Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชัชวาล อินทรปาลิต

ชัชวาล อินทรปาลิต

Published by วิทย บริการ, 2022-07-07 01:59:15

Description: ชัชวาล อินทรปาลิต

Search

Read the Text Version

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 135 การเทนํ้าเชื่อมลงในวาฟเฟลไมไดใชเวลามากอยางท่ีคุณอาจคาดไว จึงควรตั้งคาโหมดขับเคล่ือน ไวที่ \"การถายภาพตอเน่ือง\" และถายภาพหลายภาพแบบตอเนื่อง และฉันขอแนะนําใหถายภาพ จากดานขางเพื่อเก็บภาพน้ําเชื่อมที่ไหลลงจากเหยือก เทคนิคท่ี 3: ใชแบ็คกราวดท่ีนาสนใจใหเปนประโยชน วิธีนี้เหมาะอยางยิ่งสําหรับอาหารที่คุณถือไวในมือเพื่อรับประทาน เชน ไอศกรีม เบอร เกอร ชานมไขมุก หรือน้ําผลไมปน รานกาแฟหรือรานอาหารที่คุณแวะเยือนอาจมีกําแพงสีสัน สดใสหรือตกแตงอยางสะดุดตา ซ่ึงเหมาะสําหรับเก็บภาพเปนท่ีระลึกอยูแลว จึงถือเปนโบนัสหาก อาหารของคุณมีแพ็คเกจที่นาดึงดูดใจดวยเชนกัน หากสีสันตางๆ คือองคประกอบเฉพาะในภาพถาย ควรเพ่ิมความอิ่มตัวของสี เพื่อใหสีสัน ดูสดใสยิ่งขึ้น นอกจากนี้ คุณยังสามารถถายภาพตัดกับโลโกหรือสัญลักษณของรานเพื่อเปนที่ ระลึกสําหรับการมาเยือนของคุณได โดยใชมือขางหน่ึงถือเครื่องดื่มและไอศกรีมโคน และใชมืออีก ขางหนึ่งถายภาพ หากคุณยกเครื่องดื่มหรือไอศกรีมขึ้น แลวถายภาพโดยหันกลองขึ้นจากมุมที่ ต่ําลงจะไดภาพถายที่สวยงามไมตางจากภาพถายตนเอง เรียกวา \"ภาพเซลฟอาหาร\" ไดเลย! แต เนื่องจากมือของคุณจะปรากฏในภาพ จึงควรแนใจวาถายทอดสีผิวออกไดสวยงาม และ ระมัดระวังการใชสมดุลแสงขาวและการตั้งคาการเปดรับแสง ภาพท่ี 113 : EOS M100/ EF-M22mm f/2.0 STM / FL: 22 มม. (เทียบเทา 35 มม.)/ Aperture-priority AE (f/5.6, 1/60 วินาที, EV+1) / ISO 160/ WB: อัตโนมัติ ท่มี า : Reina Kanamori (15/02/2018)

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 136 Reiko Nanto (2019) กลาววา การถายภาพแนว Chiaroscuro (มีชื่อเรียกอีกอยางหน่ึงวา “การถายภาพแนวดารก”) เปนสไตลการถายภาพท่ีนิยมใชกันในบล็อกอาหาร Instagram และ แมกระท่งั ตําราอาหารตางๆ โดยมกั จะแสดงใหเห็นเงาอยางชัดเจนและสอ่ื ถงึ อารมณขมุกขมัวและต่ืน ตาต่ืนใจไดเปนอยางดี อยางไรก็ตาม ลักษณะท่ีแทจริงของการถายภาพแนวน้ีคือ ความสัมพันธ ระหวา งสว นที่เปนเงาทบึ กบั สวนที่สวาง ซงึ่ ชว ยเนนใหตวั แบบดูโดดเดน ในบทความน้ี เราจะเผยเคลด็ ลบั ในการถายภาพอาหารใหด ูนา รับประทานโดยใชสไตลก ารถา ยภาพนี้ ภาพท่ี 114 EOS 5D Mark II/ EF85mm f/1.2L II USM/ FL: 85 มม./ Manual exposure (f/13, 0.3 วินาที, EV±0)/ ISO 320/ WB: Manual ที่มา : Reiko Nanto (07/02/2019) ในภาพนี้ คุกกี้ถูกตกแตงใหเปนธีม Alice in Wonderland ซึ่งเปนแรงบันดาลใจใหฉัน ออกแบบใหเหมือนอยูในปารตี้น้ําชากลางปา ฉันใชรีเฟลกเตอรสีดํา (หรือที่เรียกกันวาธงดํา) เพื่อ เนนเงาและแบ็คกราวดสีเขม ตรวจสอบใหแนใจวาบริเวณตางๆ ที่มีไอซิ่งสีขาวอยูไดรับแสง เพียงพอ เพื่อไมใหภาพถายดูมืดทึม นอกจากนี้ ฉันยังนําของประกอบฉากตางๆ ไปหนุนไวและ ถายภาพโดยใชแสงดานขางเพื่อไมใหคุกก้ีดูแบนเกินไป

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 137 เคล็ดลับที่ 1: ควบคุมท้ังแสงและเงา อยาลืมวา Chiaroscuro แปลวา “สวาง-มืด” ไมใช “มืด” เพียงอยางเดียวแมจะเปนท่ี รูจักกันในชื่อวา “การถายภาพแนวดารค” คุณก็ไมอาจถายภาพแนว Chiaroscuro ไดโดยใช เพียงแค การเปดรับแสงนอย ความสวยงามของภาพถายแนว Chiaroscuro จึงอยูที่การใชความ ตางระหวางสวนที่สวางกับสวนที่เปนเงาทึบไดอยางมีประสิทธิผลนั่นเองรายละเอียดเล็กๆ นอยๆ ในการจัดแสงเปนสิ่งสําคัญการจะถายภาพ Chiaroscuro ใหดีนั้น คุณตองแนใจวาแสงนุมนวล เพียงพอที่จะเนนตัวแบบใหดูเปนสามมิติ และการเปลี่ยนผานระหวางบริเวณแสงกับเงามีความ ราบรื่นและคอยเปนคอยไปและการจะทําไดเชนนี้ คุณจะตองควบคุมแสงและเงา สิ่งที่ฉันทําคือ สรางทางเดินแสงเพื่อควบคุมปริมาณแสงที่เขาสูภาพและใชแผนรีเฟลกเตอรสีดํา (หรือแผน กระดานสองสามแผน) เพ่ือสรางเงาที่เพียงพอสําหรับส่ือถึความรูสึกที่หนักแนนในภาพ คําแนะนํา แสงดานขาง: มุมของแสงดานขางทําใหงายตอการสรางความเปรียบตางที่เดนชัด ระหวางสวนที่สวางกับสวนที่มืด แบ็คกราวดสีเขม/สิ่งของประกอบในแบ็คกราวด: สีเขมจะชวย ดูดซึมแสงและเพ่ิมเงา ทําใหภาพดูมีความเปน Chiaroscuro ไดมากยิ่งขึ้น ภาพท่ีใชงานได ภาพท่ี 115 : EOS-1D X/ EF28-70mm f/2.8L IS USM/ FL: 70 มม./ Manual exposure (f/6.3, 1/50 วินาที, EV±0)/ ISO 500/ WB: 4700K ที่มา : Reiko Nanto (07/02/2019)

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 138 ภาพถายขาวดําน้ีเกิดจากการออกแบบโดยนาํ คุกก้ีสโนวบอลสีขาว จานรองสีดําและสอม และพื้นสีเทามาจัดวางไวดวยกัน แสงดานขางทางขวาสรางมิติและความราบร่ืนในการเปล่ียนผาน ระหวางบริเวณแสงและเงาไดในปริมาณท่ีพอเหมาะ จึงสามารถนาํ ความสนใจของผูชมไปยังคุกก้สี โนวบอลและพื้นที่ขรุขระได การจัดแสง ภาพท่ี 116 : การจัดแสง ทม่ี า : Reiko Nanto (07/02/2019) A: สรางชองวางสาํ หรับใหแสงสองผาน B: ส ร า ง เ ง า แ ล ะ ก า ร เ ป ลี ่ย น ผ า น ข อ ง โ ท น ส ีร ะ ห ว า ง แ ส ง แ ล ะ เ ง า บ น พื ้น C: ใชรีเฟลกเตอรสีดาํ เพื่อดูดซึมแสงและเพ่ิมเงา ใชรีเฟลกเตอรสีดํากั้นพื้นท่ีรอบๆ ตัวแบบ ซึ่งสามารถชวยขับเนนเงาของตัวแบบไดดวย แสงจะ สองเขามาในฉากผานทางชองวาง A เคล็ดลับพิเศษ : เมื่อถายภาพสไตลนี้ คุณจะตองสรางบรรยากาศที่มีความนุมนวล การใชแสงท่ี สวางจาเกินไปจะทําใหความเปรียบตางระหวางแสงกับสวนที่เปนเงาดูหยาบกระดาง หากตองการ ใหแสงนุมนวลขึ้น ใหใชผามานลูกไมหรือตัวกระจายแสง

139 การออกแบบภาพ: หัวใจสําคัญอยูที่แบ็คกราวด แบ็คกราวดสีเขม แบ็คกราวดสีออน มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง ภาพที่ 117 : แบ็คกราวด ทมี่ า : RคeiวkรoเNลaือnกtใoช(แ0บ7/็ค0ก2/ร2า0ว1ด9/) พื้นสีเขมในการถายภาพแนว Chiaroscuro แบ็คกราวดสีเขมจะ ชวยดูดซึมแสงและขับเนนเงาเชนเดียวกันกับการใชรีเฟลกเตอรสีดํา ในทางตรงกันขาม แบ็ค กราวดสีออนจะสะทอนแสงและทําใหเงาดูนุมนวล ซึ่งเปนเอฟเฟกตที่ตรงกันขามกับสิ่งที่คุณ ตองการในการถายภาพแนวChiaroscuro ความแตกตางระหวางภาพถายแนว Chiaroscuro กับภาพท่ีมืดจนเกินไป ภาพถายแนว Chiaroscuro ภาพท่ีมืดจนเกินไป ภาพท่ี 118 : ภาพถายแนว Chiaroscuro กับภาพที่มืดจนเกินไป ทีม่ า : Reiko Nanto (07/02/2019)

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 140 ภาพถายแนว Chiaroscuro: มีการสรางเงาขึ้นอยางจงใจเพ่ือใหอาหารดูสวางขึ้นในทาง ตรงกันขาม คุณสามารถจินตนาการถึงอาหารรอนๆ จากลักษณะที่ดูเปลงประกายนี้ได แตสังเกต วาภาพยังคุมบริเวณท่ีสวางเหลาน้ีไดดีโดยไมมีสวนท่ีสวางจาเกินไปภาพที่มืดเกินไป: ดูมืดโดยรวม และไมมีความเปรียบตางระหวางสวนท่ีสวางกับสวนท่ีเปนเงาเลย เคล็ดลับท่ี 2: อยาปลอยใหอาหารเย็นชืดขณะจัดเตรียมฉาก ควรเตรียมการทุกอยางไวลวงหนา หลักการสาํ คัญสองขอในการถายภาพอาหาร 1. ถายภาพเมื่ออาหารทําเสร็จใหมๆ จากครัว อาหารจะดูนารับประทานนอยลงหากคุณปลอยทิ้ง ไวนาน 2. ทํางานดวยความรวดเร็ว ถายภาพอาหารขณะยังรอนๆ และถายภาพอาหารที่เย็นกอนจะ ละลายหากคุณตองการใหภาพถายออกมาดูนารับประทาน สิ่งสําคัญท่ีสุดคือถายภาพเม่ืออาหาร ทาํ เสร็จใหมๆจากครัว เตรียมการทุกอยางใหพรอมมากท่ีสุดกอนทาํ อาหารเสร็จ เน่ืองจากคุณตองปรับมุมของแสงอยางละเอียดตามความจําเปน คุณจึงอาจใชเวลาสักพัก กวาจะจัดฉากและอุปกรณทั้งหมดใหเขาที่เขาทาง เตรียมการทุกอยางใหเรียบรอยมากที่สุดกอน อาหารพรอม หรือแมแตกอนที่คุณจะเริ่มเตรียมอาหาร สิ่งสําคัญคือดูใหแนใจวาเมื่อนําอาหาร ออกมาจากครัวและวางบนโตะแลว การถายภาพจะดาํ เนินไปอยางราบรื่นที่สุด ขั้นตอนการถายภาพ 1. ขณะจัดเตรียมฉาก ควรตัดสินใจเลือกแบ็คกราวด จานและชอนสอม สไตล และการจัดแสงไว ใ ห พ ร อ ม 2. ท ด ส อ บ ถ า ย ภ า พ จ า น ที ่ว า ง ใ น ตํ า แ ห น ง ต า ง ๆ ( โ ด ย ไ ม ม ีอ า ห า ร ) 3. เลือกระยะและมุมถายภาพ ทางยาวโฟกัสของเลนส การตั้งคากลอง และเทคนิคการจัด องคประกอบภาพ (เชน หากคุณตั้งใจจะใชกฎสามสวน) หากทาํ ตามข้ันตอนไดสมบูรณแบบ ส่ิงเดียวที่คุณตองทาํ หลังจากน้ันคือวางอาหารแลวล่ันชัตเตอร เคล็ดลับพิเศษ: การใชขาต้ังกลองก็ชวยไดมาก เพราะจะทําใหกลองนิ่งอยูกับที่เม่ือคุณเปลี่ยนคา การรับแสง รูรับแสง หรือจุดโฟกัสระหวางที่กําลังถายภาพ อาหารชนิดใดก็ตามที่มีรสชาเขียวมักไดรับการจัดวางเขากับองคประกอบแบบญี่ปุน ดั้งเดิม แตในภาพนี้ ตัดสินใจใชการออกแบบ \"สไตลตะวันตก\" การผสมผสานระหวางกลิ่นอาย แบบตะวันออกกับตะวันตกสามารถสรางความหรูหราสงางามไดเปนอยางดี ในภาพนี้ นอกจากจะ สรางจังหวะและเลยเอาตท่ีสวยงามแลว ฉันยังตองการขับเนนรายละเอียดพื้นผิวของไอศกรีมโคน เพ่ือใหม่ันใจวาการเปลี่ยนผานระหวางบริเวณแสงกับเงาจะราบร่ืนและคอยเปนคอยไปอีกดวย ซึ่ง จําเปนตองปรับแตงรายละเอียดตางๆ อยางพิถีพิถันในระหวางการทดลองถายภาพ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 141 ภาพที่ 119 : การใชขาต้ังกลองชวยใหกลองนิ่งอยูกับท่ีระหวางการเตรียมการ ทม่ี า : Reiko Nanto (07/02/2019) ในระหวางทดลองถายภาพ ไมเพียงแตปรับมุมของแสงและตาํ แหนงของรีเฟลกเตอรสีดํา เทาน้ัน แตยังเปล่ียนตําแหนงและเลยเอาตของไอศกรีมโคนดวย การใชขาตั้งกลองชวยใหกลองน่ิง อยูกับที่ระหวางการเตรียมการอันยาวนาน จากนั้นจึงตักไอศกรีมขึ้นมาหลังจากเตรียมทุกอยาง พรอมแลว เคล็ดลับที่ 3: อาหารจะดูนารับประทานยิ่งขึ้นหากคุณจับภาพความมันเปนประกายได พอเหมาะพอดี ส่ิงสาํ คัญคือการจับภาพสวนที่สวาง หากทุกอยางลงตัว ซุปและอาหารตางๆ ที่ใสซอสและน้ําเกรวี่จะดู “ชุมฉํ่ามากขึ้น” และนา รับประทานยิ่งขึ้น

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 142 1. มุมของแสงเปนส่ิงสาํ คัญ ควรเลือกใชแสงดานขางหรือแสงยอนคร่ึงหนึ่ง จากน้ันถายภาพจาก มุมทแยงดานบนตัวแบบ 2. ความมันของอาหารจึงควรมีสัดสวนไมเกินยี่สิบหรือสามสิบเปอรเซ็นต หากมีสวนที่มันมาก เกินไปอาหารจะดูสวางจามาก หรือหากนอยเกินไปอาหารก็จะดูไมนารับประทาน ภาพที่ 120 : EOS 5D Mark II/ EF100mm f/2.8L Macro IS USM/ FL: 100 มม./ Manual exposure (f/6.3, 1/40 วินาที, EV±0)/ ISO 400/ WB: แสงแดด ท่ีมา : Reiko Nanto (07/02/2019) ในภาพน้ี พยายามไมเปดรูรับแสงมากเกินไป เนื่องจากเอฟเฟกตนอกโฟกัสที่เดนชัดเกินไปอาจบด บังรายละเอียดตางๆ ในสวนที่สวางและบนถวยชาม

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 143 เทคนิคพน้ื ฐานสาํ หรบั การถายภาพผลิตภณั ฑ Teppei Kohno (2017) กลาววา เมื่อจําหนายสินคาทางออนไลน ภาพถายผลิตภัณฑ สามารถสรางความแตกตางตอการตัดสินใจซ้ือผลิตภัณฑของผูท่ีคาดวาจะเปนลูกคาได ดังนั้น การ เก็บรายละเอียดคุณลักษณะและสภาพภายนอกของสินคาไดเหมือนจริงจึงมีความสําคัญอยางย่ิง ส่ิงสาํ คัญที่คุณควรรูกอนจะลงมือถายภาพไดแก ทางยาวโฟกัสและรูรับแสงของเลนส รวมถึงการ ใชแสง ในบทความนี้ เราจะอธิบายเพิ่มเติมเก่ียวกับวิธีการถายภาพสินคาใหดูสวยงาม โดยใชภาพ ตัวอยางท่ีถายดวยกลอง EOS 750D คูกับเลนส EF-S18-55mm f/3.5-5.6 IS STM ภาพที่ 121 : EOS 750D/ EF-S18-55mm f/3.5-5.6 IS STM/ FL: 55 มม. (เทียบเทากับ 88 มม.)/ Aperture- piority AE (f/11, 1/60 วินาที, EV+1.3)/ ISO 400/ WB: อัตโนมัติ ที่มา : Teppei Kohno (15/06/2017) ถายทอดรูปทรงของสินคาไดอยางสมจริงดวยการโฟกัสของทั้งช้ินอยางคมชัด ภาพท่ี 2 : ขัน้ ตอนการถายภาพ ที่มา : Teppei Kohno (15/06/2017)

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 144 *ข้ันตอนการถายภาพ A: ใชทางยาวโฟกัสเทเลโฟโตระยะกลาง B: ปรับรูรับแสงใหแคบลง C: ใชแสงธรรมชาติที่สองผานมานหนาตาง เมื่อถายภาพผลิตภัณฑ ควรคํานึงถึงประเด็นสาํ คัญ 3 ขอ เพื่อที่จะเก็บภาพรูปทรงและ รายละเอียดไดอยางแมนยาํ ประการแรก ถายภาพโดยใชทางยาวโฟกัสเทเลโฟโตระยะกลาง หาก คุณถายภาพในระยะมุมกวาง ภาพผลิตภัณฑที่ไดจะดูบิดเบี้ยว และคุณจะไมสามารถเก็บภาพ รูปทรงไดอยางแมนยํา ใหลองใชทางยาวโฟกัสที่เทเลโฟโตระยะกลางท่ีประมาณ 80 ถึง 90 มม. (เทียบเทากับฟอรแมตฟลม 35 มม.) ประการที่สอง ปรับคารูรับแสง เพื่อถายทอดรายละเอียด ของผลิตภัณฑไดอยางเหมาะสม จําเปนตองปรับรูรับแสงใหแคบลงถึงคาประมาณ f/11 และ โฟกัสไปท่ีตัวผลิตภัณฑทั้งหมด ประการสุดทาย ระวังเรื่องการใชแสง หากคุณใชแสงธรรมชาติท่ี สองผานมานหนาตาง แสงที่อยูโดยรอบผลิตภัณฑท้ังหมดจะชวยใหคุณเก็บภาพพื้นผิวไดอยางเปน ธรรมชาติใกลเคียงกับความเปนจริง หลีกเลี่ยงการใชแฟลชติดกลองหากเปนฉากมืดในที่รม เนื่องจากจะทาํ ใหเกิดเงาชัดเจนและสงผลใหรายละเอียดของผลิตภัณฑขาดความคมชัด เคล็ดลับที่ 1: ใชทางยาวโฟกัสในเทเลโฟโตระยะกลางเพื่อถายรูปทรงของสินคาไดเหมือนจริง หากตองการเก็บภาพรูปทรงของผลิตภัณฑไดอยางสมจริง ใหต้ังทางยาวโฟกัสท่ีเทเลโฟโต ระยะกลาง แลวลองถายภาพจากตําแหนงที่หางออกมาเล็กนอย หากคุณถายภาพผลิตภัณฑใน ระยะใกลโดยใชระยะมุมกวาง ขนาดดานหนาและหลังของผลิตภัณฑจะเปลี่ยนแปลงไป ทําให รูปทรงของผลิตภัณฑดูแตกตางจากความเปนจริงอยางเห็นไดชัด ตัวอยางท่ีดี: ภาพถายไมบิดเบี้ยวเม่ือถายที่เทเลโฟโตระยะกลาง หากถายภาพที่เทเลโฟโตระยะกลางท่ี 88 มม. (เทียบเทากับฟอรแมตฟลม 35 มม.) และ ที่ระยะมุมกวางที่ 38 มม. (เทียบเทากับฟอรแมตฟลม 35 มม.) คุณจะเห็นวารูปทรงของ ผลิตภัณฑแตกตางกันอยางเห็นไดชัด ตรงกันขามกับการถายภาพที่ระยะมุมกวาง ซึ่งภาพจะเกิด ความบิดเบี้ยวอยางชัดเจน หากถายภาพที่เทเลโฟโตระยะกลาง ภาพจะมีความบิดเบ้ียวนอยมาก จึงถายทอดรูปทรงของผลิตภัณฑออกมาไดอยางถูกตองสมจริง เคล็ดลับที่ 2: ปรับรูรับแสงใหแคบลง และโฟกัสที่ตัวผลิตภัณฑท้ังชิ้น หากระยะที่ปรากฏในโฟกัสคอนขางแคบ เราจะถายภาพผลิตภัณฑทั้งหมดไดไมชัดเจน นัก และคุณจะไมสามารถถายทอดรายละเอียดของผลิตภัณฑได ทางที่ดีจึงควรปรับรูรับแสงให แคบลงถึงคา f/11 เพื่อถายภาพ โปรดจาํ ไววาย่ิงใชทางยาวโฟกัสยาวขึ้นเทาใด ภาพจะมีระยะชัด ตื้นขึ้นเทานั้น ดังนั้น ในการถายภาพผลิตภัณฑ ซึ่งมักใชทางยาวโฟกัสในระยะเทเลโฟโตอยู บอยคร้ัง อาจจาํ เปนตองปรับรูรับแสงใหแคบลงถึงคา f/16 ในบางกรณี

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 145 ตัวอยางท่ีดี: ผลิตภัณฑท้ังสองช้ินอยูในโฟกัสเมื่อปรับรูรับแสงใหแคบลงถึงคา f/16 ภาพที่ 122 : EOS 750D/ EF-S18-55mm f/3.5-5.6 IS STM/ FL: 55 มม. (เทียบเทากับ 88 มม.)/ Aperture- priority AE (f/16, 1/15 วินาที, EV+1)/ ISO 400/ WB: อัตโนมัติ ที่มา : Teppei Kohno (15/06/2017) ในภาพน้ี ผลิตภัณฑช้ินแรกจัดวางอยูหนาผลิตภัณฑชิ้นที่สอง เมื่อใชคา f/5.6 ตัวอักษรที่ อยูบนขวดดานหลังจะเบลอ หากคุณตองการใหผลิตภัณฑทั้งดานหนาและหลังดูคมชัดในภาพ เรา ขอแนะนําใหปรับรูรับแสงใหแคบถึงประมาณ f/16 เคล็ดลับท่ี 3: ถายโดยใชแสงธรรมชาติท่ีสองผานหนาตาง เราขอแนะนําใหใชแสงจากธรรมชาติที่สองผานหนาตางเปนแหลงกาํ เนิดแสง หากคุณมี ผามานลูกไม แสงจะกระจายออก ซึ่งคุณจะสามารถถายทอดพื้นผิวที่นุมนวลของผลิตภัณฑได เมื่อใชแฟลชติดกลองอาจทําใหเกิดเงาชัดเจนขึ้น ซึ่งสงผลใหภาพท่ีไดดูไมเปนธรรมชาติ เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑที่ถายโดยใชแสงจากธรรมชาติ แสงจะกระจายท่ัวทั้งผลิตภัณฑอยางทั่วถึง จึงถายทอดลักษณะของพื้นผิวและรายละเอียดไดอยางคมชัด เทคนิคเพ่ิมเติม เตรียมขาตั้งกลองและกระดาษเกลี่ยแสงไวใหพรอมสาํ หรับถายภาพผลิตภัณฑ ขาต้ังกลองเปนเคร่ืองมือท่ีเปนประโยชนสาํ หรับถายภาพผลิตภัณฑ เน่ืองจากชวยใหการถายภาพ ในแนวนอนและแนวต้ังสะดวกงายดายขึ้น อีกทั้งคุณยังสามารถหลีกเลี่ยงปญหากลองสั่นแมจะใช ความเร็วชัตเตอรต่ํา จึงไมจําเปนตองเพิ่มความไวแสง ISO เมื่อถายภาพโดยใชรูรับแสงแคบ นอกจากนี้ หากคุณเตรียมกระดาษเกลี่ยแสงไวเปนแบ็คกราวด คุณจะไดภาพสวยราวกับถายใน สตูดิโอ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 146 ภาพที่ 123 : ยึดกลองเขากับขาต้ังกลอง ท่ีมา : Teppei Kohno (15/06/2017) ยึดกลองเขากับขาตั้งกลอง จากนั้นตรวจดูตัวแบบของคุณใน Live View พรอมกับจัด องคประกอบภาพ เนื่องจากคุณสามารถแกไของคประกอบภาพไดทันทีที่ตั้งคาเรียบรอยแลว ดังน้ัน จึงสามารถปรับแตงการวางแนวหรือตําแหนงของผลิตภัณฑได ภาพที่ 124 : ใชกระดาษเกล่ียแสงหรือกระดาษที่คลายคลึงกันเปนแบ็คกราวด ที่มา : Teppei Kohno (15/06/2017) เมื่อใชกระดาษเกลี่ยแสงหรือกระดาษที่คลายคลึงกันเปนแบ็คกราวด คุณจะไดภาพที่ทําให ผลิตภัณฑดูโดดเดนเตะตาราวกับถายโดยชางภาพมืออาชีพ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 147 เทคนิคการถา ยภาพสนิ คา กบั 10 อยางท่ีตอ งลองกอ นลงมอื ถายภาพ 1. ลองแขวนสินคา เพื่อเปล่ียนอารมณของภาพ ในการถายภาพบางครั้ง เพ่ือเปลี่ยน หรือ เพิ่ม ความรูสึกของภาพ ใหมีอารมณมากยิ่งข้ึน อาจจะถายภาพโดยการแขวนกลับทิศทาง หรือ แขวน รองเทาในตํา่ แหนง ท่ีไมอยูในสภาวะปกติ ของสนิ คาน้ันๆ ภาพที่ 125 : แขวนรองเทา ในตําแหนงทไี่ มอยใู นสภาวะปกติ ท่มี า : Tana Hornor 2. ลองถา ยภาพสินคา ในมมุ ทีแ่ ตกตางออกไป เพ่อื เพ่ิมความนา สนใจ โดยปกติ เราจะถายภาพสนิ คาในระดับสายตาท่ีเรามองเห็นอยเู ปนประจาํ รูสึกคุนเคย และ รูสึกวาสินคาน้ีควรท่ีจะเปนแบบน้ี เพราะฉะน้ันลองเปล่ียนการถายภาพโดยการเปลี่ยนมุมของการ ถายภาพออกไป เชน ถายจากมุมที่รูส กึ วาแปลกใหม ไมคอยชินตา ภาพท่ีไมคุนเคย ก็สามารถดึงดูด ความสนใจของลูกคาไดเ ปนอยางดี ภาพที่ 126 : ถา ยภาพโดยการเปลย่ี นมุมของการถายภาพออกไป ที่มา : Tana Hornor

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 148 3. ลองถา ยภาพแบบมาโคร เพอ่ื เกบ็ รายละเอยี ดของสินคา รายละเอียดของสินคา เปนเรอื่ งสําคัญครบั บางคร้ังการที่ภาพเกบ็ รายละเอียดของสินคา จะ เพมิ่ มูลคาของสนิ คาได เพราะการถา ยภาพรายละเอียดของสนิ คา เปรยี บเสมอื น การถายทอดสิง่ ทเี่ ปน มากกวาแคตัวสินคา อยางเส้ือผา เราสามารถถายทอดกระดุมที่เราคัดสรรคมากเปน อยางดีได ดวย การถายภาพรายละเอียดของสนิ คาออกมา ภาพท่ี 127 : ถา ยภาพแบบมาโคร ท่มี า : Tana Hornor 4. ลองถา ยภาพสนิ คา ในการใชง านทแี่ ตกตา งออกไป หรอื แปลกใหม ภาพถายการใชงานของสนิ คา จะทําใหล ูกคาเขาใจในตัวสินคานั้นไดงายยิ่งข้ึน การถายภาพ การใชงานเราสามารถเพ่มิ เติมความนาสนใจที่แปลกใหม เพ่มิ เพิ่มสสี ัน ความนาสนใจ ไดเปน อยา งดี ภาพท่ี 128 : ภาพถา ยการใชงานของสินคา ที่มา : Tana Hornor

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 149 5. ลองเพิม่ ความมหศั จรรย ดวย โปรแกรมแตง ภาพ ในบางครงั้ ถาเราไมส ามารถถายส่ิงท่ีแปลกใหมไ ดดวยตัวเรา ลองมองหาไอเดยี จากการแตง ภาพ เพ่อื ชว ยเพม่ิ ความนา สนใจยิ่งข้นึ ปลดปลอ ยไอเดียตางๆ แลว ใชโปรแกรมแตงภาพสานตอไอเดีย ใหเปนผลสาํ เร็จ เพ่ือทีจ่ ะใหภาพทีด่ มู ีเอกลกั ษณ และ สอ่ื สารออกมาไดอยา งทเี่ ราคิดไว ภาพท่ี 129 : .ใชโปรแกรมแตง ภาพ ที่มา : Tana Hornor 6. ลองเลือกบรรยากาศ หรอื ฉากหลงั ทเ่ี ตมิ เตม็ ความรสู กึ ของสนิ คาน้ันๆ ลองเลอื กบรรยากาศ พ้นื หลงั ฉากหลงั ทท่ี ําใหสนิ คา นน้ั โดดเดน มากยิ่งขึ้น ภาพท่ี 130 : เลอื กสรางบรรยากาศ พนื้ หลัง ท่มี า : Tana Hornor

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 150 7. ลองไมจบั โฟกสั ท่ตี วั สนิ คา โฟกัสท่ีพ้ืนหลัง แทนท่ี โฟกัสท่ีตัวสินคา โดยอาจจะวางสินคาของเราไวดานหนาแตไมจับ โฟกัส เพอ่ื ใหภาพมีความนาสนใจ มพี ื้นท่ใี หล กู คาไดปลดปลอ ยจนิ ตนาการเอง ภาพที่ 131 : ถา ยโฟกัสท่ีพน้ื หลัง แทนท่ี โฟกสั ทตี่ ัวสินคา ทีม่ า : Tana Hornor 8. ลองทาํ เงาสะทอ น เพือ่ เพม่ิ ความลึกลับของภาพ ลองถายภาพโดยการทําเงาสะทอนของสินคา ลงบนพ้ืน เพ่ือเพิ่มความลกึ ลบั ความนาสนใจ ของตัวสินคานั้นๆ อาจจะลองทํากับพ้ืนน้ํา พ้ืนเงาตางๆ แลวจะไดภาพท่ีนามหศั จรรยกวา รูปสินคา ท่ัวๆไป ภาพที่ 132 : ใสเงาสะทอ น เพ่ือเพิ่มความลกึ ลับของภาพ ทมี่ า : Tana Hornor

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 151 9.ลองจดั พนื้ ที่ในการวางสินคา จัดพ้ืนที่ในการวางสนิ คาเปน สง่ิ สําคญั เพ่ือเพ่ิมจุดสนใจ และ เพ่ืออารมณของสนิ คาน้ันๆ ได เปนอยางดี ลองมองหาที่วางส่ิงคาที่ดึงดดู ความสดใจ หรือลองหาทว่ี างสินคา ทส่ี ามารถเพื่อความรูสึก ตื่นเตน ใหกับภาพได ภาพท่ี 133 : จดั พ้ืนทใ่ี นการวางสนิ คา เปนสง่ิ สําคัญเพ่ือเพิม่ จดุ สนใจ ท่ีมา : Tana Hornor 10. ลองใสความเปน ตัวเองลงไปการถา ยภาพไมมีคําวาถกู หรอื ผดิ ลองใสความเปนเรา เราคือเรา สินคาของเรา ลองถายภาพสินค าแบ บ เ ร า ภาพที่ 134: ลองถายโดยใสความเปน ตวั เองลงไป ท่ีมา : Tana Hornor

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 152 การถา ยภาพบุคคล การถายภาพเด่ยี วบคุ คล จุดประสงคในการถายภาพเด่ียวบุคคล คือตองการเนนบุคลิกภาพของบุคคลนั้นใหเดนชัด ดังนน้ั จึงตอ งจัดองคประกอบใหภาพผูเปนแบบดูเดน กวาองคป ระกอบอนื่ ๆ ในภาพ นอกจากน้เี พ่ือลด ความเคอะเขินของตัวแบบอาจใหตัวแบบทําบางส่งิ บางอยา ง เชน ใหถือของบางอยา ง ท่สี ามารถ บอก ลักษณะของบคุ คลได พยามถายภาพบคุ คลใหสมั พันธกบั กจิ กรรมที่เขาทาํ อยู เชน เด็กกําลังขีจ่ ักรยาน ผูหญงิ กาํ ลงั จัดดอกไม ชายชรากบั งานของเขา ภาพที่ 134: การเลอื กใชเลนส ที่มา : Tana Hornor การถา ยภาพ Portrait 1.โฟกัสทดี่ วงตาแววตาของตัวแบบ ถือเปนองคประกอบทีส่ ําคัญที่สดุ ในการชมภาพ Portrait เพราะเราจะมองไปท่ีแววตากอน ชางภาพ บางคนทําพลาดไมไ ดโฟกัสไปทด่ี วงตาของตวั แบบ แววตาของตัวแบบตองคมกริบ ดังน้ันในการถา ย ตองวัดแสงกอนหากตัวแบบหรือวัตถุอยูกลางภาพก็ใชโหมดวัดแสงเฉลี่ยหนักกลาง(Center Weighted Metering) กดชัตเตอรลงคร่ึงนึงเพ่ือใหโฟกสั และวัดแสง เม่อื วัดแสงไดค อยลอ็ ค AE หรือ ลอ็ คคา แสงไวกอ น และถอยไปจัดองคป ระกอบภาพแลว คอยถาย สวนการโฟกสั ใหเลือกจุดโฟกสั ไปที่ ตาของตัวแบบอยา ลืมเร่ืองการส่ืออารมณของตัวแบบดวยละ เพราะหากตัวแบบไมไ ดมีอารมณทจ่ี ะ ถายภาพ กไ็ มสามารถสื่ออารมณไ ปถึงคนดูได

153 ภาพท่ี 135 : โฟกัสทีด่ วงตา ทม่ี า : by Valery 2. ความชดั ลึกของภาพ เทคนิคหนึ่งท่ีจะชวยใหภาพ Portrait สวยงาม คือภาพตองมีความชัดต้ืนหรือที่เรียกวา Bokeh ฉากหนาชัดในขณะที่ฉากหลังเบลอ เปนเคล็ดลับงายๆ เพ่ือทําใหตัวแบบท่ีจะถายโดดเดน ข้ึนมาจากกลุมคนและละลายฉากหลังท่ีไมจ ําเปน ออกการถาย Bokeh ใหสวยงามน้ัน ใหเลือกต้ังคา รรู บั แสง Aperture Priority หรอื โหมดการตัง้ คา รรู ับ 3. เลนส มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 154 ชางภาพหลายคนมักใหความสําคัญกับเลนสมาก เพราะเปนตัวชวยสําคัญที่จะทําใหภาพ ออกมาสวยงาม ส่งิ หน่งึ ทต่ี อ งคํานึงคอื ทางยาวโฟกสั ของเลนสแตละตัว ในการถา ย Portrait ใหเ ลือก ตั้งแต 50mm-200mm ระยะนิยมคือ 50 mm กับ 85 mm เพราะ Perspective ของภาพจะไม ผิดเพย้ี น เลนสต ัวอนื่ ก็ถายไดแ ตก็ตอ งระวงั หากเลือกถายทรี่ ะยะ 17 mm อาจจะกวา งเกินไป จนทาํ ใหใบหนาของตัวแบบผิดรปู ไป และถาเลือกใชเลนส 300mm ซึ่งเปนเลนส telephoto ท่ีถายซูมได ไกลมาก เลนสจะบีบองคประกอบ รวมท้ังใบหนาของตัวแบบใหเขามาใกล ทําใหภาพดูไมเปน ธรรมชาติอีกปจจัยหน่ึงที่ควรคํานึงคือรูรับแสงขนาดใหญ ชวยละลายฉากหลังทําใหไดภาพหนาชัด หลงั เบลอ อยา ง f1.4 และ f1.8 หรือแมกระทง่ั f1.2 เลนสถ ายภาพดี ๆ ชวยใหไ ดแสงและความชดั ลึก ของภาพแตกตา งกันออกไป ซง่ึ ขนึ้ อยูกบั งบประมาณในการเลือกซือ้ เลนสของแตล ะคนดวย ภาพท่ี 137 : การเลือกใชเลนส ทมี่ า : by Voronin76

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 155 4. แสง ภาพถาย Portrait จะดดู ที ่ีสุดดวยแสงจากธรรมชาติ หลักงา ยๆ คือตองรูว า เวลาไหนควรถา ย หรือไมควรถาย ใหหลีกเลย่ี งถายชวงเวลากลางวันท่ีแดดจา เพราะจะทาํ ใหเ กิดเงาขนาดใหญข้นึ บน ใบหนา แตห ากเล่ียงไมไดก ็มีวิธีแกไ ขได (อานบทความ เคล็ดลับถา ยภาพกบั 5 สภาพแสงสุดทา ทาย) สวนชวงเวลาที่ดีท่ีสุดคือ Golden hour กอนดวงอาทิตยข้ึนและดวงอาทิตยตก เพราะแสงจะดู นมุ นวลและมแี สงสีทองเรืองรอง นอกจากถายขางนอกแลวการถา ยในสตูดโิ อก็สามารถควบคมุ แสงไฟ ไดด ว ยตนเอง สวน White balance การต้งั คาโทนสีของภาพก็ข้นึ อยูก ับสภาพแสงในตอนนั้น ถาไมได ออกไปถายภาพขางนอกและเปนแสงไฟปกติในบาน ใหตั้งคาเปน Incandescent ถาจําเปนตองใช แฟลชดว ยกใ็ หเ ปล่ยี นไปตงั้ คา Flash แตถา สภาพแสงแตละที่ในภาพไมเ ทากนั ใหใช custom ซ่งึ เปน การตั้งคา เองแตก็อาจจะเสยี เวลาหนอ ย ภาพท่ี 138 : แสงจากธรรมชาติ ทม่ี า : Yuliya Yafimik

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 156 5. องคป ระกอบของภาพ ในการถาย Portrait จะเห็นไดวามีการถายหลายรูปแบบ ถายบุคคลพรอมวิวทิวทัศนหรือ ถายเจาะเฉพาะตัวแบบ เพ่ือใหเดนทหี่ นาหรอื ถายครง่ึ ตัวกไ็ ดเหมอื นกัน โดยพ้ืนฐานแลว เทคนิคการ จดั องคป ระกอบในการถาย Portrait ใหดูนาสนใจ ใหใ ชก ฎสามสวนและจุดตัดเกาชอ ง ตัวแบบจะอยู ตรงกลางจุดนําสายตา ซง่ึ ทาํ ใหภาพดูนา สนใจ แตบางทีการจัดองคป ระกอบของภาพก็ข้ึนอยูก บั ผถู า ย ดว ยวาตองการภาพแบบไหน 6. เปล่ียนมุมมองของภาพบา ง การเปลี่ยนรปู แบบของภาพทําใหภ าพสวยไปอกี แบบเหมือนกนั ชางภาพทว่ั ไปจะถายโดยตั้ง คา กลองเปน Portrait หรอื ถายในแนวต้ัง วธิ ีทดี่ แี ละงา ยทส่ี ดุ ในการเปล่ยี น Perspective หรอื มุมมอง ของภาพใหตางออกไป คอื การลองถา ยดว ยโหมด Landscape หรือแนวนอน ภาพท่ี 140 : เปล่ยี นมุมมองของภาพ ท่มี า : by ISchmidt

157 การตัง้ คากลองเบื้องตนสําหรบั ถา ยภาพบคุ คล การตง้ั คากลอ งเบ้ืองตน สําหรับถา ยภาพบคุ คล สําหรบั ถา ยภาพตาไดคมชดั สิ่งที่ภาพบุคคลใชส่ือสารความรูสึกกับคนดูได ก็คงหนีไมพนสายตาของตัวแบบ ซ่ึง หมายความวาดวงตาก็ตอ งคม ไมว าจะมหี ลายคนอยใู นภาพกต็ าม ภาพที่ 8 : การโพส ที่มา : kobryn mikita ภาพที่ 141 : การต้งั คา กลองเบอ้ื งตนสาํ หรบั ถายภาพบคุ คล,Canon EOS 6D, 50.0mm, f/1.8s, 1/125s, ISO 250 ท่ีมา : Photographylife ในการเริ่มตน ใหเ ราเลือกใชโฟกัสแบบจดุ เดียว และใหโฟกัสไปทีด่ วงตาที่ใกลก ลองทส่ี ุด และ ใหล็อคโฟกัสพรอมจัดองคประกอบเล็กนอย เพ่ือใหไดภาพถายท่ีสมบูรณแบบมากข้ึน นอกจากน้ี หลงั จากท่ที ําการถา ยภาพแลว ใหตรวจสอบความคมชัดของดวงตาทกุ ครั้งวา โฟกัสเขาไหม โดยเฉพาะ คนที่ใชเลนส F1.4,F1.8 โอกาสท่จี ะหลดุ โฟกัสจะมีบอ ย ๆ หรือหากใครใชกลองท่ีมีฟงกช่ันพวก Eye Focus Tracking ตรงนัน้ จะโดดเดนมากสําหรับคนทีถ่ า ยภาพบุคคล เพราะมนั จะหาดวงตาใหเลย มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 158 โหมดกําหนดความไวชัตเตอรเอง ในโหมดความไวชัตเตอรเอง (กํากับดวยตัวอักษร ‘Tv’ บนแปนเลือกโหมด) คุณจะ สามารถแกไขคา ISO และความไวชัตเตอรเพื่อถายภาพวัตถุท่ีเคลื่อนที่อยางรวดเร็วแบบชัดเจน หรือทําใหวัตถุดูพรามัว ขึ้นอยูกับวาคุณชอบภาพแบบไหน ภาพทางซายมือถายโดยใชความไวชัตเตอร 1/15 ภาพถายที่ไดจึงพรามัวอยางมาก สวนภาพทาง ขวามือถายดวยความไวชัตเตอร 1/60 ภาพถายจึงพรามัวนอยกวากัน ภาพที่ 144 : (L) EOS 6D, เลนส EF24-105 มม. f/4L IS USM, f/22.0, 35 มม., 1/15 วินาที, ISO 100 (R) EOS 6D, เลนส EF24-105 มม. f/4L IS USM, f/11.0, 35 มม., 1/125 วินาที, ISO 100 อีกโหมดหน่ึงท่ีคุณสามารถปรับไดทั้งคารูรับแสงและ ISO ก็คือ โหมดกาํ หนดรูรับแสงเอง (กาํ กับดวยตัวอักษร ‘Tv’ บนแปนเลือกโหมด) ส่ิงแรกที่คุณจะเห็นความแตกตางในขณะปรับรูรับ แสงก็คือ ระยะชัดลึกของภาพ การปรับขนาดของรูรับแสงมีประโยชนมากหากคุณอยากใหผูชมเบนความสนใจมาที่วัตถุ อยางใดอยางหนึ่งในภาพ และทําใหวัตถุชิ้นอื่น ๆ ในฉากหลังดูพรามัว จากตัวอยางดานลาง รูปภาพทางซายมือต้ังคารูรับแสงที่ 1/16 ซึ่งกลองจะเก็บรายละเอียดของฉากหลังสวนใหญเอาไว สวนภาพทางขวามือตั้งคารูรับแสงท่ี 4.0 โดยโฟกัสเฉพาะที่ตัวผูหญิง แลวเบลอฉากหลัง ซ่ึงเหมาะ มากหากคุณตองการภาพถายที่โฟกัสที่คนใดคนหน่ึงหรือวัตถุช้ินใดชิ้นหนึ่งเทานั้น

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 159 ภาพท่ี 143 : (L) EOS 6D, เลนส EF24-105 มม. f/4L IS USM, f/16, 45 มม., 1/13 วินาที, ISO 800 (R) EOS 6D, เลนส EF24-105 มม. f/4L IS USM, f/4.0, 45 มม., 1/25 วินาที, ISO 100 การถายภาพเลา เร่อื ง Sompoch Tangthai กลาววา ในการนําเสนอภาพถาย ท้ังทางหนานิตยสาร หนังสือ นิทรรศการ หรือแมแตในโซเชียลมีเดีย ไมวาจะดวยรูปแบบใดๆ ก็ตาม ภาพที่เลาเร่ืองใหกับคนหมู มากเขาใจ เรอื่ งราวทีเ่ ปนความสนใจของคนในสังคม หรอื ทาํ ใหส าธารณะชนเกิดความประทับใจไดน นั้ มกั จะไดรบั ความสนใจมากกวาอยา งอน่ื เราคงเคยไดย ินประโยคทีว่ า “ภาพหน่ึงภาพแทนคาํ พูดไดเ ปน พนั คํา” ซ่งึ สอดคลองกับแนวคิดที่ ใชภาพถายในการเลาเรือ่ งแทนตัวหนังสือ ซ่ึงถาภาพหน่ึงภาพสามารถแทนคําพูดไดพันคํา การรอย เรยี งภาพหลายๆ ภาพอาจจะเทา กบั อานหนงั สอื หน่งึ เลม หรือหลายเลม เลยทเี ดยี วจริงไหมครับ ซ่ึงการ รอยเรยี งภาพเพือ่ เลาเรอื่ งดว ยภาพในลักษณะนน้ี ั้น เขาเรยี กกนั วา Photo Essay ในอดีตมีภาพประวัติศาสตรหลายภาพท่บี อกเลา เร่ืองราว และบันทึกเหตกุ ารณอันสําคัญไวให คนรุน หลังไดเหน็ หลายภาพในนั้นเปน ภาพท่ยี ังคงมีช่ือเสียงมาจนถงึ ทกุ วันน้ี Photo Essay กเ็ ปน แนว การถา ยภาพอีกแนวหนึง่ ท่ีพยายาม เกบ็ เหตกุ ารณสาํ คัญ และเร่อื งราวที่สมบรู ณเ อาไวในภาพชุดหนึ่ง ภาพท่ีถายมาทั้งหมดตองสามารถบอกเลาเรอ่ื งราวที่ตอเน่อื งกัน หรือมีการเลา เรื่องราวประกอบกัน จนเปนเรื่องราวที่สมบรู ณไ ดเ มือ่ ดภู าพจนครบทุกภาพในชุดนนั้ ๆ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 160 ภาพที่ 145 : ภาพเลาเร่อื ง1 ท่มี า : Sompoch Tangthai Photo Essay เปนแนวภาพท่ีมุงเนนการเลาเร่ืองดวยภาพเปนสําคัญ แตไมใชในรูปแบบของ How to เชน ภาพแสดงวิธีการประกอบโมเดล การประดิษฐส่งิ ของ หรือคูมือประกอบอาหาร แตจะ เปน ลักษณะของภาพชุดทีค่ ดั เอาเฉพาะภาพทไ่ี มซ ํ้ามมุ กันมาจัดเรยี งไวด ว ยกันเพ่ือเลา เรอ่ื งราวโดยรวม ของสิ่งท่ีเราตองการจะส่ือ ภาพท้ังชุดจึงประกอบไปดวยภาพท่ีหลากหลาย ในภาพที่หลากหลายนี้ อาจจะมภี าพทไี่ มจําเปนตองสวยงามมากนกั แตก ส็ ามารถนํามาใชป ระกอบเพ่อื ใหก ารเลาเร่ืองมีความ ตอ เนื่องได โดยท่ัวไป จะมีการเขาใจวา Photo Essay มีลักษณะที่เปนแบบภาพสารคดี (Documentary) ซึ่งก็มีสวนถูกอยูบาง เพราะ Photo Essay นั้นเราสามารถใชเทคนิคการถายภาพแบบเดียวกับการ ถา ยภาพสารคดไี ด แตความแตกตา งนั้นอยูทภ่ี าพสารคดมี กั จะใชประกอบกันกบั บทความของนกั เขยี น ในการเลาเร่ือง แต Photo Essay จะเนนไปที่การใชภาพเลาเร่ืองมากกวาตัวอักษรซ่ึงไมไดจํากัดวา แนวภาพจะเปนแนวภาพสารคดีเทานั้นถาเร่ืองราวท่ีมีอยูแลวเพ่ือรอการคนพบ (Found) น้ันเปน หัวใจของงานภาพถา ยสารคดเี รอื่ งราวท่ีถูกเรยี งรอ ยขึ้นผา นสายตาของศลิ ปน (Fabricated) ก็นบั เปน หวั ใจของ Photo Essay นั่นเอง การเลา เรือ่ งดวยภาพนั้นจะเหมาะมากสาํ หรบั ภาพแนวขา วซง่ึ ภาพแนว Photo Essay กจ็ ะตอ ง อาศัยทักษะแบบเดียวกัน การคาดเดาเร่ืองราวลวงหนา วาตอไปอะไรจะเกิดขึ้นและรอจงั หวะท่จี ะ บนั ทกึ ภาพนนั้ เพอ่ื นาํ มาเรียงรอ ยเร่ืองราวได เพอ่ื ใหไดเ รื่องราวท่ีสมบรู ณ หรือเกอื บสมบรู ณท ส่ี ุด

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 161 สําหรับการถายภาพเพ่ือทําเปน Photo Essay เราอาจจะตั้งหัวขอขึ้นมากอนก็ไดโดยอาจจะ กําหนดสถานทีล่ งไปดวยหรอื ไมก แ็ ลวแตอ นั นขี้ ้ึนอยูกับหวั ขอ ของเราจะเปนเรื่องอะไรจากนั้นก็ออกไป ถา ยภาพ แลวนาํ กลบั มาคัดเลอื กสกั 6-12 ภาพ (เร่อื งจาํ นวนภาพไมไดก ําหนดตายตัววาแตละชุดควร จะมีเทา ไหร ถาเลาเร่ืองราวไดจบสมบรูณก็พอแลว ) Photo Essay ก็เปนแนวการถายภาพอีกแนวหน่ึงที่ตากลอ งทุกคนควรจะศึกษาไว น่ันคือการ พยายามเกบ็ เหตุการณส าํ คัญ และเรอ่ื งราวทส่ี มบูรณเ อาไวใ นภาพ 1 ภาพ หรอื หลายภาพมาประกอบ กัน พรอมกับคาํ อธิบายสั้นๆเพยี ง 1-2 บรรทดั ถา หากเรามีแนวทางการถายภาพแบบ Photo Essay เอาไวในใจ ภาพถายของเราจะพิเศษกวาของคนอ่ืนๆ ภาพของเราจะมีเร่ืองราวของเหตุการณหรือ สถานท่ีนั้นๆ คอนขางสมบูรณโดยทบ่ี างคร้งั การจัดชุดภาพถายเพอ่ื เลาเรอ่ื งใดเรอ่ื งหนึ่ง คําบรรยาย อาจดูเหมือนวาจะเปน สวนเกนิ ดว ยซ้าํ … เทคนคิ การถายภาพเลา เร่ือง โดยใชพ ื้นหลัง บางครัง้ คณุ อาจโฟกัสทีจ่ ะจบั ภาพจงั หวะ หรือตัวแบบ จนลืมทจี่ ะสนใจไปวาพ้นื หลังในภาพ ของคุณจะเปน อยา งไร เม่ือกลับมาดูรูปทหี ลังพบวาพื้นหลงั นัน้ ดึงดูดความสนใจไปจากตัวแบบ หรือ ไมไดเลาเรือ่ งในภาพเลย 1) คดิ วา ตวั แบบเปน ตัวละคร ส่ิงแรกท่ีอยากจะแนะนําคือการคิดวาคนในรูปของคุณเปนตัวละครตัวหนึ่ง เม่ือคุณจะ ถายภาพใครสักคนใหถามตัวเองวา “ตัวละครน้ีคือใครและพวกเขากาํ ลังทําอะไรอยู?” เม่ือคุณตอบ คําถามเหลานไ้ี ดค ณุ จะสามารถเลือกพ้นื หลงั ทดี่ ีเพ่ือชวยเลา เรอ่ื งได

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 162 ภาพท่ี 146 : ภาพเลา เร่ือง2 ท่มี า : Mat Coker 2) วิธีในการเลอื กพนื้ หลัง 1.เ ริ่ ม ต น ด ว ย ตั ว ล ะ ค ร ข อ ง คุ ณ แ ล ว เ ลื อ ก พ้ื น ห ลั ง ท่ี เ ห ม า ะ ส ม สํ า ห รั บ พ ว ก เ ข า 2.เริม่ ตนดว ยพื้นหลงั ที่ดีและมองหาตัวละครท่จี ะนํามาวางในฉากน้นั 3) การคน หาพ้ืนหลงั ท่ีเหมาะกับตวั ละคร ใหนึกถงึ คาํ ถามสองขอเพื่อถามตวั เอง “ใครเปน ตัวละครตัวนีแ้ ละพวกเขากาํ ลงั ทาํ อะไรอย?ู ” ภาพที่ 147 : ภาพเลา เรอ่ื ง2 ทม่ี า : Mat Coker

163 หากคุณตองการจะถายภาพใครสักคนในคร้ังตอไป ใหคุณหยุดและพิจารณาส่ิงรอบตัวคุณ ลองเดินดรู อบๆเพื่อหาพ้ืนหลงั ท่ีดีซ่งึ จะชวยในการเลาเรื่อง 4) คน หาตัวละคร เพ่ือใหเหมาะสมกับพนื้ หลัง อาจมีบางคร้ังท่ีคุณตองการถายภาพฉากที่นาสนใจ แตรูสึกวามีบางอยางหายไป บางทีมนั อาจจะเปนตัวละครท่คี ุณตองการอยูก็ไดนะ ดังน้ันเมื่อคุณเจอฉากที่นาสนใจใหเ ดินไปขางหนาและ ถายรูปมนั กอ น และรอใหต ัวละครเขามาในฉาก มนั อาจเปนฉากที่ดสี าํ หรบั ตวั ละครทนี่ าสนใจกไ็ ด ภาพท่ี 148 : ภาพเลา เร่อื ง4 ทมี่ า : Mat Coker มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 164 To Rise โดย Sarah Ann Loreth Sarah Ann ชางภาพผูเรียนรูดวยตนเอง ซึ่งถนัดการถายภาพบุคคลแนวคอนเซ็ป สรางสรรคภาพที่ \"สื่อถึงอารมณความรูสึกอันเงียบสงบ โดยเช่ือมโยงกับธรรมชาติรอบขาง ภาพที่ 167 : ถายภาพดวยกลอง Canon EOS 5D Mark II เลนส EF35mm f/2, f/2.5, 1/30 sec, ISO 640 ท่ีมา : Sarah Ann \"ภาพน้ีเปนเรื่องราวการปลอยวางชีวิตที่อาจจะไมเกิดคุณประโยชนตอไป ในขณะท่ีเปดโอกาสให ตนเองมีความหวังและปรับตัวกับการเริ่มตนชวงชีวิตใหม บางครั้งทางเดียวที่จะกาวตอไปคือ การปลอยวางอดีต ถึงแมวาจะเจ็บปวดสักแคไหนก็ตาม ตอนที่ถายภาพนี้ ฉันประสบกับเรื่องเครียดและชวงชีวิตที่ยากเย็นมากเปนพิเศษ ดัง นั้นเอง ภาพจึงเปนตัวแทนสันติสุขที่กาวขามมาได เพื่อเปดโอกาสที่จะปรับตัวโดยหันเหชีวิตไปสู เสนทางท่ีสุขสบายและสวางไสวมากข้ึน ภาพนี้เปนคอนเซ็ปที่ฉันนึกไวในใจเกือบหน่ึงป แตมองหาสถานท่ีที่ใชไมเจอเสียที ในฤดู ใบไมรวง ป ค.ศ. 2014 ฉันมาถึงจุดสิ้นสุดของการเดินทางทองอเมริกาเหนือ/เวิรคช็อป เปนเวลา สี่เดือน โดยหยุดพักผอนทางเหนือของนิวยอรค พอไปถึงที่นั่น ฉันสังเกตเห็นกองไฟดานหลัง พรอมขี้เถาที่หลงเหลือจากการกอแคมปไฟชวงฤดูรอนที่อบอุน ฉันลงมือจัดฉากทันที เพื่อสราง

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 165 ภาพนกฟนิกซที่ทะยานจากกองเถาถานขึ้นสูฟากฟา ฉันขอใหเพ่ือนชางภาพเปนนางแบบให ฉัน ควาบันไดมาเพ่ือสรางภาพจากมุมสูงและลงมือทาํ งานจนสาํ เร็จ! ภาพออกมาแบบที่ฉันหลับตานึก ไวเปะเลย กระบวนการบําบัดจากการสรางภาพดังกลาวชวยใหฉันรูสึกตัวเบาขึ้น และพรอมท่ีจะ กาวเดินตอไปในชีวิต\" The Catch โดย David Talley David Talley ชางภาพและนักการศึกษา พักอาศัยอยูท่ีพอรตแลนด รัฐออริกอน ผลงาน ของ David Talley \"โดดเดนจากเร่ืองราวนารันทด ทวาผันเปลี่ยนไปในทางท่ีดีขึ้น ภาพที่ 168 : ถายภาพดวยกลอง Canon EOS 5D Mark II, 50mm f/1.4, f/1.8, 1/5000 sec, ISO 400 ทม่ี า : David Talley \"ภาพนี้สรางขึ้นโดยเปนสวนหนึ่งของผลงานภาพที่ผมเริ่มทําเมื่อปที่แลว ชื่อ ‘The Alphabet Project’ ในแตละสัปดาห ภาพผลงานจะมุงเนนตัวอักษรใหม สวน ‘The Catch’ เปนตัวอักษร B ในคําวา ‘Balloon’ ซึ่งเปนแรงบันดาลใจสําหรับภาพนี้ แตละสัปดาหที่ผานไป ผมเลือกคาํ ใหมท่ีตรงกับตัวอักษร และวางโครงเรื่องจากคาํ น้ัน ‘The Catch’ ไฮไลทความหมายของการยึดม่ันในความฝน และใหความฝนสงคุณทะยาน ขึ้นไปสูฟากฟา หนึ่งในความเชื่อหลักของผมคือ คุณจะไมมีวันคนพบงานอาชีพในชีวิต ถาหากไม กลาเลือกและไมลองทําสิ่งตางๆ พวกเราสวนมาก รวมถึงตัวผมดวย มัวแตรอใหงานอาชีพมาหา

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 166 เรา... แตกุญแจสําคัญในการคนหาวาเรารักจะทําอะไรในชีวิตนั้นกลับกันเลย ภาพนี้แสดง ความหมายของการเลือก และการยึดม่ันในความฝน ไมวาจะดูเรนลับเพียงใด และใหความฝนพา คุณทะยานข้ึนสูฟากฟา\" Freedom โดย Florentina Amon Florentina Amon เตรียมพรอมที่เคลิบเคลิ้มไปกับคอนเซ็ปความฝนของ Florentina ดวยภาพบุคคลที่ถายเอง โดยมีธรรมชาติเปนแรงบันดาลใจ และฉากหลัง ภาพที่ 151 : ถายภาพดวยกลอง Canon EOS 5D Mark III เลนส EF50mm f/1,4 USM, 1/1600 sec, f/1.4, ISO 100 \"เมื่อฉันตัดสินใจถายภาพนี้ เปนชวงที่ฉันประสบกับความกดดันครั้งใหญในชีวิต ใน ขณะเดียวกัน ฉันเติบโตมากับโลกสังคมออนไลน จึงไดพบเห็นภาพผูคนที่ดูเหมือนมีชีวิตสมบูรณ แบบอยูเสมอ ฉันรูสึกราวกับวาฉันทาํ อะไรผิด ถาฉันอธิบายภาพดวยคําเดียว ก็คงเปนคําวา อิสรภาพ ฉันรูสึกถึงความโลงอกอยางยิ่ง หลังจากที่ถายภาพนี้ ทําใหฉันรูสึกตื้นตันใจ และปลาบปลื้ม เพราะดูเหมือนวาความเศรา ความคิด และการด้ินรนเลือนหายไปในชั่วขณะนี้\"

167 แบบฝกหดั จงตอบคาํ ถามตอ ไปนี้ 1. เทคนคิ พืน้ ฐานของการถายภาพมีอะไรบาง 2. ประเภทของภาพถายมอี ะไรบาง 3. จงอธิบายเทคนคิ การถายภาพแตล ะประเภท เอกสารอางองิ ประหยัด จริ ะวรพงศ. (2522). เทคโนโลยีทางการถา ยภาพ. กรงุ เทพฯ : อักษรวฒั นา นายขวนขวาย. (2543). ไขปญ หาการถา ยภาพ. กรุงเทพฯ : Photo & File ฝา ยวชิ าการ Photo & Life. (2538). 100 เทคนิคสรา งสรรคภาพ. กรุงเทพฯ : PHOTO & LIFE HOUSE ทอม เชือ้ วิวฒั น. (2528). องคประกอบศิลป เรยี นถายภาพ (ดวยตนเอง). กรุงเทพฯ : เปด กลอ งสอ งโลก ณรงค สมพงษ. (2545). การถา ยภาพเทคนิคขน้ั สงู . กรงุ เทพฯ : เฟองฟาพริน้ ตง้ิ , ศักดา ศริ พิ ันธุ. (2523). เทคนิคและศลิ ปะการถายภาพ. กรงุ เทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช วรนันทน ชัชวาลทพิ ากร. (2544). สขุ สนกุ กบั การถายภาพ Photo hobby. กรงุ เทพฯ : เอ.พ.ี พร้นิ ตง้ิ กรุป, สมุ ิตรา ขันตยาลงกต. (2552). ทฤษฎกี ารถา ยภาพ. กรงุ เทพฯ : ประยูรวงศ ศริ ิลักษณ สะทา นไตรภาพ. (2534). เทคนิคการสรรสรา งภาพ. กรงุ เทพฯ : สารมวลชน โกวทิ จติ บรรจง. (2545). การถา ยภาพเพอื่ การส่ือสาร. สงขลา : คณะวทิ ยาการจัดการ สถาบันราชภัฏสงขลา, ไพโรจน เบาใจ. (2525) การถา ยภาพเบอ้ื งตน .กรงุ เทพฯ:ภาควชิ าเทคโนโลยที างการศกึ ษา มศว.ประสานมติ ร มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง แผนบรหิ ารการสอนประจาํ บทที่ 7 1. เน้ือหาประจําบท บทที่ 7 การใชโ ปรแกรมคอมพวิ เตอรต กแตง ภาพถาย ความหมายของการตกแตงภาพถา ย ความเปนมาของโปรแกรมแตงภาพถาย องคป ระกอบของโปรแกรมแตง ภาพ Adobe Photoshop องคป ระกอบของโปรแกรมแตงภาพ Adobe Lightroom หลกั การของการแตงภาพถายดว ยโปรแกรมคอมพิวเตอร การเผยแพรภาพถา ยท่ผี านการตกแตง 2. วัตถุประสงคเ ชงิ พฤตกิ รรม เม่ือผูเรยี นเรียนจบบทนีแ้ ลว จะสามารถ 1. ผเู รียนสามารถอธิบายความหมายเก่ียวกบั โปรแกรมตกแตง ภาพถายได 2. ผเู รียนสามารถอธบิ ายประวัตคิ วามเปนมาโปรแกรมแตงภาพถา ยได 3. ผเู รยี นสามารถเกิดทักษะในการสรา งสรรคผลงานโดยใชโปรแกรมแตงภาพถายได 4. ผูเรียนสามารถปฏิบัตกิ ารสรา งสรรคผ ลงานโดยใชโปรแกรมแตง ภาพถา ยได 5. ผูเรียนมีทัศนคตทิ ด่ี ตี อใชโปรแกรมแตง ภาพถายได 3. วธิ สี อนและกจิ กรรมการเรยี นการสอนประจาํ บท 1. ผเู รียนไดร บั การบรรยายจากผสู อนศึกษาจากเอกสารประกอบการสอน ซกั ถามปญ หา 2. ผูสอนอภปิ รายรว มกับผูเ รียนเกี่ยวกับสาระสาํ คญั ทงั้ 5 หัวขอ 3. ผูเรยี นคนควาเพิ่มเตมิ แลวสรุปองคค วามรูเกี่ยวกับการสรางสรรคผ ลงานโดยใชโ ปรแกรม แตงภาพถายได 4. ผสู อนและผเู รียนรวมกันปฏิบัติองคความรแู ละสาระสาํ คัญของบทเรียน 5. ผูเรยี นลงมือปฏบิ ตั ิ 4. ส่ือการเรยี นการสอน 1. Power Point ประกอบการสอน 2. วสั ดุ อุปกรณ เคร่อื งมอื ตางๆที่ใชก ารสรางสรรคผ ลงานโดยใชโปรแกรมแตงภาพถาย 3. เอกสารประกอบการสอนและตําราประกอบการอาน 5. การวดั และประเมนิ ผล 1. สงั เกตความตงั้ ใจ 2. สงั เกตการปฏิบตั ิงาน 3. จากการรว มอภปิ ราย แสดงความคดิ เห็นของนักศกึ ษาจากการลงมือปฏิบตั ิตามหลักการ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 169 บทที่ 7 การสรา งสรรคผ ลงานภาพถายโดยใชโ ปรแกรมคอมพิวเตอร การตกแตง ภาพถา ย ในปจ จุบันถายภาพและตกแตงภาพน้ันไดเจริญกาวหนาเปน อยางมาก ซ่ึงมีเครื่องมือตางๆ ใหใ ชเยอะแยะมากมาย อีกทงั้ มีนักพัฒนาตางๆ ไดพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอรสามารถเขา ใจภาษา มนุษยไดง ายมากยิ่งขึ้น ซง่ึ เม่ือตองการที่จะนําภาพที่ถายไดมาตกแตงใหสวยงามนั้นยิ่งทําไดโดยงาย และมีอีกหน่ึงวิธีที่ผูคนสวนมากชอบใชกันเวลา อัพรูปขึ้น Facebook (เฟสบุค) คือการ Photo Retouch (โฟโต รีทัช) โปรแกรม Photoshop คอื อะไร? Photoshop คือโปรแกรมตกแตงภาพ รที ัชภาพ แปลตรงๆตามชอ่ื เลยวาทํางานกับภาพ แต ในปจจุบันดวยท่ี Functionality ในตัวโปรแกรมมีเยอะจนสามารถทํางานในสายงาน กราฟก, สถาปตยกรรม, เว็บไซต, สื่อส่ิงพิมพ, ภาพถาย ได โปรแกรม Photoshop ถึงกลายเปนโปรแกรม พื้นฐานท่ีทกุ คนในสายงานครีเอทีฟตอ งรจู กั และเรียนรูพนื้ ฐานใหเ ปน การทํางานของโปรแกรม Photoshop จะสามารถทํางานไดในระดับ Pixel เลยท่ีเดียว ไม เช่อื ลองกดซมู เขา ไปเรือ่ ยๆเราจะเห็นเปนเมด็ สีเรยี งตอกัน Photo retouch (โฟโต รที ัช) หมายถึง การตกแตง ภาพใหดดู ีกวาภาพตนฉบบั หรือเพ่ิม กราฟก ตกแตงทใ่ี ชร วมกันกบั ภาพ เพื่อใหดดู ีกวาภาพตน ฉบับและนําไปใชในงานตามความตอ งการใน การตกแตงภาพ ใชงานมากที่สุดในโปรแกรม Adobe Photoshop (อะโดบี โฟโตชอป) เปนสวน ใหญ แลวก็มโี ปรแกรมมากมายหลากหลาย เชน Adobe Lightroom (อะโดบี ไลตร ูม) สําหรับเปน ตวั เลือกใหกับผูที่ตองการใชงาน ท้ังนี้สามารถทําไดท้ังหมดกับทุกๆ รูปภาพ ไมวาจะเปน ภาพถาย บุคคล สถานทตี่ างๆ หรือส่งิ ของ ภาพท่ี 152 โปรแกรม Adobe Photoshop (อะโดบี โฟโตช อ ป) ท่ีมา : www.udallas.edu

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 170 การนําภาพเขามาเพื่อปรับแตงโดยใชรวมกับโปรแกรมน้ันๆ ท่ีมีตัวชวยในการตกแตงภาพ แตกตางกนั ไปของแตละโปรแกรม ไมว าจะเปนเอฟเฟค แสง สี ตางๆของแตละโปรแกรมทีส่ รางขึน้ มา เพื่อตอบสนองความตองการกับผูที่ใชง านน่ันเองผูที่ใชโปรแกรมเปนสวนใหญนัน้ มีจุดประสงคหลัก เพอื่ ทีจ่ ะชวยในการปรบั ตกแตงภาพทไ่ี ดมา และภาพจะไดร ับการเปลย่ี นแปลงบิดเบือนไปจากตน ฉบบั อยางมากหรือนอ ยน้ัน ขึ้นอยูกับการใชเทคนิคที่แตกตางกันเพ่ือใหบรรลุการตกแตงภาพตามแบบท่ี ผูใ ชตองการรปู ภาพทถี่ า ยออกมาจากกลองน้ันเปน รูปภาพท่ีเหมือนกบั แบบจริง ซึ่งอาจมบี างสวนที่ไม ตองการ ไดแก รว้ิ รอยบนใบหนา ร้ิวรอยตามรา งกาย เปนตน เมื่อตองนาํ ไปใชงานยอมตองการตดั ลบ ร้วิ รอยที่ไมสวยงามนั้นออกไป หรือบางครั้งอาจเปนสวนในรูปภาพที่ตองการตัดออกไปเพื่อตกแตง รูปภาพใหเ กิดความสวยงาม จึงจําเปนตองใชเคร่อื งมือเพือ่ ลบริว้ รอยในรปู ภาพ เครอ่ื งมอื ที่นยิ มใชใ นการตกแตง ภาพ มีดังนี้ 1 การใชเครื่องมือ Clone Stamp Tool Clone Stamp Tool เปนเคร่ืองมือพื้นฐานสําหรับการลบริ้วรอยในรูปภาพ โดยมี หลักการทํางานคือ การคัดลอกสวนใดสวนหนึ่งในรปู ภาพตามตองการ และนําไปแทนท่สี ว นทต่ี องการ ตกแตง นอกจากจะชวยลดริ้วรอยแลวเครือ่ งมอื น้ีย้ังสามารถชวยชอ มแซมรูปภาพในสวนทหี่ าย โดย การคดั ลอกสว นอน่ื มาเตมิ สวนทห่ี ายใหเ ตม็ พน้ื ที่ 1. เปด ไฟลร ปู ภาพที่ตอ งการใชงานขึม้ มา 2. คลิกเลือ่ กเครือ่ งมอื (Clone Stamp Tool) บนกลอ งเครื่องมอื ( Tool Box ) 3. คลกิ ขวาบนพื้นที่รปู ภาพ จะปรากฏหนา ตา งสาํ หรับกําหนดคาเคร่ืองมอื หรือจะ กําหนดที่แถบตัวเลอื ก (Options Bar) ใหก ําหนดขนาดของเคร่อื งมือใหพอดกี ับการใชง าน 4. กําหนด Hardness ใหนอยท่ีสุด เพ่ือใหคาความคมชัดของการใชเครื่องมือกับ รูปภาพมีความกลมกลนื กนั จนไมเห็นความแตกตา ง 5. เลือกหาพื้นทที่ ี่จะคดั ลอกโดยจะตอ งเลอื กพ้นื ท่ที ม่ี สี ีกลมกลืนกบั พ้นื ทท่ี ตี่ องการ ตกแตง กดแปน Alt + คลิกเมาสเ พือ่ เลอื กพ้นื ทน่ี ั้น 6. เลอื กเมาสไปยงั พ้ืนทท่ี ต่ี อ งการตกแตงและคลกิ เคร่อื งมือ Clon Stamp ลงไป พนื้ ที่คดั ลอกไวจะถกนู ําไปแทนทบี่ นพน้ื ทท่ี ี่เลือก

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 171 ภาพท่.ี ....การใชเ คร่อื งมือ Clone Stamp Tool ทีม่ า : http://www.bj.ac.th/workittipon/chapter2/topic2.html ภาพที่ 153 ภาพกอนและหลังการลบร้วิ รอย ทม่ี า : http://www.bj.ac.th/workittipon/chapter2/topic2.html

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 172 2. การใชเครื่องมอื Spot Healing Brush Tool Spot Healing Brush Tool เปนเคร่ืองมือลบร้ิวรอยและตกแตงสวนท่ีตองการของรูปภาพ เชนเดียวกัน Clone Stamp Tool แตแตกตางตรงท่ีคําส่ังน้ีไมตองคัดลอกพื้นท่ีท่ีตองการแทนที่ เพียงแคคลิกไปบนพื้นท่ีท่ีตองการแกไข โปรแกรมจะทําการลบรว้ิ รอยของภาพโดยการเก็บตัวอยาง จากพื้นที่ท่ีตองการและเกล่ียสี่ใหเหมือนกับพ้ืนที่รอบๆ แตเคร่ือง Spot Healing Brush จะมี ขอ จาํ กัดอยหู น่งึ อยางคือ ไมสามารถทาํ งานบริเวณพนื้ ทีท่ ่มี สี ตี ดั กนั มากๆเพราะโปรแกรมจะสับสนใน การเลือกสีที่จะมาใช ทาํ ใหสที ่ไี ดไมก ลมกล่ืนกัน 1. เปด ไฟลร ปู ภาพที่ตอ งการใชงานขนึ้ มา 2. คลกิ เลือกเครื่องมอื (Spot Healing Brush Tool ) บนกลอ งเครื่องมือ ( Tool Box) 3. คลิกขวาบนพน้ื ที่รปู ภาพ จะปรากฏหนาตางสาํ หรบั กาํ หนดคาเครื่องมือ หรอื จะกําหนดที่ แถบตัวเลือก ( Options Bar ) ใหก ําหนดขนาดของเครอ่ื งมือใหมีขนาดใหญกวาสวนท่ีตองการแกไข เลก็ นอ ย ภาพท่ี 154 ภาพกอ นและหลงั การลบรวิ้ รอย ทม่ี า : http://www.bj.ac.th/workittipon/chapter2/topic2.html

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 173 3. การใชเ ครอ่ื งมือ Healing Brush Tool Healing Brush Tool เคร่ืองมอื ทมี่ รี ปู แบบการทาํ งานคลายกบั Clone Stamp Tool คอื จะตอ งคดั ลอกพ้ืนทที่ ่ตี องการและนําไปแทนทพ่ี ้ืนทที่ ีต่ องการตกแตง และมลี กั ษณะคลายกบั รปู แบบ การทาํ งานของ Spot Healing Tool คอื จะทําการเกลยี่ สที ีน่ ําไปแทนทีใ่ หเขากบั สขี องพ้นื ทเ่ี ดมิ จงึ ทาํ ใหเ ปน ธรรมชาตมิ ากยง่ิ ข้ึน ชวยลด ปญหาการเกิดลอยดา งบนรปู ภาพซง่ึ เกดิ จากสีของพ้นื ท่ที ีน่ าํ ไปแทนท่ีและพน้ื ท่ีทจ่ี ะตอ งการตกแตง แตกตา งกนั 1. เปด ไฟลร ูปภาพทต่ี อ งการใชงานขนึ้ มา 2. คลิกขวาท่ีเคร่ืองมือ (Spot Healing Brush Tool) บนกลองเคร่ืองมือ (Tool Box) และคลกิ เลอื ก (Healing Brush Tool) 3. คลกิ ขวาพื้นท่ีรปู ภาพจะปรากฎหนาตางสาํ หรับกาํ หนดคาเครอ่ื งมือ หรอื จะกาํ หนดท่แี ถบ ตัวเลือก (Options Dar) ใหกําหนดขนาดของเคร่ืองมือท่ี Diameter ใหมีขนาดใหญกวาสวนท่ี ตองการแกไ ขเลก็ นอย 4. กําหนดคา Hardness เพ่ือใหคาความคมชัดของขอบการใชเคร่ืองมือกับรูปภาพมีความ กลมกลืนกันจนไมเห็นความแตกตา ง 5. กาํ หนดคา Spacing ใหม คี า นอ ยทส่ี ุด เพื่อใหร ะยะหา งระหวา งการลากเมาสม นี อ ยทส่ี ุดทํา ใหสามารถใหง านไดล ะเอยี ด 6. กําหนดรปู ทรงของเครอื่ งมอื ที่ Angle และกาํ หนดองศาของการเอยี งตัว ของเครือ่ งมอื ท่ี Roundness 7. เลือกหาพื้นท่ที จี่ ะคัดลอกโดยจะตองเลอื กพ้นื ทท่ี ่ีมสี ีทก่ี ลมกลนื กบั พ้นื ทที่ ต่ี อ งการ ตกแตง กดแปน Alt + คลกิ เมาส เพ่ือเลอื กพ้ืนทนี่ ้นั 8. เลอ่ื นเมาสไปยังพืน้ ทีท่ ่ตี องการตกแตง และเลอื กเคร่อื งมอื Healing Brush ลงไปบนพน้ื ที่ ทีต่ อ งการแกไ ข พ้ืนทีท่ ่ีคดั ลอกไวจ ะถกู นําไปแทนทบี่ นพนื้ ทท่ี เ่ี ลอื ก 9. หากพื้นที่ทีต่ อ งการแกไ ขมีพนื้ ที่กวาง ใหคลกิ เมาสแ ละลากเมาสไ ปบนพืน้ ทีท่ ีต่ อ งการแกไ ข ไดเ ลย เมือ่ เปรยี บเทยี บรปู ภาพกอ นลบริ้วรอยและหลงั ลบริว้ รอยจะเหน็ วา เคร่อื งมอื Healing Brush สามารถลบร้วิ รอยไดอยา งกลมกลืนจนไมเ หน็ รอ งรอยดา งท่เี กดิ จากการตดั กนั ระหวางสีทถ่ี ูก คดั ลอกมาแทนที่ และสีพืน้ หลังของรปู ภาพ

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 174 ภาพที่ 155 การใชเครอ่ื งมอื Healing Brush Tool ทม่ี า : http://www.bj.ac.th/workittipon/chapter2/topic2.html 4. การใชเ ครอ่ื งมอื Patch Tool Patch Tool เปนเคร่ืองมือทมี่ รี ปู แบบการทาํ งานเหมือนเครอ่ื งมอื Healing Brush คอื จะตองคัดลอกพ้นื ทีท่ ต่ี องการนําไปใชแ ทนที่ และนําไปแทนทที่ ่ตี อ งการแกไข แต Patch Tool จะ แตกตา งตรงท่ีผูใชกาํ หนดพ้ืนทท่ี ีต่ อ งการแกไขกอ นจงึ เลือกพ้ืนทที่ ีต่ อ งการนาํ มาแทนทีโ่ ปรแกรมจะทํา

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 175 การคัดลอกและนําพ้ืนท่ี ท่ีตองการใชพนื้ ที่มาใชแ ทนทสี่ วนทตี่ อ งการแกไ ขโดยอัตโนมตั ิ พรอมท้ัง เกลยี่ สีใหก ลมกลนื กนั 1. เปด ไฟลร ปู ภาพที่ตองการใชงานข้ึนมา 2. คลิกขวาท่ีเครื่องมือ (Spot Healing Brush) บนกลองเคร่ืองมือ (Tool box ) และคลิก เลอื ก (Patch Tool) 3. กําหนดรูปแบบการทาํ งานของเครื่องมือโดยการคลิกเลือก Souce ที่แถบตวั เลอื ก (Options Bar) 4. คลิกเมาสคางและลากเมาสรอบพื้นทท่ี ี่ตอ งการแกไข 5. เมอื่ คลิกเมาสจนรอบพ้นื ท่ีท่ีตอ งการแกไขแลว ใหค ลกิ เมาสค างและลากพนื้ ท่ี Selection ออกมาจาจุดเดมิ ไปยงั พ้นื ทีท่ ี่ตองการคดั ลอก 6. โปรแกรมจะทําการคดั ลอกพื้นทที่ ่ีตองการนาํ มาแทนท่บี นพ้ืนทีท่ ตี่ อ งการแกไขและเกล่ยี สี ใหกลมกลนื โดยอตั โนมัติ ภาพที่ 156 การใชเครอื่ งมือ Patch Tool ที่มา : http://www.bj.ac.th/workittipon/chapter2/topic2.html

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 176 ถงึ แมวาตั้งแตเทคโนโลยี ดจิ ิตอล ไดค ดิ คน โปรแกรมทีส่ ามารถตกแตง ภาพถา ยข้ึนมาจากอดีต มาถงึ ปจจุบนั กไ็ ดส รางโปรแกรมอกี หนง่ึ โปรแกรมท่ีโดดเดน ข้นึ มาและเปนโปรแกรมท่ีโดเดน สําหรับ ชางภาพโดยเฉพาะ น่ันคือโปรแกรม Adobe Lightroom (อะโดบี ไลตรูม) ซึ่งมีคุณลักษณะที่ใช สาํ หรับตกแตงภาพถา ย แตมีความสะดวกกวา ซึง่ จะอธบิ ายดงั ตอ ไปนี้ Adobe Photoshop Lightroom เปนโปรแกรมจัดการไฟลภาพถายแบบครบวงจรจาก คาย Adobe ท่ีทุกคนรูจักกันดีปจจุบันไดออกมาถึงเวอรชั่น CC จุดเดนของโปรแกรมนี้ก็คือ ความสามารถในการทํางานท่ีหลากหลาย เริ่มตั้งแตการจัดระเบียบ ใหภาพถายเพ่ือใหชวยในการ คนหาคดั แยกไดอ ยางรวดเรว็ เปนระเบยี บไมวุนวาย การปรับแตง แกไขหรอื ทเ่ี รยี กวา การโพรเซสไฟล ภาพถายโดยเฉพาะไฟล RAW (ไฟลดิบที่ไมผ า นการบีบอดั ) ซ่ึงรองรับไฟลจ ากกลองแทบจะทกุ รุนทุก ย่ีหอ ท่ีวางขายอยใู นตลาด ไปจนถงึ การนาํ ภาพถายที่ปรับแตงเสรจ็ แลว ออกไป พรเี ซนตในรปู แบบของ สไลดโชว เว็บแกลลอรี่หรือพิมพภาพถายออกมา ทั้งหมดนี้สามารถทําไดโดยใชโปรแกรม Adobe Photoshop Lightroom เพียงตวั เดยี วเทา น้นั ภาพที่ 156 โปรแกรม (Adobe lightroom ) ที่มา : www.codp.co.za โปรแกรม Lightroom เหมาะสมสําหรบั บคุ คลทัว่ ไป เพราะเปนโปรแกรมท่ีใชงานงาย การ ปรับแตง ไมซ บั ซอนวุนวายและไมจ ําเปนตองมคี วามรู ดา น Photoshop มากอ นโปรแกรม Lightroom จงึ เหมาะสําหรบั ชา งภาพทกุ คน โดยเฉพาะใครท่ีชอบถา ยภาพเปนไฟล RAW หากใช Lightroom ใหค ลองจะชวยใหสามารถดึงประสทิ ธิภาพของไฟล RAW ของกลอ ง ออกมาใชไ ดอยา งเตม็ ท่ี โปรดแกรม อะโดบี ไลตร มู เปน โปรแกรมตกแตงภาพถา ย มีองคป ระกอบ ดงั นี้

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง 177 ภาพที่ 157 โปรแกรม (Adobe lightroom ) ท่มี า : www.codp.co.za 1.หนา จอหลกั แสดงภาพถา ยและเปนพื้นท่ีในการทาํ งาน 2.แถบเมนูบาร 3.หนา ตา ง Navigator แสดงภาพตวั อยา ง 4.พาเนล Catalog ขอ มูลจาํ นวนภาพทีอ่ มิ พอรต เขามา 5. พาเนล Folders สําหรบั คลกิ เลือกภาพที่อมิ พอรตไวข ้นึ มาทํางาน 6.พาเนล Collections แสดงคอลเลคชั่นท่ีเราสรางไว 7. ปุมเลอื กมมุ มอง การแสดงภาพบนหนา จอหลกั 8.ปุม Import/Export ภาพ 9.ปมุ แสดงภาพบนจอท่สี อง (กรณใี ชม อนิเตอรส องจอ) 10. ปุม เขา สโู มดลู ตา งๆ -พาเนลฮสิ โตแกรม แสดงกราฟคาสแี ละความสวางของภาพทกี่ ําลงั เลอื ก -พาเนลขวา เปน สว นของเครือ่ งมอื ในการปรบั ภาพ ซึง่ จะแตกตา งกันไปในแตละโมดลู -พาเนล Filmship แสดงภาพในโฟลเดอรท เ่ี ราเลอื กอยู 11. ปุมยอ - ขยายมุมมองภาพ 12. เคร่ืองมอื จดั เรยี งภาพ

178 โมดลู ตางของโปรแกรม Adobe Lightroom มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง ภาพท่ี 159 โปรแกรม อะโดบี ไลตร มู (Adobe lightroom ) ที่มา : www.codp.co.za Adobe Photoshop Lightroom แบงสว นการทํางานเปนสวนๆ เรยี กวาโมดูล โดยแตละโมดลู จะทํา หนาท่ใี นการจัดการภาพทีแ่ ตกตางกนั ไปคอื 1.โมดลู Library สําหรบั การจัดระเบียบภาพถาย การแกไขขอ มูลเมตะดาตา ของภาพถา ย การจัดหมวดหมู ยา ย ลบ คนหา ภาพถา ยและการปรบั แตงภาพเบ้อื งตน การตดั และปรบั แตงวิดีโอ 2.โมดลู Develop สําหรบั การโพรเซสไฟลล ว นๆในโมดลู นี้จะมเี ครอ่ื งมือตา งๆ ทจี่ ําเปนใน การโพรเซสไฟล RAW และ JPEG 3.โมดูล Map สําหรบั ใชต ิดขอ มูลพิกัด GPS ใหกบั ภาพถาย ตองงเช่อื มอินเทอรเ น็ตดวยจึง จะสามารถใชงานได เน่อื งจากโมดูลน้จี ะลงิ คข อมลู แผนที่จากทาง Google Maps ข้ึนมาใชงานถา ไม ตออนิ เทอรเ นต็ ดวยจะทําอะไรไมไ ด 4.โมดูล Book สําหรับออกแบบหนังสือภาพถายของเราเอง (Photo book) เมื่อทําเสร็จ สามารถอัพโหลดไปทเ่ี ซิรฟ เวอรของ Blurb ซงึ่ เปนผูใหบรกิ ารพิมพหนังสือภาพถา ยไดท ันที หรือจะ Export ใหเปนไฟล PDF เพื่อนาํ ไปพมิ พเองได 5.โมดูล Slideshow สําหรบั การนําภาพถายมาทําเปนสไลดโชว สามารถใสดนตรีประกอบ ได หรือจะ Export สไลดโชวท่ีทําเสร็จแลว ไปเปนไฟลวิดีโอกไ็ ด 6.โมดูล Print สําหรับการพิมพภาพถายดวยตัวเองในโมดูลนี้เราสามารถที่จะจัดการเลย เอาทข องงานพิมพไ ด

179 7.โมดูล Web สาํ หรบั ออกแบบและสรางเว็บแกลลอร่ดี ว ยตัวเอง ในโมดูลนจ้ี ะมเี ทมเพลต สาํ เร็จรูปสวยๆ ใหเ ราเลือกใชง าน การ Impor ไฟลเ ขามาใชงานใน Light room สําหรับผูท่ีตองการเปลี่ยนชื่อไฟลภาพพรอ มๆกับการอิมพอรตภาพไปดว ย สามารถทําไดงายๆ โดยการคลิกแคไมก ่คี ร้งั มขี อ แมวาวธิ ีน้จี ะใชไดกบั การอมิ พอรต ภาพแบบ Copy หรอื Move เทา นั้น 1.กอนอืน่ ใหคลิกเลือกวิธีการอิมพอรตเปนแบบ Copy as DNG, Copy หรือ Move กอ น 2.กรอบ File Naming ทางดา นขวามือ ใหคลิกทช่ี อ ง Rename Files 3.เสร็จแลวคลิกท่ีปุม Import เพ่ือเร่ิมอิมพอรตภาพ เราจะพบวา ภาพที่อิมพอรตเขามา จะ ถกู เปลีย่ นช่ือไฟลต ามท่เี ราเลือกไว การนําภาพเขามาเพื่อปรับแตง โดยใชร ว มกบั โปรแกรมใดๆน้ัน ทีม่ ตี ัวชวยในการตกแตงภาพ แตกตา งกนั ไปของแตล ะโปรแกรม ไมว าจะเปน เอฟเฟค แสง สี ตา งๆของแตละโปรแกรมท่ีสรา งขนึ้ มา เพ่ือตอบสนองความตองการกับผูที่ใชงานนั่นเองผูที่ใชโปรแกรมเปนสวนใหญนน้ั มีจุดประสงคหลัก เพื่อท่ีจะชวยในการปรบั ตกแตง ภาพที่ไดม า และภาพจะไดรบั การเปลย่ี นแปลงบิดเบือนไปจากตน ฉบบั อยางมากหรือนอ ยนั้น ขึ้นอยูกับการใชเทคนิคที่แตกตางกันเพ่ือใหบรรลุการตกแตงภาพตามแบบท่ี ผใู ชต อ งการรูปภาพท่ีถายออกมาจากกลอ งนั้นเปน รูปภาพทเ่ี หมอื นกับแบบจรงิ ซงึ่ อาจมบี างสว นท่ีไม ตอ งการ ไดแก ริว้ รอยบนใบหนา ร้ิวรอยตามรางกาย เปน ตน เม่อื ตองนําไปใชงานยอมตอ งการตัดลบ ร้วิ รอยท่ีไมสวยงามนั้นออกไป หรือบางครั้งอาจเปนสวนในรปู ภาพที่ตองการตัดออกไปเพื่อตกแตง รปู ภาพใหเกดิ ความสวยงาม จงึ จําเปนตอ งใชเ ครื่องมือเพ่อื ลบร้ิวรอยในรูปภาพ มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

180 แบบฝกหัด จงตอบคําถามตอไปน้ี 1. บอกความหมายของการรที ชั ได 2. จงอธิบายความแตกตา งระหวา ง Photoshop และ Lightroom 3. จงอธิบายเครื่องมือ Photoshop สําหรบั รที ชั ภาพ 4. จงอธบิ ายการประยกุ ตใ ชงานการรที ขั ภาพในงานดานตางๆ เอกสารอา งอิง ประหยัด จริ ะวรพงศ. (2522). เทคโนโลยที างการถา ยภาพ. กรุงเทพฯ : อกั ษรวัฒนา นายขวนขวาย. (2543). ไขปญหาการถา ยภาพ. กรุงเทพฯ : Photo & File ฝา ยวชิ าการ Photo & Life. (2538). 100 เทคนิคสรางสรรคภ าพ. กรงุ เทพฯ : PHOTO & LIFE HOUSE ทอม เชื้อววิ ฒั น. (2528). องคประกอบศลิ ป เรยี นถา ยภาพ (ดวยตนเอง). กรงุ เทพฯ : เปด กลองสอ งโลก ณรงค สมพงษ. (2545). การถายภาพเทคนิคขัน้ สงู . กรงุ เทพฯ : เฟอ งฟาพริ้นต้ิง, ศกั ดา ศิริพันธ.ุ (2523). เทคนิคและศลิ ปะการถายภาพ. กรงุ เทพฯ : ไทยวฒั นาพานิช วรนนั ทน ชัชวาลทพิ ากร. (2544). สขุ สนกุ กบั การถายภาพ Photo hobby. กรุงเทพฯ : เอ.พ.ี พริน้ ตง้ิ กรุป, สุมติ รา ขนั ตยาลงกต. (2552). ทฤษฎีการถายภาพ. กรงุ เทพฯ : ประยรู วงศ ศริ ิลกั ษณ สะทา นไตรภาพ. (2534). เทคนิคการสรรสรา งภาพ. กรงุ เทพฯ : สารมวลชน โกวิท จติ บรรจง. (2545). การถา ยภาพเพ่อื การสื่อสาร. สงขลา : คณะวิทยาการจดั การ สถาบันราชภัฏสงขลา, ไพโรจน เบาใจ. (2525) การถา ยภาพเบ้ืองตน.กรงุ เทพฯ:ภาควิชาเทคโนโลยที างการศกึ ษา มศว.ประสานมิตร มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง

มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง อางอิง กองบรรณาธิการ. 2546. เกรด็ ความรูเกย วกบั กลอ งดิจิตอล. อา งจากExposure. ป ท1ี่ 1 ฉบับท่ี126 สงิ หาคม2546. กองบรรณาธกิ าร. 2546. อปุ กรณเสรมิ สำหรบั ผใู ชกลองดิจิตอลอา งจากExposure. ป ท1่ี 1 ฉบับท่1ี 26 กนยายนั 2546. ณฐั พงศ ฐิตมิ านะกุล และรักษศ กั ด์ิ สิทธวิ ิไล. 2550 กลองดิจิตอล.กรงุ เทพฯ: บริษทั เสรมิ วิทยอ ินฟอรเ มชนั่ ณรงค สมพงษ.2539. หลักการถา ยรูป. พิมพครง้ั ท7่ี . นครปฐม: ฝายพฒั นาสือ่ การสงเสรมิ สำนกั สง เสริมและฝก อบรม มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร. ประหยัด จริ ะวรพงศ. (2522). เทคโนโลยที างการถา ยภาพ. กรุงเทพฯ : อกั ษรวฒั นา ทอม เชื้อวิวัฒน. (2528). องคป ระกอบศิลป เรยี นถา ยภาพ (ดว ยตนเอง). กรุงเทพฯ : เปด กลองสองโลก นายขวนขวาย. (2543). ไขปญหาการถายภาพ. กรงุ เทพฯ : Photo & File ฝา ยวิชาการ Photo & Life. (2538). 100 เทคนิคสรางสรรคภาพ. กรงุ เทพฯ : PHOTO & LIFE HOUSE ศกั ดา ศริ พิ นั ธ.ุ (2523). เทคนิคและศลิ ปะการถา ยภาพ. กรงุ เทพฯ : ไทยวฒั นาพานิช ศริ ิลักษณ สะทา นไตรภาพ. (2534). เทคนิคการสรรสรา งภาพ. กรงุ เทพฯ : สารมวลชน สมุ ิตรา ขนั ตยาลงกต. (2552). ทฤษฎีการถา ยภาพ. กรงุ เทพฯ : ประยรู วงศ โกวทิ จิตบรรจง. (2545). การถา ยภาพเพ่ือการส่อื สาร. สงขลา : คณะวิทยาการจดั การ สถาบนั ราชภฏั สงขลา, ไพโรจน เบาใจ. (2525) การถา ยภาพเบือ้ งตน .กรุงเทพฯ:ภาควิชาเทคโนโลยีทางการศึกษา มศว.ประสานมิตร ___, (2544). Digital photography เทคนคิ การถายภาพดจิ ติ อลฉบบั สมบรู ณ. กรุงเทพฯ : อมิ เมจโฟกสั วรนันทน ชชั วาลทพิ ากร. (2544). สขุ สนกุ กบั การถา ยภาพ Photo hobby. กรุงเทพฯ : เอ.พ.ี พรนิ้ ต้งิ กรปุ , ณรงค สมพงษ. (2545). การถายภาพเทคนคิ ขนั้ สูง. กรงุ เทพฯ : เฟองฟา พรนิ้ ตง้ิ , Davis, H., (2009) “Creative Composition: Digital Photography Tips & Techniques”, WILEY 2009 Galer, M., (2008) “Digital Photography”, Focal Press, Fourth Edition, P.63, P.66, P.69, 2008

Jeff, M., (2012) “10 rules of photo composition (and why they work)” (on-line) http://www.digitalcameraworld.com/2012/04/12/10-rules-of-photo- composition-and-why-they-work/ เขา ถึงขอมลู ม.ิ ย.2562 Peterson, D., (2014) “18 Composition Rules for Photos the Shine” (on-line) http://www.digital-photo-secrets.com/tip/3372/18-composition-rules-for- photos-that-shine เขาถงึ ขอมลู ม.ิ ย.2562 Van Eenoo, C., (2013) “Empty Space and Silence”, Journal of Arts and Design Studies, Vol.15, 2013 Williams, P., (2014) “10 Top Photography Composition Rules” (on-line) http://www.photographymad.com/pages/view/10-top- photographycomposition-rules เขาถึงขอ มลู ม.ิ ย.2562 2. เอกสารและขอมูลสําคัญทน่ี กั ศกึ ษาจาํ เปนตองศกึ ษาเพ่มิ เตมิ - หนังสอื นิตยสารเกย่ี วกับการถายภาพตา งๆ - วารสารงานวจิ ัย บทความจากหนงั สอื พิมพ นิตยสาร 3. เอกสารและขอมลู แนะนําทนี่ กั ศกึ ษาควรศกึ ษาเพมิ่ เตมิ www.pixpros.net/ www.ohophoto.com/ www.siamfreestyle.com › ... › หอ งแนะนําเทคนคิ การถายภาพ www.shutterphoto.com/ มหา ิวทยา ัลยราช ัภฏห ู่ม ้บานจอม ึบง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook