Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน

คู่มือการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน

Published by supisara.sua, 2022-01-03 16:25:32

Description: คู่มือการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน

Search

Read the Text Version

คู่มือการจดั การเรยี นรโู้ ดยใช้ โครงงานคณุ ธรรมเปน็ ฐาน รายวิชาสงั คมศึกษา สาระ : หน้าทีพ่ ลเมอื ง วัฒนธรรมและ การดาเนนิ ชีวิตในสังคม ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น สังกัดสานกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษามธั ยมศึกษากรงุ เทพมหานคร เขต 2 กลุ่มนิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา สานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษากรงุ เทพมหานคร เขต 2 สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

คำนำ คู่มือพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน รายวิชาสังคมศึกษา สาระ : หน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรมและการดาเนินชีวิตในสังคม ระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น สานักงาน เขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 จัดทาข้ึนเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนา โครงงานคุณธรรม ครูผู้สอนได้ใช้ข้ันตอนการจดั การเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐานในการ จัดการเรียนการสอน และเพ่ือเป็นสง่ เสริมและพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรมให้กบั ผู้เรียนผา่ นรายวชิ า ทใี่ ช้ในการจัดการเรียนการสอน ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น คมู่ ือพัฒนาการจัดการเรยี นรู้โดย ใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน รายวิชาสังคมศึกษา สาระ : หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและ การดาเนินชีวิตในสังคม ระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น ประกอบด้วย 3 ส่วนสาคัญ ได้แก่ การ จดั การเรียนรโู้ ดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน แนวทางการจดั การเรยี นร้โู ดยใชโ้ ครงงานคุณธรรม เป็นฐาน ขั้นตอนโดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน และภาคผนวก แสดงตัวอย่างหน่วยการ เรยี นรู้และตัวอยา่ งแผนการจัดการเรยี นรู้ ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า คู่มือพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน รายวิชาสังคมศึกษา สาระ : หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดาเนินชีวิตในสังคม ระดับช้ัน มัธยมศกึ ษาตอนต้น สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 จะเป็นค่มู ือ ในการขับเคล่ือนการพัฒนาและส่งเสริมคุณธรรมโครงงานคุณธรรม ด้วยวิธีการจัดการเรียนสอน โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน ในการการสอดแทรกคุณธรรมผ่านกิจกรรมการเรียนรู้หรือ กระบวนการจัดการเรียนการสอนในหน่วยการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้ ของครูผู้สอน ขอขอบคุณผู้ทรงคุณวุฒิ บุคลากรทางการศึกษาและหน่วยงานต่างๆ ท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องในการ จัดทาไว้ ณ โอกาส นี้

สำรบัญ เร่ือง หนำ้ คำชี้แจง 1 วัตถปุ ระสงค์ของคมู่ ือ 2 ขอบข่ำยเน้ือหำ 3 ปฏทิ ินกำรปฏบิ ตั ิกิจกรรม 4 ขั้นตอนกำรใชค้ ู่มอื 6 แบบทดสอบควำมรู้ก่อนศึกษำคูม่ อื 7 เฉลยแบบทดสอบควำมรกู้ ่อนศกึ ษำคมู่ ือ 12 สว่ นที่ 1 กำรจดั กำรเรียนรูโ้ ดยใช้โครงงำนคุณธรรมเปน็ ฐำน 13 13 - ความเปน็ มาของโครงงานคุณธรรม 15 - ความหมายและความสาคัญของโครงงานคณุ ธรรม 16 - ความหมายการเรียนรูโ้ ดยใชโ้ ครงงานเป็นฐาน 17 - ลักษณะสาคัญของการจดั การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน 17 - การเตรยี มตัวครูก่อนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเปน็ ฐาน 19 - ขน้ั ตอนการจดั การเรยี นรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน 22 - บทบาทของครูผู้สอนในฐานะผกู้ ระต้นุ การเรยี นรู้ 23 - การประเมินผล 24 สว่ นท่ี 2 แนวทำงกำรจัดกำรเรยี นรู้โดยใชโ้ ครงงำนคณุ ธรรมเปน็ ฐำน 24 - การวเิ คราะหห์ ลกั สตู รสถานศกึ ษาในการจัดการเรียนรูโ้ ดยใชโ้ ครงงาน 25 คุณธรรมเป็นฐาน - สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 2 หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง 31 วัฒนธรรมแลการดาเนนิ ชีวิตในสงั คม ระดบั ขัน้ มธั ยมศกึ ษาตอนต้น 33 - การวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ และตวั ชวี้ ดั ทาไปสู่การจดั การเรียนรู้ โดยใช้โครงงานคณุ ธรรมเปน็ - การออกแบบการจดั การเรียนรูโ้ ดยใชโ้ ครงงานคุณธรรมเปน็ ฐาน

สำรบญั (ต่อ) เร่ือง หนำ้ สว่ นท่ี 2 แนวทำงกำรจัดกำรเรยี นรู้โดยใช้โครงงำนคุณธรรมเปน็ ฐำน (ตอ่ ) 35 - การจดั ทาหนว่ ยการเรยี นรู้ 43 - องค์ประกอบของหน่วยการจัดการเรยี นรู้ 46 - การจัดทาแผนการเรียนเรียนรู้ 47 - องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ 53 สว่ นที่ 3 ขัน้ ตอนโดยใช้โครงงำนคณุ ธรรมเปน็ ฐำน 59 แบบทดสอบความรู้หลงั ศึกษาคมู่ อื 64 เฉลยแบบทดสอบความรูห้ ลงั ศึกษาคมู่ ือ 65 เอกสำรอำ้ งอิง 66 ภำคผนวก 67 - ตวั อย่างหนว่ ยการเรยี นรู้และแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา 112 สาระท่ี 2 : หนา้ ท่ีพลเมอื ง วฒั นธรรมและการดาเนินชีวติ ในสงั คม - ใบกจิ กรรมท่ี 1 การวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวช้วี ัด 113 114 ในการจดั การเรยี นรู้โดยใชโ้ ครงงานคุณธรรมเปน็ ฐาน 117 - ใบกจิ กรรมที่ 2 การออกแบบการเรียนรู้ 120 - ใบกิจกรรมที่ 3 เขียนหนว่ ยการเรยี นรู้ - ใบกจิ กรรมท่ี 4 เขยี นแผนการจัดการเรียนรู้ ประวตั ผิ เู้ ขยี น

1 คำช้ีแจง คู่มือการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน รายวิชาสังคมศึกษา สาระ : หน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชีวิตในสังคม ระดับช้ันมัธยมศึกษา ตอนต้น สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 จัดทา ข้ึนเพ่ือเป็นแนวทางในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน เพื่อให้ครูผู้สอนนาข้ันตอนการจัดการเรียนรู้ไปพัฒนาการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน ซึ่งสามารถนาไปใช้จัดการเรียนการสอนได้ทุกกลุ่มสาระการ เรียนรู้ เพื่อให้ครูผู้สอนได้นาขั้นตอนการจัดการเรียนรู้นาไปส่งเสริมพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมให้กับผู้เรียนผ่านรายวิชาพ้ืนฐานเพ่ิมเติม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และกิจกรรม เสริมต่างๆ ของนักเรียน โดยมีตัวอย่างหน่วยการเรียนรู้ และแผนการจัดการเรียนรู้โดย ใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน เพื่อให้ครูผู้สอนศึกษาตัวอย่างการเขียน พร้อมกับ มใี บกิจกรรมให้ผูส้ อนได้ปฏิบตั ิกจิ กรรม เพอ่ื ความเข้าใจมากยงิ่ ขึ้น

2 วตั ถปุ ระสงคข์ องคู่มอื ๑. เพื่อให้ครูผู้สอนได้ใช้ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็น ฐานในการจดั การเรยี นการสอน ๒. เพื่อสง่ เสรมิ และพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมให้กบั ผู้เรียนผ่านรายวิชาทใี่ ชใ้ น การจัดการเรยี นการสอนโดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน รายวิชาสังคมศกึ ษา สาระ : หน้าที่พลเมอื ง วฒั นธรรมและการดาเนินชีวติ ในสังคม ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาตอนตน้

3 ขอบข่ำยเนอ้ื หำ ส่วนที่ 1 กำรจดั กำรเรยี นร้โู ดยใช้โครงงำนคุณธรรมเป็นฐำน - ความเป็นมาของโครงงานคุณธรรม - ความหมายและความสาคัญของโครงงานคุณธรรม - ความหมายการเรยี นรู้โดยใช้โครงงานเปน็ ฐาน - ลักษณะสาคญั ของการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน - การเตรยี มตัวครกู ่อนการจัดการเรยี นรโู้ ดยใชโ้ ครงงานคณุ ธรรมเปน็ ฐาน - ขน้ั ตอนการจัดการเรยี นรโู้ ดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน - บทบาทของครูผสู้ อนในฐานะผ้กู ระตนุ้ การเรียนรู้ - การประเมินผล สว่ นท่ี 2 แนวทำงกำรจัดกำรเรียนรโู้ ดยใชโ้ ครงงำนคณุ ธรรมเปน็ ฐำน - การวิเคราะห์หลักสูตรสถานศึกษาในการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน คุณธรรมเปน็ ฐาน - สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 2 หน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรมและการ ดาเนินชวี ิตในสงั คม ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาตอนตน้ - การวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดนาไปสู่การจัดการเรียนรู้โดย ใชโ้ ครงงานคุณธรรมเป็น - การออกแบบการจัดการเรียนร้โู ดยใช้โครงงานคณุ ธรรมเปน็ ฐาน - การจัดทาหนว่ ยการเรยี นรู้ - องคป์ ระกอบของหน่วยการจัดการเรียนรู้ - การจัดทาแผนการเรยี นเรยี นรู้ - องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ สว่ นท่ี 3 ขั้นตอนกำรจัดกำรเรียนรู้โดยใช้โครงงำนคณุ ธรรมเป็นฐำน ตัวอย่างหน่วยการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา สาระ : หน้าทีพ่ ลเมือง วฒั นธรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ในสังคม ใบกจิ กรรม

4 ปฏิทินกำรปฏิบัติกิจกรรม วนั เดือน ปี รำยกำรปฏิบัติ ผรู้ ับผดิ ชอบ 18 – 19 พ.ค. ประชุมปฏิบัติครูผู้สอนรายวิชาสังคมศึกษา ชั้น ศภุ ิสรา เสอื ทอง 15 – 30 ม.ิ ย. 1 – 15 ก.ค. มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ท่ีเป็นกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการหา 20 ก.ค. – ประสิทธิภาพคู่มือ ศึกษาและปฏิบัติกิจกรรม และ 14 ส.ค. ทดสอบหลังการศกึ ษา 17 ส.ค. – 5 ต.ค. ประชุมชแี้ จง ทดสอบก่อนการศึกษา และมอบคมู่ ือ ศุภสิ รา เสอื ทอง / ใหแ้ ก่ครูผสู้ อนเพ่อื ศึกษาด้วยตนเอง ครูผู้สอน ครูผู้สอนศึกษาคู่มือ และปฏิบัติกิจกรรมแต่ละส่วน ศภุ ิสรา เสือทอง / ตามคาแนะนา ครผู ู้สอน ผู้รายงาน ครูสอน อภิปรายร่วมกันเก่ียวกับความรู้ ศุภิสรา เสือทอง / การปฏิบัติตามแนวทางในคู่มือ ตรวจสอบการทา ครผู สู้ อน กจิ กรรมจากใบกิจกรรม และวางแผนประเมินพฤติกรรม การสอนรว่ มกัน 1. ครูผู้สอนจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็น ศุภสิ รา เสือทอง / ฐาน ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาตอนต้น ตามคมู่ ือ ครูผูส้ อน 2. ศึกษานิเทศก์ประเมินพฤติกรรมแบบประเมิน พฤติกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรม เป็นฐาน 3. ครูผู้สอนประเมินตนเองโดยใช้แบบประเมิน พฤติกรรมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4. ครูผู้สอนประเมินความพึงพอใจของตนเองต่อคู่มือ การจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาตอนต้น 5. ผู้เรียนตอบแบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อการ จัดการเรียนรู้ของผู้สอนรายวิชาสังคมศึกษา สาระ :

5 วนั เดอื น ปี รำยกำรปฏิบตั ิ ผ้รู บั ผิดชอบ หน้าท่ี พลเมือง วัฒนธรรมและการดาเนินชีวิตใน ศภุ สิ รา เสือทอง 2 พ.ย.– 15 ธ.ค. สงั คม หลงั จากครผู ูส้ อนศกึ ษาคมู่ ือ เก็บข้อมูลหลังการศึกษาคู่มือ โดยทดสอบความรู้ ของครูผู้สอนด้านการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน คณุ ธรรมเปน็ ฐาน (Post-test)

6 ข้ันตอนกำรใช้คมู่ ือ ครูผู้สอนรายวิชาสังคมศึกษา สาระ : หน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรมและการ ดาเนนิ ชวี ติ ในสงั คม ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาตอนตน้ โดยปฏิบัตดิ งั นี้ 1. ศึกษาคาชี้แจง วัตถุประสงค์ ขอบข่ายเน้ือหา ปฏิทินการปฏิบัติกิจกรรม และข้ันตอนการใช้คูม่ ือ 2. ครูผู้สอนทาแบบทดสอบวัดความรกู้ อ่ นศกึ ษาคู่มอื 3. ศกึ ษาสาระสาคญั ในแตล่ ะส่วนของคูม่ ือ 4. ครูผสู้ อนปฏิบัตติ ามใบกิจกรรมในภาคผนวก ดังน้ี - ใบกิจกรรมที่ 1 การวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดในการ จดั การเรยี นรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเปน็ ฐาน - ใบกิจกรรมที่ 2 การออกแบบการเรยี นรู้ - ใบกจิ กรรมท่ี 3 เขียนหน่วยการจัดการเรียนรู้ - ใบกิจกรรมท่ี 4 เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ โดยทุกใบกิจกรรม หากเกิดข้อสงสัย หรือต้องการตรวจสอบความ ถูกต้อง สามารถปรึกษาจากผู้จัดทา หรือศึกษานิเทศก์ 5. ทาแบบทดสอบหลังศกึ ษาคู่มอื หมำยเหตุ หลังจากทป่ี ฏิบัติตามใบกิจกรรมทุกใบแลว้ ครูผสู้ อนสามารถปฏิบัติ ดงั ต่อไปนี้ 1. ดาเนินการตามขั้นตอนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน ใน การออกแบบหน่วยการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้ โดยศึกษาตัวอย่างหน่วย การเรยี นและแผนการจัดการเรยี นการสอน 2. หน่วยการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและ ประเมนิ ความถกู ตอ้ งและสอดคลอ้ ง 3. ประเมนิ ผลจากการกิจกรรมการเรียนรู้ให้กบั ผเู้ รียน 4. ปรบั ปรงุ แก้ไขและพฒั นาหนว่ ยการเรยี นรู้และแผนการจดั การเรยี นรู้ ให้มี ความเหมาะสมกับผเู้ รียน

7 แบบทดสอบควำมรู้กอ่ นศึกษำคู่มอื คำอธิบำย จงเลอื กคาตอบทถ่ี ูกต้องที่สุดเพียงคาตอบเดียว 1. ขอ้ ใดไมใ่ ช่แนวการเรียนรโู้ ดยใช้โครงงานคณุ ธรรมเป็นฐาน ก. พฒั นาวิธีการเรียนรทู้ างปัญญาเพอ่ื เกอื้ หนนุ ให้ผ้เู รียนเข้าถึงตวั ความรู้ ข. เพ่มิ ความชานาญทางดา้ นทกั ษะในสิ่งท่เี รียน ค. ครูเปน็ ที่ปรึกษาให้คาแนะนาในการเรยี นร้ขู องผู้เรยี นไดอ้ ย่างเต็มศักยภาพ ง. ครูมคี วามรู้เฉพาะด้านตรงกบั ความสนใจของผู้เรียน 2. ข้อใดถกู ตอ้ งทีส่ ดุ เกีย่ วกับการจดั การเรียนรโู้ ดยใช้โครงงานคุณธรรมเปน็ ฐาน ก. เป็นกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ีค่ รูผสู้ อนใหน้ ักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง ข. ครูผู้สอนคอยกากบั การเรียนร้ขู องผูเ้ รียน ค. ผู้เรียนลงมือปฏบิ ตั ิกจิ กรรมด้วยตนเอง คน้ หาปัญหาและแก้ไขปญั หา ง. ผเู้ รียนปฏิบตั ิตามคาแนะนาของครู 3. ข้อใดเปน็ ข้ันตอนแรกของการจดั การเรยี นรู้โดยใช้โครงงานคณุ ธรรมเป็นฐาน ก. กระตุ้นความสนใจ (Motivate) ข. จัดกล่มุ ร่วมมือ (Cooperative) ค. ให้ความรู้พ้นื ฐาน (Knowledge) ง. วางแผน (Plan) 4. ขั้นตอนใดที่เปน็ ขัน้ ทสี่ ร้างความสนใจในการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเปน็ ฐาน ก. กระตุ้นความสนใจ (Motivate) ข. ลงมอื ปฏิบตั หิ รอื แกป้ ญั หา (Do) ค. ใหค้ วามรพู้ ้ืนฐาน (Knowledge) ง. วางแผน (Plan)

8 5. ขน้ั ตอนใดทคี่ รูผูส้ อนใหผ้ ูเ้ รยี นไดเ้ ขยี นโครงงานคุณธรรมตามหัวข้อสาคัญต่างๆ ก. ใหค้ วามรู้พืน้ ฐาน (Knowledge) ข. กระตุน้ ความสนใจ (Motivate) ค. ลงมือปฏบิ ตั ิหรอื แกป้ ญั หา (Do) ง. วางแผน (Plan) 6. ขน้ั ตอนใดทค่ี รูผู้สอนและผ้เู รยี นมีส่วนรว่ มในการขน้ั การจดั การเรียนรโู้ ดยใช้โครงงาน คุณธรรมมากที่สดุ ก. ให้ความรู้พ้นื ฐาน (Knowledge) ข. ประเมินผลระวา่ งปฏบิ ัติโครงงาน (Evaluation) ค. วางแผน (Plan) ง. ลงมือปฏบิ ตั หิ รอื แกป้ ัญหา (Do) 7. ข้อใด คอื บทบาทของครูในการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน ก. ผอู้ านวยความสะดวก ข. ผู้นา ค. ผู้คอยชแี้ นะ ง. ผอู้ อกคาส่ัง 8. บทบาทสาคัญของผู้เรียนในการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน ก. สามารถเรียนรู้ และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ข. มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยี ค. มีภาวะผู้นาสูง ง. มีทักษะที่ดีในการสร้าง การออกแบบ 9. ขอ้ ใดกล่าวถึงโครงงานคณุ ธรรมไดถ้ ูกตอ้ งทีส่ ุด ก. ไม่สามารถนาไปใชไ้ ด้จรงิ ในชวี ิตประจาวัน ข. ผ้ทู าโครงงานไม่มีสทิ ธ์ิเลอื กหวั ข้อโครงงานคุณธรรมของตนเอง ค. ผู้ทาโครงงานสามารถเลือกดาเนนิ การได้ตามความสนใจและความต้องการแก้ไข พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ง. เปน็ สงิ่ ท่ีชว่ ยสรา้ งความสมั พันธ์อนั ดีระหวา่ งผเู้ รียนกับครูทปี่ รกึ ษาโครงงาน

9 10. ข้อใดไม่ใช่โครงงานคุณธรรม ก. โครงงานทแี่ กไ้ ขปญั หาดา้ นพฤตกิ รรมไมพ่ ึงประสงค์ของนกั เรยี น ข. โครงงานความดเี ชงิ รกุ ไดค้ ิดและปฏิบัตจิ ริง เพือ่ แกไ้ ขปัญหาความเสอ่ื มทาง จริยธรรม ค. โครงงานที่มงุ่ แข่งขัน และประกวดเพอ่ื ให้ไดร้ บั การยกยอ่ งว่าเปน็ โครงงานเสริมสรา้ ง ความดี ง. โครงงานของนักเรียนทีม่ กี ารสอดแทรกคุณธรรม ในการแก้ปญั หาเชงิ พฤตกิ รรมท่ไี ม่ พึงประสงค์ 11. ข้อใดไมใ่ ช่ประโยชน์ของโครงงานคุณธรรมทผ่ี ู้เรียนจะได้รบั จากการทาโครงงาน ก. มีความสุขและสนุกกับการทางานควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมให้กับ ผู้เรียน ข. พัฒนาความทักษะกระบวนการคิด การแก้ปัญหา และความคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ ค. สามารถนาไปพัฒนาและใช้ได้จริงในชีวิตประจาวัน และปรับเปล่ียนพฤติกรรมเชิง บวกให้กบั ผเู้ รียน ง. นาไปพฒั นาสร้างรายไดจ้ านวนมากให้กบั ผูเ้ รียน 12. ขอ้ ใดอยูใ่ นขัน้ ตอนการวางแผนการทาโครงงาน ก. การเลอื กหัวเร่ืองโครงงาน ข. การศึกษาเอกสารท่ีเกย่ี วขอ้ ง ค. การจดั ทาเค้าโครงงาน ง. ประเมินผลการจัดทาโครงงาน 13. การเลือกหัวข้อโครงงานคณุ ธรรมควรพจิ ารณาส่ิงใดเปน็ ลาดับแรก ก. เคยมีผู้ทาแลว้ ข. ใช้ทรพั ยากรหรอื ทุนทรัพย์น้อย ค. ความสามารถของตน ง. สามารถเผยแพรไ่ ดใ้ นวงกว้าง

10 14. การได้หวั เรอื่ งโครงงานคุณธรรมอาจจะไดม้ าจากการทากจิ กรรมใด ก. การศึกษาดงู าน ข. การศกึ ษาเอกสาร วารสาร ค. การศึกษาคน้ คว้าจากอินเตอร์เนต็ ง. ถกู ทกุ ขอ้ 15. ส่งิ ใดสาคญั ท่สี ดุ ในการทาจดั โครงงานคุณธรรม ก. งบประมาณ ข. ความปลอดภยั ค. ความสวยงาม ง. การใชง้ านได้จรงิ 16. สงิ่ ใดสาคัญในการคิดหัวขอ้ โครงงานคุณธรรม ก. ความคดิ สรา้ งสรรค์ ข. การอยากทดลอง ค. ความตอ้ งการของครู ง. เวลาในการทาโครงงาน 17. ขอ้ ใดไม่เกี่ยวขอ้ งกับการดาเนนิ การจดั ทาโครงงานคณุ ธรรม ก. เนน้ การปฏิบัติใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ข. เน้นการแสวงหาความร้ดู ว้ ยวิธกี ารทางวทิ ยาศาสตร์ ค. เน้นการคดิ เปน็ ทาเป็น แก้ปญั หาไดด้ ้วยตนเอง ง. เนน้ การแสวงหาความรูด้ ้วยตนเอง 18. ขอ้ ใดเป็นความสาคญั อันดบั แรกของการจัดทาโครงงานคณุ ธรรม ก. ทาให้ทราบประโยชนข์ องโครงงาน ข. เพอื่ เป็นการเลือกหัวเรื่องทจ่ี ะทาโครงงานคุณธรรม ค. เป็นการศกึ ษาความเป็นไปไดข้ องการทาโครงงาน ง. ได้กรอบแนวคดิ และแผนการพัฒนาโครงงานทุกข้นั ตอน

11 19. ขอ้ ใดไม่ใช่ความสาคัญของการนาเสนอโครงงาน ก. การเผยแพร่ผลการศึกษาให้ทกุ ฝ่ายยอมรับ ข. ความเหมาะสมกบั เนอื้ หาทจี่ ดั แสดง ค. นาเสนอโครงงานใหค้ รบทุกหวั ขอ้ ง. อธบิ ายหลกั การและขอ้ ความอย่างถูกต้อง 20. ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับคากล่าวที่ว่าการทาโครงงานคุณธรรมสามารถทาได้ทุก รายวิชา ก. เห็นด้วย เพราะตามความต้องการของผู้เรียน ข. เห็นด้วย เพราะทุกสาระการเรียนรู้สามารถนามาประยุกต์เป็นการเรียนแบบโครงงานได้ ค. ไม่เห็นด้วย เพราะตามความต้องการของผู้สอน ง. ไม่เห็นด้วย เพราะทุกสาระการเรียนรู้ไม่สามารถนามาประยุกต์เป็นการเรียนแบบ โครงงานได้ 

12 เฉลยแบบทดสอบควำมรกู้ อ่ นศึกษำคมู่ ือ ขอ้ คำตอบ ขอ้ คำตอบ 1 ก 11 ง 2 ค 12 ค 3 ค 13 ค 4 ก 14 ง 5 ง 15 ง 6 ข 16 ก 7 ก 17 ก 8 ก 18 ข 9 ค 19 ค 10 ค 20 ข

13 ส่วนที่ 1 กำรจดั กำรเรียนรู้โดยใช้โครงงำนคุณธรรมเป็นฐำน 1.1 ควำมเป็นมำของโครงงำนคณุ ธรรม โครงงานคุณธรรมเป็นนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการทาความดีมีคุณธรรมแบบเชิงรุก โดยให้ผู้เรียนเป็นเด็กและเยาวชนเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของกิจกรรมการเรียนรู้ ตามแนวทางมูลนิธิ ยุวเสถียรคุณ (มยส.) เป็นกิจกรรมหนึ่งท่ีกาหนดให้โรงเรียนในสังกัดสานักงานคณะกรรมการ การศึกษาข้ันพ้ืนฐานที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียนวิถีพุทธ และโครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ได้ใชเ้ ป็นแนวทางในการดาเนินโครงการไปสกู่ ารจัดทาโครงงานหลายรปู แบบ ได้แก่ การบรู ณาการ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ท่ีเป็นเคร่ืองมือในการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ให้เกิดข้ึนกับผู้เรียน ในการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ให้เป็นพฤติกรรมเชิงบวก ผ่านเทคนิควิธีการแบบโครงงาน การทาโครงงานนั้นเกิดข้ึนมาจากความสนใจและความคิดริเริ่ม ของผู้เรียนเอง เน้นการเรียนรู้ผ่านกระบวนการกลุ่มท่ีลงมือปฏิบัติงานจริง ได้ฝึกฝนและพัฒนา ทักษะการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดแก้ปัญหา คิดเชิงระบบประเมินค่างาน การทา โครงงานอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ผู้เรียนได้รับการฝึกทักษะการทางานจริงการทางานเป็นระบบ รับผิดชอบต่องาน และได้รับการฝึกทักษะทางสังคมผ่านกระบวนการทางานเป็นกลุ่มใหญ่ใน ระยะเวลายาวนานพอสมควรโดยความพากเพียรพยายามอย่างจดจอต่อเนื่อง ในระยะเวลาที่ ยาวนานพอสมควรนาไปสู่ขยายผลไปถึงการแก้ปัญหาในครอบครัว วัด ชุมชน พ่อแม่ผู้ปกครอง รวมทงั้ ขยายความมีส่วนรว่ มไปยังบุคคลต่างๆในสถานศกึ ษา โครงงานคณุ ธรรมนมี้ ีลักษณะที่เปิด กว้างสาหรับทุกคนโดยไม่จากัดว่าเรียนสายวิทย์หรือสายศิลป์ มีอุปกรณ์เคร่ืองมือทาง วิทยาศาสตร์หรือไม่ เป็นนักเรียนประถมหรือมัธยมเพราะคุณธรรมและความดีนั้นเป็นเร่ืองท่ีมี คุณค่าท่ีควรเข้าถึงของทุกคน ไม่จากัดเพศวัยสถานะ ระดับช่วงช้ันสายวิชาท่ีเรียน แต่สนับสนุน ให้ทุกคนมีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด แม้โครงงานจะมีผู้รับผิดชอบ เป็นกลุ่ม แต่โครงงานก็กาหนด เง่ือนไขให้ผู้รับผิดชอบต้องคิดวางแผน และดาเนินการเพ่ือขยายหาแนวร่วมต่อไปในรูปของ เครือข่ายการนาสมาชิกกลุ่มเป้าหมาย ต้องสร้างความมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วนให้มากท่ีสุดท้ัง ครอบครัว ศาสนา และสถานศึกษา การทาโครงงานคุณธรรมไม่ต้องลงทุนด้วยเงินจานวนมาก

14 บางโครงการลงทุนเพียงแรงงานและสองมือ แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องมีการลงทุนเม็ดเงินในเรื่อง คณุ ธรรมบ้าง โครงงานคุณธรรมทผ่ี า่ นการพัฒนาโครงร่างมาดีแลว้ จึงสมควรท่จี ะไดร้ ับการคัดเลอื ก สนับสนุนเบื้องต้นจาก สพฐ. และหน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานอื่นๆท่ีเกี่ยวข้องต้ังแต่ต้น ทางการทางานและเช่อื ว่าการลงทุนทางดา้ นคุณธรรมความดีจะเหนย่ี วนาและดึงดูดให้ทุกภาคส่วน ในโรงเรยี นชมุ ชนร่วมลงทนุ ในเรื่องความดใี หเ้ พิ่มข้ึน โครงงานคุณธรรมจึงทาให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม และทุกฝ่ายได้รับประโยชน์สุขร่วมกัน กล่าวคือปัญหาในโรงเรียนและชุมชนได้รับการพิจารณาแก้ไข ผู้เรียนได้รับการปลูกฝังบ่มเพาะซึม ซับและเรยี นรูค้ ุณธรรมความดงี ามต่าง ๆ ด้วยความร้สู ึกเป็นเจา้ ของเด็กและเยาวชนได้ฝึกฝนและ พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดแก้ปัญหาคิดเชิงระบบประเมินค่างานการทา โครงงานอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ผู้เรียนได้รับการฝึกทักษะการทางานจริงการทางานเป็นระบบ รับผิดชอบต่องาน และได้รับการฝึกทักษะทางสังคมผ่านกระบวนการทางานเป็นกลุ่มใหญ่ใน ระยะเวลายาวนานพอสมควร และเมื่อโครงงานน้ันได้ขยายผลไปถงึ การแก้ปัญหาในครอบครัว วัด ชุมชน พ่อแม่ ผู้ปกครอง และคนในชุมชนก็จะได้รับผลแห่งความสุขน้ันด้วยผู้บริหาร และคณะครู ก็จะไม่ต้องกังวลเครียดกับปัญหาท่ีสั่งสมไว้มามาก โดยไม่มีการแก้ไขปัญหาเหล่าน้ันกลับแปร เปลี่ยนเป็นผลงานท่ีมีความโดดเด่นและน่าชื่นชม นอกจากนี้ผู้บริหารครูอาจารย์ ยังสามารถนา ขอ้ มลู จากผลการทาโครงงานคุณธรรมมาทาวิจยั ให้เป็นผลงานที่มคี ุณค่าได้อย่างมคี ุณภาพและเกิด ประโยชนแ์ ท้จรงิ อีกด้วย โครงงานคุณธรรมจึงถูกออกแบบมาเพ่ือให้ตอบโจทย์ความท้าทาย ท่ีว่าเด็กไทยไม่ใฝ่ดี รายการทาความดี ทางานเป็นทีมไม่เป็น คิดวิเคราะห์ไม่ได้ โดยการสร้างเง่ือนไขให้เขาใช้ปัญหา จริงท่ีต้องเผชิญอยู่ทุกวันไม่ว่าในโรงเรียน หรือในครอบครัว ชุมชนนามาตรวจสอบวิเคราะห์ วางแผนแสวงหาแนวทางแก้ไขร่วมกันซึง่ ไม่เพียงพอ เข้าใจปัญหานอกตัวเท่าน้นั แต่ยังเป็นโอกาส ให้นักเรียนได้เชื่อมโยงสู่ตนเองเพราะคุณสมบัติของโครงงานคุณธรรมนั้นพิเศษตรงท่ีเป็นเรื่องใน ชีวิตจริงเป็นประเด็นปัญหาจริงๆในชีวิต ซ่ึงทุกคนมีส่วนร่วมเก่ียวข้องสัมพันธ์อยู่ด้วยกันน่ันเอง แต่อาจไม่รู้ตัวก็ได้ ดังน้ันด้วยกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ จึงพบทางออกของปัญหาด้วย ปัญญา โครงงานคุณธรรมจึงเป็นกระบวนการท่ีนาพาให้นักเรียนสามารถทาโครงงานจริงในชีวิต ด้วยวิธีคิดอยา่ งเปน็ วิทยาศาสตร์

15 1.2 ควำมหมำยและควำมสำคญั ของโครงงำนคณุ ธรรม 1.2.1 ควำมหมำยของโครงงำนคณุ ธรรม โครงงานคุณธรรมหรือโครงงานความดี เป็นนวัตกรรมการเรียนรทู้ ่ีส่งเสริมการทาความดีมี คุณธรรมแบบเชิงรุก โดยให้ผู้เรียนท่ีเป็นเด็กและเยาวชนเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของกิจกรรมการ เรียนรู้นเี้ อง ผา่ นเทคนิควิธกี ารเรยี นรู้แบบโครงงาน ( Project Approach ) โดยประเดน็ ทเ่ี ลือกทา โครงงานน้ันเกิดขึ้นมาจากความสนใจและความคิดริเริ่มของผู้เรียนเอง เน้นการเรียนรู้ผ่าน กระบวนการกลุ่มท่ีลงมือปฏิบัติงานจริงด้วยความพากเพียรพยายามอย่างจดจ่อต่อเน่ืองในช่วง ระยะเวลาท่ียาวนานพอสมควรในลักษณะวิจัยปฏิบัติการ ( Action Research ) นาไปสู่การแก้ไข ปัญหาด้านความเส่ือมทรามทางศีลธรรม และส่งเสริมการบ่มเพาะความดีมีคุณธรรมอย่างเป็น รูปธรรมและเป็นระบบ รวมทั้งการขยายความมีสว่ นร่วมไปสู่บุคคลต่างๆ ในสถานศึกษาและชมุ ชน ของตนเองหรือชุมชนอ่นื ๆ ทเี่ กยี่ วข้อง 1.2.2 ควำมสำคัญของโครงงำนคุณธรรม โครงงานคุณธรรมมีความสาคัญในการจัดการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมและสามารถบูรณาการ เข้ากับทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยนา หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลท่ี 9 มาเป็นแนวทางในการพัฒนา แก้ไขปัญหาภายในชุมชน และส่งเสริมการทาความดีในบวร คือ บ้าน – วัด –โรงเรียน กล่าวคือ ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและทุกฝ่ายก็ไดร้ ับประโยชน์สุขร่วมกันหมด กล่าวคือ ปัญหาต่างๆ ในโรงเรียนชุมชนได้รับการพจิ ารณาแก้ไขเด็กและเยาวชนได้รับการปลูกฝ่ังบ่มเพาะซึม ซับและเรียนรู้คุณธรรมต่างๆ ด้วยความรู้สึกเป็นเจ้าของเด็กและเยาวชนได้ฝึกฝนและพัฒนาทักษะ การคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดแก้ปัญหา คิดเชิงระบบ คิดประเมินค่า ฯลฯ ผ่านการทา โครงงานอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ เด็กและเยาวชนได้รับการฝึกทักษะการทางานจริง การทางานเป็น ระบบ ความรับผิดชอบต่องาน และได้รับการฝึกทักษะทางสังคมผ่านกระบวนการทางานเป็นกลุ่ม ใหญ่ในระยะเวลายาวนานพอสมควร และเม่ือโครงงานนั้นๆได้มีการขยายผลไปถึงการแก้ปัญหาใน ครอบครัว วัด ชุมชน พ่อแม่ผู้ปกครอง พระสงฆ์ และคนในชุมชนก็จะได้รับอานิสงส์แห่งประโยชน์ สขุ นน้ั ด้วย ผู้บรหิ ารและคณะครกู ็จะเบาใจสบายไม่ต้องกังวลเครยี ดกับปัญหาทส่ี ัง่ สมไว้มากมายโดย ไม่มีการแก้ไข แต่ปัญหาเหล่าน้ันกลับแปรเปล่ียนเป็นผลงานที่มีความโดดเด่นและน่าช่ืนชมแทน นอกจากนี้ ผู้บริหาร ครูอาจารย์ และศึกษานิเทศก์ยังสามารถนาข้อมูลและผลจากการทาโครงงาน คณุ ธรรมมาทาการวจิ ัยให้ผลงานที่มคี ุณคา่ ได้อยา่ งมคี ุณภาพและเกดิ ประโยชนไ์ ดแ้ ทจ้ รงิ อกี ด้วย

16 1.3 ควำมหมำยกำรเรียนรูโ้ ดยใช้โครงงำนเปน็ ฐำน กำรเรียนรู้โดยใช้โครงงำนเป็นฐำน (Project-Based Learning) หมายถึง การเรียนรู้ท่ี จดั ประสบการณ์ในการปฏิบตั ิงานให้แก่ผู้เรียนเหมือนกับการทางานในชวี ิตจริงอย่างมีระบบ เป็น การศึกษาเร่ืองใดเร่ืองหน่ึงท่ีผู้เรียนเป็นผู้ศึกษา ค้นคว้า และลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง เพ่ือเปิด โอกาสใหผ้ ู้เรียนได้มีประสบการณ์ตรง ได้เรียนรวู้ ิธกี ารแก้ปัญหา วิธีการหาความรูค้ วามจริงอย่าง มเี หตุผล ได้ทาการทดลอง ได้พิสูจน์ส่ิงต่าง ๆ ด้วยตนเอง รู้จักการวางแผนการทางาน ฝกึ การ เป็นผู้นา ผู้ตาม ตลอดจนได้พัฒนากระบวนการคิดโดยเฉพาะการคิดข้ันสูง และการประเมิน ตนเอง โดยมคี รูเปน็ ผ้กู ระตุ้นเพื่อนาความสนใจท่ีเกิดจากตัวผูเ้ รยี นมาใช้ในการทากิจกรรมคน้ คว้า หาความรู้ด้วยตัวเอง นาไปสู่การเพ่ิมความรู้ท่ีได้จากการลงมือปฏิบัติ การฟัง และการสังเกตจาก ผ้รู ู้ โดยผู้เรียนมีการเรียนรู้ผ่านกระบวนการทางานเปน็ กลมุ่ ทจ่ี ะนามาสู่การสรปุ ความรใู้ หม่ มี การเขยี นกระบวนการจัดทาโครงงาน และไดผ้ ลการจัดกจิ กรรมเป็นผลงานแบบรูปธรรม การจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน เป็นการเรียนรู้ท่ีให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ ชีวิตขณะที่เรียน ได้พัฒนาทักษะต่างๆ ซ่ึงสอดคล้องกับหลักพัฒนาการตามลาดับขั้นความรู้ ความคดิ ของบลมู (ใหม่) ทง้ั 6 ขนั้ คือ ความร้คู วามจา ความเขา้ ใจ การประยุกต์ใช้ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การประเมินค่า และการคิดสร้างสรรค์ การจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ถอื ได้วา่ เป็น การจดั การเรียนรูท้ ่ีเน้นผู้เรยี นเป็นสาคญั เน่อื งจากผู้เรยี นไดล้ งมือปฏบิ ัติเพอ่ื ฝกึ ทกั ษะ ต่างๆด้วยตนเองทุกขน้ั ตอน โดยมคี รูเป็นผใู้ หก้ ารสง่ เสรมิ และสนับสนุน ประเมนิ สรำ้ งสรรค์ สงั เครำะห์ ประเมนิ วิเครำะห์ วิเครำะห์ นำไปใช้ นำไปใช้ เขำ้ ใจ เข้ำใจ กำรจำ รจู้ ำ บลูม (ใหม่) บลมู (เกำ่ ) พฤติกรรมเรียนร้ทู ว่ี ัดได้ตำมแนวควำมคดิ ของ Bloom , Anderson และ Krathwohl

17 1.4 ลักษณะสำคัญของจัดกำรเรียนรู้โดยใช้โครงงำนเป็นฐำน ๑) ยึดหลักการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ทางานตาม ระดบั ทักษะทีต่ นเองมอี ยู่ ๒) เป็นรูปแบบหนึ่งของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีเน้นบทบาทและการมีส่วนร่วมของ ผ้เู รียน (Active Learning) ๓) เปน็ เรือ่ งที่ผู้เรียนสนใจและรูส้ ึกสบายใจทีจ่ ะทา ๔) ผู้เรียนได้รบั สิทธิในการเลือกว่าจะต้งั คาถามอะไร และต้องการผลผลติ อะไรจากการทา โครงงาน ๕) ครูทาหน้าที่เป็นผู้สนบั สนุนอุปกรณ์และจัดประสบการณ์ใหแ้ ก่ผู้เรยี น สนบั สนุนการ แกไ้ ขปญั หา และสร้างแรงจูงใจให้แก่ผ้เู รียน ๖) ผู้เรียนกาหนดการเรียนรู้ของตนเอง ๗) เชือ่ มโยงกบั ชวี ติ จริง สิ่งแวดล้อมจริง ๘) มีฐานจากการวิจัย ศึกษา คน้ คว้า หรือ องคค์ วามรู้ท่ีเคยมี ๙) ใชแ้ หลง่ ขอ้ มูล หลายแหล่ง ๑๐) ฝงั ตรึงด้วยความรแู้ ละทักษะตา่ งๆ ๑๑) สามารถใช้เวลามากพอเพียงในการสรา้ งผลงาน ๑๒) มีผลผลิต 1.5 กำรเตรยี มตวั ของครกู ่อนกำรจดั กำรเรียนรู้ ในการจัดการเรยี นรู้แต่ละครัง้ ครจู ะตอ้ งเป็นผูท้ ี่มีความพร้อมและมีความแม่นยาในเนื้อหา เพ่ือให้การจัดการเรียนรู้เป็นไปอย่างราบร่ืน และสามารถอานวยความสะดวกให้ผู้เรียนเกิดการ เรียนรู้ได้ขณะกิจกรรม ซึ่งการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ดังกล่าว มีแนวทางในการจัดการเรียนรู้ 2 รูปแบบ คอื การจดั กจิ กรรมตามความสนใจของผู้เรยี น และการจดั กิจกรรมตามสาระการเรียนรู้ 1.5.1 กำรจัดกิจกรรมตำมควำมสนใจของผู้เรียน เป็นการจัดกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนเลือก ศึกษาโครงงานจากส่ิงท่ีสนใจอยากรู้ท่ีมีอยู่ในชีวิตประจาวัน สิ่งแวดล้อมในสังคม หรือจาก ประสบการณ์ต่างๆท่ียังต้องการคาตอบ ข้อสรุป ซึ่งอาจจะอยู่นอกเหนือจากสาระการเรียนรู้ใน บทเรียนของหลกั สตู ร มขี น้ั ตอนดังนี้

18 – ตรวจสอบ วิเคราะห์ พิจารณา รวบรวม ความสนใจ ของผ้เู รยี น – กาหนดประเด็นปัญหา/ หัวขอ้ เรอื่ ง – กาหนดวตั ถปุ ระสงค์ – ต้ังสมมตฐิ าน – กาหนดวิธีการศึกษาและแหลง่ ความรู้ – กาหนดเค้าโครงของโครงงาน – ตรวจสอบสมมติฐาน – สรุปผลการศกึ ษาและการนาไปใช้ – เขียนรายงานวจิ ยั แบบง่ายๆ – จัดแสดงผลงาน 1.5.2 กำรจัดกิจกรรมตำมสำระกำรเรียนรู้ เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยยดึ เนื้อหา สาระตามที่หลักสูตรกาหนด ผู้เรียนเลือกทาโครงงานตามที่สาระการเรียนรู้ จากหน่วยเนื้อหาที่ เรยี นในช้ันเรยี น นามาเป็นหวั ข้อโครงงาน มขี ั้นตอนทผ่ี ู้สอนดาเนนิ การดังต่อไปน้ี – ศกึ ษาเอกสาร หลกั สูตร คู่มือครู – วิเคราะห์หลกั สูตร – วิเคราะหค์ าอธิบายรายวิชา เพอ่ื แยกเนื้อหา จุดประสงคแ์ ละจดั กิจกรรมให้เด่นชดั – จัดทากาหนดการสอน – เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ – ผลติ สอื่ จดั หาแหล่งเรียนรแู้ ละภูมิปัญญาท้องถิ่น – การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ โดยเริม่ ตั้งแตแ่ จ้งวตั ถปุ ระสงค์ กระตนุ้ ความสนใจ ของผ้เู รียน จดั กลุม่ ผูเ้ รยี นตามความสนใจ การใชค้ าถามกระตนุ้ การมสี ว่ นร่วมของผูเ้ รียนซง่ึ จะ กล่าวถงึ รายละเอยี ดในหัวข้อบทบาทของครูในฐานะผกู้ ระตุ้นการเรยี นรู้ – จดั แหล่งเรียนรเู้ พ่มิ เตมิ – บนั ทึกผลการจัดการเรียนรู้

19 1.6 ขั้นตอนกำรจดั กำรเรยี นรโู้ ดยใชโ้ ครงงำนคณุ ธรรมเปน็ ฐำน การจดั การเรียนรแู้ บบใช้โครงงานเปน็ ฐานนน้ั มกี ระบวนการและขัน้ ตอน โดยมขี ัน้ ตอน การจดั การเรยี นร้โู ครงงานคณุ ธรรมเปน็ ฐาน แบง่ ออกเป็น 7 ข้ันตอน ดังน้ี ข้ันที่ 1 ขน้ั ที่ 2 ใหค้ วำมรูพ้ ้ืนฐำน กระตนุ้ ควำมสนใจ (Knowledge) (Motivate) ขนั้ ท่ี 3 วำงแผน ขน้ั ที่ 4 (Plan) จดั กลุ่มร่วมมอื (Cooperative) ขน้ั ท่ี 5 ข้ันลงมอื ขั้นที่ 6 ปฏบิ ตั หิ รือแก้ปญั หำ ประเมินผลระหวำ่ งปฏิบตั ิ โครงงำน (Evaluation) (Do) ข้ันที่ 7 นำเสนอผลงำน (Presentation) แผนภำพ ขั้นตอนกำรจัดกำรเรยี นรู้โดยใช้โครงงำนคุณธรรมเป็นฐำน

20 ข้นั ท่ี 1 ใหค้ วำมรู้พืน้ ฐำน (Knowledge) เป็นข้ันตอนแรกท่ีครูจะต้องให้ความรู้พ้ืนฐานเก่ียวกับการทาโครงงานคุณธรรม ก่อนการเรียนรู้ กับผู้เรียนเน่ืองจากการทาโครงงานมีรูปแบบและข้ันตอนที่ชัดเจนและรัดกุม โดยเฉพาะการนาหลักธรรม หรือคณุ ธรรมอตั ลักษณ์ มาประกอบเพื่อความสอดคลอ้ งกับโครงงาน คุณธรรมของผู้เรียน ดังน้ันผู้เรียนจึงมีความจาเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับโครงงาน คุณธรรมไว้เป็นพน้ื ฐาน เพอื่ ใช้ในการปฏบิ ตั ิขณะทางานโครงงานจรงิ อาจมีการศกึ ษาจากโครงงาน คุณธรรมในเรือ่ งท่ีมีผู้ที่ไดจ้ ัดทาไว้ศกึ ษาประกอบจดั ทาโครงงานคุณธรรมของผเู้ รียน ข้ันท่ี 2 กระตุ้นควำมสนใจ (Motivate) หลังจากครูให้ความรู้พ้ืนฐานในการทาโครงงานคุณธรรมกับผู้เรียนแล้ว ครูเตรียม กิจกรรมท่ีจะกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน โดยต้องคิดหรือเตรียมกิจกรรมท่ีดึงดูดให้ผู้เรียนสนใจ ใคร่รู้ ในการทาโครงงานหรือกิจกรรมร่วมกัน โดยกิจกรรมนั้นเป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนมีความสนใจ ต้องการจะทา ทั้งน้ีในการกระตุ้นของครูจะต้องเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเสนอจากกิจกรรมท่ีได้เรียนรู้ ผ่านการจัดการเรียนรู้ของครูท่ีเกี่ยวข้องกับชุมชนท่ีผู้เรียนอาศัยอยู่หรือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถ เรยี นรไู้ ด้ด้วยตนเอง ขัน้ ที่ 3 วำงแผน (Plan) ครใู หผ้ ู้เรียนร่วมกันวางแผน โดยการระดมความคิด อภิปรายหารือขอ้ สรุปของกลุ่ม เพ่ือใช้ เป็นแนวทางในการปฏิบัติ แล้วเสนอแผนการดาเนินงานให้ครูท่ีปรึกษาพิจารณาให้คาแนะนา ช่วยเหลือ และข้อเสนอแนะการวางแผนโครงงานของผู้เรียน ผู้เรียนเขียนโครงงานตามหัวข้อ สาคญั (ชื่อโครงงาน สภาพของปัญหา วัตถุประสงค์ ผู้จัดทาโครงงาน ทป่ี รกึ ษาโครงงาน แหล่ง ความรู้ สถานท่ีดาเนินการ ระยะเวลา งบประมาณ วิธีดาเนินการ เครื่องมอื ท่ีใช้ ผลท่ีคิดว่าจะ ได้รับ)

21 ขน้ั ท่ี 4 จัดกลุ่มร่วมมอื (Cooperative) ครูให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่มกันแสวงหาความรู้ ใช้กระบวนการกลุ่มในการวางแผน ดาเนิน กิจกรรมการทางานร่วมกันเป็นทีม การจัดการความขัดแย้ง ทักษะในการทางานภายใต้ทรัพยากร จากัด ทักษะในการค้นหาความรู้เพ่ิมเติมทักษะในการทางานในสภาพที่ทีมงานมีความแตกต่าง หลากหลาย ทกั ษะการทางานในสภาพกดดัน ทกั ษะในการบันทึกผลงาน ทกั ษะในการวเิ คราะหผ์ ล และแลกเปล่ียนข้อวิเคราะห์กับเพ่ือนร่วมทีม โดยผู้เรียนเป็นผู้ร่วมกันวางแผนกิจกรรมการเรียน ของตนเอง โดยระดมความคิดและหารือ แบ่งหน้าที่เพ่ือเป็นแนวทางปฏิบัติร่วมกัน หลังจากท่ีได้ ทราบหวั ข้อสง่ิ ท่ตี นเองตอ้ งเรียนร้ใู นภาคเรียนนน้ั ๆ เรยี บรอ้ ยแล้ว ขนั้ ท่ี 5 ลงมอื ปฏบิ ัตหิ รือแกป้ ญั หำ (Do) ครูให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติหรือแก้ปัญหาตามแผนการท่ีกาหนดไว้โดยมีท่ีปรึกษาคอยสังเกต ติดตาม แนะนาให้ผู้เรียนรู้จักการสังเกต เก็บรวบรวมข้อมูล บันทึกผลดาเนินการด้วยความ อดทน มีการประชุมอภิปราย ปรึกษาหารือกันเป็นระยะๆ ท่ีปรึกษาโครงงานคุณธรรมจะเข้าไป เกี่ยวข้องเท่าที่จาเป็น ผู้เรียนเป็นผู้ใช้ความคิด ความรู้ ในการวางแผนและตัดสินใจทาด้วย ตนเอง ข้ันที่ 6 ประเมินผลระหว่ำงปฏิบัตโิ ครงงำน (Evaluation) ผู้สอนแนะนาให้ผู้เรียนประเมินผลระหว่างดาเนินการและหลังดาเนินการ รู้จักพิจารณา ก่อนดาเนินการมีสภาพอย่างไร มีปัญหาอย่างไรระหว่างท่ีดาเนินการนั้น ยังมีส่ิงใดท่ีผิดพลาด หรือเป็นข้อบกพร่องต้องแก้ไข มีวิธีการอย่างไร เม่ือดาเนินการไปแล้วผู้เรียนมีความพึงพอใจ หรือไม่ ผลของการดาเนนิ งานโครงงานคุณธรรม ผเู้ รียนได้เรียนร้อู ะไร ได้ประโยชนอ์ ย่างไร และ สามารถนาไปแก้ปญั หาบรรลุวัตถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้ทีก่ าหนดไวไ้ ดห้ รอื ไม่

22 ข้ันที่ 7 นำเสนอผลงำน (Presentation) ครูให้ผู้เรียนนาเสนอผลการเรียนรู้ โดยครูออกแบบกิจกรรมหรือจัดเวลาให้ผู้เรียนได้เสนอ ส่ิงที่ตนเองได้เรียนรู้ เพ่ือให้เพ่ือนร่วมชั้น และผู้เรียนอื่นๆในโรงเรียนได้ชมผลงานและเรียนรู้ กจิ กรรมท่ีผูเ้ รยี นปฏบิ ตั ิในการทาโครงงานคณุ ธรรม 1.7 บทบำทของครผู สู้ อนในฐำนะผกู้ ระตนุ้ กำรเรยี นรู้ ครผู สู้ อนให้ ครเู ป็นผู้คอยให้ นกั เรียนเรียนรกู้ ำร คำแนะนำเม่อื นกั เรยี น ตั้งคำถำม เกดิ ข้อสงสยั ครูทำหนำ้ ท่ี นักเรียนปฏบิ ตั ิ ครูเปิดโอกำสให้ เปน็ ผู้สงั เกต กิจกรรม : นกั เรียนคิดหำ คำตอบดว้ ยตนเอง ครใู ช้คำถำม นกั เรยี นเกิดกำร กระตุ้นกำรเรียนรู้ เรยี นรู้ ครเู ปดิ โอกำสให้ นักเรยี นสร้ำงสรรค์ ผลงำนอย่ำงอสิ ระ แผนภำพ บทบำทของครูในฐำนะผกู้ ระตนุ้ กำรเรยี นรู้ 1) ใช้คำถำมกระตุ้นกำรเรียนรู้ คาถามทใ่ี ช้ในการกระตุ้นการเรียนรู้น้ัน ต้องเป็นคาถาม ที่มีลักษณะเป็นคาถามปลายเปิด เพ่ือให้ผู้เรียนได้อธิบาย โดยขึ้นต้นว่า “ทาไม” หรือ ลงท้ายว่า “อย่างไรบ้าง” “อะไรบา้ ง” “เพราะอะไร” 2) ทำหน้ำท่ีเป็นผู้สังเกต ครูจะต้องคอยสังเกตว่า ผู้เรียนแต่ละคนมีพฤติกรรมอย่างไร ขณะปฏิบตั ิกิจกรรมเพอื่ หำทำงชแ้ี นะ กระต้นุ หรอื ยับย้ังพฤตกิ รรมทไ่ี ม่เหมำะสม”

23 3) สอนให้ผู้เรียนเรียนรู้กำรต้ังคำถำม เม่ือผู้เรียนสามารถต้ังคาถามได้ จะทาให้ผู้เรียน รู้จักถามเพื่อค้นคว้าข้อมูล รู้จกั รับฟังความคดิ เห็นของผู้อ่ืน และร่วมแสดงความคิดเห็นของตนเอง ในเร่ืองทีเ่ กีย่ วขอ้ งกบั การเรียนรู้ 4) ให้คำแนะนำเมื่อผู้เรียนเกิดข้อสงสัย ครูจะต้องเป็นผู้คอยแนะนา ชี้แจงให้ข้อมูล ต่างๆ หรือยกตัวอย่างเหตุการณ์ใกล้ตัวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจาวันของผู้เรียนเชื่อมโยงไปสู่ ความรู้ด้านอน่ื ๆในขณะทากจิ กรรมเมือ่ ผูเ้ รียนเกิดขอ้ สงสัย หรือคาถาม โดยไมบ่ อกคาตอบ 5) เปิดโอกำสให้ผู้เรียนคิดหำคำตอบด้วยตนเอง สังเกตและคอยกระตุ้นด้วยคาถามให้ ผ้เู รยี นได้คิดกิจกรรมท่อี ยากเรียนรู้และหาคาตอบในส่งิ ทสี่ งสยั ด้วยตนเอง 6) เปิดโอกำสให้ผู้เรียนสร้ำงสรรค์ผลงำนอย่ำงอิสระ ตามความคิดและความสามารถ ของตนเอง เพ่ือใหผ้ ไู้ ด้ใชจ้ ินตนาการและความสามารถของตนเองในการคิดสรา้ งสรรค์อยา่ งเต็มท่ี 1.8 กำรประเมนิ ผล 1) ประเมินตำมสภำพจริง โดยผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันประเมินผลว่ากจิ กรรมที่ทาไปน้ัน บรรลุตามจุดประสงค์ที่กาหนดไว้หรือไม่ อย่างไร ปัญหาและอุปสรรคท่ีพบคืออะไรบ้างได้ใช้ วิธกี ารแก้ไขอย่างไร ผู้เรียนไดเ้ รียนรอู้ ะไรบ้างจากการทาโครงงานน้ันๆ 2) ประเมนิ โดยผเู้ กยี่ วขอ้ ง ได้แก่ (1) ผเู้ รียนประเมนิ ตนเอง (2) เพอ่ื นชว่ ยประเมนิ (3) ผสู้ อนหรือครทู ป่ี รกึ ษาประเมิน (4) ผู้ปกครองประเมนิ (5) บุคคลอืน่ ๆ ที่สนใจและมสี ่วนเกี่ยวขอ้ ง

24 สว่ นท่ี 2 แนวทำงกำรจดั กำรเรยี นรโู้ ดยใช้โครงงำนคณุ ธรรมเปน็ ฐำน 2.1 กำรวิเครำะห์หลกั สูตรสถำนศึกษำในกำรจัดกำรเรียนรู้ โดยใชโ้ ครงงำนคณุ ธรรมเป็นฐำน แนวทางการการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน ดาเนินการได้หลาย แนวทางโดยเลือกให้สอดคล้อง และมีความเหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา โดยมีแนวทางการ จัดการเรยี นรู้ ดังนี้ 1) รำยวิชำพ้ืนฐำน การเรียนการสอนโดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐานสามารถจัดการ เรียนการสอนได้ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่มีความสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้น พ้ืนฐานในตัวชี้วัดท่ีมุ่งสู่ให้ผู้เรียนมีพฤติกรรมการเรียนรู้เชิงรุก ได้แก่ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมนิ คา่ และสร้างสรรค์ ด้วยการออกแบบกิจกรรมการเรียนรโู้ ดยใช้โครงงานคุณธรรมเปน็ ฐาน และระบุขั้นตอนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐาน ส่ิงท่ีสาคัญในการจัดการเรียน การสอนแบบโครงงานคุณธรรมเป็นฐานต้องเชื่อมโยงคุณธรรม หรือคุณธรรมอัตลักษณ์ของ สถานศึกษาด้วย 2) รำยวิชำเพ่ิมเติม จัดการเรียนการสอนตามผลการเรียนรู้ ท่ีสถานศึกษามุ่งเน้นเฉพาะ ตามบริบทของสถานศกึ ษา เป็นรายวิชาที่เก่ียวกับโครงงานคุณธรรมโดยตรง เช่น สถานศึกษาเป็น โรงเรียนคณุ ธรรม โรงเรยี นวิถพี ทุ ธ โรงเรียนสจุ ริต สถานศึกษาพอเพียง เปน็ ตน้ 3) กจิ กรรมเสรมิ 3.1) กจิ กรรมชุมนมุ ชมรม เปน็ กจิ กรรมผู้เรียนทสี่ ามารถจดั กิจกรรมให้ผู้เรียนไดเ้ กิด การเรียนรู้ผา่ นกิจกรรมโครงงานคณุ ธรรมต่างๆ เชน่ โครงงานจิตอาสา บาเพญ็ สาธารณะประโยชน์ เพ่ือสงั คม โดยมคี รเู ปน็ ท่ปี รึกษาโครงงานคณุ ธรรม 3.2) กิจกรรมในชั่วโมงโฮมรูม โครงงานคุณธรรมของผู้เรียนท่ีดาเนินการจะมีครู ประจาช้ันเป็นท่ีปรึกษาโครงงานของผู้เรียน ซ่ึงโครงงานอาจจะเป็นการแก้ไขปัญหาของผู้เรียนที่ ประสบในโรงเรยี นในชีวติ ประจาวัน โครงงานตามคณุ ธรรมอตั ลักษณข์ องโรงเรยี น 4) คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เป็นสง่ิ ที่ตอ้ งการใหเ้ กิดกบั ผู้เรยี น ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษา พุทธศักราช 2551 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ จะปรากฏอยู่ในรายวิชาเรียนท่ีเป็น รายวิชาพ้ืนฐานและรายวิชาเพิ่มเติมในองค์ประกอบชองหน่วยการเรียนรู้และแผนการจัดการ

25 เรียนรู้ ซึ่งการจัดการเรียนการสอนโดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็นฐานเป็นเป้าหมายปลายทางการ เกิดคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคท์ ง้ั 8 ประการ ไดแ้ ก่ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซื่อสัตย์สุจรติ มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ ท่ีมีความสอดคล้องกับนโยบายและโครงการต่างๆ เช่น พระราโชบายด้านการศึกษาใน รัชกาลท่ี 10 นโยบายทางด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการที่เน้นการส่งเสริมคุณธรรม จรยิ ธรรมในสถานศึกษา โครงการโรงเรียนคุณธรรม โครงการโรงเรยี นสุจริต เปน็ ตน้ 2.2 สำระและมำตรฐำนกำรเรียนรู้ สำระท่ี 2 หน้ำท่พี ลเมอื ง วฒั นธรรมและกำรดำเนินชีวิตในสงั คม ระดับมธั ยมศกึ ษำตอนต้น สำระท่ี 2 หนำ้ ทพี่ ลเมอื ง วัฒนธรรม และกำรดำเนนิ ชวี ิตในสังคม มำตรฐำน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าท่ีของการเป็นพลเมืองดีมีคา่ นิยมทด่ี ีงาม และธารง รักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทย และสังคม โลกอย่างสันติสขุ ระดับช้นั ตวั ชว้ี ัด สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง ม.1 1. ปฏิบัติตามกฎหมายในการคมุ้ ครอง  กฎหมายในการคุ้มครองสทิ ธิของบคุ คล สทิ ธิของบคุ คล - กฎหมายการคุ้มครองเด็ก - กฎหมายการศกึ ษา - กฎหมายการคมุ้ ครองผบู้ ริโภค - กฎหมายลขิ สิทธิ์  ประโยชน์ของการปฏบิ ัติตนตาม กฎหมายการคุม้ ครองสิทธิของบุคคล 2. ระบุความสามารถของตนเองใน  บทบาทและหนา้ ทข่ี องเยาวชนท่ีมีต่อ การทาประโยชน์ต่อสงั คมและ สังคมและประเทศชาติ โดยเนน้ จติ ประเทศชาติ สาธารณะ เชน่ เคารพกติกาสงั คม ปฏิบัตติ นตามกฎหมาย มีส่วนรว่ มและ รับผิดชอบในกิจกรรมทางสังคม อนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รกั ษา สาธารณประโยชน์

26 ระดับชัน้ ตวั ชีว้ ดั สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง ม.1 3. อภิปรายเก่ยี วกบั คุณค่าทาง  ความคลา้ ยคลงึ และความแตกตา่ งระหวา่ ง วัฒนธรรมท่ีเป็นปัจจัยในการสร้าง วฒั นธรรมไทยกบั วัฒนธรรมของประเทศ ความสัมพนั ธ์ท่ีดี หรืออาจนาไปสู่ ในภมู ภิ าคเอเชียตะวนั ออก เฉยี งใต้ ความเข้าใจผดิ ตอ่ กัน  วัฒนธรรมท่ีเปน็ ปจั จัยในการสร้าง ความสัมพันธ์ทดี่ ี หรืออาจนาไปสคู่ วาม เข้าใจผิดต่อกัน 4. แสดงออกถงึ การเคารพในสทิ ธขิ อง  วิธีปฏิบัติตนในการเคารพในสิทธขิ อง ตนเองและผอู้ ื่น ตนเองและผอู้ ่ืน  ผลท่ไี ดจ้ ากการเคารพในสิทธขิ อง ตนเองและผู้อ่ืน ม.2 1. อธิบายและปฏิบตั ิตนตามกฎหมาย  กฎหมายทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับตนเอง ทเี่ ก่ียวขอ้ งกับตนเอง ครอบครวั ครอบครัว เช่น ชมุ ชนและประเทศ กฎหมายเกีย่ วกับความสามารถของ ผเู้ ยาว์ - กฎหมายบตั รประจาตัวประชาชน - กฎหมายเพง่ เกีย่ วกับครอบครัวและ มรดก เช่น การหมน้ั การสมรส การรบั รอง บุตร การรบั บุตรบุญธรรม และมรดก  กฎหมายท่ีเกี่ยวกบั ชมุ ชนและประเทศ - กฎหมายเกย่ี วกับการอนรุ ักษ์ ธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม - กฎหมายเกย่ี วกับภาษีอากร และ กรอกแบบแสดงรายการ ภาษเี งนิ ได้บุคคล ธรรมดา - กฎหมายแรงงาน ม.2 2. เห็นคุณค่าในการปฏบิ ตั ิตนตาม  สถานภาพ บทบาท สทิ ธิ เสรภี าพ สถานภาพ บทบาท สิทธิ เสรภี าพ หน้าท่ใี นฐานะพลเมืองดีตามวิถี ประชาธปิ ไตย

27 ระดบั ช้ัน ตัวชี้วัด สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง หน้าที่ในฐานะพลเมอื งดีตามวิถี  แนวทางส่งเสริมให้ปฏิบัติตนเปน็ ประชาธิปไตย พลเมอื งดีตามวถิ ีประชาธิปไตย 3. วเิ คราะหบ์ ทบาท ความสาคญั  บทบาท ความสาคัญและความสมั พันธ์ และความสมั พันธข์ องสถาบันทาง ของสถาบันทางสังคม เช่น สถาบัน สังคม ครอบครวั สถาบนั การศึกษา สถาบัน ศาสนา สถาบันเศรษฐกิจ สถาบนั ทาง การเมอื งการปกครอง 4.อธิบายความคล้ายคลงึ และความ  ความคล้ายคลงึ และความแตกต่างของ แตกต่างของวฒั นธรรมไทย และ วฒั นธรรมไทย และวฒั นธรรมของ วัฒนธรรมของประเทศในภูมิภาค ประเทศในภูมภิ าคเอเชยี วัฒนธรรม เอเชีย เพอื่ นาไปสคู่ วามเขา้ ใจอันดี เปน็ ปัจจยั สาคัญในการสร้างความ ระหวา่ งกนั เขา้ ใจอนั ดีระหวา่ งกนั ม.3 1. อธบิ ายความแตกตา่ งของการ  ลกั ษณะการกระทาความผดิ ทางอาญา กระทาความผดิ ระหว่างคดีอาญาและ และโทษ คดีแพง่  ลักษณะการกระทาความผดิ ทางแพ่ง และโทษ  ตัวอย่างการกระทาความผิดทางอาญา เช่น ความผดิ เกย่ี วกับทรพั ย์  ตวั อยา่ งการทาความผิดทางแพง่ เช่น การทาผิดสัญญา การทาละเมดิ ม.3 2. มีส่วนรว่ มในการปกป้องคุม้ ครอง  ความหมาย และความสาคญั ของสทิ ธิ ผอู้ นื่ ตามหลักสิทธิมนุษยชน มนษุ ยชน  การมีส่วนร่วมค้มุ ครองสทิ ธิมนุษยชน ตามรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย ตามวาระและโอกาสท่ีเหมาะสม 3. อนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและเลือกรับ  ความสาคญั ของวฒั นธรรมไทย วฒั นธรรมสากลทีเ่ หมาะสม ภมู ปิ ัญญาไทยและวฒั นธรรมสากล

28 ระดบั ชน้ั ตัวชว้ี ดั สำระกำรเรียนรูแ้ กนกลำง  การอนุรักษว์ ัฒนธรรมไทยและ 4. วิเคราะหป์ จั จัยทีก่ ่อให้เกิดปัญหา  ภูมิปญั ญาไทยทเี่ หมาะสม ความขัดแยง้ ในประเทศ และเสนอ  การเลือกรับวัฒนธรรมสากลท่ี แนวคดิ ในการลดความขดั แย้ง เหมาะสม 5. เสนอแนวคิดในการดารงชวี ิตอยา่ ง  ปัจจยั ท่กี ่อให้เกิดความขดั แย้ง เช่น มีความสุขในประเทศและสงั คมโลก การเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม ความเชอ่ื  สาเหตุปัญหาทางสังคม เช่น ปญั หา ส่งิ แวดล้อม ปัญหายาเสพตดิ ปญั หา การทจุ ริต ปัญหาอาชญากรรม ฯลฯ  แนวทางความรว่ มมือในการลดความ ขดั แยง้ และการสร้างความสมานฉนั ท์  ปจั จัยท่ีส่งเสริมการดารงชวี ติ ใหม้ ี ความสุข เช่น การอยู่ร่วมกนั อยา่ งมี ขันตธิ รรม หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง เห็นคุณค่าในตนเอง รู้จกั มอง โลกในแง่ดี สร้างทักษะทางอารมณ์ รู้จักบรโิ ภคด้วยปญั ญา เลือกรับปฏิเสธ ข่าวและวตั ถตุ า่ งๆ ปรับปรุงตนเอง และสง่ิ ต่างๆใหด้ ีขนึ้ อยเู่ สมอ

29 มำตรฐำน ส 2.2 เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปจั จุบัน ยดึ ม่ัน ศรทั ธาและธารง รักษาไวซ้ ่งึ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ ระดบั ช้นั ตัวช้วี ดั สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง ม.1 1. อธิบายหลักการ เจตนารมณ์  หลักการ เจตนารมณ์ โครงสรา้ ง และ โครงสร้าง และสาระสาคญั ของ สาระสาคญั ของรัฐธรรมนูญแห่ง รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย ราชอาณาจักรไทย ฉบับปัจจุบัน ฉบบั ปจั จบุ นั โดยสังเขป 2. วเิ คราะห์บทบาทการถ่วงดุลของ  การแบง่ อานาจ และการถ่วงดุลอานาจ อานาจอธิปไตยในรฐั ธรรมนญู แห่ง อธปิ ไตยทงั้ 3 ฝ่าย คือนิติบัญญตั ิ ราชอาณาจกั รไทย ฉบับปัจจบุ นั บริหาร ตลุ าการ ตามที่ระบุใน รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทยฉบบั ปัจจบุ นั 3. ปฏิบตั ิตนตามบทบญั ญัตขิ อง  การปฏิบัตติ นตามบทบัญญตั ิของ รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทยฉบับ ฉบบั ปัจจุบนั ท่ีเก่ียวขอ้ งกับตนเอง ปัจจบุ นั เก่ยี วกับสิทธิ เสรีภาพและ หน้าที่ ม.2 1. อธบิ ายกระบวนการในการตรา  กระบวนการในการตรากฎหมาย กฎหมาย - ผู้มีสทิ ธิเสนอร่างกฎหมาย - ขน้ั ตอนการตรากฎหมาย - การมสี ว่ นร่วมของประชาชนใน กระบวนการตรากฎหมาย 2. วิเคราะห์ขอ้ มูล ขา่ วสารทางการเมอื ง  เหตกุ ารณ์ และการเปล่ียนแปลงสาคัญ การปกครองทม่ี ีผลกระทบตอ่ สงั คมไทย ของระบอบการปกครองของไทย สมยั ปจั จบุ ัน  หลกั การเลือกข้อมูล ขา่ วสาร 1. อธบิ ายกระบวนการในการตรา  กระบวนการในการตรากฎหมาย กฎหมาย - ผ้มู สี ิทธิเสนอร่างกฎหมาย ม.2 - ข้นั ตอนการตรากฎหมาย

30 ระดับช้ัน ตัวชี้วดั สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง - การมีส่วนร่วมของประชาชนใน ม.3 1. อธิบายระบอบการปกครองแบบ ต่างๆ ทใี่ ช้ในยุคปัจจบุ นั กระบวนการตรากฎหมาย  ระบอบการปกครอง แบบต่างๆ ทใ่ี ช้ใน 2. วิเคราะห์ เปรียบเทยี บระบอบการ ปกครองของไทยกับประเทศอนื่ ๆ ท่มี ี ยุคปัจจุบัน เชน่ การปกครองแบบ การปกครองระบอบประชาธิปไตย  เผด็จการ การปกครองแบบ ประชาธิปไตย  เกณฑ์การตัดสินใจ  ความแตกตา่ ง ความคล้ายคลงึ ของการ ปกครองของไทย กบั ประเทศอ่ืนๆ ที่มี การปกครองระบอบประชาธิปไตย 3. วเิ คราะหร์ ัฐธรรมนญู ฉบบั ปจั จุบนั  บทบัญญตั ิของรฐั ธรรมนญู ในมาตรา ในมาตราต่างๆ ทีเ่ ก่ียวข้องกับการ ตา่ งๆ ที่เกี่ยวข้องกบั การเลือกตง้ั เลอื กตง้ั การมีส่วนร่วม และการ การมีส่วนร่วม และการตรวจสอบ ตรวจสอบการใชอ้ านาจรัฐ การใชอ้ านาจรัฐ 4. วเิ คราะห์ประเด็น ปัญหาที่เป็น  อานาจหนา้ ทข่ี องรฐั บาล อปุ สรรคตอ่ การพัฒนาประชาธิปไตย  บทบาทสาคัญของรัฐบาลในการบรหิ าร ของประเทศไทยและเสนอแนว ทางแก้ไข ราชการแผ่นดิน  ความจาเปน็ ในการมรี ัฐบาลตามระบอบ ประชาธิปไตย  ประเด็น ปญั หาและผลกระทบทีเ่ ป็น อุปสรรคต่อการพฒั นาประชาธปิ ไตย ของประเทศไทย  แนวทางการแก้ไขปญั หา

31 2.3 กำรวิเครำะหม์ ำตรฐำนกำรเรยี นรู้ และตวั ชวี้ ัดท่นี ำไปสู่ กำรจดั กำรเรียนรู้โดยใช้โครงงำนคุณธรรมเป็น การนามาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ควรให้ความสาคัญการวิเคราะห์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดท่ีนาไปสู่การจัดกำรเรียนรู้โดยใช้โครงงำนคุณธรรมเป็นฐำน เลือกมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวช้ีวัดที่มีความสอดคล้องในการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน คุณธรรมเป็นฐาน ผู้เรียนสำมำรถรู้อะไร และทำอะไรได้ ระบุสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ และท่สี าคญั คือระบคุ ุณธรรมท่สี อดแทรกในวชิ านนั้ ๆดว้ ย ตำรำงกำรวเิ ครำะห์มำตรฐำนกำรเรยี นรู้และตัวชี้วดั นำไปสู่กำรจดั กำรเรียนรู้ โดยใชโ้ ครงงำนคุณธรรมเปน็ ฐำน วิชา..............................................รหสั วิชา...............................................ระดบั ช้ัน......................... หน่วยการเรียนรู้ท่ี ............เร่อื ง............................................................. มำตรฐำน ตัวชี้วดั ผ้เู รยี นรู้ ผเู้ รยี นทำ สมรรถนะ คณุ ลักษณะอัน คุณธรรม กำรเรียนรู้ อะไร อะไรได้ สำคัญผเู้ รียน พงึ ประสงคท์ ่ี สอดแทรก หมำยเหตุ ใบกิจกรรมท่ี 1 อยใู่ นภาคผนวก

ตัวอยำ่ งกำรวิเครำะหม์ ำตรฐำนกำรเรียน โดยใชโ้ ครงงำน วชิ าสังคมศึกษา 3 รหสั วิชา ส22101 ระดบั ชั้น มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ห มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ ตวั ชวี้ ดั ผู้เรยี นรอู้ ะไร ผ ส 2.1 เข้าใจและปฏิบตั ิ ม.2/2 เห็นคุณค่า การปฏบิ ตั ิตนตาม เหน็ ปฏ ตนตามหน้าทขี่ องการ ในการปฏิบัตติ น สถานภาพ บทบาท สถา สทิ ธ เปน็ พลเมืองดมี ีค่านิยม ตามสถานภาพ สิทธิเสรีภาพ เปน็ หน ตาม ทด่ี ีงาม และธารงรักษา บทบาท สิทธิ หน้าทข่ี องพลเมืองดี ประเพณแี ละวัฒนธรรม เสรีภาพ หนา้ ท่ีใน ตามวถิ ีประชาธปิ ไตย ไทย ดารงชีวติ อยู่ รว่ มกนั ในสงั คมไทย ฐานะพลเมอื งดี และสงั คมโลกอยา่ ง ตามวิถี สันตสิ ุข ประชาธิปไตย

32 นรู้และตัวชีว้ ดั นำไปสู่กำรจดั กำรเรียนรู้ นคุณธรรมเปน็ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 เร่อื ง เราจะเป็นพลเมืองดีความวิถีประชาธปิ ไตย ผู้เรียนทำอะไรได้ สมรรถนะสำคญั คณุ ลักษณะ คณุ ธรรมท่ี ผู้เรยี น อันพึงประสงค์ สอดแทรก นคณุ ค่าในการ 1. ความสามารถใน มีวินัย มีวินัย ฏบิ ตั ิตนตาม การคดิ านภาพ บทบาท ใฝเ่ รียนรู้ ธเิ สรีภาพ เปน็ 2. ความสามารถใน น้าที่ของพลเมืองดี การแก้ปญั หา ม่งุ มน่ั ในการ มวิถปี ระชาธิปไตย ทางาน 3. ความสามารถใน การใช้ทกั ษะชีวิต 32

33 2.4 กำรออกแบบหนว่ ยกำรเรยี นรู้โดยใชโ้ ครงงำนคณุ ธรรมเป็นฐำน ในการนาการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานคุณธรรมเป็นฐานเข้าสู่ห้องเรียน ครูผ้สู อนจะต้อง ทาการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ จัดทาหน่วยการเรียนรู้ และแผนการจัดการเรียนรู้ เพ่ือนาสู่ การจดั การเรียนการสอนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการจัดการเรียนการสอนแบบโครงงานคุณธรรม เป็นฐาน ผ้เู ขยี นขอเสนอการจัดทาหนว่ ยการเรยี นร้แู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ดังน้ี การจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พ.ศ.2551 และฉบับ ปรับปรุง พ.ศ.2560 มมี าตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้ีวดั เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรยี น และนาพา ผู้เรยี นใหเ้ กิดสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น และ คณุ ลกั ษณะอันพึงปะสงค์ ซึ่งครูผู้สอนต้องออกแบบการเรียนรู้ จัดทาหน่วยการเรียนรกู้ ่อน วางแผนกาจดั การเรยี นรูใ้ นชนั้ เรียน ข้ันตอนกำรออกแบบหน่วยกำรเรยี นรู้ 1. กำรกำหนดเป้ำหมำยกำรเรยี นรคู้ ำถำมสำคญั  ผ้เู รยี นมีควำมรู้ควำมเข้ำใจ ควำมสำมำรถอะไรบำ้ ง  เนือ้ หำแบบใดทีค่ วรค่ำแก่กำรเรยี นรู้  ควำมเขำ้ ใจทล่ี กึ ซึง้ ควรมอี ะไรบ้ำง กำรจดั ลำดับควำมสำคัญของผลกำรเรยี นรู้ ส่ิงที่มีคุณคำ่ และนำ่ จะรู้ สสิ่งทิง่ ทจ่ี ่จีำาเปเป็น็นตตอ้ อ้ งงรรแู้ ู้แลละะจจำาเเปปน็ ็นตต้ออ้ งงททำา ควำมเขำ้ ใจท่ีลุม่ ลึกและย่ังยืนเป็นควำมรู้ ควำมคิด หรอื ควำมรทู้ ่เี ปน็ แกน่ เปน็ หลกั กำรของเร่อื งใดเร่ือง หนง่ึ ทสี่ ำมำรถประยุกตใ์ ชไ้ ดอ้ ยำ่ งกว้ำงขวำง

34 2. กำรกำหนดหลกั ฐำนผลกำรเรียนรคู้ ำถำมสำคัญ  จะรู้ได้อยำ่ งไรวำ่ ผเู้ รยี นเกิดกำรเรยี นรู้  ชน้ิ งำนแบบใดทมี่ คี ณุ ภำพ  จะรู้ได้อย่ำงไรวำ่ ผู้เรียนเกิดควำมรู้ควำม เขำ้ ใจทีต่ ้องกำร กำหนดหลักฐำนผลกำรเรียนรู้ หลกั ฐานท่ีบ่งช้วี า่ ผ้เู รยี นได้บรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ ท่กี าหนดดว้ ยวธิ ีการที่ หลากหลาย กำรทดสอบ กำรใหโ้ จทยห์ รือประเด็น ปัญหำ นกั เรียนไปขบคิค กำรตรวจสอบ ควำมเขำ้ ใจอยำ่ ง กำรสงั เกตหรือ กำรลงมือปฏบิ ตั ิ/ ไมเ่ ปน็ ทำงกำร พูดคยุ โครงงำน 3. กำรวำงแผนกำรเรยี นกำรสอน คำถำมสำคัญ ควำมรแู้ ละทักษะอะไรจะช่วยให้ผูเ้ รยี นมคี วำมสำมำรถตำมเปห้ มำยท่กี ำหนดไว้  กิจกรรมอะไรจะช่วยพฒั นาผู้เรียนไปสเู่ ป้าหมาย  สอื่ การสอนอะไรจงึ จะเหมาะสมสาหรบั กิจกรมการเรียนรู้ขา้ งตนั  การออกแบบโดยรวมสอดคล้องและลงตัวหรือไม่เขา้ ใจท่ตี ้องการ จำกเป้ำหมำย เป้ำหมำยกำรเรยี นรู้ จำกกจิ กรรมทลี ะ และหลักฐำน ขัน้ เปน็ บนั ไดสู่ คิดยอ้ นกลบั สู่ หลกั ฐำนของกำรเรียนรู้ หลกั ฐำนและ จดุ เร่ิมต้น เปำ้ หมำยกำร ของกิจกรรม 4. กจิ กรรม 3. กจิ กรรม เรยี นรู้ 2. กิจกรรม 1. กิจกรรม

35 2.5 กำรจัดทำหนว่ ยกำรเรียนรู้ การออกแบบหน่วยการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้แก่ผู้เรียนน้ัน ผู้สอน ต้องศึกษาวัตถุประสงค์ของท้องถิ่นชุมชน วิเคราะห์ความต้องการและความจาเป็นของแต่ละ ท้องถิ่น สถานศึกษารวมถึงการพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุเป้าหมายตามมาตรฐานการเรียนรู้และ ตัวชี้วดั ทก่ี าหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางฯ ผู้สอนอาจเร่ิมต้นจากการวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดท่ีกาหนด หรือโดยการกาหนดหัวข้อท่ีเป็นประเด็นปัญหาที่น่าสนใจ และมีคุณค่าแก่ การเรียนรู้ของผู้เรียน หรือเริ่มจากเน้ือหาในบทเรียนที่มีอยู่เดิม แล้วเช่ือมโยงหัวข้อความรู้จาก บทเรยี นนน้ั ๆ ว่าสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรูล้ ะตัวช้ีวดั ข้อใดบา้ ง ในการจัดทาหน่วยการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 และฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560 จะมุ่งน้ันให้จัดทาหน่วยการเรียนรู้โดยใช้ Backward Design ซ่ึง เป็นการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ที่มีกระบวนการพัฒนาผู้เรียนไปสู่มาตรฐานการเรียนรู้และ ตัวชี้วัดค่อนข้างชัดเจน โดยยึดผลลัพธ์สุดท้ายที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดเป็นตัวตั้ง จึงต้องเร่ิมจากการวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด เพ่ือกาหนด เป็นเป้าหมายของการจัดการเรียนรู้กอ่ น แลว้ จึงกาหนดช้ินงานที่ตอ้ งการใหผ้ ู้เรียนปฏิบตั ิ พรอ้ มท้ัง กาหนดเกณฑ์ในการประเมินผลงานแล้วจึงกาหนดกิจกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้องกัน ตามลาดับ การออกแบบการเรียนรู้แบบ Backward Design จึงเป็นการออกแบบหลักสูตรการ เรียนการสอนท่ีมีเป้าหมายชัดเจน และผู้สอนสามารถวางแผนดาเนินการพัฒนาผู้เรียนไปสู่ เปา้ หมายดว้ ยความมุ่งม่นั ตง้ั ใจจรงิ

36 ระดบั ชำติ ระดบั เขตพื้นที่ ระดบั สถำนศึกษำ ระดบั ชนั้ เรยี น กำรศกึ ษำ หลกั สตู ร 1. จดุ เนน้ หลักสตู รสถานศึกษา โครงสร้างรายวชิ า แกนกลาง คณุ ภาพ คาอธบิ ายรายวชิ า การศกึ ษา ผู้เรียน ขั้นพื้นฐาน 2. สาระการ หนว่ ย หน่วย หน่วย พุทธศกั ราช เรียนรู้ การเรียนรู้ การเรียนรู้ การเรยี นรู้ 2551 ทอ้ งถน่ิ และฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2560 แผนการ แผนการ จดั การเรียนรู้ จัดการเรียนรู้ แผนการ จัดการเรียนรู้ แผนภำพ แสดงกำรเชือ่ มโยงระหวำ่ งหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพืน้ ฐำน พุทธศักรำช 2551 และ หลักสูตรสถำนศึกษำส่กู ำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ในชั้นเรยี น

ตำรำงกำรออกแบบ รายวชิ า......................................................................................รหัสวิชา........ หนว่ ยการเรยี นรู้ท.่ี ..................เร่ือง................................................................. มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ / สำระสำคญั / สำระกำรเ ตวั ชีว้ ัด ควำมคิดรวบยอด แกนกลำง / หรือผลกำรเรยี นรู้ หมำยเหตุ ใบกจิ กรรมท่ี 2 อยู่ในภาคผนวก

37 บหนว่ ยกำรเรยี นรู้ ..............................กลุม่ สาระการเรียนรู.้ .................................................. ...............................ชัน้ ....................................เวลาสอน................ช่วั โมง เรียนรู้ ชิน้ งำน /ภำระงำน แนวทำงกำรจดั กิจกรรม / ทอ้ งถิน่ 37

ตวั อยำ่ งกำรออก รายวิชาสังคมศกึ ษา 3 รหัสวชิ า ส22101 กล่มุ สา หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง เราจะเปน็ พลเมืองดตี ามวิถปี มำตรฐำนกำรเรียนรู้ / สำระสำคญั / สำระกำรเรียนรู้ ตวั ชี้วัด ควำมคิดรวบยอด แกนกลำง / ท้องถิ่น หรือผลกำรเรยี นรู้ การปฏิบัติตนตาม สาระแกนกลาง ส 2.1 ม.2/2 เหน็ คณุ ค่า สถานภาพ บทบาท - สถานภาพ บทบาท ในการปฏิบัตติ นตาม สถานภาพ บทบาท สิทธิ สทิ ธเิ สรีภาพ เปน็ หนา้ ที่ สทิ ธิ เสรภี าพ หนา้ ท่ใี น เสรภี าพ หน้าทีใ่ นฐานะ พลเมอื งดตี ามวิถี ของพลเมืองดีตามวิถี ฐานะพลเมืองดีตามวิถี ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ในการ ประชาธิปไตย สง่ เสรมิ ให้มีการปฏบิ ตั ิ - แนวทางสง่ เสริมให้ อย่างถูกต้อง ปฏิบัตติ นเป็นพลเมืองดี ตามวถิ ปี ระชาธิปไตย

38 กแบบกำรเรยี นรู้ าระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ประชาธิปไตย ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 เวลาสอน 4 ช่วั โมง ช้ินงำน /ภำระงำน แนวทำงกำรจัดกจิ กรรม - อภปิ ราย หวั ขอ้ ทีจ่ ะ ขน้ั ตอนการจดั การเรียนรโู้ ดยใช้โครงงานคุณธรรมเปน็ ฐาน ดาเนินการจัดทา 7 ขนั้ ตอน (ระบุ) โครงงานคุณธรรมตาม ช่วั โมงที่ 1 หวั ข้อท่กี าหนด ข้ันที่ 1 ให้ควำมรพู้ ้นื ฐำน (Knowledge) - โครงงานคุณธรรม - สนทนาร่วมกันเก่ียวกับเกี่ยวกับการปฏิบัติตนตาม ตามหัวขอ้ ทกี่ าหนด สถานภาพ บทบาท สิทธิ เสรีภาพ หน้าที่ของตนเองใน ฐานะพลเมืองดตี ามวถิ ปี ระชาธิปไตย ขัน้ ท่ี 2 กระตุ้นควำมสนใจ (Motivate) - ดูคลิปวิดีโอ เก่ียวกับการเป็นพลเมืองดี และให้ผู้เรียน ร่วมอภิปรายรว่ มกัน - แบง่ กลมุ่ อภิปรายเกย่ี วกับคลิปวิดีโอดงั กลา่ ว - รว่ มกันสรุปการอภปิ รายคลปิ วีดโี อดังกล่าว 38

มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ / สำระสำคัญ / สำระกำรเรียนรู้ ตัวช้ีวัด ควำมคิดรวบยอด แกนกลำง / ท้องถ่นิ หรือผลกำรเรยี นรู้

39 ช้ินงำน /ภำระงำน แนวทำงกำรจัดกจิ กรรม - แบง่ กลุ่มสมาชกิ สบื คน้ ขา่ ว หรอื ขอ้ มูลและวิเคราะห์ - ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอข่าวท่ีกลุ่มนามา วิเคราะห์ - สรุปการวิเคราะห์ข่าวและแนวทางการส่งเสริมการเป็น พลเมืองดีรว่ มกนั - ศกึ ษาความรูเ้ กยี่ วกับโครงงานคุณธรรม - สรุปความรู้เพ่ิมเติมเกี่ยวกับโครงงานคุณธรรมเพ่ือการ จดั ทาโครงงานคุณธรรมของผเู้ รียนตอ่ ไป - แบ่งกลุ่มสมาชิก เพื่อร่วมกันคิดหัวข้อการโครงงาน คณุ ธรรม โดยครูใหค้ าขอ้ แนะนาและคาปรกึ ษา - สรุปหัวข้อปัญหาทจ่ี ะจัดทาโครงงานคุณธรรม - ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมจากหัวข้อโครงงานคุณธรรม เพื่อ นาไปเขยี นเค้าโครงของโครงงานคณุ ธรรม 39

มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ / สำระสำคัญ / สำระกำรเรียนรู้ ตัวช้ีวัด ควำมคิดรวบยอด แกนกลำง / ท้องถ่นิ หรือผลกำรเรยี นรู้

40 ช้ินงำน /ภำระงำน แนวทำงกำรจดั กจิ กรรม ชว่ั โมงท่ี 2 ขนั้ ที่ 3 วำงแผน (Plan) - ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม สตเิ ปน็ ฐาน/เปา่ ลมหายเข้า-ออก เพอื่ ให้ผู้เรยี นมสี ตใิ นการเรยี นรู้ - ทบทวนในสิ่งทผี่ เู้ รียนไดเ้ รยี นรูช้ ว่ั โมงที่ผ่านมา - แตล่ ะกล่มุ ทบทวนการเขยี นเค้าโครงของโครงงาน ขนั้ ที่ 4 จัดกลุ่มรว่ มมอื (Cooperative) - แบ่งสมาชิกในกลุ่มท่ีรับผิดขอบตามหัวข้อโครงงาน คุณธรรม และทบทวนหน้าที่และความรับผิดชอบผูเ้ รียนแต่ ละกลมุ่ - แบ่งหน้าที่กันทางานโครงงานให้ชัดเจน โดยให้กาหนด วา่ แต่ละในกลมุ่ มหี น้าท่ีอะไรบ้าง - สอบถามหัวข้อและการแสวงหาความรู้ กิจกรรมตาม หัวข้อที่ได้รับมอบหมาย ผเู้ รียนปฏิบตั ิตามกระบวนการการ ทางานโครงงานคณุ ธรรม - ร่วมกันสรุปส่ิงท่ีต้องดาเนินการของแต่ละกลุ่ม เพ่ือ นาไปสู่ข้นั การตรวจสอบของโครงงานคุณธรรมต่อไป 40

มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ / สำระสำคัญ / สำระกำรเรียนรู้ ตัวช้ีวัด ควำมคิดรวบยอด แกนกลำง / ท้องถ่นิ หรือผลกำรเรยี นรู้