Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือตัวชี้วัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนจัง

คู่มือตัวชี้วัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนจัง

Description: คู่มือตัวชี้วัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนจัง

Search

Read the Text Version

คู่มอื เกณฑช์ วี้ ัดการท่องเที่ยวโดยชมุ ชนจงั หวดั เชียงราย 1

คู่มอื ตวั ช้ีวดั การท่องเท่ียวโดยชมุ ชนจงั หวดั เชยี งราย ผ้เู ขยี น สำนักวิชำกำรท่องเที่ยว มหำวิทยำลยั รำชภฏั เชียงรำย พมิ พ์คร้ังแรก มิถนุ ำยน 2559 จำนวนพมิ พ์ 300 เลม่ จดั พมิ พ์โดย สำนักวชิ ำกำรท่องเท่ียว มหำวทิ ยำลยั รำชภฏั เชียงรำย จงั หวัดเชียงรำย โทรศพั ท์/โทรสำร 053 776 088 www. tourismhotal.crru.ac.th E-mail : [email protected] Facebook : Sot Crru ออกแบบ/เรยี บเรียง ญำณัท ศริ ิสำร 2

คานา Preface คู่มือฉบับเล่มน้ี เป็นควำมร่วมมือจัดทำข้ึนระหว่ำงสำนักวิชำกำรท่องเท่ียว มหำวิทยำลัย รำชภัฏเชียงรำย ร่วมกับเครือข่ำยกำรท่องเท่ียวโดยชุมชนจังหวัดเชียงรำย เพื่อเป็นเครื่องมือในกำร พัฒนำชมุ ชนท่องเท่ียวให้ดำเนินกำรเป็นไปอย่ำงถูกทิศทำง โดยยึดหลักกำรพัฒนำบนพื้นฐำนกำรมีส่วน ร่วมของคนในชุมชน ควำมเป็นเจ้ำของ กำรอนุรักษ์ ฟ้ืนฟู วัฒนธรรม ภูมิปัญญำท้องถ่ินของตนเอง จน เกิดรำยได้ให้กับคนในชุมชน อย่ำงไรก็ตำม กำรใช้คู่มือเกณฑ์ชี้วัดกำรท่องเที่ยวโดยชุมชนเล่มน้ี เหมำะสมสำหรบั พน้ื ที่ทีม่ ีกำรเตรยี มควำมพร้อม กำรสรำ้ งควำมเข้ำใจของคนในชุมชน ผ่ำนกระบวนกำร พฒั นำกำรท่องเที่ยวมำระยะหนึง่ แล้ว พร้อมกันน้ี ยังได้รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนของจังหวัดเชียงรำยหลำยพื้นที่ เพ่ือ ประชำสัมพันธ์และอำนวยควำมสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่สนใจกำรท่องเที่ยวโดยชุมชน ในกำรน้ี สำนัก วิชำกำรท่องเที่ยว มหำวิทยำลัยรำชภัฏเชียงรำย ขอขอบคุณเครือข่ำยกำรท่องเท่ียวโดยชุมชนจังหวัด เชียงรำย ท่ีให้ควำมร่วมมือในกำรดำเนินงำนครั้งน้ี และหวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำคู่มือฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ แกช่ ุมชน องค์กรทเี่ กี่ยวข้อง และผทู้ ่ีสนใจกำรทอ่ งเท่ียวโดยชุมชนต่อไป สำนกั วชิ ำกำรท่องเท่ียว มหำวทิ ยำลยั รำชภัฏเชยี งรำย 3

สารบัญ Contents  03 คำนำ  04 สำรบัญ  05 หัวใจสำคญั ของกำรท่องเทยี่ วโดยชมุ ชน คอื อะไร ?  06 แนวทำงกำรพฒั นำกำรทอ่ งเทย่ี วของชมุ ชนในอนำคต  07 แนวคดิ และทฤษฎีฐำนรำกของกำรทอ่ งเทย่ี วโดยชมุ ชน  26 เครือขำ่ ยกำรทอ่ งเท่ยี วโดยชุมชนจงั หวดั เชยี งรำย  55 แบบประเมินตวั ชว้ี ัดกำรท่องเทยี่ วโดยชมุ ชนจงั หวัดเชยี งรำย  63 อ้ำงอิง  64 ทป่ี รกึ ษำ และคณะผ้จู ดั ทำ 4

หวั ใจสำคญั ของ กำรทอ่ งเทย่ี วโดยชุมชน คืออะไร? กำรท่องเท่ียวท่ีเกิดขึ้นเป็นควำมต้องกำรท่ีแท้จริงของชุมชน และ มีชุมชนเป็นผู้ดำเนินกำรจัดกำรอย่ำงมีส่วนร่วม ตั้งอยู่บนฐำนคิดท่ีว่ำชำวบ้ำนทุก คนเป็นเจ้ำของทรัพยำกรและเป็นผู้มีส่วนได้เสียจำกกำรท่องเที่ยว นำเอำ ทรัพยำกรกำรท่องเที่ยวท่ีมีอยู่ในท้องถ่ิน ทั้งในด้ำนธรรมชำติ ประวัติศำสตร์ วัฒนธรรมประเพณี รวมทั้งวิถีชีวิตควำมเป็นอยู่และวิถีกำรผลิตของชุมชนมำใช้ เป็นปัจจัยหรือต้นทุนสำคัญในกำรจัดกำรท่องเท่ียวอย่ำงเหมำะสม เพื่อให้เกิด ประโยชน์ต่อท้องถ่ินน้ันท้ังในด้ำนเศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม รวมทั้งมีกำรใช้ ทรัพยำกรอย่ำงมีประสิทธิภำพมีกำรบำรุงรักษำอย่ำงดีที่สุด เพ่ือให้สำมำรถใช้ได้ อยำ่ งย่ังยืนไปถงึ คนรนุ่ ลกู หลำน (สินธ์ุ สโรบล, 2546) 5

6

แนวคดิ และทฤษฎฐี านรากของการท่องเที่ยวโดยชุมชน เรียบเรียงโดย อาจารย์ ดร.ชฎาพศั ฐ์ สุขกาย รองคณบดฝี ่ายวจิ ยั และบริการวิชาการ สานกั วชิ าการท่องเท่ยี ว มหาวิทยาลยั ราชภฏั เชียงราย การทอ่ งเทยี่ วโดยชมุ ชน (CommunityBased Tourism) แนวคิดกำรจัดกำรท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community-Based Tourism: CBT หรือ Host management) เป็นแนวคิดของกำรท่องเท่ียว ทำงเลือกใหม่ (Alternative Tourism) (Weaver, 2001 อ้ำงใน อุมำพร มุณี แนม และพูนทรัพย์ ศรีชู, 2552) ซ่ึงเป็นรูปแบบกำรท่องเท่ียวท่ีได้รับควำม คำดหวังว่ำ จะนำไปสู่กำรบรรลุผลสำเร็จของกำรพัฒนำกำรท่องเที่ยวอย่ำง ย่งั ยืน (Sustainable Tourism) ไดอ้ ย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพ โดยเปน็ กำรท่องเที่ยว ท่มี งุ่ ให้ควำมสำคญั กบั ดุลยภำพ และเนน้ กำรจัดกำรอุปทำนหรอื ฐำนทรัพยำกร กำรท่องเท่ียว(Host management) เพื่อลดผลกระทบทำงลบจำกกำร ท่องเท่ียวตำมหลักกำรพัฒนำกำรท่องเท่ียวที่ย่ังยืน และมีหัวใจสำคัญท่ีสุดคือ กำรท่องเที่ยวท่ีเกิดข้ึนเป็นควำมต้องกำรท่ีแท้จริงของชุมชน และมีชุมชนเป็น ผู้ดำเนินกำรจัดกำรอย่ำงมีส่วนร่วม ตั้งอยู่บนฐำนคิดท่ีว่ำชำวบ้ำนทุกคนเป็น เจ้ำของทรัพยำกรและเป็นผู้มีส่วนได้เสียจำกกำรท่องเท่ียว นำเอำทรัพยำกร กำรท่องเที่ยวท่ีมีอยู่ในท้องถิ่น ทั้งในด้ำนธรรมชำติ ประวัติศำสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี รวมทัง้ วถิ ีชวี ิตควำมเป็นอยูแ่ ละวิถกี ำรผลติ ของชุมชนมำใช้เป็นปัจจัย หรือต้นทุนสำคัญในกำรจัดกำรท่องเที่ยวอย่ำงเหมำะสม เพ่ือให้เกิดประโยชน์ ต่อท้องถิ่นน้ันท้ังในด้ำนเศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม รวมทั้งมีกำรใช้ทรัพยำกร อย่ำงมีประสิทธิภำพมีกำรบำรุงรักษำอย่ำงดีท่ีสุด เพ่ือให้สำมำรถใช้ได้อย่ำง ยงั่ ยนื ไปถงึ คนรนุ่ ลกู หลำน (สนิ ธุ์ สโรบล,2546) 7

ความหมายของการทอ่ งเทยี่ วโดยชุมชน จำกกำรทบทวนวรรณกรรมท่ีเกยี่ วข้องกบั แนวคิดกำรท่องเท่ยี วโดยชมุ ชน จำกเอกสำรท้ังใน และต่ำงประเทศนัน้ ไม่แตกต่ำงกันมำกนัก ซ่งึ ยกตวั อย่ำงพอสังเขปได้ดังนี้ The Responsible, Ecological, Social Tours Project หรือ REST (1997) ได้ให้ ควำมหมำยของกำรท่องเทยี่ วโดยชมุ ชนว่ำ หมำยถึง กำรทอ่ งเทีย่ วทค่ี นในชุมชนรว่ มกันเป็นเจ้ำของ และ ดำเนินกำรจัดกำรเพื่อให้กำรท่องเที่ยวนั้นเกิดประโยชน์ต่อชุมชนท้ังทำงตรงและทำงอ้อมในด้ำน เศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม และส่ิงแวดล้อม โดยมีกำรเรียนรู้เป็นหัวใจสำคัญในกำรจัดกำรท่องเท่ียวให้ นกั ทอ่ งเที่ยวเข้ำใจถึงวถิ ีท้องถิ่นอยำ่ งแทจ้ ริง (Peter Richards.2009) สำนักงำนพัฒนำกำรท่องเท่ียว กระทรวงกำรท่องเที่ยวและกีฬำ ได้ให้ควำมหมำยของกำร ท่องเท่ียวโดยชุมชน (Community-Based Tourism) ว่ำเป็นกำรท่องเท่ียวในแหล่งท่องเที่ยวท่ีมี ลกั ษณะเป็นชมุ ชน พน้ื ฐำนทีส่ ำคัญคือกำรมสี ่วนรว่ มของชมุ ชนในกำรจดั กำรกำรท่องเที่ยวของพ้ืนที่ กำร ท่องเที่ยวโดยชมุ ชนมสี ่วนช่วยในกำรกระตุ้นเศรษฐกิจของท้องถ่ินด้วยกำรสร้ำงงำน และกระจำยรำยได้ ขณะเดียวกันก็ช่วยในกำรอนุรักษ์วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของชุมชนซ่ึงมีเ อกลักษณ์ เฉพำะตน (สำยร้งุ ดินโคกสงู .2549) สำนักงำนกองทุนสนับสนุนกำรวิจัย (สกว.) ได้นิยำมเชิงปฏิบัติกำรในงำนกำรท่องเที่ยวโดย ชมุ ชน หมำยถึง ทำงเลือกในกำรจัดกำรท่องเที่ยวที่ชุมชนเข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรกำหนดทิศทำงของกำร ท่องเท่ียวบนฐำนคิดที่ว่ำชำวบ้ำนทุกคนเป็นเจ้ำของทรัพยำกรและเป็นผู้มีส่วนได้เสียจำกกำรท่องเที่ยว โดยกำรนำเอำทรัพยำกรที่มีอยู่ในท้องถิ่นด้ำนต่ำง ๆ ไม่ว่ำจะเป็นธรรมชำติ ประวัติศำสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตและวิถีกำรผลิต ของชุมชน มำใช้เป็นต้นทุนหรือปัจจัยในกำรจัดกำรท่องเที่ยวอย่ำง เหมำะสม รวมท้งั มกี ำรพัฒนำศักยภำพของคนในชุมชนให้มีควำมรู้ควำมสำมำรถในกำรดำเนินงำนต้ังแต่ กำรตดั สนิ ใจ กำรวำงแผน กำรดำเนินงำน กำรสรุปบทเรียน โดยเน้นให้เกิดควำมยั่งยืนสู่คนรุ่นลูกหลำน และเกิดประโยชน์ต่อท้องถิ่น ตลอดจนคำนึงถึงควำมสำมำรถในกำรรองรับของธรรมชำติเป็นสำคัญ (สุชำครยี ์ ศรีรัตน์,2553) 8

องค์กำรบริกำรพัฒนำพื้นท่ีพิเศษเพ่ือกำรท่องเท่ียวอย่ำงย่ังยืน (อพท.) (2558) ได้ให้ ควำมหมำย กำรท่องเที่ยวโดยชุมชน คือ กำรท่องเที่ยวทำงเลือกที่บริหำรจัดกำรโดยชุมชนอย่ำง สร้ำงสรรค์และมีมำตรฐำนก่อให้เกิดกำรเรียนรู้ เพื่อนำไปสู่ควำมยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ทอ้ งถน่ิ และคณุ ภำพชวี ิตทีด่ ี นอกจำกนี้ สุชำครีย์ ศรีรัตน์ (2553) ได้ให้ควำมหมำยของกำรท่องเท่ียวโดยชุมชน คือ กำร ท่องเที่ยวที่เจ้ำบ้ำน(Hosts)คือประชำชนในชุมชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ำยร่วมกันกำหนดทิศทำง นำทรัพยำกรท่ีมีอยู่ในชุมชนด้ำนต่ำง ๆ ทั้ง ทำงธรรมชำติ ประวัติศำสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตของชุมชน มำกำหนดเป็น กิจกรรมกำรท่องเที่ยวในลักษณะท่ีเน้นกำร เรียนรู้ ให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้มำเยือน ซึ่ง จะช่วยสร้ำงเสริมคว ำมภำคภูมิใจใน เอกลักษณ์และวัฒนธรรมของชุมชนด้วย ควำมเคำรพในควำมแตกต่ำงทำงวัฒนธรรม พร้อมกับเกิดกำรกระจำยรำยได้ หมุนเวียน อยูใ่ นชุมชนอย่ำงท่ัวถึงและเป็นธรรม รวมถึง กำรพัฒนำศักยภำพของคนในชุมชนให้ สำมำรถจัดกำรท่องเที่ยวที่เน้นกำรฟื้นฟู บำรุงรักษำ สิ่งแวดล้อมและทรัพยำกรที่ นำมำใช้ในกำรจัดกำรท่องเท่ียวให้สำมำรถ ใช้ได้อยำ่ งยำวนำนจนถึงรุ่นลกู หลำน 9

หลกั การของการท่องเท่ยี วโดยชุมชน กำรท่องเที่ยวโดยชุมชน เป็นกำรท่องเท่ียวท่ีใช้ฐำนทรัพยำกรของชุมชนมำจัดกำรท่องเท่ียว ข้ึนในชุมชน โดยสมำชิกชุมชนร่วมกันเป็นเจ้ำของและจัดกำรกำรท่องเที่ยวในฐำนะท่ีเป็นเจ้ำของ ทรพั ยำกรน้ัน ทั้งนเ้ี พอื่ ใชก้ ำรท่องเทย่ี วเปน็ เครอื่ งกำรพฒั นำท้องถิน่ รวมทั้งสร้ำงควำมเข้มแข็งให้องค์กร ชำวบ้ำนในกำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติและวัฒนธรรม โดยกระบวนกำรมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ให้ชุมชนได้เข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรกำหนดทิศทำงกำรพัฒนำตลอดจนได้รับประโยชน์จำกกำรท่องเที่ยว อยำ่ งเปน็ ธรรม ทั้งนี้เมื่อพิจำรณำในภำพรวมของอุตสำหกรรมกำรท่องเที่ยวแล้ว นับได้ว่ำกำรท่องเท่ียว โดยชุมชน เป็นคุณภำพใหม่ทำงกำรท่องเท่ียวท่ีเน้นกำรแลกเปล่ียนเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถ่ิน มำกกว่ำ ควำมสนุกสนำน และควำมบันเทิง ซ่ึงสอดคล้องกับยุทธศำสตร์ชำติด้ำนกำรท่องเที่ยวที่มุ่งให้ กำรทอ่ งเทีย่ วเปน็ กำรท่องเท่ยี วท่ีไร้ควำมเร่งรีบ กล่ำวคือเป็นกำรท่องเท่ียวท่ีนักท่องเท่ียวมีวันพักอำศัย อยู่ในแหล่งท่องเท่ียวเพ่ิมขึ้น โดยนำฐำนทุนเดิมในชุมชนมำสร้ำงเป็นกิจกรรมกำรท่องเท่ียวท่ีให้ ประสบกำรณ์ท่ีทรงคุณค่ำแก่นักท่องเที่ยว อันจะนำไปสู่กำรใช้จ่ำยจำกนักท่องเท่ียวท่ีเพิ่มมำกขึ้น ช่วย กระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชนได้อย่ำงทั่วถึง ตลอดจนเป็นกำรสร้ำงดุลยภำพระหว่ำงคุณค่ำและมูลค่ำ ทำงกำรท่องเท่ยี วไดอ้ ย่ำงมีประสทิ ธิภำพอกี ดว้ ย สำหรับหลักกำรท่ีเป็นหัวใจสำคัญของกำรท่องเท่ียวโดยชุมชนนั้น สรุปจำกบทเรียนและ ประสบกำรณ์พ้ืนที่ภำคเหนือ (สินธ์ุ สโรบล, 2546 อ้ำงในสุชำครีย์ ศรีรัตน์,2553) ได้ว่ำ เป็นทักษะใน กำรจัดกำรทรัพยำกรท่ีเป็นฐำนทุนเดิมของชุมชน เพื่อนำทรัพยำกรเหล่ำน้ันมำใช้ประโยชน์และมีกำร จัดกำรให้เกิดกำรใช้ประโยชน์อย่ำงยำวนำน กล่ำวคือ จะต้องมีกำรปกป้อง ฟ้ืนฟูและบำรุงรักษำให้ ทรัพยำกรเหล่ำน้ันเพียงพอกับกำรใช้ประโยชน์ได้อย่ำงต่อเน่ือง ทักษะในกำรปฏิบัตินั้น สำมำรถแบ่ง ออกเป็น 4 ขัน้ ตอน คือ 1) ต้องเริ่มจำกกำรมีส่วนร่วมของประชำชนซ่ึงถือได้ว่ำเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดอันจะส่งผลต่อ ควำมสำเร็จและล้มเหลวในกำรดำเนินกำรท่องเท่ียว รวมทั้งยังเป็นตัวแปรท่ีทำให้กำรท่องเที่ยวโดย ชุมชนมีควำมแตกต่ำงจำกกำรท่องเที่ยวแบบมวลชน กล่ำวได้ว่ำ กำรท่องเที่ยวโดยชุมชนเป็นกำร ท่องเท่ียวที่คำนึงถึงควำมสำคัญในกำรมีส่วนร่วมของชุมชน ประชำชนและผู้มีส่วนได้เสีย ตั้งแต่เริ่มต้น ร่วมกันเป็นเจ้ำของ มีกำรแบ่งงำน แบ่งกิจกรรม และควำมรับผิดชอบไปจนส้ินสุดกระบวนกำรท่ีมีกำร กระจำยรำยได้ กำรยกระดบั คณุ ภำพชวี ิต กำรบำรุงรกั ษำและจดั กำรแหล่งทอ่ งเทยี่ ว 10

2) กำรศึกษำฐำนทรัพยำกร ท่ีมีอยู่ในชุมชน ท้ังในด้ำนธรรมชำติ ประวัติศำสตร์ ประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิต และกำรผลิตของชุมชน เพ่ือนำมำเป็นปัจจัยต้นทุนในกำรกำหนดเป็นกิจกรรมหรือ โปรแกรมกำรทอ่ งเท่ยี ว 3) กิจกรรมกำรท่องเที่ยวโดยชุมชน เป็น กิจกรรมท่ีเน้นให้มีกำรสร้ำงระบบกำรท่องเที่ยวที่เอื้อ ต่อกำรเรียนรู้ ซึ่งที่พบส่วนใหญ่ในสังคมไทยแบ่งออก ได้เป็น 3 รูปแบบ คือ รูปแบบกำรท่องเที่ยวเชิงนิเวศ รูปแบบกำรท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และรูปแบบกำร ท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรม ท้ังน้ีกิจกรรมท่องเท่ียว ดังกล่ำวมำนี้ข้ึนอยู่กับกำรร่วมกันกำหนดทิศทำงว่ำ ชุมชนจะดำเนินกำรกิจกรรมกำรท่องเท่ียวในรูปแบบ ใดท่ีสอดคล้องกับสภำพบริบท ทุนทรัพยำกรและ สะทอ้ นอัตลักษณข์ องชุมชนไดม้ ำกท่สี ุด 4) กำรจัดกำรกำรท่องเท่ียวที่เกิดข้ึนใน ชุมชน โดยมุ่งจัดกำรควำมสัมพันธ์ระหว่ำงผู้เป็น เจ้ำบำ้ นกบั ผมู้ ำเยือน มงุ่ เขำ้ ถงึ กล่มุ ลูกคำ้ ทมี่ คี ณุ ภำพ พร้อมกับควำมพยำยำมที่จะต้องลดผลกระทบทำง ลบจำกกำรท่องเท่ียวในด้ำนกำรใช้ทรัพยำกร พ้ืนที่ จำนวนนักท่องเท่ียว กำรตลำด ขยะของเสีย ตลอดจนจะต้องกระจำยรำยได้จำกกำรท่องเท่ียวภำยในชุมชนอย่ำงเป็นธรรม ซ่ึงจะนำไปสู่กำร ขับเคลือ่ นใหก้ ำรทอ่ งเท่ียวเกิดพลังเปน็ เคร่ืองมือกำรพฒั นำท้องถ่นิ ท้งั ทำงตรงและทำงออ้ ม ข้อควรคำนงึ ถึงในกำรจัดกำรท่องเท่ียวควรประกอบด้วย กำรคำนึงถึงขีดควำมสำมำรถในกำร รองรับไดข้ องพื้นที่ ซึ่งจะต้องมีกำรกำหนดจำนวนนักท่องเท่ียวท่ีเข้ำไปเท่ียวต่อวัน โดยต้องคำนึงถึงกำร อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นสำคัญ และควรตระหนักถึงกิจกรรมกำรท่องเท่ียวที่มี ผลกระทบท้ังทำงบวกและลบต่อชุมชน ในด้ำนขนมธรรมเนียม วัฒนธรรมประเพณี และวิถีชีวิตควำม เป็นอยขู่ องชุมชน รวมท้ังตอ้ งเนน้ กำรมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเก่ียวข้องในกิจกรรมกำรท่องเท่ียว ท้ังท่ีเป็น พันธมิตรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งจะต้องประสำนกำรจัดกำรร่วมกัน (สถำบันวิจัยทำงสังคม มหำวิทยำลยั เชียงใหม่, 2548) 11

ปฏิบตั ิตำมแผน ผลกระทบ ขยะ ของเสยี กองทนุ /กำรกระจำยประโยชน์ วำงแผน รบั ประโยชน์ การจดั การ การมสี ่วนร่วม บำรงุ รักษำ ตดิ ตำมผล พนื้ ที่/ทรัพยำกร จำนวนนกั ท่องเท่ยี ว การทอ่ งเท่ียวโดยชมุ ชน ส่ิงท่มี นษุ ย์สร้ำงขึน้ ฐานทรัพยากร เชงิ นิเวศ เชิงวฒั นธรรม เชงิ นเิ วศวฒั นธรรม กจิ กรรม ควำมรู้ ภมู ปิ ัญญำ ธรรมชำติ ประวตั ศิ ำสตร์ ประเพณี วัฒนธรรม แผนภาพที่ 1 แสดงองคป์ ระกอบท่ีเป็นหวั ใจสำคัญของกำรท่องเที่ยวโดยชุมชน 12

นอกจำกน้ี หลักกำรทอ่ งเที่ยวโดยชุมชนขององคก์ ำรบริกำรพัฒนำพนื้ ทีพ่ เิ ศษเพอื่ กำรท่องเท่ียว อยำ่ งยัง่ ยนื (อพท.) (2558) ใหห้ ลักกำรไว้วำ่ กำรทอ่ งเทย่ี วโดยชุมชนท่ใี ชก้ ำรท่องเทีย่ วเป็นเครื่องมอื ใน กำรพัฒนำชมุ ชน มีหลกั กำร ดังน้ี 1. ชุมชนเป็นเจ้ำของ 2. ยกระดบั คุณภำพชีวติ 3. กอ่ ให้เกิดกำรเรียนรูร้ ะหวำ่ งคนต่ำงวัฒนธรรม 4. เคำรพในวฒั นธรรมทแ่ี ตกตำ่ งและศักดิ์ศรีควำมเป็นมนุษย์ 5. ชำวบ้ำนเขำ้ มำมีสว่ นรว่ มในกำรกำหนดทิศทำงและตัดสนิ ใจ 6. คงเอกลักษณ์และวัฒนธรรมท้องถ่ิน 7. สง่ เสริมควำมภำคภูมใิ จในตนเอง 8. มีควำมย่ังยืนทำงด้ำนส่งิ แวดล้อม 9. เกิดผลตอบแทนทเ่ี ป็นธรรมแก่คนท้องถน่ิ 10. มีกำรกระจำยรำยได้ส่สู ำธำรณประโยชน์ของชุมชน กำรทจ่ี ะให้ชุมชนดำเนินกำรท่องเท่ียวตำมหลักกำรข้ำงต้น มีควำมจำเป็นที่จะต้องเตรียมควำม พร้อมและสร้ำงควำมเข้มแข็งให้กับชุมชนในกำรจัดกำรกำรท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันก็ต้องรณรงค์กับ คนในสังคมให้เห็นควำมแตกต่ำงของกำรท่องเที่ยวโดยชุมชนกับกำรท่องเท่ียวทั่วไป กระตุ้นให้คนใน สังคมเห็นควำมสำคัญและเป็นนักท่องเที่ยวที่สนใจแลกเปล่ียนเรียนรู้ระหว่ำงเจ้ำของบ้ำนกับ ผมู้ ำเยอื น นอกจำกนีย้ ังเปน็ กำรเพิ่มกำรรับรู้และควำมเข้ำใจในบทบำทของชุมชนท้องถ่ินต่อกำรอนุรักษ์ ทรัพยำกรธรรมชำติหรือเป็นกำลังใจหรือสนับสนุนให้เกิดควำมต่อเนื่องในกำรทำงำนอนุรักษ์ท้ังด้ำน ธรรมชำตหิ รือวัฒนธรรม 13

แนวคดิ การพฒั นาคนตามตวั แบบการพัฒนาของ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี กำรท่องเท่ียวโดยชุมชน เน้นพัฒนำคนให้เกิดกระบวนกำร เรียนรู้ ทั้งคนในชุมชนท่ีรู้จักตนเอง และภำคภูมิใจตัวตนของตนเอง รวมท้งั กำรเรียนรขู้ องคนนอกหรอื ผู้มำทอ่ งเทยี่ วให้เขำ้ ใจถึงควำมสัมพันธ์ ของคนและส่ิงแวดล้อมผ่ำนกิจกรรมกำรท่องเท่ียว (สินธุ์สโรบล, 2546) ซ่ึงเป็นแนวทำงที่สอดคล้องกับทฤษฎีและกลยุทธ์กำรพัฒนำสังคม ตำม แนวคดิ ตัวแบบกำรพัฒนำของสมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรม รำชกุมำรี (สัญญำ สัญญำวิวัฒน์, 2549) ท่ีทรงยึด “คน” เป็นเป้ำหมำย ทำให้คนเป็น “คนพัฒนำ” หรือเป็น “คนเจริญ” โดยมีหลักกำรโดย สรุปได้ว่ำ สมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำ ฯ สยำมบรมรำชกุมำรี ทรงยึด หลัก 10 ประกำร คือ หลักกำรช่วยตนเอง พึ่งตัวเอง หลักกำรเริ่มจำก สภำพที่เป็นอยู่ หลักกำรใช้ทรัพยำกรธรรมชำติท้องถ่ิน หลักกำรมีส่วน ร่วมของประชำชน หลักวัฒนธรรมและผู้นำท้องถิ่น หลักประสิทธิภำพ หลักประสำนงำน หลักทำงำนเชิงรุก หลักคุณธรรมและศิลปะ และหลัก เช่ือมประสำนด้ำนเวลำ โดยหลักกำรเหล่ำน้ีจะเป็นกรอบให้กับกำร ดำเนนิ งำนหรือปฏบิ ัติงำนพัฒนำที่เรียกว่ำ วิธีกำรพัฒนำอันจะก่อให้เกิด ผลสุดยอด คอื “คนพัฒนา” 14

Terisa C.H. Tao and Geoffrey wall (2009อ้ำงในสุชำครีย์ ศรีรัตน์,2553) ได้อธิบำยผล กำรพัฒนำ คน ด้วยกำรใช้กำรท่องเที่ยวสร้ำงควำมม่ันคงในกำรดำรงชีวิต ตำมหลักกำรพัฒนำท่ีย่ังยืน ในกำรนีก้ จิ กรรมกำรท่องเที่ยว จะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้เกิดควำมม่ันคงในกำรดำรงชีวิตในระดับบุคคล ซึ่งจะนำไปสู่ควำมเข้มแข็งของชุมชน อันจะเป็นรำกฐำนของควำมม่ันคงในระดับประเทศได้เป็นอย่ำงดี โดยนยั น้ี กำรท่องเท่ียวจะมีบทบำทมำกกว่ำกำรมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดกำรจ้ำงงำน สร้ำงอำชีพ แต่ยัง รวมไปถึงกำรสนับสนุนให้เกิดกำรเข้ำถึงสิทธิในกำรจัดกำรทรัพยำกรท้องถ่ิน ทั้งทรัพยำกรที่เป็น ธรรมชำติ และสิ่งแวดล้อม รวมไปจนถึง ทรัพยำกรท่ีเป็นฐำนทุนทำงสังคมวัฒนธรรมของชุมชน นำมำ ดำเนินกำรจัดกิจกรรมกำรท่องเท่ียวแล้วผลจำกกำรท่องเที่ยวนั้นช่วยเสริมสร้ำงคุณค่ำ สนับสนุนให้เกิด ควำมภำคภมู ิใจในตวั ตนของคนในชมุ ชน เกดิ เปน็ ทำงเลือกใหม่ในกำรประกอบอำชีพ พบปะถำมไถ่ สำร ทุกข์ และแลกเปล่ียนประสบกำรณ์กัน จะทำให้ให้คุณภำพชีวิตของคนได้รับกำรพัฒนำขึ้นครบทุกมิติ ครอบคลุมท้ังในด้ำนควำมสำมำรถในกำรประกอบอำชีพกำรรองรับได้ต่อควำมเครียด แรงกดดัน กำร ฟ้ืนฟสู ภำพจติ ใจทงั้ ในระยะสน้ั และระยะยำว 15

แนวคดิ การมสี ว่ นรว่ มของชุมชน จำกหลักกำรของกำรท่องเที่ยวโดยชุมชนจะพบว่ำ กำรมีส่วนร่วมเป็นหัวใจสำคัญของกำร จัดกำรท่องเที่ยวโดยชุมชน แนวคิดกำรมีส่วนร่วมของชุมชน โดยทั่วไปจะหมำยถึง กำรที่ประชำชน พัฒนำขีดควำมสำมำรถของตนในกำรจัดกำร ควบคุมกำรใช้และกระจำยทรัพยำกรธรรมชำติ ตลอดจน ปัจจัยกำรผลิตในสังคม เพ่ือให้เกิดประโยชน์ต่อกำรดำรงชีพทำงเศรษฐกิจ สังคม กำรมีส่วนร่วมใน ควำมหมำยนี้ จึงเป็นกำรมีส่วนร่วมของประชำชนตำมแนวทำงกำรปกครองในระบบประชำธิปไตย ซึ่ง เปิดโอกำสให้ประชำชนพัฒนำกำรรับรู้ สติปัญญำ และควำมสำมำรถในกำรตัดสินใจ กำหนดชีวิตด้วย ตนเอง ดังน้ันกำรมีส่วนร่วมของประชำชนจึงเป็นทั้งวิธีกำรและเป้ำหมำยในเวลำเดียวกัน (กองพัฒนำ เกษตรท่สี ูง,2545อ้ำงในสชุ ำครยี ์ ศรีรตั น,์ 2553) ในขณะท่ี เทดิ ชำย ชว่ ยบำรงุ (2552) ไดข้ ยำยควำมของกำรมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรท่องเที่ยว ไว้วำ่ เปน็ กำรคำนงึ ถึงควำมสำคญั ในกำรมีส่วนร่วมของชุมชน ประชำชนและผู้มีส่วนได้เสีย ต้ังแต่เริ่มต้น ร่วมกันเป็นเจ้ำของ มีกำรแบ่งงำน แบ่งกิจกรรม และควำมรับผิดชอบไปจนสิ้นสุดกระบวนกำรที่มีกำร กระจำยรำยได้ กำรยกระดับคุณภำพชีวิต กำรบำรุงรักษำและจัดกำรแหล่งท่องเที่ยวด้วย ซ่ึงแบ่งเป็น 5 องคป์ ระกอบ ดังนี้ 1) ร่วมกนั วำงแผน 1.1) รว่ มคิดรว่ มวำงแผนจดั กำรเตรียมควำมพรอ้ มและสิ่งอำนวยควำมสะดวกในชุมชน 1.2) รว่ มประชุม เสนอแนะและใหค้ วำมเห็นต่อแผนพฒั นำกำรท่องเทย่ี ว 1.3) หำกทอ้ งถนิ่ ใดทย่ี ังไม่มกี ำรทอ่ งเท่ียวแต่ตอ้ งกำรให้เกดิ ขึน้ ก็ต้องรว่ มกนั คดิ ว่ำชุมชนตน มี จุดเดน่ อะไรทแ่ี ตกตำ่ งจำกชุมชนอนื่ ๆ มที รัพยำกรอะไรท่ดี ึงดูดนักท่องเทยี่ วได้บ้ำง 1.4) ร่วมบริหำรจดั กำรและแบง่ หนำ้ ที่ควำมรบั ผิดชอบ 1.5) รว่ มกันกำหนดกฎระเบียบตำ่ ง ๆ ของรำคำของสนิ คำ้ และบริกำรอย่ำงได้มำตรฐำน 1.6) รว่ มกันจดั กำรส่งิ แวดลอ้ มเพื่อป้องกันกำรเสื่อมโทรมของแหล่งท่องเที่ยว 2) ร่วมกนั ปฏิบตั ติ ำมแผน ประชำชนในท้องถิ่นต้องร่วมกันปฏิบัติหน้ำที่ที่วำงไว้ตำมแผนเพ่ือให้ บรรลุเป้ำหมำยของแผนท่วี ำงไว้ 3) ร่วมกันใช้ประโยชน์ ประชำชนในท้องถ่ินมีสิทธิ์ใช้ประโยชน์จำกทรัพยำกรกำรท่องเที่ยวใน ท้องถิ่น ด้วยควำมตระหนักและหวงแหน จึงต้องแบ่งปันผลประโยชน์อย่ำงยุติธรรมและทั่วถึง เพื่อสร้ำง ควำมร้สู กึ เป็นเจำ้ ของ อันจะกระตุ้นใหก้ จิ กรรมกำรทอ่ งเท่ียวในทอ้ งถน่ิ ดำเนินต่อไปได้อยำ่ งยง่ั ยืน 16

4) ร่วมกันติดตำมและประเมินผล กำรติดตำมประเมินผลเป็นกำรตรวจสอบและควบคุมให้กำร ดำเนินกำรบรรลุเป้ำหมำยที่วำงไว้ ท้ังนี้หำกพบปัญหำหรืออุปสรรคก็สำมำรถแก้ไขได้ทันท่วงที ซึ่งข้ัน ตอนนี้อำจพบบทเรียนหรือวิธีกำรใหม่ ๆ ท่ีเป็นแนวทำงในกำรดำเนินงำนตอ่ ไปได้ 5) ร่วมกันบำรุงรักษำ เม่ือมีกำรใช้ประโยชน์จำกทรัพยำกรกำรท่องเที่ยวแล้ว จะต้องร่วมกัน บำรุงรักษำ เพ่ือให้คงอยู่ในสภำพท่ีสมบูรณ์ สำมำรถรองรับนักท่องเท่ียว และเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเท่ียว ได้ต่อไป 17

แนวคดิ ระบบเศรษฐกิจชมุ ชน กำรท่องเที่ยวโดยชุมชนที่นอกจำกจะเน้นพัฒนำคน และกำรมีส่วนร่วม ในกำรกำหนด กิจกรรมกำรท่องเทยี่ วซึ่งอยู่ภำยใตร้ ูปแบบกำรผลติ กำรบรโิ ภคแบบเศรษฐกจิ ชมุ ชน กล่ำวคือ ครอบครัว และชุมชนเป็นหน่วย กำรผลิต เป้ำหมำยของกำรผลิตคือ กำรดำรงอยู่ กำรรักษำตัวให้อยู่รอดของ ครอบครัวและชุมชน ให้สำมำรถเลี้ยงตัวเองได้และผลิตซ้ำในครอบครัวและชุมชนได้ กำรผลิตจึงมี ลักษณะเพือ่ บรโิ ภคภำยในครัวเรอื น ผลิตเพ่ือขำยก็ได้ แต่เพอ่ื ใหไ้ ด้เงินมำเพื่อซ้ือสินค้ำให้ครอบครัวดำรง อยู่ได้และเล้ียงดูบุตรได้ มำกกว่ำท่ีจะคิดขยำยกำรผลิตให้ใหญ่โต ให้มีกำไรสูงสุด ให้ร่ำรวย ครัวเรือนมี ลักษณะเป็นผู้ผลติ เล็กอิสระ ขำยสนิ คำ้ ไมใ่ ช่ขำยแรงงำน วิธีกำรผลิตหลักคือ ผู้ผลิตเล็กอิสระใช้แรงงำน ของสมำชกิ ของครอบครวั เพรำะเป็นสง่ิ ทค่ี รอบครวั มีอยแู่ ล้วโดยธรรมชำติ จดุ สำคญั ของเศรษฐกิจชุมชน คือ ยดึ ชมุ ชนเปน็ หลัก ประชำชนตอ้ งสำมคั คี รว่ มมือกัน ช่วยเหลอื กัน พง่ึ ตนเอง และสร้ำงควำมเข้มแข็ง ของชมุ ชน ซง่ึ เปน็ เสมอื นทุนทำงสังคม ซึง่ ต้องเนน้ กำรมีส่วนร่วมของชำวบำ้ นในชุมชนเป็นหลัก กิจกรรม ทำงเศรษฐกิจจะเป็นเครื่องมือ เป็นปัจจัยที่จะเช่ือมควำมสัมพันธ์ของสมำชิก เพรำะกิจกรรมทำง เศรษฐกิจเป็นส่ิงที่สมำชิกเห็นประโยชน์เป็นรูปธรรม เช่น กลุ่มผลิต กลุ่มระดมทุน กลุ่มแปรรูปกำรผลิต เปน็ ต้น (ทรงจิต พลู ลำภ และคณะ, 2547)อำจกล่ำวได้อีกนัยหน่ึงว่ำ เศรษฐกิจชุมชน คือเศรษฐศำสตร์ บนรำกฐำนทำงวัฒนธรรม คือเศรษฐศำสตร์ที่ไปด้วยกันกับชีวิตจิตใจ คุณค่ำและปัญญำ นอกจำกนี้ เศรษฐกิจชุมชนยังเป็นเศรษฐกิจที่กระจำย ไม่กระจุก ควำมเจริญจะกระจำย กำรติดต่อจะเป็นตำม แนวนอน ระบบตลำดไม่มีกำรผูกขำด อำจมีกำรช่วยเหลือกันเป็นเครือข่ำยแทนกำรแข่งขัน (ฉัตรทิพย์ นำถสุภำ, 2548) จำกแนวคิดดังกล่ำวสุชำครีย์ ศรีรัตน์ (2553) ได้สรุปไว้ว่ำ กำรท่องเที่ยวโดยชุมชนมี รูปแบบที่สัมพันธ์กันกับระบบเศรษฐกิจชุมชน โดยเป็นกิจกรรมกำรทำมำหำกินของคนในแหล่งชุมชน หนึ่ง ๆ ที่มคี วำมเปน็ ตัวของตัวเอง และมีพลวัตรของตัวเอง มีควำมสำมำรถที่จะอยู่รอดด้วยตัวเอง ท้ังน้ี ลักษณะสำคัญของเศรษฐกิจชุมชน คือ มีครอบครัวเป็นหน่วยกำรผลิต โดยอำศัยแรงงำนที่เป็นสมำชิก ของครอบครัว พึ่งพำทรัพยำกรในท้องถิ่น เน้นควำมสัมพันธ์ของคนในท้องถ่ินมำกกว่ำกำรผูกขำดและ กำรแขง่ ขัน อนั เปน็ ท่ีมำของคำวำ่ กำรพง่ึ ตนเองได้ 18

แนวคดิ อัตลกั ษณ์ชมุ ชน กำรท่องเท่ียวโดยชุมชน มีลักษณะเฉพำะท่ีทำให้ผลิตภัณฑ์กำรท่องเท่ียวของแต่ละชุมชน มีควำมแตกต่ำงกัน ปัจจัยสำคัญของลักษณะเฉพำะนี้ จะข้ึนอยู่กับอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชน (สชุ ำครีย์ ศรีรัตน์, 2553) ควำมหมำยของคำว่ำ “อัตลักษณ์” คือ ควำมรู้สึกว่ำเป็นพวกเดียวกัน (Self-Ascription) เป็น ควำมพยำยำมที่จะสร้ำงขอบเขตที่ชัดเจนของบุคคล อัตลักษณ์เป็นสิ่งที่ไม่ตำยตัว เพรำะสำมำรถ เปลี่ยนแปลงหรือสร้ำงอัตลักษณ์ได้ตลอดเวลำ กำรศึกษำเก่ียวกับ “อัตลักษณ์” (Identity) เพื่อบ่งบอก ถึงควำมรู้สึกนึกคิดที่บุคคลมีต่อตนเองว่ำ “ฉันคือใคร” นับเป็นส่ิงท่ีเกิดข้ึนจำกกำรปฏิสังสรรค์ระหว่ำง ตัวเรำกบั คนอน่ื โดยผ่ำนกำรมองตนเองและกำรทค่ี นอน่ื มองเรำ กล่ำวโดยสรุป “อัตลักษณ์” (Identity) คือกำรจำแนกว่ำส่ิงไหนที่เหมือนกันหรือต่ำงกัน ควำม เหมือนอำจจะเกิดจำกวัฒนธรรมที่ได้รับกำรส่ังสมถ่ำยทอดมำ โดยท่ีจะมีควำมสำนึกว่ำส่ิงเหล่ำนั้น เป็นอัตลักษณ์หรือลักษณะเฉพำะของกลุ่มตนเพียงอย่ำงเดียว ซึ่งเหมือนเฉพำะกลุ่มนี้ก็ทำให้เกิดกำร แบง่ แยกควำมแตกตำ่ งไปจำกกลุ่มอ่นื ๆ หรือลกั ษณะอืน่ ๆ ของกลุ่มอื่น สังคมอืน่ เปน็ ต้น เพือ่ ทำควำมเข้ำใจควำมหมำยในมุมของ อัตลักษณ์ชุมชน ตำมแนวคิดของนักวิชำกำรคนอ่ืน ๆ พบว่ำ อัตลักษณ์ โดยทั่วไปแล้วมักจะเข้ำใจว่ำเป็นลักษณะเฉพำะท่ีแสดงถึงควำมเป็นตัวตน (เสกสรร สรรสรพิสุทธิ์.2546) จึงทำให้มีควำมรู้สึกโดยสำมัญสำนึกว่ำอัตลักษณ์และเอกลักษณ์มีควำมคล้ำยคลึง กัน กล่ำวคือ คำว่ำ เอกลักษณ์ หมำยถงึ ลักษณะเฉพำะของบุคคลหรือสิ่งใดส่ิงหนึ่ง และทำให้ส่ิงนั้นโดด เด่นขึ้นมำแตกต่ำงจำกสิ่งอื่น ๆ ในขณะท่ีอัตลักษณ์นั้น อภิญญำ เฟ่ืองฟูสกุล (2546) ได้กล่ำวว่ำ อตั ลักษณ์เป็นกำรเข้ำถึงควำมจริง หรือ แก่นแกนของลักษณะเฉพำะหรือคุณสมบัติของบุคคลหรือสิ่งใด สิ่งหนึ่ง ที่สำมำรถเล่ือนไหลเปลี่ยนแปรไปได้ตำมบริบท จึงทำให้อัตลักษณ์มีลักษณะไม่หยุดน่ิง แต่มีพล วตั รทเี่ ปลีย่ นแปลงอยูต่ ลอดเวลำ ดงั นนั้ อตั ลักษณ์ชมุ ชน จงึ มีนัยทเ่ี ป็นกำรเขำ้ ถึงควำมจริง หรือ แก่นแกน ควำมเป็นชุมชนนั้น ๆ ซึ่งมีควำมเชื่อมโยงสัมพันธ์กันระหว่ำง เศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ที่เปล่ียนแปล งได้ ตำมยุคสมยั และเง่อื นไขขององคป์ ระกอบท่แี ปรเปลี่ยนไป 19

เมื่อนำแนวคิดข้ำงต้นมำผสำนเข้ำกับแนวคิดเร่ืองกำรศึกษำวัตถุทำงวัฒนธรรมของกลุ่ม โบรำณคดีใหม่ (New-Archaeology) กำรศึกษำวัฒนธรรมแบบองค์รวมที่เรียกว่ำ “ระบบองค์รวมทำง วัฒนธรรม” (Cultural holistic) ที่หมำยถึง ระบบต่ำง ๆ ท่ีประกอบกันเป็นรูปแบบวัฒนธรรม ประกอบด้วย (1) ระบบควำมเช่ือ (2) ระบบกำรต้ังถิ่นฐำน (3) ระบบเทคโนโลยี (4) ระบบกำรจัด ระเบียบทำงสังคม และ (5) ระบบกำรดำรงชีพ ที่มีควำมเชื่อมโยงสัมพันธ์กันระหว่ำงเศรษฐกิจ และ สังคมวัฒนธรรม โดยมีสิ่งแวดล้อมและทรัพยำกรธรรมชำติเป็นฐำน(ดุจฤดี คงสุวรรณ์ และภัทรีพันธ์ุ พันธุ,2552 อำ้ งในสุชำครีย์ ศรีรัตน์,2553) อธิบำยได้ว่ำ โดยทั่วไปแล้วกำรรวมตัวอยู่รวมกันของคนเป็น ชุมชนนั้นก็เพ่ือดำรงชีพให้อยู่รอดร่วมกัน มีควำมต้องกำรในกำรบริโภคเป็นตัวกำหนดให้เกิดกำรผลิต โดยใช้ประโยชน์จำกทรัพยำกร และกระจำยผลผลิตนำไปบริโภคร่วมกัน เป็นวงจรเศรษฐกิจ หรือ กิจกรรมกำรทำมำหำกิน เช่ือมโยงสัมพันธ์กับสังคมวัฒนธรรม ได้แก่ (1) ทักษะ ภูมิปัญญำ และ เทคโนโลยี จะมีผลต่อรูปแบบกำรผลิต ในขณะที่ (2) ควำมคิดควำมเชื่อ และรูปแบบกำรจัดกำร ทรัพยำกรจะมผี ลตอ่ กำรใช้ประโยชน์จำกทรัพยำกร พร้อมกันน้ี (3) กำรจัดระเบียบทำงสังคมก็จะผลต่อ กำรอยรู่ ่วมกนั อยำ่ งผำสุก ภำยใต้สิ่งแวดล้อมใด ๆ ท่จี ะเป็นทั้งฐำนทรัพยำกร และปัจจัยกำหนดลักษณะ กำรตั้งถ่ิน ควำมคิดควำมเช่ือ ทักษะ และภูมิปัญญำ ตลอดจนกำรจัดระเบียบทำงสังคมของชุมชน ท้งั หมดทกี่ ลำ่ วมำนี้ จงึ เปน็ แก่นแกนของชุมชน หรืออตั ลกั ษณช์ ุมชน ดังภำพที่ 2 อัตลกั ษณ์ชมุ ชน ส่ิงแวดล้อม สังคมวัฒนธรรม (3)การจัด เศรษฐกจิ (1)ทกั ษะ ภมู ิปัญญา ระเบยี บทาง บริโภค สงั คม และ “สามเหลีย่ ม เทคโนโลยี ทรพั ยาดการรงชพี ” ผลิต (2) ความคดิ ความเชือ่ และ รูปแบบการจัดการทรพั ยากร แผนภาพท่ี 2 แสดงอตั ลักษณ์ชมุ ชน 20

แนวคิดความสัมพนั ธ์ระหว่างเจ้าบ้านกบั ผู้มาเยอื น สุชำครยี ์ ศรีรัตน์ (2553) ได้รวบรวมและเสนอว่ำ ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงเจ้ำบ้ำนกับผู้มำเยือนนี้ เป็นแนวคิดที่คิดค้นขึ้นโดย Smith (1978) ทั้งนี้จำกควำมตระหนักถึงควำมสัมพันธ์ในลักษณะของกำร เผชิญหน้ำกันระหว่ำงประชำชนในท้องถิ่น หรือ ผู้เป็นเจ้ำบ้ำน กับนักท่องเที่ยว หรือ ผู้มำเยือน ซึ่ง แนวคิดนไี้ ดร้ บั กำรพฒั นำเร่ือยมำเป็นลำดับ (Darlene McNaughton, 2006) ตำมแนวคิดนี้ McIntosh and Goeldner (1990 อ้ำงใน สริ ินยำ วัฒนสขุ ชัย, 2545) ให้คำนิยำมของนักท่องเท่ียว คือ ผู้มำเยือนที่ ใช้เวลำอย่ำงน้อย 24 ช่ัวโมงในพ้ืนที่ท่ีเดินทำงไปถึงเพ่ือจุดประสงค์ของกำรพักผ่อน สันทนำกำร และ วันหยดุ ส่วนเจำ้ บำ้ น คือ เจำ้ ของพ้นื ที่ ท่เี ปน็ จุดหมำยของกำรเดินทำง ทั้งผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ทำงตรง และทำงออ้ มจำกกำรท่องเท่ยี ว และรวมถึงผู้ใหบ้ รกิ ำรในกำรทอ่ งเท่ียวดว้ ย สิรินยำ วัฒนสุขชัย (2545) ได้ศึกษำลักษณะของผู้มำเยือนในแหล่งท่องเที่ยวท่ีเลือกจุดหมำย ทำงกำรทอ่ งเทยี่ วแบบกำรเทยี่ วชมในหมูบ่ ำ้ น ว่ำมี 2 ลกั ษณะ คอื 1) ผู้มำเยือนท่ีโหยหำอดีต (Nostalgia) ซึ่งเป็นลักษณะผู้มำเยือนที่สอดคล้องกับแนวคิดของ Rosaldo (1989) โดยเป็นกลุ่มนักท่องเท่ียวผู้ซ่ึงมีอดีตท่ีเคยสัมผัสกับวิถีชีวิตในแบบท่ีหมู่บ้ำนนี้ได้ นำเสนอให้กับนักท่องเที่ยว และในปัจจุบันพวกเขำไม่ได้มีชีวิตในรูปแบบดังกล่ำวอีกต่อไป เป็นลักษณะ อำกำรของผู้กลับมำที่หมู่บ้ำนแห่งนี้ด้วยควำมโหยหำอดีต ผู้มำเยือนกลุ่มนี้เป็นได้ท้ัง นักศึกษำ อำจำรย์ นักวจิ ัย และนักท่องเท่ยี วท่ีเคยสัมผสั กบั ธรรมชำติ สภำพแวดลอ้ มควำมเปน็ อยู่ที่คล้ำยกับหม่บู ้ำนแหง่ น้ี 2) ผูม้ ำเยอื นทีม่ ำค้นหำควำมเปน็ ของแท้ (Authenticity) เป็นลักษณะผู้มำเยือนที่สอดคล้องกับ แนวคิดของ Macannell (1976) ซึ่งเป็นผู้มำเยือนที่เป็นผู้คนในสังคมสมัยใหม่ท่ีเช่ือว่ำควำมจริง (Reality) และควำมเป็นของแท้ (Authenticity) นั้นมีอยู่แต่ในท่ีอ่ืน อยู่ในสังคม วัฒนธรรมอื่น อยู่ ในช่วงเวลำ ในประวัติศำสตร์ที่บริสุทธ์ิกว่ำ หรือในวิถีชีวิตท่ีเรียบง่ำย หรือแห่งหนใดก็ตำมท่ีไม่ใช่สังคม ของพวกเขำ เวลำของพวกเขำที่ซับซ้อนและยุ่งยำก คนสมัยใหม่มักจะไม่มีควำมสัมพันธ์กับครอบครัว ชุมชน และสังคมของตัวเอง แต่ในทำงตรงกันข้ำม พวกเขำกลับเริ่มสนใจ “ชีวิตจริง” (Real life) ของ คนอ่ืน เพรำะฉะนั้นผู้มำเยือนจึงมักจะสนใจชีวิตควำมเป็นอยู่ รวมไปถึงกำรทำงำนของชำวบ้ำนใน หมู่บ้ำนอยู่เสมอ และพวกเขำก็จะรู้สึกมีควำมสุขที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมและชีวิตประจำวันของ ชำวบ้ำน เพรำะกำรได้จับต้องส่ิงของยอ่ มให้ควำมรู้สกึ ที่ลึกซง้ึ กว่ำกำรยืนสังเกตกำรณ์เพียงอย่ำงเดียว 21

สิรินยำ วัฒนสุขชัย (2545) ยังพบในกำรศึกษำครั้งน้ีอีกว่ำ เจ้ำบ้ำนในแหล่งท่องเที่ยวท่ีเป็นชุมชน หมู่บ้ำนนั้น แบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนได้แก่ เจ้ำบ้ำนผู้มีรำยได้จำกกำรท่องเท่ียว กับเจ้ำบ้ำนท่ีไม่ได้รำยได้ จำกกำรท่องเท่ียว ซึ่งตรงกับแนวคิดของ Nettekoven (1979) ที่ได้แยกประเภทเจ้ำบ้ำนไว้ว่ำ ประกอบด้วยเจ้ำบ้ำนมืออำชีพ (Professional host) ซ่ึงหมำยถึงผู้ท่ีได้รับผลประโยชน์จำกกำร ทอ่ งเที่ยว และ เจ้ำบำ้ น (Host) ทเี่ ปน็ ผคู้ นในทอ้ งถน่ิ แต่ไม่ไดร้ บั ผลประโยชนจ์ ำกกำรท่องเท่ียว ท้ังนี้จำก เจ้ำบ้ำนทั้ง 2 ส่วนที่กล่ำวมำแล้วนั้น ยังมีเจ้ำบ้ำนที่สำคัญอีกกลุ่มหน่ึงคือ ส่ิงมีชีวิตประจำถิ่น อันได้แก่ พืช และ สัตว์ในท้องถ่ิน ที่ได้รับผลกระทบทั้งทำงตรงและทำงอ้อมจำกกำรท่องเท่ียว กรณีตัวอย่ำงที่ ชดั เจน คอื ห่ิงห้อย ในแหลง่ ท่องเทยี่ วในอำเภออัมพวำ จงั หวดั สมุทรสงครำม เปน็ ต้น เม่ือพิจำรณำตำมหลักกำรพัฒนำท่ียั่งยืน ประเด็นท่ีต้องคำนึงถึงในแนวคิดนี้ Erick T. Byrd (2007) ไดเ้ สนอแนวคดิ กำรจดั กำรกำรทอ่ งเทย่ี วท่ียั่งยืน ต้องให้ควำมสำคัญกับควำมสัมพันธ์ระหว่ำงเจ้ำ บ้ำนกับผู้มำเยอื น ใน 4 ประเดน็ คือ 1) เจ้ำบ้ำนปัจจุบัน คือ ต้องทรำบว่ำใครบ้ำงที่มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งทำงตรงกับทำงอ้อมต่อกำร จดั กำรท่องเทีย่ วในปัจจุบนั และควรให้เจ้ำบ้ำนเขำ้ มำมสี ่วนในกำรกำหนดแนวทำงกำรทอ่ งเท่ียวอย่ำงไร 2) เจ้ำบำ้ นในอนำคต คอื ภำยหลงั จำกเกิดกำรท่องเทยี่ วขึน้ แลว้ เม่อื มีกำรจำ้ งงำน สร้ำงอำชีพก็ จะเกิดผูเ้ ปน็ เจ้ำบ้ำนรำยใหม่เกิดข้ึน อีกทั้งยังรวมถึงเด็กและเยำวชนที่จะต้องทำหน้ำที่เจ้ำบ้ำนสืบต่อไป ในอนำคต จงึ ควรมแี นวทำงกำรจัดกำรว่ำจะให้เจ้ำบำ้ นในอนำคตเหลำ่ นัน้ มีสว่ นต่อกำรจัดกำรท่องเท่ียว อย่ำงไรดว้ ยเชน่ กนั 3) ผู้มำเยือนปัจจุบัน คือ ผู้ที่เข้ำมำท่องเที่ยวตำมกิจกรรมกำรท่องเท่ียวท่ีจัดขึ้น ทั้งน้ีต้อง คำนงึ ถึงคณุ ภำพของประสบกำรณ์และควำมพึงพอใจสูงสุดท่ีนักท่องเท่ียวหรือผู้มำเยือนเหล่ำนั้นควรจะ ได้รบั 4) ผู้มำเยือนในอนำคต กำรดำเนินกำรท่องเท่ียวจำเป็นต้องคำนึงถึงผู้ที่จะมำเยือนในอนำคต ทั้งท่ีเปน็ กำรกลับมำเท่ยี วซ้ำของนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน รวมถึงนักท่องเท่ียวหรือผู้มำเยือนรำยใหม่ที่จะ เกิดขึ้นในอนำคต ซง่ึ ควรได้รบั คณุ ภำพและควำมพึงพอใจสงู สดุ ในกำรมำเยือนดว้ ยเช่นกนั นอกจำกนี้ เทิดชำย ชว่ ยบำรุง (2552) ยังไดอ้ ธิบำยถึงแนวคิดของกำรมุ่งเน้นให้เกิดควำมสมดุล กันระหว่ำงเจ้ำบ้ำน (Host) และผู้มำเยือน (Guest) ว่ำแผนกำรจัดกำรและพัฒนำผลิตภัณฑ์ทำงกำร ท่องเทย่ี วและแผนกำรกำรตลำดทำงกำรท่องเที่ยวจะต้องมีควำมสอดคล้องและสัมพันธ์กันโดยแผนกำร 22

จัดกำรและพัฒนำผลิตภัณฑ์ทำงกำรท่องเท่ียวมีประเด็นย่อยท่ีต้องพิจำรณำได้แก่กำรเพิ่มขีด ควำมสำมำรถในกำรรองรับนักท่องเทย่ี วกำรพัฒนำสิ่งอำนวยควำมสะดวกทำงกำรท่องเท่ียวในด้ำนต่ำงๆ รวมไปถงึ กำรจดั กำรภูมสิ ถำปัตยกรรมทำงกำรทอ่ งเท่ียวกำรพัฒนำและจัดกำรพ้ืนที่อย่ำงมีประสิทธิภำพ กำรพัฒนำเส้นทำงในกำรเดินทำง –ทำงเท้ำและกำรพัฒนำสุนทรียศำสตร์ทำงกำรท่องเที่ยวกำรบริกำร ด้ำนต่ำงๆที่เหมำะสมและเพียงพอและประเด็นที่สำคัญอีกประเด็นหนึ่งก็คือกำรพัฒนำกิจกรรมและ ระบบฐำนข้อมลู ท่ีทำใหน้ ักทอ่ งเท่ยี วสำมำรถเข้ำถึงสำรสนเทศที่ต้องกำรได้อย่ำงรวดเร็วและถูกต้องส่วน แผนกำรตลำดทำงกำรทอ่ งเท่ยี วนัน้ ก็ประกอบด้วยกำรต้ังรำคำสินค้ำและบริกำรท่ีเป็นธรรมกำรเพ่ิมช่อง ทำงกำรจำหนำ่ ยสนิ คำ้ และบรกิ ำรที่หลำกหลำยและมีประสิทธิภำพกำรผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภำพระดับ สำกลรวมไปถึงกำรส่งเสริมกำรตลำดอย่ำงต่อเน่ืองกำรส่งเสริมจิตวิทยำบริกำรกำรปรับเปล่ียนกลยุทธ ทำงกำรตลำดที่เหมำะสมกับสภำพกำรณ์กำรจัดแพคเกจทัวร์ที่หลำกหลำยเพื่อเสนอทำงเลือกแก่ ผู้บริโภคและควรจะมีกำรสร้ำงพันธมิตรทำงธุรกิจท่ีกว้ำงขวำงและครอบคลุมนอกจำกน้ียังมีปัจจัยอื่นๆ อีกหล ำยประกำรท่ีต้องพัฒนำควบคู่กันไปเพื่อนำไปสู่ กำ รพัฒนำกำรท่องเที่ยว อย่ำงยั่งยืนอย่ำงมี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ ำ พ แ ล ะ เ กิ ด ประสิทธิผลอย่ำงแท้จริงอีก หล ำย ปร ะเ ด็ นไ ด้แ ก่ก ำ ร พัฒนำทรัพยำกรมนุษย์ให้มี คุ ณ ภ ำ พ แ ล ะ ศั ก ย ภ ำ พ ที่ เพียงพอสำหรับรองรับกำร ขยำยตัวทำงกำรท่องเท่ียว และกำรพัฒนำกำรท่องเที่ยว อย่ำงย่งั ยนื กำรพัฒนำหลกั สตู รกำรศกึ ษำด้ำนกำรท่องเที่ยวนอกจำกนี้ยังจะต้องมีกำรจัดกำรส่ิงแวดล้อม และทรัพยำกรธรรมชำติอย่ำงมีประสิทธิภำพเพ่ือกำรท่องเที่ยวอย่ำงย่ังยืนรวมไปถึงกำรวิเครำะห์ ผลกระทบทำงเศรษฐกิจทำงกำรท่องเท่ียวท้ังทำงบวกและทำงลบกำรศึกษำกฎหมำยกำรท่องเที่ยวและ แก้ไขกฎหมำยบำงส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับสภำพสังคมและเป็นธรรมแก่ท้ังเจ้ำบ้ำน (Host) และผู้มำ เยือน (Guest) กำรเพม่ิ ควำมสะดวกในกำรเดินทำงเชน่ ระบบกำรตรวจคนเข้ำเมืองกำรขอวีซำและระบบ กำรรักษำควำมปลอดภัยและให้ควำมคุ้มครองในกำรเดินทำงกำรพัฒนำส่ิงอำนวยควำมสะดวกขั้น พ้นื ฐำน เชน่ รถรบั สง่ ถนนหนทำงรำ้ นอำหำรและศูนย์ข้อมูลข่ำวสำรสำหรับนักท่องเท่ียวรวมไปถึงกำร ส่งเสริมกำรลงทุนกำรสร้ำงเครือข่ำยควำมร่วมมือในด้ำนต่ำงๆท้ังในระดับท้องถ่ินระดับชำติและระดับ นำนำชำติและกำรพัฒนำและเพ่มิ บทบำทหน้ำท่ีขององค์กรด้ำนกำรท่องเที่ยวให้มีควำมครอบคลุมในทุก ระดบั ดังแผนภำพที่ 3 23

ความสมดุลระหว่างเจ้าบา้ นและผู้มาเยือน เจ้าบ้าน สมดลุ ผู้มาเยอื น แผนการจดั การและพัฒนา สอดคล้องและสัมพนั ธ์ แผนการตลาด ผลิตภัณฑท์ างการท่องเที่ยว ทางการท่องเทยี่ ว -ขีดควำมสำมำรถในกำรรองรับ เปน็ มติ รกับ -รำคำ, ช่องทำงกำร ทำงกำรทอ่ งเทยี่ ว สิง่ แวดล้อม จัดจำหน่ำย,ผลิตภณั ฑ์ -สิ่งอำนวยควำมสะดวก -กำรวำงแผนและ -กำรจัดกำรภูมิสถำปัตย์ สง่ เสริมกำรตลำด -กำรจดั กำรพ้นื ท่ีตำมวัตถุประสงค์ -จติ วทิ ยำกำรบริกำร -เสน้ ทำงเดนิ เท้ำ – ทำงเดนิ -แพคเกจทวั ร์, -สุนทรยี ศำสตร์, บรกิ ำร พันธมิตรทำงธุรกจิ -ขอ้ มูลข่ำวสำรและกจิ กรรมตำ่ งๆ แผนภาพท่ี 3 ควำมสมดุลระหว่ำงเจำ้ บ้ำนและผูม้ ำเยือน 24

เครอื ขา่ ยการท่องเท่ียวโดยชุมชน จังหวัดเชยี งราย วสิ ัยทัศนเ์ ครือขา่ ยการท่องเท่ียวโดยชมุ ชนเชียงราย “เปน็ ศูนย์กลางเช่ือมโยงชุมชนทอ่ งเทยี่ วในจงั หวัดเชยี งราย โดยใชก้ าร ทอ่ งเทยี่ วเปน็ เครื่องมอื ในการพัฒนาชุมชนท้องถน่ิ อย่างย่ังยืน และเน้น กระบวนการมสี ่วนรว่ มและชาวบา้ นเปน็ เจา้ ของอยา่ งแทจ้ รงิ ” เรียบเรยี งโดย อาจารย์ปทุมพร แก้วคา อาจารย์สานกั วชิ าการท่องเทย่ี ว นางสาวญาณัท ศริ ิสาร นกั วชิ าการศึกษา 25

การกอ่ เกดิ เครือข่ายทอ่ งเที่ยวโดยชุมชน จงั หวัดเชยี งราย เรยี บเรยี งโดย นางสาวญาณทั ศิรสิ าร นกั วิชาการศกึ ษา สานกั วิชาการทอ่ งเที่ยว พัฒนำกำรจุดเร่ิมต้นของกำรก่อเกิดเครือข่ำยกำรท่องเที่ยวโดยชุมชน จังหวัดเชียงรำย เริ่มต้น จำกกำรทำงำนบนพ้ืนฐำนกำรวิจัย โดยได้รับกำรสนับสนุนทุนจำกสำนักงำนกองทุนสนับสนุนกำรวิจัย (สกว.) ปี พ.ศ.2549-2553 ในกำรจัดทำโครงกำรวิจัยเร่ือง “การพัฒนาศักยภาพและเสริมสร้าง เครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน จังหวัดเชียงราย” โดยมีนำยไกรสิทธิ์ สิทธิโชดก เป็นหัวหน้ำ โครงกำรวิจัยขับเคลื่อนงำนในระดับจังหวัดและพ้ืนที่แล้วขยำยผลต่อยอดเข้ำสู่ ระยะที่ 2 มีนำยบันเทิง เครอื วงค์ เป็นหัวหนำ้ โครงกำรวิจัย กำรดำเนินงำนวิจัยคร้ังน้ีมีโครงกำรย่อยภำยใต้กำรขับเคลื่อนงำน 2 โครงกำร เพอ่ื พฒั นำพ้ืนทต่ี น้ แบบของกำรท่องเทีย่ วโดยชุมชนคือ บ้ำนโปง่ น้ำร้อน ตำบลดอยฮำง อำเภอ เมอื งเชียงรำย และบำ้ นรม่ ฟำ้ ไทย ตำบลตบั เต่ำ อำเภอเทิง จงั หวดั เชยี งรำย มีเปำ้ หมำยสำคัญเพื่อให้เกิด กำรท่องเที่ยวอย่ำงยั่งยืนกับจังหวัดเชียงรำย ท้ังด้ำนทรัพยำกรธรรมชำติ วิถีชีวิตวัฒนธรรมประเพณีที่ เป็นเอกลักษณ์ของพ้ืนท่ี สวนทำงกับกำรท่องเท่ียวกระแสหลักที่กำลังเกิดขึ้นและสร้ำงผลกระทบต่อ ชมุ ชน กำรดำเนินงำนดังกล่ำว ประกอบด้วยทีมวิจัยที่มำจำกหลำยภำคส่วนทั้งหน่วยงำน องค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ิน องค์กรพัฒนำเอกชน(NGO) และชุมชนท้องถ่ิน ร่วมกันจัดประชุมร่วมกับชำวบ้ำน จำกชุมชนต่ำง ๆ ทั่วจังหวัดเชียงรำย รวมทั้งลงพ้ืนท่ีดูควำมพร้อมควำมต้องกำรของชุมชนต่อกำร จัดกำรท่องเที่ยว กำรจัดทำข้อมูลควำมสำคัญของชุมชนต่ำงๆ นำสู่กำรสร้ำงศูนย์ข้อมูลด้ำนท่องเท่ียว พัฒนำศักยภำพชำวบ้ำนในชุมชนเครือข่ำย ร่วมกันหำรูปแบบกำรจัดตั้งเครือข่ำย สร้ำงกฎระเบียบ สมำชิก ฯลฯ พร้อมกันนี้ ยังได้มีกำรประสำนกำรทำงำนร่วมกับหน่วยงำนต่ำง ๆ ท่ีมีแผนกำรทำงำน ด้ำนท่องเท่ียว อำทิเช่น ททท./ท่องเท่ียวและกีฬำจังหวัด/สมำคมผู้ประกอบกำร/องค์กำรบริหำรส่วน จังหวัด ตลอดจนสถำบันกำรศึกษำในพ้ืนที่ ทำให้เครือข่ำยกำรท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดเชียงรำยของ ภำคชุมชนข้ึน และได้รับกำรยอมรับต่อสำธำรณะชนทั่วไป เกิดควำมรู้ควำมเข้ำใจเรื่องกำรท่องเที่ยว แบบกำรท่องเที่ยวโดยชุมชนของชำวบ้ำน จำกจุดเร่ิมต้นดังกล่ำว มีสมำชิกเครือข่ำยกำรท่องเที่ยวโดย ชุมชน 21 ชุมชนเข้ำร่วมเป็นสมำชิก เพื่อขับเคล่ือนงำนในครั้งนี้ ต่อมำสำนักงำนกำรท่องเท่ียวและกีฬำ จังหวัดเชียงรำย กระทรวงกำรท่องเที่ยวและกีฬำ ยังได้สนับสนุนกำรดำเนิน “ โครงการสร้างชุมชนที่ เป็นพื้นท่ีต้นแบบการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนของจังหวัดเชียงราย” โดยมีเป้ำหมำยเพื่อให้เป็น แหลง่ เรยี นรกู้ ับชุมชนอ่นื ๆ ท่จี ะดำเนนิ กำรดำ้ นกำรท่องเทย่ี วโดยชุมชน 26

เม่ือปี พ.ศ. 2557 เครือข่ำยกำรท่องเท่ียวโดยชุมชนจังหวัดเชียงรำย ได้ขยำยเครือข่ำยควำม รว่ มมือกับหน่วยงำนอ่ืน ๆ เพิ่มมำกข้ึนทั้งในประเทศและประเทศเพ่ือนบ้ำน ได้แก่ สภำวัฒนธรรมเมือง เชียงตุง และวิทยำลัยครูหลวงน้ำทำ ทำกำรศึกษำทุนทำงสังคม พัฒนำศักยภำพทำงกำรท่องเที่ยวโดย กำรให้ควำมรู้และกำรศึกษำดูงำนแก่ชุมชนเพื่อสร้ำงเครือข่ำยกลไกกำรจัดกำรท่องเท่ียวในสำมประเทศ คอื เชยี งรำย ประเทศไทย เมืองเชยี งตุง เมยี นมำร์ และแขวงหลวงน้ำทำ สปป.ลำว โดยชุมชน 12 ชุมชน ได้มีโอกำสแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน (ศูนย์ศึกษำและพัฒนำกำรท่องเท่ียว.2557 หน้ำ 3 ) ปัจจุบัน (2559) เครอื ขำ่ ยกำรท่องเท่ียวโดยชุมชน ยังคงดำเนินกำรขยำยผลต่อยอดเพ่ือสร้ำงควำมเข็มแข็งให้แก่ ชุมชนต่อไป โดยยังคงยึดโยงเป้ำหมำยกำรดำเนินกำร ในระดับชุมชน ว่ำด้วยกำรจัดกำรกำรท่องเท่ียว โดยชุมชนตำมวิถีของชุมชนท่ีไม่สร้ำงผลกระทบทำงสังคมและส่ิงแวดล้อม ระดับเครือข่าย กำร ขับเคล่ือนบทบำทในกำรพัฒนำด้ำนต่ำงๆ คือ กำรผลักดันงำน CBT ของจังหวัดเชียงรำยสู่ประเทศ อำเซียนบนฐำนควำมรู้และกำรน้อมนำหลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียงมำเป็นหลักในกำรพัฒนำชุมชน กำรเชื่อมต่อนโยยำยด้ำน CBT ของทุกภำคส่วน ตลอดจนกำรปรับกระบวนกำรคิดในกำรทำงำนด้ำน CBT ของหนว่ ยงำน 27

บา้ นโปง่ นา้ รอ้ น Pong Nam Ron ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย ยินดตี อ้ นรับ… สทู่ ่ามกลางธรรมชาติ ปา่ ไม้ นา้ ตก เรยี นรกู้ ารทา้ ชาแบบดงั เดมิ ของชุมชน บ้ำนโป่งน้ำร้อน ยินดีต้อนรับทุกท่ำน เข้ำสู่หมู่บ้ำนท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ท่ำมกลำง ภูเขำ น้ำตก ไร่ชำ สวนเมี่ยง วิถีชุมชนตำม ภูมิปัญญำท้องถ่ิน ประเพณีวัฒนธรรมของ ชำวลำ้ นนำ และชนเผ่ำทีส่ วยงำม ต้ังอยู่ห่ำงจำกตัวเมืองเชียงรำยเพียง 30 กิโลเมตร คุณก็สำมำรถสัมผัสกับธรรมชำติ อันเงียบสงบและเป็นส่วนตัว มีจุดชมวิวพระ อำทิตย์ข้ึนยำมเช้ำที่สวยงำม พร้อมด้วยบริกำร อันอบอุ่นจำกคนในชุมชน บ้ำนพักทุกหลังได้ มำตรฐำนโฮมสเตย์ 28

กจิ กรรมแหง่ ความสุขบา้ นโปง่ นา้ รอ้ น  เส้นทำงเดนิ ปำ่ ศึกษำธรรมชำติ  แหล่งเรยี นรูก้ ำรทำชำแบบดงั้ เดิม ทำเม่ยี ง ทำแคบเจ สวนผลไม้  กำรแสดงวฒั นธรรมท้องถ่ิน 4 ชนเผ่ำ  อำหำรพน้ื บ้ำนและอำหำรชนเผ่ำ  ชมพระอำทติ ย์ขึ้นยำมเช้ำ แหล่งท่องเท่ียวในชุมชน  น้ำตกห้วยแกว้  นำ้ ผุร้อนผำเสริฐ  น้ำบ่อไก่ ผ้ปู ระสำนงำน : นำยเดชำ เตมิยะ, นำงยพุ นิ เตมยิ ะ ตดิ ตอ่ : 174 หมู่ท่ี 7 หมบู่ ำ้ นโป่งนำ้ รอ้ น ตำบลดอยฮำง อำเภอเมอื ง จงั หวดั เชียงรำย 57000 Tel: 053 163 337, 081 764 6991, 081 179 4319, 088 412 2665 Facebook: บ้ำนเมี่ยง โฮมสเตย์ e-mail: [email protected] 29

บา้ นทา่ ขนั ทอง Tha Khan Thong ต.บ้านแซว อ.เชยี งแสน จ.เชยี งราย “สนกุ สขุ แสน เทย่ี วแดนโคมค้า รมิ นา้ โขง เชอื่ มโยงลาว บา้ นพกั โฮมสเตย์ มนตเ์ สนห่ แ์ หง่ วถิ ีชวี ติ ชนบท อม่ิ กบั อาหารพนื บา้ น อุ่นกับนา้ ใจไมตร”ี บ้ำนท่ำขันทอง เป็นชุมชนแห่งกำร ทอ่ งเที่ยวเชงิ วฒั นธรรมและหมู่บ้ำนโฮมสเตย์ดีเด่น พืน้ ท่ีของหมบู่ ้ำนต้งั เลำะเรยี บไปตำมแนวแม่น้ำโขง ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส สนุกสนำนร่ำเริง ด้วยควำม เป็นชำวอีสำนที่โยกย้ำยถิ่นฐำนมำอำศัยอยู่ริม แม่น้ำโขง จึงมีประเพณีวัฒนธรรมที่หลำกหลำย อำหำรพื้นบ้ำนอีสำนก็ย่ิงเป็นช่ืนช อบของ นักท่องเท่ียวทั้งชำวไทยและชำวต่ำงชำติ และยังมี กลุ่มอำชีพท่ีหลำกหลำยท้ังกลุ่มจิ้งหรีด กลุ่มทอผ้ำ กลุ่มแสดงศิลปะวัฒนธรรมต่ำงๆ ที่น่ำไปเยี่ยม เยอื น 30

กจิ กรรมแหง่ ความสุขบา้ นทา่ ขนั ทอง  นงั่ รถอตี ๊อกชมท่งุ  กจิ กรรมดำนำ, ฝกึ ทอผ้ำ , ฝึกทำอำหำรพืน้ บ้ำน  กิจกรรมจับปลำแม่นำ้ โขง , เก็บไก  ท่พี ักโฮมสเตย์  พระสงิ ห์ค้ำ วดั บ้ำนแซว  เมอื งโบรำณ  หมู่บ้ำนชนเผ่ำดอยแม่แอบ  ศกึ ษำดงู ำนกลุม่ เล้ียงจง้ิ หรีด , ทอผ้ำ, ทอเส่อื กก ผู้ประสำนงำน: นำยเสถียร บญุ ปก ตดิ ตอ่ : 32 หมทู่ ่ี 3 หมูบ่ ำ้ นท่ำขนั ทอง ตำบลบำ้ นแซว อำเภอเชียงแสน จังหวดั เชยี งรำย 57150 Tel: 086-194-2647 , 084-919-8214 , 087-579-3450 นำยเศรษฐศกั ดิ์ พรหมมำ Tel: 053 181 241, 081 952 7058, 084 610 8533 Facebook: โฮมสเตย์บำ้ นท่ำขันทอง บ้ำนแซว , http://www.takuntong.com/ Website : www.takuntong.com 31

บา้ นรอ่ งปลายนา Rong Pai Na ต.บวั สลี อ.แมล่ าว จ.เชยี งราย “ยนิ ดแี ลว้ แขกแกว้ มาเยือน หมบู่ า้ นชนบทกลางเมืองวถิ พี อเพยี ง” บ้ำนร่องปลำยนำ หมู่บ้ำนชนบท กลำง เมือง อยู่ห่ำงจำกตัวเมืองเชียงรำยเพียง 14 กิโลเมตร ก่อนถึงวัดร่องขุนเม่ือเดินทำงจำก อำเภอพำน เปน็ หมู่บ้ำนที่ยังคงดำรงวิถีชีวิตแบบ ดัง้ เดิมทำ่ มกลำงสังคมเมือง และด้วยควำมมีมิตร ไมตรี ควำมมีน้ำใจของชุมชน มีควำมเป็นกันเอง แ ล ะ ยั ง เ ป็ น ห มู่ บ้ ำ น เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง แ ล ะ หมู่บ้ำนตัวอย่ำงในโครงกำร หน้ำบ้ำนหน้ำมอง ในบ้ำนน่ำอยู่ หลังบ้ำนน่ำดู ของจังหวัดเชียงรำย ด้วย และกำรสร้ำงสรรค์สินค้ำผลิตภัณฑ์งำน หัตถกรรมฝีมือกำรปั้นหม้อ เป็นกำรท่องเท่ียว เชิงสรำ้ งสรรค์ 32

กจิ กรรมแหง่ ความสุขบา้ นรอ่ งปลายนา  ศูนยก์ ำรเรยี นร้หู มบู่ ้ำน  กจิ กรรมฝกึ ปนั้ หม้อ , ทำตุก๊ ตำดับกลิ่น  กิจกรรมทำธปู สมนุ ไพร , ลูกประคบสมนุ ไพร  ทพ่ี ักโฮมสเตย์  เที่ยววัดรอ่ งขนุ  ชมท้องทุ่งนำสวยงำม  ชมิ อำหำรพื้นเมือง  กำรแสดงฟอ้ นรำ  เตำประหยดั พลงั งำนบ้ำนรอ่ งปลำยนำ ผ้ปู ระสำนงำน: นำงวนดิ ำ สำยจนั ทร์ ตดิ ตอ่ : 178 หมู่ 11 บำ้ นร่องปลำยนำ ต.บวั สลี อ.แม่ลำว จ.เชยี งรำย 57250 Tel: 080-6776237 Facebook: โฮมสเตย์บ้ำนรอ่ งปลำยนำ เชียงรำย 33

บา้ นสันทางหลวง San tang Loung ต.จนั จวา้ ใต้ อ.แมจ่ นั จ.เชยี งราย “วิถไี ทย วถิ ยี อง เชยี งราย” หมบู่ า้ นทอ่ งเทยี่ วเชงิ วฒั นธรรม บ้ำนสันทำงหลวง ห่ำงจำกเทศบำลตำบล จนั จว้ำเพียง 3 กิโลเมตร เป็นชุมชนชำติพันธ์ุไตยอง ท่ีอพยพมำตั้งถ่ินฐำนในจังหวัดเชียงรำยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2468 ชำวบ้ำนส่วนใหญ่ประกอบอำชีพทำ กำรเกษตร ทำไร่ ทำนำ ปลูกผักปลอดสำรพิษ ทำ เกษตรอินทรีย์และปุ๋ยหมักชีวภำพ นอกจำกนี้ยังมี กำรรวมตัวของชุมชนเพื่อส่งเสริมด้ำนกำรทอผ้ำ เพ่ือเพิ่มรำยได้แก่ชุมชน ต่อมำในปี ปี พ.ศ. 2556 ได้ริเรม่ิ กำรทำหมู่บำ้ นทอ่ งเท่ยี วเชงิ วฒั นธรรมข้นึ 34

กจิ กรรมแหง่ ความสุขบา้ นสนั ทางหลวง  อำหำรสุขภำพพนื้ บำ้ นสนั ทำงหลวง  แหล่งเกษตรชมุ ชน กลุ่มตำ่ งๆ ในชมุ ชน  ชมวถิ ีชวี ติ คนยองในหมบู่ ำ้ น  ชมของเลน่ พืน้ บำ้ น  ศึกษำเรยี นรปู้ ่ำสมุนไพรชมุ ชน  นวดและอบสมุนไพรพ้ืนบ้ำนสนั ทำงหลวง  ประเพณแี หข่ ันโตก ผปู้ ระสำนงำน: นำงสงั เวียน ปรำรมภ์ ตดิ ตอ่ : หมู่ 12 บำ้ นสนั ทำงหลวง ต.จนั จว้ำใต้ อ.แมจ่ นั จ.เชยี งรำย 57270 Tel: 086 922 5679 35

ภชู ฟี า้ Phu Chi Fa ต.ตบั เตา่ อ.เทงิ จ.เชยี งราย  ชุมชนภูช้ดี ำว “ ยนิ ดตี อ้ นรบั สภู่ ูชฟี า้ ”  ชมุ ชนพญำภิภกั ด์ิ  บ้ำนร่มฟ้ำไทย ความสุขของการท่องเที่ยวชมความสวยงาม บ้ำนร่มโพธเ์ิ งนิ ของธรรมชาติ และเป็นเส้นทางขี่จักรยาน ของ นักท่องเท่ยี วทีช่ ืน่ ชอบกำรป่ันจักรยำนหลำยคน ภูชี้ฟ้า เป็นยอดเขำสูงท่ีสุดในเทือกเขำ ดอยผำ หม่น ติดชำยแดนไทย - สำธำรณรัฐประชำธิปไตย ประชำชนลำว อยู่ในพื้นท่ีเขตอำเภอเทิง จังหวัดเชียงรำย ตั้งอยู่ในเขตป่ำสงวนแห่งชำติ มีเอกลักษณ์ทำงธรรมชำติ ด้วยลักษณะหน้ำผำปลำยยอดแหลม เป็นแนวยำวที่ช้ีไป บนฟ้ำ ทำงฝั่งประเทศลำว จึงเป็นท่ีมำของช่ือเรียกว่ำ \"ภู ช้ฟี ้ำ\" น่ันเอง ด้ำนที่ติดสำธำรณรัฐประชำธิปไตยประชำชน ลำว นับเป็นจุดชมวิวท่ีสวยท่ีสุด ทั้งน้ี กรมป่ำไม้ได้มีคำส่ัง ให้จัดตั้ง \"ภูชี้ฟ้ำ\" เป็นวนอุทยำน เมื่อวันที่ 6 กุมภำพันธ์ 2541 ด้วยเนื้อที่ประมำณ 2,500 ไร่ สูงจำกระดับน้ำทะเล ต้ังแต่ 1,200 เมตร ถงึ 1,628 เมตร 36

กจิ กรรมแหง่ ความสขุ ภูชฟี า้ แหล่งท่องเที่ยว  วนอุทยำนภูช้ฟี ้ำ, กำงเตน้ นอนดูดำว  ปั่นจักรยำนสิงหส์ ำมภู (ภูช้ีฟ้ำ-ภูผำตั้ง-ภูหลงถงั )  ภชู มดำว  ภผู ำสวรรค์  สตรอเบอร่ี ภูชฟี้ ำ้  ช้ีฟำ้ กำแฟสด  ศูนยส์ ง่ เสริมกำรเกษตรที่สงู ดอยผำหมน่  น้ำตกตำดไคร้  น้ำตกตำดหมอก องค์กำรบริหำรส่วนตำบลตับเต่ำ ติดตอ่ : 267 หมู่ 3 ต.ตับเตำ่ อ.เทงิ จ.เชียงรำย โทรศัพท์ 053-189111/081-7240052 โทรสำร 053-189117 www.Tubtaothoeng.go.th E-mail:[email protected] โทรนำยก: 084-4833399 ปลดั : 081-8855721 37

บา้ นโปง่ ศรนี คร Pong Sri Na Korn ต.โรงชา้ ง อ.ปา่ แดด จ.เชียงราย “โฮมสเตยโ์ ปง่ ศรีนคร” สมั ผสั วถิ ที อ้ งถน่ิ มนตเ์ สนหแ์ หง่ วฒั นธรรม ความสุขของแหล่งท่องเท่ียวที่มีความ บำ้ นโป่งศรีนคร มีบริกำรบ้ำนพักโฮมสเตย์ที่ หลากหลาย ในกำรใช้ภูมิปัญญำท้องถ่ินเป็น ได้มำตรฐำนหลำยหลังคำเรือน นอกจำกน้ี เครื่องมือหนุนนำในกำรทำกำรท่องเที่ยวของ บ้ำนโป่งศรีนคร และหมู่บ้ำนยังได้มีกำรจัดท่ี ชุมชน ประกอบไปด้วย นวดไทย สมุนไพร พักโฮมสเตย์ให้เป็นสัดส่วนอีก 1 แห่ง 3 ไทย อำหำรพ้ืนบ้ำน พิธีกรรมควำมเช่ือ หลงั โดยมีท้ังเรอื นเครื่องผูก และห้องพักที่มี เกี่ยวกับกำรเกษตรต่ำง ๆ บ้ำนโป่งศรีนคร อยู่ ทั้งแอร์และพัดลม รำคำคืนละ 200 บำท / ห่ำงจำกท่ีว่ำกำรอำเภอป่ำแดด 2 กิโลเมตร คน (ไม่รวมอำหำร) หำกจะต้องกำรสัมผัส สภำพพ้ืนท่ีท่ัวไปเป็นท่ีรำบเชิงเขำ บริเวณลุ่ม บรรยำกำศบ้ำนนำ กลิ่นหอมของต้นข้ำว ลม นำ้ องิ ประชำกรส่วนใหญ่ประกอบอำชีพทำนำ พดั ผ่ำนเยน็ ชืน่ ใจ ควรจะพักทเ่ี รือนเคร่ืองผกู เป็นชุมชนท่ีได้รับรำงวัลชนะเลิศจำกกำร ประกวดหลำกหลำยมีควำมเป็นเลิศในด้ำน กำรจัดกำรชุมช น ซ่ึงได้รับรำงวัลถ้ว ย พระรำช ทำนของพระบำทสมเด็จ พระ เจ้ำอยู่หัว รำงวัลระดับประเทศ ชุมชนปลอด ขยะ (ZeRo Waste) ประจำปี 2558 และถ้วย พระรำชทำนของสมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำ ฯ สยำมบรมรำชกุมำรี รำงวัลประกวดหมู่บ้ำน ดีเดน่ (บำ้ นสวยเมอื งสขุ ) ประจำปี 2558 ด้วย 38

กิจกรรมแหง่ ความสุขบา้ นโปง่ ศรีนคร  อร่อยกับอำหำรลำ้ นนำแบบขนั โตก  ชมกำรแสดงพน้ื บำ้ น  เย่ียมชมกลุ่มอำชีพตำ่ ง ๆ กำรปลกู ผกั ปลอดสำรพษิ กำรเลีย้ งปลำ กำรเพำะเหด็ และกำรใช้พลังงำนแสงอำทิตยใ์ นกำรชว่ ย รดนำ้ พชื ผักตำ่ งๆ กำรเลีย้ งกบ เลยี้ งกงุ้ ปุ๋ยหมกั ชีวภำพ ลดกำรใชส้ ำรเคมีในชุมชน  มบี ริกำรหอ้ งประชมุ ศนู ย์กำรเรียนรชู้ มุ ชน  ที่พกั โฮมสเตย์ ท่ีอยู่ : บำ้ นโปง่ ศรนี คร หมทู่ ่ี 11 ตำบลโรงชำ้ ง อำเภอป่ำแดด จังหวดั เชยี งรำย Facebook : บ้ำนโปง่ ศรีนคร ตำบลโรงช้ำง Email: [email protected] ติดต่อ : กำนนั มำนพ ชัยบวั คำ โทรศพั ท์และโทรสำร. 053-761330 , 081-2896944 39

เครอื ขา่ ยการทอ่ งเทย่ี วชมุ ชนพนื บา้ นอา่ ขา่ สมาคมเพอื่ การศกึ ษาและวฒั นธรรมชาวอา่ ขา่ เชยี งราย “ชมุ ชนทอ่ งเทยี่ วสขุ ภาพ” แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วเชงิ วฒั นธรรมชาตพิ นั ธอ์ า่ ขา่ ความสุขของแหล่งท่องเทียวชุมชน ไว้เป็นแหล่งเรียนรู้ของเยำวชนและคนใน วิถีชีวิตชนเผ่าและวัฒนธรรม ชนเผ่าอ่าข่า หม่บู ้ำน ซึ่งเป็นกำรจัดกำรภูมิปัญญำท้องถ่ิน ชนเผำ่ อ่ำข่ำเป็นกล่มุ ชำติพันธ์ุท่ีมีกำรรวมตัวกัน ของชุมชนมำประยุกต์ใช้กับกำรท่องเที่ยว อย่ำงเหนียวแน่น อำศัยอยู่ในพื้นท่ี 7 จังหวัด ในรูปแบบของ “อำข่ำสปำ” ด้วยกำรทำ ภำคเหนือ มีวัฒนธรรมประเพณีที่มีเอกลักษณ์ กิจกรรม กำรเก็บสมุนไพรในโรงเรียนป่ำไม้ เฉพำะ ทำให้เป็นท่ีสนใจของนักท่องเที่ยว ที่ตั้งอยู่ภำยในศูนย์ส่งเสริมสุขภำพอำข่ำ-ฮำ ชำวต่ำงชำตแิ ละคนไทย เครือข่ำยกำรทอ่ งเท่ียว หนี่ เพื่อนำไปอบไอน้ำด้วยสมุนไพร นับเป็น ชุมชนพื้นบ้ำนอ่ำข่ำ จึงเป็นเครือข่ำยของ กำรส่งเสริมและสนับสนุนภูมิปัญญำท้องถิ่น หมู่บ้ำนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเชิงนิเวศน์ ด้ำนสมุนไพร และอีกหลำยแห่งที่มีเป็น หลำยพื้นท่ี ศูนย์ส่งเสริมสุขภำพอำข่ำ-ฮำหน่ี แหลง่ ทอ่ งเที่ยวทน่ี ำ่ ไปศกึ ษำเรยี นรู้อีกดว้ ย บ้ำนแสนใจพัฒนำเป็นหนึ่งในแหล่งเรียนรู้เรื่อง สมนุ ไพร และอนรุ ักษ์สมนุ ไพรในชุมชน นอกจำกนี้ เครือข่ำยกำรท่องเทียวของ ชนเผ่ำอำข่ำ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงำม อีกหลำยแห่งท้ังท่องเทียวชมทิวทัศน์สำม ประเทศท่ีดอยสะโง้ อ.เชียงแสน กำรผลิต กำแฟที่บ้ำนแม่จันใต บ้ำนป่ำเกี๊ยะ ท่ีอำเภอ แม่สรวย เป็นตน้ 40

กิจกรรมแหง่ ความสุขของ เครอื ขา่ ยการทอ่ งเทยี่ วชมุ ชนพนื บา้ นอา่ ขา่  เรียนรวู้ ิถีชีวิตชนเผำ่  เสน้ ทำงเดนิ ปำ่ ศกึ ษำธรรมชำต,ิ สมุนไพร  อบสมุนไพรอำ่ ขำ่ , นวดพ้ืนบ้ำนอ่ำขำ่  รว่ มทำกจิ กรรมกับคนในชุมชนทห่ี ลำกหลำยรูปแบบ  ทีพ่ กั โฮมสเตยบ์ ำ้ นอำ่ ขำ่  อำหำรชนเผำ่ อ่ำข่ำ  กำรแสดงต่ำง ๆของชนเผ่ำ  กำรละเลน่ พน้ื บ้ำน  พิพธิ ภณั ฑพ์ นื้ บ้ำนอำ่ ขำ่ กำแฟบ้ำนแมจ่ ันใต/้ บ้ำนป่ำเก๊ียะ 41

รายชอ่ื เครอื ข่ายการท่องเที่ยวชุมชนพนื้ บา้ นอาขา่ จงั หวัดเชียงราย ชือ่ ชุมชน ที่อยู่ จุดเดน่ ทางการท่องเท่ียว 1. บำ้ นอำผำ่ พฒั นำ หว้ ยแมซ่ ำ้ ย ม.11 หมู่บำ้ นวฒั นธรรมชนเผำ่ อำข่ำ 2.บำ้ นสองแควพัฒนำ 3. บำ้ นดอยสะโง้ ต.แมย่ ำว อ.เมือง แหลง่ ท่องเที่ยวนำ้ ตกห้วยแม่ซำ้ ย 4.บำ้ นหว้ ยขีเ้ หลก็ จ.เชยี งรำย 5. บำ้ นแมจ่ ันใต้ ต.แมย่ ำว อ.เมือง หมบู่ ำ้ นวฒั นธรรมชนเผำ่ อำข่ำ 6. บ้ำนปำ่ เก๊ยี ะ 7.บำ้ นกลำง จ.เชยี งรำย 8. บำ้ นแสนใจพฒั นำ ต.ศรดี อนมูล แหลง่ ทอ่ งเท่ยี วโดดเดน่ คอื จุดชมวิว 9.บ้ำนหว้ ยโย อ.เชยี งแสน 3 ประเทศ และหมบู่ ำ้ นวัฒนธรรมชนเผำ่ อำขำ่ จ.เชียงรำย ต.วำวี หม่บู ้ำนทอ่ งเทย่ี วเชงิ วัฒนธรรม และกำรทอ่ ง อ.แม่สรวย เทียวเชงิ นเิ วศน์ จ.เชยี งรำย ม.25 ต.ท่ำก๊อ อ.แม่ หมู่บ้ำนโฮมสเตย์ชนเผ่ำอำข่ำ สรวย จ.เชียงรำย ม.18 ต.ท่ำก๊อ วถิ ีชวี ิตชนเผำ่ อำข่ำ เรียนรูก้ รรมวิธกี ำรผลติ อ.แม่สรวย จ.เชียงรำย กำแฟของชุมชน ม. 6 ต.แมส่ ลองนอก หมู่บำ้ นวฒั นธรรมชนเผำ่ อำข่ำ อ.แมฟ่ ้ำหลวง จ.เชยี งรำย ม.22 ต.แมส่ ลองใน หมบู่ ำ้ นวัฒนธรรมชนเผ่ำอำข่ำ กำรท่องเทีย่ วเชิง อ.แมฟ่ ้ำหลวง สขุ ภำพ อำหำรชนเผ่ำอำข่ำ จ.เชียงรำย ต.แมส่ ลองนอก หมบู่ ำ้ นวฒั นธรรมชนเผำ่ อำข่ำ และกำรท่อง อ.แม่ฟ้ำหลวง เทียวเชงิ นิเวศน์ จ.เชียงรำย สมำคมเพอื่ กำรศึกษำและวัฒนธรรมชำวอำขำ่ เชียงรำย 468 หมู่ 4 ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชยี งรำย 57100 โทรศพั ท์ 05316750 หรือ 0819522179 42

บา้ นจะบสู ี Ja Boo Sri ต.แมส่ ลองนอก อ.แมฟ่ ้าหลวง จ.เชียงราย “โฮมสเตยบ์ า้ นจะบสู ี” สมั ผสั วถิ วี ฒั นธรรมชนเผา่ ลาหู่ และสงิ่ แวดลอ้ มทส่ี วยงาม หมู่บ้ำนจะบูสี ต้ังอยู่ท่ีตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้ำหลวง จังหวัดเชียงรำย ก่อตั้งเมื่อ ประมำณ ปี พ.ศ. 2450 เป็นชนเผ่ำลำหู่แดง ในแรกเริ่มนั้น คนทั่วไปบนดอยแม่สลองรู้จัก หมู่บ้ำนแห่งนี้ในนำม “จะคะต่อ” ซึ่งต้ังตำม ชื่อผู้นำคนแรกของหมู่บ้ำน จะบูสีเป็นหมู่บ้ำน แรกๆ ท่ีมำตั้งอยู่ ณ ดอยแม่สลองแห่งน้ี กว่ำ ร้อยปมี ำแล้ว เป็นชุมชนอุดมด้วยควำมอุดมสมบูรณ์ของ ทรัพยำกรธรรมชำติ และชุมชนยังคงรักษำ ประเพณีวัฒนธรรมด้ังเดิมไว้เป็นอย่ำงดี และ ยั ง เ ป็ น ก ร ณี ตั ว อ ย่ ำ ง ข อ ง ก ำ ร จั ด ก ำ ร ทรัพยำกรธรรมชำติโดยชุมชน โดยชุมชน ร่วมกับหน่วยงำนภำครัฐและเอกชนเข้ำร่วม โครงกำรป่ำชุมชน ซ่ึงอนุมัติโดยอธิบดีกรมป่ำ ไม้ ใช้กำรท่องเที่ยวเป็นเคร่ืองมือในกำร เผยแพร่ประเด็นเรื่องคนอยู่กับป่ำ และ เผยแพรว่ ถิ ชี ีวติ ชนเผ่ำอกี ด้วย 43

กจิ กรรมแหง่ ความสุขบา้ นจะบสู ี  ชมและศึกษำวถิ ีชีวติ และวัฒนธรรมชนเผำ่ ลำหู่  พิธีกรรมผูกข้อมอื เรียกขวญั /กำรตำข้ำวซอ้ มมอื  ชมงำนฝมี อื กำรปักผำ้ ชนผำ่ เชน่ เสือ้ กระเปำ๋ ฯลฯ  ชมิ อำหำรชนเผำ่ ลำหู่  ชมกำรแสดงทำงวฒั นธรรมและกำรละเล่นพื้นบ้ำน  ทพี่ ักโฮมสเตย์  กำรเทีย่ วชมธรรมชำติ เชน่ น้ำตก ป่ำไม้ เกบ็ ผกั หำปู หำปลำ และของป่ำตำมธรรมชำติ น้ำตกแมก่ ิ๊ก เป็นตน้ นำ้ แม่จัน เป็นแหล่งท่องเท่ยี ว ธรรมชำตทิ ่ีทำใหเ้ กิดควำมรม่ เย็น มคี วำมเชื่อกันวำ่ เป็นแหล่งน้ำที่มตี น้ ไมช้ นดิ หน่งึ เรยี กวำ่ “ตน้ ก๊กิ ” เปน็ ไม้มงคลกับชวี ิต ทอ่ี ยู่ : เลขท่ี 61 บ้ำนจะบสู ี หม่ทู ่ี 5 ตำบลแมส่ ลองนอก อำเภอแมฟ่ ้ำหลวง จงั หวดั เชียงรำย ตดิ ตอ่ : คณุ อมรรัตน์ รัตนำชัย โทรศัพท์ : 081-021-3992 องคก์ ำรบรหิ ำรสว่ นตำบลแมส่ ลองนอก 053 - 765129 นำยศิลำ ศรีวรลักษณ์ โทรศัพท์ : 081-541-9427 44

บา้ นแมส่ าด-เมอื งรวง Mae Sad-Muang Roung ต.แมก่ รณ์ อ.เมอื ง จ.เชยี งราย “ตลาดเกษตรปลอดสารพษิ เพอื่ สุขภาวะบนวถิ คี วามพอเพยี ง ” บ้านเมืองรวง เป็นหน่ึงในหมู่บ้ำนที่ มาเท่ียวที่นี่ ท่ำนจะได้สัมผัสกับ เข้ำร่วมโครงกำร “บ้ำนนี้มีรัก ปลูกผักกิน บรรยำกำศของชนบทชำนเมือง เอง” และโครงกำรเมล็ดพันธ์ุพระรำชทำน เพื่อนช่วยเพ่ือน และเม่ือวันอังคำรท่ี 9 สภำพแวดล้อมโดยรอบมองเห็นวิว กุมภำพันธ์ พ.ศ.2559 สมเด็จพระเทพ สภำพแวดล้อมโดยรอบมองเห็นวิว รัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี เสด็จ ทุ่งนำ ภำยในบริเวณบ้ำนแต่ละหลังคำเรือน พระรำชดำเนินทอดพระเนตรแปลงผักของ มีกำรปลูกผักปลอดสำรพิษไว้รับประทำน ร ำ ษ ฎ ร ท่ี เ ข้ ำ ร่ ว ม โ ค ร ง ก ำ ร ดั ง ก ล่ ำ ว และในบริเวณใกล้เคียงยังมีแหล่งท่องเที่ยว ณ บ้ำนนำงบัวผัด กำแพง (แม่ซ้อ) เป็นส่ิงท่ี ช่อื ดงั อยำ่ ง สงิ หป์ ำร์ค หรอื ไรบ่ ญุ รอด ดว้ ย สร้ำงขวัญและกำลังใจแก่ชุมชน ได้ดำเนิน รอยตำมพระรำชดำริและมุ่งม่ันกำรดำเนิน ชีวิตบนพ้ืนฐำนตำมหลักปรัชญำเศรษฐกิจ พอเพียงตอ่ ไป 45

กิจกรรมแหง่ ความสุขบา้ นแมส่ าด-เมอื งรวง  เรยี นรวู้ ถิ ีชมุ ชนเกษตรทำนำ, ปลกู ผกั ปลอด สำรพษิ และกำรลำกอวนหำปลำในสระ ท่ีบำ้ นแม่สำด  เรียนร้กู ิจกรรมกลมุ่ ต่ำงๆ ในชุมชน ไดแ้ ก่ กลมุ่ เลย้ี งนกกระทำ ,กลุ่มทำแหนม “จิน้ สม้ ”, กลุ่มจกั สำน  ชมิ สลัดบ้ำนนำ สูตรพเิ ศษของชมุ ชน และ ทำนแหนมนง่ึ แหนมอบ แหนมยำ่ งพร้อม ผักสดๆ จำกสวน  เลือกซ้ือผลติ ภัณฑช์ มุ ชนจำกตลำดบริเวณ ปำกทำงเข้ำหมบู่ ำ้ น มกี ำรจำหน่ำย ผกั ผลไม้ สดจำกสวน ทป่ี ลอดสำรพษิ  ท่พี ักโฮมสเตย์ ท่อี ยู่ : บำ้ นแมส่ ำด-เมืองรวง หมู่ 5 ตำบลแม่กรณ์ จงั หวัดเชยี งรำย ติดตอ่ : คุณบวั ผดั กำแพงแก้ว (แมซ่ ้อ) โทรศัพท์ : 089 951 7964 พงษ์ศกั ด์ิ ทลู อนิ ทร์ โทรศัพท์ : 089 261 5757 46

บา้ นหนองผกั เฮอื ด Nong Phak Huat ต.จอมหมอกแกว้ อ.แมล่ าว จ.เชยี งราย แหลง่ ผลติ อาหารปลอดภัย......... มาเยือนแลว้ สขุ ใจ ไดร้ อยยมิ กลบั ไปพรอ้ มความสขุ บ้ำนหนองผักเฮือด เป็นแหล่งผลิตผักสวน ครัวปลอดสำรพิษอีกแห่งหน่ึงของจังหวัด เชียงรำย ท่ีมีควำมน่ำสนใจในกำรจัดกำรน้ำ คือ แต่เดิมพ่อจันทร์และแม่เกี๋ยงคำเจ้ำของ สวนผักภูตำดในชุมชน ได้ช่วยกันขุดลอก เส้นทำงน้ำจำกน้ำตกในศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ ปำ่ มำจนถึงไร่ระยะทำงกว่ำ 600 เมตร ขนำด กว้ำง 1 เมตร ทำให้สวนภูตำดและพ้ืนที่ ใกลเ้ คยี ง มีนำ้ ใชต้ ลอดปี สง่ ผลได้สำมำรถปลูก ผกั สวนครัวได้ตลอดปี สร้ำงรำยได้ให้กับคนใน ชุมชน นอกจำกน้ีภำยในบริเวณใกล้เคียงของ ชุมชน ยังมีแหล่งท่องเท่ียวสำคัญอย่ำงพระ ธำตุจอมหมอกแก้ว และสถำนีเพำะเล้ียงสัตว์ ปำ่ แมล่ ำวด้วย 47

กิจกรรมแหง่ ความสขุ บา้ นหนองผกั เฮือด  สวนภตู าด เปน็ แหลง่ ผลติ อำหำรปลอดภยั ชมสวนผักปลอดสำรพิษ 10 ชนิด อำทิ มะเขือเทศ ถว่ั ฝักยำว หนอ่ หวำย บวบ แครอท ผักกำดขำว ผักร้นู อน แตงกวำ เปน็ ต้น  สถานีเพาะเล้ยี งสตั ว์ปา่ แม่ลาว ชมสำรพดั สัตว์ท้ังสัตว์ปกี สัตวอ์ นุรกั ษ์ อำทิ นกเงอื ก นกแก้ว นกมำรค์ อร์ ชะนี เตำ่ เปน็ ต้น  ไหว้พระธำตุจอมหมอกแก้ว หนึง่ ในพระธำตเุ กำ้ จอมแหลง่ ทอ่ งเทีย่ วสำคัญของจงั หวดั เชียงรำย  แวะดื่ม “แฟชั่นฟรุ๊ต” น้ำผักและผลไม้ เพ่ือสุขภำพ บนยอดดอยที่ “กินดีมีสุขฟาร์ม” ชมวิว 360 องศำ ชมสวนผลไม้ และผลไมต้ ำมฤดูกำลอ่ืน ๆ อำทิ เงำะ ลำไย ลน้ิ จี่ เปน็ ต้น ทอี่ ยู่ : บ้ำนหนองผักเฮอื ด หมทู่ ี่ 10 ตำบลจอมหมอกแกว้ อำเภอแมล่ ำว จังหวดั เชยี งรำย ตดิ ต่อ : คณุ รจนำ เขอ่ื นขนั โทรศพั ท์ : 089-9517964 Facebook : หนงิ สวนภตู ำด จรำ้ 48

บา้ นรอ่ งปลาขาว Rong Pla Khao ต.หว้ ยสกั อ.เมอื ง จ.เชียงราย “รอ่ งปลาขาว” สมั ผสั วถิ ที อ้ งถน่ิ มนตเ์ สนหแ์ หง่ วฒั นธรรม บ้ำนร่องปลำขำว เป็นหมู่บ้ำนเศรษฐกิจ พอเพียง ภำยในชุมชนมีกำรปลูกผักปลอด สำรพิษไว้เพ่ือใช้บริโภคในครัวเรือนเหลือจึง แบ่งขำยตำมหลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง โดยนำมำจำหนำ่ ยในตลำดสดของหมบู่ ำ้ น เพลิดเพลินและสัมผัสกับรรยำกำศของ ชุมชนชนบทที่มกี ำรปน่ั จักรยำน กำรใช้สำมล้อ เครื่อง คล้ำยรถซำเล้ง เท่ียวภำยในหมู่บ้ำน อย่ำงสนุกสนำน 49