Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ 1/2564

แผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ 1/2564

Published by นายชัยธวัช สมนึก, 2022-07-23 18:06:59

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ 1/2564
กศน.อำเภอแสวงหา สำนักงาน กศน.จังหวัดอ่างทอง

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้,แผน กศน.

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้ การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน ระดับประถมศกึ ษา รูปแบบพบกล่มุ นายชยั ธวัช สมนกึ ตาแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอแสวงหา สานักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวดั อา่ งทอง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

สารบัญ รายวชิ าศลิ ปศึกษา ทช 11003..........................................................................................................1 รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ชาติไทย สค 12024 ....................................................................................17 รายวชิ าพฒั นาอาชพี ให๎มอี ยูมํ ีกิน อช 11003 .................................................................................37 รายวชิ าศาสนาและหนาที่พลเมือง สค 11002...............................................................................61 รายวชิ าภาษาอังกฤษพื้นฐาน พต 1100๑.................................................................................... 102

~1~ รายวิชาศิลปศึกษา ทช 11003 กิจกรรมการเรยี นรู้ รายวิชาศิลปศึกษา ทช 11003 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 หลกั สตู รการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดบั ประถมศกึ ษา ครัง้ ที่ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สถานท่ี กศน.อําเภอแสวงหา 1 กิจกรรมการเรยี นการสอน ครั้งที่ 1 วิชาศิลปศกึ ษา ทช 11003 กศน.อาํ เภอแสวงหา เรื่อง ทัศนศิลปพ์ ้ืนบา๎ น กศน.อําเภอแสวงหา 2 กิจกรรมการเรยี นการสอน ครั้งที่ 2 วชิ าศลิ ปศกึ ษา ทช 11003 เร่อื ง ดนตรพี นื้ บ๎าน 3 กจิ กรรมการเรยี นการสอน ครง้ั ที่ 3 วิชาศลิ ปศึกษา ทช 11003 เรื่อง นาฏศิลปพ์ ้นื บา๎ น และการผลติ เคร่อื งดนตรี

~2~ คาอธบิ ายรายวิชา รายวชิ าศิลปศึกษา (ทช 11003) จานวน 2 หนว่ ยกติ (80 ชว่ั โมง) ระดบั ประถมศึกษา มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั มีความร๎ูความเข๎าใจ มีคุณธรรม จริยธรรม ชื่นชม เห็นคุณคําความงามความไพเราะ ธรรมชาติ ส่ิงแวดล๎อม ทางทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศิลป์พ้ืนบ๎าน และวิเคราะห์ได๎อยํางเหมาะสม ศึกษาและฝึกทักษะเกย่ี วกบั วิชาศลิ ปศกึ ษา ดงั นี้ ทัศนศิลป์พ้ืนบ๎าน ศิลปะที่รับรู๎ได๎ด๎วยการมอง ได๎แกํรูปภาพทิวทัศน์ทั่วไปเป็นสําคัญ อันดับ ตน๎ ๆ ดนตรีพ้ืนบ๎าน ดนตรีท่ีมีมาตั่งแตํดั่งเดิมในกลุํมสังคมทุกกลํุมทั่วโลก เพลงพ้ืนบ๎านมักจะเป็น เพลงที่มีการรอ๎ งประกอบกนั สํวนมาก นาฏศิลป์พ้ืนบ๎าน เป็นการแสดที่เกิดข้ึนตามท๎องถิ่นตําง ๆ มักเลํนเพื่อความสนุกสนาน บันเทิง ผํอนคลายความเหน็ดเหน่ือย หรือเป็นการแสดงท่ีเกี่ยวกับการประกอบอาชีพของประชาชน ตามภาคน้ัน ๆ การผลิตเครื่องดนตรี สิ่งสําคัญของการเริ่มต๎นประกอบอาชีพอิสระ ต๎องพิจารณาวําจะ ประกอบอาชีพอิสระอะไร โอกาสและความสําเร็จมีมากน๎อยเพียงไร และต๎องเตรียมตัวอยํางไรจึงจะ ทําใหป๎ ระสบผลสําเรจ็ การวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น ผูเ๎ รยี นต๎องวดั ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น ดังนี้ 1. ระหวาํ งภาค วดั ผลจากการทาํ กจิ กรรมหรอื งานท่ไี ดร๎ ับมอบหมายระหวํางเรยี น รายบคุ คล 2. ปลายภาค วดั ผลจากการทาํ ขอ๎ สอบวดั ผลสมั ฤทธปิ์ ลายภาค

~3~ รายละเอียดคาอธบิ ายรายวิชา รายวชิ าศลิ ปศกึ ษา (ทช 11003) จานวน 2 หนว่ ยกิต (80 ชว่ั โมง) ระดบั ประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ มีความร๎ู ความเข๎าใจ ในพื้นฐานของทัศนศิลป์ พ้ืนบ๎าน สามารถอธิบาย สร๎างสรรค์ อนุรักษ์ วเิ คราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์เกี่ยวกบั ความงาม ด๎านทัศนศิลป์ พ้ืนบ๎าน ได๎อยาํ งเหมาะสม ท่ี หัวเร่ือง ตวั ช้ีวัด เนอื้ หา จานวน 80 ชม. 1 ทศั นศลิ ป์ 1. อธิบายความหมายของธรรมชาติ ความงาม 1. ทัศนศิลป์ พ้นื บ๎าน พนื้ บ๎าน 20 ความไพเราะของทศั นศิลป์ ดนตรีและนาฏศลิ ป์ 2. องค์ประกอบทาง 2. อธบิ ายความรูพ๎ นื้ ฐานของ ทศั นศิลป์ ดนตรี ทัศนศลิ ป์ และนาฏศลิ ปพ์ ้ืนบา๎ น 3. รปู แบบและววิ ัฒนาการ 3. สรา๎ งสรรคผ์ ลงานโดยใช๎ความรพ๎ู ้นื ฐานดา๎ น ของทัศนศลิ ป์พ้นื บา๎ น ทศั นศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศิลปพ์ ้ืนบา๎ น 4. รปู แบบและความงาม 4. ชื่นชม เห็นคุณคําของ ทัศนศิลป์ ดนตรี และ ของทัศนศลิ ป์ พ้ืนบ๎าน นาฏศิลปพ์ น้ื บา๎ น 5. ทศั นศลิ ปพ์ ื้นบ๎านกับ 5. วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ งานดา๎ น การแตงํ กาย ทศั นศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์พนื้ บา๎ น 6. การตกแตํงทอี่ ยูํอาศยั 6. อนรุ กั ษ์สืบทอดภูมปิ ัญญาด๎านทศั นศิลป์ 7. คณุ คาํ ของทศั นศิลป์ ดนตรี และนาฏศลิ ป์พ้นื บา๎ น พื้นบา๎ น 2 ดนตรีพ้นื บ๎าน 1. มีความรู๎ ความเข๎าใจ ในพืน้ ฐานของดนตรี 1. ลักษณะของดนตรี 30 30 3 นาฏศิลป์ พนื้ พ้นื บา๎ น สามารถอธบิ าย สร๎างสรรค์ อนุรกั ษ์ พนื้ บ๎าน บ๎าน และการ ผลติ เครอื่ งดนตรี วเิ คราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์เก่ียวกับความไพเราะ 2. ดนตรีพน้ื บ๎านของไทย ของดนตรีพ้นื บา๎ นไดอ๎ ยาํ งเหมาะสม 3. ภูมปิ ญั ญาทางดนตรี 4. คุณคําของเพลงพ้ืนบ๎าน 5. พฒั นาการของเพลง พน้ื บ๎าน 6. คณุ คําและการอนุรักษ์ เพลงพ้ืนบา๎ น 1. บอกประวตั ิความเปน็ มาของนาฏศลิ ป์ 1. นาฏศิลปพ์ ื้นบ๎านและ พื้นบ๎านแตลํ ะภาคได๎ ภูมิปญั ญาทอ๎ งถน่ิ 2. บอกความสัมพนั ธ์ระหวาํ งนาฏศลิ ป์ พื้นบา๎ น 2. นาฏศลิ ปพ์ ้นื บ๎าน กับวฒั นธรรมประเพณี ภาคเหนือ 3. บอกความสมั พันธร์ ะหวาํ งนาฏศิลป์ พ้ืนบา๎ น 3. นาฏศิลปพ์ นื้ บ๎านภาค กับภูมิปญั ญาท๎องถนิ่ ได๎ กลาง 4. นํานาฏศิลป์ พน้ื บา๎ น ภมู ิปัญญาทอ๎ งถน่ิ มา 4. นาฏศลิ ป์ พืน้ บา๎ นภาค ประยกุ ต์ใช๎ได๎อยํางเหมาะสม อีสาน 5. นาฏศลิ ป์ พ้ืนบ๎าน ภาคใต๎

~4~ แผนการจดั การเรียนรู้ กลุํมสาระความร๎ูพนื้ ฐาน รายวชิ าศลิ ปศึกษา ทช 11003 ระดบั ประถมศึกษา แผนการจดั การเรียนรู๎เรอ่ื งท่ี 1 ทศั นศิลป์พืน้ บา๎ น เวลา 3 ชัว่ โมง สอนวนั ท่ี...................วันที่................เดอื น....................................พ.ศ..................เวลา....................น. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ รเ๎ู ข๎าใจ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม ชื่นชม เหน็ คุณคําความงามทางทัศนศลิ ป์ของศลิ ปะพื้นบา๎ น และสามารถ วิเคราะหว์ พิ ากษ์ วจิ ารณไ์ ดอ๎ ยาํ งเหมาะสม ตวั ชว้ี ัด 1. อธิบายความหมายของธรรมชาติ ความงามความไพเราะของทัศนศิลป์ ดนตรีและ นาฏศลิ ป์ 2. อธิบายความร๎พู ืน้ ฐานของ ทศั นศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์พืน้ บา๎ น 3. สร๎างสรรคผ์ ลงานโดยใชค๎ วามรพ๎ู ้ืนฐานดา๎ นทศั นศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศิลป์พ้นื บ๎าน 4. ชนื่ ชม เหน็ คณุ คําของทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์พืน้ บ๎าน 5. วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์งานด๎านทัศนศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศิลป์พ้ืนบ๎าน สาระสาคัญ ทัศนศิลป์ หมายถึง ศิลปะที่รับร๎ูได๎ด๎วยการมอง ได๎แกํรูปภาพทิวทัศน์ท่ัวไปเป็นสําคัญอันดับ ต๎นๆ รูปภาพคนเหมือน ภาพล๎อเลียน ภาพส่ิงของตําง ๆ ก็ล๎วนแล๎วแตํเป็นเรื่องของทัศนศิลป์ด๎วยกัน ท่ังส้ิน ซึ่งถ๎ากลําววําทัศนศิลป์ เป็นความงามทางศิลปะ เชํน งานประติมากรรม งานสถาปัตยกรรม งานสิ่งพิมพ์ ฯลฯ ท่ีได๎จากการมอง หรอื ทศั นาน่นั เอง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. เพ่ือให๎มีความรู๎ ความเข๎าใจในพ้ืนฐานของทศั นศลิ ปพ์ น้ื บ๎าน 2. เพ่ือสามารถอธิบาย สร๎างสรรค์ อนุรักษ์วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์เก่ียวกับความงาม ด๎านทัศนศิลปพ์ น้ื บ๎านได๎ สาระการเรยี นรู้ 1. ทศั นศิลปพ์ นื้ บา๎ น 2. องค์ประกอบทางทศั นศิลป์ 3. รูปแบบและววิ ฒั นาการของทศั นศลิ ป์พ้ืนบา๎ น 4. รูปแบบและความงามของทศั นศลิ ปพ์ ้นื บา๎ น 5. ทศั นศลิ ปพ์ นื้ บา๎ นกับการแตงํ กาย 6. การตกแตํงท่ีอยํูอาศยั 7. คณุ คาํ ของทัศนศลิ ป์พืน้ บ๎าน

~5~ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝรุ ูไ๎ ผํเรยี น ศกึ ษาใบความรู๎ จากแบบเรยี น 2. มวี นิ ัย ทาํ งานตามทค่ี รูมอบหมายได๎ทนั เวลา 3. ขยนั มงุํ ม่นั ในการทาํ งาน ทาํ ใบงาน ทาํ กจิ กรรมกลมุํ 4. มคี วามสามัคคี มีนํา้ ใจ มคี วามรบั ผิดชอบ ชวํ ยเหลือกันทาํ กจิ กรรมกลมุํ ชน้ิ งาน/ภาระงาน 1. ใบความร๎ู 2. หนงั สือแบบเรียน 3. ใบงาน กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขั้นที่ 1 กําหนดสภาพปัญหา ความต๎องการในการเรียนร๎ู (O:Orientation) - ครูทักทายผ๎ูเรียนและเกร่ินเก่ียวกับเน้ือหาที่เรียนรู๎ในครั้งนี้หลังจากนั้นให๎ผู๎เรียนทํา แบบทดสอบกอํ นเรียนวิชาศิลปศึกษา ระดับประถมศึกษา และสอนเสริมความหมายและหลักแนวคิด ของหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง เพ่อื นํามาใช๎ในการประกอบอาชีพและนาํ ไปใชใ๎ นชวี ติ ประจําวัน ข้นั ท่ี 2 ขั้นแสดงหาข๎อมูลและจดั การเรยี นร๎ู (N:New ways of learning) - ครูให๎ผ๎ูเรียนศึกษาเรื่อง ทัศนศิลป์ พื้นบ๎านเพิ่มเติมจากหนังสือเรียนรายวิชาศิลปศึกษา ระดบั ประถมศึกษา ขน้ั ท่ี 3 การปฏิบัติและนาํ ไปประยุกต์ใช๎ (I:Implementation) - ผ๎เู รยี นนาํ ความร๎ูจากการเรียนในชวี ติ ประจาํ วนั พร๎อมจดบนั ทกึ และทํารายงาน ข้ันท่ี 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู๎ (E:Evaluation) - ครมู อบหมายให๎ผเ๎ู รียนทําใบงานเกยี่ วกบั ทศั นศลิ ป์ พนื้ บ๎าน ส่อื การเรยี นการสอน 1. ใบความรู๎ 2. หนังสือบทเรยี น 3. หอ๎ งสมดุ ประชาชน 4. ใบงาน 5. สอ่ื ออนไลน์ การวัดผลประเมินผล 1. วธิ ีการวัด - สงั เกตพฤตกิ รรมระหวํางการเรียนรแู๎ ละกระบวนการกลมุํ - วัดความรูจ๎ ากการทาํ กิจกรรมในใบงาน 2. เคร่อื งมือ - ใบงาน - หนงั สือเรียนศิลปศกึ ษา ระดบั ประถมศกึ ษา

~6~ เกณฑก์ ารวัดผลประเมนิ ผล 1. นักศึกษามีผลคะแนนในการทดสอบไมนํ ๎อยกวาํ รอ๎ ยละ 50 2. การมีสวํ นรวํ มในกจิ กรรมกลํมุ แหล่งการเรยี นร/ู้ สืบค้นขอ้ มูลเพ่ิมเติม 1. หอ๎ งสมดุ ประชาชน 2. กศน.ตาํ บล 3. แหลํงเรยี นรู๎สารสนเทศ 4. Internet

~7~ ใบงานที่ 1 รายวชิ าศิลปศึกษา ทช 11003 ระดบั ประถมศึกษา คาชีแ้ จง เตมิ คาํ ตอบลงในชอํ งวํางให๎ถกู ตอ๎ ง ข๎อที่ 1 หมายถึงศิลปะท่รี ับร๎ไู ด๎ดว๎ ยการมอง ไดแ๎ กํ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ขอ๎ ที่ 2 1. จุด หมายถงึ ......................................................................................................................... 2. เส๎น หมายถงึ ....................................................................................................................... 3. สี หมายถึง ........................................................................................................................... 4. พนื้ ผิว หมายถึง ................................................................................................................... 5. รปู รําง หมายถึง ................................................................................................................... 6. รปู ทรง หมายถึง .................................................................................................................. ข๎อที่ 3 เรือนไทยโบราณแบํงออกเป็น 2 ประเภทใหญํ ๆ คอื ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ขอ๎ ที่ 4 ความหมายของเครื่องแตํงกาย ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

~8~ แผนการจัดการเรียนรู้ กลมํุ สาระความร๎พู นื้ ฐาน รายวิชาศลิ ปศกึ ษา ทช 11003 ระดบั ประถมศกึ ษา แผนการจดั การเรียนรูเ๎ รอ่ื งที่ 2 ดนตรพี ื้นบ๎าน เวลา 3 ช่วั โมง สอนวนั ท.่ี ..................วันที่................เดือน....................................พ.ศ..................เวลา....................น. มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ รเ๎ู ข๎าใจ มีคณุ ธรรม จริยธรรม ชืน่ ชม เหน็ คุณคาํ ความงามทางดนตรีพนื้ บา๎ นและสามารถ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์วจิ ารณ์ได๎อยาํ งเหมาะสม ตัวชีว้ ดั มีความรู๎ ความเข๎าใจ ในพื้นฐานของดนตรีพ้ืนบ๎าน สามารถอธิบาย สร๎างสรรค์ อนุรักษ์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณเ์ กี่ยวกบั ความไพเราะของดนตรพี ้นื บา๎ นไดอ๎ ยํางเหมาะสม สาระสาคญั เพลงพื้นบ๎านมีคณุ คาํ ตํอสงั คมสํวนรวมและประเทศชาติที่ปรากฏใหเ๎ หน็ อยํางชดั เจน นอกจาก มีคุณคําให๎ความบันเทิงท่ีมีอยูํเป็นหลักแล๎ว ยังมีคุณคําให๎การศึกษาแกํคนในสังคมทั่งโดยทางตรงและ โดยทางอ๎อม จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เพอื่ มคี วามรู๎ ความเข๎าใจ ในพื้นฐานของดนตรพี ้ืนบ๎าน 2. เพ่ือใหส๎ ามารถอธิบาย สรา๎ งสรรค์ อนรุ ักษ์วเิ คราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณเ์ ก่ียวกับความไพเราะ ของดนตรพี ้ืนบา๎ นได๎ 3. บอกความร๎เู กย่ี วกับดนตรพี นื้ บา๎ นพ้นื ฐานได๎ สาระการเรยี นรู้ 1. ลักษณะของดนตรีพน้ื บา๎ น 2. ดนตรีพน้ื บา๎ นของไทย 3. ภมู ิปญั ญาทางดนตรี 4. คุณคาํ ของเพลงพ้นื บา๎ น 5. พัฒนาการของเพลงพน้ื บา๎ น 6. คณุ คําและการอนรุ ักษเ์ พลงพน้ื บา๎ น คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝุรไ๎ู ผํเรยี น ศกึ ษาใบความร๎ูจากแบบเรียน 2. มีวินัย ทํางานตามที่ครูมอบหมายได๎ทนั เวลา 3. ขยัน มงุํ มนั่ ในการทํางาน ทําใบงาน ทาํ กจิ กรรมกลมุํ 4. มีความสามัคคี มนี ํ้าใจ มคี วามรับผิดชอบ ชวํ ยเหลอื กันทาํ กิจกรรมกลมํุ

~9~ ชิน้ งาน/ภาระงาน 1. ใบงาน 2. รายงาน 3. หนังสือแบบเรยี น กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขั้นที่ 1 กาํ หนดสภาพปญั หา ความต๎องการในการเรยี นร๎ู (O:Orientation) - ครูทกั ทายผ๎เู รียนและเกร่ินเกี่ยวกับเนื้อหาท่ีเรียนรู๎ในครั้งนี้หลังจากน้ันให๎ผู๎เรียนบอกเคร่ือง ดนตรพี นื้ บา๎ นทีต่ นเองรจ๎ู ากท๎องถ่นิ ตนเองกอํ นเรยี นเร่ือง ดนตรพี ืน้ บ๎าน ขั้นที่ 2 ขั้นแสดงหาข๎อมูลและจัดการเรยี นร๎ู (N:New ways of learning) - ครใู หผ๎ ูเ๎ รยี นศึกษาเรอ่ื ง การเรียนร๎ูด๎วยตนเอง เพิ่มเติมจากหนังสือเรียนรายวิชา ศิลปศึกษา ม.ตน๎ ขั้นที่ 3 การปฏิบัติและนําไปประยุกตใ์ ช๎ (I:Implementation) - ผ๎ูเรียนนําหาความรู๎เพิ่มเติมเก่ียวกับดนตรีพ้ืนบ๎านในท๎องถิ่นตนเอง พร๎อมจดบันทึกและทํา รายงาน ขนั้ ท่ี 4 การประเมินผลการเรียนร๎ู (E:Evaluation) - ให๎ผเู๎ รยี นทาํ รายงานเกยี่ วกับดนตรพี ื้นบา๎ นทต่ี นเองมคี วามสนใจมาหนึง่ ชนิด ส่ือการเรียนการสอน 1. ใบความร๎ู 2. หนังสือบทเรยี น 3. ใบงาน การวดั ผลประเมินผล 1. วธิ กี ารวดั - สงั เกตพฤติกรรมระหวาํ งการเรยี นรู๎และกระบวนการกลํุม - วัดความรจ๎ู ากการทํากิจกรรมในใบงาน 2. เครื่องมือ - ใบงาน เกณฑก์ ารวดั ผลประเมนิ ผล 1. นักศึกษามผี ลคะแนนในการทดสอบไมํน๎อยกวํารอ๎ ยละ 50 2. การมสี ํวนรวํ มในกิจกรรมกลมํุ แหล่งการเรยี นร/ู้ สืบค้นขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ 1. หอ๎ งสมุดประชาชน 2. แหลํลงเรียนรสู๎ ารสนเทศ 3. Internet

~ 10 ~ ใบงานที่ 2 รายวชิ าศลิ ปศึกษา ทช 11003 ระดบั ประถมศกึ ษา คาชแ้ี จง เติมคาํ ตอบลงในชอํ งวาํ งให๎ถูกต๎อง ข๎อที่ 1 ใหผ๎ เู๎ รียนอธิบายลกั ษณะของดนตรพี ้นื บา๎ นเปน็ ขอ๎ ๆ ตามท่ีเรียนมา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ข๎อที่ 2 ใหผ๎ ๎เู รียนศึกษาดนตรีพ้ืนบ๎านในท๎องถิ่นของผ๎ูเรียน แล๎วจดบันทึกไว๎ จากน้ันนํามาอภิปรายใน ชั้นเรยี น ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ข๎อท่ี 3 ใหผ๎ ู๎เรยี นลองหัดเลํนดนตรีพื้นบ๎านจากผรู๎ ๎ูในทอ๎ งถิ่น แล๎วนํามาเลํนให๎ชมในชั้นเรียน ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ข๎อที่ 4 ผู๎เรียนมีแนวความคิดในการอนุรักษ์เพลงพ้ืนบ๎านในท๎องถิ่นของผู๎เรียนอยํางไรบ๎าง ให๎ผู๎เรียน บนั ทึกเปน็ รายงานและนําแสดงแลกเปล่ียนความคดิ เหน็ กันในชน้ั เรียน ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

~ 11 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุํ สาระความรพู๎ ้ืนฐาน รายวิชาศลิ ปศกึ ษา ทช 11003 ระดับประถมศกึ ษา แผนการจัดการเรยี นรูเ๎ รอื่ งท่ี 3 นาฏศลิ ป์ พ้นื บ๎าน และการผลติ เคร่ืองดนตรี เวลา 3 ช่วั โมง สอนวันที.่ ..................วันท่.ี ...............เดือน.......................................พ.ศ..................เวลา....................น. มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ 1. นาฏศลิ ปพ์ น้ื บ๎านและภมู ิปญั ญาท๎องถน่ิ 2. คณุ คําและการอนุรักษน์ าฏศลิ ป์พนื้ บ๎าน วฒั นธรรมประเพณีและภูมปิ ัญญาท๎องถิน่ 3. ส่งิ สาํ คญั ของการเร่ิมตน๎ ประกอบอาชพี อสิ ระ ตัวช้วี ัด 1. บอกประวัตคิ วามเปน็ มาของนาฏศลิ ป์ พ้ืนบ๎านแตํละภาคได๎ 2. บอกความสมั พันธ์ระหวํางนาฏศลิ ป์ พน้ื บ๎านกบั วฒั นธรรมประเพณี 3. บอกความสมั พนั ธ์ระหวํางนาฏศิลป์ พ้ืนบ๎านกบั ภมู ิปญั ญาท๎องถน่ิ ได๎ 4. นํานาฏศลิ ป์ พนื้ บา๎ น ภมู ปิ ญั ญาท๎องถน่ิ มาประยุกตใ์ ชไ๎ ด๎อยํางเหมาะสม สาระสาคัญ นาฏศิลป์ พื้นบ๎าน เป็นการแสดงท่ีเกิดขึ้นตามท๎องถ่ินตําง ๆ มักเลํนเพื่อความสนุกสนาน บันเทิง ผํอนคลายความเหน็ดเหน่ือย หรือเป็นการแสดงท่ีเกี่ยวกับการประกอบอาชีพของประชาชน ตามภาคนั้น ๆ นาฏศิลป์พ้ืนบ๎านเป็นการแสดงท่ีสะท๎อนความเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคตําง ๆ ของ ประเทศไทย ตามลักษณะพ้ืนท่ีวัฒนธรรมท๎องถิ่นประเพณีที่มีอยํูคูํกับสังคมชนบทซึ่งสอดแทรกความ สนุกสนาน ความบนั เทิงควบคูํไปกับการใชช๎ ีวิตประจําวัน จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพือ่ สามารถบอกประวตั คิ วามเปน็ มาของนาฏศลิ ป์พนื้ บา๎ นแตํละภาคได๎ 2. เพ่ือบอกความสัมพนั ธร์ ะหวํางนาฏศลิ ป์พื้นบา๎ นกับวัฒนธรรมประเพณไี ด๎ 3. เพอ่ื นาํ ความรู๎เกย่ี วกบั การผลติ ดนตรพี ืน้ บ๎านไปใชใ๎ นชวี ิตประจาํ วันได๎ สาระการเรยี นรู้ 1. นาฏศลิ ปพ์ ้ืนบา๎ นและภูมปิ ัญญาท๎องถิ่น 2. นาฏศลิ ปพ์ ้นื บา๎ นภาคเหนือ 3. นาฏศิลปพ์ ้นื บ๎านภาคกลาง 4. นาฏศลิ ปพ์ นื้ บ๎านภาคอีสาน 5. นาฏศิลปพ์ ื้นบา๎ นภาคใต๎ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝรุ ไ๎ู ผเํ รยี น ศึกษาใบความรู๎จากแบบเรยี น 2. มวี นิ ยั ทํางานตามทคี่ รมู อบหมายไดท๎ ันเวลา

~ 12 ~ 3. ขยัน มงํุ ม่ันในการทาํ งาน ทาํ ใบงาน ทาํ กจิ กรรมกลุมํ 4. มคี วามสามคั คี มีนา้ํ ใจ มคี วามรบั ผิดชอบ ชํวยเหลอื กนั ทํากิจกรรมกลํมุ ชิน้ งาน/ภาระงาน 1. ใบงาน 2. รายงาน 3. หนงั สือแบบเรียน กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 กําหนดสภาพปญั หา ความต๎องการในการเรียนร๎ู (O:Orientation) - ครูทักทายผู๎เรียนและเกร่ินเก่ียวกับเรียนเร่ือง นาฏศิลป์พ้ืนบ๎าน และการผลิตเคร่ืองดนตรี พรอ๎ มสอดแทรกหลักปรัชญาของเศรษกจิ พอเพยี ง ( 2 3 4) และบุญคุณของในหลวงรัชกาลท่ี 9 และ พระราชกรณียกิจการทรงดนตรี การรักษาวัฒนธรรมอันดีงามของท๎องถิ่นและประเทศชาติและสืบ ทอดให๎คนรนุํ หลงั ไดศ๎ กึ ษาตํอไป ขนั้ ท่ี 2 ข้ันแสดงหาข๎อมูลและจัดการเรียนร๎ู (N:New ways of learning) - ครูให๎ผ๎ูเรียนศึกษาเร่ือง การเรียนรู๎ด๎วยตนเอง เพิ่มเติมจากหนังสือเรียนรายวิชาศิลปศึกษา ม.ตน๎ ข้ันท่ี 3 การปฏิบัตแิ ละนําไปประยกุ ตใ์ ช๎ (I:Implementation) - ผเู๎ รียนนําความร๎ูจากการเรยี นและนําไปประยุกตใ์ ชใ๎ นการผลติ เครอื่ งดนตรี ขน้ั ท่ี 4 การประเมินผลการเรยี นร๎ู (E:Evaluation) - ให๎ผเู๎ รียนทําแบบทดสอบหลงั เรยี น วิชาศลิ ปศึกษา ระดบั ประถมศกึ ษา - ครูเฉลยแบบทดสอบ พร๎อมสรุปส่ิงท่ีได๎ เรียนรู๎รํวมกับผ๎ูเรียน และซักถามประเด็นข๎อสงสัย เพิ่มเตมิ อ่ืน ๆ ส่ือการเรียนการสอน 1. ใบความร๎ู 2. หนังสอื บทเรียน 3. ใบงาน การวัดผลประเมินผล 1. วิธกี ารวัด - สงั เกตพฤตกิ รรมระหวํางการเรียนร๎แู ละกระบวนการกลํุม - วดั ความร๎ูจากการทาํ กิจกรรมในใบงาน 2. เครอ่ื งมอื - ใบงาน

~ 13 ~ เกณฑก์ ารวดั ผลประเมนิ ผล 1. นักศกึ ษามผี ลคะแนนในการทดสอบไมนํ ๎อยกวํารอ๎ ยละ 50 2. การมีสวํ นรํวมในกิจกรรมกลํุม แหล่งการเรียนรู/้ สืบคน้ ข้อมูลเพม่ิ เติม 1. ห๎องสมดุ ประชาชน 2. กศน. ตําบล 3. แหลํงเรียนรู๎สารสนเทศ 4. เวบ็ ไซต์ www.1213.or.th เฟซบ๏กุ www.facebook.com/hotline1213

~ 14 ~ ใบงานที่ 3 รายวชิ าศิลปศึกษา ทช 11003 ระดบั ประถมศกึ ษา คาชี้แจง เติมคาํ ตอบลงในชํองวํางให๎ถกู ตอ๎ ง ขอ๎ ท่ี 1 จงอธบิ ายความรเ๎ู กีย่ วกบั นาฏศลิ ป์พื้นบา๎ นของไทยมาพอสงั เขป ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................... ข๎อที่ 2 ให๎ผ๎ูเรียนศึกษาการแสดงนาฏศิลป์พื้นบ๎านของท๎องถ่ินตนเอง โดยศึกษาประวัติความเป็นมา รูปแบบการแสดง วิธีการแสดงและฝึกหัดการแสดงอยํางน๎อย 1 ชุด ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ขอ๎ ที่ 3 อธิบายขั้นตอนแนวทางการประกอบอาชพี การผลติ ขลุํย ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ขอ๎ ท่ี 4 อธบิ ายข้ันตอนแนวทางการประกอบอาชีพการผลิตแคน ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ขอ๎ ท่ี 5 อธบิ ายขั้นตอนแนวทางการประกอบอาชพี การผลติ กลองแขก ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

~ 15 ~ แบบทดสอบก่อนเรียน รายวชิ าศลิ ปศึกษา ทช 11003 ระดับประถมศกึ ษา คาชแ้ี จง จงเลอื กคําตอบท่ถี กู ตอ๎ งทีส่ ุดเพียงคําตอบเดียว (10 คะแนน) 1. ทัศนศิลป์พ้ืนบ๎าน หมายถึงข๎อใด * 6. จะเข๎ เป็นเคร่ืองดนตรีประเภทใด * ก. ความงามของศิลปิน ก. เคร่ืองดีด ข. ความงามของลายเส๎น ข. เคร่ืองสี ค. ความงามแบบเหมือนจริง ค. เคร่ืองตี ง. ความงามทางศิลปะแบบพ้ืนบ๎าน ง. เคร่ืองเปุา 2. สาเหตุท่ีทาํ ให๎เกิดงานทัศนศิลป์พื้นบ๎านคือ 7. เสียงของซึง มีลักษณะอยํางไร ข๎อใด * ก. เสียงสูงแหลม ข. เสียงดังกังวาน ก. ความเช่อื ภูติ ผี ค. เสียงเบาและเสียงท๎ุม ข. การประกอบอาชีพ ง. เสียงเบาและนุํมนวล ค. อาชีพและวิถีชีวิต ง. การใช๎เวลาวํางให๎เกิดประโยชน์ 8. เสียงของเครื่องดนตรที ี่คล๎ายกับระนาด 3. การสรา๎ งพระเมรุมาศเป็นงานทัศนศิลป์ แตํเสียงเบาและทุ๎มกวํา ตรงกับข๎อใด * ประเภทใด * ก. ประติมากรรม ก. กรับ ข. สถาปัตยกรรม ข. ตะโพน ค. จิตรกรรม ค. โปงลาง ง. หัตถกรรม ง. กลองสองหน๎า 4. สีในข๎อใดเป็นแมํสี * 9. ข๎อใดเป็นเคร่ืองตีที่ทาํ ด๎วยหนัง * ก. แดง เขียว ดาํ ก. กลองทัด ข. เหลือง แดง เขียว ข. ระนาดท๎ุม ค. แดง นา้ํ เงิน เขียว ค. ฆ๎องวงเล็ก ง. เหลือง แดง นาํ้ เงิน ง. ฆ๎องวงใหญํ 5. กระติบ เป็นงานหัตถกรรมของภาคใด * 10.ข๎อใดเป็นเคร่ืองดนตรีประเภทเครื่อง ก. ภาคใต๎ เปุา * ข. ภาคกลาง ก. ตะโพน ค. ภาคเหนือ ข. ราํ มะนา ง. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ค. เปิงมางคอก ง. ขลํุยเพียงออ

~ 16 ~ แบบทดสอบหลังเรยี น รายวิชาศิลปศกึ ษา ทช 11003 ระดบั ประถมศกึ ษา คาชี้แจง จงเลอื กคาํ ตอบทถ่ี กู ต๎องทสี่ ุดเพียงคําตอบเดยี ว (10 คะแนน) 1. ทัศนศิลป์พื้นบ๎าน หมายถึงข๎อใด * 6. จระเข๎ เป็นเครื่องดนตรีประเภทใด * ก. ความงามของศิลปิน ก. เคร่ืองดีด ข. ความงามของลายเส๎น ข. เครื่องสี ค. ความงามแบบเหมือนจริง ค. เคร่ืองตี ง. ความงามทางศิลปะแบบพื้นบ๎าน ง. เคร่ืองเปุา 2. สาเหตุที่ทําให๎เกิดงานทัศนศิลป์พื้นบ๎านคือ 7. เสียงของซึง มีลักษณะอยํางไร ข๎อใด * ก. เสียงสูงแหลม ข. เสียงดังกังวาน ก. ความเช่ือ ภูติ ผี ค. เสียงเบาและเสียงท๎ุม ข. การประกอบอาชีพ ง. เสียงเบาและนุํมนวล ค. อาชีพและวิถีชีวิต ง. การใช๎เวลาวํางให๎เกิดประโยชน์ 8. เสียงของเครื่องดนตรที ่ีคล๎ายกับระนาด 3. การสรา๎ งพระเมรุมาศเป็นงานทัศนศิลป์ แตํเสียงเบาและทุ๎มกวํา ตรงกับข๎อใด * ประเภทใด * ก. ประติมากรรม ก. กรับ ข. สถาปัตยกรรม ข. ตะโพน ค. จิตรกรรม ค. โปงลาง ง. หัตถกรรม ง. กลองสองหน๎า 4. สีในข๎อใดเป็นแมํสี * 9. ข๎อใดเป็นเครื่องตีที่ทาํ ด๎วยหนัง * ก. แดง เขียว ดาํ ก. กลองทัด ข. เหลือง แดง เขียว ข. ระนาดท๎ุม ค. แดง นํา้ เงิน เขียว ค. ฆ๎องวงเล็ก ง. เหลือง แดง นา้ํ เงิน ง. ฆ๎องวงใหญํ 5. กระติบ เป็นงานหัตถกรรมของภาคใด * 10.ข๎อใดเป็นเคร่ืองดนตรีประเภทเคร่ือง ก. ภาคใต๎ เปุา * ข. ภาคกลาง ก. ตะโพน ค. ภาคเหนือ ข. ราํ มะนา ง. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ค. เปิงมางคอก ง. ขลํุยเพียงออ

~ 17 ~ รายวิชาประวัตศิ าสตร์ชาตไิ ทย สค 12024 กิจกรรมการเรยี นรู้ รายวิชาประวัติศาสตรช์ าติไทย สค 12024 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั ประถมศึกษา ครง้ั ท่ี กจิ กรรมการเรยี นรู้ สถานท่ี กศน.อาํ เภอแสวงหา 1 กจิ กรรมการเรียนการสอน คร้ังที่ 1 วชิ าประวตั ิศาสตรช์ าติไทย (สค 12024) เรื่อง พระมหากษตั ริย์ไทยและบรรพบรุ ุษในสมยั สโุ ขทัย ๒ กิจกรรมการเรียนการสอน ครั้งท่ี ๒ กศน.อาํ เภอแสวงหา วชิ าประวตั ศิ าสตร์ชาติไทย (สค 12024) กศน.อาํ เภอแสวงหา เรอื่ ง มรดกทางวฒั นธรรมสมยั สุโขทัย ๓ กจิ กรรมการเรียนการสอน ครง้ั ท่ี ๓ วิชาประวตั ศิ าสตร์ชาติไทย (สค 12024) เรือ่ ง เหตกุ ารณท์ างประวัติศาสตร์สมัยสโุ ขทยั

~ 18 ~ คาอธิบายรายวชิ า รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ชาตไิ ทย (สค 12024) จานวน 2 หนว่ ยกิต (80ชั่วโมง) ระดบั ประถมศกึ ษา มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ มีความร๎ูความเข๎าใจ ตระหนักเก่ียวกับภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์เศรษฐศาสตร์การเมือง การปกครองในท๎องถิ่น ประเทศ นํามาปรับใช๎ในการดําเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ เพื่อความ ม่นั คงของชาติ ศึกษาและฝกึ ทกั ษะเก่ยี วกับเร่อื งตอ่ ไปน้ี ความภูมิใจในความเป็นชาติไทย พระมหากษัตริย์ไทยและบรรพบุรุษในสมัยสุโขทัย มรดก ทางวัฒนธรรมสมัยสโุ ขทยั และเหตกุ ารณ์ทางประวตั ศิ าสตร์สมยั สโุ ขทัย การจัดประสบการณก์ ารเรยี นร๎ู ให๎ผู๎เรียนแลกเปล่ียนเรียนร๎ูจากการอภิปรายกลุํม การศึกษาจากเอกสารประกอบการเรียน การทําใบงาน แบบบันทึกการเรียนร๎ูศึกษาจากแหลํงการเรียนรู๎ตําง ๆ ได๎แกํอินเทอร์เน็ต/ผู๎ร๎ู ผู๎เชี่ยวชาญและส่อื ตาํ ง ๆ การวัดและประเมนิ ผล สังเกตพฤติกรรมการเรียนร๎ูความตั้งใจความสนใจความรับผิดชอบ การแลกเปลี่ยนเรียนรู๎ การอภปิ ราย การเข๎ารวํ มกจิ กรรม ผลงาน ชิ้นงาน และแบบทดสอบ

~ 19 ~ รายละเอียดคาอธบิ ายรายวชิ า รายวิชาประวตั ิศาสตร์ชาตไิ ทย (สค 12024) จานวน 2 หนว่ ยกติ (80ชวั่ โมง) ระดบั ประถมศกึ ษา มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ มีความรู๎ ความเข๎าใจ ตระหนักเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองในท๎องถ่ิน ประเทศ นํามาปรับใช๎ในการดําเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ เพ่ือความ ม่ันคงของชาติ ท่ี หัวเรื่อง ตัวชว้ี ัด เน้อื หา จานวน ชั่วโมง 1 พระมหากษตั รยิ ์ 1. อธบิ ายความหมาย ความเปน็ มา 1. ความหมาย ความเป็นมา 40 ไทยและบรรพบรุ ษุ และความสาํ คัญ และความสาํ คญั ของสถาบนั ในสมยั สุโขทัย ของสถาบันหลักของชาติ หลักของชาติ 2. บอกความเป็นมาของชาตไิ ทย 2.ความเป็นมาของชาติไทย 3. อธิบายเสรีภาพในการนบั ถือ 3. เสรภี าพในการนบั ถือศาสนา ศาสนาของไทย ของไทย 4. บอกและยกตัวอยําง บุญคณุ 4. บุญคณุ ของพระมหากษัตริย์ ของพระมหากษตั ริย์ สมยั สโุ ขทัย ไทยตั้งแตํ สมัยสุโขทยั อยุธยา อยธุ ยา ธนบุรี และรตั นโกสินทร์ ธนบุรี และ รตั นโกสนิ ทร์ 5. บอกชื่อพระมหากษัตริยไ์ ทย ใน 4.1 สมัยสโุ ขทัย สมัยสุโขทัย 4.2 สมัยอยุธยา 6. บอกพระราชประวัติและ 4.3 สมัยธนบรุ ี พระราชกรณยี กิจท่ีสาํ คญั ของ 4.4 สมัยรัตนโกสินทร์ พระมหากษัตรยิ ์ไทยในสมัยสุโขทัย 5. พระมหากษัตริยไ์ ทยในสมัย 6.1 พํอขุนศรีอนิ ทราทติ ย์ สุโขทยั 6.2 พํอขุนรามคาํ แหงมหาราช 6. พระราชประวตั ิและพระราช 62.3 พระมหาธรรมราชาท่ี 1 กรณยี กิจ ที่สําคัญของ (พญาลไิ ท) พระมหากษตั ริย์สมยั สุโขทยั 7. บอกวรี กรรมของบรรพบรุ ษุ สมยั 6.1 พํอขนุ ศรอี ินทราทิตย์ สโุ ขทัย 6.2 พํอขนุ รามคําแหง มหาราช 6.3 พระมหาธรรมราชา ท่ี 1 (พญาลิไท) 7. วรี กรรมของบรรพบุรุษสมยั สโุ ขทยั ไดแ๎ กํ พอํ ขนุ ผาเมอื ง

~ 20 ~ ที่ หวั เร่ือง ตวั ช้วี ัด เนอ้ื หา จานวน 2 มรดกทางวัฒนธรรม ชั่วโมง 1. บอกและยกตัวอยาํ ง 1. มรดกทางวฒั นธรรมสมยั 30 สมยั สโุ ขทัย วฒั นธรรมสมัยสุโขทยั ได๎ สุโขทัย 10 3 เหตกุ ารณ์ทาง ประวตั ิศาสตร์สมัย อยํางน๎อย 3 เร่ือง 1.1 ประเพณลี อยกระทง เผา สโุ ขทยั 2. บอกแนวทางในการสบื สาน เทยี น เลํนไฟ วัฒนธรรมสมยั สุโขทัย 1.2 พนมเบยี้ พนมหมาก 3. แสดงความคดิ เห็นในการ พนมดอกไม๎ สบื สานมรดกทางวัฒนธรรมสมัย 1.3 ลายสือไทย สุโขทัยการปฏิบตั ไิ ดอ๎ ยาํ งน๎อย 1 1.4 ไตรภูมพิ ระรํวง เรอ่ื ง 1.5 เครอ่ื งสังคโลก 1.6 ประเพณกี ิน 4 ถ๎วย(ไขํ กบ นกปลํอย มะลิลอย อา๎ ยตือ) 1.7 ดนตรีไทยและดนตรี พนื้ บา๎ น สมยั สโุ ขทัย 1.8 สถาปัตยกรรมและ ประตมิ ากรรม สมยั สโุ ขทยั - 1 เจดยี ์สมัยสุโขทัย - 2 พระพุทธรปู สมยั สุโขทัย 2. แนวทางในการสืบสาน มรดก ทางวัฒนธรรมสมัย สโุ ขทยั 1. อธบิ ายวิธบี รหิ ารจัดการนา้ํ 1. ความเปน็ มาของ สมยั สโุ ขทัย ประวัตศิ าสตรก์ ารบรหิ าร 2. ยกตวั อยาํ งการประยุกตใ์ ช๎การ จดั การน้ํา อยํูกับนาํ้ ในสมัยโบราณกับ 2. การอยกํู ับนํา้ สมัยโบราณ ชีวิตประจาํ วัน

~ 21 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ กลํุมสาระความรพ๎ู นื้ ฐาน รายวชิ าประวัติศาสตร์ชาติไทย สค 12024 ระดบั ประถมศึกษา แผนการจดั การเรยี นร๎ูเรือ่ งท่ี 1 พระมหากษตั รยิ ์ไทยและบรรพบรุ ุษในสมัยสุโขทัย เวลา 3 ชวั่ โมง สอนวนั ท่ี...................วันที่................เดอื น.......................................พ.ศ..................เวลา....................น. มาตรฐานการเรียนร้รู ะดับ มีความรู๎ความเข๎าใจ ตระหนักเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์เศรษฐศาสตร์การเมือง การปกครองในท๎องถ่ิน ประเทศ นํามาปรับใช๎ในการดําเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ เพ่ือความ มนั่ คงของชาติ ตวั ชว้ี ัด 1. อธิบายความหมาย ความเป็นมาและความสําคญั ของสถาบันหลักของชาติ 2. บอกความเป็นมาของชาตไิ ทย 3. อธบิ ายเสรภี าพในการนบั ถือศาสนาของไทย 4. บอกและยกตัวอยาํ งบุญคุณ ของพระมหากษัตรยิ ์ สมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ 5. บอกช่อื พระมหากษัตรยิ ์ไทย ในสมยั สุโขทัย 6. บอกพระราชประวัติและพระราชกรณยี กจิ ท่สี าํ คญั ของพระมหากษัตริยไ์ ทยในสมยั สุโขทยั 7. บอกวรี กรรมของบรรพบุรษุ สมัยสโุ ขทัย สาระสาคญั อาณาจักรสุโขทยั ถอื เปน็ อาณาจักรแหํงแรกของคนไทย โดยกวําจะมาเป็นอาณาจกั รแหํงนี้ได๎ น้ัน ไมํใชํเรื่องที่งํายเลย เพราะในชํวงเวลานั้น อาณาจักรเขมรโบราณหรือขอมย่ิงใหญํมาก อีกทั้งยัง ขยายอิทธิพลมายังชุมชนชาวสยาม มอญ และลาว ทําให๎พ้ืนท่ีบริเวณอาณาจักรสุโขทัยตกอยูํภายใต๎ การปกครองของขอม ซ่ึงปรากฏหลักฐานด๎านสถานที่ตําง ๆ มาถึงปัจจุบัน เชํน ศาลตาผาแดง พระ ปรางค์วัดศรีสวาย พระปรางค์วันพระพายหลวง โดยท้ังหมดอยูํในพื้นท่ีจังหวัดสุโขทัยในปัจจุบัน ณ ชํวงเวลาน้นั สหายชาวไทย 2 ทาํ นคอื พํอขนุ ผาเมอื ง เจ๎าเมืองราด และพํอขุนบางกลางหาว เจ๎าเมือง บางยาง ได๎รวํ มมือกันขบั ไลขํ อมออกไปจากดนิ แดนไดส๎ ําเรจ็ จากนน้ั จงึ ได๎สถาปนาพอํ ขุนบางกลางหาว ข้ึนเป็นกษัตริย์ของกรุงสุโขทัยในปี พ.ศ. 1792 โดยได๎เฉลิมพระนามใหมํวํา “พํอขุนศรีอินราทิตย์” ถือเป็นพระปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์พระรํวง และยังถือเป็นต๎นกําเนิดราชวงศ์พระรํวงปกครอง อาณาจักรสุโขทยั มาอยาํ งยาวนานเพียงราชวงศเ์ ดยี ว โดยมกี ษัตรยิ ์ทง้ั สิ้น 9 พระองค์ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เพ่อื ใหผ๎ ๎เู รยี นมคี วามร๎ู ความเขา๎ ใจ ความสําคัญของสถาบันหลักของชาติ ความเป็นมาของ ชนชาติไทย และบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทยและบรรพบุรุษในสมัยสุโขทัย กับการรวมชาติ ความสําคัญของสถาบันศาสนา ความสําคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ และวิเคราะห์นําเสนอ เหตกุ ารณส์ ําคญั ทางประวัตศิ าสตร์

~ 22 ~ 2. เพื่อให๎ผ๎ูเรียนมีทักษะการแสวงหาความร๎ู และทักษะการคิดวิเคราะห์นําเสนอเหตุการณ์ สาํ คญั ทาง ประวตั ศิ าสตร์ 3. เพอ่ื ให๎ผ๎เู รยี นตระหนกั ถึงความสําคัญของสถาบนั หลักของชาติ สาระการเรยี นรู้ 1. พระมหากษตั ริย์ไทยในสมัยสโุ ขทัย 2. พระราชประวัติและพระราชกรณียกจิ ท่ีสําคญั ของพระมหากษัตรยิ ์สมัยสุโขทัย 2.1 พํอขุนศรอี นิ ทราทติ ย์ 2.2 พอํ ขนุ รามคําแหงมหาราช 2.3 พระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลไิ ท) 3. วรี กรรมของบรรพบรุ ษุ สมยั สุโขทยั 3.1 พอํ ขุนผาเมือง คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝรุ ูไ๎ ผํเรียน ศกึ ษาใบความร๎ูจากแบบเรยี น 2. มวี นิ ยั ทาํ งานตามทค่ี รูมอบหมายไดท๎ ันเวลา 3. ขยัน มุงํ ม่ันในการทํางาน ทําใบงาน ทํากจิ กรรมกลุมํ 4. มีความสามัคคี มนี า้ํ ใจ มีความรับผดิ ชอบ ชวํ ยเหลือกนั ทํากจิ กรรมกลุํม ชน้ิ งาน/ภาระงาน 1. ใบงาน 2. หนงั สือแบบเรียน กระบวนการจัดการเรยี นรู้และกจิ กรรมเพิ่มเติม ขั้นท่ี 1 กําหนดสภาพปัญหา ความตอ๎ งการ - ครูและผ๎ูเรียนพูดคุยเร่ืองความเป็นมาของ พระมหากษัตริย์ไทยและบรรพบุรุษในสมัย สโุ ขทยั ขัน้ ท่ี 2 แสวงหาขอ๎ มลู และการจดั การเรยี นรู๎ - ครูผู๎สอนแบํงกลุํมให๎ผู๎เรียนศึกษาค๎นคว๎าจากหนังสือเรียน/อินเตอร์เน็ต พระมหากษัตริย์ ไทยและบรรพบุรษุ ในสมยั สุโขทยั ขั้นที่ 3 การปฏิบตั แิ ละนําไปประยุกตใ์ ช๎ - ครูให๎ผ๎ูเรียนรํวมกันพูดคุย วิเคราะห์เกี่ยวกับเหตุการณ์สําคัญทางประวัติศาสตร์ โดยให๎ ศกึ ษาคน๎ คว๎าจากสื่อทางอนิ เตอร์เนต็ และใบความรู๎ และรวํ มกนั นาํ เสนอ - ครูได๎สอดแทรกกระบวนการถอดองค์ความร๎ู 2 เงื่อน 3 หลักการ 4 มิติ ตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยให๎ผเู๎ รียนถอดองคค์ วามร๎ูเกย่ี วกับเหตกุ ารณ์สาํ คญั ทางประวัตศิ าสตร์ - ครูให๎ผู๎เรียนศึกษาเพิ่มเติมจากแหลํงเรียนรู๎อ่ืนๆ และมอบหมายงานและให๎กลับไปทบทวน ในสปั ดาห์ตํอไป

~ 23 ~ ขน้ั ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู๎ - ครแู ละผ๎ูเรยี นรวํ มกนั สรปุ ผลการเรยี นรท๎ู ่ีไดร๎ บั - ครใู หผ๎ ู๎เรยี นทาํ แบบประเมินผลการเรยี นรู๎/ใบงาน - ครูประเมินผลจากการสงั เกตพฤตกิ รรมและการทํากจิ กรรม สื่อการเรยี นรู้ 1. หนงั สือแบบเรียน 2. ใบความร๎ู 3. อนิ เตอร์เน็ต การวัดผลและประเมนิ ผล 1. วธิ กี ารวดั - การสงั เกตพฤติกรรมจากการพบกลุมํ - การมีสวํ นรวํ มในการแสดงความคิดเหน็ 2. เครอ่ื งมือ - ใบงาน เกณฑ์การวัดผลประเมนิ ผล 1. นักศึกษามผี ลคะแนนในการทดสอบไมํนอ๎ ยกวาํ รอ๎ ยละ 50 2. การมีสวํ นรํวมในกจิ กรรมกลุมํ แหล่งการเรียนร/ู้ สบื คน้ ข้อมูลเพิ่มเติม 1. ห๎องสมุดประชาชน 2. กศน. ตําบล 3. แหลงํ เรยี นรูส๎ ารสนเทศ 4. Internet

~ 24 ~ ใบงานท่ี 1 รายวชิ าประวัติศาสตรช์ าตไิ ทย สค 12024 ระดับประถมศึกษา คาชแ้ี จง เติมคําตอบลงในชอํ งวํางให๎ถกู ตอ๎ ง ขอ๎ ท่ี 1 บอกช่ือพระมหากษัตรยิ ไ์ ทยในสมัยสุโขทัย ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ขอ๎ ท่ี 2 จงบอกพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจทส่ี ําคญั ของพระมหากษัตรยิ ์สมยั สุโขทัย ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ข๎อท่ี 3 จงบอกวรี กรรมของบรรพบุรษุ สมยั สโุ ขทยั ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

~ 25 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ กลุมํ สาระความรู๎พ้นื ฐาน รายวชิ าประวัตศิ าสตร์ชาติไทย สค 12024 ระดับประถมศกึ ษา แผนการจดั การเรียนรูเ๎ รอ่ื งท่ี 2 มรดกทางวัฒนธรรมสมยั สโุ ขทัย เวลา 3 ชว่ั โมง สอนวันที่...................วันที่................เดอื น.......................................พ.ศ..................เวลา....................น. มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั มีความรู๎ความเข๎าใจ ตระหนักเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์เศรษฐศาสตร์การเมือง การปกครองในท๎องถิ่น ประเทศ นํามาปรับใช๎ในการดําเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ เพื่อความ มั่นคงของชาติ ตวั ช้ีวัด 1. บอกและยกตัวอยาํ งวฒั นธรรมสมยั สุโขทยั ได๎อยํางน๎อย 3 เร่อื ง 2. บอกแนวทางในการสบื สานวฒั นธรรมสมัยสุโขทยั 3. แสดงความคิดเห็นในการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมสมัยสุโขทัยการปฏิบัติได๎อยํางน๎อย 1 เรอื่ ง สาระสาคัญ สังคมสุโขทัยยึดมั่นในพระพุทธศาสนา ประชาชนจึงได๎รับการขัดเกลาจิตใจให๎มีความ ละเอยี ดอํอน ทั้งในแงขํ องหลกั ธรรมและศิลปกรรมตําง ๆ ทําให๎สามารถสร๎างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมไว๎ มากมาย ซ่ึงกลายเป็นมรดกตกทอดแกํอาณาจักรไทยในยุคตํอ ๆ มาหลายด๎าน ได๎แกํ ด๎านศาสนา ดา๎ นศิลปกรรม ดา๎ นภาษาและวรรณกรรม และด๎านขนบธรรมเนยี มประเพณี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เพ่ือใหผ๎ เ๎ู รยี นมีความร๎ู ความเข๎าใจ มรดกทางวฒั นธรรมสมัยสโุ ขทยั 2. เพ่ือให๎ผ๎ูเรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์ถึงคุณประโยชน์ ของการสืบสานมรดกวัฒนธรรม สมัยสุโขทัย 3. เพือ่ ใหผ๎ เู๎ รยี นตระหนักถึงคุณคําทไ่ี ดร๎ ับจากการศกึ ษาประวตั ิศาสตรช์ าติไทย สาระการเรียนรู้ 1. มรดกทางวฒั นธรรมสมัยสุโขทยั - ประเพณลี อยกระทง เผาเทยี นเลํนไฟ - พนมเบย้ี พนมหมาก พนมดอกไม๎ - ลายสอื ไทย - ไตรภูมิพระรวํ ง - เครอื่ งสังคมโลก - ประเพณกี ิน 4 ถ๎วย (ไขํกบ นกปลํอย มะลลิ อยอ๎ายตือ) - ดนตรไี ทยและดนตรีพนื้ บ๎าน สมัยสุโขทัย - สถาปตั ยกรรมและประติมากรรม สมัยสุโขทัย

~ 26 ~ - เจดยี ์สมัยสโุ ขทยั - พระพุทธรปู สมยั สโุ ขทยั 2. แนวทางในการสืบสานมรดกทางวฒั นธรรมสมัยสโุ ขทัย คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝรุ ๎ไู ผเํ รียน ศึกษาใบความรู๎จากแบบเรียน 2. มีวินัย ทาํ งานตามท่คี รูมอบหมายไดท๎ นั เวลา 3. ขยนั มุงํ ม่ันในการทาํ งาน ทาํ ใบงาน ทาํ กจิ กรรมกลํมุ 4. มีความสามัคคี มีน้ําใจ มคี วามรับผิดชอบ ชํวยเหลือกนั ทํากิจกรรมกลมุํ ชน้ิ งาน/ภาระงาน 1. ใบงาน 2. รายงาน กระบวนการจัดการเรยี นรู้และกิจกรรมเพ่ิมเติม ขั้นที่ 1 กําหนดสภาพปญั หา ความตอ๎ งการ - ครแู ละผ๎เู รยี นพดู คยุ มรดกทางวฒั นธรรมสมยั สโุ ขทยั ขน้ั ที่ 2 แสวงหาขอ๎ มูลและการจดั การเรียนร๎ู - ครูผ๎ูสอนแบํงกลํุมให๎ผ๎ูเรียนศึกษาค๎นคว๎าจากหนังสือเรียน/อินเตอร์เน็ต เรื่อง มรดก ทางวัฒนธรรมสมัยสุโขทยั ข้ันที่ 3 การปฏิบตั แิ ละนาํ ไปประยุกต์ใช๎ - ครูให๎ผู๎เรียนรํวมกันพูดคุย วิเคราะห์เกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมสมัยสุโขทัยท่ีมีตํอ การพัฒนาชาติไทย โดยให๎ศึกษาค๎นคว๎าจากส่ือทางอินเตอรเ์ นต็ และใบความรู๎ และรํวมกันนาํ เสนอ - ครูได๎สอดแทรกกระบวนการถอดองค์ความรู๎ 2 เง่ือน 3 หลักการ 4 มิติ ตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพียง โดยให๎ผ๎ูเรยี นถอดองค์ความรูเ๎ ก่ยี วกับเหตุการณส์ าํ คญั ทาง ประวัติศาสตร์ - ครูให๎ผู๎เรียนศึกษาเพิ่มเติมจากแหลํงเรียนรู๎อ่ืนๆ และมอบหมายงานและให๎กลับไปทบทวน ในสัปดาหต์ อํ ไป ขัน้ ที่ 4 การประเมินผลการเรียนรู๎ - ครูและผเู๎ รียนรํวมกนั สรปุ ผลการเรียนรท๎ู ี่ไดร๎ บั - ครูใหผ๎ ๎ูเรยี นทาํ แบบประเมนิ ผลการเรยี นร๎ู/ใบงาน - ครูประเมินผลจากการสังเกตพฤติกรรมและการทาํ กิจกรรม ส่อื การเรียนรู้ 1. หนงั สือแบบเรียน 2. ใบความรู๎ 3. อินเตอรเ์ น็ต

~ 27 ~ การวัดผลและประเมนิ ผล 1. วิธกี ารวดั - การสงั เกตพฤติกรรมจากการพบกลมํุ - การมสี วํ นรวํ มในการแสดงความคิดเหน็ 2. เครอ่ื งมือ - ใบงาน เกณฑ์การวดั ผลประเมินผล 1. นกั ศึกษามีผลคะแนนในการทดสอบไมํนอ๎ ยกวํารอ๎ ยละ 50 2. การมีสํวนรวํ มในกิจกรรมกลํุม แหลง่ การเรยี นรู้/สืบคน้ ขอ้ มูลเพิม่ เติม 1. ห๎องสมุดประชาชน 2. กศน. ตาํ บล 3. แหลํงเรยี นร๎ูสารสนเทศ 4. Internet

~ 28 ~ ใบงานที่ 2 รายวชิ าประวัตศิ าสตรช์ าตไิ ทย สค 12024 ระดับประถมศึกษา คาช้แี จง เตมิ คําตอบลงในชํองวํางให๎ถกู ตอ๎ ง ขอ๎ ท่ี 1 จงยกตวั อยาํ งมรดกทางวัฒนธรรมสมยั สโุ ขทัย ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ขอ๎ ที่ 2 จงบอกแนวทางการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมสมยั สุโขทยั ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ,............................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

~ 29 ~ แผนการจดั การเรียนรู้ กลํุมสาระความรพู๎ ื้นฐาน รายวิชาประวตั ิศาสตรช์ าติไทย สค 12024 ระดบั ประถมศึกษา แผนการจดั การเรยี นร๎เู รอ่ื งที่ 3 เหตกุ ารณ์ทางประวตั ศิ าสตร์สมัยสุโขทัย เวลา 3 ชั่วโมง สอนวนั ท.ี่ ..................วนั ที่................เดือน.......................................พ.ศ..................เวลา....................น. มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ มีความร๎ูความเข๎าใจ ตระหนักเก่ียวกับภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์เศรษฐศาสตร์การเมือง การปกครองในท๎องถ่ิน ประเทศ นํามาปรับใช๎ในการดําเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ เพื่อความ มั่นคงของชาติ ตวั ช้วี ดั 1. อธบิ ายวธิ ีบรหิ ารจดั การนาํ้ สมัยสุโขทัย 2. ยกตวั อยาํ งการประยกุ ต์ใช๎การอยกํู ับนํ้าในสมยั โบราณกับชีวติ ประจําวนั สาระสาคัญ 1. พ.ศ.1800 พํอขุนบางกลางทาํ ว ประกาศต้ังกรงุ สุโขทัยเปน็ อิสระ และสถาปนาราชวงศพ์ ระ รวํ งขึ้น ณ กรุงสุโขทยั ทรงพระนามวํา พํอขุนศรอี ินทราทติ ย์ 2. พ.ศ.1820 พอํ ขนุ รามคําแหง ขึน้ ครองราชสมบัติเมอื่ พระชนมายไุ ด๎ 38 พรรษา อาณาจกั ร ไทยในสมัยนัน้ แผกํ วา๎ งใหญไํ พศาลมาก 3. พ.ศ.1826 พํอขุนรามคาํ แหง ทรงประดษิ ฐแ์ บบลายสอื ไทยข้นึ เป็นคร้ังแรก 4. พ.ศ.1835 พํอขนุ รามคาํ แหง ทรงสรา๎ งหลักศิลาจารกึ 5. พ.ศ.1843 พํอขนุ รามคําแหง เสดจ็ ประพาสเมอื งจนี ไดน๎ าํ ชาํ งป้นั เคลือบดินเผากลบั มาไทย ด๎วย และโปรดใหส๎ ร๎างโรงงานขนึ้ ทเี่ มืองสวรรคโลก 6. พ.ศ.1850 อญั เชิญพระพทุ ธสหิ งิ ค์ ซ่ึงสรา๎ งเมือ่ ปี พ.ศ. 700 ในศรีลังกา จาก นครศรีธรรมราช มาประดิษฐานไว๎ ณ.สโุ ขทยั ตอํ มาถกู อัญเชญิ ประดิษฐานอยูํ ณ.พระที่นง่ั พุทไธ สวรรค์ ในพิพธิ ภณั ฑ์สถานแหํงชาติ 7. พ.ศ.1860 พํอขุนรามคําแหง เสด็จสวรรคต ครองราชย์อยํูนาน 40 ปี พญาเลอไทข้ึน ครองราชย์สมบตั ติ อํ ไทยเริม่ เส่ือมอาํ นาจ ทาํ ใหไ๎ ทยตอ๎ งเสียเมอื งไปมาก จนอาณาจกั รสุโขทัยสิ้นสุดลง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อใหผ๎ เู๎ รียนมคี วามร๎ู ความเขา๎ ใจเหตกุ ารณท์ างประวัตศิ าสตรส์ มยั สุโขทัย 2. เพ่ือให๎ผู๎เรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์ถึงคุณประโยชน์ และเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ สมยั สุโขทยั 3. เพอ่ื ใหผ๎ ู๎เรยี นตระหนักถงึ คุณคําทไ่ี ด๎รับจากการศึกษาประวตั ิศาสตรช์ าติไทย สาระการเรยี นรู้ 1. ความเปน็ มาของประวัตศิ าสตร์การบรหิ ารจดั การน้ํา 2. การอยกูํ บั น้าํ สมยั โบราณ

~ 30 ~ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝรุ ไู๎ ผเํ รยี น ศกึ ษาใบความร๎ูจากแบบเรียน 2. มวี ินัย ทํางานตามท่คี รมู อบหมายได๎ทันเวลา 3. ขยัน มงุํ ม่นั ในการทํางาน ทําใบงาน ทาํ กิจกรรมกลมํุ 4. มคี วามสามัคคี มีน้าํ ใจ มคี วามรบั ผดิ ชอบ ชวํ ยเหลอื กันทาํ กจิ กรรมกลมํุ ชิ้นงาน/ภาระงาน 1. ใบงาน 2. รายงาน กระบวนการจัดการเรยี นรแู้ ละกจิ กรรมเพ่มิ เตมิ ขนั้ ท่ี 1 กาํ หนดสภาพปัญหา ความต๎องการ - ครูและผเู๎ รียนพูดคุยเหตุการณท์ างประวตั ศิ าสตร์สมัยสุโขทยั ข้ันที่ 2 แสวงหาขอ๎ มลู และการจัดการเรยี นร๎ู - ครูผ๎ูสอนแบํงกลํุมให๎ผู๎เรียนศึกษาค๎นคว๎าจากหนังสือเรียน/อินเตอร์เน็ต เร่ือง เหตุการณ์ ทางประวัตศิ าสตร์สมยั สุโขทัย ข้นั ที่ 3 การปฏบิ ตั ิและนาํ ไปประยุกต์ใช๎ - ครใู ห๎ผเ๎ู รียนรวํ มกันพดู คุย วเิ คราะหเ์ กย่ี วกับเหตกุ ารณท์ างประวตั ิศาสตร์สมยั สโุ ขทัย ที่มีตํอ การพัฒนาชาตไิ ทย โดยใหศ๎ ึกษาคน๎ คว๎าจากสื่อทางอินเตอร์เนต็ และใบความร๎ู และรํวมกันนาํ เสนอ - ครูได๎สอดแทรกกระบวนการถอดองค์ความร๎ู 2 เง่ือน 3 หลักการ 4 มิติ ตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง โดยให๎ผ๎ูเรียนถอดองค์ความร๎ูเกี่ยวกับเหตุการณ์สําคัญทาง ประวัติศาสตร์ชาติ ไทย - ครูให๎ผูเ๎ รยี นศกึ ษาเพม่ิ เติมจากแหลํงเรียนรู๎อ่ืน ๆ และมอบหมายงานและให๎กลับไปทบทวน ในสัปดาห์ตํอไป ขน้ั ท่ี 4 การประเมินผลการเรียนร๎ู - ครแู ละผู๎เรียนรวํ มกนั สรปุ ผลการเรียนร๎ูท่ีไดร๎ บั - ครูให๎ผเู๎ รียนทาํ แบบประเมนิ ผลการเรยี นร๎ู/ใบงาน - ครูประเมินผลจากการสงั เกตพฤติกรรมและการทาํ กจิ กรรม สอื่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื แบบเรยี น 2. ใบความรู๎ 3. อินเตอร์เนต็

~ 31 ~ การวัดผลและประเมนิ ผล 1. วิธกี ารวดั - การสงั เกตพฤติกรรมจากการพบกลมํุ - การมสี วํ นรวํ มในการแสดงความคดิ เห็น 2. เครอ่ื งมือ - ใบงาน เกณฑ์การวดั ผลประเมินผล 1. นกั ศึกษามีผลคะแนนในการทดสอบไมํน๎อยกวําร๎อยละ 50 2. การมีสํวนรวํ มในกิจกรรมกลํุม แหลง่ การเรยี นรู้/สืบคน้ ขอ้ มูลเพิม่ เติม 1. ห๎องสมุดประชาชน 2. กศน. ตาํ บล 3. แหลํงเรยี นร๎ูสารสนเทศ 4. Internet

~ 32 ~ ใบงานท่ี 3 รายวชิ าประวัตศิ าสตรช์ าติไทย สค 12024 ระดับประถมศกึ ษา คาชแ้ี จง เตมิ คาํ ตอบลงในชอํ งวาํ งใหถ๎ ูกต๎อง ขอ๎ ที่ 1 จงบอกความเปน็ มาของประวตั ศิ าสตรก์ ารบรหิ ารจดั การนํ้าในสมยั สุโขทยั มาพอสงั เขป ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขอ๎ ที่ 2 จงบอกแหลงํ น้าํ ทอี่ ยบูํ ริเวณรอบเมอื งสุโขทัย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

~ 33 ~ แบบทดสอบกอ่ น/หลังเรยี น รายวิชาประวตั ิศาสตร์ชาตไิ ทย สค 12024 ระดบั ประถมศกึ ษา คาชแ้ี จง จงเลือกคําตอบที่ถูกต๎องทีส่ ดุ เพียงคําตอบเดยี ว (20 คะแนน) ข๎อที่ 1 ขอ๎ ใดอธบิ ายความหมายของชาติไดถ๎ กู ข๎อที่ 5 ข๎อใดเกี่ยวกับหลักและแนวทาง ก. กลมุํ คนท่ีมีความร๎ูสกึ ในเรื่องเชือ้ ชาติ ประพฤตใิ นการดําเนนิ ชีวิตท่ถี ูกตอ๎ งท่ีสดุ ข. กลุํมคนทม่ี ีความร๎สู ึกในเร่อื ง ภาษา ก. ชาติ ค. กลมํุ คนท่มี คี วามรู๎สกึ ในเรื่อง ประวตั ิศาสตร์ ข. ศาสนา ง. กลํุมชนท่ีมีความรู๎สึกในเร่ืองเช้ือชาติ ค. ประเทศไทย ศาสนา ภาษา ประวัตศิ าสตร์ ง. พระมหากษัตรยิ ์ ข๎อท่ี 6 ข๎อใดกลําวถูกต๎องเก่ียวกับเสรีภาพใน ข๎อท่ี 2 ข๎อใดคือความหมายของศาสนาได๎ การนบั ถือศาสนา ถกู ตอ๎ ง ก. เสรีภาพในการนับถือศาสนาเป็นสิทธิตาม ก. ความเช่ือของแตลํ ะบุคคล ธรรมชาติจะลํวงละเมิดไมํได๎ และเป็นสิทธิ ข. ความเช่ือทางวัฒนธรรม ศักด์ิสิทธ์ิของ มนุษย์ทุกคนต๎อง ให๎การ ค. ลัทธิความเชอ่ื ของมนษุ ย์ รับรองและค๎ุมครอง โดยรัฐจะต๎องท าหน๎าที่ ง. ความศรัทธาของมนษุ ย์ รกั ษาผลประโยชนข์ องสงั คมโดยรวม ข. เป็นหลักความจริงวําเสรีภาพในศาสนาไมํมี ขอ๎ ท่ี 3 ความสาํ คัญของสถาบนั ชาตคิ อื ข๎อใด ใครจะใช๎เสรีภาพอยูํเหนือผ๎ูอื่น ทุกคนมีสิทธิ ก. เป็นที่อยูอํ าศัยของผู๎คนในชาตนิ ้นั ๆ และหน๎าทเี่ ทําเทียมกนั ข. มกี ารสืบทอดประเพณีวัฒนธรรมอนั ดีงาม ค. บุคคลยํอมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการถือ ค. มีภาษา ขนมธรรมเนียมอันเป็นเอกลักษณ์ ศาสนา นิกายของศาสนา หรือลัทธินิยมในทาง รวมถงึ วิถชี ีวติ ของคนในชาติ ศาสนา และยํอมมีเสรีภาพใน การปฏิบัติ ง. ถูกทกุ ข๎อ ตามศาสนธรรม ศาสนบัญญัติ หรือปฏิบัติ พธิ ีกรรมตามความเชื่อถือของตน ข๎อท่ี 4 ข๎อใดกลําวถึงความเป็นมาของชาติ ง. ถกู ทุกข๎อที่กลําวมา ไทยได๎ถกู ตอ๎ ง ก. ประเทศไทยมีภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยํูในทวีป ข๎อท่ี 7 ข๎อใดคอื แกํนแทข๎ องศาสนา อินโดนเี ซีย มีพ้นื ท่ตี ดิ มหาสมทุ รอนิ เดยี ก. การให๎คําสอนท่ีเป็นแนวทางการดําเนิน ข. ทําเลที่ตั้งของประเทศไทยไมํมีการ ชวี ิต แลกเปล่ยี นการคา๎ กบั ตาํ งชาติ ข. การให๎คําอธิบายความเป็นจริงสูงสุดของ ค. ประเทศไทยเป็นศูนย์รวมใจของทุก ชีวิตและโลก ประเทศ ค. การให๎คาํ อธบิ ายและคําสอนเก่ียวกับความ ง. ผู๎ที่อาศัยในประเทศไทย มาจากหลายเชื้อ ดีความชวั่ ชาติ ทั้งผ๎ูอพยพเข๎ามาเปน็ ระยะเวลานาน ง. การให๎คําสอนเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจให๎พ๎น จากความกลวั

~ 34 ~ ข๎อที่ 8 ลักษณะเดํนที่ทําให๎คนไทยสามารถ ข๎อที่ 13 ใครเปน็ ผ๎ูนพิ นธ์ไตรภูมิพระรํวง กอบกเ๎ู อกราชของกรุงสโุ ขทยั จากขอมไดส๎ ําเร็จ ก. พญาลิไทย เพราะคนไทยมีนสิ ยั อยาํ งไร ข. พํอขนุ ผาเมอื ง ก. รกั อสิ ระ ค. พอํ ขุนศรีอนิ ทราทติ ย์ ข. รกั สงบ ง. พอํ ขุนรามคาํ แหงมหาราช ค. ความสามคั คี ง. มีระเบยี บวินยั ข๎อที่ ข๎อท่ี 14 ข๎อใดกลําวถึงพํอขุนผาเมือง ได๎ ถกู ตอ๎ งท่สี ุด ข๎อท่ี 9 ผู๎ทรงนํารูปแบบการปกครองแบบ ก. มคี วามเสียสละ จ ตุ สด ม ภ์ม า ใ ช๎ ใ นส มั ยก รุ ง สุ โ ข ทั ย คื อ ข. ขยายเมืองให๎กวา๎ งขึน้ พระมหากษตั รยิ ์ พระองคใ์ ด ค. ปฏิบัตติ ามกฎระเบยี บสังคม ก. พระบรมไตรโลกนาถ ง. มีความเสียสละ เห็นประโยชน์สํวนรวมเพ่ือ ข. สมเดจ็ พระธรรมราชาท่ี 1 ประเทศมากกวําประโยชน์สํวนตัว ค. พํอขนุ รามคาํ แหงมหาราช ง. สมเด็จพระรามาธิบดที ่ี 1 (อูํทอง) ข๎อที่ 15 สมัยสุโขทัยไมํใช๎คําวํา “ลอย กระทง” แตใํ ช๎คําวาํ อะไร ข๎อท่ี 10 ใครเป็นกษัตริย์องค์แรกของกรุง ก. จุดเทียน สโุ ขทัย ข. จุดดอกไม๎ ก. พํอขนุ ผาเมือง ข. พํอขนุ บา๎ นเมือง ค. เผาเทียน เลํนไฟ ค. พอํ ขุนรามคําแหง ง. พํอขุนศรอี ินทราทิตย์ ง. ถูกทุกข๎อ ขอ๎ ท่ี 11 ข๎อใดคือบทบาทสําคัญของพํอขุนศรี ข๎อที่ 16 มรดกทางวัฒนธรรมท่ีสําคัญท่ีคน อินทราทิตย์ การสร๎างสรรค์ชาติในด๎าน ปั จ จุ บั น ไ ด๎ รั บ จ า ก ส มั ย พํ อ ขุ น ร า ม คํ า แ ห ง การเมอื งการปกครอง มหาราช คอื ส่ิงใด ก. ทรงประดิษฐ์อกั ษรไทย ก. เมืองฉอด ข. ทรงสถาปนากรงุ สุโขทัย ข. ลายสือไทย ค. ทรงเผยแพรํแนวพระราชดําริทางการเมือง ค. พระพทุ ธรปู สมัยสุโขทัย แบบ “ธรรมราชา” ง. การปกครองแบบปติ ุลาธปิ ไตย ง. ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยผ๎ูทรงสถาปนา ราชวงศ์อูํทองแหํงกรุงศรอี ยธุ ยา ข๎อที่ 17 ข๎อใดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมสมัย สุโขทยั ข๎อที่12 ทรงประดิษฐ์อักษรไทย ที่เรียกวํา ก. เคร่ืองสงั คโลก “ลายสอื ไทย” คอื พระมหากษัตริย์พระองค์ใด ข. เครื่องไทยธรรม ก. พอํ ขนุ บานเมอื ง ค. เคร่ืองเบญจรงค์ ข. พํอขนุ ศรีนาวนาํ ถม ง. เครอื่ งคาวหวาน ค. พอํ ขนุ ศรีอนิ ทราทิตย์ ง. พํอขุนรามคําแหงมหาราช

~ 35 ~ ขอ๎ ท่ี 18 ข๎อใดคอื เจดยี ส์ มยั สโุ ขทยั ก. เจดยี ์ช๎างล๎อม ข. เจดีย์พระปาง ค. เจดีย์ทรงพมํุ ง. เจดยี ์ทรงข๎าวบิณฑ์ ข๎อที่ 19 ข๎อใดไมํใชํการสืบสานมรดกทาง วฒั นธรรม ก. การชมศลิ ปะพนื้ บา๎ นของไทย ข. การรับประทานอาหารบุฟเฟต์ ค. การแตํงกายชุดไทยไปงานเล้ยี ง ง. กรฟังการพดู อําน เขียน ภาษาไทย ข๎อท่ี 20 ข๎อใดคือแนวทางในการสืบสาน วฒั นธรรมสุโขทัย ก. การพูด ข. การแสดงละคร ค. การไหว๎พระ ง. การแตํงกายสมัยสุโขทัย การเข๎าชม พิพธิ ภัณฑ์

~ 36 ~ เฉลยแบบทดสอบ 1. ง 11. ข 2. ก 12. ง 3. ง 13. ก 4. ง 14. ง 5. ก 15. ค 6 ง 16. ข 7. ก 17. ก 8. ก 18. ก 9. ง 19. ข 10. ง 20. ง

~ 37 ~ รายวิชาพฒั นาอาชีพใหม้ อี ยูม่ ีกนิ อช 11003 กิจกรรมการเรยี นรู้ รายวชิ าพัฒนาอาชีพใหม้ ีอยมู่ กี ิน อช 11003 ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศึกษา 256๔ หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดบั ประถมศกึ ษา คร้งั ท่ี กิจกรรมการเรียนรู้ สถานทพี่ บกล่มุ กศน.อําเภอแสวงหา 1 กจิ กรรมการเรียนการสอน ครั้งที่ 1 วิชา พัฒนาอาชีพใหม๎ อี ยูมํ ีกิน (อช 11003) กศน.อําเภอแสวงหา เรอื่ ง ศกั ยภาพธรุ กจิ - ความหมาย ความสาํ คัญ ความจาํ เปน็ ของการพัฒนาอาชีพ กศน.อาํ เภอแสวงหา เพ่อื การมอี ยมํู กี ิน - ความจําเป็น และคณุ คําของการวเิ คราะหศ์ กั ยภาพของธรุ กิจ - วเิ คราะหต์ าํ แหนงํ ธรุ กิจในระยะตาํ งๆ ได๎ - วิเคราะห์ศักยภาพธรุ กิจบนเส๎นทางของเวลาได๎ 2 กจิ กรรมการเรียนการสอน คร้งั ท่ี 2 วิชา พัฒนาอาชีพใหม๎ อี ยูมํ กี ิน (อช 11003) เรอื่ ง การจัดทาํ แผนพฒั นาธรุ กิจ - กาํ หนดทศิ ทางการตลาด การผลิตและการบริการ - กาํ หนดเปูาหมายการตลาด การผลติ และการบรกิ าร - กําหนดกลยทุ ธ์สูํเปูาหมาย - วเิ คราะหก์ ลยุทธ์ - กําหนดกจิ กรรมและแผนการพฒั นาการตลาด การผลิตและ การบรกิ าร 3 กิจกรรมการเรียนการสอน คร้ังที่ 3 วชิ า พัฒนาอาชีพให๎มีอยูํมีกิน (อช 11003) เรอื่ ง การพฒั นาธุรกิจเชิงรุก - ความจําเป็น และคุณคําของธรุ กิจเชิงรุก - การแทรกความนิยมเขา๎ สูํความตอ๎ งการของผู๎บรโิ ภคได๎อยําง แทจ๎ ริง - การสร๎างรปู ลกั ษณ์ คณุ ภาพสนิ ค๎าใหมํได๎ - การพัฒนาอาชีพให๎มีความมน่ั คง - เขียนโครงการการพฒั นาอาชีพ - ตรวจสอบความเปน็ ไปได๎ของโครงการพฒั นาอาชีพได๎ - ปรบั ปรงุ โครงการพัฒนาอาชพี ได๎

~ 38 ~ คาอธบิ ายรายวชิ า รายวิชาพัฒนาอาชีพใหม้ อี ยู่มีกิน (อช 11003) ระดับประถมศึกษา จานวน 2 หนว่ ยกติ (80 ชัว่ โมง) มาตรฐานท่ี 3.4 มีความรู้ ความเขา้ ใจในการพฒั นาอาชพี ให้มคี วามมั่นคง ศกึ ษา และฝึกทกั ษะเกี่ยวกบั การพฒั นาอาชีพ เพ่ือให้มคี วามมั่นคง ดงั นี้ ความหมาย ความสําคัญ ความจําเปน็ ในการพัฒนาอาชพี ศักยภาพธุรกิจของตนเอง ชุมชน ความจําเป็นและคุณคําของการวิเคราะห์ศักยภาพธุรกิจ การวิเคราะห์ตําแหนํงธุรกิจ (ระยะเริ่มต๎น ระยะสร๎างตัว ระยะทรงตัว ระยะตกต่ําหรือสูงขึ้น) การ วิเคราะหศ์ กั ยภาพธุรกิจบนเส๎นทางของเวลา การจัดทาแผนพัฒนาการตลาด การกําหนดทิศทางการตลาด การกําหนดเปูาหมาย การตลาด การกําหนดกลยุทธ์สํูเปูาหมายบนพื้นฐานศักยภาพธุรกิจที่เป็นอยูํ การวิเคราะห์กลยุทธ์ กาํ หนดกจิ กรรม แผนการพฒั นาการตลาด การจดั ทาแผนพัฒนาการผลติ /บรกิ าร การกําหนดคุณภาพผลผลิต/บรกิ าร การวิเคราะหท์ ุน ปัจจัยการผลิต/บรกิ าร การกําหนดเปูาหมายการผลิต/บริการ การกําหนดแผนกิจกรรม พัฒนาระบบ การผลติ /บริการ การพัฒนาธุรกิจเชิงรุก ความจําเป็นและคุณคําของธุรกิจเชิงรุก การแทรกความนิยมเข๎าสูํ ความต๎องการแท๎จริงของผบ๎ู รโิ ภค รปู ลกั ษณ์คณุ ภาพใหมํ เพมิ่ ชอํ งทางเข๎าถงึ ลกู ค๎า ปฏบิ ตั ิการ จดั ทาํ แผน และโครงการพฒั นาอาชพี ใหม๎ ีอยมูํ ีกนิ การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ควรเป็นการศึกษาปฏบิ ตั จิ รงิ ด๎วยการวเิ คราะหศ์ กั ยภาพธรุ กิจ การจัดทําแผนพัฒนาการตลาด การจัดทําแผนพัฒนาการผลิต การพัฒนาธุรกิจเชิงรุก การพัฒนาองค์กรให๎มีประสิทธิภาพ อาจสร๎าง สถานการณ์จําลองข้ึนมาเพ่ือฝึกปฏิบัติและนําแผนปฏิบัติการตําง ๆ เข๎าสูํวิถีชีวิต หรือดําเนินการจริง ตามวิถชี วี ิต เพอื่ ผูเ๎ รยี นเกิดการเรียนร๎สู ามารถพัฒนาอาชพี ให๎มีอยํมู กี ิน การวดั และประเมินผล ประเมินจากสภาพจรงิ จากผลงานการเรยี นรู๎ และผลการเรียนร๎ู การจดั ทําแผน และโครงการ พฒั นาอาชีพใหม๎ อี ยํูมกี ิน

~ 39 ~ รายละเอียดคาอธิบายรายวิชาพฒั นาอาชีพให้มีอยมู่ ีกนิ (อช1103) สาระการประกอบอาชีพ ระดับประถมศึกษา จานวน 2 หน่วยกติ (80 ชั่วโมง) มาตรฐานที่ 3.4 มีความรู้ ความเข้าใจ ในการพัฒนาอาชีพใหม้ อี ยมู่ ีกิน ที่ หัวเร่ือง ตวั ชีว้ ดั เนอ้ื หา จานวน (ชวั่ โมง) 1 ศกั ยภาพธรุ กจิ 1.อธบิ ายความหมาย ความสาํ คญั 1.ความหมาย ความสําคญั 20 ความจาํ เป็นของการพัฒนาอาชีพ ความจําเป็นของการพัฒนา 15 เพือ่ การมีอยํมู ีกนิ อาชีพ 15 2.อธิบายความจําเป็น และคุณคาํ 2.ความจาํ เปน็ และคุณคาํ ของ 15 ของการวิเคราะหศ์ กั ยภาพของ การวเิ คราะห์ศักยภาพธรุ กจิ ธรุ กจิ 3.วิเคราะห์ตาํ แหนงํ ธรุ กจิ ในระยะ 3.การวิเคราะห์ตาํ แหนํงธรุ กิจ ตาํ งๆ ได๎ - ระยะเริ่มต๎น - ระยะสรา๎ งตวั - ระยะทรงตวั - ระยะตกตา่ํ หรอื สูงขึน้ 4.วเิ คราะหศ์ กั ยภาพธุรกิจบน 4.การวเิ คราะหศ์ กั ยภาพธุรกิจ เส๎นทางของเวลาได๎ บนเสน๎ ทางของเวลา 2 การจัดทําแผนพัฒนา 1.กาํ หนดทศิ ทางการตลาดได๎ 1.การกําหนดทศิ ทางการตลาด การตลาด 2.กําหนดเปาู หมายการตลาดได๎ 2.การกาํ หนดเปาู หมาย 3.กาํ หนดกลยทุ ธ์สเูํ ปูาหมายได๎ การตลาด 4.วเิ คราะห์กลยุทธ์ 3.การกาํ หนดกลยทุ ธ์สูํ 5.กาํ หนดกจิ กรรมและแผนการ เปูาหมาย พฒั นาการตลาด 4.การวเิ คราะห์กลยุทธ์ 5.กจิ กรรมและแผนการ พฒั นาการตลาด 3 การจดั ทําแผนพฒั นา 1.อธิบายการกําหนดคณุ ภาพ 1.การกาํ หนดทุนการผลิตหรือการ การผลติ หรือการ ผลผลิตหรอื การบริการ บริการ บรกิ าร 2.วเิ คราะหท์ นุ ปจั จัยการผลิตหรือ 2.การวเิ คราะหท์ นุ ปจั จัยการผลติ การบรกิ าร หรอื การบรกิ าร 3.กาํ หนดเปูาหมายการผลิตหรือ 3.การกําหนดเปาู หมายการผลติ หรือ การบรกิ าร การบริการ 4.กาํ หนดแผนกจิ กรรมการผลิต 4.การกาํ หนดแผนกิจกรรมการผลิต 5.พัฒนาระบบการผลิตหรือการ 5.การพฒั นาระบบการผลิตหรือการ บรกิ าร บริการ 4 การพัฒนาธรุ กิจเชิงรุก 1.อธิบายความจําเป็น และคุณคํา 1.ความจําเป็น และคณุ คําของ ของธุรกจิ เชิงรุก ธุรกจิ เชิงรกุ 2.อธิบายการแทรกความนิยมเข๎าสูํ 2.การแทรกความนิยมเข๎าสูํ ความต๎องการของผ๎บู รโิ ภคได๎อยําง ความตอ๎ งการของผบ๎ู รโิ ภค แทจ๎ ริง

~ 40 ~ ท่ี หัวเรอื่ ง ตวั ชว้ี ัด เนอื้ หา จานวน (ช่ัวโมง) 3.อธิบายการสร๎างรปู ลกั ษณ์ 3.การสร๎างรปู ลกั ษณ์คุณภาพ คุณภาพสนิ คา๎ ใหมํได๎ สินคา๎ ใหมํ 4.อธบิ ายการพัฒนาอาชีพใหม๎ ี 4.การพัฒนาอาชีพใหม๎ ีความ ความมัน่ คง ม่นั คง (พออยูํ พอกิน มรี ายได๎) 5 โครงการพัฒนาอาชพี 1.วิเคราะหค์ วามเปน็ ไปได๎ของแผน 1.การวิเคราะห์ความเป็นไปได๎ 15 ใหม๎ อี ยมูํ กี นิ ตํางๆได๎ ของแผนตํางๆ 2.เขียนโครงการการพัฒนาอาชีพ 2.การเขยี นโครงการการพัฒนา ได๎ อาชีพ 3.ตรวจสอบความเป็นไปไดข๎ อง 3.การตรวจสอบความเป็นไปได๎ โครงการพัฒนาอาชีพได๎ ของโครงการ 4.ปรับปรุงโครงการพฒั นาอาชีพได๎ 4.การปรับปรุงแก๎ไขโครงการ พฒั นาอาชีพ

~ 41 ~ แผนการจดั การเรียนรู้ กลมุํ สาระความรพู๎ ื้นฐาน รายวิชาพฒั นาอาชีพใหม๎ อี ยมํู กี นิ รหสั อช 11003 ระดับช้ันประถมศกึ ษา แผนการจดั การเรยี นรเ๎ู ร่อื งท่ี 1 ศกั ยภาพธรุ กจิ พบกลํมุ จาํ นวน 3 ชวั่ โมง คร้ังที.่ .....................วันที่................เดือน..........................................พ.ศ..................เวลา....................น. มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ มคี วามร๎ู ความเขา๎ ใจในการพัฒนาอาชพี ให๎มีความม่นั คง ตัวชว้ี ัด 1. อธบิ ายเกีย่ วกบั ความหมาย ความสาํ คญั ความจาํ เปนของการพัฒนาอาชีเพื่อมีอยูมกี ิน 2. อธิบายความจาํ เปนและคุณคาของการวเิ คราะหศักยภาพธุรกจิ 3. วิเคราะหตําแหนงธุรกิจ 4. วิเคราะหศกั ยภาพธุรกิจบนเสนทางของเวลาตามศักยภาพของแตละพ้นื ท่ี สาระสาคัญ 1. ความหมาย ความสําคญั ความจาํ เปนในการพัฒนาอาชีพใหมีอยูมีกิน 2. ความจําเปนและคณุ คาการวิเคราะหศักยภาพธรุ กจิ 3. การวเิ คราะหตาํ แหนงธุรกจิ 4. การวเิ คราะหศกั ยภาพธรุ กจิ บนเสนทางของเวลาตามศักยภาพของแตละพ้นื ที่ ขน้ั ตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้ ขน้ั ตอนที่ 1 การกําหนดสภาพปัญหาความตอ๎ งการในการเรียนรู๎ O : (Orientation) - ครูและผ๎ูเรียนรํวมกันวิเคราะห์ธุรกิจในชุมชน โดยครูให๎ผู๎เรียนอธิบายสภาพของชุมชนท่ี ตนเองอาศัยอยํู หลงั จากน้ันรวํ มกันวิเคราะห์ธุรกิจที่มีในชมุ ชน - ครสู นทนาแลกเปล่ยี นกบั ผ๎เู รยี นถึงเร่ืองการทาํ ธุรกจิ ในแบบตาํ งๆ ขน้ั ตอนที่ 2 การแสวงหาข๎อมูลและจดั การเรียนร๎ู N:New( ways of learning) - ครูใหผ๎ ๎เู รียนศึกษาตวั อยํางธุรกิจจาก https://www.youtube.com/watch?v=xgSadfHN7xU - ผูเ๎ รียนศึกษาตามใบความรู๎ที่กาํ หนดใหเ๎ พื่อนําข๎อมูลมาใชใ๎ นการวิเคราะหธ์ รุ กิจ ระยะเร่ิมต๎น ระยะสรา๎ งตวั ระยะทรงตวั ระยะตกต่ําหรอื สงู ข้ึน - ครูและผู๎เรียนสรปุ ส่งิ ทไี่ ด๎เรยี นร๎ูรํวมกัน และผเู๎ รยี นบันทึกสรุปส่ิงไดเ๎ รยี นร๎ูลงใบงาน ข้นั ตอนที่ 3 การปฏบิ ตั ิและนําไปประยุกต์ใช๎(I:Implementation) - ผ๎ูเรียนสามารถวิเคราะห์ธุรกิจ ระยะเริ่มต๎น ระยะสร๎างตัว ระยะทรงตัว ระยะตกต่ําหรือ สูงขนึ้ โดยการทาํ ใบงานท่มี อบหมาย ขั้นตอนที่ 4 การประเมินผล E( : Evaluation) - การสังเกตการเขา๎ รํวมกิจกรรมของผเ๎ู รียน - ใบงาน - การตรวจสอบการทําใบงาน

~ 42 ~ สอื่ และแหล่งเรยี นรู้ 1. คลิป https://www.youtube.com/watch?v=xgSadfHN7xU 2. ใบความรู๎ 3. แบบทดสอบ 4. หนงั สอื เรียนวชิ าพัฒนาอาชพี ใหม๎ อี ยํูมีกิน การวัดผลและประเมินผล 1. วิธกี ารวดั - การสังเกตพฤตกิ รรมจากการพบกลุํม - การมีสํวนรวํ มในการแสดงความคดิ เห็น 2. เครือ่ งมอื - ใบงาน เกณฑ์การวดั ผลประเมินผล 1. นกั ศกึ ษามผี ลคะแนนในการทดสอบไมํนอ๎ ยกวํารอ๎ ยละ 50 2. การมสี วํ นรวํ มในกิจกรรมกลมุํ แหล่งการเรยี นร/ู้ สบื คน้ ขอ้ มลู เพม่ิ เติม 1. ห๎องสมดุ ประชาชน 2. กศน. ตําบล 3. แหลํงเรยี นรูส๎ ารสนเทศ 4. Internet

~ 43 ~ ใบงานที่ 1 วิชาพฒั นาอาชพี ให้มีอย่มู กี ิน (อช 11003) ระดับประถมศึกษา คาช้ีแจง ใหผ๎ ูเ๎ รยี นพัฒนาอาชีพของตนเองหรืออาชีพทีม่ ีความสนใจด๎านตาํ ง ๆ ดังน้ี 1. ทําเลทต่ี ง้ั ............................................................................................................................................ 2. ความตรงตอํ เวลาในการบรกิ าร …….......................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ …….......................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ 3. ความซ่ือสตั ยต์ อํ ลูกค๎า การเลือกใช๎วสั ดุทเ่ี หมาะสมกบั ราคา …….......................................................................................................................................................... .……......................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ …….......................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ 4. การพฒั นารปู แบบสนิ ค๎า …….......................................................................................................................................................... .……......................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ …….......................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ 5. การใช๎เงินทุน …….......................................................................................................................................................... .……......................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ …….......................................................................................................................................................... 6. การพัฒนาการตลาด …….......................................................................................................................................................... .……......................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ …….......................................................................................................................................................... 7. การพฒั นากระบวนการผลิต/หรือการบรกิ าร …….......................................................................................................................................................... .……......................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................

~ 44 ~ ใบงานท่ี 2 วชิ าพัฒนาอาชพี ใหม้ อี ยู่มีกิน (อช 11003) ระดบั ประถมศึกษา คาช้ีแจง ให๎ผ๎ูเรียนบอกความจําเป็นและคุณคําของการวิเคราะห์ศักยภาพธุรกิจท่ีผู๎เรียนประกอบอยูํ ในปัจจุบันหรอื อาชีพสนใจ ตามหวั ข๎อยํอยตอํ ไปน้ี 1. อาชีพของทํานมคี วามสําคญั ตํอท๎องถ่นิ คือ …….......................................................................................................................................................... .……......................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ …….......................................................................................................................................................... .……......................................................................................................................................................... 2. มที ศิ ทางความกา๎ วหน๎าอาชีพของตนเองในทอ๎ งถน่ิ …….......................................................................................................................................................... .……......................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ …….......................................................................................................................................................... .……......................................................................................................................................................... 3. สนิ ค๎าของทํานมสี วํ นแบงํ การตลาดในท๎องถิ่นเทาํ ใด …….......................................................................................................................................................... .……......................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ …….......................................................................................................................................................... .……......................................................................................................................................................... 4. จากการวเิ คราะหศ์ กั ยภาพธรุ กิจอาชีพของทําน ทํานคิดวํามีประโยชน์ตํอการพัฒนาอาชีพของทําน มากนอ๎ ยแคํไหน อยํางไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …….......................................................................................................................................................... .…….........................................................................................................................................................

~ 45 ~ ใบงานท่ี ๓ วิชาพฒั นาอาชีพให้มีอยมู่ กี ิน (อช 11003) ระดบั ประถมศึกษา คาช้ีแจง ให๎ผู๎เรียนตอบคําถามตํอไปนี้ ตามความเข๎าใจของตนเอง ในปัจจุบัน การประกอบอาชีพ ของทํานอยูใํ นระยะใด มสี ภาพเปน็ อยาํ งไร แกป๎ ญั หาอยํางไร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

~ 46 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ กลุมํ สาระความรพ๎ู ืน้ ฐาน รายวิชาพฒั นาอาชีพใหม๎ ีอยํมู ีกิน รหสั อช 11003 ระดับชน้ั ประถมศกึ ษา แผนการจดั การเรียนร๎ูเร่ืองที่ 2 การจัดทาํ แผนพฒั นาธุรกจิ พบกลํมุ จาํ นวน 3 ชวั่ โมง ครัง้ ท่ี......................วันที่................เดือน.........................................พ.ศ..................เวลา....................น. มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั มีความร๎ู ความเขา๎ ใจในการพัฒนาอาชพี ให๎มคี วามมัน่ คง ตวั ชวี้ ัด 1. กาํ หนดทศิ ทางการตลาด การผลติ หรอื การบรกิ าร 2. กําหนดเปาหมายการตลาด การผลติ หรอื การบริการ 3. กาํ หนดกลยุทธสเู ปาหมาย 4. วิเคราะหกลยทุ ธ 5. กําหนดกิจกรรมและแผนการพฒั นาการตลาด การผลติ หรือการบริการ สาระสาคัญ 1 การกาํ หนดทศิ ทางการตลาด การผลติ หรอื การบริการ 2 การกําหนดเปาหมายการตลาด การผลติ หรือการบริการ 3 การกําหนดกลยุทธสเู ปาหมาย 4 การวเิ คราะหกลยทุ ธ 5 กจิ กรรมและแผนการพฒั นาการตลาด การผลติ หรือการบริการ ขน้ั ตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้ ขนั้ ตอนที่1 การกาํ หนดสภาพปญั หาความต๎องการในการเรยี นรู๎ O : (Orientation) - ครูและผ๎เู รยี นรวํ มกันกําหนดสภาพ ปญั หาและความต๎องการของชมุ ชน - ครูสนทนาแลกเปลี่ยนกบั ผเ๎ู รียนโดยการทาํ การวิเคราะห์ SWOT (SWOT Analysis)ของ ชุมชน ขัน้ ตอนท่ี2 การแสวงหาข๎อมูลและจัดการเรียนร๎ู N:New( ways of learning) - ครผู ๎ูสอนรวํ มกบั ผ๎ูเรียนแลกเปลี่ยนความรู๎เร่อื งการทําแผนการตลาด ที่มาของทนุ ปัจจัยการ ผลิตหรือการบริการโดยการสนทนา ตีความหมายและท่ีมาและเปิดคลิปสื่อการเรียนการสอน youtube https://www.youtube.com/watch?v=Yv7C8c1Q0v8 - ครูผ๎ูสอนให๎ผ๎ูเรียนอํานใบความร๎ูเร่ืองวิธีการจัดทําแผนการตลาด ผ๎ูเรียนใช๎วิธีการแก๎ปัญหา จากการเรยี นโดยการชักถามครแู ละเพ่ือนๆและรวํ มสรปุ เน้ือหา

~ 47 ~ ข้ันตอนที่ 3 การปฏบิ ัตแิ ละนาํ ไปประยกุ ตใ์ ช๎(I:Implementation) - ครูผ๎ูสอนรํวมกันผ๎ูเรียนสรุปผลจากการทําใบงานเรื่อง การจัดทําแผนการตลาดโดยครู สังเกตพฤติกรรมผ๎เู รยี นในการทําใบงาน และให๎ผู๎เรยี นบันทึกกจิ กรรมลงในสมุด - ครูมอบหมายให๎ผ๎ูเรียนไปศึกษาเร่ืองของโครงการพัฒนาอาชีพมากํอนพบกลุํมในสัปดาห์ ตอํ ไป ขั้นตอนที่ 4 การประเมินผล E( : Evaluation) - การสงั เกตการเข๎ารํวมกจิ กรรมของผเู๎ รยี น - ใบงาน - การตรวจสอบการทําใบงาน สือ่ และแหล่งเรียนรู้ 1. คลิป https://www.youtube.com/watch?v=Yv7C8c1Q0v8 2. ใบความรู๎ 3. แบบทดสอบ 4. หนงั สือเรียนวชิ าพฒั นาอาชีพใหม๎ อี ยมํู กี ิน การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. วิธีการวัด - การสงั เกตพฤติกรรมจากการพบกลุํม - การมีสํวนรวํ มในการแสดงความคดิ เห็น 2. เครื่องมือ - ใบงาน เกณฑ์การวัดผลประเมินผล 1. นักศกึ ษามผี ลคะแนนในการทดสอบไมนํ ๎อยกวาํ ร๎อยละ 50 2. การมสี วํ นรํวมในกจิ กรรมกลุมํ แหล่งการเรยี นรู้/สบื ค้นขอ้ มลู เพ่มิ เติม 1. ห๎องสมดุ ประชาชน 2. กศน. ตําบล 3. แหลงํ เรยี นร๎ูสารสนเทศ 4. Internet