ชอื่ -สกลุ เดอื น ชั้น เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๔-๐๑ วันที่ พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : สมบัตกิ ารนาํ ความรอนของวสั ดุ บนั ทึกผลการทํากจิ กรรม วัสดุแตละชนดิ นาํ ความรอ นไดดกี วากนั หรอื ไม สมมติฐาน : ผลการออกแบบเพอื่ ทดสอบการนําความรอนของวัสดุ ตวั แปรตน : ตัวแปรตาม : ตวั แปรท่ตี อ งควบคุมใหคงท่ี : 146 ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรบั นักเรยี น) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 146 6/4/18 10:58 AM
ช่ือ-สกุล ชัน้ เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๔-๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. เดือน ตาราง เปรยี บเทยี บการหลอมเหลวของดนิ นาํ้ มนั เม่อื ใหความรอ นกับวัสดุชนดิ ตา ง ๆ ชนดิ ของวัสดุ ลําดับการหลอมเหลวของดนิ นํ้ามัน ไม แกว อะลูมเิ นียม เหล็ก ทองแดง คาํ ถามหลังจากทาํ กจิ กรรม ๑. วัสดุชนดิ ใดนาํ ความรอ นไดดี รไู ดอยางไร ๒. วสั ดชุ นดิ ใดนําความรอ นไดไ มด ี รไู ดอ ยา งไร ๓. จากกจิ กรรมนี้ สรุปไดว าอยา งไร ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรบั นักเรียน) กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรุง) 147 6102159����������� �.4/��������/a.indd 147 6/4/18 10:58 AM
ช่ือ-สกลุ เดอื น ชัน้ เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๔-๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : แบบฝกหดั เรื่องการนําความรอนของวัสดุ ขีด x ทบั ตวั เลือกหนา ขอความที่ถกู ตอ งท่สี ุดเพียงขอเดียว ๑. ถาตอ งการทาํ ภาชนะเพือ่ ใหเกบ็ ความรอนไวไ ดน าน ควรทําจากวสั ดุชนิดใด ก. เหลก็ ข. พลาสตกิ ค. ทองเหลอื ง ง. กระเบือ้ งเคลือบ ๒. วัตถุในขอใดมสี มบตั ิการนาํ ความรอ นไดด ีท่สี ดุ ก. ขวดแกว ข. ชอนโลหะ ค. จานกระเบื้อง ง. แกวพลาสติก ๓. วัสดุท่ีเปนตัวนําความรอนทีด่ ี มกั จะมีสมบัตใิ ดควบคไู ปดว ย ก. มีความหนาแนน มาก ข. มีความแข็งมาก ค. เปนตัวนาํ ไฟฟาท่ดี ี ง. มคี วามยืดหยุนสูง ๔. ฉนวนความรอน หมายถงึ ขอ ใด ก. วสั ดทุ ีน่ ําความรอนไดป านกลาง ข. วสั ดทุ ีค่ วามรอ นไหลผา นได ค. วสั ดุท่ีนําความรอนไดไมด ี ง. วัสดทุ ี่นาํ ความรอนไดด ี 148 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับนักเรยี น) กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรับปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 148 6/4/18 10:58 AM
ชื่อ-สกุล เดือน ชัน้ เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๔-๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. ๕. ใหพ ลังงานความรอ นเทา กันเพือ่ ตม นาํ้ ๕๐ ลกู บาศกเซนตเิ มตร ในบกี เกอรข นาด เทากนั ทท่ี าํ ดว ยวสั ดตุ างกนั บันทึกเวลาทท่ี าํ ใหนํา้ เดือดไดผลตามตาราง ตาราง เวลาที่ใชในการทาํ ใหน ้ําเดือดเมอื่ ตม นํ้าในบกี เกอรท ี่ทาํ ดว ยวัสดุตางกัน วสั ดุทใ่ี ชทําบีกเกอร เวลาที่ใชในการทาํ ใหน้าํ เดือด (นาที ) A ๕ B ๙ C ๘ D ๗ จากขอ มูล วสั ดุชนิดใดนาํ ความรอ นไดดีท่สี ดุ ก. A ข. B ค. C ง. D ๖. ตัวนาํ ความรอ นแตกตา งจากฉนวนความรอ นอยางไร ๗. ถาเราใชทพั พีทีท่ าํ จากโลหะคนแกงทีก่ าํ ลงั เดือด จะรสู ึกรอ นมือเพราะอะไร ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรบั นกั เรียน) กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบับปรบั ปรุง) 149 6102159����������� �.4/��������/a.indd 149 6/4/18 10:58 AM
ใบงาน บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๕ หนว� ยยอ ยที่ ๑ สมบัติทางกายภาพของวัสดุ เร่�อง การน�าไฟฟาของวัสดรุ อบตวั 150 ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำ�หรับนกั เรียน) กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรับปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 150 6/4/18 10:58 AM
ชอื่ -สกุล เดือน ชัน้ เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๕-๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. A กิจกรรมที่ ๑ ตรวจสอบการนาํ ไฟฟา ของวสั ดุไดอ ยา งไร B จุดประสงค สงั เกตและอธบิ ายสมบัตกิ ารนําไฟฟา ของวัสดุ วัสด-ุ อุปกรณ ๑. ไม ๒. แกว ๓. เหลก็ ๔. อะลูมเิ นียม ๕. ทองแดง ๖. สายไฟพรอมที่เสียบและคลปิ ปากจระเข ๗. ถา นไฟฉาย ๘. หลอดไฟฟาพรอมฐานขนาด ๒.๕ โวลต วิธที ํา + ๑. ตอ วงจรไฟฟาอยา งงายซ่ึงประกอบดว ย แบตเตอรี่ หลอดไฟฟาพรอ มฐาน สายไฟ โดยตอ ใหเ ปน วงจรเปด ดังรปู ๒. คาดคะเนวา ถานาํ วตั ถุตา งๆ ตอ เขา กบั สายไฟ ระหวา งจุด A และ B จะเกิดอะไรขน้ึ บนั ทึกผล ๓. ทาํ กจิ กรรมเพอ่ื ตรวจสอบการคาดคะเน สงั เกตและบันทกึ ผล ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั นักเรยี น) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) 151 6102159����������� �.4/��������/a.indd 151 6/4/18 10:58 AM
ชือ่ -สกลุ เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๕-๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : การนําไฟฟา ของวัสดุ บันทึกผลการทํากจิ กรรม ตาราง การเปลย่ี นแปลงของหลอดไฟฟา เมอื่ ตอกับวสั ดุชนิดตางๆ ในวงจรไฟฟา ขีด ✓ ในชอ งทีต่ รงกบั ผลการคาดคะเนและผลการสังเกต วสั ดุทน่ี าํ มาตอ ผลการคาดคะเน ผลการสังเกต กบั วงจร หลอดไฟฟา สวาง หลอดไฟฟา ไมส วา ง หลอดไฟฟา สวา ง หลอดไฟฟา ไมสวาง ไม เหล็ก อะลมู เิ นยี ม แกว ทองแดง คาํ ถามหลังจากทาํ กจิ กรรม ๑. วสั ดชุ นิดใดนาํ ไฟฟาได ๒. วัสดชุ นิดใดไมนําไฟฟา ๓. ตรวจสอบวา วัสดนุ าํ ไฟฟา หรอื ไมนาํ ไฟฟาไดอ ยางไร ๔. จากกิจกรรมนี้ สรุปไดว าอยา งไร 152 ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรับนักเรยี น) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 152 6/4/18 10:58 AM
ชอื่ -สกลุ เดอื น ช้ัน เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๕-๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : แบบฝก หดั เรือ่ งการนําไฟฟาของวัสดุ ตอบคาํ ถามตอ ไปนใี้ หถูกตอง ๑. ทาํ การทดลองวา วสั ดชุ นิดใดบางท่ีนําไฟฟา โดยนําวสั ดมุ าตอเขา กับวงจรไฟฟา ทต่ี ดิ หลอดไฟฟาเอาไว มีตวั แปรทเี่ กีย่ วของอะไรบา ง ตัวแปรตน ในการทดลองนี้ ไดแก ตัวแปรตามในการทดลองน้ี ไดแ ก ตัวแปรทต่ี อ งควบคมุ ใหคงที่ ไดแก ๒. จากภาพ A และ B ควรทําจากวัสดุชนิดใด เพราะเหตใุ ด ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำ�หรับนกั เรยี น) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ ) 153 6102159����������� �.4/��������/a.indd 153 6/4/18 10:58 AM
ใบงาน บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๖ หน�วยยอยท่ี ๑ สมบัตทิ างกายภาพของวัสดุ เร่�อง การใชป ระโยชน�จากสมบัตขิ องวสั ดุ 154 ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรับนักเรียน) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรับปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 154 6/4/18 10:58 AM
ชือ่ -สกลุ เดือน ชนั้ เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๖-๐๑ วนั ที่ พ.ศ. กิจกรรมที่ ๑ ใชส มบตั ทิ างภายภาพของวัสดุทาํ ประโยชนอะไรบาง จดุ ประสงค ออกแบบชน้ิ งานและระบกุ ารนําสมบัติทางกายภาพของวสั ดไุ ปใชประโยชนในชน้ิ งานท่ี ออกแบบ วัสดุ-อปุ กรณ ยาสีฟน ๑. อะลูมิเนียมฟอยล ๒. กลอ งยาสฟี น ๓. สายไฟฟา ๔. ถานไฟฉายขนาด ๑.๕ โวลต ๕. หลอดไฟฟา ๖. กระดาษปรูฟ ๗. เทปกาว ๘. วัสดอุ นื่ ๆ วธิ ีทํา ๑. สงั เกตอปุ กรณท ง้ั หมดแลว รว มกนั อภปิ รายวา จะนาํ สมบตั ทิ างกายภาพ เรอ่ื งความแขง็ สภาพยดื หยุน การนาํ ความรอนและการนาํ ไฟฟาของวสั ดอุ ุปกรณตาง ๆ ไปใช ประโยชนใ นชวี ติ ประจําวนั อยางไรไดบ าง ๒. รวมกันออกแบบรถพยาบาลจําลอง โดยมีเงื่อนไขวา เม่ือรถพยาบาลจําลอง เคลือ่ นทีไ่ ปตามพืน้ ถนนในระยะทาง ๑ เมตร หลอดไฟสัญญาณบนรถจะตองตดิ ไฟ และไมติดไฟสลับกันไป อยางนอย ๒๐ รอบ โดยใชอุปกรณท่ีกําหนดให วาดรูป บนั ทกึ ผลการออกแบบ ๓. สรา งรถพยาบาลและปรบั ปรงุ ใหไดตามทีก่ ําหนดไวในขอ ๒ ๔. ออกแบบชนิ้ งานใหมข องกลมุ อกี ๑ ชน้ิ งาน วาดภาพและนาํ เสนอชน้ิ งาน พรอ มอธบิ าย การนําสมบัติทางกายภาพของวัสดมุ าใชในช้นิ งานท่อี อกแบบ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรบั นกั เรียน) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบับปรับปรุง) 155 6102159����������� �.4/��������/a.indd 155 6/4/18 10:58 AM
ชือ่ -สกลุ เดอื น ช้นั เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๖-๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : การนําสมบัตทิ างกายภาพของวสั ดุมาใชป ระโยชน บันทึกผลการทาํ กิจกรรม ผลการออกแบบรถพยาบาลจําลองตามเง่อื นไขทกี่ าํ หนด 156 ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ (สำ�หรบั นกั เรียน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 156 6/4/18 10:58 AM
ชือ่ -สกุล ชน้ั เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๖-๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. เดอื น ผลการออกแบบช้นิ งานใหมของกลุม ชอ่ื ชิน้ งาน คาํ อธิบายการนําสมบัตทิ างกายภาพของวสั ดุมาใชใ นช้นิ งานท่ีออกแบบ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำ�หรบั นักเรียน) กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรับปรงุ ) 157 6102159����������� �.4/��������/a.indd 157 6/4/18 10:58 AM
ชอ่ื -สกุล ชั้น เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๖-๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. เดอื น คาํ ถามหลงั จากทํากิจกรรม ๑. การสรา งรถพยาบาลจาํ ลองไดนําสมบัตทิ างกายภาพของวัสดใุ ดมาใชประโยชนบา งและ ใชทาํ อะไร ๒. ชนิ้ งานใหมท ก่ี ลุมออกแบบไดนาํ สมบัติทางกายภาพของวสั ดุใดมาใชประโยชนบ า งและ ใชท าํ อะไร ๓. จากกิจกรรมน้ี สรุปไดว า อยางไร 158 ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรบั นกั เรยี น) กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 158 6/4/18 10:58 AM
ชอ่ื -สกลุ เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๖-๐๒ วนั ที่ พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : แมบาใบชฝปก รหะดั โยเชรนือ่ งการนําสมบัติทางกายภาพของวัสดุ ตอบคําถามตอ ไปนี้ใหถูกตอ ง ๑. แทรมโพลีนเปนเคร่ืองเลน ที่ผูเลนยืนอยูบนแผนวัสดุ เมื่อออกแรงบนแผนวัสดุ แผน วสั ดบุ รเิ วณทไี่ ดร บั แรงจะยบุ ลงและกลบั มาสทู เ่ี ดมิ เมอื่ หยดุ ออกแรง นกั เรยี น คดิ วา แทรมโพลนี เปน เครอ่ื งเลน ทที่ าํ จากวสั ดทุ ม่ี สี มบตั ทิ างกายภาพใด เพราะเหตใุ ด ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรับนกั เรยี น) กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) 159 6102159����������� �.4/��������/a.indd 159 6/4/18 10:58 AM
ช่ือ-สกลุ ชั้น เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๖-๐๒ วนั ที่ พ.ศ. เดือน ๒. วัสดุตอไปนี้ คือ ไม เหล็ก และเสนเอ็นไนลอน มีสมบัติทางกายภาพอะไรและนําไปใช ประโยชนไดอ ยางไร 160 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ (สำ�หรบั นักเรียน) กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรับปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 160 6/4/18 10:58 AM
โรงเรียน ปการศกึ ษา แบบทดสอบวชิ าวทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ชั้นประถมศึกษาปท ี่ ช่ือ - นามสกุล เลขที่ ชั้น คําช้แี จง : แบบทดสอบมีทง้ั หมด ๒๕ ขอ รวม ๙ หนา เวลา ๓๐ นาที คะแนนเตม็ ๒๕ คะแนน ใหเขียนเครอ่ื งหมาย X ทบั ตัวอกั ษรหนา คาํ ตอบทถ่ี ูกตอ งทส่ี ดุ คะแนนเต็ม คะแนนท่ีได ๒๕ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรับนกั เรยี น) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบับปรับปรงุ ) 161 6102159����������� �.4/��������/a.indd 161 6/4/18 10:58 AM
๑. ด.ช.ภาคภมู ิทดลองแชตนเทียนทีม่ รี ากลงในนา้ํ หมึกสีแดงแลวเปนเวลา ๑ ช่วั โมง เม่ือเขาตัดลาํ ตน ของตนเทียนตามยาว จะสงั เกตเหน็ อะไร ก. น้ําหมึกสีแดงอยเู ปนจุด ๆ ข. น้ําหมกึ สีแดงเปนเสน ค. น้ําหมกึ สีแดงไหลออกมาจากลําตน ง. ไมมกี ารเปลีย่ นแปลงเกดิ ข้นึ ๒. จากขอ ๑ เพราะเหตุใดจงึ ตอ งใสน า้ํ หมกึ สแี ดงลงในน้าํ ท่ีแชตนเทียน ก. ชวยใหตน เทยี นลําเลยี งนํ้าไดด ีข้นึ ข. ชว ยใหต น เทยี นสังเคราะหดว ยแสงดขี ้นึ ค. ชว ยใหส ังเกตเห็นทอลาํ เลียงนา้ํ ไดช ดั เจน ง. ชวยใหสังเกตเหน็ ทอ ลําเลียงอาหารไดชดั เจน ๓. เพราะเหตใุ ดจึงเปรียบเทยี บใบไมเปนหองครัว ก. ใบทําหนาทหี่ ายใจ ข. ใบทําหนาทส่ี รางอาหาร ค. ใบทําหนาทลี่ าํ เลยี งนาํ้ ง. ใบเปนบริเวณเดยี วทม่ี กี ารสะสมอาหาร ๔. ขอ ใดกลา วไดถ กู ตองเก่ียวกับการสงั เคราะหด วยแสงของพืช ก. การสังเคราะหด ว ยแสงตอ งใชแกส ออกซิเจน ข. การสงั เคราะหด วยแสงของพชื เกดิ ขึ้นที่บรเิ วณใบเทาน้นั ค. น้ําตาลท่ีไดจากการสงั เคราะหดวยแสงจะถูกลาํ เลียงไปเลี้ยงสว นตา ง ๆ ง. ส่ิงท่ีไดจากการสงั เคราะหดว ยแสงของพืชคอื แกสคารบอนไดออกไซด 162 ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำ�หรบั นักเรียน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรับปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 162 6/4/18 10:58 AM
กระบวนการสังเคราะหด ว ยแสงของพชื มกี ารเปลย่ี นแปลง ดังน้ี A + B แสง D+E+F คลอโรฟล ล เปลย่ี นเปน G ๕. D E และ F คอื ขอใด ตามลําดับ ก. นา้ํ ตาล นาํ้ คลอโรฟล ล ข. นํา้ ตาล แกสออกซิเจน นํา้ ค. นํา้ นํ้าตาล แกสออกซิเจน ง. แกส ออกซิเจน นาํ้ แกสคารบ อนไดออกไซด ๖. G จากกระบวนการสงั เคราะหด ว ยแสงของพืชในขอ ๕ คืออะไร ก. น้าํ ข. แปง ค. แกส ออกซเิ จน ง. แกส คารบ อนไดออกไซด ๗. จากคาํ กลาวท่วี า “ในบรรยากาศที่มีแกส คารบ อนไดออกไซดน อ ยหรือไมม เี ลยจะมี ผลตอการเจริญเติบโตของพชื ” นกั เรียนเหน็ ดวยกับคาํ กลา วนี้หรือไม อยางไร ก. เหน็ ดว ย เพราะพชื ใชแ กสคารบอนไดออกไซดสําหรบั หายใจ ข. เหน็ ดว ย เพราะแกสคารบอนไดออกไซดเปนปจ จยั ทส่ี าํ คญั ในการสงั เคราะห ดวยแสงของพชื ค. ไมเ ห็นดวย เพราะพืชตองการแกส ออกซิเจนชว ยในการเจริญเตบิ โต ง. ไมเหน็ ดว ย เพราะการสงั เคราะหด ว ยแสงของพชื ไมจ ําเปนตองใช แกส คารบ อนไดออกไซด ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรบั นักเรียน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรับปรุง) 163 6102159����������� �.4/��������/a.indd 163 6/4/18 10:58 AM
๘. ขอใดจดั เรยี งสวนประกอบของดอกไมจ ากชั้นนอกสดุ ไปยังช้นั ในสดุ ไดถ ูกตอ ง ก. กลีบเล้ียง กลบี ดอก เกสรเพศเมีย เกสรเพศผู ข. กลีบเลย้ี ง กลบี ดอก เกสรเพศผู เกสรเพศเมีย ค. กลบี ดอก กลบี เลย้ี ง เกสรเพศเมยี เกสรเพศผู ง. กลีบดอก กลีบเล้ยี ง เกสรเพศผู เกสรเพศเมีย ใชรูปดา นลางตอบคาํ ถามขอ ๙ ๑ ๒ ๖๓ ๔ ๕ ๙. จากภาพสวนประกอบของดอกหมายเลข ๑ และ ๒ คือขอ ใดตามลาํ ดบั ก. เกสรเพศผแู ละเกสรเพศเมยี ข. เกสรเพศเมียและเกสรเพศผู ค. กานชูดอกและยอดเกสรเพศเมีย ง. ยอดเกสรเพศเมยี และอบั เรณู ๑๐. มขี นเปน แผง ออกลกู เปนไข เปนลกั ษณะของสัตวก ลมุ ใด ก. สัตวป ก ข. สตั วเ ลื้อยคลาน ค. สตั วเลยี้ งลูกดว ยนาํ้ นม ง. สัตวส ะเทนิ นา้ํ สะเทนิ บก 164 ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรบั นกั เรยี น) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 164 6/4/18 10:58 AM
๑๑. ขอ ใดไมใชก ลุมของสัตวม ีกระดกู สันหลัง ก. สัตวปก ข. สตั วเ ล้อื ยคลาน ค. สตั วม ีลําตวั เปนปลอง ง. สตั วสะเทนิ นํ้าสะเทนิ บก ๑๒. สัตวในขอ ใดเปนสตั วไมมีกระดูกสันหลังทงั้ หมด ก. หอยแครง งู เตา ข. กบ แมงมุม ปลาทู ค. แมลงวัน ไก เมนทะเล ง. ผเี สอ้ื ตะขาบ ดอกไมท ะเล ๑๓. สตั วใ นขอใดจดั อยใู นกลมุ เดียวกันหมด ก. กงุ หอย หมึก ข. ปะการัง ปลา เตา ค. ไสเดือนดิน หอยทาก กบ ง. พยาธิไสเดอื น พยาธติ วั จี๊ด จงิ้ จก ๑๔. นกั วิทยาศาสตรพ บตนไมชนิดหนง่ึ มรี ากสัน้ ลาํ ตน เต้ีย ใบใหญ ถาใชก ารมดี อก เปน เกณฑ จะจัดตน ไมนีเ้ ปน พืชไมม ีดอกไดหรือไม เพราะเหตใุ ด ก. ได เพราะมรี ากสน้ั ลําตนเตยี้ ข. ได เพราะมใี บใหญแลว จะไมม ีดอก ค. ไมได เพราะอาจไมพ บดอกในชวงทีส่ ังเกต ง. ไมไ ด เพราะพืชสวนใหญเปนพชื ดอก ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับนกั เรียน) กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) 165 6102159����������� �.4/��������/a.indd 165 6/4/18 10:58 AM
๑๕. ตวั นําความรอน หมายถงึ วสั ดุท่ีมสี มบัตใิ นขอใด ก. เก็บความรอ นไดม าก ข. ความรอนเคลอ่ื นผานไดดี ค. ผลิตความรอ นไดม าก ง. ใหความรอ นไดม าก ๑๖. ตวั นาํ ไฟฟาหมายถงึ วสั ดทุ ม่ี ีสมบัติในขอใด ก. เก็บไฟฟา ไดดีมาก ข. ผลติ ไฟฟา ไดมาก ค. ไฟฟา ผา นไดด ีมาก ง. ไฟฟาผา นไดน อ ยมาก ๑๗. ขอ มูลแสดงผลการวดั ความยาวของเสนวัสดุทงั้ ๔ ชนดิ เมือ่ แขวนถุงทรายเปน ดงั นี้ ตาราง ความยาววัสดุ ๔ ชนิด กอ นแขวน ขณะแขวนและหลังแขวนถุงทราย ความยาวของวัสดุ ( เซนตเิ มตร ) วัสดุ กอนแขวนถุงทราย ขณะแขวนถุงทราย หลงั แขวนถงุ ทราย ชนดิ ท่ี ๑ ๒๕ ๒๖ ๒๖ ชนิดท่ี ๒ ๒๕ ๒๘ ๒๖ ชนดิ ท่ี ๓ ๒๕ ๓๑ ๒๗ ชนดิ ท่ี ๔ ๒๕ ๓๐ ๒๕ จากขอมลู วัสดุชนดิ ใดมสี ภาพยดื หยุน ก. ชนิดท่ี ๑ ข. ชนิดที่ ๒ ค. ชนดิ ที่ ๓ ง. ชนดิ ท่ี ๔ 166 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรับนักเรียน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 166 6/4/18 10:58 AM
๑๘. ถา ตอ งการใชคตั เตอรก รดี กระดาษบนโตะไมโดยไมใ หโ ตะเปน รอย ควรใชส ่ิงใด รองบนโตะ ก. แผนกระจก ข. แผนกระดาษ ค. แผน พลาสติก ง. แผนหนงั ๑๙. การผลติ เครือ่ งใชในขอ ใดตอ งพิจารณาจากสมบตั ิการนาํ ความรอ นของวัสดุ ก. เครอ่ื งเรือน ข. เครอ่ื งนอน ค. ภาชนะหงุ ตม ง. ของตกแตงบา น ใชข อ มลู ตอไปน้ีในการตอบคาํ ถามขอ ๒๐ จากการทดลองนําวัตถุ A B และ C มาวางไวระหวางผูสังเกตและตนไม แลวมอง ตนไมไดผลการสังเกตดังนี้ ชนดิ ของวัสดุ ผลการสงั เกต A มองเห็นตน ไมไดไ มชัดเจน B มองเห็นตน ไมไ ดอยา งชัดเจน C ไมส ามารถมองเหน็ ตนไมไ ด ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรับนกั เรียน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) 167 6102159����������� �.4/��������/a.indd 167 6/4/18 10:58 AM
๒๐. ถาตองการเลอื กวตั ถทุ งั้ สามชนดิ ไปใชในการทํากระจกหนา รถยนต ควรเลือกวตั ถใุ ด ก. A ข. B ค. C ง. A และ B ๒๑. จากภาพขอ ใดตอไปนี้เรียงลําดบั ประเภทของวตั ถุ A B และ C ท่ีกน้ั ระหวา ง แจกนั ดอกไมก บั ดวงตา ตามลําดับ ไดอยา งถกู ตอ ง วตั ถกุ ัน้ แสง A B C ก. วตั ถทุ ึบแสง ตวั กลางโปรง ใส ตวั กลางโปรง แสง ข. วัตถทุ ึบแสง ตวั กลางโปรงแสง ตวั กลางโปรง ใส ค. ตวั กลางโปรงใส ตวั กลางโปรงแสง วัตถุทบึ แสง ง. ตัวกลางโปรง แสง ตัวกลางโปรงใส วตั ถทุ ึบแสง ๒๒. ขณะท่ลี ูกโปงกําลังลอยข้นึ ไปบนทอ งฟา แรงโนม ถว งของโลกกระทํากบั ลกู โปง ในทิศทางใด ก. ทิศทางข้นึ ในแนวดิง่ ข. ทิศทางลงในแนวด่งิ ค. ไมม แี รงโนมถว ง เพราะลูกโปง กาํ ลังลอย ง. ไมมที ศิ ทางท่ีแนนอนข้นึ อยกู ับตําแหนงของลกู โปง 168 ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรับนักเรียน) กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 168 6/4/18 10:58 AM
ใชขอมลู ตอ ไปน้ี ตอบคําถามขอ ๒๓ และ ๒๔ นักเรยี นปนดนิ นา้ํ มนั เปน กอนแลว นําไปหยอ นในภาชนะที่ใสนาํ้ ปรากฎวา กอ นดนิ น้าํ มนั จมลง ดังรูปที่ ๑ แตเ มื่อนาํ ดนิ นา้ํ มันกอ นเดมิ มาปนใหมรี ปู รางคลาย ชามแลว หยอ นไปในภาชนะอกี ครงั้ พบวา ดินน้าํ มนั ลอยบนผวิ น้าํ ดังรูปที่ ๒ กอ นหยอน หลังหยอน รูปท่ี ๑ รปู ท่ี ๒ ๒๓. มวลของดนิ นํา้ มันกอ นหยอนลงนา้ํ ระหวาง ๑ และรูปที่ ๒ เปน อยางไร ก. เทา เดิม ข. นอยลง ค. มากข้นึ ง. เปน ไปไดทงั้ เทา เดิมและนอยลง ๒๔. นํ้าหนกั ของดนิ นา้ํ มันกอนหยอ นลงน้าํ ระหวางรปู ท่ี ๑ และรปู ที่ ๒ เปน อยา งไร ก. เทา เดิม ข. นอ ยลง ค. มากขนึ้ ง. เปนไปไดทัง้ เทาเดิมและนอยลง ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับนกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรับปรุง) 169 6102159����������� �.4/��������/a.indd 169 6/4/18 10:58 AM
๒๕. ถา รถ ๔ คัน A B C และ D มมี วลเทากบั ๑,๒๐๐ กิโลกรมั ๑,๑๐๐ กโิ ลกรมั ๑,๕๐๐ กิโลกรัม ๑,๐๐๐ กิโลกรัม ตามลําดับ ว่ิงดวยความเร็วท่ีเทากัน ถา ตอ งการใหร ถทง้ั ๔ คนั หยดุ ในระยะทางทเี่ ทา กนั รถคนั ใดใชแ รงในการหยุด มากทส่ี ุด ก. A ข. B ค. C ง. D 170 ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับนักเรียน) กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบับปรบั ปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 170 6/4/18 10:58 AM
บันทึก ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั นกั เรยี น) กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ ) 171 6102159����������� �.4/��������/a.indd 171 6/4/18 10:58 AM
บันทึก 172 ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ (สาำ หรับนักเรยี น) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 172 6/4/18 10:58 AM
โครงการจดั ทำ� สื่อ ๖๐ พรรษา ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรับนกั เรียน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔ เลม่ ๑
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178