Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์)2563

หลักสูตรโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์)2563

Published by KroorachaneChanel, 2021-06-08 03:04:55

Description: หลักสูตรโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์)2563

Search

Read the Text Version

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๔๔ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ คำอธบิ ายรายวชิ า วชิ าลกู เสือหลกั สตู รเตรยี มลกู เสือสำรอง ดาวดวงท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ มคี วามร้คู วามเขา้ ใจและสามารถปฏิบัตใิ นเรื่องของประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือสำรอง ประโยชน์การ เปน็ ลูกเสอื สำรอง เคร่ืองแบบและเครื่องหมายลกู เสือสำรอง นิทานเรอ่ื งเมาคลี ระเบียบแถวทา่ พัก รูปแถวต่าง ๆ การทำความเคารพรายบุคคลและเป็นหมู่ ประวัตกิ ารจบั มือซา้ ย คำปฏญิ าณ กฎ คตพิ จน์ ของลูกเสือสำรอง การรักษาความสะอาดฟัน มือ เท้า และเล็บ การหายใจอย่างถูกวิธี การปฐมพยาบาลแผลขนาดเล็ก การขว้าง และรับลูกบอล การม้วนหน้า การกระโดดกบ การปีนต้นไม้ การไต่เชือก การสำรวจและการเยือนสถานท่ี ใกล้เคียง การขอความช่วยเหลอื การเรยี นรู้ธรรมชาตขิ องชีวิตสัตว์ สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ อันตรายที่เกิด จากไฟ และวธิ ปี อ้ งกัน ความปลอดภัยในการเดินถนน และข้ามถนน การเก็บรกั ษาเส้ือผ้า รองเทา้ การจัดและ เก็บท่นี อน การตม้ นำ้ ร้อน การทำความสะอาดเคร่ืองใช้พระราชประวตั ิพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั พระราช กรณียกิจ พระราชกรณียกจิ ที่เก่ยี วกบั กจิ การลูกเสือ เพลงชาติ เพลงสรรเสรญิ พระบารมี ธงชาติไทย ธงลูกเสือ โลก ธงชาติองั กฤษ ธงชาตฟิ ิลปิ ปินส์ การประดษิ ฐ์สงิ่ ของจากเศษวัสดุ การเดนิ สะกดรอย การแสดงเงยี บ การ ผูกเงื่อนพิรอด เงื่อนขัดสมาธิและประโยชน์ของเงือ่ น การเก็บเชือก การปฏิบัติตนตามคำปฏิญาณและกฎของ ลกู เสอื สำรอง มที ักษะในการสงั เกต จดจำ การใช้มือ เครอื่ งมือการแก้ปัญหาและทักษะในการทำงานร่วมกบั ผอู้ ื่น มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย มีความสามัคคี เห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีความเสียสละ บำเพ็ญตน เพื่อสาธารณประโยชน์ มกี ารพัฒนาตนเองอยเู่ สมอ สรา้ งสรรคง์ านฝมี อื สนใจและพัฒนาเรื่องของธรรมชาติ เพื่อให้ผู้เรียนมีพัฒนาทางกาย สติปัญญา จิตใจและศีลธรรมให้เป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ ช่วย สร้างสรรค์สังคม ให้มีความเจริญก้าวหน้า ความสงบสุขและความมั่นคงของประเทศชาติ จึงต้องปลูกฝังให้มี คุณลักษณะดงั ท่กี ลา่ วมาแลว้ ผลการเรยี นรู้ ๑. มีนสิ ัยในการสงั เกต จดจำ เชอ่ื ฟงั และพงึ่ พาตนเองได้ ๒. มีความซื่อสตั ย์ สจุ ริต มีระเบียบวนิ ยั และเห็นอกเห็นใจผู้อ่ืน ๓. บำเพญ็ ตนเพือ่ สังคมและสาธารณะประโยชน์ ๔. ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม ๕. รกั ษาและสง่ เสรมิ จารตี ประเพณี วฒั นธรรมประเพณี ภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ และ ความมน่ั คง ๖. อนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อมและลดภาวะโลกร้อน ๗. สามารถประยุกต์ใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้ รวม ๗ ผลการเรยี นรู้ ❖ ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๔๕ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ คำอธิบายรายวิชา วชิ าลกู เสือหลกั สตู รลูกเสอื สำรอง ดาวดวงท่ี ๒ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ มีความรู้ ความเข้าใจและสามารถปฏบิ ัตใิ นเรื่องของ ความสำคัญของการนอนหลับ การปฐมพยาบาล เมื่อมีเลือดกำเดาออก การว่ายน้ำ การกระโดดเชือก การเดินทรงตัว การม้วนตัว การขึ้นบันได การเลี้ยงลูก บอล การสำรวจและการเยือนสถานที่การเพาะเมล็ดพันธุ์พืช การเรียนรู้พืชที่เป็นอาหารของสัตว์ สาเหตุที่ทำ ให้เกดิ อบุ ตั ิเหตุ ทางน้ำ การปฏบิ ัติตนในการเดินทางทางน้ำ การบรกิ ารเกี่ยวกบั เหตุฉุกเฉิน การชักธงชาติ การ เก็บรักษาธงชาติ ธงคณะลูกเสือโลก ธงชาติญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย การทำว่าว การพับ กระดาษ การทำไม้สูงสำหรับเดิน การทำนาฬิกาแดด การทำเข็มทิศจำลอง การก่อไฟ การปรุงอาหาร การดับ ไฟและการทำความสะอาดสถานท่ี การแสดงกล การเลา่ นทิ าน การรอ้ งเพลง การเลน่ ดนตรี การม้วนตัวทา่ ต่าง ๆ การผูกเงื่อนบ่วงสายธนูและเงื่อนกระหวัดไม้และประโยชน์ของเงื่อน การเก็บเชือก การปฏิบัติตน ตามคำ ปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื สำรอง มีทักษะในการสังเกต จดจำ การใช้มือ เครื่องมอื การแกป้ ญั หา และทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อ่นื มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบ วินัย มีความสามัคคี เห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีความเสียสละ บำเพ็ญตน เพื่อสาธารณประโยชน์ มีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ สร้างสรรคง์ านฝมี ือ สนใจและพฒั นาเรอื่ งของธรรมชาติ เพอ่ื พฒั นาลกู เสอื ท้ังทางกาย สตปิ ญั ญา จติ ใจและศีลธรรมให้เปน็ พลเมอื งดี มีความ รบั ผดิ ชอบ ชว่ ย สร้างสรรคส์ งั คมให้มีความเจริญกา้ วหนา้ เพ่อื ความสงบสขุ และความมั่นคงของประเทศชาติ จงึ ตอ้ งปลกู ฝังให้มี คุณลักษณะดงั ท่กี ลา่ วมาแลว้ ผลการเรยี นรู้ ๑. มีนสิ ัยในการสงั เกต จดจำ เชือ่ ฟงั และพ่ึงตนเองได้ ๒. มคี วามซื่อสัตย์ สจุ รติ มรี ะเบยี บวนิ ัย และเหน็ อกเหน็ ใจผ้อู ่ืน ๓. บำเพญ็ ตนเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ๔. ทำการฝมี ือและฝึกฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ๕. รักษาและส่งเสริมจารตี ประเพณี วัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ และความมั่นคงของชาติ ๖. อนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน สามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้ รวม ๖ ผลการเรยี นรู้ ❖ ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๔๖ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ คำอธบิ ายรายวชิ า วชิ าลกู เสอื หลักสูตรลูกเสอื สำรอง ดาวดวงที่ ๓ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีความรู้ ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติในเร่ืองของ การจัดทำถุงหรือที่เก็บอุปกรณ์ปัจจุบันพยาบาล การขอความช่วยเหลอื เมื่อมอี ุบัตเิ หตุ การปฐมพยาบาลเม่ือถูกแมลงกดั ตอ่ ย เม่อื ถกู ไฟไหมห้ รอื นำ้ รอ้ นลวก การ วิ่ง การกระโดดเชือก การขว้างลูกบอล การกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง การนับเวลาตามเข็มนาฬิกา การ วางแผนการเดนิ ทาง การเรียนรสู้ ภาพดนิ ฟ้าอากาศ การจดั ทำสมดุ ภาพ หรือสะสมเก่ียวกับแมลง หรือสงิ่ มีชีวิต ในสระนำ้ การปฏิบัตติ ามกฎจราจร การเรียนรคู้ วามปลอดภัยในบา้ น การวางแผนและดำเนินการให้บริการแก่ ผูอ้ นื่ ธงลกู เสอื ประจำจังหวัด ธงคณะลกู เสือแหง่ ชาติ ธงประเทศต่าง ๆ การประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวสั ดุ วิธีใช้ และเก็บรกั ษาเครอ่ื งมือ ทศิ เข็มทิศ การหาระยะทาง การแสดงละคร การรอ้ งเพลงหรอื ฟ้อนรำ การทำหนุ่ และ เชิดหุ่น การผูกเงื่อนบ่วงสายธนู และเงื่อนกระหวัดไม้ ๒ ชั้น การขดเชือกหรือสายยาง การท่องการบอก ความหมายและการปฏบิ ตั ติ ามคำปฏญิ าณและกฎของลกู เสือสำรอง มีทักษะในการสังเกต จดจำการใช้มือ เครือ่ งมอื การแก้ปญั หาและทกั ษะในการทำงานร่วมกับผอู้ ื่น มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบ วินัย มีความสามัคคี เห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีความเสียสละ บำเพ็ญตน เพอื่ สาธารณประโยชน์ มีการพฒั นาตนเองอยเู่ สมอ สร้างสรรค์งานฝีมือ สนใจและพฒั นาเรอ่ื งของธรรมชาติ เพื่อให้ผู้เรยี นมีพัฒนาทางกาย สติปัญญา จิตใจและศีลธรรมให้เป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ ช่วย สร้างสรรค์สังคม ให้มีความเจริญก้าวหน้า ความสงบสุขและความมั่นคงของประเทศชาติ จึงต้องปลูกฝังให้มี คุณลักษณะดงั ท่กี ล่าวมาแลว้ ผลการเรียนรู้ ๑. มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชอ่ื ฟงั และพ่ึงตนเองได้ ๒. มคี วามซ่ือสัตย์ สุจรติ มรี ะเบียบวินยั และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ๓. บำเพญ็ ตนเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ ๔. ทำการฝมี ือและฝึกฝนทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ๕. รักษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาท้องถนิ่ และความมั่นคงของชาติ ๖. อนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน สามารถประยุกต์ใชห้ ลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้ รวม ๖ ผลการเรยี นรู้ ❖ ระดบั ประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๔๗ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ คำอธิบายรายวิชา วิชาลูกเสือหลักสูตรลกู เสอื สามัญ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ พิธีเปิด ปิดประชุมกอง ดำเนินตามกระบวนการของลูกเสือ ลุกเสือสำรองดาวดวงที่ ๓ การอนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติ ความปลอดภัย การบริการ ธงและประเทศต่างๆ การ ฝึกมือ กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิง การผูกเงื่อน คำปฏิญาณ และกฎของลูกเสือสำรอง โดยจัดกิจกรรม ให้ ศกึ ษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามฐาน เน้นระบบหมู่ สรุปผล การจดั การปฏิบัติกิจกรรมเปิดประชุม กอง เพ่อื ใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจกิจกรรมลุกเสือ สามารถปฏบิ ัตติ ามคำปฏญิ าณ กฎและคตพิ จน์ของลูกเสือ สำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ มีความร่าเริงแจ่มใส มีระเบียบวินัย ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์สุจริต อดทน ช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น เป็นผู้นำและผู้ตามที่ดีทำงานและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ มีความสนใจในการอนุรักษ์ ธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม ผลการเรียนรู้ ๑. มนี สิ ัยในการสงั เกต จดจำ เชอื่ ฟังและพ่ึงตนเองได้ ๒. มีความซ่ือสตั ยส์ จุ รติ มีระเบยี บ วินยั และเหน็ อกเหน็ ใจผอู้ ื่น ๓. บำเพญ็ ตนเพอื่ ส่งเสรมิ และสาธารณะประโยชน์ ๔. ทำการฝีมือและฝึกฝนทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตามความถนัดและความสนใจ ๕. รกั ษาและส่งเสรมิ จารตี ประเพณี วัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น และความมั่นคงของชาติ ๖. อนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน ๗. สามารถประยุกต์ใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง รวม ๗ ผลการเรียนรู้ ❖ ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๔๘ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบริหารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ คำอธิบายรายวิชา วชิ าลกู เสือหลกั สตู รลกู เสอื สามญั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ พิธีเปิด ปิดประชุมกอง ดำเนินตามกระบวนการลูกเสือ การู้จักดูแลตนเอง การช่วยเหลือผู้อื่น การ เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทักษะในทางวิชาลูกเสือ งานอดิเรกและเรื่องที่น่าสนใจ คำปฏิญาณและกฎของ ลูกเสอื สามัญ ระเบียบแถว นกั เลยี้ งสตั ว์เล็ก นักว่ายนำ้ นักสังเกตและจำ นักธรรมชาติ โดยจดั กิจกรรม ให้ศกึ ษา วเิ คราะห์ วางแผน ปฏิบตั กิ จิ กรรมตามฐาน เน้นระบบหมู่ สรปุ การจัดการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมเปิดประชมุ กอง เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลุกเสือ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎและคติพจน์ของ ลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ มีความร่าเริงแจ่มใส มีระเบียบวินัย ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์สุจริต อดทน เสียสละ ช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น เป็นผู้ตามที่ดีทำงานและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ มีความสนใจในการ อนุรกั ษธ์ รรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ผลการเรียนรู้ ๑. มีนสิ ยั ในการสังเกต จดจำ เชื่อฟงั และพึ่งตนเองได้ ๒. มคี วามซ่ือสตั ยส์ ุจริต มรี ะเบียบ วินยั และเห็นอกเหน็ ใจผอู้ ื่น ๓. บำเพ็ญตนเพื่อส่งเสริมและสาธารณะประโยชน์ ๔. ทำการฝมี ือและฝึกฝนทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความถนัดและความสนใจ ๕. รกั ษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ และความมัน่ คงของชาติ ๖. อนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน ๗. สามารถประยุกตใ์ ช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวม ๗ ผลการเรียนรู้ ❖ ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๔๙ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ คำอธิบายรายวชิ า วิชาลกู เสอื หลกั สูตรลกู เสอื สามญั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เปิดประชุมกองดำเนินตามกระบวนการของลูกเสือและจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐาน โดยเน้นระบบหมู่สรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม ปิดการ ประชุมกอง ในเรื่องลูกเสือเอก การพึ่งตนเอง การบรกิ าร การผจญภัย วชิ าการของลกู เสือ ระเบยี บแถว เปิดประชุมกองดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎ ของลูกเสือสามัญ วิชาการของลูกเสือ ระเบียบแถว การพึ่งตนเอง การผจญภัย การใช้สัญลักษณ์ สมาชิก ลูกเสือสามัญ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ศึกษาธรรมชาติ วัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ และประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเพื่อการอนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติและลดภาวะโลกรอ้ น เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติ พจน์ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสงั เกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซ่ือสัตย์ สุจริต มีระเบียบ วินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำ กิจกรรม ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนดั และความสนใจ รกั ษาและส่งเสรมิ จารตี ประเพณี วัฒนธรรม และความมัน่ คง ประโยชน์และสามารถประยกุ ต์ใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง หมายเหตุ เมื่อผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมและผ่านการทดสอบแล้ว จะได้รับเครื่องหมายลูกเสือตรี ลกู เสือโท และลกู เสือเอก ตามลำดบั เพอ่ื ใหม้ คี วามเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏบิ ตั คิ ำปฏญิ าณ กฎ และคตพิ จนข์ องลกู เสือ มี ความรู้ร่าเริงแจ่มใส มีระเบียบวินัย ประหยัดซื่อสัตย์สุจริต อดทน เสียสละ ช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นได้ สนใจ และอนรุ กั ษ์ธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม สำหรบั วชิ าพเิ ศษ ให้ใช้ข้อบังคับคณะลูกเสือแห่งชาติว่าด้วยปกครองหลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือ สามญั (ฉบบั ท่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๒๕ ผลการเรียนรู้ ๑. มีนสิ ัยในการสงั เกต จดจำ เชือ่ ฟังและพึ่งตนเองได้ ๒. มคี วามซื่อสตั ยส์ จุ ริต มีระเบียบ วนิ ยั และเหน็ อกเหน็ ใจผ้อู ื่น ๓. บำเพ็ญตนเพื่อส่งเสริมและสาธารณะประโยชน์ ๔. ทำการฝมี ือและฝึกฝนทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความถนัดและความสนใจ ๕. รักษาและส่งเสรมิ จารตี ประเพณี วฒั นธรรม ภูมิปญั ญาท้องถิ่น และความมน่ั คงของชาติ ๖. อนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน ๗. สามารถประยุกตใ์ ชป้ รชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง รวม ๗ ผลการเรยี นรู้ ❖ ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๕๐ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ๒. กจิ กรรมชุมนมุ กจิ กรรมชุมนมุ เปน็ กิจกรรมที่ผู้เรยี นรวมกลุ่มกันจดั ขนึ้ ตามความสามารถ ความถนดั และความสนใจ ของผู้เรียน เพ่ือเติมเต็มความรู้ ความชำนาญ ประสบการณ์ ทักษะ เจตคตเิ พ่ือพัฒนาตนเองตามศักยภาพ หลกั การ กจิ กรรมชมุ นุม มหี ลักการที่สำคัญดังน้ี ๑. เป็นกจิ กรรมทีเ่ กดิ จากการสร้างสรรคแ์ ละออกแบบกจิ กรรมของผเู้ รียนตามความสมัครใจ ๒. เปน็ กจิ กรรมที่ผู้เรยี นรว่ มกันทำงานเปน็ ทีม ช่วยกันคิด ช่วยกนั ทำ และช่วยกันแก้ปัญหา ๓. เป็นกจิ กรรมท่สี ง่ เสริมและพฒั นาศักยภาพของผู้เรยี น ๔. เปน็ กิจกรรมทเ่ี หมาะสมกับวัยและวฒุ ิภาวะของผู้เรียน รวมทัง้ บรบิ ทของสถานศึกษาและท้องถน่ิ วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนได้ปฏิบัตกิ ิจกรรมตามความสนใจ ความถนดั และความต้องการของตน ๒. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนได้พฒั นาความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ ใหเ้ กดิ ประสบการณท์ ง้ั ทางวชิ าการและวชิ าชีพตามศกั ยภาพ ๓. เพอ่ื ส่งเสรมิ ให้ผู้เรยี นใชเ้ วลาใหเ้ กดิ ประโยชนต์ ่อตนเองและสว่ นรวม ๔. เพื่อให้ผ้เู รียนทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ตามวิถีประชาธิปไตย ขอบข่าย กิจกรรมชมุ นมุ มขี อบขา่ ยดังนี้ ๑. เป็นกิจกรรมจดั ตามความสนใจของผเู้ รียน ๒. เป็นกจิ กรรมท่จี ดั เสรมิ หลักสตู รสถานศึกษาในดา้ นความรแู้ ละทักษะปฏิบตั ิ ของผู้เรียน ๓. สามารถจัดได้ทง้ั ในและนอกสถานศกึ ษา และทัง้ ในเวลาและนอกเวลาเรียน จดุ หมาย ของกจิ กรรมชุมนุม ๑. เพ่ือใหส้ อดคล้องกับหลกั สูตรพ้ืนฐานสถานศึกษา ๒. เพื่อให้มีทักษะในการทำงานร่วมกัน ๓. เพื่อใหน้ กั เรียนมีทกั ษะกระบวนการในการทำงาน ๔. เพื่อใหร้ ู้จกั การใช้เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ ๕. เพอ่ื ใหม้ คี วามรับผดิ ชอบ ขยัน ประหยัด อดทน และมจี ติ ใจเอื้อเฟ้ือเผ่ือแผ่ ❖ ระดบั ประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๕๑ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวิชาการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ ขั้นตอนการจดั ตง้ั ชมุ นุม ๑. รบั สมัครสมาชกิ ชมุ นมุ ตามความสนใจ ๒. ปฐมนเิ ทศนักเรยี น ๓. เลือกตง้ั กรรมการ ชุมนุม ๔. สง่ ผู้แทนร่างระเบียบ การจดั ชมุ นมุ ๕. ขออนมุ ตั ิ ผูบ้ รหิ าร ๖. ประชาสัมพันธ์ / เผยแพร่ ประเภทของกจิ กรรมชุมนุม กจิ กรรมชุมนมุ มี ๒ ประเภท ดังนี้ ๑. กจิ กรรมกล่มุ เสรมิ ทักษะด้านวิชาการ ได้แก่กลุม่ สาระ ๘ สาระ ๒. กจิ กรรมชุมนุม เลือกตามความถนัด และความสนใจ เช่นชมุ นมุ สง่ เสริมวัฒนธรรมไทย ชุมนมุ ส่งเสรมิ อาชีพ กำหนดการจัดกจิ กรรมชุมนุม ท่ี กิจกรรมชุมนุม ระดับชนั้ ป.๓ ป.๑ ป.๒ ๓๐ ๑. ชมุ นมุ หนูนอ้ ยรักการอ่าน ๒. ชมุ นุมหนูนอ้ ยรกั การอ่าน ๓๐ ๓. ชุมนุมคิดเลขเรว็ /และชุมนมุ ดนตรี ๓๐ ที่ กิจกรรมชุมนุม ระดบั ช้นั ป.๖ ป.๔ ป.๕ ๓๐ ๑. ชุมนุมหนูนอ้ ยรักการอ่าน/ดนตรีไทย ๒. ชุมนุมคิดเลขเรว็ ๓๐ ๓. ชุมนมุ หนังสือเลม่ เลก็ ๓๐ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ กำหนดให้ผเู้ รยี นมเี วลา เขา้ รว่ ม กิจกรรม ชมุ นุม จำนวน ๓๐ ช่ัวโมง / ปี เฉลย่ี สปั ดาหล์ ะ ๑ ชัว่ โมง ❖ ระดบั ประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๕๒ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบริหารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ คำอธิบายรายวิชา คำอธิบายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมนักเรียน (กิจกรรมชุมนุม) ช้นั ประถมศึกษาปีที ๑ - ๖ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ปี ปฏิบตั ิกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัด และความต้องการ เพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถด้าน การคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ใหเ้ กิดประสบการณ์ท้ังด้านวชิ าการ และพน้ื ฐานอาชีพ ทักษะชีวิตและสังคมตาม ศักยภาพอย่างรอบด้าน เพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีความสามารถในการสื่อสาร มีทักษะการคิด แก้ปัญหา ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี พัฒนาทักษะในการทำงานและการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ในสังคมได้ อย่างมีความสุข รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการ ทำงานรักความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ เพื่อให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัด และความต้องการของตน ได้พัฒนา ความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้เกิดประสบการณ์ทั้งทักษะทางวิชาการ ทักษะ อาชพี ทกั ษะชวี ิตและสังคมตามศักยภาพ ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ต่อตนเองและสว่ นรวม คิดเปน็ ทำได้ ทำงานรว่ มกบั ผู้อื่นไดต้ ามวถิ ีประชาธิปไตย และประยุกตห์ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. ปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ ความถนดั และความต้องการของตน ๒. มีความรู้ ความสามารถด้านการคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะหใ์ ห้เกดิ ประสบการณ์ ทง้ั ทางวชิ าการ และวิชาชีพตามศักยภาพ ๓. ใชเ้ วลาว่างใหเ้ กดประโยชนต์ ่อตนเองและสว่ นรวม ๔. มงุ่ ม่นั ในการทำงานและทำงานรว่ มกบั ผ้อู นื่ ไดต้ ามวถิ ีประชาธิปไตย ๕. ประยกุ ต์ใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้อย่างเหมาะสม รวม ๕ ผลการเรยี นรู้ ❖ ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๕๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กล่มุ งานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ๓. กิจกรรม เพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ กลมุ่ กจิ กรรมท่ี ๓ จุดหมายของกิจกรรม เพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ๑. เพื่อใหน้ ักเรยี นบอกประโยชนไ์ ด้รับจากการร่วมกิจกรรมเพ่ือสังคม และสาธารณประโยชน์ได้ ๒. เพ่อื สรา้ งคุณลกั ษณะคือ ทำความดี รจู้ กั เสยี สละ ขยนั หมัน่ เพียรและการเป็นสมาชกิ ท่ีมขี อง ครอบครวั โรงเรียน ชนุ ชน ๓. เพื่อสรา้ งคุณลักษณะการมวี นิ ัยในคนของและความรบั ผิดชอบ ๔. เพือ่ สร้างคุณลักษณะ คือ การรจู้ ัก ทำงานรว่ มกับผอู้ น่ื ปรับตัวเขา้ กบั สง่ิ แวดลอ้ ม ๕. เพื่อสร้างมวี นิ ยั ความอดทนเสียสละการสงั เกต การร่วมมอื กับคนอืน่ รักการทำงาน มคี วามคิด ริเรม่ิ สรา้ งสรรค์ และการเปน็ ผู้นำผู้การ ❖ ระดบั ประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๕๔ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบรหิ ารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ คำอธิบายรายวิชา คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี ๑ - ๖ เวลา ๑๐ ช่ัวโมง/ปี ฝกึ ปฏิบัตกิ ิจกรรมดว้ ยความสมัครใจผา่ นกิจกรรมท่หี ลากหลาย ฝึกการทำงานทส่ี อดคลอ้ งกับชีวิตจริง ตลอดจนสะท้อนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ สำรวจและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนอย่างเป็นระบบ เน้นทักษะการคิดวเิ คราะห์ และใช้ความคดิ สรา้ งสรรค์ การบริการด้านตา่ ง ๆ ที่เปน็ ประโยชน์ต่อตนเองและ ส่วนรวม เสริมสร้างความมีน้ำใจ เอื้ออาทร ความเป็นพลเมืองดีและความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม คิดออกแบบกจิ กรรมบำเพ็ญประโยชนใ์ นลกั ษณะอาสาสมัคร จติ อาสา เพ่ือแสดงความรับผิดชอบ ต่อสงั คมตามแนวทางวถิ ีชีวิตเศรษฐกิจพอเพยี ง เพื่อให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคมและประเทศชาติ สามารถออกแบบการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ตามความถนัดและความ สนใจในลักษณะอาสาสมัคร พัฒนาศักยภาพตนเองในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ได้ อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ มีจิตสาธารณะและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และสามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งได้ ผลการเรยี นรู้ ๑. บำเพญ็ ตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรยี น ชุมชน สงั คมและประเทศชาติ ๒. ออกแบบการจัดกจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์อยา่ งสรา้ งสรรค์ ตามความถนัดและ ความสนใจในลักษณะอาสาสมคั ร ๓. สามารถพัฒนาศกั ยภาพในการจัดกิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ได้อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ ๔. ปฏิบตั ิกจิ การเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จรยิ ธรรมตามคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๕. สามารถประยุกต์ใช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้ รวม ๕ ผลการเรยี นรู้ ❖ ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๕๕ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ระดับการศึกษา หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕53 (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖3) หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2560) จัดระดับการศึกษาในระดับประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑–๖) การศึกษาระดับนี้เป็นช่วงแรกของ การศึกษาภาคบังคับ มุ่งเน้นทักษะพื้นฐานด้านการอ่าน การเขียน การคิดคำนวณ ทักษะการคิดพื้นฐาน การ ตดิ ต่อสื่อสาร กระบวนการเรียนรู้ทางสังคม และพื้นฐานความเปน็ มนุษย์ การพัฒนาคุณภาพชวี ติ อย่างสมบูรณ์ และสมดุลทั้งในด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และวัฒนธรรม โดยเน้นจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ การเรียนรู้ การจดั เวลาเรียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ได้กำหนด กรอบโครงสรา้ งเวลาเรียนขัน้ ตำ่ สำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้ ๘ กลมุ่ และกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน ซง่ึ สถานศึกษา สามารถเพิ่มเติมได้ตามความพร้อมและจุดเน้น ในระดับชั้นประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๖) ให้จัด เวลาเรียนเป็นรายปี โดยมีเวลาเรียนวันละ ไม่เกิน ๕ ชั่วโมง โดยสามารถปรับให้เหมาะสมตามบริบทของ สถานศกึ ษาและสภาพของผู้เรยี น การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนอยู่บนหลักการพื้นฐานสองประการคือ การประเมินเพ่ือ พัฒนาผู้เรียนและเพื่อตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ประสบผลสำเร็จนั้น ผูเ้ รยี นจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตวั ชวี้ ัดเพ่ือให้บรรลุตามมาตรฐานการเรยี นรู้ สะท้อนสมรรถนะ สำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ใน ทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติ การวัดและ ประเมินผลการเรยี นรู้ เปน็ กระบวนการพัฒนาคณุ ภาพผูเ้ รียนโดยใช้ผลการประเมนิ เป็นข้อมูลและสารสนเทศที่ แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อ การสง่ เสริมให้ผู้เรียนเกดิ การพฒั นาและเรียนรูอ้ ย่างเต็มตามศกั ยภาพ การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น ๔ ระดบั ไดแ้ ก่ ระดับชั้นเรยี น ระดับสถานศึกษา ระดับ เขตพื้นทกี่ ารศกึ ษา และระดับชาติ มีรายละเอยี ด ดงั นี้ ๑. การประเมินระดับชั้นเรียน เป็นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้สอนดำเนินการเป็นปกติและสม่ำเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เช่น การซักถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน แฟ้ม ❖ ระดบั ประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๕๖ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ สะสมงาน การใชแ้ บบทดสอบ ฯลฯ โดยผสู้ อนเป็นผู้ประเมินเองหรอื เปิดโอกาส ใหผ้ เู้ รียนประเมินตนเอง เพอื่ น ประเมนิ เพื่อน ผปู้ กครองรว่ มประเมิน ในกรณที ีไ่ ม่ผ่านตัวช้วี ดั ให้มี การสอนซอ่ มเสรมิ การประเมินระดับชั้นเรียนเป็นการตรวจสอบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้ อัน เป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีสิ่งที่จะต้องได้รับการพัฒนา ปรับปรุงและส่งเสริมในดา้ นใด นอกจากนี้ยังเปน็ ข้อมูลให้ผ้สู อนใช้ปรับปรงุ การเรียนการสอนของตนด้วย ท้ังนี้ โดยสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชีว้ ัด ๒. การประเมินระดับสถานศึกษา เป็นการประเมินที่สถานศึกษาดำเนินการเพื่อตัดสินผล การ เรียนของผู้เรียนเป็นรายปี ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษาของสถานศึกษาว่าส่งผลต่อการ เรียนรู้ของผู้เรยี นตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมทั้งสามารถนาผลการเรียนของผู้เรียน ในสถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศ เพื่อการปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดทำ แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการรายงานผล การจัดการศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน ผูป้ กครองและชุมชน ๓. การประเมินระดับเขตพื้นที่การศึกษา เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นที่ การศกึ ษาตามมาตรฐานการเรยี นรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน เพอื่ ใชเ้ ป็นข้อมลู พ้นื ฐานในการ พัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดำเนินการโดยประเมิน คุณภาพผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานที่จัดทำและดำเนินการโดยเขตพื้นที่การศึกษา หรือด้วย ความรว่ มมือกับหน่วยงานตน้ สังกดั ในการดำเนนิ การจดั สอบ นอกจากน้ียังได้จากการตรวจสอบทบทวนข้อมูล จากการประเมินระดับสถานศกึ ษาในเขตพ้ืนที่การศึกษา ๔. การประเมินระดับชาติ เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติตามมาตรฐานการเรยี นรู้ตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนที่เรียน ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ เขา้ รบั การประเมนิ ผลจากการประเมนิ ใช้เปน็ ข้อมลู ในการเทียบเคียงคุณภาพการศึกษา ในระดับต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ตลอดจนเป็นข้อมูลสนับสนุน การตัดสินใจในระดับนโยบายของประเทศ ข้อมูลการประเมินในระดับตา่ ง ๆ ข้างต้น เป็นประโยชนต์ ่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวนพัฒนา คุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐาน ความแตกต่างระหว่างบุคคลที่จำแนก ตามสภาพปญั หาและความต้องการ ไดแ้ ก่ กลมุ่ ผู้เรยี นท่ัวไป กลุ่มผเู้ รยี นทม่ี ี ความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนที่ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาด้านวินัยและพฤติกรรม กลุ่มผู้เรียนที่ปฏิเสธโรงเรียน กลุ่ม ผู้เรียนท่มี ปี ัญหาทางเศรษฐกิจและสงั คม กล่มุ พิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็นต้น ขอ้ มูลจากการประเมิน จึงเป็นหัวใจของสถานศึกษาในการดำเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับการ พฒั นาและประสบความสำเรจ็ ในการเรียน สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบการจัดการศึกษา จะต้องจัดทำระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผล การเรียนของสถานศึกษาใหส้ อดคล้องและเปน็ ไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบตั ิท่ีเป็นข้อกำหนดของหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน เพื่อให้บคุ ลากรท่เี กีย่ วข้องทุกฝา่ ยถือปฏบิ ตั ิร่วมกัน ❖ ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๕๗ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ เกณฑก์ ารวดั และประเมินผลการเรียน โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) กำหนดแนวทางการประเมินผลตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ซึ่งเป็นแนวทางให้สถานศึกษานำไปใช้ เป็นแนวทางในการกำหนดแนวทางการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของสถานศึกษาไว้เป็นแนวทางกว้างๆ ดังนี้ หลกั การวัดและประเมินผลการเรียนรหู้ ลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๓) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖0) เปน็ กระบวนการตรวจสอบผลการเรียนรู้ และพฒั นาการด้านต่างๆ ของผ้เู รียน ตาม มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัดของหลักสตู ร นำผลไปปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียนรู้และใช้เป็นข้อมูลสำหรับ การตัดสินผลการเรียน สถานศึกษาต้องดำเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพและ ประสิทธิภาพ มีกระบวนการจัดการที่เป็นระบบ และกระบวนการปฏิบัติงานที่มีคุณภาพ เพื่อให้ผลการประเมิน ถูกต้องตามสภาพความรู้ ความสามารถที่แท้จริงของผู้เรียน ถูกต้องตามหลักการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ รวมทั้งสามารถรองรับการประเมินภายในและการประเมินภายนอก ตามระบบประกันคุณภาพการศึกษาได้ สถานศึกษาจงึ ควรกำหนดหลกั การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ไวด้ งั นี้ ๑. สถานศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบการประเมินผลการเรียนของผู้เรียน โดยเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายที่ เกย่ี วข้องมีส่วนร่วม โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการบริหารหลักสตู รและวชิ าการสถานศกึ ษา ๒. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ให้สอดคลอ้ งและครอบคลมุ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวัดตาม ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ที่กำหนดในหลักสูตร จัดให้มีการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตลอดจนกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน ๓. ประเมนิ ผู้เรยี นจากพฒั นาการของผูเ้ รียน ความประพฤติ พฤติกรรมการเรยี น การร่วมกิจกรรม และการทดสอบควบคไู่ ปในกระบวนการเรียนการสอน ตามความเหมาะสมของแตล่ ะระดบั ๔. ประเมินผลการเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการเรียนการสอนต้องดำเนินการด้วย เทคนิควิธีการที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถวัดและประเมินผู้เรียนได้อย่างรอบด้าน ทั้งด้านความรู้ ความคิด กระบวนการ พฤติกรรมและเจตคติ เหมาะสมกับสิ่งที่ต้องการวัด ธรรมชาติวิชา และระดับชั้นของผู้เรียน ให้มี ความเทยี่ งตรง ยุตธิ รรม และเช่ือถือได้ ๕. การประเมินผลการเรียน มจี ดุ มงุ่ หมายเพอื่ ปรับปรงุ พัฒนาผเู้ รียน พัฒนาการจดั การเรียน และ ตดั สนิ ผลการเรียน ๖. เปิดโอกาสใหผ้ ้เู รียนและผู้มีส่วนเกีย่ วข้องตรวจสอบผลการประเมินผลการเรยี นรู้ ๗. ใหม้ ีการเทยี บโอนผลการเรียนระหวา่ งสถานศึกษาและรูปแบบการศึกษาต่าง ๆ ๘. สถานศึกษาจัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษา เพื่อเป็นหลักฐานการประเมินผลการเรียน รายงานผลการเรียน แสดงวุฒกิ ารศกึ ษาและรับรองผลการเรียนของผู้เรยี น ❖ ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๕๘ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ การตัดสนิ การให้ระดบั และการรายงานผลการเรียน ๑. การตัดสินผลการเรยี น ในการตัดสนิ ผลการเรียนของกลุม่ สาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขยี น คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนั้น ผู้สอนต้องคำนึงถึงการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนเป็นหลัก และต้องเก็บข้อมูลของ ผู้เรียนทกุ ดา้ นอยา่ งสมำ่ เสมอและต่อเนื่องในแต่ละภาคเรียน รวมทง้ั สอนซ่อมเสริมผู้เรียนให้พัฒนาจนเต็มตาม ศกั ยภาพ ระดบั ประถมศึกษา (๑) ผเู้ รยี นต้องมีเวลาเรยี นไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนท้ังหมด (๒) ผเู้ รยี นตอ้ งไดร้ ับการประเมนิ ทุกตัวชี้วดั และผา่ นตามเกณฑ์ทสี ถานศึกษากำหนด (๓) ผเู้ รยี นต้องได้รบั การตัดสินผลการเรียนทุกรายวชิ า (๔) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมิน และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่ สถานศึกษากำหนด ในการ อ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น การพิจารณาเลื่อนชั้น ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และสถานศึกษาพิจารณาเห็นว่าสามารถ พัฒนาและสอนซ่อมเสริมได้ ให้อยู่ในดุลพินิจของสถานศึกษาทีจ่ ะผ่อนผันให้เล่ือนชั้นได้ แต่หากผู้เรียนไม่ผ่าน รายวิชาจานวนมาก และมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น สถานศึกษาอาจต้ัง คณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้ำชั้นได้ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงวุฒิภาวะและความรู้ ความ สามารถของผู้เรียนเป็น สำคัญ ๒ . การให้ระดับผลการเรียน การตัดสินเพื่อให้ระดับผลการเรียนรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ กำหนดให้ใช้ตัวเลขแสดงระดับ ผลการเรยี นเป็น ๘ ระดับ โดยมแี นวการให้คะแนนระดับผลการเรยี น ดังน้ี คะแนนรอ้ ยละ ระดบั ผลการเรยี น ความหมายของผลการประเมิน ๘๐-๑๐๐ ๔ ผลการเรยี นดเี ยยี่ ม ๗๕-๗๙ ๓.๕ ผลการเรียนดีมาก ๗๐-๗๔ ๓ ๖๕-๖๙ ๒.๕ ผลการเรียนดี ๖๐-๖๔ ๒ ผลการเรียนค่อนขา้ งดี ๕๕-๕๙ ๑.๕ ผลการเรียนปานกลาง ๕๐-๕๔ ๑ ๐-๔๙ ๐ ผลการเรยี นพอใช้ ผลการเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินข้นั ต่ำ ผลการเรยี นไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ❖ ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๕๙ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนนั้น ใหร้ ะดบั ผลการประเมินเปน็ ผา่ นและไมผ่ ่าน กรณผี า่ นให้ระดบั ผลการเรียนเป็น ดีเยย่ี ม ดี และผ่าน โดยใช้เกณฑก์ ารประเมนิ ดังนี้ ๑) การประเมนิ อ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขยี น รปู แบบ วิธีการประเมนิ มี ๔ ระดบั คือ ดเี ยยี่ ม/ด/ี ผา่ น/ไมผ่ ่าน - ครูผู้สอนแตล่ ะกลุ่มสาระเป็นผ้ปู ระเมิน แล้วส่งผล การประเมินให้คณะกรรมการประเมนิ อา่ น คิด วิเคราะหแ์ ละเขยี น สรุปโดยใช้คา่ ฐานนยิ ม ดีเยย่ี ม หมายถงึ สามารถจับใจความสำคัญไดค้ รบถว้ น เขียนวพิ ากษว์ จิ ารณ์ เขียนสรา้ งสรรค์ แสดง ความคิดเห็นประกอบอย่างมีเหตุผลไดถ้ ูกต้องและสมบูรณ์ ใชภ้ าษาสภุ าพและเรียบเรยี งได้สละสลวย ดี หมายถงึ สามารถจบั ใจความสำคัญได้ เขียนวิพากษ์วจิ ารณ์ และ เขยี นสรา้ งสรรค์ ได้โดยใชภ้ าษา สุภาพ ผ่าน หมายถงึ สามารถจับใจความสำคัญไดแ้ ละ เขยี นวพิ ากษ์วจิ ารณไ์ ดบ้ ้าง หมายเหตุ ถ้าผเู้ รียนไม่ผ่านเกณฑ์ ให้ซ่อมเสริมดำเนินการแกไ้ ขผลการเรียนในระดับชัน้ นน้ั ๒) การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รูปแบบ วธิ ีการประเมิน มี ๔ ระดบั คอื ดเี ย่ียม/ดี/ผา่ น/ไม่ผ่าน - ครูผสู้ อนแต่ละกลุ่มสาระเป็นผู้ประเมิน แล้วสง่ ผล การประเมนิ ใหค้ ณะกรรมการประเมนิ สมรรถนะ สำคัญของผู้เรียน สรุปโดยใช้คา่ ฐานนยิ ม ดีเยี่ยม หมายถึง ผู้เรียนมีคุณลักษณะในการปฏิบัติจนเป็นนิสัย และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อ ประโยชน์สขุ ของตนเองและสังคม ดี หมายถงึ ผู้เรียนมีคณุ ลักษณะในการปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์ เพื่อใหเ้ ปน็ ที่ยอมรับของสงั คม ผา่ น หมายถึง ผูเ้ รียนรับรแู้ ละปฏบิ ตั ติ ามกฎเกณฑแ์ ละเง่อื นไขท่สี ถานศกึ ษากำหนด หมายเหตุ ถา้ ผเู้ รียนไมผ่ ่านเกณฑ์ ใหซ้ ่อมเสริมดำเนนิ การแกไ้ ขผลการเรยี นในระดบั ชัน้ นน้ั ❖ ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๖๐ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ ๓) การประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน รปู แบบ วธิ ีการประเมนิ มี ๔ ระดบั คือ ดีเยี่ยม/ดี/ผ่าน/ไมผ่ ่าน - ครผู ูส้ อนแตล่ ะกลุ่มสาระเป็นผู้ประเมนิ แล้วสง่ ผล การประเมินใหค้ ณะกรรมการประเมินคุณลกั ษณะ สรปุ โดยใช้ค่า ฐานนยิ ม ดีเยี่ยม หมายถึง ผู้เรียนมีสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ในการปฏิบัติจนเป็นนิสัย และนำไปใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั เพอ่ื ประโยชน์สขุ ของตนเองและสงั คม ดี หมายถึง ผู้เรียนมีสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของ สังคม ผ่าน หมายถงึ ผูเ้ รียนรบั รแู้ ละปฏบิ ตั ติ ามกฎเกณฑแ์ ละเง่ือนไขทสี่ ถานศกึ ษากำหนด หมายเหตุ ถ้าผเู้ รยี นไมผ่ า่ นเกณฑ์ ใหซ้ ่อมเสรมิ ดำเนนิ การแก้ไขผลการเรียนในระดบั ชน้ั น้นั 4) การประเมินคา่ นิยมหลกั คนไทย 12 ประการ รปู แบบ วธิ กี ารประเมนิ มี ๔ ระดับ คอื ดีเย่ียม/ดี/ผา่ น/ไม่ผ่าน - ครูผสู้ อนแต่ละกลุ่มสาระเป็นผู้ประเมนิ แล้วสง่ ผล การประเมนิ ให้คณะกรรมการประเมินคุณลกั ษณะ สรุปโดยใชค้ า่ ฐานนิยม ดเี ยี่ยม หมายถงึ ผู้เรยี นมีค่านิยมหลกั คนไทย 12 ประการ ในการปฏบิ ตั จิ นเปน็ นสิ ยั และนำไปใช้ใน ชีวิตประจำวนั เพ่อื ประโยชนส์ ุขของตนเองและสังคม ดี หมายถึง ผู้เรียนมีค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการ ในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อให้เป็นที่ ยอมรบั ของสงั คม ผ่าน หมายถึง ผ้เู รยี นรบั รแู้ ละปฏบิ ัตติ ามกฎเกณฑแ์ ละเงื่อนไขที่สถานศึกษากำหนด หมายเหตุ ถา้ ผเู้ รียนไมผ่ ่านเกณฑ์ ใหซ้ ่อมเสรมิ ดำเนินการแกไ้ ขผลการเรยี นในระดับช้ันนนั้ ❖ ระดับประถมศึกษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๖๑ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ 5) การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผลงานของผู้เรยี น ตามเกณฑ์ท่ีกำหนด และให้ผลการเขา้ รว่ มกิจกรรมเป็นผ่าน และไม่ ผ่าน รปู แบบ วิธกี ารประเมนิ มี ๒ ระดับ คือ ผ่าน/ไมผ่ ่าน - ครูผู้สอนในแตล่ ะกจิ กรรมเปน็ ประเมนิ โดยมี เกณฑ์การประเมนิ คือ ๑. เวลาทเี่ ขา้ ร่วมกจิ กรรม ๒. การปฏิบัติกจิ กรรม ๓. ผลงาน/ชิ้นงาน ผ่าน หมายถงึ ผูเ้ รียนมเี วลาเขา้ รว่ มกจิ กรรมครบตามเกณฑ์ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม และมีผลงาน/ชิน้ งาน/ คณุ ลกั ษณะตามเกณฑท์ สี่ ถานศึกษากำหนด ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่ครบตามเกณฑ์ ไม่ผ่านการปฏบิ ัติกจิ กรรมหรือมี ผลงาน/ช้นิ งาน/คณุ ลักษณะไมเ่ ป็นไปตามเกณฑ์ทีส่ ถานศกึ ษากำหนด • ถา้ ผู้เรยี นไม่ผ่านเกณฑ์ ให้ซอ่ มเสริมดำเนินการแกไ้ ขผลการเรยี นในระดับชน้ั นั้น ๓. การเลอ่ื นชน้ั กำหนดเกณฑ์การเลอ่ื นช้ันไว้ ดังนี้ ๑) ผู้เรียนตอ้ งมเี วลาเรียนตลอดปีการศึกษาไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาทง้ั หมด ๒) ผเู้ รยี นตอ้ งได้รบั การประเมินทกุ ตวั ชี้วดั ทงั้ รายวิชาพืน้ ฐานและเพ่ิมเติม และ ต้องผา่ น ไม่ นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๖๐ ของแตล่ ะรายวชิ า ๓) ผูเ้ รยี นต้องไดร้ บั การตดั สินผลการเรียนท้ังรายวิชาพนื้ ฐาน และเพมิ่ เตมิ ผ่าน ทุกรายวิชา ๔) ผู้เรียนต้องไดร้ บั การประเมนิ และมผี ลการประเมนิ ผ่านตามเกณฑ์ทส่ี ถานศึกษา กำหนด ในการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน และกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน ๔. การเรียนซ้ำชั้น หากผเู้ รยี นไมผ่ ่านรายวิชาจำนวนมากและมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้น ที่สูงขึ้น สถานศึกษาอาจตั้งคณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้ำชั้นได้ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงความรู้ความสามารถของ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนที่ไม่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การอนุมัติเล่ือนชั้นเรียน สถานศึกษาจะต้องจัดให้เรียนซำ้ ชั้น ในกรณีที่ผู้เรียนขาดคุณสมบัติข้อใดขอ้ หนึ่ง สถานศึกษาอาจใช้ดุลพินิจให้เลือ่ นชั้นได้ หากพิจารณาเห็นวา่ สถานศกึ ษาจะจดั ให้ผูเ้ รยี นเรียนซำ้ ใน ๒ กรณี ดงั นี้ กรณีที่ ๑ เรียนซำ้ รายวิชา หากผเู้ รียนได้รับการสอนซ่อมเสริมและสอบแก้ตัว ๒ คร้ังแล้วไม่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน ให้เรียนซ้ำรายวิชานั้น ทั้งนี้ ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาในการจัดให้เรียนซ้ำ ในช่วงใดช่วงหน่งึ ที่สถานศึกษาเห็นวา่ เหมาะสม เชน่ พกั กลางวนั วันหยุด ชวั่ โมงว่างหลงั เลิกเรียน ภาคฤดู รอ้ น เปน็ ต้น ❖ ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๖๒ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ กรณที ่ี ๒ เรียนซ้ำช้นั มี ๒ ลกั ษณะ คอื ๑) ผู้เรยี นมรี ะดบั ผลการเรียนเฉล่ียในปีการศึกษานน้ั ต่ำกวา่ ๑.๐๐ และมี แนวโน้มวา่ จะเปน็ ปัญหาต่อการเรียนในระดบั ช้นั ทส่ี งู ข้นึ ๒) ผู้เรียนมผี ลการเรียน ๐ , ร , มส เกนิ ครึ่งหนง่ึ ของรายวิชาท่ีลงทะเบียนเรยี นใน ปีการศกึ ษานั้น ทั้งนี้ หากเกิดลักษณะใดลักษณะหนึ่ง หรือทั้ง ๒ ลักษณะ ให้สถานศึกษาแต่งตั้ง คณะกรรมการพิจารณา หากเห็นว่าไม่มเี หตุผลอันสมควรก็ให้ซ้ำช้ัน โดยยกเลิกผลการเรียนเดิมและ ให้ใช้ผล การเรียนใหมแ่ ทน หากพิจารณาแล้วไม่ต้องเรยี นซ้ำชัน้ ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาในการแก้ไขผลการ เรียน ๕. การสอนซอ่ มเสริม การสอนซ่อมเสริมกำหนดให้ดำเนนิ การได้ในกรณี ดังน้ี ๑) ผเู้ รียนมีความรู้/ทักษะพ้นื ฐานไม่เพยี งพอท่ีจะศึกษาในแต่ละรายวชิ านน้ั ควรจัดสอนซ่อม เสริมปรบั ความรู้/ทักษะพื้นฐาน ๒) การประเมินระหว่างเรยี น ผเู้ รยี นไมส่ ามารถแสดงความรู้ ทกั ษะกระบวนการ หรือเจตคต/ิ คุณลกั ษณะที่กำหนดไวต้ ามมาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั ๓) ผลการเรียนไม่ถึงเกณฑ์และหรือต่ำกว่าเกณฑ์การประเมิน ต้องจัดสอนซ่อมเสริมก่อนจะ ใหผ้ ู้เรียนสอบแกต้ ัว ๔) ผูเ้ รยี นมผี ลการเรียนไมผ่ า่ น สามารถจดั สอนซอ่ มเสริมในภาคฤดรู อ้ น ทั้งนใี้ หอ้ ยใู่ นดลุ พินิจ ของสถานศึกษา ๖. การรายงานผลการเรียน ให้รายงานผลการเรียน เพื่อแจ้งผลการเรียนรู้และพัฒนาการในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นความก้าวหน้า ของผู้เรียนให้ผู้เรียน ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องทราบอย่างน้อยภาคเรียนละ ๑ ครั้ง การรายงานผลการเรยี นสามารถรายงานเปน็ ระดบั คุณภาพการปฏบิ ัติของผ้เู รยี นทส่ี ะท้อนมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปรบั ปรุง แก้ไขและส่งเสริมพัฒนาการเรียนของผู้เรียนให้ประสบ ความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งใช้เป็นข้อมูลสำหรับออกเอกสารหลักฐานการศึกษา การตรวจสอบ ยืนยัน รับรองผลการเรียนและวุฒิการศึกษาของผู้เรียน โดยใช้แบบที่สถานศึกษากำหนดมีกรอบการรายงาน อย่างนอ้ ย ❖ ระดบั ประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวิชาการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ เกณฑ์การจบการศกึ ษา กำหนดเกณฑ์กลางสำหรับการจบการศกึ ษา ระดับประถมศึกษา ดังนี้ (๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน และรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติมตามโครงสร้างเวลาเรียน ที่หลักสูตร แกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐานกำหนด (๒) ผูเ้ รียนตอ้ งมผี ลการประเมินรายวิชาพืน้ ฐาน ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ตามทสี่ ถานศึกษากำหนด (๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับผ่านเกณฑ์ การประเมินตามท่ี สถานศกึ ษากำหนด (๔) ผูเ้ รียนมผี ลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษา กำหนด (๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษา กำหนด สำหรับการจบการศกึ ษาสำหรับกลุ่มเปา้ หมายเฉพาะ เช่น การศึกษาเฉพาะทาง การศึกษาสำหรับผ้มู ี ความสามารถพิเศษ การศึกษาทางเลือก การศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส การศึกษาตามอัธยาศัย มอบให้ คณะกรรมการของสถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ตามหลกั เกณฑใ์ นแนวปฏบิ ตั กิ ารวดั และประเมินผลการเรยี นร้ขู องหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน เอกสารหลกั ฐานการศึกษา เอกสารหลักฐานการศึกษา เป็นเอกสารสำคัญที่บนั ทึกผลการเรียน ขอ้ มลู และสารสนเทศ ทเ่ี ก่ียวข้อง กบั พัฒนาการของผู้เรยี นในด้านต่าง ๆ แบ่งออกเปน็ ๒ ประเภท ดังนี้ ๑. เอกสารหลักฐานการศึกษาที่กระทรวงศกึ ษาธิการกำหนด ๑) ระเบยี นแสดงผลการเรียน เปน็ เอกสารแสดงผลการเรยี นและรบั รองผลการเรียนของ ผเู้ รยี นตามรายวิชา ผลการประเมนิ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขยี น ผลการประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของสถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น สถานศึกษาจะต้องบันทึกข้อมูลและออกเอกสารนี้ ให้ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เมื่อผู้เรียนจบการศึกษาระดับประถมศึกษา(ชั้นประถมศึกษาปีท่ี๖) หรือเมื่อลาออก จากสถานศกึ ษาในทุกกรณี ๒) ประกาศนียบัตร เป็นเอกสารแสดงวุฒิการศึกษาเพื่อรับรองศักดิ์และสิทธิ์ของผู้จบ การศึกษา ที่สถานศึกษาให้ไว้แก่ผู้จบการศึกษาภาคบังคับ และผู้จบการศึกษาขั้นพื้นฐานตามหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ๓) แบบรายงานผสู้ ำเร็จการศึกษา เป็นเอกสารอนุมตั กิ ารจบหลกั สตู รโดยบนั ทึกรายชื่อ และข้อมูลของผจู้ บการศกึ ษาระดับประถมศึกษา (ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖) ❖ ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๖๔ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ๒. เอกสารหลักฐานการศึกษาท่สี ถานศึกษากำหนด เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทำขึ้นเพื่อบันทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้ และข้อมูลสำคัญ เกี่ยวกับผู้เรียน เช่น แบบรายงานประจาตัวนักเรียน แบบบันทึกผลการเรียนประจารายวิชา ระเบียนสะสม ใบรับรองผลการเรียน และ เอกสารอืน่ ๆ ตามวตั ถุประสงค์ของการนำเอกสารไปใช้ การเทยี บโอนผลการเรยี น สถานศึกษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนของผู้เรียนในกรณีต่างๆได้แก่ การย้ายสถานศึกษา การ เปลี่ยนรูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การออกกลางคันและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษาจาก ต่างประเทศและขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ ยังสามารถเทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์จาก แหลง่ การเรียนรู้อื่นๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบันศาสนา สถาบันการฝึกอบรมอาชพี การจดั การศกึ ษาโดย ครอบครัว การเทียบโอนผลการเรียนควรดำเนินการในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนแรก หรือต้นภาคเรียนแรก ท่ี สถานศึกษารับผู้ขอเทียบโอนเป็นผู้เรียน ทั้งน้ี ผู้เรียนที่ได้รับการเทียบโอนผลการเรียนต้องศึกษาต่อเนื่องใน สถานศึกษาที่รับเทียบโอนอย่างน้อย ๑ ภาคเรียน โดยสถานศึกษาที่รับผู้เรียนจากการเทียบโอนควรกำหนด รายวิชา/จำนวนหนว่ ยกติ ทจี่ ะรบั เทยี บโอนตามความเหมาะสม การพิจารณาการเทยี บโอน สามารถดำเนินการได้ ดงั นี้ ๑. พิจารณาจากหลักฐานการศึกษาและเอกสารอ่นื ๆ ทใี่ ห้ข้อมูลแสดงความรู้ ความสามารถของผ้เู รยี น ๒. พจิ ารณาจากความรู้ ความสามารถของผเู้ รียนโดยการทดสอบด้วยวธิ กี ารตา่ งๆ ทง้ั ภาคความรูแ้ ละ ภาคปฏิบัติ ๓. พิจารณาจากความสามารถและการปฏิบตั ใิ นสภาพจรงิ การเทียบโอนผลการเรียนใหเ้ ปน็ ไปตาม ประกาศ หรอื แนวปฏบิ ัติ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร การบริหารจดั การหลักสตู ร ในระบบการศึกษาที่มีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นและสถานศึกษามีบทบาทในการพัฒนาหลักสูตร นั้น หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในแต่ละระดับ ตั้งแต่ระดับชาติ ระดับท้องถิ่น จนถึงระดับสถานศึกษา มี บทบาทหนา้ ที่ และความรบั ผิดชอบในการพัฒนา สนับสนุน ส่งเสรมิ การใชแ้ ละพัฒนาหลกั สูตรให้เปน็ ไปอย่าง มปี ระสทิ ธภิ าพ เพือ่ ใหก้ ารดำเนนิ การจดั ทำหลักสูตรสถานศึกษาและ การจัดการเรยี นการสอนของสถานศึกษา มีประสิทธิภาพสูงสุด อันจะส่งผลให้การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ใน ระดับชาติ ระดับท้องถิ่น ได้แก่ สำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษา หน่วยงานตน้ สังกัดอ่ืนๆ เป็นหน่วยงานที่มีบทบาท ในการขบั เคลื่อนคณุ ภาพการจัดการศึกษา เป็นตัวกลางทจ่ี ะเชอ่ื มโยงหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐานท่ี กำหนดในระดับชาติให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่การจัดทำหลักสูตร ส่งเสริมการใชแ้ ละพฒั นาหลักสูตรในระดับสถานศึกษา ให้ประสบความสำเร็จ โดยมภี ารกิจสำคญั คือ กำหนด เป้าหมายและจดุ เน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ในระดับท้องถ่ินโดยพจิ ารณาใหส้ อดคลอ้ งกับความตอ้ งการใน ระดับชาติ พัฒนาสาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ประเมินคุณภาพการศึกษาในระดับท้องถิ่นรวมทั้งเพิ่มพูนคุณภาพ ❖ ระดับประถมศึกษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๖๕ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ การใช้หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาบุคลากร สนับสนุน ส่งเสริม ติดตามผล ประเมินผล วเิ คราะห์ และรายงานผลคุณภาพของผู้เรยี น สถานศึกษามีหน้าที่สำคัญในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การวางแผนและดำเนินการใช้หลักสูตร การเพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตร จัดทำระเบียบ การวัดและประเมินผล ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน และรายละเอียดที่เขตพื้นที่การศึกษาหรือหน่วยงานต้นสังกัดอื่นๆ ในระดับท้องถิ่นได้ จดั ทำเพิ่มเติม สถานศกึ ษาได้เพิ่มเติมในส่วนทเ่ี ก่ียวกับสภาพปญั หาในชุมชนและสงั คม ภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น และ ความตอ้ งการของผเู้ รียน โดยทุกภาคสว่ นเข้ามามีส่วนรว่ มในการพัฒนาหลกั สตู รสถานศึกษา คำช้แี จง ๑. โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ดำเนินการปรับปรุงกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ประกอบด้วยสาระและ มาตรฐานการเรียนรู้ ดังนี้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และสาระ ภมู ิศาสตร์ ในกลุม่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ที่มา : อ้างอิง จาก คำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ. ๑๒๓๙ / ๒๕๖๐ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการ เรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวดั กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ลงวันท่ี ๘ สงิ หาคม ๒๕๖๐ คำสั่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ เรื่อง ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับ ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คำสั่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ ๙๒๑/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เร่ือง ยกเลกิ มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชว้ี ดั สาระที่ ๒ การออกแบบและเทคโนโลยี และสาระที่ ๓ เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และเปลีย่ นชอ่ื กล่มุ สาระการเรยี นรู้ และ คำสั่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ ๙๒๒/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เรอื่ ง การปรบั โครงสรา้ งเวลาเรยี น ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ๒. จัดโครงสร้างเวลาเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๓ ตามแบบที่ ๑ โดยมีรายวิชาที่ปรับโครงสร้าง เวลาเรยี นต่างจากเวลาเรยี นเดมิ ดงั นี้ ๑.๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลาเรยี น ๔๐ ช่วั โมง/ปี ๑.๒ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา เวลาเรียน ๒๐ ชั่วโมง/ปี ๑.๓ ศิลปะ เวลาเรยี น ๒๐ ช่ัวโมง/ปี ๑.๔ การงานอาชพี เวลาเรยี น ๒๐ ชั่วโมง/ปี ๑.๕ ภาษาอังกฤษ เวลาเรยี น ๒๐๐ ช่วั โมง/ปี (อ้างอิง จากหนังสือคู่มือบริหารจัดการเวลาเรียน ตามนโยบาย “ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้” ของสำนัก วชิ าการ และมาตรฐานการศกึ ษา สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน) หน้า ๑๒ ❖ ระดบั ประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๖๖ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ๓. กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา และกลุม่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๓ โรงเรยี นปลายทางสามารถปรับบูรณาการตามโครงสรา้ งหลักสูตรและโครงสร้างเวลาเรียนของสถานศึกษา ตามความ เหมาะสมกบั บรบิ ทของโรงเรยี น ซึ่งอยภู่ ายใตข้ อ้ กำหนดของหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และกรอบนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ (อ้างอิง จากหนังสือคู่มือบริหารจัดการเวลา เรียน ตามนโยบาย “ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้” ของสำนักวิชาการ และมาตรฐานการศึกษา สำนักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน) ตามหน้า ๑๐, ๑๑, ๑๒ ๔. กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ และกลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๓ ได้นำมาตรฐานตัวชี้วัด คำอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชา แผนการจัดการเรียนรู้ ใส่ลงในหลักสูตรโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐ ตามโครงสร้างเวลาเรียนใหม่ เพื่อให้โรงเรียนสามารถนำไปปรับบูรณาการการสอนร่วมกันตามความ สอดคล้องของเนื้อหาและการจัดกจิ กรรม การเรยี นรู้ ๕. ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๑ – ๖ โรงเรียนจดั กิจกรรมการเรียนการสอนในชว่ั โมงลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลา รู้ โดยบูรณาการเข้ากับ ๘ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ แต่ละกิจกรรมมีเน้ือหาสาระและการจัดกิจกรรมที่ต่อเนื่องกนั และเชอ่ื มโยง กับรายวชิ าพืน้ ฐานตามหลักสตู ร โรงเรียนสามารถจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนบรู ณาการได้ตาม ความ เหมาะสมตามบรบิ ทของโรงเรยี น ๖. การสอนรายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๓ จำนวน ๕ ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ๒๐๐ ชั่วโมงตอ่ ปี โดยใช้ กิจกรรมวธิ ีการ สอ่ื เทคโนโลยอี ย่างหลากหลาย และเน้นการใช้ภาษาอังกฤษเพอื่ การสอื่ สาร ๗. วิชาหนา้ ทพี่ ลเมอื ง จดั เปน็ รายวิชาเพมิ่ เตมิ ตดั สินผลการเรยี นเปน็ รายวชิ าเพ่ิมเตมิ ๘. วิชาการป้องการทุจริต จัดเป็นรายวิชาเพิ่มเติม ตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชาเพิ่มเติม ตามที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำสั่งที่ ๖๔๖/๒๕๖๐ ลงวันท่ี ๒๖ เมษายน ๒๕๖๐ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำ หลักสูตร หรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกันการทุจริต และคำส่ัง กระทรวงศึกษาธิการ ที่ สป ๑๑๓๗/๒๕๖๑ แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti- Corruption Education) นำไปใช้ในการเรียนการสอนให้กับนักเรียน นักศึกษาในทุกระดับชั้นเรยี นทั้งในสว่ น ของการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัยอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งอาชีวศึกษาและการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกในการ แยกแยะประโยชนส์ ว่ นตนกับประโยชน์ส่วนรวมจิตพอเพียงต้านทุจริต และสร้างพฤติกรรมที่ไม่ยอมรับและไม่ ทนต่อการทุจริต ❖ ระดับประถมศึกษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๖๗ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ บรรณานกุ รม สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา. กรอบแนวทางการปรบั ปรงุ หลักสูตรการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพช์ ุมนมุ สหกรณ์การเกษตร, ๒๕๕๐. . ตัวช้วี ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และ เทศโนโลยี. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพช์ มุ นมุ สหกรณ์การเกษตร, ๒๕๕๑. . ตัวชีว้ ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พ์ชมุ นุมสหกรณก์ ารเกษตร, ๒๕๕๑. . ตัวชี้วัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลาง กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์. (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ์ชมุ นุมสหกรณ์การเกษตร, ๒๕๖๐. . ตวั ชว้ี ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ต่างประเทศ. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พ์ชมุ นุมสหกรณ์การเกษตร, ๒๕๕๑. . ตัวชว้ี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพช์ ุมนุมสหกรณก์ ารเกษตร, ๒๕๕๑. . ตัวชว้ี ดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพช์ มุ นุมสหกรณก์ ารเกษตร, ๒๕๕๑. . ตัวชวี้ ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชมุ นุมสหกรณ์การเกษตร, ๒๕๖๐. . ตวั ชว้ี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพช์ ุมนมุ สหกรณก์ ารเกษตร, ๒๕๕๑. . ตัวชี้วดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษาศาสนา และ วัฒนธรรม. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณก์ ารเกษตร, ๒๕๕๑. . ตัวชว้ี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระภูมศิ าสตร์ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนา และวฒั นธรรม. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พช์ ุมนมุ สหกรณ์การเกษตร, ๒๕๖๐. . ตัวช้วี ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพล ศึกษา. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตร, ๒๕๕๑. . แนวทางการบรหิ ารจดั การหลกั สตู ร. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พ์ชุมนุมสหกรณ์ การเกษตร, ๒๕๕๑. . แนวปฏบิ ตั ิการวดั และประเมินผลการเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ์ชุมนุม สหกรณ์การเกษตร, ๒๕๕๑. . หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ สำนกงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ ร่วมกบั สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน. ๒๕๖๑.ชุดหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา. [ระบบออนไลน์]. แหล่งทม่ี า https://www.nacc. go.th/ewt_news.php?nid=๑๘๓๘๔ (๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑) ❖ ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๖๘ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ คณะผจู้ ดั ทำ ท่ีปรึกษา นายอดุ ม ภาสดา ศึกษานิเทศกส์ ำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาสรุ นิ ทรเ์ ขต ๓ คณะกรรมการสถานศึกษา ๑. นายมิตร พะงาตุนัด ประธานกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ๒. นางสมบัติ กิมเลง กรรมการผู้แทนผปู้ กครอง ๓. นายประเสริฐ ใจกล้า กรรมการผแู้ ทนครู ๔. นายสุวรรณ ไกยฝา้ ย กรรมการผู้แทนองคก์ รชุมชน ๕. นายเกียว พนั ธเ์ สน กรรมการผแู้ ทนองค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ๖. พระวิสุทธ์ วสิ ุทโธ กรรมการผแู้ ทนพระภิกษสุ งฆ์ ๗. นายทวี ปยิ ไพร กรรมการผู้แทนองคก์ รศาสนา ๘. นายคอย สำราญสุข กรรมการผแู้ ทนศิษย์เกา่ ๙. นายธนพล คณู สว่าง กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ๑๐. นายถาวร ผกู ดวง กรรมการผู้ทรงคุณวฒุ ิ ๑๑. นายแถม อิดประโคน กรรมการผทู้ รงคณุ วุฒิ ๑๒. นายหอม กายดี กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ๑๓. นางสุภาพ หมนั่ เทย่ี ง กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ิ ๑๔. นายบญั ญัติ โสพิน กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ๑๕. นายสมทรง นิสสัยดี กรรมการและเลขานุการ คณะทำงาน ๑. นายสมทรง นสิ สยั ดี ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ ๒. นายประทปี อร่ามเรือง รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี น กรรมการ กรรมการ ๓. นางลัดดา นสิ สัยดี ครชู ำนาญการพเิ ศษ กรรมการ กรรมการ ๔. นางสาวเอือ้ งนภา คิดสม ครู กรรมการ กรรมการและเลขานุการ ๕. นางสาวกนกนาถ สชุ าติสุนทร ครู กรรมการและผูช้ ว่ ยเลขานุการ ๖. นายราชนพ ลำภู ครชู ำนาญการ ๗. นางสาวขนิษฐา แกว้ มงุ คุณ ครอู ัตราจา้ ง ๗. นายชนายุทธ ตรงตามคำ ครูชำนาญการ 8. นางสาวกติ ตยิ า กมิ าวหา ครู ❖ ระดับประถมศึกษา

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ห น้ า | ๑๖๙ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ผเู้ สนอโครงการ ……………………………………………... (นายชนายุทธ ตรงตามคำ) ครู/หวั หน้ากล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ ผู้เห็นชอบโครงการ ……………………………………………. (นายศกั ดิ์ชัย เลศิ อรณุ รัตน์) ผอู้ านวยการโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ผ้อู นุมัติโครงการ ……………………………………………. (นายมติ ร พะงาตนุ ัด) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน โรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ❖ ระดับประถมศึกษา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook