Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ฉันกำลังแชร์ 'ชิ้นงานงานจริง' กับคุณ

ฉันกำลังแชร์ 'ชิ้นงานงานจริง' กับคุณ

Published by Guset User, 2021-12-23 01:43:22

Description: ฉันกำลังแชร์ 'ชิ้นงานงานจริง' กับคุณ

Search

Read the Text Version

วิทยาลัยการอาชพี ปราสาท รชฏ บญุ ตรา

คำนำ หนงั สือเรียนวิชา โปรแกรมสําเร็จรูปทางสถิติ รหสั วิชา 20204-2106 เลม่ นี้ เรียบเรียงขนึ้ เพ่อื ใช้ ประกอบการเรยี นการสอนทเ่ี น้นผเู้ รยี นเป็นสําคญั ตามหลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) พทุ ธศกั ราช2562 ของสาํ นกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธ เนอื้ หาของหนงั สือมีดว้ ยกนั ทงั้ หมด 9 หน่วยการเรียน ประกอบดว้ ย (1) ความรู้เบอ้ื งคนกอ อก (2) การแจกแจงความถ่ี (3) การวดั แนวโนม้ เขา้ สสู่ ่วนกลาง (4) เปอรเ์ ซน็ ไทล์ เดไซล์ และควอ ไทล์ (5) การวดั การกระจายของขอ้ มลู และคา่ มาตรฐาน (6) การประมวลผลข้อมูล (7) แนะนํา โปรแกรมสาเรจจุบทร *** ทางดา้ นสถิติ (8) การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ทางดา้ นสถิตดิ ว้ ยโปรแกรม SPSS for Windows และ 27 28 29\" และแปลผลสถิตเิ ชงิ พรรณนาเบอื้ งตน้ พรอ้ มทงั้ แบบฝึกหดั ประจํา หนว่ ย แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและ หลงั เรยี น และใบงาน เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนไดฝ้ ึกทกั ษะในสถานการณ์ ตา่ ง ๆ มที กั ษะการคดิ และแกป้ ัญหา และ บรู ณาการกบั การทาํ งานตามสาขาอาชพี ตา่ ง ๆ ตอ่ ไป ผู้เรยี บเรยี งและฝ่ ายวชิ าการ ศนู ยห์ นงั สอื เมืองไทย หวงั เป็นอย่างยง่ิ วา่ หนงั สือเรียนวิชา โปรแกรม สําเรจ็ รปู ทางสถติ ิ เลม่ นี้ จะสามารถให้ความรู้และเกิดประโยชน์แกผ่ ู้สอน ผู้เรียน ตลอดจนผูส้ นใจศกึ ษา ทวั ่ ไปเป็ นอย่างดี หากมีขอ้ ผิดพลาดประการใด ผู้เรียบเรียงและฝ่ าย วชิ าการ ศนู ยห์ นงั สอื เมอื งไทย ขอบนั รบั คาํ ตชิ มเพ่อื เป็นประโยชนใ์ นการปรบั ปรุงแกไ้ ขในโอกาส ตอ่ ไป รชฎ บญุ ตรา และ 84 6 ฝ่ ายวชิ าการ ศนู ยห์ นงั สอื เมืองไทย

หลกั สตู รประกาศนยี บัตรวิชาชีพ พุทธศกั ราช 2562 ของ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร รหสั วชิ า 20204-2106 ชือ่ วชิ า โปรแกรมสาเร็จรปู ทางสถิติ ท-ป-น 2-2-3 จุดประสง์ครายวชิ า เพ่อื ใ์ห 1.้เขาใจเกยี่ วกบั หลกั การทางสถติ ิ 2.้เขาใจเก่ียวกับหลกั การทางานของโปรแกรมสาเร็จรปู ทางสถติ ิ 3. สามารถ้ใชคาสั่งเพอื่ การคานวณหา้คาทางสถติ ิโดย้ใชโปรแกรมสาเรจ็ รปู ทางสถิติ 4. สามารถ้ใชคาส่ังเพื่อการจดั ทารายงาน้ขอมูลทางสถิตแิ ละแผนภมู ิ 5. มเี จตคตแิ ละกจิ นิสัยท่ีดีในการปฏบิ ัติงานคอมพวิ เต้อร้ดวยความละเอยี ดรอบคอบ และ สมรรถถูก้ตนองะรายวิชา 1.แสดงความ้รเู กี่ยวกบั หลักการทางสถิติ 2. แสดงความ้รูเกี่ยวกับหลักการทางานของโปรแกรมสาเร็จรปู ทางสถิติ 3. ปฏิบัตกิ าร้ใชคาส่ังในการคานวณหา้คาทางสถิติโดย้ใชโปรแกรมสาเรจ็ รปู ทาง สถิติ 4. ปฏบิ ัติการ้ใชคาส่ังในการจดั ทารายงาน้ขอมลู ทางสถติ แิ ละแผนภูมิ คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาและปฏบิ ัตเิ กีย่ วกับหลักการทางสถิติ ประเภทของสถิติ การคานวณหา ้คาสถติ พิ น้ื ฐาน เคร่ืองมือท้ีใ่ ชในการเก็บรวบรวม้ขอมลู การจดั เตรยี ม้ขอมูล หลกั การทงานของโปรแกรม สาเร็จรปู ทางสถติ กิ าร้ใชคาสง่ั คานวณหา้คาทางสถิติโดย้ใชโปรโปรแกรมสาเรจ็ รปู ทางสถติ ิ และการการจัดทารายงาน้ขอมูลทางสถติ แิ ละแผนภมู ิ

สารบญั ห้นา ห์นวยท่ี 1 ความ์รเู บื้อง์ตนเกยี่ วกับสถติ ิ 1.1 ความหมายของสถติ .ิ ............................................................ 1.2 ประเภทของสถิติศาสต้ร........................................................ 1.3้ขอมลู และ้ขาวสาร................................................................ 1.4 มาตรการวดั ....................................................................... 1.5 ระเบียบวิธีทางสถิต.ิ ............................................................. แบบทดสอบหลังเรยี นห้นวยที่ 1................................................... ห์นวยที่ 2 การแจกแจงความถ่ี 2.1 ความหมายของการแจกแจงความถ.ี ....................................... 2.2 การส้รางตารางแจกแจงความถ.ี ............................................ 2.3 การส้รางตารางแจกแจงความถสี่ ะสม...................................... 2.4 การส้รางตารางแจกแจงความถส่ี มั พัท้ธ................................... 25 การส้รางตารางแจกแจงความถี่สะสมสมั พัท้ธ............................ 2.6 การแสดงการแจกแจงความถีโดย้ใชกราฟ............................... แบบทดสอบหลังเรยี นห้นวยท่ี 2................................................

หน่วยท่ี 3 กำรวดั แนวโน้มเขำ้ สู่ส่วนกลำง 3.1 ความหมายของการวดั แนวโน้มเข้าสู่สว่ นกลาง................................ 3.2 ประเภทของการวดั แนวโน้มเขา้ สู่สว่ นกลาง.................................... 3.3 การวดั แนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลางกบั ข้อมลู ลกั ษณะตา่ ง ๆ.................... แบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยที่ 3...................................................... หน่วยที่ 4 เปอร์เซน็ ไทล์ เดไซล์ และควอไทล์ 4.1 เปอรเ์ ซน็ ไทล์........................................................................ 4.2 เดไซล.์ ................................................................................ 4.3 ควอไทล์.............................................................................. แบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยท่ี 4..................................................... หน่วยที่ 5 กำรวดั กำรกระจำยของขอ้ มลู และค่ำมำตรฐำน 5.1 การวดั การกระจายของขอ้ มูล..................................................... 5.2 วธิ กี ารวดั การกระจายของขอ้ มูล................................................. 5.3 คา่ มาตรฐาน........................................................................ แบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยที่ 5.....................................................

หน่วยที่ 6 กำรประมวลผลขอ้ มลู 6.1 ความหมายของการประมวลผล ................................................... 6.2 ขนั้ ตอนการประมวลผล .............................................................. 6.3 กระบวนการรวบรวมขอ้ มูล .......................................................... 6.4 การตรวจสอบความถูกตอ้ งของขอ้ มลู ........................................... 6.5 การจดั เตรยี มขอ้ มูล .................................................................. แบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยท่ี 6 .......................................................

หน่วยท1่ี

หน่วยท่ี 1 ควำมรเู้ บอื้ งต้นเกี่ยวกบั สิตตต หวั ขอ้ เรอื่ ง (Topics) 1.1 ความหมายของสถติ ิ 1.2 ประเภทของสถติ ศิ าสตร์ 1.3 ขอ้ มลู และขา่ วสาร 1.4 มาตรการวดั 1.5 ระเบยี บวธิ ที างสถติ ิ 1.6 เครอ่ื งมอื ทใ่ี ช้ในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู แนวคตดสำคญั (Main Idea) สถิตมิ คี วามสําคัญและความจาํ เป็นต่อการปฏิบัติงานและ การพัฒนาทางวิชาการของมนุ ษย์ เป็ นเวลานาน สถิติถูก นํามาใชใ้ นลกั ษณะขอ้ มลู ตวั เลขต่าง ๆ ทเ่ี ป็นสงิ่ จาํ เป็นต้องรู้ เช่น การรายงานสภาพ อากาศประจาํ วัน การรายงานผลการสอบ มา ตร ฐา น วิช าชีพข อ งนั กเ รีย น ระ ดับ ปร ะ กา ศนี ยบัต รวิ ชา ชี พ (ปวช.) และนกั ศกึ ษาระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชพี ชนั้ สงู 8

สมรรินะย่อย (Element of Coแmสpดeงtคeวnาcมyร)เู้ บอ้ื งต้นเกยี่ วกบั สถติ ิ พน้ื ฐาน จดุ ประสงคเ์ ชตงพฤตตกรรม (Behavioral O1b.jeบcอtกivคeวsา)มหมายของสถติ ไิ ด้ 2. อธบิ ายและบอกประเภทของสถติ ศิ าสตรไ์ ด้ 3. บอกความหมายและองค์ประกอบของขอ้ มลู ได้ 4. อธบิ ายลกั ษณะการแบง่ ขอ้ มลู และแหลง่ ทมี่ าของ ขอ้ มลู ได้ 5. อธบิ ายลกั ษณะและบอกความแตกต่างของมาตรการ วดั ได้ 6. อธบิ ายระเบยี บวธิ ที างสถติ ไิ ด้ 7. อธบิ ายเครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ได้

1.1 ควำมหมำยของสิตตต คําว่า สถิติ (Statistics) เป็ นคําท่ี แปลงมาจากศพั ทบ์ ญั ญตั ใิ น ภาษาเยอรมนั ว่าStatistik เป็นคําท่ี มี รากศพั ทม์ าจากคําว่า \"State”ซงึ่ หมายถึง ข้อมลู หรอื ขา่ วสาร ซงึ่ จะเป็นประโยชน์ต่อการบรหิ ารงานของรฐั หรอื ประเทศในด้าน ต่าง ๆ ต่อมาในปลายศตวรรษที่ 19 ความหมายของสถิติได้ เปลย่ี นไป หมายถงึ ขอ้ มลู ท่ี เป็นตัวเลขเก่ยี วกับการบรหิ ารงาน ของรฐั เช่น การสาํ รวจสาํ มะโนครวั เพ่อื ทราบจาํ นวนและความ มงั่ คงั่ ของ พลเมอื ง จนในศตวรรษที่ 20 “สถติ ”ิ หมายถงึ ขอ้ มลู ในเรอ่ื งตา่ ง ๆ ซงึ่ ได้มกี ารเก็บรวบรวมแล้วนํามาหา ความหมาย เช่น ข้อมูลทางด้านธุรกิจ ข้อมูลสภาพภูมอิ ากาศ ข้อมูลการ เดนิ ทาง เป็นตน้

1.2 ประเภทของสิตตตศำสตร์ 1.สถติ เิ ชงิ พรรณนา คอื สถติ ทิ เี กย่ี วกบั ระเบยี บวธิ ที ่ี ใช้ในการอธบิ ายหรอื บรรยายลกั ษณะของขอ้ มูล โดยเป็น การบรรยายลกั ษณะเฉพาะกลุ่มทเี ก็บรวบรวมขอ้ มลู มา ไมส่ ามารถนําผลไปอา้ งองิ หรอื พยากรณ์คา่ ของกลุ่มอ่นื ๆ ได้ 2.สถติ เิ ชงิ อนุมาน คอื สถติ ทิ เี่ กยี่ วกบั การนําขอ้ มลู ทไี่ ด้จากตัวอย่าง (Sample) ซ่ึงเป็นการศกึ ษาจาก ขอ้ มลู เพยี งบางกลุ่ม หรอื บางส่วนของประชากรแล้ว นําขอ้ เทจ็ จรงิ ทไี่ ดน้ ้ไี ปอธบิ าย หรอื สรุปผลลกั ษณะของ ประชากร(Population) ทงั้ กลุ่ม การสรปุ ผลดงั กล่าวจะ ใช้หลักของความน่าจะเป็น (Probability)มาทาํ การ ทดสอบสมมตฐิ านตามทผี่ วู้ จิ ยั กาํ หนดไว้

1.3์ขอมูลและ์ขาวสาร 1.3.1 ความหมายและอง้คประกอบ ของง ้ขอมลู้ขอมลู หมายถึง้ขาวสารหรือ ้ขอเทจ็ จรงิ ที่เกดิ ขึ้น ซ่ึงอาจเก่ียวกับ คนหรอื สิ่งขอ้งขอมลู อาจจะอ้ยูในรูป ของตัวเลขหรือ้ขอความซ่ึง้ไดจาก การนับ การวดั การสังเกต หรอื การบนั ทกึ ้ขอมูลท้ไี่ ดรวบรวม้ไว ้เปนชุดมีการปรับปรุงแ้กไข้ใหตรง ้ขอเทจ็ จริงท้ีเ่ ปนอ้ยใู น้ปจจุบัน ซง่ึ จะ เรียกชุดน้นั้วาฐาน้ขอมลู (Data Base) ซงึ่ ฐาน้ขอมลู นี้จะ้ใช้เปน หลกั ฐาน้อางองิ เพ่ือ้คนหาความจริง

1.3 ขอ้ มลู และขำ่ วสำร 1.3.2 การแบง่ ลกั ษณะของขอ้ มลู การแบง่ ลกั ษณะของขอ้ มลู แบง่ ได้เป็น 2 ประเภท ดงั น้ี 1.ขอ้ มลู เชงิ คุณภาพ (Qualitative Data) คอื ขอ้ มลู ทม่ี ี ค่าไมต่ อ่ เน่อื งและไมส่ ามารถนําไปคาํ นวณทางคณิตศาสตร์ ได้ เป็นลกั ษณะของขอ้ มลู ทบ่ี รรยายลกั ษณะของสงิ่ ทศ่ี กึ ษา 2. ขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณ (Quantitative Data) คอื ขอ้ มลู ทมี่ คี า่ ตอ่ เน่อื งกนั และสามารถนําไปคาํ นวณทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ สามารถเปรยี บเทยี บความแตกต่างไดเ้ ป็นขอ้ มลู ตวั เลขทบี่ อกค่า ความมาก และน้อย เปรยี บเทยี บในรปู ของอตั ราสว่ นได้ ซง่ึ กค็ อื ขอ้ มลู ในมาตราอนั ตรภาค (Interval Scale) และมาตรา อตั ราสว่ น (Ratio Scale) เชน่ ขอ้ มลู อายุ นํ้าหนกั ความสงู พน้ื ที่ เป็นต้น

1.3 ขอ้ มลู และขำ่ วสำร 1.3.3 แหล่งขอ้ มลู ขอ้ มลู ทเ่ี ก็บรวบรวมมาไดส้ ามารถจาํ แนกตาม แหลง่ ทม่ี าได้ 2 ประเภท คอื 1. ขอ้ มลู ปฐมภูมิ (Primary Data) เป็นขอมลู ทไี่ ดจ้ า แหลง่ ขอ้ มลู โดยตรงหรอื ทเ่ี รยี กว่าแหล่งปฐมภูม(ิ Primary Data) ซงึ่ เป็นแหลง่ ทเี่ กดิ ของขอ้ มลู ขอ้ มลู ปฐมภูมทิ ไ่ี ดม้ า น้ถี อื วา่ เป็นขอ้ มลู ทนี ่าเชอ่ื ถอื ได้มากทสี่ ดุ 2. ขอ้ มลู ทตุ ยิ ภมู ิ (Secondary Data) เป็นขอ้ มลู ทไี ด้ จากแหล่งทม่ี ผี เู้ ก็บขอ้ มลู มาแล้ว หรอื ทเี่ รยี กว่า แหลง่ ทตุ ยิ ภูมิ (Secondary Data) ขอ้ มลู ทไี่ ดจ้ ากแหล่งทตุ ยิ ภูมนิ ้อี าจมกี ารเปลย่ี นรปู หรอื เปลยี่ นความหมาย

1.4 มำตรกำรวดั 1.4.1 มาตรานามบญั ญตั ิ (Norminal Scale) มาตรานามบญั ญตั ิ (Norminal Scale) เป็นระดบั ของ ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากวดั แบบงา่ ยทส่ี ุดคอื เป็นการแบง่ แยก ประชากรทจี่ ะศกึ ษาออกเป็นกลุ่มหรอื เป็นพวก โดยแต่ละ กลุม่ และแตล่ ะพวกมคี วามเทา่ เทยี มกนั แบง่ ประชากร โดยใช้เพศเป็นตวั แบง่ คอื ชายและ หญงิ แบง่ ประชากร โดยใชภ้ าคเป็นตวั แบง่ คอื ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลางภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื และภาค ตะวนั ออก

1.4 มำตรกำรวดั 1.4.2 มาตราเรยี งลาํ ดบั (Ordinal Scale) มาตราเรยี งลาํ ดบั (Ordinal Scale) เป็นระดบั ของขอ้ มลู ทก่ี ําหนด รายละเอยี ดของการวดั เพม่ิ ขนึ้ จากระดบั นามบญั ญตั ิ กล่าวคอื นอกจากจะแบ่งแยกขอ้ มลู อออกเป็นกลุ่มแลว้ ยงั สามารหาระดบั ความ แตกต่างระหว่างกลุม่ ไดด้ ว้ ย 1.4.3 มาตราอนั ตรภาค (Intervel Scale) มาตราอนั ตรภาค (Intervel Scale) เป็นระดบั ของขอ้ มลู ทมี่ ี คุณสมบตั ิทเ่ี พมิ่ เติมจากการวดั ระดบั เรยี งระดบั กล่าวคือ สามารถ กําหนดปรมิ าณของความแตกต่างระหว่างอนั ดบั ได้ เพราะการวดั แบบน้ีหน่วยของการวดั มลี กั ษณะคงทซ่ี ึง่ เป็นมาตรฐานในการ กาํ หนดค่าเป็นตวั เลข

1.5 ระเบียบวตธีทำงสิตตต 1.5.1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู (Collection of Data)การเก็บ รวบรวมขอ้ มลู หมายถึง การเก็บรวบรวมขอ้ ความหรอื ตวั เลขที่ ตอ้ งการจากประชากร ทม่ี คี ุณสมบตั ิสอดคลอ้ งตามความตอ้ งการ เชน่ จะศกึ ษาจาํ นวนชาวเขาทม่ี อี ยใู่ นจงั หวดั เชยี งใหม่ก็ตอ้ งรวบรวมตวั เลข จาํ นวนชาวเขาทม่ี อี ย่ใู นจงั หวดั เชยี งใหม่ เป็นต้น การเก็บรวบรวม ขอ้ มลู จาํ แนก 1ได.ก้เาปร็นเก4บ็ วรวิธบกี ราวรทมสจี่ าาํ กคทญั ะเดบงั ยี นนี้ ประวตั ิ เป็นการเกบ็ รวบรวม ขอ้ มลู จากแหลง่ ทม่ี ขี อ้ มลู เหล่านี้ อยู่ 2. การเกบ็ รวบรวมโดยวิธกี ารสาํ รวจ เป็นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยใชแ้ บบสาํ รวจ 3. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู โดยใชว้ ิธกี ารทดลอง เป็นการเก็บ รวบรวมขอ้ มลู ทเี่ ป็นผลจากการ

1.5 ระเบียบวตธีทำงสิตตต 4. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยวธิ กี ารสงั เกต การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยวธิ นี ้ี ผทู้ าํ การสาํ รวจต้องทาํ การบนั ทกึ ขอ้ มลู ทสี่ นใจจากการสงั เกต เชน่ จดบนั ทกึ รถยนต์ทผ่ี า่ นสแี่ ยกปทุม วนั เป็นตน้ 1.5.2 การนําเสนอขอ้ มลู (Presentation of Data) การนําเสนอขอ้ มลู คอื การนําขอ้ มลู ทรี่ วบรวมมาจดั เป็น หมวดหมใู่ หเ้ รยี บรอ้ ย งา่ ยต่อการเขา้ ใจและสะดวกในการ วเิ คราะห์ และตคี วามหมาย วธิ กี ารนําเสนอขอ้ มลู มี 2 วธิ ี ดงั น้ี 1. การนําเสนอขอ้ มลู อยา่ งไมเ่ ป็นแบบแผน (Informal Presentation) คอื การนําเสนอขอ้ มลู โดยไมม่ กี ฎเกณฑห์ รอื แบบอยา่ งแน่นอน

1.5 ระเบียบวตธีทำงสิตตต 2. การนําเสนออยา่ งเป็นแบบแผน (Formal Presentation) คอื การเสนอขอ้ มลู ตามกฎเกณฑห์ รอื แบบอยา่ งทก่ี าํ หนดไว้ ไดแ้ ก่ การนําเสนอในรปู ต่าง ๆ

แบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยท่ี 1 ความรเู้ บอื้ งตน้ เก่ยี วกบั สถิติ 1.คาํ วา่ สถติ ิ (Statistics) มาจากภาษาเยอรมนั วา่ อะไร ก.State ข. Statistik ค. Stat ง.Statistical 2. สถติ ิศาสตร์แบง่ เป็ นประเภทใหญ่ ๆ ไดก้ ่ีประเภท ก. 1 ประเภทข ข. ประเภท ค. 3 ประเภท ง. 4 ประเภท 3. สถติ ชิ นิดใดไมส่ ามารถนาํ ผลไปอา้ งองิ ขอ้ มลู กลมุ่ อน่ื ได้ ก. สถิติวเิ คราะห์ ข. สถติ เิ ชิงอนุมาน ค. สถติ ิเชิงพรรณนา ง. สถิตเิ ชงิ ปริมาณ 4. ขอ้ ใดหมายถงึ กลมุ่ ของระเบียนท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั เร่ืองเดยี วกนั ก. เขตขอ้ มลู (Field) ข. ระเบียน (Record) ค. อกั ขระ (Character) ง. แฟม้ ขอ้ มลู (File) 5. การจาํ แนกประเภทสิ่งทมี่ ีลกั ษณะคลา้ ยคลึงกนั ไวเ้ ป็ นพวกเดยี วกนั แลว้ ใชส้ ัญลกั ษณ์แทน จดั เป็ น มาตรการวดั ชนิดใด ก. มาตรานามบญั ญตั ิ ข. มาตราเรียงอนั ดบั ค.มาตราอตั ราส่วน ง. มาตราอนั ตรภาค

แบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยที่ 1 ความรู้เบอ้ื งตน้ เก่ยี วกบั สถิติ 6. มาตรการวดั ชนิดใดทส่ี ามารถแสดงปริมาณความมากนอ้ ย โดย สามารถจดั อนั ดบั ความมากน้อยได้ ก. มาตรานามบญั ญตั ิ ข. มาตราเรียงอนั ดบั ค. มาตราอตั ราส่วน ง. มาตราอนั ตรภาค 7. “เพศ” จดั เป็ นขอ้ มลู ลกั ษณะใด ก. ขอ้ มลู เชิงปริมาณ ข. ขอ้ มูลเชงิ คณุ ภาพ ค. ขอ้ มูลเชิงอนุมาน ง. ขอ้ มลู เชิงบรรยาย 8. ขอ้ มูลทผ่ี ใู้ ชเ้ ก็บรวบรวมมาเองจดั เป็ นขอ้ มลู ชนิดใด ก. ขอ้ มลู เชงิ ปริมาณ ข. ขอ้ มลู เชงิ คณุ ภาพ ค. ขอ้ มูลปฐมภูมิ ง ขอ้ มลู ทุตยิ ภูมิ 9. การนาํ เสนอขอ้ มูลอาจจะอยู่ในรูปแบบใดไดบ้ า้ ง ก. บทความ ข. ตาราง ค. กราฟ ง. ถกู ทกุ ขอ้ 10. การอธิบายผลที่ไดจ้ ากการวเิ คราะหข์ อ้ มูลจดั เป็ นระเบยี บวธิ ีทางสถติ ิ ข้นั ตอนใด ก. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู ข. การวเิ คราะหข์ อ้ มูล ค. การนาํ เสนอขอ้ มลู ง. การแปลความหมายของขอ้ มลู

หน่วยท2่ี กำรแจกแจงควำมิี่

หน่วยท่ี 2 กำรแจกแจงควำมิี่ หวั ข้อเรื่อง (Topics) 2.1 ความหมายของการแจกแจงความถี 2.2 การสรา้ งตารางแจกแจงความถี่ 2.3 การสรา้ งตารางแจกแจงความถสี่ ะสม 2.4 การสรา้ งตารางแจกแจงความถสี่ มั พทั ธ์ 2.5 การสรา้ งตารางแจกแจงความถส่ี ะสมสมั พทั ธ์ 2.6 การแสดงการแจกแจงความถโ่ี ดยใช้กราฟ 2.7 กราฟของการแจกแจงความถี่ แนวคตดสำคญั (Main Idea) เน่อื งจากขอ้ มลู ทรี่ วบรวมไดจ้ ากการทดสอบ การวัด การ ทดลองหรอื โดยวธิ กี ารใด ๆ กต็ ามซงึ่ เรยี กว่า ขอ้ มลู ดิบ (Raw Data)มกั อยู่อย่างกระจดั กระจาย มที งั้ ขอ้ มลู ทม่ี ีค่าน้อยและ มากปะปนกนั อยา่ งไมเ่ ป็นระเบยี บ แปลความหมายได้ยาก วิธี หนึ่งทจ่ี ะช่วยให้แปลความหมายขอ้ มลู ทร่ี วบรวมมาได้อยา่ ง งา่ ยๆ

มรรินะยอ่ ย (Element of Competency) แสดงความรเู้ กยี่ วกบั การแจกแจงความถี่ จตปุ ระสงคเ์ ชตงพฤตตกรรม (Behavioral Objectives) 1. อธบิ ายความหมายของการแจกแจงความถไ่ี ด้ 2. สรา้ งตารางแจกแจงความถไ่ี ด้ 3. สรา้ งฮสิ โตแกรมทแ่ี สดงการแจกแจงความถไี่ ด้ 4. สรา้ งรปู หลายเหลยี่ มแหง่ ความถท่ี แ่ี สดงการแจกแจง ความถไ่ี ด้ 5. สรา้ งเสน้ โค้งทแี่ สดงการแจกแจงความถไี่ ด้ 6. สรา้ งตารางแจกแจงความถส่ี ะสมได้ 7. สรา้ งโคง้ ความถสี่ ะสมได้ 8. อธบิ ายลกั ษณะของกราฟของการแจกแจงความถแ่ี บบตา่ ง ๆ ได้

2.1 ความหมายของการแจกแจงความถ่ี ความถี่ (Frequency) คอื จาํ นวนขอ้ มลู ทมี่ อี ยใู่ นค่าหนง่ึ ๆ หรอื ทอ่ี ยใู่ นขอ้ มลู กลุม่ หนึ่ง ๆ สญั ลกั ษณ์ทน่ี ยิ มใช้ คอื f การแจกแจงความถี่ คอื การนําขอ้ มลู ทรี่ วบรวมได้มาจดั ใหม่ใหเ้ ป็นระเบยี บ เป็นหมวดหมู่ เรียงจากค่ามากไปหาค่า น้อยไปหาค่ามาก วธิ นี ้มี ปี ระโยชน์ในกรณที ขี่ ้อมูลทร่ี วบรวมได้ มจี าํ นวนไมม่ ากนัก ในกรณที ม่ี ขี อ้ มลู จาํ นวนมากวธิ ที เี่ หมาะสม เรยี งลําดบั คอื วธิ แี จกแจงความถ่ี

2.2 การสรา้ งตารางแจกแจงความถี่ การสร้างตารางแจกแจงความถี่ เป็นตารางท่ี ประกอบด้วยสว่ นประกอบทีส่ าคญั 3 สว่ น คอื สว่ นท่ี 1 เป็นคะแนน (คาว่า “คะแนน” ในท่นี ี ้หมายถงึ ค่าตวั เลขที่ผ้วู ิจยั รวบรวมมาได้ไมจ่ าเป็นต้องเป็นค่าของ คะแนนสอบเสมอไป) ส่วนท่ี 2 เป็นขดี รอยคะแนน (Tally) ส่วนท่ี 3 เป็นคา่ ของความถซี่ ่ึงนบั ได้จากการขดี รอย คะแนน แทนด้วยค่า f

2.1 ความหมายของการแจกแจงความถ่ี วธิ กี ารแจกแจงความถ่ี มี 2 วธิ ี ดงั น้ี 2.2.1 ก ารแจกแ จงความถ่ีแบบไม่จัดเป็ นกลุ่ม (Ungrouped Data)วธิ นี ้จี ะจดั เรยี งลําดับคะแนนจากค่ามาก ไปหา ค่าน้อยหรอื จากคา่ น้อยไปหาค่ามาก แล้วหาว่าคะแนนแต่ละ คะแนนมกี จ่ี าํ นวน วธิ นี ้ชี อ่ งหา่ งระหวา่ งแต่ละค่าคะแนน เป็น หนึ่งหน่วยเทา่ กนั ตลอดตวั อย่างท่ี 2.1 ผลจากการสอบวิชา โปรแกรมประมวลผลคํา จาํ นวนขอ้ สอบ 50 ขอ้ มนี ักเรยี นระดบั ชนั้ ประกาศนียบตั รวชิ าชพี (ปวช.) ชัน้ ปีที่ 2 เขา้ สอบ 40 คน ได้คะแนนดงั น้ี

2.1 ความหมายของการแจกแจงความถ่ี คะแนนดบิ ทไี่ ดม้ าน้ยี งั ปะปนกนั อยแู่ ละไมเ่ ป็นระเบยี บ ถ้า เรยี งใหมต่ ามลาํ ดบั จากคา่ น้อยไปหาค่ามาก หรอื จากค่ามากไป หาคา่ น้อย คะแนนทเ่ี รยี งใหมน่ ้ี เรยี กว่า การแจกแจงแบบอนั ดบั (RankDistribution) จากขอ้ มลู ดงั กล่าวนํามาเรยี งได้ดงั น้ี

2.1 ความหมายของการแจกแจงความถี่ 2.2.2 การแจกแจงความถแี่ บบจดั เป็นกลุม่ (GroupedData) วธิ นี ้คี ล้ายคลงึ กบั การแจกแจงความถแ่ี บบไมจ่ ดั กลุ่ม คอื จะต้อง เรยี งคะแนนจากค่ามากไปหาค่าน้อย แต่ต่างกนั ทแี่ ต่ละชัน้ คะแนนจะประกอบด้วยกลุ่มของคะแนน ไม่ได้ประกอบด้วย คะแนนเพยี ง1 ตวั การแจกแจงความถแี่ บบจดั เป็นกลุม่ มขี นั้ ตอนดงั น้ี ขนั้ ที่ 1 หาค่าคะแนนสงู สุดและต่าํ สดุ ในขอ้ มลู ชุดนนั้ กอ่ น ขนั้ ที่ 2 กําหนดชัน้ คะแนนว่าข้อมูลทเี่ ก็บรวบรวมได้นัน้ มี ชว่ งความยาวของคะแนนสงู สดุ กบั คะแนนต่าํ สดุ มากเพยี งใด ถ้า ช่วงคะแนนแคบให้กําหนดไว้น้อยชนั้ ถ้าช่วงคะแนนกว้างให้ กาํ หนดไวห้ ลายชนั้

2.1 ความหมายของการแจกแจงความถี่ ขนั้ ท่ี 3 หาดูว่าชนั้ หนึง่ ๆ ควรจะมคี ะแนนอยกู่ ี่ คะแนน คะแนนช่วงหนงึ่ ๆ เรยี กว่า ช่วงกว้าง อนั ตรภาคชนั้ การหาชว่ งกวา้ งอนั ตรภาคชนั้ หา ได้จากสตู ร ขนั้ ที่ 4 เขยี นขดี จาํ กดั ชนั้ ของคะแนนแต่ละชนั้ ลงในช่วง คะแนน โดยเรม่ิ จากคะแนนสงู สุดหรอื ต่าํ สุดกไ็ ด้ ขนั้ ท่ี 5 นําคะแนนทรี่ วบรวมมาได้ไปขดี ลงในชนั้ คะแนนนนั้ ๆ ไดเ้ ทา่ ไรใหเ้ ป็นคะแนนความถี่ ของคะแนนแต่ละชนั้ เมอ่ื รวมความถแี่ ลว้ ต้องเทา่ กบั จาํ นวนขอ้ มลู ทมี่ อี ยเู่ ดมิ

2.1 ความหมายของการแจกแจงความถ่ี ตวั อยา่ ง 1 กําหนดใหช้ นั้ คะแนนเป็น 5 ชนั้

2.1 ความหมายของการแจกแจงความถ่ี

2.1 ความหมายของการแจกแจงความถี่ ตวั อยา่ งที่ 2 จากการสอบของรายวชิ าการประยุกต์คอมพวิ เตอร์ กบั งานสถติ ขิ องนักเรยี นระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) ชนั้ ปีท่ี 3 วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษารอ้ ยเอด็ ปรากฏผลคะแนนเป็นดงั น้ี ก. จงแจกแจงความถ่ีโดยให้จานวนชนั้ เทา่ กับ 8 ข. จงหาจดุ กึ่งกลางชนั้ ของทกุ ชนั้ ค. จงหาขีดจากดั ล่างและบนของทกุ ชนั้ วธิ ีทา ก. จงแจกแจงความถี่โดยให้จานวนชนั้ เท่ากับ 8 คา่ สงู สดุ = 98 คา่ ต่าสดุ = 40

2.1 ความหมายของการแจกแจงความถ่ี

2.1 ความหมายของการแจกแจงความถ่ี

2.1 ความหมายของการแจกแจงความถ่ี

2.3 การสรา้ งตารางแจกแจงความถสี่ ะสม ความถส่ี ะสม (Cumulative Frequency) ของค่าทเ่ี ป็นไปได้ค่า ใดหรอื ของอนั ตรภาคชนั้ ใด คอื ผลรวมของความถขี่ องคา่ นัน้ หรอื ของอนั ตรภาคชนั้ นนั้ กบั ความถข่ี องอนั ตรภาคชนั้ ทมี่ ชี ่วงคะแนน ต่าํ กว่าทงั้ หมดหรอื สงู กวา่ ทงั้ หมดอยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง จากข้อมูลคะแนนสอบในตวั อยา่ งที่ 2.3 เป็นคะแนนสอบ รายวชิ าการประยกุ ต์คอมพวิ เตอรก์ บั งานสถิตขิ องนักเรยี นระดับ ประกาศนียบตั รวชิ าชพี (ปวช.) ชนั้ ปีที่ 3 วทิ ยาลยั อาชีวศึกษา รอ้ ยเอ็ด สามารถสรา้ งตารางแจกแจงความถสี่ ะสมไดด้ งั น้ี

2.3 การสรา้ งตารางแจกแจงความถส่ี ะสม จากตารางแจกแจงความถส่ี ะสม เม่อื พจิ ารณาความถ่สี ะสมจาก คะแนนน้อยไปหาคะแนนมากจะได้ว่า คะแนนความถ่ีสะสม 12 เกิด จากความถี่ 2 + 1 + 3 + 6 นนั ่ หมายความว่า นกั เรยี นทสี่ อบรายวชิ า การประยุกตค์ อมพวิ เตอรก์ บั งานสถติ ิ มคี ่าคะแนนน้อยกว่า 71.5 มจี าํ นวน 12 คน จากตารางแจกแจงความถ่ีสะสม เม่อื พจิ ารณาความถ่ีสะสมจาก คะแนนมากไปหาคะแนนน้อยได้ว่า คะแนนความถส่ี ะสม 28 เกดิ จากความถ่ี 1 + 4 + 11 + 12 นนั ่ หมายความว่า นกั เรยี นทสี่ อบ รายวชิ าการประยุกตค์ อมพวิ เตอรก์ บั งานสถติ ิ มคี ่าคะแนนมากกว่า 71.5 มจี าํ นวน 28 คน

2.4 การสรา้ งตารางแจกแจงความถส่ี มั พทั ธ์ ความถสี่ มั พทั ธ์ (Relative Frequency) ของค่าทเ่ี ป็นไปได้ค่า ใดหรอื อนั ตรภาคชนั้ ใด คอื อตั ราสว่ น ระหวา่ งความถข่ี องค่านนั้ หรอื อนั ตรภาคชนั้ นนั้ กบั ผลรวมของ ความถที่ งั้ หมด หรอื การนําเอาคา่ ความถใี่ นแตล่ ะชนั้ หารดว้ ย จาํ นวนขอ้ มลทงั้ หมดความถส่ี มั พทั ธอ์ าจแสดงในรปู ของเศษสว่ น หรอื ทศนยิ ม หรอื รอ้ ยละก็ได้

2.4 การสรา้ งตารางแจกแจงความถสี่ มั พทั ธ์ ตวั อยา่ งท่ี 2.4 จงสรา้ งตารางแจกแจงความถส่ี มั พทั ธข์ อง คะแนนสอบรายวชิ าการประยุกต์ คอมพวิ เตอรก์ บั งานสถติ ิ ของนักเรยี นระดบั ประกาศนยี บตั ร วชิ าชพี (ปวช.) ชนั้ ปีที่ 3 ของวทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษารอ้ ยเอ็ด วธิ ที าํ ตารางแจกแจงความถส่ี มั พทั ธข์ องคะแนนสอบรายวชิ า การประยุกตค์ อมพวิ เตอร์ กบั งานสถติ ิ สรา้ งไดด้ งั ตารางดา้ นลา่ ง

2.5 การสรา้ งตารางแจกแจงความถสี่ ะสมสมั พทั ธ์ ความถสี่ ะสมสมั พทั ธ์ (Relative Cumulative Frequency) ของค่าทเ่ี ป็นไปไดค้ ่าใด ๆหรอื อนั ตรภาคชนั้ ใด คอื อัตราสว่ น ระหวา่ งความถส่ี ะสมของคา่ นนั้ หรอื ของอนั ตรภาคชนั้ นนั้ กบั ผลรวมของความถท่ี งั้ หมด ตวั อยา่ งท่ี 2.5 จงสร้างตารางแจกแจงความถ่ีสะสมสมั พทั ธ์ของ คะแนนสอบรายวชิ าการประยุกต์คอมพวิ เตอรก์ บั งานสถิติขอ ง นักเรยี นระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช.) ชัน้ ปีท่ี 3ของ วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษารอ้ ยเอด็ วธิ ที าํ ตารางแจกแจงความถ่สี ะสมสมั พทั ธข์ องคะแนนสอบ รายวชิ าการประยุกต์คอมพวิ เตอร์กบั งานสถิติสร้างได้ดังตาราง ดา้ นล่าง

2.6 การแสดงการแจกแจงความถโ่ี ดยใชก้ ราฟ เพอ่ื ใหเ้ ป็นการกระจายของขอ้ มลู ชัดเจนยงิ่ ข้นึ จงึ ได้มกี ารนําเอา ตวั เลขนนั้ มาแสดงโดยใช้กราฟกราฟทใ่ี ชแ้ สดงความถมี่ ดี งั น้ี ฮสิ โตแก รม (Histogram)รปู หลายเหลย่ี มความถ่ี(FrequencyPolygon)เสน้ โค้ง ของความถ(่ี Frequency Curve) และโค้งความถี่สะสม(Ogive Curve or Cumulative Curve) 2.6.1 ฮสิ โตแกรม (Histogram) คอื รูปแท่งสเ่ี หลยี่ มมุมฉากวางเรยี ง ติดต่อกันบนแกนนอน โดยความกว้างของรปู สเี่ หล่ยี มมุมฉากแทน ความกว้างของอันตรภาคชนั้ และพ้นื ทรี่ ูปสเ่ี หลี่ยมมุมฉากแต่ละรูป แทนความถ่ขี องแต่ละอนั ตรภาคชนั้ ดังนัน้ ถ้าความกว้างของอนั ตร ภาคชนั้ เทา่ กันตลอดความสงู ของรูปสเี่ หลย่ี มมุมฉากจะแปรตรงกบั ความถหี่ ากความกว้างของอนั ตรภาคชนั้ ไมเ่ ท่ากันความสงู ของรูป สเ่ี หล่ียมมุมฉากแต่ละรปู จะเท่ากบั อตั ราส่วนของความถี่และความ กวา้ งของอนั ตรภาคชนั้ นนั้ ๆ

2.6 การแสดงการแจกแจงความถโี่ ดยใชก้ ราฟ ตวั อยา่ งที่ 2.6 จงสรา้ งฮสิ โตแกรมจากตารางแจกแจงความถ่ีของ คะแนนสอบรายวิชาการประยุกต์คอมพิวเตอร์กับงานสถติ ิ ของ นักเรยี นระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชีพ(ปวช.)ชนั้ ปีทขี่ องวิทยาลัย อ า ชี ว ศึ ก ษ า ร้ อ ย เ อ็ ด วธิ ที ํา จากตารางแจกแจงความถข่ี องคะแนนสอบรายวชิ าการ ประยุกต์คอมพวิ เตอรก์ ับงานสถติ ิสรา้ งฮสิ โตแกรมจากตารางแจก แจงความถข่ี องคะแนนสอบรายวชิ าการประยกุ ตค์ อมพวิ เตอรก์ ับงาน สถติ ไิ ดด้ งั น้ี

2.6 การแสดงการแจกแจงความถโี่ ดยใชก้ ราฟ 2.6.2 รปู หลายเหลยี่ มความถี่ (Frequency Polygon) รปู หลายเหลยี่ มความถ่ี คอื รปู หลายเหลยี่ มทเ่ี กดิ จากการลาก โยงเสน้ ตรงระหวา่ งจุดกง่ึ กลางของยอดแทง่ สเ่ี หลยี่ มมมุ ฉากของฮสิ โต แกรม จงสรา้ งรปู หลายเหลยี่ มความถี่ จากตารางแจกแจงความถใ่ี น ตวั อยา่ งท่ี 2.6 วธิ ที าํ จากตารางแจกแจงความถข่ี องคะแนนสอบรายวชิ าการ ประยกุ ตค์ อมพวิ เตอรก์ บั งานสถติ ิ

2.6 การแสดงการแจกแจงความถโ่ี ดยใชก้ ราฟ 2.6.3 เสน้ โค้งความถ่ี (Frequency Curve)คอื เสน้ โค้งทไี่ ด้จากการ ปรบั ด้านรปู หลายเหลย่ี มความถใ่ี ห้เรยี บรอ้ ยขน้ึ โดยการปรบั ใหพ้ ้นื ที่ ใตเ้ สน้ โค้งใหม้ พี น้ื ทใ่ี กลเ้ คยี งกบั พน้ื ทขี่ องรปู หลายเหลย่ี มความถ่ี จงสรา้ งเสน้ โค้งความถ่ี จากตารางแจกแจงความถีใ่ นตัวอย่างที่ 2.6 วิธที ํา จากตารางแจกแจงความถี่ของคะแนนสอบรายวิชาการ ประยกุ ตค์ อมพวิ เตอรก์ บั งานสถติ ิ

แบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 2 การแจกแจงความถ่ี 1. การจดั การขอ้ มลู เพอ่ื ให้ทราบวา่ ขอ้ มลู แตล่ ะค่าหรือแตล่ ะกลุม่ มคี วามถี่ มากน้อยเรียกวา่ อะไร ก. การจดั ระเบยี บของขอ้ มลู ข. การแจกแจงความถี่ ค. การเรียงลาํ ดบั ขอ้ มลู ง. การแปลความหมาย ขอ้ มลู 2. ขอ้ ใดไมใ่ ชส่ ่วนประกอบของตารางแจกแจงความถี ก. ส่วนทเ่ี ป็ นขอ้ มลู ข. ส่วนทีเ่ ป็ น ขีดรอยคะแนน ค. ส่วนทเ่ี ป็ นค่าความถี่ ง. ส่วนท่ีเป็ นหมายเหตุ 3. คะแนนสอบของนกั เรียน 40 คน มีคะแนนสูงสุดเป็ น 95 คะแนน ตา่ํ สุด เป็ น 36 คะแนน กาํ หนดให้มี จาํ นวนช้นั เท่ากบั 5 ชว่ งกวา้ งของอนั ตรภาค ช้นั ของตารางแจกแจงความถคี่ ือขอ้ ใด ก. 10 ข. 12 ค. 13 ง. 14 ช่วงคะแนน ความถ่ี ความถ่ีสะสม 25-31 4 25 32-38 7 (…….)

แบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยท่ี 2 การแจกแจงความถ่ี 4. จากตารางดา้ นบน ในช้นั คะแนน 32-38 จะมีความถ่ีสะสมเป็ นเทา่ ไร ก. 32 ข.11 ค. 7 ง. 25 5.จากตารางในขอ้ 4 จาํ นวนขอ้ มลู ท่ีไดค้ ะแนนน้อยกวา่ 31.5 มีเท่าไร ก. 29 ข. 25 ค. 11 ง. 4 6. ขอใดกลา่ วไม่ถกู ตอ้ งเกยี่ วกบั ความสมั พทั ธ์ ก. ความถ่ีสัมพทั ธ์หาไดจ้ ากความถ่ีในแตล่ ะช้นั หารดว้ ยจาํ นวน ขอ้ มลู ท้งั หมด ข. ความสัมพทั ธข์ องทกุ อนั ตรภาคช้นั รวมกนั แลว้ จะตอ้ งได้ 1 เสมอ ค. ความสมั พทั ธแ์ สดงในรูปของเศษส่วนหรือทศนิยมก็ได้ ง. ความถี่สมั พทั ธ์ของตารางแจกแจงความถที ม่ี ีจาํ นวนช้นั มากกวา่ 10 ซนั จะมีค่ามากกวา่ อนั ตรภาคชัน้ ความถ่ี ความถ่ีสะสม ความถ่ี ความถ่ีสะสม สัมพัทธ์ สัมพทั ธ์ 36-43 3 3 44-51 2 5 0.15 0.15 52-59 7 12 0.10 0.25 60.67 8 20 (…..) (…..) 0.40 1.00

แบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยที่ 2 การแจกแจงความถ่ี 7. จากตารางดา้ นบน ความถสี่ ัมพทั ธ์ในช้นั คะแนน 52 59 มีคา่ เท่าไร ก. 0.25 ข. 0.35 ค. 0.45 ง. 0.55 8. การแสดงโดยใชก้ ราฟแสดงความถ่ีท่ีมลี กั ษณะเป็ นแทง่ ส่ีเหลย่ี มมุม ฉากวางเรียงตดิ ต่อกนั เรียกวา่ อะไร ก. รูปหลายเหล่ียมความถี่ ข. โคง้ ความถี่สะสม ค. เสน้ โคง้ ของความถ่ี ง. ฮสิ โตแกรม 9. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ งเก่ียวกบั รูปหลายเหล่ียมความถี่ ก. เส้นโคง้ ที่ไดจ้ ากการปรับรูปเหลยี่ มเพอื่ ใหม้ พี น้ื ทีใ่ ตโ้ คง้ ปกติ ข. รูปหลายเหลีย่ มที่เกดิ จากการลากโยงเสน้ ตรงจุดก่งึ กลางของแทง่ ฮิสโตแกรม ค. กราฟความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งคะแนนกบั ความถี่สะสม ง. ไมม่ ขี อ้ ใดถกู 10. โคง้ ท่ีแสดงการแจกแจงความถีของขอ้ มูลรูปใดทแ่ี สดงวา่ ขอ้ มูล ส่วนมากมคี า่ กลาง ๆ ก. โคง้ เบ้ ข. โคง้ รูปตวั เจ ค. โคง้ ปกติ ง. โคง้ สองยอด

หน่วยท3่ี

หน่วยที่ 3 กำรวดั แนวโน้มเขำ้ สสู่ ว่ นกลำง หวั ขอ้ เรอ่ื ง (Topics) 3.1 ความหมายของการวดั แนวใหเ้ นา4ส่วนกลาง 3.2 ประเภทของการวดั แนวโน้มเขา้ สสู่ ว่ นกลาง 3.3 การวดั แนวโน้มเขา้ สสู่ ่วนกลางกบั ขอ้ มลู ลกั ษณะ ต่างๆ มรรินะย่อย (Element of Competency) แสดงความรเู้ กย่ี วกบั การวดั แนวใหเ้ ขา้ สู่ ส่วนกลาง จดุ ประสงคเ์ ชตงพฤตตกรรม (Behavioral Objectives 1. อธบิ ายความหมายของการวดั แนวโน้มเขา้ สสู่ ว่ นกลางได้ 2. บอกประเภทของการวดั แนวโน้มเขา้ สสู่ ว่ นกลางได้ 3. คํานวณค่าเฉลย่ี เลขคณติ ได้ 4. คํานวณค่ามธั ยฐานได้ 5. คํานวณค่าฐานนิยมได้ 6. บอกไดว้ ่าขอ้ มลู แต่ละลกั ษณะเหมาะใหก้ บั วธิ ใี ดในการวดั แนวโน้มเขา้ ส่สู ่วนกลาง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook