Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 28403_แผนการสอนวิชาภาษาอังกฤษชั้นป.2 ปีการศึกษา 2564

28403_แผนการสอนวิชาภาษาอังกฤษชั้นป.2 ปีการศึกษา 2564

Published by e57927231, 2021-05-08 08:46:15

Description: 28403_แผนการสอนวิชาภาษาอังกฤษชั้นป.2 ปีการศึกษา 2564

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ Unit 4 On the farm (Lesson 1) 1. สาระสาคญั การเรียนรู้คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สัตวเ์ ล้ียงในฟาร์ม การใชค้ ากริยาอาการต่างๆ เพอ่ื บรรยาย ความสามารถของสัตวห์ รือบคุ คลดว้ ยประโยคบอกเล่า เช่น It can climb. รวมท้งั ประโยคคาถามและปฏิเสธ การใช้ Preposition: in, on, under และการออกเสียง [d] ซ่ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษเพ่ือนาไปใชส้ ่ือสาร ในชีวติ ประจาวนั 2. ตวั ชีว้ ดั /จุดประสงค์การเรียนรู้ - อ่านออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สตั วเ์ ล้ียงต่างๆ ในฟาร์ม และคากริยาได้ - พดู ให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ความสามารถในการทากริยาต่างๆ ของสัตวเ์ ล้ียงในฟาร์ม และสามารถถาม-ตอบได้ - เขียนคาศพั ทส์ ตั วเ์ ล้ียงในฟาร์มได้ - ฟัง และระบภุ าพไดถ้ กู ตอ้ ง - ออกเสียง [d] ตน้ คาศพั ทไ์ ด้ - ใช้ Preposition: in, on, under ไดถ้ กู ตอ้ ง - เล่นเกมและร้องเพลงภาษาองั กฤษตามทีก่ าหนดได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สตั วเ์ ล้ียงในฟาร์ม และคากริยาต่างๆ - บทสนทนาท่ีใชถ้ ามและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ความสามารถของบุคคลหรือสัตว์ เช่น A: Can you climb? B: No, I can’t. - Pronunciation: initial sound [d] - Preposition: in, on, under - ตวั อกั ษร และเสียงตวั อกั ษรของภาษาองั กฤษและภาษาไทย - กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การร้องเพลงภาษาองั กฤษ การเล่นเกม - การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณ์ง่ายๆ ที่เกิดข้ึนในหอ้ งเรียน 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน - 190

4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ - การคิดวิเคราะห์ - การคิดอยา่ งสร้างสรรค์ 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - ใฝ่ เรียนรู้ - มุ่งมน่ั ในการทางาน 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ 6.1 ช่ัวโมงที่ 1-2  กจิ กรรมนำสู่กำรเรียน 4. นกั เรียนทบทวนคาศพั ทแ์ ละประโยคจาก Unit 3 ดว้ ย บตั รคา บตั รภาพ และแถบประโยค 5. นกั เรียนบอกชื่อสัตวม์ าคนละ 1 ชื่อ โดยไมซ่ ้ากบั เพ่ือน และครูถามกบั นกั เรียนต่อว่า สัตวท์ ี่นกั เรียนบอกมาน้ีมี ความสามารถอะไรบา้ ง Teacher: Tell me a name of animal that you know. Fah: Dog. Nam: Cat. Teacher: Can it fly? (ครูทาทา่ กาลงั บนิ ) Yes or no? Fah: No. Nam: No. Teacher: Can it run? (ครูทาท่ากาลงั วง่ิ ) Yes or no? Fah: Yes. Nam: Yes. 6. ครูนารูปสตั วม์ าแสดงหนา้ ช้นั เรียน แลว้ ถามวา่ สัตวช์ นิดน้ีเรียกว่าอะไร ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ Teacher: What’s this? (ครูชูรูปลิง) Fah: It’s a monkey. 7. ครูบอกนกั เรียนว่า ใน Unit 4 จะไดเ้ รียนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สัตว์ และประโยคทใ่ี ช้ Can ท้งั ประโยคคาถาม และคาตอบ  กจิ กรรมพัฒนำกำรเรียนรู้ 191

12. ครูเขยี นเน้ือเพลง “Old MacDonald” ลงบนกระดาน แลว้ อ่านเน้ือเพลงทีละบรรทดั ใหน้ กั เรียน ออกเสียงตาม และจดเน้ือเพลงลงสมุดของตนเอง “Old MacDonald had a farm” Old MacDonald had a farm Eeay, eeay, oh And on his farm. He had a cow Eeay, eeay, oh With a moo, moo here and a moo moo there moo moo moo moo everywhere Eeay, eeay, oh! Sheep baa baa … Horse, neigh, night … Dog, bow wow … Cat meow meow … Duck quack quack … Mouse squeak squeak … Donkey, hee haw … นกั เรียนรอ้ งเพลงน้ี 2-3 คร้งั 13.ครูหยบิ บตั รภาพสตั วท์ ี่อยใู่ นเน้ือเพลง Old MacDonald มาติดบนกระดาน ดงั น้ี ภาพลา ภาพววั ภาพแกะ ภาพมา้ ภาพสุนขั ภาพแมว ภาพเป็ด ภาพหนู ครูช้ีและถามนกั เรียนเป็ นภาษาไทยวา่ สตั วท์ ่อี ยใู่ นภาพน้ีคอื อะไร นกั เรียนช่วยกนั ตอบ จากน้นั ครู นาบตั รคาข้นึ มา อา่ นออกเสียง และบอกความหมายของคาศพั ท์ ใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม และจด คาศพั ทพ์ ร้อมความหมายลงในสมุดของตนเอง ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 8 คน ออกมาหนา้ ช้นั เรียน แลว้ ครูแจกบตั รคาใหน้ กั เรียนคนละ 1 ใบ เพอ่ื นามาติดใตภ้ าพใหถ้ ูกตอ้ ง ดงั น้ี ภาพลา ภาพววั ภาพแกะ ภาพมา้ ภาพสุนขั ภาพแมว ภาพเป็ด ภาพหนู 192

donkey cow sheep horse dog cat duck mouse ใหน้ กั เรียนออกเสียงคาศพั ทท์ ้งั หมดอีกคร้งั 3. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้ำ 40 ข้อ 1 Listen and point. ครูถามนกั เรียนวา่ ในภาพมีสตั ว์ อะไรบา้ ง นกั เรียนช่วยกนั ตอบ Teacher: What animals are in this picture? Students : Mouse, monkey, horse, duck, frog and hen. ครูใหน้ กั เรียนนบั จานวนสตั วแ์ ตล่ ะชนิด แลว้ ช่วยกนั ตอบ Teacher: How many monkeys? Students : One monkey. 4. ครูนาบตั รภาพมาติดบนกระดาน จากน้นั ถามนกั เรียนวา่ สตั วท์ ่อี ยใู่ นบตั รภาพคอื สตั วช์ นิดใด นกั เรียนช่วยกนั ตอบคาถาม Teacher: What’s this? (ครูช้ีไปที่ภาพลิง) Malee: It’s a monkey. Teacher: What’s this? (ครูช้ีไปทภี่ าพมา้ ) Malee: It’s a horse. ครูอธิบายความแตกตา่ งระหวา่ งคาวา่ mouse กบั rat mouse และ rat มีความหมายวา่ “หนู” เหมือนกนั แตต่ ่างกนั ตรงที่ mouse จะหมายถึงหนู ตวั เลก็ ๆ แต่ rat จะหมายถึงหนูตวั ใหญๆ่ เช่น หนูนา เป็ นตน้ 8. ครูจดคากริยาใหม่ๆ บนกระดาน และอ่านออกเสียง นกั เรียนออกเสียงตามและจดคาศพั ทล์ งสมดุ ของตนเอง dig = ขดุ run = วง่ิ fly = บิน jump = กระโดด climb = ปี นป่ าย swim = วา่ ยน้า ครูใหน้ กั เรียนเลือกคากริยา 1 คา ไวใ้ นใจ แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 7-8 คน ออกมาแสดงท่าทาง ตามคากริยาทเี่ ลือกไว้ และใหเ้ พอื่ นเดาวา่ เป็ นคากริยาใด 9. ครูอธิบายเรื่องการใช้ Can และเขียนโครงสรา้ งบนกระดาน นกั เรียนจดลงในสมุดของตนเอง ประโยคบอกเล่า = ประธาน + can + V.1. 193

ประโยคคาถาม = Can + ประธาน + V.1 + ? ประโยคคาตอบ = Yes, + ประธาน + can. No, + ประธาน + can’t. หมายเหตุ Cannot รูปยอ่ คือ can’t เราจะใช้ can เพอื่ บอกถึงความสามารถของสตั วห์ รือบคุ คล วา่ สามารถทากริยาน้นั ๆ ได้ เช่น A: Can it jump? B: Yes, it can. No, it cannot. ถา้ เราตอ้ งการบอกวา่ มนั สามารถกระโดดได้ จะใชโ้ ครงสรา้ งประโยคบอกเล่า ดงั น้ี It can jump. จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนเปล่ียนประโยคต่อไปน้ีเป็ นภาษาองั กฤษ โดยใช้ can ใหถ้ ูกตอ้ ง 1. มนั สามารถวงิ่ ได้ (It can run.) 2. มนั สามารถวา่ ยน้าได้ (It can swim.) 3. มนั สามารถบินได้ (It can fly.) 10.ครูเปิ ด CD/track 51 ใหน้ กั เรียนฟังทีละประโยค นกั เรียนพยายามบอกประโยคหรือคาศพั ทท์ ีไ่ ดย้ นิ จากน้นั เปิ ดหนังสือเรียน หน้ำ 41 ข้อ 3 Listen, point and say. ใหน้ กั เรียนลองอ่านประโยค ท้งั หมดดว้ ยตนเอง ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงตาม 2-3 รอบ นกั เรียนและครูช่วยกนั อธิบายความหมายพร้อมๆ กนั และทาท่าทางประกอบ This is a rat. It can dig. นี่คือหนู มนั สามารถขดุ (ดิน) ได้ (นกั เรียนทาท่าขดุ ดินดว้ ยมือ) This is a hen. It can fly. น่ีคือแม่ไก่ มนั สามารถบินได้ (นกั เรียนทาท่าบินกระพอื ปี ก) This is a monkey. It can climb. น่ีคอื ลิง มนั สามารถปี นป่ ายได้ (นกั เรียนทาทา่ ลงิ ซุกซนปี นตน้ ไม)้ This is a horse. It can run. นี่คือมา้ มนั สามารถวงิ่ ได้ (นกั เรียนทาท่ามา้ ยอ่ ง) This is a frog. It can jump. นี่คือกบ มนั สามารถกระโดดได้ (นกั เรียนทาทา่ กระโดดกบ รอ้ งอ๊บ อ๊บๆ ดว้ ย) This is a duck. It can swim. 194

น่ีคอื เป็ด มนั สามารถวา่ ยน้าได้ (นกั เรียนทาทา่ เดินแบบเป็ ด แลว้ ทาทา่ วา่ ยน้า free style) 11.นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้ำ 42 ข้อ 4 Listen and sing. ครูอ่านประโยคทลี ะประโยคในเน้ือเพลง นกั เรียนออกเสียงตาม จากน้นั ครูเปิ ด CD/track 54 3 คร้งั ใหน้ กั เรียนรอ้ งตาม จากน้นั ครูแบง่ กลุ่มนกั เรียนออกเป็น 3 กลุ่ม แตล่ ะกลมุ่ เลือกเน้ือเพลงจากเพลง Can you play? มากลุม่ ละ 1 ทอ่ น แลว้ สมาชิกในกลุ่มคิดทา่ ทางประกอบและฝึกรอ้ งเพลงในท่อนทกี่ ลุ่มของตนเอง รับผดิ ชอบ จากน้นั ครูเปิ ด CD อีก 1 คร้งั นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มร้องเพลงและทาทา่ ประกอบตาม บทเพลงท่ีตนเองรับผดิ ชอบ Can you dig? Can you play? I can dig. Can you run? Can you fly? I can run. I can fly. Can you climb? I can climb. 12.ครูนาบตั รภาพออกมาทลี ะภาพ ดงั น้ี ภาพคนทาทา่ ขดุ ภาพคนวา่ ยน้า ภาพคนกระโดด (dig) (swim) (jump) ภาพคนวิ่ง ภาพคนทาท่าบิน ภาพคนทาท่าปี น (run) (fly) (climb) ครูถามนกั เรียนวา่ คนในภาพกาลงั ทาอะไร และจะใชค้ ากริยาตวั ใด ใหน้ กั เรียนออกเสียงคากริยา ตวั น้นั เป็นภาษาองั กฤษ นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้ำ 43 ข้อ 5 Point and say. ใหน้ กั เรียนช้ีภาพ 6 ภาพทอี่ ยดู่ า้ นบน แลว้ ออกเสียงตาม ครูทบทวนการใช้ Can ท้งั ประโยคคาถามและคาตอบ นกั เรียนดูตวั อยา่ งการ ใชจ้ ากบทสนทนาระหวา่ ง Bobby และ Tina จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั อ่านตวั อยา่ ง 195

13. ครูแจกกระดาษใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผน่ แลว้ ตีตารางตามครูบนกระดาน ดงั น้ี Friend’s name Run Swim Climb ใหน้ กั เรียนจบั กลุ่มกบั เพอื่ น 4 คน ผลดั กนั ถาม-ตอบ ใหค้ นทหี่ น่ึงถามคนที่สองวา่ สามารถที่จะทา กริยาน้นั ไดร้ ึเปล่า ถา้ สามารถทาไดใ้ หข้ ีด  ลงไปในช่องความสามารถดงั กล่าว ถา้ ทาไม่ไดใ้ ห้ กา  ลงในช่องวา่ ง เมื่อเสร็จแลว้ ใหค้ นที่สองถามคนท่ีสาม คนทีส่ ามถามคนที่สี่ และคนท่สี ่ีถาม คนทหี่ น่ึง Student 1: Can you run? Student 2: Yes, I can. Student 2: Can you swim? Student 3: No, I can’t. Student 3: Can you climb? Student 4: No, I can’t. จากตวั อยา่ งดงั กล่าวจะไดต้ าราง ดงั น้ี Friend’s name Run Swim Climb Student 2  Student 3  Student 4  14. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้ำ 43 ข้อ 6 Ask and answer. ใหน้ กั เรียนคิดต้งั คาถาม โดยใชร้ ูป ประโยค Can you …? เพอื่ ถามครู คนละ 1 คาถาม โดยไม่ซ้ากนั ครูใหเ้ วลานกั เรียน 3 นาที จากน้นั ใหน้ กั เรียนคนท่ี 1 ถามครู โดยครูตอบคาถามแก่นกั เรียนจนครบทกุ คน 15. ครูสอนการออกเสียง /d/ ซ่ึงเทียบไดก้ บั เสียง “ด” ในภาษาไทย ครูเตรียมบตั รภาพและบตั รคา ต่อไปน้ี 196

ภาพสุนขั ภาพคนกาลงั ขุด ภาพเป็ ด ภาพคนกาลงั เตน้ dog dig duck dance ครูชูบตั รภาพและออกเสียงคาศพั ทต์ ามบตั รภาพแต่ละใบ นกั เรียนออกเสียงตาม ครูติดบตั รภาพบน กระดาน ครูชูบตั รคาและออกเสียงคาศพั ทต์ ามบตั รคาแตล่ ะใบ นกั เรียนออกเสียงตาม จากน้นั ครูถามนกั เรียน ถึงคาศพั ทแ์ ต่ละคาวา่ มีความหมายวา่ อยา่ งไร แลว้ ติดบตั รคาน้นั ใตภ้ าพบนกระดาน Teacher: ชูบตั รคา Dog “What does it mean?” Students: สุนขั Teacher: Very good. (นาบตั รคา Dog ไปตดิ ใตภ้ าพสุนขั )  กจิ กรรมรวบยอด 11. นกั เรียนทาแบบฝึ กหัด หน้ำ 34 ข้อ 1 Trace and write the words. ครูช้ีทรี่ ูปภาพแต่ละ ภาพ แลว้ ถามนกั เรียนวา่ คืออะไร นกั เรียนช่วยกนั ตอบ จากน้นั ใหน้ กั เรียนดูรอยเทา้ สัตวแ์ ต่ละชนิดที่อยู่ ระหวา่ งรูปภาพกบั หมายเลขขอ้ ว่าภาพใดโยงคู่กบั ขอ้ ใด Teacher: What’s this? Students: It’s a monkey. Teacher: Look at the trace and tell the monkey is in number … Students: (ดูเสน้ ประ) Number 4! Teacher: Correct, How do you spell monkey? Students: M - O - N - K - E - Y Teacher: Write monkey in number 4. 12. นกั เรียนเล่นเกมปริศนาอกั ษรไขวใ้ นแบบฝึ กหดั หน้ำ 35 ข้อ 2 Complete. โดยนาคาศพั ทม์ าเขียน ลงในช่อง อนั ดบั แรกใหน้ กั เรียนนบั ตวั อกั ษรและนบั ช่อง ถา้ ตวั อกั ษรและช่องเท่ากนั ให้เขียนตวั อกั ษรลงไป 1 ตวั อกั ษรต่อ 1 ช่อง ถา้ ช่องใดมตี วั อกั ษรอยแู่ ลว้ ให้นกั เรียนดตู าแหน่งของตวั อกั ษรน้นั แลว้ มาดคู าศพั ทท์ ีเ่ หลือวา่ ในตาแหน่งน้นั เป็นอกั ษรตวั เดียวกนั หรือไม่ ถา้ ใช่ให้นามาเขียนลงในช่องทเ่ี หลือให้ครบสมบรู ณ์ m dog n fk hor se eoy 197

ng f ra b b it c i r sa d h ams t e r 13. นกั เรียนทาแบบฝึ กหดั หน้ำ 36 ข้อ 3 Find the words and circle. Then write. โดย วงกลมคาศพั ทช์ ื่อสัตว์ แลว้ เขียนลงในช่องว่างตามรูปภาพทีก่ าหนดให้ นกั เรียนสามารถเปิดหนงั สือเรียนดูได้ 14. นกั เรียนดูภาพแต่ละภาพในแบบฝึ กหัด หน้ำ 36 ข้อ 4 Listen and write the numbers. แลว้ บอกครูเป็นภาษาองั กฤษว่าบุคคลในภาพทาอะไร จากน้นั ครูเปิ ด CD/track 53 ให้นกั เรียนฝึ กการฟัง แลว้ เรียงลาดบั หมายเลข 1-6 จากประโยคใน CD ว่าประโยคที่ 1 บรรยายบุคคลวา่ กาลงั ทาอะไร ดูรูปแลว้ ใส่ หมายเลข จากน้นั ฟังประโยคท่ี 2, 3, 4, 5 และ 6 ตามลาดบั Number one, run Number two, swim Number three, fly Number four, jump Number five, climb Number six, dig 15. นกั เรียนเลือกคาศพั ทใ์ ห้เหมาะสมกบั ภาพในแบบฝึ กหัด หน้ำ 37 ข้อ 5 Look and write. ครูให้ นกั เรียนทกุ คนทาทา่ ทางตามทค่ี รูสงั่ run = วงิ่ climb = ปี นป่ าย fly = บนิ jump = กระโดด swim = ว่ายน้า dig = ขุด จากน้นั ดูภาพแลว้ เลือกคาศพั ท์ (คากริยา) เขียนลงในช่องวา่ งใตภ้ าพให้ถกู ตอ้ ง 1. run . 2. . jump . 3. . swim . 4. . fly 5. . climb . 6. . dig . 16. นกั เรียนขีด  ลงในช่องวา่ ง ในสิ่งที่นกั เรียนสามารถทาได้ และกา  ลงในช่องวา่ ง ถา้ เป็นส่ิงท่ี นกั เรียนไม่สามารถทาได้ ในแบบฝึ กหดั หน้ำ 37 ข้อ 6 What can you do. Tick () or (). จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน ออกมาพดู ว่านกั เรียนสามารถทาอะไรได้ และไมส่ ามารถทาอะไรไดบ้ า้ ง โดยใช้ ประโยค I can …….. / I can’t …….. ตวั อย่าง I can jump. I can run. I can swim. I can’t climb. I can’t dig. I can’t fly. 17.ในแบบฝึ กหัด หน้ำ 38 ข้อ 7 Look and match. หน้ำ 38 ครูอ่านประโยคของแต่ละขอ้ แลว้ นกั เรียนดูรูปภาพ a-f วา่ เป็นรูปภาพใด โดยนาตวั อกั ษรประจาภาพมาใส่ในช่องวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง 18.ครูแจกกระดาษใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผน่ นกั เรียนวาดรูปตวั เองกาลงั ทากิจกรรมอยา่ งหน่ึง ครูจากดั 198

เวลาใหน้ กั เรียนวาดรูป 5 นาที จากน้นั รวบรวมผลงานนกั เรียนทุกคน ครูเลือกรูปภาพของนกั เรียน มา 5 ชิ้น แลว้ ใหน้ กั เรียนเจา้ ของภาพมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน โดยพดู วา่ นกั เรียนสามารถ ทาอะไรได้ และไม่สามารถทาอะไรได้ 19. ครูใหน้ กั เรียนทา แบบฝึ กหัด หน้ำ 39 ข้อ 9 Listen and write  or . โดยครูเปิ ด CD/track 55 3 คร้ัง คร้ังท่ี 1 ให้นกั เรียนจบั ใจความของประโยค ครูถามนกั เรียนเมอ่ื จบประโยคแต่ละประโยค ว่าไดย้ นิ คาศพั ทค์ าใดบา้ งใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ คร้ังท่ี 2 ใหน้ กั เรียนขีด  (Yes, I can.) ถา้ ประโยคน้นั บอกสตั วท์ ่ีอยใู่ นภาพสามารถทากิจกรรมน้ันๆ ได้ แต่ถา้ หากทาไม่ไดใ้ หก้ า  (No, I can’t.) คร้ังสุดทา้ ยครูเปิ ด CD ทีละประโยคให้นกั เรียนฟังและออกเสียงตาม จากน้นั เฉลยคาตอบ พร้อมๆ กนั Number one, Can you swim? Number two, Can you run? Number three, Can you climb? Number four, Can you jump? Number five, Can you fly? 20. นกั เรียนโยงเส้นจบั คู่คาศพั ทก์ บั ภาพให้ถกู ตอ้ งในแบบฝึ กหดั หน้ำ 40 ข้อ 10 Look and match. โดยดวู ่าหุ่นยนตอ์ ยตู่ รงส่วนใดของกลอ่ ง ถา้ อยใู่ นกล่องใหโ้ ยงเส้นจากคาศพั ท์ in ไปทภี่ าพหุ่นยนต์ ท่ีอยใู่ นกล่อง ถา้ หุ่นยนตอ์ ยบู่ นกล่องใหโ้ ยงเส้นไปที่ on และถา้ หุ่นยนตอ์ ยใู่ ตก้ ล่องให้โยงเส้นไป ท่ี under ครูอธิบายความหมายของคาบุพบท (preposition) in, on และ under โดยดูตวั อยา่ งจากภาพ และ หาแบบฝึกหดั เสริมท่ีเหมาะสมใหน้ กั เรียนฝึกฝน 21. นกั เรียนดูภาพท่ี 1, 2 และ 3 ในแบบฝึ กหดั หน้ำ 40 ข้อ 11 Look, listen and write  or . และดูว่าสตั วช์ นิดน้นั กาลงั ทาอะไรอยู่ และอยทู่ ่ไี หน จากน้นั ครูออกเสียงประโยคใตภ้ าพแต่ละภาพ นกั เรียนออกเสียงตาม แลว้ ครูเปิ ด CD/track 61 ใหน้ กั เรียนฟังวา่ ถูกหรือผดิ ถา้ ถกู ตามทป่ี ระโยคใตภ้ าพ บรรยายใหข้ ีด  ถา้ ไม่ใช่ ให้กา  ลงในช่องวา่ ง There are twenty frogs in the kitchen. There are ten monkeys on a tree. There are twelve ducks on a log. There are fifteen hens under a tree. 199

22. ใหน้ กั เรียนเปิ ดแบบฝึ กหดั หน้ำ 41 ข้อ 12 Join the dots. Then match. แลว้ ต่อจุดตามลาดบั ตวั เลข จากน้นั โยงเส้นให้เป็นประโยคที่ถกู ตอ้ ง 1. Jenny is on the chair. 2. Bobby is under the tree. 3. Tommy is in the bath tub. ใหน้ กั เรียนอ่านประโยคทโ่ี ยงเส้นอยา่ งสมบรู ณ์และถกู ตอ้ งอีกคร้ังพร้อมๆ กนั 23. ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกมใบ้ โดยครูเป็นผใู้ บ้ นกั เรียนเป็นผทู้ าย ครูอธิบายกติกาวา่ ครูจะพดู ถึงสตั ว์ ชนิดหน่ึง แลว้ ใหน้ กั เรียนเดาวา่ เป็นสัตวช์ นิดใด นกั เรียนคนใดทราบคาตอบให้ยกมอื แลว้ พดู ว่า “Me” Teacher: It has 4 legs. It can swim. Somsak: Me! Teacher: O.K. Somsak. What is it? Somsak: Frog. Teacher: No. (จากน้นั ครูใบต้ ่อ) It’s a big animal. It starts with the letter “h”. Somsri: Me. It’s a horse. Teacher: Yes, correct! You get 1 point. นกั เรียนคนใดได้ 3 คะแนนก่อนถือวา่ ชนะ 24. ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกม Simon says, … โดยครูใหน้ กั เรียนปฏบิ ตั ิตามคาสงั่ เฉพาะประโยคท่ีครูพูด Simon says, … ถา้ ประโยคคาสงั่ ไหนไมไ่ ดพ้ ดู Simon says, … ไม่ตอ้ งปฏิบตั ิตาม นกั เรียนคนใด ปฏบิ ตั ติ ามหรือปฏิบตั ไิ ม่ถกู ตอ้ งถือวา่ ทาผดิ กติกา ใหน้ กั เรียนคนดงั กล่าวนงั่ ลงกบั ท่ี จนเหลือผยู้ นื เพยี งคนเดียว (ผชู้ นะ) Teacher: Simon says, you can fly. นกั เรียนทาทา่ บิน นกั เรียนคนใดไม่ปฏบิ ตั ติ ามหรือปฏิบตั ิไม่ถกู ตอ้ งใหน้ งั่ ลง Teacher: You can jump. นกั เรียนคนใดทาท่ากระโดดหรือทาทา่ อ่ืนถอื วา่ ผดิ กติกาใหน้ งั่ ลง 7. การวัดและการประเมนิ ผล 7.1 การประเมนิ ก่อนการเรียน - ประเมินการทาแบบทดสอบ 7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ - ประเมินการทาแบบฝึกหดั - สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ในช่วงการทากิจกรรม 7.3 การประเมนิ หลังการเรียน 200

- ประเมินการทาแบบทดสอบ - ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.4 การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมนิ การพดู ถาม- ตอบ ความสามารถของคน หรือสตั วเ์ ล้ียงในฟาร์ม ในการทากริยา ต่างๆ - ประเมนิ การฟังเพื่อระบุสัตวช์ นิดต่างๆ ใหต้ รงตามรูปภาพ - ประเมนิ การเขียนคากริยาใหถ้ ูกตอ้ งตามภาพท่ปี รากฏ - ประเมินการวาดภาพของตนเองในอิริยาบถที่ตนทาได้ และทาไม่ได้ - ประเมินการร้องเพลง และการแสดงท่าทางประกอบเพลง - ประเมินความสามารถในการเขียนคาศพั ทแ์ ละประโยคต่างๆ 8. ส่ือ/ แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน Smile ป. 2 2. แบบฝึ กหดั Smile ป. 2 3. Audio CD Smile ป. 2 4. บตั รภาพ บตั รคา แถบประโยค 5. เกมใบ้ 6. เกม Simon says 201

แผนการจดั การเรียนรู้ Unit 4 On the farm (Lesson 2) 1. สาระสาคญั การเรียนรู้จานวนนบั 21-30 โครงสร้างประโยค There is ……. และ There are ….. การออกเสียง [h] ตน้ คา ซ่ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษเพ่อื นาไปใชส้ ื่อสารในชีวติ ประจาวนั 2. ตวั ชีว้ ดั / จุดประสงค์การเรียนรู้ - ฟัง พดู และระบจุ านวนสิ่งของต่างๆ ได้ - นบั จานวน 21- 30 ได้ - อ่านออกเสียง และสะกดตวั อกั ษรของจานวนนบั 21- 30 ได้ - ใชป้ ระโยค There is ………. และ There are …………. ได้ - ฟัง และระบุภาพไดถ้ ูกตอ้ ง - ออกเสียง [h] ตน้ คาได้ - เล่นเกมและร้องเพลงภาษาองั กฤษตามท่ีกาหนดได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - จานวนนบั 21- 30 - ประโยคบอกเล่า There is …… และ There are - Pronunciation: initial sound [h] - คาศพั ทท์ ่ีเกี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน (คณิตศาสตร์) - ตวั อกั ษร และเสียงตวั อกั ษรของภาษาองั กฤษและภาษาไทย - กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การร้องเพลงภาษาองั กฤษ การเล่นเกม - การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณง์ ่ายๆ ท่เี กิดข้ึนในหอ้ งเรียน 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ - 4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ - การคิดวิเคราะห์ 202

- การคิดอยา่ งสร้างสรรค์ 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - ใฝ่ เรียนรู้ - มุง่ มนั่ ในการทางาน 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ 6.1 ชั่วโมงที่ 3-4  กจิ กรรมนำสู่กำรเรียน 6. ครูทบทวนคาศพั ทแ์ ละรูปประโยคใน Unit 4 Lesson 1 ดว้ ยบตั รคาและแถบประโยค 7. ครูทบทวนจานวนนับ 1-20 ดว้ ยบตั รตวั เลข แลว้ ใหน้ กั เรียนออกเสียงให้ถูกตอ้ ง 8. ครูให้นกั เรียนเล่นเกมจบั คู่ โดยครูติดตวั เลขบนกระดาน จากน้นั ครูชบู ตั รคาท่เี ป็นคาอ่านภาษา- องั กฤษข้ึน พร้อมกบั อ่านออกเสียง นกั เรียนคนใดทราบว่าคาอ่านคาน้ีเป็นตวั เลขใด ให้ออกมาหยบิ บตั รคาน้นั ติดไวใ้ ตต้ วั เลข 9. ครูบอกนกั เรียนวา่ ในบทเรียนน้ีจะไดเ้ รียนเกี่ยวกบั จานวนนบั 1-20 และประโยค There is … และ There are …  กจิ กรรมพฒั นำกำรเรียนรู้ 2. ครูทบทวนจานวนนบั 1-20 ดว้ ยบตั รตวั เลข ครูชูบตั รตวั เลขใดใหน้ กั เรียนออกเสียงตวั เลขน้นั ใหถ้ ูกตอ้ ง จากน้นั ครูเขียนตวั เลขและคาอ่านภาษาองั กฤษ ดงั น้ี 21 = twenty - one 26 = twenty - six 22 = twenty - two 27 = twenty - seven 23 = twenty - three 28 = twenty - eight 24 = twenty - four 29 = twenty - nine 25 = twenty - five 30 = thirty ครูอ่านออกเสียงตวั เลขทลี ะตวั นกั เรียนออกเสียงตาม จากน้นั ครูเปิ ด CD/track 56 แลว้ ใหน้ กั เรียน เปิ ดหนังสือเรียน หน้ำ 44 ข้อ 1 Listen, point and say. นกั เรียนช้ีตวั เลข และฝึกออกเสียงตาม CD 2 คร้ัง Twenty-one Twenty-two Twenty-three Twenty-four Twenty-five Twenty-six Twenty-seven Twenty-eight 203

Twenty-nine Thirty 2. ครูชูบตั รตวั เลขโดยไม่เรียงลาดบั แลว้ ถามนกั เรียนเป็ นภาษาองั กฤษวา่ น่ีคอื ตวั เลขอะไร นกั เรียน ทุกคนช่วยกนั ตอบ Teacher: What number is it? (ครูชูบตั รตวั เลข 28) Students : Twenty-eight. Teacher: Very good. 3. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้ำ 44 ข้อ 2 Listen and write the numbers. แลว้ ดูภาพว่า มสี ัตวช์ นิดใดบา้ ง และแต่ละชนิดมีจานวนเทา่ ใด Teacher: What kinds of animals that you can see? Students : Frogs, ducks, horses, hens, monkeys and rats. Teacher: How many frogs? Students : (นกั เรียนนบั จานวนกบแลว้ ตอบคาถาม) Twenty-five frogs. Teacher: Let’s count the frogs together. ครูและนกั เรียนช่วยกนั นบั จานวนกบในภาพเป็นภาษาองั กฤษ Teacher: One, two, three, four, ……….. twenty-five. ครูถามจานวนสตั วแ์ ต่ละชนิด และนบั จานวนให้ครบทุกภาพ จากน้นั ใหน้ กั เรียนเขียนหมายเลข 1-6 ลงไปในช่องวา่ ง โดยเรียงลาดบั หมายเลขจากประโยคทไ่ี ดย้ นิ ครูเปิ ด CD/track 57 ให้นกั เรียนฟัง 2 คร้ัง และใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงตามจนคล่อง Number one, twenty rats Number two, twenty-three monkeys Number three, twenty-five frogs Number four, twenty-six horses Number five, twenty-eight hens Number six, thirty ducks 4. ครูให้นกั เรียนดูภาพในหนงั สือเรียน หน้ำ 45 ข้อ 3 Count and say. แลว้ ถามนกั เรียนว่ามีสัตว์ ชนิดใดบา้ ง และมีจานวนเท่าใด โดยใชร้ ูปประโยคในการตอบตามตวั อยา่ ง ดงั น้ี I can see + จานวนของสตั วช์ นิดน้นั ๆ + คาศพั ทช์ ่ือสตั ว.์ เช่น I can see twenty frogs. ให้นกั เรียนจดคาตอบลงในสมดุ ของตนเอง โดยใชร้ ูปประโยคดงั กล่าวในการตอบ ครูถามนกั เรียนวา่ นกั เรียนเห็น สัตวอ์ ะไรบา้ งในภาพ นกั เรียนดูคาตอบในสมดุ ของตนเอง และช่วยกนั ตอบ Teacher: What animals that you can see? Students : I can see 4 horses. I can see 11 monkeys. I can see 7 ducks. I can see 20 frogs. I can see 12 hens. I can see 15 rats. 204

ครูเฉลยและเขียนคาตอบลงบนกระดาน และใหน้ กั เรียนอ่านทีละประโยคพร้อมกนั 5. ครูเตรียมบตั รภาพและบตั รตวั เลข ดงั น้ี บตั รภาพมา้ ลิง เป็ด กบ แมไ่ ก่ หนู บตั รตวั เลข 21- 30 ครูติดบตั รภาพ 1 ใบ และติดบตั รตวั เลข 1 ใบ บนกระดาน จากน้นั สุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน ให้บอกจานวนของสัตวช์ นิดน้นั เช่น หนู 28 Deang: Twenty - eight rats. บตั รภาพและบตั รตวั เลขสามารถนามาติดซ้าไดอ้ ีก ครูให้นกั เรียนไดต้ อบจากบตั รภาพ และ บตั รตวั เลขจนครบทกุ คน 6. ครูติดบตั รภาพ และบตั รตวั เลข บนกระดาน ดงั น้ี ภาพกบ ภาพหนู ภาพ 21 24 27 30 ภาพปลา ภาพมา้ สุนขั 22 25 28 ภาพนก ภาพ ภาพเป็ ด ภาพลิง 23 26 29 แมไ่ ก่ ครูช้ีไปที่บตั รภาพแต่ละใบและถามนกั เรียนว่านี่คือสตั วอ์ ะไร แลว้ ช้ีไปทบ่ี ตั รตวั เลขและถามว่าน่ีคือหมายเลข อะไรเป็นภาษาองั กฤษ ให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบ Teacher: What’s this? (ครูช้ีไปท่ภี าพกบ) Students : It’s a frog. Teacher: What number is it? (ครูช้ีไปท่ีหมายเลข 30) Students : Thirty. จากน้นั นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน หน้ำ 45 ข้อ 4 Find and say. ดเู สน้ ประระหว่างรูปภาพกบั หมายเลขวา่ รูปภาพใดโยงคู่กบั ตวั เลขใด โดยครูพดู หมายเลขทีละหน่ึงหมายเลข แลว้ ให้นกั เรียนตอบตามประโยคตวั อยา่ ง Teacher: Number 21 Students : A rat is number twenty - one. Teacher: Number 23 Students : A bird is number twenty - three. Teacher: Number 24 Students : A hen is number twenty - four. Teacher: Number 25 Students : A fish is number twenty - five. Teacher: Number 27 Students : A frog is number twenty - seven. Teacher: Number 28 Students : A monkey is number twenty - eight. Teacher: Number 29 205

Students : A duck is number twenty nine. Teacher: Number 30 Students : A dog is number thirty. Teacher: Number 20 Students : A horse is number twenty. 7. ครูจดคาศพั ทใ์ หม่บนกระดานเก่ียวกบั คาบุพบท ซ่ึงในบทเรียนน้ีจะมีดว้ ยกนั 3 คา คือ in = ใน on = บน under = ใต้ ครูอธิบายเก่ียวกบั คาบุพบทวา่ เป็นคาที่บอกสถานทีข่ องส่ิงต่างๆ วา่ อยทู่ ี่ไหน โดยจะใชค้ ่กู บั Verb to be (is, am, are) เสมอ ครูยกตวั อยา่ งประกอบและเขียนลงบนกระดาน จากน้นั นกั เรียนจดลง สมุดของตนเอง I am in a toilet. (ฉนั อยใู่ นห้องน้า) You are on a bus. (พวกคุณอยบู่ นรถบสั ) He is under a tree. (เขาอยใู่ ตต้ น้ ไม)้ ครูใหน้ กั เรียนแต่ละคนแต่งประโยคมาคนละ 1 ประโยค แลว้ ครูสุ่มนกั เรียน 5 คน ให้ยนื ข้ึน พดู ประโยคที่ตนเองแต่ง 8. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้ำ 46 ข้อ 5 Listen and sing. ครูอ่านเน้ือเพลงทีละประโยค นกั เรียนออก เสียงตามครู จากน้นั ให้นกั เรียนฝึ กออกเสียงและร้องเพลงตาม CD ครูเปิ ด CD/track 58 2-3 คร้ัง ครูแบ่งกลุ่มนกั เรียนออกเป็น 3 กลุ่ม แลว้ แจกกระดาษเปล่าให้แต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 1 ใบ สมาชิก ในกลุ่มแต่ละกลุ่มจดเน้ือเพลงพร้อมกบั ตกแต่งใหส้ วยงาม จากน้นั ให้เวลาแต่ละกลุ่ม 10 นาที ในการคิดท่าทาง ประกอบเพลง และฝึกร้องเพลง และออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียนทุกกลุ่มจนครบ Where are you? Ducks, ducks, ducks! Frogs, frogs, frogs! Where are you? Where are you? We are in a truck, in a truck! We are under a log, under a log. Aaah! Aaaaaaaaaaaaaah! Monkeys, monkeys, monkeys! Where are you? We are on a tree, on a tree. Aaaaaah! 9. ครูอธิบายวา่ There is และ There are มีความหมายวา่ “มี” แต่มโี ครงสร้างประโยคแตกต่างกนั และเขียนโครงสร้างประโยคและยกตวั อยา่ งบนกระดาน ดงั น้ี There is + a, an + คานามเอกพจน์. There are + จานวน + คานามพหูพจน์ (คานามทเี่ ติม -s). 206

เช่น There is a girl. (มีเด็กผหู้ ญิง 1 คน) There is an apple. (มีแอปเปิ ล 1 ผล) There are five dogs. (มสี ุนขั 5 ตวั ) There are ten cars. (มรี ถยนต์ 10 คนั ) นกั เรียนจดโครงสร้างประโยคและตวั อยา่ งลงสมุดของตนเอง ครูหาแบบฝึกหดั เพิ่มเติมใหน้ กั เรียน ไปทาเป็นการบา้ น (Drills) 10.ให้นกั เรียนดภู าพแต่ละภาพในหนงั สือเรียน หน้ำ 47 ข้อ 6 Listen, point and say. ว่ามีสตั วอ์ ยจู่ านวน เท่าใด ครูถามและนกั เรียนช่วยกนั ตอบ Teacher: How many ducks? Students : Twenty - three ducks. Teacher: How many hens? Students : Thirty hens. Teacher: How many frogs? Students : Twenty - five frogs. Teacher: How many monkeys? Students : Twenty monkeys. ใหน้ กั เรียนอ่านประโยคในหนงั สือเรียน หน้ำ 47 ข้อ 7 Listen and write the numbers. ทลี ะ ประโยค ครูคอยช่วยแกไ้ ขคาหรือประโยคท่นี กั เรียนออกเสียงไม่ถูกตอ้ ง จากน้นั ครูเปิ ด CD/track 60 3 คร้ัง คร้ังที่ 1 ให้นกั เรียนช่วยกนั ฟังว่ามีคาว่าอะไรบา้ ง และออกเสียงตามทไ่ี ดย้ นิ คร้ังที่ 2 ให้นกั เรียนเรียงลาดบั หมายเลข 1-4 ลงในช่องวา่ งของขอ้ 6 โดยเรียงประโยคทไี่ ดย้ นิ ตามลาดบั คร้ังท่ี 3 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฝึ ก ออกเสียงตาม โดยดูรูปประโยคดงั กล่าวในขอ้ 7 จากน้นั ครูเฉลยคาตอบ Number one, there are twenty five frogs on a log. Number two, there are twenty three ducks in the water. Number three, there are twenty monkeys under a tree. Number four, there are thirty hens in a house. 11.ครูสอนการออกเสียง /h/ ซ่ึงเทียบไดก้ บั เสียง “ฮ” ในภาษาไทย จากน้นั เตรียมบตั รภาพและ บตั รคา ดงั น้ี บตั รภาพ: ภาพแมไ่ ก่ ภาพมา้ ภาพ ภาพบา้ น หนูแฮมสเตอร์ บตั รคา: Hen Horse Hamster House ครูชบู ตั รคาทลี ะคา และออกเสียงโดยเนน้ เสียง [h] นกั เรียนออกเสียงตาม จากน้นั ครูนาบตั รภาพ มาติดบนกระดาน ครูช้ีที่ภาพแต่ละภาพว่าคืออะไร นกั เรียนช่วยกนั ตอบ Teacher: What’s this? (ครูช้ีภาพหนูแฮมสเตอร์) Somchai: Hamster. Teacher: Correct. 207

 กจิ กรรมรวบยอด 3. ใหน้ กั เรียนเปิ ดแบบฝึ กหัด หน้ำ 42 ข้อ 13 Write the next numbers. นกั เรียนดตู วั เลขท่ี หายไปวา่ เป็นตวั เลขใด ครูใหเ้ วลานกั เรียน 2 นาที จากน้นั ครูถามคาถาม ใหน้ กั เรียนเฉลยคาตอบ Teacher: Number 1, what number is missing? Students : 12 and 15. Teacher: Yes, and number 2 what number is missing? Students : Teacher: 16. Students : Correct. Number 3 what number is missing? Teacher: 13, 19 and 21. Students : Very good. Number 4 what’s missing? Teacher: Students : 24 and 25 Teacher: Good. What’s missing in number 5? 29, 27 and 26. Very good. Clap your hands for yourselves. 4. ใหน้ กั เรียนต่อจุดตามลาดบั หมายเลข one-twenty (1-20) ในแบบฝึ กหัด หน้ำ 42 ข้อ 14 What is it? Join the dots and find. เมื่อต่อเสร็จแลว้ ให้นกั เรียนยกมือข้ึน ครูถามนกั เรียนวา่ “What is it?” แลว้ ใหน้ กั เรียนตอบ “It’s _____.” 5. นกั เรียนจบั กลุ่มกนั 3 คน เพือ่ ทาแบบฝึ กหดั หน้ำ 43 ข้อ 15 Listen and match. โดยนกั เรียน อ่านขอ้ ความทลี ะขอ้ ความ จากน้นั ครูเปิ ด CD/track 62 ให้นกั เรียนฝึ กออกเสียงตาม 2 คร้ัง นกั เรียนช่วยกนั บอกความหมายทลี ะประโยคเป็นภาษาไทย แลว้ โยงเส้นจบั คู่ภาพกบั ประโยคให้ ถูกตอ้ ง จากน้นั ทุกกลุ่มช่วยกนั เฉลยพร้อมๆ กนั 1. There are twenty frogs in the kitchen. มกี บ 20 ตวั อยใู่ นครัว 2. There are ten monkeys on a tree. มีลิง 10 ตวั อยบู่ นตน้ ไม้ 3. There are twelve ducks on a log. มีเป็ด 12 ตวั อยบู่ นท่อนซุง 4. There are fifteen hens under a tree. มแี มไ่ ก่ 15 ตวั อยใู่ ตต้ น้ ไม้ 4. ครูให้นกั เรียนเล่นเกม Bingo โดยให้นกั เรียนเขียนตารางตามครูบนกระดาน ดงั น้ี ใหน้ กั เรียนเลือกตวั เลข 1-30 ตวั เลขใดก็ไดม้ าใส่ในช่องใหค้ รบ 9 ช่อง โดยใส่ 1 ช่องต่อ 1 หมายเลข ครูหยบิ ฉลากตวั เลขข้ึนมา 1 ใบ แลว้ ออกเสียงตวั เลขน้นั ถา้ ในตารางของนกั เรียนมีตวั เลขน้นั ให้ กา  ลงในช่องหมายเลขน้นั ครูหยบิ ฉลากและบอกหมายเลขไปเรื่อยๆ จนกว่านกั เรียนคนใด คนหน่ึงไดห้ มายเลขเรียงกนั 3 ตวั ดงั น้ี ถอื ว่าเป็นผชู้ นะ 208

OOO O OOO O OOO O O O O O O O O O O O O O 5. ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกม Pig Hunting (เกมล่าหม)ู เพื่อคลายความเครียดในการเรียน ซ่ึงมีวิธีการเล่น ดงั ต่อไปน้ี 1. ครูขีดเสน้ เป็นวงกลมในบริเวณทโ่ี ล่ง แลว้ บอกนกั เรียนว่า วนั น้ีสมมุติใหน้ กั เรียนเป็นหมู 2. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 กลุ่ม โดยประมาณ และไมไ่ ดน้ บั จานวนท่ีแน่นอน 3. ครูใหน้ กั เรียนกลุ่มแรกเขา้ ไปอยใู่ นวงกลม แลว้ ถามคาถามเกร่ินนา (อีกกลุ่มสงั เกตการณภ์ ายนอก) Teacher: How many pigs are there? Students : (นกั เรียนนบั สมาชิกในกลุ่มของตนเอง) There are 23 pigs. ครูถามคาถาม 6 ขอ้ กบั นกั เรียนกลุ่มแรกว่า หมสู ามารถทาอะไรไดบ้ า้ ง ให้นกั เรียนตอบว่า Yes หรือ No เท่าน้นั Teacher: Can a pig run? (Students “Yes.”) Can a pig jump? (Students “Yes.”) Can a pig fly? (Students “No.”) Can a pig swim? (Students “Yes.”) Can a pig read? (Students “No.”) Can a pig sing? (Students “No.”) 4. ครูแจกเชือกฟางคนละ 1 เส้น ยาวประมาณ 4.5 ฟตุ 5. ใหท้ กุ คนเป็นหมู โดยจะร้อง “อ๊ดู อูด๊ อูด๊ ” แบบไทยๆ หรือ “oink oink” แบบองั กฤษ ก็ได้ ทุกคนถือเชือกฟางแลว้ พยายามหลอกล่อหมตู วั อ่ืนๆ เพ่อื มดั แขน ในเวลาเดียวกนั ก็อยา่ ใหห้ มตู วั อ่ืนๆ มดั เราได้ ผทู้ ่ีสามารถหลบหนีจากการถูกมดั ได้ ถอื ว่าเป็นผชู้ นะ 6. เม่ือกลุ่มแรกเล่นเสร็จ กลุ่มท่ี 2 จึงเดินเขา้ มาในวงกลม แลว้ เล่นเกม “ล่าหม”ู ต่อไป 6.2 ช่ัวโมงท่ี 5-6  กจิ กรรมนำสู่กำรเรียน 1. ครูทบทวนคาศพั ทใ์ น Unit 4 โดยใหน้ กั เรียนเล่นเกมใบค้ า ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 กลุ่ม ใหส้ มาชิกในกลุ่มแต่ละกลุ่มช่วยกนั เดาวา่ ครู (ผใู้ บ)้ ทาทา่ ของสตั วห์ รืออากปั กิริยาอะไร กลุ่มใด ทายถกู ตอ้ งมากกว่าถอื ว่าชนะ 209

2. นกั เรียนร้องเพลง Can you play? และ Where are you? พร้อมๆ กนั 3. ครูบอกกบั นกั เรียนวา่ ในบทเรียนน้ีจะเป็นการทบทวนเกี่ยวกบั คาศพั ทแ์ ละโครงสร้างประโยคที่ใช้ Can และ There is / There are เล่นเกม และทาโครงงาน My animal book แต่ก่อนอ่ืนครูทดสอบ ความรู้เดิมของนกั เรียนจากท่เี รียนมาในชว่ั โมงก่อนๆ ดว้ ยแบบทดสอบ English Pre-Test  กจิ กรรมพัฒนำกำรเรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้ำ 48 ข้อ 1 Look and say. นกั เรียนทุกคนช่วยกนั อ่านประโยค ทีละประโยคพร้อมๆ กนั จากน้นั ให้นกั เรียนจบั ค่กู บั เพือ่ น ครูแจกกระดาษ A4 คนละ 2 แผน่ แผน่ ท่ี 1 ให้นกั เรียน วาดรูปสัตว์ 1 ชนิด พร้อมกบั ระบายสีให้สวยงาม แผน่ ที่ 2 ให้นกั เรียนดูประโยคในขอ้ 1 หนา้ 48 เป็นตวั อยา่ ง แลว้ ช่วยกนั แต่งประโยคให้สอดคลอ้ งกบั ภาพ เมื่อเสร็จแลว้ ให้นกั เรียนแต่ละค่อู อกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียนทกุ คู่จน ครบ ครูติดผลงานนกั เรียนบนบอร์ดหนา้ ช้นั เรียน 2. ครูใหน้ กั เรียนดูหนงั สือเรียน หน้ำ 49 ข้อ 2 Follow, count and say. แลว้ แบง่ กลุ่มนกั เรียน โดย แต่ละกลุ่มมสี มาชิก 4 คน นกั เรียนเตรียมดินสอสีคนละ 1 สี ครูเตรียมลกู เต๋าใหน้ กั เรียนกลุ่มละ 1 ลูก ครูอธิบาย การเล่นเกมว่าใหส้ มาชิกแต่ละกลุ่มเริ่มตน้ ท่จี ุด Start จากน้นั ใหค้ นที่ 1 ทอดลกู เต๋า 1 คร้ัง แลว้ ดแู ตม้ วา่ ได้ เทา่ ไหร่ จากน้นั ใชด้ ินสอสีของตนเองจุดตามจานวนแตม้ โดยแต่ละจุดน้นั ใหห้ ่างกนั พอสมควร จากน้นั ก็จะเป็นคิว ของคนที่ 2, 3 และ 4 ตามลาดบั จะเร่ิมเดินไปทางไหนก่อนกไ็ ด้ เมื่อเจอช่องสี่เหล่ียมใหน้ กั เรียนบอกจานวน ของสตั วช์ นิดน้นั ๆ โดยใช้ There are … สมาชิกคนใดถึงทางออกก่อนถอื วา่ เป็นผชู้ นะ 3. ให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน หน้ำ 49 ข้อ 3 Count and match. แลว้ โยงเส้นจบั คู่จานวนสตั วท์ ่ใี ห้มากบั คาอ่าน ตวั เลขภาษาองั กฤษให้สัมพนั ธก์ นั ดงั น้ี 1. หนู 10 ตวั + หนู 11 ตวั = 21 twenty - one 2. แม่ไก่ 11 ตวั + แมไ่ ก่ 12 ตวั = 23 twenty - three 3. มา้ 16 ตวั + มา้ 10 ตวั = 26 twenty - six 4. กบ 14 ตวั + กบ 14 ตวั = 28 twenty - eight 5. เป็ด 15 ตวั + เป็ด 15 ตวั = 30 thirty จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คน แต่งประโยคโดยใช้ There are ..... (มี...) คนละ 1 ประโยค ครูช่วยนกั เรียนท่ใี ชป้ ระโยคและออกเสียงคาผดิ เช่น 1. There are twenty - one rats. 2. There are twenty - three hens. 3. There are twenty - six horses. 4. There are twenty - eight frogs. 5. There are thirty ducks. 4. ครูให้นกั เรียนทาโครงงานในหนงั สือเรียน หน้ำ 50 My animals book โดยมขี ้นั ตอนในการทา ดงั น้ี 1. นกั เรียนเตรียมสีไมห้ รือสีเทียนมาคนละ 1 กล่อง เพ่อื ทาโครงงาน 2. ครูแจกกระดาษให้นกั เรียนคนละ 1 แผน่ จากน้นั ใหน้ กั เรียนทาตามข้นั ตอนดงั ต่อไปน้ี 1) นกั เรียนวาดรูปสัตวต์ jางๆ 3-4 ชนิด พร้อมกบั ตกแต่งใหส้ วยงามลงในกระดาษ ท่ีครูเตรียมไวใ้ ห้ 2) เขียนคาศพั ทข์ องสัตวท์ ่นี กั เรียนวาดใตร้ ูปภาพสตั วเ์ หล่าน้นั 210

3) พบั กระดาษคร่ึงหน่ึง 2 คร้ัง เพอื่ ทาเป็นสมุดซิกแซกตามภาพ ดงั น้ี = == 4) นกั เรียนคล่ีกระดาษออก แลว้ ชภู าพให้เพ่อื นดู และใหน้ กั เรียนแนะนาสัตวแ์ ต่ละ ชนิดว่าคืออะไร มนั สามารถทาอะไรได้ และไม่สามารถทาอะไรได้ ตาม โครงสร้างประโยค ดงั ต่อไปน้ี It’s my + คาศพั ทช์ ่ือสตั ว์ . It can + สิ่งที่สัตวช์ นิดน้นั สามารถทาได้ . It can’t + ส่ิงที่สตั วช์ นิดน้นั ไมส่ ามารถทาได้ . 3. ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน ออกมานาเสนอผลงานทห่ี นา้ ช้นั เรียน จากน้นั รวบรวมผลงานของ นกั เรียนทกุ คนมาติดบอร์ดหนา้ ช้นั เรียน 4. ครูให้นกั เรียนเล่นเกม What is it? ในหนงั สือเรียน หน้ำ 51 โดยแบ่งกลุ่มนกั เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม จากน้นั ครูอธิบายกติกาของเกมว่า ใหส้ มาชิกในกลุ่ม 1 คน เลอื กสัตวม์ า 1 ชนิดแลว้ บอกครู จากน้นั ใหเ้ พอ่ื นๆ ในกลุ่มช่วยกนั เดาว่าเป็นสัตวช์ นิดใด อยหู่ มายเลขใด ซ่ึงผทู้ ายน้นั สามารถใช้ can ในการ ถามได้ หรือครูเป็นผคู้ ิดช่ือสัตว์ ให้นกั เรียนเป็นผทู้ าย โดยใหแ้ ต่ละกลุ่มถามไดค้ นละ 1 คาถาม กลุ่ม ใดทายไดว้ า่ เป็นสตั วช์ นิดใดใหย้ กมอื ตอบ ถา้ ตอบถูกได้ 1 คะแนน กลุ่มใดได้ 3 คะแนนก่อนถือวา่ ชนะ  กจิ กรรมรวบยอด 1. นกั เรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ช่วยกนั คิดเก่ียวกบั สัตวเ์ ล้ียงในฟาร์มชนิดอ่ืนๆ นอกเหนือ จากในหนงั สือเรียน Unit 4 ซ่ึงอาจเล้ียงบนบกหรือเล้ียงในน้ากไ็ ด้ โดยใหแ้ ต่ละกลุ่มระดมสมอง แลว้ เขียนใส่แผน่ กระดาษส่งครูภายในเวลา 10 นาที ครูรวบรวมแลว้ เขียนบนกระดาน ดงั น้ี 1. goose 8. rabbit 2. sheep 9. bee 3. deer 10. peacock 4. goat 11. parrot 5. donkey 12. crab 6. buffalo 13. crocodile 7. turtle 14. dog นกั เรียนอ่านคาศพั ทบ์ นกระดานตามครู แลว้ ช่วยกนั บอกความหมาย จากน้นั คดั ลอกลงในสมดุ ของ ตนเอง 2. ครูใหน้ กั เรียนในกลุ่มเดิมช่วยกนั คิดว่าสัตวเ์ ล้ียงท้งั 14 ชนิด ขา้ งตน้ สามารถและไมส่ ามารถทา อะไรไดบ้ า้ ง นกั เรียนฝึกถาม-ตอบในกลุ่มจากบทสนทนาทค่ี รูเขียนบนกระดานดงั ต่อไปน้ี แลว้ เขียนสรุปความสามารถของสัตวแ์ ต่ละชนิด A: Can a goose swim? B : Yes, it can. A: Can a goose write? 211

B: No, it can’t. สรุป: A goose can swim but it can’t write. นกั เรียนทกุ กลุ่มนางานทไี่ ดร้ ับมอบหมายมาส่งครู โดยแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมาหนา้ ช้นั เรียน 3 คน เพอื่ ถาม-ตอบ และสรุปความสามารถของสตั วใ์ นฟาร์มแต่ละชนิด ครูทาฉลากให้นกั เรียนจบั เพอ่ื ให้แต่ละ กลุ่มนาเสนอ กลุ่มละ 1 ชนิด 3. ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกมตลาดลกู ไก่ ซ่ึงมีวิธีการเล่นดงั ต่อไปน้ี 1. ครูคดั เลือกนกั เรียน 5 คน ท่เี รียนภาษาองั กฤษเก่งใหเ้ ป็นผซู้ ้ือ ตวั ครูเป็นแม่คา้ เจา้ ของ ฟาร์มลูกไก่ ส่วนนกั เรียนทีเ่ หลือให้สมมุติวา่ เป็นลกู ไกท่ อี่ ยใู่ นเลา้ ซ่ึงเป็นเส้นวงกลมที่ครูขีดไว้ จากน้นั ให้นกั เรียนลกู ไก่นงั่ ยองๆ แลว้ เอามือจบั ท่ขี อ้ เทา้ แลว้ ร้อง “เจ๊ียบๆ ๆ” 2. แมค่ า้ ยนื อยหู่ นา้ เลา้ รอใหค้ นซ้ือมาถามทีละคนว่า Student 1 :Are there chicks? Teacher: Yes, there are. (ครูผายมือไปทางเลา้ ไก่ให้คนซ้ือไปเลือกเอา) 3. ผซู้ ้ือไปเลือกลกู ไก่ โดยหนั ไปทางขวาบา้ ง ทางซา้ ยบา้ ง ยกแขนขวา-ซา้ ยของลกู ไก่ ถา้ ลูกไก่ตวั ใดยมิ้ หรือหวั เราะให้ออกจากการเล่นเกมไป ผซู้ ้ือคดั เลือกลกู ไก่ไดป้ ระมาณ 6-7 ตวั แลว้ ตอ้ นออกจากเลา้ ให้ผซู้ ้ือคนต่อไปมาคดั เลือก 4. ผซู้ ้ือตรวจสอบคุณภาพของลูกไก่ ดว้ ยการต้งั คาถามทีเ่ ก่ียวกบั ความสามารถของลกู ไก่ แต่ละตวั และลกู ไก่ตอบส้ันๆ ดงั น้ี Student 1 : Can you run? (sit, swim, sing, eat, drink, fly, read, eat) Chick 1: Yes, I can. Student 1 : Can you read? Chick 2: No, I can’t. etc. ผทู้ ไ่ี ม่สามารถตอบคาถามได้ นบั ว่าเป็นลกู ไก่ทไี่ ม่มคี ุณภาพ ใหอ้ อกจากเกม 7. การวดั และการประเมนิ ผล 7.1 การประเมนิ ก่อนการเรียน - ประเมนิ การทาแบบทดสอบ 7.2 การประเมนิ ระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ - ประเมนิ การทาแบบฝึกหดั - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทากิจกรรม 7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน - ประเมนิ การทาแบบทดสอบ - ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 7.4 การประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมนิ การฟังเพ่ือระบุจานวนสัตวห์ รือสิ่งของต่างๆ - ประเมินการประดิษฐส์ มดุ ซิกแซกสัตวเ์ ล้ียงของฉนั - ประเมนิ การรวบรวมคาศพั ทใ์ น My word book 212

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน Smile ป. 2 2. แบบฝึ กหดั Smile ป. 2 3. Audio CD Smile ป. 2 4. บตั รภาพ บตั รตวั เลข แถบประโยค 5. อุปกรณ์ในการประดิษฐส์ มดุ ซิกแซกของฉนั 6. เกม Bingo 7. เกม Pig Hunting (เกมล่าหม)ู 8. เกม Chick Market (เกมตลาดลูกไก่) 213

English Post-Test A. Vocabulary Test-Write the correct verbs in the spaces. 11. A duck can w . 12. A frog can j . 13. A monkey can c m. 14. I can a a book. 15. A dog can’t s g. 16. We can’t f . B. Choose the correct answer. 1. A horse can ………………………… . a. climb b. run c. fly 2. A rat can’t ………..………………… . a. swim b. jump c. run 3. We can’t …………………….. in the class. a. read b. write c. play 4. A: Can you cook? B: …………………….. a. Yes, I can’t. b. Yes, I can. c. No, I can’t. 5. A fish can ……………… but it can’t ………………… . a. fly, swim b. swim, fly c. climb, run 6. A: Can it jump? B: …………………….. . a. Yes, it can’t. b. No, it can. c. Yes, it can. 7. There is ………….. English teacher in the classroom. a. one b. two c. three 8. There are ........... students in the classroom. a. one b. thirty c. no 9. Eighteen + twelve = ……………………... a. 30 b. 20 c. 10 10. Twenty - eight - 12 = …………………….. a. nineteen b. thirteen c. sixteen 214

แผนการจัดการเรียนรู้ Unit 5 Nice weather รหัสวชิ า/ชื่อรายวชิ า ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ช้ัน ประถมศึกษาปีที่ 2 เวลาเรียน 6 ชว่ั โมง ปกี ารศึกษา 2564 ผ้สู อน นายบุญเสริฐ จตุรธรรมวาที โรงเรียน ราชประชานเุ คราะห์ 31 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ชี้วดั สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็น อย่างมเี หตุผล ตวั ช้ีวดั 1. ปฏิบตั ิตามคาส่งั และคาขอร้องง่ายๆ ทฟ่ี ัง 2. ระบตุ วั อกั ษรและเสียง อ่านออกเสียงคา สะกดคา และอ่านประโยคง่ายๆ ถกู ตอ้ ง ตามหลกั การอ่าน 3. เลือกภาพตรงตามความหมายของคา กลุ่มคา และประโยคทฟ่ี ัง 4. ตอบคาถามจากการฟังประโยค บทสนทนา หรือนิทานง่ายๆ ทีม่ ีภาพประกอบ มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธิภาพ ตวั ช้ีวดั 2. ใชค้ าส่ังและคาขอร้องง่ายๆ ตามแบบท่ีฟัง 4. พดู ขอและให้ขอ้ มลู ง่ายๆ เกี่ยวกบั ตนเองตามแบบที่ฟัง มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ตวั ช้ีวดั 1. พดู ใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ช้ีวดั 1. พดู และทาท่าประกอบ ตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา 3. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่ีเหมาะกบั วยั มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตวั ช้ีวดั 1. ระบตุ วั อกั ษรและเสียงตวั อกั ษรของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก 215

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตวั ช้ีวดั 1. ฟัง/พดู ในสถานการณ์ง่ายๆ ทเ่ี กิดข้ึนในห้องเรียน ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมอื พนื้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ มาตรฐาน ต. 4.2 และการแลกเปลยี่ นเรียนรู้กบั สังคมโลก ตวั ช้ีวดั 1. ใชภ้ าษาต่างประเทศ เพือ่ รวบรวมคาศพั ทท์ ี่เก่ียวขอ้ งใกลต้ วั 2. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด การเรียนรู้คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สภาพอากาศแบบต่างๆ คาศพั ทห์ มวดหมเู่ ส้ือผา้ และเคร่ืองแต่งกาย รวมท้งั คากิริยา put on และ take off บทสนทนาถาม–ตอบ เก่ียวกบั สภาพอากาศ เช่น What’s the weather? It’s raining. ประโยคคาสั่งง่ายๆ การออกเสียง [s] และ [p] ซ่ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษเพ่อื นาไปใช้ สื่อสารในชีวติ ประจาวนั 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - คา กลุ่มคา และความหมายเก่ียวกบั สภาพอากาศแบบต่างๆ และเส้ือผา้ เคร่ืองแต่งกาย - ประโยคคาถามและคาตอบที่ใชใ้ นการสนทนาเก่ียวกบั สภาพอากาศ เช่น A: What’s the weather like today? B: It’s snowing. - ประโยคคาสั่งเพื่อใชใ้ นการแต่งตวั เช่น Take off your socks. - คาและประโยคท่ใี ชพ้ ดู ใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั เส้ือผา้ ทตี่ นเองกาลงั สวมใส่ เช่น I’m wearing a red shirt and yellow pants. - Pronunciation: initial sound [s] และ [p] - ตวั อกั ษรและเสียงตวั อกั ษรของภาษาองั กฤษและภาษาไทย - กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง - การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณง์ ่ายๆ ท่ีเกิดข้ึนในหอ้ งเรียน - การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคาศพั ทท์ เี่ กี่ยวขอ้ งใกลต้ วั จากสื่อต่างๆ 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิน่ - 4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร - ฟัง เขา้ ใจในสิ่งท่ไี ดย้ นิ หรือสนทนา - พูด ไดใ้ จความ ออกเสียงคาไดถ้ กู ตอ้ ง สามารถถ่ายทอดขอ้ มลู เน้ือหาได้ - อ่าน เขา้ ใจตวั อกั ษร คา และภาพท่เี ห็นในหนงั สือเรียนและแบบฝึกหัด และอ่านออกเสียงได้ - เขียน ตวั อกั ษร คาศพั ท์ และประโยคง่ายๆ ได้ 216

4.2 ความสามารถในการคดิ - การคิดวิเคราะห์ - การคิดอยา่ งสร้างสรรค์ 5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - ซ่ือสตั ยส์ ุจริต - ใฝ่เรียนรู้ 6. ชิ้นงาน/ ภาระงาน - การคน้ หาคาศพั ทใ์ นตารางตวั อกั ษร แลว้ นาคาศพั ทน์ ้นั มาเขียนลงในช่องว่างให้ตรงตามภาพ - การวาดภาพตนเองในชุดทส่ี วมใส่ในขณะน้นั - การวาดภาพเส้ือผา้ ใหถ้ กู ตอ้ งกบั สภาพอากาศ และแต่งประโยคตามภาพน้นั ๆ - การทาโครงงาน My weather plate (จานบอกสภาพอากาศของฉนั ) - การรวบรวมคาศพั ทใ์ น Your word book 7. การวดั และการประเมนิ ผล 7.1 การประเมนิ ก่อนการเรียน - ประเมินการทาแบบทดสอบ 7.2 การประเมนิ ระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ - ประเมนิ การทาแบบฝึกหัด - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทากิจกรรม 7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน - ประเมนิ การทาแบบทดสอบ - ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.4 การประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการคน้ หาคาศพั ทใ์ นตารางตวั อกั ษร แลว้ นาคาศพั ทน์ ้นั มาเขียนในช่องวา่ งให้ตรง ตามภาพ - ประเมนิ การวาดภาพตนเองในชุดทีส่ วมใส่ในขณะน้นั - ประเมนิ การวาดภาพเส้ือผา้ ให้ถูกตอ้ งกบั สภาพอากาศ และแต่งประโยคตามภาพน้ันๆ - ประเมินการทาโครงงาน My weather plate (จานบอกสภาพอากาศของฉนั ) - ประเมินการรวบรวมคาศพั ทใ์ น Your word book 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ดงั แนบมาพร้อมน้ี - กิจกรรมนาสู่การเรียน - กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ - กิจกรรมรวบยอด 217

9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน Smile ป.2 2. แบบฝึ กหัด Smile ป.2 3. Audio CD Smile ป.2 4. บตั รภาพ บตั รคา แถบประโยค 5. อุปกรณใ์ นการทาโครงงาน My weather plate (จานบอกสภาพอากาศของฉนั ) 6. เกมเปิดภาพหาคู่ 7. เกมวาดรูปตามคาบอก 8. เกมว่งิ ถอดกางเกง 218

แผนการจัดการเรียนรู้ Unit 5 Nice weather (Lesson 1) 1. สาระสาคญั การเรียนรู้คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สภาพอากาศแบบต่างๆ โครงสร้างประโยคบอกเล่าเพอื่ บอกสภาพอากาศ เช่น It’s cold. บทสนทนาถาม-ตอบเกี่ยวกบั สภาพอากาศ เช่น What’s the weather like today? It’s sunny. การออกเสียง [s] ซ่ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษเพอื่ นาไปใชส้ ื่อสารในชีวติ ประจาวนั 2. ตวั ชีว้ ดั / จุดประสงค์การเรียนรู้ - อ่านออกเสียงคา สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สภาพอากาศแบบต่างๆ ได้ - พดู ให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั สภาพอากาศแบบต่างๆ ได้ - เขียนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สภาพอากาศแบบต่างๆ ได้ - ฟังและระบุภาพไดถ้ กู ตอ้ ง - ออกเสียงตามตวั อกั ษร [s] ทีอ่ ยหู่ นา้ คาศพั ทไ์ ด้ - เล่นเกมและร้องเพลงภาษาองั กฤษตามที่กาหนดได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สภาพอากาศแบบต่างๆ - โครงสร้างประโยคบอกเล่าเกี่ยวกบั สภาพอากาศ It’s + … weather…. เช่น It’s sunny - บทสนทนาถาม-ตอบเก่ียวกบั สภาพอากาศ เช่น A: What’s the weather like today? B: It’s …………….. - Pronunciation: initial sound [s] - ตวั อกั ษร และเสียงตวั อกั ษรของภาษาองั กฤษ และภาษาไทย - กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การรอ้ งเพลงภาษาองั กฤษ และการเล่นเกม - การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณ์ง่ายๆ ทเ่ี กิดข้ึนในหอ้ งเรียน 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน - 4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ 219

- การคิดวเิ คราะห์ - การคิดอยา่ งสร้างสรรค์ 5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - ซ่ือสัตยส์ ุจริต - ใฝ่ เรียนรู้ 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ 6.1 ช่ัวโมงที่ 1-2 กจิ กรรมนำสู่กำรเรียน 1. ครูทบทวนคาศพั ทแ์ ละประโยคในบทเรียนท่ีผา่ นมา โดยใชบ้ ตั รคา บตั รภาพ และแถบประโยค 2. ครูถามนกั เรียนถึงสภาพอากาศในประเทศไทยว่ามอี ะไรบา้ ง และนกั เรียนช่วยกนั ตอบเป็น ภาษาไทย Teacher: สภาพอากาศในประเทศไทยมอี ะไรบา้ ง Students : ร้อน ฝนตก มีลมพดั หนาว 3. ครูนาบตั รคาภาษาองั กฤษและภาษาไทยมาติดลงบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนจบั คู่ให้ถกู ตอ้ ง ไดแ้ ก่ hot, cold, raining, windy, sunny, snowing, ร้อน, หนาว, ฝนตก, มีลมแรง, มีแสงแดด, มหี ิมะตก 4. ครูบอกนกั เรียนว่า ในบทเรียนน้ีนกั เรียนจะไดเ้ รียนเก่ียวกบั สภาพอากาศท่ีพบเห็นในประเทศไทย และต่างประเทศ พร้อมท้งั คาศพั ทแ์ ละประโยคง่ายๆ ในการถาม-ตอบเกี่ยวกบั สภาพอากาศ 5. นกั เรียนทาแบบทดสอบเพ่อื วดั ความรู้ก่อนการเรียน (English Pre-Test) ครูบนั ทึกคะแนนของนกั เรียนเพือ่ ดู การพฒั นาการ (ไมถ่ ือเป็นคะแนนเก็บ) กจิ กรรมพัฒนำกำรเรียนรู้ 1. ครูจดคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สภาพอากาศบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนจดคาศพั ทเ์ หล่าน้นั ลงสมุดของตนเอง hot = อากาศร้อน raining = ฝนตก snowing = หิมะตก windy = มีลมแรง sunny = มีแสงแดด cold = อากาศหนาว ครูออกเสียงคาศพั ทด์ งั กล่าว จากน้นั ใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม และสะกดคาศพั ทเ์ หล่าน้ีพร้อมกบั บอกความหมายเป็ นภาษาไทยทุกคา Teacher: How do you spell “hot”? Students : H - O - T - (ฮอท) Teacher: What does it mean? Students : อากาศร้อน 2. ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้ำ 52 ข้อ 1 Listen and point. ครูช้ีไปทีภ่ าพแตล่ ะภาพ แลว้ ถาม นกั เรียนวา่ ในภาพน้ีคืออะไร นกั เรียนช่วยกนั ตอบ จากน้นั ครูเปิ ด CD/track 63 ใหน้ กั เรียนช้ีไปท่ี 220

ภาพ และฝึกออกเสียงตาม CD 2-3 รอบ Teacher: What’s this? (ครูช้ีไปทภ่ี าพ “ฝนตก”) Students: It’s raining. Teacher: Very good. 3. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้ำ 52 ข้อ 2 Listen, point and say. และฟังพร้อมกบั ช้ีภาพตาม ประโยคทไ่ี ดย้ นิ จากน้นั ครูเปิ ด CD/track 64 2 รอบ เพ่ือให้นกั เรียนฝึ กออกเสียงตาม sunny raining windy snowing hot cold ครูนาบตั รภาพเรื่องสภาพอากาศมาติดบนกระดานท้งั 6 ภาพ ดงั น้ี อากาศหนาว หิมะตก มีลมแรง ฝนตก อากาศร้อน มีแสงแดด จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 6 คน แลว้ แจกบตั รคาให้คนละ 1 ใบ จากน้นั ใหน้ กั เรียนมาติดใตภ้ าพให้ถูกตอ้ ง บตั รภาพ อากาศหนาว หิมะตก มลี มแรง ฝนตก อากาศร้อน มแี สงแดด บตั รคา cold snowing windy raining hot Sunny ให้นกั เรียนอ่านออกเสียงคาตามรูปภาพที่ครูช้ี จากน้นั ครูคอยแกไ้ ขนกั เรียนทีอ่ ่านออกเสียงคา ไม่ชดั เจน และไม่ถกู ตอ้ ง 4. นกั เรียนดูภาพสภาพอากาศต่างๆ ในหนงั สือเรียนหน้ำ 53 ข้อ 3 Listen, point and say. จากน้นั ฝึ กออกเสียงตาม CD/track 66 ทีละประโยค และช้ีรูปภาพตามประโยคทไ่ี ดย้ นิ จาก CD ใหถ้ ูกตอ้ ง เม่อื ออกเสียงเสร็จเรียบร้อยแลว้ ครูช้ีไปท่ีรูปภาพในขอ้ 3 ทลี ะรูป 2 รอบ โดยสลบั รูปภาพไปมา ขณะทนี่ กั เรียนทุกคนช่วยกนั พดู คาศพั ทต์ ามรูปภาพที่ครูช้ีแต่ละภาพอยา่ งถูกตอ้ ง Number one, it’s cold. Number two, it’s snowing. Number three, it’s sunny. Number four, it’s hot. Number five, it’s windy. Number six, it’s raining. 5. ครูอธิบายให้นกั เรียนฟังว่า รูปประโยคของการบอกสภาพอากาศวา่ ขณะน้นั มีสภาพอากาศเป็น อยา่ งไร ให้ใชป้ ระโยคโครงสร้าง ดงั น้ี โครงสร้าง It’s + สภาพอากาศ. 221

เช่น It’s hot. มนั ร้อน It’s raining. ฝนมนั กาลงั ตก ครูจดโครงสร้างประโยคและตวั อยา่ งลงบนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนจดลงสมดุ ของตนเอง 6. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียนหน้ำ หน้ำ 53 ข้อ 4 Look and write the numbers. แลว้ อ่านออกเสียง ประโยคทีละประโยคพร้อมกนั 1 รอบ จากน้นั เขียนหมายเลขลงไปในช่องวา่ งให้ถูกตอ้ ง โดยดภู าพ จากขอ้ 3 ครูถามนกั เรียนวา่ ประโยคแต่ละประโยคในขอ้ 4 ตรงกบั ภาพหมายเลขใดในขอ้ 3 นกั เรียนช่วยกนั ตอบ Teacher: In the sentence “It’s windy.”, what’s numbers of the picture that you should write on the blank box? Students: Number 5. Teacher: Correct. 7. ครูแจกกระดาษใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผน่ วาดสภาพอากาศอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง ครูกาหนดเวลาในการ วาดรูป 5 นาที จากน้นั ครูเขียนประโยคในการถาม-ตอบเก่ียวกบั สภาพอากาศบนกระดาน พร้อมกบั อธิบายใหน้ กั เรียนฟังวา่ การถามวา่ สภาพอากาศในตอนน้ีเป็นอยา่ งไรจะใชป้ ระโยควา่ What’s the weather like? ในการตอบจะใชป้ ระโยค It’s แลว้ ตามดว้ ยสภาพอากาศ เพอื่ บอกวา่ มีสภาพอากาศ เป็นเช่นไร แลว้ ครูจดประโยคคาถามและคาตอบลงบนกระดาน โครงสรา้ ง A: What’s the weather like? B: It’s + สภาพอากาศ. ครูใหน้ กั เรียนชูภาพทต่ี นเองวาดข้ึนมา ครูเลือกผลงานนกั เรียน 3-4 ภาพ แลว้ ใหเ้ จา้ ของภาพเป็น ผถู้ าม จากน้นั นกั เรียนทเี่ หลือช่วยกนั ตอบโดยดูโครงสรา้ งบนกระดาน Winai: What’s the weather like? (นกั เรียนชูภาพของตนเองข้ึนมา ซ่ึงในภาพมีคนกางร่มและมีฝน) Sakda: It’s raining. Teacher: Is it correct? Winai: Yes, it is. จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพอื่ นผลดั กนั ถาม-ตอบตามรูปประโยคดงั กล่าว ครูเดินสารวจและคอย แกไ้ ขนกั เรียนทีอ่ อกเสียงไม่ถูกตอ้ ง เม่ือเสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนนาผลงานของตนเองกลบั ไประบายสี ใหส้ วยงามทบี่ า้ น แลว้ นามาส่งครูในวนั ถดั ไป ครูนาผลงานที่นกั เรียนส่งมาตดิ บนบอร์ดหนา้ ช้นั เรียน 8. ครูแจกกระดาษท่มี เี น้ือเพลงใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผน่ ครูอ่านออกเสียงคาในเน้ือเพลงทีละคา นกั เรียนออกเสียงตาม จากน้นั ครูเปิ ด CD/track 68 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร้ัง โดยใหน้ กั เรียนเลือกคาที่ให้ มา เติมลงในช่องว่างใหถ้ ูกตอ้ ง 222

The weather weather cold hot today raining sunny snowing windy What’s the weather? What’s the (weather)? What’s the weather like (today)? It’s (sunny). SUNNY! It’s windy. (windy)! And it’s (hot) too. What’s the weather? What’s the weather? What’s the weather like today? It’s raining. (raining)! It’s (snowing). SNOWING! And it’s (cold) too. 223

ให้นกั เรียนเปิ ดดูเฉลยจากหนังสือเรียน หน้ำ 54 ข้อ 5 Listen and sing. แลว้ แกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ ง จากน้นั ครูเปิ ด CD อีก 1 คร้ัง เพือ่ ให้นกั เรียนฝึ กร้องและออกเสียงตาม CD 9. นกั เรียนดภู าพทีละภาพในหนังสือเรียน หน้ำ 55 ข้อ 6 Listen and number the pictures. ครูถามนกั เรียนวา่ นกั เรียนเห็นอะไรในภาพแต่ละภาพ จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ Teacher: Look at this picture. (ครูช้ีภาพทเ่ี ป็นอากาศร้อน) What do you see? Suda: Sun. Winai: Sand. Somchai: Tree. ครูถามเช่นน้ีกบั นกั เรียนทุกๆ ภาพ จากน้นั ครูเปิ ด CD/track 69 3 คร้งั แลว้ ใหน้ กั เรียนเรียงลาดบั ภาพ ตามประโยคที่ไดย้ นิ แลว้ ออกเสียงตาม CD Number one: What’s the weather like today? Number two: It’s windy. Number three: What’s the weather like today? Number four: It’s hot. Number five: What’s the weather like today? Number six: It’s raining. What’s the weather like today? It’s cold. What’s the weather like today? It’s sunny. What’s the weather like today? It’s snowing. 10. ครูติดภาพสภาพอากาศท้งั 6 แบบ คือ หิมะตก, ฝนตก, อากาศร้อน, มแี สงแดด, อากาศหนาว และมลี มแรง บนกระดาน ให้นกั เรียนจบั คู่กบั เพอ่ื น แลว้ ออกมาถาม-ตอบหนา้ ช้นั เรียน โดยใช้ รูปแบบเดียวกนั กบั ประโยคในข้อ 7 Look and say. หนงั สือเรียน หน้ำ 55 ครูให้นกั เรียนเลือกถาม- ตอบ 1 ภาพ ต่อ 1 คู่ Somsak: What’s the weather like today? (ช้ีไปทีภ่ าพฝนตก) Sommai: It’s raining. นกั เรียนทกุ คู่ออกมาถาม-ตอบกนั หนา้ ช้นั เรียน เม่ือครบทกุ คูแ่ ลว้ ครูเป็นผถู้ ามนกั เรียนบา้ ง โดยครูช้ี และถามทลี ะภาพทกุ ภาพ จากน้นั สุ่มนกั เรียน 6 คนมาช้ีภาพและถาม (1 คน ตอ่ 1 ภาพ) นกั เรียนท่ี เหลือช่วยกนั ตอบ 11. ครูสอนการออกเสียง [s] ซ่ึงเทยี บไดก้ บั เสียง “ส” ในภาษาไทย ครูเตรียมบตั รคา sunny, snowing, 168

sand, sun, sweater และ socks จากน้นั ติดบตั รคาเหล่าน้ีบนกระดาน ครูออกเสียงคาแต่ละคาและ อธิบายความหมายของคาศพั ท์ ดงั น้ี sunny = สภาพอากาศทมี่ ีแสงแดด snowing = สภาพอากาศทีม่ ีหิมะตก sand = ทราย sun = ดวงอาทิตย์ sweater = เส้ือกนั หนาวทีท่ าจากขนสัตว์ socks = ถุงเทา้ ครูบอกใหน้ กั เรียนดูทป่ี ากของครู แลว้ ออกเสียงคาเหล่าน้ีอีก 1 รอบ ครูเนน้ ไปท่ีเสียง [s] เพ่อื ให้ นกั เรียนออกเสียง [s] ตามไดอ้ ยา่ งชดั เจนและถกู ตอ้ ง กจิ กรรมรวบยอด 1. ครูชูบตั รภาพเก่ียวกบั สภาพอากาศทีละภาพรวม 6 ภาพ พร้อมออกเสียงคาศพั ท์ ให้นกั เรียนออกเสียง ตาม จากน้นั ครูเปิ ด CD/track 65 เพื่อใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ ใส่หมายเลข 1-6 ในแบบฝึ กหดั หน้ำ 44 ข้อ 1 Listen and write the numbers. โดยเรียงลาดบั จากประโยคใน CD วา่ ประโยคที่ 1 บรรยาย สภาพอากาศแบบใด จากน้นั ฟังประโยคที่ 2, 3, 4, 5, 6 แลว้ ใส่หมายเลขลงไปในช่องวา่ งตามลาดบั Number one, windy Number two, sunny Number three, hot Number four, cold Number five, snowing Number six, raining 2. ครูจดคาศพั ทล์ งบนกระดานดงั น้ี raining, windy, hot, cold, snowing และ sunny จากน้นั ครูอ่าน ออกเสียงและช้ีคาศพั ทท์ ลี ะตวั แลว้ บอกใหน้ กั เรียนจดคาศพั ทน์ ้ันลงในช่องวา่ งของแบบฝึ กหัด หน้ำ 45 ข้อ 2 Find and circle the words. Then write. เม่อื นกั เรียนเขียนลงในช่องว่างเสร็จแลว้ ใหด้ ตู วั อกั ษรทอ่ี ยใู่ นกรอบแลว้ วงกลมใหเ้ ป็นคาศพั ทส์ ภาพอากาศตามทเี่ ขียนให้ถูกตอ้ ง นกั เรียน สามารถเปิดดูหนงั สือเรียนได้ 3. ครูถามนกั เรียนทกุ คนวา่ ภาพแต่ละภาพในแบบฝึ กหัด หน้ำ 45 ข้อ 3 Listen and write the numbers. มีสภาพอากาศเป็นอยา่ งไร ครูช้ีรูปภาพทลี ะรูป แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบ Teacher: In this picture, what’s the weather like? (ครูช้ีไปทภี่ าพฝนกาลงั ตก) Students: it’s raining. จากน้นั ครูให้นกั เรียนฝึ กการฟังจาก CD/track 70 2-3 รอบ เมอ่ื ฟังเสร็จแลว้ นกั เรียนจดหมายเลขลง ไปในช่องว่างโดยเรียงลาดบั หมายเลขใหถ้ ูกตอ้ ง 169

Narrator: What’s the weather like today? Bobby: Number one, It’s sunny. Number two, It’s hot. Number three, It’s raining. Number four, It’s snowing. Number five, It’s cold. Number six, It’s windy. 4. ใหน้ กั เรียนเปิ ดแบบฝึ กหัด หน้ำ 46 ข้อ 4 Look and match. แลว้ ใหน้ กั เรียนเติมตวั อกั ษรจาก ภาพ (a-f) ลงในช่องวา่ งหลงั ประโยคให้ถกู ตอ้ ง โดยครูอ่านประโยคทีละประโยค แลว้ ให้นกั เรียน เติมคาตอบไปพร้อมๆ กนั 1. It’s raining! e 2. It’s hot! d 3. It’s cold! a 4. It’s sunny! b 5. It’s windy! c 6. It’s snowing! f 5. นกั เรียนเปิ ดแบบฝึ กหดั หน้ำ 47 ข้อ 5 Write the words. แลว้ นาคาทใี่ ห้มาเติมลงในช่องว่างตาม ภาพใหถ้ ูกตอ้ ง โดยครูอ่านคาทลี ะคา แลว้ นกั เรียนนาคาเหล่าน้นั มาเติมลงในช่องว่าง ทาไปพร้อมๆ กนั จากน้นั เฉลยคาตอบ โดยสุ่มนกั เรียน 6 คนเฉลยคาตอบคนละ 1 ขอ้ 1. It’s sunny! 2. It’s hot! 3. It’s raining! 4. It’s cold! 5. It’s windy! 6. It’s snowing! 6. ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกม The letters (ต่อตวั อกั ษร) โดยครูแบ่งกลุ่มนกั เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม แลว้ แจก บตั รตวั อกั ษรภาษาองั กฤษ ดงั น้ี W, I, I, N, N, D, Y, S, U, H, O, T, L, C, G, R และ A เป็นตวั พิมพใ์ หญ่ ให้แต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 1 ชุด ครูออกเสียงคาศพั ทส์ ภาพอากาศ จากน้นั สมาชิกในกลุ่มแต่ละกลุ่มช่วยกนั ต่อตวั อกั ษรใหเ้ ป็น คาศพั ทน์ ้นั กลุ่มใดต่อไดก้ ่อนให้ว่งิ ออกมาหนา้ ช้นั เรียน พร้อมกบั หยบิ บตั รอกั ษรน้นั ออกมาต่อบนกระดาน หรือให้ สมาชิกในกลุ่มถือบตั รอกั ษรหนา้ กระดานกไ็ ด้ จากน้นั ให้สมาชิกในกลุ่มท่อี อกมาหนา้ ช้นั ออกเสียง สะกดคา และบอก ความหมายให้ถูกตอ้ ง ถา้ ทาไดถ้ กู ตอ้ งทกุ อยา่ งถือว่าได้ 1 แตม้ กลุ่มใดได้ 3 แตม้ ก่อนถือว่าชนะ นกั เรียนสามารถเปิด หนงั สือเรียนเพอื่ ดคู าศพั ทไ์ ด้ 7. ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกมเปิ ดภาพหาคู่ ครูแจกแถบประโยคดงั ต่อไปน้ีให้กบั นกั เรียนคนละ 1 ใบ โดยการสุ่ม 6 คน It’s sunny. It’s windy. It’s hot. It’s snowing. It’s raining. It’s cold. ครูเปิดภาพสภาพอากาศใดให้นกั เรียนคนท่ีถือแถบประโยคตามสภาพอากาศน้นั ยนื ข้ึน พร้อมกบั ออกเสียงประโยคใหช้ ดั เจน จากน้นั ครูเปิ ดภาพต่อไป ใหน้ กั เรียนคนต่อไปพดู ประโยคของตนเอง จนครบเมื่อครบท้งั 6 คนแลว้ ครูทาการสุ่มนกั เรียนอีก 6 คน เพอื่ เล่นเกมเปิดภาพหาคู่ ทาอยา่ งน้ีไป 170

เรื่อยๆ จนครบทุกคน 7. ให้นกั เรียนจบั คู่กบั เพ่ือน จากน้นั ครูแจกกระดาษเปล่าใหน้ กั เรียนค่ลู ะ 1 แผน่ เพื่อวาดภาพสภาพ อากาศมา 1 อยา่ ง เม่ือเสร็จแลว้ ครูสงั่ ให้แต่ละคู่วิ่งไปหาอีกค่หู น่ึงเพอ่ื ผลดั กนั ถาม-ตอบเก่ียวกบั สภาพอากาศ โดยคู่ที่ 1 จะ เป็นผถู้ ามและชูภาพที่วาด แลว้ ให้คู่ที่ 2 ตอบ จากน้นั เปลี่ยนใหค้ ู่ท่ี 2 ถาม คู่ที่ 1 ตอบ ครูจบั เวลา 1 นาทีใหน้ กั เรียน เปลี่ยนไปหาคู่อ่ืน คู่ท่ี 1: What’s the weather like? (นกั เรียนชูภาพสภาพอากาศท่ีวาดโดยสมมุติว่าวาดอากาศร้อน) คู่ท่ี 2: ดูภาพแลว้ ตอบ It’s hot. คู่ที่ 2: What’s the weather like? (นกั เรียนชภู าพสภาพอากาศท่ีวาดโดยสมมตุ ิว่าวาดอากาศมีลมแรง) คู่ท่ี 1: ดูภาพแลว้ ตอบ It’s windy. 7. การวดั และการประเมนิ ผล 7.1 การประเมนิ ก่อนการเรียน - ประเมนิ การทาแบบทดสอบ 7.2 การประเมนิ ระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ - ประเมินการทาแบบฝึกหดั - สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทากิจกรรม 7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน - ประเมินการทาแบบทดสอบ - ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 7.4 การประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการพดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั สภาพอากาศ - ประเมินการวาดภาพตามคาสัง่ 8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน Smile ป.2 2. แบบฝึ กหดั Smile ป.2 3. Audio CD Smile ป.2 4. บตั รภาพ บตั รคา แถบประโยค 171

แผนการจดั การเรียนรู้ Unit 5 Nice weather (Lesson 2) 1. สาระสาคญั การเรียนรู้คาศพั ทห์ มวดหม่เู ส้ือผา้ และเคร่ืองแต่งกาย รวมท้งั คากิริยา put on และ take off ประโยคคาสง่ั ง่ายๆ เช่น Put on your hat. บทสนทนาถาม-ตอบเก่ียวกบั เคร่ืองแต่งกาย เช่น What are you wearing? I’m wearing….. การออก เสียง [p] ซ่ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษเพอื่ นาไปใชส้ ื่อสารในชีวิตประจาวนั 2. ตวั ชีว้ ดั / จุดประสงค์การเรียนรู้ - อ่านออกเสียงคา สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เส้ือผา้ และเคร่ืองแต่งกายได้ - พดู ให้ขอ้ มลู ลกั ษณะการแต่งกายของตนเองให้เหมาะสมกบั สภาพอากาศได้ - เขียนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เส้ือผา้ และเครื่องแต่งกายได้ - ฟังและระบุภาพไดถ้ ูกตอ้ ง - พดู ประโยคคาส่ังง่ายๆ และปฏิบตั ิตามไดใ้ นทางกลบั กนั - ออกเสียงตวั อกั ษร [p] ทอ่ี ยหู่ นา้ คาศพั ทไ์ ด้ - เล่นเกมและร้องเพลงภาษาองั กฤษตามที่กาหนดได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - คาศพั ทห์ มวดหมเู่ ส้ือผา้ และเคร่ืองแต่งกาย - การใชค้ ากิริยา put on และ take off - โครงสร้างประโยคบอกเล่าเพอื่ บอกว่ากาลงั สวมใส่อะไร I’m wearing………… เช่น I’m wearing a shirt and pants. - ประโยคคาสั่งง่ายๆ เช่น Take off your shoes. - บทสนทนาถาม-ตอบเก่ียวกบั เครื่องแต่งกาย เช่น A: What are you wearing? B: I’m wearing a sweater and pants. - Pronunciation: initial sound [p] - ตวั อกั ษร และเสียงตวั อกั ษรของภาษาองั กฤษ และภาษาไทย - กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การรอ้ งเพลงภาษาองั กฤษ และการเล่นเกม - การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณง์ ่ายๆ ทเ่ี กิดข้ึนในห้องเรียน 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน - 172

4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ - การคิดวิเคราะห์ - การคิดอยา่ งสร้างสรรค์ 5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - ซ่ือสัตยส์ ุจริต - ใฝ่ เรียนรู้ 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ 6.1 ชั่วโมงท่ี 3-4 กจิ กรรมนำสู่กำรเรียน 1. ครูทบทวนคาศพั ทเ์ รื่องสภาพอากาศดว้ ยบตั รคาดงั ต่อไปน้ี sunny, raining, windy, snowing, hot, cold ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3 คน มาเลือกบตั รคาคนละ 1 ใบ แลว้ ชูบตั รคาให้เพ่อื นในช้นั เรียนออก เสียง นกั เรียนทถี่ กู สุ่มน้นั จะตอ้ งวาดรูปสภาพอากาศตามบตั รคาท่ีหยบิ ไดบ้ นกระดาน 2. นกั เรียนแบง่ กลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มผลดั กนั ร้องเพลง The weather โดยดูทม่ี ือครู ว่าช้ีไปที่กลุ่มใดก็ให้กลุ่มน้นั ร้องเพลงในท่องน้นั ๆ ต่อกนั 3. ครูบอกนกั เรียนว่าใน Lesson 2 นกั เรียนจะไดเ้ รียนรูเ้ ร่ืองสภาพอากาศแบบต่างๆ และเส้ือผา้ เครื่อง แต่งกาย กจิ กรรมพัฒนำกำรเรียนรู้ 1. ครูจดคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เส้ือผา้ ลงบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนจดลงสมุดของตนเอง sweater = เส้ือขนสตั ว์ hat = หมวก socks = ถุงเทา้ shirt = เส้ือเช้ิต pants = กางเกงขายาว shoes = รองเทา้ dress = ชุดกระโปรง ครูช้ีท่ปี ากและบอกใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม 2 รอบ จากน้นั ครูวาดรูปเคร่ืองแตง่ กาย 3-4 อยา่ ง บนกระดานแลว้ ใหน้ กั เรียนเดาวา่ เป็ นคาศพั ทใ์ ด 2. นกั เรียนดูภาพและคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั เส้ือผา้ ในหนังสือเรียน หน้ำ 56 ข้อ 1 Listen, point and say. จากน้นั ช้ีและออกเสียงคาศพั ทเ์ องตามรูปภาพ ครูเปิ ด CD/track 71 2-3 รอบ เพอื่ ใหน้ กั เรียนฝึก ออกเสียงตาม CD sweater hat socks shirt pants shoes dress 173

3. นกั เรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้ำ 56 ข้อ 2 Look and number the clothes. แลว้ นาหมายเลตาม รูปภาพเส้ือผา้ มาใส่ในช่องวา่ ง โดยครูอ่านคาศพั ทห์ ลงั ช่องวา่ งทีละขอ้ จากน้นั ครูเฉลยคาตอบ Teacher: What is number 1? Students: It’s a shirt. (ท่ีขดี เสน้ ใตส้ ามารถเปลี่ยนได)้ 4 hat 5 sweater 7 shoes 1 shirt 2 pants 3 dress 5 6 socks 4. ครูอธิบายโครงสรา้ งบทสนทนาเกี่ยวกบั การถาม-ตอบเส้ือผา้ แบบง่ายๆ ดงั น้ี โครงสร้าง What are you wearing? (คุณสวมใส่อะไรอย)ู่ A: I’m wearing + เส้ือผา้ . (ฉนั สวมใส่ .....) B: เช่น A: What are you wearing? (คุณสวมใส่อะไรอย)ู่ B: I’m wearing a pink dress and yellow shoes. (ฉนั สวมใส่ชุดกระโปรงสีชมพู และรองเทา้ สีเหลือง) ครูสุ่มช้ีไปทีน่ กั เรียน 2-3 คน ใหน้ กั เรียนทถี่ ูกช้ียนื ข้ึนพร้อมกบั ตอบคาถาม โดยเพอื่ นๆ ท่เี หลือ ช่วยกนั บอกเป็นภาษาไทยวา่ เพอ่ื นคนน้ีกาลงั สวมใส่อะไรอยู่ Teacher: What are you wearing? Somsri: I’m wearing a red shirt and white pants. Students: สมศรีกาลงั สวมเส้ือเชิ้ตสีแดง และกางเกงขายาวสีขาว 5. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้ำ 57 ข้อ 3 Listen and say. แลว้ สมมตวิ า่ ตนเองเป็ นเดก็ ในภาพ จากน้นั ใหบ้ อกวา่ สวมใส่อะไรอยเู่ ป็ นภาษาองั กฤษ ครูเปิ ด CD/track 72 ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียง ตาม 2 คร้งั สุดทา้ ยครูสุ่มนกั เรียน 3 คนใหย้ นื ข้นึ และพดู คนละ 1 ประโยค Boy: I’m wearing a blue shirt and a green hat. Girl: I’m wearing a pink dress and orange socks. Boy: I’m wearing a red sweater and yellow pants. 6. ครูแจกกระดาษเปล่าใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผน่ ให้นกั เรียนวาดรูปตวั ของนกั เรียน และเส้ือผา้ ท่ี 174

นกั เรียนอยากจะสวมใส่ พร้อมกบั ตกแต่งใหส้ วยงาม แลว้ เขียนบรรยายใตร้ ูปภาพ โดยดูตวั อยา่ งจาก หนังสือเรียน หน้ำ 57 ข้อ 3 Listen and say. และข้อ 4 Draw and say. จากน้นั ครูรวบรวม ผลงานของนกั เรียนทกุ คนและเลือกผลงานของนกั เรียนมา 2-3 ช้ิน แลว้ ใหเ้ จา้ ของผลงานออกมาพดู บรรยายภาพของตนเองหนา้ ช้นั เรียน 7. ครูจดคาศพั ทค์ าใหม่บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนจดลงสมุดของตนเอง put on = สวมใส่ take off = ถอดออก ครูทาท่าทางสวมเส้ือแลว้ พดู วา่ “I put on my shirt.” ครูทาทา่ ทางถอดเส้ือออกแลว้ พดู วา่ “I take off my shirt.” นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้ำ 58 ข้อ 5 Listen and sing. ครูอ่านออกเสียงเน้ือเพลงทลี ะประโยค นกั เรียนทุกคนออกเสียงตาม จากน้นั ครูแสดงทา่ ทางตามเน้ือเพลง แลว้ ใหน้ กั เรียนทาตาม ครูเปิ ด CD/track 74 3 คร้งั ใหน้ กั เรียนฝึกรอ้ งตามจนคล่อง แลว้ ครูเลือกนกั เรียน 3-4 คน ท่ีแสดงทา่ ทาง และรอ้ งเพลงไดด้ ีออกมาหนา้ ช้นั เรียน โดยใหน้ กั เรียนทถ่ี ูกเลือกนาเพอ่ื นๆ ในช้นั เรียนรอ้ งและ ทาท่าประกอบเพลง 2 รอบ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกความหมายเน้ือเพลงเป็ นภาษาไทย My clothes I put on my shoes, my shoes! I take off my socks, my socks! I put on my shirt, my shirt! I take off my hat, my hat! I put on my dress, my dress! I take off my sweater, my sweater! I’m ready, let’s go! 8. ครูเตรียมอุปกรณ์เส้ือผา้ ดงั น้ี รองเทา้ , ถุงเทา้ , หมวก, เส้ือเชิ้ต, เส้ือขนสตั ว์ และชุดกระโปรง ครูแสดงท่าทางตามประโยคคาสง่ั ในหนังสือเรียน หน้ำ 59 ข้อ 6 Look and match. แลว้ ให้ นกั เรียนพดู ประโยคคาสง่ั ตามทา่ ทางท่ีครูแสดง จากน้นั จบั คู่ประโยคคาสง่ั กบั รูปภาพใหถ้ ูกตอ้ ง Put on my shoes. (ครูทาท่าสวมรองเทา้ ) Take off my socks. (ครูทาท่าถอดถุงเทา้ ออก) Put on my hat. (ครูทาทา่ สวมใส่หมวก) Take off my shirt. (ครูทาทา่ ทางถอดเส้ือเช้ิตออก) Put on my sweater. (ครูทาทา่ สวมใส่เส้ือขนสตั ว)์ Take off my dress. (ครูทาท่าทางถอดชุดกระโปรงออก) 9. ครูอธิบายให้นกั เรียนฟังว่า ครูจะเปิ ด CD/track 75 แลว้ ให้นกั เรียนทาทา่ ทางตามประโยคทไ่ี ดย้ นิ 175

โดยดูตวั อยา่ งในหนังสือเรียน หน้ำ 59 ข้อ 7 Listen and do. จากน้นั แบง่ กลุ่มนกั เรียนออกเป็น 2 กลุ่ม ครูเตรียมแถบประโยคคาสง่ั ตามหนงั สือเรียนขอ้ 7 2 ชุด มาวางไวห้ นา้ ช้นั เรียน จากน้นั เลือกตวั แทนกลุ่มมา 1 คน ครูจะพดู คาส่งั เป็นภาษาองั กฤษ แลว้ ให้นกั เรียนเลอื กแถบประโยค ตามทค่ี รูพดู ข้ึนมา แลว้ ออกเสียงประโยคดงั ๆ พร้อมกบั ทาท่าทางประกอบดว้ ย กลุ่มใดทาได้ ถกู ตอ้ งทสี่ ุด ถอื ว่าชนะ Sam: Take off your shoes. Bobby: Put on your hat. Sam: Take off your socks. Bobby: Put on your shoes. 10. ครูจดคาศพั ทค์ าใหมเ่ ก่ียวกบั เส้ือผา้ บนกระดานเป็นภาษาองั กฤษ และวาดภาพประกอบ นกั เรียนจด และวาดภาพลงสมดุ ของตนเอง พร้อมกบั ตกแต่งใหส้ วยงาม ภาพเส้ือเชิ้ต ภาพกางเกง ภาพเส้ือยดื ภาพชุดว่ายน้า ภาพ ขาส้ นั เส้ือกนั ฝน skirt shorts T- Swimming raincoat shirt suite ครูออกเสียงคาศพั ทท์ ลี ะคา นกั เรียนออกเสียงตาม 11. ครูสอนการออกเสียง [p] แก่นกั เรียนวา่ ถา้ เทียบกบั เสียงในภาษาไทยจะเทยี บไดก้ บั เสียง “พ” ครูเตรียมบตั รภาพและบตั รคา ดงั น้ี บตั รภาพ ภาพกระทะ ภาพคนกาลงั วาง ภาพช้ีน้ิว ภาพ บตั รคา ของ กางเกงขายาว pan point put pants ครูติดบตั รภาพบนกระดาน จากน้นั หยบิ บตั รคาออกมาทลี ะ 1 ใบ ครูออกเสียงบตั รคาน้นั โดยเนน้ ที่เสียง [p] เป็นหลกั นกั เรียนออกเสียงตาม แลว้ ครูก็นาบตั รคาทไี่ ดอ้ อกเสียงไปแลว้ ติดบนกระดาน กจิ กรรมรวบยอด 1. ครูนาบตั รภาพต่อไปน้ีติดบนกระดาน ถุงเทา้ , เส้ือเชิ้ต, ชุดกระโปรง, กางเกงขายาว, หมวก, รองเทา้ และเส้ือขนสัตว์ จากน้นั แบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 กลุ่ม แลว้ แจกบตั รคาท่ีมีคาศพั ท์ เหมอื นกนั ให้แต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 1 ชุด ดงั น้ี socks, shirt, dress, pants, hat, shoes และ sweater ใหส้ มาชิกในกลุ่มแต่ละกลุ่มช่วยกนั นาคาศพั ทเ์ หล่าน้ีมาติดใตภ้ าพให้ถูกตอ้ งและเร็วที่สุด กลุ่มใดถูกตอ้ งมากกว่าและเร็วกวา่ ถือวา่ ชนะ ครูเฉลยคาตอบพร้อมกบั ออกเสียงคาศพั ทน์ ้นั ๆ ให้ นกั เรียนออกเสียงตาม นกั เรียนสามารถเปิดดคู าศพั ทเ์ หล่าน้ีจากหนงั สือเรียนได้ 2. ให้นกั เรียนจบั คู่คาศพั ทก์ บั ภาพในแบบฝึ กหดั หน้ำ 48 ข้อ 6 Look and match. โดยดวู ่าภาพท้งั 2 176

ภาพน้ี เดก็ ๆ สวมใส่เคร่ืองแต่งกายอะไรบา้ ง แลว้ นาคาศพั ทท์ ีใ่ ห้มาเขียนลงใตภ้ าพ 3. นกั เรียนเปิ ดแบบฝึ กหดั หน้ำ 48 ข้อ 7 Listen and circle. แลว้ ฟัง CD/track 73 ทค่ี รูเปิ ด 2 คร้ัง โดยฟังวา่ ใน CD ออกเสียงคาศพั ทใ์ ด จากน้นั ดภู าพแลว้ วงกลมคาตอบ โดยครูเปิ ด CD คร้ังที่ 1 ใหน้ กั เรียนฟังดว้ ยตนเอง และในคร้ังท่ี 2 ใหน้ กั เรียนวงกลมคาตอบ เม่อื เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ ดว้ ยการออกเสียงซ้าอีกคร้ังหน่ึง นกั เรียนตรวจคาตอบ Number one: What have you got? I’ve got a sweater. Number two: What have you got? I’ve got a hat. Number three: What have you got? I’ve got a dress. Number four: What have you got? I’ve got shoes. Number five: What have you got? I’ve got pants. Number six: What have you got? I’ve got a shirt. Number seven: What have you got? I’ve got socks. 4. นกั เรียนเปิ ดแบบฝึ กหัด หน้ำ 49 ข้อ 8 Draw and write. จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนวาดรูปตามรอย ประตามรูปแต่ละรูป และเขียนคาศพั ท์ เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั อ่านออกเสียง และสะกด คาศพั ทแ์ ต่ละคา Teacher: How do you pronounce and spell “shirt”? Students: S - H - I - R - T “shirt” (ตวั สะกดและคาอ่านเปล่ียนไปตามคาศพั ท)์ 5. ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกมวาดรูปตามคาบอก โดยครูแจกกระดาษเปล่าใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผน่ จากน้นั ใหน้ กั เรียนฟังประโยคจากครู แลว้ วาดรูปตามคาบอก ดงั น้ี I’m a boy. ผมเป็นเด็กผชู้ าย I’m wearing a shirt. ผมสวมเส้ือเชิ้ต I’m wearing a hat. ผมสวมหมวก I’m wearing pants. ผมสวมกางเกงขายาว I’m wearing socks. ผมสวมถุงเทา้ I’m wearing shoes. ผมสวมรองเทา้ เมื่อวาดเสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนเตรียมสีข้นึ มา เพอ่ื ระบายสีรูปภาพท่ตี นเองวาดตามคาบอก ครูเดิน ตรวจผลงานของนกั เรียนวา่ ถูกตอ้ งหรือไม่ จากน้นั ครูจดประโยคพรอ้ มกบั ออกเสียงทลี ะประโยค ใหน้ กั เรียนระบายสีตามท่สี งั่ ดงั น้ี I’m a boy. ผมเป็นเด็กผชู้ าย I’m wearing a blue shirt. ผมสวมเส้ือเชิ้ตสีฟ้ า I’m wearing an orange hat. ผมสวมหมวกสีสม้ I’m wearing pink pants. ผมสวมกางเกงขายาวสีชมพู 177

I’m wearing brown socks. ผมสวมถุงเทา้ สีน้าตาล I’m wearing yellow shoes. ผมสวมรองเทา้ สีเหลือง ครูรวบรวมผลงานของนกั เรียน แลว้ ตรวจความถูกตอ้ ง จากน้นั นาผลงานของนกั เรียนทุกคนติด บอร์ดหนา้ ช้นั เรียน 6. ใหน้ กั เรียนเปิ ดแบบฝึ กหัด หน้ำ 50 ข้อ 9 Follow and write. แลว้ ดูช่องทางของตวั ละครแต่ละ ตวั วา่ ใครสวมเส้ือผา้ อยา่ งไร จากน้นั ดูรูปเส้ือผา้ ของตวั ละครตามช่องทาง แลว้ เขยี นคาศพั ทล์ งใน ช่องวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง Bobby’s wearing a shirt and pants. Jenny’s wearing a dress. Jimmy’s wearing shoes. Sam’s wearing a hat. Tina’s wearing a sweater and socks. 7. นกั เรียนทาแบบฝึ กหัด หน้ำ 51 ข้อ 10 Draw and write. โดยครูใหน้ กั เรียนดูคาศพั ทท์ ีอ่ ยดู่ า้ นบน จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านขอ้ ความทอี่ ยใู่ ตก้ รอบท่ี 1 และ 2 ครูถามนกั เรียนวา่ กรอบที่ 1 มีสภาพ อากาศเป็ นอยา่ งไร และกรอบที่ 2 มีสภาพอากาศเป็ นอยา่ งไร ครูถามตอ่ ไปอีกวา่ เม่ือสภาพอากาศ เป็นเช่นน้นั นกั เรียนจะแต่งกายอยา่ งไร จากน้นั ใหน้ กั เรียนวาดรูปเคร่ืองแต่งกายและเขยี นคา บรรยายใตภ้ าพ โดยใชค้ าศพั ทท์ ี่ใหม้ าใหเ้ หมาะสมกบั สภาพอากาศ เช่น ภาพท่ี 1 It’s sunny, I’m wearing a shirt, pants, socks and shoes. ภาพท่ี 2 It’s snowing, I’m wearing a dress, a sweater, a hat, socks and shoes. ครูสุ่มนกั เรียน 2 คน ออกมาพดู บรรยายภาพคนละ 1 ภาพ หนา้ ช้นั เรียน 8. นกั เรียนดูภาพในแบบฝึ กหัด หน้ำ 52 ข้อ 11 Listen and match. จากน้นั ฟัง CD/track 76 และ จบั คู่รูปภาพกบั สภาพอากาศตามทไี่ ดย้ นิ ใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนฝึกพดู และออกเสียงตาม CD ทีละประโยคอีก 1 รอบ Jenny: It’s windy. I put on my hat. It’s hot. I take off my shirt. It’s raining. I take off my shoes. It’s snowing. I put on my sweater. It’s cold. I put on my socks. It’s sunny. I put on my dress. 9. ครูอธิบายกตกิ าวา่ ครูจะแบง่ นกั เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มฟังคาถามจากครู แลว้ ช่วยกนั คิดวา่ ถา้ สภาพอากาศเป็นเช่นน้ี นกั เรียนจะสวมใส่อะไร ครูจบั เวลา 2 นาที หลงั จากที่ ครูพดู คาถามจบ Teacher: What are you wearing, if it’s hot. 178

Group 1: I’m wearing a shirt, pants and a hat. Group 2: I’m wearing a swimming suite and a hat. Group 3: I’m wearing a swimming suite and shoes. Group 4: I’m wearing a shirt and shorts. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มสามารถเปิ ดดูคาศพั ทจ์ ากสมุดของตนเองในเร่ืองของเส้ือผา้ ได้ 10. ครูใหน้ กั เรียนดูภาพในแบบฝึ กหัด หน้ำ 53 ข้อ 12 Look and match. แลว้ จบั คูภ่ าพกบั ประโยค ใหส้ อดคลอ้ งกนั ครูถามนกั เรียนวา่ จะเลือกประโยคใดใหเ้ หมาะสมกบั ภาพแตล่ ะภาพ จากน้นั นกั เรียนช่วยกนั ตอบตามประโยคท่นี กั เรียนเลือก Teacher: What sentence will you choose for this picture? (ครูช้ีไปตามภาพ Jenny ใส่รองเทา้ ) Students: Put on your shoes. 6.2 ชั่วโมงที่ 5-6 กจิ กรรมนำสู่กำรเรียน 1. ครูทบทวนประโยค และคาศพั ทจ์ ากบทเรียนท่ีผา่ นมาดว้ ยบตั รภาพ บตั รคา และแถบประโยค 2. ครูหยบิ ผลงานนกั เรียนท่ีไดท้ าในหนงั สือเรียน หน้ำ 57 ข้อ 4 Draw and say. โดยสมมตุ ิว่า นกั เรียนเป็นเด็กที่อยใู่ นรูปน้นั แลว้ บรรยายภาพดว้ ยประโยค ดงั น้ี I’m wearing + เส้ือผา้ 3. นกั เรียนร้องเพลง My clothes พร้อมๆ กนั อกี คร้ัง 4. ครูบอกกบั นกั เรียนวา่ ในบทเรียนน้ีจะเป็นการทบทวนเกี่ยวกบั คาศพั ทเ์ ร่ืองสภาพอากาศและเส้ือผา้ รวมท้งั โครงสร้างประโยคอีกดว้ ย นอกจากน้นั แลว้ ยงั ไดท้ าโครงงาน My weather plate และเล่นเกม Who am I? กจิ กรรมพฒั นำกำรเรียนรู้ 1. ครูอ่านออกเสียงประโยคในข้อ 1 Look and match. หนังสือเรียน หน้ำ 60 ทลี ะประโยคให้ นกั เรียนลากเสน้ จบั คูร่ ะหวา่ งประโยคและรูปภาพใหถ้ ูกตอ้ ง นกั เรียนสามารถเปิ ดดูหนงั สือเรียนได้ 2. ครูทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั เส้ือผา้ ดว้ ยบตั รภาพ โดยครูชูบตั รภาพทีละ 1 ใบ ใหน้ กั เรียนออกเสียง คาศพั ทต์ ามภาพน้นั จากน้นั ครูคอยแกไ้ ขคาท่ีนกั เรียนจาหรือออกเสียงไม่ได้ ซ่ึงบตั รภาพมี ดงั น้ี 1. เส้ือขนสตั ว์ 2. หมวก 3. ถุงเทา้ 4. เส้ือเชิ้ต 5. กางเกงขายาว 6. รองเทา้ 7. ชุดกระโปรง 8. กางเกงขาส้นั 9. กระโปรงส้นั 10. เส้ือ ที-เช้ิต 11. ชุดวา่ ยน้า 12. ชุดกนั ฝน ครูหยบิ และชูบตั ร ภาพซ้าไปซ้ามา อยา่ งน้ี 2-3 รอบ 3. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้ำ 60 ข้อ 2 Listen, point and say. ใหน้ กั เรียนดูภาพท่ี 1 เป็น ตวั อยา่ ง แลว้ นกั เรียนทุกคนช่วยกนั แต่งประโยคในภาพที่ 2 และ 3 ตามลาดบั จากน้นั ครูเปิ ด 179

CD/track 77 ใหน้ กั เรียนช้ีรูปภาพ และออกเสียงตาม ตอ่ จากน้นั ใหน้ กั เรียนเขยี นประโยคท่ีไดฟ้ ัง จาก CD ลงในสมุดของตนเอง พรอ้ มกบั บอกความหมายเป็นภาษาไทยส่งครูในวนั ถดั ไป Sam: It’s cold. I’m wearing my sweater. It’s sunny. I’m wearing my hat. It’s raining. I’m wearing my shoes. 4. ครูเปิ ด CD/track 78 ใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ วงกลมคาตอบในหนังสือเรียน หน้ำ 61 ข้อ 3 Listen and circle. ใหน้ กั เรียนฟัง CD และดูภาพ จากน้นั วงกลมคาตอบวา่ เป็ น a หรือ b โดยครูเปิ ด CD ทีละ-hv (1, 2, 3) ใหน้ กั เรียนช่วยกนั จบั ใจความ หรือต้งั ใจฟังคาศพั ทท์ ีไ่ ดย้ นิ จาก CD ใน ตอนสุดทา้ ยครูเปิ ด CD อีกคร้ังและออกเสียงตาม นกั เรียนออกเสียงตามครู จากน้นั ครูเฉลยคาตอบ Number one, it’s raining. I’m wearing my shoes. Number two, it’s sunny. I’m wearing my hat. Number three, it’s snowing. I’m wearing my sweater. 5. ครูใหน้ กั เรียนจบั คูก่ บั เพอ่ื น คนหน่ึงบอกสภาพอากาศโดยใชร้ ูปประโยค It’s + สภาพอากาศ. และ อีกคนบอกกบั เพอ่ื นวา่ ตามสภาพอากาศทีพ่ ดู มาตอ้ งสวมใส่เส้ือผา้ เช่นน้ี โดยใชร้ ูปประโยค Put on your + เส้ือผา้ . หรือ I’m wearing + เส้ือผา้ . จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน จากน้นั ครูแบง่ กลุ่มนกั เรียนออกเป็ น 2 กลุ่ม กลุ่มท่ี 1 คอยบอกสภาพอากาศ กลุ่มที่ 2 คอยบอก การสวมใส่เครื่องแต่งกาย ครูจบั เวลา 5-7 วนิ าที ใหน้ กั เรียนกลุ่มที่ 2 วงิ่ ไปจบั คูก่ บั นกั เรียนกลุ่ม ที่ 1 แลว้ สนทนากนั เม่ือหมดเวลาแลว้ ครูส่งสญั ญาณใหเ้ ปลี่ยนคู่ ทาอยา่ งน้ีประมาณ 5-8 คร้ัง 6. ครูใหน้ กั เรียนทาโครงงาน My weather plate (จานบอกสภาพอากาศของฉนั ) ในหนังสือเรียน หน้ำ 62 โดยครูจดั เตรียมอุปกรณ์ ดงั น้ี จานกระดาษ (นบั ใหค้ รบตามจานวนนกั เรียน) และสีเทยี น ครูบอกข้นั ตอนในการทา ดงั น้ี 1. แบง่ จานกระดาษออกเป็น 6 ส่วน 2. วาดรูปและระบายสีสภาพอากาศท้งั 6 แบบลงในจานกระดาษ (นกั เรียนสามารถเปิ ดดูรูปภาพ สภาพอากาศของ Unit 5 Lesson 1 ได)้ โดยวาด 1 ช่องต่อ 1 สภาพอากาศ 3. นกั เรียนจบั คูก่ บั เพอื่ นผลดั กนั ถาม-ตอบ โดยใชโ้ ครงสร้างประโยค ดงั น้ี A: What’s the weather like today? B: It’s + สภาพอากาศ. 180

ใหน้ กั เรียนทถี่ ามยนื่ จานกระดาษ เพอื่ ใหน้ กั เรียนทเี่ ป็นฝ่ายตอบเลือกสภาพอากาศบนจาน กระดาษน้นั จากน้นั สลบั กนั ถาม-ตอบ ครูสุ่มนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน เมื่อเสร็จจากการนาเสนอของนกั เรียนแลว้ ใหค้ รูรวบรวมผลงานของนกั เรียนมาติดบอร์ดหนา้ ช้นั เรียน 7. ใหน้ กั เรียนเล่นเกม Who am I? ในหนังสือเรียน หน้ำ 63 ครูใบค้ า แลว้ ใหน้ กั เรียนเดาวา่ เป็นใคร ใน 4 คนน้ี Jenny, Tina, Bobby และ Tommy โดยดูจากแผนภูมิรูปภาพ คาใบ้ 1. I’m wearing socks. I’m wearing a sweater. I’m wearing pants. I’m wearing a shirt. Who am I? (Jenny) 2. I’m wearing shoes. I’m wearing a hat. I’m wearing pants. I’m wearing a shirt. Who am I? (Tina) 3. I’m wearing shoes. I’m wearing a hat. I’m wearing a dress. I’m wearing a shirt. Who am I? (Tina) 4. I’m wearing a sweater. I’m wearing a hat. I’m wearing pants. I’m wearing a shirt. Who am I? (Bobby) 5. I’m wearing a hat. I’m wearing shoes. I’m wearing a dress. I’m wearing a shirt. Who am I? (Tommy) กจิ กรรมรวบยอด 1. นกั เรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ช่วยกนั คิดหาคาศพั ทอ์ ื่นๆ เก่ียวกบั ลมฟ้ าอากาศท่ี นอกเหนือจากทีไ่ ดเ้ รียนใน Unit 5 น้ี ซ่ึงนกั เรียนสามารถคน้ หาคาศพั ทจ์ ากพจนานุกรมได้ แต่ละ กลุ่มจดลงในกระดาษทคี่ รูแจกให้ เมอื่ ไดเ้ วลาอนั สมควรครูจึงรวบรวมคาศพั ทจ์ ากทกุ กลุ่ม แลว้ เขียนสรุปบนกระดานเอง ดงั น้ี cloudy - มีเมฆคร้ึม hazy - มหี มอกบาง (ขมกุ ขมวั ) stormy - มพี ายุ misty - มหี มอกบางๆ muggy - อบอา้ ว, เปี ยกช้ืน foggy - มีหมอกหนา drizzle - มฝี นตกปรอยๆ etc. นกั เรียนคดั ลอกลงในสมดุ ของตนเอง แลว้ อ่านคาศพั ทเ์ หล่าน้ีตามครูดงั ๆ ทุกคน 2. ครูให้นกั เรียนกลุ่มเดิมช่วยกนั คิดถึงความแตกต่างกนั ของฤดู และลมฟ้ าอากาศในประเทศไทย และ ประเทศในแถบยโุ รปหรืออเมริกา นกั เรียนในกลุ่มต่างระดมสมองช่วยกนั คิด แลว้ สรุปวา่ “ใน ประเทศไทยมี 3 ฤดูกาล ไดแ้ ก่ ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดหู นาว ในขณะทปี่ ระเทศในแถบตะวนั ตก มี 4 ฤดู คือ ฤดรู ้อน ฤดใู บไมร้ ่วง ฤดูหนาว และฤดูใบไมผ้ ลิ อากาศในเมืองไทยร้อนช้ืนและมี ฝนตกมาก ในขณะท่ีอากาศแถบยโุ รปและอเมริกาหนาว มหี ิมะ และอากาศแหง้ และมกั ประสบ กบั พายเุ ฮอริเคน หรือทอร์นาโด แต่ในประเทศไทยผคู้ นมกั ประสบกบั ปัญหาน้าทว่ ม หรือภยั แลง้ 3. ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกมวงิ่ ถอดกางเกง โดยครูอธิบายว่า เกมน้ีมลี กั ษณะคลา้ ยเกมวงิ่ เปร้ียวนน่ั เอง 181

วิธีการมดี งั น้ี 1. ครูหาสถานท่ีกวา้ งๆ นอกอาคารเรียน และหาเสาเลก็ ๆ มาปักบนดิน โดยใหท้ ้งั 2 เสามีระยะห่างกนั พอสมควร 2. แบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 กลุ่มเทา่ ๆ กนั ใหต้ น้ แถวยนื อยบู่ นเสน้ ทก่ี าหนด ห่างจากเสาประมาณ 25 เมตร 3. ครูหากางเกงขาส้นั ตวั ใหญ่ๆ หลวมๆ 2 ตวั มาใหแ้ ต่ละกลุ่ม คนท่ยี นื อยตู่ น้ แถวจะใส่กางเกงเป็นคนแรก แลว้ วิ่งไปออ้ มเสาทค่ี รูปัก จากน้นั วิ่งกลบั มาที่แถวของตนเองเพ่อื ถอดกางเกงใหค้ นต่อไปสวมใส่ แลว้ วิ่ง ออ้ มเสา นกั เรียนในกลุ่มเดียวกนั ตอ้ งออกคาสงั่ ในขณะท่ีกาลงั สวมกางเกง และถอดกางเกงว่า “Take off your shorts.” และ / หรือ “Put on your shorts.” 4. กลุ่มทว่ี ิง่ ในขณะท่ีมกี างเกงสวมอยจู่ นครบทกุ คนก่อนถอื ว่าเป็นกลุ่มทช่ี นะ 7. การวดั และการประเมนิ ผล 7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน - ประเมินการทาแบบทดสอบ 7.2 การประเมนิ ระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ - ประเมนิ การทาแบบฝึกหัด - สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทากิจกรรม 7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน - ประเมินการทาแบบทดสอบ - ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 7.4 การประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการวาดภาพตนเองในชุดทส่ี วมใส่ในขณะน้นั - ประเมินการวาดภาพเส้ือผา้ ให้ถูกตอ้ งกบั สภาพอากาศและแต่งประโยคตามภาพน้นั - ประเมินการทาโครงงาน My weather plate (จานบอกสภาพอากาศของฉนั ) - ประเมนิ การรวบรวมคาศพั ทใ์ น Your word book 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน Smile ป.2 2. แบบฝึ กหดั Smile ป.2 3. Audio CD Smile ป.2 4. บตั รภาพ บตั รคา แถบประโยค 5. อุปกรณใ์ นการทาโครงงาน My weather plate (จานบอกสภาพอากาศของฉนั ) 6. เกมวาดรูปตามคาบอก 7. เกมวงิ่ ถอดกางเกง 182

English Pre – Test Choose the correct answer. 1. A: What’s the weather like today? B: …………………………………. a. I’m fine. b. It’s windy. c. Thank you. 2. Jack: Is it cloudy today? Rosy: …………………………………. a. Yes, it isn’t. b. No, it is. c. Yes, it is. 3. A: It’s …………………… B: Take an umbrella. a. raining. b. sunny. c. snowing. 4. A: It’s …………………… B: Take sun glasses. a. raining. b. sunny. c. snowing. 5. A man wears ………………….. every day. a. blouse b. pants c. skirt 183


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook