แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ า วิทยาการคานวณ ระดบั ช้ัน มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 จดั ทาโดย นางสาวฐิตารัตน์ คัมภรี ะ ตาแหน่ง ครูผู้ชว่ ย โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ตาบลช่างเคงิ่ อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สานักงานการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ว............ การออกแบบและเทคโนโลยี คําอธบิ ายรายวชิ า ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 กลมุ สาระการเรียนรูว ิทยาศาสตร เวลา 40 ชั่วโมง ( ท2 – ป0 ) จาํ นวน 1.0 หนว ยกิต ศึกษา วิเคราะหแนวคิดหลักของเทคโนโลยี การเปล่ียนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยีท่ีเกิดข้ึนและ ความสัมพันธของเทคโนโลยกี บั ศาสตรอ ่นื ออกแบบ สราง หรือพัฒนาผลงานสําหรบั แกปญหาท่ีคํานึงถึงผลกระทบตอสงั คม ในประเด็นท่ีเก่ียวขอ งกบั สุขภาพและการบริการ โดยใชกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมซึ่งใชความรู ทักษะ และเลือกใช วสั ดุ อุปกรณ เครื่องมอื กลไก ไฟฟา และอเิ ลก็ ทรอนิกส เพื่อแกปญหาไดอยา งถกู ตอง เหมาะสม ปลอดภยั คาํ นึงถงึ ทรพั ยสิน ทางปญ ญา ใชซ อฟตแ วรช วยในการออกแบบและนําเสนอผลงาน ตวั ชี้วดั ว 4.1 เทคโนโลยี ( การออกแบบและเทคโนโลยี ) 1. วิเคราะหแ นวคดิ หลกั ของเทคโนโลยี ความสัมพนั ธกบั ศาสตรอนื่ โดยเฉพาะวทิ ยาศาสตร หรอื คณิตศาสตร รวมท้งั ประเมนิ ผลกระทบทจ่ี ะเกดิ ขึ้นตอ มนุษย สังคม เศรษฐกจิ และส่ิงแวดลอ ม เพอ่ื เปน แนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยี 2. ระบปุ ญหาหรือความตอ งการที่มีผลกระทบตอสงั คม รวบรวม วเิ คราะหขอ มูลและแนวคดิ ท่ีเกย่ี วขอ งกับปญหาที่มี ความซบั ซอ นเพ่อื สังเคราะหว ิธีการ เทคนิคในการแกป ญหา โดยคาํ นงึ ถึงความถกู ตองดานทรัพยสนิ ทางปญ ญา 3. ออกแบบวิธีการแกปญหา โดยวิเคราะหเปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกขอมูลที่จําเปนภายใตเง่ือนไขและ ทรัพยากรที่มีอยู นําเสนอแนวทางการแกปญหาใหผูอื่นเขาใจดวยเทคนิคหรือวิธีการที่หลากหลาย โดยใชซอฟตแวรชวยใน การออกแบบ วางแผนขนั้ ตอนการทาํ งานและดาํ เนินการแกป ญหา 4. ทดสอบ ประเมนิ ผล วเิ คราะหและใหเหตผุ ลของปญหาหรือขอบกพรอ งทีเ่ กิดข้ึนภายใตกรอบเง่ือนไข หาแนวทาง การปรับปรุงแกไข และนําเสนอผลการแกป ญ หา พรอ มทง้ั เสนอแนวทางการพฒั นาตอ ยอด 5. ใชความรแู ละทักษะเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ เครือ่ งมือ กลไก ไฟฟา และอเิ ลก็ ทรอนิกส และเทคโนโลยีที่ซบั ซอนใน การแกปญหาหรือพัฒนางาน ไดอ ยางถูกตอ ง เหมาะสม และปลอดภัย รวมท้ังหมด 5 ตัวชว้ี ดั
ผงั มโนทัศน์ วิชาการออกแบบและเทคโนโลยี ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 หน่วยท่ี 1 วชิ าการออกแบบและ หนว่ ยท่ี 3 เทคโนโลยนี า่ รู้ เทคโนโลยี กระบวนการออกแบบ จานวน 6 ช่วั โมง ม.4 จานวน 26 ช่วั โมง หนว่ ยท่ี 2 ความรแู้ ละทักษะเฉพาะ ดา้ นพ้ืนฐาน จานวน 8 ชั่วโมง
ผงั มโนทศั น์ วิชาการออกแบบและเทคโนโลยี ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 จานวน 2 ชว่ั โมง ระบบทางเทคโนโลยที ีซ่ บั ซ้อน หนว่ ยที่ 1 เทคโนโลยนี า่ รู้ จานวน 6 ชวั่ โมง จานวน 2 ชั่วโมง จานวน 2 ชว่ั โมง การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี ผลกระทบของเทคโนโลยี
ผงั มโนทัศน์ วชิ าการออกแบบและเทคโนโลยี ระดับมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 หน่วยท่ี 2 ความรู้และทักษะพน้ื ฐาน เฉพาะดา้ น จานวน 8 ช่วั โมง จานวน 4 ชว่ั โมง จานวน 4 ชัว่ โมง วสั ดแุ ละเคร่ืองมือพื้นฐาน กลไก ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
ผงั มโนทศั น์ วชิ าการออกแบบและเทคโนโลยี ระดับมธั ยมศึกษาปที ี่ 4 หนว่ ยท่ี 3 กระบวนการออกแบบ จานวน 26 ช่วั โมง จานวน 14 ชว่ั โมง จานวน 12 ช่วั โมง กระบวนการออกแบบเชิง กรณศี กึ ษาการแกป้ ญั หาตาม วศิ วกรรม กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม
โครงสรางรายวิชา รายวชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี ระดบั ชั้น มัธยมศึกษาปที่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 ปการศึกษา 2561 หนวย ชอ่ื หนวยการเรยี นรู ตัวชว้ี ัด สาระสาํ คัญ เวลา นาํ้ หนกั คะแนน คะแนน ที่ (ช่ัวโมง) KP A เต็ม 35 2 10 1. เทคโนโลยีนารู ว.4.1-1 วเิ คราะหแนวคดิ หลักของ 1. ระบบทางเทคโนโลยี เปนกลุม ของสวนตางๆ 6 35 2 10 เทคโนโลยี ความสัมพันธกับศาสตรอนื่ ตงั้ แตสองสวนขึ้นไปประกอบเขา ดว ยกนั และ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร หรือ ทํางานรว มกนั เพอ่ื ใหบ รรลวุ ัตถุประสงคโดยในการ คณิตศาสตร รวมทั้งประเมนิ ผล ทาํ งานของระบบทางเทคโนโลยจี ะประกอบไปดวย กระทบที่จะเกิดขึ้นตอมนุษย สงั คม ตัวปอน ( Input ) กระบวนการ ( Process ) และ เศรษฐกิจ และส่งิ แวดลอม เพือ่ เปน ผลผลติ ( Output ) ที่สัมพันธก นั นอกจากน้ี แนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยี ระบบทางเทคโนโลยีอาจมีระบบยอยหลายระบบ ( Subsystem ) ที่ทํางานสัมพนั ธก นั อยู และหาก ระบบยอ ยใดทาํ งานผิดพลาดจะสงผลตอ การ ทาํ งานของระบบอนื่ ดวย 2. ความรแู ละทกั ษะพื้นฐาน ว.4.1-5 ใชความรูแ ละทกั ษะเกี่ยวกบั 1. วัสดแุ ตละประเภทมีสมบตั ิแตกตางกัน เชน ไม 8 เฉพาะดาน วสั ดุ อุปกรณ เครือ่ งมอื กลไกไฟฟา สงั เคราะห โลหะ จึงตอ งมีการวเิ คราะหส มบัตเิ พือ่ และอเิ ล็กทรอนกิ ส และเทคโนโลยีที่ เลือกใชใหเหมาะสมกบั ลกั ษณะของงาน ซบั ซอนในการแกป ญหาหรือพฒั นา 2. การสรา งช้ินงานอาจใชค วามรู เรอ่ื งกลไกไฟฟา งานไดอ ยา งถูกตอง เหมาะสมและ อเิ ลก็ ทรอนิกส เชน LDR Sensor เฟอง รอก คาน ปลอดภัย วงจรสําเร็จรูป
หนวย ชื่อหนว ยการเรียนรู ตัวช้วี ัด สาระสําคญั เวลา น้ําหนักคะแนน คะแนน ที่ (ช่วั โมง) K P A เตม็ 3. อปุ กรณและเครือ่ งมือในการสรางชน้ิ งานหรือ พฒั นาวิธีการมีหลายประเภท ตองเลือกใชให ถูกตอ ง เหมาะสม และปลอดภัย รวมทั้งรูจกั เก็บ รักษา 3. กระบวนการออกแบบ ว.4.1-2 ระบปุ ญ หาหรือความตองการ 1. ปญ หาหรอื ความตอ งการทม่ี ผี ลกระทบตอสังคม 26 3 15 2 20 ที่มผี ลกระทบตอสังคม รวบรวม เชน ปญ หาดานการเกษตร อาหาร พลงั งาน การ วเิ คราะหขอ มลู และแนวคิดท่ีเกย่ี วของ ขนสง สขุ ภาพและการแพทย การบรกิ าร ซึง่ แตละ กับปญ หาทีม่ ีความซบั ซอ นเพอ่ื ดา นอาจมีไดห ลากหลายปญ หา สังเคราะหว ธิ กี าร เทคนคิ ในการ 2. การวเิ คราะหสถานการณปญหาโดยอาจใช แกป ญ หา โดยคาํ นงึ ถึงความถกู ตอง เทคนคิ หรอื วิธกี ารวิเคราะหทีห่ ลากหลาย ชวยให ดานทรพั ยส นิ ทางปญญา เขาใจเงอ่ื นไขและกรอบของปญหาไดชดั เจน ว.4.1-3 ออกแบบวิธกี ารแกป ญ หา จากนัน้ ดําเนนิ การสืบคน รวบรวมขอ มลู ความรู โดยวิเคราะหเ ปรียบเทียบ และ จากศาสตรตาง ๆ ทีเ่ กยี่ วของ เพือ่ นําไปสกู าร ตัดสินใจเลอื กขอ มูลท่ีจําเปน ภายใต ออกแบบแนวทางการแกป ญ หา เง่ือนไขและทรัพยากรท่มี ีอยู นําเสนอ แนวทางการแกปญ หาใหผ ูอ น่ื เขาใจ ดว ยเทคนคิ หรือวธิ กี ารท่ีหลากหลาย
หนว ยท่ี ชื่อหนว ยการเรยี นรู ผลการเรยี นรู สาระสาํ คญั เวลา น้าํ หนักคะแนน คะแนนเต็ม (ชวั่ โมง) KPA 40 ว.4.1-3 ( ตอ ) 3. การวิเคราะห เปรยี บเทยี บ และตัดสินใจ 100 โดยใชซอฟตแ วรช วยในการ เลอื กขอ มูลท่จี ําเปน โดยคํานงึ ถึงทรัพยสิน ทางปญ ญา เชน งบประมาณ เวลา ขอมูล ออกแบบ วางแผนขนั้ ตอนการ และสารสนเทศ วัสดุ เคร่ืองมือและอปุ กรณ ทํางานและดาํ เนินการแกปญหา ชว ยใหไ ดแนวทางการแกป ญหาที่เหมาะสม ว.4.1-4 ทดสอบ ประเมินผล 4. การออกแบบแนวทางการแกป ญ หาทาํ ได วิเคราะหและใหเ หตผุ ลของปญ หา หลากหลายวิธี เชน การรา งภาพ การเขียน หรือขอบกพรองทเ่ี กดิ ขน้ึ ภายใต กรอบเง่อื นไข หาแนวทางการ แผนภาพ การเขยี นผังงาน ปรับปรุงแกไ ข และนําเสนอผลการ 5. ซอฟตแ วรช ว ยในการออกแบบและ แกป ญ หา พรอมทั้งเสนอแนว นําเสนอมีหลากหลายชนิดจึงตองเลอื กใชใ ห ทางการพฒั นาตอ ยอด เหมาะกบั งาน 6. การกาํ หนดขน้ั ตอนและระยะเวลาในการ ทํางานกอนดําเนินการแกปญหาจะชวยให การทํางานสาํ เร็จไดต ามเปาหมาย และลด ขอ ผดิ พลาดของการทํางานทอ่ี าจเกิดขึ้น สอบกลางภาค และ สอบปลายภาค รวม 60
การวิเคราะหมาตรฐานและตวั ชีว้ ัด รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี รหสั วิชา ว ................... ชือ่ หนว ยการเรยี นรูท ่ี 1 เรื่อง เทคโนโลยนี า รู ชัน้ มธั ยมศึกษาปท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 ปการศกึ ษา 2561 ตัวช้ีวัด / ผลการเรยี นรู รอู ะไร ทําอะไร ภาระงาน / ช้นิ งาน สมรรถนะสําคัญ คณุ ลกั ษณะ คณุ ลักษณะ รายวิชา อันพึงประสงค ว.4.1-1 วิเคราะหแ นวคดิ รอู ะไร ชน้ิ งานที่ 1 1. ความสามารถ หลักของเทคโนโลยี - ระบบทางเทคโนโลยี และระบบยอย ใบงาน เร่อื ง ระบบยอ ยของเทคโนโลยี ในการสอื่ สาร 1. ความสนใจ 1. ใฝเ รยี นรู ความสมั พันธก บั ศาสตรอ ่นื ของเทคโนโลยี และอธบิ ายความสมั พนั ธ ชิ้นงานท่ี 2 2. ความสามารถ 2. ความ 2. มุงม่ันในการ โดยเฉพาะวทิ ยาศาสตร ของระบบยอ ย ระบบทางเทคโนโลยที ี่ ใบงาน เร่อื ง สาเหตุหรือปจ จยั ของการ ในการคดิ กระตือรือรน ทาํ งาน หรือ คณิตศาสตร รวมทง้ั ซบั ซอน สาเหตุหรอื ปจ จัยท่ีทาํ ใหเกดิ การ เปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยีทางการแพทย ประเมนิ ผลกระทบท่ีจะ เกิดข้นึ ตอ มนษุ ย สังคม เปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี ผลกระทบ เศรษฐกจิ และส่ิงแวดลอ ม ของเทคโนโลยีทั้งดา นบวกและดานลบท่ี เพ่อื เปน แนวทางในการ พฒั นาเทคโนโลยี สงผลตอ มนุษย สงั คม เศรษฐกจิ และ สิง่ แวดลอม แนวทางในการปอ งกันและ แกไขปญ หาทเ่ี กิดจากผลกระทบของ เทคโนโลยี ทาํ อะไร วิเคราะห เขยี นแผนภาพการทํางานของ เทคโนโลยีในรปู แบบระบบทาง เทคโนโลยี อธบิ ายความสมั พนั ธแ ละการ เปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยใี นประจาํ วัน วเิ คราะหส าเหตุ และผลกระทบดานบวก และดา นลบของการใชเทคโนโลยี
การวิเคราะหมาตรฐานและตวั ช้วี ัด รายวชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว ................... ชื่อหนว ยการเรยี นรทู ี่ 2 เร่ือง ความรแู ละทกั ษะพน้ื ฐานเฉพาะดา น ช้นั มัธยมศกึ ษาปท่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 ปก ารศึกษา 2561 ตัวชว้ี ัด / ผลการเรยี นรู รูอะไร ทําอะไร ภาระงาน / ช้ินงาน สมรรถนะสําคญั คุณลกั ษณะ คุณลักษณะ รายวิชา อนั พึงประสงค ว.4.1-5 ใชความรแู ละ รอู ะไร ชิน้ งานท่ี 3 1. ความสามารถ ทักษะเก่ยี วกบั วัสดุ อุปกรณ 1. ความสนใจ 1. ใฝเรยี นรู เครอ่ื งมือ กลไกไฟฟา และ - สมบัตขิ องวัสดเุ พ่ือนําไปใชในการ ใบงาน เร่ือง คณุ สมบตั ขิ องวสั ดุในสิ่งของ ในการส่อื สาร 2. ความ 2. มงุ ม่ันในการ อิเล็กทรอนกิ ส และ กระตอื รือรน ทาํ งาน เทคโนโลยีทซ่ี ับซอนในการ สรางหรือพฒั นาชิน้ งาน หลักการเลือก เครื่องใช 2. ความสามารถ แกปญ หาหรอื พัฒนางานได อยา งถูกตอง เหมาะสมและ เครอ่ื งมอื พ้ืนฐาน กลไกการทํางานของ ชนิ้ งานท่ี 5 ในการคิด ปลอดภัย อุปกรณไ ฟฟา และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส ใบงาน เร่อื ง วเิ คราะหอุปกรณไ ฟฟา และ ออกแบบวิธีการแกปญ หาหรอื พัฒนา อเิ ล็กทรอนกิ สในส่ิงของเครอ่ื งใช งาน โดยประยกุ ตใ ชค วามรูเกี่ยวกับ ชน้ิ งานท่ี 6 กลไก อุปกรณไฟฟา และอุปกรณ ใบงาน เร่อื ง การออกแบบเทคโนโลยีทม่ี ี อเิ ลก็ ทรอนกิ สไดอ ยา งถกู ตอ ง และ องคป ระกอบของกลไกอุปกรณไ ฟฟา และ ปลอดภยั อิเลก็ ทรอนกิ ส หรอื ส่ิงของทม่ี กี ลไกในการ ทําอะไร ทาํ งาน วเิ คราะหค ุณสมบตั ขิ องวัสดุในสิ่งของ กิจกรรมที่ 1 เครื่องใช อปุ กรณไฟฟาและ แบงกลมุ นกั เรยี นออกเปน กลุม ละ 3-4 คน อิเลก็ ทรอนิกสใ นสงิ่ ของเคร่อื งใช นาํ เสนอผลงานการออกแบบผานโปรแกรม ออกแบบเทคโนโลยีทมี่ อี งคประกอบ สาํ เร็จรปู หรอื แผน พับ ของกลไกไฟฟา หรือ สง่ิ ของทม่ี กี ลไก ในการทาํ งาน
การวเิ คราะหมาตรฐานและตวั ชวี้ ัด รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว ................... ช่อื หนวยการเรยี นรทู ี่ 3 เร่ือง กระบวนการออกแบบ ชั้นมัธยมศึกษาปท ่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 ปก ารศกึ ษา 2561 ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู รอู ะไร ทาํ อะไร ภาระงาน / ชนิ้ งาน สมรรถนะสาํ คญั คุณลกั ษณะ คุณลักษณะ รายวิชา อันพึงประสงค ว.4.1-2 ระบปุ ญหาหรอื รอู ะไร ชิน้ งานท่ี 7 1. ความสามารถ 1. ความสนใจ 1. ใฝเรยี นรู ความตอ งการที่มผี ลกระทบ - การทาํ งานตามกระบวนการ ใบงาน การวเิ คราะหก ารออกแบบโครงราง ในการส่อื สาร 2. ความ 2. มุงม่ันในการ กระตือรอื รน ทาํ งาน ตอสังคม รวบรวม วิเคราะห ออกแบบเชงิ วิศวกรรม การใชเ ทคนิค เชิงวศิ วกรรม 2. ความสามารถ ขอมูลและแนวคดิ ท่ี หรอื วธิ กี ารเพอ่ื วเิ คราะหข อ มลู ในการ ในการคดิ เกีย่ วของกบั ปญหาทม่ี ีความ แกป ญหาตามกระบวนการออกแบบ กิจกรรมท่ี 2 ซับซอ นเพ่อื สงั เคราะห เชงิ วิศวกรรม ประยุกตใชก ระบวนการ ใหน ักเรยี นแบง กลมุ คนละ 3-4 คน วิธีการ เทคนคิ ในการ ออกแบบเชงิ วิศวกรรมในการ นําเสนอช้ินงานผา นโปรแกรมสาํ เรจ็ รูป แกป ญหา โดยคาํ นงึ ถงึ ความ แกปญ หาหรอื พัฒนางานใน หรอื แผน พบั ถกู ตองดา นทรัพยส ินทาง ชีวติ ประจาํ วนั ปญญา ทําอะไร ว.4.1-3 ออกแบบวิธกี าร วางแผน และออกแบบและรา งช้ินงาน แกป ญ หา โดยวเิ คราะห วเิ คราะหกระบวนการออกแบบเชิง เปรยี บเทยี บ และตัดสินใจ วศิ วกรรมและนําเสนอชน้ิ งาน เลือกขอมลู ที่จําเปน ภายใต เง่อื นไขและทรพั ยากรทีม่ อี ยู นําเสนอแนวทางการ แกป ญ หาใหผ ูอ่นื เขาใจดวย
ตัวชี้วัด / ผลการเรยี นรู รูอะไร ทําอะไร ภาระงาน / ชิน้ งาน สมรรถนะสําคญั คณุ ลกั ษณะ คุณลักษณะ รายวิชา อนั พงึ ประสงค เทคนิคหรอื วิธีการท่ี หลากหลาย ว.4.1-3 ( ตอ ) โดยใชซอฟตแ วรชวยใน การออกแบบ วางแผน ขนั้ ตอนการทํางานและ ดําเนินการแกป ญ หา ว.4.1-4 ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะหแ ละให เหตผุ ลของปญหาหรอื ขอบกพรอ งท่ีเกิดขึน้ ภายใต กรอบเงือ่ นไข หาแนวทาง การปรับปรงุ แกไข และ นําเสนอผลการแกปญ หา พรอ มทั้งเสนอแนวทางการ พฒั นาตอ ยอด
การวิเคราะหมาตรฐานและตัวชว้ี ัด รายวชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี รหสั วิชา ว ................... ช่ือหนวยการเรยี นรูท ี่ 5 เร่อื ง การจัดขอมลู โดยใชโ ปรแกรม SPSS for Windows ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 6 สายคอมพิวเตอร ภาคเรียนที่ 2 ปการศกึ ษา 2561 ตัวชวี้ ัด / ผลการเรยี นรู รูอะไร ทาํ อะไร ภาระงาน / ชนิ้ งาน สมรรถนะสําคัญ คุณลักษณะ คณุ ลักษณะ รายวชิ า อันพึงประสงค อธบิ าย การจดั การขอ มูล รูอ ะไร ช้นิ งานท่ี 5 1. ความสามารถ และมีทักษะในการใช - การจดั การขอ มลู โดยการใช ใบงาน เร่อื ง การจดั การขอมูลโดยการใช ในการสอ่ื สาร 1. ความสนใจ 1. ใฝเรยี นรู โปรแกรมสําเรจ็ รปู 2. ความสามารถ 2. ความ 2. มุงม่ันในการ โปรแกรม SPSS โปรแกรมสาํ เรจ็ รูป และ มีทักษะใน ในการคดิ กระตือรอื รน ทํางาน การใชโปรแกรม SPSS ทาํ อะไร กิจกรรมท่ี 3 อธบิ าย อธิปราย การจดั การขอมลู โดย นกั เรียนแตล ะคน ลงมอื กําหนดตัวแปร การใชโปรแกรมสําเร็จรูป นกั เรยี นลง แลว นําตัวแปรทีก่ าํ หนดปอนขอมูลลงใน มอื ปฏิบตั ิงาน ผา นโปรแกรม SPSS แฟมขอ มลู เสร็จแลวใหบ ันทึกขอ มลู
การวิเคราะหม าตรฐานและตัวชี้วัด รายวชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว ................... ช่อื หนวยการเรียนรูท ี่ 6 เรือ่ ง การประมวลผลและวิเคราะหข อมลู โดยใชโปรแกรม SPSS for Windows ช้นั มัธยมศึกษาปท่ี 6 สายคอมพวิ เตอร ภาคเรียนที่ 2 ปก ารศึกษา 2561 ตวั ชีว้ ัด / ผลการเรยี นรู รอู ะไร ทาํ อะไร ภาระงาน / ชนิ้ งาน สมรรถนะสําคัญ คณุ ลักษณะ คุณลักษณะ รายวชิ า อันพึงประสงค อธิบาย หลกั การประมวลผล รูอ ะไร ชนิ้ งานที่ 6 1. ความสามารถ ในการส่อื สาร 1. ความสนใจ 1. ใฝเ รยี นรู และการวเิ คราะหขอ มลู - การใชค ําสง่ั Report , Descriptive ใบงาน เรื่อง หลักการประมวลผลและ 2. ความสามารถ 2. ความ 2. มุงม่ันในการ ในการคดิ กระตือรอื รน ทาํ งาน มีทักษะในการใชโปรแกรม และ คําส่ัง Compare Means การ วเิ คราะหข อมูล SPSS เปลีย่ นแปลงรูปแบบของขอมูล การ ประมาณคา และการทดสอบ สมมตฐิ านทางสถติ ิ กิจกรรมที่ 4 นกั เรียนศกึ ษาวธิ ีการใชค ําสง่ั ตา ง ๆ ผาน ทําอะไร โปรแกรม SPSS for Windows อธบิ าย การใชคาํ สั่ง และ การ เปลี่ยนแปลงรูปแบบของขอมลู การ ประมาณคาและการทดสอบ สมมตฐิ านทางสถติ ิ นักเรยี นศึกษา วธิ ีการใชคําส่ังตางๆ
การวิเคราะหม าตรฐานและตัวชวี้ ัด รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว ................... ชอ่ื หนวยการเรยี นรูท่ี 7 เร่ือง การจดั ทํารายงานขอมลู ทางสถติ แิ ละแผนภมู โิ ดยใชโ ปรแกรม SPSS for Windows ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ่ี 6 สายคอมพิวเตอร ภาคเรียนที่ 2 ปการศกึ ษา 2561 ตวั ชวี้ ัด / ผลการเรยี นรู รูอะไร ทาํ อะไร ภาระงาน / ช้ินงาน สมรรถนะสําคัญ คณุ ลักษณะ คุณลักษณะ รายวชิ า อนั พึงประสงค อธิบาย หลักการนําเสนอ รอู ะไร ชน้ิ งานที่ 7 1. ความสามารถ ขอมูลสถิติ มที กั ษะในการ - หลกั การนําเสนอขอ มูลสถิติ การ ใบงาน หลักการนาํ เสนอขอมูลสถิติ ในการส่อื สาร 1. ความสนใจ 1. ใฝเรยี นรู จดั ทํารายงานขอ มูลทาง นําเสนอขอ มลู ในรปู ตาราง แผนภูมิ 2. ความสามารถ 2. ความ 2. มุงม่ันในการ สถิตแิ ละแผนภมู ิ โดยใช และ กราฟเสน กิจกรรมท่ี 5 ในการคดิ กระตอื รือรน ทาํ งาน ทาํ อะไร นกั เรยี นสรา งแฟม ขอ มลู นักเรยี น และเก็บ โปรแกรม SPSS for อธบิ าย ยกตวั อยา ง หลกั การนําเสนอ ขอ มูลนักเรียนจาํ นวน 20 คน โดยให Windows ขอมลู สถิติและ ลงมอื ปฏิบัตจิ ัดทาํ ขอ มูลแตละคนประกอบดวย ขอมูลเพศ รายงานขอ มูลทางสถติ แิ ละแผนภมู ิ อายุ ระดับการศึกษา และ รายจายในแต ผานโปรแกรม SPSS for Windows ละเดอื น และใหนักเรยี นทาํ รายงานขอมูล ทางสถิติและแผนภูมิ
การวดั และประเมินผลการเรียนรู รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว ................... ช่อื หนว ยการเรยี นรูท่ี 1 เรอ่ื ง เทคโนโลยีนารู ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปก ารศึกษา 2561 เปา หมายการเรียนรู ภาระงาน / ช้นิ งาน วิธวี ดั เครือ่ งมอื วดั ประเด็น/เกณฑการ คะแนน แบบตรวจแบบฝกหัด ใหคะแนน วิเคราะห เขยี นแผนภาพ ชน้ิ งานท่ี 1 - ตรวจแบบฝก หัด ใบงานละ 5 คะแนน - ความถกู ตองในการ - ความถกู ตอง รวม 10 คะแนน การทํางานของเทคโนโลยีใน ใบงาน เร่ือง ระบบยอยของเทคโนโลยี ทําแบบฝก หัด - ความครบถว น - การนําเสนอเนอ้ื หา รปู แบบระบบทางเทคโนโลยี ช้ินงานท่ี 2 สาระ อธิบายความสมั พนั ธแ ละ ใบงาน เร่อื ง สาเหตุหรือปจจัยของการ การเปล่ยี นแปลงของ เปล่ียนแปลงของเทคโนโลยที างการแพทย เทคโนโลยีในประจําวนั วิเคราะหส าเหตุ และ ผลกระทบดา นบวกและดาน ลบของการใชเทคโนโลยี
การวัดและประเมินผลการเรยี นรู รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว ................... ช่ือหนว ยการเรียนรทู ่ี 2 เรื่อง ความรแู ละทกั ษะพ้ืนฐานเฉพาะดา น ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 ปก ารศกึ ษา 2561 เปา หมายการเรียนรู ภาระงาน / ช้ินงาน วิธวี ัด เคร่อื งมือวัด ประเด็น/เกณฑการ คะแนน ใหคะแนน วิเคราะหคุณสมบตั ิของวัสดุ ชิ้นงานท่ี 3 - ตรวจแบบฝกหัด แบบตรวจแบบฝกหดั - ความถกู ตอ ง ใบงานละ 2 คะแนน ในส่ิงของ เครือ่ งใช อปุ กรณ ใบงาน เร่อื ง คุณสมบัติของวัสดุใน - ความถกู ตองในการทํา - ความครบถว น มีการนําเสนอทีน่ า ใจ ไฟฟา และอเิ ล็กทรอนกิ สใน ส่ิงของเคร่ืองใช แบบฝก หัด -การนําเสนอเนือ้ หา 4 คะแนน สง่ิ ของเคร่อื งใช ออกแบบ ชนิ้ งานที่ 5 - การนาํ เสนอผลงาน สาระ รวม 10 คะแนน เทคโนโลยที ่มี อี งคประกอบ ใบงาน เร่อื ง วเิ คราะหอุปกรณไ ฟฟา ของกลไกไฟฟา หรอื สงิ่ ของ และอิเลก็ ทรอนิกสใ นส่งิ ของเครื่องใช ที่มีกลไกในการทาํ งาน ชนิ้ งานที่ 6 ใบงาน เร่ือง การออกแบบเทคโนโลยีท่ี มีองคประกอบของกลไกอุปกรณไ ฟฟา และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส หรอื สิ่งของทีม่ ี กลไกในการทาํ งาน - สังเกตระหวา งทํา แบบสังเกตการณใน การทํากจิ กรรม กจิ กรรมท่ี 1 แบงกลุมนักเรยี นออกเปนกลุม ละ 3-4 กิจกรรม คน นาํ เสนอผลงานการออกแบบผา น โปรแกรมสําเรจ็ รปู หรือ แผน พับ
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู รายวชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี รหสั วิชา ว ................... ชอื่ หนวยการเรยี นรทู ่ี 3 เรื่อง กระบวนการออกแบบ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปก ารศกึ ษา 2561 เปาหมายการเรียนรู ภาระงาน / ชน้ิ งาน วธิ วี ัด เครอ่ื งมอื วดั ประเด็น/เกณฑการ คะแนน ใหค ะแนน ชนิ้ งานท่ี 7 วางแผน และออกแบบและ ชนิ้ งานท่ี 7 - ตรวจแบบฝกหัด แบบตรวจแบบฝกหัด - ความถูกตอง 5 คะแนน รา งช้ินงาน วิเคราะห ใบงาน การวเิ คราะหก ารออกแบบโครง - ความถกู ตองในการ - ความครบถว น กระบวนการออกแบบเชิง รา งเชงิ วิศวกรรม วิศวกรรมและนาํ เสนอ ทําแบบฝก หดั - การนาํ เสนอเนอื้ หา ช้ินงาน กจิ กรรมท่ี 2 สาระ ใหน ักเรยี นแบงกลุม คนละ 3-4 คน - สงั เกตระหวา งทาํ แบบสงั เกตในการทํา กจิ กรรมท่ี 1 นาํ เสนอช้ินงานผานโปรแกรมสําเรจ็ รปู 5 คะแนน หรอื แผน พบั กิจกรรม กิจกรรม รวม 10 คะแนน
แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรอื่ ง แนวคิดเชิงคานวณ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอื่ ง แนวคดิ เชงิ คานวณ รายวิชา วิทยาการคานวณ ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2561 กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ (เทคโนโลยี) นา้ หนกั เวลาเรียน 1.0 หน่วยกิต เวลาเรยี น 2 ชวั่ โมง / สปั ดาห์ .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั (ความเขา้ ใจทีค่ งทน) 1. อธบิ ายหลักการของแนวคดิ เชงิ คานวณ 2. ปฏบิ ัติตามขนั้ ตอนวธิ ี เปรยี บเทยี บ และวเิ คราะห์ขั้นตอนวิธีเพอ่ื แกป้ ัญหาจากโจทยท์ ่ีกาหนด 3. ตระหนกั ถึงความสาคญั และประโยชน์ของข้ันตอนวธิ ที เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การแก้ปญั หาในชวี ิตประจาวนั 2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ัดชนั้ ปี ประยุกตใ์ ช้แนวคดิ เชิงคานวณในการพฒั นาโครงงานท่มี ีการบรู ณาการกบั วชิ าอ่ืนอยา่ งสร้างสรรคแ์ ละเชือ่ มโยง กบั ชีวิตจรงิ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge แนวคดิ เชิงคานวณ ได้แก่ การคิดแบบแยกสว่ นประกอบและการย่อยปัญหา การหารปู แบบของปัญหา การคิดเชิงนามธรรม และการออกแบบขั้นตอนวธิ ีในการแกป้ ัญหา 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process - ทกั ษะการคิดเชงิ คานวณ - ทกั ษะการแกป้ ญั หา 3.3 คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ : Attitude 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มุ่งม่ันในการทางาน 4. สมรรถนะสาคัญของนกั เรยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 5. ความรู้เดิมทน่ี กั เรียนตอ้ งมี - คอู่ ันดับและกราฟ
6. สาระสาคัญ แนวคิดเชิงคานวณ ( Computational Thinking ) เป็นพื้นฐานของการคิดแก้ปัญหาท่ีสามารถนาไปประยกุ ต์ใน การแก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน แนวคิดเชิงคานวณ เป็นการคิดแบบแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา ( Decomposition ) การหารูปแบบของปัญหา ( Pattern Recognition ) การคิดเชิงนามธรรม ( Abstraction ) ซึ่ง ขั้นตอนวิธี คอื ลาดบั ข้นั ตอนในการแกป้ ัญหาหรอื การทางานทช่ี ัดเจน ชว่ ยให้คดิ อยา่ งเปน็ ระบบและเป็นขน้ั ตอน 7. ช้ินงาน/ภาระงาน : - ใบกิจกรรมที่ 1.1 บ้านเธอ บ้านฉนั - ใบกจิ กรรมท่ี 1.2 หา ห.ร.ม. งา่ ยกวา่ ที่คิด 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ - การจัดเตรียม 1. ใบกิจกรรมที่ 1.1 และ 1.2 ตามจานวนผเู้ รียน 2. คลิปวดี ีทศั น์ เรือ่ งการคดิ เชิงคานวณ จาก http://www.youtube.com/watch?v=mUXo-S7gzds - ขั้นตอนดาเนนิ การ ( 45 นาที ) 1. ผูส้ อนนาเข้าสบู่ ทเรยี น เรอื่ งแนวคดิ การคานวณ โดยเลา่ สถานการณแ์ ละตงั้ คาถามถามผู้เรียน 2. ผสู้ อนใช้วิธสี ุ่มผเู้ รียนหรือหาอาสาสมัคร จานวน 3 คน บอกหรือเขยี นวิธีการการแก้ปัญหาจากสถานการณ์ท่ี ผสู้ อนสมมุติข้นึ มา โดยอธบิ ายเปน็ ข้ันตอน ( อาจให้ผ้เู รียนท้งั สามคน เขียนวธิ กี ารบนกระดานแล้วให้เพื่อนโหวตวิธกี ารท่ี ชอบทสี่ ดุ ) 3. ผู้สอนอธิบายและสรุปเพื่อเช่ือมโยงไปถึงเรื่องแนวคิดเชิงคานวณ ซ่ึงในสถานการณ์ข้างต้นเป็นตัวอย่างของ การแกป้ ัญหาที่มีขั้นตอนวธิ ี และมีการคิดแก้ปัญหาแบบอ่ืนๆ ที่เป็นแนวคิดเชิงคานวณด้วย ( อาจอธิบายโดยยกตวั อย่าง เพิ่มเติมใหผ้ ูเ้ รียนเขา้ ใจหลักการคดิ ทั้ง 4 แบบ หรือเปิดคลิปวีดีทัศน์ เพอ่ื อธบิ ายเพิ่มเตมิ ) - ข้ันประยกุ ต์ใช้ ( 45 นาที ) 1. ผู้สอนให้ผู้เรียนจับคู่กับเพ่ือนศึกษาตัวอย่างท่ี 1.1 วิธีแนะนาหนังสือ ในหนังสือเรียน เพ่ือให้นักเรียนเข้าใจ หลกั การของขั้นตอนวิธีมากขน้ึ 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนจบั คูก่ ันทา ใบกิจกรรมท่ี 1.1 เรอื่ ง บ้านเธอ บา้ นฉนั 3. ผูส้ อนอธิบายตัวอยา่ งที่ 1.2 ไปให้ครบทกุ ท่ี ในหนังสอื เรียน และร่วมกนั อภปิ รายกบั ผูเ้ รียนเพอื่ ให้เห็นตวั อย่าง เพม่ิ เติม 4. ผู้สอนให้ผู้เรียนจับคู่กันทา ใบกิจกรรมท่ี 1.2 การหา ห.ร.ม. ง่ายกว่าท่ีคิด เมือ่ ทาเสร็จแล้วให้แลกกนั ตรวจกับ เพอ่ื นคูอ่ ืน่
- ขน้ั สรุปและประเมนิ ผล ( 10 นาที ) ผูส้ อนและผเู้ รียนร่วมกันอภปิ ราย และสรุปประโยชนข์ องข้ันตอนวธิ ีการกับการแก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน 9. สอื่ การเรยี นการสอน / แหลง่ เรียนรู้ จานวน สภาพการใช้ส่ือ ข้ันการจดั เตรยี ม / รายการสอื่ 1 ชุด ข้นั การดาเนินการ 1. คลปิ วีดีทศั น์ จาก ตาม ขั้นประยกุ ตใ์ ช้ http://www.youtube.com/watch?v=mUXo-S7gzds จานวน 2. ใบกจิ กรรม นร. - ใบกจิ กรรมที่ 1.1 บา้ นเธอ บา้ นฉนั - ใบกจิ กรรมท่ี 1.2 หา ห.ร.ม. งา่ ยกว่าท่ีคิด 10. การวัดและการประเมินผล สิง่ ท่ตี อ้ งวัด วิธีการวดั ผลประเมนิ ผล เครื่องมอื วัดผลประเมนิ ผล เกณฑ์การผ่าน ได้คะแนนไมน่ ้อยกวา่ 2 ด้านความรู้ (K) การบอกหรือเขียนวิธีการการ การมีอาสาสมัครออกแบบ คะแนน ผา่ นเกณฑ์ ตาม แกป้ ญั หาจากสถานการณ์ท่ี เขียนวิธีการจากสถานการณ์ การประเมินเชงิ ปรมิ าณ - เพอื่ ใหม้ ีความรู้เกี่ยวกบั ผสู้ อนสมมุติข้นึ มา โดย ที่สมมตุ ิข้นึ และนกั เรยี น หลักการของแนวคดิ เชิง อธบิ ายเป็นขัน้ ตอน รว่ มกันโหวตวิธที ่ีชน่ื ชอบ ไดค้ ะแนน 7 คะแนนข้ึนไป คานวณ ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ แบบบันทึกการประเมนิ พอใช้ ตามการประเมนิ เชิง ด้านทักษะ(P) สงั เกตพฤตกิ รรมจากการ สงั เกตการนาเสนอผลงานใบ คุณภาพ ทางานกลุม่ การทาใบ กิจกรรม บา้ นเธอ บ้านฉัน - อธิบายหลกั การของ กจิ กรรมท่ี 1.1 และ 1.2 และ การหา ห.ร.ม. ง่ายกวา่ ได้คะแนน 4 คะแนนขนึ้ ไป แนวคิดเชงิ คานวณ ท่ีคิด ผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ตามการประเมินเชงิ ด้านจติ พสิ ยั (A) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี น แบบสงั เกตพฤติกรรมความ คณุ ภาพ ม่งุ มัน่ ในการทางาน (3 -มคี วามม่งุ มนั่ ในการทางาน รายบุคคลในด้านมีความ ระดบั คุณภาพ) คะแนนเต็ม 9 คะแนน มงุ่ มัน่ ในการทางาน
11. จุดเน้นของโรงเรยี น การบรู ณาการปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งและกจิ กรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น (ตวั อยา่ ง) ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ครู ผเู้ รียน 1. ความพอประมาณ พอดีด้านเทคโนโลยี พอดดี า้ นจติ ใจ 2. ความมเี หตผุ ล รจู้ ักใชเ้ ทคโนโลยีมาผลติ ส่ือท่ีเหมาะสม มีจิตสานกึ ที่ดี เอื้ออาทร ประนปี ระนอม นึกถงึ ประโยชนส์ ่วนรวม/กลมุ่ 3. มภี ูมิคุมกันในตวั ท่ดี ี และสอดคลอ้ งเน้อื หาเปน็ ประโยชน์ตอ่ 4. เงอ่ื นไขความรู้ ผู้เรียนและพัฒนาจากภมู ปิ ญั ญาของผู้เรียน ไมห่ ยดุ นิ่งทห่ี าหนทางในชวี ิต หลุดพน้ จาก 5. เงอื่ นไขคณุ ธรรม ความทุกขย์ าก (การค้นหาคาตอบเพื่อให้ - ยึดถือการประกอบอาชีพดว้ ยความถกู ตอ้ ง หลุดพน้ จากความไม่ร)ู้ สจุ ริต แมจ้ ะตกอยใู่ นภาวะขาดแคลน ใน การดารงชวี ิต ภูมปิ ัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ - ปฏิบตั ติ นในแนวทางที่ดี ลด เลิก สง่ิ ย่ัว ระมัดระวัง สรา้ งสรรค์ กิเลสให้หมดสน้ิ ไป ไม่ก่อความชวั่ ให้ เป็น เคร่ืองทาลายตวั เอง ทาลายผ้อู น่ื พยายาม ภมู ธิ รรม : ซื่อสตั ย์ สุจรติ ขยันอดทน เพิม่ พูนรักษาความดี ที่มีอย่ใู หง้ อกงาม ตรงตอ่ เวลา เสียสละและ สมบูรณย์ ิง่ ข้ึน แบ่งปัน ภมู ปิ ัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ความรอบรู้ เร่อื ง แนวคิดเชิงคานวณ ระมัดระวงั กรณีทีเ่ กิดปัญหา สามารถนาความรู้เหลา่ นนั้ ภูมธิ รรม : ซอ่ื สัตย์ สุจริต ขยันอดทน มาพจิ ารณาใหเ้ ชื่อมโยงกัน สามารถประยกุ ต์ ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน ตรงตอ่ เวลาและแบง่ ปัน ความรอบรู้ เร่ือง แนวคิดเชงิ คานวณ ทเ่ี กย่ี วข้องรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนา ความรู้เหล่าน้นั มาพจิ ารณาใหเ้ ช่ือมโยงกัน เพ่อื ประกอบการวางแผน การดาเนินการจัด กิจกรรมการเรยี นรใู้ หก้ บั ผเู้ รียน มีความตระหนกั ใน คณุ ธรรม มีความ มีความตระหนกั ใน คณุ ธรรม มีความ ซื่อสตั ยส์ จุ รติ และมคี วามอดทน มคี วามเพียร ซอ่ื สัตย์สุจรติ และมีความอดทน มคี วามเพียร ใชส้ ติปญั ญาในการดาเนินชีวติ ใช้สติปญั ญาในการดาเนินชีวติ กจิ กรรม ครู ผเู้ รยี น สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน แนวคิดเชิงคานวณ แนวคดิ เชงิ คานวณ แนวคิดเชิงคานวณ - การแกป้ ญั หาทมี่ ขี น้ั ตอนวธิ ี - สามารถนาหลกั การที่ได้รับไปประยุกตใ์ ช้ - การแก้ปัญหาที่มขี ้ันตอนวิธี แกป้ ัญหาในชีวิตประวันได้ ลงชอื่ ..................................................ผสู้ อน ( นางสาวฐิตารัตน์ คัมภรี ะ )
สถานการณ์ตวั อยา่ ง
แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่อื ง แนวคดิ เชิงคานวณ แผนการเรยี นรูท้ ่ี 2 เร่ือง การแยกส่วนประกอบและการย่อยปญั หา รายวชิ า วิทยาการคานวณ ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2561 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ (เทคโนโลย)ี นา้ หนกั เวลาเรียน 1.0 หนว่ ยกิต เวลาเรียน 2 ชวั่ โมง / สปั ดาห์ .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจท่คี งทน) 1. วิเคราะหอ์ งค์ประกอบของส่งิ ของต่างๆ ในการพฒั นาผลงานใหม่ 2. ใชท้ กั ษะการคดิ แบบแยกส่วนประกอบและการย่อยปญั หา แกป้ ัญหาชีวติ ในประจาวนั 2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั ช้ันปี ประยกุ ต์ใชแ้ นวคิดเชงิ คานวณในการพฒั นาโครงงานที่มกี ารบรู ณาการกับวิชาอน่ื อยา่ งสรา้ งสรรค์และเชื่อมโยง กบั ชีวิตจรงิ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เน้ือหาสาระหลัก : Knowledge แนวคดิ เชิงคานวณ ได้แก่ การคดิ แบบแยกสว่ นประกอบและการยอ่ ยปัญหา การหารูปแบบของปัญหา การคดิ เชงิ นามธรรม และการออกแบบขั้นตอนวิธีในการแกป้ ัญหา 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process - ทกั ษะการคดิ เชิงคานวณ - ทกั ษะการแกป้ ญั หา - ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ และสังเคราะห์ - ทักษะการคิดสร้างสรรค์ 3.3 คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ : Attitude 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. ม่งุ มั่นในการทางาน 4. สมรรถนะสาคัญของนักเรยี น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
5. ความรู้เดิมท่นี กั เรยี นตอ้ งมี - 6. สาระสาคัญ การแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา ( Decomposition ) เป็นข้ันตอนของกระบวนการแก้ปัญหาด้วย แนวคิดเชิงคานวณ ( Computational Thinking ) ซ่ึงแบ่งปัญหาหรืองานออกเป็นส่วนย่อย ทาให้สามารถจัดการกับ ปัญหาหรอื งานไดง้ า่ ยข้ึน 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : - ใบกจิ กรรมที่ 2.1 แยกส่วนและสร้างใหม่ - ใบกจิ กรรมที่ 2.2 ชีวติ ประจาวันกับการแยกส่วน 8. กิจกรรมการเรียนรู้ - การจัดเตรียม 1. ใบกิจกรรมที่ 2.1 แยกส่วนและสรา้ งใหม่ ตามจานวนผูเ้ รียน 2. ใบกิจกรรมท่ี 2.2 ชีวติ ประจาวนั กบั การแยกส่วน ตามจานวนผเู้ รียน - ข้นั ตอนดาเนินการ ( 45 นาที ) 1. ผู้สอนนาเข้าสู่บทเรียน โดยเล่าสถานการณ์ใดสถานการณ์หน่ึงจากสองสถานการณ์ และให้ผู้เรียนวิเคราะห์ และหาคาตอบจากสถานการณท์ เี่ ลือก 2. ผ้สู อนเชื่อมโยงสถานการณข์ ้างต้นกบั วิธคี ดิ แบบแยกส่วนประกอบและยอ่ ยปัญหา - ขัน้ ประยุกตใ์ ช้ ( 45 นาที ) 1. ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนศกึ ษาหวั ขอ้ ที่ 1.2 การแยกส่วนประกอบและการยอ่ ยปัญหา (Decomposition) ใน หนังสอื เรยี น 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนทา ใบกจิ กรรมที่ 2.1 เรอื่ ง แยกส่วนและสร้างใหม่ 3. ผู้สอนสมุ่ หรือ หาอาสาสมคั รนาเสนอคาตอบจากใบกจิ กรรมที่ 2.1 4. ผู้สอนแบง่ ผ้เู รียนออกเปน็ กลมุ่ กลุ่มละ 4 คน ทาใบกจิ กรรมที่ 2.2 ชีวิตประจาวันกับการแยกส่วนประกอบ โดย ผสู้ อนชีแ้ จงเกณฑ์การประเมินก่อนให้ผู้เรียนลงมือทากิจกรรม 5. ผู้สอนสุ่มกลุ่มนาเสนอคาตอบให้ครบทุกกิจกรรม และร่วมอภิปรายกับผู้เรียนในประเด็นเร่ืองของเวลา โดย เชื่อมโยงให้เห็นประโยชน์ของการแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา สอบถามว่าต้องใช้วิธีอย่างไร จึงจะทางานได้ สาเรจ็ หากมงี านมากและมีเวลาจากัด - ขั้นสรปุ และประเมนิ ผล ( 10 นาที ) ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปแนวคิดการแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา ในด้านประโยชน์ของการใช้ แกป้ ญั หาในชีวติ ประจาวัน
9. สอ่ื การเรยี นการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ จานวน สภาพการใชส้ ่อื ขั้นประยกุ ต์ใช้ รายการสื่อ ตามจานวน ขน้ั ประยุกต์ใช้ นร. 1. ใบกิจกรรม - - ใบกจิ กรรมท่ี 2.1 แยกส่วนและสรา้ งใหม่ - ใบกจิ กรรมท่ี 2.2 ชีวิตประจาวันกับการแยกส่วนประกอบ 2. หนงั สือเรยี น วิชา วทิ ยาการคานวณ ช้ัน ม.4 10. การวัดและการประเมนิ ผล สิง่ ทต่ี อ้ งวดั วิธีการวัดผลประเมินผล เคร่อื งมอื วัดผลประเมนิ ผล เกณฑ์การผ่าน การนาเสนอ ใบกิจกรรมที่ ไดค้ ะแนนไมน่ อ้ ยกวา่ 2 ดา้ นความรู้ (K) การบอกหรือเขยี นวิธีการการ 2.1 การแยกส่วนและ คะแนน ผา่ นเกณฑ์ ตาม สรา้ งใหม่ การประเมินเชิงปริมาณ - เพื่อใหม้ ีความร้เู กีย่ วกับวธิ ี แก้ปัญหาจากสถานการณ์ที่ แบบบันทึกการประเมนิ ได้คะแนน 7 คะแนนขึ้นไป คิดการแยกสว่ นและการ ผ้สู อนสมมตุ ิขนึ้ มา โดย สังเกตการนาเสนอผลงานใบ ผา่ นเกณฑ์ ระดับคุณภาพ กจิ กรรม ชีวติ ประจาวนั กับ พอใช้ ตามการประเมนิ เชิง แยกยอ่ ยปัญหา อธบิ ายเป็นขน้ั ตอน การแยกส่วน คณุ ภาพ ดา้ นทกั ษะ(P) สงั เกตพฤตกิ รรมจากการ แบบสังเกตพฤตกิ รรมความ ได้คะแนน 4 คะแนนข้นึ ไป ทางานกลุ่ม การทาใบ มุง่ ม่นั ในการทางาน (3 ผา่ นเกณฑ์ ระดับคุณภาพ - อธบิ ายหลักวิธคี ิดการ กิจกรรมท่ี 2.2 ระดับคุณภาพ) คะแนนเตม็ พอใช้ ตามการประเมินเชงิ แยกสว่ นและการแยกย่อย 9 คะแนน คณุ ภาพ ปัญหา ดา้ นจติ พสิ ยั (A) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี น -มคี วามมงุ่ มน่ั ในการทางาน รายบคุ คลในดา้ นมีความ มุ่งม่ันในการทางาน
11. จดุ เนน้ ของโรงเรียน การบรู ณาการปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ครู ผ้เู รียน 1. ความพอประมาณ พอดีด้านเทคโนโลยี พอดีด้านจติ ใจ 2. ความมเี หตุผล ร้จู กั ใชเ้ ทคโนโลยมี าผลติ ส่อื ที่เหมาะสมและ มีจติ สานึกทด่ี ี เอ้อื อาทร ประนีประนอม 3. มภี ูมคิ ุมกนั ในตัวทีด่ ี สอดคล้องเนอื้ หาเปน็ ประโยชน์ตอ่ ผเู้ รียนและ นึกถงึ ประโยชน์สว่ นรวม/กลมุ่ 4. เงื่อนไขความรู้ พัฒนาจากภูมปิ ัญญาของผเู้ รียน 5. เงือ่ นไขคณุ ธรรม ไม่หยุดน่ิงที่หาหนทางในชีวิต หลดุ พน้ จาก - ยดึ ถอื การประกอบอาชีพดว้ ยความถกู ต้อง สุจรติ ความทุกขย์ าก (การคน้ หาคาตอบเพ่ือให้ แมจ้ ะตกอยูใ่ นภาวะขาดแคลน ในการดารงชีวิต หลุดพ้นจากความไมร่ ู้) - ปฏิบัตติ นในแนวทางท่ีดี ลด เลกิ สิ่งย่ัวกเิ ลสให้ หมดสน้ิ ไป ไม่ก่อความชั่วให้ เป็นเครอื่ งทาลาย ภูมิปัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ตัวเอง ทาลายผอู้ นื่ พยายามเพ่มิ พูนรักษาความดี ระมัดระวงั สร้างสรรค์ ท่มี อี ยใู่ หง้ อกงาม สมบูรณย์ ิ่งข้ึน ภูมธิ รรม : ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต ขยันอดทน ภูมิปญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ตรงต่อเวลา เสียสละและ แบ่งปัน ระมัดระวงั ภมู ธิ รรม : ซื่อสัตย์ สุจรติ ขยนั อดทน ความรอบรู้ เร่อื ง การแยกสว่ นประกอบ และการย่อยปัญหา กรณที ่เี กิดปญั หา ตรงต่อเวลาและแบง่ ปัน สามารถนาความรเู้ หลา่ นั้นมาพิจารณาให้ เชอ่ื มโยงกัน สามารถประยกุ ต์ ความรอบรู้ เร่ือง การแยกสว่ นประกอบและการ ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน ย่อยปัญหา มีความตระหนกั ใน คณุ ธรรม มคี วาม ที่เกยี่ วข้องรอบดา้ น ความรอบคอบทจี่ ะนาความรู้ ซือ่ สตั ยส์ ุจริตและมีความอดทน มีความเพียร เหล่าน้นั มาพจิ ารณาให้เชื่อมโยงกนั เพือ่ ใช้สติปัญญาในการดาเนินชีวิต ประกอบการวางแผน การดาเนนิ การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ใหก้ บั ผเู้ รียน มีความตระหนกั ใน คณุ ธรรม มคี วามซ่อื สตั ย์ สจุ รติ และมคี วามอดทน มคี วามเพียร ใชส้ ตปิ ัญญา ในการดาเนินชีวิต กจิ กรรม ครู ผูเ้ รียน สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น การแยกสว่ นประกอบและการยอ่ ยปญั หา การแยกส่วนประกอบและการยอ่ ยปญั หา การแยกส่วนประกอบและการยอ่ ย - - การแก้ปัญหาโดยใช้การวิเคราะห์ - สามารถนาหลักการท่ไี ด้รับไปประยกุ ตใ์ ช้ ปัญหา แก้ปญั หาในชวี ติ ประวันได้ และมขี ัน้ ตอนในการแกป้ ญั หา - การแกป้ ญั หาโดยใช้การวิเคราะห์ และมีข้นั ตอนในการแก้ปญั หา ลงชือ่ ..................................................ผู้สอน ( นางสาวฐติ ารตั น์ คัมภีระ )
สถานการณ์ตวั อยา่ ง
หน่วยการเรียนรู้ ที่ 1 เรือ่ ง แนวคดิ เชิงคานวณ แผนการเรยี นรู้ที่ 3 เรอื่ ง การหารปู แบบและการคดิ เชิงนามธรรม รายวิชา วิทยาการคานวณ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2561 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ (เทคโนโลย)ี นา้ หนกั เวลาเรยี น 1.0 หนว่ ยกิต เวลาเรยี น 2 ชว่ั โมง / สัปดาห์ .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ (ความเขา้ ใจท่คี งทน) 1. อธบิ ายรปู แบบ และระบอุ งค์ประกอบสาคญั ที่สัมพันธ์กนั ของสงิ่ ของหรือปญั หา 2. แยกคุณลักษณะท่สี าคัญออกจากรายละเอียดในโจทยป์ ญั หาหรอื งานที่กาลังพิจารณา 3. อธบิ ายสถานการณ์หรือปัญหาดว้ ยแบบจาลอง 2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั ช้นั ปี ประยุกตใ์ ช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการพัฒนาโครงงานที่มีการบรู ณาการกับวิชาอ่ืนอยา่ งสรา้ งสรรคแ์ ละเชอ่ื มโยง กบั ชีวิตจริง 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เน้อื หาสาระหลัก : Knowledge แนวคดิ เชิงคานวณ ได้แก่ การคิดแบบแยกสว่ นประกอบและการย่อยปัญหา การหารูปแบบของปัญหา การคดิ เชิงนามธรรม และการออกแบบข้ันตอนวิธีในการแก้ปัญหา 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process - ทกั ษะการคดิ เชงิ คานวณ - ทกั ษะการแก้ปัญหา - ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ และสังเคราะห์ คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ : Attitude 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
5. ความรูเ้ ดิมที่นักเรยี นต้องมี - 6. สาระสาคัญ การพิจารณารูปแบบของปัญหาหรือวิธีการแก้ปัญหา ( Pattern recognition ) เป็นการพิจารณารูปแบบ แนวโน้ม และลักษณะทั่วไปของข้อมูล โดยพิจารณาวา่ เคยพบปัญหาลักษณะนี้มาก่อนหรือไม่ หากมรี ูปแบบของปญั หาท่ี คล้ายกันสามารถนาวิธีการแก้ปัญหาน้ันมาประยุกต์ใช้ และพิจารณารูปแบบปัญหาย่อยซึ่งอยู่ภายในปัญหาเดียวกันว่ามี ส่วนใดที่เหมือนกัน เพื่อใช้วิธีการแก้ปัญหาเดียวกันได้ ทาให้จัดการกับปัญหาได้ง่ายขึ้น และการทางานมีประสิทธิภาพ เพ่ิมขึ้น การคิดเชิงนามธรรม ( abstraction ) คือ กระบวนการคดั แยกคุณลักษณะท่ีสาคัญออกจากรายละเอียดในโจทย์ ปัญหาหรืองานท่ีกาลังพิจารณา เพื่อให้ได้องค์ประกอบที่จาเป็น เพียงพอ และกระชับท่ีสุดในการพิจารณาภายใต้ สถานการณ์ท่ีสนใจ โดยจะได้ผลลพั ธเ์ ป็นแบบจาลอง ( Model ) ซง่ึ สามารถแสดงเปน็ แผนภาพทม่ี กี ารตัดรายละเอยี ดท่ีไม่ จาเป็นในการพิจารณาออกทั้งหมด 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : - ใบกิจกรรมที่ 3.1 เหมือนหรือต่าง - ใบกจิ กรรมท่ี 3.2 สรา้ งแบบจาลอง 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ - การจัดเตรยี ม 1. ใบกจิ กรรมที่ 3.1 เหมือนหรอื ต่าง 2. ใบกิจกรรมท่ี 3.2 สรา้ งแบบจาลอง - ขั้นตอนดาเนนิ การ ( 45 นาที ) 1. ผ้สู อนนาเข้าสู่บทเรียน โดยอธบิ ายกติกาวิธเี ล่นเกมการ์ดดอกไม้ ท่ีทาให้ผู้เรียนสามารถบอกชนิดของพืชดอก แล้วให้ผู้เรยี นเล่นเกมเปน็ กล่มุ 2. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันอภิปรายถึงการเชื่อมโยงรูปแบบท่ีเหมือนๆ กัน ของดอกไม้และทาให้สามารถบอก ชนิดของพชื ดอกได้ - ขนั้ ประยุกตใ์ ช้ ( 45 นาที ) 1. ผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนศกึ ษาหัวข้อท่ี 1.3 การหารปู แบบ ( Pattern recognition ) ในหนังสือเรียนจนถงึ ก่อนกจิ กรรม ท่ี 1.5 2. ผู้สอนให้ผูเ้ รียนทา ใบกจิ กรรมท่ี 3.1 เร่ือง เหมอื นหรือตา่ ง 3. ผู้สอนสมุ่ หรอื หาอาสาสมัครนาเสนอคาตอบจากใบกิจกรรมท่ี 3.1 4. ผ้สู อนใหผ้ ู้เรียนศึกษาเน้ือหาหัวข้อที่ 1.3 ในหนังสือเรียนส่วนท่ีเหลอื แล้วสุ่มผู้เรียนยกตัวอย่างปัญหาอืน่ ที่เกิด ซ้าๆ ในชีวิตประจาวนั และร่วมกนั สรุปแนวคิดเร่อื ง การหารปู แบบ
5. ผู้สอนสุ่มกลุ่มนาเสนอคาตอบให้ครบทุกกิจกรรม และร่วมอภิปรายกับผู้เรียนในประเด็นเร่ืองของเวลา โดย เชื่อมโยงให้เห็นประโยชน์ของการแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา สอบถามว่าต้องใช้วิธีอย่างไร จึงจะทางานได้ สาเร็จ หากมีงานมากและมเี วลาจากัด - ขน้ั สรปุ และประเมนิ ผล ( 10 นาที ) ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปแนวคิด การคิดเชิงนามธรรม ในด้านประโยชน์ของการใช้แก้ปัญหาใน ชีวติ ประจาวัน 9. สื่อการเรียนการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ จานวน สภาพการใช้ส่ือ ข้ันประยุกต์ใช้ รายการส่ือ ตามจานวน ข้นั ประยุกต์ใช้ นร. 1. ใบกจิ กรรม - - ใบกจิ กรรมท่ี 3.1 เหมอื นหรอื ต่าง - ใบกิจกรรมที่ 3.2 สร้างแบบจาลอง 2. หนังสือเรียน วชิ า วิทยาการคานวณ ชั้น ม.4 10. การวัดและการประเมนิ ผล สง่ิ ท่ีตอ้ งวัด วิธีการวัดผลประเมินผล เคร่อื งมอื วดั ผลประเมนิ ผล เกณฑ์การผา่ น การนาเสนอ ใบกิจกรรมที่ ไดค้ ะแนนไมน่ อ้ ยกวา่ 2 ดา้ นความรู้ (K) การบอกหรอื เขยี นวิธีการการ 3.1 เหมอื นหรือตา่ ง คะแนน ผ่านเกณฑ์ ตาม การประเมนิ เชิงปรมิ าณ - เพอ่ื ใหม้ คี วามรเู้ กย่ี วกับวธิ ี แก้ปัญหาจากสถานการณท์ ี่ แบบบันทกึ การประเมิน สังเกตการนาเสนอผลงานใบ ไดค้ ะแนน 7 คะแนนขน้ึ ไป คิดเชิงนามธรรม ผูส้ อนสมมตุ ิขึ้นมา โดย กิจกรรม ชีวติ ประจาวนั กับ ผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ อธบิ ายเปน็ ขั้นตอน การแยกส่วน พอใช้ ตามการประเมนิ เชงิ แบบสังเกตพฤติกรรมความ คณุ ภาพ ด้านทักษะ(P) สังเกตพฤตกิ รรมจากการ มงุ่ มัน่ ในการทางาน (3 ไดค้ ะแนน 4 คะแนนขนึ้ ไป ระดับคณุ ภาพ) คะแนนเตม็ ผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ - อธิบายหลกั วธิ คี ิดเชงิ ทางานกล่มุ การทาใบ 9 คะแนน พอใช้ ตามการประเมินเชิง นามธรรม กิจกรรมท่ี 3.2 คุณภาพ ดา้ นจติ พสิ ยั (A) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี น -มีความมุ่งม่นั ในการทางาน รายบุคคลในด้านมคี วาม มงุ่ มัน่ ในการทางาน
11. จุดเนน้ ของโรงเรียน การบรู ณาการปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งและกจิ กรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ครู ผู้เรยี น 1. ความพอประมาณ พอดดี า้ นเทคโนโลยี พอดีดา้ นจติ ใจ 2. ความมีเหตผุ ล รจู้ กั ใชเ้ ทคโนโลยีมาผลติ สือ่ ที่เหมาะสม มจี ิตสานึกทด่ี ี เอื้ออาทร ประนปี ระนอม 3. มภี ูมคิ ุมกันในตัวท่ีดี และสอดคลอ้ งเน้ือหาเป็นประโยชน์ต่อ นกึ ถึงประโยชน์ส่วนรวม/กลุ่ม 4. เงื่อนไขความรู้ ผู้เรียนและพัฒนาจากภูมปิ ญั ญาของผ้เู รยี น 5. เงอื่ นไขคณุ ธรรม - ยดึ ถือการประกอบอาชพี ด้วยความถูกต้อง ไม่หยดุ น่ิงที่หาหนทางในชีวิต หลุดพน้ จาก สจุ ริต แมจ้ ะตกอยู่ในภาวะขาดแคลน ใน ความทกุ ข์ยาก (การค้นหาคาตอบเพื่อให้ การดารงชีวิต หลดุ พ้นจากความไมร่ ู้) - ปฏบิ ตั ติ นในแนวทางที่ดี ลด เลิก สง่ิ ย่ัว กเิ ลสใหห้ มดสน้ิ ไป ไมก่ อ่ ความช่วั ให้ เป็น เครอื่ งทาลายตวั เอง ทาลายผู้อน่ื พยายาม เพ่ิมพนู รกั ษาความดี ทม่ี อี ย่ใู ห้งอกงาม สมบูรณ์ยง่ิ ข้ึน ภมู ปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวัง ระมัดระวงั สรา้ งสรรค์ ภมู ธิ รรม : ซอ่ื สตั ย์ สุจริต ขยันอดทน ภูมธิ รรม : ซื่อสตั ย์ สุจริต ขยันอดทน ตรงตอ่ เวลาและแบง่ ปนั ตรงตอ่ เวลา เสียสละและ แบ่งปนั ความรอบรู้ เรือ่ ง การคิดเชงิ นามธรรม ความรอบรู้ เร่ือง การคดิ เชงิ นามธรรม ทเ่ี กยี่ วขอ้ งรอบด้าน ความรอบคอบทีจ่ ะนา กรณีที่เกดิ ปัญหา สามารถนาความรู้เหลา่ นน้ั ความรู้เหลา่ นัน้ มาพิจารณาใหเ้ ช่ือมโยงกัน มาพิจารณาใหเ้ ชอื่ มโยงกนั สามารถประยุกต์ เพ่อื ประกอบการวางแผน การดาเนินการจัด ใช้ในชีวิตประจาวนั กจิ กรรมการเรยี นรใู้ หก้ ับผู้เรยี น มีความตระหนกั ใน คณุ ธรรม มคี วาม มีความตระหนักใน คุณธรรม มคี วาม ซอ่ื สตั ยส์ ุจริตและมคี วามอดทน มคี วามเพียร ซือ่ สตั ย์สุจรติ และมีความอดทน มคี วามเพียร ใช้สตปิ ัญญาในการดาเนินชีวิต ใชส้ ติปญั ญาในการดาเนินชีวิต กจิ กรรม ครู ผเู้ รยี น สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น การคิดเชิงนามธรรม การคดิ เชิงนามธรรม การคิดเชิงนามธรรม - - การแก้ปัญหาโดยใช้การวิเคราะห์ - สามารถนาหลักการท่ไี ด้รบั ไปประยกุ ตใ์ ช้ - การแก้ปญั หาโดยใช้การ แกป้ ญั หาในชีวิตประวันได้ และมีขั้นตอนในการแกป้ ญั หา วเิ คราะห์ และมีข้ันตอนในการ แก้ปญั หา ลงชอ่ื ..................................................ผู้สอน ( นางสาวฐติ ารตั น์ คัมภรี ะ )
เกมการ์ด ดอกไม้
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง การแกป้ ัญหาและขนั้ ตอนวธิ ี แผนการเรียนรู้ที่ 1 เรอื่ ง การแกป้ ญั หาด้วยคอมพิวเตอร์ รายวชิ า วิทยาการคานวณ ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2561 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ (เทคโนโลยี) น้าหนกั เวลาเรยี น 1.0 หน่วยกติ เวลาเรยี น 2 ชว่ั โมง / สัปดาห์ .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจที่คงทน) 1. ขอ้ มลู เขา้ เขา้ มลู ออก และเงอ่ื นไขของปญั หา 2. การแกป้ ัญหาดว้ ยคอมพวิ เตอร์ 2. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัดช้ันปี ประยกุ ต์ใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการพฒั นาโครงงานที่มีการบรู ณาการกบั วชิ าอื่นอย่างสร้างสรรคแ์ ละเชอ่ื มโยง กับชวี ติ จริง 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เน้ือหาสาระหลกั : Knowledge 1. วิเคราะหป์ ญั หา โดยระบุขอ้ มลู เข้า ขอ้ มูลออก และเงอ่ื นไขของปญั หา 2. ออกแบบการแก้ปญั หาด้วยคอมพิวเตอร์โดยใช้แนวคดิ เชิงคานวณ 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process - ทักษะการคิดเชิงคานวณ - ทกั ษะการแก้ปญั หา - ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ และสังเคราะห์ คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ : Attitude 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมนั่ ในการทางาน 4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
5. ความร้เู ดิมที่นกั เรยี นตอ้ งมี - 6. สาระสาคัญ การคิดเชิงคานวณเป็นพ้ืนฐานของการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ สาหรับการออกแบบข้ันตอนวิธีในการ แก้ปัญหาด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จาเป็นต้องระบุขั้นตอนการทางานรวมถึงเง่ือนไขต่างๆ ท่ีชัดเจน เช่น ข้อมูลเข้า ข้อมลู ออก ขอบเขตของขอ้ มูลทตี่ อ้ งการ มนษุ ย์จงึ จะสามารถเขียนโปรแกรมใหค้ อมพวิ เตอร์ทางานตามคาสั่งได้ 7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน : - ใบกิจกรรมท่ี 4.1 คณะทใี่ ช่ - ใบกิจกรรมท่ี 4.2 ขอ้ มูลเข้าและข้อมูลออก 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ - การจัดเตรยี ม 1. ใบกจิ กรรมที่ 4.1 คณะทใ่ี ช่ 2. ใบกิจกรรมที่ 4.2 ข้อมลู เข้าและขอ้ มูลออก - ข้ันตอนดาเนนิ การ ( 45 นาที ) 1. ผ้สู อนยกตวั อยา่ งสถานการณ์ในหวั ขอ้ ท่ี 2.1 การแกป้ ัญหาด้วยคอมพวิ เตอร์ ในหนงั สอื เรยี น - ข้นั ประยกุ ต์ใช้ ( 45 นาที ) 1. ผูเ้ รียนศึกษาหัวข้อที่ 2.1.1 ขอ้ มูล และ 2.1.2 เง่ือนไขท่ีชดั เจน ในหนังสือเรียน จากน้ันอภิปรายรว่ มกับผ้เู รียน เก่ียวกบั ขอ้ มูล และเงอื่ นไขทีช่ ัดเจน แบบไหนท่ที าให้คอมพิวเตอร์ทาตามคาสั่งได้ 2. ผู้เรียนจับคูก่ ันทากิจกรรมท่ี 2.1 แชทบอทในหนังสือเรียน และคอยสังเกตว่าผู้เรียนสร้างเงอื่ นไข เพ่ือให้เพ่ือน ตอบคาถามไดถ้ กู ต้องหรือไม่ 3. ผู้เรยี นศึกษาหนังสือเรยี น หัวข้อที่ 2.1.3 ข้ันตอนวิธใี นการแก้ปัญหา และอธิบายตัวอย่างข้อมูลรายการอาหาร กลางวนั จากตารางท่ี 2.2 จากน้นั สมุ่ ผเู้ รียนออกมาอธบิ ายขั้นตอนวธิ ใี นการเลอื กอาหารกลางวนั ในตวั อยา่ ง 4. ผเู้ รียนทาใบกจิ กรรม ที่ 4.1 คณะท่ีใช่ 5. ผู้สอนแบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน แล้วศึกษาหนังสือเรียน หวั ข้อที่ 2.1.4 ตัวแปร และหัวข้อที่ 2.2 การระบุข้อมูลเข้า ข้อมูลออก และเง่ือนไขของปัญหา โดยในหัวขอ้ ที่ 2.2 ใหส้ มาชิกเลอื กศกึ ษาคนละ 1 ตัวอย่างโดยไมซ่ ้า กนั จากน้ันอภปิ รายร่วมกัน เพื่อให้สมาชกิ คนอืน่ เขา้ ใจในตวั อย่างที่ศกึ ษา 6. ผู้สอนแจกใบกิจกรรมท่ี 4.2 ข้อมูลเข้า และข้อมูลออก ให้ผู้เรียนแตล่ ะกล่มุ เลอื กหัวขอ้ ระบบรถยนต์อัตโนมัติ หรือ ระบบแปลภาษาอัตโนมตั ิ เพียงหัวข้อเดียว โดยสามารถสืบคน้ ข้อมูลเพิ่มเติมจากอินเตอร์เน็ตได้ ผู้สอนช้ีแจงการใช้ แบบประเมนิ ใบกิจกรรมที่ 4.2
- ขน้ั สรุปและประเมนิ ผล ( 10 นาที ) ผู้เรียนแต่ละกลุ่มแลกกันพิจารณาคาตอบในใบกิจกรรมที่ 4.2 ทาการประเมิน ใบกิจกรรมที่ 4.2 แล้วส่งคืน เจา้ ของเพอื่ พจิ ารณาขอ้ เสนอแนะ และใหข้ อ้ มลู ย้อนกลบั ผสู้ อนและผ้เู รยี นร่วมกนั สรปุ ประโยชนท์ ไ่ี ดจ้ ากกจิ กรรมน้ี 9. สื่อการเรียนการสอน / แหลง่ เรียนรู้ จานวน สภาพการใชส้ ่อื ข้นั ประยกุ ต์ใช้ รายการสือ่ ตามจานวน ข้ันประยุกต์ใช้ นร. 1. ใบกิจกรรม - - ใบกจิ กรรมที่ 4.1 คณะท่ีใช่ - ใบกิจกรรมที่ 4.2 ข้อมลู เข้าและขอ้ มูลออก 2. หนังสอื เรยี น วิชา วิทยาการคานวณ ชนั้ ม.4 10. การวัดและการประเมนิ ผล สิ่งทีต่ อ้ งวัด วธิ กี ารวดั ผลประเมินผล เคร่ืองมอื วดั ผลประเมินผล เกณฑ์การผ่าน การนาเสนอ ใบกจิ กรรมท่ี ได้คะแนนไมน่ ้อยกว่า 2 ดา้ นความรู้ (K) การบอกหรอื เขยี นวธิ ีการการ 4.1 คณะท่ีใช่ คะแนน ผ่านเกณฑ์ ตาม การประเมนิ เชิงปรมิ าณ - เพื่อใหม้ คี วามรู้เกี่ยวกับวิธี แก้ปญั หาจากสถานการณท์ ี่ แบบบันทกึ การประเมิน สังเกตการนาเสนอผลงานใบ ไดค้ ะแนน 7 คะแนนขึน้ ไป คดิ เชงิ นามธรรม ผ้สู อนสมมุติขน้ึ มา โดย กิจกรรม ชีวติ ประจาวนั กับ ผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ การแยกสว่ น พอใช้ ตามการประเมนิ เชิง อธบิ ายเปน็ ข้นั ตอน แบบสังเกตพฤตกิ รรมความ คณุ ภาพ ม่งุ ม่นั ในการทางาน (3 ไดค้ ะแนน 4 คะแนนขน้ึ ไป ดา้ นทกั ษะ(P) สังเกตพฤติกรรมจากการ ระดับคุณภาพ) คะแนนเต็ม ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ ทางานกลุ่ม การทาใบ 9 คะแนน พอใช้ ตามการประเมินเชิง - อธิบายหลักวิธคี ิดเชงิ กิจกรรมที่ 4.2 คุณภาพ นามธรรม ดา้ นจิตพิสัย(A) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี น -มคี วามมงุ่ มัน่ ในการทางาน รายบคุ คลในด้านมคี วาม มงุ่ ม่ันในการทางาน
11. จดุ เนน้ ของโรงเรียน การบรู ณาการปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งและกจิ กรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ครู ผเู้ รยี น 1. ความพอประมาณ พอดีด้านเทคโนโลยี พอดีด้านจิตใจ 2. ความมีเหตผุ ล รู้จักใช้เทคโนโลยีมาผลติ ส่ือที่เหมาะสม มีจิตสานึกทด่ี ี เอื้ออาทร ประนปี ระนอม 3. มภี มู คิ มุ กันในตัวที่ดี และสอดคล้องเน้ือหาเป็นประโยชน์ต่อ นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม/กลุ่ม 4. เงอ่ื นไขความรู้ ผเู้ รียนและพัฒนาจากภูมิปัญญาของผเู้ รียน 5. เง่อื นไขคุณธรรม - ยึดถือการประกอบอาชพี ดว้ ยความถูกตอ้ ง ไมห่ ยุดน่ิงท่ีหาหนทางในชีวิต หลุดพน้ จาก สุจรติ แมจ้ ะตกอยู่ในภาวะขาดแคลน ใน ความทุกขย์ าก (การคน้ หาคาตอบเพอื่ ให้ การดารงชวี ิต หลดุ พ้นจากความไมร่ ู้) - ปฏบิ ัตติ นในแนวทางที่ดี ลด เลิก สิ่งย่ัว กิเลสใหห้ มดสน้ิ ไป ไม่กอ่ ความชวั่ ให้ เป็น เคร่อื งทาลายตัวเอง ทาลายผูอ้ น่ื พยายาม เพ่มิ พูนรักษาความดี ทมี่ อี ย่ใู ห้งอกงาม สมบูรณย์ ิ่งข้ึน ภมู ิปญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภมู ิปญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวงั ระมัดระวงั สร้างสรรค์ ภมู ิธรรม : ซื่อสัตย์ สุจรติ ขยันอดทน ภมู ธิ รรม : ซ่อื สตั ย์ สุจรติ ขยนั อดทน ตรงต่อเวลาและแบง่ ปัน ตรงต่อเวลา เสยี สละและ แบ่งปัน ความรอบรู้ เรื่อง การแกป้ ญั หาฯ ความรอบรู้ เร่ือง การแก้ปัญหาฯ ท่เี กยี่ วขอ้ งรอบดา้ น ความรอบคอบทจ่ี ะนา กรณที เ่ี กิดปัญหา สามารถนาความรเู้ หลา่ น้ัน ความรเู้ หล่าน้นั มาพจิ ารณาให้เชื่อมโยงกัน มาพจิ ารณาใหเ้ ชอ่ื มโยงกัน สามารถประยุกต์ เพ่ือประกอบการวางแผน การดาเนินการจัด ใช้ในชีวติ ประจาวัน กิจกรรมการเรียนรู้ใหก้ ับผู้เรยี น มีความตระหนักใน คณุ ธรรม มคี วาม มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มคี วาม ซอ่ื สัตย์สุจริตและมคี วามอดทน มีความเพียร ซือ่ สตั ยส์ จุ ริตและมคี วามอดทน มีความเพียร ใชส้ ตปิ ญั ญาในการดาเนินชีวติ ใชส้ ตปิ ัญญาในการดาเนินชีวติ กิจกรรม ครู ผูเ้ รียน สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน การแกป้ ัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ การแกป้ ญั หาดว้ ยคอมพิวเตอร์ การแกป้ ัญหาด้วยคอมพวิ เตอร์ - - การแก้ปัญหาโดยใช้การวิเคราะห์ - สามารถนาหลกั การที่ได้รับไปประยุกตใ์ ช้ - การแก้ปัญหาโดยใช้การ แก้ปัญหาในชวี ติ ประวันได้ และมีข้ันตอนในการแก้ปัญหา วิเคราะห์ และมีขั้นตอนในการ แก้ปัญหา ลงช่ือ..................................................ผ้สู อน ( นางสาวฐิตารัตน์ คมั ภีระ )
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123