คู่มือการจัดทำวิทยานิพนธ์ระดับบัณฑิตศึกษา 2561

- 197 - ตวั อย่างหนา้ ปกใน ดุษฎีนิพนธภ์ าษาองั กฤษ KEY FACTORS INFLUENCING CAPITAL STRUCTURE DECISION AND CAPITAL STRUCTURE DYNAMICS: EVIDENCE FROM LISTED COMPANIEW IN SET SUPA TONGKONG A DISSERTATION SUBMITTED IN PARTIAL FULLFILLMENT OF THE REQUIREMENT FOR THE DEGREE OF DOCTOR OF PHILOSOPHY PROGRAM IN BUSINESS ADMINISTRATION FACULTY OF BUSINESS ADMINISTRATION RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY THANYABURI ACADEMIC YEAR 2012 COPYRIGHT OF RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY THANYABURI

- 198 - ตัวอย่างรูปแบบการจดั พิมพ์หน้าปกติ 3.5 ซ.ม. 3.5 ซ.ม. 2.5 ซ.ม. 3.5 ซ.ม. 14 เลขหนา้ ใชต้ วั อกั ษร TH Sarabun PSK ขนาด 16 พอยด์ จดั ก่ึงกลางหนา้ กระดาษ ห่างจากขอบกระดาษล่าง 2 ซม.

THE DECISION-MAKING BEHAVIORS OF THE PRIVATE WIPA RUKDEE 2012 SECONDARY SCHOOL ADMINISTRATORS IN BANGKOK METROPOLIS - 199 - ัตวอ ่ยางสันปก พฤตกิ รรมการตดั สนิ ใจของผู้บริหารเอกชนระดับมัธยมศกึ ษา วภิ า รกั ดี 2555 ในกรุงเทพมหานคร วฒุ ชิ ัย สังขรัตน์ 2555

- 200 - ตัวอย่างรูปแบบการจดั พิมพ์หน้าอนุมัติ ดษุ ฎีนิพนธ์ ภาษาไทย ใชต้ วั อกั ษร TH Sarabun PSK 3.5 ซ.ม. สาหรับหวั ขอ้ ภาษาองั กฤษ ตวั แรกของคา ขนาด 16 พอยด์ ใชต้ วั พิมพใ์ หญ่ ยกเวน้ คาบพุ บท หัวข้อดษุ ฎีนพิ นธ์ (ภาษาไทย) ............................................................................................................... หัวขอ้ วทิ ยานพิ นธ์ (ภาษาอังกฤษ) ................................................................................................................ ชื่อ – นามสกลุ นาย / นาง / นางสาว / ยศ ................................................................... สาขาวชิ า / วชิ าเอก .................................................................................................... อาจารย์ทปี่ รึกษา ตาแหนง่ ทางวิชาการ (ช่อื เตม็ ) และชอื่ นามสกุล, คณุ วุฒิ ปกี ารศกึ ษา ................................................................................................... คณะกรรมการสอบดุษฎีนิพนธ์ ในกรณีไม่มีตาแหน่งทางวชิ าการ ให้ใชค้ าวา่ “อาจารย”์ นาหนา้ เลือกใชเ้ พยี ง .................................................................................. ประธานกรรมการ เง่ือนไขเดียว (ตาแหนง่ ทางวชิ าการ (ชอื่ เตม็ ) และชื่อ นามสกลุ , คุณวุฒิ) ................................................................................... กรรมการ (ตาแหน่งทางวิชาการ (ชอื่ เตม็ ) และชอ่ื นามสกลุ , คุณวุฒิ) 3.5 ใชป้ ากกาหมึกซึม ................................................................................... กรรมการ 2.5 ซ.ม. สีดาลงนาม (ตาแหนง่ ทางวิชาการ (ชอื่ เตม็ ) และช่ือ นามสกลุ , คุณวฒุ ิ) ซ.ม. ................................................................................... กรรมการ (ตาแหน่งทางวชิ าการ (ชอื่ เตม็ ) และชอ่ื นามสกลุ , คุณวฒุ ิ) คณะ.................................... มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บุ รุ ี อนมุ ัติดษุ ฎีนพิ นธฉ์ บบั น้ี เปน็ สว่ นหน่ึงของการศึกษาตามหลกั สูตรปรญิ ญาดษุ ฎีบัณฑิต ........................................................................ คณบดีคณะ.................... (ตาแหน่งทางวิชาการ (ชอ่ื เต็ม) และชอื่ นามสกุล, คณุ วฒุ ิ) วันท.ี่ .......เดอื น.............................พ.ศ.............. ระบุวนั ท่ีท่ีคณะ อนุมตั ิผลการสอบ 3.5 ซ.ม.

- 201 - ตัวอย่างหนา้ อนุมัติ ดุษฎีนิพนธภ์ าษาไทย หวั ข้อดุษฎนี พิ นธ์ พฤติกรรมการตัดสนิ ใจของผู้บริหารเอกชนระดบั มัธยมศึกษาใน กรงุ เทพมหานคร ชือ่ - นามสกลุ The Decision-Making Behaviors of the Private Secondary School สาขาวชิ า Administrators in Bangkok Metropolis อาจารยท์ ป่ี รึกษา นางสาววิภา รักดี ปกี ารศึกษา การบรหิ ารการศึกษา ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์สทุ ธพิ ร บุญส่ง, ศษ.ด. 2555 คณะกรรมการสอบดุษฎนี ิพนธ์ ประธานกรรมการ (ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์สทุ ธพิ ร บุญสง่ , ศษ.ด.) กรรมการ (อาจารยเ์ กียรตศิ ักด์ิ สอ่ งแสง,กศ.ด.) กรรมการ (อาจารย์อนันต์ เตยี วต๋อย, ปร.ด.) กรรมการ (อาจารย์ไพบูลย์ ใสยาวงศ,์ Ed.D.) คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี อนุมัติดุษฎีนิพนธ์ฉบับน้ี เป็นส่วนหนึง่ ของการศกึ ษาตามหลกั สตู รปรัชญาดุษฎบี ณั ฑติ คณบดคี ณะครศุ าสตร์อุตสาหกรรม (รองศาสตราจารย์ประเสริฐ ป่ินปฐมรัตน,์ Ph.D.) วันท่ี 10 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2556

- 202 - ตัวอยา่ งรปู แบบการจัดพิมพ์หน้าอนมุ ัติ ดษุ ฎีนพิ นธ์ ภาษาอังกฤษ ใชต้ วั อกั ษร Times New 3.5 ซ.ม. ตวั แรกของคาใชต้ วั พมิ พใ์ หญ่ Roman ขนาด 12 พอยด์ ยกเวน้ คาบพุ บท Dissertation Title …………………………………………………………………………… Name – Surname ………………………………………………………………………….. Program / Major Subject ………………………………………………………………………….. Thesis Advisor ตาแหน่งทางวชิ าการ (ชื่อเตม็ ) และชื่อ นามสกลุ , คณุ วฒุ ิ-ภาษาองั กฤษ Academic Year ………………………………………………………………………….. THESIS COMMITTEE ในกรณีไม่มีตาแหน่งทางวชิ าการ ใหใ้ ชค้ าวา่ “Mr., Mrs. หรือ Miss” นาหนา้ เลือกใชเ้ พยี ง …………………………………………………Chairman เง่ือนไขเดียว (ตาแหน่งทางวชิ าการ (ช่ือเตม็ ) และช่ือ นามสกลุ , คุณวฒุ ิ-ภาษาองั กฤษ) ใชป้ ากกาหมึกซึม …………………………………………………Committee สีดาลงนาม (ตาแหน่งทางวชิ าการ (ช่ือเตม็ ) และชื่อ นามสกุล, คุณวฒุ ิ-ภาษาองั กฤษ) …………………………………………………Committee (ตาแหน่งทางวชิ าการ (ชื่อเตม็ ) และช่ือ นามสกลุ , คุณวฒุ ิ-ภาษาองั กฤษ) …………………………………………………Committee 2.5 ซ.ม. 3.5 (ตาแหน่งทางวชิ าการ (ชื่อเตม็ ) และช่ือ นามสกลุ , คุณวฒุ ิ-ภาษาองั กฤษ) ซ.ม. Approved by the Faculty of …………………………, Rajamangala University of Technology Thanyaburi in Partial Fulfillment of the Requirements for the Degree of Doctor of……. ……………………..Dean of Faculty of…………………………… (ตาแหน่งทางวชิ าการ (ช่ือเตม็ ) และชื่อ นามสกุล, คุณวฒุ ิ-ภาษาองั กฤษ) Month…….Date…….Year……. ระบุวนั ที่ท่ีคณะ อนุมตั ิผลการสอบ 3.5 ซ.ม.

- 203 - ตัวอย่างหน้าอนุมัติ ดษุ ฎนี พิ นธ์ภาษาอังกฤษ Dissertation Title Key Factors Influencing Capital Structure Decision and Capital Structure Dynamics: Evidence from Listed Name - Surname Companies in SET Program Mrs. Supa Tongkong Dissertation Advisor Business Administration Dissertation Co-Advisor Mr. Sittiporn Intuwonges, Ph.D. Academic Years Associate Professor Tatre Jantarakolica, Ph.D. 2012 DISSERTATION COMMITTEE …………………………………………… Chairman (Mr. Thanomsak Suwannoi, D.B.A.) …………………………………………… Committee (Associate Professor Sudjai Tolpanichgit, Ph.D.) …………………………………………… Committee (Assistant Professor Wanchai Prasertsri, Ph.D.) …………………………………………… Committee (Mr. Sittiporn Intuwonges, Ph.D.) Approved by the Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Thanyaburi in Partial Fulfillment of the Requirements for the Degree of Doctor of Philosophy …………………………Dean of Faculty of Business Administration (Associate Professor Chanongkorn Kuntonbutr, D.B.A.) Month March Date 10 Years 2013

- 204 - ตวั อย่างรูปแบบการจัดพิมพ์หน้าบทคดั ยอ่ ดุษฎีนพิ นธภ์ าษาไทย ใชต้ วั อกั ษร TH Sarabun PSK 3.5 ซ.ม. ขนาด 16 พอยด์ หัวขอ้ ดุษฎีนพิ นธ์ .........................................................................................................หวั ข้อ ชอื่ – นามสกลุ นาย / นาง / นางสาว / ยศ ................................................................ สาขาวชิ า / วิชาเอก .................................................................................................. อาจารย์ทป่ี รึกษา ตาแหนง่ ทางวิชาการ (ชอ่ื เตม็ ) และชอ่ื นามสกลุ , คุณวฒุ ิ ปีการศึกษา .................................................................................................. เลือกใชเ้ พียง บทคัดยอ่ เง่ือนไขเดีย..ว...................(.ย..อ่...ห..น...า้ ...1.....6...ซ...ม....)....................................................................................................................ใ....ช....ต้......วั ....อ....ก.ั.....ษ....ร......T......H........S....a....r..a....b....u....n......P......S....K........ข....น......า....ด......2....0........พ...อยด์ ...........................................................................................................ต..ว.ั .ห...น...า...พ...ิม..พ...ก์..่ึ.ง.ก...ล..า..ง..ห...น...า้ .ก...ร..ะ..ด...า.ษ.....โ..ด...ย..เ.ว. น้ ...........................................................................................................ร..ะ..ย..ะ..ห...่า..ง..จ..า..ก..บ...ร..ร..ท...ดั..บ...น...แ..ล...ะ..ล...่า.ง...1...บ...ร..ร..ท...ดั ขนาด 16 (ยอ่ หนา้ 1.6 ซม.) .........................................................พ...อ..ย..ด...์ ........................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................................... (ย่อหนา้ 1.6 ซม.) ........................................................................................................................... 3.5 ............................................................................................................................................................................. 2.5 ซ.ม. ............................................................................................................................................................................. ซ.ม. ............................................................................................................................................................................ คาสาคญั : …………………………………………………………………………………………………………………………………………. จานวน 3 ยอ่ หนา้ จานวน 3 คา แตไ่ ม่ควรเกิน 5 คา ระหวา่ งกลุ่มของคา ใชเ้ วน้ วรรค 1 คร้ัง ไม่ใชต้ วั หนา 3.5 ซ.ม. (3) พิมพเ์ ลขหนา้ ในวงเลบ็ จดั ก่ึงกลาง ห่างจากขอบกระดาษดา้ นล่าง 2 ซม.

- 205 - ตัวอย่างหน้าบทคัดย่อ ดุษฎีนพิ นธ์ภาษาไทย หวั ข้อดุษฎีนพิ นธ์ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งภาวะผนู้ าเชิงสถานการณ์กบั ประสิทธิภาพการปฏบิ ัติงาน ของขา้ ราชการครูโรงเรียนในสงั กัดสานกั งานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ชอ่ื –นามสกุล นายบัญชา บญุ บารงุ สาขาวิชา การบรหิ ารการศึกษา อาจารยท์ ปี่ รึกษา ผชู้ ่วยศาสตราจารยร์ ุ่งอรุณ รังรองรตั น์, ปร.ด. ปกี ารศึกษา 2561 บทคดั ย่อ การวิจัยครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ภาวะผู้นาเชิงสถานการณ์ 2) ประสิทธิภาพการ ปฏิบัติงานของข้าราชการครู และ 3) ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นาเชิงสถานการณ์กับประสิทธิภาพการ ปฏิบตั ิงานของข้าราชการครูโรงเรยี นในสังกัดสานักงานเขตบางเขน กรงุ เทพมหานคร ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ข้าราชการครูผู้สอนท้ังหมดโรงเรียนในสังกัดสานักงานเขต บางเขน กรุงเทพมหานคร จานวน 263 คน เครื่องมือท่ีใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ คา่ เฉลย่ี คา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน และคา่ สัมประสทิ ธิส์ หสัมพันธข์ องเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า 1) ภาวะผู้นาเชิงสถานการณ์ของผู้บริหารสถานศึกษา อยู่ในระดับมากท้ัง 4 ด้าน โดยด้านท่ีมีระดับมากสูงท่ีสุด คือ ด้านผู้นาแบบมุ่งผลสาเร็จ รองลงมาคือ ด้านผู้นาแบบสนับสนุน ด้าน ผู้นาแบบมีส่วนร่วม และน้อยที่สุด คือ ด้านผู้นาแบบช้ีนา 2) ประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของ ข้าราชการครู อยู่ในระดับมากทุกข้อ ส่วนในรายข้อ โดยประเด็นท่ีมีระดับมากสูงท่ีสุดมีสองข้อคือ ข้าราชการครสู ามารถปฏิบัตงิ านตามแบบแผนที่ผ้บู รหิ ารวางนโยบายไว้ ข้าราชการครูและเพื่อนร่วมงาน รว่ มมือกันทางานด้วยความสามัคคีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รองลงมา คือ ข้าราชการครูได้รับมอบหมาย งานตรงตามความสามารถ และน้อยท่ีสุด คือ ข้าราชการครูได้รับความยุติธรรมในการเล่ือนตาแหน่ง 3) ความสมั พนั ธ์ระหว่างภาวะผูน้ าเชิงสถานการณ์กับประสทิ ธิภาพการปฏิบตั ิงานของข้าราชการครู พบวา่ มีความสัมพันธ์กนั ในระดับสูง อย่างมนี ยั สาคัญทางสถิตทิ ี่ระดบั .01 คาสาคญั : ภาวะผ้นู าเชงิ สถานการณ์ ประสิทธภิ าพการปฏบิ ัตงิ าน สานักงานเขตบางเขน (3)

- 206 - ตัวอยา่ งรปู แบบการจัดพิมพ์หนา้ ABSTRACT ดุษฎีนิพนธภ์ าษาไทย ใชต้ วั อกั ษร TH Sarabun PSK 3.5 ซ.ม. ตวั แรกของคาใชต้ วั พมิ พใ์ หญ่ ขนาด 16 พอยด์ ยกเวน้ คาบุพบท Dissertation Title ……………………(4…)…………………………………………………… Name – Surname ………………………………………………………………………….. Program / Major Subject ………………………………………………………………………….. Dissertation Advisor ตาแหน่งทางวชิ าการ (ชื่อเตม็ ) และชื่อ นามสกลุ , คุณวฒุ ิ-ภาษาอังกฤษ Academic Year ………………………………………………………………………….. เลือกใชเ้ พียง ใชต้ วั อกั ษร TH Sarabun PSK ขนาด 20 พอยด์ เง่ือนไขเดียว ABSTRACT ตวั หนา พิมพก์ ่ึงกลางหนา้ กระดาษ โดยเวน้ ระยะห่าง (tab 1.6 cm.)…………………………………………………จา…กบ…ร…รท…ดั บ…น…แล…ะล…่าง…1…บ…รร…ทดั…ข..นาด 16 พอยด์ ………………………………………………………………………………………............................. ………………………………………………………………………………………............................ ………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………............................. ………………………………………………………………………………………............................ ………………………………………………………………………………………………………….. 3.5 (tab 1.6 cm.)…………………………………………………………………………………….. 2.5 ซ.ม. ซ.ม. ………………………………………………………………………………………............................. ………………………………………………………………………………………............................ ………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………............................. ………………………………………………………………………………………............................ ………………………………………………………………………………………………………….. (tab 1.6 cm.)…………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………............................. ………………………………………………………………………………………............................ ………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………............................. ………………………………………………………………………………………............................ ………………………………………………………………………………………………………….. Keywords: ………….., ………………, ………………, …………………………………………… จานวน 3 ยอ่ หนา้ จานวน 3 คาแต่ไมค่ วรเกิน 5 คา และใชเ้ ครื่องหมาย จุลภาค (,) ก้นั ระหวา่ งคา และใชอ้ กั ษรพมิ พเ์ ล็ก ยกเวน้ เป็นเป็นคาเฉพาะ 3.5 ซ.ม. (4) พิมพเ์ ลขหนา้ ในวงเล็บ จดั ก่ึงกลาง ห่าง จากขอบกระดาษดา้ นล่าง 2 ซม.

- 207 - ตัวอย่างหน้า ABSTRACT ดษุ ฎีนพิ นธ์ภาษาไทย Dissertation Title Production of Diesel-like Oil from Co-Pyrolysis between Used Lubricant Oil and Plastic Wastes Name – Surname Program Mrs. Natacha Phetyim Dissertation Advisor Academic Year Energy and Materials Engineering Assistant Professor Sommai Pivsa-Art, Ph.D. 2018 ABSTRACT Pyrolysis is the most effective method to recover hydrocarbon materials from plastic wastes. This study improved the pyrolysis process of solid plastic wastes. The co-pyrolysis process of used lubricant oil and mixed plastic wastes were developed. The optimization of co-pyrolysis conditions was studied to produce diesel-like oil product. Plastic wastes included high-density polyethylene (HDPE), polypropylene (PP), and polystyrene (PS). The best proportions of raw materials in a laboratory scale were at atmospheric pressure at a final temperature of 450 °C with and without a catalyst. The investigated ratios between used lubricant oil (Oil) and plastic waste (Oil:HDPE:PP:PS) were 50:30:20:0, 50:30:0:20, 50:0:30:20, and 50:30:10:10 by weight. Kinetic of co-pyrolysis studied was Oil:HDPE, Oil:PP, and Oil:PS at heating rates of 5ºC/min, 10ºC/min, and 20ºC/min. The appropriate proportion of raw materials was selected for co-pyrolysis prototype (10 kg/day). It was found that oil produced from Oil:HDPE:PP:PS at the weight ratio of 50:30:20:0 gave standard diesel oil as specified by the Ministry of Energy (Thailand), except its lower standard of flash point. This proportion was tested with the co- pyrolysis prototype by studying oil property of three reactor temperature ranges (less than 400 °C, 400–425 °C, and 425–450 °C). The analysis of oil produced at 400–425 °C exhibited diesel-like fuel property. The parameters and activation energy data from the kinetic study of co-pyrolysis were used to design heat capacity of co-pyrolysis reaction. The co-pyrolysis prototype can be used to produce diesel-like fuel. Keywords: co-pyrolysis, used lubricant oil, plastic wastes, prototype (4)

- 208 - ตัวอย่างรูปแบบการจัดพิมพ์หนา้ ABSTRACT ดุษฎีนิพนธภ์ าษาองั กฤษ ใชต้ วั อกั ษร Times New 3.5 ซ.ม. ตวั แรกของคาใชต้ วั พมิ พใ์ หญ่ Roman ขนาด 12 พอยด์ ยกเวน้ คาบพุ บท Dissertation Title …………………………………………………………………………… Name – Surname ………………………………………………………………………….. Program / Major Subject ………………………………………………………………………….. Thesis Advisor ตาแหน่งทางวชิ าการ (ชื่อเตม็ ) และช่ือ นามสกุล, คุณวฒุ ิ-ภาษาองั กฤษ Academic Year …………………………………………ใช…ต้ …วั อ…กั ษ…ร…Ti…me…N…ew…R…om…a…n ข. นาด 12 พอยด์ เลือก. ใชเ้ พียง ABSTRACT ตวั หนา พมิ พก์ ่ึงกลางหนา้ กระดาษ โดยเวน้ เงื่อนไขเดียว ระยะห่างจากบรรทดั บนและล่าง 1 บรรทดั …………(ta…b …1.6…cm….…)……………………………………………………….………………………………………………ข……น……าด……1…6…พ……อ…ย…ด……์ ………………………….... ………………………………………………….………………………………………………………... ………………………………………………….………………………………………………………... ………………………………………………….………………………………………………………... ………………………………………………….………………………………………………………... ………………………………………………….………………………………………………………... (tab 1.6 cm.)……………………………………………………………………………………. ………………………………………………….………………………………………………………... ………………………………………………….………………………………………………………... ………………………………………………….………………………………………………………... ………………………………………………….………………………………………………………... ………………………………………………….………………………………………………………... ………………………………………………….………………………………………………………... (tab 1.6 cm.)……………………………………………………………………………………. 2.5 ซ.ม. 3.5 ………………………………………………….………………………………………………………... ………………………………………………….………………………………………………………... ซ.ม. ………………………………………………….………………………………………………………... ………………………………………………….………………………………………………………... ………………………………………………….………………………………………………………... ………………………………………………….………………………………………………………... Keywords: ………….., ………………, ………………, …………………………………………… จานวน 3 คาแตไ่ ม่ควรเกิน 5 คา และใช้ จานวน 3 ยอ่ หนา้ เครื่องหมาย จุลภาค (,) ก้นั ระหวา่ งคา และ ใชอ้ กั ษรพิมพเ์ ลก็ ยกเวน้ เป็นเป็นคาเฉพาะ 3.5 ซ.ม. (3) พิมพเ์ ลขหนา้ ในวงเล็บ จดั ก่ึงกลาง ห่าง จากขอบกระดาษดา้ นล่าง 2 ซม.

- 209 - ตัวอย่างหนา้ ABSTRACT ดุษฎีนพิ นธภ์ าษาองั กฤษ Dissertation Title Production of Diesel-like Oil from Co-Pyrolysis between Used Lubricant Oil and Plastic Wastes Name – Surname Mrs. Natacha Phetyim Program Energy and Materials Engineering Dissertation Advisor Assistant Professor Sommai Pivsa-Art, Ph.D. Academic Year 2018 ABSTRACT Pyrolysis is the most effective method to recover hydrocarbon materials from plastic wastes. This study improved the pyrolysis process of solid plastic wastes. The co-pyrolysis process of used lubricant oil and mixed plastic wastes were developed. The optimization of co-pyrolysis conditions was studied to produce diesel-like oil product. Plastic wastes included high-density polyethylene (HDPE), polypropylene (PP), and polystyrene (PS). The best proportions of raw materials in a laboratory scale were at atmospheric pressure at a final temperature of 450 °C with and without a catalyst. The investigated ratios between used lubricant oil (Oil) and plastic waste (Oil:HDPE:PP:PS) were 50:30:20:0, 50:30:0:20, 50:0:30:20, and 50:30:10:10 by weight. Kinetic of co-pyrolysis studied was Oil:HDPE, Oil:PP, and Oil:PS at heating rates of 5ºC/min, 10ºC/min, and 20ºC/min. The appropriate proportion of raw materials was selected for co-pyrolysis prototype (10 kg/day). It was found that oil produced from Oil:HDPE:PP:PS at the weight ratio of 50:30:20:0 gave standard diesel oil as specified by the Ministry of Energy (Thailand), except its lower standard of flash point. This proportion was tested with the co-pyrolysis prototype by studying oil property of three reactor temperature ranges (less than 400 °C, 400–425 °C, and 425–450 °C). The analysis of oil produced at 400–425 °C exhibited diesel-like fuel property. The parameters and activation energy data from the kinetic study of co-pyrolysis were used to design heat capacity of co-pyrolysis reaction. The co-pyrolysis prototype can be used to produce diesel-like fuel. Keywords: co-pyrolysis, used lubricant oil, plastic wastes, prototype

- 210 - ตัวอย่างรปู แบบการจดั พิมพ์กิตติกรรมประกาศ ภาษาไทย 3.5 ซ.ม. ใชต้ วั อกั ษร TH Sarabun PSK ขนาด 20 พอยด์ ตวั หนา จดั ก่ึงกลางหนา้ กระดาษ กติ ติกรรมประกาศ (ย่อหนา้ 1.6 ซม.) ........................................................................ร..ะ...ย..ะ..ห...่า.ง...1...บ...ร..ร..ท...ดั...ข...น...า.ด....1..6...พ...อ..ย..ด์ ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................... ................................ .......................................................................................................................................................................... (ยอ่ หนา้ 1.6 ซม.) .............................................................................................................................. .................................................................................................................................................... ...................... .......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. (ย่อหนา้ 1.6 ซม.) ............................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................................................ .............. 3.5 ระยะหา่ ง 2 บรรทัด ขนาด 16 พอยด์ 2.5 ซ.ม. (ชือ่ นามสกลุ ผ้เู ขยี น ไมต่ อ้ งระบุคานาหน้า) ซ.ม. ใชต้ วั อกั ษร TH Sarabun PSK ขนาด 16 พอยด์ จดั ชิดขวา 3.5 ซ.ม. (5) พมิ พเ์ ลขหนา้ ในวงเล็บ จดั ก่ึงกลาง ห่าง จากขอบกระดาษดา้ นล่าง 2 ซม.

- 211 - ตัวอยา่ งกิตติกรรมประกาศ ภาษาไทย กิตตกิ รรมประกาศ การทาดุษฎีนิพนธ์ฉบับน้ี สาเร็จลุล่วงได้ ด้วยความกรุณาเป็นอย่างยิ่งจากผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สุทธิพร บุญส่ง ที่ได้ให้ความกรุณาให้คาแนะนาและติดตามการทาดุษฎีนิพนธ์คร้ังน้ีอย่างใกล้ชิด ตลอดมา นับต้ังแต่เร่ิมต้นจนกระท่ังสาเร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ ผู้วิจัยรู้สึกซาบซ้ึงในความกรุณาของท่าน เปน็ อยา่ งยิง่ ขอขอบพระคุณ และมอบความดีทั้งหมดนี้ให้แก่ คุณพ่อ คุณแม่ สามีและลูก พ่ีน้อง เพื่อนท่ี แสนดีและคณะครู-อาจารย์ ท่ีให้การสนับสนุนและประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้ และเพื่อน ๆ ร่วมชั้น เรยี นทุกคนทเ่ี ปน็ กาลงั ใจ สุดทา้ ยน้ี ผู้วจิ ัยหวงั เป็นอยา่ งย่งิ วา่ งานค้นคว้าฉบับน้ีจะเป็นประโยชน์สาหรับผ้ทู ่ีสนใจหากดุษฎี นพิ นธ์ในครง้ั นีข้ าดตกบกพรอ่ ง หรอื ไม่สมบรู ณ์ประการใด ผู้วิจัยขอกราบขออภัยมา ณ โอกาสน้ดี ว้ ย วภิ า รักดี (5)

- 212 - ตวั อยา่ งรูปแบบการจัดพิมพ์กิตติกรรมประกาศ ภาษาอังกฤษ 3.5 ซ.ม. ใชต้ วั อกั ษร Times New Roman ขนาด 12 พอยด์ ตวั หนา จดั ก่ึงกลางหนา้ กระดาษ Acknowledgements ระยะห่าง 1 บรรทดั ขนาด 12 พอยด์ (tab 1.6 cm.) ...................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................................................... (tab 1.6 cm.) ...................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. ........................................................................................................................................................................ .. ............................................................................................................................. ............................................. (tab 1.6 cm.) ...................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. ............................................. 3.5 ระยะห่าง 2 บรรทดั ขนาด 12 พอยด์ 2.5 ซ.ม. ซ.ม. (ชื่อ นามสกุลผเู้ ขียน ไม่ตอ้ งระบคุ านาหนา้ ) ใชต้ วั อกั ษร Times New Roman ขนาด 12 พอยด์ จดั ชิดขวา 3.5 ซ.ม. (4) พมิ พเ์ ลขหนา้ ในวงเลบ็ จดั ก่ึงกลาง ห่าง จากขอบกระดาษดา้ นล่าง 2 ซม.

- 213 - ตวั อย่างกิตตกิ รรมประกาศ ภาษาอังกฤษ Acknowledgements Joining the Ph.D. Program at Rajamangala University of Technology Thanyaburi enables me to grow in so many directions, as an academic and a person. I have been blessed with friends and professors who have supported and provided guidance throughout the last several yeas. I have benefited greatly from the guidance and advice of my committee members. I am indebted to Dr.Sittiporn Intuwonges who has been an outstanding advisor and Associate Professor Dr. Tatre Jantarakolica, the co-advisor an inspiration on how to conduct quality research. Other committee members, namely Dr. Thanomsak Suwannoi, Associate Professor Dr. Sdujai Tolpanichgit, and Assistan Professor Dr. Wanchai Prasertsri, have provided me tremendous suggestions and motivation to think carefully on the research ideas and methodology throughout the dissertation duration process. Furthermore, I thank Rajamangala University of Technology Tanyaburi for the tremendous finacial supports and flexibility during my several previous years of my educations. I am most thankful for my family who always supports and encourages me in every enceavor in my life. Without their loves patience and encouragement, I will not be who I am today. Supa Tongkong (4)

- 214 - ตวั อย่างรปู แบบการจัดพิมพ์หน้าสารบัญ ภาษาไทย 3.53.ซ5 .มซ.ม. ใชต้ วั อกั ษร TH Sarabun PSK ขนาด 20 พอยด์ ตวั หนา จดั ก่ึงกลางหนา้ กระดาษ สารบญั ระยะห่าง 1 บรรทดั ขนาด 16 พอยด์ หนา้ บทคัดยอ่ ภาษาไทย.................................................................................................................................... (3) บทคัดยอ่ ภาษาองั กฤษ.............................................................................................................................. (4) กติ ติกรรมประกาศ................................................................................................................................... (5) สารบัญ..................................................................................................................................................... (6) สารบัญรปู ................................................................................................................................................ (9) สารบัญตาราง.......................................................................................................................................... (10) บทท่ี 1 บทนา.......................................................................................................................................... 11 1.1 หัวขอ้ ลาดบั ท่ี 1................................................................................................................. 11 1.2 หวั ข้อลาดบั ที่ 2................................................................................................................. 12 บทท่ี 2 เอกสารและงานวจิ ยั ทีเ่ กยี่ วขอ้ ง................................................................................................... 15 2.1 หวั ขอ้ ลาดับท่ี 1.................................................................................................................. 15 2.2 หัวข้อลาดับที่ 2.................................................................................................................. 18 บทท่ี 3 วธิ ีดาเนนิ การวิจยั .......................................................................................................................... 25 2.5 3.5 3.1 หวั ขอ้ ลาดบั ท่ี 1................................................................................................................... 25 ซ.ม. ซ.ม. 3.2 หวั ขอ้ ลาดบั ท่ี 2................................................................................................................... 29 บทที่ 4 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูล.................................................................................................................. 43 4.1 หวั ขอ้ ลาดบั ท่ี 1..................................................................................................................... 43 4.2 หวั ข้อลาดบั ที่ 2..................................................................................................................... 55 บทท่ี 5 สรปผุ ลการวิจัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ............................................................................... 70 5.1 หัวขอ้ ลาดบั ที่ 1..................................................................................................................... 70 5.2 หวั ข้อลาดับท่ี 2..................................................................................................................... 75 บรรณานกุ รม.............................................................................................................................................. 80 ภาคผนวก................................................................................................................................................... 83 ภาคผนวก ก.................................................................................................................................. 84 ภาคผนวก ข................................................................................................................................. 89 ประวัติผเู้ ขียน............................................................................................................................................ 98 3.5 ซ.ม. (6) พิมพเ์ ลขหนา้ ในวงเล็บ จดั ก่ึงกลาง ห่าง จากขอบกระดาษดา้ นล่าง 2 ซม.

- 215 - ตัวอยา่ งหนา้ สารบัญ ภาษาไทย สารบญั หน้า บทคดั ย่อภาษาไทย.......................................................................................................................... (3) บทคัดย่อภาษาองั กฤษ..................................................................................................................... (4) กติ ติกรรมประกาศ........................................................................................................................... (5) สารบญั ............................................................................................................................................ (6) สารบัญตาราง.................................................................................................................................. (9) สารบัญรูป ....................................................................................................................................... (10) บทท่ี 1 บทนา.................................................................................................................................. 11 1.1 ความเป็นมาและความสาคญั ของปัญหา .................................................................. 11 1.2 วัตถปุ ระสงค์การวจิ ยั ............................................................................................... 12 1.3 สมมตฐิ านการวจิ ัย................................................................................................... 13 1.4 ขอบเขตของการวจิ ยั ................................................................................................ 14 1.5 คาจากดั ความในการวจิ ัย ......................................................................................... 14 1.6 กรอบแนวคิดในการวจิ ัย .......................................................................................... 15 1.7 ประโยชน์ทีค่ าดวา่ จะได้รบั ....................................................................................... 16 บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยท่ีเก่ียวข้อง........................................................................................... 17 2.1 แนวคิดทฤษฎเี กย่ี วกบั ความคาดหวงั ...................................................................... 17 2.2 แนวคดิ ทฤษฏเี กย่ี วกบั การรับรู้................................................................................ 25 2.3 แนวคดิ เกย่ี วกับการประกนั สังคม............................................................................ 31 2.4 มาตรฐานของสถานพยาบาลในระบบประกันสังคม................................................. 33 2.5 งานวิจยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ................................................................................................. 35 บทที่ 3 วิธดี าเนินการวจิ ัย................................................................................................................ 36 3.1 ประชากรและกลมุ่ ตวั อย่าง..................................................................................... 36 3.2 เครือ่ งมือทีใ่ ช้ในการวิจัย ......................................................................................... 37 3.3 การเก็บรวบรวมข้อมลู ............................................................................................ 37 3.4 วธิ ีการวเิ คราะหข์ ้อมลู ............................................................................................. 38 (6)

- 216 - ตวั อย่างหน้าสารบัญ กรณมี ีหนา้ ต่อ ภาษาไทย สารบัญ (ตอ่ ) หนา้ บทที่ 4 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล......................................................................................................... 40 4.1 การนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมลู ......................................................................... 41 4.2 ผลการวเิ คราะห์...................................................................................................... 55 บทท่ี 5 สรุปผลการวจิ ัย การอภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ ............................................................. 90 5.1 สรปุ ผลการวจิ ยั ....................................................................................................... 90 5.2 การอภิปรายผลการวจิ ัย.......................................................................................... 93 5.3 ข้อเสนอแนะท่ีได้จากการวิจยั ................................................................................. 100 5.4 งานวิจัยทเ่ี กี่ยวเนอื่ งในอนาคต................................................................................ 108 บรรณานุกรม................................................................................................................................... 112 ภาคผนวก ....................................................................................................................................... 114 ภาคผนวก ก แบบสอบถาม ............................................................................................ 115 ภาคผนวก ข ผลการวิเคราะห์......................................................................................... 118 ประวัตผิ ู้เขยี น .................................................................................................................................. 130 (7)

- 217 - ตัวอย่างรูปแบบการจดั พิมพ์หน้าสารบญั ภาษาอังกฤษ 3.53.ซ5 .มซ.ม. ใชต้ วั อกั ษร Times New Roman ขนาด 12 พอยด์ ตวั หนา จดั ก่ึงกลางหนา้ กระดาษ Table of Contents ระยะห่าง 1 บรรทดั ขนาด 12 พอยด์ Page Abstract ……………………………………………………………………………………………….. (3) Acknowledgements………...…………………………………………………………………………... (4) Table of contents…………………………………………………………………...…………………. (5) List of Tables……………………………………………………………………………..…………... (6) List of Figures………………………………………………………………………………………… (9) CHAPTER 1 INTRODUCTION………………………………………………………………………. 10 1.1 Heading Level 1…………………………………………………………………………. 10 1.2 Heading Level 2………………………………………………………….……………….. 13 CHAPTER 2 REVIEW OF THE LITERATURE …………………………………………………….. 20 2.1 Heading Level 1………………………………………………………….………………. 20 2.2 Heading Level 2………………………………………………………………………….. 25 CHAPTER 3 RESEARCH METHODOLOGY………………...……………………………………... 30 3.1 Heading Level 1…………………………………………………………………………. 30 3.2 Heading Level 2…………………………………………………………………………. 35 CHAPTER 4 RESEARCH RESULT…………………………………………………………………. 39 4.1 Heading Level 1…………………………………………………………………………. 39 4.2 Heading Level 2…………………………………………………………………………. 42 3.5 CHAPTER 5 CONCLUSION AND RECOMMENDATIONS………………………………………. 50 2.5 5.1 Heading Level 1…………………………………………………………………………. 50 ซ.ม. 5.2 Heading Level 2…………………………………………………………………………. 58 ซ.ม. Bibliography……………………………………….…………………………………………………... 60 Appendices…………………………………………..…………………………………………………. 70 Appendix A……………………………..…………………………………………………….. 71 Appendix B……………………………….…………………………………………………… 73 Biography………………………………………..……………………………………………………… 90 3.5 ซ.ม. พมิ พเ์ ลขหนา้ ในวงเลบ็ จดั ก่ึงกลาง ห่าง (5) จากขอบกระดาษดา้ นล่าง 2 ซม.

- 218 - ตวั อย่างหน้าสารบัญ ภาษาองั กฤษ Table of Contents Page Abstract . ...................................................................................................................... (3) Acknowledgements...................................................................................................... (4) Table of Contents......................................................................................................... (5) List of Table................................................................................................................. (6) List of Figures .............................................................................................................. (9) CHAPTER 1 INTRODUCTION ................................................................................ 10 1.1 Background and Statement of the Problem ............................................ 10 1.2 Purpose of the Study............................................................................... 12 1.3 Research Questions and Hypothesis....................................................... 14 1.4 Theoretical Perspective........................................................................... 18 1.5 Definition of Terms ................................................................................ 20 1.6 Delimitations and Limitations of the Study............................................ 22 CHAPTER 2 REVIEW OF THE LITERATURE ....................................................... 28 2.1 An Importance of Leadership in the Organization ................................. 28 2.2 The Perspective and Evolution of Leadership Theory ........................... 30 2.3 Trait Theory............................................................................................ 32 2.4 Behavior Theory ..................................................................................... 33 2.5 Contingency and Situational Leadership Theory ................................... 35 2.6 Performance and team effectiveness ...................................................... 36 CHAPTER 3 RESEARCH METHODOLOGY .......................................................... 37 3.1 Theoretical Framework........................................................................... 37 3.2 Sampling Technique ............................................................................... 37 3.3 Instrumentation ....................................................................................... 39 3.4 Procedure of the Data Collection............................................................ 40 3.5 Data processing and analysis .................................................................. 42 3.6 Statistical analysis................................................................................... 44 (5)

- 219 - ตวั อย่างหนา้ สารบัญ กรณีมีหน้าต่อ ภาษาองั กฤษ Table of Contents (Continued) Page CHAPTER 4 RESEARCH RESULT .......................................................................... 46 4.1 Demographic data................................................................................... 46 4.2 Descriptive Statistics of Variables.......................................................... 50 4.3 Preliminary Analysis .............................................................................. 55 4.4 Normality Testing ................................................................................... 58 4.5 Linearity Testing..................................................................................... 60 4.6 Multi collinear Testing............................................................................ 70 4.7 Structural Equation Modeling Analysis.................................................. 75 CHAPTER 5 DISCUSSION AND RECOMMENDATION....................................... 80 5.1 Discussion and Recommendation........................................................... 80 52 Implication for Practice and Future Research ......................................... 84 Bibliography ................................................................................................................ 90 Appendices................................................................................................................... 96 Appendix A Amari Group Career Path Development................................... 97 Appendix B Questionnaire ............................................................................ 100 Biography..................................................................................................................... 115 (6)

- 220 - ตัวอยา่ งรูปแบบการจดั พิมพ์หนา้ สารบญั ตาราง ภาษาไทย 3.53.ซ5 .มซ.ม. ใชต้ วั อกั ษร TH Sarabun PSK ขนาด 20 พอยด์ ตวั หนา จดั ก่ึงกลางหนา้ กระดาษ สารบัญตาราง ระยะห่าง 1 บรรทดั ขนาด 16 พอยด์ ตารางท่ี 1.1 ชื่อตาราง............................................................................................................................. หนา้ ตารางท่ี 2.1 ชอื่ ตาราง............................................................................................................................. 11 ตารางที่ 3.1 ช่อื ตาราง............................................................................................................................. 20 ตารางที่ 4.1 ช่อื ตาราง............................................................................................................................. 30 ตารางท่ี 4.2 ช่อื ตาราง............................................................................................................................. 40 45 3.5 2.5 ซ.ม. ซ.ม. 3.5 ซ.ม. (8) พมิ พเ์ ลขหนา้ ในวงเล็บ จดั ก่ึงกลาง ห่าง จากขอบกระดาษดา้ นล่าง 2 ซม.

- 221 - ตวั อยา่ งหน้าสารบัญตาราง ภาษาไทย สารบัญตาราง หน้า ตารางท่ี 1.1 ขนาดของกล่มุ ตวั อยา่ งที่เลือกเข้ารับการรกั ษาใน 7 สถานพยาบาลหลัก .................... 7 ตารางท่ี 4.1 จานวน (ความถ)ี่ และร้อยละ ของผ้ปู ระกันตน จาแนกตามลกั ษณะทาง ประชากรศาสตร์ ........................................................................................................ 13 ตารางที่ 4.2 จานวน (ความถ)่ี ร้อยละคา่ เฉลย่ี และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานของผปู้ ระกนั ตน จาแนกตามการรับรู้สิทธปิ ระโยชน์กองทนุ ประกนั สงั คม ด้านข้อมลู ท่วั ไป เกี่ยวกับสทิ ธิประโยชน์ ............................................................................................... 18 ตารางที่ 4.3 จานวน (ความถ)่ี ร้อยละค่าเฉลย่ี และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานของผปู้ ระกันตน จาแนกตามการรับร้สู ิทธปิ ระโยชนก์ องทนุ ประกนั สังคม ด้านข้อมลู ทั่วไป เกี่ยวกบั สิทธปิ ระโยชน์ ............................................................................................... 19 ตารางท่ี 4.4 จานวน (ความถี่) ร้อยละคา่ เฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของผู้ประกันตน จาแนกตามการรบั รสู้ ทิ ธปิ ระโยชนก์ องทนุ ประกันสังคม ด้านข้อมูลท่วั ไป เกี่ยวกับสทิ ธปิ ระโยชน์ ............................................................................................... 20 ตารางที่ 4.5 จานวน (ความถ่)ี ร้อยละคา่ เฉล่ีย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของผู้ประกันตน จาแนกตามการรบั รู้สทิ ธิประโยชน์กองทนุ ประกนั สังคม ด้านขอ้ มูลทั่วไป เกีย่ วกบั สิทธปิ ระโยชน์ ............................................................................................... 21 ตารางที่ 4.6 จานวน (ความถ)่ี ร้อยละค่าเฉลีย่ และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานของผู้ประกันตน จาแนกตามการรับรู้สิทธิประโยชน์กองทนุ ประกนั สงั คม ด้านขอ้ มลู ท่วั ไป เกยี่ วกบั สิทธิประโยชน์ ............................................................................................... 22 ตารางที่ 4.7 จานวน (ความถ)ี่ ร้อยละค่าเฉล่ยี และสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐานของผู้ประกนั ตน จาแนกตามการรบั รสู้ ิทธิประโยชนก์ องทนุ ประกันสงั คม ดา้ นข้อมูลทวั่ ไป เกย่ี วกบั สิทธิประโยชน์ ............................................................................................... 23 ตารางที่ 4.8 จานวน (ความถ่)ี ร้อยละคา่ เฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของผูป้ ระกันตน จาแนกตามการรับรู้สทิ ธปิ ระโยชนก์ องทุนประกนั สังคม ดา้ นข้อมูลทั่วไป เกี่ยวกบั สทิ ธิประโยชน์ ............................................................................................... 24 (8)

- 222 - ตวั อย่างรปู แบบการจดั พิมพ์หน้าสารบัญตาราง ภาษาอังกฤษ 3.53.ซ5 .มซ.ม. ใชต้ วั อกั ษร Times New Roman ขนาด 12 พอยด์ ตวั หนา จดั ก่ึงกลางหนา้ กระดาษ List of Tables ระยะห่าง 1 บรรทดั ขนาด 12 พอยด์ Page Table 1.1 Name of Table…………………………………………………………………………. 5 Table 2.1 Name of Table…………………………………………………………………………. 8 Table 3.1 Name of Table…………………………………………………………………………. 10 Table 4.1 Name of Table…………………………………………………………………………. 22 Table 4.2 Name of Table…………………………………………………………………………. 24 3.5 2.5 ซ.ม. ซ.ม. 3.5 ซ.ม. (8) พิมพเ์ ลขหนา้ ในวงเล็บ จดั ก่ึงกลาง ห่าง จากขอบกระดาษดา้ นล่าง 2 ซม.

- 223 - ตวั อย่างหนา้ สารบญั ตาราง ภาษาอังกฤษ List of Tables Page Table 3.1 COD concentration assessment along a channel .................................. 16 Table 4.2 Compare COD concentration at the discharge point at node 1, 3, 5 ( mg / l ).................................................................................................. 26 Table 4.3 Optimal cost of wastewater treatment .................................................. 28

- 224 - ตวั อยา่ งรปู แบบการจัดพิมพ(8์ห)น้าสารบัญภาพ ภาษาไทย 3.53.ซ5 .มซ.ม. ใชต้ วั อกั ษร TH Sarabun PSK ขนาด 20 พอยด์ ตวั หนา จดั ก่ึงกลางหนา้ กระดาษ สารบัญภาพ ระยะห่าง 1 บรรทดั ขนาด 16 พอยด์ ภาพที่ 1.1 ชื่อภาพ................................................................................................................................... หนา้ ภาพท่ี 2.1 ชื่อภาพ................................................................................................................................... 11 ภาพที่ 3.1 ชื่อภาพ................................................................................................................................... 20 ภาพท่ี 4.1 ชื่อภาพ................................................................................................................................... 30 ภาพท่ี 4.2 ช่ือภาพ................................................................................................................................... 40 45 3.5 2.5 ซ.ม. ซ.ม. 3.5 ซ.ม. (9) พิมพเ์ ลขหนา้ ในวงเลบ็ จดั ก่ึงกลาง ห่าง จากขอบกระดาษดา้ นล่าง 2 ซม.

- 225 - ตวั อยา่ งหน้าสารบญั ภาพ ภาษาไทย สารบัญภาพ หนา้ ภาพที่ 1.1 กรอบแนวคดิ ................................................................................................................ 10 ภาพท่ี 1.2 กลไกการเกดิ แนวเชื่อม................................................................................................. 15 ภาพท่ี 2.1 การเชอื่ มแรงเสยี ดทานแบบหมุน.................................................................................. 26 ภาพที่ 3.1 การวางแผนการดาเนินงานในการทาการศกึ ษา ............................................................ 27 (9)

- 226 - ตวั อย่างรูปแบบการจดั พิมพ์หน้าสารบัญภาพ ภาษาองั กฤษ 3.53.ซ5 .มซ.ม. ใชต้ วั อกั ษร Times New Roman ขนาด 12 พอยด์ ตวั หนา จดั ก่ึงกลางหนา้ กระดาษ List of Figures ระยะห่าง 1 บรรทดั ขนาด 12 พอยด์ Page Figure 1.1 Name of Figure…………………………………………………………………………. 7 Figure 2.1 Name of Figure …………………………………………………………………………. 9 Figure 3.1 Name of Figure …………………………………………………………………………. 12 Figure 4.1 Name of Figure …………………………………………………………………………. 25 Figure 4.2 Name of Figure …………………………………………………………………………. 28 3.5 2.5 ซ.ม. ซ.ม. 3.5 ซ.ม. (9) พมิ พเ์ ลขหนา้ ในวงเลบ็ จดั ก่ึงกลาง ห่าง จากขอบกระดาษดา้ นล่าง 2 ซม.

- 227 - ตัวอยา่ งหนา้ สารบญั ภาพ ภาษาองั กฤษ List of Figures Page Figure 2.1 Screen Capture of Doctor HTML........................................................ 11 Figure 2.2 Doctor HUML Compatibility Report .................................................. 15 Figure 2.3 WebSpeed............................................................................................ 17 Figure 2.4 Designer............................................................................................... 21 Figure 2.5 Bobby .................................................................................................. 22 Figure 2.6 Marcromedia Dreamweaver Dialog .................................................... 22 Figure 2.7 Macromedia Dreamweaver Site Report .............................................. 23 Figure 3.1 Primary Entities in the System ............................................................ 24 Figure 4.1 Use Case Overview of the System ...................................................... 24 Figure 4.2 Screen Selection Prototype.................................................................. 25 (9)

- 228 - ตัวอยา่ งรปู แบบการจดั พิมพ์คาอธิบายสญั ลักษณ์และคายอ่ ภาษาไทย 3.53.ซ5 .มซ.ม. ใชต้ วั อกั ษร TH Sarabun PSK ขนาด 20 พอยด์ ตวั หนา จดั ก่ึงกลางหนา้ กระดาษ คาอธิบายสญั ลกั ษณแ์ ละคายอ่ ระยะห่าง 1 บรรทดั ขนาด 16 พอยด์ ....สัญลักษณแ์ ละคายอ่ ........... ...............ความหมาย........................... ....สัญลกั ษณแ์ ละคายอ่ ........... ...............ความหมาย........................... ....สัญลักษณแ์ ละคาย่อ........... ...............ความหมาย........................... ....สัญลักษณ์และคาย่อ........... ...............ความหมาย........................... ....สัญลักษณ์และคาย่อ........... ...............ความหมาย........................... 3.5 2.5 ซ.ม. ซ.ม. 3.5 ซ.ม. (10) พิมพเ์ ลขหนา้ ในวงเล็บ จดั ก่ึงกลาง ห่าง จากขอบกระดาษดา้ นล่าง 2 ซม.

- 229 - ตัวอยา่ งคาอธบิ ายสัญลักษณ์และคายอ่ ภาษาไทย คาอธบิ ายสัญลักษณ์และคายอ่ นักท่องเท่ยี ว คนไทยทเ่ี ดินทางมาท่องเท่ียวในสถานทท่ี ่องเที่ยว พฤติกรรมการท่องเท่ยี ว กริ ยิ าอาการแสดงทุกรปู แบบของนักท่องเท่ยี ว การทอ่ งเท่ียวซา้ การที่นกั ท่องเทีย่ วมีความจงรักภักดีต่อแหลง่ ท่องเที่ยว การจงู ใจแบบดึง สงิ่ ทเี่ ปน็ แรงกระตุน้ โดยการจูงใจจากสถานที่ท่องเท่ยี ว RH ความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศ (10)

- 230 - ตวั อยา่ งรปู แบบการจดั พิมพ์คาอธบิ ายสญั ลักษณแ์ ละคาย่อ ภาษาอังกฤษ 3.53.ซ5 .มซ.ม. ใชต้ วั อกั ษร Times New Roman ขนาด 12 พอยด์ ตวั หนา จดั ก่ึงกลางหนา้ กระดาษ List of Abbreviations ระยะห่าง 1 บรรทดั ขนาด 12 พอยด์ …………Abbreviations…………… ………..Equivalence……………… …………Abbreviations…………… ………..Equivalence……………… …………Abbreviations…………… ………..Equivalence……………… …………Abbreviations…………… ………..Equivalence……………… …………Abbreviations…………… ………..Equivalence……………… 3.5 2.5 ซ.ม. ซ.ม. 3.5 ซ.ม. (10) พมิ พเ์ ลขหนา้ ในวงเลบ็ จดั ก่ึงกลาง ห่าง จากขอบกระดาษดา้ นล่าง 2 ซม.

ADPCM - 231 - ANN CPU ตัวอยา่ งคาอธบิ ายสัญลกั ษณ์และคายอ่ ภาษาอังกฤษ DMR DSP List of Abbreviations FFT FS1016 Adaptive Different Pulse Code Modulation IP Artificial Neural Network ITU-T Central Processing Units KBPS Digital Mobile Radio KSOFM Digital Signal Processing Fast Fourier Transform Federal Standard 1016 Internet Protocol International Telecommunications Union-Telecommunications Kilo Bits Per Second Kohonen Self-organizing Feature Maps (10)

- 232 - การพมิ พ์บทที่ หวั ขอ้ ใหญ่และหวั ขอ้ ยอ่ ย 3.53.ซ5 .มซ.ม. ใชต้ วั อกั ษร TH Sarabun PSK ขนาด 20 พอยด์ ตวั หนา จดั ก่ึงกลางหนา้ กระดาษ บทที่ 1 ระยะห่าง 1 บรรทดั ขนาด 16 พอยด์ บทนา 1.1//หัวข้อใหญ่ (ขนาด 18 พอยด์ ตัวหนา)......................................... 1.1.1//หวั ขอ้ ยอ่ ย (ย่อหน้า 1.6 ซม. ขนาด 16 พอยด)์ ..................................................................................................... จุดเร่มิ ของข้อความ............................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................................ 1.1.2//หัวข้อยอ่ ย (ย่อหน้า 1.6 ซม. ขนาด 16 พอยด)์ ..................................................................................................... 1.1.2.1//หวั ขอ้ ยอ่ ยลงไป (ขนาด 16 พอยด์)....................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................................ 1.1.2.2//หวั ขอ้ ยอ่ ยลงไป (ขนาด 16 พอยด์)........................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................ 1)//ขอ้ ยอ่ ย............................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................ (1)//ข้อยอ่ ยลงไป........................................................................................................................... (2)//............................................................................................................................................... ประเด็นย่อย...............(จะจดั เปน็ ยอ่ หนา้ ได้เฉพาะกรณที จ่ี าเปน็ เน่ืองจากขอ้ มลู ในแต่ละ ประเด็นมีความยาวมาก) ไมใ่ ห้ใช้หมายเลขใด ๆ กากับ......................................................................................................................... ประเด็นยอ่ ย........................................................................................................................... 3.5 ................................................................................................................................................................................................................ 2.5 ซ.ม. 1.2//หัวข้อใหญ่ (ขนาด 18 พอยด์ ตัวหนา)......................................... ซ.ม. (ย่อหนา้ 1.6 ซม.).............................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................................ 1.2.1//หวั ขอ้ ย่อย (ย่อหน้า 1.6 ซม. ขนาด 16 พอยด)์ ..................................................................................................... จุดเริ่มของขอ้ ความ............................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................................ 3.5 ซ.ม.

- 233 - ตวั อย่างการพมิ พบ์ ทที่ หัวข้อใหญ่และหวั ขอ้ ย่อย ดษุ ฎีนิพนธ์ภาษาไทย บทท่ี 1 บทนา 1.1 ความเปน็ มาและความสาคญั ของปญั หา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จาเป็นตอ้ งมีเครอ่ื งมือทีส่ าคัญคอื การศึกษา อันเปน็ พ้ืนฐานสาคัญ ของการพัฒนาประเทศชาติ และช้ีนาสังคมให้เป็นไปในทิศทางท่ีเหมาะสม บุคคลที่มีคุณภาพและเป็น กาลังสาคัญนั้นจึงต้องเป็นผู้ที่ได้รับการศึกษา ซึ่งที่ผ่านมาการจัดการศึกษาในประเทศของเราได้รับการ วพิ ากษ์วิจารณ์หลายด้าน ทั้งด้านเอกภาพในการจัดการศึกษา คุณภาพมาตรฐานการศกึ ษา หรอื รูปแบบ วิธีการ ที่ส่งผลต่อเน่ืองถึงคุณภาพของนักเรียนนักศึกษา (ปรัชญา/เวสารัชช์, 2545: 6)รัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 จึงกาหนดให้คนไทยทุกหมู่เหล่า ใช้สิทธิของประชาชนในการ ได้รับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน 12 ปี อย่างมีคุณภาพโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ท้ังน้ีลักษณะการศึกษาจะ สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม การเสริมสร้างความรู้ และปลูกฝัง ประชาธิปไตย การส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น การส่งเสริมการค้นคว้าวิจัยในศิลปะวิทยาการต่าง ๆและ พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แกไ้ ขเพิม่ เตมิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2545 ยงั ว่าด้วยการ จัดการศึกษาท่ีต้องเป็นไปเพ่ือพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจรยิ ธรรมและวฒั นธรรมในการดารงชีวิต สามารถอยรู่ ่วมกบั ผอู้ นื่ อยา่ งมีความสุขสะท้อน ให้เห็นว่าทิศทาง และแนวโน้มในอนาคตของการศึกษาท่ีเป็นกลไกสาคัญในการพัฒนาคนและพัฒนา ประเทศจะมีบทบาทมากย่ิงขึ้นและจาเปน็ ที่จะตอ้ งเตรียมการตั้งรับกา้ วให้ทันและนาไปข้างหน้าเพื่อการ มีวิถีชีวิตอยู่ในกระแสโลกาภิวัตน์ของมนุษย์ได้อย่างรู้เท่าทันและย่ังยืนทิศทางการจัดการศึกษาของไทย จาเป็นต้องไดร้ ับการวาดภาพให้สอดคล้องและทันกับสถานการณป์ ัจจบุ นั และท่จี ะเกดิ ข้ึนในอนาคตมาก ขนึ้ ดงั กล่าวและมีบทบาทเปน็ ตัวขบั เคล่อื นและนาการพัฒนาในทกุ ภาคสว่ นใหไ้ ดอ้ ยา่ งมีทิศทาง กระทรวงศึกษาธิการซ่ึงเป็นหน่วยงานของรัฐมีหน้าที่ในการพัฒนาระบบข้าราชการทางการ บริหารสาหรับผู้บริหารการศึกษา อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการประกาศใช้พระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ. 2542 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 13 ปี ของการพยายามปฏิรูปการศึกษา ท้ังระบบอีกคร้ัง หนึ่ง โดยผลจากการประเมินการปฏิรูปการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าหลายเรื่องประสบผลสาเร็จ เช่นการ ปรับโครงสร้างหน่วยงานให้มีเอกภาพมากยิ่งข้ึน ตัวอย่างได้แก่ การรวมทบวงมหาวิทยาลัย กระทรวงศึกษาธิการ และสานักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สานักนายกรัฐมนตรี เข้าเป็น กระทรวงเดียวกัน มีการจัดระเบียบบริหารราชการแบบเขตพ้ืนที่การศึกษา เพื่อให้มีการพัฒนา การศึกษาอย่างบูรณาการ และประสานเชอื่ มโยงกันโดยยดึ เขตพ้ืนท่เี ปน็ ศูนยก์ ลาง มกี ารจัดต้งั สานักงาน รับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เป็นองค์การมหาชน เพื่อประเมินคุณภาพ ภายนอก และรบั รองมาตรฐานสถาบันการศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษา (กระทรวงศึกษาธิการ, 2546: 30) 12

- 234 - 1.2 วัตถุประสงคข์ องการวิจยั 1.2.1//เพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นาของผู้บริหารโรงเรียน ในอาเภอธัญบุรี สังกัดสานักงานเขต พนื้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาปทมุ ธานเี ขต 2 1.2.2//เพ่ือศึกษาระดับการใช้อานาจของผู้บริหารโรงเรียน ในอาเภอธัญบุรี สังกัดสานักงาน เขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 1.2.3 เพ่ือศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นากับการใช้อานาจของผู้บริหารโรงเรียน/ใน อาเภอธัญบุรี สงั กัดสานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาปทมุ ธานี เขต 2 1.3 คาถามของการวจิ ยั 1.3.1//ระดับภาวะผู้นาของผู้บริหารโรงเรียน ในอาเภอธัญบุรี สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ี การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 อยูใ่ นระดบั ใด 1.3.2//ระดับการใช้อานาจของผู้บริหารโรงเรียน ในอาเภอธัญบุรี สังกัดสานักงานเขตพื้นที่ การศกึ ษาประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต 2 อยูใ่ นระดบั ใด 1.3.3 ภาวะผู้นาและการใช้อานาจของผู้บริหารโรงเรียน ในอาเภอธัญบุรี สังกัดสานักงาน เขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 มีความสมั พันธ์กนั หรอื ไม่ 1.4 ขอบเขตของการวจิ ัย การวิจัยคร้ังนี้เป็นการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นากับการใช้อานาจของผู้บริหาร โรงเรียน ในอาเภอธัญบรุ ี โดยมีขอบเขตการศกึ ษาดังน้ี 1.4.1 ขอบเขตด้านเน้ือหา การวิจัยคร้ังน้ีมุ่งศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นา กับการใชอ้ านาจของผู้บริหารโรงเรียน ในอาเภอธัญบุรี สังกัดสานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา ปทมุ ธานเี ขต 2 ประกอบด้วย 1.4.1.1 ภาวะผู้นาของผู้บริหารโรงเรียน ตามแนวคิดทฤษฏีของเซอร์จิโอแวนน่ี (Sergiovanni, 2001: 99 -115) แบง่ เปน็ 5 ดา้ น คอื 1) ภาวะผนู้ าด้านเทคนิค 2) ภาวะผูน้ าดา้ นมนุษย์ 3) ภาวะผนู้ าดา้ นการศกึ ษา ......................... 1.5 คาจากัดความในการวิจัย 1.5.1//ภาวะผู้นาของผู้บริหารโรงเรียน/หมายถึง/กระบวนการที่ผู้บริหารก่อให้เกิดการ เปล่ียนแปลงในการปฏิบัติงานของบุคลากร เพ่ือให้บรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายขององค์กร ร่วมกัน โดยจะแสดงออกด้วยการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใต้บังคับบัญชา ด้วยการเกล้ียกล่อม จูงใจและ โน้ม นา้ วจิตใจ ซง่ึ ประกอบไปด้วยภาวะผู้นา 5 ดา้ นคือ 1.5.1.1 ภาวะผู้นาด้านเทคนิค (Technical Leadership) หมายถึงพฤติกรรมท่ี ผู้บริหารวางแผนจัดการบริหารโรงเรียน การจัดระบบทางาน ประสานงาน และประเมินผล เพ่ือให้ โรงเรยี นมเี คร่อื งมอื ปฏบิ ตั งิ าน……………………………….. 13

- 235 - 1.6 กรอบแนวคดิ ของการวจิ ยั จากแนวคดิ และทฤษฎีดังกลา่ วผวู้ ิจยั ได้ศกึ ษาและกาหนดกรอบแนวคิดการวิจัย ประกอบดว้ ย ภาวะผู้นาของผู้บริหารโรงเรียนตามแนวคิดทฤษฏีของเซอร์จิโอแวนนี่ (Sergiovanni, 2001: 99 -115) มีอยู่ 5 ดา้ น คือ 1) ภาวะผู้นาดา้ นเทคนคิ 2) ภาวะผู้นาด้านมนษุ ย์ 3) ภาวะผู้นาด้านการศึกษา 4) ภาวะ ผู้นาด้านสัญลักษณ์ 5) ภาวะผู้นาด้านวัฒนธรรมการใช้อานาจของผู้บริหารโรงเรียนตามแนวคิดทฤษฎี ของ เฮอร์เซย์ และบลองชาร์ด (Hersey & Blanchard,/1993:/85) แบ่งเป็น 7 ด้าน ดังน้ี/1) อานาจ การบังคับ2) อานาจตามกฎหมาย3) อานาจจากความเชี่ยวชาญ4) อานาจการให้รางวัล/5) อานาจ อ้างอิง6) อานาจการมีข่าวสารขอ้ มลู 7) อานาจการเชื่อมโยง ดงั ภาพที่ 1.1 ภาวะผู้นาของผ้บู รหิ ารโรงเรยี น การใชอ้ านาจของผู้บริหารโรงเรยี น 1) ภาวะผนู้ าดา้ นเทคนคิ 1) อานาจจากการบังคับ 2) ภาวะผนู้ าด้านมนษุ ย์ 2) อานาจตามกฎหมาย 3) ภาวะผูน้ าด้านการศกึ ษา 3) อานาจจากความเชี่ยวชาญ 4) ภาวะผ้นู าด้านสัญลกั ษณ์ 4) อานาจจากการให้รางวัล 5) ภาวะผนู้ าดา้ นวฒั นธรรม 5) อานาจจากการอ้างองิ 6) อานาจการควบคมุ ข้อมลู ขา่ วสาร 7) อานาจจากการเชือ่ มโยง ภาพท่ี 1.1 กรอบแนวคดิ ในการวิจยั 1.7//ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รบั 1.7.1 เพ่ือเป็นข้อมูลในการพัฒนาภาวะผู้นาของผู้บริหารโรงเรียน สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาปทมุ ธานี เขต 2 1.7.2 เพ่อื เปน็ แนวทางในการพฒั นาการใช้อานาจของผู้บรหิ ารโรงเรียน สานกั งานเขตพืน้ ท่ี การศึกษาประถมศกึ ษาปทมุ ธานี เขต 2 1.7.3 เพ่ือเป็นสารสนเทศ สาหรับผู้บริหารโรงเรียน และผู้มีส่วนเก่ียวข้องในการบริหารงาน ในสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 สามารถนาข้อค้นพบไปพัฒนาภาวะผู้นา และการใช้อานาจของผู้บริหารโรงเรียน/เพื่อพัฒนาโรงเรียนประถมศึกษาในจังหวัดปทุมธานีให้เป็น สถานศึกษาทมี่ คี ุณภาพต่อไป 14

- 236 - การพมิ พบ์ ทที่ หัวข้อใหญแ่ ละหัวข้อย่อย ดุษฎีนพิ นธ์ภาษาองั กฤษ ใชต้ วั อกั ษร Tines New Roman ขนาด 3.53.ซ5 .มซ.ม. ใชต้ วั อกั ษร Tines New Roman ขนาด 12 พอยด์ ตวั หนา 12 พอยด์ ตวั หนา จดั ก่ึงกลางหนา้ กระดาษ CHAPTER 1 INTRODUCTION ระยะห่าง 1 บรรทดั ขนาด 12 พอยด์ 1.1//Main Heading 1.1.1//First Sub-heading (tab 1.6 cm.)…………………………… 1.1.1.1//Second Sub-heading……………………………..... 1.1.1.2//Second Sub-heading………………………………. 1)//Third Sub-heading……………………………… 2)//Third Sub-heading……………………………… (1)//…………………………………………….. 1.1.2//First Sub-heading (tab 1.6 cm.)……………………………… 1.1.2.1//Second Sub-heading……………………………….. 1.1.2.2//Second Sub-heading………………………………. 1)//Third Sub-heading……………………………… 2)//Third Sub-heading……………………………… (1)//…………………………………………….. 3.5 1.2//Main Heading 2.5 ซ.ม. (tab 1.6 cm.)……………………………………………………………… ซ.ม. …………………………………………………. 1.2.1//First Sub-heading (tab 1.6 cm.)…………………………… 1.2.1.1//Second Sub-heading……………………………..... 1.2.1.2//Second Sub-heading………………………………. 1)//Third Sub-heading……………………………… 2)//Third Sub-heading……………………………… (1)//…………………………………………….. 3.5 ซ.ม.

- 237 - ตวั อย่างการพิมพ์บทที่ หัวข้อใหญ่และหัวข้อย่อย ดษุ ฎีนิพนธ์ภาษาองั กฤษ CHAPTER 1 INTRODUCTION In modules and rings theory research field, there are three methods for doing the research. Firstly, to study about the fundamental of algebra and modules theory over arbitrary rings. Secondly, to study about the modules over special rings. Thirdly, to study about ring R by way of the categories of R-modules. Many mathematicians have concentrated on these methods. 1.1 Background and Statement of the Problems Many generalizations of the injectivity were obtained, e.g. principally injectivity and mininjectivity. In [2], V. Camillo introduced the definition of principally injective modules by calling a right R-module M is principally injective if every R- homomorphism from a principal right ideal of R to M can be extended to an R- homomorphism from R to M. In [7], [8] and [9], Nicholson and Yousif studied to the structure of principally injective rings, mininjective modules and principally quasi- injective modules. They gave some applications of these rings and modules. From [7], a ring R is called right principally injective if every …………………… 1.2 Purpose of the Study In this thesis, we have the purposes of study which are to extend concept of the previous works and to generalize new concepts which are : 1.2.1 To extend the concept of mininjective modules. 1.2.2 To generalize the concept of small principally quasi-injective modules. 1.2.3 To establish and extend some new concepts which are dual to small principally quasi-injective modules [18] and quasi-small principally-injective modules [19].

- 238 - 1.3 Research Questions and Hypothesis We are interested in seeing to extend the characterizations and properties which remain valid from these previous concepts which can be extended from principally injective modules [2], principally-injective rings [7], mininjective modules [8], principally quasi-injective modules [9], small principally quasi-injective modules [18] and quasi-small principally-injective modules [19]. In this research, we introduce the definition of small simple quasi-injective modules and …………………….. 1.4 Theoretical Perspective In this thesis, we use many of the fundamental theories which are concerned to the rings and modules research. By the concerned theories are : 1.4.1 The fundamental of algebra theories. 1.4.2 The basic properties of rings and modules theory. 1.5 Delimitations and Limitations of the Study For this thesis, we have the scopes and the limitations of studying which are concerned to the previous works which are: 1.5.1 To extend the concept of mininjective modules. 1.5.2 To extend the concept of small principally quasi-injective modules and quai-small P-injective modules. 1.5.3 To characterize the concept in 1.5.2 and find some new properties. 1.6 Significance of the Study The advantage of education and studying in this research, we can improve and develop the concepts and knowledge in the algebra and modules research field. 12

- 239 - ตัวอยา่ งการพมิ พ์ตาราง ตัวอย่างตารางพร้อมคาอ่านตาราง ตารางที่ 4.1 คา่ เฉล่ยี และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน ความพร้อมในการจดั การศึกษาระดับประถมศึกษา ขององค์การบริหารส่วนตาบล จังหวัดขอนแกน่ โดยภาพรวม ความพร้อมในการจดั การศกึ ษา x S.D. แปลผล 1. ดา้ นบคุ ลากร 3.34 0.53 ปานกลาง 2. ดา้ นงบประมาณ 3.24 0.65 ปานกลาง 3. ดา้ นวัสดคุ รภุ ัณฑ์ 3.10 0.61 ปานกลาง 4. ด้านอาคารสถานท่ี 3.09 0.65 ปานกลาง 5. ดา้ นการบรหิ ารจดั การ 3.25 0.55 ปานกลาง รวม 3.23 0.55 ปานกลาง ที่มา : ชาญ คาปอ้ ง (2545 : 71) จากตารางที่ 4.1 แสดงให้เห็นว่า สมาชิกองค์การบริหารส่วนตาบลมีความคิดเห็นเก่ียวกับ ความพร้อมในการจัดการศึกษาระดับประถมศึกษา ขององค์การบริหารส่วนตาบล จังหวดั ขอนแก่น โดย ภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( x = 3.23, S.D. = 0.50) เมือ่ พิจารณาเปน็ รายด้านพบวา่ มีความคดิ เห็น อยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงท่ีสุดคือด้านบุคลากร (( x = 3.34, S.D. = 0.53) รองลงมา คือ ด้านการบริหารจัดการ ( x = 3.25, S.D. = 0.55) ส่วนด้านท่ีมีค่าเฉล่ียต่าที่สุด คือ ด้านอาคาร สถานท่ี ( x = 3.09, S.D. = 0.65)

- 240 - ตัวอย่างตารางทไี่ ม่จบในหน้าเดยี ว พร้อมคาอ่านตาราง ตารางท่ี 4.2 ค่าเฉล่ยี และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานความพร้อมในการจัดการศึกษาระดับประถมศึกษา ขององค์การบรหิ ารส่วนตาบล จงั หวัดขอนแก่น ด้านบุคลากร ความพร้อมในการจดั การศึกษา x S.D. แปลผล 1. บคุ ลากรมีการศกึ ษาหาความรู้ มีความเขา้ ใจ 3.05 0.83 ปานกลาง หลกั สูตร และจัดกระบวนการเรียนการสอน ตามแนวปฏริ ปู การศึกษา 3.42 0.69 ปานกลาง 2.บุคลากรมวี สิ ัยทศั น์กา้ วทนั ต่อวิวัฒนาการดา้ น เทคโนโลยี เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง 3.64 0.75 มาก 3.บคุ ลากรมคี วามสามารถในการประสานความ ร่วมมอื กบั ชมุ ชนและหนว่ ยงานอน่ื 3.28 0.94 ปานกลาง 4.บุคลากรมเี จตคติท่ีดตี ่อการทางานเป็นทีม 3.34 0.72 ปานกลาง 5.บคุ ลากรมคี วามสามารถในการจดั ทา แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาและแผนปฏิบตั ิ การประจาปี 3.63 0.91 มาก 6.บุคลากรมคี วามคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ในการทางาน 3.49 0.80 ปานกลาง 7.บคุ ลากรเป็นผู้มมี นุษยสัมพันธ์ทดี่ ี มคี วามเปน็ 3.06 0.71 ปานกลาง ประชาธปิ ไตย เคารพในสิทธแิ ละศกั ด์ิศรีของ ผอู้ น่ื 8.บคุ ลากรมคี วามรับผิดชอบอุทศิ ตนและเวลาใน 3.54 0.79 มาก การปฏบิ ตั หิ น้าที่ 9.บคุ ลากรมวี ุฒิ ความถนัด ความเช่ียวชาญทาง การศกึ ษา ทีเ่ หมาะสมและเพียงพอ 3.22 0.75 ปานกลาง

- 241 - ตารางที่ 4.2 ค่าเฉลย่ี และสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐานความพร้อมในการจัดการศึกษาระดบั ประถมศึกษาของ องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล จังหวัดขอนแก่น ดา้ นบุคลากร (ต่อ) ความพร้อมในการจดั การศกึ ษา x S.D. แปลผล 10.บุคลากรมีคุณธรรม จริยธรรม และมีความประพฤติ เป็นแบบอยา่ งท่ีดี 3.54 0.79 มาก 11. มีบคุ ลากรที่มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกับงานด้าน ธุรการ การเงนิ และพัสดุ ที่เหมาะสมและเพียงพอ 3.22 0.75 ปานกลาง เฉลยี่ รวม 3.34 0.53 ปานกลาง จากตารางท่ี 4.2 แสดงให้เห็นว่า สมาชิกองค์การบริหารส่วนตาบลมีความคิดเห็นเกี่ยวกับ ความพร้อมในการจัดการศึกษาระดับประถมศึกษาขององค์การบริหารสาวนตาบลจังหวัด ขอนแก่น ด้านบุคลากรโดยภาพรวมเห็นว่าอยู่ในระดับปานกลาง( x =3.34, S.D.=0.53) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ บุคลากรมีเจตคติที่ดีต่อการทางานเป็นทีม ( x =3.64, S.D.=0.75) บุคลากรเป็นผู้มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีความเป็นประชาธิปไตย เคารพสิทธิและศักด์ิศรีของผู้อ่ืน( x =3.64, S.D.=0.91) รองลงมาคือ บุคลากรมีคุณธรรม จริยธรรม และมีความประพฤติเป็นแบบอย่างท่ีดี ( x = 3054, S.D. = 0.79) และข้อที่มีค่าเฉล่ียนอ้ ยที่สุดคือ บุคลากรมกี ารศกึ ษาความรู้ มคี วามเข้าใจหลักสูตร และการจัดกระบวนการการเรียนการสอนตามแนวปฏริ ูปการศึกษา ( x = 3.04, S.D. = 0.63)

- 242 - Table 4.2 Optimal cost of wastewater treatment Plant Unpurified Inflow Optimal Cost of Optimal Reduction Optimal Cost Of COD A Of COD Unpurified of Reduction B Concentration Inflow Concentration (Baht) C (Baht) mg / l  mg / l  20,000.00 200,000.00 167,412.41 1.0000 300,000.00 0.1000 218,927.17 1.0000 360,000.00 0.5580 406,339.58 1.0000 0.6081 Cost 860,000.00 Minimum cost (Baht) (Baht) From the table, the plant A can reduce COD concentration 0.1000 mg / l at the cost 20,000 baht, plant B can reduce COD concentration 0.5580 mg / l at the cost 167,412.41 baht and plant C can reduce COD concentration 0.6081 mg / l at the cost 218,927.17 baht. So the minimum cost of treatment in the system is 406,339.58 baht. The COD concentration at discharge point at plant A, B and C are 1.0000, 1.0000 and 1.0000 mg / l . The cost are 200,000, 300,000 and 360,000 baht respectively. The total cost in the system is 860,000 baht that is much more the cost of we control 406,339.58 baht. การพิมพต์ ารางวทิ ยานิพนธ์ภาษาองั กฤษ กรณีตารางไม่จบในหนา้ เดียว พิมพค์ าวา่ (Cont.) ต่อจากชื่อตาราง ดงั ตวั อยา่ ง Table 4.2 Optimal cost of wastewater treatment (Cont.)

- 243 - ตวั อย่างการพิมพ์ภาพ จานวนของเสีย : ชิ้น จานวนของเสียในสายการผลติ ตวั อย่าง ลดลง 2,758 ชิ้น คดิ เป็ น 90.28% ภาพท่ี 4.16 เปรยี บเทียบจานวนของเสยี ก่อนและหลังการปรับปรุง Figure 4.1 Percentage of students in grades 9—12 who reported being threatened or injured with a weapon on school property at least one time during the previous 12 months, by grade: Various years, 1993—2009 NOTE: \"On school property\" was not defined for survey respondents. SOURCE: Centers for Disease Control and Prevention, National Center for Chronic Disease Prevention and Health Promotion, Youth Risk Behavior Surveillance System (YRBSS), various years, 1993—2009.

- 244 - ตวั อยา่ งรปู แบบการจดั พิมพ์บรรณานุกรม ดษุ ฎีนพิ นธ์ภาษาไทย 3.53.ซ5 .มซ.ม. ใชต้ วั อกั ษร TH Sarabun PSK ขนาด 20 พอยด์ ตวั หนา จดั ก่ึงกลางหนา้ กระดาษ บรรณานกุ รม ระยะห่าง 1 บรรทดั ขนาด 16 พอยด์ รายการท่ี 1........................................................................................................................................................ (ยอ่ หนา้ 1.6 ซม.)........................................................................................................................ รายการท่ี 2........................................................................................................................................................ (ยอ่ หนา้ 1.6 ซม.)........................................................................................................................ รายการที่ 3........................................................................................................................................................ (ยอ่ หน้า 1.6 ซม.)........................................................................................................................ รายการที่ 4........................................................................................................................................................ (ย่อหน้า 1.6 ซม.)........................................................................................................................ รายการที่ 5........................................................................................................................................................ (ยอ่ หน้า 1.6 ซม.)........................................................................................................................ 3.5 2.5 ซ.ม. ซ.ม. 3.5 ซ.ม.

- 245 - ตวั อย่างบรรณานุกรม ดษุ ฎีนพิ นธ์ภาษาไทย บรรณานุกรม เกียรตกิ าจร กุศล. (2543). รูปแบบความสมั พันธโ์ ครงสรา้ งเชิงสาเหตขุ ององค์ประกอบที่มอี ิทธพิ ลต่อ ภาวะความเป็นผนู้ าของคณบดี สถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกดั ทบวงมหาวิทยาลัย. (วทิ ยานิพนธป์ ริญญาดุษฎีบณั ฑติ , จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย). ชอ่ เพ็ญ นวลขาว. (2548). ความสัมพนั ธร์ ะหว่างการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศกับแบบแผนการผลิต และวัฒนธรรมการบริโภคอาหาร ศกึ ษากรณีชมุ ชนขนาบนาก จงั หวดั นครศรีธรรมราช. (วทิ ยานิพนธป์ ริญญามหาบัณฑิต, มหาวทิ ยาลยั วลยั ลักษณ์). ไตรรัตน์ สนุ ทรประภสั สร. (8 พฤศจิกายน 2540). “อนาคตจีน-อเมรกิ า.” เดลินิวส์, 6. เทียนฉาย กีระนนั ท.์ (2542). การวเิ คราะหต์ ลาดแรงงาน: แนวคิดเชิงทฤษฎี. กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. ธร ธารงนาวาสวสั ด.ิ์ (2548). ใตท้ ะเลมีความรัก ภาคสาม: หลงั คล่นื อันดามนั . กรงุ เทพฯ: บา้ นพระอาทิตย.์ นิพนธ์ วิสารทานนท์ และจักรพงษ์ เจิมศิริ. (2541). โรคผลไม้. กรงุ เทพฯ: สานักวิจยั และพัฒนา การเกษตร เขตที่ 6. แนง่ น้อย ใจออ่ นน้อม. (2539). หนว่ ยท่ี 8 แนวความคิดเกยี่ วกบั ระบบสารนเิ ทศทางการบัญช.ี ใน เอกสารการสอนชดุ วิชาการรายงานทางการเงินและระบบสารสนเทศทางการบัญช.ี (น. 343-376). นนทบรุ ี: สาขาวิชาวทิ ยาการจดั การ มหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธริ าช. เปรมปรี ณ สงขลา. (2548). ภัยคกุ คามและสตู รผา่ ทางตัน เพ่อื ชาวสวนยคุ โลกไร้พรมแดน. กรงุ เทพฯ: บริษัท โบนัส พรเี พรส จากัด. พภิ พ ปราบณรงค.์ เดชา นันทพชิ ยั , สุธรี ะ ทองขาว, เจนจิรา แก้วรัตน,์ ธรี ะพนั ธ์ จฬุ ากาญจน์ และ ชยั ยะ ฉัตรเวชศิริกุล. (2546). รายงานฉบบั สมบูรณโ์ ครงการออกแบบและพฒั นาระบบ ฐานข้อมลู เพื่อการทอ้ งถนิ่ และพฒั นาจังหวัดนครศรีธรรมราช กระบ่ี ชมุ พรและระนอง. นครศรีธรรมราช: มหาวทิ ยาลัยวลยั ลกั ษณ์ ร่วมกับ สานกั งานคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา. พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตโต). (2541). ธรรมะกับการทางาน. (พิมพค์ รง้ั ที่ 5). กรุงเทพฯ: โรงพมิ พส์ หธรรมกิ . มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช. ครบรอบ 15 ปีมหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช. (จัดพิมพเ์ นอ่ื งใน โอกาสครบรอบ 15 ปี สาขาวิชาศลิ ปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช).

- 246 - บรรณานกุ รม (ตอ่ ) เสกสรร ประเสริฐกุล. (กันยายน 2553). คนกับธรรมชาติตอ้ งอยรู่ ่วมจึงอยู่รอด: ปาฐกถาเน่ืองในวาระ 20 ปีการจากไปของสืบ นาคะเสถยี ร. สารคดี, 26(307), 1-2, สบื ค้นจาก http://www.sarakadee.com/web/ สชุ น ตงั้ ทววี พิ ฒั นา และ บุญลอ้ ม ชวี ิอสิ ระกุล. (2533). การใชเ้ มลด็ ทานตะวนั เป็นแหลง่ โปรตนี และพลงั งานในอาหารสตั ว์ปกี . ใน รายงานการประชมุ ทางวิชาการของมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ครั้งท่ี 28 (สาขาสัตวศาสตร์และประมง) (น. 47-59). กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. Herren, R. V. (1994). The science of animal agriculture. Albany, Ny: Delmar Publisher. Muller, A. L., & Ryan, R. M. (2001). The mind’s outer eye. In Alaska Symposium on Perspectives. Vol. 43: Perspectives on Perspective (pp. 237-288). Fairbanks, AK: University of Alaska Press. Toplis, J., Dulewicz, V.l., & Fletcher, C. (1991). Psychological testing: A manager’s guide (2nd ed). London, England: Institute of Personnel Management. 212