ ระเมนิ ขีด  ลงในช่องทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน ผู้ประเมิน ประเดน็ ทีป่ ระเมิน กลมุ่ ตนเอง กลมุ่ เพือ่ น ครู 432143214321 1. ตรงจดุ ประสงคท์ ี่กาหนด 2. มคี วามถกู ต้องสมบรู ณ์ 3. มีความคดิ สรา้ งสรรค์ 4. มคี วามเปน็ ระเบียบ รวม รวมทกุ รายการ เฉล่ีย ผู้ประเมนิ ................................(กลมุ่ ท.ี่ ...) ผปู้ ระเมนิ ....................................... (กลุม่ เพ่ือน) ผปู้ ระเมนิ ................................................... (ครู)

35 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ กลุ่มท่ี………….. พฤติกรรม ลาดบั ชื่อ-สกลุ ความ การแสดง การรับฟงั ความตง้ั ใจ การมสี ่วน รวม ที่ สมาชกิ กลุม่ รว่ มมอื ความ ความ ในการ รว่ มในการ คดิ เหน็ คิดเห็น ทางาน อภปิ ราย 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การใหค้ ะแนน ประสทิ ธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ 90-100% หรอื ปฏบิ ตั ิบ่อยครั้ง ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 70-89% หรือปฏบิ ตั บิ างคร้งั ดมี าก = 4 ประสทิ ธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 50-69% หรอื ปฏิบัตคิ ร้ังเดยี ว ดี = 3 ประสทิ ธภิ าพตา่ กว่าเกณฑ์ 50% หรอื ไมป่ ฏิบัตเิ ลย ปานกลาง = 2 ปรับปรงุ = 1 ลงช่อื ………………………………ผู้สังเกต (…………………………….) ………./……………/………

36 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 คาช้ีแจง ใหท้ าเครอื่ งหมาย  ลงในช่องแสดงระดบั คณุ ภาพ เลขท่ี ช่อื -สกุล พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออก / ระดบั คณุ ภาพ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ ม่นั ในการทางาน 3 2103 2 103210 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

37 เกณฑ์การประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านคณุ ลักษณะ ดีเยย่ี ม ดี ผา่ น ไมผ่ า่ น อันพงึ ประสงค์ (3) (2) (1) (0) มีวินยั 1. ปฏิบตั ิตามข้อตกลง 1. ปฏิบัตติ าม 1. ปฏบิ ตั ติ าม 1. ไมป่ ฏบิ ัติตาม 2. ตรงต่อเวลา ข้อตกลง ข้อตกลง ข้อตกลง 3. มีสว่ นร่วมปฏิบตั ิ 2. ตรงต่อเวลา 2. ตรงตอ่ เวลา 2. ไม่มสี ่วนร่วม กจิ กรรมต่าง ๆ ได้ดี 3. มสี ว่ นร่วมปฏิบตั ิ 3. ไมม่ สี ว่ นรว่ ม ในกจิ กรรม 4. เป็นแบบอยา่ งทด่ี ี กจิ กรรมต่าง ๆ ได้ ในกิจกรรม ใฝ่เรยี นรู้ 1. เข้าเรียนตรงเวลา 1. เข้าเรยี นตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรง 1.มาเขา้ เรยี น มงุ่ ม่ันในการทางาน 2.ไมม่ สี ว่ นร่วม 2. ต้ังใจเรยี น เอาใจใส่ 2. ตงั้ ใจเรยี น เวลา ในกจิ กรรม 3. มีสว่ นรว่ มใน 3. มสี ว่ นรว่ มใน 2. มสี ่วนรว่ มใน - ไม่มคี วาม รบั ผดิ ชอบ กิจกรรม กิจกรรม กิจกรรม งานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 4. เป็นแบบอยา่ งที่ดี 1. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มีความ งานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย งานท่ีไดร้ ับ รบั ผดิ ชอบ 2. มีความเพยี ร มอบหมาย งานทีไ่ ดร้ ับอบ พยายามในการเรียนให้ 2. มีความพยายาม หมาย สาเรจ็ ในการเรียนให้สาเรจ็ 2. มคี วามพยายาม 3. มีการปรบั ปรงุ และ 3. มีการปรบั ปรงุ และ ในการเรยี นให้ พัฒนาการทางานให้ดี พัฒนาการทางานให้ สาเรจ็ ขึน้ ดขี ึ้น 4. เป็นแบบอยา่ งทด่ี ี

38 เกณฑก์ ารให้คะแนนผลงาน ประเดน็ ท่ปี ระเมิน คะแนน 1. จุดประสงค์ 4 321 2. เน้ือหา ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานไม่ 3. ความคดิ สร้างสรรค์ กับจดุ ประสงค์ กับจุดประสงค์ กับจดุ ประสงค์ สอดคลอ้ งกบั 4.ความประณตี ทกุ ประเดน็ เปน็ สว่ นใหญ่ บางประเดน็ จดุ ประสงค์ เน้ือหาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ ผลงานถกู ต้อง ผลงานถกู ต้อง ผลงานถกู ต้องเป็น ผลงานไม่ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นส่วนใหญ่ บางประเดน็ เปน็ ส่วนใหญ่ ผลงานแสดงออก ผลงานมแี นวคดิ ผลงานมคี วาม ผลงานไม่แสดง ถึงความคิด แปลกใหมแ่ ต่ยัง น่าสนใจ แต่ยงั ไม่ แนวคดิ ใหม่ สรา้ งสรรค์ ไมเ่ ปน็ ระบบ มีแนวคิดแปลก แปลกใหม่ ใหม่ และเปน็ ระบบ ผลงานมีความเปน็ ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญ่ ระเบียบแสดงออก ไม่เปน็ ระเบยี บ ถึงความประณตี ความเปน็ เป็นระเบยี บแต่มี และมขี ้อ บกพร่องมาก ระเบยี บแต่ยังมี ข้อบกพร่อง ขอ้ บกพร่อง บางสว่ น เล็กน้อย เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ นกั เรียนไดค้ ะแนน 13 คะแนนข้นึ ไป หรือรอ้ ยละ 80 ถอื ว่าผ่านเกณฑ์

39 แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 เวลา 29 ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 7 ชื่อหน่วย การคูณ เวลา 1 ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 เรือ่ ง การสลับทข่ี องการคูณ 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั ค 1.2 เข้าใจถึงผลที่เกิดขึ้นจากการดาเนินการของจานวนและความสมั พันธร์ ะหวา่ งการดาเนนิ การ ตา่ ง ๆ และใช้การดาเนินการในการแก้ปัญหา ป.3/1 บวก ลบ คูณ หาร และบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนับไมเ่ กนิ หนง่ึ แสน และศูนย์ พรอ้ มทัง้ ตระหนกั ถึงความ สมเหตสุ มผลของคาตอบ ค 6.1 มคี วามสามารถในการแกป้ ัญหา การใหเ้ หตผุ ล การสื่อสาร การส่อื ความหมาย ทาง คณติ ศาสตร์ และการนาเสนอ การเชือ่ มโยงความรู้ต่าง ๆ ทางคณติ ศาสตรแ์ ละเชื่อมโยงคณติ ศาสตรก์ บั ศาสตรอ์ ่ืน ๆ และมีความคิดริเรม่ิ สรา้ งสรรค์ ป.3/4 ใชภ้ าษาและสญั ลกั ษณ์ทางคณติ ศาสตร์ในการส่ือสาร การสอ่ื ความหมาย และการนาเสนอ ได้อยา่ งถกู ต้อง 2. สาระสาคัญ จานวนสองจานวนทีน่ ามาคูณกันสามารถสลับที่กนั ไดจ้ ะได้ผลคูณเท่ากนั 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นกั เรยี นสามารถสลับที่การคูณและหาผลคูณจากการสลับท่ีได้ 4. สาระการเรยี นรู้ การสลับที่ของการคูณ 5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการส่ือสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 มีวนิ ยั 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3 มุง่ มน่ั ในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 7.1 ขั้นนาเข้าส่บู ทเรยี น ใหน้ ักเรียนร้องเพลง ราเต้ยการคูณ

40 เพลง ราเตย้ การคณู เนอ้ื ร้อง ราตรี รงุ่ ทวีชัย ทานอง ให้หนไู ปด้วย (พุ่มพวง ดวงจันทร)์ พ่ีจา๋ พี่จ๋าพี่ พาหนูเรียนวันนี้ ใหห้ นูเรียนด้วย พี่จะเรยี นวชิ าคณติ หนกู ็จะฝกึ คดิ ให้สละสลวย ถ้าให้หนูคิดเองก็ย่ิงดี หนจู ะแสดงวิธลี ะให้พงี่ งงวย หนจู ะต้ังใจเรยี น จะคอยพากเพยี รให้ดีจริงดว้ ย หากหนไู มเ่ ขา้ ใจ มีปญั หาเรื่องใดคณุ ครโู ปรดชว่ ย หนูจะได้คิดคน้ ทาเสียใหม่ ข้อนี้ทาอย่างไรถึงจะไม่งงงวย 7.2 ขน้ั สอน 1) ครูติดแถบประโยคการคูณสนี า้ เงินกับสีแดง บนกระดาน จานวน 2 แถบ 4 + 4 + 4 = 3 ×4 = 12 3 + 3 + 3 + 3 = 4 ×3 = 12 ครใู ห้นักเรยี นสงั เกตแถบประโยคการคณู สีน้าเงินกับสีแดง ว่าแถบประโยคทง้ั 2 สี มีสิง่ ใด เหมอื นกนั และมีอะไรที่แตกต่างกนั (เหมือนกนั คอื คาตอบ และมตี ัวเลข 4 กับ 3 ,สว่ นต่างกนั คอื ตาแหน่งของ 4 กับ 3 สลบั ทก่ี ัน) 2) ส่งเสริมด้านตรรกะ นกั เรียนฝกึ ทักษะการหาจานวนจากการสลบั ทีข่ องการคูณ โดยครูแบ่ง นกั เรียนเป็น 6กล่มุ แตล่ ะกล่มุ จะส่ง้ผู้แทนกลมุ่ ครั้งละ1 คนออกมาเขยี นจานวนที่หายไป จากแถบโจทย์ท่ี ครตู ิดบนกระดาน เช่น 3 × 6 = (6) × 3 4 × (8) = 8 × 4 9 × 2 = 2 × (9) (20) ×7 = 7 ×20 นักเรยี นและครูรว่ มกัน ตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบ กลมุ่ ไหนได้คะแนนมาก ทส่ี ุดถือเปน็ ผู้ชนะ

41 3) ส่งเสรมิ ด้านการเคล่ือนไหว ด้านความสมั พันธ์กับบุคคลอืน่ โดยแบ่งกลุ่มเพื่อน รว่ มกัน เล่น เกม “เตมิ เลข” ดังนี้ - ครตู ดิ แถบโจทย์บนกระดาน - ผแู้ ทนนกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมาหยิบ สลากตัวเลขในกล่อง - นักเรยี นแข่งขันกนั นาสลากตวั เลขไปตดิ บนแถบโจทย์ให้สมบรู ณ์ - นกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง - ผู้แทนกล่มุ ใดติดถกู ตอ้ งเปน็ อนั ดับ 1 ได1้ คะแนน - ดาเนินการเล่นประมาณ 10 ข้อ - สรปุ ผลคะแนน กลมุ่ ใดได้คะแนนมากถือเปน็ ผู้ชนะ(ให้ตบมอื เปน็ รางวัลกับกลุ่มท่ชี นะ เป็นการเสริมแรง) 7.3 ข้ันสรุป 1) นกั เรียนรว่ มกัน สรปุ ความรู้เร่ืองการสลับท่ขี องการคูณวา่ จานวนสองจานวนท่ีนามาคณู กนั สามารถสลับทกี่ ันไ้ด้ จะได้ ผลคณู เทา่ กนั แลว้ เขียนลงสมดุ คณิตศาสตร์ 2) ให้นักเรยี นทาใบงานที่ 7.4 8. สอื่ การเรยี นรู้/แหล่งเรียนรู้ 8.1 บัตรตัวเลข 8.2. บัตรโจทย์ 8.3 เพลง 8.4 เกมเติมเลข 8.5 ใบงานท่ี 7.4 9. การวัดและประเมินผล 9.1 วธิ ีการวัดและประเมินผล 1) ตรวจใบงานที่ 7.4 2) สังเกตพฤติกรรมการทางานรายกลุ่ม 3) สงั เกตความมวี ินยั ,ใฝ่เรียนรแู้ ละมงุ่ มนั่ ในการทางาน 9.2 เครื่องมือ 1) ใบงานที่ 7.4 2) แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายกลุ่ม 3) แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 9.3 เกณฑก์ ารประเมนิ 1) ทาใบงานท่ี 7.4 ถูกต้องไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 2) พฤติกรรมการทางานรายกลุ่มได้ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ได้ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

บตั รโจทย์ 42 4x9 9x4 7x8 8x7 6x4 4x6 9x2 2x9 4x7 7x4

43 ใบงานท่ี 7.4 การสลับท่ขี องการคูณ คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเตมิ ตวั เลขลงใน  โดยใชส้ มบตั กิ ารสลบั ทข่ี องการคณู 1. 4  2 = 2  4 2. 8  7 = 7  8 3. 3  9 = 9  3 4. 5  7 = 7  5 5. 6  2 = 2  6 6. 7  3 = 3  7 7. 6  4 = 4  6 8. 3  8 = 8  3 9. 6  7 = 7  6 10. 9  4 = 4  9 11. 7  9 = 9  7 12. 9  5 = 5  9 13. 8  2 = 2  8 14. 4  8 = 8  4 15. 6  5 = 5  6

44 แบบบันทกึ คะแนนใบงานที่ 7.4 เรื่อง การสลบั ท่ขี องการคณู กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2562 เลขที่ ช่ือ-สกุล คะแนนใบงาน สรุปผลการประเมิน ท่ี 7.4 (15) ผา่ นเกณฑ์ ไม่ผ่านเกณฑ์ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เกณฑก์ ารประเมิน คะแนนทไี่ ดจ้ ากการทาใบงานที่ 7.4 ต้ังแต่รอ้ ยละ 80 ข้นึ ไปถือว่าผ่านเกณฑ์

45 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ กลุ่มท่ี………….. พฤติกรรม ลาดบั ชอ่ื -สกลุ ความ การแสดง การรับฟัง ความตง้ั ใจ การมสี ่วน รวม ที่ สมาชกิ กลุ่ม ร่วมมอื ความ ความ ในการ รว่ มในการ คดิ เหน็ คดิ เห็น ทางาน อภปิ ราย 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑ์การใหค้ ะแนน ประสทิ ธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ 90-100% หรอื ปฏบิ ตั ิบ่อยครั้ง ประสทิ ธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 70-89% หรือปฏิบตั บิ างคร้งั ดมี าก = 4 ประสทิ ธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 50-69% หรือปฏบิ ัตคิ ร้ังเดยี ว ดี = 3 ประสิทธภิ าพต่ากวา่ เกณฑ์ 50% หรือไมป่ ฏิบัตเิ ลย ปานกลาง = 2 ปรับปรงุ = 1 ลงชอ่ื ………………………………ผู้สังเกต (…………………………….) ………./……………/………

46 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 คาช้ีแจง ใหท้ าเครอื่ งหมาย  ลงในช่องแสดงระดบั คณุ ภาพ เลขท่ี ช่อื -สกุล พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออก / ระดบั คณุ ภาพ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ ม่นั ในการทางาน 3 2103 2 103210 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

47 เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะ ดีเยย่ี ม ดี ผา่ น ไมผ่ า่ น อันพงึ ประสงค์ (3) (2) (1) (0) มีวินยั 1. ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง 1. ปฏิบัตติ าม 1. ปฏบิ ตั ติ าม 1. ไมป่ ฏบิ ัติตาม 2. ตรงต่อเวลา ขอ้ ตกลง ข้อตกลง ข้อตกลง 3. มสี ่วนร่วมปฏบิ ัติ 2. ตรงต่อเวลา 2. ตรงตอ่ เวลา 2. ไม่มสี ่วนร่วม กิจกรรมตา่ ง ๆ ได้ดี 3. มีส่วนรว่ มปฏิบตั ิ 3. ไมม่ สี ว่ นรว่ ม ในกจิ กรรม 4. เป็นแบบอย่างที่ดี กจิ กรรมต่าง ๆ ได้ ในกิจกรรม ใฝ่เรยี นรู้ 1. เขา้ เรียนตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรง 1.มาเขา้ เรยี น มุ่งมน่ั ในการทางาน 2.ไมม่ สี ว่ นร่วม 2. ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ 2. ต้งั ใจเรยี น เวลา ในกจิ กรรม 3. มีส่วนรว่ มใน 3. มสี ว่ นร่วมใน 2. มสี ่วนรว่ มใน - ไม่มคี วาม รบั ผดิ ชอบ กิจกรรม กจิ กรรม กิจกรรม งานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 4. เป็นแบบอยา่ งทีด่ ี 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 1. มีความ งานที่ไดร้ บั มอบหมาย งานท่ีไดร้ ับ รบั ผดิ ชอบ 2. มคี วามเพยี ร มอบหมาย งานทีไ่ ดร้ ับอบ พยายามในการเรยี นให้ 2. มีความพยายาม หมาย สาเร็จ ในการเรียนให้สาเรจ็ 2. มคี วามพยายาม 3. มกี ารปรบั ปรุงและ 3. มกี ารปรบั ปรงุ และ ในการเรยี นให้ พัฒนาการทางานให้ดี พฒั นาการทางานให้ สาเรจ็ ขน้ึ ดีขึน้ 4. เป็นแบบอยา่ งทด่ี ี

48 แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 เวลา 29 ช่วั โมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 ชอ่ื หน่วย การคูณ เวลา 1 ช่ัวโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เร่ือง การเปลี่ยนหมู่ของการคูณ 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด ค 1.2 เข้าใจถึงผลที่เกิดข้ึนจากการดาเนินการของจานวนและความสัมพันธร์ ะหวา่ งการดาเนนิ การ ตา่ ง ๆ และใช้การดาเนนิ การในการแก้ปญั หา ป.3/1 บวก ลบ คูณ หาร และบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนับไมเ่ กินหนงึ่ แสน และศนู ย์ พร้อมทง้ั ตระหนกั ถึงความ สมเหตุสมผลของคาตอบ ค 6.1 มคี วามสามารถในการแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสือ่ สาร การสอ่ื ความหมาย ทาง คณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเช่อื มโยงความรตู้ ่าง ๆ ทางคณติ ศาสตร์และเชื่อมโยงคณติ ศาสตร์กับ ศาสตร์อ่นื ๆ และมีความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ ป.3/4 ใชภ้ าษาและสัญลักษณท์ างคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร การส่ือความหมาย และการนาเสนอ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง 2. สาระสาคัญ จานวนสามจานวนคณู กันจะคณู จานวนท่ีหนึ่งกบั จานวนท่ีสอง หรอื คูณจานวนทีส่ องกับจานวนท่สี าม กอ่ น แลว้ จงึ คูณกับจานวนที่เหลอื ผลคณู ยอ่ มเท่ากนั 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรียนสามารถเปลย่ี นหมขู่ องการคูณและหาผลคูณจากการเปลย่ี นหมู่ได้ 4. สาระการเรียนรู้ การเปลีย่ นหมู่ของการคูณ 5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการส่ือสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 6.1 มีวนิ ัย 6.2 ใฝ่เรยี นรู้ 6.3 มงุ่ มนั่ ในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ 7.1 ขน้ั นาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1.) ใหน้ ักเรียนร้องเพลง เรามารอ้ งเพลงกัน

49 เพลง มาร้องเพลงกัน เน้อื ร้อง วีรยทุ ธ ดว้ งใย (ดัดแปลง) ปา่ ม ปา้ ม ปา่ ม ปาม ป่าม ปาม ป้าม ปา่ ม ปา้ ม ปา่ ม ปาม ปาม ปาม มา มา มา มา มา มาเถดิ เรามา มาร้องเพลงกัน (เฮ้) ลืมความทุกข์เร็วพลนั สนุกสขุ สรรค์กนั ให้เต็มทรวง เรียนคณติ วันนี้เราไม่ควรมคี วามทกุ ข์ทง้ั ปวง วชิ าคณิตชน่ื ทรวงไม่หลอกไม่ลวงใ้ห้เราชา้ ใจ 7.2 ขั้นสอน 1) ครทู บทวนเรอ่ื งการสลับที่ ของการคณู โดยครูติดแถบโจทยบ์ นกระดาษ พร้อมกบั ซักถาม นกั เรยี นจากการเรยี นเม่ือชงั่ โมงท่แี ลว้ ว่าผลลพั ธ์เท่ากันไหม 2 ×3 = 6 3 ×2 = 6 นักเรยี นชว่ ยกันสรปุ ผลจากแถบโจทยบ์ นกระดาน ดังนั้นตวั คูณสลบั ทก่ี ันไมท่ าใหผ้ ลคูณเปล่ียน 2) ครตู ดิ แถบโจทย์การคูณบนกระดาษใหน้ กั เรียนสังเกต (2 ×5) × = ( ×5) × 8 ครถู ามนกั เรยี นว่าแถบโจทยท์ ่คี รูติดเหมือกนั หรือต่างกันกบั ที่ครตู ดิ ครั้งแรก นกั เรียนตอบ (ไม่เหมอื นกันเพราะอะไร) มีจานวน 3 จานวน ครูอธบิ ายเพม่ิ เติมถงึ แถบโจทยบ์ นกระดาษวา่ การคูณจานวน 3 จานวน ว่ามันคอื สมบัติการ เปล่ยี นหม่ขู องการคณู โดยท่ีตัวเลขต้องเป็นเลขเดียวกัน จากนนั้ ครูใหน้ ักเรยี นลองสังเกตว่า ตัวเลขทตี่ อ้ งใสใ่ นช่องส่ีเหลีย่ มคือเลขใดบ้าง 3) ครเู ขียนโจทย์ให้นักเรียนฝึกบนกระดาษอีก 4-5 ตัวอยา่ ง จากนน้ั ให้นักเรียนแบ่งออกเป็น 2 ทมี โดยครูเขยี นโจทยใ์ หน้ ักเรยี นแตล่ ะทมี ผลัดกนั ออกมาใสต่ วั เลข ทมี ไหนใสต่ วั เลขถกู ได้ 1 คะแนน (จานวน10 ข้อ) ทมี ไหนไดม้ ากเปน็ ผชู้ นะ 7.3 ข้ันสรุป 1) นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ บทเรยี นโดยครูเปน็ ผ้ชู ้ีแนะว่า การตรวจสอบสมบตั ิการเปล่ยี นหมู่ของการคูณ คอื การนาจานวนสามจานวนคูณกันจะคูณจานวนท่ีหน่งึ กับ จานวนที่สอง หรอื คูณจานวนท่สี องกับจานวนที่ สามก่อนแล้วจงึ คณู กบั จานวนทีเ่ หลือผลคณู ย่อมเท่ากัน 2) ใหน้ กั เรียนทาใบงานที่ 7.5

50 8. สอื่ การเรยี นร/ู้ แหล่งเรียนรู้ 8.1 แถบโจทย์ 8.2. เพลง 8.3 เกม 9. การวดั และประเมนิ ผล 9.1 วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล 1) ตรวจใบงานท่ี 7.5 2) สังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล 3) สังเกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมัน่ ในการทางาน 9.2 เครอ่ื งมอื 1) ใบงานท่ี 7.5 2) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล 3) แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 9.3 เกณฑ์การประเมิน 1) ทาใบงานท่ี 7.5 ถูกตอ้ งไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80 2) พฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คลไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 3) คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook