แผนการจัดกิจกรรมเตรยี มลูกเสอื สาํ รอง ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 1 หนว ยท่ี 1 เตรยี มลกู เสือสาํ รอง แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 7 การทาํ ความเคารพเปน รายบุคคลและการจบั มอื ซาย เวลา 1 ชว่ั โมง 1. จุดประสงคการเรยี นร:ู 1.1 ลูกเสอื แสดงความเคารพเปนรายบคุ คลได 1.2 ลกู เสอื เลา ประวตั กิ ารจับมอื ซา ยได 1.3 ลกู เสือแสดงวิธีการจับมอื แบบลกู เสือได 2. เน้ือหา 2.1 การทาํ ความเคารพเปนรายบุคคล 2.2 ประวัตกิ ารจบั มือซา ย และวธิ กี ารจับมอื แบบลูกเสอื 3. ส่อื การเรียนรู 3.1 แผนภูมเิ พลง, เกม 3.2ใบความรู เรอ่ื ง การทาํ ความเคารพเปน รายบคุ คลและการจบั มอื ซาย 3.3เรอ่ื งทเ่ี ปนประโยชน 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปด ประชุมกอง (แกรนดฮาวล ชักธง สวดมนต สงบน่ิง ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรือเกม 4.3กจิ กรรมตามจุดประสงคการเรยี นรู 1) ผกู ํากับลูกเสอื อธบิ ายและสาธติ การทาํ ความเคารพแบบลกู เสือสาํ รองเปนรายบคุ คลให ลกู เสือสํารองฝกทาํ ความเคารพเปนรายบคุ คลท้งั แบบสวมหมวกและไมส วมหมวก 2) ผกู าํ กับลกู เสือสนทนาเก่ยี วกบั การแสดงความเปน มติ รตอ กัน โดยการจับมือ 3) ผูกาํ กับลกู เสือเลาประวัตกิ ารจับมอื ซา ยใหลกู เสอื ฟง 4) ผูก ํากับลกู เสือสาธติ การจบั มือซาย พรอ มแสดงความเคารพเปนรายบุคคล แลวให ลูกเสอื ปฏบิ ตั ติ าม 5) ใหล กู เสอื สาํ รองฝกการทําความเคารพเปน รายบคุ คลและการจบั มือซาย 4.4ผูกํากบั ลูกเสอื เลา เร่อื งทเี่ ปนประโยชน 4.5พธิ ีปดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ แกรนดฮ าวส ชักธงเลกิ ) 5. การประเมนิ ผล 5.1 สังเกตความสนใจและการมสี วนรวมในหมู 5.2 สอบถามความเขา ใจในความเปน มาหรอื ประวตั ิการจับมอื ซาย 5.3 ตรวจสอบความถูกตองของลูกเสือสํารองทีแ่ สดงวธิ ีทาํ ความเคารพเปน รายบุคคลและวธิ ี จบั มือแบบลูกเสือพรอ มทัง้ ทาํ ความเคารพเปนรายบุคคล 46 คมู อื การจัดกจิ กรรมลกู เสอื สํารองเสรมิ สรางทกั ษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 1
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 7 เพลง ลกู เสอื จับมอื ลูกเสอื เขาไมจ บั มือขวา ยืน่ ซา ยมาจับมอื กนั มั่น มือขวาใชเ คารพกัน (ซํา้ ) ยืน่ ซา ยออกมาพลันจับมือจบั มอื จับมือนัน้ หมายถึงมติ รเหมอื นญาติสนทิ ควรคิดยึดถอื ยม้ิ ดว ยเวลาจบั มือ (ซ้าํ ) เพราะพวกเราคอื ลูกเสือดว ยกัน เกม จับมอื ซา ย วธิ เี ลน 1. ผูกํากับลูกเสือใหลูกเสือจับมือเพ่ือนเพียงมือเดียว มือใดก็ไดท่ีถนัดใหครบ 10 คนใน เวลาจาํ กัด และพดู ทักเพื่อนวา “สวสั ดคี รบั หรอื สวสั ดคี ะ” แลว น่ังลง 2. ผูกํากับลูกเสืออธิบายใหลูกเสือเขาใจวาจะใหลูกเสือว่ิงจับมือซายเพื่อนมากท่ีสุด โดยผู กํากับลูกเสือใชสัญญาณนกหวีดเพ่ือเร่ิมและหยุดในแตละรอบ วาใครจับมือเพื่อนไดมาก ท่สี ุด เปน ผชู นะ ใบความรู การทาํ ความเคารพเปน รายบคุ คลและการจับมอื ซาย การทาํ ความเคารพ การทําความเคารพเปนเคร่ืองหมายแสดงถึงความเปนผูมีมารยาท สุภาพเรียบรอย การทํา ความเคารพของลูกเสือสํารองแบงออกเปน 2 อยางคือ การทําความเคารพเปนรายบุคคล (วนั ทยหัตถ) และการทาํ ความเคารพเปนหมู (แกรนดฮาวล) การทาํ ความเคารพเปนรายบคุ คล 1. เปน รหัสระหวา งลูกเสือสํารองกบั ผูก าํ กับลูกเสือและบคุ คลทวั่ ไป และไดยึดเปน แนว ปฏิบตั ใิ นวงการลูกเสอื สาํ รองทัว่ โลก 2. นวิ้ สองน้วิ เมอ่ื แสดงความเคารพหมายถงึ หูสองหูของหมาปา เพราะลกู เสอื สํารองมีฉายา วา ลูกหมาปา 3. นิว้ สองน้วิ เปน เครอ่ื งหมายราํ ลกึ ถงึ กฎของลูกเสอื สาํ รอง 2 ขอ คอื ขอ 1 ลกู เสือสํารองทาํ ตามลกู เสอื รนุ พี่ ขอ 2 ลูกเสือสาํ รองไมทาํ ตามใจตนเอง คูมอื การจดั กจิ กรรมลูกเสือสาํ รองเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ 1 47
วธิ ีปฏบิ ตั ิ ลูกเสือสํารองจะสวมหมวกหรือไมก็ตาม เวลาทําวันทยหัตถใหทํา 2 นิ้ว คือ ยกมือขวาข้ึนแยกนิ้วช้ี กับน้ิวกลางออกเหยียดตรง เก็บน้ิวนางและนิ้วกอย โดยใชน้ิวหัวแมมือกดไวในฝามือ เอาน้ิวช้ีแตะ กระบงั หมวก(ถา ไมส วมหมวกใหแ ตะทหี่ างค้วิ ขวา)เสร็จแลวลดมอื ลงโดยเรว็ ลกู เสือสํารองตอ งทําความเคารพใหถูกตอ งตามโอกาส ดงั น้ี 1. ขณะทมี่ กี ารเชิญธงขึ้น เชิญธงลง หรือเชญิ ธงผา น ไดแ ก ธงชาติ ธงลูกเสอื ประจําจงั หวัด ธง เฉลิมพล ธงมหาราช เปน ตน 2. ขณะท่ีมีการรองหรอื บรรเลงเพลงชาติ เพลงสรรเสรญิ พระบารมี เพลงมหาฤกษ เพลง มหาชยั และเพลงสรรเสรญิ เสือปา 3. ตอพระบาทสมเด็จพระเจาอยหู วั สมเดจ็ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมวงศานวุ งศ พระบรมฉายา ลกั ษณ หรือพระบรมรูปในพิธตี า งๆ 4. ตอ เพ่ือนลกู เสือ เมอ่ื พบกนั ครงั้ แรกในวันหนงึ่ ๆ 5. ตอ บุคคลท่คี วรเคารพ เชน นายกรฐั มนตรี ผูวา ราชการ ครู อาจารย และผใู หญท ั่วไป การจบั มือซา ย การจับมือกัน เปนการทักทายอยางหนึ่งของคนทั่วไปซึ่งจะจับมือทักทายดวยมือขวา แตวิธีการจับมือของลูกเสือจะแตกตางจากคนท่ัวไป การจับมือของลูกเสือหรือเนตรนารีนั้นจะจับมือ ดว ยมอื ซา ย วิธีการจับมือ ใหลูกเสือสํารองเนตรนารีสํารองยื่นมือซายออกมาจับมือซายของอีกฝาย หนึ่ง พรอ มแสดงกิรยิ าย้มิ แยม แจม ใส ประวตั กิ ารจบั มอื ซายของลูกเสือ สมัยกอนประเทศอังกฤษไดสงทหารไปประจําอยูในทวีปแอฟริกา ไดทําสงครามกับคน พ้นื เมอื งเผาตาง ๆ หลายครัง้ ในการทาํ สงครามกบั เผาซลู ู ซึง่ มี ดินิส ซูลู เปนหัวหนาเผาท่ีกลาหาญ มาก ทหารอังกฤษตอ งแพส งครามกบั เผาซลู หู ลายครัง้ และไมส ามารถจบั หัวหนา เผาได บี – พี ซึ่งเปนหัวหนาทหารอังกฤษ เห็นวาไมสามารถที่จะสูรบใหไดชัยชนะ จึงขอพบ กบั ดนิ ิส ซลู ู และตกลงสงบศกึ กัน บี – พี จึงกลาวกับคนเผาซูลูตอหนาทหารท้ังหลายวา “นับแตนี้ ตอไปทหารซูลูกับทหารอังกฤษ เผาซูลูและอังกฤษจะเลิกรบกัน มาเปนมิตรกันเถอะ” กลาวจบ บี – พี ไดย่ืนมือขวาใหหัวหนาเผาซูลูจับ เพื่อแสดงความเปนมิตรเชนท่ีเคยปฏิบัติมา แตดินิส ซูลู หวั หนาเผาไมยอมจับมอื ขวา กลบั ยื่นมอื ซายออกมาแทนแลวกลาวกับ บี – พี วา “มือขวาเปนมือที่ สกปรก เปนมือที่ชั่วราย จับอาวุธฆาคนมามาก ไมควรใชจับกันแสดงความเปนมิตร ควร จับมือแสดงความเปนมิตรดวยมือซาย ซึ่งเปนมือท่ีสะอาด” บี.พี. เห็นดวย จึงยื่นมือซาย ออกไปสมั ผสั กบั ดนิ ิส ซลู ู 48 คูมือการจัดกจิ กรรมลูกเสอื สํารองเสริมสรา งทกั ษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ี่ 1
เมื่อดินิส ซูลู เห็นวา บี. พี. จับมือกับตนดวยมือซายแสดงความเปนมิตรก็พอใจจึงมอบ พวงมาลัยกระดูกให ซง่ึ ประกอบดว ยกระดกู ประมาณ 54 ชน้ิ (หนังสอื บางเลม บอกวามากกวา 100 ชิน้ ) ต้ังแตนั้นเปนตนมา บี.พี. ไดกําหนดใหลูกเสือทุกคนทักทายกันดวยการจับมือซาย เพ่ือ แสดงความเปนมิตรและถือวา เปน พวกเดียวกัน หนงั สือบางเลม กลาววา การทหี่ วั หนาเผา ซูลจู บั มอื กันดวยมอื ซาย เปนเพราะ 1. เพื่อเปนการไมประมาท เพราะมือขวาถืออาวุธอยูหากจับมือดวยมือขวาก็ตองวางอาวุธ อาจเกิดอันตราย หรือปอ งกันตนเองไมท ัน หากอกี ฝายจะทําราย 2. เพื่อความรอบคอบ ระวังเตรียมตัวอยูตลอดเวลา ซ่ึงเปนคุณสมบัติอยางหน่ึงของลูกเสือ จงึ จบั มอื ดวยมือซา ย เรอื่ งที่เปนประโยชน อ่ึงอางและววั ลูกอ่ึงอางตัวหนึ่งเพิ่งเคยเห็นวัวเปนคร้ังแรกจึงกลับมาบอกพอวา \"ฉันไปเจอสัตวประหลาด นากลัวเขาตัวหนง่ึ รา งมันสูงใหญอยา งกับภูเขามีเขาบนหัว หางยาว และกีบเทาของมันแยกออกเปน สองกบี \" พออ่ึงอางตอบวา \"นั่นเขาเรียกวาวัวแลวตัวมันก็ไมไดโตมากมายขนาดน้ัน สูงกวาพอแคนิด เดยี วพอ สามารถทาํ ตัวเองใหใหญก วา นีไ้ ดสบายๆ เลย ดสู ลิ กู ” พออึ่งอางจึงพองตัวของมันใหใหญขึ้น ใหญข้ึน เม่ือถามลูกวา\"ใหญเทาน้ีใชใหม?\" ลูกก็จะ ตอบวา\"โอโห ใหญกวานี้เยอะเลยพอ\"ทุกครั้ง ดังน้ันพออ่ึงอางจึงสูดหายใจเขาลึกๆ และพองตัวมาก ขึ้นและมากขึ้นตัวของมันบวมเปงข้ึนมาเร่ือยๆ แลวมันก็พูดวา \"พอแนใจวาเจาวัวนะ มันไมใหญเทา ... \"พูดยงั ไมท นั จบ ในวินาทีนั้นเองตัวพอ อึง่ อางกร็ ะเบดิ ออก เร่ืองนีส้ อนใหรูวา การหลอกตวั เองยอ มนําไปสกู ารทาํ ลายตนเอง คูม อื การจัดกิจกรรมลกู เสือสํารองเสริมสรา งทกั ษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 1 49
แผนการจัดกิจกรรมเตรยี มลกู เสอื สาํ รอง ช้ันประถมศึกษาปท่ี 1 หนวยท่ี 1 เตรียมลกู เสือสาํ รอง แผนการจัดกจิ กรรมที่ 8 คาํ ปฏิญาณและกฎของลกู เสอื สํารอง เวลา 1 ช่ัวโมง 1. จดุ ประสงคการเรยี นรู ลกู เสอื วิเคราะหและปฏบิ ตั ติ าม การกระทาํ ที่เปนการปฏิบตั ติ ามคําปฏิญาณ กฎ และคตพิ จน ของลูกเสอื สาํ รอง 2. เนื้อหา คําปฏิญาณ กฎ และคติพจนของลกู เสือสาํ รอง 3. ส่อื การเรียนรู 3.1 แผนภูมเิ พลง 3.2 ใบความรแู ละแผนภมู ิ เรื่อง คําปฏญิ าณ กฎและคติพจนล กู เสอื สํารอง 3.3 เร่อื งท่เี ปนประโยชน 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปดประชุมกอง (แกรนดฮาวล ชักธง สวดมนต สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรอื เกม 4.3 กิจกรรมตามจดุ ประสงคก ารเรียนรู 1) ลกู เสอื รอ งเพลงตะลงุ ลกู เสือสํารองแลวแปลความหมายของเพลง “ลกู เสือสาํ รอง ตองทาํ หนาที่ จงรักภกั ดตี อชาตศิ าสนา ท้งั องคก ษตั รยิ รักยง่ิ ชวี า เราตอง รกั ษา หนาทขี่ องตน ยดึ มน่ั ในกฎ(ชํา้ ) เพือ่ ความรุง โรจน (ซ้ํา) บําเพ็ญประโยชน (ซํา้ ) ทาํ ตามรนุ พี่ (ซ้ํา) ไมตามใจตน (ซํา้ ) ลกู เสอื ทกุ คน ทาํ ดีทีส่ ุด (ซ้าํ )” 2) ลูกเสอื รวมกนั วเิ คราะหวา เพลงนบ้ี อกวาใหลูกเสือสํารองทาํ หนาที่อยางไรบา ง? 1) จงรกั ภกั ดีตอ ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ 2) ยดึ มั่นในกฎของลกู เสือสาํ รองและบําเพ็ญประโยชนต อ ผอู น่ื 3) ทาํ ตามลกู เสอื รุนพี่ ไมท าํ ตามใจตนเอง 4) คติพจนข องลกู เสอื สํารอง “ทําดีที่สดุ ” 3) ผกู ํากับลูกเสืออธบิ ายความหมายของคําปฏิญาณ กฏ และคติพจน ลูกเสือสํารอง และ ช้ีแจงใหลกู เสอื ทราบวา ผทู เ่ี ปน ลกู เสอื สํารองจะไดประดับดาวดวงท่ี 1 เม่อื ไดปฏิบตั ติ ามคําปฏิญาณ กฎ และคตพิ จนของลกู เสือสํารอง 4) ผูกาํ กบั ลูกเสอื ชวนคดิ ชวนคุยใหล กู เสือประเมนิ ตนเอง (1)ลูกเสือ ทาํ อะไรบา งท่แี สดงวามคี วามจงรกั ภักดีตอชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย (ตอชาติ = รองเพลงชาติ ยนื ตรงเคารพธงชาติ ไปรว มงานประเพณี ตอศาสนา = สวดมนต ไหวพ ระ ไปทาํ บุญ 50 คมู อื การจัดกิจกรรมลกู เสอื สํารองเสรมิ สรา งทักษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 1
ตอพระมหากษัตรยิ = เคารพภาพพระบรมฉายาสาทศิ ลักษณ ติดไวท ่ีเหมาะสม - ถวายราชสดดุ ี ไปรวมพิธสี วนสนาม - ไปรว มงานทถ่ี วายความจงรักภกั ดีทโ่ี รงเรียนจดั ขน้ึ ) (2) ลูกเสอื ผูใดไดรวมปฏบิ ตั ิความจงรักภกั ดบี าง ยกมอื ขนึ้ ปฏบิ ตั ทิ ไ่ี หน อยา งไร เลาสูกนั ฟง (3) ลูกเสอื คนไหนบางทที่ าํ ตามลูกเสือรุนพี่ (นายหมู) หรือเช่อื ฟงนายหมู เช่ือฟงผู กํากบั ลูกเสอื เชอ่ื ฟงพอแม ลกู เสือท่ไี มทําตามคาํ ส่งั นายหมู เพราะอะไรผูกาํ กบั ลูกเสือสรปุ ถึงคําส่ังท่ี ถกู ตอง และไมถ กู ตองใหล กู เสอื ฉกุ ใจคดิ (4) ลูกเสอื คนไหนบางระงับอารมณต นเองได ไมทาํ สงิ่ ท่ที าํ ใหผอู นื่ เดือดรอน คอื ไม ทาํ ตามใจตนเอง 5) ผูกาํ กับลกู เสือชืน่ ชมการทําดีทส่ี ดุ ตามคําปฏิญาณ กฎ และคติพจนข องลูกเสอื สาํ รอง 6) ลกู เสอื รอ งเพลงเพอื่ การจดจาํ คาํ ปฏญิ าณ กฎ และคติพจนลูกเสือสาํ รอง 4.4ผกู ํากบั ลูกเสือเลา เรอื่ งทเี่ ปนประโยชน 4.5พิธปี ด ประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจเครื่องแบบแกรนดฮ าวล ชักธง เลิก) 5. การประเมินผล 5.1 สังเกตการมสี ว นรว มในกจิ กรรมหมแู ละการตอบคาํ ถามชวนคิด 5.2 สงั เกตความเขาใจและความสามารถในการบอกการกระทําท่ีแสดงถึงการปฏบิ ัตติ ามคํา ปฏญิ าณและกฎลูกเสอื สาํ รอง คมู ือการจดั กจิ กรรมลูกเสอื สาํ รองเสริมสรางทกั ษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ี่ 1 51
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมที่ 8 เพลง ตะลงุ ลกู เสอื สํารอง ลกู เสอื สาํ รอง ตองทําหนาที่ จงรักภกั ดีตอ ชาตศิ าสนา ทัง้ องคก ษัตรยิ รกั ย่งิ ชีวา เราตอ งรกั ษาหนาท่ีของตน ยึดมน่ั ในกฎ (ซ้ํา) เพ่อื ความรุง โรจน (ซํา้ ) บาํ เพญ็ ประโยชน (ซาํ้ ) แกเ หลาปวงชน (ซา้ํ ) ทําตามรนุ พ่ี (ซ้ํา) ไมตามใจตน (ซ้ํา) ลกู เสือทกุ คน ทาํ ดที ีส่ ุด (ซ้าํ ) กฎลกู เสือสาํ รอง ไหน ไหน ไหนเธอวาเปน ลกู เสือ ฉนั ยงั ไมเ ชอื่ เธอคอื ลูกเสือสาํ รอง ฉนั จาํ กฎได ไหนทองใหฉนั ฟง ลอง บอกพไ่ี ดไหมนอ ง สาํ รองกฎวาอยางไร ลกู เสือสาํ รอง ทาํ ตามลูกเสอื รุนพี่ ลกู เสือสาํ รอง ไมทําตามใจตนเอง กฎลูกเสอื สํารอง กฎ กฎ กฎ คอื ขอกาํ หนดใหเรากระทํา ลกู เสอื สํารองตอ งทํา ขอ 1 ทําตามลกู เสือรุนพี่ ขอ 2 ลกู เสือท่ดี ี ตอ งไมทาํ ตามใจตนเอง (หมายเหตุ: เนตรนารีสาํ รองรอ ง เปลี่ยนคาํ วา “ลูกเสอื ” เปน “เนตรนาร”ี ) คาํ ปฏิญาณลูกเสอื สํารอง ขา จะจงรกั ภกั ดีตอ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ จะปฏบิ ตั ยิ ดึ ม่ันในกฎ และบาํ เพ็ญประโยชน ตอ ผูอน่ื ทุกวัน น่ีคอื คําปฏญิ าณ ของลูกเสอื สาํ รอง (หมายเหตุ: เนตรนารสี าํ รอง เปลย่ี นคาํ วา “ขา ” เปน “ขา พเจา ”“ลูกเสอื สํารอง” เปน “เนตรนารี สาํ รอง”) 52 คมู ือการจดั กจิ กรรมลูกเสอื สาํ รองเสริมสรา งทักษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 1
ใบความรู คาํ ปฏญิ าณ กฎ และคตพิ จนข องลกู เสอื สาํ รอง คําปฏญิ าณของลกู เสอื สํารอง คําปฏญิ าณ คอื การใหค ําม่ันสัญญาวาจะประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ ามสง่ิ ทพ่ี ดู ดวยความเตม็ ใจ ซ่ึงคํา ปฏญิ าณของลูกเสอื สาํ รอง มี 2 ขอ ดังนี้ ขอ 1 ขา จะจงรักภคั ดีตอ ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ขอ 2 ขา จะยึดมนั่ ในกฎของลูกเสอื สาํ รองและบําเพญ็ ประโยชนต อ ผูอืน่ ทกุ วัน - เนตรนารี ตอ งเปล่ียนจากคาํ วา \"ขา \" เปน \"ขาพเจา\" ลกู เสอื สามารถปฏิบัติตนตามคําปฏญิ าณได ดังน้ี 1. มีความจงรกั ภักดตี อพระมหากษตั รยิ 2. ปฏบิ ตั ติ ามคําสอนของศาสนา 3. ปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย ระเบียบแบบแผน 4. รูจ กั รกั หวงแหน และปอ งกนั ชาติ 5. บําเพ็ญประโยชนตอผอู นื่ 6. ชว ยอนุรกั ษท รพั ยากรธรรมชาติ 7. ไมทําลายสาธารณสมบตั ิ กฎของลูกเสอื สาํ รอง กฎ คอื หลักเกณฑท ลี่ ูกเสือสาํ รองตอ งยดึ เปนหลกั ปฏิบตั ิอยูเสมอ ซ่ึงมอี ยู 2 ขอ ดังน้ี ขอ 1 ลูกเสอื สํารองทาํ ตามลูกเสือรนุ พี่ ขอ 2 ลูกเสอื สาํ รองไมทาํ ตามใจตนเอง ลกู เสอื สามารถปฏิบตั ติ นตามกฎได ดังน้ี 1. เคารพเชือ่ ฟง ผกู าํ กับลูกเสอื ตลอดจนผใู หญท น่ี บั ถอื 2. เปนผูตามท่ีดี รจู ักบงั คบั ใจตนเอง มรี ะเบยี บวินัย คตพิ จนของลูกเสือสาํ รอง คติพจน คือ คาํ พูด หรอื ขอ ความท่ีเปน คติสอนใจใหยึดถือปฏบิ ตั ิ เพ่ือประโยชนข องตนเองและ สวนรวม ซึ่งมีอยูว า ทาํ ดที ีส่ ุด ลูกเสือ สามารถปฏบิ ตั ิตนตามคําคติพจนไ ด ดงั น้ี 1. เตรียมพรอ มท่ีจะใหค วามรวมมอื ชว ยเหลือผูอ น่ื 2. ทําแตสิง่ ทดี่ ีเปนประโยชน แมจ ะเปนเพียงสง่ิ เล็กนอย ถาทาํ อยางสมํ่าเสมอ กถ็ ือไดว า เปน การปฏิบตั ตามคติพจนแลว คูมอื การจดั กจิ กรรมลูกเสอื สํารองเสริมสรา งทกั ษะชวี ติ ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 1 53
เรื่องท่ีเปน ประโยชน สนุ ัขจงิ้ จอกกับแพะ สนุ ขั จิ้งจอกกบั แพะเปนเพอ่ื นกนั พวกมนั มกั จะถกเถียงกนั อยเู ร่ือยๆวาใครจะฉลาดกวากันวัน หนึ่งขณะที่พวกมันชวนกันกระโดดลงไปด่ืมนา้ํ ในบอท่ีชาวบานชวยกันสรางขึ้นมาเพื่อเก็บนํ้า แต เพราะหิวไมไดทันสังเกตวาบอนํ้านั้นลึกมากพอกินนํ้าในบอจนอิ่มแลว ตางก็พยายามหาทางขึ้น จากบอแตก็จนปญญา สุนัขจิ้งจอกที่ฉลาดและเจาเลหกวาจึงออกอุบายใหแพะยืนเอาขาหนาทั้งสองเกาะกําแพงบอไว แลวยืดตัวใหเต็มที่เพื่อผลัดกันปนขึ้นไป สุนัขจ้ิงจอกใชโอกาสนั้นเหยียบตัวแพะและกระโดดข้ึนไป กอ น แลว มนั จึงหันมาพดู เยาะเยย แพะวา “ถา เจาฉลาดอยางทเี่ จา วา เจาก็หาทางปนข้ึนมาจากบอเอา เองเถดิ ขาไปกอนละ” เรอื่ งนี้สอนใหร ูวา ผูท่ีมีปฏิภาณ ไหวพรบิ และความฉลาดอยใู นตัวยอมเอาตวั รอดไดเ สมอ ที่มา นทิ านอสี ป เลม 1.กรงุ เทพฯ:ทิพยวสิ ุทธิ.์ 2543,หนา 29. 54 คูมอื การจัดกิจกรรมลกู เสอื สาํ รองเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 1
แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสือสํารอง ดาวดวงที่ 1ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 1 หนวยที่ 2 อนามยั แผนการจดั กจิ กรรมที่ 9 รูท ันปอ งกันโรค เวลา 2 ช่วั โมง 1. จดุ ประสงคก ารเรียนร:ู 1.1 ลกู เสือรูจักโรคติดตอซงึ่ เปนโรคใกลต ัวทเี่ กดิ ข้ึนไดกับทุกคนและวธิ ปี องกัน 1.2 ลูกเสอื รจู กั วธิ ีรกั ษาฟน มอื เทา เล็บเสอื้ ผา และของใชส ว นตวั ใหส ะอาดอยูเสมอ 1.3 ลูกเสอื รูวธิ ีหายใจอยา งถกู วิธี 2. เน้ือหา: 2.1 โรคตดิ ตอทเี่ ปนโรคใกลต ัว และวธิ กี ารปอ งกัน 2.2 วธิ รี ักษาฟน มอื เทา เลบ็ เสอ้ื ผา และของใชส ว นตวั ใหส ะอาดอยูเสมอ 2.3 วธิ ีหายใจอยา งถกู วิธี 3. ส่อื การเรียนรู 3.1 แผนภูมเิ พลง 3.2 อุปกรณปองกนั โรค เชน ผาปด ปากจมูก ถงุ มอื ยาง ความรู 3.3 ใบความรู 1) เรอื่ ง โรคติดตอ ที่เปนโรคใกลต ัว 2) เร่ือง สุขบัญญตั ิแหงชาติ 10 ประการ 3) เร่อื ง การหายใจอยา งถกู วิธี 3.4 เรื่องทเ่ี ปน ประโยชน 4. กจิ กรรม 4.1 กจิ กรรมครง้ั ท่ี 1 1) พิธเี ปดประชุมกอง (แกรนดฮาวล ชกั ธง สวดมนต สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 2) เพลงหรือเกม 3) กจิ กรรมตามจุดประสงคการเรยี นรู (1) ผกู าํ กบั ลกู เสือชวนคิดชวนคยุ และสรา งความตระหนัก - ลกู เสือเคยปวยเปน โรคตดิ ตออะไรบาง - คดิ วาโรคเหลานัน้ สามารถปองกนั ไดอยา งไร (2) ผกู ํากับลกู เสอื จัดกจิ กรรมเปน ฐานการเรยี น 3 ฐาน โดยแบงลกู เสอื ออกเปน 3 กลมุ ฐานที่ 1 โรคไขหวดั ใหญ ฐานท่ี 2 โรคอุจจาระรวง ฐานที่ 3 โรคตาแดง (3) รวมกอง ผูกาํ กับลกู เสอื สุมถามลกู เสือวา ไดความรูอะไรบางในแตละฐาน คูมือการจดั กจิ กรรมลูกเสอื สาํ รองเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 1 55
(4) ผูกํากับลกู เสอื ชว ยเพ่ิมเติมใหสมบรู ณและสรุป ( ไมอยูในที่แออัดอากาศไมถายเท, หลีกเล่ียงการอยูใกลชิดกับผูปวย ถาเล่ียงไมได ตองใชผาปดปาก ปดจมูกปองกัน, ลางมือ ใชชอนกลาง รับประทานอาหารสุก ไมมีแมลงวัน ตอม, หากตัวเราเปนผูป วยตองปอ งกันการแพรเชื้อโดยใชผาปดปากจมกู ) 4) ผกู าํ กับลูกเสือเลาเรอื่ งทเ่ี ปน ประโยชน 5) พิธปี ดประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเคร่อื งแบบ แกรนดฮ าวล ชกั ธง เลิก) 4.2 กิจกรรมครงั้ ที่ 2 1) พิธีเปดประชมุ กอง (แกรนดฮ าวล ชักธง สวดมนต สงบน่งิ ตรวจแยก) 2) เพลงหรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจุดประสงคการเรียนรู (1) ผกู ํากับลกู เสอื ชวนคดิ ชวนคยุ และสรางความตระหนัก - ลกู เสอื คดิ วาการรักษาฟน มอื เทา เล็บ เสอ้ื ผา และของใชสวนตวั ใหส ะอาด มี ความสําคัญอยา งไร - มใี ครรูจ ักวธิ หี ายใจอยา งถกู วธิ บี า ง (2) ผูก ํากบั ลกู เสือจัดกจิ กรรมเปน ฐานการเรียน 3 ฐาน โดยแบงลกู เสอื ออกเปน 3 กลมุ ฐานที่ 1 การดูแลรกั ษาฟน ฐานที่ 2 การรกั ษามือ เทา เล็บ เสอื้ ผา และของใชส ว นตวั ใหส ะอาด ฐานท่ี 3 การหายใจอยา งถกู วิธี (3) รวมกอง ผูก าํ กบั ลกู เสอื สมุ ถามลูกเสอื วาไดค วามรูอะไรบา งในแตละฐาน (4) ผกู ํากบั ลกู เสอื ชว ยเพ่ิมเติมใหสมบรู ณและสรุป 4) ผกู าํ กับลูกเสอื เลาเรื่องทเี่ ปนประโยชน 5) พิธปี ดประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเครือ่ งแบบ แกรนดฮาวล ชกั ธง เลิก) 5. การประเมนิ ผล สงั เกตการตอบคาํ ถามของลกู เสอื วา มีความเขาใจถูกตองเพียงใด และคาํ ตอบทไี่ ดเ กิดจาก การคดิ บนพื้นฐานขอ มลู และความรูท่ีเปน จริง 6. องคประกอบทักษะสาํ คญั ท่ีเกดิ จากกิจกรรม คือ การคิดวเิ คราะห และเกดิ ความตระหนกั รถู ึงความสําคัญของการรกั ษาความสะอาด การดแู ลสขุ ภาพและการปอ งกันโรค 56 คมู อื การจดั กจิ กรรมลูกเสือสาํ รองเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ติ ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 1
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมท่ี 9 เพลง กายบริหาร กาํ มอื ข้นึ แลวหมนุ หมนุ ชูมอื ขึ้นแลว โบกไปมา (ซํ้า) กางแขนขน้ึ และลง พับแขนมือแตะไหล กางแขนข้ึนและลง ชมู อื ตรงหมุนไปรอบตวั ออกกาํ ลัง ออกกําลัง ดว ยการรองราํ ทําเพลง ใหครน้ื เครง เสียงเพลงบรรเลงจบั ใจ ราํ รองกนั ไป ไมมหี มน หมองฤทยั แลว เราเพลนิ ใจ ดว ยการรอ งราํ ทาํ เพลง คมู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสาํ รองเสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 1 57
ใบความรู โรคตดิ ตอทเ่ี ปนโรคใกลตวั โรคไขห วัดใหญ ไขห วัดใหญเปนโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจท่ีเกิดขึ้น เปนประจําทุกปสาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสไขหวัดใหญในประเทศ ไทยมักมกี ารระบาดในชว งกลางป เช้ือไขหวัดใหญอยูในน้ํามูกเสมหะของผูปวย ติดตอโดย การไอจามรดกัน หรือติดตอผานมือที่เปอนนํ้ามูกหรือเสมหะ ของผูปวยจากแหลงตาง ๆ เชน ผาเช็ดหนา แกวนํ้า ราวบันได ลูกบิดประตูแลวใชมือมาสัมผัส บริเวณใบหนาเชอ้ื จงึ เขาสจู มูกและปาก หลังรับเชื้อประมาณ 1-3 วันจะมีไขสูง หนาวสั่น ปวดศีรษะปวดเมื่อยกลามเน้ือ เจ็บคอ น้ํามูกไหลไอแหงๆ คลายไขหวัดธรรมดาแตอาการรุนแรงกวา และอาจมีโรคแทรกซอน เชน หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบซง่ึ อาจทําใหเ สยี ชีวติ ไดใ นผูส งู อายแุ ละเด็กเลก็ ๆ โดยทั่วไปอาการมักดีขึ้นใน 3-5 วันหลังเริ่มมีอาการปวย และหายเปนปกติใน 7-10 วัน เช้ือไขห วัดใหญ 2009 เปน เชื้อชนดิ สายพันธุ เอ จดั ไดวาเปน “โรคติดตออบุ ัตใิ หม” เพราะเขาเง่ือนไข ที่วาเปนโรคติดตอที่เกิดจากเช้ือตัวใหมอันเนื่องมาจากการกลายพันธุของไวรัสจนเกิดเปนไวรัสสาย พันธุใหมท่ีมีสารพันธุกรรมผสมกันของเช้ือไขหวัดใหญของหมู นก และคน จึงทําใหมีการระบาด อยางรวดเรว็ เพราะคนสวนใหญย งั ไมมีภูมิคุมกัน การปองกัน 1. รักษาสุขภาพใหแข็งแรงอยูเสมอโดยการออกกําลังกายเปนประจํา พักผอนใหเพียงพอ รับประทานอาหารท่ีมีประโยชน โดยเฉพาะผัก และผลไมเพื่อใหรางกายไดรับสารอาหารและวิตามิน เพยี งพอและสรา งภูมิตา นทานโรคไดดี 2. หลกี เลี่ยงการคลกุ คลีใกลช ดิ หรอื ใชข องใชสวนตวั รว มกับผูอื่นโดยเฉพาะผมู อี าการไขหวัด 3. รักษารางกายใหอบอนุ ในชวงอากาศหนาวเยน็ 4. หากมอี าการปวยเปนไขห วดั หรอื ไขหวัดใหญควรระมัดระวังไมแ พรเ ชือ้ ใหผอู ่นื โดยการ ปดปากและจมกู ดวยผาเชด็ หนา ขณะไอ จามและหมั่นลา งมือบอยๆ 5.ฉดี วคั ซีนปอ งกันไขห วัดใหญท กุ ป โดยเฉพาะเด็ก และผูส งู อายุซึ่งมีแนวโนมเกิดโรคแทรก ซอนไดงาย โรคทองรวง ทองรวง คือ การถา ยอุจจาระท่มี ีจํานวนมากกวาปกตติ ง้ั แต 3 คร้งั ข้ึนไปใน 1 วนั หรือถาย เปน นํา้ จาํ นวนมาก หรือเปนมูกเลอื ด แมเพยี ง 1 ครั้งตอ วัน 58 คูม ือการจดั กิจกรรมลูกเสอื สํารองเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 1
สาเหตุของโรค แบง ไดเ ปน 2 ชนิด คือ 1. ทองรวงจากการติดเชื้อท้ังจากเช้ือไวรัสและเชื้อแบคทีเรียมีอาการและลักษณะอุจจาระท่ี แตกตางกันไดแก อหิวาตกโรค จะมีอุจจาระคลายน้ําซาวขาว ผูปวยจะอาเจียนออนเพลีย และมี อาการซึม สวนทองรวงจากเช้ือบิดมักจะมีอุจจาระเปนมูกเลือดรวมกับ อาการอาเจียน ไขสูงและ ออ นเพลยี 2. ทองรวงชนิดไมมีการติดเช้ือท่ีพบบอยเกิดจากการขาดน้ํายอยแลคเตส ที่ทําการยอย นํ้าตาลในนมจากการศึกษาพบวา 80-90 เปอรเซ็นตของคนไทยขาดน้ํายอยตัวนี้ อาการมักเกิด ภายหลังจากการดื่มนมประมาณ 1 -2 ช่ัวโมง คือจะรูสึกโครกครากในทอง ปวดทองแบบปวดบิดๆ และมีอาการทอ งรว งเปนน้ํา 1-2 ครั้งแลว จงึ คอ ยหายไป การปองกนั 1. ลา งมอื ใหสะอาดดวยสบูบอ ยๆโดยเฉพาะกอนรบั ประทานอาหารและหลังจากเขาหองน้าํ 2. ลางผกั ผลไมใหส ะอาดโดยลา งผา นนา้ํ หลายๆครัง้ หรือแชในนํ้าเกลือ หรือแชในน้ําละลาย ดา งทบั ทิมหรอื นํา้ ผสมเบกกง้ิ โซดา 3. ลางภาชนะใหสะอาดทุกคร้ัง เชนเขียง มีด ชอน สอม ถวย จาน แกวน้ําและควรใชชอน กลางทุกคร้งั ในการรบั ประทานอาหารรว มกับผอู ่ืน 4. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหมๆและผานการปรุงที่ถูกตองปลอดภัยถาจําเปนตอง นาํ มารบั ประทานอีก ควรทําใหร อ นจนเดอื ดปุด ๆจึงจะปลอดภัย 5. ควรตมน้ําใหสุกทุกครั้งกอนนํามาด่ืมโดยเฉพาะนํ้าท่ีกดจากตูกดท่ัวไปเพราะอาจจะมีการ ปนเปอ นเชอื้ โรคได การรกั ษาและดแู ลผปู ว ยโรคทอ งรว ง 1. ด่ืมสารละลายน้ําตาลเกลือแรโออารเอส สูตรขององคการเภสัชกรรมหรือองคการอนามัย โลกใหจิบทีละนอยแตบอยคร้ังในปริมาณที่เทากับปริมาณอุจจาระที่ถายออกมาในแตละคร้ังเพื่อ ปองกนั การขาดนํา้ และเกลือแร สารละลายนาํ้ ตาลเกลอื แรน ้ีสามารถทาํ เองไดโ ดยผสม นา้ํ ตาลทราย 2 ชอนโตะเกลือปนครึ่งชอนชา น้ําตมสุกที่เย็นแลว 750 ซี ซี คนใหละลายและเขากันดี ใชภายใน 24 ชัว่ โมง 2. หากมอี าการผิดปกตคิ วรรบี นําสง โรงพยาบาล เชน ถายหรืออาเจยี นไมหยุด หวิ นาํ้ ตลอดเวลาหรอื ปสสาวะไมอ อกเน่ืองจากขาดนํ้ามาก หนามดื ช็อกหรอื หมดสติ มไี ข ปวดทองรุนแรง หรือเวลาถา ยจะรสู ึกปวดเบง ตลอดเวลาเน่อื งจากเปน อาการของบิด 3. ขับถายในสุขภัณฑท ถ่ี กู สุขลักษณะลา งมอื ใหสะอาดเสมอทกุ ครงั้ หลงั จากการขับถายดวย นาํ้ และสบเู นอื่ งจากอหิวาตกโรคเปนโรคท่ตี ิดตอ ไดงา ยและแพรระบาดไดอกี ดว ย 4. กาํ จดั อาเจียนของผูปว ยโดยเททง้ิ ลงโถสว ม ราดนํา้ ใหส ะอาด แลวราดตามดว ยน้ํายาฆา เช้ือโรค เชนนาํ้ ยาลา งหองนํ้าหรอื น้ํายาซักผาขาวกไ็ ด 5. สิง่ ของเคร่ืองใชของผปู วยรกั ษาใหสะอาดเสมอ ซง่ึ รวมถงึ เส้ือผา ผา ปูท่นี อนปลอกหมอน ผาเช็ดตวั ทําการซักใหส ะอาดและนาํ ออกตากแดดเพือ่ ฆาเช้ือโรคดวย คูมือการจดั กิจกรรมลูกเสือสํารองเสรมิ สรางทักษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 1 59
6. ผดู แู ลใกลช ดิ ผปู ว ยควรหมน่ั ลา งมอื ฟอกสบใู หสะอาดอยเู สมอเพ่อื เปน การปองกันเช้อื ปนเปอนจากมือสอู าหารและเกดิ การติดโรคได 7. ไมควรซอ้ื ยารับประทานเองโดยเฉพาะยาฆา เชอ้ื และยาหยดุ ถา ย เพราะอาจเกิดอนั ตรายจาก ยาได โรคตาแดง โรคตาแดง เปน การอักเสบของเย่ือบุตา มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัสแบงออกไดเปน 3 ชนิดคือ ชนิดตาอักเสบไมมาก ชนิดตาอักเสบ รุนแรง และชนิดที่มีคออักเสบรวมดวย พบได ในคนทุกเพศ ทุกวัยมักเกิดในโรงเรียน โรงพยาบาล ที่ทํางาน สถานเลี้ยงเด็กซึ่งเปน สถานท่ีที่มีผูคนอยูรวมกันเปนจํานวนมาก มัก ระบาดในชว งฤดฝู น การติดตอ 1. การคลกุ คลีหรอื สมั ผัสน้ําตาของผปู วยทต่ี ิดมากบั นิว้ มอื และแพรจากนิ้วมอื มาติดท่ีตาโดยตรง 2. ใชเส้ือผาหรือสิ่งของรว มกบั ผปู ว ย 3. ฝนุ ละอองหรอื นํ้าสกปรกเขา ตา 4. แมลงหวีห่ รือแมลงวนั ตอมตา 5. ไมร ักษาความสะอาดของรา งกาย โดยเฉพาะมอื และใบหนา โรคตาแดงไมต ดิ ตอทางการสบตา ทางอากาศ หรอื รับประทานอาหารรว มกัน และอาการตา แดงจะเกิดไดภ ายใน 1-2 วนั หลังไดรับเชอ้ื มีอาการนาน 5 – 10 วนั ระยะการแพรเ ชอ้ื ประมาณ 14 วัน อาการ ตาแดงเคืองตามาก ตาขาวจะมสี แี ดงเรือ่ ๆ เพราะมีเลอื ดออกที่เย่ือบตุ าขาว น้ําตาไหล เจ็บ ตาและมีข้ีตาออกมาก ตอมนํ้าเหลืองหลังหูมักเจ็บและบวมมักเปนขางเดียวกอน แลวจึงติดตอมายัง ตาอีกขางใน 1-2 วันถาไมร ะวงั ใหดอี าจเกิดแผลทต่ี าดาํ ได การรักษา 1. พบแพทยเ พ่ือรับยาอยา งถกู ตอง รักษาตัวอยทู บ่ี านอยา งนอย 3 วันเพ่ือปองกันการตดิ ตอ 2. ไมค วรใชผา เช็ดหนาเช็ดขตี้ าเพราะผาเชด็ หนา จะเก็บสะสมเชอ้ื ไวแ ละตดิ ตอไปยงั ผอู ืน่ ได 3. ควรใสแวน กนั แดดเพอื่ ลดการระคายเคอื งแสง 4. ไมค วรใชผ าปด ตาเพราะอาจทาํ ใหเ กดิ การตดิ เชือ้ มากขน้ึ 60 คมู อื การจัดกจิ กรรมลูกเสอื สาํ รองเสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ 1
5. งดใสค อนแทกเลนสจ นกวา ตาจะหายอกั เสบ 6. ควรพักผอ นใหเตม็ ที่ และพักการใชส ายตา 7. รักษาความสะอาด และตอ งลา งมอื ใหส ะอาดทกุ ครัง้ ทจ่ี ับบริเวณใบหนาและตาเนื่องจาก โรคตาแดง จะตดิ ตอ โดยการสัมผัสมากทีส่ ุดการลางมือจะชวยตดั การแพรกระจายเช้อื ไดอ ยางดี การปองกัน 1. หม่นั ลางมือ ดแู ลรกั ษาความสะอาดของรางกาย สิ่งของเคร่อื งใชใ หส ะอาดอยเู สมอ 2. ไมคลุกคลใี กลช ิด หรอื ใชสิ่งของรว มกบั ผปู ว ย 3. ถามีฝุนละออง หรือน้าํ สกปรกเขา ตาควรลา งตาดว ยน้ําสะอาดทันที 4. อยาปลอยใหแมลงหวี่ หรือแมลงวนั ตอมตา 5. หมัน่ ทาํ ความสะอาดของใชต างๆ เชน เสื้อผา ผา เช็ดตวั ผาปทู น่ี อน ปลอกหมอน ให สะอาดอยเู สมอ สุขบญั ญตั แิ หงชาติ 10 ประการ 1. การดูแลรักษารางกายและของใชสว นตวั ใหสะอาด - อาบนํ้าทุกวนั อยา งนอ ยวนั ละ 2 ครัง้ ใชส บฟู อกทกุ สว นของรางกายใหท ัว่ และมกี ารขัดถูขี้ ไคลตามบริเวณตา งๆ และเช็ดตัวใหแหง ดวยผาทส่ี ะอาด - สระผมอยางนอยสัปดาหละ 2 คร้งั ใชสบหู รอื แชมพูสระผมจนสะอาด แลวเชด็ ใหแ หง ดว ย ผาท่สี ะอาด และหมนั่ หวีผมใหเ รยี บรอ ย - รกั ษาอนามยั ของดวงตาอา นหรอื เขียนหนังสอื ระยะหา งประมาณ 1 ฟตุ โดยมีแสงเพียงพอ, ดโู ทรทศั นในระยะหา งอยางนอ ย 1 เมตรครึง่ รับประทานอาหารทมี่ ีสวนชว ยบํารุงสายตา เชน ฟก ทอง ผักบุง, ใสแ วน กนั แดดถา จะเปนตอ งมองในทที่ ี่มีแสงสวางมากเกินไป และตรวจสายตาอยา งนอย ปละ 1 คร้งั - รกั ษาอนามยั ของหเู ช็ดใบหูและรูหเู ทา ทน่ี ว้ิ จะเขา ไปได ระวงั ไมใหนาํ้ เขา หูไมค วรสั่งน้าํ มกู แรงๆ หลีเล่ยี งการถูกกระทบกระแทกหูโดยแรงและหลกี เลยี่ งบริเวณท่ีมแี สงดังมากๆ - รักษาอนามัยของจมูกไมถอนขนจมูก ไมน าํ ส่ิงแปลกปลอมเขา ไปในจมกู การไปหรือจาม หรือการส่งั นํ้ามกู จะตองใชผา หรือกระดาษเชด็ หนา ทีส่ ะอาด - ตดั เลบ็ มือเลบ็ เทาใหส้นั อยูเสมอ การปลอ ยเลบ็ ยาว หรือเลบ็ ดาํ จะเปนแหลง สะสมของเช้อื โรคตามซอกเล็บ และไมค วรกดั เลบ็ ลางมือและเทา ใหส ะอาดอยูเสมอ และเมอ่ื รบั ประทานอาหารกจ็ ะตดิ ไปกับอาหารทําใหเกดิ โรคอจุ จาระรว งกอนและหลังการรับประทานอาหารและหลงั การใชส ว มจะตองลางมือให สะอาดดว ย สวมรองเทาทกุ คร้งั เม่อื ออกจากบา น รองเทา ควรมขี นาดท่ีพอดแี ละรักษาความสะอาดอยู เสมอ ถา ใสถงุ เทา ดวยควรเปล่ียนและซกั ทกุ วนั คูมอื การจัดกิจกรรมลกู เสอื สํารองเสริมสรางทักษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ี่ 1 61
- ถายอุจจาระเปนเวลาทกุ วันควรฝก ใหเ ปนเวลาทกุ วันในตอนเชาอยา ใหท อ งผกู บอ ยๆ เพราะ จะทําใหเกิดโรคริดสีดวงทวาร และเปนมะเร็งลําไสใ หญไ ด - ใสเสอื้ ผาทีส่ ะอาดไมอ บั ชืน้ และใหความอบอุนเพยี งพอเสอื้ ผาทใี่ ชแ ลว ท้งั ชน้ั นอกและช้ันใน จะตอ งมกี ารทาํ ความสะอาดดวยสบหู รอื ผงซกั ฟอกทกุ ครั้ง แลว นาํ ไปผึง่ หรอื ตากแดดใหแ หงไมใ ส เสอื้ ผา ซํา้ ๆหรือซกั ไมสะอาด อับชื้น เพราะจะทาํ ใหเ กดิ โรคผวิ หนังได - ของใชสว นตัว อ่นื ๆ นอกจากเส้ือผา และรองเทา แลว ของใชส วนตวั อ่ืน ๆ เชน ที่นอน กระเปา นกั รยี น อปุ กรณการเรยี น ภาชนะใสอาหารและนํ้า ก็ตอ งดแู ลรกั ษาใหเ ปน ระเบียบ อยใู น สภาพดีและรกั ษาความสะอาดเชนกัน 2. รักษาฟนใหแ ขง็ แรงและแปรงฟนทกุ วนั อยางถกู ตอ ง - แปรงฟนอยา งนอยวนั ละ 2 คร้ังเชาและกอนนอนแปรงสฟี น ทใ่ี ชควรมขี นแปรงทอ่ี อ นนมุ ปลายขนแปรงมนเพ่อื ปองกนั ไมใหฟ น สึก และเหงือกเปน แผล และอยา ลืมแปรงลน้ิ ดว ย - เลอื กใชย าสีฟน ผสมฟลอู อไรดชวยเสรมิ สรา งความแขง็ แรงของฟน และปอ งกันฟนผุได ไมจําเปนตอ งใชย าสีฟน มากๆ เพียงแตะบนขนแปรงพอชน้ื ก็พอแลว - หลีกเล่ยี งการกินลูกอม ทอฟฟ หรือขนมขบเคยี้ ว หวานเหนยี วเพราะมีสว นผสมของ นาํ้ ตาลเปนสวนใหญ ซ่ึงติดฟนงา ยยากตอ การทาํ ความสะอาด ควรเลอื กทานผลไมตามฤดูกาล - ตรวจสขุ ภาพในชอ งปากอยางนอ ยปล ะ 1 คร้งั ควรไปพบทนั ตแพทยเ พื่อตรวจสขุ ภาพ ในชองปากอยางนอ ยปล ะ 1 ครง้ั - หามใชฟ นกดั ขบ อาหารทีเ่ ปนของแข็งจะทาํ ใหฟ นแตก บ่ิน หรอื เก รวมท้ังจะทาํ ให กลา มเน้อื ทยี่ ดึ ขากรรไกรอักเสบได 3. ลา งมือใหสะอาดกอ นกินอาหารและหลงั การขบั ถา ย การลา งมือใหถ กู วิธี ทาํ ใหม อื เปยกนํา้ ฟอกสบูถูใหท วั่ ทงั้ ฝา มอื ดา นหนาและหลงั มอื ถตู าม งา มมอื และซอกเลบ็ ใหทว่ั เพื่อใหสง่ิ สกปรกหลุดออกไปพรอ มทงั้ ถูขอ มอื ลา งน้าํ ใหสะอาดแลว เช็ดให แหงดวยผาทสี่ ะอาดเปนการปอ งกันการแพรเ ช้ือและติดเชอื้ โรคได 4. กินอาหารสุก สะอาด ปราศจากสารอนั ตรายและหลีกเล่ียงอาหารรสจดั สฉี ดู ฉาด - เลือกซอ้ื อาหารสด สะอาด ปลอดสารพษิ โดยคํานงึ ถงึ หลกั 3 ป. คือ ประโยชน ประหยัด ปลอดภยั - ปรงุ อาหารทถี่ ูกสุขลกั ษณะ และใชเ ครอ่ื งปรงุ รสทไี่ ดมาตรฐาน คาํ นงึ ถึงหลงั 3 ส. คอื สงวน คณุ คา สกุ เสมอ สะอาดปลอดภยั - กินอาหารใหค รบ 5 หมู เพียงพอตอความตองการของรางกาย - กินอาหารปรงุ สุกใหมๆ และใชช อ นกลางในการกินอาหารรว มกนั - หลีกเลย่ี งอาหารสกุ ๆ ดบิ ๆ อาหารรสจกั อาหารใสสฉี ดู ฉาด - ดม่ื นํา้ สะอาดอยา งนอ ยวนั ละ 8 แกว 62 คูมือการจดั กจิ กรรมลูกเสอื สํารองเสริมสรา งทักษะชวี ติ ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 1
5. งดสูบบุหรี่ สรุ า ยาเสพยตดิ การพนัน และการมว่ั สมุ ทางเพศ 6. สรา งความสมั พันธในครอบครัวใหอบอนุ ทุกคนในครอบครัวชวยกันทํางานบานมีการปรึกษาหารือ และแสดงความคิดเห็นรวมกัน มี นํ้าใจและไดทาํ กิจกรรมสนกุ สนานรว มกัน 7. ปองกนั อุบัตภิ ยั ดวยความไมประมาท ดูแลตรวจสอบ ระมัดระวังอุปกรณเครื่องใชไฟฟาภายในบาน ของมีคมหรือไมขีดไฟ รวมถึง ระมดั ระวังเพื่อปองกันอุบัตภิ ยั ในท่สี าธารณะ เชนการใชร ถใชถ นน เปนตน 8. ออกกาํ ลงั กายสม่ําเสมอ และตรวจสขุ ภาพประจาํ ป ออกกําลังกายใหเ หมาะสมกับสภาพรา งกายและวยั อยางนอยสัปดาหละ 3 ครั้งคร้ังละ 20-30 นาที และตรวจสุขภาพประจาํ ปอยางนอยปล ะ 1 คร้ัง 9. ทาํ จิตใจใหร าเริงแจม ใสอยเู สมอ พักผอนนอนหลับใหเพียงพอ จัดสิ่งแวดลอมใหเหมาะสมนาอยูนาอาศัยมองโลกในแงดี ให อภัยและยอมรับขอบกพรองของคนอื่นเม่ือมีปญหาไมสบายใจควรหาทางผอนคลายในทางท่ีถูกตอง เหมาะสม 10. มีสาํ นกึ ตอ สวนรวม รว มสรางสรรคส งั คม ทิ้งขยะในท่ีรองรับหลีกเลี่ยงการใชวัสดุอุปกรณท่ีกอใหเกิดมลภาวะตอสิ่งแวดลอม เชน โฟม ถุงพลาสติก มีการใชสวมที่ถูกสุขลักษณะ ใชทรัพยากรอยางประหยัดและชวยอนุรักษและพัฒนา ส่งิ แวดลอ ม การหายใจอยา งถกู วธิ ี การหายใจ คือการที่คนเราสูดลมหายใจหรืออากาศบริสุทธิ์เขาปอด โดยเราสามารถหายใจ เอาอากาศเขาสูรางกายได 2 ทางคือ ทางจมูก ซ่ึงเปนทางปกติ และทางปาก ซ่ึงเปนทางฉุกเฉิน เรา อาจจําเปนตองหายใจทางปาก เชน ในขณะเปนหวัดและไมสามารถหายใจทางจมูกได และในขณะ วา ยน้าํ การหายใจอยางถกู วิธี ควรหายใจทางจมูก เพราะภายในโพรงจมูก สามารถควบคุมอุณหภูมิ และความช้ืน รวมทง้ั กรองฝนุ ละอองในอากาศท่หี ายใจเขา ปอดได ในขณะหายใจเขาหนาทองจะปอง ออก และแฟบลงขณะหายใจออก คูมือการจดั กจิ กรรมลูกเสือสํารองเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 1 63
เร่อื งท่เี ปน ประโยชน สนุ ขั จง้ิ จอกฟน ดํา แมกระตายตัวหน่ึง มีลูก 7 ตัว อาศัยอยูในปาใหญวันหนึ่งแมกระตายตองออกไปหาอาหาร นอกบาน จึงบอกกับลูก ๆ วาอยาเปดประตูใหคนอื่นนอกจากแมเทานั้น ตอมาไมนานก็มีเสียงเคาะ ประตกู อก กอ ก กอ ก !!!จากนัน้ กม็ ีเสียงท่ีแหบแหง พูดวา “ แมกลบั มาแลว จะ ” แ ต ลู ก ก ร ะ ต า ย ท้งั หลายไมเ ชือ่ เพราะเสียงแหบแหงไมเหมือนแมกระตายจึงบอกวา “ ไหนย่ืนหนามาใหดูหนอยวา เปน แมจ รงิ หรอื เปลา? ” เจาสุนัขจิ้งจอกฟนดําพยายามพูดจาเสียงออนหวานเพื่อใหลูกกระตายเชื่อวาแมกลับมาแลว จริง ๆแตพอเจาสุนัขจิ้งจอกย่ืนหนาเขามา บรรดาลูกกระตายก็พากันตกใจกับฟนแหลม ๆดํา ๆ ของ เจาสุนัขจิ้งจอก ลูกกระตายตัวหน่ึงพูดขึ้นมาวา“ น่ีไมใชแมของเราแนแน แมของเราฟนขาว สะอาด ” “นี่ตองเปนสุนัขจิ้งจอกฟนดําอยางแนนอน”เจาลูกกระตายอีกตัวหนึ่งพูดขึ้น ลูก กระตา ยจึงสอนใหเจาสนุ ัขจ้งิ จอกฟนดํารูจักการแปรงฟนและย่ืนแปรงสีฟนให ลูกกระตายทั้ง 7 ตัวจึง พากันแปรงฟน ใหเจาสุนัขจ้ิงจอกฟนดําดูเมื่อมันแปรงฟนตามลูกกระตาย ฟนของเจาสุนัขจ้ิงจอกขาว ขึ้นทันตา เร่ืองนสี้ อนใหรวู า เด็กดีตองหม่ันแปรงฟน อยางนอยวันละ 2 คร้ัง เม่ือตื่นนอนในตอนเชา และกอน เขา นอนในตอนกลางคืน นกนอ ยแข็งแรง น.ส.จฑุ ามาส ชุม เมืองปก ผแู ตง นกนอยเปนเด็กรางกายไมแข็งแรง เปนหวัดบอยๆ คุณแมตองดูแลเอาใจใสอยางใกลชิดเปน พิเศษ ทุกครั้งที่นกนอยเปนหวัด นํ้ามูกไหล ไอ จาม นั้น คุณแมจะใหดื่มนํ้าอุน สวมเสื้อหนาๆ นอน พักผอนมากๆ ตอนไปโรงเรียน คุณแมใหใชหนากากปดจมูกไวเพ่ือจะไดไมแพรเชื้อโรค นกนอยเช่ือ ฟงและปฏิบตั ิตามคณุ แม ต้งั แตเรยี นชนั้ อนุบาลจนถงึ ป.1 เม่ืออยูท่ีโรงเรียนคุณครูแนะนําใหนกนอยออกกําลังกายอยางสม่ําเสมอ ทําใหรางกาย นกนอยแข็งแรงมากขึ้นตามลําดับ เปนหวัดนอยลง สามารถรวมกิจกรรมตางๆ รวมกับเพ่ือนๆ ได นกนอยจงึ มคี วามสุขมากข้นึ เรื่องน้สี อนใหร ูวา การดแู ลตนเอง เมือ่ เจ็บไขไดป วยอยา งสมาํ่ เสมอ จะทาํ ใหรางกายแขง็ แรงขน้ึ ได 64 คมู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสํารองเสรมิ สรางทักษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 1
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือสาํ รอง ดาวดวงท่ี 1 ช้นั ประถมศึกษาปท ี่ 1 หนว ยที่ 2 อนามัย เวลา 1 ชัว่ โมง แผนการจัดกิจกรรมที่ 10 อาหารดีมคี ุณคา 1. จุดประสงคการเรียนรู ลกู เสอื รจู กั ประโยชนแ ละคณุ คาของอาหารประเภทผัก 2. เนอื้ หา ประโยชนแ ละคุณคา ของผกั 3. สื่อการเรียนรู 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 ผักชนดิ ตาง ๆ 5 ชนิด 3.3 เรื่องท่เี ปน ประโยชน 4. กิจกรรม 4.1 พิธีเปดประชุมกอง (แกรนดฮาวล ชักธง สวดมนต สงบนิง่ ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรือเกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคการเรียนรู 1) ผูกาํ กับลูกเสือและลูกเสอื สนทนาถึงประโยชนและคณุ คา ของอาหารทมี่ ตี อ รางกาย 2) ผกู ํากบั ลกู เสอื นําผักอยางนอ ย 5 ชนดิ มาใหลกู เสอื ดู แลว ชวนคดิ - ผักน้มี ีชอ่ื วา อยา งไรอยใู นอาหารอะไรบา ง (ท่ีลูกเสอื เคยเห็นในบานและรานอาหาร) - เคยรับประทานผักชนิดใดบา ง - คณุ คาของผกั ทม่ี ีตอรางกาย (ไมท ําใหท องผกู ไมอ ว น มีวติ ามนิ หลายชนิดชว ย บํารุงรางกาย) - ถา ไมรบั ประทานผักจะเกดิ ผลเสียอะไรบา ง (ทอ งผูก ปวดทอง ขาดวิตามินและ เกลอื แร รา งกายไมแ ข็งแรง) 3) ใครชอบรบั ประทานผกั ชนดิ ใดบา ง - ใหล ูกเสอื เขา แถวตามชนดิ ของผกั ที่ตนเองชอบ สอบถามถงึ เหตผุ ลทชี่ อบ - เปดโอกาสใหลูกเสือเขาแถวตามชนิดของผักอื่นๆทช่ี อบดวย (ลูกเสอื บางคนอาจ ชอบผักหลายๆอยา งพรอ มทงั้ บอกเหตผุ ลที่ชอบทุกครง้ั ) 4) ผกู ํากบั ลกู เสือสรุปแนวคดิ ท่คี วรได เชน รับประทานผกั และอาหารใหครบ 5 หมจู ะทาํ ใหรา งกายแขง็ แรงสมบูรณ รปู รางสวยงามและไมปว ย 4.4 ผูกาํ กบั ลกู เสือเลา เรือ่ งที่เปน ประโยชน 4.5 พิธปี ด ประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจเครือ่ งแบบ แกรนดฮาวสชกั ธง เลกิ ) คูมอื การจัดกิจกรรมลูกเสอื สาํ รองเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 65
5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความสนใจใฝร ใู นเรอ่ื งการรบั ประทานผัก 5.2 ซกั ถามความเขาใจในเรอ่ื งประโยชนแ ละคณุ คา ของผัก 6. องคประกอบทักษะชวี ิตสําคญั ทเี่ กิดจากกิจกรรม คอื การคดิ วเิ คราะหแ ละเกดิ ความตระหนกั รูถ งึ ความสาํ คัญของการรบั ประทานผกั 66 คูมอื การจดั กิจกรรมลกู เสอื สาํ รองเสรมิ สรา งทักษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ 1
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมท่ี 10 เพลง ผกั (ทาํ นองขาวโพดสาล)ี พรวนดนิ กนั เสยี ใหห มด จะปลูกผกั สด ชัน้ ดี ผักกาด ผักบงุ แตงกวา แครอท คะนา วติ ามินมากมี ถัว่ ฝก ยาว ผักกระเฉด กะหล่าํ ปลี กวางตุง กม็ ีวติ ามินมากมาย ริมรั้วเราปลูกกฐิน ถว่ั แขก ถว่ั ดนิ ตําลึง ฟกทอง ฉลาดดีลูกเสือสาํ รอง ทกุ หมูทุกกองรกั การกินผัก เกม ผกั สด 1. ใหล กู เสอื แตล ะคนสมมติตัวเองเปนผักชนดิ ตา งๆ ตามทชี่ อบ (หา มบอกใคร) ดังน้ี 1.1 ผักคะนา 1.2 ผกั กาด 1.3 ผักชี 1.4 ผกั บุง 2. จดั ใหล กู เสือนงั่ เปนรูปวงกลม 3. ผูกํากบั ลกู เสือ และลกู เสอื รอ งเพลง “ผกั คะนา ผกั กาด ผกั บุง ผักชี” แลว เดินวนในวงกลม ระหวางทลี่ ูกเสือกาํ ลงั นงั่ อยู พรอมกบั ปรบมือตามจังหวะ 4. หลังจากท่ี ผกู าํ กับลูกเสอื เปา นกหวีด จะตะโกนบอกชือ่ ชนดิ ผักทต่ี อ งการ จากนัน้ ใหล ูกเสือทเี่ ปน ผักชนดิ ท่ตี รงกบั ผูก าํ กับลกู เสือบอก ใหม าตอ หลงั ผกู ํากับลูกเสอื แลว เดนิ ตามผูก าํ กับลูกเสือในวงกลม เร่ืองทเี่ ปนประโยชน กงุ กง๋ิ ทองผูก กุงกิ๋งชอบกินอาหารสารพัด ยกเวนผัก ผลไมเวลาแมเตรียมผักผลไมมาใหกินทีไร กุงกิ๋งก็ แอบคายท้ิงทุกทีจนวันหนึ่งกุงกิ๋งปวดทองอึ จึงไปเขาหองน้ํา แตเบงเทาไรก็ไมออกสักทีกุงกิ๋งปวด ทองและเจ็บกนมาก เลยรองเรียกแมมาชวย แมอธิบายใหกุงก๋ิงฟงวาผักผลไมมีวิตามินและชวยให ขับถายงาย ในท่ีสุดกุงกิ๋งก็ยอมปรับเปลี่ยนนิสัยหันมากินผักผลไม และขับถายเปนเวลา แลวกุงกิ๋งก็ ไมทอ งผกู อกี เลย เร่ืองน้ีสอนใหรูวา การกินผักมีประโยชนมาก นอกจากจะมีวิตามินชวยใหรางกายแข็งแรงแลว ยัง ชวยใหทอ งไมผูกอีกดว ย คูมอื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสาํ รองเสริมสรา งทักษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 1 67
แผนการจัดกิจกรรมลกู เสือสํารอง ดาวดวงท่ี 1ชัน้ ประถมศึกษาปท่ี 1 หนวยท่ี 2 อนามยั แผนการจดั กจิ กรรมที่ 11 สวมสะอาด เวลา 1 ชั่วโมง 1. จุดประสงคการเรียนรู 1.1 ลกู เสอื มีจิตสาํ นึกตอ การใชส วมสะอาด 1.2 ลูกเสือบอกวิธกี ารใชสว มและการรักษาสวมใหสะอาด 2. เนอ้ื หา การใชแ ละการดูแลรักษาสว มใหส ะอาด 3. สือ่ การเรียนรู 3.1 แผนภมู ิเพลง 3.2 ภาพสว มแบบตา งๆ อปุ กรณท าํ ความสะอาดสวม 3.3 เรอ่ื งทเี่ ปนประโยชน 4. กิจกรรม 4.1 พิธเี ปดประชมุ กอง (แกรนดฮาวล ชกั ธง สวดมนต สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรือเกม 4.3 กิจกรรมตามจดุ ประสงคการเรยี นรู 1) ผกู าํ กับลูกเสือพาลูกเสือไปสํารวจสว ม การใชสว มและสภาพสว มของโรงเรียนแลว รวมสนทนา - ทาํ ไมสว มจึงมีกลิ่นและไมส ะอาด - ใครบางควรจะชว ยทําใหส ว มสะอาดได - ลูกเสือสํารองจะมีวธิ กี ารอยางไรท่จี ะใหนักเรยี นทุกคนชว ยกนั ดูแลรักษาความ สะอาดหองสว มและใชหอ งสวมอยา งถูกวิธี 2) ผูก าํ กับลูกเสือ และลูกเสอื รวมกนั ทําความสะอาดสว ม 3) ผกู ํากับลูกเสือสรปุ แนวคดิ ท่ไี ด 4.4 ผกู าํ กบั ลกู เสือเลาเร่อื งท่ีเปนประโยชน 4.5 พธิ ปี ด ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครือ่ งแบบ แกรนดฮ าวส ชักธง เลกิ ) 5. การประเมนิ ผล 5.1 สังเกตการคิด การวางแผน และการรณรงคสว มสะอาด 5.2 สังเกตกระบวนการจติ อาสาและแกปญ หาสงั คม (หองสวมในโรงเรียน) 6. องคประกอบทกั ษะชวี ติ สําคัญทเ่ี กดิ จากกจิ กรรม คือ ตระหนักถึงความสําคญั ของการดูแลรักษาสว มใหสะอาดและการใชห อ งสว มอยา งถูกวิธี 68 คูมอื การจดั กจิ กรรมลกู เสือสาํ รองเสรมิ สรางทกั ษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 1
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมท่ี 11 เพลง ในหมูลูกเสอื ในหมูลกู เสอื เมื่อมารวมอยู ตา งคนตา งรู กันดวี า หนา ท่ีทกุ อยา ง ตองชว ยกนั ทาํ ทาํ ไมเวน วา ง งานทุกอยา ง งานทุกอยา ง จะเสร็จโดยงา ยดาย งานส่ิงใด งานส่ิงใด งานสิ่งใด แมใครละเลยท้ิงปลอ ย มวั แตเฝาคอย เฝา แตค อย หลงคอยแตเกี่ยงโยนกลอง ไมม ีเสรจ็ ไมมีเสร็จรับรอง จําไวน ะทกุ คนตอ ง ทาํ งาน จะตองชว ยกนั ชวยกัน ชว ยกนั ชวยกนั เรือ่ งทเ่ี ปนประโยชน ฟ. ฟน ฝนไป...... ตอมไดรางวัลเปนลูกกวาดถุงใหญ จากการแขงขันว่ิงกระสอบในงานสงทายปเกา เขากิน ลูกกวาดเขาไปมากมายและไมแปรงฟนกอนนอนแลวเขาก็ฝนวาตัวเขากลายเปนฟนซ่ีหน่ึง ขางๆ กายมีฟนซี่ตางๆกําลังรองไหอยู เพราะมีน้ําตาลเหนียวๆจากลูกกวาดที่กินเขาไปมาเกาะเต็มไปหมด และทําใหเ ขาปวดฟน มาก ตอมตกใจต่ืนขึ้น ตั้งแตน้ันมาเขาแปรงฟนทุกวัน ทั้งหลังต่ืนนอน และกอน เขานอน รวมท้งั เลิกกนิ ลูกกวาดอีกดวย เร่อื งนส้ี อนใหร วู า เด็กๆ ควรดูแลรกั ษาความสะอาดฟน อยเู สมอ รวมท้ังไมควรรบั ประทานลกู อม และขนมหวาน เพ่อื ชวยไมใ หฟนผุ คูมือการจดั กิจกรรมลูกเสอื สาํ รองเสริมสรางทักษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 1 69
แผนการจัดกิจกรรมลกู เสอื สํารอง ดาวดวงที่ 1ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ 1 หนวยท่ี 3 ความสามารถในเชิงทักษะ เวลา 2 ชว่ั โมง แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 12 ความสามารถในเชงิ ทกั ษะ 1. จดุ ประสงคการเรียนรู ลกู เสือมคี วามสามารถเชิงทกั ษะดา นสมรรถภาพทางกาย 2. เน้อื หา ความสามารถเชงิ ทกั ษะ 2.1 การขวา งและรับลูกบอล 2.2 กระโดดกบ 2.3 มว นหนา 2.4 ขึน้ ตน ไมห รอื ไตเ ชอื ก 3. สอ่ื การเรียนรู 3.1 เกม 3.2 ใบความรู เร่อื ง ความสามารถเชงิ ทักษะ 3.3 เรื่องทเ่ี ปน ประโยชน 4. กจิ กรรม 4.1 กจิ กรรมคร้ังท่ี 1 1) พิธีเปดประชมุ กอง (แกรนดฮาวล ชกั ธง สวดมนต สงบน่ิง ตรวจ แยก) 2) เพลงหรอื เกม 3) กิจกรรมตามจุดประสงคก ารเรียนรู (1) ผูกํากับลกู เสอื ชวนคิดชวนคุยการออกกาํ ลังกายมหี ลายวธิ ี เชน - การสรางความเขมแขง็ ของกลา มเนอ้ื - การสรา งความคลองแคลว วองไว - การทรงตัวเพอ่ื บุคลิกภาพ (2) ลูกเสอื เรยี นรวู ธิ ีการพัฒนาสมรรถนะทางกายจาํ นวน 2 เร่อื งตามฐานกิจกรรม - ฐานที่ 1 ขวางและรับลกู บอลได 8 ใน 10 ครัง้ ระยะหา ง 5 เมตร - ฐานท่ี 2 กระโดดกบ (3) ผกู ํากับลกู เสือสรุปสง่ิ ทไ่ี ดจากการออกกําลังกายใหก บั ลูกเสอื 4) ผูกํากับลูกเสอื เลา เรื่องทเ่ี ปน ประโยชน 5) พธิ ปี ดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครือ่ งแบบแกรนดฮ าวล ชกั ธง เลิก) 70 คมู ือการจัดกจิ กรรมลกู เสอื สาํ รองเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 1
4.2 กจิ กรรมคร้ังที่ 2 1) พธิ ีเปด ประชมุ กอง (แกรนดฮ าวล ชกั ธง สวดมนต สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 2) เพลงหรือเกม 3) กิจกรรมตามจุดประสงคการเรยี นรู (1) ผกู าํ กับลกู เสอื ทบทวนฐานกจิ กรรมการขวา งบอล – รบั บอลและการกระโดดกบ - ใครชอบฐานไหน เพราะเหตุใด - ใครทาํ ได/ทาํ ไมได ฯลฯ (2) ลกู เสือเรยี นรวู ธิ ีการพฒั นาสมรรถนะทางกาย จํานวน 2 เรือ่ ง ตามฐาน กจิ กรรม ฐานที่ 1 มว นหนา ฐานที่ 2 ข้ึนตนไมห รอื ไตเ ชอื ก (3) ผูก าํ กบั ลกู เสอื สรุปสง่ิ ทไี่ ดจากการออกกําลงั กายใหล ูกเสือ 4) ผกู ํากบั ลูกเสือเลา เร่อื งทเ่ี ปนประโยชน 5) พธิ ีปด ประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเครื่องแบบ แกรนดฮาวล ชักธง เลกิ ) 5. การประเมนิ ผล ตรวจสอบความสามารถทเ่ี ปน สมรรถนะทางกายของลกู เสอื เพอ่ื การผานเกณฑ ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมที่ 12 เพลง ออกกําลัง ออกกาํ ลัง ดวยการรอ งรําทาํ เพลง ใหครื้นเครง เสยี งเพลงบรรเลงจับใจ ราํ รอ งกนั ไป ไมมหี มนหมองฤทยั แลว เราเพลนิ ใจ ดวยการรอ งราํ ทาํ เพลง ทา ประกอบเพลงเขาแถวเปนวงกลม หรอื เขา แถวตอนกไ็ ด 1. ออก - แตะปลายเทา ซา ยไปขา งหนา นับจังหวะ 1 2. กาํ ลงั - แตะปลายเทาซา ยไปดา นขา งลาํ ตวั ซา ย นบั จงั หวะ 2 3. ดว ยการรองราํ ทําเพลง - ยาํ่ เทา อยกู บั ท่ี ( ซาย – ขวา – ซาย ) นับจงั หวะ 3 – 4 – 5 4. ให - แตะปลายเทาขวาไปขา งหนา นับจังหวะ 1 5. คร้นื เครง - แตะปลายเทาขวาไปดา นขางลาํ ตวั ขวา นบั จงั หวะ 2 6. เสียงเพลงบรรเลงจบั ใจ - ยํ่าเทาอยูกบั ท่ี ( ขวา – ซาย – ขวา ) นบั จังหวะ 3 – 4 - 5 7. ราํ รอ งกนั ไปไมม ีหมนหมองฤทยั - ทําทา ยอ นตนตั้งแต 1 - 6 เพราะเราเพลินใจดว ยการรอ งราํ ทาํ เพลง คมู อื การจัดกิจกรรมลกู เสอื สํารองเสริมสรา งทักษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 1 71
ใบความรู ความสามารถเชงิ ทกั ษะ ขวางและรับลกู บอล วธิ ขี วา ง ใหข วางลกู บอลดว ยมือขวาหรือซา ยไปยงั ผรู ับในระดบั เข็มขดั ข้นึ มาถงึ ไหล วิธีรับ ใหร ับลกู บอลดวยมือท้ังสอง โดยย่ืนมือออกไปขางหนาเล็กนอย ตามองท่ีลูกบอล ผอนมือตาม ความแรงของลกู บอลทมี่ าสมั ผสั มือ โดยไมใหล ูกบอลกระดอน กระโดดกบ วิธีกระโดดกบ ใหลูกเสือคนหนึ่งยืนกมตัว โดยเทาขวากาวไปขางหนาเล็กนอย กมตัวใหศีรษะตํ่า เอามอื ขวาจับใตเขา ยนั ไว ท้งิ น้ําหนักตัวใหอ ยูต รงกลาง ยืนใหมัน่ สวนอีกคนหนึ่งว่ิงกระโดดเขาขางหลัง โดยใชมือแตะหลังคนกม แลวสปริงตัวกระโดดขึ้นไปใหลงสู พน้ื ดนิ ดว ยปลายเทาอยา งวองไว มว นหนา วธิ ีมว นหนา ใหลกู เสือยืนตรงแลวนั่งลงพรอมกับโนมตัวลง เอามือทั้งสองแตะพ้ืนคอยๆ กมศีรษะลง จรดพื้น พับตนคอใหไหลทั้งสองขางรองรับน้ําหนัก แลวมวนตัวกลิ้ง พยายามใหตัวกลม (อยาใหยืด ตัว) เมือ่ มวนเสร็จแลวใหส ปรงิ ตัวลุกขน้ึ ยนื ในทา ยืนตรง ขึ้นตน ไม (ปนตนไม) วธิ ีข้ึนตน ไม การขึน้ ดวยมือเปลาไมมเี ครอ่ื งชว ย 1. ใชม อื โอบตน ไม ลาํ ตวั แนบกบั ตนไม ใชเทายันสงลาํ ตวั ขึ้นไปตามตน ไม มกั ใชก ับตน ไมที่มี ลําตนขนาดโอบได เชน ตน มะพรา ว ตน หมาก เปนตน 2. ปน แบบจบั ก่ิงกาน ใชมอื จับกิง่ ท่สี ูงเพอ่ื ใชเทา เหยยี บกิ่งไมท ่อี ยตู ํ่ากวา ควรรธู รรมชาตขิ อง ตน ไมว ารบั นา้ํ นกั ไดมากเพยี งใด ไตเชอื ก วธิ ไี ตเสนเชอื ก 1. หนั หลังใหปลายเชือกดานทีจ่ ะขา มไป ใชมือทั้ง สองขา งจบั เชอื กใหแ นน ใชก าํ ลังมือและกําลังแขนดึงตวั ขึ้น ไป 2. ใชเ ทา ทั้งสองขา งไขวห รือเกย่ี วเสน เชือกไวอยา ใหห ลุด 3. ใชมือสาวเชอื กดงึ ตวั ขึ้นไปตามเสน เชอื ก 4. เมือ่ ไตถ งึ จุดหมายใหค ลายเทาทง้ั สองขา งคอยๆ หยอนตัวลงสพู นื้ 72 คมู อื การจดั กิจกรรมลูกเสอื สํารองเสริมสรางทกั ษะชวี ติ ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 1
เร่ืองท่เี ปนประโยชน ออกกําลงั กาย หมีนอยอยากแข็งแรง จึงถามแมวา ทําอยางไรจะแข็งแรงตัวใหญเหมือนพอหมีได แมหมี ตอบวา “ตองออกกําลังกายนะลกู มาแมจ ะสอนใหท าํ นะลูก” แมหมีก็สอนลูกออกกําลังกายทาตาง ๆ อยางสนุกสนานจนเหง่ือออก ลูกหมีสนุกสนานมาก คืนน้ันลูกหมีนอนหลับฝนดีเพราะไดขยับแขงขา ไดออกแรงไปเยอะมาก แถมตื่นมาตอนเชา แกมยัง เปนสีชมพูดว ย แมหมีพูดวา “นี่ละเปนผลจากการออกกําลังกาย จะทําใหรางกายแข็งแรงและเลือดไหลเวียน ดีนะลกู ” ลูกหมจี งึ ต้งั ใจวา จะออกกาํ ลังกายทกุ วนั เลย เรอ่ื งน้ีสอนใหรวู า การออกกาํ ลงั กายชว ยใหร า งกายแข็งแรง หนนู ิดไมอยากเปน หวัด น.ส. อุทัยวรรณ ชิดสงู เนนิ ผูแตง หนูนิดมักเปนหวัดอยูเสมอ เวลาเปนหวัดก็จะมีน้ํามูกไหล จนหนูนิดรูสึกรําคาญ หนูนิดไม อยากเปนหวัดจึงถามแมวา “แมคะหนูนิดเปนหวัด น้ํามูกไหลบอยๆ หนูนิดรําคาญจังเลยคะ เพื่อนๆ ก็รังเกียจทํายังไงหนูนิดจะไมเปนหวัดคะคุณแม” แมบอกหนูนิดวา “คนที่เปนหวัดนั้นเกิด จากการไดรับเชื้อโรคเขาไปในรางกาย เพราะรางกายออนแอจึงทําใหเปนหวัด ถาหนูนิดไมอยาก เปนหวัดก็ตองทําใหรางกายแข็งแรง คือตองรับประทานอาหารท่ีมีประโยชน นอนหลับพักผอน อยางเพยี งพอและออกกาํ ลงั กายอยางสมาํ่ เสมอจะ ” หลังจากน้ัน หนูนิดก็เร่ิมหันมาออกกําลังกาย วิ่งบาง กระโดดโลดเตนกับเพื่อนๆ บาง ขี่ จักรยาน เลนกีฬาท่ีชอบ ทําใหหนูนิดรูสกสดช่ืน นอนหลับสบาย สมองแจมใส หนูนิดบอกกับแม วา “ตอนน้ีหนูนิดไมเปนหวัดเลยคะคุณแม หนูนิดสนุกสนานท่ีไดเลนกับเพื่อนๆ ไดออกกําลังกาย ไปหนูนดิ จะออกกกาํ ลงั กายยทุกวันเลยคะ” เรอื่ งน้ีสอนใหร วู า อยากแขง็ แรงตอ งออกกําลงั กาย คูม อื การจัดกิจกรรมลูกเสอื สาํ รองเสริมสรางทกั ษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 1 73
แผนการจัดกจิ กรรมลูกเสอื สาํ รอง ดาวดวงที่ 1ช้นั ประถมศกึ ษาปที่ 1 หนว ยท่ี 4 การสํารวจ เวลา 2 ชัว่ โมง แผนการจัดกจิ กรรมที่ 13 กจิ กรรมสํารวจ 1. จุดประสงคก ารเรยี นรู ลกู เสือรจู ักทตี่ ง้ั สถานบรกิ ารทีส่ ําคัญในทองถนิ่ ใกลเคียง 2. เนอ้ื หา การสาํ รวจสถานบรกิ ารท่ีสาํ คัญในทอ งถ่ิน 3. สอ่ื การเรียนรู 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 เรอื่ งทเ่ี ปนประโยชน 4. กิจกรรม 4.1 กจิ กรรมคร้ังท่ี 1 1) พิธเี ปดประชุมกอง (แกรนดฮาวล ชักธง สวดมนต สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 2) เพลงหรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจุดประสงคก ารเรยี นรู (1) ผูก ํากับลูกเสือสนทนา เรือ่ ง สถานบริการที่สําคัญในทอ งถน่ิ ใกลเคียง เชน วัด โรงเรียน สถานีตํารวจ สถานีอนามัย (ศูนยแพทย) โรงพยาบาล สํานักงานแพทย สถานีดับเพลิง โทรศัพท ที่ทําการไปรษณีย ที่จอดรถประจําทาง สถานีรถไฟ และที่จอดรถรับจางท่ีใกลที่สุด ฯลฯ (2) ผูกํากับลกู เสือถามลูกเสือคนใดเคยรจู ัก เคยพบเหน็ เคยเดนิ ทางผานหรืออยใู กล สถานทใี่ ดบาง (3) ผูกํากับลกู เสอื ใหล ูกเสอื แตละหมเู ลือกสถานทส่ี นทนาตามท่หี มูส นใจ เชน - วดั - โรงพยาบาล - โรงเรยี น - ทจี่ อดรถประจําทาง (4) ใหลูกเสือชว ยกันคดิ วาสถานท่ีน้นั สําคญั อยา งไร จะดแู ลสาธารณสมบัตเิ หลาน้ัน อยางไร และจะเดนิ ทางไปยงั สถานทีน่ ั้นไดอยางไร (5) ตวั แทนหมูล ูกเสอื รายงาน ผูกํากบั ลกู เสอื ชว ยสรุป และเตรยี มเดินทางไปสํารวจ สถานท่ีเหลา น้นั ในคร้ังตอไป (6) ผกู าํ กับลกู เสือถามแนวคดิ ท่ีไดจากการทาํ กิจกรรม และสรุป 4) ผูก าํ กบั ลูกเสือเลา เรือ่ งทเี่ ปนประโยชน 5) พธิ ีปดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ แกรนดฮ าวลช กั ธง เลิก) 74 คูมอื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสาํ รองเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 1
4.2 กิจกรรมคร้งั ที่ 2 1) พธิ เี ปดประชมุ กอง (แกรนดฮาวล ชกั ธง สวดมนต สงบนงิ่ ตรวจ แยก) 2) เพลงหรือเกม 3) กจิ กรรมตามจุดประสงคการเรยี นรู (1) ผูกํากับลกู เสือทบทวนวา หมลู ูกเสือแตล ะหมจู ะไปสาํ รวจสถานบริการท่สี าํ คญั ใน ทองถนิ่ ใด (2) ผกู ํากบั ลกู เสือ รองผกู ํากับ หรือลูกเสือรุนพี่ นําไปสํารวจยังสถานทนี่ ้นั ๆ ให ลูกเสอื วาดภาพสถานท่ีและเขยี นชอื่ สถานทน่ี ้นั ๆ พรอ มบอกความสาํ คญั สั้นๆ ประกอบภาพ (3) ลูกเสอื กลบั มารายงานผลงานที่โรงเรยี น (4) ผกู ํากบั สรปุ กิจกรรม 4) ผูกํากับลูกเสือเลา เรอ่ื งทเ่ี ปน ประโยชน 5) พิธปี ด ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเคร่อื งแบบ แกรนดฮาวส ชกั ธง เลกิ ) 5. การประเมนิ ผล สงั เกตและตรวจสอบความสามารถในการสาํ รวจ และความสามารถในการดูแลรักษาสาธารณ สมบัตแิ ละการบนั ทึกความดี ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมที่ 13 เพลง คติพจนลกู เสอื สํารอง เราลูกเสอื สาํ รอง เราตองทําความดี คตพิ จนเ รามี ทําใหดีทส่ี ุด ทาํ ดี ลูกเสอื สาํ รอง ตอ งทาํ ใหดีทส่ี ดุ ดีทสี่ ุด ดีทส่ี ุด ลกู เสือสํารอง ลูกเสือสํารอง คมู ือการจัดกิจกรรมลูกเสือสํารองเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ติ ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 1 75
เรือ่ งทเ่ี ปนประโยชน หนกู ับหอยมุก วันหนึ่งหนูโงตัวหนึ่งเกิดความคิดข้ึนมาวา มันควรจะออกทองเท่ียวไปในโลกกวาง ดังนั้น มนั จึงกลาวอําลากับทอ งทุง และออกเดนิ ทาง มันเดนิ ทางไกลอยา งที่มันไมเ คยทาํ มากอน และเมื่อพบ กับจอมปลวกเขา มันก็รองออกมาวา “ภูเขา โอ ต้ังแตเกิดมาฉันเพิ่งเคยเห็นภูเขานี่เอง” อีกสอง สามวันตอมา มันก็เดินทางไปถึงชายฝงทะเล “โอโฮ ทะเล ฉันเกิดมาเพิ่งเคยเห็นทะเลนี่เอง” หนูรําพึง กับตัวเอง “พอของเราก็ยังไมมีวาสนาไดเห็นทะเลอยางเราเลย โอ หวงสมุทร มหาอาณาจักรอัน ย่ิงใหญ” หนูบังเกิดความภาคภูมิใจในโชควาสนาของตนเปนอันมาก มันยังคิดอีกวา มีแตคนกลา เทานน้ั ทจี่ ะมโี อกาสเชน น้ี บนชายหาดน้ัน มีหอยมุกเกล่ือนกลาดเต็มไปหมด มีหอยมุกตัวหนึ่งอาเปลือกกวาง นอนตากแดดอยู หนูเห็นหอยตัวน้ีแตไกล คิดวา “มันคงใชกินเปนอาหารได ไมตองสงสัยเลย รสชาติตองยอดเย่ียม”เม่ือไปถึงมันก็ย่ืนคอเขาไปในระหวางเปลือกท่ีอาอยู หอยมุกจึงหุบเปลือกงับ เอาหนูเขา ไปภายในเสยี เรอื่ งน้สี อนใหรูวา คนโงเอาตวั รอดจากอนั ตรายรอบดา นไดย าก ทท่ี ําการไปรษณยี น.ส.จุฑามาส ชุมเมอื งปก ผูแ ตง ในหมูบานแหงหนึ่ง ชาวบานประชุมกันเปนประจําทุกๆ เดือน ใครมีอะไรสงสัยตองการถาม ประธานชุมชนหรือท่ีประชุมได อยูมาวันหนึ่งยายทองเกิดคนในหมูบานตองการสงส่ิงของไปใหลูก ชายท่ีไปทํางานตางประเทศ เขาจึงถามที่ประชุม ประธานชุมชนแนะนําใหไปท่ีทําการไปรษณียใกล หมูบาน ซ้ือกลองพัสดุแลวบรรจุส่ิงของที่จะสงใหลูกชาย โดยใหไปรษณียชั่งน้ําหนักและตองจายเงิน คา สง ตามนาํ้ หนักสงิ่ ของน้นั สองอาทิตยผานไป ยายทองเกิดก็มาเลาใหประธานชุมชนฟงวา ลูกชายไดรับส่ิงของแลว ยายทองเกดิ กลา วของคณุ ประธานชุมชนท่ชี ว ยแนะนํา เรือ่ งน้สี อนใหรวู า การเรียนรูส ถานทีส่ าํ คญั ในทอ งถิน่ จะชวยใหช ุมชนสามารถตดิ ตอ ไดถ ูกตอ ง 76 คมู อื การจดั กจิ กรรมลูกเสือสํารองเสริมสรา งทกั ษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 1
แผนการจัดกจิ กรรมลูกเสือสาํ รอง ดาวดวงที่ 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปท่ี 1 หนวยท่ี 4 การสาํ รวจ เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจัดกจิ กรรมที่ 14 นาทวี ิกฤต 1.จุดประสงคการเรยี นรู 1.1 ลกู เสือตระหนกั และรเู ทาทันสถานการณทอ่ี าจเกดิ อันตรายรวมทั้งรูวิธีปองกัน 1.2 ลูกเสือรูจักขอความชวยเหลือจากผูใหญ 2. เนอ้ื หา ความสามารถในการวิเคราะหถงึ สถานการณที่อาจเกิดอนั ตราย และสามารถแกปญหาเฉพาะ หนา ไดอยางเหมาะสมและรจู กั ขอความชว ยเหลือจากผใู หญ ตํารวจหรือหนวยงานดบั เพลิงได จะ ชวยใหด ําเนนิ ชวี ติ อยา งปลอดภัย 3. ส่อื การเรียนรู 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 เรือ่ งทเ่ี ปนประโยชน 4. กจิ กรรม 4.1 พิธเี ปด ประชุมกอง (แกรนดฮ าวล ชักธง สวดมนต สงบน่งิ ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรอื เกม 4.3 กิจกรรมตามจุดประสงคก ารเรยี นรู 1) ผูกาํ กับลูกเสอื นําสนทนาเกย่ี วกบั ประสบการณทล่ี กู เสือพบปะกับคนแปลกหนา หรอื คน ทไ่ี มร จู กั 2) ผูกาํ กับลูกเสือต้ังคําถามวา“จะทําอยา งไรถาคนแปลกหนาชวนขนึ้ รถตูไ ปเทีย่ ว” 3) ใหลูกเสือแสดงบทบาทสมมุติ 2 รอบ โดยผูกํากับลูกเสือหาบุคคลอื่นมาแสดงเปนคน แปลกหนา ชวนลกู เสือขึน้ รถตู - รอบแรก ใหลูกเสือตามขนึ้ รถไป - รอบสอง ใหล ูกเสอื ปฏิเสธและรบี วิ่งไปหาผูกาํ กับลูกเสอื /ผูป กครอง 4) ผูก ํากับลูกเสือชวนหมูลกู เสือคดิ ขอ ด/ี ขอเสีย ของบทบาทสมมตทิ ้งั สองรอบ และ สรปุ วาลูกเสอื ควรทําอยางไร 5) ผูกํากับลูกเสือสรุปวิธีแกไขสถานการณเฉพาะหนา เสริมสรางความตระหนักดวยการ ชวนคดิ วา มสี ถานการณอ ะไรอกี บางทลี่ ูกเสือคดิ วาเปนเร่ืองใกลตัวและอาจเกิดอันตราย ตองระวังตัว อยเู สมอ (เชน คนแปลกหนาถามทางและขอใหข นึ้ รถไปดว ยคนแปลกหนาใหขนมกิน คนรูจักชวนเขา ไปคนเดียวตามลําพังในที่ลับตา สัมผัสที่ใหความรูสึกท่ีไมดี ฯลฯ) และผูกํากับลูกเสือตั้งคําถามวาใน กรณี ท่มี ภี ัยอยางอนื่ เชน ไฟไหม ควรขอความชวยเหลอื ใคร โดยวธิ ใี ด เปน ตน คมู อื การจัดกิจกรรมลูกเสือสาํ รองเสริมสรางทักษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 1 77
4.4 ผูกํากับลกู เสอื เลาเร่อื งที่เปน ประโยชน 4.5 พิธปี ดประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแบบแกรนดฮาวล ชักธง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตการแสดงความคดิ เห็นเชิงวเิ คราะห ตดั สินใจแกไขปญ หาไดเหมาะสม 5.2 ตรวจสอบความสามารถในการตดั สนิ ใจแกไขปญ หาของหมูลกู เสือ 6. องคป ระกอบทักษะชวี ติ สาํ คญั ทเี่ กดิ จากกิจกรรม คอื การคดิ วเิ คราะหสามารถตัดสินใจและแกไ ขปญหาเฉพาะหนา ได 78 คมู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสํารองเสรมิ สรางทกั ษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 1
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมท่ี 14 เพลง ความซือ่ สัตย ความซ่อื สตั ย เปน สมบัตขิ องผูดี หากวา ใครไมม ี ชาตนิ ้ีเอาดีไมได มีความรทู วมหัว เอาตวั ไมรอดถมไป คดโกงแลว ใคร จะรับไวใ หร ว มงาน เร่ืองทีเ่ ปนประโยชน สุนัขปา กับแกะ กาลคร้ังหน่งึ มฝี งู แกะทีเ่ ขมแขง็ ทรหดอดทนมากจนสามารถตอ สูก ับฝูงสุนัขปา ไดเพราะมีสุนัข บานเปนพันธมิตรดวย ตางฝาย ตางไมมีการเพล่ียงพล้ําแกกันในที่สุดฝายสุนัขปาไดสงฑูตมาเจรจา สันติภาพกับฝูงแกะเพื่อรักษาผลประโยชนของแตละฝาย จึงมีการแลกเปลี่ยนตัวประกันทางฝูงแกะ ใหฝูงสุนัขบานเปนตัวประกัน ทางสุนัขปาใหลูกเปนตัวประกันขณะท่ีการเจรจาดําเนินไป ก็มีเสียง หอนของลูกสุนัขปาดังขึ้นสุนัขปาไดความคิดท่ีจะเอาลูกคืนและไดกินแกะดวย จึงแกลงรองออกมา ทันทีวา \" พวกทา นทรยศเลน ไมซ่อื กบั เราดงั นั้นเราจะไมร กั ษาสัญญาลมๆแลงๆอีกตอ ไป” แลวฝูงสุนัขปาก็เขาขยํ้าฝูงแกะซ่ึงในขณะน้ันไมมีสุนัขบานคอยชวยเหลือ ในไมชาแกะก็ถูก สุนขั ปากินจนหมด เรอ่ื งน้สี อนใหรูวา อยา ไวใจคนแปลกหนา คมู ือการจัดกิจกรรมลูกเสอื สาํ รองเสรมิ สรางทักษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 1 79
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสอื สํารอง ดาวดวงท่ี 1ช้นั ประถมศึกษาปท ่ี 1 หนว ยท่ี 5 การคนหาธรรมชาติ เวลา 1 ชั่วโมง แผนการจดั กจิ กรรมที่ 15 รูจักและสมั ผัสธรรมชาติ 1. จดุ ประสงคการเรียนรู 1. ลกู เสือไดร ูจกั และแยกแยะธรรมชาติ 2. ลกู เสอื สามารถเลาเรอ่ื งราวของสิ่งมีชวี ิตหรือธรรมชาตไิ ด 2. เน้อื หา เรื่องราวของธรรมชาตทิ ่ีมอี ยูรอบตวั ของลูกเสือ 3. สือ่ การเรียนรู 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 บัตรภาพธรรมชาติ 3.3 เรื่องท่เี ปน ประโยชน 4. กิจกรรม 4.1 พิธีเปดประชุมกอง (แกรนดฮ าวล ชกั ธง สวดมนต สงบน่งิ ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจุดประสงคก ารเรยี นรู 1) ผกู ํากบั ลูกเสือนาํ เลน เกมบัตรธรรมชาต,ิ ชวนคดิ ชวนคยุ เพอื่ แยกแยะธรรมชาติ และสง่ิ ที่ไมเปน ธรรมชาติ 2) ผกู ํากับลกู เสอื นาํ ลูกเสือสัมผสั ธรรมชาติทีม่ อี ยใู นโรงเรยี นโดยใหลูกเสือบนั ทึกจดจาํ สง่ิ ที่พบเห็น เชน ตน ไม นกปลา ดอกไม ฯลฯ 3) ใหลูกเสือเลา วา ประทับใจส่งิ ใดทไ่ี ดพ บเห็นเพราะเหตุใดและแสดงความคดิ เหน็ วามี วธิ กี ารใดบา งทีจ่ ะรักษาสิ่งทีพ่ บเหน็ ไวใหค งอยูตลอดไปหรือยาวนานทส่ี ดุ 4.4 ผูก าํ กบั ลกู เสือเลาเรอ่ื งที่เปน ประโยชน 4.5 พธิ ีปดประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเครือ่ งแบบ แกรนดฮ าวสช กั ธง เลกิ ) 5. การประเมนิ ผล 5.1 สอบถามความเขา ใจความหมายของเพลงปาดงพงพี 5.2 สังเกตและตรวจสอบความคิดเห็นของลกู เสอื ในการอนรุ ักษห รือรักษาสภาพธรรมชาติไว ใหค งอยูตอ ไป 80 คูมอื การจดั กิจกรรมลกู เสือสาํ รองเสริมสรางทักษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 1
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมที่ 15 เพลง ประโยชนข องนาํ้ นํา้ ฝนหลนจากฟากฟา ใหต นไม ในปา สดชื่นเขยี วขจี สัตวนานา อาศัยน้าํ ดํารงชีวี เปน หมื่นแสนลา นป. .นํ้ายังมปี ระโยชน คนเราทง้ั ชายและหญงิ ในความเปนจริงก็ใชน ้าํ มากมาย อาบด่มื กิน ซักผา กไ็ ด รดพืชผกั ดอกไม ..เหลือเกบ็ เอาไว ในตุมเอย บัตรภาพ คูม อื การจัดกิจกรรมลูกเสอื สาํ รองเสริมสรา งทักษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 1 81
82 คูมอื การจดั กิจกรรมลกู เสือสาํ รองเสรมิ สรางทกั ษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 1
เรอ่ื งทเี่ ปนประโยชน กวางกับพมุ ไม กวางตัวหน่ึงอยูในปาใหญ ถูกนายพรานและสุนัขตามลา ตองหลบหนีซอกซอน นายพราน ตามมาอยางกระช้ันชิด กวางจะหนีสักเทาใดก็ดูจะไมพน จนกระท่ังมาพบพุมไมรกทึบเขียวขจีแหง หนึ่ง กวางจึงว่ิงถลันเขาไปซอนตัวอยู พุมไมนั้นแตกใบงดงามรมคร้ึม เม่ือกวางเขาไปซอนตัวอยู ก็กลายเปนที่กําบังอันมิดชิด นายพรานมองไมเห็นจึงเดินเลยไป กวางแอบมองดวยใจหวั่นระทึก แตคร้ันเห็นพรานผานไปก็คิดวาตนเองปลอดภัยแลว ดวยความหิวจึงเผลอกินใบไมท่ีกําบังกายของ ตนเสียสนิ้ โดยไมคิดวาตนรอดชีวิตมาไดน ้ันก็เพราะใบไมเ หลา นัน้ แท ๆ ฝายนายพรานคนหากวางไมพบ จึงเดินยอนกลับมาทางเดิมและพบกวางกําลังเล็มใบไมอยู นายพรานจงึ นา วธนูและยงิ กวางลมลง กอนที่กวางจะขาดใจตาย มันไดแตรําพึงวา “ใบไมชวยชีวิต เราไวแ ท ๆ แตเรากลบั เนรคุณกนิ มนั เสียหมด” เรอ่ื งนี้สอนใหรวู า จงกตัญูรูค ณุ คูมอื การจดั กิจกรรมลกู เสอื สาํ รองเสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 1 83
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสอื สํารอง ดาวดวงที่ 1ชนั้ ประถมศกึ ษาปที่ 1 หนว ยที่ 6 ความปลอดภยั เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 16 ความปลอดภยั ในบา น 1. จุดประสงคก ารเรียนรู ลูกเสือเขา ใจสาเหตตุ าง ๆ ท่ที าํ ใหเ กิดอบุ ัตเิ หตภุ ายในบานและอนั ตรายท่ีเกดิ จากไฟ 2. เนือ้ หา สาเหตุตางๆ ท่ที ําใหเกดิ อบุ ตั ิเหตภุ ายในบานและอันตรายทเี่ กิดจากไฟ 3. สอ่ื การเรยี นรู 3.1 แผนภมู ิเพลง 3.2 ใบความรู เร่อื ง ความปลอดภยั ในบานภาพประกอบ 3.3 เรอ่ื งที่เปนประโยชน 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปด ประชมุ กอง (แกรนดฮาวล ชักธง สวดมนต สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรือเกม 4.3 กิจกรรมตามจุดประสงคการเรยี นรู 1) ผกู าํ กับลกู เสอื ชวนลกู เสอื สนทนาเกย่ี วกบั การเกิดอบุ ัตเิ หตใุ นบาน - ใครเคยเกดิ อบุ ตั ิเหตใุ นบา นบา ง ลองเลา ใหเพอื่ นฟง หนอ ย (เปด โอกาสใหเลา 2 – 3 คน) แลวสรปุ ตัวอยางอบุ ตั เิ หตใุ นบาน เชน การพลัดตกหกลม ไฟฟาดดู ไฟไหม น้ํารอ นลวก ใชยาผิด อัคคภี ยั ไดร ับสารพษิ แกส แมลงสัตวกดั ตอย อุบัตเิ หตจุ าก ของมคี มตา ง ๆ เปน ตน 2) ผูก าํ กบั ลูกเสอื ใหห มูลกู เสอื ชว ยกนั คดิ วิธีจัดการหรอื ปองกนั อุบตั เิ หตใุ นขอ 4.3 หมู ละ 2 ประเภท ทไ่ี มซ า้ํ กัน 3) ใหตวั แทนหมลู กู เสอื รายงานทลี ะหมู และผูกํากับลูกเสอื อธิบายเพม่ิ เตมิ และสรปุ 4.4 ผูกํากบั ลกู เสือเลาเรื่องทเ่ี ปนประโยชน 4.5 พิธปี ดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครือ่ งแบบแกรนดฮ าวส ชักธงเลิก) 5. การประเมินผล สงั เกตความสนใจและการเขารวมกิจกรรม การตอบคาํ ถามและแสดงความคดิ เหน็ 6. องคประกอบทักษะชวี ิตสําคญั ทเ่ี กิดจากกจิ กรรม คอื การคดิ วเิ คราะหและเหน็ ความสาํ คัญของการปองกันอบุ ัตเิ หตุ เพอ่ื ความปลอดภยั ในบา น 84 คมู ือการจดั กิจกรรมลูกเสอื สํารองเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 1
เพลง ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมที่ 16 ใบความรู ลมิ โบลูกเสือ สนุกกนั ไปพาใจใหร่ืนเรงิ รวมบนั เทงิ กบั ลกู เสือดีกวา (ซ้ํา) กายและใจจะคลายเหนือ่ ยลา ยังรักษาอายยุ ืนนาน กิจการงานเราลกู เสือไมห วนั่ เพราะทกุ วนั ใจเรารื่นเริง ความปลอดภยั ในบา น ภาพประกอบการเรียนรู คูม ือการจัดกิจกรรมลกู เสือสํารองเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ี่ 1 85
สาเหตุทท่ี ําใหเ กดิ อุบัตเิ หตใุ นบา น อุบตั ิเหตแุ ละอันตรายทีเ่ กดิ ข้ึนภายในบา น เนื่องจากมาจากการขาดความมีระเบยี บวนิ ัยและขาด ความรอบคอบเปนสว นใหญ อบุ ตั เิ หตทุ เ่ี กิดขึ้นเสมอจากสาเหตตุ อ ไปน้ี 1. การพลดั ตกหกลม 2. ไฟฟา 3. ไฟไหม นา้ํ รอนลวก 4. ใชย าผิด 5. อัคคีภัย 6. ของมพี ษิ แกส พษิ และสตั วรายตา งๆ 7. ของมีคมตางๆ วิธีปอ งกันอบุ ตั เิ หตภุ ายในบา น 1. จดั วางเครื่องเรือน และเครอ่ื งใชตา งๆ ใหเปนระเบียบ ของเลน เดก็ ควรจดั ใหเปน ระเบียบไม เกะกะ และไมว างของเกะกะตามขน้ั บนั ได รวมทงั้ บรเิ วณบา นที่อาจทําใหส ะดดุ และพลัดตกหกลมได 2. อยาใชม ือที่เปยกน้าํ ดบั สวิตชไ ฟ การถอดเตาเสยี บ ใหจับท่ตี วั เตา เสียบแลว ดึงออกอยา ดงึ ที่ สายไฟฟา เพราะอาจทําใหส ายไฟฟาขาดภายในและเกดิ กระแสไฟฟาลดั วงจรได 3. ระมดั ระวงั เร่อื งไฟในการหุงตม และการยกของรอน เชน นาํ้ รอ น ถวยแกงรอ น ๆ 4. ไมรับประทานยาใด ๆ กอ นจะมนั่ ใจในความปลอดภยั ดวยการถามผใู หญ 5. ไมเ ปดกลอ ง หบี หอ ท่ีไมร ูทม่ี า ระวงั การสมั ผัสกบั สิง่ ของมพี ิษ 86 คูมอื การจดั กิจกรรมลกู เสอื สํารองเสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 1
6. ระวังและหลีกเล่ียงจากแมลงมีพิษตาง ๆ เชน แมลงปอ ง ตะขาบ ผ้ึง แตน รวมทั้งสัตวเ ลย้ี งที่ อาจทาํ อนั ตรายได เชนสุนัข แมว 7. ระมัดระวงั ในการใชของมีคม และของแหลมตางๆ ถา ยงั ไมสามารถใชของเหลา น้ีไดจ นชํานาญ ควรขอควมชว ยเหลือจากผใู หญช วย เร่อื งท่เี ปนประโยชน หมาปา กับนกกระเรียน หมาปา กาํ ลงั กนิ กระตายปาทฆี่ า ไดอยางตะกละตะกลามแตทันไดน้ันกระดูกชิ้นเล็กๆ ก็ไปติด คอของมันและมันไมสามารถกลืนกระดูกชิ้นน้ันลงไปได ไมนานมันก็รูสึกเจ็บท่ีคอหอยก็เลยว่ิงไปว่ิง มา รองครวญคราง พยายามหาหนทางบรรเทาความเจ็บปวดมันพยายามขอรองใครก็ตามที่มันเจอ ใหชวยเอากระดูกออกไปที “ไมวานะขออะไรขาก็ใหไดทั้งน้ัน” หมาปาพูด “ถาชวยเอากระดูกออกไป ได” ในท่สี ดุ นกกระเรียนก็ตกลงที่นะชวย มันบอกหมาปา ใหน อนลงพรอ มกับอา ปากใหกวา งมากท่สี ดุ เทาท่ีจะกวางได แลวนกกระเรียนก็ยืดคอยาวๆของมันเขาไปในปากหมาปาใชจงอยปากของมันเข่ีย กระดูกช้ินน้ันหลุดออกมาได “เจาจะใหอะไรขาเปนรางวัลตามท่ีสัญญาไว” นกกระรียนถามหมาปา แสยะยิ้มแยกเขี้ยว และพูดวา “จงสํานึกตนไวเถิดเพราะเจาเพิ่งเอาหัวของเจาเขามาในปากของขา แ ล ะ เ อ า มั น อ อ ก ม า ไ ด อ ย า ง ป ล อ ด ภั ย น่ั น น า จ ะ เ ป น ร า ง วั ล ที่ ย่ิ ง ใ ห ญ สํ า ห รั บ เ จ า เร่ืองนส้ี อนใหร ูว า ความกตญั ูไมม ีในหมูคนพาล คูมอื การจดั กิจกรรมลกู เสือสํารองเสริมสรา งทักษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ 1 87
แผนการจัดกจิ กรรมลูกเสือสาํ รอง ดาวดวงที่ 1ช้นั ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 หนวยท่ี 6 ความปลอดภยั แผนการจดั กิจกรรมที่ 17 การเดนิ ขา มถนนอยา งปลอดภยั เวลา 1 ช่ัวโมง 1. จุดประสงคการเรียนรู 1.1 ลกู เสือบอกความหมายและวธิ ีปฏบิ ตั ติ นตอ เครือ่ งหมายจราจรทีเ่ ก่ยี วของกับ ชีวติ ประจาํ วันได 1.2 ลกู เสอื สามารถขามถนนอยางปลอดภยั 2. เน้อื หา 2.1 ความหมายและวธิ ีปฏบิ ัตติ นตอ เครอ่ื งหมายจราจร ทีเ่ ก่ยี วขอ งกบั ชวี ติ ประจาํ วัน 2.2 การขามถนนอยางปลอดภัย 3. ส่อื การเรียนรู 3.1 แผนภมู เิ พลง, เกม 3.2 แผนภูมิภาพเครือ่ งหมายจราจรทเ่ี กย่ี วของในชวี ิตประจําวัน 3.3 ใบความรู เรอื่ ง เครอื่ งหมายจราจรและการขามถนนอยา งปลอดภยั 3.4 เรอื่ งทเ่ี ปน ประโยชน 4. กจิ กรรม 4.1 พิธเี ปด ประชมุ กอง (แกรนดฮาวล ชักธง สวดมนต สงบน่งิ ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคการเรยี นรู 1) ผูกํากับลูกเสอื อธบิ ายสญั ญาณจราจร สัญญาณไฟสาํ หรบั คนขา มถนน การใชท างมา ลายและสะพานลอยและชวนสนทนาดว ยคาํ ถามวา - ใครเคยขา มถนนบา งใหย กมือขน้ึ สุมถาม 1 -2 คน วาขา มอยางไร มีใครชว ยพาขา ม - ลูกเสือคิดวา ในการเดินถนนและการขามถนนอาจเกดิ อันตรายอะไรไดบา ง แ ล ะ คิ ด วาจะระวงั ตนเองไดอยา งไร 2) ผกู ํากบั ลกู เสอื ชวนลกู เสือรอ งเพลงขามถนน และถอดความหมายของเนือ้ เพลง ขา มถนนบนสะพานลอย หรือลอดอุโมงคเหนอื่ ยหนอย แตกป็ ลอดภัยดี ขา มถนนบนทางมาลาย มองขวามองซาย และมองขวาอกี ที หากปลอดภยั ขา มไดอยา รอรี คร่ึงหลงั มองซายอีกที เพราะอาจจะมีรถมา 3) ผูกํากับลูกเสือจดั สถานทเี่ ปน ถนนจาํ ลอง ทบทวนสญั ญาณไฟจราจร สญั ญาณไฟคน ขามถนน สาธติ การเดินถนนและขามถนนอยา งปลอดภยั 4) หมลู ูกเสอื ฝกการเดินถนนและขา มถนนอยา งปลอดภยั ตามขัน้ ตอนการสาธติ 5) ผกู ํากบั ลูกเสอื และลกู เสอื รวมกันสรปุ วธิ กี ารเดินถนนและขามถนนอยา งปลอดภัย 88 คูมอื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื สํารองเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 1
4.4 ผูกาํ กับลกู เสือเลา เร่ืองทีเ่ ปน ประโยชน 4.5 พิธปี ดประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเครอื่ งแบบแกรนดฮาวส ชักธง เลิก) 5. การประเมินผล ตรวจสอบความเขา ใจเรือ่ งสัญญาณไฟจราจร และวิธกี ารเดนิ ถนนและขามถนนอยาง ปลอดภยั ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 17 เพลง ขา มถนน อยา เหมอมอง ตอ งดขู างหนา อกี ซายและขวาเม่อื จะขามถนน หากยวดยานมากหลาย กต็ อ งอดใจทนอยาตัดหนารถยนต ทุกทุกคนควรระวังเอย มง แซะ มง แซะ แซะ มง ตะลุม ตมุ มง (ซา้ํ ) ขา มถนน ขามถนนบนสะพานลอย หรือลอดอุโมงคเหนือ่ ยหนอย แตกป็ ลอดภัยดี ขา มถนนบนทางมา ลาย มองขวามองซาย และมองขวาอกี ที หากปลอดภัยขามไดอยา รอรี ครึ่งหลังมองซา ยอีกที เพราะอาจจะมีรถมา เกม วง่ิ ผลดั จราจร วิธีเลนลูกเสือแตละหมูเขาแถวตอนลึกจํานวนเทา ๆ กัน จัดทําบัตรสีแดง 3 ใบสี เหลือง 3 ใบ สี เขียว 6 ใบ แตละชุดวางไวหนาหมูลูกเสือ หางจากหัวแถวประมาณ 5 เมตร เมื่อไดยินสัญญาณ เร่ิมเลนใหคนแรกของแตละหมูว่ิงไปหยิบบัตร หากไดบัตรสีแดงใหควํ่าบัตรไวดังเดิม แลววิ่งกลับมา ตอแถวเดิมเพ่ือเตรียมเลนใหม หากเปนบัตรสีเหลืองใหคว่ําบัตรและรออยูตรงน้ันเพื่อรอเลนใหม หากไดบัตรสีเขียวใหรีบนําบัตรไปไวอีกจุดหนึ่งแลวนั่งรอสมาชิก หมูใดไดบัตรสีเขียวครบกอนเปน หมทู ่ชี นะ คมู ือการจัดกจิ กรรมลูกเสอื สาํ รองเสริมสรา งทกั ษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 1 89
ใบความรู เครือ่ งหมายจราจรและการขามถนนอยางปลอดภยั เคร่อื งหมายจราจร เปน สัญลกั ษณท ่ใี ชในการควบคมุ การจราจรมักเปนสญั ญาณไฟหรอื ปาย สัญญาณไฟจราจร สญั ญาณไฟจราจรโดยท่วั ไปประกอบดว ยสญั ญาณไฟสามสีติดตัง้ ตามทางแยกตา งเพื่อ ควบคุมการจราจรตามทางแยก โดยท้ังสามสี ไดแกสีแดงใหร ถหยดุ สีเหลอื งใหร ถระวัง เตรยี มหยดุ และสีเขยี วคอื ใหร ถไปได สาํ หรบั สัญญาณไฟจราจรพิเศษ เชน มสี ีเหลอื งเพยี งสเี ดียวกระพรบิ อยูใ ชส าํ หรบั ทางแยกท่ี ไมพ ลุกพลานหมายถงึ ใหระมัดระวังวา มที างแยกและดคู วามเหมาะสมในการออกรถไดเ อง, สญั ญาณ ไฟจราจรสําหรบั การขา มถนน เปน ตน สญั ญาณไฟจราจรสําหรับการเดนิ รถ มี 3 สี คอื สีแดง สเี หลอื ง และสเี ขยี ว สีแดง สีแดง สีเหลอื ง สเี ขยี ว สีเขยี ว สีแดง หมายถงึ ใหร ถทกุ คันหยดุ หลังแนวเสน ทก่ี าํ หนดไว สเี หลือง หมายถึง ใหรถทแี่ ลน อยเู ตรียมหยดุ หรือใหร ถทจ่ี อดอยเู ตรียมแลน สีเขยี ว หมายถึง ใหรถแลน ผา นไปได สัญญาณไฟสําหรบั คนขามถนน สญั ญาณไฟสําหรบั คนขา มถนนจะมรี ปู คนในสญั ญาณไฟ มี 2 สี คือ สแี ดง และสีเขยี ว สีแดง หมายถงึ หามขา มถนน สีเขยี ว หมายถึง ขา มถนนได 90 คูมอื การจัดกจิ กรรมลกู เสอื สาํ รองเสริมสรา งทักษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ี่ 1
ปา ยจราจร เปน ปายควบคมุ การจราจร แบง ออกเปน 3 ประเภท ปายบงั คบั มกั จะมีพนื้ สีขาว ขอบสแี ดง เปนปา ยกาํ หนด ตอ งทําตาม เชน หามเลยี้ วขวา ปา ยเตอื น มักจะมีพนื้ สีขาว ขอบสดี ํา จะเปนปา ยแจงเตอื นวา มีอะไรอยขู างหนา ปายแนะนํา เปน ปายที่แนะนาํ การเดินทางตางๆ อาทิ ทางลัด ปายบอกระยะทาง เปนตน ปายจราจร ความหมาย แสดงตาํ แหนง ทางขามถนน เคร่ืองหมายทางขามถนน โรงเรยี น ระวงั เด็ก :ทางขา งหนา มโี รงเรียนตั้งอยขู า งทางใหข ับรถให ชา ลงและระมัดระวังอุบตั ิเหตุ ซ่ึงอาจจะเกดิ ขน้ึ แกเ ด็กนกั เรียนถาเดก็ นักเรยี นกาํ ลังเดนิ ขา มถนนใหห ยดุ รถใหเ ดก็ นกั เรยี นขา มถนนไปได โดยปลอดภัยถา เปนเวลาทโ่ี รงเรยี นกําลังสอนใหงดใชเ สยี งสญั ญาณ และหามใหเ กดิ เสียงรบกวนดว ยประการใดๆ ระวงั คนขา มถนน :ทางขา งหนา มที างสําหรบั คนขา มถนน หรอื มี หมบู า นราษฎรอยูขา งทางซงึ่ มคี นเดินขามไปมาอยเู สมอ ใหข บั รถให ชาลงพอสมควรและระมดั ระวงั คนขามถนนถามีคนกาํ ลังเดนิ ขา มถนน ใหห ยุดใหคนเดินขามถนนไปไดโ ดยปลอดภัย เฉพาะคนเดิน :บรเิ วณทีต่ ดิ ต้งั ปายเปนบรเิ วณทก่ี ําหนดใหเ ฉพาะคน เดินเทานัน้ หยดุ : รถทกุ ชนิดตอ งหยดุ เมอ่ื เห็นวา ปลอดภยั แลว จึงใหเคลื่อนรถ ตอไปไดด ว ยระมดั ระวัง ใหท าง :รถทกุ ชนิดตองระมัดระวังและใหท างแกร ถและคนเดินเทา ในทางขวางหนา ผา นไปกอ นเม่ือเหน็ วาปลอดภัยและไมเปน การกีด ขวางการจราจรที่บริเวณทางแยกนน้ั แลวจงึ ใหเคล่อื นตอไปไดด วย ความระมดั ระวัง คูมือการจดั กจิ กรรมลกู เสอื สํารองเสรมิ สรางทักษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 91
ความปลอดภัยในการเดินถนน และขา มถนน เพอ่ื ความปลอดภยั ของตนเอง ผอู ื่น และเปนตัวอยางทีด่ ี ควรปฏิบัติในการเดินถนน ดงั น้ี 1. ถนนท่ีมที างเทา เดินบนทางเทา และเดนิ ชดิ ดา นซายของทางเทา 2. ถนนที่ไมมที างเทา เดนิ ชดิ ขอบดา นขวาของถนน เม่ือมรี ถแลนสวนมาจะไดระมัดระวัง 3. เดนิ ถนนตอนกลางคตนื ควรถอื ไฟฉายสอ งทาง และควรสวมเสอื้ ผา สขี าวหรอื สอี อน 4. เด็กท่ียังขามถนนไมเปน ตองมีผูใหญดูแลโดยจูงเด็กใหเด็กเดินดานในหางขอบถนน การเดินขา มถนน เพ่อื ความปลอดภยั ใหป ฏิบตั ิ ดังน้ี 1. ขามสะพานลอย ทางขามท่ีมีสัญญาณไฟสําหรับคนขาม ทางมาลาย หรือบริเวณจุดท่ีมี ตํารวจอํานวยความสะดวก รอใหร ถจอดสนทิ กอ นจงึ ขามไดและระมัดระวังรถที่ขับแซงขน้ึ มา 2. ถาไมมีสะพานลอย หรือทางขามท่ีมีสัญญาณไฟ หรือทางมาลาย ใหขามถนนดวยความ ระมัดระวัง หยุดที่ขอบทางกอน มองดูรถทางขวา หันกลับมาดูรถทางซาย แลวหันกลับไปดูรถ ทางขวาอีกคร้ัง เม่ือไมม ีรถหรอื รถอยูไกลจึงขามถนนอยางระมดั ระวงั โดยเดินทางตรง 3. ไมควรวิ่ง ไมควรเดินยอนกลับกลางทาง และไมควรหยุดเก็บของท่ีตกหลนอยูกลาง ถนน ไมวิ่งเลนหยอกลอคุยโทรศัพท หาของในกระเปาหรือกมเก็บของที่ตกหลนขณะขามถนน เดด็ ขาด เพราะอาจเสียหลกั หกลมจนโดนรถเฉีย่ วชนได 4. เพิ่มความระมัดระวังการขามถนนบริเวณทางแยกและบริเวณท่ีมีส่ิงบดบัง เชน ทายรถ ประจาํ ทาง ซอยที่มีรถจอด 5.การขามถนนที่มีรถเดินทางเดียว ควรหยุดดูวารถว่ิงมาจากทางใดและระมัดระวังรถที่ว่ิงยอน ศรหากเปนถนนท่ีมีเกาะกลาง ควรขามทีละครึ่งถนน และหยุดพักที่เกาะกลางหากไมมีรถคอยขามคร่ึง หลัง 92 คมู อื การจัดกิจกรรมลกู เสอื สํารองเสรมิ สรางทกั ษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 1
เรื่องท่เี ปนประโยชน ไมเ อาไฟแดง ณ เมืองแหงหนึ่งซึ่งรถติดเปนประจํามีชายคนหน่ึง เบ่ือรถติดมาก แตก็ไมรูจะทําอยางไรดี ไดแตบนและดาไปวันๆจนวันหน่ึง เทวดาทนเสียงบนของชายคนน้ีไมไหว จึงไดลงจากสวรรคมาหา ชายคนน้ีแลวถามวา \"ขาทนฟงเจาบนทุกวันจนเบื่อแลว เจามีปญหาอะไรไหนลองเลามาซิ\"ชายคน น้ันเห็นเทวดาก็ตกใจ แตก ็ไมร จู ะทาํ ยังไง ไดต อบวา \"ท่ผี มบน ก็เพราะเมืองน้รี ถติดมาก ผา นไปท่ไี หน รถก็ติดกันยาวเหยียด\"เทวดาถามชายคนน้ันวา \"แลวเจาตองการอะไรละ จะใหขาทําใหรถทั้งหมด หายไปจากโลกนี้เลยก็ไดนะ แตรถของเจาก็ตองหายไปดวยนะ เพ่ือความยุติธรรม\"ชายคนน้ันก็คาน ขึ้นวา \"ไมเอาหรอก แบบนั้นผมจะไปทํางานยังไงละทาน เอางี้ก็แลวกัน ผมขอใหตอจากนี้ไปเมืองน้ี ไมมีไฟแดงอีกตอไป\" เทวดาจึงตอบวา \"เอางั้นก็ได\"แลวหลังจากน้ันมา เมืองน้ีก็ไมมีไฟแดงอีกเลย ไมวาจะขบั รถผานไปแยกไหน ไฟจราจรทุกดานก็กลายเปนไฟเขียวหมดตลอดเวลาคนที่จะขามถนน ก็ขามไมได รถก็ว่ิงขวักไขวตลอดเวลา ทําใหเกิดอุบัติเหตุมากมาย ในท่ีสุดชายคนเดิมจึงตองขอรอง ใหเ ทวดาเปล่ยี นกลบั ไปเปน ไฟ 3 สี เหมือนเดิม เร่อื งนี้สอนใหรวู า การปฏบิ ตั ติ ามกฎจราจร ชว ยใหเกดิ ความปลอดภยั ในการใชรถใชถนน คมู อื การจดั กจิ กรรมลูกเสือสํารองเสริมสรางทักษะชวี ติ ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 1 93
แผนการจัดกิจกรรมลกู เสือสาํ รอง ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศกึ ษาปที่ 1 หนว ยที่ 6 ความปลอดภัย เวลา 1 ชั่วโมง แผนการจัดกิจกรรมที่ 18 รูเทา ทันโฆษณาชวนเชอื่ 1. จุดประสงคก ารเรียนรู ลกู เสอื รูเทาทนั โฆษณาชวนเชอื่ 2. เนอื้ หา การโฆษณาขายสินคา (ขนม ของเลน) เกินความเปน จริง 3. ส่ือการเรียนรู 3.1 แผนภมู ิเพลง 3.2 ขนมและของเลน หรอื ใชภ าพแทน 3.3 เรือ่ งที่เปนประโยชน 4. กจิ กรรม 4.1 พธิ ีเปด ประชมุ กอง (แกรนดฮ าวล ชักธง สวดมนต สงบน่งิ ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรือเกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก ารเรียนรู 1) ผกู าํ กบั ลูกเสือเตรยี มขนมของเลนที่เดก็ ๆชอบ มาใหล ูกเสอื แลว ชวนคดิ ชวนคยุ - ใครชอบขนม/ของเลน ชนิดไหนเพราะเหตใุ ดจึงชอบ - ผูกาํ กบั ลูกเสอื แสดงบทบาทสมมติเปน นักโฆษณาสนิ คา โฆษณาขนม/ของเลน โดยเลียนแบบโฆษณา ชวนเชอ่ื ใหเ กินความจรงิ อยางชัดเจน 2) ผกู าํ กับลูกเสือสุมถามลกู เสือวา เช่อื หรือไมเ ชอื่ และจะซ้อื สนิ คา ท่โี ฆษณาหรอื ไม 3) ผกู ํากับลกู เสอื ต้งั คําถามชวนคิดทลี ะคาํ ถาม (1) ลกู เสือคิดวา จดุ ประสงคข องการโฆษณาสนิ คา คืออะไร (2) เราควรเช่ือส่ิงที่เขาบอกหรือไม เพราะอะไร (สรุปใหเห็นวาการโฆษณามี จุดประสงคเพ่ือจงใจใหคนซ้ือสินคา จึงมักพูดแตส่ิงที่ชวยใหขายของไดเทาน้ัน ไมสามารถเชื่อได ท้ังหมด ลูกเสือจึงไมควรซื้อขนม/ ส่ิงของตามคําโฆษณา เพราะอาจเกิดผลเสีย เชน ของไมดี ราคา แพงเกินจรงิ และอาจมสี ีหรอื มสี ารพิษปนอย)ู 4.4 ผูกาํ กับลกู เสอื เลาเรื่องทเี่ ปนประโยชน 4.5 พธิ ีปด ประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอื่ งแบบแกรนดฮ าวส ชกั ธง เลกิ ) 5. การประเมนิ ผล สังเกตความคิดเห็นของลูกเสือสํารองท่ีมีตอการซ้ือขนมของเลน จากโฆษณาชวนเชื่อเปน การไมถ ูกตอ ง หรอื การรูเ ทา ทันโฆษณา 94 คูม ือการจัดกจิ กรรมลูกเสือสาํ รองเสรมิ สรางทักษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 1
6. องคประกอบทักษะชวี ติ สาํ คญั ทเ่ี กดิ จากกิจกรรม คอื การคิดวิเคราะหส ามารถตัดสนิ ใจไดว า ควรเชอื่ คําโฆษณาสนิ คา หรอื ไม ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมท่ี 18 เพลง ยินดที ่ีรูจ กั ยินดีทรี่ จู ัก เพื่อนรกั ขอเชญิ รว มจิต เรารักกันฉันมิตร รักสนิทเหมอื นพ่นี องกัน ยินดที ร่ี จู ัก เพือ่ นรักขอรว มใจมั่น ขอใหผ ูกสัมพนั ธ รว มรักกันใหนานเถดิ เอย เร่อื งที่เปนประโยชน ของเลน สอนใจ วันน้ีแมไดพาลูกหมีมาตลาดดวย ลูกหมีเดินผานรานลูกอมและของเลนเด็ก จึงขอใหแมซ้ือ ซื้อของเลนให แมตรวจดูของและถามราคา พบวาแพงไป และของเลนมีสีที่อาจไมปลอดภัยไดจึงไม ซอื้ ให แตลกู หมไี มเขาใจ เสยี ใจและรองไหท ี่แมไ มซ ือ้ ให ลงด้ินอยูกับพ้นื แมอธิบายแตลูกหมีไมฟง จะเอาของเลนใหได ดวยความรักลูกในท่ีสุดแมก็ใจออน ซื้อของ เลน ชนิ้ นนั้ ใหลกู หมี ลูกหมีดีใจหยุดรองไหทันที ตอมาของเลนนั้นเลนไดไมนานก็หลุดเปนช้ิน ๆ แตที่รายกวานั้น ลูกหมีมีอาการปวดทองมาก อาเจียน เม่ือไปหาหมอจึงรูวาลูกหมีไดรับสารพิษจากสีในของเลน แมเสียใจมากท่ีใจออนยอมซื้อของเลนใหลูกหมีท้ังที่สงสัยวาจะไมปลอดภัย และลูกหมีเองก็ เสียใจที่ไมเชือ่ ฟงแม จงึ บอกวา ตอไปน้ีลูกหมีจะเชื่อแมทกุ คร้ัง เร่ืองนสี้ อนใหร วู า ขนม ของเลน อาจมีอนั ตรายได จึงควรปรึกษาและเช่ือฟงผใู หญใ นการซ้อื คูมอื การจดั กจิ กรรมลูกเสอื สาํ รองเสรมิ สรางทักษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 1 95
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180