ชอื่ -สกุล เดือน ชนั้ เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑- ๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๒ :หนาทอ่ี น่ื ของรากและลาํ ตน บนั ทึกผลการทาํ กจิ กรรม ตาราง ๑ ผลการสังเกตสารชนิดตาง ๆ กอนและหลงั หยดสารละลายไอโอดนี สารในหลอดทดลอง ผลการสงั เกต กอ นหยด หลังหยด ๑. น้าํ ๒. นํา้ แปง มนั ๓. น้ําแปง ขาวโพด 46 ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ (สำ�หรับนกั เรียน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 46 6/4/18 10:57 AM
ชื่อ-สกุล เดือน ชัน้ เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑- ๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. ตาราง ๒ การเปล่ยี นแปลงของชิ้นสว นพชื เมอื่ หยดสารละลายไอโอดนี ชนิดของพชื ผลการสงั เกต กอนหยดสารละลายไอโอดีน หลงั หยดสารละลายไอโอดนี แครอท ขิง ขา กระชาย เผอื ก มนั เทศ มันฝรัง่ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรับนกั เรียน) กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรับปรงุ ) 47 6102159����������� �.4/��������/a.indd 47 6/4/18 10:57 AM
ช่อื -สกุล ชนั้ เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑- ๐๒ วนั ที่ เดอื น พ.ศ. คาํ ถามหลงั จากทํากจิ กรรม ๑. เม่อื หยดสารละลายไอโอดนี ลงในน้ํา มีการเปลย่ี นแปลงหรอื ไม อยา งไร ๒. เมื่อหยดสารละลายไอโอดีนลงในน้ําแปงมนั และนา้ํ แปงขาวโพด มกี ารเปลี่ยนแปลงหรอื ไม อยา งไร ๓. ชนิ้ สว นของพชื ชนิดใดบา งท่ีมีการเปล่ียนแปลงเมื่อหยดสารละลายไอโอดีน และมี เปลี่ยนแปลงอยา งไร ๔. จากกิจกรรรม รากและลําตนของพืชมีอะไรสะสมอยู ทราบไดอยางไร 48 ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ (สำ�หรับนกั เรยี น) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 48 6/4/18 10:57 AM
ชอ่ื -สกุล เดอื น ชน้ั เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑- ๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. ๕. จากกจิ กรรมน้ี สรปุ ไดว า อยา งไร ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรับนกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) 49 6102159����������� �.4/��������/a.indd 49 6/4/18 10:57 AM
ชอื่ -สกลุ เดอื น ช้นั เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑- ๐๓ วนั ท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๓ :แบบฝก หัด เรอ่ื งหนาทขี่ องรากและลําตน ๑. การลาํ เลยี งนาํ้ และธาตอุ าหารเปน ไปในทศิ ทางใด เขยี นลกู ศรแสดงทศิ ทางการลาํ เลยี งนา้ํ และธาตอุ าหารลงในภาพตน พชื ดา นลา ง ๒. ถาตดั รากออกจะเกดิ ผลอยา งไรกับตนพืช เพราะเหตใุ ด 50 ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั นกั เรยี น) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 50 6/4/18 10:57 AM
ชือ่ -สกลุ เดือน ช้ัน เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑- ๐๓ วนั ที่ พ.ศ. ๓. รากและลาํ ตนของพืชทกุ ชนิด ทาํ หนา ท่ีสัมพันธกันหรอื ไม อยา งไร ๔. สารทีใ่ ชตรวจสอบแปง คอื อะไร สงั เกตการเปลยี่ นแปลงไดอ ยา งไร ๕. รากและลําตน ของพชื บางชนิดสะสมอาหารประเภทใด ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรบั นักเรียน) กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรุง) 51 6102159����������� �.4/��������/a.indd 51 6/4/18 10:57 AM
ใบงาน บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๒ หนว� ยยอ ยที่ ๑ หนา� ท่ีของราก ลาํ ตน ใบ และดอกของพชื เร่อ� ง หน�าท่ีของใบ 52 ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับนกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 52 6/4/18 10:57 AM
ชอื่ -สกุล เดือน ชน้ั เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๒- ๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. กจิ กรรมที่ ๑ ใบทําหนาท่อี ะไร จดุ ประสงค ๑. สงั เกตและอธิบายหนาท่ีของใบพชื ๒. สังเกตและระบุประเภทของอาหารที่พืชสรางขนึ้ วัสดุ-อปุ กรณ ๑. ใบพชื ๒. สเี ทยี นหรือสไี ม ๓. บกี เกอรข นาด ๒๕๐ ลูกบาศกเ ซนตเิ มตร ๔. หลอดทดลองทนไฟขนาดใหญ ๕. ตะเกยี งแอลกอฮอล ๖. ท่กี นั้ ลมพรอ มตะแกรงลวด ๗. เอทิลแอลกอฮอล ๙๕ % ๘. จานแกว ๙. ปากคบี ๑๐. ไมห นีบ ๑๑. หลอดหยด ๑๒. สารละลายไอโอดนี เขมขน ๑ % ๑๓. น้ํา ๑๔. ไมขีดไฟ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรบั นกั เรียน) กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ ) 53 6102159����������� �.4/��������/a.indd 53 6/4/18 10:57 AM
ช่ือ-สกุล เดอื น ช้นั เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๒- ๐๑ วนั ที่ พ.ศ. วธิ ที าํ ๑. นาํ ใบพชื ทมี่ ีลกั ษณะบางและใบไมใหญเ กนิ ไป ๒ ชนดิ ที่ไดร บั แสงแดด ประมาณ ๓ ชวั่ โมง มาวาดรปู ลักษณะของใบพรอ มระบายสีลงในใบงาน ๐๑ ๒. ใสน้ํา ๑๐๐ มิลลิลิตร ลงในบีกเกอร แลว ตม นา้ํ ใหเ ดือด ใสใ บไมลงไปตม เปน เวลา ๓ - ๕ นาที ๓. ใชปากคบี คบี ใบไมใสในหลอดทดลองขนาดใหญแ ลวใสเ อทิลแอลกอฮอล ๙๕ % ใหทว มใบ ๔. นําหลอดทดลองท่ีมใี บพืชและเอทลิ แอลกอฮอล ๙๕ % ไปตมในน้าํ เดอื ด ประมาณ ๔ - ๕ นาที จนใบพชื มีสีซีดจาง ๕. นาํ ใบพืชมาลา งนา้ํ แลววางลงบนจานแกว คลใี่ บออก หยดสารละลายไอโอดีน ลงไปใหทว่ั ทัง้ ใบ ทง้ิ ไวประมาณ ๕ นาที สังเกตการเปลี่ยนแปลงและบนั ทกึ ผล โดยวาดรูปพรอมระบายสลี งในใบงาน ๐๑ คาํ เตือน !! ระวงั อยา ใหเ อทลิ แอลกอฮอล ๙๕ % สมั ผสั กบั เปลวไฟ จากตะเกียงเเอลกอฮอลโดยตรง เพราะอาจทําให เกดิ ไฟไหมได 54 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั นักเรยี น) กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบับปรับปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 54 6/4/18 10:57 AM
ชือ่ -สกลุ เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๒- ๐๑ วนั ที่ พ.ศ. ใบงาน ๐๑ :หนาทีข่ องใบ บนั ทึกผลการทาํ กจิ กรรม ตาราง รปู ลักษณะของใบพืชกอนตมและหลังตม ชอ่ื พืช ภาพลกั ษณะใบพชื หลงั ตม กอนตม ๑. ๒. ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) 55 6102159����������� �.4/��������/a.indd 55 6/4/18 10:57 AM
ชอ่ื -สกลุ เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๒- ๐๑ วันที่ พ.ศ. คําถามหลงั จากทาํ กิจกรรม ๑. เพราะเหตใุ ดเราจงึ นําใบพชื มาตมในน้ําเดือดเปน เวลา ๓ - ๕ นาที กอนนําไปตมใน เอทลิ แอลกอฮอล ๙๕ % ๒. เพราะเหตุใดจงึ ตม ใบพชื ในเอทลิ แอลกอฮอล ๙๕ % ๓. เมือ่ หยดสารละลายไอโอดนี ลงบนใบพืชทต่ี มแลว เกิดเปลี่ยนแปลงอยา งไร ๔. จากกจิ กรรมน้ี สรปุ ไดว าอยา งไร 56 ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรบั นกั เรียน) กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 56 6/4/18 10:57 AM
ช่ือ-สกุล เดือน ชน้ั เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๒- ๐๒ วันท่ี พ.ศ. กจิ กรรมที่ ๒ พชื สรา งอาหารไดอยา งไร จุดประสงค สืบคนขอมลู และอธิบายกระบวนการสังเคราะหดว ยแสงของพืช วสั ด-ุ อปุ กรณ – วธิ ที ํา ๑. รว มกนั ศกึ ษาใบความรูเรอ่ื งการสงั เคราะหดว ยแสงของพืช ๒. รวมกนั อภิปรายภายในกลุมเกี่ยวกับการสังเคราะหดวยแสงของพืช แลวเขยี นแผนผงั แนวคิดเรอ่ื งปจจยั ในการสงั เคราะหดว ยแสงของพชื ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั นักเรยี น) กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรุง) 57 6102159����������� �.4/��������/a.indd 57 6/4/18 10:57 AM
ชื่อ-สกลุ ชั้น เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๒- ๐๒ วนั ที่ เดอื น พ.ศ. ใบความรู เร�่องการสังเคราะหดวยแสงของพืช แกสคารบอนไดออกไซด แสง แกสออกซิเจน คลอโรฟลล นา้ํ ตาล จับพลงั งานแสง น้าํ น้ํา การสงั เคราะหดว ยแสงเปน กระบวนการสรางอาหารของพชื อาหารท่พี ืชสรางข้ึน คือ น้ําตาล พืชใชนํ้า แกสคารบอนไดออกไซด แสงและคลอโรฟลลในใบพืช ในกระบวนการสังเคราะหดว ยแสง ผลจากการสังเคราะหดว ยแสงของพชื นอกจากจะได นํา้ ตาลแลว ยงั ไดแ กส ออกซเิ จนและน้าํ อกี ดว ย 58 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรับนักเรียน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรับปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 58 6/4/18 10:57 AM
ชอ่ื -สกุล เดือน ช้ัน เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๒- ๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. คลอโรฟล ลหรอื สารสเี ขยี วจะพบอยูบริเวณทม่ี สี ีเขียวของพชื ดงั นน้ั การสงั เคราะห ดว ยแสงของพชื สว นใหญจ ะเกดิ ขน้ึ ทใ่ี บ อยา งไรกต็ าม นอกจากใบแลว สว นอนื่ ๆ ของพืช ก็สามารถสังเคราะหดว ยแสงได เชน ลําตน รากของกลว ยไม ในกระบวนการสงั เคราะหด ว ยแสง พชื จะใชค ลอโรฟล ลด ดู พลงั งานจากแสงอาทติ ย รบั แกส คารบ อนไดออกไซดจากอากาศเขาทางปากใบ และใชข นรากดดู น้าํ จากดนิ แลว ลาํ เลียงสงมาตามทอลําเลยี งจากรากไปสลู ําตนและใบ อาหารท่ไี ดจ ากการสังเคราะหด วยแสง คอื นํ้าตาล พชื จะเปล่ยี นนา้ํ ตาลเปนแปง เก็บสะสมไวต ามราก ลาํ ตน ใบ หรือลําเลียงไปยังสว นอืน่ ๆ ของพืชท่ีสรา งอาหารไมไ ด เพอ่ื ใหนําไปใชประโยชน ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรับนกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรับปรงุ ) 59 6102159����������� �.4/��������/a.indd 59 6/4/18 10:57 AM
ชอ่ื -สกลุ เดอื น ชั้น เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๒- ๐๒ วันท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : การสงั เคราะหดว ยแสงของพืช บันทึกผลการทํากจิ กรรม แผนผงั แนวคิดเรอ่ื ง ปจจัยในการสงั เคราะหด วยแสงของพืช 60 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ (สำ�หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรับปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 60 6/4/18 10:57 AM
ช่ือ-สกลุ เดือน ชนั้ เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๒- ๐๒ วันที่ พ.ศ. คําถามหลังจากทาํ กจิ กรรม ๑. สารสเี ขยี วทอี่ ยใู นพชื เรยี กวา อะไร และมีความสาํ คัญอยา งไรในกระบวนการ สงั เคราะหดว ยแสง ๒. นาํ้ ทีพ่ ชื ใชในกระบวนการสงั เคราะหด วยแสงมาจากทใี่ ด ๓. อาหารที่ไดจ ากการสงั เคราะหด วยแสงคืออะไร และพชื เก็บสะสมไวใชประโยชน อยา งไร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับนกั เรียน) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) 61 6102159����������� �.4/��������/a.indd 61 6/4/18 10:57 AM
ชอื่ -สกลุ เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๒- ๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. ๔. จากกิจกรรมนี้ สรุปไดวา อยา งไร 62 ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรบั นกั เรียน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบับปรับปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 62 6/4/18 10:57 AM
ช่อื -สกุล เดือน ช้นั เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๒- ๐๓ วนั ท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๓ :แบบฝก หัด เรือ่ งการสงั เคราะหดวยแสงของพืช นําขอ ความทกี่ าํ หนดใหไปเตมิ ในแผนภาพใหถูกตอง พลังงานแสง แกสออกซิเจน แกสคารบอนไดออกไซด นํา้ คลอโรฟลล นาํ้ ตาล นํา้ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั นกั เรยี น) กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรับปรงุ ) 63 6102159����������� �.4/��������/a.indd 63 6/4/18 10:57 AM
ใบงาน บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๓ หนว� ยยอ ยท่ี ๑ หน�าทีข่ องราก ลาํ ตน ใบ และดอกของพชื เรอ่� ง หน�าทข่ี องดอก 64 ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ (สำ�หรบั นกั เรยี น) กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบับปรับปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 64 6/4/18 10:57 AM
ชอื่ -สกลุ เดอื น ชั้น เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๓- ๐๑ วนั ที่ พ.ศ. กจิ กรรมที่ ๑ สว นประกอบของดอกมีอะไรบาง จดุ ประสงค สังเกตและระบุสว นประกอบตา ง ๆ ของดอก วสั ดุ-อุปกรณ ๑. ดอกไมช นดิ ตา ง ๆ เชน แค ตอ ยต่ิง ชบา มะละกอ มะเขอื ตาํ ลงึ ฯลฯ ๒. มดี โกน ๓. เทปใส วธิ ีทาํ ๑. สงั เกตสว นประกอบของดอกไมท ี่เตรยี มมา แยกสวนตางๆ ของดอกไมออก จากดานนอกเขาสูด า นใน แลวใชมดี โกนผาดูสว นประกอบดา นในของดอกไม ๒. รว มกันอภิปรายกับเพ่ือนในกลุมเกี่ยวกบั สวนประกอบของดอกไมแ ตละชนดิ ๓. นําสว นประกอบตาง ๆ ของดอกไมติดลงในใบงาน ๐๑ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับนักเรียน) กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) 65 6102159����������� �.4/��������/a.indd 65 6/4/18 10:57 AM
ชื่อ-สกุล เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๓- ๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๑ :สวนประกอบของดอก บันทกึ ผลการทาํ กจิ กรรม ตาราง สวนประกอบของดอกไมแ ตละชนิด ชื่อดอกไม กลีบเลยี้ ง สว นประกอบของดอก เกสรเพศเมีย กลีบดอก เกสรเพศผู 66 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรบั นกั เรียน) กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบับปรบั ปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 66 6/4/18 10:57 AM
ชอ่ื -สกลุ เดอื น ชัน้ เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๓- ๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. ตาราง สวนประกอบของดอกไมแ ตละชนิด (ตอ) ชอ่ื ดอกไม กลบี เล้ยี ง สวนประกอบของดอก กลบี ดอก เกสรเพศผู เกสรเพศเมีย ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรับนักเรียน) กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรบั ปรุง) 67 6102159����������� �.4/��������/a.indd 67 6/4/18 10:57 AM
ชือ่ -สกลุ เดอื น ชัน้ เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๓- ๐๑ วันท่ี พ.ศ. ตาราง สว นประกอบของดอกไมแ ตละชนดิ (ตอ) ชื่อดอกไม กลบี เลยี้ ง สวนประกอบของดอก กลีบดอก เกสรเพศผู เกสรเพศเมยี 68 ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรบั นักเรียน) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรับปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 68 6/4/18 10:57 AM
ชือ่ -สกลุ เดอื น ช้ัน เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๓- ๐๑ วนั ที่ พ.ศ. คําถามหลังจากทํากจิ กรรม ๑. ดอกของพืชชนดิ ใดท่มี ีสว นประกอบของดอกครบทุกสวน ๒. ดอกของพชื ชนิดใดมีสวนประกอบของดอกไมครบทกุ สว น อยางไร ๓. จากกิจกรรมน้ี สรุปไดวาอยา งไร ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ (สำ�หรับนกั เรยี น) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) 69 6102159����������� �.4/��������/a.indd 69 6/4/18 10:57 AM
ช่อื -สกุล เดอื น ชน้ั เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๓- ๐๒ วนั ที่ พ.ศ. กิจกรรมที่ ๒ สว นประกอบของดอกมหี นา ท่ีอะไร จุดประสงค อา นขอ มลู อภิปรายและอธบิ ายหนาทขี่ องสว นประกอบตา ง ๆ ของดอก วสั ด-ุ อุปกรณ – วิธีทํา ๑. ศกึ ษาใบความรูเรื่องสวนประกอบของดอก ๒. รวมกันอภปิ รายภายในกลุมเกยี่ วกับหนา ที่ของสวนประกอบของดอก ๓. เขียนแผนผังแนวคิดเรื่องหนา ท่ขี องสวนประกอบตาง ๆ ของดอก 70 ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรับนักเรียน) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรับปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 70 6/4/18 10:57 AM
ชือ่ -สกุล เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๓- ๐๒ วันที่ พ.ศ. ใบความรู เรอื่ งสวนประกอบของดอก ดอกของพืชมีรูปรางและสีสันแตกตางกัน โดยท่ัวไปดอกมีสวนประกอบ ๔ สวน ไดแก กลบี เลีย้ ง กลีบดอก เกสรเพศผู และเกสรเพศเมีย สวนประกอบท้ัง ๔ สว นตดิ อยู บนฐานรองดอก กลบี ดอก อับเรณู ยอดเกสรเพศเมีย กานชูอบั เรณู เกสรเพศผู กานเกสรเพศเมยี เกสรเพศเมีย รังไข ออวุล กลีบเลย้ี ง ฐานรองดอก แตละสวนของดอกมหี นาที่ ดงั นี้ กลีบเลย้ี ง ทําหนาทห่ี อหุม ดอกที่ยังตูมอยู เพอื่ ปอ งกนั อันตรายใหแ กดอก กลบี ดอก ทาํ หนา ท่ีลอ แมลงใหชวยถายเรณู เกสรเพศผู ทาํ หนาทสี่ รา งเซลลส บื พันธเุ พศผู (สเปร ม ) ซ่ึงประกอบดว ยกา นชูอบั เรณู และอบั เรณู ภายในอับเรณมู เี รณู และภายในเรณมู ีเซลลส ืบพนั ธเุ พศผู เกสรเพศเมยี ทําหนาทีส่ รางเซลลสืบพนั ธเุ พศเมีย (เซลลไข) ซงึ่ ประกอบดวย ยอดเกสร เพศเมยี กานเกสรเพศเมยี และรงั ไข ซงึ่ ภายในรงั ไขม ีออวุล และภายใน ออวุลมีเซลลสืบพันธุเพศเมีย ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับนักเรียน) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) 71 6102159����������� �.4/��������/a.indd 71 6/4/18 10:57 AM
ชอื่ -สกลุ เดือน ช้ัน เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๓- ๐๒ วันที่ พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : หนาที่ของสวนประกอบตาง ๆ ของดอก บนั ทกึ ผลการทาํ กิจกรรม แผนผังแนวคิดเรอ่ื งหนาท่ขี องสว นประกอบตาง ๆ ของดอก 72 ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรบั นักเรยี น) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 72 6/4/18 10:57 AM
ช่ือ-สกลุ เดอื น ช้นั เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๓- ๐๓ วันท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๓ : แบบฝกหดั เรอื่ งหนาที่ของสว นประกอบของดอก ๑. เตมิ ชือ่ สวนประกอบตาง ๆ ของดอก ลงในชองส่ีเหล่ียมท่ชี ้แี สดงสว นประกอบของดอก ใหถูกตอง ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั นกั เรียน) กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) 73 6102159����������� �.4/��������/a.indd 73 6/4/18 10:57 AM
ชือ่ -สกลุ เดอื น ชนั้ เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๓- ๐๓ วันที่ พ.ศ. ศึกษาตารางสวนประกอบของดอกในพชื ชนิดตาง ๆ แลว ตอบคาํ ถามขอ ๒ - ๔ ใหถูกตอ ง ตาราง สว นประกอบของดอกของพชื ชนิดตาง ๆ ช่ือดอกไม สวนประกอบของดอก กลบี เล้ยี ง กลบี ดอก เกสรเพศผู เกสรเพศเมยี ดอกชบา ดอกตาํ ลงึ ดอกฟกทองแบบท่ี ๑ 74 ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับนกั เรยี น) กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 74 6/4/18 10:57 AM
ช่อื -สกลุ เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๓- ๐๓ วันที่ พ.ศ. ตาราง สว นประกอบของดอกของพชื ชนดิ ตาง ๆ ตอ ช่อื ดอกไม สว นประกอบของดอก กลบี เลี้ยง กลีบดอก เกสรเพศผู เกสรเพศเมยี ดอกฟกทองแบบท่ี ๒ ดอกมะเขอื ดอกมะละกอ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับนักเรียน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) 75 6102159����������� �.4/��������/a.indd 75 6/4/18 10:57 AM
ชื่อ-สกลุ เดอื น ชั้น เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๓- ๐๓ วันที่ พ.ศ. ๒. ดอกชนิดใดมีสว นประกอบครบท้ัง ๔ สวน ๓. ดอกชนิดใดมีสว นประกอบไมครบท้งั ๔ สวน ๔. ดอกท่มี ีสว นประกอบไมค รบ สามารถทําหนาท่ีสืบพนั ธไุ ดห รอื ไม เพราะเหตุใด 76 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรับนักเรยี น) กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบับปรบั ปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 76 6/4/18 10:57 AM
หนว ยการเรยี นรูท ่ี ๓ แรง ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับนกั เรียน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ ) 77 6102159����������� �.4/��������/a.indd 77 6/4/18 10:57 AM
ใบงาน บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑ หน�วยยอ ยท่ี ๑ แรง เร่อ� ง แรงโน�มถวงของโลก 78 ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรับนกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรับปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 78 6/4/18 10:57 AM
ช่อื -สกุล เดือน ชั้น เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑ วันท่ี พ.ศ. กิจกรรมท่ี ๑ เม่ือปลอ ยวัตถุจากมือ วตั ถุเคล่อื นทีอ่ ยางไร จดุ ประสงค ๑. อา นขอมลู และบอกความหมายของมวลและนาํ้ หนกั ๒. สังเกตและอธิบายการเคล่ือนทข่ี องวัตถเุ มื่อถูกปลอยจากมอื วสั ดุ-อปุ กรณ ๑. ดนิ น้ํามนั ๒. ฟองน้าํ ๓. แทง ไม ๔. ใบไม ๕. ลกู บอล ๖. เมล็ดถั่ว วธิ ที าํ ๑. อา นใบความรทู ่ี ๑ เรอ่ื งมวลและนาํ้ หนกั อภปิ รายและตอบคาํ ถามจากการอา น ๒. สังเกตวตั ถตุ า ง ๆ ทีใ่ ชใ นกจิ กรรม จากนนั้ คาดคะเนและบนั ทึกวา หากปลอย วัตถุตาง ๆ จากมือ เสนทางการเคลื่อนที่ของวัตถุตั้งแตเริ่มเคล่ือนท่ีจนหยุด จะเปน อยางไร แตกตางกนั หรือไม ๓. ทํากิจกรรมเพ่ือตรวจสอบการคาดคะเน สังเกตและวาดภาพเสนทาง การเคลอ่ื นท่ขี องวัตถุ ต้ังแตปลอยมอื จนวัตถหุ ยดุ เคล่ือนท่ี ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับนกั เรียน) กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบับปรบั ปรุง) 79 6102159����������� �.4/��������/a.indd 79 6/4/18 10:57 AM
ชอ่ื -สกลุ เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. ใบความรูที่ ๑ เรอ่ื งมวลและแรงโนมถวงของโลก เคยกนิ แอปเปล หรอื ไม แอปเปล บางผลมรี สหวาน บางผลมีรสเปรี้ยว กลาวกันวาการกินแอปเปลวันละผล ทาํ ใหห า งไกลจากโรคภยั ไขเ จบ็ ได รหู รือไมวาผลแอปเปล กค็ อื มวลของแอปเปลนัน่ เอง ม ว ล เ ป น ป ริ ม า ณ เ นื้ อ ข อ ง ส ส า ร ทั้ ง ห ม ด ที่ ประกอบกันเปนวัตถุ มีหนวยเปนกรัมหรือกิโลกรัม มวลของวัตถุจะไมเปลี่ยนแปลงไมวาวัตถุจะไปอยู ที่ใดบนโลก หรือในอวกาศ แตถามีเนื้อของวัตถุ บางสวนหลุดออกไปหรือเพ่ิมข้ึนมา มวลของวัตถุจึงจะ เปลีย่ นแปลง นํ้าหนกั เหมอื นกับมวลของแอปเปล หรอื ไม 80 ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรบั นกั เรยี น) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรับปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 80 6/4/18 10:57 AM
ช่ือ-สกุล เดอื น ช้ัน เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๒ วนั ที่ พ.ศ. ถา ยอ นเวลาไปราว ๓๐๐ กวา ปก อ น แอปเปล ถอื เปน จดุ เรม่ิ ตน การคน พบของนกั วทิ ยาศาสตร ชาวองั กฤษทา นหนง่ึ นน่ั คอื เซอร ไอแซก นวิ ตนั ทตี่ งั้ ขอ สงสยั จากการสงั เกตผลแอปเปล ทหี่ ลน จากตน ลงสพู นื้ ซง่ึ ทาํ ใหน วิ ตนั คน พบวา โลกมแี รงดงึ ดดู วตั ถหุ รอื แรงโนม ถว งซง่ึ มที ศิ ทางเขา สู ศนู ยก ลางโลก และการทโ่ี ลกมแี รงโนม ถว งกระทาํ กบั วตั ถุ ทาํ ใหว ตั ถมุ นี า้ํ หนกั เพอื่ เปน เกยี รติ แกเ ซอร ไอแซก นวิ ตนั นกั วทิ ยาศาสตรจ งึ กาํ หนดหนว ยของแรงเปน นวิ ตนั นา้ํ หนกั ซง่ึ เปน แรงชนิดหน่งึ จึงมหี นว ยเปน นิวตนั ดว ย ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรับนกั เรยี น) กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 81 6102159����������� �.4/��������/a.indd 81 6/4/18 10:57 AM
ชื่อ-สกลุ เดือน ช้ัน เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑ วันท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : มวลและแรงโนมถวงของโลก บันทกึ ผลการทํากิจกรรม ผลจากการอานและอภิปรายเพ่อื ตอบคําถามตอ ไปน้ี ๑. มวลคอื อะไร ๒. วัตถุมนี ้าํ หนกั ไดอยางไร ๓. แรงโนมถวงของโลกมีทิศทางอยา งไร 82 ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรับนักเรยี น) กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรบั ปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 82 6/4/18 10:57 AM
ชื่อ-สกุล เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : การเคล่ือนท่ขี องวัตถุเม่อื ปลอยจากมือ ผลการคาดคะเน ภาพเสน ทางการเคลื่อนทข่ี องวตั ถุแตละชน้ิ เมอ่ื ถูกปลอยจากมอื จนหยุดเคลือ่ นที่ ดินนา้ํ มัน เสน ทางการเคลอ่ื นท่ขี องวัตถุตา ง ๆ แทง ไม ฟองนาํ้ พนื้ พ้นื พนื้ เสนทางการเคลือ่ นทข่ี องวัตถุตาง ๆ ลกู บอล ใบไม เมล็ดถ่ัว พืน้ พ้นื พน้ื ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำ�หรับนกั เรยี น) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ ) 83 6102159����������� �.4/��������/a.indd 83 6/4/18 10:57 AM
ช่อื -สกลุ เดอื น ชั้น เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. ผลการสงั เกต ภาพเสนทางการเคลือ่ นที่ของวัตถแุ ตละช้นิ เม่ือถกู ปลอยจากมือจนหยุดเคลื่อนท่ี ดนิ น้ํามัน เสนทางการเคล่ือนทขี่ องวัตถตุ า ง ๆ แทง ไม ฟองนาํ้ พืน้ พ้นื พนื้ เสนทางการเคลือ่ นทข่ี องวัตถตุ าง ๆ ลูกบอล ใบไม เมลด็ ถว่ั พ้ืน พืน้ พืน้ 84 ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับนกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบับปรับปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 84 6/4/18 10:57 AM
ช่ือ-สกุล เดือน ชัน้ เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. คาํ ถามหลงั จากทาํ กิจกรรม ๑. เมื่อปลอยวัตถุจากมอื วัตถมุ กี ารเปล่ียนแปลงการเคลอ่ื นท่หี รอื ไม อยางไร ๒. เมือ่ ปลอยวัตถุจากมอื มแี รงกระทําตอวัตถหุ รอื ไม ถา มี แรงน้นั มาจากไหน ๓. เม่อื วตั ถแุ ตละชิ้นเคล่อื นที่ เสน ทางการเคลื่อนทเ่ี ปน อยา งไร แตกตางกนั หรอื ไม ๔. วัตถุตา งๆ จะหยุดเคลื่อนทท่ี ี่ใด เหมอื นกบั ทคี่ าดคะเนไวห รือไม ๕. จากกจิ กรรมน้ี สรุปไดว า อยางไร ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรบั นักเรียน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 85 6102159����������� �.4/��������/a.indd 85 6/4/18 10:57 AM
ชือ่ -สกุล เดอื น ชั้น เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๒ วันท่ี พ.ศ. ใบความรูท ่ี ๒ เร่อื ง แรงโนมถว งของโลกทีบ่ ริเวณตา ง ๆ แรงโนมถวงของโลกเปนแรงดึงดูดของโลกท่ีกระทําตอวัตถุโดยไมจําเปนตอง สัมผัสกับวัตถุน้ัน ไมวาวัตถุจะอยูบนโลกหรือจะอยูไกลจากโลกออกไป เชน โลกดงึ ดดู ดาวเทียม โลกดงึ ดูดดวงจนั ทร แรงโนมถวงของโลกที่กระทําตอวัตถุทําใหวัตถุมีนํ้าหนัก แรงโนมถวงนี้จะมีคา แตกตางกันข้ึนอยูกับระยะหางของวัตถุจากศูนยกลางโลก โดยแรงโนมถวงจะมีคา ลดลงเมื่อระยะหางมากข้ึน จึงมีผลทําใหวัตถุน้ัน ๆ มีน้ําหนักลดลง และท่ี ระยะหางจากศูนยกลางโลกมาก ๆ แรงโนมถวงของโลกจะมีคานอยมาก ทําใหท่ีระดับน้ี วัตถุแทบจะไมมนี ํ้าหนกั ดงั นั้นจงึ ทาํ ใหว ตั ถุสามารถลองลอยไดโ ดยไมตกสูพ น้ื โลก 86 ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับนักเรียน) กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 86 6/4/18 10:58 AM
ชื่อ-สกุล เดอื น ชน้ั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๒ วนั ที่ พ.ศ. บรเิ วณเสน ศนู ยส ตู รมรี ะยะหา งจากศนู ยก ลางโลกมากกวา บรเิ วณขว้ั โลก ดังนั้นแรงโนมถวงท่ีโลกกระทําตอวัตถุเม่ือวัตถุอยูบริเวณเสนศูนยสูตร จะนอยกวาเมื่อวัตถุอยูบริเวณขั้วโลก ถาเราใชเครื่องช่ังน้ําหนักเคร่ืองเดียวกัน ชั่งน้ําหนักวัตถุชิ้นเดียวกัน น้ําหนักท่ีอานไดบริเวณเสนศูนยสูตรจะนอยกวา นํ้าหนักทอ่ี า นไดบริเวณขว้ั โลกเสมอ ระยะทางจากศูนยกลางโลก ถึงข้ัวโลกประมาณ ๖,๓๕๗ กิโลเมตร ระยะทางจากศูนยกลางโลก ถึงเสนศูนยสูตร ประมาณ ๖,๓๗๘ กิโลเมตร ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั นักเรียน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) 87 6102159����������� �.4/��������/a.indd 87 6/4/18 10:58 AM
ชื่อ-สกลุ เดือน ชัน้ เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๓ วนั ท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๓ : แบบฝกหดั เรอ่ื งการเคลื่อนทขี่ องวัตถุในสถานทตี่ า ง ๆ ๑. จากรปู สถานการณตา ง ๆ จงเขยี นลูกศรแสดงทศิ ทางการเคล่อื นท่ขี องวตั ถุ พรอมเขยี นเหตผุ ล ๑.๑ ลูกชมพูหลดุ จากขว้ั ผลไม ๑.๒ กระจกุ ฟางหลุดจากปากนก ๑.๓ สถานอี วกาศในอวกาศ 88 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ (สำ�หรับนกั เรียน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรบั ปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 88 6/4/18 10:58 AM
ช่อื -สกุล เดือน ชนั้ เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๓ วันท่ี พ.ศ. ๒. ผลไมท่ีหลุดจากข้ัวของก่ิงจากตนทอ่ี ยใู นท่ตี าง ๆ ของโลก จะเคล่อื นท่อี ยา งไร พรอ มเขยี นอธิบายเหตผุ ล ก. ข. ค. ง. เพราะ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรับนกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) 89 6102159����������� �.4/��������/a.indd 89 6/4/18 10:58 AM
ชอ่ื -สกุล เดอื น ชั้น เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๓ วันท่ี พ.ศ. ๓. ถา เราอยทู เ่ี ชิงเขากับยอดเขา แรงโนมถวงของโลกทก่ี ระทาํ ตอตวั เราจะเทากนั หรอื ไม อยา งไร 90 ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรับนักเรยี น) กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 90 6/4/18 10:58 AM
ชือ่ -สกุล เดอื น ช้นั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๑-๐๓ วันท่ี พ.ศ. ๔. เม่อื นักบนิ อวกาศอยูบนโลกและในอวกาศจะมมี วลและนํา้ หนักหรือไม เพราะเหตใุ ด อยูบนโลก มี เพราะ อยใู นอวกาศ มี เพราะ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำ�หรับนกั เรียน) กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบับปรับปรุง) 91 6102159����������� �.4/��������/a.indd 91 6/4/18 10:58 AM
ใบงาน บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒ หนว� ยยอยท่ี ๑ แรง เร่อ� ง การหานา� หน�กของวตั ถุ 92 ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ (ส�ำ หรบั นกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 92 6/4/18 10:58 AM
ชอ่ื -สกุล เดือน ช้นั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒-๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. กิจกรรมที่ ๑ หานํ้าหนกั ของวตั ถไุ ดอ ยางไร จุดประสงค สงั เกตและอธบิ ายการหานาํ้ หนักของวตั ถุโดยใชเครอ่ื งช่ังสปริง วัสด-ุ อุปกรณ ๑. ถุงทราย ๕๐๐ กรมั ๒. เครอ่ื งชั่งสปริง ๓. วัตถุอื่นๆ วธิ ีทาํ ๑. สงั เกตลกั ษณะของเครอ่ื งช่งั สปรงิ พรอมวาดรปู และรว มกนั อภปิ รายเก่ียวกบั วิธีใชเครอ่ื งช่ังสปรงิ ๒. ดึงขอเกยี่ วของเคร่อื งชั่งสปรงิ ในแนวดิง่ โดยออกแรงดงึ ใหมากขนึ้ ๆ สงั เกต การเปลีย่ นแปลงท่ีเกดิ ข้นึ บนั ทกึ ผล ๓. นําถุงทราย ๑ ถงุ แขวนกับเคร่อื งช่ังสปรงิ เม่อื ถงุ ทรายอยนู งิ่ สงั เกตและ บันทึกมวลของถงุ ทรายและคาของแรงท่ีอานได ๔. นาํ วตั ถุอืน่ ๆ มาแขวนแทนถงุ ทราย สังเกตและบนั ทกึ คาของแรงท่อี า นได ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับนกั เรยี น) กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบับปรับปรุง) 93 6102159����������� �.4/��������/a.indd 93 6/4/18 10:58 AM
ชอ่ื -สกลุ เดอื น ช้นั เลขที่ บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒-๐๑ วันท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : การหานํ้าหนักของวตั ถุ บนั ทึกผลการทํากจิ กรรม ผลการสังเกต ๑. รปู เครื่องชงั่ สปริงท่ีสงั เกตได ๒. ผลการสังเกตการเปลย่ี นแปลงของเครื่องชง่ั สปรงิ เมือ่ ออกแรงในการดงึ ใหม ากขึน้ ๆ ๓. มวลของถุงทราย เทา กบั กรัม ๔. คา ทอ่ี า นได เมอื่ แขวนถุงทรายกับเครอ่ื งช่งั สปรงิ เทากับ นวิ ตนั ๕. คา ท่ีอา นได เมื่อแขวนวัตถอุ ่ืนกับเครอื่ งชง่ั สปริง เทากับ นิวตนั 94 ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำ�หรบั นกั เรยี น) กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 6102159����������� �.4/��������/a.indd 94 6/4/18 10:58 AM
ชื่อ-สกุล เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๓.๑ / ผ. ๑.๒-๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. คําถามหลังจากทาํ กจิ กรรม ๑. เมื่อดึงเครอื่ งช่งั สปรงิ ดวยแรงทแี่ ตกตางกัน เครอื่ งช่ังสปรงิ มกี ารเปลยี่ นแปลง แตกตา งกนั หรือไมอ ยางไร ๒. คา ทอ่ี า นไดจ ากเครื่องชัง่ สปรงิ เม่ือแขวนถุงทรายไวน ่ิง ๆ คือคาของอะไร ๓. ในกจิ กรรมนี้ใชเครอื่ งชง่ั สปริงทําอะไร ๔. จากกจิ กรรมน้ี สรุปไดว าอยางไร ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับนักเรยี น) กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) 95 6102159����������� �.4/��������/a.indd 95 6/4/18 10:58 AM
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178