101 การสรา้ งความเป็นปกึ แผน่ ของชาติ ดว้ ยครภู มู ปิ ญั ญาไทย รนุ่ ท่ี ๘ ความจริงแล้วครูบุญเลิศ ภูวิเลิศ มีคุณลุง-คุณป้า เป็น พระเอก-นางเอกหมอล�ำ คุณลุงเป็นคนเป่าแคนเก่ง ส่วนคุณ ปา้ เปน็ หมอล�ำเพลนิ ทม่ี ีเสียงไพเราะมาก จงึ เกิดการซมึ ซับและ มีแรงจูงใจในการเรียนรู้ศิลปะการแสดงอยู่ในจิตวิญญาณลึกๆ เริม่ แรกฝึกเป่าแคนและดดี พณิ เมือ่ อายุ ๒๐ ปี หลงั จากลาเพศ สมณะ ระหว่างนั้น ได้ศึกษาต่อจนส�ำเร็จครูพิเศษมัธยม (พ.ม.) และเขา้ รับราชการครูท่โี รงเรยี นโคกนาดี ต.โนนนาจาน อ.นาคู จ.กาฬสนิ ธ์ุ รำ่� เรยี นตอ่ จบจบ รฐั ศาสตรบ์ ณั ฑติ และ ศลิ ปศาสตร มหาบัณฑติ ครูบุญเลิศ เป็นผู้มีความสามารถในด้านการเล่นดนตรีพ้ืน เมืองอีสาน โดยเฉพาะแคน และ ปี่แอ้ภูไท การดีดพิณ และ ตีโปงลาง ในช่วงท่ีรับราชการ ครูได้พยายามถ่ายทอดความรู้ ความเชย่ี วชาญใหก้ บั นกั เรยี นใน จ.กาฬสนิ ธ์ุ และ เผยแพรค่ วาม รู้ในการเป่าแคนท้ังการเป่าตามแบบธรรมชาติโบราณ (ท�ำนอง ลีลา) และการเป่าแคนตามแบบสากล ตามโน้ต ในการศึกษา ตามอัธยาศยั “...มีคณุ ลงุ -คณุ ปา้ เป็นพระเอก-นางเอกหมอลำ� คุณลุงเปน็ คนเปา่ แคนเก่ง สว่ นคณุ ป้าเปน็ หมอลำ� เพลนิ ท่ีมเี สียงไพเราะมาก จึงเกดิ การซมึ ซับ และมีแรงจูงใจในการเรียนรูศ้ ิลปะการแสดงอยูใ่ นจิตวญิ ญาณลึกๆ...”
การสรา้ งความเปน็ ปกึ แผน่ ของชาติ 102 ด้วยครูภูมปิ ัญญาไทย รุ่นท่ี ๘ ท้ังนี้ ล้วนเป็นไปด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครู ท่ีมุ่งม่ัน สืบสาน ส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปะดนตรีพื้นเมืองอีสาน เอาไว้คู่ แผ่นดิน โดยมไิ ดม้ ุง่ หวงั ประโยชนจ์ ากการถา่ ยทอดแตป่ ระการใด แม้เกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็ยังคงการเล่นดนตรี อีสาน จนได้รับเลือกเป็นประธานสภาวัฒนธรรมอ�ำเภอ นาคู และกรรมการสภาวฒั นธรรม จังหวัดกาฬสินธ์ุ การท่ี นายบุญเลิศ ภูวิเลิศ ได้น�ำความรู้ ความสามารถ ด้าน ศิลปกรรม ท่ีตนเองได้รับการถ่ายทอด ศึกษา ค้นคว้า ฝึกฝน จน ประสบความส�ำเร็จเป็นประโยชน์โดยรวมแก่สังคม จึงได้รับการ ยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รตจิ ากสำ� นกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา กระทรวง ศึกษาธิการ ให้เป็นครูภูมิปัญญาไทย ด้านศิลปกรรม เพ่ือท�ำหน้าที่ ถ่ายทอดภมู ิปญั ญา ทงั้ การศึกษาในระบบการศกึ ษานอกระบบ และ ตามอัธยาศัย สืบไป ที่อยู่ปัจจุบัน เลขท่ี ๒๒ หมู่ ๙ ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ๔๐๒๕๐ โทร. ๐๘๘-๐๐๖-๔๔๙๐ เกยี รติคุณท่ีไดร้ ับ : ครภู มู ิปญั ญาไทย รุ่นที่ ๘ ด้านศิลปกรรม ส�ำนักงานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ๒๕๖๐
103 การสร้างความเป็นปกึ แผน่ ของชาติ ดว้ ยครภู ูมิปัญญาไทย รนุ่ ท่ี ๘ อุบลจังรหาวชดั ธานี นายดวง วังสาลุน ครูภมู ิปญั ญาไทย ด้านภาษาและวรรณกรรม นายดวง วงั สาลนุ (ดวงจนั ทรน์ อ้ ย) เกดิ เมอื่ วนั ที่ ๕ สงิ หาคม ๒๔๙๓ บา้ นเลขท่ี ๕๑ หมู่ ๑๔ บา้ นนาดี ต.สระสมิง อ.วารนิ ช�ำราบ จ.อุบลราชธานี เปน็ บตุ รคนที่ ๑ ในจำ� นวนพนี่ อ้ ง ๗ คน จบมธั ยมปลาย จากการศกึ ษานอกโรงเรยี น จ.อบุ ลราชธานี ครูดวง วงั สาลุน สนใจหมอล�ำมาตั้งแตเ่ ด็ก ไดฝ้ ึกลำ� และประพันธก์ ลอนลำ� ตลอดมา ตงั้ แตเ่ รยี นอยชู่ น้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ พอเรยี นอยชู่ น้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ กเ็ รม่ิ จบั แนวกลอนลำ� จงั หวะและเทคนคิ การรอ้ งลำ� ทำ� เพลงมาโดยตลอดมไิ ดข้ าด ผลงานที่สร้างช่ือเสียงในวงการ เร่ือง นางนกกระยางขาว ชนะเลิศการ ประพันธ์กลอนล�ำที่ประกวดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง ๕ จังหวัดขอนแก่น ท�ำให้ เกิดกำ� ลังใจสรา้ งสรรคผ์ ลงานประพนั ธก์ ลอนขน้ึ มากมาย อาทิ เรือ่ งสายแนนนา แก่น ตายตัวตาย ทางสองเสน้ สายแนนนาแกน่ เรอื นสามน�ำ้ ส่ี เมยี แท้แม่อิหลี พระยามัจจุราช เอดส์ บักลาอิ่มบ้ังข้าวหลาม ชีวิตรักอมตะ หนุ่มไทยสาวลาว มนต์รกั ลกู ทุง่ ตามนอ้ งทว่ั อีสาน
การสรา้ งความเปน็ ปึกแผน่ ของชาติ 104 ดว้ ยครูภมู ิปัญญาไทย รนุ่ ท่ี ๘ “...ครูจะสอดแทรกความดีงามไว้เพ่ือให้ผู้ฟังมีจิตใจท่ีดีงาม ให้รู้จักพอเพียงในการด�ำเนินชีวิต และ ภมู ปิ ัญญาทส่ี อดคล้องกบั ศาสตรพ์ ระราชา เชน่ ลำ� ลอ่ งชดุ พลงั คำ� สอนพอ่ (พระบรมราโชวาท ในวโรกาสต่างๆ) รวม ๘๙ กลอน ชดุ ลา่ สดุ ลำ� ลอ่ งชดุ พระราชประวตั ิองค์พอ่ ร.๙ ล�ำลอ่ งชดุ พระ ราชกจิ โครงการตา่ งๆ ลว้ นได้รับความนิยมชื่นชมไม่แพก้ นั ...” นอกจากน้ี ครูยังจะสอด แทรกความดีงามไว้เพ่ือให้ ตอ่ มาเม่อื ต้นปี พ.ศ. ๒๕๑๔ ครูดวง วงั สาลุน ได้รบั เชิญให้ ผู้ฟังมีจิตใจท่ีดีงาม ให้รู้จัก ไปอยใู่ นคณะหมอลำ� ทมี่ ชี อื่ เสยี งในจงั หวดั อบุ ลราชธานี มตี ง้ั แต่ พอเพียงในการด�ำเนินชีวิต คณะอุบลพัฒนา ในสมัยนนั้ มี คณุ องั คณา คณุ ไชย คุณสไบแพร และ ภมู ปิ ญั ญาทสี่ อดคลอ้ งกบั บวั สด และ คณุ ป.ฉลาดนอ้ ย สง่ เสรมิ รว่ มอยดู่ ว้ ย ภายใตก้ ารนำ� ศาสตร์พระราชา เช่น ล�ำลอ่ ง ของ อ.อำ� พร สง่าจิตร เปน็ หัวหนา้ และผจู้ ดั การคณะหมอล�ำ ชุด พลงั คำ� สอนพ่อ (พระบรม มีอยู่ช่วงหนึ่ง ท่ีไปจับมือ กับ ป.ฉลาดน้อย ตั้งคณะใหม่ ราโชวาทในวโรกาสต่างๆ) ต้งั ช่อื ว่า “คณะเพชรอุบล” เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ตง้ั แต่นัน้ มาได้ รวม ๘๙ กลอน ชุดล่าสุดล�ำ ใช้ชีวิตเป็นนักประพันธ์เต็มรูปแบบ เมื่อคณะอุบลพัฒนาได้รับ ล่องชุด พระราชประวัติองค์ รางวัลชนะเลิศจากการประกวดหมอล�ำ ที่กรมประชาสัมพันธ์ พ่อ ร.๙ ล�ำล่องชุด พระราช จดั ขึ้น จากวันนน้ั จนถึงปจั จุบัน มบี รษิ ทั หา้ งรา้ นตา่ ง ๆ หลาย กิจโครงการต่างๆ ล้วนได้รับ แหง่ ตดิ ตอ่ ใหอ้ ดั เทปและแผน่ เสยี งเปน็ รอ้ ยๆ เรอื่ ง และมากกวา่ ความนิยมชืน่ ชมไมแ่ พ้กนั ๓๖,๐๐๐ กลอน กลอนล�ำท่ีประพันธ์ขึ้นมักจะใช้ชื่อว่า “ดวง ผ ล ง า น ที่ ไ ด ้ รั บ ก า ร จันทรน์ อ้ ย” สร้างสรรค์มาแล้ว จัดว่า ผลงานล่าสุดปี ๒๕๖๐ ประยุกต์นิทานพื้นบ้านและเรื่อง เป็นผลงานดีเด่น เช่น กลอน ราวในพุทธศาสนา มาประพันธ์เป็นกลอนล�ำแทรกคุณธรรม ฉลอง ๒๐๐ ปี ของจังหวัด จรยิ ธรรม ใหค้ นตระหนกั ในคณุ งามความดขี องชวี ติ ถา่ ยทอดผล อุบลราชธานี กลอนล�ำล่อง งานการประพันธ์ผ่านหมอล�ำหลายคณะ อาทิ นิทานชาดกจาก แม่แบบ กลอนล�ำล่องอาลัย พระไตรปิฎก มหานบิ าตชาดก – พระเจา้ สบิ ชาต,ิ ชุด พระเจ้า สมเด็จย่า กลอนฉลองพุทธ ๕๐๐ ชาตแิ ละไดร้ วบรวมเพมิ่ จากพระไตรปฎิ กอกี ๔๗ ชาติ รวม ชยันตี ๒,๖๐๐ ปี ณ วันน้ียัง ๕๔๗ กลอน รวมทงั้ ชุดหลอกใหร้ อที่มออีแดง จนิ ตรา พูนลาภ ฟังได้ตลอดด้วยความประทับ ขับร้องและล�ำเพลนิ ไดร้ บั ความนิยมของประชาชนอยา่ งสูง ใจที่เตม็ ไปด้วยความงดงาม
105 การสรา้ งความเปน็ ปึกแผน่ ของชาติ ด้วยครูภมู ปิ ัญญาไทย รุ่นท่ี ๘ ท่ีน่าชื่นชม คือครูดวง วังสาลุน ได้พัฒนาและยึดอาชีพ การท่ี นายดวง วังสาลุน เป็นนักประพันธ์กลอนล�ำตลอดมาด้วยใจรัก แม้ว่าจะประสบ ได้น�ำความรู้ ความสามารถ กับปัญหานานัปการก็ไม่เคยย่อท้อ เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมของ ด้านศิลปกรรม ท่ีตนเองได้รับ ไทยต้ังแต่โบราณกาลให้คงอยู่ มุ่งหวังให้อนุชนรุ่นหลังซึมซับ การถ่ายทอด ศึกษา ค้นคว้า และยึดถอื เป็นแบบอย่าง ฝึกฝน จนประสบความส�ำเร็จ นับว่าครูดวง วังสาลุน เป็นนักเขียนกลอนและเพลงพ้ืน เปน็ ประโยชนโ์ ดยรวมแกส่ งั คม บ้านพ้ืนเมืองท่ีมีผลงานมากที่สุดคนหนึ่งของภาคอีสาน แม้ต่อ จงึ ไดร้ บั การยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รติ มาเมื่อได้เป็นก�ำนันและใช้ชีวิตเป็นนักปกครอง ก็ยังมีผลงาน จากส�ำนักงานเลขาธิการสภา ได้รับแหนบทองค�ำ ก�ำนันยอดเย่ียม และรางวัลอื่นๆ ตามมา การศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร มากมาย ให้เป็นครูภูมิปัญญาไทย ด้าน อกี ท้งั ครไู ม่เคยเกบ็ ง�ำความรคู้ วามสามารถเพ่อื ประโยชน์ ภาษาและวรรณกรรม เพื่อท�ำ ส่วนตน แต่ได้น�ำออกถ่ายทอด สาธิต สู่นักเรียนนักศึกษา ผู้ หน้าที่ถ่ายทอดภูมิปัญญาต่อ สนใจ ในศูนย์พัฒนาภูมิปัญญาพ้ืนบ้าน ศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญา ไปในนาม ครภู ูมิปัญญาในการ ไทย วทิ ยาลยั หมอลำ� และ วฒั นธรรมจังหวดั อุบลราชธานี เน้น จัดการศึกษา ท้ังการศึกษา การปฏิบัติจริงฝึกฝน จนประสบความส�ำเร็จเป็นประโยชน์โดย ในระบบ นอกระบบ และการ รวมแกส่ งั คม ศกึ ษาตามอัธยาศัย สบื ไป ทอ่ี ย่ปู จั จุบนั : บา้ นเลขท่ี ๖๕ หมู่ ๑๐ บ้านหนองฉิม ต.หนองไฮ อ.ส�ำโรง จ.อบุ ลราชธานี ๓๔๓๖๐ โทร. ๐๘๙- ๒๘๓-๑๘๙๗ เกยี รตคิ ณุ ทไี่ ดร้ บั : ผลงานดเี ดน่ ทางดา้ นวฒั นธรรม สาขาวรรณศลิ ป์ (รอ้ ยกรองพน้ื บา้ น) สำ� นกั งานคณะกรรมการวฒั นธรรม แหง่ ชาติ / รางวลั กำ� นนั แหนบทองคำ� / ศลิ ปนิ มรดกอสี าน ประเภท วรรณกรรมพนื้ บา้ น มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ / ครภู มู ปิ ญั ญา ไทย รุ่นท่ี ๘ ด้านภาษาและวรรณกรรม ส�ำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ๒๕๖๐
การสร้างความเปน็ ปึกแผ่นของชาติ 106 ดว้ ยครภู มู ิปัญญาไทย รุ่นท่ี ๘ มหาจสงั หาวรัดคาม นายทองไกร ปัญจะแก้ว ครภู ูมปิ ญั ญาไทย ดา้ นภาษาและวรรณกรรม นายทองไกร ปญั จะแกว้ เกดิ เมอ่ื วนั ที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๔๘๙ ณ บา้ นเลขท่ี ๖๐ หมทู่ ่ี ๑๓ ต.เสอื โกก้ อ.วาปปี ทมุ จ.มหาสารคาม เปน็ บตุ รคนโต ในจำ� นวน ๖ คนพ่ีนอ้ ง ของนายน้อย ปัญจะแกว้ และนางฝ้าย ปัญจะแก้ว ต่อมาสมรสกับนางสาวสมบัติ วิเชียร รมย์ มบี ตุ รชาย ๒ คน บตุ รหญงิ ๑ คน ครทู องไกร ปญั จะแกว้ เมอ่ื วยั เดก็ ตดิ ตามปไู่ ปวดั เปน็ ประจำ� ท�ำให้ได้รับความรู้เก่ียวกับหลักธรรมทางศาสนาและประเพณี และชอบดูมหรสพหมอล�ำหมู่ ล�ำเพลิน และสามารถจดจ�ำน�ำ มาเล่าเร่อื งราวใหพ้ ่อแมญ่ าตพิ ีน่ ้องได้รับฟงั แทบทงั้ หมด
107 การสร้างความเป็นปกึ แผน่ ของชาติ ดว้ ยครภู ูมปิ ญั ญาไทย ร่นุ ท่ี ๘ “...เมอ่ื วยั เดก็ ตดิ ตามปไู่ ปวดั เปน็ ประจำ� ทำ� ใหไ้ ดร้ บั ความรเู้ กย่ี วกบั หลกั ธรรมทางศาสนาและประเพณี และ ชอบดูมหรสพหมอล�ำหมู่ ลำ� เพลนิ และสามารถจดจำ� นำ� มาเลา่ เรอื่ งราวให้พอ่ แมญ่ าตพิ นี่ อ้ งไดร้ บั ฟังแทบ ทง้ั หมดได้...” อกี ทง้ั ยงั ชอบอา่ นหนงั สอื ทกุ ประเภทบทความ ความรดู้ า้ น ศาสนาและประเพณี วัฒนธรรม เกร็ดความรู้ต่างๆ เพื่อน�ำมา แต่งเรียบเรียงเป็นข้อมูลในการเขียนร้อยแก้ว ร้อยกรอง เพลง กลอนล�ำ กลอนแหล่ ท�ำให้เกิดความเช่ียวชาญในการถ่ายทอด ความรดู้ า้ นศาสนาและวฒั นธรรม ประเพณี ออกมาไดอ้ ยา่ งแจม่ แจง้ สละสลวย ชัดเจน นา่ ตดิ ตาม โดยเฉพาะการถ่ายทอดความรู้ด้านศาสนาและประเพณี เป็นเพลงประกอบการสอนวิชา อาทิ เพลงประกอบการสอน วิชาพระพุทธศาสนา กลอนแหลศ่ ีลห้า กลอนสรภัญญะ กลอน ส�ำนวนออนซอน และค�ำนิยมไทย ๑๒ ประการ เรือ่ ง ฮีต ๑๒ คอง ๑๔ เป็นต้น ผลงานทุกช้ินของครูทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นกลอน ล�ำ กลอนแหล่ และเพลง ถูกบันทึกถ่ายทอดความรู้ออกไป เป็นเอกสาร แผ่นซีดีบันทึกเสียงท้ังในสถานศึกษา วัด ชุมชน หมู่บา้ น และวิทยกุ ระจายเสยี ง เป็นเวลากวา่ ๒๕ ปี มผี รู้ ับการ ถ่ายทอดความรู้ไปใช้ประโยชน์เป็นจ�ำนวนมาก รวบรวมเพ่ือ ประโยชนแ์ กก่ ารศกึ ษาเรยี นรขู้ องผสู้ นใจและคนรนุ่ หลงั ตลอดมา เป็นจำ� นวนมาก
การสรา้ งความเปน็ ปกึ แผน่ ของชาติ 108 ดว้ ยครูภมู ปิ ญั ญาไทย ร่นุ ที่ ๘ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ครูทองไกร ได้เป็นที่ประจักษ์ชัดถึง ผลงานท่ีได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจท่ีจะถ่ายทอดปลูกฝังองค์ความ รดู้ งั กลา่ ว ซง่ึ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของการสบื สานภมู ปิ ญั ญาไทยและได้ เผยแพรค่ วามดงี ามสผู่ อู้ น่ื สชู่ มุ ชนโดยไมม่ งุ่ หวงั สงิ่ ตอบแทนใดๆ ท้ังส้นิ โดยมงุ่ สงั คมอยูด่ ีมีสขุ เป็นสำ� คญั การที่ นายทองไกร ปัญจะแกว้ ได้นำ� ความรู้ ความสามารถ ด้านแต่งกลอนสอนศาสนา ที่ตนเองได้รับการถ่ายทอด ศึกษา ค้นคว้า ฝึกฝน จนประสบความส�ำเร็จเป็นประโยชน์โดยรวมแก่ สังคม จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากส�ำนักงานเลขาธิการ สภาการศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ใหเ้ ปน็ ครภู มู ปิ ญั ญาไทย เพอ่ื ท�ำหน้าท่ีถ่ายทอดภูมิปัญญาในการจัดการศึกษาท้ังการศึกษาใน ระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย สืบไป ท่ีอยู่ปัจจุบัน : เลขที่ ๙๑ ต.เสือโก้ก อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ๔๔๑๒๐ โทร. ๐๘๘-๓๓๖-๙๑๐๑ เกียรติคณุ ทไ่ี ดร้ ับ : บุคคลตน้ แบบการปฏริ ูปกระบวนการเรยี นรู้ ส�ำนกั งานคณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติ / ครูเกยี รตยิ ศ ส�ำนกั งานการประถมศึกษาจงั หวัดมหาสารคาม / ครูภูมปิ ญั ญาไทย รุ่นท่ี ๘ ดา้ นภาษาและวรรณกรรม ส�ำนกั งานเลขาธิการสภา การศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ ๒๕๖๐
109 การสร้างความเปน็ ปึกแผน่ ของชาติ ด้วยครูภูมิปัญญาไทย รุ่นท่ี ๘ อบุ ลจังรหาวชัดธานี นายสมชาย ฐานเจรญิ ครภู มู ปิ ญั ญาไทย ด้านภาษาและวรรณกรรม นายสมชาย ฐานเจริญ เกิดเม่ือวันท่ี ๒๘ ธันวาคม ๒๕๐๘ ท่บี ้านหนองอ้อ ต.ชบี น อ.บา้ นเขวา้ จ.ชยั ภมู ิ บิดานายทอง ฐาน เจรญิ มารดา นางกลึง ฐานเจรญิ เป็นบุตรคนท่ี ๓ ในจ�ำนวนพ่ี น้อง ๔ คน สมรสกับ นางสาวจตุพร โพธิบา มีบุตรชาย ๑ คน บุตรหญิง ๓ คน ครสู มชาย ฐานเจรญิ เมอ่ื เยาวว์ ยั อยใู่ นทอ้ งถนิ่ แวดลอ้ มดว้ ย ธรรมชาติท่ีดี ด�ำเนินชีวิตท่ามกลางความงดงามด้านประเพณี และวัฒนธรรม พ่อและแม่เป็นแบบอย่างท่ีดี แม้ว่าเรียนไม่เก่ง แต่ชอบท่องจ�ำวชิ าภาษาไทย และชอบประดิษฐข์ องเลน่
การสรา้ งความเป็นปึกแผน่ ของชาติ 110 ด้วยครูภูมปิ ัญญาไทย รนุ่ ท่ี ๘ ช่วงหน่ึงท่ีได้บวชเรียน “....ได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองเรื่อยมา จากประสบการณ์การ พ ร ะ ธ ร ร ม วิ นั ย ส อ บ ไ ด ้ ท�ำงานต้ังแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ถึง พ.ศ. ๒๕๔๔ มีผลงานการ นักธรรมช้ันเอก - เปรียญ ประพันธ์กลอน กลอนล�ำและเพลงส่วนใหญ่ประพันธ์ข้ึน ไม่คิด ธรรม ประโยค ๑ - ๒ แล้ว เป็นมูลค่าทางด้านวัตถุ แต่เน้นเพ่ืออนุรักษ์ ส่งเสริม เผยแพร่ จบปริญญาตรี พุทธศาสตร วัฒนธรรมและประเพณพี ืน้ บา้ น ...” บณั ฑติ ชอบอ่านหนงั สือ ทอ่ ง กลอนคติธรรม และผญาสอน ฝึกแต่งกลอนประเภทต่างๆ เป็นประจ�ำ จนท�ำให้ช�ำนาญ แต่งกลอน แต่งกลอนล�ำและ เพลงทม่ี หี ลกั ธรรมนำ� ใจในการ ด�ำเนินชีวิต เช่น อิทธิบาท ๔ ฆราวาสธรรม ๔ สงั คหวตั ถุ ๔ พรหมวิหาร ๔ และศลี ๕ ได้ เป็นอยา่ งดี ความสามารถองคค์ วามรกู้ ารแตง่ กลอนผญา ไดเ้ รยี นรแู้ ละ พฒั นาตนเองเรอ่ื ยมา จากประสบการณก์ ารทำ� งานตงั้ แตป่ ี พ.ศ. ๒๕๓๒ ถงึ พ.ศ. ๒๕๔๔ มผี ลงานการประพันธ์กลอน กลอนล�ำ และเพลงสว่ นใหญป่ ระพนั ธข์ น้ึ ไมค่ ดิ เปน็ มลู คา่ ทางดา้ นวตั ถุ แต่ เนน้ เพอื่ อนรุ กั ษ์ สง่ เสรมิ เผยแพร่ วฒั นธรรมและประเพณพี น้ื บา้ น มาถึงช่วงปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ถึง พ.ศ. ๒๕๔๙ ผลงานการ ประพนั ธเ์ พลงเรม่ิ มมี ลู คา่ ขน้ึ มา เมอื่ บรษิ ทั ชวั รอ์ อดโิ อไดช้ อ่ื เพลง คนนอกสายตา ให้ มนตส์ ทิ ธิ์ คำ� สรอ้ ย และเพลง ไมน่ อกสายตา ฝน ธนสนุ ทร ขับรอ้ ง ไดค้ า่ ประพันธ์เพลงๆ ละ ๕,๐๐๐ บาท ส่วนการประพันธ์กลอน และเพลงเพื่ออนุรักษ์ เผยแพร่ วัฒนธรรมและประเพณี ส่วนใหญไ่ ม่รับคา่ ประพันธ์ เชน่ เพลง ร่มโพธิ์ทองของไทย เพลงเชิญเที่ยว “เปื่อยหัวดง” กลอนล�ำ เศรษฐกจิ พอเพยี ง เพลงสลบั ลำ� สะพานเชอ่ื มใจ ลาวไทยฮกั แพง และลำ� ล่อง พระคุณแม่ เปน็ ต้น
111 การสร้างความเปน็ ปึกแผน่ ของชาติ ดว้ ยครภู มู ิปญั ญาไทย รนุ่ ที่ ๘ โดยเฉพาะความโดดเด่น ของเน้ือหาล้วนมีความหมาย มีคติสอนใจ เน้นความเข้าใจ หลักธรรม และวัฒนธรรม ประเพณที ถ่ี กู ตอ้ ง ตอ้ งการสอ่ื ให้เห็นคุณค่าภูมิปัญญาท้อง ถน่ิ และวฒั นธรรมประเพณพี น้ื ช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ถึง ปัจจุบัน การประพันธ์กลอนล�ำ บา้ น และเพลงส่วนใหญ่เน้นเก่ียวกับความสมานฉันท์ปรองดองเพ่ือ สรา้ งความรกั ความสามคั คขี องคนในชาติ เช่น เพลง หนึ่งเดียว ประเทศไทย...(ปรองดองสมานฉันท์) และเพลง สมานฉันท์... (ฮกั แพงแบ่งปนั ) และเพลง เชญิ เทย่ี วอุบล ๒๒๒ ปี เพลงพลัง ชุมชน เพลงความสามัคคี เพลงการท�ำเกษตรเพียง เพลงหลัก ธรรม วิชาพระพทุ ธศาสนา เพลงการภาษาอังกฤษ เป็นตน้ ผลงานที่ปรากฎในการประพันธ์เพลงและกลอนล�ำ ส่วน ใหญแ่ สดงถงึ ความเปน็ ผมู้ คี วามรคู้ วามเชยี่ วชาญดา้ นภาษาและ วรรณกรรม (ประพันธ์กลอนล�ำและเพลงลูกทุ่ง) ท่ีมุ่งมั่นสร้าง สร้างสรรค์ เพื่ออนุรกั ษ์ สง่ เสริม เผยแพร่ วฒั นธรรมประเพณี พ้ืนบ้าน และเพื่อชี้ให้เห็นความส�ำคัญของคุณธรรม จริยธรรม วัฒนธรรมท่สี ัมพันธ์กบั วิถีชีวิตในสงั คม การศึกษา : ประถมศกึ ษาชั้นปที ี่ ๔ โรงเรียนบา้ นหนองอ้อ จ.ชัยภูมิ / นักธรรมชน้ั -เอก / พุทธศาสตรบัณฑิต วัดมหาวนาราม (วัดป่าใหญ)่ อ.เมือง จ.อบุ ลราชธานี / ปรญิ ญาโท มหาวทิ ยาลยั ปู / ปริญญาเอก มหาวทิ ยาลัยมคธ ประเทศอินเดยี เกยี รติคุณท่ไี ดร้ บั : รางวัลดเี ดน่ การประกวดแต่งเพลงพ้นื บา้ น โครงการ “ไทยโปรง่ ใส่ ไทยเข้มแข็ง” ระดบั ประชาชนท่ัวไป จ.อบุ ลราชธานี / ครภู มู ปิ ัญญาไทย รนุ่ ที่ ๘ ด้านภาษาและวรรณกรรม สำ� นกั งานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ๒๕๖๐
การสรา้ งความเปน็ ปกึ แผ่นของชาติ 112 ดว้ ยครูภมู ปิ ัญญาไทย รุน่ ที่ ๘ ครูสมชาย ฐานเจรญิ สอนและถ่ายทอดองคค์ วามรู้ตา่ งๆ สู่นกั เรียนและ นักศึกษาผ่านกลอนล�ำ และเพลง ผ่านศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญาไทย วิทยาลัย หมอล�ำ และศูนย์พัฒนาภูมิปัญญาพื้นบ้าน และ ให้หมอล�ำ น�ำผลงานการ ประพันธเ์ พลงและกลอนไปเผยแพร่ ทางวิทยุ โทร.ทัศน์ Social Media เชน่ Line YouTube facebook มากมาย การท่ี นายสมชาย ฐานเจริญ ได้น�ำความรู้ ความสามารถ ด้านกลอนล�ำ และเพลงลูกทุ่ง ท่ีตนเองได้รับการถ่ายทอด ศึกษา ค้นคว้า ฝึกฝน จนประสบ ความสำ� เรจ็ เปน็ ประโยชนโ์ ดยรวมแกส่ งั คม จงึ ไดร้ บั การยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รตจิ าก ส�ำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็นครูภูมิปัญญา ไทย ดา้ นภาษาและวรรณกรรม เพอื่ ท�ำหนา้ ท่ีถ่ายทอดภมู ปิ ญั ญาในการจดั การ ศึกษาทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย สืบไป ที่อยู่ปัจจุบัน : บ้านเลขท่ี ๒๑ หมู่ ๖ บ้านทุ่งเพียง ต.สว่าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี ๓๔๑๙๐ โทร. ๐๘๖-๘๗๔-๕๖๑๘
113 การสร้างความเปน็ ปึกแผ่นของชาติ ดว้ ยครูภมู ปิ ัญญาไทย รุน่ ที่ ๘ ครูภมู ปิ ญั ญาไทย ภาคกลาง และภาคตะวนั ออก
การสร้างความเป็นปกึ แผ่นของชาติ 114 ด้วยครภู ูมิปัญญาไทย รนุ่ ท่ี ๘ จ่าสิบเอกไพทลู พ้นธาตุ นายยวง เขียวนิล นายวิชา ทองโสภา นายส�ำรอง แตงพลับ นางสาวอารีรัตน์ พนู ปาล นางซอ้ ง จบศรี นายบณั ฑิตย์ พนิ ิจสขุ ใจ นายพิสจู น์ ใจเทย่ี งกุล นายสมโภชน์ วาสกุ รี
115 การสร้างความเปน็ ปึกแผน่ ของชาติ ดว้ ยครภู ูมปิ ัญญาไทย รุ่นท่ี ๘ สจรงั ะหแวกัดว้ จ่าสิบเอกไพทลู พน้ ธาตุ ครูภูมปิ ญั ญาไทย ดา้ นเกษตรกรรม จา่ สบิ เอกไพทูล พน้ ธาตุ เกดิ เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๙๒ อายุ ๖๘ ปี เป็นบุตรคนที่ ๑ ในจ�ำนวนพ่ีน้อง ๖ คน ของนายพัฒน์ พ้นธาตุ และนางจนั ทร์ พน้ ธาตุ สมรสกบั นางธนวรรณ พน้ ธาตุ มบี ตุ รชาย ๑ คน และ บุตรหญงิ ๑ คน จา่ สบิ เอกไพทลู พน้ ธาตุ อดตี นน้ั รบั ราชการทหาร ในเวลา เดยี วกนั กไ็ มท่ งิ้ อาชพี หลกั ของคนไทย คอื การเกษตรกรรม เปน็ ผู้หน่ึงที่น้อมน�ำแนวคิดจากโครงการในพระราชด�ำริปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ อันเนื่องมาจากพระ ราชดำ� รขิ อง พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มาเปน็ หลักในการทำ� อาชีพเกษตรกรรม
การสรา้ งความเป็นปึกแผ่นของชาติ 116 ดว้ ยครูภูมปิ ญั ญาไทย รนุ่ ที่ ๘ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็น แหล่งเรียนรู้ ศูนย์ฝึกอบรม และจัดกิจกรรมต่างๆ เป็น ศู น ย ์ ถ ่ า ย ท อ ด เ ท ค โ น โ ล ยี ผนวกกับความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากการรับ การเกษตรทุกสาขา ทั้งข้าว ราชการทหารในค่ายจักรพงษ์ จังหวัดปราจีนบุรี และหน่วย พืชไร่ พืชผัก ปศุสัตว์ และ พัฒนาเคลื่อนท่ี กรป.กลาง รวม ๓๐ ปี ประมง รวมทั้งเป็นศูนย์สาธิต เรมิ่ ตน้ ประกอบอาชพี เกษตรกรรมทค่ี ลองสบิ สาม ในพนื้ ท่ี พลังงานทดแทน ศูนย์ฝึก ๙ ไร่ ๒ งาน ของตนเอง โดยมุง่ หวังสรา้ งรากฐานชมุ ชน สร้าง อาชีพชุมชนเขาสามสิบเป็น เศรษฐกิจ สังคมให้เข้มแข็งเพื่อน�ำไปสู่ความอยู่เย็นเป็นสุขท่ี แหล่งศึกษาดูงาน ได้รับการ ยั่งยืน มีการศึกษาเรียนรู้ ใช้ทรัพยากรและเกษตรในพื้นท่ีให้ สนับสนุนจากหน่วยงานทั้ง คุ้มคา่ จนขยายพนื้ ทไ่ี ดถ้ ึง ๒๘ ไร่ ภาคัฐ ภาคเอกชน เป็นศูนย์ ในปัจจุบัน พื้นท่ีนาถูกแบ่งเป็น ๔ ส่วน ตามหลักทฤษฎี ฝกึ อบรมกจิ กรรมเสริมรายได้ ใหม่ฯ ส่วนท่ี ๑ ท�ำประมง เลี้ยงกุ้ง ปลา กบ หอย ส่วนที่ ๒ ที่มีทั้ง ทอเสื่อกก สาน เป็นพื้นที่ท�ำนา ส่วนท่ี ๓ ปลูกพืชผสมผสาน โรงเรียน มีคอก ตระกร้า ท�ำลูกประคบ ยา หมู ฟาร์มเป็ด ไก่ ฟาร์มเห็ด และส่วนท่ี ๔ ท่ีพกั หม่อง สมุนไพร การแปรรูป จ่าสิบเอกไพทูล ศึกษาเรียนรู้แลกเปล่ียนประสบการณ์ และถนอมอาหาร ดว้ ยการจดั และฝกึ ปฏิบตั จิ ริง เพอื่ ใหท้ ุกคนไดใ้ ชว้ ถิ ชี ีวิตแบบเศรษฐกจิ พอ ใหม้ กี ารจดั ตลาดนดั สเี ขยี วทกุ เพยี ง ทง้ั ในเรอื่ งการเกษตรแบบครบวงจร ปลอดสาร พลงั งาน วนั พธุ และตลาดนดั เฉพาะกจิ ทดแทน และฝึกอาชีพ จนได้รับการสนับสนุนให้เป็นศูนย์ฝึก มีเกษตรกรจ�ำนวนมากเข้ามา อาชีพชุมชน “ศนู ย์ฝึกอาชพี ชมุ ชนเขาสามสิบ” ศึกษาดูงาน
117 การสรา้ งความเปน็ ปกึ แผน่ ของชาติ ด้วยครูภูมปิ ญั ญาไทย รุ่นท่ี ๘ โปรย “...เป็นผู้หน่ึงท่ีน้อมน�ำแนวคิดจากโครงการในพระราชด�ำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและ เกษตรทฤษฎีใหม่ อันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นหลักในการท�ำอาชพี เกษตรกรรม...” จ่าสิบเอกไพทูลท�ำศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนเขาสามสิบ เป็น ศนู ยเ์ ผยแพร่ความรภู้ ายใต้แนวคดิ “ประชาร่วมใจ เกษตรก้าว ไกล ใฝห่ าความรู้ ชวี เี ปน็ สขุ มงุ่ สเู่ ศรษฐกจิ พอเพยี ง” กลายเปน็ เปน็ ศนู ยส์ าธติ การเกษตรแบบครบวงจร เปดิ การอบรมฝกึ อาชพี ระยะสน้ั ภายใตก้ ารสนบั สนนุ ของหน่วยงานท่ีเก่ยี วข้อง ดว้ ยเปน็ ผทู้ ม่ี งุ่ ประโยชนแ์ กส่ ว่ นรวมเปน็ สำ� คญั ดว้ ยเมตตา กรุณา ไมม่ คี วามโลภและมงุ่ ประโยชน์เขา้ ตัวเองแต่ถา่ ยเดียว การท่ี จา่ สบิ เอกไพทลู พน้ ธาตุ ไดน้ ำ� ความรู้ ความสามารถ ดา้ นเกษตรกรรม ทต่ี นเองไดร้ บั การถา่ ยทอด ศกึ ษา คน้ ควา้ ฝกึ ฝน จนประสบความส�ำเร็จเป็นประโยชน์โดยรวมแก่สังคม จึงได้รับ การยกย่องเชิดชูเกียรติจากส�ำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็นครูภูมิปัญญาไทย เพื่อท�ำหน้าท่ี ถา่ ยทอดภมู ปิ ญั ญาในการจดั การศกึ ษาทงั้ การศกึ ษาในระบบ การ ศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศยั สืบไป ที่อยู่ปัจจุบัน : ๔๒๙ หมู่ ๓ บ.คลองสิบสาม ต.เขาสามสิบ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว โทร. ๐๘๑-๘๖๑-๖๙๒๓ การศกึ ษา : มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ การศึกษาผู้ใหญค่ ่ายทหารแชร์ออ ต.แชรอ์ อ อ.วัฒนานคร จ.สระแกว้ เกียรติคณุ ทีไ่ ด้รับ : ปราชญ์ชาวบ้านดเี ด่น สำ� นักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย (กศน.) / ชนะเลศิ สาขาอาชีพไร่นาสวนผสม เกษตรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นจังหวัด กรมส่งเสริมการเกษตร / ชนะเลิศการประกวดพันธุ์ข้าว “ประเภทขา้ วเปลือกเจ้ารวม” งานประเพณีบายศรสี ขู่ วัญขา้ ว ต.เขาสามสบิ (ครั้งที่ ๑๕) ปี ๒๕๕๘ / รางวลั ท่ี ๑ ประเภทเครือ ขา่ ยปราชญ์ชาวบ้าน ด้านเกษตร ดเี ด่น กศน.จ.สระแก้ว / ครภู ูมปิ ญั ญาไทย รนุ่ ท่ี ๘ ด้านเกษตรกรรม ส�ำนกั งานเลขาธิการสภา การศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ๒๕๖๐
การสร้างความเปน็ ปึกแผน่ ของชาติ 118 ดว้ ยครภู มู ิปญั ญาไทย รุ่นท่ี ๘ นจนงั ทหวบดั รุ ี นายยวง เขียวนลิ ครภู มู ปิ ญั ญาไทย ดา้ นเกษตรกรรม นายยวง เขียวนิล อายุ ๖๕ ปี เกิดเมื่อวันท่ี ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๕ ที่ จ.นนทบุรี เปน็ บุตรคนที่ ๙ ใน จ�ำนวนพ่นี อ้ ง ๑๑ คน ของนายแหยม เขยี วนลิ และนาง ศรี เขยี วนลิ สมรส กบั นางศรปี ระไพ เขยี วนลิ (สงั ขสี วน) ไม่มีบตุ ร ครูยวง เขียวนิล เปลี่ยน ชีวิตจากข้าราชการและท�ำ ธุรกิจ มาเป็นเกษตรกร โดย นอ้ มนำ� หลกั เกษตรทฤษฎใี หม่ ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงอันเน่ืองมาจากพระ ราชด�ำริ ของ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหามหาภูมิพล อดุลยเดช มาศึกษาทดลอง และลงมอื ปฏบิ ตั ิจรงิ จัง
119 การสร้างความเปน็ ปึกแผน่ ของชาติ ดว้ ยครภู ูมปิ ัญญาไทย รนุ่ ที่ ๘ ชวี ติ เกษตรกรของครนู ลิ เรมิ่ จากปลกู พชื ผกั สวนครวั เลย้ี ง ปลา เล้ียงเป็ด เรียนรู้การท�ำไร่นาสวนผสม และพัฒนาการ เกษตรตามแนวพระราชด�ำรฯิ ในเรอ่ื งเกษตรทฤษฎใี หม่ ลงมือ ถอดบทเรยี นองคค์ วามรแู้ ละลงมอื ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยการบรหิ ารจดั การ ทรพั ยากรดนิ และนำ้� ทม่ี อี ยจู่ ำ� กดั ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ โดยเนน้ การพงึ่ พาตนเองให้มากท่ีสดุ นอกจากจะมุ่งมั่นที่จะใช้อาชีพเกษตร เป็นเคร่ืองมือ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไปในตัวลัว ครูยังพัฒนาแหล่งน้�ำ ปลูกป่าจนเป็นผู้เช่ียวชาญแล้ว ไม่เก็บความรู้ความสามารถไว้ แตผ่ ้เู ดยี ว ไดเ้ ผยแพรถ่ า่ ยทอดความร้ทู ง้ั การเกษตรการอนรุ กั ษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ การท�ำบัญชีครัวเรือนและการแปรรูป ผลผลติ การเกษตร เปน็ แบบอย่างให้แกเ่ กษตรกร ทำ� ใหส้ ามารถพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ดว้ ยอาชพี ดงั กลา่ วพงึ่ พา ตนเองไดแ้ บบพออยพู่ อกนิ มคี วามสขุ อยา่ งยง่ั ยนื และยงั มคี วาม สขุ กบั พน้ื ที่เกษตรของครทู มี่ อี ยู่ ๔๔ไร่ จดั แบง่ ออกเปน็ ๔ สว่ น เป็นพ้ืนทท่ี ำ� นา ๑๕ ไร่ พืชท่ีนาสวนผสมปลูกไมผ้ ล พืชผักสวน ครัว พชื สมนุ ไพร ๒๑ ไร่ บอ่ เล้ียงปลา ๔ ไร่ ส่วนพื้นท่ีท่ีเหลืออีก ๔ ไร่ เป็นบ้านพักอยู่อาศัย และโรง เรือนเลี้ยงสัตว์ รวมท้ังกิจกรรมต่างๆ โดยให้ความส�ำคัญกับ การท�ำบญั ชคี รวั เรอื น แสดงรายรับ รายจ่าย มแี ผนสร้างรายได้ หมนุ เวียนจากการขายพืชผกั และไมผ้ ลตลอดปี
การสรา้ งความเป็นปกึ แผน่ ของชาติ 120 ด้วยครภู มู ิปญั ญาไทย รุ่นที่ ๘ “...ยังจดั บ้านพกั ของตนเองเปน็ แหลง่ เรยี นรู้ ศนู ยศ์ รียวง คกู่ นั ไปกบั ศูนย์ปราชญช์ าวบ้าน เป็นแหล่ง เรียนรู้ที่มีเครือข่ายเช่ือมโยงระหว่างชุมชนด้วยกัน เพื่อสนับสนุนซ่ึงกันและกัน ท่ีพร้อมแลกเปล่ียน เรยี นรผู้ า่ นสื่อประเภทต่างๆ...” ดงั นนั้ ไมน่ า่ แปลกใจ ยามใครไปเยยี่ มเยอื น เรยี นรู้ จะ การท่ีนายยวง เขียวนิล เห็นปุ๋ยชีวภาพ ปลาดุกเล้ียงในบ่อพลาสติก กบคอนโด น�้ำมัน เป็นบุคคลผู้ทรงภูมิปัญญา สมุนไพร กับดักแมลงวันทอง และการแปรรูป ผลผลผิตจาก ด้านเกษตรกรรม เป็นผู้ การเกษตร อาทิ ผลไมแ้ ชอ่ ่มิ มะม่วงกวน ฟงั ถึงเรื่องรายได้ส่วน ส ร ้ า ง ส ร ร ค ์ แ ล ะ สื บ ส า น นี้แบบพอเพียงแลว้ อดปล้ืมไปกับครู มไิ ด้ ภูมิปัญญาดังกล่าวมาอย่าง นอกจากนี้ยังจัดบ้านพักของตนเองเป็นแหล่งเรียนรู้ ต่อเนื่อง เป็นท่ียอมรับของ ศูนย์ศรียวง คู่กันไปกับศูนย์ปราชญ์ชาวบ้าน เป็นแหล่งเรียนรู้ สังคมและชุมชน จึงได้รับ ทม่ี เี ครอื ขา่ ยเชอื่ มโยงระหวา่ งชมุ ชนดว้ ยกนั เพอ่ื สนบั สนนุ ซง่ึ กนั การยกย่องเชิดชูเกียรติจาก และกนั ท่พี ร้อมแลกเปลี่ยนเรียนร้ผู า่ นสอ่ื ประเภทต่างๆ ส�ำนักงานเลขาธิการสภาการ จากการด�ำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงฯ ศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ท�ำให้ใหค้ รยู วง เป็นต้นแบบแหง่ ความส�ำเรจ็ ของการทำ� เกษตร ให้เปน็ ครูภูมปิ ญั ญาไทย เพื่อ ผสมผสานตามแนวทฤษฎีใหม่ฯ และเป็นผู้รู้อย่างเช่ียวชาญใน ท�ำหน้าท่ีถ่ายทอดภูมิปัญญา การท�ำบญั ชีครัวเรอื น การอนรุ กั ษ์ทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม ทั้งการศึกษาในระบบ การ ได้รับเชิญเป็นวิทยากร ถ่ายทอดองค์ความรู้และ ศึกษานอกระบบและการ ประสบการณ์ให้นักเรียน นักศึกษา เกษตรกรผู้สนใจ ทั้งชาว ศึกษาตามอธั ยาศยั สืบไป ไทยและชาวต่างประเทศโดยไมห่ วังผลตอบแทน ที่อยปู่ ัจจุบัน : เลขที่ ๙๑ /๑ หมู่ท่ี ๗ ต.ราษฎ์นิยม อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ๑๑๑๕๐ โทร. ๐๘๑-๙๒๙-๙๑๕๘ การศึกษา : ศิลปศาสตรบณั ฑติ สาขาการพฒั นาชมุ ชน มหาวิทยาลัยราชภฏั พระนคร เกยี รตคิ ณุ ทไ่ี ดร้ บั : เกษตรกรดเี ดน่ ภาคกลาง กรมสง่ เสรมิ การเกษตร / รางวลั สงิ หท์ อง ผนู้ ำ� อาชพี กา้ วหนา้ กรมการพฒั นา ชุมชน / รางวัลหมอดินดีเด่น กรมพัฒนาที่ดิน / ปราชญ์ชาวบ้าน ส�ำนักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จ.นนทบุรี / ผ้นู ำ� เศรษฐกจิ พอเพยี งตน้ แบบ จังหวดั นนทบรุ ี ประมงอาสาดีเดน่ ระดับจังหวดั กรมประมง / ปราชญ์เกษตรกร แผน่ ดนิ สาขาปราชญเ์ กษตรกรเศรษฐกจิ พอเพยี ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ / ครภู มู ปิ ญั ญาไทย รนุ่ ที่ ๘ ดา้ นเกษตรกรรม สำ� นกั งานเลขาธิการสภาการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ ๒๕๖๐
121 การสรา้ งความเปน็ ปกึ แผน่ ของชาติ ด้วยครภู มู ปิ ัญญาไทย ร่นุ ท่ี ๘ สพุ จรังรหณวัดบรุ ี นายวิชา ทองโสภา ครูภูมิปัญญาไทย ด้านเกษตรกรรม นายวิชา ทองโสภา เกิดเมื่อวันท่ี พ.ศ. ๒๔๙๓ ที่จังหวัด สพุ รรณบุรี เป็นบุตรคนที่ ๑ ในจำ� นวนพ่นี อ้ ง ๒ คน ของนายแจ้ง ทองโสภา และนางทองอาบ นชุ นารถ สมรสกบั นางสำ� รวม ทอง โสภา มีบุตรหญิง ๒ คน ครูวิชา ทองโสภา เป็นเกษตรกรที่น้อมน�ำ “เกษตรผสม ผสานตามแนวพระราชด�ำริเกษตรทฤษฎใี หม่” มาประยุกตก์ บั ความช�ำนาญในการเกษตรแบบด้ังเดิม จนประสบความส�ำเร็จ และเข้าใจอย่างถ่องแท้ในหลัก “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงฯ” อีกทั้งใผ่ศึกษาความรู้ใหม่ๆ และตั้งใจถ่ายทอดความรู้ให้กับ ประชาชนอยา่ งจรงิ จงั เปน็ ทย่ี อมรบั วา่ เปน็ “ปราชญช์ าวบา้ น” ทีม่ ่ีความเชยี่ วชาญด้านเกษตรธรรมชาติอยา่ งแทจ้ ริง
การสรา้ งความเปน็ ปกึ แผ่นของชาติ 122 ด้วยครูภมู ปิ ัญญาไทย ร่นุ ท่ี ๘ “...เกือบทั้งชีวิต ของครูวชิ า ทองโสภา คือ ทอ้ งนา แปลงเกษตร บ่อปลา สระน�ำ้ ล�ำคลอง ทุ่ง หญา้ ปา่ ไม้ เพราะน่นั เป็นสิ่งทีบ่ รรพชนสบื สานใหม้ า ดงั น้นั อาชีพจงึ หนไี ม่พ้น ทำ� นา ทำ� สวน ปลูกผกั สวนครัว แบบเดมิ ๆ เช่นเดียวกบั ชาวบ้านทัว่ ๆ ไปเคยท�ำกันมา...” เกือบท้ังชีวิต ของครู วิชา ทองโสภา คือ ท้องนา แปลงเกษตร บ่อปลา สระน�้ำ ลำ� คลอง ทุง่ หญ้าป่าไม้ เพราะ นั่นเป็นส่ิงที่บรรพชนสืบสาน ให้มา ดังนั้น อาชีพจึงหนีไม่ พ้น ท�ำนา ท�ำสวน ปลูกผัก สวนครวั แบบเดิมๆ เชน่ เดยี ว กบั ชาวบา้ นทว่ั ๆ ไปเคยทำ� กนั มา เนอื่ งจากการเขา้ รบั การอบรม “เกษตรผสมผสานตามแนว แต่หลังจากเข้ารับการ พระราชด�ำริ” คร้ังนั้น ท�ำให้เกิดความเข้าใจในหลัก “ปรัชญา อบรม “เกษตรผสมผสานตาม เศรษฐกิจพอเพียง” จึงได้น�ำมาประยุกต์กับความรู้ความ แนวพราชด�ำริ” ในปี พ.ศ. เชยี่ วชาญดา้ นการเกษตรแบบดง้ั เดมิ ของบรรพชน เปน็ ตน้ แบบ ๒๕๔๖ แลัว กลายเป็นจุดเรม่ิ การท�ำเกษตรแบบผสมผสานและเกษตรอินทรีย์ แล้วแบ่งปัน ตน้ ใหช้ วี ติ ครวู ชิ า เปลยี่ นแปลง ถา่ ยทอดใหช้ าวบ้านสู่การประกอบอาชพี ด้วย ไปในทางดีขึ้นมากมาย เม่ือมีความเช่ียวชาญมีความรู้ในหลัก “ปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพยี งฯ” จงึ นำ� มาประยกุ ตก์ บั อาชพี เกษตรกรรม บวกความท่ี เปน็ ผใู้ ฝร่ ู้ ขวนขวายและทดลอง ทำ� ใหเ้ ปน็ “ตน้ แบบ” ของชาว บา้ นในการท�ำเกษตรอินทรีย์ เพ่อื การพง่ึ พาตนเองอย่างแทจ้ ริง ไดร้ บั เชญิ ใหเ้ ปน็ วทิ ยากรเผยแพรค่ วามรเู้ รอื่ ง “เกษตรแบบ พอเพยี งฯ” ใหก้ ับหนว่ ยงานตา่ งๆ มากมายใน อ.สามชกุ และ กศน. สามชกุ จัดต้ังบา้ นของครใู ห้เปน็ “ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกจิ พอเพียงบา้ นเนินมหาเชษฐ”์
123 การสร้างความเปน็ ปึกแผ่นของชาติ ดว้ ยครูภมู ิปญั ญาไทย ร่นุ ที่ ๘ การท่ี นายวิชา ทองโสภา ได้น�ำความรู้ ความสามารถ ด้านเกษตรกรรม ท่ีตนเองได้ รบั การถา่ ยทอด ศึกษา ค้นคว้า ฝึกฝน จนประสบความส�ำเร็จ เปน็ ประโยชนโ์ ดยรวมแกส่ งั คม จงึ ไดร้ บั การยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รติ จากส�ำนักงานเลขาธิการสภา การศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ให้เป็นครูภูมิปัญญาไทย เพื่อ ทำ� หนา้ ทถี่ า่ ยทอดภมู ปิ ญั ญาใน การจัดการศึกษาทั้งการศึกษา ในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย สบื ไป ครวู ชิ า มไิ ดห้ ยดุ นงิ่ ตอ่ การศกึ ษาทดลอง รวมทง้ั ไดแ้ สวงหา ที่อยู่ปัจจุบัน : เลขท่ี ๗๕ หมู่ ๓ ต . ห น อ ง ส ะ เ ด า อ . ส า ม ชุ ก ความรู้ใหม่ๆ ตลอดเวลา และได้น�ำความรู้น้ันๆ ขยายผลสู่ จ.สุพรรณบุรี ๗๒๑๓๐ โทร. ๐๘๙- โรงเรียนใน และนอกระบบ ท�ำกจิ กรรมการทำ� นำ้� หมักสมนุ ไพร ๐๓๕-๘๔๕๒ นำ้� หมกั ชวี ภาพ ปยุ๋ หมกั สตู รพระราชทาน และปลกู พชื สมนุ ไพร ต่างๆ ไปดว้ ย การศกึ ษา : มัธยมศึกษาตอนปลาย หลักสูตรการศึกษานอกระบบ จาก กศน. อ�ำเภอสามชุก จงั หวดั สุพรรณบุรี เกยี รติคุณที่ได้รับ : ใบรบั รองแหล่งผลิตพืช (GAP) โครงการความปลอดภัยอาหาร (Food Safety) ดา้ นพชื สำ� นกั วิจยั และพัฒนาการเกษตร เขตท่ี ๓ / ใบรบั รองการปฏิบตั ทิ างการเกษตรทีด่ ีส�ำหรบั การผลิตขา้ วเปลือก (Certificate for Good Agricultural Practice of Rice Production) มาตรฐานสนิ ค้าเกษตรการปฏบิ ตั ิทางการเกษตรท่ดี สี �ำหรับขา้ ว (มกษ. ๔๔๐๑- ๒๕๕๑) กรมการข้าว / ครภู ูมิปัญญาไทย รนุ่ ท่ี ๘ ด้านเกษตรกรรม ส�ำนักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ ๒๕๖๐
การสร้างความเปน็ ปึกแผ่นของชาติ 124 ดว้ ยครภู มู ิปญั ญาไทย รุ่นท่ี ๘ เพจชังหรวบดั รุ ี บ้านครูส�ำรอง จึงกลาย เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ถ่ายทอด เทคโนโลยีให้กับชุมชน มี นายสำ� รอง แตงพลบั เกษตรกร นกั เรียน นักศึกษา ครภู มู ปิ ัญญาไทย ด้านเกษตรกรรม ผู้สนใจ เข้าศึกษาเรียนรู้มิได้ ขาด เนื่องจากที่นี่มีครบท้ัง เร่ืองเกษตร การออมทรัพย์ นายส�ำรอง แตงพลับ เกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๘ ท่ี ต.ดอนยาง สาธารณสุข หมอดินอาสา จ.เพชรบรุ ี สมรสกับนางอุไร แตงพลบั การศกึ ษา ประถมศกึ ษา บัญชีครัวเรือน การอนุรักษ์ ปที ี่ ๔ แตไ่ ดเ้ ปน็ เกษตรกรตวั อยา่ งทน่ี อ้ มนำ� หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิง พอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ฯใช้ในการด�ำเนินอาชีพในสวน แวดล้อม การใช้พืชตระกูลถั่ว เกษตรผสมผสาน ไรน่ าสวนผสม จนประสบความสำ� เรจ็ เปน็ แบบ แล้วไถกลบเป็นปุ๋ยรักษาดิน อย่างใหแ้ กเ่ กษตรอนื่ ๆ ให้อุดมสมบูรณ์ การปลูกพืช ด้วยหลกั การที่จำ� ข้นึ ใจว่า กินทุกอย่างที่ปลกู และปลูกทกุ หลากหลาย ล้วนสร้างความ อยา่ งที่กิน สมดลุ ให้ดนิ
125 การสรา้ งความเป็นปกึ แผ่นของชาติ ด้วยครูภมู ิปัญญาไทย ร่นุ ท่ี ๘ “...ยึดหลักว่าอย่าโลภ เรากินอะไร ก็ปลูกชนิดนั้น นาข้าว เล้ียง สัตว์ บ่อปลา น�ำ้ หมกั ชีวภาพ นำ�้ สม้ ควันไม้ แก๊สชีวภาพ และบัญชี ครวั เรอื นมหี มด แลว้ ยงั ไดป้ รบั ประยกุ ตภ์ มู ปิ ญั ญาของตากบั ยาย...” ทกุ อยา่ งเกดิ จากแรงบนั ดาลใจ หลงั เขา้ รว่ มโครงการประกวด ผลงานตามปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งฯ ไดร้ บั รางวลั พระราชทาน และรับการพิจารณาให้เป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงฯ สำ� นกั งาน กปร. เพอ่ื ถา่ ยทอดและขยายองคค์ วามรู้ ประสบการณ์ ดา้ นเกษตรทฤษฎีใหม่จากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง จะเห็นว่าชีวิต การศึกษาการเรียนรู้ของครูอยู่ในห้องเรียน น้อยเหลือเกิน ชีวิตส่วนใหญ่ จะอยู่ในไร่ในนาในสวนเป็น เกษตรกรตามวิถีบรรพชน คือ เกษตรแบบเชิงเดี่ยวและไร่อ้อย และไม่ประสบผลส�ำเร็จ เน่อื งจากการใช้ปยุ๋ เคมี สารกำ� จดั วชั พืช ติดต่อกันเป็นเวลานาน ท�ำให้สภาพดินเสื่อมโทร.ม มีภาวะหนี้ สินเพ่ิมพูน สุขภาพรา่ งกายอ่อนแอ หลังจากได้เขา้ รบั การอบรม เรื่องการเกษตรทฤษฎใี หม่ตาม หลักเศรษฐกิจพอเพียงฯ น�ำการปลูกหญ้าแฝกตามแนวพระ ราชด�ำริมาใช้เพื่อบ�ำรุงดิน จากศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย อนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริ แลว้ กน็ อ้ มนำ� มาปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจำ� วัน เพ่ิมความขยันพัฒนาวิธีการเลี้ยงเป็นปศุสัตว์อินทรีย์ โดยใช้ สมนุ ไพรทอ้ งถน่ิ เขา้ มาชว่ ย ไดล้ ดตน้ ทนุ และปอ้ งกนั รกั ษาโรค ทกุ อย่างพลิกผนั ชีวิต ความเป็นอยู่ดีข้นึ อย่างนา่ ประหลาดใจ
การสร้างความเป็นปกึ แผ่นของชาติ 126 ดว้ ยครูภูมิปญั ญาไทย ร่นุ ที่ ๘ ณ วันนี้เลี้ยงหมูหลุม โค ไก่ ห่าน โดยใช้ประโยชน์จาก ผลผลติ ในสวน แลกเปลยี่ นประโยชนซ์ ง่ึ กนั และกนั พชื บางชนดิ เชน่ ตน้ กลว้ ย จะเปน็ วตั ถดุ บิ สำ� หรบั อาหารหมกั มลู สตั ว์ ใชท้ ำ� ปุ๋ย ท�ำน�ำ้ หมกั ชวี ภาพ แกส๊ ชวี ภาพ ยดึ หลกั วา่ อยา่ โลภ เรากนิ อะไร กป็ ลกู ชนดิ นน้ั นาขา้ ว เลยี้ ง สัตว์ บ่อปลา น้�ำหมักชีวภาพ น�้ำส้มควันไม้ แก๊สชีวภาพ และ บญั ชีครัวเรอื น มีหมด แล้วยงั ไดป้ รบั ประยกุ ตภ์ ูมปิ ญั ญาของตา กบั ยาย รว่ มกบั เทคโนโลยใี หมๆ่ เพอ่ื การเกษตรทำ� ปยุ๋ หมกั แหง้ ใชเ้ อง ทำ� สารสกดั จากพืชสมุนไพร เป็นผรู้ เิ รม่ิ ส่งเสรมิ การเพาะ เลยี้ งไสเ้ ดือนดนิ เพอ่ื ช่วยยอ่ ยใบไม้ และเศษผกั เพือ่ ปุย๋ หมกั ให้ เรว็ ขน้ึ อยากรตู้ อ้ งไปบ้านของครู การที่ นายส�ำรอง แตงพลับ ได้น�ำความรู้ ความสามารถ ดา้ นเกษตรกรรม ทตี่ นเองไดร้ บั การถา่ ยทอด ศกึ ษา คน้ ควา้ ฝกึ ฝน จนประสบความส�ำเร็จเป็นประโยชน์โดยรวมแก่สังคม จึงได้รับ การยกย่องเชิดชูเกียรติจากส�ำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็นครูภูมิปัญญาไทย เพื่อท�ำหน้าท่ี ถา่ ยทอดภมู ปิ ญั ญาในการจดั การศกึ ษาทงั้ การศกึ ษาในระบบ การ ศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศยั สบื ไป ที่อยู่ปัจจุบัน : เลขที่ ๖๙/๑ หมู่ที่ ๔ ต.ไร่ใหม่พัฒนา อ.ชะอ�ำ จ.เพชรบุรี ๗๖๑๒๐ โทร. ๐๘๙-๐๗๖-๔๓๒๕ เกียรตคิ ณุ ท่ไี ดร้ ับ : รางวลั ที่ ๑ ผลงานเกษตรกรดเี ดน่ สาขาอาชพี ไร่นาสวนผสม ประจ�ำปี ๒๕๔๘ / เกษตรกรดเี ดน่ ระดับ ประเทศ สาขาอาชีพไร่นาสวนผสม / รางวลั เกษตรกรท่ปี ระสบความสำ� เร็จในการด�ำเนนิ ชีวติ ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั และเป็นแหล่งเรยี นรู้ให้แก่ประชาชนทัว่ ไป / ชนะเลศิ อนั ดับที่ ๑ การประกวดการพัฒนาและ รณรงค์การใช้หญ้าแฝก อันเนื่องมาจากพระราชดำ� ริ ประเภทส่งเสรมิ การปลกู มูลนิธิชยั พัฒนา / ชนะเลศิ หมอดนิ อาสาดีเด่น สำ� นกั งานพฒั นาทด่ี นิ เขต ๑๐ / เกษตรกรดเี ดน่ แหง่ ชาติ สาขาการพฒั นาทดี่ นิ เพอื่ การเกษตรกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ / ครูภมู ปิ ัญญาไทย รุ่นท่ี ๘ ดา้ นเกษตรกรรม สำ� นักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ๒๕๖๐
127 การสรา้ งความเป็นปกึ แผน่ ของชาติ ดว้ ยครภู มู ิปัญญาไทย รนุ่ ท่ี ๘ จจันังทหวบัดรุ ี นางสาวอารีรัตน์ พนู ปาล ครภู มู ิปญั ญาไทย ด้านเกษตรกรรม นางสาวอารรี ตั น์ พูนปาล เกดิ ณ สวนรว่ มสมัย เลขท่ี ๑๓๕ /๒ หมู่ ๔ บ้านลานทอง ต.เขาวงกต อ.แกง่ หางแมว จ.จันทบุรี เม่ือวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๑๙ เปน็ บุตรคนโตของ นายภิรมย์ และ นางจรูญ พูนปาล ในจำ� นวนพน่ี ้อง ๕ คน ครูอารีรัตน์ พูนปาล จบมัธยมศึกษาจากศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน จ.จันทบุรี ป.วชิ าชพี ชน้ั สงู สาขาพชื ศาสตร์ จากสถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคล วทิ ยาเขตจนั ทบรุ ี และ ปรญิ ญาตรวี ทิ ยาศาสตรบ์ ณั ฑติ สาขาพชื ผกั เกยี รตนิ ยิ มอนั ดบั ๒ จากมหาวทิ ยาลยั แมโ่ จ้ จ.เชียงใหม่
การสร้างความเปน็ ปกึ แผน่ ของชาติ 128 ด้วยครูภูมิปญั ญาไทย รุ่นท่ี ๘ จบแพทย์แผนไทยจาก สวนรว่ มสมยั ของครอู ารรี ตั น์ มเี นอ้ื ที่ ๕๒ ไร่ แบง่ เปน็ ทพี่ กั โรงเรียนแพทย์แผนไทย อาศยั ปลกู พชื อนิ ทรยี ผ์ สมผสานในพน้ื ที่ เรม่ิ จากการปลกู พชื ผกั สาธารณสุข จ.จันทบุรี ได้ อนิ ทรยี ห์ มนุ เวยี นตามฤดกู าล ปลกู ขา้ ว ไมผ้ ล ไมด้ อก มกี ารปลกู รับใบอนุญาตการประกอบ พชื สมุนไพรในพืน้ ท่สี วนผลไม้ เพือ่ ไลแ่ มลง ใชเ้ ปน็ ยารักษาโรค โรคศิลปะสาขาเภสัชกรรม เล้ยี งสัตว์แบบอินทรยี ์ เลีย้ งปลา สร้างแหลง่ โปรตนี มธี นาคาร ไทย สาขาผดุงครรภไ์ ทย และ ตน้ ไม้ ใช้หลักปลูกปา่ ๓ อย่าง ได้ประโยชน์ ๔ อยา่ ง และสร้าง สาขาเวชกรรมไทย ความหลากหลายของระบบนเิ วศใหเ้ กิดความย่งั ยืน ครูอารีรัตน์ พูนปาล ตอ่ ดว้ ยวิธีการปรบั ปรงุ อยา่ งตอ่ เนื่อง ตามด้วยการปลูกไม้ เลือกท่ีจะประกอบอาชีพด้าน ๕ อยา่ ง คือไม้ยา ไม้อยู่ ไมด้ ู ไมด้ ม และ ไมแ้ ดก เพ่ือกอ่ ใหเ้ กิด เกษตรกรรม ในรปู แบบเกษตร ความยง่ั ยนื เน้นแนวคดิ ท�ำใหด้ ี ท�ำใหด้ ู ท�ำใหไ้ ด้ อินทรีย์ผสมผสาน เกษตร ทุกอย่างล้วนน�ำองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นผสมผสาน ทฤษฎีใหม่ตามหลักปรัชญา กบั องคค์ วามรวู้ ทิ ยาศาสตรจ์ นเกดิ เปน็ นวตั กรรมทเี่ หมาะสมกบั เศรษฐกจิ พอเพยี งฯ ควบคกู่ บั สภาพพ้ืนท่ี อาทิ ประยุกตก์ ารใหป้ ๋ยุ น�ำ้ หมกั ไปพร้อมกบั ระบบ แพทย์แผนไทยด้วยการปลูก น้�ำ การหมักธาตสุ งั กะสี โบรอน แคลเซย่ี ม แมกนเี ซีย่ มฯ จาก พืชสมุนไพรไปพร้อมกันด้วย ธรรมชาตใิ ช้เอง เพือ่ ลดตน้ ทนุ ในนามสวนร่วมสมยั ปลูกผักแบบนั่งร้าน เพื่อแก้ไขในกรณีพื้นที่มีปริมาณฝน ตกชุก ตรวจวัดอุณหภูมิและ จดบันทึกข้อมูลไว้ประกอบการ วางแผนการผลติ ลดการพงึ่ พาปจั จยั ภายนอก นำ� หลกั คณุ ธรรม มาใชใ้ นการทำ� งาน ซ่ึงเปน็ จุดเรม่ิ ต้นของการส�ำรวจตนเอง ให้รู้ และเขา้ ใจถงึ ทนุ แหลง่ นำ�้ ทรพั ยากร สง่ิ แวดลอ้ ม และศกั ยภาพ ของตนเอง สร้างปัญญาหาทางแก้ พร้อมกับลงมอื ปฏิบตั ิ กว่า ครูอารีย์รัตน์ พูนปาล จะมาถึงจุดแห่งความส�ำเร็จน้ี ได้ในแต่ละช่วงวัยของชีวิตนั้นมีท้ังความผิดหวัง การท�ำเกษตร วิถีเดิมของรุ่นพ่อและแม่ นอกจากไม่เคยมีเงินเก็บแล้วยังมีหนี้ สินติดตามมากมายแทบล้มละลาย หลังจบมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มาแล้ว เชื่อมั่นในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงฯ และองค์ความรู้ ที่ได้ หันกลับมาท�ำเกษตรอินทรีย์ผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่ แทนทจ่ี ะเปน็ อาจารยห์ รอื นักวิชาการของมหาวทิ ยาลยั
129 การสร้างความเป็นปกึ แผ่นของชาติ ดว้ ยครูภูมปิ ัญญาไทย รุ่นท่ี ๘ “ ..กวา่ จะมาถงึ จดุ แหง่ ความสำ� เรจ็ นไี้ ด้ ในแตล่ ะชว่ งวยั ของชวี ติ นน้ั มี ทง้ั ความผดิ หวงั การทำ� เกษตรวถิ เี ดมิ ของรนุ่ พอ่ และแม่ นอกจากไม่ การท่ี นางสาวอารีรัตน์ เคยมเี งินเก็บแล้วยงั มหี น้สี นิ ติดตามมากมายแทบล้มละลาย...” พูนปาล ได้น�ำความรู้ ความ สามารถ ด้านเกษตรกรรม ที่ ตนเองไดร้ บั การถา่ ยทอด ศกึ ษา ค้นคว้า ฝึกฝน จนประสบ ความส�ำเร็จเป็นประโยชน์ โดยรวมแก่สังคม จึงได้รับ การยกย่องเชิดชูเกียรติจาก ทำ� งานโดยใชห้ ลกั ของความพอประมาณ รเู้ ขา้ ใจตนเอง สงิ่ ส�ำนักงานเลขาธิการสภาการ แวดลอ้ ม สงั คม ใชเ้ หตผุ ลประกอบการตดั สนิ ใจ ความรอบคอบ ศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ระมดั ระวงั เพอ่ื ใหม้ ีภูมิคุ้มกันตนเอง โดยการนำ� หลกั คณุ ธรรม ให้เป็นครูภูมิปัญญาไทย เพ่ือ ดา้ นความขยนั หมนั่ เพยี ร ประหยดั อดทน ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ จรงิ ใจ ทำ� หนา้ ทถี่ า่ ยทอดภมู ปิ ญั ญาใน รจู้ กั เก้อื กลู แบง่ ปนั รู้รัก สามคั คี ท�ำใหต้ นเองครอบครวั อยบู่ น การจัดการศึกษาท้ังการศึกษา ฐานของความสุข สูม่ ่นั คง ย่งั ยืน ในระบบ การศึกษานอกระบบ วถิ ชี วี ติ ในปจั จบุ นั เปน็ ครอบครวั ทอ่ี บอนุ่ มกี นิ มใี ช้ พอแบง่ และการศึกษาตามอัธยาศัย ปันผู้อ่ืน มีความสุขตามอัตภาพ หมดหน้ีสิน เป็นตัวอย่างท่ีดี สบื ไป ครอบครัวมีกินมีใช้ รักษาผืนแผน่ ดิน สืบทอดวิถีเกษตร พัฒนา ผืนแผน่ ดินมรดกของตนเองใหเ้ จริญกา้ วและสง่ ต่อใหร้ นุ่ ต่อไป ทอ่ี ยปู่ จั จบุ นั : ๑๓๕/๒ หมทู่ ี่ ๔ ต.เขา ทุกวันน้ี สวนร่วมสมัยของครู ได้เป็นท่ีถ่ายทอดความรู้ วงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ศึกษาดูงานด้านการเกษตร ประเพณีและวัฒนธรรมให้กับ ๒๒๑๖๐ โทร. ๐๘๙-๒๔๕-๙๙๗๙ เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ผู้สนใจวิถีเกษตร ในนาม “ศูนย์ เรยี นรพู้ ่งึ พาตนเองตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งรว่ มสมยั ” เกียรติคุณท่ีได้รับ : สมาชิกสภาท่ีปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด้านเกษตรอินทรีย์ / คณะกรรมการขับเคลื่อนศูนย์ เรยี นรู้โครงการอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ อ.แกง่ หางแมว / ผูอ้ ำ� นวยการศูนยศ์ ึกษาการเรียนตามแนวพระราชด�ำริ ดนิ นำ้� ป่า ทรพั ยากรธรรมชาตสิ ง่ิ แวดลอ้ มและสง่ เสรมิ อาชพี ยกระดบั รายได้ คณุ ภาพชวี ติ ประชาชนในพนื้ ทเ่ี ปา้ หมายฯ กองอ�ำนวยการรกั ษา ความมัง่ คงภายในราชณาจักร บ้านลานทอง จ.จนั ทบรุ /ี ครภู มู ิปัญญาไทย รนุ่ ที่ ๘ ดา้ นเกษตรกรรม ส�ำนกั งานเลขาธกิ ารสภา การศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ ๒๕๖๐
การสร้างความเป็นปึกแผ่นของชาติ 130 ดว้ ยครูภมู ิปญั ญาไทย รนุ่ ที่ ๘ ชจยั งั หนวาดั ท นางซอ้ ง จบศรี ครูภูมิปญั ญาไทย ด้านอตุ สาหกรรมและหัตถกรรม นางซ้อง จบศรี เกิดเม่ือ วันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๔๗๓ หมู่ที่ ๑ ต.กุดจอก กิ่ง อ.หนองมะโมง จ.ชยั นาท เปน็ บตุ รคนที่ ๔ ของนายพราว และนางเจย้ี ม จนั ทรศ์ รี สบื เชอ้ื สายมาจากลาวครง่ั สมรส กับนายตัน จบศรี มีบตุ ร ๒ คน ชาย ๑ หญงิ ๑ จบชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนวดั ศรีสโมสร ต.กุดจอก ครอบครวั มอี าชีพท�ำนา ครซู อ้ ง จบศรี คนคนุ้ เคยมกั เรยี กวา่ ปา้ ซอ้ ง มคี วามรคู้ วามชำ� นาญในการทอผา้ พน้ื เมอื งลาว คร่งั กดุ จอก สืบทอดวัฒนธรรมการทอผ้าจากบรรพบุรุษ โดยเฉพาะผ้าจก ผา้ มดั หม่ี และผ้าขิด ดว้ ยการทอมลี วดลายและการใช้สหี ลัก ๕ สี เป็นเอกลกั ษณ์
131 การสร้างความเป็นปกึ แผน่ ของชาติ ด้วยครภู ูมปิ ัญญาไทย รุ่นท่ี ๘ ต้ังแต่เล็ก ครูได้เรียนรู้การทอผ้าซิ่นจากมารดาและญาติ ครูซ้อง จบศรี ถ่ายทอด ในสมยั ก่อนนัน้ ต้องทอผา้ ไวใ้ ชส้ อยในบา้ นเอง กระทงั่ ทอผา้ ซน่ิ วิธีการทอผ้าให้กับลูกหลาน ด้วยตนเองแล้วพัฒนาไปสู่การเพ่ือจ�ำหน่ายเป็นอาชีพเสริมเมื่อ ดว้ ยการตงั้ กลมุ่ ทอผา้ พน้ื เมอื ง อายมุ ากแล้วและยึดอาชีพทอผา้ เป็นหลัก ลาวคร่ัง โดยมีครูเปน็ ประธาน แต่ท่ีสุดแล้วความรู้ความเช่ียวชาญที่ครูได้รับ เป็นสิ่งท่ี กลุ่มสตรีทอผ้าต�ำบลกุดจอก ช่วยให้ครูเป็นผู้สืบทอดวัฒนธรรม “ทอผ้าซิ่นตีนจก” อันมี ดังนั้นบ้านป้าซ้องหรือครูช้อง เอกลักษณ์การใช้สีตามความเชื่อขันธ์ ๕ ย้อมสีจากธรรมชาติ คือ แหล่งเรียนรู้ในวัฒนธรรม คอื สเี หลือง สีด�ำ สคี ราม สเี ขียว และสแี ดง ลาวคร่งั ที่มีการวิเคราะหว์ จิ ัย กล่าวคือ สีเหลือง จากขมิ้นชัน หัวไพล แก่นขนุนฯ สี ผา้ พนื้ เมอื ง ผา้ ทอและกพ่ี น้ื เมอื ง แดง จากรากยอป่าแกน่ ประดฯู่ สีเขียว จากใบหกู วาง ใบตะขบ จงึ มแิ ปลกทผ่ี า้ ทอของครู เปลอื กสมอฯ สดี ำ� จากผลมะเกลอื ปา่ ผลมะยมปา่ ฯ และสคี ราม ลว้ นเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี สำ� หรบั จากลูกหว้า ดอกอัญชัน ใบครามฯ รวมท้งั ครง่ั ซงึ่ ให้สีแดง การอนุรักษ์รูปแบบทั้งเทคนิค “จก” เปน็ เทคนคิ การทอผา้ เพอื่ ใหเ้ กดิ ลวดลายตา่ งๆ ดว้ ย และกรรมวิธีลงลายเฉพาะถิ่น วิธีการเพ่ิมเส้นด้ายพุ่งพิเศษสอดขึ้นลงบนผืนผ้าขณะทอต้อง แบบโบราณกับลวดลายต่างๆ ใช้ความประณีตสูงและใช้เวลานานในการทอ การทอผ้าจกจึง ท่ียังไม่สูญหาย อาทิ ลาย เป็นการทอหนา้ แคบ เพ่ือตกแต่งเปน็ เชงิ ผ้าซนิ่ เรียกวา่ “ผ้าซิ่น ขออีโง้ง ลายกาบอีป้าลืมผัว ตีนจก” เปน็ ต้น ดงั นนั้ การทอผา้ ของกลมุ่ คนไทยเชอ้ื สายลาว ลว้ นมเี ทคนคิ หลากหลาย ทั้งทอขัด ทอขิด ทอจิก และทอมัดหมี่ ความ เชี่ยวชาญและช�ำนาญของครูซ้อง สูงกว่าใครในด้านการมัดหมี่ ลายโบราณ ผา้ ขดิ และตนี จก ทีจ่ ังหวัดชัยนาท สำ� หรบั การยอ้ มไหมสวยกลมกลนื แตไ่ มท่ นตอ่ การซกั และ แสงแดด กรรมวธิ ยี อ้ มซบั ซอ้ นทำ� ใหส้ วี ทิ ยาศาสตรเ์ ขา้ มาแทนสี ธรรมชาติ ไมใ่ ชแ่ นวทางของครแู น่นอน
การสร้างความเปน็ ปกึ แผ่นของชาติ 132 ดว้ ยครภู ูมปิ ัญญาไทย รุ่นท่ี ๘ “...ผา้ ทอลาวครง่ั กดุ จอก จงึ เปน็ การสบื ทอดวฒั นธรรมทอผา้ จากบรรพบรุ ษุ จากรนุ่ สรู่ นุ่ จนถงึ ปจั จุบนั เปน็ การทอจกทม่ี ลี วดลายท่ีมีเอกลักษณ์ ใชส้ ีหลัก ๕ สี ตามความเช่ือเรื่องขนั ธ์ ๕ ใช้สยี อ้ ม จากธรรมชาติ...” นี่ยังไม่รวมถึง ฝีมือการทอผ้าพื้นเมืองจากต่างถิ่น เอกลักษณ์สีและอนุรักษ์ลวดลายผ้าส่งผลให้ผ้าทอลาวคร่ังกุด จอก มเี สน่ห์ และสบื ทอดวัฒนธรรมลาวครั่งใหค้ งอยู่ วนั นกี้ ลา่ วไดว้ า่ ครซู อ้ ง คอื บคุ คลสำ� คญั ทางศลิ ปวฒั นธรรม ช�ำนาญการทอผา้ ลาวครั่งในลวดลายตา่ งๆ ทอขดิ ทอจก และ ทอมดั หมี่ ทง้ั ผา้ ฝา้ ย ผา้ ไหม ในประเภทผา้ ทใี่ ชใ้ นพธิ ที างศาสนา ผา้ ทอคมั ภรี ์ ผา้ คลมุ ขา้ วนาค และผา้ ทใี่ ชใ้ นชวี ติ ประจำ� วนั ไดแ้ ก่ ผา้ ขาวมา้ ย่าม หมอนขิด หมอนขวาน ผา้ ตดั เสื้อ ผ้าห่มนวม การท่ี นางซ้อง จบศรี ได้น�ำความรู้ ความสามารถ ด้าน อุตสาหกรรมและหัตถกรรม ที่ตนเองได้รับการถ่ายทอด ศึกษา ค้นคว้า ฝึกฝน จนประสบความส�ำเร็จเป็นประโยชน์โดยรวมแก่ สังคม จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากส�ำนักงานเลขาธิการ สภาการศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ใหเ้ ปน็ ครภู มู ปิ ญั ญาไทย เพอื่ ท�ำหน้าที่ถ่ายทอดภูมิปัญญาในการจัดการศึกษาท้ังการศึกษาใน ระบบ การศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั สืบไป ทีอ่ ยูป่ ัจจบุ ัน : เลขที่ ๗ หมู่ที่ ๑ ต.กดุ จอก อ.หนองมะโมง จ.ชยั นาท ๑๗๑๒๐ โทร. ๐๕๖ – ๔๖๖ – ๐๖๘, ๐๘๘-๙๖๙-๔๕๑๘ เกียรตคิ ุณทีไ่ ด้รบั : ประธานกลมุ่ สตรีทอผ้า ต�ำบลกดุ จอก / ภมู ิปญั ญาดีเด่น สำ� นกั ปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร / แม่ผสู้ รา้ งคน ศูนยพ์ ัฒนาฝีมือแรงงานจงั หวดั ชัยนาท / รางวลั แทนคุณแผน่ ดิน เนช่ัน / ครภู มู ิปัญญาไทย รนุ่ ท่ี ๘ ดา้ นอตุ สาหกรรมและ หตั ถกรรม สำ� นกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ๒๕๖๐
133 การสรา้ งความเปน็ ปึกแผน่ ของชาติ ด้วยครูภูมิปญั ญาไทย รุ่นที่ ๘ จจนั งั ทหวบัดรุ ี นายบณั ฑิตย์ พินจิ สขุ ใจ ครภู มู ิปัญญาไทย ด้านอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม นายบณั ฑติ ย์ พนิ จิ สุขใจ อายุ ๖๐ ปี มีอาชีพค้าขาย พลอย/ เครอื่ งประดบั อญั มณี อยทู่ ี่ บา้ นเลขท่ี ๒๙/๙๗ ม.หอมสวสั ดิ์ ถ.ญาณ วโิ รจน์ ต.จันทนมิ ติ อ.เมือง จ.จันทบุรี จบการศกึ ษาในระดบั ประถม ศึกษา ปที ี่ ๔ เริ่มจากการเป็นเด็กฝึกงานในโรงงานท�ำพลอย อยู่หลายปี กอ่ นพฒั นาเปน็ อาชพี ของตวั เอง ไดท้ ดลองทำ� เตาเผาพลอยเอง หา วธิ เี ผาพลอยไพลนิ ใหไ้ ดค้ ณุ ภาพ เพอื่ สรา้ งมลู คา่ ใหก้ บั พลอยไพลนิ นอกจากนั้น ได้ใช้ความพยายาม อดทน ทดลอง ค้นคว้าการเผา พลอยทีไ่ ด้มาจากมาดากสั การ์ บ่อเอดโิ ก้ เป็นหลัก
การสรา้ งความเป็นปึกแผน่ ของชาติ 134 ดว้ ยครูภมู ปิ ญั ญาไทย รุ่นที่ ๘ แต่ปรากฏว่า พลอยจากบ่อเอดิโก้ มีความแตกต่างจาก ภัณฑ์โดยการให้สามชิกได้ พลอยไพลินบ่ออ่ืนๆ ที่เคยท�ำ และต้องใช้ความอดทนและ สร้างแบรนด์ให้กับผลิตภัณฑ์ พยายามอยา่ งมากในการเผาเพอื่ จะไดน้ ำ�้ งามเปน็ การเพมิ่ มลู คา่ ของตนเอง เชน่ Seven day, ของพลอย ท้ังศึกษาวิเคราะห์จากประสับการณ์ของตนเอง จึง Chayada, Taya, Bro-Sis สามารถคดิ คน้ วธิ เี ผาพลอยไพลนิ จากบอ่ เอดโิ กไ้ ดส้ ำ� เรจ็ เปน็ คน ต่อยอดพัฒนาอาชีพ แรกของจังหวัดจันทบุรี และได้เผยแพร่องค์ความรู้ดังกล่าวกับ สู่การค้าขายเคร่ืองประดับ เพื่อนร่วมงาน เพ่ือให้ทุกคนสามารถพัฒนาและสร้างคุณค่าให้ อั ญ ม ณี แ ล ะ ร ว ม ก ลุ ่ ม ผู ้ กับอาชพี ของคนได้ ประกอบการจัดตั้งกลุ่มชมรม การศึกษาทดลอง เพื่อพัฒนาคุณภาพอัญมณีคือพลอย คลสั เตอรอ์ ตุ สาหกรรมอญั มณี โดยการใช้ความรอ้ น หรอื ทเี่ รียกว่า “การเผาพลอย” เกิดจาก และเคร่ืองประดับ จังหวัด ประสบการณจ์ ากการเปน็ เดก็ ฝกึ งานทนี่ งั่ เฝา้ เตาเผาพลอยของ จันทบุรี และด�ำเนินกลยุทธ์ เถา้ แกท่ ไี่ มย่ อมบอกอะไร นอกจากดตู วั เลขอณุ หภมู ทิ กี่ ำ� หนดไว้ พัฒนาตลาด สร้างชื่อสร้าง และเตมิ ไฟ ลดไฟอนั เปน็ พลงั งานสำ� คญั ในการเผา โดยไมม่ คี วาม ให้เป็นท่ียอมรับ โครงการ รทู้ างด้านวทิ ยาศาสตรม์ ากอ่ น ท� ำ ส่ื อ ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ ์ ท า ง แต่สามารถสร้างเตาเผาพลอย และทดลองเผาพลอย fanpage และอื่นๆFanpage โดยใช้วัสดุและอุณหภูมิที่เหมาะสมกับพลอยแต่ละชนิดตาม ช่ือ “คลัสเตอร์อุตสาหกรรม ประสบการณ์และการทดลองในแต่ละคร้ัง เพื่อเป็นการเพิ่ม อัญมณีและเครื่องประดับ มลู คา่ ของพลอยแต่ละชนดิ เปน็ ส่วนหน่ึงของการสร้างชื่อสร้าง จังหวัดจันทบุรี”Fanpage ใหก้ ับจังหวัดจันทบรุ ีในเรอ่ื งของการค้าขายอัญมณี ชือ่ “Chan hi chic chic” ตอ่ มาไดล้ าออกแลว้ มาประกอบกจิ การเผาพลอย คา้ พลอย ดว้ ยตวั เอง และพฒั นาวตั ถดุ บิ ทไี่ ดจ้ าการเผาพลอย ไปสกู่ ารทำ� เป็นเคร่ืองประดบั อญั มณี รวมไปถงึ การพฒั นากลุ่มผู้ประกอบ การคา้ อญั มณี โดยการจดั ตงั้ กลมุ่ ชมรมคลสั เตอร์ จดั ทำ� โครงการ กิจกรรม เพื่อประชาสัมพันธ์ชมรมให้เป็นที่รู้จัก พัฒนาผลติ
135 การสร้างความเป็นปึกแผน่ ของชาติ ด้วยครภู มู ิปญั ญาไทย รุน่ ท่ี ๘ “...จากประสบการณจ์ ากการเปน็ เดก็ ฝกึ งานทนี่ ง่ั เฝา้ เตาเผาพลอยของเถา้ แกท่ ไี่ มย่ อมบอกอะไร นอกจากดตู วั เลขอณุ หภมู ทิ ่กี ำ� หนดไวแ้ ละเติมไฟ ลดไฟอันเป็นพลงั งานสำ� คัญในการเผา โดยไม่มคี วามรู้ ทางดา้ นวิทยาศาสตรม์ าก่อน...” จัดตั้งศูนย์แสดงสินค้า การดำ� เนนิ วถิ ชี วี ติ นายบณั ฑติ ย์ ไดน้ อ้ มนำ� ศาสตรข์ องพระ เพอ่ื ใหส้ มาชกิ ชมรมคลสั เตอรฯ์ ราชาในเร่ืองการเป็นนักคดิ นกั พัฒนา การครองตนอยู่ในธรรม ได้จ�ำหน่ายสินค้า ปัจจุบันมี มาเป็นต้นแบบในการด�ำเนินชีวิต ทั้งในการท�ำงานและการ ๓ แห่ง ได้แก่ ถนนศรีจันทร์ พัฒนาชุมชน ในส่วนของการประกอบอาชีพ ท่ีพร้อมเผยแพร่ รา้ นตน้ ตำ� รบั และเคพี แกรนด์ ความรู้เก่ียวกับการเผาพลอยให้แก่บุคคลทั่วไปและผู้ประกอบ จิวเวลรี่ เซ็นเตอร์พัฒนา การค้าพลอย ผลิตภัณฑ์ และการควบคุม การท่ี นายบณั ฑติ ย์ พนิ จิ สขุ ใจ ไดน้ �ำความรู้ ความสามารถ คุณภาพ เพ่ิมมูลค่าพัฒนา ดา้ นอตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม ทตี่ นเองไดร้ บั การถา่ ยทอด ศกึ ษา ตราสินค้า Brand ของ ค้นคว้า ฝึกฝน จนประสบความส�ำเร็จเป็นประโยชน์โดยรวมแก่ สมาชิกชมรมฯ โดยร่วมกับ สังคม จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากส�ำนักงานเลขาธิการ มหาวทิ ยาลยั ในจงั หวดั ทำ� งาน สภาการศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ใหเ้ ปน็ ครภู มู ปิ ญั ญาไทย เพอ่ื วิจัยเรื่องอัญมณีและเคร่ือง ท�ำหน้าท่ีถ่ายทอดภูมิปัญญาในการจัดการศึกษาทั้งการศึกษาใน ประดบั อย่างต่อเนอ่ื ง ระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศัย สืบไป ที่อยู่ปัจจุบัน : ๒๙/๙๗ ม.หอมสวัสดิ์ ถ.ญาณวิโรจน์ ต.จันทนิมิต อ.เมือง จ.จนั ทบรุ ี ๒๒๐๐๒ โทร. ๐๘๑-๙๔๒-๓๔๔๒ เกียรติคณุ ทไ่ี ดร้ บั : ครภู ูมปิ ญั ญาไทย รุ่นที่ ๘ ด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ส�ำนักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา กระทรวง ศึกษาธกิ าร ๒๕๖๐
การสร้างความเปน็ ปกึ แผน่ ของชาติ 136 ดว้ ยครูภมู ิปัญญาไทย ร่นุ ที่ ๘ สุพจรังรหณวดั บุรี นายพสิ จู น์ ใจเทย่ี งกลุ ครภู มู ปิ ัญญาไทย ดา้ นภาษาและวรรณกรรม นายพิสูจน์ ใจเท่ยี งกุล เกดิ เมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๐๐ ทบ่ี า้ นเลขท่ี ๑ ค. เขต เทศบาลตำ� บลสองพน่ี อ้ ง (ในขณะนน้ั ) จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี เปน็ บตุ รคนที่ ๑ ในจำ� นวนพนี่ อ้ ง ๒ คน ของนายสวสั ด์ิ และ นางเฉลยี่ ใจเท่ียงกลุ สมรส กับ นางสาวลักขณา ช่นื ชมบญุ มี บุตรชาย ๒ คน ครพู สิ จู น์ ใจเทยี่ งกลุ สนใจการใชภ้ าษาไทย มาตง้ั แตส่ มยั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษา มกี าร จดั ทำ� หนังสือพิมพโ์ รงเรียน แต่งบทร้อยกรอง เพลงลูกทุ่ง เมื่อเรยี นระดับอุดมศึกษา เคย เขยี นบทการแสดงตา่ งๆ แตง่ เพลงพนื้ บา้ น ชว่ งเรยี นปรญิ ญาโท ไดค้ น้ ควา้ รวบรวมหนงั สอื และเอกสารโบราณ และมีการปรวิ รรตเผยแพรใ่ นเวลาต่อมา
137 การสรา้ งความเปน็ ปึกแผน่ ของชาติ ดว้ ยครูภูมปิ ญั ญาไทย รุ่นท่ี ๘ “...เมอื่ ไดเ้ รยี นรเู้ พลงพนื้ บา้ นจากแมข่ วญั จติ ศรปี ระจนั ต์ ศลิ ปนิ แหง่ ชาติ จงึ ไดต้ งั้ คณะเพลงอแี ซวของ โรงเรียนบางลี่วทิ ยา รวมท้งั ได้สร้างเครือขา่ ยเพลงพืน้ บา้ นกบั วดั และโรงเรยี นตา่ งๆ ท�ำให้นักเรยี นชนะ การประกวดสนุ ทรพจน์ การแตง่ กลอน การอ่านทำ� นองเสนาะและการแสดงเพลงพื้นบา้ น แทบทกุ งาน...” รับราชการครู ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ บรรจุที่โรงเรียนสระสี่มุม อ.ก�ำแพงแสน จ.นครปฐม ย้ายมาหลายโรงเรียนจนได้มาสอน ทโี่ รงเรยี นบางลวี่ ทิ ยา อ.สองพน่ี อ้ ง เรมิ่ ถา่ ยทอดความรกู้ ารแตง่ เพลงพน้ื บ้าน มีความรใู้ นการอา่ นอักษรโบราณ โดยได้ปรวิ รรต เอกสารโบราณและถ่ายทอดความรู้ให้กบั นกั เรยี น ครู ผ้บู รหิ าร ทอ้ งถ่ิน ตลอดจนเยาวชนทวั่ ไป เปน็ เวลากว่า ๒๘ ปี มีผ้รู ับการ ถ่ายทอดมากมาย เป็นผู้ที่มีทักษะความเช่ียวชาญในการพูด การเขียน การ แสดงเพลงพ้ืนบ้าน สนใจใฝ่รู้ตั้งแต่ระดับช้ันมัธยมศึกษา เมื่อ ได้เรียนรู้เพลงพ้ืนบ้านจากแม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ ศิลปินแห่ง ชาติ จงึ ได้ต้งั คณะเพลงอีแซวของโรงเรยี นบางลีว่ ิทยา รวมทั้ง ได้สร้างเครือข่ายเพลงพื้นบ้านกับวัดและโรงเรียนต่างๆ ท�ำให้ นักเรียนชนะการประกวดสุนทรพจน์ การแต่งกลอน การอ่าน ท�ำนองเสนาะและการแสดงเพลงพ้ืนบา้ น แทบทุกงาน
การสร้างความเปน็ ปึกแผน่ ของชาติ 138 ด้วยครภู ูมปิ ญั ญาไทย รนุ่ ที่ ๘ ในการถา่ ยทอดความรู้ ครพู สิ จู น์ ใจเทยี่ งกลุ เนน้ การฝกึ ฝน การปฏิบัติให้แก่ครู ผู้บริหารท้องถ่ิน และเยาวชนท่ัวไป มีท้ัง ตัวอย่าง เอกสารประกอบ การสาธิต ง่ายต่อการฝึกฝนเรียนรู้ เขา้ ใจ การท่ี นายพิสูจน์ ใจเท่ียงกุล ได้น�ำความรู้ ความสามารถ ด้านภาษาและวรรณกรรม ที่ตนเองได้รับการถ่ายทอด ศึกษา ค้นคว้า ฝึกฝน จนประสบความส�ำเร็จเป็นประโยชน์โดยรวมแก่ สังคม จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากส�ำนักงานเลขาธิการ สภาการศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ใหเ้ ปน็ ครภู มู ปิ ญั ญาไทย เพอื่ ท�ำหน้าท่ีถ่ายทอดภูมิปัญญาในการจัดการศึกษาท้ังการศึกษาใน ระบบ การศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย สบื ไป ทอี่ ยูป่ ัจจุบนั : เลขท่ี ๒๕๓ ต.สองพน่ี ้อง อ.สองพน่ี ้อง จ.สุพรรณบรุ ี ๔๒๑๑๐ โทร. ๐๘๗-๑๗๑-๕๔๙๖ การศึกษา : ครศุ าสตร์บัณฑติ วทิ ยาลัยครนู ครปฐม / ศกึ ษาศาสตรบ์ ัณฑติ มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช / ศิลปศาสตร์ มหาบัณฑิต สาขาจารึกภาษาไทย มหาวิทยาลัยศิลปากร เกยี รตคิ ณุ ทไ่ี ดร้ บั : ครภู าษาไทยดเี ดน่ สำ� นกั งานเลขาธกิ ารครุ สุ ภา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร / ครดู ใี นดวงใจ สำ� นกั งานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร / วัฒนคุณาธร กระทรวงวัฒนธรรม / ครขู วญั ศิษย์ มลู นธิ ริ างวลั เจา้ ฟา้ มหา จักรี / ครูภูมปิ ัญญาไทย รุ่นท่ี ๘ ดา้ นภาษาและวรรณกรรม สำ� นกั งานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ๒๕๖๐
139 การสรา้ งความเปน็ ปึกแผ่นของชาติ ด้วยครภู ูมิปัญญาไทย รุ่นที่ ๘ จจนั ังทหวบดั รุ ี นายสมโภชน์ วาสุกรี ครภู มู ปิ ญั ญาไทย ด้านภาษาและวรรณกรรม นายสมโภชน์ วาสุกรี เกิดในครอบครัวเกษตรกร บนพื้นที่ ดนิ จำ� นวน ๑ ไร่ ๒๐๐ ตารางวา ใชส้ รา้ งบา้ นพกั และปลูกไม้ผล คือละมุด จ�ำนวน ๓๐ ต้น ปลูกพืชผักสวนครัวผสมผสานอยู่ใน แปลงเดียวกัน มีพอี่ ีก ๖ คน รวมตัวเองด้วย เป็น ๗ คน ทุกคน ได้รบั การศึกษาในโรงเรยี นใกล้บา้ น
การสร้างความเปน็ ปึกแผน่ ของชาติ 140 ด้วยครภู ูมปิ ัญญาไทย รุ่นท่ี ๘ แม้ครอบครัวจะประกอบอาชีพทางการเกษตร แต่ครู สมโภชน์ วาสุกรี ก็ได้คลุกคลีอยู่กับวัดมาต้ังแต่เล็ก เพราะ คุณพ่อเป็นไวยาวัจกรวัด ซึ่งในสมันนั้น เป็นสถานที่ชุมนุม ผู้รู้ วิทยาการต่างๆ (ปราชญ์ชาวบ้าน) ในวันพระ จะมีการถือศีล แปด (อุโบสถศิล) ครูสมโภชน์ จึงมีโอกาส ได้รับการถ่ายทอด วิทยาการต่างๆโดยไม่รู้ตัวและได้ฝึกถือศีลแปด (อุโบสถศีล) มาต้ังแต่อายุ ๙ ขวบ มีโอกาสอ่านคัมภีร์โบราณต่างๆรวมทั้ง หนงั สือพระไตรปิฎกดว้ ย หลงั เรยี นจบวชิ า “คร”ู ทโี่ รงเรยี นฝกึ หดั ครฉู ะเชงิ เทรา จบ การศึกษาในระดับ ปกศ.ต้น สอบบรรจเุ ป็นครูด้วยวยั ๑๘ ปี ๖ เดอื น ไดร้ บั เงนิ เดอื น ๗๒๐ บาท เกบ็ เงนิ เดอื นสว่ นหนงึ่ ซอื้ ทดี่ นิ สรา้ งบ้านพกั อาศยั อยู่ได้ภายในเวลา ๑ ปี เป็นครูผู้สอนได้สอนทุกวิชาสอดแทรกองค์ความรู้ในเรื่อง การสรา้ งลกั ษณะนสิ ยั ทดี่ ขี องสมาชกิ ในสงั คม และเรอ่ื งราวทาง ประวติ ศิ าสตร์ท้องถิ่นมาโดยตลอดเป็นเวลา ๕ ปี จึงไดร้ ับการ คดั เลอื กใหเ้ ปน็ ผบู้ รหิ ารโรงเรยี นตำ� แหนง่ ครใู หญ่ อาจารยใ์ หญ่ และผู้อำ� นวยการ ตามลำ� ดับ
141 การสรา้ งความเป็นปกึ แผ่นของชาติ ดว้ ยครูภมู ปิ ญั ญาไทย รุ่นท่ี ๘ เมื่อเกษียณอายุราชการ ได้อุทิศเวลาร่างกายและจิตใจ รวมทง้ั สตปิ ญั ญาทส่ี มบรู ณท์ ง้ั หมดใหก้ บั สงั คมจงั หวดั ตราดเตม็ ท่ีเพราะพ้นภาระความรับผิดชอบในหน้าที่ข้าราชการแล้ว ได้ มีโอกาสใช้พลังสมองเผยแพร่สิ่งต่างๆท่ีเป็นวิทยาการเดิมเข้าสู่ วงการข้าราชการภายในจังหวัดในฐานะผูท้ รงคณุ วุฒจิ งั หวัด โดยเฉพาะองค์ความร้ดู า้ นศาสนา งานศาสนพิธีต่างๆ เช่น การจัดต้ัง การเตรียมงานทางพระพุทธศาสนาพร้อมปริศนา ธรรมต่างๆ ท่ีบรู พาจารย์หรอื โบราณาจารย์ แทรกไวเ้ ป็นสาระ ธรรมท่นี ำ� มาจากหนงั สอื พระไตรปฎิ ก ดา้ นสมนุ ไพรพน้ื บา้ น บรรดาวชั พชื ทเี่ กษตรกรรนุ่ ใหมเ่ รยี ก วา่ หญา้ กำ� ลังท�ำลายดว้ ยการฉีดยาสารเคมเี พ่อื ใหส้ ูญพนั ธ์นุ นั้ ลว้ นแลว้ แตเ่ ปน็ ตวั ยาสามญั ประจำ� ถนิ่ ทหี่ าไมม่ ใี นประเทศอนื่ ๆ ครูมักจะอนุรักษ์และน�ำไปเสนอตามเวทีบรรยายเกร่ินกล่าว กอ่ นบรรยายในฐานะวิทยากรเสมอ ดา้ นประวัตศิ าสตร์ ครสู มโภชน์ วาสกุ รี ได้ศึกษา ค้นควา้ รวบรวม เร่ืองสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกู้ชาติ ๒๓๑๐ และ เรื่องพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาล ท่ี ๕ (พระพทุ ธเจา้ หลวง) รวมถงึ เรอ่ื งยทุ ธนาวที เี่ กาะชา้ ง ตลอด ประวตั ศิ าสตร์ ตำ� นาน พน้ื บา้ น ของดใี นชมุ ชน อนื่ ๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั จงั หวดั ตราด รวบรวมเอาไวม้ ากมากมาย ไดร้ บั การตพี มิ พเ์ ผยแพร่ หลายครั้ง “...เดินตามรอยพระราชปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช บรมนาถบพิตร ที่ว่า “ระเบดิ จากข้างใน” เมื่อตนเองม่นั คง หมายถึง มหี ลักการแหง่ คุณธรรมของพระศาสนาดำ� รงชวี ติ ตามแนวทางท่เี หมาะควร มีสตปิ ัญญาแยกถกู ผิดได้ ยอ่ มมคี วามมน่ั คง...”
การสร้างความเป็นปึกแผน่ ของชาติ 142 ด้วยครภู มู ปิ ญั ญาไทย รนุ่ ท่ี ๘ ทุกวันน้ีครูสมโภชนได้ด�ำเนินชีวิต เดินตามรอยพระราช ปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช บรมนาถบพิตร ที่ว่า “ระเบิดจากข้างใน” น่ันหมายความว่า เมื่อตนเองม่ันคง ย่อมมีหลักการแห่งคุณธรรมของพระศาสนา ด�ำรงชีวิตตามแนวทางท่ีเหมาะควร จึงจะมีสติปัญญาแยกถูก ผิดได้ และมีความมน่ั คง การที่ นายสมโภชน์ วาสุกรี ได้น�ำความรู้ ความสามารถ ด้านภาษาและวรรณกรรม ที่ตนเองได้รับการถ่ายทอด ศึกษา ค้นคว้า ฝึกฝน จนประสบความส�ำเร็จเป็นประโยชน์โดยรวมแก่ สังคม จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากส�ำนักงานเลขาธิการ สภาการศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ใหเ้ ปน็ ครภู มู ปิ ญั ญาไทย เพอื่ ท�ำหน้าที่ถ่ายทอดภูมิปัญญาในการจัดการศึกษาท้ังการศึกษาใน ระบบ การศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัย สืบไป บ้านเลขท่ี ๓๙/๒ หมู่ ๓ ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ๒๓๑๒๐ โทร. ๐๓๙-๕๑๖-๙๖๗, ๐๘๑-๗๖๑-๑๙๗๒ การศึกษา : จบการศึกษาในระดบั ปกศ.ต้น และ ปกศ. สูง เกยี รตคิ ณุ ทไ่ี ดร้ บั : รางวลั ครผู มู้ จี รยิ ธรรมดเี ดน่ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ไดร้ บั มอบแหวนเงนิ เสมาทองคำ� จากรฐั มนตรวี า่ การ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร / รางวัลนักการประถมศึกษาดเี ดน่ แห่งชาติ กระทรวงศึกษาธกิ าร / ผบู้ ริหารสถานศึกษาดเี ด่นจังหวดั ตราด / ครูภมู ปิ ญั ญาไทย ร่นุ ท่ี ๘ ดา้ นภาษาและวรรณกรรม ส�ำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ ๒๕๖๐
143 การสร้างความเปน็ ปกึ แผ่นของชาติ ดว้ ยครภู มู ิปญั ญาไทย รนุ่ ที่ ๘ ครภู ูมิปัญญาไทย ภาคใต้
การสร้างความเป็นปึกแผ่นของชาติ 144 ดว้ ยครูภมู ปิ ญั ญาไทย รุน่ ที่ ๘ พระครูสุนทรธรรมนเิ ทศก์ นายดอเลา๊ ะ สะตอื บา ดาบต�ำรวจนิรันดร์ พิมล นายแสวง ภูศิริ นายกติ ตทิ ตั ศรวงศ์ นายปลื้ม ชูคง นายขจรศกั ดิ์ เทพน้ยุ นายสมบูรณ์ ทพิ ยน์ ุย้ นายชว่ ง เรอื งแก้ว นางดวง วงั บญุ คง นายเทพสิน ผอ่ งแก้ว นายปิยะ สวุ รรณพฤกษ์ นายสวน หนดุ หละ นายประเสรฐิ รกั ษ์วงศ์
145 การสร้างความเปน็ ปึกแผน่ ของชาติ ด้วยครภู มู ิปญั ญาไทย รุ่นที่ ๘ สจงงั หขวลดั า พระครูสุนทรธรรมนเิ ทศก์ ครูภูมปิ ญั ญาไทย ดา้ นปรชั ญา ศาสนา และประเพณี พระครูสุนทรธรรมนิเทศก์ (ฐิติคุโณ) เดิมชื่อ นายวรพล ทองไฝ เกิดเม่ือวันพุธที่ ๒๒ มกราคม ท่ีบ้านเขาพระ ต�ำบลเขาพระ อ�ำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เรียนจบการ ศึกษาภาคบังคับ ระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนบ้านคลองขุด ต่อมาจึงได้ขอบรรพชา เป็นสามเณร วัดมงคลมง่ิ เมอื ง จังหวดั สตูล ได้ศกึ ษานักธรรม-บาลี และสายปริยตั ิธรรม แผนกสามญั ควบคกู่ นั ไป ตามที่ไดต้ ้งั ใจปรารถนาไว้ บวชเรยี นต้ังแต่เด็ก
การสร้างความเป็นปึกแผน่ ของชาติ 146 ด้วยครูภมู ปิ ัญญาไทย รนุ่ ที่ ๘ “...พระครูสนุ ทรธรรมนเิ ทศก์ (ฐิตคิ โุ ณ) เผยแผพ่ ระพุทธศาสนาโดยการเทศนา บรรยายธรรมประกอบ สื่อ ดนตรีประกอบเพลงที่ส่งเสริมคุณธรรม ปุจฉา-วิสัชนา ถาม-ตอบ เปิดใจ ใส่ธรรม ผู้ฟังและ ผปู้ ฏบิ ัติไมเ่ บ่อื และซึมซับเขา้ สจู่ ิตใจไดด้ .ี ..” พระครูสุนทรธรรมนิเทศก์ (ฐติ คิ ุโณ) สนใจอา่ นหนังสือท่านพุทธทาสและทา่ น ปัญญานันทะ ฝึกการพูด การเทศน์จากครู อาจารย์ จนสามารถเทศน์ปฏิภาณได้ ขณะยังเป็นสามเณร เมื่ออายุครบบวชพระ จึงได้อุปสมบทสืบต่ออายุพระพุทธ ศาสนา และไดม้ โี อกาสไปศกึ ษาตอ่ ทม่ี หาวทิ ยาลยั สงฆ์ มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั กรุงเทพฯ เม่ือกลับมาปฏิบัติหน้าท่ีด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาจึงได้ใช้ความรู้ที่เล่า เรียนและประสบการณ์ให้แก่วัด สถานศึกษา และหน่วยงานราชการ ทั้งได้ช่วย ส่งเสริม ประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของสังคมไทยให้ด�ำรงอยู่ต่อไปอย่างไม่รู้ เหน็ดเหนื่อย หมน่ั ศกึ ษาทกุ สงิ่ ทเ่ี ปน็ ความรนู้ ำ� มาเปน็ เครอ่ื งมอื ในการเผยแผธ่ รรมะ จงึ มคี วาม สามารถในการใชส้ อื่ เทคโนโลยี คอมพวิ เตอร์ สง่ ผลใหผ้ สู้ นใจไดเ้ ขา้ ถงึ หลกั ธรรมทาง ศาสนาไดง้ า่ ย นอกจากการอบรมทางศีลธรรมแล้ว พระครูฯยังส่งเสริมกลุ่มอาชีพเพ่ือเสริม รายไดใ้ หแ้ กค่ รอบครวั เชน่ การทำ� พวงกญุ แจจากลกู ปดั มโนราห์ กลมุ่ ฝกึ รำ� มโนราห์ ซึ่งมีการจ้างไปแสดงในงานต่าง ๆ ซึ่งเป็นรายได้เสริมของครอบครัว รู้จักความ พอเพียง สรา้ งความสขุ เกดิ ขนึ้ ในสังคม
147 การสรา้ งความเป็นปึกแผน่ ของชาติ ดว้ ยครภู มู ปิ ญั ญาไทย ร่นุ ท่ี ๘ พระครูสุนทรธรรมนิเทศก์ได้ด�ำเนินงานด้านเครือข่าย การท่ี พระครูสุนทรธรรม สำ� หรบั การเผยแผพ่ ระศาสนา ไวด้ งั น้ี เครอื ขา่ ยพระธรรมทายาท นิเทศก์ (ฐิติคุโณ) ได้น�ำความ ภาคใต้ เครอื ขา่ ยพระธรรมฑตู อาสา ๕ จงั หวดั ชายแดนใต้ และ รู้ ความสามารถ ด้านปรัชญา เครอื ข่ายครพู ระสอนศีลธรรมในโรงเรียน จงั หวัดสตูล ศาสนา และประเพณี ทตี่ นเอง พระครูสุนทรธรรมนิเทศก์ (ฐิติคุโณ) เผยแผ่พระพุทธ ได้รับการถ่ายทอด ศึกษา ศาสนาโดยการเทศนา บรรยายธรรมประกอบส่ือ ดนตรี คน้ ควา้ ฝกึ ฝน จนประสบความ ประกอบเพลงท่ีส่งเสริมคุณธรรม ปุจฉา-วิสัชนา ถาม-ตอบ ส�ำเร็จเป็นประโยชน์โดยรวม เปิดใจ ใส่ธรรม ผู้ฟังและผู้ปฏิบัติไม่เบ่ือและซึมซับเข้าสู่จิตใจ แก่สังคม จึงได้รับการยกย่อง ได้ดี ท�ำให้เกิดกระบวนการพัฒนาจิตใจที่อ่อนโยนน�ำไปสู่การ เชิดชูเกียรติจากส�ำนักงาน ปฏิบัติท่ีดี และการเทศน์ที่ใช้ปฏิภาณในการปรับปรุงสาระให้ เลขาธิการสภาการศึกษา สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงได้รับรางวัลชนะเลิศการ กระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็น ประกวดบรรยายธรรมในโครงการอบรมพระสังฆาธิการ ระดับ ครภู มู ิปัญญาไทย ด้านปรชั ญา เจ้าอาวาสท่วั ประเทศ ศาสนาและประเพณี เพื่อท�ำ ได้มุ่งม่ันเผยแพร่หลักธรรมค�ำสอนขององค์สมเด็จพระ หน้าที่ถ่ายทอดภูมิปัญญาใน สมั มาสมั พทุ ธเจา้ โดยมงุ่ ความสขุ สงบแกพ่ ทุ ธศาสนกิ ชนและเพอื่ การจัดการศึกษาท้ังการศึกษา สบื ทอดหลกั พระธรรมวนิ ยั อกี ทงั้ นำ� ความรู้ ความสามารถ ดา้ น ในระบบ การศึกษานอกระบบ ปรชั ญา ศาสนา และประเพณี ทต่ี นเองไดร้ บั การถา่ ยทอด ศกึ ษา และการศึกษาตามอัธยาศัย คน้ ควา้ ฝกึ ฝน จนประสบความความชำ� นาญ เผยแพรจ่ นสำ� เรจ็ สบื ไป เปน็ ประโยชนโ์ ดยรวมแกส่ งั คม นำ� ไปสกู่ ารปฏบิ ตั ดิ ี ปฏบิ ตั ชิ อบ ท่ัวกัน ท่ีอยู่ปัจจุบัน : วัดชนาธิปเฉลิม พระอารามหลวง ๒๔ ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตลู ๙๑๐๐๐ โทร. ๐๘๐- ๕๔๕-๕๒๖๒
การสร้างความเป็นปึกแผน่ ของชาติ 148 ดว้ ยครูภมู ิปญั ญาไทย รุ่นที่ ๘ จยงั ะหลวาดั นายดอเลา๊ ะ สะตอื บา ครภู มู ปิ ญั ญาไทย ดา้ นเกษตรกรรม นายดอเล๊าะ สะตอื บา เกดิ เม่ือวันท่ี ๒๐ มีนาคม ท่ตี �ำบลบาโระ๊ อ�ำเภอเมอื ง จังหวดั ยะลา เปน็ บตุ รคนท่ี ๔ ในจ�ำนวนพนี่ อ้ ง ๕ คน ของ นายเจ๊ะเซง็ และ นางแมะเยาะ สะตือ บา สมรสกับนางสาวแมะซง หะยีสะนิด มบี ุตร ๑ คน บุตรหญงิ ๒ คน ครดู อเลา๊ ะ สะตือบา เกิดในครอบครัวเกษตรกร จบระดบั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ ชีวติ วัยเด็กได้รับการอบรมให้ด�ำเนินชีวิตตามวิถีของเกษตรกรที่มีความขยัน อดทน มาโดย ตลอด จึงไดซ้ ึมซบั ความร้ดู ้านการเกษตรในหลาย ๆ ดา้ นจากภูมิปญั ญาบรรพชนปู่ยา่ ตา ยายพ่อแม่ น�ำมาเป็นรากฐาน ยึดม่ันหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการ ดำ� เนินชวี ิตและปฏิบัตเิ รอ่ื ยมา คุณสมบัติที่โดดเด่นอีกด้าน คือ เป็นผู้ท่ีมีความคิดดี รู้จักเรียนรู้วิทยาการและ เทคโนโลยกี ารเกษตรใหมๆ่ จากสอื่ ตา่ งๆ ดว้ ยตนเองและนำ� มาประยกุ ตใ์ ชก้ บั แปลงเกษตร ของตนเอง แลกเปลย่ี นและถ่านทอดวธิ กี ารและความรตู้ ่างๆ ใหแ้ ก่เกษตรกรอน่ื ๆ และผู้ สนใจ
149 การสรา้ งความเป็นปึกแผน่ ของชาติ ด้วยครภู มู ิปญั ญาไทย รุ่นที่ ๘ “...ชาวบ้านคิดว่า ครูดอเล๊าะ ผิดปกติ แต่ครูดอเล๊าะคิดว่า การ สิ่งน้ีท�ำให้นายดอเล๊าะ ทำ� งาน คอื การลองผดิ ลองถกู และการเรยี นรไู้ ดจ้ ากการปฏบิ ตั จิ รงิ สะตือบา มีความรู้ความเชี่ยว จงึ จะไดผ้ ล และถ้าไมม่ ีเวลา ไมข่ ยัน มักท�ำงานไดไ้ มด่ .ี ..” ทางการเกษตรหลากหลาย เนื่องจากเป็นคนใฝ่รู้ใฝ่ศึกษาค้นคว้าหาประสบการณ์ อย่างลึกซ้ึงและสามารถสร้าง ใหม่ๆ อยู่เสมอ จึงมีความรู้ความสามารถด้านเทคนิคการปลูก นวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามา สละอนิ โด เทคนคิ การเลยี้ งไกไ่ ข่ การเลยี้ งปลาในบอ่ ดนิ การทำ� ต่อยอด เป็นประโยชน์ต่อ ป๋ยุ หมกั ชวี ภาพและฮอร์โมนพืช และเลี้ยงสัตว ์ จงึ สามารถจัด อาชีพเกษตรกรรม จนเป็นท่ี กิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ ให้แก่ผู้สนใจท้ังในและนอกพื้นที่ ยอมรับของชุมชนและสังคม อยา่ งตอ่ เน่อื ง วงกวา้ ง สมเปน็ ผทู้ รงภมู ปิ ญั ญา โดยเฉพาะการตดิ ตายางพารา (ชนดิ ยางตาเขยี ว) ซงึ่ เรยี นรู้ ดา้ นเกษตรกรรม มาต้งั แตอ่ ายุ ๑๘ ปี ไดเ้ พาะกล้ายางพารายางตาเขียวจำ� หน่าย ชีวิตของครู เป็นท่ีพึ่ง ในสวนยางของตนเอง ไดเ้ งนิ สง่ ใหล้ กู ศกึ ษาตอ่ จนจบปรญิ ญาตรี ของเพ่ือนบ้านและชาวชุมชน ปี ๒๕๔๕ เมื่อกลับศึกษาดูงานจากศูนย์ศึกษาการพัฒนา ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาด้าน พิกุลทอง อันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ จ.นราธิวาส เกิดสนใจ การเกษตรให้แก่สมาชิกใน ในการเลยี้ งปลาแรด จึงไปซ้ือพันธม์ุ าเลี้ยงในบ่อซเี มนต์ แตเ่ กิด กลุ่มเกษตรกรเพ่ือนบ้าน ปญั หาในการขยายพนั ธ์ุ จงึ ขดุ บอ่ ปพู น้ื ดว้ ยพลาสตกิ ขยายพนั ธ์ุ นกั เรยี น นกั ศกึ ษา และผสู้ นใจ เพมิ่ จ�ำนวนมากข้ึนภายในเวลา ๓ เดอื น ท�ำใหเ้ กิดก�ำลงั ใจและ ทงั้ ในและนอกพน้ื ทที่ มี่ าศกึ ษา ทมุ่ เทขดุ บอ่ ปลาเพม่ิ โดยใชเ้ วลากลางคนื ภายหลงั จากละหมาด ดูงาน และแลกเปล่ียนเรียนรู้ ชาวบา้ นคดิ วา่ ครดู อเลา๊ ะ ผดิ ปกติ แตค่ รคู ดิ วา่ การทำ� งาน ไดต้ ลอดเวลา คอื การลองผิด ลองถูกและการเรยี นรไู้ ด้จากการปฏบิ ตั จิ รงิ จึง จะไดผ้ ล และถ้าไม่มีเวลา ไม่ขยัน มกั ทำ� งานได้ไม่ดี ในความทเี่ ปน็ ผปู้ ลกู ฝงั ความดงี าม อดทน เสยี สละแบง่ ปนั มีเมตตา ไมโ่ ลภ จากครอบครวั และหลกั ศาสนา ครูดอเลา๊ ะ จึง ไม่หวงความรู้และยังมุ่งม่ันแบ่งปันที่จะให้คนอ่ืนยืนอยู่ได้ด้วย ลำ� แขง้ ตวั เองแลว้ กพ็ รอ้ มใหค้ นอน่ื ตอ่ ไปโดยไมห่ วงั ผลประโยชน์ ตอบแทนสผู่ อู้ น่ื ทกุ วถิ ที าง เชน่ การเปน็ วทิ ยากรบรรยาย สาธติ ใหค้ วามรแู้ กเ่ ครอื ขา่ ย ตลอดจนแลกเปลยี่ นและถา่ ยทอดวธิ กี าร ซง่ึ กันและกนั เปน็ การเพน่ิ พนู ปัญญาอกี ด้วย
การสรา้ งความเป็นปกึ แผน่ ของชาติ 150 ด้วยครูภมู ิปญั ญาไทย รุน่ ท่ี ๘ การท่ี ครดู อเลา๊ ะ สะตอื บา ไดน้ ำ� ความรดู้ า้ นเกษตรกรรม ที่ ตนเองไดร้ ับการถา่ ยทอด ศึกษา ค้นควา้ ฝกึ ฝนจนประสบความ ส�ำเร็จ และใช้ความรู้ ประสบการณ์เป็นประโยชน์โดยรวมแก่ ในการจัดกิจกรรมตาม สังคม จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากส�ำนักงานเลขาธิการ ฐานการเรยี นรู้ ครดู อเล๊าะ ได้ สภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็นครูภูมิปัญญาไทย แบ่งออกเป็นฐานๆ อาทิ การ ดา้ นเกษตรกรรม เพื่อทำ� หนา้ ทถี่ า่ ยทอดภมู ปิ ัญญาในการจดั การ จดั การสวนยางพารา ฐานการ ศกึ ษา ทง้ั การศกึ ษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษา เพาะเห็ดและการแปรรูปเห็ด ตามอธั ยาศัย สืบไป ฐานการผลิตปุ๋ยเพ่ือลดต้นทุน ฐานดินและปุย๋ ฐานการเล้ียง ทีอ่ ยู่ปจั จุบัน : บ้านเลขท่ี ๑๐๑ หมู่ที่ ๘ ต.บาโร๊ะ อ.เมือง จ.ยะลา ๙๕๑๒๐ สัตว์น�้ำ ฐานเศรษฐกิจพอ โทร. ๐๖๓-๐๘๑-๑๗๓๑ เพียง ฐานอาชีพเสริมในสวน ยางพารา ฐานการใช้น�้ำอย่าง รู้คุณค่า เพ่ือให้ผู้สนใจเรียนรู้ กลุม่ ลกู คา้ ธกส. องคก์ ร และ หน่วยงานต่างๆ เขา้ มาเรยี นรู้ เกยี รติคณุ ทีไ่ ดร้ บั : เกษตรกรดีเดน่ สาขาไร่นาสวนผสม จังหวดั ยะลา / รางวลั ยกยอ่ งคนดี เชิดชคู นเก่ง อ�ำเภอยะหา จังหวดั ยะลา / รางวัลองค์กรเกษตรกรดเี ดน่ ศนู ยเ์ รยี นร้กู ารเพิ่มประสิทธภิ าพการผลติ สนิ คา้ เกษตร (ศพก.) จังหวัดยะลา กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ / ปราชญ์ชาวบา้ นดีเดน่ ส�ำนกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบฯ จงั หวัดยะลา / ครูภูมปิ ญั ญาไทย รุ่นที่ ๘ ดา้ นเกษตรกรรม ส�ำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ๒๕๖๐
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196