Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช 2563 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช 2563 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Published by KroorachaneChanel, 2021-06-08 11:08:54

Description: หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช 2563 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Search

Read the Text Version

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๓) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศกั ราช 2563 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศกึ ษา สำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาสุรนิ ทร์เขต ๓ สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ คำนำ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) เป็น หลักสูตรที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ดำเนินการพัฒนาหลังจากการใช้หลักสูตรการศึกษา พุทธศักราช ๒๕๕๑ และจากข้อมูลของผลการศึกษาวิจัย ติดตามผลการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กับข้อมลู จากแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ เพอื่ ให้มีความเหมาะสม ชดั เจน ยิ่งขึ้น ทั้งเป้าหมายของหลกั สูตรในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และกระบวนการนำหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ การกำหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการ เรียนรู้และตัวชี้วัดที่ชัดเจน โดยมอบหมายให้เขตพื้นที่และสถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ใช้ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) เป็นกรอบและ ทิศทางในการพฒั นาหลกั สูตรและจดั การเรยี นการสอน โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) จึงได้จัดทำหลักสูตรสถานศึกษาสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓ นี้ขึ้นประกอบด้วย วิสัยทัศน์ เป้าหมาย สมรรถนะผู้เรียน โครงสร้างหลักสูตร เกณฑ์การวัดและประเมินผล เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติและ จัดการเรยี นรู้ ขอขอบคุณคณะครูและคณะผู้ที่เกี่ยวข้องและมีส่วนร่วมในการจัดทำทุกฝ่าย คณะกรรมการ สถานศึกษา นักเรยี น และผู้ปกครองนักเรียน ท่ีทำให้การจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียนบ้านพลวง (พรหมบำรุงราษฎร์) สำเร็จไดด้ ้วยดี คณะผูจ้ ดั ทำ กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สารบัญ คำนำ หนา้ สารบัญ บทนำ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ 1 โครงสร้างเวลาเรียน ๘ ตัวช้วี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง ๙ คำอธิบายรายวชิ า ๙๐ โครงสรา้ งรายวิชา ๙๘ อภิธานศัพท์ ๑๐๓ บรรณานกุ รม ๑๑๓ ภาคผนวก ๑๑๔ คณะผูจ้ ดั ทำ ๑๑๕ - คำสง่ั แต่งตัง้ คณะกรรมการพัฒนาหลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง (พรหมบำรงุ ราษฎร)์ ระดับการศึกษาปฐมวยั และระดบั การศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๑ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บทนำ โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕63 ได้นำหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) และกรอบหลักสูตรท้องถิ่นของสานักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษาสรุ ินทร์ เขต ๓ มาใช้เป็นกรอบและทศิ ทางในการจดั ทำหลักสูตรสถานศึกษา และจัดการ เรียนการสอนเพื่อพัฒนานักเรียนของโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ให้มีคุณภาพด้านความรู้ และ ทักษะที่จำเป็นสำหรับการดารงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง และแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเองอย่าง ต่อเนอ่ื งตลอดชีวิต ความสำคัญของสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งในสังคมโลกปัจจุบันและอนาคต เพราะวิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับทุก คนทั้งในชีวิตประจำวันและการงานอาชีพต่าง ๆ ตลอดจนเทคโนโลยี เครื่องมือเครื่องใช้และผลผลิตต่าง ๆ ท่ี มนุษย์ได้ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตและการทำงาน เหล่านี้ล้วนเป็นผลของความรู้วิทยาศาสตร์ ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์และศาสตร์อืน่ ๆ วิทยาศาสตร์ช่วยให้มนุษย์ได้พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดเป็น เหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ มีทักษะสำคัญในการค้นควา้ หาความรู้ มีความสามารถในการ แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลที่หลากหลายและมีประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้ วทิ ยาศาสตรเ์ ป็นวัฒนธรรมของโลกสมยั ใหมซ่ ่งึ เป็นสังคมแห่งการเรยี นรู้ (Knowledge-based society) ดังนน้ั ทกุ คนจึงจำเป็นต้องได้รับการพฒั นาใหร้ ู้วิทยาศาสตร์ เพ่ือทีจ่ ะมีความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติและเทคโนโลยี ที่มนุษย์สรา้ งสรรค์ข้นึ สามารถนำความรู้ไปใช้อย่างมเี หตผุ ล สรา้ งสรรค์ และมคี ณุ ธรรม สาระสำคญั ของกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมุ่งหวังให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ ที่เน้นการ เชื่อมโยงความรู้กบั กระบวนการ มีทักษะสำคัญในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ โดยใช้ กระบวนการในการ สืบเสาะหาความรูแ้ ละแก้ปัญหาทีห่ ลากหลาย ให้ผู้เรียนมีสว่ นร่วมในการเรียนรู้ ทุกขั้นตอน มีการทำกิจกรรม ดว้ ยการลงมือปฏิบตั ิจรงิ อย่างหลากหลาย เหมาะสมกบั ระดับชัน้ โดยกำหนดสาระสำคัญ ดังน้ี ✧ วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ เรยี นรูเ้ กย่ี วกับ ชีวิตในสิ่งแวดล้อม องคป์ ระกอบของสิง่ มีชวี ติ การดำรงชวี ติ ของมนุษย์และสัตว์การดำรงชีวติ ของพืช พนั ธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ และ ววิ ัฒนาการของสง่ิ มชี ีวติ ✧ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ เรียนรูเ้ ก่ียวกับ ธรรมชาติของสาร การเปลยี่ นแปลงของสาร การเคล่อื นท่ี พลังงาน และคลนื่  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๒ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ ✧ วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ เรยี นรู้เกยี่ วกับ องคป์ ระกอบของเอกภพ ปฏสิ มั พนั ธ์ ภายในระบบ สุรยิ ะ เทคโนโลยอี วกาศ ระบบโลก การเปลยี่ นแปลงทางธรณวี ทิ ยา กระบวนการ เปล่ียนแปลงลมฟ้าอากาศ และผลต่อสิ่งมชี วี ติ และส่งิ แวดล้อม ✧ เทคโนโลยี ● การออกแบบและเทคโนโลยีเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิต ในสังคมที่มีการ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่ อ แก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบ เชิงวิศวกรรม เลือกใช้ เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมโดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชีวติ สังคม และสงิ่ แวดล้อม ● วิทยาการคำนวณ เรียนรู้เกี่ยวกับการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา เป็น ขัน้ ตอนและเป็นระบบ ประยกุ ต์ใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศ และการส่อื สาร ในการแก้ปญั หาทพี่ บในชีวติ จริงไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน หลักสูตรโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช 2563 ได้นำหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตาม มาตรฐานการเรียนรู้ ซึ่งการพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดนั้นจะช่วยให้ผู้เรียนเกิด สมรรถนะสำคัญ ๕ ประการ ดงั นี้ ๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และประสบการณอ์ นั จะเป็นประโยชน์ตอ่ การพัฒนาตนเองและสังคม รวมทัง้ การเจรจาตอ่ รองเพ่ือขจดั และลด ปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผล และความถูกต้อง ตลอดจน การเลือกใชว้ ธิ กี ารสอ่ื สารทม่ี ีประสทิ ธภิ าพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสงั คม ๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ สารสนเทศเพ่ือการตัดสนิ ใจเกยี่ วกับตนเองและสงั คมได้อย่างเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหา และอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรม และข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์ และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใช้ในการป้องกันและ แก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตนเอง สังคมและ สง่ิ แวดลอ้ ม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ ดำเนนิ ชีวติ ประจำวัน การเรยี นรู้ด้วยตนเอง การเรยี นรู้อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง การทำงาน และการอย่รู ่วมกนั ในสังคม ด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแยง้ ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม  ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กล่มุ งานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม และสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึง ประสงคท์ สี่ ่งผลกระทบต่อตนเองและผอู้ นื่ ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เปน็ ความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีดา้ นตา่ ง ๆ และ มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน การแก้ปญั หาอยา่ งสร้างสรรค์ ถกู ต้องเหมาะสมและมีคุณธรรม คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ หลักสตู รโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๓) ได้ นำหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) มุ่งพัฒนาผู้เรียน ให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานเป็นพลเมือง ไทยและพลโลก ดังนี้ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๑.๑ ร่วมกิจกรรมแสดงความรักชาติ เช่น เชิญธง ยืนตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติ รักษาชอ่ื เสียง และหวงแหนสมบัตขิ องชาติ ๑.๒ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาและปฏบิ ตั ิตามหลักธรรมของศาสนา เชน่ รักษาศีล ปฏิบตั ิธรรม ๑.๓ รว่ มกิจกรรมเพือ่ แสดงความจงรกั ภักดตี อ่ พระมหากษตั ริย์ ๒. ซอ่ื สัตย์สุจริต ๒.๑ ใหข้ อ้ มลู ท่ีถกู ตอ้ งและเปน็ จริง ไมโ่ กหก ๒.๒ ไมถ่ อื เอาส่งิ ของหรอื ผลงานของผ้อู ื่นมาเป็นของตนเอง ไมล่ ักขโมย ๒.๓ ไม่หาผลประโยชนใ์ นทางท่ไี ม่ถกู ต้อง ไมค่ ดโกง ๓. มีวินยั ๓.๑ ปฏิบตั ิตนตามข้อตกลง กฎระเบียบของครอบครัว โรงเรยี นและสงั คม ๓.๒ ตรงตอ่ เวลาและรับผดิ ชอบในการเรียน การปฏิบตั ิงาน ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๔.๑ ตง้ั ใจ เพียรพยายามในการเรียน สนใจเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรตู้ ่าง ๆ ๔.๒ แสวงหา ศึกษา คน้ ควา้ ความรู้จากแหล่งการเรยี นรูต้ ่าง ๆ ๔.๓ บนั ทกึ ความรวู้ ิเคราะห์ตรวจสอบ แลกเปลยี่ นเรียนรู้ ๕. อยู่อยา่ งพอเพียง ๕.๑ ใช้ทรัพย์สินของตนเองและของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า รวมทั้งใช้เวลาอย่าง เหมาะสม ๕.๒ ปฏบิ ัตติ นและตดั สินใจด้วยความรอบคอบมีเหตุผล ๕.๓ วางแผนการเรียนการทำงานบนพน้ื ฐานของความรู้ ข้อมลู ขา่ วสาร มีภูมคิ ุ้มกันในตวั ที่ดี  ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๔ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ๖. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน ๖.๑ ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการทำงานให้สำเร็จ ๖.๒ ท่มุ เททำงาน อดทนไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอปุ สรรค ๖.๓ ปรบั ปรุงพัฒนาการทำงานและผลงานด้วยตนเอง ๗. รกั ความเป็นไทย ๗.๑ ปฏิบัตติ ามขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย ๗.๒ ใช้ภาษาไทย เลขไทยในการสอื่ สารได้อย่างถูกต้อง ๗.๓ รว่ มกิจกรรมที่เกีย่ วข้องกบั ภมู ปิ ัญญาไทย นำมาใช้ให้เหมาะสมในวิถีชีวิต ๘. มจี ติ สาธารณะ ๘.๑ ช่วยเหลอื ผอู้ นื่ แบง่ ปนั ส่งิ ของ อาสาทำงานใหด้ ้วยความเตม็ ใจ ไมห่ วังผลตอบแทน ๘.๒ เข้ารว่ มกจิ กรรมท่เี ปน็ ประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น ชุมชนและสังคม ๘.๓ ดูแลรกั ษาสาธารณสมบัติและสิ่งแวดลอ้ มดว้ ย ความเต็มใจ โดยนอ้ มนำหลักเศรษฐกิจพอเพยี ง ๓ หว่ ง ๒ เงื่อนไข ➢ ห่วงที่ 1 คือ พอประมาณ หมายถึง พอประมาณในทุก อย่าง ความพอดีไม่มากหรือว่าน้อยจนเกินไปโดยต้องไม่ เบยี ดเบียนตนเอง หรอื ผูอ้ ื่นให้เดอื ดร้อน ➢ ห่วงที่ 2 คือ มีเหตุผลหมายถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับ ระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดย พิจารณาจากเหตปุ ัจจัยท่ีเกย่ี วข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลท่ีคาด ว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทาน้ันๆ อยา่ งรอบคอบ ➢ ห่วงที่ 3 คือ มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเอง หมายถึง การ เตรียมตัวให้พรอ้ มรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงดา้ นการ ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ตา่ งๆ ทค่ี าดวา่ จะเกิดขึ้นในอนาคตทัง้ ใกล้และไกล  ระดบั ประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๕ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กล่มุ งานบรหิ ารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มชี ีวิต กับสิ่งมีชีวติ และ ความสัมพันธ์ระหว่างสิง่ มีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ เปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของ ประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการ แกไ้ ขปญั หาสง่ิ แวดล้อม รวมทง้ั นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบัติของสงิ่ มีชวี ิต หนว่ ยพนื้ ฐานของสง่ิ มชี วี ติ การลำเลยี งสารเขา้ และออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงาน สัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ ของอวัยวะต่างๆ ของพืชที่ทำงาน สมั พันธ์กัน รวมท้ังนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลาย ทางชีวภาพและ วิวฒั นาการของสงิ่ มชี ีวิต รวมท้ังนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของ สสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติ ของการเปลี่ยนแปลง สถานะของสสาร การเกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชวี ติ ประจำวนั ผลของแรงท่กี ระทำตอ่ วัตถุ ลกั ษณะ การเคลื่อนท่ี แบบต่าง ๆ ของวตั ถรุ วมท้งั นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การเปลี่ยนแปลงและการถา่ ยโอนพลังงาน ปฏิสมั พันธ์ ระหว่างสสารและพลังงาน พลงั งานในชวี ิตประจำวัน ธรรมชาตขิ อง คลน่ื ปรากฏการณ์ที่ เกยี่ วขอ้ งกบั เสยี ง แสง และคล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมท้ัง นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซีดาว ฤกษ์และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ ที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการ ประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธข์ องระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง ภายในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้า อากาศและภูมิอากาศโลก รวมทงั้ ผลต่อสิง่ มีชีวิตและส่งิ แวดล้อม สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่าง รวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และ ศาสตร์อื่น ๆ เพื่อ แก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิง วิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และ สิง่ แวดล้อม  ระดับประถมศึกษา

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๖ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็น ขนั้ ตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหา ได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ รูเ้ ท่าทัน และมจี รยิ ธรรม คณุ ภาพผู้เรยี น จบชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๓ ❖ เข้าใจลกั ษณะทปี่ รากฏ ชนิดและสมบตั ิบางประการของวัสดทุ ่ีใชท้ ำวตั ถุ และการเปลยี่ นแปลงของ วัสดุรอบตัว ❖ เข้าใจการดึง การผลัก แรงแม่เหล็ก และผลของแรงที่มีต่อการเปลี่ยนแปลง การเคลื่อนที่ของวัตถุ พลังงานไฟฟา้ และการผลติ ไฟฟา้ การเกิดเสียง แสงและการมองเหน็ ❖ เขา้ ใจการปรากฏของดวงอาทติ ย์ ดวงจันทร์ และดาว ปรากฏการณข์ นึ้ และตกของ ดวง อาทิตย์ การเกิดกลางวันกลางคืน การกำหนดทิศ ลักษณะของหิน การจำแนกชนิดดินและการใช้ประโยชน์ ลกั ษณะและความสำคญั ของอากาศ การเกดิ ลม ประโยชน์และโทษของลม ❖ ตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหาเกี่ยวกับสิ่งที่จะเรียนรู้ตามที่กำหนดให้หรือตามความสนใจสังเกต สำรวจตรวจสอบโดยใช้เครื่องมืออย่างง่าย รวบรวมข้อมูล บันทกึ และอธิบายผลการสำรวจตรวจสอบด้วยการ เขยี นหรือวาดภาพ และสือ่ สารส่ิงทีเ่ รยี นรดู้ ้วยการเลา่ เร่อื ง หรอื ด้วยการแสดงท่าทางเพ่ือใหผ้ ูอ้ น่ื เข้าใจ ❖ แก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ขั้นตอนการแก้ปัญหา มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ ส่อื สารเบือ้ งต้น รกั ษาขอ้ มลู ส่วนตัว ❖ แสดงความกระตือรือร้น สนใจที่จะเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องที่จะศึกษาตามที่ กำหนดให้หรอื ตามความสนใจ มสี ว่ นร่วมในการแสดงความคิดเห็น และยอมรับฟงั ความคดิ เห็นผอู้ ่นื ❖ แสดงความรับผิดชอบด้วยการทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างมุ่งมั่น รอบคอบ ประหยัด ซื่อสัตย์ จนงานลุลว่ งเปน็ ผลสำเร็จ และทำงานร่วมกับผอู้ ืน่ อย่างมคี วามสุข ❖ ตระหนักถึงประโยชน์ของการใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการดำรงชีวิต ศึกษา หาความรู้เพ่มิ เติม ทำโครงงานหรอื ช้ินงานตามที่กำหนดให้หรือตามความสนใจ จบชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ ❖ เข้าใจโครงสร้าง ลักษณะเฉพาะและการปรบั ตัวของสิ่งมชี ีวิต รวมทั้งความสัมพันธ์ของสิง่ มีชวี ิตใน แหลง่ ท่ีอยู่ การทำหนา้ ท่ีของสว่ นตา่ ง ๆ ของพืช และการทำงานของระบบย่อยอาหารของมนุษย์ ❖ เข้าใจสมบัติและการจำแนกกลุ่มของวัสดุ สถานะและการเปลี่ยนสถานะของสสาร การละลาย การเปลี่ยนแปลงทางเคมี การเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้และผันกลับไม่ได้ และการแยกสารอย่าง งา่ ย ❖ เขา้ ใจลักษณะของแรงโน้มถ่วงของโลก แรงลพั ธ์ แรงเสยี ดทาน แรงไฟฟ้าและผลของแรงต่างๆ ผล ทเ่ี กิดจากแรงกระทำต่อวัตถุ ความดัน หลกั การที่มตี อ่ วัตถุ วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย ปรากฏการณเ์ บอ้ื งตน้ ของเสียง และแสง ❖ เข้าใจปรากฏการณ์การขึ้นและตก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจันทร์ องค์ประกอบของระบบสรุ ิยะ คาบการโคจรของดาวเคราะห์ ความแตกต่างของดาวเคราะห์และ ดาว  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๗ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ฤกษ์ การขึ้นและตกของกลุ่มดาวฤกษ์ การใช้แผนที่ดาว การเกิดอุปราคา พัฒนาการและประโยชน์ของ เทคโนโลยีอวกาศ ❖ เขา้ ใจลกั ษณะของแหล่งน้ำ วัฏจกั รนำ้ กระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำคา้ ง น้ำค้างแขง็ หยาดนำ้ ฟา้ กระบวนการเกิดหิน วฏั จกั รหนิ การใช้ประโยชน์หนิ และแร่ การเกดิ ซากดึกดำบรรพ์ การเกิดลมบก ลมทะเล มรสุม ลักษณะและผลกระทบของภัยธรรมชาติ ธรณีพิบัติภัย การเกิดและผลกระทบของปรากฏการณ์เรือน กระจก ❖ ค้นหาข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและประเมินความน่าเชื่อถือ ตัดสินใจเลือกข้อมูลใช้เหตุผลเชิง ตรรกะในการแก้ปญั หา ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการทำงานร่วมกัน เข้าใจสิทธแิ ละหนา้ ที่ของ ตน เคารพสทิ ธขิ องผูอ้ นื่ ❖ ตั้งคำถามหรือกำหนดปญั หาเก่ียวกบั สิ่งทีจ่ ะเรียนรู้ตามท่ีกำหนดให้หรอื ตามความสนใจ คาดคะเน คำตอบหลายแนวทาง สร้างสมมติฐานที่สอดคล้องกับคำถามหรือปัญหาที่จะสำรวจตรวจสอบ วางแผนและ สำรวจตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสม ในการเก็บรวบรวมข้อมูลท้งั เชิงปรมิ าณและคณุ ภาพ ❖ วิเคราะห์ข้อมูล ลงความเห็น และสรุปความสัมพันธ์ของข้อมูลที่มาจากการสำรวจตรวจสอบใน รูปแบบท่เี หมาะสม เพื่อสือ่ สารความรจู้ ากผลการสำรวจตรวจสอบไดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ลและหลักฐานอา้ งองิ ❖ แสดงถึงความสนใจ มุ่งมั่น ในสิ่งที่จะเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องที่จะศึกษาตาม ความสนใจของตนเอง แสดงความคิดเห็นของตนเอง ยอมรับในข้อมูลที่มีหลักฐานอ้างอิง และรับฟังความ คดิ เหน็ ผ้อู น่ื ❖ แสดงความรบั ผิดชอบด้วยการทำงานท่ไี ดร้ ับมอบหมายอย่างมุ่งมั่น รอบคอบ ประหยัด ซอื่ สตั ย์ จน งานลุลว่ งเป็นผลสำเร็จ และทำงานรว่ มกับผอู้ ืน่ อยา่ งสร้างสรรค์ ❖ ตระหนักในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใช้ความรู้และกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ในการดำรงชีวิต แสดงความชื่นชม ยกย่อง และเคารพสิทธิในผลงานของผู้คิดค้นและศึกษาหา ความรูเ้ พม่ิ เติม ทำโครงงานหรอื ชนิ้ งานตามท่ีกำหนดให้หรอื ตามความสนใจ ❖ แสดงถึงความซาบซึ้ง ห่วงใย แสดงพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้ การดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อมอย่างรู้คุณค่า  ระดบั ประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๘ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ โครงสร้างเวลาเรียน กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าพนื้ ฐาน ระดบั ช้นั รหัสวิชา ช่อื รายวิชา จำนวนหนว่ ยกิต จำนวนชั่วโมง/ปี ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ว๑๑๑๐๑ ๒.๕ ๑๐๐ ประถมศึกษาปที ่ี ๒ ว๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๒.๕ ๑๐๐ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ และเทคโนโลยี ๒.๕ ๑๐๐ ประถมศึกษาปีที่ ๔ ว๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๓ ๑๒๐ ประถมศึกษาปที ี่ ๕ และเทคโนโลยี ๓ ๑๒๐ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ ว๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๓ ๑๒๐ ว๑๕๑๐๑ และเทคโนโลยี ว๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๙ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ตวั ช้วี ัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระท่ี 1 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับ สิ่งมีชีวิต และ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ เปลี่ยนแปลงแทนท่ีในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบท่ีมีต่อ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ ม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไข ปัญหาสิ่งแวดล้อมรวมทั้งนาความรู้ ไปใชป้ ระโยชน์ ป. 1 ตัวชีว้ ดั ชน้ั ปี ป. 3 ป. 2 - 1. ระบุชื่อพืชและสตั วท์ อ่ี าศัย อยู่บริเวณตา่ ง ๆ จากข้อมูลท่ี รวบรวมได้ 2. บอกสภาพแวดล้อม ท่ี เหมาะสมกบั การดำรงชวี ติ ของ สัตว์ในบรเิ วณทอ่ี าศัยอยู่ ป. 4 ป. 5 ป. 6 1. บรรยายโครงสรา้ ง และ ลักษณะของสง่ิ มีชวี ิตทีเ่ หมาะสม กับการดำรงชวี ติ ซง่ึ เป็นผลมา จากการปรบั ตัวของสิง่ มชี ีวติ ใน แตล่ ะแหล่งที่อยู่ 2. อธบิ าย ความสัมพันธ์ ระหว่างส่งิ มชี ีวิตกับสงิ่ มีชีวติ และ ความสมั พันธ์ ระหว่าง ส่ิงมชี ีวิตกับส่งิ ไม่มชี ีวติ เพือ่ ประโยชน์ตอ่ การดารงชวี ิต 3. เขียนโซ่อาหารและระบุ บทบาทหน้าที่ของสง่ิ มีชีวิตทีเ่ ปน็ ผูผ้ ลติ และผ้บู ริโภคในโซ่อาหาร 4. ตระหนกั ในคุณคา่ ของ ส่งิ แวดล้อมทีม่ ี ต่อการดำรงชีวิต ของสง่ิ มีชวี ติ โดยมสี ว่ นร่วมใน การดแู ลรกั ษาส่งิ แวดล้อม  ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๑๐ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลียงสารเข้าและออก จากเซลล์ ความสัมพันธ์ของ โครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่างๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนาความรู้ไปใช้ ประโยชน์ ตัวชี้วดั ชนั้ ปี ป. 1 ป. 2 ป. 3 1. ระบชุ ่ือ บรรยาย ลกั ษณะและ 1. ระบวุ า่ พชื ต้องการแสงและ 1. บรรยายส่งิ ที่ จำเป็นต่อการ บอก หน้าที่ของส่วนต่างๆ ของ น้ำเพอ่ื การเจรญิ เติบโต โดยใช้ ดำรงชีวิตและการเจรญิ เติบโตของ รา่ งกายมนุษย์ สัตว์ และพชื ข้อมลู จาก หลักฐานเชิง ประจักษ์ มนษุ ยแ์ ละสัตว์ โดยใชข้ ้อมูลที่ รวมท้ังบรรยายการทำหน้าที่ 2. ตระหนกั ถงึ ความจำเป็นท่ี รวบรวมได้ ร่วมกนั ของ สว่ นต่าง ๆ ของ พชื ตอ้ งไดร้ ับน้ำและแสงเพือ่ การ 2. ตระหนกั ถงึ ประโยชนข์ อง รา่ งกายมนุษยใ์ น การทำกิจกรรม เจรญิ เตบิ โต โดยดแู ลพชื ให้ได้รบั อาหาร น้ำ และ อากาศ โดยการ ต่าง ๆ จากข้อมลู ท่รี วบรวมได้ สงิ่ ดังกลา่ วอย่างเหมาะสม ดแู ลตนเองและ สตั ว์ให้ไดร้ บั ส่ิง 3. ตระหนักถึง ความสำคัญของ 3. สร้างแบบจำลองทบ่ี รรยายวฎั เหลา่ น้อี ย่าง เหมาะสม ส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกายตนเอง จักรชวี ิตของพชื ดอก 3. สรา้ งแบบจำลองทบ่ี รรยายวฏั โดยการดูแล ส่วนต่างๆ อยา่ ง จักร ชวี ิตของสัตวแ์ ละ ถกู ต้อง ให้ปลอดภยั และรักษา เปรียบเทียบ วฏั จักรชวี ติ ของ ความ สะอาดอยเู่ สมอ สตั ว์บางชนดิ 4. ตระหนักถึงคุณคา่ ของชวี ิต สตั ว์ โดยไม่ทำให้วฏั จกั รชวี ติ ของ สัตวเ์ ปลี่ยนแปลง ป. 4 ป. 5 ป. 6 1. บรรยายหนา้ ที่ ของราก ลำ 1. ระบสุ ารอาหารและบอก ตน้ ใบและดอกของพชื ดอกโดยใช้ ประโยชนข์ อง สารอาหารแต่ละ ขอ้ มลู ท่รี วบรวมได้ ประเภทจากอาหารท่ตี นเอง รับประทาน 2. บอกแนวทางในการเลือก รับประทาน อาหารใหไ้ ด้ สารอาหารครบถว้ นในสัดส่วนที่ เหมาะสมกบั เพศและวยั รวมทง้ั ความปลอดภยั ต่อสขุ ภาพ 3. ตระหนักถึงความสำคญั ของ สารอาหาร โดยการเลือก รบั ประทาน อาหารท่มี สี ารอาหาร ครบถว้ นในสัดสว่ นท่ีเหมาะสมกับ เพศ และวยั  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๑๑ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ตัวชวี้ ัดชั้นปี ป. 4 ป. 5 ป. 6 รวมทั้ง ปลอดภัยต่อสุขภาพ 4. สร้างแบบจำลอง ระบบย่อย อาหาร และบรรยายหนา้ ที่ของ อวยั วะในระบบยอ่ ยอาหาร รวมทั้ง อธิบายการย่อย อาหาร และการ ดูดซึมสารอาหาร 5. ตระหนักถงึ ความสำคญั ของ ระบบยอ่ ยอาหาร โดยการบอก แนวทางในการดแู ลรกั ษาอวัยวะ ในระบบย่อยอาหารให้ทางานเป็น ปกติ สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการ ของสง่ิ มีชีวิต รวมทง้ั นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ตัวช้ีวัดชัน้ ปี ป. 1 ป. 2 ป. 3 - 1. เปรยี บเทียบ ลักษณะของ ป. 6 - สงิ่ มีชวี ติ และส่ิงไม่มีชวี ติ จาก ข้อมลู ทร่ี วบรวมได้ ป. 4 ป. 5 1. จำแนกสิ่งมีชีวิตโดยใช้ความ 1. อธิบายลักษณะทางพันธกุ รรมที่ เหมือนและความแตกต่างของ มกี ารถ่ายทอดจากพ่อแม่ส่ลู ูกของ ลักษณะของสิ่งมีชีวิต ออกเป็น พชื สตั ว์ และมนษุ ย์ กลุ่มพืช กลุ่มสัตว์ และกลุ่มที่ไม่ใช่ 2. แสดงความอยากรู้อยากเห็น พชื และสตั ว์ โดยการถามคำถามเกยี่ วกบั 2. จำแนกพชื ออกเปน็ พืชดอกและ ลักษณะท่คี ลา้ ยคลึงกันของตนเอง พืชไม่มีดอก โดยใช้การมีดอกเป็น กับพ่อแม่ เกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลท่ีรวบรวมได้ 3. จำแนกสัตวอ์ อกเป็นสตั ว์มกี ระดกู สนั หลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลงั โดยใช้ การมีกระดูกสันหลังเป็นเกณฑ์ โดยใช้ ขอ้ มูลท่รี วบรวมได้  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๑๒ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ ตวั ชวี้ ดั ช้ันปี 4. บรรยายลักษณะ เฉพาะที่สังเกตได้ ของสัตว์มีกระดูกสันหลังในกลุ่มปลา กลุ่มสัตว์สะเทินน้าสะเทินบก กลุ่ม สัตว์เลื้อยคลาน กลุ่มนก และกลุ่มสัตว์ เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม และยกตัวอย่าง สิง่ มีชวี ิตในแต่ละกล่มุ สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัตขิ องสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพนั ธ์ระหว่างสมบตั ิของสสาร กบั โครงสรา้ งและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนภุ าค หลักและธรรมชาตขิ องการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การ เกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี ป. 1 ตวั ช้วี ดั ช้นั ปี ป. 3 1. อธิบายสมบัติทส่ี งั เกตไดข้ อง 1. อธบิ ายวา่ วตั ถุประกอบข้ึนจาก วัสดทุ ใ่ี ช้ทำวตั ถุซง่ึ ทำจากวัสดุชนดิ ป. 2 ช้นิ ส่วน ย่อย ๆ ซง่ึ สามารถแยก เดียวหรือหลายชนดิ ประกอบกนั ออกจากกนั ได้และประกอบกันเปน็ โดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ 1. เปรยี บเทยี บสมบตั ิการดดู ซับ วตั ถุชนิ้ ใหมไ่ ด้ โดยใช้หลักฐานเชิง 2. ระบชุ นดิ ของวสั ดแุ ละจัดกลมุ่ น้ำของวัสดโุ ดยใช้หลกั ฐานเชิง ประจักษ์ วสั ดุตามสมบตั ิทสี่ งั เกตได้ ประจักษ์ และระบุการนำสมบตั ิ 2. อธิบายการเปลี่ยนแปลงของ การดดู ซบั นำ้ ของวสั ดุไป วัสดเุ มื่อทำให้ร้อนขน้ึ หรือทำให้ ป. 4 ประยกุ ตใ์ ช้ในการทำวตั ถุใน เยน็ ลง โดยใช้หลักฐานเชงิ 1. เปรียบเทยี บสมบตั ทิ างกายภาพ ชวี ติ ประจำวัน ประจักษ์ ด้านความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การ 2. อธบิ ายสมบัติท่ีสงั เกตได้ของ นำความร้อน และการนำไฟฟ้าของ วัสดุทเ่ี กดิ จากการนำวสั ดมุ าผสม ป. 6 วัสดุโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ กนั โดยใชห้ ลักฐานเชิงประจักษ์ 1. อธิบายและเปรียบเทียบการ จากการทดลองและระบุการนำ 3. เปรยี บเทยี บสมบตั ิท่สี ังเกตได้ แยกสารผสมโดยการหยบิ ออก สมบัติเรื่องความแข็ง สภาพ ของวัสดเุ พ่ือนำมาทำเป็นวตั ถุใน การรอ่ น การใช้แมเ่ หลก็ ดึงดดู การ การใชง้ านตามวตั ถุประสงค์ และ รนิ ออก การกรอง และการ อธบิ ายการนำวสั ดทุ ่ีใชแ้ ลว้ กลับมา ตกตะกอน โดยใชห้ ลักฐานเชิง ใช้ใหมโ่ ดยใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ ประจกั ษ์ รวมท้ังระบวุ ธิ แี ก้ปัญหา 4. ตระหนักถงึ ประโยชน์ของการ นำวัสดทุ ีใ่ ชแ้ ล้วกลับมาใชใ้ หม่ โดย การนำวัสดทุ ี่ใชแ้ ล้วกลับมาใช้ใหม่ ป. 5 1. อธิบายการเปล่ยี นสถานะ ของ สสารเมือ่ ทำให้สสารร้อนขน้ึ หรือ เย็นลง โดยใช้หลกั ฐานเชิง ประจกั ษ์ 2. อธบิ ายการละลายของสารใน นำ้ โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์  ระดบั ประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๑๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ตวั ช้วี ัดชัน้ ปี ยดื หยุ่น การนำความรอ้ น และการ 3. วเิ คราะห์การเปลี่ยนแปลงของ ในชีวติ ประจำวันเกีย่ วกับการแยก สาร น ำ ไ ฟ ฟ ้ า ข อ ง ว ั ส ด ุ ไ ป ใ ช้ ใ น สารเมอ่ื เกิดการเปลี่ยนแปลงทาง ชีวิตประจำวัน ผ่านกระบวนการ เคมี โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจักษ์ ออกแบบชนิ้ งาน 4. วิเคราะหแ์ ละระบุการ 2. แลกเปล่ียนความคิดกับผู้อ่ืน เปลย่ี นแปลงทีผ่ นั กลบั ได้และการ โดยการอภิปรายเกี่ยวกบั สมบัติ เปลย่ี นแปลงทผ่ี นั กลับไม่ได้ ทางกายภาพของวัสดุอยา่ งมี เหตุผลจากการทดลอง 3. เปรยี บเทยี บสมบัตขิ องสสารทั้ง 3 สถานะ จากข้อมูลท่ีได้จากการ สงั เกตมวล การต้องการทีอ่ ยู่ รปู รา่ งและปริมาตรของสสาร 4. ใช้เคร่อื งมือเพ่ือวดั มวล และ ปริมาตรของสสารทั้ง 3 สถานะ สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทาต่อวัตถุ ลักษณะการ เคลือ่ นที่แบบ ตา่ งๆ ของวตั ถุ รวมทั้งนำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ ตวั ชี้วดั ชนั้ ปี ป. 1 ป. 2 ป. 3 - - 1. ระบผุ ลของแรงท่ีมตี ่อการ เปล่ยี นแปลง การเคลื่อนทีข่ อง วัตถจุ ากหลักฐานเชิงประจักษ์ 2. เปรียบเทยี บและยกตวั อย่าง แรงสัมผัสและแรงไม่สัมผสั ที่มีผล ตอ่ การเคล่ือนที่ของวัตถโุ ดยใช้ หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ 3. จำแนกวตั ถโุ ดยใชก้ ารดึงดูดกับ แม่เหล็กเปน็ เกณฑ์จากหลักฐาน เชงิ ประจักษ์ 4. ระบุขั้วแม่เหล็กและพยากรณ์ ผลท่เี กิดขึน้ ระหว่างขวั้ แม่เหล็ก เมอื่ นำมาเข้าใกล้กนั จากหลักฐาน เชิงประจกั ษ์  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๑๔ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ป. 4 ตัวชว้ี ัดชั้นปี ป. 6 1. ระบผุ ลของแรงโนม้ ถว่ งท่ีมีตอ่ ป. 5 1. อธิบายการเกดิ และผลของแรง วตั ถุจากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ ไฟฟ้าซง่ึ เกิดจากวัตถทุ ่ผี ่านการ ขัด 2. ใช้เครื่องชง่ั สปริงในการวดั 1. อธบิ ายวิธีการหาแรงลัพธข์ อง ถูโดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ นำ้ หนกั ของวัตถุ แรงหลายแรงในแนวเดียวกนั ที่ กระทำต่อวตั ถุในกรณีที่วตั ถุอย่นู ่ิง จากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ 3. บรรยายมวลของวัตถทุ ม่ี ผี ลตอ่ 2. เขียนแผนภาพแสดงแรงท่ี การเปลีย่ นแปลงการเคลอื่ นท่ีของ กระทำตอ่ วัตถุทอี่ ยู่ในแนวเดียวกัน วัตถุจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ และแรงลัพธท์ ี่กระทำต่อวัตถุ 3. ใชเ้ ครอ่ื งช่งั สปริงในการวดั แรง ท่กี ระทำต่อวตั ถุ 4. ระบุผลของแรงเสียดทานท่ีมีตอ่ การเปลยี่ นแปลงการเคลื่อนท่ีของ วตั ถุจากหลกั ฐานเชิงประจักษ์ 5. เขยี นแผนภาพแสดงแรงเสียด ทานและแรงท่ีอยใู่ นแนวเดียวกนั ที่ กระทำตอ่ วัตถุ สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสาร และพลังงาน พลังงานในชีวติ ประจาวัน ธรรมชาติของคล่ืน ปรากฏการณ์ที่เกีย่ วข้อง กับเสยี ง แสง และคล่นื แม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ตวั ชว้ี ัดชนั้ ปี ป. 1 ป. 2 ป. 3 1. บรรยายการเกดิ เสยี งและทศิ 1. บรรยายแนวการเคลอ่ื นท่ีของ 1. ยกตัวอยา่ งการเปลี่ยนพลังงาน ทางการเคลอื่ นที่ของเสยี งจาก หลกั ฐานเชิงประจักษ์ แสงจากแหลง่ กำเนดิ แสง และ หน่งึ ไปเปน็ อีกพลงั งานหนึง่ จาก อธบิ ายการมองเหน็ วตั ถุ จาก หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ 2. บรรยายการทำงานของเคร่อื ง 2. ตระหนักในคุณค่าของความรู้ กำเนิดไฟฟ้าและระบุแหลง่ ของการมองเหน็ โดยเสนอแนะ พลงั งานในการผลติ ไฟฟา้ จาก แนวทางการป้องกนั อันตรายจาก ขอ้ มลู ทร่ี วบรวมได้ ๓. ตระหนักใน การมองวัตถทุ ี่อยู่ในบริเวณที่มีแสง ประโยชน์และโทษของไฟฟ้าโดย สวา่ งไมเ่ หมาะสม นำเสนอวิธกี ารใชไ้ ฟฟ้าอยา่ ง ประหยัดและปลอดภยั  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๑๕ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ตวั ชวี้ ดั ชั้นปี ป. 4 ป. 5 ป. 6 1. จำแนกวตั ถเุ ปน็ ตัวกลางโปรง่ ใส 1. อธบิ ายการได้ยนิ เสียงผ่าน 1. ระบสุ ว่ นประกอบและ ตวั กลางโปร่งแสง และวัตถุทึบแสง ตัวกลางจากหลักฐานเชิงประจกั ษ์ บรรยายหน้าทข่ี องแต่ละ จากลักษณะการมองเหน็ สิ่งต่าง ๆ 2. ระบุตวั แปร ทดลองและอธบิ าย สว่ นประกอบของวงจรไฟฟา้ อยา่ ง ผา่ นวัตถนุ ้ันเป็นเกณฑ์โดยใช้ ลักษณะและการเกิด เสยี งสงู เสยี ง ง่ายจากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ หลักฐานเชิงประจกั ษ์ ตำ่ 2. เขียนแผนภาพและต่อ 3. ออกแบบการทดลองและ วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย อธบิ ายลกั ษณะและการเกิด เสยี ง 3. ออกแบบการทดลองและ ดงั เสยี งค่อย ทดลองด้วยวธิ ีท่ีเหมาะสมในการ 4. วัดระดับเสียงโดยใชเ้ ครือ่ งมอื อธิบายวิธกี ารและผลของการตอ่ วดั ระดบั เสียง เซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนกุ รม 5. ตระหนกั ในคุณค่าของความรู้ 4. ตระหนกั ถึงประโยชนข์ อง เร่ืองระดับเสียงโดยเสนอแนะ ความรู้ของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบ แนวทางในการหลีกเลย่ี งและลด อนุกรมโดยบอกประโยชน์และการ มลพิษทางเสยี ง ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวัน 5. ออกแบบการทดลองและ ทดลองดว้ ยวธิ ที ีเ่ หมาะสมในการ อธบิ ายการต่อหลอดไฟฟ้าแบบ อนกุ รมและแบบขนาน 6. ตระหนักถงึ ประโยชนข์ อง ความร้ขู องการต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบขนาน โดย บอกประโยชน์ ขอ้ จำกัด และการ ประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน 7. อธิบายการเกิด เงามืดเงามัว จากหลกั ฐานเชิงประจักษ์ 8. เขียนแผนภาพรงั สขี องแสง แสดงการเกิด เงามืดเงามวั  ระดบั ประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๑๖ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบริหารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระท่ี 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และ ระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตและการ ประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยี อวกาศ ตวั ชว้ี ดั ชั้นปี ป. 1 ป. 2 ป. 3 1.ระบุดาวท่ีปรากฏบนท้องฟ้าใน 1. อธบิ ายแบบรูป เส้นทางการ เวลากลางวัน และกลางคืนจาก ขนึ้ และตกของ ดวงอาทิตยโ์ ดยใช้ ข้อมูลทีร่ วบรวมได้ หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ 2. อธิบายสาเหตทุ ่ีมองไม่เหน็ ดาว 2. อธบิ ายสาเหตุการเกดิ สว่ นใหญ่ในเวลากลางวันจาก ปรากฏการณ์ การขน้ึ และตกของ หลักฐานเชิงประจักษ์ ดวงอาทิตย์ การเกิดกลางวัน กลางคนื และการ กำหนดทศิ โดยใช้ แบบจำลอง 3. ตระหนักถึง ความสำคัญของ ดวงอาทิตย์ โดย บรรยาย ประโยชน์ของดวงอาทิตย์ต่อ ส่งิ มชี ีวติ ป. 4 ป. 5 ป. 6 1. อธบิ ายแบบรูป เส้นทางการ 1. เปรยี บเทยี บความแตกต่างของ 1. สร้างแบบจำลองท่อี ธิบายการ ข้ึน และตกของ ดวงจันทร์ โดยใช้ ดาวเคราะห์และดาวฤกษจ์ าก เกดิ และเปรยี บเทยี บ หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ แบบจำลอง ปรากฏการณ์ สรุ ยิ ปุ ราคาและ 2. สร้างแบบจำลองที่ อธิบาย 2. ใช้แผนทดี่ าวระบุตำแหนง่ และ จนั ทรปุ ราคา แบบรปู การเปลี่ยนแปลง รูปรา่ ง เสน้ ทาง การขนึ้ และตกของกล่มุ 2. อธบิ าย พัฒนาการ ของ ปรากฏของดวงจนั ทร์ และ ดาวฤกษบ์ นท้องฟ้า และอธบิ าย เทคโนโลยี อวกาศ และ พยากรณร์ ูปร่างปรากฏของดวง แบบรปู เส้นทางการขนึ้ และตก ยกตวั อยา่ งการนาเทคโนโลยี จันทร์ ของกล่มุ ดาวฤกษ์บนท้องฟา้ ใน อวกาศมาใช้ประโยชน์ใน 3. สรา้ งแบบจำลอง แสดง รอบปี ชวี ิตประจำวนั จากข้อมลู ท่ี องค์ประกอบ ของระบบสุรยิ ะ รวบรวมได้ และอธิบาย เปรยี บเทยี บคาบ การโคจรของ ดาวเคราะห์ ตา่ ง ๆ จากแบบจำลอง  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๑๗ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระที่ 3 วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายใน โลก และบนผวิ โลก ธรณพี ิบัตภิ ยั กระบวนการเปลย่ี นแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทัง้ ผลต่อสิ่งมีชีวิต และส่ิงแวดล้อม ป. 1 ตัวช้ีวดั ช้ันปี ป. 3 1. อธิบายลักษณะภายนอกของ ป. 2 หนิ จากลักษณะเฉพาะตัวทสี่ ังเกต 1. ระบุส่วนประกอบของอากาศ ได้ 1. ระบุส่วนประกอบของดิน และ บรรยายความสำคัญของอากาศ จำแนกชนิดของดนิ โดยใชล้ ักษณะ และผลกระทบของมลพษิ ทาง ป. 4 เนื้อดินและการจบั ตัวเป็นเกณฑ์ อากาศ ต่อสิง่ มีชีวิต จากขอ้ มูลท่ี - 2. อธิบายการใชป้ ระโยชน์จาก รวบรวมได้ ดิน จากขอ้ มลู ทรี่ วบรวมได้ 2. ตระหนักถึงความสำคัญของ อากาศ โดยนาเสนอแนวทางการ ป. 5 ปฏิบตั ติ นในการลดการเกดิ มลพษิ 1. เปรยี บเทยี บปริมาณนำ้ ใน แต่ ทางอากาศ ละแหล่งและระบปุ ริมาณนำ้ ท่ี 3. อธบิ ายการเกิดลมจาก มนษุ ยส์ ามารถนำมาใช้ประโยชน์ หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ ได้ จากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้ 4. บรรยายประโยชน์และโทษ 2. ตระหนักถึงคุณค่าของน้ำโดย ของลมจากข้อมลู ท่รี วบรวมได้ นำเสนอแนวทาง การใชน้ ้ำอย่าง ประหยัดและการอนุรกั ษน์ ้ำ ป. 6 3. สร้างแบบจำลองท่ีอธิบายการ หมุนเวยี นของน้ำในวัฏจักรนำ้ 1. เปรียบเทียบกระบวนการเกดิ 4. เปรียบเทียบกระบวนการเกดิ หนิ อคั นี หนิ ตะกอน และหนิ แปร เมฆ หมอก น้ำค้าง และนำ้ คา้ ง และอธิบาย วัฏจกั รหินจาก แข็ง จากแบบจำลอง แบบจำลอง 5. เปรยี บเทยี บกระบวนการเกดิ 2. บรรยายและยก ตวั อยา่ งการ ฝน หมิ ะ และลูกเหบ็ จากข้อมลู ท่ี ใชป้ ระโยชนข์ องหนิ และแรใ่ นชีวิต รวบรวมได้ ประจำวนั จากข้อมลู ที่รวบรวมได้ 3. สรา้ งแบบจำลองทอ่ี ธิบายการ เกิดซากดกึ ดำบรรพแ์ ละคาดคะเน สภาพแวดล้อมในอดีตของซากดึก ดำบรรพ์ 4. เปรยี บเทียบการเกดิ ลมบก ลม ทะเล และมรสุม รวมท้งั อธิบาย ผลที่มตี ่อสิ่งมชี ีวติ และส่งิ แวดล้อม จากแบบจำลอง  ระดับประถมศกึ ษา

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๑๘ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ตัวชว้ี ัดชั้นปี 5. อธิบายผลของมรสุมต่อการ เกิดฤดูของประเทศไทย จาก ข้อมลู ทร่ี วบรวมได้ 6. บรรยายลักษณะและ ผลกระทบของนำ้ ท่วม การกดั เซาะชายฝง่ั ดนิ ถล่ม แผน่ ดนิ ไหว สนึ ามิ 7. ตระหนักถงึ ผลกระทบของภยั ธรรมชาติและธรณีพบิ ัติภัย โดย นำเสนอแนวทางในการเฝา้ ระวงั และปฏิบัตติ นให้ปลอดภยั จากภยั ธรรมชาติและธรณีพบิ ตั ภิ ัยที่อาจ เกดิ ในท้องถิน่ 8. สร้างแบบจำลองท่ีอธิบายการ เกดิ ปรากฏการณ์เรือนกระจกและ ผลของปรากฏการณเ์ รือนกระจก ต่อส่งิ มีชวี ิต 9. ตระหนักถงึ ผลกระทบของ ปรากฏการณ์เรือนกระจกโดย ปฏบิ ตั ิตนเพ่ือลดกิจกรรมท่ี กอ่ ให้เกดิ แก๊สเรือนกระจก สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่นๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือ พัฒนางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสมโดยคำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ชีวติ สงั คม และส่ิงแวดลอ้ ม ตัวชว้ี ัดช้ันปี ป. 1 ป. 2 ป. 3 --- ป. 4 ป. 5 ป. 6 ---  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๑๙ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชวี ิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทันและมจี รยิ ธรรม ตวั ช้ีวัดช้นั ปี ป. 1 ป. 2 ป. 3 1. แกป้ ญั หาอยา่ งงา่ ย โดยใชก้ าร 1. แสดงลำดบั ข้นั ตอนการทำงาน 1. แสดงอัลกอรทิ ึมในการทางาน ลองผิด ลองถูก การเปรยี บเทียบ หรือการแกป้ ญั หาอยา่ งงา่ ยโดยใช้ หรอื การแกป้ ัญหาอยา่ งง่ายโดยใช้ 2. แสดงลำดบั ขั้นตอนการทำงาน ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ ภาพ สัญลกั ษณ์ หรือข้อความ หรือการแกป้ ัญหาอย่างงา่ ย โดย 2. เขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดย 2. เขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดย ใช้ภาพ สญั ลักษณ์ หรือข้อความ ใชซ้ อฟต์แวรห์ รือส่อื และตรวจหา ใชซ้ อฟต์แวร์หรอื สอ่ื และตรวจหา 3. เขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย โดย ข้อผดิ พลาดของโปรแกรม ข้อผดิ พลาดของโปรแกรม ใช้ซอฟต์แวร์ หรือสือ่ 3. ใช้เทคโนโลยใี นการสร้าง จัด 3. ใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตค้นหาความรู้ 4. ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสร้าง หมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ เรียกใช้ 4. รวบรวม ประมวลผล และ จัดเกบ็ เรียกใชข้ ้อมลู ตาม ขอ้ มลู ตามวตั ถปุ ระสงค์ 4. ใช้ นำเสนอข้อมูล โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ วตั ถปุ ระสงค์ เทคโนโลยี สารสนเทศอยา่ ง ตามวัตถุประสงค์ 5. ใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศอยา่ ง ปลอดภัย ปฏบิ ตั ิ ตามขอ้ ตกลงใน 5. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ ง ปลอดภยั ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงใน การใช้คอมพิวเตอร์ ร่วมกัน ดูแล ปลอดภัย ปฏิบตั ิตามข้อตกลงใน การใช้คอมพวิ เตอร์ร่วมกนั ดูแล รักษา อุปกรณเ์ บื้องตน้ ใชง้ าน การใช้อนิ เทอร์เน็ต รกั ษาอปุ กรณเ์ บื้องต้น ใช้งาน อย่าง เหมาะสม อยา่ งเหมาะสม ป. 4 ป. 5 ป. 6 1. ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการ 1. ใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะในการ 1. ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการ แก้ปัญหา การอธบิ ายการทำงาน แก้ปัญหา การอธิบาย การงาน อธบิ ายและ ออกแบบวิธกี าร การคาดการณ์ผลลพั ธ์ จากปัญหา การคาดการณ์ผลลพั ธจ์ ากปัญหา แก้ปัญหาที่พบใน ชวี ติ ประจำวัน อยา่ งงา่ ย อย่างง่าย 2. ออกแบบและเขียนโปรแกรม 2. ออกแบบ และเขียนโปรแกรม 2. ออกแบบและเขยี น โปรแกรม อยา่ งง่ายเพ่ือแก้ปัญหาในชีวิต อย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือ ที่มกี ารใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะอย่าง ประจำวนั ตรวจหาข้อผดิ พลาด สื่อ และตรวจหาข้อผดิ พลาดและ ง่าย ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดและ ของ โปรแกรมและแก้ไข แกไ้ ข 3. ใช้อนิ เทอร์เน็ตค้นหา แกไ้ ข 3. ใชอ้ ินเทอร์เนต็ ในการคน้ หา ความรู้ และประเมินความ 3. ใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตคน้ หาข้อมูล ข้อมูลอย่างมีประสทิ ธภิ าพ น่าเชอ่ื ถอื ของข้อมูล ติดต่อสื่อสาร และทำงานรว่ มกนั 4. ใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศ 4. รวบรวม ประเมนิ นำเสนอ ประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมลู ทำงานร่วมกันอยา่ งปลอดภัย ขอ้ มลู และสารสนเทศ โดยใช้ 4. รวบรวม ประเมิน นำเสนอ เขา้ ใจสทิ ธแิ ละหน้าท่ขี องตน ซอฟต์แวร์ที่หลากหลาย เพื่อ ข้อมูลและสารสนเทศ ตาม เคารพในสิทธิของผู้อ่ืน แจง้ แกป้ ัญหาในชวี ติ ประจำวนั วตั ถปุ ระสงคโ์ ดยใชซ้ อฟต์แวร์หรือ ผู้เกีย่ วขอ้ งเมอ่ื พบข้อมูลหรือ บริการบนอนิ เทอร์เน็ตที่ บคุ คลที่ไม่เหมาะสม  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๒๐ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ตวั ช้วี ดั ช้ันปี 5. ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศอย่าง หลากหลาย เพ่ือ แก้ปัญหาใน ปลอดภยั เข้าใจ สิทธแิ ละหน้าที่ ชีวิตประจำวนั ของตน เคารพใน สิทธิของผู้อื่น 5. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง แจง้ ผู้เก่ยี วขอ้ งเมื่อพบข้อมลู หรอื ปลอดภัย มมี ารยาท เข้าใจสิทธิ บคุ คลท่ี ไมเ่ หมาะสม และหน้าทข่ี องตน เคารพในสทิ ธิ ของผู้อ่ืน แจ้งผู้เกย่ี วข้อง เม่ือพบ ข้อมลู หรือบุคคล ที่ไมเ่ หมาะสม  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๒๑ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลางและสาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 สาระที่ 1 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับ สิ่งมีชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ เปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ ม แนวทางในการอนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละการแกไ้ ขปญั หาสิง่ แวดล้อมรวมทั้งนำความรู้ไป ใช้ประโยชน์ รหัส ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถนิ่ ตวั ชว้ี ัด ว 1.1 1. ระบุช่ือพชื และสตั วท์ ่ีอาศัย -บริเวณต่าง ๆ ในท้องถิ่น เช่น -สำรวจ สงั เกต และรวบรวม ป 1/1 อยูบ่ ริเวณตา่ ง ๆ จากข้อมลู ท่ี สนามหญา้ ใต้ต้นไม้ สวนหยอ่ ม พชื และสตั ว์ทพ่ี บบริเวณ รวบรวมได้ แหล่งน้ำ อาจพบพชื และสัตว์ ชายหาดทะเลหน้าโรงเรียนฯ ว 1.1 หลายชนดิ อาศัยอยู่ ปากน้ำชมุ พร ป 1/2 2. บอกสภาพแวดล้อมท่ี -บรเิ วณท่แี ตกตา่ งกันอาจพบ -ตรวจสอบ และระบุสง่ิ มชี ีวติ เหมาะสมกบั การดำรงชีวิตของ พืชและสัตว์แตกต่างกนั เพราะ ทีพ่ บบริเวณชายหาดหนา้ สตั ว์ในบริเวณทีอ่ าศัยอยู่ สภาพแวดล้อมของแต่ละ โรงเรียนฯ ปากนำ้ ชุมพร บริเวณจะมี ความเหมาะสมต่อ -ระบปุ ญั หา เสนอแนวทางใน การดำรงชีวติ ของพืชและสตั ว์ การแก้ไข และอนรุ ักษ์ ท่ีอาศัยอยู่ในแต่ละบริเวณ เช่น ทรพั ยากรชายฝง่ั ทะเล สระนำ้ มีน้ำเปน็ ที่อยู่ อาศยั ของ หอย ปลา สาหรา่ ย เปน็ ที่หลบ ภัยและมี แหลง่ อาหารของหอย และปลา บริเวณต้นมะมว่ งมี ต้นมะม่วงเปน็ แหล่งท่ีอยู่ และมี อาหารสำหรบั กระรอกและมด - ถ้าสภาพแวดล้อมในบริเวณที่ พชื และสัตว์อาศยั อยู่มีการ เปลย่ี นแปลง จะมีผลตอ่ การ ดำรงชวี ติ ของพืชและสัตว์  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๒๒ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารผ่านเซลล์ ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้าง และหนา้ ทีข่ องระบบต่าง ๆ ของสตั วแ์ ละมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ ของโครงสร้าง และหน้าทขี่ องอวยั วะตา่ ง ๆ ของพชื ทีท่ ำงานสัมพันธ์กันรวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ รหัส ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถ่นิ ตวั ชว้ี ดั ว 1.2 1. ระบุชอื่ บรรยายลกั ษณะ - มนษุ ย์มสี ว่ นต่าง ๆ ทีม่ ี -ระบุสว่ นประกอบ และบอก ป 1/1 และบอกหนา้ ท่ีของสว่ นตา่ ง ๆ ลกั ษณะและหนา้ ที่แตกต่างกัน หน้าที่ของอวัยวะภายนอกของ ของร่างกายมนุษย์ สัตว์ และ เพ่ือใหเ้ หมาะสมในการ สัตว์ทะเลท่พี บบริเวณชายหาด พืช รวมทัง้ บรรยายการทำ ดำรงชีวิต เช่น ตามหี นา้ ที่ ไว้ หน้าทรี่ ว่ มกนั ของส่วนตา่ ง ๆ มองดู โดยมีหนงั ตาและขนตา ของรา่ งกายมนุษย์ในการทำ เพื่อป้องกันอนั ตรายให้กบั ตา หู กิจกรรมตา่ ง ๆ จากข้อมลู ที่ มหี น้าทรี่ บั ฟังเสียง โดยมใี บหู รวบรวมได้ และรหู ู เพ่ือเป็นทางผา่ นของ เสียง ปากมีหนา้ ที่พดู กนิ อาหาร มีช่องปาและมรี ิมฝปี าก บนล่าง แขนและมือมหี น้าทยี่ ก หยบิ จับ มีทอ่ นแขนและน้วิ มือ ที่ขยบั ได้ สมอง มหี น้าที่ ควบคมุ การทำงานของสว่ นต่าง ๆ ของร่างกาย เป็นก้อนอย่ใู น กะโหลกศีรษะ โดยส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายจะทำหนา้ ทร่ี ว่ มกัน ในการทำกจิ กรรม ใน ชวี ติ ประจำวัน - สัตว์มหี ลายชนิด แตล่ ะชนิดมี ส่วนตา่ ง ๆ ที่มีลกั ษณะและ หนา้ ทแ่ี ตกต่างกนั เพอ่ื ให้ เหมาะสม ในการดำรงชวี ิต เชน่ ปลามีครบี เปน็ แผน่ สว่ น กบ เต่า แมว มีขา 4 ขาและมี เทา้ สำหรับใช้ในการเคล่ือนท่ี - พืชมสี ่วนต่าง ๆ ท่ีมลี ักษณะ และหนา้ ท่แี ตกตา่ งกนั เพ่ือให้ เหมาะสมในการดำรงชวี ติ  ระดับประถมศึกษา

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๒๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ รหสั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่ ตวั ชว้ี ัด - โดยท่วั ไป รากมลี ักษณะเรยี ว ยาว และแตกแขนงเป็นราก เล็ก ๆ ทำหน้าที่ดดู น้ำ ลำต้นมี ลักษณะเปน็ ทรงกระบอกตัง้ ตรงและมีกง่ิ ก้าน ทำหนา้ ท่ีชูกิ่ง กา้ น ใบ และดอก ใบมีลกั ษณะ เป็นแผน่ แบน ทำหน้าทสี่ ร้าง อาหาร นอกจากน้ีพืชหลาย ชนิดอาจมดี อกที่มีสี รปู ร่างต่าง ๆ ทำหนา้ ทส่ี บื พันธุ์ รวมทงั้ มี ผลทีม่ เี ปลือก มีเน้อื ห่อหมุ้ เมล็ด และมีเมล็ดซ่งึ สามารถ งอกเปน็ ต้นใหม่ได้ ว 1.2 2. ตระหนักถึงความสำคญั ของ - มนุษยใ์ ชส้ ว่ นตา่ ง ๆ ของ ป1/2 สว่ นต่าง ๆ ของร่างกายตนเอง ร่างกายในการทำกิจกรรมต่าง โดยการดูแลส่วนตา่ ง ๆ ๆ เพือ่ การดำรงชวี ติ มนุษยจ์ ึง อย่างถูกต้อง ให้ปลอดภยั และ ควรใชส้ ่วนตา่ ง ๆของร่างกาย รกั ษา ความสะอาดอยเู่ สมอ อยา่ งถูกต้อง ปลอดภัย และ รักษา ความสะอาดอยู่เสมอ เช่น ใชต้ ามองตัวหนังสือในที่ ๆ มแี สงสวา่ งเพยี งพอ ดแู ลตาให้ ปลอดภัยจากอนั ตราย และ รักษาความสะอาดตาอย่เู สมอ สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.3 เขา้ ใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม สาร พันธุกรรม การเปลย่ี นแปลงทางพนั ธกุ รรมทีม่ ผี ลตอ่ ส่ิงมีชีวติ ความหลากหลายทางชีวภาพและววิ ฒั นาการของ สิง่ มีชวี ติ รวมท้งั นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ รหัส ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่ ตัวชว้ี ดั - - - -  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๒๔ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของ สสารกับโครงสรา้ งและแรงยดึ เหน่ียวระหวา่ งอนุภาค หลกั และธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกดิ สารละลาย และการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี รหสั ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ ตวั ชีว้ ดั ว 2.1 1. อธิบายสมบัติทีส่ ังเกตไดข้ อง -วัสดุที่ใชท้ ำวตั ถทุ เี่ ปน็ ของเล่น -อธบิ ายสมบัติของวัสดทุ ใ่ี ชท้ ำ ป 1/1 วัสดทุ ่ีใช้ทำวตั ถซุ ึง่ ทำจากวสั ดุ ของใช้ มีหลายชนิด เช่น ผ้า อุปกรณ์และเครื่องมอื ในการ ชนดิ เดยี ว หรือหลายชนดิ แก้ว พลาสตกิ ยาง ไม้ อฐิ หิน ประมง ประกอบกนั โดยใชห้ ลกั ฐานเชิง กระดาษ โลหะ วัสดแุ ต่ละชนิด ประจักษ์ มีสมบัตทิ ่ีสงั เกตได้ต่าง ๆ เช่น สี ว 2.1 2. ระบชุ นดิ ของวสั ดแุ ละจัด นมุ่ แข็ง ขรุขระ เรยี บ ใส ขุ่น ป 1/2 กลุ่มวัสดุตามสมบตั ิทีส่ งั เกตได้ ยืดหดได้ บิดงอได้ - สมบัติทีส่ ังเกตได้ของวัสดุแต่ ชนดิ อาจเหมือนกนั ซึ่งสามารถ นำมาใชเ้ ป็นเกณฑ์ในการจัด กล่มุ วสั ดไุ ด้ วสั ดุบางอย่างสามารถนำมา ประกอบกนั เพอ่ื ทำเปน็ วัตถตุ ่าง ๆ เช่น ผา้ และกระดุม ใชท้ ำเสื้อ ไมแ้ ละโลหะ ใชท้ ำกระทะ สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชวี ิตประจาวนั ผลของแรงทก่ี ระทาต่อวตั ถุ ลักษณะการ เคลื่อนท่ีแบบตา่ ง ๆ ของวัตถุ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ รหสั ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถ่นิ ตัวชีว้ ดั - - - -  ระดับประถมศึกษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๒๕ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2. 3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจาวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้อง กบั เสยี ง แสง และคลน่ื แม่เหล็กไฟฟา้ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ รหสั ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถิ่น ตวั ชีว้ ัด -เสียงเกดิ จากการสนั่ ของวัตถุ -จำแนกแหล่งท่ีมาของเสียง ว 2.3 1. บรรยายการเกดิ เสยี งและ วัตถุท่ีทำใหเ้ กดิ เสยี งเป็น รอบ ๆ โรงเรียน เช่น กจิ กรรม แหล่งกำเนิดเสยี งซึ่งมที ้ัง ฟังเสยี งคลน่ื รนื่ รมย์ ป 1/1 ทิศทาง การเคล่ือนทีข่ องเสียง แหลง่ กำเนิดเสยี งตาม ธรรมชาติและแหล่งกำเนิด จากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ เสียงทมี่ นุษยส์ ร้างขึน้ เสียง เคลอื่ นที่ออกจากแหลง่ กำเนิด เสียงทุกทิศทาง สาระท่ี 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตและการ ประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ รหสั ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ ตัวชี้วดั - ว 3.1 1. ระบุดาวท่ปี รากฏบนท้องฟา้ - บนทอ้ งฟ้ามีดวงอาทติ ย์ ดวง - ป 1/1 ในเวลากลางวนั และกลางคนื จนั ทร์ และดาว ซ่ึงในเวลา จากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ กลางวันจะมองเห็นดวงอาทิตย์ ว 3.1 2. อธิบายสาเหตทุ ่ีมองไมเ่ ห็น และอาจมองเหน็ ดวงจนั ทรบ์ าง ป 1/2 ดาวส่วนใหญ่ ในเวลากลางวัน เวลาในบางวัน แตไ่ ม่สามารถ จากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ มองเหน็ ดาว -ในเวลากลางวันมองไม่เห็น ดาวสว่ นใหญเ่ น่ืองจาก แสงอาทติ ยส์ วา่ งกวา่ จึงกลบ แสงของดาว สว่ นในเวลา กลางคืนจะมองเห็นดาวและ มองเหน็ ดวงจันทร์ เกือบทุกคืน  ระดับประถมศกึ ษา

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๒๖ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายใน โลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลกรวมทั้งผลต่อ สงิ่ มีชีวติ และสิ่งแวดลอ้ ม รหัส ตัวชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถน่ิ ตัวชว้ี ดั -หินที่อย่ใู นธรรมชำตมิ ีลักษณะ -สังเกตลักษณะของหนิ ที่พบ ว 3.2 1. อธบิ ายลกั ษณะภายนอก ภายนอกเฉพาตวั ที่สังเกตได้ บรเิ วณชายหาดหน้าโรงเรียน เชน่ สี ลวดลาย นำ้ หนกั ความ ป 1/1 ของหิน จากลักษณะเฉพาะตัว แขง็ และเน้ือหนิ ที่สังเกตได้ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือ พัฒนางานอยา่ งมคี วามคดิ สรา้ งสรรคด์ ว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลอื กใช้ เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคำนงึ ถึงผลกระทบต่อชวี ิต สังคม และส่ิงแวดล้อม รหสั ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่ ตวั ชี้วัด - - - - สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปญั หาที่พบในชวี ิตจริงอย่างเป็นขัน้ ตอน และเป็นระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ รเู้ ทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม รหสั ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถนิ่ ตวั ชวี้ ัด - 1. แกป้ ญั หาอยา่ งง่ายโดยใช้ - การแกป้ ญั หาให้ประสบ ว 4.2 การลองผดิ ลองถูก การ ความสำเรจ็ ทำได้โดยใช้ ป 1/1 เปรยี บเทียบ ขน้ั ตอนการแก้ปัญหา - ปญั หาอย่างง่าย เช่น เกม เขาวงกต เกมหาจดุ แตกตา่ ง ของภาพการจดั หนังสือใส่ กระเป๋า  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๒๗ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น - รหัส ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตวั ชวี้ ัด 2. แสดงลำดบั ขนั้ ตอนการ - ว 4.2 ทำงาน หรอื การแก้ปญั หา - การแสดงขน้ั ตอนการ ป 1/2 แกป้ ญั หาทำไดโ้ ดยการเขยี น - อย่างงา่ ยโดยใชภ้ าพ บอกเล่า วาดภาพ หรือใช้ ว 4.2 สัญลกั ษณ์ หรอื ขอ้ ความ สญั ลักษณ์ ป 1/3 - ปญั หาอย่างง่าย เชน่ เกมเขา 3. เขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย วงกต เกมหาจุดแตกต่างของ ว 4.2 โดยใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รือสื่อ ภาพ การจดั หนงั สือใส่กระเป๋า ป 1/4 4.ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสร้าง - การเขียนโปรแกรมเป็นการ จัดเก็บ เรยี กใช้ข้อมลู ตาม สรา้ งลำดบั ของคำสง่ั ให้ คอมพวิ เตอร์ทำงาน วตั ถปุ ระสงค์ - ตวั อยา่ งโปรแกรม เช่น เขียนโปรแกรมส่งั ให้ ตวั ละคร ย้ายตำแหน่ง ยอ่ ขยายขนาด เปลยี่ นรูปร่าง - ซอฟต์แวร์ หรือสื่อทใี่ ช้ในการ เขียนโปรแกรม เช่น ใช้บตั ร คำส่ังแสดงการเขยี นโปรแกรม, Code.org - การใชง้ านอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี เบือ้ งตน้ เชน่ การใชเ้ มาส์ คียบ์ อร์ด จอสัมผสั การเปดิ - ปดิ อปุ กรณ์เทคโนโลยี -การใชง้ านซอฟตแ์ วร์เบ้ืองต้น เช่น การเข้าและออกจาก โปรแกรม การสร้างไฟล์ การ จัดเก็บ การเรียกใช้ไฟล์ ทำได้ ในโปรแกรม เชน่ โปรแกรม ประมวลคำ โปรแกรมกราฟิก โปรแกรมนำเสนอ -การสรา้ งและจัดเก็บไฟลอ์ ย่าง เปน็ ระบบจะทำให้เรียกใช้ คน้ หาข้อมลู ได้ง่ายและรวดเร็ว  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๒๘ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น - รหสั ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตัวชว้ี ดั 5. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ - ว 4.2 อยา่ งปลอดภัย ปฏิบตั ิตาม - การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ป 1/5 ขอ้ ตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ อย่างปลอดภยั เชน่ รูจ้ ักขอ้ มูล ร่วมกนั ดแู ลรักษาอุปกรณ์ ส่วนตัว อันตรายจากการ ว 4.2 เบอื้ งตน้ ใช้งานอยา่ งเหมาะสม เผยแพร่ข้อมลู ส่วนตัว และไม่ ป 1/1 บอกขอ้ มูลส่วนตัวกับบุคคลอ่ืน 1. แก้ปญั หาอยา่ งงา่ ยโดยใช้ ยกเว้นผปู้ กครอง หรอื ครู แจ้ง การลองผิดลองถูก การ ผเู้ กีย่ วขอ้ งเม่อื ต้องการ ความ เปรยี บเทียบ ช่วยเหลือเก่ียวกับการใช้งาน - ขอ้ ปฏิบัตใิ นการใชง้ านและ การดูแลรกั ษาอปุ กรณ์ เชน่ ไม่ ขดี เขยี นบนอปุ กรณ์ ทำความ สะอาด ใช้อปุ กรณอ์ ยา่ งถูกวธิ ี - การใชง้ านอยา่ งเหมาะสม เชน่ จัดทา่ นัง่ ให้ถกู ตอ้ ง การ พักสายตาเมื่อใชอ้ ปุ กรณ์เป็น เวลานาน ระมดั ระวงั อบุ ตั เิ หตุ จากการใชง้ าน - การแก้ปัญหาให้ประสบ ความสำเรจ็ ทำไดโ้ ดยใช้ ข้ันตอนการแก้ปัญหา - ปัญหาอย่างง่าย เช่น เกม เขาวงกต เกมหาจุดแตกตา่ ง ของภาพการจัดหนงั สือใส่ กระเป๋า  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๒๙ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ตัวช้วี ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 สาระท่ี 1 วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับ สิ่งมีชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ เปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อม แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปญั หาส่งิ แวดล้อมรวมท้ังนำความรู้ไป ใช้ประโยชน์ รหัส ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน ตวั ช้วี ัด - - - - สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารผ่านเซลล์ ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้าง และหนา้ ที่ของระบบต่าง ๆ ของสตั วแ์ ละมนุษย์ทที่ ำงานสัมพนั ธ์กัน ความสัมพันธ์ ของโครงสรา้ ง และหน้าทีข่ องอวยั วะตา่ ง ๆ ของพชื ท่ีทำงานสัมพันธ์กนั รวมทง้ั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ รหัส ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิน่ ตัวชว้ี ัด ว 1.2 1. ระบวุ ่าพชื ตอ้ งการแสงและ - พืชต้องการนำ้ แสง เพ่ือการ -นำพืชทอ้ งถน่ิ มาทดลอง ป 2/1 นำ้ เพื่อการเจรญิ เตบิ โต โดยใช้ เจริญเติบโต เกีย่ วกับปจั จยั ในการ ขอ้ มลู จากหลกั ฐานเชงิ เจริญเตบิ โตของพืช ประจักษ์ - ว 1.2 2. ตระหนักถึงความจำเป็นที่ ป 2/2 พืชตอ้ งได้รบั น้ำและแสงเพ่ือ การเจริญเติบโต โดยดูแลพืชให้ ได้ รับสงิ่ ดงั กล่าวอย่าง เหมาะสม ว 1.2 3. สรา้ งแบบจำลองท่ี - พืชดอกเมื่อเจริญเติบโตและมี - ป 2/3 บรรยายวัฏจักรชวี ติ ของพชื ดอก ดอกจะมี การสืบพันธ์ุ ดอก เปลย่ี นแปลงไปเปน็ ผล ภายใน ผลมเี มลด็ เม่อื เมล็ดงอก ตน้ ออ่ นทีอ่ ยู่ภายในเมล็ดจะเจรญิ เติบโตเปน็ พืชต้นใหม่ พืชต้น  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๓๐ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กล่มุ งานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ รหสั ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่ ตัวชีว้ ัด ใหมจ่ ะเจรญิ เติบโต ออกดอก เพอ่ื สืบพันธ์ุมีผลต่อไปได้อีก หมุนเวียนต่อเน่ืองเปน็ วฏั จกั ร ชวี ติ ของพืชดอก สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม สาร พนั ธกุ รรม การเปลยี่ นแปลงทางพนั ธุกรรมทม่ี ีผลต่อส่ิงมชี วี ิต ความหลากหลายทางชวี ภาพและววิ ัฒนาการของ สง่ิ มชี ีวิต รวมทงั้ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ รหัส ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ ตวั ชี้วดั 1. เปรยี บเทยี บลกั ษณะของ - ส่งิ ทีอ่ ยูร่ อบตวั เรามีทั้งทเี่ ป็น -สำรวจสง่ิ มชี วี ติ และ ว 1.3 ส่ิงมีชวี ติ และสิ่งไม่มีชวี ิต จาก สง่ิ มชี วี ิตและสิ่งไม่มชี วี ติ สงิ่ ไมม่ ชี ีวติ บรเิ วณชายหาด ป 2/1 ข้อมูลทร่ี วบรวมได้ สิง่ มชี วี ติ ต้องการอาหาร มีการ หายใจ เจรญิ เติบโต ขบั ถ่าย เคลอื่ นไหว ตอบสนองต่อส่ิงเร้า และสืบพันธไ์ุ ดล้ ูกท่ีมีลักษณะ คลา้ ยคลงึ กับพ่อแม่ ส่วน ส่ิงไม่มชี วี ิตจะไมม่ ีลักษณะ ดังกล่าว สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของ สสารกบั โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหวา่ งอนภุ าค หลกั และธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี รหสั ตวั ช้วี ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น ตัวชี้วัด ว 2.1 1. เปรยี บเทียบสมบัตกิ ารดูด - วสั ดแุ ตล่ ะชนดิ มสี มบัตกิ าร - ป 2/1 ซบั น้ำของวสั ดุโดยใช้หลักฐาน ดูดซับน้ำแตกตา่ งกนั จึงนำไป เชงิ ประจกั ษ์ และระบุการนำ ทำวตั ถุเพ่ือใชป้ ระโยชนไ์ ด้ สมบตั กิ ารดดู ซบั น้ำของวสั ดไุ ป แตกต่างกัน เชน่ ใชผ้ ้ำท่ีดูดซับ ประยุกต์ใช้ ในการทำวัตถุใน นำ้ ได้มากทำผ้ำเช็ดตัว ใช้ ชวี ติ ประจำวัน พลาสติก ซ่ึงไมด่ ูดซับน้ำทำรม่  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๓๑ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ รหสั ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน ตวั ชี้วดั ว 2.1 2. อธิบายสมบัติทีส่ งั เกตได้ - วัสดุบางอยา่ งสามาถนำมา - ป 2/2 ของวัสดทุ ีเ่ กดิ จากการนำวสั ดุ ผสมกันซึง่ ทำให้ได้สมบัติที่ มาผสมกัน โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ เหมาะสมเพอื่ นำไปใช้ ประจกั ษ์ ประโยชน์ตามต้องการ เชน่ แป้งผสมนำ้ ตาลและน้ำกะทิ ใช้ ทำขนมไทย ปนู ปลาสเตอร์ ผสมเย่ือกระดาษใชท้ ำกระปกุ ออมสนิ ปนู ผสมหนิ ทราย และน้ำใชท้ ำคอนกรีต ว 2.1 3. เปรยี บเทยี บสมบตั ิที่สงั เกต - การนำวัสดมุ าทำเปน็ วัตถุใน - นำวัสดทุ ่ีพบในท้องถิ่นมา ป 2/3 ไดข้ องวสั ดุ เพ่ือนำมาทำเปน็ การใช้งาน ตามวตั ถุประสงค์ ออกแบบ และสรา้ งชน้ิ งานใหม่ วัตถใุ นการใช้งานตาม วตั ถปุ ระสงค์ และอธิบายการ ขึ้นอยู่กับสมบตั ขิ องวสั ดุ วสั ดุท่ี ทีใ่ ชป้ ระโยชน์ได้ นำวัสดุท่ใี ชแ้ ล้วกลบั มาใช้ใหม่ โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ใช้แล้วอาจนำกลบั มาใช้ใหม่ได้ ว 2.1 4. ตระหนักถงึ ประโยชนข์ อง เชน่ กระดาษใช้แลว้ อาจนำมา ป 2/4 การนำวัสดทุ ีใ่ ชแ้ ล้วกลับมาใช้ ทำเป็นจรวดกระดาษ ดอกไม้ ใหม่ โดยการนำวสั ดทุ ีใ่ ชแ้ ลว้ กลบั มาใชใ้ หม่ ประดิษฐ์ ถงุ ใสข่ อง เป็นต้น สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาติของแรงในชวี ิตประจาวัน ผลของแรงทีก่ ระทำต่อวัตถุ ลักษณะการ เคลอ่ื นท่แี บบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมทง้ั นำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ รหัส ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิน่ ตัวชี้วัด ว 2.2 1. ทดลองและอธิบายแรงท่ี - แมเ่ หล็กมีแรงดงึ ดดู หรือ - ป 2/1 เกิดจากแม่เหลก็ ผลักระหวา่ งแท่งแมเ่ หล็ก รอบแท่งแม่เหล็กมีสนามแม่ เหลก็ และสามารถดงึ ดดู วตั ถุที่ ทำด้วยสารแม่เหล็ก ว 2.2 2. อธิบายการนำแม่เหลก็ มาใช้ - แมเ่ หล็กมปี ระโยชน์ในการ - ป 2/2 ประโยชน์ ทำของเลน่ ของใช้ และนำไป แยกสารแม่เหล็กออกจากวัตถุ อื่นได้  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๓๒ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ รหสั ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่นิ ตัวช้วี ดั - - เมอื่ ถวู ตั ถุบางชนิดแลว้ ว 2.2 3. ทดลองและอธบิ ายแรง นำเข้าใกล้กนั จะดึงดดู หรือ ผลกั กันได้ แรงที่เกิดข้นึ น้ี ป 2/3 ไฟฟ้าท่เี กิดจากการถูวัตถบุ าง เรียกวา่ แรงไฟฟ้า และวตั ถนุ นั้ จะดึงดดู วตั ถุเบา ๆได้ ชนดิ สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้อง กบั เสยี ง แสง และคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟา้ รวมทัง้ นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ รหัส ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น ตวั ช้ีวดั - ว 2.3 1. บรรยายแนวการเคลอื่ นที่ - แสงเคลอื่ นทีจ่ ากแหล่งกำเนิด - ป 2/1 ของแสงจากแหลง่ กำเนิดแสง แสงทกุ ทิศทางเปน็ แนวตรง และอธิบายการมองเห็นวัตถุ เมอ่ื มีแสงจากวัตถุมาเข้าตาจะ จากหลักฐานเชิงประจักษ์ ทำใหม้ องเหน็ วตั ถุน้ัน การ ว 2.3 2. ตระหนักในคุณค่าของ มองเหน็ วัตถุท่เี ป็นแหล่งกำเนิด ป 2/2 ความรูข้ องการมองเหน็ โดย แสง แสงจากวตั ถุนั้นจะเข้าสู่ เสนอแนะแนวทางการป้องกัน ตาโดยตรง สว่ นการมองเหน็ อนั ตราย จากการมองวตั ถทุ ่ีอยู่ วัตถทุ ี่ไม่ใช่แหล่งกำเนิดแสง ในบรเิ วณทีม่ ีแสงสว่าง ไม่ ตอ้ งมีแสงจากแหลง่ กำเนดิ แสง เหมาะสม ไปกระทบวตั ถแุ ล้วสะท้อนเข้า ตา ถ้ามแี สงที่สวา่ ง มาก ๆ เข้า สู่ตาอาจเกดิ อนั ตรายต่อตาได้ จึงตอ้ งหลกี เล่ียงการมองหรือ ใชแ้ ผ่นกรองแสงท่มี ีคณุ ภาพ เมอื่ จำเปน็ และต้องจดั ความ สวา่ งใหเ้ หมาะสมกับ การทำ กจิ กรรมตา่ ง ๆ เช่น การอ่าน หนงั สอื การดจู อโทรทัศน์ การ ใช้โทรศัพทเ์ คลอ่ื นท่ีและแท็บ เลต็  ระดบั ประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๓๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองค์ประกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกดิ และววิ ัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทง้ั ปฏิสัมพนั ธ์ภายในระบบสรุ ยิ ะที่สง่ ผลต่อส่ิงมีชีวิตและการประยกุ ต์ใช้ เทคโนโลยอี วกาศ รหสั ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ตวั ชว้ี ัด - - - - สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณพี ิบตั ภิ ัย กระบวนการเปลย่ี นแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลกรวมทั้งผลต่อ ส่งิ มีชีวติ และสง่ิ แวดล้อม รหัส ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถนิ่ ตัวช้วี ัด ว 2.3 1. ระบสุ ่วนประกอบของดนิ - ดินประกอบด้วยเศษหิน ซาก -สังเกต เปรยี บเทยี บลักษณะ ป 2/1 และจำแนกชนดิ ของดินโดยใช้ พชื ซากสตั วผ์ สมอยู่ในเน้ือดิน ของทรายทะเลกับทรายจาก ลกั ษณะเน้ือดินและการจับตวั มอี ากาศและน้ำแทรกอยูต่ าม แหล่งอนื่ ว 2.3 เปน็ เกณฑ์ ชอ่ งวา่ ง ในเน้อื ดนิ ดินจำแนก -ทดลองปลกู พชื อยา่ งงา่ ยในดิน ป 2/2 2. อธบิ ายการใชป้ ระโยชนจ์ าก เปน็ ดนิ ร่วน ดินเหนยี ว และ ทราย ดนิ จากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้ ดนิ ทราย ตามลักษณะเน้อื ดิน -ดนิ ในทอ้ งถ่นิ และการนำไปใช้ และการจับตัวของดนิ ซ่ึงมีผล ประโยชน์ ต่อการอุ้มน้ำท่แี ตกต่างกนั - ดนิ แต่ละชนิดนำไปใช้ ประโยชน์ได้แตกต่างกนั ตาม ลักษณะและสมบัตขิ องดิน  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๓๔ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ชวี ิต สังคม และส่ิงแวดล้อม รหสั ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถิน่ ตวั ชว้ี ดั - - - - สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ รู้เท่าทนั และมีจรยิ ธรรม รหัส ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิน่ ตัวชีว้ ดั ว 4.2 1. แสดงลำดบั ขน้ั ตอนการ - การแสดงข้ันตอนการ - ป 2/1 ทำงาน หรอื การแก้ปญั หา แกป้ ัญหาทำได้โดยการเขยี น อย่างงา่ ยโดยใช้ภาพ บอกเลา่ วาดภาพ หรือใช้ สัญลกั ษณ์ หรือข้อความ สญั ลกั ษณ์ ปัญหาอย่างง่าย เชน่ เกมตวั ตอ่ 6-12 ชน้ิ การ แตง่ ตัวมาโรงเรียน ว 4.2 ๒. เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย - ตัวอยา่ งโปรแกรม เช่น เขยี น ป 2/2 โดยใช้ซอฟต์แวรห์ รือส่อื และ โปรแกรมส่ังให้ ตวั ละครทำงาน ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของ ตามทตี่ ้องการ และตรวจสอบ โปรแกรม ข้อผิดพลาด ปรบั แก้ไขให้ไดผ้ ล ลัพธ์ตามที่กำหนด - การตรวจหาข้อผดิ พลาดทำ ได้โดยตรวจสอบคำส่ังที่แจ้ง ข้อผิดพลาด หรือหากผลลัพธ์ ไมเ่ ปน็ ไปตามท่ตี อ้ งการให้ ตรวจสอบการทำงานทลี ะคำส่ัง ซอฟต์แวร์ หรอื สอ่ื ท่ีใชใ้ นการ เขยี นโปรแกรม เช่น ใช้บตั ร คำสง่ั แสดงการเขียนโปรแกรม, Code.org  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๓๕ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระการเรียนรู้ท้องถนิ่ รหัส ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตัวช้วี ดั 3. ใช้เทคโนโลยใี นการสร้าง ว 4.2 จดั หมวดหมู่ ค้นหา จัดเกบ็ - การใช้งานซอฟต์แวร์ ป 2/3 เรยี กใช้ข้อมลู ตามวตั ถปุ ระสงค์ เบื้องต้น เช่น การเข้าและออก จากโปรแกรม การสรา้ งไฟล์ ว 4.2 4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดเก็บ การเรยี กใช้ไฟล์ กร ป 2/4 อย่างปลอดภัย ปฏบิ ตั ิตาม แก้ไขตกแตง่ เอกสาร ทำได้ ใน ขอ้ ตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ โปรแกรม เชน่ โปรแกรม ร่วมกนั ดูแลรกั ษาอุปกรณ์ ประมวลคำ โปรแกรมกราฟิก เบ้อื งต้น ใช้งานอยา่ งเหมาะสม โปรแกรมนำเสนอ - การสรา้ ง คดั ลอก ยา้ ย ลบ เปลี่ยนชอ่ื จดั หมวดหม่ไู ฟล์ และโฟลเดอร์อยา่ งเป็นระบบ จะทำให้เรยี กใช้ คน้ หำข้อมลู ได้ งา่ ยและรวดเร็ว - การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ อยา่ งปลอดภยั เชน่ รู้จักข้อมูล ส่วนตวั อันตรายจากการ เผยแพรข่ ้อมลู ส่วนตวั และไม่ บอกขอ้ มูลส่วนตวั กบั บุคคลอ่ืน ยกเว้นผู้ปกครอง หรอื ครู แจ้ง ผู้เกยี่ วข้องเมอื่ ต้องการ ความ ช่วยเหลอื เก่ียวกบั การใช้งาน - ข้อปฏิบัติในการใชง้ านและ การดแู ลรักษาอุปกรณ์ เช่น ไม่ ขีดเขยี นบนอปุ กรณ์ ทำความ สะอาด ใช้อุปกรณ์อย่างถกู วธิ ี - การใชง้ านอย่างเหมาะสม เช่น จดั ท่านง่ั ให้ถกู ตอ้ ง การ พกั สายตาเม่ือใชอ้ ุปกรณ์เป็น เวลานาน ระมัดระวงั อุบตั เิ หตุ จากการใชง้ าน  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๓๖ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ตัวชี้วัดและสาระการเรยี นร้แู กนกลาง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับ สิ่งมีชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ เปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม แนวทางในการอนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปญั หาส่ิงแวดล้อมรวมทั้งนำความรู้ไป ใชป้ ระโยชน์ รหัส ตัวช้วี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ ตวั ช้วี ดั -- - - สาระที่ 1 วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารผ่านเซลล์ ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้าง และหนา้ ท่ขี องระบบต่าง ๆ ของสตั วแ์ ละมนษุ ย์ที่ทำงานสัมพนั ธ์กัน ความสัมพันธ์ ของโครงสรา้ ง และหน้าทีข่ องอวยั วะต่าง ๆ ของพชื ที่ทางานสมั พนั ธก์ ันรวมทัง้ นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ รหัส ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถนิ่ ตวั ชวี้ ัด ว 1.2 1. บรรยายสิ่งที่จำเป็นต่อการ -มนุษย์และสตั วต์ ้องการอาหาร -ศกึ ษา ชวี ติ ของหอยเสยี บ ป 3/1 ดำรงชวี ติ และการเจรญิ เตบิ โต นำ้ และอากาศ เพอ่ื การ บรเิ วณชายหาดหน้าโรงเรียน ของมนษุ ย์และสัตว์ โดยใช้ ดำรงชวี ิตและการเจรญิ เติบโต ข้อมูลท่ีรวบรวมได้ ว 1.2 2. ตระหนักถงึ ประโยชนข์ อง - อาหารช่วยให้ร่างกาย - ป 3/2 อาหาร น้ำ และอากาศ โดย แขง็ แรงและเจริญเติบโต น้ำ การดแู ลตนเองและสัตว์ให้ ชว่ ยให้ร่างกายทำงานได้อย่าง ได้รับ สง่ิ เหล่าน้ีอย่างเหมาะสม ปกติ อากาศใช้ ในการหายใจ ว 1.2 3. สรา้ งแบบจำลองที่ -สัตว์เมอ่ื เปน็ ตวั เต็มวยั จะ - ป 3/3 บรรยายวฏั จกั รชีวติ ของสัตว์ สบื พันธ์มุ ลี กู เมื่อลกู และเปรยี บเทียบวฏั จักรชีวติ เจริญเติบโตเปน็ ตัวเต็มวยั ก็ ของสัตว์ บางชนิด สบื พนั ธุม์ ีลูกตอ่ ไปไดอ้ ีก ว 1.2 4. ตระหนกั ถึงคุณค่าของชวี ติ หมนุ เวยี นต่อเนอ่ื งเป็นวฏั จกั ร - ป 3/4 สตั ว์ โดยไมท่ ำให้วฏั จักรชวี ติ ชีวิตของสัตว์ ซ่งึ สัตว์ แตล่ ะ ชนดิ เชน่ ผเี ส้ือ กบ ไก่ มนุษย์ ของสตั วเ์ ปลี่ยนแปลง จะมวี ัฏจกั รชีวิตท่เี ฉพาะ และ แตกต่างกัน  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๓๗ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลุม่ งานบริหารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พนั ธกุ รรม การเปลีย่ นแปลงทางพันธกุ รรมที่มผี ลต่อส่ิงมชี ีวิต ความหลากหลายทางชวี ภาพและวิวฒั นาการของ สิง่ มชี วี ิต รวมทัง้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ รหัส ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ ตัวช้ีวดั - - - - สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพันธร์ ะหว่างสมบตั ขิ องสสาร กับโครงสร้างและแรงยึดเหนีย่ วระหว่างอนภุ าค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การ เกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี รหัส ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถนิ่ ตวั ช้ีวัด - - วัตถอุ าจทำจากชิ้นสว่ นย่อย ว 2.1 1. อธิบายวา่ วัตถปุ ระกอบขน้ึ ๆ ซง่ึ แตล่ ะชน้ิ มลี ักษณะ - เหมอื นกนั มาประกอบเขา้ ป 3/1 จากชน้ิ ส่วนยอ่ ย ๆ ซึง่ สามารถ ดว้ ยกัน เมอื่ แยกช้ินส่วนย่อย ๆ แต่ละช้นิ ของวัตถุออกจากกนั แยกออกจากกนั ได้และ สามารถนำชน้ิ ส่วนเหล่านัน้ มา ประกอบเปน็ วตั ถชุ ้ินใหม่ได้ ประกอบกนั เป็นวัตถุชนิ้ ใหม่ได้ เชน่ กำแพงบา้ นมกี ้อนอิฐ หลาย ๆ กอ้ น ประกอบเขา้ โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ ด้วยกนั และสามารถนำก้อน อิฐจากำแพงบ้านมาประกอบ ว 2.1 2. อธิบายการเปลี่ยนแปลง เป็นพ้ืนทางเดนิ ได้ ป 3/2 ของวสั ดุเมื่อทำให้รอ้ นข้นึ หรือ - เม่อื ให้ความร้อนหรือทำให้ วสั ดุรอ้ นขึ้น และเมื่อ ลดความ ทำให้เย็นลง โดยใชห้ ลกั ฐาน รอ้ นหรือทำให้วสั ดุเยน็ ลง วัสดุ เชงิ ประจักษ์ จะเกดิ การเปลย่ี นแปลงได้ เช่น สีเปลี่ยน รูปรา่ งเปลีย่ น  ระดับประถมศึกษา

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๓๘ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทาต่อวัตถุ ลักษณะการ เคลือ่ นทแี่ บบตา่ ง ๆ ของวตั ถุ รวมทง้ั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ รหัส ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถน่ิ ตัวชวี้ ัด - ว 2.2 1.ระบุผลของแรงทมี่ ีต่อการ - การดึง หรือการผลัก เปน็ การ - ป 3/1 เปลยี่ นแปลง การเคล่ือนทีข่ อง ออกแรงกระทำตอ่ วัตถุ แรงมี - วัตถจุ ากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ ผลตอ่ การเคล่ือนที่ของวตั ถุ แรงอาจทำให้วตั ถเุ กิดการ เคลอ่ื นท่ีโดยเปล่ียนตำแหน่ง จากท่หี นงึ่ ไปยังอีกที่หน่ึง - - การเปลย่ี นแปลงการเคล่อื นท่ี ของวัตถุ ไดแ้ ก่ วัตถุท่ีอยนู่ ่งิ เปลย่ี นเปน็ เคลอื่ นท่ี วตั ถุท่ี กำลังเคลื่อนท่ีเปลยี่ นเปน็ เคลอ่ื นท่ีเร็วขนึ้ หรือชำ้ ลงหรอื หยดุ นิง่ หรอื เปลี่ยนทิศทางการ เคลื่อนท่ี ว 2.2 2.เปรียบเทียบและยกตวั อยา่ ง การดึงหรอื การผลักเป็นการ ป 3/2 แรงสมั ผสั และแรงไมส่ มั ผสั ท่ีมี ออกแรงทีเ่ กิดจากวัตถุหน่ึง ผลตอ่ การเคล่ือนที่ของวัตถุ กระทำกับอีกวตั ถุหนงึ่ โดยวัตถุ โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ ท้งั สองอาจสัมผัสหรอื ไมต่ ้อง สมั ผสั กนั เชน่ การออกแรงโดย ใชม้ อื ดงึ หรือการผลกั โต๊ะให้ เคลื่อนที่เป็นการออกแรงที่วตั ถุ ต้องสมั ผสั กัน แรงนจี้ ึงเป็นแรง สมั ผัส ส่วนการทแี่ มเ่ หล็กดงึ ดูด หรอื ผลกั ระหวา่ งแม่เหลก็ เปน็ แรงท่เี กดิ ขึ้นโดยแมเ่ หลก็ ไม่ จำเป็นตอ้ งสมั ผัสกัน แรง แม่เหลก็ นี้จึงเปน็ แรงไมส่ ัมผัส ว 2.2 3. จำแนกวัตถุโดยใชก้ ารดงึ ดูด - แม่เหลก็ สามารถดึงดดู สาร ป 3/3 กบั แมเ่ หลก็ เป็นเกณฑจ์ าก แม่เหล็กได้ หลักฐานเชิงประจักษ์ - แรงแมเ่ หล็กเปน็ แรงท่ี เกดิ ข้ึนระหว่างแมเ่ หล็ก กบั  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๓๙ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ รหัส ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ ตัวชวี้ ดั - สารแม่เหลก็ หรือแมเ่ หล็กกบั ว 2.2 4. ระบขุ ั้วแม่เหลก็ และ แมเ่ หล็ก แมเ่ หล็ก มี 2 ข้วั คอื ขวั้ เหนือและข้ัวใต้ ขว้ั แมเ่ หล็ก ป 3/4 พยากรณผ์ ลทเ่ี กดิ ข้นึ ระหวา่ ง ชนดิ เดียวกันจะผลักกัน ตา่ ง ชนิดกันจะดึงดูดกนั ขว้ั แมเ่ หลก็ เม่ือนำมาเขา้ ใกล้ กนั จากหลักฐานเชิงประจกั ษ์ สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปลยี่ นแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสสารและพลังงาน พลังงานในชีวติ ประจำวนั ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกีย่ วข้อง กบั เสยี ง แสง และคลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟ้า รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ รหัส ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถน่ิ ตัวช้ีวัด ว 2.3 1. ยกตัวอย่างการเปล่ียน - พลงั งานเปน็ ปริมาณทแ่ี สดง - ป 3/1 พลังงานหน่ึงไปเปน็ อีกพลงั งาน ถึงความสามารถ ในการทำงาน หนึ่งจากหลกั ฐานเชิงประจักษ์ พลงั งานมีหลายแบบ เชน่ พลังงานกล พลังงานไฟฟ้า พลังงานแสง พลังงานเสยี ง และพลงั งานความร้อน โดย พลังงานสามารถเปลี่ยนจาก พลงั งานหน่งึ ไปเป็นอีกพลงั งาน หน่ึงได้ เชน่ การถมู ือจนรู้สึก รอ้ น เป็นการเปล่ียนพลังงาน กลเปน็ พลังงานความร้อน แผง เซลล์สุริยะเปลย่ี นพลงั งานแสง เปน็ พลงั งานไฟฟา้ หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้าเปลย่ี นพลังงาน ไฟฟา้ เป็นพลังงานอืน่ ว 2.3 2. บรรยายการทำงานของ - ไฟฟา้ ผลิตจากเครื่องกำเนดิ - ป 3/2 เครื่องกำเนิดไฟฟ้าและระบุ ไฟฟา้ ซึง่ ใช้พลังงานจากแหลง่ แหลง่ พลังงานในการผลติ ไฟฟ้า พลงั งานธรรมชาตหิ ลายแหล่ง จากข้อมูลที่รวบรวมได้ เช่น พลังงานจากลม พลังงาน จากน้ำ พลังงานจากแกส๊ ธรรมชาติ  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๔๐ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ รหสั ตัวชี้วดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถิน่ ตัวช้วี ัด - - พลังงานไฟฟา้ มีความสำคัญ ว 2.3 3. ตระหนักในประโยชนแ์ ละ ต่อชีวติ ประจำวนั การใช้ไฟฟ้า นอกจากตอ้ งใชอ้ ยา่ งถูกวธิ ี ป 3/3 โทษของไฟฟา้ โดยนำเสนอ ประหยดั และคุ้มคา่ แลว้ ยัง ต้องคำนึงถงึ ความปลอดภยั วิธกี ารใช้ไฟฟ้าอยา่ งประหยดั ดว้ ย และปลอดภยั สาระที่ 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกดิ และววิ ฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตและการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอวกาศ รหสั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่ิน ตวั ชวี้ ัด - - คนบนโลกมองเหน็ ดวงอาทิตย์ - ว 3.1 1. อธิบายแบบรูปเส้นทางการ ปรากฏขน้ึ ทางด้านหน่ึงและตก ทางอีกดา้ นหนง่ึ ทุกวนั - ป 3/1 ข้ึนและตก ของดวงอาทิตย์โดย หมุนเวยี นเปน็ แบบรูปซำ้ ๆ - โลกกลมและหมนุ รอบตัวเอง ใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ขณะโคจรรอบดวงอาทติ ย์ ทำให้ บรเิ วณของโลกไดร้ ับแสงอาทิตย์ ว 3.1 2. อธบิ ายสาเหตุการเกิด ไมพ่ ร้อมกัน โลกดา้ นที่ได้รับแสง จากดวงอาทติ ย์จะเปน็ กลางวัน ป 3/2 ปรากฏการณ์การขึน้ และตก ส่วนดา้ นตรงข้ามท่ีไม่ไดร้ ับแสง จะเป็นกลางคืน นอกจากน้ีคน ของดวงอาทิตย์ การเกดิ บนโลกจะมองเห็นดวงอาทิตย์ ปรากฏข้นึ ทางด้านหน่ึงซง่ึ กลางวันกลางคนื และการ กำหนดให้เปน็ ทิศตะวนั ออก และมองเหน็ ดวงอาทิตย์ตกทาง กำหนดทศิ โดยใช้แบบจำลอง อีกด้านหน่งึ ซ่ึงกำหนดใหเ้ ปน็ ทศิ ตะวันตก และเมือ่ ใหด้ ้าน ว 3.1 3.ตระหนกั ถึงความสำคัญของ ขวามืออยู่ทางทศิ ตะวันออก ป 3/3 ดวงอาทิตย์ โดยบรรยาย ด้านซา้ ยมืออยู่ทางทิศตะวนั ตก ประโยชนข์ องดวงอาทติ ย์ต่อ สง่ิ มีชีวิต  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖๓ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๔๑ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ รหัส ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถิน่ ตัวชวี้ ัด ด้านหน้าจะเปน็ ทิศเหนอื และ ดา้ นหลังจะเป็นทิศใต้ - ในเวลากลางวนั โลกจะไดร้ บั พลงั งานแสงและพลังงานความ ร้อนจากดวงอาทติ ย์ ทำให้ สงิ่ มีชวี ติ ดำรงชีวิตอยู่ได้ สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณพี ิบัตภิ ัย กระบวนการเปลยี่ นแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลกรวมทั้งผลต่อ สิ่งมชี วี ิตและสงิ่ แวดล้อม รหสั ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิน่ ตวั ช้ีวัด 1. ระบสุ ่วนประกอบของ - ว 3.2 อากาศ บรรยายความสำคญั - อากาศโดยทั่วไปไม่มีสี ไม่มี ป 3/1 ของอากาศ และผลกระทบของ กลน่ิ ประกอบด้วย แก๊ส -ระบุปัญหามลพษิ ทางอากาศใน มลพษิ ทางอากาศตอ่ สิ่งมีชีวติ ไนโตรเจน แก๊สออกซิเจน แก๊ส ชุมชน และเสนอแนวทางแก้ไข ว 3.2 จากข้อมลู ท่รี วบรวมได้ คาร์บอนไดออกไซด์ แก๊สอ่นื ๆ ปัญหา ป 3/2 2. ตระหนกั ถึงความสำคัญของ รวมทัง้ ไอนำ้ และ ฝนุ่ ละออง อากาศ โดยนำเสนอแนว อากาศมคี วามสำคญั ต่อ - ระบทุ ิศทางลมในเวลาตา่ ง ๆ ว 3.2 ทางการปฏบิ ัติตนในการลด สง่ิ มชี วี ติ หากสว่ นประกอบของ ริมทะเลได้(เช้า กลางวนั ก่อน ป 3/3 การเกดิ มลพิษทางอากาศ อากาศไมเ่ หมาะสม เนือ่ งจากมี เลิกเรยี น) แก๊สบางชนิดหรอื ฝนุ่ ละอองใน 3. อธบิ ายการเกดิ ลมจาก ปริมาณมาก อาจเปน็ อนั ตราย หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ต่อส่งิ มชี ีวติ ชนดิ ต่าง ๆ จัดเป็น มลพิษ ทางอากาศ - แนวทางการปฏบิ ตั ิตนเพื่อลด การปล่อยมลพิษทางอากาศ เช่น ใช้พาหนะร่วมกัน หรอื เลือกใชเ้ ทคโนโลยีที่ลดมลพษิ ทางอากาศ - ลม คืออากาศท่เี คล่ือนที่ เกิด จากความแตกตา่ งกนั ของ อุณหภมู ิอากาศบรเิ วณท่ีอยู่ใกล้  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๔๒ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ รหัส ตัวชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ ตวั ชี้วดั - กัน โดยอากาศบรเิ วณที่มี อณุ หภูมสิ ูงจะลอยตวั สงู ขึ้น และอากาศบรเิ วณที่มีอณุ หภูมิ ตำ่ กวา่ จะเคลือ่ นเข้าไปแทนที่ ว 3.2 4.บรรยายประโยชน์และโทษ -ลมสามารถนำมาใชเ้ ปน็ แหลง่ ป 3/4 ของลม จากข้อมูลทีร่ วบรวมได้ พลังงานทดแทน ในการผลติ ไฟฟ้า และนำไปใช้ประโยชน์ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดารงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ชีวิต สงั คม และส่งิ แวดล้อม รหัส ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน ตวั ชว้ี ัด -- - - สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม รหัส ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถ่ิน ตัวช้ีวัด - ว 3.2 1. แสดงอลั กอริทึมในการ - อลั กอรทิ ึมเปน็ ขั้นตอนท่ีใช้ใน ป 3/1 ทำงาน หรอื การแกป้ ญั หา การแก้ปัญหา อยา่ งง่ายโดยใชภ้ าพ สัญลกั ษณ์ - การแสดงอลั กอรทิ ึมทำไดโ้ ดย หรอื ขอ้ ความ การเขยี น บอกเล่า วาดภาพ หรอื ใช้สญั ลักษณ์ - ตวั อย่างปญั หา เช่น เกม เศรษฐี เกมบันไดงู เกม Tetris เกม OX การเดินไปโรงอาหาร การทำความสะอาดห้องเรยี น  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๔๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถนิ่ - รหัส ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตวั ชี้วดั - - การเขียนโปรแกรมเป็นการ ว 3.2 2. เขียนโปรแกรมอย่างง่าย สรา้ งลำดับของคำสง่ั ให้ คอมพิวเตอร์ทำงาน ป 3/2 โดยใช้ซอฟตแ์ วร์หรือส่ือ และ - ตัวอยา่ งโปรแกรม เชน่ เขียน โปรแกรมที่ส่ังให้ ตัวละคร ตรวจหำข้อผิดพลาดของ ทำงานซ้ำไมส่ ิ้นสุด - การตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดทำได้ โปรแกรม โดยตรวจสอบคำสัง่ ที่แจ้ง ขอ้ ผิดพลาด หรอื หากผลลพั ธ์ไม่ ว 3.2 3.ใช้อนิ เทอรเ์ นต็ คน้ หาความรู้ เป็นไปตามท่ตี อ้ งการให้ ป 3/3 ตรวจสอบการทำงำนทีละคำสั่ง - ซอฟต์แวร์หรือส่ือที่ใช้ในการ เขียนโปรแกรม เช่น ใช้บัตร คำส่ังแสดงการเขยี นโปรแกรม, Code.org - อินเทอรเ์ น็ตเป็นเครือข่าย ขนาดใหญช่ ว่ ยให้ การ ตดิ ตอ่ สอ่ื สารทำไดส้ ะดวกและ รวดเรว็ และ เปน็ แหล่งข้อมลู ความรูท้ ี่ช่วยในการเรียน และ การดำเนนิ ชวี ิต - เว็บเบราวเ์ ซอรเ์ ป็นโปรแกรม สำหรบั อา่ นเอกสารบนเว็บเพจ - การสืบค้นขอ้ มลู บน อินเทอร์เน็ตทำไดโ้ ดยใชเ้ ว็บไซต์ สำหรบั สบื ค้น และต้องกำหนด คำค้นที่เหมาะสมจงึ จะได้ข้อมูล ตามต้องการ – ข้อมูลความรู้ เช่น วธิ ที ำอาหาร วธิ ีพับ กระดาษ เป็นรูปต่าง ๆ ข้อมลู ประวตั ิศาสตรช์ าติไทย (อาจ เป็นความร้ใู นวชิ าอื่น ๆ หรอื เร่อื งทเ่ี ปน็ ประเด็นทสี่ นใจ ในช่วงเวลานน้ั )  ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กล่มุ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห น้ า | ๔๔ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถนิ่ - รหสั ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตัวช้วี ัด - - การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ อยา่ ง ว 3.2 4. รวบรวม ประมวลผล และ ปลอดภยั ควรอย่ใู นการดแู ลของ ป 3/4 นำเสนอข้อมูล โดยใช้ ครู หรอื ผู้ปกครอง ซอฟตแ์ วรต์ ามวัตถปุ ระสงค์ - การรวบรวมข้อมลู ทำไดโ้ ดย กำหนดหวั ข้อท่ีตอ้ งการ เตรียม ว 3.2 5. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ อุปกรณ์ในการจดบนั ทึก ป 3/5 อยา่ งปลอดภยั ปฏิบัตติ าม - การประมวลผลอย่างง่าย เช่น เปรียบเทยี บ จดั กล่มุ ข้อตกลงในการใช้อินเทอรเ์ น็ต เรยี งลำดับ - การนำเสนอข้อมลู ทำได้หลาย ลักษณะตาม ความเหมาะสม เช่น การบอกเลา่ การทำ เอกสารรายงาน การจัดทำป้าย ประกาศ - การใช้ซอฟตแ์ วรท์ ำงานตาม วัตถปุ ระสงค์ เชน่ ใชซ้ อฟตแ์ วร์ นำเสนอหรอื ซอฟต์แวรก์ รำฟิก สร้างแผนภมู ิรูปภาพ ใช้ ซอฟตแ์ วร์ประมวลคำ ทำป้าย ประกาศ หรอื เอกสารรายงาน ใชซ้ อฟต์แวรต์ ารางทำงานใน การประมวลผลข้อมลู - การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ อยา่ งปลอดภยั เช่น ปกปอ้ ง ข้อมลู ส่วนตวั - ขอความช่วยเหลอื จากครู หรอื ผปู้ กครองเมื่อเกิดปญั หา จากการใชง้ าน เมอ่ื พบข้อมูล หรือบคุ คลที่ทำให้ไมส่ บายใจ - การปฏิบัติตามข้อตกลงในการ ใช้อินเทอร์เนต็ จะทำให้ไมเ่ กิด ความเสียหายตอ่ ตนเองและ ผู้อน่ื เช่น ไมใ่ ชค้ ำหยาบ  ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๔๕ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ รหสั ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตัวช้ีวัด ล้อเลียน ดำ่ ทอ ทำใหผ้ ู้อ่นื เสยี หาย หรือเสียใจ  ระดับประถมศกึ ษา

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห น้ า | ๔๖ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ตัวชีว้ ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4 สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับ สิ่งมีชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ เปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแกไ้ ขปญั หาส่ิงแวดล้อมรวมทั้งนำความรู้ไป ใช้ประโยชน์ รหสั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน ตวั ชวี้ ดั -- - - สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารผ่านเซลล์ ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้าง และหนา้ ท่ีของระบบต่าง ๆ ของสตั วแ์ ละมนษุ ย์ท่ที ำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ ของโครงสรา้ ง และหนา้ ท่ีของอวยั วะตา่ ง ๆ ของพืชทที่ ำงานสัมพนั ธ์กนั รวมทงั้ นำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ รหสั ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถนิ่ ตัวชว้ี ัด ว 1.2 ป 1. บรรยายหน้าทข่ี องราก ลำ - สว่ นตา่ ง ๆ ของพชื ดอกทำ - ศึกษา โครงสรา้ งของพืชท่ี 4/1 ต้น ใบ และดอกของพืชดอก หน้าที่แตกต่างกัน พบในบริเวณชายหาด หนา้ โดยใช้ขอ้ มลู ที่รวบรวมได้ - รากทำหน้าทีด่ ูดนำ้ และแร่ โรงเรียน เช่น ผกั บงุ้ ทะเล ตน้ ธาตขุ ึน้ ไปยงั ลำต้น สน เปน็ ตน้ - ลำต้นทำหนา้ ท่ีลำเลียงน้ำ ต่อไปยังสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื - ใบทำหนา้ ท่สี รา้ งอาหาร อาหารที่พืชสรา้ งข้นึ คือนำ้ ตาล ซงึ่ จะเปล่ียนเปน็ แป้ง - ดอกทำหนา้ ท่สี บื พันธุ์ ประกอบดว้ ยส่วนประกอบต่าง ๆ ไดแ้ ก่ กลบี เลย้ี ง กลีบดอก เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมีย ซงึ่ ส่วนประกอบแต่ละสว่ นของ ดอก ทำหน้าที่แตกต่างกนั  ระดับประถมศึกษา