Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทบทวนเนื้อหาวิชา สังคมศึกษา ภาคเรียนที่ 1 (ออนไลน์)

ทบทวนเนื้อหาวิชา สังคมศึกษา ภาคเรียนที่ 1 (ออนไลน์)

Published by viewcyku555, 2021-10-09 12:40:32

Description: ทบทวนเนื้อหาวิชา สังคมศึกษา ภาคเรียนที่ 1 (ออนไลน์)

Search

Read the Text Version

เบญจธรรม 1. เมตตากรุณา คือ ความรัก ความปรารถนาดีตอ่ ผูอ้ ่นื 2. สัมมาอาชวี ะ คอื การประกอบ อาชพี สจุ ริต

เบญจธรรม 3. กามสงั วร คอื การสารวมในกาม ยนิ ดีในคูค่ รองของตน 4. สจั จะ คือ การพูดความจรงิ 5. สติสัมปชญั ญะ คือ ความระลึกได้ และรู้ว่าส่งิ ใดควรทาไมค่ วรทา

บญุ กริ ยิ าวัตถุ 3 หมายถึง หลักการทาบุญอนั เป็นท่ี สาเร็จผลแหง่ ความสขุ คาว่า บญุ คอ ความดี มี 3 ประการ

บุญกิรยิ าวัตถุ 3 1. ทานมยั คอื บุญสาเรจ็ ด้วยการใหห้ รือการ บรจิ าค (ผู้ให้ยอ่ มเปน็ ท่ีรัก) 2. สลี มัย คือ บุญสาเรจ็ ดว้ ยการรกั ษาศีล 3. ภาวนามัย คือ บุญสาเร็จด้วยการภาวนา

อิทธบิ าท 4 1. ฉนั ทะ ความรกั งานท่ีทา 2. วิรยิ ะ ความเพยี รพยายามทาสิ่งน้ันใหส้ าเร็จ 3. จติ ตะ ความเอาใจใส่กบั งานทที่ า 4. วมิ ังสา การพจิ ารณาไตร่ตรองในสิ่งที่ทา อยเู่ สมอ

อทิ ธบิ าท 4 พอใจทา ต้งั ใจทา ใสใ่ จทา ม่นั ใจทา

กตญั ญูกตเวทตี ่อพระพทุ ธศำสนำ

มงคลชวี ติ หมายถงึ เหตุแห่งความสุขและความ เจริญก้าวหน้าของชีวติ มอี ยู่ 38ประการ

1. ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน คือ ต้งั ใจทจ่ี ะเรียนรู้ หรือสนใจใคร่รู้ใน สิ่งต่างๆ ความสนใจใฝ่ รู้เป็ นส่ิงนาความ เจริญก้าวหน้ามาให้แก่ทุกคน

2. กำรงำนไมอ่ ำกลู อากลู แปลว่า คงั่ ค้าง การทางานไม่คง่ั ค้าง คือ การมคี วาม รับผดิ ชอบ ทางานที่ได้รับมอบหมายให้ สาเร็จตามเวลาที่กาหนด

3. ควำมอดทน “ขนั ต”ิ คือ มีความอดทนกบั ความเหน่ือยและความ ยากลาบาก ความอดทน แบ่งออกเป็ น 4 หัวข้อ ดงั นี้

1.อดทนต่อความลาบากตรากตราต่างๆ เช่น อดทนต่อสภาพทางธรรมชาติเวลาทางาน คือ ความร้อน หนาว ฝนตก

2. อดทนต่อความเจบ็ ปวดต่างๆ เช่น ความไม่สบายกายของเรา ความเจ็บ ไข้ได้ป่ วย

3. อดทนต่อความเจบ็ ใจ คือ การอดทนต่อ ความโกรธ ความไม่พอใจ ความขัดใจ ซ่ึง เกดิ จากการกระทาของผู้อื่น

4. อดทนต่ออานาจกเิ ลส คือ การอดทนต่อความอยากต่างๆ เช่น อยากได้ อยากมี อยากเป็ น

พทุ ธศาสนสุภาษิต หมายถึง สุภาษตทางพระพทุ ธศาสนา ท่ีเปน็ ขอ้ คด คตสอนใจให้กระทา ความดี

ตวั อยา่ ง พุทธศาสนสุภาษิต 1. คนจะล่วงทุกข์ไดเ้ พราะความเพียร วรเยน ทุกขฺ มจเฺ จต (ว-ร-เย-นะ- ทุก-ขะ-มัด-เจ-ต) หมายความว่า ความมานะบากบ่นั และความเพยี รพยายาม ชว่ ยให้คนเราสามารถฟันฝ่าอุปสรรคตา่ งๆ ในการทาเนนชวี ตได้

ตัวอยา่ ง พทุ ธศาสนสภุ าษิต 2. ปัญญาคอื แสงสวา่ งในโลก ปญญฺ า โลกสมฺ ปชฺโชโต (ปนั -ยา โล-กดั -สะ-ม ปัด-โช-โต) หมายความว่า โลกของเรามีความเจรญก้าวหน้าในหลายๆดา้ น เนอ่ งจากคนเราได้ใช้ ความรู้ ความสามารถในการประดษฐค์ ดค้นส่งตา่ ง ๆ จนเกดเป็นอารยธรรมส่ังสมสบ ทอดตอ่ ๆกันมา

หลกั คาสอนของศาสนาอสิ ลาม หลักศรทั ธา 6 ประการ 1. ศรัทธาในพระเจ้า 2. ศรทั ธาในเทวทตู 3. ศรัทธาในพระคัมภีร์ 4. ศรทั ธาในศาสนทตู 5. ศรัทธาในวนั พพากษาโลก 6. ศรัทธาในกฎกาหนดสภาวการณ์

หลกั คาสอนของศาสนาอสิ ลาม หลักปฏิบตั ิ 5 ประการ 1. การปฏญาณตน 2. การละหมาด 3. การถอศลี อด 4. การบรจาคซะกาต 5. การประกอบพธฮี จั ญ์

หลักคาสอนของศาสนาคริสต์ บัญญัติ 10 ประการ 1. จงนมสั การพระเจา้ 2. อย่ากลา่ วนามพระเจา้ โดยไม่จาเป็น 3. อย่าคดมชอบ 4. จงนบั ถอวนั พระเจา้ เป็นวนั ศกั ด์สทธ์ 5. จงนบั ถอบดา มารดา

หลักคาสอนของศาสนาคริสต์ บญั ญัติ 10 ประการ 6. อยา่ ฆ่าคน 7. อย่าลักทรพั ย์ 8. อยา่ นนทาว่ารา้ ยผอู้ น่ 9. อยา่ ผดประเวณี 10. อยา่ โลภอยากได้ส่งของ ของผ้อู น่

หลักคาสอนของศาสนาครสิ ต์ หลักตรเี อกานภุ าพ 1. พระบดา คอ พระยะโฮวา ผูส้ ร้างโลก 2. พระบุตร คอ พระเยซู ผ้เู กดมาเพอ่ ไถ่บาปให้แก่มวลมนุษย์ 3. พระจต คอ วญญาณบรสทุ ธข์ องพระ เจ้าที่ปรากฏในจตใจของมนุษย์

หลกั คาสอนของศาสนาคริสต์ หลกั ความรัก ศาสนาครสตไ์ ดช้ อ่ วา่ เป็นศาสนาแหง่ ความรัก เพราะ สอนให้มนษุ ย์มคี วามรกั ตอ่ พระเจา้ และมคี วามรักต่อเพอ่ นมนุษย์ดว้ ยกนั

หลกั คาสอนของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู หลักธรรม 10 ประการ 1. ธฤต หมายถึง ความพอใจ ความกล้า ความมั่นคง 2. กษมา หมายถึง ความอดทน อดกลน้ั 3. ทมะ หมายถึง การขม่ จตใจของตนดว้ ยเมตตา 4. อัสเตยะ หมายถึง การไมล่ กั ขโมย 5. เศาจะ หมายถึง การกระทาตนใหบ้ รสทุ ธท์ ัง้ ทางกายและใจ

หลักคาสอนของศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู หลักธรรม 10 ประการ 6. อนทรียนครหะ หมายถึง การหมนั่ ตรวจสอบอนทรยี ์ 7. ธี หมายถึง การมปี ญั ญา สต ความคด ความมน่ั คงยนนาน 8. วทยา หมายถึง ความรทู้ างปัญญา 9. สตั ยา หมายถึง ความจรง 10. อโกธะ หมายถึง ความไม่โกรธ

หลกั คาสอนของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู หลกั อาศรม 4 1. พรหมจารี เป็นข้ันตอนท่ีเด็กชายทกุ คนทเี่ กดในวรรณะสงู ๆ ตอ้ งเขา้ พธมี อบตนเป็นนักศึกษา 2. คฤหสั ถ์ เป็นวัยแหง่ การครองเรอน 3. วานปรัสถ์ เป็นขั้นแสวงหาธรรม 4. สนั ยาสี เป็นข้นั ออกบวช โดยสละชวี ตทางโลก (ความหลดุ พน้ )

บทท่ี 5 หน้าท่ีและมรรยาทชาวพทุ ธ หนา้ ท่ชี าวพทุ ธ การจัดพธีกรรมทีเ่ รียบง่าย ประหยัด มปี ระโยชน์และถูกตอ้ งตามหลักศาสนา

บทท่ี 5 หนา้ ทแี่ ละมรรยาทชาวพทุ ธ พิธกี รรม แบบแผนหรอแบบอย่างทปี่ ฏบัตสบทอดกนั มา เพอ่ สง่ เสรมให้เกดความเล่อมใส ศรัทธา ในพระพทุ ธศาสนา

บทท่ี 5 หน้าท่แี ละมรรยาทชาวพุทธ พธิ ีกรรมทางพระพุทธศาสนา ระเบียบแบบแผนท่ีชาวพุทธไดป้ ฏบัต สบทอดกนั มา เพ่อเป็นการส่งเสรมความ เล่อมใส ศรทั ธาในพระพุทธศาสนา

บทท่ี 5 หน้าที่และมรรยาทชาวพทุ ธ พิธกี รรมทางพระพุทธศาสนา แบง่ ออกเป็น 3 ประเภท 1. บุญพธิ ี 2. ทานพธิ ี 3. กศุ ลพิธี

บทท่ี 5 หน้าทแี่ ละมรรยาทชาวพทุ ธ 1. บญุ พธิ ี พิธีทาบุญต่างๆของชาวพุทธ แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท 1. งานมงคล เชน่ งานแต่ง งานบวช งานวนั เกด 2. งานอมงคล เช่น งานศพ งานทาบุญครบรอบวนั ตาย

บทที่ 5 หน้าที่และมรรยาทชาวพทุ ธ 2. ทานพธิ ี การถวายทานตา่ งๆ เช่น การถวายอาหาร ผา้ ไตรจีวร การถวายสงั ฆทานแด่พระภกษุสงฆ์

บทท่ี 5 หนา้ ที่และมรรยาทชาวพทุ ธ 3. กศุ ลพธิ ี พิธกี รรมที่เกย่ี วกบั การฟงั ธรรม หรือการปฏบิ ตั ิธรรม เชน่ พธกี รรมการประกาศตน เป็นพุทธมามกะ พธรี กั ษาศีล

บทท่ี 5 หน้าทีแ่ ละมรรยาทชาวพทุ ธ มรรยาทชาวพทุ ธ มรรยาททคี่ วรปฏิบัติของชาวพุทธ เพอ่ื แสดงถงึ ความเป็นระเบยี บเรียบรอ้ ย

บทท่ี 5 หนา้ ที่และมรรยาทชาวพุทธ 1. การกราบแบบเบญจางคประดษฐ์

บทที่ 5 หน้าที่และมรรยาทชาวพทุ ธ 2. การไหว้

บทที่ 5 หน้าที่และมรรยาทชาวพุทธ 3. การกราบศพ

บทท่ี 6 การบริหารจติ และเจรญิ ปญั ญา

บทที่ 6 การบริหารจิตและเจรญิ ปัญญา การสวดมนตไ์ หวพ้ ระ สรรเสรญิ คณุ พระรตั นตรยั และแผเ่ มตตตา การสวดมนตไ์ หวพ้ ระ เป็นการระลึกถึงคณุ ความดีของ พระรัตนตรยั แสดงถึง ความศรัทธาในพระพทุ ธศาสนา การสวดมนตไ์ หวพ้ ระ ช่วยให้เกดสมาธ จตใจสงบ ไมค่ ดฟุ้งซ่าน เป็นการสรา้ งเสรมสตปัญญา

บทที่ 6 การบริหารจิตและเจรญิ ปัญญา บทสรรเสรญิ คณุ พระรตั นตรยั นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสมั พทุ ธสั สะ (3 จบ)

บทที่ 6 การบรหิ ารจติ และเจริญปญั ญา บทบูชาพระรตั นตรยั อะระหงั สมั มาสมั พทุ โธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตงั อะภวาเทม (กราบ) สะวากขาโต ภะคะวะตา ธมั โม ธัมมัง นะมัสสาม (กราบ) สปุ ะฎปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สงั ฆัง นะมาม (กราบ)

บทท่ี 6 การบริหารจิตและเจริญปัญญา บทสวดสรรเสรญิ พระพทุ ธคณุ อตปิโส ภะคะวา อะระหงั สมั มาสมั พทุ โธ วชชาจะ ระณะสมั ปันโน สุคะโต โลกะวทู อะนตุ ตะโร ปุรสะทมั มะสาระถ สตั ถาเทวะมะนสุ สานัง พุทโธ ภะคะวาต

บทท่ี 6 การบริหารจติ และเจรญิ ปญั ญา บทสวดสรรเสรญิ พระธรรมคณุ สะวากขาโต ภะคะวะตา ธมั โม สนั ทฏฐโก อะกาลโก เอหปัสสโก โอปะนะยโก ปจั จตั ตัง เวทตพั โพ วญญหู ีต

บทท่ี 6 การบริหารจติ และเจริญปัญญา บทสวดสรรเสรญิ พระสงั ฆคุณ สุปะฏปนั โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชปุ ะฏปนั โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ ญายะปะฏปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจปะฏ ปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะททงั จตั ตาร ปรุ สะยคุ าน อฏั ฐะ ปุรสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ อาหุเนยโย ปาหเุ นยโย ทกั ขเณยโย อัญชะล กะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญกั เขตตงั โลกกัสสาต

บทท่ี 6 การบรหิ ารจิตและเจรญิ ปัญญา บทสวดไตรสรณคมน์ คอ การกล่าวปฏญาณตนว่ามพี ระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ (ทพี่ ึ่ง) ของชวี ต

บทท่ี 6 การบริหารจติ และเจรญิ ปัญญา บทสวดไตรสรณคมน์ ทตุ ยมั ปิ พุทธงั สะระณงั คจั ฉาม ทตุ ยมั ปิ ธัมมงั สะระณัง คัจฉาม พุทธงั สะระณัง คจั ฉาม ทุตยัมปิ สังฆงั สะระณัง คัจฉาม ธัมมัง สะระณงั คจั ฉาม สงั ฆงั สะระณัง คจั ฉาม ตะตยัมปิ พทุ ธงั สะระณัง คัจฉาม ตะตยมั ปิ ธมั มงั สะระณงั คัจฉาม ตะตยมั ปิ สังฆงั สะระณงั คจั ฉาม

บทที่ 6 การบริหารจิตและเจริญปัญญา บทสวดแผเ่ มตตา สพั เพ สตั ตา สตั วท์ ้งั หลายทีเ่ ป็นเพอ่ นทุกข์ เกด แก่ เจ็บ ตาย ดว้ ยกันทง้ั หมดท้งั ส้น อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถด อยา่ ได้มีเวรแกก่ ันและกนั เลย อัพะยาปชั ฌา โหนตุ จงเปน็ สุขเปน็ สุขเถด อยา่ ได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย อะนฆี า โหนตุ จงเปน็ สุขเป็นสขุ เถด อยา่ ได้มีความทกุ ข์กายทุกขใ์ จเลย สขุ ี อตั ตานงั ปะรหะรันตุ จงมีความสขุ กาย สขุ ใจ รักษาตนใหพ้ ้นจากทุกขภ์ ยั ทั้งส้นเถด

บทท่ี 6 การบริหารจิตและเจริญปญั ญา 2. การพฒั นาจติ ตามแนวทางของพระพทุ ธศาสนา ความหมายของสตสมั ปชัญญะ สมาธ และปัญญา สติ หมายถึง ความระลกึ ได้ นึกได้ สานึกอยูเ่ สมอ สมั ปชญั ญะ หมายถึง ความรูต้ วั อยเู่ สมอ ไมป่ ระมาท สมาธิ หมายถึง ความต้งั มนั่ แห่งจต ความสารวม ปัญญา หมายถึง ความรอบรู้ หรอความรจู้ รงในสง่ ต่าง ๆ

บทท่ี 7 ศาสนพธิ แี ละวันสาคัญ ทางพระพทุ ธศาสนา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook