Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชาการจัดการต้นทุนโลจิสติกส์_

วิชาการจัดการต้นทุนโลจิสติกส์_

Published by กรรณิการ์ ผิวสะอาด, 2019-11-28 05:55:09

Description: วิชาการจัดการต้นทุนโลจิสติกส์_

Search

Read the Text Version

บทที่ 1 ต้นทุนโลจิสติกส์เป็ นปัจจัยหลักสำคญั ที่แฝงอยู่ในทุกกิจกรรมทำง ธุรกิจและอุตสำหกรรม เช่น กำรจดั ซ้ือ กำรจดั กำรคลงั สินคำ้ กำรจดั เก็บ กำร ขนยำ้ ย กำรขนส่ง และกำรกระจำยสินคำ้ ดงั น้นั กำรเพิ่มประสิทธิภำพและลด ตน้ ทุนกำรผลิต โดยเฉพำะกำรลดตน้ ทุนทำงดำ้ นโลจิสติกส์จึงตอ้ งอำศยั กำร กำหนดกลยุทธ์ และเทคนิคในกำรจดั กำรกระบวนกำรจดั กำรโลจิสติกส์ ซ่ึง ตอ้ งอำศยั ควำมร่วมมือของทุกฝ่ ำยภำยในองคก์ รเพ่ือใหก้ ำรดำเนินกำรเป็นไป ในทิศทำงเดียวกนั ท้งั น้ีองคก์ รจำเป็ นตอ้ งมีบุคลำกรที่มีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำควำมรู้สู่กำรปฏิบตั ิเพ่ือลดตน้ ทุนท่ีไม่ก่อให้เกิดมูลค่ำเพิ่ม โดยไม่ ลดคุณภำพของสินคำ้ และบริกำรลง เพ่ือเป็ นกำรสร้ำงควำมไดเ้ ปรียบในกำร แขง่ ขนั และเพิม่ ผลกำไรใหก้ บั องคก์ รอยำ่ งชดั เจน

ความหมายและวตั ถุประสงคก์ ารบญั ชตี น้ ทนุ  เพ่ือใหท้ ราบถึงตน้ ทุนการดาเนินงาน ตลอดจนตน้ ทนุ ขาย ประจางวด ซงึ่ จะนาไปหกั ออก จากรายไดใ้ นงบกาไรขาดทุน เพื่อจะชว่ ยใหผ้ บู้ รหิ ารไดท้ ราบผลการดาเนินงานของ กิจการวา่ มีผลกาไรหรอื ขาดทุนมากนอ้ ยเพียงใด  เพื่อใชใ้ นการตรี าคาสนิ คา้ คงคลงั ในธุรกิจอตุ สาหกรรมและผูใ้ ชบ้ รกิ ารโลจสิ ติกส์ สนิ คา้ คงคลงั ทป่ี รากฎในงบดุล ประกอบดว้ ย วตั ถุดบิ สนิ คา้ ระหวา่ งผลติ สนิ คา้ สาเรจ็ รูป  เพื่อใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั การตดั สนิ ใจวางแผนและควบคมุ เพื่อใหผ้ ูบ้ รหิ ารสามารถดาเนิน ธุรกิจไปอยา่ งมีแบบแผนและบรรลุเป้ าหมายตามความเป้ าหมายตามตอ้ งการของธุรกิจ ในทส่ี ุด  เพื่อใชเ้ ป็นเครอื่ งมือในการวเิ คราะหป์ ัญหาเพ่ือการตดั สนิ ใจ

ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งการบญั ชกี ารเงินและการบญั ชตี น้ ทุน มี 2 ลกั ษณะ 1. การคานวณตน้ ทนุ ขาย การจดั ทางบการเงิน เพ่ือเสนอตอ่ บุคคลภายนอก ถือเป็นหนา้ ทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบประการสาคญั ของ การบญั ชกี ารเงินในกรณีทกี่ ิจการ เป็นธุรกิจซ้อื ขายสนิ คา้ ทวั่ ไป 2. การแสดงสนิ คา้ คงคลงั จะแสดงในงบแสดงฐานะทางการเงิน ตอ้ ง แสดงรายละเอยี ดใหม้ ีความถูกตอ้ งเทย่ี งธรรมและเชอ่ื ถือไดม้ ากทสี่ ุด

การบญั ชบี รหิ ารในโลจสิ ตกิ ส์  การรบั รูแ้ ละประเมินภาวการณข์ องการดาเนินธุรกิจและภาวการณท์ างเศรษฐกิจอน่ื ๆ เพื่อนามากาหนดวธิ ีการปฏิบตั ทิ างบญั ชที เ่ี หมาะสม  การวดั และประมาณภาวการณใ์ นการดาเนินธุรกิจและภาวการณท์ างเศรษฐกิจอน่ื ๆ ทงั้ ทเ่ี กิดข้นึ แลว้ และยงั ไมเ่ กิดข้ึน  การกาหนดวธิ ีการในการจดบนั ทึกและเก็บสะสมรวบรวมขอ้ มูลในการดาเนินธุรกิจและ ภาวการณท์ างเศรษฐกิจอนื่ ๆ เพื่อประโยชนใ์ นการตดั สนิ ใจเชงิ การบรหิ าร  การวเิ คราหแ์ ละการกาหนดวธิ กี ารวเิ คราะหข์ อ้ มูลทเ่ี หมาะสมกบั การตดั สนิ ใจ  การตีความและการเสนอขอ้ มูล  การตดิ ตอ่ สอื่ สาร การรายงานภายในตอ่ ฝ่ ายบรหิ าร และการรายงานภายนอกตอ่ บุคคล ทว่ั ไป

การจาแนกประเภทตน้ ทุน  จาแนกตามส่วนประกอบของสินคา้  จาแนกตามความสัมพนั ธท์ มี่ ีตอ่ การผลิต  จาแนกตามความสัมพนั ธก์ ับปริมาณกิจกรรม  จาแนกตามแผนกทต่ี น้ ทนุ เกดิ ขนึ้  จาแนกตามงวดบญั ชี  จาแนกตามความประสงคใ์ นการควบคมุ ต้นทนุ  จาแนกตามความประสงคใ์ นการวางแผน และการตดั สินใจ

การจาแนกประเภทต้นทุนตามส่วนประกอบของสนิ ค้า วตั ถุดบิ ค่าแรงงาน (Material) (Labor) คา่ ใช้จา่ ยการผลิต (Factory Overhead)

วัตถุดบิ (Material) วัตถดุ บิ ทางตรง วัตถดุ บิ ทางอ้อม (Direct material) (Indirect material)  สง่ิ ของทใ่ี ชใ้ นการผลติ สนิ คา้ • สิง่ ของทีใ่ ชใ้ นการผลิต • จานวนนอ้ ย มีมูลค่านอ้ ย โดยตรง • แปรสภาพ/ไม่แปรสภาพ  แปรสภาพเขา้ ไปอยใู่ นสนิ คา้ เขา้ ไปอยู่ในสินคา้ ที่ผลิต ทผ่ี ลติ  คานวณปริมาณและตน้ ทนุ วัตถุดบิ ทใี่ ช้ในการผลติ ตอ่ หนึ่งหน่วยไดโ้ ดยงา่ ย

ปัจจยั ทใี่ ช้ในการพจิ ารณา  ตอ้ งเป็ นส่วนประกอบทส่ี าคัญ ของสินค้าทที่ าการผลิต  สามารถคานวณปริมาณและต้นทนุ ในการผลติ ต่อหนึ่งหน่วยได้โดยงา่ ย

ค่าแรงงาน (Labor) คา่ แรงงานทางตรง คา่ แรงงานทางอ้อม (Direct Labor) (Indirect Labor) • ค่าแรงงานของคนงานทท่ี า • ค่าแรงงานของคนงาน การแปรสภาพ / ประกอบ ทม่ี ไิ ดท้ าการผลิตสินคา้ วัตถุดบิ ใหเ้ ป็ นสนิ คา้ โดยตรง

ปัจจัยสาคญั ทใี่ ช้ในการพจิ ารณาคา่ แรงงาน  ต้องเป็ นแรงงานทใี่ ช้ในการผลติ สนิ ค้าโดยตรง  สามารถคานวณจานวนช่ัวโมงและตน้ ทุนค่าแรง ในการผลติ สนิ ค้าหน่ึงหน่วยไดโ้ ดยง่าย

ค่าใช้จ่ายการผลติ (Factory overhead) ค่าใช้จ่ายใด ๆ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในการผลติ สินค้า นอกเหนือจากวตั ถุดบิ ทางตรงและค่าแรงงานทางตรง วตั ถุดบิ ทางอ้อม ค่าแรงงานทางอ้อม ค่าใช้จ่ายการผลติ อ่ืน ๆ

การจาแนกประเภทต้นทนุ ตามความสัมพนั ธท์ ม่ี ตี อ่ การผลติ ตน้ ทุนขัน้ ตน้ คอื ตน้ ทุนรวมของวตั ถุดบิ ทางตรงและคา่ แรงงานทางตรง ตน้ ทุนแปรสภาพ คือ ต้นทนุ รวมของค่าแรงงานทางตรง และค่าใช้จ่ายการผลติ ซง่ึ เป็ นตน้ ทุนในการแปรสภาพ วัตถุดบิ ใหเ้ ป็ นสนิ ค้าสาเร็จรูป

ความสัมพนั ธข์ อง ตน้ ทนุ การผลิต ต้นทุนการผลติ ต้นทุนข้นั ต้น ต้นทุนแปรสภาพ วตั ถุดบิ คา่ แรงงาน ค่าใช้จา่ ย ทางตรง ทางตรง การผลิต

การจาแนกประเภทต้นทนุ ตามความสัมพนั ธ์ กบั ปริมาณกิจกรรม ต้นทุนผนั แปร (Variable Cost) ต้นทุนคงท่ี (Fixed Cost) ต้นทุนกง่ึ ผนั แปร (Semivariable Cost)

ตน้ ทุนคงท่ี ตน้ ทนุ ผันแปร ต้นทุนผสม ตน้ ทนุ ขัน้ กจิ กรรม

ต้นทนุ ผันแปร ผนั แปรเป็นอตั ราสว่ นโดยตรง กบั ปรมิ าณกิจกรรม ตน้ ทนุ ตอ่ หนว่ ยจะคงท่ี ทราบไดง้ า่ ยวา่ เป็นตน้ ทนุ ของแผนกใด การควบคมุ ตน้ ทนุ เป็นความรบั ผิดชอบ ของหวั หนา้ แผนกท่ีก่อใหเ้ กิดตน้ ทนุ

ตน้ ทุนคงท่ี คงที่ ณ ระดบั ปริมาณกจิ กรรมทก่ี าหนดไว้ ต้นทุนตอ่ หน่วยเปลย่ี นแปลงไปตามปริมาณ กจิ กรรมทก่ี าหนดไว้ แบ่งตน้ ทุนใหแ้ ต่ละแผนกโดยใช้หลักเกณฑ/์ การตัดสนิ ใจของฝ่ ายจดั การ การควบคุมตน้ ทุนเป็ นความรับผดิ ชอบของฝ่ ายจดั การ

ต้นทุนผสม ตน้ ทุนก่ึงผนั แปร ต้นทุนผันแปร ตน้ ทุนคงท่ี ตน้ ทุนขั้นกจิ กรรม/ ตน้ ทนุ จะคงท่ีระดบั ต้นทุนกงึ่ คงท่ี ปรมิ าณกิจกรรมหน่งึ ตน้ ทนุ จะเปล่ียนเม่ือ ระดบั ปรมิ าณกิจกรรม เปล่ียนไป

การจาแนกประเภทตน้ ทนุ ตามแผนกทต่ี น้ ทนุ เกดิ ขึน้ แผนกผลิต (Production Department) แผนกท่ีทำกำรแปรสภำพวตั ถุดิบใหเ้ ป็นสินคำ้ สำเร็จรูป แผนกบริกำร (Service Department) แผนกท่ีไม่เกี่ยวขอ้ งกบั กำรผลิตโดยตรง

การจาแนกประเภทตน้ ทนุ ตามงวดบญั ชี ต้นทุนสินค้า ต้นทุนประจางวด (Product Cost) (Period Cost) ตน้ ทุนท่ีเกิดจำกกำรผลิตสินคำ้ โดยตรง ตน้ ทุนที่ไม่เกี่ยวขอ้ งกบั กำรผลิต วตั ถุดิบ ค่ำใชจ้ ่ำยในกำรบริหำร ค่ำแรงงำน ค่ำใชจ้ ่ำยในกำรขำย คำ่ ใชจ้ ่ำยกำรผลิต

การจาแนกประเภทตน้ ทนุ ตามความประสงค์ ในการควบคุมตน้ ทนุ ต้นทนุ ตน้ ทุน โดยประมาณ มาตรฐาน Estimated Standard Cost Cost

การจาแนกประเภทตน้ ทนุ ตามความประสงค์ ในการควบคุมตน้ ทุน ตน้ ทนุ ตน้ ทุนที่ ต้นทนุ ส่วน เสียโอกาส หลีกเลี่ยงได้ แตกตา่ ง Opportunity Avoidable Differential Cost Cost Cost

ระบบบัญชตี น้ ทุน ปัจจยั การจดั สายงานของกจิ การ ทใ่ี ช้ ลักษณะของการผลติ พจิ ารณา ในการวาง ลักษณะของข้อมูลตน้ ทุนทตี่ อ้ งการ ระบบบญั ชี ต้นทนุ

การสะสมตน้ ทุน เทคโนโลยใี นรูปของสนิ ทรพั ย์ เพ่ือใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพการทางานทส่ี งู ข้นึ สว่ นหน่ึง การกาหนด ระบบบญั ชตี น้ ทนุ เพื่อใชใ้ นกิจการใดกิจการหนึ่งก็จะตอ้ งคานึงถึงความพรอ้ มความเหมาะสมและ ความตอ้ งการขอ้ มูล ทจ่ี ะใชป้ ระโยชนใ์ นการบรหิ ารกิจการดว้ ยเหตุน้ีระบบบญั ชตี น้ ทุนทจี่ ะนามาใช้ ควรมคี วามแตกตา่ งกนั ออกไปตามประเดน็ เหลา่ น้ี  ระบบการสะสมตน้ ทนุ  ระบบดาเนินงานบรกิ าร  ระบบของตน้ ทนุ  ระบบการคดิ ตน้ ทนุ ของผลติ ภณั ฑ์

ระบบการสะสมตน้ ทนุ  ระบบการสะสมตน้ ทนุ แบบส้นิ งวด  ระบบการสะสมตน้ ทุนแบบตอ่ เนื่อง

ระบบดาเนินงานบรกิ าร  ระบบตน้ ทุนงานสงั่ ทา  ระบบตน้ ทนุ ชว่ งการดาเนินงานบรกิ าร  ชนิดของตน้ ทุน  ระบบการคดิ ตน้ ทนุ ผลติ ภณั ฑ์

พ้ืนฐานการคานวณตน้ ทนุ ดา้ นโลจสิ ติกส์  การคานวณตน้ ทุนแบบดง้ั เดมิ  การคานวณตน้ ทนุ ฐานกจิ กรรม

ขอบเขตโลจิสติกส์ ในองค์กร ปัจจุบนั ประเทศไทยเป็ นผูส้ ่งออกน้ำตำลทรำยรำยใหญ่เป็ นอนั ดบั ตน้ ๆ ของโลก โดยมี บรำซิลและออสเตรเลียเป็นคู่แข่งสำคญั ท้งั น้ีเนื่องจำกท้งั สองประเทศมีระดบั เทคโนโลยกี ำรผลิต และควำมกำ้ วหนำ้ ในดำ้ นกำรวิจยั และกำรพฒั นำดำ้ นออ้ ยและน้ำตำลทรำยอยู่ในระดบั สูงมำก เม่ือเปรียบเทียบกบั ประเทศไทยและประเทศคู่แข่งอ่ืนๆ ขณะที่ประเทศผูส้ ่งออกน้ำตำลทรำย รำยใหญ่อีกหลำยประเทศ เช่น กลุ่มประเทศสหภำพยุโรป ต่ำงไดร้ ับกำรสนบั สนุนกำรส่งออก จำกรัฐบำล จนสำมำรถส่งน้ำตำลทรำยออกขำยในตลำดโลกไดใ้ นรำคำต่ำ ทำให้อุตสำหกรรม ออ้ ยและน้ำตำลทรำยของไทยที่เคยมีควำมไดเ้ ปรียบในดำ้ นตน้ ทุนกำรผลิตที่ต่ำกวำ่ กำลงั สูญเสีย ควำมไดเ้ ปรียบในกำรแข่งขนั ในตลำดโลกไปทุกขณะอยำ่ งต่อเน่ือง ดงั น้นั เพื่อให้อุตสำหกรรม ออ้ ยและน้ำตำลทรำยของไทยสำมำรถยืนหยดั และแข่งขนั ในตลำดโลกได้ จึงจำเป็นตอ้ งมุ่งเนน้ กำรพฒั นำตลอดกระบวนกำร ท้งั ทำงดำ้ นออ้ ยและน้ำตำลทรำย ท้งั น้ีกระบวนกำรพฒั นำระบบโล จิสติกส์สำหรับอุตสำหกรรมออ้ ยและน้ำตำลทรำย ก็เป็ นส่วนสำคญั ย่ิงส่วนหน่ึงที่จำเป็ นตอ้ ง ได้รับกำรพัฒนำอย่ำงเร่งด่วน เพื่อให้มีกำรวำงกลยุทธ์กำรดำเนินงำน และกำรควบคุม กระบวนกำร กำรขนส่งอย่ำงมีประสิทธิภำพ ดว้ ยตน้ ทุนท่ีประหยดั และกำรป้องกนั กำรขำด วตั ถุดิบระหว่ำง กำรผลิต โดยคำนึงถึงประสิทธิภำพดำ้ นกำรจดั กำรทุกดำ้ นระหว่ำงกำรจดั คิว ออ้ ยเขำ้ โรงงำน ตลอดจนกระบวนกำรจดั กำรสินคำ้ ระหวำ่ งกำรผลิต

หลกั ปฏิบตั ิในกำรลดตน้ ทุนโลจิสติกส์ คุณอนงค์ ไพจิตรประภำภรณ์ ผอู้ ำนวยกำรสำนกั โลจิสติกส์ กรมอุตสำหกรรมพ้ืนฐำนและกำร เหมืองแร่ 1กระทรวงอุตสำหกรรม เปิ ดเผยถึงบทบำทดำ้ นโลจิสติกส์ของกระทรวงอุตสำหกรรม ภำยใตก้ รอบยทุ ธศำสตร์กำรพฒั นำระบบโลจิสติกส์แห่งชำติ จะมีกำรดำเนินกำรเพ่ิม ประสิทธิภำพกำรจดั กำรโลจิสติกส์และโซ่อุปทำนของภำคกำรผลิต ภำยใตก้ รอบดำเนินงำน 4 ดำ้ น คือ 1. Supply Chain Optimization กำรเช่ือมโยงระหวำ่ งองคก์ รตลอดโซ่อุปทำน ซ่ึงเนน้ เรื่องของ กำรสร้ำงมำตรำฐำนสินคำ้ ส่งออกโดยเฉพำะอำหำร 2. Internal Process Improvement กำรพฒั นำประสิทธิภำพโลจิสติกส์ภำยในองคก์ ร เป็นเร่ือง ของหลกั กำรปฏิบตั ิและโลจิสติกส์คลีนิค ใหค้ ำแนะนำและใหค้ วำมรู้ควำมเขำ้ ใจโลจิสติกส์ใน องคก์ ร 3. Logistics Capacity Building กำรพฒั นำขีดควำมสำมำถดำ้ นโลจิสติกส์ เปิ ดกำรอบรมดำ้ นโลจิ สติกส์ และ 4. Industrial Trade Facilitation กำรสร้ำงปัจจยั เอ้ือเพ่ือสนบั สนุนกำรประกอบกำรของ ภำคอุตสำหกรรม ซ่ึงเนน้ ในส่วนนิคมอุตสำหกรรมวำ่ ควรมีหลกั ปฏิบตั ิอยำ่ งไรบำ้ ง

กรอบดำเนินงำน 4 ดำ้ น คือ 1. Supply Chain Optimization กำรเชื่อมโยงระหวำ่ งองคก์ รตลอดโซ่อุปทำน ซ่ึงเนน้ เรื่องของกำรสร้ำงมำตรำฐำนสินคำ้ ส่งออกโดยเฉพำะอำหำร 2. Internal Process Improvement กำรพฒั นำประสิทธิภำพโลจิสติกส์ภำยใน องคก์ ร เป็นเรื่องของหลกั กำรปฏิบตั ิและโลจิสติกส์คลีนิค ใหค้ ำแนะนำและให้ ควำมรู้ควำมเขำ้ ใจโลจิสติกส์ในองคก์ ร 3. Logistics Capacity Building กำรพฒั นำขีดควำมสำมำถดำ้ นโลจิสติกส์ เปิ ด กำรอบรมดำ้ นโลจิสติกส์ และ 4. Industrial Trade Facilitation กำรสร้ำงปัจจยั เอ้ือเพือ่ สนบั สนุนกำร ประกอบกำรของภำคอุตสำหกรรม ซ่ึงเนน้ ในส่วนนิคมอุตสำหกรรมวำ่ ควรมี หลกั ปฏิบตั ิอยำ่ งไรบำ้ ง



การนาการวเิ คราะห์ต้นทุนกจิ กรรมมาให้ในการลดต้นทุนโลจสิ ตกิ ส์ คำวำ่ \"โลจิสติกส์\" คือ กิจกรรมกำรเกบ็ รักษำสินคำ้ คงคลงั และกำรเคลื่อนยำ้ ยสินคำ้ คงคลงั นิยำมน้ีช้ีใหเ้ ห็นวำ่ กำรลดตน้ ทุนโลจิสติกส์ตอ้ งเนน้ ไปท่ีงำนหลกั สองอยำ่ ง คือ กำรจดั เกบ็ สินคำ้ คงคลงั และกำรเคล่ือนยำ้ ยสินคำ้ จำกท่ีหน่ึงไปอีกที่หน่ึง กำรลดตน้ ทุน คือกำรหำมำตรกำรท่ีจะทำใหก้ ำรปฏิบตั ิกิจกรรมน้นั ๆ มีประสิทธิภำพ สูงสุด วธิ ีหน่ึงที่ทำได้ คือ กำรยดึ หลกั แนวคิดสำคญั สองประกำร คือ 1)กิจกรรมท่ีทำ ตอ้ งมีค่ำใชจ้ ่ำยนอ้ ยที่สุดเท่ำที่จะทำไดแ้ มใ้ นรำยละเอียดปลีกยอ่ ย 2)หำกปริมำณ สินคำ้ ลดลงกิจกรรม ที่เก่ียวขอ้ งกบั กำรจดั เกบ็ และเคลื่อนยำ้ ยสินคำ้ จะลดลง รวมถึง ค่ำใชจ้ ่ำย จะลดลงดว้ ย กำรลดปริมำณสินคำ้ คงคลงั จะทำใหต้ น้ ทุนโลจิสติกส์ลดลง หำกองคก์ รมีสินคำ้ คง คลงั ในปริมำณที่เกินควำมตอ้ งกำรของตลำดอยหู่ รือ จดั เกบ็ วตั ถุดิบมำกเกินควำม ตอ้ งกำรผลิต ในขณะน้นั นอกจำกจะเปลืองพ้นื ที่ในกำรจดั เกบ็ ยงั ก่อใหเ้ กิดตน้ ทุนจม (sunk cost) จำกมูลคำ่ ของตวั สินคำ้ ท่ีขำยไม่ได้ รวมท้งั ปริมำณสินคำ้ คงคลงั ที่มำก เกินไปทำใหเ้ กิด ค่ำใชจ้ ่ำยจำนวนมำกท่ีไม่ก่อใหเ้ กิดรำยไดจ้ ดั เป็นควำมสิ้นเปลืองที่ ตอ้ งกำจดั ออกไป

ปัจจุบนั ต้นทุนโลจิสตกิ ส์เป็ นปัจจัยหลกั ทส่ี าคญั ซึ่งได้แฝงอยู่ทุกกจิ กรรมในการ ดาเนินงานทางธุรกจิ และอุตสาหกรรม อาทิ การจดั ซื้อ การจดั การคงคลงั การขน และ การกระจายส่งสินค้า เป็ นต้น เพ่ือให้การบริหารจัดการงานโลจิสตกิ ส์เป็ นไปอย่างมี ประสิทธิภาพน้ัน ผู้ประกอบ การควรจาเป็ นทจี่ ะต้องมีความรู้ความสามารถนา ความรู้การบริหารจดั การ การคานวณต้นทุนด้านโลจสิ ติกส์ ไปเป็ นแนวทางและ ประยุกต์ใช้กบั การดาเนินธุรกจิ ของตนเองเพื่อปรับปรุงและ พฒั นาประสิทธิภาพ เพม่ิ ขดี ความสามารถในการแข่งขันในมูลค่าสินค้าและบริการของตนและเพมิ่ ความ สามารถในการลดต้นทุนโลจสิ ตกิ ส์ภายในองค์กรได้ซ่ึงเป็ นการเพม่ิ กาไรให้กบั ธุรกจิ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขนั และเพม่ิ ผลกาไรสูงสุดแก่องค์กร

ปัจจยั ท่ีควรคำนงึ ถงึ ในกำรคำนวณตน้ ทุนโลจสิ ตกิ สก์ จิ กรร ระบบตน้ ทุนฐำนกิจกรรม (Activity-Based Costing) หรือระบบ ABC เป็นเคร่ืองมือในกำรบริหำรงำนในลกั ษณะกำรบริหำรงำนฐำนคุณค่ำ (Value- Based Management) ซ่ึงเชื่อมโยงกำรบริหำรระดบั องคก์ รลงสู่ระบบกำร ปฏิบตั ิงำนประจำวนั โดยพิจำรณำหนำ้ ที่ควำมรับผดิ ชอบของแต่ละหน่วยงำน ตลอดท้งั กิจกำร (Cross-Functional) ในลกั ษณะท่ีมองกิจกรรมต่ำง ๆ ของ องคก์ รเป็นภำพรวม (Integrated View) จุดประสงคส์ ำคญั ของ ABC คือกำร ให้ขอ้ มูลท่ีเป็ นประโยชน์ต่อผูบ้ ริหำรในกำรเขำ้ ใจพฤติกรรมตน้ ทุน (Cost Behavior) ท้งั หมดท่ีเกิดข้ึนภำยในองคก์ ร ทำให้ทรำบวำ่ อะไรเป็นปัจจยั ท่ีทำ ให้ตน้ ทุนกิจกรรมต่ำง ๆ เพ่ิมข้ึนหรือลดลง โดยกำรระบุกิจกรรมขององคก์ ร ตน้ ทุนกิจกรรม และตวั ผลกั ดนั ตน้ ทุน (Cost Driver) อนั จะเป็นประโยชน์ต่อ กำรคำนวณตน้ ทุนกำรผลิตหรือบริกำรและใช้เป็ นแนวทำงในกำร พฒั นำ ประสิทธิภำพทำงดำ้ นตน้ ทุนและกำรพฒั นำกิจกรรมต่ำง ๆ อยำ่ งต่อเนื่อง เพ่ือ ลดควำมสูญเปล่ำหรือกิจกรรมท่ีไม่เพ่ิมค่ำ ท้งั น้ีข้นั ตอนกำรคำนวณตน้ ทุน กิจกรรม ABC

ข้นั ตอนในกำรคำนวณตน้ ทุนโลจิระบบตน้ ทุนฐำนกิจกรรมABC (Activity-Based Costing) หรือระบบ ABC เป็นเครื่องมือในกำรบริหำรงำน ในลกั ษณะกำรบริหำรงำนฐำนคุณค่ำ (Value-Based Management) ซ่ึงเช่ือมโยงกำร บริหำรระดบั องคก์ รลงสู่ระบบกำรปฏิบตั ิงำนประจำวนั โดยพิจำรณำหนำ้ ที่ควำม รับผิดชอบของแต่ละหน่วยงำนตลอดท้งั กิจกำร (Cross-Functional) ในลกั ษณะที่ มองกิจกรรมต่ำง ๆ ขององคก์ รเป็นภำพรวม (Integrated View) จุดประสงคส์ ำคญั ของ ABC คือกำรให้ขอ้ มูลท่ีเป็ นประโยชน์ต่อผูบ้ ริหำรในกำรเขำ้ ใจพฤติกรรม ตน้ ทุน (Cost Behavior) ท้งั หมดท่ีเกิดข้ึนภำยในองคก์ ร ทำใหท้ รำบวำ่ อะไรเป็ น ปัจจยั ที่ทำให้ตน้ ทุนกิจกรรมต่ำง ๆ เพ่ิมข้ึนหรือลดลง โดยกำรระบกุ ิจกรรมของ องคก์ ร ตน้ ทุนกิจกรรม และตวั ผลกั ดนั ตน้ ทุน (Cost Driver) อนั จะเป็นประโยชน์ ต่อกำรคำนวณต้นทุนกำรผลิตหรือบริกำรและใช้เป็ นแนวทำงในกำร พฒั นำ ประสิทธิภำพทำงดำ้ นตน้ ทุนและกำรพฒั นำกิจกรรมต่ำง ๆ อยำ่ งต่อเนื่อง เพื่อลด ควำมสูญเปล่ำหรือกิจกรรมท่ีไม่เพิ่มค่ำ ท้งั น้ีข้นั ตอนกำรคำนวณตน้ ทุนกิจกรรม ABC แบ่งเป็น 6 ข้นั ตอน ดงั น้ี สติกส์กิจกรรม(ABC)

1) การกาหนดกิจกรรม ในสถานปฏิบตั งิ านเป้ าหมาย ซงึ่ ตอ้ งพิจารณาในรายละเอยี ดใหค้ รบถว้ น 2) คานวณหาตน้ ทุนของปัจจยั หรือทรพั ยากร (Input) ท่ีใชใ้ นกิจกรรมโลจิสติกสท์ ง้ั หมด โดยใช้ เอกสารทางบญั ชตี า่ ง ๆ คานวณแยกตามแตล่ ะปัจจยั เพื่อหาตน้ ทุนวา่ แตล่ ะสว่ นมีคา่ ใชจ้ า่ ยเทา่ ใด ทง้ั น้ีขอ้ มูลเหลา่ น้ี จะตอ้ งปรากฎในเอกสารจงึ ควรขอความรว่ มมือจากแผนกบญั ชี และแผนกอน่ื ๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ งในการเก็บขอ้ มูล 3) นาตน้ ทุนของทรพั ยากรท่ีใชใ้ นแต่ละดา้ นท่ีคานวณไดใ้ นขน้ั ตอนที่ 2 มากระจายตามแต่ละกิจกรรมตาม จานวนครง้ั ทป่ี ฏิบตั งิ านจรงิ โดยไมม่ ขี อ้ กาหนดตายตวั วา่ ควรกระจายตน้ ทุนทรพั ยากรไปในกิจกรรมใด เป็ นจานวน เทา่ ใด จาแนกเป็ นกิจกรรมย่อยหรือมองเป็ นกิจกรรมใหญ่ และจะตอ้ งมีความเหมาะสมตามสภาพการณจ์ ริงของ องคก์ ร เมอ่ื เสร็จส้นิ ขนั้ ตอนน้ี ผวู้ เิ คราะหก์ ็จะไดข้ อ้ มูลตน้ ทนุ ของกิจกรรมทงั้ หมด 4) การนาขอ้ มูลทไี่ ดม้ าคานวณตน้ ทุนรายกิจกรรม 5) เก็บรวบรวมขอ้ มูล ปริมาณงานของแตล่ ะกิจกรรม ซง่ึ หมายถึงจานวนครง้ั ของการปฏิบตั ิกิจกรรมนนั้ ๆ สิ่งทีค่ วรสงั เกตคอื หน่วยของแตล่ ะกิจกรรมที่จะแตกตา่ งกนั โดยปกตหิ น่วยงานทม่ี ีการบนั ทึกขอ้ มูลในลกั ษณะน้ีมี นอ้ ยมาก ส่วนใหญ่ผูว้ ิเคราะหจ์ ะตอ้ งเขา้ ไปเก็บขอ้ มูลปริมาณการปฏิบตั ิงานจริงในสถาน ปฏิบัติงาน ซึ่งแมจ้ ะ คอ่ นขา้ งลาบากแต่ผลท่ีไดน้ บั วา่ คุม้ ค่าเพราะทาใหไ้ ดข้ อ้ มูลที่จา เป็ นต่อการวเิ คราะห์ เพื่อนามาสู่การจดั การโลจิ สติกสท์ ม่ี ีประสทิ ธิภาพ โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ การปรบั ปรุงระบบการควบคุมและจดั การการกระจายสินคา้ ใหก้ า้ ว หนา้ พรอ้ มกบั มปี ระสทิ ธภิ าพทส่ี งู ข้ึน 6) คานวณตน้ ทุนต่อหน่วยของกิจกรรม โดยนาตน้ ทุนรวมของแต่ละกิจกรรมมาหารดว้ ย ปริมาณการ ปฏิบตั งิ าน

ขน้ั ตอนท่ี 1 การกาหนดกิจกรรรม

ขน้ั ตอนท่ี 2 การศกึ ษาตน้ ทุนของทรพั ยากรทใ่ี ช้ การประมาณ หมำยถึง กำรวิเครำะห์ กำรให้ควำมเห็น กำรพยำกรณ์ หรื อกำรคำดหมำยล่วงหน้ำ ดังน้ันกำร ประมำณตน้ ทุนจึงเป็ นกำรวิเครำะห์ หรือกำรให้ควำมเห็น เก่ียวกบั ค่ำใชจ้ ่ำยที่คำดวำ่ จะเกิดข้ึนในกระบวนกำรทำงำน หรือกระบวนกำรผลิต ซ่ึงอำจเป็ นกำรทำผลิตภณั ฑ์ กำร จดั ทำโครงกำร หรือกำรผลิตงำนบริกำร



ตน้ ทุน (Cost) หมายถึง มูลคา่ ของทรพั ยากรทส่ี ูญเสยี ไปเพ่ือใหไ้ ดส้ นิ คา้ หรือบริการ โดยมูลค่าน้ันจะตอ้ งสามารถวดั ไดเ้ ป็ นหน่วยเงินตรา ซ่ึงเป็ น ลกั ษณะของการลดลงในสินทรพั ยห์ รือเพ่ิมข้ึนในหน้ีสิน ตน้ ทุนที่เกิดข้ึนอาจจะ ใหป้ ระโยชนใ์ นปัจจบุ นั หรอื ในอนาคตก็ได้ เมื่อตน้ ทุนใดทเ่ี กิดข้ึนแลว้ และกิจการ ได้ใช้ประโยชน์ไปทั้งส้ินแล้ว ต้นทุนน้ันก็ จะถือเป็ น “ค่าใช้จ่าย” (Expenses) ดงั นน้ั คา่ ใชจ้ า่ ยจงึ หมายถึงตน้ ทุนท่ไี ดใ้ หป้ ระโยชนแ์ ละ กิจการไดใ้ ชป้ ระโยชน์ทง้ั หมดไปแลว้ ในขณะนนั้ และสาหรบั ตน้ ทุนที่กิจการ สูญเสียไป แต่จะให้ประโยชน์แก่กิจการในอนาคตเรียกว่า “สินทรัพย์ (Assets)

ม่ือมีกำรมอบหมำยงำนเพ่มิ หรือมีกำรโยกยำ้ ยงำนจำกหน่วยงำนหน่ึงไปยงั อีกหน่วยงำน หน่ึง หน่วยงำนที่ไดร้ ับเงินเพมิ่ มกั จะขอคนเพม่ิ เสมอ แต่...หน่วยงำนที่เอำงำนออกไปมกั จะไม่ได้ ลดคนตำมไปดว้ ย บำงคร้ังงำนๆเดียว ถูกยำ้ ยไป 3-4 หน่วยงำน อตั รำกำลงั คนรวมขององคก์ ร เพิ่มข้ึน 3-4 คน ปริมำณงำนหรือควำมรับผดิ ชอบโดยรวมขององคก์ รยงั มีอยเู่ ท่ำเดิม ปัญหำกำรเพิ่ม กำลงั คนจะค่อยๆก่อตวั สะสมมำกข้ึนไปเรื่อยๆ พอถึงระดบั หน่ึงผบู้ ริหำรรู้สึกวำ่ จำนวนพนกั งำน มำกเกินไปแลว้ แต่บอกไม่ไดห้ รอกครับวำ่ มำกตรงไหน มำกเพรำะอะไร ผบู้ ริหำรกม็ กั จะ มอบหมำยใหฝ้ ่ ำยบริหำรทรัพยำกรมนุษยไ์ ปศึกษำดูวำ่ ทำไมหน่วยงำนน้นั จึงใชค้ นมำก และใหไ้ ป ศึกษำดูวำ่ จริงๆแลว้ หน่วยงำนน้นั ๆควรจะใชค้ นเท่ำไหร่จึงจะเหมำะสม ปัญหำที่ตำมมำของฝ่ำย บริหำรทรัพยำกรมนุษยค์ ือ ไม่รู้วำ่ จะเขำ้ ไปวเิ ครำะห์ไดอ้ ยำ่ งไร จะเริ่มตน้ ตรงไหน จะวเิ ครำะห์ อะไรบำ้ ง ถำ้ องคก์ รขำดกำรวเิ ครำะห์กำลงั คนท่ีมีประสิทธิภำพแลว้ ปัญหำที่เกิดข้ึนไม่เพยี งแต่ จำนวนกำลงั คนจะเพม่ิ ข้ึนอยำ่ งไม่เหมำะสมกบั ปริมำณงำนแลว้ ยงั มีปัญหำต่ำงๆติดตำมมำอีก มำกมำย เช่น ขำดประสิทธิภำพในกำรจดั โครงสร้ำงองคก์ ร ตน้ ทุนกำรบริหำรจดั กำรสูงเกินควำม เป็นจริง เส่ียงต่อกำรเกิดปัญหำทุจริตคอรัปชนั่ สูง ใชค้ นผดิ ประเภท ใชท้ รัพยำกรไม่คุม้ ค่ำ ดงั น้นั เพ่อื ใหอ้ งคก์ รต่ำงๆมีแนวทำงในกำรวเิ ครำะห์งำนอยำ่ งมีประสิทธิภำพ จึงขอนำเสนอวธิ ีกำร วเิ ครำะห์งำน 10 ข้นั ตอน

ในการผลิตผลิตภณั ฑข์ องกิจการอุตสาหกรรมบางประเภท จะไดผ้ ลิตภณั ฑ์หลาย ชนิดออกมาพรอ้ มกนั จากขบวนการผลิตหนึ่ง กิจการอาจปรบั ปรุงวธิ ีการผลิต ใหไ้ ดผ้ ลิตภณั ฑ์แต่ละชนิดจานวนแตกต่างกนั แต่ไม่สามารถผลิตผลิตภณั ฑ์ หน่ึงผลิตภณั ฑใ์ ดเพียงชนิดเดียวออกมาโดยไม่มีผลิตภณั ฑอ์ ่ืน ๆ ออกมาดว้ ย ได้ เช่น อุตสาหกรรมนา้ มนั การกลนั่ นา้ มนั ดิบย่อมจะไดน้ า้ มนั ชนิดต่าง ๆ ออกมาพรอ้ มกนั การจดั ผลิตภณั ฑ์ท่ีไดเ้ หล่านนั้ วา่ เป็ นผลิตภณั ฑร์ ่วม หรือ ผลิตภณั ฑพ์ ลอยได้ จะข้ึนอยู่กบั ความสาคญั ของผลิตภณั ฑแ์ ต่ละชนิด กิจการ อนื่ ๆ ทม่ี ีลกั ษณะเดยี วกบั กิจการอุตสาหกรรมนา้ มนั ไดแ้ ก่ อุตสาหกรรมการ สขี า้ ว อุตสาหกรรมป่ าไม้ อุตสาหกรรมเคมี และอุตสาหกรรมชาแหละเน้ือสตั ว์ เป็นตน้ นทุนตอ่ หน่วย

บทที่ 3 การวางแผนการคานสว(ABC) การบัญชีตน้ ทุนฐานกิจกรรม (Activity based costing : ABC) เป็นแนวคดิ ของระบบการบรหิ ารตน้ ทนุ แบบใหม่ ซ่ึงมีจุดมุ่งหมายใหผ้ ูบ้ ริหารหนั มาใหค้ วามสนใจกบั การบริหารกิจกรรมและ ตน้ ทุนทเี่ ก่ียวขอ้ ง ดงั นน้ั จงึ มีการบริหารโดยแบ่งออกเป็ นกิจกรรมต่าง ๆ และ ถือวา่ กิจกรรมเป็ นส่ิงทที่ าใหเ้ กิดตน้ ทุน สว่ นผลิตภณั ฑน์ น้ั เป็ นสง่ิ ทีใ่ ชก้ ิจกรรม ต่าง ๆ อีกทีหนึ่ง กิจกรรม คือ การกระทาท่ีเปล่ียนทรพั ยากรของกิจการ ออกมาเป็ นผลผลิตได้ ดงั นน้ั การบญั ชีตน้ ทุนกิจกรรมนอกจากเน้นการระบุ กิจกรรมของกิจการแลว้ ยงั พยายามระบุตน้ ทุนของกิจกรรม เพื่อใชใ้ นการ คานวณตน้ ทุนผลิตภณั ฑ์ และเพื่อเป็ นแนวทางในการพฒั นาประสิทธิภาพใน การดาเนินงาน

การวางแผนการกาหนด กจิ กรรม กำรวำงแผนกำรสอนเป็นกำรจดั วำงโปรแกรมกำรสอนท้งั หมดใน วิชำใดวิชำหน่ึงไว้ล่วงหน้ำ เพื่อช่วยให้ครู ผู้สอนได้จัดดำเนิน กระบวนกำรเรียนกำรสอนใหเ้ ป็นไปตำมจุดมุง่ หมำยของหลกั สูตรที่วำง ไว้ ดงั น้ันในแผนกำรสอนจะตอ้ งประกอบไปดว้ ยรำยละเอียดตำมท่ี หลักสูตรกำหนดไว้ เช่น มีจุดประสงค์ควำมคิดรวบยอด/หลักกำร เน้ือหำ กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน ส่ือกำรเรียนกำรสอน กำรวดั ผล/ ประเมินผล และจำนวนคำบเวลำที่ใชส้ อน ทุกส่ิงทุกอยำ่ งจะตอ้ งจดั รวม ไวอ้ ยำ่ งมีระบบระเบียบในแผนกำรสอน

กำรเกบ็ ขอ้ ูลและคำนวณตน้ ทุนแต่ละกจิ กรร กำรกำหนดกลุ่ ตน้ ทุนในรปู ของกจิ กรร และใชต้ วั ผลกั ดนั กิจกรร ที่ะ สทอ้ นถงึ ควำ สั พนั ธ์ระหว่ำงกจิ กรร ต่ำงๆ ท่ีก่อใหเ้ กดิ ค่ำใชจ้ ำ่ ยกำรผลติ กบั ตวั ผลติ ภณั ฑ์ นอกจำกจะช่วยใหก้ ำรคิดตน้ ทุนผลติ ภณั ฑ์ ีควำ ถูกตอ้ งใกลเ้ คยี ง กบั ควำ เป็ นจรงิ ำกข้นึ แลว้ ยงั ใหข้ อ้ ูลท่ีเป็ นประโยชนแ์ กผ้ ูบ้ รหิ ำรในกำร ตดั สนิ ใจเกย่ี วกบั เรอ่ื งต่ำง ๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง ำกยง่ิ ข้นึ ไ ่ว่ำจะเป็ นกำรตดั สนิ ใจ เกย่ี วกบั กำรตง้ั รำคำผลติ ภณั ฑ์ กำรแนะนำผลติ ภณั ฑใ์ ห ่ กำรยกเลกิ ผลติ ภณั ฑ์ กำรกำหนดปริ ำณกำรผลติ กำรจดั จำหน่ำยและกำรตลำด วิธีกำรเพ่ิ ประสทิ ธิภำพในกำรดำเนนิ งำน กำรตดั ทอนกจิ กรร บำงประเภทที่ ีตน้ ทุนสงู และทดแทนดว้ ยกจิ กรร ที่ ีตน้ ทุนตำ่ กว่ำ กำรปรบั เปลยี่ นกระบวนกำรทำง ธุรกจิ ให ่เพอ่ื ลดควำ สญู เปล่ำหรอื กจิ กรร ท่ีไ ่เพิ่ ค่ำใหเ้ หลอื นอ้ ยที่สดุ หรอื ห ดไป ตลอดจนกำรออกแบบผลติ ภณั ฑใ์ ห ่เพอ่ื ลดกจิ กรร บำงประเภทลง

การกาหนดกลุ่มตน้ ทุนในรูปของกิจกรรม และใชต้ วั ผลกั ดนั กิจกรรมที่ะสทอ้ นถึง ความสมั พนั ธ์ระหว่างกิจกรรมต่างๆ ท่ีก่อใหเ้ กิดค่าใชจ้ ่ายการผลิตกบั ตวั ผลิตภณั ฑ์ นอกจากจะชว่ ยใหก้ ารคิดตน้ ทุนผลิตภณั ฑม์ ีความถูกตอ้ งใกลเ้ คียงกบั ความเป็ นจริงมาก ข้ึนแลว้ ยงั ใหข้ อ้ มูลท่ีเป็ นประโยชน์แกผ้ ูบ้ ริหารในการตดั สินใจเกี่ยวกบั เร่ืองต่าง ๆ ได้ ถูกตอ้ งมากย่ิงข้ึน ไม่วา่ จะเป็ นการตดั สินใจเก่ียวกบั การตงั้ ราคาผลิตภณั ฑ์ การแนะนา ผลิตภณั ฑใ์ หม่ การยกเลิกผลิตภณั ฑ์ การกาหนดปริมาณการผลิต การจดั จาหน่ายและ การตลาด วธิ ีการเพิ่มประสทิ ธิภาพในการดาเนินงาน การตดั ทอนกิจกรรมบางประเภทท่ี มีตน้ ทุนสูงและทดแทนดว้ ยกิจกรรมท่ีมีตน้ ทุนตา่ กวา่ การปรบั เปลี่ยนกระบวนการทาง ธุรกิจใหม่เพื่อลดความสูญเปล่าหรือกิจกรรมท่ีไม่เพ่ิมคา่ ใหเ้ หลือนอ้ ยที่สุด หรือหมดไป ตลอดจนการออกแบบผลติ ภณั ฑใ์ หมเ่ พื่อลดกิจกรรมบางประเภทลง

เวลาท่ีใช้ในการปฏบิ ตั ิงานของพนักงาน กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน หมายถงึ กฎหมายทบี่ ญั ญตั ถิ งึ สิทธิและ หน้าทรี่ ะหว่างนายจ้างและลูกจ้าง โดยกาหนดมาตรฐานข้นั ตา่ ในการใช้แรงงานและ การจ่ายค่าตอบแทนในการทางาน ท้งั นี้ เพื่อให้ลูกจ้างทางานด้านความปลอดภยั มี สุขภาพอนามยั ดี ได้รับค่าตอบแทนและสวสั ดกิ ารตามสมควร กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพนั ธ์ เป็ นกฎหมายทกี่ าหนดแนวทางปฏิบัติต่อกนั ระหว่างบุคคลสองฝ่ าย คือ ฝ่ ายนายจ้างและฝ่ ายลกู จ้าง เพ่ือให้บุคคลท้งั สองฝ่ ายได้มี ความเข้าใจอนั ดตี ่อกนั สามารถตกลงในเรื่องสิทธิหน้าที่ และผลประโยชน์ในการ ทางานร่วมกนั ได้รวมท้ังกาหนดวธิ ีการระงบั ข้อขัดแย้งหรือข้อพิพาทแรงงานที่ เกดิ ขึน้ ให้ยุตลิ งโดยรวดเร็ว ท้งั นีเ้ พ่ือให้เกดิ ความสงบสุข ในสถานประกอบกจิ การ ซ่ึงจะ ส่งผลถึงเศรษฐกจิ และความมน่ั คง ของประเทศ



บทที่ 4 การวเิ คราะหค์ ณุ คา่ ของกิจกรรมโลจสิ ติกสจ์ าแนกตามหมวดหมู่ การศกึ ษาครง้ั น้ี ศกึ ษาวา่ หลกั สตู รโลจสิ ตกิ สใ์ นประเทศไทยในปัจจบุ นั แตล่ ะหลกั สตู รใหค้ วามสาคญั กบั โลจสิ ตกิ สใ์ นดา้ นตา่ งๆ อยา่ งไร หากแบ่งหมวดหมูข่ องงานดา้ นโลจสิ ตกิ สอ์ อกเป็ น 7 หมวด คอื 1) การ จดั การดา้ นการขนสง่ 2) การจดั การโซอ่ ุปทาน 3) การจดั การโลจสิ ตกิ สภ์ ายในโรงงาน 4) การนาเทคโนโลยี ตา่ งๆ มาใชใ้ นงานดา้ นโลจสิ ตกิ ส์ 5) การจดั การกลยุทธด์ า้ นโลจสิ ตกิ สข์ ององคก์ ร 6) การตดั สนิ ใจในงาน ดา้ นโลจสิ ตกิ ส์ 7) การจดั การและการพฒั นาองคก์ ร โดยพิจารณาจากการจดั กลุม่ กิจกรรมดา้ นโลจสิ ตกิ สต์ า่ งๆ และวชิ าทเ่ี ปิดในหลกั สตู รโลจสิ ตกิ สใ์ นประเทศไทย แลว้ นาไปใหเ้ จา้ ของหลกั สูตรแตล่ ะหลกั สตู รไดเ้ ปรียบ เทยี บหลกั สตู รตนเองกบั หมวดหมูต่ า่ งๆ เป็ นคๆู่ ตามแนวทางของกระบวนการลาดบั ชนั้ เชงิ วเิ คราะห์ (Analytic Hierarchy Process, AHP) จากขอ้ มูลทไ่ี ดจ้ ากการสมั ภาษณ์ แสดงใหเ้ ห็นวา่ หลกั สูตรโลจสิ ตกิ สใ์ น ประเทศไทยในปัจจบุ นั นน้ั สว่ นใหญใ่ หค้ วามสาคญั ในหมวดหมูด่ า้ นการจดั การดา้ นการขนสง่ ซง่ึ ประกอบดว้ ย การขนสง่ สนิ คา้ การกระจายสนิ คา้ ทง้ั ภายในประเทศและตา่ งประเทศ การออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์ การขนถ่าย และการบรกิ ารลกู คา้ ตา่ ง ๆ เชน่ การสง่ มอบสนิ คา้ หรือการบริการหลงั การขายรวมถึงการ Reverse Logistics สว่ นหมวดหมทู่ หี่ ลกั สูตรในประเทศไทยใหค้ วามสาคญั นอ้ ยทสี่ ุด คอื หมวดหมดู่ า้ นประกอบดว้ ยการพฒั นา บุคลากรโลจสิ ตกิ ส์ ดา้ นการบญั ชดี า้ นการเงิน ดา้ นเศรษฐศาสตร์ ดา้ นการจดั การและการพฒั นาองคก์ ร ซง่ึ ประกอบดว้ ย เรอ่ื งเกย่ี วกบั ภาษีอากร และดา้ นพฤตกิ รรมองคก์ รท่ี เกยี่ วขอ้ งกบั งานดา้ นโลจสิ ตกิ สต์ ลอดจน ดา้ นการตลาด และงานดา้ นพาณิชยอ์ เิ ล็กทรอนิกส์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook