~ 158 ~ แผนการจัดการเรยี นรู้รายภาคเรียน ภาคเรยี นท่ี ๒ ปกี ารศึกษา 25๖๔ ระดับประถมศกึ ษา กศน.ตาบล....................... อาเภอ............................ จังหวัดอา่ งทอง 1. ครง้ั ที่…................วนั ท่ี ….....… เดือน…………….…......…….พ.ศ. ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. 2. วิชาการป้องกนั การทุจริต รหสั (สค12026) จานวน 2 หน่วยกิต 3. เรอ่ื ง ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต ๔. ตัวช้ีวัด ๑. ผ้เู รยี นสามารถเรยี นรแู้ ละมคี วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั ความไมท่ นและความละอายต่อการทจุ ริต ๒.ผเู้ รียนสามารถปฏบิ ตั ิตนเป็นผูไ้ ม่ทนและละอายตอ่ การทุจรติ ทกุ รปู แบบ 3.ปฏบิ ตั ติ นตามหนา้ ทีพ่ ลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ๕. เนอ้ื หา 1.ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ ริต 2.การปฏิบัติตนตามกฎ กตกิ า ของสถานศกึ ษา ชมุ ชน สงั คม 3.การปฏบิ ัติตนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการประยกุ ตใ์ ช้ (2 3 4) ๖. ขน้ั ตอนการจัดกระบวนการเรยี นรู้ ขัน้ ท่ี 1 เตรยี มความพรอ้ ม ๑) ให้ผเู้ รียนดูภาพ ๒ ภาพ เกีย่ วกับ การลอกการบา้ น กบั การทาํ การบ้านด้วยตนเอง ๒) ใหผ้ ูเ้ รยี นคดิ วิเคราะห์ตามหัวขอ้ ดงั ต่อไปนี้ โดยทาํ ลงในใบงาน เรือ่ ง เดก็ ดี มีความสจุ ริตที่ครเู ตรยี ม ให้ ๒.๑ การลอกการบ้านเป็นสิง่ ท่คี วรทาํ หรือไม่ ๒.๒ การทาํ การบา้ นดว้ ยตนเองน้ันมีผลดีอย่างไรบ้าง 3) ใหผ้ เู้ รียนอา่ นใบความรูเ้ ร่อื งความละอายความไมท่ นต่อการทุจรติ การอยู่รว่ มกันในสังคม ข้นั ที่ 2 การแสวงหาขอ้ มลู และจดั การเรยี นรู้ 1) ครใู ห้ผู้เรียนนําเสนอปัญหาท่ตี วั เองพบเจอให้เพ่ือนในช้ันเรยี นฟงั 2) ครูให้ผู้เรียนแกป้ ัญหาเก่ียวกับการส่งการบ้านชา้ และไม่ลอกการบ้านซ่ึง เปน็ ปัญหาของแตล่ ะวชิ า โดยให้ผ้เู รียนเน้นจดั กิจกรรมการชว่ ยเหลือซ่งึ กันและกนั 3) ใหผ้ ูเ้ รียนนําเสนอกิจกรรมของตนเอง แลว้ รว่ มกนั สรุปกจิ กรรมทีจ่ ะนาํ มา ข้ันท่ี 3 การปฏบิ ัตแิ ละนาไปประยกุ ต์ใช้ ๑) ครหู าภาพทเ่ี กีย่ วกบั การทจุ รติ และไม่ทุจรติ ตา่ งๆจํานวน ๖ ภาพ ให้ผเู้ รยี นวเิ คราะหโ์ ดย แจกให้ ผ้เู รียนกลุม่ ละภาพ ๒) ใหผ้ ้เู รียนชว่ ยกนั วเิ คราะหใ์ นหวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ี - ภาพทีไ่ ดเ้ ปน็ ภาพทจุ รติ หรือไมท่ ุจรติ - ถา้ เปน็ ภาพทจุ รติ ทุจรติ เร่อื งใด – ทาํ ไมจงึ ตอ้ งทจุ รติ ๓) ครูใหผ้ ้เู รียนแตล่ ะกลมุ่ นําเสนอภาพทีไ่ ดร้ ว่ มกนั วเิ คราะห์
~ 159 ~ ขนั้ ที่ 4 การประเมินผล เอกสารการประเมิน เอกสารการประเมิน 1. กําหนดหลกั ฐานการเรียนรู้ 2. กาํ หนดการสอบกลางภาค 3. ใบงาน 4.แบบทดสอบ 5.ช้นิ งานกลมุ่ / รายบคุ คล 6.ความต้ังใจในการทํางาน สื่อ ๑.หนังสือเรียน/สือ่ สงิ่ พมิ พ์ ๒.อนิ เตอรเ์ น็ต / คลปิ การสอน ๓.ใบความรู้
~ 160 ~ ใบงานท่ี 2 เร่อื ง การสอบ (ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจริต) ชอ่ื .........................................นามสกลุ ............................................รหสั นักศกึ ษา.................................................. คําชี้แจง ให้ผูเ้ รยี นตอบคาํ ถามต่อไปน้ี ๑. กฎระเบยี บในการสอบมีอะไรบา้ ง (ตอบอยา่ งน้อย ๓ ขอ้ ) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. การกระทําทไี่ ม่เหมาะสมในการสอบมอี ะไรบา้ ง (ตอบอยา่ งนอ้ ย ๓ ข้อ) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
~ 161 ~ แผนการจดั การเรียนร้รู ายภาคเรยี น ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศึกษา 25๖๔ ระดับประถมศกึ ษา กศน.ตาบล....................... อาเภอ............................ จงั หวดั อา่ งทอง 1. ครง้ั ท่ี…............วนั ที่ ….....… เดือน…………….…......…….พ.ศ. ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. 2. วชิ าการปอ้ งกนั การทจุ รติ รหัส (สค12026) จานวน 2 หนว่ ยกิต 3. เรือ่ ง STRONG / จติ พอเพยี งตอ่ ตา้ นการทจุ รติ ๔. ตวั ชว้ี ัด ๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับ STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ตา้ นการทจุ รติ ๑.๒ ปฏบิ ัติตนเป็นผู้ที่ STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ตา้ นการทจุ ริต ๕. เน้อื หา 1.๑ ผเู้ รยี นบอกหลักในการเลอื กการแต่งกาย การรับประทานอาหาร การใช้จา่ ยตามหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงได้ 1.๒ ผเู้ รียนปฏบิ ัติตนในการเลือกการแตง่ กาย การรับประทานอาหาร การใช้จา่ ยตามหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงได้ 1.๓ ผู้เรยี นวเิ คราะห์ผลทไ่ี ด้รบั จากการดารงชวี ติ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ ๖. ขัน้ ตอนการจัดกระบวนการเรยี นรู้ ข้นั ท่ี 1 เตรียมความพรอ้ ม 1.ครผู สู้ อนชีแ้ จงแนวทางการดําเนนิ ชีวติ บนทางสายกลางตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซง่ึ ประกอบดว้ ย ๓ หว่ ง ๒ เง่อื นไข 4 มติ ิ ( 2 3 4 ) ไดแ้ ก่ ความพอประมาณ ความมเี หตุผล มีภมู ิคมุ้ กันทดี่ ีใน ตัวเอง เงื่อนไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม จะก่อให้เกดิ คุณภาพชวี ติ ทด่ี อี ยา่ งมนั่ คงและย่ังยนื 2.ครูนําตัวอย่างคาํ ขวัญ ตดิ บนกระดาน “โปร่งใส ไร้คอร์รัปชัน่ รว่ มสรา้ งสรรค์สังคมไทย ” ให้ ผู้เรียนอ่านคําขวัญพรอ้ มกัน ขน้ั ท่ี 2 การแสวงหาข้อมูล และจัดการเรียนรู้ ๑) ผู้เรียนดูวีดทิ ศั นเ์ รอ่ื ง เศรษฐกิจพอเพยี ง ๒) แจกแถบกระดาษใหผ้ ้เู รยี นคนละ ๑ แผ่น เขยี นความร้ทู ี่ได้จากการชมวีดิทัศน์คนละ ๑ – ๓ ข้อ ส่มุ ใหผ้ ้เู รยี นอ่านใหเ้ พื่อนฟัง ทกุ คนนําแถบกระดาษไปติดหน้ากระดานดาํ เพือ่ แลกเปล่ียนเรยี นรู้ 3. ขนั้ ที่ 3 การปฏิบัติและนาไปประยุกตใ์ ช้ 1.ผเู้ รยี นและครูรว่ มกันสรุปดังน้ี “คนเราตอ้ งมคี วามพอเพยี ง เม่อื พอเพยี งกจ็ ะไมเ่ กดิ ความโลภ เมอ่ื ไม่มีความโลภ กจ็ ะไมม่ กี ารทจุ รติ เกิดขึ้น” 2.ผ้เู รยี นและครูร่วมกนั สรุปทราบถึงพืน้ ฐานของความซื่อสตั ย์ มาจากการกระทาํ การใด ท่ี สามารถมองเหน็ ได้ คาดเดาได้ และเขา้ ใจได้ การมรี ะบบงาน และข้ันตอนการทาํ งานทีช่ ดั เจน ถกู ตอ้ ง อยา่ ง ตรงไป ตรงมา นั้นก็คอื หลักของความโปรง่ ใส
~ 162 ~ ขน้ั ที่ 4 การประเมินผล เอกสารการประเมนิ เอกสารการประเมนิ 1. กาํ หนดหลักฐานการเรียนรู้ 2. กาํ หนดการสอบกลางภาค 3. ใบงาน 4.แบบทดสอบ 5.ชิ้นงานกลุ่ม / รายบุคคล 6.ความตั้งใจในการทาํ งาน สอื่ ๑.หนงั สอื เรยี น/ส่ือสิ่งพิมพ์ ๒.อินเตอรเ์ น็ต / คลปิ การสอน ๓.ใบความรู้
~ 163 ~ ใบความรู้คร้ังท่ี 3 เร่อื ง ทางสายกลางของความดี ๕ ประการ ๑. ความพอดดี า้ นจติ ใจ : เข้มแขง็ พงึ่ ตนเองได้ เอ้ืออาทร ประนปี ระนอม คาํ นงึ ถึงผลประโยชน์ สว่ นรวม ๒. ความพอดีดา้ นสงั คม : มกี ารช่วยเหลอื เกอื้ กูลกัน สรา้ งความเขม้ แข็งให้แก่ชมุ ชน รจู้ กั ผนกึ กําลงั และ ท่ีสาํ คัญมีกระบวนการเรียนรู้ที่เกดิ จากฐานรากที่มั่นคงและแขง็ แรง ๓. ความพอดดี า้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม : รู้จักใช้และจดั การอยา่ งฉลาด และรอบคอบ เพื่อใหเ้ กิดความย่งั ยนื สูงสุด ใชท้ รพั ยากรทีม่ ีอยใู่ นประเทศ เพ่ือพัฒนาประเทศให้ มน่ั คงเป็น ขนั้ ตอนต่อไปท่ี ๔. ความพอดีดา้ นเทคโนโลยี ; รูจ้ ักใชเ้ ทคโนโลยที เ่ี หมาะสมให้สอดคล้องกบั ความตอ้ งการและควร พัฒนาเทคโนโลยจี ากภมู ปิ ญั ญาชาวบ้านของเราเองและสอดคล้องเป็นประโยชน์ตอ่ สภาพแวดลอ้ ม ของเราเอง ๕. ความพอดดี า้ นเศรษฐกจิ : เพมิ่ รายได้ ลดรายจา่ ย ดาํ รงชีวติ อยา่ งพอสมควร พออยู่ พอกิน
~ 164 ~ ใบงานคร้ังที่ 3 เร่อื ง กจิ กรรมท่ีข้าพเจา้ ปฏิบตั ิในชีวติ ประจาวนั ช่ือ....................................นามสกุล....................................รหสั นกั ศกึ ษา................................. กจิ กรรมท่ปี ฏบิ ตั ิ 1. ดา้ นจติ ใจ ๑......................................................................................................... ๒......................................................................................................... 2. ดา้ นสงั คม ๑......................................................................................................... ๒......................................................................................................... 3. ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๑......................................................................................................... ๒......................................................................................................... 4. ดา้ นเทคโนโลยี ๑......................................................................................................... ๒......................................................................................................... 5.ใหผ้ ู้เรยี นถอดบทเรียน 2 3 4 ทีส่ ามารถนาํ มาใช้ในชวี ิตปิ ระจาํ วันได้ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................
~ 165 ~ แผนการจดั การเรียนรู้รายภาคเรยี น ภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศึกษา 25๖๔ ระดบั ประถมศึกษา กศน.ตาบล....................... อาเภอ............................ จังหวัดอา่ งทอง 1. ครัง้ ท่ี….........วันท่ี ….....… เดอื น…………….…......…….พ.ศ. ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. 2. วิชาการป้องกนั การทจุ ริต รหสั (สค12026) จานวน 2 หน่วยกติ 3. เรื่อง พลเมืองกบั ความรับผิดชอบต่อสงั คม ๔. ตวั ช้วี ดั ๑.๑ มีความรคู้ วามเข้าใจ เกย่ี วกบั พลเมอื งและความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม ๑.๒ ปฏบิ ตั ติ นตามหนา้ ทพี่ ลเมอื งและมคี วามรับผดิ ชอบต่อสงั คม ๕. เนอ้ื หา ๒.๑ ผู้เรียนบอกบทบาทหน้าที่ของสมาชกิ ในครอบครวั ได้ ๒.๒ ผูเ้ รยี นบอกแนวทางการปฏบิ ัติตนในการเคารพสทิ ธหิ น้าทข่ี องสมาชกิ ในครอบครวั ได้ ๒.๓ ผเู้ รยี นบอกผลท่ไี ดร้ บั จากการปฏิบตั ติ นในการเคารพสทิ ธหิ นา้ ทีข่ องสมาชิกในครอบครวั ได้ ๖. ขน้ั ตอนการจัดกระบวนการเรยี นรู้ ขั้นท่ี 1 เตรียมความพรอ้ ม 1.ครผู สู้ อนชี้แจงแนวสิทธใิ นครอบครวั และความเปน็ สว่ นตัว เปน็ สิทธิทชี่ าวไทยทุกคนไดร้ บั ตาม รัฐธรรมนูญ ทกุ ครอบครวั ย่อมมีสทิ ธจิ ดั การภายในครอบครัวของตนเอง ในการนาํ พาครอบครวั ไปในด้านตา่ ง ๆ ตามความตอ้ งการของตนเองได้ โดยจะตอ้ งไมข่ ัดตอ่ กฎหมาย วฒั นธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย รวมทัง้ จะต้องไมเ่ ป็นการ รบกวนสทิ ธิครอบครวั ของบุคคลอื่น ขั้นที่ 2 การแสวงหาขอ้ มลู และจัดการเรยี นรู้ ผูเ้ รยี นดวู ีดทิ ศั น์และเรียนรู้ ๑. นําข่าว พอ่ ทํารา้ ยลกู มาอา่ นใหผ้ ู้เรยี นฟัง ๒. ให้ผูเ้ รยี นรว่ มกันตอบคาํ ถามตอ่ ไปนี้ ๒.๑ ผู้เรยี นฟงั ข่าวน้แี ล้วมีความรูส้ กึ เชน่ ไร ๒.๒ การกระทาํ นผี้ ู้เรียนชอบหรอื ไมช่ อบ ๒.๓ ผูเ้ รยี นคดิ วา่ จะเกดิ ผลอยา่ งไรกบั ทั้ง ๒ คนบา้ ง ๓. ผเู้ รียนอ่านใบความรู้ เรอ่ื ง การเคารพสทิ ธหิ นา้ ทตี่ อ่ ตนเองและผอู้ น่ื ที่มีตอ่ ครอบครวั ขน้ั ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละนาไปประยกุ ตใ์ ช้ ผเู้ รียนและครรู ่วมกนั สรปุ ดงั น้ี เรอ่ื ง การเคารพสทิ ธิหน้าทีต่ อ่ ตนเองและผู้อืน่ ทมี่ ตี อ่ ครอบครวั และ นําไปใชใ้ นชวี ติ ประจาํ วัน
~ 166 ~ ขนั้ ท่ี 4 การประเมินผล เอกสารการประเมนิ เอกสารการประเมิน 1. กําหนดหลกั ฐานการเรยี นรู้ 2. กําหนดการสอบกลางภาค 3. ใบงาน 4.แบบทดสอบ 5.ชิน้ งานกลุ่ม / รายบคุ คล 6.ความตั้งใจในการทาํ งาน ส่ือ ๑) ขา่ วพ่อทาํ รา้ ยลูก ๒) ใบความรู้ เร่ือง การเคารพสิทธหิ น้าท่ี ต่อตนเองและผู้อน่ื ท่มี ตี ่อครอบครวั ๓) ใบงานท่ี ๑ เรอื่ ง การเคารพสิทธิหนา้ ที่ ต่อตนเองและผู้อน่ื ทมี่ ีต่อครอบครวั ๔) YouTube
~ 167 ~ ใบความร้คู รงั้ ท่ี 1 การเคารพสิทธิของตนเองและผู้อื่นที่มีต่อครอบครัวครอบครัวประกอบด้วย พ่อ แม่ ลูก ทุก ครอบครัวมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ เช่นเร่ืองการใช้ความรุนแรงการปฏิบัติอันไม่เป็น ธรรม หมายความวา่ พ่อแม่ และลกู จะตอ้ งไม่ใชค้ วามรนุ แรง หรอื ปฏบิ ัติตามกันอยา่ งไม่เปน็ ธรรมสามี ภรรยา จะต้องเคารพและรบั ฟังความเห็นของกันและกัน ไม่ตัดสินปัญหาโดยใช้กาลัง ส่ังสอนบุตรโดยใช้เหตุผล ไม่ใช้การแก้ไขพฤติกรรม ด้วยการเฆี่ยนตี เล้ียงดูด้วยความเข้าใจบุตรต้องเคารพเช่ือฟังบิดา มารดา มีสิทธิเสรีภาพในการแสวงหา ความสุขสว่ นตวั แต่ตอ้ งอย่ใู นของเขตและไมท่ าใหเ้ กดิ ความเดอื ดรอ้ นหรอื สร้างปญั หาใด ใหแ้ ก่บดิ ามารดาสิทธิ ในครอบครัว และความเป็นส่วนตัว เป็นสิทธิ ที่ชาวไทยทุกคนได้รับตามรัฐธรรมนูญ ทุกครอบครัวย่อมมีสิทธิ จัดการภายในครอบครัวของตนเอง ในการนําพาครอบครัวไปในด้านต่าง ๆ ตามความต้องการของตนเองได้ โดยจะต้องไม่ขัดต่อกฎหมายวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย รวมท้ังจะต้องไม่เป็นการรบกวนสิทธิ ครอบครวั ของบคุ คลอนื่
~ 168 ~ ใบความรูค้ ร้ังท่ี 2 เร่ือง ระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย ระเบียบวินัย คือ คุณสมบัติที่สําคัญในการดําเนินชีวิต ความสามารถของบุคคลในการควบคุมอารมณ์ และ พฤตกิ รรม ของตนเอง ให้เป็นไปตามที่มุ่งหวัง โดยเกิดจากการสํานึก ซ่ึงต้องไม่กระทําการใด อันเป็นผลทาให้เกิดความ ยุ่งยากแก่ ตนเองในอนาคต หากแต่ต้องเปน็ สิง่ ทีก่ ่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองแกต่ นเองและผู้อื่นโดย กฎ คอื ขอ้ บังคับ ท่ีอยู่ในความเป็นจรงิ เพือ่ ไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและ ชีวิต ระเบียบวินัย นั้นเป็น สงิ่ ซ่งึ มีความสาํ คญั ย่งิ โดยเฉพาะกบั นกั เรียนหรือเยาวชน อนั จะเป็นกาํ ลังอย่างมากในการพัฒนาประเทศ กตกิ า คือ กฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลง หรือขอ้ กาํ หนด ที่บุคคลตัง้ แต่ ๒ ฝาุ ยไปใช้เป็นหลักปฏบิ ัติเพือ่ ให้เกดิ ความ เป็นธรรมแก่ทกุ ฝุาย กฎหมาย คอื กฎทส่ี ถาบนั หรอื ผู้มอี าํ นาจสูงสดุ ในรฐั ตราขนึ้ หรือทเ่ี กดิ ขึ้นจากจารตี ประเพณอี นั เปน็ ท่ี ยอมรบั นบั ถอื เพ่ือใชใ้ นการบริหารประเทศ เพือ่ ใช้บงั คับบุคคลใหป้ ฏิบัตติ าม
~ 169 ~ แบบทดสอบหลงั เรียน คาชแ้ี จง จงกากเครื่องหมาย × เลือกคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งทส่ี ุด 1. ขอใดเปนการนํากระบวนการของการคิดเปนมาใช ก. นาํ ขอมลู ตนเอง งานวจิ ัย ส่งิ แวดลอมและสงั คมมาใช ข. นาํ ขอมลู ตนเอง สงั คม สิง่ แวดลอม และวชิ าการมาใช ค. นําขอมลู จากสอ่ื อินเทอรเน็ต เอกสารอางองิ และตนเองมาใช ง. นาํ ขอมลู จากเพื่อนรวมงาน สอ่ื อนิ เทอรเน็ต และวิชาการมาใช 2. ถาตองการอยรู วมกบั ผอู ืน่ ในสังคมไดอยางมคี วามสุข โดยนาํ กระบวนการคดิ เปนมาใช เราควรปฏิบัติตนตามขอใด ก. การมีสวนรวม ข. ความยินยอม ค. การปรบั ตัว ง. แกปญหาได 3. นายเหลี่ยม เปนขาราชการเกษยี ณ ตอมาไดเปนสมาชกิ สภาเทศบาล รลู วงหนาจากการประชุม สภาวาสภาเทศบาลอนมุ ตั ิใหตัดถนนผานชมุ ชนแหงหน่ึง นายเหล่ียม จงึ ไดไปกวานซอ้ื ทด่ี นิ บรเิ วณที่ ถนนตัดผานน้ัน เพ่ือเกง็ กําไรทด่ี นิ พฤตกิ ารณของนายเหลยี่ ม เปนผลประโยชนทบั ซอนรูปแบบใด ก. การรับผลประโยชนตาง ๆ ข. การทาํ งานหลงั เกษยี ณ ค. การทําธรุ กจิ กบั ตนเอง ง. การรขู อมลู ภายใน 4. การคดิ แยกแยะหมายถงึ ขอใด ก. เก็บเงนิ ไดนาํ ไปใหคณุ ครู ข. ขายเส้อื ผาตามรมิ ถนนในตวั เมอื ง ค. ทําการเกษตรในเขตทด่ี ินสาธารณะ ง. การแซงคิวซอ้ื อาหารในรานอาหาร 5. ขอใดคอื ความหมายของคําวา “ความละอาย” ก. ความมงุ มั่นในการเอาชนะ ข. ความมงุ มัน่ ในการทาํ ความดี ค. ความเกรงกลวั ตอสง่ิ ที่จะมาทาํ ราย ง. ความเกรงกลัวตอสิง่ ทไี่ มดี ไมถูกตอง
~ 170 ~ 6. ขอใด ไมใช การปฏิบัตติ นตามกฎกตกิ าของสถานศกึ ษา ก. การทาํ งานตามทไี่ ดรบั มอบหมายดวยตนเอง ข. การซักถามครเู ม่อื เกดิ ปญหาจากการทํางาน ค. การนาํ ชน้ิ งานเพ่อื นมาคัดลอกเพ่อื สงใหทนั เวลา ง. การแนะนําเพอ่ื นใหเขาใจและสามารถทาํ งานเองได 7. ขอใด ไมควร กระทําในการเขาสอบ ก. ทําขอสอบดวยตนเอง ข. นัง่ ตามท่ี ๆ กาํ หนดให ค. ตั้งใจอานขอสอบใหเสยี งดัง ง. ไมเขาหองสอบกอนไดรับอนุญาต 8. “การรบั เงินสนิ บน” เปนพฤติกรรมตรงกบั ขอใด ก. ทุจรติ ข. การเพม่ิ รายได ค. ความไมทน ง. การใหความชวยเหลอื 9. เหตผุ ลท่ีสถานศกึ ษามอบหมายใหผูเรียนทําความสะอาดสถานทพี่ บกลุมคอื ขอใด ก. เพอ่ื ใหไดคะแนนระหวางเรยี น ข. ฝกความอดทน และความขยัน ค. เพื่อชวยเหลือครใู นการทําความสะอาด ง. เพ่อื ฝกความเสียสละ และความรับผิดชอบ 10. ปรัชญาท่นี าํ มาประยุกตใชในการตอตานการทจุ รติ ไดดที ส่ี ุดคอื อะไร ก. ปรชั ญาการศกึ ษาผใู หญ ข. ปรัชญาของทฤษฎใี หม ค. ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ง. ปรัชญาจติ อาสาเพือ่ พฒั นาทองถ่นิ 11. หลักของจติ พอเพยี งเพ่อื ตอตานการทจุ รติ คอื อะไร ก. STAR ข. STRONG ค. STORM ง. STRANGER
~ 171 ~ 12. การประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ นใหถูกตองตามหลกั ปฏิบตั ิ ระเบียบ ขอปฏิบตั ิ กฎหมาย ซึ่งสามารถ ตรวจสอบไดโดยผูที่เก่ยี วของเรยี กวาอะไร ก. ความโปรงใส (Transparent) ข. ความพอเพียง (Sufficient) ค. ความต่ืนรู Realize) ง. ความรู Knowledge) 13. ขอใดบอกลักษณะของบคุ คลทม่ี คี วามตืน่ รูในเร่ืองการทจุ รติ ได ก. สมสวน เลาเรือ่ ง “ผอ.สามเสนถกู สอบแปะเจีย๊ ะ” ข. สดสวย กลาววา “เรอื่ งคอรรปั ชันเปนเรือ่ งปกตธิ รรมดามาก” ค. สดสี ใหความรวมมือในกิจกรรมตาง ๆ ของหมบู านเปนอยางดี ง. แสนงาม อยใู นกลุมชาวบานประทวงเร่อื งการทจุ รติ จาํ นาํ ขาวของรฐั บาล 14. ขอใดบอกลักษณะหรอื การกระทาํ ทีเ่ ปนการตื่นรไู ด ก. มงุ มนั่ ทํางานเพือ่ ใหสาํ เรจ็ ตามเปาหมาย ข. รจู กั แกปญหาในงานท่มี อี ุปสรรค ค. มีความรบั ผิดชอบในหนาทีก่ ารงาน ง. ใชเวลาทํางานอยางเหมาะสม 15. ขอใดเปนผทู ่ีมคี วามเอ้อื อาทรตอเพือ่ นมนษุ ย ก. แบงปนอาหารใหสุนัขเรรอน ข. จติ อาสาชวยผูประสบภัยํนา้ ทวม ค. บริจาคเงนิ ชวยเหลอื วัดใกลบาน ง. ปลูกปาชายเลนเพอื่ อนุรักษชายฝง 16. ขอใดกลาวถงึ ความเปนพลเมอื งถูกตองทีส่ ุด ก. ราษฎรและความเทาเทยี มกนั ในสังคม ข. สามญั ชนคนท่ัวไปที่อยูในประเทศไทย ค. ชาวเมอื งและการยอมรบั ความแตกตาง ง. สถานภาพของบคุ คลทก่ี ฎหมายรับรองสทิ ธแิ ละหนาท่ี 17. ขอใดกลาวถูกตองที่สุด ก. การมีเสรภี าพในการกลาวรายผอู ื่น ข. การมีสทิ ธใิ นการไมไปใชสทิ ธเิ ลือกตง้ั ค. การมหี นาทใี่ นการถอื ครองกรรมสิทธท์ิ รพั ยสิน ง. การยอมรับความคดิ เหน็ ตางและรบั ฟงเสียงสวนนอย
~ 172 ~ 18. สถานการณใดเปนการกระทําทีผ่ ิดกฎหมาย ก. ขับรถฝาไฟแดง ข. แจงเกดิ ภายใน 7 วนั ค. แจงตายภายใน 24 ชวั่ โมง ง. ข้ึนทะเบียนเกณฑทหารเมื่ออายุ 18 ป 19. พลเมืองดใี นขอใดทสี่ งผลตอความเปนระเบียบเรยี บรอยของสงั คมมากที่สดุ ก. ปฏิบตั ติ นตามคานิยมทดี่ ี ข. รบั การศกึ ษาภาคบงั คับ ค. ปฏบิ ตั ิตนตามกฎหมาย ง. การใชสทิ ธิ 30 บาท รกั ษาทกุ โรค 20. บคุ คลใดเปนคนดีของสังคม ก. นายดาํ ตัดไมสักมาสรางบานใหแม ข. ผูใหญบุญ ระดมชาวบานซอมสะพาน ค. กาํ นนั วชิ ยั บุกรุกปาชายเลนเพอ่ื ทาํ นากงุ ง. ครใู หญ เปนหวั คะแนนใหพรรคการเมอื งดังในทองถ่ิน
~ 173 ~ เฉลยแบบทดสอบกอนเรยี น – หลังเรียน แบบทดสอบกอนเรยี น 1. ข 11. ข 2. ค 12. ก 3. ง 13. ง 4. ก 14. ก 5. ง 15. ข 6. ค 16. ง 7. ค 17. ง 8. ก 18. ก 9. ง 19. ค 10. ค 20. ข แบบทดสอบหลังเรยี น 11. ค 12. ข 1. ก 13. ก 2. ง 14. ง 3. ข 15. ง 4. ข 16. ก 5. ค 17. ก 6. ง 18. ค 7. ก 19. ก 8. ง 20. ข 9. ค 10.ข
~ 174 ~ รายวิชาการพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม สค11003 กจิ กรรมการเรียนรู้ รายวชิ าการพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม สค11003 ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ระดบั ประถมศึกษา คร้งั ที่ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สถานท่ี กศน.ตาํ บล ๑ กิจกรรมการเรียนการสอน ครั้งท่ี ๑ วชิ าการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม รหสั สค11003 กศน.ตาํ บล -เรื่องการพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม ความหมาย ความสําคัญและหลกั การพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม ประโยชนท่ีมีตอตนเอง ชมุ ชน สังคม -เร่อื งการจัดเก็บและวิเคราะหขอมูล ความสาํ คญั และคุณสมบตั ิขอมลู ทดี่ ี วธิ กี ารจดั เก็บขอมูล เทคนิคการวเิ คราะหขอมูล ๒ กิจกรรมการเรียนการสอน ครั้งท่ี ๒ วิชาการพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม รหัส สค11003 เรื่อง การวางแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม และการนําไปใช ในชีวิตประจาํ วัน การใชขอมลู จากการวิเคราะหเพ่ือวางแผน พฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม การนาํ แผนพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม ไปใชในชีวติ ประจําวนั การมสี วนรวมผลกั ดนั แผนพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม ใหเปนที่ยอมรับ
~ 175 ~ รายละเอยี ดคาอธิบายรายวิชาการพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม รหสั วิชา สค11003 จานวน 1 หนว่ ยกติ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ระดบั ประถมศึกษา มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ มีความรู้ ความเข้าใจหลกั การพัฒนาชุมชน สงั คม สามารถวิเคราะห์ขอ้ มูลในการพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม ท่ี หัวเรือ่ ง ตวั ชว้ี ัด เนื้อหา จานวน 1.อธิบายสาระสาํ คัญท่ีเกย่ี วของ (ชม.) 1. -การพฒั นา กับการพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม ตนเอง ชุมชน 2.จัดเกบ็ และวเิ คราะหขอมูลอยางง 1. ความหมาย ความสาํ คัญ 6 สังคม าย -การจัดเกบ็ หลกั การ และประโย และวเิ คราะห ๑.มีสวนรวมและนําผลจากการ ขอมูล วางแผนพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคม ชนของการพฒั นาตนเอง ไปใชในชวี ติ ประจาํ วนั ๒ การวาง ชุมชน สงั คม แผนพฒั นา ตนเอง ชมุ ชน 2. ความสําคัญของขอมลู สังคม และการ นาํ ไป ใชใน วธิ ีการจดั เก็บและวเิ คราะหอยางง ชีวิตประจาํ วนั าย ๑.การวางแผนพฒั นาตนเอง ชมุ ชน 6 สังคม และการนาํ ไปใชใน ชีวติ ประจาํ วนั
~ 176 ~ ตารางวเิ คราะหร์ ายวิชาการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคม รหัสวชิ า สค11003 จานวน 1 หนว่ ยกติ ระดบั ประถมศกึ ษา ท่ี ตวั ชวี้ ัด เนอ้ื หา ระดบั ความยาก- หัวเรอ่ื ง จานวน ง่าย 1. ความหมาย (ช.ม.) พบ กรต. สอน 1. -การพฒั นา 1.อธิบายสาระสาํ คัญ ความสําคัญ หลกั การและ ตนเอง ชมุ ชน ทีเ่ กี่ยวของกบั การพัฒนา ประโยชนของการพัฒนา กล่มุ เสรมิ สังคม ตนเอง ชุมชน สงั คม ตนเอง ชุมชน สังคม 6 -การจัดเก็บ 2.จดั เก็บและวเิ คราะห 2. ความสําคัญของขอมูล และวิเคราะห ขอมูลอยางงาย วธิ กี ารจดั เก็บและ 6 ขอมูล วเิ คราะห์ อยา่ งงาย ๒ การวาง ๑.มีสวนรวมและนําผล ๑.การวางแผนพฒั นา แผนพฒั นา จากการวางแผนพัฒนา ตนเอง ชมุ ชน สงั คม และ ตนเอง ชุมชน ตนเอง ชมุ ชน สังคมไปใช การนําไปใชใน สังคม และ ในชวี ิตประจาํ วัน ชีวิตประจาํ วัน การนําไป ใชใน ชีวติ ประจาํ วนั
~ 177 ~ แผนการจดั การเรียนรูร้ ายภาคเรยี น ภาคเรยี นท่ี ๒ ปกี ารศกึ ษา 25๖๔ ระดบั ประถมศกึ ษา กศน.ตาบล........................ อาเภอ............................ จงั หวดั อ่างทอง 1. ครั้งทท่ี ี่…...1........วนั ท่ี ….....… เดือน…………….…......…….พ.ศ. ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. 2. วชิ าการพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม รหัส (สค 11003) จานวน 1 หน่วยกติ ๓. เร่ือง การพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม และการจัดเกบ็ และวเิ คราะหขอมูล ๔. ตวั ช้วี ดั 1.อธบิ ายสาระสาํ คัญทีเ่ ก่ยี วของกับการพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม 2.จัดเกบ็ และวิเคราะหขอมูลอยางงาย ๕. เนอื้ หา 1. ความหมาย ความสาํ คัญ หลักการและประโยชนของการพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม 2. ความสาํ คัญของขอมลู วธิ กี ารจดั เก็บและวิเคราะห์อยา่ งงาย ๖. ขัน้ ตอนการจดั กระบวนการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 เตรยี มความพรอ้ ม - ครผู สู้ อนทักทายกลา่ วนาํ ถงึ รูปแบบการเรยี นรู้ของ กศน. และแจกแบบทดสอบก่อนเรยี น ขน้ั ท่ี 2 การแสวงหาขอ้ มูล และจดั การเรียนรู้ - ครผู ้สู อนและผู้เรียนแลกเปลยี่ นเรียนร้เู รอ่ื งความหมาย ความสาํ คัญ หลักการและประโยชนของการ พฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม ความสาํ คญั ของขอมลู และวธิ กี ารจดั เก็บและวเิ คราะหอ์ ยา่ งงาย หลักความพอประมาณ 1.นักศึกษาตอ้ งหาความรหู้ ลกั การและประโยชนของการพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม (ความรู้) 2.นกั ศกึ ษาแบง่ หน้าท่คี วามรบั ผิดชอบในการทาํ งาน (คุณธรรม) ขนั้ ที่ 3 การปฏิบัติและนาไปประยุกตใ์ ช้ หลักความมีเหตผุ ล - ครูผ้สู อนให้ผ้เู รยี นศึกษาในหนังสอื วชิ าการพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม ในบทท่ี 1 เร่ืองความหมาย ความสาํ คญั หลักการและประโยชนของการพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม และบทท่ี 2 เรื่อง ความสาํ คญั ของขอมูล(ความพอประมาณ) - ครูผู้สอนใหน้ ักศกึ ษา เรยี นร้วู ธิ กี ารจดั เกบ็ และวิเคราะห์อยา่ งงาย พร้อมทง้ั แลกเปลย่ี นเรยี นร้กู ันใน ช้ันเรียน (ความมเี หตุผล) พร้อมทง้ั แจกใบความรแู้ ละใบงานใหผ้ เู้ รยี นไปศึกษาค้นควา้ เพม่ิ เติม - ผูเ้ รียนนาํ ความรทู้ ี่ได้เรยี นรูไ้ ปปรบั ใช้ในชีวติ ประจําวัน (มภี ูมิคมุ้ กนั ) 4 มิติ 1.นกั ศึกษาสามารถเรียนรู้วธิ กี ารพัฒนาตนเองจากสื่อต่างๆ (ด้านวตั ถุ) 2.นกั ศึกษาเรียนรู้ได้ประโยชนของการพัฒนาสงั คม (ดา้ นสงั คม) 3.นกั ศึกษาไดเ้ รยี นร้หู ลักการในการพฒั นาชุมชน (ด้านส่ิงแวดล้อม) 4.นักศกึ ษาให้ความสําคญั กบั การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม และสามารถนาํ ไปใชใ้ นชีวิตปะจําวนั ได้ (ดา้ นวฒั นธรรม)
~ 178 ~ ขั้นที่ 4 การประเมินผล -แบบสังเกตุ -แบบสอบถาม -การมสี ว่ นรว่ ม -การตรวจผลงาน -แบบทดสอบกอ่ นเรยี น -แบบทดสอบหลังเรยี น แหล่งเรยี นร้/ู สืบค้นข้อมลู เพิม่ เติม 1. ห้องสมดุ ประชาชน 2. กศน.ตาํ บล 3. แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ 4. Internet 5. สื่อสิ่งพมิ พ์ โทรทศั น์ วทิ ยุ หนงั สือวารสารตา่ ง ๆ
~ 179 ~ ใบงานวชิ าพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม ระดบั ประถมศึกษา ครงั้ ที่ 1 ใหผ้ ูเ้ รยี นทาํ กิจกรรมดังน้ี 1.การพัฒนาตนเอง หมายถึง..................................................................………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………. 2.การพฒั นาชุมชน หมายถึง..................................................................………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………….. 3.การพัฒนาสงั คม หมายถึง..................................................................………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………….. 4.บอกวธิ กี ารพฒั นาตนเองของทา่ น ............................................................................................ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 6.ขอ้ มูลท่ีดตี อ้ งมีลกั ษณะอย่างไร................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... 7.วธิ ีการเก็บขอมลู โดยการสังเกต จาํ เปนตองมขี อกําหนดตางๆอยา่ งไรบา้ ง............................. ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... 8.ใหผ้ ู้เรียนอธิบายขน้ั ตอนเตรยี มการเก็บขอมลู โดยการสมั ภาษณ์................................................ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................
~ 180 ~ แผนการจดั การเรียนรู้รายภาคเรยี น ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศกึ ษา 25๖๔ ระดับประถมศกึ ษา กศน.ตาบล........................ อาเภอ............................ จงั หวัดอา่ งทอง 1. ครงั้ ท่ี…....2.......วันที่ ….....… เดอื น…………….…......…….พ.ศ. ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. 2. วชิ าการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม รหัส (สค 11003) จานวน 1 หนว่ ยกติ ๓. เรือ่ ง การวางแผนพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคม และการนาํ ไป ใชในชวี ติ ประจําวนั ๔. ตวั ช้วี ดั ๑.มีสวนรวมและนําผลจากการวางแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม ไปใชในชวี ติ ประจาํ วนั ๕. เน้ือหา ๑.การวางแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม และการนําไปใชในชีวิตประจาํ วนั ๖. ขน้ั ตอนการจัดกระบวนการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 เตรยี มความพรอ้ ม - ครูผสู้ อนทักทายผู้เรียน และซกั ถามถึงเน้ือหาทเ่ี รยี นไปคร้ังแล้ว พรอ้ มทงั้ อธิบายวตั ถปุ ระสงค์ เนอ้ื หา ทจ่ี ะเรียนในครัง้ นี้ ขั้นที่ 2 การแสวงหาข้อมลู และจัดการเรียนรู้ - ครผู ้สู อนและผ้เู รียนแลกเปล่ยี นเรียนรเู้ ร่อื งการวางแผนพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม และการนําไป ใชในชวี ติ ประจาํ วัน หลกั ความพอประมาณ 1.นกั ศกึ ษาตอ้ งหาความรูก้ ารวางแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม และการนาํ ไปใชในชีวิตประจาํ วนั (ความร้)ู 2.นกั ศึกษาแบ่งหน้าที่ความรบั ผิดชอบในการทาํ งาน (คณุ ธรรม) ขัน้ ท่ี 3 การปฏิบตั ิและนาไปประยุกต์ใช้ - ครูผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนศกึ ษาในหนงั สือวชิ าการพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม ในบทท่ี 3 การวาง แผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม และการนําไปใชในชวี ิตประจาํ วัน พรอ้ มทัง้ แจกใบความรู้และใบ งานให้ผูเ้ รยี นไปศกึ ษาคน้ คว้าเพ่มิ เติม หลักความมีเหตผุ ล - ครูผู้สอนใหผ้ ู้เรยี นศกึ ษาในหนงั สอื วชิ าการพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม ในบทที่ 3 การวาง แผนพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม และการนําไปใชในชวี ติ ประจําวัน (ความพอประมาณ) - ครผู สู้ อนใหน้ กั ศกึ ษาเรยี นรู้การวางแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม และการนาํ ไปใชใน ชีวิตประจาํ วันพรอ้ มทั้งแลกเปลย่ี นเรียนรกู้ นั ในชัน้ เรียน (ความมีเหตผุ ล) 4 มติ ิ 1.นักศึกษาสามารถเรยี นรวู้ ธิ กี ารพัฒนาตนเองจากส่ือต่างๆ (ดา้ นวตั ถุ) 2.นักศกึ ษาเรยี นรไู้ ด้การมีส่วนรว่ มในการวางแผนพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คมของการพฒั นาสังคม (ดา้ นสงั คม) 3.นักศกึ ษาไดเ้ รยี นรู้การวางแผนในการพฒั นาชมุ ชน (ดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม)
~ 181 ~ 4.นกั ศกึ ษาใหค้ วามสําคญั กบั การวางแผนพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม และสามารถนาํ ไปใชใ้ นชวี ติ ปะ จําวันได้ (ดา้ นวฒั นธรรม) ขัน้ ท่ี 4 การประเมินผล -แบบสงั เกตุ -แบบสอบถาม -การมสี ่วนรว่ ม -การตรวจผลงาน -แบบทดสอบกอ่ นเรียน -แบบทดสอบหลงั เรยี น แหลง่ เรยี นร/ู้ สืบค้นข้อมลู เพิ่มเติม 1. หอ้ งสมุดประชาชน 2. กศน.ตาํ บล 3. แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ 4. Internet 5. ส่อื ส่งิ พิมพ์ โทรทศั น์ วิทยุ หนงั สอื วารสารตา่ ง ๆ
~ 182 ~ ใบงานวิชาพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคม ระดับประถมศึกษา ครัง้ ที่ ๒ ให้ผู้เรียนทาํ กจิ กรรมดงั นี้ 1.แผนพัฒนา ตนเองมปี ระโยชนอยางไร......................................................................................... ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2.การมีสวนรวมของประชาชนหลกั การสรางการมสี วนรวมของประชาชน แบงไดเปนกี่ระดับ คอื ... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................
~ 183 ~ แบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรยี น รายวชิ าการพัฒนา ตนเอง ชมุ ชน สังคม ระดบั ประถมศึกษา 1.จงบอกความหมายของการพัฒนาตนเอง ก. เปลี่ยนแปลงตนเองใหด้ ขี นึ้ และกา้ วหน้าไปกว่าเดิม ข. สํารวจอปุ นสิ ัยของคนรอบข้างเพ่อื ปรบั ปรงุ ค. สง่ เสรมิ ให้ชมุ ชนมกี ารเป็นอย่ทู ่ดี ขี ้ึน ง.ถกู ทุกขอ้ 2.ขอ้ ใดคอื การพัฒนาตนเองท่ถี กู ตอ้ ง ก. เตรียมความพรอ้ มทางด้านรา่ งกายและจติ ใจ ข.พ่ึงพาตวั เองไมไ่ ด้ ชอบอาศยั ผู้อ่ืน ค.มีอุปนสิ ัยไม่ชอบการเปลยี่ นแปลง ง.เป็นผนู้ าํ ที่มีความมุ่งมั่นคดิ การใหญ่ 3.ส่ิงใดควรเปน็ อนั ดบั แรกของการพัฒนาตนเอง ก. มจี ิตใจฮกึ เหมิ ข. สาํ รวจตนเอง ค. ลงมือพัฒนาตนเอง ง. ประเมนิ ศักยภาพตนเอง 4.บุคคลใดต่อไปน้ปี ฏิบตั ิตนตามไดถ้ กู ต้องตามกาลเทศะ ก.ผใู้ หญบ่ า้ นใสเ่ สอื้ กลา้ มสสี ดใสเข้ารว่ มประชมุ ข. เดก็ ชายมานะไมเ่ ขา้ เรียนวชิ าทต่ี นเองไมช่ อบ ค.ภารโรงเผาขยะถนนหน้าโรงเรยี น ง. แกว้ แต่งตวั ถกู ระเบยี บถอื พานไหวค้ รู 5.บุคคลใดมหี ลกั ในการพัฒนาตนเองไดด้ ที ีส่ ดุ ก. สมฤดแี ต่งกายเรียบรอ้ ยไปโรงเรยี น ข.สมใจลอกการบ้านเพื่อนเพือ่ หวงั คะแนนเต็ม ค. ส่งคลปิ ไดเ้ ปน็ อย่หู น้าห้องเพราะเป็นคนพดู เพราะ ง. สง่ พรเข้าเรียนตรงเวลาและรับผิดชอบงานทกุ คร้ัง
~ 184 ~ 6.บุคคลใดปฏิบัติตนไดเ้ หมาะสมท่สี ุดตามหลกั แนวทางการพฒั นาตนเอง ก. มานะให้เพอื่ นยืมลอกข้อสอบ ข. ชูใจเกบ็ เงนิ ที่ตกได้ไปหยอดกระปกุ ค. สนใจชอบสวมเสื้อผา้ สะอาดสสี ันสดใส ง. ตวงพรชว่ ยคุณตาขา้ งบา้ นหาแวน่ ตาทหี่ ายไป 7.ข้อใดไมใ่ ช่หลกั ของการพัฒนาตนเอง ก.ความซอื่ สตั ยต์ อ่ ตนเองและผ้อู นื่ ท้งั ตอ่ หน้าและรับหลงั ข. เบอ่ื เฟ้อื เผ่อื แผ่รูจ้ กั การใหก้ ารแบ่งปัน ค. ดูแลรกั ษาของสว่ นรวม ง.ปัดความรับผิดชอบ 8.ขอ้ ใดกล่าวถึงลกั ษณะนสิ ยั ใดถูกตอ้ ง ก. สืบเนอ่ื งจากบรรพบุรษุ ข. เปน็ สงิ่ ทีต่ ดิ ตวั มาแตก่ าํ เนิด ค. ปรบั ปรุงและเปลย่ี นแปลงใหด้ ขี นึ้ ได้ ง. มองเห็นได้ด้วยตาเปลา่ และจับตอ้ งได้ 9.ลักษณะนิสัยของการพัฒนาตนเองทด่ี คี อื อยา่ งไร ก. เหน็ คนอืน่ ทาํ อยา่ งไรกท็ ําตาม ข. เป็นทนี่ ับหนา้ ถือตาทางสังคม ค. เปน็ คนทม่ี สี ัมมาคารวะวางตวั เหมาะสม ง. มีความเช่อื มน่ั ในตัวเองไมใ่ ส่ใจคนรอบข้าง 10.ข้อใดไม่ใชค่ วามสาํ คญั ในการพฒั นาตนเองชุมชนสงั คม ก. เพอ่ื ให้ตวั เองรํา่ รวยมชี ่ือเสียง ข. เพอื่ สงั คมชุมชนทดี่ ีมรี ะเบียบวนิ ัย ค. เพ่ือใหต้ นเองมีการพฒั นาเปลยี่ นแปลงในทางทีด่ ีขน้ึ ง. เพ่ือผลประโยชนข์ องไดป้ ระสานความร่วมมอื ในสังคม 11.ข้อใดคืออุปสรรคสําคัญของการพฒั นาชุมชน ก. การคมนาคมทีถ่ กู ตดั ขาดจากอทุ กภัย ข. ชาวบา้ นในชมุ ชนไมใ่ ห้ความรว่ มมือ ค. ชาวบ้านชุมชนรอ้ งเรยี นไฟไหมป้ าุ ง. ผู้ใหญบ่ ้านจัดงานอบรมอาชพี เสรมิ ให้ทําชมุ ชน
~ 185 ~ 12.การพัฒนาชุมชนสงั คมเร่ิมต้นท่ใี ดเป็นอนั ดบั แรก ก. พฒั นาการคมนาคม ข. พฒั นาประเทศ ค. พฒั นาตนเอง ง. พฒั นาชมุ ชน 13.สง่ิ สําคัญในการอยรู่ ว่ มกันในสงั คมอยา่ งเป็นสุขคอื ขอ้ ใด ก. ปฏิบตั ิตนภายใต้ระเบยี บบังคับของชมุ ชน ข. ปฏิบตั ติ นเปน็ คนดีเคารพกฎหมายบา้ นเมือง ค. ปฎิบัติตนภายใต้กรอบจารีตประเพณี ง. ถูกทุกข้อ 14.ประโยชนท์ ่ีได้รับจากการพัฒนาชุมชนสงั คมคอื ขอ้ ใด ก.สร้างสังคมทด่ี ีมกี ารเสยี สละเพือ่ ส่วนรวม ข. เปน็ หูเป็นตาเพ่อื ความปลอดภยั ในชุมชน ค. มรี ะเบียบวนิ ัยในการดํารงชีวติ ในชมุ ชนเดยี วกนั ง. ถกู ทุกขอ้ 15.ความหมายของขอ้ มลู คืออะไร ก. คําบอกเล่าต่อกนั มาจากผู้รจู้ ริง ข. หนังสอื เอกสารงานวิจยั ค. วทิ ยุทวี อี นิ เตอรเ์ นต็ ง. ถูกทุกขอ้ 16.ความสาํ คญั ของขอ้ มลู ใดตอ่ ไปนจ้ี ัดเปน็ ข้อมลู ท่เี กยี่ วข้องกับการพัฒนาชุมชน ก. ข้อมูลด้านโหราศาสตร์ ข. ข้อมลู ด้านเศรษฐกจิ ค.ขอ้ มูลดาราศาสตร์ ง. ขอ้ มูลพนั ธุกรรม 17.ประโยชน์ของข้อมูลดา้ นใดต่อไปน้มี คี วามสอดคลอ้ งกัน ก. ข้อมลู ด้านการเมอื งมผี ลต่อการซอ้ื ขายเสยี งเลือกตั้ง ข. ขอ้ มูลด้านภมู ิศาสตรม์ ีผลต่อการพฒั นาพื้นท่ีเกษตรกรรม ค. ข้อมลู ด้านศาสนามีผลตอ่ การแต่งกายอย่างสวยงามเขา้ วดั ง. ขอ้ มูลดา้ นสาธารณสขุ ทําให้ชว่ ยรกั ษาตนเองและชมุ ชนจากโรคมะเรง็ ได้
~ 186 ~ 18.ขอ้ ใดไม่ใชห่ ลักของการพฒั นาชุมชน ก. ทุกคนมสี ทิ ธเิ์ ท่าเทียมกัน ข. รว่ มกันรกั ษาผลประโยชน์ของสว่ นรวม ค.พัฒนาทุกด้านไปพร้อมๆกนั อยา่ งรวบรัด ง. ทํางานอยา่ งเปน็ ระบบและมีการติดตามผลอยา่ งต่อเนอ่ื ง 19.ข้อใดไมใ่ ชป่ ระโยชนข์ องข้อมลู ด้านการศึกษา ก. เพ่อื แสวงผลประโยชน์ทางทรพั ยส์ ิน ข. เพอื่ ควบคมุ ใหม้ ปี ระสิทธภิ าพและมีผลตามเปาู หมาย ค. เพือ่ การวางแผนและพฒั นาการศึกษาอย่างเปน็ ระบบ ง.เพือ่ แสวงหาทฤษฎีใหม่ๆที่เป็นประโยชนต์ อ่ การศกึ ษา 20.การดาํ เนนิ งานพัฒนาชมุ ชนใหส้ อดคลอ้ งกบั ส่ิงใด ก. หน่วยงานภาครฐั ข.นโยบาย การเมอื ง ค. สถติ เิ ศรษฐศาสตร์ ง. ชมุ ชน
~ 187 ~ เฉลย 1.ก 11.ข. 2.ก. 12.ค. 3.ข 13.ง. 4.ง. 14.ง. 5.ง. 15.ง. 6.ง. 16.ข. 7.ง. 17.ข. 8.ค. 18.ค. 9.ค. 19.ก. 10.ก. 20.ง.
~ 188 ~
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181