ชือ่ -สกุล เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๓ / ผ. ๓ - ๐๒ วันท่ ี พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : แบบฝกึ หดั เรอ่ื งการเปลยี่ นแปลงทผ่ี นั กลบั ไดแ้ ละผนั กลบั ไมไ่ ด้ ตอบคำ� ถามตอ่ ไปน้ใี ห้ถกู ต้อง ๑. การเปลย่ี นแปลงที่ผนั กลบั ได้แตกต่างจากการเปล่ยี นแปลงที่ผนั กลับไม่ไดอ้ ยา่ งไร ๒. การเปลย่ี นแปลงตอ่ ไปนเี้ ปน็ การเปลยี่ นแปลงทผี่ นั กลบั ไดห้ รอื ผนั กลบั ไมไ่ ด้ เพราะเหตใุ ด a. น�ำน�ำ้ ผลไมไ้ ปแชใ่ นชอ่ งแช่แข็ง แล้วนำ้� ผลไม้แข็งตวั b. วางจกั รยานทิ้งไว้ แล้วบางสว่ นที่เป็นโลหะเกดิ สนิม ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 147
ชอื่ -สกุล เดือน ช้นั เลขที่ บ. ๓.๓ / ผ. ๓ - ๐๒ วนั ท ี่ พ.ศ. c. นำ� ขวดพลาสตกิ ทใ่ี ช้แลว้ มาหลอมเป็นถงุ ใส่ขยะ d. ใบไม้เปล่ียนจากสีเขยี วเปน็ สนี �้ำตาล e. น�ำไขไ่ ปทอดเป็นไข่ดาว 148 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
ชอ่ื -สกลุ เดือน ชั้น เลขที่ บ. ๓.๓ / ผ. ๓ - ๐๒ วันท ี่ พ.ศ. ๓. การเปลี่ยนแปลงทเี่ กิดขนึ้ เม่ือจดุ เทียนไขในข้อใดสามารถผนั กลับได้ (ท�ำเคร่ืองหมาย x หนา้ ตัวเลอื กที่ถกู ) พรอ้ มบอกเหตุผล ก. น�ำ้ ตาเทียนเกดิ การเผาไหม้ ข. ไสเ้ ทยี นเกิดเปลวไฟและควนั ค. ไสเ้ ทยี นส้ันลงและเกิดเขม่า ง. เน้อื เทยี นไขหลอมเหลวเปน็ น้ำ� ตาเทียน เพราะ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 149
ชื่อ-สกุล เดือน ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๓ / ผ. ๓ - ๐๒ วันท ี่ พ.ศ. อา่ นสถานการณต์ อ่ ไปน้ี และตอบคำ� ถามขอ้ ๔ ตู้เย็นสามารถรักษาอุณหภูมิภายในตู้ให้ต่�ำมาก ๆ ท�ำให้สามารถถนอมอาหารไว้ ไมใ่ ห้บดู เน่า การรกั ษาอุณหภูมใิ ห้เย็นสม�ำ่ เสมอ มีหลกั การทำ� งานดังน้ี (๑) คอมเพรสเซอร์จะท�ำหน้าท่ีอัดสารในสถานะแก๊สที่ไหลอยู่ในท่อ ท�ำให้อุณหภูมิ และความดันของแก๊สเพิ่มขึ้น แก๊สจะไหลผ่านไปยังคอยล์ร้อนซึ่งอยู่ด้านหลังตู้เย็น ความรอ้ นของสารจะระบายออก ทำ� ใหอ้ ณุ หภมู ขิ องสารลดลงจนเปลย่ี นเปน็ สถานะของเหลว (๒) สารในสถานะของเหลว ไหลไปยังวาล์วขยาย (๓) เมือ่ ผา่ นวาลว์ ขยาย ความดนั ของสารจะลดลงอย่างรวดเรว็ สารทอ่ี ยู่ในสถานะ ของเหลว เปลย่ี นเป็นแกส๊ ในทนั ที (๔) สารในสถานะแกส๊ ไหลผา่ นเขา้ ไปในคอยลเ์ ยน็ และความรอ้ นจากภายในตจู้ ะถา่ ยโอน มากบั แก๊สท่ีไหลผา่ นนน้ั ต่อจากนั้นแกส๊ ทร่ี ้อนจะผ่านเขา้ ไปในคอมเพรสเซอร์ และถกู อดั และความร้อนจะระบายออกไปนอกตู้เย็น และเกิดการเปล่ียนแปลงเป็นแบบรูปลักษณะนี้ ไปเรอ่ื ยๆ คอยลเ์ ย็น คอยลร์ อ้ น วาลว์ ขยาย คอมเพรสเซอร์ 150 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
ชอ่ื -สกุล เดอื น ชั้น เลขท่ี บ. ๓.๓ / ผ. ๓ - ๐๒ วนั ท ี่ พ.ศ. ๔. การเปลี่ยนแปลงของสารที่เกิดขึน้ ในการทำ� งานของตเู้ ยน็ ผันกลับไดห้ รอื ผนั กลบั ไม่ได้ อยา่ งไร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 151
ชอื่ -สกุล เดอื น ช้นั เลขที่ วันท ่ี พ.ศ. ยาลดกรด 152 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
โรงเรียน ขอ้ สอบวชิ า วิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที ่ ปกี ารศกึ ษา ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ชอ่ื - นามสกลุ เลขท่ ี ชนั้ คำ� ช้ีแจง : ข้อสอบมีทั้งหมด ๒๕ ข้อ รวม ๙ หน้า เวลา ๕๐ นาที คะแนนเต็ม ๒๕ คะแนน ใหเ้ ขยี นเคร่ืองหมาย X ทบั ตัวอกั ษรหนา้ ค�ำตอบทถี่ กู ตอ้ งทสี่ ดุ ๒๕ ขอ้ ๒๕ คะแนน คะแนนเต็ม คะแนนท่ีได้ ๒๕ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 153
อา่ นขอ้ ความตอ่ ไปนี้แล้วตอบคำ� ถามข้อ ๑ บนต้นไม้ มีลูกนกเล็ก ๆ ๓ ตัวอยู่ในรัง แม่นกจับหนอนท่ีมากัดกินใบไม้ เป็นอาหาร นอกจากน้ียังมีผีเส้ือบินมาตอมดอกไม้ และมีแมงมุมชักใยบนกิ่งไม้ เพอ่ื ดกั จบั แมลงที่ผ่านมาติดใยแมงมุม สว่ นท่ีลำ� ต้นพบกลว้ ยไม้เกาะอยู่ ๑. ขอ้ ใดอธบิ ายความสัมพันธ์ของสิง่ มีชีวติ ไดถ้ ูกต้อง ก. แมงมมุ กับเหยอื่ มคี วามสัมพันธด์ ้านเปน็ ท่ีสืบพนั ธุ์ ข. ลูกนกกบั ต้นไม้ มคี วามสัมพันธ์ด้านเปน็ ท่อี ยู่อาศยั ค. กล้วยไมก้ ับต้นไม้ สมั พนั ธด์ ้านเป็นท่ีหลบภยั ง. หนอนกับนก มคี วามสัมพนั ธ์ดา้ นเปน็ ท่ีอยู่อาศยั ๒. ขอ้ ใดเป็นความสมั พันธ์ระหวา่ งสิ่งมชี วี ติ กับสง่ิ ไมม่ ชี วี ติ ในแหลง่ ทีอ่ ยู่ ก. ลิงอาศัยอยบู่ นต้นไม้ ข. เห็บอาศัยอยูบ่ นตวั สนุ ัข ค. กวางกินดนิ ทม่ี แี รธ่ าตุ ง. ปลาใหญก่ ินปลาเลก็ ๆ 154 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
จากรปู ใช้ตอบค�ำถามขอ้ ๓–๔ นก โซ่อาหารหลาย ๆ โซ่มคี วามสัมพันธก์ นั ดงั รปู หนอน งู หนู กบ ตกั๊ แตน ต้นข้าว ๓. ส่ิงมีชีวติ ที่เป็นผู้บริโภคพืชและผ้บู รโิ ภคสตั ว์มีก่ีชนิดตามล�ำดับ ก. ๑ , ๔ ข. ๒ , ๔ ค. ๑ , ๖ ง. ๓ , ๓ ๔. ถ้างตู ายหมด ส่งิ มชี ีวติ ใดจะมีจำ� นวนลดลง ก. นก หนู ข. หนอน นก ค. หนอน ต๊กั แตน ง. ต้นขา้ ว กบ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 155
๕. คา้ งคาวเปน็ สัตวท์ ่ีอาศยั อยูต่ ามถ้ำ� คา้ งคาวส่วนใหญก่ ินผลไม้และแมลงเป็นอาหาร ถ้าคา้ งคาวมจี ำ� นวนเพมิ่ ขึน้ อยา่ งรวดเรว็ เหตกุ ารณ์ใดมโี อกาสเกิดขึน้ นอ้ ยท่สี ุด ก. พชื บางชนิดท่คี ้างคาวกินอาจสญู พนั ธไุ์ ด้ ข. แมลงท่ีคา้ งคาวกนิ อาจสญู พนั ธุไ์ ด้ ค. มตี ้นไม้ทมี่ ผี ลไมท้ ีค่ ้างคาวกนิ เพิม่ ขนึ้ ง. พชื ท่เี ป็นอาหารของแมลงท่ีค้างคาวกินมีเพิ่มขึ้น ๖. เพราะเหตุใดสิ่งมชี ีวิตจึงตอ้ งมกี ารปรับตัว ก. หาอาหาร ข. ปอ้ งกันศตั รู ค. สบื พนั ธุ์มลี ูก ง. ถูกทกุ ข้อ ๗. ข้อใดกล่าวถูกต้องเก่ียวกับการปรับตัวของสัตว์ท่ีเหมาะสมกับการด�ำรงชีวิต ในแหลง่ ทอ่ี ยู่ต่างๆ ก. อูฐมีโหนก เพื่อใชเ้ ปน็ ทีเ่ ก็บน้�ำไวใ้ ช้ ข. ต๊กั แตนใบไม้มรี ูปรา่ งคล้ายใบไม้ เพอื่ ใหร้ อดพน้ จากศัตรู ค. เปด็ มีพังผืดระหวา่ งน้ิว เพอื่ ช่วยใหท้ รงตวั บนพน้ื ดินได้ดขี นึ้ ง. กิ้งกา่ ทะเลทรายมีช้ันไขมันใต้ผวิ หนงั หนา เพ่อื ปอ้ งกนั ความร้อนจากภายนอก ๘. พืชท่ีมีโครงสร้างและลักษณะแบบใดท่ีเหมาะสมกับการด�ำรงชีวิตในทะเลทราย ก. มีใบท่ลี ดรูปเปน็ หนาม ข. มีต่อมขับเกลอื สว่ นเกิน ค. มีรากแทงขน้ึ มาเหนอื ดิน ง. มชี อ่ งอากาศภายในลำ� ต้น 156 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
อ่านข้อความต่อไปน้ี แลว้ ตอบคำ� ถามข้อ ๙ ผักตบชวาเปน็ พชื ที่เจริญเติบโตอยา่ งรวดเร็ว พบกระจายในแหล่งนำ้� ท่วั ไป ท�ำใหเ้ กดิ ปัญหาเก่ียวกบั การจราจรทางน�้ำ น�้ำเนา่ เสีย และแหล่งนำ้� ต้นื เขนิ ๙. จากขอ้ ความดงั กลา่ ว การจดั การกบั ผกั ตบชวาในขอ้ ใดบา้ งทไ่ี มเ่ ปน็ การทำ� ลายสง่ิ แวดลอ้ ม ๑. ก�ำจัดผกั ตบชวาโดยนำ� มาทำ� เปน็ ปุ๋ยหมัก ๒. กำ� จดั ผกั ตบชวาโดยนำ� มาท�ำเปน็ อาหารสัตว์ ๓. ก�ำจัดผักตบชวาโดยน�ำมาทำ� เปน็ เครือ่ งจักสาน ๔. ก�ำจดั ผกั ตบชวาโดยใช้สารกำ� จดั วัชพืช ก. ข้อ ๑ และ ๒ ข. ขอ้ ๑ ๒ และ ๓ ค. ขอ้ ๒ ๓ และ ๔ ง. ขอ้ ๑ ๒ ๓ และ ๔ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 157
ใช้ขอ้ มูลท่กี �ำหนดให้ ในการตอบค�ำถามขอ้ ๑๐–๑๑ ขอ้ มูลแสดงลกั ษณะของบุคคลในครอบครัวหน่ึง เปน็ ดังน้ี บคุ คลในครอบครวั เส้นผม ลักยิม้ สนั จมูก สีผม พอ่ เหยยี ดตรง ไม่มี โด่ง ดำ� แม่ หยักศก มี โดง่ น้�ำตาล เหยียดตรง มี โด่ง ดำ� ลูกคนท่ี ๑ เหยยี ดตรง มี โด่ง น�้ำตาล ลกู คนท่ี ๒ ๑๐. จากขอ้ มูลในตาราง ครอบครวั น้ีมีลกั ษณะใดเหมอื นกนั ทัง้ ครอบครัว ก. เสน้ ผม ข. ลักยิ้ม ค. สนั จมกู ง. สผี ม ๑๑. ลกู คนท่ี ๒ มลี ักษณะใดท่ไี ดร้ บั การถ่ายทอดทางพันธุกรรม และได้รบั จากใคร ก. มีลกั ยม้ิ จากพอ่ ข. มผี มสนี ำ�้ ตาล จากแม่ ค. มผี มเหยียดตรง จากพ่ี ง. มีสนั จมกู โดง่ จากพี่ 158 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
๑๒. แผนภาพแสดงลักษณะต่ิงหขู องคนในครอบครวั หน่งึ เปน็ ดังน้ี ปู่ ยา่ ตา ยาย ไมม่ ีติง่ หู มีตงิ่ หู มตี งิ่ หู มีติง่ หู พ่อ แม่ ไมม่ ีต่งิ หู มีตงิ่ หู ลกู มีต่ิงหู จากแผนภาพ ลกู ไม่ได้รบั การถา่ ยทอดลกั ษณะติ่งหมู าจากใคร ก. ตา ข. แม่ ค. ยาย ง. ปู่ ๑๓. พ่อกระตา่ ยหูตูบผสมพนั ธุ์กับแม่กระต่ายหูตัง้ ได้ลกู ออกมา ๔ ตวั ลกู ตัวแรกมหี ูตูบ ลูกตัวท่ีสองมีหูตั้ง ลูกตัวที่สามมีหูตูบ ลูกตัวที่สี่มีหูต้ัง ถ้าพ่อแม่กระต่ายคู่นี้มีลูกอีก ๑ ตัว ลกู ทีเ่ กดิ ไม่นา่ จะมีลักษณะหูเป็นอย่างไร ก. ลูกมีหตู บู ท้ัง ๒ ข้าง ข. ลูกมีหูตงั้ ทง้ั ๒ ขา้ ง ค. ลกู มหี ูตบู ๑ ขา้ ง และหตู ัง้ ๑ ข้าง ง. ลกู มีหตู ูบพบั ลงครึ่งหน่ึงท้ังสองขา้ ง ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 159
๑๔. ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้องเกย่ี วกบั การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม ก. ลูกจะมลี ักษณะทุกลักษณะเหมือนพ่อและแม่ ข. เปน็ การถา่ ยทอดลกั ษณะจากบรรพบุรษุ เพยี งรุ่นเดียว ค. เป็นการถา่ ยทอดลกั ษณะจากพ่อและแมผ่ า่ นการสืบพันธ์ุ ง. ลูกชายต้องมลี ักษณะเหมือนพ่อ ลูกสาวต้องมีลักษณะเหมอื นแม่ ๑๕. ลักษณะของพืชในขอ้ ความใดเปน็ ลักษณะทางพันธกุ รรมของพชื ก. ใบคะน้ามีรอยหนอนเจาะ ข. ดอกมะลมิ สี ขี าวและมกี ลิ่น ค. ตน้ พริกแคระแกร็นมีใบหงิกงอ ง. ผลมะละกอมรี าสขี าวเกาะบนผวิ ๑๖. พจิ ารณาเหตุการณ์ต่อไปนี้ แลว้ ตอบค�ำถาม ๑. การบูรทีว่ างไวม้ ขี นาดเลก็ ลง และมกี ลนิ่ ๒. นมสดในขวดเรมิ่ มีรสเปร้ยี ว ๓. ไข่ตกแตกบนพนื้ และเน้อื ไขก่ ลายเป็นของแข็ง ๔. ตะปใู นกล่องเกิดสนมิ ๕. หยดน�้ำเปน็ จดุ เกาะท่ีหน้าตา่ งบ้าน ๖. เป่าอากาศเขา้ ไปในลกู โปง่ ลูกโปง่ ค่อย ๆ พองข้ึน จากขอ้ ความมีการเปลย่ี นแปลงทางเคมที ัง้ หมดก่เี หตกุ ารณ์ ก. ๒ ข. ๓ ค. ๔ ง. ๕ ๑๗. การกระทำ� ใดเกิดการเปล่ยี นแปลงทางเคมี ก. ผสมผงถา่ นกับเกลอื แกง ได้สารสดี ำ� ปนขาว ข. วางนำ�้ แขง็ ไว้ในถงั พบควันสีขาวลอยอยู่เหนือกอ้ นนำ�้ แขง็ ค. ผสมน้�ำตาลทรายกบั น�้ำ ได้ของเหลวใส ไมม่ สี ี มรี สหวาน ง. บบี มะนาวลงในน้�ำดอกอญั ชนั ท่ีมีสนี ำ�้ เงนิ ไดข้ องเหลวสีมว่ งแดง 160 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
จากแผนภาพต่อไปน้ี ตอบคำ� ถามข้อ ๑๘ ของเหลว A แก๊ส B E C D ของแข็ง F ๑๘. การเปลีย่ นแปลง A และ D คือการเปลีย่ นแปลงใดตามลำ� ดบั ก. การหลอมเหลวและการระเหิด ข. การระเหดิ และการหลอมเหลว ค. การกลายเป็นไอและการหลอมเหลว ง. การหลอมเหลวและการกลายเปน็ ไอ ๑๙. วางลูกเหม็นไว้ในห้องระยะเวลาหนึ่งพบว่า ลูกเหม็นมีขนาดเล็กลง และมีกล่นิ การเปลีย่ นแปลงของลกู เหมน็ เปน็ การเปล่ียนแปลงใด ก. C ข. D ค. E ง. F ๒๐. การเปล่ียนแปลงใดทสี่ ารได้รับความรอ้ นและสูญเสยี ความรอ้ น ตามล�ำดับ ก. การหลอมเหลวและการระเหดิ ข. การระเหดิ และการหลอมเหลว ค. การกลายเปน็ ไอและการแข็งตวั ง. การหลอมเหลวและการกลายเป็นไอ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 161
๒๑. การกระท�ำใดเป็นสาเหตุที่ทำ� ให้สสารเปลี่ยนสถานะได้ ก. การท�ำให้สสารเปล่ียนสี ข. การเพ่มิ มวลสสารใหม้ ากข้นึ ค. การลดปรมิ าตรของสสารลง ง. การทำ� ให้อณุ หภูมิของสสารเปลี่ยนไป ๒๒. ตม้ นำ�้ ในบกี เกอร์ เกดิ ฟองแกส๊ ฟองแก๊สที่เกดิ ขน้ึ คอื สารใด และอยูใ่ นสถานะใด ก. น�้ำ สถานะของเหลว ข. ไอน้�ำ สถานะแกส๊ ค. ออกซิเจน สถานะแก๊ส ง. ไมม่ สี ารใดอยใู่ นฟองแกส๊ ๒๓. ของแขง็ A สีขาว มีรสเค็ม มวล ๑๐ กรัม ผสมน้ำ� ๑๐๐ กรัม ได้ของเหลวใสไมม่ ีสี มีรสเคม็ ข้อใดต่อไปนถ้ี กู ต้อง ก. สารท่ผี สมแล้วเปน็ สารละลาย ข. สารทีผ่ สมแลว้ เป็นสารเนอื้ ผสม ค. ของแขง็ A เปลี่ยนสถานะเปน็ ของเหลว ง. การเปล่ยี นแปลงท่เี กดิ ขน้ึ เปน็ การเปลีย่ นแปลงทางเคมี ๒๔. เม่ือผสมของแข็ง A และของเหลว B เกิดฟองแก๊ส ถ้าการเปล่ียนแปลงน้ี เป็นการเปล่ยี นแปลงทางเคมี ฟองแกส๊ ท่ีเกิดขึน้ นา่ จะเปน็ สารใด ก. A ข. B ค. ทั้ง A และ B ง. ไม่ใช่ทง้ั A และ B ๒๕. การเปลีย่ นแปลงในขอ้ ใดสามารถผนั กลับได้ ก. เกลด็ ไอโอดีนท่วี างไวม้ ขี นาดเล็กลง ข. ตะปูในกล่องเกิดสนิม ค. ธปู ท่ตี ิดไฟเกดิ เขมา่ และควนั ง. ไข่ตกแตกบนพื้นและเนอื้ ไขก่ ลายเปน็ ของแข็ง 162 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
ารีพระเกียรติ สมโเคด็รจงพกราะรเจัทดพทำรัำต ่ืสนอร า๖ช๐ ุส พดรา รฯษาสยามบรมราช ุกมชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เลม่ ๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ) เฉลิม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167