Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือกิจกรรมการเรียนรู้ ป.4

คู่มือกิจกรรมการเรียนรู้ ป.4

Published by edtech cherry, 2022-08-16 05:49:00

Description: คู่มือกิจกรรมการเรียนรู้ ป.4

Search

Read the Text Version

คำนำ การมีนิสัยรักการอ่านจะส่งผลต่อการพัฒนาเยาวชนในด้านต่าง ๆ ตามมาทั้งด้านการเขยี น และการคิดวิเคราะห์ตามลำดับ ทักษะดังกล่าวทำให้ผู้เรียนเข้าใจในองค์ความรู้ที่ได้รับและ เปรยี บเสมือนการตดิ อาวธุ ทางปญั ญาท่ีเข้มแขง็ ใหก้ ับตัวนักเรยี น การอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ มีความสัมพันธ์และมีอิทธิพลต่อผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน ดังนั้น หากเยาวชนไทยได้รับการพัฒนาทักษะเหล่านี้ก็จะส่งผลต่อการพัฒนา ความสามารถในการศกึ ษาหาความรู้ต่อไป สาขาวิชาภาษาไทย วิทยาลัยการฝึกหัดครู มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร จัดโครงการ “ยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ด้านการอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน” (กิจกรรมยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ด้านการอ่าน การเขียน และ การคิดวิเคราะห์ของนักเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพื้นที่รับผิดชอบ) ขึ้น โดยจัดทำ ชุดคู่มือครูเพื่อใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ ในชุดกิจกรรมการเรียนรู้ “การอ่าน การเขียน และ การคิดวิเคราะห์” ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ ซึ่งเป็นกิจกรรมการเรียนรู้เสริมหลักสูตร ที่เหมาะสมกับช่วงวัย และนอกเวลาเรียนปกติ แล้วประยุกต์ให้เข้ากับบริบทของพื้นที่ กรุงเทพมหานคร สร้างเป็นแนวทางการพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ โดยผู้มีส่วนสำคัญในโครงการฯ ประกอบด้วยคณาจารย์ นักศึกษาประจำสาขาวิชาภาษาไทย และสาขาวิชาหลักสูตรและการสอน วิทยาลัยการฝึกหัดครู มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ร่วมกันพัฒนายกระดับคุณภาพการเรียนรู้ด้านการอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นต้นแบบสำหรับการนำไปใช้ในโรงเรียนต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป สาขาวชิ าภาษาไทย วทิ ยาลยั การฝึกหัดครู มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ๒๕๖๓



สารบญั เรอ่ื ง หนา้ คำนำ ๑ สารบญั ๒ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ......................................................................................................... ๔ คมู่ ือครผู สู้ อน ...................................................................................................................... ๕ คำแนะนำสำหรบั ครูผ้สู อน .................................................................................................. ๗ คำชแ้ี จงสำหรับนกั เรียน ...................................................................................................... ๑๐ เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน ................................................................................................ ๑๓ เตรยี มพร้อมก่อนเรียน ........................................................................................................ ๑๕ มาอ่านกันเถอะ ................................................................................................................... ชดุ กิจกรรมท่ี ๑ ทำไดไ้ หม ทำได้หรือเปล่า ………………..……….…....................................... ๑๖ • ใบความรู้ เรอื่ ง การต้ังคำถามและตอบคำถามเชิงเหตผุ ล ...................................... ๑๘ • เฉลยใบงานท่ี ๑ ขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคดิ เหน็ ............................................................. ๒๐ • เกณฑ์การใหค้ ะแนนใบงานที่ ๑ ข้อเทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็น .................................... ๒๑ • เฉลยใบงานท่ี ๒ ต้นโพศักดส์ิ ทิ ธิ์ ............................................................................. ๒๔ • เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนใบงานท่ี 2 ต้นโพศกั ดสิ์ ิทธิ์ ..................................................... ๒๕ • เฉลยแบบฝึกหัดที่ ๑ ลองแต่งอีกครงั้ ...................................................................... ๒๙ • เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝึกหดั ที่ ๑ ลองแต่งอกี คร้ัง ............................................. ๓๑ • เฉลยแบบฝกึ หดั ที่ ๒ ฉนั คืออะไร ............................................................................ ๓๓ • เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝึกหดั ท่ี 2 ฉันคอื อะไร …................................................. ๓๔ • เฉลยแบบฝกึ หัดท่ี ๓ ตามจนิ ตนาการ ..................................................................... ๓๖ ๓๙ • เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบฝกึ หดั ที่ 3 ตามจนิ ตนาการ ............................................. ชุดกิจกรรมท่ี ๒ หมัน่ ฝึกฝน ............................................................................................... ๔๐ • ใบความรู้ เรอ่ื ง เขยี นไดค้ ิดคลอ่ ง ............................................................................ ๔๑ • เฉลยใบงานท่ี ๓ เพียรวางแผนคิด ......................................................................... ๔๓ • เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนใบงานที่ 3 เพยี รวางแผนคดิ .................................................. ๔๔ • เฉลยใบงานท่ี ๔ ชุมชนแห่งความสขุ ...................................................................... ๔๗ • เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนใบงานท่ี 4 ชมุ ชนแห่งความสุข ..............................................

เรือ่ ง หนา้ • เฉลยแบบฝกึ หดั ท่ี ๔ เขียนเรอ่ื งจากภาพ ................................................................ ๔๘ • เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝกึ หดั ท่ี 4 เขียนเรอ่ื งจากภาพ ........................................ ๕๐ • เฉลยแบบฝกึ หัดท่ี ๕ ท้องถ่นิ ฉนั ............................................................................. ๕๒ ๕๕ • เฉลยแบบฝึกหัดท่ี ๕.1 ผลิตภัณฑท์ อ้ งถนิ่ กรงุ เทพมหานคร....................... ๕๗ • เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝกึ หัดที่ 5.1 ผลติ ภัณฑท์ ้องถ่ินกรุงเทพมหานคร ๕๘ • เฉลยแบบฝึกหัดที่ ๕.2 ตอบคำถาม ........................................................... ๕๙ • เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบฝกึ หัดท่ี 5.2 ตอบคำถาม ................................... ๖๐ • เฉลยแบบฝึกหดั ท่ี ๖ ชวนน้องลองวเิ คราะห์ ........................................................... ๖๑ • เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝึกหัดท่ี 6 ชวนน้องลองวเิ คราะห์ ................................... ๖๓ ชดุ กจิ กรรมท่ี ๓ ถน่ิ ทอง ทอ้ งถ่ินเรา .................................................................................. ๖๔ • ใบความรู้ เรอ่ื ง อ่านวเิ คราะห์ ................................................................................. ๖๗ • เฉลยใบงานที่ ๕ หลกั ทส่ี ี่ มีทม่ี า ............................................................................. ๖๙ • เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนใบงานที่ 5 หลกั ทีส่ ่ี มที ม่ี า ..................................................... ๗๐ • เฉลยใบงานท่ี ๖ แมน่ าค ........................................................................................ ๗๔ • เกณฑ์การใหค้ ะแนนใบงานท่ี 6 แม่นาค ............................................................... ๗๕ • เฉลยแบบฝกึ หัดที่ ๗ ดอนเมืองท่ฉี นั ร้จู ัก ................................................................ ๗๗ • เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝึกหดั ท่ี 7 ดอนเมืองทฉี่ นั รู้จัก ........................................ ๗๙ • เฉลยแบบฝกึ หดั ท่ี ๘ คำไหนถกู .............................................................................. ๘๐ • เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝึกหัดท่ี 8 คำไหนถกู ...................................................... ๘๑ • เฉลยแบบฝกึ หดั ที่ ๙ คลองตาเล่ง ........................................................................... ๘๓ • เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝึกหัดท่ี 9 คลองตาเลง่ .................................................. ๘๕ ชุดกจิ กรรมท่ี ๔ รจู้ ักคิด รจู้ กั เขยี น ..................................................................................... ๘๖ • ใบความรู้ เรอื่ ง การเขียนเล่าเรือ่ ง .......................................................................... ๘๗ • เฉลยใบงานท่ี ๗ ฝกึ คิดฝึกเขยี น .............................................................................. ๘๙ • เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนใบงานท่ี 7 ฝกึ คดิ ฝกึ เขียน ...................................................... ๙๑ • เฉลยใบงานที่ ๘ วิชาย่นระยะทางและการล่องหน ................................................. ๙๔ • เกณฑ์การใหค้ ะแนนใบงานที่ 8 วชิ ายน่ ระยะทางและการลอ่ งหน ......................... ๙๕ • เฉลยแบบฝกึ หดั ที่ ๑๐ ปรศิ นาหาศัพท์ ................................................................... ๙๕ • เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝกึ หดั ท่ี ๑0 ปรศิ นาหาศพั ท์ ...........................................

เร่ือง หนา้ • เฉลยแบบฝกึ หดั ที่ ๑๑ ประเพณีแหน่ างแมว ........................................................... ๙๙ • เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบฝึกหัดท่ี ๑1 ประเพณแี หน่ างแมว .................................. ๑๐๑ • เฉลยแบบฝกึ หัดที่ ๑๒ ท้องถ่นิ ของฉนั .................................................................... ๑๐๒ • เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบฝกึ หัดที่ ๑2 ทอ้ งถน่ิ ของฉัน ........................................... ๑๐๔ ชุดกจิ กรรมที่ ๕ จุดประกายนักคดิ ..................................................................................... ๑๐๕ • ใบความรู้ เรอื่ ง แผนภาพโครงเรอ่ื ง ......................................................................... ๑๐๖ • เฉลยใบงานที่ ๙ ลงแขกเก่ียวข้าว ........................................................................... ๑๐๘ • เกณฑ์การใหค้ ะแนนใบงานท่ี 9 ลงแขกเกีย่ วขา้ ว.................................................... ๑๑๐ • เฉลยใบงานที่ ๑๐ ลูกอมวเิ ศษ ............................................................................... ๑๑๑ • เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนใบงานที่ ๑0 ลูกอมวเิ ศษ ....................................................... ๑๑๔ • เฉลยแบบฝกึ หัดท่ี ๑๓ ตารางอักษร ……….............................................................. ๑๑๕ • เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝึกหัดท่ี ๑3 ตารางอักษร ............................................... ๑๑๙ • เฉลยแบบฝึกหัดที่ ๑๔ จะทำอยา่ งไร ...................................................................... ๑๒๐ • เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบฝกึ หัดท่ี ๑4 จะทำอย่างไร ............................................. ๑๒๓ • เฉลยแบบฝกึ หดั ที่ ๑๕ มจี ริงหรือ …………………..……….…………………………..………. ๑๒๔ • เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝึกหดั ท่ี ๑5 มจี ริงหรอื .................................................. ๑๒๗ เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น ................................................................................................ ๑๒๙ แบบประเมนิ …………........................................................................................................... ๑๓๒ แบบบันทึกคะแนน .............................................................................................................. ๑๓๘ บรรณานกุ รม



๑ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. นกั เรยี นวเิ คราะหข์ ้อเท็จจรงิ และข้อคิดเหน็ จากเรอ่ื งที่อา่ นได้ (K) ๒. นกั เรียนบอกเหตุผลจากเรื่องท่อี า่ นได้ (K) ๓. นักเรียนเขยี นแผนภาพโครงเรื่องจากเรื่องทอ่ี า่ นได้ (P) ๔. นกั เรียนเขยี นเรอื่ งตามจนิ ตนาการจากสิ่งท่กี ำหนดให้ได้ (P) ๕. นักเรียนเห็นคณุ คา่ เร่ืองราวของท้องถ่นิ (A)

๒ คูม่ อื ครูผสู้ อน ชดุ กจิ กรรมการเรียนรกู้ ารอ่าน การเขียน และการคิดวเิ คราะห์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 1. คำแนะนำสำหรบั ครูผสู้ อน 2. เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน 3. เอกสารและสือ่ ประกอบการจดั การเรียนร้มู ดี ังน้ี 3.1 เฉลยใบงานที่ ๑ ข้อเท็จจริงและข้อคิดเหน็ 3.2 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนใบงานท่ี ๑ ข้อเทจ็ จรงิ และขอ้ คดิ เห็น 3.3 เฉลยใบงานที่ ๒ ต้นโพศกั ด์สิ ิทธ์ิ 3.4 เกณฑก์ ารให้คะแนนใบงานท่ี 2 ตน้ โพศกั ดิส์ ิทธ์ิ 3.5 เฉลยแบบฝึกหดั ที่ ๑ ลองแตง่ อีกครง้ั 3.6 เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝกึ หัดที่ ๑ ลองแต่งอกี ครัง้ 3.7 เฉลยแบบฝกึ หัดท่ี ๒ ฉนั คืออะไร 3.8 เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝึกหัดที่ 2 ฉันคอื อะไร 3.9 เฉลยแบบฝกึ หัดท่ี ๓ ตามจินตนาการ 3.10 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบฝึกหัดท่ี 3 ตามจินตนาการ 3.11 เฉลยใบงานที่ ๓ เพียรวางแผนคิด 3.12 เกณฑก์ ารให้คะแนนใบงานท่ี 3 เพยี รวางแผนคิด 3.13 เฉลยใบงานท่ี ๔ ชมุ ชนแหง่ ความสุข 3.14 เกณฑ์การใหค้ ะแนนใบงานที่ 4 ชมุ ชนแห่งความสขุ 3.15 เฉลยแบบฝึกหัดท่ี ๔ เขยี นเรอ่ื งจากภาพ 3.16 เกณฑ์การให้คะแนนแบบฝึกหัดท่ี 4 เขียนเรือ่ งจากภาพ 3.17 เฉลยแบบฝกึ หัดที่ ๕ ทอ้ งถนิ่ ฉัน 3.18 เฉลยแบบฝึกหัดท่ี ๕.1 ผลติ ภณั ฑ์ทอ้ งถิ่นกรงุ เทพมหานคร 3.19 เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝึกหดั ท่ี 5.1 ผลิตภณั ฑ์ท้องถน่ิ กรุงเทพมหานคร 3.20 เฉลยแบบฝกึ หดั ที่ ๕.2 ตอบคำถาม 3.21 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบฝกึ หัดท่ี 5.2 ตอบคำถาม 3.22 เฉลยแบบฝกึ หดั ท่ี ๖ ชวนน้องลองวิเคราะห์ 3.23 เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝกึ หัดท่ี 6 ชวนน้องลองวิเคราะห์ 3.28 เฉลยใบงานท่ี ๕ หลักท่สี ี่ มที ี่มา 3.29 เกณฑ์การให้คะแนนใบงานท่ี 5 หลักท่ีส่ี มที มี่ า

๓ 3.30 เฉลยใบงานที่ ๖ แมน่ าค 3.31 เกณฑ์การใหค้ ะแนนใบงานที่ 6 แม่นาค 3.32 เฉลยแบบฝกึ หัดที่ ๗ ดอนเมอื งท่ีฉนั รู้จกั 3.33 เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝกึ หัดที่ 7 ดอนเมืองทฉ่ี ันรจู้ กั 3.34 เฉลยแบบฝึกหดั ที่ ๘ คำไหนถกู 3.35 เกณฑ์การให้คะแนนแบบฝึกหดั ท่ี 8 คำไหนถูก 3.36 เฉลยแบบฝกึ หัดท่ี ๙ คลองตาเลง่ 3.37 เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝกึ หัดที่ 9 คลองตาเลง่ 3.38 เฉลยใบงานท่ี ๗ ฝึกคดิ ฝกึ เขยี น 3.39 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนใบงานที่ 7 ฝึกคิดฝกึ เขยี น 3.40 เฉลยใบงานที่ ๘ วชิ าย่นระยะทางและการล่องหน 3.41 เกณฑ์การใหค้ ะแนนใบงานท่ี 8 วชิ ายน่ ระยะทางและการลอ่ งหน 3.42 เฉลยแบบฝกึ หดั ที่ ๑๐ ปริศนาหาศพั ท์ 3.43 เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝกึ หดั ท่ี ๑0 ปริศนาหาศัพท์ 3.44 เฉลยแบบฝึกหัดที่ ๑๑ ประเพณีแหน่ างแมว 3.45 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบฝกึ หดั ที่ ๑1 ประเพณีแห่นางแมว 3.46 เฉลยแบบฝึกหัดที่ ๑๒ ทอ้ งถ่ินของฉนั 3.47 เกณฑ์การให้คะแนนแบบฝกึ หัดที่ ๑2 ทอ้ งถิ่นของฉัน 3.48 เฉลยใบงานที่ ๙ ลงแขกเกี่ยวขา้ ว 3.49 เกณฑ์การใหค้ ะแนนใบงานที่ 9 ลงแขกเก่ยี วขา้ ว 3.50 เฉลยใบงานท่ี ๑๐ ลูกอมวิเศษ 3.51 เกณฑก์ ารให้คะแนนใบงานที่ ๑0 ลกู อมวเิ ศษ 3.52 เฉลยแบบฝึกหัดท่ี ๑๓ ตารางอกั ษร 3.53 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบฝึกหัดท่ี ๑3 ตารางอักษร 3.54 เฉลยแบบฝกึ หดั ที่ ๑๔ จะทำอยา่ งไร 3.55 เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบฝกึ หดั ที่ ๑4 จะทำอย่างไร 3.56 เฉลยแบบฝกึ หดั ท่ี ๑๕ มจี รงิ หรือ 3.57 เกณฑ์การให้คะแนนแบบฝกึ หดั ที่ ๑5 มีจรงิ หรอื 4. เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 5. แบบประเมิน 6. แบบบนั ทึกคะแนน

๔ คำแนะนำสำหรบั ครผู สู้ อน กอ่ นจัดการเรียนรู้ ครผู ูส้ อนจะต้องปฏบิ ตั ิดงั น้ี ๑. ศึกษาคู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ และคำชี้แจงของนักเรียนให้ ละเอยี ด ๒. ศกึ ษาเอกสารและสอ่ื ประกอบการจัดการเรยี นรู้ ล่วงหนา้ ๓. เตรียมเอกสารและส่ือประกอบการจดั การเรยี นรู้ ๔. ทดลองใช้สื่อประกอบการจัดการเรียนรู้ทุกชนิดก่อนทำกิจกรรม การจดั การเรยี นรู้ ๕. จัดลำดับเอกสารและสื่อประกอบการจัดการเรียนรู้ไว้ตามลำดับ กอ่ นหลงั ขณะจดั การเรียนรู้ ๑. ชี้แจงใหน้ ักเรยี นรบู้ ทบาทของตนเองในการใชช้ ดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ๒. ให้นักเรียนศึกษาคำชี้แจงสำหรับนักเรียนและทำกิจกรรมตาม ข้ันตอน ๓. เป็นผู้จัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ให้เป็นไปตามลำดับขั้นตอนที่ กำหนดไวใ้ นแผนการจัดการเรยี นรู้ ๔. เป็นผู้ให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาแก่นักเรียนในขณะที่นักเรียน ทำชดุ กจิ กรรม ๕. สรุปบทเรยี นและสรุปการทำกิจกรรมรว่ มกันของนกั เรียน ๖. ประเมินความรู้ความเข้าใจและสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ในแตล่ ะกิจกรรมตามเครอื่ งมือประเมนิ หลงั การจดั การเรียนรู้ ๑. ตรวจใบงานแบบฝกึ หัด ๒. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน ๓. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน ๔. สรปุ ผลและอภปิ รายผลการเรยี นร้ขู องนกั เรยี นตามแบบประเมิน

๕ คำช้ีแจงสำหรบั นกั เรียน ครูและนักเรียนศึกษาคำชี้แจงในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้เข้าใจก่อนลงมือปฏบิ ัติ ดงั น้ี ๑. นักเรียนแต่ละคนศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ และคำชี้แจง การใช้ชุดกิจกรรมฯ ใหเ้ ขา้ ใจอย่างละเอียด ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบเพื่อประเมินตนเอง ก่อนทำใบงาน และแบบฝกึ หัด ๓. ครูใหค้ ำแนะนำนักเรียนในการศึกษาชุดกิจกรรมฯ และอธบิ าย เน้ือหาเพ่ิมเตมิ ในใบความรู้แตล่ ะเรอื่ ง ๔. เมื่อศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้จนเข้าใจอย่างละเอียดแล้ว ใหน้ ักเรยี นปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามลำดบั ทก่ี ำหนดให้ในชดุ กจิ กรรมฯ ๕. หลังจากศึกษาและปฏิบัติกิจกรรมครบทุกกิจกรรมแล้ว ให้นักเรียนทำแบบทดสอบประเมนิ ตนเองหลังเรยี น



๗ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนเครอื่ งหมายกากบาท X ทบั ตัวเลอื กท่ถี ูกตอ้ ง เพียงคำตอบเดยี ว ๑. ขอ้ ใดเปน็ ข้อเทจ็ จรงิ ก. หลวงปทู่ องสามารถย่นระยะทางได้ ข. เจ้าแม่ทบั ทิมมีความศักดิส์ ิทธิใ์ นเรือ่ งโชคลาภ ค. หากได้ยินเสยี งนกแสกรอ้ งจะตอ้ งมีคนเสียชวี ิต ง. วดั พระศรมี หาธาตวุ รมหาวหิ ารเป็นพระอารามหลวง ๒. ข้อใดมหี ลกั ฐานอ้างอิงและพสิ ูจนไ์ ด้ ก. ประวตั ิวดั หลกั ส่ี ข. เร่ืองเล่าผีไกวเปล ค. อภนิ หิ ารหลวงปู่ขาว ง. ความเชือ่ เร่อื งศักด์ิสิทธิ์ ๓. ขอ้ ใดเปน็ ประโยชนท์ ไ่ี ด้รบั จากการเขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง ก. จบั ใจความสำคญั ของเรอ่ื งได้ ข. สามารถแสดงความคิดเหน็ ได้ ค. ทำให้เน้ือเรอ่ื งมีความสมบูรณ์ ง. ทำให้เรอ่ื งมรี ายละเอียดมากขึ้น

๘ ๔. ขอ้ ใดไมใ่ ช่แนวทางการตง้ั คำถามเชงิ เหตผุ ล ก. สาระสำคญั ของเร่ืองคอื อะไร ข. เรื่องท่อี ่านมีจุดประสงค์อะไร ค. ใช้คำถามวา่ ใคร ทำอะไร ทไ่ี หน ง. เรอ่ื งราวมเี หตุผลเพยี งพอทจ่ี ะเชอ่ื ถอื หรอื ไม่ ๕. ขอ้ ใดคอื ใจความสำคัญของขอ้ ความน้ี การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ารอบสะดือ เปน็ เร่ืองเกี่ยวกับการรักษาโรคพษิ สนุ ัขบ้า ซึ่งสาเหตทุ ีต่ ้อง ฉีดวัคซีนรอบสะดือ เพราะเป็นบริเวณที่มีพื้นที่มากและ ไม่เกดิ การอักเสบได้ง่าย ก. การรกั ษาบริเวณรอบสะดอื เพราะมีพื้นทีม่ าก ข. การรักษาโรคพิษสนุ ัขบ้าต้องฉดี วคั ซีนรอบสะดือ ค. การรกั ษาบริเวณรอบสะดอื จะไมเ่ กดิ การอักเสบได้งา่ ย ง. การรักษาโรคพษิ สุนัขบ้าจะฉดี เข้ากล้ามเน้อื ท่ีหวั ไหล่แทน ๖. “การคดิ นอกกรอบ” หมายถงึ ข้อใด ก. การคิดเชิงบวก ข. การคิดสรา้ งสรรค์ ค. การคดิ เชิงวเิ คราะห์ ง. การคิดอย่างมีเหตุผล

๙ ๗. ขอ้ ใดคอื ประเพณีของเขตสายไหม ก. ประเพณเี กย่ี วข้าว ข. ประเพณีแหน่ างแมว ค. ประเพณกี วนข้าวทพิ ย์ ง. ประเพณแี ห่ผา้ ป่าทางนำ้ ๘. สถานที่ใดอยู่ในเขตดอนเมือง ก. วัดสีกัน ข. วดั หลกั ส่ี ค. วัดลาดบัวขาว ง. วดั พระศรมี หาธาตุวรมหาวหิ าร ๙. ขน้ั ตอนแรกของกระบวนการเขยี นคืออะไร ก. วางโครงเร่อื ง ข. เตรยี มการเขียน ค. ปรบั ปรงุ การเขยี น ง. ลงมอื เขยี นอยา่ งละเอยี ด ๑๐. พฤตกิ รรมในขอ้ ใดไม่ใช้ทกั ษะการคิด ก. นวิ วางแผนการทำงานกอ่ นลงมือทำทกุ คร้ัง ข. นาวเป็นหวั หนา้ หอ้ งทม่ี คี วามคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ ค. น้ำอ่านขา่ วแล้วบอกไดว้ ่าข่าวนน้ั มคี วามนา่ เชอ่ื ถือหรอื ไม่ ง. นุ่นน่งั ทบทวนสง่ิ ทล่ี งมือทำทุกวนั เพื่อหาขอ้ ผิดพลาดแล้ว นำไปพฒั นาตนเอง

๑๐ เตรียมพร้อมกอ่ นเรียน เขยี นสรปุ ความรแู้ ละขอ้ คิด รว่ มมอื รว่ มใจ เขตสะพานสูง เป็นพื้นที่ที่มีลำคลองไหลผ่านหลายสาย ได้แก่ คลองแสนแสบ คลองบ้านม้า คลองทับช้างล่าง คลองเจ๊ก คลองบัวคลี่ คลองหลอแหล เป็นต้น คลองเหล่านี้เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของ ชาวบา้ น ทช่ี ว่ ยกนั ขดุ คลองข้ึนมา ทกุ คนตั้งใจทำงานไม่มหี ยดุ ยอมอดนอน ยอมเหนื่อย เพือ่ ที่จะมนี ำ้ ใช้ เนื่องจากการเดินทางทางน้ำมีความสำคัญมาก และเพื่อให้ผู้คนทั้ง สองฝั่งคลองสามารถติดต่อไปมาหาสู่กันได้ ชาวบ้านจึงสร้างสะพานข้าม คลองขึ้น โดยสร้างสะพานทรงสูงเพ่ือให้เรอื ทกุ ขนาดสามารถลอดผ่านไป ได้สะดวก ซึ่งสะพานลักษณะดังกล่าวพบได้ทั่วไปในพื้นที่ จึงเป็นที่มา ของชอ่ื “สะพานสูง” (ทิพรตั น์ : ดดั แปลงจากบทสมั ภาษณ์นางใบดะ๊ หวงั เจรญิ , ประธานชมุ ชนบ้านม้าเกาะล่าง, ๒๕๖๓)

๑๑ คำช้ีแจง จากเรอื่ ง “ร่วมมือรว่ มใจ” ใหน้ ักเรยี นเขยี นสรุปข้อคิด ๑. จากเร่ือง “ร่วมมือร่วมใจ” นักเรยี นไดข้ อ้ คดิ อยา่ งไรบา้ ง อยู่ในดุลยพนิ ิจของผู้สอน ๒. จากเรื่อง “ร่วมมือรว่ มใจ” นกั เรียนจะนำข้อคดิ ไปปรบั ใช้ใน ชีวิตประจำวนั อยา่ งไร อยู่ในดุลยพินิจของผ้สู อน

๑๒ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เตรยี มพร้อมกอ่ นเรียน ประเด็นการประเมนิ ระดับ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คะแนน ๑. การเขยี น ๑๐ ๑.๑ การเขยี นตอบคำถาม ๕ เขยี นตอบคำถามตรงประเด็น มีการใชเ้ หตผุ ลประกอบ เข้าใจง่าย ๔ เขียนตอบคำถามตรงประเด็น มกี ารใช้เหตผุ ลประกอบ ๓ เขยี นตอบคำถามตรงประเด็น ๒ เขยี นตอบคำถามค่อนขา้ งตรงประเด็น ๑ เขียนตอบคำถามตรงประเด็นค่อนขา้ งนอ้ ยมาก ๑.๒ การสะกดคำ ๕ เขยี นสะกดคำถูกต้องทกุ คำ ๔ เขียนสะกดคำผิด ๑-๓ คำ ๓ เขียนสะกดคำผิด ๔-๖ คำ ๒ เขียนสะกดคำผดิ ๗-๙ คำ ๑ เขียนสะกดคำผิด ๑๐ คำขนึ้ ไป ๒. การคิดวเิ คราะห์ ๕ สามารถแสดงความคิดเห็น ๕ แสดงความคิดเห็นผ่านการตอบคำถามอย่างมีเหตุผลและน่าสนใจ ด้วยการตอบคำถาม โดยมีเหตุผล เป็นอย่างมาก ประกอบ ๔ แสดงความคิดเห็นผ่านการตอบคำถามอย่างมีเหตุผล เป็นส่วนใหญ่ และคอ่ นข้างน่าสนใจ ๓ แสดงความคิดเห็นผ่านการตอบคำถามอย่างมีเหตุผล ได้เป็นบางส่วน และน่าสนใจคอ่ นข้างนอ้ ย ๒ แสดงความคิดเห็นผ่านการตอบคำถามได้ แต่ไม่แสดงเหตุผล และ น่าสนใจน้อยมาก ๑ สามารถแสดงความคิดเหน็ ผ่านการตอบคำถาม แตย่ ังไมส่ มบูรณ์ รวมคะแนน ๑๕

๑๓ มาอา่ นกนั เถอะ กระบวนการคิด เป็นกระบวนการทางสมองที่รับรู้ได้ เมื่อมีสิ่งมา กระตุ้นให้เราต้องคิดทบทวน ซึ่งเราต้องมีสติในการคิดอยู่เสมอและรู้ว่า กำลังคดิ เพอ่ื วัตถุประสงค์อะไร จงึ จะทำใหก้ ารคิดมปี ระสิทธภิ าพ รูปแบบของกระบวนการคิด ๑. การคิดสร้างสรรค์ หมายถึง กระบวนการคิดรูปแบบใหม่ และมจี ินตนาการ มกั เรียกว่า “การคดิ นอกกรอบ” ๒. การคิดเชิงวิเคราะห์ หมายถึง กระบวนการคิด ในการแยกแยะสว่ นตา่ ง ๆ ออกเปน็ ย่อย ๆ ทีละขั้นตอนเพ่ือแบ่งระบบขอ้ มูล ขนาดใหญอ่ อกเปน็ ส่วน ๆ แล้วมาวเิ คราะหห์ าเป้าหมายทตี่ อ้ งการ ๓. การคิดอย่างมีเหตุผล หมายถึง กระบวนการคิดอย่างมี เหตุผลรอบด้าน รวมทั้งการรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบ ตัดสินและ ประเมินความถกู ต้องแม่นยำ



ชดุ กิจกรรมท่ี ๑ ทำได้ไหม ทำไดห้ รือเปลา่

๑๖ ใบความรู้ เร่ือง การตัง้ คำถามและ ตอบคำถามเชงิ เหตผุ ล การตงั้ คำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผล การตั้งคำถาม เป็นการพูดหรือเขียนสิ่งที่ต้องการรู้หรือสิ่งที่สงสัย ซึ่งสามารถตั้งคำถามไดจ้ ากเรอ่ื งท่อี ่าน ฟงั และดู การตั้งคำถามเชิงเหตุผล เป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้สามารถจับประเด็น สำคัญของเรื่อง จุดประสงค์ของเรื่อง วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือและ นำความรู้ไปใช้ได้ ซึ่งเป็นคำถามที่ส่งเสริมให้ผู้ตอบได้ใช้ความคิด นำความรู้ และประสบการณเ์ ดมิ มาเป็นพน้ื ฐานในการคำตอบถาม แนวทางการตง้ั คำถามเชิงเหตผุ ล ๑. สาระสำคัญของเร่ืองคืออะไร ๒. เรื่องทอี่ า่ นมจี ดุ ประสงคอ์ ะไร ๓. ใชค้ ำถามวา่ ทำไม อะไร อย่างไร หรอื เพราะเหตุใด ๔. เรื่องราวมีเหตุผลเพยี งพอทจ่ี ะเชื่อถือหรอื ไม่ โดยพิจารณาจาก ขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเห็นท่ปี รากฏในเร่อื ง ๕. ขอ้ คดิ หรือความรู้ มีประโยชน์และควรปฏิบัติตามหรอื ไม่ และสามารถ นำไปใชไ้ ด้อยา่ งไร

๑๗ วิธกี ารตอบคำถาม ๑. อ่านคำถามให้เข้าใจว่าถามเรื่องอะไร มกี ่ีประเด็น ๒. ตอบให้ตรงประเด็นทถี่ าม ไม่อ้อมคอ้ ม หรือตอบยาวเกินไป ๓. ใช้ภาษาทเี่ ข้าใจงา่ ย เรียบเรียงดว้ ยภาษาของตนเอง ไม่ใช้คำทับศพั ท์ หรอื คำภาษาตา่ งประเทศโดยไมจ่ ำเปน็ ตัวอย่างการตัง้ คำถามและตอบคำถามเชงิ เหตุผล ชุนชนเศรษฐกจิ พอเพียง สมยั ก่อนชุนชนเศรษฐกจิ พอเพียงเป็นชุมชนวิถีเกษตรใช้ชีวิตอยา่ งพอเพียง ชาวบ้าน มอี าชีพเกษตรกร ทำนาปลูกข้าว ปลูกผกั สวนครัว เลี้ยงสตั ว์ เป็นต้น ชาวบ้านทกุ คนมีนำ้ ใจ ต่อกัน มีสิ่งของอะไรก็จะแบ่งปันกัน เช่น หากบางส่วนเหลือก็จะนำไปขายเพื่อสร้างรายได้ ใหก้ บั ครอบครวั ไดอ้ กี ด้วย การเดินทางสมัยก่อนจะใช้เรือเป็นหลัก ซึ่งในปัจจุบันวิถีชีวิตเหล่านั้นได้ เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เมื่อมีความเจรญิ เขา้ มาจึงทำให้วิถีชีวิตแบบเดิมเปลี่ยนแปลง ไป เช่น จากการสัญจรทางน้ำโดยใช้เรือเป็นพาหนะ ก็เปลี่ยนเป็นการสัญจรทางถนนโดย ใช้รถยนต์หรือรถเมล์เป็นพาหนะ แม้ว่าวิถีชีวิตเดิมจะเปลี่ยนแปลงไปแต่ก็ช่วยให้การใช้ ชีวิตเกดิ ความสะดวกสบายยิง่ ขน้ึ (น้ำผึ้ง : ดัดแปลงจากการสัมภาษณ์คณุ สิทธิชัย แสงนาท, ประธานชุมชนวรวีร์, ๒๕๖๓) ตัวอยา่ งการตง้ั คำถาม ๑. การปลกู ผักสวนครัวเองมีข้อดอี ย่างไร ๒. วถิ ชี วี ติ สมยั กอ่ นเปล่ียนแปลงไปเพราะเหตุใด ตัวอยา่ งการตอบคำถาม ๑. ตอบ มีผักปลอดสารพิษไวร้ บั ประทานเอง แบง่ ปนั ให้กบั ผอู้ นื่ หรอื นำไปขายเพือ่ สรา้ ง รายใหก้ บั ครอบครัว ๒. ตอบ เพราะมีความเจริญเข้ามาทำใหก้ ารดำเนนิ ชวี ติ ของผู้คนสะดวกสบายมากยิ่งขึน้

๑๘ เฉลยใบงานท่ี ๑ ข้อเท็จจรงิ และข้อคดิ เหน็ คำช้แี จง ใหน้ ักเรยี นอา่ นเรือ่ ง “การต้งั ศาล” แลว้ ตอบคำถาม การต้งั ศาล เช้าวันเสาร์ที่แสนสดใส “คุณตาทองใบ” ตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียม ของสำหรับการตั้งศาล ซึ่งเป็นความเชื่อที่โบราณยึดถือปฏิบัติมา อย่างยาวนาน โดยศาลแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ ศาลพระภูมิ และศาลเจ้าที่ ลักษณะที่แต่งต่างกันคือ ศาลพระภูมิ จะมีเสาเดียว ส่วนศาลเจา้ ท่ี จะมี ๔ เสา โบราณเชื่อว่าศาลพระภูมิ และศาลเจ้าที่ คอยคุ้มครองคนใน บ้านให้ปลอดภัยและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ทุกบ้านจึงต้องมีไว้ กราบไหว้เพื่อแสดงความเคารพ อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงท่ี ยึดเหนี่ยวทางจิตใจเท่านั้น “สติ ความไม่ประมาท ความเข้าใจซึ่ง กันและกัน ความรักและความสามัคคี” สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่ทำให้ ครอบครวั อยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสขุ ภาพ : ศาลพระภมู ิและศาลเจา้ ท่ี ท่มี า : http://wow.in.th/80Sw (ทพิ รัตน์ : ดัดแปลงจากบทสมั ภาษณน์ ายบรรจง กอ้ นเพชร, เลขาธิการชุมชนเคหะท่งุ สองหอ้ ง, ๒๕๖๓) คำศพั ท์น่ารู้ โฉลก (ฉะ-โหฺลก) หมายถงึ โชค, โอกาส

๑๙ คำช้ีแจง จากเรื่อง “การตั้งศาล” ให้นักเรียนแยกข้อเท็จจริงและ ขอ้ คิดเห็นมาอยา่ งละ ๒ ข้อ เขียนด้วยตวั บรรจงครงึ่ บรรทัด ขอ้ เท็จจริง ๑. ศาลแบ่งได้ ๒ ประเภท ไดแ้ ก่ ศาลพระภูมิและศาลเจา้ ท่ี ๒. ศาลพระภูมิมี ๑ เสา ศาลเจา้ ที่มี ๔ เสา ขอ้ คดิ เหน็ ๑. เทวดาทีอ่ ย่ใู นศาลพระภูมิจะชว่ ยคุ้มครองคนในบ้าน ๒. หากไม่ตัง้ ศาลจะเกิดเรือ่ งไม่ดีข้นึ กบั คนในบ้าน

๒๐ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเห็น ประเด็นการประเมิน ระดบั เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนน ๑. การเขยี น ๑๐ ๑.๑ การเขียนตอบคำถาม ๕ เขียนตอบคำถามถูกต้องและตรงประเดน็ ทุกข้อ ๔ เขียนตอบคำถามถกู ตอ้ งตรงประเดน็ ๓ ขอ้ ๓ เขียนตอบคำถามถูกต้องตรงประเด็น ๒ ข้อ ๒ เขยี นตอบคำถามถูกต้องตรงประเด็น ๑ ขอ้ ๑ เขยี นตอบคำถามตรงประเด็นค่อนขา้ งนอ้ ยมาก ๑.๒ การสะกดคำ ๕ เขยี นสะกดคำถกู ตอ้ งทุกคำ ๔ เขยี นสะกดคำผดิ ๑-๓ คำ ๓ เขียนสะกดคำผดิ ๔-๖ คำ ๒ เขียนสะกดคำผดิ ๗-๙ คำ ๑ เขยี นสะกดคำผดิ ๑๐ คำขึน้ ไป ๒. การคดิ วเิ คราะห์ ๕ สามารถวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและ ๕ วิเคราะห์ข้อเท็จจรงิ และขอ้ คดิ เหน็ จากเรอ่ื งท่ีอา่ นไดถ้ กู ต้อง ๔ ข้อ ข้อคิดเหน็ จากเร่ืองทอ่ี ่านได้ถกู ต้อง ๔ วิเคราะห์ขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คดิ เหน็ จากเรอื่ งที่อา่ นได้ถกู ต้อง ๓ ข้อ ๓ วิเคราะหข์ อ้ เทจ็ จริงและข้อคิดเหน็ จากเร่อื งทอ่ี ่านได้ถูกตอ้ ง ๒ ขอ้ ๒ วิเคราะห์ขอ้ เท็จจรงิ และข้อคดิ เหน็ จากเรื่องทอ่ี ่านไดถ้ กู ต้อง ๑ ข้อ ๑ พยายามวเิ คราะหข์ ้อเท็จจริงและข้อคิดเหน็ แตย่ ังไมส่ มบรู ณ์ รวมคะแนน ๑๕

๒๑ เฉลยใบงานที่ ๒ ต้นโพศกั ดิส์ ทิ ธ์ิ คำช้แี จง ให้นกั เรียนอ่านเรื่อง “ตน้ โพศกั ดิส์ ิทธ”ิ์ แลว้ ตอบคำถาม ภาพ : ต้นโพ ทม่ี า : http://wow.in.th/3K4p ตน้ โพศกั ด์สิ ิทธิ์ เขตบางเขน บรเิ วณชุมชนวรวีร์ (อ่านว่า วอ-ระ-วี) มีต้นโพขนาดใหญ่ ๑ ตน้ ตัง้ อยู่บริเวณกง่ึ กลางของชมุ ชน สำหรับคนในชุมชนแห่งนี้เชือ่ ว่าต้นโพ ขนาดใหญ่นี้เป็นเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชุมชน และยังเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อของศาสนาพุทธเพราะต้นโพเป็นสถานที่ตรัสรู้ (อ่านว่า ตฺรัด- สะ-รู้) ของพระพุทธเจ้า ซึ่งบริเวณต้นโพจะมีศาลเล็ก ๆ หากใครมาบนอะไรไว้ แล้วประสบผลสำเร็จก็จะนำของมาถวาย เช่น หุ่นม้า หุ่นนางรำ น้ำแดง ชุดไทยโบราณ ผ้าหลากสี หมากพลู และขนมไทยต่าง ๆ เพราะถือว่า เป็นการตอบแทนทีต่ น้ โพบันดาลใหส้ ง่ิ ทข่ี อเกดิ ข้ึนจริง (นำ้ ผึง้ : ดัดแปลงจากบทสัมภาษณค์ ุณวริ ัตน์ วงษใ์ หญ่, ชาวบ้านเขตบางเขน, ๒๕๖๓) คำศพั ทน์ ่ารู้ ตรัสรู้ (ตฺรัด-สะ-รู้) หมายถึง รแู้ จง้ (ใช้เฉพาะพระพุทธเจา้ )

๒๒ คำช้แี จง จากเรื่อง “ต้นโพศักดิ์สิทธิ์” ให้นักเรียนตั้งคำถาม และตอบคำถามเชิงเหตผุ ล เขยี นดว้ ยตวั บรรจงครึง่ บรรทดั ๑. อยู่ในดุลยพินิจของผูส้ อน ตอบ อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของผู้สอน ๒. อย่ใู นดุลยพินจิ ของผ้สู อน ตอบ อยู่ในดลุ ยพินจิ ของผู้สอน

๒๓ ๓. อยใู่ นดุลยพินจิ ของผู้สอน ตอบ อยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของผสู้ อน ๔. อยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของผสู้ อน ตอบ อยู่ในดลุ ยพินจิ ของผสู้ อน

๒๔ เกณฑก์ ารให้คะแนน ตน้ โพศกั ดิ์สิทธิ์ ประเด็นการประเมิน ระดับ เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนน ๑. การเขียน ๑๐ ๑.๑ การเขียนตอบคำถาม ๕ เขยี นตอบคำถามถูกตอ้ งและตรงประเดน็ ทุกข้อ ๔ เขียนตอบคำถามถกู ตอ้ งตรงประเดน็ ๓ ข้อ ๓ เขยี นตอบคำถามถกู ต้องตรงประเดน็ ๒ ขอ้ ๒ เขยี นตอบคำถามถูกต้องตรงประเดน็ ๑ ขอ้ ๑ เขยี นตอบคำถามตรงประเด็นคอ่ นขา้ งนอ้ ยมาก ๑.๒ การสะกดคำ ๕ เขยี นสะกดคำถกู ตอ้ งทกุ คำ ๔ เขยี นสะกดคำผิด ๑-๓ คำ ๓ เขยี นสะกดคำผิด ๔-๖ คำ ๒ เขยี นสะกดคำผดิ ๗-๙ คำ ๑ เขียนสะกดคำผดิ ๑๐ คำขน้ึ ไป ๒. การคดิ วเิ คราะห์ ๕ สามารถแสดงความคิดวิเคราะห์ ๕ แสดงความคิดวิเคราะห์ด้วยการตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผล ด้วยการตั้งคำถามและตอบคำถาม ได้ถกู ตอ้ งและน่าสนใจเปน็ อย่างมาก เชงิ เหตผุ ลจากเรื่องทีอ่ า่ นได้ถูกตอ้ ง ๔ แสดงความคิดวิเคราะห์ด้วยการตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผล ได้ถกู ต้องและนา่ สนใจคอ่ นขา้ งมาก ๓ แสดงความคิดวิเคราะห์ด้วยการตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุ ผลได้ถกู ต้องและคอ่ นขา้ งน่าสนใจ ๒ แสดงความคิดวิเคราะห์ด้วยการตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผล ไดถ้ ูกต้องและน่าสนใจคอ่ นขา้ งน้อย ๑ พยายามแสดงความคิดวิเคราะห์ดว้ ยการต้งั คำถามและตอบคำถามเชงิ เหตผุ ล แตย่ ังไมส่ มบรู ณ์ รวมคะแนน ๑๕

๒๕ เฉลยแบบฝกึ หดั ท่ี ๑ ลองแตง่ อีกครั้ง คำช้แี จง ใหน้ ักเรยี นแต่งประโยคจากคำทก่ี ำหนดให้ขอ้ ละ ๑ ประโยค ตวั อย่าง โลก/ลำบาก ประชากรโลกกำลงั พบกับความลำบากเปน็ อย่างมาก 1. ประมาท/ชวี ติ อยใู่ นดุลยพนิ ิจของผู้สอน 2. ทพั พี/บาตร อยใู่ นดุลยพินิจของผู้สอน

๒๖ ความโกรธ/ความสขุ 3. อย่ใู นดุลยพนิ ิจของผสู้ อน 4. ผลไม้/ฤดูกาล อย่ใู นดลุ ยพินจิ ของผูส้ อน 5. แอปเปิล/รสชาติ อยู่ในดุลยพนิ จิ ของผู้สอน

๒๗ 6. เช่ียวชาญ/ตะกร้า อยใู่ นดลุ ยพินิจของผ้สู อน 7. ฉนั เพล/นิมนต์ อยู่ในดลุ ยพินจิ ของผสู้ อน 8. โทรศพั ท/์ สือ่ สาร อย่ใู นดุลยพนิ จิ ของผู้สอน

๒๘ ที่ดิน/มรดก 9. อยใู่ นดุลยพนิ ิจของผู้สอน 10. สุขภาพ/ปราศจาก อย่ใู นดุลยพนิ ิจของผสู้ อน

๒๙ เกณฑ์การให้คะแนน ลองแต่งอีกคร้ัง ประเดน็ การประเมนิ ระดับ เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนน ๑. การเขยี น ๑.๑ การสะกดคำ ๑๕ ๑.๒ ความถูกต้องในการเขยี น ๕ เขยี นสะกดคำถูกต้องทุกคำ ประโยค ๔ เขยี นสะกดคำผดิ ๑-๓ คำ ๑.๓ ความหลากหลายในการเขียน ประโยค ๓ เขยี นสะกดคำผิด ๔-๖ คำ ๒ เขียนสะกดคำผิด ๗-๙ คำ ๑ เขียนสะกดคำผิด ๑๐ คำขน้ึ ไป ๕ เขยี นประโยคไดถ้ ูกตอ้ งทง้ั หมด ๔ เขียนประโยคผดิ ๑-๒ ประโยค ๓ เขียนประโยคผดิ ๓-๔ ประโยค ๒ เขยี นประโยคผิด ๕-๖ ประโยค ๑ เขยี นประโยคผดิ ๗ ประโยคขึ้นไป ๕ เขียนได้หลากหลายและแตกต่างดีมาก ใช้ภาษาสื่อสาร ออกมาไดด้ เี ยี่ยม เข้าใจง่าย มคี วามน่าสนใจอย่างมาก ๔ เขียนได้หลากหลายและแตกต่างดีมาก ใช้ภาษาสื่อสาร ออกมาไดเ้ ขา้ ใจมาก มคี วามนา่ สนใจมาก ๓ เขียนได้หลากหลายและแตกต่างกันดี ใช้ภาษาสื่อสาร ออกมาไดเ้ ข้าใจง่าย ค่อนขา้ งมคี วามนา่ สนใจ ๒ เขียนได้หลากหลาย ใช้ภาษาสื่อสารออกมาได้ค่อนข้าง ชดั เจนเข้าใจงา่ ย แต่ยงั ไม่นา่ สนใจมากนัก ๑ เขียนได้ไม่ค่อยหลากหลาย ใช้ภาษาสื่อสารออกมาได้ คอ่ นข้างเขา้ ใจ แตย่ ังไม่น่าสนใจ

๓๐ ประเด็นการประเมิน ระดบั เกณฑ์การให้คะแนน คะแนน ๒. การคดิ วเิ คราะห์ ๕ สามารถแสดงความคิดเห็นด้วย ๕ แสดงความคิดเห็นด้วยการแต่งประโยคได้อย่างมีเหตุผล การแต่งประโยคท่ีมีเหตุผลประกอบ ชดั เจน และมีความคดิ สรา้ งสรรค์ และมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ ๔ แสดงความคิดเห็นด้วยการแต่งประโยคได้อย่างมีเหตุผล คอ่ นข้างชัดเจน และคอ่ นขา้ งมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ๓ แสดงความคิดเห็นด้วยการแต่งประโยค แต่แสดงเหตุผลได้ เปน็ บางสว่ นและค่อนข้างมคี วามคิดสร้างสรรค์นอ้ ย ๒ แสดงความคิดเห็นด้วยการแต่งประโยค แต่ไม่แสดงเหตุผล และมคี วามคิดสรา้ งสรรค์นอ้ ยมาก ๑ พยายามจะแสดงความคิดเห็นด้วยการแต่งประโยค แต่ยัง ไม่ตรงประเดน็ ทกี่ ำหนดและไมม่ ีควา่ มคิดสร้างสรรค์ รวมคะแนน ๒๐

๓๑ เฉลยแบบฝึกหัดที่ ๒ ฉนั คอื อะไร คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนคำที่ตรงกับภาพ แล้วโยงเส้นจับคู่กับ ความหมายใหถ้ ูกต้อง ตัวอยา่ ง ส วิ ง • • เรือนเล็ก ๆ ทำพอ อยู่ได้ เครื่องช้อนปลาชนิด • •๑. หนึ่งถักเป็นร่างแห กร ะ ท่ อ ม มักใช้ไม้หรือหวาย ทำขอบปาก • •๒. พธิ อี อ้ นวอนขอฝน เก วี ย น l จดั ขึ้นในปีทแี่ ห้งแล้ง ๓. . แ หน่ า ง แมว • • บรรพบรุ ษุ สิง่ ทีต่ กทอดมาจาก • •๔. พาหนะชนิดหนึง่ มรดก. มี ๒ ล้อ ใช้ควายหรือ ววั เทียม

๓๒ •แ ม่ โพ ส พ • ทีส่ ำหรบั น่งั หรอื นอน ๕. •. แ ค ร่ . โดยมากมรี ปู ส่ีเหลีย่ ม ๖. •. ไ ม้ เ ทา้ มักทำดว้ ยไม้ไผ่ ๗. •ส ะ พ า น ๘. •กร ะ บ ว ย • เทพธดิ าประจำข้าว ๙. •ถ น น . หรือเจา้ แมแ่ หง่ ข้าว ๑๐. • ส่งิ ที่สร้างหรอื ทำข้นึ สำหรบั ขา้ มแม่น้ำ • ไม้หรือสิ่งอน่ื ๆ สำหรบั ถือยันตวั เดิน • ทางท่ที ำขนึ้ เรยี กว่า สาย, เสน้ • ภาชนะสำหรบั ตกั นำ้ เดมิ ทำด้วยกะโหลก มะพร้าว มดี ้ามถือ

๓๓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ฉนั คอื อะไร ประเดน็ การประเมนิ ระดับ เกณฑ์การให้คะแนน คะแนน ๑. การเขียน เขยี นวงกลมคำตอบไดถ้ ูกต้อง ๙-๑๐ ข้อ 1.1 การวงกลมคำตอบ ๕ เขียนวงกลมคำตอบไดถ้ ูกตอ้ ง ๗-๘ ขอ้ ๕ เขยี นวงกลมคำตอบไดถ้ กู ต้อง ๕-๖ ข้อ ๑.๒ การเขียนโยงเสน้ ๔ เขยี นวงกลมคำตอบไดถ้ ูกต้อง ๓-๔ ขอ้ ๓ เขยี นวงกลมคำตอบไดถ้ ูกตอ้ ง ๑-๒ ขอ้ ๒. การคดิ วเิ คราะห์ ๒ เขยี นโยงเส้นถูกตอ้ ง ๙-๑๐ ข้อ สามารถแสดงความคิดโดยการเขียน ๑ เขียนโยงเสน้ ถูกตอ้ ง ๗-๘ ขอ้ ๕ เขียนโยงเส้นถกู ตอ้ ง ๕-๖ ข้อ คำให้สัมพันธ์กับรูปภาพและความหมาย ๔ เขยี นโยงเสน้ ถกู ตอ้ ง ๓-๔ ข้อ แล้วเขยี นโยงเส้นจับคู่ได้ถูกตอ้ ง ๓ เขียนโยงเสน้ ถกู ต้อง ๑-๒ ขอ้ ๒ รวมคะแนน ๑ แสดงความคิดโดยการเขียนคำให้สัมพันธ์กับรูปภาพและ ๕ ความหมายแลว้ เขยี นโยงเสน้ จับคไู่ ดถ้ ูกต้อง ๙-๑๐ ขอ้ ๕ แสดงความคิดโดยการเขียนคำให้สัมพันธ์กับรูปภาพและ ความหมายแลว้ เขียนโยงเสน้ จับคู่ไดถ้ กู ต้อง ๗-๘ ข้อ ๔ แสดงความคิดโดยการเขียนคำให้สัมพันธ์กับรูปภาพและ ความหมายแลว้ เขยี นโยงเส้นจบั คไู่ ดถ้ กู ตอ้ ง ๕-๖ ข้อ ๓ แสดงความคิดโดยการเขียนคำให้สัมพันธ์กับรูปภาพและ ความหมายแลว้ เขยี นโยงเส้นจับคไู่ ดถ้ กู ตอ้ ง ๓-๔ ข้อ ๒ แสดงความคิดโดยการเขียนคำให้สัมพันธ์กับรูปภาพและ ความหมายแลว้ เขียนโยงเส้นจบั คู่ไดถ้ ูกตอ้ ง ๑-๒ ข้อ ๑ ๑๐

๓๔ เฉลยแบบฝกึ หดั ท่ี ๓ ตามจินตนาการ คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นเขียนเรื่องตามจนิ ตนาการเกีย่ วกบั ท้องถน่ิ ของตนเอง อย่างนอ้ ย 8 บรรทัด พรอ้ มตง้ั ช่อื เรื่อง ชอ่ื เรื่อง อย่ใู นดุลยพนิ จิ ของผู้สอน

๓๕ อย่ใู นดุลยพนิ ิจของผสู้ อน

๓๖ เกณฑ์การให้คะแนน ตามจนิ ตนาการ ประเดน็ การประเมิน ระดบั เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน ๑. การเขียน ๒๐ ๑.๑ การตั้งชอื่ เรอ่ื ง ๓ ตัง้ ชอื่ เร่อื งไดต้ ามประเดน็ การประเมินครบ ๒ ขอ้ ๑) ช่ือเร่อื งสอื่ ความหมายได้ตรงหรือ ๒ ตง้ั ชอ่ื เรอ่ื งไดต้ ามประเดน็ การประเมนิ ๑ ข้อ สอดคล้องเนื้อเร่อื ง ๑ ตั้งชื่อเรื่องสอดคล้องกับเนื้อเรื่อง แต่มีความน่าสนใจ ๒) ชอ่ื เรอื่ งสร้างสรรคแ์ ละมีความนา่ สนใจ ค่อนข้างน้อย ๑.๒ สาระสำคญั ของเร่ือง ๕ เขยี นเรือ่ งไดส้ าระสำคญั ตามประเดน็ การประเมนิ ครบ ๕ ขอ้ ๑) ลำดับความคิดอยา่ งตอ่ เน่อื ง ๔ เขียนเรอ่ื งได้สาระสำคัญตามประเดน็ การประเมนิ ๔ ข้อ ๒) นำเสนอเน้ือหาตรงประเดน็ ๓ เขยี นเรื่องไดส้ าระสำคัญตามประเดน็ การประเมนิ ๓ ขอ้ ๓) เนือ้ หามคี วามสมั พันธก์ บั คำทกี่ ำหนดให้ ๒ เขยี นเรอ่ื งได้สาระสำคัญตามประเด็นการประเมิน ๒ ข้อ ๔) มคี วามเปน็ เหตเุ ป็นผล ๑ เขียนเรื่องไดส้ าระสำคัญตามประเดน็ การประเมิน ๑ ข้อ ๕) มกี ารนำเสนอแนวคดิ ใหม่ ๑.๓ การใชภ้ าษา ๕ ใชภ้ าษาไดต้ ามประเดน็ การประเมินครบ ๕ ข้อ ๑) เลือกใช้คำได้ถูกตอ้ ง ๔ ใช้ภาษาได้ตามประเดน็ การประเมนิ ๔ ขอ้ ๒) เขียนเวน้ วรรคตอนได้ถกู ต้อง ๓ ใช้ภาษาได้ตามประเด็นการประเมนิ ๓ ขอ้ ๓) ใชค้ ำสภุ าพ ๒ ใชภ้ าษาไดต้ ามประเดน็ การประเมนิ ๒ ขอ้ ๔) ใช้ประโยคส่ือความหมายได้ ๑ ใช้ภาษาได้ตามประเด็นการประเมนิ ๑ ข้อ ๕) ใชค้ ำได้สละสลวย ๑.๔ การเขียนสะกดคำ ๕ เขียนถูกต้องทกุ คำ ๔ เขียนผดิ ๑-๒ คำ ๓ เขยี นผดิ ๓-๔ คำ ๒ เขยี นผิด ๕-๖ คำ ๑ เขยี นผดิ ๗ คำ ขึน้ ไป ๑.๕ ความเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย ๒ เขยี นได้ตามประเดน็ การประเมินครบ ๒ ข้อ ๑) เขยี นตวั อักษรอ่านง่าย ๑ เขยี นได้ตามประเดน็ การประเมนิ ๑ ข้อ ๒) สะอาดเรียบร้อย

๓๗ ประเด็นการประเมิน ระดบั เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนน ๒. การคิดวเิ คราะห์ ๕ สามารถคิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับหัวข้อ ๕ คิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับหัวข้อที่กำหนดให้ ทกี่ ำหนดให้แล้วนำเสนอผา่ นงานเขียนเป็นเร่ืองราว แล้วนำเสนอผ่านงานเขียนเป็นเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ ครบถว้ นและถกู ต้องตามหลกั การเขียน ๔ คิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับหัวข้อที่กำหนดให้ แล้วนำเสนอผ่านงานเขียนเป็นเรื่องราวได้ค่อนข้าง นา่ สนใจ ครบถว้ น และถกู ต้องตามหลกั การเขยี น ๓ คิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับหัวข้อที่กำหนดให้ แล้วนำเสนอผ่านงานเขียนเป็นเรื่องราวได้ค่อนข้าง น่าสนใจ ค่อนข้างครบถว้ น และถูกตอ้ งตามหลกั การเขยี น ๒ คิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับหัวข้อที่กำหนดให้ แล้วนำเสนอผ่านงานเขียนเป็นเร่ืองราวได้ไม่คอ่ ยน่าสนใจ คอ่ นข้างครบถ้วน และถูกต้องตามหลักการเขียนบางส่วน ๑ คิดวิเคราะห์เนื้อหาที่สัมพันธ์กับหัวข้อที่กำหนดให้ แล้วนำเสนอผ่านงานเขียนเป็นเรื่องราวได้ไม่น่าสนใจ ไม่ครบถว้ น และไม่ถูกต้องตามหลักการเขยี น รวมคะแนน ๒๕



ชดุ กิจกรรมที่ ๒ หมนั่ ฝกึ ฝน

๔๐ ใบความรู้ เร่อื ง เขียนไดค้ ิดคล่อง การเขียน การเขียน คือ การถ่ายทอดเรื่องราว ความรู้ ความคิด ความต้องการ และความรู้สึกของบุคคลด้วยการเรียบเรียงถ้อยคำหรือข้อความออกมา เป็นลายลักษณ์อักษรหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ เพื่อสื่อสารให้เกิดความเข้าใจตามที่ ตอ้ งการ การเขียนเป็นทักษะที่สำคัญในการสื่อสาร เป็นทักษะการส่งสาร ที่ซับซ้อน ต้องอาศัยทักษะและกระบวนการอื่นประกอบ เช่น ทักษะการฟัง ทักษะการอ่าน กระบวนการคิด และทักษะการใช้ภาษา เพราะผู้ที่จะเขียนได้ดี จะต้องเป็นผู้ฟังมาก อ่านมาก มีความรู้และประสบการณ์กว้างขวาง มีกระบวนการคดิ ที่ดี และที่สำคญั ตอ้ งมที ักษะการใชภ้ าษาทีด่ ี การเขียนต้องอาศัย ความรู้ ทฤษฎี หลักวิธีการ และขั้นตอนการเขียนตามลักษณะของการเขียน ประเภทต่าง ๆ อาศยั การเลือกใช้คำหรอื ภาษาทีง่ ดงาม ประณีต ถกู ต้องตามระดบั ภาษาและเหมาะสมกบั เร่ือง เพ่ือใหส้ ามารถส่อื ได้ทงั้ ความรู้ ความคิด อารมณ์และ ความรู้สึก ประโยชน์ของการเขยี นที่ช่วยพัฒนาความคิด ๑. ชว่ ยพัฒนาใหค้ ดิ อย่างมีเหตุผล ๒. ชว่ ยใหเ้ กดิ กระบวนการคดิ

๔๑ เฉลยใบงานที่ ๓ เพยี รวางแผนคดิ คำช้ีแจง ให้นักเรียนอ่านเรื่อง “ผู้นำของเรา” แล้วเขียนแผนภาพ โครงเร่ืองให้ถูกต้อง ผู้นำของเรา นานมาแล้วมีผู้นำหมู่บ้านคนหนึ่งชื่อ “ดำรง” เป็นผู้นำที่รักลูกบ้าน ของตนมาก พร้อมที่จะดูแลทุกข์สุขไม่ว่าชาวบ้านจะมีเรื่องเดือดร้อนอะไร กต็ ามดำรงจะคอยช่วยเหลืออยูเ่ สมอ อยู่มาวันหนึ่งมีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง เข้ามาก่อกวนทำลายข้าวของ และทำร้ายผู้คนในหมู่บ้าน จนชาวบ้านทนไม่ไหวจึงรีบไปบอกกับดำรงว่า มีคนเข้ามาก่อกวนในหมู่บ้าน และด้วยความที่ดำรงเป็นผู้นำหมู่บ้านและ เป็นคนที่พร้อมจะปกป้องชาวบ้าน เขาจึงได้เข้าไปห้ามกลุ่มวัยรุ่นเหล่านั้น ให้หยุดทำลายข้าวของและหยุดทำร้ายชาวบ้าน แต่วัยรุ่นกลุ่มนั้นก็ยัง ไม่หยุด ดำรงจึงได้เขา้ ไปต่อส้กู ับกล่มุ วยั รุ่นจนดำรงเสยี ชีวิต หลังจากที่ดำรงได้เสียชีวิตไปแล้ว ชาวบ้านต่างเสียใจกับการสูญเสีย ผู้นำที่พร้อมจะดูแลและปกป้องพวกเขาให้พ้นจากอันตราย ชาวบ้าน จึงช่วยกันสร้างอนุสาวรีย์ขึ้นเพื่อระลึกถึงการเสียชีวิตของดำรง และต่อให้ เวลาผ่านไปนานแค่ไหนดำรงกย็ งั อย่ใู นความทรงจำของชาวบา้ นตลอดไป (ณัฐพร : ดดั แปลงจากเรอ่ื งหลวงอำนวยสงคราม เขตบางเขน) ภาพ : อนสุ าวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๔๗๗ ที่มา : ศิลปวฒั นธรรม ฉบบั ตลุ าคม 2556

๔๒ คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นเขยี นแผนภาพโครงเรื่องใหถ้ ูกต้อง ผู้นำของเรา 1. ตวั ละคร ดำรง, ชาวบา้ น และวยั ร่นุ 2. สถานท่ี หมู่บ้าน 3. เหตุการณ์ ดำรงปกปอ้ งชาวบา้ นจากวยั ร่นุ ท่ีเข้ามาก่อกวน 4. ผลของเหตกุ ารณ์ หลังจากดำรงเสียชีวติ ชาวบา้ นจงึ สร้างอนสุ าวรีย์ข้นึ เพ่ือเปน็ การระลึกถึงความดขี องดำรง 5. ข้อคดิ อย่ใู นดลุ ยพินจิ ของผสู้ อน

๔๓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เพียรวางแผนคิด ประเด็นการประเมนิ ระดบั เกณฑ์การให้คะแนน คะแนน ๑. การเขียน ๑๐ ๑.๑ การเขยี นตอบคำถาม ๕ เขียนตอบคำถามตรงประเด็น มีการใช้เหตผุ ลประกอบและเข้าใจง่าย ๔ เขียนตอบคำถามตรงประเด็น มีการใช้เหตผุ ลประกอบ ๓ เขียนตอบคำถามตรงประเด็น ๒ เขยี นตอบคำถามคอ่ นขา้ งตรงประเด็น ๑ เขียนตอบคำถามตรงประเด็นค่อนข้างนอ้ ยมาก ๑.๒ การสะกดคำ ๕ เขยี นสะกดคำถูกต้องทกุ คำ ๔ เขยี นสะกดคำผิด ๑-๓ คำ ๓ เขยี นสะกดคำผดิ ๔-๖ คำ ๒ เขยี นสะกดคำผิด ๗-๙ คำ ๑ เขียนสะกดคำผดิ ๑๐ คำขนึ้ ไป ๒. การคิดวเิ คราะห์ ๕ สามารถแสดงความคิดเห็น ๕ แสดงความคิดเห็นด้วยการตอบคำถามอย่างมีเหตุผลและน่าสนใจ ด้วยการตอบคำถาม โดยมีเหตุผล เปน็ อย่างมาก ประกอบ ๔ แสดงความคิดเห็นด้วยการตอบคำถามอย่างมีเหตุผลเป็นส่วนใหญ่ และค่อนขา้ งน่าสนใจ ๓ แสดงความคิดเห็นด้วยการตอบคำถามอย่างมีเหตุผลได้เป็นบางส่วน และนา่ สนใจคอ่ นข้างน้อย ๒ แสดงความคิดเห็นด้วยการตอบคำถามได้ แต่ไม่แสดงเหตุผล และนา่ สนใจนอ้ ยมาก ๑ พยายามแสดงความคดิ เห็นด้วยการตอบคำถาม แตย่ งั ไม่สมบูรณ์ รวมคะแนน ๑๕


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook