แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าท่ีพลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 3. รูปแบบของการ 1. ระบอบเผด็จการทหาร คณะผนู้ าทหารเป็นผูใ้ ชอ้ านาจเผด็จการ ปกครองระบอบ ในการปกครองโดยตรงหรือโดยออ้ ม เผดจ็ การ 2. ระบอบเผด็จการฟาสซิสต์ เนน้ ความสาคญั ของผนู้ าว่า มีอานาจ เหนือประชาชนทวั่ ไป 3. ระบอบเผด็จการคอมมิวนิสต์ มีพรรคคอมมิวนิสต์เพียงพรรคเดียว เป็นผใู้ ช้อานาจเผด็จการปกครองประเทศ 4. ความแตกตา่ งระหวา่ ง ระบอบเผด็จการทหารจะควบคมุ กิจการทางการเมืองของประชาชน ระบอบเผดจ็ การ เท่านนั้ แต่ระบอบเผด็จการคอมมิวนิสต์ จะใช้อานาจเผด็จการควบคมุ คอมมวิ นิสต์ กบั กิจกรรมและการดาเนินชีวิตของประชาชนในทกุ ดา้ น ทงั้ ดา้ นการเมือง ระบอบเผดจ็ การทหาร การปกครอง เศรษฐกิจ และสงั คม โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทีพ่ ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 5. ความแตกตา่ งของ เอกรฐั คือ รฐั ทีม่ ีรฐั บาลกลางเพียงรัฐเดียว ใช้อานาจอธิปไตย เอกรัฐกบั สหพนั ธรัฐ ปกครองดินแดนทง้ั หมด อาจมีการกระจายอานาจใหท้ ้องถ่ินได้ บริหาร กิจการของทอ้ งถิ่นไดต้ ามทีร่ ัฐบาลเห็นสมควร สหพนั ธรฐั คือ รฐั ทีม่ ีรฐั บาลสองระดบั คือ รัฐบาลกลางและรฐั บาล ทอ้ งถ่ินของแต่ละมลรัฐ รัฐบาลแต่ละระดบั จะใช้อานาจอธิปไตย ปกครองตามทีร่ ฐั ธรรมนูญกาหนด รัฐบาลกลางของสหพนั ธรัฐจะเป็น ผใู้ ชอ้ านาจในกิจการทีเ่ กีย่ วข้องหรือกระทบกระเทือนต่อประโยชน์ ส่วนรวม ของชาติ โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าที่พลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ใบงำนท่ี 1.2 เร่ือง กำรใช้อำนำจอธิปไตย คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนนาหมายเลขหน้าข้อความด้านลา่ งมาใสใ่ นกรอบคาที่กาหนดให้ด้านบน ท่ีมีใจความสมั พนั ธ์กนั รัฐสภา สภาผ้แู ทนราษฎร วฒุ ิสภา คณะรัฐมนตรี ศาลรัฐธรรมนญู ศาลยตุ ธิ รรม ศาลปกครอง 1. ตรวจสอบการตรากฎหมายที่ขดั หรือแย้งตอ่ รัฐธรรมนญู 2. พจิ ารณาร่างพระราชบญั ญัติ 3. กาหนดนโยบายการบริหารราชการแผน่ ดนิ และบริหารให้เป็นไปตามนโยบาย 4. พิจารณาร่างพระราชบญั ญตั ิประกอบรัฐธรรมนญู ว่าขดั หรือแย้งตอ่ รัฐธรรมนญู หรือไม่ 5. มีอานาจพจิ ารณาคดแี พง่ และคดีอาญาท่ีมีการอทุ ธรณ์คาพพิ ากษาจากศาลชนั้ ต้น 6. บญั ญตั กิ ฎหมายและยกเลิกกฎหมาย 7. มีอานาจพจิ ารณาและวนิ จิ ฉยั คดที ่ีเก่ียวกบั การเลือกตงั้ และเพิกถอนสทิ ธิเลือกตงั้ ในการเลือกตงั้ สมาชกิ สภาท้องถ่ินและผ้บู ริหารท้องถิ่น 8. มีอานาจพิจารณาและวนิ ิจฉยั คดที ี่เก่ียวกบั การเลือกตงั้ และเพิกถอนสทิ ธิเลือกตงั้ ในการเลือกตงั้ สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร 9. บริหารราชการแผน่ ดนิ ส่วนกลาง สว่ นภมู ภิ าค และสว่ นท้องถิ่น โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทพ่ี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 10. มีอานาจพจิ ารณาพิพากษาคดพี พิ าทระหวา่ งหนว่ ยงานราชการ หนว่ ยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐกบั เอกชน อนั เนื่องมาจากการดาเนนิ กิจการการปกครองของหนว่ ยงานราชการ 11. เสนอและพจิ ารณากฎหมาย 12. ศาลชนั้ ต้น ศาลอทุ ธรณ์ ศาลฎีกา 13. ควบคมุ ข้าราชการประจาให้นานโยบายไปปฏิบตั ิ 14. ถอดถอนผ้ดู ารงตาแหนง่ ทางการเมืองหรือข้าราชการระดบั สงู ออกจากตาแหนง่ 15. ควบคมุ การบริหารราชการแผน่ ดนิ โดยการตงั้ กระท้ถู ามรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีในเรื่องเกี่ยวกบั งานใน หน้าที่ ใบงำนท่ี 1.2 เร่ือง กำรใช้อำนำจอธิปไตย คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนนาหมายเลขหน้าข้อความด้านลา่ งมาใสใ่ นกรอบคาท่ีกาหนดให้ด้านบน ที่มีใจความสมั พนั ธ์กนั รัฐสภา สภาผ้แู ทนราษฎร วฒุ สิ ภา 6 11, 15 1, 2, 14, 15 คณะรัฐมนตรี ศาลรัฐธรรมนญู ศาลยตุ ธิ รรม ศาลปกครอง 3, 9, 13 4 5, 7, 8, 12 10 1. ตรวจสอบการตรากฎหมายท่ีขดั หรือแย้งตอ่ รัฐธรรมนญู 2. พิจารณาร่างพระราชบญั ญัติ 3. กาหนดนโยบายการบริหารราชการแผน่ ดนิ และบริหารให้เป็นไปตามนโยบาย 4. พจิ ารณาร่างพระราชบญั ญตั ิประกอบรัฐธรรมนญู ว่าขดั หรือแย้งตอ่ รัฐธรรมนญู หรือไม่ 5. มีอานาจพิจารณาคดแี พง่ และคดีอาญาท่ีมีการอทุ ธรณ์คาพิพากษาจากศาลชนั้ ต้น 6. บญั ญตั กิ ฎหมายและยกเลิกกฎหมาย โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่ีพลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 7. มีอานาจพิจารณาและวินิจฉยั คดีท่ีเก่ียวกบั การเลือกตงั้ และเพิกถอนสิทธิเลือกตงั้ ในการเลือกตงั้ สมาชิก สภาท้องถิ่นและผ้บู ริหารท้องถ่ิน 8. มีอานาจพจิ ารณาและวินจิ ฉยั คดที ่ีเก่ียวกบั การเลือกตงั้ และเพกิ ถอนสิทธิเลือกตงั้ ในการเลือกตงั้ สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร 9. บริหารราชการแผ่นดนิ สว่ นกลาง สว่ นภมู ภิ าค และสว่ นท้องถิ่น 10. มีอานาจพจิ ารณาพิพากษาคดีพพิ าทระหวา่ งหนว่ ยงานราชการ หนว่ ยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐกบั เอกชน อนั เน่ืองมาจากการดาเนินกิจการการปกครองของหนว่ ยงานราชการ 11. เสนอและพิจารณากฎหมาย 12. ศาลชนั้ ต้น ศาลอทุ ธรณ์ ศาลฎีกา 13. ควบคมุ ข้าราชการประจาให้นานโยบายไปปฏิบตั ิ 14. ถอดถอนผ้ดู ารงตาแหนง่ ทางการเมืองหรือข้าราชการระดบั สงู ออกจากตาแหนง่ 15. ควบคมุ การบริหารราชการแผน่ ดนิ โดยการตงั้ กระท้ถู ามรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีในเรื่องเกี่ยวกบั งานใน หน้าที่ ใบงำนท่ี 1.3 เร่ือง ฐำนะและพระรำชอำนำจของพระมหำกษัตริย์ไทย ตอนท่ี 1 คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนวิเคราะห์ภาพพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ไทย แล้วบรรยายใต้ภาพท่ีแสดงถงึ ความสาคญั ของสถาบนั พระมหากษัตริย์ไทย โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าท่ีพลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าท่ีพลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าท่ีพลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ตอนที่ 2 คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี ้ 1. พระมหากษตั ริย์ไทยทรงมีฐานะและพระราชอานาจตามรัฐธรรมนญู อยา่ งไร โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าท่ีพลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 2. ให้นกั เรียนแสดงความคิดเห็นถึงความสาคญั และความจาเป็นท่ีต้องดารงไว้ซงึ่ การปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ ใบงำนท่ี 1.3 เร่ือง ฐำนะและพระรำชอำนำจของพระมหำกษัตริย์ไทย ตอนที่ 1 คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนวเิ คราะห์ภาพพระราชกรณียกิจของพระมหากษตั ริย์ไทย แล้วบรรยายใต้ภาพท่ีแสดงถงึ ความสาคญั ของสถาบนั พระมหากษัตริย์ไทย โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่พี ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ทรงอยู่ในฐานะประมขุ ของประเทศ เป็นศูนย์รวม ทรงเป็นพทุ ธมามกะ และทรงเป็นอคั รศาสนปู ถมั ภก จิตใจของประชาชนชาวไทย ใหท้ กุ คนรวมพลงั กนั เป็นขวญั กาลงั ใจใหป้ ระชาชนพระพฤติตนเป็นคนดี ทากิจกรรมต่างๆ ในการพฒั นาประเทศชาติ ทรงเสด็จไปเยีย่ มราษฎรในภาคต่างๆ โดยเฉพาะใน ทรงดารงตาแหน่งจอมทพั ไทย เป็นการสร้างขวญั ดินแดนทรุ กนั ดาร ช่วยเหลือราษฎรผยู้ ากไร้ ตลอด และกาลงั ใจใหแ้ ก่ทหารในกองทพั ไดป้ ฏิบตั ิหนา้ ที่ ทงั้ ส่งเสริมการพฒั นาอาชีพ และสภาพควาโดมย นางณิภาทิพย์ ใมนลู กแกา้วรปกกลปมุ่ สอ้ างรระกั กษาราเเรอียกนรรู้าสชงั ขคอมงศชกึ าษตาิไศทายสนาและวฒั นธรรม เป็ นอยู่ของราษฎร
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่พี ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ทรงเป็นศนู ย์รวมจิตใจของประชาชนชาวไทย การที่ ทรงเป็นตวั แทนของปวงชนชาวไทยในการต้อนรับ พระองค์ปฏิบตั ิพระราชกรณียกิจทีแ่ สดงถึงการดูแล ผูแ้ ทนของประเทศต่างๆ ทีเ่ ข้ามาเจริญสมั พนั ธไมตรี ทกุ ข์สขุ ของประชาชน และโครงการในพระราชดาริ กบั ไทย ทาใหเ้ กิดความสมั พนั ธ์ทีด่ ีงามกบั ต่างชาติ ส่งผลดีต่อการพฒั นาประเทศชาติ โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทีพ่ ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ทรงใชอ้ านาจอธิปไตยผ่านทางรฐั สภา คณะรัฐมนตรี ทรงเป็นตวั แทนของปวงชนชาวไทยในการติดต่อกบั และศาล แสดงถึงความมนั่ คงของการปกครอง ประมขุ ของต่างประเทศ เป็นการสร้างความสมั พนั ธ์ ระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมขุ ทีด่ ีงามกบั ต่างประเทศ ตอนที่ 2 คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี ้ 1. พระมหากษตั ริย์ไทยทรงมีฐานะและพระราชอานาจตามรัฐธรรมนญู อยา่ งไร 1. ทรงอย่ใู นฐานะประมขุ ของประเทศ โดยจะทรงใช้อานาจอธิปไตยผ่านทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล 2. 3. ทรงเป็นกลางและทรงอย่เู หนือการเมือง ทรงดารงอย่ใู นฐานะอนั เป็นทีเ่ คารพสกั การะ ผใู้ ดจะละเมิดกล่าวหา หรือฟอ้ งร้องพระมหากษัตริย์ ในทางใดๆ มิได้ 4. ทรงเป็นพทุ ธมามกะ และทรงเป็นอคั รศาสนปู ถมั ภก 5. โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าท่พี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 6. ทรงดารงตาแหน่งจอมทพั ไทย ทรงเป็นตวั แทนของปวงชนชาวไทยในการติดต่อกบั ประมขุ ต่างประเทศ 2. ให้นกั เรียนแสดงความคดิ เห็นถงึ ความสาคญั และความจาเป็นที่ต้องดารงไว้ซงึ่ การปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ 1. เป็นศูนย์รวมแห่งความสามคั คีของประชาชน เพือ่ ทากิจกรรมต่างๆ อนั จะเป็นประโยชน์ ต่อส่วนรวม ประเทศ เมื่อมีเหตกุ ารณ์ขดั แยง้ กนั ขึ้น กล่มุ ผูม้ ีอดุ มการณ์ทางการเมืองแตกต่างกนั หรือระหว่างผบู้ ริหารประเทศ ซึ่งจะมีผลเสียต่อประเทศ พระองค์ก็ทรงแนะนาแนวทางทีเ่ ป็น ประโยชน์และสามารถชีน้ าใหท้ กุ ฝ่ายสมานสามคั คีกนั ได้ ซ่ึงทาใหป้ ระชาชนอยู่อย่างเป็นสขุ 2. ทรงชีแ้ นะเกี่ยวกบั โครงการต่างๆ ทีเ่ ป็นแนวทางในการพฒั นาคณุ ภาพชีวิตและความเป็นอยู่ ของราษฎร เช่น โครงการเกีย่ วกบั การพฒั นาแหล่งน้า การประกอบอาชีพดา้ นเกษตรกรรม การแก้ปัญหาภยั แลง้ ตลอดทงั้ ยงั ทรงพระราชทานปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพือ่ การดารงชีวิต อย่างมีความสขุ ใหแ้ ก่ประชาชนชาวไทย 3. ทรงมีพระราชกรณียกิจในดา้ นการสร้างความสมั พนั ธ์กบั ต่างประเทศ เช่น การเสด็จไปเยือน ประเทศต่างๆ การตอ้ นรับผู้นาหรือตวั แทนของประเทศต่างๆ ทีม่ าเจริญสมั พนั ธไมตรีกบั ประเทศ ไทยเป็นการสร้างความสมั พนั ธ์ทีด่ ีต่อกนั \\ ฯลฯ (หมายเหตุ นกั เรียนอาจตอบเป็นอย่างอืน่ ตามความเหมาะสม ใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน) โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าที่พลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ใบงำนท่ี 1.4 เร่ือง พระรำชกรณียกจิ ของพระมหำกษัตริย์ไทย คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนนาข้อมลู ความรู้เกี่ยวกบั พระราชกรณียกิจของพระมหากษตั ริย์ไทยมาวเิ คราะห์ และตอบคาถามตามหวั ข้อที่กาหนด ภาพพระราชกรณียกิจของพระมหากษตั ริย์ไทย 1. พระราชกรณียกิจที่สาคญั คืออะไร สอดคล้องกบั ฐานะและพระราชอานาจของพระมหากษัตริย์ไทย ตาม บทบญั ญัตขิ องรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทยอยา่ งไร โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทพ่ี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 2. พระราชกรณียกิจดงั กลา่ วสง่ ผลดีตอ่ การพฒั นาประเทศ อยา่ งไรบ้าง ใบงำนท่ี 1.4 เร่ือง พระรำชกรณียกจิ ของพระมหำกษัตริย์ไทย คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนนาข้อมลู ความรู้เก่ียวกบั พระราชกรณียกิจของพระมหากษตั ริย์ไทยมาวเิ คราะห์ และตอบคาถามตามหวั ข้อที่กาหนด ภาพพระราชกรณียกิจของพระมหากษตั ริย์ไทย โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าท่ีพลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 1. พระราชกรณียกิจที่สาคญั คืออะไร สอดคล้องกบั ฐานะและพระราชอานาจของพระมหากษัตริย์ไทย ตาม บทบญั ญัตขิ องรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทยอยา่ งไร 2. พระราชกรณียกิจดงั กลา่ วสง่ ผลดตี อ่ การพฒั นาประเทศ อยา่ งไรบ้าง (หมายเหตุ พิจารณาตามคาตอบของนกั เรียน ใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน) โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าท่ีพลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าท่ีพลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ชอ่ื – สกุล ความรว่ มมอื การแสดง การรบั ฟัง การตั้งใจ การร่วม รวม ลาดบั ความคิดเห็น ความคิดเห็น ทางาน ปรบั ปรุง 20 ผลงานกลมุ่ ที่ ของผู้รบั การ ประเมิน 43214321432143214321 คะแนน โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าที่พลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมิน ดีมาก = 4 ดี = 3 ............../.................../................ พอใช้ = 2 ปรับปรุง = 1 หมายเหตุ ครอู าจใช้วธิ ีการมอบหมายให้หวั หนา้ กลมุ่ เป็นผู้ประเมิน หรอื ให้ตวั แทนกลุ่มผลดั กันประเมิน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ หรอื ให้มกี ารประเมินโดยเพ่อื น โดยตวั นกั เรยี นเอง ตามความเหมาะสมก็ได้ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 17 – 20 ดีมาก 13 – 16 ดี 9 – 12 พอใช้ 5–8 ปรบั ปรงุ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 เรื่อง ระบอบการเมืองการปกครอง แผนจัดการเรยี นรู้ที่ 2 เรอื่ ง การเมอื งกับชีวิต รายวชิ า หน้าท่ีพลเมืองฯ รหัสวิชา ส 31101 ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 นา้ หนกั เวลาเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลาเรยี น 40 ช่วั โมง/สปั ดาห์ เวลาทใ่ี ช้ในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 2 ชวั่ โมง ................................................................................................................. ......................................... 1. สาระสาคัญ (ความเขา้ ใจทคี่ งทน) การมสี ว่ นรว่ มของประชาชนในการเมืองการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยของไทยนน้ั มีปญั หาต่างๆ ซ่ึงเปน็ อปุ สรรคตอ่ การบริหารบ้านเมืองและประเทศ ซึง่ ทุกฝา่ ยจะต้องร่วมมือกนั หาแนวทางแกไ้ ข อกี ท้งั ยงั ต้องรว่ มมือกันทาง การเมืองการปกครองทจ่ี ะนาไปสูค่ วามเข้าใจและการประสานประโยชน์ระหวา่ งประเทศ 2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั ช้ันป/ี ผลการเรียนรู/้ เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าท่ีของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ีดีงาม และธารงรักษา ประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดารงชวี ิตอยู่ร่วมกนั ในสงั คมไทยและสงั คมโลกอย่างสนั ติสุข โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทพี่ ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ตัวชีว้ ดั ม.4-6/2 เสนอแนวทางทางการเมอื งการปกครองที่นาไปสู่ความเข้าใจ และการ ประสานประโยชน์ ร่วมกนั ระหว่างประเทศ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge (นักเรียนต้องรู้อะไร) นกั เรยี นสามารถเขียนวเิ คราะห์ปญั หาการเมืองท่สี าคญั ในประเทศจากแหลง่ ขอ้ มลู ต่างๆ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (นักเรียนสามารถปฏบิ ตั อิ ะไรได)้ นกั เรียนสามารถอธบิ ายแนวทางการเมืองการปกครองทน่ี าไปสคู่ วามเขา้ ใจและการประสานประโยชน์ ร่วมกนั ระหว่างประเทศ 3.3 คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ : Attitude (นักเรยี นควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบ้าง) นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่รู้ มีความรับผิดชอบตอ่ งานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายตามเวลาที่กาหนด 4. สมรรถนะสาคญั ของนักเรียน 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 5. คณุ ลักษณะของวชิ า - ความรับผดิ ชอบ - กระบวนการรายบุคคล /กลุ่ม 6. คุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมั่นในการทางาน 7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน : (ใหส้ อดคลอ้ ง กบั ตัวชวี้ ัด /ผลการเรยี นรู้ ในแผนการเรียนรู้น้ี ) - ภาระงาน – ใหน้ กั เรยี นศึกษาความรู้ จากหนงั สือเรยี น 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ใช้เวลา 2 ช่ัวโมง ชั่วโมงที่ 1 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝเ่ รยี นรู้ / เทคนิคการสบื คน้ ) - ข้ันนาเขา้ ส่บู ทเรียน/ข้ันตัง้ คาถาม ครนู าขา่ วหรือภาพกจิ กรรมทางการเมืองการปกครองของประเทศต่างๆ ในโลก มาใหน้ กั เรยี นวิเคราะห์ เช่น -การชุมนมุ ประท้วงรัฐบาลของชาวตุรกี -การเลอื กตง้ั ประธานาธบิ ดีของสหรัฐอเมริกา -การเลือกตัง้ สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรของประเทศอังกฤษ ญี่ปนุ่ -รฐั บาลพม่ากักบริเวณให้นางอองซาน ซูจี อยู่ภายในบริเวณบา้ นพักของตนเอง - ขนั้ สอน โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทีพ่ ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ครูให้นกั เรียนชว่ ยกนั วเิ คราะห์วา่ ขา่ วหรือภาพขา่ วดงั กลา่ วมีผลตอ่ การดาเนนิ ชีวิตของประชาชน อยา่ งไร 3. ครูชว่ ยอธิบายสรุปให้นกั เรียนเข้าใจวา่ อทิ ธิพลของระบอบการเมืองการปกครองมีผลตอ่ การดาเนิน ชีวิตของประชาชน และการท่ีประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยทาให้มีผลตอ่ การดาเนนิ ชีวิตของประชาชน เชน่ - ประชาชนมีสทิ ธิเสรีภาพเทา่ เทียมกนั - ประชาชนมีความสนใจในทางการเมือง - มีการรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจของกลมุ่ ที่มีอาชีพเดียวกนั - การรวมกลมุ่ สร้างพลงั ความเข้มแขง็ ตอ่ การอนรุ ักษ์สภาพแวดล้อมในชมุ ชนท้องถิ่น 4. ครูแบง่ นกั เรียนเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 6 คน คละกนั ตามความสามารถ คอื เก่ง ปานกลางคอ่ นข้างเก่ง ปานกลางคอ่ นข้างอ่อน และออ่ น และให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ แบง่ ออกเป็น 2 กลมุ่ ยอ่ ย กลมุ่ ละ 3 คน ให้แตล่ ะกลมุ่ ยอ่ ยชว่ ยกนั ทาใบงาน ดงั นี ้ - กลมุ่ ยอ่ ยที่ 1 ศกึ ษาสืบค้นความรู้เก่ียวกบั ปัญหาทางการเมืองท่ีสาคญั ที่เกิดขนึ ้ ในประเทศไทย และทาใบงานที่ 2.1 เร่ือง วเิ คราะห์ปัญหาการเมืองไทย - กลมุ่ ยอ่ ยที่ 2 ศกึ ษาสืบค้นความรู้เก่ียวกบั ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งประเทศไทยกบั ตา่ งประเทศ และทาใบงานท่ี 2.2 เร่ือง การประสานประโยชน์ร่วมกนั ระหวา่ งประเทศ ช่วั โมงท่ี 2 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝเ่ รียนรู้ / ช่วยกนั คดิ ชว่ ยกนั เรียน) - ขัน้ นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น/ขัน้ ตั้งคาถาม ครูสนทนากบั นักเรยี นถึงการดาเนนิ งานของแต่ละกลมุ่ วิธีการสบื คน้ ข้อมลู ในเรื่องทศี่ ึกษา การแบง่ หน้าที่ความ รบั ผิดชอบ และความก้าวหน้าของงานทรี่ บั ผิดชอบ โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทพ่ี ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 - ขน้ั สอน นกั เรียนกลมุ่ ยอ่ ยของแตล่ ะกลมุ่ ผลดั กนั เลา่ ผลงานที่กลมุ่ ตนรับผิดชอบตามหวั ข้อในใบงาน ให้สมาชิก อีกกลมุ่ ยอ่ ยฟัง และชว่ ยกนั แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ ที่เป็นประโยชน์ 3. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานตอ่ ชนั้ เรียน และให้กลมุ่ อ่ืนเสนอแนะเพมิ่ เตมิ โดยมีครู เป็นผ้ตู รวจสอบความถกู ต้อง 4. ครูและนกั เรียนชว่ ยกนั อภิปรายสรุปปัญหาการเมืองท่ีสาคญั ของประเทศ และแนวทางแก้ไข กิจกรรมการเมืองการปกครองสาคญั ท่ีนาไปสคู่ วามเข้าใจและการประสานประโยชน์ร่วมกนั ระหวา่ งประเทศ 5. ครูมอบหมายให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั เขียนบทความวเิ คราะห์การเมืองการปกครองไทย ในประเด็นตอ่ ไปนี ้ 1) การวเิ คราะห์ปัญหาการเมืองในประเทศ 2) การเสนอแนวทางการเมืองการปกครอง 3) การวิเคราะห์ความจาเป็นในการธารงรักษาการปกครองระบอบประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมขุ - ขั้นสรุป นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลงานตอ่ ครูผสู้ อน แล้วครูเลือกบทความวเิ คราะหท์ ี่มีผลงานอยใู่ นเกณฑ์ดี นาไปจัดปา้ ยนเิ ทศ นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เร่ือง ระบอบการเมืองการปกครอง 9. สอ่ื การเรียนการสอน / แหลง่ เรียนรู้ จานวน สภาพการใชส้ ื่อ รายการสือ่ 1 ชดุ ขน้ั สร้างความสนใจ 1. สอ่ื หนา้ ท่พี ลเมืองppt. 1 ชุด ขน้ั ขยายความรู้ 2. หนังสือเรยี น โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทพี่ ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 10. การวดั ผลและประเมนิ ผล เป้าหมาย หลกั ฐานการเรยี นรู้ วธิ วี ดั เคร่อื งมือวดั ฯ ประเด็น/ การเรยี นรู้ ช้ินงาน/ภาระงาน ตรวจใบงานที่ 2.1- ใบงานท่ี 2.1-2.2 เกณฑ์การใหค้ ะแนน ใบงานท่ี 2.1-2.2 แบบประเมนิ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สามารถเขียน 2.2 วิเคราะห์ปญั หา แบบประเมนิ แบบสังเกต ระดบั คณุ ภาพ2ผา่ น การเมืองท่สี าคัญใน ตรวจแบบประเมนิ เกณฑ์ ประเทศจาก การสงั เกต แหล่งขอ้ มลู ต่างๆ แบบสงั เกต ระดับคุณภาพ2ผา่ น เกณฑ์ สามารถอธิบาย แนวทางการเมือง การปกครองที่ นาไปสคู่ วามเข้าใจ และการประสาน ประโยชน์รว่ มกนั ระหว่างประเทศ มคี วามสนใจ ใฝร่ ู้ มี ความรบั ผิดชอบต่องาน ท่ีได้รับมอบหมายตาม เวลาทกี่ าหนด โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทพ่ี ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ใบงำนท่ี 2.1 เร่ือง วเิ ครำะห์ปัญหำกำรเมอื งไทย คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนนาปัญหาการเมืองสาคญั ท่ีเกิดขนึ ้ ในประเทศไทยมาวเิ คราะห์ และตอบคาถาม ปัญหาเร่ือง สาระสาคญั 1. ปัญหาข้างต้นเป็นปัญหาด้านใด โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทพี่ ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 2. สาเหตขุ องปัญหา คืออะไร 3. มีแนวทางแก้ไขอยา่ งไร 4. นกั เรียนจะมีสว่ นร่วมในการแก้ปัญหาอยา่ งไรบ้าง ใบงำนท่ี 2.1 เร่ือง วเิ ครำะห์ปัญหำกำรเมืองไทย คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนนาปัญหาการเมืองสาคญั ที่เกิดขนึ ้ ในประเทศไทยมาวเิ คราะห์ และตอบคาถาม ปัญหาเรื่อง โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม สาระสาคญั
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทพ่ี ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 1. ปัญหาข้างต้นเป็นปัญหาด้านใด 2. สาเหตขุ องปัญหา คืออะไร 3. มีแนวทางแก้ไขอยา่ งไร 4. นกั เรียนจะมีสว่ นร่วมในการแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่พี ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 (หมายเหตุ พิจารณาตามคาตอบของนกั เรียน ใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินิจของครูผูส้ อน) ใบงำนท่ี 2.2 เร่ือง กำรประสำนประโยชน์ร่วมกันระหว่ำงประเทศ คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนนาข้อมลู ท่ีสืบค้นมาเกี่ยวกบั เรื่อง ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งประเทศไทยกบั ตา่ งประเทศ มาวิเคราะห์ แล้วตอบคาถาม ปัญหาเรื่อง สาระสาคญั 1. ข้อมลู /ขา่ ว เร่ือง 2. จากข้อมลู /ขา่ วมีข้อความแสดงถงึ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งประเทศใด และมีความสมั พนั ธ์ด้านใด จงอธิบาย 3. ความสมั พนั ธ์ดงั กล่าวมีผลดีอยา่ งไร จงอธิบาย โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าที่พลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ใบงำนท่ี 2.2 เร่ือง กำรประสำนประโยชน์ร่วมกันระหว่ำงประเทศ คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนนาข้อมลู ท่ีสืบค้นมาเก่ียวกบั เรื่อง ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งประเทศไทยกบั ตา่ งประเทศ มาวิเคราะห์ แล้วตอบคาถาม ปัญหาเรื่อง สาระสาคญั 1. ข้อมลู /ขา่ ว เรื่อง 2. จากข้อมลู /ขา่ วมีข้อความแสดงถึงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งประเทศใด และมีความสมั พนั ธ์ด้านใด จงอธิบาย 3. ความสมั พนั ธ์ดงั กล่าวมีผลดีอยา่ งไร จงอธิบาย (หมายเหตุ พิจารณาตามคาตอบของนกั เรียน ใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน) โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทพ่ี ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 เรื่อง รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย แผนจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 เรื่อง ร้ชู ดั รฐั ธรรนญู รายวชิ า หน้าที่พลเมืองฯ รหัสวิชา ส 31101 ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 นา้ หนักเวลาเรยี น 1.0 (นน./นก.) เวลาเรยี น 40 ชั่วโมง/สัปดาห์ เวลาทใี่ ชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 3 ช่ัวโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั (ความเข้าใจท่ีคงทน) รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย มหี ลกั การสาคญั และบทบัญญัติซึ่งเปน็ แนวทางในการใชอ้ านาจอธิปไตย ของปวงชนชาวไทย 2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั ชน้ั ป/ี ผลการเรยี นร/ู้ เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปัจจบุ ัน ยึดม่นั ศรทั ธา และธารงรักษาไว้ซ่ึงการปกครอง ระบอบประชาธิปไตย อันมพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข ตัวชี้วดั ม.4 6/4 เสนอแนวทางและมีสว่ นร่วมในการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนอื้ หาสาระหลกั : Knowledge (นักเรยี นตอ้ งรู้อะไร) นักเรยี นสามารถเขยี นหลักการสาคัญของรฐั ธรรมนูญ แนวทางการปฏบิ ัติตนตามบทบัญญัติของ รัฐธรรมนูญได้ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (นักเรยี นสามารถปฏบิ ัติอะไรได้) นักเรียนสามารถอธบิ ายความเป็นมา โครงสรา้ ง และความสาคัญของรัฐธรรมนญู ได้ 3.3 คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ : Attitude (นักเรยี นควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบา้ ง) นักเรียนมคี วามสนใจ ใฝ่รู้ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รบั มอบหมายตามเวลาท่ีกาหนด 4. สมรรถนะสาคญั ของนักเรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 5. คุณลักษณะของวชิ า - ความรับผดิ ชอบ - กระบวนการกลมุ่ 6. คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทีพ่ ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 7. ชนิ้ งาน/ภาระงาน : (ใหส้ อดคลอ้ ง กบั ตัวชวี้ ัด /ผลการเรยี นรู้ ในแผนการเรียนรู้นี้ ) - กิจกรรมที่ 1 รชู้ ดั รัฐธรรมนญู - กิจกรรมท่ี 2 การตรวจสอบการใชอ้ านาจรัฐ ภาระงาน – ใหน้ ักเรียนศึกษาความรู้ จากหนังสือเรยี น 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ใชเ้ วลา 3 ช่วั โมง ชัว่ โมงท่ี 1-2 (ความสามารถในการวเิ คราะห์ / ใฝเ่ รยี นรู้ / เทคนคิ การสบื ค้น) - ขั้นนาเข้าสู่บทเรยี น/ขน้ั ต้ังคาถาม ครตู ้งั คาถามให้นักเรยี นตอบเพ่อื เปน็ การทบทวนความรูเ้ ดิมเกีย่ วกบั รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช 2550 ดังนี้ 1)หลักการสาคัญของรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย ฉบบั ปัจจุบนั ได้แก่อะไรบา้ ง แนวคาตอบ (1) การส่งเสริมและคุม้ ครองสิทธเิ สรีภาพของประชาชน (2) การลดการผูกขาดอานาจรัฐและการใชอ้ านาจอยา่ งไม่เป็นธรรม (3) การทาใหก้ ารเมืองมีความโปร่งใส มีคุณธรรม จริยธรรม (4) การทาให้ระบบตรวจสอบการใช้อานาจรัฐให้มคี วามเขม้ แขง็ และทางานไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ - ข้นั สอน 1. ครูแบง่ นักเรยี นเปน็ กลมุ่ คละกันตามความสามารถ คือ เกง่ ปานกลางคอ่ นขา้ งเกง่ ปานกลางค่อนขา้ งอ่อน และอ่อน (ครแู บง่ กลุม่ นกั เรียนไวล้ ว่ งหน้า) ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั ศกึ ษาความรู้ เรอ่ื งรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 จากหนังสอื เรยี น และหนงั สือรัฐธรรมนญู 2. ครูและนักเรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปประเดน็ สาคญั ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกัน ทาใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง รัฐธรรมนูญ โดยแบง่ หนา้ ทกี่ ันทา ดังนี้ - สมาชิกคนที่ 1 มีหนา้ ทอ่ี า่ นคาถาม แยกแยะประเด็นสาคัญของคาถาม - สมาชกิ คนท่ี 2 วเิ คราะหห์ าแนวทางตอบคาถามใหไ้ ด้คาตอบที่ถูกต้อง - สมาชิกคนที่ 3 รวบรวมขอ้ มลู และเขียนคาตอบ - สมาชกิ คนท่ี 4 ตรวจสอบความถูกตอ้ งและเขียนเพ่มิ เติมในสว่ นท่ยี งั ไมส่ มบูรณ์ ขน้ั สรุป สมาชิกทกุ คนรว่ มมือกันทาใบงานจนครบทกุ ข้อ มกี ารพง่ึ พาอาศยั กนั ช่วยเหลือกนั และอธิบายใหก้ ัน ฟังจนเข้าใจ จนสมาชิกทุกคนสามารถทาแบบฝกึ หัดได้ครบทุกข้อ จากน้ันให้สมาชิกทกุ คนกลับไปทบทวนความรู้ เพิ่มเติมเพื่เตรียมการแขง่ ขันตอบคาถามกับกลุม่ อ่ืนในช่ัวโมงตอ่ ไป ช่วั โมงท่ี 3 (ความสามารถในการวเิ คราะห์ / ใฝ่เรียนรู้ / ช่วยกนั คดิ ช่วยกันเรียน) - ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน/ข้ันต้ังคาถาม โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทพี่ ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ครจู ัดเตรียมการแขง่ ขันก่อนการดาเนนิ การแขง่ ขนั ดังน้ีการจดั การแขง่ ขนั มีการจัดโต๊ะแขง่ ขนั ท่ีมีตวั แทนแตล่ ะกลุ่มใน ข้อ 2 ซึง่ มที ง้ั เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลางค่อนขา้ งอ่อน และอ่อน ครจู ะจดั โตะ๊ แขง่ ขนั โดยกาหนดนักเรียนแต่ ละกลุม่ ซึง่ มคี วามสามารถแตกตา่ งกนั ไป แยกย้ายกนั ไปแข่งขันในโต๊ะทีจ่ ดั ไวต้ ามความสามารถ - ขั้นสอน 1. การดาเนินการแข่งขนั ตามขน้ั ตอน เรม่ิ จากครูแจกซองคาถามให้ทุกโต๊ะ ซึ่งมีคาถามเท่ากบั จานวนนักเรียน ซึ่งถ้ามีเวลามากอาจจะมีคาถามเป็น 2 หรอื 3 เท่าของจานวนนักเรยี น โดยตอบเป็น 2 หรอื 3 รอบก็ได้ ครูควรชแี้ จงให้ นกั เรยี นทราบวา่ ทกุ คนจะผลัดกันเปน็ ผู้อา่ นคาถาม ขอใหอ้ ่านชา้ ๆ ชัดๆ ผอู้ ่านคาถามจะมหี นา้ ที่อ่านคาเฉลยและให้ คะแนนผู้ท่ีตอบถกู ตามลาดับ ดังนั้น ครูจะต้องมีคาเฉลยทช่ี ัดเจนใสซ่ องให้นกั เรยี นควบคู่ไปกับคาถาม อาจจะเรมิ่ จาก คาถามงา่ ยๆ ไปถึงยากก็ไดค้ าถามแตล่ ะขอ้ นั้น ครอู าจจะเป็นผู้กาหนดเวลาต่อข้อก็ได้ 2. เร่มิ การแข่งขัน - นักเรยี นคนท่ี 1 หยบิ ซองคาถาม 1 ซอง เปิดอ่านคาถาม แล้ววางลงกลางโตะ๊ - นกั เรียนอกี 3 คน แขง่ ขันกันตอบคาถาม โดยเขยี นคาตอบลงในกระดาษคาตอบของตนส่งให้ คนอ่านคนท่ี 1 3.คนทอ่ี ่านคาถามทาหนา้ ทใ่ี หค้ ะแนนตามลาดบั คนทสี่ ง่ ก่อนหลัง - ผทู้ ต่ี อบถูกคนแรกได้ 2 คะแนน - ผ้ทู ่ตี อบถูกคนต่อมาได้ 1 คะแนน - ผู้ที่ตอบผิดไม่ได้คะแนน 4. สมาชิกในทมี แขง่ ขนั จะผลัดกันทาหนา้ ที่อา่ นคาถามจนคาถามหมดโดยให้ทุกคนได้ตอบ คาถามจานวนเทา่ กนั 5. ใหท้ กุ คนรวมคะแนนของตนเอง โดยมีสมาชกิ ทกุ คนในกลมุ่ รบั รองร่วมกนั วา่ ถูกต้อง อาจจะใหเ้ ซน็ ช่อื รับรองดว้ ยก็ได้ 6. เมอื่ สมาชิกแข่งขันกันเสร็จแล้ว สมาชกิ ทุกคนจะนาคะแนนท่ตี นเองได้กลับไปยังกลุ่มเดิมของตนแลว้ นา คะแนนมารวมกัน ครปู ระกาศชมเชยกล่มุ ท่ีไดค้ ะแนนสูงสุดเรียงตามลาดับ - ขน้ั สรปุ ครูและนกั เรียนชว่ ยกนั สรุปความรู้เก่ียวกบั สาระสาคญั ของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทยพทุ ธศกั ราช 2550 9. สอ่ื การเรียนการสอน / แหล่งเรยี นรู้ โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าที่พลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 รายการส่อื จานวน สภาพการใชส้ ่ือ 1. สื่อหนา้ ที่พลเมืองppt. 1 ชดุ ขน้ั สร้างความสนใจ 2. กิจกรรมท1่ี 1 ชดุ ข้ันสรา้ งความสนใจ 3. หนงั สอื เรยี น 1 ชุด ข้นั ขยายความรู้ 10. การวดั ผลและประเมนิ ผล เป้าหมาย หลักฐานการเรยี นรู้ วธิ วี ัด เครอ่ื งมอื วดั ฯ ประเด็น/ การเรียนรู้ ชิ้นงาน/ภาระงาน เกณฑ์การให้คะแนน สามารถเขียน ใบงานที่ 1.1 ตรวจใบงานท่ี 1.1 ใบงานที่ 1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ หลักการสาคญั ของ รฐั ธรรมนญู แนว ทางการปฏบิ ตั ิตน ตามบทบัญญัติของ รฐั ธรรมนญู ได้ สามารถอธิบายความ การสังเกต แบบสงั เกต แบบสงั เกต ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ เปน็ มา โครงสรา้ ง และความสาคัญของ รฐั ธรรมนญู ได้ สนใจ ใฝร่ ู้ มคี วาม การสังเกต แบบสังเกต แบบสงั เกต ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ รับผิดชอบตอ่ งานที่ ได้รบั มอบหมายตาม เวลาท่กี าหนด 11. จุดเนน้ ของโรงเรียน การบรู ณาการปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงและกจิ กรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ครู ผู้เรยี น 21. ความพอประมาณ พอดีดา้ นเทคโนโลยี พอดีดา้ นจิตใจ 22. ความมเี หตผุ ล รู้จกั ใชเ้ ทคโนโลยมี าผลติ สอื่ ทเ่ี หมาะสม มีจติ สานกึ ทีด่ ี เออ้ื อาทร ประนปี ระนอม นกึ และสอดคล้องเนอื้ หาเป็นประโยชน์ตอ่ ถงึ ประโยชน์ส่วนรวม/กลมุ่ ผูเ้ รยี นและพัฒนาจากภมู ปิ ญั ญาของผเู้ รียน ไม่หยดุ นงิ่ ทีห่ าหนทางในชีวติ หลดุ พน้ จาก - ยึดถือการประกอบอาชพี ดว้ ยความถูกตอ้ ง ความทกุ ข์ยาก (การคน้ หาคาตอบเพือ่ ให้ สุจรติ แม้จะตกอยูใ่ นภาวะขาดแคลน ใน หลุดพ้นจากความไมร่ ู้) การดารงชีวิต 23. มีภมู คิ มุ กันในตวั ท่ีดี ภูมปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภมู ปิ ัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวงั ระมัดระวัง สร้างสรรค์ โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทพ่ี ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 24. เงือ่ นไขความรู้ ความรอบรู้ เรอ่ื ง วฒั นธรรมไทย ที่ ความรอบรู้ เรื่อง วฒั นธรรมไทย กรณีท่ี เกย่ี วขอ้ งรอบดา้ น ความรอบคอบท่จี ะนา เกิดงาน ปริมาณที่เกยี่ วข้อง สามารถนา ความรู้เหลา่ นั้นมาพิจารณาใหเ้ ชือ่ มโยงกนั ความรูเ้ หล่านั้นมาพิจารณาใหเ้ ชือ่ มโยงกนั เพือ่ ประกอบการวางแผน การดาเนนิ การจดั สามารถประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน กิจกรรมการเรียนรู้ใหก้ บั ผู้เรยี น 25. เง่ือนไขคุณธรรม มีความตระหนกั ใน คณุ ธรรม มคี วาม มคี วามตระหนกั ใน คณุ ธรรม มคี วาม ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ และมคี วามอดทน มคี วามเพียร ซือ่ สัตยส์ ุจรติ และมีความอดทน มคี วามเพยี ร ใช้สติปญั ญาในการดาเนนิ ชีวติ ใชส้ ตปิ ัญญาในการดาเนนิ ชีวติ กจิ กรรม ครู ผเู้ รยี น สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน หน่วยรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย หนว่ ยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย หนว่ ยรัฐธรรมนญู แหง่ - ลงมือปฏบิ ัติขอ้ มลู พันธ์พุ ชื ในโรงเรียน ราชอาณาจกั รไทย - รวบรวมพนั ธพุ์ ืชในโรงเรยี น - รวบรวมฐานขอ้ มูลโรงเรยี น ผู้เรียน ครู ส่ิงแวดล้อม หน่วยรัฐธรรมนูญแห่ง หน่วยรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย หน่วยรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย ราชอาณาจกั รไทย กระบวนการรวบรวมพันธพ์ ชื ในโรงเรยี น เสนอแนะการรวบรวมพนั ธุพ์ ืชในโรงเรียน การเลือกใช้และรวบรวมพันธุพ์ ชื ใน โรงเรียน ลงชอื่ ..................................................ผสู้ อน ( นางณิภาทิพย์ มูลแกว้ ) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง รัฐธรรมนูญ โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าท่ีพลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี 1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย ฉบบั ปัจจุบนั ใชเ้ ม่ือไร และเป็นฉบบั ที่เทา่ ไร 2. ประชาชนมีส่วนร่วมในร่างรัฐธรรมนูญ ฉบบั ปัจจุบนั อยา่ งไรบา้ ง 3. โครงสร้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย ฉบบั ปัจจุบนั ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง 4. รัฐธรรมนูญมีความสาคญั อยา่ งไร 5. หลกั การสาคญั ของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย ฉบบั ปัจจบุ นั มีอะไรบ้าง โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าที่พลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 6. ประชาชนมีแนวทางการปฏิบตั ติ นตามบทบญั ญตั ขิ องรัฐธรรมนญู ได้อย่างไร 7. สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรกบั สมาชิกวฒุ ิสภา มีจานวนแตกตา่ งกนั อยา่ งไรบ้าง 8.กอ่ นที่คณะรัฐมนตรีจะเข้าบริหารราชการแผน่ ดนิ จะต้องมีการปฏิบตั อิ ยา่ งไรตอ่ รัฐสภา 9. รัฐมนตรีต้องมีคณุ สมบตั ิอย่างไรบ้าง และไมม่ ีลกั ษณะต้องห้ามอยา่ งไร โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทีพ่ ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 10. ศาลยตุ ธิ รรม ศาลรัฐธรรมนญู ศาลปกครอง และศาลทหาร มีหน้าท่ีแตกตา่ งกนั อยา่ งไร 11. บทบาท หน้าที่สาคญั ของพรรคการเมือง มีอะไรบ้าง โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าท่พี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 12. การเลือกตงั้ มีความสาคญั อยา่ งไร 13. หลกั เกณฑ์สาคญั ที่จะทาให้การเลือกตงั้ บรรลจุ ดุ มงุ่ หมายตามหลกั ประชาธิปไตยอยา่ งแท้จริงได้แก่ อะไรบ้าง โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทีพ่ ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 14. อปุ สรรคสาคญั ที่จะทาให้การเลือกตงั้ ไมบ่ รรลเุ ปา้ หมายตามหลกั การประชาธิปไตยได้แกอ่ ะไรบ้าง 15. หน้าท่ีสาคญั ของรัฐบาล คอื อะไร 16. รัฐบาลท่ีดคี วรมีความสามารถในด้านตา่ ง ๆ อยา่ งไร 17. ประชาชนตรวจสอบการปฏิบตั หิ น้าที่ของรัฐบาลได้อย่างไร โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าที่พลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 18. ประชาชนอาจตรวจสอบหรือแสดงปฏิกิริยาตอ่ การปฏิบตั หิ น้าที่ของรัฐบาลด้วยการร้องเรียนโดยตรง ได้อยา่ งไร 19. การจดั ตงั้ รัฐบาลมีวิธีการอยา่ งไร 20. การตรวจสอบทรัพย์สนิ ของผ้ดู ารงตาแหนง่ ทางการเมืองกระทาได้อยา่ งไรบ้าง โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าที่พลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ใบงำนท่ี 1.1 เร่ือง รัฐธรรมนูญ คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี ้ 1. รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย ฉบบั ปัจจบุ นั ใช้เมื่อไร และเป็นฉบบั ที่เทา่ ไร โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทพ่ี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ประกาศใชเ้ มื่อวนั ที่ 24 สิงหาคม พทุ ธศกั ราช 2550 เป็นฉบบั ที่ 18 2. ประชาชนมีสว่ นร่วมในร่างรัฐธรรมนญู ฉบบั ปัจจบุ นั อย่างไรบ้าง ประชาชนมีส่วนร่วม คือ ไดอ้ อกเสียงประชามติในการรับร่างรฐั ธรรมนูญ 3. โครงสร้างรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย ฉบบั ปัจจบุ นั ประกอบด้วยอะไรบ้าง ประกอบดว้ ย 15 หมวด 1 บทเฉพาะการ และมี 309 มาตรา 4. รัฐธรรมนญู มีความสาคญั อย่างไร 1) ยืนยนั ความเป็นเอกราชของประเทศไทย 2) รับรองความเป็นเอกรัฐของประเทศไทย 3) ยืนยนั ว่าประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย อนั มีพระมาหากษตั ริย์ทรงเป็นประมขุ 4) คมุ้ ครองศกั ด์ิศรีความเป็นประมขุ สิทธิและเสรีภาพของชาวไทย 5. หลกั การสาคญั ของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย ฉบบั ปัจจบุ นั มีอะไรบ้าง 1) การส่งเสริมและคมุ้ ครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างเต็มที่ 2) การลดการผูกขาดอานาจรัฐและการใชอ้ านาจอย่างไม่เป็นธรรม 3) การทาใหก้ ารเมืองมีความโปร่งใส มีคณุ ธรรม และจริยธรรม 4) การทาใหร้ ะบบตรวจสอบมีความเข้มแข็ง และทางานไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ 6.ประชาชนมีแนวทางการปฏิบตั ติ นตามบทบญั ญตั ขิ องรัฐธรรมนญู ได้อย่างไร 1) การเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการทางประชาธิปไตยทกุ ระดบั โดยการไปออกเสียงเลือกตง้ั ผูแ้ ทนทีด่ ีใหไ้ ปทาหนา้ ทีเ่ ป็นสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร สมาชิกวฒุ ิสภา เพือ่ ใหไ้ ดค้ นดีมีความสามารถไปเป็นตวั แทนบริหารบา้ นเมือง 2) ตรวจสอบการใช้อานาจของสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร และผบู้ ริหารทกุ ระดบั อย่างใกลช้ ิด เพือ่ ปอ้ งกนั โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทีพ่ ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ไม่ใหบ้ คุ คลดงั กล่าวใช้อานาจรัฐเพือ่ ผลประโยชน์ส่วนตวั หรือในทางทจุ ริต 3) ใหก้ าลงั ใจและสนบั สนนุ นกั การเมืองทีด่ ีและพรรคการเมืองทีด่ ี และช่วยปอ้ งกนั หรือมีส่วนร่วม ในการปอ้ งกนั คนไม่ดีใหเ้ ข้าไปปกครองหรือบริหารบา้ นเมือง 7. สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎรกบั สมาชิกวฒุ ิสภา มีจานวนแตกตา่ งกนั อยา่ งไรบ้าง สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร มีสมาชิกจากการเลือกตงั้ แบบสดั ส่วนจานวน 80 คน และแบบแบ่งเขต จานวน 400 คน รวมเป็น 480 คน ส่วนสมาชิกวฒุ ิสภามาจากการเลือกตงั้ ในแต่ละจงั หวดั จงั หวดั ละ 1 คน รวม 76 คน และมาจากการสรรหา 74 คน รวมเป็น 150 คน 8. ก่อนท่ีคณะรัฐมนตรีจะเข้าบริหารราชการแผน่ ดนิ จะต้องมีการปฏิบตั อิ ยา่ งไรตอ่ รัฐสภา แถลงนโยบายต่อรัฐสภาและชีแ้ จงการดาเนินการตามนโยบายพืน้ ฐานแห่งรัฐ โดยไม่มีการลงมติไวว้ างใจ9. รัฐมนตรีต้องมีคณุ สมบตั ิอยา่ งไรบ้าง และไมม่ ีลกั ษณะต้องห้ามอยา่ งไร 1) มีสญั ชาติไทยโดยการเกิด 2) มีอายไุ ม่ต่ากว่า 35 ปี บริบรู ณ์ 3) สาเร็จการศึกษาไม่ต่ากว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า 4) ไม่เคยตอ้ งคาพิพากษาใหจ้ าคกุ โดยไดพ้ น้ โทษมายงั ไม่ถึง 5 ปี ในวนั เลือกตง้ั เวน้ แต่ในความผิด อนั ไดก้ ระทาโดยประมาท หรือความผิดลหโุ ทษ 5) ไม่เป็นสมาชิกวฒุ ิสภา หรือเคยเป็นสมาชิกวฒุ ิสภา และสมาชิกภาพส้ินสดุ ลงแลว้ ยงั ไม่เกิน 2 ปี นบั ถึงวนั ทีไ่ ดร้ ับแต่งตงั้ เป็นรัฐมนตรี 6) ไม่มีลกั ษณะต้องหา้ มเช่นเดียวกบั การเป็นสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรตามทีร่ ฐั ธรรมนูญบญั ญตั ิไว้ 10. ศาลยตุ ธิ รรม ศาลรัฐธรรมนญู ศาลปกครอง และศาลทหาร มีหน้าท่ีแตกตา่ งกนั อย่างไร ศาลยตุ ิธรรม มีอานาจพิจารณาพิพากษาทง้ั ปวง ทงั้ คดีแพ่ง คดีอาญา เวน้ แต่คดีทีร่ ฐั ธรรมนูญหรือ กฎหมายบญั ญตั ิให้อยู่ในอานาจของศาลอื่น ศาลรัฐธรรมนญู มีหนา้ ที่วินิจฉยั กฎหมายทีม่ ีบทบญั ญตั ิขดั แยง้ ต่อบทบญั ญตั ิของรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง มีอานาจพิจารณาพิพากษาคดีพิพาทระหว่างหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทพ่ี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 รฐั วิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน องค์กรตามรฐั ธรรมนูญ หรือเจ้าหนา้ ทีข่ องรัฐกบั เอกชน หรือ ระหว่างหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรฐั รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น หรือเจ้าหนา้ ทีข่ องรัฐ ดว้ ยกนั ศาลทหาร มีอานาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญา และคดีอื่นตามทีก่ ฎหมายบญั ญตั ิ ซ่ึงผูก้ ระทาผิด เป็นผูท้ ีอ่ ย่ใู นอานาจศาลทหาร 11. บทบาท หน้าที่สาคญั ของพรรคการเมือง มีอะไรบ้าง 1) วางนโยบายในการแก้ไขปัญหาของประเทศ และแถลงนโยบายใหป้ ระชาชนทราบ 2) พิจารณาคดั เลือกผูม้ ีคณุ สมบตั ิเหมาะสม ที่จะลงสมคั รรับเลือกตงั้ ในนามของพรรค ทงั้ ในระดบั ชาติ และระดบั ทอ้ งถ่ิน 3) ดาเนินการหาเสียงเลือกตง้ั โดยพยายามเข้าถึงประชาชน รับฟังความคิดเห็นของกล่มุ ต่างๆ ในสงั คม และทาการประสานประโยชน์กบั กล่มุ ต่างๆ 4) นานโยบายของพรรคทีไ่ ดแ้ ถลงต่อประชาชนไปปฏิบตั ิอย่างจริงจัง 5) ใหก้ ารศึกษาและอบรมความรู้ทางการเมืองกบั ประชาชนโดยทวั่ ไปและสมาชิกพรรค 6) ทาหนา้ ทีใ่ นการควบคมุ การทางานของรัฐบาลใหเ้ ป็นไปตามทีแ่ ถลงไวก้ บั รฐั สภา 12. การเลือกตงั้ มีความสาคญั อยา่ งไร 1) เป็นวิธีการทีท่ าใหป้ ระชาชนไดเ้ ข้าไปมีส่วนร่วมในการปกครองตามหลกั การประชาธิปไตย 2) เป็นวิธีการทีใ่ ช้ในการเปลีย่ นอานาจทางการเมือง การปกครองทีเ่ ป็นไปอย่างสนั ติวิธี 3) ปอ้ งกนั ไม่ใหเ้ กิดการปฏิวตั ิรัฐประหาร โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทพ่ี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 4) เป็นวิธีการทีท่ าใหเ้ กิดการหมุนเวียนเปลี่ยนอานาจ เปิ ดโอกาสใหบ้ คุ คลกล่มุ อื่นไดเ้ ข้ามาใช้ อานาจในการบริ หารประเทศ 5) เป็นวิธีการสร้างความถกู ตอ้ งและชอบธรรมในการใช้อานาจทางการเมือง 13. หลกั เกณฑ์สาคญั ที่จะทาให้การเลือกตงั้ บรรลจุ ดุ มงุ่ หมายตามหลกั ประชาธิปไตยอยา่ งแท้จริงได้แก่ อะไรบ้าง 1) หลกั อิสระแห่งการเลือกตงั้ 2) หลกั การเลือกตง้ั ตามกาหนดเวลา 3) หลกั การเลือกตง้ั อย่างบริสทุ ธิ์ยตุ ิธรรม 4) หลกั การใช้สิทธิในการเลือกตงั้ อย่างเสมอภาค 5) หลกั การออกเสียงโดยทว่ั ไป 6) หลกั การลงคะแนนลบั 14. อปุ สรรคสาคญั ที่จะทาให้การเลือกตงั้ ไมบ่ รรลเุ ปา้ หมายตามหลกั การประชาธิปไตยได้แก่อะไรบ้าง 1) การใชอ้ ิทธิพลจากทางราชการเพือ่ ใหเ้ กิดประโยชน์ต่อฝ่ายตน 2) การทาลายคู่แข่งดว้ ยวิธีการทีไ่ ม่เหมาะสม 3) การใช้เงินซื้อคะแนนเสียง หรือการใหส้ ิ่งของ หรือผลประโยชน์ เพือ่ การซื้อคะแนนเสียง 15. หน้าท่ีสาคญั ของรัฐบาล คืออะไร บริหารราชการแผ่นดิน โดยกาหนดนโยบายทีเ่ กิดประโยชน์ต่อประชาชน พฒั นาประเทศ รักษา ความมน่ั คงของประเทศชาติ รกั ษาความปลอดภยั ในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทาใหเ้ กิด ความยตุ ิธรรม โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทพ่ี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 16. รัฐบาลที่ดีควรมีความสามารถในด้านตา่ ง ๆ อยา่ งไร 1) ความสามารถในการตรวจสอบความตอ้ งการของประชาชนส่วนใหญ่อย่างทวั่ ถึงและเท่าเทียมกนั 2) ความสามารถในการรับผิดชอบต่อหนา้ ที่ เมื่อรัฐบาลกาหนดนโยบายจะต้องนาไปปฏิบตั ิใหเ้ กิดผล 3) ความสามารถในการติดตามและควบคมุ ใหก้ ารนานโยบายของรฐั บาลไปปฏิบตั ิได้ผล 4) ความสามารถในการประสานงานใหห้ น่วยงานที่รับนโยบายไปทางานร่วมกนั ให้บรรลุจดุ หมาย 17. ประชาชนตรวจสอบการปฏิบตั หิ น้าท่ีของรัฐบาลได้อย่างไร ตรวจสอบโดยผ่านทางสภาผูแ้ ทนราษฎร คือ สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรจะตงั้ กระทถู้ ามคณะรัฐมนตรี หรือ รัฐมนตรีเป็นรายบคุ คลใหช้ ีแ้ จงการกระทาที่บกพร่อง หรือขดั ขอ้ งใจในการทางานของรฐั บาล หรือรัฐมนตรี หรือ หน่วยงานของรัฐ หากรฐั มนตรีหรือรัฐบาลกระทาหนา้ ทีผ่ ิดพลาดหรือไม่มีผลงาน สภาผูแ้ ทนราษฎรจะเปิ ดอภิปรายไม่ไวว้ างใจรฐั มนตรีเป็นรายคนหรือรฐั บาลทงั้ คณะก็ได้ 18. ประชาชนอาจตรวจสอบหรือแสดงปฏิกิริยาตอ่ การปฏิบตั ิหน้าท่ีของรัฐบาลด้วยการร้องเรียนโดยตรง ได้อยา่ งไร ดว้ ยการแสดงความคิดเห็นในรูปแบบการประชมุ สมั มนา การอภิปราย การเขียนบทความแสดง ความคิดเห็นผ่านสือ่ มวลชน การเดินขบวนประทว้ งอย่างสงบปราศจากอาวุธ 19. การจดั ตงั้ รัฐบาลมีวิธีการอยา่ งไร พรรคการเมืองทีไ่ ดเ้ สียงขา้ งมากอย่างเด็ดขาดหรือเกินกว่าก่ึงหน่ึงของจานวนสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร จะไดเ้ ป็นผูจ้ ดั ตง้ั รฐั บาล ถา้ ไม่มีพรรคการเมืองใดไดร้ ับเสียงขา้ งมากก็จะมีการตกลงกนั ระหว่างพรรค การเมืองทีไ่ ดร้ ับการเลือกตง้ั ว่า จะมอบใหพ้ รรคการเมืองใดเป็นแกนกลางในการจดั ตง้ั รัฐบาลผสม โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่พี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 พรรคการเมืองทีไ่ ม่ไดร้ ่วมรัฐบาลก็จะทาหนา้ ทีเ่ ป็ นพรรคฝ่ายคา้ นทาหนา้ ที่ตรวจสอบการทางานของ รัฐบาลต่อไป 20. การตรวจสอบทรัพย์สินของผ้ดู ารงตาแหนง่ ทางการเมืองกระทาได้อยา่ งไรบ้าง ผูด้ ารงตาแหน่งทางการเมือง เช่น นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร ตอ้ งยืน่ บญั ชี แสดงรายการทรพั ย์สินและหนีส้ ินของตน ค่สู มรส และบตุ รทีย่ งั ไม่บรรลนุ ิติภาวะต่อคณะกรรมการ การปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ทกุ คร้ังทีเ่ ข้าดารงตาแหน่ง หรือพน้ จากตาแหน่ง ซึ่งประธานกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ จะทาหนา้ ทีจ่ ดั ใหม้ ีการประชมุ คณะกรรมการ เพือ่ ตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของทรัพย์สินนน้ั โดยเร็ว โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่ีพลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ลาดบั ชอ่ื – สกุล ความรว่ มมือ การแสดง การรับฟงั การตัง้ ใจ การรว่ ม รวม ที่ ของผรู้ บั การ ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ ทางาน ปรบั ปรุง 20 ผลงานกล่มุ โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
ประเมนิ แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าที่พลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมิน ดีมาก = 4 ดี = 3 ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ............../.................../................ พอใช้ = 2 17 – 20 ดมี าก ปรับปรุง = 1 13 – 16 ดี 9 – 12 พอใช้ หมายเหตุ ครูอาจใช้วิธกี ารมอบหมายให้หวั หน้ากลุ่ม 5 – 8 ปรบั ปรุง เปน็ ผู้ประเมนิ หรอื ให้ตัวแทนกลุม่ ผลัดกันประเมิน หรอื ใหม้ กี ารประเมินโดยเพอื่ น โดยตัวนกั เรียนเอง แผนการจัดการเรยี ตนารมู้ทควี่2ามเหมาะสมก็ได้ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 เรอ่ื ง รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย แผนจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เร่อื ง การตรวจสอบการใช้ อานาจรฐั รายวิชา หนา้ ทีพ่ ลเมอื งฯ รหสั วิชา ส 31101 ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 น้าหนกั เวลาเรยี น 1.0 (นน./นก.) เวลาเรยี น 40 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ เวลาทใี่ ช้ในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 2 ชวั่ โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั (ความเข้าใจท่คี งทน) โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่ีพลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 การตรวจสอบการใช้อานาจรัฐนัน้ สามารถทาได้โดยประชาชนและองคก์ รอสิ ระตามบทบัญญัตขิ องรฐั ธรรมนญู 2. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวัดช้นั ปี/ผลการเรยี นร/ู้ เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 2.2 ตัวชีว้ ัด ม.4-6/4 เสนอแนวทางและมีสว่ นร่วมในการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เน้อื หาสาระหลัก : Knowledge (นกั เรียนตอ้ งรู้อะไร) นกั เรยี นสามารถอธิบายรายงานการเสนอแนวทางในการตรวจสอบการใชอ้ านาจรฐั ได้ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (นักเรยี นสามารถปฏบิ ตั ิอะไรได)้ นกั เรยี นสามารถอธิบายแนวทางการมสี ว่ นร่วมในการตรวจสอบใชอ้ านาจรัฐได้ 3.3 คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ : Attitude (นักเรยี นควรแสดงพฤติกรรมการเรยี นอะไรบา้ ง) นักเรยี นมคี วามสนใจ ใฝ่รู้ มีความรบั ผิดชอบต่องานท่ีได้รับมอบหมายตามเวลาท่ีกาหนด 4. สมรรถนะสาคัญของนักเรยี น 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 5. คณุ ลกั ษณะของวชิ า - ความรับผดิ ชอบ - กระบวนการรายบคุ คล /กลุ่ม 6. คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งม่ันในการทางาน 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : (ใหส้ อดคลอ้ ง กบั ตัวช้วี ดั /ผลการเรียนรู้ ในแผนการเรยี นรู้นี้ ) - ประเมนิ รายงานการเสนอแนวทางและการมีสว่ นร่วมในการตรวจสอบการใชอ้ านาจรัฐ ภาระงาน – ให้นักเรยี นศึกษาความรู้ จากหนงั สือเรยี น 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ใชเ้ วลา 2 ชว่ั โมง ช่วั โมงท่ี 1 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝ่เรยี นรู้ / เทคนคิ การสบื ค้น) - ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น/ขั้นตงั้ คาถาม ครูให้นักเรยี นเลา่ ประสบการณ์ของนกั เรียนท่ีเคยมีความประทับใจในเร่ืองเกยี่ วกบั การตรวจสอบ การใชอ้ านาจรฐั - ข้นั สอน ครูนาข่าวการทางานขององค์กรตา่ ง ๆ ท่ีแสดงถึงการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐมาเลา่ ให้นกั เรียนฟัง เชน่ - คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ - ผ้ตู รวจการแผน่ ดนิ โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าท่ีพลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 - คณะกรรมการตรวจเงินแผน่ ดนิ - คณะกรรมการการเลือกตงั้ ให้นกั เรียนช่วยกนั สรุปความจาเป็นหรือความสาคญั ของการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 5-6 คน ตามความสมคั รใจ ให้แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาความรู้จากหนงั สือ รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2550 เร่ือง การตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ ในหวั ข้อ ตอ่ ไปนี ้ - การตรวจสอบทรัพย์สนิ - การกระทาที่เป็นการขดั กนั แหง่ ผลประโยชน์ - การถอดถอนจากตาแหนง่ - การดาเนนิ คดีอาญาผ้ดู ารงตาแหนง่ ทางการเมือง นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั สรุปประเดน็ สาคญั ของการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐตามหวั ข้อที่ศกึ ษา และตวั แทนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอผลงานตอ่ ชนั้ เรียนกลมุ่ ละ 1 หวั ข้อ ครูมอบหมายให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ สืบค้นข้อมลู ความรู้และตวั อยา่ งการกระทาท่ีแสดงถงึ แนวทางการ ตรวจสอบ การใช้อานาจรัฐและการมีสว่ นร่วมในการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ เขียนรายงานตอ่ ครู ผ้สู อนในหวั ข้อ แนวทางและการมีสว่ นร่วมในการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ ในประเดน็ ตอ่ ไปนี ้ 1) แนวทางการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐโดยประชาชน 2) แนวทางการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐโดยองค์กรอสิ ระ 3) การเสนอตวั อยา่ งแนวทางการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ 4) การมีสว่ นร่วมในการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ วางแผนการนาเสนอผลงานตอ่ ชนั้ เรียนด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย เชน่ - การรายงาน - การอภิปราย - การแสดงบทบาทสมมตุ ิ - การถามตอบ - การจดั ทาสถานการณ์จาลอง - การแสดงละคร ขน้ั สรุป ครูและนักเรยี นแต่ละกล่มุ ร่วมกันสรปุ และวิเคราะหผ์ ลงานทีไ่ ด้จดั ทารายงาน แนวทางและการมสี ่วนร่วมในการ โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233