การจดั ทางบต้นทุนการผลติ ความหมายของงบต้นทุนการผลติ งบต้นทนุ การผลติ (Statement of Cost of Goods Manufactured /ManufacturingStatement) คือ งบที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกบั ตน้ ทุนสินคา้ ท่ีผลิตเสร็จ กลา่ วคือการคานวณตน้ ทุนสินคา้ ที่ผลิตเสร็จในรูปงบนนั่ เอง
สว่ นประกอบของงบตน้ ทนุ การผลิต งบตน้ ทุนการผลิตประกอบด้วยสว่ นท่ีสาคัญดังน้ี กรณีดาเนินกิจการเป็นปีแรกหรืองวดบัญชีแรก 1. วัตถุดิบใชไ้ ปในการผลติ 2. คา่ แรงทางตรง 3. ค่าใช้จา่ ยการผลติ 4. งานระหว่างทาคงเหลอื ปลายงวด กรณดี าเนนิ กจิ การเป็นปีทส่ี องหรืองวดบัญชที ี่สองเป็นตน้ ไป 1. งานระหว่างทาคงเหลอื ต้นงวด 2. วตั ถุดบิ ใชไ้ ปในการผลติ 3. ค่าแรงทางตรง 4. ค่าใช้จ่ายการผลติ 5. งานระหว่างทาคงเหลอื ปลายงวด
รูปแบบของงบตน้ ทุนการผลิต รปู แบบของงบตน้ ทุนการผลติ เป็นดงั น้ี
งานระหว่างทาตน้ งวด 22,600 บาท วตั ถุดบิ ตน้ งวด 11,950 บาท ซือ้ วตั ถุดบิ 95,240 บาท ค่าขนสง่ เข้า 4,000 บาท ส่งคืนวัตถดุ ิบ 1,100 บาท ส่วนลดรับ 3,300 บาท ค่าแรงทางตรง 224,310 บาท ค่าแรงงานทางออ้ ม 101,500 บาท เงินสมทบกองทุนประกันสงั คม 9,300 บาท
คา่ สาธารณปู โภค 47,990 บาท คา่ ซอ่ มบารงุ เคร่ืองจักร 28,700 บาท ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตลด็ 3,420 บาท วสั ดุโรงงานใชไ้ ป 14,440 บาท คา่ เสือ่ มราคา-เครื่องอบวนุ้ เส้น 88,000 บาท คา่ เสอ่ื มราคา-เครือ่ งจักร 77,000 บาท ค่าเส่ือมราคา-อาคารโรงงาน 210,000 บาท งานระหว่างทาปลายงวด 36,520 บาท วัตถดุ บิ ปลายงวด 18,800 บาท
หนว่ ยท่ี 5 สินคา้ คงเหลอื
สาระการเรยี นรู้ 1. สนิ คา้ คงเหลอื ของกิจการอุตสาหกรรม 2. การวัดมูลค่าและการคานวณตน้ ทนุ สินค้าคงเหลือ 3. การแสดงรายการสินคา้ คงเหลือของกิจการอุตสาหกรรมในงบการเงนิ
สนิ คา้ คงเหลอื ของกิจการอตุ สาหกรรม ความหมายของสนิ คา้ คงเหลอื ตามคานิยาม ตามมาตรฐานการบญั ชฉี บบั ที่ 2 (ปรบั ปรงุ 2561)เรือ่ ง สินค้าคงเหลือ สนิ คา้ คงเหลือ หมายถึง สนิ ทรัพย์ ซึ่งมลี กั ษณะใดลกั ษณะหนงึ่ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ถอื ไว้เพื่อขาย ตามลักษณะการประกอบธุรกจิ ตามปกตขิ องกจิ การ 2. อยใู่ นระหวา่ งกระบวนการผลติ เพ่อื ให้เปน็ สนิ คา้ สาเร็จรปู เพือ่ ขายหรอื 3. อยใู่ นรปู ของวตั ถดุ บิ หรอื วสั ดทุ ี่มไี ว้เพอ่ื ใชใ้ นกระบวนการผลิตสินค้าหรือ ใหบ้ ริการ
ดงั นั้น สนิ ค้าคงเหลือของกิจการซื้อขายสินคา้ คือสนิ ค้าสาเรจ็ รปู สว่ นสินค้าคงเหลือของกิจการอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 1. สินค้าสาเรจ็ รปู คงเหลือ (Finished Goods) 2. งานระหวา่ งทาคงเหลือ/สนิ คา้ ระหวา่ งผลิตคงเหลือ (Work-in-Process Inventory /Goods in Process Inventory) 3. วัตถุดิบคงเหลือ (Material Inventory) 4. วสั ดโุ รงงาน (Factory Supplies)
การวัดมลู ค่าและการคานวณตน้ ทนุ สนิ ค้า คงเหลอืการวัดมูลค่าและการคานวณต้นทุนสินคา้ คงเหลอื ตามมาตรฐานการบญั ชี เรื่อง สนิ คา้ คงเหลอื กาหนดไว้ดังน้ี มูลค่าสุทธิที่จะได้รับ หมายถึง ราคาโดยประมาณท่ีคาดว่าจะขายได้ตามลักษณะการประกอบ ธุรกิจตามปกติ หักด้วยประมาณการต้นทุน ในการผลิตสินค้านั้นให้เสร็จ และต้นทุนที่ จาเปน็ ต้องจ่ายไปเพ่อื ใหข้ ายสินค้าน้นั ได้ S c ie n c e Te c h no lo g y E n gin e e rin g A rt s Ma t h e ma t ic s
จากมาตรฐานการบัญชีขา้ งต้น สรปุ ไดว้ า่ การวัดมลู ค่าสินคา้ คงเหลือต้องวดั ด้วยราคาทุนหรือมูลค่า สุทธิที่จะได้รับ แล้วแต่มูลค่าใดจะต่ากว่า ดังนั้นกิจการจะต้องคานวณต้นทุนสินค้าคงเหลือด้วยราคาทุน ซ่ึงมี หลายวิธี เช่น วิธีต้นทุนมาตรฐาน วิธีราคาขายปลีก วิธีราคาเจาะจง วิธีเข้าก่อน-ออกก่อน วิธีถัวเฉล่ียถ่วง นา้ หนกั และคานวณมูลคา่ สุทธิทีจ่ ะได้รับ จากนน้ั นาไปเปรยี บเทียบกันและใช้มลู ค่าท่ีต่ากวา่ การคานวณต้นทุนสินค้าคงเหลือมีหลายวิธี ดังท่ีได้กล่าวมาแล้ว แต่ในวิชาการบัญชีอุตสาหกรรมนี้ จะนาเสนอเพียง 3 วิธี ส่วนการคานวณต้นทุนสินค้าคงเหลือวิธีอื่น การคานวณมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ รวมทั้ง การบนั ทึกรายการปรับปรงุ สินค้าคงเหลอื เพอื่ ปรบั เขา้ สมู่ ูลคา่ สุทธิทจ่ี ะได้รบั จะได้ศกึ ษาในระดบั สงู ตอ่ ไป
1. วิธีราคาเจาะจง (Specific Identification Method) วิธีน้ี เหมาะสาหรับสินค้าท่ีมีปริมาณไม่มาก และไม่ อาจสับเปลี่ยนกันได้ หรือเป็นสินค้าท่ีผลิตข้ึนและแยกต่างหากไว้สาหรับโครงการหน่ึงโครงการใดโดยเฉพาะ การ เลือกใช้วิธีน้ีทาให้ทราบราคาทุนท่ีแท้จริงของสินค้าแต่ละรายการ เน่ืองจากการนาสินค้าไปใช้จะเป็นลักษณะที่ สินค้าท่ีทราบตน้ ทนุ อยา่ งชดั เจน 2. วธิ เี ขา้ ก่อน-ออกก่อน (First- In, First-Out Method/FIFO) วิธีนี้เหมาะสาหรับสินค้าที่มีปริมาณมาก หรือ สินค้าท่ีมีลักษณะการนาไปใชใ้ นลกั ษณะคล้ายคลึงกันหรือใกล้เคียงกันหรือสับเปลี่ยนกันได้การเลือกใช้วิธีนี้ทาให้ ทราบราคาทุนที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงในปัจจุบัน เนื่องจากการนาสินค้าไปใช้จะเป็นลักษณะท่ีสินค้าที่ซื้อเข้า มาก่อนจะถกู นาไปใชก้ อ่ น ดงั นัน้ สินค้าคงเหลอื จะเป็นสินคา้ ที่ซอ้ื มาครงั้ หลังๆ 3. วิธีต้นทุนถัวเฉลี่ยถ่วงน้าหนัก (Weighted Average Method) วิธีนี้เหมาะสาหรับสินค้าที่มีปริมาณมาก หรือสินค้าท่ีมีลักษณะการนาไปใช้ในลักษณะคล้ายคลึงกันหรือใกล้เคียงกันหรือสับเปลี่ยนกันได้คล้ายกับวิธีเข้า ก่อน-ออกก่อน การเลือกใช้วิธีน้ีทาให้ทราบราคาทุนถัวเฉลี่ย ราคาทุนจะสูงหรือต่า ขึ้นอยู่กับต้นทุนการซ้ือหรือ การผลิตในแต่ละครั้ง วิธีน้ีใช้กับกิจการที่ใช้วิธีบัญชีสินค้าคงเหลือแบบส้ินงวดส่วนกิจการท่ีใช้วิธีบัญชีสินค้า คงเหลอื แบบตอ่ เน่ืองจะใช้วธิ ีต้นทนุ ถัวเฉล่ยี เคลอื่ นไหว (Moving Average Method)
วิธีตน้ ทนุ ถัวเฉลี่ยถ่วงนา้ หนกั จะคานวณต้นทุนถัวเฉล่ียต่อหน่วย โดยนาต้นทุนของสินค้าท่ีมีไว้เพ่ือขาย หารดว้ ยจานวนหน่วยทม่ี ไี วเ้ พ่ือขาย ซง่ึ จะคานวณเมื่อสิน้ รอบระยะเวลาบัญชี ส่วนวิธีต้นทุนถัวเฉลี่ยเคลื่อนไหว จะคานวณต้นทุนถัวเฉล่ียตลอดเวลาและทุกครั้งที่มีการซื้อสินค้าเข้า มาก็จะนาสินค้าที่ซ้ือเข้ามาใหม่ไปถัวเฉล่ียกับสินค้าคงเหลือ ดังนั้นวิธีนี้จะยุ่งยากกว่าวิธีอื่น อย่างไรก็ตามวิธี ต้นทุนถัวเฉลี่ยถ่วงน้าหนักเหมาะกับกิจการท่ีซื้อวัตถุดิบมาเพ่ือผลิต เพราะต้นทุนสินค้าจะถูกนามาเฉลี่ยซ่ึงจะ แสดงตน้ ทนุ โดยรวมของสินคา้ ทผ่ี ลติ ขน้ึ ไดด้ ีกวา่ วิธีอนื่ การเลือกใช้วิธีคานวณต้นทุนสินค้าคงเหลือได้อย่างเหมาะสม จะทาให้การบริหารจัดการสินค้ามี ประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย และยังทาให้งบการเงินแสดงยอดท่ีถูกต้อง หากมีปัญหาใด ผู้บริหารก็สามารถ แก้ปญั หาไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพและทนั ทว่ งที กิจการต้องใช้วิธีการคานวณมูลค่าด้วยวิธีการเดียวกัน สาหรับสินค้าคงเหลือทุกชนิดท่ีมีลักษณะและ การใช้คล้ายคลึงกัน สาหรับสินค้าคงเหลือท่ีมีลักษณะและการใช้ต่างกัน อาจใช้วิธีคานวณต้นทุนท่ีต่างกันไปได้ หากเหมาะสม
ให้ทา คานวณต้นทุนวัตถุดิบคงเหลือ (สาหรับกิจการท่ีใช้วิธีบัญชีสินค้าคงเหลือแบบส้ินงวดและวิธีบัญชีสินค้า คงเหลือแบบต่อเน่อื ง) 1. วิธรี าคาเจาะจง (Specific Identification Method) รายละเอยี ดเก่ยี วกบั วตั ถดุ ิบคงเหลือมีดงั น้ี ยอดยกมา จาานวน 1 ชนิ้ ซ้อื ครง้ั ท่ี 1 จาานวน 2 ช้ิน ซือ้ คร้งั ที่ 2 จาานวน 4 ช้ิน ซอื้ คร้ังท่ี 3 จาานวน 1 ช้ิน 2. วธิ เี ข้ากอ่ น-ออกก่อน (First- In, First-Out Method) 3. วิธีตน้ ทุนถัวเฉลี่ยถ่วงน้าหนัก (Weighted Average Method) และวิธีถัวเฉล่ียเคล่ือนไหว (Moving Average Method)
1. วิธรี าคาเจาะจง (Specific Identification Method) วิธีบญั ชีสินคา้ คงเหลือแบบส้ินงวดและวิธีบญั ชสี ินคา้ คงเหลอื แบบตอ่ เนื่องจะไดผ้ ลลัพธ์เทา่ กัน ต้นทุนวตั ถุดบิ คงเหลอื คานวณได้ดงั น้ี ยอดยกมา จานวน 1 ชน้ิ ๆ ละ 900 บาท = 900 X 1 = 900 บาท ซอ้ื คร้ังที่ 1 จานวน 2 ชิน้ ๆ ละ 1,000 บาท = 1,000 X 2 = 2,000 บาท ซือ้ ครัง้ ท่ี 2 จานวน 4 ชิน้ ๆ ละ 950 บาท = 950 X 4 = 3,800 บาท ซอ้ื คร้งั ที่ 3 จานวน 1 ช้นิ ๆ ละ 1,100 บาท = 1,100 X 1 = 1,100 บาท 7,800 บาท
2. วธิ เี ข้าก่อน-ออกกอ่ น (First- In, First-Out Method) 2.1 วธิ บี ญั ชีสินคา้ คงเหลือแบบส้นิ งวด ซอ้ื ครงั้ ที่ 3 จานวน 5 ชิน้ ๆ ละ 1,100 บาท = 1,100 X 5 = 5,500 บาท = 2,850 บาท ซ้ือคร้งั ท่ี 2 จานวน 3 ชิ้น ๆ ละ 950 บาท = 950 X 3 8,350 บาท
3. วธิ ีตน้ ทนุ ถวั เฉล่ยี ถว่ งนา้ หนกั (Weighted Average Method) 3.1 วธิ บี ญั ชีสินคา้ คงเหลือแบบสิ้นงวด ยอดยกมา จานวน 10 ชน้ิ ๆ ละ 900 บาท = 900 X 10 = 9,000 บาท = 20,000 บาท ซื้อครัง้ ที่ 1 จานวน 20 ชิ้น ๆ ละ 1,000 บาท = 1,000 X 20 = 14,250 บาท = 5,500 บาท ซอ้ื ครง้ั ท่ี 2 จานวน 15 ชนิ้ ๆ ละ 950 บาท = 950 X 15 48,750 บาท ซอ้ื ครง้ั ที่ 3 จานวน 5 ชิ้น ๆ ละ 1,100 บาท = 1,100 X 5
กิจการที่ใช้วิธีบัญชีสินค้าคงเหลือแบบส้ินงวด จะทาการตรวจนับวัตถุดิบ และคานวณ ต้นทุนในวันส้ินงวดบัญชี เพ่ือจะได้ทราบมูลค่าของวัตถุดิบคงเหลือปลายงวด ตามวิธีต่างๆ ท่ีกล่าว มาแล้วส่วนกิจการที่ใช้วิธีบัญชีสินค้าคงเหลือแบบต่อเนื่อง จะทราบยอดคงเหลือของวัตถุดิบจาก บญั ชวี ัตถดุ ิบแต่ก็มีการตรวจนับและคานวณต้นทุน เช่นเดียวกัน แต่จะทา ณ วันท่ีมีการเบิกวัตถุดิบ ไปใช้ กลา่ วคอื กิจการต้องบันทกึ มลู คา่ ของวตั ถดุ บิ ณ วันเบกิ ไปใช้
การแสดงรายการสนิ ค้าคงเหลอื ของกจิ การอุตสาหกรรมในงบการเงิน สนิ ค้าคงเหลอื ไมว่ ่าจะเป็นของกิจการประเภทใด ถือเปน็ สนิ ทรพั ย์หมุนเวยี น (Current Assets) สาหรบั กจิ การผลิต สินค้าคงเหลือ จะแสดงในงบตา่ งๆ ดังนี้
การจา่ ยชาระหน้ีคา่ วัตถุดิบ ในกรณีท่ีกจิ การซอื้ วตั ถุดิบเปน็ เงนิ เช่ือ แผนกบัญชีและการเงินจะต้องพจิ ารณาเง่ือนไขหรือขอ้ ตกลง ในการซือ้ วตั ถดุ ิบ เช่น กาหนเวลาชาระหน้ี ส่วนลดรบั (ถ้าม)ี ทั้งนี้เพ่ือประโยชน์สูงสดุ ของกจิ การ โดยปกติผู้ขายจะส่งใบขอเรียกเก็บเงิน (ใบวางบิล) มาให้กิจการ เมื่อแผนกบัญชีและการเงินได้รับ แล้ว จะต้องตรวจสอบเอกสารท่ีเก่ียวข้องท้ังหมด เช่น ใบสั่งซ้ือ ใบรายงานการรับของใบกากับสินค้าหรือ ใบกากับภาษี เป็นต้น และพึงระมัดระวังในกรณีท่ีกิจการส่งคืนวัตถุดิบหรือขอส่วนลดกรณีวัตถุดิบชารุด หรือไม่ตรงตามทีส่ ั่งซอื้
การบันทกึ รายการเกี่ยวกบั วัตถดุ บิ วธิ บี ัญชีสินคา้ คงเหลอื แบบสิน้ งวดแลแบบต่อเน่อื ง การบนั ทึกรายการเกี่ยวกับวตั ถุดบิ คงเหลอื เหมือนกับการบนั ทึกรายการเก่ียวกบั สนิ ค้า คงเหลอื ของกิจการซื้อขายสินคา้ ซงึ่ มี 2 วธิ ี คอื 1. วิธบี ญั ชสี นิ ค้าคงเหลือแบบส้ินงวด (Periodic Inventory Method) 2. วธิ บี ัญชสี ินค้าคงเหลือแบบตอ่ เนือ่ ง (Perpetual Inventory Method)
การบนั ทกึ รายการเก่ียวกับวตั ถดุ ิบวธิ ีบัญชสี ินคา้ คงเหลอื แบบสิน้ งวด วิธีนี้กิจการจะบันทึกรายการเกี่ยวกับวัตถุดิบ ในบัญชีท่ีเกี่ยวข้อง เช่น ซ้ือวัตถุดิบ ค่าขนส่งเข้า ส่งคืนวัตถุดิบ ส่วนลดรับ การบันทึกรายการเกี่ยวกับวัตถุดิบแยกออกจากกัน ทาให้กิจการไม่ ทราบยอดคงเหลือของวัตถุดิบ ดังน้ันเม่ือถึงวันส้ินงวดบัญชีกิจการจะต้องตรวจนับ วัตถุดิบคงเหลือและคานวณต้นทุนวัตถุดิบคงเหลือ ตามวิธีท่ีกิจการเลือกใช้ ตามมาตรฐานการ บญั ชี ขอ้ ดขี องวิธนี ี้คอื ประหยดั เวลาในการบันทึกบญั ชี ขอ้ เสียคือกิจการจะไม่ทราบยอดคงเหลือ ของวัตถุดิบ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งการบันทึกรายการแบ่งออกเป็น 2 กรณีคือกรณีกิจการไม่จด ทะเบยี นเขา้ ส่รู ะบบภาษมี ลู ค่าเพิ่มและกรณีกจิ การจดทะเบียนเข้าสู่ระบบภาษมี ลู คา่ เพ่มิ
การบนั ทึกรายการเก่ยี วกบั วตั ถดุ บิ วธิ บี ญั ชีสนิ คา้ คงเหลอื แบบส้นิ งวด
การบนั ทึกรายการเก่ยี วกบั วตั ถดุ บิ วธิ บี ญั ชีสนิ คา้ คงเหลอื แบบส้นิ งวด
การคานวณวัตถดุ ิบใชไ้ ปในการผลิต-วธิ บี ญั ชีสินค้าคงเหลือแบบสิ้นงวด การคานวณวัตถดุ บิ ใชไ้ ปในการผลิต คานวณไดด้ ังนี้
การบนั ทกึ รายการเก่ียวกับวัตถุดบิ วิธีบญั ชสี นิ คา้ คงเหลอื แบบตอ่ เน่อื ง วิธนี กี้ ิจการจะบนั ทึกรายการเกย่ี วกับวัตถุดบิ ในบญั ชวี ัตถุดบิ เชน่ ซื้อวตั ถดุ ิบ ค่าขนส่งเข้าส่งคืน วัตถดุ บิ ส่วนลดรบั การเบกิ วตั ถุดิบไปใชใ้ นการผลิตหรือการรบั คืนวัตถุดิบท่ีเหลือจากการผลิต ดังน้ันบัญชี วัตถุดบิ จะแสดงรายการเคล่ือนไหวของวตั ถดุ ิบตลอดเวลา ขอ้ ดขี องวธิ นี ี้คือทาให้กิจการทราบยอดคงเหลือ ของวัตถุดิบ ณ วันใดวันหนึ่ง ข้อเสียคือ เสียเวลาในการบันทึกบัญชี การบันทึกรายการแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ กรณีกิจการไม่จดทะเบียนเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม และกรณีกิจการจดทะเบียนเข้าสู่ระบบ ภาษมี ูลคา่ เพิ่ม
การบนั ทึกรายการเก่ยี วกบั วัตถดุ บิ วิธบี ญั ชสี ินคา้ คงเหลอื แบบต่อเน่อื ง
บตั รวตั ถดุ บิ บัตรวัตถุดิบ (Stock Card) เป็นบัตรที่ใช้บันทึกรายละเอียดเก่ียวกับ วัตถุดิบ คือการรับและจ่ายวัตถุดิบ โดยแสดงรายละเอียดการ เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเน่ืองตลอดเวลาท้ังในส่วนของปริมาณการ รับเข้า ปริมาณการเบิกใช้เข้างานแต่ละงาน และปริมาณของวัตถุดิบ ที่คงเหลืออยู่ในแต่ละช่วงเวลาบัตรวัตถุดิบ 1 บัตร ใช้กับวัตถุดิบ 1 ชนิด ตวั อย่างรปู แบบบตั รวัตถุดบิ
ตวั อย่างรปู แบบบตั รวัตถดุ บิ
ในการบันทึกบัญชีเก่ียวกับวัตถุดิบของกิจการผลิต ไม่ว่ากิจการจะซื้อวัตถุดิบชนิดใด ปกติจะบันทึกรวมอยู่ในบัญชีเดียวกัน ดังน้ัน บัตรวัตถุดิบจึงเปรียบเสมือนบัญชีแยกประเภทย่อย ของบัญชซี ือ้ วัตถดุ ิบหรือบญั ชีวัตถุดบิ ดงั ตวั อย่าง
1. บนั ทกึ รายการในสมดุ รายวันท่วั ไป
2. ผา่ นรายการจากสมุดรายวนั ทั่วไปไปบัญชแี ยกประเภทท่วั ไป (เฉพาะบญั ชีวตั ถดุ บิ )
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364