Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสาระเคมี 6-09-64

หลักสูตรสาระเคมี 6-09-64

Published by กานดา วุฒิเศลา, 2021-09-23 06:51:30

Description: หลักสูตรสาระเคมี 6-09-64

Search

Read the Text Version

หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 พทุ ธศกั ราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช 2560) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 5 : เคมี (สาระเพ่มิ เตมิ ) สำนักบริหารงานการศกึ ษาพิเศษ สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

คำสงั่ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ที่ ………. / 2564 เรอื่ ง แต่งตั้งคณะกรรมการบรหิ ารหลกั สูตรและวชิ าการกล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ****************** เพื่อให้การบริหารหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 4 มาตรา 27 ที่กำหนด ไวใ้ ห้สถานศกึ ษา มกี ารจัดทำสาระของหลักสตู รเพื่อความเปน็ ไทย ความเปน็ พลเมอื งที่ดีของชาติ การดำรงชีวิต และการประกอบอาชีพ ตลอดจนเพื่อการศึกษาต่อ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสภาพของปัญหาในชุมชนและสังคม ภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ิน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เพอื่ เป็นสมาชกิ ทดี่ ขี องครอบครวั ชมุ ชน สงั คมและประเทศชาติ อาศัยระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วย คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 ข้อ 5 และประกาศการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ลงวันที่ 11 กรกฎาคมพ.ศ. 2551 และคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ. 1237/2560 สั่ง ณ วันที่ 9 สิงหาคม 2560 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ดังน้ี 1. นางสาวณฐั ธนัญา บุญถงึ ประธานกรรมการ 2. นายธนพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา กรรมการ 3. นางกมลชนก เทพบุ กรรมการ 4. นางสาวจนั ริรา ธนันชยั กรรมการ 5. นางอมลสิริ คำฟู กรรมการ 6. นางสาวฐิตารตั น์ คัมภีระ กรรมการ 7. นางสาวปารชิ าติ สิงคำโล กรรมการ 8. นางธัญญรัตน์ ศลิ าคำ กรรมการ 9. นายพงศ์ธร เปงวงศ์ กรรมการ กรรมการ 10. วา่ ที่รอ้ ยตรีสมพงษ์ ตระการศุภกร กรรมการ 11. นายเสรี แซ่จาง 12. นางสาวสดุ าภรณ์ สืบบุญเปี่ยม กรรมการ 13. นางสาวจริ ัชญา ชัยธีรธรรม กรรมการ 14. นางสาวศริ วิ รรณ มุนิมคำ กรรมการ 15. นายเอกราช หมีแกว้ กรรมการ 16. นางสาวธนั ชนก ชัยบุตร กรรมการ 17. นางสาวกานดา วุฒิเศลา กรรมการและเลขานุการ

มีหน้าที่ 1. วางแผนดำเนินงาน กำหนดสาระ รายละเอียดของหลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดและผล การเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้สอดคล้องกับหลักสตู รการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ปรบั ปรงุ 2560) 2. จัดทำคู่มือบริหารหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นิเทศ กำกับ ติดตาม เกี่ยวกับ การพัฒนาหลักสูตร การจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล ให้สอดคล้องและเป็นไปตาม มาตรฐานหลกั สูตรการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน 3. ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบุคลากร เกี่ยวกับ การพัฒนาหลักสูตรและการจัดกระบวนการ เรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผล ใหเ้ ป็นไปตามจุดมุ่งหมายและแนวทางในการดำเนินการของหลักสตู ร 4. ประสานความร่วมมือจากบุคคล หน่วยงาน องค์กรต่างๆและชุมชน เพื่อให้การใช้หลักสูตรเป็นไป อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและคณุ ภาพ 5. ประชาสัมพันธ์หลักสูตรและการใช้หลักสูตรแก่แก่ผู้เรียน ผู้ปกครองชุมชนและผูท้ ี่เกี่ยวข้องและนำ ข้อมูลป้อนกลับจากฝ่ายต่างๆ มาพิจารณาเพื่อการปรับปรุงและพัฒนา หลักสูตรของกลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 6. สง่ เสรมิ และสนบั สนุนการวจิ ัยเกี่ยวกับการพฒั นาหลกั สตู รและกระบวนการเรยี นรู้ 7. ติดตามผลการเรยี นของผู้เรียนรายบคุ คล ระดับชั้นในปีการศึกษาทีผ่ ่านมา เพื่อปรับปรุง แก้ไขและ พฒั นาการดำเนนิ งานตา่ งๆของสถานศกึ ษา 8. ตรวจสอบทบทวนประเมินมาตรฐาน การปฏิบัติงานของครูและการบริหารหลักสูตรและกลุ่มสาระ การเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นรอบปีท่ผี ่านมา แลว้ ใชผ้ ลการประเมินหลกั สูตรเพื่อวางแผนพัฒนาการ ปฏบิ ตั ิงานของครูและการบริหารหลักสูตรและในปีการศึกษาต่อไป 9. รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการบริหาร หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีโดย เน้นผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการฝ่าย บรหิ าร สาธารณะชนและผทู้ ีเ่ กี่ยวข้อง ทัง้ นี้ ตัง้ แต่บดั นี้เปน็ ตน้ ไป สัง่ ณ วนั ที่ 20 เดือนเมษายน พ.ศ. 2564 (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31

ประกาศโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 เรื่อง ให้ใช้หลกั สตู รโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศกั ราช 2564 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ………………………………. ตามที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ได้ประกาศใช้หลักสูตรโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พทุ ธศกั ราช 2564 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) โดยเร่ิมใชห้ ลกั สูตรดังกลา่ ว กบั ผู้เรยี นทกุ ระดับช้ันในปีการศึกษา 2563 ตอ่ มาในปกี ารศกึ ษา 2564 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ได้เพม่ิ รายวิชาเพมิ่ เติมเพ่ือใหส้ อดคล้องกับ นโยบายเร่งด่วนของรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้ผู้เรยี นพัฒนาทกั ษะกระบวนการคิด วิเคราะห์ มเี วลาในการทำกิจกรรมเพื่อพฒั นาความรู้ ความสามารถและทักษะ ปลูกฝงั คณุ ธรรม จริยธรรม การสร้างวินัย การมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และมีความภาคภูมิใจใน ความเป็นไทย โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 ได้ดำเนนิ การจัดทำหลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2564 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) สอดคล้องตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การบริหารจัดการเวลาเรียนและปรับมาตรฐานและตัวชีว้ ดั สอดคลอ้ งกบั คำสัง่ สพฐ. ที่ 1239/60 และประกาศ สพฐ.ลงวนั ที่ 8 มกราคม 2561 เป็นทเ่ี รยี บร้อยแลว้ ทั้งนี้หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2564 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 จึงประกาศให้ใช้หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี พุทธศกั ราช 2564 (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช 2560) ตัง้ แตบ่ ัดน้เี ป็นต้นไป ประกาศ ณ วันท่ี 20 เดือน เมษายน พ.ศ. 2564 ลงชอ่ื ลงช่ือ (นายกฤกษฎิ์ พยัคกาฬ) (นายอดศิ ร แดงเรือน) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขัน้ พื้นฐาน ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ บทนำ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช 2564 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560) นี้ได้กำหนด สาระการเรียนรูอ้ อกเป็น 8 สาระ ได้แก่ สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์กายภาพ สาระ ที่ 3 วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ สาระที่ 4 ชีววิทยา สาระท่ี 5 เคมี สาระที่ 6 ฟิสิกส์ สาระที่ 7 โลก ดารา ศาสตร์และอวกาศ และสาระที่ 8 เทคโนโลยี ซึ่งองค์ประกอบของหลักสูตร ทั้งในด้านของเนื้อหา การจัดการ เรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวางรากฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ของผู้เรียนในแต่ละระดับชัน้ ให้มีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน ตั้งแต่ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 จนถึง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้กำหนดตัวชี้วัดและสาระ การเรยี นรู้แกนกลางท่ีผู้เรยี นจำเป็นตอ้ งเรียนเป็นพ้ืนฐาน เพ่อื ให้สามารถนำความรู้นี้ไปใช้ในการดำรงชีวิต หรือ ศึกษาต่อ ในวิชาชีพที่ต้องใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ โดยจัดเรียงลำดับความยากง่ายของเนื้อหา ทั้ง 8 สาระ ในแต่ละระดบั ช้ันให้มีการเชื่อมโยงความรู้กับกระบวนการเรียนรู้ และการจดั กิจกรรมการเรยี นรูท้ ่ีส่งเสริม ให้ผู้เรียนพัฒนาความคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์วิจารณ์ มีทักษะที่สำคัญทั้ง ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะในศตวรรษท่ี 21 ในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ด้วย กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลหลากหลาย และประจกั ษพ์ ยานที่ตรวจสอบได้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ตระหนักถึงความสำคัญของการจัด การเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทีม่ ุ่งหวังใหเ้ กดิ ผลสัมฤทธ์ิตอ่ ผู้เรยี นมากทส่ี ุด จงึ ไดจ้ ัดทำตัวชีว้ ัดและสาระ การเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ขึ้น เพื่อให้สถานศึกษา ครูผู้สอน ตลอดจนหน่วยงาน ต่างๆ ไดใ้ ชเ้ ป็นแนวทางในการพัฒนาหนงั สือเรียน ค่มู อื ครู สื่อประกอบการเรียนการสอน ตลอดจนการวัดและ ประเมินผล โดยตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตาม หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ทจี่ ัดทำข้ึนน้ี ได้ปรับปรงุ เพื่อให้มีความสอดคล้องและเชื่อมโยงกันภายในสาระการเรียนรู้เดียวกันและระหว่างสาระการเรียนรู้ ในกลุ่ม สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนการเชื่อมโยงเนื้อหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์กับ คณิตศาสตร์ด้วย นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงเพื่อให้มีความทันสมัยต่อการเปลี่ยนแปลงและความเจริญก้าวหน้า ของวิทยาการต่างๆ และทัดเทียมกับนานาชาติ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สรุปเป็น แผนภาพได้ ดงั นี้

เป้าหมายของวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มุง่ เนน้ ให้ผเู้ รยี นได้คน้ พบความรู้ดว้ ยตนเองมากท่สี ดุ เพ่อื ใหไ้ ด้ ทั้งกระบวนการและความรูจ้ ากวธิ กี ารสงั เกต การสำรวจตรวจสอบ การทดลอง แล้วนำผลทีไ่ ดม้ า จดั ระบบ เป็นหลกั การ แนวคิดและองคค์ วามรู้ การจัดการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จงึ มีเปา้ หมายท่ี สำคญั ดงั นี้ 1. เพ่อื ให้เข้าใจหลกั การ ทฤษฎี และกฎที่เปน็ พน้ื ฐานในวิชาวิทยาศาสตร์ 2. เพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจขอบเขตของธรรมชาตขิ องวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละข้อจำกัดในการศึกษาวชิ าวิทยาศาสตร์ 3. เพ่อื ให้มที กั ษะที่สำคัญในการศึกษาค้นควา้ และคิดค้นทางเทคโนโลยี 4. เพื่อให้ตระหนักถงึ ความสัมพนั ธ์ระหว่างวิชาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี มวลมนษุ ย์ และสภาพแวดลอ้ ม ในเชงิ ทม่ี อี ทิ ธพิ ลและผลกระทบซ่ึงกนั และกัน 5. เพอ่ื นำความรคู้ วามเขา้ ใจในวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ต่อสงั คม และ การดำรงชีวติ 6. เพอ่ื พฒั นากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปญั หาและการจัดการ ทักษะ ในการสือ่ สาร และความสามารถในการตัดสินใจ 7. เพื่อใหเ้ ปน็ ผู้ทมี่ จี ติ วทิ ยาศาสตร์ มคี ุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมในการใช้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี อยา่ งสร้างสรรค์

เรยี นรู้อะไรในวทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มงุ่ หวังให้ผเู้ รียนได้เรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทเี่ น้นการเช่ือมโยงความรู้กับกระบวนการ มที ักษะสำคญั ในการค้นควา้ และสรา้ งองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการ ในการสืบเสาะหาความรู้และแก้ปัญหาที่หลากหลาย ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทุกขั้นตอน มีการทำ กิจกรรมด้วยการลงมอื ปฏิบตั จิ รงิ อย่างหลากหลาย เหมาะสมกบั ระดบั ช้ัน โดยกำหนดสำระสำคัญดงั นี้ วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ เรียนรู้เกย่ี วกบั ชวี ิตในสิง่ แวดล้อม องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต การดำรงชีวิตของ มนุษยแ์ ละสตั ว์ การดำรงชวี ิตของพืช พนั ธกุ รรม ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวฒั นาการของสิ่งมีชวี ติ วิทยาศาสตร์กายภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับ ธรรมชาติของสาร การเปลี่ยนแปลงของสาร การเคลื่อนที่ พลงั งานและคลนื่ วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ เรียนรเู้ กี่ยวกับโลกในเอกภพ ระบบโลก และมนุษย์กับการเปล่ียนแปลง ของโลก ชวี วทิ ยา เรยี นรเู้ ก่ยี วกับ การศกึ ษาชีววทิ ยา สารเคมใี นส่งิ มชี ีวิต เซลล์ของส่งิ มีชวี ิต พนั ธุกรรมและการ ถ่ายทอด วิวัฒนาการ ความหลากหลายทางชวี ภาพ โครงสร้างและการทำงานของส่วนต่างๆ ในพืชดอก ระบบ และการทำงานในอวยั วะต่างๆ ของสตั วแ์ ละมนุษยแ์ ละสิง่ มชี วี ติ และสงิ่ แวดลอ้ ม เคมี เรียนรู้เกี่ยวกับ ปริมาณสาร องค์ประกอบและสมบัติของสาร การเปลี่ยนแปลงของสาร ทักษะ และการแกป้ ัญหาทางเคมี ฟิสิกส์ เรยี นรเู้ ก่ียวกบั ธรรมชาตแิ ละการค้นพบทางฟิสกิ ส์ แรงและการเคล่อื นทแ่ี ละพลังงาน โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ เรียนรู้เกี่ยวกับ โลกและกระบวนการเปลีย่ นแปลงทางธรณีวิทยาข้อมูล ทางธรณวี ทิ ยาและการนำไปใชป้ ระโยชน์ การถ่ายโอนพลังงานความร้อนของโลก การเปล่ียนแปลงลักษณะ ลม ฟ้าอากาศกบั การดำรงชีวิตของมนุษย์ โลกในเอกภพและดาราศาสตร์กบั มนุษย์ เทคโนโลยี * การออกแบบและเทคโนโลยี เรียนรู้เกี่ยวกับ การพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ เทคโนโลยีเพื่อดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และศาสตร์อื่นๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการ ออกแบบ เชิงวิศวกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดยคำนงึ ถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคมและสง่ิ แวดลอ้ ม * วิทยาการคำนวณ เรียนรู้เกี่ยวกับ การพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะการคิด เชิง คำนวณ การคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ประยุกต์ใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศส่ือสารในการแกป้ ัญหาทพ่ี บในชีวติ จรงิ ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศการถ่ายทอดพลังงาน การ เปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการ แก้ไขปญั หาสิ่งแวดล้อมรวมทงั้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่างๆของสัตวแ์ ละมนษุ ย์ทีท่ ำงานสัมพันธ์ กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทงั้ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมสารพันธุกรรม เปลี่ยนแปลงทางพนั ธุกรรมทีม่ ีผลต่อสิ่งมีชวี ิต ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการ ของสิง่ มีชีวติ รวมทั้งนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสรา้ งและแรงยดึ เหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลกั และธรรมชาติของการเปลีย่ นแปลงสถานะ ของสสาร การเกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ลักษณะการเคลื่อนท่ี แบบตา่ งๆ ของวตั ถรุ วมทั้งนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลีย่ นแปลงและการถา่ ยโอนพลงั งานปฏสิ มั พันธ์ระหว่าง สสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้อง กบั เสยี ง แสง และคล่ืนแม่เหล็กไฟฟา้ รวมทั้งนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองค์ประกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกิด และวิวฒั นาการของเอกภพกาแล็กซีดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการ ประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยีอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมท้งั ผลตอ่ สง่ิ มชี วี ติ และส่ิงแวดลอ้ ม

สาระที่ 4 ชีววทิ ยา มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ สารที่เป็น องค์ประกอบ ของสงิ่ มีชวี ติ ปฏกิ ริ ิยาเคมีในเซลล์ของสิง่ มีชวี ิต กล้องจลุ ทรรศน์ โครงสร้างและ หน้าที่ของเซลล์ การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ การแบ่งเซลล์ และการหายใจระดับ เซลล์ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม การถา่ ยทอดยีนบนโครโมโซม สมบัตแิ ละหน้าที่ของ สารพันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐาน ข้อมูลและแนวคิดเกี่ยวกับ ววิ ฒั นาการของสิง่ มีชีวติ ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวนเ์ บิร์ก การเกดิ สปชี ีสใ์ หม่ความหลากหลาย ทางชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และอนุกรมวิธาน รวมทั้งนำ ความรไู้ ปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 4.3 เข้าใจส่วนประกอบของพืช การแลกเปลี่ยนแก๊สและคายน้ำของพืช การลำเลียงของพืช การ สังเคราะห์ด้วยแสง การสืบพันธุ์ของพืชดอกและการเจริญเติบโต และการตอบสนอง ของพืช รวมท้งั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 4.4 เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์และมนุษย์ รวมทั้งการหายใจและการแลกเปลี่ยนแก๊ส การ ลำเลียง สารและการหมุนเวียนเลือด ภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขับถ่าย การรับรู้และ การ ตอบสนอง การเคลื่อนที่ การสืบพันธแ์ุ ละการเจรญิ เติบโต ฮอร์โมนกับการรักษาดุลยภาพและ พฤตกิ รรมของสัตว์ รวมท้งั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 4.5 เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงานและการหมุนเวียนสาร ใน ระบบนิเวศ ความหลากหลายของไบโอม การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ประชากรและรูปแบบการเพิ่มของประชากร ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ปัญหาและ ผลกระทบทเ่ี กิดจากการใชป้ ระโยชน์ และแนวทางการแกไ้ ขปญั หา สาระท่ี 5 เคมี มาตรฐาน ว 5.1 เข้าใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ สมบัติของธาตุ พันธะเคมีและสมบัติ ของสาร แก๊สและสมบัติของแก๊ส ประเภทและสมบัติของสารประกอบอินทรีย์และพอลิเมอร์ รวมท้ังการนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว 5.2 เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏกิ ิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิรยิ า เคมีสมดุลในปฏิกิริยาเคมีสมบัติและปฏิกิริยาของกรด–เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์ และเซลล เคมีไฟฟา้ รวมทง้ั การนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว 5.3 เข้าใจหลกั การทำปฏบิ ัตกิ ารเคมี การวดั ปริมาณสารหน่วยวัดและการเปลีย่ นหน่วยการคำนวณ ปริมาณของสาร ความเข้มข้นของสารละลาย รวมทั้งการบูรณาการความรู้และทักษะ ในการ อธิบาย ปรากฏการณใ์ นชีวติ ประจำวนั และการแก้ปัญหาทางเคมี

สาระที่ 6 ฟสิ กิ ส์ มาตรฐาน ว 6.1 เข้าใจธรรมชาติทางฟิสกิ ส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคล่ือนท่ีแนวตรง แรงและ กฎการ เคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทาน สมดุลกลของวัตถุ งานและกฎการ อนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโค้ง รวมทั้งนำ ความร้ไู ปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 6.2 เข้าใจการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกส์อย่างง่าย ธรรมชาติของคลื่น เสียงและการได้ยิน ปรากฏการณ์ท่เี ก่ยี วข้องกับเสียง แสงและการเหน็ ปรากฏการณ์ท่ีเกยี่ วข้องกับแสง รวมท้ังนำ ความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว 6.3 เข้าใจแรงไฟฟ้าและกฎของคูลอมบ์ สนามไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า ความจุไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และ กฎของโอห์ม วงจรไฟฟ้ากระแสตรง พลังงานไฟฟ้าและกำลังไฟฟ้า การเปลี่ยนพลังงาน ทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า สนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กที่กระทำกับประจุไฟฟ้า และ กระแสไฟฟ้า การเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าและกฎของฟาราเดย์ ไฟฟ้ากระแสสลับ คลื่น แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ และการส่อื สาร รวมทั้งนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว 6.4 เข้าใจความสมั พันธข์ องความร้อนกับการเปลี่ยนอุณหภูมิและสถานะของสสาร สภาพยืดหยนุ่ ของวัสดุ และมอดูลัสของยัง ความดันในของไหล แรงพยุง และหลักของอาร์คิมีดีส ความตึง ผวิ และแรงหนืดของของเหลว ของไหลอดุ มคติ และสมการแบร์นลู ลี กฎของแกส๊ ทฤษฎีจลน์ ของแก๊สอุดมคติและพลังงานในระบบ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค กัมมันตภาพรังสี แรงนิวเคลียร์ ปฏิกิริยานิวเคลียร์ พลังงาน นิวเคลียร์ ฟิสกิ ส์ อนภุ าค รวมทงั้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ สาระท่ี 7 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ มาตรฐาน ว 7.1 เข้าใจกระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก ธรณีพิบัติภัยและผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม การศกึ ษาลำดับชัน้ หิน ทรพั ยากรธรณี แผนทีแ่ ละการนำไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว 7.2 เข้าใจสมดุลพลังงานของโลก การหมุนเวียนของอากาศบนโลก การหมุนเวียนของน้ำใน มหาสมุทร การเกิดเมฆ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกและผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม รวมทง้ั การพยากรณ์อากาศ มาตรฐาน ว 7.3 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิดและวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ และระบบสุริยะ ความสัมพันธ์ของดาราศาสตร์กับมนุษย์จากการศึกษาตำแหน่งดาว บนทรง กลมฟ้าและปฏสิ ัมพนั ธภ์ ายในระบบสรุ ยิ ะ รวมท้ังการประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีอวกาศ สาระท่ี 8 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 8.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเรว็ ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนกำรออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้ เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมโดยคำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ชวี ิต สงั คม และสิ่งแวดล้อม มาตรฐาน ว 8.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทนั และมีจรยิ ธรรม

คณุ ภาพผูเ้ รยี น จบชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ❖ เข้าใจการลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ กลไกการรักษาดุลยภาพของมนุษย์ ภูมิคุ้มกันใน ร่างกายของมนุษย์และความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน การใช้ประโยชน์จากสารต่าง ๆ ที่พืชสร้างขึ้น การ ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม วิวัฒนาการที่ทำให้เกิดความหลากหลายของ สิ่งมีชีวิต ความสำคญั และผลของเทคโนโลยีทางดเี อ็นเอตอ่ มนุษย์สง่ิ มชี วี ิต และสิง่ แวดล้อม ❖ เข้าใจการลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ กลไกการรักษาดุลยภาพของมนุษย์ ภูมิคุ้มกันใน ร่างกายของมนุษย์และความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน การใช้ประโยชน์จากสารต่าง ๆ ที่พืชสร้างขึ้น การ ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม วิวัฒนาการที่ทำให้เกิดความหลากหลายของ สงิ่ มชี วี ติ ความสำคญั และผลของเทคโนโลยที างดีเอน็ เอตอ่ มนษุ ยส์ ง่ิ มชี ีวิต และสง่ิ แวดล้อม ❖ เข้าใจชนิดของอนุภาคสำคัญที่เป็นส่วนประกอบในโครงสร้างอะตอม สมบัติบางประการของธาตุ การจัดเรียงธาตใุ นตารางธาตุ ชนิดของแรงยดึ เหนีย่ วระหว่างอนุภาคและสมบัตติ า่ ง ๆ ของสารท่มี คี วามสัมพันธ์ กบั แรงยึดเหนี่ยว พนั ธะเคมี โครงสรา้ งและสมบตั ิของพอลิเมอร์การเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี ปจั จัยที่มีผลต่ออัตราการ เกิดปฏิกิรยิ าเคมี และการเขียนสมการเคมี ❖ เขา้ ใจปริมาณท่เี ก่ียวกับการเคลือ่ นท่ี ความสมั พันธ์ระหว่างแรง มวลและความเร่งผลของความเร่ง ที่มีต่อการเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุ แรงโน้มถ่วง แรงแม่เหล็ก ความสัมพันธ์ระหว่างสนามแม่เหล็กและ กระแสไฟฟา้ และแรงภายในนิวเคลยี ส ❖ เข้าใจพลังงานนิวเคลียร์ ความสัมพันธ์ระหว่างมวลและพลังงาน การเปลี่ยนพลังงานทดแทนเป็น พลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีด้านพลังงาน การสะท้อน การหักเห การเลี้ยวเบนและการรวมคลื่น การได้ยิน ปรากฏการณท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เสียง สีกับการมองเหน็ สี คลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ และประโยชนข์ องคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟา้ ❖ เข้าใจการแบ่งชั้นและสมบัติของโครงสร้างโลก สาเหตุ และรูปแบบการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีที่ สมั พันธก์ ับการเกิดลกั ษณะธรณสี ัณฐาน สาเหตุ กระบวนการเกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ ผลกระทบ แนวทางการเฝา้ ระวงั และการปฏิบัตติ นให้ปลอดภัย ❖ เข้าใจผลของแรงเน่ืองจากความแตกต่างของความกดอากาศ แรงคอริออลิส ที่มีต่อการหมนุ เวยี น ของอากาศ การหมุนเวยี นของอากาศตามเขตละติจูด และผลที่มีต่อภมู ิอากาศความสัมพันธข์ องการหมุนเวยี น ของอากาศ และการหมนุ เวียนของกระแสน้ำผวิ หน้าในมหาสมทุ รและผลต่อลกั ษณะลมฟ้าอากาศ สิ่งมชี ีวติ และ สงิ่ แวดล้อม ปัจจยั ต่าง ๆ ท่ีมผี ลตอ่ การเปล่ียนแปลงภมู ิอากาศโลก และแนวปฏิบตั เิ พ่ือลดกจิ กรรมของมนุษย์ที่ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกรวมทั้งการแปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศที่สำคัญจากแผนที่ อากาศ และขอ้ มลู สารสนเทศ

❖ เข้าใจการกำเนิดและการเปลี่ยนแปลงพลังงาน สสาร ขนาด อุณหภูมิของเอกภพ หลักฐานท่ี สนับสนุนทฤษฎีบิกแบง ประเภทของกาแล็กซี โครงสร้างและองค์ประกอบของกาแล็กซีทางช้างเผือก กระบวนการเกดิ และการสร้างพลังงาน ปัจจัยทสี่ ง่ ผลตอ่ ความสอ่ งสวา่ งของดาวฤกษ์ และความสมั พนั ธ์ระหว่าง ความส่องสว่างกับโชติมาตรของดาวฤกษ์ ความสัมพันธ์ระหว่างสีอุณหภูมิผิว และสเปกตรัมของดาวฤกษ์ วิวัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงสมบัติบางประการของดาวฤกษ์ กระบวนการเกิดระบบสุริยะ การแบ่งเขต บริวารของดวงอาทิตย์ ลักษณะของดาวเคราะห์ที่เอื้อต่อการดำรงชีวิต การเกิดลมสุริยะ พายุสุริยะและผลที่มี ต่อโลก รวมท้งั การสำรวจอวกาศและการประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ ❖ ระบุปัญหา ตั้งคำถามที่จะสำรวจตรวจสอบ โดยมีการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่าง ๆ สืบค้นข้อมูลจากหลายแหล่ง ตั้งสมมติฐานที่เป็นไปได้หลายแนวทาง ตัดสินใจเลือกตรวจสอบสมมติฐานท่ี เป็นไปได้ ❖ ตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหาที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้และความเข้าใจทางวทิ ยาศาสตร์ ที่แสดง ให้เหน็ ถึงการใช้ความคิดระดับสงู ทส่ี ามารถสำรวจตรวจสอบหรือศึกษาค้นคว้าได้อย่างครอบคลุมและเช่ือถือได้ สร้างสมมติฐานที่มีทฤษฎีรองรับหรือคาดการณ์สิ่งที่จะพบ เพื่อนำไปสู่การสำรวจตรวจสอบ ออกแบบวิธีการ สำรวจตรวจสอบตามสมมตฐิ านที่กำหนดไวไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสมมหี ลักฐานเชิงประจักษ์ เลือกวสั ดุ อุปกรณ์ รวมทัง้ วิธีการในการสำรวจตรวจสอบอย่างถูกต้องทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ และบันทึกผลการสำรวจตรวจสอบ อย่างเปน็ ระบบ ❖ วิเคราะห์ แปลความหมายข้อมูล และประเมินความสอดคล้องของข้อสรุปเพื่อตรวจสอบกับ สมมติฐานทีต่ ้ังไว้ ใหข้ อ้ เสนอแนะเพ่ือปรับปรุงวธิ ีการสำรวจตรวจสอบ จัดกระทำข้อมลู และนำเสนอข้อมูลด้วย เทคนิควิธีที่เหมาะสม สื่อสารแนวคิด ความรู้จากผลการสำรวจตรวจสอบโดยการพูด เขียน จัดแสดงหรือใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือให้ผอู้ น่ื เขา้ ใจโดยมหี ลักฐานอา้ งอิงหรอื มที ฤษฎีรองรับ ❖ แสดงถึงความสนใจ มุ่งมั่น รับผิดชอบ รอบคอบ และซื่อสัตย์ ในการสืบเสาะหาความรู้ โดยใช้ เครื่องมือและวิธีการที่ให้ได้ผลถูกต้อง เชื่อถือได้ มีเหตุผลและยอมรับได้ว่าความรู้ทางวิทยาศาสตร์อาจมีการ เปล่ยี นแปลงได้ ❖ แสดงถึงความพอใจและเห็นคุณค่าในการค้นพบความรู้ พบคำตอบ หรือแก้ปัญหาได้ทำงาน ร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์ แสดงความคิดเห็นโดยมีข้อมูลอ้างอิงและเหตุผลประกอบเกี่ยวกับผลของการ พัฒนาและการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรมต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และยอมรับฟังความ คิดเหน็ ของผูอ้ ื่น ❖ เข้าใจความสัมพันธข์ องความรวู้ ิทยาศาสตรท์ ี่มีผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ และการ พฒั นาเทคโนโลยีที่สง่ ผลใหม้ ีการคิดค้นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหนา้ ผลของเทคโนโลยีต่อชวี ิต สังคม และ ส่งิ แวดล้อม ❖ ตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ใช้ใน ชีวิตประจำวัน ใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดำรงชีวิตและการประกอบ อาชีพ แสดงความชืน่ ชม ภูมิใจ ยกย่อง อา้ งอิงผลงาน ช้ินงานทเ่ี ป็นผลมาจากภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ และการพัฒนา เทคโนโลยีทท่ี ันสมัย ศกึ ษาหาความรเู้ พ่มิ เตมิ ทำโครงงานหรอื สร้างชน้ิ งานตามความสนใจ

❖ แสดงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้และรักษาทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า เสนอตัวเองร่วมมือปฏิบัติกับชุมชนในการป้องกัน ดูแลทรัพยากรธรรมชาติและ สง่ิ แวดล้อมของทอ้ งถิน่ ❖ วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ได้แก่ ระบบทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อนการเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยี ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ วิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเพื่อเลือกใช้เทคโนโลยี โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม เศรษฐกิจ และ สิ่งแวดล้อม ประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะ ทรัพยากรเพื่อออกแบบสร้างหรือพัฒนาผลงาน สำหรับแก้ปัญหาที่มี ผลกระทบต่อสังคม โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการออกแบบและนำเสนอ ผลงาน เลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย รวมทั้งคำนึงถึงทรัพย์สินทาง ปัญญา ❖ ใช้ความรู้ทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อ รวบรวมขอ้ มลู ในชีวิตจริงจากแหลง่ ต่าง ๆ และความรู้จากศาสตร์อ่นื มาประยุกตใ์ ชส้ ร้างความรู้ใหม่ เข้าใจการ เปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยีที่มีผลต่อการดำเนนิ ชวี ิต อาชีพ สังคมวฒั นธรรม และใช้อย่างปลอดภัย มีจรยิ ธรรม

ธรรมชาติ/ลกั ษณะเฉพาะ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2560) เป็น หลักสูตรที่โรงเรียนได้พัฒนาขึ้นเพื่อพัฒนาผู้เรียน โดยยึดองค์ประกอบหลักสำคัญ 5 ส่วน คือ 1) หลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพทุ ธศักราช 2551 2) มาตรฐานการเรียนรู้ตวั ชว้ี ัด และผลการเรียนรู้ กลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับ ปรับปรุง พ.ศ.2560) 2) นโยบายการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 4) กรอบหลักสูตรระดับท้องถ่ิน และ 5) สาระสำคัญ จุดเน้นที่โรงเรียนพัฒนาเพิ่มเติม เป็นกรอบในการจัดทำรายละเอียดเพื่อให้เป็นไปตาม มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานที่กำหนด เหมาะสมกับสภาพชุมชนและท้องถิ่นและจุดเน้นของโรงเรียน โดย หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พทุ ธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ปรบั ปรุง 2560) ทพี่ ฒั นาขน้ึ มลี ักษณะของหลักสูตร ดงั นี้ 1. เป็นหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 สำหรบั จดั การศึกษาในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐานจัดในระดับมัธยมศึกษา (ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4-6) 2. เป็นหลักสูตรที่มีความเป็นเอกภาพสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สำหรับใหค้ รผู สู้ อนนำไปจัดการเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งหลากหลาย โดยกำหนดให้มรี ายละเอียด ดงั นี้ 2.1 สาระการเรียนรู้ที่โรงเรียนใช้เป็นหลักเพื่อสร้างพื้นฐานการคิด การเรียนรู้และการแก้ปัญหา ประกอบดว้ ย ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 2.2 สาระการเรียนรู้ทเี่ สริมสร้างความเปน็ มนุษย์ ศกั ยภาพการคิด การทำงาน ประกอบด้วย สุข ศกึ ษาและพลศกึ ษา ศิลปะ การงานอาชพี และเทคโนโลยแี ละภาษาอังกฤษ 2.3 สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม โดยจัดทำเป็นรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติมตามความเหมาะสมและ สอดคล้องกับโครงสร้างเวลาเรียน สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ความต้องการของผู้เรียน และบริบทของโรงเรียน และเพิม่ วชิ าหนา้ ท่พี ลเมืองใหส้ อดคลอ้ งกับนโยบายหน่วยเหนอื ด้วย 2.4 กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น เพื่อพัฒนาผู้เรียนทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์และสังคม เสริมสร้างการเรียนรูน้ อกจากกล่มุ สาระการเรยี นรู้ 8 กลุ่ม และการพฒั นาตนตามศกั ยภาพ 2.5 การกำหนดมาตรฐานของโรงเรียนที่สอดคล้องกับมาตรฐานระดับต่างๆ เพื่อเป็นเป้าหมาย ของการพฒั นาคุณภาพการศึกษาของโรงเรยี น จัดทำรายละเอยี ดสาระการเรยี นรู้ และจัดกระบวนการเรียนรู้ให้ สอดคล้องกับสภาพในชมุ ชน สังคมและภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน 3. มีมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายสำคัญ ของการพัฒนาคุณภาพหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2560) เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานเป็นตัวกำหนดเกี่ยวกับ ความรู้ ทักษะ กระบวนการ สมรรถนะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เพื่อเป็นแนวทางในการ ประกันคุณภาพการศกึ ษา โดยมกี ารกำหนดมาตรฐานไว้ ดังนี้ 3.1 มาตรฐานหลักสูตร เป็นมาตรฐานด้านผู้เรียนหรือผลผลิตของหลักสูตรโรงเรียน เกิดขึ้นจาก การจัดกจิ กรรมตามโครงสร้างของหลักสูตรทั้งหมดของครู และใชเ้ ปน็ แนวทางในการตรวจสอบคณุ ภาพโดยรวม ของการจัดการศึกษาตามหลักสูตรในทุกระดับ ซึ่งโรงเรียนตอ้ งใช้สำหรับการประเมินตนเองเพื่อจัดทำรายงาน

ประจำปีตามบทบัญญัติในพระราชบัญญัติการศึกษา เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการกำหนดแนวปฏิบัติในการ สง่ เสริม กำกับ ติดตาม ดแู ลและปรับปรงุ คุณภาพ เพอ่ื ใหไ้ ด้ตามมาตรฐานท่ีกำหนด 3.2 มีตัวชี้วัดชั้นปี เป็นเป้าหมายระบุสิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้และปฏิบัติได้ รวมทั้งคุณลักษณะของผู้เรียน ในแตล่ ะระดับชั้นซ่ึงสะท้อนถึงมาตรฐานการเรียนรู้ มคี วามเฉพาะเจาะจง และมีความเป็นรูปธรรม นำไปใช้ในการ กำหนดเนื้อหา จัดทำหน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้และเป็นเกณฑ์สำคัญสำหรับการวัดประเมินผลเพื่อตรวจสอบ คุณภาพผู้เรียน ตรวจสอบพัฒนาการผเู้ รียน ความรู้ ทกั ษะ กระบวนการ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมและค่านิยมอันพึง ประสงค์ และเป็นหลักในการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์จากการศึกษาในระบบ นอกระบบและตาม อัธยาศยั 3.3 มคี วามเป็นสากล ความเป็นสากลของหลักสูตรโรงเรียน มงุ่ ให้ผเู้ รยี นมีความรู้ ความสามารถ ในเร่ืองเทคโนโลยสี ารสนเทศ ภาษาอังกฤษ การจัดการสงิ่ แวดล้อม ภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน มีคุณลักษณะท่ีจำเป็นใน การอยู่ในสังคม ได้แก่ ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ การตรงต่อเวลา การเสียสละ การเอื้อเฟื้อ โดยอยู่บน พื้นฐานของความพอดีระหวา่ งการเปน็ ผู้นำและผู้ตาม การทำงานเปน็ ทมี และการทำงานตามลำพัง การแข่งขัน การรู้จักพอ และการร่วมมือกันเพื่อสังคม วิทยาการสมัยใหม่และภูมิปัญญาท้องถิ่น การรับวัฒนธรรม ตา่ งประเทศและการอนุรักษว์ ัฒนธรรมไทยการฝึกฝนทักษะเฉพาะทางและการบูรณาการในลกั ษณะท่เี ปน็ องคร์ วม 4. มีความยืดหยุ่นหลากหลาย หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2560) เป็นหลักสูตรที่โรงเรียนจัดทำรายละเอียดต่างๆ ขึ้นเอง โดยยึดโครงสร้างหลักที่กำหนดไว้ใน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่น เป็นขอบข่ายในการ จัดทำ จึงทำให้หลักสูตรของโรงเรียนมีความยืดหยุ่นหลากหลาย สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการ ของท้องถน่ิ โดยเฉพาะอย่างยง่ิ มีความเหมาะสมกบั ตัวผ้เู รยี น 5. การวัดและประเมินผล เน้นหลักการพื้นฐาน 2 ประการ คือ การประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียนและ เพือ่ ตัดสินผลการเรียน โดยผูเ้ รียนตอ้ งได้รับการพัฒนาและประเมินตามตวั ชี้วัด เพื่อใหบ้ รรลุตามมาตรฐานการ เรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เป็นเป้าหมายหลักในการวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นระดับช้ันเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษาและ ระดบั ชาติ การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ เปน็ กระบวนการพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น และใช้ผลการประเมินเป็น ข้อมูลและสารสนเทศที่แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้าและความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจน ข้อมลู ท่เี ปน็ ประโยชน์ต่อการส่งเสริมใหผ้ ูเ้ รยี นเกดิ การพัฒนาและเรียนรู้อย่างเต็มตามศักยภาพ วสิ ัยทศั นห์ ลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พทุ ธศักราช 2564 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรบั ปรุง 2560) มุ่งพัฒนา ผู้เรียนให้เป็นมนุษย์ที่มีสมบูรณ์ มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ภูมิใจในท้องถิ่น มีสำนึกความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมนั่ ในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ บนพืน้ ฐานความเชือ่ ว่าทกุ คนสามารถเรยี นร้แู ละพัฒนาตนเองไดเ้ ต็มตามศกั ยภาพ

จดุ มุ่งหมายหลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเรื่องของการเรียนรู้เกี่ยวกับ ธรรมชาติโดยมนุษย์ใช้กระบวนการ สังเกต สำรวจตรวจสอบและการทดลอง เกี่ยวกับ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและนำผลมาจัดระบบหลักการ แนวคิดและทฤษฎดี งั นน้ั การเรียนการสอนวทิ ยาศาสตร์จึงมุ่งเนน้ ให้ผู้เรยี นได้เปน็ ผูเ้ รียนรู้และค้นพบด้วยตนเอง มากที่สุดนั่นคือให้ได้ทั้งกระบวนการและองค์ความรู้ ตั้งแต่วัยเริ่มแรกก่อนเข้าเรียนเมื่ออยู่ในสถานศึกษาและ เมอ่ื ออกจากสถานศึกษาไปประกอบอาชีพแลว้ การจดั การเรียนการสอนวิทยาศาสตรใ์ นสถานศึกษามีเป้าหมาย สำคัญดงั น้ี 1. เพื่อใหเ้ ข้าใจหลกั การทฤษฎีทเี่ ป็นพน้ื ฐานในวิทยาศาสตร์ 2. เพื่อให้เข้าใจขอบเขตธรรมชาติและข้อจำกดั ของวทิ ยาศาสตร์ 3. เพื่อให้มีทักษะทสี่ ำคัญในการศึกษาค้นคว้าและคดิ คน้ ทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4. เพือ่ พัฒนากระบวนการคิดและจนิ ตนาการความสามารถในการแก้ปญั หาและการจัดการทกั ษะใน การส่ือสารและความสามารถในการตัดสนิ ใจ 5. เพื่อให้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีมวลมนุษย์และสภาพแวดล้อมใน เชงิ ท่ีมีอทิ ธพิ ลและผลกระทบซ่ึงกันและกนั 6. เพื่อนำความรู้ความเข้าใจในเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและ การดำรงชีวิต 7. เพื่อให้เป็นคนมีจิตวิทยาศาสตร์มีคุณธรรมจริยธรรมและค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยอี ย่างสรา้ งสรรค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศกั ราช 2564 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช 2560) มงุ่ ให้ผเู้ รียนเกดิ สมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ดังนี้ 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึกและทัศนะของตนเอง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ ประสบการณ์ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและล ด ปัญหาความขดั แย้งต่างๆ การเลอื กรับหรือไมร่ ับข้อมลู ข่าวสาร ด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการ เลือกใช้วธิ กี ารส่อื สารทีม่ ีประสทิ ธิภาพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบท่ีมตี ่อตนเองและสงั คม 2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ เพ่อื การตดั สนิ ใจเกีย่ วกับตนเองและสงั คมไดอ้ ย่างเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เผชิญได้ อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไข ปญั หา และมกี ารตดั สนิ ใจท่ีมีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบทีเ่ กดิ ขึ้นต่อตนเอง สงั คมและสง่ิ แวดล้อม

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่างๆ ไปใช้ใน การดำเนินชวี ติ ประจำวนั การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง การเรยี นร้อู ย่างตอ่ เน่ืองการทำงาน และการอยู่ร่วมกนั ในสังคม ด้วยการสร้างเสรมิ ความสัมพันธ์อนั ดรี ะหว่างบุคคล การจดั การปัญหาและความขดั แย้งต่างๆ อย่างเหมาะสม การ ปรบั ตวั ให้ทันกบั การเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม และการรูจ้ ักหลีกเลย่ี งพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ ท่ีส่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ นื่ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้เทคโนโลยีด้านต่างๆ และมี ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน การ แก้ปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสมและมคี ุณธรรม คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พทุ ธศักราช 2564 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช 2560) มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่ นในสังคมได้อย่างมี ความสุข ในฐานะเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก มี 8 ประการ ไดแ้ ก่ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซ่ือสตั ยส์ จุ ริต 3. มวี นิ ยั 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน 7. รักความเป็นไทย 8. มีจิตสาธารณะ

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ การกำหนดตวั ชีว้ ัดรายปี กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย สาระ มาตรฐาน ตัวชี้วดั รายปี ม. 5 ม. 6 ม. 4 สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ 1. สบื คน้ ข้อมูลและอธบิ ายความสมั พนั ธ์ ชีวภาพ ใจความหลากหลาย ของสภาพทางภูมิศาสตร์บนโลกกับความ ของระบบนเิ วศ หลากหลายของไบโอม และยกตวั อย่างไบ ความสัมพันธร์ ะหวา่ ง โอมชนดิ ตา่ งๆ สง่ิ ไม่มชี วี ติ กบั ส่ิงมชี วี ิต และ 2. สืบคน้ ขอ้ มูล อภปิ รายสาเหตุ และ ความสัมพนั ธร์ ะหว่าง ยกตวั อยา่ งการเปลย่ี นแปลงแทนที่ของ ระบบนเิ วศ 3. สบื ค้นข้อมูล อธิบายและยกตวั อย่าง สง่ิ มีชวี ิตกบั สิ่งมชี วี ิต เกี่ยวกบั การเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบ ต่างๆในระบบนเิ วศ ทางกายภาพ การถา่ ยทอดพลงั งาน 4. สืบคน้ ข้อมูลและอภปิ รายเกี่ยวกบั ปญั หา และมนษุ ยใ์ ช้ทรพั ยากรธรรมชาตโิ ดย การเปล่ยี นแปลง ปราศจากผลกระทบ ที่มีต่อ แทนท่ใี นระบบนเิ วศ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละความระมดั ระวัง ความหมายของ และมีการพัฒนาเทคโนโลยใี หมๆ่ ประชากร ปัญหาและ ส่งิ แวดลอ้ ม พรอ้ มทั้งนำเสนอแนวทางใน ผลกระทบที่มีต่อ การอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละการ ทรัพยากรธรรมชาติ แก้ไขปญั หาส่งผลต่อการเปลย่ี นแปลง และส่ิงแวดล้อม ทรพั ยากรธรรมชาติสงิ่ แวดลอ้ ม แนวทางในการ อนรุ กั ษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ และการแก้ไขปญั หา ส่ิงแวดลอ้ ม รวมทง้ั นำ ความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

สาระ มาตรฐาน ตวั ชีว้ ดั รายปี ม. 5 ม. 6 ม. 4 สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจ 1. อธบิ ายโครงสร้างและสมบัตขิ องเยอ่ื หุม้ ชวี ภาพ สมบัติของส่งิ มีชีวิต เซลลท์ สี่ ัมพันธ์กับการ ลำเลยี งสารและ หนว่ ยพน้ื ฐานของ เปรียบเทียบ การลำเลียงสารผ่าน ส่งิ มชี วี ิต การลำเลียง เยอื่ ห้มุ เซลลแ์ บบต่างๆ สารเข้า และออกจาก 2. อธิบายการควบคุมดลุ ยภาพของนำ้ และสารในเลอื ดโดยการทำงานของไต เซลล์ความสัมพันธข์ อง 3. อธิบายการควบคมุ ดุลยภาพของ กรด- โครงสรา้ งและหน้าท่ี ของระบบต่างๆ ของ เบสของการทำงานของไตและปอด 4. อธบิ ายการควบคุมดุลยภาพของ สตั วแ์ ละมนษุ ยท์ ่ี อณุ หภมู ภิ ายในระบบหมุนเวยี นเลือด ทำงานสัมพันธ์กนั ผิวหนงั และกลา้ มเนื้อโครงร่าง ความสัมพนั ธข์ อง 5. อธบิ ายและเขียนแผนผังเก่ียวกับการ โครงสรา้ งและหน้าที่ ตอบสนองรา่ งกายแบบไม่จำเพาะและ ของอวยั วะต่างๆ ของ แบบจำเพาะตอ่ แปลกปลอมของรา่ งกาย พชื ทท่ี ำงานสัมพันธ์กัน 6. สืบคน้ ขอ้ มูล อธบิ ายและยกตวั อยา่ งโรค รวมท้ังนำความรู้ไปใช้ หรืออาการที่เกิดจากความผิดปกตขิ อง ระบบภมู ิคุ้มกนั ประโยชน์ 7. อธิบายภาวะภมู คิ ุ้มกนั บกพรอ่ งทมี่ ี สาเหตุมาจากการติดเชื้อ HIV 8. ทดสอบและบอกชนดิ ของสารอาหารท่ี พชื สงั เคราะหไ์ ด้ 9. สบื คน้ ข้อมลู อภิปรายและยกตัวอย่าง เก่ียวกบั การใชป้ ระโยชนจ์ ากสารต่าง ๆ ทีพ่ ืชบางชนิดสร้างขึน้ 10. ออกแบบการทดลอง ทดลอง และ อธบิ ายเก่ียวกับปัจจยั ภายนอกท่ีมี ผลตอ่ การเจริญเตบิ โตของพชื 11. สืบค้นข้อมูลเกย่ี วกบั สารควบคมุ การ เจรญิ เติบโตของพืชที่มนษุ ยส์ งั เคราะห์ ขนึ้ และยกตัวอยา่ งการนำมประยุกตใ์ ช้ ทางดา้ นการเกษตรของพืช 12. สงั เกตและอธิบายการตอบสนองของสงิ่ เรา้ ในรปู แบบตา่ งๆ ท่ีมผี ลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของพชื

สาระ มาตรฐาน ตัวช้ีวัดรายปี ม. 5 ม. 6 ม. 4 สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 1.3 เขา้ ใจ 1. อธิบายความสมั พันธร์ ะหว่างยีน การ ชวี ภาพ กระบวนการและ สังเคราะห์ โปรตนี และลกั ษณะทาง ความสำคัญของการ พันธุกรรม ถ่ายทอดลกั ษณะทาง 2. อธบิ ายหลกั การถา่ ยทอดลักษณะที่ถูก พนั ธุกรรม สาร พันธุกรรม การ ควบคุมดว้ ยยีนทีอ่ ยู่บนโครโมโซมเพศ เปลีย่ นแปลงทาง และมัลตเิ ปลิ แอลลลี พันธุกรรมท่ีมผี ลตอ่ 3. อธบิ ายผลที่เกิดจากการเปลีย่ นแปลง ส่ิงมชี วี ิต ความ ลำดับนวิ คลีโอไทด์ในดเี อน็ เอตอ่ การ หลากหลาย ทาง แสดงลกั ษณะของส่ิงมีชีวิต 4. สบื ค้นข้อมลู และยกตัวอย่างการนำ ชีวภาพและ มวิ เทชันไปใช้ ประโยชน์ 5. สบื ค้นขอ้ มูล และอภปิ รายผลของ วิวฒั นาการของ เทคโนโลยีทางดเี อน็ เอทมี่ ีตอ่ มนุษย์ สงิ่ มีชวี ติ รวมท้ังนำ และส่งิ แวดลอ้ ม ความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ 6. สบื ค้นข้อมลู อธิบาย และยกตัวอย่าง ความหลากหลายของส่งิ มีชวี ิต ซงึ่ เป็น ผลมาจากวิวัฒนาการ

สาระ มาตรฐาน ม. 4 ตวั ชีว้ ดั รายปี ม. 6 ม. 5 สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจ 1. ระบวุ า่ สารเป็นธาตุหรือสารประกอบ และ กายภาพ สมบตั ิของสสาร อยู่ในรูปอะตอมโมเลกุล หรอื ไอออนจาก องคป์ ระกอบของสสาร สตู รเคมี ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง สมบัติ ของสสารกบั 2. เปรยี บเทยี บความเหมือนและความ โครงสรา้ งและแรงยึด แตกตา่ ง ของแบบจำลองอะตอมของโบร์ เหนี่ยวระหว่างอนุภาค กบั แบบจำลอง อะตอมแบบกลุม่ หมอก หลักและธรรมชาติของ การเปลยี่ นแปลง 3. ระบุจำนวนโปรตอน นวิ ตรอน และ สถานะของสสาร การ อิเลก็ ตรอน ของอะตอมและไอออนทีเ่ กิด เกิดสารละลาย และ จากอะตอมเดียว การเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี 4. เขยี นสัญลกั ษณน์ วิ เคลยี รข์ องธาตแุ ละระบุ การเป็นไอโซโทป 5. ระบุหมแู่ ละคาบของธาตุและระบวุ า่ ธาตุ เป็น โลหะ อโลหะ ก่งึ โลหะ กลมุ่ ธาตเุ รพรี เซนเททีฟหรอื กล่มุ ธาตุ แทรนซชิ นั จากตารางธาตุ 6. เปรียบเทียบสมบตั ิการนำไฟฟา้ การให้ และรับ อิเลก็ ตรอนระหวา่ งธาตใุ นกลุม่ โลหะกับอโลหะ 7. สบื ค้นข้อมูลและนำเสนอตัวอยา่ ง ประโยชน์และ อันตรายทีเ่ กดิ จากธาตเุ รพรี เซนเททฟี และธาตุแทรนซิชนั 8. ระบุวา่ พนั ธะโคเวเลนตเ์ ปน็ พันธะเด่ียว พันธะค่หู รอื พันธะสาม และระบจุ ำนวนคู่ อิเลก็ ตรอน ระหว่างอะตอมคู่ร่วมพนั ธะ จากสตู รโครงสรา้ ง 9. ระบุสภาพขั้วของสารทีโ่ มเลกุล ประกอบดว้ ย 2 อะตอม 10. ระบุสารท่เี กดิ พนั ธะไฮโดรเจน ไดจ้ ากสูตร โครงสรา้ ง 11. อธิบายความสัมพันธร์ ะหว่างจดุ เดือดของ สารโคเวเลนตก์ ับแรงดงึ ดูดระหว่าง โมเลกุลตามสภาพข้ัวหรือการเกิดพนั ธะ ไฮโดรเจน

สาระ มาตรฐาน ม. 4 ตวั ชว้ี ดั รายปี ม. 6 ม. 5 สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจ 12. เขียนสตู รเคมขี องไอออนและ กายภาพ สมบัตขิ องสสาร สารประกอบไอออนิก องค์ประกอบของสสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง 13. ระบุว่าสารเกดิ การละลายแบบแตกตวั สมบตั ิ ของสสารกบั หรอื ไม่แตกตวั พร้อมให้เหตผุ ลและระบุ โครงสร้างและแรงยดึ ว่า สารละลายทไี่ ด้เป็นสารละลาย เหนีย่ วระหว่างอนุภาค อิเล็กโทรไลต์หรอื นอนอิเลก็ โทรไลต์ หลกั และธรรมชาติของ การเปลยี่ นแปลง 14. ระบุสารประกอบอินทรีย์ประเภท สถานะของสสาร การ ไฮโดรคาร์บอนวา่ อ่ิมตวั หรอื ไม่อม่ิ ตวั จาก เกดิ สารละลาย และ สตู รโครงสรา้ ง การเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี 15. สบื ค้นข้อมลู และเปรียบเทียบสมบตั ิ ทาง กายภาพระหวา่ งพอลิเมอรแ์ ละมอนอเมอร์ ของพอลิเมอรช์ นิดนน้ั 16. ระบุสมบัตคิ วามเปน็ กรด-เบส จาก โครงสร้างของสารประกอบอนิ ทรีย์ 17. อธิบายสมบัติการละลายในตัวทำละลาย ชนดิ ต่าง ๆ ของสาร 18. วิเคราะหแ์ ละอธบิ ายความสัมพนั ธ์ ระหวา่ ง โครงสรา้ งกับสมบตั ิเทอรม์ อ- พลาสติกและเทอรม์ อเซตของพอลิเมอร์ และการนำพอลเิ มอรไ์ ปใช้ประโยชน์ 19. สบื คน้ ขอ้ มลู และนำเสนอผลกระทบของ การใช้ ผลิตภณั ฑ์พอลิเมอรท์ ม่ี ตี ่อ สิง่ มชี ีวิตและส่งิ แวดลอ้ ม พรอ้ มแนวทาง ป้องกันหรือแก้ไข 20. ระบุสตู รเคมีของสารต้ังต้น ผลติ ภัณฑ์ และแปลความหมายของสญั ลักษณ์ใน สมการเคมขี องปฏิกิรยิ าเคมี 21. ทดลองและอธบิ ายผลของความเขม้ ข้น พื้นท่ผี ิวอุณหภมู ิและตวั เรง่ ปฏกิ ิรยิ าทม่ี ี ผลต่ออตั ราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี 22. สืบค้นข้อมลู และอธิบายปัจจัยที่มีผลต่อ อตั รา การเกิดปฏิกริ ยิ าเคมีท่ีใช้ประโยชน์ ในชวี ิตประจำวันหรอื ในอตุ สาหกรรม

สาระ มาตรฐาน ม. 4 ตัวชวี้ ดั รายปี ม. 6 ม. 5 สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจ 23. อธิบายความหมายของปฏิกริ ยิ ารีดอกซ์ กายภาพ สมบัติของสสาร 24. อธบิ ายสมบัติของสารกัมมนั ตรงั สี และ องคป์ ระกอบของสสาร คำนวณคร่ึงชวี ติ และปรมิ าณของสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง กัมมันตรังสี สมบัติ ของสสารกับ 25. สืบค้นข้อมลู และนำเสนอตวั อยา่ ง โครงสรา้ งและแรงยดึ ประโยชน์ของสารกัมมันตรังสีและการ เหน่ียวระหว่างอนุภาค ปอ้ งกนั อันตราย ที่เกิดจาก หลักและธรรมชาติ กัมมนั ตภาพรงั สี ของการเปลย่ี นแปลง สถานะของสสาร การ เกิดสารละลาย และ การเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี

สาระ มาตรฐาน ตัวชี้วดั รายปี ม. 6 สาระที่ 1 มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจ ม. 4 ม. 5 วทิ ยาศาสตร์ ธรรมชาติของแรงใน กายภาพ ชวี ิตประจำวนั ผลของ 1. วิเคราะห์และแปลความหมายขอ้ มลู แรงที่กระทำต่อวัตถุ ความเรว็ กบั เวลาของการเคลื่อนทขี่ องวัตถุ ลักษณะการเคลื่อนที่ เพือ่ อธิบายความเรง่ ของวตั ถุ แบบต่างๆ ของวัตถุ รวมทง้ั นำความรู้ไปใช้ 2. สังเกตและอธบิ ายการหาแรงลัพธท์ ี่เกิดจาก ประโยชน์ แรงหลายแรงทอ่ี ยู่ในระนาบเดยี วกันที่ กระทำต่อวัตถุโดยการเขียนแผนภาพการ รวมแบบ เวกเตอร์ 3. สังเกต วเิ คราะหแ์ ละอธบิ ายความสัมพนั ธ์ ระหว่างความเรง่ ของวตั ถกุ ับแรงลพั ธ์ท่ี กระทำต่อวัตถุและมวลของวตั ถุ 4. สงั เกตและอธิบายแรงกิรยิ าและแรง ปฏกิ ริ ิยาระหว่างวัตถคุ ่หู นงึ่ ๆ 5. สงั เกตและอธบิ ายผลของความเรง่ ที่มตี ่อ การเคลื่อนท่ีแบบต่างๆ ของวตั ถุ ไดแ้ ก่ การเคลือ่ นทแี่ นวตรง การเคลื่อนที่แบบ โพรเจกไทล์ การเคลื่อนที่แบบวงกลมและ การเคล่อื นท่แี บบสัน่ 6. สืบคน้ ขอ้ มูลและอธบิ ายแรงโน้มถว่ งท่ี เกีย่ วกบั การเคล่อื นทข่ี องวัตถุต่าง ๆ รอบ โลก 7. สงั เกตและอธบิ ายการเกิดสนามแมเ่ หล็ก เน่อื งจากกระแสไฟฟ้า 8. สังเกตและอธบิ ายแรงแมเ่ หลก็ ที่กระทำตอ่ อนภุ าคท่ีมปี ระจุไฟฟ้าทีเ่ คลือ่ นท่ีใน สนามแม่เหลก็ และแรงแมเ่ หลก็ ทก่ี ระทำต่อ ลวดตวั นำทมี่ กี ระแสไฟฟ้าผา่ นใน สนามแม่เหล็ก รวมทัง้ อธิบายหลักการ ทำงาน 9. สังเกตและอธบิ ายการเกิดอีเอ็มเอฟ รวมท้งั ยกตวั อย่างการนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ 10. สบื คน้ ขอ้ มูลและอธบิ ายแรงเข้มและแรง อ่อน อ่อน

สาระ มาตรฐาน ตวั ช้ีวัดรายปี ม. 6 ม. 4 ม. 5 สาระที่ 1 มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจ 1. สบื ค้นข้อมูลและอธบิ ายพลังงานนิวเคลยี ร์ วทิ ยาศาสตร์ ความหมายของ ฟชิ ชนั และฟวิ ชัน และความสมั พันธ์ กายภาพ พลงั งาน การ ระหวา่ งมวลกบั พลังงานทปี่ ลดปล่อย เปล่ยี นแปลงและการ ออกมาจากฟิชชนั และฟิวชัน ถ่ายโอนพลงั งาน ปฏิสมั พนั ธร์ ะหว่าง 2. สืบค้นขอ้ มลู และอธิบายการเปล่ยี น สสารและพลงั งาน พลงั งาน ทดแทนเป็นพลงั งานไฟฟ้า พลังงานใน รวมทง้ั สบื คน้ และ อภิปรายเก่ยี วกบั ชวี ติ ประจำวนั เทคโนโลยีท่นี ำมาแกป้ ญั หา หรอื ธรรมชาติของคลน่ื ตอบสนองความต้องการทางด้านพลงั งาน ปรากฏการณ์ท่ี โดยเนน้ ด้านประสิทธภิ าพและความคุ้มค่า เก่ียวขอ้ งกบั เสยี ง แสง ดา้ นค่าใช้จา่ ย และคลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้า รวมทัง้ นำความรู้ไปใช้ 3. สังเกตและอธิบายการสะท้อน การหกั เห ประโยชน์ การเลี้ยวเบน และการรวมคลืน่ 4. สังเกตและอธิบายความถี่ธรรมชาติ การสั่น พ้อง และผลที่เกดิ ข้ึนจากการสัน่ พ้อง 5. สังเกตและอธิบายการสะท้อน การหกั เห การเลยี้ วเบนและการรวมคลน่ื ของคล่ืน เสียง 6. สบื คน้ ข้อมูลและอธิบายความสัมพันธ์ ระหวา่ ง ความเข้มเสยี งกบั ระดับเสยี งและ ผลของความถี่กบั ระดับเสียงทม่ี ีต่อการได้ ยินเสียง 7. สังเกตและอธบิ ายการเกดิ เสยี งสะทอ้ น กลบั บีต ดอปเพลอร์ และการส่ันพ้องของ เสียง 8. สบื คน้ ข้อมูลและยกตวั อยา่ งการนำความรู้ เก่ยี วกับเสยี งไปใชป้ ระโยชนใ์ น ชีวติ ประจำวนั 9. สังเกตและอธบิ ายการมองเห็นสขี องวัตถุ และความผดิ ปกติในการมองเห็นสี 10. สังเกตและอธิบายการทำงานของแผ่น กรอง แสงสี การผสมแสงสี การผสมสารสี และการนำไปใชป้ ระโยชนใ์ น ชวี ิตประจำวนั

สาระ มาตรฐาน ตัวชวี้ ัดรายปี ม. 6 ม. 4 ม. 5 สาระที่ 1 มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจ 11. สบื ค้นข้อมูลและอธิบายคลืน่ วทิ ยาศาสตร์ ความหมายของ แม่เหลก็ ไฟฟ้า ส่วนประกอบคล่ืน กายภาพ พลงั งาน การ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า และหลกั การทำงานของ เปล่ียนแปลงและการ อปุ กรณบ์ างชนดิ ท่ีอาศัยคลนื่ ถ่ายโอนพลงั งาน แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า ปฏสิ ัมพนั ธ์ระหว่าง สสารและพลงั งาน 12. สบื คน้ ข้อมูลและอธิบายการสือ่ สาร โดย พลงั งานใน อาศยั คล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ในการส่งผ่าน ชวี ติ ประจำวัน สารสนเทศ และเปรยี บเทียบการสื่อสาร ธรรมชาตขิ องคล่ืน ด้วยสัญญาณ อนาลอ็ กกับสญั ญาณดิจิทัล ปรากฏการณ์ท่ี เกยี่ วข้องกบั เสยี ง แสง และคล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมทง้ั นำความรู้ไปใช้ ประโยชน์

สาระ มาตรฐาน ตัวชี้วดั รายปี ม. 4 ม. 5 ม. 6 สาระท่ี 1 มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจ 1. อธิบายการกำเนิดและการเปล่ียนแปลง วทิ ยาศาสตร์ องคป์ ระกอบ ลักษณะ พลงั งาน อุณหภูมิของเอกภพหลังเกิดทฤษฎี โลก และ กระบวนการเกิดและ บกิ แบง ตามวิวฒั นาการของเอกภพ อวกาศ วิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์และ 2. อธบิ ายหลักฐานทสี่ นับสนนุ ทฤษฎบี ิกแบง ระบบสรุ ิยะ รวมท้งั จากความสมั พันธร์ ะหวา่ งความเร็วกบั ปฏิสัมพันธภ์ ายใน ระยะทางของกาแล็กซี รวมทั้งขอ้ มูลการ ระบบสรุ ิยะ ทส่ี ง่ ผลต่อ คน้ พบไมโครเวฟพนื้ หลังจากอวกาศ สง่ิ มีชวี ิตและการ ประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยี 3. อธบิ ายโครงสร้างและองคป์ ระกอบของ อวกาศ กาแลก็ ซี ทางช้างเผือกและระบตุ ำแหน่งของ ระบบสรุ ยิ ะ พรอ้ มอธิบายเชื่อมโยงกบั การ สังเกตเห็นทางชา้ งเผอื กของคนบนโลก 4. อธบิ ายกระบวนการเกิดดาวฤกษ์ โดยแสดง การเปลยี่ นแปลงความดนั อณุ หภูมิ ขนาด จากดาวฤกษก์ อ่ นเกดิ จนเป็นดาวฤกษ์ 5. ระบุปจั จยั ท่สี ง่ ผลตอ่ ความส่องสวา่ งของ ดาว ฤกษ์ และอธิบายความสมั พันธ์ระหว่างความ ส่องสวา่ งกบั โชติมาตรของดาวฤกษ์ 6. อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสี อณุ หภมู ิผิว และสเปกตรมั ของดาวฤกษ์ 7. อธิบายลำดับวิวัฒนาการทสี่ ัมพนั ธ์กับมวลตัง้ ต้น และวเิ คราะห์การเปล่ยี นแปลงสมบัตบิ าง ประการของดาวฤกษ์ 8. อธบิ ายกระบวนการเกดิ ระบบสรุ ยิ ะและการ แบ่งเขตบรวิ ารของดวงอาทิตยแ์ ละลักษณะ ของ ดาวเคราะหท์ ี่เอือ้ ตอ่ การดำรงชวี ิต 9. อธิบายโครงสร้างของดวงอาทิตย์ การเกดิ ลม สรุ ยิ ะ พายสุ ุริยะ และสบื ค้นข้อมลู วิเคราะห์ นำเสนอปรากฏการณห์ รอื เหตุการณ์ท่ี เกีย่ วขอ้ ง กับผลของลมสุริยะและพายสุ รุ ิยะท่ี มตี อ่ โลก รวมทั้งประเทศไทย 10. สืบคน้ ขอ้ มูล อธบิ ายการสำรวจอวกาศ โดย ใชก้ ล้องโทรทรรศน์ในช่วงความยาวคลนื่ ตา่ งๆ ดาวเทยี ม ยานอวกาศ สถานีอวกาศ และนำเสนอ แนวคดิ การนำความร้ทู างดา้ นเทคโนโลยีอวกาศ มาประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวนั หรอื ในอนาคต

สาระ มาตรฐาน ตัวช้ีวัดรายปี ม. 4 ม. 5 ม. 6 สาระที่ 3 มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจ 1. อธิบายการแบง่ ช้ันและสมบตั ขิ องโครงสรา้ ง วทิ ยาศาสตร์ องค์ประกอบและ โลก พร้อมยกตวั อยา่ งข้อมูลท่ีสนับสนนุ โลก และ ความสัมพันธข์ อง อวกาศ ระบบโลก 2. อธิบายหลักฐานทางธรณวี ิทยาทส่ี นับสนนุ กระบวนการ การเคลือ่ นท่ีของแผน่ ธรณี เปล่ียนแปลง ภายใน โลกและบนผิวโลก 3. ระบสุ าเหตุและอธิบายรปู แบบแนวรอยต่อของ ธรณีพิบัตภิ ัย แผน่ ธรณที ่ีสัมพันธก์ บั การเคล่ือนท่ีของแผ่น กระบวนการ ธรณี พร้อมยกตวั อย่างหลักฐานทาง เปลีย่ นแปลง ลมฟา้ ธรณวี ทิ ยาที่พบ อากาศและภูมิอากาศ โลก รวมทง้ั ผลตอ่ 4. อธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ สิง่ มชี ีวิตและ รวมทัง้ สบื ค้นขอ้ มูลพื้นที่เสี่ยงภยั ออกแบบ สง่ิ แวดลอ้ ม และนำเสนอแนวทางการเฝ้าระวงั และการ ปฏิบัตติ นใหป้ ลอดภัย 5. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด ขนาดและ ความรนุ แรงและผลจากแผน่ ดนิ ไหว รวมทงั้ สบื ค้นข้อมูลพ้ืนทเ่ี สย่ี งภยั ออกแบบและ นำเสนอแนวทางการเฝ้าระวงั และการปฏิบตั ิ ตนให้ปลอดภยั 6. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิดและผลจาก สนึ ามิรวมทง้ั สืบค้นขอ้ มลู พ้ืนท่เี สยี่ งภัย ออกแบบและนำเสนอแนวทางการเฝ้าระวัง และการปฏบิ ตั ิตนใหป้ ลอดภยั 7. อธิบายปัจจยั สำคญั ท่มี ีผลต่อการไดร้ ับ พลังงานจากดวงอาทติ ย์แตกต่างกนั ในแตล่ ะ บรเิ วณของโลก 8. อธบิ ายการหมนุ เวยี นของอากาศ ที่เปน็ ผลมา จากความแตกตา่ งของความกดอากาศ 9. อธบิ ายทิศทางการเคล่ือนทขี่ องอากาศ ทเ่ี ป็น ผลมาจากการหมุนรอบตวั เองของโลก 10. อธิบายการหมุนเวยี นของอากาศตามเขต ละตจิ ูดและผลท่ีมตี อ่ ภมู ิอากาศ 11. อธิบายปัจจยั ท่ีทำใหเ้ กิดการหมุนเวยี นของ นำ้ ผวิ หนา้ ในมหาสมุทรและรูปแบบการ หมุนเวียนของน้ำผวิ หน้าในมหาสมุทร

สาระ มาตรฐาน ตวั ชี้วดั รายปี ม. 4 ม. 5 ม. 6 สาระที่ 3 มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจ 12. อธบิ ายผลของการหมนุ เวยี นของอากาศและ วทิ ยาศาสตร์ องค์ประกอบและ น้ำผวิ หน้าในมหาสมุทรท่มี ตี ่อลกั ษณะ โลก และ ความสมั พันธข์ อง ภมู ิอากาศ ลมฟ้าอากาศ ส่งิ มชี วี ติ และ อวกาศ ระบบโลก ส่ิงแวดลอ้ ม กระบวนการ เปลี่ยนแปลง ภายใน 13. อธบิ ายปจั จยั ทมี่ ีผลตอ่ การเปลี่ยนแปลง โลกและบนผิวโลก ภูมอิ ากาศของโลก พร้อมท้ังนำเสนอแนว ธรณีพบิ ตั ิภยั ปฏบิ ตั ิ เพ่ือลดกิจกรรมของมนุษย์ท่สี ง่ ผลตอ่ กระบวนการ การเปลย่ี นแปลงภมู ิอากาศโลก เปลย่ี นแปลง ลมฟา้ อากาศและภูมิอากาศ 14. แปลความหมายสญั ลักษณ์ลมฟ้าอากาศที่ โลก รวมทัง้ ผลต่อ สำคัญจากแผนที่อากาศ และนำข้อมูล สิ่งมีชีวติ และ สารสนเทศตา่ งๆ มาวางแผนการดำเนินชีวิต ส่งิ แวดลอ้ ม ให้สอดคล้องกับสภาพลมฟ้าอากาศ

สาระ มาตรฐาน ตวั ชี้วัดรายปี สาระท่ี 4 มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจ ม. 4 ม. 5 ม. 6 เทคโนโลยี แนวคิดหลกั ของ เทคโนโลยเี พอ่ื การ 1. วิเคราะหแ์ นวคดิ หลกั ของ 1. ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรแู้ ละ ดำรงชวี ิตในสังคมที่มี การเปล่ยี นแปลง อย่าง เทคโนโลยี ความสัมพนั ธ์ ทกั ษะจากศาสตร์ต่างๆ รวดเรว็ ใชค้ วามร้แู ละ ทกั ษะทางด้าน กบั ศาสตร์อ่นื โดยเฉพาะ รวมท้งั ทรพั ยากรในการ วทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และ วทิ ยาศาสตร์ หรอื ทำโครงงานเพื่อ ศาสตรอ์ ่ืนๆ เพ่อื แกป้ ัญหาหรือพัฒนา คณิตศาสตร์ รวมทั้ง แกป้ ัญหาหรอื พฒั นา งานอยา่ งมีความคิด สร้างสรรค์ ด้วย ประเมนิ ผลกระทบท่ีจะ งาน กระบวนการออกแบบ เชงิ วิศวกรรม เลอื กใช้ เกิดข้นึ ตอ่ มนุษย์ สังคม เทคโนโลยอี ยา่ ง เหมาะสม โดยคำนึงถึง เศรษฐกิจและ ผลกระทบต่อชีวิต สงั คมและส่ิงแวดลอ้ ม สิ่งแวดลอ้ ม เพื่อเปน็ แนวทางในการพฒั นา 2. ระบุปญั หาหรอื ความ ตอ้ งการท่มี ผี ลกระทบตอ่ สงั คม รวบรวม วิเคราะห์ ขอ้ มลู และแนวคิด ท่ี เก่ยี วข้องกับปัญหาท่มี ี ความซบั ซอ้ น เพ่ือ สงั เคราะหว์ ิธีการ เทคนคิ ในการแก้ปัญหา โดยคำนงึ ถงึ ความถูกต้อง ด้านทรัพย์สินทางปญั ญา 3. ออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหา โดยวเิ คราะห์ เปรยี บเทียบและ ตดั สินใจเลอื กข้อมูลท่ี จำเปน็ ภายใตเ้ งอ่ื นไข และทรพั ยากรท่ีมอี ยู่ นำเสนอแนวทางการ แก้ปัญหาให้ผ้อู น่ื เขา้ ใจ ดว้ ยเทคนคิ หรอื วิธีการท่ี หลากหลาย โดยใช้ ซอฟต์แวร์ ชว่ ยในการ ออกแบบ วางแผน ขนั้ ตอนการทำงานและ ดำเนินการแก้ปัญหา

สาระ มาตรฐาน ตวั ชี้วัดรายปี ม. 6 ม. 4 ม. 5 สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจ 4. ทดสอบ ประเมินผล แนวคิดหลกั ของ วิเคราะห์ และให้เหตุผล เทคโนโลยีเพ่อื การ ของปัญหาหรือ ดำรงชีวิตในสังคมที่มี ขอ้ บกพร่องทเ่ี กิดข้ึน การเปล่ยี นแปลง อยา่ ง ภายใตก้ รอบเงื่อนไข หา รวดเรว็ ใชค้ วามร้แู ละ แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไขและนำเสนอผลการ ทกั ษะทางดา้ น แก้ปญั หา พรอ้ มทงั้ เสนอ วิทยาศาสตร์ แนวทางการพัฒนาต่อ คณิตศาสตร์และ ยอด ศาสตรอ์ ืน่ ๆ เพื่อ 5. ใช้ความรูแ้ ละทักษะ แกป้ ัญหาหรือพฒั นา เกยี่ วกบั วัสดุ อปุ กรณ์ งานอยา่ งมคี วามคิด เครื่องมอื กลไก ไฟฟ้า สรา้ งสรรค์ ดว้ ย และอิเล็กทรอนกิ ส์ และ กระบวนการออกแบบ เทคโนโลยที ่ีซับซ้อนใน เชิงวศิ วกรรม เลือกใช้ การแกป้ ัญหาหรอื พฒั นา เทคโนโลยีอยา่ ง งานได้อยา่ งถกู ต้อง เหมาะสม และปลอดภยั เหมาะสม โดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชีวติ สงั คมและส่ิงแวดล้อม

สาระ มาตรฐาน ตัวชว้ี ัดรายปี สาระท่ี 4 ม. 4 ม. 5 ม. 6 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 1. ประยกุ ตใ์ ช้ 1. รวบรวม วเิ คราะห์ 1. ใช้เทคโนโลยี เขา้ ใจและใช้ แนวคดิ เชงิ ข้อมลู และใช้ความรู้ สารสนเทศในการ แนวคิดเชงิ คำนวณในการ ด้านวทิ ยาการ นำเสนอ และ คำนวณในการ พฒั นาโครงงานท่ี แก้ปัญหาท่ีพบ มกี ารบูรณาการ คอมพิวเตอร์ สื่อ แบ่งปนั ขอ้ มลู อยา่ ง ในชีวิตจรงิ อยา่ ง กับวิชาอ่ืน อย่าง สรา้ งสรรค์ และ ดิจทิ ลั เทคโนโลยี ปลอดภัย มี สารสนเทศในการ จริยธรรมและ เป็นขน้ั ตอนและ เช่อื มโยงกบั ชีวติ แกป้ ญั หาหรอื เพ่ิม วิเคราะห์การ มลู คา่ ใหก้ บั บรกิ าร เปล่ียนแปลง เป็นระบบ ใช้ จรงิ หรอื ผลติ ภณั ฑท์ ่ีใช้ใน เทคโนโลยี เทคโนโลยี ชวี ิตจรงิ สารสนเทศท่ีมผี ล สารสนเทศและ ตอ่ การดำเนินชีวิต การสอ่ื สารใน อาชีพ สังคมและ การเรียนรู้ การ วัฒนธรรม ทำงาน และการ แก้ปญั หาได้ อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ รู้เทา่ ทัน และมี จริยธรรม

ผลการเรียนร้แู ละสาระการเรียนรเู้ พ่มิ เติม วทิ ยาศาสตร์เพ่มิ เติม ผูเ้ รยี นจะได้เรียนรูส้ าระสำคัญ ดงั นี้ ✧ ชีววิทยา เรียนรู้เก่ียวกับ การศึกษาชวี วทิ ยา สารทเ่ี ป็นองค์ประกอบของสง่ิ มีชวี ิต เซลลข์ องส่ิงมชี วี ิต พันธกุ รรมและการถ่ายทอด ววิ ฒั นาการความหลากหลายทางชีวภาพ โครงสร้างและการทำงานของส่วนตา่ ง ๆ ใน พืชดอก ระบบและการทำงานในอวัยวะต่างๆ ของสัตว์ มนษุ ย์ และสง่ิ มชี ีวติ และสิง่ แวดลอ้ ม ✧ เคมี เรยี นรู้เก่ยี วกับ ปรมิ าณสาร องคป์ ระกอบและสมบัตขิ องสาร การเปล่ยี นแปลงของสาร ทักษะ และการแกป้ ญั หาทางเคมี ✧ ฟิสกิ ส์ เรยี นร้เู กี่ยวกับ ธรรมชาติและการคน้ พบทางฟสิ ิกส์ แรงและการเคล่ือนที่และพลังงาน ✧ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เรยี นร้เู กยี่ วกับ โลกและกระบวนการเปลย่ี นแปลงทางธรณีวิทยา ขอ้ มูลทางธรณีวทิ ยาและการนำไปใชป้ ระโยชน์ การถา่ ยโอนพลังงานความร้อนของโลก การเปลยี่ นแปลงลกั ษณะ ลมฟ้าอากาศกับการดำรงชีวติ ของมนษุ ย์ โลกในเอกภพ และดาราศาสตร์ กบั มนษุ ย์ สาระวทิ ยาศาสตร์เพมิ่ เติม สาระชวี วิทยา 1. เขา้ ใจธรรมชาติของส่งิ มีชีวติ การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ สารทเ่ี ป็นองค์ประกอบ ของสงิ่ มชี วี ิต ปฏกิ ิรยิ าเคมใี นเซลล์ของส่ิงมชี ีวิต กล้องจุลทรรศน์ โครงสรา้ งและหน้าทขี่ องเซลล์ การลำเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์ การแบ่งเซลลแ์ ละการหายใจระดับเซลล์ 2. เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัตแิ ละหนา้ ที่ของสาร พันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐานข้อมูลและแนวคิด เกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก การเกิดสปีชีส์ใหม่ ความหลากหลายทางชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ความ หลากหลายของส่งิ มชี ีวติ และอนุกรมวิธาน รวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 3. เข้าใจส่วนประกอบของพืช การแลกเปลี่ยนแก๊สและคายน้ำของพืช การลำเลียงของพืช การ สังเคราะห์ด้วยแสง การสืบพันธุ์ของพืชดอกและการเจริญเติบโตและการตอบสนองของพชื รวมทงั้ นำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 4. เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์และมนุษย์ รวมท้ังการหายใจและการแลกเปลี่ยนแก๊ส การลำเลียงสาร และการหมุนเวียนเลือด ภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขับถ่าย การรับรู้และการตอบสนอง การเคลื่อนที่ การสืบพันธุ์ และการเจริญเติบโต ฮอร์โมนกับการรักษาดุลยภาพและพฤติกรรมของสตั ว์ รวมท้ังนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ 5. เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงานและการหมุนเวียน สารในระบบ นิเวศ ความหลากหลายของไบโอม การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศประชากรและรูปแบบการ เพิ่มของประชากร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาและผลกระทบทีเ่ กดิ จากการใชป้ ระโยชน์และแนว ทางการแกไ้ ขปญั หา

สาระเคมี 1. เขา้ ใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ สมบัติของธาตุ พันธะเคมีและสมบัติของสาร แก๊สและสมบัติของแก๊ส ประเภทและสมบตั ขิ องสารประกอบอนิ ทรีย์และพอลิเมอร์ รวมทง้ั การนำความรไู้ ปใช้ ประโยชน์ 2. เขา้ ใจการเขียนและการดลุ สมการเคมี ปริมาณสัมพนั ธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สมดุล ในปฏิกิริยาเคมี สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมทั้งการนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 3. เขา้ ใจหลกั การทำปฏบิ ัติการเคมี การวัดปริมาณสาร หนว่ ยวดั และการเปลย่ี นหนว่ ย การคำนวณ ปริมาณของสาร ความเข้มข้นของสารละลาย รวมทงั้ การบูรณาการความรู้และทักษะในการอธบิ ายปรากฏการณ์ใน ชีวิตประจำวนั และการแกป้ ญั หาทางเคมี สาระฟสิ กิ ส์ 1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรงแรงและกฎ การเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทาน สมดุลกลของวัตถุ งานและกฎการอนุรักษ์ พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโค้ง รวมทง้ั นำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ 2. เข้าใจการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกส์อย่างง่าย ธรรมชาติของคลื่นเสียง การได้ยินปรากฏการณ์ที่ เกี่ยวข้องกับเสียง แสงและการเห็นปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแสง รวมทัง้ นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ 3. เข้าใจแรงไฟฟ้าและกฎของคูลอมบ์ สนามไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า ความจุไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าและกฎของโอห์ม วงจรไฟฟ้ากระแสตรง พลังงานไฟฟ้าและกำลังไฟฟ้า การเปลี่ยนพลังงานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า สนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กที่กระทำกับประจุไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้า การเหนี่ยวนำ แม่เหล็กไฟฟ้าและกฎของฟาราเดย์ ไฟฟ้า กระแสสลบั คล่นื แม่เหล็กไฟฟา้ และการสอ่ื สาร รวมทัง้ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ 4. เข้าใจความสัมพันธ์ของความร้อนกับการเปลี่ยนอุณหภูมิและสถานะของสสาร สภาพยืดหยุ่นของ วัสดุ และมอดูลัสของยัง ความดันในของไหล แรงพยุงและหลักของอาร์คิมีดีส ความตึงผิวและแรงหนืดของ ของเหลว ของไหลอุดมคติและสมการแบร์นูลลี กฎของแก๊ส ทฤษฎีจลน์ของแก๊สอุดมคติและพลังงานในระบบ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทรกิ ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค กัมมันตภาพรังสี แรงนิวเคลียร์ ปฏิกริ ยิ านวิ เคลียร์ พลงั งานนิวเคลยี ร์ ฟสิ ิกสอ์ นุภาค รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ สาระโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 1. เข้าใจกระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก ธรณีพิบัติภัยและผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิง่ แวดล้อม การศึกษาลำดับชนั้ หิน ทรัพยากรธรณี แผนที่และการนำไปใชป้ ระโยชน์ 2. เข้าใจสมดลุ พลังงานของโลก การหมนุ เวยี นของอากาศบนโลก การหมุนเวยี นของน้ำในมหาสมุทร การเกิด เมฆ การเปล่ยี นแปลงภูมอิ ากาศโลกและผลต่อสิง่ มีชีวิตและส่งิ แวดลอ้ ม รวมทั้งการพยากรณ์อากาศ 3. เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะกระบวนการเกิดและวิวัฒนาการของเอกภพ กาแลก็ ซี ดาวฤกษ์และ ระบบสุริยะ ความสัมพันธ์ของดาราศาสตร์กับมนุษย์จากการศึกษาตำแหน่ง ดาวบนทรงกลมฟ้าและปฏิสัมพันธ์ ภายในระบบสุริยะ รวมทงั้ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศ

การกำหนดผลการเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย สาระ มาตรฐาน ผลการเรียนรู้รายปี ม. 5 ม. 6 สาระ 1. เขา้ ใจธรรมชาติ ม. 4 ชีววิทยา ของสิง่ มชี วี ติ การศึกษา 1. อธบิ าย และสรุปสมบตั ิท่สี ำคัญของสิง่ มชี วี ิต ชีววิทยาและ และความสมั พันธ์ของการจดั ระบบในส่งิ มีชีวติ วธิ กี ารทาง ทีท่ ำให้ส่งิ มชี วี ิตดำรงชีวิตอย่ไู ด้ วิทยาศาสตร์สารท่ี เป็นองค์ประกอบ 2. อภิปราย และบอกความสำคญั ของการระบุ ของสิง่ มีชีวิต ปญั หา ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งปัญหา ปฏิกิรยิ าเคมใี น สมมติฐาน และวิธีการตรวจสอบสมมติฐาน เซลลข์ อง รวมทง้ั ออกแบบการทดลองเพื่อตรวจสอบ ส่งิ มีชวี ิต กลอ้ ง สมมตฐิ าน จุลทรรศน์ โครงสร้างและ 3. สืบค้นขอ้ มูล อธิบายเกยี่ วกบั สมบตั ิของน้ำ หนา้ ท่ีของเซลล์ และบอกความสำคญั ของนำ้ ท่ีมีต่อส่ิงมชี วี ิต การลำเลยี งสาร และยกตัวอยา่ งธาตชุ นิดต่างๆ ที่มคี วามสำคัญ เข้าและออกจาก ต่อรา่ งกายสิ่งมีชวี ติ เซลล์ การแบง่ เซลล์ และการ 4. สืบคน้ ขอ้ มูล อธบิ ายโครงสรา้ งของ หายใจระดับเซลล์ คาร์โบไฮเดรต ระบุกล่มุ ของคารโ์ บไฮเดรต รวมทัง้ ความสำคญั ของคาร์โบไฮเดรตท่ีมีต่อ สง่ิ มชี ีวติ 5. สบื คน้ ข้อมูล อธิบายโครงสร้างของโปรตีน และความสำคญั ของโปรตีนท่ีมีตอ่ ส่ิงมชี ีวติ 6. สืบคน้ ข้อมลู อธิบายโครงสร้างของลิพดิ และ ความสำคัญของลพิ ิดท่ีมตี ่อสงิ่ มชี ีวิต 7. อธิบายโครงสร้างของกรดนวิ คลอิ กิ และระบุ ชนิดของกรดนิวคลอิ ิก และความสำคัญของ กรดนิวคลอิ กิ ที่มีต่อสิ่งมชี วี ิต 8. สืบคน้ ขอ้ มูลและอธบิ ายปฏิกริ ิยาเคมที ี่ เกิดขนึ้ ในสิง่ มชี วี ิต 9. อธบิ ายการทำงานของเอนไซมใ์ นการเรง่ ปฏกิ ริ ิยา เคมีในสิง่ มชี ีวิต และระบปุ จั จยั ท่มี ีผลตอ่ การทำงาน ของเอนไซม์

สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นรู้รายปี ม. 5 ม. 6 สาระ 1. เขา้ ใจธรรมชาติ ม. 4 ชีววิทยา ของส่ิงมีชีวิต การศึกษา 10. บอกวธิ ีการ และเตรียมตวั อย่างส่งิ มชี ีวติ เพอื่ ชวี วทิ ยาและ ศกึ ษาภายใตก้ ล้องจลุ ทรรศน์ใชแ้ สงวัดขนาด วธิ กี ารทาง โดยประมาณ และวาดภาพทปี่ รากฏภายใต้กลอ้ ง วทิ ยาศาสตรส์ ารที่ บอกวิธกี ารใช้ และการดแู ลรกั ษากล้องจลุ ทรรศน์ เป็นองคป์ ระกอบ ใชแ้ สงทีถ่ กู ต้อง ของส่ิงมีชีวิต ปฏิกิรยิ าเคมีใน 11. อธบิ ายโครงสร้างและหน้าทข่ี องส่วนท่ีหอ่ หมุ้ เซลล์ของ เซลลข์ องเซลล์พชื และเซลล์สตั ว์ สง่ิ มีชวี ติ กล้อง จลุ ทรรศน์ 12. สบื ค้นขอ้ มูล อธิบายและระบุชนดิ และหนา้ ทข่ี อง โครงสร้างและ ออรแ์ กเนลล์ หนา้ ทขี่ องเซลล์ การลำเลยี งสาร 13. อธิบายโครงสร้างและหน้าทข่ี องนวิ เคลยี ส เข้าและออกจาก 14. อธบิ าย และเปรียบเทียบการแพร่ ออสโมซิส การ เซลล์ การแบง่ เซลล์ และการ แพรแ่ บบฟาซลิ เิ ทต และ แอกทฟี ทรานสปอรต์ หายใจระดับเซลล์ 15. สืบค้นขอ้ มลู อธิบาย และเขียนแผนภาพ การ ลำเลยี งสารโมเลกุลใหญ่ออกจากเซลล์ ดว้ ย กระบวนการเอกโซไซโทซิสและการลำเลยี ง สาร โมเลกลุ ใหญ่เขา้ สเู่ ซลล์ดว้ ยกระบวนการเอนโด ไซโทซสิ 16. สังเกตการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซสิ และแบบ ไมโอซสิ จากตัวอย่างภายใตก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์ พร้อม ทัง้ อธบิ ายและเปรียบเทยี บการแบง่ นิวเคลยี ส แบบไมโทซสิ และแบบไมโอซิส 17. อธบิ าย เปรียบเทียบและสรุปขน้ั ตอน การหายใจ ระดับเซลลใ์ นภาวะท่มี อี อกซเิ จน เพียงพอ และ ภาวะท่มี ีออกซเิ จนไมเ่ พยี งพอ

สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นร้รู ายปี ม. 4 ม.5 ม.6 สาระ ชีววิทยา 2. เขา้ ใจการ 1. สืบค้นข้อมลู อธบิ าย และ 1. อภปิ รายความสำคญั ของ ความหลากหลายทาง ถา่ ยทอดลักษณะ สรปุ ผลการทดลอง ของ ชวี ภาพและความเช่ือมโยง เมนเดล ระหว่างความหลากหลาย ทางพันธกุ รรม ทางพนั ธุกรรม ความ การถ่ายทอดยนี 2. อธบิ าย และสรปุ กฎ หลากหลายของสปชี ีส์ และ แหง่ การแยก และกฎแห่ง ความหลากหลายของระบบ บนโครโมโซม การรวมกลมุ่ อยา่ งอสิ ระ นเิ วศ สมบัติ และหน้าที่ และนำกฎของ เมนเดลน้ี ของสารพันธุกรรม ไปอธิบายการถ่ายทอด 2. อธบิ ายการเกดิ เซลล์ การเกดิ มวิ เทชนั ลกั ษณะทาง พนั ธุกรรมและ เร่มิ แรกของส่ิงมชี ีวติ และ เทคโนโลยีทางดี ใชใ้ นการคำนวณโอกาสใน วิวฒั นาการของสง่ิ มชี วี ติ เอ็นเอ หลักฐาน การเกิดฟีโนไทป์และจโี น เซลลเ์ ดยี ว ขอ้ มลู และแนวคิด ไทป์แบบตา่ ง ๆ ของร่นุ F1 เกีย่ วกบั และ F2 3. อธบิ ายลกั ษณะสำคญั และ วิวฒั นาการของ 3. สืบค้นขอ้ มลู วิเคราะห์ ยกตวั อย่างสง่ิ มชี ีวติ กลมุ่ ส่ิงมีชีวติ ภาวะ อธบิ ายและสรุปเกีย่ วกับ แบคทีเรยี สง่ิ มีชวี ติ กล่มุ สมดุลของฮาร์ดี- การถา่ ยทอดลักษณะทาง โพรทิสต์ ส่ิงมชี วี ิต กล่มุ ไวนเ์ บิร์ก การ พนั ธกุ รรมที่เปน็ ส่วนขยาย พชื สง่ิ มชี วี ิตกลมุ่ ฟังไจ เกิดสปชี ีสใ์ หม่ ของพันธศุ าสตร์เมนเดล และสิง่ มีชวี ิต กลุ่มสัตว์ ความหลากหลาย 4. สบื คน้ ข้อมูล วเิ คราะห์ และ 4. อธิบายและยกตัวอย่างการ ทางชวี ภาพ กำเนดิ เปรียบเทียบลกั ษณะทาง จำแนกสิง่ มีชีวิต จาก ของส่ิงมีชวี ติ หมวดหมใู่ หญ่จนถึง พนั ธุกรรมที่มกี ารแปรผนั ไม่ หมวดหม่ยู ่อยและวธิ ี เขยี น ความหลากหลาย ตอ่ เนื่อง และลกั ษณะทาง ชอ่ื วทิ ยาศาสตรใ์ นลำดบั ของสงิ่ มชี วี ิต และ พันธกุ รรมท่ีมีการแปรผนั ขน้ั สปีชสี ์ อนุกรมวิธาน ตอ่ เนื่อง 5. สรา้ งไดโคโทมสั คยี ใ์ นการ ระบสุ ่งิ มชี วี ติ หรอื ตัวอย่าง รวมท้งั นำความรู้ 5. อธบิ ายการถา่ ยทอดยนี บน ท่ีกำหนดออกเป็น โครโมโซมและยกตัวอยา่ ง หมวดหมู่ ไปใชป้ ระโยชน์ ลักษณะทางพนั ธุกรรมทถ่ี ูก ควบคุม ด้วยยนี บนออโตโซม และยนี บนโครโมโซมเพศ 6. สืบคน้ ข้อมูล อธิบาย สมบตั แิ ละหนา้ ท่ีของ สาร พันธกุ รรม โครงสร้างและ องคป์ ระกอบ ทางเคมีของ DNA และสรุปการจำลอง DNA

สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นรู้รายปี ม.6 ม. 4 ม.5 สาระ ชีววิทยา 2. เข้าใจการ 7. อธบิ ายและระบุข้ันตอนใน ถา่ ยทอดลกั ษณะ กระบวนการ สงั เคราะห์ ทางพันธกุ รรม โปรตนี และหนา้ ทข่ี อง การถา่ ยทอดยนี DNA และ RNA แตล่ ะ บนโครโมโซม ชนิดในกระบวนการ สมบตั ิ และหน้าที่ สงั เคราะห์ โปรตีน ของสารพนั ธุกรรม 8. สรุปความสมั พันธร์ ะหวา่ ง การเกิดมวิ เทชัน สารพันธุกรรม แอลลลี เทคโนโลยที างดี โปรตนี ลกั ษณะทาง เอ็นเอ หลักฐาน พนั ธกุ รรมและเชือ่ มโยง ขอ้ มลู และแนวคดิ กับความรเู้ รอ่ื งพนั ธศุ าสตร์ เกีย่ วกบั เมนเดล วิวัฒนาการของ 9. สืบคน้ ข้อมูลและอธบิ าย สง่ิ มีชวี ติ ภาวะ การเกิดมิวเทชัน ระดับยีน สมดุลของฮาร์ดี- และระดบั โครโมโซม ไวน์เบริ ์ก การ สาเหตุการเกดิ มวิ เทชัน เกดิ สปชี สี ์ใหม่ รวมท้ังยกตวั อยา่ งโรคและ ความหลากหลาย กลุม่ อาการท่ีเปน็ ผลของ ทางชวี ภาพ กำเนิด การเกิดมวิ เทชัน ของสง่ิ มีชีวิต 10. อธบิ ายหลกั การสร้าง ความหลากหลาย สง่ิ มชี ีวติ ดดั แปรพนั ธกุ รรม ของสง่ิ มีชีวิต และ โดยใช้ดีเอน็ เอรคี อม อนกุ รมวิธาน บิแนนท์ รวมท้ังนำความรู้ 11. สบื คน้ ข้อมลู ยกตัวอยา่ ง ไปใช้ประโยชน์ และอภิปรายการนำ เทคโนโลยีทางดีเอน็ เอไป ประยกุ ตใ์ ชท้ ้ังในดา้ น สิ่งแวดล้อม นิติ วิทยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตรและ อุตสาหกรรม และข้อควร คำนึง ถึงดา้ นชีวจรยิ ธรรม

สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นรรู้ ายปี ม.6 ม. 4 ม.5 สาระ ชีววิทยา 2. เข้าใจการ 12. สืบคน้ ขอ้ มูลและอธบิ าย ถา่ ยทอดลักษณะ เกย่ี วกบั หลักฐาน ที่ ทางพนั ธุกรรม สนบั สนุนและขอ้ มูลท่ีใช้ การถ่ายทอดยีน อธบิ ายการเกดิ บนโครโมโซม ววิ ฒั นาการของสิ่งมชี ีวติ สมบตั ิ และหน้าท่ี 13. อธิบายและเปรยี บเทียบ ของสารพนั ธกุ รรม แนวคดิ เกีย่ วกับ การเกิดมวิ เทชัน ววิ ัฒนาการของสิ่งมีชีวติ เทคโนโลยที างดี ของฌอง ลามาร์ก และ เอน็ เอ หลกั ฐาน ทฤษฎีเกยี่ วกบั ขอ้ มลู และแนวคิด ววิ ฒั นาการของสงิ่ มชี ีวิต เกยี่ วกับ ของชาลส์ ดาร์วนิ ววิ ัฒนาการของ 14. ระบุสาระสำคญั และ สง่ิ มชี วี ิต ภาวะ อธบิ ายเงือ่ นไขของภาวะ สมดลุ ของฮาร์ดี- สมดลุ ของฮาร์ด-ี ไวนเ์ บริ ก์ ไวน์เบิร์ก การ ปจั จยั ทท่ี ำใหเ้ กดิ การ เกิดสปชี ีสใ์ หม่ เปล่ียนแปลงความถขี่ อง ความหลากหลาย แอลลลี ในประชากร ทางชวี ภาพ กำเนิด พรอ้ มท้ังคำนวณหา ของสิ่งมีชวี ติ ความถี่ ของแอลลีลและ ความหลากหลาย จีโนไทปข์ องประชากร ของสิ่งมชี วี ติ และ โดยใชห้ ลกั ของ ฮารด์ ี-ไวน์ อนุกรมวิธาน เบริ ก์ รวมท้ังนำความรู้ 15. สืบค้นข้อมลู อภปิ ราย ไปใช้ประโยชน์ และอธบิ าย กระบวนการ เกิดสปีชีสใ์ หม่ของ สง่ิ มชี ีวติ

สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรยี นร้รู ายปี ม. 6 ม. 5 สาระ ชีววิทยา 3. เขา้ ใจ 1. อธบิ ายเก่ยี วกบั ชนดิ และลักษณะของเนื้อเย่อื พืช สว่ นประกอบ และเขยี นแผนผงั เพ่ือสรปุ ชนิดของเนอื้ เยอ่ื พชื ของพชื การ แลกเปล่ยี นแกส๊ 2. สงั เกต อธบิ ายและเปรยี บเทียบโครงสร้าง และคายนำ้ ของ ภายในของรากพชื ใบเลี้ยงเด่ยี วและรากพืช ใบ พืช การลำเลยี ง เลีย้ งค่จู ากการตดั ตามขวาง ของพืช การ สงั เคราะห์ดว้ ย 3. สังเกต อธบิ าย และเปรยี บเทียบโครงสรา้ ง แสง การสืบพนั ธ์ุ ภายในของลำตน้ พืชใบเลยี้ งเดี่ยวและลำต้นพชื ของพชื ดอกและ ใบเลี้ยงค่จู ากการตัดตามขวาง การเจรญิ เตบิ โต และการ 4. สงั เกต และอธบิ ายโครงสร้างภายในของใบพืช ตอบสนองของ จากการตัดตามขวาง พืช รวมทง้ั นำ ความร้ไู ปใช้ 5. สบื ค้นขอ้ มูล สังเกต และอธิบายการ ประโยชน์ แลกเปลีย่ น แกส๊ และการคายน้ำของพชื 6. สืบคน้ ขอ้ มลู และอธิบายกลไกการลำเลยี งนำ้ และธาตุอาหารของพชื 7. สืบคน้ ขอ้ มลู อธบิ ายความสำคัญของธาตุ อาหารและยกตวั อยา่ งธาตุอาหารที่สำคัญทมี่ ผี ล ตอ่ การเจริญเติบโตของพชื 8. อธิบายกลไกการลำเลยี งอาหารในพชื 9. สบื คน้ ขอ้ มลู และสรปุ การศึกษาท่ไี ด้จากการ ทดลองของนักวิทยาศาสตร์ในอดตี เก่ียวกบั กระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสง 10. อธบิ ายขัน้ ตอนทเ่ี กิดข้นึ ในกระบวนการ สงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช C3 11. เปรยี บเทยี บกลไกการตรงึ คาร์บอนไดออกไซด์ ในพืช C3 พชื C4 และพืช CAM 12. สบื คน้ ข้อมลู อภิปรายและสรุปปัจจยั ความเข้ม ของแสงความเขม้ ขน้ ของคาร์บอนไดออกไซด์ และอณุ หภูมิทม่ี ผี ลต่อการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง ของพืช 13. อธิบายวัฏจกั รชีวิตแบบสลบั ของพชื ดอก 14. อธิบายและเปรียบเทียบกระบวนการสร้าง เซลลส์ บื พันธุ์เพศผู้และเพศเมยี ของพชื ดอก และอธบิ ายการปฏิสนธิของพืชดอก

สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรยี นรู้รายปี ม. 6 ม. 5 สาระ ชีววิทยา 3. เขา้ ใจ 15. อธบิ ายการเกดิ เมล็ดและการเกิดผลของพชื ดอก สว่ นประกอบ โครงสรา้ งของเมล็ดและผลและยกตวั อย่าง ของพชื การ การใชป้ ระโยชนจ์ ากโครงสรา้ งต่างๆ ของเมลด็ แลกเปลีย่ นแก๊ส และผล และคายนำ้ ของ พืช การลำเลียง 16. ทดลองและอธิบายเก่ยี วกับปัจจยั ต่างๆ ทมี่ ผี ล ของพชื การ ต่อการงอกของเมล็ด สภาพพกั ตวั ของเมลด็ และ สงั เคราะห์ด้วย บอกแนวทางในการแก้สภาพพักตัวของเมล็ด แสง การสืบพันธุ์ ของพชื ดอกและ 17. สบื คน้ ขอ้ มูล อธบิ ายบทบาทและหน้าทีข่ อง การเจริญเตบิ โต ออกซนิ ไซโทไคนิน จิบเบอ-เรลลิน เอทิลนี และการ และกรด แอบไซซกิ และอภิปรายเกีย่ วกบั การ ตอบสนองของ นำไปใชป้ ระโยชนท์ างการเกษตร พชื รวมทั้งนำ ความรู้ไปใช้ 18. สืบค้นขอ้ มลู ทดลองและอภิปรายเกีย่ วกับสิ่ง ประโยชน์ เรา้ ภายนอกทีม่ ีผลต่อการเจรญิ เตบิ โตของพชื

สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นรรู้ ายปี สาระ 4. เข้าใจการย่อย ม. 4 ม. 5 ม. 6 ชีววิทยา อาหารของสัตว์ และมนษุ ย์ การ 1. สืบคน้ ขอ้ มูล อธบิ ายและ 1. สืบคน้ ขอ้ มลู อธิบาย หายใจและการ เปรยี บเทยี บโครงสรา้ ง และเปรยี บเทยี บ แลกเปลี่ยนแก๊ส และกระบวนการย่อย โครงสรา้ ง และหนา้ ท่ี การลำเลยี งสาร อาหารของสัตว์ที่ไม่มี ของระบบประสาทของ และการ ทางเดนิ อาหารสตั ว์ทม่ี ี ไฮดรา พลานาเรยี หมุนเวียนเลอื ด ทางเดินอาหารแบบไม่ ไส้เดือนดนิ กุง้ หอย ภมู คิ ุ้มกนั ของ สมบรู ณแ์ ละสตั วท์ ่มี ี แมลงและสัตวม์ กี ระดูก รา่ งกาย การ ทางเดินอาหารแบบ สนั หลัง ขับถา่ ย การรบั รู้ สมบูรณ์ และการ 2. อธิบายเกย่ี วกับ ตอบสนอง การ 2. สังเกต อธบิ ายการกิน โครงสรา้ งและ เคลือ่ นท่ี การ อาหารของไฮดราและ หนา้ ทข่ี องเซลล์ สืบพันธุแ์ ละการ พลานาเรยี ประสาท เจริญเตบิ โต ฮอร์โมนกบั การ 3. อธบิ ายเก่ยี วกบั โครงสร้าง 3. อธิบายเกย่ี วกบั การ รักษาดลุ ยภาพ หนา้ ที่และกระบวนการ เปล่ยี นแปลงของ และพฤติกรรม ย่อยอาหารและการดูดซึม ศักย์ไฟฟ้าทเ่ี ยื่อหมุ้ เซลล์ ของสัตว์ รวมท้ัง สารอาหารภายในระบบ ของเซลลป์ ระสาทและ นำความรไู้ ปใช้ ย่อยอาหารของมนุษย์ กลไก การถ่ายทอด ประโยชน์ กระแสประสาท 4. สบื คน้ ขอ้ มูล อธิบายและ เปรียบเทียบโครงสรา้ ง ที่ 4. อธิบาย และสรปุ ทำหน้าที่แลกเปลี่ยน เกี่ยวกบั โครงสรา้ งของ แกส๊ ของฟองน้ำ ไฮดรา ระบบประสาท พลานาเรยี ไส้เดือนดนิ สว่ นกลางและระบบ แมลง ปลา กบและนก ประสาทรอบนอก 5. สงั เกต และอธบิ าย 5. สืบค้นข้อมลู อธบิ าย โครงสร้างของปอดในสตั ว์ โครงสรา้ งและหนา้ ท่ี เลีย้ งลูกด้วยน้ำนม ของสว่ นต่าง ๆ ในสมอง ส่วนหนา้ สมอง 6. สบื คน้ ขอ้ มลู อธิบาย สว่ นกลาง สมองสว่ น โครงสรา้ งที่ใชใ้ นการ หลงั และไขสนั หลงั แลกเปลย่ี นแกส๊ และ กระบวนการแลกเปล่ียน 6. สบื ค้นขอ้ มูล อธบิ าย แก๊สของมนุษย์ เปรียบเทยี บ และ ยกตัวอยา่ งการทำงาน ของระบบ

สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นรรู้ ายปี สาระ 4. เขา้ ใจการย่อย ม. 4 ม. 5 ม. 6 ชีววิทยา อาหารของสตั ว์ และมนุษย์ การ 7. อธบิ ายการทำงานของ 7. สบื ค้นขอ้ มูล อธิบาย หายใจและการ แลกเปล่ียนแกส๊ ปอด และทดลองวดั โครงสร้างและหนา้ ที่ การลำเลยี งสาร และการ ปรมิ าตรของอากาศในการ ของตา หู จมูก ลิ้นและ หมนุ เวียนเลือด ภมู คิ มุ้ กนั ของ หายใจออกของมนุษย์ ผิวหนงั ของมนุษย์ รา่ งกาย การ ขับถา่ ย การรับรู้ 8. สืบคน้ ข้อมูลอธิบายและ ยกตัวอยา่ งโรคตา่ งๆ ที่ และการ ตอบสนอง การ เปรียบเทยี บระบบ เกีย่ วขอ้ งและบอก เคล่ือนท่ี การ สบื พนั ธ์แุ ละการ หมนุ เวียนเลอื ดแบบเปดิ แนวทางในการดูแล เจรญิ เตบิ โต ฮอร์โมนกับ การ และระบบหมุนเวยี นเลือด ป้องกนั และรักษา รักษาดลุ ยภาพ และพฤติกรรม แบบปดิ 8. สังเกต และอธบิ ายการ ของสตั ว์ รวมท้งั นำความรไู้ ปใช้ 9. สงั เกตและอธิบายทศิ หาตำแหนง่ ของจุดบอด ประโยชน์ ทางการไหลของเลอื ด และ โฟเวยี และความไวในการ การเคลอื่ นทีข่ องเซลล์เม็ด รับสัมผสั ของผวิ หนงั เลอื ดในหางปลา และสรุป 9. สืบค้นขอ้ มูล อธบิ ายและ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างขนาด เปรยี บเทยี บโครงสรา้ ง ของหลอดเลือดกับความเรว็ และหน้าทีข่ องอวัยวะที่ ในการไหลของเลือด เกีย่ วข้องกับการเคลอ่ื นท่ี 10. อธบิ ายโครงสรา้ งและการ ของแมงกะพรนุ หมึก ทำงานของหวั ใจและ ดาวทะเล ไสเ้ ดือนดิน หลอดเลอื ดในมนษุ ย์ แมลง ปลา และนก 11. สงั เกต และอธิบาย 10. สืบคน้ ข้อมลู และ โครงสรา้ งหวั ใจของสตั ว์ อธิบาย โครงสรา้ งและ เลี้ยงลกู ด้วยน้ำนม ทศิ หน้าที่ของกระดูกและ ทางการไหลของเลอื ดผ่าน กลา้ มเนื้อท่เี กี่ยวข้อง หวั ใจของมนุษย์ กับการเคลื่อนไหวและ และเขียนแผนผังสรปุ การเคลือ่ นทข่ี อง การหมนุ เวยี นเลือดของ มนษุ ย์ มนุษย์ 11. สงั เกตและอธิบายการ 12. สบื ค้นขอ้ มูล ระบุความ ทำงานของข้อต่อชนิด แตกต่างของเซลล์เมด็ ต่างๆ และการทำงาน เลือดแดง เซลลเ์ มด็ เลอื ด ของกลา้ มเน้ือโครงรา่ งท่ี ขาวเพลตเลต และ เก่ียวขอ้ งกับการ พลาสมา เคลอื่ นไหวและการ เคล่อื นท่ีของมนุษย์

สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นรู้รายปี สาระ 4. เข้าใจการย่อย ม. 4 ม. 5 ม. 6 ชีววิทยา อาหารของสตั ว์ และมนษุ ย์ การ 13. อธบิ ายหม่เู ลือดและ 12. สบื คน้ ข้อมลู อธิบาย หายใจและการ แลกเปล่ยี นแก๊ส หลักการใหแ้ ละรบั เลือด และยกตวั อย่าง การ การลำเลยี งสาร และการ ABO และระบบ Rh สืบพนั ธุ์แบบไมอ่ าศยั หมุนเวียนเลือด ภมู คิ ุ้มกนั ของ 14. อธบิ าย และสรปุ เพศและการสบื พันธุ์ รา่ งกาย การ ขับถา่ ย การรับรู้ เกย่ี วกบั สว่ นประกอบ แบบอาศัยเพศในสตั ว์ และการ ตอบสนอง การ และ หนา้ ท่ขี อง 13. สืบค้นข้อมูล อธบิ าย เคล่ือนที่ การ สบื พนั ธ์แุ ละการ น้ำเหลอื ง รวมทัง้ โครงสร้างและหน้าที่ เจรญิ เติบโต ฮอรโ์ มนกบั การ โครงสร้างและ หน้าท่ี ของอวยั วะในระบบ รกั ษาดลุ ยภาพ และพฤติกรรม ของหลอดนำ้ เหลือง สบื พนั ธุ์เพศชายและ ของสัตว์ รวมท้งั นำความรู้ไปใช้ และตอ่ มน้ำเหลือง ระบบสืบพันธเ์ุ พศหญงิ ประโยชน์ 15. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย 14. อธิบายกระบวนการ และเปรยี บเทียบกลไก สรา้ งสเปริ ์ม การต่อตา้ นหรือทำลาย กระบวนการ สรา้ งเซลล์ สง่ิ แปลกปลอม แบบไม่ ไข่ และการปฏิสนธใิ น จำเพาะและแบบ มนษุ ย์ จำเพาะ 15. อธบิ ายการเจริญเตบิ โต 16. สบื คน้ ขอ้ มูล อธิบาย และ ระยะเอ็มบรโิ อและ เปรยี บเทยี บการสรา้ ง ภมู ิคมุ้ กันก่อเองและ ระยะหลงั เอ็มบริโอของ ภมู คิ ้มุ กันรบั มา กบ ไกแ่ ละมนุษย์ 17. สืบคน้ ข้อมลู และอธิบาย 16. อธบิ ายการเจริญเตบิ โต เก่ียวกบั ความผดิ ปกติของ ระยะเอม็ บรโิ อและ ระบบภมู คิ ุ้มกนั ท่ีทำใหเ้ กิด ระยะหลังเอม็ บริโอของ เอดส์ ภมู ิแพ้ การสรา้ งภมู ิ กบ ไก่ และมนุษย์ ต้านทานตอ่ เนื้อเยื่อตนเอง 17. สบื ค้นข้อมูล อธบิ าย 18. สืบค้นขอ้ มลู อธบิ ายและ และเขยี นแผนผงั สรุป เปรียบเทียบ โครงสร้างและ หนา้ ทีข่ องฮอรโ์ มนจาก หนา้ ทใี่ นการกำจดั ของเสีย ต่อมไร้ท่อและเนือ้ เย่อื ออกจากร่างกายของฟองน้ำ ท่สี รา้ งฮอรโ์ มน ไฮดรา พลานาเรีย ไสเ้ ดือน ดนิ แมลง และสตั วม์ ี กระดูกสันหลัง

สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นร้รู ายปี สาระ 4. เข้าใจการย่อย ม. 4 ม. 5 ม. 6 ชีววิทยา อาหารของสตั ว์ และมนษุ ย์ การ 19. อธิบายโครงสรา้ งและ 18. สบื ค้นขอ้ มลู อธบิ าย หายใจและการ หนา้ ท่ีของไต และ เปรยี บเทยี บ และ แลกเปลยี่ นแก๊ส โครงสร้างท่ีใชล้ ำเลียง ยกตัวอยา่ งพฤติกรรม การลำเลียงสาร ปสั สาวะออกจาก ร่างกาย ทเี่ ป็นมาแตก่ ำเนิด และการ และพฤติกรรมที่เกิด หมุนเวียนเลือด 20. อธบิ ายกลไกการทำงาน จากการเรียนรูข้ อง ภมู ิคมุ้ กันของ ของหน่วยไต ในการ กำจัด สตั ว์ รา่ งกาย การ ของเสยี ออกจากร่างกาย ขบั ถา่ ย การรบั รู้ และเขยี น แผนผงั สรปุ 19. สืบคน้ ข้อมลู อธบิ าย และการ ข้ันตอนการกำจดั ของเสยี และยกตวั อยา่ ง ตอบสนอง การ ออกจากร่างกายโดยหนว่ ย ความสัมพนั ธร์ ะหว่าง เคลอ่ื นท่ี การ ไต พฤตกิ รรมกับ สบื พันธุแ์ ละการ ววิ ัฒนาการของระบบ เจริญเตบิ โต 21. สืบค้นขอ้ มลู อธิบาย และ ประสาท ฮอรโ์ มนกบั การ ยกตวั อยา่ งเก่ยี วกบั ความ รักษาดลุ ยภาพ ผดิ ปกติของไตอัน 20. สบื คน้ ข้อมูล อธิบายและ และพฤติกรรม เน่ืองมาจากโรคตา่ ง ๆ ยกตวั อยา่ งการสื่อสาร ของสัตว์ รวมทัง้ ระหว่างสตั ว์ที่ทำให้สัตว์ นำความรูไ้ ปใช้ แสดงพฤติกรรม ประโยชน์

สาระ มาตรฐาน ผลการเรียนรูร้ ายปี สาระ 5. เข้าใจแนวคิด ม. 4 ม. 5 ม. 6 ชวี วิทยา เก่ยี วกบั ระบบ นเิ วศ 1. วิเคราะห์ อธบิ าย และยกตัวอย่างกระบวนการ กระบวนการ ถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศ ถ่ายทอด พลังงานและการ 2. อธบิ าย ยกตัวอยา่ งการเกดิ ไบโอแมกนฟิ ิเคชัน หมุนเวยี นสารใน และบอกแนวทางในการลดการเกิด ไบโอแมก- ระบบนิเวศ นฟิ ิเคชัน ความ หลากหลาย 3. สืบค้นข้อมลู และเขยี นแผนภาพ เพือ่ อธิบาย ของไบโอม การ วฏั จกั รไนโตรเจน วฏั จักรกำมะถนั และวฏั จักร เปล่ยี นแปลง ฟอสฟอรัส แทนที่ ของ ส่งิ มีชวี ิตในระบบ 4. สบื ค้นข้อมูล ยกตวั อยา่ ง และอธิบายลักษณะ นิเวศ ประชากร ของไบโอมท่กี ระจายอยูต่ ามเขตภูมศิ าสตร์ตา่ งๆ และรูปแบบการ บนโลก เพ่ิมของ ประชากร 5. สบื คน้ ข้อมูล ยกตวั อยา่ ง อธิบาย และเปรยี บเทียบ ทรัพยากร การเปลี่ยนแปลงแทนทแี่ บบปฐมภูมิ และ การ ธรรมชาติ เปลย่ี นแปลงแทนท่ีแบบทุตยิ ภมู ิ และสิ่งแวดลอ้ ม ปัญหาและ 6. สบื ค้นข้อมูล อธบิ าย ยกตัวอยา่ ง และสรปุ ผลกระทบท่เี กดิ เกี่ยวกบั ลกั ษณะเฉพาะของประชากรของ จากการใช้ สิ่งมีชวี ติ บางชนิด ประโยชน์ และ แนวทางการ 7. สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรยี บเทยี บ และยกตัวอย่าง แก้ไขปญั หา การเพ่ิมของประชากรแบบเอก็ โพเนนเชยี ลและ การเพ่ิมของประชากรแบบลอจิสติก 8. อธิบายและยกตวั อยา่ งปจั จัยทค่ี วบคมุ การเตบิ โต ของประชากร 9. วเิ คราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหา การขาดแคลนน้ำ การเกดิ มลพิษทางนำ้ และ ผลกระทบท่มี ีตอ่ มนุษยแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ ม รวมทงั้ เสนอแนวทางการวางแผนการจดั การน้ำ 10. วเิ คราะห์ อภิปรายและสรปุ ปัญหามลพษิ ทาง อากาศ และผลกระทบที่มตี อ่ มนุษย์และ สงิ่ แวดล้อม รวมทงั้ เสนอแนวทางการแก้ไข ปัญหา 11. วเิ คราะห์ อภปิ ราย และสรปุ ปญั หาทีเ่ กิดกับ ทรัพยากรดนิ และผลกระทบทม่ี ีต่อมนุษยแ์ ละ สงิ่ แวดลอ้ ม รวมทั้งเสนอแนวทางการแก้ไข

สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นรูร้ ายปี สาระ 5. เข้าใจแนวคดิ ม. 4 ม. 5 ม. 6 ชีววิทยา เกยี่ วกบั ระบบ นิเวศ 12. วเิ คราะห์ อภปิ ราย และสรุปปัญหา ผลกระทบ กระบวนการ ทเ่ี กิดจากการทำลายปา่ ไม้ รวมทง้ั เสนอแนวทาง ถ่ายทอด ในการป้องกนั การทำลายป่าไมแ้ ละการอนรุ ักษ์ พลงั งานและการ ป่าไม้ หมนุ เวยี นสารใน ระบบนิเวศ 13. วเิ คราะห์ อภิปราย และสรปุ ปัญหา ผลกระทบ ความ ทท่ี ำให้สัตวป์ ่ามจี ำนวนลดลงและแนวทางใน หลากหลาย การอนรุ กั ษส์ ตั วป์ า่ ของไบโอม การ เปลี่ยนแปลง แทนที่ ของ ส่ิงมีชีวติ ในระบบ นิเวศ ประชากร และรปู แบบการ เพ่ิมของ ประชากร ทรพั ยากร ธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ ม ปญั หาและ ผลกระทบทีเ่ กดิ จากการใช้ ประโยชน์ และ แนวทางการ แก้ไขปัญหา

สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นรูร้ ายปี สาระเคมี ม. 4 ม. 5 ม. 6 1. เขา้ ใจโครงสร้าง 1. สบื คน้ ขอ้ มูล 1. อธบิ ายความสัมพนั ธ์ 1. สบื ค้นขอ้ มลู และ อะตอม การ สมมติฐาน การ และคำนวณปริมาตร นำเสนอตวั อยา่ ง จดั เรยี งธาตใุ น ทดลอง หรือ ผล ความดัน หรือ สารประกอบ ตารางธาตุ การทดลองท่ีเป็น อณุ หภมู ขิ องแก๊สท่ี อนิ ทรีย์ทมี่ ีพนั ธะ สมบัติของธาตุ ประจักษพ์ ยานใน ภาวะต่าง ๆ ตามกฎ เดี่ยว พันธะค่หู รอื พันธะเคมีและ การเสนอ ของบอยล์ กฎของ พันธะสามที่พบใน สมบัตขิ องสาร แบบจำลอง ชารล์ กฎของเกย์ ชีวิตประจำวัน แก๊สและสมบตั ิ อะตอมของ ลสู แซก 2. เขยี นสตู ร ของแก๊ส นกั วทิ ยาศาสตร์ 2. คำนวณปริมาตร โครงสร้างลวิ อสิ ประเภทและ และอธบิ าย ความดนั หรอื อณุ หภูมิ สตู รโครงสรา้ งแบบ สมบตั ขิ อง ววิ ัฒนาการของ ของแก๊สที่ภาวะตา่ ง ๆ ย่อ และสูตร สารประกอบ แบบจำลอง ตามกฎรวมแก๊ส โครงสร้างแบบเสน้ อนิ ทรยี ์และพอ อะตอม 3. คำนวณปริมาตร ของสารประกอบ ลิเมอร์ รวมทงั้ 2. เขียนสญั ลักษณ์ ความดนั อณุ หภมู ิ อินทรีย์ การนำความรู้ไป นวิ เคลยี ร์ของธาตุ จำนวนโมล หรอื มวล 3. วเิ คราะห์ ใช้ประโยชน์ และระบจุ ำนวน ของแก๊ส จาก โครงสร้าง และ โปรตอน ความสมั พนั ธ์ตามกฎ ระบุประเภทของ นวิ ตรอน และ ของ อาโวกาโดร และ สารประกอบ อิเลก็ ตรอนของ กฎแกส๊ อดุ มคติ อนิ ทรยี ์จากหมู่ อะตอมจาก 4. คำนวณความดนั ย่อย ฟังกช์ ัน สญั ลักษณ์ หรอื จำนวนโมลของ 4. เขยี นสูตร นิวเคลยี ร์ รวมท้ัง แก๊ส ในแก๊สผสม โดย โครงสร้างและ บอก ความหมาย ใชก้ ฎความดนั ย่อย เรยี กชอ่ื ของไอโซโทป ของดอลตนั สารประกอบ 3. อธบิ าย และเขียน 5. อธิบายการแพรข่ อง อนิ ทรยี ์ประเภท การจดั เรยี ง แก๊สโดยใชท้ ฤษฎจี ลน์ ต่างๆ ท่มี หี มู่ อิเลก็ ตรอน ใน ของแก๊ส คำนวณและ ฟงั กช์ นั ไม่เกนิ 1 ระดบั พลังงาน เปรยี บเทยี บอัตรา หมู่ ตามระบบ หลักและระดับ การแพรข่ องแกส๊ โดย IUPAC พลงั งานยอ่ ย เม่ือ ใชก้ ฎการแพรผ่ า่ นของ 5. เขยี นไอโซเมอร์ ทราบเลขอะตอม เกรแฮม โครงสร้างของ ของธาตุ สารประกอบ อินทรียป์ ระเภท ตา่ ง ๆ

สาระ มาตรฐาน ผลการเรียนรู้รายปี สาระเคมี ม. 4 ม. 5 ม. 6 1. เข้าใจโครงสร้าง 4. ระบุหมู่ คาบ 6. สืบค้นขอ้ มูล 6. วิเคราะห์ และ อะตอม การ ความเปน็ โลหะ นำเสนอตวั อย่าง เปรยี บเทียบจุดเดือด จดั เรยี งธาตุใน อโลหะ และ กึ่ง และอธบิ ายการ และ การละลายในนำ้ ตารางธาตุ โลหะของธาตุ ประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ ของสารประกอบ สมบตั ขิ องธาตุ เรพรีเซนเททีฟและ เกี่ยวกับสมบตั ิและ อนิ ทรียท์ มี่ ี หมู่ฟังกช์ ัน พันธะเคมแี ละ ธาตุแทรนซิชันใน กฎตา่ งๆของแก๊ส ขนาดโมเลกลุ หรอื สมบัติของสาร ตารางธาตุ ในการอธิบาย โครงสร้างต่างกัน แก๊สและสมบตั ิ 5. วเิ คราะห์ และบอก ปรากฏการณ์ หรือ 7. ระบปุ ระเภทของ ของแกส๊ แนวโน้มสมบตั ิของ แก้ปัญหาใน สารประกอบ ประเภทและ ธาตุ เรพรีเซนเททฟี ชีวติ ประจำวันและ ไฮโดรคาร์บอน และ สมบัติของ ตามหมแู่ ละตามคาบ ในอุตสาหกรรม เขียนผลติ ภณั ฑ์จาก สารประกอบ 6. บอกสมบัติของธาตุ ปฏิกิรยิ าการเผาไหม้ อนิ ทรีย์และพอ โลหะแทรนซชิ นั ปฏกิ ริ ยิ ากบั โบรมนี ลเิ มอร์ รวมทั้ง และ เปรียบเทียบ หรอื ปฏกิ ิรยิ ากับ การนำความรูไ้ ป สมบตั ิกับธาตุโลหะ โพแทสเซยี มเปอร์แมง ใช้ประโยชน์ ในกลมุ่ ธาตุ เรพรี กาเนฟ เซนเททีฟ 8. เขียนสมการเคมีและ 7. อธิบายสมบัติ และ อธบิ ายการ คำนวณครง่ึ ชีวติ ของ เกดิ ปฏิกิรยิ า ไอโซโทป เอสเทอรฟิ ิเคชนั กมั มันตรงั สี ปฏิกิริยาการ 8. สืบคน้ ขอ้ มลู และ สงั เคราะหเ์ อไมด์ ยกตวั อย่างการนำ ปฏกิ ิรยิ าไฮโดรลิซสิ ธาตุ มาใชป้ ระโยชน์ และปฏิกริ ยิ าสะปอน รวมทงั้ ผลกระทบต่อ นิฟิเคชนั สิ่งมชี ีวิต และ 9. ทดสอบปฏกิ ิริยา สงิ่ แวดล้อม เอสเทอริฟเิ คชนั 9. อธิบายการเกิด ปฏิกิริยา ไฮโดรลซิ สิ ไอออนและการเกิด และปฏิกริ ิยา พันธะไอออนกิ โดย สะปอนนิฟิเคชัน ใช้แผนภาพหรอื สัญลักษณแ์ บบจดุ ของลิวอสิ

สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรยี นรู้รายปี สาระเคมี 1. เขา้ ใจโครงสรา้ ง 10. เขยี นสตู ร และ ม. 5 ม. 6 อะตอม การ เรยี กชื่อ 10. สืบค้นข้อมูล และ นำเสนอตวั อยา่ งการ จดั เรียงธาตใุ น สารประกอบ นำ สารประกอบ อินทรียไ์ ปใช้ ตารางธาตุ ไอออนกิ ประโยชนใ์ น ชวี ติ ประจำวันและ สมบตั ขิ องธาตุ 11. คำนวณพลังงานท่ี อตุ สาหกรรม พันธะเคมีและ เกย่ี วขอ้ งกับ 11. ระบปุ ระเภทของ ปฏกิ ิรยิ าการเกดิ สมบัติของสาร ปฏกิ ิรยิ า การเกดิ พอลิเมอร์ จาก โครงสร้างของมอนอ แกส๊ และสมบตั ิ สารประกอบไอ เมอร์หรอื พอลเิ มอร์ ของแกส๊ ออนกิ จากวฏั จักร 12. วเิ คราะห์ และ ประเภทและ บอรน์ -ฮาเบอร์ อธบิ ายความสมั พนั ธ์ ระหว่าง โครงสร้าง สมบัติของ 12. อธบิ ายสมบัตขิ อง และสมบตั ิของพอลิ เมอร์ รวมทั้ง การ สารประกอบ สารประกอบ นำไปใชป้ ระโยชน์ อนิ ทรียแ์ ละพอ ไอออนิก 13. ทดสอบ และระบุ ประเภทของพลาสติก ลิเมอร์ รวมทัง้ 13. เขยี นสมการ และผลติ ภณั ฑ์ยาง รวมทง้ั การนำไปใช้ การนำความรไู้ ป ไอออนิกและ ประโยชน์ ใช้ประโยชน์ สมการไอออนิก 14. อธิบายผลของการ ปรบั เปล่ียนโครงสร้าง สทุ ธิของปฏกิ ริ ิยา และการสังเคราะห์ พอลิเมอร์ท่ีมีต่อ ของสารประกอบ สมบตั ขิ องพอลิเมอร์ ไอออนิก 14. อธิบายการเกิด พนั ธะโคเวเลนต์ แบบพันธะเดย่ี ว พันธะคู่และพันธะ สามดว้ ยโครงสร้าง ลวิ อสิ 15. เขยี นสูตร และ เรยี กชือ่ สาร โคเวเลนต์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook