Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม1

วิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม1

Published by moungpok207, 2020-05-02 05:14:57

Description: STsci60_P5_1

Search

Read the Text Version

ชอ่ื -สกลุ เดอื น ช้นั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วนั ท ่ี พ.ศ. ผลการอภิปรายและสืบคน้ ข้อมลู เกย่ี วกบั การเปลีย่ นสถานะของนำ้� ผลไม้ • เมื่อคนน้�ำแข็งผสมเกลอื แกงในอ่าง สารในแก้วพลาสติกมกี ารเปลี่ยนสถานะจาก เป็น เรยี กการเปลีย่ นสถานะนว้ี ่า • เมือ่ แบง่ นำ�้ ผลไม้ท่ีเปล่ียนสถานะแล้วใส่แก้วใบหนึง่ และวางไว้นอกอา่ งน้�ำแขง็ สารมีการเปลีย่ นสถานะจาก เป็น เรยี กการเปลย่ี นสถานะน้วี า่ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 97

ชอ่ื -สกลุ เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วนั ท ่ี พ.ศ. ใบความรู้ เรอ่ื งการเปล่ยี นสถานะของน�้ำผลไม้ นำ�้ ผลไมซ้ งึ่ มสี ถานะเปน็ ของเหลว เมอื่ ทำ� ใหเ้ ยน็ ลงจนถงึ ระดบั หนงึ่ จะเปลยี่ นเปน็ เกล็ดน�้ำแข็งซ่ึงเป็นของแข็งเนื่องจากสูญเสียความร้อน และเมื่อเกล็ดน�้ำแข็งได้รับ ความร้อนจากอากาศ จะเปลี่ยนสถานะกลับมาเป็นน�้ำผลไม้เหมือนเดิม ของเหลว เมอ่ื สญู เสยี ความรอ้ นจนเยน็ ลงถงึ ระดบั หนงึ่ จะเปลย่ี นสถานะเปน็ ของแขง็ เรยี กวา่ การแขง็ ตวั ส่วนของแข็งที่ได้รับความร้อนและเปล่ียนสถานะเป็นของเหลวเรียกว่าการหลอมเหลว ทั้งการแข็งตวั และการหลอมเหลว ไมม่ กี ารเปลีย่ นเป็นสารใหม่ จงึ เป็นการเปลี่ยนแปลง ทางกายภาพ พลังงานความร้อนเพมิ่ ขน้ึ ของแขง็ การหลอมเหลว ของเหลว การแขง็ ตวั พลงั งานความร้อนลดลง รปู กระบวนการเปลย่ี นสถานะของสสาร 98 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกุล เดอื น ชั้น เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วนั ท่ ี พ.ศ. คำ� ถามหลงั จากท�ำกจิ กรรม ๑. เมอื่ นำ� แกว้ ทใ่ี สน่ ำ�้ ผลไมไ้ ปแชใ่ นอา่ งนำ�้ แขง็ ผสมเกลอื แกง ผลการสงั เกตเหมอื นหรอื แตกตา่ ง กบั การคาดคะเนอยา่ งไร ๒. เมอื่ นำ� นำ้� ผลไมท้ เี่ ปลยี่ นสถานะแลว้ ใสแ่ กว้ แลว้ วางไวน้ อกอา่ งนำ�้ แขง็ เกดิ การเปลย่ี นแปลงอยา่ งไร ๓. นำ�้ ผลไมม้ ีการเปล่ยี นสถานะอยา่ งไรบ้าง เรียกการเปลีย่ นสถานะนน้ั ๆ วา่ อะไร ๔. การเปล่ยี นสถานะของนำ้� ผลไมเ้ กดิ ขน้ึ ได้อยา่ งไร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 99

ชือ่ -สกุล เดือน ชน้ั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วันท่ ี พ.ศ. ๕. การเปลีย่ นสถานะของนำ�้ ผลไม้เปน็ การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพหรือไม่ รไู้ ด้อยา่ งไร ๖. จากกจิ กรรมนี้ สรุปได้วา่ อยา่ งไร 100 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกุล เดือน ชน้ั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๓ วนั ท ่ี พ.ศ. กิจกรรมท่ี ๓ พมิ เสนมีการเปลยี่ นสถานะอย่างไร จดุ ประสงค์ สังเกตและอธบิ ายการเปลี่ยนสถานะของพิมเสน วสั ด-ุ อุปกรณ์ ๑. แก้วพลาสติกใส ๒. บกี เกอร์ขนาด ๒๕๐ ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร ๓. แผน่ กระดาษแข็งเจาะรู ๔. พมิ เสน ๕. ช้อนตกั สารเบอร์ ๒ ๖. ชดุ ตะเกยี งแอลกอฮอล์ ๗. ไมข้ ีดไฟ ๘. กระปอ๋ งทรายสำ� หรบั ดับไฟ วธิ ที ำ� ๑. ตกั พมิ เสน ๕ ชอ้ นเบอร์ ๒ ใสใ่ นบกี เกอร์ สงั เกตสมบตั ขิ องพมิ เสน ไดแ้ ก่ สถานะ สี และกลนิ่ บันทึกผล ๒. น�ำกระดาษแข็งท่ีเจาะรูไว้ ๔-๕ รู วางบนปากบีกเกอร์ แล้วน�ำแก้วพลาสติกใส ครอบบนกระดาษแขง็ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 101

ชอื่ -สกลุ เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๓ วนั ท ี่ พ.ศ. ๓. คาดคะเนและบันทึกว่าจะเกิดอะไรข้ึน เม่ือน�ำบีกเกอร์ท่ีใส่พิมเสนไปให้ความร้อน โดยตง้ั ไฟอ่อน ๆ ดงั รูป ๔. ทำ� กิจกรรมเพ่อื ตรวจสอบการคาดคะเน สงั เกตการเปล่ยี นแปลงท่เี กิดขึ้น บันทกึ ผล ๕. ดับไฟ แล้วตั้งทิ้งไว้ ๕ นาที สังเกตการเปล่ียนแปลงในบีกเกอร์ แก้วพลาสติกใส และบนกระดาษ ๖. ร่วมกันอภิปรายเปรียบเทียบสมบัติของสารที่พบบนกระดาษและในแก้วพลาสติกใส กบั สมบตั ิของพิมเสนกอ่ นให้ความร้อน บันทกึ ผล ๗. ร่วมกันอภิปรายเกย่ี วกับการเปลย่ี นสถานะของพิมเสน และน�ำเสนอ ๘. อา่ นใบความรแู้ ละสบื คน้ ขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ วา่ การเปลย่ี นสถานะในแตล่ ะชว่ งของพมิ เสน เรยี กว่าอะไร บนั ทึกผลและนำ� เสนอ 102 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกลุ เดือน ชนั้ เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๓ วนั ที่ พ.ศ. ใบงาน ๐๓ : การเปลย่ี นสถานะของพิมเสน บันทึกผลการท�ำกจิ กรรม ผลการสงั เกตสมบตั ขิ องพิมเสน การคาดคะเนสง่ิ ท่ีเกิดขึน้ เม่ือน�ำบกี เกอร์ทม่ี พี ิมเสนไปให้ความร้อนโดยตงั้ ไฟออ่ น ๆ วาดรปู และบรรยายสง่ิ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในบกี เกอรแ์ ละในแกว้ พลาสตกิ ใสเมอื่ พมิ เสนไดร้ บั ความรอ้ น ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 103

ชอ่ื -สกลุ เดือน ช้ัน เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๓ วนั ท่ี พ.ศ. ผลการสังเกตเมื่อดบั ไฟ ผลการอภปิ รายสมบตั ิของพมิ เสนก่อนและหลงั ให้ความรอ้ น ผลการอภิปรายและสืบคน้ ขอ้ มลู เก่ียวกับการเปล่ียนสถานะของพมิ เสน • เม่อื ใหค้ วามรอ้ นกับเกล็ดพมิ เสน สารมีการเปลยี่ นสถานะจาก เปน็ เรียกการเปล่ียนสถานะนว้ี า่ • หลังจากดับไฟ สารมีการเปล่ยี นสถานะจาก เป็น เรียกการเปลีย่ นสถานะนี้ว่า 104 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ช่อื -สกุล เดือน ช้ัน เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๓ วนั ท ี่ พ.ศ. ใบความรู้ เร่อื งการเปลีย่ นสถานะของพมิ เสน ของแข็งบางชนิด เช่น พิมเสน เม่ือได้รับความร้อนจะเปล่ียนสถานะเป็นแก๊ส โดยไม่เปลี่ยนสถานะเป็นของเหลวก่อน เม่ือเย็นลงหรือสูญเสียความร้อน แก๊สน้ัน จะเปล่ียนสถานะเป็นของแข็งดังเดิม เรียกการเปล่ียนสถานะของของแข็ง เป็นแก๊สโดยไม่เปล่ียนสถานะเป็นของเหลวก่อนว่า การระเหิด และเรียกการ เปลี่ยนสถานะของแก๊สเป็นของแข็งโดยไม่เปลี่ยนสถานะเป็นของเหลวก่อนว่า การระเหิดกลับ ทั้งการระเหิดและการระเหิดกลับไม่มีการเปล่ียนเป็นสารใหม่ จงึ เป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ พลงั งานความร้อนเพิม่ ข้ึน การระเหดิ ของแขง็ ของเหลว แก๊ส การระเหดิ กลบั พลังงานความร้อนลดลง รปู กระบวนการเปลยี่ นสถานะของสสาร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 105

ชือ่ -สกลุ เดอื น ช้ัน เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๓ วันที่ พ.ศ. ค�ำถามหลงั จากการทำ� กิจกรรม ๑. เมอื่ ให้ความร้อนกบั พิมเสน ผลการสงั เกตเหมือนหรือแตกต่างกับการคาดคะเนอย่างไร ๒. เม่อื หยุดใหค้ วามร้อนกบั พมิ เสน เกิดการเปลย่ี นแปลงอยา่ งไร ๓. พิมเสนมีการเปล่ียนสถานะอย่างไรบ้าง เรียกการเปล่ยี นสถานะนั้น ๆ วา่ อะไร ๔. การเปล่ียนสถานะของพิมเสนเกดิ ขึน้ ได้อย่างไร 106 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชือ่ -สกุล เดอื น ชั้น เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๓ วันท่ ี พ.ศ. ๕. การเปล่ยี นสถานะของพมิ เสนเป็นการเปล่ียนแปลงทางกายภาพหรอื ไม่ รไู้ ดอ้ ยา่ งไร ๖. จากกจิ กรรมนี้ สรุปได้วา่ อยา่ งไร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 107

ชือ่ -สกลุ เดือน ชัน้ เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๔ วนั ที ่ พ.ศ. กจิ กรรมที่ ๔ สสารมีการเปลย่ี นสถานะอยา่ งไรบ้าง จดุ ประสงค์ อภปิ รายและยกตวั อยา่ งการเปลี่ยนสถานะของสสาร วสั ด-ุ อุปกรณ์ - วธิ ีทำ� ๑. ร่วมกนั อ่านใบความรู้ เรื่องการเปล่ียนสถานะของสสาร ๒. รว่ มกนั สำ� รวจและสบื คน้ ขอ้ มลู การเปลยี่ นสถานะของสสาร ยกตวั อยา่ ง บนั ทกึ ผล และน�ำเสนอ 108 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชือ่ -สกุล เดอื น ช้ัน เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๔ วันที่ พ.ศ. ใบงาน ๐๔ : การเปลยี่ นสถานะของสสาร บนั ทกึ ผลการทำ� กจิ กรรม ตวั อยา่ งการเปล่ียนสถานะของสสาร การหลอมเหลว การกลายเปน็ ไอ การควบแนน่ การแขง็ ตัว การระเหิด การระเหดิ กลบั ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 109

ช่อื -สกลุ ชน้ั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๔ วนั ที ่ เดอื น พ.ศ. ใบความรู้ เร่ืองการเปลีย่ นสถานะของสสาร พลงั งานความร้อนเพ่ิมขึน้ การระเหิด ของแขง็ การหลอมเหลว ของเหลว การกลายเป็นไอ แกส๊ การแข็งตวั การควบแน่น การระเหดิ กลบั พลังงานความร้อนลดลง จากแผนภาพรปู การหลอมเหลวเปน็ การเปลย่ี นสถานะจากของแขง็ เปน็ ของเหลว ส่วนการกลายเป็นไอ เปน็ การเปล่ยี นสถานะจากของเหลวเป็นแกส๊ ซง่ึ มี ๒ ลักษณะ คือ การระเหยและการเดอื ด การเปลยี่ นสถานะจากแก๊สเป็นของเหลว เรียกว่า การควบแน่น และการเปล่ียนสถานะจากของเหลวเป็นของแข็ง เรียกว่า การแข็งตัว ของแข็งบางชนิด เชน่ การบูร พมิ เสน ลูกเหมน็ สามารถเปล่ียนสถานะจากของแขง็ เป็นแก๊สได้โดยไมผ่ า่ น การเปน็ ของเหลว เรยี กวา่ การระเหดิ และการเปลยี่ นสถานะจากแกส๊ เปน็ ของแขง็ โดยไมผ่ า่ น การเป็นของเหลว เรียกวา่ การระเหิดกลับ 110 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกลุ เดอื น ชั้น เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๔ วนั ท่ ี พ.ศ. คำ� ถามหลังจากท�ำกจิ กรรม ๑. สสารในแตล่ ะสถานะเปลย่ี นสถานะอยา่ งไรบ้าง ๒. จากกิจกรรมนี้ สรุปได้วา่ อยา่ งไร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 111

ช่ือ-สกลุ เดือน ชน้ั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๕ วันท ี่ พ.ศ. ใบงาน ๐๕ : แบบฝึกหัด เรอ่ื งการเปล่ียนสถานะของสสาร ใชข้ อ้ มูลต่อไปน้ี ตอบคำ� ถามขอ้ ๑-๒ ใส่เกล็ดไอโอดีนซ่ึงเป็นของแข็งสีม่วงเข้มลงในขวดรูปกรวยประมาณครึ่งช้อนชา ปดิ ฝาขวดให้สนิท จากนัน้ สังเกตการเปลยี่ นแปลงเมือ่ เร่มิ ใหค้ วามร้อนผา่ นไป ๑๐ นาที และดบั ตะเกียง แลว้ ปลอ่ ยให้ขวดรูปกรวยเย็นลง ไดผ้ ลดังรปู ก ข และ ค ตามล�ำดบั รูป ก รปู ข รูป ค เรม่ิ ให้ความร้อน หลงั ใหค้ วามร้อน ๑๐ นาที หลังปลอ่ ยใหเ้ ยน็ ตัวลง ๑. ไอโอดีนในรปู ข และ ค มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เรยี กวา่ อะไร ๒. การเปล่ียนแปลงของไอโอดีนที่เกิดขึ้นเป็นการเปล่ียนแปลงทางกายภาพหรือไม่ เพราะเหตุใด 112 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอื่ -สกลุ เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๕ วันท่ ี พ.ศ. ๓. ใสน่ �้ำแข็งในแก้ว วางไว้สักครู่ น�้ำแข็งค่อยๆ กลายเป็นน�้ำและมีหยดน�้ำเกาะที่ผิว ด้านนอกแกว้ การเปล่ียนแปลงท่เี กดิ ข้ึนมกี ารเปลีย่ นสถานะหรอื ไม่ อย่างไร ๔. ช่างแกะสลกั เทียนพรรษาจะน�ำเศษเทียนและขผ้ี ง้ึ ซงึ่ เปน็ ของแขง็ มาให้ความร้อน และ นำ� ของเหลวทไ่ี ดม้ าเทใสแ่ บบพมิ พ์ แลว้ ปลอ่ ยใหเ้ ยน็ กจ็ ะแขง็ ตวั เปน็ รปู ทรงตามตอ้ งการ จากสถานการณ์มีการเปล่ียนสถานะใดบ้าง และเรียกการเปลย่ี นสถานะนั้นว่าอะไร ๕. บรรจุน�้ำใส่ขวดประมาณครึ่งขวดและปิดฝาให้แน่น แล้วน�ำขวดไปวางไว้กลางแดด พบว่ามีหยดน�้ำเกาะที่ผิวด้านในของขวด จากสถานการณ์มีการเปล่ียนสถานะ อย่างไรบ้าง และเรยี กการเปลยี่ นสถานะน้ันว่าอะไร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 113

ชื่อ-สกลุ เดอื น ช้นั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๕ วนั ท่ ี พ.ศ. ๖. ไอศกรมี เปน็ ของหวานทห่ี ลายคนชอบรบั ประทาน การทำ� ไอศกรมี อาจเรมิ่ จากนำ� สว่ นผสม ที่เป็นนม น้�ำตาล และสารแต่งกล่ินซ่ึงเป็นสารท่ีเลียนแบบกล่ินในธรรมชาติ มากวน ให้ส่วนผสมคลุกเคล้าเข้ากันจนหนืด แล้วน�ำส่วนผสมมาเทใส่ในภาชนะและเสียบไม้ จากนน้ั นำ� มาจมุ่ ลงในชอ็ กโกแลตเหลวนำ� ไปแชใ่ นตแู้ ชซ่ ง่ึ มอี ณุ หภมู ติ ำ�่ เปน็ ระยะเวลาหนง่ึ จะได้แทง่ ไอศกรีมดังรปู การทำ� ไอศกรีมมกี ารเปล่ียนสถานะอยา่ งไร 114 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ใบงาน บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒ หน่วยย่อยที่ ๑ การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพ เรอื่ ง การละลาย ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 111155

ชอ่ื -สกลุ เดอื น ชั้น เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒ - ๐๑ วนั ท ี่ พ.ศ. กิจกรรมที่ ๑ การละลายเป็นอย่างไร จุดประสงค์ สังเกตและอธิบายการละลายของสารในน�ำ้ วัสดุ-อุปกรณ์ เอทลิ แอลกอฮอล์ ๑. เมลด็ งา น�ำ้ มนั พชื ๒. เอทลิ แอลกอฮอล์ ๓. พมิ เสน น�ำ้ ๔. น�้ำตาลทราย ๕. นำ้� มนั พชื ๖. น้ำ� ๗. แกว้ พลาสติก ๘. แทง่ แก้วคน ๙. ช้อนตกั สารเบอร์ ๒ วิธีท�ำ ๑. สังเกตลกั ษณะของเมลด็ งา พมิ เสน น้ำ� ตาลทราย น�ำ้ มนั พชื และเอทลิ แอลกอฮอล์ และบนั ทึกผล ๒. ตวงสารแต่ละชนิดอย่างละเท่า ๆ กัน ลงในแก้วพลาสติกใสใบละ ๑ ชนิด คาดคะเนและบนั ทกึ วา่ จะเกดิ อะไรขน้ึ ถา้ เตมิ นำ�้ ปรมิ าณเทา่ ๆ กนั ลงในแกว้ แตล่ ะใบ คนสารด้วยแทง่ แก้วคน แล้ววางไว้ ๒ นาที ๓. ทำ� กิจกรรมเพอื่ ตรวจสอบการคาดคะเน สังเกตและบันทกึ ผล ๔. ร่วมกันอภิปราย อ่านใบความรู้และสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการละลายเพ่ือระบุว่า การเปลยี่ นแปลงของสารทีผ่ สมน้ำ� ค่ใู ด มีการละลายเกดิ ขนึ้ อย่างไร เพราะเหตใุ ด 116 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ช่ือ-สกลุ เดือน ชน้ั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒ - ๐๑ วันที่ พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : การละลาย บนั ทกึ ผลการทำ� กจิ กรรม ตาราง ๑ ลักษณะของสารแตล่ ะชนิด สาร ผลกาลรักสษงั เณกะตของสาร ๑. เมล็ดงา ๒. พมิ เสน ๓. น้�ำตาลทราย ๔. นำ้� มนั พืช ๕. เอทลิ แอลกอฮอล์ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 117

ช่อื -สกลุ เดอื น ชนั้ เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒ - ๐๑ วนั ที่ พ.ศ. ตาราง ๒ ลักษณะของสารหลังผสมกับน�้ำจากการคาดคะเนและการสงั เกต สาร ลักษณะของสารหลงั ผสม ๑. เมล็ดงา การคาดคะเน ผลการสงั เกต ๒. พิมเสน ๓. น�ำ้ ตาลทราย 118 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกลุ เดอื น ชนั้ เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒ - ๐๑ วนั ท ี่ พ.ศ. ตาราง ๒ ลักษณะของสารหลงั ผสมกบั น้ำ� จากการคาดคะเนและการสงั เกต (ตอ่ ) สาร ลักษณะของสารหลังผสม ๔. น�ำ้ มันพชื การคาดคะเน ผลการสงั เกต ๕. เอทิลแอลกอฮอล์ น�้ำมนั พชื เอทลิ แอลกอฮอล์ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 119

ชอ่ื -สกุล เดือน ช้ัน เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒ - ๐๑ วันที ่ พ.ศ. ใบความรู้ เร่อื งการละลาย เมื่อผสมสารบางชนิดกับน้�ำแล้ว สารนั้นดูเหมือนหายไปในน้�ำท�ำให้มองเห็น เปน็ สารเนอ้ื เดยี ว การเปลย่ี นแปลงดงั กลา่ วนเี้ ปน็ การละลาย แตถ่ า้ มองเหน็ เปน็ สารเนอื้ ผสม จะไมม่ กี ารละลายเกิดขึ้น การละลายเป็นการเปล่ียนแปลงที่เกิดขึ้นจากการที่สารตั้งแต่ ๒ ชนิดข้ึนไป มารวมตัวกันเป็นเนื้อเดียว โดยหลังการเปล่ียนแปลง สารแต่ละชนิดยังคงเป็นสารเดิม ซ่ึงสารผสมท่ีได้เป็นสารละลาย ส่วนสารผสมของสารต้ังแต่ ๒ ชนิดขึ้นไป มารวมตัวกัน แล้วไม่เหน็ เป็นเน้ือเดียวกันทั้งหมด เรียกวา่ สารเนื้อผสม 120 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชือ่ -สกลุ เดือน ชน้ั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒ - ๐๑ วันที ่ พ.ศ. ค�ำถามหลังจากทำ� กจิ กรรม ๑. เม่อื ผสมสารแตล่ ะชนดิ กับน้ำ� แล้วคน ผลการสงั เกตเหมอื นกบั ทค่ี าดคะเนไว้หรือไม่ อย่างไร ๒. สารใดบา้ งทผ่ี สมกบั น�้ำแลว้ มองเหน็ เป็นเน้อื เดียวกนั ท้งั หมด รูไ้ ดอ้ ยา่ งไร ๓. สารใดบา้ งทผี่ สมกบั นำ้� แลว้ มองเหน็ ไมเ่ ปน็ เนอื้ เดยี วกนั ทง้ั หมดหรอื เปน็ เนอื้ ผสม รไู้ ดอ้ ยา่ งไร ๔. การเปล่ยี นแปลงของสารผสมค่ใู ดมกี ารละลายเกิดขึ้น รูไ้ ด้อย่างไร ๕. จากกิจกรรมนี้ สรุปได้วา่ อยา่ งไร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 121

ช่ือ-สกลุ เดือน ชน้ั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒ - ๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : แบบฝกึ หัด เรื่องการละลาย ใชข้ ้อมลู ตอ่ ไปนี้ ตอบค�ำถามข้อ ๑-๒ ใสน่ ำ้� ๕ ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร ลงในแกว้ แตล่ ะใบ จากนนั้ ตกั สาร A ปรมิ าณ ๐.๕, ๑.๐, ๑.๕, ๒.๐, ๒.๕ และ ๓.๐ กรมั ใสล่ งในแกว้ แตล่ ะใบตามล�ำดบั คนสาร สงั เกต ลกั ษณะของสารผสม ไดผ้ ลดงั ตาราง แก้วใบที่ ปรมิ าณสาร A (กรมั ) ผลการสังเกต ๑ ๐.๕ ของเหลวใส ๒ ๑.๐ ของเหลวใส ๓ ๑.๕ ของเหลวใส ๔ ๒.๐ ของเหลวใส ๕ ๒.๕ ของเหลวใส มตี ะกอน เลก็ น้อยที่กน้ ภาชนะ ๖ ๓.๐ ของเหลวใส มีตะกอน เล็กนอ้ ยทกี่ ้นภาชนะ ๑. ใช้สาร A ปริมาณเทา่ ใด จึงท�ำให้สารผสมที่ได้เปน็ สารละลาย ๒. ใช้สาร A ปรมิ าณเท่าใด จงึ ทำ� ใหส้ ารผสมท่ไี ด้เปน็ สารเน้อื ผสม 122 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชือ่ -สกลุ เดอื น ชน้ั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒ - ๐๒ วันที ่ พ.ศ. ๓. สารละลายในชีวิตประจำ� วันมีอะไรบ้าง ยกตวั อย่าง ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 123

ใบงาน บ. ๓.๒ / ผ. ๒ หน่วยย่อยท่ี ๒ การเปลย่ี นแปลงทางเคมี เรือ่ ง การเกดิ สารใหม่ 124 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ป1ร2งุ ) 4

ชอ่ื -สกลุ เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๓.๒ / ผ. ๒ - ๐๑ วนั ท่ ี พ.ศ. กจิ กรรมท่ี ๑ การเปลยี่ นแปลงทางเคมีคอื อะไร จดุ ประสงค์ สงั เกตและอธบิ ายการเปลยี่ นแปลงทางเคมขี องสาร วัสดุ-อุปกรณ์ นำ้� ตาลทราย ๑. นำ�้ ตาลทราย ๒. เกลอื แกง ๓. จานหลุมโลหะ ๔. กระป๋องทรายสำ� หรับดบั ไฟ เกลอื แกง ๕. ชอ้ น ๖. ชดุ ตะเกยี งแอลกอฮอล์ ๗. ไมข้ ีดไฟ วธิ ที ำ� ๑. คาดคะเนและบนั ทกึ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าน�ำน�้ำตาลทรายและเกลอื แกง ใส่จานหลุมโลหะหลุมละ ๑ ชนิด แล้วน�ำสารท้ังคู่ไปให้ความร้อนโดย การต้งั ไฟประมาณ ๕ นาที ๒. ท�ำกิจกรรมเพ่อื ตรวจสอบการคาดคะเน สังเกต บนั ทกึ ผล และน�ำเสนอ ๓. รว่ มกันอ่านใบความรู้ เรื่องการเปลี่ยนแปลงทางเคมี และอภปิ ราย ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 125

ชอ่ื -สกุล เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๓.๒ / ผ. ๒ - ๐๑ วันที่ พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : การเปล่ยี นแปลงทางเคมี บนั ทึกผลการทำ� กิจกรรม ตาราง ๑ ลกั ษณะน�ำ้ ตาลทรายและเกลอื แกงเมือ่ น�ำไปใหค้ วามร้อนโดยการตง้ั ไฟ สาร การคาดคะเน ผลผกลากราสรังสเกังเตกต น้ำ� ตาลทราย เกลือแกง 126 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกุล เดือน ชน้ั เลขที่ บ. ๓.๒ / ผ. ๒ - ๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. ใบความรู้ เรอื่ งการเปล่ยี นแปลงทางเคมี การเปลยี่ นแปลงทท่ี ำ� ใหไ้ ดส้ ารใหมเ่ ปน็ การเปลยี่ นแปลงทางเคมี เชน่ กระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสง พืชใช้น�้ำ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และมีแสงช่วย ได้สารใหม่ คอื นำ�้ ตาล และแกส๊ ออกซเิ จน กระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงจงึ เปน็ การเปลย่ี นแปลง ทางเคมี รอบตัวเรามีการเปล่ียนแปลงทางเคมีอีกมากมาย เช่น การเกิดสนิม การสุก ของอาหาร การเกิดฝนกรด การเกิดสนิม การสุกของอาหาร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 127

ชอ่ื -สกุล เดอื น ชั้น เลขที่ บ. ๓.๒ / ผ. ๒ - ๐๑ วันที่ พ.ศ. คำ� ถามหลังจากทำ� กิจกรรม ๑. เมอื่ ใหค้ วามรอ้ นแกน่ ำ�้ ตาลทรายและเกลอื แกง มกี ารเปลย่ี นแปลงเกดิ ขน้ึ หรอื ไม่ รไู้ ดอ้ ยา่ งไร ๒. เมอื่ ใหค้ วามรอ้ นแกน่ ำ้� ตาลทรายและเกลอื แกง สารทไี่ ดเ้ ปน็ สารเดมิ หรอื ไม่ รไู้ ดอ้ ยา่ งไร ๓. การเปลยี่ นแปลงของนำ�้ ตาลทรายและเกลอื แกง เปน็ การเปลย่ี นแปลงแบบใด เพราะเหตใุ ด 128 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอื่ -สกุล เดอื น ชน้ั เลขท่ี บ. ๓.๒ / ผ. ๒ - ๐๑ วนั ที่ พ.ศ. ๔. จากกิจกรรมน้ี สรปุ ได้ว่าอย่างไร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 129

ชอ่ื -สกุล เดอื น ชั้น เลขที่ บ. ๓.๒ / ผ. ๒ - ๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. กิจกรรมที่ ๒ รูไ้ ด้อย่างไรวา่ เกิดการเปลย่ี นแปลงทางเคมี จุดประสงค์ ๑. สังเกต อภปิ ราย และเปรยี บเทียบการเปล่ียนแปลงของสาร ๒. อภิปรายและระบุสงิ่ ทเี่ กดิ ขน้ึ จากการเปล่ยี นแปลงทางเคมีของสาร วัสดุ-อปุ กรณ์ ๑. น้ำ� ปูนใส ๒. ปนู ขาว ๓. สารละลายผงฟู ๔. นำ้� สม้ สายช ู ผงฟู ๕. แอมโมเนียมคลอไรด์ น�้ำ ๖. ผงฟู ๗. น้ำ� นำ้� ส้มสายชู ๘. ช้อนตักสารเบอร์ ๒ ๙. บกี เกอร์ ๑๐. แกว้ น�ำ้ พลาสติก ๑๑. ลกู โปง่ ๑๒. กระบอกตวง ๑๓. แทง่ แกว้ คน ๑๔. ขวดแก้วปากแคบ วธิ ีทำ� ตอนที่ ๑ ๑. ตวงนำ้� ปนู ใสและสารละลายผงฟอู ยา่ งละ ๕ ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร ใสใ่ นบกี เกอรแ์ ตล่ ะใบ สังเกตลักษณะของสารพรอ้ มสัมผัสขา้ งบีกเกอรท์ ีใ่ ส่สารละลายทง้ั สอง บนั ทกึ ผล ๒. ผสมน�้ำปูนใสและสารละลายผงฟูอย่างละ ๕ ลูกบาศก์เซนติเมตร ในบีกเกอร์ อีกใบ สังเกตการเปลยี่ นแปลงที่เกดิ ขน้ึ และสมั ผัสข้างบีกเกอร์ บนั ทึกผล 130 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกลุ เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๓.๒ / ผ. ๒ - ๐๒ วันท่ ี พ.ศ. ตอนท่ี ๒ ๑. สงั เกตลกั ษณะของแอมโมเนยี มคลอไรด์ และปนู ขาวในบกี เกอรแ์ ตล่ ะใบ พรอ้ มสมั ผสั ขา้ งบกี เกอรท์ ่ใี ส่สารทั้งสอง บนั ทกึ ผล ๒. ตกั แอมโมเนยี มคลอไรดแ์ ละปนู ขาวอยา่ งละ ๓ ชอ้ นใสใ่ นบกี เกอรอ์ กี ใบ หยดนำ้� ลงไป เลก็ นอ้ ย แลว้ คนใหเ้ ขา้ กนั สงั เกตการเปลยี่ นแปลงทเ่ี กดิ ขนึ้ และสมั ผสั ขา้ งบกี เกอร์ บันทกึ ผล ตอนท่ี ๓ ๑. สงั เกตนำ�้ สม้ สายชแู ละผงฟใู นบกี เกอรแ์ ตล่ ะใบ และสมั ผสั ขา้ งบกี เกอรแ์ ตล่ ะใบท่ี ใส่สารท้ังสอง บนั ทกึ ผล ๒. รนิ นำ้� สม้ สายชลู งในขวดแกว้ ประมาณ ๑/๓ ของขวด จากนน้ั ตกั ผงฟใู สใ่ นลกู โปง่ ๒ ช้อน แล้วน�ำปากลูกโป่งครอบปากขวดแก้ว ยกลูกโป่งข้ึน เพ่ือให้ผงฟูตกลง ในขวด ดงั รปู สงั เกตการเปลยี่ นแปลงทเ่ี กดิ ขนึ้ และสมั ผสั ขา้ งขวดแกว้ บนั ทกึ ผล ๓. ร่วมกนั อภปิ รายและเปรียบเทยี บการเปล่ยี นแปลงของสารทงั้ ๓ ตอน ๔. อภปิ รายและระบสุ ิ่งท่ีเกิดข้ึนจากการเปล่ียนแปลงทางเคมีของสาร บันทึกผล ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 131

ชอ่ื -สกุล เดือน ชัน้ เลขท่ี บ. ๓.๒ / ผ. ๒ - ๐๒ วันท่ ี พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : การเปลย่ี นแปลงทางเคมี ตอนที่ ๑ บันทกึ ผลการท�ำกิจกรรม ตาราง ๑ ลกั ษณะของน�ำ้ ปูนใส สารละลายผงฟู และน�้ำปนู ใสผสมสารละลายผงฟู สาร ผลกาลรกัสษงั เณกะตของสาร ๑. น้ำ� ปูนใส ๒. สารละลายผงฟู ๓. นำ้� ปนู ใสผสมสารละลายผงฟู 132 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชือ่ -สกลุ เดือน ชั้น เลขท่ี บ. ๓.๒ / ผ. ๒ - ๐๒ วันที ่ พ.ศ. ค�ำถามหลังจากท�ำกิจกรรม ๑. เม่อื ผสมนำ�้ ปูนใสกับสารละลายผงฟู เกิดการเปล่ียนแปลงทางเคมหี รือไม่ ร้ไู ด้อย่างไร ๒. จากกิจกรรมน้ี สรปุ ได้วา่ อยา่ งไร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 133

ชอื่ -สกุล เดือน ชนั้ เลขท่ี บ. ๓.๒ / ผ. ๒ - ๐๒ วันที่ พ.ศ. ตอนท่ี ๒ บนั ทึกผลการทำ� กจิ กรรม ตาราง ๒ ลกั ษณะของแอมโมเนียมคลอไรด์ ปูนขาว และแอมโมเนยี มคลอไรด์ผสมปนู ขาว สาร ผลกาลรักสษังเณกะตของสาร ๑. แอมโมเนยี มคลอไรด์ ๒. ปนู ขาว ๓. แอมโมเนียมคลอไรด์ผสม ปนู ขาว 134 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกลุ เดอื น ชัน้ เลขที่ บ. ๓.๒ / ผ. ๒ - ๐๒ วนั ที่ พ.ศ. ค�ำถามหลงั จากทำ� กิจกรรม ๑. เมอ่ื ผสมแอมโมเนยี มคลอไรดก์ บั ปนู ขาว เกดิ การเปลยี่ นแปลงทางเคมหี รอื ไม่ รไู้ ดอ้ ยา่ งไร ๒. จากกจิ กรรมน้ี สรุปไดว้ า่ อยา่ งไร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 135

ชื่อ-สกลุ เดอื น ชั้น เลขที่ บ. ๓.๒ / ผ. ๒ - ๐๒ วนั ท่ ี พ.ศ. ตอนที่ ๓ บนั ทกึ ผลการท�ำกิจกรรม ตาราง ๓ ลักษณะของน�ำ้ สม้ สายชู ผงฟู และน�้ำส้มสายชูผสมผงฟู สาร ผลกาลรกัสษังเณกะตของสาร ๑. น�ำ้ ส้มสายชู ๒. ผงฟู ๓. นำ้� สม้ สายชูผสมผงฟู 136 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอื่ -สกุล เดือน ชน้ั เลขท่ี บ. ๓.๒ / ผ. ๒ - ๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. ค�ำถามหลังจากทำ� กิจกรรม ๑. เมื่อผสมน้�ำส้มสายชูกับผงฟู เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีหรือไม่ รู้ได้อย่างไร ๒. จากกิจกรรมนี้ สรปุ ไดว้ ่าอย่างไร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 137

ช่อื -สกลุ เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๒ / ผ. ๒ - ๐๓ วนั ท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๓ : แบบฝึกหดั เรอ่ื งการเปลี่ยนแปลงทางเคมี ใช้ข้อมูลตอ่ ไปนตี้ อบค�ำถามขอ้ ๑-๓ หนิ งอกหนิ ยอ้ ยในถำ้� ภเู ขาหนิ ปนู เกดิ จากนำ�้ ฝนเมอ่ื รวมตวั กบั แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ ในอากาศกลายเปน็ กรดคารบ์ อนกิ ซง่ึ เปน็ กรดออ่ นไหลไปตามกอ้ นหนิ และกดั กรอ่ นหนิ ปนู หรือแคลเซียมคาร์บอเนตที่อยู่ในหินเกิดเป็นสารละลายแคลเซียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต ไหลไปตามผนังถ้�ำและหยดลงสู่พ้ืนดิน แคลเซียมไฮโดรเจนคาร์บอเนตจะสลายตัวได้น้�ำ คารบ์ อนไดออกไซด์ และแคลเซยี มคารบ์ อเนต เมอื่ นำ�้ ระเหยหมดกเ็ หลอื ตะกอนของหนิ ปนู สะสมตัวเปน็ หนิ งอกหินยอ้ ย สรุปการเปล่ียนแปลงที่ท�ำใหเ้ กิดหินงอกหนิ ย้อยดงั น้ี (๑) น�้ำฝน + สาร ก สาร ข (๒) สาร ข + สาร ค สาร ง (สารละลายแคลเซยี มไฮโดรเจนคารบ์ อเนต) (๓) สาร ง สาร ค + น้�ำ + สาร ก ๑. สาร ก ข และ ค คอื สารใดตามลำ� ดบั สาร ก คือ สาร ข คอื สาร ค คอื ๒. การเปลย่ี นแปลงขอ้ (๑) (๒) และ (๓) เปน็ การเปล่ียนแปลงทางกายภาพหรือทางเคมี เพราะเหตใุ ด การเปลี่ยนแปลงขอ้ (๑) เปน็ การเปล่ียนแปลงทาง เพราะ 138 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกลุ เดือน ช้ัน เลขท่ี บ. ๓.๒ / ผ. ๒ - ๐๓ วนั ที ่ พ.ศ. การเปลย่ี นแปลงขอ้ (๒) เปน็ การเปลี่ยนแปลงทาง เพราะ การเปลย่ี นแปลงขอ้ (๓) เป็นการเปลย่ี นแปลงทาง เพราะ ๓. การเปลย่ี นแปลงใดต่อไปนี้เป็นการเปล่ียนแปลงทางเคมี วงกลมล้อมรอบ ข้อความท่ีถกู ตอ้ ง การผสมนำ�้ กับน้�ำมัน การเกดิ ฝนกรด การจุดพลุ การเผาไหม้ การควบแน่น การบูดเนา่ การเดือด การระเหดิ การเกดิ สนิม การผสมนำ�้ กบั น�้ำหวาน ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 139

ใบงาน บ. ๓.๓ / ผ. ๓ หนว่ ยย่อยที่ ๓ การเปลย่ี นแปลงท่ีผันกลบั ได้ และการเปล่ียนแปลง ทผี่ นั กลบั ไม่ได้ เรื่อง ผันกลับได้และผันกลบั ไม่ได้ 140 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ช่อื -สกลุ เดือน ชั้น เลขท่ี บ. ๓.๓ / ผ. ๓ - ๐๑ วันท่ี พ.ศ. กิจกรรมท่ี ๑ ผนั กลับไดแ้ ละผนั กลบั ไม่ได้เปน็ อย่างไร จุดประสงค์ สังเกตและอธบิ ายการเปลี่ยนแปลงทผี่ ันกลับได้และผนั กลับไมไ่ ด้ วัสดุ-อุปกรณ์ ๑. พาราฟิน ๒. กระดาษ ๓. ปากคีบ ๔. ถ้วยกระเบื้อง ๕. ไม้ขดี ไฟ ๖. แบบพิมพ ์ ๗. บกี เกอร์ ๘. ชุดตะเกียงแอลกอฮอล์ ๙. แท่งแกว้ คน ๑๐. จานกระดาษ ๑๑. กระปอ๋ งทรายสำ� หรบั ดับไฟ วธิ ที �ำ ตอนท่ี ๑ ๑. ๒. สังเกตลักษณะของพาราฟิน และบันทกึ ผล แบ่งพาราฟินเป็น ๒ ส่วนเท่า ๆ กัน คาดคะเนและบันทึกว่า จะเกิดอะไรขึ้น ๓. เมือ่ ให้ความรอ้ นกบั พาราฟินส่วนที่ ๑ และเม่อื วางไว้ใหเ้ ยน็ ลง ทำ� กจิ กรรมเพือ่ ตรวจสอบการคาดคะเนโดยใหค้ วามร้อนกบั พาราฟินส่วนท่ี ๑ สงั เกตและบนั ทกึ ผล จากนนั้ เทพาราฟนิ ใสแ่ บบพมิ พ์ วางใหเ้ ยน็ สงั เกตและบนั ทกึ ผล ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 141

ช่ือ-สกลุ เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๓ / ผ. ๓ - ๐๑ วันท ่ี พ.ศ. ๔. รว่ มกนั อภปิ รายเปรยี บเทยี บลกั ษณะของพาราฟนิ สว่ นที่ ๑ หลงั จากใหค้ วามรอ้ น แลว้ วางไวใ้ หเ้ ยน็ ลง กบั พาราฟนิ สว่ นท่ี ๒ เขยี นแผนภาพแสดงการเปลย่ี นสถานะ ของพาราฟนิ และน�ำเสนอ ตอนท่ี ๒ ๑. สังเกตลกั ษณะของกระดาษ และบนั ทกึ ผล ๒. แบ่งกระดาษเป็น ๒ ส่วนเท่า ๆ กัน คาดคะเนและบันทึกว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเผากระดาษให้ติดไฟในถ้วยกระเบื้องหรือภาชนะทนไฟ ดังรูป ๓. ทำ� กจิ กรรมเพ่ือตรวจสอบการคาดคะเน สงั เกตและบันทกึ ผล ๔. รว่ มกนั อภปิ รายเปรยี บเทยี บลกั ษณะของสง่ิ ทไี่ ดจ้ ากการเผากระดาษกบั กระดาษ ท่แี บ่งไว้ ๕. ร่วมกันอภิปรายเพื่อหาวิธีท่ีจะท�ำให้สิ่งท่ีได้จากการเผากระดาษให้กลับมา เปน็ กระดาษเหมือนเดิมวา่ ทำ� ได้หรือไม่ อยา่ งไร และน�ำเสนอ 142 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชื่อ-สกุล เดอื น ชน้ั เลขที่ บ. ๓.๓ / ผ. ๓ - ๐๑ วันท ่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : การเปล่ยี นแปลงที่ผนั กลับได้และผนั กลบั ไม่ได้ ตอนท่ี ๑ บันทึกผลการท�ำกจิ กรรม ผลการสังเกตลักษณะของพาราฟนิ ตาราง ๑ การคาดคะเนและผลการสงั เกตพาราฟนิ เมอ่ื ไดร้ บั ความรอ้ น และตง้ั ไวใ้ หเ้ ยน็ ลง การคาดคะเน ผลการสงั เกตผลการสงั เกต สาร ได้รับความร้อน วางไว้ใหเ้ ย็น ได้รบั ความร้อน วางไวใ้ หเ้ ยน็ พาราฟนิ ส่วนที่ ๑ ผลการเปรียบเทยี บลกั ษณะของพาราฟนิ สว่ นที่ ๑ และส่วนที่ ๒ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 143

ชอื่ -สกุล เดอื น ชนั้ เลขท่ี บ. ๓.๓ / ผ. ๓ - ๐๑ วันท่ี พ.ศ. ค�ำถามหลงั จากการท�ำกจิ กรรม ๑. เมอื่ ใหค้ วามรอ้ นกบั พาราฟนิ สว่ นท่ี ๑ แลว้ วางใหเ้ ยน็ ลง ผลการสงั เกตเหมอื นหรอื แตกตา่ ง กบั ทีค่ าดคะเนไว้ อย่างไร ๒. การเปลยี่ นแปลงของพาราฟนิ สว่ นที่ ๑ เปน็ การเปลยี่ นแปลงทผ่ี นั กลบั ไดห้ รอื ผนั กลบั ไมไ่ ด้ รู้ได้อยา่ งไร ๓. จากกิจกรรมนี้ สรปุ ได้วา่ อย่างไร 144 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอื่ -สกลุ ชน้ั เลขท่ี บ. ๓.๓ / ผ. ๓ - ๐๑ วันที ่ พ.ศ. เดือน ตอนที่ ๒ บันทกึ ผลการท�ำกิจกรรม ผลการสังเกตลักษณะของกระดาษ ตาราง ๒ การคาดคะเนและผลการสังเกตเมอ่ื เผากระดาษ สาร ผลกลาักรษสณังเะกขตองสาร การคาดคะเน ผลการสงั เกต กระดาษ ผลการเปรียบเทียบลักษณะของกระดาษส่วนทีเ่ ผาและส่วนทแี่ บ่งไว้ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 145

ช่ือ-สกุล เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๓ / ผ. ๓ - ๐๑ วันที่ พ.ศ. ค�ำถามหลงั จากท�ำกจิ กรรม ๑. เมอื่ เผากระดาษ ผลการสังเกตเหมอื นหรอื แตกตา่ งกบั ท่ีคาดคะเนไว้อยา่ งไร ๒. สารทเ่ี กดิ จากการเผากระดาษจะเปลยี่ นแปลงกลบั มาเปน็ กระดาษไดอ้ กี หรอื ไม่ อยา่ งไร และการเปลีย่ นแปลงน้เี ป็นการเปลยี่ นแปลงที่ผนั กลบั ได้หรอื ผันกลบั ไม่ได้ รไู้ ด้อยา่ งไร ๓. จากกจิ กรรมน้ี สรุปไดว้ า่ อย่างไร 146 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook