Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม1

วิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม1

Published by moungpok207, 2020-05-02 05:14:57

Description: STsci60_P5_1

Search

Read the Text Version

ชอ่ื -สกลุ เดอื น ช้นั เลขท่ี บ. ๑.๒/ ผ. ๒- ๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. เรอ่ื งราวหรือนิทานท่ีแสดงถงึ โครงสรา้ งและลกั ษณะของสิ่งมีชวี ิตที่เหมาะสม กบั การด�ำรงชีวติ ในแหล่งท่อี ยู่ เรอื่ ง ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 47

ช่อื -สกุล เดือน ชน้ั เลขท่ี บ. ๑.๒/ ผ. ๒- ๐๑ วนั ท ี่ พ.ศ. ค�ำถามหลังจากทำ� กิจกรรม ๑. ท�ำไมสง่ิ มชี วี ติ ทเี่ ลอื กสงั เกตจงึ มโี ครงสรา้ งและลกั ษณะตา่ ง ๆ ตามทส่ี งั เกต ๒. พชื ที่อยูใ่ นน�ำ้ มีโครงสรา้ งและลกั ษณะท่ีสำ� คัญใด ทีท่ ำ� ให้ลอยน�้ำได้ ๓. สัตวท์ อ่ี าศัยอยใู่ นน�ำ้ มโี ครงสรา้ งและลักษณะที่ส�ำคัญใด ที่ทำ� ใหว้ ่ายน้ำ� ได้ ๔. สัตวท์ ีอ่ าศัยอยบู่ รเิ วณขวั้ โลกมโี ครงสรา้ งและลกั ษณะทส่ี ำ� คญั ใด ทีท่ ำ� ให้สัตวอ์ าศัยอยู่ บริเวณนัน้ ได้ 48 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกุล เดอื น ชนั้ เลขท่ี บ. ๑.๒/ ผ. ๒- ๐๑ วนั ท ี่ พ.ศ. ๕. สัตวท์ ีอ่ าศัยอยูบ่ รเิ วณทะเลทรายมีโครงสรา้ งและลกั ษณะทส่ี ำ� คญั ใด ทที่ ำ� ใหส้ ตั วส์ ามารถ อาศยั อยใู่ นบรเิ วณนไ้ี ด้ ๖. สตั วแ์ ละพชื ในปา่ ชายเลนมโี ครงสรา้ งและลกั ษณะทส่ี ำ� คญั ใด ทท่ี ำ� ใหส้ งิ่ มชี วี ติ ดำ� รงชวี ติ อยใู่ น บรเิ วณนไ้ี ด้ ๗. ส่ิงมชี ีวติ ทส่ี ูญพนั ธไ์ุ ปแล้วเกย่ี วข้องกบั การปรบั ตัวอย่างไร ๘. สิง่ มชี วี ติ ทยี่ งั มีชีวติ อยู่เกยี่ วขอ้ งกับการปรับตัวอยา่ งไร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 49

ช่ือ-สกุล เดอื น ชน้ั เลขท่ี บ. ๑.๒/ ผ. ๒- ๐๑ วันท ่ี พ.ศ. ๙. จากกจิ กรรมนี้ สรปุ ไดว้ ่าอย่างไร 50 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ช่ือ-สกลุ เดอื น ชัน้ เลขท่ี บ. ๑.๒/ ผ. ๒- ๐๒ วนั ท่ ี พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : แบบฝกึ หดั เรอื่ งโครงสรา้ งและลกั ษณะของสงิ่ มชี วี ติ ทเ่ี หมาะสม กบั การดำ� รงชวี ติ ในแหลง่ ท่ีอยู่ จากสถานการณต์ อบคำ� ถามตอ่ ไปนี้ ในป่าทางภาคใต้ของไทย มีนกชนดิ หนึ่งท่ีมีสวยงามเป็น ๑ ใน ๓๐ ชนดิ ของโลก ชอื่ วา่ นกแตว้ แลว้ ทอ้ งดำ� ซง่ึ จะทำ� รงั อยทู่ ต่ี น้ ระกำ� หรอื หวายทม่ี หี นามแหลม ใกล้ ๆ ล�ำธารในปา่ เพอ่ื เป็นทีอ่ ยอู่ าศยั เลีย้ งดูลกู และใชห้ ลบภยั ศตั รไู ด้ กนิ ไสเ้ ดอื น หนอน กบ แมลง เป็นอาหารได้ มีปีกท่ีมีลักษณะเป็นแผง เบา กระดกู เปน็ โพรงนำ�้ หนกั ตวั เบา ทำ� ใหบ้ นิ ไปทต่ี า่ ง ๆ ได้ มนี วิ้ เทา้ ขา้ งหนา้ ๓ นวิ้ ขา้ งหลงั ๑ นว้ิ ทำ� ใหก้ ระโดดได้ ทีม่ า : นhtกtpแตs:ว้//แwลwว้ ทw้อ.kงhดe�ำrtz.net อยา่ งคลอ่ งแคลว่ และเกาะกง่ิ ไมไ้ ดแ้ นน่ ปัจจุบนั นกแต้วแลว้ ท้องด�ำจัดเปน็ สตั ว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าหายากใกล้จะสูญพันธุ์เพราะเหลือจ�ำนวนน้อยมาก เน่ืองจากพ้ืนป่า ซ่ึงเป็นที่อยู่อาศัยเปล่ียนเป็นพ้ืนที่เพาะปลูกโดยมนุษย์ เม่ือแหล่งที่อยู่ถูกท�ำลาย นกแต้วแล้วท้องด�ำไม่สามารถปรับตัว หรือรูปร่าง หรือพฤติกรรมให้อยู่รอดได้ ในที่ที่เพาะปลูกนี้ อาจอพยพหรือตายไป ท�ำให้เป็นสัตว์อีกชนิดหน่ึงท่ีใกล้ จะสูญพนั ธ์ุไปจากประเทศไทย ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 51

ชื่อ-สกลุ เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. ๑.๒ / ผ. ๒ - ๐๒ วนั ที่ พ.ศ. ๑. นกแตว้ แลว้ ทอ้ งด�ำมีโครงสรา้ งและลักษณะอะไรบา้ งท่เี หมาะสมตอ่ การดำ� รงชีวิต ๒. สาเหตใุ ดทีท่ ำ� ให้นกแตว้ แล้วทอ้ งด�ำใกล้จะสญู พนั ธุ์ ๓. สงิ่ แวดล้อมทเ่ี ปล่ยี นแปลงไปมผี ลต่อนกแต้วแล้วท้องดำ� อยา่ งไร ๔. เรามีสว่ นช่วยกนั อนุรกั ษน์ กแตว้ แล้วทอ้ งดำ� อย่างไร 52 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๒ ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม ของสิง่ มีชีวิต ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 53

ใบงาน บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑ หนว่ ยย่อยที่ ๑ ลักษณะทางพนั ธกุ รรมของส่งิ มีชวี ติ เรอ่ื ง ลักษณะทางพนั ธุกรรมของมนษุ ย์ 54 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชื่อ-สกลุ เดือน ชัน้ เลขท่ี บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๑  - ๐๑ วนั ท่ ี พ.ศ. กิจกรรมที่ ๑ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของเรามอี ะไรบ้าง จดุ ประสงค์ ๑. สงั เกต เปรยี บเทยี บ และระบลุ กั ษณะทเ่ี หมอื นหรอื คลา้ ยกนั ของพอ่ แมแ่ ละลกู ๒. บอกความหมายของลกั ษณะทางพันธุกรรม วัสดุ – อปุ กรณ์ - วธิ ีท�ำ ๑. สงั เกตรปู ครอบครวั ในใบงาน ๐๑ และบนั ทกึ ลกั ษณะทเี่ หมอื นหรอื คลา้ ยกนั ของพอ่ แม่ และลกู ๒. สังเกตและบันทึกลักษณะของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายตนเองว่ามีลักษณะใดบ้าง ท่เี หมอื นหรอื คล้ายกับพ่อหรอื แม่ หรือท้ังพ่อท้งั และแม่ ๓. รว่ มกนั สบื คน้ ขอ้ มลู และอภปิ รายความหมายของลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม ลกั ษณะทเี่ ปน็ ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม และลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของลกู นนั้ ไดร้ บั การถา่ ยทอดมาได้ อย่างไร ๔. รว่ มกนั อภปิ รายลกั ษณะตา่ ง ๆ ทส่ี งั เกตไดใ้ นขอ้ ๑ และ ๒ วา่ ลกั ษณะใดเปน็ ลกั ษณะ ทางพันธุกรรม และนำ� เสนอผลการสงั เกต ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 55

ชื่อ-สกุล เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๑  - ๐๑ วนั ท ี่ พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : ลักษณะทางพันธุกรรมของเรา บนั ทึกผลการท�ำกจิ กรรม เลอื กและเติมขอ้ ความท่ีแสดงลกั ษณะของลกู แล้วท�ำเครื่องหมาย √ ในชอ่ ง ลักษณะของลูกทเี่ หมือนหรอื คลา้ ยกบั พ่อแม่ ผมสดี ำ� ผมสนี ำ้� ตาล เสน้ ผมหยกิ เสน้ ผมตรง หนงั ตาชน้ั เดยี ว หนงั ตาสองชนั้ มลี กั ยม้ิ ไมม่ ลี กั ยม้ิ รปู หนา้ รี รปู หนา้ เหลยี่ ม ลกู คนที่ ๑ ลูกคนที่ ๒ ลูกคนท่ี ๑ พ่อ แม่ ลูกคนที่ ๒ พอ่ แม่ สีผม เส้นผม หนงั ตา ลักย้ิม รปู ใบหน้า 56 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชือ่ -สกลุ เดือน ชัน้ เลขท่ี บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๑  - ๐๑ วันที่ พ.ศ. ลกั ษณะของสว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายตนเองทเี่ หมอื นหรอื คลา้ ยกบั พอ่ หรอื แมห่ รอื ทง้ั พอ่ และแม่ ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 57

ชอ่ื -สกลุ เดือน ชนั้ เลขที่ บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๑  - ๐๑ วนั ท่ ี พ.ศ. ลกั ษณะทีเ่ หมือนหรอื คลา้ ยกบั พ่อ ได้แก่ ลักษณะทีเ่ หมือนหรอื คลา้ ยกบั แม่ ได้แก่ ลกั ษณะทเี่ หมอื นหรอื คลา้ ยทงั้ พอ่ และแม่ ไดแ้ ก่ 58 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชือ่ -สกลุ เดอื น ช้นั เลขที่ บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๑  - ๐๑ วนั ที ่ พ.ศ. ผลการสบื คน้ ขอ้ มลู ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม หมายถงึ ลักษณะทเ่ี ปน็ ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของมนษุ ย์ ได้แก่ ลกั ษณะของลกู ทเ่ี หมอื นหรอื คลา้ ยกบั พอ่ หรอื แม่ หรอื เหมอื นหรอื คลา้ ยทง้ั พอ่ และแมน่ น้ั มกี ารถ่ายทอดมาไดเ้ พราะ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 59

ชื่อ-สกุล เดือน ช้ัน เลขที่ บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๑  - ๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. คำ� ถามหลังจากท�ำกิจกรรม ๑. รา่ งกายของนกั เรยี นมสี ว่ นใดบา้ งทมี่ ลี กั ษณะทเ่ี หมอื นหรอื คลา้ ยกบั พอ่ แม่ ๒. ลกั ษณะของสว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกายทีเ่ หมอื นหรือคลา้ ยกับพ่อแมเ่ รยี กวา่ อะไร ๓. ลกั ษณะใดบา้ งของมนุษยท์ ่ีเป็นลักษณะทางพนั ธกุ รรม รู้ไดอ้ ย่างไร ๔. จากกิจกรรมน้ี สรุปได้วา่ อยา่ งไร 60 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ช่ือ-สกุล เดอื น ช้นั เลขที่ บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๑  - ๐๒ วันท ี่ พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : แบบฝึกหัด เรอ่ื งลักษณะทางพันธุกรรมของเรา ตอบคำ� ถามตอ่ ไปนใ้ี หถ้ กู ตอ้ ง ๑.๒ มนี ิ้วเทา้ ยาวเหมอื นพ่อ พจิ ารณาลกั ษณะของลูกต่อไปน้ี ๑.๔ มีลักย้มิ เหมอื นแม่ ๑.๑ ชอบอาหารรสเปร้ยี วเหมอื นพอ่ ๑.๓ มีแผลทคี่ ้วิ เหมอื นแม ่ ลกั ษณะของลกู ในขอ้ ใดบา้ งทไี่ มเ่ ปน็ ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมจากพอ่ หรอื แม่ เพราะเหตใุ ด ขอ้ ทเี่ ลอื กคอื ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 61

ช่ือ-สกุล เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๑  - ๐๒ วันที่ พ.ศ. ๒. ลกั ษณะทางพันธกุ รรมของมนุษย์ได้แกอ่ ะไรบา้ ง ยกตัวอย่าง 62 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ 6ทิ ย2าศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ใบงาน บ.๒.๑ / ผ. ๑.๒ หน่วยยอ่ ยท่ี ๑ ลักษณะทางพนั ธกุ รรมของส่ิงมชี ีวติ เรอื่ ง ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของสัตว์ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 63

ชอื่ -สกลุ เดือน ชนั้ เลขที่ บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๒  - ๐๑ วันที่ พ.ศ. กิจกรรมท่ี ๑ ลักษณะทางพนั ธุกรรมของสัตว์มอี ะไรบา้ ง จดุ ประสงค์ ๑. สงั เกตและอธบิ ายลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของสตั ว์ ๒. ออกแบบและอธบิ ายลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของสัตว์ตามจนิ ตนาการ วสั ดุ-อปุ กรณ์ ๑. รูปครอบครวั สัตวช์ นดิ ต่าง ๆ ๒. ดินสอสี วิธีท�ำ ๑. สงั เกตรปู ลกู สตั วใ์ นใบงาน ๐๑ แลว้ เลือกพ่อหรือแม่สตั ว์ใหถ้ ูกต้อง ๒. รว่ มกนั อภปิ รายลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของสตั วใ์ นใบงาน ๐๑ และบนั ทกึ ผล ๓. หารปู ครอบครวั สตั ว์ ๑ ครอบครวั ซงึ่ มที ง้ั พอ่ แมแ่ ละลกู หรือพ่อกบั ลูก หรือแมก่ ับลกู แลว้ ตดิ ลงในใบงาน บนั ทกึ ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของสมาชกิ ในครอบครวั และนำ� เสนอ ๔. รว่ มกนั อภปิ รายลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของสตั วท์ พ่ี บเพมิ่ เตมิ จากใบงาน ๐๑ ๕. รว่ มกนั ออกแบบโดยการวาดรปู ครอบครวั สตั วต์ ามจนิ ตนาการในใบงาน และนำ� เสนอ 64 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ช่อื -สกุล เดือน ชนั้ เลขที่ บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๒  - ๐๑ วันท ่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : ลกั ษณะทางพันธุกรรมของสตั ว์ บนั ทึกผลการท�ำกจิ กรรม จบั ค่โู ยงเส้นลูกสตั ว์กบั พอ่ แม่สตั ว์ใหถ้ กู ตอ้ ง ๑. ก. ๒. ข. ๓. ค. ๔. ง. ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 65

ช่ือ-สกุล เดอื น ชนั้ เลขท่ี บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๒  - ๐๑ วันท ่ี พ.ศ. ลักษณะทางพนั ธุกรรมของสัตว์ชนดิ ต่าง ๆ ชนดิ ของสัตว์ ลกั ษณะทางพันธุกรรม ตัวอย่างเชน่ ขนสเี ทา ๑. นก ๒. มา้ ลาย ๓. ไก่ ๔. สนุ ัข 66 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอื่ -สกุล เดือน ชน้ั เลขท่ี บ.บ ๒. ๒.๑.๑//ผผ.. ๑๑ -.๒ ๐ -๑ ๐๑ วนั ท ่ี พ.ศ. รปู ครอบครวั สัตว์ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 67

ชอ่ื -สกลุ เดอื น ชั้น เลขที่ บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๒  - ๐๑ วันที ่ พ.ศ. ลักษณะทางพันธุกรรมของสมาชิกในครอบครวั ของ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมทเ่ี หมอื นหรือคลา้ ยกับพ่อแม่ของลกู ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. 68 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ช่ือ-สกลุ เดือน ชัน้ เลขท่ี บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๒  - ๐๑ วันที่ พ.ศ. ผลการออกแบบครอบครวั สตั ว์ตามจนิ ตนาการ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 69

ชอื่ -สกลุ เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๒  - ๐๑ วันที่ พ.ศ. ค�ำถามหลังจากทำ� กิจกรรม ๑. สง่ิ มีชวี ติ ชนิดเดียวกนั มลี ักษณะสว่ นใหญ่คลา้ ยกันหรือแตกต่างกนั ๒. ส่ิงมชี วี ิตตา่ งชนดิ กันมีลักษณะส่วนใหญ่คล้ายกันหรือแตกต่างกนั ๓. ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของสตั วม์ อี ะไรบา้ ง ๔. ลกั ษณะของลกู สตั วม์ คี วามคลา้ ยหรอื เหมอื นกบั ลกั ษณะของพอ่ หรอื แม่ หรือทงั้ พอ่ และแม่ เพราะเหตุใด ๕. จากกิจกรรมน้ี สรปุ ไดว้ ่าอยา่ งไร 70 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกลุ เดือน ชน้ั เลขที่ บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๒  - ๐๒ วนั ท่ ี พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : แบบฝึกหัด เร่อื งลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของสตั ว์ ๑. ทำ� เครอ่ื งหมาย X ทับคำ� ตอบท่เี ลือก และเขียนบอกลกั ษณะทางพันธุกรรมทแ่ี สดงวา่ เปน็ พ่อหรือแม่กับลูก ๑.๑ พ่อหรือแมข่ องสัตว์ในรูปข้างบนคอื ขอ้ ใด เพราะเหตใุ ด ก. ข. ค. ง. ลกั ษณะทางพันธกุ รรมทแ่ี สดงวา่ เปน็ พ่อหรือแมก่ ับลูก เช่น ๑.๒ พ่อหรือแม่ของสตั วใ์ นรูปข้างบนคอื ขอ้ ใด เพราะเหตุใด ก. ข. ค. ง. ลักษณะทางพันธกุ รรมท่แี สดงวา่ เปน็ พอ่ หรอื แมก่ บั ลูก เช่น ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 71

ชื่อ-สกุล เดือน ชั้น เลขท่ี บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๒  - ๐๒ วนั ท ่ี พ.ศ. ๑.๓. พ่อหรือแมข่ องสัตวใ์ นรปู ขา้ งบนคอื ข้อใด เพราะเหตุใด ก. ข. ค. ง. ลกั ษณะทางพันธุกรรมทแ่ี สดงว่าเป็นพอ่ หรอื แมก่ ับลกู เช่น ๑.๔ พอ่ หรือแม่ของสตั ว์ในรปู ขา้ งบนคือข้อใด เพราะเหตุใด ก. ข. ค. ง. ลักษณะทางพันธกุ รรมที่แสดงว่าเปน็ พ่อหรอื แมก่ บั ลกู เช่น 72 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชื่อ-สกลุ เดือน ชัน้ เลขท่ี บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๒  - ๐๒ วนั ที ่ พ.ศ. ๒. เม่อื น�ำพ่อปยุ ฝา้ ยและแมพ่ ลอยมาผสมพนั ธ์กุ ันไดล้ ูกปุยนุน่ ที่มลี กั ษณะดังรูป พ่อปยุ ฝา้ ย แมพ่ ลอย ลูกปุยนุน่ ตอบคำ� ถามต่อไปน้ี ๒.๑ ลกั ษณะใดบา้ งที่ปยุ น่นุ ได้รบั การถา่ ยทอดจากพอ่ ปุยฝ้าย ๒.๒ ลกั ษณะใดบา้ งที่ปุยนุ่นได้รับการถา่ ยทอดจากแมพ่ ลอย ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 73

ใบงาน บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๓ หน่วยยอ่ ยที่ ๑ ลกั ษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมชี ีวิต เรอื่ ง ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของพืช 74 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกลุ เดือน ชัน้ เลขที่ บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๓  - ๐๑ วันท ่ี พ.ศ. กจิ กรรมท่ี ๑ ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของพืชมีอะไรบ้าง จดุ ประสงค์ สังเกตและอธิบายลักษณะทางพนั ธกุ รรมของพชื วัสดุ-อุปกรณ์ บัตรภาพตน้ พืชท่เี ป็นตน้ พ่อหรอื ต้นแมก่ ับต้นลูก วธิ ที ำ� ๑. สงั เกตภาพตน้ พชื ทเ่ี ปน็ ตน้ พ่อหรือตน้ แมก่ บั ภาพตน้ ลกู จากบตั รภาพ และบันทึก ลกั ษณะทางพันธกุ รรมของพชื ๒. นำ� เสนอและอภปิ รายลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของพชื ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 75

ชือ่ -สกลุ เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๓  - ๐๑ วนั ที ่ พ.ศ. บตั รภาพต้นพชื กลว้ ยไม้ ต้นพอ่ ตน้ แม่ ต้นลกู 76 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกุล เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๓  - ๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. ข้าหลวง ต้นพอ่ ต้นแม่ ต้นลกู ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 77

ชื่อ-สกุล ชนั้ เลขท่ี บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๓  - ๐๑ วันที่ เดือน พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : ลักษณะทางพนั ธุกรรมของพืช บันทกึ ผลการท�ำกจิ กรรม ท�ำเครื่องหมาย Pใน ตาราง ลักษณะทางพนั ธกุ รรมของพืช ตามที่สงั เกตได้ ลกั ษณะของพชื ต้นลกู ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของตน้ ลกู ทเี่ หมอื นกบั ตน้ พอ่ หรอื ตน้ แม่ ตน้ ลกู ต้นพ่อ ต้นแม่ ลักษณะใบเรียว ยาว และหนา P P 78 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชือ่ -สกลุ เดอื น ชั้น เลขที่ บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๓  - ๐๑ วันที่ พ.ศ. ตาราง ลกั ษณะทางพันธุกรรมของพชื (ตอ่ ) ท�ำเครอ่ื งหมาย Pใน ลักษณะของพืชตน้ ลกู ตามท่สี งั เกตได้ ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของตน้ ลกู ทเี่ หมอื นกบั ตน้ พอ่ หรอื ตน้ แม่ ตน้ ลกู ต้นพอ่ ต้นแม่ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 79

ชอื่ -สกลุ เดือน ชั้น เลขที่ บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๓  - ๐๑ วนั ท ่ี พ.ศ. คำ� ถามหลังจากทำ� กจิ กรรม ๑. ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของพชื มอี ะไรบา้ ง ๒. ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของตน้ ลกู ทเ่ี หมอื นตน้ พอ่ และตน้ แมน่ มี้ กี ารถา่ ยทอดมาไดอ้ ยา่ งไร ๓. จากกจิ กรรมนี้ สรปุ ไดว้ ่าอยา่ งไร 80 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชือ่ -สกุล เดอื น ชัน้ เลขท่ี บ. ๒.๑/ ผ. ๑.๓  - ๐๒ วันท ่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : แบบฝกึ หดั เร่อื งลักษณะทางพันธุกรรมของพชื เขียนแผนผังความคิดของลักษณะทางพันธุกรรมของพชื ในรูป ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 81

82 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๓ สารในชีวติ ประจ�ำวนั ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 83

ใบงาน บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ หน่วยย่อยที่ ๑ การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ เร่อื ง การเปลยี่ นสถานะของสสาร 84 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกุล เดือน ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วนั ท ี่ พ.ศ. กิจกรรมที่ ๑ น้ำ� แข็งเปลี่ยนสถานะอย่างไร จุดประสงค์ สงั เกตและอธบิ ายการเปล่ยี นสถานะของน�ำ้ แข็ง วัสดุ-อปุ กรณ์ ๑. น�ำ้ แขง็ กอ้ นเลก็ ๆ ๒. ถงุ พลาสติกใส ๓. ขวดรูปกรวย ๔. ไม้ขดี ไฟ ๕. ยางรัดของ ๖. ชดุ ตะเกยี งแอลกอฮอล์ ๗. กระปอ๋ งทรายสำ� หรบั ดับไฟ วธิ ีทำ� ๑. คาดคะเนและบนั ทกึ วา่ จะเกดิ อะไรขน้ึ เมอื่ นำ� นำ�้ แขง็ กอ้ นเลก็ ๆ จำ� นวน ๑-๒ กอ้ น ใสใ่ นขวดรปู กรวยแลว้ ครอบปากขวดดว้ ยถงุ พลาสตกิ ใส มดั ปากถงุ ใหแ้ นน่ ดงั รปู วางไวส้ กั ครู่ รปู ขวดรปู กรวยทม่ี กี อ้ นนำ้� แขง็ ทคี่ รอบปากขวดดว้ ยถงุ พลาสตกิ ใส ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 85

ชอ่ื -สกุล เดือน ชั้น เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วันท่ ี พ.ศ. ๒. ท�ำกิจกรรมเพ่ือตรวจสอบการคาดคะเน สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น จนกระทั่งมองไม่เห็น กอ้ นนำ้� แขง็ บนั ทกึ ผลโดยการวาดภาพและเขยี นบรรยาย ๓. คาดคะเนและบันทึกต่อไปว่า จะเกิดอะไรขึ้นเม่ือน�ำขวดรูปกรวยในข้อ ๒ ไปตั้งไฟ เปน็ ระยะเวลาหนงึ่ และจะเกดิ อะไรขนึ้ เมอื่ ดบั ไฟ ๔. ท�ำกิจกรรมเพื่อตรวจสอบการคาดคะเน โดยน�ำขวดรูปกรวยไปต้ังไฟอ่อน ๆ สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นภายในขวดรูปกรวยและภายในถุงพลาสติกอย่างละเอียด ต้ังแต่เริ่มวางขวดรูปกรวยบนตะแกรงจนครบ ๓ นาที และบันทึกผลเช่นเดิม ๕. ดับไฟ สังเกตส่ิงที่เกิดข้ึนภายในขวดรูปกรวยและภายในถุงพลาสติกอย่างละเอียด ประมาณ ๒ นาที และบนั ทกึ ผล ๖. รว่ มกนั อภปิ รายเกย่ี วกับการเปลี่ยนสถานะของน�ำ้ แข็งแตล่ ะช่วง และนำ� เสนอ ๗. อ่านใบความรู้และสืบค้นข้อมูลเพ่ิมเติมว่าการเปลี่ยนสถานะของน้�ำแข็งแต่ละช่วง เรยี กวา่ อะไร อภปิ ราย บนั ทกึ ผลและนำ� เสนอ 86 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอื่ -สกลุ เดอื น ชัน้ เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วนั ท ี่ พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : การเปลีย่ นสถานะของน�้ำแข็ง บันทึกผลการทำ� กิจกรรม การคาดคะเนและผลการสงั เกต ตาราง การเปลีย่ นแปลงของก้อนน�ำ้ แข็งจากการคาดคะเนและการสงั เกต ขัน้ ตอนการทำ� กิจกรรม การคาดคะเน ผลการสังเกต ว า ง ข ว ด รู ป ก ร ว ย ท่ี มี กอ้ นนำ้� แขง็ ทค่ี รอบปากขวด ดว้ ยถงุ พลาสตกิ ใสไวส้ กั ครู่ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 87

ชื่อ-สกุล เดอื น ช้ัน เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วนั ที ่ พ.ศ. ตาราง การเปลย่ี นแปลงของก้อนน�้ำแข็งจากการคาดคะเนและการสงั เกต (ตอ่ ) ขนั้ ตอนการท�ำกิจกรรม การคาดคะเน ผลการสังเกต น�ำขวดรูปกรวยทม่ี องไมเ่ หน็ กอ้ นน้ำ� แขง็ ไปตง้ั ไฟ ๓ นาที หลงั ดบั ไฟทใ่ี หแ้ กข่ วดรปู กรวย ท่ีมองไม่เห็นก้อนน�้ำแข็ง ประมาณ ๒ นาที 88 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอื่ -สกลุ ชน้ั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วนั ที่ เดือน พ.ศ. ใบความรู้ เร่อื งการเปลี่ยนสถานะของนำ้� แข็ง น้�ำแข็งซึ่งมีสถานะเป็นของแข็งเม่ือได้รับความร้อนจะเปล่ียนเป็นน้�ำซ่ึงมีสถานะ เป็นของเหลว และเมื่อได้รับความร้อนต่อไปจะเปล่ียนเป็นไอน�้ำซ่ึงมีสถานะเป็นแก๊ส เมื่อเย็นลงไอน้�ำจะเปล่ียนสถานะกลับมาเป็นน้�ำ การเปลี่ยนสถานะของแข็งเป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว การเปล่ียนสถานะของเหลวเป็นแก๊สเรียกว่า การกลายเป็นไอ ซงึ่ มี ๒ ลกั ษณะ คอื การระเหยและการเดอื ด สว่ นการเปลย่ี นสถานะของแกส๊ เปน็ ของเหลว เรียกว่า การควบแน่น ท้ังการหลอมเหลว การกลายเป็นไอ และการควบแน่นเป็น การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพซง่ึ ไม่มีการเปลี่ยนเป็นสารใหม่ พลงั งานความรอ้ นเพ่ิมขน้ึ ของแข็ง การหลอมเหลว ของเหลว การกลายเปน็ ไอ แกส๊ การควบแน่น พลงั งานความรอ้ นลดลง รปู กระบวนการเปลี่ยนสถานะของสสาร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 89

ชื่อ-สกลุ เดือน ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วันท่ี พ.ศ. ผลการอภปิ รายและการสบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั การเปลยี่ นแปลงสถานะของนำ้� แขง็ ในแตล่ ะชว่ ง • วางขวดรปู กรวยทมี่ ีกอ้ นนำ�้ แข็งไว้สกั ครู่ สารมีการเปลยี่ นสถานะจาก เปน็ เรียกการเปลี่ยนสถานะนี้วา่ • น�ำขวดรปู กรวยท่มี องไม่เหน็ กอ้ นน้�ำแข็งไปตั้งไฟ ๓ นาที สารมีการเปล่ยี นสถานะจาก เป็น เรียกการเปล่ียนสถานะนี้ว่า • หลงั ดับไฟทใี่ หแ้ กข่ วดรปู กรวย ท่ีมองไมเ่ ห็นกอ้ นนำ้� แขง็ ประมาณ ๒ นาที สารมกี ารเปลยี่ นสถานะจาก เปน็ เรยี กการเปลี่ยนสถานะนีว้ ่า 90 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกลุ เดือน ชั้น เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วนั ท ่ี พ.ศ. ค�ำถามหลังจากท�ำกจิ กรรม ๑. เมอ่ื วางขวดรูปกรวยที่ใส่น้�ำแข็งไว้ น�้ำแข็งมีการเปล่ียนสถานะอย่างไร และเรียก การเปล่ยี นสถานะน้ีว่าอะไร ๒. เม่ือน�ำขวดรูปกรวยที่มองไม่เห็นก้อนน้�ำแข็งไปให้ความร้อนโดยการต้ังไฟ มีการเปล่ยี นสถานะอย่างไร และเรยี กการเปลี่ยนสถานะนวี้ ่าอะไร ๓. เมื่อน�ำขวดรปู กรวยจากขอ้ ๒ ทใ่ี ห้ความรอ้ นโดยการตั้งไฟแลว้ วางไว้ท่อี ุณหภมู หิ อ้ ง มกี ารเปล่ยี นสถานะอย่างไร และเรียกการเปล่ยี นสถานะน้ีวา่ อะไร ๔. ผลการสังเกตเหมือนหรอื แตกตา่ งจากการคาดคะเน อย่างไร เมอื่ วางขวดรปู กรวยท่ีใสน่ ำ้� แขง็ ไว้สกั ครู่ ได้ผล กบั ที่ คาดคะเน คอื น�ำขวดรูปกรวยทม่ี องไม่เหน็ เปน็ กอ้ นน้ำ� แข็งไปตงั้ ไฟ ๓ นาที ได้ผล กับทีค่ าดคะเน คือ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 91

ชื่อ-สกุล เดอื น ชัน้ เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๑ วนั ที ่ พ.ศ. หลงั ดับไฟท่ีใหแ้ ก่ขวดรปู กรวยทีม่ องไมเ่ หน็ กอ้ นนำ้� แข็งประมาณ ๒ นาที ได้ผล กับท่ีคาดคะเน คือ ๕. การเปลี่ยนสถานะของนำ�้ ในสถานะตา่ ง ๆ เกิดขนึ้ ไดอ้ ยา่ งไร ๖. จากกจิ กรรมน้ี สรุปได้วา่ อยา่ งไร 92 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกุล เดือน ช้ัน เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. กิจกรรมท่ี ๒ น�ำ้ ผลไมเ้ ปน็ เกลด็ น้�ำแข็งได้อย่างไร จดุ ประสงค์ สังเกตและอธบิ ายการเปลี่ยนสถานะของนำ�้ ผลไม้ วัสดุ-อปุ กรณ์ ๑. นำ�้ ผลไม้ ๒. กะละมงั พลาสติก ๓. ชอ้ น เกลอื แกง ๔. น�้ำแขง็ ก้อนเลก็ ๆ ๕. เกลอื แกง ๖. แก้วพลาสตกิ ใส วิธที ำ� ๑. เตรยี มอปุ กรณ์ดงั รูป น้ำ� แข็งผสมเกลอื ๒. คาดคะเนและบนั ทกึ วา่ จะเกดิ อะไรขนึ้ กบั นำ้� ผลไม้ เมอื่ นำ� แกว้ พลาสตกิ ทใ่ี สน่ ำ้� ผลไม้ แช่ในกะละมังน้ำ� แข็งผสมเกลือแกงแลว้ คนน�้ำแขง็ ท่ีผสมเกลือแกงไปเรอ่ื ย ๆ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 93

ชอ่ื -สกลุ เดือน ชน้ั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. ๓. ทำ� กจิ กรรมเพอื่ ตรวจสอบการคาดคะเน สงั เกตการเปลยี่ นแปลงของนำ�้ ผลไม้ โดยคนนำ�้ แขง็ ผสมเกลอื ในอา่ งไปเรอื่ ย ๆ และบนั ทกึ ผลทกุ ๆ ๒ นาที จนนำ้� ผลไมท้ งั้ หมดเปลยี่ นสถานะ ๔. แบ่งน้�ำผลไม้ท่ีเปล่ียนสถานะแลว้ ใสแ่ กว้ ใบหนงึ่ และวางไวน้ อกอา่ งนำ�้ แขง็ สงั เกต การเปลีย่ นแปลงทเี่ กิดขนึ้ เมือ่ เวลาผ่านไป ประมาณ ๓ นาที บันทึกผล ๕. รว่ มกันอภปิ รายเกี่ยวกับการเปล่ียนสถานะของน้�ำผลไม้ และนำ� เสนอ ๖. อ่านใบความรู้และสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมว่าการเปล่ียนสถานะในแต่ละช่วง ของน�้ำผลไม้เรียกว่าอะไร บันทึกผลและน�ำเสนอ 94 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

ชอ่ื -สกลุ เดือน ชั้น เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วันที ่ พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : การเปล่ียนสถานะของน้�ำผลไม้ บันทกึ ผลการทำ� กิจกรรม การคาดคะเน ตาราง ผลการสงั เกตการเปลยี่ นแปลงของนำ�้ ผลไมเ้ มื่อเวลาผ่านไปทกุ ๆ ๒ นาที นาทีท ่ี ผลการสงั เกต ๐ ๒๒๐ ๒๔๐ ๒๖๐ ๒๐ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 95

ชื่อ-สกุล เดอื น ชน้ั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วันท่ี พ.ศ. ตาราง ผลการสงั เกตการเปลี่ยนแปลงของน�้ำผลไมเ้ มือ่ เวลาผ่านไปทกุ ๆ ๒ นาที นาทีที ่ ผลการสงั เกต ๒๐ ผลการสงั เกตนำ�้ ผลไมท้ เี่ ปลยี่ นสถานะแลว้ ใสใ่ นแกว้ ใบทวี่ างไวน้ อกอา่ งนำ้� แขง็ ประมาณ ๓ นาที 96 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook