Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 24 52-01-0120 แผนฯ ภูมิศาสตร์ ม.4-6

24 52-01-0120 แผนฯ ภูมิศาสตร์ ม.4-6

Published by Chaiwiwath Suktakian, 2022-08-10 10:08:59

Description: 24 52-01-0120 แผนฯ ภูมิศาสตร์ ม.4-6

Search

Read the Text Version

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 138  แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ปรากฏการณ์ทางภูมิศาสตร์ คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบท่ถี ูกต้องทสี่ ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. การเปลย่ี นแปลงทเี่ กดิ จากกระบวนการบนผวิ โลกในข้อใดท่เี ป็ นการผพุ งั อยู่กบั ที่ทางกายภาพ ก การละลายของแร่ธาตุ ข การแขง็ ตวั ของน้าํ ทาํ ใหห้ ินแตก ค การเปลี่ยนเป็นสีแดงของแร่เหลก็ ง การแตกของหินจากการเจริญเติบโตของพืช 2. ลกั ษณะภูมิประเทศใดเกดิ จากการยกตวั สูงตามแนวรอยเลอ่ื นปกติ ก ฮอสต์ ข อาแรต ค ฟยอร์ด ง กราเบิน 3. เทือกเขาแอนดสี เป็ นลกั ษณะภูมปิ ระเทศเกดิ จากสิ่งใด ก รอยเลื่อนยอ้ น ข รอยเล่ือนปกติ ค การคดโคง้ ของหิน ง รอยเล่ือนในแนวนอน 4. ข้อใดคอื ลกั ษณะภูมิประเทศของทุ่งกุลาร้องไห้ ก ท่ีราบสูง ข แอ่งที่ราบ ค ที่ราบน้าํ ท่วมถึง ง ท่ีราบดินลมหอบ 5. ลกั ษณะภูมปิ ระเทศแบบทะเลทรายเกดิ จากตวั กระทําของกระบวนการใด ก ลม ข ธารน้าํ แขง็ ค น้าํ และแมน่ ้าํ ง คลื่นและน้าํ ทะเล

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 139  6. ปรากฏการณ์ใดส่งผลกระทบต่อประเทศไทยทุกปี ก สึนามิ ข น้าํ ท่วม ค แผน่ ดินไหว ง ภเู ขาไฟปะทุ 7. บริเวณใดเส่ียงต่อการเกดิ แผ่นดินไหว ก รอบมหาสมุทรแปซิฟิ ก ข รอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ค แนวกลางมหาสมุทรอินเดีย ง ถกู ทุกขอ้ 8. การสร้างบ้านเรือนบริเวณใดเส่ียงต่อการได้รับภยั จากแผ่นดินถล่มมากทีส่ ุด ก ท่ีราบ ข เชิงเขา ค แอ่งที่ราบ ง ที่ราบลุ่มแม่น้าํ 9. วลิ ล-ี วลิ ลี เป็ นชื่อเรียกพายหุ มนุ เขตร้อนทเ่ี กดิ บริเวณใด ก มหาสมุทรอินเดียใต้ ข มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ค มหาสมุทรแปซิฟิ กเหนือดา้ นตะวนั ตก ง มหาสมุทรอินเดียใตท้ างตะวนั ตกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย 10. ข้อใดกล่าวถงึ ช้ันไซอลั ได้ถูกต้อง ก ช้นั ผวิ ของเปลือกโลก ข ช้นั ท่ีมีลกั ษณะเป็นหินหนืด ค ช้นั ที่อยถู่ ดั ไปจากช้นั เน้ือโลก ง ช้นั ท่ีอยตู่ ิดกบั ช้นั หินเหลวตอนกลาง

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 140  แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 วกิ ฤตการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบทถ่ี ูกต้องทสี่ ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. ข้อใดเป็ นทรัพยากรธรรมชาตทิ ่ีใช้แล้วไม่หมดไป แต่มกี ารหมุนเวยี นอยู่เสมอ ก น้าํ ข แร่ ค ป่ าไม้ ง สตั วป์ ่ า 2. ไฟป่ าส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาตชิ นิดใด ก ดิน ข อากาศ ค สตั วป์ ่ า ง ถกู ทุกขอ้ 3. พนื้ ท่ีใดเส่ียงต่อการเกดิ ภาวะดินเคม็ ก นาขา้ ว ข ไร่ขา้ วโพด ค พ้ืนท่ีน้าํ ท่วมขงั ง พ้ืนท่ีทาํ นากงุ้ กลุ าดาํ 4. ข้อใดไม่ใช่ ผลกระทบทเี่ กดิ จากนํา้ เน่าเสีย ก เกิดพืชใตน้ ้าํ ข ส่งกลิ่นเหมน็ ค สตั วน์ ้าํ สูญพนั ธุ์ ง เป็นแหล่งเพาะเช้ือโรค 5. ปัจจัยสําคญั ท่ีทาํ ให้เกดิ วกิ ฤตการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมของโลกมากท่ีสุดคอื อะไร ก ความเจริญของเมืองใหญ่ ข ความเจริญของอุตสาหกรรม ค การเพ่ิมของจาํ นวนประชากร ง ความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยี

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 141  6. ความเสื่อมโทรมของแหล่งนํา้ จืดมคี วามสัมพันธ์กบั สิ่งใดมากท่ีสุด ก การลดลงของพ้ืนที่ป่ า ข การลดลงของคุณภาพดิน ค การขยายตวั ของชุมชนเมือง ง การขยายตวั ของสภาพเศรษฐกิจ 7. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกย่ี วกบั สภาพดนิ ท่ีเส่ือมโทรม ก ดินเคม็ ข ดินที่มีน้าํ ท่วมขงั ค ดินที่มีความเป็นกรด ง ดินที่ไม่เหมาะแก่การเพาะปลกู 8. กจิ กรรมใดปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมามากที่สุด ก การเพาะปลูก ข การเล้ียงสตั ว์ ค การทาํ เหมืองแร่ ง การเผาไหมเ้ ช้ือเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม 9. การแก้ไขวกิ ฤตการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมของโลกเป็ นหน้าที่ของใคร ก ภาครัฐ ข ภาคเอกชน ค ผปู้ ระกอบการ ง ประชากรบนโลกทุกคน 10. ผลติ ภณั ฑ์ท่ีตดิ ฉลากเขยี วหมายถงึ อะไร ก ผลิตภณั ฑท์ ี่ยอ่ ยสลายง่าย ข ผลิตภณั ฑท์ ่ีทาํ ลายสิ่งแวดลอ้ ม ค ผลิตภณั ฑท์ ี่ทาํ จากวสั ดุธรรมชาติ ง ผลิตภณั ฑท์ ่ีมีผลกระทบต่อสิ่งแวดลอ้ มนอ้ ย

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 142  แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 วิกฤตการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบทถี่ ูกต้องทสี่ ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. ทรัพยากรธรรมชาตชิ นิดใดที่นักเรียนต้องใช้อย่างประหยดั มากท่สี ุด ก น้าํ ข สตั ว์ ค น้าํ มนั ง อากาศ 2. ข้อใดไม่ใช่ สาเหตุจากมนุษย์ที่ทําให้พนื้ ที่ป่ าไม้ในประเทศไทยลดลง ก การสร้างที่อยอู่ าศยั ข การเกิดไฟป่ าในฤดูแลง้ ค การตดั ไมน้ อกเขตสมั ปทาน ง การขยายพ้ืนที่ทางการเกษตร 3. แนวทางใดช่วยแก้ไขปัญหาการตดั ไม้ทาํ ลายป่ าทย่ี ง่ั ยนื ได้มากท่ีสุด ก การควบคุมการเกิดไฟป่ า ข การใหก้ ารศึกษาแก่ประชาชน ค การปลกู ป่ าในพ้นื ท่ีท่ีไม่เคยเป็นป่ า ง การออกกฎหมายที่มีบทลงโทษรุนแรง 4. ปัญหาดินเคม็ ในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือของประเทศไทยส่วนใหญ่เกดิ จากสาเหตุใด ก การทาํ นากงุ้ ข การขดุ บ่อน้าํ บาดาล ค โครงสร้างทางธรณีวทิ ยา ง ลกั ษณะภมู ิประเทศและภมู ิอากาศ 5. การใส่ปูนขาวจะช่วยแก้ปัญหาดนิ ท่ีเป็ นอย่างไร ก ดินเคม็ ข ดินเปร้ียว ค ดินพงั ทลาย ง ดินไม่อุดมสมบูรณ์

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 143  6. ข้อใดไม่ใช่ ผลดที เ่ี กดิ จากการแก้ไขปัญหาทรัพยากรนํา้ ด้วยการสร้างเข่ือนเกบ็ กกั นํา้ ก ป้ องกนั น้าํ ท่วม ข ป้ องกนั น้าํ เน่าเสีย ค ลดการขาดแคลนน้าํ ง เพิ่มประโยชน์ในการใชน้ ้าํ 7. ข้อใดเป็ นวธิ ีการแก้ปัญหาแร่ลดปริมาณลง ก การใชส้ ิ่งอ่ืนทดแทน ข การหมุนเวยี นกลบั มาใชใ้ หม่ ค การนาํ เครื่องมือท่ีทนั สมยั มาผลิตแร่ ง การออกสาํ รวจเพ่ือหาแหล่งทรัพยากรแร่เพ่ิม 8. การจดั ต้ังเขตรักษาพนั ธ์ุสัตว์ป่ าเป็ นการแก้ไขปัญหาการสูญพนั ธ์ุของสัตว์ป่ าด้วยวธิ ีใด ก การใชม้ าตรการกฎหมาย ข การจดั การดา้ นถิ่นท่ีอยขู่ องสตั ว์ ค การสร้างจิตสาํ นึกใหแ้ ก่ประชาชน ง การเพาะเล้ียงและขยายพนั ธุ์สตั วป์ ่ า 9. ข้อใดกล่าวถึงปรากฏการณ์เรือนกระจกได้ถูกต้อง ก ผวิ โลกสะทอ้ นรังสีไดด้ ีข้ึน ข ผวิ โลกสะทอ้ นรังสีไดน้ อ้ ยลง ค ช้นั โอโซนในบรรยากาศโลกเพ่มิ ข้ึน ง ก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศโลกนอ้ ยลง 10. เพราะเหตุใดภาวะโลกร้อนจงึ ส่งผลให้ระดับนํา้ ทะเลสูงขนึ้ ก น้าํ แขง็ ข้วั โลกละลาย ข ฝนตกในทะเลมากข้ึน ค น้าํ จะไหลลงสู่ทะเลท้งั หมด ง ไม่มีขอ้ ใดถกู

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 144  แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การจดั การด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบทถ่ี ูกต้องทส่ี ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันการเป็ นภาคสี มาชิกอนุสัญญาบาเซิลเมอ่ื ใด ก วนั ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2538 ข วนั ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2538 ค วนั ท่ี 24 กนั ยายน พ.ศ. 2540 ง วนั ท่ี 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 2. อนุสัญญาอะไรทม่ี วี ตั ถุประสงค์เพอ่ื ยกเลกิ การใช้สารซีเอฟซีและสารอนื่ ๆ ที่มผี ลทาํ ให้ช้ันโอโซนเบา บางลง ก อนุสญั ญาบาเซิล ข อนุสญั ญาไซเตส ค อนุสญั ญาเวยี นนา ง อนุสญั ญาวา่ ดว้ ยความหลากหลายทางชีวภาพ 3. ข้อใดเป็ นองค์กรประชาชนและองค์กรเอกชนที่อยู่ในภาคเหนือ ก กลุ่มฮกั ป่ าเชียงดาว ข กลุ่มคนรักเมืองเพชร ค กลุ่มสมาคมรักษท์ ะเลไทย ง กลุ่มสมาพนั ธ์เกษตรกรฝายราษีไศล 4. อนุสัญญาสหประชาชาตวิ ่าด้วยการเปลย่ี นแปลงสภาพภูมอิ ากาศมขี นึ้ เพอื่ วตั ถุประสงค์ใด ก ปกป้ องช้นั บรรยากาศของโลก ข ลดและยกเลิกการใชส้ ารซีเอฟซี ค อนุรักษค์ วามหลากหลายทางชีวภาพ ง ควบคุมการคา้ สตั วป์ ่ าระหวา่ งประเทศ 5. การดําเนินการขององค์กรใดต่อไปนีถ้ ือว่ามีส่วนกบั การอนุรักษ์ผนื ป่ าและสัตว์ป่ าของเขตรักษาพนั ธ์ุ สัตว์ป่ าห้วยขาแข้งมากทส่ี ุด ก มลู นิธิเพอ่ื นชา้ ง ข สมาคมหยาดฝน ค มลู นิธิสืบนาคะเสถียร ง สมาคมสร้างสรรคไ์ ทย

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 145  6. ข้อใดไม่ใช่ ลกั ษณะขององค์กรชุมชนชาวบ้านที่มบี ทบาทในการจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ ส่ิงแวดล้อม ก มีการจดทะเบียนเป็นองคก์ รเอกชน ข เป็นองคก์ รท่ีเกิดจากการรวมตวั ของประชาชนในหม่บู า้ นหรือทอ้ งถ่ิน ค มีบทบาทมากข้ึนนบั ต้งั แต่ไดเ้ กิดเหตุการณ์การล่าสตั วใ์ นเขตรักษาพนั ธุ์สตั วป์ ่ าทุ่งใหญ่นเรศวร ง มีเจตคติดา้ นการจดั การเก่ียวกบั ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในชุมชนและทอ้ งถิ่นร่วมกนั 7. ข้อใดไม่ใช่ บทบาทของกลุ่มกรีนพซี ในประเทศไทย ก รณรงคเ์ กี่ยวกบั มลพษิ จากการปล่อยสารไดออกซิน ข รณรงคใ์ หม้ ีการผลิตกระแสไฟฟ้ าจากพลงั งานนิวเคลียร์ ค รณรงคใ์ หล้ ดการใชเ้ ช้ือเพลิงที่ไดช้ ่ือวา่ เป็นพลงั งานสกปรก ง รณรงคใ์ หค้ นไทยต่ืนตวั เกี่ยวกบั การนาํ เอากระบวนการทางพนั ธุวิศวกรรมมาใช้ 8. กฎหมายฉบบั ใดที่มขี ้อกาํ หนดเกยี่ วกบั การควบคุมมลพษิ ในส่ิงแวดล้อม ก พระราชบญั ญตั ิการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ข พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ค พระราชบญั ญตั ิรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบา้ นเมือง พ.ศ. 2535 ง ไม่มีขอ้ ถูก 9. สัตว์ชนิดใดเป็ นสัตว์ป่ าสงวน ก ปเู จา้ ฟ้ า ข ควายป่ า ค คา้ งคาวคุณกิตติ ง นกกระจอกใหญ่ 10. ใครมคี วามผดิ ตามพระราชบัญญัตสิ งวนและคุ้มครองสัตว์ป่ า พ.ศ. 2535 ก ต่ายซ้ือสตั วป์ ่ าจากตลาดนดั เพราะเห็นวา่ น่ารักดี ข ทศทาํ เรื่องขออนุญาตเพาะพนั ธุ์สตั วป์ ่ าในสวนสตั ว์ ค หน่ึงรับประทานอาหารระหวา่ งชมสตั วป์ ่ าหายากในสวนสตั ว์ ง เอกนาํ ซากสตั วป์ ่ าท่ียดึ มาไดจ้ ากผลู้ กั ลอบไปเกบ็ ไวท้ ี่สถานีตาํ รวจ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 146  แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การจดั การด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบท่ีถูกต้องทส่ี ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. อนุสัญญาอะไรมวี ตั ถุประสงค์เพอ่ื ยกเลกิ การใช้สารที่มผี ลต่อช้ันโอโซน ก อนุสญั ญาบาเซิล ข อนุสญั ญาไซเตส ค อนุสญั ญาเวียนนาและพธิ ีสารมอนทรีออล ง อนุสญั ญาวา่ ดว้ ยความหลากหลายทางชีวภาพ 2. ประเทศไทยร่วมลงนามในอนุสัญญาเวยี นนาและพธิ ีสารมอนทรีออลเมอื่ ใด ก พ.ศ. 2532 ข พ.ศ. 2535 ค พ.ศ. 2540 ง พ.ศ. 2541 3. ข้อใดไม่ใช่ วตั ถุประสงค์หลกั 3 ประการของอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ก การอนุรักษค์ วามหลากหลายทางชีวภาพ ข การแกป้ ัญหาของเสียอนั ตรายและการนาํ กลบั มาใชใ้ หม่ ค การแบ่งปันผลประโยชน์จากการใชท้ รัพยากรพนั ธุกรรม ง การใชป้ ระโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพอยา่ งยงั่ ยนื 4. องค์กรภาครัฐองค์กรใดมบี ทบาทโดยตรงในด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม ก กระทรวงมหาดไทย ข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ค กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ง มลู นิธิคุม้ ครองสตั วป์ ่ าและพรรณพชื แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถมั ภ์ 5. ข้อใดไม่ใช่ กฎหมายที่เกยี่ วข้องกบั การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก พระราชบญั ญตั ิการประมง พ.ศ. 2490 ข พระราชบญั ญตั ิการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ค พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2521 ง พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ. 2535

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 147  6. การเด็ดดอกไม้ในทส่ี าธารณะถือว่ามคี วามผดิ หรือไม่ เพราะอะไร ก ไม่ผดิ เพราะดอกไมใ้ นที่สาธารณะไม่มีเจา้ ของ ข ไม่ผดิ เพราะดอกไมใ้ นท่ีสาธารณะเป็นของประชาชนทุกคน ค ผดิ เพราะเป็นการทาํ ใหเ้ กิดเหตุราํ คาญตามพระราชบญั ญตั ิการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ง ผดิ เพราะเป็นการกระทาํ ผดิ ตามพระราชบญั ญตั ิรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบ เรียบร้อยของบา้ นเมือง พ.ศ. 2535 7. ถ้าครอบครองพนื้ ทแี่ หล่งต้นนํา้ ลาํ ธารมากว่า 25 ไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต จะได้รับโทษตาม พระราชบัญญัตปิ ่ าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 อย่างไร ก ปรับไมเ่ กิน 1,000 บาท ข จาํ คุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท ค จาํ คุก 6 เดือน ถึง 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ง จาํ คุก 2 ปี ถึง 15 ปี ปรับต้งั แต่ 20,000 ถึง 150,000 บาท 8. ถ้านายประสงค์นําสัตว์ป่ าสงวนหรือซากของสัตว์ป่ าคุ้มครองเคลอ่ื นที่เพอื่ การค้าโดยไม่ได้รับ อนุญาตต้องได้รับโทษอย่างไร ก ปรับไมเ่ กิน 5,000 บาท ข ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ค ปรับไมเ่ กิน 20,000 บาท ง ปรับไม่เกิน 30,000 บาท 9. ประเทศในภูมภิ าคต่าง ๆ ของโลกได้ร่วมมอื กนั ขยายระยะเวลาการใช้พธิ ีสารเกยี วโตออกไปจนถึง พ.ศ. ใด ก พ.ศ. 2553 ข พ.ศ. 2556 ค พ.ศ. 2559 ง พ.ศ. 2563 10. ข้อใดเป็ นแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมทปี่ ระเทศต่าง ๆ ในภูมภิ าคเอเชีย ตะวนั ออกเฉียงใต้ได้ให้ความร่วมมอื กนั ก การลงโทษเหมืองแร่ท่ีใชส้ ารหนู ข การจดั ต้งั โครงการเสน้ ทางเสือดาํ ค การจดั ต้งั เครือข่ายการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู ิอากาศ ง การกาํ หนดระเบียบการจาํ กดั การใชส้ ารเคมีอนั ตรายในโรงงานอุตสาหกรรม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 148  แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใช้ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม เพอ่ื การพฒั นาท่ียง่ั ยนื คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบทถ่ี ูกต้องทส่ี ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. ดนิ เหนียวไม่เหมาะ สําหรับการสร้างบ้านเรือนในประเทศอะไร ก ซีเรีย ข ไนจีเรีย ค เอธิโอเปี ย ง อินโดนีเซีย 2. ประชากรในเขตภูมอิ ากาศแบบใดนิยมสร้างบ้านช้ันเดยี วแต่มใี ต้ถุนสูง ก อบอุ่น ข ร้อนช้ืน ค แหง้ แลง้ ง หนาวเยน็ 3. ข้อใดไม่ใช่ เหตุผลของการสร้างบ้านด้วยหินในเขตภูมอิ ากาศแห้งแล้ง ก เป็นวสั ดุท่ีมีในทอ้ งถิ่น ข มีความคงทนมากกวา่ ดินเหนียว ค มีความคงทนต่อสภาพภมู ิอากาศ ง เป็นวสั ดุอยา่ งเดียวท่ีนาํ มาใชไ้ ด้ 4. แร่ชนิดใดท่ีมนุษย์นํามาใช้เป็ นเชื้อเพลงิ ก ดีบุก ข เหลก็ ค ถ่านหิน ง ทองแดง 5. ลกั ษณะทางกายภาพในข้อใดมอี ทิ ธิพลต่อการกาํ หนดรูปแบบการเพาะปลกู ของประชากรในแต่ละ ท้องถิ่น ก ภมู ิอากาศ ข ลกั ษณะภมู ิประเทศ ค ทรัพยากรธรรมชาติ ง ถกู ทุกขอ้

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 149  6. แนวคดิ ในการใช้ทรัพยากรเพอ่ื การพฒั นาที่ยง่ั ยนื เป็ นผลมาจากสาเหตุใด ก ปัญหาภาวะโลกร้อน ข ปริมาณทรัพยากรธรรมชาติลดลง ค คุณภาพในการดาํ เนินชีวติ ของมนุษยล์ ดลง ง ความเส่ือมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม 7. ข้อใดเป็ นการใช้ทรัพยากรธรรมชาตใิ ห้เหมาะสมกบั การใช้งาน ก ผลิตไฟฟ้ าจากพลงั งานน้าํ ข ถางผนื ป่ าเพอ่ื ทาํ ไร่เล่ือนลอย ค ขดุ ดินร่วนไปสร้างภูเขาจาํ ลอง ง นาํ เขาสตั วม์ าประดบั ตกแต่งบา้ น 8. การกระทําของใครเป็ นการใช้ทรัพยากรทไ่ี ม่ถกู ต้อง ก จอ้ ยจบั ปลาในฤดูวางไข่ ข ออ้ ปลกู หญา้ แฝกบริเวณคนั ดิน ค ขวญั และชาวบา้ นช่วยกนั ทาํ ฝายชะลอน้าํ ง วินเตรียมดินโดยใส่ป๋ ุยคอกก่อนทาํ การเพาะปลกู 9. แผนปฏิบตั กิ าร 21 คอื อะไร ก แผนปฏิบตั ิการเพอื่ รักษาทรัพยากรป่ าไม้ ข แผนปฏิบตั ิการเพ่ือการพฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื ค แผนปฏิบตั ิการเพื่ออนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ ง แผนปฏิบตั ิการเพอื่ ป้ องกนั การทาํ ลายส่ิงแวดลอ้ ม 10. การอนุรักษ์ป่ าจะช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรอะไรได้พร้อมกนั ก น้าํ ข ดิน ค อากาศ ง ถกู ทุกขอ้

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 150  แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใช้ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เพอ่ื การพฒั นาทีย่ งั่ ยนื คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบทถี่ ูกต้องทส่ี ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. พชื ที่ขึน้ ในเขตโอเอซิสถูกนํามาใช้เป็ นส่วนประกอบใดของบ้านท่ีสร้างในเขตแห้งแล้ง ก พ้ืนบา้ น ข ผนงั บา้ น ค ประตบู า้ น ง หลงั คาบา้ น 2. ข้อใดเป็ นลกั ษณะของบ้านที่อยู่ในเขตร้อนชื้น ก เป็นบา้ นช้นั เดียวและมีใตถ้ ุนสูง ข เป็นบา้ นทรงสี่เหลี่ยมทาํ จากตน้ สน ค เป็นบา้ นช้นั เดียว มีพ้ืนดินเป็นพ้ืนบา้ น ง เป็นบา้ นทรงส่ีเหล่ียมสร้างจากหินทราย 3. ในเกาะกรีนแลนด์ ประชากรจะอาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งเพราะเหตใุ ด ก เพราะมีพ้ืนที่ท่ีกวา้ งขวางกวา่ ข เพราะชายฝั่งมีอากาศแบบอบอุ่น ค เพราะชายฝ่ังไดร้ ับอิทธิพลจากทะเลจึงประกอบอาชีพได้ ง เพราะมีพืชพรรณธรรมชาติจาํ พวกตะไคร่ข้ึนเป็นจาํ นวนมาก 4. ข้อใดไม่ใช่ การผลติ ข้นั ปฐมภูมเิ พอื่ การค้า ก การเจาะอุโมงคเ์ พอื่ ทาํ เหมืองแร่ ข การเพาะปลูกพชื ในยา่ นลาตินอเมริกา ค การนาํ พืชจากการเพาะปลกู มาผลิตเป็นสบู่ ง การทาํ ประมงในน่านน้าํ มหาสมุทรแปซิฟิ ก 5. ชนกลุ่มใดมกี ารประกอบอาชีพและรูปแบบของการผลติ ทแี่ ตกต่างจากข้ออน่ื ก ชาวบุชเมน ข ชาวอาหรับ ค ชาวปาปวน ง ชาวเอสกิโม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 151  6. อนิ เทอร์เนต็ เป็ นอุปกรณ์ที่อยู่ในกจิ กรรมใดของการผลติ ข้นั ตติยภูมิ ก การคา้ ข การบริการ ค การท่องเที่ยว ง การขนส่งและการสื่อสาร 7. การใช้ทรัพยากรอย่างยงั่ ยนื ควรเป็ นอย่างไร ก การไม่ใชท้ รัพยากรที่มีคุณภาพ ข การใชท้ รัพยากรเฉพาะที่กาํ ลงั จะหมดไป ค การไม่ใชท้ รัพยากรเพ่ือใหค้ นรุ่นหลงั ไดม้ ีใชอ้ ยา่ งไม่จาํ กดั ง การใชท้ รัพยากรท่ีไม่ทาํ ใหท้ รัพยากรน้นั ดอ้ ยประสิทธิภาพลง 8. ข้อใดเป็ นหลกั การพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื ท่เี กย่ี วข้องกบั ระบบเศรษฐกจิ ก การไม่ผกู ขาดรูปแบบทางวฒั นธรรม ข การสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ ค การลดการปล่อยของเสียออกไปสู่ธรรมชาติ ง การกระตุน้ ใหเ้ กิดความหลากหลายทางสงั คม 9. เพราะเหตุใดแผนพฒั นาฯ ฉบบั ท่ี 8 จงึ ไม่ประสบความสําเร็จทางด้านการพฒั นาท่ียง่ั ยนื ก เกิดวิกฤตเศรษฐกิจอยา่ งร้ายแรง ข เกิดปัญหาดา้ นการพฒั นาบุคลากร ค ขาดหลกั การที่มน่ั คงในการดาํ เนินการ ง มุ่งเนน้ การพฒั นาทางดา้ นเศรษฐกิจมากเกินไป 10. ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งถูกนํามาใช้ในแผนพฒั นาฯ ฉบับที่ 9 เพอ่ื อะไร ก เพ่อื ใหม้ ีการขยายตวั ทางเศรษฐกิจมากข้ึน ข เพอื่ ใหป้ ระเทศรอดพน้ จากวกิ ฤตเศรษฐกิจ ค เพอื่ ใหพ้ ้ืนท่ีป่ าไมใ้ นประเทศไม่ลดจาํ นวนลง ง เพ่ือใหป้ ระสบผลสาํ เร็จในการอนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ ม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 152 ตอนที่ 3.5 แบบทดสอบกลางภาค ด้านความรู้ ตอนที่ 1 เลอื กคาํ ตอบทถี่ ูกต้องที่สุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกยี่ วกบั แผนท่ชี ุด ก แผนท่ีท่ีใหข้ อ้ มูลเฉพาะดา้ น ข แผนที่ที่มีมาตราส่วนขนาดเลก็ ค แผนที่ท่ีสร้างจากภาพถ่ายทางอากาศ ง แผนที่ที่ใชส้ าํ หรับอา้ งอิงในการทาํ แผนที่ชนิดอ่ืน 2. แผนทีช่ นิดใดแสดงข้อมูลของพนื้ ทข่ี นาดใหญ่แล้วให้รายละเอยี ดน้อย ก แผนท่ีอา้ งอิง ข แผนที่ภมู ิประเทศ ค แผนที่มาตราส่วนขนาดเลก็ ง แผนที่มาตราส่วนขนาดใหญ่ 3. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกยี่ วกบั แผนที่มาตราส่วนขนาดกลาง ก แผนท่ีของพ้ืนที่ขนาดเลก็ ข แผนที่ที่ใชก้ บั พ้นื ท่ีกวา้ งขวาง ค แผนที่ท่ีใหร้ ายละเอียดเฉพาะที่สาํ คญั ง แผนท่ีที่มีมาตราส่วน 1:75,000 ถึง 1:600,000 4. ในแผนทบ่ี ริเวณที่แรเงาสีเข้มแสดงว่ามีลกั ษณะภูมปิ ระเทศเป็ นอย่างไร ก เนินเขา ข หนา้ ผา ค ที่ราบลุ่ม ง ท่ีราบลุ่มแมน่ ้าํ 5. เส้นช้ันความสูงนิยมแสดงด้วยสีอะไร ก สีฟ้ า ข สีแดง ค สีน้าํ เงิน ง สีน้าํ ตาล

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 153 6. สีแดงหรือสีดาํ นิยมใช้กบั สัญลกั ษณ์อะไรในแผนที่ ก น้าํ หรือแหลง่ น้าํ ข พืชพรรณธรรมชาติ ค ความสูงของภมู ิประเทศ ง ส่ิงต่าง ๆ ท่ีมนุษยส์ ร้างข้ึน 7. แนว กข สามารถอ่านเป็ นค่ามมุ แบริงได้เท่าไหร่ ขN W 60° E ก S ก N 30° W ข N 60° W ค W 30° N ง W 60° N 8. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกยี่ วกบั ทิศเหนือแม่เหลก็ ก ทิศเหนือตามแนวลองจิจูด ข ทิศท่ีใชส้ ญั ลกั ษณเ์ ป็นเสน้ ตรง ค ทิศท่ีใชส้ ญั ลกั ษณ์ลกู ศรคร่ึงซีก ง ทิศเหนือตามแนวเสน้ ฉากทางด่ิง 9. แผนทภ่ี ูมปิ ระเทศไม่บอก ข้อมลู ของสิ่งใด ก จุดบรรจบกนั ของแมน่ ้าํ ข รูปร่างของจงั หวดั ต่าง ๆ ค การวางตวั ของแนวทิวเขา ง ลกั ษณะความสูง–ต่าํ ของภเู ขา

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 154 10. แผนท่ีมาตราส่วน 1:50,000 ถ้าวดั ระยะทางในภูมปิ ระเทศได้ 12 กโิ ลเมตรแสดงว่าระยะทางจริงใน แผนที่ยาวเท่าไร ก 18 เซนติเมตร ข 20 เซนติเมตร ค 22 เซนติเมตร ง 24 เซนติเมตร 11. วดั ระยะทางในแผนท่ีได้ 2.5 เซนตเิ มตร กาํ หนดให้แผนที่มมี าตราส่วน 1:3,000,000 หมายความว่า ระยะทางจริงในภูมปิ ระเทศยาวเท่าไร ก 25 กิโลเมตร ข 75 กิโลเมตร ค 2.5 กิโลเมตร ง 7.5 กิโลเมตร 12. วดั ระยะทางในแผนทีไ่ ด้ 3.5 เซนตเิ มตร กาํ หนดให้แผนท่ีมมี าตราส่วน 1:7,000,000 หมายความว่า ระยะทางจริงในภูมปิ ระเทศยาวเท่าไร ก 155 กิโลเมตร ข 185 กิโลเมตร ค 215 กิโลเมตร ง 245 กิโลเมตร 13. ข้อใดเป็ นลกั ษณะเส้นช้ันความสูงที่มลี กั ษณะภูมปิ ระเทศลาดสมาํ่ เสมอ ก เรียงห่างกนั สลบั กบั เรียงชิดกนั ข เรียงชิดกนั ในระยะห่างเท่า ๆ กนั ค เรียงห่างกนั ในระยะห่างเท่า ๆ กนั ง เรียงห่างกนั สลบั กบั ชิดกนั ในระยะที่ไม่ไม่สม่าํ เสมอ 14. ข้อใดเป็ นคุณสมบตั ขิ องกล้องสามมติ ิ ก ช่วยแปลขอ้ มูลจากภาพจากดาวเทียม ข ช่วยใหเ้ ห็นภาพถ่ายขาว–ดาํ เป็นภาพสี ค ช่วยใหเ้ ห็นรายละเอียดของขอ้ มลู ในแผนที่มากข้ึน ง ช่วยใหม้ องเห็นภาพความสูงต่าํ ของลกั ษณะภมู ิประเทศ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 155 15. ข้อใดกล่าวถูกต้องทส่ี ุด ก ระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์มีประโยชนเ์ ฉพาะการทาํ แผนท่ี ข ขอ้ มลู ในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ไม่สามารถจดั พมิ พเ์ ป็นเอกสารได้ ค บุคลากรเป็นองคป์ ระกอบท่ีสาํ คญั ที่สุดของระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์ ง การวิเคราะห์และตรวจสอบขอ้ มูลโดยระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์ตอ้ งเสียค่าใชจ้ ่ายมากกวา่ วธิ ี อื่น 16. เครื่องมอื ชนิดใดช่วยให้เห็นความเปลย่ี นแปลงของการเกดิ อบุ ตั ภิ ยั จากธรรมชาตไิ ด้ชัดเจน เหมอื นจริงทส่ี ุด ก แผนที่ ข รูปถ่ายทางอากาศ ค แผนที่ภมู ิอากาศของประเทศไทย ง ถกู ทุกขอ้ 17. เคร่ืองมอื ชนิดใดใช้ในการอ่านข้อมูลจากรูปถ่ายทางอากาศ ก กลอ้ งสามมิติ ข กลอ้ งจุลทรรศน์ ค กลอ้ งโทรทรรศน์ ง ถกู ทุกขอ้ 18. เคร่ืองมอื ชนิดใดใช้วดั ความกดอากาศ ก บารอกราฟ ข เทอร์โมกราฟ ค ไซโครมิเตอร์ ง เทอร์โมมิเตอร์ 19. ถ้าต้องการวดั อณุ หภูมขิ องดินควรเลอื กใช้เคร่ืองมอื ชนิดใด ก ไฮโกรมิเตอร์ ข เทอร์โมกราฟ ค เทอร์โมไฮโกรมิเตอร์ ง บารอมิเตอร์แบบตลบั 20. ข้อใดแสดงความสําคญั ของระบบกาํ หนดตาํ แหน่งบนพนื้ โลกในการนํามาใช้ในการศึกษาทาง ภูมศิ าสตร์มากท่สี ุด ก นาํ มาประยกุ ตใ์ ชป้ ระกอบการทาํ รังวดั ข นาํ มาประยกุ ตใ์ ชพ้ ยากรณ์การเกิดธรณีพิบตั ิภยั ค นาํ มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการวิเคราะห์การพยากรณ์อากาศ ง นาํ มาประยกุ ตใ์ ชป้ ระกอบการถ่ายทอดภาพผา่ นเครือขา่ ยใยแกว้

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 156 21. เครื่องมอื ชนิดใดช่วยในการวเิ คราะห์ข้อมูลทางภูมศิ าสตร์ท่ีมคี วามซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว ก อินเทอร์เน็ต ข ภาพจากดาวเทียม ค ภาพถ่ายทางอากาศ ง ระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์ 22. ถ้าต้องการค้นข้อมลู เกย่ี วกบั นํา้ ขึน้ –นํา้ ลงในประเทศไทย ควรค้นหาจากเวบ็ ไซต์ของหน่วยงานใด ก กรมชลประทาน ข กรมอุทกศาสตร์ ค กรมอุตุนิยมวิทยา ง กรมทรัพยากรธรณี 23. เวบ็ ไซต์ของกรมอุตุนิยมวทิ ยาให้ข้อมูลทางภูมศิ าสตร์ในเร่ืองอะไร ก พายหุ มุนเขตร้อน ข อุณหภมู ิเฉล่ียแต่ละวนั ค ภมู ิอากาศของประเทศไทย ง ถกู ทุกขอ้ 24. ข้อใดกล่าวถงึ เปลอื กโลกช้ันไซอลั ได้ถูกต้อง ก ช้นั หินหนืดท่ีมีผนื หินแขง็ มนั่ คง ข ช้นั ที่อยตู่ ิดกบั ช้นั หินเหลวตอนกลาง ค ช้นั ของหินหนืดและเป็นช้นั เน้ือโลก ง ช้นั ที่เป็นผวิ ของเปลือกโลกท่ีมีแร่ซิลิกาเป็นส่วนประกอบ 25. ภูเขาร็อกกเี ป็ นภูเขาท่ีเกดิ ขนึ้ จากกระบวนการใด ก กระบวนการแปรสณั ฐาน ข กระบวนการจากภายนอกโลก ค กระบวนการจากการกระทาํ ของน้าํ ง กระบวนการปรับระดบั ผวิ แผน่ ดิน 26. ข้อใดกล่าวถูกต้อง ก หินตะกอนเกิดจากการเยน็ ตวั ของหินหนืดใตเ้ ปลือกโลก ข หินตะกอนเกิดจากความเยน็ และแรงกดดนั ภายใตเ้ ปลือกโลก ค หินตะกอนเกิดจากการทบั ถมของตะกอนขนาดต่าง ๆ และซากพืชซากสตั ว์ ง หินตะกอนเกิดจากการปรับเปล่ียนโครงสร้างของหินอคั นีภายในเปลือกโลก

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 157 27. ข้อใดเป็ นลกั ษณะภูมปิ ระเทศที่เกดิ จากหุบเขาทรุดตวั ก ฮอสต์ ข อาแรต ค ฟยอร์ด ง กราเบิน 28. กระบวนการแปรสัณฐานของโลกในลกั ษณะใดทส่ี ่งผลให้เปลอื กโลกส่วนใหญ่ถูกเสริมให้สูงขึน้ ก การเกิดรอยเล่ือนตามแนวเปลือกโลก ข การเกิดรอยแตกในเน้ือหินตามแนวเปลือกโลก ค การเกิดรอยคดโคง้ ของหินตามแนวเปลือกโลก ง การระเบิดของภูเขาไฟในกระบวนการปรากฏการณ์ภเู ขาไฟ 29. ข้อใดกล่าวถูกต้อง ก ทะเลแดงเกิดจากการปะทุของภเู ขาไฟ ข ท่ีราบสูงปาตาโกเนียเกิดจากรอยเล่ือน ค ท่ีราบสูงเดกกนั เกิดจากการคดโคง้ ของหิน ง ทะเลสาบเดดซีเกิดข้ึนจากกระบวนการจากภายนอกโลก 30. ภูเขาไฟเวซูเวยี สในประเทศอติ าลมี ลี กั ษณะการเกดิ แบบใด ก ภเู ขาไฟรูปโล่ ข ภเู ขาไฟรูปโดม ค แบบกรวยกรวดภเู ขาไฟ ง แบบกรวยภเู ขาไฟสลบั ช้นั 31. ข้อใดเป็ นลกั ษณะของแม่นํา้ ในวยั หนุ่ม ก มีความชนั มาก น้าํ จะไหลแรง ข แม่น้าํ มีลกั ษณะการไหลคดเค้ียว ค มีความชนั นอ้ ยลง น้าํ เริ่มไหลชา้ ลง ง มีการตกตะกอนของวตั ถุท่ีแม่น้าํ พดั พามา 32. ท่รี าบลุ่มแม่นํา้ เจ้าพระยาเป็ นที่ราบล่มุ ประเภทใด ก ที่ราบลานเศษหิน ข ท่ีราบเกิดจากการทบั ถม ค ท่ีราบเกิดจากการสึกกร่อน ง ท่ีราบโครงสร้างเปลือกโลกต่าํ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 158 33. ที่ราบสูงที่อยู่ระหว่างภูเขากบั ทะเลเรียกว่าอะไร ก ที่ราบสูงเชิงเขา ข ที่ราบสูงรูปโต๊ะ ค ท่ีราบสูงในทวปี ง ท่ีราบสูงระหวา่ งภเู ขา 34. อูลูรูในประเทศออสเตรเลยี เกดิ ขึน้ จากการสึกกร่อนโดยการกระทําของตวั การใด ก ลม ข แม่น้าํ ค อุกกาบาต ง ธารน้าํ แขง็ 35. ทาร์น เป็ นทะเลสาบทเ่ี กดิ ขึน้ จากการกระทําของตวั การใด ก คลื่น ข แม่น้าํ ค อุกกาบาต ง ธารน้าํ แขง็ 36. ข้อใดคอื ลกั ษณะภูมปิ ระเทศของทุ่งกุลาร้องไห้ ก ท่ีราบสูง ข แอ่งที่ราบ ค ท่ีราบน้าํ ท่วมถึง ง ท่ีราบดินลมหอบ 37. เทือกเขาแอลป์ ในประเทศสวติ เซอร์แลนด์เป็ นภูเขาประเภทใด ก ภูเขาไฟ ข ภูเขาบลอ็ ก ค ภูเขาถ่ินเดิม ง ภูเขาหินคดโคง้ 38. ข้อใดกล่าวถูกต้อง ก ทะเลทรายภาคพ้นื ทวีปจะไดร้ ับอิทธิพลจากน้าํ ทะเลนอ้ ยมากหรือไม่ไดเ้ ลย ข ลกั ษณะภมู ิประเทศที่เกิดในทะเลทรายส่วนใหญ่เกิดจากการกระทาํ ของลม ค ทะเลทรายที่ปรากฏบนพ้นื ผวิ โลกส่วนใหญ่เกิดในบริเวณละติจดู ท่ี 15 องศาถึง 30 องศาเหนือ และใต้ ง ถกู ทุกขอ้

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 159 39. การท่ธี ารนํา้ แขง็ บริเวณหุบเขากดั เซาะไหล่เขาเป็ นแอ่งลกึ เข้าไปเป็ นลกั ษณะของการเกดิ อะไร ก เซิร์ก ข ฮอร์น ค อาแรต ง แหลม 40. เพราะเหตุใดประเทศไทยจึงมีโอกาสเกดิ ภูเขาไฟปะทุหรือแผ่นดนิ ไหวน้อยมาก ก ไม่มีรอยแยกของเปลือกโลก ข อยหู่ ่างจากรอยต่อระหวา่ งเปลือกโลก ค ไม่มีหินหนืดหลอมเหลวอยใู่ ตเ้ ปลือกโลก ง อยหู่ ่างจากศูนยก์ ลางของแผน่ เปลือกโลก 41. ลกั ษณะภูมปิ ระเทศแบบใดเกดิ จากกรวดทรายที่คลนื่ พดั พามาทับถมตามชายฝั่งทะเล ก สนั ดอน ข หาดทราย ค ที่ราบชายฝั่ง ง สะพานหินธรรมชาติ 42. ทะเลทรายใดเป็ นทะเลทรายท่ีถูกปกคลุมด้วยหินแข็ง ก เอลโฮมรา ข คาลานซิโอ ค เพนเตดเดเซิร์ต ง ทะเลทรายสะฮารา 43. ข้อใดเป็ นการสาเหตุทีท่ าํ ให้เกดิ แผ่นดินถล่ม ก การเกิดภยั แลง้ ข การตดั ไมท้ าํ ลายป่ า ค การทดลองระเบิดปรมาณูในทะเล ง การสร้างบา้ นเรือนบนแนวรอยเลื่อน 44. เมอื่ เกดิ ภาวะนํา้ ท่วมขงั ขนึ้ เราควรปฏิบัตติ นอย่างไร ก เปิ ดโทรทศั นด์ ูข่าวทนั ที ข เดินตามหาไฟฉายเผื่อไฟดบั ค เอาเรือออกไปพายเล่นหนา้ บา้ น ง ยา้ ยไปอยอู่ าศยั ในศูนยพ์ กั พงิ ชว่ั คราว

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 160 45. มาตราเมอร์คลั ลมี กี ารวดั ระดบั ความรุนแรงของแผ่นดนิ ไหวอย่างไร ก วดั ดว้ ยหน่วยริกเตอร์ ข วดั จากความรู้สึก มีท้งั หมด 12 ระดบั ค วดั จากระดบั การสนั่ ไหวของแผน่ ดิน ง วดั ระดบั จากรอบมหาสมุทรแปซิฟิ กเป็นหลกั 46. สําหรับประชาชนท่ัวไปในยามปกตทิ ่ยี งั ไม่เกดิ แผ่นดนิ ไหวควรเตรียมการรับมอื กบั แผ่นดนิ ไหว อย่างไร ก เกบ็ ของใชต้ ่าง ๆ ข้ึนที่สูง ข เขา้ ไปนงั่ อยใู่ นรถใหบ้ ่อยคร้ังท่ีสุด ค เขา้ ร่วมการฝึกการหนีภยั แผน่ ดินไหว ง โทรศพั ทส์ อบถามข่าวสารจากทางราชการทุกชวั่ โมง 47. ใครปฏิบัตติ นได้ถูกต้องมากทส่ี ุดเมอ่ื เกดิ สึนามขิ นึ้ ก ไก่ว่งิ ไปถ่ายรูปคลื่นสวย ๆ ท่ีแนวชายฝั่ง ข เก่งรีบลงจากเรือไปหลบหลงั กาํ แพงกนั คล่ืน ค สม้ เปิ ดโทรทศั นเ์ พ่อื รอฟังข่าวจากทางราชการ ง เจี๊ยบรีบเก็บของที่สาํ คญั แลว้ ว่งิ ไปที่อาคารสูงท่ีใกลท้ ี่สุด 48. “การปะทุของภูเขาไฟมปี ระโยชน์ในระยะยาว” จริงหรือไม่ เพราะอะไร ก จริง เพราะทาํ ใหเ้ กิดอากาศที่บริสุทธ์ิ ข จริง เพราะดินภเู ขาไฟเหมาะแก่การเพาะปลูกพชื ค ไม่จริง เพราะบริเวณที่เกิดภเู ขาไฟปะทุจะมีความร้อนสูงมาก ง ไม่จริง เพราะหลงั เกิดภเู ขาไฟแลว้ พ้ืนที่น้นั ๆ จะไม่สามารถใชก้ ารไดต้ ลอดไป 49. พายหุ มุนเขตร้อนที่เกดิ ขนึ้ ในประเทศไทยมแี หล่งกาํ เนิดจากแหล่งใด ก อ่าวเบงกอลและทะเลจีนใต้ ข ทะเลจีนใตแ้ ละทะเลแทสมนั ค ทะเลแคริบเบียนและอ่าวเบงกอล ง อ่าวเมก็ ซิโกและมหาสมุทรอินเดียใต้ 50. พายุเขตร้อนในระดับใดท่ีมคี วามรุนแรงจนทําให้เกดิ ความเสียหายถึงแก่ชีวติ ของมนุษย์ได้ ก ไตฝ้ ่ นุ เท่าน้นั ข ดีเปรสชนั เท่าน้นั ค ดีเปรสชนั และไตฝ้ ่ นุ ง โซนร้อนจนถึงไตฝ้ ่ นุ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 161 ตอนที่ 2 ตอบคาํ ถาม 1. แผนท่ีตามลกั ษณะการใชง้ านแบ่งออกเป็นก่ีประเภท อะไรบา้ ง แนวคาํ ตอบ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ แผนท่ีอ้างอิง แผนที่เฉพาะเรื่อง และแผนท่ีเล่ม 2. เทอร์โมมิเตอร์แต่ละชนิดมีความแตกต่างกนั อยา่ งไร แนวคาํ ตอบ เทอร์ โมมิเตอร์มี 5 ชนิด โดยเทอร์ โมมิเตอร์ แบบธรรมดาใช้ปรอทในการวัดอณุ หภูมิ สามารถวดั ได้ ตั้งแต่ –20 จนถึง 50 องศาเซลเซียส เทอร์ โมมิเตอร์ สูงสุดใช้ปรอทเช่นเดียวกนั แต่บอกค่าด้วยก้านชีโ้ ลหะ รูปดัมบ์เบล และใช้วัดอุณหภูมิสูงสุด ต่างจากเทอร์ โมมิเตอร์ ตาํ่ สุดท่ีใช้วัดเฉพาะค่าตา่ํ สุด และสารท่ีใช้ใน หลอดเคร่ืองวดั เป็นเอทิลแอลกอฮอล์ ขณะที่เทอร์ โมมิเตอร์แบบซิกซ์จะมีท้ังปรอทและแอลกอฮอล์บรรจุอยู่ ในหลอดเคร่ืองวัด ซ่ึงทาํ ให้บอกได้ทั้งอุณหภมู ิสูงสุดและตา่ํ สุด ส่วนเทอร์ โมกราฟใช้บอกค่าอุณหภูมิอย่าง ต่อเนื่องโดยมีแท่งปากกาขีดค่าลงบนกระดาษกราฟ สามารถใช้วัดอุณหภมู ิของดินได้ 3. อธิบายกระบวนการรับรู้จากระยะไกลพอสงั เขป แนวคาํ ตอบ กระบวนการรับรู้จากระยะไกลจะเริ่มจากการอาศัยแหล่งพลงั งาน คือ ดวงอาทิตย์กระจายพลงั งาน แม่เหลก็ ไฟฟ้ าลงมายงั พืน้ ผิวโลก วัตถตุ ่าง ๆ บนพืน้ ผิวโลกซ่ึงมีคุณสมบตั ิดูดกลืนและสะท้อนพลงั งานไม่ เท่ากันจะสะท้อนพลงั งานกลับขึน้ ไปยงั ช้ันบรรยากาศด้วยค่าท่ีแตกต่างกนั จากน้ันระบบถ่ายภาพที่ติดต้ังใน ยานสาํ รวจกจ็ ะจัดเกบ็ ข้อมลู ท่ีได้จากพลงั งานแม่เหลก็ ไฟฟ้ าในรูปของรูปภาพและข้อมลู เชิงเลข ข้อมลู ที่ได้ จะนาํ มาใช้วิเคราะห์ด้วยสายตาและระบบคอมพิวเตอร์ ทาํ ให้ได้ผลิตภัณฑ์สารสนเทศ เช่น แผนที่ ภาพจาก ดาวเทียม เพื่อให้ผ้ใู ช้นาํ ไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ต่อไป

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 162 4. ลกั ษณะภมู ิประเทศมีความสมั พนั ธ์กบั วิถีการดาํ รงชีวติ ของมนุษยอ์ ยา่ งไร แนวคาํ ตอบ ลกั ษณะภมู ิประเทศเป็นทั้งปัจจัยส่งเสริมและขดั ขวางการดาํ รงชีวิตของมนุษย์ เช่น บริเวณที่ราบเป็น ปัจจัยท่ีส่งเสริมให้มนุษย์ทาํ เกษตรกรรม สร้างระบบคมนาคมขนส่งที่สะดวกสบาย และสร้ างท่ีอย่อู าศัย บริเวณเขตทะเลทรายที่แห้งแล้ง กันดารนา้ํ เป็นอุปสรรคต่อการอย่อู าศัยของมนษุ ย์ 5. แผน่ ดินไหวถือเป็นปรากฏการณ์ท่ีเกิดจากกระบวนการที่ทาํ ใหเ้ กิดลกั ษณะภูมิประเทศใด เพราะอะไร แนวคาํ ตอบ เกิดจากกระบวนการแปรสัณฐาน เน่ืองจากแผ่นดินไหวเกิดจากการเคล่ือนตัวของเปลือกโลกตามแนว รอยเล่ือน ซึ่งเม่ือเกิดแผ่นดินไหวแล้ว มกั จะทาํ ให้ลกั ษณะของเปลือกโลกในบริเวณนั้น ๆ เกิดการ เปลี่ยนแปลงไป เช่น พืน้ ที่ยกตวั ขึน้ หรือยบุ ตวั ลง สรุปผลการประเมนิ คะแนน เตม็ ได้ ตอนที่ 1 ตอนท่ี 2 รวม ลงชื่อ __________________ ผ้ปู ระเมนิ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 163 ด้านคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม สําหรับครูประเมนิ นักเรียน คาํ ชี้แจง สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนแลว้ ใส่คะแนนลงในช่องใหต้ รงกบั ความเป็นจริง รายการประเมนิ พฤติกรรมทแี่ สดงออก คะแนน หมายเหตุ 321 1. มีวนิ ัย 1. มีการวางแผนการทาํ งานและจดั ระบบการทาํ งาน 3 หมายถึง 2. ทาํ งานตามข้นั ตอนต่าง ๆ ที่ไดว้ างแผนไว้ นกั เรียนแสดง 2. ใฝ่ เรียนรู้ 3. ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ความเรียบร้อย หรือคุณภาพของงาน พฤติกรรมน้นั 4. มีความกระตือรือร้นและสนใจทจ่ี ะแสวงหาความรู้ อยา่ งสม่าํ เสมอ 3. อย่อู ย่างพอเพยี ง 5. ชอบสนทนา ซกั ถาม ฟัง หรืออา่ นเพอ่ื ใหไ้ ดค้ วามรู้เพิ่มข้ึน 6. มีความสุขท่ีไดเ้ รียนรู้ในส่ิงท่ีตนเองตอ้ งการเรียนรู้ 2 หมายถึง 4. รักความเป็ นไทย 7. ใชจ้ ่ายทรัพยส์ ินของตนเอง เช่น เงิน เส้ือผา้ ส่ิงของ อยา่ งประหยดั นกั เรียนแสดง 8. ใชน้ ้าํ ไฟฟ้ า และทรัพยากรธรรมชาติอ่ืน ๆ อยา่ งประหยดั และคุม้ ค่า พฤติกรรมน้นั 5. รักชาติ ศาสน์ 9. มีส่วนร่วมในการดแู ลและรักษาทรัพยส์ ินของส่วนรวม เป็ นคร้ ังคราว กษตั ริย์ 10. ใชภ้ าษาไทยไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 11. รู้จกั ออ่ นนอ้ มถอ่ มตนและมีสมั มาคารวะ 1 หมายถึง 6. มีจติ สาธารณะ 12. ร่วมกิจกรรมท่ีสาํ คญั เกี่ยวกบั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ นกั เรียนแสดง 7. มคี วามรับผดิ ชอบ 13. มีส่วนร่วมในการเผยแพร่และอนุรักษว์ ฒั นธรรมและขนบธรรมเนียม พฤติกรรมน้นั 8. ซ่ือสัตย์สุจริต นอ้ ยคร้ัง ประเพณีไทย 14. เสียสละ มีน้าํ ใจ รู้จกั เอ้ือเฟ้ื อเผอื่ แผต่ ่อผอู้ ่ืน 15. เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกวา่ ประโยชนส์ ่วนตน 16. ยอมรับผลการกระทาํ ของตนเองท้งั ที่เป็นผลดีและผลเสีย 17. ทาํ งานที่ไดร้ ับมอบหมายใหส้ มบูรณ์ตามกาํ หนดและตรงต่อเวลา 18. บนั ทึกขอ้ มูลตามความเป็นจริงและไม่ใชค้ วามคิดเห็นของตนเอง ไปเกี่ยวขอ้ ง 19. ไมแ่ อบอา้ งผลงานของผอู้ ื่นวา่ เป็นของตน 20. เคารพหรือปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง กฎ กติกา หรือระเบียบของกลมุ่ ที่กาํ หนดไว้ คะแนนรวม คะแนนเฉลย่ี เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาคะแนนเฉล่ียหาไดจ้ ากการนาํ เอาคะแนนรวม 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง ช่วงคะแนนเฉลยี่ 2.34–3.00 ในแต่ละช่องมาบวกกนั แลว้ หารดว้ ยจาํ นวนขอ้ จากน้นั นาํ คะแนน ระดับคุณภาพ 3 = ดีมาก, ดี เฉล่ียท่ีไดม้ าเทียบกบั เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพและสรุปผลการประเมิน สรุปผลการประเมิน (เขียนเคร่ืองหมาย  ลงใน ) ระดบั คุณภาพทไี่ ด้ 32 1  

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 164 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ สําหรับครูประเมนิ นักเรียน คาํ ชี้แจง สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนแลว้ ใส่คะแนนลงในช่องใหต้ รงกบั ความเป็นจริง รายการประเมนิ พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออก คะแนน หมายเหตุ 321 1. การส่ือสาร 1. ใชว้ ธิ ีการสื่อสารในการนาํ เสนอขอ้ มูลความรู้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3 หมายถึง 2. การใช้เทคโนโลยี นกั เรียนแสดง 3. การคดิ 2. เลือกรับขอ้ มูลความรู้ดว้ ยหลกั เหตุผลและความถกู ตอ้ ง พฤติกรรมน้นั อยา่ งสม่าํ เสมอ 4. การแก้ปัญหา 3. ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลความรู้จากส่ือและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ ดว้ ยตนเอง 2 หมายถึง นกั เรียนแสดง 4. เลือกใชเ้ ทคโนโลยใี นการศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลความรู้ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง พฤติกรรมน้นั เหมาะสมและมีคุณธรรม เป็ นคร้ ังคราว 5. สรุปความคิดรวบยอดหรือสาระสาํ คญั ของเรื่องที่ศึกษา 1 หมายถึง นกั เรียนแสดง 6. แปลความ ตีความ หรือขยายความของคาํ ขอ้ ความ ภาพ และ พฤติกรรมน้นั สญั ลกั ษณ์ในเรื่องท่ีศึกษา นอ้ ยคร้ัง 7. วเิ คราะห์หลกั การและนาํ หลกั การไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งสมเหตุสมผล 8. ต้งั คาํ ถามหรือต้งั สมมตุ ิฐานตอ่ เรื่องที่ศึกษาอยา่ งมีระบบ 9. รวบรวมขอ้ มูลความรู้ที่เกี่ยวขอ้ งกบั เรื่องที่ศึกษาจากส่ือและ แหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ 10. ตรวจสอบและประเมินความถูกตอ้ งครบถว้ นของขอ้ มูลความรู้ที่ได้ จากการเกบ็ รวบรวม 11. นาํ ขอ้ มูลความรู้ท่ีไดจ้ ากการตรวจสอบและประเมินมาวเิ คราะห์หรือ แยกแยะเพื่อความสะดวกในการทดสอบสมมตุ ิฐาน 12. ทดสอบสมมุติฐานและสรุปเป็นหลกั การดว้ ยภาษาของตนเองท่ีเขา้ ใจ งา่ ย 13. นาํ ขอ้ มูลความรู้ท่ีไดไ้ ปใชแ้ กป้ ัญหาต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนในชีวิตประจาํ วนั 5. กระบวนการกล่มุ 14. มีส่วนร่วมในการกาํ หนดเป้ าหมายการทาํ งานของกลุม่ 15. ร่วมกนั วางแผนและแบ่งหนา้ ท่ีการทาํ งานกบั สมาชิกในกลมุ่ 16. เป็นท้งั ผนู้ าํ และผตู้ ามในการทาํ งานกล่มุ 17. ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีตามที่ไดร้ ับมอบหมายดว้ ยความรับผดิ ชอบ 18. ช่วยลดขอ้ ขดั แยง้ และแกป้ ัญหาของกลมุ่ ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 19. สร้างสรรคผ์ ลงานเสร็จทนั เวลาและมีคณุ ภาพ 20. ภมู ิใจและพึงพอใจในผลงานและการทาํ งานกลุ่ม คะแนนรวม คะแนนเฉลยี่ เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาคะแนนเฉลี่ยหาไดจ้ ากการนาํ เอาคะแนนรวม 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง ช่วงคะแนนเฉลยี่ 2.34–3.00 ในแต่ละช่องมาบวกกนั แลว้ หารดว้ ยจาํ นวนขอ้ จากน้นั นาํ คะแนน ระดบั คุณภาพ 3 = ดีมาก, ดี เฉลี่ยท่ีไดม้ าเทียบกบั เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพและสรุปผลการประเมิน สรุปผลการประเมนิ (เขยี นเครื่องหมาย  ลงใน ) ระดบั คุณภาพท่ีได้ 3 21  

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 165 ตอนที่ 3.6 แบบทดสอบปลายภาค ด้านความรู้ ตอนท่ี 1 เลอื กคาํ ตอบทถ่ี ูกต้องทส่ี ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. ข้อใดเป็ นสาเหตุสําคญั ที่ทําให้เกดิ การบุกรุกพนื้ ท่ีป่ า ก การพฒั นาเทคโนโลยี ข ความตอ้ งการลา่ สตั วป์ ่ า ค การเพิ่มจาํ นวนประชากร ง สภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย 2. ข้อใดกล่าวถูกต้อง ก ภาคกลางประสบปัญหาดินเคม็ มากที่สุด ข ดินเปร้ียวเกิดจากภาวะท่ีดินมีความเป็นด่างสูง ค วิกฤตการณ์ทรัพยากรดินมีสาเหตุมาจากธรรมชาติ ง การปลกู พชื ชนิดเดียวกนั เป็นเวลานานทาํ ใหด้ ินเส่ือมคุณภาพ 3. ภูมภิ าคใดของประเทศไทยที่ประสบปัญหาดนิ เคม็ มากทสี่ ุด ก ภาคเหนือ ข ภาคตะวนั ตก ค ภาคตะวนั ออก ง ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 4. การทาํ เหมอื งแร่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรดินอย่างไร ก ทาํ ใหด้ ินขาดน้าํ ข ทาํ ใหด้ ินมีปริมาณนอ้ ยลง ค ทาํ ใหด้ ินมีธาตุอาหารมากข้ึน ง ทาํ ใหด้ ินขาดความอุดมสมบรู ณ์ 5. การกระทําข้อใดช่วยลดปัญหาการสูญพนั ธ์ุของสัตว์ป่ า ก การใชไ้ ฟฟ้ าช็อต ข การทาํ ลายป่ าชายเลน ค การจบั ปลานอกฤดูวางไข่ ง การทิ้งสิ่งปฏิกลู ลงแหล่งน้าํ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 166 6. ข้อใดเป็ นผลกระทบทเ่ี กดิ จากภาวะโลกร้อน ก ปริมาณน้าํ ในแหล่งน้าํ ลดลง ข อุณหภมู ิของโลกเฉลี่ยสูงข้ึน ค ดินแหง้ แลง้ ขาดความอุดมสมบูรณ์ ง ถกู ทุกขอ้ 7. ก๊าซเรือนกระจกส่งผลกระทบอย่างไรต่อสิ่งแวดล้อม ก ทาํ ใหพ้ ้นื ที่ป่ าลดลง ข ทาํ ใหอ้ ุณหภมู ิโลกลดลง ค ทาํ ใหเ้ กิดมลพิษทางอากาศ ง ทาํ ใหพ้ ชื พรรณบางชนิดสูญพนั ธุ์ 8. ลกั ษณะวกิ ฤตการณ์เกย่ี วกบั พลงั งานที่โลกกาํ ลงั เผชิญอย่คู อื ข้อใด ก ขาดแคลนพลงั งาน ข พลงั งานไม่มีคุณภาพ ค พลงั งานมากเกินความตอ้ งการ ง แหล่งพลงั งานอยใู่ นพ้นื ท่ีกนั ดาร 9. ใครปฏิบัตติ นในการรักษาทรัพยากรสัตว์ป่ า ก วิกรมจบั ผเี ส้ือมาสตฟั ฟ์ ข ทนุจบั ปลานอกฤดูวางไข่ ค อาทรรับซ้ือสตั วป์ ่ ามาเล้ียง ง สุชินใชอ้ ุปกรณ์ท่ีทนั สมยั ล่าสตั ว์ 10. ใครใช้ประโยชน์จากดนิ ได้เหมาะสมที่สุด ก อนงคส์ ร้างโรงเกบ็ ของบนดินที่มีคุณภาพ ข สมคิดปลูกพชื ตระกลู ถวั่ หลงั เก็บเก่ียวขา้ ว ค แกว้ ตาใชป้ ๋ ุยเคมีจาํ นวนมากในการเพาะปลกู ง ทรงวฒุ ิปลกู พืชชนิดเดียวเป็นเวลานานติดต่อกนั 11. ข้อใดเป็ นวธิ ีการแก้ไขปัญหาการชะล้างพงั ทลายของดนิ ท่ีถูกวธิ ี ก การขดุ หนา้ ดิน ข การสร้างคนั ดิน ค การผสมปูนขาว ง การปลูกพชื คลุมดิน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 167 12. ข้อใดเป็ นสาเหตุสําคญั ที่สุดท่ีทําให้ระดบั นํา้ ทะเลเพม่ิ ขนึ้ ก การเกิดพายหุ มุน ข น้าํ แขง็ ข้วั โลกละลาย ค การขยายตวั ของแหล่งน้าํ จืด ง การเปล่ียนแปลงสภาพอากาศ 13. ฉลากเขยี วเริ่มใช้คร้ังแรกที่ประเทศอะไร ก สวีเดน ข องั กฤษ ค อเมริกา ง เยอรมนี 14. องค์การสหประชาชาตไิ ด้กาํ หนดให้วนั ใดเป็ นวนั ส่ิงแวดล้อมโลก ก วนั ที่ 5 มิถุนายนของทุกปี ข วนั ท่ี 6 มิถุนายนของทุกปี ค วนั ท่ี 5 กนั ยายนของทุกปี ง วนั ที่ 6 กนั ยายนของทุกปี 15. บรรยากาศช้ันโอโซนถูกทําลายส่งผลอย่างไรต่อโลก ก โลกมีอุณหภมู ิลดลง ข เกิดมลพิษทางอากาศ ค อุณหภมู ิของโลกสูงข้ึน ง แสงอาทิตยส์ ่องลงมายงั โลกไดน้ อ้ ย 16. หากประเทศไทยจะนําเข้าหรือส่งออกสารเคมอี นั ตรายจะต้องปฏิบตั ติ ามข้อตกลงของอนุสัญญาใด ก อนุสญั ญาไซเตส ข อนุสญั ญาบาเซิล ค อนุสญั ญาเวยี นนา ง อนุสญั ญาวา่ ดว้ ยความหลากหลายทางชีวภาพ 17. หน่วยงานใดถอื ว่ามบี ทบาทในการจัดการด้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมของประเทศไทย ก องคก์ รกรีนพีซ ข องคก์ ารการคา้ โลก ค องคก์ ารอนามยั โลก ง องคก์ ารสหประชาชาติ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 168 18. กองทุนสัตว์ป่ าโลกในประเทศไทยมสี ํานักงานใหญ่ต้งั อยู่ที่จังหวดั อะไร ก สงขลา ข เชียงใหม่ ค ปทุมธานี ง อุบลราชธานี 19. ข้อใดเป็ นสัตว์ป่ าสงวนตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ า พ.ศ. 2535 ก กระซู่ กปู รี ควายป่ า สมนั ข ชา้ ง ควายป่ า ละอง ค่างดาํ ค เกง้ หมอ้ นกกระทุง สมเสร็จ อีกา ง แรด นกกระสาขาว พะยนู เสือโคร่ง 20. ค่างดําจดั เป็ นสัตว์ป่ าคุ้มครองจําพวกใด ก จาํ พวกเล้ือยคลาน ข จาํ พวกเล้ียงลกู ดว้ ยนม ค จาํ พวกไมม่ ีกระดูกสนั หลงั ง จาํ พวกสะเทินน้าํ สะเทินบก 21. การนําสัตว์ป่ าเข้าหรือออกจากประเทศไทยต้องปฏิบัตติ ามข้อตกลงของอนุสัญญาใด ก อนุสญั ญาบาเซิล ข อนุสญั ญาไซเตส ค อนุสญั ญาวา่ ดว้ ยความหลากหลายทางชีวภาพ ง อนุสญั ญาสหประชาชาติวา่ ดว้ ยการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู ิอากาศ 22. หน่วยงานใดมหี น้าทีห่ ลกั ในการควบคุมและดูแลป้ องกนั การบุกรุกทาํ ลายป่ า ก กรมทรัพยากรธรณี ข กรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม ค กรมอุทยานแห่งชาติ สตั วป์ ่ า และพนั ธุ์พืช ง สาํ นกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 23. หากพบเห็นโรงงานอุตสาหกรรมลกั ลอบปล่อยนํา้ เสียลงในแหล่งนํา้ สาธารณะจนทําให้นํา้ เน่าเสีย ควรแจ้งหน่วยงานใด ก กรมควบคุมมลพษิ ข กรมทรัพยากรน้าํ บาดาล ค กรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม ง สาํ นกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 169 24. โครงการใดเป็ นโครงการขององค์การกองทุนสัตว์ป่ าโลก ก โครงการอนุรักษเ์ ต่าทะเลและพะยนู ข โครงการร่วมอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในลุ่มน้าํ ปิ ง ค โครงการสาํ รวจนิเวศวทิ ยาป่ าไมแ้ ละสตั วป์ ่ า ณ บริเวณเขตรักษาพนั ธุส์ ตั วป์ ่ าทุ่งใหญ่นเรศวร ง โครงการพ้ืนที่อนุรักษธ์ รรมชาติกองทพั บก (บางป)ู เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ 25. ข้อใดไม่ใช่ สิทธิและหน้าทข่ี องประชาชนในการรักษาคุณภาพส่ิงแวดล้อมตามพระราชบัญญตั ิ ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ก รับทราบขอ้ มลู ที่เกี่ยวกบั การส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติทุก ๆ เรื่อง ข ปฏิบตั ิตามกฎหมายอ่ืนที่เก่ียวขอ้ งกบั การส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งเคร่งครัด ค รับเงินชดเชยจากรัฐในกรณีที่ไดร้ ับอนั ตรายจากมลพษิ จากกิจการท่ีรัฐวิสาหกิจเป็นผดู้ าํ เนินการ ง ร่วมมือและช่วยเหลือเจา้ พนกั งานในการปฏิบตั ิหนา้ ที่เก่ียวกบั การส่งเสริมและรักษาคุณภาพ ส่ิงแวดลอ้ ม 26. ใครถือเป็ นผู้ก่อเหตุรําคาญ ก โจน้ าํ น้าํ จากแม่น้าํ มาใชซ้ กั ผา้ ข กอ้ งนาํ ซากปลาท่ีตายในบอ่ ของตนไปฝังกลบ ค ตน้ เปิ ดเพลงในรถประจาํ ทางเสียงดงั เกิน 100 เดซิเบล ง แกม้ นาํ ฝงู ววั ของตนประมาณ 10 ตวั ไปเล้ียงกลางทุ่งนา 27. ผู้ใดกระทําผดิ ตามพระราชบญั ญตั ริ ักษาความสะอาดและความเป็ นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมอื ง พ.ศ. 2535 ก สุดาทิ้งขยะลงบนพ้นื บา้ นของตนเอง ข มานิตสงั่ น้าํ มกู ลงในถงั ขยะของโรงเรียน ค ปรานีเกบ็ ขวดพลาสติกจากขา้ งถนนมาขาย ง ปรีดาปัสสาวะท่ีขา้ งถงั ขยะในสวนสาธารณะ 28. หากเจ้าพนักงานตรวจสอบพบว่ารถยนต์ของนายป้ อมปล่อยควนั ดาํ เกนิ มาตรฐานทก่ี ฎหมายกาํ หนด ไว้ เจ้าพนักงานมอี าํ นาจหน้าท่ีอย่างไร ก ตกั เตือนดว้ ยวาจาเท่าน้นั ข ยดึ รถของนายป้ อมไวท้ นั ที ค แกไ้ ขซ่อมแซมรถยนตใ์ หแ้ ก่นายป้ อม ง มีคาํ สงั่ หา้ มใชร้ ถยนตค์ นั น้นั โดยเดด็ ขาด

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 170 29. บริเวณที่มกี ารกาํ หนดให้เป็ นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่ าเพอ่ื รักษาพนั ธ์ุของสัตว์ป่ าไว้ เรียกว่าอะไร ก เขตเพาะพนั ธุ์สตั วป์ ่ า ข เขตรักษาพนั ธุ์สตั วป์ ่ า ค เขตขยายพนั ธุส์ ตั วป์ ่ า ง เขตอนุรักษพ์ นั ธุ์สตั วป์ ่ า 30. การกระทําใดถอื เป็ นความผดิ ตามพระราชบัญญตั สิ งวนและคุ้มครองสัตว์ป่ าแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ก ถ่ายภาพสตั วป์ ่ าสงวน ข เพาะพนั ธุส์ ตั วป์ ่ าสงวน ค ศึกษาเร่ืองราวของสตั วป์ ่ าสงวน ง คา้ ขายหนงั สือที่เก่ียวกบั สตั วป์ ่ าสงวน 31. ข้อใดถอื เป็ นความผดิ ตามพระราชบัญญัตปิ ่ าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ก เผาถ่านในเขตป่ าสงวนแห่งชาติ ข ถางวชั พืชในเขตป่ าสงวนแห่งชาติ ค เกบ็ หน่อไมใ้ นเขตป่ าสงวนแห่งชาติเพือ่ บริโภคภายในครอบครัว ง ถกู ทุกขอ้ 32. ผ้ทู ่ีเพาะพนั ธ์ุสัตว์ป่ าสงวนหรือสัตว์ป่ าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตมโี ทษตามข้อใด ก จาํ คุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือท้งั จาํ ท้งั ปรับ ข จาํ คุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือท้งั จาํ ท้งั ปรับ ค จาํ คุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือท้งั จาํ ท้งั ปรับ ง จาํ คุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือท้งั จาํ ท้งั ปรับ 33. ผู้ทน่ี ําสัตว์ป่ าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่ าคุ้มครองเคลอ่ื นทเ่ี พอื่ การค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตมโี ทษ ตามข้อใด ก ปรับไมเ่ กิน 4,000 บาท ข ปรับไม่เกิน 5,000 บาท ค ปรับไมเ่ กิน 6,000 บาท ง ปรับไม่เกิน 7,000 บาท 34. ใครมสี ่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาตใิ นจังหวดั ของตน ก แกม้ ลงไปเล่นน้าํ ในลาํ คลอง ข กวางขีดเขียนขอ้ ความลงบนกาํ แพง ค ตอ้ มช่วยแม่ถางป่ าบนเนินเขาเพือ่ ทาํ ไร่ ง ป๋ องศึกษาและติดตามการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดลอ้ มในจงั หวดั ของตน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 171 35. การผลติ กระแสไฟฟ้ าด้วยส่ิงใดไม่ก่อ ให้เกดิ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ก น้าํ มนั ข ถ่านหิน ค แสงอาทิตย์ ง ก๊าซธรรมชาติ 36. ดินเหนียวเหมาะสําหรับการสร้างบ้านในภูมอิ ากาศแบบใด ก อบอุ่น ข ร้อนช้ืน ค แหง้ แลง้ ง หนาวเยน็ 37. บริเวณคาบสมุทรสแกนดเิ นเวยี มลี กั ษณะที่อย่อู าศัยอย่างไร ก สร้างดว้ ยไมห้ ลงั คาทรงสูง ข สร้างดว้ ยโคลนช้นั เดียวติดพ้นื ดิน ค สร้างจากหินทรงกลมช้นั เดียวติดพ้ืน ง สร้างดว้ ยคอนกรีตผนงั หนาทึบหลงั คาทรงสูง 38. ประเทศไทยเหมาะกบั การสร้างท่ีอย่อู าศัยด้วยวสั ดุชนิดใด ก หิน ข ดิน ค ไม้ ง ปนู 39. อะไรเป็ นปัจจยั สําคญั ท่ที ําให้ลกั ษณะที่อย่อู าศัยของแต่ละท้องถ่นิ แตกต่างกนั ก ภมู ิอากาศ ข ลกั ษณะภมู ิประเทศ ค ทรัพยากรธรรมชาติ ง ถูกทุกขอ้ 40. ทะเลใดเป็ นแหล่งจบั ปลาสเตอร์เจียนมากท่ีสุด ก ทะเลดาํ ข ทะเลแดง ค ทะเลเดดซี ง ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 172 41. การเลยี้ งสัตว์เร่ร่อนมกั พบได้ในบริเวณใด ก เขตอบอุ่น ข เขตร้อนช้ืน ค เขตแหง้ แลง้ ง เขตหนาวเยน็ 42. ข้อใดเป็ นลกั ษณะเด่นของรูปแบบการเลยี้ งสัตว์ของชนเผ่าฟูลานีในทวปี แอฟริกา ก เล้ียงตามบา้ น ข เล้ียงสตั วเ์ พ่อื การคา้ ค เล้ียงสตั วใ์ นเขตทุ่งหญา้ ธรรมชาติ ง เล้ียงสตั วแ์ ละเพาะปลูกพืชผสมกนั 43. ปัจจยั สําคญั ข้อใดมอี ทิ ธิพลต่อการผลติ ในภาคอุตสาหกรรม ก ภมู ิอากาศ ข ลกั ษณะเศรษฐกิจ ค ทรัพยากรธรรมชาติ ง ลกั ษณะภมู ิประเทศ 44. ข้อใดกล่าวถูกต้อง ก ในแต่ละทอ้ งถ่ินจะมีวฒั นธรรมการแต่งกายและประเพณีแตกต่างกนั ไป ข การผลิตข้นั ตติยภมู ิเป็นการผลิตท่ีไม่ไดน้ าํ ทรัพยากรธรรมชาติมาใชห้ รือแปรรูป ค กิจกรรมการผลิตข้นั ปฐมภมู ิเป็นการผลิตที่นาํ เอาทรัพยากรธรรมชาติมาใชป้ ระโยชน์ ง ถกู ทุกขอ้ 45. ข้อใดไม่ใช่ แนวทางในการปฏิบัตเิ พอ่ื การพฒั นาที่ยงั่ ยนื ก ควบคุมดูแลรักษาสิ่งแวดลอ้ ม ข ใชท้ รัพยากรธรรมชาติอยา่ งมีประสิทธิภาพ ค ใชท้ รัพยากรธรรมชาติท้งั หมดในเวลารวดเร็ว ง ใชท้ รัพยากรธรรมชาติใหเ้ หมาะสมกบั การใชง้ าน 46. ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมส่งผลกระทบต่อข้อใดมากที่สุด ก จาํ นวนประชากรโลก ข การยา้ ยถิ่นของมนุษย์ ค การดาํ เนินชีวิตของมนุษย์ ง ระบบเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 173 47. การพฒั นาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมเป็ นหน้าทีข่ องใคร ก นายกรัฐมนตรี ข ประชาชนทุกคน ค เจา้ หนา้ ท่ีขององคก์ รเกี่ยวกบั การอนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ ม ง รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม 48. ข้อใดไม่ใช่ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตเิ พอื่ การพฒั นาที่ยง่ั ยนื ก ลดอตั ราการใชท้ รัพยากรธรรมชาติ ข มีจิตสาํ นึกในการปรับเปลี่ยนการบริโภคทรัพยากร ค จดั การใหม้ ีการปล่อยของเสียออกจากบา้ นเรือนใหม้ ากท่ีสุด ง เผยแพร่ความรู้เก่ียวกบั ประโยชนใ์ นการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ 49. แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาตฉิ บบั ใดทอี่ ญั เชิญปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งตาม แนวพระราชดาํ รัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวมาใช้เป็ นแนวทางในการพฒั นาประเทศ ก ฉบบั ท่ี 7 ข ฉบบั ที่ 8 ค ฉบบั ท่ี 9 ง ฉบบั ท่ี 10 50. ข้อใดไม่ใช่ หลกั การท่ีนําไปสู่การพฒั นาทีย่ ง่ั ยนื ก การรักษาและกระตุน้ ใหเ้ กิดความหลากหลาย ข การคน้ หาวธิ ีหรือแนวทางในการใชท้ รัพยากรใหม้ ากท่ีสุดเพื่อประโยชนข์ องประชาชนใน ประเทศ ค แสวงหาแนวทางท่ีเห็นร่วมกนั บนพ้นื ฐานของส่ิงแวดลอ้ ม สงั คม วฒั นธรรม และศีลธรรมท่ีมี ความหลากหลาย ง การพฒั นาหรือการสร้างระบบเศรษฐกิจจะตอ้ งรวมเอาส่ิงแวดลอ้ มและช่วงเวลาในอนาคตเขา้ ไว้ ในกระบวนการตดั สินใจ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 174 ตอนที่ 2 ตอบคาํ ถาม 1. นกั เรียนคิดวา่ วิกฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรน้าํ ของประเทศไทยมีสาเหตุมาจากอะไร และมีแนวทาง แกไ้ ขอยา่ งไร แนวคาํ ตอบ สาเหตวุ ิกฤตการณ์ด้านทรัพยากรนา้ํ ของประเทศไทยเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกนั ปัจจัยท่ีสาํ คัญ ได้แก่ 1. ความไม่สมาํ่ เสมอของปริมาณนา้ํ คือ การที่ประเทศไทยมีฝนทิง้ ช่วงยาวนานทาํ ให้แห้งแล้ง แต่ฤดูฝน นา้ํ จะมากเกินความพอดีทาํ ให้เกิดนา้ํ ท่วม 2. การเกิดนา้ํ เน่าเสียจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การทิง้ ส่ิงปฏิกลู การปล่อยนา้ํ เสียจากโรงงาน ซ่ึงทาํ ให้นา้ํ ที่ จะนาํ มาใช้ประโยชน์ได้มีปริมาณลดลง แนวทางแก้ไข ควบคมุ การใช้นา้ํ โดยคาํ นึงถึงประโยชน์และความจาํ เป็นของการใช้นา้ํ พัฒนา รักษา และไม่ทาํ ลายแหล่งนา้ํ บาํ บดั นา้ํ เสียก่อนปล่อยลงแม่นา้ํ ลาํ คลอง สร้างระบบส่งนา้ํ ที่มีประสิทธิภาพ สร้ างเข่ือนหรือทาํ นบเพ่ือกกั เกบ็ นา้ํ 2. วิกฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของโลกมีสาเหตุมาจากอะไรบา้ ง อยา่ งไร แนวคาํ ตอบ มีสาเหตมุ าจากการเพ่ิมขึน้ ของจาํ นวนประชากรโลก ซึ่งส่งผลต่อเนื่องให้เกิดการขยายตัวของเขตเมืองที่ ทาํ ให้มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากขึน้ พืน้ ที่ทางธรรมชาติถกู ทาํ ลายเพื่อการพัฒนาเป็น เมือง เกิดความต้องการใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากขึน้ จนขาดความสมดลุ กบั การเจริญเติบโตของทรัพยากร ตามธรรมชาติ การเพ่ิมขึน้ ของประชากรในเขตชนบทกส็ ่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนที่ดินทาํ กิน ที่อยู่อาศัย ความเจริญทางเศรษฐกิจ และการอพยพย้ายถ่ิน ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งมาจากการใช้วิทยาการและเทคโนโลยีที่ มีความทันสมยั เพ่ือให้ทันต่อความต้องการของประชากรท่ีมีมากขึน้ เทคโนโลยีท่ีทันสมยั นั้นส่งผลให้เกิด การใช้ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมท่ีง่ายขึน้ ส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมถกู ทาํ ลาย ลงอย่างรวดเร็ว 3. เพราะเหตุใดจึงตอ้ งมีการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม แนวคาํ ตอบ เหตุที่ต้องมีการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เพราะทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เป็นปัจจัยสาํ คัญในการดาํ รงชีวิตของมนษุ ย์ แต่จากการเพิ่มขึน้ ของจาํ นวนประชากรและการใช้ทรัพยากร อย่างขาดความระมดั ระวัง ทาํ ให้ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมเส่ือมโทรมลงอย่างรวดเร็ว ซ่ึงส่งผล กระทบต่อคุณภาพชีวิตของมนษุ ย์ ดังนั้นจึงจาํ เป็นต้องจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขึน้ เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีใช้ตลอดไป

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 175 4. การใชท้ รัพยากรธรรมชาติในการผลิตข้นั ปฐมภมู ิเพ่ือการยงั ชีพและเพื่อการคา้ มีความแตกต่างกนั อยา่ งไร แนวคาํ ตอบ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตขน้ั ปฐมภูมิเพื่อการยงั ชีพจะเป็นการเข้าไปยงั แหล่งทรัพยากร ธรรมชาติน้ัน ๆ เพ่ือนาํ ทรัพยากรมาใช้ในการดาํ รงชีวิต เช่น การเข้าไปเกบ็ หาของป่ าหรือล่าสัตว์ การขนย้าย สัตว์ไปยงั แหล่งท่ีมีทุ่งหญ้าอุดมสมบรู ณ์ไปเร่ือย ๆ การแผ้วถางพืน้ ที่ป่ าท่ียงั มีดินอดุ มสมบูรณ์เพ่ือทาํ เกษตรกรรม ส่วนการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตขน้ั ปฐมภูมิเพ่ือการค้าจะเป็นการนาํ สภาพแวดล้อม ทางธรรมชาติมาประยกุ ต์ใช้ให้ได้ผลผลิตตามความต้องการมากขึน้ รวมไปถึงการใช้ประโยชน์จาก ทรัพยากรให้คุ้มค่ามากที่สุด เช่น การเพาะปลกู พืชหลากหลายชนิดในพืน้ ที่เดิม หมนุ เวียนกนั ไป ซ่ึงพืชแต่ ละชนิดที่หมนุ เวียนกันปลูกในพืน้ ท่ีเดียวกนั จะช่วยให้ดินมีสภาพท่ีเหมาะแก่การเพาะปลกู อย่เู สมอ การ กาํ หนดเขตทาํ ประมงและการเพาะเลีย้ งสัตว์นา้ํ 5. การพฒั นาท่ียงั่ ยนื มีแนวทางในการปฏิบตั ิอยา่ งไร แนวคาํ ตอบ มีแนวทางในการปฏิบตั ิ ดังนี้ 1. ประชาชนและภาครัฐบาลต้องช่วยกันวางมาตรการในการจาํ กัดการปล่อยของเสียออกสู่ธรรมชาติให้ น้อยท่ีสุด 2. ประชาชนทุกคนต้องรู้จักวิธีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากท่ีสุด 3. ประชาชนทุกคนต้องเกิดจิตสาํ นึกร่ วมกนั ในการบริโภคทรัพยากรธรรมชาติด้วยวิธีการท่ีเหมาะสม ได้แก่ reduce reuse และ recycle 4. ภาครัฐบาลควรวางมาตรการในการกระจายรายได้ออกไปสู่ภาคประชาชนอย่างท่ัวถึง 5. ภาครัฐควรวางมาตรการในการควบคมุ อตั ราการเพ่ิมของประชากร สรุปผลการประเมนิ คะแนน เตม็ ได้ ตอนท่ี 1 ตอนที่ 2 รวม ลงช่ือ __________________ ผ้ปู ระเมิน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 176 ด้านคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม สําหรับครูประเมนิ นักเรียน คาํ ชี้แจง สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนแลว้ ใส่คะแนนลงในช่องใหต้ รงกบั ความเป็นจริง รายการประเมนิ พฤติกรรมทแี่ สดงออก คะแนน หมายเหตุ 321 1. มีวนิ ัย 1. มีการวางแผนการทาํ งานและจดั ระบบการทาํ งาน 3 หมายถึง 2. ทาํ งานตามข้นั ตอนต่าง ๆ ที่ไดว้ างแผนไว้ นกั เรียนแสดง 2. ใฝ่ เรียนรู้ 3. ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ความเรียบร้อย หรือคณุ ภาพของงาน พฤติกรรมน้นั 4. มีความกระตือรือร้นและสนใจท่จี ะแสวงหาความรู้ อยา่ งสม่าํ เสมอ 3. อย่อู ย่างพอเพยี ง 5. ชอบสนทนา ซกั ถาม ฟัง หรืออา่ นเพอ่ื ใหไ้ ดค้ วามรู้เพ่ิมข้ึน 6. มีความสุขท่ีไดเ้ รียนรู้ในสิ่งที่ตนเองตอ้ งการเรียนรู้ 2 หมายถึง 4. รักความเป็ นไทย 7. ใชจ้ า่ ยทรัพยส์ ินของตนเอง เช่น เงิน เส้ือผา้ ส่ิงของ อยา่ งประหยดั นกั เรียนแสดง 8. ใชน้ ้าํ ไฟฟ้ า และทรัพยากรธรรมชาติอ่ืน ๆ อยา่ งประหยดั และคุม้ ค่า พฤติกรรมน้นั 5. รักชาติ ศาสน์ 9. มีส่วนร่วมในการดูแลและรักษาทรัพยส์ ินของส่วนรวม เป็ นคร้ ังคราว กษตั ริย์ 10. ใชภ้ าษาไทยไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 11. รู้จกั อ่อนนอ้ มถ่อมตนและมีสมั มาคารวะ 1 หมายถึง 6. มจี ติ สาธารณะ 12. ร่วมกิจกรรมที่สาํ คญั เกี่ยวกบั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ นกั เรียนแสดง 7. มคี วามรับผดิ ชอบ 13. มีส่วนร่วมในการเผยแพร่และอนุรักษว์ ฒั นธรรมและขนบธรรมเนียม พฤติกรรมน้นั 8. ซ่ือสัตย์สุจริต นอ้ ยคร้ัง ประเพณีไทย 14. เสียสละ มีน้าํ ใจ รู้จกั เอ้ือเฟ้ื อเผอ่ื แผต่ ่อผอู้ ื่น 15. เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกวา่ ประโยชน์ส่วนตน 16. ยอมรับผลการกระทาํ ของตนเองท้งั ท่ีเป็นผลดีและผลเสีย 17. ทาํ งานที่ไดร้ ับมอบหมายให้สมบูรณ์ตามกาํ หนดและตรงต่อเวลา 18. บนั ทึกขอ้ มูลตามความเป็นจริงและไม่ใชค้ วามคิดเห็นของตนเอง ไปเกี่ยวขอ้ ง 19. ไม่แอบอา้ งผลงานของผอู้ ื่นวา่ เป็นของตน 20. เคารพหรือปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง กฎ กติกา หรือระเบียบของกลุ่ม ท่ีกาํ หนดไว้ คะแนนรวม คะแนนเฉลยี่ เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาคะแนนเฉล่ียหาไดจ้ ากการนาํ เอาคะแนนรวม 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง ช่วงคะแนนเฉลย่ี 2.34–3.00 ในแต่ละช่องมาบวกกนั แลว้ หารดว้ ยจาํ นวนขอ้ จากน้นั นาํ คะแนน ระดับคุณภาพ 3 = ดีมาก, ดี เฉล่ียที่ไดม้ าเทียบกบั เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพและสรุปผลการประเมิน สรุปผลการประเมนิ (เขียนเคร่ืองหมาย  ลงใน ) ระดับคุณภาพทไ่ี ด้ 32 1  

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 177 ด้านทักษะ/กระบวนการ สําหรับครูประเมนิ นักเรียน คาํ ชี้แจง สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนแลว้ ใส่คะแนนลงในช่องใหต้ รงกบั ความเป็นจริง รายการประเมนิ พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออก คะแนน หมายเหตุ 321 1. การสื่อสาร 1. ใชว้ ิธีการส่ือสารในการนาํ เสนอขอ้ มูลความรู้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3 หมายถึง 2. การใช้เทคโนโลยี นกั เรียนแสดง 3. การคดิ 2. เลือกรับขอ้ มูลความรู้ดว้ ยหลกั เหตุผลและความถกู ตอ้ ง พฤติกรรมน้นั อยา่ งสม่าํ เสมอ 4. การแก้ปัญหา 3. ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลความรู้จากส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ ดว้ ยตนเอง 2 หมายถึง นกั เรียนแสดง 4. เลือกใชเ้ ทคโนโลยใี นการศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลความรู้ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง พฤติกรรมน้นั เหมาะสมและมคี ุณธรรม เป็ นคร้ ังคราว 5. สรุปความคิดรวบยอดหรือสาระสาํ คญั ของเรื่องที่ศึกษา 1 หมายถึง นกั เรียนแสดง 6. แปลความ ตีความ หรือขยายความของคาํ ขอ้ ความ ภาพ และ พฤติกรรมน้นั สญั ลกั ษณ์ในเร่ืองท่ีศึกษา นอ้ ยคร้ัง 7. วิเคราะห์หลกั การและนาํ หลกั การไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งสมเหตุสมผล 8. ต้งั คาํ ถามหรือต้งั สมมุติฐานต่อเร่ืองท่ีศึกษาอยา่ งมีระบบ 9. รวบรวมขอ้ มูลความรู้ที่เกี่ยวขอ้ งกบั เร่ืองท่ีศึกษาจากสื่อและ แหลง่ การเรียนรู้ต่าง ๆ 10. ตรวจสอบและประเมินความถกู ตอ้ งครบถว้ นของขอ้ มูลความรู้ท่ีได้ จากการเกบ็ รวบรวม 11. นาํ ขอ้ มูลความรู้ที่ไดจ้ ากการตรวจสอบและประเมินมาวเิ คราะหห์ รือ แยกแยะเพ่อื ความสะดวกในการทดสอบสมมตุ ิฐาน 12. ทดสอบสมมุติฐานและสรุปเป็นหลกั การดว้ ยภาษาของตนเองที่เขา้ ใจ ง่าย 13. นาํ ขอ้ มูลความรู้ที่ไดไ้ ปใชแ้ กป้ ัญหาต่าง ๆ ที่เกิดข้ึนในชีวิตประจาํ วนั 5. กระบวนการกลุ่ม 14. มีส่วนร่วมในการกาํ หนดเป้ าหมายการทาํ งานของกลุ่ม 15. ร่วมกนั วางแผนและแบง่ หนา้ ที่การทาํ งานกบั สมาชิกในกลมุ่ 16. เป็นท้งั ผนู้ าํ และผตู้ ามในการทาํ งานกลมุ่ 17. ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีตามท่ีไดร้ ับมอบหมายดว้ ยความรับผิดชอบ 18. ช่วยลดขอ้ ขดั แยง้ และแกป้ ัญหาของกลุ่มไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 19. สร้างสรรคผ์ ลงานเสร็จทนั เวลาและมีคณุ ภาพ 20. ภมู ิใจและพงึ พอใจในผลงานและการทาํ งานกลุ่ม คะแนนรวม คะแนนเฉลยี่ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาคะแนนเฉลี่ยหาไดจ้ ากการนาํ เอาคะแนนรวม 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง ช่วงคะแนนเฉลย่ี 2.34–3.00 ในแต่ละช่องมาบวกกนั แลว้ หารดว้ ยจาํ นวนขอ้ จากน้นั นาํ คะแนน ระดับคุณภาพ 3 = ดีมาก, ดี เฉล่ียที่ไดม้ าเทียบกบั เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพและสรุปผลการประเมิน สรุปผลการประเมิน (เขยี นเครื่องหมาย  ลงใน ) ระดับคุณภาพทไ่ี ด้ 3 21  

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 178 ตอนที่ 3.7 ใบความรู้ ใบงาน แบบบนั ทึก และแบบประเมนิ บตั รคาํ compass map measurer

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 179 planimeter barometer

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 180 thermometer psychrometer

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 181 hygrometer anemometer

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 182 rain gauge

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 183 ใบงานท่ี 1 เร่ือง องค์กรในประเทศทม่ี บี ทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 11 องคก์ รที่มีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน ระบุมาตรการป้ องกนั และแกไ้ ขปัญหา บทบาทขององคก์ ารและการประสานความร่วมมือ ท้งั ในประเทศและนอกประเทศเกี่ยวกบั กฎหมายส่ิงแวดลอ้ ม การจดั การทรัพยากร ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม (ส 5.2 ม. 4–6/2) คาํ ชี้แจง ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู เก่ียวกบั องคก์ รในประเทศที่มีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ ม แลว้ บนั ทึกขอ้ มูลในประเดน็ ต่อไปน้ี พิจารณาจากผลงานของนักเรียน สมาชิกกลุ่ม 1. ______________________________________ 4. ______________________________________ 2. ______________________________________ 5. ______________________________________ 3. ______________________________________ 6. ______________________________________ ช่ือองค์กร _______________________________________ 1. สถานที่ต้งั ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ 2. ความเป็นมาขององคก์ ร ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ 3. จุดประสงคข์ ององคก์ ร ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ 4. บทบาทและผลการดาํ เนินงาน ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 184 ใบงานท่ี 2 เรื่อง องค์กรต่างประเทศทมี่ บี ทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 11 องคก์ รท่ีมีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน ระบุมาตรการป้ องกนั และแกไ้ ขปัญหา บทบาทขององคก์ ารและการประสานความร่วมมือ ท้งั ในประเทศและนอกประเทศเกี่ยวกบั กฎหมายสิ่งแวดลอ้ ม การจดั การทรัพยากร ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม (ส 5.2 ม. 4–6/2) คาํ ชี้แจง ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู เก่ียวกบั องคก์ รต่างประเทศที่มีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ ม แลว้ บนั ทึกขอ้ มลู ในประเดน็ ต่อไปน้ี พิจารณาจากผลงานของนักเรียน สมาชิกกล่มุ 1. ______________________________________ 4. ______________________________________ 2. ______________________________________ 5. ______________________________________ 3. ______________________________________ 6. ______________________________________ ช่ือองค์กร _______________________________________ 1. สถานท่ีต้งั ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ 2. ความเป็นมาขององคก์ ร ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ 3. จุดประสงคข์ ององคก์ ร ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ 4. บทบาทและผลการดาํ เนินงาน ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 185 แบบบันทึกกจิ กรรม เรื่อง เทคโนโลยแี ละสารสนเทศในการศึกษาภูมศิ าสตร์ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 เทคโนโลยแี ละสารสนเทศในการศึกษาภมู ิศาสตร์ ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน ใชเ้ ครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ในการรวบรวม วิเคราะห์ และนาํ เสนอขอ้ มลู ภมู ิสารสนเทศ อยา่ งมีประสิทธิภาพ (ส 5.1 ม. 4–6/1) คาํ ชี้แจง ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั เทคโนโลยแี ละสารสนเทศในการศึกษาภมู ิศาสตร์ที่กาํ หนดจาก เวบ็ ไซต์ สรุปแลว้ บนั ทึกขอ้ มลู พร้อมบอกช่ือเวบ็ ไซตท์ ี่มาของขอ้ มลู พิจารณาจากผลงานของนักเรี ยน สมาชิกกลุ่ม 1. ______________________________________ 4. ______________________________________ 2. ______________________________________ 5. ______________________________________ 3. ______________________________________ 6. ______________________________________ เรื่อง _______________________________________ บนั ทกึ ข้อมูล ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ทม่ี า: ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 186 แบบบันทึกผลการอภปิ ราย เร่ือง วกิ ฤตการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมของโลก แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9 วิกฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของโลก ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน วิเคราะห์สถานการณ์และวกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของ ประเทศไทยและของโลก (ส. 5.2 ม. 4–6/1) คาํ ชี้แจง บนั ทึกผลการอภิปรายลงในช่องวา่ งท่ีกาํ หนดให้ 1. สถานการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและ 2. สาเหตุการเกิดวิกฤตการณ์ดา้ นทรัพยากร สิ่งแวดลอ้ มของโลก ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของโลก _______พ_ิจ_า_ร_ณ__า_จ_าก_ผ__ล_ง_าน__ข_อ_ง_น_ัก_เ_รี_ย_น_______ _______พ__ิจ_าร_ณ__า_จ_า_ก_ผ_ล_ง_า_น_ข_อ_ง_น_ัก_เ_ร_ี ย_น_______ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 187 3. ผลกระทบที่เกิดจากวกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากร 4. แนวโนม้ สถานการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติ ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของโลก และส่ิงแวดลอ้ มของโลกในอนาคต _______พ_ิ_จ_าร_ณ__า_จ_าก__ผ_ล_ง_าน__ข_อ_ง_น_ัก_เ_ร_ี ย_น_______ _______พ_ิจ_า_ร_ณ__า_จ_าก_ผ__ล_ง_าน__ข_อ_ง_น_ัก_เ_รี_ย_น_______ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ _____________________________________ ช่ือ ______________ นามสกลุ __________________________ เลขท่ี ____________ ช้ัน ___________ โรงเรียน ____________________________________________________________________________


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook