Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการใช้หลักสูตร วิชาเคมี ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

คู่มือการใช้หลักสูตร วิชาเคมี ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

Published by Nuttigar, 2018-06-10 23:17:13

Description: คู่มือการใช้หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
วิชาเคมี ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

Keywords: คู่มือ,การใช้หลักสูตร,เคมี,มัธยมศึกษาตอนปลาย,วิทยาศาสตร์

Search

Read the Text Version

100 ผลการเรยี นรู ้ 14. อธิบายผลของการปรับเปลย่ี นโครงสร้างและการสงั เคราะหพ์ อลิเมอรท์ ี่มตี ่อสมบัตขิ องพอลเิ มอร์การวเิ คราะหผ์ ลการเรียนรู้ แนวทางการจดั การเรียนรู้ แนวทางการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ด้านความรู้ 1. นำ�เข้าสู่บทเรียนโดยให้นักเรียนดูวีดิทัศน์หรืออภิปรายร่วมกันเกี่ยวกับ ดา้ นความรู้ ความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยพี อลเิ มอร์ เชน่ เสอื้ เกราะกนั กระสนุ พลาสตกิ การปรบั เปลย่ี นโครงสรา้ งและการสงั เคราะห์ การปรบั เปลย่ี นโครงสรา้ งและการสงั เคราะหพ์ อลเิ มอร์ พอลิเมอร์ ชวี ภาพ จากการอภิปราย ผลงานการสืบค้นข้อมูล และ 2. ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ สบื คน้ ขอ้ มลู ในประเดน็ ทเ่ี กย่ี วกบั การปรบั ปรงุ คณุ ภาพด้านทักษะ ซ่ึงอาจทำ�ได้โดยการปรับเปล่ียนโครงสร้างหรือการสังเคราะห์ เพ่ือให้ได้ การทดสอบทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ พอลเิ มอรท์ ม่ี สี มบตั เิ หมาะสมกบั การน�ำ ไปใชป้ ระโยชน์ เชน่ การวลั คาไนเซชนั - การเตมิ สารเตมิ แต่ง การสงั เคราะหพ์ อลเิ มอร์ร่วม ด้านทักษะทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 3. ให้นักเรียนอภิปรายร่วมกันภายในกลุ่ม เพื่อสรุปผลจากข้อมูลท่ีได้ และ 1. การสอ่ื สารสารสนเทศและการรเู้ ทา่ ทนั สอ่ื จากผลงาน1. การส่อื สารสารสนเทศและการร้เู ท่าทันส่อื การสบื ค้นข้อมลู และการนำ�เสนอ2. ความรว่ มมอื การท�ำ งานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ �ำ น�ำ เสนอ จากนั้นครูอธบิ ายเพิ่มเตมิ ในประเด็นทไี่ ม่สมบูรณ์ 2. ความร่วมมือ การทำ�งานเป็นทีมและภาวะผู้นำ� 4. อภปิ รายและลงขอ้ สรปุ รว่ มกนั วา่ เทคโนโลยพี อลเิ มอรม์ คี วามกา้ วหนา้ และดา้ นจติ วิทยาศาสตร์ จากการสังเกตพฤติกรรมในการน�ำ เสนอ การเห็นคณุ คา่ ทางวทิ ยาศาสตร์ พฒั นาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง เพอ่ื ใหส้ ามารถน�ำ พอลเิ มอรไ์ ปใชง้ านไดอ้ ยา่ งเหมาะสม และหลากหลายมากขน้ึ ด้านจติ วทิ ยาศาสตร์ การเหน็ คณุ คา่ ทางวทิ ยาศาตร์ จากผลงานการสบื คน้ ขอ้ มูลและการนำ�เสนอ

เคมี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6ผลการเรียนรู ้ 15. สืบคน้ ข้อมูลและน�ำ เสนอตวั อย่างผลกระทบจากการใชแ้ ละการกำ�จัดผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์และแนวทางแกไ้ ข 101การวเิ คราะห์ผลการเรยี นรู้ แนวทางการจดั การเรยี นรู้ แนวทางการวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ด้านความรู้ 1. นำ�เข้าสู่บทเรียนโดยให้ยกตัวอย่างการนำ�ผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์โดยเฉพาะ ด้านความรู้ พลาสตกิ ไปใชป้ ระโยชน์ แลว้ ใชค้ �ำ ถามวา่ การใชพ้ ลาสตกิ ในชวี ติ ประจ�ำ วนั ผลกระทบจากการใชแ้ ละการก�ำ จดั ผลติ ภณั ฑ์ ผลกระทบจากการใช้และการกำ�จัดผลิตภัณฑ์ พอลิเมอร์ และแนวทางแกไ้ ข มผี ลกระทบต่อส่งิ มชี ีวติ และส่ิงแวดลอ้ มอย่างไร พอลเิ มอร์ และแนวทางแกไ้ ข จากการอภปิ ราย ผลงาน 2. ให้นักเรียนดูสื่อวิดีทัศน์หรือรูปภาพเก่ียวกับปัญหาและผลกระทบที่เกิด การสืบค้นขอ้ มูล และสอ่ื สรา้ งความตระหนักดา้ นทกั ษะทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ จากการใชพ้ ลาสตกิ แลว้ อภปิ รายรว่ มกนั เพอ่ื ใหไ้ ดข้ อ้ สรปุ วา่ การใชพ้ ลาสตกิ ด้านทกั ษะ การลงความเห็นจากข้อมูล ปริมาณมากก่อให้เกิดปัญหาขยะพลาสติกท่ีเพ่ิมมากขึ้น เน่ืองจากการ 1. การลงความเห็นจากขอ้ มลู จากการอภิปรายทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 2. การสอ่ื สารสารสนเทศและการรเู้ ทา่ ทนั สอ่ื จากผลงาน1. การสื่อสารสารสนเทศและการรู้เท่าทนั สอื่ ยอ่ ยสลายพลาสติกใช้ระยะเวลานาน นอกจากนก้ี ารใชอ้ ย่างไมเ่ หมาะสม การสบื คน้ ขอ้ มลู การน�ำ เสนอ และการจดั ท�ำ สอื่ สรา้ ง2. การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและการแกป้ ญั หา อาจสง่ ผลกระทบตอ่ สุขภาพและเป็นอนั ตรายต่อส่งิ มชี วี ิต3. ความรว่ มมอื การท�ำ งานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ �ำ 3. ให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสารต้ังต้นในการผลิตเม็ดพลาสติกที่ได้จาก ความตระหนัก4. การสร้างสรรค์และนวัตกรรม 3. การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา ปิโตรเลียมซึ่งเป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป เพ่ือสร้างความตระหนักด้านจิตวทิ ยาศาสตร์ และเล็งเห็นความสำ�คัญของทรัพยากรท่ีใช้ในกระบวนการผลิตพลาสติก จากการเสนอแนวทางการแก้ปัญหา1. ความใจกวา้ ง ในอนาคต 4. ความร่วมมือ การทำ�งานเป็นทีมและภาวะผู้นำ� 2. การใช้วิจารณญาณ 4. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลเก่ียวกับผลกระทบที่เกิดจากการใช้3. การเห็นคณุ ค่าทางวทิ ยาศาสตร์ และการกำ�จัดผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ พร้อมทั้งเสนอแนวทางการแก้ปัญหา จากการสังเกตพฤติกรรมในการสืบค้นข้อมูล การ4. คุณธรรมและจริยธรรมท่ีเก่ียวข้องกับ โดยต้องค�ำ นงึ ถึงผลท่เี กิดขน้ึ ต่อสิ่งมีชีวิตและส่งิ แวดล้อม นำ�เสนอและการจดั ท�ำ ส่อื สรา้ งความตระหนัก 5. ให้นักเรียนอภิปรายร่วมกันภายในกลุ่ม เพ่ือสรุปผลจากข้อมูลที่ได้มา 5. การสรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม จากการเสนอแนวทาง วิทยาศาสตร์ และนำ�เสนอ การแกป้ ญั หาและการจัดท�ำ สื่อสรา้ งความตระหนกั 6. อภปิ รายรว่ มกนั เพอ่ื สรปุ ขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ของแตล่ ะแนวทางการแกป้ ญั หา และให้ความรู้เพิ่มเติมเก่ียวกับการนำ�เทคโนโลยีพอลิเมอร์ไปใช้ในการ ด้านจติ วทิ ยาศาสตร์ แก้ปัญหา เช่น พลาสติกชีวภาพ การเติมสารเติมแต่งที่ทำ�ให้พลาสติก 1. ความใจกวา้ งและการใชว้ จิ ารณญาณ จากการสงั เกต ยอ่ ยสลายได้เร็วข้ึน การนำ�กลบั มาใช้ใหม่ 7. ใหน้ กั เรยี นจดั ท�ำ สอื่ เพอื่ สรา้ งความตระหนกั เกยี่ วกบั ปญั หาขยะพลาสตกิ พฤติกรรมในการอภปิ ราย และแนวทางแกไ้ ข ในรปู แบบต่าง ๆ เชน่ โปสเตอร์ แผน่ พบั ปา้ ยรณรงค์ 2. การเห็นคุณค่าทางวิทยาศาตร์ และคุณธรรมและ จริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ จากผลงาน การสืบค้นข้อมูล การนำ�เสนอ และผลงานส่ือสร้าง ความตระหนัก

102 3. เขา้ ใจหลักการท�ำ ปฏบิ ตั ิการเคมี การวัดปริมาณสาร หนว่ ยวดั และการเปลย่ี นหน่วย การค�ำ นวณปริมาณของสาร ความเขม้ ข้นของสารละลาย รวมท้ังการบรู ณาการความรู้และทกั ษะในการอธบิ ายปรากฏการณใ์ นชวี ิตประจำ�วันและการแกป้ ญั หาทางเคมี ผลการเรยี นรู้ 1. ก�ำ หนดปญั หา และน�ำ เสนอแนวทางการแกป้ ญั หาโดยใชค้ วามรทู้ างเคมจี ากสถานการณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ ในชวี ติ ประจ�ำ วนั การประกอบอาชพี หรอื อตุ สาหกรรม การวเิ คราะห์ผลการเรยี นรู้ แนวทางการจัดการเรียนรู้ แนวทางการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ 1. น�ำ เขา้ สบู่ ทเรยี นโดยใหน้ กั เรยี นศกึ ษาตวั อยา่ งปญั หา หรอื สถานการณต์ า่ ง ๆ ด้านความรู้ ที่มีการนำ�ความรู้ทางเคมีมาใช้ในการแก้ปัญหา เช่น ปัญหาดินเปร้ียว การแก้ปัญหาจากสถานการณ์ท่ีเกิดขึ้น การระบุปัญหา การวางแผนกำ�หนดแนวทางการ ในชีวิตประจำ�วัน การประกอบอาชีพ หรือ ปัญหาดินเค็ม ปัญหาภัยแล้ง แล้วอภิปรายร่วมกัน เพ่ือให้เห็นถึงความ แก้ปัญหาโดยใช้ความรู้ทางเคมี จากสถานการณ์ท่ี อุตสาหกรรม โดยใช้ความรู้ทางเคมีและ ส�ำ คญั ของการน�ำ ความรทู้ างเคมมี าแกป้ ญั หา ดว้ ยทกั ษะกระบวนการทาง เกิดข้ึนในชีวิตประจำ�วัน การประกอบอาชีพ หรือ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือ วิทยาศาสตรห์ รอื กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม อตุ สาหกรรม จากการอภปิ ราย การท�ำ กจิ กรรม และ กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม 2. ให้นักเรียนเลือกสถานการณ์ปัญหาที่สนใจท่ีเกิดข้ึนในชีวิตประจำ�วัน งานท่นี ำ�เสนอ การประกอบอาชีพ หรืออุตสาหกรรม จากการระดมความคิดหรือสืบค้น ด้านทักษะ ข้อมูลด้วยตนเอง ซึ่งสามารถนำ�ความรู้ทางเคมีมาใช้ในการแก้ปัญหา ดา้ นทกั ษะ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ แลว้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายและแสดงความคดิ เหน็ ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี 1. การลงความเห็นจากข้อมูลและการตีความหมาย 1. การลงความเหน็ จากขอ้ มูล 1) ปัญหาของสถานการณ์ 2. การตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรุป 2) ความรทู้ างเคมีทีจ่ ะน�ำ มาใช้ในการแก้ปญั หา ขอ้ มลู และลงข้อสรปุ จากการทำ�กจิ กรรม ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 3) แนวทางในการแกป้ ญั หา โดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 2. การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา 1. การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและการแกป้ ญั หา หรอื กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม 2. ความรว่ มมอื การท�ำ งานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ �ำ ท้งั น้คี รูควรสะท้อนความคิดเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาของนักเรียน ความรว่ มมอื การท�ำ งานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ �ำ และ 3. การส่ือสารสารสนเทศและการรเู้ ทา่ ทนั สอื่ และใหค้ วามรเู้ พมิ่ เตมิ ที่ถูกต้องในกรณีที่นักเรียนเกิดความเข้าใจผิดหรือ การสื่อสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ จากการ มีความเข้าใจทค่ี ลาดเคลื่อน ท�ำ กจิ กรรมและงานท่นี ำ�เสนอ ด้านจติ วทิ ยาศาสตร์ 3. ให้นกั เรยี นลงมอื ปฏบิ ตั ติ ามแนวทางการแก้ปัญหาทกี่ �ำ หนดไว้ 1. ความอยากรอู้ ยากเหน็ 4. ใหน้ กั เรยี นน�ำ เสนองานโดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ โดยครแู ละเพอื่ นรว่ ม ดา้ นจติ วทิ ยาศาสตร์ 2. การใช้วจิ ารณญาณ ช้ันเรียนรว่ มซกั ถามและสะท้อนความคิด 1. ความอยากรู้อยากเห็นและความใจกว้าง จากการ 3. ความใจกว้าง 5. อภิปรายและสรุปการเรียนรู้ร่วมกัน โดยเน้นย้ำ�และช้ีให้เห็นความสำ�คัญ สงั เกตพฤตกิ รรมในการท�ำ กจิ กรรม และการอภปิ ราย 4. การเหน็ คุณคา่ ทางวิทยาศาสตร์ ของการนำ�ความรู้ทางเคมีมาแก้ปัญหา ด้วยทักษะกระบวนการทาง 2. การใชว้ จิ ารณญาณและการเหน็ คณุ คา่ ทางวทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์หรือกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม จากการอภปิ รายและการนำ�เสนองาน

เคมี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6ผลการเรียนรู้ 2. แสดงหลกั ฐานถงึ การบูรณาการความรู้ทางเคมรี ว่ มกบั สาขาวิชาอ่ืน รวมทง้ั ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรห์ รือกระบวนการออกแบบ 103 เชงิ วศิ วกรรม โดยเนน้ การคดิ วเิ คราะห์ การแก้ปัญหาและความคดิ สรา้ งสรรค์ เพ่อื แกป้ ญั หาในสถานการณห์ รอื ประเดน็ ทส่ี นใจการวเิ คราะห์ผลการเรยี นรู้ แนวทางการจัดการเรยี นรู้ แนวทางการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ด้านความรู้ 1. นำ�เข้าสู่บทเรียนด้วยการนำ�เสนอสถานการณ์หรือประเด็นปัญหาท่ีมี ดา้ นความรู้ การน�ำ ความรวู้ ชิ าเคมมี าบรู ณาการรว่ มกบั วชิ าอน่ื เพอื่ ใชใ้ นการแกป้ ญั หา การบูรณาการความรู้ทางเคมีร่วมกับสาขา เพ่ือให้นักเรียนเห็นว่าการแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ หรือการสร้าง การแกป้ ญั หาโดยการบรู ณาการความรวู้ ชิ าเคมรี ว่ มกบั วิชาอ่ืน โดยใช้ทักษะกระบวนการทาง นวัตกรรมสว่ นใหญ่ต้องใช้ทักษะหรอื ความรูใ้ นหลายศาสตร์ สาขาวิชาอ่ืน และการออกแบบตามกระบวนการ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ ก ร ะ บ ว น ก า ร อ อ ก แ บ บ เ ชิ ง วศิ วกรรม เพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์หรือ 2. ให้นักเรียนเลือกสถานการณ์ปัญหาที่สนใจจากการระดมความคิดหรือ เชิงวิศวกรรม จากแบบร่างแนวทางการแก้ปัญหา ประเด็นท่ีสนใจ สืบค้นข้อมูลด้วยตนเอง ซึ่งอาจเป็นสถานการณ์ปัญหาท่ีเกิดขึ้นในชีวิต และรายงาน ประจำ�วัน การประกอบอาชีพ หรืออุตสาหกรรม โดยการแก้ปัญหาด้านทกั ษะ จ�ำ เปน็ ตอ้ งมกี ารบรู ณาการความรทู้ างเคมรี ว่ มกบั วชิ าอน่ื รวมทง้ั ใชท้ กั ษะ ด้านทกั ษะทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม 1. การสงั เกต การลงความเหน็ จากขอ้ มลู การพยากรณ์1. การสังเกต2. การลงความเหน็ จากขอ้ มลู 3. ชแ้ี จงขน้ั ตอน เงอ่ื นไข และระยะเวลาในการท�ำ กจิ กรรม รวมทง้ั ก�ำ หนดเกณฑ์ และการตคี วามหมายข้อมลู และลงข้อสรุป จากการ3. การพยากรณ์ ในการประเมินผล ทำ�กิจกรรม4. การตคี วามหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรุป 4. ใหน้ กั เรยี นท�ำ กจิ กรรม โดยแตล่ ะกลมุ่ วเิ คราะหส์ ถานการณร์ ว่ มกนั วางแผน 2. การสรา้ งแบบจำ�ลอง จากผลงานหรือรายงาน5. การสรา้ งแบบจำ�ลอง และออกแบบวิธีการหรือแนวทางการแกป้ ัญหาทเ่ี ปน็ ไปได้ 3. การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 5. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำ�เสนอร่างแนวทางการแก้ปัญหาที่ออกแบบไว้ ความรว่ มมอื การท�ำ งานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ �ำ และ1. การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและการแกป้ ญั หา พร้อมท้ังอธบิ ายเหตผุ ลประกอบ การส่ือสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันส่ือ จากการ2. ความรว่ มมอื การท�ำ งานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ �ำ 6. ร่วมกันอภิปรายสะท้อนความคิดต่อร่างแนวทางการแก้ปัญหาท่ีนักเรียน ท�ำ กิจกรรมและผลงาน3. การส่อื สารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสอื่ ออกแบบไว้ ให้คำ�ช้แี นะ ทง้ั นอ้ี าจใหม้ ีการทบทวนหรือแก้ไข ด้านจติ วทิ ยาศาสตร์ด้านจติ วทิ ยาศาสตร์ 7. ใหน้ ักเรียนลงมือปฏิบตั ิตามแนวทางการแกป้ ญั หาทร่ี ่างไวใ้ ห้ส�ำ เรจ็ ซงึ่ ใน 1. ความอยากรู้อยากเห็นและความใจกว้าง จากการ1. ความอยากรอู้ ยากเหน็2. ความใจกว้าง ข้ันตอนนี้นักเรียนอาจมีการแก้ไขแนวทางหรือข้ันตอนการแก้ปัญหาได้ สงั เกตพฤตกิ รรมในการอภปิ รายและการท�ำ กจิ กรรม3. การใช้วิจารณญาณ ทั้งน้คี วรใหน้ กั เรยี นบนั ทึกการแกไ้ ขนนั้ ด้วย 2. การใช้วจิ ารณญาณและความมุ่งม่นั อดทน จากการ4. ความมุ่งมน่ั อดทน 8. ให้นกั เรยี นส่งผลงานหรือรายงานท่ีแสดงถึงที่มาของปญั หา วตั ถปุ ระสงค์ สังเกตพฤติกรรมในการอภิปราย การออกแบบ5. การเห็นคุณค่าทางวิทยาศาสตร์ การบรู ณาการหลกั การหรอื ทฤษฎใี นการแกป้ ญั หา ขนั้ ตอนการด�ำ เนนิ งาน และผลการแกป้ ญั หา จากนน้ั ครสู ะทอ้ นความคดิ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นปรบั ปรงุ แนวทางการแก้ปญั หา และผลงาน แก้ไขและเตรยี มการน�ำ เสนอต่อไป 3. การเห็นคุณค่าทางวิทยาศาสตร์ จากการออกแบบ การแก้ปัญหาและการแสดงความคิดเห็นในการ อภิปราย

104 ผลการเรียนร ู้ 3. นำ�เสนอผลงานหรอื ชิน้ งานท่ีไดจ้ ากการแกป้ ญั หาในสถานการณห์ รอื ประเดน็ ท่สี นใจโดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศการวเิ คราะห์ผลการเรียนรู้ แนวทางการจดั การเรียนรู้ แนวทางการวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ด้านความรู้ 1. นำ�เข้าสู่บทเรียนโดยให้นักเรียนร่วมแสดงความคิดเห็นว่าหลังจากที่ ดา้ นความรู้ นักเรียนได้แก้ปัญหาหรือสร้างสรรค์ชิ้นงานแล้ว นักเรียนจะมีวิธีการหรือ วิธีการและรูปแบบการนำ�เสนอผลงานหรือ รูปแบบของการนำ�เสนอผลงานให้น่าสนใจได้อย่างไร มีวิธีการ รูปแบบ วิธีการและรูปแบบการนำ�เสนอผลงานหรือช้ินงาน ชน้ิ งาน โดยใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ หรอื เครื่องมอื ใดทช่ี ว่ ยใหก้ ารน�ำ เสนองานใหม้ ีประสทิ ธิภาพมากขึน้ โดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ จากการน�ำ เสนอผลงาน ซ่งึ อาจเป็นงานหรอื ช้นิ งานด้านทักษะ 2. ใหน้ กั เรยี นแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั วธิ กี ารหรอื รปู แบบของการน�ำ เสนอทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ผลงานอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และรว่ มกนั ก�ำ หนดเกณฑใ์ นการประเมนิ การ ดา้ นทกั ษะ1. การสังเกต 1. การสังเกต การจัดกระทำ�และส่ือความหมายข้อมูล2. การจัดกระท�ำ และส่ือความหมายข้อมูล น�ำ เสนอผลงาน3. การลงความเห็นจากข้อมลู 3. ให้นักเรียนออกแบบวิธีการนำ�เสนองานหรือผลงานของกลุ่ม โดยมี และการสรา้ งแบบจำ�ลอง จากงานท่นี �ำ เสนอ4. การสร้างแบบจ�ำ ลอง 2. การลงความเห็นจากข้อมูล จากการซักถามและ ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 การสอื่ สารสารสนเทศและการรู้เทา่ ทนั ส่ือรว่ มดว้ ย1. การสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม 4. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำ�เสนองานหรือช้ินงานที่ได้จากการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และการประเมินการ 2. การส่อื สารสารสนเทศและการร้เู ทา่ ทันสื่อ น�ำ เสนอผลงาน3. ความรว่ มมอื การท�ำ งานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ �ำ แก้ปัญหาในกิจกรรมท่ีผ่านมา โดยอาจจัดห้องเรียนให้เสมือนเป็นเวที 3. การสรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม และการสอ่ื สารสารสนเทศ เสนอผลงานของนกั เรียน และการรเู้ ทา่ ทนั สื่อ จากการนำ�เสนอผลงานด้านจติ วิทยาศาสตร์ 5. ใหน้ กั เรยี นไดซ้ กั ถามและแลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ ระหวา่ งทม่ี กี ารน�ำ เสนอ 4. ความร่วมมือ การทำ�งานเป็นทีมและภาวะผู้นำ� 1. ความใจกว้าง ของเพอ่ื นรว่ มชน้ั เรยี น รวมทง้ั อาจมสี ว่ นรว่ มในการประเมนิ การน�ำ เสนองาน จากการสังเกตพฤติกรรมการทำ�งานกลุ่ม และ2. ความซือ่ สัตย์ และผลงาน โดยการประเมินผลงานควรใช้เกณฑ์ท่ีนักเรียนสามารถ การนำ�เสนอผลงาน3. การใช้วจิ ารณญาณ ประเมินได้ เช่น การบูรณาการความรู้ ประสิทธิภาพของผลงาน 4. การเหน็ คณุ ค่าทางวทิ ยาศาสตร์ การออกแบบตามกระบวนการเชิงวิศวกรรม ความคิดสร้างสรรค์ โดยครู ด้านจิตวิทยาศาสตร์ ควรชีใ้ หเ้ ห็นความส�ำ คัญ และตระหนกั ถงึ การประเมนิ อยา่ งซ่ือสตั ย์ 1. ความใจกว้าง จากการนำ�เสนอผลงาน การซักถาม 6. ให้นักเรียนเขียนสะท้อนความคิดต่อสิ่งท่ีได้เรียนรู้ จากการทำ�กิจกรรม และการนำ�เสนอผลงาน และแลกเปลีย่ นความคิดเห็น 2. ความซื่อสัตย์ จากการนำ�เสนอผลงานและ การประเมนิ การน�ำ เสนอผลงาน 3. การใชว้ จิ ารณญาณ จากการซกั ถามและแลกเปลยี่ น ความคิดเหน็ 4. การเห็นคุณค่าทางวิทยาศาสตร์ จากการนำ�เสนอ ผลงานและการเขยี นสะทอ้ นความคิด

เคมี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6ผลการเรยี นรู้ 4. แสดงหลกั ฐานการเข้าร่วมการสัมมนา การเข้าร่วมประชมุ วิชาการ หรือการแสดงผลงานสงิ่ ประดิษฐใ์ นงานนิทรรศการ 105การวเิ คราะห์ผลการเรียนรู้ แนวทางการจดั การเรียนรู้ แนวทางการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ดา้ นความรู้ 1. อภปิ รายรว่ มกนั เพอื่ ใหน้ กั เรยี นมคี วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั แนวทางการเขา้ รว่ ม ด้านความรู้ งานวิชาการประเภทต่าง ๆ เช่น การสัมมนา การเข้าร่วมประชุมวิชาการ 1. รปู แบบของงานวชิ าการประเภทตา่ ง ๆ (งาน รปู แบบของงานวชิ าการประเภทตา่ ง ๆ และวธิ กี ารท่ี นทิ รรศการ การสมั มนา การประชมุ วชิ าการ) การแสดงผลงานหรือส่ิงประดิษฐ์ในงานนิทรรศการ รวมทั้งการเรียนรู้ เหมาะสมในการแลกเปล่ยี นและแสดงความคดิ เห็น วธิ ีการท่ีเหมาะสมในการแลกเปล่ยี นและแสดงความคดิ เห็น จากการอภปิ ราย2. วิธีการท่ีเหมาะสมในการแลกเปล่ียนและ 2. จัดนิทรรศการแสดงผลงาน การสัมมนา หรือการประชุมวิชาการ แสดงความคดิ เหน็ ซ่งึ อาจเปน็ งานในระดบั ชัน้ เรียน โรงเรยี น หรอื กลมุ่ โรงเรียน ดา้ นทกั ษะ 3. ให้นักเรียนเข้าร่วมหรือนำ�เสนอผลงาน ในงานนิทรรศการ การสัมมนา 1. การสังเกต การลงความเห็นจากข้อมูล และการด้านทกั ษะ หรือการประชมุ วิชาการทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 4. นำ�เสนอบันทึกหรือรายงาน เพื่อเป็นหลักฐานแสดงถึงการเข้าร่วมหรือ ตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป จากบันทึกหรือ1. การสังเกต นำ�เสนอผลงานในงานนิทรรศการ การสมั มนา หรอื การประชุมวิชาการ รายงานการเข้าร่วมหรอื นำ�เสนอผลงาน2. การลงความเห็นจากขอ้ มลู 5. อภิปรายร่วมกันเพ่ือสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ รวมท้ังปัญหาและอุปสรรคของ 2. การส่ือสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ จากการ3. การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรปุ การเข้าร่วมหรือนำ�เสนอผลงานในงานนิทรรศการ การสัมมนา หรือ อภิปรายและบันทึกหรือรายงานการเข้าร่วมหรือ ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 การประชุมวชิ าการ นำ�เสนอผลงาน การส่อื สารสารสนเทศและการรเู้ ท่าทนั สื่อ ด้านจิตวิทยาศาสตร์ดา้ นจติ วิทยาศาสตร์ 1. ความอยากรู้อยากเห็นและความใจกว้าง จากการ1. ความอยากรอู้ ยากเห็น2. ความใจกวา้ ง สงั เกตพฤตกิ รรมในการเขา้ รว่ มหรอื น�ำ เสนอผลงาน 3. การเห็นคุณค่าของวิทยาศาสตร์ 2. การเห็นคุณค่าของวิทยาศาสตร์และความสนใจ 4. ความสนใจในวทิ ยาศาสตร์ ในวทิ ยาศาสตร์ จากบันทกึ หรือรายงานการเข้ารว่ ม งานวชิ าการ