Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่มจบ

เล่มจบ

Published by amnatk49, 2020-05-14 10:18:29

Description: เล่มจบ

Search

Read the Text Version

9. จากขอมูลฉลากโภชนาการดา นลา ง หากรับประทานอาหารชนิดน้ีไป 1 หนวยบริโภคจะไดรับคารโบไฮเดรต ทง้ั หมดกี่กรัม ( ) 1. 5 กรัม ( ) 2. 14 กรัม คุณคา ทางโภชนากรตอหนงึ่ หนว ยบรโิ ภค พลังงานท้ังหมด 80 กโิ ลแคลอรี (พลงั งานจากไขมนั 0 กโิ ลแคลอรี) ( ) 3. 80 กรัม รอ ยละขอปริมาณที่แนะนําตอวนั ( ) 4. 115 กรมั ไขมันทั้งหมด 0 ก. 0% ไขมันอ่ิมตวั 0 ก. 0% โคเลสเตอรอล 5 ก. 2% โปรตนี 6 ก. คารโบไฮเดรตท้ังหมด 14 ก. 5% ใยอาหาร 0 ก. 0% นํ้าตาล 14 ก. โซเดยี ม 115 มก. 5% รอ ยละขอปริมาณท่ีแนะนําตอวัน วิตามนิ เอ 0% วติ ามินบี 1 4%วติ ามินบี 2 25 % แคลเซยี ม 30% เหล็ก 2% รอ ยละของปรมิ าณสารอาหารท่ีแนะนําใหบริโภคตอวนั สําหรับคนไทยอายุตงั้ แต 6 ปขึ้นไป (Thai RDI) โดยคิดจาก ความตอ งการพลังงานวนั ละ 2,000 กโิ ลแคลอรี 10. ขอ ตอ ไปน้ีผปู วยเบาหวานไมค วรปฏิบตั ิ ( ) 1. เลอื กอาหารที่มีนา้ํ ตาลนอยทส่ี ุด ( ) 2. อาหารมือ้ สุดทา ยในแตละวันควรหางจากเวลานอนประมาณ 3 ชัว่ โมง ( ) 3. การอดอาหารม้ือเย็น ( ) 4. เลอื กอาหารท่ีมโี ซเดียมตาํ่

ทกั ษะการส่ือสารขอมูล คําช้ีแจง: กรุณาทําเครื่องหมาย √ ใน ( ) หนาขอความทท่ี านเลอื กตรงกบั เปนความจริง รายการ ความถีใ่ นการปฏบิ ตั ิ ทุกครง้ั บอยครัง้ บางครงั้ นานๆครงั้ ไมไ ดปฏบิ ตั ิ (5) (4) (3) (2) (1) 1. ทา นอานเอกสารแนะนาํ เรื่องพฤติกรรมการดูแลตนเอง เก่ียวกบั 3อ.2ส. แลวเขา ใจดี 2. ทา นฟงคาํ แนะนําเรอ่ื งพฤติกรรมการดูแลตนเองเกยี่ วกบั 3อ.2ส. แลว เขาใจดี 3. ทานตองขอความชว ยเหลือจากบุคคลอื่น เพ่อื ทาํ ความ เขา ใจขอ ความจากสือ่ สขุ ภาพ 4. ทา นบอกตอ /แนะนาํ บุคคลอื่นเรื่องพฤติกรรมการดูแล ตนเองเกี่ยวกบั 3อ.2ส.ใหด ขี ึ้น 5. ทา นสามารถโนมนาวใหผูอื่นยอมรบั ขอมูลพฤติกรรมการ ดูแลตนเองเก่ยี วกับ 3อ.2ส.ทถี่ ูกตอง 6. ทา นชักชวนใหผูอ่ืนทําตาม/เปล่ยี นแปลพฤติกรรมการ ดูแลตนเองเกี่ยวกบั 3อ.2ส.ใหด ขี ้ึน ทักษะการตัดสนิ ใจ คาํ ช้ีแจง: กรณุ าทาํ เคร่อื งหมาย √ ใน ( ) หนาขอความทีท่ า นเลือกตรงกับเปนความจริง 1. เม่ือทา นเปลยี่ นวธิ ีออกกําลังกายแลวเกิดอาการหนามืด ใจส่นั ทา นจะทําอยา งไร ( ) 1. หยดุ ออกกําลังกายจนอาการเปน ปกติ และปรบั แผนการออกกําลงั กายท่ีเหมาะสมคร้ังตอไป ( ) 2. หยดุ ออกกําลงั กาย และไปพบแพทย ( ) 3. หยดุ ออกกําลงั กาย และบอกญาติ/เพอ่ื นถงึ อาการผิดปกตทิ ่ีเกดิ ขน้ึ ( ) 4. ออกกําลงั กายตอ ไป 2. เม่ือทา นกนิ ขา วมื้อเย็นนอ ยลง 1 ทพั พีเพอื่ ลดนํ้าหนกั ตามคาํ แนะนําของเจา หนา ที่ แลวพบวา รสู กึ หวิวและหิวมากตอนกลางคนื ทา นจะทาํ อยางไร ( ) 1. เพิ่มขาวอีกคร่ึงทัพพีในวันตอไป และสังเกตอาการวาเกดิ ขึน้ อีกหรือไม ( ) 2. ปรบั ยาใหล ดลงดวยตนเอง ( ) 3. ดมื่ นํ้าหวานทันทแี ละสงั เกตอาการผิดปกติ ( ) 4. ปรับเวลาในการกนิ อาหารม้ือเย็นใหใกลกับเวลานอนมากขน้ึ 3. ทา นจะมีวธิ ีแนะนาํ เพ่ือนที่ชอบดม่ื นา้ํ อัดลมใหลดการด่ืมลงเพื่อปองกันโรคอวนไดอ ยางไร ( ) 1. ชวนคุยถึงวิธีการผลติ นํ้าอัดลม

( ) 2. เปรยี บเทยี บนํ้าอดั ลมกับเคร่ืองด่มื อื่นๆ ( ) 3. บอกเพอ่ื นวา นาํ้ อัดลมทําใหเปนโรคกระเพาะและอวนได ( ) 4. เลาใหเพ่อื นฟงวาน้ําอัดลมมีนา้ํ ตาลเปน สวนผสมอยูมาก 4. .ในกรณีท่ตี อ งไปงานเลยี้ ง ทา นจะทาํ อยางไร ( ) 1. รับประทานอาหารตามปกติ ( ) 2. งดการรบั ประทานอาหารกลางวนั ในวนั น้ัน ( ) 3. ทบทวนชนิดอาหารแลกเปลีย่ นเพื่อเลอื กรบั ประทานอาหารในงานเล้ียง ( ) 4. ไมด ่มื นํา้ อดั ลมหรอื เคร่ืองดม่ื แอลกอฮอลในงาน 5. หากทานมีผูแนะนําใหรักษาเบาหวานโดยแพทยทางเลือก ทานจะตัดสินใจโดยพิจารณาจากขอใด ตอ ไปน้ี ( ) 1. หาความรู ( ) 2. เปรยี บเทียบผลดี-ผลเสีย ( ) 3. เลือกรักษาเบาหวานโดยแพทยทางเลือก เพราะ เกผิ ลกระทบนอยกวาวธิ ีอน่ื ( ) 4. เกรงใจผูแนะนาํ ทักษะการจดั การตนเอง คําชีแ้ จง: กรุณาทําเคร่อื งหมาย √ ใน ( ) หนา ขอความทที่ านเลอื กตรงกบั เปนความจรงิ รายการ ความถใ่ี นการปฏบิ ัติ ทกุ ครั้ง บอยคร้ัง บางคร้งั นานๆครงั้ ไมไ ดปฏิบตั ิ (5) (4) (3) (2) (1) 1. ผปู วยสังเกตปริมาณและคณุ คา ทางโภชนาการของ อาหารที่กินใหพอเหมาะกับตนเองในแตล ะม้ือบอ ยคร้ังแค ไหน 2. ผปู วยวางเปา หมายของการออกกาํ ลงั กายและทาํ ใหได ตามเปาหมายทว่ี างไวไ ดบ อ ยครัง้ แคไหน 3. เม่อื ผปู ว ยพบวา ตนเองเครียด ผูปวยมีวธิ ีการจัดการเพอื่ ลดความเครยี ดนั้นลงไดด วยวิธีท่ดี ีตอสุขภาพบอยครั้งแค ไหน 4. ผปู วยทบทวนวธิ ีการปฏิบัตติ นตามท่ีไดตง้ั ใจไวเพื่อการ ปอ งกันโรคอวนและการมีสุขภาพทด่ี บี อยครั้งแคไหน 5. ผูปวยปรบั ปรุงสภาพแวดลอมรอบตัวเองเพ่อื ใหมีการ ควบคุมนํ้าหนักและดูแลสุขภาพใหส าํ เรจ็ ไดมากขึน้ บอยคร้ัง แคไ หน

ทกั ษะการรูเ ทาทันสือ่ คาํ ชี้แจง: กรณุ าทาํ เครื่องหมาย √ ใน ( ) หนาขอความทท่ี านเลือกตรงกับเปน ความจริง รายการ ความถ่ีในการปฏบิ ตั ิ ทกุ คร้งั บอยคร้ัง บางครัง้ นานๆครงั้ ไมไ ดปฏบิ ัติ (1) (5) (4) (3) (2) 1. ทา นเช่ือโฆษณาเกี่ยวกับผลติ ภัณฑสขุ ภาพ ตัวอยาง เชน อาหารเสริม เคร่อื งด่ืมบาํ รุงสมองทีส่ ่ือนําเสนอ 2. เมื่อเหน็ โฆษณาสินคาในท่ีสาธารณะหรือจากเว็บไซตแ ละ เกิดความสนใจในสินคานั้น ทานต้ังใจไปหาขอมูลเพ่ิมเติม จากแหลงอนื่ เพ่ือประเมินความนา เช่ือถือกอ นตดั สินใจซอื้ 3. ทานใชเหตุผลในการวิเคราะหขอดีขอเสียเพ่ือเลือกรับ ขอมูลสุขภาพ เพื่อปองกันโรคอวนจากส่ือนั้นกอนที่จะ ปฏบิ ัติตาม 4. ทุกครั้งท่ีทานเขา รวมกิจกรรมเก่ียวกับสขุ ภาพผูปว ยมีการ วิเคราะห ประเมินเนือ้ หาน้ันโดยไมเชือ่ ถอื ทันที 5. ทานไดแลกเปลี่ยนพูดคุย วิพากษ วิจารณแนวทางการ ปองกันโรคอว นกบั ผอู ื่น โดยทผี่ ปู วยมีการวิเคราะห เปรียบเทยี บขอมูลทไ่ี ดรบั กอนตัดสนิ ใจเชือ่ และปฏิบัตติ าม

สวนท่ี 3 พฤติกรรมการดูแลตนเองเกี่ยวกับ 3อ.2ส. คําช้ีแจง: กรุณาทาํ เครื่องหมาย √ ใน ( ) หนาขอความท่ีทา นเลอื กตรงกับเปนความจริง รายการ ความถ่ใี นการปฏบิ ตั ิ ทกุ ครงั้ บอ ยครง้ั บางครง้ั นานๆคร้งั ไมไ ดป ฏิบตั ิ (1) (5) (4) (3) (2) 1. กินอาหารท่ีมีไขมันสูง เชน อาหารทอดหรือมีสวนผสม ของกะทิ 2. รับประทานขนมหวาน เชน ทองหยิบ นมขนหวาน น้ํา ผลไม 3. รับปะทานผักใบเขียว เชน ผกั คะนา ผกั กาด 4. รบั ประทาน เสนหม่ี มะกะโรนี วนุ เสน บะหม่ี 5. นํ้ามันทใี่ ชใ นการประกอบอาหาร เชน นาํ้ มันถ่ัวเหลอื ง นํา้ มันราํ ขาว นาํ้ มันมะกอก 6. ผหู ญิงด่มื เบียร 360 มิลลลิ ิตรตอ วัน ผูช ายด่มื เบียร 720 มิลลลิ ติ รตอ วัน 7. รับประทานไสกรอก กุนเชียง หมูยอ 8. ออกกําลังกาย เชน เดินเร็ว 15-30 นาที 3-5วนั ตอ สัปดาห 9. นา้ํ ตาลในเลอื ดขนาดอดอาหาร 70- 130 mg% 10. ความดันโลหติ อยใู นชวง 130/80 mmHg 11. รบั ประทานยาตามแพทยส่งั 12. ดืม่ น้าํ วันละ 8-10 แกวตอ วัน 13. รับประทานอาหารครบ 5 หมใู น 3 มื้อตอ วัน 14. รบั ประทานมะมวง ขนุน ละมุด 15. รับประทานผักวันละ 4-6ทัพพีตอ วัน 16. รบั ประทานผลไม 3-5 สว นตอวัน 17. รบั ประทานเน้ือสตั ววันละ 6-12 ชอนตอ วัน 18. รับประทานขาวไมเ กิน 2 ทพั พตี อ ม้อื 19. ออกกําลังกายแบบแอโรบิก 3 ข้นั ตอน 3-5วนั ตอ สัปดาห

20. รับประทานโซเดียม เชน เกลือ นา้ํ ปลา ผงชูรส ปลารา ไมเกิน 2,000 มิลลิกรัม แนวคําถามเชิงลกึ สําหรับ ผูปวยเบาหวาน เก่ียวกบั การเสริมสรางความรอบรูด านสุขภาพเพ่ือปองกันโรคแทรกซอ น ในผปู ว ยเบาหวานอวนลงพงุ คาํ ชี้แจง: กรุณาทําเครื่องหมาย √ ใน ( ) หนาขอความท่ีทานเลือกตรงกบั เปนความจริง และเติมขอความตามความ เปน จริงลงในชองวา ง สวนท่ี 1 ขอมูลทัว่ ไป 1. เพศ ( ) 1. ชาย ( ) 2. หญิง 2. อายุ...............ป 3. สถานภาพสมรส ( ) 1. โสด ( ) 2. สมรส ( ) 3. หมาย แยก หยาราง 4. ระดบั การศกึ ษา ( ) 1. ไมไ ดศ กึ ษา ( ) 2. ประถมศกึ ษา ( ) 3. มัธยมศึกษา ( ) 4. ปรญิ ญาตรี ( ) สูงกวา ปริญญาตรี 5. อาชีพ ( ) 1. ไมไ ดป ระกอบอาชพี ( ) 2. รับราชการ ระบ.ุ ..................................................... ( ) 3. รบั จาง ( ) 4. คา ขาย ( ) 5. เกษตรกรรม ( ) 6. อนื่ ๆ.............. 6. ระยะเวลาที่ปวยเปน โรคเบาหวาน............ ป 7. นํ้าหนักเกินมานานเทาไหร................ ป วันที่สมั ภาษณ.................. เวลา................... สถานท.่ี ............................ สว นท่ี 2 แนวคาํ ถามเชิงลึกการเสรมิ สรา งความรอบรูดา นสขุ ภาพในอําเภอบานไร 1. โรคอว นลงพงุ ของผปู ว ยเบาหวานในอาํ เภอบานไร เปน ปญหาหรอื ไม อยางไรทัง้ ตอ ตวั ผูปว ย ครอบครัว .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 2. อะไรสาเหตขุ องโรคเบาหวาน .................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................................... 3. ผลกระทบจากการปวยเปนเบาหวาน เปนอยางไร .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... 4. ทานเคยไดยินคําวา “การเสริมสรางการรอบรูดานสุขภาพหรือไม ถาเคยไดยิน มีความหมายวาอยาไร .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 5. ขอคดิ เหน็ อ่ืนๆในการการเสริมสรางการรอบรดู านสุขภาพ .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 6. ความรู และการปฏิบัติของผูปวยเบาหวานในอําเภอบานไร ความรูและความชํานาญในการปฏิบัติอะไรบางท่ี ผูป ว ยเบาหวานควรไดเรยี นรู ทําไดอยา งชาํ นาญและถูกตอง .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 7. แนวทางการจัดกิจกรรมสงเสริมความรูโรคอวนลงพุงของผูปวยเบาหวาน และนําไปปฏิบัติไดถูกตองในการ ปรบั เปลีย่ นพฤติกรรมสขุ ภาพควรมีลักษณะอยา งไร .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 8. การวัดและประเมินผลเพอื่ ตรวจสอบวาผปู ว ยเบาหวานท่อี วนลงพุง มีวธิ กี ารอยา งไร .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 9. ขอคดิ เห็นอ่นื ๆเกี่ยวกับการชว ยใหผูป วยรอบรู และนําไปปฏิบัตเิ พ่อื ลดพุงควรทาํ อยา งไร

.................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... แนวคาํ ถามเชิงลึกสําหรับ ผูดูแล บุคลากรสาธารณสุข อาสาสมคั รสาธารณสุข ผูนําชมุ ชน ที่เก่ียวของ กบั การเสรมิ สรา งความรอบรูดานสุขภาพเพอ่ื ปอ งกนั โรคแทรกซอ นในผูป วยเบาหวานอวนลงพุง คําชี้แจง: กรุณาทําเคร่ืองหมาย √ ใน ( ) หนาขอความที่ทานเลือกตรงกับเปนความจริง และเติม ขอ ความตามความเปน จรงิ ลงในชองวาง สว นที่ 1 ขอมลู ท่ัวไป 1. เพศ ( ) 1. ชาย ( ) 2. หญิง 2. อายุ...............ป 3. สถานภาพสมรส ( ) 1. โสด ( ) 2. สมรส ( ) 3. หมาย แยก หยาราง 4. ระดับการศึกษา ( ) 1. ไมไดศกึ ษา ( ) 2. ประถมศกึ ษา ( ) 3. มัธยมศึกษา ( ) 4. ปรญิ ญาตรี ( ) สงู กวาปริญญาตรี 5. ตาํ แหนงหนาท่ปี จจุบัน …………………………………………………………………………… 6. ประสบการณใ นการดูแลผปู ว ย............ ป วนั ทสี่ ัมภาษณ. ................. เวลา................... สถานท.่ี ............................ สว นท่ี 2 แนวคาํ ถามเชิงลกึ การเสรมิ สรา งความรอบรูดา นสขุ ภาพในอําเภอบานไร 1. โรคอวนลงพุงของผูปวยเบาหวานในอําเภอบานไร เปนปญหาหรือไม อยางไรทั้งตอตัวผูปวย ครอบครวั ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 2. อะไรสาเหตุของโรคเบาหวาน ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 3. ผลกระทบจากการปวยเปนเบาหวาน เปน อยางไร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................ 4. ทานเคยไดย ินคาํ วา “การเสรมิ สรางการรอบรูด านสขุ ภาพหรือไม ถาเคยไดยิน มีความหมายวา อยา ไร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 5. ขอคิดเห็นอื่นๆในการการเสรมิ สรางการรอบรดู า นสุขภาพ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 6. ความรู และการปฏิบัติของผูปวยเบาหวานในอําเภอบานไร ความรูและความชํานาญในการปฏิบัติ อะไรบางทผ่ี ูปว ยเบาหวานควรไดเรยี นรู ทาํ ไดอ ยา งชาํ นาญและถูกตอง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 7. แนวทางการจัดกิจกรรมสงเสริมความรูโรคอวนลงพุงของผูปวยเบาหวาน และนําไปปฏิบัติได ถกู ตอ งในการปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมสุขภาพควรมีลักษณะอยา งไร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 8. การวัดและประเมนิ ผลเพื่อตรวจสอบวาผปู วยเบาหวานที่อวนลงพงุ มวี ิธีการอยา งไร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 9. ขอคดิ เหน็ อน่ื ๆเกย่ี วกับการชวยใหผปู วยรอบรู และนําไปปฏบิ ตั ิเพอื่ ลดพุงควรทําอยางไร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

เครื่องมือท่ีใชในการรวบรวมขอมูลระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการเสริมสรางความรอบรูสขุ ภาพ เพอื่ ปอ งกนั โรคแทรกซอนในผปู ว ยเบาหวานอวนลงพงุ โดยการมสี ว นรวม แนวคาํ ถามเชงิ ลกึ สาํ หรับ ผูดแู ล บุคลากรสาธารณสุข อาสาสมคั รสาธารณสุข ผูนําชมุ ชน ทเ่ี กี่ยวของ กบั การเสรมิ สรา งความรอบรดู านสขุ ภาพเพ่อื ปอ งกนั โรคแทรกซอ นในผปู วยเบาหวานอวนลงพงุ คําช้ีแจง: กรุณาทําเครื่องหมาย √ ใน ( ) หนาขอความที่ทานเลือกตรงกับเปนความจรงิ และเติม ขอความตามความเปน จริงลงในชองวาง สว นท่ี 1 ขอมูลทั่วไป 1. เพศ ( ) 1. ชาย ( ) 2. หญงิ 2. อายุ...............ป 3. สถานภาพสมรส ( ) 1. โสด ( ) 2. สมรส ( ) 3. หมา ย แยก หยารา ง 4. ระดบั การศึกษา ( ) 1. ไมไดศกึ ษา ( ) 2. ประถมศกึ ษา ( ) 3. มัธยมศึกษา ( ) 4. ปริญญาตรี ( ) สูงกวาปริญญาตรี 5. อาชีพ ( ) 1. ไมไ ดป ระกอบอาชีพ ( ) 2. รบั ราชการ ระบุ.................. ( ) 3. รบั จาง ( ) 4. คา ขาย ( ) 5. เกษตรกรรม ( ) 6. อน่ื ๆ.............. 6. ประสบการณใ นการดูแลผปู วย.................. ป วนั ที่สัมภาษณ.................. เวลา................... สถานท่ี............................. สวนท่ี 2 แบบสอบถามเชิงลึกในการเสรมิ สรา งการรอบรสู ุขภาพ ในกลุม ผูสรางรปู แบบฯ 1. ความรูใ นการเสริมสรา งการรอบรสู ุขภาพเพ่ือปองกนั โรคแทรกซอนในผปู วยเบาหวานอวนลงพงุ ผูสงู อายุ ควรมคี วามรู ความเขาใจทจี่ าเปน เกีย่ วกับสุขภาพและการปองกันโรค 1.1 ในระดบั พื้นฐาน อะไรบาง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................ 1.2 ในระดับปฏิสัมพนั ธ อะไรบาง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 1.3 ในระดับวจิ ารณญาณ อะไรบา ง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 2. การเขาถึงขอ มลู สุขภาพ (Access) ผูป วยเบาหวานอว นลงพงุ ควรมคี วามสามารถในการเขาถงึ ขอ มูลสขุ ภาพ 2.1 ในระดับพ้ืนฐาน อยางไรบาง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 2.2 ในระดบั ปฏสิ ัมพนั ธ อยางไรบาง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 2.3 ในระดับวิจารณญาณ อยางไรบา ง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 3. ทักษะการสือ่ สารขอ มลู สขุ ภาพ (Communication skill) ผูป วยเบาหวานอวนลงพุง ควรมีความสามารถในการสื่อสารขอมูลสุขภาพ 3.1 ในระดบั พนื้ ฐาน อยางไรบา ง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 3.2 ในระดบั ปฏสิ มั พันธ อยางไรบาง

................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 3.3 ในระดบั วิจารณญาณ อยางไรบาง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 4. ทักษะการตดั สินใจ (Decision skill) ผูปวยเบาหวานอวนลงพุง ควรมีทักษะการตัดสนิ ใจเพอื่ สุขภาพ 4.1 ในระดับพน้ื ฐาน อยางไรบา ง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 4.2 ในระดบั ปฏสิ มั พนั ธ อยา งไรบาง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 4.3 ในระดับวิจารณญาณ อยางไรบา ง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 5. การจดั การตนเอง (Self-management) ผปู วยเบาหวานอวนลงพุง ควรมีความสามารถในการจดั การสุขภาพตนเอง 5.1 ในระดับพ้นื ฐาน อยางไรบา ง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

5.2 ในระดบั ปฏิสัมพนั ธ อยางไรบาง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 5.3 ในระดับวิจารณญาณ อยางไรบา ง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 6. การรูเทาทนั ส่ือ (Media literacy) ผูเบาหวานอวนลงพงุ ควรมีความสามารถการรเู ทาทนั สื่อ 6.1 ในระดับพน้ื ฐาน อยางไรบาง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 6.2 ในระดบั ปฏสิ มั พันธ อยางไรบาง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 6.3 ในระดับวิจารณญาณ อยางไรบาง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

แบบสอบถามความรดู านสขุ ภาพผปู ว ยเบาหวานอว นลงพงุ กลมุ ทดลองใชรูปแบบฯ คําช้ีแจง: กรุณาทําเครื่องหมาย √ ใน ( ) หนาขอความที่ทานเลือกตรงกบั เปนความจริง และเติมขอ ความตามความ เปนจรงิ ลงในชองวา ง สว นท่ี 1 ขอมูลทว่ั ไป 1. เพศ ( ) 1. ชาย ( ) 2. หญงิ 2. อาย.ุ ..............ป 3. สถานภาพสมรส ( ) 1. โสด ( ) 2. สมรส ( ) 3. หมา ย แยก หยา รา ง 4. ระดับการศึกษา ( ) 1. ไมไดศึกษา ( ) 2. ประถมศึกษา ( ) 3. มัธยมศึกษา ( ) 4. อดุ มศึกษา 5. อาชพี ( ) 1. ไมไดป ระกอบอาชพี ( ) 2. รับราชการ ( ) 3. รับจา ง ( ) 4. คา ขาย ( ) 5. เกษตรกรรม ( ) 6. อ่นื ๆ.............. 6. นาํ้ หนัก.........................กิโลกรัม 7. BMI…………………… 8. รอบเอว........................เซนติเมตร สวนที่ 2 แบบสอบถามการเสริมสรา งความรอบรูดานสุขภาพ เพ่ือดูแลตนเองเก่ียวกับ 3อ.2ส. (อ.อาหาร อ.ออก กําลงั กาย อ.อารมณ (ออกกําลังใจ) ส.สบู บุหรี่ และ ส.เสพสุรา) ทักษะการเขาถงึ ขอมูลและบริการสขุ ภาพ กรณุ าทําเคร่ืองหมาย √ ใน ( ) หนา ขอ ความทที่ า นเลอื กตรงกับเปนความจริง รายการ ความถีใ่ นการปฏิบตั ิ ทุกครั้ง บอ ยคร้ัง บางครั้ง นานๆคร้ัง ไมไดปฏิบตั ิ (5) (4) (3) (2) (1) 1. เม่ือทานตองการขอมูลการปฏิบัติเพ่ือดูแลตนเองเกี่ยวกับ 3อ.2 ทา นสามารถคน หาแหลงขอมลู ไดทันที 2. เมื่อตองการขอมูลการปฏิบัติเพ่ือดูแลตนเองเก่ียวกับ 3อ.2ส. สามารถคนหาขอมูลหรือสอบถามผูอื่น จนไดขอมูลที่ถูกตองจาก หลายๆแหลง 3. เมื่อตองการขอมูลการปฏิบัติเพื่อดูแลตนเองเก่ียวกับ 3อ.2ส. สามารถคนหาขอมลู หรือสอบถามผอู ื่น จนไดขอ มลู ทีถ่ กู ตอ ง

4. ผูปวยตรวจสอบขอมูลเพ่ือยืนยันความเขาใจของตนเองให ถูกตอง และนาเชื่อถือ โดยการสืบคนหรือสอบถามขอมูลจาก หลายแหลง 5. ทา นนําขอมูลการปฏิบตั ิเพือ่ ดูแลตนเองเกี่ยวกบั 3อ.2ส. ท่ีไดม า ปรบั เปลี่ยนพฤติกรรมของทา น ทกั ษะความรูความเขาใจ กรุณาทําเครื่องหมาย √ ใน ( ) หนา ขอ ความทีท่ า นเลอื กตรงกบั เปนความจริง 1. ผูป วยเบาหวานท่ีมภี าวะอวนมีโอกาสเสีย่ งตอ การเปนโรคใดมากท่ีสดุ ( ) 1. ความจาํ เสอ่ื ม ปวดหลงั ไขมันในเลอื ดสูง ( ) 2. เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลอื ดสูง ( ) 3. หัวใจโต หลอดเลือดสมองแตก กระดกู พรุน( ) 3. ปวดหลงั หวั ใจหลอดเลอื ด กระดูกพรุน 2. วธิ กี ารท่ีดที ่สี ุดในการลดความอวนคอื ขอ ใด ( ) 1. การงดกินอาหารประเภทเนือ้ สัตวท ุกชนดิ ( ) 2. การงดกินอาหารประเภทไขมันทุกชนิด ( ) 3. การงดกินอาหารประเภทแปงและน้ําตาล ( ) 4. กินอาหารครบ 5 หมูทใ่ี หพ ลังงานตา่ํ 3. การควบคุมนาํ้ หนักควรทาํ อยา งไร ( ) 1. ออกกาํ ลงั กายอยางนอ ยวันละ 10 นาที 3 ครัง้ ตอสปั ดาห ( ) 2. รับประทานอาหารตามหลักอาหารแลกเปล่ยี นอยางเครงครัด ( ) 3. ออกกาํ ลงั กายวันละ 30 นาทีทกุ วัน ( ) 4. ออกกําลงั กาย 3-5 วันตอสัปดาห และรบั ประทานอาหารใหไ ดค รบทุกหมวดหมตู ามหลักอาหารแลกเปลี่ยน เปนประจําทุกวัน 4. ขอใดเปนคําตอบท่ีถูกตองมากท่ีสุดสําหรับผูปวยโรคเบาหวานเกี่ยวกับการควบคุมน้ําหนักที่มีตอการควบคุม โรคเบาหวาน ( ) 1. ลดความเส่ียงตอการเกิดโรคหวั ใจและหลอดเลือด ( ) 2. ลดการเกดิ อาการแทรกซอนท่ีตา ไต เทา ( ) 3. สงเสรมิ ภาพลกั ษณใ หส ุขภาพดี แข็งแรง ( ) 4. เพ่มิ ความเชอ่ื ม่ันในตนเอง ในการควบคุมโรคเบาหวาน 5. ผูป ว ยเบาหวานและยงั ไมเคยออกกาํ ลงั กายมากอ นควรเร่ิมดว ย ( ) 1. การเดินเบาๆเหนอื่ ยกห็ ยุด ( ) 2. การเดิน 3 กโิ ลเมตรทุกวันจนรา งกายชิน ( ) 3. การเดินรอบละ 10 นาที 3 รอบ ( ) 4. การว่งิ เหยาะรอบละ 10 นาที 3 รอบ 6. อาการท่ีตอ งหยดุ ออกกาํ ลงั กายทันทมี อี ะไรบา ง ( ) 1. รูสึกหงดุ หงิด ( ) 2. เกดิ อาการหววิ ระหวางออกกําลังกาย ( ) 3. ไมม ีแรงออกกาํ ลังกายตอ ( ) 4. มีฝนตั้งเคา มาแตไ กล 7. การออกกําลังกายอยา งไรถงึ จะชว ยควบคุมนา้ํ หนักและลดเสยี่ งตอการเกิดโรคหวั ใจได ( ) 1. ออกกําลงั กายจนเหนอ่ื ยมีเหงื่อซึมอยา งนอ ยสปั ดาหละ 5 วนั ๆละ 30 นาที ( ) 2. ออกาํ ลงั กายตอ เนื่องจนเหง่อื ออกมาก ทุกวันๆละ 60 นาที ( ) 3. ออกกาํ ลงั กายดว ยการเดนิ ชาๆตอเน่ืองทุกวันๆละ 20 นาที ( ) 4. ออกกําลงั กายอยา งหนัก 10 นาทวี ันเวนวัน

8. เม่อื ทานตอ งเดินทางไปตา งจงั หวัดหลายวัน จนเลยวันนัดพบแพทย ทานควรทาํ อยา งไร ( ) 1. ขาดนดั ในครัง้ นี้และไปตรวจเม่ือกลบั ( ) 2. โทรศพั ทข อเล่อื นวันนัดกอนวันเดินทาง ( ) 3. ซ้อื ยามารบั ประทานเอง ( ) 4. ขาดยา 2-3 วนั ไมม ีผลอะไร 9. จากขอ มูลฉลากโภชนาการดานลา ง หากรับประทานอาหารชนดิ น้ีไป 1 หนวยบริโภคจะไดร ับคารโบไฮเดรต ทงั้ หมดก่ีกรัม ( ) 1. 5 กรมั ( ) 2. 14 กรมั คุณคา ทางโภชนากรตอหนึง่ หนว ยบรโิ ภค พลังงานท้ังหมด 80 กโิ ลแคลอรี (พลังงานจากไขมนั 0 กิโลแคลอรี) ( ) 3. 80 กรัม รอยละขอปริมาณที่แนะนาํ ตอวนั ( ) 4. 115 กรัม ไขมันท้ังหมด 0 ก. 0% ไขมันอิ่มตวั 0 ก. 0% โคเลสเตอรอล 5 ก. 2% โปรตีน 6 ก. คารโบไฮเดรตท้ังหมด 14 ก. 5% 0% ใยอาหาร 0 ก. นํา้ ตาล 14 ก. โซเดียม 115 มก. 5% รอยละขอปริมาณท่ีแนะนําตอวนั วติ ามินเอ 0% วิตามินบี 1 4% วิตามนิ บี 2 25 % แคลเซียม 30% เหล็ก 2% รอยละของปริมาณสารอาหารที่แนะนาํ ใหบริโภคตอ วัน สําหรบั คนไทยอายุตง้ั แต 6 ปข ึน้ ไป (Thai RDI) โดยคิดจาก ความตอ งการพลังงานวันละ 2,000 กิโลแคลอรี 10. ขอตอ ไปนีผ้ ปู ว ยเบาหวานไมควรปฏบิ ตั ิ ( ) 1. เลอื กอาหารที่มีนํา้ ตาลนอยที่สดุ ( ) 2. อาหารม้อื สดุ ทา ยในแตละวันควรหางจากเวลานอนประมาณ 3 ช่ัวโมง ( ) 3. การอดอาหารม้ือเย็น ( ) 4. เลอื กอาหารที่มโี ซเดียมตํา่

ทกั ษะการสื่อสารขอมูล กรุณาทาํ เครื่องหมาย √ ใน ( ) หนา ขอ ความทท่ี า นเลอื กตรงกบั เปนความจรงิ รายการ ความถี่ในการปฏบิ ตั ิ ทุกคร้งั บอยครัง้ บางครั้ง นานๆคร้งั ไมไดปฏิบัติ (5) (4) (3) (2) (1) 1. ทานอา นเอกสารแนะนาํ เร่อื งพฤติกรรมการดูแลตนเอง เกีย่ วกบั 3อ.2ส. แลว เขาใจดี 2. ทานฟงคาํ แนะนําเรอ่ื งพฤติกรรมการดูแลตนเองเกย่ี วกับ 3อ.2ส. แลวเขาใจดี 3. ทานตอ งขอความชว ยเหลือจากบุคคลอื่น เพ่อื ทําความ เขาใจขอ ความจากส่ือสขุ ภาพ 4. ทานบอกตอ/แนะนาํ บุคคลอื่นเรือ่ งพฤติกรรมการดูแล ตนเองเกี่ยวกับ 3อ.2ส.ใหดขี ึ้น 5. ทานสามารถโนม นา วใหผอู ื่นยอมรบั ขอมูลพฤติกรรมการ ดูแลตนเองเกยี่ วกับ 3อ.2ส.ที่ถูกตอง 6. ทานชักชวนใหผอู ื่นทําตาม/เปลยี่ นแปลพฤติกรรมการ ดูแลตนเองเก่ยี วกบั 3อ.2ส.ใหดขี ึ้น ทักษะการตดั สินใจ กรณุ าทาํ เคร่ืองหมาย √ ใน ( ) หนาขอ ความทีท่ า นเลือกตรงกบั เปนความจริง 1. เมื่อทานเปล่ียนวธิ ีออกกําลงั กายแลว เกิดอาการหนามืด ใจส่ันทา นจะทําอยางไร ( ) 1. หยุดออกกําลังกายจนอาการเปนปกติ และปรับแผนการออกกาํ ลังกายท่ีเหมาะสมครงั้ ตอไป ( ) 2. หยดุ ออกกําลังกาย และไปพบแพทย ( ) 3. หยุดออกกาํ ลงั กาย และบอกญาติ/เพื่อนถงึ อาการผิดปกตทิ ี่เกิดข้ึน ( ) 4. ออกกําลงั กายตอ ไป 2. เมื่อทานกินขา วม้ือเย็นนอยลง 1 ทัพพีเพ่ือลดนา้ํ หนักตามคาํ แนะนําของเจา หนาท่ี แลว พบวา รสู ึกหวิวและหิวมาก ตอนกลางคืน ทานจะทําอยา งไร ( ) 1. เพม่ิ ขา วอีกครึ่งทพั พใี นวันตอไป และสังเกตอาการวาเกิดขึ้นอีกหรือไม ( ) 2. ปรับยาใหลดลงดวยตนเอง ( ) 3. ดม่ื น้ําหวานทนั ทีและสังเกตอาการผิดปกติ

( ) 4. ปรบั เวลาในการกินอาหารมอื้ เย็นใหใกลกบั เวลานอนมากขึ้น 3. ทา นจะมีวิธีแนะนําเพ่อื นท่ชี อบดม่ื น้ําอัดลมใหลดการด่มื ลงเพื่อปองกนั โรคอว นไดอยา งไร ( ) 1. ชวนคยุ ถึงวิธีการผลติ นํ้าอัดลม ( ) 2. เปรยี บเทียบนํา้ อัดลมกบั เครอื่ งดืม่ อื่นๆ ( ) 3. บอกเพ่อื นวา น้าํ อัดลมทําใหเปนโรคกระเพาะและอวนได ( ) 4. เลา ใหเพอ่ื นฟงวานา้ํ อดั ลมมีนาํ้ ตาลเปนสวนผสมอยูมาก 4. .ในกรณีท่ตี อ งไปงานเลี้ยง ทา นจะทาํ อยา งไร ( ) 1. รับประทานอาหารตามปกติ ( ) 2. งดการรบั ประทานอาหารกลางวันในวันนั้น ( ) 3. ทบทวนชนิดอาหารแลกเปล่ียนเพ่อื เลือกรับประทานอาหารในงานเล้ียง ( ) 4. ไมด่ืมนา้ํ อัดลมหรือเคร่ืองด่ืมแอลกฮอลในงาน 5. หากทานมีผูแนะนาํ ใหร ักษาเบาหวานโดยแพทยท างเลอื ก ทานจะตัดสนิ ใจโดยพิจารณาจากขอใดตอไปนี้ ( ) 1. หาความรู ( ) 2. เปรยี บเทียบผลด-ี ผลเสีย ( ) 3. เลือกรักษาเบาหวานโดยแพทยท างเลอื ก เพราะ เกิดผลกระทบนอยกวาวิธีอืน่ ( ) 4. เกรงใจผูแนะนํา ทกั ษะการจัดการ กรุณาทําเคร่ืองหมาย √ ใน ( ) หนาขอ ความทท่ี า นเลือกตรงกับเปนความจรงิ รายการ ความถ่ีในการปฏิบัติ ทกุ ครง้ั บอยครั้ง บางคร้งั นานๆคร้งั ไมไ ดปฏิบตั ิ (1) (5) (4) (3) (2) 1. ผปู วยสงั เกตปริมาณและคณุ คา ทางโภชนาการของ อาหารที่กินใหพอเหมาะกับตนเองในแตล ะมอ้ื บอยครงั้ แค ไหน 2. ผปู ว ยวางเปา หมายของการออกกําลังกายและทาํ ใหไ ด ตามเปาหมายท่ีวางไวไ ดบ อยครัง้ แคไ หน 3. เมอื่ ผปู วยพบวา ตนเองเครียด ผูปว ยมีวธิ ีการจัดการเพ่ือ ลดความเครยี ดนั้นลงไดดวยวิธที ด่ี ีตอ สุขภาพบอ ยคร้ังแค ไหน 4. ผูป วยทบทวนวธิ ีการปฏิบัติตนตามที่ไดต ั้งใจไวเพื่อการ ปองกันโรคอว นและการมสี ุขภาพที่ดบี อ ยคร้ังแคไหน 5. ผปู วยปรบั ปรงุ สภาพแวดลอ มรอบตวั เองเพอ่ื ใหมีการ ควบคุมน้าํ หนักและดูแลสขุ ภาพใหส าํ เรจ็ ไดมากขึน้ บอ ยครั้ง แคไหน

ทกั ษะการรูเ ทา ทนั สือ่ กรณุ าทําเครอ่ื งหมาย √ ใน ( ) หนา ขอ ความที่ทานเลือกตรงกับเปนความจริง รายการ ความถ่ีในการปฏิบตั ิ ทุกคร้ัง บอ ยคร้งั บางครง้ั นานๆครั้ง ไมไ ดป ฏบิ ตั ิ (1) (5) (4) (3) (2) 1. ทา นเช่ือโฆษณาเก่ียวกับผลิตภัณฑส ขุ ภาพ ตัวอยาง เชน อาหารเสริม เคร่อื งด่ืมบาํ รงุ สมองทีส่ ือ่ นําเสนอ 2. เมื่อเห็นโฆษณาสินคาในที่สาธารณะหรือจากเว็บไซตและ เกิดความสนใจในสินคาน้ัน ทานตั้งใจไปหาขอมูลเพิ่มเติม จากแหลง อน่ื เพอื่ ประเมินความนาเช่ือถือกอนตดั สินใจซ้อื 3. ทานใชเหตุผลในการวิเคราะหขอดีขอเสียเพื่อเลือกรับ ขอมูลสุขภาพ เพื่อปองกันโรคอวนจากส่ือนั้นกอนท่ีจะ ปฏิบัติตาม 4. ทกุ ครง้ั ท่ีทานเขา รว มกิจกรรมเก่ียวกับสุขภาพผปู วยมีการ วิเคราะห ประเมินเนือ้ หาน้ันโดยไมเ ช่ือถือทันที 5. ทา นไดแลกเปล่ียนพูดคุย วิพากษ วิจารณแนวทางการ ปองกันโรคอว นกับผอู ่ืน โดยทผี่ ปู วยมีการวิเคราะห เปรียบเทยี บขอ มูลที่ไดรบั กอ นตัดสนิ ใจเช่ือและปฏิบตั ิตาม

สว นที่ 3 พฤตกิ รรมการดูแลตนเองเกี่ยวกบั 3อ.2ส. กรณุ าทําเครอ่ื งหมาย √ ใน ( ) หนา ขอความท่ีทานเลอื กตรงกับเปนความจริง รายการ ความถ่ใี นการปฏบิ ตั ิ ทกุ คร้งั บอ ยครงั้ บางครง้ั นานๆคร้ัง ไมไ ดป ฏบิ ตั ิ (1) (5) (4) (3) (2) 1. กินอาหารท่ีมีไขมันสูง เชน อาหารทอดหรือมีสวนผสม ของกะทิ 2. รับประทานขนมหวาน เชน ทองหยิบ นมขนหวาน นํ้า ผลไม 3. รบั ปะทานผักใบเขยี ว เชน ผักคะนา ผกั กาด 4. รับประทาน เสนหมี่ มะกะโรนี วนุ เสน บะหม่ี 5. นา้ํ มันที่ใชในการประกอบอาหาร เชน นํา้ มันถัว่ เหลอื ง นาํ้ มันราํ ขาว น้ํามันมะกอก 6. ผหู ญงิ ด่ืมเบียร 360 มิลลลิ ติ รตอ วัน ผชู ายด่มื เบียร 720 มิลลลิ ิตรตอวัน 7. รบั ประทานไสกรอก กุนเชียง หมูยอ 8. ออกกาํ ลังกาย เชน เดินเรว็ 15-30 นาที 3-5วันตอ สปั ดาห 9. น้าํ ตาลในเลอื ดขนาดอดอาหาร 70- 130 mg% 10. ความดันโลหิตอยูในชวง 130/80 mmHg 11. รับประทานยาตามแพทยสง่ั 12. ดมื่ น้าํ วันละ 8-10 แกวตอวัน 13. รบั ประทานอาหารครบ 5 หมใู น 3 มื้อตอ วัน 14. รับประทานมะมว ง ขนุน ละมุด 15. รับประทานผกั วันละ 4-6ทพั พตี อ วัน 16. รับประทานผลไม 3-5 สว นตอ วนั 17. รบั ประทานเนอ้ื สัตววันละ 6-12 ชอ นตอวัน 18. รบั ประทานขา วไมเ กิน 2 ทพั พตี อ มื้อ 19. ออกกาํ ลังกายแบบแอโรบิก 3 ข้ันตอน 3-5วนั ตอ สปั ดาห

20. รับประทานโซเดียม เชน เกลือ น้ําปลา ผงชรู ส ปลารา ไมเกิน 2,000 มลิ ลิกรัม สว นท่ี 4 แบบประเมนิ ความคิดเหน็ ของผูปวยเบาหวานอวนลงพุงในการทดลองใชแผนกิจกรรม กรุณาทําเครอ่ื งหมาย √ ใน ( ) หนา ขอความทที่ านเลือกตรงกบั เปน ความจรงิ ขอความ มากท่สี ดุ มาก ปานกลาง นอ ย นอ ยทีส่ ดุ (5) (4) (3) (2) (1) ส่ือและแหลงการเรียนรู 1. สอ่ื ตางๆท่ีใชจ ดั กิจกรรมชว ยใหฉนั อยากเรยี นรู 2. แหลง กิจกรรมการเรียนรูเหมาะสม การจดั กจิ กรรมตามแผนกจิ กรรม 1. กจิ กรรมที่จัดเหมาะสมกบั ความรู ความสามารถของฉัน 2. กิจกรรมมคี วามหลากหลายนาสนใจ 3. กิจกรรมที่จัดชวยทําใหฉันมีความรอบรูสุขภาพเก่ียวกับ โรคอว นเพ่ิมมากขนึ้ 4. กจิ กรรมทีจ่ ัดทําใหฉ ันเรยี นรูสงิ่ ใหมๆ 5. กิจกรรมชวยทําใหฉันมีความม่ันใจ ในการปองกัน ภาวะแทรกซอน การเปล่ยี นแปลงท่ีเกิดจากการทดลองใชแ ผนกจิ กรรม 1. ฉันรูสึกวา ฉันมีความรู ความเขาใจเก่ียวกับโรคอวนมาก ขึ้น 2. ฉันรสู กึ วา ชุมชน มีสวนชว ย ใหฉ ันปองกันโรคแทรกซอ นใน ผูป ว ยเบาหวานอวนลงพุง 3. ฉนั สามารถนําความรูไ ปประยุกตใชในชวี ิตประจําวนั ได

เครอ่ื งมอื ท่ใี ชในการรวบรวมขอมูลระยะที่ 3 แนวคาํ ถามเชงิ ลึกสาํ หรบั กลุมผูพฒั นารปู แบบฯ 1. ทานคิดวาการพัฒนารูปแบบการเสริมสรางความรอบรูดานสุขภาพเพ่ือปองกันโรคแทรกซอนในผปู วยเบาหวาน อวนลงพงุ โดยการมสี ว นรว มของชุมชน อําเภอบานไร จงั หวดั อุทัยธานี ตามแนวทางทไี่ ดปรบั ปรุงมาเปนอยางไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ทานมีความพึงพอใจในการพัฒนารูปแบบการเสริมสรางความรอบรดู านสุขภาพเพื่อปองกันโรคแทรกซอนใน ผปู ว ยเบาหวานอว นลงพงุ โดยการมีสวนรว มของชุมชน อําเภอบานไร จงั หวดั อทุ ยั ธานี อยางไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………



ภาคผนวก ก :ในการวจิ ยั

175 Error! Bookmark not defined. Error! Bookmark not defined. Error! Bookmark not defined.

ภาคผนวก ข : หนังสือขอความอนุเคราะหเปนผเู ชีย่ วชาญตรวจในการวจิ ยั



ภาคผนวก ค :





181

ภาคผนวก ง : รายชื่อผูเช่ียวชาญตรวจในการวจิ ัย



184 รายช่ือผูเช่ียวชาญตรวจError! Bookmark not defined.ในการวิจัย 1. [พมิ พช่ือผูเชีย่ วชาญที่นี่] [พิมพชอ่ื คุณวุฒิการศึกษาสูงสุดท่ีน่ี] 2. [พิมพช่อื ผเู ชี่ยวชาญทน่ี ี่] ([พิมพช ื่อสาขาวิชาที่นี่]) 3. [พมิ พช่อื ผูเ ช่ียวชาญทนี่ ่ี] 4. [พมิ พชอ่ื ผเู ชี่ยวชาญที่น่ี] [พิมพชื่อสถานศึกษาทีส่ าํ เรจ็ การศกึ ษาชนั้ สูงสดุ ทนี่ ่ี] 5. [พิมพชื่อผเู ชยี่ วชาญทน่ี ี่] [พมิ พชื่อตําแหนงทน่ี ี่] [พิมพชอ่ื ที่ทาํ งานทนี่ ่ี] [พิมพชื่อคุณวฒุ ิการศึกษาสูงสุดท่นี ่ี] ([พิมพช อ่ื สาขาวชิ าท่ีนี่]) [พมิ พชอื่ สถานศึกษาทส่ี ําเรจ็ การศกึ ษาช้นั สูงสดุ ทน่ี ี่] [พมิ พชื่อตาํ แหนงทน่ี ่ี] [พมิ พชอ่ื ที่ทํางานทน่ี ี่] [พมิ พชอ่ื คุณวุฒกิ ารศึกษาสงู สุดทน่ี ี่] ([พิมพช อ่ื สาขาวชิ าทน่ี ี่]) [พิมพชอ่ื สถานศกึ ษาทีส่ าํ เร็จการศกึ ษาช้ันสงู สดุ ท่นี ่ี] [พมิ พชอ่ื ตาํ แหนงทีน่ ่ี] [พมิ พช่อื ท่ีทาํ งานที่น่ี] [พมิ พชื่อคุณวฒุ ิการศึกษาสงู สุดท่ีนี่] ([พมิ พช อ่ื สาขาวชิ าทีน่ ่ี]) [พมิ พชือ่ สถานศกึ ษาท่สี ําเร็จการศกึ ษาชน้ั สูงสุดท่ีนี่] [พมิ พชือ่ ตําแหนงทนี่ ่ี] [พิมพช่อื ท่ีทาํ งานท่ีน่ี] [พิมพชอ่ื คุณวฒุ ิการศึกษาสูงสุดที่น่ี] ([พมิ พช ่ือสาขาวิชาทน่ี ่ี]) [พิมพชอ่ื สถานศกึ ษาที่สาํ เร็จการศกึ ษาชน้ั สูงสุดทน่ี ี่] [พิมพช่ือตําแหนงที่น่ี] [พิมพชื่อที่ทาํ งานที่น่ี]

ภาคผนวก จ : หนังสอื ขออนญุ าตเก็บรวบรวมขอมลู

186

187 ประวัติผูวจิ ัย ชอ่ื นามสกุล นางอัจฉรพรรณ คายาดี วนั เดือนปเ กิด วนั ท1ี่ 8 เดือนมีนาคม พุทธศักราช 2517 ทอี่ ยปู จจุบัน 8 หมู 10 ตาํ บลหนองจอก อาํ เภอบานไร จังหวัดอุทยั ธานี 61180 056-539000 ตอ 122 ตาํ แหนงหนา ท่ีการงานปจจุบัน พยาบาลวิชาชีพชํานาญการ จาํ นวนปป ระสบการณก ารทาํ งาน 25 ป ท่ีอยูที่ทํางาน โรงพยาบาลบานไร 307 หมู 1 ตําบลบานไร อําเภอบา นไร จังหวัดอุทัยธานี 61140 ประวตั กิ ารศกึ ษา พยาบาลศาสตรบณั ฑติ วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนชี ยั นาท 2543 พยาบาลศาสตรมหาบณั ฑิต มหาวทิ ยาลยั ครสิ เตยี น 2550


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook