Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนเพศวิถี มัธยมศึกษาปีที่ 2

แผนเพศวิถี มัธยมศึกษาปีที่ 2

Published by arms0827784830, 2021-07-05 06:33:33

Description: แผนเพศวิถี มัธยมศึกษาปีที่ 2

Search

Read the Text Version

หนูคิดวา่ เราควรเริ่มปลูกฝงั ค่านิยมใหม ่ อาจสายไปท่ีจะใหพ้ อ่ แมเ่ รา กลา้ พดู กบั เราในเรื่องน ้ี แต่ควรปลูกฝังกบั คนรุ่นหน ู ใหเ้ ข้าใจว่าเรอ่ื งเพศไม่ ใช่เร่อื งน่าอาย เป็นเร่อื งทีค่ ุยกนั ได้ พวกหนูก็จะรบั ค่านิยมแบบน้ี ไว้ และถา่ ยทอดใหล้ ูกหลานของเรา ซึ่งหนวู า่ น่าจะเปน็ การ แกป้ ญั หาไดท้ างหนง่ึ บษุ ราคมั บญุ ลกั ษณ์ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ โรงเรยี นเตรยี มอดุ มศึกษา กรงุ เทพฯ (จากงานประชมุ วิชาการเพศศึกษาครัง้ ที่ ๑ เดือนตุลาคม ๒๕๔๗)

แผนการเรยี นรทู้ ่ี ๓ ใจเขา ใจเรา

แผนการเรียนรูท้ ่ี ๓ ใจเขาใจเรา สาระสำคัญ วัยรุ่นและผู้ใหญ่มักมีความคิดเห็นและความคาดหวังไม่ตรงกัน โดยเฉพาะเร่ือง การมีแฟน ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งและไม่สื่อสารกัน การเรียนรู้เพ่ือเข้าใจ ความรู้สึกด้วยการ “เอาใจเขามาใส่ใจเรา” ช่วยให้เกิดการรับรู้ความรู้สึกของ บุคคลในบทบาทนน้ั ๆ อันนำไปสคู่ วามเขา้ ใจและสมั พนั ธภาพท่ีดีขึน้ จดุ ประสงค ์ ๑. บอกความคาดหวังที่ต่างกันต่อการมีแฟน และอาจนำไปสู่ความขัดแย้ง ระหวา่ งวยั รนุ่ กับผู้ใหญ่ ๒. บอกวธิ จี ดั การความขดั แย้ง โดยยังคงสมั พนั ธภาพทดี่ ีตอ่ กันได้ อุปกรณ์ และสอ่ื แผ่นคำถามสำหรบั ๔ กลุ่ม 96 คมู่ อื การจดั กระบวนการเรยี นร้ ู เพศศึกษา สำหรบั นักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒

ข้ันตอนการดำเนินกิจกรรม 97 ๑. ผู้ดำเนินกิจกรรมช้ีแจงว่า “ใจเขาใจเรา” เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ถึงความคาดหวังของบุคคลที่ แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๓ ใจเขาใจเรา เก่ียวข้องกับเราว่า มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร และความคาดหวังที่แต่ละคนม ี ส่งผลอย่างไรตอ่ ความสมั พนั ธต์ อ่ กันบ้าง ๒. แบง่ ผู้เรยี นเปน็ ๔ กลมุ่ ย่อย (คละหญงิ ชายทุกกลมุ่ ) โดยแต่ละกลมุ่ จะไดร้ ับบทบาทท่แี ตกต่าง กนั แจกแผน่ คำถามให้แต่ละกลมุ่ เพ่อื ให้ชว่ ยกนั คิดคำตอบ โดยมกี ติกาว่า อย่าให้กลมุ่ อ่ืนเห็น หรือไดย้ ินสง่ิ ท่กี ลมุ่ เราคยุ กัน ให้เวลากล่มุ ย่อย ๑๐ นาท ี ๓. เมื่อหมดเวลา ให้แต่ละกลุ่มออกมาแสดงบทบาทสมมติตามสถานการณ์และบทบาทที่ได้รับ มอบหมาย โดยใหเ้ รยี งลำดบั เรม่ิ จากกลมุ่ ที่ ๔ (วยั รนุ่ ), ๓ (เพอ่ื น), ๒ (คร)ู และ ๑ (พอ่ แม)่ ตาม ลำดบั ๔. ระหว่างที่แต่ละกลุ่มแสดง ให้ผู้ดำเนินกิจกรรมจดประเด็นท่ีแต่ละกลุ่มนำเสนอไว้บนกระดาน เพอื่ นำมาเป็นประเด็นพดู คุยในกลมุ่ ใหญ ่ ๕. ผดู้ ำเนนิ กจิ กรรมชวนคยุ โดยใชค้ ำถามชวนคดิ เชอื่ มโยงกบั ประเดน็ ตา่ งๆ ทแี่ ตล่ ะกลมุ่ เสนอ ดงั น ้ี คำถามชวนคดิ • แต่ละกลุ่มสวมบทบาทได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงท่ีเราพบเห็นมากน้อย เพียงใด อย่างไรบ้าง • ตัวเรารู้หรือไม่ว่าพ่อแม่ ครู และเพ่ือน มีความคาดหวังในตัวเราเกี่ยวกับ เรือ่ งทเี่ รามีแฟน แลว้ เราร้ไู ด้อยา่ งไร และความคาดหวังนนั้ เหมือนหรือตา่ ง กบั ทแ่ี ต่ละกลุ่มนำเสนออยา่ งไร • เพราะเหตใุ ด ผใู้ หญจ่ ึงมคี วามคาดหวงั ในเร่ืองการมแี ฟนของเราเชน่ นนั้ • รู้สึกอย่างไรกับความคาดหวังของคนรอบข้างต่อเรื่องท่ีเรามีแฟน คิดว่าเรา ควรฟังความรสู้ กึ ของคนรอบขา้ งหรอื ไม่ เพราะอะไร • เรามีวิธีจัดการอย่างไรบ้างเพ่ือลดความขัดแย้งในเรื่องความคาดหวังของ คนอน่ื กับของเราเอง

๖. ผู้ดำเนินกิจกรรมถามผู้เรียนว่าได้เรียนรู้อะไรจากกิจกรรม “ใจเขาใจเรา” บ้าง และเพิ่มเติม ประเดน็ ดงั น ้ี • ทศั นะตอ่ การมแี ฟนในวยั รนุ่ เปน็ เรอื่ งทผี่ ใู้ หญแ่ ละวยั รนุ่ มกั มองตา่ งกนั เชน่ เดยี วกบั เรอื่ งอนื่ ๆ ซง่ึ เรามกั จะคาดหวงั ใหค้ นทเี่ ราใกลช้ ดิ มมี มุ มองและปฏบิ ตั ติ วั แบบเดยี วกบั เรา • ขอ้ ขดั แยง้ ทสี่ ำคัญระหว่างวัยรนุ่ กบั ผใู้ หญใ่ นเรอื่ งการมีแฟนคอื การคาดการณ์ถงึ สิ่งทจี่ ะเกดิ ตามมาต่างกัน และบางมุมก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อนท่ีมักจะไม่ถูกนำมาพูดคุยกันตรงๆ เช่น ผู้ใหญ่อาจเป็นห่วงและคิดว่าการมีแฟนจะนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม เปน็ ตน้ แตผ่ ใู้ หญเ่ ลอื กการหา้ มปราม แทนการพดู คยุ ถงึ ความเปน็ หว่ งดว้ ยเหตผุ ล • แมค้ วามคาดหวงั ของแตล่ ะฝา่ ยจะเกดิ จากความหว่ งใยและปรารถนาดี แตห่ ากเลอื กใชว้ ธิ กี าร สอื่ สาร และทา่ ทีทีเ่ ป็นการด่วนตดั สนิ ไมเ่ ปิดใจรับฟัง ไมย่ อมรับความคดิ ท่ีแตกต่าง กอ็ าจ ทำใหเ้ กดิ ชอ่ งวา่ งและปดิ กนั้ การสอ่ื สารทอี่ าจเปน็ ประโยชนต์ อ่ ไป เชน่ การปรกึ ษาหารอื ปญั หา ทมี่ กี บั แฟน เปน็ ตน้ • การทำความเข้าใจเรื่องความคาดหวังของผู้อ่ืนท่ีมีต่อเรา และท่ีเรามีต่อผู้อ่ืน แล้วหาวิธีท ่ี เหมาะสมซง่ึ สามารถตอบสนองใหท้ ง้ั สองฝา่ ยพอใจ เปดิ ใจรบั ฟงั รวมทง้ั การเคารพและยอมรบั ความแตกตา่ ง อนั จะชว่ ยลดความขดั แยง้ ทอ่ี าจมีในสมั พนั ธภาพได้ ข้อเสนอแนะสำหรบั ผ้ดู ำเนนิ กจิ กรรม ผู้ดำเนินกิจกรรมควรทำความเข้าใจกับผู้เรียนว่า แม้การมีแฟนจะเป็นเร่ืองธรรมดาสำหรับ วัยรุ่นยุคนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าวัยรุ่นทุกคนต้องมีแฟน หลายคนเลือกท่ีจะยังไม่มีแฟนหรือยังไม่ พบคนทพ่ี งึ ใจมากพอทจี่ ะคบเป็นแฟน และด้วยเหตผุ ลหลายอยา่ ง นอกจากนั้น การมีแฟน ยังหมายถึงการเรียนรู้ที่จะรักษาและพัฒนาสัมพันธภาพกับคนอีก คนหน่ึง มีผลกับภาวะทางอารมณ์และจิตใจ โดยอาจมีปัญหาและความขัดแย้งกันบ้างตามท่ีคนมี 98 แฟนต้องเผชญิ อยา่ งไรก็ดี หากมีปัญหาหรือความไม่สบายใจจากการมแี ฟน วยั รุ่นควรหาทาง ปรกึ ษาผ้ใู หญ่ท่ีเขา้ ใจ คู่มอื การจัด กระบวนการเรยี นรู้ เพศศึกษา สำหรบั นักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๒

การวัดและประเมินผล 99 สงั เกตการมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมกลุ่ม และการอภิปรายแลกเปล่ียน แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๓ ใจเขาใจเรา คำถามท้ายบท • หากความคาดหวังของนกั เรียนและผู้ปกครอง หรือพ่อแม่ ไมต่ รงกัน เชน่ พ่อแม่ไม ่ อยากให้นกั เรียนออกไปเทยี่ วนอกบ้านกลางคนื ไม่ให้มแี ฟน นกั เรียนจะปฏิบตั ิอย่างไร

แผน่ คำถาม “ใจเขาใจเรา” กลุ่มที่ ๑ สวมบทบาทเปน็ พ่อแมท่ ม่ี ลี กู เปน็ วัยรุน่ และกำลงั มแี ฟน • คิด/รสู้ ึกอย่างไร เมื่อรวู้ ่าลูกตัวเองมีแฟน • เห็นด้วยหรือไม่ • อยากให้ลูกทำอยา่ งไร • อยากบอกอะไรลูกบ้างในเรือ่ งน ี้ กลุ่มที่ ๒ สวมบทบาทครูทีร่ ู้ว่าลกู ศิษยก์ ำลงั มแี ฟน • คดิ /รู้สกึ อย่างไร เมื่อรู้วา่ ลูกศิษย์ตัวเองมีแฟน • เห็นดว้ ยหรอื ไม ่ • อยากให้ลูกศษิ ย์ทำอยา่ งไร • อยากบอกอะไรลกู ศิษย์บ้างในเรอื่ งน ี้ กลุม่ ท่ี ๓ สวมบทบาทเปน็ เพื่อนๆ ทีม่ ีเพ่ือนในกลมุ่ กำลงั มแี ฟน • คดิ /รู้สกึ อย่างไร เมื่อร้วู า่ เพื่อนมีแฟน • เห็นดว้ ยหรอื ไม ่ • อยากให้เพอ่ื นทำอย่างไร • อยากบอกอะไรเพอ่ื นบ้างในเรอื่ งน ้ี กลมุ่ ท่ี ๔ เราเป็นวยั รนุ่ ทีก่ ำลังมีแฟน • คดิ /ร้สู กึ อย่างไร ท่ตี ัวเองมแี ฟน • อยากบอกคนรอบขา้ งถงึ เรือ่ งการตัดสนิ ใจมแี ฟนของตนอยา่ งไร 100 • อยากใหค้ นรอบขา้ ง เชน่ พอ่ แม่ ครู เพอื่ น คดิ /รสู้ กึ อยา่ งไรกบั การมแี ฟนของเรา ค่มู ือการจัด กระบวนการเรียนร ู้ เพศศกึ ษา สำหรบั นกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒

แผนการเรียนรทู้ ่ี ๔ เพศสัมพันธ ์ มีไดเ้ มื่อใด

แผนการเรยี นรู้ที่ ๔ เพศสมั พันธม์ ีไดเ้ มอื่ ใด สาระสำคญั การจะมีหรือไม่มีเพศสัมพันธ์ และการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย เป็นส่ิงท่ี แต่ละคนสามารถตัดสินใจเลือกได้ด้วยตัวเอง โดยคำนึงถึงผลที่ตามมาและความ พร้อมทีจ่ ะรับผิดชอบของตวั เราเอง โดยทไี่ ม่อาจมีใครบงั คับได้หากเราไม่ยินยอม จุดประสงค ์ ๑. บอกปัจจยั สำคัญที่ควรพจิ ารณาในการตดั สินใจมีเพศสมั พนั ธ์ ๒. บอกวธิ ีป้องกันการมเี พศสมั พันธโ์ ดยไมพ่ รอ้ มและไม่ยนิ ยอม อปุ กรณ์ และส่อื แผน่ คำถาม และป้ายคำตอบ “ได”้ และ “ไมไ่ ด”้ 102 ค่มู ือการจัด กระบวนการเรยี นร้ ู เพศศึกษา สำหรับนักเรยี นช้ัน มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒

ขน้ั ตอนการดำเนินกิจกรรม 103 ๑. ผู้ดำเนินกิจกรรมช้ีแจงวัตถุประสงค์กิจกรรมว่าเป็นการแลกเปล่ียนทัศนะเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ แผนการเรยี นร้ทู ่ี ๔ เพศสมั พันธม์ ีไดเ้ มื่อใด โดยวเิ คราะห์ผลทอี่ าจตามมาจากการตดั สนิ ใจในเรอ่ื งน้ี และใหเ้ ห็นวา่ ไม่มใี ครสามารถบงั คบั ให้ เราตัดสนิ ใจเลอื กในสิง่ ทเ่ี ราไมย่ นิ ยอมได ้ ๒. ผู้ดำเนินกิจกรรมอธบิ ายวา่ จะอ่านข้อความทีละขอ้ ความ และใหผ้ ู้เรียนเลือกตอบโดยการไปยนื ในจุดท่ีตรงกับคำตอบของตนเองว่า “ได้” หรือ “ไม่ได้” ให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นได้อย่าง เตม็ ที่ โดยไม่มถี กู หรือผิด ๓. ผู้ดำเนินกิจกรรมอ่านข้อความทีละข้อความ และสุ่มถามเหตุผลของผู้เรียนทั้งสองฝ่ายในแต่ละ ข้อ โดยเลือกถามเหตุผลที่ไม่ซ้ำกันประมาณ ๓ - ๔ คน จนครบทุกข้อ และบันทึกคำตอบข้ึน บนกระดาน (เพอื่ ดเู กณฑท์ ผ่ี เู้ รยี นใชใ้ นการตดั สนิ ใจ) ๑. ฉนั คดิ วา่ มเี พศสมั พนั ธไ์ ดถ้ า้ ...คนสองคนแตง่ งานกนั แลว้ ๒. ฉนั คดิ วา่ มเี พศสมั พนั ธไ์ ดถ้ า้ ...ทง้ั สองคนวางแผนวา่ จะแตง่ งานกนั ๓. ฉนั คดิ วา่ มเี พศสมั พนั ธไ์ ดถ้ า้ ...ทงั้ สองคนเคยผา่ นประสบการณท์ างเพศกบั คนอน่ื มากอ่ น ๔. ฉนั คดิ วา่ มเี พศสมั พนั ธไ์ ดถ้ า้ ...ทงั้ สองคนรกั กนั ๕. ฉนั คดิ วา่ มเี พศสมั พนั ธไ์ ดถ้ า้ ...ทงั้ สองคนยนิ ยอมพรอ้ มใจแมจ้ ะยงั ไมแ่ ตง่ งานกนั ๖. ฉนั คดิ วา่ มเี พศสมั พนั ธไ์ ดถ้ า้ ...มฝี า่ ยใดฝา่ ยหนงึ่ ชวน ๗. ฉนั คดิ วา่ มเี พศสมั พนั ธไ์ ดถ้ า้ ...ฝา่ ยใดฝา่ ยหนง่ึ เมา ๘. ฉนั คดิ วา่ มเี พศสมั พนั ธไ์ ดถ้ า้ ...ไปคา้ งคนื ตา่ งจงั หวดั ดว้ ยกนั ๙. ฉนั คดิ วา่ มเี พศสมั พนั ธไ์ ดถ้ า้ ...ผชู้ ายถกู กระตนุ้ ใหเ้ กดิ อารมณจ์ นควบคมุ ตวั เองไมไ่ หว ๑๐. ฉนั คดิ วา่ มเี พศสมั พนั ธไ์ ดถ้ า้ ...ผหู้ ญงิ เคยมปี ระสบการณท์ างเพศมากอ่ น ๔. เมอ่ื ถามจนครบทกุ ขอ้ ผดู้ ำเนนิ กจิ กรรมชวนกลมุ่ ใหญค่ ยุ

คำถามชวนคิด • เราเหน็ การใชเ้ กณฑ์อะไรบ้างในการตดั สินใจว่า จะมเี พศสมั พันธไ์ ด้หรือไม่ • ความพร้อมในการมเี พศสัมพันธ์ หมายถงึ อะไรได้บ้าง • คนที่เคยมีประสบการณ์ทางเพศมาก่อน จะตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์ง่ายกว่า คนท่ยี ังไม่เคยจรงิ หรือไม่ เพราะอะไร • เมื่ออยใู่ นสถานการณ์ “สองตอ่ สอง” ใครควรเป็นฝา่ ยตดั สินใจวา่ จะมี เพศสัมพนั ธ์หรอื ไม่ เพราะอะไร • หากคนสองคนตดั สนิ ใจรว่ มกนั วา่ จะมเี พศสมั พนั ธ์ ตอ้ งคำนงึ ถงึ เรอ่ื งอะไรบา้ ง • หากฝ่ายหน่ึงต้องการมี และอีกฝ่ายหน่ึงไม่ต้องการ ควรจะตกลงกัน อยา่ งไร • มีกรณีใดบา้ งท่เี กดิ ความเข้าใจผดิ วา่ อกี ฝา่ ยยินยอมทจ่ี ะมเี พศสมั พันธ์ ทงั้ ทไ่ี มย่ นิ ยอม และจะมีวธิ ีปอ้ งกันอยา่ งไร ๕. ผดู้ ำเนนิ กจิ กรรมสรปุ ประเดน็ ดงั น ้ี • แม้ทุกคนจะเรียนรู้จากครอบครัวและสังคมว่า ควรจะมีเพศสัมพันธ์ได้เมื่อใด แต่ละคนก็ยัง มีทัศนะและความเชื่อเป็นของตัวเองในเร่ืองน้ีซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจ ดังที่เราเห็นจาก คำถามท้งั ๑๐ ขอ้ • การตัดสินใจว่าจะมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ แต่ละคนสามารถและมีสิทธ์ิตัดสินใจเลือกด้วย ตนเอง และควรเกิดจากความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองคน การสร้างเงื่อนไข โน้มน้าว ชักจูง หลอกล่อ ข่มขู่ บีบบังคับ ขืนใจ หรือย่ืนข้อเสนอแลกเปล่ียน ล้วนถือเป็นการไม่ เคารพสิทธิผู้อ่ืน และมีความผิดตามกฎหมายได้ เพราะเปน็ การลว่ งละเมิดทางเพศ 104 คู่มือการจดั กระบวนการเรยี นร้ ู เพศศึกษา สำหรบั นักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๒

• เพศสมั พนั ธ์โดยไม่ยินยอมพร้อมใจ นอกจากการข่มขืน ขืนใจ แลว้ ยงั หมายถึงกรณีตอ่ ไปน ้ี 105 - การบังคบั ผ้อู ื่นให้มเี พศสัมพันธ ์ - การไม่เคารพและไม่รับฟังเมื่ออีกฝ่ายหน่ึงบอกปฏิเสธว่า “ไม่ต้องการมีเพศสัมพันธ์” แผนการเรยี นร้ทู ่ี ๔ เพศสมั พันธม์ ีไดเ้ มื่อใด หรือขอใหห้ ยุด - การพยายามมเี พศสมั พนั ธ์ ในขณะทอี่ ีกฝา่ ยหนึ่งเมาหรือขาดสติทีจ่ ะตดั สนิ ใจ - การบงั คับ ขเู่ ข็ญ หรือหลอกลวงเพ่ือมีเพศสมั พนั ธ์ • การมปี ระสบการณ์ทางเพศมาก่อน ไม่ได้หมายความว่า จะสามารถมเี พศสมั พันธค์ รงั้ ต่อไป ไดง้ า่ ยข้นึ ดงั น้ัน จึงไม่ควรตัดสนิ คนท่เี คยมีประสบการณ์มากอ่ น • หากคนสองคนตัดสินใจและยินยอมพร้อมใจในการมีเพศสัมพันธ์ ทั้งคู่ควรรู้ว่าเพศสัมพันธ์ จะก่อให้เกิดผลอะไรตามมาบ้าง และรู้ว่าจะเป็นความรับผิดชอบร่วมกันต่อผลท่ีจะเกิดข้ึน นอกจากน้ัน ต้องคิดถึงการป้องกันตนเองจากความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีและเช้ือโรค ตดิ ตอ่ ทางเพศสัมพันธ์ รวมท้ังการตง้ั ครรภโ์ ดยไมพ่ ร้อมดว้ ย ข้อเสนอแนะสำหรบั ผู้ดำเนินกจิ กรรม อาจมีคำถามหลายข้อท่ีผู้เรียนไม่กล้าแสดงความคิดเห็นของตนอย่างแท้จริง เนื่องจากเกิด บรรยากาศที่ไม่เอื้อให้แสดงความเห็นได้อย่างเต็มที่ อาจใช้วิธีให้ผู้เรียนตอบคำถามลงในกระดาษ พรอ้ มทงั้ บอกเหตผุ ลโดยไมล่ งชอื่ และนำมาสรปุ ประเดน็ สำคญั แตว่ ธิ กี ารนจี้ ะใชเ้ วลามาก ผดู้ ำเนนิ กิจกรรมควรพิจารณาปรับคำถามให้เข้ากับสภาพแวดล้อม และควรระมัดระวังการอธิบายพูดคุยเชิง โนม้ เอยี ง เชน่ เพศสมั พนั ธเ์ ปน็ การกระทำทไ่ี มด่ ี ไมเ่ หมาะสม หรอื ใชท้ า่ ทสี งั่ สอนวา่ วยั รนุ่ ไมค่ วรมี เพศสมั พนั ธ์ เพราะจะปดิ กนั้ การแสดงความเหน็ ของผเู้ รยี น

การวัดและประเมนิ ผล สงั เกตการมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ และการอภปิ รายแลกเปลย่ี น คำถามทา้ ยบท • “ความพรอ้ มของการมีเพศสมั พันธ์” หมายความว่าอยา่ งไร • บอกวิธกี ารปอ้ งกันการมเี พศสมั พันธ์เม่อื ไม่พรอ้ ม 106 ค่มู อื การจดั กระบวนการเรียนร ู้ เพศศึกษา สำหรับนกั เรียนช้ัน มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒

แผ่นกิจกรรม กรณเี ลอื กใชว้ ธิ ีให้ผูเ้ รียนตอบในกระดาษแทน ฉนั คดิ วา่ ตวั เองพร้อมจะมีเพศสัมพันธ์เมือ่ ได ้ ไมไ่ ด ้ 107 ๑. แต่งงานกนั แลว้ ๒. วางแผนว่าจะแต่งงานกัน แผนการเรยี นร้ทู ่ี ๔ เพศสมั พันธม์ ีไดเ้ มื่อใด ๓. เคยผา่ นประสบการณ์ทางเพศกับคนอืน่ มากอ่ น ๔. รักกนั ๕. ยินยอมพร้อมใจแมจ้ ะยังไมแ่ ตง่ งานกนั ๖. ฝ่ายใดฝา่ ยหนงึ่ ชวน ๗. ฝา่ ยใดฝ่ายหน่งึ เมา ๘. ไปค้างคืนตา่ งจังหวดั ดว้ ยกัน ๙. ผ้ชู ายถูกกระตนุ้ ให้เกดิ อารมณจ์ นควบคมุ ตวั เองไมไ่ หว ๑๐. ผู้หญงิ เคยมีประสบการณท์ างเพศมาก่อน

โรงเรียนควรใหม้ ชี มรมเพศศกึ ษา ที่มีความเขา้ ใจวัยร่นุ ใหเ้ ดก็ มคี วามร ู้ และเขา้ ใจในเรื่องเพศ เพราะเรือ่ งเพศเป็นเรอื่ งสิทธิสว่ นบคุ คล แตล่ ะคนตดั สินใจเอง วา่ จะมหี รอื ไม่มเี พศสัมพนั ธ์ แต่ทุกคนควรจะรูจ้ กั วิธปี อ้ งกันตนเอง และป้อ งกนั คู ่ ขนษิ ฐา หงสแ์ ดง ปวช.๑ วทิ ยาลัยการอาชีพหนองหาน จ.อุดรธาน ี (จากงานประชุมวิชาการเพศศึกษาครั้งท่ี ๑ เดอื นตลุ าคม ๒๕๔๗)

แผนการเรยี นรู้ที่ ๕ แลกนำ้

แผนการเรยี นรทู้ ี่ ๕ แลกนำ้ สาระสำคญั โอกาสการติดเชื้อเอชไอวีเกิดขึ้นได้กับทุกคนรวมท้ังวัยรุ่น หากมีเพศสัมพันธ์โดย ไม่ป้องกัน (ไม่ใช้ถุงยางอนามัย) กับคนท่ีมีเชื้อเอชไอวี ซ่ึงไม่สามารถบอกได้ว่ามี เชื้อหรือไม่จากการดูรูปลักษณ์ภายนอก การไม่มีเพศสัมพันธ์เป็นวิธีท่ีดีที่สุดท่ีจะ ทำให้ไม่ได้รับเช้ือเอชไอวี แต่หากมีเพศสัมพันธ์ ถุงยางอนามัยเป็นอุปกรณ ์ คุมกำเนิดชนิดเดียวทีใ่ ช้ปอ้ งกันการติดเชื้อเอชไอวไี ด้ จดุ ประสงค ์ ๑. ระบโุ อกาสเสย่ี งของตนตอ่ การไดร้ บั เชือ้ เอชไอวี ๒. บอกวธิ ีปอ้ งกนั การติดเช้อื เอชไอวีทีต่ นเองม่นั ใจว่าทำได้ อุปกรณ์ และสื่อ ๑. กระดาษฟลปิ ชาร์ท ปากกาเคมี ๒. ภาพประกอบเครือขา่ ยการมเี พศสมั พันธ ์ 110 ๓. ชดุ เลน่ กจิ กรรมแลกน้ำ กระคบมู่วนือกกาารรเจ รัดยี นรู้ • สารโซเดยี มไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ) เพศศึกษา สำหรบั นกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๒

• น้ำเปล่า 111 • ขวดใส่น้ำจำนวนสองเท่าของผู้เรียน (ควรใช้ขวดใส มีปากกว้างพอควร แผนการเรยี นรู้ท่ี ๕ แลกนำ้ และขนาดพอมอื หยิบถือได้สะดวก) • หลอดฉดี ยาขนาด ๕ ซีซี เทา่ จำนวนผู้เรียน • สารละลายฟีนอฟทาลนี (สำหรบั ทดสอบ) • ถาดสำหรบั ใส่ขวดน้ำไวแ้ จก หรือโต๊ะสำหรับตงั้ ขวดนำ้ การเตรยี มการกอ่ นเรมิ่ ดำเนนิ กิจกรรม • ใส่สารโซเดียมไฮดรอกไซด์ที่ผสมน้ำเปล่าแลว้ ในขวดแกว้ ใส ๑ ใบ (ปริมาณประมาณคร่ึงขวด) (ไม่ควรผสมโซเดียมฯ กบั นำ้ ท้ิงไวน้ านเกินไป) • ใสน่ ำ้ เปลา่ ลงในขวดท่เี หลอื ทุกใบ ให้ไดป้ ระมาณครึ่งขวด • แยกขวดที่ใส่น้ำเปล่าไว้ ๖ ใบ และนำขวดทใ่ี สส่ ารโซเดียมไฮดรอกไซด์วางปนกับขวดทเี่ หลอื ใน ถาดทีจ่ ัดเตรยี มไว้ • นำหลอดฉดี ยาใส่ไวใ้ นแต่ละขวด • เตรยี มขวดแกว้ เปลา่ อกี ชดุ หนงึ่ เทา่ จำนวนผเู้ รยี น วางเรยี งไวเ้ พอ่ื ใหแ้ ตล่ ะคนหยดนำ้ ของตวั เอง เก็บไว้ ขนั้ ตอนการดำเนินกจิ กรรม ๑. ผู้ดำเนินกิจกรรมอธิบายวิธีการเล่นว่า “แลกน้ำ” เป็นการจำลองสถานการณ์การแพร่ระบาด ของเชือ้ เอชไอวี ทกุ คนจะมีสว่ นร่วมในการเล่นกจิ กรรม ๒. ขออาสาสมัคร ๖ คน และแจกขวดนำ้ พร้อมหลอดฉีดยา (ทีแ่ ยกเอาไว้ ๖ ขวด) ใหอ้ าสาสมัคร ถือไว้คนละขวด ให้อาสาสมัครดูดน้ำในขวดท่ีได้ไปประมาณครึ่งหลอดฉีดยา แล้วนำไปฉีดใส่ ขวดเปลา่ ทเ่ี ตรยี มไวใ้ ห้ จากนน้ั แยกขวดนำ้ ๖ ขวดทอี่ าสาสมคั รฉดี นำ้ ของตวั เองเกบ็ ไวต้ า่ งหาก บอกใหอ้ าสาสมัครน่ังรวมกนั อยดู่ ้านหน่งึ ของหอ้ ง โดยยงั ไมต่ ้องรว่ มกจิ กรรม

๓. แจกขวดนำ้ พร้อมหลอดฉีดยาที่เหลอื ใหก้ บั ผ้เู รียนทั้งหมดคนละ ๑ ขวด โดยใหผ้ เู้ รียนหยบิ เอง ๔. ผู้ดำเนินกิจกรรมบอกให้ผู้เรียนสังเกตน้ำในขวดของตัวเองว่าเหมือนกับขวดของเพ่ือนหรือไม่ จากนั้นให้แต่ละคนใช้หลอดฉีดยาดูดน้ำของตัวเองประมาณคร่ึงหลอดไปใส่ไว้ในขวดเปล่าที่ เตรยี มไวใ้ ห้ ๕. หลงั จากทุกคนได้เก็บน้ำของตวั เองแลว้ ให้ทกุ คนยกเวน้ อาสาสมัครมายนื ล้อมวงรวมกนั ให้ทุก คนทำความคุ้นเคยกับการใช้หลอดฉีดยาดูดน้ำในขวดของตัวเอง พร้อมท้ังสังเกตสีของน้ำใน ขวดของตัวเองดว้ ยว่าเปน็ อย่างไร ตา่ งกบั ของเพอื่ นหรอื ไม ่ ๖. ผดู้ ำเนนิ กิจกรรมเร่ิมเล่น • รอบที่ ๑ บอกให้ผู้เรียนทุกคน (ยกเว้นอาสาสมัคร ๖ คน) เลือกจับคู่กับใครก็ได้ที่ถูกใจ เมื่อทุกคนได้คู่ครบแล้วให้หันหน้าเข้าหากัน และแต่ละคนดูดน้ำของตัวเองขึ้นมาปริมาณ คร่ึงหลอด แล้วฉีดน้ำในหลอดฉีดยาที่ดูดขึ้นมาใส่ในขวดของคู่ตัวเอง (ต่างฝ่ายต่างฉีดใส่ ขวดกันและกัน) จากน้ันให้แต่ละคนใช้หลอดฉีดยาคนน้ำในขวดของตัวเอง และสังเกตว่า นำ้ ในขวดเปลย่ี นไปจากเดิมหรือไม่ • รอบท่ี ๒, ๓ และ ๔ ให้ผู้เรียนแต่ละคนจับคู่กับคนใหม่ โดยไม่ให้ซ้ำคนเดิม โดยผู้ดำเนินกิจกรรมอธิบายให้ ชัดเจนในแต่ละรอบว่า ให้หาคู่คนใหม่ท่ีไม่ใช่คนเดิมท่ีเคยแลกน้ำกันไปแล้ว เมื่อจับคู่ได้ให้ ฉีดน้ำของตัวเองใส่ในขวดของคู่ ผู้ดำเนินกิจกรรมกระตุ้นให้ผู้เรียนจำหน้า/ชื่อคนที่แลกน้ำ ดว้ ยให้ได้ • รอบที่ ๕ ให้อาสาสมัครท้งั ๖ คนเข้ามาร่วมเลน่ ดว้ ย โดยให้อาสาสมคั รเลือกจบั คูก่ ับคนใน กลุ่มใหญ่และห้ามอาสาสมัครจับคู่กันเอง เม่ืออาสาสมัครได้คู่แล้ว ให้ผู้เรียนท่ีเหลือจับคู่ กันเองโดยอสิ ระ เม่อื ทุกคนมคี คู่ รบแล้วกใ็ หแ้ ลกนำ้ กันอีก ๑ คร้ัง จากน้นั ใหท้ ุกคนกลบั ไป น่งั ท่แี ละนำขวดมาไว้ข้างหน้าตัวเอง ๗. ถามผเู้ รียนวา่ 112 • หากเปรียบเทียบกิจกรรม “แลกน้ำ” กับเรื่องเอดส์ การแลกน้ำอาจเปรียบเทียบได้กับ อะไร​ (การจำลองภาพการมเี พศสมั พันธก์ ัน) คมู่ ือการจดั กระบวนการเรยี นรู้ เพศศึกษา สำหรับนักเรยี นช้ัน มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒

• จากการ “แลกนำ้ ” ที่ทุกคนมสี ่วนร่วม เราเห็นรูปแบบการมีเพศสัมพนั ธ์แบบใดบา้ ง (มเี พศ 113 สมั พันธก์ บั คนหลายคน, มกี ารเปล่ียนค่,ู มีคู่หลายคน, มคี คู่ นเดยี ว, มีเพศสมั พันธ์คร้งั เดียว, มีแบบไม่ป้องกนั ฯลฯ) แผนการเรยี นรู้ท่ี ๕ แลกนำ้ • หากมผี ตู้ ดิ เชอ้ื เอชไอวใี นวงน้ี เรารหู้ รอื ไมว่ า่ เปน็ ใครบา้ ง รไู้ ดอ้ ยา่ งไร โดยเปรยี บเทยี บกบั ขวด นำ้ ท่ที ุกคนถืออยู่ (เชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ เร่ืองนำ้ ใสๆ ดไู ม่ออก เหมอื นมีเชอ้ื เอชไอวี แตด่ ูไมอ่ อก) ๘. บอกผเู้ รยี นวา่ ในวงนมี้ ผี ตู้ ดิ เชอื้ อยู่ (ขวดนำ้ ทม่ี เี ชอ้ื ) เราบอกไดห้ รอื ไมว่ า่ มใี ครบา้ ง เพราะเหตใุ ด (ยงั ไมต่ ้องเฉลยว่ามีขวดตง้ั ตน้ ก่ขี วด) • หากมคี นทม่ี เี ชอ้ื อยใู่ นวงนี้ ใครทค่ี ดิ วา่ ตวั เองอาจมโี อกาสเสยี่ งในการรบั เชอื้ บา้ ง เพราะเหตใุ ด • เราจะรูไ้ ด้อย่างไรวา่ ใครมเี ช้ือเอชไอว ี (วธิ เี ดียวที่จะรไู้ ดค้ ือ การตรวจเลอื ดหาเชื้อเอชไอว)ี ๙. ถามความสมัครใจวา่ ผเู้ รยี นคนใดอยากตรวจหาเช้ือเอชไอวบี ้าง • ถ้ามีคนต้องการตรวจ เลือก ๑ คน และอธิบายว่า เมื่อใช้สารทดสอบหยดลงในขวด หาก น้ำเปลี่ยนสีเป็นสีม่วง หมายถึงขวดๆ น้ันมีเช้ือ จากนั้นนำสารฟีนอฟทาลีนไปหยดในขวด นำ้ ของคนท่ตี ้องการตรวจคนแรก หากสีไม่เปลยี่ น ให้หาคนที่ตอ้ งการตรวจจากกลมุ่ ใหญ่อีก ๑ คน จนหยดสารแลว้ พบวา่ เปล่ยี นส ี ๑๐. เมอ่ื ตรวจพบว่านำ้ ของใครเปลีย่ นสเี ป็นขวดแรก ให้ชวนเจา้ ของขวดพดู คุย • ถามเจ้าของขวดว่ารู้สึกอย่างไรท่ีน้ำของตัวเองเปล่ียนสี คิดว่าเป็นเพราะเหตุใด หากมีการ ระบุว่าไดร้ ับเชอ้ื จากคนอนื่ ให้ลองบอกวา่ เป็นใคร เพราะอะไร • จากน้ันถามกลุ่มว่า ถา้ ขวดน้ีเปลี่ยนสี ใครคิดว่าขวดของตวั เองจะเปลย่ี นด้วย ใหย้ นื ขึ้น • ถามต่อวา่ เม่ือเหน็ คนที่คิดวา่ ตัวเองอาจมโี อกาสเส่ยี งยืนข้นึ ใครคดิ ว่าตนเองก็มีโอกาสเสย่ี ง อกี บา้ ง ใหย้ นื ขน้ึ ถามเหตผุ ล และถามตอ่ อกี ๒ - ๓ รอบใหเ้ หน็ วา่ คนสว่ นใหญใ่ นหอ้ งยนื ขนึ้ • ชี้ให้เห็นว่า เราเพิ่งรู้ว่ามีคนๆ เดียวในห้องนี้ที่มีเช้ือ แต่มีอีกหลายคนมากที่รู้สึกว่าตนเอง อาจมโี อกาสเสี่ยงดว้ ย ถามผเู้ รียนว่ารสู้ ึกหรือคดิ อย่างไรกับสถานการณ์ดังกลา่ ว ๑๑. ถามวา่ ใครอยากตรวจอีกบ้าง ลองตรวจ (โดยเมือ่ เจอขวดท่ีเปลย่ี นสี อกี ๒ - ๓ ขวดลองถามว่า คิดว่าได้รับจากใคร) จากน้ันผู้ดำเนินกิจกรรมบอกว่า จะบังคับตรวจทุกคน ยกเว้นอาสาสมัคร ๖ คน นบั จำนวนขวดท่เี ปลีย่ นส ี

๑๒. สำหรับอาสาสมัคร ผูด้ ำเนินกจิ กรรมถามผเู้ รยี นในกลมุ่ ใหญว่ า่ • อาสาสมคั รแลกนำ้ กีค่ รั้ง เปรยี บเทยี บไดก้ ับใคร/พฤติกรรมอะไรบา้ งในสังคม (มีเพศสมั พนั ธ์ครง้ั เดยี ว, มคี รั้งแรก, มีคู่คนเดยี ว, รกั เดียวใจเดยี ว) • คิดว่าขวดของอาสาสมคั รมโี อกาสเปล่ยี นสหี รอื ไม่ เพราะเหตุใด • จากน้ันตรวจอาสาสมคั ร และนบั จำนวนขวดน้ำที่เปลี่ยนส ี ๑๓. หากมีขวดน้ำอาสาสมัครเปลยี่ นสี ต้งั คำถามต่อวา่ • การรักเดยี วใจเดียว มคี คู่ นเดียว ชว่ ยใหป้ ลอดภัยจากเอดสจ์ ริงหรอื ไม ่ และชวนผเู้ รียนอภปิ รายถึงสาเหตุทท่ี ำให้การมีเพศสมั พนั ธ์คร้ังเดยี วกอ็ าจตดิ เชือ้ ได้ ๑๔. ผู้ดำเนินกิจกรรมเขียนแผ่นใส เพ่ือให้เห็นจำนวนขวดน้ำที่เปลี่ยนสี (ติดเช้ือ) จากจำนวนขวด ในกลุ่มใหญ่ทั้งหมด จากการแลก ๕ ครั้ง และจำนวนขวดอาสาสมัครที่เปล่ียนสีใน ๖ ขวด จากการแลกนำ้ เพยี ง ๑ ครั้ง • โอกาสเสี่ยงของ ๒ กลุ่มนี้เหมอื นหรือตา่ งกนั อย่างไร ๑๕. ถามผ้เู รียนว่า จากจำนวนขวดน้ำทเ่ี ปลี่ยนสไี ปทง้ั หมด คิดว่ามขี วดต้ังตน้ ก่ีขวด • จากนั้น เฉลยโดยการนำสารฟีนอฟทาลีนมาหยดใส่ขวดท่ีเก็บน้ำของแต่ละคนไว้ในคร้ังแรก ทุกขวด (รวม ๖ ขวดของอาสาสมัครที่ไม่มีเชื้ออยู่ตั้งแต่แรก) ซ่ึงจะเห็นว่ามีเพียงขวดเดียว เทา่ นั้นท่ีเปล่ียนสี • อธบิ ายวา่ กจิ กรรมแลกนำ้ เปน็ การจำลองการแพรร่ ะบาดของเชอื้ เอชไอวี จาก ๑ ขวด แลกกนั ๕ ครงั้ ทำใหน้ ำ้ เปลย่ี นสไี ปอกี กข่ี วด ถามวา่ คดิ /รสู้ กึ อยา่ งไร กบั สงิ่ ทเี่ หน็ จากกจิ กรรมนบ้ี า้ ง ๑๖. ผู้ดำเนินกิจกรรมชวนคุยสรุปการเรียนรู้จากกิจกรรม “แลกน้ำ” โดยให้ผู้เรียนช่วยกันสรุปว่า “โอกาสการตดิ เชอื้ เอชไอวี คอื ........” โดยผดู้ ำเนนิ กจิ กรรมพยายามตงั้ คำถามเพอื่ นำไปสคู่ ำตอบ (การมเี พศสัมพันธ์โดยไมป่ ้องกนั กับคนท่มี ีเช้ือเอชไอวีซงึ่ ดไู ม่ออกจากภายนอก) ถามตอ่ วา่ ใครมโี อกาสทำพฤตกิ รรมแบบนีบ้ า้ ง (ทุกคน รวมทัง้ วัยรุ่นดว้ ย) 114 ๑๗. ผู้ดำเนินกิจกรรมชี้ให้เห็นว่า โอกาสการได้รับเชื้อเอชไอวีเป็นเร่ืองของ “พฤติกรรมเสี่ยง” ซึ่งทุกคนมีโอกาสทำพฤติกรรมดังกล่าว ไม่ใช่ “กลุ่มเส่ียง” ตามความเข้าใจเดิมท่ีว่า คูม่ อื การจัด กระบวนการเรียนร ู้ เพศศกึ ษา สำหรบั นกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒

มคี นเพยี งบางกลุม่ ท่อี าจมีโอกาสได้รบั เชอื้ เช่น ผขู้ ายบรกิ ารทางเพศ ผู้ใช้เขม็ ฉีดยาเสพติดร่วม 115 กนั เป็นต้น ๑๘. ต้ังประเด็นพูดคุยกับผู้เรียนว่า กิจกรรมน้ีเป็นการจำลองภาพการมีเพศสัมพันธ์ของคน ๕ ครั้ง แผนการเรยี นรู้ท่ี ๕ แลกนำ้ ซึ่งเป็นโอกาสท่ีคนจะได้รับเชื้อเอชไอวีไปจำนวนหน่ึงตามท่ีเห็นจากกิจกรรมน้ี จากน้ันผู้ดำเนิน กจิ กรรมกระต้นุ ผเู้ รียนโดยถามว่า • ในชีวติ จรงิ แต่ละคน (จะ) มโี อกาสมเี พศสัมพนั ธ์กค่ี รงั้ และกับคนมากกว่า ๑ คนหรือไม ่ • การเปลย่ี นคู่ หรอื มคี ู่นอนมากกวา่ ๑ คน เกิดขึน้ ไดอ้ ย่างไรบา้ ง มโี อกาสเกิดข้ึนในชวี ิตเรา ไดห้ รอื ไม่ อย่างไร • เราจะบอกกับคปู่ ัจจบุ นั เก่ยี วกบั คู่นอนในอดตี หรอื ไม่ เพราะเหตุใด ส่มุ ถามท้ังหญงิ และชาย ตั้งข้อสังเกตความแตกต่างของการเปิดเผยประสบการณ์ทางเพศของหญิงชาย ใครบอกยาก งา่ ยกวา่ กัน ๑๙. ให้ผู้เรียนเสนอวิธีการป้องกันโดยผู้ดำเนินกิจกรรมจดขึ้นบนกระดานหรือกระดาษฟลิปชาร์ท จากนนั้ ให้ผ้เู รียนช่วยกันเรียงลำดับว่า วิธกี ารท่ี “ง่ายและเป็นไปไดท้ ี่สดุ ” และผู้ดำเนินกิจกรรม ช่วยซักถามถึงเหตุผล ความเป็นไปได้ถ้าอยู่ในสถานการณ์จริง รวมท้ังแก้ไขความเข้าใจผิดท ่ี ผู้เรียนอาจมเี กีย่ วกับการปอ้ งกันการติดเชื้อเอชไอว ี ๒๐. ผ้ดู ำเนินกิจกรรมสรปุ ประเด็นสำคัญจากกจิ กรรมแลกน้ำ ดงั น ี้ • โอกาสเสี่ยงต่อการติดเช้ือเอชไอวี เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัยกับ ผู้ติดเช้ือซ่ึงดูไม่ออกจากรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการติดเช้ือของหญิงชาย ในวยั เจริญพนั ธมุ์ ากกวา่ การใช้ยาเสพติดชนิดฉีด หรอื จากแมต่ ิดเชอื้ สู่ลกู ในครรภ ์ • อธิบายความแตกต่างของ “ผ้ตู ิดเชอ้ื ” กับ “ผ้ปู ่วยเอดส”์ - “ผู้ติดเชื้อ” หมายถึง ผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีอยู่ในร่างกาย แต่ไม่มีอาการแสดงใดๆ และยัง แข็งแรง สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ท้ังนี้ ผู้ท่ีได้รับเชื้อไปแล้ว ก็อาจไม่ทราบว่า ตนเองมีเชอ้ื อยู่ หากไมไ่ ด้ไปตรวจเลือดหาเช้ือเอชไอวี - “ผู้ป่วยเอดส์” หมายถึง ผู้ท่ีได้รับเชื้อเอชไอวีมาระยะหนึ่ง จนกระท่ังภูมิคุ้มกันถูก ทำลายมากจนทำให้มีอาการป่วยด้วยโรคฉวยโอกาส เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ เป็นต้น

ซ่ึงโรคฉวยโอกาสเหล่านี้ สามารถป้องกันและรักษาให้หายได้ เม่ือหายจากอาการป่วย เหล่านี้ ก็จะเป็นผู้ติดเชื้อเหมือนเดิม ขณะนี้ยาต้านไวรัสเอชไอวีสามารถช่วยให้ผู้ติดเชื้อ สามารถมีสขุ ภาพแข็งแรงได้นานขน้ึ • วิธีเดียวท่ีจะรู้ว่าใครมีเช้ือคือการตรวจเลือดหาเช้ือเอชไอวีหลังจากมีพฤติกรรมเสี่ยงมาแล้ว ๓ เดอื น • เพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกันอาจนำมาซึ่งผลกระทบหลายอย่าง เช่น การต้ังครรภ์โดยไม่พร้อม การติดเชอื้ โรคติดต่อทางเพศสมั พนั ธ์ และเชือ้ เอชไอวี • ถุงยางอนามัยเป็นวิธีป้องกันการติดเช้ือเอชไอวีที่มีประสิทธิภาพ ถ้าใช้อย่างถูกวิธีและใช้ทุก ครงั้ กบั ทุกคนเมอ่ื มีเพศสมั พันธ์ • แม้รู้ว่าเชื้อเอชไอวีติดต่อกันอย่างไร และรู้วิธีป้องกัน แต่หลายคนประเมินความเสี่ยงของ ตนเองและคู่ “พลาด” เพราะ - ม่ันใจในคู่ท่ีตัวเองเลือกแล้วโดยดูจากคุณสมบัติภายนอก หรืออ่ืนๆ แต่ละเลยการศึกษา พดู คยุ เก่ียวกับประวัติการมเี พศสมั พนั ธ์ - เห็นวา่ ผลการตรวจเลือดเป็นลบ แตผ่ ลเลอื ดลบอาจหมายถงึ ไดร้ ับเชื้อมาแล้ว แต่ยงั ตรวจ ไม่พบ เพราะมีช่วงระยะเลือดแฝง (window period) ๓ เดือนแรกหลังรับเช้ือท่ีจะยัง ตรวจไม่พบการติดเช้อื - เลอื กใช้ถงุ ยางอนามัยกบั บางคน บางสถานการณ์เท่าน้ัน - ม่ันใจเร่อื งรักนวลสงวนตวั หรือรกั เดียวใจเดยี วของตวั เอง (ไมเ่ คยมเี พศสัมพันธ์กบั ใครมา กอ่ น) แต่ลืมประเมินควู่ า่ มีพฤตกิ รรมแบบเดียวกนั หรือไม ่ - ไม่กล้าพดู คยุ กับคเู่ รื่องการใช้ถุงยางอนามยั เพอื่ ปอ้ งกนั เพราะกลัวอีกฝา่ ยจะไม่พอใจ คดิ ว่าไม่เชือ่ ใจ - อาย ไม่กล้าเร่ิมพูดเรอ่ื งเพศกับค่มู ากอ่ น 116 คู่มือการจัด กระบวนการเรยี นร้ ู เพศศึกษา สำหรับนกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒

ขอ้ เสนอแนะสำหรับผดู้ ำเนนิ กจิ กรรม 117 กิจกรรมนี้ต้องการห้องท่ีผู้เรียนสามารถเดินไปมาได้สะดวก เพราะจะทำให้ประหยัดเวลา แผนการเรยี นรู้ท่ี ๕ แลกนำ้ ควรจัดสถานทแ่ี ละเตรยี มอุปกรณ์ล่วงหน้าไวเ้ พื่อให้มเี วลาเหลือพอสำหรับการอภิปรายและสรุป การวัดและประเมนิ ผล สังเกตการมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมกลมุ่ และการอภปิ รายแลกเปลยี่ น คำถามทา้ ยบท • บอกวิธลี ดโอกาสเส่ยี งตอ่ การตดิ เช้ือเอชไอวี/เอดส์ ท่ีคิดว่าทำไดจ้ ริงและปลอดภยั มา ๑ วิธ ี

ภาพประกอบ เครือ ่ขายการ ีมเพศ ัสมพัน ์ธ 118 คมู่ ือการจดั กระบวนการเรยี นร ู้ เพศศกึ ษา สำหรับนกั เรียนช้ัน มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒

แผนการเรียนรทู้ ่ี ๖ 119แผนการเรยี นรู้ท่ี ๕ แลกนำ้ รจู้ ัก คุ้นเคย

แผนการเรียนรทู้ ี่ ๖ รู้จัก คนุ้ เคย สาระสำคัญ การเรียนรู้เร่ืองวิธีการคุมกำเนิด การป้องกันการต้ังครรภ์ท่ีไม่พร้อม และการ ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นการเรียนรู้เพื่อการดูแลสุขภาพทางเพศเม่ือ จำเป็นต้องใช้ ซึ่งเร่ืองดังกล่าวเป็นความรับผิดชอบของแต่ละคนที่ต้องมีต่อตัวเอง เช่นเดียวกบั การดแู ลสขุ ภาพอนามัยทว่ั ไป จุดประสงค ์ ๑. อธบิ ายวธิ กี ารคมุ กำเนดิ การใชอ้ ปุ กรณ์ และประสทิ ธภิ าพของแตล่ ะวธิ ไี ดถ้ กู ตอ้ ง ๒. ตระหนกั วา่ การคมุ กำเนดิ เปน็ ความรบั ผดิ ชอบของทงั้ หญงิ และชายในการดแู ล ตัวเองเช่นเดียวกับการดูแลสุขภาพท่ัวไป ไม่ใช่ความรับผิดชอบของเพศใด เพศหนงึ่ เท่านั้น อปุ กรณ์ และสอ่ื ๑. ตวั อย่างอุปกรณ์คมุ กำเนิด ไดแ้ ก่ 120 • ยาคมุ กำเนิดชนดิ เม็ด แบบแผง ๒๑ เมด็ และ ๒๘ เมด็ กระคบ่มูวนอื กกาารรเจ รัดยี นร้ ู • ยาคมุ กำเนิดฉกุ เฉิน สำหรเพับศนศักึกเรษยี าน ช้นั • ถุงยางอนามยั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒

๒. บัตรคำเขยี นวา่ “หลั่งข้างนอก” กับ “การนบั หน้า ๗ หลงั ๗” 121 ๓. ตารางแสดงข้อมูลวธิ ีคุมกำเนดิ แตล่ ะวธิ ี นอกจากยาคุมชนิดเม็ด ถงุ ยางอนามัย และหลง่ั ขา้ งนอก แผนการเรียนร้ทู ่ี ๖ ร้จู กั ค้นุ เคย ๔. กระดาษฟลปิ ชารท์ ๕. กระดาษกาว ๖. ปากกาเคม ี ข้ันตอนการดำเนินกิจกรรม ๑. ผู้ดำเนินกิจกรรมช้ีแจงวัตถุประสงค์ของกิจกรรมน้ีว่าเพ่ือเป็นการทำความรู้จักวิธีการคุมกำเนิด แบบต่างๆ โดยเหน็ ตวั อยา่ งอปุ กรณข์ องจรงิ ๒. แบ่งกลุ่มผู้เรียนเป็น ๕ กลุ่ม แจกกระดาษฟลิปชาร์ท ปากกาเคมีให้แต่ละกลุ่ม และให้ส่ง ตวั แทนกลุ่มออกมาเลือกอปุ กรณค์ มุ กำเนดิ ท่ีจดั ไวก้ ลุ่มละชนิด • ยาคุมกำเนดิ ชนิดเมด็ (๒๑ เม็ด และ ๒๘ เม็ด) • ยาคมุ ฉุกเฉิน • ถงุ ยางอนามยั • บตั รคำ “หลั่งข้างนอก” • บัตรคำ “การนับหนา้ ๗ หลัง ๗” ๓. ให้แต่ละกลุ่มช่วยกันอธิบายว่า อุปกรณ์คุมกำเนิดท่ีเลือกมาน้ันมีวิธีการใช้อย่างไร มี ประสทิ ธภิ าพอย่างไร โดยให้เขียนคำตอบลงบนกระดาษฟลิปชารท์ ให้เวลากลุ่มยอ่ ย ๑๐ นาท ี ๔. จากน้ัน ให้แต่ละกลุ่มออกมาอธิบายประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสาธิตวิธีการคุมกำเนิดของกลุ่มตน (กลุ่มละ ๕ นาท)ี ๕. ผูด้ ำเนนิ กจิ กรรมช่วยเพม่ิ เติมขอ้ มูล หรือแก้ไขหากเปน็ ขอ้ มูลทไี่ ม่ถูกต้องของแตล่ ะกล่มุ ๖. เมือ่ ทกุ กลุ่มนำเสนอแล้ว ผู้ดำเนินกิจกรรมชวนคุย โดยใช้คำถามดงั นี ้

คำถามชวนคิด • รู้สึกอย่างไรเมื่อหยิบจับอุปกรณ์คุมกำเนิดหรือเรียนรู้วิธีคุมกำเนิด ทำไมจึง รูส้ กึ เชน่ น้นั • ระหว่างพูดคุยกันในกลุ่ม แต่ละคนมีท่าทีอย่างไรบ้าง เกิดความรู้สึกอะไร และทำไมจึงเปน็ เชน่ นั้น • มีความแตกต่างอย่างไรบ้างกับข้อมูลท่ีตนเองเคยได้ยินมาเก่ียวกับการ คุมกำเนดิ และท่ไี ดร้ ับร้เู พ่ิมเตมิ ในวนั นี ้ • คิดว่าวัยรุ่นควรมีวิธีการเรียนรู้เรื่องการคุมกำเนิดอย่างไรจึงจะเกิด ประโยชน์กับวยั รุ่นมากท่ีสุด • ชายหญิงมีบทบาทแตกต่างกันอย่างไรหรือไม่ในการรับผิดชอบเรื่องการ คุมกำเนดิ เพราะอะไร • หากไม่ต้องการใช้วิธีการคุมกำเนิดท่ีได้เรียนรู้ในวันนี้ คิดว่าชายหญิงจะมี ความปลอดภัยจากการมีเพศสัมพันธ์คือ ไม่ตั้งครรภ์ ไม่ติดเชื้อโรคติดต่อ ทางเพศสมั พันธ์และเชอื้ เอชไอวี ดว้ ยวธิ ีใดไดอ้ ีกบ้าง ๗. ผูด้ ำเนนิ กิจกรรมชวนผู้เรยี นสรุปว่า เราได้อะไรจากกจิ กรรมวนั นี้ และเพ่มิ เตมิ ประเด็นดงั น้ี • การแสวงหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการคุมกำเนิด ถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบทั้งต่อตัวเอง และคนทีเ่ รามีความสมั พนั ธ์ดว้ ย • มีคนจำนวนมากยังเชื่อว่าเร่ืองเพศเป็นเร่ืองน่าอาย ทำให้ไม่กล้าหาความรู้ในเร่ืองน้ีอย่าง เปิดเผย จึงส่งผลให้ขาดความรู้ หรือมีความเช่ือท่ีผิดๆ จนส่งผลต่อสุขภาพทางเพศ ท้ังท่ี การมีข้อมูลถูกต้อง รอบด้านและเพียงพอในเร่ืองเพศจะช่วยให้ทุกคนมีทางเลือกท่ีเหมาะสม ที่สุดกับเงื่อนไขของตนเองเม่ือต้องตัดสินใจในเรื่องเพศ เช่น การส่ือสารกับคู่/คนรอบข้าง การมีเพศสัมพนั ธท์ ีป่ ลอดภัย ฯลฯ 122 • การป้องกันเม่ือมีเพศสัมพันธ์ เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของชายและหญิง ไม่มีใคร ควรต้องรับผิดชอบมากกว่า เพราะเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย เป็นผลดีกับท้ังสองฝ่าย คู่มอื การจดั และถือเป็นความรับผดิ ชอบร่วมกัน กระบวนการเรียนร้ ู เพศศึกษา สำหรับนักเรยี นชั้น มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒

• ดว้ ยคา่ นิยมเร่ืองเพศในสงั คม ทำให้ผูห้ ญงิ ส่วนใหญ่มักรู้สกึ อาย หรือไม่สะดวกใจ ที่จะเป็น 123 ฝ่ายพูดคุย ซ้ือหา หรือพกพาอุปกรณ์ป้องกันการตั้งครรภ์และป้องกันโรค แต่หากผู้หญิง ตระหนักว่า เราไม่อาจฝากความปลอดภัยของตัวเองไว้ที่คนอ่ืน เพราะเป็นเร่ืองที่แต่ละคน แผนการเรียนร้ทู ่ี ๖ ร้จู กั ค้นุ เคย ต้องดูแลและรับผิดชอบตัวเอง ผู้หญิงจึงต้องคิดและหาวิธีท่ีจะทำให้ตัวเองปลอดภัยทั้งจาก การตั้งครรภ์เม่ือไม่พร้อมและการติดโรคหากตัดสินใจที่จะมีเพศสัมพันธ์ ในขณะเดียวกัน แม้ผชู้ ายจะไมไ่ ด้เปน็ ฝา่ ยตง้ั ครรภ์ แตก่ ารคำนึงถงึ ความร้สู ึกกงั วลใจและความปลอดภัยของ ฝ่ายหญิง รวมท้ังความปลอดภัยจากการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ท้ังของตัวเองและ ของคู่ ถือเป็นความรับผดิ ชอบของผู้ชายเชน่ กัน ข้อเสนอแนะสำหรับผู้ดำเนินกิจกรรม • ผู้ดำเนินกิจกรรมควรย้ำกติกาท่ีได้มีการตกลงร่วมกันไว้ก่อนเร่ิมดำเนินกิจกรรม เพื่อไม่ให้เกิด การล้อเลียน เขินอาย ไม่กล้าแสดงความเห็น รวมทั้งช่วยสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองเพื่อให ้ ผูเ้ รียนรู้สกึ เป็นเรื่องธรรมดาทจ่ี ะพดู ถงึ เรื่องเหลา่ น้อี ย่างเปิดเผย • อาจมคี วามเชอื่ ผดิ ๆ ทผี่ เู้ รยี นไดร้ บั รมู้ า จงึ ควรรวบรวมขอ้ มลู เหลา่ นี้ และใหผ้ เู้ รยี นกลบั ไปคน้ ควา้ จากแหลง่ ขอ้ มลู ตา่ งๆ เพอ่ื ตรวจสอบและนำมาแลกเปลยี่ นวา่ มขี อ้ มลู ใดถกู ตอ้ งบา้ งในคาบตอ่ ไป การวัดและประเมนิ ผล สงั เกตการมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมกล่มุ และการอภิปรายแลกเปล่ียน คำถามท้ายบท • นักเรียนเห็นด้วยหรือไม่กับคำพูดท่ีว่า “ผู้ชายควรเป็นฝ่ายพกหรือซื้อถุงยางอนามัย ไม่ใช ่ ผู้หญงิ ” เพราะอะไร • วธิ คี มุ กำเนดิ ชนดิ ใดทส่ี ามารถปอ้ งกนั การตดิ เชอ้ื โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธแ์ ละเชอ้ื เอชไอวไี ดด้ ว้ ย • หากฝา่ ยใดฝ่ายหนงึ่ ปฏิเสธทจ่ี ะใชถ้ ุงยางอนามัย นกั เรยี นคิดวา่ ควรจะทำอยา่ งไร

ข้อมลู เพิ่มเติม สำหรบั ผดู้ ำเนินกจิ กรรม วธิ กี ารคุมกำเนดิ วิธีการคุมกำเนิดที่นำมาศึกษาในกิจกรรมน้ี เน้นวิธีคุมกำเนิดแบบช่ัวคราวท่ีวัยรุ่น มักใช้หรือคุ้นเคย จากข้อมูลกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า หญิงวัย เจรญิ พนั ธอุ์ ายุ ๑๕ - ๔๔ ปีในประเทศไทย ที่แตง่ งานและอยู่กนิ กบั สามแี ล้ว มอี ตั ราการใช้ วิธีคุมกำเนิดจำแนกรายวิธี ๓ อันดับแรกจากมากไปน้อยคือ ยาเม็ดคุมกำเนิด ร้อยละ ๒๖.๘ ยาฉีดคุมกำเนิดร้อยละ ๒๒.๐ และทำหมันหญิงร้อยละ ๒๒.๖ ในขณะท่ีมีอัตราการ ใช้ถุงยางอนามัยร้อยละ ๑.๗ เท่ากับอัตราการใช้ห่วงอนามัย (ศูนย์ข้อมูลกรมอนามัย, www.anamai.moph.go.th, เมษายน ๒๕๕๐) ถงุ ยางอนามัย • มีหลายขนาด ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับอวัยวะเพศ ควรดูวันผลิต หรือวันหมด อายุกอ่ นการใช ้ • ใช้สวมเม่ืออวัยวะเพศแข็งตัว โดยให้บีบปลายถุงยางอนามัยเพ่ือไล่ลมขณะสวม เริ่ม 124 สวมจากตรงปลายอวยั วะเพศรูดเขา้ หาตวั แลว้ รูดใหส้ ุดโคนอวัยวะเพศ คู่มอื การจัด กระบวนการเรยี นรู้ เพศศกึ ษา สำหรบั นักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒

• เม่ือเสร็จกิจ ให้ถอดถุงยางอนามัยขณะท่ีอวัยวะเพศยังแข็งตัว โดยจับที่ขอบถุงยาง 125 และค่อยๆ รูดออก หากปล่อยให้อวัยวะเพศอ่อนตัวในช่องคลอดอาจทำให้ถุงยาง อนามัยหลุดได้ แผนการเรียนร้ทู ่ี ๖ ร้จู กั ค้นุ เคย • ในขณะน้ี ถุงยางอนามัยเป็นวิธีคุมกำเนิดแบบชั่วคราวท่ีมีประสิทธิภาพในการ คุมกำเนิดและสามารถป้องกันการติดเช้ือเอชไอวี รวมท้ังโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อ่ืนๆ เชน่ เรมิ หดู หงอนไก่ หนองใน ซฟิ ลิ สิ แผลริมออ่ น ไปพรอ้ มกันได้ ยาเม็ดคมุ กำเนิดท่วั ไป • ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดมี ๒ แบบคือ แบบ ๒๑ เม็ด และแบบ ๒๘ เม็ด ซ่ึงมี ประสิทธภิ าพไมแ่ ตกตา่ งกัน • ยาคมุ ชนดิ ๒๘ เม็ด เม็ดยาทีเ่ พ่มิ ขึ้นมา ๗ เมด็ เป็นวิตามินทช่ี ่วยใหก้ ินยาต่อเนอ่ื งโดย ไมล่ ืม • วิธีการกินยาคุมแผงแรก ให้เร่ิมกินเม็ดแรกภายใน ๕ วันแรกของการมีประจำเดือน แล้วกินตดิ ตอ่ กนั ทกุ วนั วนั ละ ๑ เมด็ จนหมดแผง • สำหรบั ยาคุม ๒๑ เมด็ เมอ่ื กนิ หมดแผง ให้เวน้ ไป ๗ วนั แลว้ จงึ เริม่ แผงใหม่ สว่ นยา คุม ๒๘ เม็ด ใหก้ ินแผงใหม่ติดต่อไปไดเ้ ลย • ออกฤทธคิ์ มุ กำเนดิ โดย ๑) ยับยงั้ ไม่ให้มกี ารเจริญเติบโตของไข่ และป้องกันไขต่ ก ๒) ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลงไม่เหมาะแก่การฝังตัวของตัวอ่อน ๓) ทำให้มูกท่ีปาก มดลูกเหนียวข้น ไม่เหมาะแก่การให้อสุจิเคล่ือนผ่านเข้าไปในโพรงมดลูก ๔) เปล่ียน แปลงการเคลื่อนไหวของท่อนำไข่ ทำให้ไข่ท่ีผสมแล้วเดินทางไปถึงมดลูกเร็วเกินไปจน ไม่สามารถฝังตัวได้ • ถา้ ลมื กิน ๑ วัน ให้กิน ๒ เมด็ ในวันถดั ไป • ถา้ ลมื กนิ ๒ วนั ให้กนิ ๒ เม็ดในวนั ทส่ี าม และอีก ๒ เม็ดในวนั ที่ ๔

• ถา้ ลมื กนิ ๓ วันขน้ึ ไป ควรหยดุ กนิ ยาคุมแผงน้นั ไปเลย และใชว้ ธิ คี ุมกำเนดิ ชนิดอน่ื ไป ก่อน เช่น ใช้ถุงยาง แล้วจงึ เริม่ กนิ แผงใหม่ในการมีประจำเดือนรอบถัดไป • หากเรมิ่ กนิ เปน็ คร้ังแรก ต้องกินไป ๑๔ วนั แลว้ จึงจะมีผลต่อการปอ้ งกันการตงั้ ครรภ์ หากมีเพศสัมพนั ธใ์ นช่วงเวลาดงั กลา่ ว ควรใชถ้ งุ ยางอนามยั ควบคู่ไปด้วย • แม้ผ้หู ญิงจะเปน็ คนกนิ ยาคุม แต่ผู้ชายควรมีสว่ นรว่ มในการช่วยเตือนให้กินยาต่อเนื่อง ยาเมด็ คุมกำเนดิ แบบฉุกเฉนิ • ต้องกิน ๒ เมด็ จึงมปี ระสิทธภิ าพในการคมุ กำเนิด • เม็ดแรก กินทันทีหรือภายใน ๗๒ ชั่วโมง (สามวัน) หลังการมีเพศสัมพันธ์ ประสทิ ธิภาพจะขนึ้ กับเวลาที่กินภายหลังการมเี พศสัมพันธ์ หากกินได้เร็วเทา่ ไร ความ สามารถในการป้องกันการตงั้ ครรภก์ จ็ ะสูงข้นึ เทา่ นนั้ เม็ดทีส่ อง กินหา่ งจากเม็ดแรก ๑๒ ช่ัวโมง • หากกินถูกวิธี มีประสทิ ธภิ าพปอ้ งกันการตงั้ ครรภ์ ๗๕% • การกินยาคมุ ฉกุ เฉินมีประสทิ ธภิ าพตำ่ กวา่ วธิ ีคมุ กำเนดิ แบบปกติท่วั ๆ ไป ดงั นนั้ ควร ใช้ในกรณฉี กุ เฉนิ เทา่ น้ัน ไม่ควรใช้เปน็ วิธีการคุมกำเนดิ ประจำ การนบั ระยะปลอดภัย หรือนบั หนา้ ๗ หลงั ๗ เป็นวิธีคุมกำเนิดแบบธรรมชาติ วิธีนี้ใช้ได้ผลเฉพาะผู้หญิงท่ีมีรอบเดือนมา สม่ำเสมอเท่าน้ัน ซึ่งไม่เหมาะกับวัยรุ่น ซึ่งร่างกายยังอยู่ในช่วงฮอร์โมนเพศปรับตัว อาจมี ร อบเดอื นไมส่ ม่ำเสมอ การนับหน้าเจ็ดหลังเจ็ด ให้ใช้ “วันแรก” ของการมีประจำเดือน นับเป็นวันท่ี ๑ หนา้ เจ็ดคือ นับยอ้ นขึ้นไปให้ครบเจ็ดวนั ส่วนหลังเจ็ด ให้นบั ตอ่ จากวันแรกท่มี ปี ระจำเดือน 126 คู่มอื การจดั ไปให้ครบ ๗ วัน ดงั ตวั อย่าง กระบวนการเรยี นร้ ู เพศศกึ ษา สำหรบั นกั เรยี นชั้น มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒

๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ระยะหน ้าเจ็ด ๑๗ การวมนั ปี แ ๑ รระก ๘จขำ อเดง อื น ๑๙ ๑ ๕ ๑ ๖ ระยะหลังเจด็ ๒๑ 127 ๒๐ แผนการเรียนร้ทู ่ี ๖ ร้จู กั ค้นุ เคย ๒ ๒ ๒ ๓ ๒๔ ๒๕ ๒๖ ๒๗ ๒๘ ๒๙ ๓๐ ๓๑ การหลงั่ ข้างนอก การหลั่งข้างนอก เป็นวิธีการคุมกำเนิดแบบธรรมชาติ ได้ผลไม่แน่นอน เพราะ ขณะท่ีสอดใส่ ฝ่ายชายจะมีน้ำคัดหล่ังจำนวนหน่ึงออกมาก่อน ซึ่งจะมีอสุจิปะปนอยู่ด้วย ตัวอสุจินั้นสามารถว่ายไปผสมกับไข่ การต้ังครรภ์จึงเกิดข้ึนได้ก่อนผู้ชายจะหลั่งน้ำอสุจิ ภายนอกเสยี อกี นอกจากนนั้ การหลั่งภายนอกยังเปน็ วิธกี ารท่ีข้ึนอยกู่ บั ฝ่ายชาย โดยที่ฝา่ ยหญิงไม่ สามารถควบคุมไดเ้ ลย • การกินยาคุมกำเนิดชนิดเม็ด ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน การนับวัน และการ หล่ังข้างนอก ล้วนเป็นวิธีคุมกำเนิดท่ีไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี และเช้อื โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พันธ ์ • “ถุงยางอนามัย” เป็นวิธีเดียวที่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ ป้องกันการติดเชื้อ เอชไอวี และเชอื้ โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ ์

วิธคี มุ กำเนิดอื่นๆ ท่ีใช้ในประเทศไทย ยาฉดี คุมกำเนิดแบบ ๓ เดือนครัง้ วธิ ีคุมกำเนดิ เรม่ิ ใช ้ การออกฤทธ์ ิ ขอ้ ด/ี ขอ้ ดอ้ ย/อาการขา้ งเคยี ง • เปน็ วธิ ี • สามารถฉดี ใน • มปี ระสทิ ธิภาพในการ ขอ้ ดี คุมกำเนดิ แบบ ชว่ ง ๕ - ๗ วนั แรก ป้องกันการตัง้ ครรภ์สงู • เข็มเดียวสามารถคมุ กำเนิด ช่ัวคราวท่ี ของการมี โอกาสต้ังครรภ์พบได้ ได้ ๓ เดอื น เหมาะสม ประจำเดอื น หรอื น้อยกว่ารอ้ ยละ ๑ • มคี วามเป็นสว่ นตัว สำหรบั สตร ี ภายหลังแทง้ ไม่ • กลไกการคมุ กำเนิดโดย • ปอ้ งกันการตง้ั ครรภน์ อก วัยเจรญิ พนั ธ์ุ เกิน ๑ สปั ดาห์ ๑. ปอ้ งกนั การตกของไข ่ มดลกู มะเรง็ รงั ไข่ เนอื้ งอก ทมี่ บี ตุ รแลว้ ๒. ทำใหเ้ ยื่อบโุ พรง ในมดลูก และต้องการ มดลูกบางลงไม่ เว้นช่วงการ เหมาะแกก่ ารฝงั ตวั ขอ้ ด้อย มีบตุ ร ของตัวออ่ น • ต้องมาฉดี กบั ผ้ใู ห้บรกิ าร ไม ่ • ประกอบด้วย ๓. ทำใหม้ กู ทปี่ ากมดลกู สามารถซ้อื มาฉดี เองได ้ ฮอรโ์ มน มปี ริมาณน้อยและ • การกลบั สู่ภาวะท่ีสามารถต้ัง โปรเจสเตอโรน เหนยี วข้นไม่เหมาะ ครรภไ์ ดช้ ้ากว่าวธิ ีคุมกำเนดิ ชนิดเดียว แก่การใหอ้ สุจเิ คลือ่ น ช่วั คราวชนิดอ่นื ผ่านเขา้ ไปในโพรง มดลูก อาการข้างเคยี ง ๔. มผี ลตอ่ เซลลใ์ นเยอื่ บ ุ • เกดิ ความผิดปกติของ ของทอ่ นำไข่ โดยม ี ประจำเดอื น เช่น มามาก การเปล่ียนแปลงให ้ กะปริดกะปรอย มักจะเป็นใน ไมเ่ หมาะสมตอ่ การ ชว่ งเขม็ แรกๆ หรอื ประจำเดอื น ผสมและการแบ่งตวั ขาดหายไป ซึ่งไม่ถือเปน็ เร่ือง 128 ในระยะแรกของไขท่ ่ี ที่มอี นั ตรายใดๆ คู่มือการจัด กระบวนการเรยี นรู้ เพศศึกษา สำหรับนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒

129 วธิ ีคมุ กำเนิด เร่มิ ใช ้ การออกฤทธ์ิ ขอ้ ด/ี ขอ้ ดอ้ ย/อาการขา้ งเคยี ง แผนการเรียนร้ทู ่ี ๖ ร้จู กั ค้นุ เคย ไดร้ ับการผสมแล้ว • หากมอี าการขา้ งเคียงไม ่ • ภายหลงั ฉดี ยาคมุ กำเนดิ สามารถหยุดยาไดท้ นั ที ต้อง สามารถป้องกันการต้ัง รอให้ยาหมดฤทธ์ิเอง ครรภไ์ ด้ทนั ที เน่อื งจาก • ผหู้ ญิงทีฉ่ ดี ยาคุมกำเนิดแบบ เป็นระยะปลอดภยั ๓ เดอื น นาน ๕ ปีขึ้นไป จะ มีความหนาแนน่ ของมวล กระดกู ลดลง แตเ่ ม่ือหยุดใช ้ ยาความหนาแนน่ ของมวล กระดูกจะกลบั คืนมา มขี อ้ แนะนำวา่ ผูห้ ญิงท่ใี ช้วิธี คมุ กำเนิดชนดิ น้คี วร รับประทานอาหารทม่ี ี แคลเซยี มอย่างเพียงพอ เพ่อื สรา้ งเสริมกระดูก

ยาฝงั คมุ กำเนดิ วธิ คี มุ กำเนิด เร่มิ ใช้ การออกฤทธิ์ ขอ้ ด/ี ขอ้ ดอ้ ย/อาการขา้ งเคยี ง • เปน็ วธิ กี าร • สามารถฝังได ้ • มปี ระสิทธภิ าพในการ ข้อด ี คุมกำเนิดแบบ ภายใน ๑ - ๗ วนั ปอ้ งกนั การต้ังครรภ์สูง • ฝงั ครั้งเดียวสามารถคมุ ได ้ ช่ัวคราว มี แรกของการมี ถึงร้อยละ ๙๙ โอกาส ๓ - ๗ ปี (แล้วแต่ชนิดของยา ลักษณะเปน็ ประจำเดอื น ตั้งครรภ์ไดน้ อ้ ยกวา่ ทฝี่ งั ) หลอดยาขนาด • หลงั แทง้ บตุ ร ร้อยละ ๑ • มีความเป็นส่วนตวั เลก็ ซ่งึ เปน็ ขณะอายคุ รรภ์ • กลไกการคุมกำเนดิ โดย • อาการขา้ งเคยี งน้อย ฮอร์โมน ๑ - ๓ เดอื น ควร ๑. ยบั ยัง้ การตกไข่ โดย • มผี ลดีตอ่ ภาวะโลหติ จาง สงั เคราะห์ชนดิ ฝงั ยาฝงั คมุ กำเนดิ สามารถระงับการตก ป้องกนั การตงั้ ครรภน์ อก เดยี วกบั ในยาฉดี ทนั ที หรอื อาจฝัง ไขไ่ ด้ภายหลังฝังยา มดลูก และอาจจะป้องกัน คมุ กำเนดิ ชนิด เมือ่ มาตรวจหลัง ๒๔ ชว่ั โมง การเกดิ มะเร็งเยือ่ บุโพรง ๓ เดือน แทง้ ๑-๓ สปั ดาห ์ ๒. ทำใหเ้ ยอ่ื บโุ พรงมดลกู มดลกู และการอกั เสบในอุ้ง • สามารถปอ้ งกนั กไ็ ด้ ถ้ายังไม่มี บางลงไมเ่ หมาะแกก่ าร เชงิ กรานได้ การตัง้ ครรภ์ได ้ เพศสมั พนั ธม์ า ฝงั ตัวของตวั ออ่ น • ชว่ ยให้อาการปวดประจำ สงู แตไ่ ม่ ตง้ั แต่หลังแทง้ ๓. ทำให้มกู ท่ปี ากมดลูก เดอื นลดลง สามารถป้องกนั • ฝงั ยาฝงั คมุ กำเนดิ เหนยี วขน้ ไมเ่ หมาะแก ่ • เหมาะสำหรบั ผู้มคี วามผดิ การติดเช้ือ ในชว่ งหลังคลอด การใหอ้ สจุ เิ คลอื่ นผา่ น ปกตขิ องสมอง และความจำ เอชไอวีและเช้ือ ๔ - ๖ สปั ดาห์ เข้าไปในโพรงมดลูก • หลังถอดยาฝงั ออก รา่ งกาย โรคตดิ ต่อทาง จะดีท่ีสดุ • ภายหลังฝงั ยา สามารถ จะกลบั เข้าส่ภู าวะเจริญพนั ธุ ์ เพศสัมพนั ธ์ • ฝงั ทบี่ รเิ วณตน้ ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ไดเ้ รว็ • ปจั จุบันยาฝังม ี แขนดา้ นใน เหนอื ทนั ที เน่อื งจากเปน็ ระยะ ๓ แบบใน ขอ้ ศอก โดยการ ปลอดภัย ขอ้ ด้อย ประเทศไทย ฉีดยาชาก่อนฝัง • หลงั การฝังสามารถ • ต้องมารับบรกิ าร ไม่สามารถ ได้แก่ ทำงานได้ตามปกติ ซ้อื ยามาฝังหรอื ถอดยาฝงั - ชนดิ ๖ หลอด ออกเองได ้ (Norplant) 130 คูม่ ือการจัด กระบวนการเรียนร ู้ เพศศึกษา สำหรับนกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒

วธิ ีคมุ กำเนดิ เร่มิ ใช้ การออกฤทธิ ์ ขอ้ ด/ี ขอ้ ดอ้ ย/อาการขา้ งเคยี ง อาการข้างเคียง คุมกำเนิดได ้ • เกดิ ความผิดปกตขิ องประจำ ๕ - ๗ ปี (ขน้ึ เดือน เช่น ประจำเดอื นไม ่ อยูก่ ับนำ้ หนกั สม่ำเสมอ มามากหรอื นาน 131 กวา่ ปกติ มากะปริดกะปรอย ตัวของผรู้ บั หรือไมม่ ีประจำเดอื น โดย แผนการเรียนร้ทู ่ี ๖ ร้จู กั ค้นุ เคย บริการ) อาการเลอื ดออกทางช่อง - ชนดิ ๒ หลอด คลอดจะพบไดบ้ อ่ ย โดย (Jadelle) เฉพาะในเดอื นแรกทฝี่ ังยา คุมกำเนดิ ได้ และเลือดจะค่อยๆ น้อยลง ๕ ปี เมือ่ เวลาผ่านไป - ชนดิ ๑ หลอด • ปวด อักเสบ บวม ฟกช้ำ (Implanon การหลดุ หรือคลำพบหลอด หรอื Etoplan) ยาฝงั คมุ กำเนดิ บรเิ วณทฝี่ งั ยา คุมกำเนิดได้ • อาการขา้ งเคียงอืน่ ๆ ๓ ปี - ปวดศีรษะ - น้ำหนกั ตวั เพ่มิ - การเปลีย่ นแปลงของ ความดันโลหิต - เปน็ สิว และอาจมอี าการ ผิดปกติอื่นๆ ของผิวหนงั - คัดตึงเตา้ นม แน่น อดึ อัด คลืน่ ไส้ วงิ เวยี น และ อารมณเ์ ปลีย่ นแปลง (พบ ไดน้ อ้ ย) • หากมีอาการขา้ งเคยี ง รนุ แรงควรไปพบแพทย ์

ห่วงอนามยั วิธีคุมกำเนดิ เร่ิมใช ้ การออกฤทธ ิ์ ขอ้ ด/ี ขอ้ ดอ้ ย/อาการขา้ งเคยี ง • คอื วิธีการคุม เวลาทเี่ หมาะสมใน • มีประสิทธภิ าพในการ ขอ้ ด ี กำเนดิ แบบ การใสแ่ บง่ ได้เป็น ป้องกันการตั้งครรภ์สงู • สามารถคุมกำเนดิ ได ้ ชวั่ คราวสำหรบั ๒ ระยะ คอื • กลไกการคุมกำเนิดโดย ระยะยาว ผู้หญงิ นยิ มใช ้ จะกระตนุ้ ใหเ้ กดิ • ราคาประหยัด กนั อย่างแพร ่ ระยะทีไ่ ม่เกย่ี วกบั ปฏิกิรยิ าโต้ตอบทีส่ ่วน • เหมาะสำหรับผ้ทู แ่ี พฮ้ อรโ์ มน หลาย โดยใส่ การคลอด ของเยอื่ บุโพรงมดลูก • ไม่มผี ลกระทบต่อรอบเดือน เข้าไปในโพรง • ขณะมปี ระจำเดอื น การเปลยี่ นแปลงในสว่ น ประจำเดอื นจะมาเป็นปกต ิ มดลกู โดย หรอื วนั ทา้ ยๆ ประกอบของน้ำหลงั่ • หลงั ถอดหว่ งออก ร่างกาย ผูเ้ ช่ียวชาญ ของการมี ภายในโพรงมดลูกและ จะกลับเขา้ สู่ภาวะเจริญพันธ์ ุ ทางการแพทย ์ ประจำเดือนจะ ภายในทอ่ นำไข่ ซงึ่ จะ ทนั ท ี เหมาะสมทส่ี ดุ ๑. ยบั ย้ังการวา่ ยของ • ภายใน ๑๒ วัน อสุจิข้นึ ไปสู่สว่ นบน ขอ้ ด้อย แรกของรอบ ของมดลกู และ • อาจทำใหเ้ กดิ การอกั เสบตดิ ประจำเดอื น เพอื่ ทอ่ นำไข ่ เชอื้ ในองุ้ เชิงกรานได้ถ้า ให้แน่ใจว่าผูร้ บั ๒. เปลยี่ นแปลง อปุ กรณท์ ำความสะอาดไม ่ บริการไมไ่ ดต้ ัง้ ขบวนการปฏสิ นธิ ได้มาตรฐาน ครรภ์ หรือการผสมกัน • เพิ่มโอกาสของการแพร่และ • กรณีใชว้ ิธีคุม ระหวา่ งตัวอสุจิกบั ไข ่ รบั เช้อื เอชไอวี และโรค กำเนิดชนิดอืน่ ๓. เปลยี่ นแปลงการ ติดตอ่ ทางเพศสัมพันธ์อน่ื ๆ อยู่และไมม่ ีความ เคล่อื นตัวของไข่ เนื่องจากภายหลังใส่หว่ ง ผิดพลาด จะใส ่ • ภายหลงั ใส่ สามารถ ใหม่ๆ อาจมเี ลือดออก หว่ งอนามัยใน ปอ้ งกนั การตัง้ ครรภ์ได้ ประมาณ ๒ - ๓ วัน ชว่ งใดของรอบ ทันที เน่ืองจากเปน็ ประจำเดอื นก็ได ้ ระยะปลอดภยั อาการข้างเคยี ง • ถา้ ไมม่ ีเพศ- • อาการปวดเกรง็ บรเิ วณ 132 สมั พนั ธเ์ ลยใน ท้องน้อย (มดลูก) กระคบู่มวนือกกาารรเจรัดีย นร ู้ รอบเดือนนั้น เพศศึกษา สำหรับนักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๒

วธิ คี มุ กำเนดิ เรมิ่ ใช้ การออกฤทธ์ิ ขอ้ ด/ี ขอ้ ดอ้ ย/อาการขา้ งเคยี ง ใส่หลงั คลอด • เลอื ดออกทางช่องคลอด หรือหลังแท้ง (กะปรดิ กะปรอย, ออกมาก) • สามารถใส่ได ้ • การขาดประจำเดือน 133 ภายใน ๔๘ • ผ้ทู ีใ่ สห่ ่วงอนามยั มกั จะพบ แผนการเรียนร้ทู ่ี ๖ ร้จู กั ค้นุ เคย ชัว่ โมงหลังคลอด การอักเสบจากเช้ือราได้บ่อย หรอื หลังคลอด ทนั ทีภายใน ๑๐ นาทีหลังรก คลอด หรอื ใสใ่ น ชว่ ง ๔ - ๖ สปั ดาห ์ หลงั คลอด • สามารถใส่ได ้ หลังแทง้ ทนั ทถี า้ ไมม่ ีการอักเสบ หรอื การแทง้ ติด เชือ้ หรอื ใสห่ ลัง แทง้ ๓ สัปดาห ์ • ห่วงอนามัยทใ่ี ส่ ตอ่ ครงั้ สามารถ ป้องกนั การตงั้ ครรภไ์ ดน้ าน ๓ - ๑๐ ปี (แลว้ แต่ชนิดของหว่ ง อนามยั ที่ใช้) • อาจมีเลอื ดออก หลังจากการใส ่ ประมาณ ๑ - ๒ วนั

การทำหมันหญงิ วิธคี มุ กำเนิด เรม่ิ ใช้ การออกฤทธ์ิ ขอ้ ด/ี ขอ้ ดอ้ ย/อาการขา้ งเคยี ง • เปน็ การคุม การทำหมนั หญิง • ประสทิ ธิภาพการคมุ ข้อด ี กำเนดิ แบบ สามารถทำได้ ๒ กำเนดิ สูงกว่าวิธีคุม • เปน็ วิธคี มุ กำเนดิ ถาวร ทำ ถาวรสำหรับ ช่วงคือ กำเนดิ ตา่ งๆ ทง้ั ระยะสน้ั ครั้งเดียวคุมกำเนิดได ้ ผหู้ ญงิ โดยการ • ชว่ งหลงั คลอด และระยะยาว ตลอดไป ผกู และตัดท่อ ใหมๆ่ เรียกวา่ • หลังทำหมันแลว้ ควร • ไมม่ ผี ลข้างเคียง เหมาะ นำไข่ หรือจี้ หมันเปียก ซงึ่ ทำ เว้นระยะการมี สำหรับผูท้ ี่แพฮ้ อร์โมนใน ดว้ ยไฟฟา้ หรอื ภายหลังการ เพศสัมพนั ธไ์ ปกอ่ นจน ผลติ ภณั ฑค์ ุมกำเนดิ อนื่ ๆ ใช้หว่ งรัด หรือ คลอดไมเ่ กิน กวา่ แผลผา่ ตัดจะเป็น • คา่ ใชจ้ า่ ยตำ่ คลบิ หนีบ ๗๒ ชวั่ โมง ปกต ิ ทอ่ นำไข่ เพื่อ • ช่วงเวลาปกติ ข้อด้อย ไมใ่ หไ้ ขเ่ ดนิ ทาง ระยะใดกไ็ ด้ • ไมส่ ามารถปอ้ งกนั การรับ มาพบกับอสจุ ิ เรยี กวา่ หมนั แหง้ และแพร่เชื้อทตี่ ดิ ต่อทางเพศ • วธิ ีนเ้ี ป็นการ สัมพันธ์ได้ คุมกำเนิดท ่ี • ต้องใช้วธิ ผี ่าตดั ซึ่งอาจมี เหมาะสำหรับ อนั ตรายบา้ ง ผู้ท่ไี มต่ ้องการ • ทำหมันแล้วแกไ้ ขให้มีลกู มบี ตุ รอยา่ ง ไดย้ าก ถาวร 134 กระคบู่มวนือกกาารรเจรัดีย นรู ้ เพศศกึ ษา สำหรบั นักเรียนชั้น มธั ยมศึกษาปีที่ ๒

การทำหมันชาย วธิ คี มุ กำเนดิ เรมิ่ ใช ้ การออกฤทธ์ ิ ขอ้ ด/ี ขอ้ ดอ้ ย/อาการขา้ งเคยี ง • เป็นการคุม • สามารถทำเมอ่ื ไร • ประสทิ ธภิ าพการคมุ ขอ้ ด ี กำเนิดแบบ ก็ได้ เมือ่ ผู้ชาย กำเนดิ สูงกวา่ วธิ ีคมุ • เป็นวธิ คี มุ กำเนดิ ถาวร ทำ ถาวรสำหรบั พร้อม และได้ กำเนิดอืน่ ๆ ทง้ั ระยะสัน้ ครงั้ เดยี วคุมกำเนิดได้ 135 ผูช้ าย โดยการ ปรกึ ษากบั คู่แล้ว และระยะยาว ตลอดไป แผนการเรียนร้ทู ่ี ๖ ร้จู กั ค้นุ เคย ผูกและตัดทอ่ • ควรทำเม่อื • หลังทำหมนั ชายแลว้ ยัง นำน้ำเชือ้ รา่ งกายพรอ้ มทั้ง ไมส่ ามารถป้องกันการ ข้อดอ้ ย ทำใหต้ วั อสจุ ิ ทางร่างกายและ ตัง้ ครรภไ์ ด้ทันที • ไมส่ ามารถป้องกนั การรบั ไม่สามารถเล็ด จิตใจ เนอ่ื งจากยังมตี วั อสุจิค้าง และแพรเ่ ช้อื ทต่ี ดิ ตอ่ ทางเพศ ลอดออกมา อยู่ในทอ่ ทางเดนิ ดงั น้ัน สัมพนั ธ ์ ผสมกับไข่ได ้ ภายหลังจากทำหมนั • วธิ ีนี้เหมาะ ประมาณ ๓ เดือน หาก อาการข้างเคยี ง สำหรบั ผู้ทไี่ ม ่ มีเพศสมั พันธต์ ้องใช้วิธี • จกุ เสยี ดทอ้ งนอ้ ย พบได ้ ตอ้ งการมีบุตร คมุ กำเนดิ อนื่ ก่อน เชน่ ขณะทำหมัน เนอ่ื งจากการ อย่างถาวร สวมถงุ ยางอนามัย ดึงทอ่ อสจุ ิมาผกู ตัด • ภายหลงั ๓ เดือนควร • แผลบวมและปวดแผลจาก ตรวจเชือ้ อสจุ ิซำ้ เพอื่ ให้ การผา่ ตัด แนใ่ จว่าไม่พบเชื้ออสจุ ิ • ตดิ เชือ้ บริเวณแผลผ่าตัด แต่ ในน้ำอสจุ ิ ก็พบได้นอ้ ยมาก

วธิ คี มุ กำเนดิ ท่ี “ยงั ไม่แพรห่ ลาย” ในประเทศไทย แผ่นแปะผิวหนงั คุมกำเนิด วิธีคมุ กำเนิด เรมิ่ ใช้ การออกฤทธ์ิ ขอ้ ด/ี ขอ้ ดอ้ ย/อาการขา้ งเคยี ง • เป็นรูปแบบของ ยาแปะคมุ กำเนดิ ใช ้ • มปี ระสิทธิภาพในการ ขอ้ ด ี การคมุ กำเนดิ แผน่ ละ ๑ สัปดาห์ ป้องกันการตงั้ ครรภ์สงู • มปี ระจำเดือนมาตรงคล้าย โดยผา่ นทาง ตดิ ตอ่ กนั ๓ สปั ดาห์ ถ้าใช้อยา่ งถูกวิธีโอกาส กับการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด ผิวหนัง (๓ แผ่น) แล้วเวน้ ในการตั้งครรภพ์ บได้ • แผ่นแปะคุม ๑ สปั ดาห์ ใน น้อยกว่าร้อยละ ๑ ขอ้ ดอ้ ย กำเนิดเรมิ่ ม ี สัปดาห์ท่ีเวน้ • กลไกการทำงาน ฮอรโ์ มน • ต้องแปะใหมท่ กุ สปั ดาห ์ การนำมาใช้ใน ประจำเดอื นจะมา เอสโตรเจนและ • ราคาแพง ประเทศไทยแลว้ การแปะแผ่นแรก โปรเจสเตอโรนในแผน่ • ในช่วงรอบประจำเดือนแรก แตร่ าคาค่อน มีอยู่ ๒ วิธคี ือ แปะ จะค่อยๆ ซมึ ผ่าน ทีใ่ ชแ้ ผ่นยา อาจมเี ลือดออก ขา้ งสงู และตอ้ ง • แปะแผ่นแรกใน ผิวหนังเขา้ สกู่ ระแสเลือด กะปรดิ กะปรอยได ้ เปลย่ี นแผน่ ใหม ่ วนั ทม่ี ปี ระจำเดอื น ไปปอ้ งกันการตกของไข่ • อาจมีการหลดุ ของแผ่นยาได้ ทุก ๗ วัน วนั แรก และนบั เกิดมูกทปี่ ากมดลูกหนา เป็นวนั ท่ี ๑ ของ และเหนียวตวั ข้ึน และ อาการขา้ งเคียง การใช้ โดยวนั เกิดการหนาตวั ของผนงั • เจ็บตงึ หนา้ อก เปลี่ยนแผน่ จะ มดลูก • คล่นื ไส้ อาเจียน ตรงกับวนั น้ีใน • ปวดศีรษะ ทุกสัปดาห์ การ • ระคายเคอื งผิวหนงั บรเิ วณท่ี แปะแผน่ ยา แปะแผน่ ยา เริ่มแปะยาแบบน้ี หมายเหตุ อาการเหลา่ น้ีไม ่ ไม่ต้องใชว้ ธิ คี ุม รนุ แรงและพบไดไ้ มบ่ อ่ ย และ กำเนดิ อนื่ รว่ มดว้ ย มกั จะหายไปในสัปดาห์ท่ี 136 • เร่ิมแปะแผน่ แรก ๒ - ๓ ของการใช ้ คู่มอื การจัด กระบวนการเรียนรู ้ เพศศกึ ษา สำหรับนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒

137 วธิ คี มุ กำเนิด เริ่มใช้ การออกฤทธ์ ิ ขอ้ ด/ี ขอ้ ดอ้ ย/อาการขา้ งเคยี ง แผนการเรียนร้ทู ่ี ๖ ร้จู กั ค้นุ เคย ระหว่างสปั ดาห์ ท่ีประจำเดือนมา นบั เป็นวนั ท่ี ๑ ของการใชง้ าน และเปลี่ยนแผ่น ยาทกุ อาทิตย ์ วธิ นี ตี้ ้องใชก้ าร คุมกำเนดิ อนื่ ที่ ไมไ่ ดใ้ ชฮ้ อร์โมน รว่ มด้วยใน ๗ วันแรก

ถุงอนามยั วธิ ีคุมกำเนดิ เรม่ิ ใช ้ การออกฤทธ ิ์ ขอ้ ด/ี ขอ้ ดอ้ ย/อาการขา้ งเคยี ง • ถุงอนามัยทำ • ถงุ อนามยั ใช้ใส่ • เป็นวิธคี ุมกำเนิดแบบ ข้อดี หนา้ ทค่ี ลา้ ยกับ เขา้ ไปภายใน • เปน็ ทางเลือกสำหรบั ผู้ที่เปน็ ถงุ ยางอนามยั ที่ ชอ่ งคลอดหรือ ชว่ั คราวอีกวธิ หี น่ึงท่ีมี ใช้กับอวยั วะ ชอ่ งทวารหนัก ประสทิ ธิภาพในการ ฝา่ ยรับสามารถปอ้ งกัน เพศชาย ตา่ งกัน เพอ่ื ปอ้ งกนั ไม่ คมุ กำเนดิ และสามารถ ตนเองในการมีเพศสัมพันธ์ที่ ท่ถี ุงอนามยั ใช้ ใหเ้ ชื้อโรคที่อาจ ปอ้ งกนั การติดเชอ้ื ปลอดภัย สอดใส่อวยั วะ อย่ใู นน้ำอสจุ ิ เอชไอวี รวมท้งั โรค • สามารถเตรยี มใสล่ ่วงหน้า เพศของฝ่ายรับ เข้าไปภายใน ตดิ ต่อทางเพศสมั พันธ์ ก่อนมีเพศสัมพันธ ์ ไมว่ า่ จะเปน็ ร่างกายของฝา่ ย เช่นเดียวกับถงุ ยาง • ถงุ อนามยั ผลติ จากโพลยี รู เิ ทน ชอ่ งคลอดหรอื รับ หรือเชอ้ื โรค อนามัยผชู้ าย ที่สง่ ผา่ นความรอ้ นจาก รา่ งกายได้ดี จงึ ทำให้การมี ชอ่ งทวารหนกั จากนำ้ ในชอ่ ง เพศสมั พันธร์ ูส้ ึกเปน็ • ใช้เพอ่ื ป้องกนั คลอดหรอื เลือด ธรรมชาต ิ การตดิ เชอ้ื ในทวารของฝา่ ย • ถุงอนามัยคลมุ รอบอวัยวะ เอชไอวีและ รับเขา้ ไปใน เพศชายไปจนถึงบรเิ วณฐาน โรคติดต่อทาง รา่ งกายของ อวัยวะเพศ ทำให้สามารถ เพศสมั พันธ์ ฝา่ ยรกุ ป้องกนั โรคท่ีมาจากเชอ้ื รา จากการม ี • ใช้ใสใ่ นชอ่ ง อนื่ ๆ ทถ่ี ุงยางอนามยั ชายไม่ เพศสัมพันธ์ใน คลอดหรอื ช่อง สามารถปอ้ งกันได้ เชน่ กรณที ีค่ ่ขู องตน ทวารหนักก่อน เรมิ หรือหดู หงอนไก่ ไมส่ ามารถหรือ การมเี พศ • ไม่บบี รัดอวัยวะเพศชาย ไมย่ อมใช้ถงุ ยาง สัมพนั ธ ์ เน่ืองจากฝา่ ยรุกไม่ต้องเปน็ อนามัยผชู้ าย ฝา่ ยใส่ และถงุ อนามยั เป็น ขนาดฟรีไซส์สามารถรองรบั 138 อวัยวะเพศได้ทุกขนาด • แข็งแรงทนทาน สามารถ คู่มือการจัด เกบ็ รักษาในทีท่ ีม่ อี ุณหภมู ิ กระบวนการเรียนร ู้ และความชืน้ สงู ได้ เพศศึกษา สำหรบั นกั เรยี นชั้น มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒

วิธีคมุ กำเนดิ เริ่มใช้ การออกฤทธ์ ิ ขอ้ ด/ี ขอ้ ดอ้ ย/อาการขา้ งเคยี ง ขอ้ ดอ้ ย • ต้องฝึกฝนการใสอ่ ย่างถกู วธิ ี 139 ๒ - ๓ ครั้งดว้ ยตวั เอง กอ่ น แผนการเรียนร้ทู ่ี ๖ ร้จู กั ค้นุ เคย จะสามารถใสไ่ ดค้ ลอ่ งและ คนุ้ เคย • อาจมเี สียงพลาสติกกรอบ แกรบเมอื่ มเี พศสัมพันธ์ แต่ ถา้ ตอ้ งการลดเสียง สามารถใชส้ ารหลอ่ ลื่นเพ่มิ เตมิ ชว่ ยได ้ ขอ้ ควรระวัง • ถงุ อนามัยใชค้ รง้ั เดียวแลว้ ทงิ้ ไมค่ วรนำกลับมาใช้ซำ้ • ห้ามใช้ถงุ ยางอนามยั ผู้ชาย และถงุ อนามัยพร้อมกนั เพราะการเสยี ดสอี าจทำให้ ถงุ อนามัยหรอื ถุงยางอนามยั ฉีกขาดได้ ควรเลอื กใชเ้ พยี ง อยา่ งใดอยา่ งหน่งึ เทา่ น้นั

“ผมคดิ วา่ การเรยี นเพศศึกษาสำคญั พอๆ กับการเรยี นไปประกอบอาชีพ แลว้ มนั เป็นทักษะชีวิต เรยี นเพ่อื ใหร้ ูเ้ ท่าทันโลก วิชาอ่ืน เรยี นเพือ่ ไปประกอบอาชีพ แตเ่ รอื่ งนเ้ี รยี น เพื่อใช้ ในชวี ติ ” มาฟังวัยร่นุ คยุ กนั จากเอกสารเวทีวิชาการเพศศึกษา เพอ่ื เยาวชนภาคตะวนั ตกและตะวนั ออก ๑๙ - ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ โรงแรมโกลเดน้ ซติ ี้ จ.ราชบรุ ี

ยอด แผนการเรียนรทู้ ี่ ๗ นกั ขาย

แผนการเรยี นรู้ที่ ๗ ยอดนกั ขาย สาระสำคญั สื่อโฆษณาเน้นการสรา้ งภาพเพื่อเพ่ิมมลู คา่ สินค้า และกระตนุ้ แรงจงู ใจใหผ้ ู้บริโภค ต้องการซื้อสินค้าหรือใช้บริการ โฆษณาหลายชิ้นมักใช้เร่ืองเพศมาเป็นจุดขาย การเข้าใจและสามารถแยกแยะวัตถุประสงค์ทางการค้าของการโฆษณากับ คุณสมบัติพ้ืนฐานของสินค้า จะช่วยให้เราในฐานะผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือก ใช้สินค้าหรือบริการอยา่ งเทา่ ทนั จุดประสงค ์ ๑. บอกคณุ ลกั ษณะท่สี ำคญั ของสื่อโฆษณาว่ามอี ะไรบ้าง ๒. สามารถแยกแยะ “คุณสมบัติสนิ ค้า/บรกิ าร” กับ “ภาพลกั ษณท์ ใี่ ชจ้ งู ใจ” ใน สือ่ โฆษณาได้ ๓. ระบุวิธกี ารท่ีจะเลอื กซอื้ สนิ คา้ /บริการอย่าง “เทา่ ทนั ” อปุ กรณ์ และส่ือ 142 ๑. ตวั อยา่ งสอ่ื โฆษณาสินคา้ จากนิตยสาร สปอตโฆษณาในโทรทัศน ์ กระคบู่มวนอื กกาารรเจ รัดีย นร ู้ (ตัวอย่างส่อื โฆษณาทางโทรทัศน์ สามารถดาวนโ์ หลดไดจ้ าก สำหรเพบั ศนศกั กึเรษยี าน ชน้ั www.adintrend.com) มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒

๒. ตวั อย่างสิง่ ของ เช่น ถงุ ยางอนามัย ยาคุมกำเนดิ ฉุกเฉนิ ครมี บำรงุ ผิว น้ำยา 143 ระงบั กลิ่นเหงอื่ สบู่ ลกู อมทใี่ ห้กลน่ิ ปากสดชื่น ยาสีฟนั ฯลฯ แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๗ ยอดนกั ขาย ๓. กระดาษฟลปิ ชารท์ ๔. กระดาษกาว ๕. ปากกาเคม ี ข้นั ตอนการดำเนินกจิ กรรม ๑. ผู้ดำเนินกิจกรรมช้ีแจงวัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้ว่า เป็นการเรียนรู้ถึงวัตถุประสงค์และการ ผลิตส่ือโฆษณา รวมทั้งวิเคราะห์ถงึ อิทธิพลของโฆษณาตอ่ การตดั สนิ ใจเลอื กซอ้ื สนิ คา้ ของเรา ๒. ผดู้ ำเนนิ กิจกรรมนำภาพโฆษณาสินค้าจากนติ ยสารมาชวนคยุ เพื่อเกริน่ นำเข้าสบู่ ทเรยี น • รสู้ ึกอย่างไรบ้างเม่ือเหน็ ภาพโฆษณาต่างๆ ทน่ี ำมาใหด้ ู • อะไรทำให้คดิ จะซอ้ื หรือไมซ่ อื้ สินคา้ ทเี่ ห็นในภาพโฆษณา ๓. จากนน้ั แบง่ กล่มุ ผู้เรยี นเท่ากับจำนวนสินคา้ ท่ีเตรียมมา ให้ตวั แทนกล่มุ จับสลากสนิ ค้า และพดู คยุ กนั ในกลมุ่ เพื่อเตรยี มโฆษณา โดยให้ครอบคลมุ หวั ขอ้ เหลา่ น้ี (๑๐ นาที) • วัตถุประสงค์การโฆษณา (เชน่ แนะนำสนิ ค้าใหม่, ตอกย้ำคณุ ภาพสินค้า ฯลฯ) • กลุม่ เป้าหมาย (ระบุชว่ งอายุ เชน่ ๑๓ - ๑๕ ปี, วัยรุน่ ที่กำลังเรียนช้นั มัธยมปลาย เป็นต้น) • เนื้อหาและรปู แบบของโฆษณา • ช่องทาง/สื่อที่เลือกใช้ในการโฆษณา (หน้าหนังสือพิมพ์, นิตยสาร, สปอตทีวี วิทยุ, ตาม ปา้ ยรถเมล,์ ข้างรถโดยสาร เป็นตน้ ) ๔. ให้แต่ละกลุ่มออกมานำเสนอโฆษณาสินค้าต่อกลุ่มใหญ่ หากเลือกเป็นโฆษณาในหน้าหนังสือ ให้นำเสนอบนกระดาษฟลิปชาร์ท หากเป็นสปอตโฆษณา ให้กลุ่มออกมาแสดง (กลุ่มละ ๓ นาที) ๕. เม่อื เสนอครบทกุ กลุ่มแล้ว ใหช้ ว่ ยกนั โหวตว่าสนิ คา้ กลุ่มใด โฆษณาได้น่าสนใจมากทส่ี ุด เพราะ อะไร โดยผู้ดำเนนิ กจิ กรรมอาจชวนซักถามเพ่ิมเตมิ ดังน ี้ • โฆษณาแตล่ ะช้ินบอกคุณสมบตั ขิ องสินคา้ มากนอ้ ยเพยี งใด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook