ตวั ชว้ี ดั ความรู้ ๖. หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยค - ความหมายของการคณู ความหมายขอ สญั ลกั ษณแ์ สดงการหารทตี่ ัวตัง้ ไม่เกนิ การหาผลคณู การหาผลหารและเศษ แล ๒ หลกั ตัวหาร ๑ หลัก โดยทผ่ี ลหาร ความสมั พนั ธข์ องการคูณและการหาร มี ๑ หลักทั้งหารลงตัวและหารไม่ลงตัว - การแก้โจทยป์ ญั หาและการสรา้ งโจทย ๗. หาผลลพั ธ์การบวกลบ คูณ หารระคน พรอ้ มทั้งหาคำตอบ ของจำนวนนบั ไม่เกนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ - การบวก ลบ คูณ หารระคน ๘. แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หา - การแกโ้ จทยป์ ัญหาและการสร้างโจทย ๒ ขัน้ ตอน ของจำนวนนบั ไม่เกนิ ๑,๐๐๐ พรอ้ มท้ังหาคำตอบ และ ๐
43 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ทกั ษะกระบวนการ คุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ องการหาร - หาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์ ละ แสดงการคูณของจำนวน ๑ หลักกบั จำนวน ย์ปญั หา ไมเ่ กิน ๒ หลัก - แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาการคณู ยป์ ญั หา - สรา้ งโจทย์ปญั หาการคณู - หาผลหารและเศษในประโยคสัญลกั ษณแ์ สดง การหารทตี่ วั ตั้งไม่เกนิ ๒ หลัก ตวั หาร ๑ หลกั โดยที่ผลหารมี ๑ หลัก - หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการหารท่ีตวั ต้งั ไมเ่ กิน ๒ หลัก ตัวหาร ๑ หลกั โดยทผี่ ลหารมี ๑ หลัก - แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปญั หา การหาร - สร้างโจทย์ปญั หาการหาร
สาระที่ 2 การวดั และเรขาคณติ มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพน้ื ฐานเก่ียวกบั การวัด วดั และคาดคะเนขนาดของสิ่งท่ีตอ้ งก ตัวช้วี ัด ความรู้ ๑. แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหา - การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที (ช เกย่ี วกับเวลาที่มีหนว่ ยเดี่ยวและเป็น - การบอกระยะเวลาเป็นช่วั โมงเป็นนา หนว่ ยเดยี วกนั - การเปรยี บเทยี บระยะเวลาเป็นชว่ั โม ๒. วดั และเปรียบเทียบความยาวเป็นเมตร - การอา่ นปฏิทิน และเซนตเิ มตร - การแก้โจทยป์ ญั หาเกีย่ วกับเวลา ๓. แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหา - การวัดความยาวเปน็ เมตรและเซนติเ การบวกการลบเกี่ยวกับความยาวทีม่ ีหนว่ ย - การคาดคะเนความยาวเป็นเมตร เป็นเมตรและเซนตเิ มตร - การเปรยี บเทียบความยาวโดยใช้ควา ๔. วดั และเปรยี บเทยี บนำ้ หนกั เปน็ กิโลกรมั ระหวา่ งเมตรกับเซนตเิ มตร และกรัม กโิ ลกรมั และขีด - การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกย่ี วกบั ความยาว ๕. แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปญั หา เป็นเมตรและเซนตเิ มตร การบวกการลบเกี่ยวกับน้ำหนกั ทีม่ หี นว่ ย - การวดั นำ้ หนักเปน็ กิโลกรัมและกรัม เป็นกิโลกรัมและกรมั กิโลกรมั และขีด และขีด ๖. วัดและเปรยี บเทียบปรมิ าตรและ - การคาดคะเนน้ำหนกั เป็นกโิ ลกรัม ความจุเปน็ ลิตร - การเปรียบเทียบน้ำหนักโดยใชค้ วาม ระหว่างกิโลกรัมกับกรมั กิโลกรมั กับข - การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกย่ี วกบั นำ้ หนักท กโิ ลกรมั และกรมั กโิ ลกรมั และขดี
44 การวดั และนำไปใช้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ทกั ษะกระบวนการ คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ชว่ ง ๕ นาท)ี - อ่านปฏทิ ิน าที - บอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที - มวี นิ ัย มง เป็นนาที (ชว่ ง 5 นาที) - ใฝเ่ รยี นรู้ - แกโ้ จทยป์ ญั หาเก่ยี วกบั เวลาท่มี ีหนว่ ย - มงุ่ มนั่ ในการทำงาน เมตร เด่ียวและเป็นหน่วยเดยี วกนั - วัดและบอกความยาวเปน็ เมตรและ ามสมั พันธ์ เซนตเิ มตร - คาดคะเนความยาวเป็นเมตร วท่มี หี นว่ ย - เปรยี บเทยี บความยาวโดยใช้ ความสัมพันธ์ระหวา่ งเมตรและเซนติเมตร กโิ ลกรัม - แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ัญหา เกย่ี วกับความยาวทมี่ ีหน่วยเป็นเมตร มสัมพนั ธ์ และเซนตเิ มตร ขีด - วดั และบอกนำ้ หนกั เป็นกโิ ลกรมั ที่มหี นว่ ยเป็น และกรมั กโิ ลกรมั และขดี - เปรยี บเทยี บนำ้ หนกั โดยใช้ความสมั พนั ธ์ ระหว่างกโิ ลกรมั กบั กรมั กิโลกรัมกบั ขดี
ตวั ชว้ี ดั ความรู้ - การวัดปริมาตรและความจโุ ดยใชห้ น หน่วยมาตรฐาน - การวัดปริมาตรและความจุเปน็ ชอ้ นช ถว้ ยตวง ลิตร - การเปรียบเทยี บปริมาตรและความจ ชอ้ นโต๊ะ ถว้ ยตวง ลติ ร - การแก้โจทยป์ ญั หาเก่ยี วกบั ปริมาตร หน่วยเป็นชอ้ นชา ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวง ล มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะหร์ ปู เรขาคณิต สมบตั ขิ องรูปเรขาคณิต ความสัม ตัวช้ีวัด ความรู้ ๑. จำแนกและบอกลักษณะของ - ลกั ษณะของรูปหลายเหลย่ี ม วงกลม รูปหลายเหล่ียมและวงกลม - การเขยี นรูปเรขาคณติ สองมิติโดยใช - แบบรปู ซ้ำ
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 45 คุณลกั ษณะ ทกั ษะกระบวนการ อันพึงประสงค์ นว่ ยทีไ่ ม่ใช่ - แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหา เก่ยี วกับน้ำหนักที่มหี นว่ ยเป็นกิโลกรัม ชา ชอ้ นโต๊ะ และกรมั กิโลกรมั และขดี - วดั และบอกปรมิ าตรและความจเุ ป็นลิตร จเุ ป็นช้อนชา - เปรยี บเทยี บปริมาตรและความจุเปน็ ลติ ร - แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญั หา รและความจทุ มี่ ี เก่ียวกบั ปริมาตรและความจุ ลิตร มพนั ธร์ ะหวา่ งรปู เรขาคณิตและทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำไปใช้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ทกั ษะกระบวนการ คุณลักษณะ ม และวงรี - จำแนกและบอกลักษณะของ อนั พึงประสงค์ ช้แบบของรูป รปู หลายเหล่ียม วงกลม และวงรี ๑. มวี นิ ัย ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ - เขยี นรูปหลายเหล่ยี มโดยใช้แบบของรปู ๓. มุ่งมัน่ ในการทำงาน - บอกรูปท่ีหายไปในแบบรูปซำ้ ของรปู เรขาคณติ และรปู อ่นื ๆ
สาระที่ 3 สถติ แิ ละความนา่ จะเปน็ มาตรฐาน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามร้ทู างสถิตใิ นการแกป้ ัญหา ตัวช้วี ัด ความรู้ - การอ่านแผนภมู ริ ูปภาพ ๑. ใช้ขอ้ มูลจากแผนภูมิรปู ภาพในการหา คำตอบของโจทย์ปัญหา เมื่อกำหนดรปู ๑ รูปแทน ๒ หน่วย ๕ หน่วย หรอื ๑๐ หนว่ ย
46 า สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ทักษะกระบวนการ คุณลักษณะ - อ่านข้อมูลจากแผนภมู ิรูปภาพ เมื่อ อันพงึ ประสงค์ กำหนดรปู ๑ รูปแทน ๒ หนว่ ย ๕ หน่วย - มีวนิ ัย หรอื ๑๐ หนว่ ย - ใฝเ่ รียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน - ใช้ขอ้ มลู จากแผนภูมริ ูปภาพในการหา คำตอบของโจทย์ปญั หา เมอ่ื กำหนดรปู ๑ รูป แทน ๒ หน่วย ๕ หนว่ ย หรอื ๑๐ หน่วย
47 โครงสรางรายวิชาพ้นื ฐาน ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร ๒ กลุมสาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ชั้นประถมศกึ ษาปท่ี ๒ เวลา ๒๐๐ ชวั่ โมง หนว่ ย ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรียนรู้/ตัวชวี้ ดั (ช่วั โมง) คะแนน 1 จำนวนนับไมเ่ กิน ค 1.1 ป.๒/1 • บอกจำนวนของสง่ิ ต่างๆ ได้จากการนับ ๑๗ 2๕ ๑,๐๐๐ และ ๐ ป.๒/2 • การนับส่งิ ต่าง ๆ อาจนับทลี ะ 2 (สอง ป.๒/๓ สี่ หก แปด สิบ สิบสอง ...) หรอื อาจนบั ทีละ 5 (หา้ สบิ สบิ ห้า ย่สี บิ ยี่สิบห้า ...) • จำนวนทห่ี ลกั หนว่ ยเป็น 0 2 4 6 8 เป็นจำนวนคู่ • จำนวนทห่ี ลักหนว่ ยเป็น 1 3 5 7 9 เปน็ จำนวนคี่ • การเขียนแสดงจำนวนอาจเขยี นเปน็ ตัวเลขฮินดูอารบกิ ตัวเลขไทย หรอื ตวั หนงั สือ • จำนวนสามหลกั ถ้าเลขโดด 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 อยู่ในหลกั หนว่ ย มคี า่ เป็น 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ถา้ อยใู่ นหลัก สิบ มคี ่าเป็น 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 และเลขโดด 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ถ้าอยู่ในหลกั รอ้ ย มีคา่ เป็น 100 200 300 400 500 600 700 800 900 ตามลำดบั • 1,000 เปน็ จำนวนสี่หลัก เลขโดด 1 ในหลักพันมีค่า 1,000 • การเขียนแสดงจำนวนในรูปกระจาย เปน็ การเขยี นในรปู การบวกคา่ ของ เลขโดดในหลกั ตา่ ง ๆ ของจำนวนน้นั • การเปรยี บเทยี บจำนวนสองจำนวน จะใชค้ ำว่า เทา่ กบั มากกวา่ น้อยกว่า ซึ่งแทนด้วยเคร่อื งหมาย = > < ตามลำดับ โดยพิจารณาดงั นี้ − จำนวนทม่ี จี ำนวนหลกั มากกว่าจะ
48 หนว่ ย ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ดั (ช่ัวโมง) คะแนน มากกว่าจำนวนท่ีมีจำนวนหลกั น้อยกวา่ − จำนวนทมี่ จี ำนวนหลักเทา่ กัน ถ้าเลขโดดในหลักรอ้ ยมคี า่ มากกว่า จะมากกว่า ถา้ เลขโดดในหลักรอ้ ย มีคา่ เท่ากัน จำนวนท่เี ลขโดดในหลักสบิ มคี ่ามากกว่าจะมากกวา่ ถา้ เลขโดดใน หลกั ร้อย หลกั สบิ มีค่าเท่ากนั จำนวนที่ เลขโดดในหลักหนว่ ยมคี ่ามากกวา่ จะ มากกวา่ • การเรยี งลำดับจำนวน อาจทำได้โดยหา จำนวนที่มากท่สี ุดและนอ้ ยทสี่ ดุ กอ่ น จากนน้ั นำจำนวนมาเรียงลำดับจาก มากไปนอ้ ย หรือจากน้อยไปมาก • แบบรปู ของจำนวนที่เพิ่มขึ้นทีละ 2 ทลี ะ 5 หรือทลี ะ 100 เปน็ ชุดของ จำนวนที่มคี วามสัมพันธ์กนั อยา่ งตอ่ เนื่อง ในลักษณะของการเพ่ิมข้ึนทีละ 2 ทลี ะ 5 หรือทลี ะ 100 • แบบรูปของจำนวนทลี่ ดลงทลี ะ 2 ทลี ะ 5 หรือทลี ะ 100 เปน็ ชุดของ จำนวนท่มี คี วามสมั พันธ์กันอยา่ งตอ่ เน่อื ง ในลกั ษณะของการลดลงทลี ะ 2 ทลี ะ 5 หรือทลี ะ 100 ๒ การบวกและการลบ ค 1.1 ป.๒/๔ • การบวกจำนวนสองจำนวนอาจหา ๒๙ ๒๕ จำนวนนบั ผลบวกไดโ้ ดยใชเ้ ส้นจำนวน หรอื แผน่ ไม่เกิน ๑,๐๐๐ ตารางรอ้ ย แผ่นตารางสบิ และแผน่ ตารางหน่วย • การหาผลบวกโดยการต้งั บวก ตอ้ งเขยี น เลขโดดในหลักเดยี วกันใหต้ รงกนั แล้วจึง นำจำนวนทีอ่ ยู่ในหลกั เดียวกันมาบวกกนั โดยเรม่ิ จากหลักหน่วย หลกั สิบ และหลัก รอ้ ย ตามลำดบั ถ้าผลบวกในหลักหน่วย เปน็ 1 สิบ หรอื มากกว่า 1 สิบ ตอ้ งทด
49 หนว่ ย ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนัก ที่ เรียนร/ู้ ตัวชวี้ ดั (ชัว่ โมง) คะแนน 1 สบิ ไปรวมกบั จำนวนในหลกั สบิ หรอื ถ้าผลบวกในหลกั สบิ เปน็ 1 รอ้ ยหรอื มากกวา่ 1 ร้อย ตอ้ งทด 1 รอ้ ยไปรวมกับ จำนวนในหลกั ร้อย • การบวกจำนวนสองจำนวนสามารถ สลับทไี่ ด้ผลบวกยงั คงเทา่ เดิม • การบวกจำนวนสามจำนวนจะบวก สองจำนวนใดก่อนก็ได้ แลว้ บวกจำนวน ที่เหลือผลบวกเทา่ กัน หาผลบวกโดยการ ตง้ั บวกทำได้โดยนำจำนวนในหลกั เดยี วกันมาบวกกนั ถา้ ผลบวกในหลักใด เปน็ จำนวนสองหลักให้ทดจำนวนในหลกั สิบไปรวมกบั จำนวนในหลกั ถดั ไปทางซา้ ย • การลบจำนวนสองจำนวนอาจหาผลลบ ไดโ้ ดยใชเ้ สน้ จำนวน หรอื แผ่นตารางร้อย แผน่ ตารางสบิ และแผน่ ตารางหน่วย • ผลลบบวกตัวลบเทา่ กบั ตัวตง้ั • การหาผลลบของจำนวนสองจำนวนโดย การต้ังลบ ต้องเขียนเลขโดดในหลกั เดยี วกนั ให้ตรงกัน แลว้ จึงนำจำนวนที่อยู่ ในหลกั เดยี วกันมาลบกันโดยเริม่ จากหลกั หนว่ ยหลกั สิบ และหลกั รอ้ ย ตามลำดับ − ถ้าเลขโดดในหลักหน่วยของตัวตั้ง มคี ่าน้อยกวา่ เลขโดดในหลักหน่วย ของตัวลบ ต้องกระจายจำนวนจาก หลกั สิบไปหลกั หน่วย − ถา้ เลขโดดในหลักสิบของตัวตั้ง มคี ่านอ้ ยกวา่ เลขโดดในหลักสิบ ของตัวลบ ต้องกระจายจำนวนจาก หลกั รอ้ ยไปหลกั สบิ • การหาผลลบของจำนวนสามจำนวน โดยการตงั้ ลบ ใหน้ ำจำนวนสองจำนวน
50 หน่วย ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรยี นร้/ู ตัวช้ีวดั (ชัว่ โมง) คะแนน มาลบกนั ก่อน แลว้ นำผลลบไปลบกับ จำนวนทเ่ี หลือ • ความสมั พนั ธข์ องการบวกและการลบ เม่อื จำนวนสองจำนวนบวกกัน ผลบวก ที่ไดล้ บดว้ ยจำนวนใดจำนวนหนง่ึ ใน สองจำนวนน้ัน ผลลบคือจำนวนอกี จำนวนหนึ่ง • การหาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยค สญั ลักษณ์การบวกและประโยคสัญลกั ษณ์ การลบ สามารถใช้ความสัมพนั ธข์ องการ บวกและการลบ • การแกโ้ จทยป์ ญั หาทำได้โดย อ่าน ทำความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแกป้ ัญหา หาคำตอบและตรวจสอบความสมเหตุ สมผลของคำตอบ • การสร้างโจทยป์ ญั หา ตอ้ งมีทง้ั ส่วนที่ โจทยบ์ อกและสว่ นท่ีโจทย์ถาม และ โจทย์ปัญหาทส่ี รา้ งต้องมีความเป็นไปได้ ๓ การวดั ความยาว ค ๒.1 ป.๒/๒ • การวัดความยาวหรือความสูงของ ๑๖ ๑๕ ป.๒/๓ สิ่งต่าง ๆ เป็นเซนตเิ มตร อาจวาง เคร่อื งมอื วัดเร่ิมที่ 0 หรือไม่เร่ิมท่ี 0 ก็ได้ • การวัดระยะทางระหว่างตำแหนง่ สองตำแหนง่ ทำไดโ้ ดยวัดความยาวตาม เสน้ ทางทก่ี ำหนดจากตำแหนง่ หนง่ึ ไปอกี ตำแหน่งหน่ึงถ้าเส้นทางเป็นแนวเสน้ ตรง ความยาวท่ีวัดได้อาจเรียกว่าระยะหา่ ง ระหว่างตำแหน่งสองตำแหน่งนนั้ • การบอกความยาวหรือความสูงของ สิง่ ต่าง ๆ อาจบอกเป็นเมตร เปน็ เซนติเมตร หรอื เปน็ เมตรและเซนตเิ มตร • 1 เมตร เท่ากบั 100 เซนติเมตร • การคาดคะเนความยาวหรือความสงู เป็นเมตรเปน็ การบอกความยาวหรือ
51 หนว่ ย ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรียนร/ู้ ตัวชี้วดั (ชวั่ โมง) คะแนน ความสูงเปน็ เมตรใหใ้ กล้เคียงกับความยาว หรอื ความสงู จริง อาจเทียบกบั ความยาว หรอื ความสงู 1 เมตร โดยไมใ่ ชเ้ คร่อื งมอื วัด • การเปรียบเทียบความยาวเป็นเมตร และเซนตเิ มตรของส่ิงตา่ ง ๆ สองสิง่ ส่งิ ทมี่ คี วามยาวเป็นเมตรมากกวา่ จะ ยาวกว่า ถา้ ความยาวเปน็ เมตรเท่ากัน สิง่ ท่ีมคี วามยาวเป็นเซนติเมตรมากกว่า จะยาวกว่า • การเปรียบเทยี บความยาวทม่ี หี น่วย ตา่ งกนั ต้องเปลี่ยนหน่วยใหเ้ ป็นหน่วย เดียวกนั ก่อนแลว้ นำมาเปรยี บเทียบกัน • การหาผลบวกหรอื ผลลบเกยี่ วกบั ความยาวเปน็ เมตรและเซนตเิ มตร ทำได้โดยนำความยาวทเี่ ป็นหนว่ ย เดียวกนั มาบวกหรอื ลบกนั • การแกโ้ จทยป์ ญั หาทำไดโ้ ดยอา่ น ทำความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแก้ปญั หา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตุสมผลของคำตอบ ๔ การวดั น้ำหนัก ค ๒.1 ป.๒/๔ • การบอกนำ้ หนักของสิ่งต่าง ๆ อาจบอก ๑๘ ๑๕ ป.๒/๔ น้ำหนกั เปน็ กรมั เปน็ กิโลกรัมและขดี เป็นกโิ ลกรมั และกรัม • ความสมั พันธ์ของหน่วยน้ำหนัก 1 กโิ ลกรมั เทา่ กับ 10 ขีด 1 ขีด เทา่ กบั 100 กรมั 1 กิโลกรมั เทา่ กบั 1,000 กรมั • การเปรยี บเทยี บน้ำหนกั เป็นกิโลกรัม และกรมั หรอื กโิ ลกรมั และขดี สิ่งทม่ี ี นำ้ หนกั กิโลกรมั มากกวา่ จะหนกั กวา่ ถ้าน้ำหนักเป็นกโิ ลกรมั เทา่ กนั สง่ิ ทม่ี ี น้ำหนกั เปน็ กรมั หรอื เปน็ ขีดมากกว่า
52 หน่วย ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรียนรู้/ตวั ชี้วดั (ชัว่ โมง) คะแนน จะมนี ำ้ หนกั มากกว่า • การเปรยี บเทยี บน้ำหนักทมี่ ีหน่วย ต่างกนั ต้องเปลี่ยนหนว่ ยใหเ้ ปน็ หน่วย เดียวกนั • การหาผลบวกหรือผลลบเกยี่ วกบั นำ้ หนกั เป็นกโิ ลกรัมและขดี หรือกโิ ลกรมั และกรมั ทำไดโ้ ดยนำน้ำหนกั ทีเ่ ปน็ หนว่ ย เดยี วกันมาบวกหรอื ลบกนั • การแกโ้ จทยป์ ญั หาทำได้โดย อา่ นทำ ความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแก้ปัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตุสมผล ๕ การคูณ ค ๑.1 ป.๒/๕ • สิ่งตา่ ง ๆ ทีจ่ ดั เปน็ กลมุ่ หรอื เปน็ แถวที่ ๒๐ ๒๐ แตล่ ะกลมุ่ หรอื แตล่ ะแถวมจี ำนวนสมาชกิ เทา่ กันสามารถเขียนในรูปการคณู ของ จำนวนสองจำนวน คอื จำนวนกลุ่มหรือ จำนวนแถวคณู กบั จำนวนสมาชกิ ในแต่ละ กลุ่มหรือจำนวนสมาชิกในแตล่ ะแถว ผลคูณของจำนวนสองจำนวนนน้ั คือ จำนวนสมาชิกท้งั หมด • จำนวนใดคูณกับ 1 ผลคูณเทา่ กบั จำนวน นัน้ และจำนวนใดคูณกบั 0 ผลคณู เท่ากบั 0 • การคูณจำนวน 1 หลกั กบั จำนวน 1 หลกั หาผลคณู โดยใชส้ ูตรคูณแม่ 2 แม่ 3 แม่ 4 แม่ 5 แม่ 6 แม่ 7 แม่ 8 หรอื แม่ 9 • จำนวน 1 หลัก คณู กับ 10 20 30 40 50 60 70 80 90 หาผลคูณโดยนำ จำนวน 1 หลักน้นั คณู กับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ตามลำดับ แลว้ เติม 0 ตอ่ ท้าย • การหาผลคณู ของจำนวน 1 หลักกบั จำนวน 2 หลักโดยการตัง้ คูณ ตอ้ งคณู ในหลักหนว่ ยก่อน แล้วคณู ในหลกั สบิ ถา้ ผลคูณในหลกั ใดครบสิบ หรอื มากกว่าสิบ ให้ทดจำนวนทค่ี รบสิบไปหลกั ถดั ไปทางซา้ ย
53 หนว่ ย ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรียนร้/ู ตัวช้ีวดั (ชั่วโมง) คะแนน • ความรู้สึกเชงิ จำนวนเกยี่ วกบั การคูณเป็น การบอกวา่ ผลคูณของจำนวนสองจำนวนใด มีคา่ มากกวา่ กัน น้อยกวา่ กัน หรือเทา่ กนั โดยไม่ต้องหาผลคณู ของสองจำนวนนนั้ • การหาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยค สญั ลกั ษณก์ ารคณู อาจใช้สตู รคณู • การแก้โจทยป์ ญั หาทำไดโ้ ดย อ่านทำความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หา หาคำตอบ และตรวจสอบความสมเหตสุ มผล ของคำตอบ • การสร้างโจทย์ปญั หาต้องมีทงั้ สว่ นท่โี จทย์ บอกและสว่ นทีโ่ จทยถ์ าม นอกจากนีโ้ จทย์ ปญั หาท่ีสร้างต้องมคี วามเปน็ ไปได้ ๖ การหาร ค ๑.1 ป.๒/๖ • การจัดสิ่งตา่ ง ๆ เป็นกลมุ่ แตล่ ะกล่มุ มี ๒๕ ๒๐ จำนวนสมาชกิ เทา่ กนั ถา้ กำหนดจำนวน สมาชิกในแตล่ ะกลุ่มให้ สามารถเขียน ประโยคสญั ลักษณ์การหารแสดงจำนวน กลุ่มท่จี ัดได้ หรอื ถา้ กำหนดจำนวนกลมุ่ ให้ สามารถเขียนประโยคสัญลกั ษณ์การหาร แสดงจำนวนสมาชกิ ในแตล่ ะกลุ่มได้ • จำนวนสองจำนวนคูณกนั ผลคณู ทไ่ี ด้ หารดว้ ยจำนวนใดจำนวนหนึ่งในสอง จำนวนนนั้ ผลหารคือจำนวนอกี จำนวน หนง่ึ • การหารทมี่ เี ศษ เป็นการหารไมล่ งตวั และเศษน้อยกวา่ ตัวหาร การหารที่ไม่มี เศษหรอื เศษเป็น 0 เปน็ การหารลงตวั • การหาผลหารโดยใชค้ วามสัมพนั ธข์ อง การคูณและการหาร ทำไดโ้ ดยหาจำนวน ที่นำมาคูณกับตวั หารแล้วได้ผลคูณ เท่ากบั ตัวตงั้ หรอื ใกลเ้ คยี งกับตวั ตั้งมาก ที่สดุ แตน่ ้อยกว่าตัวต้งั • การหารจำนวนสองจำนวนทีต่ ัวตง้ั เปน็ จำนวนเดยี วกัน ถ้าตัวหารน้อยกวา่ ผลหารจะมากกว่า ถา้ ตวั หารมากกวา่ ผลหารจะนอ้ ยกว่า • การหารจำนวนสองจำนวนที่ตัวหารเป็น
54 หน่วย ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรียนร/ู้ ตัวชว้ี ดั (ชั่วโมง) คะแนน จำนวนเดียวกัน ถ้าตัวตงั้ มากกว่า ผลหาร จะมากกว่า ถา้ ตัวตัง้ น้อยกว่า ผลหารจะ นอ้ ยกว่า • การหาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยค สัญลกั ษณก์ ารหาร อาจทำได้โดยใช้ ความสัมพันธ์ของการคูณและการหาร • การแก้โจทยป์ ัญหาทำไดโ้ ดยอา่ นทำ ความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปญั หา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตุสมผลของคำตอบ • การสรา้ งโจทย์ปญั หาตอ้ งมที ั้งสว่ นท่ี โจทยบ์ อกและสว่ นท่ีโจทย์ถาม นอกจาก นีโ้ จทยป์ ญั หาทสี่ รา้ งตอ้ งมีความเปน็ ไปได้ ๗ เวลา ค ๒.1 ป.๒/๑ • ปฏิทนิ เปน็ เครือ่ งมือท่บี อก วนั เดอื น ปี ๑๕ ๒๐ โดย 1 ปี มี 12 เดือน • เดือนท่ลี งท้ายด้วย คม มี 31 วนั เดอื น ที่ลงทา้ ยดว้ ย ยน มี 30 วัน เดือน กุมภาพนั ธ์ม2ี 8 วัน หรอื 29 วนั • การเขยี นแสดงวนั เดือน ปี อาจเขยี น ชอื่ เดือนโดยใชค้ ำย่อหรอื ใชล้ ำดบั ทข่ี อง เดือน และอาจเขียนแสดงวันที่ ปพี ุทธศกั ราชหรือครสิ ตศ์ กั ราชเป็นตัวเลข สองหลัก • พ.ศ. เปน็ คำย่อของพุทธศักราช และ ค.ศ. เปน็ คำย่อของคริสตศ์ ักราช • นาฬิกาเปน็ เคร่อื งมอื บอกเวลาอาจบอก โดยใช้เขม็ หรือตัวเลข • การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ า เมอ่ื เข็มยาว บนหน้าปดั นาฬิกาช้ีทต่ี ัวเลข 12 และเขม็ ส้ันชี้ทตี่ ัวเลขใดจะบอกเวลา เป็นนาฬกิ าตามที่เข็มส้ันช้ี • เวลากลางวันเริ่มต้งั แต่ 6 นาฬกิ า ถึงกอ่ น 18 นาฬกิ า • เวลากลางคนื เร่ิมตงั้ แต่ 18 นาฬิกา ถงึ กอ่ น 6 นาฬิกา • 1 วัน เท่ากับ 24 ชั่วโมง และ 1 ชัว่ โมง เทา่ กบั 60 นาที
55 หนว่ ย ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรียนร/ู้ ตวั ช้วี ดั (ชั่วโมง) คะแนน • การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที ใหพ้ จิ ารณาท่ีตำแหนง่ เข็มส้ันจะบอกเวลา เปน็ นาฬกิ าและเข็มยาวจะบอกเวลาเป็น นาที • การบอกระยะเวลาอาจบอกเปน็ ช่วั โมง หรือเปน็ นาที โดยนบั จากเวลาเรมิ่ ตน้ จนถงึ เวลาสิ้นสุด • นาฬกิ าแบบใชต้ ัวเลขใช้เคร่ืองหมาย : คัน่ ระหวา่ งตวั เลขท่แี สดงเวลาเป็นนาฬกิ า กับตัวเลขที่แสดงเวลาเปน็ นาที โดยตวั เลข หน้าเครอื่ งหมาย : แสดงเวลาเป็นนาฬิกา ตวั เลขหลงั เคร่อื งหมาย : แสดงเวลาเปน็ นาที • การแก้โจทยป์ ัญหาทำได้โดยอ่านทำ ความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแก้ปญั หา และหาคำตอบ ๘ การวดั ปริมาตร ค ๒.1 ป.๒/๖ • การวัดปริมาตรของของเหลวหรอื ของ ๒๐ ๒๐ แห้งทำได้โดยการตวงของเหลวหรอื ของ แหง้ ดว้ ยภาชนะต่าง ๆ เช่น แกว้ ถว้ ย ขวด กระป๋อง การตวงของเหลวหรือของ แห้งต้องใชเ้ ครือ่ งตวงใหเ้ หมาะสมและตวง ให้ถกู วิธี สำหรบั การตวงของเหลวตอ้ งเท ของเหลวให้เตม็ ภาชนะนั้น ส่วนการตวง ของแหง้ ตอ้ งใส่ของแห้งใหพ้ นู ภาชนะแล้ว ใชไ้ ม้ปาดของแหง้ ใหเ้ รียบเสมอขอบ ภาชนะ • การวดั ปรมิ าตรของของเหลวหรือของ แห้งด้วยการตวงอาจบอกปริมาตรเปน็ ช้อนชาชอ้ นโต๊ะ ถ้วยตวง หรือลติ ร อาจ ทำได้โดยการตวงของเหลวหรอื ของแห้ง ดว้ ยช้อนชาชอ้ นโตะ๊ ถ้วยตวง ลิตร หรอื เครื่องตวงน้ำมนั เช้อื เพลงิ • การคาดคะเนปรมิ าตรของส่ิงต่าง ๆ เปน็ การบอกปรมิ าตรโดยไม่ใช้เครื่องตวง
56 หนว่ ย ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรยี นรู้/ตวั ชี้วดั (ชว่ั โมง) คะแนน อาจคาดคะเนโดยเทียบกับ 1 ลติ ร • การหาความจุของภาชนะอาจทำได้โดย เติมนำ้ ให้เตม็ ภาชนะ แล้วตวงนำ้ ท่ีอย่ใู น ภาชนะนัน้ ปริมาตรของนำ้ ทีต่ วงไดจ้ ะ เทา่ กับความจขุ องภาชนะน้นั • การเปรียบเทยี บปรมิ าตรของของแห้ง (หรือของเหลว) ตอ้ งเปรยี บเทียบปรมิ าตร เป็นหนว่ ยเดียวกัน • การเปรยี บเทยี บปริมาตรของของแหง้ (หรือของเหลว) สองส่ิง เป็นการบอกวา่ ปริมาตรของของแหง้ (หรอื ของเหลว) ใด เท่ากนั มากกว่ากัน หรือนอ้ ยกวา่ กันอยู่ เท่าไร อาจมีหน่วยเปน็ ช้อนชา ช้อนโตะ๊ ถ้วยตวงหรือลิตร • การเปรียบเทียบความจุของภาชนะสอง ภาชนะเป็นการบอกว่าความจขุ องภาชนะ ใด เทา่ กันมากกวา่ กัน หรือนอ้ ยกวา่ กันอยู่ เทา่ ไร อาจมีหนว่ ยเปน็ ลติ ร • การแกโ้ จทยป์ ญั หาทำได้โดย อา่ นทำ ความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตุสมผลของคำตอบ ๙ รูปเรขาคณิต ค ๒.๒ ป.๒/๑ • ทรงส่ีเหล่ียมมมุ ฉากและรูปสีเ่ หลีย่ ม ๑๐ ๑๐ มมุ ฉาก ทรงกลมและวงกลม มลี ักษณะ แตกต่างกัน • รูปหลายเหลยี่ มเปน็ รูปท่มี ีมมุ หลายมุม และมีด้านหลายด้านเรียกชอ่ื ตามจำนวน ด้านและจำนวนมุมของรูปหลายเหลี่ยม นน้ั เช่น รูปสามเหลี่ยม รปู สี่เหลี่ยม รูปห้าเหลีย่ ม • วงกลมและวงรเี ปน็ รปู ท่ไี มม่ ีด้าน ไม่มมี ุม เมือ่ พบั กระดาษทเี่ ปน็ วงกลม
57 หน่วย ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนัก ที่ เรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ดั (ชัว่ โมง) คะแนน จะมรี อยพับคร่งึ หลายเสน้ แตล่ ะเสน้ ยาว เทา่ กัน และเมอื่ พับกระดาษทีเ่ ป็นวงรีมี รอยพับครง่ึ สองเสน้ และสองเสน้ น้ยี าว ไมเ่ ท่ากนั • การเขียนรปู หลายเหลีย่ มโดยใชแ้ บบ ของรปู มาเป็นแบบ อาจเขียนตามขอบใน หรอื ขอบนอกของแบบของรูปกไ็ ด้ • แบบรปู ซำ้ ของรปู เรขาคณิต และรูปอื่น ๆ เป็นการเรียงรปู เรขาคณิต หรือรูปอื่น ๆ ซ้ำกนั เปน็ ชดุ โดยชดุ ทีซ่ ้ำในแบบรปู อาจเก่ยี วกับรูปรา่ ง ขนาด หรอื สี • การหารูปท่หี ายไปในแบบรปู ซ้ำ ของรูปเรขาคณติ และรปู อ่ืน ๆ จะต้องหา ชดุ ท่ีซ้ำของแบบรูปก่อน ๑๐ การบวก ลบ คณู ค ๑.1 ป.๒/๗ • การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หาร ๒๐ ๒๐ หารระคน ป.๒/๘ ระคน ใหห้ าผลลัพธ์ในวงเลบ็ กอ่ นแลว้ จงึ ๑๐ ๑๐ หาผลลพั ธส์ ุดทา้ ย ๑๑ แผนภมู ริ ปู ภาพ ค ๓.1 ป.๒/๑ • การเขยี นประโยคสญั ลกั ษณจ์ าก สถานการณ์และโจทย์ปญั หา 2 ขัน้ ตอน โดยใชว้ งเลบ็ เพ่ือระบวุ า่ ตอ้ งหาผลบวก ผลลบ ผลคูณ หรอื ผลหารของสองจำนวน ใดก่อน • การแกโ้ จทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้ันตอน ทำได้ โดยอา่ นทำความเข้าใจปญั หา วางแผน แก้ปัญหาและหาคำตอบ • แผนภูมิรูปภาพเปน็ การใช้รูปภาพแสดง จำนวนของสง่ิ ต่าง ๆ โดยรูปภาพที่แทน ส่งิ เดยี วกันตอ้ งเป็นรปู ภาพท่ีเหมือนกัน และมีขนาดเทา่ กนั และจำนวนรปู ภาพที่ อยใู่ นแผนภมู ิรปู ภาพน้นั อาจไมใ่ ช่จำนวน
58 หน่วย ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนกั ที่ เรียนร/ู้ ตัวชว้ี ดั (ชัว่ โมง) คะแนน ทแี่ ท้จรงิ ของสงิ่ ตา่ ง ๆ ขนึ้ อยกู่ ับ ขอ้ กำหนดในแผนภมู ริ ปู ภาพซึ่งอาจ กำหนดให้รูป 1 รูปแทน 1 หนว่ ย 2 หน่วย 5 หน่วย หรอื 10 หนว่ ย • การอ่านผนภมู ิรปู ภาพ จะใช้ขอ้ กำหนด ในการหาจำนวนทแ่ี ทจ้ ริงของสงิ่ ต่าง ๆ และนำข้อมูลจากแผนภูมริ ูปภาพไปใชใ้ น การหาคำตอบ รวมทั้งหมด ๒๐๐ ๒๐๐
59 คำอธบิ ายรายวชิ า แบบการวเิ คราะหห์ ลักสูตรเพ่ือจัดทำคำอธบิ ายรายวชิ า โครงสร้างรายวิชา ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๓
60 คำอธิบายรายวิชา รหสั วิชา ค ๑๓๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ เวลา ๒๐๐ ชวั่ โมง/ปี ศึกษา ฝกึ ทกั ษะการคิดคำนวณ และฝึกการแก้ปัญหาในสาระตอ่ ไปนี้ การใช้จำนวนแสดงปริมาณที่ได้จากการนับ การอ่านและการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทยและ ตัวหนังสือแสดงจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และการเขียนตัวเลขแสดง จำนวนในรูปกระจาย การเปรียบเทียบและการเรียงลำดับจำนวน การบวก การลบ การคูณ การหารสั้น การ หารยาว และการบวก ลบ คูณ หารระคนของจำนวนนับ และโจทย์ปัญหา การใช้เศษส่วนแสดงปรมิ าณ ของส่ิง ต่าง ๆ ที่ตัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากับตัวส่วน การอ่านและการเขียนเศษส่วน การเปรียบเทียบและเรียงลำดับ เศษสว่ น การบวก การลบเศษส่วน และโจทยป์ ญั หา แบบรูปของจำนวนทเ่ี พ่ิมขน้ึ หรือลดลงทีละเทา่ ๆ กนั การใช้เงินแสดงจำนวนเงิน บอกจำนวนเงิน เขียนแสดงจำนวนเงินแบบใช้จุด เปรียบเทียบจำนวนเงิน และการแลกเงนิ การอ่านและเขยี นบันทึกรายรับรายจ่าย และโจทยป์ ญั หา การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที การอ่านเวลา การเขียนบอกเวลาโดยใช้มหัพภาค (.) หรือ ทวิภาค (:) การบอกระยะเวลา การเปรียบเทียบร ะยะเวลา การอ่านและการเขียนบันทึกกิจกรรมที่ระบุ เวลา และโจทย์ปญั หา การวัดความยาว การเลือกเครื่องวัดความยาวที่เหมาะสม การคาดคะเนความยาวเป็นเมตร และเป็น เซนติเมตร การเปรียบเทียบความยาว และโจทย์ปัญหา การวัดน้ำหนัก การเลือกใช้เครื่องชั่งที่เหมาะสม การ คาดคะเนนำ้ หนักเป็นกโิ ลกรมั และเป็นขีด การเปรยี บเทียบนำ้ หนกั และโจทยป์ ัญหา การวัดปริมาตรและความจุ การเลอื กเครือ่ งตวงทีเ่ หมาะสม การคาดคะเนปรมิ าตรและความจเุ ปน็ ลติ ร การเปรยี บเทียบปริมาตรและความจุ และโจทย์ปญั หา การจำแนกรูปที่มีแกนสมมาตรและรูปที่ไม่มีแกนสมมาตร ระบุรูปเรขาคณิตสองมิติที่มีแกนสมมาตร และจำนวนแกนสมมาตร การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลและจำแนกขอ้ มลู การอ่านและการเขียนแผนภมู ิรปู ภาพ การอ่านและการเขียน ตารางทางเดียว การใช้แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดียวในการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา การจัดประสบการณ์หรือการสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าโดยปฎิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดคำนวณ และทักษะการแกป้ ัญหา การใหเ้ หตุผล การส่ือสารและ การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ความรู้ ความคิด ทักษะและกระบวนการที่ได้ไปใช้ใน การเรียนร้สู ิ่งตา่ ง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวนั อย่างสรา้ งสรรค์ รวมทั้งเห็นคณุ ค่าและมเี จตคติที่ดี ตอ่ คณติ ศาสตร์ สามารถทำงานอย่างเป็นระบบระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณและเชื่อมั่นในตนเอง มี ความร้แู ละคณุ ธรรมภายใต้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง รหัสตัวชว้ี ัด ค ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐, ป.๓/๑๑ ค ๑.๒ ป.๓/๑ ค ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐, ป.๓/๑๑ ป.๓/๑๒, ป.๓/๑๓ ค ๒.๒ ป.๓/๑ ค ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒ รวมทง้ั หมด ๒๘ ตวั ช้วี ัด
แบบการวิเคราะหเ์ พ่ือจัดทำค กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิต สาระที่ 1 จำนวนและการดำเนนิ การ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การ ตัวช้วี ดั ความรู้ ๑. อ่านและเขยี นตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดง - การอ่าน การเขยี นตัวเลขฮนิ ดูอารบิก จำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ และตวั หนังสือแสดงจำนวน หลัก คา่ ขอ ๒. เปรียบเทียบและเรียงลำดบั ในแตล่ ะหลกั และการเขียนตัวเลขแสดงจ จำนวนนับไมเ่ กนิ ๑๐๐,๐๐๐ ในรูปกระจาย จากสถานการณต์ ่าง ๆ - การเปรียบเทยี บและเรียงลำดบั จำนวน ๓. บอก อ่าน และเขยี นเศษส่วนแสดง - การบวกและการลบ ปรมิ าณสิ่งต่าง ๆ และแสดงสงิ่ ตา่ ง ๆ - การแก้โจทยป์ ัญหาและการสรา้ งโจทย ตามเศษส่วนทกี่ ำหนด พร้อมทง้ั หาคำตอบ ๔. เปรยี บเทียบเศษสว่ นทตี่ ัวเศษเท่ากัน - การคณู โดยที่ตัวเศษนอ้ ยกวา่ หรือเทา่ กบั ตัวสว่ น - การแกโ้ จทยป์ ัญหาและการสร้างโจทย ๕. หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยค พร้อมทงั้ หาคำตอบ สญั ลกั ษณแ์ สดงการบวกและประโยค - การหารยาวและการหารส้ัน สัญลกั ษณ์แสดงการลบของจำนวนนบั - การแก้โจทยป์ ัญหาและการสร้างโจทย ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ พรอ้ มทั้งหาคำตอบ ๖. หาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยค - การบวก ลบ คูณ หารระคน สญั ลักษณแ์ สดงการคูณของจำนวน - การแกโ้ จทยป์ ญั หาและการสรา้ งโจทย ๑ หลักกบั จำนวนไม่เกนิ ๔ หลกั และ พรอ้ มทั้งหาคำตอบ จำนวน ๒ หลกั กบั จำนวน ๒ หลัก
61 คำอธบิ ายรายวชิ าระดับประถมศกึ ษา ตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๓ รดำเนินการของจำนวน ผลที่เกดิ ขนึ้ จากการดำเนนิ การ สมบัตขิ องการดำเนินการและนำไปใช้ สาระการเรียนร้แู กนกลาง ทกั ษะกระบวนการ คุณลกั ษณะ อันพึงประสงค์ ตวั เลขไทย - อ่านและเขยี นตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทยและ - มีวินัย องเลขโดด ตัวหนังสอื แสดงจำนวนนับไม่เกนิ ๑๐๐,๐๐๐และ๐ - ใฝ่เรียนรู้ จำนวน - เปรียบเทียบและเรียงลำดบั จำนวนนับไมเ่ กิน - มงุ่ มนั่ ในการ ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ ทำงาน น - หาผลบวกในประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวก ของจำนวนนบั ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ ยป์ ัญหา - หาผลลบในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการลบ ของจำนวนนับไมเ่ กนิ ๑๐๐,๐๐๐ - หาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์ ย์ปญั หา แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณแ์ สดงการลบ ของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ ๑๐๐,๐๐๐ - แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาการบวก ย์ปญั หา และโจทยป์ ัญหาการลบ - สร้างโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบ - หาผลคณู ในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคณู ของ ย์ปญั หา จำนวน ๑ หลกั กบั จำนวนไม่เกนิ ๔ หลกั และจำนวน ๒ หลกั กบั จำนวน ๒ หลัก
ตัวชีว้ ัด ความรู้ ๗. หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยค - เศษสว่ นทต่ี วั เศษนอ้ ยกวา่ หรือเท่ากับต สัญลักษณแ์ สดงการหารทต่ี วั ตงั้ ไมเ่ กนิ - การเปรียบเทียบและเรียงลำดับเศษสว่ ๔ หลกั ตัวหาร ๑ หลกั - การบวกและการลบเศษส่วน ๘. หาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หาร - การแกโ้ จทยป์ ัญหาการบวกและการลบ ระคน ของจำนวนนบั ไมเ่ กิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ ๙. แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา ๒ ขนั้ ตอน ของจำนวนนับไมเ่ กิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ ๑๐. หาผลบวกของเศษสว่ นทม่ี ีตัวสว่ น เท่ากัน และผลบวกไมเ่ กนิ ๑ และ หาผลลบของเศษส่วนที่มตี ัวสว่ นเทา่ กนั ๑๑. แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญั หา การบวกเศษส่วนท่ีมตี ัวส่วนเท่ากนั และผลบวกไม่เกนิ ๑ และโจทย์ปัญหา การลบเศษส่วนที่มีตวั ส่วนเท่ากัน
62 สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ทกั ษะกระบวนการ คุณลักษณะ อนั พึงประสงค์ - หาค่าของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์แสดง ตวั สว่ น การคูณของจำนวน ๑ หลักกบั จำนวนไมเ่ กนิ ๔ หลัก วน และจำนวน ๒ หลักกบั จำนวน๒ หลัก - แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปญั หาการคณู บเศษสว่ น - สรา้ งโจทย์ปญั หาการคณู - หาผลหารและเศษในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดง การหารทตี่ วั ต้ังไมเ่ กิน ๔ หลัก และตัวหาร ๑ หลกั - หาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์แสดง การหารทีต่ ัวต้ังไม่เกิน ๔ หลกั และตัวหาร ๑ หลัก - แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาการหาร - สรา้ งโจทย์ปญั หาการหาร - การบวก ลบ คูณ หารระคน - การแกโ้ จทยป์ ัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหา พรอ้ มทัง้ หาคำตอบ - หาผลลพั ธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน - แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ข้นั ตอน - สร้างโจทยป์ ญั หา ๒ ข้ันตอน - บอกเศษสว่ นท่แี สดงปริมาณของสง่ิ ตา่ ง ๆ และ แสดงส่งิ ต่าง ๆ ตามเศษส่วนทก่ี ำหนดโดยทต่ี วั เศษ นอ้ ยกว่าหรือเท่ากบั ตัวส่วน
ตวั ช้วี ัด ความรู้
63 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง คณุ ลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ ทักษะกระบวนการ - อา่ นและเขยี นเศษสว่ นแสดงปริมาณของสงิ่ ต่าง ๆ โดยที่ตัวเศษนอ้ ยกว่าหรอื เท่ากบั ตวั สว่ น - เปรยี บเทยี บเศษสว่ นทต่ี วั ส่วนเท่ากันโดยทีต่ ัวเศษ นอ้ ยกวา่ หรอื เท่ากบั ตวั สว่ น - เปรยี บเทียบเศษส่วนท่ตี ัวเศษเท่ากัน โดยท่ี ตัวเศษน้อยกว่าหรือเทา่ กบั ตัวสว่ น - หาผลบวกของเศษส่วนทตี่ วั ส่วนเทา่ กันโดยที่ ผลบวกไม่เกนิ ๑ - หาผลลบของเศษสว่ นท่ตี วั ส่วนเท่ากนั - แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาการบวก เศษส่วนที่ตวั ส่วนเท่ากนั และผลบวกไมเ่ กนิ ๑ - แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปญั หาการลบเศษส่วน ทต่ี วั ส่วนเท่ากัน
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวเิ คราะหแ์ บบรปู ความสมั พนั ธ์ ฟงั ก์ชัน ลำดบั และอนกุ ตัวชีว้ ดั ความรู้ ๑. ระบจุ ำนวนทห่ี ายไปในแบบรปู ของ - แบบรปู ของจำนวนทเ่ี พมิ่ ขนึ้ หรอื ลดล จำนวนทเี่ พมิ่ ขน้ึ หรอื ลดลงทีละเทา่ ๆ กนั สาระท่ี 2 การวัดและเรขาคณติ มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพน้ื ฐานเกยี่ วกับการวัด วดั และคาดคะเนขนาดของสิ่งทตี่ อ้ งก ตวั ชีว้ ัด ความรู้ ๑. แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ญั หา - การบอกจำนวนเงนิ และเขยี นแสดงจ เก่ยี วกับเงนิ แบบใช้จดุ ๒. แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ัญหา - การเปรยี บเทยี บจำนวนเงินและการแ เก่ียวกับเวลาและระยะเวลา - การอา่ นและเขียนบนั ทึกรายรับรายจ ๓. เลือกใช้เครอื่ งวดั ความยาวที่เหมาะสม - การแก้โจทยป์ ัญหาเกยี่ วกับเงิน วดั และบอกความยาวของสงิ่ ตา่ ง ๆ เปน็ - การบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที เซนตเิ มตรและมลิ ลิเมตร เมตรและ - การเขยี นบอกเวลาโดยใช้มหพั ภาค ( เซนตเิ มตร (:) และการอา่ น ๔. คาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเปน็ - การบอกระยะเวลาเปน็ ชว่ั โมงและนา เซนตเิ มตร - การเปรยี บเทยี บระยะเวลาโดยใช้คว ๕. เปรยี บเทียบความยาวระหว่างเซนตเิ มตร ระหวา่ งชั่วโมงกบั นาที กับมลิ ลเิ มตร เมตรกบั เซนตเิ มตร - การอ่านและการเขียนบนั ทกึ กิจกรรม
64 กรม และนำไปใช้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ทกั ษะกระบวนการ คุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ ลงทีละเทา่ ๆ กนั - บอกจำนวนที่หายไปในแบบรปู ของจำนวน - มีวนิ ัย - ใฝเ่ รยี นรู้ ท่เี พิม่ ข้นึ หรอื ลดลงทลี ะเทา่ ๆ กนั - มงุ่ มั่นในการทำงาน การวัด และนำไปใช้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ทกั ษะกระบวนการ คุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ จำนวนเงนิ - บอกจำนวนเงินเป็นบาทและสตางค์ แลกเงนิ - เขียนแสดงจำนวนเงนิ แบบใชจ้ ดุ - มวี ินัย จา่ ย - เปรียบเทียบจำนวนเงิน - ใฝเ่ รยี นรู้ - แลกเงนิ - ม่งุ มัน่ ในการทำงาน (.) หรอื ทวภิ าค - แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา าที เกย่ี วกบั เงนิ วามสมั พนั ธ์ - อา่ นและเขียนบันทึกรายรบั รายจ่าย มท่รี ะบุเวลา - บอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที - อ่านและเขยี นบอกเวลาที่มีมหพั ภาค (.) หรอื ทวิภาค (:) - เปรยี บเทยี บระยะเวลา - อ่านและเขียนบนั ทึกกจิ กรรมทร่ี ะบุเวลา
ตัวชวี้ ดั ความรู้ กิโลเมตรกับเมตร จากสถานการณ์ต่าง ๆ - การแก้โจทย์ปญั หาเกยี่ วกบั เวล ๖. แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาเกยี่ วกบั ความ - การวดั ความยาวเปน็ เซนติเมตร ยาว ที่มีหนว่ ยเป็นเซนติเมตรและมลิ ลิเมตร เมตรและ เมตรและเซนตเิ มตร กโิ ลเมตรแล เซนติเมตร กิโลเมตรและเมตร - การเลอื กเครอ่ื งวัดความยาวท่ีเห ๗. เลือกใชเ้ ครอื่ งชงั่ ทเี่ หมาะสม วดั และบอกน้ำหนัก - การคาดคะเนความยาวเปน็ เมต เป็นกิโลกรมั และขีด กิโลกรมั และกรมั เซนตเิ มตร ๘. คาดคะเนน้ำหนักเป็นกโิ ลกรมั และเป็นขดี - การเปรียบเทยี บความยาวโดยใ ๙. เปรียบเทยี บน้ำหนักระหว่างกิโลกรัมกับกรมั ระหว่างหนว่ ยความยาว เมตรกิ ตันกับกิโลกรัม จากสถานการณต์ า่ ง ๆ - การแก้โจทย์ปญั หาเกยี่ วกบั ควา ๑๐. แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเก่ยี วกับ - การเลอื กเครอ่ื งช่ังทีเ่ หมาะสม น้ำหนักทม่ี หี น่วยเปน็ กโิ ลกรมั กับกรัม เมตรกิ ตนั กับ - การคาดคะเนน้ำหนกั เปน็ กิโลกร กโิ ลกรัม - การเปรยี บเทยี บน้ำหนักโดยใช้ค ๑๑. เลอื กใช้เครอ่ื งตวงทีเ่ หมาะสม วดั และ ระหวา่ งกโิ ลกรัมกบั กรมั เมตรกิ ต เปรยี บเทยี บปรมิ าตรความจุเปน็ ลติ ร - การแกโ้ จทย์ปญั หาเกย่ี วกบั น้ำห และมลิ ลิลิตร - การวดั ปริมาตรและความจุเปน็ ล ๑๒. คาดคะเนปรมิ าตรและความจุเปน็ ลติ ร - การเลือกเครอ่ื งตวงทเ่ี หมาะสม ๑๓. แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั - การคาดคะเนปรมิ าตรและความ ปรมิ าตรและความจุที่มหี น่วยเปน็ ลิตรและมิลลลิ ิตร - การเปรียบเทยี บปริมาตรและคว ความสมั พันธร์ ะหว่างลิตรกบั มิลล ช้อนโตะ๊ ถ้วยตวงกบั มลิ ลลิ ติ ร - การแกโ้ จทย์ปญั หาเก่ยี วกับปรมิ ที่มีหนว่ ยเปน็ ลติ รและมลิ ลิลิตร
65 สาระการเรียนรู้แกนกลาง ทักษะกระบวนการ คณุ ลักษณะ อันพงึ ประสงค์ ลาและระยะเวลา - แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั เวลา รและมิลลิเมตร และระยะเวลา ละเมตร - วัดและบอกความยาวของสิง่ ต่าง ๆ เปน็ หมาะสม เซนตเิ มตรและมลิ ลิเมตร เมตรและเซนตเิ มตร ตรและเป็น - บอกความยาวของส่ิงต่าง ๆ เป็นกิโลเมตรและ ใช้ความสัมพันธ์ เมตร ามยาว - เลอื กใช้เครอ่ื งวดั ความยาวที่เหมาะสม รมั และเป็นขีด - คาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเปน็ เซนตเิ มตร ความสัมพนั ธ์ - เปรยี บเทยี บความยาวโดยใช้ความสัมพนั ธ์ ตนั กบั กิโลกรมั ระหว่างเซนติเมตรกับมิลลเิ มตร เมตรกับ หนัก เซนติเมตร กิโลเมตรกับเมตร ลิตรและมลิ ลลิ ิตร - แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาเกยี่ วกับความ มจุเปน็ ลิตร ยาว วามจโุ ดยใช้ - วัดและบอกนำ้ หนกั เป็นกิโลกรัมและขีด กิโลกรัม ลลิ ิตร ช้อนชา และกรัม มาตรและความจุ - เลือกใชเ้ ครอ่ื งชง่ั ทเ่ี หมาะสม - คาดคะเนน้ำหนกั เป็นกิโลกรมั และเป็นขดี - เปรียบเทียบน้ำหนกั โดยใช้ความสมั พันธ์ระหวา่ ง กิโลกรมั กับกรมั เมตรกิ ตนั กบั กิโลกรมั - แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั นำ้ หนักความจทุ ี่มีหนว่ ยเป็นลติ รและมิลลลิ ิตร
มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รปู เรขาคณิต สมบตั ิของรปู เรขาคณิต ความสัม ตวั ชว้ี ดั ความรู้ - รูปทมี่ ีแกนสมมาตร ๑. ระบุรูปเรขาคณิตสองมิตทิ มี่ ีแกน สมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร สาระที่ 3 สถติ แิ ละความนา่ จะเป็น มาตรฐาน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใช้ความรูท้ างสถิติในการแก้ปญั หา ตัวช้วี ดั ความรู้ ๑. เขยี นแผนภมู ริ ปู ภาพและใชข้ ้อมลู จาก - การเกบ็ รวบรวมข้อมูลและจำแนกขอ้ แผนภมู ิรูปภาพในการหาคำตอบของ - การอา่ นและการเขียนแผนภูมริ ูปภาพ โจทยป์ ัญหา - การอ่านและการเขียนตารางทางเดีย ๒. เขยี นตารางทางเดยี วจากข้อมูลทเ่ี ป็น Table) จำนวนนบั และใชข้ อ้ มูลจากตารางทางเดยี ว ในการหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา
66 มพนั ธ์ระหว่างรูปเรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำไปใช้ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ทกั ษะกระบวนการ คุณลักษณะ อนั พึงประสงค์ ๑. ระบรุ ูปเรขาคณิตสองมติ ิทีม่ แี กนสมมาตร ๑. มวี ินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ และจำนวนแกนสมาตร ๓. มุ่งม่นั ในการทำงาน า สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ทักษะกระบวนการ คุณลกั ษณะ อมลู - เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และจำแนกขอ้ มูล อันพงึ ประสงค์ พ - อ่านและเขยี นแผนภูมิรูปภาพ - มีวินัย ยว (One-Way - ใช้ขอ้ มลู จากแผนภมู ริ ปู ภาพในการหา - ใฝ่เรียนรู้ คำตอบของโจทยป์ ญั หา - มงุ่ ม่นั ในการทำงาน - อา่ นและเขียนตารางทางเดยี วจากข้อมูล ทเ่ี ป็นจำนวนนบั - ใช้ข้อมลู จากตารางทางเดียวในการหา คำตอบของโจทย์ปญั หา
67 ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร ๓ โครงสรางรายวิชาพืน้ ฐาน ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี ๓ กลุมสาระการเรียนรคู ณติ ศาสตร เวลา ๒๐๐ ช่ัวโมง หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั (ชั่วโมง) คะแนน 1 จำนวนนับไม่เกิน ค ๑.๑ ป.๓/๑ • การอา่ นจำนวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 ๑๒ ๑๕ ๑๐๐,๐๐๐ ป.๓/๒ อ่านตามค่าประจำหลักจากซา้ ยไปขวา ค ๑.๒ ป.๓/๑ • การเขยี นแสดงจำนวนอาจเขยี นเป็น ตัวเลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย หรอื ตวั หนังสอื • จำนวนส่หี ลกั มจี ำนวนท่อี ยหู่ ลกั หน่วย หลักสิบ หลักร้อย และหลกั พนั เชน่ 8,089 • จำนวนหา้ หลกั มีจำนวนทอ่ี ยหู่ ลักหนว่ ย หลกั สิบ หลักร้อย หลกั พัน และหลกั หมื่น เช่น 91,006 • จำนวนหกหลกั มีจำนวนทอี่ ยู่หลกั หนว่ ย หลักสบิ หลักร้อย หลักพนั หลักหม่ืน และหลักแสน เชน่ 100,000 • การเขยี นแสดงจำนวนในรูปกระจาย เป็นการเขียนในรูปการบวกค่าของเลข โดดในหลักตา่ ง ๆ ของจำนวนนนั้ • การเปรียบเทียบจำนวนสองจำนวน จะใช้คำวา่ เท่ากบั มากกว่า นอ้ ยกว่า ซ่ึงแทนดว้ ยเครอื่ งหมาย = > < ตามลำดับโดยพิจารณาดังน้ี - ถ้าจำนวนหลักไม่เทา่ กนั จำนวนทีม่ ี จำนวนหลักมากกว่าจะมากกว่า - ถ้าจำนวนหลักเทา่ กัน จำนวนท่ีคา่ ของเลขโดดในหลักทีอ่ ยซู่ ้ายสุดมากกว่า จะมากกว่า แต่ถ้าเลขโดดในหลกั ซ้ายสุด มีคา่ เท่ากัน ใหพ้ ิจารณาค่าของเลขโดด ในหลักถัดไปทางขวาทีละหลกั
68 หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรยี นรู้/ตัวช้วี ดั (ช่ัวโมง) คะแนน • การเรยี งลำดับจำนวนอาจทำได้โดยหา จำนวนท่ีมากที่สดุ และนอ้ ยทส่ี ดุ กอ่ น จากน้ันนำจำนวนมาเรียงลำดับจากมาก ไปน้อยหรอื จากนอ้ ยไปมาก • แบบรูปของจำนวนทเี่ พ่ิมขน้ึ หรอื ลดลง ทลี ะเทา่ ๆ กนั เปน็ ชุดของจำนวนทมี่ ี ความสมั พันธก์ ันอยา่ งตอ่ เนอ่ื งในลักษณะ ท่เี พ่มิ ขึ้นหรอื ลดลงทลี ะเทา่ ๆ กนั • การเพิม่ ขึ้นหรอื ลดลงทลี ะเทา่ ๆ กนั สามารถพจิ ารณาไดจ้ ากนำจำนวน ทมี่ คี า่ มากลบดว้ ยจำนวนท่มี คี า่ นอ้ ย ของจำนวนท่อี ยู่ตดิ กนั จะมคี ่าเท่ากนั ๒ การบวกและการลบ ค ๑.๑ ป.๓/๕ • การหาผลบวกของจำนวนสองจำนวน ๑๙ ๑๕ จำนวนนับไม่เกิน โดยการตง้ั บวก ตอ้ งเขียนเลขโดดในหลัก ๑๐๐,๐๐๐ เดียวกันให้ตรงกันแลว้ จงึ นำจำนวนที่อยู่ ในหลักเดียวกนั มาบวกกัน โดยเริ่มจาก หลกั หนว่ ย หลักสิบ หลักรอ้ ย หลักพนั และหลกั หมื่น ตามลำดบั ถา้ ผลบวกใน หลกั ใดครบสบิ หรือมากกว่าสิบให้ทด จำนวนท่คี รบสบิ ไปรวมกบั ผลบวก ในหลักถัดไปทางซ้าย • การหาผลลบของจำนวนสองจำนวนโดย การตง้ั ลบตอ้ งเขยี นเลขโดดในหลกั เดียวกันใหต้ รงกันแลว้ จงึ นำจำนวนท่อี ยู่ ในหลักเดียวกันมาลบกนั โดยเริ่มจาก หลักหน่วย หลักสิบ หลักร้อย หลกั พนั หลักหมน่ื และหลกั แสน ตามลำดับ ถ้าในหลกั ใดตวั ตั้งน้อยกว่าตวั ลบ ต้องกระจายจำนวนจากหลกั ถดั ไป ทางซา้ ยมารวมกับตวั ต้ังในหลกั นัน้ แล้วจงึ ลบกัน แตถ่ ้าจำนวนในหลกั ถดั ไปทางซ้าย เปน็ 0 ตอ้ งกระจายจำนวนจากหลักถัดไป ทางซา้ ยทลี ะหลักตามลำดับ
69 หน่วย ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรียนร/ู้ ตัวชว้ี ดั (ชวั่ โมง) คะแนน • การหาคา่ ของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยค สญั ลักษณ์แสดงการบวกและประโยค สัญลกั ษณแ์ สดงการลบสามารถใช้ ความสัมพนั ธ์ของการบวกและการลบ • การแก้โจทยป์ ญั หาทำได้โดย อ่านทำ ความเข้าใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หา หา คำตอบ และตรวจสอบความสมเหตสุ มผล ของคำตอบ • การสรา้ งโจทย์ปญั หาต้องมีท้ังส่วนที่ โจทยบ์ อกและส่วนทโ่ี จทย์ถาม นอกจากน้ี โจทยป์ ัญหาทสี่ ร้างต้องมีความเปน็ ไปได้ ๓ เวลา ค ๒.๑ ป.๓/๒ • การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที ๑๕ ๑๕ ถา้ เป็นนาฬกิ าแบบเขม็ ให้พิจารณาท่ี ตำแหนง่ เขม็ สัน้ และเข็มยาว เขม็ สน้ั บอก เวลาเป็นนาฬิกา เข็มยาวบอกเวลาเป็น นาทแี ละถา้ เปน็ นาฬิกาแบบใชต้ วั เลข ตวั เลขหน้าเครอ่ื งหมาย : แสดงเวลาเปน็ นาฬิกาตัวเลขหลังเครอ่ื งหมาย : แสดง เวลาเป็นนาที • การบอกระยะเวลาอาจบอกเป็นชั่วโมง เปน็ นาที หรอื เป็นช่วั โมงและนาที โดยนบั จากเวลาเรม่ิ ตน้ จนถงึ เวลาส้นิ สุด • การเขียนบอกเวลาอาจใชม้ หพั ภาค (.) หรอื ทวิภาค (:) คนั่ ระหว่างตวั เลขทแี่ สดง นาฬิกากบั ตัวเลขท่แี สดงนาที แลว้ เขียน น. ต่อท้าย • การอา่ นเวลาให้อา่ นตัวเลขหน้า มหัพภาค (.) หรอื ทวิภาค (:) เป็นนาฬิกา และอา่ นตัวเลขหลงั มหพั ภาค (.) หรอื ทวภิ าค (:) เปน็ นาที • การเปรยี บเทยี บระยะเวลาเปน็ ชั่วโมง และนาที ถ้าจำนวนชัว่ โมงไมเ่ ท่ากัน จำนวนชว่ั โมงมากกว่าระยะเวลานนั้ จะ
70 หนว่ ย ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนัก ที่ เรียนรู้/ตัวช้วี ดั (ชั่วโมง) คะแนน มากกว่า ถา้ จำนวนช่ัวโมงเท่ากนั จำนวน นาทีมากกวา่ ระยะเวลาน้ันจะมากกว่า • การเปรียบเทียบระยะเวลาทมี่ หี นว่ ย ตา่ งกันต้องเปลย่ี นหน่วยให้เป็นหนว่ ย เดยี วกนั ก่อนแลว้ นำมาเปรยี บเทยี บกัน • บนั ทึกกจิ กรรมท่ีระบเุ วลาโดยท่วั ไป ประกอบด้วย ชอื่ บันทกึ วนั ที่ เดือน พ.ศ. จะอย่สู ว่ นบนของบันทึก เวลาจะอยู่ ดา้ นซ้ายของบันทกึ และกิจกรรมต่าง ๆ จะอยูด่ ้านขวาของบนั ทึก ซง่ึ รายละเอยี ด ขึน้ อยูก่ ับความต้องการของผู้บันทึก • การแก้โจทยป์ ัญหาทำได้โดยอา่ นทำ ความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแกป้ ัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตสุ มผลของคำตอบ ๔ รปู เรขาคณิต ค ๒.๒ ป.๓/๑ • รูปท่เี มื่อพบั แลว้ สองข้างของรอยพับ ๑๐ ๑๐ ทับกนั สนทิ เปน็ รูปทีม่ แี กนสมมาตร รอยพับเปน็ แกนสมมาตร • รปู ทม่ี แี กนสมมาตร บางรูปมีแกน สมมาตร 1 แกน บางรปู มีแกนสมมาตร มากกวา่ 1 แกน ๕ แผนภูมริ ปู ภาพ ค ๓.๑ ป.๓/๑ • ข้อมลู เปน็ ขอ้ เทจ็ จรงิ ของสง่ิ ทส่ี นใจ ๑๒ ๑๕ และตารางทางเดยี ว ป.๓/๒ การเก็บรวบรวมข้อมลู อาจใชก้ ารสังเกต การสอบถามซึ่งการเกบ็ รวบรวมข้อมูล และการจำแนกข้อมลู ทำใหส้ ะดวกต่อการ นำขอ้ มูลไปใช้ • แผนภูมริ ปู ภาพเปน็ แผนภูมิที่นำเสนอ ข้อมูลโดยใชร้ ปู ภาพแทนจำนวนสิ่งตา่ ง ๆ ถ้าเป็นข้อมลู ของสิ่งเดยี วกนั รปู ภาพท่ไี ด้ ตอ้ งเป็นรปู ภาพทีเ่ หมอื นกันและมีขนาด เท่ากนั ซึ่งประกอบด้วย ชอ่ื แผนภมู ิ ตวั แผนภูมิและขอ้ กำหนด
71 หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรียนรู/้ ตัวชวี้ ดั (ช่ัวโมง) คะแนน • ข้อมลู ชดุ เดียวกันสามารถเขยี นแผนภูมิ รูปภาพโดยใช้ขอ้ กำหนดท่แี ตกตา่ งกัน และจำนวนรปู ภาพท่ีเขยี นในแผนภมู ิ รปู ภาพขึ้นอยู่กับขอ้ มลู และข้อกำหนด • การนำเสนอข้อมูลอาจนำเสนอดว้ ย ตารางทางเดยี ว ซงึ่ ตารางทางเดยี ว ประกอบดว้ ยช่อื ตารางและตาราง ที่มหี วั ตารางและรายละเอยี ดของขอ้ มลู ๖ เศษสว่ น ค ๑.๑ ป.๓/๓ • เศษสว่ นเป็นสญั ลักษณ์แสดงจำนวน ๑๔ ๒๐ ป.๓/๔ ซ่งึ ประกอบดว้ ยตวั เศษและตวั ส่วน ป.๓/๑๐ ตวั เศษ แสดงจำนวนของสว่ นท่กี ล่าวถงึ เขียนไว้ด้านบนของเสน้ ค่ัน ตวั ส่วนแสดง ป.๓/๑๑ จำนวนของสว่ นท่เี ท่า ๆ กันทัง้ หมด เขียนไว้ด้านล่างของเส้นคัน่ เช่น 1 2 45 • เศษสว่ นทต่ี ัวเศษเท่ากับตวั สว่ นมีค่า เท่ากับ 1 • การเปรียบเทียบเศษสว่ นทต่ี วั สว่ น เทา่ กนั ใหด้ ทู ี่ตัวเศษ ถ้าตัวเศษของ เศษส่วนใดมากกว่า เศษส่วนนนั้ จะ มากกวา่ • การเรยี งลำดบั เศษสว่ นทีต่ ัวสว่ นเทา่ กนั ให้พิจารณาตัวเศษ ถ้าเรียงลำดบั เศษส่วนจากมากไปน้อย ให้เขียน เศษส่วนเรยี งลำดบั จากเศษส่วนทต่ี ัวเศษ มากไปนอ้ ย ถ้าเรยี งลำดับเศษส่วนจาก นอ้ ยไปมาก ให้เขียนเศษสว่ นเรียงลำดบั จากเศษสว่ นทตี่ ัวเศษนอ้ ยไปมาก • การเปรยี บเทียบเศษส่วนทต่ี วั เศษ เท่ากันให้ดูท่ตี ัวส่วน ถ้าตวั สว่ นของ เศษส่วนใดมากกวา่ เศษส่วนนัน้ จะ น้อยกวา่ • การเรียงลำดบั เศษส่วนท่ีตัวเศษเทา่ กนั ใหพ้ ิจารณาตัวส่วน ถา้ เรยี งลำดับเศษส่วน จากมากไปน้อย ใหเ้ ขียนเศษส่วน เรียงลำดบั จากเศษส่วนทีต่ วั สว่ นนอ้ ยไป มาก ถ้าเรยี งลำดับเศษสว่ นจากนอ้ ยไป
72 หน่วย ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรียนรู/้ ตัวช้ีวดั (ชั่วโมง) คะแนน มาก ใหเ้ ขียนเศษสว่ นเรยี งลำดบั จาก เศษส่วนทต่ี วั ส่วนมากไปน้อย • การหาผลบวกของเศษส่วนที่ตัวสว่ น เทา่ กนั ใหน้ ำตัวเศษบวกกนั โดยตวั ส่วน คงเดิม • การหาผลลบของเศษส่วนท่ตี ัวส่วน เท่ากันใหน้ ำตัวเศษลบกนั โดยตัวส่วน คงเดิม • การแก้โจทยป์ ัญหาทำได้โดยอา่ นทำ ความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตุสมผลของคำตอบ ๗ การคณู ค ๑.๑ ป.๓/๖ • จำนวน 1 หลักคณู กับ 100 200 ๑๘ ๑๐ 300 … 900 หรอื คูณกับ 1,000 2,000 3,000 … 9,000 หาผลคูณโดย นำจำนวน 1 หลักน้ัน คณู กบั 1 2 3 … 9 แลว้ เตมิ 0 ตอ่ ทา้ ย 2 ตวั หรอื เตมิ 0 ตอ่ ท้าย 3 ตัว • การหาผลคณู ของจำนวน 1 หลกั กับ จำนวนไม่เกนิ 4 หลกั โดยการตั้งคูณ ตอ้ ง คณู จำนวนในหลักหนว่ ยกอ่ นแลว้ คณู ใน หลักสิบหลักรอ้ ยและหลักพนั ตามลำดับ ถ้าผลคณู ในหลักใดครบสบิ หรือมากกวา่ สบิ ให้ทดจำนวนทคี่ รบสบิ ไปรวมกบั ผล คณู ในหลักถดั ไปทางซา้ ย • จำนวน 2 หลกั คณู กบั 10 20 30 … 90 หาผลคณู โดยนำจำนวน 2 หลักนัน้ คูณกับ 1 2 3 … 9 แล้วเติม 0 ต่อทา้ ย • การหาผลคณู ของจำนวน 2 หลกั กับ จำนวน 2 หลัก โดยการตั้งคณู ทำไดโ้ ดย กระจายจำนวนใดจำนวนหนงึ่ ตามค่า ประจำหลกั แลว้ นำไปคณู กับอกี จำนวน หนงึ่ โดยเริม่ จากหลักหน่วยและหลักสบิ ตามลำดับ แล้วนำผลคูณที่ไดม้ าบวกกนั
73 หน่วย ชือ่ หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรียนร/ู้ ตัวชี้วดั (ชั่วโมง) คะแนน • การหาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยค สัญลักษณ์แสดงการคณู อาจใช้สตู รคณู ชว่ ยในการหาคา่ ของตัวไม่ทราบค่า เมื่อนำจำนวนมาแทนตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการคณู แล้ว ไดผ้ ลคูณตามท่ีกำหนด • การแก้โจทยป์ ัญหาทำได้โดยอ่าน ทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปญั หา หาคำตอบและตรวจสอบความ สมเหตสุ มผลของคำตอบ • การสรา้ งโจทยป์ ญั หาต้องมีทั้งสว่ นที่ โจทยบ์ อกและสว่ นทโ่ี จทย์ถาม นอกจากนี้ โจทยป์ ญั หาทสี่ รา้ งตอ้ งมีความเปน็ ไปได้ ๘ การหาร ค ๑.๑ ป.๓/๗ • การหาผลหารและเศษที่ตัวต้งั สองหลัก ๑๘ ๑๕ ตวั หารและผลหารหน่ึงหลักโดยการ หารยาวเรมิ่ จากการหารจำนวนในหลกั สบิ ก่อนแล้วหารจำนวนในหลกั หน่วย เมื่อ หารจำนวนในหลักใดให้เขียนเลขโดดท่ี เปน็ ผลหารในหลักนั้น • การหาผลหารและเศษท่ตี ัวตงั้ สองหลัก ตวั หารหนึง่ หลกั และผลหารสองหลกั โดย การหารยาวเร่ิมจากการหารจำนวนใน หลักสิบกอ่ นแลว้ หารจำนวนในหลกั หน่วย เมอื่ หารจำนวนในหลกั ใดให้เขียนเลขโดด ทเ่ี ป็นผลหารในหลักนัน้ • การหาผลหารและเศษท่ตี ัวต้ังสามหลกั และตวั หารหนง่ึ หลกั โดยการหารยาว เรมิ่ จากการหารจำนวนในหลกั รอ้ ย หลักสบิ และหลกั หนว่ ย ตามลำดบั เมือ่ หารจำนวนในหลักใดใหเ้ ขียนเลขโดดที่ เป็นผลหารในหลกั นั้น • การหาผลหารและเศษทีต่ วั ตงั้ สห่ี ลัก และตัวหารหน่งึ หลักโดยการหารยาว
74 หน่วย ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั (ชว่ั โมง) คะแนน เริ่มจากการหารจำนวนในหลกั พัน หลัก ร้อย หลกั สบิ และหลักหน่วย ตามลำดับ เม่อื หารจำนวนในหลักใดใหเ้ ขยี นเลขโดด ทเ่ี ปน็ ผลหารในหลกั นนั้ • การหาผลหารและเศษท่ีตวั ต้งั ไม่เกิน ส่ีหลักและตวั หารหนึง่ หลกั โดยการ หารสน้ั ใชห้ ลกั การเดียวกับการหารยาว โดยเริ่มจากการหารจำนวนในหลักพัน หลกั ร้อย หลักสิบ และหลักหน่วย ตามลำดับ เม่อื หารจำนวนในหลักใด ใหเ้ ขียนเลขโดดที่เปน็ ผลหารในหลกั น้ัน • การหาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยค สญั ลกั ษณแ์ สดงการหารอาจทำไดโ้ ดยใช้ ความสัมพนั ธ์ของการคูณและการหาร • การแก้โจทยป์ ัญหาทำได้โดยอ่านทำ ความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแกป้ ญั หา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตสุ มผลของคำตอบ ๙ การวดั ความยาว ค ๒.๑ ป.๓/๓ • การบอกความยาวหรือความสูงของสงิ่ ๑๖ ๒๐ ป.๓/๔ ต่างๆ อาจบอกเปน็ เซนตเิ มตรและ ป.๓/๕ มลิ ลเิ มตร ป.๓/๖ • ความยาว ๑๐ มลิ ลเิ มตร เท่ากบั ความยาว 1 เซนตเิ มตร • การบอกความยาวของสิง่ ต่างๆ อาจ บอกเป็นเมตรและเซนติเมตร • การบอกระยะทางอาจบอกเป็น กโิ ลเมตร หรอื กโิ ลเมตรและเมตร • ความยาว ๑,๐๐๐ เมตร เทา่ กับ ความยาว ๑ กิโลเมตร • การวัดความยาวของสง่ิ ตา่ งๆ ควร เลอื กใช้เคร่ืองวัดความยาวใหเ้ หมาะสม และบอกความยาวโดยใช้หนว่ ยความยาว ทีเ่ หมาะสม
75 หนว่ ย ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนกั ที่ เรียนร/ู้ ตัวชวี้ ดั (ชั่วโมง) คะแนน • การคาดคะเนความยาวหรือความสูงเปน็ เมตร เปน็ การบอกความยาวหรือความสูง เป็นเมตรให้ใกล้เคยี งกบั ความยาวหรือ ความสูงจรงิ โดยไมใ่ ช้เคร่อื งวดั ความยาว อาจเทยี บกบั ความยาวหรอื ความสูง ๑ เมตร • การคาดคะเนความยาวหรือความสงู เป็น เซนติเมตร เป็นการบอกความยาวหรือ ความสงู เปน็ เซนตเิ มตรให้ใกลเ้ คียงกับ ความยาวหรอื ความสูงจรงิ โดยไมใ่ ช้ เครอ่ื งวัดความยาว อาจเทยี บกบั ความ ยาวหรอื ความสูง ๓๐ เซนติเมตร หรือ ๑ ไม้บรรทัด • การบอกความยาวของสง่ิ ต่างๆ อาจ บอกเปน็ มลิ ลิเมตร เซนตเิ มตร เมตร กิโลเมตร เซนติเมตรและมิลลิเมตร เมตร และเซนตเิ มตร หรือกิโลเมตรและเมตร โดยใชค้ วามสัมพนั ธ์ระหว่างหนว่ ย ความยาว ๑๐ มลิ ลเิ มตร เทา่ กับ ๑ เซนตเิ มตร ๑๐๐ เซนตเิ มตร เท่ากบั ๑ เมตร ๑,๐๐๐ เมตร เท่ากับ ๑ กโิ ลเมตร • การเปรยี บเทยี บความยาวหรือระยะทาง ทมี่ ีหนว่ ยตา่ งกันต้องเปล่ยี นหนว่ ยให้เป็น หนว่ ยเดยี วกนั ก่อนแล้วนำมาเปรยี บเทียบ กนั • การหาผลบวกหรือผลลบเกยี่ วกบั ความ ยาว ทำได้โดยนำความยาวท่ีเปน็ หนว่ ย เดียวกนั มาบวกหรือมาลบกนั • การหาผลคณู หรอื ผลหารเกี่ยวกับความ ยาว ทำได้โดยคูณหรือหารความยาวทลี ะ หน่วยความยาว
76 หนว่ ย ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรียนร้/ู ตัวชวี้ ดั (ช่วั โมง) คะแนน • การแกโ้ จทยป์ ญั หาทำได้โดยอ่านทำ ความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตสุ มผลของคำตอบ ๑๐ การวัดนำ้ หนัก ค ๒.๑ ป.๓/๗ • การบอกนำ้ หนักของสง่ิ ตา่ งๆ อาจบอก ๑๖ ๒๐ ป.๓/๘ เปน็ กิโลกรมั และขดี กโิ ลกรัมและกรมั ป.๓/๙ • การวดั น้ำหนกั ของสงิ่ ต่างๆ ควรเลือกใช้ ป.๓/๑๐ เครอ่ื งช่ังใหเ้ หมาะสม และบอกนำ้ หนัก โดยใชห้ นว่ ยนำ้ หนักทีเ่ หมาะสม • การคาดคะเนน้ำหนกั ของสงิ่ ตา่ งๆ เป็น การบอกน้ำหนกั ใหใ้ กล้เคยี งนำ้ หนกั จรงิ โดยไมใ่ ชเ้ ครื่องช่ัง อาจเทียบกับน้ำหนกั ของสงิ่ ต่างๆ ทเ่ี ราทราบน้ำหนกั แล้ว • การบอกนำ้ หนักของสิ่งต่างๆ อาจบอก เปน็ กิโลกรมั และกรมั หรอื บอกเป็นกรัม โดยใชค้ วามสัมพนั ธ์ ๑ กิโลกรัม เทา่ กับ ๑,๐๐๐ กรัม • การบอกนำ้ หนกั ของสิ่งตา่ งๆ อาจบอก เป็นเมตริกตนั และกิโลกรมั โดยใช้ ความสัมพนั ธ์ ๑ เมตริกตนั เท่ากับ ๑,๐๐๐ กิโลกรมั • การเปรยี บเทยี บน้ำหนัก - ถา้ มีหน่วยตา่ งกนั ต้องเปลย่ี นหนว่ ยให้ เปน็ หนว่ ยเดยี วกนั ก่อนแล้วจงึ นำมา เปรยี บเทยี บกัน - ถา้ มีหนว่ ยเปน็ กิโลกรัมและกรมั สิง่ ที่ มนี ้ำหนกั เป็นกิโลกรมั มากกวา่ จะหนักกว่า ถ้านำ้ หนกั เป็นกโิ ลกรมั เท่ากนั สิ่งทมี่ ี นำ้ หนักเปน็ กรมั มากกวา่ จะหนกั กวา่ - ถา้ มีหนว่ ยเปน็ ตันและกิโลกรัม สงิ่ ท่ีมี น้ำหนักเป็นตันมากกว่าจะหนกั กวา่ ถ้า นำ้ หนักเป็นตนั เท่ากัน สง่ิ ท่มี นี ำ้ หนักเปน็ กโิ ลกรัมมากกวา่ จะหนักกว่า
77 หนว่ ย ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรียนร้/ู ตวั ชวี้ ดั (ชว่ั โมง) คะแนน • การหาผลบวกหรือผลลบเกยี่ วกบั นำ้ หนัก ทำไดโ้ ดยนำน้ำหนกั ที่เป็นหนว่ ย เดยี วกันมาบวกหรือมาลบกนั • การหาผลคณู หรอื ผลหารเกี่ยวกับ น้ำหนกั ทำไดโ้ ดยคณู หรอื หารน้ำหนัก ทีละหน่วยน้ำหนัก • การแก้โจทยป์ ญั หาทำได้โดยอา่ นทำ ความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแก้ปญั หา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตสุ มผลของคำตอบ ๑๑ การวัดปริมาตร ค ๒.๑ ป.๓/๑๑ • การบอกปริมาตรของของเหลวและ ๑๖ ๑๕ ป.๓/๑๒ ความจุของภาชนะอาจบอกเปน็ มิลลลิ ติ ร ป.๓/๑๓ • การบอกปรมิ าตรของของเหลวและ ความจขุ องภาชนะอาจบอกเปน็ ลติ รและ มิลลลิ ติ ร • การวัดปริมาตรของสิ่งต่างๆ ควร เลอื กใชเ้ คร่ืองตวงให้เหมาะสม และ บอกปริมาตรโดยใชห้ นว่ ยปริมาตรที่ เหมาะสม • การคาดคะเนปริมาตรของสง่ิ ตา่ งๆ และ ความจุของภาชนะเปน็ ลิตร เป็นการบอก ปรมิ าตรหรือความจุเปน็ ลติ รให้ใกล้เคียง กบั ปริมาตรหรือความจุจริง โดยไม่ใช้ เคร่ืองตวง อาจเทียบกบั ปริมาตรหรือ ความจุ ๑ ลิตร หรือเทยี บกับปรมิ าตรหรอื ความจขุ องสงิ่ ตา่ งๆ ท่เี ราทราบแล้ว • การเปรียบเทียบปรมิ าตรหรือความจุ ของสง่ิ ต่างๆ ที่มหี น่วยตา่ งกนั ตอ้ งเปล่ยี น หนว่ ยใหเ้ ปน็ หน่วยเดียวกนั กอ่ น แลว้ จึง นำมาเปรียบเทยี บกัน • การหาผลบวกหรือผลลบเกยี่ วกับ ปริมาตรหรือความจุ ทำได้โดยนำปรมิ าตร
78 หนว่ ย ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรียนร้/ู ตวั ช้วี ดั (ชั่วโมง) คะแนน หรอื ความจุทีเ่ ป็นหนว่ ยเดยี วกันมาบวก หรือมาลบกัน • การหาผลคณู หรือผลหารเก่ียวกับ ปรมิ าตรทำไดโ้ ดยคณู หรอื หารปริมาตร ทีละหนว่ ยปริมาตร • การแก้โจทยป์ ัญหาทำไดโ้ ดยอา่ นทำ ความเข้าใจปญั หา วางแผนแกป้ ญั หา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตุสมผลของคำตอบ ๑๒ เงินและบันทกึ รายรับ ค ๒.๑ ป.๓/๑ • ธนบัตรและเงนิ เหรยี ญของประเทศไทย ๑๘ ๑๐ รายจ่าย ทใ่ี ช้ในปัจจุบัน - ธนบตั ร ไดแ้ ก่ ธนบตั รชนดิ ราคา ๑,๐๐๐ บาท ๕๐๐ บาท ๑๐๐ บาท ๕๐ บาท และ ๒๐ บาท - เงินเหรียญ ได้แก่ เงินเหรยี ญชนดิ ราคา ๑๐ บาท ๕ บาท ๒ บาท ๑ บาท ๕๐ สตางค์ และ ๒๕ สตางค์ • การบอกจำนวนเงินอาจบอกเป็นบาท เป็นสตางค์ หรอื เปน็ บาทและสตางค์ • เงินจำนวนหนง่ึ สามารถแสดงด้วย ธนบัตรหรอื เงนิ เหรียญได้หลายแบบ • การเขยี นแสดงจำนวนเงนิ แบบใช้จุด ให้เขยี นจดุ คัน่ ระหว่างจำนวนเงินทเี่ ปน็ บาทและจำนวนเงินทเี่ ป็นสตางค์ และ เขยี นหนว่ ยบาทตอ่ ทา้ ย • การเปรียบเทยี บจำนวนเงินสองจำนวน ให้เปรียบเทยี บจำนวนเงินเป็นบาทกอ่ น ถ้าจำนวนเงินเปน็ บาทเทา่ กนั ให้ เปรยี บเทียบจำนวนเงนิ เป็นสตางค์ • เงนิ เหรยี ญแลกเปลีย่ นกนั ไดโ้ ดยจำนวน เงินทน่ี ำไปแลกกับจำนวนเงนิ ทไี่ ดร้ บั ตอ้ ง เท่ากนั
79 หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั (ชว่ั โมง) คะแนน • เงนิ เหรียญและธนบัตรสามารถ แลกเปลย่ี นกันไดโ้ ดยจำนวนเงินท่นี ำไป แลกกับจำนวนเงนิ ทีไ่ ดร้ บั ตอ้ งเทา่ กนั • การหาผลบวกหรอื ผลลบเกย่ี วกับ จำนวนเงนิ ทำไดโ้ ดยนำจำนวนเงินท่ีเป็น หน่วยเดียวกันมาบวกหรือลบกนั • การหาผลคณู หรือผลหารเก่ียวกบั จำนวนเงนิ ทำไดโ้ ดยคูณหรือหารจำนวน เงนิ ทีละหน่วย • การแกโ้ จทยป์ ัญหาทำได้โดยอา่ นทำ ความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแกป้ ัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตุสมผลของคำตอบ • บนั ทกึ รายรบั รายจา่ ยประกอบดว้ ย ชือ่ บนั ทึก วัน เดอื น ปีทีบ่ ันทึก และตาราง ในตารางจะมีวนั เดอื น ปี รายการ รายรับ รายจ่าย และคงเหลือ ๑๓ การบวก ลบ คณู ค ๑.๑ ป.๓/๘ • การหาผลลพั ธ์การบวก ลบ คูณ หาร ๑๖ ๒๐ หารระคน ป.๓/๙ ระคน ให้หาผลลัพธ์ในวงเล็บก่อนแลว้ จึง หาผลลัพธส์ ุดท้าย • การเปรยี บเทยี บผลลัพธ์การบวก ลบ คณู หารระคนวา่ ผลลพั ธใ์ ดมากกว่า น้อย กวา่ หรือเทา่ กัน อาจเปรียบเทียบโดยไม่ ตอ้ งคำนวณ • เรื่องราวหรือสถานการณ์ทแี่ สดงให้เห็น ถึงการบวก การลบ การคูณ และการหาร ๒ ข้นั ตอน สามารถเขียนแสดงไดด้ ้วย ประโยคสญั ลกั ษณโ์ ดยใช้วงเล็บเพื่อระบุ ว่าต้องหาผลบวก ผลลบ ผลคณู หรอื ผลหารของสองจำนวนใดก่อน • การแก้โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคณู หรือการหาร ๒ ข้ันตอน ทำได้ โดยอ่านทำความเข้าใจปัญหา วางแผน
80 หน่วย ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนกั ที่ เรยี นรู/้ ตวั ชว้ี ดั (ชว่ั โมง) คะแนน แกป้ ญั หา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตุสมผลของคำตอบ • การสรา้ งโจทยป์ ญั หา ๒ ข้ันตอน ตอ้ งมี สว่ นทโี่ จทยบ์ อกและส่วนทโ่ี จทยถ์ าม นอกจากนีโ้ จทย์ปญั หาท่สี ร้างตอ้ งมีความ เปน็ ไปได้ รวมท้งั หมด ๒๐๐ ๒๐๐
81 คำอธบิ ายรายวชิ า แบบการวเิ คราะหห์ ลักสูตรเพ่ือจัดทำคำอธบิ ายรายวชิ า โครงสร้างรายวิชา ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔
82 รหัสวิชา ค ๑๔๑๐๑ คำอธิบายรายวิชา รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ เวลา ๑๖๐ ชว่ั โมง/ปี กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณ และฝึกการแก้ปัญหาในสาระตอ่ ไปน้ี การอ่าน การเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทยและตัวหนังสือแสดงจำนวนที่มากกว่า 100,000 หลัก ค่าประจำหลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และการเขียนตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย การ เปรียบเทียบและเรยี งลำดับจำนวน คา่ ประมาณของจำนวนนับและการใชเ้ ครือ่ งหมาย การบวกและการลบจำนวนที่มากกว่า 100,000 การคูณและการหาร การบวก ลบ คูณ หารระคน การประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบ การคณู การหาร การแก้โจทยป์ ัญหาและการสร้างโจทยป์ ัญหา พร้อมทง้ั หาคำตอบ แบบรูปของจำนวนท่ีเกดิ จากการคณู การหารดว้ ยจำนวนเดียวกนั เศษส่วนแท้ เศษเกิน จำนวนคละ ความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนคละและเศษเกิน เศษส่วนที่เท่ากัน เศษส่วนอย่างต่ำ และเศษส่วนที่เท่ากับจำนวนนับ การเปรียบเทียบ เรียงลำดับเศษส่วนและจำนวนคละ การบวก การลบเศษส่วนและจำนวนคละ การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบเศษส่วนและ จำนวนคละ การอ่านและการเขียนทศนิยมไม่เกิน 3 ตำแหน่งตามปริมาณที่กาหนด หลัก ค่าประจาหลัก ค่าของ เลขโดดในแต่ละหลักของทศนิยม และการเขียนตัวเลขแสดงทศนิยมในรูปกระจาย ทศนิยมที่เท่ากัน การเปรียบเทียบและเรียงลำดับทศนิยม การบวก การลบทศนิยม การแกโ้ จทย์ปัญหาการบวก การลบ ทศนิยม ไมเ่ กนิ 2 ข้นั ตอน การบอกระยะเวลาเป็นวินาที นาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน ปี การเปรียบเทียบระยะเวลาโดยใช้ ความสัมพันธร์ ะหว่างหนว่ ยเวลา การอ่านตารางเวลา การแก้โจทยป์ ญั หาเก่ียวกบั เวลา ระนาบ จุด เส้นตรง รังสี ส่วนของเส้นตรงและสัญลักษณ์แสดงเส้นตรง รังสี ส่วนของเส้นตรง มุม ส่วนประกอบของมุม การเรียกชื่อมุม สัญลักษณ์แสดงมุม ชนิดของมุม การวัดขนาดของมุมโดยใช้ โพรแทรกเตอร์ การสร้างมุมเมื่อกำหนดขนาดของมุม ชนิดและสมบัติของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก การสร้าง รูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก การแก้โจทย์ปัญหา เกี่ยวกับความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก การอ่านและการเขียนแผนภูมิแท่ง (ไม่รวมการย่น ระยะ) การอ่านตารางสองทาง (Two-Way Table) การจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าโดยปฏิบัติจริง ทดลอง สรปุ รายงาน เพ่ือพฒั นาทักษะการคิดคำนวณ ทกั ษะและกระบวนการในการแกป้ ัญหา การใหเ้ หตุผล การ สื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการ ทไี่ ด้ไปใชใ้ นการเรียนรสู้ ่ิงตา่ ง ๆ และใชใ้ นชีวิตประจำวันอยา่ งสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานอย่างเป็นระบบระเบียบ รอบคอบ มีความรับผดิ ชอบ มีวจิ ารณญาณ และเชอ่ื ม่นั ในตนเอง มคี วามรู้และคณุ ธรรมภายใต้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง การวัดผลและประเมินผล ใช้วิธีการหลากหลายตามสภาพความเป็นจริงของเนื้อหา และทักษะ ท่ีต้องการวัด
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192