1
2 แผนปฏบิ ตั ิการ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กศน.ตาบลห้วยยาง ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอทบั สะแก สานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ สานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั สานักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศกึ ษาธิการ
ก แผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กศน.ตาบลหว้ ยยาง **************************** เพื่อให๎การสํงเสริมการจัดการศึกษาบรรลุเปูาประสงค์ตามยุทธศาสตร์และจุดเน๎นการดาเนินงาน สานักงาน กศน. และของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอทับสะแก จึงได๎จัดทา แผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กศน.ตาบลห๎วยยาง ซ่ึงประกอบด๎วยข๎อมูลพื้นฐานของ กศน.ตาบล ข๎อมูลพื้นฐานเพื่อการวางแผน ทิศทางการดาเนินงาน และรายละเอียดแผนปฏิบัติการประจาปี งบประมาณ พ.ศ. 2564 ของ กศน.ตาบลห๎วยยาง ซึ่งทางคณะกรรมการ กศน.ตาบลห๎วยยาง ได๎พิจารณา เหน็ ชอบแผนงาน/โครงการ/กจิ กรรม ในแผนปฏบิ ัตกิ ารประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 กศน.ตาบลห๎วยยาง และให๎นาแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ดังกลําว ใช๎เป็นกรอบในการดาเนินงานของ กศน. ตาบลหว๎ ยยาง ตอํ ไป ทงั้ น้ี ต้ังแตํ เดอื น ตลุ าคม 2563 ลงช่ือ .......................................... ผ๎ูเสนอ ( นางสาวสมิตา โชติดาว ) ครู กศน.ตาบล ลงชือ่ ...........................................ผูเ๎ ห็นชอบ ( นายสราวุธ ทอดสนิท ) ประธานคณะกรรมการ กศน.ตาบล ลงชื่อ................................................ผ๎ูอนมุ ตั ิ ( นางมณรี ตั น์ อจั ฉรยิ พนั ธกลุ ) ผ๎ูอานวยการ กศน.อาเภอทับสะแก
ข คานา แผนปฏิบัตกิ ารประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 กศน.ตาบลห๎วยยาง จัดทาขึ้นเพื่อเป็นแนวทาง ในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยยึดแนวทาง ตามยุทธศาสตร์และจุดเน๎นการดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประจาปี งบประมาณ พ.ศ. 2564 สอดคล๎องกับยุทธศาสตร์และจุดเน๎นการดาเนินงาน ของสานักงานการศึกษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และยุทธศาสตร์และจุดเน๎นการดาเนินงานของ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอทับสะแก ตลอดจนบริบท ความต๎องการของ กลุํมเปูาหมายในพื้นท่ีเพ่ือกาหนดเป็นแนวปฏิบัติและแนวทางในการดาเนินงาน กศน.ตาบล ห๎วยยาง ใหเ๎ ป็นไปตามเปูาหมายท่ีตัง้ ไว๎อยาํ งมีประสิทธภิ าพ การจัดทาแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กศน.ตาบลห๎วยยาง ประจาปี งบประมาณ พ.ศ. 2564 เลํมน้ี ประกอบด๎วย 1) ข๎อมูลพื้นฐานของ กศน.ตาบล 2) ข๎อมูลพื้นฐานเพื่อการ วางแผน 3) ทศิ ทางการดาเนนิ งาน และ 4) รายละเอียดแผนปฏิบตั ิการประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 กศน.ตาบลห๎วยยาง ขอขอบคุณผ๎ูอานวยการ กศน.อาเภอทับสะแก ข๎าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา ครูอาสาสมัคร กศน. เครือขําย และผ๎ูเกี่ยวข๎องทุกทํานท่ีให๎ความรํวมมือเป็นอยํางดียิ่ง ทาให๎ แผนปฏบิ ตั ิการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เลมํ น้ี สาเร็จลุลํวงด๎วยดี และหวังเป็นอยํางยิ่งวํา กศน.ตาบล ห๎วยยาง จะนาสภาพปัญหาและผลการดาเนินงานมาปรับปรุงเพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย เพ่ือสนองตอบความต๎องการของประชาชนในพน้ื ที่อยํางแทจ๎ ริง กศน.ตาบลห๎วยยาง ตุลาคม 2563 ผ๎จู ดั ทา
ค สารบญั หน้า แผนปฏบิ ตั ิการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564..……………………………………………………………….. ก คานา …………………………………………………………………………………………………………………………… ข สารบัญ ………………………………………………………………………………………………………………………… ค สว่ นท่ี 1 ข้อมูลพน้ื ฐานของ กศน.ตาบล ………………………………………………………………………. 1 ความเป็นมา ................................................................................................................ 1 ท่ตี ั้ง ……………………………………………………………………………………………………………… 1 บทบาทหน๎าทีภ่ ารกิจ กศน.ตาบล ……………………………………………………………………. 1 คณะกรรมการ กศน.ตาบล ……………………………………………………………………………… 4 อาสาสมัคร กศน.ตาบล ………………………………………………………………………………….. 6 บุคลากรใน กศน.ตาบล ………………………………………………………………………………….. 7 องคก์ รนักศึกษา กศน.ตาบล ...................................................................................... 8 ทาเนียบครู กศน.ตาบล ...................................................................................... 9 รางวลั เกยี รติบัตร ผลงานของ กศน.ตาบล................................................................ 10 แหลํงเรียนร.๎ู .............................................................................................................. 11 ภาคีเครือขําย............................................................................................................. 11 ส่วนที่ 2 ข้อมูลพน้ื ฐานเพ่ือการวางแผน …………………………………………………………………….. 13 สภาพท่วั ไปของตาบล ……………………………………………………………………………………. 13 ขอ๎ มูลดา๎ นประชากร ………………………………………………………………………………………. 17 ข๎อมูลด๎านสังคม ……………………………………………………………………………………………. 20 ขอ๎ มูลด๎านเศรษฐกิจ ………………………………………………………………………………………. 21 ขอ๎ มลู ดา๎ นการศกึ ษา ………………………………………………………………………………………. 28 ส่วนท่ี 3 ทิศทางการดาเนนิ งาน …………………………………………………………………………………. 35 นโยบายและจดุ เน๎นการดาเนนิ งานสานกั งาน กศน.ประจาปีงบประมาณ2564.............35 ทิศทางการดาเนินงานของสานกั งาน กศน.จงั หวัดประจวบคีรขี ันธ์………………………. 44 ทิศทางการดาเนนิ งานของ กศน.อาเภอ….………………………………………………………… 48 แนวทางการพฒั นา กศน.ตาบล ……..………………………………………………………………. 50
ง สารบัญ (ตอ่ ) หนา้ สว่ นที่ 4 รายละเอียดแผนปฏิบัตกิ ารประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564.......………………………….59 บัญชแี ผนงาน/โครงการ/กิจกรรม …………………………………………………………………… 60 ตารางวเิ คราะหค์ วามสอดคลอ๎ งของแผนปฏิบตั กิ ารประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564.. 63 แผนการใชจ๎ าํ ยงบประมาณตามแผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564.......... 65 โครงการ ………………………………………………………………………………………………………. 67 ภาคผนวก …………………………………………………………………………………………………………………… คณะผู้จัดทา …………………………………………………………………………………………………………………
1 ส่วนท่ี 1 ข้อมลู พ้ืนฐานของ กศน.ตาบลห้วยยาง ความเปน็ มา กศน.ตาบลห๎วยยาง ต้ังอยํูอาคารศูนย์เด็กเล็กบ๎านทํุงกว๎าง (หลังเกํา) หมูํ 5 ตาบลห๎วยยาง อาเภอ ทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได๎รับความอนุเคราะห์จากองค์การบริหารสํวนตาบลห๎วยยางในการ จัดหาอาคารสถานที่ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให๎กับนักศึกษาและประชาชนในเขตพื้นที่ตาบล ห๎วยยาง เร่ิมปรับปรุงภูมิทัศน์ทั้งภายนอกและภายในโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให๎บริการและจัดกิจกรรม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ให๎กับประชาชนในตาบลห๎วยยาง กศน.ตาบลห๎วยยาง มีบทบาทหน๎าที่ในการจัดการศึกษานอกโรงเรียนสายสามัญ ในหลักสูตร การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในระดับประถมศึกษา, มัธยมศึกษา ตอนต๎นและระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จัดการเรียนการสอนการศึกษาขั้นพื้นฐานเพ่ือให๎อํานออกเขียนได๎ การศึกษาตํอเนอ่ื ง การศึกษาเพื่อพฒั นาอาชีพ การศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและ ชุมชน เศรษฐกิจพอเพียง และการศึกษาตามอัธยาศัย โดยจัดให๎มีบ๎านหนังสือชุมชน การจัดตั้ง กศน.ตาบล มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการเรียนร๎ูที่หลากหลายตามความต๎องการของผ๎ูเรียน เป็นแหลํงเรียนร๎ูตลอดชีวิต อยํางทวั่ ถงึ และเทาํ เทยี มกนั สาหรับผ๎สู นใจและประชาชนในชุมชน ทต่ี ั้ง กศน.ตาบลห๎วยยาง เลขท่ี 55 หมทูํ ี่ 5 ตาบลหว๎ ยยาง อาเภอทบั สะแก จงั หวัดประจวบครี ีขนั ธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 089-5108451 E-Mail : [email protected] FACEBOOK : กศน.ตาบลหว๎ ยยาง กศน.อาเภอทับสะแก https://www.facebook.com/hy.nfe บทบาทหน้าทีภ่ ารกจิ กศน.ตาบล กศน.ตาบล เป็นหนํวยงานในสังกัด กศน.อาเภอ มีฐานะเป็นหนํวยจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอัธยาศยั เพื่อสงํ เสริมการเรียนร๎ตู ลอดชวี ติ ของประชาชนและการสร๎างสงั คมแหงํ การเรยี นรู๎ กศน.ตาบล มภี ารกิจทีส่ าคัญ ดงั นี้ 1. จัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให๎กับประชาชนกลํุมเปูาหมายใน ชมุ ชนอยาํ งนอ๎ ยปีงบประมาณละ 560 คน โดยจาแนกเป็นรายกจิ กรรมดังนี้ 1.1 การศึกษานอกระบบ 260 คน ประกอบดว๎ ย 1.1.1 การศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน จานวน 60 คน 1.1.2 การศึกษาเพอื่ พัฒนาอาชพี จานวน 20 คน 1.1.3 การศกึ ษาเพื่อพัฒนาทกั ษะชวี ติ จานวน 20 คน
2 1.1.4 การศกึ ษาเพือ่ พัฒนาสงั คมและชมุ ชน จานวน 60 คน 1.1.5 กระบวนการเรยี นรูต๎ ามปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง จานวน 100 คน 1.2 การศึกษาตามอธั ยาศัย จานวน 300 คน 2. สร๎างและขยายภาคีเครือขํายเพ่ือการมีสํวนรํวมในการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศัยในชมุ ชน 3. สงํ เสรมิ และสนับสนุนการจดั กจิ กรรมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในชุมชนของ ภาคีเครือขาํ ย ทั้งในแงํของความเขม็ แขง็ และความตํอเนื่องในการมสี ํวนรวํ มและศักยภาพในการจดั 4. จัดทาระบบข๎อมูล สถิติ และสารสนเทศ เก่ียวกับประชากรกลุํมเปูาหมายและผลการจัดกิจกรรม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพ่ือใช๎ในการวางแผนพัฒนาและแผนการจัดการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ท้ังในระดับชุมชนหรือระดับจุลภาค ระดับอาเภอ ระดับจังหวัด และ ภาพรวมระดบั ประเทศของสานักงาน กศน. 5. จัดทาแผนงาน โครงการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยประจาปีงบประมาณ เพ่อื จดั กิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให๎กับประชาชนกลํุมเปูาหมายและชุมชน และ พัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ตามกรอบจุดเน๎นการดาเนินงานของสานักงาน กศน. สานักงาน กศน.จังหวดั และ กศน.อาเภอ ท่ีสังกัดเพ่ือการสนับสนุนงบประมาณจาก กศน.อาเภอ ที่สังกัด โดย ในกรณขี องการจดั กิจกรรมการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน ใหย๎ ึดคาํ ใช๎จํายรายหัว ตามที่มติคณะรัฐมนตรีกาหนดคูณด๎วย จานวนนักศึกษา 60 คน สาหรับกิจกรรมอ่ืนๆนั้น จัดทาแผนงาน โครงการเพ่ือเสนอของบประมาณให๎ ดาเนินการตามทไ่ี ดร๎ บั มอบหมายจาก กศน.อาเภอ 6. ประสานและเชื่อมโยงการดาเนินการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ของศูนย์การเรียนร๎ูชุมชนและภาคีเครือขํายในตาบล โดยมีการประสานแผนการดาเนินงานภายในตาบลท่ี รบั ผิดชอบและ กับ กศน.อาเภอทส่ี ังกัดตามกรอบจดุ เน๎นการดาเนนิ งานบนพ้ืนฐานของความเป็นเอกภาพ ด๎าน นโยบายและความหลากหลายในการปฎบิ ัติ 7. พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ในความรับผิดชอบ ตามระบบประกันคณุ ภาพภายในสถานศึกษา เพือ่ รบั รองการประกนั คุณภาพภายนอก ของ กศน.อาเภอ ที่สังกัด 8. รายงานผลการดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ตํอ กศน.อาเภอ ท่ี สังกดั ตามแผนหรือขอ๎ ตกลงที่กาหนดไว๎ 9. ปฏิบัติภารกิจอ่ืนๆท่ีดีรับมอบหมายจาก กศน.อาเภอ สานักงาน กศน.จังหวัด หรือ สานักงาน กศน. และตามทก่ี ฎหมายกาหนด
3 ครู กศน.ตาบล ครู กศน.ตาบล มีบทบาทสาคัญในการจัดและสํงเสริมการเรียนรู๎ตลอดชีวิตของประชาชน และสร๎างสังคมแหํงการเรียนร๎ูในชุมชน โดยมีหัวหน๎า กศน.ตาบล เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนและ มี หนํวยงานที่เก่ียวข๎องทาหนา๎ ท่ีสงํ เสริมและสนบั สนนุ การดาเนนิ งาน กศน.ตาบล ดังน้ี บทบาทหนา้ ทขี่ องหัวหน้า กศน. ตาบล 1) การวางแผนจัดทาฐานข๎อมูลชุมชน จัดทาแผนพัฒนา กศน. ตาบล และจัดทา แผนปฏบิ ตั ิการประจาปี 2) การจัดและสํงเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จัดและ สํงเสริมการศึกษานอกระบบ ได๎แกํ การสํงเสริมการรู๎หนังสือการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน และการศึกษาตํอเน่ือง จัดและสํงเสริมการศึกษาตามอัธยาศัย ได๎แกํ สํงเสริมการอําน จัดและพัฒนาแหลํง เรยี นร๎ู บริการขําวสารข๎อมลู และสอ่ื ท่หี ลากหลาย จัดและสํงเสริมกิจกรรมห๎องสมุดประชาชนตาบล ห๎องสมุด ชุมชน มุมหนังสือบ๎าน 3) บริการการเรียนรใ๎ู นชมุ ชนรวํ มกับภาคเี ครือขาํ ย – ศนู ย์เรยี นรตู๎ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและเกษตรทฤษฎใี หมํ ประจาตาบล – ศูนย์สงํ เสริมและพัฒนาระบอบบประชาธปิ ไตยประจาตาบล (ศส.ปชต.) – ศูนย์ดิจิทลั ชมุ ชน – ศูนยก์ ารเรยี นรต๎ู ลอดชวี ิต – ศนู ยก์ ารแนะแนว กศน.ตาบล – คลนี คิ เสมารกั ษ์ – ศูนย์การเรยี นร๎ู ICT ชุมชน รํวมกับ (กระทรวงไอซีที) – ชมรมคุ๎มครองผ๎บู ริโภค รวํ มกบั (สคบ.) – อาเภอเคลื่อนที่และจงั หวดั เคล่ือนที่รวํ มกับอาเภอ/จังหวดั 4) สร๎างและพัฒนาภาคีเครือขํายการเรียนรู๎ในชุมชน โดยการประสานขอความ รํวมมือจากภาคีเครือขําย องค์กรชุมชนผ๎ูร๎ู ผ๎ูทรงคุณวุฒิ ตลอดจนภูมิปัญญาท๎องถ่ิน เพ่ือรํวมเป็นอาสาสมัคร กศน.อาสาสมัครสงํ เสรมิ การอาํ น เป็นตน๎ 5) ประชาสัมพันธ์และเผยแพรํแผนงาน โครงการ กิจกรรมและผลการดาเนินงาน ของ กศน. ตาบล ในรูปแบบตําง ๆ 6) รายงานผลการปฏิบัติงาน รายงานข๎อมูลที่เกี่ยวข๎องตามแบบรายงานและ ระยะเวลาทก่ี าหนด และรายงานผลการปฏิบตั ิงานประจาปีของ กศน. ตาบล
คณะกรรมการ กศน.ตาบลห้วยยาง ช่ือ – สกุล 4 รูปถําย บทบาท ประธานกรรมการ นายสราวธุ ทอดสนทิ นายอรุณ ภูห่ ุ่น กรรมการ นายนพดล ทอดสนทิ กรรมการ นายณฐั วฒุ ิ แดงฉ่า กรรมการ นายศวิ ากร บุญรอดเลิศวงศ์ กรรมการ นายประเสรฐิ เมฆะ กรรมการ
คณะกรรมการ กศน.ตาบลหว้ ยยาง ช่ือ – สกลุ 5 รูปถําย บทบาท นายพงษ์ศักด์ิ แซ่ลิ้ม กรรมการ นายโชคชัย ชื่นชูกลน่ิ กรรมการ นายเขษม พิมพส์ อาด กรรมการ นายปรีชา หอมท่วั กรรมการ
คณะกรรมการ กศน.ตาบลห้วยยาง ชื่อ – สกลุ 6 รูปถําย บทบาท กรรมการ นายปล้มื อตุ ตเสนต์ นางสาวสมิตา โชตดิ าว กรรมการและเลขานุการ อาสาสมัครสง่ เสรมิ การอ่าน ตาบลห้วยยาง บทบาท ผนู้ า ท้องถ่นิ รปู ถําย ชอ่ื – สกลุ นายประเสรฐิ เมฆะ นางสาวมาณิตา กลิน่ ชมภู อาสาสมัครส่งเสริมการอา่ น
7 บุคลากรใน กศน.ตาบลหว้ ยยาง ช่อื – สกลุ บทบาท รปู ถาํ ย นางมณรี ตั น์ อัจฉริยพันธกลุ ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอ ทบั สะแก นายสุรพงษ์ อนันธรสาร ครู ผชู้ ่วย นางสาวภิชชากร ชรู ตั น์ ครู ผู้ชว่ ย นางสุมติ รา สุขอวบอ่อง ครูอาสาสมัคร กศน. นางสาวสมติ า โชติดาว กรรมการและเลขานุการ
องค์กรนักศึกษา กศน.ตาบลหว้ ยยาง 8 รูปถ่าย ช่อื – สกลุ บทบาท ประธาน นางสาวปู แสงเลิศ นางสาวดวงพร พิมพา กรรมการ นางสาวิภาวี มิตรดี กรรมการ นางสาวปราณี ปานปลอด กรรมการ นายชวนิ ช้างสาร กรรมการ
องคก์ รนกั ศึกษา กศน.ตาบลหว้ ยยาง 9 รูปถําย ชือ่ – สกลุ บทบาท กรรมการ นายศราวุทธ รุ่งโรจน์ นางสาวศริ ยิ า มิ่งใหญ่ กรรมการ นางสาวาสนา ทองไสว กรรมการและเลขานกุ าร ทาเนยี บครู กศน.ตาบลหว้ ยยาง ลาดับที่ ชอื่ – สกลุ ตาแหน่ง ระยะเวลาทดี่ ารงตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล ปี 2559 1. นายทวีป กฤษณา ครู กศน.ตาบล ปี 2560 ครู กศน.ตาบล 1 ก.ย.2561 - 30 ก.ย.2561 2. นางสาวศรวณยี ์ สืบสกุล ครู กศน.ตาบล 1 ต.ค.2561 – ปจั จุบัน 3. นางสาวพรพมิ ล เยาวมาลย์ 4. นางสาวสมิตา โชตดิ าว
10 รางวัล เกยี รตบิ ัตร และผลงานดเี ด่นของ กศน.ตาบล ด้านบคุ ลากร นางสาวสมิตา โชตดิ าว ครู กศน.ตาบล รางวลั รองชนะเลิศอนั ดับ 1 การแขงํ ขันเขียนขาํ ว ประชาสัมพนั ธ์ โครงการพัฒนาบุคลากรดา๎ นการประชาสมั พันธง์ านการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อธั ยาศัย ประจาปีงบประมาณ 2562 นางสาวสมิตา โชตดิ าว ครู กศน.ตาบลห๎วยยาง ไดร๎ ับเกยี รติบัตรนักศึกษาเข๎าสอบปลายภาคเรยี นท่ี 2/2563 ในระดบั ร๎อยละ 75 ขึ้นไป ด้านเครอื ขา่ ย / แหล่งการเรียนรู้ นางสาวสมิตา โชติดาว ชมุ ชนบา๎ นนา้ ตก ได๎รับรางวัลประกาศเปน็ ชมุ ชนต๎นแบบตามโครงการไทย นิยม ยงั่ ยืน ระดบั ตาบล ของสานักงาน กศน. ด้านผู้เรยี น ปี พ.ศ. 2562 1.นางปราณี ปานปลอด กศน.ตาบลห๎วยยาง นักศึกษาเรียนดี 2.นางสาวปู แสงเลิศ กศน.ตาบลหว๎ ยยาง นักศึกษามีความประพฤตดิ ี 3.นางสาวอภิญญา ขวัญอํอน กศน.ตาบลหว๎ ยยาง นกั ศกึ ษามีความประพฤตดิ ี ปี พ.ศ. 2563 รางวลั เรียนดี ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน๎ นายกนกพล คาทอง กศน.ตาบลหว๎ ยยาง ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย นางสาวสุรีย์ รนุ รีพนั ธ์ กศน.ตาบลหว๎ ยยาง รางวัลประพฤติดี นางสาวดวงพร เลือดแดง กศน.ตาบลหว๎ ยยาง นางสาวศิรยิ า มงิ่ ใหญํ กศน.ตาบลห๎วยยาง
11 แหล่งเรียนรใู้ นชุมชน และทุนด้านงบประมาณทส่ี ามารถนามาใช้ประโยชน์เพ่ือการจัด การศึกษา ประเภทบคุ คล ประเภทสถานทีแ่ ละองค์กร ประเภททรัพยากรธรรมชาติ ประเภทกจิ กรรมทาง สังคม-วฒั นธรรมและตน๎ ทุนงบประมาณ 1.แหลง่ เรยี นรปู้ ระเภทบุคคล ไดแ้ ก่ ภูมิปัญญาท้องถ่นิ ความร้คู วามสามารถ ทีอ่ ยู่ นายบารงุ เอ่ยี มมีศิลป์ พิธีการทางศาสนา ม.7 ตาบลห๎วยยาง อาเภอ นางพวงเงิน เจนเซนํ ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขนั ธ์ นายประทปี ทบั จิตร์ นวดแผนไทย ม.7 ตาบลหว๎ ยยาง อาเภอ นางทิพวรรณ ทอดสนทิ ทับสะแก จ.ประจวบครี ีขันธ์ เศรษฐกิจพอเพียง ม.10 ตาบลหว๎ ยยาง อาเภอ ทบั สะแก จ.ประจวบคีรขี ันธ์ กลวั ยอบนา้ ผ้ึงพลงั งานแสงอาทิตย์ ม.9 ตาบลห๎วยยาง อาเภอ มะพร๎าวอบนา้ ผ้ึง ทับสะแก จ.ประจวบคีรขี นั ธ์ 2. แหล่งเรยี นรปู้ ระเภทสถานท/่ี ชุมชน/กลุ่มทางเศรษฐกิจ/สังคม ได้แก่ ชอ่ื แหล่งเรียนรู้ ประเภทแหลง่ เรียนรู้ ทต่ี ง้ั แหลํงเรยี นรู๎เศรษฐกจิ พอเพยี ง การปลูกพชื ผสมผสาน เกษตร หมูํ 10 บ๎านหัวเขา ตาบลห๎วยยาง บ๎านหัวเขา อินทรีย์ ผักปลอดสารพิษ อาเภอทบั สะแก จ.ประจวบคีรขี นั ธ์ อทุ ยานแหงํ ชาติหาดวนกร ศกึ ษาแหงํ ธรรมชาติ หมํ7ู บ๎านชายทะเล ตาบลห๎วยยาง อาเภอทบั สะแก จ.ประจวบคีรขี ันธ์ อทุ ยานแหํงชาติน้าตกห๎วยยาง ศึกษาแหงํ ธรรมชาติ หมํู11 ตาบลหว๎ ยยาง อาเภอทบั สะแก จ.ประจวบคีรขี ันธ์ วัดสมทุ รธาราม ศกึ ษาทางศาสนา หม7ํู บา๎ นชายทะเล ตาบลห๎วยยาง อาเภอทบั สะแก จ.ประจวบคีรีขนั ธ์ วดั ประชาสนธิ (วดั น้าตกห๎วยยาง) ศึกษาทางศาสนา หม1ํู 1 ตาบลหว๎ ยยาง อาเภอทับสะแก จ.ประจวบคีรขี นั ธ์ แหลงํ เรยี นรเ๎ู ศรษฐกิจพอเพยี ง การปลูกพชื ผสมผสาน เกษตร หมํู 10 บา๎ นหวั เขา ตาบลหว๎ ยยาง บ๎านหัวเขา อินทรีย์ ผักปลอดสารพิษ อาเภอทบั สะแก จ.ประจวบคีรีขนั ธ์
3. แหลง่ สนับสนนุ ทุน/งบประมาณ ประเภทองค์กร ได้แก่ 12 ภาคีเครือข่าย การสนับสนุน ทอ่ี ย่/ู ทีต่ ง้ั 55 ม.5 ตาบลห๎วยยาง อาเภอ องค์การบรหิ ารสํวนตาบลหว๎ ยยาง สถานทต่ี ้งั กศน.ตาบล ทบั สะแก จงั หวัดประจวบคีรีขนั ธ์ ตาบลห๎วยยาง อาเภอทับสะแก โรงเรยี นในตาบลห๎วยยาง กจิ กรรรม กศน.ตาบล จงั หวัดประจวบครี ขี นั ธ์ ตาบลห๎วยยาง อาเภอทบั สะแก สถานีตารวจภูธรหว๎ ยยาง กิจกรรรม กศน.ตาบล จงั หวัดประจวบคีรีขันธ์ ตาบลหว๎ ยยาง อาเภอทบั สะแก วัดทุกแหงํ ในตาบลห๎วยยาง กจิ กรรรม กศน.ตาบล จงั หวัดประจวบครี ขี ันธ์ ตาบลหว๎ ยยาง อาเภอทับสะแก โรงพยาบาลสงํ เสริมสุขภาพตาบล กิจกรรรม กศน.ตาบล จงั หวัดประจวบคีรีขนั ธ์ ตาบลหว๎ ยยาง อาเภอทบั สะแก ห๎วยยาง จงั หวดั ประจวบคีรขี นั ธ์ ตาบลหว๎ ยยาง อาเภอทับสะแก อุทยานแหํงชาติหาดวนกร กิจกรรรม กศน.ตาบล จงั หวัดประจวบคีรีขนั ธ์ อทุ ยานแหํงชาติน้าตกหว๎ ยยาง กิจกรรรม กศน.ตาบล ผ้รู บั ผดิ ชอบ นางสาวมาณติ า กลน่ิ ชมภู บา้ นหนงั สอื ชุมชน ทต่ี ้งั นายประเสรฐิ เมฆะ ชอ่ื บา้ นหนงั สือชุมชน หมํู 3 ตาบลห๎วยยาง หมูํ 7 ตาบลห๎วยยาง บ๎านทํงุ ยาว บา๎ นชายทะเล
13 สว่ นท่ี 2 ข้อมลู พื้นฐานเพ่ือการวางแผน สภาพท่ัวไปตาบลหว้ ยยาง ตาบลห๎วยยางจัดตง้ั ขนึ้ เมื่อ พ.ศ.2501 ทเี่ รียกวํา \"หว๎ ยยาง\" เนื่องจากมลี าห๎วยไหลผาํ น และตน๎ ยาง ใหญอํ ยจํู านวนมาก ต.หว๎ ยยางตั้งอยทูํ างทิศเหนือสุดของ อ.ทบั สะแก ปจั จบุ นั แบํงการปกครองออกเปน็ 13 หมูํบ๎าน และไดย๎ กฐานะเปน็ อบต. เมอื่ วันท่ี 2 มนี าคม 2538 ทตี่ ้งั และอาณาเขตท่ี ต้ังของหมบูํ า๎ นหรือชมุ ชนหรอื ตาบล ตาบลหว๎ ยยางเปน็ ตาบล 1 ใน 6 ตาบลของอาเภอทับสะแก จงั หวัดประจวบคีรีขันธ์ ต้งั อยูํทางทิศเหนือสุดของอาเภอทับสะแก หํางจากท่วี าํ การอาเภอทบั สะแก ประมาณ 13 กิโลเมตร อยหูํ ํางจากตวั จังหวดั ประจวบครี ีขนั ธ์ ลงไปทางทศิ ใต๎ ประมาณ 30 กิโลเมตร มเี นอื้ ท่ี ๙๘.๘ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๖๑,๗๕๐ ไรํ อาณาเขตและพืน้ ทีใ่ กลเ๎ คยี ง ดงั นี้ ทศิ เหนือ ติดตํอกับตาบลหว๎ ยทราย อาเภอเมืองประจวบครี ีขนั ธ์ ทิศใต๎ ติดตอํ กบั ตาบลแสงอรุณ ทิศตะวันออก ตดิ ทะเลอําวไทย ทิศตะวันตก ติดตํอเทือกเขาตะนาวศรี ซ่ึงกั้นพรมแดนระหวํางประเทศไทย กับประเทศ สาธารณรัฐแหํงสหภาพเมียนมาร์ ลกั ษณะทางภมู ิศาสตร์/ภมู ปิ ระเทศ ภูมิประเทศ ลักษณะทั่วไป เป็นพ้ืนท่ีราบเชิงเขาตะนาวศรี ลาดเอียงจากทิศตะวันตก ไปทางด๎านทิศ ตะวันออก ติดทะเลอําวไทย เป็นพ้ืนที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะกับการปลูกมะพร๎าว และเลี้ยงสัตว์ สภาพ อากาศรอ๎ นช้ืน ฝนตกชุกเกอื บตลอดปี มี ๓ ดกู าล (ฤดูร๎อน ฤดฝู น ฤดูหนาว) มสี ภาพพน้ื ท่ีที่มีความลาดชันจากด๎านตะวันตก ซ่งึ เปน็ เทอื กเขาตะนาวศรลี าดลงสูํทิศตะวันออก ซง่ึ เป็นอาํ วไทย และสภาพของตาบลสวํ นใหญเํ ป็นลูกคลน่ื ถึงคํอนขา๎ งเรียบจนถงึ ลูกคล่ืนลอนตื้น สภาพดนิ เป็นดิน ทราย และสภาพพ้นื ท่ีท่ีมลี าดเขา ลักษณะของดนิ ลักษณะของดินในพื้นเขตพ้ืนที่ตาบลห๎วยยาง สํวนใหญํเป็นดินรํวนปนทราย ซ่ึงเหมาะอยํางยิ่งในการ เพาะปลูกพืช
14 ลกั ษณะของแหลง่ น้า แหลง่ นา้ ธรรมชาติ 1. คลองห๎วยยาง มีต๎นน้าบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี บริเวณน้าตกห๎วยยางโดยไหลผํานหมูํท่ี 11, 4, 3, 9, 2 และหมทํู ี่ 7 ลงสูอํ ําวไทย 2. คลองหินจวง มีตน๎ น้าบรเิ วณเทือกเขาตะนาวศรี บรเิ วณน้าตกบัวสวรรค์โดยไหลผําน หมํูที่ 10 และหมทูํ ่ี 12 ลงสํอู ําวไทย แหลง่ นา้ ที่สร้างขนึ้ 1. ฝาย จานวน 5 แหงํ 2. บอํ นา้ ต้นื จานวน 30 แหงํ 3. บอํ นา้ บาดาล จานวน 25 แหํง 4. ประปาหมูบํ ๎าน จานวน 12 แหํง 5. อาํ งเก็บน้า จานวน 12 แหํง - อาํ งเกบ็ นา้ ห๎วยมะปรางค์ หมทํู ่ี 4 - อํางเกบ็ นา้ บ๎านหัวเขา หมทํู ่ี 10 6. สระเกบ็ นา้ ประชาชน/สาธารณะ จานวน 20 แหงํ ลกั ษณะของไม้และป่าไม้ ตาบลห๎วยยาง มีลักษณะของปุาไม๎เป็น ปุาเบญจพรรณ ปุาดิบเขา และปุาดิบแล๎ง มีพันธุ์ไม๎จาพวก ตะเคียน เสลา ตะแบก ยาง ยงู ยมหอม ยมปุา ขนาน ไขเํ นํา ไทร พืชพ้นื ลาํ งเป็นไผํชนิดตาํ งๆ เน้อื ที่ จานวน 98.8 ตารางกิโลเมตร (61,760 ไรํ) ลักษณะภูมิอากาศ ลกั ษณะอากาศมลี ักษณะร๎อนชืน่ อากาศเปล่ียนแปลงไปตามฤดู ซึง่ มี ๓ ฤดู ดังนี้ ฤดูร้อน เร่ิมตั้งแตํเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม อากาศร๎อนและแห๎งแร๎ง แตํ บางครั้งอาจมีอากาศเย็น บ๎างคร้ังเกิดพายุฝนฟูาคะนองและลมกระโชกแรงกํอให๎เกิดความเสียหายแกํ ประชาชนทุกปี เรียกวาํ “พายุฤดูร๎อน” อากาศรอ๎ น จะมีอณุ หภมู ริ ะหวําง ๓๕ – ๓๙.๙ องศาเซลเซียส ร๎อนจัด มอี ณุ หภูมปิ ระมาณ ๔๐ องศาเซลเซียสขึ้นไป ฤดูฝน เร่ิมต้ังแตํกลางเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน แตํอาจเกิด“ชํวงฝนท้ิง” ซึ่งอาจ นานประมาณ ๑ – ๒ สัปดาห์หรือบางปอี าจเกดิ ขึ้นรุนแรงและมฝี นน๎อยนานนบั เดอื น ฤดูหนาว เริ่มตั้งแตํเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม ในชํวงกลางเดือนพฤศจิกายนนานราว ๑-๒ สัปดาห์ เป็นชํวงเปลี่ยนฤดูจากฤดูฝนเป็นฤดูหนาว อากาศแปรปรวนไมํแนํนอน อาจเริ่มมีอากาศเย็นหรืออาจ ยงั มฝี นฟูาคะนอง
15 การคมนาคม การเดินทางทางรถยนตส์ ะดวกสบาย โดยตาบลห๎วยยางหาํ งจากอาเภอไปตามทางหลวงแผํนดนิ หมายเลข 4 เปน็ ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร หาํ งจากจงั หวัดประจวบครี ขี ันธม์ าทางทศิ ใต๎ ประมาณ 27 กโิ ลเมตร ความยาว เหนอื – ใต๎ ตามถนนเพชรเกษมประมาณ 8.7 กิโลเมตร และมีความกวา๎ งจากตะวันตก – ตะวนั ออก ประมาณ 8 กโิ ลเมตร การคมนาคมขนสง่ 1. ทางหลวงแผํนดินหมายเลข 4 หรือถนนเพชรเกษม 2. ถนนทางหลวงชนบทสายเพชรเกษม – อทุ ยานแหํงชาตินา้ ตกหว๎ ยยาง 3. ทางหลวงชนบทสายเพชรเกษม - หนองข๎าวเหนยี ว 4. ทางหลวงชนบทสายเพชรเกษม - บา๎ นหัวเขา 5. ทางหลวงชนบทสายเพชรเกษม - คลองหนิ จวง 6. ทางหลวงชนบทสายเพชรเกษม – วัดสมทุ ทาราม 7. ทางรถไฟ
16 แผนทตี่ าบลห๎วยยาง อาเภอทบั สะแก จังหวดั ประจวบครี ีขันธ์
17 ขอ้ มูลดา้ นประชากร จานวนหมู่บา้ นเขตพ้นื ทต่ี าบลห้วยยาง มี 13 หม่บู ้าน ไดแ๎ กํ หมูํท1ี่ บ๎านหว๎ ยยาง หมูํที่ 2 บา๎ นบน หมทํู ่ี 3 บ๎านทํุงยาว หมทํู ่ี 4 บ๎านห๎วยมะปรางค์ หมูํที่ 5 บา๎ นทํุงกว๎าง หมทํู ่ี 6 บา๎ นเนนิ ดินแดง หมทํู ี่ 7 บ๎านชายทะเล หมูํที่ 8 บ๎านคอกม๎า หมทูํ ี่ 9 บ๎านหนองพลับ หมํทู ี่ 10 บา๎ นหวั เขา หมูํที่ 11 บา๎ นสายนา้ ตกสาย 1 หมูํท่ี 12 บา๎ นคลองหินจวง หมทูํ ี่ 13 บ๎านจ่ันเสอื จานวนประชากรจาแนกตามเพศและเขตพ้ืนท่ตี าบลห้วยยาง จานวนประชากร (ข๎อมูลจากสานักทะเบียนราษฎร์อาเภอทับสะแก ณ เดือนพฤษภาคม 2563) องค์การบรหิ ารสํวนตาบลหว๎ ยยาง มีจานวนประชากรทั้งสน้ิ จานวน 9,071 คน แยกเป็นชาย 4,428 คน หญิง 4,643 คน จานวนครัวเรอื น ท้งั สน้ิ 3,841 ครัวเรือน มีความหนาแนนํ เฉลี่ยของประชากร 92 คน/ ตารางกิโลเมตร โดยแยกเป็นรายตาบลและชมุ ชน ดังนี้ หมูท่ ่ี ชือ่ หมู่บ้าน ชาย (คน) หญิง (คน) รวม (คน) ครัวเรือน 1 บ๎านตลาดห๎วยยาง 153 170 323 185 2 บา๎ นบน 386 402 788 271 3 บา๎ นทงุํ ยาว 540 533 1,073 390 4 บ๎านห๎วยมะปรางค์ 298 310 608 200 5 บ๎านทุงํ กวา๎ ง 413 441 854 444 6 บ๎านเนินดินแดง 297 298 595 219 7 บ๎านชายทะเล 750 772 1,522 1,002 8 บ๎านคอกม๎า 190 196 386 124 9 บ๎านหนองพลบั 344 373 717 285 10 บ๎านหวั เขา 206 252 458 152 11 บา๎ นน้าตกห๎วยยาง สาย 1 289 290 579 190 12 บ๎านคลองหนิ จวง 274 320 594 213 13 บ๎านจนั่ เสือ 288 286 574 166
18 ชว่ งอายแุ ละจานวนประชากร (ข๎อมูลจากสานักทะเบยี นราษฎรอ์ าเภอทบั สะแก ณ เดือน พฤษภาคม 2563) ชว่ งอายุ ชาย หญงิ รวม 522 เด็ก 0 – 6 ปี 275 247 518 483 เด็กโต 7 – 12 ปี 268 250 5,435 1,545 เด็กรุํน 13 – 17 ปี 257 226 8,507 ผูใ๎ หญํ 18 – 59 ปี 2,641 2,794 ผู๎สูงอายุ 60 ปขี น้ึ ไป 685 534 รวม 4,126 4,351 ตาบลห๎วยยาง มีครัวเรือนอาศัยอยํู จานวน 1,994 ครัวเรือน อยํูในเขตพ้ืนที่การปกครอง เทศบาลตาบลทงั้ หมดมปี ระชากรทั้งสน้ิ คนแยกเป็นประชากรชาย จานวน 4,029 คน คิดเป็นร๎อยละ และ ประชากรหญิง จานวน 4,153 คน คิดเปน็ รอ๎ ยละ ความหนาแนนํ เฉล่ยี 82 คน/ตารางกิโลเมตร การเมืองการบรหิ าร การบรหิ ารงานเป็นไปในรูป องค์การบรหิ ารสวํ นตาบล ตัง้ แตํ พ.ศ. 2538 ซง่ึ ปจั จบุ ันมสี มาชกิ สภาองค์การบริหารสํวนตาบล จานวน 26 คน เขตการปกครอง องค์การบริหารสํวนตาบลห๎วยยางเป็นองค์การบริหารสํวนตาบลขนาดกลาง เปลี่ยนแปลง ฐานะจากสภาตาบล จัดต้ังเป็นองค์การบริหารสํวนตาบล เมื่อวันท่ี 2 มีนาคม 2538 มีพ้ืนที่ครอบคลุมตาบล ห๎วยยาง แบํงเขตการปกครองออกเป็น 13 หมํบู ๎าน ประกอบดว๎ ย หมูํท่ี 1 บา๎ นตลาดห๎วยยาง หมูทํ ี่ 2 บ๎านบน หมํูท่ี 3 บ๎านทุงํ ยาว หมทํู ่ี 4 บา๎ นห๎วยมะปรางค์ หมูํที่ 5 บา๎ นทงุํ กวา๎ ง หมทํู ี่ 6 บ๎านเนนิ ดินแดง หมทํู ี่ 7 บ๎านชายทะเล หมทํู ี่ 8 บา๎ นคอกมา๎ หมทํู ่ี 9 บา๎ นหนองพลบั หมทํู ี่ 10 บ๎านหัวเขา หมูํที่ 11 บ๎านนา้ ตกสาย 1 หมทํู ี่ 12 บ๎านคลองหนิ จวง หมูทํ ี่ 13 บา๎ นจนั่ เสอื
19 คณะผ๎ูบริหาร ทาหนา๎ ท่ีบริหารกจิ การขององคก์ ารบริหารสวํ นตาบลตามกฎหมาย ประกอบด๎วยนายก องค์การบริหารสํวนตาบล 1 คน รองนายกองค์การบริหารสํวนตาบล จานวน 2 คน และเลขานุการนายก องค์การบริหารสํวนตาบล จานวน 1 คน ซง่ึ นายกองคก์ ารบรหิ ารสวํ นตาบลเป็นผูแ๎ ตํงต้ัง คณะผบู้ ริหารองคก์ ารบริหารส่วนตาบลหว้ ยยาง จานวน 4 คน 1. นายธวชั ชยั แดงฉ่า นายกองคก์ ารบริหารสวํ นตาบลห๎วยยาง 2. นายโกมล หอมท่วั รองนายกองคก์ ารบริหารสวํ นตาบลห๎วยยาง 3. นายพจิ ติ ศกั ด์ิ สวุ รรณโมลี รองนายกองค์การบรหิ ารสํวนตาบลห๎วยยาง 4. นายทพิ ากร ชุมตรีนอก เลขานกุ ารนายกองค์การบริหารสวํ นตาบลห๎วยยาง สมาชกิ องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลห้วยยาง จานวน 26 คน 1. นายแสวง แดงฉา่ ประธานสภาองค์การบรหิ ารสํวนตาบลหว๎ ยยาง 2. นายมานสั แกว๎ ลอ๎ ม รองประธานสภาองคก์ ารบริหารสํวนตาบลห๎วยยาง 3. นางอาไพ วงศจ์ ันทรท์ อง สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารสวํ นตาบลหว๎ ยยาง หมูํท่ี 1 4. นายกาเนิด จาจด สมาชกิ สภาองค์การบริหารสํวนตาบลห๎วยยาง หมํทู ี่ 1 5. นางสาเนา บญุ ธรรม สมาชิกสภาองค์การบริหารสวํ นตาบลห๎วยยาง หมทํู ่ี 2 6. นางวนั เพ็ญ บญุ ธรรม สมาชกิ สภาองค์การบริหารสํวนตาบลหว๎ ยยาง หมูํท่ี 2 7. นายสมศักดิ์ ถ้าลอย สมาชกิ สภาองค์การบริหารสวํ นตาบลหว๎ ยยาง หมทํู ี่ 3 8. นายเสนหํ ์ มง่ิ แมน๎ สมาชกิ สภาองค์การบรหิ ารสวํ นตาบลห๎วยยาง หมูํที่ 3 9. นางรชยา หมุยจินดา สมาชิกสภาองค์การบริหารสํวนตาบลห๎วยยาง หมูํที่ 4 10. นายนนั ทวฒั น์ มสุ กิ านนท์ สมาชกิ สภาองค์การบริหารสวํ นตาบลหว๎ ยยาง หมํทู ี่ 4 11. นางสัน้ สินธุ สมาชกิ สภาองค์การบรหิ ารสํวนตาบลหว๎ ยยาง หมูํท่ี 5 12. นายสงคราม เกตปุ ระยรู สมาชกิ สภาองค์การบริหารสํวนตาบลหว๎ ยยาง หมูํที่ 6 13. นางวนิดา สายทอง สมาชิกสภาองค์การบริหารสวํ นตาบลห๎วยยาง หมํทู ี่ 6 14. นางบังอร แจํมใส สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารสวํ นตาบลหว๎ ยยาง หมูํที่ 7 15. นายประเสริฐ ชน่ื ชกู ล่นิ สมาชกิ สภาองค์การบริหารสํวนตาบลห๎วยยาง หมทํู ่ี 8 16. นายลาไย เกศเทศ สมาชิกสภาองค์การบริหารสวํ นตาบลห๎วยยาง หมูทํ ่ี 8 17. นางจะเรียม พลู สวัสด์ิ สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารสวํ นตาบลห๎วยยาง หมํูท่ี 9 18. นางทพิ วรรณ ทอดสนิท สมาชกิ สภาองค์การบริหารสํวนตาบลห๎วยยาง หมทํู ่ี 9 19. นายนภดล ภํทู อง สมาชกิ สภาองค์การบรหิ ารสวํ นตาบลห๎วยยาง หมูทํ ่ี 10 20. นายกาจัด ม่งิ แมน๎ สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารสวํ นตาบลห๎วยยาง หมํูท่ี 11 21. นายทวีศักดิ์ ศรแี ตงอํอน สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารสํวนตาบลห๎วยยาง หมูํที่ 11 22. นางวัลวิสา บริหารพานชิ สมาชกิ สภาองค์การบรหิ ารสวํ นตาบลห๎วยยาง หมูํที่ 12 23. นายสมจิตร ขินแกว๎ สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารสวํ นตาบลห๎วยยาง หมูทํ ี่ 13 24. นายสขุ สันต์ ชศู รี สมาชกิ สภาองค์การบริหารสวํ นตาบลหว๎ ยยาง หมูํที่ 13
20 ข้อมลู ด้านสังคม สถานท่รี าชการ 1. สถานีอนามัยบา๎ นเนินดนิ แดง 2. สถานีอนามัยบา๎ นห๎วยยาง 3. โรงเรยี นบ๎านหว๎ ยยางมติ รภาพที่ 35 4. โรงเรียนห๎วยยางวทิ ยา 5. โรงเรียนบา๎ นทุงํ ยาว 6. โรงเรยี นประชาพิทกั ษ์ 7. โรงเรียนบา๎ นเนนิ ดินแดง 8. หนวํ ยควบคมุ โรคติดตอํ นาโดยแมลงที่ 4 9. สถานีตารวจหว๎ ยยาง 10. ดาํ นกกั กนั สัตว์ประจวบคีรีขันธ์ 11.สถานตี ารวจภธู รตาบลห๎วยยาง การไฟฟา้ การขยายเขตไฟฟาู ปจั จบุ ันมีไฟฟาู ใช๎ทกุ ครัวเรอื น คดิ เป็น 100 เปอร์เซ็นต์ ปัญหาคือไฟฟูาสํองสวําง ทางหรอื ทส่ี าธารณะยังไมสํ ามารถดาเนินการครอบคลุมพื้นท่ีได๎ท้ังหมด เนื่องจากงบประมาณที่ไมํเพียงพอ จึง ไมํสามารถดาเนนิ การได๎อยาํ งท่ัวถงึ การประปา พ้ืนที่ขององค์การบริหารสํวนตาบลห๎วยยางใช๎น้าอุปโภคโดยอาศัยแหลํงน้าดิบจากธรรมชาติ และน้า ดิบจากแหลงํ น้าท่ีสรา๎ งข้นึ เชนํ อาํ งเก็บน้า/ฝาย ประสบปญั หาการขาดแคลนนา้ ในชวํ ง ฤดูแลง๎ โทรศัพท์ 1. เสารับสญั ญาณโทรศัพท์ จานวน 2 แหํง 2. โทรศพั ท์ของสานกั งานองค์การบรหิ ารสํวนตาบลหว๎ ยยาง จานวน 2 หมายเลข (สวํ นกลาง) ไปรษณีย์หรอื การสอื่ สารหรอื การขนส่ง และวัสดุ ครภุ ัณฑ์ 1. ตู๎กดเงนิ สด ATM ธนาคารออมสนิ จานวน 2 แหํง 2. ตู๎กดเงินสด ATM ธนาคารเพ่อื การเกษตรและสหกรณก์ ารเกษตร จานวน 1 แหงํ 3. ต๎กู ดเงนิ สด ATM ธนาคารกสิกรไทย จานวน 2 แหํง 4. ต๎ูกดเงนิ สด ATM ธนาคารกรงุ เทพ จานวน 1 แหํง 5. มีไปรษณีย์ จานวน 1 แหํง ให๎บริการ เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. ในวันจันทร์ ถึงวันเสาร์ (วัน เสารค์ ร่ึงวัน) หยดุ วนั อาทิตย์ 6. ระบบเสยี งตามสายครอบคลมุ พน้ื ที่ โดยใชร๎ ะบบเสียงตามสายแบบมสี ายและแบบไร๎สาย สาธารณสุข จานวน 2 แหํง - โรงพยาบาลสงํ เสรมิ สขุ ภาพชุมชน จานวน 4 แหํง - คลินิกเอกชน
21 อาชญากรรม ในเขตองค์การบริหารสํวนตาบลห๎วยยางมีการรักษาความสงบเรียบร๎อยครอบคลุมพื้นท่ีและ ไมํมี ปญั หาด๎านอาชญากรรม ยาเสพตดิ องค์การบริหารสํวนตาบลห๎วยยาง ได๎จัดทาโครงการปูองกันแก๎ไขปัญหายาเสพติดในโรงเรียนและ ชมุ ชน การจัดคาํ ยครอบครวั อบอนุํ การจดั การแขํงขนั กีฬาต๎านยาเสพติด การจัดกิจกรรมสร๎างสรรค์ด๎านดนตรี เพอ่ื ใหเ๎ ดก็ เยาวชนหาํ งไกลยาเสพติดการ สวํ นแก๎ไขปัญหาขององค์การบริหารสํวนตาบลสามารถทาได๎เฉพาะ ตามอานาจหน๎าท่ีเทํานั้น เชํน การณรงค์ การประชาสัมพันธ์ การแจ๎งเบาะแส การฝึกอบรมให๎ความรู๎ ถ๎า นอกเหนอื จากอานาจหน๎าท่ี ก็เปน็ เร่อื งของอาเภอหรอื ตารวจแล๎วแตํกรณี ทั้งนี้ องค์การบริหารสํวนตาบลก็ได๎ ใหค๎ วามรวํ มมือมาโดยตลอด การสงั คมสงเคราะห์ องคก์ ารบริหารสวํ นตาบลหว๎ ยยางไดจ๎ ดั สวสั ดกิ ารสงเคราะห์ ดังนี้ 1. ดาเนนิ การจาํ ยเบี้ยยังชีพให๎กบั ผ๎สู งู อายุ ผพ๎ู กิ าร ผ๎ูปวุ ยเอดส์ 2. รับลงทะเบยี นและประสานโครงการเงินอดุ หนนุ เพ่อื การเลี้ยงดูเดก็ แรกเกิด 3. ประสานการทาบตั รผพ๎ู ิการ 4. ตั้งโครงการชํวยเหลือผูย๎ ากจน ยากไร๎ รายได๎นอ๎ ย และผดู๎ ๎อยโอกาสไรท๎ ่พี ่งึ 5. ตง้ั โครงการปรับปรุงซํอมแซมบ๎านคนจน 6. จัดหาเครอ่ื งสขุ ภัณฑ์ทเี่ หมาะสมและเพียงพอแกผํ ๎สู ูงอายแุ ละผ๎ูยากไร๎ 7. การจดั สวัสดิการชํวยเหลอื ผูส๎ ูงอายุและผู๎ปุวยที่มีปัญหาด๎านการเคลื่อนไหว ด๎วยการจัดหา ไม๎เท๎า ชํวยพยุง รถโยก รถเข็น ให๎เพียงพอตํอความต๎องการ และจัดหาอาหาร เคร่ืองนํุงหํม ยารักษาโรคที่จาเป็นใน การดารงชีวิต ขอ้ มูลด้านเศรษฐกิจ ระบบเศรษฐกจิ อาชพี ของประชาชนในตาบลห้วยยาง ประชาชนในเขตองคก์ ารบริหารสวํ นตาบลหว๎ ยยาง สํวนใหญํประกอบอาชีพทเ่ี กยี่ วเน่ืองกับการเกษตร ประมาณร๎อยละ 65.57 อาชีพปศุสัตว์ประมาณร๎อยละ 12.92 อาชีพประมงชายฝั่งประมาณร๎อยละ 5.09 อาชีพรับจ๎างร๎อยละ 15.06 อาชพี อน่ื ๆ ประมาณรอ๎ ยละ 1.36 การเกษตร พื้นท่ีในเขตองค์การบริหารสํวนตาบลห๎วยยาง พ้ืนที่สํวนใหญํเป็นดินรํวนปนทรายเหมาะกับการทา การเกษตรกรรม อาชีพหลักเป็นอาชีพเกษตรกร พืชเศรษฐกิจของตาบลห๎วยยาง คือ มะพร๎าว สับปะรด ข๎าว ยางพารา ข้อมูลดา้ นการเกษตร การผลิตพืช - ปลูกมะพรา๎ ว ร๎อยละ 58.0 ของพ้ืนทีท่ าการเกษตร โดยปลูกมะพร๎าวแกมํ าเป็นเวลานาน ขณะนี้อายุไมํต่ากวํา 25-30 ปี ยังให๎ผลผลิตดี ข้ึนอยูํกับการดูแลรักษา ในชํวง 2 ปีที่ผํานมา ผลผลิตมะพร๎าวมี ราคาดี ทาให๎เกษตรกรหันมาสนใจการดแลสวนมะพร๎าวกันมากขึ้น และเลี้ยงสัตว์ในสวนมะพร๎าว ปลูกสบปะ รดแซมมะพร๎าว ทาใหม๎ ีรายได๎เพิ่มขน้ึ
22 - ปลูกสบั ปะรด รอ๎ ยละ 19.38 ของพนื้ ท่ีทาการเกษตร โดยปลกู สบั ปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย แตํ เดมิ เกษตรกรจะปลูกแถวเดีย่ ว ใช๎หนอํ พนั ธไ์ุ รํละ 3,500 หนํอ จากการปฏิบัติติดตํอกันมา เป็นเวลานาน ทาให๎ พบวําตน๎ ทนุ การผลติ คอํ นข๎างสูง ไมํคมุ๎ กบั การลงทนุ ผลใหญเํ กินความ ตอ๎ งการของโรงงาน จึงมีการเปลี่ยนจาก การปลกู แถวเดีย่ ว เป็นแถวคูํใชห๎ นํอพนั ธุ์ 6,000 ถึง 8,000 หนอํ ต๎นทุนการผลิตจะใกล๎เคียงกัน แตํผลผลิตที่ ได๎จะมากกวาเดมิ คํอนข๎างมาก และคณุ ภาพของผลผลิต ก็ตรงตามความตอ๎ งการของโรงงานรบั ซอ้ื - ปลูกไม๎ผล/ไม๎ยืนต๎นอื่นๆ ยกเว๎นมะพร๎าว ร๎อยละ 9.27 ของพ้ืนที่ทาการเกษตร สํวนใหญํ ปลกู ยางพารา ปาล์มนา้ มัน กลว๎ ยนา้ ว๎า ฯลฯ - รอ๎ ยละ 9.67 ไดแ๎ กํ พนื้ ที่ปลูกหญา๎ เนเปยี เพอื่ สงํ เขา๎ สหกรณ์ การผลติ สตั ว์ เกษตรกรมีการเลี้ยงสัตว์เพ่ิมมากขึ้น โดยเฉพาะโคเนื้อ โคขุน แพะ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ ถดถอย ตน๎ ทุนการผลติ เพ่มิ ข้นึ ถา๎ เกษตรกรปลูกพืชอยาํ งเดียวรายได๎ไมํเพียงพอ จึงหันมาเลี้ยงสัตว์ใน สวนมะพรา๎ วกันสํวนใหญํ สํวนเกษตรกรท่ีมีพ้ืนท่ีมากพอก็จะทาการปลูกหญ๎าเนเปียเพื่อใช๎เลี้ยงโคขุน สํวนเป็ดไกจํ ะมกี ารเล้ยี งไว๎เพ่ือบรโิ ภคเกอื บทกุ ครัวเรอื น เพ่อื ลดคาํ ใช๎จาํ ยในการครองชีพ การผลิตด๎านการประมง ท่ผี าํ นมาไมํมีการเลี้ยงปลาเพอ่ื บรโิ ภค สํวนใหญํจะหาจับเอาตามห๎วย หนอง คลอง บึง แตํใน ปัจจบุ ันเกษตรกรจะมกี ารซอ้ื พนั ธ์ปุ ลาน้าจืดมาปลํอยตามสระน้าในพื้นที่ของตนเอง เล้ียงเพื่อจาหนําย และบริโภคภายในครัวเรือน เชํน ปลานิล ปลาดุก ปลาตะเพียน ซึ่งไมํต๎องดูแลเอาใจใสํมากนัก นอกจากน้ยี ังมีอาชีพทาประมงน้าเค็มในพืน้ ท่ตี ิดชายทะเล หมํูท่ี 7 ขอ้ มูลดา้ นแหล่งน้าทางการเกษตร การทาการเกษตรในพ้ืนท่ีตาบลห๎วยยางโดยสํวนใหญํแล๎วจะใช๎น้าจากแหลํงน้าธรรมชาติ และจากสระเก็บนา้ ในที่ดนิ ของตนเอง และจากอาํ งเก็บน้า/ฝายในพื้นที่ ข้อมูลดา้ นแหล่งนา้ กนิ น้าใช้ (หรอื น้าเพื่อการอุปโภค บริโภค) ประชาชนสํวนใหญํในพื้นท่ีตาบลห๎วยยาง บริโภคน้าจากน้าฝนซึ่งได๎จากธรรมชาติ และ ประชาชนอกี สํวนบริโภคนา้ จากการซอื้ น้าดมื่ สวํ นนา้ ท่ใี ชใ๎ นการอปุ โภคมาจากแหลํงนา้ ตาํ งๆ ดังน้ี แหลง่ นา้ ธรรมชาติ 1. คลองหว๎ ยยาง 2. คลองหินจวง แหลง่ นา้ ท่สี รา้ งขน้ึ 1. ฝาย จานวน 5 แหํง 2. บํอน้าตืน้ จานวน 30 แหงํ 3. บอํ นา้ บาดาล จานวน 25 แหงํ 4. ประปาหมบูํ า๎ น จานวน 12 แหงํ 5. อํางเกบ็ นา้ จานวน 12 แหงํ - อาํ งเก็บนา้ หว๎ ยมะปรางค์ หมูํที่ 4 - อาํ งเกบ็ นา้ บา๎ นหัวเขา หมํูที่ 10 6. สระเก็บนา้ ประชาชน/สาธารณะ จานวน 20 แหํง
23 ทรัพยากรธรรมชาติ น้า ท่ีใชํในการอุปโภค-บริโภค เป็นน้าที่ได๎จากน้าฝน และน้าดิบจากแหลํงน้าธรรมชาติ ซึ่ง จะต๎องนามาผํานกระบวนการของระบบประปา สาหรับน้าใต๎ดินมีปริมาณน๎อย ไมํสามารถนาขึ้นมาใช๎ให๎ พอเพยี งได๎ ไมสํ ามารถใชด๎ มื่ และอุปโภคได๎ ป่าไม้ มลี ักษณะของปาุ ไม๎เป็น ปาุ เบญจพรรณ ปาุ ดบิ เขา และปุาดิบแล๎ง มพี นั ธไุ์ มจ๎ าพวก ตะเคยี น เสลา ตะแบก ยาง ยูง ยมหอม ยมปุา ขนาน ไขํเนํา ไทร พืชพ้ืนลาํ งเป็นไผชํ นดิ ตํางๆ ภเู ขา ในพืน้ ทตี่ าบลห๎วยยางมีเทอื กเขาตะนาวศรีทอดยาวตลอดแนว คุณภาพของทรัพยากรธรรมชาติ ในพื้นท่ีขององค์การบริหารสํวนตาบลห๎วยยางสํวนมากเป็นพื้นที่สาหรับเพาะปลูก ที่อยูํ อาศัย ร๎านค๎า สถานประกอบการ ตามลาดับ และมีพ้ืนที่เพียงเล็กน๎อยที่เป็นพื้นท่ีสาธารณะ ทรัพยากรธรรมชาติ ในพน้ื ท่ีก็ ได๎แกํ ดิน น้า ต๎นไม๎ อากาศที่ไมํมีมลพิษ น้าในการเกษตรก็ต๎องรอฤดูฝน มี แหลํงน้าใช๎ในการเกษตรไมํเพียงพอ ปัญหาคือยังไมํสามารถหาแหลํงน้าสาหรับการเกษตรได๎เพิ่มข้ึน เพราะ พื้นที่สํวนมากเป็นของประชาชน เอกชน ปัญหาด๎านขยะ เม่ือชุมชนแออัดขยะก็มากข้ึน การแก๎ไขปัญหา องค์การบริหารสํวนตาบลได๎จัดทาโครงการเพื่อแก๎ปัญหาให๎กับประชาชนและเป็นไปตามความต๎องการของ ประชาชน เชํน โครงการจัดหาถังขยะรองรับขยะให๎ครอบคลุมท้ังพื้นท่ี โครงการปลูกต๎นไม๎ในวันสาคัญ ตาํ งๆ ในพ้นื ทขี่ องตนเองและท่สี าธารณะรวมท้ังปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ของเมืองให๎รํมร่ืนสวยงาม ให๎เป็นเมือง นาํ อยูํ เปน็ ที่พักผํอนหยํอนใจของประชาชน ฯลฯ ๑) สร๎างความเข๎มแข็งให๎กบั ชมุ ชน โดยรวํ มมอื กบั ทุกภาคสวํ น ไมวํ ําจะเปน็ อาเภอ ตารวจ โรงพยาบาล สาธารณสขุ ผูน๎ าชุมชน รวํ มทากจิ กรรมตํางๆ กับชมุ ชน ให๎ประชาชนเกิดความไวว๎ างใจและได๎รบั ความคมุ๎ ครองทางสังคม มีความเป็นกลาง รับทราบปัญหาและเรํงแก๎ไข ๒) อานวยความสะดวก ประสานงาน ใหป๎ ระชาชนมโี อกาสเขา๎ ถงึ แหลํงเงนิ ทนุ ๓) รํวมมือกับอาเภอ เกษตรอาเภอ สํงเสริมให๎ประชาชนมีความร๎ูในการใช๎ประโยชน์จาก ดนิ และนา้ ให๎เหมาะสมกับพนื้ ทีข่ องชุมชน เพอื่ พลิกวกิ ฤตให๎เปน็ โอกาส ๔) รํวมมือกับสาธารณสุข โรงพยาบาล โรงเรียน สํงเสริม รณรงค์ ปูองกัน สุขภาพและอนามัย ของประชาชน สงํ เสริม จดั กิจกรรมการกีฬาในชุมชน ๕) สงํ เสรมิ สนับสนุนเปดิ โอกาสให๎เด็กไดร๎ ับการศกึ ษา จดั กจิ กรรมใหค๎ วามรู๎ตาํ งๆ การประมง ประชาชนในเขตองค์การบริหารสํวนตาบลห๎วยยางสํวนใหญํจะทาก ารประมงชายฝั่ง ปลํอยอวนดกั จับปลาทะเล การปศุสตั ว์ ประชาชนในเขตองคก์ ารบริหารสํวนตาบลห๎วยยาง มีสภาพพ้ืนที่ที่เหมาะกบั การเลีย้ งสัตว์ สตั วเ์ ศรษฐกิจ ไดแ๎ กํ โคเน้อื โคนม โคขนุ ปลา ไกํ แพะ สุกร การบรกิ าร 1. ร๎านเบเกอร่ี 7 แหํง 2. ร๎านเสริมสวย 12 แหํง 3. รา๎ นตดั ผมชาย 4 แหงํ 4. ร๎านซัก อบ รดี 8 แหงํ
24 5. รา๎ นจาหนํายนา้ แข็ง 1 แหงํ 6. รา๎ นนวด 8 แหงํ จานวนหน่วยธุรกิจที่สาคัญของตาบลห้วยยาง สถานีบริการนา้ มนั จานวน 1 แหงํ ตลาดสดเอกชน จานวน 1 แหํง กิจการที่เก่ยี วกับ อาหาร เคร่ืองด่ืม นา้ ดื่ม จานวน 10 แหํง รา๎ นคา๎ ทว่ั ไป จานวน 20 แหํง กลุ่มอาชพี เศรษฐกิจ พนื้ ท่ีและการใช๎ประโยชน์ในท่ีดนิ ของตาบลห๎วยยาง เป็นที่ดินทใ่ี ช๎เป็นพนื้ ท่ีทาการเกษตร ประมาณ 200,956 ไรํ ประชากรประมาณ 80 % ประกอบอาชีพดา๎ นการเกษตรกรรม คือ ปลูกมะพร๎าว สับปะรด และอ่นื ๆ ประกอบอาชีพคา๎ ขายประมาณ 15 % และอาชพี อ่ืน ๆ 5 % อตุ สาหกรรม - สถานีบรกิ ารนา้ มัน จานวน 2 แหงํ - โรงสขี ๎าว จานวน โรงงานอุตสาหกรรม 8 แหงํ ดังน้ี 1. โรงงานผลิตเส๎นใยมะพรา๎ ว หมูทํ ี่ 3 2. โรงงานผลิตเสน๎ ใยมะพรา๎ ว หมทูํ ี่ 5 3. โรงงานทาน้าแข็ง หมูทํ ี่ 1 4. โรงงานทาน้าด่มื หมํูที่ 2 5. โรงงานทาน้าด่ืม หมูํที่ 3 6. โรงงานทาน้าด่มื หมูํที่ 7 การพาณชิ ย์และกลุ่มอาชพี 1. สถานที่จาหนาํ ยอาหาร/ร๎านอาหาร 42 แหํง 2. สถานท่ีสะสมอาหาร 2 แหงํ 3. กจิ การท่ีเปน็ อนั ตรายตํอสุขภาพ 78 แหงํ 4. ร๎านค๎าวัสดกุ ํอสรา๎ ง 2 แหงํ 5. รา๎ นโตะ๏ สนุกเกอร์ 2 แหงํ 6. รา๎ นซํอมคอมพิวเตอร์ 2 แหํง 7. รา๎ นซอํ มเครื่องยนต์ 18 แหํง 8. รา๎ นคา๎ แกส๏ หุงต๎ม 14 แหํง 9. ร๎านรบั ซอ้ื ของเกํา 5 แหงํ 10. ร๎านทานา้ ดืม่ 3 แหงํ 11. กิจการลา๎ งรถ 2 แหํง 12. กิจการบา๎ นเชํา 11 แหงํ 13. กจิ การโฮมสเตย์ 1 แหงํ
25 6.8 แรงงาน จากการสารวจข๎อมูลพื้นฐานพบวํา ประชากรที่มีอายุ ๑๕ – ๖๐ ปี อยํูในกาลัง แรงงาน ร๎อยละ ๙๕ เมื่อเทียบกับอัตราสํวนกับจังหวัด ร๎อยละ ๗๓.๙๙ ซ แตํคําแรงในพ้ืนที่ต่า กวําระดบั จงั หวัด โดยเฉพาะแรงงานด๎านการเกษตร ประชากรอายุระหวําง ๒๕ – ๕๐ ปี บางสํวน ไปรบั จ๎างทางานนอกพืน้ ที่ เศรษฐกจิ พอเพยี งทอ้ งถ่ิน (ดา้ นการเกษตรและแหลง่ น้า) ขอ้ มูลพ้ืนฐานของหมู่บา้ นหรือชมุ ชน หมูํท่ี 1 บ๎านตลาดหว๎ ยยาง หมูํท่ี 2 บ๎านบน หมทํู ี่ 3 บา๎ นทงํุ ยาว หมูํท่ี 4 บา๎ นห๎วยมะปรางค์ หมทํู ี่ 5 บา๎ นทงํุ กว๎าง หมํูที่ 6 บ๎านเนินดนิ แดง หมูํที่ 7 บ๎านชายทะเล หมํูท่ี 8 บ๎านคอกม๎า หมํทู ี่ 9 บา๎ นหนองพลับ หมํทู ี่ 10 บา๎ นหวั เขา หมูํท่ี 11 บ๎านน้าตกสาย 1 หมทํู ี่ 12 บ๎านคลองหนิ จวง หมูํท่ี 13 บ๎านจ่ันเสอื โรงงานอตุ สาหกรรมที่สาคญั 8 แห่ง ไดแ้ ก่ 1. โรงงานทอผ๎าหมูทํ ี่ 3 2. โรงงานผลติ ไมย๎ างพารา หมทํู ี่ 5 3. โรงงานผลติ เส๎นใยมะพร๎าว หมูทํ ี่ 3 4. โรงงานผลติ เสน๎ ใยมะพรา๎ ว หมูํที่ 5 5. โรงงานทาน้าแข็ง หมํูท่ี 1 6. โรงงานทาน้าดืม่ หมทํู ี่ 2 7. โรงงานทาน้าด่ืม หมูํที่ 3 8. โรงงานทานา้ ดืม่ หมทูํ ่ี 7 ด้านการเกษตร และอุตสาหกรรม 1. ดา๎ นกสกิ รรม เปน็ การปลกู ไมผ๎ ลและไมย๎ ืนต๎นโดยเฉพาะมะพร๎าว ประมาณรอ๎ ย ละ 98 ของพืน้ ที่ 2. ด๎านปศุสัตว์ มีการเลี้ยงโค กระบือ สุกรและไกํ ซึ่งเป็นการเลี้ยงในพ้ืนที่เกษตรกรรม ควบคกํู บั การทาสวนมะพร๎าว
26 ศาสนา ประเพณี วฒั นธรรม การนับถือศาสนา ประชาชนในเขตองค์การบรหิ ารสวํ นตาบลหว๎ ยยาง สวํ นใหญนํ ับถอื ศาสนาพุทธ จะมี นับถอื ศาสนาอ่ืน เชํน ศาสนาคริสตแ์ ละศาสนาอิสลามบา๎ งเลก็ น๎อย กเ็ พราะการย๎ายถ่ินมาพักอาศัยอยูํ เพ่ือการประกอบอาชีพเปน็ ครง้ั คราวเทาํ นั้น วดั ในเขตองค์การบรหิ ารสํวนตาบลห๎วยยาง มจี านวน 5 วดั 2 สานักสงฆ์ ประกอบด๎วย 1. วัดห๎วยยาง หมูํที่ 2 ตาบลหว๎ ยยาง อาเภอทับสะแก จังหวดั ประจวบคีรีขันธ์ 2. วดั ทุํงยาว หมทํู ี่ 3 ตาบลห๎วยยาง อาเภอทับสะแก จังหวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ 3. วดั สมุททาราม หมทูํ ่ี 7 ตาบลห๎วยยาง อาเภอทบั สะแก จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ 4. วัดประชาสนธิ หมูํที่ 11 ตาบลหว๎ ยยาง อาเภอทบั สะแก จังหวัดประจวบครี ีขนั ธ์ 5. วัดเนินดินแดง หมํทู ่ี 6 ตาบลห๎วยยาง อาเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรขี นั ธ์ 6. สานักสงฆ์เพ็งสวํางพิทักษ์ธรรม หมูํที่ 13 ตาบลห๎วยยาง อาเภอทับสะแก จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ 7. สานักสงฆ์จิตตภาวัน หมํูท่ี 9 ตาบลห๎วยยาง อาเภอทับสะแก จังหวัด ประจวบครี ขี นั ธ์ ประเพณีและงานประจาปี 1. ประเพณีลอยกระทง ในวนั ขึ้น 15 ค่า เดอื น 12 ของทุกปี 2. ประเพณีสงกรานต์ ในวนั ท่ี 17 เดอื นเมษายนของทุกปี 3. ประเพณีทาบุญตักบาตรในวันสาคญั ทางพทุ ธศาสนาและวนั สาคญั ของชาติ 4. ประเพณีการแขงํ ขันกีฬา อบต. ในชวํ งเดอื นเมษายน ประเพณีทอ้ งถนิ่ ห้วยยาง 1) วันสงกรานต์ - จดั ประกวดนางสงกรานต์ทุกปี - จดั ขบวนนางสงกรานต์ ทกุ วันท่ี 17 เมษายน ของทกุ ปี - จดั กิจกรรมรดน้าดาหัวผ๎สู ูงอายุ 2) วันเข๎าพรรษา - จดั ขบวนแหเํ ทียนเขา๎ พรรษาไปทุกวนั 3) วนั ลอยกระทง - จัดกิจกรรมประกวดรอ๎ งเพลง - ประกวดนางนพมาศ - ประกวดกระทง - ภาคเช๎ามกี ารจัดการแขํงขนั กฬี า - มีการแสดงของเด็กนกั เรยี นบนเวที - มีสินคา๎ ธงฟาู ราคาประหยดั จดั จาหนาํ ย ภมู ิปัญญาทอ้ งถนิ่ ภาษาถนิ่ การทาไมก๎ วาดทางมะพร๎าว การทากล๎วยตากพลงั แสงอาทิตย์ มะพรา๎ วอบนา้ ผงึ้
27 สินค้าพ้ืนเมืองและของท่รี ะลึก กล๎วยตากพลงั แสงอาทิตย์ มะพร๎าว การทอ่ งเท่ียว สามารถสํงเสริมและพัฒนาฟืน้ ฟูแหลํงทํองเท่ียวในพ้ืนท่ีให๎ยั่งยนื รวมถึงการทอํ งเที่ยวเชิง นเิ วศน์ ทาให๎สงํ ผลใหช๎ ุมชนมเี ศรษฐกจิ ดีขน้ึ จากการทํองเทีย่ ว แหล่งท่องเท่ียวทส่ี าคัญ 1. อทุ ยานแหํงชาตินา้ ตกหว๎ ยยาง อทุ ยานแหงํ ชาติน้าตกหว๎ ยยาง มีพน้ื ท่คี รอบคลุมท๎องทอี่ าเภอบางสะพาน อาเภอทับสะแก และ อาเภอเมอื ง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในสํวนท่ีแคบท่ีสุดของประเทศ ซึ่งได๎รวมจุดเดํนรอบๆ อุทยานน้าตกห๎วย ยางผนวกเข๎าด๎วยกัน ซึ่งได๎แกํ น้าตกท่ีสวยงามหลายแหํง ตลอดจนมีสัตว์ปุานานาชนิด เป็นอุทยานแหํงชาติที่ พร๎อมด๎วยปุาเขา น้าตก ชายหาด รวมมี เน้ือที่ประมาณ 100,625 ไรํ หรือ 161 ตารางกิโลเมตรอุทยาน แหํงชาติน้าตกห๎วยยาง ได๎รับการประกาศให๎เป็นอุทยานแหํงชาติตามพระราชบัญญัติอุทยานแหํงชาติ พ.ศ. 2504 แล๎ว ประกอบด๎วยพ้ืนท่ีทั้งหมด 100,625 ไรํ โดยได๎ตราพระราชกฤษฎีกากาหนดที่ดินปุาทับสะแก ใน ท๎องที่ตาบลห๎วยยาง ตาบลเขาลา๎ น ตาบลแสงอรณุ ตาบลนาหกู วาง ตาบลอํางทอง อาเภอทับสะแก และตาบล ชัยเกษม อาเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เลํม 108 ตอนท่ี 215 ลง วันท่ี 8 ธนั วาคม 2534 เป็นอุทยานแหํงชาติลาดบั ที่ 70 ของประเทศไทย 2. อทุ ยานแหงํ ชาติหาดวนกร อทุ ยานแหงํ ชาตหิ าดวนกร มีท่ีทาการอยูรํ มิ ทะเลหาํ งจากตัวจงั หวัดประจวบครี ขี ันธป์ ระมาณ 22 กโิ ลเมตร ระหวาํ งกโิ ลเมตรที่ 345 - 346 ถนนเพชรเกษม แยกจากถนนเพชรเกษม ตามถนนลาดยางเข๎าไป ประมาณ 3 กิโลเมตร มีทางรถไฟสายใต๎ผํานตอนกลาง ของพ้ืนที่ อุทยานแหํงชาติหาดวนกร ชายหาดอันลือ ช่ือของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ทอดตัวเป็นแนวยาวลงไปในทะเล ทิวทัศน์ที่เงียบสงบ หาดทรายขาวสะอาด บนฝ่ังมีทิวสนทะเลและสนประดิพัทธ์เป็นแนวขนานกับทะเล มีพื้นท่ีท้ังหมด ประมาณ 23,750 ไรํ หรือ 38 ตารางกิโลเมตร ในเขตตาบลห๎วยทราย ตาบลคลองวาฬ อาเภอเมือง และตาบลห๎วยยาง อาเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พันธุ์ไม๎สํวนใหญํเป็นไม๎ท่ีปลูก ขึ้นใหมํได๎แกํ สนทะเล สนประดิพัทธ์ สะเดา เป็นต๎น อุทยานแหํงชาติหาดวนกร แตํเดิมเป็นปุาสงวนแหํงชาติปุาวังด๎วนและปุาห๎วยยาง เป็นที่ต้ังของสวนปุาห๎วย ทราย ท๎องทอ่ี าเภอเมืองประจวบครี ขี ันธ์ สวนปาุ ห๎วยยาง สวนรุกขชาติห๎วยยาง และสถานีวนกรรมห๎วยยาง ท๎องที่อาเภอทบั สะแก จังหวัดประจวบคีรีขนั ธ์ ตํอมาสถานีวนกรรมห๎วยยางได๎ถูกยกเลิกไป เมื่อทางกรมปุาไม๎มี นโยบายท่ีจะจัดต้ังอุทยานแหํงชาติ จึงได๎โอนพื้นท่ีแหํงน้ีมาให๎กองอุทยานแหํงชาติดาเนินการต้ังแตํ ปงี บประมาณ 2532 เป็นต๎นมา และได๎มพี ระราชกฤษฎกี ากาหนดบริเวณท่ีดินปุาวังด๎วน ปุาห๎วยยาง และเกาะ ใกล๎เคียง ในท๎องท่ีตาบลห๎วยทราย อาเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และตาบลห๎วยยาง อาเภอทับสะแก จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ รวมเน้ือท่ี 38 ตารางกิโลเมตร โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เลํม 109 ตอนท่ี 126 ลง วันที่ 30 ธันวาคม 2535 นบั เป็นอุทยานแหงํ ชาตลิ าดบั ที่ 76 ของประเทศไทย 3. ชายทะเลวดั สมุทธาราม เปน็ แนวยาวลงไปในทะเล ทวิ ทัศนท์ ่ีเงยี บสงบ หาดทรายขาวสะอาด บนฝง่ั มีทิวสน ทะเลและสนประดพิ ัทธ์เปน็ แนวขนานกับทะเล 4, นา้ ตกบัวสวรรค์ น้าตกบัวสวรรค์ มชี ้ันน้าตกที่สวยงามอยํู 6 ชั้น ทํามกลางสภาพธรรมชาติโดย รอบทเ่ี ขียว ชอํุมดูสวยงามแปลกตา อนั เป็นเสนหํ ข์ องนา้ ตกแหงํ น้ี อยูํหาํ งจากท่ีทาการอุทยาน แหงํ ชาตนิ ้าตกหว๎ ยยางไป ทางทศิ เหนือประมาณ 20 กโิ ลเมตร สามารถเดนิ ทางตามถนนเพชรเกษมเส๎นทางบา๎ นสองกะลอน
28 ข้อมลู ดา้ นการศกึ ษา จานวนสถานศกึ ษา สังกดั จานวนโรงเรยี น (แหง่ ) จานวนหอ้ งเรียน ครู นักเรียน (ห้อง) (คน) (คน) สานกั งาน 1.โรงเรียนบ๎านหว๎ ยยางมติ รภาพท่ี 35 คณะกรรมการ 14 22 407 การศึกษาขัน้ 2.โรงเรยี นบ๎านทงํุ ยาว พนื้ ฐาน (สพฐ.) 3.โรงเรยี นบ๎านเนินดินแดง 9 12 108 4.โรงเรยี นประชาพิทักษ์ 9 8 105 5.โรงเรียนหว๎ ยยางวิทยา 9 11 149 10 19 161 รวม 5 51 72 930 ขอ๎ มูล ณ เดือน มิถนุ ายน พ.ศ. 2562 ครู นักเรยี น จานวนศนู ย์พัฒนาเดก็ เล็ก (คน) (คน) 2 12 1. ศูนยพ์ ัฒนาเด็กเลก็ บ๎านหัวเขา 2. ศนู ย์พฒั นาเด็กเล็กบา๎ นทุํงกว๎าง 2 26 3. ศนู ย์อบรมเด็กกํอนเกณฑ์วัดเนนิ ดนิ แดง 2 15 6 42 รวม ข๎อมูล ณ เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2562 - ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ตาบลหว๎ ยยาง จานวน 1 แหํง - ศูนย์ดแู ลเดก็ กํอนวัยเรยี น จานวน 3 แหํง - ที่อํานหนังสอื พมิ พ์ประจาหมบํู า๎ น จานวน 4 แหงํ
29 กศน.ตาบลห๎วยยาง ในรอบปีท่ผี ํานมามีจานวนนักศึกษาทง้ั หมด 92 คน แยกตามระดบั ดังนี้ ภาคเรียนที่ 2/2562 -ระดบั ประถมศึกษา จานวน..........-................คน -ระดับมัธยมศึกษาตอนตน๎ จานวน..........17................คน -ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย จานวน..........30................คน ในการจดั การศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ภาคเรียนท่ี 2/2562 มี นักศึกษาจานวนที่ลงทะเบียนเรียนทั้งหมด......47........คน มีนักศึกษาคงอยํู จานวน ....47.......คน มีผ๎ูเข๎า สอบจานวน......34......คน และมีผ๎ูจบหลักสูตรทั้งหมด.......3............คน คิดเป็นร๎อยละ ....8.82........... แยก ตามระดับ ดังน้ี -ระดับประถมศึกษา จานวน........-..........คน จบหลกั สตู รจานวน.....-.....คน -ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต๎น จานวน........11..........คน จบหลกั สูตรจานวน.....-.....คน -ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน........23.........คน จบหลกั สูตรจานวน......3....คน ภาคเรยี นท่ี 1/2563 -ระดับประถมศึกษา จานวน..........1................คน -ระดับมธั ยมศึกษาตอนต๎น จานวน.........18...............คน -ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย จานวน.........26..............คน ในการจัดการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ภาคเรียนท่ี 1/2563 มี นักศึกษาจานวนท่ีลงทะเบียนเรียนท้ังหมด......45........คน มีนักศึกษาคงอยํู จานวน .....34......คน มีผ๎ูเข๎า สอบจานวน....34........คน และมีผู๎จบหลักสูตรท้ังหมด.................คน คิดเป็นร๎อยละ ......14.70...... แยกตาม ระดบั ดงั น้ี -ระดบั ประถมศึกษา จานวน.....1.............คน จบหลกั สตู รจานวน....-......คน -ระดบั มัธยมศึกษาตอนต๎น จานวน.....9.............คน จบหลักสตู รจานวน...2.......คน -ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย จานวน.....24..........คน จบหลกั สตู รจานวน.....3.....คน จากข๎อมลู ดังกลาํ วพบวํา มีจานวนผจ๎ู บหลักสตู รคอํ นข๎างน๎อย
30 ปญั หาและความต้องการทางการศกึ ษาของประชาชนท่ีจาแนกตามลกั ษณะของกลุ่มเปา้ หมาย ดา๎ นการรูห๎ นงั สอื ดา๎ นการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน ด๎านอาชีพ ด๎านการพฒั นาทักษะชวี ติ ด๎านการพฒั นา สังคมและชมุ ชน ด๎านปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ดา๎ นการศกึ ษาตามอธั ยาศัย กลมุํ เปาู หมาย ปญั หาและความต๎องการ แนวทางการแก๎ไข กลุ่มคนท่ไี มร่ ูห้ นังสอื /กลุ่มภาวะ - สํวนใหญํจะเปน็ กลํมุ ผ๎ูสูงอายุ - สนับสนุน สํงเสริมการร๎ูหนังสือใน ลืมหนังสอื จะประสบในเรื่องปญั หา ความจา รูปแบบการจัดกิจกรรมเสริมความจา สายตา ฯลฯ บรกิ ารอาํ นทเี่ อื้อตํอการเรยี นร๎ู - กลุมํ อายปุ ระมาณ 40 – 60 ปี ไมมํ เี วลามาเรียนเพราะตอ๎ งทางาน หาเล้ยี งครอบครัว กลมุ่ เด็กและเยาวชน - เยาวชนกลมํุ อายุ 15 – 25 ปี - สงํ เสรมิ สนับสนุน แนะแนว จัด ประสบปัญหาการเรียนไมจํ บ การศกึ ษานอก ระบบขั้นพน้ื ฐาน การศึกษา ในระบบโรงเรียนด๎วย ตามความ พรอ๎ มและคณุ สมบัติของ สาเหตตุ าํ ง ๆ เชํน ปญั หาครอบครวั ผเ๎ู รียนในแตํละระดับ แตกแยก พํอ แมํแยกทางกนั - จัดกจิ กรรมพฒั นา คณุ ภาพผ๎ูเรยี น ปญั หาทอ๎ งในวยั เรยี น ปัญหาติด ในเรือ่ งตําง ๆ ตามคุณลักษณะอนั พึง เพ่อื น ตดิ เกมส์ออนไลน์ เปน็ ตน๎ ประสงค์ ของหลักสตู รและของ - กลุํมเปาู หมายเหลาํ นเ้ี ม่ือเข๎า มา สถานศกึ ษาพอเพยี ง เรียนการศึกษานอกระบบ มีอิสระ - กจิ กรรมพฒั นา คุณภาพชีวิต ในการเรียนมากข้นึ เวลาเรยี นกบั (กพช.)ซงึ่ เป็น กิจกรรมท่เี สรมิ ใหก๎ ับ ครู นอ๎ ยลง สํวนใหญเํ ปน็ การเรยี นรู๎ ผูเ๎ รียน ตามหลักสูตร สํงเสริมให๎ ดว๎ ย ตนเอง และกลุํมเปูาหมาย ผเู๎ รยี นมีทกั ษะและ ประสบการณ์ใน เหลําน้มี ี ความรับผิดชอบในหน๎าที่ การดาเนนิ ชีวติ มจี ติ อาสา ของตนเอง ไมใํ หค๎ วามสาคัญการ ชํวยเหลือ สงั คม เชํนกิจกรรมทาบุญ เข๎ามาเรียนใน กศน.จึงทาใหก๎ าร ตัก บาตรในวันสาคญั ทางศาสนา เรียนไมํประสบผลสาเรจ็ เทาํ ท่ีควร พฒั นาหมํูบ๎าน การทาฝาย ชะลอนา้ การปลกู ปุา เป็นตน๎ เป็นกจิ กรรม เสริมจากการ เรยี นการสอน กลํุมประชากรวัยแรงงานระหวําง กลุมํ นจ้ี ะเปน็ กลํมุ วัยทางานสํวน - สํงเสรมิ สนับสนุน แนะแนว อายุ 25-59 ปี ใหญํ จะประสบปัญหาในเรื่องการ จัดการศึกษานอก ระบบระดับ ไมํมเี วลา พัฒนาตนเองในดา๎ น การศึกษาข้นั พื้นฐานตามความ การศกึ ษาเพราะ ต๎องทางานหา พร๎อมและ คุณสมบตั ิของผเู๎ รียนใน เล้ยี งครอบครัว แตํละระดับ
31 กลมุํ เปูาหมาย ปญั หาและความตอ๎ งการ แนวทางการแกไ๎ ข - สํงเสริมสนับสนุนจัด กิจกรรม ก า ร ศึ ก ษ า ตํ อ เ น่ื อ ง ไ ด๎ แ กํ ก า ร ศึ ก ษ า เ พื่ อ พั ฒ น า อ า ชี พ การศึกษาเพื่อพัฒนา ทักษะชีวิต การศึกษาเพื่อ พัฒนาสังคมและ ชุมชนและ การสร๎างสังคมแหํงการ เรียนรู๎ ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจ พอเพียงเพื่อไปสํงเสริม อาชีพ ให๎กลุํมเปูาหมายมีอาชีพ เพ่ิม รายได๎ให๎กับตนเองและ ค ร อ บ ค รั ว แ ล ะ กิ จ ก ร ร ม ที่ เสริมสร๎างทักษะตําง ๆ ในการ ดาเนินชีวิต โดยนาหลัก ปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงไปสํู การปฏิบัติ ให๎เกิดการพัฒนาตนเอง ชุมชน เพือ่ สรา๎ ง สงั คมแหํงการเรียนรู๎และ การมี คุณภาพชวี ติ ทด่ี ขี นึ้ - บริการการศึกษาตาม อัธยาศัย จัดกิจกรรมการเรียน การสอนที่ สํงเสริมการเรียนรู๎ ด๎วยตนเอง คือ การ มอบหมาย กรต. คือ กิจกรรม การเรียนรู๎ตํอเนื่อง ให๎ผู๎เรียน ไป ศึกษาด๎วยตนเองจาก อินเทอร์เน็ต การอํานหนังสือ การไปถามผู๎ร๎ู หรือการไป ศึกษาค๎นคว๎าจาก แหลํ งเ รียน ร๎ู ตําง ๆ กา รจั ด กิจกรรมสํงเสริม การอํานแกํทุก กลุํมเปูาหมาย ประชาชนในชุมชน โ ด ย บ๎ า น ห นั ง สื อ ชุ ม ช น อาสาสมัคร สํงเสริมการอําน เพ่ือให๎ทกุ คน มนี สิ ัยรกั การอําน
32 กลํมุ เปูาหมาย ปญั หาและความต๎องการ แนวทางการแก๎ไข กลุม่ ผู้สูงอายุ 60 ปี ขน้ึ ไป - ผส๎ู ูงอายุขาดความรู๎ความ เข๎าใจ - จัดกจิ กรรม การศึกษาเพ่ือพัฒนา การดูแลสุขภาพตนเอง ทักษะ ชวี ติ ดา๎ นการดูแลสขุ ภาพ - ผู๎สงู อายุขาดการดแู ลเอา ใจใสํ อนามัย การออกกาลงั กาย ฯลฯ จากครอบครวั - จดั กจิ กรรมการศึกษา เพื่อพัฒนา - การสงํ เสริมกิจกรรม สาหรับ อาชพี ที่เหมาะสม กับผู๎สูงอายุ ผ๎ูสงู อายุขาดความตํอเนื่อง เพ่ือให๎ผสู๎ ูงอายุมี รายได๎ และมี กจิ กรรมทาอาจจะทาเป็นกลํุมหรอื บคุ คลก็ ได๎ เชํนการจักสานการ ทาอาหารขนม อาหารเพ่ือ สขุ ภาพ ฯลฯ ตารางวเิ คราะห์ขอ้ มลู สภาพปัญหาสาเหตุและแนวทางแกไ้ ข สภาพปัญหา/ความต๎องการ สาเหตขุ องปัญหา แนวทางแก๎ไข 1.ดา้ นเศรษฐกิจ - ใช๎จํายไมํประหยดั - สร๎างความเข๎าใจแกํชมุ ชน โดย การสํงเสริมกระวนการเรยี นรู๎ ตาม 1.ปญั หาหนี้สนิ ในระบบและนอก - มคี ํานยิ มทีผ่ ิด ระบบ - ไมมํ ีการเกบ็ ออมใน ครัวเรือน แนวปรชั ญาของเศรษฐกิจ 2. การวาํ งงานของประชากรวัย พอเพยี งโดยชมุ ชนมสี ํวนรํวมคิด - สภาวะเศรษฐกิจตกตา่ การจา๎ ง รวํ มทารํวมแกป๎ ญั หา แรงงาน งานลดลง - สงํ เสริมการประกอบ อาชีพเพ่ือ - ขาดการศึกษาเรียนรูห๎ รือ การมงี านทาเพิ่มรายได๎ การสํงเสรมิ การเรยี นร๎ูใหเ๎ กิดอาชีพ เชํน การฝกึ ทกั ษะอาชพี ระยะสั้น เพ่อื การมีงานทาและสร๎างรายได๎ การรวมกลมุํ เพอ่ื พฒั นาอาชพี 3. ผลผลติ การเกษตรตกตา่ ต๎นทุน - มโี รคและแมลงรบกวนพชื ไรํใน - การอบรมให๎ความรู๎การบริหาร สงู ถกู พํอค๎าคนกลางกด ราคา นาขา๎ ว จดั การแกํคณะกรรมการ - มคี าํ ใชจ๎ าํ ยจากการใชป๎ ุ๋ย และยา กลุมํ อาชีพ/วิสาหกิจชมุ ชน/กลมํุ ฆําแมลงในไรนํ า กองทนุ ชมุ ชน - ขาดความรใ๎ู นการบริหาร จดั การ - การศกึ ษาดูงานกลํุมอาชีพ / และการรวมกลํมุ วิสาหกจิ ชุมชน/กลุมํ กองทนุ ชมุ ชน 4. กลมํุ อาชีพ / OTOP / กองทุน - คณะกรรมการขาดความร๎ู ความ เศรษฐกจิ ทป่ี ระสบ ความสาเรจ็ เศรษฐกจิ ชุมชน / วสิ าหกจิ ชุมชน เขา๎ ใจในการบรหิ ารจัดการ กลํุม - สงํ เสริมสนับสนนุ การ ประกอบ มปี ญั หาในการบริหารจัดการ - สมาชกิ ในกลํมุ ขาดความรู๎ และ อาชพี เสริมเพ่มิ รายได๎ ทักษะจงึ ไมํสามารถจะพัฒนา กลํุม ใหเ๎ จริญก๎าวหนา๎ ได๎ - รายได๎จากอาชพี | การเกษตรไมํ เพยี งพอ
33 สภาพปัญหา/ความต๎องการ สาเหตขุ องปัญหา แนวทางแก๎ไข 2. ดา้ นสงั คม 1. ผ๎ูสูงอายุไมํได๎รับการดูแลด๎าน - ขาดการดแู ลเอาใจใสจํ ากคนใน - สรา๎ งความรค๎ู วามเข๎าใจ แกํ สขุ ภาพกายสขุ ภาพจติ ครอบครัว ชมุ ชน ครอบครัว กลํมุ เปาู หมาย - ขาดความเข๎าใจในการดูแล โดยการจดั กจิ กรรมพัฒนาทักษะ สขุ ภาพตนเอง ชีวติ หรอื พฒั นาสงั คมชมุ ชน ไดแ๎ กํโครงการ ครอบครวั อบอํุน 2. ผส๎ู ูงอายตุ อ๎ งการพฒั นาอาชีพ - เพ่อื พัฒนาและอนรุ ักษภ์ ูมปิ ัญญา การอบรมดแู ล สุขภาพผสู๎ งู อายุ ท๎องถิน่ - เพื่อรวมกลุมํ ใชเ๎ วลาวาํ งใหเ๎ กิด - สํงเสรมิ การพัฒนาอาชีพ ฝึก ประโยชน์ ทกั ษะอาชพี แกํกลุมํ ผ๎ูสูงอายุ 3. เยาวชน มีบุตรในวัยเรียน และ - ครอบครัวแตกแยก/ขากความ - สร๎างความรูค๎ วามเขา๎ ใจ แกํ ชุมชนครอบครวั กลุํมเปูาหมาย เรยี นไมํจบ ติดยาเสพติด และ เกม อบอนํุ โดยการจดั กิจกรรมพฒั นาทักษะ ชีวติ หรือ การพฒั นาสังคมและ คอมพิวเตอร์ - การเลย้ี งดูแบบวัตถุนยิ ม ชมุ ชน ได๎แกํ โครงการครอบครวั อบอุนํ 3. ด้านการศึกษา - สนับสนุนเดก็ และเยาวชน ทไ่ี มํ จบการศกึ ษาภาคบังคับหรอื ออก จานวนประชาชนผู๎ไมํร๎ูหนังสือและ - สภาพทางเศรษฐกิจของ กลางคันเข๎าเรยี นตํอการศึกษา ขัน้ พื้นฐาน ลืมหนงั สอื ครอบครัวทาให๎ไมํมีโอกาสเรยี น - กระตนุ๎ /สงํ เสรมิ สนบั สนุน และ และบางรายเคยเรยี นมานานและ จดั กิจกรรมสํงเสรมิ การเรยี นร๎ู หนังสอื และจดั กจิ กรรมสํงเสริม ไมมํ ีโอกาสได๎อํานบํอยทาใหล๎ มื การอํานตามความต๎องการของ พ้ืนที่ หนังสอื ได๎
34 ตารางวิเคราะห์การประเมนิ ผลและปญั หาอุปสรรคการดาเนนิ งานในรอบปที ีผ่ า่ นมา ผลการประเมินปัญหาและอุปสรรค แนวทางการพฒั นา 1. สอ่ื การสอนไมเํ พียงพอตํอการจดั การศึกษา การจัดหาส่ือการเรียนการสอน เชํน ชุดทดลอง ขนั้ พื้นฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชุดแผนท่ี 2. ครมู ภี ารกิจคํอนขา๎ งมากต๎องรับผดิ ชอบ ผูเ๎ รยี นตําง การจัดทาชุดการเรยี นการสอนในแตํละรายวชิ าให๎ ระดับ ตํางความรู๎พนื้ ฐาน ผเ๎ู รียนบางกลมํุ ไมสํ นใจ ผเู๎ รยี นไดเ๎ รยี นรู๎ด๎วยตนเองโดยมคี รชู ํวยเติมเตม็ เนื้อหา เรียน ขาดความรับผิดชอบ และการมาพบ กลํุมของ ที่ผู๎เรียนไมํเข๎าใจและการจัดทาแบบทดสอบให๎ ผ๎ูเรียนไมเํ ปน็ ไปอยํางสมา่ เสมอทาให๎ไมํสามารถจดั ทา สอดคล๎องกบั เน้ือหาในหนังสือชุดวิชาท่ีเรยี น แผนการสอนที่มคี ุณภาพให๎กับผ๎เู รียน ทกุ คนได๎สํงผล ให๎ผเ๎ู รยี นมผี ลสัมฤทธ์ิทางการเรียนต่า และมจี านวน ผจ๎ู บหลักสูตรน๎อย 3. การดาเนินงานจดั การศึกษาเพอื่ พัฒนาอาชพี การจัดสรรงบประมาณให๎สอดคล๎องกับเปูาหมายของ ประสบปัญหาด๎านงบประมาณและวสั ดุอุปกรณ์ไมํ การจดั กจิ กรรมท่ีกาหนดให๎ผูร๎ บั รกิ ารสามารถ เพยี งพอในการฝึกทกั ษะอยาํ งตํอเนื่อง ฝึกทกั ษะอาชีพไปสํกู ารประกอบอาชีพไดจ๎ รงิ 4. การดาเนนิ งานการศกึ ษาเพอื่ พัฒนาทักษะ ชวี ติ ประสานงานขอสนบั สนนุ งบประมาณจากหนวํ ยงาน และงานการศึกษาเพื่อพัฒนาสงั คมและชุมน ประสบ สวํ นท๎องถิน่ ปญั หางบประมาณและวัสดอุ ุปกรณใ์ นการ ดาเนินงาน ไมเํ พยี งพอ ไมํสอดคล๎องกับบกลมํุ เปูาหมาย
35 สว่ นท่ี 3 ทิศทางการดาเนินงาน เรอื่ ง นโยบายและจดุ เน้น ของกระทรวงศกึ ษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อให๎การดาเนินการจัดการศึกษาและการบริหารจัดการการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการเป็นไป ด๎วยความเรียบร๎อย บรรลุเปูาหมาย อาศัยอานาจตามความในมาตรา 8 และมาตรา 12 แหํงพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 รัฐมนตรีวําการกระทรวงศึกษาธิการ จึงประกาศ นโยบายและจุดเน๎นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อให๎สํวนราชการในสังกัด กระทรวงศึกษาธิการ ยึดเป็นกรอบการดาเนินงานในการจัดทาแผนและงบประมาณรายจํายประจาปี งบประมาณ พ.ศ. 2564 พร๎อมท้ังขับเคลื่อนการดาเนินงานด๎านการศึกษาให๎มีคุณภาพ ประสิทธิภาพในทุกมิติ โดยใชจ๎ าํ ยงบประมาณอยํางคุม๎ คํา เพอ่ื เปูาหมาย คอื ผเ๎ู รยี นทกุ ชวํ งวยั ดังน้ี หลักการตามนโยบาย ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 กระทรวงศึกษาธิการมํุงม่ันดาเนินการภารกิจหลักตามแผนแมํบทภายใต๎ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ในฐานะหนวํ ยงานเจ๎าภาพขับเคลื่อนทุกแผนยํอยในประเด็น 12 การพัฒนาการเรียนรู๎ และแผน ยํอยท่ี 3 ในประเด็น 11 ศักยภาพคนตลอดชํวงชีวิต รวมท้ังแผนปฏิรูปประเทศด๎านการศึกษา และนโยบาล รัฐบาลในสํวนด๎านการปฏิรูปกระบวนการเรียนร๎ูและการพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกชํวงวัย และนโยบ าย เรํงดํวน เรื่องการเตรียมคนไทยสูํศตวรรษที่ 21 นอกจากนี้ยังสนับสนุนการขับเคล่ือนแผนแมํบทภายใต๎ ยุทธศาสตรช์ าตปิ ระเดน็ อ่ืน ๆ แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแหงํ ชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2562-2565) นโยบาย และแผนระดับชาตวิ ําด๎วยความมน่ั คงแหงํ ชาติ (พ.ศ. 2562-2565) รวมทั้งนโยบายและแผนตําง ๆ ท่ีเก่ียวข๎อง โดยคาดหวังวําผูเ๎ รยี นทุกชํวงวัยจะไดร๎ บั การพฒั นาในทกุ มิติ เปน็ คนดี คนเกํง มีคุณภาพ และมีความพร๎อมรํวม ขับเคล่ือนการพฒั นาประเทศสคํู วามมั่นคง ม่ังคั่ง และย่ังยืน ดังน้ัน ในการเรํงรัดการทางานภาพรวมกระทรวง ให๎เกิดผลสัมฤทธ์ิเพื่อสร๎างความเชื่อม่ันให๎กับสังคม และผลักดันให๎การจัดการศึกษามีคุณภาพและ ประสิทธิภาพในทกุ มติ ิ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารจึงกาหนดนโยบายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ดงั นี้ 1. ปรับรื้อและเปล่ียนแปลงระบบการบริหารจัดการ โดยมุํงปฏิรูปองค์การเพ่ือหลอมรวมภารกิจและ บคุ ลากร เชํน ด๎านการประชาสัมพันธ์ ด๎านการตํางประเทศ ด๎านเทคโนโลยี ด๎านกฎหมาย ฯลฯ ท่ีสามารถลด การใช๎ทรพั ยากรทับซอ๎ น เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพและความเป็นเอกภาพ รวมท้ังการนาเทคโนโลยดี ิจิทัลเข๎ามาชํวยท้ัง การบริหารงานและการจดั การศกึ ษารองรับความเปน็ รัฐบาลดจิ ทิ ัล 2. ปรับร้ือและเปล่ียนแปลงระบบการบริหารทรัพยากร โดยมํุงปฏิรูปกระบวนการวางแผนงาน/ โครงการแบบรํวมมือและบูรณาการ ท่ีสามารถตอบโจทย์ของสังคมและเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้ง กระบวนการจัดทางบประมาณท่ีมีประสิทธิภาพและใช๎จํายอยํางค๎ุมคํา สํงผลให๎ภาคสํวนตําง ๆ ท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน และนานาชาติ เชือ่ มนั่ และรํวมสนับสนนุ การพฒั นาคุณภาพการศึกษามากยิ่งขึ้น 3.ปรับรื้อและเปล่ียนแปลงระบบการบรหิ ารจดั การและพัฒนากาลงั คนของกระทรวงศึกษาธิการ โดย มุงํ บริหารจัดการอัตรากาลังให๎สอดคล๎องกบั การปฏริ ปู องค์การ รวมทงั้ พัฒนาสมรรถนะและความรู๎ ความสามารถของบคุ ลากรภาครัฐ ให๎มีความพรอ๎ มในการปฏบิ ตั ิงานรองรับความเปน็ รฐั บาลดจิ ิทลั 4.ปรับรื้อและเปลี่ยนแปลงระบบการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ โดยมํุงให๎ครอบคลุมถึงการจัด การศึกษาเพ่อื คุณวุฒิ และการเรียนร๎ตู ลอดชีวิตทีส่ ามารถตอบสนองการเปลย่ี นแปลงในศตวรรษท่ี 21
36 ประกาศเพ่มิ เตมิ 5. ดาเนินการปลดล็อก ปรับเปลี่ยน เปิดกว๎าง ท่ีเป็นเง่ือนไขตําง ๆ เพ่ือให๎บรรลุผลตามนโยบาย “การศึกษายกกาลังสอง (Thailand Education Eco - System : ) การศึกษาท่ีเข๎าใจ Supply และ ตอบสนองโจทย์ Demand” โดย -ปลดล็อก กฎหมาย ระเบียบ ข๎อบังคับ ประกาศตําง ๆ เพ่ือให๎เกิดความรํวมมือกันระหวํางภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนสังคมให๎สามารถดาเนินการทีเ่ ก่ยี วข๎องกับการศึกษาได๎อยํางรวดเร็ว รวมถึงการ บริหารการศกึ ษาของประเทศให๎ครอบคลมุ ทุกพื้นท่ี -ปรับเปล่ียน หลักสูตรการเรียนการสอนที่มุํงเน๎นการพัฒนาขีดความสามารถและศักยภาพให๎ทันตํอ การเปล่ยี นแปลงของโลก ปรับเปลี่ยนการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาผํานศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคคล เพื่อความเป็นเลิศ (Human Capital Excellence Center : HCEC) เพ่ือให๎ครู Up Skill และ Re – Skill ของ ตนเองไดต๎ ลอดเวลา ทั้งน้ี เพ่ือสํงตอํ ความรไ๎ู ปยังผเู๎ รยี นให๎เป็นคนดี คนเกํง และคนทมี่ ีคณุ ภาพ -เปิดกว๎าง เสรีทางการศึกษาให๎ภาคเอกชนท่ีมีคุณภาพเข๎ามามีสํวนรํวมในการพัฒนาการศึกษารํวม ประเมินผลการเรียนร๎ูของผู๎เรียนผํานศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (Human Capital Excellence Center : HCEC) ให๎ครอบคลมุ ผ๎เู รยี นท่ัวประเทศ ทง้ั น้ี เพอ่ื นาไปสนูํ กั เรียนยกกาลงั สอง ทเ่ี น๎นเรียนเพอื่ ร๎ู พฒั นาทกั ษะเพื่อทา ครูยกกาลังสองท่ีเน๎นเพิ่ม คนเกํงมาเป็นครู พัฒนาครทู ั้งระบบ ห๎องเรียนยกกาลังสองท่ีเน๎นเรียนที่บ๎าน ถามท่ีโรงเรียน หลักสูตรยกกาลัง สองที่เน๎นลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาร๎ู ส่ือการเรียนรู๎ยกกาลังสองที่เน๎นเรียนผํานส่ือผสมผสานผํานชํองทางท่ี หลากหลาย ไดแ๎ กํ On – Site เรียนท่ีโรงเรยี น Online เรยี นออนไลน์ผํานแพลตฟอร์มดา๎ นการศึกษาเพื่อความ เป็นเลิศ (Digital Education Excellence Platform : DEEP) ท่ีมีเนื้อหามาตรฐานจากผู๎ผลิตที่เป็น ภาคเอกชน On-Air เรยี นผํานโทรทัศน์ DLTV มูลนิธิการศึกษาทางไกลผํานดาวเทยี ม โดยเน้ือหามาตรฐานจาก ผ๎ูผลิตที่เป็นภาคเอกชน และ On-Demand ซึ่งสามารถเรียนได๎ทุกที่ ทุกเวลา ที่มีอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ เช่ือมตํอ โรงเรียนยกกาลังสองที่มํุงเน๎นคุณภาพในโรงเรียนระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เพื่อความเป็นเลิศทาง วชิ าการ เพอื่ ความเปน็ เลศิ ทางภูมิปญั ญาท๎องถน่ิ และวิสาหกจิ ชมุ ชนที่เน๎นคุณภาพของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเพ่ือ ความเปน็ เลิศและความเช่ียวชาญท่สี ามารถตอบโจทย์ทกั ษะและความร๎ทู ี่เพม่ิ ความเชี่ยวชาญในการปฏบิ ัติงาน จุดเนน้ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 1. การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรพั ยากรมนษุ ย์ 1.1 การจัดการศึกษาเพอ่ื คุณวุฒิ -จดั การศกึ ษาทุกระดับ ทุกประเภท โดยใช๎หลกั สูตรฐานสมรรถนะ รวมท้งั แนวทางการจัดการ เรียนรู๎เชงิ รกุ และการวัดประเมนิ ผลเพอ่ื พัฒนาผูเ๎ รียน ทีส่ อดคล๎องกับมาตรฐานการศึกษาแหํงชาติ -สงํ เสรมิ การพฒั นากรอบหลักสตู รระดบั ท๎องถ่ินและหลกั สูตรสถานศกึ ษา ตามความตอ๎ งการ จาเปน็ ของกลมํุ เปูาหมายและแตกตาํ งหลากหลายตามบรบิ ทของพืน้ ที่ -พัฒนาผเู๎ รยี นให๎มที ักษะการคดิ วิเคราะห์ สามารถแก๎ไขสถานการณ์เฉพาะหนา๎ ไดอ๎ ยาํ งมี ประสิทธภิ าพ โดยจัดการเรียนรู๎เชิงรุก (Active Learning) จากประสบการณ์จริงหรอื จากสถานการณ์จาลอง ผาํ นการลงมือปฏิบตั ิ ตลอดจนจัดการเรียนการสอนในเชิงแสดงความคิดเห็นเพ่ือเปิดโลกทศั น์มมุ มองรํวมกัน ของผ๎ูเรยี นและครใู ห๎มากขนึ้ -พัฒนาผู๎เรียนให๎มีความรอบร๎ูและทักษะชีวิต เพื่อเป็นเคร่ืองมือในการดารงชีวิตและสร๎างอาชีพ อาทิ การใชเ๎ ทคโนโลยีดิจิทลั สุขภาวะและทศั นคตทิ ่ดี ตี ํอการดูแลสขุ ภาพ
37 1.2 การเรียนรูต้ ลอดชวี ติ -จัดการเรียนร๎ตู ลอดชีวิตสาหรบั ประชาชนทุกชวํ งวยั เน๎นสงํ เสรมิ และยกระดับทกั ษะ ภาษาองั กฤษ (English for All) -สํงเสริมการเรยี นการสอนทเ่ี หมาะสมสาหรบั ผท๎ู เ่ี ขา๎ สํูสงั คมสูงวัย อาทิ อาชีพทเ่ี หมาะสมรองรบั สังคมสูงวยั หลกั สตู รการพฒั นาคุณภาพชีวิต และหลักสูตรการดูแลผส๎ู ูงวัย หลักสตู ร BUDDY โดยเน๎นการมี สวํ นรวํ มในการพฒั นาชุมชน โรงเรียน และผเ๎ู รียน หลักสูตรการเรยี นร๎ูออนไลน์ เพื่อสํงเสริมประชาสัมพนั ธ์ สินคา๎ ออนไลน์ระดับตาบล -สงํ เสรมิ โอกาสการเข๎าถึงการศึกษาเพื่อทกั ษะอาชีพและการมงี านทา ในเขตพฒั นาพิเศษเฉพาะ กิจจงั หวัดชายแดนภาคใต๎ และเขตพืน้ ท่ีพิเศษ (พน้ื ทสี่ ูง พ้ืนที่ตามแนวตะเขบ็ ชายแดน และพนื้ ท่ีเกาะแกํง ชายฝัง่ ทะเล ท้ังกลุํมชนตาํ งเชื้อชาติ ศาสนา และวฒั นธรรม กลุมํ ชนชายขอบ และแรงงานตาํ งด๎าว) -พัฒนาครใู ห๎มีทักษะ ความร๎ู และความชานาญในการใชเ๎ ทคโนโลยีดิจทิ ัล ปัญญาประดษิ ฐ์ และ ภาษาอังกฤษ รวมท้งั การจัดการเรยี นการสอนเพอื่ ฝึกทักษะการคิดวเิ คราะหอ์ ยํางเป็นระบบและมเี หตผุ ลเปน็ ข้นั ตอน -พฒั นาครูอาชวี ศกึ ษาทมี่ ีความรแู๎ ละความสามารถในทางปฏิบตั ิ (Hands – on Experience) เพือ่ ให๎มีทักษะและความเชย่ี วชาญทางวิชาการ โดยรวํ มมอื กับสถาบันอดุ มศกึ ษาชั้นนาของ ประเทศจัดหลักสูตรการพัฒนาแบบเข๎มขน๎ ระยะเวลาอยาํ งนอ๎ ย 1 ปี -พฒั นาสมรรถนะและความร๎ูความสามารถของบุคลากรกระทรวงศึกษาธิการ ให๎มคี วามพรอ๎ มใน การปฏบิ ัติงานรองรับความเป็นรฐั บาลดจิ ทิ ัลอยํางมีประสทิ ธภิ าพ โดยจัดใหม๎ ีศนู ย์พัฒนาสมรรถนะบุคลากร ระดบั จังหวัดทั่วประเทศ 2. การพัฒนาการศกึ ษาเพอื่ ความม่นั คง -พัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาในพ้นื ท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต๎ โดยน๎อมนายุทธศาสตร์พระราชทาน “เขา๎ ใจ เข๎าถงึ พัฒนา” เปน็ หลกั ในการดาเนินการ -เฝูาระวังภัยทกุ รปู แบบท่ีเกดิ ขนึ้ กบั ผ๎ูเรยี น ครู และสถานศึกษา โดยเฉพาะภยั จากยาเสพติด อาชญากรรมทางไซเบอร์ การคา๎ มนุษย์ -สํงเสริมใหใ๎ ช๎ภาษาท๎องถน่ิ รํวมกับภาษาไทย เป็นสื่อจดั การเรียนการสอนในพนื้ ที่ทีใ่ ชภ๎ าษาอยําง หลากหลาย เพ่อื วางรากฐานใหผ๎ ๎เู รยี นมีพฒั นาการด๎านการคิดวเิ คราะห์ รวมท้ังมีทักษะการสอ่ื สารและใช๎ภาษา ทสี่ ามในการตํอยอดการเรยี นรไู๎ ด๎อยํางมีประสิทธภิ าพ -ปลกู ฝงั ผู๎เรยี นใหม๎ หี ลักคิดท่ถี ูกตอ๎ งด๎านคุณธรรม จรยิ ธรรม และเป็นผมู๎ ีความพอเพียง วินัย สุจรติ จติ อาสา โดยใชก๎ ระบวนการลกู เสอื และยุวกาชาด 3. การสร้างความสามารถในการแขง่ ขัน -สนับสนนุ ใหส๎ ถานศกึ ษาอาชีวศึกษาผลติ กาลงั แรงงานทีม่ ีคุณภาพ ตามความเป็นเลิศของแตํละ สถานศกึ ษาและตามบรบิ ทของพื้นท่ี รวมท้ังสอดคล๎องกับความตอ๎ งการของประเทศทงั้ ในปัจจุบันและอนาคต -สนบั สนุนให๎สถานศกึ ษาอาชีวศกึ ษาบรหิ ารจัดการอยํางมคี ุณภาพ และจัดการเรยี นการสอนดว๎ ย เคร่ืองมือปฏิบตั ิที่ทนั สมัยและสอดคลอ๎ งกับเทคโนโลยี โดยเนน๎ ให๎ผูเ๎ รียนมีทักษะการวิเคราะห์ข๎อมูล (Data Analysis) และทักษะการส่ือสารภาษาตํางประเทศ 4. การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศกึ ษา -พฒั นาแพลตฟอร์มดิจิทลั เพ่ือการเรียนรู๎ และใชด๎ ิจิทลั เป็นเคร่อื งมอื การเรียนรู๎
38 -ศึกษาและปรับปรุงอัตราเงนิ อุดหนนุ คาํ ใชจ๎ ํายตํอหวั ในการจดั การศึกษาข้ันพน้ื ฐาน ใหส๎ อดคล๎องกบั สภาพเศรษฐกิจและบทบัญญัตขิ องรัฐธรรมนูญ -ระดมสรรพกาลังเพ่ือสํงเสรมิ สนับสนนุ โรงเรียนนารอํ งพ้นื ที่นวัตกรรมการศึกษา เพ่ือลดความเหลือ่ ม ล้าทางการศึกษาให๎สอดคลอ๎ งพระราชบญั ญตั ิพ้ืนท่ีนวตั กรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 5. การจัดการศึกษาเพ่ือสร้างเสริมคณุ ภาพชีวติ ท่เี ปน็ มติ รกับสิง่ แวดลอ้ ม -เสรมิ สร๎างการรับรู๎ ความเข๎าใจ ความตระหนัก และสงํ เสริมคณุ ลักษณะและพฤตกิ รรมที่พึงประสงค์ ดา๎ นสงิ่ แวดลอ๎ ม -สํงเสรมิ การพฒั นาสิ่งประดษิ ฐแ์ ละนวัตกรรมท่เี ป็นมติ รกับส่ิงแวดลอ๎ ม ให๎สามารถเปน็ อาชีพ และ สรา๎ งรายได๎ 6. การปรบั สมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจดั การ -ปฏิรปู องคก์ ารเพ่ือลดความทับซอ๎ น เพม่ิ ประสิทธิภาพและความเปน็ เอกภาพของหนวํ ยงานท่มี ี ภารกิจใกลเ๎ คียงกัน เชํน ด๎านประชาสมั พันธ์ ด๎านตาํ งประเทศ ดา๎ นเทคโนโลยี ดา๎ นกฎหมาย เป็นตน๎ -ปรบั ปรุงกฎหมายและระเบยี บท่เี ปน็ อุปสรรคและข๎อจากัดในการดาเนนิ งาน โดยคานงึ ถึงประโยชน์ ของผเู๎ รียนและประชาชน ตลอดจนกระทรวงศึกษาธกิ ารโดยรวม -สนับสนนุ กิจกรรมการปูองกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ -พฒั นาระบบฐานข๎อมูลด๎านการศกึ ษา (Big Data) -พฒั นาระบบการบรหิ ารจดั การและพฒั นากาลงั คนของกระทรวงศึกษาธิการ ให๎สอดคล๎องกบั การ ปฏริ ูปองคก์ าร -สนับสนนุ ใหส๎ ถานศกึ ษาเปน็ นิตบิ ุคคล เพอื่ ให๎สามารถบรหิ ารจัดการศึกษาท่ีมคี ุณภาพได๎อยํางอิสระ และมปี ระสิทธิภาพ ภายใต๎กรอบแนวทางของกระทรวงศึกษาธกิ าร -จดั ตงั้ หนํวยงานวางแผนทางการเงิน (Financial Plan) ระดับจงั หวัด เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวติ บุคลากรของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร -สํงเสรมิ โครงการ 1 ตาบล 1 โรงเรียนคณุ ภาพ โดยเน๎นปรบั สภาพแวดลอ๎ มท้ังภายในและภายนอก บริเวณโรงเรียนให๎เอื้อตอํ การเสรมิ สร๎างคุณธรรม จรยิ ธรรม และจิตสาธารณะ จดุ เน้นประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (เพ่ิมเตมิ ) -พัฒนาครทู ุกระดบั ใหม๎ ที ักษะ ความร๎ทู ่ีจาเป็น เพ่ือทาหนา๎ ทวี่ ิทยากรมืออาชีพ (Train The Trainer) และขยายผลการพฒั นาผํานศูนยพ์ ฒั นาศักยภาพบุคคลเพื่อความเปน็ เลศิ (Human Capital Excellence Center : HCEC) -จดั การเรียนรูต๎ ลอดชวี ติ ผาํ นเว็บไซต์ www.deep.go.th โดยปลดลอ็ กและเปิดกวา๎ งให๎ภาคเอกชน สามารถเข๎ามาพัฒนาเนื้อหา เพ่ือให๎ผูเ๎ รยี น ครู และผ๎บู ริหารทางการศกึ ษามีทางเลือกในการเรียนรท๎ู ่ี หลากหลาย และตลอดเวลาผํานแพลตฟอรม์ ดา๎ นการศกึ ษาเพอื่ ความเปน็ เลศิ (Digital Education Excellence Platform : DEEP) -ให๎ผ๎ูเรียน ครู ผ๎ูบริหารทางการศกึ ษามแี ผนพัฒนารายบคุ คลผาํ นแผนพัฒนารายบุคคลสู๎ความเป็นเลิศ (Excellence Individual Development Plan : EIDP) -จัดทา “คํมู ือมาตรฐานโรงเรียน” เพ่ือกาหนดให๎ทกุ โรงเรียนต๎องมีพน้ื ฐานท่ีจาเป็น การขบั เคลือ่ นนโยบายและจุดเน้นส่กู ารปฏิบัติ 1. ให๎สํวนราชการ หนํวยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ นานโยบายและจุดเน๎น เป็นกรอบแนวทางมา ใช๎ในการวางแผนและจัดทางบประมาณรายจํายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยคานึงถึงมาตรการ 4 ข๎อ
39 ตามท่ีรัฐมนตรีวําการกระทรวงศึกษาธิการ ได๎ให๎แนวทางในการบริหารงบประมาณไว๎ ดังนี้ (1) งดดูงาน ตํางประเทศ 1 ปี ยกเว๎นกรณีที่มีความจาเป็นและเป็นประโยชน์ตํอกระทรวงศึกษาธิการ (2) ลดการจัดอบรม สัมมนาท่ีมีขนาดใหญํและใช๎งบประมาณมาก (3) ยกเลิกการจัดงาน Event และ (4) ทบทวนงบประมาณท่ีมี ความซา้ ซ๎อน 2. ให๎มีคณะกรรมการติดตาม ประเมินผล และรายงานการขับเคลื่อนนโยบายและจุดเน๎นสํูการปฏิบัติ ระดับพน้ื ที่ โดยให๎ผตู๎ รวจราชการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน สานักงานศึกษาธิการภาคและสานักตรวจ ราชการและติดตามประเมินผล สป. เป็นฝุายเลขานุการและผ๎ูชํวยเลขานุการตามลาดับ โดยมีบทบาทภารกิจ ในการตรวจราชการ ติดตาม ประเมินผลในระดับนโยบาย และจัดทารายงานเสนอตํอรัฐมนตรีวําการ กระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการจัดการศึกษาของ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ทราบตามลาดบั 3. กรณมี ีปัญหาในเชงิ พน้ื ท่หี รอื ข๎อขัดขอ๎ งในการปฏิบัติงาน ให๎ศึกษา วิเคราะห์ข๎อมูลและดาเนินการแก๎ไข ปัญหาในระดับพื้นท่ีกํอน โดยใช๎ภาคีเครือขํายในการแก๎ไขข๎อขัดข๎อง พร๎อมท้ังรายงานตํอคณะกรรมการ ตดิ ตามฯ ขา๎ งตน๎ ปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ และรฐั มนตรวี ําการกระทรวงศึกษาธกิ ารตามลาดับ อน่ึง สาหรับภารกิจของสํวนราชการหลักและหนํวยงานท่ีปฏิบัติในลักษณะงานในเชิงหน๎าท่ี (Function) งานในเชิงยุทธศาสตร์ (Agenda) และงานในเชิงพ้ืนที่ (Area) ซ่ึงได๎ดาเนินการอยํูกํอนเม่ือรัฐบาลหรือ กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายสาคัญเพ่ิมเติมในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 นอกเหนือจากท่ีกาหนด หากมี ความสอดคลอ๎ งกับหลักการนโยบายและจุดเน๎นข๎างต๎น ให๎ถือเป็นหน๎าที่ของสํวนราชการหลักและหนํวยงานที่ เกี่ยวข๎องต๎องเรํงรัด กากับ ติดตาม ตรวจสอบให๎การดาเนินการเกิดผลสาเร็จและมีประสิทธิภาพอยํางเป็น รูปธรรมด๎วยเชํนกนั 12 ภารกจิ “เรง่ ด่วน” ทีจ่ ะตอ้ ง “จับต้องได้” ภายใน 6 เดอื น ของเลขาธกิ าร กศน. (นายวรัท พฤกษาทวีกุล) “คนสาราญ งานสาเร็จ” ในการประชุมมอบนโยบาย และภารกิจเรํงดํวน ของสานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยมีผู๎อานวยการสานักงาน กศน.จังหวัด อาเภอ และสถานศึกษาขึ้นตรงท่ัวประเทศเข๎ารํวมประชุม ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหมํ ดร.วรัท พฤกษาทวีกุล เลขาธิการ กศน. มอบ 12 ภารกิจเรํงดํวน ขับเคล่ือนงาน กศน. โดยทุกภารกิจทุกคนต๎องดาเนินงานให๎เกิดผลงานท่ีสามารถจับต๎องได๎ ตามคํานิยมหลัก (Core value) “คนสาราญ งานสาเร็จ” สาหรับภารกจิ ทีส่ าคญั ประกอบด๎วย 1. น๎อมนาพระบรมราโชบายสูํการปฏิบัติ “หน่ึงชุมชน หนึ่งนวัตกรรมการพัฒนาชุมชนถิ่นไทยงาม” เพ่ือความกินดีอยูํดี มีงานทา เชํน โคกหนองนาโมเดล ,คลองสวยน้าใส, พลังงานทดแทน (แสงอาทิตย์) ,จิต อาสาพฒั นาชุมชน 2. ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐมนตรีวําการกระทรวงศึกษาธิการ (นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ) และ รัฐมนตรชี วํ ยวําการกระทรวงศึกษาธกิ าร (ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย)์ ให๎เกิดผลเป็นรปู ธรรม 3. เรํงผลกั ดันราํ งพระราชบัญญัตสิ ํงเสรมิ การเรยี นร๎ู พ.ศ. .... ให๎สาเร็จ และปรับโครงสร๎างการบริหาร และอตั รากาลงั ให๎สอดคล๎องกับบรบิ ทการเปลย่ี นแปลง เรงํ “การสรรหา บรรจุ แตํงต้งั ท่มี ปี ระสิทธิภาพ”
40 4. ปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรทุกระดับ ทุกประเภท ให๎ทันสมัย สอดคล๎องกับบริบทสภาวะปัจจุบันและ ความต๎องการของผ๎ูเรียน Credit Bank System / E-exam รวมท้ังสํงเสริมกิจกรรมการพัฒนาผ๎ูเรียนด๎วย กระบวนการลกู เสอื และยวุ กาชาด เพือ่ สรา๎ งคนดี มีระเบียบวนิ ยั และมีทัศนคติที่ดีตอํ บา๎ นเมือง 5. พัฒนา Bigdata ของ กศน. ที่ทันสมัย รวดเร็ว และทันที “ข๎อมูลและสารสนเทศ กศน. ที่ทันสมัย จะปรากฏบนหนา๎ จอมอื ถอื ทนั ที เมื่อคุณต๎องการ” รวมท้ังการส่ือสารและประชาสัมพันธ์งานของ กศน. ต๎องมี ประสิทธิภาพและเกดิ ประสทิ ธผิ ล “ตีฆ๎องร๎องปุาว ขาํ วชาว กศน.” 6. พัฒนาระบบการเรียนร๎ู ONIE Digital Learning Platform รองรับ DEEP และ Digital Science Museum ,ศนู ยเ์ รียนรู๎ทกุ ชวํ งวัย รวมทั้งสือ่ การเรยี นการสอน แหลํงเรียนร๎ู ในทุกกลุํมเปูาหมาย “เรียนร๎ูได๎ทุก ท่ี ทกุ เวลา” 7. สํงเสริมการพัฒนาความสามารถดา๎ นดจิ ิทัล Digital Literacy ใหก๎ ับบุคลากร กศน. ทุกระดบั และ กลุํมเปูาหมายทุกกลมํุ 8. สํงเสริม สนับสนุนการฝึกอาชีพเพ่ือการมีงานทา “Re-Skill Up-Skill และออกใบรับรองความรู๎ ความสามารถ” 9. สงํ เสริมการมสี ํวนรวํ มกบั ทุกภาคเี ครือขํายและภาคเอกชนในการฝกึ อาชีพและสงํ เสรมิ การตลาด เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ/์ สนิ คา๎ กศน. ขยายชํองทางการจาหนาํ ย 10. ซํอมแซม ฟน้ื ฟูอาคาร สถานท่ี สง่ิ แวดลอ๎ มของสานักงานทกุ แหงํ และแหลงํ เรียนร๎ทู ุกแหงํ ให๎ สะอาด ปลอดภัย พร๎อมให๎บริการดว๎ ย มติ รไมตรี “กศน.งามตา ประชาช่นื ใจ” กศน.งานเรามคี ือความผาสุข ของประชาชน เราใกล๎ชดิ ชมุ ชนทกุ หมูบํ ๎าน ทุกตาบล ทุกอาเภอ ทุกจงั หวัด ในทาํ มกลางทง่ี บประมาณประเทศ มจี ากดั เราต๎อง “ประหยดั เรียบงําย ไดป๎ ระโยชน์สงู สุด” ไมํจาเปน็ ตอ๎ งสร๎างอาคารใหญํโต เลขาธิการ กศน. จงึ ใหน๎ โยบาย “กศน. งามตา ประชาชน่ื ใจ” โดยเชิญชวนพีน่ อ๎ งชาวกศน. ซํอมแซม ฟ้ืนฟู อาคาร สถานที่ทุก แหงํ เชนํ ทาสี ปัดเช็ดกวาด ทาความสะอาด ถางหญ๎า ตกแตงํ ใหส๎ วยงาม สะอาดตา ปลอดภยั (โดยเฉพาะ ศรช.หลายแหํงเสอื่ มโทรมมาก) รวํ มมอื กนั ทา หากไมไํ หวชวนเครอื ขํายชมุ ชน มาลงแรมชวํ ยกัน 11. จัดกิจกรรมสํงเสริมความสัมพันธข์ องชาว กศน. “กศน.เกมส์” และกจิ กรรมเชื่อมความสัมพนั ธ์ ของพี่นอ๎ งชาว กศน. 12. บรู ณการรวํ มกบั หนวํ ยงานตาํ ง ๆ ในสงั กัดกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งในสํวนกลางและภูมิภาค “ทีม กศน.” “ทมี กระทรวงศึกษาธกิ าร” เพิม่ เติม 1) ในปีงบประมาณ 2564 ขอให๎ สานักงาน กศน.จังหวัด เตรียมการกับ “โครงการ 1 ตาบล 1 อาชีพ” ที่เป็นอัตลักษณ์และบริบทของชุมชนอยํางแท๎จริง โดยสร๎างความรํวมมือกับภาคเอกชนและภาคสํวน อื่น ๆ และเพ่ิมชํองทางการจาหนํายผลิตภัณฑ์ให๎มากขึ้น ตลอดจนประชาสัมพันธ์ผํานสื่อตําง ๆ อยํางเข๎มข๎น เปาู หมาย คอื การสรา๎ งความยั่งยืนให๎กับชมุ ชนในการกินดอี ยํดู ี ธารงไวซ๎ ึ่งอตั ลกั ษณ์ และภมู ปิ ญั ญาของชมุ ชน
41 2) การจัดการแขงํ ขนั กีฬา \"กศน.เกมส์ ครั้งที่ 6\" เบื้องต๎นงาน \"กศน.เกมส์ คร้ังที่ 6\" จะจัดขนึ้ ระหวําง วันท่ี 24 - 26 กมุ ภาพันธ์ 2564 ณ สนามกีฬาจงั หวดั กาญจนบรุ ี (กลีบบวั ) ในระดบั ประเทศ สวํ นในระดับภาค กลางจะจดั ขน้ึ ระหวํางวันท่ี 24 - 26 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 ณ สนามกฬี าจังหวดั กาญจนบุรี 3) สารวจ (สแกน) ในหมบูํ ๎าน เดก็ ผ๎ูใหญํ คนพิการ เดก็ ออทสิ ติก ท่ีพลาดโอกาสการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน. ชักชวนมาเรียนกับ กศน. 4) โครงการ หน่ึงชุมชน หน่ึงนวัตกรรมการพัฒนาชุมชนถ่ินไทยงาม” เพ่ือการมีงานทา ไมํทิ้งถิ่นฐาน เชํน ฝึกอาชีพตามบริบทของชุมชน ,สอนการทา solarcell พลังงานแสงอาทิตย์ (คนตกงานจากในเมือง ชาวบ๎านอยากมีอาชพี ,คนพกิ าร เดก็ เรรํ อํ น ฯลฯ สรา๎ งรายได๎ ขายผลิตภณั ฑ)์ ทาเปน็ shot course) 5) สํงเสริม สนับสนุน “โคก หนอง นา” พัฒนาชีวิต (รวบรวมองค์ความร๎ู เผยแพรํให๎ความร๎ูท่ีถูกต๎อง หา best practices แลว๎ ยกยํองบอกตํอคนทปี่ ระสบความสาเร็จ จัดให๎เป็นแหลํงเรียนรู๎ หรือหนํวยงาน กศน. เรามีความพรอ๎ มสามารถทาเปน็ ตวั อยํางไดย๎ งิ่ ดี เชนํ กศน.จังหวัดหนองบัวลาภู ,ศฝช. เปน็ ต๎น 6) จัดงานกิจกรรม “รวมพลศิษย์เกําชาว กศน. ท่ีประสบความสาเร็จ” ปลุกกระแส เรียน กศน. เกํง ดี มีงานทา 7) พัฒนาระบบฐานข๎อมูลสารสนเทศ (Big data) One ONIE แผนและงบประมาณ บุคคล ติดตาม รายงานผล. สารสนเทศและสถิติทางการศึกษา ผลการเรียน portfolio ทุกกลํุมเปูาหมาย. สามารถดูใด๎ผําน Application บนมือถือ รวมท้ังการรับสมัครเรียน รับสมัครฝึกอบรม. ผํานระบบออนไลน์ การรายงานผลการ เรยี น การนัดหมายการพบกลุํม ผํานระบบ Aplication (สํวนกลางรับผดิ ชอบ จงั หวัด entry data) 8) สาหรับการจัดกลํุมภารกิจของสานักงาน กศน. ซึ่งได๎จัดไว๎ 5 กลุํมภารกิจ เพื่อใช๎พัฒนางานและ เช่อื มโยงงานให๎เป็นระบบในภาพรวม ทง้ั ตน๎ นา้ กลางนา้ และปลายนา้ ดงั นี้ กลมุ่ G1 : ดจิ ทิ ลั เทคโนโลยี -Online learning /Distances learning -Media -Information / Big data -Social media -Digital content กลมุ่ G2 : คณุ ภาพการศกึ ษา -Curriculum -Testing -Measurement -Assessment -Compare education level
42 กลมุ่ G3: กจิ การพเิ ศษ -Special Affairs -Disadvantaged -Disabled -Street children -Special area กลมุ่ G4 : บริการความรู้และประสบการณ์ -Learning resources -Library -Professional training กลุ่ม G5 : กลมุ่ บริหารจดั การ -Administration (4M) โดยมีกรอบแนวทางการดาเนินงานโครงการและกจิ กรรมในปี 2564 และ 2565 (คดิ ใหมํ ทาใหม)ํ -สํวนกลาง (ไมคํ วรทาเองท้ังหมด /กระจายงานและความรับผิดชอบ) โดยมีบทบาท ดงั น้ี -Policy. กาหนดนโยบาย แนวทาง มาตรฐาน -Regulator. กากับดูแล คมูํ ือ ติดตามประเมินผล -Facilitator. สนบั สนุนทรัพยากร. อานวยความสะดวก -ภาค/สถาบัน/ศูนย/์ จงั หวดั /อาเภอ มีบทบาท ดังน้ี -Operation. ปฏบิ ัติการในพ้ืนท่ีและภารกจิ ที่รับผดิ ชอบ. และรายงานผลการปฏิบัตงิ านไปยังสํวนกลาง 9) ในปีงบประมาณ 2564 ขอให๎ สานักงาน กศน.จังหวัด เตรียมการกับ “โครงการ 1 ตาบล 1 อาชีพ” ท่ีเป็นอัตลักษณ์และบริบทของชุมชนอยํางแท๎จริง โดยสร๎างความรํวมมือกับภาคเอกชนและภาคสํวน อืน่ ๆ และเพิม่ ชํองทางการจาหนํายผลิตภัณฑใ์ ห๎มากข้นึ ตลอดจนประชาสมั พันธ์ผํานสอ่ื ตาํ ง ๆ อยํางเขม๎ ขน๎ เปาู หมายคือ การสร๎างความยั่งยนื ใหก๎ บั ชุมชนในการกนิ ดีอยํูดี ธารงไว๎ซึง่ อัตลักษณ์ และภมู ิปัญญาของชมุ ชน โดยแจง๎ เป็นหลกั การไว๎กํอน จะมหี นังสือรายการและแนวทางการดาเนนิ งานแจ๎งไปอีกครัง้ ปรับบทบาท กศน. ลดเหล่ือมลา้ ทางานใกล้ชดิ ชุมชน กศน. นาศาสตร์พระราชาสกู่ ารปฏิบัติ เกบ็ เด็กตก หล่น สง่ เสริมอาชีพ “การศึกษาคือประตูสูํโอกาส” ซ่ึงสาหรับประเทศไทย นอกจากภาครัฐโดย กระทรวงศึกษาธิการ จะ รับผิดชอบ “การศึกษาในระบบ” ท้ังสายสามัญ (ปฐมวัย-ม.6) และสายอาชีพ (ปวช.-ปวส.) แล๎ว ยัง มี “การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)” หรือชื่อเดิมคือการศึกษานอกโรงเรียนด๎วย ซึ่งมี บทบาท “เกบ็ ตก” คนทกุ ชํวงวัยท่ีหลดุ ออกจากการศกึ ษาในระบบไป ไดแ๎ กํ 1) วาํ ดว๎ ยการขบั เคลือ่ นงาน กศน. : แนวทางการขับเคล่ือนการดาเนินการหลักๆ อยํู 12 เรื่องแตํสรุป สั้นๆ เร่ืองแรกคือการขับเคล่ือนนโยบายของทํานรัฐมนตรีวําการ (ณัฏฐพลทีปสุวรรณ) ทํานให๎แนวทางวํา
43 กศน. นาํ จะเปน็ สํวนสาคญั ในการไปลดความเหล่อื มลา้ เพ่อื ทจ่ี ะให๎คนท่ีขาดโอกาสด๎อยโอกาส ที่มีอยํูในขณะนี้ เขา๎ มาสํูระบบการศึกษามากขน้ึ โดย กศน. เป็นผ๎ูจดั ให๎ 2) รัฐมนตรีชํวยวําการ ทํานกนกวรรณ (ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์) ให๎แนวทางของการฝึกอาชีพตําง ๆ ใหก๎ บั ประชาชนในชุมชนหมํูบ๎านให๎นโยบายหลายเรื่องเลย เร่ือง 1 อาเภอ1 อาชีพ แล๎วก็การยกระดับสินค๎าท่ี เกิดจากการฝึกอาชีพเป็นพรีเมยี ม (Premium) ขน้ึ มา 3) การทางานเชงิ รกุ เข๎าไปสแกน (Scan-คน๎ หา) ดูวําในหมูํบ๎านจะมีใครที่ตกหลํนบ๎าง มีคนพิการท่ีรอ ความชวํ ยเหลือท่ีออกไปไหน เข๎าสํูระบบไมํได๎ เดก็ เรํรํอนตําง ๆ ไปสแกนแล๎วก็ดึงเข๎ามาเข๎าสํูการให๎บริการของ กศน. รวมถึงการน๎อมนาศาสตร์พระราชาที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ท่ีทรงให๎แนวทางไว๎สํูการ ปฏิบัติ กไ็ ดม๎ อบหมายเรื่องโคกหนองนาโมเดล ให๎ไปศึกษาความรูเ๎ ร่ืองน้ีอยาํ งถอํ งแท๎ ไปใหค๎ วามรู๎กับประชาชน รวมถึงอาจจะมตี วั อยาํ งทีด่ ี ๆ ก็ไปเผยแพรใํ นส่งิ เหลาํ น้ี 4) มอบหมายให๎จังหวัดไปหา Best Practice (แนวปฏิบัติท่ีโดดเดํน) ตําง ๆ ท่ีดี ๆ มาสูํขยายผล อีก ประเดน็ หนง่ึ คอื การปรบั ปรงุ หลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐานของ กศน. เองให๎มีความยืดหยุํนมากย่ิงขึ้น เพราะ ได๎รบั เสยี งมาจากขา๎ งนอกเยอะแยะเลย เร่ืองของหลักสูตร กศน. อาจต๎องมีการทบทวนเพราะเยอะมาก แล๎วก็ มีการเรียนท่ีคํอนข๎างเยอะพอสมควร แตํวําคงไมํปรับท้ังหมด คงจะดูวําตรงไหนที่มันเยอะไปก็จะปรับ เพื่อให๎ คนไดเ๎ ขา๎ มาในระบบมากย่ิงขึ้น แตคํ งคณุ ภาพมาตรฐานไว๎ ไมไํ ดล๎ ดมาตรฐานคณุ ภาพ 5) เรื่องการพัฒนาข๎อมูลสารสนเทศ ซึ่งเน๎นมากเร่ืองนี้เพราะ กศน. เราดูแลคนหลายล๎านคนท่ีเป็น ลูกค๎าแล๎วก็มีอัตรากาลังคนหลายหม่ืนคน มีข๎อมูลเยอะมาก ขณะนี้กระจายกันอยูํ คงจะมีหนํวยงานขึ้นมา จัดการเรื่อง เม่ืออยากร๎ูข๎อมูล กศน. ยกมือถือข้ึนมามันจะมาปรากฏที่หน๎ามือถือ รวมถึงการพัฒนา Content (เน้ือหา) ตาํ ง ๆ ของ กศน. ให๎เป็นระบบที่มันเชื่อมโยงกัน แล๎วไป Plug-in (เช่ือมตํอ) กับทาง DEEP ของทําน รัฐมนตรีวําการกระทรวงศึกษาธิการท่ีทาอยูํ พัฒนาแพลตฟอร์มตําง ๆ ท่ีเกี่ยวข๎องกับการจัดการศึกษา ซ่ึง กศน. มีหลายหนํวยงานท่ีจัดการศึกษา เชํน สถาบันทางไกลตําง ๆ จะต๎องมารํวมกันให๎หมด เพราะแยกๆ กัน อยูํขณะน้ี แล๎วก็เรื่องของการให๎กาลังใจพ่ีน๎อง กศน. เรามีสโลแกน (Slogan-คาขวัญ) วํา “คนสาราญงาน สาเร็จ” และจะมกี ารจดั กีฬา “กศน. เกมส์” เหมอื นเดมิ ปนี เ้ี ราจัดที่ภาคกลาง 6) กศน. ในการทางานกับผ๎ูด๎อยโอกาส : มีครูดูแลเด็กเรํรํอน 28 คน ครูดูแลเด็กพิการ 500 คน แตํ เป็นอัตราจ๎างหมด ก็จะชํวยเขาให๎ได๎เป็นพนักงานราชการ ก็คงจะผลักดันเรื่องนี้ อาจจะต๎องเสนอเร่ืองไปยัง ครม. (คณะรัฐมนตรี) เพื่อท่ีจะมีคําใช๎จํายรายหัวของคนพิการ ตอนนี้เรายังไมํมี อันน้ีกาลังผลักดันเรื่องนี้อยูํ สํวนการชํวยให๎ได๎เป็นพนักงานราชการ อัตราที่มีอยํูแล๎ว แตํเราจัดสรรให๎กลํุมน้ี ท่ีผํานมา กศน. ขอมาเพียบ เลย ต้งั แตํครูบรรณารักษ์ ครตู าบล ครูอาสา อนั น้ีจะเอาไปใหต๎ รงน้ีกํอน เพราะมีอัตรารองรับอยํูแล๎ว ไมํได๎เพิ่ม ใหมํ เรามพี นักงานราชการประมาณ 14,000 อัตรา วาํ งอยูสํ วํ นหนง่ึ ก็จะเกล่ยี ไว๎ให๎ตรงน้ี 7) ข๎อรอ๎ งเรยี นหรอื เสยี งสะท๎อนเก่ียวกบั หลักสูตร กศน.ในชํวงเดือนเศษ ๆ ท่ีผํานมาและแนวทางการ ปรบั ปรงุ : เรอ่ื งของคุณภาพหลกั สตู รมันมวี ธิ ีการอยํูแล๎ว เพยี งแตํวาํ หลายเรื่องท่ีรับ Feedback (ความคิดเห็น- ข๎อแนะนา) มา เชํน วิชาเลือกตําง ๆ เยอะมาก แล๎วมีเวลาเรียน มีการพบกลุํมตําง ๆ บางคนเขาไมํมีเวลา สะดวกมา ก็คงต๎องมีการมาดูทั้งหมด จะต๎องต้ังคณะทางานขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อมาดูเรื่องน้ีทั้งระบบ และข๎อ
44 รอ๎ งเรียน เชํน จานวนชั่วโมงจาก 200 เหลือ 100 ได๎ไหม แล๎วบางคนที่เขาไมํสะดวกจะมาเรียนกับ กศน. เขา บอกวาํ เขามาเรยี นพบกลมํุ ไมํสะดวก เป็นตน๎ 8) ระยะหลังๆ พบเยาวชนหลายคนไมํขอเรียนในระบบ แตํตัดสินใจย๎ายมาใช๎บริการ กศน. แทนมาก ขึ้น ด๎วยเห็นวําอยากเรียนจบไวๆ จะได๎ไปตํอในระดับมหาวิทยาลัยและสาเร็จการศึกษาออกไปทางานได๎เร็วๆ กศน. จะปรับหลักสูตรรับตรงนี้อยํางไรเพื่อให๎ทันสมัยขึ้น : ตอนนี้หลักสูตรท่ีผมจะปรับปรุงคือไมํใชํจะเลิก ทงั้ หมด แตํเยอะไปก็ปรับให๎มันน๎อยลง อันไหนกระชับได๎ก็กระชับ แตํยังคงคุณภาพอยูํ วิชาไหนที่มันล๎าสมัยก็ จะตอ๎ งปรบั ใหม๎ ันทันสมัยมากขึ้น แตํหลกั การคือจบเร็วอยแํู ลว๎ ไมํต๎องหวํ ง 9) การเชื่อมโยงระหวําง กศน. กับมหาวิทยาลัย : เร่ืองนี้อยูํในแผน ตอนน้ีที่คุยกันคือคุยกับทาง มหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี ตอนน้ีกาลังจะเช่ือมโยงกันเร่ือง “เครดิตแบงก์ (Credit Bank)” กาลังคุยกันอยํู ยังไมํตกผลึกเทําไร มีสภาการศึกษา มี กศน. แล๎วก็มีมหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี 3 สํวนน้ีจะคุยกัน กาลังให๎ ทมี งานคุยอยูํ ทรี่ าชมงคลธัญบรุ ีเขามี Project (โครงการ) อยูแํ ล๎ว เพยี งแตเํ ราไปชํวย หมายเหตุ : เครดติ แบงก์ (Credit Bank) หรือธนาคารหนวํ ยกิต หมายถึงการเรยี นในระดับมหาวทิ ยาลัยท่ี ผูเ๎ รยี นไมจํ าเป็นต๎องเรยี นใหจ๎ บคร้ังเดียว 4-5 ปีเหมอื นหลักสตู รปกติ แตเํ ป็นการเรียนเป็นรายวิชาหรอื กลํุมวิชา (Module) โดยเมื่อสาเรจ็ วิชาเหลํานที้ างมหาวทิ ยาลัยจะเก็บหนํวยกติ ไว๎ให๎ และเมอ่ื ผเู๎ รยี นสะสมรายวชิ าหรอื กลมํุ วิชาได๎ครบถว๎ นตามหลกั สตู รกจ็ ะไดร๎ บั วุฒปิ ริญญาตรี ซึง่ ปัจจุบันการเรียนลักษณะนี้กาลงั ได๎รับความนิยม มากขน้ึ โดยเฉพาะกลมํุ คนวยั ทางานที่ต๎องการเพิ่มพูนทักษะหรอื ปรบั ทักษะใหมํ (Upskill, Reskill) ให๎เขา๎ กบั รูปแบบการทางานท่เี ปล่ียนไปรวมถึงผ๎ูท่ีเพ่ิงมาคน๎ พบวําตนเองชอบอะไรแล๎วต๎องการเปลี่ยนอาชีพไปทางาน สายนนั้ ๆ ขณะท่ี DEEP (Digital Education Excellence Platform) เป็นแพลตฟอร์มท่ีดาเนนิ การโดย กระทรวงศึกษาธิการ เปน็ ฐานขอ๎ มูลวชิ าความร๎ูตาํ ง ๆ สาหรบั ให๎คนทกุ ชํวงวยั เข๎ามาเรียนผํานระบบออนไลน์ เพือ่ เพม่ิ พูนทักษะของตนเองได๎ ทิศทางการดาเนินงานสานักงาน กศน.จังหวดั ประจวบคีรขี ันธ์ สานักงานสํงเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได๎ประชุม บุคลากรเพ่ือรํวมกันประเมินสถานการณ์ของหนํวยงาน โดยใช๎การวิเคราะห์สภาพแวดล๎อมและศักยภาพ (SWOT Analysis) ในการกาหนดจุดแข็งและจุดอํอนจากสภาพแวดล๎อมในหนํวยงาน รวมท้ังโอกาสและ อุปสรรคจากสภาพแวดล๎อมภายนอกหนํวยงานซึ่งเป็นจุดยืนหรือจุดเร่ิมต๎นของการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ของสานกั งานสํงเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์อันเป็นปัจจัยตํอ การสงํ เสริมสนบั สนนุ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษาในสังกัด เพ่ือนาผลไปใช๎ ในการกาหนด ทศิ ทางการดาเนินงานของหนวํ ยงาน ซง่ึ ได๎ผลการประเมินสถานการณข์ องหนวํ ยงาน ดังนี้ จุดแขง็ (Strengths) 1. บุคลากรได๎รบั การสงํ เสรมิ สนับสนนุ ให๎พฒั นาตนเองอยํางตอํ เน่ือง 2. บคุ ลากรมคี วามรู๎ ความสามารถ ตามโครงสรา๎ งของสานักงาน กศน.จงั หวัด 3. บุคลากรมมี นุษยสมั พนั ธท์ ่ีดกี บั สถานศึกษาในสงั กัด 4. บคุ ลากรมคี วามมุํงมนั่ ในการปฏบิ ัติหน๎าท่ี 5. การบริหารงบประมาณเป็นไปตามเปูาหมายและมาตรการแนวทางทีก่ าหนด
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127