Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 24 52-01-0120 แผนฯ ภูมิศาสตร์ ม.4-6

24 52-01-0120 แผนฯ ภูมิศาสตร์ ม.4-6

Published by Chaiwiwath Suktakian, 2022-08-10 10:08:59

Description: 24 52-01-0120 แผนฯ ภูมิศาสตร์ ม.4-6

Search

Read the Text Version

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 88 2. มาตรการในการจดั การวกิ ฤตการณ์ดา้ น 2. อธิบายลกั ษณะการดาํ เนินงานขององคก์ รที่มี ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของโลก บทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ ท่ีเป็นลกั ษณะกฎหมายระหวา่ งประเทศดา้ น สิ่งแวดลอ้ มท้งั ในประเทศและต่างประเทศ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม โดยจดั ทาํ เป็นกติกาและนาํ มาปฏิบตั ิร่วมกนั เช่น 3. อธิบายกฎหมายท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การอนุรักษ์ อนุสญั ญาไซเตส อนุสญั ญาเวียนนาและ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของ พิธีสารมอนทรีออล อนุสญั ญาสหประชาชาติ ประเทศไทย วา่ ดว้ ยการเปล่ียนแปลงสภาพภมู ิอากาศ อนุสญั ญาวา่ ดว้ ยความหลากหลายทางชีวภาพ 4. อธิบายแนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากร อนุสญั ญาบาเซิล ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในภมู ิภาคต่าง ๆ ของ โลก 3. องคก์ รท่ีมีบทบาทในการจดั การทรัพยากร ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มมีท้งั ในประเทศและ ต่างประเทศ องคก์ รในประเทศ เช่น มลู นิธิ คุม้ ครองสตั วป์ ่ าและพรรณพืชแห่งประเทศ ไทย ในพระบรมราชินูปถมั ภ์ มูลนิธิสืบนาคะ เสถียร สมาคมหยาดฝน มลู นิธิเพ่อื นชา้ ง ส่วนองคก์ รต่างประเทศ เช่น องคก์ รกรีนพีซ กองทุนสตั วป์ ่ าโลก 4. กฎหมายเกี่ยวกบั การอนุรักษท์ รัพยากร ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของประเทศไทย แบ่งออกเป็นกฎหมายท่ีเก่ียวกบั การใช้ ทรัพยากรธรรมชาติประเภทต่าง ๆ และ กฎหมายที่เกี่ยวกบั ส่ิงแวดลอ้ มท่ีมนุษยส์ ร้าง ข้ึน เช่น พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรักษา คุณภาพสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ. 2535 พระราชบญั ญตั ิการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และ ท่ีแกไ้ ขเพ่ิมเติม (ฉบบั ท่ี 2 ) พ.ศ. 2550 พระราชบญั ญตั ิรักษาความสะอาดและความ เป็นระเบียบเรียบร้อยของบา้ นเมือง พ.ศ. 2535 พระราชบญั ญตั ิป่ าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 พระราชบญั ญตั ิสงวนและคุม้ ครองสตั วป์ ่ า พ.ศ. 2535

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 89 5. แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ มในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก เช่น ในภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกมีนโยบายที่ เก่ียวกบั การพฒั นาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกบั สิ่งแวดลอ้ ม ในทวีปยโุ รปมีมาตรการและ นโยบายที่เก่ียวกบั สิ่งแวดลอ้ ม เช่น การกาํ หนด ระเบียบการจาํ กดั การใชส้ ารเคมีอนั ตรายใน โรงงานอุตสาหกรรม ในทวปี แอฟริกามีการ ปรับปรุงและฟ้ื นฟแู หล่งอนุรักษพ์ นั ธุ์พืชและ พนั ธุ์สตั วใ์ นเขตเหมืองร้าง ในทวีปอเมริกา เหนือมีการออกกฎหมายเพ่ือป้ องกนั การ เปล่ียนแปลงสภาพภมู ิอากาศโลกและการใช้ พลงั งานสะอาด ข้ันที่ 2 ภาระงานและการประเมนิ ผลการเรียนรู้ซ่ึงเป็ นหลกั ฐานท่แี สดงว่านักเรียนมผี ลการเรียนรู้ ตามท่ีกาํ หนดไว้อย่างแท้จริง 1. ภาระงานที่นักเรียนต้องปฏิบัติ 1.1 ศึกษาคน้ ควา้ เก่ียวกบั การจดั การดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม 1.2 จดั ทาํ แผน่ พบั เกี่ยวกบั มาตรการในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม 1.3 แสดงละครเกี่ยวกบั แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 2. วธิ ีการและเคร่ืองมอื ประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2.1 วิธีการประเมินผลการเรียนรู้ 2.2 เคร่ืองมือประเมินผลการเรียนรู้ 1) การทดสอบ 1) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน 2) การประเมินผลงาน/กิจกรรม 2) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรม เป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม เป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม 3) การประเมินดา้ นคุณธรรม จริยธรรม 3) แบบประเมินดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม และค่านิยม 4) การประเมินดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 4) แบบประเมินดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 3. ส่ิงทม่ี ุ่งประเมนิ 3.1 ความสามารถ 6 ดา้ น ไดแ้ ก่ การอธิบาย ช้ีแจง การแปลความและตีความ การประยกุ ต์ ดดั แปลง และนาํ ไปใช้ การมีมุมมองท่ีหลากหลาย การใหค้ วามสาํ คญั และใส่ใจในความรู้สึกของผอู้ ่ืน และ การรู้จกั ตนเอง 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ เช่น การสื่อสาร การใชเ้ ทคโนโลยี การคิด การแกป้ ัญหา กระบวนการกลุ่ม 3.3 คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม เช่น มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง รักความเป็นไทย รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ มีจิตสาธารณะ มีความรับผดิ ชอบ ซื่อสตั ยส์ ุจริต

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 90 ข้ันที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้ เวลา 2 ชว่ั โมง เวลา 2 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10 มาตรการในการจดั การวกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากร เวลา 2 ชว่ั โมง ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของโลก เวลา 2 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 11 องคก์ รที่มีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ ม แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 12 กฎหมายท่ีเกี่ยวกบั การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มของประเทศไทย แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 13 แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 91 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 10 มาตรการในการจัดการวกิ ฤตการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อมของโลก สาระที่ 5 ภูมศิ าสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 4–6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การจดั การด้านทรัพยากรธรรมชาติและ เวลา 2 ชั่วโมง สิ่งแวดล้อม 1. สาระสําคญั มาตรการดา้ นกฎหมายระหวา่ งประเทศเป็นอีกมาตรการหน่ึงในการจดั การแกไ้ ขปัญหาวกิ ฤตการณ์ ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของประเทศไทยและของโลก 2. ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน  ระบุมาตรการป้ องกนั และแกไ้ ขปัญหา บทบาทขององคก์ รและการประสานความร่วมมือท้งั ใน ประเทศและนอกประเทศเก่ียวกบั กฎหมายสิ่งแวดลอ้ ม การจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม (ส 5.2 ม. 4–6/2) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ยกตวั อยา่ งมาตรการในการจดั การวกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของโลก ได้ (K) 2. ตระหนกั ถึงความสาํ คญั และประโยชนข์ องการปฏิบตั ิตามมาตรการในการจดั การวกิ ฤตการณ์ ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มระหวา่ งประเทศได้ (A) 3. นาํ ความรู้เก่ียวกบั มาตรการในการจดั การวิกฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ของโลกไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจาํ วนั ได้ (P) 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) และค่านิยม (A) 1. ทดสอบก่อนเรียน  ประเมินพฤติกรรมในการ 2. ซกั ถามความรู้เรื่อง มาตรการ  ประเมินพฤติกรรมในการ ทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือ ทาํ งานเป็นรายบุคคลในดา้ น เป็นกลุ่มในดา้ นการส่ือสาร ในการจดั การวิกฤตการณ์ ความมีวนิ ยั ความใฝ่ เรียนรู้ การคิด การแกป้ ัญหา ฯลฯ ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและ ฯลฯ สิ่งแวดลอ้ ม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 92 3. ตรวจผลงาน/กิจกรรม เป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม 5. สาระการเรียนรู้  มาตรการในการจดั การวกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของโลก 1. อนุสญั ญาไซเตส 2. อนุสญั ญาเวียนนาและพธิ ีสารมอนทรีออล 3. อนุสญั ญาสหประชาชาติวา่ ดว้ ยการเปล่ียนแปลงสภาพภมู ิอากาศ 4. อนุสญั ญาวา่ ดว้ ยความหลากหลายทางชีวภาพ 5. อนุสญั ญาบาเซิล 6. แนวทางบูรณาการ  ฟัง พดู อ่าน และเขียนขอ้ มลู เกี่ยวกบั มาตรการในการจดั การวิกฤต- ภาษาไทย การณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของโลก การงานอาชีพฯ  สืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั มาตรการในการจดั การวิกฤตการณ์ดา้ น ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของโลกจากแหลง่ การเรียนรู้ ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นําเข้าสู่บทเรียน ช่ัวโมงท่ี 26 1. ครูแจง้ ตวั ช้ีวดั ช่วงช้นั และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ 2. ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบก่อนเรียน 3. ครูสนทนาซกั ถามความรู้ของนกั เรียนเกี่ยวกบั มาตรการในการจดั การวกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากร ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของโลกท่ีไดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปศึกษามาในประเดน็ ต่าง ๆ เช่น 1) การจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มคืออะไร 2) ยกตวั อยา่ งกฎหมายระหวา่ งประเทศดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มท่ีประชาคม โลกร่วมกนั จดั ทาํ เป็นกติกาและนาํ มาปฏิบตั ิ 4. ครูนาํ ข่าวเกี่ยวกบั การคา้ สตั วป์ ่ ามาบอกเล่าใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ สนทนาร่วมกนั ถึงปัญหาการคา้ สตั วป์ ่ า จากน้นั ครูเชื่อมโยงเขา้ สู่เน้ือหาท่ีจะเรียน ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 5. ครูบอกประโยชนข์ องการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มโดยใชม้ าตรการระหวา่ ง ประเทศมาดาํ เนินการ จากน้นั ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนแบง่ ออกเป็น 5 กลุ่ม ศึกษาขอ้ มลู เก่ียวกบั อนุสญั ญา ที่กาํ หนดให้ ดงั น้ี กลุ่มที่ 1 อนุสญั ญาไซเตส

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 93 กลุ่มท่ี 2 อนุสญั ญาเวยี นนาและพิธีสารมอนทรีออล กลุ่มที่ 3 อนุสญั ญาสหประชาชาติวา่ ดว้ ยการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู ิอากาศ กลุ่มที่ 4 อนุสญั ญาวา่ ดว้ ยความหลากหลายทางชีวภาพ กลุ่มท่ี 5 อนุสญั ญาบาเซิล ครูใหน้ กั เรียนบนั ทึกขอ้ มลู ที่ไดล้ งในแบบบนั ทึกกิจกรรมเร่ือง มาตรการในการจดั การทรัพยากร ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของโลก เป็นการบา้ นเพื่อเตรียมจดั การเรียนรู้ในคร้ังต่อไป ช่ัวโมงท่ี 27 6. ครูทบทวนความรู้เกี่ยวกบั การจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มและประโยชน์ของการ จดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มโดยใชม้ าตรการระหวา่ งประเทศมาดาํ เนินการ แลว้ ใหน้ กั เรียน บนั ทึกความรู้ท่ีไดล้ งในสมุด ส่งครู 7. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาํ เสนอขอ้ มลู เก่ียวกบั อนุสญั ญาที่ไดร้ ับมอบหมาย ใหไ้ ปศึกษามาหนา้ ช้นั เรียน ครูคอยเสนอแนะและเพม่ิ เติมความรู้ และเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนกลุ่มอื่น ๆ ซกั ถามขอ้ สงสยั ท่ีมีตอ่ กลุ่มท่ีนาํ เสนอขอ้ มูลได้ 8. ครูใหน้ กั เรียนสรุปความรู้ที่ไดล้ งในแบบบนั ทึกความรู้ส่งครูในชว่ั โมงถดั ไป 9. ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกล่มุ ศึกษาเพม่ิ เติมเกยี่ วกบั ความสัมพนั ธ์ระหว่างประเทศสมาชิก อาเซียนกบั อนุสัญญาเกยี่ วกบั ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมของโลกที่กลุ่มได้รับมอบหมาย สรุปว่า มคี วามสําคญั กบั ประเทศสมาชิกอาเซียนอย่างไร และประเทศสมาชิกอาเซียนมกี ารปฏิบัตติ ามอนุสัญญา น้ัน ๆ อย่างไร แล้วจัดทําเป็ นรายงานส่งครู ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 10. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละคนศึกษาขอ้ มูลอนุสญั ญาท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มท่ีนกั เรียนสนใจนอกจากเน้ือหาในบทเรียนคนละ 1 เรื่อง ในประเดน็ ต่อไปน้ี แลว้ จดั ทาํ เป็น แผน่ พบั นาํ มาแลกเปล่ียนกนั ศึกษาในช้นั เรียน ประเดน็ ที่ใชใ้ นการศึกษา ดงั น้ี 1) ช่ืออนุสญั ญา 2) ความเป็นมาของอนุสญั ญา 3) วตั ถุประสงคแ์ ละแนวทางในการจดั การ 4) การดาํ เนินงานของประเทศไทยเพ่อื ใหส้ อดคลอ้ งกบั อนุสญั ญาดงั กล่าว 11. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมท่ีเก่ียวกบั มาตรการในการจดั การวกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มของโลก ในแบบฝึ กทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พ์ วฒั นาพานิช จาํ กดั จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาํ ตอบที่ถูกตอ้ ง ข้นั ที่ 4 นําไปใช้ 12. ครูใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งการนาํ ความรู้เร่ือง มาตรการในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มของโลก ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาํ วนั

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 94 ข้นั ที่ 5 สรุป 13. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เร่ือง มาตรการในการจดั การวกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากร ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม แลว้ ใหน้ กั เรียนบนั ทึกความรู้ท่ีไดล้ งสมุด 14 .ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนอ่านทบทวนเน้ือหาเกี่ยวกบั มาตรการในการจดั การวกิ ฤตการณ์ดา้ น ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของโลก สรุปและบนั ทึกความรู้ที่ไดล้ งในสมุด เป็นการบา้ นเพือ่ เตรียมจดั การเรียนรู้ในคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ ครูใหน้ กั เรียนคน้ หาข่าวสารเก่ียวกบั มาตรการในการจดั การวกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มของประเทศไทยในปัจจุบนั 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน 2. แบบบนั ทึกกิจกรรมเร่ือง มาตรการในการจดั การวกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มของโลก 3. แบบบนั ทึกความรู้ 4. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 5. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. คู่มือการสอน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ _______________________________________________________ แนวทางการพฒั นา _________________________________________________________________ 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ ___________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ____________________________________________________________________ 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน ___________________________________________________________ เหตุผล __________________________________________________________________________ 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ____________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ลงช่ือ ________________________ ผู้สอน ___________ / __________ / __________

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 95 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 11 องค์กรทีม่ ีบทบาทในการจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม สาระท่ี 5 ภูมศิ าสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 4–6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การจดั การด้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ เวลา 2 ช่ัวโมง ส่ิงแวดล้อม 1. สาระสําคญั ปัญหาความเส่ือมโทรมท่ีเกิดข้ึนกบั ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ส่งผลใหเ้ กิดการรวมกลุ่ม กนั ท้งั องคก์ รภาครัฐ ตลอดจนองคก์ รประชาชนและองคก์ รเอกชนของประเทศต่าง ๆ เพอื่ แกไ้ ขปัญหาที่ เกิดข้ึน 2. ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน  ระบุมาตรการป้ องกนั และแกไ้ ขปัญหา บทบาทขององคก์ รและการประสานความร่วมมือท้งั ใน ประเทศและนอกประเทศเกี่ยวกบั กฎหมายสิ่งแวดลอ้ ม การจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม (ส 5.2 ม. 4–6/2) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายบทบาทขององคก์ รท้งั ในและนอกประเทศที่มีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มได้ (K) 2. วิเคราะห์ความสมั พนั ธ์ขององคก์ รท้งั ในและนอกประเทศท่ีมีบทบาทในการจดั การทรัพยากร ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มได้ (P, K) 3. ตระหนกั ถึงประโยชน์จากการดาํ เนินงานขององคก์ รท้งั ในและนอกประเทศที่มีบทบาทในการ จดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม (A) 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) และค่านิยม (A) 1. ซกั ถามความรู้เร่ือง องคก์ ร  ประเมินพฤติกรรมในการ ท่ีมีบทบาทในการจดั การ  ประเมินพฤติกรรมในการ ทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือ ทรัพยากรธรรมชาติและ ทาํ งานเป็นรายบุคคลในดา้ น เป็นกลุ่มในดา้ นการสื่อสาร สิ่งแวดลอ้ ม ความมีวนิ ยั ความใฝ่ เรียนรู้ การคิด การแกป้ ัญหา ฯลฯ ฯลฯ 2. ตรวจผลงาน/กิจกรรม เป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 96 5. สาระการเรียนรู้  องคก์ รท่ีมีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม 1. องคก์ รในประเทศที่มีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม 2. องคก์ รต่างประเทศท่ีมีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของประเทศ ไทย 6. แนวทางบูรณาการ  ฟัง พดู อ่าน และเขียนขอ้ มลู เก่ียวกบั องคก์ รท่ีมีบทบาทในการจดั การ ภาษาไทย ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม การงานอาชีพฯ  สืบคน้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั องคก์ รในประเทศ 1 องคก์ ร และต่างประเทศ 1 องคก์ ร ท่ีมีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ของประเทศไทยจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 นําเข้าสู่บทเรียน ชั่วโมงท่ี 28 1. ครูแจง้ ตวั ช้ีวดั ช่วงช้นั และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ 2. ครูทบทวนความรู้เก่ียวกบั มาตรการในการจดั การวกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มของโลกดว้ ยการสุ่มเลือกนกั เรียน 2–3 คน ใหอ้ อกมาอ่านเน้ือหาสรุปเก่ียวกบั มาตรการในการ จดั การวกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของโลกท่ีไดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปอ่านทบทวน มาใหเ้ พือ่ น ๆ ฟังหนา้ ช้นั เรียน โดยครูคอยแนะนาํ และเสริมความรู้ จากน้นั เชื่อมโยงเขา้ สู่เน้ือหาท่ีจะเรียน ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 3. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4–6 คน ศึกษาความรู้เก่ียวกบั องคก์ รที่มีบทบาทในการจดั การ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม โดยครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มเลือกศึกษาองคก์ รในประเทศ 1 องคก์ ร และต่างประเทศ 1 องคก์ ร ที่มีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของประเทศไทย จากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น หอ้ งสมุด อินเทอร์เน็ต โดยศึกษาในประเดน็ ต่อไปน้ี 1) ช่ือองคก์ ร 2) สถานท่ีต้งั 3) ความเป็นมาขององคก์ ร 4) จุดประสงคข์ ององคก์ ร 5) บทบาทและผลการดาํ เนินงาน 4. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนบนั ทึกขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการศึกษาลงในใบงานที่ 1 เร่ือง องคก์ รในประเทศ ท่ีมีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม และใบงานท่ี 2 เรื่อง องคก์ รต่างประเทศที่มี

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 97 บทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม เป็นการบา้ นเพือ่ เตรียมจดั การเรียนรู้ในคร้ัง ต่อไป นอกจากนี้ ให้แต่ละกลุ่มศึกษาเพมิ่ เติมว่า องค์กรท่ีกลุ่มเลอื กศึกษามคี วามเกย่ี วข้องกบั ประเทศอน่ื ๆ ในประเทศสมาชิกอาเซียนหรือไม่ อย่างไร สรุปเป็ นความเรียง แผนท่ีความคดิ หรือแผนผงั อย่างใดอย่าง หนึ่งตามความสนใจ ชั่วโมงที่ 29 5.ครูบอกกฎเกณฑแ์ ละกติกาสาํ หรับการนาํ เสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียนใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ ให้ นกั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนนาํ เสนอผลการศึกษาในใบงานที่ 1 และใบงานท่ี 2 หนา้ ช้นั เรียน โดยครูคอย แนะนาํ และเสริมความรู้ 6. ครูและนกั เรียนร่วมกนั วิเคราะห์ประโยชน์ท่ีไดจ้ ากการดาํ เนินงานขององคก์ รท้งั ในประเทศและ ตา่ งประเทศที่มีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม แลว้ ใหน้ กั เรียนบนั ทึกความรู้ท่ี ไดล้ งในแบบบนั ทึกความรู้ ส่งครูทา้ ยชวั่ โมง 7. ครูให้นักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นว่า องค์กรต่าง ๆ ท้ังในประเทศและต่างประเทศท่ี นักเรียนได้ศึกษามาน้ันมอี งค์กรใดบ้างทมี่ จี ุดประสงค์ บทบาท และผลการดาํ เนินงานที่ใกล้เคยี งกบั แนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี ง อย่างไร ครูบันทึกความคดิ เห็นท้งั หมดลงบนกระดานดาํ แล้วช่วยสรุป นักเรียนสรุปความรู้ที่ได้ลงสมดุ ส่งครู ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 8. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมท่ีเกี่ยวกบั องคก์ รท่ีมีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ ม ในแบบฝึ กทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาํ ตอบท่ีถกู ตอ้ ง ข้นั ท่ี 4 นําไปใช้ 9. ครูแนะนาํ ใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งการนาํ ความรู้เร่ือง องคก์ รท่ีมีบทบาทในการจดั การทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ข้นั ที่ 5 สรุป 10. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เรื่อง องคก์ รที่มีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ ม แลว้ ใหน้ กั เรียนบนั ทึกความรู้ที่ไดล้ งสมุด 11. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนอ่านทบทวนเน้ือหาเกี่ยวกบั องคก์ รท่ีมีบทบาทในการจดั การ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม สรุปและบนั ทึกความรู้ท่ีไดล้ งในสมุด เป็นการบา้ นเพ่อื เตรียมจดั การ เรียนรู้ในคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ ครูพานกั เรียนไปร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีองคก์ รท่ีมีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มจดั ข้ึน แลว้ ใหน้ กั เรียนบนั ทึกความรู้และประโยชน์ที่ไดร้ ับจากการร่วมกิจกรรม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 98 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ใบงานท่ี 1 เร่ือง องคก์ รในประเทศที่มีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 2. ใบงานท่ี 2 เร่ือง องคก์ รต่างประเทศท่ีมีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม 3. แบบบนั ทึกความรู้ 4. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 5. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. คู่มือการสอน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. บันทึกหลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ _______________________________________________________ แนวทางการพฒั นา _________________________________________________________________ 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ ___________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ____________________________________________________________________ 3. ส่ิงท่ีไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน ___________________________________________________________ เหตุผล __________________________________________________________________________ 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ____________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ลงช่ือ ________________________ ผู้สอน ___________ / __________ / __________

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 99 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 12 กฎหมายทเี่ กย่ี วกบั การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อมของประเทศไทย สาระท่ี 5 ภูมศิ าสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 4–6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การจดั การด้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ เวลา 2 ชั่วโมง ส่ิงแวดล้อม 1. สาระสําคญั กฎหมายที่มีขอ้ บญั ญตั ิเก่ียวกบั การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มเป็นอีกแนวทาง หน่ึงท่ีนาํ มาใชเ้ พ่ือใหเ้ กิดการดาํ เนินการในดา้ นการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งไดผ้ ล และนาํ ไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดี 2. ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน  ระบุมาตรการป้ องกนั และแกไ้ ขปัญหา บทบาทขององคก์ รและการประสานความร่วมมือท้งั ใน ประเทศและนอกประเทศเก่ียวกบั กฎหมายส่ิงแวดลอ้ ม การจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม (ส 5.2 ม. 4–6/2) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายหลกั การและความสาํ คญั ของกฎหมายที่เก่ียวกบั การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มของประเทศไทยได้ (K, A) 2. วิเคราะห์การมีส่วนร่วมของประชาชนตามแนวทางของกฎหมายที่เก่ียวกบั การอนุรักษท์ รัพยากร ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของประเทศไทยได้ (K, P) 3. เห็นความสาํ คญั ของกฎหมายที่เกี่ยวกบั การอนุรักษท์ รัพยากร ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของ ประเทศไทย (A)

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 100 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1. ซกั ถามความรู้เรื่อง กฎหมาย และค่านิยม (A)  ประเมินพฤติกรรมในการ ท่ีเกี่ยวกบั การอนุรักษ์  ประเมินพฤติกรรมในการ ทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือ ทรัพยากรธรรมชาติและ เป็นกลุ่มในดา้ นการสื่อสาร สิ่งแวดลอ้ มของประเทศไทย ทาํ งานเป็นรายบุคคลในดา้ น การคิด การแกป้ ัญหา ฯลฯ ความมีวินยั ความใฝ่ เรียนรู้ 2. ตรวจผลงาน/กิจกรรม ฯลฯ เป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม 5. สาระการเรียนรู้  กฎหมายที่เก่ียวกบั การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของประเทศไทย 1. พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ. 2535 2. พระราชบญั ญตั ิการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และท่ีแกไ้ ขเพมิ่ เติม (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2550 3. พระราชบญั ญตั ิรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบา้ นเมือง พ.ศ. 2535 4. พระราชบญั ญตั ิป่ าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 5. พระราชบญั ญตั ิสงวนและคุม้ ครองสตั วป์ ่ า พ.ศ. 2535 6. แนวทางบูรณาการ  ฟัง พดู อ่าน และเขียนขอ้ มลู เก่ียวกบั กฎหมายท่ีเกี่ยวกบั การอนุรักษ์ ภาษาไทย ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของประเทศไทย การงานอาชีพฯ  สืบคน้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั กฎหมายท่ีเกี่ยวกบั การอนุรักษท์ รัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของประเทศไทยจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต และนาํ เสนอขอ้ มูลดว้ ยโปรแกรม Power Point 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นําเข้าสู่บทเรียน ช่ัวโมงท่ี 30 1. ครูแจง้ ตวั ช้ีวดั ช่วงช้นั และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ 2. ครูทบทวนความรู้ โดยสุ่มเลือกนกั เรียน 1–2 คน ใหอ้ อกมาอ่านสรุปความรู้เกี่ยวกบั องคก์ รที่มี บทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มที่ไดร้ ับมอบหมายใหเ้ พือ่ น ๆ ฟังหนา้ ช้นั เรียน โดยครูคอยแนะนาํ และเสริมความรู้

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 101 ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 3. ครูใหน้ กั เรียนแบง่ ออกเป็นกลุ่ม 5 กลุม่ ใหแ้ ต่ละกลุ่มศึกษากฎหมายที่เกี่ยวกบั การอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของประเทศไทยตามที่กาํ หนดให้ ดงั น้ี กลุ่มท่ี 1 เร่ือง พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ. 2535 กลุ่มท่ี 2 เร่ือง พระราชบญั ญตั ิการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 กลุ่มท่ี 3 เร่ือง พระราชบญั ญตั ิรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบา้ นเมือง พ.ศ. 2535 กลุ่มท่ี 4 เร่ือง พระราชบญั ญตั ิป่ าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 กลุ่มท่ี 5 เร่ือง พระราชบญั ญตั ิสงวนและคุม้ ครองสตั วป์ ่ า พ.ศ. 2535 4. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มนาํ ขอ้ มลู ที่ไดจ้ ากการศึกษามาเตรียมการนาํ เสนอขอ้ มลู ดว้ ย โปรแกรม PowerPoint เป็นการบา้ นเพือ่ เตรียมจดั การเรียนรู้ในคร้ังต่อไป ชั่วโมงท่ี 31 5. ครูทบทวนถึงกิจกรรมท่ีใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิเม่ือชว่ั โมงท่ีผา่ นมา พร้อมกบั บอกกฎกติกาเกี่ยวกบั การนาํ เสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียนใหน้ กั เรียนฟัง 6. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาํ เสนอขอ้ มลู ดว้ ยโปรแกรม Power Point หนา้ ช้นั เรียน พร้อมกบั อธิบายแนวทางการดาํ เนินชีวติ ตามแนวทางของกฎหมายฉบบั น้นั ทีละกลุ่ม โดยครูคอย แนะนาํ และเสริมความรู้ 7. ครูใหน้ กั เรียนในกลุม่ อื่น ๆ ที่นาํ เสนอขอ้ มลู ไปแลว้ หรือยงั ไมไ่ ดน้ าํ เสนอขอ้ มูลบนั ทึกความรู้ท่ี ไดจ้ ากการฟังเพอ่ื นนาํ เสนอขอ้ มูลลงในแบบบนั ทึกความรู้ ส่งครูทา้ ยชว่ั โมงเรียน 8. ครูมอบหมายให้นักเรียนแบ่งออกเป็ น 9 กล่มุ ให้แต่ละกลุ่มจบั สลากเลอื กประเทศสมาชิกอาเซียน (ยกเว้นประเทศไทย) กลุ่มละ 1 ประเทศ แล้วสืบค้นข้อมูลเกยี่ วกบั กฎหมายท่ีเกย่ี วกบั การอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมของประเทศสมาชิกอาเซียนที่ได้รับมอบหมาย สรุป และจัดทําเป็ น รายงานส่ งครู ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 9. ครูซกั ถามนกั เรียนในประเดน็ ต่อไปน้ี ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบคาํ ถาม จากน้นั ครูสรุปคาํ ตอบของ นกั เรียน 1) ถา้ จะกาํ จดั ขยะมลู ฝอยโดยการฝังกลบจะมีขอ้ ดีและขอ้ เสียอยา่ งไร 2) ถา้ เพอ่ื นขา้ งบา้ นของนกั เรียนเปิ ดเพลงเสียงดงั ทาํ ใหน้ กั เรียนไม่มีสมาธิอา่ นหนงั สือ นกั เรียน สามารถแจง้ เจา้ หนา้ ท่ีท่ีเก่ียวขอ้ งวา่ เป็นเหตุรําคาญไดห้ รือไม่ เพราะอะไร 3) ถา้ นายสุรศกั ด์ิมีความจาํ เป็นจะตอ้ งนาํ เสือโคร่ง ซ่ึงเป็นสตั วป์ ่ าคุม้ ครองเคลื่อนที่ผา่ นด่าน ตรวจสตั วป์ ่ า นายสุรศกั ด์ิควรปฏิบตั ิตามพระราชบญั ญตั ิสงวนและคุม้ ครองสตั วป์ ่ า พ.ศ. 2535 อยา่ งไร

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 102 10. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมที่เกี่ยวกบั กฎหมายท่ีเก่ียวกบั การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มของประเทศไทย ในแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พ์ วฒั นาพานิช จาํ กดั จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาํ ตอบที่ถกู ตอ้ ง ข้นั ท่ี 4 นําไปใช้ 11. ครูใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งการนาํ ความรู้เร่ือง กฎหมายที่เกี่ยวกบั การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มของประเทศไทย ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาํ วนั ข้นั ท่ี 5 สรุป 12. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เรื่อง กฎหมายที่เกี่ยวกบั การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มของประเทศไทย แลว้ ใหน้ กั เรียนบนั ทึกความรู้ที่ไดล้ งสมุด 13. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนศึกษาขอ้ มลู เกี่ยวกบั แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มของโลกจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น เอกสารในหอ้ งสมุด อินเทอร์เน็ต สรุปและบนั ทึก ความรู้ท่ีไดล้ งในสมุด เป็นการบา้ นเพอื่ เตรียมจดั การเรียนรู้ในคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ ครูใหน้ กั เรียนศึกษากฎหมายท่ีเก่ียวกบั การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของ ประเทศไทยเพ่ิมเติมจากบทเรียนแลว้ นาํ มาเล่าใหเ้ พื่อนฟัง 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบบนั ทึกความรู้ 2. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 3. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 4. คู่มือการสอน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 5. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 103 10. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ _______________________________________________________ แนวทางการพฒั นา _________________________________________________________________ 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ ___________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ____________________________________________________________________ 3. ส่ิงท่ีไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน ___________________________________________________________ เหตุผล __________________________________________________________________________ 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ____________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ลงช่ือ ________________________ ผู้สอน ___________ / __________ / __________

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 104 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 13 แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม ในภูมภิ าคต่าง ๆ ของโลก สาระที่ 5 ภูมศิ าสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 4–6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การจดั การด้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ เวลา 2 ชั่วโมง สิ่งแวดล้อม 1. สาระสําคญั แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลกมีความ แตกต่างกนั แตก่ ล็ ว้ นมีข้ึนเพื่อการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มใหด้ าํ รงคงอยไู่ ดต้ ลอดไป 2. ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน  ระบุแนวทางการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก (ส 5.2 ม. 4–6/3) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายแนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลกได้ (K) 2. วิเคราะห์ประโยชนท์ ี่ไดจ้ ากการปฏิบตั ิตามแนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก (A, P) 3. เห็นประโยชน์ของการปฏิบตั ิตามแนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มใน ภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก และนาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจาํ วนั ได้ (A, P)

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 105 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1. ทดสอบหลงั เรียน และค่านิยม (A)  ประเมินพฤติกรรมในการ 2. ซกั ถามความรู้เรื่อง แนวทาง  ประเมินพฤติกรรมในการ ทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือ เป็นกลุ่มในดา้ นการส่ือสาร ในการอนุรักษท์ รัพยากร ทาํ งานเป็นรายบุคคลในดา้ น การคิด การแกป้ ัญหา ฯลฯ ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ความมีวนิ ยั ความใฝ่ เรียนรู้ ในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก ฯลฯ 3. ตรวจผลงาน/กิจกรรม เป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม 5. สาระการเรียนรู้  แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก 6. แนวทางบูรณาการ  ฟัง พดู อา่ น และเขียนขอ้ มูลเก่ียวกบั แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากร ภาษาไทย ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก ศิลปะ  แสดงละครเก่ียวกบั แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นําเข้าสู่บทเรียน ชั่วโมงท่ี 32 1. ครูแจง้ ตวั ช้ีวดั ช่วงช้นั และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ 2. ครูสนทนาซกั ถามความรู้ของนกั เรียนเกี่ยวกบั การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกท่ีไดร้ ับมอบหมายให้ไปศึกษามาจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ในประเด็นต่าง ๆ เช่น 1) ยกตวั อย่างแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในภูมิภาคต่าง ๆ ของ โลก 1 ภมู ิภาค 2) แนวทางการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกนั หรือไม่ อยา่ งไร จากน้นั ครูช่วยสรุปและเชื่อมโยงเขา้ สู่เน้ือหาที่จะเรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 106 ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 3. ครูให้นกั เรียนศึกษาความรู้เรื่อง แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มใน ภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ในหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 ของบริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นา พานิช จาํ กดั 4. ครูมอบหมายให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4–6 คน ให้แต่ละกลุ่มเตรียมการแสดงละครเกี่ยวกบั แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก โดยใหน้ กั เรียนแต่ ละกลุ่มกาํ หนดเน้ือหาและตวั ละครดว้ ยตนเอง และครูทาํ หนา้ ท่ีเป็นที่ปรึกษา ครู ให้ นักเรี ยนแต่ ละกลุ่มเพ่ิมเติมเนื้อหาเก่ียวกับแนวทางการอนุ รั กษ์ ทรั พยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมของประเทศสมาชิกอาเซียนในละครที่นักเรียนแสดงด้วย ชั่วโมงท่ี 33 5. ครูทบทวนความรู้เก่ียวกบั แนวทางการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในภูมิภาค ตา่ ง ๆ ของโลก รวมท้งั บอกกฎกติกาการแสดงละครใหน้ กั เรียนฟัง 6. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มออกมาแสดงละครทีละกลุ่มจนครบทุกกลุ่ม ครูคอยแสดงพฤติกรรมใน การทาํ งานเป็นกลุ่มของนกั เรียน 7. ครูและนกั เรียนร่วมกนั วิเคราะห์แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มใน ภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกจากละครท่ีแต่ละกลุ่มแสดง จากน้นั ให้นกั เรียนสรุปและบนั ทึกความรู้และผลการ ปฏิบตั ิงานของตนเองลงในสมุด ส่งครูในชว่ั โมงถดั ไป 8. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า แนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อมของประเทศสมาชิกอาเซียนที่นักเรียนได้ศึกษาเพ่ิมเติมน้ันมีความเหมือนหรือแตกต่างจาก แนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมของภูมิภาคอื่น ๆ ในโลกหรือไม่ อย่างไร ครูสรุป แล้วให้นักเรียนบนั ทึกความรู้ท่ีได้ลงสมดุ ส่งครู 9. ครูให้นักเรียนวิเคราะห์ว่า การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในภูมิภาคต่าง ๆ ของ โลกแนวทางใดที่เป็ นไปตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมากท่ีสุด เพราะอะไร เขียนเป็ นเรียงความ ความ ยาว 1–2 หน้ากระดาษ ส่ งครู โดยในเนื้อหาเรียงความ นักเรียนต้องอธิบายความหมายของเศรษฐกิจ พอเพียง เพื่อใช้ ประกอบการวิเคราะห์ ลักษณะของแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมน้ัน ๆ ด้วย ครูคัดเลอื กเรียงความท่ีดที ี่สุด 3 เร่ือง ให้เจ้าของผลงานออกมานําเสนอผลงานของ ตนเองหน้าช้ันเรียน แล้วนําผลงานท้งั หมดไปตดิ ไว้ที่ป้ ายนิเทศภายในช้ันเรียน ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 10. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมที่เก่ียวกบั แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ในแบบฝึ กทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 ของบริษทั สํานักพิมพ์ วฒั นาพานิช จาํ กดั จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาํ ตอบท่ีถกู ตอ้ ง

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 107 ข้นั ท่ี 4 นําไปใช้ 11. ครูแนะนําให้นักเรียนนําความรู้เรื่อง แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ข้นั ที่ 5 สรุป 12. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก แลว้ ใหน้ กั เรียนบนั ทึกความรู้ท่ีไดล้ งสมุด 13. ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบหลงั เรียนและช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบท่ีถกู ตอ้ ง 14. ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ประจาํ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ใน แบบฝึ กทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 ของบริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั เพื่อประเมิน ผลการเรียนรู้ดา้ นความรู้ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม และดา้ นทกั ษะ/กระบวนการของนกั เรียน 15. ครูซักถามนกั เรียนว่า นกั เรียนรู้จกั คาํ ว่า การพฒั นาท่ียง่ั ยืนหรือไม่ อยา่ งไร แลว้ มอบหมายให้ นกั เรียนศึกษาขอ้ มูลในหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใชท้ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มเพื่อการพฒั นาท่ี ยง่ั ยืน เร่ือง การใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม แลว้ บนั ทึกความรู้ที่ไดล้ งในสมุด เป็นการบา้ นเพ่ือเตรียมจดั การเรียนรู้ในคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ ครูให้นกั เรียนจดั กิจกรรมรณรงคก์ ารอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มภายในโรงเรียน โดยเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกบั แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบหลงั เรียน 2. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 3. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 4. คู่มือการสอน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 5. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จาํ กดั

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 108 10. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ _______________________________________________________ แนวทางการพฒั นา _________________________________________________________________ 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ ___________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ____________________________________________________________________ 3. ส่ิงท่ีไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน ___________________________________________________________ เหตุผล __________________________________________________________________________ 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ____________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ลงช่ือ ________________________ ผู้สอน ___________ / __________ / __________

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 109 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การใช้ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมเพอื่ การพฒั นาทยี่ ง่ั ยนื เวลา 4 ช่ัวโมง ผงั มโนทัศน์เป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน ความรู้ 1. การใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มใน การสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม 2. การพฒั นาท่ียง่ั ยนื ทักษะ/กระบวนการ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ คุณธรรม จริยธรรม และสิ่งแวดล้อม 1. การสื่อสาร และค่านิยม 2. การใชเ้ ทคโนโลยี เพอ่ื การพฒั นาทย่ี งั่ ยนื 3. การคิด 1. มีวินยั 4. กระบวนการกลุ่ม 2. ใฝ่ เรียนรู้ 3. มีจิตสาธารณะ 4. มีความรับผดิ ชอบ ภาระงาน/ชิ้นงาน 1. การทาํ แบบทดสอบ 2. การศึกษาคน้ ควา้ เก่ียวกบั การใชท้ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มเพอ่ื การพฒั นา ท่ียง่ั ยนื 3. การมีส่วนร่วมในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มตามแนวทางใน การพฒั นาท่ียง่ั ยืน 4. การนาํ เสนอผลงาน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 110 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพอื่ การพฒั นาท่ยี งั่ ยืน ข้ันที่ 1 ผลลพั ธ์ปลายทางทตี่ ้องการให้เกดิ ขึน้ กบั นักเรียน ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน 1. อธิบายการใชป้ ระโยชนจ์ ากสิ่งแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม อนั เป็นเอกลกั ษณ์ของทอ้ งถ่ิน ท้งั ในประเทศและโลก (ส 5.2 ม. 4–6/4) 2. มีส่วนร่วมในการแกป้ ัญหาและการดาํ เนินชีวติ ตามแนวทางการอนุรักษท์ รัพยากรและสิ่งแวดลอ้ ม เพ่อื การพฒั นาที่ยง่ั ยนื (ส 5.2 ม. 4–6/5) ความเข้าใจท่ีคงทนของนักเรียน คาํ ถามสําคญั ทีท่ ําให้เกดิ ความเข้าใจทคี่ งทน นักเรียนจะเข้าใจว่า... 1. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มมีความ 1. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มมีประโยชน์ สมั พนั ธ์กบั มนุษยใ์ นลกั ษณะของการพ่ึงพา อยา่ งไรต่อมนุษย์ อาศยั กนั และกนั มนุษยไ์ ดน้ าํ ทรัพยากร 2. เราจะใชท้ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ธรรมชาติมาใชป้ ระโยชนใ์ นการดาํ เนินชีวติ อยา่ งไรเพ่ือใหท้ รัพยากรธรรมชาติและ ซ่ึงในแต่ละพ้ืนท่ีจะมีทรัพยากรธรรมชาติที่ ส่ิงแวดลอ้ มคงอยตู่ ลอดไป แตกต่างกนั ดงั น้นั ลกั ษณะการดาํ เนินชีวิตของ มนุษยใ์ นแต่ละพ้ืนที่จึงมีความแตกต่างกนั ไป ดว้ ยเช่นกนั 2. ถา้ มนุษยน์ าํ ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มมาใชป้ ระโยชนโ์ ดยไม่คาํ นึงถึง ผลกระทบที่ตามมาจะทาํ ใหท้ รัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มเกิดความเสื่อม โทรม ดงั น้นั มนุษยจ์ ึงตอ้ งวางแผนการใช้ ประโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มไปพร้อมกบั การพฒั นาอนั เป็น แนวทางในการใชท้ รัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มเพื่อการพฒั นาท่ียง่ั ยนื

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 111 ความรู้ของนักเรียนทีน่ ําไปสู่ความเข้าใจที่คงทน ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนท่ีนําไปสู่ นักเรียนจะรู้ว่า... ความเข้าใจทีค่ งทน นักเรียนจะสามารถ... 1. คาํ สาํ คญั ไดแ้ ก่ โอเอซิส พืชพรรณธรรมชาติ 1. อธิบายการใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ การพฒั นาท่ียงั่ ยนื นิเวศวทิ ยา เกษตรอินทรีย์ และส่ิงแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม เกษตรผสมผสาน วนเกษตร ของมนุษย์ 2. มนุษยน์ าํ เอาทรัพยากรธรรมชาติและ 2. อธิบายหลกั การใชท้ รัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มมาเป็นปัจจยั พ้นื ฐานในการ สิ่งแวดลอ้ มเพ่ือการพฒั นาท่ียง่ั ยนื สร้างสรรคร์ ูปแบบการดาํ เนินชีวติ เช่น การนาํ 3. มีส่วนร่วมในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มที่มีอยใู่ น และส่ิงแวดลอ้ มตามแนวทางในการพฒั นาที่ ทอ้ งถ่ินมาเป็นตวั กาํ หนดการต้งั ถิ่นฐาน การ ยง่ั ยนื สร้างที่อยอู่ าศยั การประกอบอาชีพ การ แต่งกาย อาหารการกิน การสร้างเคร่ืองมือ เคร่ืองใช้ ซ่ึงความแตกต่างของรูปแบบการ ดาํ เนินชีวิตของมนุษยใ์ นแต่ละทอ้ งถิ่นจะ แตกต่างกนั ไปตามสภาพของทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในแต่ละทอ้ งถิ่น 3. การใชท้ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มเพ่ือ การพฒั นาที่ยง่ั ยนื เป็นแนวทางในการนาํ เอา ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มมาใชใ้ น การพฒั นาคุณภาพชีวติ ของคนเรา โดยไม่ทาํ ใหท้ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มน้นั เกิด ความดอ้ ยประสิทธิภาพจนไม่สามารถนาํ ศกั ยภาพของทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มดงั กล่าวมาใชไ้ ดอ้ ีก ข้ันท่ี 2 ภาระงานและการประเมนิ ผลการเรียนรู้ซึ่งเป็ นหลกั ฐานทแ่ี สดงว่านักเรียนมีผลการเรียนรู้ ตามที่กาํ หนดไว้อย่างแท้จริง 1. ภาระงานท่ีนักเรียนต้องปฏิบัติ 1.1 ศึกษาคน้ ควา้ เกี่ยวกบั การใชท้ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มเพ่ือการพฒั นาที่ยง่ั ยนื 1.2 มีส่วนร่วมในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มตามแนวทางในการพฒั นาท่ียง่ั ยนื 2. วธิ ีการและเครื่องมอื ประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2.1 วิธีการประเมินผลการเรียนรู้ 2.2 เคร่ืองมือประเมินผลการเรียนรู้ 1) การทดสอบ 1) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน 2) การประเมินผลงาน/กิจกรรม 2) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรม เป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม เป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 112 3) การประเมินดา้ นคุณธรรม จริยธรรม 3) แบบประเมินดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม และค่านิยม 4) การประเมินดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 4) แบบประเมินดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 3. ส่ิงที่มุ่งประเมนิ 3.1 ความสามารถ 6 ดา้ น ไดแ้ ก่ การอธิบาย ช้ีแจง การแปลความและตีความ การประยกุ ต์ ดดั แปลง และนาํ ไปใช้ การมีมุมมองที่หลากหลาย การใหค้ วามสาํ คญั และใส่ใจในความรู้สึกของผอู้ ื่น และ การรู้จกั ตนเอง 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ เช่น การส่ือสาร การใชเ้ ทคโนโลยี การคิด การแกป้ ัญหา กระบวนการกลุ่ม 3.3 คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม เช่น มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง รักความเป็นไทย รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ มีจิตสาธารณะ มีความรับผดิ ชอบ ซ่ือสตั ยส์ ุจริต ข้นั ท่ี 3 แผนการจัดการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 14 การใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและ เวลา 2 ชวั่ โมง สิ่งแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 15 การพฒั นาท่ียง่ั ยนื เวลา 2 ชวั่ โมง

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 113 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 14 การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ในการสร้างสรรค์วฒั นธรรม สาระท่ี 5 ภูมศิ าสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 4–6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใช้ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ เวลา 2 ชั่วโมง สิ่งแวดล้อมเพอื่ การพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื 1. สาระสําคญั มนุษยน์ าํ เอาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในทอ้ งถิ่นมาเป็นปัจจยั พ้นื ฐานในการสร้างสรรค์ รูปแบบการดาํ เนินชีวิตจึงทาํ ใหเ้ กิดลกั ษณะเฉพาะในการดาํ เนินชีวิตท่ีแตกต่างกนั ไปในแต่ละทอ้ งถ่ิน 2. ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน  อธิบายการใชป้ ระโยชนจ์ ากส่ิงแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม อนั เป็นเอกลกั ษณ์ของ ทอ้ งถ่ินท้งั ในประเทศและโลก (ส 5.2 ม. 4–6/4) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายการนาํ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มมาใชป้ ระโยชน์ในการดาํ เนินชีวิตได้ (K) 2. เห็นความสาํ คญั ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม (A) 3. นาํ ความรู้เกี่ยวกบั การใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในการสร้างสรรค์ วฒั นธรรมไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาํ วนั ได้ (K, P) 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) และค่านิยม (A) 1. ทดสอบก่อนเรียน  ประเมินพฤติกรรมในการ 2. ซกั ถามความรู้เรื่อง การใช้  ประเมินพฤติกรรมในการ ทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือ ทาํ งานเป็นรายบุคคลในดา้ น เป็นกลุ่มในดา้ นการส่ือสาร ประโยชน์จากทรัพยากร ความมีวินยั ความใฝ่ เรียนรู้ การคิด การแกป้ ัญหา ฯลฯ ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ฯลฯ ในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม 3. ตรวจผลงาน/กิจกรรม เป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 114 5. สาระการเรียนรู้  การใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม 1. อิทธิพลต่อการต้งั ถ่ินฐานและท่ีอยอู่ าศยั 2. อิทธิพลตอ่ การดาํ เนินชีวิตและการประกอบอาชีพ 6. แนวทางบูรณาการ  ฟัง พดู อ่าน และเขียนขอ้ มูลเก่ียวกบั การใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากร ภาษาไทย ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม การงานอาชีพฯ  สืบคน้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั การใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นําเข้าสู่บทเรียน ชั่วโมงท่ี 34 1. ครูแจง้ ตวั ช้ีวดั ช่วงช้นั และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ 2. ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบก่อนเรียน 3. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามขอ้ สงสยั ต่าง ๆ จากเรื่อง การใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากร ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม ที่ไดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปศึกษามา โดยครูตอบขอ้ สงสยั และอธิบายเพม่ิ เติม จากน้นั ครูชกั ชวนนกั เรียนสนทนากนั เกี่ยวกบั อาหารไทย 4 ภาค โดย เปรียบเทียบความแตกต่างของวตั ถุดิบที่ใชใ้ นการประกอบอาหารในแต่ละภาค แลว้ ครูเช่ือมโยงเขา้ สู่ เน้ือหาที่จะเรียน ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 4. ครูทบทวนความรู้ของนกั เรียนเก่ียวกบั ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มท่ีไดเ้ รียนผา่ นมาแลว้ 5. ครูใหน้ กั เรียนนง่ั เป็นวงกลม จากน้นั ครูอธิบายประเดน็ หวั ขอ้ เรื่อง การใชป้ ระโยชน์จาก ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม แลว้ ซกั ถามนกั เรียนวา่ เราจะนาํ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มมาใชใ้ นการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมในดา้ นการต้งั ถิ่นฐานและที่อยอู่ าศยั ไดอ้ ยา่ งไร 6. ครูใหน้ กั เรียนเสนอความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ โดยครูบนั ทึกประเดน็ ต่าง ๆ ที่นกั เรียนเสนอ ความคิดเห็นเอาไวบ้ นกระดานดาํ จากน้นั ครูสรุปความคิดเห็นที่เสนอร่วมกนั แลว้ นาํ มาเป็นหวั ขอ้ การ อภิปรายและยกตวั อยา่ งเพ่อื สนบั สนุนความคิดเห็นในประเดน็ ต่าง ๆ 7. ครูใหน้ กั เรียนสรุปผลการอภิปรายลงในแบบบนั ทึกความรู้ ส่งครูทา้ ยชวั่ โมงเรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 115 8. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนศึกษาเน้ือหาเกี่ยวกบั การใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมเร่ือง อิทธิพลต่อการดาํ เนินชีวติ และการประกอบอาชีพ แลว้ บนั ทึกความรู้ท่ีไดล้ งในสมุด เป็นการบา้ นเพ่ือเตรียมจดั การเรียนรู้ในคร้ังต่อไป ช่ัวโมงท่ี 35 9. ครูสนทนาซกั ถามความรู้ของนกั เรียนเกี่ยวกบั การใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมเรื่อง อิทธิพลต่อการต้งั ถ่ินฐานและที่อยอู่ าศยั แลว้ ช่วยกนั สรุป และบนั ทึกความรู้ที่ไดล้ งในสมุด 10. ครูใหน้ กั เรียนนงั่ เป็นวงกลม จากน้นั ครูอธิบายประเดน็ หวั ขอ้ เร่ือง การใชป้ ระโยชนจ์ าก ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม แลว้ ซกั ถามนกั เรียนวา่ เราจะนาํ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มมาใชใ้ นการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมในดา้ นการดาํ เนินชีวติ และการ ประกอบอาชีพไดอ้ ยา่ งไร 11. ครูใหน้ กั เรียนเสนอความคิดเห็นในประเดน็ ต่าง ๆ โดยใหน้ กั เรียนใชค้ วามรู้ท่ีไดจ้ ากการศึกษา เน้ือหาเก่ียวกบั การใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมเร่ือง อิทธิพลตอ่ การดาํ เนินชีวิตและการประกอบอาชีพ ท่ีไดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปศึกษามา และครูบนั ทึกประเดน็ ตา่ ง ๆ ท่ีนกั เรียนเสนอความคิดเห็นเอาไวบ้ นกระดานดาํ จากน้นั ครูสรุปความคิดเห็นที่เสนอร่วมกนั แลว้ นาํ มาเป็นหวั ขอ้ การอภิปรายและยกตวั อยา่ งเพอื่ สนบั สนุนความคิดเห็นในประเดน็ ต่าง ๆ 12. ครูใหน้ กั เรียนสรุปผลการอภิปรายลงในแบบบนั ทึกความรู้ ส่งครูทา้ ยชว่ั โมงเรียน แลว้ ให้ นกั เรียนสรุปความรู้ท่ีไดล้ งในสมุด 13. ครูให้นักเรียนแบ่งออกเป็ น 10 กลุ่ม ให้แต่ละกล่มุ ส่งตวั แทนออกมาจับฉลากเลอื กประเทศ สมาชิกอาเซียนกลุ่มละ 1 ประเทศ จากน้ัน ให้นักเรียนร่วมกนั อภปิ รายในหัวข้อ การใช้ประโยชน์จาก ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมในการสร้างสรรค์วฒั นธรรมของประเทศสมาชิกอาเซียนท่ีได้รับ มอบหมาย (ให้นักเรียนภายในกล่มุ จดั แบ่งหน้าทกี่ ารอภปิ รายกนั เองภายในกลุ่ม ในกรณีท่มี ีนักเรียนภายใน กลุ่มไม่เกนิ 3 คน ให้เป็ นการแลกเปลย่ี นเรียนรู้) สรุปผลการอภิปรายที่ได้ แล้วจดั ทําเป็ นป้ ายนิเทศ จากน้ัน ครูให้นักเรียนนําป้ ายนเิ ทศของกลุ่มของตนเองมาจดั เป็ นนิทรรศการภายในช้ันเรียน 14. ครูให้นักเรียนทุกคนศึกษาความรู้ท่ีได้จากป้ ายนิเทศ สรุป และบนั ทกึ ความรู้ท่ีได้ลงสมุด พร้อม เขียนตาํ แหน่งหน้าทข่ี องตนเองในระหว่างการอภิปรายของกลุ่ม ผลท่ีได้รับ และข้อเสียของตนเองทคี่ วร ปรับปรุง ลงในสมุดส่งครู ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 15. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมที่เกี่ยวกบั การใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม ในแบบฝึ กทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พ์ วฒั นาพานิช จาํ กดั จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาํ ตอบท่ีถกู ตอ้ ง

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 116 ข้นั ท่ี 4 นําไปใช้ 16. ครูใหน้ กั เรียนบอกแนวทางในการนาํ ความรู้เร่ือง การใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาํ วนั ข้นั ที่ 5 สรุป 17. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เร่ือง การใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม โดยใหน้ กั เรียนสรุปเป็นแผนที่ความคิดบนั ทึกลงสมุด 18. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนอ่านทบทวนความรู้เกี่ยวกบั การใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม เป็นการบา้ นเพ่ือเตรียมจดั การเรียนรู้ในคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ ครูใหน้ กั เรียนคน้ ควา้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั การใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มใน การสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมของประเทศท่ีนกั เรียนสนใจ 1 ประเทศ สรุปขอ้ มลู แลว้ นาํ เสนอหนา้ ช้นั เรียน 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน 2. แบบบนั ทึกความรู้ 3. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 4. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 4. คู่มือการสอน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 5. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. บันทึกหลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ _______________________________________________________ แนวทางการพฒั นา _________________________________________________________________ 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ ___________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ____________________________________________________________________ 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน ___________________________________________________________ เหตุผล __________________________________________________________________________ 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ____________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ลงช่ือ ________________________ ผู้สอน ___________ / __________ / __________

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 117 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 การพฒั นาทย่ี งั่ ยนื สาระที่ 5 ภูมศิ าสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 4–6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใช้ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ เวลา 2 ช่ัวโมง ส่ิงแวดล้อมเพอ่ื การพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื 1. สาระสําคญั การใชท้ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มเพ่ือการพฒั นาท่ียงั่ ยนื เป็นการใชป้ ระโยชน์จาก ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มไปพร้อมกบั การพฒั นาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม โดย คาํ นึงถึงผลกระทบที่จะเกิดข้ึนกบั ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม 2. ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน  มีส่วนร่วมในการแกป้ ัญหาและการดาํ เนินชีวิตตามแนวทางการอนุรักษท์ รัพยากรและส่ิงแวดลอ้ ม เพือ่ การพฒั นาที่ยง่ั ยนื (ส 5.2 ม. 4–6/5) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายของการพฒั นาท่ียง่ั ยนื ได้ (K) 2. อธิบายหลกั การและแนวทางปฏิบตั ิเพอ่ื นาํ ไปสู่การพฒั นาท่ียง่ั ยนื ได้ (K) 3. เห็นความสาํ คญั และมีส่วนร่วมในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มตามแนว ทางการพฒั นาท่ียงั่ ยนื (A, P) 4. นาํ รูปแบบและแนวทางในการใชท้ รัพยากรเพื่อการพฒั นาที่ยงั่ ยนื ของประเทศไทยไป ประยกุ ตใ์ ชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม (K, P) 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) และค่านิยม (A) 1. ทดสอบหลงั เรียน  ประเมินพฤติกรรมในการ 2. ซกั ถามความรู้เรื่อง  ประเมินพฤติกรรมในการ ทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือ ทาํ งานเป็นรายบุคคลในดา้ น เป็นกลุ่มในดา้ นการส่ือสาร การพฒั นาท่ียง่ั ยนื ความมีวินยั ความใฝ่ เรียนรู้ การคิด การแกป้ ัญหา ฯลฯ 3. ตรวจผลงาน/กิจกรรม ฯลฯ เป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 118 5. สาระการเรียนรู้  การพฒั นาที่ยงั่ ยนื 1. ความหมายของการพฒั นาท่ียงั่ ยนื 2. ความหมายของการใชท้ รัพยากรเพ่อื การพฒั นาท่ียง่ั ยนื 3. หลกั การและแนวทางปฏิบตั ิเพื่อนาํ ไปสู่การพฒั นาท่ียงั่ ยนื 4. รูปแบบและแนวทางการใชท้ รัพยากรเพือ่ การพฒั นาท่ียง่ั ยนื ของประเทศไทย 6. แนวทางบูรณาการ  ฟัง พดู อ่าน และเขียนเก่ียวกบั การพฒั นาที่ยง่ั ยนื ภาษาไทย  สืบคน้ ขอ้ มลู เรื่อง ปลกู ป่ า 3 อยา่ ง เพ่ือประโยชน์ 4 อยา่ งจากแหล่ง การงานอาชีพฯ การเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นําเข้าสู่บทเรียน ชั่วโมงท่ี 36 1. ครูแจง้ ตวั ช้ีวดั ช่วงช้นั และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ 2. ครูทบทวนความรู้ของนกั เรียนเกี่ยวกบั การใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม ที่ไดม้ อบหมายใหไ้ ปอ่านทบทวนมา ดว้ ยการสนทนาซกั ถามความรู้ของ นกั เรียนในประเดน็ ต่าง ๆ จากน้นั ครูเชื่อมโยงความรู้เขา้ สู่เน้ือหาที่จะเรียน ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 3. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟังเก่ียวกบั ประเดน็ ในการศึกษาเร่ืองการพฒั นาท่ียง่ั ยนื ดงั น้ี 1) ความหมายของการพฒั นาที่ยงั่ ยนื 2) ความหมายของการใชท้ รัพยากรเพอื่ การพฒั นาท่ียง่ั ยนื 3) หลกั การและแนวทางปฏิบตั ิเพื่อนาํ ไปสู่การพฒั นาที่ยงั่ ยนื 4. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 4–6 คน ศึกษากรณีตวั อยา่ งจากใบความรู้เร่ือง ปลกู ป่ า 3 อยา่ ง เพือ่ ประโยชน์ 4 อยา่ ง 5. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เพ่ิมเติมเรื่อง ปลกู ป่ า 3 อยา่ ง เพ่อื ประโยชน์ 4 อยา่ งจาก แหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น หอ้ งสมุด อินเทอร์เน็ต แลว้ ร่วมกนั อภิปรายเก่ียวกบั ประเดน็ ต่อไปน้ี แลว้ สรุป ความรู้ลงในแบบบนั ทึกการอภิปรายเรื่อง การพฒั นาที่ยง่ั ยนื ในประเดน็ ต่อไปน้ี 1) การปลูกป่ า 3 อยา่ ง เพอ่ื ประโยชน์ 4 อยา่ ง เป็นการพฒั นาท่ียง่ั ยนื หรือไม่ อยา่ งไร 2) นกั เรียนจะมีส่วนร่วมในการปฏิบตั ิตนตามแนวทางการพฒั นาท่ียง่ั ยนื ไดอ้ ยา่ งไร 6. ครูสุ่มเลือกนกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมาสรุปความคิดเห็นของกลุ่มหนา้ ช้นั เรียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 119 7. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนศึกษาเน้ือหาเก่ียวกบั รูปแบบและแนวทางการใชท้ รัพยากรเพ่ือการ พฒั นาท่ียงั่ ยนื ของประเทศไทย แลว้ บนั ทึกความรู้ท่ีไดล้ งในสมุด เป็นการบา้ นเพื่อเตรียมจดั การเรียนรู้ใน คร้ังต่อไป ชั่วโมงที่ 37 8. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามขอ้ สงสยั ต่าง ๆ เกี่ยวกบั รูปแบบและแนวทางการใชท้ รัพยากร เพื่อการพฒั นาท่ียง่ั ยนื ของประเทศไทย ที่ไดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปศึกษามา โดยครูจดประเดน็ ขอ้ สงสยั ของ นกั เรียนลงบนกระดานดาํ 9. ครูอธิบายขอ้ มลู เกี่ยวกบั รูปแบบและแนวทางการใชท้ รัพยากรเพ่ือการพฒั นาที่ยงั่ ยนื ของประเทศ ไทย ตามขอ้ สงสยั ของนกั เรียน พร้อมกบั เพม่ิ เติมความรู้ใหค้ รบถว้ นสมบูรณ์ โดยใชเ้ น้ือหาในหนงั สือ เรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. ครูสุ่มเลือกนกั เรียน 2–3 คน ใหอ้ อกมายกตวั อยา่ งรูปแบบกิจกรรมหรือแนวทางในการใช้ ทรัพยากรเพอื่ การพฒั นาที่ยงั่ ยนื หนา้ ช้นั เรียน ครูกล่าวชมเชย แลว้ ใหน้ กั เรียนสรุปความรู้ท่ีไดล้ งในแบบ บนั ทึกความรู้ ส่งครู 11. ขณะท่ีนกั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรม ครูสงั เกตพฤติกรรมในการทาํ งานและการนาํ เสนอผลงานของ นกั เรียนตามแบบประเมินพฤติกรรมในการทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม 12. ครูให้นักเรียนร่วมกนั ศึกษาแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ แล้วนาํ มาวเิ คราะห์ว่า แผน พฒั นาฯ ฉบับใดบ้างทม่ี คี วามเกย่ี วข้องกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง อย่างไร สรุปและจัดทาํ เป็ น นิทรรศการเร่ือง เศรษฐกจิ พอเพยี งกบั การพฒั นาทีย่ งั่ ยนื จากน้ันให้นักเรียนทุกคนสรุปความรู้ท่ีได้ พร้อม เขยี นหน้าท่ีของตนเองในการจัดนิทรรศการคร้ังนี้ ผลที่ได้รับ และข้อเสียของตนเองที่ควรปรับปรุง ลงใน สมดุ ส่งครู 13. ครูมอบหมายให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกย่ี วกบั การพฒั นาที่ยง่ั ยนื ในประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศอน่ื ๆ ว่ามหี รือไม่ ถ้ามี มลี กั ษณะเป็ นอย่างไร สรุป และนําความรู้ที่ได้มาร่วมกนั อภิปรายในช้ัน เรียนว่า มลี กั ษณะเป็ นอย่างไร และสามารถนํามาประยุกต์ใช้ในประเทศไทยได้หรือไม่ อย่างไร โดยให้ นักเรียนจดั แบ่งหน้าที่กนั เอง จากน้ันให้ส่งตวั แทนออกมานําเสนอผลการอภปิ รายหน้าช้ันเรียน ครูสรุป และบนั ทึกผลการอภปิ รายบนกระดานดาํ นักเรียนคนอน่ื ๆ บันทึกความรู้ทีไ่ ด้ลงในสมดุ ส่งครู ข้นั ที่ 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 14. ครูซกั ถามนกั เรียนในประเดน็ ต่อไปน้ี ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบคาํ ถาม จากน้นั ครูสรุปคาํ ตอบ ของนกั เรียน 1) ยกตวั อยา่ งการใชท้ รัพยากรตามหลกั reduce reuse และ recycle มาหลกั การละ 1 อยา่ ง 2) สาเหตุใดสาํ คญั ท่ีสุดที่ทาํ ใหแ้ ผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 9 ประสบ ผลสาํ เร็จเป็นท่ีน่าพอใจในเร่ืองการบริหารจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 15. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมรณรงคใ์ หค้ วามรู้เร่ืองการพฒั นาท่ียง่ั ยนื ภายในโรงเรียนในรูปแบบ ต่าง ๆ ตามความสนใจของนกั เรียน โดยครูทาํ หนา้ ท่ีเป็นที่ปรึกษา

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 120 16. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมท่ีเก่ียวกบั การพฒั นาที่ยง่ั ยนื ในแบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ของบริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาํ ตอบที่ ถกู ตอ้ ง ข้นั ท่ี 4 นําไปใช้ 17. ครูใหน้ กั เรียนนาํ ความรู้เรื่อง การพฒั นาที่ยง่ั ยนื ไปเผยแพร่ใหค้ นในครอบครัวและชุมชน ข้นั ที่ 5 สรุป 18. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เร่ือง การพฒั นาท่ียง่ั ยนื แลว้ ใหน้ กั เรียนบนั ทึกความรู้ท่ีไดล้ ง สมุด 19. ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบหลงั เรียนและช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบที่ถูกตอ้ ง 20. ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ประจาํ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ใน แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั เพอ่ื ประเมิน ผลการเรียนรู้ดา้ นความรู้ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม และดา้ นทกั ษะ/กระบวนการของนกั เรียน 21. ครูใหน้ กั เรียนอ่านเน้ือหาหน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 วกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ ม หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การจดั การดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม และหน่วยการเรียนรู้ ที่ 5 การใชท้ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มเพอ่ื การพฒั นาท่ียงั่ ยนื เป็นการบา้ นเพ่ือเตรียมทดสอบ ปลายภาคในคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ ครูใหน้ กั เรียนคน้ ควา้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั กิจกรรมที่เก่ียวขอ้ งกบั การพฒั นาที่ยงั่ ยนื ภายในประเทศ 1 กิจกรรม แลว้ นาํ ขอ้ มูลมาบอกเล่าใหเ้ พ่ือนฟัง 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบหลงั เรียน 2. ใบความรู้เรื่อง ปลูกป่ า 3 อยา่ ง เพื่อประโยชน์ 4 อยา่ ง 3. แบบบนั ทึกผลการอภิปรายเรื่อง การพฒั นาที่ยง่ั ยนื 4. แบบบนั ทึกความรู้ 5. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. คู่มือการสอน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 8. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 121 10. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ _______________________________________________________ แนวทางการพฒั นา _________________________________________________________________ 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ ___________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ____________________________________________________________________ 3. ส่ิงที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน ___________________________________________________________ เหตุผล __________________________________________________________________________ 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ____________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ลงช่ือ ________________________ ผู้สอน ___________ / __________ / __________ การทดสอบปลายภาค ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 4–6 เวลา 3 ชั่วโมง สาระที่ 5 ภูมศิ าสตร์ การทดสอบปลายภาค ชั่วโมงที่ 38–40 • ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบปลายภาค

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 122 ตอนท่ี 3 เอกสาร/ความรู้เสริมสําหรับครู สาระท่ี 5 ภูมศิ าสตร์ กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 123 ตอนที่ 3.1 มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน และสาระการเรียนรู้ สาระที่ 5 ภูมิศาสตร์ มาตรฐาน ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธ์ของสรรพส่ิงซ่ึงมีผลต่อกนั และ กนั ในระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนที่และเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ในการคน้ หา วิเคราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มลู ภมู ิสารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. ใชเ้ ครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ในการรวบรวม  เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ท่ีใหข้ อ้ มลู และข่าวสาร วิเคราะห์ และนาํ เสนอขอ้ มลู ภมู ิสารสนเทศ ภมู ิลกั ษณ์ ภมู ิอากาศ และภมู ิสงั คมของไทย และ อยา่ งมีประสิทธิภาพ ภมู ิภาคต่าง ๆ 2. วเิ คราะห์อิทธิพลของสภาพภมู ิศาสตร์ซ่ึงทาํ ให้  ปัญหาทางกายภาพหรือภยั พิบตั ิทางธรรมชาติใน เกิดปัญหาทางกายภาพหรือภยั พิบตั ิทางธรรม ประเทศไทยและภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก ชาติในประเทศไทยและภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก  การเปลี่ยนแปลงลกั ษณะทางกายภาพในส่วน ต่าง ๆ ของโลก 3. วเิ คราะห์การเปล่ียนแปลงของพ้นื ท่ีซ่ึงไดร้ ับ  การเกิดภมู ิสงั คมใหมข่ องโลก อิทธิพลจากปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ในประเทศไทย  การเปล่ียนแปลงของพ้นื ที่ซ่ึงไดร้ ับอิทธิพลจาก และทวปี ต่าง ๆ ปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ในประเทศไทยและทวปี ต่าง ๆ เช่น การเคลื่อนตวั ของแผน่ เปลือกโลก 4. ประเมินการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติในโลกวา่  การเปลี่ยนแปลงธรรมชาติในโลก เช่น ภาวะ เป็นผลมาจากการกระทาํ ของมนุษยแ์ ละหรือ โลกร้อน ความแหง้ แลง้ สภาพอากาศแปรปรวน ธรรมชาติ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 124 มาตรฐาน ส 5.2 เขา้ ใจปฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งมนุษยก์ บั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพท่ีก่อใหเ้ กิดการสร้าง สรรคว์ ฒั นธรรม มีจิตสาํ นึกและมีส่วนร่วมในการอนุรักษท์ รัพยากรและสิ่งแวดลอ้ ม เพือ่ การพฒั นาท่ียงั่ ยนื ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. วิเคราะห์สถานการณ์และวกิ ฤตการณ์ดา้ น 1. สถานการณ์การเปล่ียนแปลงลกั ษณะทางกาย ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของ ภาพในส่วนต่าง ๆ ของโลก ท่ีมีผลต่อการเกิดภมู ิ ประเทศไทยและของโลก สงั คมใหม่ ๆ ในโลก 2. วกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มของประเทศไทยและโลก 2. ระบุมาตรการป้ องกนั และแกไ้ ขปัญหา บทบาท 1. มาตรการป้ องกนั และแกไ้ ขปัญหาทรัพยากร ขององคก์ ารและการประสานความร่วมมือท้งั ใน ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในประเทศและนอก ประเทศและนอกประเทศเกี่ยวกบั กฎหมาย ประเทศ สิ่งแวดลอ้ ม การจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ 2. บทบาทขององคก์ ารและการประสานความ ส่ิงแวดลอ้ ม ร่วมมือท้งั ในประเทศและนอกประเทศ กฎหมาย สิ่งแวดลอ้ ม การจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ ม 3. ระบุแนวทางการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ  การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม และสิ่งแวดลอ้ มในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก ในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก 4. อธิบายการใชป้ ระโยชนจ์ ากส่ิงแวดลอ้ มในการ  การใชป้ ระโยชนจ์ ากสิ่งแวดลอ้ มในการสร้าง สร้างสรรคว์ ฒั นธรรม อนั เป็นเอกลกั ษณ์ของ สรรคว์ ฒั นธรรม อนั เป็นเอกลกั ษณ์ของทอ้ งถิ่น ทอ้ งถิ่นท้งั ในประเทศไทยและโลก ท้งั ในประเทศไทยและโลก 5. มีส่วนร่วมในการแกป้ ัญหาและการดาํ เนินชีวิต  การแกป้ ัญหาและการดาํ เนินชีวิตตามแนวทาง ตามแนวทางการอนุรักษท์ รัพยากรและ การอนุรักษท์ รัพยากรและส่ิงแวดลอ้ ม เพ่ือการ ส่ิงแวดลอ้ ม เพ่ือการพฒั นาท่ียงั่ ยนื พฒั นาท่ียงั่ ยนื

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 125 ตอนที่ 3.2 โครงงานและแฟ้ มสะสมผลงาน 1. โครงงาน (Project Work) โครงงานเป็นการจดั การเรียนรู้ที่ส่งเสริมใหน้ กั เรียนไดล้ งมือปฏิบตั ิและศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง ตามแผนการดาํ เนินงานท่ีนกั เรียนไดจ้ ดั ข้ึน โดยครูช่วยใหค้ าํ แนะนาํ ปรึกษา กระตุน้ ใหค้ ิด และติดตามการ ปฏิบตั ิงานจนบรรลุเป้ าหมาย โครงงานแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ 1. โครงงานประเภทสาํ รวจ รวบรวมขอ้ มูล 2. โครงงานประเภททดลอง คน้ ควา้ 3. โครงงานท่ีเป็นการศึกษาความรู้ ทฤษฎี หลกั การ หรือแนวคิดใหม่ 4. โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ การเรียนรู้ดว้ ยโครงงานมีข้นั ตอนดงั น้ี 1. กาํ หนดหัวข้อทีจ่ ะศึกษา นกั เรียนคิดหวั ขอ้ โครงงาน ซ่ึงอาจไดม้ าจากความอยากรู้อยากเห็นของ นกั เรียนเองหรือไดจ้ ากการอ่านหนงั สือ บทความ การไปทศั นศึกษาดูงาน เป็นตน้ โดยนกั เรียนตอ้ งต้งั คาํ ถามวา่ “จะศึกษาอะไร” “ทาํ ไมตอ้ งศึกษาเรื่องดงั กล่าว” 2. ศึกษาเอกสารที่เกยี่ วข้อง นกั เรียนศึกษาทบทวนเอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง และปรึกษาครูหรือผทู้ ี่มี ความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาน้นั ๆ 3. เขียนเค้าโครงของโครงงานหรือสร้างแผนผงั ความคดิ โดยทว่ั ไปเคา้ โครงของโครงงานจะ ประกอบดว้ ยหวั ขอ้ ต่าง ๆ ดงั น้ี 1) ช่ือโครงงาน 2) ช่ือผทู้ าํ โครงงาน 3) ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน 4) ระยะเวลาดาํ เนินการ 5) หลกั การและเหตุผล 6) วตั ถุประสงค์ 7) สมมุติฐานของการศึกษา (ในกรณีท่ีเป็นโครงงานทดลอง) 8) ข้นั ตอนการดาํ เนินงาน 9) ปฏิบตั ิโครงงาน 10) ผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ 11) เอกสารอา้ งอิง/บรรณานุกรม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 126 4. การปฏิบตั โิ ครงงาน ลงมือปฏิบตั ิงานตามแผนงานที่กาํ หนดไว้ ในระหวา่ งปฏิบตั ิงานควรมีการ จดบนั ทึกขอ้ มลู ต่าง ๆ ไวอ้ ยา่ งละเอียดวา่ ทาํ อยา่ งไร ไดผ้ ลอยา่ งไร มีปัญหาหรืออุปสรรคอะไรและมีแนว ทางแกไ้ ขอยา่ งไร 5. การเขยี นรายงาน เป็นการรายงานสรุปผลการดาํ เนินงาน เพ่ือใหผ้ อู้ ื่นไดท้ ราบแนวคิด วิธีดาํ เนิน- งาน ผลท่ีไดร้ ับ และขอ้ เสนอแนะต่าง ๆ เก่ียวกบั โครงงาน ซ่ึงการเขียนรายงานน้ีควรใชภ้ าษาท่ีกระชบั เขา้ ใจง่าย ชดั เจน และครอบคลุมประเดน็ ท่ีศึกษา 6. การแสดงผลงาน เป็นการนาํ ผลของการดาํ เนินงานมาเสนอ อาจจดั ไดห้ ลายรูปแบบ เช่น การจดั นิทรรศการ การทาํ เป็นส่ือสิ่งพิมพ์ ส่ือมลั ติมีเดีย หรืออาจนาํ เสนอในรูปของการแสดงผลงาน การนาํ เสนอ ดว้ ยวาจา บรรยาย อภิปรายกลุ่ม สาธิต 2. แฟ้ มสะสมผลงาน (Portfolio) แฟ้ มสะสมผลงาน หมายถึง แหล่งรวบรวมเอกสาร ผลงาน หรือหลกั ฐาน เพื่อใชส้ ะทอ้ นถึง ผลสมั ฤทธ์ิ ความสามารถ ทกั ษะ และพฒั นาการของนกั เรียน มีการจดั เรียบเรียงผลงานไวอ้ ยา่ งมีระบบ โดยนาํ ความรู้ ความคิด และการนาํ เสนอมาผสมผสานกนั ซ่ึงนกั เรียนเป็นผคู้ ดั เลือกผลงานและมีส่วนร่วม ในการประเมิน แฟ้ มสะสมผลงานจึงเป็นหลกั ฐานสาํ คญั ท่ีจะทาํ ใหน้ กั เรียนสามารถมองเห็นพฒั นาการ ของตนเองไดต้ ามสภาพจริง รวมท้งั เห็นขอ้ บกพร่อง และแนวทางในการปรับปรุงแกไ้ ขใหด้ ีข้ึนต่อไป ลกั ษณะสําคญั ของการประเมนิ ผลโดยใช้แฟ้ มสะสมผลงาน 1. ครูสามารถใชเ้ ป็นเคร่ืองมือในการติดตามความกา้ วหนา้ ของนกั เรียนเป็นรายบุคคลไดเ้ ป็นอยา่ งดี เนื่องจากมีผลงานสะสมไว้ ครูจะทราบจุดเด่น จุดดอ้ ยของนกั เรียนแต่ละคนจากแฟ้ มสะสมผลงาน และ สามารถติดตามพฒั นาการไดอ้ ยา่ งต่อเน่ือง 2. มุง่ วดั ศกั ยภาพของนกั เรียนในการผลิตหรือสร้างผลงาน มากกวา่ การวดั ความจาํ จากการทาํ แบบทดสอบ 3. วดั และประเมินโดยเนน้ ผเู้ รียนเป็นศูนยก์ ลาง คือ นกั เรียนเป็นผวู้ างแผน ลงมือปฏิบตั ิงาน รวมท้งั ประเมินและปรับปรุงตนเอง ซ่ึงมีครูเป็นผชู้ ้ีแนะ เนน้ การประเมินผลยอ่ ยมากกวา่ การประเมินผลรวม 4. ฝึกใหน้ กั เรียนรู้จกั การประเมินตนเอง และหาแนวทางปรับปรุงพฒั นาตนเอง 5. นกั เรียนเกิดความมนั่ ใจและภาคภมู ิใจในผลงานของตนเอง รู้วา่ ตนเองมีจุดเด่นในเร่ืองใด 6. ช่วยในการส่ือความหมายเกี่ยวกบั ความรู้ ความสามารถ ตลอดจนพฒั นาการของนกั เรียนใหผ้ ทู้ ่ี เก่ียวขอ้ งทราบ เช่น ผปู้ กครอง ฝ่ ายแนะแนว ตลอดจนผบู้ ริหารของโรงเรียน ข้นั ตอนการประเมินผลโดยใช้แฟ้ มสะสมผลงาน การจดั ทาํ แฟ้ มสะสมผลงาน มี 10 ข้นั ตอน ซ่ึงแต่ละข้นั ตอนมีรายละเอียด ดงั น้ี 1. การวางแผนจัดทําแฟ้ มสะสมผลงาน การจดั ทาํ แฟ้ มสะสมผลงานตอ้ งมีส่วนร่วมระหวา่ งครู นกั เรียน และผปู้ กครอง

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 127 ครู การเตรียมตวั ของครูตอ้ งเร่ิมจากการศึกษาและวิเคราะห์หลกั สูตร คู่มือครู คาํ อธิบายรายวิชา วธิ ีการวดั และประเมินผลในหลกั สูตร รวมท้งั ครูตอ้ งมีความรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั การประเมินโดยใชแ้ ฟ้ ม สะสมผลงาน จึงสามารถวางแผนกาํ หนดช้ินงานได้ นักเรียน ตอ้ งมีความเขา้ ใจเก่ียวกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้ือหาสาระ การประเมินผลโดยใช้ แฟ้ มสะสมผลงาน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ การกาํ หนดชิ้นงาน และบทบาทในการทาํ งาน กลุ่ม โดยครูตอ้ งแจง้ ใหน้ กั เรียนทราบล่วงหนา้ ผู้ปกครอง ตอ้ งเขา้ มามีส่วนร่วมในการคดั เลือกผลงาน การแสดงความคิดเห็น และรับรู้ พฒั นาการของนกั เรียนอยา่ งต่อเน่ือง ดงั น้นั ก่อนทาํ แฟ้ มสะสมผลงาน ครูตอ้ งแจง้ ใหผ้ ปู้ กครองทราบหรือ ขอความร่วมมือ รวมท้งั ใหค้ วามรู้ในเร่ืองการประเมินผลโดยใชแ้ ฟ้ มสะสมผลงานแก่ผปู้ กครองเม่ือมี โอกาส 2. การรวบรวมผลงานและจัดระบบแฟ้ ม ในการรวบรวมผลงานตอ้ งออกแบบการจดั เกบ็ หรือแยก หมวดหมู่ของผลงานใหด้ ี เพอื่ สะดวกและง่ายต่อการนาํ ขอ้ มูลออกมาใช้ แนวทางการจดั หมวดหม่ขู อง ผลงาน เช่น 1) จดั แยกตามลาํ ดบั วนั และเวลาที่สร้างผลงานข้ึนมา 2) จดั แยกตามความซบั ซอ้ นของผลงาน เป็นการแสดงถึงทกั ษะหรือพฒั นาการของนกั เรียนท่ี มากข้ึน 3) จดั แยกตามวตั ถุประสงค์ เน้ือหา หรือประเภทของผลงาน ผลงานที่อยใู่ นแฟ้ มสะสมผลงานอาจมีหลายเรื่อง หลายวิชา ดงั น้นั นกั เรียนจะตอ้ งทาํ เครื่องมือใน การช่วยคน้ หา เช่น สารบญั ดชั นีเรื่อง จุดสี แถบสี ติดไวท้ ี่ผลงานโดยมีรหสั ท่ีแตกต่างกนั 3. การคดั เลอื กผลงาน ในการคดั เลือกผลงานน้นั ควรใหส้ อดคลอ้ งกบั เกณฑห์ รือมาตรฐานที่ โรงเรียน ครู หรือนกั เรียนร่วมกนั กาํ หนดข้ึนมา และผคู้ ดั เลือกผลงานควรเป็นนกั เรียนเจา้ ของแฟ้ มสะสม ผลงาน หรือมีส่วนร่วมกบั ครู เพอื่ น และผปู้ กครอง ผลงานท่ีเลือกเขา้ แฟ้ มสะสมผลงาน ควรมีลกั ษณะดงั น้ี 1) สอดคลอ้ งกบั เน้ือหาและวตั ถุประสงคข์ องการเรียนรู้ 2) เป็นผลงานชิ้นท่ีดีท่ีสุด มีความหมายต่อนกั เรียนมากที่สุด 3) สะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงพฒั นาการของนกั เรียนในทุกดา้ น 4) เป็นส่ือที่จะช่วยใหน้ กั เรียนมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกบั ครู ผปู้ กครอง และเพอ่ื น ๆ ส่วนจาํ นวนชิ้นงานน้นั ใหก้ าํ หนดตามความเหมาะสม ไม่ควรมีมากเกินไป เพราะอาจจะทาํ ให้ ผลงานบางชิ้นไม่มีความหมาย แต่ถา้ มีนอ้ ยเกินไปจะทาํ ใหก้ ารประเมินไม่มีประสิทธิภาพ 4. การสร้างสรรค์แฟ้ มสะสมผลงานให้มเี อกลกั ษณ์ของตนเอง โครงสร้างหลกั ของแฟ้ มสะสม ผลงานอาจเหมือนกนั แต่นกั เรียนสามารถตกแตง่ รายละเอียดยอ่ ยใหแ้ ตกต่างกนั ตามความคิดสร้างสรรค์ ของแตล่ ะบุคคล โดยอาจใชภ้ าพ สี สติกเกอร์ ตกแต่งใหส้ วยงาม เนน้ เอกลกั ษณ์ของเจา้ ของแฟ้ มสะสม ผลงาน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 128 5. การแสดงความคดิ เห็นหรือความรู้สึกต่อผลงาน ในข้นั ตอนน้ีนกั เรียนจะไดร้ ู้จกั การวพิ ากษ์ วจิ ารณ์ หรือสะทอ้ นความคิดเก่ียวกบั ผลงานของตนเอง ตวั อยา่ งขอ้ ความที่ใชแ้ สดงความรู้สึกต่อผลงาน เช่น 1) ไดแ้ นวคิดจากการทาํ ผลงานชิ้นน้ีมาจากไหน 2) เหตุผลท่ีเลือกผลงานชิ้นน้ีคืออะไร 3) จุดเด่น จุดดอ้ ยของผลงานชิ้นน้ีคืออะไร 4) รู้สึกพอใจกบั ผลงานชิ้นน้ีมากนอ้ ยเพียงใด 5) ไดข้ อ้ คิดอะไรจากการทาํ ผลงานชิ้นน้ี 6. การตรวจสอบความสามารถของตนเอง เป็นการเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดป้ ระเมินความสามารถ ของตนเอง โดยพิจารณาตามเกณฑย์ อ่ ย ๆ ท่ีครูและนกั เรียนช่วยกนั กาํ หนดข้ึน เช่น นิสยั การทาํ งาน ทกั ษะ ทางสงั คม การทาํ งานเสร็จตามระยะเวลาท่ีกาํ หนด การขอความช่วยเหลือเม่ือมีความจาํ เป็น นอกจากน้ีการ ตรวจสอบความสามารถตนเองอีกวิธีหน่ึง คือ การใหน้ กั เรียนเขียนวิเคราะห์จุดเด่น จุดดอ้ ยของตนเอง และ สิ่งที่ตอ้ งปรับปรุงแกไ้ ข 7. การประเมนิ ผลงาน เป็นข้นั ตอนท่ีสาํ คญั เน่ืองจากเป็นการสรุปคุณภาพของงานและความ สามารถหรือพฒั นาการของนกั เรียน การประเมินแบ่งออกเป็น 2 ลกั ษณะ คือ การประเมินโดยไม่ใหร้ ะดบั คะแนน และการประเมินโดยใหร้ ะดบั คะแนน 1) การประเมินโดยไม่ให้ระดบั คะแนน ครูกลุ่มน้ีมีความเช่ือวา่ แฟ้ มสะสมผลงานมีไวเ้ พ่ือศึกษา กระบวนการทาํ งาน ศึกษาความคิดเห็น ความรู้สึกของนกั เรียนท่ีมีต่อผลงานของตนเอง ตลอดจนดู พฒั นาการหรือความกา้ วหนา้ ของนกั เรียนอยา่ งไม่เป็นทางการ ครู ผปู้ กครอง และเพ่ือนสามารถใหค้ าํ ช้ีแนะแก่นกั เรียนได้ ซ่ึงวธิ ีการน้ีจะทาํ ใหน้ กั เรียนไดเ้ รียนรู้และปฏิบตั ิงานอยา่ งเตม็ ที่ โดยไม่ตอ้ งกงั วลวา่ จะไดค้ ะแนนมากนอ้ ยเท่าไร 2) การประเมินโดยให้ระดบั คะแนน มีท้งั การประเมินตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การประเมิน ระหวา่ งภาคเรียน และการประเมินปลายภาค ซ่ึงจะช่วยในวตั ถุประสงคด์ า้ นการปฏิบตั ิเป็นหลกั การ ประเมินแฟ้ มสะสมผลงานตอ้ งกาํ หนดมิติการใหค้ ะแนน (scoring rubrics) ตามเกณฑท์ ี่ครูและนกั เรียน ร่วมกนั กาํ หนดข้ึน การใหร้ ะดบั คะแนนมีท้งั การใหค้ ะแนนเป็นรายชิ้นก่อนเกบ็ เขา้ แฟ้ มสะสมผลงาน และ การใหค้ ะแนนแฟ้ มสะสมผลงานท้งั แฟ้ ม ซ่ึงมาตรฐานคะแนนน้นั ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงคก์ าร จดั ทาํ แฟ้ มสะสมผลงาน และมุ่งเนน้ พฒั นาการของนกั เรียนแต่ละคนมากกวา่ การนาํ ไปเปรียบเทียบกบั บุคคลอื่น 8. การแลกเปลยี่ นประสบการณ์กบั ผ้อู นื่ มีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดร้ ับฟังความ คิดเห็นจากผทู้ ่ีมีส่วนเก่ียวขอ้ ง ไดแ้ ก่ เพอื่ น ครู และผปู้ กครอง อาจทาํ ไดห้ ลายรูปแบบ เช่น การจดั ประชุม ในโรงเรียนโดยเชิญผทู้ ่ีมีส่วนเก่ียวขอ้ งมาร่วมกนั พิจารณาผลงาน การสนทนาแลกเปล่ียนระหวา่ งนกั เรียน กบั เพอ่ื น การส่งแฟ้ มสะสมผลงานไปใหผ้ ทู้ ่ีมีส่วนเก่ียวขอ้ งช่วยใหข้ อ้ เสนอแนะหรือคาํ แนะนาํ ในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์น้นั นกั เรียนจะตอ้ งเตรียมคาํ ถามเพื่อถามผทู้ ่ีมีส่วนเก่ียวขอ้ ง ซ่ึงจะ เป็นประโยชนใ์ นการปรับปรุงงานของตนเอง ตวั อยา่ งคาํ ถาม เช่น

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 129 1) ท่านคิดอยา่ งไรกบั ผลงานชิ้นน้ี 2) ท่านคิดวา่ ควรปรับปรุงแกไ้ ขส่วนใดอีกบา้ ง 3) ผลงานชิ้นใดท่ีท่านชอบมากท่ีสุด เพราะอะไร 9. การปรับเปลย่ี นผลงาน หลงั จากท่ีนกั เรียนไดแ้ ลกเปล่ียนความคิดเห็น และไดร้ ับคาํ แนะนาํ จากผู้ ท่ีมีส่วนเกี่ยวขอ้ งแลว้ จะนาํ มาปรับปรุงผลงานใหด้ ีข้ึน นกั เรียนสามารนาํ ผลงานท่ีดีกวา่ เก็บเขา้ แฟ้ มสะสม ผลงานแทนผลงานเดิม ทาํ ใหแ้ ฟ้ มสะสมผลงานมีผลงานที่ดี ทนั สมยั และตรงตามจุดประสงคใ์ นการ ประเมิน 10. การประชาสัมพนั ธ์ผลงานของนักเรียน เป็นการแสดงนิทรรศการผลงานของนกั เรียน โดยนาํ แฟ้ มสะสมผลงานของนกั เรียนทุกคนมาจดั แสดงร่วมกนั และเปิ ดโอกาสใหผ้ ปู้ กครอง ครู และนกั เรียน ทว่ั ไปไดเ้ ขา้ ชมผลงาน ทาํ ใหน้ กั เรียนเกิดความภาคภมู ิใจในผลงานของตนเอง ผทู้ ี่เริ่มตน้ ทาํ แฟ้ มสะสม ผลงานอาจไม่ตอ้ งดาํ เนินการท้งั 10 ข้นั ตอนน้ี อาจใชข้ ้นั ตอนหลกั ๆ คือ การรวบรวมผลงานและการ จดั ระบบแฟ้ ม การคดั เลือกผลงาน และการแสดงความคิดเห็นหรือความรู้สึกต่อผลงาน องค์ประกอบสําคญั ของแฟ้ มสะสมผลงาน มีดงั น้ี 1. ส่วนนํา ประกอบดว้ ย 2. ส่วนเนือ้ หาแฟ้ ม ประกอบดว้ ย – ปก – ผลงาน – คาํ นาํ – ความคิดเห็นท่ีมีต่อผลงาน – สารบญั – Rubrics ประเมินผลงาน – ประวตั ิส่วนตวั – จุดมุ่งหมายของการทาํ 3. ส่วนข้อมลู เพม่ิ เตมิ ประกอบดว้ ย แฟ้ มสะสมผลงาน – ผลการประเมินการเรียนรู้ – การรายงานความกา้ วหนา้ โดยครู – ความคิดเห็นของผทู้ ี่มีส่วน เก่ียวขอ้ ง เช่น เพ่อื น ผปู้ กครอง

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 130 ตอนท่ี 3.3 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ และรูปแบบแผนการจดั การเรียนรู้รายช่ัวโมง 1. ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ Backward Design ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ ________________________ ข้นั ที่ 1 ผลลพั ธ์ปลายทางท่ีต้องการให้เกดิ ขนึ้ กบั นักเรียน ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน ____________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________ ความเข้าใจท่ีคงทนของนักเรียน คาํ ถามสําคญั ท่ีทําให้เกดิ ความเข้าใจทค่ี งทน นักเรียนจะเข้าใจว่า... 1. ______________________________________ 1. ______________________________________ 2. ______________________________________ 2. ______________________________________ ความรู้ของนักเรียนที่นําไปสู่ความเข้าใจท่ีคงทน ทกั ษะ/ความสามารถของนักเรียนท่ีนําไปสู่ นักเรียนจะรู้ว่า... ความเข้าใจทค่ี งทน นักเรียนจะสามารถ... 1. ______________________________________ 1. ______________________________________ 2. ______________________________________ 2. ______________________________________ ข้นั ท่ี 2 ภาระงานและการประเมนิ ผลการเรียนรู้ซ่ึงเป็ นหลกั ฐานทแ่ี สดงว่านักเรียนมีผลการเรียนรู้ตามที่ กาํ หนดไว้อย่างแท้จริง 1. ภาระงานท่ีนักเรียนต้องปฏิบัติ 1.1 _____________________________________________________________________________ 1.2 _____________________________________________________________________________ 1.3 _____________________________________________________________________________ 2. วธิ ีการและเครื่องมอื ประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2.1 วิธีการประเมินผลการเรียนรู้ 2.2 เคร่ืองมือประเมินผลการเรียนรู้ 1) _________________________________ 1) _________________________________ 2) _________________________________ 2) _________________________________ 3) _________________________________ 3) _________________________________

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 131 3. ส่ิงทมี่ ุ่งประเมนิ 3.1 _____________________________________________________________________________ 3.2 _____________________________________________________________________________ 3.3 _____________________________________________________________________________ ข้นั ที่ 3 แผนการจดั การเรียนรู้ ____________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________ 2. รูปแบบแผนการจดั การเรียนรู้รายชั่วโมง เมื่อครูออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design แลว้ ครูสามารถเขียนแผนการ จดั การเรียนรู้รายชว่ั โมงโดยใชร้ ูปแบบของแผนการจดั การเรียนรู้แบบเรียงหวั ขอ้ ซ่ึงมีรายละเอียด ดงั น้ี ช่ือแผน... (ระบุชื่อและลาํ ดบั ท่ีของแผนการจดั การเรียนรู้) ชื่อเรื่อง... (ระบุช่ือเร่ืองท่ีจะทาํ การจดั การเรียนรู้) สาระท่ี... (ระบุสาระท่ีใชจ้ ดั การเรียนรู้) ช้ัน... (ระบุช้นั ท่ีจดั การเรียนรู้) หน่วยการเรียนรู้ท่ี... (ระบุลาํ ดบั ท่ีและช่ือของหน่วยการเรียนรู้) เวลา... (ระบุระยะเวลาท่ีใชใ้ นการจดั การเรียนรู้ต่อ 1 แผน) สาระสําคญั ... (เขียนความคิดรวบยอดหรือมโนทศั นข์ องหวั เรื่องที่จะจดั การเรียนรู้) ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน... (ระบุตวั ช้ีวดั ช่วงช้นั ที่ใชเ้ ป็นเป้ าหมายของแผนการจดั การเรียนรู้) จุดประสงค์การเรียนรู้... (กาํ หนดใหส้ อดคลอ้ งกบั สมรรถนะสาํ คญั และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ของนกั เรียนหลงั จากสาํ เร็จการศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ซ่ึง ประกอบดว้ ยดา้ นความรู้ (Knowledge–K) ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม (Affective–A) และดา้ น ทกั ษะ/กระบวนการ (Performance–P)) การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้... (ระบุวิธีการและเครื่องวดั และประเมินผลที่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ท้งั 3 ดา้ น) สาระการเรียนรู้... (ระบุสาระและเน้ือหาที่ใชจ้ ดั การเรียนรู้ อาจเขียนเฉพาะหวั เรื่องกไ็ ด)้ แนวทางบูรณาการ... (เสนอแนะและระบุกิจกรรมของกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนที่บูรณาการร่วมกนั ) กระบวนการจัดการเรียนรู้... (กาํ หนดใหส้ อดคลอ้ งกบั ธรรมชาติของกลุ่มสาระการเรียนรู้และ การบรู ณาการขา้ มกลุ่มสาระการเรียนรู้) กจิ กรรมเสนอแนะ... (ระบุรายละเอียดของกิจกรรมท่ีนกั เรียนควรปฏิบตั ิเพ่ิมเติม) ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้... (ระบุส่ือ อุปกรณ์ และแหลง่ การเรียนรู้ที่ใชใ้ นการจดั การเรียนรู้) บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู้... (ระบุรายละเอียดของผลการจดั การเรียนรู้ตามแผนที่กาํ หนดไว้ อาจ นาํ เสนอขอ้ เด่นและขอ้ ดอ้ ยใหเ้ ป็นขอ้ มลู ที่สามารถใชเ้ ป็นส่วนหน่ึงของการทาํ วจิ ยั ในช้นั เรียนได)้

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 132  ตอนที่ 3.4 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน ประจาํ หน่วยการเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เคร่ืองมอื ในการศึกษาภูมศิ าสตร์ คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบที่ถูกต้องทส่ี ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. แผนทช่ี นิดใดทแี่ สดงข้อมูลของพนื้ ท่ีขนาดเลก็ แล้วให้รายละเอยี ดมาก ก แผนที่อา้ งอิง ข แผนที่ภมู ิประเทศ ค แผนที่มาตราส่วนขนาดเลก็ ง แผนท่ีมาตราส่วนขนาดใหญ่ 2. ในแผนท่นี ิยมแสดงแม่นํา้ ด้วยสีอะไร ก สีฟ้ า ข สีเทา ค สีแดง ง สีน้าํ ตาล 3. ข้อใดเป็ นประโยชน์ของก้อนถ่วงนํา้ หนักในเคร่ืองมอื วดั พนื้ ท่ี ก บอกตาํ แหน่งของพ้ืนท่ี ข ใหข้ อ้ มูลอาณาเขตพ้นื ท่ี ค ใชเ้ ป็นจุดสงั เกตในการวดั พ้นื ที่ ง ป้ องกนั การเคล่ือนท่ีบริเวณจุดท่ีวา่ ง 4. เคร่ืองมอื ชนิดใดใช้ในการวดั ความชื้นสัมพทั ธ์ในอากาศ ก บารอกราฟ ข เทอร์โมกราฟ ค ไซโครมิเตอร์ ง เทอร์โมมิเตอร์ 5. เส้นผมทีอ่ ยู่ในไฮโกรมเิ ตอร์มคี ุณสมบตั อิ ย่างไร ก ช่วยใหค้ ่าของความช้ืนคงท่ี ข ช่วยยดึ อุปกรณ์เขา้ ไวด้ ว้ ยกนั ค เปลี่ยนแปลงตามอุณหภมู ิของอากาศ ง เปลี่ยนแปลงตามปริมาณความช้ืนในอากาศ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 133  6. ข้อใดเป็ นแหล่งพลงั งานทีส่ ําคญั ในข้นั ตอนของกระบวนการการรับรู้จากระยะไกล ก น้าํ ข ลม ค ดวงจนั ทร์ ง ดวงอาทิตย์ 7. ถ้าต้องการศึกษาความเปลยี่ นแปลงของทรัพยากรป่ าไม้ในประเทศไทยควรศึกษาจากเคร่ืองมอื ภูมศิ าสตร์ใดจึงจะเหมาะสมและรวดเร็วท่สี ุด ก แผนที่ ข ภาพจากดาวเทียม ค ภาพถ่ายทางอากาศ ง ระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์ 8. ถ้าต้องการค้นข้อมูลเกย่ี วกบั อุณหภูมเิ ฉลยี่ ของแต่ละภูมภิ าคในประเทศไทย ควรค้นหาจากเวบ็ ไซต์ ของหน่วยงานใด ก กรมอุตุนิยมวทิ ยา ข กรมทรัพยากรธรณี ค กระทรวงมหาดไทย ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 9. แผนท่ีท่ีใช้แสดงเขตการปกครองคอื แผนที่อะไร ก แผนท่ีรัฐกิจ ข แผนท่ีธรณีวทิ ยา ค แผนที่ภมู ิประเทศ ง แผนท่ีพชื พรรณธรรมชาติ 10. การบอกระดบั ความสูงในแผนที่ด้วยวธิ ีใดทน่ี ิยมใส่เลขบอกระดบั ความสูงไว้ด้วย ก การแรเงา ข การใชแ้ ถบสี ค เสน้ ช้นั ความสูง ง เสน้ ลายขวานสบั

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 134  แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เครื่องมอื ในการศึกษาภูมิศาสตร์ คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบท่ถี ูกต้องทสี่ ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. แผนทีเ่ ล่มคอื อะไร ก แผนที่รัฐกิจ ข แผนที่ชุด L7018 ค แผนที่เฉพาะเรื่อง ง แผนที่ที่รวมแผนท่ีหลาย ๆ ชนิด 2. ข้อใดเป็ นมาตราส่วนของแผนท่ีมาตราส่วนขนาดเลก็ ก 1:2,500 ข 1:25,000 ค 1:250,000 ง 1:2,500,000 3. ข้อใดอ่านค่ามุมแบริงจาก N 25o E ได้ถูกต้อง ก แบริงใต้ 25 องศาตะวนั ออก ข แบริงใต้ 75 องศาตะวนั ออก ค แบริงเหนือ 25 องศาตะวนั ออก ง แบริงเหนือ 75 องศาตะวนั ออก 4. จากมาตราส่วนคาํ พดู “1 เซนตเิ มตรเท่ากบั 5 กโิ ลเมตร” ถ้าวดั ระยะทางในแผนทไี่ ด้ 2.7 เซนตเิ มตร ระยะทางจริงบนพนื้ ผวิ โลกจะเป็ นเท่าใด ก 13.5 กิโลเมตร ข 14.5 กิโลเมตร ค 15.5 กิโลเมตร ง 16.5 กิโลเมตร 5. เส้นช้ันความสูงทเ่ี รียงเป็ นวงซ้อนกนั จะมลี กั ษณะภูมิประเทศเป็ นอย่างไร ก ที่ราบ ข แอ่งต่าํ ค หนา้ ผาชนั ง ภเู ขายอดแหลม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 135  6. ถ้านกั เรียนต้องการวดั อุณหภูมแิ ละความชื้นในอากาศแบบต่อเน่ืองไปพร้อมกนั ควรเลอื กใช้เครื่องมอื ใด ก บารอมิเตอร์ ข ไฮโกรมิเตอร์ ค เทอร์โมกราฟ ง เทอร์โมไฮโกรมิเตอร์ 7. นักเรียนจะใช้ฟิ ล์มชนิดใดช่วยในการบนั ทึกภาพเพอ่ื การรังวัดพนื้ ที่ ก ฟิ ลม์ สีธรรมชาติ ข ฟิ ลม์ สีผดิ ธรรมชาติ ค ฟิ ลม์ ขาว–ดาํ ธรรมดา ง ฟิ ลม์ ขาว–ดาํ อินฟราเรด 8. กระบวนการบันทึกภาพจากดาวเทยี มอาศัยคุณสมบัตขิ ้อใด ก วตั ถุแต่ละชนิดสะทอ้ งแสงไดเ้ ท่ากนั ข วตั ถุแต่ละชนิดสะทอ้ นแสงไดไ้ ม่เท่ากนั ค วตั ถุที่เป็นของเหลวสะทอ้ นแสงไดเ้ พียงอยา่ งเดียว ง วตั ถุท่ีเป็นของแขง็ สะทอ้ นแสงไม่ไดถ้ า้ พ้ืนผวิ ไม่เรียบตรง 9. องค์ประกอบใดไม่ได้ อย่ใู นระบบสารสนเทศภูมศิ าสตร์ ก ชุดคาํ สงั่ ข บุคลากร ค สถานีควบคุม ง ขอ้ มูลเวกเตอร์ 10. world wide web คอื อะไร ก แอดเดรส ข โปรแกรมคน้ หา ค โครงข่ายใยแมงมุม ง หนา้ กระดาษอิเลก็ ทรอนิกส์

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 136  แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ปรากฏการณ์ทางภูมศิ าสตร์ คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบทถี่ ูกต้องทสี่ ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. “สภาวะที่เกดิ ขนึ้ กบั เปลอื กโลกและบรรยากาศท่หี ่อหุ้มโลกซ่ึงมอี ทิ ธิพลต่อการดําเนินชีวติ ของ มนุษย์” ข้อความนีเ้ ป็ นความหมายของอะไร ก วธิ ีการทางภมู ิศาสตร์ ข ปรากฏการณ์ทางภมู ิศาสตร์ ค กระบวนการทางภมู ิศาสตร์ ง การเปล่ียนแปลงทางภมู ิศาสตร์ 2. ข้อใดเป็ นลกั ษณะของภูเขาไฟรูปโล่ ก ภูเขาไฟเปอเล ประเทศฝร่ังเศส ข ภเู ขาไฟเวซูเวียส ประเทศอิตาลี ค ภูเขาไฟลากี ประเทศไอซ์แลนด์ ง ภูเขาไฟมาโยน ประเทศฟิ ลิปปิ นส์ 3. แอ่งขนาดใหญ่ทีเ่ กดิ จากการปะทุของภูเขาไฟเรียกว่าอะไร ก ฮอสต์ ข อาแรต ค กราเบิน ง แคลดีรา 4. การกดั เซาะของนํา้ อย่างรวดเร็วบริเวณท้องนาํ้ จนเป็ นร่องลกึ คอื กระบวนการเกดิ ของอะไร ก ถ้าํ ข แก่ง ค น้าํ ตก ง หุบผาชนั 5. ท่รี าบนํา้ ท่วมถงึ เป็ นลกั ษณะภูมปิ ระเทศที่เกดิ ขึน้ ในระยะใดของววิ ฒั นาการของแม่นํา้ ก ระยะวยั อ่อน ข ระยะวยั หนุ่ม ค ระยะวยั หนุ่มและวยั ชรา ง ระยะวยั อ่อนและวยั หนุ่ม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 137  6. ข้อใดเป็ นลกั ษณะภูมปิ ระเทศทเี่ กดิ จากการกระทาํ ของแม่นํา้ ก สนั ทราย ข เนินทราย ค รอยเลื่อน ง เนินตะกอนรูปพดั 7. แกรนด์แคนยอนเป็ นลกั ษณะภูมปิ ระเทศทพ่ี บในบริเวณใด ก ท่ีราบสูงในเขตแหง้ แลง้ ข ท่ีราบสูงที่มีฝนตกตลอดปี ค ท่ีราบสูงในเขตที่มีฝนตกชุก ง ชายฝั่งทะเลท่ีมีธารน้าํ แขง็ ไหลผา่ น 8. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกยี่ วกบั กระบวนการแปรสัณฐาน ก เป็นกระบวนการท่ีเกิดข้ึนอยา่ งรวดเร็ว ข เกิดจากอุกกาบาตที่ตกลงบนพ้ืนผวิ โลก ค เป็นกระบวนการท่ีเกิดข้ึนชา้ ๆ อยา่ งต่อเนื่อง ง ผลจากกระบวนการทาํ ใหเ้ กิดลกั ษณะภมู ิประเทศต่าง ๆ 9. ทรี่ าบสูงฮาร์ตอย่ใู นประเทศใด ก สเปน ข ฝรั่งเศส ค เยอรมนี ง สหรัฐอเมริกา 10. ท่ีราบภาคกลางตอนบนของประเทศไทยจัดอยู่ในท่ีราบประเภทใด ก ที่ราบน้าํ ท่วมถึง ข ท่ีราบภายในทวีป ค ท่ีราบชายฝ่ังทะเล ง ท่ีราบดินตะกอนสามเหล่ียม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook