Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Final

Final

Published by Primlada Saengpromtip, 2021-09-21 08:44:51

Description: 34

Search

Read the Text Version

รปู ที่ 2.13 การเปรยี บเทยี บการตีความ (Intent) 2.4 การท่องเท่ยี วเชิงเกษตร (Agro-tourism การท่องเทีย่ วเชิงเกษตร หมายถงึ “การ อาจให้นักท่องเท่ียวมีสว่ นร่วมในการดาเนินกิจกร วฒั นธรรม ประเพณี และเปน็ การนาเอาทรัพยาก ชุมชน การท่องเท่ียวเชิงเกษตรและภูมิปัญญา ทอ่ งเทย่ี วใหเ้ กิดความยงั่ ยืนตลอดไป” (กรมการท การท่องเที่ยวเชิงเกษตร หมายถึง “กา สวนเกษตร สวนสมุนไพร ฟาร์มปศุสัตว์และส

หน้า 26 ในแต่ละผลติ ภณั ฑ์ m) รท่องเทย่ี วทีม่ ุง่ เน้นทางด้านการเรยี นรู้วถิ เี กษตรกรรม โดย รรมให้เกิดการเรยี นรู้ดา้ นการเกษตรและวิถีการดารงชีวิต กรทม่ี ีอยู่มาใช้ประโยชน์เพ่ือสรา้ งรายได้แก่ครอบครัวและ าท้องถ่ิน จะเป็นเครื่องมือในการอนุรักษ์ควบคู่กับการ ทอ่ งเที่ยว, 2552, หนา้ 1) ารเดินทางท่องเที่ยวไปยังพื้นท่ีเกษตรกรรม สวนเกษตร สัตว์เล้ียง เพื่อช่ืนชมความสวยงาม ความสาเร็จ และ

เพลิดเพลินในสวนเกษตร ได้ความรู้ ได้ประสบก รักษาสภาพแวดล้อมของสถานท่แี ห่งน้นั ” (ราไพพ นอกจากนก้ี ารทอ่ งเท่ยี วแหง่ ประเทศไทย (ม.ป.ป 1. แบบกิจกรรมรายบคุ คล ไดแ้ ก่ การนาเท ในการประกอบอาชีพ เชน่ สวนทเุ รียน ม 2. กิจกรรมการท่องเที่ยวตามฤดูกาลหรอื เท 3. กจิ กรรมการท่องเทีย่ วตามชมุ ชนหรอื หม บรหิ าร และจัดการท่องเทย่ี ว โดยหน่วย โดยมีกจิ กรรมท่ีจะใหบ้ รกิ ารนักท่องเทย่ี วได้แก่ 1. ประเภทนกั ท่องเทย่ี วร่วมกิจกรรมระยะส ผลผลิตโดยเลอื กเก็บได้ ทากิจกรรมพ้นื และอน่ื ๆ 2. ประเภทใหน้ ักท่องเท่ียวพักแรมในหมบู่ ้า สัมผัสกบั ชวี ิตของชาวชนบทเกษตร 3. ประเภทอบรมใหค้ วามรู้ด้านการเกษตร การปลกู ผักแบบไม่ใช้ดิน ฯลฯ 4. ประเภทจาหนา่ ยสินค้า และผลิตภัณฑ์เก ของท่ีระลกึ ต่าง ๆ ของกนิ เมล็ดพันธ์ุพืช 5. ประเภทการท่องเทย่ี วเพื่อเน้นความรูใ้ น

หนา้ 27 การณ์ใหม่ บนพ้ืนฐานความรับผิดชอบ มีจิตสานึกต่อการ พรรณ แก้วสุรยิ ะ, 2544) ป) ยังได้แบง่ รูปแบบการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ดงั นี้ ทย่ี วชมสวนของเกษตรกรรายบคุ คลที่ประสบความสาเร็จ มังคดุ สวนไม้ดอกไม้ประดับ หรอื แม้แต่ฟารม์ เลี้ยงสัตว์ ทศกาล เช่น การจัดงานวันทุเรยี นโลก ทุง่ ทานตะวันบาน มบู่ ้านเกษตรกร ซ่ึงเกษตรกรในชุมชน ร่วมกันจดั ต้ัง ยงานตา่ งๆ ให้การสนบั สนุน สัน้ ได้แก่ นักท่องเที่ยวอาจเกบ็ ผลผลติ ในสวนหรือซ้อื นบ้านระยะสน้ั ร่วมกับชาวบ้าน เช่น ขค่ี วาย นั่งเกวียน าน การให้นกั ท่องเที่ยวพักแรมในหมู่บ้านเพื่อศึกษา และ ท้ังแบบแผนความรู้ใหม่ และความรทู้ ่ีเป็นภูมปิ ญั ญา เช่น กษตรสินคา้ หัตถกรรมพื้นบ้านของเกษตรกร ของใช้ และ ช กลา้ ไมท้ ่ีซ้ือไปปลูก นเรอื่ งเฉพาะในเรื่องเกษตรน้นั

ซง่ึ พยอม ธรรมบตุ ร (2549) ไดแ้ บง่ องคป์ ระกอบก 1. การเขา้ ถงึ แหลง่ ท่องเท่ียว (Accessibilit ท่องเท่ยี วสนามบนิ สถานีรถไฟ สถานขี น พื้นทไ่ี ด้แก่ ถนนทางหลวง โครงข่ายคมน สาคญั และเป็นหวั ใจของการท่องเทย่ี ว 2. ท่พี ักกแรม (Accommodation) ถือเป ในแหลง่ ท่องเทย่ี วอย่างน้อย 1 คืน ไดแ้ 3. แหล่งท่องเทีย่ ว (Attraction) อาจเปน็ แ วัฒนธรรม งานมหกรรม ประเพณที ้องถ 4. กจิ กรรม (Activities) ถือเป็นหวั ใจสาคัญ ต้องการแสวงหาประสบการณ์ จาเป็นตอ้ เปน็ ส่วนหน่ึงของวถิ ีชีวิต เช่น การดานา้ ไปถึงกิจกรรมนนั ทนาการต่าง ๆ เชน่ กา เชน่ การปนี หนา้ ผา การลอ่ งแก่ง การข่ีช

หนา้ 28 การท่องเทยี่ ว ดังต่อไปน้ี ty) ได้แก่ การขนสง่ การคมนาคมท่ีเชื่อมโยงแหลง่ นส่ง ตวั เมือง รวมถึงคณุ ภาพของโครงสร้างพน้ื ฐานของ นาคม ซึ่งการเขา้ ถึงแหลง่ ท่องเท่ียวนน้ั ถอื ได้ว่าเป็นปัจจัย ปน็ อกี ปัจจัยท่ีมคี วามสาคญั ต่อนักท่องเท่ียวซ่งึ ต้องคา้ งคนื แก่ โรงแรม รีสอร์ท Homestay เกสเฮาส์ ฯลฯ แหล่งท่องเท่ยี วทางธรรมชาติ แหลง่ ท่องเท่ยี วทาง ถน่ิ ตลอดจนวิถีชวี ิตของชมุ ชนเจ้าบ้าน ญของสินคา้ ทางการทอ่ งเทย่ี วสาหรบั นกั ท่องเที่ยวท่ี องมกี จิ กรรมใหน้ กั ท่องเทย่ี วได้มสี ่วนร่วม ซ่ึงกจิ กรรมอาจ การทอผา้ การจบั ปลา การทาหตั ถกรรม พนื้ บ้าน รวม ารพายเรอื ดูปะการัง เดนิ ป่า ดนู ก หรอื กิจกรรมผจญภยั ชา้ ง

5. บรกิ ารตา่ ง ๆ (Ancillary) ในแหลง่ ท่องเ สะดวกใหแ้ กน่ กั ท่องเท่ยี ว เช่น ศูนยบ์ ริก แหลง่ ทอ่ งเท่ียว กิจกร รปู ที่ 2.14 องคป์ ระกอบการทอ่ งเทยี่ ว 2.5 การทอ่ งเทยี่ วเชิงวัฒนธรรม องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒน วฒั นธรรม (cultural heritage) คอื ลกั ษณะทาง คนในชมุ ชนทไ่ี ดส้ บื ทอดตอ่ กนั มาจากอดตี สปู่ จั จุบ มรดกวฒั นธรรมจะตอ้ งแสดงใหเ้ ห็นถึงคุณค่าทาง สังคม ท้ังนยี้ งั ได้กาหนดประเภทของการทองเท่ยี 1. มรดกทางวฒั นธรรมทีจ่ บั ตอ้ งได้ (tangib กายภาพ โดยครอบคลมุ ท้ังมรดกวฒั นธร

หนา้ 29 เที่ยวจะเปน็ ต้องมีบรกิ ารด้านต่าง ๆเพื่ออานวยความ การนักทอ่ งเที่ยว ธนาคาร ATM โรงพยาบาล ฯลฯ การเขา้ ถึง แหลง่ ทอ่ งเท่ียว กิจกรรม องคป์ ระกอบ การทอ่ งเท่ียว รรม บรกิ าร นธรรมแห่งสหประชาชาติ (ม.ป.ป.) ได้กล่าวถึงมรดกทาง งวฒั นธรรมทแ่ี สดงออกถงึ ความเปน็ มาและเอกลกั ษณ์ของ บันและอนรุ กั ษไ์ วเ้ พ่อื เปน็ มรดกส่งต่อไปยังคนรุ่นหลัง โดย งประวตั ิศาสตรส์ ุนทรียศาสตรว์ ิทยาศาสตรแ์ ละคุณค่าทาง ยวเชิงมรดกวฒั นธรรมไว้ 2 ประเภท ไดแ้ ก่ ble cultural heritage) เป็นสง่ิ ท่ีแสดงให้เห็นได้ทาง รรมท่ีเปน็ วตั ถเุ คล่ือนท่ไี ด้ เช่น เครอ่ื งแต่งกาย ข้าวของ

เคร่ืองใชง้ านจิตรกรรม งานประตมิ ากรร เช่น โบราณสถาน อนุสรณส์ ถาน กลุ่มอา 2. มรดกทางวัฒนธรรมทจี่ บั ต้องไมไ่ ด้ (inta นามธรรม ไดแ้ ก่ ความรขู้ นบธรรมเนียมป ถ่ายทอดสืบต่อกันในสังคม โดย Vecco ไมไ่ ดอ้ อกเป็น 5 กลุม่ คือ 1) ความรู้และ การละเลน่ พื้นบ้าน 3) วฒั นธรรมและงา ทางสังคม ซึ่งในประเทศไทยมีทรัพยากรที่เป็นแหล ละภูมิภาคของประเทศ ซึ่งการทาการตลาดสมัยใ นาเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงในการรับส่ง เอกลกั ษณว์ ถิ ไี ทยที่แตกตา่ งซง่ึ สามารถแข่งขนั ได้ เลือกแหล่งท่องเท่ียวฉับพลัน (นฤมล เกษมสุข, วิสัยทัศน์เพื่อเป็นกรอบในการพัฒนาช่วงปี พ.ศ มั่นคง สังคมมีความสุข” โดยกาหนดยุทธศาสตร ให้เป็นฐานการผลิตสินค้าเกษตรเพ่ือการส่งออก และศกั ยภาพของ (ทศิ ทางของแผนพฒั นาจงั หวดั จึงจะเห็นได้ว่าแผนพัฒนาจังหวัดราชบุรีได้ตรงก เชิงเกษตรและวฒั นธรรมในอาเภอบางแพดงั กลา่ ว

หน้า 30 รม เปน็ ต้น และมรดกวฒั นธรรมทีเ่ ปน็ วัตถเุ คลื่อนทีไ่ ม่ได้ าคาร เป็นต้น angible cultural heritage) คือสิง่ ท่ีมีลกั ษณะเป็น ประเพณีและแนวปฏบิ ตั ิทุกรปู แบบที่ถกู สร้างขึ้นและ (2010) ได้กาหนดประเภทของมรดกวัฒนธรรมทจ่ี ับต้อง ะภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ 2) ศลิ ปะการแสดง ดนตรีและ านประเพณ4ี ) การแสดงออกทางภาษา และ 5) พิธีการ ล่งท่องเท่ียวทางวัฒนธรรมมากมายกระจายกันอยู่ตามแต่ ใหม่ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะมีการประยุกต์ งข่าวสารมาใช้ เพ่ือสร้างมูลค่าด้วยการเห็นคุณค่าและ ซ่งึ เปน็ การสื่อสารเฉพาะจดุ และมุง่ ให้เกิดผลการตัดสินใจ 2560) ในทิศทางของแผนพัฒนาจังหวัดราชบุรี ได้นิยาม ศ.๒๕๖๒ –๒๕๖๔ ไว้ว่า “เมืองเกษตรสีเขียว เศรษฐกิจ ร์ของจังหวัดที่สาคัญไว้สองประการคือ การพัฒนาจังหวัด และ การพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวโดยเน้นอัตลักษณ์ ดราชบุรี พ.ศ. 2561-2564 (ฉบบั ทบทวน ป2ี 562), 2560) กับวัตถุประสงค์ในการทาวิจัยที่เน้นส่งเสริมการท่องเท่ียว ว

2.6 ขอ้ มูลอาเภอบางแพ จังหวัดราชบรุ ี อาเภอบางแพต้ังอยู่ทางทิศตะวันออกข จากการที่สมัยโบราณพืน้ ทบี่ รเิ วณนี้มีการสัญจรโด พักค้างแรม และเม่ือมีการต้ังบ้านเรือนท่ีอยู่อาศ พ.ศ. 2547 โดยแบง่ ตาบลทัง้ หมดเปน็ 17 ตาบล ภูมิประเทศเป็นท่ีราบลุ่ม ไม่พบป่าและเขา โดย อาเภอบางแพ,\" 2552) นอกจากน้ีอาเภอบางแ ประเทศไทย (\"งานเทศกาลทอ่ งเทย่ี วสืบสานประ รูปที่ 2.15 สถานท่สี าคัญในอาเภอบางแพ จงั หวัด สถานท่ีเทยี่ วทสี่ าคัญในอาเภอบ้านแพ (สานกั งาน เชงิ เกษตร 1. ดอนเอย๋ ...ดอนคา 2. สวนมะมว่ งราเชนทร์ 3. ไร่ปลกู รัก 4. The Blooms Orchid Park 5. สวนชมพทู่ ไ่ี ด้รบั มาตรฐาน GAP

หนา้ 31 ของจังหวัดราชบุรี โดยมีการสันนิษฐานชื่อ “บางแพ” มา ดยใชแ้ พจากคนต่างถนิ่ และมกี ารผูกแพท่ลี อ่ งมาเพื่อจอด ศัย จึงพากันเรียกท่ีน่ีว่า “บางแพ” อาเภอางแพต้ังเมื่อปี มเี น้ือท่ีทั้งหมดประมาณ 182 ตารางกโิ ลเมตร มีลักษณะ ยมีสภาพอากาศโดยท่ัวไปชุ่มชื่น และอากาศโปร่งเย็น (\" แพยังเป็นอาเภอท่ีมีการเลี้ยงกุ้งก้ามกรมท่ีมากที่สุดใน ะเพณแี ละของดบี างแพ จ.ราชบรุ ี,\" 2554) ดราชบุรี นเกษตรอาเภอบา้ นแพ, ม.ป.ป.) ไดแ้ ก่

6. ฟารม์ กุ้ง เชงิ วัฒนธรรม 1. อุทยานหุ่นขีผ้ ึ้งสยาม 2. วดั ท่าราบ 3. ย่านคา้ ไมเ้ กา่ 4. ชมุ ชนไทยโซง่ 5. ประเพณกี ินขา้ วหอ่ หรือ อง้ั หมถี่ ่อง 6. ประเพณีว่ิงววั ลาน 7. ประเพณสี งกรานต์งานตาป่ขู องชาวโพห 8. ประเพณอี าสา

หน้า 32 หัก

3. วธิ ีดำเนินกำรวิจยั ในการวิจัยแอปพลิเคชันแชทบอทเพื่อการส่งเ ดาเนินการวจิ ยั ดงั น้ี 3.1 การออกแบบและพัฒนาระบบ การพัฒนาซอฟต์แวร์ ผู้วิจัยได้ใช้วงจรการพัฒนาซอฟต์แวร์ (Soft ประยุกต์ (Adapted Water Fall Model) ซ่ึงเป็นรูปแบบ Fall) โดยในแต่ละขั้นตอนเมื่อดาเนินการอยู่ สามารถย้อ สามารถย้อนกลับขั้นก่อนหน้าโดยไม่จาเป็นต้องเป็นขั้น ข้นั ตอน ดงั น้ี 1. ศกึ ษาเคร่อื งมือ เทคโนโลยี และขอ้ มูลทเี่ กย่ี วข้อง แพ จังหวดั ราชบรุ ี โดยศึกษาจากเอกสารรายงาน เอกสารงานวิจัยและส่ืออิเล็กทรอนิกส์ นอกจากน ข้อมูลเบ้ืองต้นน้ัน ผู้วิจัยได้สรุปและอธิบายในบ ระบบ 2. การวิเคราะห์ข้อกาหนดของระบบ เปน็ ข้ันตอนท ตรงตามวตั ถุประสงค์การวิจัยเพียงใด ผลของการ ข้ อ ก า ห น ด ข อ ง ส่ ว น ติ ด ต่ อ กั บ ผู้ ใ ช้ ซ่ึ ง จั ด specifications/requirements specifications 3. การออกแบบหน้าจอและการออกแบบระบบ การ การนาข้อกาหนดของส่วนติดต่อกับผู้ใช้วิเคร

หน้า 33 เสริมการท่องเท่ียวเชิงเกษตรและวัฒนธรรม ผู้วิจัยได้ tware Development Life Cycle : SDLC) แบบน้าตก บการพัฒนาระบบงานที่พัฒนามาจากแบบน้าตก (Water อนกลับมายังข้ันตอนก่อนหน้าเพ่ือแก้ไขข้อผิดพลาดหรือ นตอนที่ติดกันได้ ในการออกแบบและพัฒนาระบบโดยมี งกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวฒั นธรรมของอาเภอบาง นการวิจัย วารสาร บทความทางวชิ าการทัง้ ในรูปสิ่งพิมพ์ น้ียังรวมถงึ การคน้ หาข้อมลู จากอินเทอร์เนต็ ซ่งึ การศึกษา บทที่ 2 ตลอดจนนามาใช้ในข้ันตอนถัดไปของการพัฒนา ท่สี าคัญอย่างยิ่งในการวิจัยซง่ึ การจะได้ผลลัพธ์คือ ระบบที่ รวิเคราะห์ข้อกาหนดของส่วนตดิ ต่อกับผู้ใช้ได้แก่ เอกสาร ไ ว้ ใ น ส่ ว น ข อ ง ก า ร อ อ ก แ บ บ ห น้ า จ อ ( interface s) ระบุความสามารถและรปู แบบท่ีท้ังหมดท่พี ึงมีในระบบ รออกแบบส่วนติดต่อกับผใู้ ชแ้ ละการออกแบบระบบ เปน็ ราะห์ร่วมกับงานวิจัยท่ีเกี่ยวข้องเพื่อ นาเสนอข้อมูล

ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของพ้ืนที่เป้าหม ระบบโดยคานงึ ถงึ ความสะดวกสบายของผใู้ ชเ้ ปน็ 4. พัฒนาระบบที่ได้ออกแบบไว้ ข้อกาหนดและการ bot ด้วยโปรแกรม Dialogflow ท้ังนี้ในส่วนขอ ประเมินฟังก์ช่ันและการตอบสนองของระบบ โด ปรับปรงุ จากต้นแบบเพือ่ ให้ไดผ้ ลลพั ธใ์ นทนั ที 5. ทดสอบและแก้ไขข้อผิดพลาด การทดสอบและแ ได้ (validation) และตามข้อกาหนดท่ีได้รับการอ เพ่ืองานวิจัย โดยการทดสอบเกิดข้ึนตลอดเวลา รวมกัน ก า ห น ด ปั ญ ห า แ ล ะ ศึกษาความเปน็ ไปได้ การวเิ คราะห์ความต้องการ การออกแบ รปู ท่ี 3.1 โมเดลการออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์แ

หนา้ 34 มาย โดยนาผลที่ได้จากข้อ 1-2 มาสร้างเป็นหน้าจอของ นสาคญั โดยจะต้องให้ขอ้ มูลขา่ วสารทค่ี รบครันแกผ่ ู้ใช้ รออกแบบหน้าจอประกอบการพัฒนาแอปพลิเคช่นั Chat องการพัฒนาผู้วิจัยได้ทาการพัฒนาต้นแบบขึ้นก่อนเพ่ือ ดยต้นแบบที่พัฒนาข้ึนจะต้องมีความสามารถครบถ้วนจึง ก้ไขข้อผิดพลาด เป็นการทดสอบระบบใหส้ ามารถทางาน ออกแบบไว้ (verification) ท้ังน้ียังไม่รวมถึงการประเมิน าในการพัฒนาก่อน นาโปรแกรมย่อยแต่ละโปรแกรมมา บบระบบ การทดสอบ การประเมินผล แบบน้าตกประยุกต์ (Adapted Water Fall Model)

ภาพรวมโครงสร้างระบบ แอปพลิเคชันแชทบอทเพ่ือการส่งเสริมการท่อ โปรแกรม Dialogflow และติดตอ่ กับผใู้ ช้ผ่านทางโปรแกร 1. ส่วนตอ่ ประสานงานกับผู้ใช้ มลี กั ษณะเป็น LINE กลบั ไปยงั ผ้ใู ช้ในรูปแบบตา่ ง ๆ ผ่านทาง LINE M กอ่ นจงึ จะสามารถใช้งาน API ได้ รปู ที่ 3.2 โปรแกรม Line developer 2. สว่ นประมวลผลข้อความจากผู้ใช้ โดยอาศยั Dial เป็น Intent เพื่อส่งต่อไปยังส่วนดาเนินการ รวม ของคาถามหรือคาสั่งได้ง่าย เพ่ือที่จะปรับไปใช้ง ระบบหลายจดุ

หน้า 35 องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรม ถูกพัฒนาขึ้นมาจาก รม LINE โดยมีสว่ นประกอบทส่ี าคญั ดังตอ่ ไปนี้ Official Account รับขอ้ ความจากผูใ้ ช้งานและแสดงผล Messaging API โดยจะต้องทาการสมคั ร LINE developer logflow Agent เพื่อทาการแปลงข้อความสนทนาที่ได้รับ มถึงการตอบบทสนทนาอย่างง่ายด้วยสามารถเพ่ิมรูปแบบ งานกับ Application ท่ีมีลักษณะอ่ืนได้ โดยไม่ต้องแก้ไข

รปู ที่ 3.3 โปรแกรม Dialogflow 3. ส่วนดาเนินการ (Fulfillment Engine) จะรับหัว ใช้คัดแยกเจตนาจากคาพูด (Intent Classifica และ Parameter ท่ีได้รับ โดยใช้หลักการเทียบค กับกลุ่มคาพูดตัวอย่างของเจตนาน้ัน (Training หัวข้อเจตนา (Intent) ที่เหมาะสมนั้นจะสามารถ นามาพิจารณาในการคัดเลือก โดยท่ีหากเจตนาไ การคดั เลอื กจะไมส่ นใจกลุ่มคาพดู ตัวอย่างใกลเ้ คยี

หนา้ 36 วข้อเจตนา (Intent) โดยใช้เทคนิคทางปัญญาประดิษฐ์ที่ ation) และนาไปดาเนินการต่อตามประเภทของ Intent ความเหมือนกับความคล้ายของคาพูดของผู้ใช้ว่าใกล้เคียง g Phase) ซึ่งกาหนดไว้ล่วงหน้าหรือไม่ โดยการพิจารณา ถใช้บริบท (Context) เป็นตัวกาหนดว่าเจตนาไหนจะถูก ไหนไม่ตรงกับบริบทที่กาหนดไว้จะไม่ถูกคัดเลือก ออกมา ยงกบั คาพูดของผูใ้ ช้หรอื ไม่

รูปท่ี 3.4 กระบวนการทางานคัดเลือกเจตนาในโปรแ ม.ป.ป.) ในการพฒั นาระบบนัน้ จะมีภาพรวมโครงสรา้ งของระบบท Line Messaging API Line Application รูปที่ 3.5 โครงสรา้ งแอปพลเิ คชนั แชทบอทเพ่ือการส่งเสรมิ

หนา้ 37 แกรม Dialogflow (\"Actions on Google integration,\" ท่สี าคัญดังรปู ท่ี 3.4 Intent DB Fulfillment Fulfillment Engine มการท่องเท่ียวเชงิ เกษตรและวฒั นธรรมโดยรวม

เครอื่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นการพฒั นาระบบ 1. ฮารดแ์ วร์ (Hardware) 1.1 เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ส่วนบคุ คล 1.2 โทรศพั ทส์ มารทโ์ ฟน 2. ซอฟตแ์ วร์ (Software) 2.1 Windows 10 Ultimate 64bit 2.2 Dialogflow 2.3 Line Application 2.4 Line Designer 3.2 การประเมนิ การใชง้ านระบบ ในการวิจัยครั้งนี้จะมีสมมติฐานการศึกษาท่ีพัฒ กล่าวคือ มีการนาเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artifi ภาษาธรรมชาติ (Natural language processing : NLP ส่งเสริมการท่องเท่ียวเชิงเกษตรและวัฒนธรรม จากนั้นจ ผู้ใช้งาน โดยถามความพึงพอใจหลังจากกลุ่มตัวอย่างได้ท ด้วย Usability Testing เพื่อเป็นการทดสอบประสิทธ แบบสอบถาม โดยมีลกั ษณะเป็นข้อคาถามแบบมาตราสว่ น 5 คะแนนแบ่งเป็น 5 ระดับ คอื

หนา้ 38 ฒนามาจากกรอบแนวความคิดของการวิจัยในบทที่ 1 icial Intelligence : AI) และเทคโนโลยีการประมวลผล P) เข้ามาใช้ในการสร้างแอปพลิเคชันแชทบอทเพื่อการ จึงมีการทดสอบการใช้งานจริงและประเมินผลเจคคติจาก ทดลองใชง้ านแอปพลิเคชันดงั กล่าวแลว้ ซึ่งทาการทดสอบ ธิภาพ ประสิทธิผลและความพึงพอใจของผู้ใช้งานด้วย นประมาณคา่ (Rating Scale) 5 ระดบั โดยมคี ะแนนเต็ม

มากทสี่ ุด มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยท่ีสดุ คา่ เฉล่ยี ทีค่ านวณไดน้ ามาแปลความหมายได้ ดงั นี้ 1.00-1.49 คะแนน 1.50-2.49 คะแนน 2.50-3.49 คะแนน 3.50-4.49 คะแนน 4.50-5.00 คะแนน ลักษณะคาถามจะเป็นการตั้งคาถามให้วัดความ ไดแ้ ก่ ด้านการนาไปใชป้ ระโยชน์ ดา้ นเน้ือหา ดา้ นการใช้ง ปริมาณ และใช้การวดั มาตราสว่ นลิกเกิรต์ (Likert scale)

หนา้ 39 มคี ่าคะแนนเท่ากบั 5 มคี ่าคะแนนเท่ากบั 4 มีคา่ คะแนนเท่ากับ 3 มคี ่าคะแนนเทา่ กบั 2 มคี า่ คะแนนเท่ากับ 1 มคี วามพึงพอใจในระดบั นอ้ ยท่สี ุด มคี วามพึงพอใจระดบั น้อย มีความพึงพอใจระดบั ปานกลาง มคี วามพึงพอใจในระดบั มาก มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด มพึงพอใจเพื่อเป็นการประเมินด้าน Usability ทั้ง 4 ด้าน งาน ดา้ นภาพรวมของระบบ โดยใช้การวิเคราะหข์ ้อมูลเชิง ) ประชากรและกลมุ่ ตวั อย่าง

ประชากรคือ ประชาชนที่สนใจการท่องเทย่ี วเชงิ ทสี่ นใจการทอ่ งเทีย่ วเชิงเกษตรและวัฒนธรรมที่ อาเภอบา สมมติฐานในการวจิ ัย ผู้ใช้งานมีเจคติท่ีดีในการใช้งานแอปพลิเคชันแ วฒั นธรรม อาเภอบางแพ จ.ราชบุรี

หนา้ 40 งเกษตรและวัฒนธรรม และกลุ่มตัวอย่างคือ นักท่องเที่ยว างแพ จงั หวัดราชบุรีจานวน 200 คน แชทบอทเพ่ือการส่งเสริมการท่องเท่ียวเชิงเกษตรและ

4. ผลการวจิ ยั จากการศึกษาในขั้นตอนการดาเนินงานใ วัฒนธรรมที่ อาเภอบางแพ จงั หวดั ราชบรุ ี ผวู้ จิ ยั 4.1 แอปพลเิ คชันแชทบอท ระบบฯ ถกู สรา้ งขนึ้ มาจากสถาปตั ย์กรรมเ Intelligence : AI) และเทคโนโลยีการประมวลผ NLP) โดยมงุ่ หวงั ให้ระบบฯ สามารรถติดต่อสือ่ สา ตลอด 24 ชวั่ โมง องค์ประกอบของระบบฯ มีดัง รปู ที่ 4.1 ไอคอนและช่ือแอปพลเิ คชนั บนหนา้ จอ จากรูปท่ี 4.1 จะแสดงถึงปุ่มไอคอนแอปพลิเคชนั LINE Application โดยสามารถเพ่ิมเพ่ือนได้ผ่าน “BotBangphae”

หนา้ 41 ในบทที่แล้วเนื้อหาที่ใช้คือ การท่องเที่ยวเชิงเกษตรและ ยไดพ้ ัฒนาแอปพลิเคชัน ดงั ต่อไปนี้ เว็บไซตร์ ว่ มดว้ ยเทคโนโลยปี ัญญาประดิษฐ์ (Artificial ผลภาษาธรรมชาติ (Natural language processing : ารกบั ผูใ้ ชด้ ้วยความถกู ต้องรวดเรว็ ฉับไว และให้บรกิ าร งต่อไปน้ี อโทรศพั ท์มือถือ นบนหนา้ จอโทรศัพท์มือถือเม่ือผู้ใช้เพิ่มเพื่อนในโปรแกรม นทาง ID และ QR code ดังรูป 4.2 โดยช่ือของบอทคือ

รูปท่ี 4.2 QR code สาหรับเพ่ิมเพื่อนในโปรแกร หลังจากเพ่ิมเพื่อนแล้วระบบจะส่งคาต้อนรับอัต ข้อความได้ ดังรปู ที่ 4.3 รปู ท่ี 4.3 ข้อความต้อนรับผใู้ ช้อตั โนมัติ

หน้า 42 รม LINE Application ตโนมัติไปยังผู้ใช้งาน ซ่ึงผู้ใช้สามารถท่ีจะรับหรือปฏิเสธ

รูปที่ 4.4 ขอ้ ความประเภทต้อนรบั (Greeting) จากรูปที่ 4.4 และ 4.5 แสดงให้เห็นถึงกลุ่มข้อคว เขา้ มา เชน่ สวัสดี ฮัลโหล ดี ฯลฯ และระบบจะส รปู ที่ 4.5 ข้อความประเภทต้อนรับ (Greeting) ป รูปที่ 4.6 ข้อความประเภทสอบถามข้อมลู จากรปู ท่ี 4.6 เม่ือผใู้ ชต้ อ้ งการสอบถามข สอบถามคะ และระบบจะตอบขอ้ ความอัตโนมตั ิ

หน้า 43 วามประเภทต้อนรับ ซึ่งผู้ใช้สามารถกรอกข้อความต่าง ๆ สง่ ข้อความอัตโนมัติดว้ ยคาวา่ “สวสั ดีค่ะ” ตอบกลับไป ประเภทตา่ ง ๆ ข้อมูลสามารถกรอกขอ้ ความ เชน่ สอบถาม ถาม “ไม่ทราบจะสอบถามข้อมูลเร่ืองอะไรค่ะ?” กลับ ไป

ยังผใู้ ช้ รปู ที่ 4.7 ขอ้ ความประเภทข้อผิดพลาด หากระบบไม่สามารถเข้าใจความต้องกา เช่น พิมพ์ข้อความผิด หรือ ข้อมูลไม่ตรงกับในฐา ผใู้ ชค้ อื “กรณุ าสอบถามใหมอ่ ีกคร้งั หน่ึง” (รปู ท่ี รปู ท่ี 4.8 ข้อมลู แหล่งทอ่ งเท่ยี ว ผใู้ ช้สามารถสอบถามขอ้ มลู เกยี่ วกบั สถา ปั๊มนา้ มนั สถานท่ีพัก เปน็ ตน้ (รูปที่ 4.8)

หนา้ 44 ารของผู้ใช้โดยอาจจะเน่ืองมาจากข้อกรณีผิดพลาดต่าง ๆ านข้อมูล เป็นต้น ระบบจะส่งข้อความอัตโนมัติกลับไปหา 4.7) านที่ท่องเที่ยวในอาเภอบางแพไดเ้ ช่น ไร่ ฟาร์ม พิพิธภัณฑ์

รูปท่ี 4.9 เมนปู ระเภทสถานที่ทอ่ งเทยี่ ว จากรูปท่ี 4.9 ผู้ใชส้ ามารถเลือกเมนูประ เชงิ เกษตร หรือ เชิงวัฒนธรรม โดยผพู้ ฒั นาจะตอ้ รปู ท่ี 4.10 โปรแกรม JSON ทใ่ี ชใ้ นการเขยี นเมน

หน้า 45 ะเภทสถานที่ท่องเทย่ี วได้ โดยจะมใี หเ้ ลือกสองตัวเลือกคือ องใสโ่ ปรแกรมดงั รปู ท่ี 4.10 นปู ระเภทสถานท่ีท่องเทย่ี ว

รปู ท่ี 4.11 ข้อความสถานท่ตี ั้ง จากรปู ท่ี 4.11 เม่ือผูใ้ ชต้ อ้ งการแสดงสถ ทต่ี ้ังของอุทธยานดงั กล่าวเปน็ ข้อความอัตโนมตั ิ ซ รปู ท่ี 4.12 โปรแกรม JSON ทีใ่ ชใ้ นการเขียนสง่ ข

หนา้ 46 ถานท่ีอุทธยานห่นุ ข้ีผึง้ สยาม ระบบฯ จะทาการส่งสถาน ซึ่งสามารถเช่อื มโยงกับระบบนาทางของ Google Map ข้อความสถานทต่ี ้งั (Location)

รูปที่ 4.13 ข้อความโต้ตอบแบบสตกิ๊ เกอร์ จากรูปที่ 4.13 เมื่อผู้ใช้มีกรอกข้อความ อัตโนมัติว่า “ลาก่อน” พร้อมท้ังส่งรูป LINE Stic JSON ตามรูปท่ี 4.14 เพื่อใส่สติ๊กเกอร์ดังกลา่ ว รูปท่ี 4.14 การเขียนโปรแกรม JSON เพือ่ เลอื กร

หนา้ 47 มท่ีเกี่ยวกับการอาลาในบทสนทนา ระบบจะส่งข้อความ cker กลับไปยังผู้ใช้งาน โดยจะต้องมีการเขียนโปรแกรม รปู สติ๊กเกอรใ์ น LINE ขนึ้ มาแสดง

หลังจากนั้น ผู้วิจัยได้มีการประเมินผลแ แบบสอบถามเพ่ือเป็นการประเมิน 4 ด้าน ได้แก ด้านภาพรมของระบบ โดยใช้การวิเคราะห์ข้อม scale) โดยกาหนดรปู แบบออกเปน็ ระดบั ความพ มากที่สุด มาก ปานกลาง นอ้ ย น้อยทส่ี ดุ ค่าเฉลี่ยท่คี านวณได้นามาแปลความหมายได้ ดงั น 1.00-1.49 คะแนน 1.50-2.49 คะแนน 2.50-3.49 คะแนน 3.50-4.49 คะแนน 4.50-5.00 คะแนน

หนา้ 48 แอปพลิเคชันแชทบอทด้วยการวัดความพึงพอใจจากใช้ ก่ด้านการนาไปใช้ประโยชน์ ด้านเน้ือหา ด้านการใช้งาน มูลเชิงปริมาณ และใช้การวัดมาตราส่วนลิกเกิร์ต (Likert พึงพอใจของผู้ใชง้ าน 5 ระดบั ดังนี้ มคี ่าคะแนนเทา่ กับ 5 มีคา่ คะแนนเทา่ กบั 4 มีค่าคะแนนเท่ากับ 3 มีคา่ คะแนนเทา่ กบั 2 มคี า่ คะแนนเท่ากับ 1 นี้ มีความพงึ พอใจในระดับน้อยทส่ี ุด มีความพงึ พอใจระดบั น้อย มคี วามพงึ พอใจระดับปานกลาง มีความพึงพอใจในระดับมาก มคี วามพึงพอใจในระดับมากท่ีสุด

ท้งั สองระบบจะมแี บบสอบถามถูกแบ่งออกเปน็ 2 1. ข้อมลู ท่วั ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม 2. ความพงึ พอใจในการใช้งานของแอปพลเิ 2.1 ด้านการนาไปใชป้ ระโยชน์ 2.2 ดา้ นเนอื้ หา 2.3 ด้านการใชง้ าน 2.4 ด้านภาพรวมของระบบ โดยแสดงอยูใ่ นรูปแบบของตาราง ดงั ตอ่ ไปน้ี 4.2 ผลประเมนิ เจคคติของผ้ใู ชด้ ้วยแบบสอบ ขอ้ มลู ทัว่ ไป 67% รูปที่ 4.15 เพศ

หน้า 49 2 ตอน ประกอบด้วย เคชนั แชทบอท โดยวดั ความพึงพอใจ 4 ด้าน คือ บถาม 33% ชาย หญิง

จากรปู ที่ 4.15 แสดงขอ้ มลู พ้นื ฐานของกล คิดเป็นร้อยละ 66 และจานวนเพศชาย 67 คน ค 1% 33% รปู ที่ 4.16 ระดบั การศึกษา จากรูปท่ี 4.16 แสดงระดับการศึกษาท่ีม ร้อยละ 66 รองลงมาคือปริญญาตรีมีจานวน 66 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 1

หน้า 50 ล่มุ ตวั อยา่ งโดยแสดงจานวนเพศหญิงมากท่ีสดุ คือ 133 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 33 % ต่ากว่าปรญิ ญาตรี 66% ปริญญาตรี สงู กว่าปรญิ ญาตรี มีมากท่ีสุดคือ ต่ากว่าปริญญาตรีจานวน 132 คน คิดเป็น 6 คน คิดเป็นร้อยละ 33 และสูงกว่าปริญญาตรีมีจานวน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook