Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปบทเรียนการดำเนินงานและกิจกรรมของKey actors

สรุปบทเรียนการดำเนินงานและกิจกรรมของKey actors

Published by E-book Prasamut chedi District Public Library, 2020-01-22 23:36:51

Description: สรุปบทเรียนการดำเนินงาน และกิจกรรมของ Key actors
ในการลดปัจจัยเสี่ยง และการเพิ่มปัจจัยเสริมในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
หนังสือ,เอกสาร,บทความนี้นำมาเผยแพร่เพื่อการศึกษาเท่านั้น

Search

Read the Text Version

ชุมชนท้องถนิ่ ...ไม่ทอดทิง้ กัน ๖. วิธีการดาเนนิ งาน ศูนย์ OSCC เทศบาลตาบลบางไผ่เป็นสถานท่ีบริการรับแจ้งเหตุ/เบาะแส ที่ต้องดาเนินการสอบถาม ข้อมูลการแจ้งเหตุ/เบาะแสให้ชัดเจน รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นจากการรับแจ้งเหตุ เช่น ข้อมูลผู้ประสบปัญหา สภาพพฤติการณ์ สถานที่เกิดเหตุ เป็นต้น คัดกรอง วิเคราะห์ เบ้ืองต้นตามประเด็นปัญหาว่ามีความรุนแรง มากน้อยเพยี งใด ประสานและให้คาแนะนาทางด้านกฎหมาย ดูแลทางด้านความปลอดภัย แล้วบันทึกข้อมูล ลงสู่ระบบ OSCC สง่ ตอ่ ไปยงั หน่วยงานเจ้าภาพหลกั หรอื หน่วยงานใหบ้ ริการตามประเด็นปัญหาเพื่อให้ความ ช่วยเหลอื ตอ่ ไป ๗. ผลท่ีเกิดขนึ้ (ผลผลติ ผลลพั ธ)์ การให้ความช่วยเหลือเด็ก สตรี ผู้สูงอายุและคนพิการ ที่ประสบปัญหาได้รับการแก้ไข ช่วยเหลืออย่าง รวดเร็วทนั เหตุการณ์และครอบวงจร เพอื่ ให้บุคคลหรอื กลมุ่ คนไดร้ บั การค้มุ ครองพิทกั ษส์ ิทธิ์ ผทู้ ่กี ระทาผดิ ได้ ดาเนินตามกฎหมายและการไดร้ ับการฟนื้ ฟูเยียวยา ทง้ั ด้านร่างกายจิตใจและทางสังคมกลับไปใช้ชีวติ ในสังคม อย่างปกตสิ ุข ๘. ผลกระทบท่เี กดิ ขนึ้ ตอ่ ๕ มิติโครงสร้างพื้นฐานของชุมชน ได้แก่ ๑) ด้านสงั คม ผทู้ ่ไี ดร้ บั ผลไดร้ ับผลกระทบจากปญั หาไม่ได้ รบั ความเสมอภาค หรือความทา่ เทียมกันในสงั คม จากเดก็ สตรี ผสู้ ูงอายุ และคนพกิ าร การไดร้ ับการเยยี วยา ใหก้ ลบั ไปใชช้ ีวติ อยู่ในสงั คมอยา่ งปกตสิ ุข ๒) ดา้ นสขุ ภาพ ได้รบั การบรกิ ารสขุ ภาพ ท่ดี ูแลสขุ ภาพให้แขง็ แรง ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ๓) ดา้ นสภาวะแวดล้อม การประสานงานกบั หนว่ ยงานอืน่ ๆ ท่ีเก่ียวข้องในการ ใหบ้ ริการดา้ นจดั การส่งิ แวดลอ้ มใหเ้ หมาะสมกบั ปัญหาแต่ละประเดน็ ๔) ด้านการเมืองการปกครอง การศกึ ษาด้านกฎหมายต่างๆ เช่น การคุ้มครองพทิ กั ษ์สทิ ธิและการดาเนินการตามกฎหมาย 150 ๑๓๖

ภาพที่ ๓.๒.๑๒ กลมุ่ จติ อาสาเมอื งแม่ปะ 151

ชมุ ชนท้องถิน่ ...ไม่ทอดทิง้ กัน Key actors กลุ่มจติ อาสาเมอื งแม่ปะ งานเดน่ ดแู ลเท่าเทยี ม ชว่ ยเหลือเทา่ กนั พืน้ ท่ี องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลแมป่ ะ อาเภอแมส่ อด จงั หวัดตาก วทิ ยากร นางคาฟา้ วงษา ตาแหน่ง ประธานกลมุ่ กลมุ่ จิตอาสาเมืองแม่ปะ เบอรโ์ ทรศัพท์ ๐๘๗-๑๙๖-๒๓๙๓ ๑. ท่ีมาหรือฐานคิดของการดาเนนิ งาน ปี พ.ศ.๒๕๕๕ นายมานพ ยะเขียว นายกองค์การบริหารส่วนตาบลแม่ปะ ได้ริเริ่มโครงการจิตอาสาเมือง แมป่ ะ จากความรว่ มมือของมลู นิธิแมส่ อดสามัคคีการกศุ ล และมูลนิธิ องค์กรการกุศลอื่นในจังหวัดตาก ร่วม บริจาคสิ่งของ อุปโภค บริโภค ที่จาเป็น และเงิน ให้กับทางกลุ่มจิตอาสาเพ่ือนาไปช่วยเหลือ ผู้ยากไร้ ผู้ป่วย ตดิ เตียง ผู้พกิ าร ผู้สงู อายุที่ไม่มีคนดูแลในตาบล ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ได้มีการจัดต้ังโรงเรียนผู้สูงอายุ แห่งแรกข้ึน ในตาบลแม่ปะ นักเรียนผู้สูงอายุจึงมีการรวมตัวกันเพ่ือต้ังกลุ่มจิตอาสา ออกเยี่ยมผู้สูงอายุท่ีไม่สามารถมา โรงเรยี นได้ โดยมี นางคาฟา้ วงษา เปน็ แกนนาและขยายกลมุ่ เป้าหมายซงึ่ เป็นผูท้ ีต่ อ้ งการความชว่ ยเหลือ เช่น กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มคนไร้สัญชาติท่ีย้ายแรงงานเข้ามาทางานในพื้นท่ี คนยากจน คนถูกทอดทิ้ง เป็นต้น และ ขยายงาน เพมิ่ เป้าหมายตามสถานการณท์ ่ีต้องให้การช่วยเหลือ กลุ่มจิตอาสาขยายขอบเขตให้ครอบคลุมผู้ท่ี ต้องการความช่วยเหลือให้มากท่ีสุด ร่วมอุปกรณ์ สิ่งของ เงิน ท่ีได้รับบริจาคจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งรัฐ เอกชน จัดให้ ผู้ยากไร้ ผปู้ ว่ ยติดเตียง ผพู้ กิ าร ผู้สงู อายุ ในตาบล และยังร่วมกับแกนนาชุมชนปรับภูมิทัศน์จัด บา้ น ดแู ลความสะอาด ใหผ้ ้ปู ่วย ผูต้ ้องการความช่วยเหลือทบี่ ้านอกี ด้วย ๒. กลุม่ ประชากรเปา้ หมาย ๒.๑ เด็กชว่ งอายุ ๐-๓ ปี จานวน ๒๗๙ คน ๒.๒ ผู้สงู อายตุ ดิ บา้ นติดเตยี งและพิการ จานวน ๒๒๑ คน ๒.๓ ผสู้ ูงอายุไรส้ ัญชาติ จานวน ๑๖ คน ๒.๔ ผพู้ กิ าร จานวน ๔๐๕ คน ๒.๕ ผู้สงู อายุ จานวน ๒,๐๒๐ คน ๓. ผลทต่ี อ้ งการให้เกดิ ขึ้น คนยากจน คนไร้สัญชาติ คนพิการ ผู้สูงอายุป่วยติดเตียง ติดบ้าน แรงงานข้ามชาติ ที่ประสบปัญหา ยากลาบาก ได้รบั การดูแล ชว่ ยเหลือ ท่วั ถงึ ครอบคลมุ ไมเ่ ลือกปฏบิ ัติ ๔. ข้อมูลและเครอ่ื งมอื ในการดาเนนิ งาน ๔.๑ ขอ้ มูลผู้ท่ีตอ้ งการความช่วยเหลือ เชน่ คนยากจน คนไร้สัญชาติ คนพกิ าร ผสู้ ูงอายุป่วยติดเตียง ติด บ้าน แรงงานขา้ มชาติ จากฐานข้อมูลตาบล TCNAP และกองสวัสดิการสังคม อบต.แม่ปะ ๔.๒ ข้อมูลทุนทางสังคม และศักยภาพในการจดั การดูแลกลมุ่ เปราะบาง จากฐานข้อมลู RECAP ๕. รูปธรรมงาน ประกอบด้วยงาน ๒ ส่วน ได้แก่ ๑) การจัดการกลุ่มจิตอาสาแม่ปะ ได้แก่ จัดการงาน จัดการข้อมูล จัดการคน และ ๒) การประสานเครือขา่ ยรว่ มสนบั สนุน และดาเนนิ การ ๖. วธิ ีการดาเนนิ งาน การจัดการกลุ่มจิตอาสาตาบลแม่ปะ ประกอบด้วยงาน ๓ ส่วนดังนี้ ๑) การจัดการงานอาสาช่วยเหลือ ดูแลประกอบการดแู ลที่บา้ น โดยกาหนดเป้าหมายกิจกรรมการดแู ลที่บ้านไว้อยา่ งนอ้ ย ๑๕ ครัวเรือนต่อเดือน และเป็นความร่วมมือของ กองสวัสดิการองค์การบริหารส่วนตาบลแม่ปะ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล ชมรมคนพิการเมืองแม่ปะ โรงเรียนผู้สูงอายุซ่ึงในทุกครัวเรือนที่ได้ทาการเยี่ยม นอกจากมอบของอุปโภค บริโภคแล้ว ยังมีหมอจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลลงตรวจสุขภาพเบ้ืองต้นให้อีกด้วย การจัดทา 152 ๑๓๘

ชุมชนท้องถิ่น...ไม่ทอดทิ้งกนั  ขอ้ มลู ต่าง ๆ ของ(CG) และการให้กาลังใจจากนักเรียนผู้สูงอายุอีกด้วย และยังร่วมกันปรับสภาพแวดล้อมที่ เอื้อต่อผู้ป่วยเช่น ที่นอก จัดบ้านเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ จัดส่ิงของจาเป็นให้ ติดราวจับห้องน้า ปรับห้องน้า เปลี่ยนโถชกั โครก ปรับพ้ืนบ้านป้องกันล่ืนหกล้ม เป็นต้น ๒) การจัดการคน กลุ่มจิตอาสาแม่ปะมีสมาชิกทีม ๑๓ คนกระจายอยู่ใน ๑๑ หมู่บ้าน มีนางคาฟ้า วงษา เป็นประธานกลุ่มแบ่งบทบาทกันลงเยี่ยมดูแลสุขภาพที่ บ้าน รวมถึงประสานงานและเช่ือโยงข้อมูลกับทีมเจ้าหน้าสาธารณสุข กองสวัสดิการอบต.แม่ปะ ทีม( CG) และนกั เรียนโรงเรียนผู้สูงอายุ ๓) การจัดการทรัพยากร (ส่ิงของ อุปกรณ์ เงิน)ได้มาจากการรับบริจาค จาก หน่วยงานรัฐ เอกชน บรษิ ทั รวมถงึ ผู้มีจิตศรัทธา นาใช้เพือ่ ช่วยเหลอื ผปู้ ว่ ยตามความจาเป็น การประสานเครือข่ายร่วมสนับสนุน และดาเนินการกลุ่มจิตอาสาเมืองแม่ปะจะมีการเช่ียมโยงงานกับ องค์การบรหิ ารสว่ นตาบลแมป่ ะ ชมรมคนพิการ โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพตาบลแม่ปะ ชมรมคนพิการเมือง แมป่ ะ โครงการดูแลผปู้ ว่ ยภาวะพึ่งพิงระยะยาว(CG) ในการประชุมปรึกษาหารือเพ่ือเลือกพื้นท่ีเป้าหมาย ว่า จะลงพ้นื ที่ไดบ้ า้ งโดยคัดสรรจาก ข้อมูลต่าง ๆ ร่วมกัน โดยแต่ละรายจะมีการดาเนินงานที่แตกต่างกันไป เช่น ในครัวเรือนผู้ยากไร้ จะมีเครื่องอุปโภค บริโภค หรือเงินไปช่วยเหลือด้วย ในรายท่ีมีฐานะแต่ขาดคนดูแลทาง กลุ่มจะเขาไปพบปะพูดคุย ตรวจสุขภาพเบื้องต้น ในกรณีผู้ป่วยติดเตียงหรือพิการจะช่วยทากายภาพบาบัด และจัดภูมิทัศน์ ให้อีกด้วย และสานักงานพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์จังหวัดตาก สร้างท่ีอยู่ อาศัยให้ผู้ยากไร้เป็นต้น รวมถึงการสนับสนุนข้อมูลจากกลุ่มหรือหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง นอกจากน้ี ทางกลุ่ม ยังได้รับ เครื่องอุปโภค บรโิ ภค และเงิน ท่ไี ด้รับบรจิ าค จากผู้มีจิตศรัทธา ห้างร้านต่าง ๆ ท้ังในและนอกตาบล เพ่อื ส่งต่อไปยงั ผูด้ อ้ ยโอกาส ในสังคม ๗. ผลท่เี กิดขึ้น (ผลผลติ ผลลพั ธ์) เกิดการคนดูแลเอาใจใส่ให้กาลังใจและช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ในกลุ่มเปราะบางของตาบลแม่ปะ ซ่ึง ประกอบด้วย ผู้ด้อยโอกาส ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุถูกทอดท้ิง ผู้สูงอายุไร้สัญชาติ ให้มีความเป็นอยู่ดีข้ึนตามอัตภาพ การออกเย่ียมบ้านยังทาให้เกิดการพูดคุยของคนในวัยเดียวกันอีกด้วย ส่งผลใหเ้ ข้าใจปญั หาซึง่ กันและกนั มากข้ึน ๘. ผลกระทบท่เี กดิ ขน้ึ ผลกระทบที่เกิดขึ้นในตาบลแม่ปะ มีด้งนี้ (๑)ด้านสังคม เกิดสังคมแห่งการดูแลช่วยเหลือกัน แบ่งปัน น้าใจ เข้าใจซึ่งกันและกัน เป็นสังคมจิตอาสาพัฒนาชุมชน (๒)ด้านสุขภาพ การมีส่วนร่วมในการจัดการด้าน สุขภาพ ของหนว่ ยงาน กลุ่ม องค์กรในพื้นที่ (๓)ด้านเศรษฐกิจ การลดร่ายจ่าย และแบ่งปัน ช่วยเหลือเคร่ือง อุปโภค บริโภค และเงิน รวมถึงสนับสนุนการประกอบอาชีพให้กับผู้ยากไร้ หรือผู้พิการที่สามารถทางานได้ เป็นต้น (๔)ดา้ นสภาวะแวดล้อม มีการจัดภูมิทัศน์ของบ้านให้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการดาเนินชีวิต เพิ่มมากขึ้น (๕)ด้านการเมือง การบริการ ช่วยเหลือ ดูแลมีความเท่าเทียมกัน ทั่วถึงตามสิทธิของความเป็น มนุษย์ ๑๓๙ 153

ภาพ1ท5ี่ ๓4.๒.๑๓ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บลวังกรด

ชมุ ชนทอ้ งถนิ่ ...ไม่ทอดทงิ้ กนั  Key actors องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลวงั กรด งานเดน่ กลุ่มสัมมาชพี แก้ได้ทกุ เรื่อง พืน้ ที่ องค์การบรหิ ารสว่ นตาบลวงั กรด ตาบลบางมูลนาก จงั หวดั พิจิตร วิทยากร นางประจบ ผกู พรม ตาแหน่ง เลขานกุ ารสภาอบต.วังกรดตาบล เบอรโ์ ทร ๐๙๑-๘๕๔๘๓๙๖ [email protected] ๑. ทีม่ าหรอื ฐานคิดของการดาเนนิ งาน ตาบลวงั กรดมีทั้งหมด ๖ หมู่บา้ น มีประชากรทงั้ หมด ๒,๔๕๖ คน ๗๓๙ ครวั เรือน มีเนือ้ ที่ ๔๐.๙๓ ตาราง กิโลเมตร เป็นพื้นท่ีทาการเกษตร ๒๑,๒๔๑ ไร่ ส่วนพ้ืนที่ที่เหลือปลูกบ้าน ใช้สาหรับเป็นท่ีอยู่อาศัยและเป็น แหล่งน้า คลอง หนองและเหมือง การประกอบอาชีพ ประชากรส่วนใหญ่มี อาชีพเกษตรกรรมทานา ร้อยละ ๗๑.๘๑ และสามารถทานาไดเ้ พยี งปีละ ๑ คร้ังรองลงมา คือ เกษตรทาสวน ทาไร่ เล้ียงไก่ เลี้ยงเป็ด ปลูกผัก ขาย เป็นต้น กว่าคร่ึงพฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่ สูบบุหร่ี ดื่มสุรา และเป็นวัยทางานเป็นส่วนใหญ่ที่สูบบุหรี่ แต่ วยั รุ่นส่วนใหญ่ดืม่ สรุ า เมอ่ื ว่างจากการทานา ทางาน มักชวนกนั ไมด่ ่ืมเครอื่ งดื่มแอลกอฮอล์ และพากันไม่เล่น การพนัน จึงทาให้เกดิ ภาระหน้ีสินในครัวเรือนเฉลี่ย ๑๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน เดิมองค์การบริหารส่วนตาบลวัง กรด หาทางออก และแก้ปัญหาพฤติกรรมเสี่ยง ปัญหาด้านเศรษฐกิจของชุมชนมาอย่างต่อเน่ือง มีความ พยายามส่งเสริมอาชีพในชุมชนที่มาจากความเชี่ยวชาญในระดับครัวเรือน คือการรวมกลุ่มครัวเรือนที่ทา อาชีพเสริมคล้ายกัน ให้รวมกันทา หรือรวมกันขาย เป็นกลุ่มที่เรียกตนเองว่า กลุ่มสัมมาชีพ ได้แก่ กลุ่มทา ขนมไทย กลุ่มคนเลย้ี งวัว กลุ่มปลูกแปรรปู สมนุ ไพร โดยทางหน่วยงานภาครัฐสามารถสนับสนุนงบประมาณ เพ่ือเป็นทุนได้ ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ผู้นา ผู้บริหารอบต.วังกรด และสภาอบต. ได้มีความเห็นร่วมกันว่าควร จดั ตงั้ กลุ่มสมั มาชพี ชุมชนเพ่ิม เพ่อื ฝกึ ทกั ษะอาชพี ให้ผู้ว่างงาน ผู้ติดการพนัน ผู้ด่ืมเครื่องแอลกอฮอล์ ซ่ึงอาจ ทาให้แก้ปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงน้ีได้ ประกอบกับองค์การบริหารส่วนตาบลวังกรด ได้เข้าร่วมเป็นศูนย์ ประสานงาน (ศปง.) แอลกอฮอล์ ซง่ึ เป็นการขบั เคลือ่ นการ ลด ละ เลกิ การดื่มเครื่องดมื่ แอลกอฮอล์ในพ้ืนท่ี มีการจัดกิจกรรมร่วมงดเหล้า และเลิกเหล้าตลอดชีวิต โดยกาหนดให้กลุ่มผู้นาท้องที่ ผู้บริหารท้องถิ่น รวม ๓๐ คนตั้งปณิทานเลิกเหล้า เพ่ือเป็นต้นแบบท้ังตาบล และถ้าครัวเรือนสามารถปฏิบัติได้ตามแนวทาง เดยี วกนั จะสนบั สนุนให้รวมกล่มุ สมั มาชีพ และประกาศเกยี รติคุณเป็นตน้ แบบเลกิ เหล้าในตาบล ๒. กล่มุ ประชากรเป้าหมาย ๒.๑ ผนู้ าในพน้ื ที่ ประกอบดว้ ย ผู้ใหญ่บา้ น ผูช้ ว่ ยผ้ใู หญ่บ้าน สมาชกิ อบต. รวม ๓๐ คน ๒.๒ กลมุ่ อาชพี ๓ กลมุ่ ๒.๓ ครวั เรอื นในพ้ืนที่จานวน ๗๓๙ ครัวเรือน ๓. ผลท่ีตอ้ งการใหเ้ กดิ ข้ึน ลดพฤติกรรมการด่ืมแอลกอฮอล์ และลดความเสี่ยงในกลุ่มท่ีได้รับผลกระทบของประชาชน โดยค้นหา ต้นแบบเพิ่มจานวน ขยายกลุ่ม ขยายพ้ืนท่ี และ เกิดการรวมกลุ่มท่ีสร้างอาชีพ เพิ่มรายทั้งในระดับครัวเรือน ระดับกล่มุ ๔. ขอ้ มูลและเครอื่ งมือในการดาเนนิ งาน ๔.๑ ข้อมูลพฤติกรรมเสี่ยงของคนในพื้นท่ี การประกอบอาชีพ การจ้างงาน คนว่างงาน จากฐานข้อมูล ตาบล TCNAP ๔.๒ ข้อมูลทุนทางสังคม และศักยภาพในการจัดการโดยตรงด้านเศรษฐกิจ สภาวะแวดล้อม จากการ วิจัยชมุ ชน RECAP ๑๔๑ 155

ชมุ ชนท้องถน่ิ ...ไมท่ อดทิ้งกนั  ๕. รูปธรรมงาน งานกลมุ่ สมั มาชีพมรี ปู ธรรมงาน ๒ สว่ นดงั นี้ ๑) ส่งเสริมการรวมกลุ่มสัมมาชีพตามอาชีพด้ังเดิม ๒) กฎ กติกาการจดั การมีเงื่อนไขของการเป็นตน้ แบบเลกิ เหล้า ๖. วธิ กี ารดาเนินงาน การดาเนินงานของกลุ่มสัมมาชีพ มีวิธีดาเนินงานโดยมี อบต.วังกรด เป็นเจ้าภาพหลัก และมีส่วน รว่ มกบั ผู้นาท้องที่ แกนนาในชุมชน ใหร้ วมกลุม่ สัมมาชีพ เชน่ แ มีสมาชิก ๑๐ หลังคาเรือน กลุ่มคนเลี้ยงวัว มี สมาชิก ๕ หลงั คาเรอื น กลุ่มแปรรูปสมุนไพร เชน่ ชาผง ชาแห้งสมนุ ไพร ผสมสมนุ ไพรบรรจุแคปซูล เปน็ ตน้ ระดมผู้นาท้ังใน อบต. รพ.สต. หมู่บ้าน ใหส้ มคั รใจเลิกเหล้า และประกาศเป็นต้นแบบ และจัดให้ปลูกผัก กนิ เองตามพ้ืนท่สี าธารณะริมคลอง ถา้ เปน็ ต้นแบบ ๗. ผลทเ่ี กิดข้ึน (ผลผลติ ผลลพั ธ)์ เกดิ ผล ๒ ส่วน ได้แก่ ๑) เกิดการรวมกลุ่มทาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ คนต้นแบบเลิกเหล้า ๑๘ ครัวเรือน กล่มุ สัมมาชีพท่ี อบต.สนับสนนุ ๓ กลุม่ ไดแ้ ก่ กล่มุ เลยี้ งโค กลุ่มสมนุ ไพร กลุ่มทาขนมไทย ๒) ลดปัจจัยเส่ียง ด้านสุขภาพ ไดแ้ ก่ กลุม่ คนงดเหลา้ จานวน ๗๒ คน ครวั เรอื ปลอดเหล้า ๑๘ ครวั เรือน ๘. ผลกระทบทเ่ี กดิ ข้นึ ด้านสังคม ทาให้คนในชุมชนมีกิจกรรมร่วมกัน มีการช่วยเหลือดูแลกัน ด้านเศรษฐกิจ ช่วยลดรายจ่าย ครัว เพ่ิมรายได้ คนว่างงานมอี าชีพ ลดภารหนส้ี ิน ด้านสขุ ภาพ ชว่ ยลดปจั จยั เส่ียง 156 ๑๔๒

ภาพที่ ๓.๒.๑๔ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บลแมป่ ะ 157

ชมุ ชนท้องถน่ิ ...ไม่ทอดทงิ้ กัน Key actors องค์การบริหารสว่ นตาบลแมป่ ะ งานเด่น ทุกคน ทกุ ความตอ้ งการ ดูแลท่วั ถงึ พ้นื ท่ี องค์การบริหารส่วนตาบลแมป่ ะ อาเภอแมส่ อด จงั หวดั ตาก วิทยากร นางสาวพชั ฏ์ิฐญิ า วันธนานันต์ ตาแหนง่ ผ.อ.กองสวสั ดิการสงั คม เบอร์โทรศัพท์ ๐๙๗-๙๒๘-๙๑๕๑ ๑. ท่ีมาหรอื ฐานคิดของการดาเนนิ งาน พ้ืนทีร่ ับผิดชอบ อบต.แมป่ ะจานวน ๑๑ หมบู่ า้ น ประชากร ๑๕,๘๗๖ คน ๘,๕๗๑ ครัวเรือน ประกอบด้วย เด็ก ๐ - ๑๔ ปี ๑,๖๒๒ คน วัยทางาน ๑๕ – ๕๙ ปีจานวน ๕,๙๕๕ คน ผู้สูงอายุ ๒,๐๒๐ คน และ ข้อมูลคน พิการ ๔๐๕ คน จากนโยบายกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ปี พ.ศ.๒๕๕๐ โดย สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ได้เข้าไปมีส่วนร่วมและให้การส่งเสริม สนบั สนุนการจดั สวัสดกิ ารชุมชน และในช่วงน้ันเกิดปัญหาการว่างงานของสตรีในชุมชน จึงมีการการรวมตัว ของแม่บ้าน มีการรวมตัวทากิจกรรมขึ้น เช่น การรับจ้างทาอาหาร ทาขนมพื้นบ้านในงานประเพณี และ เทศกาลตา่ ง ๆ ไดน้ าเงินท่ีได้ส่วนหนึ่งเป็นค่าใช้จ่าย และผลกาไรอีกส่วนเข้ากลุ่มตั้งเป็นเงินกองทุนช่วยเหลือ คนในหมบู่ า้ น จากน้นั มีแนวคดิ วา่ ต้องการพัฒนากลมุ่ โดยเร่มิ ทาพานบายศรี ประกอบกับได้รับคาปรึกษาจาก ผูใ้ หญ่บา้ น และภาคเี ครอื ขา่ ยภายนอกพ้ืนท่ี เข้ามาให้ความรู้ และส่งเสริมให้เกิดการรวมตัวกันของประชาชน ในการช่วยเหลือตนเองในดา้ นสวัสดิการตา่ ง ๆ เปน็ แนวทางในการสร้างชุมชนเขม้ แขง็ โดยชุมชนแนวทางหนึ่ง จากนั้นสานักงานพฒั นาสงั คมและความม่ันคงของมนษุ ยใ์ ห้การสนับสนุนงบประมาณ และให้ความรู้เร่ืองการ บริหารจัดการกลุ่ม และสานักงานพัฒนาองค์กรชุมชนได้รับรองสถานภาพความเป็นองค์กรชุมชน รวมท้ัง สนับสนุนการจัดต้งั กองทุนสวัสดิการวันละบาท มีสวัสดิการสาหรับผู้ท่ีเป็นสมาชิกเม่ือเกิด ให้ทุนการศึกษา กบั เยาวชน สวัสดกิ ารช่วยเหลือคนไทยพัดถิ่น สวัสดิการกู้เงินฉุกเฉินในกองทุน จากการดาเนินงานของกลุ่ม จะมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดารงชีวิตอยู่ได้ด้วยการพ่ึงตนเอง และสร้างความเข้มแข็งให้กับ ครอบครัวและชุมชน มีสมาชิกเพิ่มมากข้ึน และเปิดโอกาสให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ต่างหมู่บ้านสามารถเข้ามา เป็นสมาชิกได้ ปัจจุบันมีสมาชิกกระจายใน ๗ หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ ๒,๓,๔,๕,๗,๙,๑๑ ปัจจุบันมีสมาชิกท้ังหมด ๑๖๐ คน ๒. กลมุ่ ประชากรเปา้ หมาย ประชากรในตาบลแมป่ ะ ไม่จากัดอายุ ไมจ่ ากดั เพศ ๓. ผลทตี่ ้องการให้เกดิ ขนึ้ คนทกุ กลุ่มวยั ในตาบลแมป่ ะมสี วสั ดิการอยา่ งนอ้ ย ๑ เร่อื ง แหล่งทนุ และทรพั ยากรในการดแู ลผูต้ ้องการ ความชว่ ยเหลือ รวมสวัสดกิ ารช่วยเหลอื คนไทยพัดถิน่ ๔. ข้อมลู และเครื่องมือในการดาเนนิ งาน ๔.๑ ขอ้ มูลผทู้ ่ตี อ้ งการความช่วยเหลอื เชน่ คนยากจน คนไร้สญั ชาติ คนพกิ าร ผู้สูงอายุป่วยติดเตียง ติด บ้าน แรงงานขา้ มชาติ จากฐานขอ้ มลู ตาบล TCNAP และกองสวัสดิการสังคม อบต.แม่ปะ ๔.๒ ข้อมูลทุนทางสังคม และศักยภาพในการจดั การดูแลกลุ่มเปราะบาง จากฐานขอ้ มลู RECAP ๕. รูปธรรมงาน ประกอบด้วยการจัดการกองทุนสวัสดิการชุมชน ท่ีประกอบด้วยการจัดการงาน การจัดการแกนนาและ สมาชิก และการจัดการเงิน ทรัพยากร และข้อมูล เพื่อให้สมาชิก หรือคนในตาบลแม่ปะเข้าถึงบริการของ กองทุน 158 ๑๔๔

ชุมชนทอ้ งถนิ่ ...ไมท่ อดท้ิงกนั  ๖. วธิ ีการดาเนินงาน การจัดการกองทุนสวัสดิการชุมชนตาบลแม่ปะมีการจัดการให้กองทุนขับเคลื่อนได้ใน ๓ ส่วน ได้แก่ ๑) จัดการงาน มงี านทดี่ าเนนิ การโดนกองทนุ คือ การจัดตงั้ ท่ีต้องผ่านการประชาคม แตง่ ตัง้ คระกรรมการ หา กติกา ข้อตกลง ระเบียบข้อบังคับ กาหนดรูปแบบการบริหารจัดการ ประเภทสวัสดิการพร้อมกับกติก า ข้อตกลง ๒) การจัดการแกนนาและสมาชิก ซ่ึงมาจากการรับสมัครและอาสาเข้ามาทางานมีการพัฒนา ศักยภาพแกนนา กรรมการ เพ่ือให้บริหารกองทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีสมาชิก ๑๖๐ คน และ ๓) การจัดการเงนิ ทรัพยากร และขอ้ มลู เปน็ การจดั สวสั ดิการตา่ ง ๆ (เกดิ ป่วย ตาย) ทุนการศกึ ษา และการ สร้างงานสร้างอาชีพ การจัดการข้อมูลของสมาชิกในเรื่องต่าง ๆ เช่น ใครเคยรับความช่วยเหลือจากกลุ่มไป แล้วบ้าง การกู้เงินฉุกเฉิน เป็นต้น รวมถึงข้อมูลการดาเนินงานและข้อมูลสมาชิก การจัดการทุน โดยมีการ เกบ็ ค่าสมาชกิ ปลี ะ ๓๖๕ บาทเปน็ เงินที่ใชใ้ นการบรหิ ารจดั การ ส่วนสวัสดิการที่ได้รับดูแลต้ังแต่เกิดยังเชิงตะกอนเป็นการจัดสวัสดิการให้กับสมาชิก โดยการเกิดจะมี การมอบเงินขวัญถุงให้ มีการมอบทุนการศึกษาให้เด็กเรียนดีแต่ยากจน การช่วยเหลือเงินแก่ผู้ป่วยหรือ ประสบอุบัติเหตุฉุกเฉิน การช่วยเหลือค่าทาศพให้กับญาติผู้เสียชีวิต สนับสนุนให้เข้าถึงสวัสดิการของชุมชน ในเร่ืองอ่ืนๆ เช่น การยืมอุปกรณ์ในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น โต๊ะ เก้าอ้ี เต้น ช้อน ชาม จาน เป็นต้น และ การส่งเสริมสมาชิกในกลุ่มร่วมทากิจกรรมจิตอาสาต่าง ๆ ในหมู่บ้านหรือการทากิจกรรมในตาบล เช่น การสนับสนุนกลุ่มแม่บ้านในการทาอาหารในงานชุมชน การสนับสนุนการลงเย่ียมบ้านผู้ป่วยและผู้พิการใน ชุมชน ๗. ผลที่เกิดขน้ึ (ผลผลติ ผลลพั ธ์) ๗.๑ การสรา้ งระบบสวสั ดิการชมุ ชนของตาบล ชว่ ยเหลอื ตัง้ แต่เกดิ เม่อื เจบ็ ปว่ ย และเม่ือเสยี ชวี ิต ๗.๒ การสร้างหลกั ประกันเพื่อความมัน่ คง ความเป็นอยู่ท่ีดขี ้นึ ของคนในชุมชน ๗.๓ การสรา้ งให้เกิดการชว่ ยเหลือเก้อื กลู กนั ในชมุ ชน ๗.๔ การสรา้ งความสัมพันธ์อันดขี องคนในชุมชน ๗.๕ การสร้างกระบวนการมสี ว่ นร่วมกับทกุ ภาคส่วน ทัง้ ภาครัฐ ทอ้ งถ่ิน องค์การชุมชนในการสนบั สนุน ระบบสวสั ดิการ ๘. ผลกระทบท่ีเกิดขึ้น ๘.๑ การสร้างมีส่วนร่วมของคนในชุมชน มาร่วมกันคิด ร่วมกันสร้างระบบ ร่วมกันบริหารจัดการและ รว่ มกนั รบั ผลประโยชน จึงเปน็ กองทุนทช่ี มุ ชนเปน็ เจ้าของอยา่ งแท้จรงิ ๘.๒ การสร้างระบบสวัสดิการในคนในชุมชน ได้เข้าเป็นสมาชิกกองทุนสวัสดิการชุมชนตาบลให้ครบทุก ครัวเรือนในตาบลแมป่ ะ ๘.๓ การพัฒนากองทุนให้ทุกคนในชุมชนรู้สึกเป็นเจ้าของ โดยการจัดสวัสดิการให้กับทุกคนถึงแม้ไม่ได้ เป็นสมาชกิ ภายใต้แนวคิดทีว่ ่างบประมาณสองส่วนมาจากภาครัฐสมทบ ดังนั้นทุกคนในชุมชนจึงควรมีสิทธิ ในเงนิ กองทุนนี้ แต่จะมกี ารจดั สวัสดกิ ารให้แกค่ นท่เี ป็นสมาชกิ เพิม่ ขน้ึ ในอกี ระดับหนึ่งด้วย ๑๔๕ 159

ภาพ1ท6ี่ ๓0.๒.๑๕ เครอื ข่ายหวั ดงไม่ทอดทิ้งกนั

ชมุ ชนท้องถ่ิน...ไม่ทอดท้งิ กนั  Key actors เครอื ขา่ ยหัวดงไม่ทอดทิ้งกัน งานเด่น ดูแลเทา่ เทียม ชว่ ยเหลอื แบ่งปัน พน้ื ท่ี องคก์ ารบริหารส่วนตาบลหวั ดง อาเภอเมือง จังหวัดพิจิตร วิทยากร นางสาวศริ ิเพ็ญ บุญปู่ ตาแหน่ง ประธานเครอื ข่ายหัวดงไมท่ อดทิ้งกัน เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๑๙๓๖๙๘๒๔ ๑. ทีม่ าหรอื ฐานคดิ ของการดาเนนิ งาน ตาบลหวั ดงมีพน้ื ทท่ี ่รี บั ผิดชอบจานวน ๖ หมู่บ้าน ประชากรทั้งหมด ๓,๓๔๒ คน จานวน ๙๐๗ ครัวเรือน มีจานวนผู้สูงอายุทั้งหมด ๗๐๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๗.๕๗ ของจานวนประชากรทั้งหมด ทุนทางสังคม และ ศักยภาพท่ีมีงาน กิจกรรมสร้างผลกระทบกับผู้สูงอายุ ได้แก่ ความครอบคลุมการจัดสวัสดิการเบี้ยยังชีพ ๕๗๕ คน พัฒนาอาชีพเสริม กองทุนสวัสดิการชุมชน ศักยภาพในการดูแลช่วยเหลือกันในพื้นที่ คือเครือข่าย หัวดงไม่ทอดทิ้งกัน เกิดข้ึนอย่างเป็นทางการเม่ือเดือนกรกฏาคม ๒๕๖๑ โดยการนาของนายพิชัย นวลนภา ศรี อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตาบล ประธานสภาองค์กรชุมชนจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นคนหัวดง ร่วมกับ นายกองค์การบริหารส่วนตาบลหัวดง นายมนูญ ดิษเสถียร และนายบันเทิง ศรีนาก ประธานชมรม ผู้สูงอายุของการบริหารส่วนตาบลหัวดง อีกท้ังยังมีผู้นาท้องท่ีเช่นกานัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งทางานในการดูแล กลุ่มเปราะบางทางสังคมในพ้ืนที่ เช่น คนยากจน คนถูกทอดท้ิง ผู้สูงอายุอยู่คนเดียว เป็นต้น เดิมการ ดาเนินการไปตามภารกิจหน้าท่ีของแต่ละองค์การเช่น องค์การบริหารส่วนตาบลหัวดงก็ดาเนินการใน ภาพรวมดแู ลเดก็ ดแู ลผสู้ งู อายุ คนพิการหรือการสงเคราะห์ สภาองค์การชุมชนก็มีการดาเนินงานช่วยเหลือ ในการปรับสภาพท่ีอยู่อาศัยให้กับผู้ยากไร้ในหมู่บ้านของตาบลหัวดง ในด้านของชมรมผู้สูงอายุก็ช่วยเหลือ สงเคราะห์ผู้สูงอายุไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมบ้านของผู้สูงอายุ การปรับสภาพที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุ ซึ่ง กระบวนการต่างเหล่านี้เป็นกระบวนการช่วยเหลือในลักษณะท่ีมีความคล้ายคลึงกัน แต่ขาดการเช่ือมโยงใน ด้านการทางาน การงบประมาณ และฐานข้อมลู และหน่วยงานราชการท่ีจะสามารถเข้ามาช่วยเหลือ นายพิชัย นวลนภาศรี จึงมีการชักชวนกลุ่มองค์กรต่างๆในหมู่บ้านและเทศบาลตาบลหัวดงซึ่งเป็นองค์การปกครอง ท้องถ่ินอีกแห่งในตาบลมาประชุมกันเพื่อหาวิธีในการเชื่อมโยงงานเชื่อมโยงข้อมูล เช่ือมโยงงบประมาณ เชื่อมโยงหน่วยงานราชการต่างๆทั้งในและนอกพ้ืนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการทางานแก้ไขปัญหาให้กับกลุ่ม เปราะบางทางสงั คมในตาบลหัวดง ประกอบกบั มเี หตุการณ์ที่ต้องหาทางออกร่วมกันของผู้เก่ียวข้องในชุมชน คือ นักเรียนมัธยมศึกษาปีท่ี ๖ เพศหญิงในหมู่บ้านลาชะล่า หมู่ที่ ๒ สอบติดคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร แตด่ ้วยยากจนไม่มคี ่าใช้จ่าย และครอบครวั ผยู้ ากไร้ท่มี ีเดก็ ท่ตี อ้ งเลี้ยงถงึ ๖ คน แตม่ คี น หาเงินเข้าบ้านเพียง ๑ คน ทาให้เกิดความขาดแคลนในหลายๆด้าน ทั้งด้านอาหาร ด้านการศึกษา ด้านที่อยู่ อาศัย จากสถานการณ์ดังกล่าวเครือข่ายหัวดงไม่ทอดทิ้งกันจึงทบทวน และนาข้อมูลที่ได้ มาออกแบบและ จดั ทาแผนการดแู ล เพื่อเกิดการดแู ล ช่วยเหลอื ทันทว่ งที และเตรียมความพร้อมในการจัดการระยะยาว เพ่ือ ความเทา่ เทียมทวั่ ถงึ ทกุ คน ๒. กลุ่มประชากรเป้าหมาย ๒.๑ คนพกิ าร ๑๗๘ คน ๒.๒ เด็กและเยาวชน ๕๒๕ คน ๒.๓ ผูส้ งู อายุ ๗๐๐ คน ๒.๔ ผดู้ ้อยโอกาส ๓๐ คน ๒.๕ ผ้ตู ิดเช้ือเอชไอวี ๖ คน ๑๔๗ 161

ชุมชนทอ้ งถิ่น...ไมท่ อดทิ้งกนั  ๓. ผลทีต่ อ้ งการใหเ้ กิดขน้ึ คนยากจน คนพิการ ผู้สูงอายุป่วยติดเตียง ติดบ้าน เด็กด้อยโอกาสที่ประสบปัญหา ยากลาบาก ได้รับ การดแู ล ช่วยเหลอื ทวั่ ถึง ครอบคลมุ ไม่เลือกปฏบิ ตั ิ ๔. ขอ้ มูลและเคร่อื งมอื ในการดาเนนิ งาน ๔.๑ ข้อมูลผทู้ ต่ี อ้ งการความชว่ ยเหลือ เชน่ คนยากจน คนไรส้ ัญชาติ คนพิการ ผสู้ งู อายุป่วยติดเตียง ติด บ้าน แรงงานขา้ มชาติ จากฐานข้อมลู ตาบล TCNAP และกองสวสั ดิการสงั คม อบต.หัวดง ๔.๒ ข้อมูลทนุ ทางสังคม และศกั ยภาพในการจัดการดแู ลกล่มุ เปราะบาง จากฐานข้อมูล RECAP ๕. รปู ธรรมงาน ประกอบด้วย งาน กิจกรรม ๒ ส่วน ได้แก่ ๑) กระบวนการที่ทาให้เกิดความร่วมมือของ ๕ องค์หลักใน พนื้ ที่ และ ๒) การนาใช้กฎ กติกาขอ้ ตกลง ๖. วธิ ีการดาเนนิ งาน จากการเหน็ ปัญหารว่ มกันของหน่วยงาน องค์กรในชุมชนมีการแต่งต้ังคณะกรรมการในการดาเนินงาน ของเครอื ขา่ ยหวั ดงไมท่ อดทงิ้ กนั ประกอบด้วย ทอ้ งท่ี ท้องถ่นิ ภาคประชาชน สภาองคก์ รชุมชน โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตาบลทั้ง ๒ แห่ง โรงเรียนในพื้นท่ีท้ัง ๕ แห่ง วัด ๗ วัดในพ้ืนที่ หน่วยงานราชการในระดับ จงั หวัด พฒั นาสงั คมและความม่ันคงของมนุษย์จงั หวัดพิจิตร บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิจิตร ศูนย์ คุ้มครองคนไร้ที่พึงจังหวัดพิจิตร รูปแบบการขับเคลื่อนใช้การรณรงค์ให้ชุมชนเห็นความสาคัญของการดูแล ช่วยเหลอื กนั เรียกวา่ ” วนั โฮม”และทาการสารวจขอ้ มลู ซึงภารกิจแรกของเครือข่ายหัวดงไม่ทอดท้ิงกัน ก็คือ การจดั ทาขอ้ มลู กลมุ่ คนเปราะบางทางสังคม ไดแ้ ก่ ผูส้ ูงอายุ คนพิการ เด็ก ผู้ยากไร้ ผู้ติดเช้ือเพ่ือให้เกิดความ เชอ่ื มโยงในการทางานและเกดิ การใชฐ้ านขอ้ มูลในการช่วยเหลือให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันท้ังตาบล กาหนด มาตรการในการช่วยเหลือที่ชัดเจน ซึ่งมีเป้าหมายคนด้อยโอกาส ยากจน ถูกทอดท้ิง คนที่ถูกกระทารุนแรง เดก็ ที่ได้รบั การดูแลบกพรอ่ ง โดยมกี ารกาหนดการชว่ ยเหลอื ไว้ ๓ ระยะ ดังนี้ ระยะตน้ คือการช่วยเหลือเฉพาะ หน้าเช่นเงิน ข้าวสาร อาหารแห้ง ระยะกลาง คือการช่วยเหลือด้านท่ีอยู่อาศัยการปรับสภาพแวดล้อมต่างๆ หรอื การส่งตอ่ ความชว่ ยเหลือไปยังหนว่ ยอืน่ ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ระยะยาว คอื การช่วยเหลอื ดา้ นอาชีพ ด้านการศึกษา หรืออืน่ ๆตามความเหมาะสม ๗. ผลทเี่ กิดขนึ้ (ผลผลิต ผลลัพธ์) มีกลุ่มคนที่ให้การดูแลช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ในกลุ่มเปราะบางของตาบลหัวดง ประกอบด้วย ผู้ด้อยโอกาส ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงขาดการดูแลที่เหมาะสม ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุถูกทอดท้ิง เด็ก ยากจน ด้อยโอกาส ให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น มีสิทธิในการเข้าถึงทรัพยากร บริการท่ีจาเป็น เท่าเทียมผู้อื่น ที่ ผ่านมาได้ให้การช่วยเหลือให้เด็กไม่ได้เรียนให้เข้าเรียนต่อ ๑ ราย และครอบครัวยากจนให้มีให้มีท่ีทากิน มี อาชีพเลย้ี งดูครอบครัว ๘. ผลกระทบทเ่ี กดิ ขึน้ ผลกระทบที่เกิดข้ึนในตาบลหัวดง มีดังน้ี (๑)ด้านสังคม เกิดสังคมแห่งการดูแลช่วยเหลือกัน แบ่งปัน น้าใจ เข้าใจซึ่งกันและกัน (๒)ด้านสุขภาพ การมีส่วนร่วมในการจัดการด้านสุขภาพ ของหน่วยงาน กลุ่ม องค์กรในพื้นที่ (๓)ด้านเศรษฐกิจ การลดร่ายจ่าย และแบ่งปัน ช่วยเหลือเครื่องอุปโภค บริโภค และเงิน รวมถึงสนับสนุนการประกอบอาชีพให้กับผู้ยากไร้ หรือผู้พิการที่สามารถทางานได้เป็นต้น (๔)ด้านสภาวะ แวดล้อม มีการจัดภูมิทัศน์ของบ้านให้มีสภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสมกับการดาเนินชีวิต เพ่ิมมากขึ้น (๕)ด้าน การเมอื ง การบรกิ าร ช่วยเหลอื ดแู ลมีความเท่าเทียมกัน ทว่ั ถงึ ตามสทิ ธขิ องความเปน็ มนุษย์ 162 ๑๔๘

สรปุ บทเรยี น ที่แสดงเนอ้ื หาประเด็น สร้างภมู ิ... คมุ้ นิเวศŽ 163

ภาพ1ท6่ี ๔4.๑ ภาพรวมนวตั กรรมหรอื งานเดน่ ประเด็น “สรา้ งภมู .ิ ..คุ้มนเิ วศ”

ภาพท่ี ๔.๒ ภาพรวมสุดยอดผ้นู ำ� ชมุ ชนจากกล่มุ หรือองค์กรทขี่ ับเคล่ือนงาน ประเดน็ “สรา้ งภูม.ิ ..คุ้มนิเวศ” 165

ภาพ1ท6ี่ ๔6.๒.๑ กล่มุ ท�ำป๋ยุ หมกั บ้านแกง่ หนิ

สรา้ งภมู .ิ ..คมุ้ นเิ วศ Key actors กลุ่มทาป๋ยุ หมกั บา้ นแก่งหนิ งานเดน่ ธนาคารปยุ๋ อินทรีย์ พื้นที่ องคก์ ารบริหารสว่ นตาบลวงั ประจบ อาเภอเมือง จงั หวัดตาก วิทยากร นายสมัคร ฟกั ทองอยู่ ตาแหนง่ ประธานธนาคารปยุ๋ ๑. ทีม่ าหรือฐานคิดของการดาเนินงาน การทาปุ๋ยหมักในพื้นท่ีมีการดาเนินงานจากการที่ นายสมัคร ฟักทองอยู่ เป็นหมอดินอาสาประจา หมู่บ้านแก่งหิน เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ตระหนักถึงปัญหาความอุดมสมบูรณ์ของดินในพื้นที่จึงได้นาความรู้ท่ี ได้รับจากการอบรมมาทดลองใช้ในครอบครัว เร่ิมต้นจากทาปุ๋ยหมักโดยใช้สารเร่ง พด.๑ แล้วใช้กับผักสวน ครัวขา้ งบ้าน สังเกตพบวา่ พืชผักเจรญิ เตบิ โตงอกงามดี ปลอดสารพษิ ปลอดภัยจากโรคต่างๆ ได้แนะนาวิธีทา และวธิ ีการทาปุ๋ยหมักให้กับคนอื่น ๆ ในชุมชนรวมทง้ั ประสานงานกบั หนว่ ยงานราชการทีใ่ หก้ ารสนบั สนุน และ ในปี ๒๕๔๖ ได้มีการรวมกลุ่มทาปุ๋ยหมัก โดยแบ่งกลุ่มตามคุ้มบ้าน ซ่ึงมีท้ังหมด ๘ คุ้มโดยแบ่งเป็น ๘ กลุ่ม และในปีพ.ศ ๒๕๔๗ ได้รวมกลุ่มเป็นกลุ่มใหญ่มีการรวมสมาชิกจาก ๘ กลุ่มเป็นกลุ่มเดียวโดยใช้ชื่อ กลุ่มปุ๋ย หมักบ้านแก่งหิน ซ่ึงมีการจัดหาวัสดุในการทาปุ๋ยหมัก และแบ่งให้กับสมาชิกในกลุ่ม มีการผลิตปุ๋ยหมัก เพ่ิมข้ึนส่วนทเี่ หลือใช้จะแบ่งขายทาให้สรา้ งรายได้ให้กบั สมาชกิ กลุ่ม ๒. กล่มุ ประชากรเปา้ หมาย มีสมาชิกกลุ่มปยุ๋ หมกั บา้ นแกง่ หินมีจานวน ๕๗ คน ๓. ผลทต่ี ้องการใหเ้ กดิ ข้นึ ๓.๑ สมาชิกกลุ่มปุ๋ยหมักบ้านแก่งหิน สามารถเพ่ิมผลผลิตทางการเกษตร โดยใช้ปุ๋ยเคมีอย่างถูกต้อง ร่วมกับการใชป้ ุ๋ยอนิ ทรีย์ ทาให้ต้นทนุ การใช้ปุ๋ยเคมีลดลง ลดค่าใช้จ่ายในการทาการเกษตร ๓.๒ เกิดการขยายผลการใชป้ ุ๋ยเพ่อื ลดตน้ ทุนการผลติ อยา่ งยงั่ ยืน โดยผา่ นกลไกศนู ย์จัดการผ่านธนาคาร ปยุ๋ อนิ ทรยี ์ ๔. ขอ้ มลู และเคร่อื งมือในการดาเนินงาน ขอ้ มลู ทีไ่ ดจ้ ากแหลง่ ข้อมูล TCNAP, RECAP เอกสาร ขอ้ มลู จากแหล่งอ่นื ๆ ได้แก่ ข้อมลู จปฐ. กชช.๒ค ๕. รูปธรรมงาน กลุม่ ปุย๋ หมักบ้านแก่งหิน มีการทาปุ๋ยอินทรีย์ ใช้ปุ๋ยร่วมกัน ทาให้ลดต้นทุนการผลิต สามารถลดต้นทุน การใช้ปยุ๋ เคมี เพ่มิ ผลผลิตตอ่ ไร่ และคุณภาพผลผลติ ๖. วธิ ีการดาเนินงาน มีการรวมกลุม่ ปุ๋ยหมัก โดยมีนายสมคั ร ฟักทองอยเู่ ป็นแกนนา โดยมีการช่วยกันจัดหาวัสดุ ช่วยกันผลิต ปยุ๋ แบง่ กันปุ๋ยหมกั เพื่อไปใชใ้ นการทาเกษตรกรรม มีการผลติ ปยุ๋ หมักเพ่ิมข้ึน ส่วนท่ีเหลือใช้จะแบ่งขาย ซ่ึงใน การทาปยุ๋ หมักของกล่มุ ป๋ยุ หมกั บ้านแกง่ หนิ มหี ลากหลายรูปแบบ ได้แก่ แบบที่ ๑ รวมกองวสั ดุสาหรบั ทาป๋ยุ หมักพรอ้ มรดนา้ ใหช้ ุ่ม ใช้จอบหมนุ ผสมคลุกเคลา้ แบบที่ ๒ นวตั กรรมจากภูมปิ ัญญา คิดประดษิ ฐ์เครือ่ งผสมคลกุ เคลา้ ทป่ี ระดิษฐ์ขน้ึ เอง เครอื่ ง คลกุ เคล้าวัสดุสาหรับผลิตปยุ๋ หมกั ต่อทอ่ พ่นนา้ แบบง่ายๆ นาวสั ดแุ ชล่ งในน้าท่ผี สมสารเร่ง พด.๑ พด.๒ และ เทใสใ่ นเครอื่ งผสมคลกุ เคลา้ ที่ประดิษฐข์ ึ้นเอง นามากองไวไ้ มต่ ้องกลบั กอง และไมต่ อ้ งใหน้ า้ อีก การใช้เคร่อื ง ผสมคลกุ เคล้าดังกลา่ ววสั ดตุ า่ งๆ จะเข้ากันไดด้ ีและทวั่ ถงึ มกี ารคิดประดิษฐ์ รถบรรทุกใหส้ ามารถยกดั๊ม เพือ่ สะดวกในการใชง้ าน และประหยดั แรงงาน แบบท่ี ๓ สง่ เสรมิ ใหเ้ กษตรกรทาปยุ๋ หมกั จากเศษพืชกองเลก็ ๆ ในครัวเรอื นเพอื่ ลดการเผาตอซัง ๑๕๒ 167

สร้างภูมิ...คมุ้ นเิ วศ แบบที่ ๔ ทาเป็นกองใหญ่ โดยคลุกเคล้าเศษพืช มูลสัตว์ สารเร่ง พด.๑ ให้ความชื้นเพียงพอ ใช้ เคร่อื งจกั รรวมกอง กองในรม่ ไมต่ ้องกลบั กอง การจัดการปุ๋ยหมักจะมีการแบ่งปุ๋ยให้กับสมาชิกในกลุ่ม ปุ๋ยหมักส่วนท่ีเหลือใช้จะแบ่งขายทาให้สร้าง รายไดใ้ ห้กับสมาชกิ กลุ่ม ๗. ผลที่เกิดขึ้น (ผลผลิต ผลลพั ธ)์ ๗.๑ เกษตรกรได้ความรู้เร่ืองการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อลดต้นทุนการผลิต สามารถลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมี จากการดาเนินงานของกลมุ่ เกดิ ครัวเรือนทใี่ ช้ปุย๋ อนิ ทรยี ์ ๕๗ ครวั เรือน มีการผลิตปุย๋ อินทรยี ใ์ ช้เองแทนการใช้ ปุ๋ยเคมีสามารถลดต้นทุนการซ้ือปยุ๋ เคมไี ด้ ๔๐๐ บาทต่อไร่ ๗.๒ สามารถเพ่มิ ผลผลติ ตอ่ ไร่ และคณุ ภาพผลผลติ ดตี รงตามความตอ้ งการ ๗.๓ คนในชุมชนไดบ้ ริโภคอาหารปลอดสารพษิ ผูผ้ ลติ และผบู้ ริโภคมีสขุ ภาพท่ดี ี ๗.๔ ลดการเจบ็ ป่วยของเกษตรจากการใช้สารเคมี ๘. ผลกระทบทเ่ี กดิ ข้นึ ผลกระทบต่อโครงสร้างชุมชนท้องถิ่น ได้แก่ ๑) ด้านสังคม เกิดการรวมกลุ่มกันทาให้มีธนาคารปุ๋ย อินทรีย์ภายในชุมชน เกิดชุมชนทาการเกษตรอินทรีย์ปลอดสารเคมี ๒) ด้านเศรษฐกิจ ลดรายจ่ายต้นทุนใน การทาเกษตร ๓) ด้านสภาวะแวดล้อม ลดมลพิษจากการใช้ปุ๋ยเคมีในการทาเกษตรกรรม ๔) ด้านสุขภาพ ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรงจากการท่ีได้บริโภคพืชผัก สวนครัว ข้าว ผลไม้ ท่ีปลอดสารเคมี และลดการ เจ็บป่วยของเกษตรจากการใช้สารเคมี 168 ๑๕๓

ภาพที่ ๔.๒.๒ ศูนยเ์ รียนรูช้ มุ ชนบา้ นคลองกล้วย (โรงเรยี นขา้ ว) 169

สร้างภูม.ิ ..คมุ้ นิเวศ Key actors ศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านคลองกลว้ ย (โรงเรียนข้าว) งานเด่น ผผู้ ลติ ปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย พื้นที่ องค์การบรหิ ารส่วนตาบลคอรุม อาเภอพชิ ยั จงั หวดั อุตรดติ ถ์ วทิ ยากร นายสริ ิชัย เหรียญทองชัย ตาแหนง่ กรรมการศูนย์เรียนร้ชู มุ ชนบา้ นคลองกล้วย เบอรโ์ ทรศัพท์ ๐๘๑-๘๙๒๙๔๘๗ ๑. ท่มี าหรือฐานคิดของการดาเนินงาน พ้นื ทต่ี าบลคอรมุ มคี รัวเรอื นที่ประกอบอาชีพทานามรี ้อยละ ๑๐.๘๐ ในปีพ.ศ ๒๕๔๙ จากปัญหาต้นทุนใน การผลติ สงู เนื่องจากการใช้สารเคมมี ีทีม่ รี าคาแพงมาก ทาใหแ้ กนนาของชุมชนตอ้ งหาแนวทางแก้ไข เพ่ือจะได้ ช่วยเหลือตนเองและเกษตรกรในชุมชน จึงได้เข้าไปศึกษาอบรมการทาสารชีวภัณฑ์ต่างๆ มาใช้แทนสารเคมี จึงได้ดาเนินการจัดต้ังกลุ่มผลิตสารชีวภัณฑ์ข้ึนมาอีก ในปีพ.ศ ๒๕๕๐ เกิดปัญหาข้าวดีดข้าวเด้งขึ้นอีก ทา ให้ผลผลิตออกมาลดลงมาก ทางแกนนาของกลุม่ จงึ ตอ้ งคิดหาวธิ ีการแกไ้ ข โดยการเข้าไปศึกษาดูงานท่ีศูนย์ เมลด็ พนั ธุ์ขา้ ว จังหวดั พษิ ณโุ ลกและจังหวัดแพร่ เพื่อขอคาปรึกษา หลังจากน้ันทางศูนย์เมล็ดพันธ์ุข้าว จึง ได้แนะนาใหท้ างชมุ ชนผลิตเมลด็ พันธุ์ข้าวเอง เพ่ือแกไ้ ขปญั หาขา้ วปน และยงั ช่วยใหส้ ามารถแกไ้ ขขา้ วดดี ข้าว เดง้ ได้อกี ด้วย โดยทางศนู ยเ์ มล็ดพันธุ์ขา้ วจังหวัดพิษณุโลกยังสนบั สนนุ เมลด็ พันธใ์ุ หช้ ุมชนฟรีมา ๓ ตัน เพื่อ นามาขยายพันธ์ุในชุมชน ทางกลุ่มจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการกลุ่มผลิตเมล็ดพันธ์ุข้าวข้ึน ในปีพ.ศ ๒๕๕๑ เกษตรกรในชุมชนพบว่าดินที่ใช้ในการเกษตรเสื่อมคุณภาพลงมาก จากการใช้สารเคมีมาเป็นระยะเวลานาน ทางกลุ่มจึงได้หาแนวทางแก้ไขปัญหา จากการที่ทางกลุ่มได้เรียนรู้การทาปุ๋ยอินทรีย์จากศูนย์ถ่ายทอด เทคโนโลยีตาบลคอรุมจึงได้ต่อยอดก่อตั้งกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดขึ้นเองในชุมชน เพ่ือทาการผลิตและ จาหน่ายในชุมชน เป็นการแก้ไขปัญหาดินเส่ือมคุณภาพได้ดี คนในชุมชนสนใจและนาไปใช้อย่างแพร่หลาย และในปพี .ศ ๒๕๕๕ ทางกลุ่มมีความต้องการทจี่ ะซอ้ื เครอ่ื งคัดเมล็ดพันธ์ุเพ่ือในการคัดแยกเมล็ดพันธ์ุข้าว จึง เสนอความต้องการไปทางกลุ่ม SML เพ่ือของบประมาณในการจัดซ้ือเคร่ืองคัดเมล็ดพันธ์ุให้กับกลุ่ม โดยใช้ งบประมาณในการจัดซื้อจานวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท และได้ทาการสั่งเครื่องประกอบติดตั้งที่ศูนย์เรียนรู้เพ่ือคัด เมลด็ พนั ธุข์ า้ วให้กับสมาชกิ ทุกอาทิตยแ์ ละนาเงินท่ีไดม้ าปนั ผลใหก้ บั สมาชกิ รว่ มกันเกดิ กลุ่มคัดเมลด็ พันธขุ์ ้าว บ้านคลองกลว้ ยขึ้น ๒. กลุ่มประชากรเปา้ หมาย สมาชิกกลุม่ ศูนยเ์ รยี นรชู้ มุ ชนบ้านคลองกล้วย (โรงเรยี นขา้ ว) หม่ทู ี่ ๘ บ้านคลองกลว้ ย ตาบลคอรุม และ แกนนาเกษตรกรจานวน ๑๒ คน ๓. ผลทต่ี อ้ งการใหเ้ กิดขนึ้ เกดิ การสร้างงาน สร้างรายได้ในชุมชน ลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร โดยการลดการใช้สารเคมี และ ผลติ สารชีวภัณฑ์ใช้เองในชุมชน เกษตรกรมที างเลือกในการผลติ ข้าวในพน้ื ท่ี จากการผลติ ข้าวเพอ่ื บริโภค เป็น เมลด็ พนั ธ์ขุ า้ วท่จี าหน่ายใหแ้ กค่ นในชุมชนและนอกชุมชน ๔. ข้อมูลและเครอื่ งมือในการดาเนินงาน ข้อมูลที่ใช้ในการดาเนินงาน ได้แก่ แผนชุมชน ข้อมูลเกษตรกรในพ้ืนที่ตาบลคอรุมจากแหล่งข้อมูล TCNAP, RECAP,ข้อมูล จปฐ.,กชช.๒ค ข้อมูลภาวะสุขภาพของประชาชนจากรพ.สต.และข้อมูลอ่ืนๆ ที่ เก่ียวข้อง ๕. รปู ธรรมงาน เกิดการขยายโรงจัดเก็บผลผลิตสามารถรองรับผลผลิตของสมาชิกกลุ่มได้ทั้งหมด มีระบบการผลิตท่ี ปลอดภัย และลดต้นทุนการผลิตไดท้ ัง้ ชมุ ชน การขยายพ้ืนที่โรงเกบ็ ผลผลติ ของกลมุ่ ลานตากเมล็ดพันธุ์ และ 170 ๑๕๕

สร้างภมู .ิ ..คมุ้ นิเวศ เพ่ิม อุปกรณ์เพื่อการขยายการดาเนินงาน เช่น ตาชั่งเมล็ดพันธ์ุ เพื่อรองรับผลผลิตของสมาชิกกลุ่มท่ีมี เพ่ิมขึน้ ๖. วิธกี ารดาเนินงาน มีการรับสมัครสมาชิกในการรวมกลุ่ม จัดตั้งคณะกรรมโดยมติในที่ประชุม เพื่อดาเนินงานกลุ่มทาการ ประชมุ กลุ่มรว่ มกันพร้อมกับคนในชุมชน เพื่อหาแนวทางการดาเนินงานร่วมกันเพื่อคนในชุมชนมีความเข้าใจ ร่วมกันและให้ความร่วมมือในการดาเนินการของศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านคลองกล้วย ร่วมคิด ร่วมทาในทุกๆ เร่ืองท่ีดาเนินการอยู่ ซ่ึงสมาชิกของศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านคลองกล้วย ทุกคนมีส่วนร่วมในการเสนอแนวทาง ในการดาเนนิ การรว่ มกนั กับคณะกรรมการกลมุ่ มกี ารจัดประชุมเพ่อื ชีแ้ จงการทางานและกิจกรรมที่เกิดขึ้นใน ศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านคลองกล้วย มีระบบการผลิตท่ีปลอดภัย โดยการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ อัดเมด็ คัดเลอื กเมล็ดพนั ธ์ุ เพาะพันธุ์ขา้ วจาหน่าย และลดตน้ ทุนการผลิตได้ท้ังชุมชน และทาการจัดสรรกาไร สุทธิประจาปี ทางเกษตรตาบลและองค์การบริหารส่วนตาบลคอรุม เข้ามาส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ เกษตรกรให้เกิดการรวมกลุ่มทาให้เกิดเป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านคลองกล้วย โดยมีการจัดอบรมเกษตรกร ส่งเสริมแกนนากลุ่มให้มีความสามารถถ่ายทอดความรู้ที่มีอยู่ได้ อบรม เรียนรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพของศูนย์ เรียนรู้ให้มีมาตรฐาน และความเป็นมืออาชีพ ประชาสัมพันธ์ข้อมูล การดาเนินกิจกรรม โดยผ่านเวทีการ ประชุม การประชาคม และการนาเสนอกิจกรรม ๗. ผลที่เกดิ ขนึ้ (ผลผลติ ผลลัพธ์) ศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านคลองกล้วยสามารถพัฒนาศักยภาพ สร้างแกนนากลุ่มเกษตรกรซึ่งมีจานวน ๒๐ คน ที่มีความรู้ความสามารถจากประสบการณ์จริงสามารถถ่ายทอดความรู้ได้ สร้างงาน สร้างอาชีพ และ รายไดเ้ สริมใหแ้ ก่คนในชุมชน ลดอัตราคนว่างงาน และการออกไปทางานต่างถ่ิน สรา้ งโอกาสในการเข้าถึงการ ผลิต และการบรโิ ภค สร้างสังคม จากการมเี วทแี ลกเปล่ียนเรยี นรู้ในชมุ ชนทุกเดอื น ๘. ผลกระทบท่ีเกิดข้นึ มีผลกระทบต่อมิติโครงสร้างพ้ืนฐานของชุมชนทั้ง ๕ ด้าน ได้แก่ (๑) ด้านสังคม เป็นแบบอย่างของการ ทาเกษตรปลอดสารให้กับคนในพ้ืนที่และพ้ืนท่ีใกล้เคียง (๒) ด้านเศรษฐกิจ ลดร่ายจ่ายให้ครัวเรือน เพิ่ม รายได้ (๓) ด้านสภาพแวดลอ้ ม ไดแ้ ก่ ดิน น้า ดขี น้ึ เนอ่ื งจากลดการสารเคมี และปรับเปลี่ยนวิถีการผลิตเป็น การใช้สารชีวภัณฑ์ทดแทน(๔) ด้านการเมือง ประชาชนได้มีร่วมคิดและแสดงความคิดท้ังในระดับกลุ่ม และ ระดับท้องถิ่น (๕) ด้านสุขภาพ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคจากการมีแหล่ง สร้างอาหารปลอดภัยในชมุ ชน ๑๕๖ 171

ภาพ1ท7ี่ ๔2.๒.๓ กลุ่มเกษตรปลอดสาร อาหารปลอดภยั

สรา้ งภมู ิ...คมุ้ นเิ วศ Key actors กลมุ่ เกษตรปลอดสาร อาหารปลอดภยั งานเดน่ เกษตรผสมผสานแบบพอเพยี ง งดการใช้สารเคมีโดยไม่จาเปน็ พ้ืนท่ี องค์การบรหิ ารส่วนตาบลทุง่ โพ ต.ทุ่งโพ อ. หนองฉาง จ. อุทัยธานี วิทยากร นายมานพ นฤคนธ์ ตาแหนง่ ประธานกลุ่มเกษตรปลอดสาร เบอรโ์ ทรศัพท์ ๐๘๒ - ๑๖๖๗๘๔๘ ๑. ท่มี าหรอื ฐานคิดของการดาเนินงาน กลมุ่ เกษตรปลอดสารอาหารปลอดภัยมีการรวมกลุ่มกันเพื่อทาเกษตรต้ังแต่ปี ๒๕๕๖ โดยมีนายมานพ นฤคนเป็นแกนนาที่ริเร่ิมทาเกษตรทาเกษตรผสมผสานแบบพอเพียง แนวคิดและแรงบันดาลใจในการทา เกษตร คือเกษตรและอาหารจาเปน็ ตอ่ การดารงชวี ิต ก่อนจะปลูกหรอื เลี้ยงอะไรควรมีการศึกษากอ่ น และควร งดการใชส้ ารเคมี โดยมีการปรับปรุงพ้ืนทีส่ ภาพดินโดยใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพทาเองจากมูลสัตว์และวัชพืช ขุดสระ นา้ เกบ็ นา้ ไว้ใช้ในการเกษตรช่วงหน้าแหง้ มกี ารไปศกึ ษาดงู านตา่ งพน้ื ท่ี กลุ่มเกษตรปลอดสาร มีการทาเกษตร ผสมผสานแบบพอเพียง ได้แก่ ทานา ปลูกไม้ยืนต้น ปลูกผลไม้ ปลูกผักสวนครัว โดยมีการใช้สารเคมี ประมาณ ร้อยละ ๓๐ ไมใ่ ชส้ ารเคมปี ระมาณ ร้อยละ ๗๐ มีการเล้ียงปลาดกุ ในกระชัง ส่วนในสระก็จะเลี้ยงปลา รวม เช่น ปลาสลิด ปลาทับทมิ เปน็ ตน้ ผกั และผลไม้ทไ่ี ดก้ ็จะทาไปวางขายทร่ี ้านค้าภายในอาเภอหนองฉาง ๒. กลุ่มประชากรเปา้ หมาย กลมุ่ เกษตรปลอดสารอาหารปลอดภยั จานวน ๒๗ คน ๓. ผลท่ีตอ้ งการให้เกิดขึน้ มกี ารทาเกษตรผสมผสานแบบพอเพียง ไดแ้ ก่ ทานา ปลกู ไมย้ ืนต้น ปลูกผลไม้ ปลูกผกั สวนครัว เลี้ยง ปลา บารุงดินโดยวิธีธรรมชาตแิ ละงดใช้สารเคมโี ดยไมจ่ าเป็น ๔. ข้อมลู และเครือ่ งมอื ในการดาเนนิ งาน ๔.๑ ขอ้ มูลสมาชิกกลุ่มเกษตรปลอดสารอาหารปลอดภัย ๔.๒ ข้อมูลทุนทางสังคมและศักยภาพของชุมชน ได้แก่ วิทยากรที่ให้ความรู้แนวทางการทาเกษตร พอเพยี งจากอบต. ๔.๓ งบประมาณจากอบต.ทุง่ โพในการพัฒนากลุ่มเกษตรปลอดสารอาหารปลอดภัยใหเ้ ป็นแหลง่ เรียนรู้ ๕. รปู ธรรมงาน กลุ่มเกษตรปลอดสาร อาหารปลอดภัยมีการรวมกลุ่มเพื่อทาเกษตรผสมผสานแบบพอเพียง ได้แก่ ทา นา ปลูกไมย้ ืนต้น ปลกู ผลไม้ ได้แก่ มะม่วงนา้ ดอกไม้ มะเฟอื ง มะกอกน้า มะละกอ ขนุน ละมุด กระท้อน พุทรา นมสด สม้ โอ ชมพู่ กล้วยน้าว้า กล้วยไข่ ฝรง่ั เปน็ ต้น ปลูกผกั สวนครวั เชน่ ขา่ ตะไคร้ โหระพา กระเพรา พริก ฟัก ถว่ั พู เปน็ ต้น โดยมีการใช้สารเคมีประมาณ ร้อยละ ๓๐ ไม่ใช้สารเคมีประมาณ ร้อยละ ๗๐ มีการบารุงดิน โดยใชป้ ุ๋ยหมักชวี ภาพทาเองจากมลู สตั ว์และวัชพชื มีการเลี้ยงปลาดกุ ในกระชงั เลย้ี งปลารวมในสระ เช่น ปลา สลิด ปลาทับทมิ ๖. วิธีการดาเนนิ งาน กลุ่มเกษตรปลอดสาร อาหารปลอดภัยมีการดาเนินงานและกิจกรรม โดยมีการเตรียมและการจัดสรร พ้นื ท่เี พ่ือทาการเกษตร โดยมีการเตรยี มดินโดยใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพทาเองจากมูลสัตว์และวัชพืช คัดเลือกเมล็ด พันธุ์เพ่ือเพาะปลูกให้เหมาะสมกับฤดูกาล ไม่ใช้สารเคมีโดยไม่จาเป็นในการดูแลบารุงรักษาดินและดูแล ผลผลติ ทาการเก็บเกี่ยวผลผลิต และการกระจายผลผลิตชุมชน ๑๕๘ 173

สรา้ งภมู .ิ ..คมุ้ นิเวศ ๗. ผลทีเ่ กิดขึน้ (ผลผลิต ผลลพั ธ)์ กลุ่มเกษตรปลอดสารอาหารปลอดภัยมีการเกษตรผสมผสานแบบพอเพียง มีการบารุงดินโดยใช้ปุ๋ย หมักชวี ภาพ และไมใ่ ชส้ ารเคมโี ดยไมจ่ าเปน็ ๘. ผลกระทบทีเ่ กดิ ขน้ึ มีผลกระทบต่อโครงสร้างชุมชนท้องถิ่น ได้แก่ ด้านสังคม มีการรวมกลุ่มทาเกษตรผสมผสานแบบ พอเพียง และดูแลช่วยเหลือกันภายในกลุ่มและในชุมชน ด้านเศรษฐกิจ มีการลดรายจ่ายต้นทุนในการผลิต ด้านสภาวะแวดล้อม มีความปลอดภัยจากสารเคมี ดินมีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ และด้านสุขภาพ สง่ ผลใหส้ ขุ ภาพแขง็ แรงจากการบริโภคผลผลติ ทม่ี ีความปลอดภัย 174 ๑๕๙

ภาพที่ ๔.๒.๔ กล่มุ วสิ าหกิจชุมชนปยุ๋ อนิ ทรยี ์ 175

สร้างภมู ิ...คมุ้ นเิ วศ Key actors กลมุ่ วิสาหกจิ ชมุ ชนปยุ๋ อินทรยี ์ งานเดน่ ผลิตปุ๋ยอนิ ทรีย์คุณภาพสูง พน้ื ท่ี เทศบาลตาบลปา่ เซ่า อาเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ วทิ ยากร นายสิทธิชัย มากโม ตาแหน่ง ประธานกลุม่ วสิ าหกจิ ชุมชนปุ๋ยอนิ ทรีย์ เบอรโ์ ทรศัพท์ ๐๘-๙๙๕๙-๑๑๕๖ ๑. ทม่ี าหรอื ฐานคดิ ของการดาเนินงาน กล่มุ วิสาหกจิ ชมุ ชนปุ๋ยอนิ ทรีย์นอ้ มนาหลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลท่ี ๙ เรื่องการระเบิดจากข้าง ในที่ทรงให้ประชาชน เป็นผู้คิดตัดสินใจ และทาด้วยตนเองมาเป็นแนวทางการแก้ปัญหา และช่วยเหลือ เกษตรกรท่ีได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจอย่างเหมาะสมกับพื้นท่ีและย่ังยืน เพ่ือเป็นแนวทางการ บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ระดับตาบลอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับความต้องการของ ชมุ ชน รวมถึงแนวนโยบายของรฐั ในระดับต่างๆ สร้างกระบวนการเรียนรู้โดยกระบวนการมีส่วนร่วมจากกลุ่ม เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องท้ังภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างการ เปล่ียนแปลง เปน็ แหล่งการสร้างหลกั สตู รการเรียนรู้ หลกั สูตรการดารงชีวิตตามวิถีเกษตรปลอดภัย เกษตร อนิ ทรยี ์ ของมหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช ภายใต้โครงการเสรมิ สรา้ งศักยภาพชุมชนและภาคใี นการจดั การ อาหารปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งตาบลป่าเซ่ามีประชากรท้ังหมด ๗,๕๐๖ คน ๒,๘๑๑ ครัวเรือน มคี รวั เรือนท่ีประกอบอาชพี ทางการเกษตร จานวน ๖๒๓ ครวั เรอื นรายไดเ้ ฉลี่ย ๑๐,๐๐๑ – ๒๐,๐๐๐ บาทต่อปี มีพ้ืนท่ีการเกษตร ๑๒,๓๘๕ ไร่ และจากข้อมูลสามะโนท่ีดินเพ่ือการพัฒนาที่ดิน ตามแผนการใช้ที่ดินระดับ ตาบลแบบบูรณาการ ตาบลป่าเซ่า อาเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ กรมพัฒนาที่ดิน ๒๕๕๕ พบว่าว่า เกษตรกรมกี ารใชป้ ยุ๋ เคมี ร้อยละ๑๗.๑๒ ปุ๋ยเคมีและปยุ๋ อนิ ทรีย์ ร้อยละ ๗๖.๐๓ ปุ๋ยอินทรีย์ ร้อยละ ๕ และไม่ ใช้ปุ๋ย ร้อยละ ๑.๓๗ และความต้องการความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ ด้านการควบคุมราคาปุ๋ยร้อยละ ๔๘.๖๓ ผลผลิตทางการเกษตรท่ีสาคัญได้แก่ ข้าว ข้าวโพดเล้ียงสัตว์ ข้าวโพดหวาน พืชผัก ไม้ผล และมีการ เล้ยี งสัตวเ์ ศรษฐกจิ จานวนมาก แต่เกษตรกรส่วนใหญ่ประสบปัญหาราคาผลผลผลติ ไม่แนน่ อน จาหนา่ ยไดใ้ น ราคาที่ต่า ตน้ ทุนการผลิตสูง ผลผลติ ทางการเกษตรมกี ารปนเปอื้ นสารเคมเี พราะเกษตรกรมีการใช้ปัจจัยการ ผลิต เช่น ปุ๋ยเคมี และสารเคมีในการป้องกันกาจัดศัตรูพืชจานวนมาก จากปัญหาดังกล่าวจึงมีการรวมตัว จัดตั้งกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดข้ึนในพ้ืนท่ีตาบลป่าเซ่า และได้ดาเนินการจดทะเบียนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดตาบลป่าเซ่า เพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดจากมูลสัตว์ท่ีมีจานวนมากในพื้นที่ จาหน่ายให้แก่เกษตรกรในราคาถูก โดยเทศบาลตาบลป่าเซ่าร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้นาผลการวิจัย พัฒนา \"ปุ๋ยอินทรีย์ คุณภาพสูง\" เพื่ออบรมและผลิตปุ๋ยให้แก่เกษตรกรในพ้ืนท่ีตาบลป่าเซ่า โดยจัดดาเนินโครงการถ่ายทอด เทคโนโลยี นาวัตถุดิบจากมลู สตั ว์ ทห่ี าได้ในทอ้ งถ่นิ เชน่ มูลโค มูลสุกร ตากแห้งแลว้ มาทาเปน็ ปุ๋ยหมัก มาทา การบดใหล้ ะเอยี ดผสมกบั ธาตอุ าหารชนดิ ต่างๆ ตามความต้องการของพชื และผลการวิเคราะหค์ ุณภาพดิน ทา ให้ได้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ใช้ทดแทนปุ๋ยเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มคุณภาพให้แก่ดิน และลดต้นทุน ทางการเกษตร ตลอดจนเป็นการเพ่ิมรายไดใ้ ห้กบั เกษตรกรเป็นการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรตามหลักปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพยี ง สามารถช่วยใหเ้ กษตรกรลดรายจ่ายในต้นทุนการผลิตพืชต่างๆ ได้ และมรี ายไดเ้ สริมในการ ผลิตปุ๋ยเพื่อจาหน่ายให้เกษตรกร ตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนต่างๆมีการ ประกอบอาชีพภายในชุมชน โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรในชุมชนน้ันๆ ก่อให้เกิดมูลค่าเพ่ิมเชิงเศรษฐกิจ โดย การสร้างเป็นผลผลิตท่ีช่วยสร้างเศรษฐกิจในชุมชน ให้พึ่งพาตนเองได้ รวมท้ังมีความต้องการให้มีการขยาย ผลการใช้ป๋ยุ อนิ ทรยี ์และมสี ว่ นรว่ มในการผลติ และการใชเ้ กดิ เครอื ข่ายภาคประชาชนในพ้ืนท่ีจึงดาเนินการให้มี รปู แบบการผลิตเพือ่ ใชแ้ ละจาหนา่ ยในราคาประหยัด แต่การผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดเหมาะสาหรับการอัดเม็ด 176 ๑๖๑

สร้างภมู ิ...คมุ้ นเิ วศ ปยุ๋ หมักจากมูลสตั ว์ ซึง่ ในพ้ืนที่ตาบลป่าเซ่ายังมีเศษวสั ดทุ างการเกษตรอีกเปน็ จานวนมากเช่น เปลือกและซัง ขา้ วโพด ฟางข้าว เปลอื กถ่วั ฯลฯ จึงมกี ารพัฒนารปู แบบการดาเนินการอย่างต่อเนื่องโดยประยุกต์วิธีการผลิต ปุ๋ยจากเศษวัสดุทางการเกษตรในการทาปุ๋ยหมักอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์น้าและสารไล่แมลงจนสามารถ ดาเนินการจัดตั้งเป็นธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ตาบลป่าเซ่า มีการดาเนินการแบ่งปันในรูปของปุ๋ยเพื่อใช้มีการฝาก การถอน การกยู้ ืม และมีความยง่ั ยืนตามแนวทางเศรษฐกิจพอพอเพยี ง ๒. กลมุ่ ประชากรเปา้ หมาย ครวั เรอื นท่ปี ระกอบอาชีพทางการเกษตร จานวน ๖๒๓ ครัวเรือน ๓. ผลท่ีต้องการใหก้ ิดข้นึ ๓.๑ เพ่ิมศักยภาพการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชุมชนให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการในชุมชนโดยปุ๋ย อนิ ทรีย์อัดเมด็ ที่ผลติ ได้ จานวน ๑๐๐ ตนั /ปี ป๋ยุ หมกั อินทรยี ์ จานวน ๕๐ ตนั /ปี ปุ๋ยอนิ ทรีย์น้าและสารไล่แมลง จานวน ๕,๐๐๐ ลิตร/ปี ๓.๒ เป็นทางเลือกหนึ่งให้เกษตรกร ในการลดปริมาณหรือทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมีและปรับเปล่ียน กระบวนการผลิตโดยการใชป้ ุย๋ อนิ ทรีย์ ในการผลิตพืชเพอ่ื ลดต้นทุนการผลิตพืช ลดปัญหาผลกระทบจากการ เสอ่ื มโทรมของทรพั ยากรดนิ และสงิ่ แวดล้อม ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพยี ง ๓.๓ เกษตรกรองค์กรชุมชนมีกระบวนการเรียนรู้และร่วมมือกันในการพัฒนาทรัพยากรท่ีมีอยู่ให้เกิด ประโยชนส์ งู สดุ และมสี ่วนในการฟืน้ ฟสู ่ิงแวดล้อม ๓.๔ สร้างงาน สร้างรายได้ ลดรายจ่าย สร้างแหล่งอาหารให้ปลอดภัย และเกิดความร่วมมือระหว่าง ประชาชนกับภาคราชการ ในรูปแบบประชารัฐเพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน และเป็นเป็นต้นแบบการผลิต ทางการเกษตรปลอดภัยสาหรบั ผู้ผลิตและผู้บรโิ ภค ขยายเครอื ขา่ ยของเกษตรกร ๔. ขอ้ มูลและเครื่องมือในการดาเนนิ งาน ข้อมูลแผนพฒั นาการเกษตรตาบลปา่ เซ่า แผนพัฒนา ๓ ปี สามะโนท่ดี ินเพื่อการพัฒนาท่ีดิน แผนการใช้ ทด่ี นิ ระดบั ตาบลแบบบูรณาการ ตาบลปา่ เซา่ จากแหล่งข้อมูล TCNAP, RECAP และเอสาร ข้อมูลจากแหล่ง อ่ืนๆ ทเ่ี ก่ียวข้อง ๕. รูปธรรมงาน ปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดคุณภาพสูง ปุ๋ยอินทรีย์สูตรพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา สยามบรม ราชกุมารี ปุ๋ยอินทรีย์น้า ฮอร์โมน และสารอินทรีย์ไล่แมลง มีการจัดตั้งธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ตาบลป่าเซ่า เพ่ือ ให้บริการอย่างเอ้ืออาธรและสง่ เสรมิ การทาการเกษตรปลอดภยั และเกษตรอนิ ทรีย์ในพ้นื ท่ี จานวน ๑ แหง่ ๖. วิธีการดาเนนิ งาน ภาคประชาชน ได้แก่ ผ้นู าชุมชน และแกนนาเกษตรกร ทัง้ ๘ หมูบ่ ้าน ร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ ท้ังใน รูปแบบกิจกรรมอาสา และรูปแบบคณะกรรมการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร ประชาสัมพันธ์ใน รูปแบบปากต่อปาก และการให้ความร่วมมือในทุกขั้นตอนการดาเนินงาน กลุ่มวิสาหกิจผลิตปุ๋ยอินทรีย์ อัดเม็ดตาบลป่าเซ่าดาเนินการผลิต บริหารจัดการกลุ่ม โดยมีกลุ่มเกษตรปลอดสารพิษตาบลป่าเซ่า สาธิต การใช้เพอ่ื สรา้ งความเช่อื ม่นั ใหค้ นในชมุ ชนใช้ปยุ๋ อินทรยี ์ เกษตรกรผู้เล้ียงสัตวใ์ นพ้นื ทีต่ าบลป่าเซ่า นามูล สตั ว์มาร่วมผลิตปุ๋ย แลกเปลี่ยนปุ๋ยอินทรีย์กับธนาคารเพื่อสร้างความต่อเน่ืองในการผลิต ประชาชนในพ้ืนที่ ตาบลป่าเซา่ นาวัตถุดิบทส่ี ามารถผลติ ปุ๋ยอนิ ทรยี ์ และปุ๋ยอินทรีย์น้าได้ มาแลกเปลี่ยนกับปุ๋ยของธนาคารปุ๋ย อินทรีย์ตาบลป่าเซ่า ภาครัฐ ได้แก่ กรมพัฒนาที่ดิน โดยสถานีพัฒนาท่ีดิน อุตรดิตถ์ พัฒนาส่งเสริมและ ถ่ายทอดเทคโนโลยีการจัดการทรัพยากรดิน เช่น การปรับปรุงบารุงดิน การขับเคล่ือนเกษตรอินทรีย์ การ จัดทาแผนการใช้ท่ีดินแบบบูรณาการ เป็นต้น เพ่ือเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร พร้อมทั้งอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมอย่างย่ังยืน /สนับสนุนงบประมาณตามสภาพปัญหา สถาบันวิจัย วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) โดยฝ่ายเทคโนโลยีการเกษตร ดาเนินการถ่ายทอด ๑๖๒ 177

สรา้ งภูม.ิ ..คมุ้ นิเวศ เทคโนโลยีแบบบรู ณาการเพ่อื พฒั นาชนบท/สนบั สนนุ เคร่อื งจักร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยสานักงาน เกษตรจังหวัด สานักงานเกษตรอาเภอเมืองอุตรดิตถ์ ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ การทาเกษตรอินทรีย์ และ เทศบาลตาบลป่าเซ่าให้ความสาคัญกับภาคเกษตร สนับสนุนการดาเนินการในทุกรูปแบบ จัดเวทีชุมชน เพ่ือให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการวางแผนการดาเนินงาน งบประมาณดาเนินงาน จัดการฝึกอบรมถ่ายทอด ความรู้ ส่งเสริมการผลิต การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในพ้ืนที่ และศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจาตาบล กองทุนหลักประกันสุขภาพ ประสานของบประมาณในการดาเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และกองทุน หลักประกันสุขภาพตาบลป่าเซ่า สนับสนุนงบประมาณดาเนินงานการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เกษตรปลอดภัย การ รณรงค์การทาเกษตรปลอดภัย การสะท้อนถึงปัญหาที่ส่งผลกระทบด้านด้านสุขภาพ ด้านสิ่งแวดล้อม จาก การใชส้ ารเคมี นอกจากนน้ั ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ในพื้นท่ี จาหน่ายมูลสัตว์ที่เหลือจากระบบการผลิตก๊าซ ชีวภาพในราคาถูกเพอื่ สนับสนนุ การใช้ปุ๋ยอนิ ทรีย์ รา้ นจาหน่ายสินค้าในพืน้ ทตี่ าบล ให้ความร่วมมอื ในการฝาก ประชาสัมพันธ์และการจาหน่ายปุ๋ยอินทรีย์ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดตาบลป่าเซ่า เน้น การเข้าถึงของคนในชมุ ชน ๗. ผลที่เกดิ ข้นึ (ผลผลิต ผลลัพธ์) ๗.๑ มกี ารฝึกอบรม การถ่ายทอดความรู้โดยมีจานวนผูเ้ ข้ารับการถา่ ยทอดเทคโนโลยี ๑๐๐ คนจานวน ๒ ครง้ั /ปี วทิ ยากรชุมชนที่มคี วามเชย่ี วชาญในเทคโนโลยีที่ถ่ายทอด จานวน ๒ คน ๗.๒ กลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ดาเนินการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนปุ๋ยเคมี จานวน ๑๐๐ ตัน /ปี ปุ๋ยหมัก อนิ ทรีย์ จานวน ๕๐ ตัน/ปี ปุย๋ อนิ ทรีย์นา้ และสารไลแ่ มลง จานวน ๕,๐๐๐ ลิตร/ปี ๗.๓ การจ้างแรงงาน สาหรับเกษตรกรที่รายได้น้อยและว่างงานในช่วงวิกฤตภัยแล้ง จานวน ๖๖ ราย ๑,๖๓๖ แรง มลู ค่าการจา้ งแรงงาน ๔๙๐,๘๐๐ บาท คา่ วัสดุอปุ กรณ์ ๔๙๐,๓๙๐ บาท ๘. ผลกระทบทเ่ี กดิ ขึ้น ต่อ ๕ มิติโครงสร้างพื้นฐานของชุมชน (๑) ด้านสังคม สมาชิกกลุ่มที่เป็นผู้สูงอายุ มีพื้นท่ีสร้างสรรค์ใน การทากิจกรรม มีสร้างการดูแล ชว่ ยเหลอื กัน(๒) ด้านสขุ ภาพ สร้างแหลง่ อาหารให้ปลอดภัย ลดการเกิดโรค จากการใช้สารเคมี (๓) ดา้ นเศรษฐกจิ ส่งเสริมอาชีพทาให้เกิดรายได้ในครอบครัวและการลดค่าใช้จ่ายต้นทุน ในการผลิต (๔)ด้านสภาวะแวดล้อม ลดมลภาวะจากการใช้สารเคมี (๕) ด้านการเมือง จากการทาประชาคม ประชาชนมีส่วนร่วมในการวางแผนการดาเนินงาน งบประมาณดาเนินงาน จัดการฝึกอบรมถ่ายทอดความรู้ ส่งเสรมิ การผลติ การใช้ปยุ๋ อนิ ทรยี ใ์ นพนื้ ท่ี 178 ๑๖๓

ภาพที่ ๔.๒.๕ กลมุ่ ผูใ้ ช้น�้ำคลองแมร่ ะกา 179

สรา้ งภมู .ิ ..คมุ้ นิเวศ Key actors กลมุ่ ผ้ใู ช้นา้ คลองแม่ระกา งานเดน่ จดั การน้าอยา่ งทวั่ ถึงจากตน้ นา้ ส่ปู ลายน้า พน้ื ท่ี องค์การบริหารสว่ นตาบลวังประจบ อาเภอเมืองตาก จงั หวัดตาก วิทยากร นายวเิ ชียร บบุ ผาตาแหน่ง คณะกรรมการ ๑. ท่มี าหรอื ฐานคิดของการดาเนินงาน ตาบลวังประจบประกอบอาชีพเกษตรกรเป็นส่วนใหญ่จานวน ๓๐๐๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๙.๐๘ จาก จานวนผปู้ ระกอบอาชพี ท้งั หมด ๕,๐๑๘ คน มีแม่น้าคลองแม่ระกาไหลผ่านพื้นที่ตาบลวังประจบ อาเภอเมือง ตา จังหวัดตาก ในหมู่ท่ี ๑ หมู่ที่๒ หมู่ท่ี ๓ หมู่ที่ ๔ หมู่ท่ี ๕ หมู่ท่ี ๙ จึงเกิดการจัดสรรปันน้าเพื่อใช้ในการทา การเกษตร โดยมีการตั้งกฎ กติกา ในการร่วมกันดูแลรักษาเพ่ือให้มีน้าใช้เพียงพอตลอดทั้งปี ระดมความคิด การมีสว่ นรว่ มเรอื่ งความร่วมมือในการอนุรักษ์และใช้น้า จึงเกิดการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้าคลองแม่ระกาข้ึน และมี การคัดเลือกคณะกรรมการเครือข่ายผู้ใช้น้าคลองแม่ระกา เพ่ือกาหนด กฎ ระเบียบ ข้อตกลงรักษา ผลประโยชนข์ องผ้ใู ช้น้าอย่างเท่าเทียมและทัว่ ถงึ กนั ๒. กลุ่มประชากรเปา้ หมาย เกษตรกรผูใ้ ช้น้า ๙๑๕๘ ครัวเรือน ๓. ผลทตี่ อ้ งการให้เกดิ ข้นึ เกษตรกรมีน้าใชส้ าหรบั การทาเกษตรอยา่ งเพียงพอ เชน่ การทานาปี และการปลูกพืชใช้น้าน้อยช่วงหลัง ฤดูกาลเก็บเกี่ยว มีฝายกักเก็บน้าใช้ตลอดลาคลองตลอดท้ังปีท้ังท่ีใช้สาหรับเล้ียงสัตว์ ทาการเกษตร และ สง่ เสริมการปลูกพชื บารงุ ดินระยะสั้น เชน่ ถวั่ เหลือง ถั่วเขียว ๔. ขอ้ มลู และเครือ่ งมือในการดาเนนิ งาน ข้อมูลท่ีได้จากแหล่งข้อมูล TCNAP, RECAP เอกสารและข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการการ จัดการน้า ไดแ้ ก่ ขอ้ มูล จปฐ. กชช.๒ค ๕. รูปธรรมงาน ๕.๑ กจิ กรรมคลองสวยน้าใส ๕.๒ รณรงคป์ ระชาสมั พันธใ์ หค้ วามร้ใู นการอนรุ ักษแ์ ละการใช้นา้ ๕.๓ ปลูกพืชใช้น้าน้อยทดแทนการทานาปรัง และปลูกหญ้าแฝกตามแนวทางพระราชดาริเพ่ือการ อนรุ ักษด์ นิ และน้า ๖. วธิ ีการดาเนนิ งาน จัดตงั้ คณะกรรมการเครอื ข่ายผู้ใช้นา้ คลองแม่ระกา โดยแต่ละหมู่บ้านทม่ี คี ลองแม่ระกาไหลผ่านต้องร่วม เป็นคณะกรรมการ มีอานาจหน้าที่ คือ รับทราบปัญหาจากผู้ใช้น้า ความต้องการโดยผ่านกระบวนการ ประชาคมหมู่บ้าน การจัดการน้าท่ีเหมาะสมเพื่อกระจายน้าอย่างท่ัวถึงจากต้นน้าสู่ปลายน้า และขอรับการ สนับสนุนจากหน่วยงานรัฐเพ่ือปรับปรุงและพัฒนาไม่ให้ลาคลองตื้นเขิน มีกิจกรรมปลูกจิตสานึกในการ อนุรักษ์น้าให้เด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไป ได้แก่ กิจกรรมคลองสวยน้าใสท่ีมีการดาเนินการร่วมกัน ระหวา่ ง ผู้นาชุมชน คณะกรรมการหมู่บา้ น หนว่ ยงานราชการในพืน้ ที่ โรงเรียน และองค์การบรหิ ารส่วนตาบล วังประจบ รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในการอนุรักษ์และการใช้น้า โดยมีผู้นาชุมชน คณะกรรมการ หมู่บ้าน กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การบริหารส่วนตาบลวังประจบร่วมดาเนินการ สง่ เสริมให้มีการปลกู พชื ใช้นา้ นอ้ ยทดแทนการทานาปรัง โดยมีกานัน-ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้านเป็น แกนนาในการขอความร่วมมือเกษตรกรในชุมชน ให้การสนับสนุนโดยสานักงานเกษตรอาเภอเมืองตากและ องค์การบริหารสว่ นตาบลวงั ประจบ และสง่ เสริมการปลูกหญ้าแฝกตามแนวทางพระราชดาริเพ่ือการอนุรักษ์ 180 ๑๖๕

สร้างภูมิ...คมุ้ นิเวศ ดินและน้า โดยมีผนู้ าชุมชนและหมอดินอาสาเป็นแกนนาหลกั ในการเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมโครงการ มีผู้ให้ การสนบั สนุน คอื หนว่ ยงานราชการในพ้ืนท่ี สานกั งานพฒั นาทด่ี ิน และองค์การบรหิ ารส่วนตาบลวังประจบ ๗. ผลทเ่ี กิดข้นึ (ผลผลติ ผลลพั ธ)์ ๗.๑ มีฝายกักเก็บนา้ ใชต้ ลอดทั้งปี จานวน ๕ ฝาย ๗.๒ เกิดการพฒั นาขุดลอกลาคลองไม่ใหต้ ื้นเขนิ ๗.๓ เกษตรกร ๙๑๕๘ ครวั เรอื น มแี หล่งนา้ ในการทาการเกษตรอย่างเพียงพอ ๗.๔ เกิดจิตสานกึ ในการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรน้าในชุมชน ๘. ผลกระทบทเี่ กิดขึ้น มผี ลกระทบต่อโครงสร้างชุมชนท้องถ่ิน ได้แก่ ๑) ด้านสังคม เกิดเครือข่ายผู้ใช้น้าคลองแม่ระกา ทาให้มี แหล่งน้าในการทาการเกษตรอย่างเพียงพอ ๒) ด้านเศรษฐกิจ ลดรายจ่ายต้นทุนในการทาเกษตร ๓) ด้าน สภาวะแวดลอ้ ม แหล่งน้ามคี วามอดุ มสมบรู ณต์ ามธรรมชาติ ๑๖๖ 181

ภาพ1ท8ี่ ๔2.๒.๖ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บลหวั ดง

สรา้ งภูม.ิ ..คมุ้ นิเวศ Key actors องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลหัวดง งานเด่น แหล่งทอ่ งเทีย่ วบึงหวั ดงสามัคคี พน้ื ท่ี องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลหัวดง อาเภอเมือง จงั หวัดพิจติ ร วิทยากร นายมนญู ดิษเสถยี ร ตาแหน่ง นายกองคก์ ารบริหารส่วนตาบลหัวดง เบอรโ์ ทรศพั ท์ ๐๘๑-๕๓๒๖๑๕๙ ๑. ที่มาหรอื ฐานคดิ ของการดาเนนิ งาน บึงหวั ดงสามัคคี หรืออ่างเก็บน้าแก้มลิงทุ่งคลองคันของตาบลหัวดง มีพ้ืนที่จานวน ๔๔๔ ไร่ เป็นแหล่ง รองรับและกักเก็บน้าไว้ใช้เพ่ือการเกษตรของเกษตรกรในพื้นที่ตาบลหัวดง ซึ่งประชาชนในเขตพื้นท่ีตาบลหัว ดง ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมมีจานวน ๔๙๒ คน โดยทานาเปน็ อาชีพหลัก ๔๖๗ คน ร้อยละ ๙๔.๙๒ ทาสวน ทาไร่ ๑๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๒.๒๔ เลี้ยงสัตว์และประมง ๑๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๒.๘๔ ปัจจุบันมี ประชาชนในตาบลหัวดงและนอกตาบลได้เข้ามาใช้ประโยชน์ในสถานท่ีแห่งนี้เพิ่มมากขึ้น ทั้งมาหาปลา มา พักผ่อนกับครอบครัว รวมถึงเป็นแหล่งเพาะพันธ์ุสัตว์น้าในพื้นที่ด้วยจุดเด่นสาคัญของบึงหัวดงสามัคคี คือ เป็นแหล่งน้าธรรมชาติที่ติดถนนสายหลักคือถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข ๑๓๐๔ ซ่ึงเป็นเส้นทางท่ี เชื่อมต่อระหว่างตาบลหนองปล้อง ตาบลบ้านบุ่ง ตาบลฆะมัง ที่สาคัญแหล่งน้าแห่งนี้ยังเป็นแหล่งน้าที่ เกษตรกร ๒ ตาบล คอื ตาบลหัวดง และตาบลบา้ นบุง่ ได้ใชป้ ระโยชนใ์ นการทาการเกษตรร่วมกนั อีกดว้ ย ทั้งน้ี ในฤดปู ลูกข้าว หรือมีการเกษตร ประชาชนทั้ง ๒ ตาบล ก็จะได้มีการประชุมเพ่ือปรึกษาหารือ เพื่อกาหนดกฎ กตกิ า ในการเปิด-ปิดประตูระบายน้าในพื้นที่ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ นายมนูญ ดิษเสถียรประธานกองทุนหมู่บ้าน ตาบลหัวดง ได้เล็งเห็นว่าในพื้นท่ีตาบลหัวดง มีทรัพยากรธรรมชาติท่ีสามารถจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ของคนในตาบลหัวดงและตาบลใกลเ้ คียง จึงได้ประชุมปรึกษาหารือร่วมกันกับประธานกองทุนหมู่บ้านทุกหมู่ รวม ๘ หมู่บา้ นในพ้นื ที่ตาบลหัวดง คือ หมู่ที่ ๑ บ้านหัวดง หมู่ท่ี ๓ บ้านเขาพระ หมู่ที่ ๔ บ้านเนินยาว หมู่ที่ ๕ บ้านหนองนาดา หมู่ท่ี ๖ บ้านน้าโจนเหนอื หมู่ท่ี ๗ บ้านหัวดง หมู่ที่ ๘ บ้านหัวดง และหมู่ท่ี ๙ บ้านปากคลอง ซ่ึงทั้งประธานกองทุนทั้ง ๘ หมู่บ้าน ได้ประชุมปรึกษาหารือจนได้ข้อสรุปร่วมกันในการแปรสภาพพ้ืนที่ที่ว่าง เปล่า ให้กลายเป็นแหล่งท่องเท่ียว โดยได้ประสานขอใช้พ้ืนที่กับองค์การบริหารส่วนตาบลหัวดง ในการ ก่อสร้างเป็นแหล่งท่องเท่ียวในพื้นที่ตาบลหัวดง มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ในพ้ืนที่ เพ่ิมพ้ืนท่ีสีเขียว ต้นไม้ ตาม แนวอ่างเก็บน้าให้กลายเป็นสถานท่ีพักผ่อนหย่อนใจท่ีสวยงามเป็นธรรมชาติ ภายใต้การบริหารจัดการของ คณะกรรมการกองทนุ หม่บู ้านท้งั ๘ หมู่บา้ น ทาให้ประชาชนมรี ายไดเ้ พิ่มมากขึ้น ๒. กลุม่ ประชากรเป้าหมาย ประชาชนในตาบลหัวดง ๑๒๘ ครัวเรือน จานวน ๕๓๖ คน ๓. ผลทีต่ ้องการใหเ้ กิดข้ึน พฒั นาบึงหัวดงสามัคคี หรอื อ่างเก็บน้าแกม้ ลงิ ทุง่ คลองคนั ของตาบลหัวดงเปน็ แหล่งท่องเท่ยี ว ๔. ขอ้ มูลและเครอ่ื งมอื ในการดาเนินงาน ข้อมูลนาใช้ได้แก่ แผนพัฒนาตาบลหัวดง และจากแหล่งขอ้ มูล TCNAP , RECAP และขอ้ มลู จากแหล่ง อ่ืนๆท่ีเก่ียวขอ้ งไดแ้ ก่ ข้อมลู จปฐ. กชช. ๒ค ขอ้ มูลสุขภาพจากรพ. สต ๕. รูปธรรมงาน บงึ หัวดงสามคั คี หรอื อา่ งเก็บน้าแก้มลงิ ทุ่งคลองคันของตาบลหัวดง มีแพกลางน้า เป็นแหล่งท่องเท่ียว ของชมุ ชน ซ่งึ คนในชุมชนและพน้ื ทีใ่ กล้เคยี งใช้เปน็ สถานท่ีพักผ่อนหยอ่ นใจ ๖. วธิ ีการดาเนินงาน ผู้นาชุมชนและอบต.หัวดง ร่วมกันคิด จัดประชุมประชาคมปรึกษาหารือหาข้อสรุปร่วมกันในการแปร สภาพพื้นท่ีว่างเปล่าให้กลายเป็นแหล่งท่องเท่ียว โดยระดมทุนจากเงินกองทุนหมู่บ้าน และจัดตั้ง ๑๖๘ 183

สรา้ งภูม.ิ ..คมุ้ นิเวศ คณะกรรมการบริหารจัดการบึงหัวดงสามัคคี โดยให้ประชาชนในพ้ืนท่ีเสนอบุคคลขึ้นเป็นคณะกรรมการ หลงั จากนัน้ ดาเนนิ การปรับปรุงภมู ทิ ัศน์ เพ่ิมพ้ืนท่ีสีเขียว โดยปลูกต้นไม้รอบๆ บึงหัวดงสามัคคี ให้กลายเป็น แหลง่ พกั ผ่อนหยอ่ นใจ พร้อมทง้ั สร้างแพลอยน้าแบบเคลื่อนท่ีในการนั่งชมวิวทิวทัศน์บรรยากาศรอบบึงหัว ดงสามคั คี นอกจากนั้นบึงหัวดงสามัคคียงั เป็นแหล่งนา้ ทีเ่ กษตรกร ๒ ตาบล คือ ตาบลหัวดง และตาบลบ้าน บุ่ง ซ่งึ ประชาชนไดใ้ ชป้ ระโยชน์ในการทาการเกษตรโดยในฤดูปลกู ข้าว หรอื ฤดูทม่ี กี ารทาเกษตรกรรมประชาชน ทั้ง ๒ ตาบล ก็จะได้มีการประชุมเพื่อปรึกษาหารือ เพ่ือกาหนดกฎ กติกา ในการเปิด-ปิดประตูระบายน้าใน พื้นท่ี การพัฒนาเป็นแหล่งท่องเท่ียวทาให้เกิดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างการมีส่วนร่วม โดยจัดสรร ร้านคา้ ให้แก่หม่บู ้านทเ่ี ปน็ สมาชกิ นาสินคา้ มาจาหน่ายใหก้ บั นักท้องเท่ียว ๗. ผลท่เี กิดขึ้น (ผลผลติ ผลลพั ธ)์ ประชาชนเห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติ ปลูกจิตสานึกในการช่วยกันดูแลรักษาและร่วมกันเป็น เจ้าของทาให้เกิดการสร้างรายได้เพิ่มข้ึนจากการพัฒนาบึงหัวดงเป็นแหล่งท่องเท่ียว ได้แก่ การจาหน่าย อาหาร เคร่อื งดม่ื คา่ บริการแพกลางน้า รายได้จากการวง่ิ เรือ ผลิตภัณฑช์ ุมชน สินคา้ OTOP ๘. ผลกระทบท่เี กดิ ขึ้น ส่งผลต่อโครงสร้างพ้ืนฐานของชุมชน ได้แก่ (๑) ด้านสังคม สร้างการมีส่วนร่วมในชุมชนในการจัดการ แหล่งทรัพยากรในพื้นท่ี (๒) ด้านเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ให้กับคนในชุมชน และลดต้นทุนการผลิตในการทา เกษตรกรรม (๓) ด้านสภาวะแวดล้อม อนุรกั ษ์และมีการรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในพน้ื ที่ 184 ๑๖๙

ภาพที่ ๔.๒.๗ กลุ่มป่าชุมชนบ้านลานเตง็ ตามแนวพระราชดำ� ริ 185

สรา้ งภูมิ...คมุ้ นเิ วศ Key actors กลมุ่ ป่าชมุ ชนบา้ นลานเต็ง ตามแนวพระราชดาริ งานเดน่ โครงการพัฒนาป่าชมุ ชนบ้านลานเตง็ ตามแนวพระราชดาริ พื้นที่ องค์การบริหารส่วนตาบลวงั ประจบ อาเภอเมืองตาก จงั หวดั ตาก วทิ ยากร นายสมพร เหลอื บุญนมุ่ ตาแหนง่ ผใู้ หญ่บา้ นหมทู่ ่ี ๙ ๑. ทม่ี าหรือฐานคิดของการดาเนินงาน ป่าชุมชนบ้านลานเตง็ ตาบลวังประจบเปน็ แหล่งทรพั ยากรธรรมชาตทิ ่สี าคญั ของการใช้ประโยชน์ของหมู่ ๙ ตาบลวังประจบ อาเภอเมอื งตาก จงั หวัดตากและพน้ื ท่ใี กล้เคียง หากแต่การใชป้ ระโยชน์ร่วมกันได้เกิดการ ทาลายป่าไม้กันมาก ชุมชนจึงมีความคิดร่วมกันในการที่จะรักษาป่าไว้โดยถวายฎีกาเพ่ือขอพระราชทานพระ มหากรุณารับโครงการพัฒนาป่าไม้บ้านลานเต็งไว้เป็นโครงการสืบเนื่องมาจากพระราชดาริ ซึ่ง พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช รชั กาลท่ี๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯรับพัฒนาป่าไม้ บ้าน ลานเต็งไว้เป็นโครงการโครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดาริ เม่ือวันท่ี ๑ ตุลาคม ๒๕๕๑ เพื่ออนุรักษ์สภาพป่า เบญจพรรณและไม้เต็งรังให้สามารถฟ้ืนกลับคืนสู่ระบบนิเวศตามที่นายชนะ ม่วงมิตร ซ่ึงดารงตาแหน่ง ผู้ใหญ่บ้านในขณะน้ันได้ขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ หลังจากได้มีการจัดตั้งป่าไม้ บ้านลานเต็งเป็น โครงการโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดาริแล้ว ทางหมู่ที่ ๙ และพื้นท่ีใกล้เคียงได้มีกิจกรรมต่างๆในการ อนุรักษป์ า่ ชุมชนบา้ นลานเต็ง ๒. กลุ่มประชากรเป้าหมาย ประชาชนในพน้ื ท่หี ม่ทู ่ี ๙ จานวน ๓๐๐ ครวั เรอื น และพนื้ ทใ่ี กล้เคยี ง ๓. ผลท่ตี อ้ งการให้เกิดขึ้น ผู้นาชุมชน และประชาชนในพื้นท่ีได้เล็งเห็นถึงความสาคัญของทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรป่าไม้ใน พ้ืนท่ี สภาพผืนป่าท่ีควรค่าแก่การรักษาให้คงอยู่ให้ลูกหลาน ได้ใช้ประโยชน์จากป่าชุมชน เช่น มีแหล่งอาหาร จากป่า ๔. ขอ้ มูลและเครอื่ งมือในการดาเนินงาน ขอ้ มลู ท่ไี ดจ้ ากแหลง่ ขอ้ มูล TCNAP, RECAP เอกสาร ข้อมูลจากแหล่งอืน่ ๆ ที่เกยี่ วขอ้ งกับการดูแลป่าไม้ ขอ้ มลู จปฐ. กชช.๒ค ๕. รูปธรรมงาน แนวทางการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ จาการมีส่วนร่วมของภาครัฐและประชาชน กระบวนการสร้าง ความสามัคคีในการรักษาไว้ซ่ึงธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เช่น มีการเพาะกล้าไม้เพ่ือการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ ท้องถ่ิน ๖. วธิ ีการดาเนินงาน จัดตง้ั กล่มุ ปา่ ชุมชนบ้านลานเต็ง ตามแนวพระราชดาริ เปน็ แนวคดิ ใหค้ นในชุมชนรู้รักษาอนุรักษ์และห่วง แหนป่าในพื้นที่ ผู้นาชุมชนและประชาชนของชาวบ้าน หมู่ ๙ บ้านลานเต็ง ตาบลวังประจบ อาเภอเมือง จังหวัดตากจึงทาการถวายฎีกาผ่านทางราชเลขาธิการ สานักพระราชวัง เพ่ือให้นาพ้ืนท่ีบริเวณดังกล่าวเข้า ร่วมเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดาริเพ่ือให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากพ้ืนท่ีป่าไม้อย่างย่ังยืน เป็น การรวมกลุ่มเพ่ือการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนทั้งในการปลูกป่าและอนุรักษ์ พันธ์ุพืช สร้างธรรมชาติและสร้างอาหารจากป่า กลุ่มป่าชุมชนบ้านลานเต็ง ตามแนวพระราชดาริดูแลป่า ร่วมกับกรมป่าไม้ มีกิจกรรมร่วมกันในการมีส่วนร่วมอนุรักษ์พันธ์ุพืช ปลูกป่าร่วมกัน จัดทาแนวกันไฟ และ ลาดตระเวนตรวจดูแลป่า โดยกิจกรรมของป่าชุมชนบ้านลานเต็งตามพระราชดาริ หมู่บ้านลานเต็งได้ร่วมกับ กรมปา่ ไม้ ซึง่ กรมป่าไมน้ ั้นเปน็ ผสู้ นับสนุนและเปน็ ที่ปรกึ ษาใหก้ บั โครงการ งานสว่ นแรกของโครงการ คือ การ อนรุ กั ษ์พนั ธกุ รรมพืชท้องถนิ่ พืชพนื้ เมอื งในทอ้ งทตี่ าบลซึ่งมีการเก็บฐานข้อมูลพันธ์ุพืชในท้องถิ่นไว้เพื่อไม่ให้ 186 ๑๗๑

สรา้ งภมู ิ...คมุ้ นิเวศ สูญหายไปตามกาลเวลาและเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเยาวชนและประชาชนท่ีสนใจเข้ามาศึกษาหาความรู้ได้ ส่วนของงานหรือกิจกรรมอีกหนึ่งอย่าง คือ การขยายพันธุ์พืช เป็นการเพาะพันธ์ุไม้ยืนต้นเพ่ือใช้ในกิจกรรม ต่างๆ ที่สาคัญ เช่น การปลูกต้นไมเ้ นอื่ งในวนั พ่อและวนั แม่ และการปลกู ป่าเนื่องในวันต้นไม้โลก ส่วนราชการ หรือประชาชนทั่วไป สามารถมาขอรับกล้าไม้เพ่ือนาไปปลูกในพื้นท่ีป่าของหมู่บ้านของตนได้ ตัวอย่างต้นไม้ท่ี ทาการขยายพันธุ์ เชน่ ไม้แดง ไมส้ ัก ไม้มะคา่ เป็นต้น ๗. ผลท่เี กิดข้นึ (ผลผลติ ผลลัพธ์) ๗.๑ มหี นว่ ยงานรัฐ รว่ มกับหมบู่ า้ นในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติของชุมชนนี้สามารถแก้ปัญหา ไดโ้ ดยความร่วมมือและมีส่วนรว่ มของชุมชน ๗.๒ มคี วามสามัคคกี ันในการรกั ษาไวซ้ ่ึงธรรมชาตโิ ดยมแี นวทางพระราชดารเิ ปน็ สงิ่ ยดึ เหนีย่ ว ๗.๓ มีแหล่งขยายพันธุ์พืช เพาะกล้าไม้ อนุรักษ์พันธ์ุไม้ท้องถิ่น มีการปลูกป่าเพ่ิมขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ จานวน ๕๖๓ ไร่ คิดเป็นรอ้ ยละ ๐.๗๖ ๘. ผลกระทบทเ่ี กิดขน้ึ มีผลกระทบต่อโครงสร้างชุมชนท้องถิ่น ได้แก่ ๑) ด้านสังคม ประชาชนในพ้ืนท่ีมีคุณภาพชีวิตท่ีดีขึ้น สร้างการมีส่วนร่วม และจิตสานึกของชุมชนร่วมกันในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ในพ้ืนที่ ๒) ด้านเศรษฐกิจ ป่าเป็นแหล่งอาหารในชุมชนทาให้ลดรายจ่ายในครัวเรือน ๓) ด้านสภาวะแวดล้อม เพ่ิมความอุดมสมบูรณ์ ตามธรรมชาติ ๑๗๒ 187

ภาพ1ท8่ี ๔8.๒.๘ กล่มุ อนรุ ักษพ์ นั ธกุ รรมพืชปา่ ชมุ ชนตำ� บลวังทา่ ดี

สรา้ งภมู .ิ ..คมุ้ นิเวศ Key actors กล่มุ อนรุ ักษ์พนั ธุกรรมพืชปา่ ชุมชนตาบลวงั ทา่ ดี งานเด่น อาสาอนรุ กั ษพ์ นั ธกุ รรมพชื ป่าชุมชน พื้นท่ี ตาบลวงั ท่าดี อ. หนองไผ่ จ. เพชรบูรณ์ วิทยากร นายประเสรฐิ สีแก้ว ตาแหน่ง หวั หนา้ วนอทุ ยานตาบลวงั ทา่ ดี เบอร์โทรศพั ท์ ๐๙๖-๙๑๔๒๔๖๕ ๑. ทม่ี าและฐานความคิดในการดาเนนิ งาน พื้นท่ีตาบลวังท่าดี มีประมาณ ๔๒,๕๐๐ ตารางกิโลเมตร ประชาชนตาบลวังท่าดีมีประชากรทั้งหมด ๖,๑๙๐ คนและมีพื้นท่ีป่าไม้ร้อยละ ๓๐ ของพื้นท่ีทั้งหมด ตาบลวังท่าดีมีแหล่งน้าและทรัพยากรป่าไม้ท่ีอุดม สมบูรณ์แต่ขาดการขยายพันธุ์และอนุรักษ์พ้ืนที่ป่าไม้ ทาให้ป่าไม้ลดน้อยลงร้อยละ ๑๕ ต่อปี หลังจากมีการ จดั ต้ังวนอุทยานวังท่าดี ซึ่งมีเจ้าหน้าที่วนอุทยาน และอาสาพิทักษ์ป่า ทาให้เกิดแนวคิดต้องการส่งเสริมการ อนรุ ักษ์และฟนื้ ฟูปา่ ในชุมชนตาบลวังทา่ ดีเพ่ือใหเ้ ปน็ พน้ื ที่สเี ขียว มีระบบนิเวศท่ีสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหารแก่ สัตว์และประชาชนในตาบลวังท่าดี จึงมีการรวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มอนุรักษ์พันธุกรรมพืชป่าชุมชนตาบลวังท่าดี ขึ้น โดยมีการลงสารวจพื้นท่ีป่าอย่างละเอียด โดยพบว่าบนพื้นท่ีตลอดแนวเขาน้ันมีสัตว์เล็กเช่น ไก่ป่า ชะมด กระต่ายป่า อาศัยอยู่เป็นจานวนมากแต่ขาดอาหาร จึงสร้างความร่วมมือกับกลุ่มสภาเด็กและเยาวชนตาบล วังท่าดีทาการเพาะพันธุ์พืชที่สามารถเป็นอาหารให้สัตว์ได้เช่น กล้วยป่า ไผ่ตรง ตะขบ โดยต้นไม้ทุกต้นมีการ ตดิ ปา้ ยชอ่ื วงศ์และตระกูล เพ่อื การดแู ลที่ท่ัวถงึ และในทุกๆ ๑ สปั ดาห์ จะมีการเดนิ ป่าสารวจป่าไม้ในป่าชุมชน ติดตามการเตบิ โตของพืชโดย มีการตัง้ เป้าหมายในการขยายพน้ื ที่ปา่ ใหเ้ พ่มิ ข้นึ ร้อยละ ๑๐ ต่อปี ๒. กล่มุ ประชากรเปา้ หมาย ๒.๑ สภาเดก็ และเยาวชนตาบลวงั ท่าดี จานวน ๗๓ คน ๒.๒ อาสาสมัครพทิ ักษ์ปา่ จานวน ๔๐ คน ๒.๓ ผทู้ ใ่ี ชป้ ระโยชนจ์ ากปา่ ชมุ ชน จานวน ๓๐๐ คน ๓. ผลทตี่ ้องการให้เกิด คณะกรรมการพนั ธกุ์ รรมพชื ป่าชุมชนตาบลวังทา่ ดสี ่งเสริมให้มเี ยาวชนมกี ารเกิดจิตสานึกในการรักพ้ืนที่ ป่าและเสียสละเวลาว่างร่วมทากิจกรรมอาสาพัฒนาป่าชุมชน เช่น ติดป้ายชื่อต้นไม้ วงศ์ตระกูลต้นไม้และ เรียนรู้ชื่อพันธ์ุไม้บริเวณป้าริมทางระหว่างหมู่ท่ี๔ ถึงบริเวณแพท่องเท่ียวอ่างเก็บน้าคลองลากงเพื่อให้เกิด ความเขา้ ใจเบ้อื งต้นของต้นไมแ้ ละการใช้ประโยชน์และเยาวชนสามารถบอกตอ่ ได้ ๔. ขอ้ มลู และเครอื่ งมอื ในการดาเนนิ งาน ใช้ข้อมูลพันธ์ุไม้จากกรมป่าไม้และระเบียบวนอุทยาน ปีพ.ศ.๒๕๓๗ แหล่งข้อมูล TCNAP, RECAP เอกสาร ขอ้ มูลจากแหล่งอื่นๆ ทเ่ี ก่ยี วข้องกบั การดูแลรักษาและอนุรกั ษพ์ นั ธุ์พชื ๕. รปู ธรรม คณะกรรมการพันธุ์กรรมพืชป่าชุมชนตาบลวังท่าดีมีการจัดกิจกรรมรณรงค์เพ่ืออนุรักษ์และใช้ป่าไม้ อยา่ งรคู้ ุณคา่ โดยการปลกู ต้นไม้ทดแทนบรเิ วณรมิ อา่ งเกบ็ นา้ คลองลากงและมีกจิ กรรมอาสาสมคั รรักษ์ปา่ ทา กิจกรรมสารวจเส้นทางปา่ และติดช่อื พนั ธุไ์ มเ้ พือ่ ให้เกิดการดูแลต้นไม้ในพน้ื ท่ีตาบลวังท่าดีอยา่ งถกู วิธี ๖. วธิ ีการดาเนินงาน มกี ารสารวจป่าในชุมชนแบง่ ระดบั ความสมบูรณอ์ อกเป็น ๒ ระดับคอื ๑.) ปา่ สมบูรณ์ ๒.) ป่าไม่สมบูรณ์ มกี ารปรึกษาองค์การบริหารส่วนตาบลวังท่าดี และกรมชลประทานในการแก้ไขปัญหา โดยมีแนวทางในการ การปลูกปา่ ทดแทนในพนื้ ที่ทส่ี ามารถปลกู ทดแทนได้ และดูแลป่าชุมชนที่มีการรุกล้า ตัดต้นไม้ เผาป่าเพ่ือหา อาหาร ติดช่ือพันธุ์ไม้เพ่ือบอกชนิดต้นไม้ รวมกลุ่มเกษตรกรและจัดตั้งอาสาสมัครรักษ์ป่าเพ่ือดูแลป่าชุมชน ตาบลวังท่าดีโดยมีการประชาสัมพันธ์และรณรงค์ผ่านทางโรงเรียนในพ้ืนที่เพื่อเป็นการปลูกฝังก ารอนุรักษ์ ๑๗๔ 189

สร้างภูมิ...คมุ้ นิเวศ และรักในผืนป่าชุมชน คณะกรรมการพันธุ์กรรมพืชป่าชุมชนตาบลวังท่าดีมีการจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อ อนุรักษ์และใช้ป่าไม้อย่างรู้คุณค่าโดยการปลูกต้นไม้ทดแทนบริเวณริมอ่างเก็บน้าคลองลากงและมีกิจกรรม อาสาสมัครรักษ์ป่าทากิจกรรมสารวจเส้นทางป่าและติดช่ือพันธ์ุไม้เพ่ือให้เกิดการดูแลต้นไม้ในพ้ืนท่ีตาบลวัง ท่าดอี ย่างถกู วธิ ี ๗. ผลทีเ่ กิดขน้ึ ตาบลวังท่าดีมีพื้นท่ีป่าไม้เพ่ิมขึ้นจากเดิมร้อยละ ๑๐ ต่อปี และมีการทาลายป่าในพื้นที่ลดลงอย่าง ต่อเนื่อง ประชาชนเกิดการรักและหวงแหนในป่าชมุ ชน ประชาชนมรี ายไดจ้ ากการหาอาหารขายโดยเปน็ อาหาร ที่ปลอดภัยซ่ึงได้มาจากป่าชุมชน เกิดการสร้างรายได้ เยาวชนสนใจในเรื่องป่าไม้มากข้ึน สามารถบอกต่อ ข้อมูลพนั ธไุ์ ม้และสามารถขยายพันธุ์ไม้ไดอ้ ยา่ งถูกวธิ ี ๘. ผลกระทบท่เี กดิ ข้ึน มีผลกระทบตอ่ โครงสร้างชมุ ชนท้องถิ่น ได้แก่ ๑) ด้านสังคม เกิดอาสาสมัครพิทักษ์ป่า เยาวชนในตาบล ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ ผทู้ ี่เปน็ อาสาสมัครพิทักษ์ป่าเกิดความรู้ความเช่ียวชาญด้านพันธุ์ไม้ สามารถบอก ต่อและรณรงค์ได้อย่างถูกวิธี ๒) ด้านเศรษฐกิจ ป่าเป็นแหล่งอาหารในชุมชนทาให้ลดรายจ่ายในครัวเรือน ๓) ดา้ นสภาวะแวดล้อม เพ่มิ ความอดุ มสมบรู ณต์ ามธรรมชาติ 190 ๑๗๕

ภาพท่ี ๔.๒.๙ กลมุ่ สตรีแปรรูปบ้านหนองไม้ 191

สรา้ งภมู .ิ ..คมุ้ นเิ วศ Key actors กลมุ่ สตรแี ปรรูปบา้ นหนองไม้ งานเดน่ หมู่บา้ นเศรษฐกิจพอเพียงบา้ นหนองไม้ พืน้ ท่ี องค์การบริหารส่วนตาบลอทุ ัยเกา่ อาเภอหนองฉาง จังหวัดอทุ ยั ธานี วิทยากร นางบรรจง สวัสดี ตาแหน่งประธานกลุ่มสตรีบา้ นหนองไม้ เบอร์โทรศัพท์ ๐๙๓-๐๕๑๘๓๒๕ ๑. ทม่ี าหรือฐานคิดของการดาเนนิ งาน การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนภายในหมู่บ้าน เกิดจากการเห็นข้อมูลจากการทาบัญชีครัวเรือน ภายในหมู่บ้าน พบว่าในหมู่ที่ ๙ บ้านหนองไม่มีค่าใช้จ่ายที่เกิดข้ึนจากการดารงชีวิตในครัวเรือนที่สูงมาก โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า ค่าแก๊สหุงต้ม ในปี พ.ศ.๒๕๕๗ – ๒๕๕๘ ได้มีส่งเสริมการดาเนินชีวิตตามแนวทาง เศรษฐกิจพอเพียงอย่างจริงจัง โดยการสร้างอาชีพเสริม มีการใช้พลังงานทดแทนในชีวิตประจาวัน ส่งเสริม การออมเงินประกอบกับการได้รับแรงผลักดันจากสานักงานพลังงานจังหวัดอุทัยธานีที่ให้การสนับสนุนด้าน พลังงาน ไดแ้ ก่ เตาอบพลังงานแสงอาทติ ย์ทีไ่ ด้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพลงั งาน ประชาชนจึงได้รวมตัว รวมกล่มุ กัน คิดค้นและหาพลังงานทดแทนมาใช้ในชีวิตประจาวัน จึงเกิดการเรียนรู้และการพัฒนาระบบการ จัดการพลังงานทดแทนต่างๆ ได้แก่ เตาอังโล่ เตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ ถ่านอัดแท่ง บ่อหมักก๊าซชีวภาพ โดยในปัจจุบันหมู่ท่ี ๙ บ้านหนองไม้ สามารถเป็นศูนย์เรียนรู้ถ่ายทอดเรื่องราวการผลิตและการใช้พลังงาน ทดแทนให้กับคนในชุมชนหรือผ้ทู ี่สนใจเข้ามาเรยี นรใู้ นพนื้ ท่ไี ด้ ๒. กลุ่มประชากรเปา้ หมาย ประชาชนในหมูท่ ี่ ๙ บ้านหนองไม้ จานวน ๗๗ ครัวเรอื น ๓. ผลทต่ี อ้ งการใหเ้ กิดขน้ึ เกิดกลไกการขับเคลื่อนการพัฒนางานเชิงพ้ืนที่ทาให้เกิดกระบวนการจัดการตนเองของหมู่บ้าน เศรษฐกิจพอเพียงท่ีมีการใช้พลังงานทดแทน เพื่อสร้างความเข้มแข็งโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมจากทุก ภาคส่วน ๔. ขอ้ มลู และเครื่องมือในการดาเนินงาน ข้อมลู จากแหล่งข้อมูล TCNAP, RECAP,ข้อมูล จปฐ.,กชช.๒ค และขอ้ มูลอ่ืนๆ ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง ๕. รูปธรรมงาน ส่งเสริมให้ประชาชนใช้ชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สร้างอาชีพ เพ่ิมรายได้และลดรายจ่ายใน ครัวเรือน ลดการใช้พลังงานโดยมีการใช้ทดแทน ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทาง การเกษตร ถ่านอัดแท่ง บ่อหมักก๊าซชีวภาพ และได้รับรางวัลหมู่บ้านดีเด่นประจาปี ๒๕๕๘ จากสานักงาน พัฒนาชุมชนจังหวัดอุทัยธานี เร่อื ง หมู่บา้ นเศรษฐกิจพอเพยี ง ๖. วิธกี ารดาเนนิ งาน การดาเนินงานของหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงบ้านหนองไม้ ภายใต้การขับเคล่ือนร่วมกันอย่างเข้มแข็ง ของผ้นู าท้องถน่ิ ทอ้ งท่ี หน่วยงานภาครฐั ในพื้นท่ี และภาคประชาชน ท่ีเนน้ การสง่ เสริมวถิ ีการดาเนินชีวิตตาม หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือให้เกิดการประหยัด อดออม ลด ละ เลิกอบายมุข เพื่อให้ประชาชน มี คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีข้ึน สามารถลดภาระค่าใช้จ่าย และหนี้สินในครัวเรือนลงได้ มีการรวมกลุ่ม อาชีพที่หลากหลาย เพื่อร่วมกันสร้างฐานความเป็นอยู่แบบพอพียง เน้นการช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน เกิด ความสามัคคี เอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่ต่อกัน จากการดาเนินเนินงานอย่างเข้มแข็งได้มีส่งเสริมการดาเนินชีวิตตาม แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงอย่างจริงจัง โดยการสร้างอาชีพเสริม การใช้พลังงานทดแทนในชีวิตประจาวัน ได้แก่ เตาอังโล่ เตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ ถ่านอัดแท่ง บ่อหมักก๊าซชีวภาพ ส่งเสริมการออมเงินในทุก 192 ๑๗๗

สรา้ งภูมิ...คมุ้ นเิ วศ ครวั เรอื น มกี ารจดั สวัสดกิ ารตา่ งๆ และมแี หลง่ ก้ยู มื เงนิ เพื่อการลงทุนในการประกอบอาชีพ ลดปัญหาหนี้สิน นอกระบบ นาไปสกู่ ารจัดการตนเองอยา่ งยง่ั ยนื ๗. ผลทเี่ กิดข้ึน (ผลผลติ ผลลพั ธ์) เกิดความเข้มแข็งของชุมชนและเกิดรูปธรรมการจัดการ เกิดการพัฒนาระบบการบริหารจัดการ และ พัฒนาระบบการทางานในชุมชน เป็นหมู่บ้านต้นแบบด้านเศรษฐกิจพอเพียงให้ผู้ที่มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เห็น รปู ธรรมภายในหมู่บ้าน ในเรื่องรูปธรรมการทาเศรษฐกิจพอเพียง และการใช้พลังงานทดแทนได้แก่ เตาอังโล่ เตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ ถ่านอัดแท่ง บ่อหมักก๊าซชีวภาพและสามารถนากลับไปปรับใช้พัฒนากับพ้ืนท่ี ของตนเองได้อยา่ งเหมาะสม ๘. ผลกระทบทีเ่ กดิ ขนึ้ มีผลกระทบต่อมิติโครงสร้างพื้นฐานของชุมชนท้ัง ๕ ด้าน ได้แก่ (๑) ด้านสังคม เป็นแบบอย่างที่ดีใน เร่ืองหมู่บ้านต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียงให้กับคนในพ้ืนท่ีและพ้ืนที่ใกล้เคียง สร้างการมีส่วนร่วมในการรักษา สิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงานในพ้ืนที่ (๒) ด้านเศรษฐกิจ ลดร่ายจ่ายให้ครัวเรือน เพ่ิมรายได้ (๓) ด้าน สภาพแวดล้อม สร้างการมีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในชุมชน รณรงค์การใช้พลังงาน ทดแทนในระดับครัวเรือน (๔) ด้านการเมือง ประชาชนได้มีร่วมคิดและแสดงความคิดทั้งในระดับกลุ่ม และ ระดับท้องถิ่น (๕) ด้านสุขภาพ มีสุขภาพร่างกายท่ีแข็งแรง ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรค หมู่บ้านเศรษฐกิจ พอเพยี งบา้ นหนองไม้ มีการอาสาสมคั รสร้างสุขภาพที่เกดิ จากนโยบายของรัฐ โดยเปิดโอกาสให้คนในชุมชนท่ี มีจติ อาสาเข้ามาเปน็ อาสาสมคั รในการดูแลด้านสุขภาพของคนในชมุ ชน ๑๗๘ 193

ภาพ1ท9ี่ ๔4.๒.๑๐ วดั ล�ำชะลา่

สรา้ งภูม.ิ ..คมุ้ นเิ วศ Key actors วดั ลาชะลา่ งานเดน่ วดั พัฒนาให้เขียว เหน่ยี วใจให้ขาว พนื้ ท่ี วัดลาชะล่า อาเภอเมือง จงั หวดั พจิ ิตร วทิ ยากร พระอธิการกันตพฒั น์ สัจยาโน ตาแหนง่ เจา้ อาวาสวดั ลาชะล่า เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๔-๒๘๙๔๑๖๙ ๑. ท่ีมาหรอื ฐานคิดของการดาเนนิ งาน วัดลาชะล่า ตั้งอยู่หมู่ที่ ๒ บ้านลาชะล่า มีพื้นที่ประมาณ ๗ ไร่เศษ เม่ือก่อนพื้นที่บริเวณวัดมีความแห้ง แล้ง ขาดการพฒั นาทเ่ี ป็นรปู ธรรม ประชาชนมกี ารแบ่งแยกทางความคิดและเห็นวัดเป็นเพียงสถานท่ีจัดงาน ศพ งานบวชไม่ได้เป็นศูนย์รวมจิตใจ ต่อมาปี พ.ศ.๒๕๕๖ ได้มีเจ้าอาวาสรูปใหม่มาดารงตาแหน่ง คือ พระ อธิการกันตพัฒน์สจจญาโน จึงเกิดแนวคิดการพัฒนาวัดลาชะล่าขึ้น โดยได้เร่ิมพัฒนาลักษณะทางกายภาพ ของวัดให้มีความร่มรื่น เพื่อให้คนท่ีเข้ามาในวัดเกิดความร่มเย็น เป็นแหล่งเพ่ิมเติมธรรมะในการดารงชีวิต พัฒนาจิตใจปลูกฝังจิตสานึกในการเสียสละและท่ีสาคัญต้องการให้วัดเป็นท่ียึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชุมขน ใหไ้ ด้ ด้วยการเริ่มปลูกต้นไม้ เพิ่มความชุ่มช่ืนและความร่มเย็นให้กับพ้ืนที่ ขุดลอกคลองหน้าวัด สร้างศาลา เย็นใจ เล้ียงปลานลิ ปลาตะเพยี น ปลาแรด ปลาสวาย สร้างแรงดึงดูดใหค้ นหันมาเขา้ วัดเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ หลังจากน้นั ก็เรมิ่ สรา้ งความศรัทธา คือ ให้ชุมชนเกิดความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ใช้หลัก “อยากทา ก็มา ทาเอง” ปลูกฝังการทาบุญแบบไม่ได้บังคับจิตใจ ไม่ใช่การยัดเยียดหรือความอดเสียมิได้ แต่เป็นการทาบุญ แบบออกมาจากใจจริง มีศรัทธาจริง อยากทาจริง และสุดท้ายสร้างการให้ คือ การทาโรงทาน เล้ียงน้า เล้ียงอาหารทุกครั้งที่เข้ามาทากิจกรรมในวัด ใช้วัดเป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรม เช่น ประเพณีสงกรานต์ รดน้าดาหัว หรือจัดกิจกรรมการออกกาลังกายในพ้ืนท่ีเป็นการอานวยความสะดวกโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดใด มกี ารทาบุญทกุ วนั พระ มเี ทศนท์ ุกวนั พระ เมอ่ื มกี ารจัดกิจกรรมก็จะเกิดความร่วมมือ ร่วมใจทาให้ประชาชน มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆของวัด เกิดความเสียสละ เกิดการมีส่วนร่วมของชุมชนและวัด โดยการยึด หลกั การให้ เพอื่ ให้ชมุ ชนมกี ารแบ่งปันจนทาให้เกิดการร่วมมือร่วมใจในการทางานอย่างเป็นระบบ มีแนวการ ทางานร่วมกันที่ชัดเจน ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ วัดลาชะล่าได้พัฒนารูปแบบของการใช้พลังงานทดแทน เพอ่ื ให้เกดิ ความประหยัดและการอนุรักษ์พลังงาน ด้วยการใช้พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ (โซล่าเซลล์) ทาให้สามารถลดคา่ ไฟฟ้าในวดั ได้ถงึ ๒,๐๐๐ บาทต่อเดือนและการใช้บ่อหมักแก๊สชีวภาพจากเศษอาหารแทน การใช้แกส๊ หงุ ต้ม ๒. กลุ่มประชากรเป้าหมาย ประชาชนในตาบลหวั ดง ๑๒๘ ครวั เรอื น จานวน ๕๓๖ คน ๓. ผลท่ตี อ้ งการให้เกดิ ขน้ึ ประชาชนมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมตา่ ง ๆของวดั เกดิ ความเสียสละ เกดิ การมสี ว่ นรว่ มระหวา่ งชุมชนและวดั ๔. ข้อมูลและเครื่องมือในการดาเนนิ งาน ข้อมูลนาใช้ไดแ้ ก่ แผนพฒั นาตาบลหวั ดง และจากแหลง่ ขอ้ มลู TCNAP , RECAP และขอ้ มลู จากแหลง่ อ่ืนๆท่เี กย่ี วข้อง ได้แก่ ขอ้ มลู จปฐ. กชช. ๒ค ข้อมูลสุขภาพจากรพ. สต ๕. รูปธรรมงาน สรา้ งแหล่งพกั ผ่อนหย่อนใจในชุมชน ไดแ้ กศ่ าลาเย็นใจ ในวัด มีการเล้ียงปลานิล ปลาตะเพียน ปลาแรด ปลาสวาย สรา้ งแรงดึงดดู ใหค้ นหันมาเขา้ วดั มีการใช้พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ (โซล่าเซลล์) และแก๊ส ชวี ภาพในวัด ๑๘๐ 195

สรา้ งภูมิ...คมุ้ นเิ วศ ๖. วิธีการดาเนนิ งาน มีการร่วมกันพัฒนาลักษณะทางกายภาพของวัด ได้แก่ ปลูกต้นไม้ เพ่ิมความชุ่มช่ืนและความร่มเย็น ใหก้ บั พ้นื ท่ี ขดุ ลอกคลองหนา้ วดั สร้างศาลาเยน็ ใจ เลย้ี งปลานิล ปลาตะเพียน ปลาแรด ปลาสวาย สร้างแรง ดึงดูดให้คนหันมาเข้าวัดเพื่อพักผ่อนหย่อนใจหลังจากน้ันก็เร่ิมสร้างความศรัทธา เกิดความศรัทธาใน พระพทุ ธศาสนา มกี ารทาโรงทาน ใช้วัดเป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรม เช่น ประเพณีสงกรานต์รดน้าดาหัว หรือจัดกจิ กรรมการออกกาลงั กายในพน้ื ท่ีเป็นการอานวยความสะดวกโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดใด มีการทาบุญ ทุกวันพระ มีเทศน์ทุกวันพระ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนและวัด และการร่วมมือร่วมใจในการทางาน อย่างเป็นระบบ มีการกาหนดแนวการทางานร่วมกันที่ชัดเจน ต่อมาในปี และติดตั้งการใช้พลังงานทดแทน จากแสงอาทิตย์ (โซล่าเซลล์) และการใช้บ่อหมักแก๊สชีวภาพจากเศษอาหารแทนการใช้แก๊สหุงต้ม เพ่ือลด คา่ ใช้จา่ ยในวัด ๗. ผลท่ีเกิดขน้ึ (ผลผลิต ผลลัพธ์) เกิดสิ่งแวดล้อมที่สร้างสรรค์เพิ่มความชุ่มช่ืนและความร่มเย็นในชุมชน คนในชุมชนมีส่วนร่วมในการทา กิจกรรมในวัด เป็นศูนย์รวมทางจิตวิญญาณ และเป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรม เช่น ประเพณีสงกรานต์ รดนา้ ดาหัว หรือจัดกิจกรรมการออกกาลังกาย ๘. ผลกระทบทเี่ กดิ ข้ึน ส่งผลต่อโครงสร้างพ้ืนฐานของชุมชน ได้แก่ (๑) ด้านสังคม สร้างการมีส่วนร่วมในชุมชนในการสร้าง พ้ืนท่สี ร้างสรรค์ในชุมชน และลดการใช้พลังงานในวัด (๒) ด้านเศรษฐกิจ ลดรายจ่ายค่าไฟฟ้า และก๊าซหุงต้ม ในวดั (๒) ด้านสุขภาพ เป็นพื้นท่ีออกกาลังกาย เสริมสร้างสุขภาพ ลดการเกิดการเจ็บป่วย (๓) ด้านสภาวะ แวดล้อม มกี ารสรา้ งสภาวะแวดล้อมท่เี ออ้ื ต่อสถานท่พี กั ผอ่ น 196 ๑๘๑

ภาพที่ ๔.๒.๑๑ กลุ่มวสิ าหกิจชมุ ชนปยุ๋ อนิ ทรยี ์ 197

สร้างภมู .ิ ..คมุ้ นเิ วศ Key actors กลมุ่ วสิ าหกิจชุมชนปยุ๋ อนิ ทรยี ์ งานเดน่ ผลิตปุ๋ยอนิ ทรียค์ ณุ ภาพสูง พ้ืนที่ เทศบาลตาบลปา่ เซา่ อาเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ วิทยากร นายสิทธชิ ยั มากโม ตาแหนง่ ประธานกล่มุ วิสาหกจิ ชมุ ชนปุย๋ อินทรีย์ เบอร์โทรศัพท์ ๐๘-๙๙๕๙-๑๑๕๖ ๑. ที่มาหรอื ฐานคดิ ของการดาเนนิ งาน กลุม่ วสิ าหกิจชมุ ชนปุ๋ยอนิ ทรียน์ อ้ มนาหลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลท่ี ๙ เรื่องการระเบิดจากข้าง ในท่ีทรงให้ประชาชน เป็นผู้คิดตัดสินใจ และทาด้วยตนเองมาเป็นแนวทางการแก้ปัญหา และช่วยเหลือ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจอย่างเหมาะสมกับพ้ืนท่ีและย่ังยืน เพื่อเป็นแนวทางการ บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ระดับตาบลอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับความต้องการของ ชุมชน รวมถงึ แนวนโยบายของรัฐในระดบั ตา่ งๆ สร้างกระบวนการเรียนรู้โดยกระบวนการมีส่วนร่วมจากกลุ่ม เกษตรกรท่ีได้รับผลกระทบโดยตรงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างการ เปล่ยี นแปลง เป็นแหลง่ การสร้างหลักสตู รการเรียนรู้ หลักสูตรการดารงชีวิตตามวิถีเกษตรปลอดภัย เกษตร อนิ ทรยี ์ ของมหาวิทยาลยั สุโขทัยธรรมาธิราช ภายใตโ้ ครงการเสริมสรา้ งศกั ยภาพชมุ ชนและภาคใี นการจดั การ อาหารปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งตาบลป่าเซ่ามีประชากรทั้งหมด ๗,๕๐๖ คน ๒,๘๑๑ ครัวเรือน มคี รัวเรือนทีป่ ระกอบอาชพี ทางการเกษตร จานวน ๖๒๓ ครัวเรือนรายได้เฉล่ยี ๑๐,๐๐๑ – ๒๐,๐๐๐ บาทต่อปี มีพ้ืนท่ีการเกษตร ๑๒,๓๘๕ ไร่ และจากข้อมูลสามะโนที่ดินเพื่อการพัฒนาที่ดิน ตามแผนการใช้ท่ีดินระดับ ตาบลแบบบูรณาการ ตาบลป่าเซ่า อาเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ กรมพัฒนาที่ดิน ๒๕๕๕ พบว่าว่า เกษตรกรมีการใชป้ ุ๋ยเคมี รอ้ ยละ๑๗.๑๒ ปยุ๋ เคมแี ละปยุ๋ อินทรีย์ ร้อยละ ๗๖.๐๓ ปุ๋ยอินทรีย์ ร้อยละ ๕ และไม่ ใช้ปุ๋ย ร้อยละ ๑.๓๗ และความต้องการความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ ด้านการควบคุมราคาปุ๋ยร้อยละ ๔๘.๖๓ ผลผลิตทางการเกษตรที่สาคัญได้แก่ ข้าว ข้าวโพดเล้ียงสัตว์ ข้าวโพดหวาน พืชผัก ไม้ผล และมีการ เลี้ยงสัตว์เศรษฐกจิ จานวนมาก แต่เกษตรกรส่วนใหญป่ ระสบปญั หาราคาผลผลผลติ ไมแ่ นน่ อน จาหน่ายไดใ้ น ราคาทตี่ ่า ตน้ ทนุ การผลิตสงู ผลผลิตทางการเกษตรมกี ารปนเปือ้ นสารเคมเี พราะเกษตรกรมีการใช้ปัจจัยการ ผลิต เช่น ปุ๋ยเคมี และสารเคมีในการป้องกันกาจัดศัตรูพืชจานวนมาก จากปัญหาดังกล่าวจึงมีการรวมตัว จัดตั้งกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดข้ึนในพ้ืนที่ตาบลป่าเซ่า และได้ดาเนินการจดทะเบียนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดตาบลป่าเซ่า เพ่ือผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดจากมูลสัตว์ที่มีจานวนมากในพ้ืนที่ จาหน่ายให้แก่เกษตรกรในราคาถูก โดยเทศบาลตาบลป่าเซ่าร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้นาผลการวิจัย พัฒนา \"ปุ๋ยอินทรีย์ คุณภาพสูง\" เพ่ืออบรมและผลิตปุ๋ยให้แก่เกษตรกรในพ้ืนที่ตาบลป่าเซ่า โดยจัดดาเนินโครงการถ่ายทอด เทคโนโลยี นาวัตถดุ ิบจากมลู สตั ว์ ทีห่ าได้ในทอ้ งถนิ่ เชน่ มลู โค มูลสุกร ตากแหง้ แลว้ มาทาเป็นปุ๋ยหมัก มาทา การบดให้ละเอียดผสมกบั ธาตุอาหารชนดิ ต่างๆ ตามความตอ้ งการของพืชและผลการวเิ คราะหค์ ุณภาพดิน ทา ให้ได้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ใช้ทดแทนปุ๋ยเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มคุณภาพให้แก่ดิน และลดต้นทุน ทางการเกษตร ตลอดจนเปน็ การเพ่ิมรายไดใ้ ห้กับเกษตรกรเป็นการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรตามหลักปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพียง สามารถชว่ ยให้เกษตรกรลดรายจ่ายในต้นทุนการผลติ พชื ตา่ งๆ ได้ และมรี ายไดเ้ สริมในการ ผลิตปุ๋ยเพื่อจาหน่ายให้เกษตรกร ตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนต่างๆมีการ 198 ๑๘๓

สรา้ งภมู ิ...คมุ้ นิเวศ ประกอบอาชีพภายในชุมชน โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรในชุมชนนั้นๆ ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจ โดย การสร้างเป็นผลผลิตท่ีช่วยสร้างเศรษฐกิจในชุมชน ให้พึ่งพาตนเองได้ รวมทั้งมีความต้องการให้มีการขยาย ผลการใช้ป๋ยุ อนิ ทรียแ์ ละมสี ่วนร่วมในการผลติ และการใชเ้ กดิ เครือขา่ ยภาคประชาชนในพ้ืนท่ีจึงดาเนินการให้มี รปู แบบการผลติ เพอื่ ใช้และจาหนา่ ยในราคาประหยัด แต่การผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดเหมาะสาหรับการอัดเม็ด ปยุ๋ หมกั จากมูลสัตว์ ซ่ึงในพน้ื ทต่ี าบลป่าเซ่ายงั มเี ศษวสั ดทุ างการเกษตรอกี เป็นจานวนมากเช่น เปลือกและซัง ขา้ วโพด ฟางข้าว เปลอื กถวั่ ฯลฯ จึงมีการพฒั นารูปแบบการดาเนินการอย่างต่อเน่ืองโดยประยุกต์วิธีการผลิต ปุ๋ยจากเศษวัสดุทางการเกษตรในการทาปุ๋ยหมักอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์น้าและสารไล่แมลงจนสามารถ ดาเนินการจัดต้ังเป็นธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ตาบลป่าเซ่า มีการดาเนินการแบ่งปันในรูปของปุ๋ยเพ่ือใช้มีการฝาก การถอน การกูย้ มื และมีความยัง่ ยืนตามแนวทางเศรษฐกิจพอพอเพยี ง ๒. กล่มุ ประชากรเป้าหมาย ครวั เรือนทป่ี ระกอบอาชีพทางการเกษตร จานวน ๖๒๓ ครวั เรือน ๓. ผลที่ต้องการให้กิดขน้ึ ๓.๑ เพิ่มศักยภาพการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชุมชนให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการในชุมชนโดยปุ๋ย อินทรียอ์ ดั เม็ดท่ผี ลิตได้ จานวน ๑๐๐ ตนั /ปี ป๋ยุ หมกั อนิ ทรยี ์ จานวน ๕๐ ตนั /ปี ปุ๋ยอินทรยี น์ า้ และสารไล่แมลง จานวน ๕,๐๐๐ ลติ ร/ปี ๓.๒ เป็นทางเลือกหน่ึงให้เกษตรกร ในการลดปริมาณหรือทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมีและปรับเปล่ียน กระบวนการผลิตโดยการใชป้ ๋ยุ อนิ ทรีย์ ในการผลติ พืชเพอ่ื ลดตน้ ทนุ การผลิตพชื ลดปัญหาผลกระทบจากการ เสอื่ มโทรมของทรัพยากรดินและสงิ่ แวดลอ้ ม ตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพียง ๓.๓ เกษตรกรองค์กรชุมชนมีกระบวนการเรียนรู้และร่วมมือกันในการพัฒนาทรัพยากรท่ีมีอยู่ให้เกิด ประโยชนส์ ูงสุด และมสี ว่ นในการฟนื้ ฟสู ่งิ แวดล้อม ๓.๔ สร้างงาน สร้างรายได้ ลดรายจ่าย สร้างแหล่งอาหารให้ปลอดภัย และเกิดความร่วมมือระหว่าง ประชาชนกับภาคราชการ ในรูปแบบประชารัฐเพ่ือแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน และเป็นเป็นต้นแบบการผลิต ทางการเกษตรปลอดภยั สาหรับผู้ผลิตและผู้บริโภค ขยายเครือข่ายของเกษตรกร ๔. ขอ้ มูลและเครือ่ งมอื ในการดาเนินงาน ข้อมูลแผนพัฒนาการเกษตรตาบลปา่ เซา่ แผนพัฒนา ๓ ปี สามะโนที่ดนิ เพ่ือการพัฒนาที่ดิน แผนการใช้ ท่ดี นิ ระดบั ตาบลแบบบรู ณาการ ตาบลป่าเซ่า จากแหลง่ ข้อมลู TCNAP, RECAP และเอสาร ข้อมูลจากแหล่ง อื่นๆ ทีเ่ ก่ยี วข้อง ๕. รปู ธรรมงาน ปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดคุณภาพสูง ปุ๋ยอินทรีย์สูตรพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา สยาม บรมราชกุมารี ปุ๋ยอินทรีย์น้า ฮอร์โมน และสารอินทรีย์ไล่แมลง มีการจัดต้ังธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ตาบลป่าเซ่า เพ่ือให้บริการอย่างเอื้ออาธรและส่งเสริมการทาการเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ในพ้ืนที่ จานวน ๑ แห่ง ๖. วิธกี ารดาเนนิ งาน ภาคประชาชน ได้แก่ ผ้นู าชมุ ชน และแกนนาเกษตรกร ทั้ง ๘ หมบู่ ้าน ร่วมขับเคล่ือนกิจกรรมต่างๆ ท้ังใน รูปแบบกิจกรรมอาสา และรูปแบบคณะกรรมการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร ประชาสัมพันธ์ใน รูปแบบปากต่อปาก และการให้ความร่วมมือในทุกข้ันตอนการดาเนินงาน กลุ่มวิสาหกิจผลิตปุ๋ยอินทรีย์ อัดเม็ดตาบลป่าเซ่าดาเนินการผลิต บริหารจัดการกลุ่ม โดยมีกลุ่มเกษตรปลอดสารพิษตาบลป่าเซ่า สาธิต การใชเ้ พื่อสร้างความเช่ือม่ันให้คนในชุมชนใช้ปยุ๋ อินทรีย์ เกษตรกรผู้เล้ียงสัตว์ในพ้ืนท่ีตาบลป่าเซ่า นามูลสัตว์ มาร่วมผลิตปุย๋ แลกเปล่ียนปยุ๋ อนิ ทรีย์กบั ธนาคารเพอื่ สรา้ งความตอ่ เนอ่ื งในการผลิต ประชาชนในพ้ืนท่ีตาบล ๑๘๔ 199