45 คำอธบิ ายรายวชิ า ค31202 คณติ ศาสตร์เพ่ิมเตมิ กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 80 ชั่วโมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต ............................................................................................................ ศกึ ษา ค้นควา้ ฝึกทักษะ/กระบวนการเกีย่ วกบั เรือ่ งดังตอ่ ไปนี้ ฟังก์ชัน การบวก การลบ การคูณ การหารฟังก์ชัน ฟังก์ชันประกอบ ฟังก์ชันผกผัน ฟังก์ชัน เอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม สมการเอกซ์โพเนนเชียลและสมการลอการิทึม เรขาคณิต วิเคราะห์ จุดและเส้นตรง วงกลม พาราโบลา วงรี ไฮเพอรโ์ บลา โดยใช้ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้สิ่ง ต่างๆ เพ่ือให้ได้มาซึ่งความรู้ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ เน้นทักษะท่ีจำเป็น คือ การแก้ปัญหา ทำความเข้าใจปัญหา คิดวิเคราะห์ วางแผน แก้ปัญหา และเลือกใช้วิธีการทีเ่ หมาะสม โดยคำนึงถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบ พรอ้ มท้ัง ตรวจสอบความถูกต้อง การส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ ใช้รูปภาษาและสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ในการส่ือสาร ส่ือความหมาย สรุปผล และนำเสนอได้อย่างถูกต้อง การเช่ือมโยง สามารถใช้ความรู้ทางคณิตศาสตรเ์ ปน็ เคร่ืองมือในการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ เน้ือหาตา่ งๆ หรือศาสตร์อ่ืนๆ และนำไปใช้ในชีวิตจรงิ การให้เหตุผล รบั ฟังและใหเ้ หตผุ ลสนับสนุน หรอื โต้แย้งเพอ่ื นำไปสกู่ ารสรุป โดย มีข้อเท็จจริงทางคณิตศาสตร์รองรับ การคิดสร้างสรรค์ การขยายแนวคิดท่ีมีอยู่เดิม หรือสร้างแนวคิด ใหม่ เพ่ือปรับปรุง พฒั นาองคค์ วามรู้ การวัดและประเมินผลใช้วิธีการที่หลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคล้องกับเน้ือหา และทกั ษะทต่ี อ้ งการวดั ผลการเรยี นรู้ 1. หาผลลัพธ์ของการบวก การลบ การคูณ การหารฟังก์ชัน หาฟังก์ชันประกอบ และฟังก์ชัน ผกผนั 2. ใชส้ มบัตขิ องฟงั ก์ชันในการแก้ปัญหา 3. เข้าใจลักษณะกราฟของฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม และนำไปใช้ในการ แก้ปญั หา 4. แกส้ มการเอกซ์โพเนนเชยี ลและสมการลอการทิ มึ และนำไปใช้ในการแก้ปัญหา 5. เขา้ ใจและใช้ความรเู้ กย่ี วกับเรขาคณติ วเิ คราะหใ์ นการแกป้ ญั หา รวมทั้งหมด 5 ผลการเรยี นรู้
46 คำอธบิ ายรายวชิ า ค32201 คณิตศาสตร์เพ่ิมเติม กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 80 ชั่วโมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต ............................................................................................................ ศกึ ษา คน้ คว้า ฝกึ ทกั ษะ/กระบวนการเกยี่ วกบั เรื่องดังต่อไปนี้ จำนวนเชิงซอ้ น จำนวนเชิงซ้อนและสมบตั ิของจำนวนเชิงซอ้ น จำนวนเชิงซอ้ นในรูปเชงิ ข้ัว ราก ท่ี n ของจำนวนเชิงซ้อน เม่ือ n เป็นจำนวนนับที่มากกว่า 1 ฟังก์ชันตรีโกณมิติ ฟังก์ชันตรีโกณมิติ ฟังก์ชันตรีโกณมิติผกผัน เอกลักษณ์และสมการตรีโกณมิติ กฎของโคไซน์และกฎของไซน์ เมทริกซ์ เมทริกซ์และเมทริกซ์สลับเปล่ียน การบวกเมทริกซ์ การคูณเทริกซ์กับจำนวนจริง การคูณระหว่าง เมทรกิ ซ์ ดีเทอร์มแิ นนท์ เมทรกิ ซ์ผกผัน โดยใช้ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้สิ่ง ต่างๆ เพ่ือให้ได้มาซึ่งความรู้ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ เน้นทักษะท่ีจำเป็น คือ การแก้ปัญหา ทำความเข้าใจปัญหา คิดวิเคราะห์ วางแผน แกป้ ัญหา และเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสม โดยคำนงึ ถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบ พร้อมทั้ง ตรวจสอบความถูกต้อง การส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ ใช้รูปภาษาและสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ในการส่ือสาร ส่ือความหมาย สรุปผล และนำเสนอได้อย่างถูกต้อง การเช่ือมโยง สามารถใช้ความรู้ทางคณิตศาสตรเ์ ปน็ เคร่ืองมือในการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ เนื้อหาตา่ งๆ หรือศาสตร์อ่ืนๆ และนำไปใช้ในชีวิตจรงิ การให้เหตุผล รบั ฟงั และใหเ้ หตผุ ลสนับสนนุ หรือโต้แยง้ เพอื่ นำไปส่กู ารสรุป โดย มีข้อเท็จจริงทางคณิตศาสตร์รองรับ การคิดสร้างสรรค์ การขยายแนวคิดท่ีมีอยู่เดิม หรือสร้างแนวคิด ใหม่ เพื่อปรับปรงุ พัฒนาองค์ความรู้ การวัดและประเมินผลใช้วิธีการที่หลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคล้องกับเน้ือหา และทกั ษะทตี่ อ้ งการวดั ผลการเรยี นรู้ 1. เข้าใจจำนวนเชิงซ้อนและใช้สมบัตขิ องจำนวนจรงิ ในการแกป้ ญั หา 2. หารากที่ n ของจำนวนเชงิ ซ้อน เม่ือ n เปน็ จำนวนนับท่ีมากกวา่ 1 3. เข้าใจฟงั กช์ นั ตรโี กณมิตแิ ละลักษณะกราฟของฟงั ก์ชันตรโี กณมิตแิ ละนำไปใช้ในการแกป้ ัญหา 4. แก้สมการตรโี กณมิติ และนำไปใชใ้ นการแกป้ ัญหา 5. ใช้กฎของโคไซนแ์ ละกฎของไซน์ในการแก้ปัญหา
47 6. เข้าใจความหมาย หาผลลัพธ์ของการบวกเมทริกซ์ การคูณเทริกซ์กับจำนวนจริง การคูณ ระหว่างเมทริกซ์และหาเมทริกซ์สลับเปลี่ยน หาดีเทอร์มิแนนท์ของเมทริกซ์ n×n เมื่อ n เป็นจำนวนนับ ที่ไม่เกินสาม 7. หาเมทริกซผ์ กผันของเมทริกซ์ 2×2 8. แก้ระบบสมการเชิงเส้นโดยใชเ้ มทริกซ์ผกผนั และการดำเนนิ การตามแถว รวมทง้ั หมด 8 ผลการเรยี นรู้
48 คำอธิบายรายวชิ า ค32202 คณติ ศาสตรเ์ พม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 80 ช่ัวโมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต ............................................................................................................ ศกึ ษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ/กระบวนการเกีย่ วกบั เรอื่ งดังตอ่ ไปนี้ เวกเตอร์ในสามมิติ เวกเตอร์ นิเสธของเวกเตอร์ การบวก การลบเวกเตอร์ การคูณเวกเตอร์ ด้วยสเกลาร์ ผลคูณเชิงสเกลาร์ ผลคูณเชิงเวกเตอร์ หลักการนับเบ้ืองต้น หลักการบวกและการคูณ การเรยี งสบั เปล่ียน การเรียงสับเปลยี่ นเชงิ เส้น การเรียงสบั เปลี่ยนเชงิ วงกลม กรณที ีส่ ่ิงของแตกต่างกัน ท้ังหมด การจัดหมู่กรณีท่ีส่ิงของแตกต่างกันทั้งหมด ทฤษฎีบททวินาม ความน่าจะเป็น การทดลอง สมุ่ และเหตกุ ารณ์ ความน่าจะเปน็ ของเหตุการณ์ โดยใช้ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้สิ่ง ต่าง ๆ เพ่ือให้ได้มาซ่ึงความรู้ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ เน้นทักษะที่จำเป็น คือ การแก้ปัญหา ทำความเข้าใจปัญหา คิดวิเคราะห์ วางแผน แก้ปัญหา และเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบ พร้อมท้ัง ตรวจสอบความถูกต้อง การสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ ใช้รูปภาษาและสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ในการส่ือสาร สื่อความหมาย สรุปผล และนำเสนอได้อย่างถูกต้อง การเชื่อมโยง สามารถใช้ความรู้ทางคณิตศาสตรเ์ ป็นเคร่ืองมือในการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เนื้อหาตา่ งๆ หรือศาสตร์อื่นๆ และนำไปใช้ในชีวิตจรงิ การใหเ้ หตุผล รับฟังและให้เหตุผลสนับสนุน หรอื โตแ้ ยง้ เพอ่ื นำไปสู่การสรุป โดย มีข้อเท็จจริงทางคณิตศาสตร์รองรับ การคิดสร้างสรรค์ การขยายแนวคิดที่มีอยู่เดิม หรือสร้างแนวคิด ใหม่ เพอื่ ปรับปรุง พฒั นาองค์ความรู้ การวัดและประเมินผลใช้วิธีการท่ีหลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคล้องกับเน้ือหา และทกั ษะที่ตอ้ งการวดั ผลการเรยี นรู้ 1. หาผลลัพธ์ของการบวก การลบเวกเตอร์ การคูณเวกเตอร์ด้วยสเกลาร์ หาผลคูณเชิงสเกลาร์ และผลคูณเชิงเวกเตอร์ 2. นำความรู้เกย่ี วกับเวกเตอร์ในสามมติ ิไปใชใ้ นการแกป้ ัญหา 3. เข้าใจและใชห้ ลักการบวกและการคูณ การเรียงสบั เปลี่ยน และการจัดหมู่ในการแก้ปญั หา 4. หาความน่าจะเปน็ และนำความรูเ้ ก่ยี วกับความน่าจะเป็นไปใช้ รวมทงั้ หมด 4 ผลการเรียนรู้
49 คำอธบิ ายรายวชิ า ค33201 คณิตศาสตร์เพิ่มเตมิ กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 80 ช่ัวโมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต ............................................................................................................ ศกึ ษา คน้ คว้า ฝกึ ทกั ษะ/กระบวนการเกี่ยวกบั เรื่องดังตอ่ ไปนี้ ลำดบั และอนุกรม ลำดับจำกัดและลำดบั อนนั ต์ ลำดับเลขคณิตและลำดับเรขาคณติ ลิมิตของ ลำดับอนันต์ อนุกรมจำกัดและอนุกรมอนันต์ อนุกรมเลขคณิตและอนุกรมเรขาคณิต ผลบวกอนุกรม อนันต์ การนำความรู้เกี่ยวกับลำดับและอนุกรมไปใช้ในการแก้ปัญหามูลค่าของเงนิ และคา่ รายงวด การ แจกแจงความนา่ จะเป็นเบื้องตน้ การแจกแจงเอกรปู การแจงแจงทวนิ าม การแจงแจงปกติ โดยใช้ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้ส่ิง ต่างๆ เพ่ือให้ได้มาซ่ึงความรู้ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ เน้นทักษะท่ีจำเป็น คือ การแก้ปัญหา ทำความเข้าใจปัญหา คิดวิเคราะห์ วางแผน แกป้ ัญหา และเลือกใชว้ ิธีการทเ่ี หมาะสม โดยคำนงึ ถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบ พรอ้ มทั้ง ตรวจสอบความถูกต้อง การสื่อสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ ใช้รูปภาษาและสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ในการส่ือสาร สื่อความหมาย สรุปผล และนำเสนอได้อย่างถูกต้อง การเช่ือมโยง สามารถใชค้ วามรู้ทางคณิตศาสตรเ์ ปน็ เคร่ืองมือในการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ เนื้อหาตา่ งๆ หรือศาสตร์อื่นๆ และนำไปใช้ในชีวิตจริง การใหเ้ หตุผล รบั ฟังและใหเ้ หตุผลสนบั สนุน หรอื โตแ้ ย้งเพือ่ นำไปสกู่ ารสรุป โดย มีข้อเท็จจริงทางคณิตศาสตร์รองรับ การคิดสร้างสรรค์ การขยายแนวคิดท่ีมีอยู่เดิม หรือสร้างแนวคิด ใหม่ เพ่ือปรับปรงุ พฒั นาองคค์ วามรู้ การวัดและประเมินผลใช้วิธีการที่หลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคล้องกับเน้ือหา และทักษะทตี่ อ้ งการวดั ผลการเรียนรู้ 1. ระบุได้วา่ ลำดับทีก่ ำหนดให้เป็นลำดับลู่เขา้ หรือลู่ออก 2. หาผลบวก n พจนแ์ รกของอนุกรมเลขคณติ และอนุกรมเรขาคณิต 3. หาผลบวกอนกุ รมอนนั ต์ 4. เขา้ ใจและนำความรู้เก่ยี วกับลำดับและอนกุ รมไปใช้ 5. หาความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ท่ีเกิดจากตวั แปรสมุ่ ท่ีมกี ารแจกแจงเอกรปู การแจกแจงทวิ นาม และการแจกแจงปกติและการนำไปใช้ในการแกป้ ัญหา รวมทงั้ หมด 5 ผลการเรียนรู้
50 คำอธบิ ายรายวชิ า ค33202 คณติ ศาสตรเ์ พิ่มเติม กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 80 ช่ัวโมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต ............................................................................................................ ศกึ ษา คน้ ควา้ ฝึกทักษะ/กระบวนการเกีย่ วกบั เร่อื งดังต่อไปนี้ แคลคลู สั เบ้ืองตน้ ลมิ ติ และความตอ่ เน่ืองของฟงั ก์ชัน อนุพันธ์ของฟังกช์ ันพีชคณิต ปริพันธข์ อง ฟงั ก์ชันพชี คณิต โดยใช้ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในก ารเรียนรู้ส่ิง ต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ เน้นทักษะท่ีจำเป็น คือ การแก้ปัญหา ทำความเข้าใจปัญหา คิดวิเคราะห์ วางแผน แกป้ ัญหา และเลือกใชว้ ิธีการท่เี หมาะสม โดยคำนงึ ถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบ พรอ้ มทั้ง ตรวจสอบความถูกต้อง การสื่อสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ ใช้รูปภาษาและสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร ส่ือความหมาย สรุปผล และนำเสนอได้อย่างถูกต้อง การเช่ือมโยง สามารถใชค้ วามรู้ทางคณิตศาสตรเ์ ป็นเครื่องมือในการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ เน้ือหาตา่ งๆ หรือศาสตร์อื่นๆ และนำไปใช้ในชีวติ จริง การใหเ้ หตุผล รบั ฟงั และให้เหตุผลสนบั สนนุ หรือโต้แยง้ เพ่อื นำไปส่กู ารสรุป โดย มีข้อเท็จจริงทางคณิตศาสตร์รองรับ การคิดสร้างสรรค์ การขยายแนวคิดท่ีมีอยู่เดิม หรือสร้างแนวคิด ใหม่ เพ่ือปรับปรุง พฒั นาองค์ความรู้ การวัดและประเมินผลใช้วิธีการท่ีหลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคล้องกับเนื้ อหา และทักษะท่ตี อ้ งการวัด ผลการเรยี นรู้ 1. ตรวจสอบความต่อเน่อื งของฟังกช์ นั ที่กำหนดให้ 2. หาอนพุ นั ธ์ของฟังกช์ นั พีชคณิตท่กี ำหนดใหแ้ ละนำไปใชแ้ ก้ปญั หา 3. หาปรพิ ันธ์ไมจ่ ำกดั เขตและจำกดั เขตของฟังก์ชนั พีชคณิตท่กี ำหนดให้ และนำไปใช้แกป้ ัญหา รวมทั้งหมด 3 ผลการเรยี นรู้
51 รายวชิ าพ้นื ฐานและรายวิชาเพิม่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ................................................................................... รายวชิ าพืน้ ฐาน จำนวน 1.0 นก. จำนวน 2 ชม. ว31101 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ จำนวน 1.0 นก. จำนวน 2 ชม. ว31102 การออกแบบเทคโนโลยี จำนวน 1.0 นก. จำนวน 2 ชม. ว32101 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ1 จำนวน 1.0 นก. จำนวน 2 ชม. ว32102 วิทยาศาสตร์กายภาพ2 รายวิชาเพ่ิมเติม จำนวน 2.0 นก. จำนวน 4 ชม. ว31201 ฟิสิกส์ 1 จำนวน 2.0 นก. จำนวน 4 ชม. ว31202 ฟิสกิ ส์ 2 จำนวน 2.0 นก. จำนวน 4 ชม. ว32203 ฟสิ ิกส์ 3 จำนวน 2.0 นก. จำนวน 4 ชม. ว32204 ฟสิ กิ ส์ 4 จำนวน 2.0 นก. จำนวน 4 ชม. ว33205 ฟิสิกส์ 5 จำนวน 2.0 นก. จำนวน 4 ชม. ว33206 ฟิสกิ ส์ 6 จำนวน 1.5 นก. จำนวน 3 ชม ว31221 เคมี 1 จำนวน 1.5 นก. จำนวน 3 ชม. ว31222 เคมี 2 จำนวน 1.5 นก. จำนวน 3 ชม. ว32223 เคมี 3 จำนวน 1.5 นก. จำนวน 3 ชม. ว32224 เคมี 4 จำนวน 1.5 นก. จำนวน 3 ชม. ว33225 เคมี 5 จำนวน 1.5 นก. จำนวน 3 ชม. ว33226 เคมี 6 จำนวน 1.5 นก. จำนวน 3 ชม. ว31241 ชีววิทยา 1 จำนวน 1.5 นก. จำนวน 3 ชม. ว31242 ชวี วทิ ยา 2 จำนวน 1.5 นก. จำนวน 3 ชม. ว32243 ชวี วิทยา 3 จำนวน 1.5 นก. จำนวน 3 ชม. ว32244 ชีววิทยา 4 จำนวน 1.5 นก. จำนวน 3 ชม. ว33245 ชวี วทิ ยา 5 จำนวน 1.5 นก. จำนวน 3 ชม. ว33246 ชวี วิทยา 6 จำนวน 1.0 นก. จำนวน 2 ชม. ว30247 พฤกษศาสตร์ 1 จำนวน 1.0 นก. จำนวน 2 ชม. ว30248 พฤกษศาสตร์ 2
52 คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน รายวิชาวิทยาศาสตรช์ ีวภาพ รหัสวชิ าว31101 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ช่วั โมง/ภาคเรียน จำนวน 1 หนว่ ยกติ คำอธิบายรายวิชา ศกึ ษาเก่ียวกับความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงไม่มีชีวิตกับส่ิงมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับส่ิงมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ เปลี่ยนแปลงแทนท่ีในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหา ส่ิงแวดล้อม สมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของระบบต่าง ๆ ของสัตว์ และมนุษย์ท่ีทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหนา้ ท่ีของอวัยวะต่างๆ ของพชื ท่ีทำงานสัมพันธ์กัน เข้าใจกระบวนการ และความสำคัญของการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรม สารพันธุกรรม การเปลยี่ นแปลงทางพันธุกรรม ท่ีมีผลต่อส่ิงมีชีวิต ความหลากหลาย ทางชีวภาพและวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิต รวมท้ังนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู การสืบคนขอมูล การสังเกต วิเคราะห เปรียบเทยี บ อธบิ าย อภิปราย และสรปุ เพ่ือใหเกิดความรู ความเขาใจ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ มี ทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร รวมทั้งทักษะการเรียนรูในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้ เทคโนโลยี สารสนเทศด้านการคิดและการแกปัญหาด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรูและนำ ความรไู้ ปใชใ้ นชวี ติ ของตนเอง เพื่อให้ผู้เรียนมจี ติ วทิ ยาศาสตรแ์ ละคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซื่อสัตย์ สุจริต มรี ะเบียบวินยั ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง ม่งุ มั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย และมจี ิตสาธารณะ รหสั ตวั ชวี้ ัด ม.4/3 ม.4/4 ม.4/7 ว 1.1 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4 ม.4/5 ม.4/6 ว 1.2 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/10 ม.4/11 ม.4/12 ม.4/8 ม.4/9 ม.4/3 ม.4/4 ม.4/5 ม.4/6 ว 1.3 ม.4/1 ม.4/2 รวมทั้งหมด 22 ตัวช้ีวดั
53 คำอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน ว31102 การออกแบบและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ คำอธิบายรายวชิ า ศึกษาแนวคิดหลักของเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นและ ความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อ่ืน ออกแบบ สร้าง หรือพัฒนาผลงานสำหรับแก้ปัญหาท่ีคำนึง ผลกระทบต่อสังคมในประเด็นท่ีเก่ียวข้องกับสุขภาพและการบริการ โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิง วิศวกรรม ซึ่งใช้ความรู้ ทักษะและเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เพ่ือ แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย คำนึงทรัพย์สินทางปัญญา มีการใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการ ออกแบบและนำเสนอผลงาน ปฏิบัติการออกแบบ สร้าง หรือพัฒนาผลงานสำหรับแก้ปัญหา โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการทำงาน กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการสบื คน้ ขอ้ มลู กระบวนการกล่มุ การสังเกต การ อธิบาย การอภปิ ราย การคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การฝกึ ปฏิบตั ิ และทักษะการใชอ้ ุปกรณ์เทคโนโลยี สารสนเทศ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจและเห็นคุณค่าของเทคโนโลยี มีเจตคติท่ีดี ในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศสืบค้นขอ้ มลู เรียนรู้ สื่อสาร แกป้ ญั หา และมคี วามซื่อสตั ย์ สุจรติ มวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน ตัวชวี้ ดั ว 4.1 ม.4-6/1 ม.4-6/2 ม.4-6/3 ม.4-6/4 ม.4-6/5 รวม 5 ตัวช้วี ัด
54 คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน รายวิชาวิทยาศาสตรก์ ายภาพ 1 รหัสวิชา ว32101 กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จำนวน 10 หนว่ ยกิต คำอธิบายรายวิชา ศึกษา ทดลองและอธิบายเกี่ยวกับอะตอม พัฒนาการของแบบจำลองอะตอม อนุภาคมูลฐาน ของอะตอม สัญลักษณ์ของธาตุและสัญลักษณ์นิวเคลียร์ ไอโซโทป ไอโซโทน และไอโซบาร์ ความรู้ พื้นฐานเรื่องการจำแนกสาร ธาตุและสารประกอบ สมบัติของธาตุกัมมันตรังสี ประโยชน์ของสาร กัมมันตรังสีและการป้องกันอันตรายที่เกิดจากกัมมันตรังสี ความรู้พ้ืนฐานเก่ียวกับการจัดเรียง อิเล็กตรอนของธาตุ การจัดเรยี งธาตุในตารางธาตุ สมบัตขิ องธาตุและสารประกอบของธาตุในตารางธาตุ ธาตุและสารประกอบของธาตุเรพรีเซนเททีฟและแทรนซิซันในสิ่งมีชีวิตและส่ิงแวดล้อม ความรู้พ้ืนฐาน เกี่ยวกับพันธะเคมี การเกิดพันธะ การเขียนสูตรเคมีของไอออน สมบัติของ และประโยชน์ของ สารประกอบโคเวเลนซ์และสารประกอบไอออนิก การละลายน้ำของสารประกอบไอออนิกในน้ำ การ เกิดปฏิกิริยาเคมีและชนิดของปฏิกิริยาเคมี อันตรายการเกิดปฏิกิริยาเคมี สารประกอบอินทรีย์ สารประกอบไฮโดรคาร์บอน สมบัติ ประโยชน์และผลกระทบของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน ความหมายและการเกิดพอลิเมอร์ ประเภท โครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ ประโยชน์และ ผลกระทบจากการใช้ผลติ ภณั ฑ์พอลิเมอร์และการป้องกนั โดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ สืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้น ขอ้ มูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ใน ชีวิตประจำวัน มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ คณุ ธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม ตัวชวี้ ดั ว 2.1 ม.5/1, ม.5/2, ม.5/3, ม.5/4, ม.5/5, ม.5/6, ม.5/7, ม.5/8, ม.5/9, ม.5/10, ม.5/11, ม.5/12, ม.5/13, ม.5/14, ม.5/15, ม.5/16, ม.5/17, ม.5/18, ม.5/19, ม.5/20, ม.5/21, ม.5/22, ม.5/23, ม.5/25, ม.5/25 รวมตัวชี้วดั ทัง้ หมด 25 ตัวช้วี ัด
55 คำอธบิ ายรายวชิ า รายวิชาวิทยาศาสตรก์ ายภาพ 2 รหัสวิชา ว32101 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง/ภาคเรยี น จำนวน 1 หน่วยกติ คำอธิบายรายวชิ า ศึกษาความสัมพันธ์ของแรงกับการเคล่ือนท่ีของวัตถุในสนามโน้มถ่วง สนามไฟฟ้า และ สนามแม่เหล็ก รวมท้ังการนำไปใช้ประโยชน์ แรงนิวเคลียร์ แรงไฟฟ้าระหว่างอนุภาคในนิวเคลียส ความสัมพันธ์ระหว่างการกระจัด เวลา ความเร็ว ความเร่งของการเคล่ือนท่ีแนวเส้นตรง การเคล่ือนท่ี แบบโพรเจคไทล์ แบบวงกลม แบบฮาร์มอนิกส์อย่างง่าย ประโยชน์ของการเคล่ือนท่ีแบบโพรเจคไทล์ แบบวงกลม และแบบฮาร์มอนิกส์อย่างง่าย สมบัติของคล่ืนกล ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราเร็ว ความถี่ และความยาวคลื่น การเกิดคลน่ื เสยี ง บีตส์ของเสียง ความเข้มของเสียง ระดับความเข้มเสียง การไดย้ ิน เสียง คุณภาพเสียง การนำความรู้เรื่องเสียงไปใช้ประโยชน์ มลภาวะของเสียง สเปกตรัมของคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า การใช้ประโยชน์และการป้องกันอันตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ปฏิกิริยานิวเคลียร์ ผลกระทบของปฏิกริ ยิ านวิ เคลียร์ตอ่ สง่ิ มชี ีวิตและสงิ่ แวดล้อม โรงไฟฟ้านวิ เคลียร์ ธาตุกมั มันตรังสี วีธกี าร ตรวจสอบกมั มนั ตภาพรังสี ผลกระทบของกัมมนั ตภาพรงั สที ี่มีผลตอ่ สง่ิ มชี วี ิตและส่งิ แวดล้อม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้น ข้อมูล การอภิปรายและการทดลอง เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสาร ส่ิงท่ี เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม รหัสตัวชี้วัด ว 4.1 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 , ม.4-6/3, ม.4-6/4 ว 4.2 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 , ม.4-6/3 ว 5.1 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 , ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/8, ม.4-6/9 ว 8.1 ม. 4 – 6/1 - ม.4 – 6/12 รวม 28 ตัวชี้วัด
56 คำอธบิ ายรายวชิ า รายวชิ าฟิสกิ ส์ 1 รหัสวชิ า 31201 กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่1 เวลา 80 ช่วั โมง/ภาคเรียน จำนวน 2.0 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ การค้นหาความรู้ทางฟิสิกส์ ประวัติความเป็นมา รวมท้ังพัฒนาการของ หลกั การและแนวคิดทางฟสิ ิกส์ที่มีผลต่อการแสวงหาความรูใ้ หมแ่ ละการพัฒนาเทคโนโลยี ปรากฏการณ์ ทางธรรมชาติ ฟิสิกส์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปริมาณทางกายภาพ การใช้หน่วยในระบบเอสไอ ปริมาณสเกลาร์ ปริมาณเวกเตอร์ ความแตกต่างระหว่างปริมาณสเกลารแ์ ละปริมาณเวกเตอร์ การหา เวกเตอร์ลัพธ์ การทดลองในวิชาฟิสิกส์ ความไม่แน่นอนในการวัด เลขนัยสำคัญ การบันทึกผลการ คำนวณ การวิเคราะห์ผลการทดลอง การเคลื่อนที่แนวตรง ปริมาณต่างๆของการเคล่ือนท่ี การวัด อัตราเร็วของการเคลื่อนที่ในแนวตรง ความเร่ง ความสัมพันธ์ระหว่างกราฟความเร็ว กับเวลาสำหรับ การเคล่ือนที่แนวตรง สมการสำหรับคำนวณหาปริมาณต่างๆของการเคลื่อนท่ีในแนวเส้นตรงด้วย ความเร่งคงตัว แรงและการหาแรงลัพธ์ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตนั น้ำหนัก กฎแรงดึงดูดระหวา่ งมวล ของนิวตัน แรงเสียดทาน การนำกฏการเคลื่อนที่ของนิวตันไปใช้ การเคลื่อนท่ีแบบโพรเจกไทล์ การ เคล่ือนที่ในแนวระดับและแนวด่ิง การกระจัดและความเร็วของวัตถุท่ีเคลื่อนท่ีแบบโพรเจกไทล์ การ เคล่ือนท่ีแบบวงกลมด้วยอัตราเร็วคงตัว ความเร่งสู่ศูนย์กลาง การเคล่ือนที่บนทางโค้ง การเคล่ือนที่ แบบฮารม์ อนกิ อย่างงา่ ย เทยี บกับการเคล่ือนทแ่ี บบวงกลม การแกว่งของลกู ตมุ้ อย่างงา่ ย โดยใชก้ ารสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละ ทักษะในศตวรรษที่ 21 การสบื คน้ ขอ้ มลู และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรคู้ วามคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสงิ่ ท่เี รียนรู้ มคี วามสามารถในการตัดสนิ ใจ การแก้ปัญหาการนำความร้ไู ปใชใ้ น ชีวิตประจำวนั มจี ติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายและความสัมพันธข์ องฟิสิกส์ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ปรมิ าณทางฟิสกิ ส์ หน่วยมาตรฐานนานาชาต(ิ หน่วยระบบ SI ) ของปริมาณน้นั ๆ ระบหุ น่วยฐานและหน่วย อนุพนั ธ์ของระบบเอสไอ พรอ้ มท้ังอธบิ ายความหมายของตัวนำหนา้ หน่วยเพอื่ ทำให้เป็นหนว่ ย ทโ่ี ตข้ึนหรอื เลก็ ลงๆได้ 2. ทดลอง และอธิบายวธิ ีการวัด เครอ่ื งมือที่ใชว้ ัด ความคลาดเคลื่อนจากการวัด ตลอดจน ประมาณคา่ ความคลาดเคล่ือนทอี่ าจเป็นไปได้อยา่ งเหมาะสมเมื่อทำการวัด 3. อธบิ ายความหมายของเลขนัยสำคญั และสามารถใช้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
57 4. สบื คน้ ขอ้ มลู และอธบิ ายการบอกตำแหนง่ ของวตั ถุในแนวตรงและแกนอา้ งอิง การบอกตำแหน่ง ของวตั ถุในระนาบและแกนอ้างอิง ระยะทางและการกระจัดของอนภุ าคหรอื วัตถุ เขียน สัญลักษณแ์ ละรปู แบบแทนการกระจดั ของอนุภาคหรือวตั ถุ การหาเวกเตอร์ในหน่งึ มิติ 5. สืบคน้ ขอ้ มลู และอธิบายการหาอตั ราเรว็ ความเรว็ ความเรว็ สมั พทั ธ์ ของอนุภาคหรอื วัตถุ และ ทดลองเพ่อื หาอตั ราเร็วของวัตถุ โดยใช้เครื่องเคาะสัญญาณเวลา หาความเรง่ ของอนภุ าคหรอื วตั ถุ ทดลองเพือ่ หาความเร่งของวัตถทุ ่ตี กแบบเสรี และเขียนกราฟของความเร็วกับเวลาของ วัตถุ 6. สืบค้นขอ้ มลู และหาความสัมพนั ธ์ระหว่างปริมาณตา่ งๆ ที่เก่ยี วข้องกบั การเคลอื่ นทใ่ี นแนวตรง ด้วยความเรว็ คงตัว 7. สำรวจ ตรวจสอบกฎการเคลอ่ื นทขี่ องนิวตัน และนำกฎการเคลอื่ นท่ีของนวิ ตันไปประยุกต์ใช้ได้ 8. สบื ค้นขอ้ มลู และทดลองการเคลอื่ นท่ีแบบโพรเจกไทลแ์ ละแสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณ ตา่ งๆของการเคล่ือนที่แบบโพรเจกไทล์ โดยพิจารณาจากแนวการเคลือ่ นท่ีตกแบบเสรี และ การเคล่อื นทใ่ี นแนวระดบั ด้วยความเรง็ คงที่ 9. ทดลอง สบื ค้นขอ้ มูลและอธิบายการเคลื่อนทีใ่ นแนววงกลมได้ และแสดงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง แรงสูศ่ ูนย์กลาง รัศมีวงกลม อัตราเร็วและมวลของวัตถุซึง่ เคลอ่ื นทใี่ นแนววงกลม 10. คำนวณหาปรมิ าณต่างๆของการเคล่อื นที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่ายทเี่ ก่ยี วขอ้ งได้ รวมท้ังหมด 10 ผลการเรียนรู้
58 คำอธบิ ายรายวชิ า รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 รหัสวิชา 31202 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 80 ชั่วโมง/ภาคเรยี น จำนวน 2.0 หน่วยกติ ศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์และทดลอง อภิปราย เก่ียวกับ งานและพลังงาน โมเมนตัม การดล และการชนแบบต่าง ๆ การเคล่ือนที่แบบหมุนและความเร็วเชิงมุม ความเร่งเชิงมุม โมเมนต์ความเฉื่อย พลังงานจลน์ของการหมุน โมเมนตัมเชิงมุมและอัตราการเปล่ียนโมเมนตัมเชิงมุม สภาพสมดุลของวัตถุ ทอร์ก โมเมนตข์ องแรงคคู่ วบ เสถียรภาพสมดลุ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และจิตวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาค วามรู้ การแก้ปัญหา การสืบค้นข้อมูล และการอภิปราย การสำรวจตรวจสอบการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้เกิด ความรู้ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ สามารถตั ดสินในนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ใน ชีวิตประจำวนั มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ คุณธรรม จรยิ ธรรมและค่านิยมท่เี หมาะสม ผลการเรียนรูท้ ่ี 1. สำรวจตรวจสอบ อธบิ าย และคำนวณเกย่ี วกบั งานและกำลงั 2. สำรวจตรวจสอบ อภปิ ราย และคำนวณเกยี่ วกบั พลงั งาน ความสมั พันธ์ระหว่างงานและพลงั งาน จลน์ 3. สืบคน้ ขอ้ มูล ทดลอง และอธิบายเกีย่ วกบั กฎการอนุรักษ์พลังงาน และรวมไปถึงกฎการอนรุ กั ษ์ พลังงานรูปอื่น 4. สำรวจตรวจสอบ อภปิ ราย และคำนวณเก่ียวกบั โมเมนตัม และการเปลยี่ นแปลงโมเมนตัม 5. สำรวจตรวจสอบ อภปิ ราย และคำนวณเก่ียวกับการดลและแรงดล 6. สำรวจตรวจสอบ อภปิ ราย และคำนวณเกี่ยวกับการชน และกฎอนรุ ักษโ์ มเมนตมั 7. สำรวจตรวจสอบ อภิปราย และคำนวณเก่ยี วกับการเคลอื่ นที่แบบหมุน และปริมาณที่เกี่ยวขอ้ ง 8. สำรวจตรวจสอบ อภปิ ราย และคำนวณเกยี่ วกบั ทอร์ก การเคล่อื นทแี่ บบหมนุ และโมเมนต์ความ เฉื่อย 9. สำรวจตรวจสอบ อภิปราย และคำนวณเกี่ยวกบั พลังงานจลน์ของการหมุน และโมเมนตัมเชิงมมุ 10. สำรวจตรวจสอบ อภิปราย และคำนวณเก่ยี วกับสภาพสมดุล และเง่ือนไขของสมดลุ 11. สำรวจตรวจสอบ อภิปราย และคำนวณเกี่ยวกบั โมเมนต์ของแรงหรอื ทอรก์ และโมเมนต์ของแรงคู่ ควบ 12. สำรวจตรวจสอบ อภปิ ราย และคำนวณเกยี่ วกบั สภาพยืดหยนุ่ รวมทั้งหมด 12 ผลการเรียนรู้
59 คำอธิบายรายวชิ า รายวชิ าฟสิ ิกส์ 3 รหัสวิชา 32203 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 80 ช่ัวโมง/ภาคเรยี น จำนวน 2.0 หนว่ ยกิต ศึกษาหลักการของคลื่นในเรื่อง องคประกอบและการเคล่ือนท่ีของคลื่น สมบัติของคล่ืน ธรรมชาติของเสียงสมบัติของคล่ืนเสียง การอธิบายปรากฏการณที่เกี่ยวกับคลื่นเสียง การสั่นพองของ เสียงบีตส ปรากฏการณดอปเพลอรและคลื่นกระแทก หูและการไดยิน ความเขมของเสียงและมลพิษ ทางเสียงธรรมชาติของแสงแสงเชิงเรขาคณิต กระจกเงาโคง เลนสบางและหลักการของทัศนอุปกรณบาง ชนดิ การรบั รูสขี องนยั นตาคนแสงเชิงฟสกิ สและการอธิบายปรากฏการณทเ่ี ก่ียวกับคลนื่ แสง โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 การสืบค้นข้อมูลและการอภิปรายเพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความ เข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหาการนำความรู้ไปใช้ใน ชวี ติ ประจำวัน มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มท่ีเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. ทดลอง และอธิบายการเคล่อื นทแี่ บบฮารม์ อนิกอยา่ งง่ายของวัตถุติดปลายสปริงและลกู ตุ้มอยา่ ง ง่ายรวมทัง้ คำนวณปริมาณต่าง ๆ 2. อธบิ ายความถ่ีธรรมชาติของวัตถุและการเกิดการสัน่ พ้อง ๆ ที่เกย่ี วข้อง 3. อธิบายปรากฏการณ์คลืน่ ชนดิ ของคลืน่ ส่วนประกอบของคลน่ื การแผข่ องหนา้ คลนื่ ด้วย หลกั การของฮอยเกนสแ์ ละการรวมกนั ของคล่ืนตามหลักการซ้อนทบั พร้อมทง้ั คำนวณอตั ราเร็ว ความถี่ และความยาวคลื่น 4. สงั เกต และอธิบายการสะทอ้ น การหักเห การแทรกสอด และการเล้ียวเบนของคลื่นผิวน้ำรวมท้ัง คำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ท่เี กี่ยวขอ้ ง 5. อธบิ ายการเกดิ เสียง การเคล่อื นทขี่ องเสียง ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งคลน่ื การกระจดั ของอนภุ าคกับ คลืน่ ความดนั ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งอัตราเร็วของเสยี งในอากาศท่ีขึ้นกับอุณหภูมิในหน่วยองศา เซลเซียส สมบัติของคล่ืนเสยี ง ได้แก่การสะท้อน การหักเห การแทรกสอด การเล้ยี วเบน รวมทั้ง คำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ ง 6. อธิบายความเข้มเสยี ง ระดับเสียง องคป์ ระกอบของการไดย้ นิ คณุ ภาพเสยี ง และมลพิษทางเสยี ง รวมท้งั คำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ียวข้อง 7. ทดลอง และอธิบายการเกิดการส่ันพ้องของอากาศในท่อปลายเปิดหนงึ่ ด้าน รวมทั้งสังเกต และ อธิบายการเกดิ บตี ส์ คลน่ื นงิ่ ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ คลื่นกระแทกของเสยี ง คำนวณปริมาณต่าง ๆ ทีเ่ กย่ี วข้อง
60 และนำความรเู้ ร่ืองเสียงไปใช้ในชวี ิตประจำวัน 8. ทดลอง และอธบิ ายการแทรกสอดของแสงผ่านสลิตคู่และเกรตติงการเลยี้ วเบนและการแทรก สอดของแสงผา่ นสลติ เดยี่ ว รวมท้งั คำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเี่ กยี่ วข้อง 9. ทดลอง และอธิบายการสะทอ้ นของแสงทผ่ี วิ วัตถุ ตามกฎการสะท้อนเขียนรังสีของแสงและ คำนวณตำแหน่งและขนาดภาพของวัตถุเมื่อแสงตกกระทบกระจกเงาราบและกระจกเงาทรงกลม รวมทงั้ อธบิ ายการนำความร้เู ร่ืองการสะท้อนของแสงจากกระจกเงาราบและกระจกเงาทรงกลมไป ใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวัน 10.ทดลอง และอธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งดรรชนีหกั เห มมุ ตกกระทบ และมมุ หกั เห รวมท้งั อธิบายความสัมพนั ธ์ระหว่างความลกึ จริงและความลึกปรากฏ มุมวิกฤตและการสะท้อนกลบั หมดของแสงและคำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่เี ก่ยี วขอ้ ง 11. ทดลอง และเขยี นรังสขี องแสงเพ่ือแสดงภาพทีเ่ กิดจากเลนสบ์ าง หาตำแหน่ง ขนาด ชนดิ ของ ภาพ และความสมั พันธ์ระหวา่ งระยะวัตถุระยะภาพและความยาวโฟกสั รวมท้ังคำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ี เกีย่ วข้องและอธิบายการนำความรเู้ รอื่ งการหักเหของแสงผ่านเลนสบ์ างไปใช้ประโยชนใ์ น ชีวิตประจำวนั 12. อธบิ ายปรากฏการณธ์ รรมชาตทิ ่ีเกี่ยวกบั แสง เชน่ รุ้ง การทรงกลด มริ าจ และการเห็นท้องฟา้ เปน็ สตี า่ ง ๆในชว่ งเวลาต่างกัน 13. สงั เกต และอธิบายการมองเหน็ แสงสี สขี องวัตถุ การผสมสารสี และการผสมแสงสี รวมทั้งอธบิ ายสาเหตุของการบอดสี รวมท้ังหมด 13 ผลการเรียนรู้
61 คำอธิบายรายวชิ า รายวชิ าฟสิ ิกส์ 4 รหสั วชิ า 32204 กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 80 ชัว่ โมง/ภาคเรยี น จำนวน 2.0 หน่วยกติ คำอธิบายรายวิชา ศึกษาหลักการของสสารและฟสิกสแผนใหม่ในเรื่อง ความร้อน การเปลี่ยนสถานะของสารการ ถ่ายโอนพลังงานความร้อนตามกฎการอนุรักษ์พลังงาน สภาพยืดหยุ่น ความเค้น ความเครียด และมอ ดุลสั ของยัง ความดันในของไหลและกฎพาสคัล แรงพยุงและหลักอารคิมีดีส ความตึงผิวการเคล่ือนท่ีใน ของไหล และหลกั แบรน์ ูลลี โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 การสืบค้นข้อมูลและการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความ เข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหาการนำความรู้ไปใช้ใน ชวี ิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมท่ีเหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1.อธิบายและคำนวณความร้อนท่ีทำให้สสารเปลี่ยนอุณหภูมิ ความร้อนที่ทำให้สสารเปล่ียน สถานะและความร้อนทีเ่ กดิ จากการถ่ายโอนตามกฎการอนรุ ักษ์พลังงาน 2. อธิบายสภาพยืดหย่นุ และลกั ษณะการยืดและหดตวั ของวสั ดุท่ีเป็นแท่งเมื่อถูกกระทำดว้ ย แรงค่าต่าง ๆรวมทั้งทดลอง อธิบายและคำนวณความเค้นตามยาว ความเครียดตามยาว และ มอดุลัสของยงั และนำความรู้เรอื่ งสภาพยดื หยุ่นไปใช้ในชีวติ ประจำวัน 3. อธิบายและคำนวณความดันเกจ ความดันสัมบูรณ์ และความดันบรรยากาศรวมทั้งอธิบาย หลักการ ทำงานของแมนอมิเตอร์ บารอมเิ ตอร์ และเคร่อื งอัดไฮดรอลกิ 4. ทดลอง อธิบายและคำนวณขนาดแรงพยงุ จากของไหล 5. ทดลอง อธิบายและคำนวณความตึงผิวของของเหลว รวมทง้ั สังเกตและอธิบายแรงหนืดของ ของเหลว 6. อธิบายสมบัตขิ องของไหลอุดมคติ สมการความตอ่ เนอ่ื ง และสมการแบร์นลู ลี รวมท้ังคำนวณ ปริมาณต่าง ๆที่เก่ียวข้องและนำความรู้เก่ียวกับสมการความต่อเนื่องและสมการแบร์นูลลีไป อธิบายหลักการทำงานของอุปกรณต์ ่าง ๆ 7. อธิบายกฎของแกส๊ อดุ มคติและคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง 8. อธิบายแบบจำลองของแก๊สอุดมคติ ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส รวมท้ังคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่ เกย่ี วข้อง
62 9. อธิบายและคำนวณงานที่ทำโดยแก๊สในภาชนะปิดโดยความดันคงตัว และอธิบาย ความสัมพันธ์ ระหว่างความร้อนพลังงานภายในระบบ และงาน รวมท้ังคำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องและนำความรู้เรื่องพลังงานภายในระบบไปอธิบายหลักการทำงานของเคร่ืองใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั รวมทง้ั หมด 9 ผลการเรียนรู้
63 คำอธิบายรายวิชา รายวิชาฟสิ ิกส์ 5 รหสั วชิ า 33205 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 80 ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน 2.0 หน่วยกติ คำอธิบายรายวิชา ศึกษาหลักการของไฟฟาและแมเหล็กในเรื่อง กฎของคูลอมบ สนามไฟฟา ศักยไฟฟา ความจุ และตัวเกบ็ ประจุกฎของโอหม สภาพตานทานและสภาพนําไฟฟาการวิเคราะหวงจรไฟฟากระแสตรงอย างงายการหาพลังงานไฟฟาท่ีใชในเคร่ืองใชไฟฟา สนามแมเหล็กความสัมพันธระหวางแมเหล็กและไฟฟา หลกั การของมอเตอรกฎการเหน่ียวนําแมเหล็กไฟฟาของฟาราเดยและกฎของเลนซ หลักการของเคร่ือง กาํ เนิดไฟฟา ไฟฟากระแสสลบั การแปลงไฟฟ้ากระแสสลบั เปนไฟฟากระแสตรง โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 การสืบค้นข้อมูลและการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความ เข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหาการนำความรู้ไปใช้ใน ชวี ิตประจำวนั มจี ิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มทเี่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. ทดลอง และอธิบายการทำวตั ถุทเี่ ปน็ กลางทางไฟฟา้ ให้มปี ระจุไฟฟา้ โดยการขัดสีกนั และการ เหน่ยี วนำไฟฟ้าสถิต 2. อธบิ าย และคำนวณแรงไฟฟ้าตามกฎของคลู อมบ์ 3. อธิบาย และคำนวณสนามไฟฟ้าและแรงไฟฟ้าท่ีกระทำกับอนุภาคท่ีมีประจุไฟฟ้าท่ีอยู่ใน สนามไฟฟา้ รวมทง้ั หาสนามไฟฟ้าลพั ธเ์ นื่องจากระบบจุดประจุโดยรวมกันแบบเวกเตอร์ 4. อธิบาย และคำนวณพลังงานศกั ยไ์ ฟฟ้า ศักย์ไฟฟา้ และความต่างศกั ย์ระหว่างสองตำแหน่งใด ๆ 5. อธิบายส่วนประกอบของตัวเก็บประจุความสัมพันธ์ระหว่างประจุไฟฟ้า ความต่างศักย์ และ ความจุ ของตัวเก็บประจุและอธิบายพลังงานสะสมในตัวเก็บประจุ และความจุสมมูล รวมทั้ง คำนวณปริมาณต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 6. นำความรู้เร่ืองไฟฟ้าสถิตไปอธิบายหลักการทำงานของเคร่ืองใช้ไฟฟ้าบางชนิด และ ปรากฏการณ์ ในชีวติ ประจำวนั 7. อธบิ ายการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนอิสระและกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนำความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง กระแสไฟฟ้าในลวดตัวนำกับความเร็วลอยเล่ือนของอิเล็กตรอนอิสระความหนาแน่นของ อิเล็กตรอนในลวดตวั นำและพนื้ ทห่ี นา้ ตัดของลวดตัวนำ และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ทเี่ กยี่ วข้อง
64 8. ทดลอง และอธิบายกฎของโอห์ม อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความต้านทานกับความยาว พ้ืนที่หน้าตัดและสภาพต้านทานของตัวนำโลหะที่อุณหภูมิคงตัว และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่ เกี่ยวข้องรวมท้ังอธิบายและคำนวณความต้านทานสมมูล เมื่อนำตัวต้านทานมาต่อกันแบบ อนุกรมและแบบขนาน 9. สงั เกต และอธิบายเส้นสนามแม่เหล็ก อธบิ ายและคำนวณฟลักซแ์ ม่เหล็กในบรเิ วณท่ีกำหนด รวมท้ังสังเกตและอธิบายสนามแม่เหล็กท่ีเกิดจากกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนำเส้นตรงและโซ เลนอยด์ 10. อธิบายและคำนวณแรงแม่เหล็กท่ีกระทำต่ออนุภาคท่ีมีประจุไฟฟ้าเคลื่อนท่ีใน สนามแม่เหล็กแรง แม่เหล็กที่กระทำต่อเส้นลวดท่ีมีกระแสไฟฟ้าผ่านและวางในสนามแม่เหล็ก รัศมีความโค้งของการเคลื่อนที่เม่ือประจุเคล่ือนท่ีต้ังฉากกับสนามแม่เหล็กรวมทั้งอธิบายแรง ระหวา่ งเส้นลวดตวั นำคูข่ นานทมี่ กี ระแสไฟฟ้าผา่ น 11. อธิบายหลักการทำงานของแกลแวนอมิเตอร์และมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง รวมทั้งคำนวณ ปริมาณ ตา่ งๆที่เกยี่ วข้อง 12. อธบิ ายหลักการทำงานของหมอ้ แปลง รวมทั้งหมด 12 ผลการเรียนรู้
65 คำอธิบายรายวชิ า รายวิชาฟิสิกส์ 6 รหัสวชิ า 33206 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 80 ชว่ั โมง/ภาคเรียน จำนวน 2.0 หน่วยกิต คำอธิบายรายวิชา ศึกษาสำรวจฟิสิกส์แผนใหม่ ทดลอง วิเคราะห์ อภิปราย เก่ยี วกับคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์ เวลล์ การแผ่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สเปกตรัมของคล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟ้า โพลาไรซเ์ ซช่ัน วงจรอิเลคทรอนิกส์ เบ้ืองต้น ฟิสิกส์อะตอม การค้นพบอิเลคตรอน แบบจำลองอะตอม สเปกตรัม การแผ่รังสีของวัตถุดำ ปรากฏการณ์โฟโตอิเลคทริค ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค ฟิสิกส์นิวเคลยี ร์ การสลายตัวของนิวเคลียส กัมมันตรังสี ไอโซโทบ เสถียรภาพของนิวเคลียส ปฎิกิริยานิวเคลียร์ พลังงานนิวเคลยี ร์ รังสีในธรรมชาติ การปอ้ งกนั อันตรายและการใชป้ ระโยชน์จากกมั มันภาพรงั สแี ละพลงั งานนิวเคลียร์ โดยใช้ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และจติ วิทยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้ การ แกป้ ัญหา การสบื ค้นข้อมูล และการอภิปราย เพื่อใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเข้าใจ สามารถตัดสินใจ นำ ความรไู้ ปใช้ในชวี ิตประจำวัน มคี ุณธรรม ค่านิยมท่เี หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายการเกดิ คล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟ้า และสเปกตรัมคลนื แม่เหลก็ ไฟฟ้า 2. อธบิ ายเก่ียวกบั องค์ประกอบของคลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า ซ่งึ ประกอบด้วยสนามไฟฟา้ และ สนามแม่เหลก็ ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในระนาบท่ตี ั้งฉากกนั และสนามทัง้ สองตงั้ ฉากกับทิศ การแผ่คลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้า 3. การนำเสนอขอ้ มูลและอธิบาย สมบัติของคลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้า ซ่ึงสามารถผา่ นสูญญากาศได้ และ มอี ตั ราเรว็ ในสุญญากาศกบั ความเรว็ แสง คลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้า มีความถ่ตี ่ำตา่ ง ๆ กันเรยี กวา่ สเปกตรมั คลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟา้ 4. อธิบายเกี่ยวกับแบบจำลองอะตอม โครงสร้างอะตอม และหาค่าประจุไฟฟ้า และมวล อเิ ล็กตรอนจากการทดลองของทอมสันและการทดลองของ มลิ ลแิ กน คำนวณหาประจุต่อ มวล (q/m) จากการทดลองของ เจเจ ทอมสนั การหาค่าประจุไฟฟ้าของอิเล็กตรอนจากการ ทดลองของมิลลแิ กน 5. อธบิ ายปรากฏการณโ์ ฟโตอิเลกตรกิ เพื่อสนบั สนนุ วา่ แสงมีพลังงานเป็นควอนตมั 6. อธิบายปรากฏการณค์ อมป์ตันเพื่อสนบั สนนุ ว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ แสดงคุณสมบตั ิเป็นคลื่นได้ และคำนวณหาปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ ง 7. อธิบายการเกิดรงั สเี อกซ์ ซึ่งสนับสนุนว่าแสงมีพลังงานเป็นควอนตมั คำนวณหาปริมาณตา่ ง ๆ ทเี่ ก่ยี วข้อง
66 8. อธบิ ายบททวิภาคของคล่ืนและอนุภาค ซ่ึงแสดงสมบตั ิของอนภุ าคได้ และอนุภาคแสดง สมบัติ ของคลน่ื ได้ 9. อธบิ ายเกี่ยวกบั ทฤษฎีอะตอมของไฮโดรเจนตามแนวความคดิ ของโบร์ การชนกนั ระหวา่ ง อเิ ล็กตรอน กับอะตอม ของไอปรอทและสเปกตรมั ของกา๊ ซร้อนอะตอมของก๊าซจะดูดหรอื คาย พลังงานเฉพาะค่า 10. อธิบายโครงสรา้ งอะตอม ตามทฤษฎกี ลศาสตรค์ วอนตัม บอกถงึ โอกาสท่ีจะพบอเิ ล็กตรอนใน ลกั ษณะความหนาแน่นของกลุม่ หมอก 11. อธิบายการสร้างแสงเลเซอรแ์ ละการนำไปใช้ประโยชน์ 12. วิเคราะห์คุณสมบัตทิ ส่ี ำคัญของรังสแี อลฟา บตี า แกมมา ใน สนามแมเ่ หลก็ ได้ 13. อธบิ ายมวลพร่อง และพลังงานยึดเหนยี่ วของนวิ เคลยี ส คำนวณหาปริมาณตา่ ง ๆ ท่ีเกยี่ วขอ้ ง 14. อธบิ ายเกี่ยวกบั ปฏิกิริยานิวเคลียรเ์ กิดจากการเปล่ยี นแปลงองค์ประกอบของนิวเคลียสและ ระดับ พลังงาน ปฏกิ ริ ิยาฟวิ ชั่นและปฏกิ ิริยาฟิชช่ัน 15. อธบิ ายปฏิกิริยานวิ เคลียรท์ ีใ่ ช้ ผลิตไอโซโทป กัมมันตภาพรังสี และพลงั งานนวิ เคลียร์และการ นำไปใช้ รวมทงั้ หมด 15 ผลการเรียนรู้
67 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ ว31221 เคมี 1 กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ช่วั โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษาเกี่ยวกับสัญลกั ษณ์แสดงความเป็นอนั ตรายของสารเคมีในระบบ GHS และ NFPA ขอ้ ควรปฏบิ ตั ิ ในการทำปฏบิ ัตกิ ารเคมี ทัง้ ก่อนทำปฏบิ ตั ิการ ขณะทำปฏบิ ตั ิการ และหลังทำปฏบิ ัติการ การกำจัดสารเคมี และการปฐมพยาบาลเม่ือไดรบั อุบัติเหตจุ ากสารเคมี ศึกษาการพจิ ารณาความ นา่ เช่ือถือของข้อมลู ที่ไดจากการ วดั จากความเทยี่ งและความแมน่ อปุ กรณ์วดั ปรมิ าตรและวัดมวล เลข นัยสำคญั หน่วยวดั ในระบบเอสไอ แฟกเตอรเปล่ยี นหนว่ ย ศกึ ษาแบบจำลองอะตอมของดอลตนั ทอม สัน รัทเทอรฟอรด โบร และแบบกลุ่มหมอก เขยี นและแปลความหมายสญั ลกั ษณข์ องธาตุ เลขอะตอม เลขมวล ไอโซโทป เขียนการจัดเรยี งอเิ ล็กตรอนในอะตอม ศึกษาความหมายของระดบั พลงั งานของ อเิ ล็กตรอน ออรบิทลั เวเลนซอิเล็กตรอน วิวัฒนาการของการสรา้ งตารางธาตแุ ละตารางธาตุในปัจจุบนั แนวโนม้ ของสมบัติของตารางธาตุเกี่ยวกับขนาดอะตอม พลงั งานไอออไนเซซัน จดุ หลอมเหลวและจดุ เดือด อิเลก็ โทรเนกาติวิตี เลขออกซิเดชัน การเกิดพันธะเคมีในโมเลกลุ หรือโครงผลกึ ของสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบตั ขิ องสารกับแรงยึดเหนย่ี วระหว่างอนภุ าคของสารนัน้ ศึกษาวเิ คราะห์สมบัติ ของธาตุแทรนซิชัน ธาตุกัมมันตรังสี การเกดิ กัมมันตภาพรังสี การสลายตวั และอันตรายจากไอโซโทป กัมมนั ตรังสี คำนวณครงึ่ ชวี ิตของธาตุกัมมนั ตรังสี ปฏกิ ิรยิ านิวเคลียรและเทคโนโลยีทเี่ กีย่ วของกบั การ ใช้สารกมั มนั ตรงั สี การนำธาตุไปใชป้ ระโยชน รวมทั้งผลกระทบต่อสง่ิ มีชีวิตและส่ิงแวดล้อม โดยใชกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู การสบื คนขอมูล การสังเกต วเิ คราะห เปรียบเทยี บ อธบิ าย อภปิ ราย และสรุป เพื่อใหเกดิ ความรู ความเขาใจ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ มี ทกั ษะปฏิบตั ิการทางวิทยาศาสตร รวมทั้งทักษะการเรียนรูในศตวรรษท่ี 21 ในดา้ นการใช้ เทคโนโลยี สารสนเทศด้านการคิดและการแกปัญหาด้านการสื่อสาร สามารถสอ่ื สารสิ่งท่ีเรียนรูและนำ ความรไู้ ปใชใ้ นชีวิตของตนเอง เพ่ือใหผ้ ู้เรียนมีจิตวทิ ยาศาสตรแ์ ละค่านิยมท่เี หมาะสม รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ มรี ะเบยี บวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง มงุ่ ม่ันในการทำงาน รกั ความเป็นไทย และมจี ิต สาธารณะ
68 ผลการเรยี นรู้ 1. บอกและอธิบายขอปฏิบัตเิ บอ้ื งตน และปฏิบตั ติ นท่ีแสดงถึงความตระหนกั ในการทํา ปฏบิ ตั กิ ารเคมี เพอื่ ใหมีความปลอดภยั ทั้งตอตนเอง ผูอน่ื และสงิ่ แวดลอม และเสนอแนวทางแกไขเมอื่ เกิดอบุ ตั ิเหตุ 2. เลือกและใชอปุ กรณหรอื เครอื่ งมือในการทาํ ปฏบิ ัติการ และวัดปรมิ าณตางๆ นําเสนอ แผนการทดลอง ทดลองและเขียนรายงานการทดลองได้ 3. ระบหุ นวยวัดปรมิ าณตางๆ ของสาร และเปลี่ยนหนวยวัดใหเปนหนวยในระบบเอสไอดวย การใชแฟกเตอรเปล่ียนหนวย 4. สบื ค้นขอ้ มลู อภิปรายและอธิบายโครงสร้างอะตอม เขยี นและแปลความหมายสัญลักษณ นวิ เคลียรของธาตุอะตอมจากสญั ลักษณน์ วิ เคลยี รข์ องธาตุ 5. วเิ คราะห์และเปรยี บเทยี บการจัดอเิ ล็กตรอนในระดบั พลังงานต่างๆในอะตอม 6. อธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหว่างอิเลก็ ตรอนในระดบั พลงั งานนอกสุดกับสมบตั ขิ องธาตแุ ละ เกดิ ปฏกิ ริ ยิ า 7. ตรวจสอบและวเิ คราะห์ข้อมูลเกี่ยวกบั สมบัติสารประกอบและเลขอะตอมของธาตุ 8. อธบิ ายการจัดเรยี งธาตใุ นตารางธาตแุ ละทำนายแนวโนม้ ของสมบตั ขิ องธาตใุ นตารางธาตุ 9. ตรวจสอบและวเิ คราะห์ข้อมลู อภิปรายและอธิบายการเกดิ พนั ธะเคมีในโมเลกุลหรือในโครง ผลกึ ของสาร 10. สืบค้นข้อมลู อภิปรายและอธบิ ายเกยี่ วกบั สมบัตขิ องธาตแุ ละสารประกอบในสิ่งมีชีวติ และ สิ่งแวดล้อม รวม 10 ผลการเรยี นรู้
69 คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม ว31222 เคมี 2 กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ ศึกษาความหมายและคำนวณมวลอะตอม มวลอะตอมสมั พัทธ์ มวลอะตอมเฉลย่ี ของธาตุ โมล มวลต่อโมล มวลโมเลกุลและมวลสูตร ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนโมล อนุภาค มวลและ ปริมาตรของแก๊สท่ี STP ศึกษากฎสัดส่วนคงท่ี คำนวณอัตราส่วนโดยมวล อัตราส่วนโดยโมล ร้อยละ โดยมวล สูตรโมเลกุลและสูตรเอมพิริคัล ศึกษาหน่วยความเข้มข้นและการคำนวณความเข้มข้นของ สารละลายในหน่วยร้อยละ ส่วนในล้านสวนในพันล้าน โมลาริตี โมแลลิตี และเศษส่วนโมล ศกึ ษาการ เตรียมสารละลายจากสารบริสุทธ์ิและจาก การเจือจางสารละลายเขมข้น เปรียบเทียบจุดเดือดและจุด หลอมเหลวของสารบริสทุ ธิแ์ ละสารละลาย ศกึ ษาการเขยี นและดุลสมการเคมี อัตราสว่ นโดยโมลของสาร ในปฏิกิริยาเคมีแปลความหมาย สัญลักษณ์ในสมการเคมี คำนวณปริมาณของสารในปฏิกิริยาเคมีตาม กฎทรงมวล ศึกษากฎของเกย-ลูสแซก และสมมติฐานของอาโวกาโดร คำนวณปริมาณของสารใน ปฏิกิริยาเคมโี ดยใช้ความสัมพันธ์ระหวา่ งโมล มวล ความเข้มขน้ และปริมาตรแกส คำนวณปริมาณสาร ในปฏิกริ ยิ าเคมหี ลายข้นั ตอน ปริมาณสารเม่อื มสี ารกำหนดปริมาณ และผลไดรอ้ ยละ โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู การสืบคน้ ขอ้ มลู การสงั เกต วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ อธิบาย อภปิ ราย และสรปุ เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ มี ทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะการเรียนรูในศตวรรษที่ 21 ในดา้ นการใช้ เทคโนโลยี สารสนเทศด้านการคิดและการแกปัญหาด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรูและนำ ความรู้ไปใชใ้ นชวี ิตของตนเอง เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นมีจิตวิทยาศาสตรแ์ ละค่านิยมทเ่ี หมาะสม รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสตั ย์ สุจริต มีระเบียบวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย และมีจิต สาธารณะ ผลการเรยี นรู้ 1. บอกความหมายของมวลอะตอมของธาตุและคำนวณมวลอะตอมเฉล่ยี ของธาตุมวลโมเลกุล และ มวลสูตร 2. อธบิ ายและคำนวณปริมาณสัมพนั ธ์ของสาร จำนวนอนุภาค โมล มวล และปรมิ าตร ของแกส๊ ท่ี STP 3. อธิบายวธิ ีการเตรียมสารละลาย สถานะของสารละลาย การบอกความเข้มขน้ ของ สารละลายคำนวณความเข้มข้นของสารละลายในหน่วยต่างๆ 4. คำนวณอัตราสว่ นโดยมวลของธาตุองคป์ ระกอบของสารประกอบตามกฎสัดสว่ นคงที่ 5. คำนวณสูตรอยา่ งงา่ ยและสูตรโมเลกุลของสาร
70 6. เปรยี บเทียบจดุ เดอื ดและจุดเยอื กแขง็ ของสารละลายกบั สารบริสทุ ธ์ิ รวมท้ังคำนวณจุดเดอื ด และ จุดเยือกแข็งของสารละลาย 7. เขยี นและดุลสมการเคมีของปฏกิ ิรยิ าเคมบี างชนดิ 8. ระบสุ ารกำหนดปรมิ าณ และคำนวณปรมิ าณสารต่าง ๆ ในปฏกิ ิริยาเคมี 9. คำนวณผลไดร้ อ้ ยละของผลิตภณั ฑ์ในปฏิกริ ยิ าเคมี รวม 9 ผลการเรยี นรู้
71 คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ ว32223 เคมี 3 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสมบัติของสารในสถานะของแข็ง ของเหลว และกาซ ความสัมพันธ์ของ ปริมาตร ความดัน และอุณหภูมิของแก๊สที่ภาวะต่าง ๆ ตามกฎของแก๊ส ทฤษฏีจลน์ของแก๊ส และการ ประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับสมบัติและกฎต่าง ๆ ของแก๊สในการอธิบายปรากฏการณ์หรือแก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวนั และในอตุ สาหกรรม ศึกษาค้นคว้าเก่ียวกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมี ยกตัวอย่าง และอธิบายปัจจัยทมี่ ีผลต่ออตั ราการเกิดปฏิกิรยิ าเคมีในชีวติ ประจำวันหรืออตุ สาหกรรม ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับปฏิกิริยาผันกลับได้ ภาวะสมดุล ค่าคงที่สมดุล ความสัมพันธ์ระหว่าง ความเข้มข้นของสารต่าง ๆ ณ ภาวะสมดุล การนำหลักการการเกิดปฏิกิริยาเคมีไปใช้ประโยชน์ด้าน อุตสาหกรรม โดยใชกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู การสบื คนขอมูล การสงั เกต วิเคราะห เปรียบเทียบ อธบิ าย อภปิ ราย และสรปุ เพื่อใหเกดิ ความรู ความเขาใจ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ มี ทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร รวมท้ังทักษะการเรียนรูในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้ เทคโนโลยี สารสนเทศด้านการคิดและการแกปัญหาด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรูและนำ ความร้ไู ปใช้ในชีวติ ของตนเอง เพือ่ ให้ผู้เรียนมีจติ วิทยาศาสตร์และคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย และมีจิต สาธารณะ ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายความสมั พนั ธ์และคำนวณปริมาตร ความดัน หรืออุณหภูมขิ องแกส๊ ท่ภี าวะตา่ ง ๆ ตาม กฎของบอยล์ กฎของชารล์ กฎของเกย์-ลูสแซก 2. คำนวณปรมิ าตร ความดนั หรืออณุ หภูมิของแกส๊ ที่ภาวะต่าง ๆ ตามกฎรวมแกส๊ 3. คำนวณปรมิ าตร ความดัน อณุ หภูมิ จำนวนโมลหรือมวลของแกส๊ จากความสมั พันธ์ตามกฏ ของอาโวกาโดรและกฏแก๊สอุดมคติ 4. คำนวณความดันย่อยหรอื จำนวนโมลของแกส๊ ในแก๊สผสม โดยใชก้ ฎความดันย่อยของ ดอลตัน 5. อธิบายการแพรข่ องแกส๊ โดยใชท้ ฤษฏจี ลน์ของแกส๊ คำนวณ และเปรียบเทยี บอตั ราการแพร่ ของแกส๊ โดยใช้กฏการแพร่ผ่านของเกรแฮม
72 6. สืบค้นขอ้ มูล นำเสนอตัวอย่าง และอธบิ ายการประยุกต์ใชค้ วามรู้เก่ียวกับสมบัติและกฎต่าง ๆ ของแก๊สในการอธิบายปรากฏการณ์ หรือแก้ปญั หาในชีวิตประจำวันและในอุตสาหกรรม 7. ทดลองและเขียนกราฟการเพิ่มข้นึ หรือลดลงของสารท่ีทำการวัดในปฏิกริ ิยา 8. คำนวณอตั ราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมีและเขียนกราฟการลดลงหรอื เพ่ิมข้นึ ของสารท่ีไม่ได้วัดใน ปฏิกิรยิ า 9. เขยี นแผนภาพและอธบิ ายทศิ ทางการชนกนั ของอนุภาคและพลงั งานท่ีส่งผลตอ่ อัตราการ เกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี 10. ทดลองและอธิบายผลของความเข้มขน้ พืน้ ทีผ่ ิวของสารตงั้ ต้น อุณหภมู ิ และตวั เร่งปฏกิ ริ ิยา ท่ีมีตอ่ อตั ราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี 11. เปรยี บเทียบอตั ราการเกิดปฏิกิรยิ าเมื่อมกี ารเปลย่ี นแปลงความเขม้ ข้น พ้นื ทผี่ วิ ของสารตั้ง ต้น อณุ หภมู ิ และตัวเร่งปฏิกริ ิยา 12. ยกตวั อย่างและอธบิ ายปัจจยั ทม่ี ีผลต่ออัตราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมีในชวี ิตประจำวันหรือ อตุ สาหกรรม 13. ทดสอบและอธบิ ายความหมายของปฏกิ ริ ยิ าผนั กลบั ได้และภาวะสมดลุ 14. อธิบายการเปล่ยี นแปลงความเขม้ ขน้ ของสาร อัตราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าไปข้างหน้า และอัตรา การเกดิ ปฏิกริ ยิ าย้อนกลับ เมื่อเร่มิ ปฏกิ ริ ิยาจนกระทง่ั ระบบอยูใ่ นภาวะสมดุล 15. คำนวณค่าคงทสี่ มดุลของปฏกิ ริ ิยา 16. คำนวณความเขม้ ขน้ ของสารทีภ่ าวะสมดุล 17. คำนวณคา่ คงที่สมดุลหรือความเข้มขน้ ของปฏิกริ ิยาหลายขน้ั ตอน 18. ระบปุ จั จยั ท่มี ีผลต่อภาวะสมดลุ และค่าคงท่ีสมดุลของระบบ รวมท้งั คาดคะเนการ เปล่ยี นแปลงท่ีเกดิ ข้นึ เมื่อภาวะสมดุลของระบบถูกรบกวน โดยใชห้ ลกั ของเลอชาเตอลิเอ 19. ยกตวั อยา่ งและอธิบายสมดุลเคมีของกระบวนการที่เกิดขึ้นในสง่ิ มชี ีวติ ปรากฏการณใ์ น ธรรมชาติและกระบวนการในอุตสาหกรรม รวม 19 ผลการเรยี นรู้
73 คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ว32224 เคมี 4 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับความเป็นกรด – เบส ของสารตามทฤษฎีของอาร์เรเนียส เบริเนสเตด – ลาวรี ลิวอิส ความแรงของกรด – เบส การแตกตัวเป็นไอออน ปฏิกิริยาสะเทินระหว่างไฮโดรเนียม ไอออนจากกรด และไฮดรอกไซค์ไอออนจากเบส การเกิดเกลือ สารละลายบัพเฟอร์ ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับปฏิกิริยารีดอกซ์ ปฏิกิริยาออกซิเดชัน ปฏิกิริยารีดักชัน การถ่ายโอน อเิ ล็กตรอนในเซลล์ไฟฟ้าเคมี เซลล์กัลป์วานิก เซลล์อิเล็กโทรไลต์ การนำหลักการของเซลล์ไฟฟ้าเคมี ไปใชป้ ระโยชน์ การแยกโลหะ การทำโลหะให้บรสิ ุทธิ์ การป้องกนั การผุกรอ่ นของโลหะ โดยใชกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู การสบื คนขอมูล การสังเกต วิเคราะห เปรยี บเทยี บ อธบิ าย อภปิ ราย และสรปุ เพ่ือใหเกดิ ความรู ความเขาใจ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ มี ทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร รวมทั้งทักษะการเรียนรูในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้ เทคโนโลยี สารสนเทศด้านการคิดและการแกปัญหาด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรูและนำ ความรู้ไปใชใ้ นชวี ิตของตนเอง เพอ่ื ใหผ้ ้เู รียนมีจิตวิทยาศาสตร์และค่านิยมทีเ่ หมาะสม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่อื สัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทำงาน รักความเป็นไทย และมีจิต สาธารณะ ผลการเรยี นรู้ 1. ระบแุ ละอธบิ ายวา่ สารเป็นกรดหรือเบสโดยใชท้ ฤษฏีกรด-เบสของอาร์เรเนยี ส เบรินสเตด- ลาวรี และลวิ อิส 2. ระบุค่กู รด-เบสของสารตามทฤษฏีกรด-เบสของเบรนิ สเตด-ลาวรี 3. คำนวณและเปรยี บเทียบความสามารถในการแตกตัวหรือความแรงของกรดและเบส 4. คำนวณค่า pH ความเข้มข้นของไฮโดรเนยี มไอออนหรือไฮดรอกไซด์ไอออนของสารละลาย กรดและเบส 5. เขียนสมการเคมีแสดงปฏิกิรยิ าสะเทนิ และระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลายหลงั การ สะเทนิ 6. เขยี นปฏกิ ริ ยิ าไฮโดรลิซิสของเกลือและระบคุ วามเปน็ กรด-เบสของสารละลายเกลือ 7. ทดลองและอธบิ ายหลักการไทเทรตและเลือกใช้อนิ ดเิ คเตอรท์ ี่เหมาะสมสำหรบั การไทเทรต กรด-เบส 8. คำนวณปริมาณสารหรือความเขม้ ข้นของสารละลายกรดหรือเบสจากการไทเทรต 9. อธิบายสมบัติ องค์ประกอบ และประโยชน์ของสารละลายบัฟเฟอร์
74 10. สืบค้นข้อมูลและนำเสนอตัวอยา่ งการใช้ประโยชน์และการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้เกี่ยวกับ กรด-เบส 11. คำนวณเลขออกซิเดชนั และระบปุ ฏกิ ิรยิ าท่เี ป็นปฏกิ ริ ิยารดี อกซ์ 12. วเิ คราะหก์ ารเปลยี่ นแปลงเลขออกซิเดชันและระบุตวั รีดวิ ซแ์ ละตวั ออกซิไดส์ รวมท้งั เขียน ครึ่งปฏกิ ริ ิยาออกซเิ ดชันและครึ่งปฏิกริ ยิ ารดี ักชันของปฏิกิรยิ ารดี อกซ์ 13. ทดลองและเปรียบเทียบความสามารถในการเปน็ ตวั รีดวิ ซ์หรือตัวออกซิไดส์ และเขียนแสดง ปฏิกิรยิ ารดี อกซ์ 14. ดลุ สมการรีดอกซด์ ้วยการใชเ้ ลขออกซเิ ดชนั และวิธีครงึ่ ปฏิกิรยิ า 15. ระบุองค์ประกอบของเซลล์เคมไี ฟฟ้า และเขยี นสมการเคมีของปฏกิ ริ ยิ าทแ่ี อโนดและ แคโทด ปฏกิ ิริยารวมและแผนภาพเซลล์ 16. คำนวณคา่ ศกั ย์ไฟฟา้ มาตรฐานของเซลล์และระบุประเภทของเซลลเ์ คมไี ฟฟา้ ขั้วไฟฟ้าและ ปฏิกิรยิ าเคมที เ่ี กิดขึน้ 17. อธิบายหลักการทำงานและเขยี นสมการแสดงปฏกิ ิรยิ าของเซลลป์ ฐมภูมิและเซลลท์ ตุ ิยภูมิ 18. ทดลองชบุ โลหะและแยกสารเคมดี ว้ ยกระแสไฟฟ้า และอธบิ ายหลกั การทางเคมีไฟฟ้าทีใ่ ช้ ในการชุบโลหะ การแยกสารเคมดี ว้ ยกระแสไฟฟ้า การทำโลหะใหบ้ รสิ ุทธ์ิ และการป้องกันการกดั กรอ่ น ของโลหะ 19. สบื คน้ ขอ้ มูลและนำเสนอตัวอย่างความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยที ี่เกย่ี วขอ้ งกบั เซลล์ เคมไี ฟฟ้าในชีวิตประจำวนั รวม 19 ผลการเรียนรู้
75 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม ว33225 เคมี 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต ศึกษา วิเคราะห์ สารประกอบของคาร์บอน กรดอินทรีย์ แอลกอฮล์ เอสเทอร์ ปฏิกิริยา พอลิเมอไรเซชัน ผลิตภัณฑ์จากพอลิเมอร์ การนำไปใช้ประโยชน์ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการ ผลิตผลิตภัณฑพ์ อลเิ มอร์สงั เคราะห์ โดยใชกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู การสบื คนขอมูล การสงั เกต วิเคราะห เปรียบเทยี บ อธิบาย อภปิ ราย และสรุป เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ มี ทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร รวมท้ังทักษะการเรียนรูในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้ เทคโนโลยี สารสนเทศด้านการคิดและการแกปัญหาด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรูและนำ ความรไู้ ปใชใ้ นชีวิตของตนเอง เพอื่ ให้ผ้เู รยี นมีจติ วิทยาศาสตรแ์ ละคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซือ่ สตั ย์ สุจริต มีระเบียบวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทำงาน รักความเป็นไทย และมีจิต สาธารณะ ผลการเรยี นรู้ 1. สบื ค้นขอ้ มลู และนำเสนอตัวอย่างสารประกอบ อนิ ทรียท์ ่ีมีพันธะเดีย่ ว พนั ธะคู่ หรอื พันธะ สามทีพ่ บในชวี ติ ประจำวัน 2. เขยี นสตู รโครงสรา้ งลิวอิส สูตรโครงสร้างแบบยอ่ และสูตรโครงสร้างแบบเส้นของ สารประกอบอนิ ทรีย์ 3. วิเคราะห์โครงสรา้ งและระบปุ ระเภทของสารประกอบอินทรยี จ์ ากหมู่ฟังกช์ นั 4. เขยี นสูตรโครงสร้างและเรียกช่ือสารประกอบ อินทรีย์ประเภทต่าง ๆ ท่ีมหี ม่ฟู ังก์ชันไมเ่ กิน 1 หมู่ ตามระบบ IUPAC 5. เขยี นไอโซเมอรโ์ ครงสร้างของสารประกอบ อินทรยี ์ประเภทต่างๆ 6. วเิ คราะหแ์ ละเปรียบเทยี บจุดเดือดและการละลายในนำ้ ของสารประกอบอนิ ทรียท์ มี่ หี มู่ ฟงั กช์ ัน ขนาดโมเลกลุ หรอื โครงสร้างต่างกัน 7. ระบุประเภทของสารประกอบไฮโดรคารบ์ อน และเขียนผลติ ภัณฑจ์ ากปฏกิ ิรยิ าการเผาไหม้ ปฏกิ ิริยากบั โบรมนี หรือปฏิกิริยากับ โพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต 8. เขียนสมการเคมแี ละอธิบายการเกิดปฏกิ ิรยิ า เอสเทอรฟิ เิ คชัน ปฏิกริ ิยาการสังเคราะห์ เอไมด์ ปฏิกิริยิาไฮโดรลซสิ ิ และปฏกิ ิริยาสะปอนนฟิ ิเคชัน 9. ทดสอบปฏกิ ิรยิ าเอสเทอริฟเิ คชัน ปฏกิ ริ ิยา ไฮโดรลิซสิ และปฏกิ ิริยาสะปอนนิฟเิ คชนั
76 10 . สบื ค้นขอ้ มูลและนำเสนอตวั อย่างการนำ สารประกอบอินทรยี ์ไปใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวนั และอุตสาหกรรม 11. ระบุประเภทของปฏิกิรยิ าการเกิดพอลเิ มอร์ จากโครงสรา้ งของมอนอเมอร์หรอื พอลิเมอร์ 12. วิเคราะห์ และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง โครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร รวมทั้ง การนำไปใชป้ ระโยชน์ 13. ทดสอบ และระบปุ ระเภทของพลาสติก และผลติ ภัณฑย์ าง รวมทง้ั การนำไปใช้ ประโยชน์ 14. อธิบายผลของการปรบั เปล่ยี นโครงสร้าง และ การสังเคราะห์พอลเิ มอร์ทมี่ ีต่อสมบตั ิของพอ ลิเมอร์ 15. สืบค้นขอ้ มูล และนำเสนอตัวอยา่ งผลกระทบ จากการใช้และการกำจดั ผลิตภัณฑ์พอลเิ มอร์ และแนวทางแก้ไข รวม 15 ผลการเรียนรู้
77 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม ว33226 เคมี 6 กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ ระบุปญั หา ตัง้ คำถามท่จี ะสำรวจตรวจสอบ โดยมีการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่าง ตัวแปร ต่างๆ สืบค้นข้อมูลจากหลายแหล่ง ต้ังสมมติฐานท่ีเป็นไปได้หลายแนวทาง ตัดสินใจเลือก ตรวจสอบ สมมติฐานที่เป็นไปได้ ตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหาท่ีอยู่บนพ้ืนฐานของความรู้และความเข้าใจทาง วิทยาศาสตร์ ที่แสดงให้เห็นถึงการใช้ความคิดระดับสูงที่สามารถสำรวจตรวจสอบหรือศึกษาค้นคว้าได้ อย่าง ครอบคลุมและเชื่อถือได้ สร้างสมมติฐานที่มีทฤษฎีรองรับหรือคาดการณ์สิ่งท่ีจะพบ เพ่ือนำไปสู่ การสำรวจตรวจสอบออกแบบวิธีการสำรวจตรวจสอบตามสมมติ ฐานที่กำหนดไว้ได้อย่างเหมาะสม มีหลักฐานเชิงประจักษ์ เลือกวัสดุอุปกรณ์ รวมท้ังวิธีการในการสำรวจตรวจสอบอย่างถูกต้อง ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ และบันทึกผลการสำรวจตรวจสอบอย่างเป็นระบบ วิเคราะห์ แปล ความหมายข้อมูลและประเมินความสอดคล้องของข้อสรุป เพ่ือตรวจสอบกับสมมติฐานท่ีต้ังไว้ให้ ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงวิธีการสำรวจตรวจสอบ จัดกระทำ ข้อมูลและนำเสนอข้อมูลด้วยเทคนิควิธีที่ เหมาะสม สือ่ สารแนวคดิ ความร้จู ากผลการสำรวจตรวจสอบ โดยการพูดเขียนจัดแสดงหรือใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศ เพ่ือให้ผู้อ่ืนเข้าใจโดยมีหลักฐาน อ้างอิงหรือมีทฤษฎีรองรับ แสดงถึงความสนใจมุ่งมั่น โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู การสบื คนขอมลู การสงั เกต วิเคราะห เปรียบเทียบ อธิบาย อภปิ ราย และสรุป เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ มี ทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร รวมท้ังทักษะการเรียนรูในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้ เทคโนโลยี สารสนเทศด้านการคิดและการแกปัญหาด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรูและนำ ความรู้ไปใช้ในชีวติ ของตนเอง เพื่อให้ผเู้ รยี นมีจิตวทิ ยาศาสตร์และค่านยิ มท่เี หมาะสม รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทำงาน รักความเป็นไทย และมีจิต สาธารณะ ผลการเรยี นรู้ 1.กำหนดปัญหา และนำเสนอแนวทางการแกป้ ้ญหา โดยใช้ความรู้ทางเคมีจากสถานการณ์ที่ เกิดขึน้ ในชวี ติ ประจำวัน การประกอบอาชพี หรือ อตุ สาหกรรม 2. แสดงหลักฐานถงึ การบรู ณาการความรู้ทางเคมี ร่วมกับสาขาวิชาอ่ืน รวมทง้ั ทักษะ กระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตรห์ รอื กระบวนการออกแบบ เชงิ วศิ วกรรมโดยเน้นการคิดวเิ คราะห์ การ แกป้ ญั หาและความคดิ สร้างสรรค์ เพอ่ื แก้ปญั หาในสถานการณ์หรอื ประเดน็ ท่ีสนใจ 3. นำเสนอผลงานหรือชิ้นงานที่ไ่ด้จากการแก้ป้ญหา ในสถานการณ์หรือประเด็นที่สนใจโดยใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศ
78 4.แสดงหลักฐานการเขา้ รว่ มการสัมมนา การเขา้ รว่ มประชุมวชิ าการ หรือการแสดง ผลงานส่งิ ประดษิ ฐ์ในงานนิทรรศการ รวม 4 ผลการเรยี นรู้
79 คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ว31241 ชีววิทยา 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ ศึกษาเก่ียวกับธรรมชาติของส่ิงมีชีวิต ลักษณะเฉพาะของสิ่งมีชีวิต แขนงวิชาที่เกี่ยวของกับ ชีววิทยาและการใชความรูทางชีววิทยาที่เปนประโยชนตอมนุษยและส่ิงแวดลอม ชีววิทยากับการ ดาํ รงชีวติ ของสงิ่ มีชวี ิต ความตระหนกั ในเรื่องของชวี จริยธรรม การศึกษาชวี วทิ ยาโดยใชวิธีการทางวทิ ยา ศาสตร รวมท้ังการศึกษาวิธีการทํางานของนักวิทยาศาสตร และการนําความรูเกี่ยวกับชีววิทยามา ประยุกตใชในชีวิตประจําวัน การทํากจิ กรรมสะเต็มศึกษาโดยใชกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมเพ่ือ แกปญหาในชวี ติ จริง ศกึ ษาเคมีท่ีเปนพน้ื ฐานของสงิ่ มีชวี ติ โครงสรางและหนาทีข่ องสารตาง ๆ ท่ีเปนองค ประกอบในเซลลของสิ่งมีชีวิต และปฏิกิริยาเคมีในเซลลของส่ิงมีชีวิต ศึกษาสวนประกอบของกลอง จุลทรรศนใชแสง หลักการทํางาน วิธีการใชรวมท้ังการดูแลและเก็บรักษา ศึกษาโครงสรางและหนาที่ ของสวนที่หอหุมเซลล ไซโทพลาซึม และนิวเคลียสการลําเลียงสารเขาและออกจากเซลล การหายใจ ระดับเซลลซ่ึงเปนกระบวนการท่ีเซลลสรางพลังงานจากการสลายสารอาหารสําหรับนําไปใชในกิจกรรม ตางๆ ของเซลลและการแบงเซลล์ โดยใชกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู การสืบคนขอมลู การสงั เกต วเิ คราะห เปรยี บเทยี บ อธบิ าย อภิปราย และสรุป เพื่อใหเกิดความรู ความเขาใจ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ มี ทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร รวมท้ังทักษะการเรียนรูในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้ เทคโนโลยี สารสนเทศด้านการคิดและการแกปัญหาด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรูและนำ ความรไู้ ปใชใ้ นชีวติ ของตนเอง เพอื่ ให้ผเู้ รียนมีจิตวิทยาศาสตรแ์ ละค่านิยมท่ีเหมาะสม รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซอ่ื สัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทำงาน รักความเป็นไทย และมีจิต สาธารณะ ผลการเรยี นรู 1. อธบิ ายและสรปุ สมบัตทิ ี่สําคัญของส่ิงมีชีวิต และความสัมพันธของการจัดระบบในสง่ิ มีชีวติ ท่ี ทาํ ใหสิ่งมีชวี ติ ดํารงชวี ิตอยูได 2. อภิปรายและบอกความสําคัญของการระบุปญหา ความสัมพันธระหวางปญหา สมมติฐาน และ วิธีการตรวจสอบสมมตฐิ าน รวมท้ังออกแบบการทดลองเพือ่ ตรวจสอบสมมตฐิ าน 3. สืบคนขอมูล อธิบายเก่ียวกับสมบัติของน้ำและบอกความสําคัญของน้ำที่มีตอสิ่งมีชีวิต และ ยกตัวอยางธาตชุ นิดตางๆ ที่มคี วามสาํ คัญตอรางกายส่งิ มชี วี ติ 4. สืบคนขอมูล อธิบายโครงสรางของคารโบไฮเดรต ระบุกลุมของคารโบไฮเดรต รวมทั้ง ความสาํ คัญ ของคารโบไฮเดรตท่มี ตี อสิง่ มีชีวิต
80 5. สืบคนขอมูล อธบิ ายโครงสรางของโปรตีน และความสาํ คัญของโปรตีนทม่ี ีตอสิง่ มชี วี ิต 6. สืบคนขอมูล อธบิ ายโครงสรางของลิพดิ และความสําคัญของลพิ ดิ ท่มี ตี อสิ่งมีชีวิต 7. อธบิ ายโครงสรางของกรดนวิ คลอิ กิ และระบุชนิดของกรดนวิ คลิอิกและความสาํ คญั ของ กรดนิวคลอิ กิ ท่ีมีตอสงิ่ มีชีวติ 8. สบื คนขอมลู และอธบิ ายปฏิกริ ยิ าเคมีทีเ่ กิดขน้ึ ในส่งิ มชี ีวติ 9. อธิบายการทาํ งานของเอนไซมในการเรงปฏิกิรยิ าเคมีในส่ิงมีชีวติ และระบปุ จจยั ที่มีผลตอ การทํางานของเอนไซม 10. บอกวิธกี ารและเตรียมตัวอยางสงิ่ มีชวี ิตเพ่ือศกึ ษาภายใตกลองจุลทรรศนใชแสง วัดขนาด โดยประมาณและวาดภาพทป่ี รากฏภายใตกลอง บอกวิธกี ารใช และการดูแลรักษากลอง จุลทรรศนใชแสงทถี่ ูกตอง 11. อธิบายโครงสรางและหนาที่ของสวนท่ีหอหุมเซลลของเซลลพชื และเซลลสัตว 12. สืบคนขอมลู อธิบาย และระบชุ นดิ และหนาท่ขี องออรแกเนลล 13. อธบิ ายโครงสรางและหนาท่ขี องนิวเคลยี ส 14. อธิบายและเปรียบเทียบการแพร ออสโมซิส การแพรแบบฟาซิลิเทต และแอกทีฟทรานส ปอรต 15. สืบคนขอมลู อธบิ าย และเขยี นแผนภาพการลําเลยี งสารโมเลกุลใหญออกจากเซลลดวย กระบวนการเอกโซไซโทซสิ และการลาํ เลยี งสารโมเลกุลใหญเขาสูเซลลดวยกระบวนการ เอนโดไซโทซสิ 16. สงั เกตการแบงนวิ เคลยี สแบบไมโทซสิ และแบบไมโอซิสจากตัวอยางภายใตกลองจลุ ทรรศน พรอมทั้งอธบิ ายและเปรียบเทยี บการแบงนิวเคลียสแบบไมโทซิสและแบบไมโอซสิ 17. อธิบาย เปรียบเทียบ และสรุปขั้นตอนการหายใจระดับเซลลในภาวะทม่ี ีออกซิเจนเพียงพอ และ ภาวะทมี่ ีออกซิเจนไมเพยี งพอ รวม 17 ผลการเรยี นรู้
81 คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม ว31242 ชีววิทยา 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ ศกึ ษาเก่ียวกับโครโมโซม และสารพนั ธุกรรม โครงสรางของ DNA การจําลอง DNA การควบคุม ลักษณะพันธุกรรมของ DNA มิวเทชัน และการเกิดมิวเทชัน ศึกษาการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การศึกษาพันธุกรรมของเมนเดล การถายทอดยีนบนโครโมโซม ลักษณะทางพันธุกรรมที่เปนสวนขยาย ของพันธุศาสตรเมนเดล การถายทอดยีนบนโครโมโซมเพศ ยีนบนโครโมโซมเดียวกัน ศึกษาเทคโนโลยี ทาง DNAพันธุวิศวกรรมและการโคลนยีน การหาขนาดของ DNA และการหาลําดับนิวคลีโอไทด การ ประยุกตใชเทคโนโลยีทาง DNA และเทคโนโลยีทาง DNA กับความปลอดภัยทางชีวภาพและชีวจริย ธรรม ศึกษาเก่ียวกับวิวัฒนาการ หลักฐานและขอมูลท่ีใชในการศึกษาวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต แนวคิด เกี่ยวกับวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิต พันธุศาสตรประชากร ปจจัยท่ีทําใหเกิดการเปล่ียนแปลงความถี่ของ แอลลลี และกาํ เนดิ สปชสี โดยใชกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู การสืบคนขอมลู การสงั เกต วิเคราะห เปรยี บเทยี บ อธิบาย อภปิ ราย และสรปุ เพ่ือใหเกิดความรู ความเขาใจ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ มี ทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร รวมทั้งทักษะการเรียนรูในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้ เทคโนโลยี สารสนเทศด้านการคิดและการแกปัญหาด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรูและนำ ความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมีจิตวิทยาศาสตรแ์ ละค่านิยมที่เหมาะสม รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอ่ื สัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทำงาน รักความเป็นไทย และมีจิต สาธารณะ ผลการเรยี นรู 1. สืบคนขอมูล อธบิ ายสมบตั ิและหนาทขี่ องสารพันธกุ รรม โครงสรางและองคประกอบทางเคมี ของ DNA และสรปุ การจาํ ลอง DNA 2. อธิบายและระบุขัน้ ตอนในกระบวนการสังเคราะหโปรตีนและหนาที่ของ DNA และ RNA แต ละ ชนดิ ในกระบวนการสงั เคราะห โปรตีน 3. สืบคนขอมูล และอธบิ ายการเกิดมิวเทชันระดับยนี และระดับโครโมโซม สาเหตุการเกิดมิวเท ชนั รวมท้ังยกตัวอยางโรคและกลุมอาการท่ีเปนผลของการเกิดมวิ เทชัน 4. สบื คนขอมลู อธิบายและสรปุ ผลการทดลอง ของเมนเดล 5. สรุปความสัมพันธระหวางสารพันธุกรรม แอลลีล โปรตีน ลักษณะทางพันธุกรรม และ เช่ือมโยงกบั ความรูเรือ่ งพนั ธศุ าสตรเมนเดล
82 6. อธบิ ายและสรุปกฎแหงการแยกและกฎแหงการรวมกลุมอยางอิสระ และนํากฎของเมนเดล น้ีไป อธิบายการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรมและใชในการคํานวณโอกาสใน การเกิดฟโนไทปและจี โนไทปแบบตางๆ ของรุน F1 และ F2 7. สืบคนขอมูล วิเคราะห อธิบาย และสรุปเก่ียวกับการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรมที่เปน สวนขยายของพันธศุ าสตรเมนเดล 8. สืบคนขอมูล วิเคราะห และเปรียบเทียบลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปรผันไมตอเน่ือง และลักษณะทางพันธกุ รรมท่มี ีการแปรผนั ตอเน่ือง 9. อธิบายการถายทอดยีนบนโครโมโซม และยกตัวอยางลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุม ดวยยนี บนออโตโซมและยีนบนโครโมโซมเพศ 10. อธบิ ายหลกั การสรางส่งิ มีชีวิตดัดแปรพนั ธกุ รรมโดยใชดีเอ็นเอรีคอมบิแนนท 11. สืบคนขอมูล ยกตัวอยาง และอภิปรายการนําเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอไปประยุกตทั้งในดาน สิ่งแวดลอม นิติวิทยาศาสตรการแพทย การเกษตร และอุตสาหกรรม และขอควรคํานึงถึงดานชีวจริย ธรรม 12. สืบคนขอมูลและอธิบายเก่ียวกับ หลักฐานที่สนับสนุนและขอมูลท่ีใชอธิบายการเกิด วิวัฒนาการของสง่ิ มชี วี ิต 13. อธิบายและเปรียบเทียบแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิตของฌอง ลามารกและ ทฤษฎี เกย่ี วกบั ววิ ฒั นาการของสงิ่ มชี ีวติ ของชาลส ดารวนิ 14. ระบุสาระสําคัญและอธิบายเง่ือนไขของภาวะสมดุลของฮารดี-ไวนเบิรก ปจจัยท่ีทําใหเกิด การ เปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีลในประชากร พรอมทั้งคํานวณหาความถี่ของแอลลีลและจีโนไทป ของประชากรโดยใชหลักของฮารดี-ไวนเบิรก 15. สืบคนขอมลู อภิปราย และอธิบายกระบวนการเกดิ สปชีสใหมของสิ่งมีชวี ิต รวม 15 ผลการเรยี นรู้
83 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ ว32243 ชีววิทยา 3 กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ ศึกษาเก่ียวกับชนิดและลักษณะของเน้ือเย่ือพืช โครงสร้างภายในของรากพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและ รากพืชใบเลี้ยงคจู่ ากการตัดตามขวาง โครงสรา้ งภายในของลำตน้ พชื ใบเล้ียงเดย่ี วและลำต้นพืชใบเลย้ี งคู่ จากการตัดตามขวาง โครงสร้างภายในของใบพืชจากการตัดตามขวาง การแลกเปลี่ยนแกส๊ และการคาย น้ำของพืช กลไกการลำเลียงน้ำและธาตุอาหารของพืช ความสำคัญของธาตุอาหาร และยกตัวอย่างธาตุ อาหารท่ีสำคัญท่ีมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช กลไกการลำเลียงอาหารในพืช การศึกษาท่ีได้จากการ ทดลองของนักวิทยาศาสตร์ในอดีตเก่ียวกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ข้ันตอนท่ีเกิดขึ้นใน กระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช C3 กลไกการตรึงคาร์บอนไดออกไซด์ในพืช C3 พชื C4 และ พืช CAM ปัจจัยความเข้มของแสง ความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ และอุณหภูมิ ท่ีมีผลต่อการ สังเคราะห์ด้วยแสงของพืช วัฏจักรชีวิตแบบสลับของพืชดอก กระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธ์ุเพศผู้และ เพศเมียของพืชดอก และอธิบายการปฏิสนธิของพืชดอก การเกิดเมล็ดและการเกิดผลของพืชดอก โครงสร้างของเมล็ดและผล และยกตัวอย่างการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างต่าง ๆ ของเมล็ดและผล ปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการงอกของเมล็ด สภาพพักตวั ของเมล็ด และบอกแนวทางในการแก้สภาพพักตัว ของเมล็ด บทบาทและหน้าที่ของออกซิน ไซโทไคนิน จิบเบอเรลลิน เอทิลีน และกรดแอบไซซิก และ อภปิ รายเก่ียวกับการนำไปใช้ประโยชนท์ างการเกษตร ส่ิงเร้าภายนอกทม่ี ผี ลตอ่ การเจรญิ เติบโตของพชื โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การ สังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มี ความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสาร ส่ิงท่ีเรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่ี เหมาะสม เพื่อใหผ้ ู้เรียนมีจติ วทิ ยาศาสตร์และคา่ นิยมท่ีเหมาะสม รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซื่อสัตย์สจุ ริต มีระเบยี บวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมน่ั ในการทำงาน รักความเป็นไทย และมีจติ สาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายเก่ียวกับชนิดและลักษณะของเนื้อเย่ือพืช และเขียนแผนผังเพ่ือสรุปชนิดของเน้ือเยื่อ พชื 2. สังเกต อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างภายในของรากพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและรากพืชใบ เลย้ี งค่จู ากการตดั ตามขวาง
84 3. สังเกต อธิบาย และเปรียบเทยี บโครงสร้างภายในของลำต้นพืชใบเลี้ยงเด่ียวและลำต้นพชื ใบ เลีย้ งคู่จากการตัดตามขวาง 4. สังเกต และอธิบายโครงสรา้ งภายในของใบพืชจากการตัดตามขวาง 5. สืบค้นข้อมูล สงั เกต และอธบิ ายการแลกเปลีย่ นแกส๊ และการคายนำ้ ของพืช 6. สืบค้นขอ้ มูล และอธบิ ายกลไกการลำเลยี งน้ำและธาตอุ าหารของพชื 7. สบื คน้ ข้อมูล อธิบายความสำคัญของธาตอุ าหาร และยกตัวอย่างธาตุอาหารท่ีสำคัญท่ีมีผลต่อ การเจริญเติบโตของพชื 8. อธบิ ายกลไกการลำเลยี งอาหารในพืช 9. สืบค้นข้อมูล และสรุปการศึกษาที่ได้จากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ในอดีตเกี่ยวกับ กระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง 10. อธบิ ายขั้นตอนทีเ่ กิดข้ึนในกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสงของพชื C3 11. เปรียบเทียบกลไกการตรงึ คาร์บอนไดออกไซดใ์ นพชื C3 พชื C4 และ พืช CAM 12. สืบ ค้น ข้อมู ล อภิ ป ราย และสรุป ปั จจัยความเข้มของแสง ความเข้มข้น ของ คารบ์ อนไดออกไซด์ และอุณหภูมิ ที่มผี ลต่อการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื 13. อธิบายวฏั จกั รชีวิตแบบสลับของพืชดอก 14. อธิบาย และเปรียบเทียบกระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธ์ุเพศผู้และเพศเมียของพืชดอก และอธิบายการปฏิสนธขิ องพืชดอก 15. อธิบายการเกิดเมล็ดและการเกิดผลของพืชดอก โครงสร้างของเมล็ดและผล และ ยกตัวอยา่ งการใช้ประโยชนจ์ ากโครงสร้างต่าง ๆ ของเมลด็ และผล 16. ทดลอง และอธิบายเก่ยี วกับปัจจัยตา่ ง ๆ ท่มี ผี ลต่อการงอกของเมลด็ สภาพพกั ตัวของเมล็ด และบอกแนวทางในการแกส้ ภาพพกั ตัวของเมล็ด 17. สืบค้นขอ้ มูล อธิบายบทบาทและหนา้ ที่ของออกซนิ ไซโทไคนิน จบิ เบอเรลลนิ เอทลิ ีน และ กรดแอบไซซกิ และอภิปรายเก่ียวกับการนำไปใชป้ ระโยชน์ทางการเกษตร 18. สืบคน้ ข้อมลู ทดลอง และอภิปรายเกยี่ วกบั สง่ิ เร้าภายนอกทม่ี ผี ลตอ่ การเจรญิ เติบโตของพืช รวม 18 ผลการเรียนรู้
85 ว32244 ชีววิทยา 4 คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ ศึกษาเก่ียวกับโครงสร้างและกระบวนการย่อยอาหารของสัตว์ท่ีไม่มีทางเดินอาหาร สัตว์ที่มี ทางเดินอาหารแบบไม่สมบูรณ์ และสัตว์ที่มีทางเดินอาหารแบบสมบูรณ์ การกินอาหารของไฮดราและพ ลานาเรีย โครงสร้าง หน้าท่ี และกระบวนการย่อยอาหาร และการดูดซึมสารอาหารภายในระบบย่อย อาหารของมนุษย์ โครงสร้างที่ทำหน้าท่ีแลกเปลี่ยนแก๊สของฟองน้ำ ไฮดรา พลานาเรีย ไส้เดือนดิน แมลง ปลา กบ และนก โครงสร้างของปอดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม โครงสร้างท่ีใช้ในการแลกเปล่ียน แก๊ส และกระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊สของมนุษย์ การทำงานของปอด และทดลองวัดปริมาตรของ อากาศในการหายใจออกของมนุษย์ ระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิดและระบบหมุนเวียนเลือดแบบปิด ทศิ ทางการไหลของเลือดและการเคล่ือนท่ีของเซลล์เม็ดเลือดในหางปลา และสรุปความสัมพันธ์ระหว่าง ขนาดของหลอดเลือดกับความเร็วในการไหลของเลือด โครงสร้างและการทำงานของหัวใจและหลอด เลือดในมนุษย์ โครงสร้างหัวใจของสตั วเ์ ล้ียงลกู ด้วยน้ำนม ทิศทางการไหลของเลือดผ่านหวั ใจของมนุษย์ และเขียนแผนผังสรุป การหมุนเวียนเลือดของมนุษย์ ความแตกต่างของเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ด เลือดขาวเพลตเลต และพลาสมา หมู่เลือดและหลักการให้และรับเลือดในระบบ ABO และระบบ Rh ส่วนประกอบและหน้าที่ของน้ำเหลือง รวมท้ังโครงสร้างและหน้าที่ของหลอดน้ำเหลือง และต่อม น้ำเหลือง กลไกการต่อต้านหรือทำลายส่ิงแปลกปลอม แบบไม่จำเพาะและแบบจำเพาะ การสร้าง ภูมิคุ้มกันก่อเองและภูมิคุ้มกนั รับมา ความผิดปกติของระบบภมู ิคุ้มกันทีท่ ำให้เกิดเอดส์ ภูมิแพ้ การสร้าง ภูมิต้านทานต่อเนื้อเยื่อตนเอง โครงสร้างและหน้าที่ในการกำจัดของเสียออกจากร่างกายของฟองน้ำ ไฮดรา พลานาเรีย ไส้เดือนดิน แมลง และสัตว์มีกระดูกสันหลัง โครงสร้างและหน้าท่ีของไต และ โครงสร้างท่ีใช้ลำเลียงปัสสาวะออกจากร่างกาย กลไกการทำงานของหน่วยไต ในการกำจัดของเสียออก จากร่างกาย และเขียนแผนผังสรุปข้ันตอนการกำจัดของเสียออกจากร่างกายโดยหน่วยไต ยกตัวอย่าง เกีย่ วกบั ความผิดปกติของไตอันเน่อื งมาจากโรคต่าง ๆ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การ สังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มี ความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสาร ส่ิงท่ีเรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่ เหมาะสม เพ่ือใหผ้ ู้เรียนมีจติ วทิ ยาศาสตรแ์ ละคา่ นิยมที่เหมาะสม รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซอื่ สัตย์สจุ ริต มีระเบียบวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง ม่งุ มนั่ ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย และมจี ิตสาธารณะ
86 ผลการเรยี นรู้ 1. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและกระบวนการย่อยอาหารของสตั ว์ที่ไม่มี ทางเดินอาหาร สตั ว์ทมี่ ที างเดินอาหารแบบไม่สมบูรณ์ และสัตวท์ ่มี ที างเดนิ อาหารแบบสมบรู ณ์ 2. สงั เกต อธิบาย การกนิ อาหารของไฮดราและพลานาเรีย 3. อธิบายเก่ียวกับโครงสร้าง หน้าท่ี และกระบวนการย่อยอาหาร และการดูดซึมสารอาหาร ภายในระบบยอ่ ยอาหารของมนษุ ย์ 4. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างท่ีทำหน้าที่แลกเปล่ียนแก๊สของฟองน้ำ ไฮดรา พลานาเรยี ไส้เดอื นดนิ แมลง ปลา กบ และนก 5. สงั เกต และอธบิ ายโครงสร้างของปอดในสตั วเ์ ล้ียงลกู ดว้ ยน้ำนม 6. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างท่ีใช้ในการแลกเปล่ียนแก๊ส และกระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊ส ของมนษุ ย์ 7. อธิบายการทำงานของปอด และทดลองวดั ปรมิ าตรของอากาศในการหายใจออกของมนุษย์ 8. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิดและระบบหมุนเวียน เลอื ดแบบปิด 9. สังเกต และอธิบายทิศทางการไหลของเลือดและการเคลื่อนท่ีของเซลล์เม็ดเลือดในหางปลา และสรุปความสมั พนั ธ์ระหว่างขนาดของหลอดเลือดกับความเร็วในการไหลของเลือด 10. อธบิ ายโครงสร้างและการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในมนุษย์ 11. สังเกต และอธิบายโครงสร้างหัวใจของสัตว์เล้ียงลูกด้วยน้ำนม ทิศทางการไหลของเลือด ผ่านหัวใจของมนษุ ย์ และเขยี นแผนผังสรปุ การหมุนเวียนเลอื ดของมนษุ ย์ 12. สืบค้นข้อมูล ระบุความแตกต่างของเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว เพลตเลต และ พลาสมา 13. อธบิ ายหมเู่ ลอื ดและหลักการใหแ้ ละรบั เลือดในระบบ ABO และระบบ Rh 14. อธิบาย และสรุปเกี่ยวกับส่วนประกอบและหน้าท่ีของน้ำเหลือง รวมทั้งโครงสร้างและ หน้าที่ของหลอดน้ำเหลือง และตอ่ มนำ้ เหลอื ง 15. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบกลไกการต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอมแบบไม่ จำเพาะและแบบจำเพาะ 16. สบื ค้นขอ้ มูล อธิบาย และเปรียบเทียบการสร้างภมู คิ ้มุ กันก่อเองและภมู คิ ุ้มกันรับมา 17. สืบค้นข้อมูล และอธิบายเกี่ยวกับความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกนั ท่ีทำให้เกิดเอดส์ ภูมิแพ้ การสร้างภูมิตา้ นทานตอ่ เน้อื เยือ่ ตนเอง 18. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและหน้าท่ีในการกำจัดของเสียออกจาก รา่ งกายของฟองนำ้ ไฮดรา พลานาเรยี ไส้เดอื นดิน แมลง และสัตว์มีกระดูกสนั หลงั 19. อธิบายโครงสร้างและหน้าทข่ี องไต และโครงสรา้ งทใ่ี ช้ลำเลยี งปสั สาวะออกจากร่างกาย
87 20. อธิบายกลไกการทำงานของหน่วยไต ในการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย และเขียน แผนผังสรุปขั้นตอนการกำจัดของเสยี ออกจากร่างกายโดยหน่วยไต 21. สบื ค้นข้อมลู อธบิ าย และยกตวั อยา่ งเก่ยี วกับความผดิ ปกติของไตอนั เนอ่ื งมาจากโรคต่าง ๆ รวม 21 ผลการเรยี นรู้
88 คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม ว33245 ชีววิทยา 5 กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษาเก่ียวกับโครงสร้างและอวัยวะท่ีใช้ในการเคลื่อนท่ีของส่ิงมีชีวิตเซลล์เดียว ของสัตว์และ มนุษย์ ศึกษาระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก การรับรู้และตอบสนองของส่ิงมีชีวิตเซลล์เดียว ของสัตว์และมนุษย์ เซลล์ประสาทและการทำงานของเซลล์ประสาท สมองและไขสันหลังท่ีเป็นศูนย์ ควบคุมระบบประสาทการทำงานของระบบประสาทโซมาตกิ และระบบประสาทอัตโนวตั ิ โครงสร้างและ การทำงานของอวัยวะรบั ความรู้สกึ ที่เกย่ี วกับนัยน์ตากบั การมองเหน็ หูกับการได้ยิน จมูกกับการดมกลิ่น ล้ินกับการรับรส และผิวหนังกับการรับความรู้สึก ศึกษาระบบต่อมไร้ท่อ โครงสร้างและการทำงานของ ต่อมไร้ท่อ ฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อและอวัยวะท่ีสำคญั การรักษาดลุ ยภาพของร่างกายดว้ ยฮอร์โมนและฟี โรโมนในสัตว์ ศึกษาพฤติกรรมของสัตว์ กลไกการเกิดพฤติกรรมของสัตว์ พฤติกรรมเป็นมาแต่กำเนิด และพฤติกรรมเรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับพัฒนาการของระบบประสาท การส่ือสาร ระหว่างสัตว์โดยการใช้เสียงท่าทาง และสารเคมี โดยใชกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู การสบื คนขอมูล การสังเกต วเิ คราะห เปรยี บเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรปุ เพ่ือใหเกิดความรู ความเขาใจ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ มี ทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร รวมทั้งทักษะการเรียนรูในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้ เทคโนโลยี สารสนเทศด้านการคิดและการแกปัญหาด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรูและนำ ความรไู้ ปใช้ในชวี ิตของตนเอง เพื่อใหผ้ เู้ รียนมีจิตวิทยาศาสตรแ์ ละค่านยิ มท่ีเหมาะสม รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซอื่ สตั ย์ สุจริต มีระเบียบวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทำงาน รักความเป็นไทย และมีจิต สาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1. สบื ค้นข้อมลู อธบิ ายและเปรียบเทยี บโครงสร้าง และหน้าท่ขี องระบบประสาทของไฮดราพลา นาเรียไสเ้ ดือนดนิ กุ้งหอยแมลงและสตั ว์มีกระดูกสันหลัง 2. อธบิ ายเกีย่ วกบั โครงสรา้ งและหนา้ ทีข่ องเซลลป์ ระสาท 3. อธิบายเกี่ยวกบั การเปลยี่ นแปลงของศักย์ไฟฟา้ ที่เยื่อหุม้ เซลล์ของเซลลป์ ระสาท และกลไก การถ่ายทอดกระแสประสาท 4. อธบิ ายและสรุปเกย่ี วกบั โครงสร้างของระบบ ประสาทส่วนกลางและระบบประสาทรอบนอก 5. สืบคน้ ข้อมูลอธิบายโครงสร้างและหน้าท่ีของ ส่วนตา่ งๆในสมองสว่ นหน้าสมองสว่ นกลาง สมองส่วนหลงั และไขสันหลัง
89 6. สืบคน้ ข้อมลู อธิบายเปรยี บเทยี บและยกตัวอย่างการทำงานของระบบประสาทโซมาติกและ ระบบประสาทอตั โนวตั ิ 7. สืบคน้ ข้อมลู อธบิ ายโครงสรา้ งและหน้าท่ีของตาหจู มูกล้ินและผิวหนงั ของมนษุ ยย์ กตัวอยา่ ง โรคตา่ งๆทีเ่ กยี่ วข้องและบอกแนวทางในการ ดูแลปอ้ งกนั และรักษา 8. สงั เกตและอธบิ ายการหาตำแหนง่ ของจดุ บอดโฟเวียและความไวในการรบั สมั ผสั ของผิวหนงั 9. สืบคน้ ข้อมลู อธิบายและเปรยี บเทยี บโครงสร้าง และหนา้ ที่ของอวยั วะท่ีเก่ียวข้องกบั การ เคล่ือนที่ ของแมงกะพรนุ หมึกดาวทะเลไส้เดือนดินแมลงปลาและนก 10. สืบค้นข้อมูลและอธิบายโครงสรา้ งและหน้าที่ ของกระดกู และกลา้ มเนื้อทเ่ี กย่ี วข้องกับการ เคล่อื นไหวและการเคล่อื นท่ีของมนุษย์ 11. สังเกตและอธิบายการทำงานของข้อตอ่ ชนดิ ต่างๆและการทำงานของกลา้ มเน้ือโครงรา่ ง ที่ เก่ียวขอ้ งกบั การเคล่อื นไหวและการเคลื่อนที่ ของมนษุ ย์ 12. สบื ค้นขอ้ มลู อธิบายและยกตวั อย่างการสืบพนั ธุแ์ บบไม่อาศยั เพศและการสืบพนั ธ์ุ แบบ อาศัยเพศในสัตว์ 13. สบื คน้ ข้อมูลอธบิ ายโครงสร้างและหน้าที่ของ อวยั วะในระบบสืบพนั ธ์เุ พศชายและระบบ สบื พันธ์ุเพศหญิง 14. อธบิ ายกระบวนการสรา้ งสเปริ ์มกระบวนการ สร้างเซลลไ์ ขแ่ ละการปฏิสนธิในมนุษย์ 15. อธบิ ายการเจรญิ เตบิ โตระยะเอ็มบริโอและระยะหลงั เอ็มบรโิ อของกบไก่และมนุษย์ 16. สบื ค้นขอ้ มลู อธบิ ายและเขยี นแผนผังสรปุ หนา้ ทขี่ องฮอร์โมนจากต่อมไรท้ ่อและเนื้อเยื่อ ที่สรา้ งฮอรโ์ มน 17. สืบค้นข้อมลู อธิบายเปรยี บเทยี บและยกตวั อยา่ งพฤตกิ รรมทเ่ี ป็นมาแตก่ ำเนิดและ พฤติกรรมทเ่ี กดิ จากการเรียนรูข้ องสัตว์ 18. สืบคน้ ข้อมลู อธิบายและยกตวั อยา่ งความสมั พนั ธร์ ะหว่างพฤติกรรมกับ วิวฒั นาการของ ระบบประสาท 19. สืบคน้ ข้อมูลอธบิ ายและยกตัวอย่างการส่อื สาร ระหวา่ งสัตว์ทีท่ ำใหส้ ตั ว์แสดงพฤติกรรม รวม 19 ผลการเรยี นรู้
90 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม ว33246 ชีววิทยา 6 กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต ศึกษาเก่ียวกับความหลากหลายทางชีวภาพและความย่ังยืนของส่ิงแวดล้อม ความหลากหลาย ของสิ่งมีชีวิต การศึกษาความหลากหลายของส่ิงมีชีวิต กำเนิดของชีวิต อาณาจักรของส่ิงมีชีวิตความ หลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทย การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ศึกษาเกี่ยวกับ ประชากร ความหนาแน่นและการแพรก่ ระจายของประชากร ขนาดของประชากร รูปแบบการเพิ่มของ ประชากร การรอดชีวิตของประชากร ประชากรมนุษย์ ศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์กับความยั่งยืนของ ส่ิงแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ประโยชน์ ปัญหาและการจัดการ หลักการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ และชนิดพันธ์ตุ ่างถิ่นทส่ี ่งผลกระทบต่อสภาพแวดลอ้ ม ศึกษาเกี่ยวกับแนวคิดระบบ นิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงานและการหมุนเวียนสารในระบบนิเวศ ความหลากหลายของไบโอม การเปลี่ยนแปลงแทนท่ีของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ประชากรและรูปแบบการเพ่ิมของประชากร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาและผลกระทบท่ีเกิดจากการใช้ประโยชน์และแนวทางการ แกป้ ญั หา โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู การสบื คนขอมูล การสังเกต วิเคราะห เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพ่ือใหเกิดความรู ความเขาใจ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ มี ทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร รวมท้ังทักษะการเรียนรูในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้ เทคโนโลยี สารสนเทศด้านการคิดและการแกปัญหาด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรูและนำ ความรู้ไปใช้ในชวี ิตของตนเอง เพือ่ ให้ผู้เรยี นมีจติ วิทยาศาสตร์และคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่ือสตั ย์ สุจริต มีระเบียบวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทำงาน รักความเป็นไทย และมีจิต สาธารณะ ผลการเรยี นรู้ 1. อภปิ รายความสำคัญของความหลากหลายทาง ชีวภาพและความเชอ่ื มโยงระหว่างความ หลากหลายทางพันธกุ รรมความหลากหลาย ของสปชี ีสแ์ ละความหลากหลายของระบบนเิ วศ 2. อธิบายการเกดิ เซลลเ์ ริม่ แรกของส่ิงมชี ีวิตและววิ ัฒนาการของสงิ่ มีชีวิตเซลล์เดยี ว 3. อธิบายลกั ษณะสำคัญ และยกตัวอย่างสงิ่ มีชวี ิต กลมุ่ แบคทีเรยี สิง่ มชี วี ิตกลุ่มโพรทิสต์ ส่ิงมีชีวติ กลุ่มพืชส่งิ มชี ีวิตกลุ่มฟังไจและสงิ่ มีชวี ติ กล่มุ สัตว์ 4. อธบิ ายและยกตัวอย่างการจำแนกสิง่ มีชวี ิตจากหมวดหมู่ใหญ่จนถงึ หมวดหมยู่ ่อยและวิธกี าร เขยี นชื่อวทิ ยาศาสตร์ในลำดับข้ันสปชี ีส์ 5. สรา้ งไดโคโทมัสคยี ใ์ นการระบสุ ่ิงมชี วี ิตหรอื ตัวอย่างที่กำหนดออกเปน็ หมวดหมู่
91 6. วิเคราะหอ์ ธิบายและยกตัวอยา่ งกระบวนการ ถ่ายทอดพลงั งานในระบบนิเวศ 7. อธิบายยกตัวอย่างการเกิดไบโอแมกนฟิ ิเคชนั และบอกแนวทางในการลดการเกดิ ไบโอแมก นฟิ ิเคชัน 8. สืบค้นข้อมูลและเขียนแผนภาพเพ่ืออธบิ าย วัฏจกั รไนโตรเจนวฏั จักรกำมะถนั และวัฏจักร ฟอสฟอรสั 9. สืบค้นข้อมลู ยกตวั อยา่ งและอธิบายลกั ษณะ ของไบโอมท่ีกระจายอยตู่ ามเขตภมู ิศาสตรต์ า่ งๆ บนโลก 10. สบื คน้ ขอ้ มูลยกตวั อยา่ งอธิบายและเปรียบเทียบ การเปล่ียนแปลงแทนทแ่ี บบปฐมภูมิและ การเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบทุติยภมู ิ 11. สบื คน้ ข้อมูลอธิบายยกตวั อย่างและสรุปเก่ยี วกบั ลักษณะเฉพาะของประชากรของส่งิ มชี วี ติ บางชนดิ 12. สบื ค้นข้อมลู อธิบายเปรยี บเทียบและยกตวั อย่างการเพิ่มของประชากรแบบเอ็กโพเนนเชยี ล และการเพ่ิมของประชากรแบบลอจิสติก 13. อธบิ ายและยกตวั อย่างปัจจยั ทีค่ วบคุมการเตบิ โต ของประชากร 14. วิเคราะห์อภิปรายและสรุปปัญหาการขาดแคลนน้ำการเกิดมลพิษทางน้ำและผลกระทบทีม่ ี ตอ่ มนษุ ย์และสิง่ แวดล้อมรวมทงั้ เสนอแนวทางการวางแผนการจดั การน้ำ 15. วเิ คราะหอ์ ภปิ รายและสรุปปญั หามลพิษทาง อากาศและผลกระทบที่มีต่อมนุษย์และ ส่ิงแวดลอ้ มรวมท้งั เสนอแนวทางการแก้ไข ปัญหา รวม 15 ผลการเรยี นรู้
92 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ ว30247 พฤกษศาสตร์ 1 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ศึกษา กำหนดขอบเขตพื้นที่ศึกษา สำรวจพรรณไม้ ทำและติดป้ายรหัสประจำต้น บันทึกภาพ พรรณไม้หรือวาดภาพทางพฤกษศาสตร์ ตั้งชื่อหรือสอบถามข้อมูลพรรณไม้ ทำป้ายช่อื พรรณไม้ช่ัวคราว ทำผังแสดงตำแหน่งพรรณไม้ ศึกษาลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ทำตัวอย่างพรรณไม้ เปรียบเทียบข้อมูล กับเอกสาร เรียนรู้ช่ือที่เป็นสากล ทำทะเบียนพรรณไม้ ตรวจสอบความถูกต้องของทะเบียนพรรณไม้ และจัดทำป้ายชื่อพรรณไม้สมบูรณ์ เพื่อให้รู้จัก รู้ประโยชน์ของพรรณไม้ เรียนรู้พืชพรรณ และสภาพ พ้ืนท่ี วิเคราะห์พื้นท่ี พิจารณาคุณ และสุนทรียภาพพรรณไม้ ทำผังภูมิทัศน์ จัดหาพรรณไม้ ปลูก ดูแล รักษา และออกแบบบันทึกการเปล่ียนแปลง เพื่อให้เห็นคุณ รู้ค่า ของพืชพรรณ โดยใช้กระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมลู และการอภิปราย เพื่อให้เกิด ความร้คู วามคดิ ความเขา้ ใจ สามารถสอื่ สารสงิ่ ท่ีเรยี นรู้ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ นำความรู้ไปใช้ใน ชีวติ ประจำวัน มีจติ วทิ ยาศาสตร์ มีคณุ ธรรม จริยธรรมและคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม ผลการเรียนรู 1. สืบคน้ ขอ้ มลู อภปิ รายเก่ยี วกับสณั ฐานวทิ ยาของพชื ได้แก่ ราก ลำต้น ใบ ดอก ผล 2. สบื ค้นขอ้ มูล อภิปราย เกี่ยวกบั การดำรงชวี ติ ของพืชในเรื่อง การลำเลียง การสรา้ งอาหาร การสบื พนั ธ์ุ 3. การเจรญิ เติบโต อนุกรมวิธาน พิษภยั ของพืชในทอ้ งถิน่ และความสำคัญของพืชตอ่ มนุษย์ และสง่ิ แวดล้อม 4. สืบคน้ ข้อมลู และอภิปรายเกย่ี วกบั กจิ กรรมโครงการอนุรักษ์พนั ธกุ รรมพชื อนั เนือ่ งมาจาก พระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า สยามบรมราชกุมารีและแนวการดำเนินงานกิจกรรมงานสวน พฤกษศาสตร์โรงเรียน 5. ตรวจสอบ สืบคน้ ข้อมลู ปฏบิ ตั ิการจัดทำป้ายประจำตน้ พรรณไม้ในโรงเรียน รวม 5 ผลการเรียนรู
93 คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ ว30248 พฤกษศาสตร์ 2 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ศึกษา วิเคราะห์ เห็นความตา่ ง รู้ความหลายหลากการนำทรัพยากรธรรมชาติมาเป็นปัจจัยใน การเรียนรู้ โดยการใช้ปัจจัยหลายปัจจัยในชนิดเดียวกันหรือต่างชนิดกัน เพื่อให้เห็นความต่าง เมื่อเห็น ความต่าง ก็จะเกิดจินตนาการอันจะนำไปสู่การใช้ประโยชน์ในงานแต่ละด้านรวบรวมผลการเรียนรู้ วเิ คราะห์ เรียบเรยี งสาระ จดั ระเบยี บข้อมูลสาระแต่ละดา้ น จัดลำดับสาระหรอื กลุ่มสาระ เรียนรูร้ ูปแบบ การเขียนรายงาน วิธีการรายงานผลในรูปแบบต่างๆ เพ่ือสื่อผลการเรียนรู้อย่างเป็นระบบการเผยแพร่ องค์ความรู้ การสรา้ ง การใช้ การดูแลรักษา และพัฒนาแหล่งเรยี นรู้ เพ่ือการใช้ประโยชน์องค์ความรู้ใน วงกว้างโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้น ข้อมูลและการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ความคิดความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ มี ความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม ผลการเรียนรู 1. ศกึ ษา วิเคราะห์ เห็นความตา่ ง รคู้ วามหลายหลากการนำทรพั ยากรธรรมชาติมาเปน็ ปจั จัย ในการเรียนรู้ โดยการใช้ปจั จัยหลายปจั จยั ในชนิดเดียวกนั หรอื ตา่ งชนิดกนั 2. สบื คน้ ขอ้ มลู วิเคราะห์ และสรุป การหาความรูเ้ พ่มิ เติมโดยเขยี นรายงานผลการศึกษาเร่ือง ของพรรณไม้ในทอ้ งถ่นิ 3. เผยแพรค่ วามรูเ้ ก่ียวกบั งานสวนพฤกษศาสตร์ไปใชป้ ระโยชนใ์ นด้านต่างๆอย่างกว้างขวาง 4. ทดลอง วิเคราะห์ เปรยี บเทียบ บันทึก เก็บข้อมูล จัดกระทำกบั ข้อมูล อธบิ ายผล ประเมินเขียนรายงาน และจัดแสดงผลงาน โครงงานเกยี่ วกับพชื ทสี่ นใจเพ่ือนำมาใชป้ ระโยชนใ์ น ชวี ิตประจำวัน รวม 4 ผลการเรยี นรู้
94 รายวชิ าพ้ืนฐานและรายวิชาเพ่ิมเตมิ กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย .......................................................................................... รายวชิ าพ้นื ฐาน ส31101 สังคมศกึ ษา 1 จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกติ ส31102 ประวตั ศิ าสตร์1 จำนวน 40 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกติ ส31103 สังคมศกึ ษา 2 จำนวน 40 ชวั่ โมง 1.0 หน่วยกติ ส311064 ประวตั ิศาสตร์ 2 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกติ ส32101 สังคมศึกษา 3 จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกติ ส32102 ประวัติศาสตร์ 3 จำนวน 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกติ ส32103 สังคมศกึ ษา 4 จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ส32104 ประวตั ิศาสตร์ 4 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกติ ส33101 สังคมศึกษา 5 จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกติ ส33102 สงั คมศึกษา 6 จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกติ รายวชิ าเพิ่มเติม ส31201 หน้าท่ีพลเมือง 1 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกติ ส31202 หนา้ ท่พี ลเมือง 2 จำนวน 20 ชัว่ โมง 0.5 หนว่ ยกติ ส32203 หนา้ ท่พี ลเมือง 3 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกติ ส32204 หนา้ ท่ีพลเมือง 4 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกติ ส23205 หนา้ ท่พี ลเมือง 5 จำนวน 20 ช่ัวโมง 0.5 หน่วยกติ ส21306 หนา้ ทพี่ ลเมือง 6 จำนวน 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกติ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160