Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 20001-1006 กฎหมายคอมพิวเตอร์

20001-1006 กฎหมายคอมพิวเตอร์

Description: 20001-1006 กฎหมายคอมพิวเตอร์

Search

Read the Text Version

141 บันทึกหลังการสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................... .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปญั หาท่ีพบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. แผนการจัดการเรยี นรแู้ บบบูรณาการที่ 16 หน่วยท่ี 8 สอนคร้งั ท่ี 16 (31-32) รหัส 2204-2112กฎหมายคอมพิวเตอร์ (2-0-2) ชอื่ หน่วย/เรอื่ ง กฎหมายสิทธบิ ตั ร จานวน 2 ช.ม.

142 สาระสาคัญ การประดษิ ฐค์ ิดงานข้นึ มาใหม่ ถอื เป็นงานสร้างสรรคข์ องบคุ คลน้นั ซง่ึ สามารถนาไปสรา้ งประโยชน์ใหก้ บั ตนเอง รวมถึงการสรา้ งรายไดด้ ว้ ย งานเหล่าน้ีจึงควรเป็นสิทธิของผู้สร้างสรรคเ์ พ่อื การนาไปใช้ตามทตี่ ้องการ ไม่ควรใหผ้ ้อู ่ืน นาไปหาผลประโยชน์ หรือกระทาการใหผ้ สู้ ร้างสรรค์งานขาดรายได้ จึงได้มีการบญั ญตั ิกฎหมายสิทธิบัตร เพอื่ ใหค้ วาม คุ้มครองสิง่ ประดิษฐใ์ หมๆ่ และรักษาผลประโยชนแ์ ก่นักประดิษฐ์ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 4. แสดงความร้เู กยี่ วกับผู้ทรงสทิ ธบิ ตั รได้ 5. แสดงความรู้เกย่ี วกับสิทธิบตั รการออกแบบผลติ ภณั ฑไ์ ด้ 6. มีการพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงคข์ องผสู้ าเร็จการศกึ ษา สานักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ท่คี รูสามารถสังเกตไดข้ ณะทาการสอนในเรือ่ ง 6.1 ความมีมนษุ ยสมั พันธ์ 6.2 ความมีวินัย 6.3 ความรับผดิ ชอบ 6.4 ความซ่ือสัตยส์ จุ ริต 6.5 ความเชือ่ ม่นั ในตนเอง 6.6 การประหยัด 6.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 6.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 6.9 ความรักสามัคคี 6.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกยี่ วกบั กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 2. แสดงความรู้เกย่ี วกบั หลักกฎหมายลขิ สิทธิ์และสทิ ธบิ ตั ร เนอื้ หาสาระ 4. ผู้ทรงสิทธิบตั ร 5. สิทธบิ ตั รการออกแบบผลิตภณั ฑ์ กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันนาเขา้ ส่บู ทเรียน 1.ครใู ช้เทคนคิ การสอนแบบซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรู้เดมิ จากสปั ดาห์ท่ผี ่านมา โดยดึงความรู้เดิมของผเู้ รยี นในเรอื่ งท่ีจะเรยี น เพื่อชว่ ยใหผ้ เู้ รียนมคี วามพรอ้ มในการเช่อื มโยงความรู้ใหมก่ ับความรเู้ ดมิ ของตน ผสู้ อนใชก้ ารสนทนาซักถามให้ผู้เรยี นเล่าประสบการณเ์ ดมิ 2.ครูยกตวั อย่างสิง่ ประดิษฐท์ ่ไี ด้สทิ ธบิ ตั ร เช่น เตาหงุ ตม้ ประสิทธภิ าพสงู เครื่องไสเ้ นอ้ื บว๊ ย โตะ๊ ทางานพร้อมท่ี นั่งแบบเคลือ่ นทไี่ ด้ เป็นต้น

143 3.ผู้เรียนยกตวั อยา่ งข่าวเก่ียวกับสทิ ธิบัตร อาจเปน็ ข่าวเกีย่ วกับการขอรับสิทธบิ ัตรหรอื การละเมดิ กฎหมาย สทิ ธบิ ัตร ขัน้ สอน 4.ครูใช้สอื่ Power Point ประกอบการอธิบายเร่ืองผทู้ รงสทิ ธิบตั ร ดงั นี้ ผ้ทู รงสิทธิบัตร หมายถงึ เจ้าของสทิ ธบิ ัตร หรอื ผู้ทีไ่ ดร้ ับจดช่ือลงในทะเบียนสทิ ธบิ ตั รไดแ้ กบ่ คุ คลเหลา่ น้ี 1). ผปู้ ระดษิ ฐ์ 2). ผู้รบั โอนสทิ ธิบัตร 3). นายจ้างของผู้ประดิษฐ์ 4). ส่วนราชการสาหรบั ราชการ สทิ ธขิ องผทู้ รงสิทธิบัตร ผ้ทู รงสทิ ธบิ ตั รมสี ิทธิดงั น้ี 1). กรณสี ทิ ธิบตั รผลติ ภณั ฑ์ ผทู้ รงสทิ ธิบตั รมสี ทิ ธใิ นการผลติ ใช้ ขาย มีไว้เพ่ือขาย เสนอขายหรือนาเขา้ มา ในราชอาณาจกั ร ซ่งึ ผลติ ภณั ฑ์ตามสทิ ธิบัตร 2). กรณสี ทิ ธิบัตรกรรมวิธี ผทู้ รงสทิ ธิบตั รมสี ิทธิในการใช้กรรมวิธีตามสทิ ธิบัตร ใช้ ขาย มีไว้เพือ่ ขาย เสนอ ขาย หรอื นาเข้ามาในราชอาณาจกั รซ่ึงผลติ ภณั ฑ์ทผ่ี ลิตโดยใช้กรรมวธิ ตี ามสทิ ธิบัตร 3). ผทู้ รงสทิ ธิบตั รมสี ทิ ธิใชค้ าวา่ “สิทธิบัตรไทย” หรอื “สบท.” หรอื ตวั อกั ษรต่างประเทศท่มี ีความหมาย เดยี วกนั ให้ปรากฏทผ่ี ลิตภณั ฑห์ รอื ในการโฆษณา 4). ผ้ทู รงสทิ ธบิ ตั รมสี ิทธิอนุญาตใหบ้ ุคคลอืน่ ใชส้ ิทธิของตนตามสิทธบิ ัตร หรือโอนสิทธบิ ตั รของตนใหผ้ อู้ ืน่ 5.ครูใช้เทคนิควิธกี ารจัดการเรยี นรู้แบบอภิปราย (Discussion Method) อภปิ รายเรื่องข้อยกเว้นสทิ ธขิ องผทู้ รงสทิ ธบิ ัตร ซึ่งผทู้ รงสิทธิบตั รไมม่ ีสทิ ธิตามสิทธิบตั รในกรณีดังนี้ 1). การกระทาใดๆ เพ่ือประโยชนใ์ นการศึกษา ค้นคว้า วิจยั หรือทดลอง ทงั้ นไ้ี ม่ขัดตอ่ ประโยชน์ของผทู้ รง สทิ ธิบตั ร 2). การผลิตหรอื การใช้ผลติ ภณั ฑโ์ ดยสจุ รติ ก่อนวันยน่ื ขอสิทธิบัตร 3). การเตรยี มยาเฉพาะรายตามใบสง่ั แพทย์ โดยผ้ปู ระกอบวิชาชพี เวชกรรม 4). การกระทาการใดๆ เกยี่ วกบั การขอขนึ้ ทะเบยี นยา โดยผขู้ อมวี ตั ถปุ ระสงคท์ ่จี ะผลิตจาหนา่ ยหรือนาเข้า ซ่งึ ผลิตภัณฑ์ยา เม่ือสทิ ธบิ ัตรส้ินอายุลง 5). การใช้ การขาย มไี วข้ าย เสนอขาย หรือนาเข้าผลิตภณั ฑต์ ามสทิ ธิบตั ร หากผูท้ รงสิทธิบตั รอนญุ าต หรอื ยนิ ยอมใหผ้ ลติ หรอื ขายผลติ ภณั ฑด์ ังกลา่ ว การชาระคา่ ธรรมเนยี มรายปี ผูท้ รงสิทธิบตั รตอ้ งชาระค่าธรรมเนียมรายปี เรมิ่ ตัง้ แตป่ ีท่ี 5 ของอายุสิทธิบตั ร หากไมช่ าระภายในระยะเวลาท่ีกาหนด จะตอ้ งเสยี คา่ ธรรมเนยี มเพิ่ม หรือถกู เพิกถอนสทิ ธิบตั การเพกิ ถอนสทิ ธบิ ตั ร สทิ ธบิ ัตรถูกเพิกถอนได้ กรณีดงั นี้ 1). สิทธิบัตรไดอ้ อกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และกรณีท่มี ผี ู้ฟอ้ งให้ถอน เช่น สิ่งประดิษฐ์น้นั กฎหมายไม่ คมุ้ ครอง สิง่ น้ันไม่ใชส่ ่ิงประดิษฐใ์ หม่ ผูข้ อสิทธิบตั รมคี ณุ สมบัตไิ ม่เหมาะสม เปน็ ต้น 2). อธบิ ดกี รมทรัพย์สินทางปัญญา อาจขอใหค้ ณะกรรมการสทิ ธิบัตร สง่ั เพกิ ถอนสิทธิบตั รไดใ้ นกรณดี งั น้ี 2.1 ผ้ทู รงสิทธิบตั รซงึ่ ขอใช้สทิ ธบิ ัตร กรณีข้อถือสทิ ธบิ ัตรของตนอาจละเมดิ สทิ ธิบัตรของผู้อน่ื ไม่ใช้ สทิ ธิภายในเวลา 2 ปี นับแตไ่ ดร้ บั อนญุ าต 2.2 ผูท้ รงสทิ ธิบตั รได้อนุญาตให้บคุ คลอ่ืนใชส้ ิทธบิ ตั รของตนโดยผิดกฎหมาย

144 6. .ครูใช้เทคนิควธิ สี อนแบบบรรยาย (Lecture Method) บอกความหมายและยกตวั อย่างของแบบผลิตภณั ฑ์ ดังนี้ แบบผลติ ภณั ฑ์ หมายถงึ รูปร่างของผลิตภณั ฑภ์ ายนอกหรอื องค์ประกอบของลวดลายหรือ สขี องผลติ ภณั ฑ์อนั มีลักษณะพเิ ศษสาาหรับผลติ ภณั ฑ์ซงึ่ สามารถใช้เปน็ แบบสาาหรบั อตุ สาหกรรมรวมทง้ั หตั ถกรรมได้ ตวั อยา่ งของแบบผลิตภณั ฑใ์ หม่ เชน่ การออกแบบรปู ทรง เครอื่ งใชต้ า่ งๆ การออกแบบสี และลวดลายบน เครอ่ื งใช้ เป็นต้น 7. .ครใู ช้ส่ือ Power Point ประกอบการอธบิ ายเรอื่ งสทิ ธิบตั รการออกแบบผลติ ภัณฑ์ การออกแบบผลติ ภณั ฑท์ ่จี ะขอรบั สิทธิบตั รได้จะตอ้ งเป็นผลติ ภัณฑใ์ หม่ และเปน็ การออกแบบผลติ ภัณฑเ์ พ่ือ อตุ สาหกรรมและหตั ถกรรมเทา่ นนั้ การออกแบบผลติ ภัณฑท์ ่ไี มถ่ ือวา่ เปน็ การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ใหม่ มดี ังน้ี 1). แบบผลติ ภณั ฑ์ที่มหี รอื ใช้กนั อย่างแพรห่ ลายอยแู่ ลว้ ในราชอาณาจักร ก่อนวันขอรบั สิทธิบตั ร 2). แบบผลติ ภณั ฑท์ ไ่ี ด้มีการเปดิ เผยภาพสาระสาคญั หรอื รายละเอยี ดในเอกสารหรอื สิ่งพิมพ์ไดเ้ ผยแพร่ อยู่แลว้ ไม่ว่าในหรอื นอกราชอาณาจกั รกอ่ นวนั ขอรบั สทิ ธิบตั ร 3). แบบผลิตภณั ฑ์ทีค่ ลา้ ยกบั ผลติ ภัณฑท์ ่ีมีอยู่แลว้ ใชก้ นั อยา่ งแพร่หลาย หรือได้มกี ารเปดิ สาระสาคัญแล้ว (ตาม ข้อ 1. และขอ้ 2.) จนเหน็ ได้วา่ เป็นการเลยี นแบบ 4). ผลติ ภณั ฑ์ทเ่ี คยประกาศโฆษณามาแลว้ ก่อนวนั ขอรบั สทิ ธิบัตร การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ที่ขอรบั สทิ ธิบัตรไม่ได้ มดี งั น้ี 1). ผลติ ภณั ฑ์ทีข่ ัดตอ่ ความสงบเรยี บร้อยของประชาชน เชน่ เครอื่ งมือการโจรกรรมบา้ น เคร่ืองสูบยาบา้ เปน็ ตน้ 2). ผลติ ภณั ฑท์ กี่ าหนดในราชกฤษฎกี า คาขอรับสิทธบิ ัตรการออกแบบผลิตภณั ฑ์ รายการในคาขอรบั สทิ ธบิ ตั ร มดี ังนี้ 1). ภาพแสดงผลติ ภณั ฑ์ 2). ขอ้ ความระบผุ ลิตภณั ฑ์ทจี่ ะใช้กับแบบผลติ ภณั ฑ์ทีข่ อรบั สทิ ธบิ ัตร 3). ข้อถือสทิ ธิโดยแจง้ ชัด กลา่ วคอื มีการระบุถงึ ลักษณะ ขอบเขตของการออกแบบผลิตภณั ฑท์ ต่ี ้องการ คมุ้ ครอง และการออกแบบแบง่ เปน็ การออกแบบรปู ร่าง ลักษณะ หรอื ออกแบบรูปทรงของผลติ ภณั ฑ์ 4). รายการอื่นตามท่กี ระทรวงกาหนด 8. ครใู ชส้ ่ือวิดีทัศน์อธิบายเกี่ยวกบั แบบผลติ ภณั ฑ์ทม่ี สี ทิ ธบิ ัตร พร้อมให้ผู้เรยี นสรปุ ใจความสาคญั 9. ผเู้ รียนแสดงความคดิ เห็นวา่ แบบผลติ ภณั ฑ์จาเปน็ ตอ้ งมสี ทิ ธบิ ัตรคมุ้ ครองหรือไมอ่ ย่างไร 10.ครแู นะนาใหผ้ เู้ รียนวางแผนการอ่านหนังสอื เตรียมสอบปลายภาค ขนั้ สรุปและการประเมินผล 11.ครแู ละผเู้ รียนสรปุ เน้อื หาที่เรยี น 12.สรปุ เน้ือหาในหนว่ ยการเรียนอีกครัง้ โดยวธิ ถี าม–ตอบและซักถามขอ้ สงสัย สอื่ และแหล่งการเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรยี น วิชากฎหมายคอมพวิ เตอร์ ของสานักพมิ พ์เอมพนั ธ์ 2.รูปภาพ 3.กิจกรรมการเรยี นการสอน

145 4.แผ่นใส 5.สื่อ PowerPoint และสือ่ วิดีทศั น์ หลักฐาน 1.บนั ทึกการสอน 2.ใบเช็ครายชอ่ื 3.แผนจัดการเรียนรู้ 4.การตรวจประเมินผลงาน การวดั ผลและการประเมินผล วธิ วี ดั ผล 1. สังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 3. สงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 4 ตรวจกจิ กรรมสง่ เสริมคณุ ธรรมนาความรู้ 5. ตรวจใบงาน 6. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และแบบฝึกปฏิบตั ิ 7. การสงั เกตและประเมินพฤติกรรมด้านคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครือ่ งมอื วดั ผล 1. แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. แบบประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยคร)ู 3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมินกจิ กรรมส่งเสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 5. แบบประเมินกิจกรรมใบงาน 6. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ 7. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกัน ประเมิน เกณฑ์การประเมินผล 1. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล ต้องไมม่ ีช่องปรับปรงุ 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50 % ขนึ้ ไป) 3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. ตอบคาถามในกจิ กรรมสง่ เสริมคณุ ธรรมนาความรู้จึงจะถอื ว่าผ่าน เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดับ คอื 4= ดีมาก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรุง 5. กิจกรรมใบงาน เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 6. แบบประเมินผลการเรียน และแบบฝกึ ปฏบิ ัตริ มู้ เี กณฑผ์ า่ น 50% 7 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึน้ อย่กู ับการ ประเมนิ ตามสภาพจริง

146 กิจกรรมเสนอแนะ 1.อา่ นและทบทวนเนอื้ หา

147 บันทึกหลังการสอน ข้อสรุปหลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปญั หาทพี่ บ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปญั หา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แผนการจัดการเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 17 หน่วยท่ี 8 สอนครงั้ ที่ 17 (33-34) รหสั 2204-2112กฎหมายคอมพิวเตอร์ (2-0-2) ชอื่ หน่วย/เรื่อง กฎหมายสิทธบิ ตั ร จานวน 2 ช.ม.

148 สาระสาคัญ การประดษิ ฐ์คิดงานข้นึ มาใหม่ ถอื เป็นงานสรา้ งสรรคข์ องบุคคลนั้น ซ่งึ สามารถนาไปสร้างประโยชน์ใหก้ บั ตนเอง รวมถงึ การสรา้ งรายไดด้ ้วย งานเหล่านี้จึงควรเป็นสิทธิของผู้สร้างสรรคเ์ พื่อการนาไปใชต้ ามทต่ี ้องการ ไม่ควรใหผ้ อู้ ืน่ นาไปหาผลประโยชน์ หรือกระทาการให้ผสู้ ร้างสรรค์งานขาดรายได้ จงึ ไดม้ กี ารบญั ญตั ิกฎหมายสทิ ธบิ ัตร เพอื่ ใหค้ วาม คมุ้ ครองสิ่งประดิษฐ์ใหมๆ่ และรกั ษาผลประโยชน์แกน่ กั ประดิษฐ์ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 6. แสดงความรเู้ กย่ี วกับอนสุ ทิ ธบิ ตั รการประดษิ ฐ์ได้ 7. แสดงความรู้เกย่ี วกับบทกาหนดโทษได้ 8. การพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผู้สาเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน คณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ที่ครูสามารถสังเกตไดข้ ณะทาการสอนในเรื่อง 8.1 ความมมี นุษยสมั พันธ์ 8.2 ความมวี นิ ยั 8.3 ความรบั ผดิ ชอบ 8.4 ความซื่อสัตย์สุจรติ 8.5 ความเชื่อม่ันในตนเอง 8.6 การประหยัด 8.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 8.8 การละเวน้ สง่ิ เสพติดและการพนนั 8.9 ความรกั สามคั คี 8.10 ความกตัญญูกตเวที สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรูเ้ กยี่ วกบั กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 2. แสดงความรู้เกยี่ วกับหลกั กฎหมายลขิ สทิ ธ์แิ ละสทิ ธิบตั ร เนื้อหาสาระ 6. อนุสทิ ธบิ ตั รการประดิษฐ์ 7. บทกาหนดโทษ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน 1.ครใู ช้เทคนิคการสอนแบบซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรูเ้ ดิมจากสัปดาห์ท่ผี ่านมา โดยดงึ ความรู้เดิมของผเู้ รยี นในเรอื่ งท่ีจะเรยี น เพอ่ื ชว่ ยใหผ้ เู้ รียนมคี วามพร้อมในการเช่อื มโยงความร้ใู หม่กับความรเู้ ดมิ ของตน ผู้สอนใชก้ ารสนทนาซักถามให้ผู้เรียนเล่าประสบการณเ์ ดมิ 2.ครูแสดงขา่ วเกีย่ วกบั บทกาหนดโทษสาหรบั ผู้ทล่ี ะเมดิ กฎหมายสิทธบิ ัตร และใหผ้ ้เู รียนเขยี นสรปุ ขา่ วนน้ั ๆ ขนั้ สอน

149 3.ครูใชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบบรรยาย (Lecture Method) อธบิ ายเรอ่ื งอนุสทิ ธบิ ัตร ซ่งึ เปน็ หนังสอื สาคญั ทอ่ี อกให้ เพ่อื ค้มุ ครองการประดิษฐท์ ีป่ ระดษิ ฐข์ นึ้ มาใหม่ ทส่ี ามารถประยุกตท์ างอตุ สาหกรรมได้ มอี ายุ 6 ปี กฎหมายกาหนดการขอรับอนสุ ทิ ธบิ ัตร ดังน้ี 1). บคุ คลใดจะขอรบั อนสุ ิทธบิ ัตรและสทิ ธิบตั รสาหรับการประดิษฐอ์ ย่างเดยี วกนั ไม่ได้ 2). ผู้ขอรบั อนสุ ทิ ธบิ ตั รมสี ทิ ธิขอเปล่ียนแปลง ประเภทของสทิ ธิทีจ่ ะขอรบั จากอนสุ ิทธิบตั รเป็นสทิ ธิบตั ร หรือจากสทิ ธิบตั รเปน็ อนสุ ิทธบิ ตั รได้ก่อนการจดทะเบยี นการประดษิ ฐ์และออกอนสุ ทิ ธิบัตร 3). ภายใน 1 ปี นบั จากวนั โฆษณาการจดทะเบยี นการประดษิ ฐ์ และออกอนุสิทธบิ ัตร บุคคลผมู้ สี ่วนได้ สว่ นเสยี อาจขอใหต้ รวจสอบว่าการประดิษฐ์ทีไ่ ดร้ บั อนุสิทธิบตั รมลี ักษณะตามที่ไดร้ บั อนญุ าตหรือไม่ อายขุ องอนุสทิ ธิบตั ร อนสุ ิทธิบตั รมีอายุ 6 ปี นับแต่วนั ขอรบั อนุสทิ ธิบัตรในราชอาณาจักร ในกรณที ่มี กี าร ดาเนินคดที างศาล มิให้นับระยะเวลาในการดาเนินคดดี ังกล่าวเป็นอายขุ องอนุสิทธบิ ัตร ผทู้ รงอนุสทิ ธิบตั รสามารถขอต่อ อนุสทิ ธบิ ตั รได้ 2 คราว มีกาหนดคราวละ 2 ปี โดยย่ืนตอ่ เจ้าหนา้ ทภ่ี ายใน 90 วนั กอ่ นวันส้นิ อายุ เมอื่ ได้ยื่นคาขอตอ่ อายแุ ลว้ ถือวา่ อนสุ ิทธิบตั รนนั้ ยังคงจดทะเบยี นอยจู่ นกว่าเจา้ หนา้ ทจี่ ะมคี าส่งั เปน็ อยา่ งอน่ื 4.ครใู ช้ส่ือ Power Point ประกอบการอธิบายเรือ่ งบทกาหนดโทษผู้ทีล่ ะเมดิ กฎหมายสิทธบิ ตั ร ซึ่งมีดงั น้ี 1). เจ้าพนักงานผู้ใดเปดิ เผยรายละเอยี ดของการประดิษฐ์ หรือเปิดเผยรายละเอียดของการประดิษฐ์ท่ี อธิบดีส่ังใหป้ กปดิ สาระสาคญั เพราะเก่ียวข้องกับความม่ันคงแห่งชาติ ระวางโทษจาคุกไมเ่ กนิ 2 ปี หรอื ปรบั ไมเ่ กิน 200,000 บาท หรอื ทง้ั จาท้งั ปรบั 2). ผใู้ ดซึง่ ร้อู ยวู่ า่ การประดิษฐน์ นั้ ได้มผี ูย้ น่ื ขอรบั สิทธิบตั รไวแ้ ลว้ เปดิ เผยรายละเอียดการประดษิ ฐไ์ ม่วา่ ดว้ ยวิธีใดๆ ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกิน 6 เดือน หรือปรบั ไมเ่ กนิ 20,000 บาท หรอื ท้ังจาท้งั ปรบั 3). ผูใ้ ดใช้คาว่า “สทิ ธบิ ตั รไทย” หรือ “อนสุ ิทธบิ ตั รไทย” โดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าต ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่ เกิน 1 ปี หรือปรบั ไมเ่ กิน 200,000 บาท หรอื ท้ังจาท้งั ปรบั 4). ผู้ใดละเมดิ สิทธบิ ัตรของผู้อน่ื ต้องระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กนิ 2 ปี หรอื ปรับไมเ่ กิน 400,000 บาทหรือ ทั้งจาท้งั ปรับ 5). ผูใ้ ดยื่นขอสทิ ธบิ ตั รโดยแสดงขอ้ ความอนั เป็นเท็จ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไมเ่ กิน 6 เดอื น หรือปรบั ไมเ่ กนิ 5,000 บาท หรือทง้ั จาทง้ั ปรบั 5.ผเู้ รยี นสบื ค้นข่าวเกีย่ วกับบทลงโทษของการละเมดิ กฎหมายการละเมดิ สิทิบัตร อยา่ งน้อย 3 ข่าว 6.ผู้เรยี นอธิบายวา่ กฎหมายสิทธิบตั ร “ลิขสทิ ธิแ์ ละสทิ ธิบัตร” มีความแตกตา่ งกันอย่างไรบ้าง 7.ผเู้ รียนแสดงความเหน็ วา่ สทิ ธิบตั ร จดั เปน็ ทรัพย์สินทางปญั ญาหรอื ไม่ ขน้ั สรุปและการประยกุ ต์ 8.ครูและผู้เรียนสรุปเน้ือเรื่องที่เรียน 9.ผู้เรียนทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรียน วิชากฎหมายคอมพิวเตอร์ ของสานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์ 2.กจิ กรรมการเรยี นการสอน 3.แผน่ ใส 4.สื่อ PowerPoint 5.แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้

150 หลกั ฐาน 1.บนั ทึกการสอน 2.ใบเชค็ รายช่ือ 3.แผนจัดการเรียนรู้ 4.การตรวจประเมนิ ผลงาน การวดั ผลและการประเมินผล วธิ วี ัดผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ 3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ 4 ตรวจกิจกรรมสง่ เสริมคณุ ธรรมนาความรู้ 5. ตรวจใบงาน 6. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ และแบบฝึกปฏบิ ัติ 7. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เคร่ืองมอื วดั ผล 1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมินกิจกรรมสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 5. แบบประเมินกจิ กรรมใบงาน 6. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ 7. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและผู้เรียนร่วมกัน ประเมนิ เกณฑ์การประเมินผล 1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล ต้องไมม่ ีช่องปรับปรงุ 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50 % ขนึ้ ไป) 3. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50% ข้ึนไป) 4. ตอบคาถามในกจิ กรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้จึงจะถือว่าผ่าน เกณฑก์ ารประเมนิ มีเกณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ดี, 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรงุ 5. กิจกรรมใบงาน เกณฑผ์ า่ น คือ 50% 6. แบบประเมินผลการเรียนรู้ และแบบฝึกปฏบิ ตั ิมีเกณฑผ์ า่ น 50% 7 แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขนึ้ อยู่กบั การ ประเมินตามสภาพจริง กิจกรรมเสนอแนะ 1.อ่านและทบทวนเนือ้ หา

151 จงเลือกคาตอบท่ถี ูกตอ้ งทีส่ ุดเพยี งข้อเดยี ว 1. ขอ้ ใดไมใ่ ชเ่ จตนารมณใ์ นการรบั รองสิทธใิ นการได้รบั ประโยชน์จากผลผลติ ทางปัญญาทเ่ี รยี กวา่ สทิ ธิบตั ร ก. จงู ใจให้มกี ารพัฒนาและวจิ ยั เทคโนโลยี ข. สง่ เสรมิ ใหม้ ีการเผยแพร่ข้อมูลความรอู้ อกสสู่ าธารณชน ค. การดึงดูดการลงทุนจากตา่ งชาติ ง. เพ่อื ปอ้ งกนั การนาผลิตภัณฑไ์ ปใชเ้ พือ่ การศึกษา จ. มงุ่ คุ้มครองสิทธมิ นุษยชน 2. การประดิษฐ์ในข้อใดทีไ่ มส่ ามารถขอรบั สิทธบิ ตั รการประดษิ ฐไ์ ด้ ก. วธิ ีเก็บผลไมไ้ มใ่ ห้เน่าเสยี ข. ทฤษฎกี ารเกิดผลึกของพอลิเมอร์ ค. ยารักษาโรค ง. การออกแบบแก้วนา้ ให้เหมอื นรองเทา้ จ. กลไกของกลอ้ ง 3. การประดิษฐ์ทสี่ ามารถขอรบั สทิ ธิบัตรไดม้ ใี จความสาคญั ยกเวน้ ขอ้ ใด ก. มีความใหม่ ข. มกี ารพฒั นาด้านนวัตกรรม ค. พัฒนาขอ้ บกพรอ่ งของสิ่งประดิษฐ์ ง. ตอ้ งเป็นการพฒั นาดา้ นวทิ ยาศาสตร์ จ. ใชป้ ระโยชน์ไดท้ างอตุ สาหกรรม 4. ขอ้ ใดเม่ือนาไปขอจดสทิ ธิบตั รหรืออนสุ ิทธบิ ัตรจะไดร้ บั การปฏเิ สธ ก. โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ข. ถุงสาหรบั เกบ็ อุปกรณ์เล่นกอลฟ์ ที่แบง่ พนื้ ที่เป็นสดั ส่วน ค. ระบบลา้ งจานแบบไฮบรดิ ง. วธิ ีการระงับการแพร่ของเชือ้ โรค จ. ไมก้ อล์ฟท่ีใชร้ ะบบดิจิทัลในการผลติ 5. บริษัทแหง่ หนง่ึ ผลิตลกู เทนนิสและไดจ้ ดสทิ ธิบัตรกรรมวิธกี ารผลติ เอาไว้ ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีกลา่ วไม่ถูกตอ้ ง ก. ห้ามบริษทั ใดๆ ผลติ ลูกเทนนสิ ข. ห้ามผลติ ลูกเทนนิสด้วยวิธเี ดยี วกัน ค. ความคุม้ ครองนอ้ ยกวา่ สทิ ธบิ ัตรผลติ ภณั ฑ์ ง. หา้ มบริษัทใดนาาสินคา้ ไปขายดว้ ยราคาทีถ่ ูกกวา่ จ. ห้ามบรษิ ัทใดผลติ ด้วยวิธีการดงั กล่าวภายในเวลาทกี่ าหนด 6. ความหมายของขอ้ ความท่วี ่า “มกี ารประดิษฐ์ข้นั สูง” คือขอ้ ใด ก. ไมใ่ ช่ส่ิงประดิษฐ์ต้องหา้ ม

152 ข. แก้ปญั หาสงิ่ ทไ่ี ม่สามารถแกไ้ ขได้มานาน ค. มีความใหม่ ง. ใช้ได้ในอุตสาหกรรม จ. ยงั ไม่มอี ยู่ในท้องตลาด 7. การออกแบบผลิตภณั ฑ์ในลกั ษณะใดทไ่ี มจ่ ัดว่าใหม่ ก. ไม่ใช่สิ่งที่ผลติ เลียนแบบ ข. ไมเ่ คยปรากฏมาก่อน ค. เปดิ เผยภาพรายละเอียดกอ่ นวนั จดทะเบยี นสิทธิบัตร ง. จัดทาโฆษณาหลงั จดสิทธิบัตร จ. ใชอ้ ย่างแพรห่ ลายหลังจดสทิ ธบิ ตั ร 8. ผลิตภณั ฑท์ ่ปี ระดิษฐใ์ หมไ่ ดจ้ ดสทิ ธิบตั ร ซึ่งเปน็ สง่ิ ทน่ี กั เรยี นคดิ ขนึ้ ไดแ้ ต่อุปกรณ์ท่ใี ชท้ กุ อย่างเป็นของบรษิ ทั เมือ่ บรษิ ทั สามารถหารายได้จากสินคา้ ดังกล่าว ตามกฎหมายแลว้ ข้อใดถกู ตอ้ ง ก. การไดส้ ิทธิบตั รเปน็ ของนกั เรยี นเทา่ นั้น ข. นักเรียนมสี ิทธิไดร้ บั บาเหนจ็ พเิ ศษเพราะเป็นผู้คดิ ค. การไดส้ ิทธบิ ตั รเปน็ ของนายจ้างเทา่ นน้ั ง. หลังจดสิทธิบัตรมผี ลบังคับให้นกั เรยี นหา้ มเปลยี่ นบริษทั จ. นายจา้ งต้องปรับเล่อื นตาาแหนง่ งานให้นักเรียน 9. หากสินคา้ ท่ผี ลติ มผี ู้ผลิตหลายคน การขอสทิ ธิบัตรประเทศไทยจะเปน็ ไปไดใ้ นหลายลกั ษณะ ยกเวน้ ขอ้ ใด ก. สิทธบิ ัตรรว่ มกัน ข. สิทธิบัตรในนามของตนเอง ค. สิทธบิ ตั รในนามของบุคคลสญั ชาตอิ ่ืน ง. สทิ ธิบตั รในนามของบคุ คลใดบคุ คลหน่ึงแล้วเพ่มิ รายบคุ คลภายหลัง จ. ขอสทิ ธบิ ตั รในนามบริษทั 10. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถกู ต้อง เก่ียวกับสทิ ธบิ ัตรในผลิตภณั ฑ์ ก. ขอกอ่ นมีสิทธกิ อ่ น ข. ผลติ ไดก้ ่อนมสี ิทธิก่อน ค. สามารถขอสทิ ธบิ ตั รร่วมได้ ง. สิทธบิ ัตรแตล่ ะประเภทมีความคุ้มครองตา่ งกัน จ. สทิ ธิบตั รคมุ้ ครองผลิตภณั ฑ์ครอบคลมุ ถึงรปู รา่ งและองคป์ ระกอบ 11. รายละเอียดสินคา้ ท่นี าไปขอขน้ึ สทิ ธบิ ัตร ควรเปน็ อยา่ งไร ก. มกี ารเปิดเผย ข. ทฤษฎที างวทิ ยาศาสตร์ขน้ั สงู ค. ศพั ท์ทางเทคนิคท่ซี ับซ้อน ง. ผู้มคี วามชานาญในระดับสามญั สามารถท่จี ะอ่านรายละเอียดไดอ้ ย่างเขา้ ใจ จ. ควรเป็นวิธีการผลติ ท่หี ลากหลาย 12. ผู้ขอรับสทิ ธบิ ตั รจะต้องแสดงถึงเจตนาหรือความประสงค์ถงึ สิ่งใดท่ตี นต้องการอย่างชดั เจน เนอื่ งจากมผี ลตอ่ ความ คุม้ ครอง ก. สีของผลิตภัณฑ์ ข. ข้อถอื สทิ ธิ ค. กระบวนการขนสง่ ง. การจดั เก็บ

153 จ. ราคาสนิ คา้ 13. สทิ ธบิ ัตรกรรมวธิ ี ผูถ้ ือสทิ ธไิ ม่มีสทิ ธติ ามข้อใด ก. สทิ ธิในการหา้ มขายสินคา้ ประเภทเดียวกัน ข. สิทธใิ นการเสนอขาย ค. สทิ ธใิ นการผลิตโดยวธิ หี น่ึง ง. สิทธใิ นระยะเวลาหนงึ่ จ. สิทธิในการนาเขา้ 14. ข้อใดไม่จัดเปน็ สิทธิของผ้ทู รงสิทธิ ก. หา้ มผอู้ ่นื นาเข้า ข. หา้ มผ้อู น่ื ขาย ค. ห้ามผู้อน่ื ผลติ ง. หา้ มผูบ้ รโิ ภคซื้อ จ. อนญุ าตให้ผ้อู นื่ ใช้สิทธิ 15. ขอ้ ใดคอื การกระทาทไี่ ดร้ ับการยกเวน้ วา่ ไม่ไดล้ ะเมดิ สทิ ธติ ามกฎหมาย ก. การนาเขา้ ข. การทาซา้ ค. การวิจยั เพือ่ ขาย ง. การวจิ ัยทางวทิ ยาศาสตร์เพ่อื ศกึ ษา จ. การปลอมแปลง 16. หากต้อมซื้อไฟฉายมาแล้วแกะช้ินส่วนต่างๆ ออก แลว้ ศกึ ษาวธิ กี ารต่อหรือการผลิต หลงั จากน้นั ตอ้ มสามารถผลติ ไฟฉายไดด้ ้วยวธิ กี ารที่คล้ายกนั หากตอ้ มผลิตขาย ต้อมละเมดิ สทิ ธบิ ัตรของเจ้าของเดิมหรือไม่ ก. ละเมดิ ถา้ เจา้ ของเดิมจดสิทธิบตั รกรรมวิธี ข. ละเมดิ ถา้ เจา้ ของเดิมจดสทิ ธิบตั รผลิตภณั ฑ์ ค. ไมล่ ะเมดิ เพราะเปน็ ความสามารถของตอ้ ม ง. ไม่ละเมดิ เพราะตอ้ มไมไ่ ด้ขโมยความรู้ใคร จ. ไม่ละเมดิ เพราะเปน็ ความใหม่

154 17. การจดสิทธบิ ตั รสง่ิ ประดิษฐ์ มีอายุความคมุ้ ครองก่ีปี ก. 5 ปี ข. 10 ปี ค. 15 ปี ง. 20 ปี จ. 25 ปี 18. หลกั การนบั เวลาในการคุ้มครองนนั้ เร่ิมนับตง้ั แตเ่ วลาใด ก. สิทธเิ กิด ข. วันทย่ี ืน่ ขอรับความคุ้มครอง ค. วนั ทค่ี ิดได้ ง. วนั ทีผ่ ลิตเสร็จ จ. หลงั จากสิทธเิ กดิ แล้ว 3 วนั 19. หากนักเรยี นย่ืนขอจดสทิ ธิบตั ร วันท่ี 1 มกราคม 2558 แต่นักเรียนยงั ไมไ่ ดร้ บั สทิ ธิเนอื่ งจากยังไมม่ ีการจด ทะเบียน ขณะรอการจดทะเบยี น นักเรยี นพบว่ามผี ลู้ ะเมดิ สทิ ธขิ องนักเรยี นโดยนายเอนาเขา้ สินคา้ ตัวเดียวกนั ในวันท่ี 15 มกราคม 2558 ต่อมานกั เรียนไดร้ ับการจดทะเบียนในวนั ท2่ี 0 มกราคม 2558 นักเรยี นสามารถเอาผิดกับนายเอ ได้อยา่ งไร ก. นายเอมีความผิดตง้ั แต่วนั ที่ 1 มกราคม 2558 ข. นายเอมีความผิดต้ังแต่วนั ท่ี 15 มกราคม 2558 ค. นายเอมคี วามผดิ ตั้งแต่วันท่ี 20 มกราคม 2558 ง. นายเอมคี วามผิดตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2558 จ. นายเอมีความผดิ ตง้ั แตว่ ันท่ี 30 มกราคม 2558 20. ขอ้ ใดไมส่ ามารถขอจดสทิ ธบิ ตั รได้ ก. สิง่ ประดษิ ฐ์ ข. กรรมวิธกี ารผลติ ค. การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ง. การพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ จ. ภาพวาดศลิ ปกรรม

155 บันทึกหลังการสอน ข้อสรปุ หลังการสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาที่พบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปญั หา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบรู ณาการท่ี 18 หน่วยที่ - สอนครง้ั ท่ี 18 (35-36) รหสั 2204-2112กฎหมายคอมพิวเตอร์ (2-0-2) ชือ่ หน่วย/เร่อื ง ทบทวน/สอบปลายภาคเรยี น จานวน 2 ช.ม.

156 สาระสาคัญ จากการที่ผู้เรียนได้ศึกษาวิชากฎหมายคอมพิวเตอร์น้ี จะได้รับความรู้ความเข้าใจ และสามารถนาไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ในชีวติ ประจาวันได้ เพื่อใหส้ อดคล้องกับพระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 (แก้ไขปรบั ปรงุ เพิ่มเติม พ.ศ. 2545) โดยยึดหลักการนาไปใช้ให้เกิดไปประโยชน์ในการพัฒนาสังคม พร้อมทั้งนาหลักคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของผสู้ าเร็จการศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มาประยุกตใ์ ช้กบั กิจกรรม การเรยี นอยา่ งเหมาะสม จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นาเรอ่ื งที่ทบทวนตามเนื้อหาวชิ ากฎหมายคอมพวิ เตอรไ์ ปใช้ประโยชน์ได้ 2. แจง้ คะแนนระหว่างภาคเรยี นใหผ้ ู้เรยี น 3. แกป้ ัญหาการเรียนของผู้เรียนได้ 4. ผู้เรยี นนาความรทู้ ศี่ กึ ษามาไปสอบปลายภาคเรยี นได้ 5. มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผสู้ าเรจ็ การศึกษาสานักงาน คณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ทคี่ รสู ามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนในเรือ่ ง 5.1 ความมมี นษุ ยสัมพันธ์ 5.2 ความมีวินยั 5.3 ความรับผดิ ชอบ 5.4 ความซื่อสัตย์สุจริต 5.5 ความเช่ือม่ันในตนเอง 5.6 การประหยัด 5.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 5.8 การละเว้นส่ิงเสพตดิ และการพนนั 5.9 ความรักสามคั คี 5.10 ความกตญั ญูกตเวที สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกยี่ วกับกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 2. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั กฎหมายลิขสิทธ์ิและสทิ ธบิ ัตร เนื้อหาสาระ 1. ทบทวนเนื้อหาวิชาท่ไี ดศ้ ึกษามาแบบย่อ 2. รวบรวมคะแนนระหว่างภาคเรยี น 3. ปญั หาการเรยี นของผ้เู รยี น 4. สอบปลายภาคเรยี น กจิ กรรมการเรียนรู้

157 1. ครแู จ้งใหผ้ ู้เรียนทราบคะแนนระหวา่ งภาค และกลางภาค จดุ ประสงค์ท่ผี ุ้เรยี นยังไมไ่ ดป้ ฏิบตั ิ หรือไมผ่ า่ น หรอื ไมไ่ ดส้ อบ ใหผ้ ู้เรียนดาเนนิ การโดยพบครูผสู้ อนกาหนดวันเวลาท่จี ะปฏิบัติหรอื สอบ หรอื เรียน เพมิ่ เตมิ 2. ผู้เรยี นรบั ทราบจดุ ประสงค์การสอบปลายภาคว่า จะมีการสอบเรื่องใดบ้าง ผุ้เรยี นไมเ่ ข้าใจเรื่องใดกใ็ ห้ ซักถาม 3. ครแู ละผู้เรยี นร่วมกนั ทบทวนบทเรียนทีผ่ า่ นมาโดยสรุป สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 1.ขอ้ มูลการเก็บคะแนนของผเู้ รยี น 2.จดุ ประสงคก์ ารสอบปลายภาค หลกั ฐาน 1.ใบเชค็ รายชอ่ื เข้าห้องเรยี น และเขา้ หอ้ งสอบ 2.ข้อสอบ 3.เอกสารในการสอบตา่ ง ๆ การวดั ผลและการประเมินผล เป็นไปตามเกณ์ท่ีไดแ้ จง้ ไว้ในแผนการจดั การเรยี นรสู้ ปั ดาห์ที่ 1-18 กจิ กรรมเสนอแนะ แจง้ การประเมนิ ผลนักเรียนทีต่ ดิ ร, มส บันทึกหลังการสอบ ข้อสรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

158 .................................................................................................................................................. ปญั หาท่ีพบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. รายการตรวจสอบและอนุญาตใหใ้ ช้  ควรอนุญาตใหใ้ ชก้ ารสอนได้  ควรปรบั ปรุงเกี่ยวกบั ................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... .............................................. ลงช่ือ (..............................................) หัวหน้าหมวด/แผนกวชิ า ............../..................../............  เห็นควรอนญุ าตให้ใชก้ ารสอนได้  ควรปรบั ปรุงดังเสนอ  อื่นๆ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................

159 ........................................................................................................................................................................ .............................................. ลงช่อื (..............................................) รองผอู้ านวยการฝา่ ยวิชาการ ............../..................../...........  อนุญาตให้ใช้การสอนได้  อ่ืนๆ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ .............................................. ลงช่อื (..............................................) ผ้อู านวยการ ............../..................../...........


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook