Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รักษ์ป่าน่าน ครั้งที่ ๒

รักษ์ป่าน่าน ครั้งที่ ๒

Published by E-book Prasamut chedi District Public Library, 2020-01-06 03:52:54

Description: สำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
หนังสือ,เอกสาร,บทความ นำมาเผยแพร่เพื่อการศึกษาเท่านั้น

Search

Read the Text Version

การดาํ เนนิ งาน โรงเรียนบ้านด่านได้จัดกิจกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้กับนักเรียนระดับช้ัน ประถมศึกษาปที ่ี 6 จาํ นวน 4 กิจกรรม คอื กจิ กรรมท่ี 1 การสาํ รวจแหลง่ ทรัพยากรธรรมชาติ กจิ กรรมนใ้ี หน้ กั เรียนสํารวจทรัพยากรใน ทอ้ งถิ่นตนเอง พร้อมทั้งบอกความสําคัญของทรพั ยากรธรรมชาติทีพ่ บได้ กิจกรรมที่ 2 การศึกษาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดลอ้ ม กิจกรรมนใี้ ห้นักเรยี น ได้ศึกษาและอภิปรายผลจากการเกิดภัยพิบัติจากธรรมชาติ ซ่ึงมีสาเหตุมาจากส่ิงแวดล้อมท่ี เปลย่ี นแปลงไป กิจกรรมที่ 3 การปลูกป่าและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กิจกรรมนี้ส่งเสริมให้นักเรียน ร่วมกันคิดวิธีการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งป่าไม้ และจัดทําโครงการอนุรักษ์ทรัพยากร ดงั กล่าวขึ้น กิจกรรมที่ 4 การติดตามเฝ้าระวังป่าไม้และส่ิงแวดล้อม กิจกรรมน้ีส่งเสริมให้นักเรียน ตดิ ตามความก้าวหน้าในการปลกู ปา่ และอนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นตามแผนที่ได้กําหนดไว้ และเฝ้าระวงั ทรัพยากรของชมุ ชน ตลอดจนมโี อกาสในการนําเสนอความก้าวหน้าในวาระต่าง ๆ ผลการดําเนนิ งาน ผลท่ีเกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรม ทําให้นักเรียนได้เห็นความสําคัญของทรัพยากรป่าไม้ท่ีมี ผลกระทบต่อชุมชนของตนเองมากขึ้น พร้อมท้ังร่วมกันปลูกป่าและเฝ้าระวังดูแล เพ่ือให้พ้ืนที่ป่าไม้ ฟ้นื ความอุดมสมบูรณ์ ปญั หาและอุปสรรค เน่ืองจากโรงเรียนมีข้อจํากัดท้ังจากเรื่องความรู้ วัสดุอุปกรณ์ท่ีใช้ในการดําเนินงาน ต้อง อาศยั ความร่วมมือจากหน่วยงานและองค์กรท่ีเกี่ยวข้อง รวมท้ังโรงเรียนควรพัฒนากิจกรรมนี้ให้เป็น หลักสตู รทอ้ งถ่นิ เพอ่ื จะสามารถทําใหก้ ารสรา้ งจิตสํานกึ ของนกั เรียนเปน็ ไปอยา่ งตอ่ เน่อื ง บทความ   87  

88 บทความ    

การศกึ ษาพชื สมุนไพรบา้ นหนองผุก นางสมพรรณ ก้อนคํา โรงเรียนบ้านหนองผกุ ความเปน็ มา ในการประชุมสัมมนา “รักษ์ป่าน่าน” คร้ังท่ี 1 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2557 โรงเรียนบ้าน หนองผุก ได้นําเสนอโครงการ “ป่าเล็กสู่ป่าใหญ่” ซ่ึงเป็นประสบการณ์ตรงของโรงเรียนและชุมชน บ้านหนองผุก ตําบลเปือ อําเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน ที่นักเรียน เยาวชน และชุมชนได้ร่วมกัน ฟื้นฟูป่าท่ีเสื่อมโทรมอย่างต่อเนื่องจนมีสภาพที่อุดมสมบูรณ์ข้ึน สามารถเป็นแหล่งต้นน้ําอุปโภค บริโภคของชมุ ชนได้ จนกระทั่งไดร้ ับรางวลั จากหน่วยงานและองคก์ รต่าง ๆ เพ่ือเป็นการต่อเน่ืองจากการประชุมสัมมนาท่ีผ่านมา โรงเรียนบ้านหนองผุกจึงได้จัดทําเป็น โครงการศึกษาพืชสมุนไพรในชุมชน เพื่อให้นักเรียนได้รู้จักสมุนไพรต่าง ๆ ท่ีมีอยู่ในชุมชน ตลอดจน สรรพคุณในการรักษาป้องกันโรค โดยคาดหวังว่านักเรียนจะได้มีความรู้ สามารถขยายพันธ์ุ นํามา ปลกู ไวท้ ี่บา้ นและมาปลูกเปน็ สวนสมุนไพรของโรงเรียนได้ วิธกี ารดําเนนิ งาน ขนั้ เตรียมการ ครูจะให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับประโยชน์ของต้นไม้ โดยเฉพาะอย่างย่ิงสมุนไพร วิธีการ สํารวจ การจดบันทึกรายงาน การถ่ายรูป การนําเสนอ ตามแบบของสวนพฤกศาสตร์โรงเรียน พรอ้ มทั้งประสานงานกับนายอนิ วนั ดี ซึ่งเป็นผู้รู้เกี่ยวกบั สมุนไพร เป็นผ้ใู ห้ขอ้ มลู แกน่ ักเรยี น ขัน้ ปฏิบตั ิงาน ครูจะนํานักเรียนออกศึกษาพืชสมุนไพรในชุมชน หลังจากน้ันนักเรียนจะสอบถามประโยชน์ ของพืชนั้น ๆ จากผู้รู้ ถ่ายภาพประกอบ แล้วนํามาบันทึกผลการสํารวจ ซึ่งประกอบด้วย ทะเบียน พืชสมุนไพร ภาพประกอบ รหัสพรรณไม้ ช่ือของพันธ์ุไม้ที่เรียกตามภาคต่าง ๆ ลักษณะวิสัยของ พรรณไม้ เชน่ ไมต้ น้ ไม้พุ่ม ไม้เลอ้ื ย ไมร้ อเลือ้ ย ฯลฯ สรรพคณุ ขอ้ มลู ภูมิปัญญาท้องถ่ินของสมุนไพร แต่ละชนดิ ขน้ั สรุปผล เมื่อนักเรียนได้ข้อมูลต่าง ๆ เก่ียวกับพืชสมุนไพรมาแล้ว ครูจะให้นักเรียนร่วมอภิปรายถึงผล การศึกษา ประโยชน์ของพืชสมุนไพรที่พบ รวมท้ังแนวทางในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากพืช สมุนไพร ผลการดาํ เนนิ งาน เนื่องจากโรงเรียนบ้านหนองผุกเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีนักเรียนทั้งหมด 28 คน ครู 4 คน ในการสํารวจคร้ังนี้ใช้นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5 – 6 จํานวนรวมกัน 8 คน มีเวลา 1 วัน ซึ่งครู ต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวนักเรียน ทําให้พบพืชสมุนไพรเพียง 6 ชนิด ท้ัง ๆ ท่ีมีพืชสมุนไพร บทความ   89  

จํานวนมากในชุมชน แต่อย่างไรก็ตามการสํารวจดังกล่าวถือว่า เป็นการฝึกปฏิบัติให้นักเรียนได้มี ความรู้ ทักษะในการสํารวจ เกิดเจตคติท่ีดีต่อการทํางานและตระหนักถึงความสําคัญของสมุนไพร มากขนึ้ เอกสารอ้างองิ http://www.rspg.or.th/plants_data/index.htm ผลการสาํ รวจพืชสมนุ ไพรในชุมชน โรงเรียนบา้ นหนองผกุ อาํ เภอเชยี งกลาง จงั หวัดนา่ น รหัส ช่ือ ลักษณะ ลกั ษณะเด่น การใช้ประโยชน์ รูปพรรณไม้ พรรณไม้ พืน้ เมือง วิสยั ของพชื 55160- กาํ๋ ปอง ไม้เลื้อย ส่วนลาํ ต้นนาํ ไปฝนเป็นยารักษา ดอกมสี ีเหลือง โรคหอบหดื 001 มกี ลิน่ หอม 55160- สบู่เลือด ไม้เลื้อย ยางมีสีแดงสด หัวนาํ ไปลนไฟแลว้ นง่ั ทับ 006 เหมือนเลอื ด รักษาอาการมดลูกหยอ่ น 55160- บัวลาขาว ไมต้ น้ ดอกมีสีขาว ใบนํามาทํายาประคบแก้ปวด 021 และใบมีกลน่ิ ฉนุ 55160- เจียวกู่ ไมเ้ ลือ้ ย ดอกมสี ีเหลือง สว่ นเครือและนําไปตากแห้งแล้ว 023 หลาน ไม้ล้มลกุ เครอื และใบมี นาํ มาต้มด่ืมน้าํ เครอื นําไปฝนเป็น รสขม ยารกั ษาโรคเบาหวาน ความดัน 55160- ง้วนตาก ขยายพันธโุ์ ดย มะเรง็ ช่วยฟืน้ คนื ความหนุ่มสาว 032 หงาย ผลหรือเครือ สรา้ งภูมิคุ้มกัน และบาํ รงุ ร่างกาย ขอบใบเรียว นําส่วนใบและตน้ ไปตากแหง้ แล้ว แหลม มีสีขาว นํามาฝน จากนั้นนาํ ไปละลายน้ํา ด่ืมแกโ้ รครดิ สีดวง 55160- รางจดื ไม้เลอ้ื ย ดอกมีสีมว่ ง เครอื ไปตากแห้งแลว้ นาํ ไปฝน 034 ใบแหลมคล้าย ละลายน้าํ ดื่มรักษาโรคท่เี ปน็ พษิ หอกเปน็ มนั เบื่อเห็ด 90 บทความ    

การใช้เอกสารประกอบการจดั กิจกรรมการอนุรกั ษป์ า่ ไมใ้ นชมุ ชน นางพวงทอง แสงวรรณธีระ นางนงนุช พทุ ธวงค์ และนายรัตน์ จันทโคตร โรงเรยี นบ้านไร่ หลักการและเหตุผล โรงเรียนบ้านไร่ สํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2 เป็นโรงเรียนท่ีอยู่ใน ตําบลอวน อําเภอปัว จังหวัดน่าน ซ่ึงเป็นพ้ืนท่ีท่ีเกิดอุทกภัยทุกปี ประชากรส่วนมากร้อยละ 90 มี อาชีพทําการเกษตรด้วยการปลูกข้าวโพดอาหารสัตว์ ทํานา และทําไร่ ตลอดจนการปลูกพืช เศรษฐกิจอื่น ๆ ในการทําไร่ข้าวโพดเกษตรกรต้องการให้ได้ผลผลิตเพ่ิมมากข้ึนด้วยการเพ่ิมพ้ืนที่ เพาะปลูก โดยการบุกรุกถางป่า มีการใช้ปุ๋ย ยาฆ่าหญ้า และยาคุมหญ้าเพ่ิมมากขึ้น ในปี 2557 และ 2558 เกิดนํ้าท่วมท่ีหมู่ 1 หมู่ 9 และหมู่ 4 สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนที่อยู่อาศัยและ พื้นที่ทําเกษตรจํานวนมาก พระเจ้าวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ได้ เสด็จมาพระราชทานส่ิงของแก่ราษฎรในหมู่บ้านเม่ือวันที่ 28 สิงหาคม 2557 ณ โรงเรียนบ้านไร่ และรัฐบาลต้องให้ความช่วยเหลือเยียวยาในลําดับต่อมา อีกประการหนึ่งในช่วงเดอื นกุมภาพันธ์ถึง เมษายนของทุกปี จะมีการบุกรุกเผาป่าทําให้อากาศร้อนอบอ้าวมีหมอกควัน ส่งผลให้เกิดปัญหา สุขภาพ เจ็บป่วยบ่อย ๆ โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจแก่คนในชุมชน จากเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึน โรงเรียนบ้านไร่ได้ตระหนักในปัญหาดังกล่าว จึงใช้เอกสารประกอบการจัดกิจกรรมอนุรักษ์ป่าไม้ใน ชมุ ชนของโรงเรยี นข้ึนเพ่ือเปน็ การปลกู จติ สาํ นกึ รกั ษป์ า่ ของนกั เรยี นท้งั โรงเรยี นและชุมชน แนวคิด การปลูกจิตสํานึกอนุรักษ์ป่าในชุมชน ด้วยกิจกรรมการเรียนการสอนของโรงเรียนบ้านไร่ ดําเนินการต้ังแต่เดือนพฤษภาคม 2557 จนถึงเดือนเมษายน 2558 โดยใช้กระบวนการการวิจัย 4 ขัน้ คอื ขั้นที่ 1 การตงั้ คาํ ถาม โดยครูนํานกั เรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 – ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ไป ศึกษาสภาพแหล่งเรียนรู้ในชุมชนของตนเอง เช่น สภาพแหล่งนํ้า ป่าไม้ ภูเขา และที่ดินทํากินของ ราษฎรในชุมชน นักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงปัญหาการเกิดนํ้าท่วม ฝนแล้ง การเกิดไฟป่า จาก รูปภาพ ครูใช้คําถามท่ีเกี่ยวกับภัยพิบัติต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนในชุมชน ถามนักเรียนเพ่ือกระตุ้นให้นักเรียน ได้แสดงความคิดเห็น และหาสาเหตุของเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้น ตลอดจนผลกระทบท่ีเกิดขึ้น เพื่อให้ นักเรียนเกิดความสงสัยและอยากค้นหาคําตอบด้วยตนเอง โดยให้เด็กแต่ละคนตั้งคําถามที่ตนเอง สงสัยคนละ 1 คําถาม เพ่ือสร้างความตระหนักให้เด็กได้รู้ถึงโทษของการเกิดนํ้าท่วม ฝนแล้ง การ เกิดไฟป่า ซึ่งเกิดจากตัดไม้ทาํ ลายป่า ข้ันท่ี 2 ขั้นเตรียมการค้นหาคําตอบ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนการค้นคว้าหา คําตอบท่ีตนเองสงสัย โดยใช้สื่อเทคโนโลยีในการค้นคว้าหรือส่ืออื่น ๆ หาทางเลือกและตัดสินใจ บทความ   91  

เลือกทางเลือกท่ีมีความเหมาะสมในเร่ืองท่ีตนเองสนใจ จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น ในห้องสมุด อินเทอร์เน็ต หรอื สอบถามจากผู้รู้ เพอ่ื ปลกู ฝังใหเ้ ด็กรจู้ ักการวางแผนในการทาํ งานรว่ มกัน ข้ันที่ 3 ข้ันค้นหาคําตอบและตรวจสอบคําตอบ นักเรียนใช้เทคโนโลยีในการค้นคว้าหา คําตอบที่ตนเองสงสัย เช่น ค้นคว้าหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต จากหนังสือในห้องสมุด หรือสอบถาม จากผู้รู้ เป็นต้น ครูต้องคอยกระตุ้นให้นักเรียนรายงานความก้าวหน้าของแต่ละกลุ่ม เพ่ือปลูกฝังให้ เดก็ รจู้ กั การค้นคว้าหาความรู้อยา่ งเป็นระบบ ขั้นที่ 4 ข้ันสรุปและนําเสนอผลการค้นหาคําตอบ นักเรียนแต่ละกลุ่มนําความรู้ที่ได้มา สรุปตามความเข้าใจของกลุ่มของตนเองจากข้อมูลที่ได้ศึกษาค้นคว้ามา และนักเรียนจัดทําแผนภาพ โครงร่างแสดงรายละเอียดการนําเสนอข้อมูล ครูจะเป็นผู้คอยให้คําแนะนําและความช่วยเหลือ นักเรียนเขียนสรุปข้อมูลเป็นแผนภาพโครงร่างท่ีได้รับการปรับปรุง มาเป็นเอกสารประกอบการเรียน การอนุรักษ์ปา่ ไมใ้ นชุมชน โดยการเขียนเปน็ ร้อยแก้วหรือการแตง่ เป็นบทร้อยกรอง การจดั กิจกรรม กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 มี 2 กิจกรรม ดงั น้ี 1. กิจกรรมการจัดทําเอกสารอนรุ ักษป์ ่าไม้ในชมุ ชน มี 5 ขน้ั ตอน คอื 1.1 ประธานนักเรียนประชุมชี้แจงการศึกษาวิธีการทําเอกสารประกอบการเรียนการ อนรุ กั ษป์ ่าไมใ้ นชุมชน 1.2. แบ่งกลุ่มนักเรียนคละช้ันเรียนต้ังแต่ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 – ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 แล้วมอบหมายให้นักเรียนศึกษาการเกิดนํ้าท่วมในชุมชนและผลกระทบท่ีนักเรียนได้รับ โดยนักเรียน ไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ในชุมชนของตนเอง โดยนักเรียนแต่ละคนตั้งคําถามที่ตนเองอยากรู้มา คนละ 1 คาํ ถาม 1.3 หลังจากนั้นนักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายและหาคําตอบของแต่ละคนภายใน กลมุ่ ของตนเอง แลว้ นํามาเขียนสรุปเปน็ แผนผังความคดิ 1.4 นําข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์หาคําตอบ แล้วนําคําตอบนั้นมาปรึกษาครูเพื่อตรวจสอบ ความถกู ต้องของคําตอบ 1.5 นักเรียนนําข้อมูลที่ได้จากการค้นคว้าเสนอผลงานของตนเอง จัดทําเป็นเอกสาร ประกอบการเรียนการอนุรักษ์ป่าไม้ในชุมชน เก่ียวกับการปลูกจิตสํานึกและการอนุรักษ์ป่า แล้วนํา เอกสารประกอบการเรียนการอนรุ กั ษ์ป่าไมใ้ นชมุ ชนมาแลกเปลยี่ นเรียนรซู้ ึง่ กันและกัน 2. กิจกรรมพีห่ ว่ งใยน้อง มขี น้ั ตอนคอื 2.1 นักเรียนคัดเลือกเอกสารประกอบการเรียนการอนุรักษ์ป่าไม้ในชุมชนที่นักเรียนสนใจ เพือ่ ใช้ในการจดั กจิ กรรมพ่หี ว่ งใยนอ้ งและทาํ แบบบันทึกกิจกรรมพ่ีห่วงใยนอ้ ง 2.2 จัดกลุ่มนักเรียนรุ่นพ่ีกับนักเรียนรุ่นน้อง โดยให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 สอน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 สอน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5 และนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 สอน 92 บทความ    

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 และช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นคู่ ๆ โดยน้องเลือกเอกสาร ประกอบการเรียนการอนุรักษ์ป่าไม้ในชุมชนในเรื่องที่ตนเองชอบมาอ่านให้รุ่นพี่ฟัง พี่ต้ังคําถามจาก เน้ือหาที่อา่ นใหน้ อ้ งตอบคําถาม ถา้ น้องอา่ นไดถ้ ูกตอ้ งและตอบคาํ ถามได้ พก่ี จ็ ะพาน้องไปอา่ นหนังสือ ใหค้ รฟู ัง 2.3 นักเรียนอ่านหนังสือให้ครูฟัง ถ้านักเรียนอ่านและตอบคําถามได้ถูกต้อง ครูก็จะลง ลายมือชื่อในแบบบันทึกพ่ีห่วงใยน้อง ถ้าอ่านไม่ถูกต้องหรือตอบคําถามไม่ได้ ก็ให้ดําเนินการตามข้อ 2.2 ใหม่ จนกวา่ จะทาํ ได้ถูกตอ้ ง 2.4 ครตู รวจแบบบันทึกกจิ กรรมพีห่ ว่ งใยนอ้ งและชน่ื ชมผลงาน สรุปผลการดําเนินงาน การจัดกิจกรรมการทําเอกสารประกอบการเรียนการอนุรักษ์ป่าไม้ในชุมชน โดยการใช้ กระบวนการวิจัย 4 ข้ันตอน ทําให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเร่ืองการอนุรักษ์ป่าไม้โดยวิธีการสร้าง องค์ความรู้ อีกท้ังยังทําให้นักเรียนมีทักษะทางด้านการค้นคว้า การใช้ภาษา ความคิดสร้างสรรค์ เพราะเป็นสิ่งท่ีทําให้นักเรียนเกิดจิตสํานึกในการอนุรักษ์ป่าไม้ในชุมชน และสามารถสร้างองค์ความรู้ ด้วยตนเอง ตลอดจนสามารถร่วมกิจกรรมการอนุรักษป์ ่าไม้ในชุมชนได้อย่างเหน็ ได้ชัด บทความ   93  

รักษป์ ่าชมุ ชน นางนภารัตน์ สิงหธ์ นะ นางสาววรรณรัตน์ สุรินทร์ และนางสาวสริ ิยากร ใจน้อย โรงเรยี นบ้านน้าํ ออ้ ความเปน็ มา โรงเรียนบ้านนํ้าอ้อ ต้ังอยู่ท่ีอําเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน ในการประชุมสัมมนารักษ์ป่าน่าน ปีท่ี 1 วันท่ี 10 มีนาคม 2557 โรงเรียนได้นําเสนอเร่ืองการจัดกระบวนการเรียนรู้งานสวน พฤกษศาสตร์โรงเรียนขน้ึ เพือ่ เป็นสอื่ ในการสร้างจติ สํานึกด้านการอนรุ ักษ์ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม โดยใช้ต้นไม้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้วยวิธีการต่าง ๆ จัดกิจกรรมบูรณาการในการเรียนสาระ การเรยี นรู้ 8 กล่มุ สาระ เพอ่ื ให้เปน็ การต่อเน่ืองในปนี ีโ้ รงเรียนได้จดั กจิ กรรมสาํ รวจป่าชุมชนขน้ึ เพราะหมู่บ้านนํ้าอ้อมี พ้ืนทีบ่ รเิ วณปา่ มาก ซึง่ เกดิ จากการที่หน่วยงานต่าง ๆ นักเรียนและผู้ปกครองได้ร่วมกิจกรรมปลูกป่า มาช้านาน โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้นักเรียนได้ทราบข้อมูลของป่าไม้ในชุมชน เป็นการปลูกจิตสํานึก และสร้างความตระหนักให้นักเรียนได้เห็นคุณค่า ประโยชน์ ความสําคัญ และเกิดความรักหวงแหน ปา่ ไม้ในท้องถน่ิ ของตนเอง วิธีดาํ เนนิ การ 1. จัดกิจกรรมให้นักเรียนได้ศึกษาเน้ือหาเก่ียวกับข้อมูลและที่มาของป่าในชุมชนโดยใช้ส่ือซึ่ง ครูและนักเรียนร่วมกันจัดทําข้ึน ตั้งช่ือว่า “คุณลุงต้นไม้” ภายในต้นไม้ประกอบด้วยข้อมูลของป่า แต่ละแห่งในหมู่บ้านนํ้าอ้อ ซึ่งเป็นข้อมูลท่ัวไปเกี่ยวกับขนาดเน้ือที่ ลักษณะของป่า การใช้ประโยชน์ ต่าง ๆ เพือ่ ให้นกั เรียนไดร้ ับความรูพ้ น้ื ฐานกอ่ นท่จี ะเข้าสู่กิจกรรมสํารวจปา่ 2. จัดกิจกรรมสํารวจป่าในชุมชนโดยให้นักเรียนได้เข้าไปศึกษาป่าในชุมชนตามแห่งต่าง ๆ โดยการนาํ ของผรู้ ูใ้ นหม่บู ้านเป็นผู้ให้ความรูแ้ ละนําทางสาํ รวจ ซึ่งนักเรยี นได้รับความรู้พ้ืนฐานจากสื่อ “คณุ ลุงตน้ ไม”้ มาบ้างแลว้ 3. หลังจากการสํารวจป่าให้นักเรียนเขียนบรรยายความรู้สึกเก่ียวกับป่าไม้ท่ีตนเองได้ไป สํารวจมาและวาดภาพพรอ้ มบรรยายในหัวขอ้ “ปา่ ทฉี่ นั อยากใหเ้ กดิ ขึ้นในอนาคต” ผลท่ีไดร้ บั 1. นกั เรียนไดท้ ราบถึงขอ้ มลู ปา่ ไม้ในชมุ ชน 2. นักเรยี นได้เรียนรู้ระบบนิเวศของป่าไมจ้ ากสถานท่ีจรงิ 3. นักเรยี นเกิดความรกั หวงแหนปา่ ไม้ในท้องถน่ิ ของตนเอง 94 บทความ    

บทความ   95  

นางศศมิ ล ไทยเทยี นชยั และนางทัศนีย จันทโคตร โรงเรียนบา นน้ํายาว ความเปน มา โรงเรียนบา นน้ํายาว อําเภอปว จังหวัดนาน เปนโรงเรียนท่ีเปดทําการสอน ตั้งแตระดับกอน ประถมศึกษาและระดับประถมศึกษา มีครู 13 คน มีนักเรียน 145 คน ไดนําคูมือการจัดกิจกรรม อนุรักษทรัพยากรปาไม ตามพระราชดําริ มาตอยอดจากโครงการสรางความตระหนักรักษปาบาน เราดวยกิจกรรมหนังสือเลมเล็ก ท่ีไดนําเสนอในการประชุมสัมมนารักษปานานป 1 วันท่ี 10 มีนาคม 2557 จากกิจกรรมในหนวยท่ี 6 เร่ืองภูมิปญญาอนุรักษปา นักเรียนมีความสนใจท่ีจะสืบคนหา ภูมิปญญาอนุรักษปาของชุมชนบานน้ํายาว โรงเรียนจึงไดทําโครงงานศึกษาภูมิปญญาอนุรักษปาใน ชุมชนบานนํ้ายาวขึน้ ในการทําโครงงานศึกษาภูมิปญญาอนุรักษปาชุมชนบานน้ํายาวมีวัตถุประสงค เพื่อศึกษา ภูมิปญญาอนุรักษปาในชุมชนบานนํ้ายาว ใหนักเรียนมีเจตคติที่ดี เขาใจ เห็นคุณคาและความสําคัญ ของภูมิปญญาทองถิ่นในการอนุรักษทรัพยากรปาไม และมีสวนรวมอนุรักษทรัพยากรปาไมในชุมชน นักเรียนท่ีเขาโครงการเปนนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาทั้งหมดจํานวน 104 คน โดยใชบานน้ํายาว หมู 3 บานดอนนํ้ายาวหมู 10 และปาชุมชนบานน้ํายาว เปนพื้นที่ในการศึกษา ในระยะเวลา มิถนุ ายน 2557 – มีนาคม 2558 การจัดกจิ กรรม ขนั้ ท่ี 1 การทาํ โครงงานศึกษาภูมปิ ญญาอนุรักษปาในชมุ ชนบานน้ํายาว ใชระยะเวลา 4 สปั ดาห โดยมีขน้ั ตอนการจัดกจิ กรรมดงั นี้ 1. การคัดเลือกหัวเร่ืองและการศึกษาเอกสารท่ีเก่ียวของ ดวยการต้ังคําถาม โดยการใช กระบวนการการต้งั คาํ ถามถึงความสนใจอยากเรยี นรูในกลุมสมาชิก 2. การเขียนเคาโครงของโครงงาน ประกอบดวย ช่ือโครงงาน ช่ือผูทําโครงงาน ชื่อที่ ปรึกษาโครงงาน หลักการและเหตุผล จุดมุงหมาย / วัตถุประสงค สมมุติฐานของการศึกษา โครงงาน ขั้นตอนการดาํ เนนิ งาน ปฏิบัตโิ ครงงาน ผลท่คี าดวา จะไดร ับ และบรรณานุกรม 3. การปฏิบัติโครงงาน เปนการดําเนินงานตามแผนท่ีกําหนดไวในเคาโครงของโครงงาน มี การจดบันทึกขอมูลตาง ๆ ใหละเอียด และตองจัดทําอยางเปนระบบ มีความเปนระเบียบ เพ่ือที่จะ ไดใ ชเปน ขอมลู ดําเนนิ การตอไป 4. การเขยี นรายงาน ใชภาษาท่เี ขาใจงาย กระชบั ชัดเจน และครอบคลุมประเด็นสาํ คญั ของ โครงงาน โดยเขียนอยูในรูปตาง ๆ เชน การสรุป การรายงานผล ซึ่งประกอบไปดวยหัวขอตาง ๆ เชน บทคัดยอ บทนํา เอกสารท่ีเก่ียวของ ขั้นสรุปและนําเสนอผลการคนหาคําตอบ โดยตัวแทน 96 บทความ

นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ นาํ ความรู้ท่ไี ดร้ ับไปสรุปตามความเขา้ ใจและสร้างองคค์ วามร้ดู ้วยตนเองจากขอ้ มูล ท่ไี ด้ศึกษามา ขั้นที่ 2 การทําหนังสือเล่มเล็กชุดภูมิปัญญาอนุรักษ์ป่า โดยนําผลโครงงานศึกษา ภูมิปัญญาอนุรักษ์ป่าในชุมชนบ้านนํ้ายาว มาทําเป็นหนังสือเล่มเล็กชุดภูมิปัญญาอนุรักษ์ป่าจํานวน 4 เร่ือง ได้แก่ พิธีการบวชป่าบ้านน้ํายาว ผีย่าหม้อน่ึง การเลี้ยงผีไฮ่ (ผีไร่) การไหว้เก๊าสลี (ต้นโพธิ์) โดยมีข้ันตอนการดาํ เนนิ งานพอสรปุ ได้ดงั นี้ 1. การจัดทําต้นฉบับ เป็นประการแรกที่จะต้องจัดทํา ประกอบด้วยเน้ือเร่ือง และดัมม่ี (Dummy) คือต้นแบบการทําหนังสือ ใช้กระดาษเปล่า A4 ตัดคร่ึงเท่ากับขนาดของหนังสือเล่มเล็ก แล้วจัดทําหน้าปก หน้ารองปก หน้าคํานํา และหน้าเน้ือเร่ือง โดยเขียนเนื้อเร่ืองจากที่ไปศึกษากับ ปราชญ์ในชุมชนบ้านนํ้ายาว และแสดงส่วนที่เป็นภาพ เขียนบอกว่าเป็นภาพอะไร ทําแบบนี้ทุกหน้า เสร็จแลว้ รวมเปน็ เล่มไว้ 2. การทําเล่มจริง มีการศึกษาเกณฑ์ในการทําหนังสือเล่มเล็ก เช่น แนวของเร่ือง ขนาด รูปเล่ม เทคนิคในการจัดทํา และสีที่ใช้ในการวาดภาพ จากนั้นก็ลงมือวาดภาพ และเขียนเร่ือง ตามดัมมี่ทไ่ี ด้กาํ หนดไว้ ขนั้ ที่ 3 การนําเสนอผลงาน 1. การนําเสนอโครงงานแบบโปสเตอร์ แบบบอร์ดสามส่วน ประกอบด้วย สามส่วน คือ สว่ นซา้ ย กลาง และขวา 2. การนาํ เสนอแบบปากเปล่า นักเรยี นเขียนบทคัดยอ่ เพื่อเตรยี มการนําเสนอผลงาน 3. การนําเสนอผลงานท่ีใช้ประกอบในโครงงานศึกษาภูมิปัญญาอนุรักษ์ป่าในชุมชนบ้าน นํ้ายาว ผลการดาํ เนนิ งาน การทําโครงงานศึกษาภูมิปัญญาอนุรักษ์ป่าในชุมชนบ้านนํ้ายาว ทําให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ เร่ืองภูมิปัญญาอนุรักษ์ป่าในชุมชนของตนมากข้ึน นอกจากนี้การทําโครงงานยังทําให้ นักเรียนได้เรียนรู้โดยการปฏิบัติจริง ทํามีทักษะทางด้านภาษา ศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์ เม่ือครู นําไปใชใ้ นดา้ นการจดั การเรยี นการสอนจะทําให้เด็กเกดิ ความตระหนกั สามารถนําไปสรา้ งองคค์ วามรู้ ด้วยตนเองและปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในการอนรุ กั ษป์ ่าไม้ไดอ้ ย่างเป็นรูปธรรม บทความ   97  

สํารวจและเกบ็ ข้อมลู การบวชป่าบ้านนํา้ ยาว  ศึกษาการเซาะเม่อื (เสย่ี งทาย) ผียา่ หม้อน่งึ   นักเรียนนําเสนอขอ้ มลู โครงงานภูมิปญั ญาอนรุ ักษป์ ่า  การสํารวจเกา๊ สลี (ตน้ โพธ)์ิ   98 บทความ    




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook