-ข- กิตตกิ รรมประกาศ รายงานการศกึ ษาวิจยั เรือ่ ง “ปจั จัยทม่ี ีผลต่อความสาเรจ็ ในการฝกึ ซ้อมแผนป้องกนั และ บรรเทาสาธารณภัย ระดับกลุม่ จังหวัด กรณศี ึกษา : “การฝกึ ซ้อมแผนภัยคมนาคมและการขนส่ง อาเภอ เมอื ง จังหวดั หนองคาย” นี้ สาเร็จไดด้ ว้ ยดี เนื่องจาก ผูศ้ ึกษาวจิ ัยได้รับความอนุเคราะห์ จาก ดร.ปยิ วตั ร์ ขนษิ ฐาบตุ ร อาจารย์วรชพร เพชรสุวรรณ และคณะกรรมการท่ีปรกึ ษา คณะผูบ้ รหิ ารและ ผู้อานวยการ โครงการวิทยาลัยป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั ซึง่ ได้กรณุ าตรวจสอบ แนะนา และใหแ้ นวทางอนั ถกู ตอ้ ง จนทาให้ผูศ้ กึ ษาประสบความสาเรจ็ ในการศึกษา ค้นคว้า และทาใหร้ ายงานการศกึ ษาวจิ ยั ฉบบั นี้ สาเร็จได้อย่างสมบูรณ์ ผศู้ ึกษาวจิ ยั ขอขอบพระคุณ ดร.ปิยวัตร์ ขนษิ ฐาบตุ ร อาจารย์วรชพร เพชรสุวรรณ และคณะกรรมการท่ีปรกึ ษา คณะผ้บู รหิ าร และ ผ้อู านวยการโครงการวิทยาลัยปอ้ งกันและบรรเทา สาธารณภยั ตลอดจนเจ้าหน้าที่ขององคก์ ารตา่ งๆ ท่เี ก่ยี วขอ้ ง เชน่ หอ้ งสมดุ กรมปอ้ งกนั และบรรเทา สาธารณภัย ที่กรุณา เอ้อื เฟื้อข้อมลู และผทู้ ่ีตอบแบบสอบถามทุกทา่ น ตลอดจนนกั วิชาการทุกท่านทผี่ ู้ ศึกษาได้นาผลงานอ้างอิงประกอบการศกึ ษาในครัง้ นี้ ผ้ศู ึกษาใคร่ขอบพระคณุ ไว้ ณ ทนี่ ด้ี ว้ ย ผศู้ กึ ษาหวังเป็นอยา่ งยง่ิ วา่ รายงานการศึกษาวิจยั ฉบับน้ี จะเปน็ ประโยชน์ต่อผทู้ สี่ นใจ เก่ยี วกับปัจจยั ทีม่ ผี ลตอ่ ความสาเร็จในการฝกึ ซอ้ มแผนป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ระดบั กลุ่มจงั หวดั ของ ศนู ย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1 4 อดุ รธานี หรอื อาจใชเ้ ปน็ แนวทางในการศึกษาคน้ คว้า ต่อไปได้อยา่ งดี คุณความดีอนั ใดท่ีเกดิ จากการศกึ ษาคร้ังนี้ ผศู้ ึกษาของมอบแด่ บดิ า มารดา สามี คณาจารย์ และผทู้ ี่เกีย่ วขอ้ ง สนับสนุนผศู้ กึ ษาดว้ ยดี ตลอดมา ธิดา แก้วจนั ทึก มีนาคม 255 7
-ก- คานา เอกสารการศกึ ษานี้ จัดทาขนึ้ เพอ่ื วเิ คราะห์หาปจั จัยทีม่ ีผลต่อความสาเรจ็ ในการฝกึ ซอ้ ม แผนป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย ระดบั กล่มุ จังหวดั เพอ่ื นาข้อเท็จจริงพร้อมทั้งปญั หาและอุปสรรคใน การปฏบิ ัติงานและแนวทางแกไ้ ขปัญหานาไปประยกุ ต์ใช้ในการพัฒนาวิธกี ารปฏิบตั งิ านให้มปี ระสทิ ธภิ าพ มากยิ่งขึน้ ซึง่ อาจเปน็ บทเรียนทมี่ ปี ระโยชน์อย่างยง่ิ ในการช้นี าและระบุวิธีการดาเนนิ งาน เพ่ือให้บรรลุ เป้าหมายอยา่ งแทจ้ รงิ และเพอ่ื นาขอ้ มูลท่ไี ดไ้ ปใช้ในการทบทวนปรับปรุงแผนปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณ ภยั ระดับ กลุ่มจังหวัด พ.ศ.2553 - 2557 ใหส้ อดคลอ้ งกบั สถานการณ์ปจั จบุ ันเปน็ การเตรียมความ พรอ้ ม การปอ้ งกันและลดผลกระทบการรบั มือในภาวะฉุกเฉินและการฟื้นฟเู ยยี วยาผปู้ ระสบภยั อกี ด้วย ผู้ศกึ ษาวิจยั ขอขอบพระคุ ณ คณะกรรมการทีป่ รึกษา ตลอดจนคณะผู้บรหิ ารวิทยาลัย ป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย ผอู้ านวยการและคณะเจ้าหน้าท่โี ครงการนกั บริหารงานป้องกันและ บรรเทาสาธารณภยั รนุ่ ท่ี 10 ทใี่ ห้ความรู้ คาแนะนา และขอขอบพระคณุ เจา้ หน้าที่ ท่เี กีย่ วขอ้ งทั้ง ระดับศูนย์ป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั เขต 1 4 อุดร ธานี และสานกั งานป้องกนั และบรรเทาสา ธารณภัยจังหวัด อุดรธานี หนองคาย หนองบวั ลาภู เลย และ บงึ กาฬ ที่ให้การสนับสนุนและให้ความ รว่ มมือในการใหข้ ้อมลู และช่วยเหลือจนสาเร็จลุลว่ งไปดว้ ยดี หากมีข้อบกพร่องประการใดปรากฏใน รายงานฉบับนผ้ี ้ศู กึ ษายินดนี ้อมรบั นาไปปรับปรุงแก้ไข ตอ่ ไป ด้วยความเคารพ ธิดา แก้วจนั ทกึ
มีนาคม 255 7
-ค- บทสรปุ ผบู้ รหิ าร การศกึ ษาวจิ ยั เร่อื ง “ปจั จัยที่มผี ลต่อความสาเร็จในการฝึกซ้อมแผนปอ้ งกันและบรรเทา สาธารณภยั ระดับกลมุ่ จงั หวดั กรณีศึกษา : การฝกึ ซอ้ มแผนภยั คมนาคมและการขนส่ง อาเภอเมือง จังหวดั หนองคาย” ในคร้ังน้ี เพอ่ื วเิ คราะหค์ วามสาเรจ็ ในการศึกษากระบวนการบรหิ ารทที่ าให้การจัดการ ฝึกซอ้ มแผนป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยระดับกลมุ่ จงั หวดั ของศนู ย์ปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย เขต ๑๔ อดุ รธานปี ระจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ประสบความสาเร็จ และจะเหน็ ไดว้ า่ ความสาเรจ็ ของ กระบวนการฝกึ ซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั ระดบั กลุ่มจังหวัดของ ศูนย์ปอ้ งกนั และบรรเทา สาธารณภัยเขต ๑๔ อุดรธานี ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ สอดคล้องเชอื่ มโยงกับกระบวนการ บรหิ ารแบบวงจรเดมม่งิ (Deming Cycle)ซ่งึ ประกอบด้วย การวางแผน การปฏิบตั ิงาน การตรวจสอบ และการปรบั ปรงุ แกไ้ ข ( Plan-Do-Check-Action) ผ้ศู ึกษาจึงได้นามาเทียบเคยี งเพ่ือให้เหน็ ภาพการ ดาเนนิ งานทีส่ อดคล้องกนั เพื่อนาผลที่ไดจ้ ากการดาเนนิ การฝึกซอ้ มแผนไปเปน็ แนวทางในการพัฒนา กระบวนการฝึกซ้อมแผนปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยในทุกระดบั ให้มปี ระสิทธภิ าพในครั้งต่อไปได้ การบรหิ ารจดั การในการฝกึ ซ้อมแผนการใหค้ วามช่วยเหลือผู้ประสบภยั ในดา้ นบุคลากร ดา้ นงบประมาณ และ ดา้ นเคร่ืองมือ เครอ่ื งใช้ เคร่ืองจกั รกล ยานพาหนะ ที่จะสามารถสนบั สนนุ การปฎิบัตงิ านจังหวดั ในพ้นื ท่ีความรบั ผดิ ชอบ ไดอ้ ยา่ งทนั ท่วงที ซึ่งศนู ยป์ ้องกันและบรรเทาสาธารณภยั เขต 1 4 อดุ รธานี ได้ บรู ณาการสรรพกาลังตา่ งๆ มีการแบง่ มอบหนา้ ทก่ี ารปฎิบัตงิ านอยา่ งชดั เจน ตงั้ แต่กอ่ นเกิดภัย ขณะเกิด ภยั และหลังภัยสนิ้ สุดลง ผลการศกึ ษา ปจั จัยท่ีมผี ลต่อความสาเรจ็ ในการฝึกซ้อมแผนปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ระดับ กลมุ่ จังหวัด ดงั น้ี ๔.๑.๑ ด้านการวางแผน (Plan) การจดั ทาแผนปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั ระดับ กลมุ่ จังหวดั ของ ศูนยป์ อ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั เขต ๑๔ อุดรธานี พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๗ เปน็ การนา ปญั หา อุปสรรค และข้อขดั ขอ้ งท่ีเกดิ ขน้ึ เมือ่ เกิดสาธารณภัย ในสองมติ คิ อื มิติดา้ นการจัดการ และมิตดิ ้าน การปฏิบตั กิ าร มาวางแผนเพ่ือให้สอดคลอ้ งกบั บริบทของแตล่ ะพืน้ ท่ี ๔.๑.๒ ด้านการปฏบิ ัตงิ าน (Do) เป็นการนาแผนป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยระดับ กลุ่มจงั หวดั ของศนู ย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ๑๔ อดุ รธานี มาดาเนนิ การฝกึ ซ้อมเพอ่ื เตรียม ความพร้อมสาหรบั ตอบโตเ้ หตุการณภ์ ยั พบิ ัติ และเพ่ือทดสอบวา่ แผนที่ได้จดั ทาไว้สามารถเปน็ เครื่องมือใน การตอบโตเ้ หตกุ ารณไ์ ดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพเพียงใด ๔.๑.๓ ด้านการตรวจสอบ ( Check) เปน็ การนาสง่ิ ทไ่ี ดจ้ ากการฝกึ ซ้อมแผนมาทาการ ประเมินผล หรือข้นั ตอนการประเมนิ ผล ซงึ่ ไดจ้ ากการใหผ้ ้เู ชย่ี วชาญเฉพาะดา้ น เชน่ ดา้ นการแพทย์ ดา้ น
การดับเพลงิ /กู้ภัย ด้านการจราจร/รกั ษาความสงบ และด้านการควบคุม/สง่ั การ ของแตล่ ะหนว่ ยงาน มารว่ มเป็นกรรมการประเมนิ หลงั การฝกึ ซอ้ ม ซ่ึงคร้งั นเ้ี ปน็ การประเมินผลทนั ทหี ลงั การฝกึ (Hot Watch) เพ่อื ใหเ้ กดิ ความต่อเน่อื งเชอื่ มโยงเพ่อื หาทางแก้ไขตอ่ ไป ๔.๑.๓ ดา้ นการปรับปรงุ แกไ้ ข (Action) เปน็ การนาผลการประเมิน ปัญหา อุปสรรค และข้อขัดขอ้ งจากการฝกึ ซอ้ มแผนมาทาการทบทวนแนวทางการปฏิบตั ใิ นการฝึกซอ้ มแผนในครั้งตอ่ ไปอีก ทั้งเพ่อื เป็นขอ้ มลู สาหรบั การปรับปรุง/แกไ้ ขแผนปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับกลุ่มจงั หวัดของ ศูนยป์ อ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ๑๔ อดุ รธานี ๔.๒ ข้อเสนอแนะ จากผลการศกึ ษากระบวนการบริหารทีน่ าไปสผู่ ลสาเร็จในการจัดการฝึกซอ้ มแผนปอ้ งกัน และบรรเทาสาธารณภยั ระดบั กลมุ่ จงั หวดั ของศนู ยป์ ้องกันและบรรเทาสาธารณภยั เขต ๑๔ อุดรธานี ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ สามารถนามาดาเนนิ การปรับปรงุ แผนปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ระดับกล่มุ จังหวัดของ ศูนย์ป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยเขต ๑๔ อดุ รธานี เพือ่ ใช้เป็นเครื่องมอื ในการ ตอบโตเ้ หตกุ ารณภ์ ัยพิบัติฉุกเฉินไดม้ ปี ระสิทธมิ ากย่งิ ขึ้นโดยควรมกี ารปรบั ปรงุ ดงั น้ี ดา้ นการวางแผน (Plan) เห็นควรมีการทบทวน/ปรบั ปรงุ แผนปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับกลมุ่ จังหวดั ของ ศนู ยป์ อ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั เขต ๑๔ อุดรธานี พ.ศ.๒๕๕๓-๒๕๕๗ เพ่อื ใหส้ อดคลอ้ งกับ สถานการณ์ และบรบิ ทของแตล่ ะพนื้ ที่ โดยนาเอาสง่ิ ทไ่ี ดจ้ ากการฝึกซ้อมแผนท่ีผ่านมาใช้เป็นข้อมลู ประกอบการจดั ทาแผน อกี ทง้ั แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดบั กลมุ่ จังหวดั ของ ศนู ย์ปอ้ งกันและ บรรเทาสาธารณภัยเขต ๑๔ อุดรธานี ควรเปน็ ลกั ษณะของแผนเฉพาะกจิ หรอื เป็นแผนปฏิบัติ (Action Plan) อกี ทงั้ ควรเปิดโอกาสใหห้ น่วยงานท่เี กี่ยวขอ้ งในพน้ื ท่ี และหน่วยงานเครือข่ายท่มี ีความชานาญ เฉพาะด้านแต่ละชนิดของภยั เขา้ มสี ว่ นรว่ มในการจัดทาแผนใหม้ ากยงิ่ ข้นึ ในด้านการดาเนินการฝกึ ซ้อม (Do) ในการฝกึ ซอ้ มแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั ระดบั กลุ่มจังหวัดของ ศนู ย์ปอ้ งกันและ บรรเทาสาธารณภัยเขต ๑๔ อุดรธานี ครั้งต่อไป ควรมีการปรบั /แกไ้ ข การดาเนนิ การดงั นี้ ๑. การประสานงาน ทงั้ การประสานงานภายในศูนย์ป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยเขต ๑๔ อุดรธานี เองและการประสานงานภายนอกกับหน่วยงานเครอื ขา่ ย การประสานงาน เป็นปัจจยั สาคัญ
ทจี่ ะทาใหก้ ารฝกึ ซอ้ มแผนปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ระดับกลมุ่ จงั หวดั ประสบความสาเรจ็ ๒. ควรมกี ารประสานการมีส่วนรว่ มจากหนว่ ยงานท่เี ก่ียวขอ้ งทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนการมีสว่ นรว่ มของเจา้ หนา้ ท่ขี องศูนยป์ ้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ๑๔ อดุ รธใหานม้ ีากยง่ิ ขน้ึ ๓. ควรทาการตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ใหพ้ ร้อมใชง้ านอยู่เสมอ เช่น ตรวจสอบเครื่องมอื และอุปกรณ์ในการดบั เพลงิ /กภู้ ยั เป็นประจา เพื่อใหม้ สี ภาพดี สามารถพรอ้ มใชง้ านอยูเ่ สมอ ๔. การฝึกซ้อมแผนปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัยระดับกลุ่มจังหวัดของ ศูนยป์ อ้ งกัน และบรรเทาสาธารณภัยเขต ๑๔ อุดรธานีครัง้ ต่อไป ควรมกี ารประชาสัมพันธ์แกป่ ระชาชน/ชุมชน ในพ้ืนท่ี ท่ที าการฝึกซอ้ ม แผนฯ เพือ่ ใหป้ ระชาชนได้รับทราบข้อมลู เพือ่ ไม่ให้เกิดความสบั สนวุน่ วาย ดา้ นการตรวจสอบ/ประเมินผล (Check) ๑. การตรวจสอบ/ประเมินผลการฝึกซอ้ มแผน ควรมีการประสานงานกบั ผู้แทน หนว่ ยงานทีเ่ กี่ยวข้องที่ได้รบั การแตง่ ตัง้ เป็นคณะทางานดา้ นการประเมนิ ผลการฝกึ ซอ้ มแผนเพ่ือกระตุ้น ให้ คณะทางานเล็งเหน็ ความสาคญั ของการประเมนิ ผล และเขา้ รว่ มการประเมินผลเมือ่ การฝึกซอ้ มเสรจ็ สิน้ อกี ท้งั การประเมนิ ผลการฝกึ ซอ้ มในภาพรวมสาหรบั รายงานกรมฯ ควรมีการรายงานผลให้ครอบคลมุ ดทา้ กุ น ๒. ควรมีการปรับปรุงแกไ้ ขแบบฟอรม์ การประเมินผลการฝกึ ซ้อมแผนใหค้ รอบคลุมทุก ดา้ นรวมถึงประเดน็ ปลกี ยอ่ ยได้ เพอ่ื ใหก้ ารประเมนิ สามารถใชเ้ ป็นเคร่ืองมอื ในการตรวจสอบ/ประเมนิ ผล การฝกึ ซอ้ มแผน ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ๓. สรปุ ประเด็นปญั หา/ขอ้ ขดั ขอ้ ง ขอ้ ดี/ขอ้ บกพร่อง จากการฝึกซ้อมแผนฯทไ่ี ด้จาก ประเมนิ ผลให้ได้ประเดน็ ที่ชดั เจนเพอ่ื เปน็ ข้อมลู ในการปรับปรงุ แผนฯต่อไป ดา้ นการนาผลการตรวจสอบมาปฏิบตั ิ (Action) ๑. ควรนาประเดน็ ปญั หา/ขอ้ ขดั ข้อง ข้อดี/ข้อบกพร่อง จากการฝึกซ้อมแผนฯทีไ่ ด้จาก ประเมนิ ผลมาพจิ ารณาทบทวน/ปรับปรุงแผนฯเพอ่ื ใหม้ ีความสมบรู ณ์ ครอบคลมุ และถูกตอ้ งตามสภาพ ขอ้ เทจ็ จรงิ ของบริบทแตล่ ะพนื้ ทีใ่ ห้มากยงิ่ ขึน้ ๒. ศูนยฯ์ ควรให้ความสาคญั ต่อการปฏบิ ตั ิตามขน้ั ตอนการปฏบิ ัตทิ รี่ ะบไุ ว้ในแผน หาก กิจกรรมใดไม่สามารถปฏบิ ัติได้ตามแผนทกี่ าหนดไว้ ให้นามาเปน็ ข้อมลู เพื่อประกอบการพจิ ารณาปรับปรงุ และทบทวนแผน ทัง้ นีเ้ พอ่ื ใหแ้ ผนทก่ี าหนดขนึ้ ตรงกบั ศกั ยภาพของหน่วยงานในพ้ืนที่ และสามารถนาไป ปฏิบัติไดจ้ รงิ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
๓. ควรมีการหารือร่วมกันระหว่างศูนยป์ ้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั เขต ๑๔ อุดรธานี และหน่วยงานเครอื ขา่ ยเพอ่ื พฒั นากระบวนการฝกึ ซอ้ มแผนฯ และนาวิธีการหรือแนวปฏบิ ัติทด่ี ี (Best Practice) มาถา่ ยทอดใหก้ บั ผ้เู กี่ยวขอ้ ง เพ่อื พฒั นาศักยภาพและองคค์ วามรูร้ ่วมกัน สาหรับสว่ นทีเ่ ป็น ขอ้ ผิดพลาด ข้อบกพรอ่ ง หรือสิง่ ทีต่ อ้ งปรับปรงุ แก้ไข จะต้องนาไปปรับปรุงจัดทาแผนป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยระดับกลมุ่ จังหวดั ของ ศนู ยป์ อ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั เขต ๑๔ อุดรธานเี พื่อพฒั นา ปรับปรงุ อยา่ งตอ่ เนอ่ื งและทันตอ่ สถานการณ์ ในการน้ี ผ้วู จิ ยั หวงั ผลที่ไดร้ บั จากการศกึ ษาในคร้ังนวี้ ่า จะเป็นประโยชน์ตอ่ หนว่ ยงาน ดา้ นการสนับสนุนจงั หวดั ในการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภัยต่างๆ และผูบ้ ริหารของหนว่ ยงาน เพ่อื ใช้ ประกอบการพจิ ารณาวางแนวทางในการเตรียมความพรอ้ มโดยการ ฝึกซอ้ มแผนปอ้ งกันและบรรเทา สาธารณภยั ระดับกลมุ่ จังหวัดของ ศนู ยป์ อ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั เขต ๑๔ อุดรธานี ใหม้ ี ประสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผลยงิ่ ข้นึ ตอ่ ไป
-ง- สารบญั คานา ก หนา้ กิตตกิ รรมประกาศ ข บทสรุปผู้บรหิ าร ค สารบญั ง บทท่ี 1 บทนา 1.1 ความเป็นมาของเร่ืองและสถานการณป์ จั จบุ ัน 1 1.2 เหตุผลและความจาเป็นในการศกึ ษา 3 1.3 วตั ถปุ ระสงค์ของการศึกษา 4 1.4 ขอบเขตของการศกึ ษา 4 1.5 นิยามศพั ท์ 4 1.6 กรอบแนวคิดในการศึกษา 4 1.7 ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะไดร้ ับ 6 บทท่ี 2 แนวคิด ทฤษฎี ระเบียบกฎหมาย และงานวิจยั ท่ีเกย่ี วข้อง 2.1 แนวความคดิ และหลักการเกี่ยวกบั การปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย 7 2.2 แนวคิดเก่ยี วกับความรูเ้ รอ่ื งการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 10 2.3 แนวคิดเก่ียวกับแผนปฎิบตั กิ ารฉกุ เฉินปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หาจากอทุ กภยั ฯ 2554 11 2.4 ทฤษฎีที่เก่ียวข้องและสนับสนุน 12 บทที่ 3 วธิ ดี าเนินการวิจยั 26 3.1 ประชากรและกลุม่ ตัวอย่าง 26 26 3.2 ขอบเขตและพืน้ ท่กี ารศกึ ษา 27 3.3 วิธกี ารศึกษา 27 3.4 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล 29 3.5 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู 29 บทที่ 4 ผลของการศึกษาวิเคราะห์ ส่วนท่ี 1 ขอ้ มลู ทัว่ ไปปัจจัยสว่ นบุคคลของผตู้ อบแบบสอบถาม ส่วนที่ 2 ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ความคดิ เหน็ ความสาเร็จในการให้ความช่วยเหลอื ฯ
บทท่ี 5 บทสรุปผลการศึกษาวจิ ยั และขอ้ เสนอแนะ 38 39 5.1 สรุปผลการศกึ ษา 5.2 ขอ้ เสนอแนะ 12 บรรณานกุ รม ภาคผนวก สารบัญแผนภูมิ หน้า แผนภมู ทิ ี่ 1 แสดงผังวงจร PDCA แผนภมู ิท่ี 2 แสดงการประยกุ ต์ใชว้ งจร PCDA ในการบริหารนโยบาย 12 แผนภูมิท่ี 3 แสดงวงจร PCDA การปรบั ปรงุ อย่างต่อเนอื่ ง 13 แผนภูมิที่ 4 แสดงกระบวนการจัดการฝกึ ซ้อม 18
รายงานการศึกษา เรื่อง ปัจจยั ทีม่ ีผลตอ่ ความสาเร็จในการฝึกซอ้ มแผนป้องกนั และบรรเทา สาธารณภยั ระดับกลุ่มจงั หวดั กรณีศึกษา : การฝกึ ซอ้ มแผนภัย คมนาคมและการขนสง่ อาเภอเมอื ง จังหวัดหนองคาย จดั ทาโดย ธิดา แก้วจนั ทกึ รหัสประจาตัวนักศึกษา 11 เอกสารฉบบั นี้เป็นส่วนหน่งึ ในการศึกษาอบรม หลกั สูตร นักบรหิ ารงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั (นบ.ปภ.) รนุ่ ที่ 10
ระหวา่ งวนั ที่ 7 มกราคม – 10 เมษายน 255 7 วทิ ยาลัยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั บทท่ี 1 บทนา 1. ความเปน็ มาและความสาคัญของปัญหา ในชว่ งทศวรรษท่ผี า่ นมา ความกา้ วหนา้ ด้านเทคโนโลยสี ง่ ผลต่อการพฒั นาเศรษฐกิจและ อตุ สาหกรรมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะประเทศไทยได้นาเทคโนโลยีสมยั ใหมร่ ูปแบบต่างๆ มาใชใ้ นการเพิม่ ประสิทธิภาพการผลติ รวมท้ังสารเคมีและวตั ถุอนั ตรายต่างๆ ทาใหภ้ าคอุตสาหกรรมขยายตัวชมุ ชนเมอื ง ขยายตัว ก่อให้เกิดการดัดแปลงแก้ไขสภาพแวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาตเิ พ่ือรองรบั การดารงชวี ติ ของ ชมุ ชนเมือง นอกจากนั้น จานวนประชากรทีเ่ พมิ่ มากข้นึ ทาให้ปญั หาด้านสิง่ แวดลอ้ มย่ิงทวคี วามรุนแรง เนื่องจากทรัพยากรธรรมชาตถิ ูกทาลายและเสอ่ื มโทรมลง ทาใหร้ ะบบนเิ วศน์ขาดความสมดลุ สง่ ผลให้ เกดิ ภาวะโลกรอ้ น (Global Warming) และเกดิ ความแปรปรวนตามมา สภาพการณ์เหลา่ นี้ ทาให้โอกาสเกดิ สาธารณภัยประเภทต่างๆ เพม่ิ สูงขึน้ เช่น นา้ ทว่ ม ฉบั พลันและดนิ โคลนถลม่ ภยั แลง้ เพลงิ ไหม้ แก๊สระเบดิ สารเคมีรั่วไหล อบุ ัตเิ หตุจราจร ซึ่งปรากฏ ชัดเจนในหลายพ้ืนท่ี อาทิ เหตุการณ์เพลงิ ไหมช้ มุ ชนแออัดคลองเตย พ.ศ. 2546 เหตุการณภ์ ัยจาก คลื่นสนึ ามิถลม่ ในพ้นื ท่ี 6 จังหวดั ชายฝ่งั ทะเลอนั ดามัน ในปี พ.ศ. 2547 สถานการณภ์ ัยแลง้ รนุ แรง ในปี พ.ศ. 2548 (พื้นทีป่ ระสบภยั ประมาณ 60% ของประเทศ หรือ 44,519 หมูบ่ ้าน จาก 73,663 หมบู่ า้ น) เหตกุ ารณอ์ ุทกภัยและดนิ โคลนถลหม่ ลายจังหวดั ในพ้นื ท่ีภาคเหนือ ในปี พ.ศ. 2549 และเหตุการณอ์ ุทกภยั รุนแรงในหลายจังหวัดทั่วประเทศ จากปรากฏการณด์ งั กล่าว พบว่า แนวโน้มการเกดิ ภัยธรรมชาติ มคี วามรนุ แรงและความถ่ใี นการเกิดมากข้ึน จะเหน็ ได้วา่ สาธารณภยั ท่ีเกิดข้ึนนั้น มโี อกาสเกดิ ได้จาก ธรรมชาติและการกระทาของมนษุ ย์ ซึ่งเมอื่ เกดิ เหตุการณส์ าธารณภัยขึน้ ในแตล่ ะคร้งั กอ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบและสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลโดยเฉพาะต่อชีวิตและทรัพย์สนิ ของประชาชน ดังนั้น การบริหารจดั การสาธารณภัยต่างๆ จงึ จาเป็นตอ้ งมีโครงสรา้ งการจัดการทช่ี ดั เจนและเหมาะสมต่อการ ปูองกันและแก้ไขปญั หา รฐั บาลได้ตระหนักถึงความสาคัญของการบริหารจัดการสาธารณภยั จงึ ไดต้ รา พระราชบญั ญตั ปิ ูองกนั และบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ขนึ้ เพ่อื ให้เปน็ กฎหมายหลักในการบริหาร จดั การสาธารณภัยในปัจจุบนั และมผี ลใชบ้ งั คบั ต้งั แต่วนั ที่ 6 พฤศจกิ ายน 2550 เป็นต้นมา โดยยกเลิก
พระราชบัญญตั ิปอู งกันภัยฝุายพลเรือน พ.ศ.2522 และพระราชบญั ญตั ิปูองกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2542 ทั้งน้ีเพอื่ ใหส้ อดคล้องกับการปฏริ ปู ระบบราชการตามพระราชบัญญตั กิ ารปรับปรงุ กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.2545 และกฎกระทรวงแบง่ ส่วนราชการ จงึ ได้ตัง้ กรมปูองกนั และบรรเทาสาธารณภัยให้มภี ารกจิ หลกั ในการดาเนินการปอู งกัน บรรเทา ฟ้นื ฟู สาธารณภยั และอบุ ัตภิ ยั (มาตรา 11) กาหนด ให้ กรมปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั เปน็ หนว่ ยงานกลางของรฐั ในการดาเนนิ การเกย่ี วกับการปูองกันและ บรรเทาสาธารณภัยของประเทศ มอี านาจหน้าท่ใี นการจดั ทาแผนการปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัย แหง่ ชาติ จดั ใหม้ กี ารศกึ ษาวจิ ัยเพือ่ หามาตรการในการปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้มีประสิทธิภาพ ปฏิบัติการ ประสานการปฏิบัติ ให้การสนบั สนุน และชว่ ยเหลอื หนว่ ยงาน ของรฐั องค์กรปกครองสว่ น ทอ้ งถิ่น และหนว่ ยงานภาคเอกชน ในการปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภัย และให้การสงเคราะหเ์ บ้อื งต้น แกผ่ ปู้ ระสบภยั ผู้ได้รบั ภยนั ตราย หรอื ผไู้ ดร้ บั ความเสยี หายจากสาธารณภัย พรอ้ มทัง้ แนะนา ใหค้ าปรกึ ษา และอบรมเกยี่ วกบั การปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั แกห่ นว่ ยงานของรฐั องค์กรปกครอง -2- สว่ นทอ้ งถ่นิ และหนว่ ยงานภาคเอกชน และติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดาเนนิ การตาม แผนการปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยในแต่ละระดบั (มาตรา 57) กาหนดให้มี แผนการปอ้ งกนั และ บรรเทาสาธารณภัย ในระดับตา่ งๆ คือ แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแหง่ ชาติ โดยกาหนด แนวทางมาตรการ งบประมาณ ในการดาเนินการปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภอยั ย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง และแนวทาง วิธกี ารในการใหค้ วามชว่ ยเหลือและบรรเทาความเดอื ดร้อนของรัฐและองคก์ รปกครองสว่ น ทอ้ งถ่ินทรี่ ับผดิ ชอบ การเตรยี มความพรอ้ มด้านบคุ ลากร อุปกรณ์ และเคร่ืองมอื เครอื่ งใช้ และจัดระบบการ ปฏิบัติการปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถงึ การฝึกบุคลากร และประชาชน แนวทางในการซ่อมแซม บรู ณะ และฟ้นื ฟเู พ่อื ใหห้ น่วยงานของรัฐและองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ท่ีเกี่ยวข้องปฏิบัติ (มาตรา 11และ มาตรา 12) แผนการปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวัด โดยแผนดังกลา่ วต้องสอดคล้องกับแผนการ ปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ และมีสาระสาคัญ (มาตรา 16 และมาตรา 17) คอื มีการจัดตัง้ ศูนย์อานวยการเฉพาะกิจเมือ่ เกดิ สาธารณภัยขึ้น โครงสรา้ ง และผ้มู ีอานาจส่งั การด้านตา่ ง ๆ ในการ ปูองกันและบรรเทาสาธารณภยั มแี ผนและ ขนั้ ตอนขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ในการจดั หาวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมอื เคร่ืองใช้ และยานพาหนะ เพือ่ ใช้ในการปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัย มีแผนและ ข้ันตอนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ในการจดั ให้มี เครอ่ื งหมาย สญั ญาณ หรอื ส่ิงอนื่ ใด ในการแจ้งให้ ประชาชนได้ทราบถงึ การเกดิ หรอื จะเกดิ สาธารณภยั มีแผนปฏิบัตกิ ารในการปอู งกนั และบรรเทา สาธารณภยั ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ และแผนการประสานงานกับองคก์ ารสาธารณกศุ ล แผนการ ปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ซ่งึ แผนดังกลา่ วต้องสอดคลอ้ งกบั แผนการปอู งกนั และ บรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ และมีสาระสาคัญ (มาตรา 33 และ 34)คือ มีการจดั ต้งั ศนู ย์อานวยการเฉพาะ กิจเม่ือเกดิ สาธารณภัยข้ึนโครงสร้าง และผู้มอี านาสจั่งการด้านต่าง ๆ ในการปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั มีแผนและข้นั ตอนในการจัดหาวัสดุ อปุ กรณ์ เครอ่ื งมือเครือ่ งใช้ และยานพาหนะเพ่ือใช้ในการปอู งกนั และ
บรรเทาสาธารณภยั มเี ครือ่ งหมายสญั ญาณ หรอื สงิ่ อนื่ ใด ในการแจ้งให้ประชาชนไดท้ ราบถงึ การเกดิ หรือ จะเกดิ สาธารณภัยมแี ผนปฏิบตั ิการในการปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัยในเขตกรงุ เทพมหานคแรละแผนการ ประสานงานกบั องค์การสาธารณกศุ ลในเขตกรุงเทพมหานคร ดังน้ัน การเตรียมความพร้อมของหน่วยงานทเ่ี ก่ียวขอ้ งทั้งภาครัฐ เอกชน ตลอดจนภาค ประชาชน ในการรับมอื และตอบโตต้ อ่ สถานการณ์ เพ่ือเขา้ ดาเนนิ การปูองกนั และบรรเทาสาธารณภยั ช่วยเหลือผูป้ ระสบภัยให้ลดความสูญเสยี ใหน้ ้อยท่สี ุดภายใตแ้ ผนปูองกนั และบรรเทาสาธารณภัยจงึ มีความสาคญั ยิง่ ท้ังน้ี เคร่อื งมอื หนงึ่ ทชี่ ่วยใหก้ ารดาเนินการตามแผนของแต่ละหน่วยงานดังกลา่ วเป็นไป อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ประสิทธผิ ล มีความปลอดภัย และคมุ้ ค่า คอื “การฝึกซ้อมแผนปอู งกนั และบรรเทา สาธารณภัย” เน่ืองจากการฝกึ ซอ้ มแผนฯ จะชว่ ยในการเตรียมความพรอ้ มของหนว่ ยงานทร่ี ่วมบูรณาการ แผน และแนวทางปฏบิ ตั ิใหป้ ระสานสอดคล้องกนั อย่างมรี ะบบ ขณะเดียวกันยังทาใหท้ ราบถึงจดุ บกพร่อง และชอ่ งวา่ งในการปฏิบัติงานอนั นาไปสกู่ ารปรับปรงุ แผนใหม้ ีความสมบรู ณย์ ิ่งข้ึนต่อไป ดงั นนั้ แผนการ ปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ พ.ศ. 2553 - 2557 จึงไดใ้ ห้ความสาคญั กบั การฝึกซ้อมแผนการ ปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั โดยกาหนดไว้เปน็ หวั ข้อหนงึ่ ในสว่ นที่ 1 หลกั การปูองกันและบรรเทา สาธารณภยั ภายใต้บทท่ี 5 ยุทธศาสตร์การเตรยี มความพรอ้ ม โดยกระทรวงมหาดไทยกาหนดให้มกี าร ฝึกซอ้ มแผนปูองกันและบรรเทาสาธารณภยั ระดับกลมุ่ จงั หวัด ระดบั จังหวัด ระดับอาเภอ อยา่ งน้อย 1 คร้ังต่อปี -3- ภยั จากการคมนาคมและการขนส่งเปน็ ภยั หนง่ึ ทีส่ าคญั ทท่ี ุกประเทศทั่วโลกกาลงั เผชญิ อยู่ใน ขณะนี้ และเป็นสาเหตุสาคัญทีท่ าใหเ้ กิดการบาดเจ็บ การสูญเสียชวี ิต ร่างกายและทรพั ย์สิน ตลอดจน สง่ ผลกระทบตอ่ เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ จากสถติ ิขอ้ มูล พบวา่ ทกุ ปมี ีผเู้ สยี ชีวติ จากอบุ ัติเหตทุ างง ถนนมากกวา่ 1.2 ลา้ นคน และบาดเจบ็ หรอื พกิ ารกวา่ 50 ลา้ นคนท่ัวโลก ท่ีสาคัญในจานวนนี้เป็นเด็กและ เยาวชน ท่ีมอี ายุระหวา่ ง 10-24 ปี เปน็ จานวนมากกวา่ และกวา่ ร้อยละ 90 ของอบุ ัตเิ หตทุ างถนนเกดิ ข้นึ กบั ผใู้ ชร้ ถจกั รยานยนต์ คนเดินถนนและระบบขนส่งมวลชนทขี่ าดความปลอดภัย ศูนย์ปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 14 อุดรธานี ในฐานะหน่วยงานหน่งึ ของกรม ปูองกนั และบรรเทาสาธารณภัย ท่ีมีหน้าทีโ่ ดยตรงในการบรหิ ารจดั การสาธารณภยั ซ่ึงมีพน้ื ท่รี บั ผิดชอบ 5 จงั หวดั ภาคอสี านตอนบนประกอบด้วย จังหวดั อุดรธานี จงั หวดั เลย จังหวัดหนองคาย จงั หวดั บงึ กาฬ และจงั หวัดหนองบวั ลาภู โดยเฉพาะอย่างยง่ิ มจี งั หวดั ท่มี ีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพอ่ื นบา้ น ในอนุภมู ภิ าคลุม่ น้าโขง ตอนบน (ไทย-ลาว-เวีย ดนาม) อย่างเช่น สาธารณรฐั ประชาธิปไตยประชาชนลาว ถงึ 3 จังหวดั ดว้ ยกัน โดยมแี มน่ ้าโขงกั้นอาณาเขต และการคมนาคมขนส่งสนิ ค้าต่างๆ ไปยังประเทศเพอ่ื น บ้านเหล่าน้ี จงึ ตอ้ งผ่านจังหวัดอดุ รธานี ซึ่งเป็นท่ตี ัง้ ของศนู ย์ ปภ.เขต 14 อุดรธานี เช่นกนั ดังนนั้ จงึ นบั ได้ว่าจงั หวัดอุดรธานีเป็นจุดศนู ย์กลาง ( Hub) ในการคมนาคมขนส่งเช่อื มตอ่ ระหว่างประเทศในกล่มุ อนุ ภูมภิ าคลมุ่ นา้ โขง โดยมสี ะพานมติ รภาพ ไทย-ลาว แหง่ ที่ 1 เปน็ จดุ เช่อื มตอ่ การคมนาคมทส่ี าคัญผา่ นถนน
มิตรภาพ ทาให้มปี รมิ าณการจราจรในแตล่ ะวนั เป็นจานวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขนส่งสินคา้ ทีเ่ ปน็ สารเคมีและวตั ถอุ ันตราย จึงเปน็ พืน้ ที่เสี่ยง และเกดิ อบุ ัติเหตุข้นึ บอ่ ยครง้ั สร้างความเสียหายต่อชีวิต ทรัพยส์ นิ และกระทบตอ่ การสุขภาพ อนามยั ของประชาชนอย่างกว้างขวาง เพอื่ เป็นการเตรียมความพร้อมในการจัดการสถานการณ์วกิ ฤติ ใหเ้ กดิ ประสิทธิภาพมากย่งิ ขึน้ อนั จะเปน็ การขบั เคล่ือนยุทธศาสตร์ของกรมปูองกันและบรรเทาสาธารณภยั ในการรว่ มกนั สรา้ ง วฒั นธรรมความปลอดภัย (Safety Culture) ใหเ้ ป็นเมืองปลอดภัยน่าอยู่ อกี ทั้งเปน็ การเตรยี มความพร้อม เขา้ สปู่ ระชาคมอาเซยี น (AEC) ทงั้ น้กี รมปูองกนั และบรรเทาสาธารณภยั ได้มีหนงั สอื ด่วนมากที่ มท 0616/ ว.12214 ลงวนั ที่ 22 พฤศจิกายน 2555 แจง้ ให้ทาการฝึกซ้อมแผนปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ให้ แล้วเสร็จกอ่ นไตรมาสท่ี 3 ศูนย์ปูองกันและบรรเทาสาธารณภยั เขต 14 อุดรธานี จึงได้รว่ มกับจงั หวัด หนองคาย อดุ รธานี เลย บงึ กาฬ และหนองบวั ลาภู จดั ทาโครงการฝกึ ซอ้ มแผนปอู งกนั และบรรเทา สาธารณภัย กรณีการระงบั อุบัตภิ ยั จากสารเคมีและวตั ถอุ ันตรายขน้ึ เพอ่ื เปน็ การเตรียมความพร้อมและ ซักซอ้ มแนวทางการปฏบิ ตั ิเพอ่ื ตอบโต้ภยั พิบตั จิ ากสารเคมีและวัตถุอนั ตราย ตามแผนปูองกันและบรรเทา สาธารณภยั ระดับกล่มุ จังหวัด โดยกาหนดให้สถานการณม์ ีความรุนแรงระดับ ๓ ซงึ่ เกนิ ขีดความสามารถ ของทรพั ยากรภายในจังหวัดท่ีจะตอบโตเ้ หตุการณอ์ ย่างมีประสทิ ธภิ าพได้ จึงจาเปน็ ตอ้ งใช้บคุ ลากรท่มี ี ความร้คู วามชานาญเฉพาะด้าน และอปุ กรณ์/เครอื่ งมอื พเิ ศษสาหรบั เผชญิ เหตุโดยเฉพาะ ซึง่ จาเปน็ ต้อง อาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ในจงั หวดั ใกล้เคยี งหรอื จากส่วนกลาง เพือ่ ร่วมบูรณาการตอบโตภ้ ยั พบิ ตั ทิ ่ีเกดิ ขนึ้ อันจะเปน็ การลดความสูญเสียทัง้ ตอ่ ชีวติ และทรพั ย์สนิ ของประชาชน และของทางราชการ ในภาพรวม เพือ่ ใหป้ ระเทศไทยเปน็ เมอื งปลอดภยั น่าอยอู่ นั จะเป็นการเตรียมพรอ้ มเพอ่ื รองรับการเขา้ สู่ ประชาคมอาเซยี น ดงั นนั้ คณะทางาน จงึ ได้ รวมพิจารณา คดั เลือกภยั คมนาคมและการขนสง่ ในการ ฝึกซ้อมแผนปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ระดบั กลมุ่ จังหวดั ในปี พ.ศ. 2556 จึงทาใหผ้ วู้ ิจยั มคี วาม -4- สนใจที่จะศกึ ษาถึงปัจจัยที่มีผลตอ่ ความสาเร็จในการฝึกซ้อมแผนภยั คมนาคมและการขนสง่ เพือ่ เป็น แนวทางในการพฒั นาศกั ยภาพในการฝกึ ซอ้ มแผนปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัยทม่ี ีประสิทธิภาพตอ่ ไป 2 .วัตถุประสงคข์ องการศึกษา 1. เพือ่ ศึกษาปัจจยั ท่มี ผี ลต่อความสาเร็จในการฝกึ ซอ้ มแผนปูองกนั และบรรเทาสาธารณภยั ระดบั กลุ่มจงั หวัด กรณีศึกษา : การฝกึ ซ้อมแผนภัยคมนาคมและการขนสง่ อาเภอเมอื ง จังหวดั หนองคาย 2. เพือ่ ศกึ ษาถงึ ปัญหาอปุ สรรคในการดาเนนิ การฝึกซ้อมแผนปูองกนั และบรรเทาสาธารณภยั ระดับกลมุ่ จงั หวดั กรณศี ึกษา : การฝึกซ้อมแผนภัยคมนาคมและการขนสง่ อาเภอเมือง จังหวัดหนองคาย 3. เพอื่ หาแนวทางการพัฒนาศักยภาพในการฝกึ ซอ้ มแผนปูองกนั และบรรเทาสาธารณภัย ระดบั กลุ่มจังหวดั ที่มปี ระสิทธิภาพ
3. วิธกี ารและขอบเขตการศกึ ษา 3.1 วธิ กี ารศกึ ษา เป็นการวจิ ยั เชงิ คุณภาพ โดยใช้แบบสอบถามหรอื สมั ภาษณ์ 3.2 ขอบเขตการศกึ ษา ขอบเขตด้านเนอ้ื หา ศึกษาถึงความสาเรจ็ ในการฝึกซ้อมแผนภัย คมนาคมและการขนสง่ ซ่งึ เป็น การฝึกซ้อมแผนปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดบั กลมุ่ จังหวดั ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2555 ของ ศนู ยป์ ูองกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 14 อุดรธานี ดา้ นความเห็น บทบาทหน้าท่ี การมีส่วนร่วม การ พจิ ารณาคดั เลอื กภยั ในการฝึกซอ้ ม ตลอดจนเพอื่ ศกึ ษาปัญหา อุปสรรค และแนวทางการปฏิบัติงานดงั กล่าว ให้มปี ระสทิ ธภิ าพยง่ิ ข้นึ ขอบเขตของพน้ื ท่ี ได้แก่ ศกึ ษาในพน้ื ทกี่ ารดาเนนิ การฝกึ ซ้อมแผนปูองกันและบรรเทาสาธารณ ภยั ระดับกลุ่มจงั หวดั ของศนู ยป์ อู งกนั และบรรเทาสาธารณภัยเขต ๑๔ อุดรธานี ณ.จุดตดั ทางรถไฟสะพาน มติ รภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ ๑ ตาบลหนองกอมเกาะ อาเภอเมืองหนองคาย จงั หวดั หนองคาย ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ เจ้าหน้าท่แี ละผูเ้ ขา้ รว่ มฝกึ การซอ้ มแผนการปอู งกันและ บรรเทาสาธารณภยั ระดบั กลุ่มจงั หวดั จานวน 20 คน มีระยะเวลาการ 3 เดือน 4. นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ ภยั จากการคมนาคมขนสง่ หมายถึง ภัยจากอุบัตเิ หตจุากการจราจรทางบก อุบตั เิ หตุ หมายถึง เหตุการณ์ทอี่ บุ ตั ิเหตเุ กิดขน้ึ โดยไม่คาดคดิ ไม่มีใครทีส่ ามารถจะร้ไู ด้ จะเกิดท่ีไหนเมอ่ื ไหร่ และผลของอบุ ัติเหตจุ ะร้ายแรงแคไ่ หน การฝึกซอ้ มแผน หมายถงึ กิจกรรมการฝึกฝนหรือฝึกปฏิบัติของผู้เข้าร่วมการฝึกซ้อมโดยการ สมมติสถานการณข์ น้ึ เพ่อื ทดสอบความสามารถในการปฏบิ ัติการของเจา้ หน้าที่ท่ีเก่ยี วขอ้ งตลอดจนทดสอบ นโยบาย แผน หรือแนวทางการปฏบิ ัตขิ องหน่วยงานหากเกดิ เหตกุ ารณข์ นึ้ จริงด้วยเหตุนี้ การฝึกซ้อมแผนฯ จึงชว่ ยในการเตรยี มความพรอ้ มของหนว่ ยงานที่มีหน้าท่รี บั ผดิ ชอบตามแผน รวมทัง้ เปน็ การทดสอบแนวทาง ปฏบิ ตั ใิ ห้ประสานสอดคล้องกันอย่างมรี ะบบ และมปี ระสทิ ธิภาพ ขณะเดยี วกันยังทาให้ทราบถงึ จดุ บกพร่อง และชอ่ งว่างในการปฏิบตั ิงานอนั นาไปสู่การปรบั ปรุงแผนให้มคี วามสมบูรณ์ยง่ิ ขน้ึ ตอ่ ไป -5- การปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั หมายถงึ การดาเนนิ การปูองกนั อคั คีภัย วาตภัย อุทกภัย ภัยแล้ง โรคระบาดในมนษุ ย์ โรคระบาดสัตว์ โรคระบาดสตั ว์นา้ การระบาดของศตั รพู ืช ตลอดจนภยั อื่น ๆ อันมีผลกระทบต่อสาธารณชน ไมว่ ่าเกิดจากธรรมชาติ มีผทู้ าใหเ้ กิดขน้ึ อุบัตเิ หตุ หรอื เหตุอ่นื ใด ซึ่ง ก่อให้เกดิ อันตรายแกช่ ีวติ รา่ งกายของประชาชน หรอื ความเสียหายแก่ ทรัพย์สนิ ของประชาชน หรอื ของรฐั และใหห้ มายความรวมถงึ ภัยทางอากาศ และการก่อวินาศกรรดม้วย
แผนปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั ระดับกลุ่มจังหวัด หมายถงึ กระบวนการกาหนดวิธีการ และแนวทางในการตอบโต้ภยั พบิ ตั ิท้งั ด้านการอานวยการส่ังการ การประสานงาน และการปฏิบัติการ ของศูนย์ปูองกนั และบรรเทาสาธารณภยั เขต 14 อดุ รธานที ีค่ รอบคลมุ พื้นที่ 5 จังหวดั คอื อดุ รธานี หนองบัวลาภู เลย หนองคาย และบงึ กาฬ การฝึกซ้อมแผนบนโตะ๊ (Table Top Exercise: TTX) หมายถึง การฝกึ ซอ้ มแผนทีม่ ุ่งเนน้ การระบุจุดแขง็ จุดอ่อน รวมทงั้ การทาความเข้าใจแผน นโยบาย ขอ้ ตกลงความรว่ มมือ และข้นั ตอนการ ปฏบิ ตั ทิ ีใ่ ช้อยขู่ องหน่วยงานทเ่ี ก่ียวขอ้ ง โดยใชก้ ารอภิปรายกล่มุ แบบไมเ่ ป็นทางการบนพืน้ ฐานของ สถานการณ์สมมตทิ ีก่ าหนดขึ้นโดยมวี ิทยากรกระบวนการ (Facilitators) เป็นผูน้ าการอภิปรายใหเ้ ปน็ ไป ตามแนวทางและวตั ถปุ ระสงคข์ องการฝกึ ซอ้ ม ทัง้ นี้ ผูเ้ ข้าร่วมในการฝกึ ซอ้ มมักเปน็ เจ้าหน้าทีร่ ะดบั สงู เจ้าหน้าที่ทร่ี บั ผิดชอบ หรอื บุคลากรหลักในเรอ่ื งนนั้ ๆ การฝึกซอ้ มเฉพาะหนา้ ท่ี (Functional Exercise: FEX) หมายถงึ กจิ กรรมการฝกึ ซอ้ มของ หน่วยงานหรือระหวา่ งหนว่ ยงานเพอ่ื ทดสอบ ประเมนิ ขดี ความสามารถของบคุ คล และบทบาทหน้าที่ (Function) ทใ่ี ช้ในการตอบโต้ต่อสถานการณท์ สี่ มมตขิ ึน้ โดยเนน้ การฝกึ ซอ้ มแผน นโยบาย ขน้ั ตอนการ ปฏิบตั ิงาน และเจา้ หนา้ ท่ีในการสงั่ การและควบคุมท่ีมีอยู่ ท้งั นี้ ในการฝกึ ซ้อมเฉพาะหน้าทน่ี นั้ การ เคลอ่ื นย้ายบุคลากรและทรัพยากรจะถกู สมมติข้นึ วตั ถปุ ระสงคห์ ลักของการฝกึ ซ้อมเฉพาะหนา้ ทีก่ ็ เพือ่ ท่ีจะนาแผน ข้นั ตอนการปฏบิ ตั ไิ ปปฏิบตั ิภายใต้เง่ือนไขเฉพาะในแตล่ ะบทบาทหน้าท่ี โดยท่จี ะสมมติ การปฏบิ ตั ิการในขอบเขตของบทบาทหนา้ ท่นี ้ัน ๆ ดว้ ยการนาเสนอปญั หาทซี่ บั ซ้อนและสมจรงิ การฝึกซอ้ มเตม็ รูปแบบ (Full-scale Exercise: FSX) หมายถงึ กระบวนการฝกึ ซอ้ มทีม่ ีการ เคลอ่ื นยา้ ยทรพั ยากรและบคุ ลากรเพื่อตอบโตต้ อ่ สถานการณ์จรงิ การฝกึ ซ้อมเตม็ รูปแบบสามารถทดสอบ การตอบโตแ้ ละบรรเทาเหตฉุ กุ เฉินในหลายแงม่ มุ โดยมุ่งเนน้ การปฏบิ ัติตามแผน นโยบาย และขั้นตอน กระบวนการทพี่ ฒั นาหรอื กาหนดขึน้ จาก TTX หรอื FEX เหตกุ ารณต์ ่างๆ นาเสนอโดยใช้บทสถานการณ์ สมมติในการฝกึ ซอ้ ม (Script Exercise Scenario) กระบวนการบริหาร หมายถึง ข้ันตอนการฝกึ ซ้อมแผนปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภัยระดบั กลุ่มจังหวัด ของ ศูนย์ปูองกนั และบรรเทาสาธารณภัยเขต 14 อดุ รธานี ท่ีทาให้ ประสบผลสาเร็จและมี การพัฒนาอย่างต่อเน่อื ง คอื กระบวนการบรหิ ารตามหลัก PDCA ซงึ่ ประกอบดว้ ย P-Plan คอื การวางแผนงานจากวัตถุประสงค์ เปาู หมายและนโยบายทไี่ ด้กาหนดขน้ึ D-Do คือ การปฏิบตั ิตามข้นั ตอนในแผนงานที่ได้เขยี นไว้อย่างเป็นระบบและมีความ ตอ่ เนอ่ื ง C-Check คือ การตรวจสอบผลการดาเนนิ งานในแตล่ ะขน้ั ตอนของแผนงานวา่ มีปญั หา อะไรเกิดขนึ้ จาเป็นต้องเปลยี่ นแปลงแกไ้ ขแผนงานในขั้นตอนใด A-Action คอื การปรับปรุงแก้ไขสว่ นท่มี ปี ัญหา หรอื ถ้าไมม่ ปี ญั หาใดๆ กย็ อมรับแนว ทางการปฏิบตั ิตามแผนงานทไี่ ด้ผลสาเร็จ เพ่อื นาไปใชใ้ นการทางานคร้งั ตอ่ ไป -6-
6. ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะไดร้ บั 1. ทราบปจั จยั ทม่ี ีผลต่อการฝกึ ซ้อมแผนปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั ระดบั กลมุ่ จงั หวัด กรณศี ึกษา : การฝึกซอ้ มแผนอุบัตเิ หตุทางถนน อาเภอเมอื ง จงั หวดั หนองคาย 2. ทราบแนวทางการพฒั นาศักยภาพในการฝกึ ซอ้ มแผนปูองกนั และบรรเทาสาธารณภัยท่ีมี ประสิทธภิ าพ 3. ทราบปญั หาอุปสรรคในการดาเนินการฝึกซ้อมแผนปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย
บทที่ 2 แนวคดิ ทฤษฎีและงานวิจัยทีเ่ กี่ยวขอ้ ง การศกึ ษาคร้ังน้ี เปน็ การศึกษาเรอ่ื ปงจั จยั ทีม่ ผี ลต่อความสาเรจ็ ในการฝึกซ้อมแผนปอู งกันและ บรรเทาสาธารณภัย ระดับกลมุ่ จงั หวดั กรณศี ึกษา : การฝึกซอ้ มแผน ภัยคมนาคมและการขนสง่ อาเภอ เมือง จงั หวัดหนองคาย ซึ่งมแี นวคดิ ทฤษฎีและงานวจิ ัยที่เก่ียวข้อง ดงั นี้ 1. พระราชบญั ญตั ิปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 2. นโยบายการปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั แห่งชาติ 3. แนวคดิ เกยี่ วกบั กระบวนการบรหิ าร 4. แนวคิดเก่ียวกับการฝกึ ซ้อมแผนการปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัย 5. แนวคิดเกย่ี วกับการฝึกซ้อม 6. แนวคิดระบบบริหารจดั การในภาวะวกิ ฤตจิ ากภยั พบิ ัติ 7. แนวคดิ ระบบบัญชาการเหตุการณ์หรอื ระบบบญั ชาการ ณ ท่เี กิดเหตุ ( Incident Command System : ICS) 1. พระราชบญั ญตั ปิ ้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 (กรมปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย , 2550) พระราชบญั ญตั ปิ อู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ได้ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา เล่ม 124 ตอนท่ี 52 ก วันท่ี 7 กนั ยายน 2550 โดยมผี ลใช้บงั คบั ตง้ั แต่วันที่ 6 พฤศจกิ ายน 2550 เปน็ ตน้ ไป ( มาตรา 2) กาหนดให้พระราชบญั ญตั นิ ีม้ ผี ลใช้บงั คับ เม่อื พ้นกาหนดหกสิบวัน นับแต่วันประกาศในราชกจิ จา นเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป) มีสาระสาคัญ ดงั นคี้ ือ ขอบเขตของพระราชบญั ญัตดิ ังกล่าว (มาตรา 3) กลา่ วถึง ดาเนินการปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภัย ครอบคลุมเรอ่ื งอุบตั ภิ ัยและอคั คีภยั ดว้ ย โดยยกเลิก พระราชบัญญัติปูองกนั ภัยฝุายพลเรอื น พ.ศ.2522 และพระราชบัญญัติปูองกันและระงับอัคคภี ยั พ.ศ. 2542 พระราชบัญญตั ปิ ูองกันและบรรเทาสาธารณภัยพ.ศ. 2550 (มาตรา 4) “สาธารณภัย” หมายความ ว่า อคั คภี ัย วาตภยั อุทกภยั ภยั แลง้ โรคระบาดในมนุษยโ์ รคระบาดสตั ว์ โรคระบาดสตั วน์ ้า การระบาด ของศตั รพู ืช ตลอดจนภยั อ่ืนๆ อนั มผี ลกระทบตอ่ สาธารณชนไมว่ ่าเกิดจากธรรมชาติ มผี ู้ทาให้เกดิ ข้นึ อบุ ัตเิ หตุ หรอื เหตอุ ืน่ ใด ซ่งึ กอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายแก่ชีวติ รา่ งกายของประชาชน หรือความเสียหาย แก่ทรพั ย์สินของประชาชน หรอื ของรัฐ และใหห้ มายความรวมถงึ ภยั ทางอากาศ และการกอ่ วนิ าศกรรม ด้วย“ภยั ทางอากาศ ” หมายความว่า ภยั อันเกดิ จากการโจมตีทางอากาศ “การก่อวนิ าศกรรม ”
หมายความวา่ การกระทาใดๆ อันเป็นการมงุ่ ทาลายทรัพย์สินของ ประชาชน หรือของรฐั หรอื สง่ิ อันเป็น สาธารณปู โภค หรอื การรบกวน ขัดขวางหนว่ งเหนย่ี วระบบการปฏิบัตงิ านใดๆ ตลอดจนการประทษุ ร้าย ตอ่ บุคคลอนั เป็นการกอ่ ให้เกิดความปน่ั ปุวนทางการเมืองการเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ โดยมงุ่ หมาย ทจี่ ะก่อให้เกิดความเสยี หายตอ่ ความมนั่ คงของรฐั องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ แห่งพ้ืนที่ ในพระราชบัญญัติฉบับนี้ หมายความว่า องค์การบริหารส่วนตาบล เทศบาล เมืองพทั ยา และองคก์ ร ปกครองสว่ นท้องถน่ิ อืน่ ท่ีมีกฎหมายจัดตง้ั แตไ่ ม่หมายความรวมถงึ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวดั และ กรุงเทพมหานคร และ หน่วยงานกลางของรฐั ในการดาเนนิ การปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัย (มาตรา 11) ใหก้ รมปูองกันและบรรเทาสาธารณภยั เปน็ หนว่ ยงานกลางของรัฐในการดาเนนิ การเกี่ยวกบั การปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ของประเทศ มอี านาจหน้าที่ในการจัดทาแผนการปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภัย แห่งชาติ จดั ให้มกี ารศกึ ษาวจิ ัยเพ่อื หามาตรการในการปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภใหัย้มีประสทิ ธิภาพ -8- ปฏิบตั กิ าร ประสานการปฏิบตั ิ ให้การสนับสนนุ และช่วยเหลอื หน่วยงาน ของรัฐ องคก์ รปกครองสว่ น ท้องถิ่น และหน่วยงานภาคเอกชน ในการปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภัย และให้การสงเคราะห์เบ้ืองตน้ แกผ่ ู้ประสบภยั ผู้ไดร้ บั ภยันตราย หรือผู้ได้รับความเสยี หายจากสาธารณภัย พร้อมทัง้ แนะนา ให้คาปรกึ ษา และอบรมเกี่ยวกับการปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัยแก่หนว่ ยงานของรฐั องค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ และหนว่ ยงานภาคเอกชน และตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผลการดาเนนิ การตามแผนการปูองกันและ บรรเทาสาธารณภัยในแตล่ ะระดับได้มกี ารจัดใหม้ ีศนู ยป์ อู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ขน้ึ ในบางจังหวดั ตามความจาเปน็ เพื่อปฏบิ ัติงานในจังหวัดนัน้ และจังหวดั ใกล้เคยี ง พร้อมทงั้ จัดใหม้ สี านกั งานปูองกันและ บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดข้ึน เพอ่ื กากบั ดแู ล และสนบั สนนุ การปฏบิ ัตกิ ารปอู งกนั และบรรเทาสาธารณ ภยั ในจงั หวัด หรือตามทผี่ ู้อานวยการจังหวดั มอบหมายกไ็ ด้ (มาตรา 11) โดยใหศ้ ูนยป์ ูองกันและบรรเทาสา ธารณภยั เขตเดิมเปน็ ศูนย์ปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภัยตาม พ.ร.บ.นี้ และตามมาตรา 57 กาหนดให้มี แผนการปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ในระดับตา่ งๆ คือ แผนการปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัย แหง่ ชาติ โดยกาหนด แนวทางมาตรการ งบประมาณ ในการดาเนินการปูองกนั และบรรเทาสาธารณภอัยยา่ ง เป็นระบบและต่อเนือ่ ง และแนวทาง วิธกี ารในการใหค้ วามชว่ ยเหลอื และบรรเทาความเดือดร้อนของรัฐและ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ท่รี บั ผิดชอบ การเตรียมความพร้อมด้านบคุ ลากร อุปกรณ์ และเคร่อื งมอื เครื่องใช้ และจัดระบบการปฏิบตั กิ ารปูองกนั และบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงการฝึกบุคลากร และประชาชน แนวทางในการซอ่ มแซม บูรณะ และฟน้ื ฟูเพือ่ ให้หน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ินท่เี ก่ยี วข้อง ปฏบิ ัติ (มาตรา 11และมาตรา 12) แผนการปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั โดยแผนดงั กลา่ วตอ้ ง สอดคล้องกับแผนการปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ และมสี าระสาคญั (มาตรา 16 และมาตรา 17) คือ มีการจดั ต้ังศูนย์อานวยการเฉพาะกิจเมื่อเกิดสาธารณภัยขึ้น โครงสร้าง และผู้มีอานาจสงั่ การด้าน ต่าง ๆ ในการปูองกนั และบรรเทาสาธารณภยั มแี ผนและ ขนั้ ตอนขององค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ ในการ จัดหาวสั ดุ อปุ กรณ์ เครือ่ งมือเครือ่ งใช้ และยานพาหนะ เพือ่ ใช้ในการปูองกนั และบรรเทาสาธารณภัยมี แผนและขั้นตอนขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น ในการจัดใหม้ ีเคร่ืองหมาย สัญญาณ หรอื สิง่ อ่ืนใด ในการ
แจง้ ใหป้ ระชาชนไดท้ ราบถึงการเกิดหรอื จะเกดิ สาธารณภยั มีแผนปฏิบตั กิ ารในการปอู งกนั และบรรเทาสา ธารณภัยขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินและแผนการประสานงานกบั องค์การสาธารณกุศล แผนการ ปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั กรงุ เทพมหานคร ซ่งึ แผนดังกลา่ วตอ้ งสอดคลอ้ งกบั แผนการปอู งกนั และ บรรเทาสาธารณภัยแหง่ ชาติ และมสี าระสาคญั (มาตรา 33 และ 34)คอื มีการจดั ต้ังศนู ย์อานวยการเฉพาะ กิจเม่อื เกิดสาธารณภัยข้ึนโครงสรา้ งและผู้มีอานาจส่ังการดา้ นต่าง ๆ ในการปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย มีแผนและข้ันตอนในการจัดหาวัสดุ อปุ กรณ์ เครือ่ งมือเครื่องใช้ และยานพาหนะเพื่อใช้ในการปอู งกันและ บรรเทาสาธารณภยั มีเครอ่ื งหมายสัญญาณ หรอื ส่ิงอน่ื ใด ในการแจ้งให้ประชาชนไดท้ ราบถึงการเกดิ หรอื จะเกดิ สาธารณภัยมีแผนปฏบิ ัติการในการปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภัยในเขตกรุงเทพมหานคร และแผนการ ประสานงานกับองค์การสาธารณกศุ ลในเขตกรุงเทพมหานคร ในการกาหนดการบังคับบญั ชา มาตรา 31 กาหนดใหม้ ี การบัญชาการ ตามความรุนแรงของการเกิดสาธารณภยั คือ กรณเี กดิ สาธารณภยั รา้ ยแรง อย่างยง่ิ ให้ นายกรฐั มนตรีหรอื รองนายกรัฐมนตรีท่คี ณะรฐั มนตรมี อบหมาย เปน็ ผ้บู ญั ชาการ โดยมี รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผ้บู ัญชาการปูองกนั และบรรเทาสาธารณ ภัยแหง่ ชาติ มอี านาจ ควบคุมและกากบั การปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยท่ัวราชอาณาจักรให้เปน็ ไปตามแผนการปูองกนั และ บรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และมอี านาจบงั คับบญั ชาและส่งั การผอู้ านวยการรองผู้อานวยการ ผู้ช่วย ผู้อานวยการ เจา้ พนักงาน และอาสาสมัครได้ทวั่ ราชอาณาจักร(มาตรา 13) และปลดั กระทรวงมหาดไทย -9- เปน็ รองผ้บู ัญชาการปูองกนั และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ มีหน้าท่ีชว่ ยเหลอื ผบู้ ญั ชาการในการปูองกัน และบรรเทาสาธารณภัย และปฏิบัติหนา้ ที่ ตามทผี่ ูบ้ ญั ชาการมอบหมาย โดยให้มอี านาจบงั คบั บญั ชาและ สง่ั การรองจากผบู้ ัญชาการ (มาตรา 13) ดงั นั้นเมอ่ื เกิดสาธารณภยั อธิบดกี รมปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย เปน็ ผู้อานวยการกลาง มหี นา้ ท่ีปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั ทัว่ ราชอาณาจกั ร (มาตรา 14) ผวู้ า่ ราชการจังหวดั เปน็ ผู้อานวยการจงั หวัด รบั ผดิ ชอบในการปูองกันและบรรเทาสาธารณภยั ในเขตจงั หวัด (มาตรา 15) นายก องคก์ ารบริหารส่วนจังหวัด เปน็ รองผูอ้ านวยการจงั หวัด มหี น้าท่ชี ่วยเหลือผ้อู านวยการจังหวดั ในการ ปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั (มาตรา 18) นายอาเภอ (รวมปลัดอาเภอผ้เู ปน็ หัวหนา้ ประจากิ่งอาเภอ) เป็นผู้อานวยการอาเภอ รับผดิ ชอบและปฏบิ ตั ิหน้าทีใ่ นการปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภัยในเขตอาเภอ (มาตรา 4 ประกอบกับมาตรา 19) และ ผ้บู รหิ ารท้องถิน่ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ แหง่ พื้นที่ (นายก องคก์ ารบริหารส่วนตาบล นายกเทศมนตรี นายกเมืองพัทยา และหวั หนา้ ผบู้ ริหารขององคก์ รปกครองส่วน ท้องถิ่นแห่งพ้ืนทอี่ นื่ ที่มีกฎหมายจดั ตง้ั ) เป็นผูอ้ านวยการท้องถ่ิน มีหนา้ปทอู ่ี งกันและบรรเทาสาธารณภัยใน เขตท้องถิน่ ของตน และมีหน้าทช่ี ่วยเหลือผอู้ านวยการจังหวดั และผู้อานวยการอาเภอตามทไี่ ด้รับมอบหมาย (มาตรา 4 ประกอบกบั มาตรา 20 ) ใหผ้ ้อู านวยการมอี านาจแต่งตงั้ เจ้าพนกั งานเพ่ือปฏบิ ตั หิ น้าท่ใี นการ ปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยในเขตรบั ผิดชอบ โดยหลกั เกณฑ์การแต่งตงั้ และการปฏิบัตหิ น้าท่ขี องเจา้ พนักงานให้เป็นไปตามระเบยี บของกระทรวงมหาดไทย (มาตรา 39) และจัดใหม้ อี าสาสมัครในพน้ื ที่ที่
รบั ผิดชอบ เพือ่ ช่วยเหลอื เจา้ พนกั งานในการปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย และปฏิบัติหน้าท่ีอืน่ ตามที่ ผู้อานวยการมอบหมาย และตามทก่ี าหนดในระเบยี บของกระทรวงมหาดไทย (มาตรา 41) ทงั้ น้อี งค์การ สาธารณกศุ ลหรือบุคคลทมี่ าช่วยเหลือการปฏิบตั ิหน้าทข่ี องเจา้ พนักงานในระหว่างเกดิ สาธารณภัย สามารถช่วยเหลือหรือบรรเทาสาธารณภัยไดต้ ามท่ผี ู้อานวยการหรอื เจา้ พนกั งานทีไ่ ด้รบั มอบหมายได้ มอบหมายภารกจิ ให้ (มาตรา 42) เม่อื เกิดสาธารณภัยขน้ึ ในเขตขององค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ แหง่ พนื้ ทีใ่ ด ใหเ้ ป็นหน้าที่ของผอู้ านวยการทอ้ งถน่ิ ขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ แห่งพื้นทนี่ น้ั โดยผอู้ านวยการอาเภอ และผ้อู านวยการจงั หวัดมีอานาจหนา้ ทเี่ ช่นเดยี วกับผู้อานวยการท้องถ่นิ ในเขตอาเภอพ้นื ท่ขี องตน และใน เขตจงั หวดั แลว้ แต่กรณี (มาตรา 21 และมาตรา 22)กรณีที่พืน้ ทที่ ี่เกิดหรอื จะเกิดสาธารณภัยอยูใ่ นความ รับผดิ ชอบของ ผู้อานวยการท้องถน่ิ หลายคน ผู้อานวยการท้องถนิ่ คนหน่งึ คนใดจะใช้อานาจหรอื ปฏิบัติ หน้าท่ตี ามมาตรา 21 ไปพลางก่อนก็ได้ แลว้ ให้แจง้ ผ้อู านวยการท้องถ่นิ อื่นทราบโดยเร็ว และกรณี ผู้อานวยการท้องถ่นิ มีความจาเป็นตอ้ งได้รบั ความชว่ ยเหลอื จากเจ้าหน้าทข่ี องรัฐหรือหน่วยงานของรฐั ทีอ่ ยู่ นอกเขตขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ แหง่ พนื้ ทขี่ องตน ใหแ้ จง้ ให้ ผ้อู านวยการอาเภอ หรอื ผอู้ านวยการ จงั หวดั แล้วแตก่ รณีเพอ่ื สงั่ การโดยเร็วต่อไป (มาตรา 22) โดผยู้อานวยการในเขตพื้นท่ีท่ตี ดิ ต่อหรอื ใกล้เคียงมี หน้าทสี่ นบั สนุนการปอู งกัน และบรรเทาสาธารณภัยแกผ่ ู้อานวยการซ่ึงรบั ผิดชอบในการปอู งกนั และบรรเทา สาธารณภยั ทเ่ี กิดข้ึนนัน้ (มาตรา 23) และเจา้ พนักงานทป่ี ระสบเหตุมีหนา้ ทต่ี ้องเข้าดาเนนิ การเบ้อื งต้นเพอื่ ระงบั ภัยน้นั แล้วรบี รายงานใหผ้ ูอ้ านวยการท้องถ่นิ เพอื่ สัง่ การต่อไป และในกรณจี าเปน็ มีอานาจ ดาเนนิ การใดเพอ่ื ประโยชนใ์ นการค้มุ ครองชวี ิตหรอื ปูองกันอันตรายท่ีจะเกดิ แก่บุคคลได้ (มาตรา 24) ผอู้ านวยการในเขตพ้นื ที่ท่รี ับผดิ ชอบสารวจความเสียหายจากสาธารณภัยท่เี กดิ ขึ้นและทาบัญชรี ายช่อื ผู้ประสบภยั และทรัพย์สินทีเ่ สยี หายไว้เปน็ หลักฐาน พรอ้ มท้ังออกหนงั สือรบั รองให้ผปู้ ระสบภัยไว้เปน็ หลักฐานในการรบั การสงเคราะหแ์ ละฟ้นื ฟู (มาตรา 30) -10- 2. นโยบายการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ คณะกรรมการปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) ไดม้ มี ตเิ มอ่ื คราวประชุม คร้ังท่ี 1/2552 วันท่ี 2 กุมภาพันธ์ 2552 เห็นชอบกรอบนโยบายการปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย แหง่ ชาติไว้ 5 ดา้ น ไม่วา่ จะเป็นด้านการพฒั นาและสง่ เสริมระบบการปูองกันสาธารณภยั และลดผลกระทบ ใหม้ ีประสทิ ธิภาพ โดยนาหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ความมเี หตุผล ความพอประมาณ และการมี ภมู คิ ุ้มกันในตวั ทด่ี ี เปน็ บรรทดั ฐานในการปอู งกันและแกไ้ ขปัญหาสาธารณภยั อยา่ งย่งั ยนื สอดคลอ้ งกบั ภมู สิ งั คม การพฒั นาและสง่ เสริมระบบการเตรียมความพรอ้ ม ใหท้ กุ ภาคส่วนในสงั คมสามารถรับมอื กบั สา ธารณภยั ทเ่ี กิดขึ้นได้อย่างบูรณาการ มปี ระสิทธภิ าพและประสทิ ธิผล โดยเพ่ิมบทบาทของประชาชน หนว่ ยงาน และองค์กรทเี่ ก่ียวข้อง โดยเฉพาะการพฒั นาศกั ยภาพการจัดการสาธารณภยั ในภาวะฉกุ เฉิน ให้ สามารถช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภยั ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ และมีเอกภาพ ซ่ึงรวมถงึ การ พฒั นาระบบ การฟ้นื ฟูบูรณะ ให้สามารถสนองตอบต่อความต้องการของผ้ปู ระสบภัยได้อย่างรวดเร็ว ทัว่ ถงึ และเป็น
ธรรม ด้วยและประการสดุ ท้ายคอื พฒั นาระบบการเชอ่ื มโยงหนว่ ยงานเครือขา่ ยท้งั ในประเทศและ ตา่ งประเทศให้มีประสิทธิภาพ 3. แนวคิดเกีย่ วกับกระบวนการบรหิ าร (เทวนิ ทร์ ประสทิ ธเิ์ สรฐิ “แนวคิดเก่ยี วกบั การพัฒนางานวงจร เดมม่ิง(Deming Cycle)” แหลง่ ทมี่ า http://www.wbac.ac.th (15 กุมภาพันธ์ 2557) งานต่างๆ ไมว่ า่ จะเปน็ งานทวั่ ไป งานระบบบริหาร กจ็ าเป็นตอ้ งมกี ารจดั ลาดับงาน จดั แผนงาน พัฒนาปรงุ งานอยูเ่ สมอ จึงจะทาให้งานนัน้ สาเรจ็ ดว้ ยดี และมีประสทิ ธภิ าพ การใช้หลักการทางานตามวงจรเดมงิ่ ( The Deming Cycle) กเ็ ปน็ อีกวธิ หี นงึ่ ท่ที าใหก้ ารจัดการกบั งาน ต่างๆ มีประสิทธภิ าพ และประสทิ ธผิ ลเกดิ ข้ึนกบั งาน ซึง่ วงจรเดมง่ิ จะใช้หลักการปรบั ปรุงงานแบบตอ่ เน่ือง ซึง่ ประกอบไปดว้ ย 1. PLAN เป็นการวางแผนงาน ขัน้ ตอนนเี้ ราต้องนางานทั้งหมดทเ่ี รารับผดิ ชอบอยู่ มาจัด เรียงลาดับความสาคญั กาหนดวตั ถปุ ระสงค์ของงาน และเปูาหมายในการทางาน ซึ่งควรจะจดั เตรยี มเปน็ เอกสารไว้ มวี ิธีการและขน้ั ตอนการทางาน ซึ่งอาจจะจดั ทาเปน็ เอกสารขน้ั ตอนและวิธกี ารทางานเอาไว้ อาจจะมรี ะยะเวลาทีใ่ ช้ในการทางาน ผรู้ บั ผิดชอบ ผูต้ รวจสอบ ถ้าการทางานนนั้ มผี ู้รว่ มทางานหลายคน แตใ่ นกรณีท่เี ราเตรียมแผนงานของตนเองส่วนตวั ไว้สาหรับการทางานและพัฒนางาน ของตนเองก็ จาเป็นต้องมีการวางแผนด้วย ซงึ่ ควรจะมเี อกสารกากบั หรืออาจจะใช้สมุดบนั ทึก ไดอาร่ี ฯลฯ ทีจ่ าเป็นใน การวางแผนการทางาน มกี ารจัดลาดับความสาคญั ของงาน งานไหนทากอ่ น งานไหนทาทหี ลัง และควรมี แผนสารองสาหรับงานทีเ่ ข้ามาแทรกตามท่ไี ด้วางแผนไว้วา่ จะจดั การอย่าง ไร เพือ่ ใหก้ ารทางานไมต่ ดิ ขัด และทันตอ่ เวลา รวมไปถงึ งานท่ีไดม้ ีคุณภาพตามเวลาที่กาหนดด้วย 2. DO เปน็ การทางานตามแผนงานที่ไดว้ างไว้ ขนั้ ตอน วธิ ีการ ลาดบั งานที่เรากาหนดไว้ใน PLAN กน็ ามาปฏบิ ตั ิ โดยทาการศกึ ษาถึงวิธกี ารท่ดี ีทส่ี ุดในการทางานน้ันๆ เอามาใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ และ ทางานได้ผลดีทีส่ ดุ หรืออาจจะมกี ารอบรมงานเหลา่ น้ันเพอ่ื ความเข้าใจในการปฏบิ ตั แิ ล้วลงมือ ปฏิบตั ติ าม ขนั้ ตอนและวธิ ีการทางานท่ไี ดว้ างแผนไว้ ในระหวา่ งการทางานควรจะมเี ก็บข้อมลู ที่จาเปน็ ท่ีสาคัญต่างๆ เอาไว้ เพื่อประโยชน์ในการทางานครั้งต่อไปดว้ ย หรือเพ่อื จดบนั ทกึ ทเี่ ป็นขอ้ บกพรอ่ งของงานเอาไว้ เพอื่ นาไปแกไ้ ข ปรบั ปรุงการทางานในครง้ั ตอ่ ไป -11- 3. CHECK ตรวจสอบการทางานทไ่ี ดท้ าไปแล้ว (จาก DO) ว่าเป็นไปตามท่ีเราตอ้ งการหรอื ไม่ หรอื ตามมาตรฐานทีเ่ ราไดก้ าหนดไว้ อาจจะใชเ้ ครอ่ื งมอื ช่วยในการตรวจสอบ เชน่ เครอ่ื งมอื ตา่ งๆ ผลการ ทางานเมอื่ เทียบกับงานคร้ังก่อน เปน็ ตน้ ในการตรวจสอบโดยทั่วไปได้แก่ ระยะเวลาตามเปูาหมาย คณุ ภาพของงานทอี่ อกมา วธิ ีการหรอื ขั้นตอนการทางาน ซง่ึ การตรวจสอบการทางานควรจะมีการจด บนั ทกึ ในรปู แบบตา่ งๆ ไว้ เชน่ สมดุ บนั ทกึ เอกสารการตรวจสอบ คอมพิวเตอร์ เปน็ ตน้ เพ่ือให้ง่ายในการ ปรับปรงุ และแก้ไขในการทางานคร้ังต่อไป
4. ACTION หากมีข้อบกพรอ่ งทเี่ กิดขน้ึ จากการตรวจสอบ CHECK กค็ วรจะหาวิธกี ารและ ขน้ั ตอนในการแก้ไขทันที หรือตามระยะเวลาที่กาหนดไว้ โดยทาการคน้ หาสาเหตุท่เี กดิ ขนึ้ และใชว้ ิธีการ แกไ้ ขทดี่ ที ีส่ ดุ ในการทาการแกไ้ ข เพ่ือไมใ่ ห้ปญั หาท่ีเกิดข้ึนไม่เกิดข้นึ ซา้ อีก และควรมวี ธิ กี ารพฒั นาปรบั ปรงุ งาน หรือระบบงานน้ัน ถงึ แมว้ า่ การตรวจสอบจะไม่เกดิ ขอ้ บกพรอ่ งเราก็ควรจะมีวธิ กี ารพัฒนาปรับ ปรงุ อยเู่ สมอ เพ่ือใหง้ านนั้นเกิดประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิมเม่อื มขี ้อบกพร่อง หรือต้องการจะพัฒนาปรบั ปรุงการ ทางานใหด้ ีขึน้ กว่าเดมิ เรากค็ วรจะมกี ารวางแผนใหม่ (PLAN) โดยอาจจะปรับปรุงจากแผนการทางานเดมิ เพอ่ื ให้ได้งานทดี่ ขี น้ึ และมกี ารพฒั นาตอ่ เน่ือง ซ่ึงจะเป็นไปตามหลักการของวงจรเดมิง่ คอื มีการวางแผน งาน PLAN ปฏบิ ัตติ ามแผนท่ีวางไว้ DO ตรวจสอบการทางานท่ีปฏบิ ัติ CHECK ทาการแก้ไขข้อบกพรอ่ ง หรือพฒั นาใหด้ ขี น้ึ ACTION ก็จะมาทาการวางแผนใหม่ นาไปปฏบิ ัติ ตรวจสอบ เปน็ อย่างนี้ตอ่ เนอื่ งกันไป ไมม่ ีท่สี น้ิ สุด ก็จะทาใหง้ าน หรือระบบงานนนั้ ดขี ้นึ ซึง่ จะทาใหช้ ่วยลดต้นทนุ ลดเวลาการทางาน คุณภาพ งานท่ีดีขึ้นตอ่ เน่อื ง และยังช่วยให้พนักงานมีขวญั กาลังใจท่ีดีในการทางานอีกดว้ ยสอดคล้องกบั ถวลั ย์ มาศ จรัส (๒๕๔๖ ) ไดใ้ ห้นิยามและความหมายของ PDCA ไวด้ ังน้ี PDCA คือ วงจรการบรหิ ารท่ีเปน็ ทั้ง ปรัชญา นวัตกรรมและเปน็ ต้นธารภูมิปัญญาหรือเป็นศาสตร์ใหญ่ของวงจรการบรหิ ารในปจั จบุ นั ทั้งน้ี เพราะเครอ่ื งมอื การบรหิ ารที่มีนับร้อย พัน หรือ หมื่นรปู แบบน้นั ลว้ นแต่มีแกนร่วมทีส่ าคญั บนพ้ืนฐาน เดยี วกนั น่ันคือ วงจรการบรหิ ารแบบ PDCA รวมถึงโกศล ดีศลิ ธรรม (๒๕๔๕ ) ได้กล่าวถงึ วงจร PDCA (Plan-Do-Check-Act) หรือวงจรเดมม่ิงว่าเปน็ เคร่ืองมือทถ่ี ูกพฒั นาเพอื่ ใชป้ รบั ปรุงองค์การอย่างต่อเน่อื ง ด้วยการจัดทาวงจร PDCA ในฝาุ ยงานต่าง ๆ ขององคก์ าร ซึง่ ทาให้ผู้บริหารสามารถติดตามเปูาหมายไว้ มากน้อยเพียงใด ทาใหก้ ารควบคมุ การปฏบิ ัตงิ านจะเปน็ ไปอย่างมปี ระสิทธิภาพ เนอ่ื งจากผบู้ รหิ ารจะ สามารถตรวจสอบไดว้ า่ ความกา้ วหน้าของการปฏบิ ตั ิการจริงไดเ้ ป็นไปตามแผนทกี่ าหนดไวต้ ามผบู้ รหิ าร ตอ้ งการหรอื ไม่ หากไมเ่ ปน็ ไปตามเปูาหมายจะตอ้ งสารวจวา่ ทท่ี าไม่ไดน้ น้ั เกิดจากสาเหตุใดและมีแนว ทางแก้ไขอย่างไร เพือ่ ให้แต่ละฝุายสามารถบรรลตุ ามเปูาหมายท่ีกาหนดไว้ ความสาเร็จของการบรหิ ารงาน ลว้ นมาจากวงจรบริหารแบบ PDCA รปู ธรรมงา่ ย ๆ ของ วงจรบริหารแบบ PDCA น้ัน มีดงั นี้ -12- วงล้อเดมมิง่
AP การปรับปรุงไม่มีวนั สิ้นสุด CD การทาตามวงจรคุณภาพตอ้ งทาซ้าไปเรื่อย ๆ เพ่อื สรุปเป็นบทเรียนอยตู่ ลอด แผนภมู ิที่ 1 แสดง ผงั วงจรPDCA (ถวัลย์ มาศจรศั 2, 546) ในการบริหารไดน้ าวงจร PDCA มาใชเ้ ปน็ กลไกของการพัฒนากระบวนการฝกึ ซ้อมแผนดังนี้ ACTION PLAN แกไ้ ขปรับปรุงระบบ นโยบายของผบู้ ริหาร และวธิ ีการปฏิบตั ิงาน ระดบั สูง แผนกิจกรรม แกไ้ ขปรับปรุง จดุ ควบคุม ท่ีเป็ นปัญหา รวบรวมผลลพั ธไ์ ดแ้ ละ กาหนดชุดที่เป็ นปัญหา ดาเนินการตามแผนกิจกรรม ประเมินผลการ CHECK ปฏิบิติงาน DO การแกไ้ ขปรับปรุง การทาใหเ้ กิดมาตรฐาน แผนภูมิท่ี 2 แสดงการประยุกต์ใช้วงจร PDCA ในการบรหิ ารนโยบาย (โกศล ตศี ลี ธรรม, 2545)
-13- การนา PDCA ไปใช้ในการพัฒนาการการฝึกซ้อมแผนฯ การนาวงจร PDCA มาใช้ในการพฒั นากระบวนการฝึกซอ้ มแผน ทาใหก้ ารฝึกซอ้ มแผนคร้ัง นป้ี ระสบความสาเรจ็ เน่ืองจากเปน็ การนาเอาปัญหาอปุ สรรคและข้อขดั ข้องจากการฝึกซ้อมแผนในปีท่ผี ่าน มานามาปรับปรงุ แก้ไขทาใหล้ ดความสับสนในการทางาน มีการใช้ทรัพยากรในการดาเนนิ การอย่าง เหมาะสม มีการทางานอยา่ งประสานสอดคลอ้ งท้ังหน่วยงานในจงั หวัดหนองคาย และจังหวดั ใกลเ้ คียง จากน้นั กม็ กี ารตรวจสอบประเมนิ ผลการฝกึ ซ้อม เพ่อื หาปญั หาและขอ้ ขดั ข้องท่เี กิดข้ึนจากการดาเนินการ มาทาการวิเคราะหเ์ พอื่ หาสาเหตุ และแนวทางแกไ้ ขเพือ่ นาไปทบทวนปรบั ปรงุ แผนเพ่ือให้มีความสมบูรณ์ ถูกตอ้ งตามแนวทางปฏบิ ตั ิยงิ่ ข้นึ จงึ เห็นไดว้ ่าการนา PDCA มาใช้ในการพฒั นากระบวนการฝึกซ้อมแผน มสี ว่ นสาคญั ท่ที าให้ การฝึกซ้อมแผนประสบความสาเรจ็ PDCA เพื่อแกไ้ ขปญั หา ในการดาเนนิ การฝกึ ซ้อมแผนท่ผี ่านมาแตล่ ะครงั้ จะมีปัญหา อปุ สรรค หรือขอ้ ขดั ขอ้ งซ่ึงเป็น สง่ิ ทีพ่ บเห็นได้เสมอในการฝกึ ซอ้ มแผน เมอื่ เกิดขอ้ บกพร่องขน้ึ ก็นามาปรับปรงุ แกไ้ ขเพื่อนาไปเป็นแนวทาง ในการฝึกซ้อมแผนในคร้งั ตอ่ ไปซง่ึ นับว่าเป็นสิ่งทส่ี าคญั อยา่ งย่ิง PDCA เพื่อปรับปรงุ แผนปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั ระดบั กลุ่มจังหวดั PDCA นอกจากจะใช้เพอ่ื ควบคมุ และแกป้ ัญหาแลว้ ยังสามารถใชใ้ นการปรบั ปรุงพัฒนางาน อยา่ งต่อเน่ืองไดอ้ กี ด้วย ตามหลักท่ีว่า “ทาวนั นี้ให้ดีกวา่ เมื่อวานน้ี และพรงุ่ นต้ี ้องดีกว่าวนั นี้ ” และ PDCA เพอ่ื การปรับปรงุ เมอ่ื ทราบปัญหาและขอ้ ขดั ขอ้ งท่ไี ม่เปน็ ไปตามแผนที่กาหนดไว้แสดงวา่ แผนท่ีวาง ไวไ้ มเ่ ปน็ ไปตามแนวทางปฏบิ ัตหิ รอื ข้อเทจ็ จริงทีเ่ กิดขึ้น จงึ จาเปน็ ตอ้ งมีการทบทวนแผนปูองกนั และ บรรเทาสาธารณภัยเพ่อื ให้สอดคล้องกับขอ้ เท็จจรงิ ที่เกิดขึน้ ตามบริบทของแตล่ ะพ้ืนท่ี วงจร PDCA Plan วางแผน Action ทบทวนแผน Do ฝกึ ซ้อมแผนฯ Check ตรวจสอบ/ ประเมินผล
การปรบั ปรงุ แผนอยา่ งตอ่ เนือ่ ง (ศุภชยั แผนภูมทิ ่ี 3 แสดงวงจร PDCA กบั อาชวี ระงบั โรค, 2549) -14- 4. แนวคดิ เกย่ี วกบั การฝกึ ซอ้ มแผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย (ค่มู ือการฝกึ ซอ้ มแผนปอู งกัน และบรรเทาสาธารณภยั , 2555) แผนปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2553 - 2557 ได้ใหค้ วามสาคัญกับการ จัดการฝึกซ้อมฯ ให้เป็นหนงึ่ ในมาตรการสาคัญภายใต้ยุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อม ดงั นัน้ เพื่อใหผ้ ้ทู ่ี เกีย่ วข้องมคี วามเข้าใจการฝกึ ซอ้ มแผนปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ในฐานะทเี่ ป็นเคร่อื งมือในการสร้าง ความพร้อม และศักยภาพของหนว่ ยงานและบุคลากรทเ่ี ก่ยี วขอ้ งในสว่ นนีจ้ งึ ขอนาเสนอภาพรวม วัตถุประสงค์ ประโยชนข์ องการจดั การฝึกซอ้ ม และรูปแบบของการฝกึ ซอ้ มฯ โดยสังเขปเปน็ ลาดบั ดังนี้ 1.1 วัตถุประสงค์ของการฝกึ ซ้อม (1) เพ่ือทดสอบ และประเมินความพรอ้ มของแผนการปฏิบัติ นโยบาย และ กระบวนการดาเนินงานในการตอบโตต้ ่อสถานการณ์เม่ือเกิดเหตุฉุกเฉิน (2) เพอ่ื สร้างโอกาสการเรียนรูผ้ ่านประสบการณจ์ ากการฝกึ ซ้อม อันจะนามาซง่ึ พัฒนา องค์ความรู้ ทกั ษะการปฏบิ ตั งิ านใหม้ ศี กั ยภาพ และประสทิ ธภิ าพของบคุ ลากร (3) เพื่อให้ทราบถึงข้อบกพร่องของแผนการปฏบิ ัติ , นโยบาย, กระบวนการดาเนนิ งาน และช่องว่าง ในการประสานงานของหน่วยงานทีม่ อี ยู่ รวมทั้งศกั ยภาพในการปฏิบตั ติ ามแผนในดา้ นการ จัดการ และทรัพยากรท้ังวัสดุ เครอ่ื งมอื เคร่อื งใช้ อปุ กรณ์ ฯลฯ) (4) เพ่อื เสริมสร้างประสิทธิภาพในการสอ่ื สารและประสานงานระหว่างหน่วยงาน ท้ังภายในและภายนอก โดยสง่ เสริมให้บุคลากรของหน่วยงานมีโอกาสไดท้ างาน ประสานการปฏิบตั ิในการ ดาเนนิ งานร่วมกนั ส่งผลใหก้ ารปฏบิ ตั ิงานตามแผนเป็นไปอย่างราบรื่น (5) เพ่ือฝกึ ฝนให้เจา้ หนา้ ทท่ี ราบถงึ บทบาทหน้าทคี่ วามรับผดิ ชอบของตนอยา่ งชดั เจน รวมทั้งไดท้ บทวนองคค์ วามรู้ ทักษะการทางาน และพัฒนาปรบั ปรงุ ประสทิ ธิภาพในการปฏิบัตกิ ารตอ่ เหตุ ฉกุ เฉิน ของแต่ละบคุ คลภายใต้สถานการณ์สมมติในการฝกึ ซอ้ มตา่ ง ๆ (6) เพอ่ื เป็นการปฏบิ ัตติ ามกฎหมาย ขอ้ กาหนดหรอื ข้อบังคับ อาทิ ประกาศ กระทรวงมหาดไทย เรอ่ื ง การปอู งกนั และระงับอคั คภี ัยในสถานประกอบการ เพ่อื ความปลอดภัยในการ ทางานสาหรบั ลกู จา้ ง ข้อ 36 กาหนดให้นายจ้างจดั ใหม้ ีการฝกึ ซอ้ มดับเพลงิ และฝึกซ้อมหนไี ฟ อยา่ งน้อย ปีละ 1 คร้งั เปน็ ต้น 1.2 ประโยชน์ของการฝึกซ้อม
(1) การฝึกซ้อมฯ ทาใหท้ ราบจดุ บกพร่อง และขอ้ ด้อยของแผนท่มี ีอยู่ และสามารถ กาหนดนโยบาย แนวทาง มาตรการ เพือ่ แก้ไขหรอื อดุ ช่องว่างของแผน ซงึ่ จะทาให้แผนไดร้ ับการปรับปรุง และเป็นเครื่องมอื ในการตอบโตแ้ ละรบั มือกับสถานการณท์ เี่ กดิ ขึน้ จรงิ ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ (2) การฝกึ ซ้อมเปน็ การปฏบิ ัตกิ ารร่วมกนั ของหลายฝาุ ย ไม่ว่าจะหน่วยงานเดยี วกนั หรือตา่ งหนว่ ยงาน ดังนน้ั การฝกึ ซอ้ มจึงเป็นเครอ่ื งมอื สาคัญในการทดสอบความราบรื่นในการปฏิบตั งิ าน ร่วมกนั ดว้ ยเหตุน้ี หากการปฏบิ ัตกิ ารร่วมกันในขณะการฝึกซ้อมมคี วามขดั แยง้ หรอื มอี ปุ สรรค ท้งั ในเชงิ นโยบายหรอื แนวทางการปฏิบัติกจ็ ะทาใหผ้ ูท้ ีเ่ กย่ี วข้องรบั ทราบปัญหา และนาไปสู่การแก้ไขขอ้ ขัดข้องเพ่ือ ลดปญั หาเหลา่ นัน้ ใหห้ มดไป (3) การฝกึ ซ้อมฯ เป็นการดาเนินการหรือปฏบิ ตั ริ ่วมกนั จากหลากหลายฝุายหรือภารกจิ ซึง่ มกี ารมอบหมายหน้าทใ่ี นแต่ละดา้ น ดงั นั้น การฝกึ ซอ้ มฯ จึงเป็นการยนื ยันบทบาทหนา้ ทที่ ไี่ ด้รับ -15- มอบหมาย ซ่งึ จะทาใหผ้ ู้ที่เก่ียวขอ้ งมคี วามเข้าใจในภารกจิ ของแตล่ ะฝาุ ยทีช่ ดั เจน ส่งผลใหก้ ารปฏบิ ัติงานมี ความสอดคลอ้ งสอดประสานกันอยา่ งเปน็ ระบบ มปี ระสทิ ธิภาพ ไมซ่ ้าซ้อนและสับสน (4) การฝกึ ซอ้ มก่อใหเ้ กดิ การประเมนิ ความพรอ้ มในเรอื่ งทรพั ยากรทัง้ ด้านบคุ ลากร วสั ดอุ ุปกรณ์ งบประมาณ ฯลฯ ดังน้ัน การฝึกซ้อมฯ จะทาใหผ้ ู้ท่เี ก่ียวข้องทราบความต้องการทัง้ ในเชงิ ปริมาณ คุณภาพ รวมท้ังสมรรถนะและศักยภาพของทรพั ยากร (Specification Requirement) (5) การฝึกซอ้ มฯ ทาใหท้ ราบความต้องการในมติ กิ ารพฒั นาทรพั ยากรบคุ คลด้วย กลา่ วคือความตอ้ งการการฝึกอบรม (Training Need) เน่ืองจากการฝึกซ้อมฯ จะทาใหท้ ราบจดุ อ่อน ขอ้ บกพรอ่ งในการปฏบิ ัติของบุคลากร หากปญั หาท่เี กดิ ขึน้ เกดิ จากการขาดศกั ยภาพของบุคลากรในเรือ่ งใด ก็จะทาใหท้ ราบวา่ หน่วยงานจาเปน็ ต้องฝกึ อบรเมพอื่ พฒั นาบคุ ลากรในสว่ นงานหรอื ภารกจิ ใด (6) การฝึกซ้อมฯ เป็นการทดสอบความพร้อมของแผน แนวทางการปฏิบัติการในการ ตอบโตต้ ่อสถานการณ์นัน้ ๆ ดงั นัน้ หากมีประเดน็ ทีเ่ ปน็ จดุ อ่อน หรือจุดบกพร่องของแผน ผลจากการ ฝึกซ้อมฯ จะสะทอ้ นปญั หาและเปน็ ประเดน็ นาไปสกู่ ารปรบั ปรุง พัฒนาใหแ้ ผนหรอื แนวทางการปฏิบตั ิ ดงั กล่าวมีความสมบูรณ์ สามารถนาไปใช้ไดจ้ ริงตอ่ ไป (7) การฝกึ ซอ้ มฯ ช่วยเสรมิ สร้างใหเ้ กิดการทางานเปน็ ทีม (Teamwork) ระหวา่ งผทู้ ่มี ี ส่วนเก่ยี วขอ้ งซ่งึ จะสง่ ผลให้การปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั เปน็ ไปอยา่ งราบรืน่ มปี ระสทิ ธิภาพ ลดความขัดแย้ง 1.3 ประเภทของการฝกึ ซอ้ ม การฝกึ ซอ้ มฯ มรี ปู แบบหลากหลายประเภทขึ้นอยู่กับวตั ถุประสงค์ ขนาด ขอบเขต ความซบั ซอ้ นและวิธีการ โดย Federal Emergency Management Agency (FEMA) ไดแ้ บ่งประเภท และรูปแบบการฝกึ ซ้อมฯไว้หลกั ๆ 2 ประเภท กล่าวคือ (1) การฝึกซ้อมเชิงอภปิ ราย (Discussion-Based Exercise) ซง่ึ เป็นการฝึกซอ้ มที่ เน้นการหารือ อภปิ รายถึงแผน มาตรการ หรือวิธกี ารปฏิบตั ิ การฝึกซ้อมประเภทน้เี น้นประเด็น
ยทุ ธศาสตร์ และนโยบายของหนว่ ยงานเปน็ สาคัญ และเป็นการฝกึ ซอ้ มฯ ทีม่ ีความซับซ้อนนอ้ ยท่สี ดุ รวมทงั้ เป็นการฝกึ ซอ้ มทีไ่ ม่มกี ารเคลอื่ นยา้ ยทรัพยากรใดๆ โดยแบง่ ออกเป็น 4 รูปแบบประกอบด้วย การสมั มนา (Orientation Seminar), การประชมุ เชิงปฏบิ ตั กิ าร (Workshop), การฝกึ ซอ้ มแผนบนโตะ๊ (Table Top Exercise: TTX) และ การเลน่ เกมส์ (Game) (2) การฝกึ ซ้อมเชิงปฏบิ ัติการ (Operational-Based Exercise) ซึ่งเป็นการฝึกซอ้ ม ทีม่ กี ารเคล่ือนย้าย ระดมทรพั ยากร และบุคลากร จึงเปน็ การฝกึ ซอ้ มฯ ที่มคี วามซับซ้อนมากกว่าการ ฝกึ ซ้อมเชงิ อภิปราย โดยมกี ารนาแผน นโยบาย และมาตรการไปสูก่ ารปฏบิ ัตจิ รงิ เพ่อื ใหท้ ราบถึงบทบาท หนา้ ทีแ่ ละความรับผิดชอบอย่างชดั เจน ขณะเดยี วกนั สามารถที่จะพฒั นาประสิทธภิ าพของบคุ ลากร และ ทมี งาน การฝกึ ซ้อมเชิงปฏิบัติการ สามารถแบ่งออกเป็น 3 รปู แบบประกอบด้วย การฝกึ ปฏิบตั ิ (Drill), การฝกึ ซอ้ มเฉพาะหน้าที่ (Functional Exercise) และการฝกึ ซอ้ มเต็มรูปแบบ (Full-scale Exercise) อยา่ งไรก็ตาม ตามแผนปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั แห่งชาติ พ.ศ. 2553 - 2557 ได้ กาหนดรูปแบบ การจดั การฝกึ ซอ้ มฯ ใหก้ องอานวยการปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั ในทกุ ระดับดาเนินการฝกึ ซอ้ มอยา่ ง น้อยปีละ 1 ครง้ั ไว้ 3 รูปแบบไดแ้ ก่ การฝกึ ซ้อมแผนบนโตะ๊ (TTX), การฝึกซอ้ มเฉพาะหนา้ ที่ (Functional Exercise) และการฝกึ ซ้อมเตม็ รปู แบบ (Full-Scale Exercise) (แผนปูองกันและบรรเทา สาธารณภัยแหง่ ชาติ พ.ศ.2553 – 2557 หนา้ 61) สาระสาคญั ของรปู แบบการฝึกซ้อมฯ มีดงั นี้ -16- 1.3.1 การฝกึ ซอ้ มแผนบนโตะ๊ (Table Top Exercise: TTX) เปน็ การฝึกซ้อมแผน ม่งุ เน้นการระบจุ ดุ แขง็ จุดออ่ น รวมทัง้ การทาความเข้าใจแผน นโยบาย ข้อตกลงความรว่ มมอื และ ขั้นตอนการปฏิบัตทิ ใี่ ชอ้ ยขู่ องหน่วยงานทเี่ ก่ยี วขอ้ ง โดยใชก้ ารอภิปรายกลุ่มแบบไม่เปน็ ทางการบนพนื้ ฐาน ของสถานการณ์สมมติทกี่ าหนดข้ึนโดยมีวิทยากรกระบวนการ (Facilitators) เป็นผนู้ าการอภิปรายให้ เป็นไปตามแนวทางและวัตถปุ ระสงคข์ องการฝึกซอ้ ม ทัง้ น้ี ผเู้ ขา้ ร่วมในการฝึกซอ้ มมกั เป็นเจา้ หน้าท่ี ระดบั สงู เจา้ หน้าทท่ี ี่รบั ผดิ ชอบ หรือบคุ ลากรหลักในเรื่องนัน้ ๆ ขอ้ ดีของการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะคอื ไมม่ ี การเคล่ือนยา้ ยทรัพยากรจงึ เปน็ รูปแบบการฝกึ ซอ้ มทีป่ ระหยดั และมปี ระสทิ ธภิ าพ และสามารถทดสอบ แผน นโยบาย และขน้ั ตอนการปฏบิ ตั งิ านได้เปน็ อย่างดี นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมการฝกึ ซอ้ มยังสามารถ ฝึกซ้อมในการแก้ไขปัญหาตามสถานการณส์ มมตทิ ก่ี าหนดในสภาวะท่ไี มก่ ดดัน กล่าวโดยสรุป การฝกึ ซ้อมแผนบนโต๊ะมคี ณุ ลักษณะสาคญั ประกอบด้วย 1) เปน็ การรวมกลมุ่ อภปิ รายเพือ่ แกไ้ ขปญั หา 2) เจา้ หน้าที่ระดับสูงมีความคุ้นเคยกบั ประเดน็ สาคญั ที่เกี่ยวข้องกับหนา้ ทีค่ วาม รบั ผดิ ชอบของตน 3) สามารถกาหนดเง่อื นไขของสถานการณท์ ่เี ฉพาะเจาะจงได้ 4) ผู้เขา้ รว่ มการฝึกซอ้ มมีการแลกเปลีย่ นขอ้ มูลระหวา่ งกัน 5) มกี ารประเมนิ ความรว่ มมอื ระหว่างหน่วยงาน
6) ใช้ในการเตรียมการฝกึ ซ้อมท่มี ีความซบั ซ้อนมากยงิ่ ขึ้น 1.3.2 การฝึกซอ้ มเฉพาะหนา้ ที่ (Functional Exercise: FE) ในอดตี บ่อยครั้งที่ FE ถกู เรยี กวา่ “การฝึกซ้อมในท่บี ังคับการ” (Command Post Exercise: CPX) เป็นกิจกรรมการฝกึ ซอ้ ม ของหน่วยงานหรือระหวา่ งหนว่ ยงานเพอ่ื ทดสอบ ประเมนิ ขดี ความสามารถของบคุ คล และบทบาทหนา้ ที่ (Function) ทใ่ี ชใ้ นการตอบโตต้ อ่ สถานการณ์ท่ีสมมติข้นึ โดยเน้นการฝึกซอ้ มแผน นโยบาย ขน้ั ตอนการ ปฏิบตั งิ าน และเจา้ หนา้ ทใี่ นการส่ังการและควบคมุ ที่มอี ยู่ ทั้งนี้ ในการฝกึ ซ้อมเฉพาะหนา้ ท่นี ัน้ การ เคลือ่ นย้ายบุคลากรและทรัพยากรจะถกู สมมตขิ น้ึ วตั ถุประสงคห์ ลกั ของการฝึกซ้อมเฉพาะหนา้ ท่ีก็ เพื่อที่จะนาแผน ข้ันตอนการปฏบิ ัติไปปฏบิ ตั ิภายใต้เงอ่ื นไขเฉพาะในแตล่ ะบทบาทหนา้ ท่ี โดยทจ่ี ะสมมติ การปฏิบตั กิ ารในขอบเขตของบทบาทหน้าทีน่ นั้ ๆ ดว้ ยการนาเสนอปัญหาทซ่ี ับซอ้ นและสมจรงิ กล่าวไดว้ า่ การฝึกซอ้ มเฉพาะหนา้ ที่มลี ักษณะสาคญั 1) เป็นการประเมินบทบาทหน้าที่ 2) ประเมนิ การบรหิ ารจัดการศูนยป์ ฏบิ ัติการฉุกเฉนิ (Emergency Operation Center: EOC) หน่วยบญั ชาการ และเจา้ หนา้ ท่ี 3) สนบั สนุนแผนและข้ันตอนการปฏบิ ัติงานท่กี าหนดขึ้น 4) ประเมนิ ความเหมาะสมและความเพยี งพอของทรพั ยากร 5) ตรวจสอบความสมั พนั ธ์ ของขอบเขตอานาจ 6) เน้นการแกไ้ ขปัญหาท่รี วดเรว็ 7) บรรยากาศการฝึกซอ้ มมคี วามกดดนั สูง 1.3.3 การฝึกซ้อมเต็มรูปแบบ (Full-scale Exercise: FSE) เปน็ การฝึกซอ้ มทีม่ ี ความซบั ซอ้ นและใชท้ รัพยากรมากทส่ี ุดในบรรดาการฝกึ ซอ้ มรปู แบบอนื่ ๆ รวมท้งั เกย่ี วข้องกบั บุคลากร จากหลากหลายหนว่ ยงานและหลายระดับ โดยมีการเคล่ือนยา้ ยทรพั ยากรและบุคลากรเพอ่ื ตอบโต้ -17- ตอ่ สถานการณจ์ ริง การฝกึ ซอ้ มเตม็ รูปแบบสามารถทดสอบการตอบโต้และบรรเทาเหตุฉุกเฉินในหลาย แงม่ ุม โดยมุ่งเน้นการปฏบิ ตั ิตามแผน นโยบาย และขั้นตอนกระบวนการท่ีพัฒนาหรอื กาหนดข้ึนจาก TTX หรอื FE เหตกุ ารณ์ต่างๆ นาเสนอโดยใชบ้ ทสถานการณส์ มมติในการฝกึ ซ้อม (Script Exercise Scenario) นอกจากนี้ ในการจัด FSE นัน้ จะกาหนดเวลาจริง (Real Time) และอยภู่ ายใต้สภาวะแวดล้อม ที่กดดันเสมอื นเหตกุ ารณจ์ ริง ดังนั้น เจ้าหนา้ ทแี่ ละทรพั ยากรจึงตอ้ งมีการเคลือ่ นยา้ ยไปยังพ้นื ท่ีเกิด เหตุการณ์ซงึ่ จดั ไว้สาหรบั ปฏิบัติการ ด้วยเหตุนี้ FSE จึงเป็นการฝกึ ซอ้ มทใ่ี ช้ในการประเมนิ แผน ข้ันตอน การปฏบิ ัติรวมท้ังการประสานการปฏิบัติในการตอบโตเ้ หตุการณ์ภายใต้เงอ่ื นไขภาวะวกิ ฤต จากท่ีกล่าวถึงการฝกึ ซอ้ มทงั้ สามรปู แบบขา้ งตน้ โดยสงั เขป จะเห็นได้วา่ การฝกึ ซอ้ มแต่ ละรูปแบบมีคุณลักษณะเฉพาะสาคัญท่แี ตกตา่ งกันอยหู่ ลายประการ ดังน้ัน ผ้จู ดั การฝึกซ้อมจงึ จาเป็นตอ้ ง ศกึ ษาและเลือกรูปแบบการฝึกซ้อมที่เหมาะสมมาใชใ้ นการฝึกซ้อมต่อองคก์ รเพอ่ื ใหเ้ กิดประสิทธภิ าพสูงสดุ
5. แนวคิดเกย่ี วกบั กระบวนการฝกึ ซ้อม การจดั การฝึกซ้อมในทุกรูปแบบน้นั จะพบว่ามีข้ันตอนกระบวนการที่ซับซ้อนและมีกจิ กรรม ที่ตอ้ งดาเนนิ การมากมาย ซ่งึ กจิ กรรมเหลา่ นี้สง่ ผลตอ่ ความสาเรจ็ ในการจดั การฝกึ ซอ้ มทง้ั ในปจั จุบนั รวมถึงความสาเร็จและการออกแบบการฝกึ ซอ้ มในอนาคต ดงั นั้นการทาความเข้าใจแตล่ ะ กจิ กรรมจะทา ใหเ้ ห็นถึงกระบวนการจัดการฝึกซ้อมในภาพรวม ดงั น้นั ในสว่ นนี้จงึ จะกลา่ วถงึ ภาพรวม ของกจิ กรรมการ จัดการฝกึ ซ้อมและความเช่อื มโยงของกิจกรรมดังกล่าว รวมทั้งอธบิ ายถงึ ประเดน็ สาคัญ ในการวางรากฐาน ของการฝกึ ซอ้ ม และในตอนทา้ ยของบทจะอธิบายลงลกึ ในรายละเอยี ดของกระบวนการออกแบบการ ฝกึ ซ้อม 5.1 ภาพรวมของกระบวนการจัดการฝึกซอ้ ม ในการเตรยี มการสาหรับเร่มิ จดั การฝกึ ซ้อม และการออกแบบการฝกึ ซอ้ ม จาเป็นที่ จะต้องเขา้ ใจอย่างชัดเจนถึงกระบวนการจัดการฝึกซ้อมทง้ั หมด ทงั้ น้ี การมองกระบวนการจัดการฝกึ ซ้อม ดังกลา่ วสามารถพิจารณาไดห้ ลายแนวทาง ดังนี้ 1) ตามลาดบั ของกจิ กรรม /ภารกิจทต่ี อ้ งดาเนนิ การ 2) ตามภารกิจและหว้ งเวลาดาเนนิ การ และ 3) ตามภารกจิ /กจิ กรรมท่ีตอ้ งดาเนินการใหแ้ ลว้ เสร็จ
ทบทวนแผน ประเมินความตอ้ งการ -1 ประเมินขดี ความ กอ่ นการฝึกซ้อม จดั ทากาหนดการ ต้งั คณะทา ออกแบบก จัดทาลาดับ จัดทาลาดบั เหตุการณ์ ปฏ เหตุการณ์ หลกั และรอง ขณะฝึ กซ้ อม พ หลงั การฝึกซ้อม ก จดั ประชุมหลัง จ การฝึกซอ้ ม จัดทารายงาน
18- กาหนดขอบเขตการฝกึ ซ้อม จัดทาเปูาประสงค์ มสามารถ างาน ตงั้ คณะทางาน เตรียมวตั ถปุ ระสงค์ การฝึกซอ้ ม กาหนดการ จัดทาขอ้ มูล พฒั นารูปแบบ ฏบิ ตั ทิ ี่คาดหวงั การฝึกขน้ั สดุ ทา้ ย พัฒนารูปแบบ การประเมนิ ผล จัดการฝึกซอ้ ม ติดตามกจิ กรรมจากผล นการฝึกซ้อม การฝึกซ้อม
แผนผังท่ี 4 กระบวนการจัดการฝึกซอ้ ม (ค่มู ือการฝ
ฝกึ ซ้อมแผนปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั , 2555)
-19- 5.1.1 กระบวนการจัดการฝึกซอ้ มตามลาดับของกจิ กรรม/ งานทีต่ ้องดาเนินการ 5.1.2 กระบวนการจดั การฝึกซ้อมตามภารกิจและห้วงเวลาดาเนนิ การ กระบวนการจดั การฝึกซอ้ มน้ใี ห้ความสาคญั กับ (1) หว้ งระยะเวลาการฝกึ ซ้อม (กอ่ น ฝกึ ซอ้ ม, ขณะฝกึ ซอ้ ม และหลังการฝึกซ้อม) และ (2) ประเภทของภารกจิ ที่เก่ยี วขอ้ งกับการออกแบบ และ ประเมินผลการฝกึ ซ้อม 5.1.3 กระบวนการจดั การฝึกซอ้ มตามภารกจิ / กจิ กรรมหลักที่ต้องดาเนินการให้ แล้วเสร็จ กระบวนการจดั การฝกึ ซอ้ มตามภารกิจ /กิจกรรมหลักทีต่ ้องดาเนนิ การให้แลว้ เสร็จ เป็น วิธกี ารทงี่ า่ ยที่สุด โดยขัน้ ตอนกระบวนการจดั การฝกึ ซอ้ มประกอบด้วย 5 ภารกจิ หลกั ได้แก่ 1) การ วางแผนการฝกึ ซอ้ ม 2) การพฒั นารปู แบบการฝึกซ้อม 3) การจดั การฝึกซ้อม 4) การประเมินผลการ ฝึกซอ้ ม และ 5) การตดิ ตามและพัฒนาจากผลการฝึกซ้อม โดยในแตล่ ะภารกจิ ดังกล่าวจะมรี ายละเอียด งาน กจิ กรรมย่อย ทั้งน้ีกระบวนการดงั กลา่ วจะเปน็ วงจร กลา่ วคอื ผลลัพธ์ทไ่ี ดจ้ ากการฝึกซอ้ มกจ็ ะเปน็ ข้อมูลปัจจยั นาเขา้ สาหรบั การฝึกซอ้ มในคร้ังต่อไป 5.2 กระบวนการจัดการฝกึ ซอ้ ม จะเหน็ ไดว้ า่ กระบวนการจัดการฝึกซอ้ มดังทีก่ ล่าวมาข้างต้นนน้ั สามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ ไดก้ บั หนว่ ยงานทุกขนาดไมว่ ่าจะเป็นหนว่ ยงานขนาดใหญท่ ม่ี ที รพั ยากรและขอบเขตอานาจหนา้ ท่กี ว้างขวาง หรือแมแ้ ต่หน่วยงานขนาดเล็กหนว่ ยงานเดยี ว นอกจากน้ี ยังสามารถนาไปใชก้ บั ทกุ ประเภท การฝกึ ซ้อม แตอ่ ย่างไรกต็ าม ขั้นตอนดงั กล่าวจะตอ้ งออกแบบ และประยุกต์ใหเ้ หมาะสมสอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงค์ และขีดความสามารถขององค์กรที่จะจดั การฝึกซ้อมฯดว้ ย ซ่ึงมีรายละเอียดดังนี้ 5.2.1 การวางแผนการฝึกซอ้ ม (Establishing the Base) การฝกึ ซ้อมฯ จะถกู ออกแบบเพือ่ กระตนุ้ ใหบ้ คุ ลากรได้คิดและปฏบิ ตั ิตาม สถานการณ์ เมอ่ื เกิดขน้ึ จรงิ ซงึ่ มีแนวทาง/ขน้ั ตอนในเตรยี มการ ประกอบด้วย (1) ทบทวนแผนทีม่ อี ยใู่ นปจั จุบนั (Reviewing the Current Plan) หมายถงึ แผนท่ใี ช้ ในการตอบโตเ้ หตุฉุกเฉิน (Emergency Plan) การทบทวนแผนดังกลา่ วจะทาใหส้ ามารถระบุ ปัญหา เพื่อกาหนดเปาู ประสงค์และวัตถปุ ระสงคข์ องการฝึกซ้อมได้ (2) การประเมินความต้องการ /ความจาเป็นในการฝกึ ซ้อม เป็นการวเิ คราะห์ ความตอ้ งการของหนว่ ยงานเพ่ือเปน็ ข้อมูลในการออกแบบการฝึกซ้อม (3) ประเมนิ ขีดความสามารถของ อานาจหน้าที่ในการจดั การฝกึ ซ้อมของ หน่วยงาน ในการออกแบบการฝึกซอ้ มซงึ่ มีการจาลองเหตกุ ารณเ์ หตฉุ กุ เฉนิ จะทาใหท้ ราบว่าการตอบโต้ ใด จะตอ้ งได้รบั การประเมิน และหนว่ ยงานตอ้ งมีขดี ความสามารถในการตอบโตอ้ ย่างไร ดังน้ันการทจี่ ะ จัดการฝึกซอ้ มหนว่ ยงานจงึ จาเป็นตอ้ งทราบถึงขีดความสามารถทรัพยากรของหนว่ ยงานไมว่ ่าจะเปน็
ทกั ษะ งบประมาณ บคุ ลากร เง่อื นไขเร่อื งเวลา ส่ิงอานวยความสะดวกสนบั สนนุ ต่าง ๆ ซึง่ เปน็ ปจั จัย สาคัญอยา่ งยง่ิ ในการออกแบบการฝึกซอ้ ม (4) กาหนดขอบเขตการฝึกซ้อม หมายถงึ การกาหนดขอบเขตหรือประเด็นใน การฝกึ ซ้อมโดยอาจกาหนดขอบเขตการฝึกซอ้ มในมติ ิเชงิ พ้ืนที่ ภารกิจหน้าท่ี (Function) ระดับหรอื ขนาด ความรนุ แรงของเหตกุ ารณ์ทเี่ ป็นสถานการณ์สมมติ (Scale) ขอบเขตอานาจหนา้ ทข่ี องหน่วยงานท่จี ะเข้า -20- ร่วมการ ฝึกซอ้ ม หรอื ระดบั ของผู้เข้าร่วมการฝึกซอ้ ม ซงึ่ การกาหนดขอบเขตการฝกึ ซ้อมทช่ี ดั เจนจะเป็น ประโยชนใ์ นการออกแบบการฝกึ ซอ้ ม รวมถึงการประเมินผลการฝกึ ซอ้ มดว้ ย (5) กาหนดรปู แบบการฝึกซอ้ ม โดยพิจารณาจากความตอ้ งการการฝกึ อบรม และทรัพยากรทอ่ี ยเู่ ปน็ สาคญั (6) ประมาณการค่าใชจ้ ่าย ทรัพยากร และภาระผกู พนั ต่างๆ ประเด็นเรอ่ื ง ค่าใช้จา่ ยควรถกู หยิบยกมาพิจารณาตงั้ แตเ่ รม่ิ ต้นวางแผนการฝึกซ้อม เน่อื งจากค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เกิดขึน้ ใน ทุกขั้นตอน ดังนั้น จึงต้องมกี ารวางแผนค่าใชจ้ า่ ยในการฝึกซอ้ มเพื่อให้มงี บประมาณเพยี งพอสาหรบั การ ฝึกซ้อม (7) กาหนดเปา้ ประสงค์ในการฝกึ ซอ้ ม (ผลท่ีคาดหวงั จากการฝกึ ซอ้ ม) (8) ขอรบั การสนับสนุน /อนุมตั ิจดั การฝกึ ซ้อมและแจง้ กาหนดการจัดการ ฝึกซอ้ ม ขออนมุ ตั ิหรือการสนบั สนนุ จากผ้บู รหิ ารระดบั สูงเป็นส่วนสาคัญอย่างย่งิ ทต่ี อ้ งดาเนินการเมอ่ื จะ ให้หนว่ ยงานจะเร่มิ ตน้ จัดการฝกึ ซ้อม ถึงแมผ้ บู้ รหิ ารเหล่านน้ั จะไม่ได้เข้ามารว่ ม ในการฝกึ ซ้อม แตด่ ว้ ย อานาจหนา้ ท่ขี องเขาเหล่าน้นั จะชว่ ยสนบั สนุนและความร่วมมือใหก้ ารจดั การฝกึ ซอ้ มเป็นไปอยา่ งราบรน่ื โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การฝึกซ้อมทเี่ กีย่ วข้องกับหลายหนว่ ยงาน (ภาคผนวก 2-2) นอกจากนี้ ยงั หมายความ รวมถงึ การแต่งตงั้ คณะทางานออกแบบการฝึกซ้อม และกาหนดแผนการดาเนินการและตารางการฝกึ ซ้อม ด้วย กล่าวคือ คณะทางานออกแบบการฝึกซอ้ ม การวางแผนการฝึกซอ้ มมีภารกิจทตี่ อ้ งดาเนนิ การ หลากหลายและจานวนมาก ตั้งแต่การออกแบบการฝึกซ้อมจนกระทง่ั ถงึ งานธุรการ ดังนน้ั จึงต้องมี คณะทางานและหัวหนา้ คณะทางานรบั ผิดชอบการจดั การฝกึ ซอ้ มให้บรรลุวัตถปุ ระสงค์ ประกอบดว้ ย หัวหนา้ คณะทางานออกแบบการฝึกซอ้ ม มีหน้าที่ความรบั ผิดชอบการฝึกซ้อมทง้ั กระบวนการพัฒนาการฝึกซ้อม งานธรุ การและสนบั สนุน ท้ังนี้ ในการฝกึ ซ้อมท่ีเก่ียวขอ้ งกบั หลาย หนว่ ยงาน หัวหนา้ คณะทางานออกแบบการฝกึ ซอ้ มอาจแต่งตัง้ ผชู้ ่วย หรือผปู้ ระสานงานเพื่อชว่ ยในการ ประสานงาน คณุ สมบัตขิ องหวั หน้าคณะทางานออกแบบการฝกึ ซอ้ ม 1. สามารถอุทิศเวลาให้กบั การจดั การฝึกซ้อมได้อย่างเต็มท่ี 2. มีความคนุ้ เคยในแผนปฏบิ ตั กิ ารฉกุ เฉนิ ของหน่วยงาน และเข้าใจแนวทาง ปฏบิ ัตใิ นการตอบโตข้ อง หน่วยงานท่ีเขา้ รว่ มฝกึ ซอ้ ม 3. ตอ้ งมใิ ชเ่ จ้าหน้าทีท่ ีร่ ับผดิ ชอบดา้ นการปฏิบัติการของหน่วยงาน
เจา้ หนา้ ทดี่ ้านการจัดการเหตฉุ ุกเฉิน โดยปกติแล้วเจา้ หน้าทซี่ ่ึงรับผิดชอบการ จัดการเหตฉุ กุ เฉินควรเปน็ ผู้เขา้ รว่ มการฝึกซ้อม จึงไมค่ วรเป็นส่วนหนง่ึ ของหัวหน้าคณะทางานออกแบบ การฝกึ ซ้อม และอาจมอบหมายผู้อ่นื ใหร้ ับผดิ ชอบในสว่ นของการออกแบบและจดั การฝึกซ้อมแทน อย่างไรกต็ าม หากไม่สามารถมอบหมายผ้ใู ดไดอ้ าจร้องขอเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอ่ืนสนับสนนุ การ ออกแบบ และจัดการฝกึ ซอ้ ม คณะทางานออกแบบการฝกึ ซ้อม มหี น้าทีช่ ว่ ยหัวหน้าคณะทางานออกแบบการ ฝึกซ้อมในการพฒั นารายละเอยี ดและขนั้ ตอนการฝกึ ซอ้ ม ประกอบดว้ ย - กาหนดวัตถปุ ระสงคข์ องการฝึกซ้อม - จดั ทาสถานการณส์ มมติ - พัฒนาลาดับเหตกุ ารณ์และความเชือ่ มโยงของสถานการณส์ มมติ -21- - พัฒนาและแจกจา่ ยเอกสาร วสั ดุอุปกรณ์ท่จี าเปน็ กอ่ นการฝกึ ซอ้ ม - จัดการฝึกอบรมก่อนการฝกึ ซ้อม อยา่ งไรกต็ าม คณะทางานออกแบบการฝกึ ซ้อม สามารถรับผดิ ชอบในส่วนของ ผ้จู าลองเหตุการณ์ (Simulator) หรือเป็นผูค้ วบคมุ การฝึกซอ้ มในการฝึกซ้อมเฉพาะหน้าที่ (FE) ได้ สาหรบั บุคคลท่คี วรเป็นคณะทางานออกแบบการฝึกซอ้ มน้นั ควรเปน็ ผแู้ ทนจากแต่ละหน่วยงานที่เข้าร่วมการ ฝกึ ซอ้ ม และหากเปน็ การฝกึ ซอ้ มภายในหน่วยงานเดยี วกัน คณะทางานออกแบบการฝกึ ซ้อมควรมาจาก หนว่ ยงาน 5.2.2 การกาหนดรปู แบบการฝึกซ้อม (Exercise Development) ประเภทของการฝึกซอ้ ม การฝึกซ้อมฯ มรี ูปแบบหลากหลายประเภทขึน้ อยู่กบั วตั ถุประสงค์ ขนาด ขอบเขต ความ ซบั ซอ้ นและวิธกี าร โดย Federal Emergency Management Agency (FEMA) ไดแ้ บง่ ประเภทและ รูปแบบการฝกึ ซ้อมฯไว้หลัก ๆ 2 ประเภท กล่าวคอื 1 . การฝกึ ซ้อมเชงิ อภิปราย (Discussion-Based Exercise) ซง่ึ เป็นการฝกึ ซอ้ มท่ีเนน้ การ หารอื อภิปรายถึงแผน มาตรการ หรือวธิ กี ารปฏิบัติ การฝกึ ซ้อมประเภทน้เี น้นประเดน็ ยุทธศาสตร์ และ นโยบายของหน่วยงานเปน็ สาคัญ และเป็นการฝึกซ้อมฯ ที่มคี วามซบั ซ้อนนอ้ ยที่สุด รวมทัง้ เป็นการฝกึ ซอ้ ม ทีไ่ ม่มกี ารเคล่ือนย้ายทรัพยากรใดๆ โดยแบง่ ออกเปน็ 4 รปู แบบประกอบด้วย การสัมมนา (Orientation Seminar), การประชุมเชิงปฏิบัตกิ าร (Workshop), การฝึกซอ้ มแผนบนโตะ๊ (Table Top Exercise: TTX) และ การเลน่ เกมส์ (Game) 2 . การฝกึ ซ้อมเชิงปฏิบัติการ (Operational-Based Exercise) ซ่งึ เปน็ การฝึกซอ้ มทีม่ ี การเคลอ่ื นยา้ ย ระดมทรัพยากร และบคุ ลากร จงึ เป็นการฝึกซอ้ มฯ ที่มคี วามซับซ้อนมากกวา่ การฝกึ ซอ้ ม เชิงอภิปราย โดยมกี ารนาแผน นโยบาย และมาตรการไปสกู่ ารปฏิบตั จิ รงิ เพือ่ ให้ทราบถงึ บทบาทหนา้ ที่
และความรบั ผิดชอบอยา่ งชดั เจน ขณะเดียวกนั สามารถทีจ่ ะพฒั นาประสิทธิภาพของบคุ ลากร และทีมงาน การฝกึ ซอ้ มเชงิ ปฏิบัติการ สามารถแบ่งออกเปน็ 3 รปู แบบประกอบดว้ ย การฝกึ ปฏบิ ัติ (Drill), การฝึกซอ้ มเฉพาะหนา้ ท่ี (Functional Exercise) และการฝึกซ้อมเตม็ รูปแบบ (Full-scale Exercise) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 กรมปูองกนั และบรรเทาสาธารณภัยได้กาหนดใหท้ าการฝึกซ้อมแผนระดบั กลุม่ จังหวัด ของศูนย์ปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ไว้ 1 คร้ังโดยกาหนดให้ฝกึ ซอ้ ม 2 รปู แบบคือ การฝึกซ้อมเฉพาะหนา้ ท่ี (Functional Exercise: FEX) และการฝึกซอ้ มเตม็ รปู แบบ (Full-scale Exercise: FEX) โดย สาระสาคัญของรูปแบบการฝกึ ซอ้ มฯ มี ดงั นี้ การฝึกซ้อมเฉพาะหนา้ ท่ี (Functional Exercise: FEX) ในอดตี บอ่ ยครัง้ ที่ FEX ถูก เรยี กว่า การฝกึ ซอ้ มในทบี่ งั คบั การ (Command Post Exercise: CPX) เปน็ กิจกรรมการฝึกซอ้ มของ หน่วยงานหรอื ระหว่างหน่วยงานเพือ่ ทดสอบ ประเมินขดี ความสามารถของบุคคล และบทบาทหนา้ ที่ (Function) ท่ใี ช้ในการตอบโต้ต่อสถานการณ์ท่สี มมติขึน้ โดยเนน้ การฝึกซอ้ มแผน นโยบาย ข้นั ตอนการ ปฏบิ ตั งิ าน และเจ้าหนา้ ทีใ่ นการส่ังการและควบคุมทีม่ อี ยู่ ทั้งนี้ ในการฝกึ ซอ้ มเฉพาะหนา้ ท่นี ้นั การ เคล่อื นยา้ ยบุคลากรและทรพั ยากรจะถกู สมมติขึ้น วตั ถปุ ระสงคห์ ลักของการฝกึ ซอ้ มเฉพาะหนา้ ที่ก็ เพือ่ ที่จะนาแผน ขัน้ ตอนการปฏิบัติไปปฏบิ ตั ภิ ายใต้เง่อื นไขเฉพาะในแตล่ ะบทบาทหน้าที่ โดยท่จี ะสมมติ -22- การปฏบิ ัตกิ ารในขอบเขตของบทบาทหนา้ ท่ีน้ัน ๆ ดว้ ยการนาเสนอปัญหาท่ีซบั ซอ้ นและสมจริง กล่าวไดว้ ่า การฝึกซ้อมเฉพาะหน้าที่มลี ักษณะสาคญั คือ - เป็นการประเมินบทบาทหน้าที่ -.เน้นประเมนิ การบริหารจดั การศูนยป์ ฏบิ ตั ิการฉุกเฉิน (Emergency Operation Center: EOC) หนว่ ยบญั ชาการ และเจ้าหนา้ ท่ี - สนับสนนุ แผนและขน้ั ตอนการปฏิบตั งิ านทก่ี าหนดข้ึน - ประเมินความเหมาะสมและความเพียงพอของทรัพยากร - ตรวจสอบความสัมพันธ์ ของขอบเขตอานาจ - เน้นการแกไ้ ขปญั หาท่รี วดเร็ว และ - บรรยากาศการฝึกซอ้ มมีความกดดันสูง การฝกึ ซอ้ มเต็มรปู แบบ (Full-scale Exercise: FSX) เป็นการฝกึ ซ้อมที่มคี วาม ซบั ซอ้ นและใชท้ รพั ยากรมากท่สี ดุ ในบรรดาการฝกึ ซ้อมรูปแบบอ่นื ๆ รวมทงั้ เกย่ี วข้องกับบคุ ลากรจาก หลากหลายหนว่ ยงานและหลายระดบั โดยมกี ารเคลอ่ื นย้ายทรัพยากรและบคุ ลากรเพ่อื ตอบโตต้ ่อ สถานการณจ์ ริง การฝึกซ้อมเตม็ รูปแบบสามารถทดสอบการตอบโต้และบรรเทาเหตฉุ ุกเฉินในหลายแงม่ ุม โดยมุง่ เน้นการปฏบิ ตั ิตามแผน นโยบาย และข้นั ตอนกระบวนการท่พี ฒั นาหรือกาหนดขนึ้ จาก TTX หรอื FEX เหตุการณต์ ่างๆ นาเสนอโดยใช้บทสถานการณ์สมมตใิ นการฝึกซอ้ ม (Script Exercise Scenario)
นอกจากนี้ ในการจดั FSE น้ันจะกาหนดเวลาจรงิ (Real Time) และอยภู่ ายใต้สภาวะแวดลอ้ มทก่ี ดดัน เสมือนเหตุการณจ์ ริง ดงั นัน้ เจา้ หนา้ ที่และทรพั ยากรจึงตอ้ งมีการเคลื่อนยา้ ยไปยังพ้นื ที่เกิดเหตกุ ารณ์ซ่งึ จดั ไว้สาหรบั ปฏบิ ัติการ ดว้ ยเหตนุ ้ี FSX จึงเป็นการฝกึ ซ้อมทใ่ี ช้ในการประเมนิ แผน ข้ันตอนการปฏิบัติ รวมท้ังการประสานการปฏิบตั ใิ นการตอบโตเ้ หตกุ ารณ์ภายใตเ้ ง่ือนไขภาวะวกิ ฤต การกาหนดรปู แบบการฝกึ ซ้อมทั้งการฝกึ ซอ้ มบนโตะ๊ (TTX), การฝึกซ้อมเฉพาะหน้าท่ี (Functional Exercise: FE) และการฝกึ ซ้อมเต็มรูปแบบ (Full-Scale Exercise: FSE) มขี นั้ ตอนการ ดาเนินการ 8 ประการ ดงั นี้ (1) ประเมนิ ความต้องการความจาเป็นในการฝึกซอ้ ม (2) กาหนดขอบเขตการ ฝึกซ้อม (3) กาหนดเปูาประสงค์ (4) กาหนดวตั ถุประสงค์การฝึกซ้อม (5) จัดทาคาพรรณนาสถานการณ์ สมมติ (Narrative) (6) จัดทารายละเอียดเหตกุ ารณห์ ลักและเหตุการณร์ อง (7) จดั ทารายการแนวการ ปฏบิ ัติ ทค่ี าดหวัง (8) แจง้ และประชาสัมพนั ธ์การฝกึ ซอ้ ม จะเห็นไดว้ า่ บางขนั้ ตอนของการกาหนดรูปแบบการฝกึ ซ้อมจะมคี วามคล้ายคลงึ กับการ วางแผนการฝกึ ซอ้ ม โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ในข้ันตอนของการประเมินความตอ้ งการความจาเป็นสาหรับการ ฝึกซ้อม กาหนดขอบเขตการฝึกซ้อม และการกาหนดเปาู ประสงคใ์ นการฝึกซอ้ มซ่ึงเป็นขน้ั ตอนสาคญั ของ การพัฒนาการฝึกซ้อมในภาพรวม 5.2.3 การจัดการฝึกซ้อม (Exercise Conduct) การจดั การฝึกซอ้ มให้ประสบความสาเร็จนน้ั มอี งค์ประกอบต่างๆท่ีสาคัญ ดงั น้ี (1) ความชัดเจน ผเู้ ข้าร่วมการฝกึ ซ้อมต้องมคี วามเขา้ ใจในวัตถปุ ระสงค์ , กฎ พน้ื ฐาน สาหรับการฝกึ ซ้อม (Ground Rules) และความคาดหวังในบทบาทหนา้ ทขี่ องแตล่ ะคนใหช้ ัดเจน -23- (2) สรา้ งความต่อเน่อื งในการปฏิบัติ โดยอาศยั การสง่ ตอ่ ข้อความเพ่อื ให้ ผู้เข้ารว่ มการฝกึ ซ้อมสามารถดาเนนิ การฝึกไปไดอ้ ยา่ งต่อเนื่อง รวมทัง้ สามารถควบคมุ กากับดแู ลการ ฝึกซอ้ มอย่างใกล้ชิดเป็นไปตามวตั ถปุ ระสงค์ของสถานการณ์ (3) ความสมจริง ผเู้ ขา้ รว่ มการฝึกซอ้ มถูกกระตุน้ ใหป้ ฏิบัตกิ ารตามเหตฉุ กุ เฉิน ซึง่ เปน็ สถานการณ์ซ่ึงถกู สมมติขึน้ อย่างสมจริง เช่น การสือ่ สารใชก้ ารไมไ่ ด้ วสั ดอุ ปุ กรณใ์ ชก้ ารไมไ่ ดห้ รอื มี ขอ้ จากดั หรอื แม้กระท่งั ความสญู เสยี (4) การกาหนดหว้ งเวลาการฝกึ ซอ้ ม การกาหนดระยะเวลาในการฝกึ จะช่วย ให้ลาดบั เหตกุ ารณ์ตามสถานการณส์ มมตมิ ีความสมจริงและเหมาะสม (5) ทบทวนข้นั ตอนการยตุ ิสถานการณ์ ต้องชี้แจงทาความเขา้ ใจใหผ้ ู้เข้ารว่ ม การฝกึ ซอ้ มทราบกระบวนการยตุ สิ ถานการณฉ์ กุ เฉินก่อนเริม่ การฝึกซอ้ ม
(6) ใชป้ ระโยชน์จากประเดน็ ปญั หาท่กี าหนดข้ึนในสถานการณส์ มมติ สถานการณส์ มมติท่กี าหนดข้ึนอาจทาใหห้ ยุดการฝึกซอ้ ม แตใ่ นขณะเดียวกันก็สามารถทาให้หนว่ ยงาน ทราบถงึ ข้อบกพร่องของระบบการจดั การเหตุฉกุ เฉินทอี่ าจจะเกดิ ขึน้ หากเกินสถานการณจ์ ริงได้ 6.2.4 การประเมินผลและวิจารณก์ ารฝึกซ้อม (Exercise Evaluation and Critiques) ส่วนสาคญั ส่วนหนง่ึ ในการฝกึ ซ้อมฯ ทกุ รปู แบบคอื การประเมนิ ผลการฝึกซ้อมฯ วา่ การ ฝกึ ซอ้ มบรรลุวัตถุประสงคม์ ากเพียงใด ซง่ึ วัตถปุ ระสงคเ์ หลา่ นัน้ มกั เชื่อมโยงถงึ ประเด็นการปรบั ปรงุ แผน และ/หรือระบบการบรหิ ารจัดการฉุกเฉนิ ทมี่ ีอยู่ การฝึกอบรมเจา้ หนา้ ที่ รวมถึงการแกไ้ ขปญั หาขอ้ จากัด ในเรือ่ งอตั รากาลงั พลของหนว่ ยงาน ทั้งนี้ ขอบเขตและรายละเอียดของการประเมินผลการฝึกซอ้ มนัน้ ควร ถูกกาหนดโดยผูท้ ี่มสี ่วนเกี่ยวข้องของหน่วยงานนน้ั ๆ การประเมนิ ผลและการสังเกตการณข์ องผู้ควบคุม การฝกึ ซอ้ มอาจเพยี งพอสาหรับการฝึกซ้อมบางประเภท ขณะท่ีการฝกึ ซ้อมบางประเภทอาจจาเป็นตอ้ ง อาศัย ผสู้ ังเกตการณ์ตามวตั ถุประสงคเ์ ฉพาะด้านเพิ่มเติม ความคิดเหน็ วิพากษ์วิจารณ์ และรายงานการ ฝึกซ้อมจะวิเคราะห์และอธบิ ายวา่ บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคข์ องการฝึกซ้อมหรอื ไม่ ขณะเดียวกนั ข้อแนะนาต่าง ๆ จะเป็นข้อมูลทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงและพัฒนาต่อไป อยา่ งไรกต็ าม ผปู้ ระเมนิ ผลควรเป็นบคุ คลที่ มคี วามค้นุ เคย และมคี วามรูใ้ นเร่อื งทีร่ บั ผดิ ชอบในการประเมนิ เป็นสาคญั 6. แนวคดิ ระบบบริหารจดั การในภาวะวกิ ฤตจิ ากภยั พบิ ัติ ในการบริหารจดั การภัยพิบัติ โดยทวั่ ไปจะแบ่งตามวัฏจกั รการบริหารจัดการภยั พิบตั ิ ออกเป็น 4 ขน้ั ตอน ดงั น้ี คือ 1) การปอู งกันและลดผลกระทบ 2) การเตรยี มพรอ้ มรับภัย 3) การจัดการในภาวะฉกุ เฉนิ 4) การจัดการหลงั การเกิดภยั ในการระงับภัยพิบตั ิทเ่ี กิดขึ้นสง่ิ สาคญั ประการแรกทนั ทีท่ที ราบวา่ ภยั พิบัติกาลงั จะเกิดขึ้น หรือเพิง่ เกดิ ขึ้น จาเป็นตอ้ งจัดตง้ั ศนู ย์อานวยการเฉพาะกจิ จงั หวัด อาเภอ องค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ ตามสถานการณ์ของแต่ละพนื้ ทข่ี ้ึนมาโดยอาศัยอานาจตาม มาตรา 16 ในพระราชบัญญตั ิปูองกันและ บรรเทาสาธารณภยั พ.ศ. 2550 และในการให้ความช่วยเหลอื โดยการนาเงนิ ทดรองราชการมาใช้ตาม ระเบยี บกระทรวงการคลังวา่ ด้วยเงินทดรองราชการเพือ่ ชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภัยพิบตั กิ รณีฉกุ เฉนิ พ.ศ.2546 -24- และท่ีแก้ไขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ.2549 และดาเนนิ การประกาศเป็นพ้นื ที่ประสบภยั พิบตั ิ ตามระเบยี บ กระทรวงการคลงั ข้อที่ 16 และ 18 การอพยพหนีภัยเป็นภารกจิ สาคัญและเปน็ กลยุทธ์อนั หน่ึงท่ีเหมาะสมและมีประสิทธิผลของ การบรหิ ารจดั การความเสี่ยงต่อภยั พบิ ตั ิ โดยวธิ กี ารลดผลกระทบความรนุ แรงของภัยพบิ ตั ติ ่อชมุ ชน กล่าวคอื เป็นภารกจิ ของการเคล่ือนยา้ ยประชาชนไปในท่ปี ลอดภัย รวมถงึ การเคลือ่ นยา้ ยกลบั ไปยังพื้นท่ี
ประสบภยั ในภายหลังที่เหตุการณไ์ ดย้ ตุ แิ ละมคี วามปลอดภยั สูง การอพยพหนภี ัยทีม่ ีประสิทธิภาพ ควร ต้องมกี ารวางแผน และปฏิบัตติ ามแผนอยา่ งเคร่งครัด การอพยพหนภี ยั โดยท่ัวไปแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คือ 1) การอพยพหนภี ัยแบบทันที การอพยพหนีภยั แบบทนั ทีเป็นผลมาจากภัยพิบตั ทิ ีส่ ง่ ผล กระทบทนั ที โดยแทบจะไมม่ เี วลาเตรียมการใดๆ โดยเฉพาะการเตือนภยั ตัวอย่างเชน่ แผ่นดินไหว อุบัตเิ หตจุ ากสารเคมีและวตั ถอุ นั ตราย เป็นต้น 2) การอพยพหนภี ัยแบบมเี วลาเตือน การอพยพหนภี ยั แบบมีเวลาเตอื น เป็นผลมาจาก ภยั พบิ ตั ิทช่ี มุ ชนในพ้ืนทีเ่ สี่ยงภัยยังคงมเี วลาในการเตรียมตวั หรือเตอื นภัย ก่อนทีภ่ ัยมาถึง ตัวอย่างเช่น อทุ กภัย พายโุ ซนร้อน เป็นตน้ การอพยพหนีภัย มขี น้ั ตอน ดังต่อไปนี้ คือ 1) การตดั สินใจเพอ่ื การอพยพ 2) การเตือนภยั 3) การเคลื่อนยา้ ย 4) การหาที่พกั พิง 5) การเคลือ่ นย้ายกลับ การค้นหาและกู้ภัยเป็นภารกิจหนึง่ ในข้นั ตอนการปฏิบัติการฉุกเฉินในระหว่างวกิ ฤติ (Emergency response) ซึ่งใหค้ วามสาคัญแกก่ ารช่วยชีวติ คน และการปูองกนั ทรัพย์สินเสียหาย ในส่วน ของการกภู้ ัย (Rescue) นน้ั จะหมายถึงการชว่ ยชีวิตผู้ประสบภยั ให้รอดพน้ จากภยั พิบตั ิ ทั้งในระหวา่ งเกิด หรือหลังจากเกิดภยั พิบตั ขิ น้ึ แล้ว หลักปฏิบตั ทิ ่ีสาคัญในการคน้ หาและกภู้ ยั ไดแ้ ก่ 1) คานึงถงึ ความปลอดภยั ของผู้ปฏิบัติการกูภ้ ยั 2) คานึงถงึ ความปลอดภัยของผูป้ ระสบภัย 3) ความรวดเรว็ และประสิทธิภาพในการกู้ภัย 7. แนวคิดระบบบญั ชาการเหตกุ ารณ์หรือระบบบญั ชาการ ณ ที่เกดิ เหตุ ( Incident Command System : ICS) ระบบบัญชาการ ณ ที่เกดิ เหตุ ( ICS) เป็นเคร่ืองมอื ที่สาคญั ในการประสานการปฏิบัติการ ระหวา่ งหน่วยงานตอบโตเ้ หตฉุ กุ เฉนิ จากสารเคมี ต้งั แต่หนว่ ย ตอบโตเ้ หตุเบ้อื งต้นในท้องถ่นิ หนว่ ยงาน ระดับอาเภอ / จังหวัด จนถึงหน่วยงานส่วนกลาง เชน่ กรมควบคมุ มลพิษ กรมปอู งกันและบรรเทา สาธารณภยั เป็นตน้ หน่วยงานตอบโต้เหตุจากผู้มสี ่วนร่วมรบั ผดิ ชอบ ( Responsible Party) หรือ หนว่ ยงานตอบโต้เหตทุ ้องถนิ่ อาจเป็นหนว่ ยงานแรก ทีเ่ ข้าทาการระงับเหตุ ณ บรเิ วณท่ีเกิดเหตุ หากไม่ สามารถระงับเหตุและแปรเปลย่ี นเป็นเหตุการณ์ท่ีต้องการความช่วยเหลอื จากหลายหน่วยงานทัง้ ภายใน จังหวดั พนื้ ท่ีใกลเ้ คียงและในสว่ นกลาง หนว่ ยงานเหลา่ น้ีสามารถจัดองค์กรตอบโตเ้ หตุตามระบบ -25-
บญั ชาการ ณ ทเ่ี กดิ เหตุ ( ICS) อาจขยายขนาดข้นึ ตามความต้องการของการตอบโต้เหตุและจานวน หน่วยงานทีเ่ ขา้ มาชว่ ยเหลือ และอาจกลายเป็นการก่อตงั้ หนว่ ยบญั ชาการเหตกุ ารณ์รว่ ม ( Unified Command : UC) ซึ่งสามารถดงึ ทรพั ยากรทง้ั ภาครฐั ระดับตา่ งๆ และภาคเอกชน เข้ามาทางานรว่ มกัน ภายในระบบการตอบโตเ้ หตทุ ี่หน่วยตอบโต้เหตุเบ้ืองตน้ จดั ทาขึ้น การจดั องคก์ รตามระบบบัญชาการ ณ ที่เกิดเหตุ เปน็ การกาหนดแนวทางการดาเนินงาน ไมไ่ ดเ้ ป็นกฎระเบยี บแต่อยา่ งใด ผบู้ ัญชาการ ณ ทเี่ กดิ เหตุ ( Incident Commander : IC) หรอื หน่วย บัญชาการรว่ ม (Unified Command : UC) สาหรับแต่ละเหตุฉุกเฉินควรตระหนกั ว่า การตอบโต้เหตุ ฉกุ เฉนิ เปน็ การรวมพลังจากหลายหนว่ ยงานที่มลี กั ษณะการตอบโต้เหตหุ ลากหลายแบบ จงึ ตอ้ งมีการ กาหนดแนวทางการจดั องคก์ รและแนวทางการวางกาลังทรพั ยากรในระบบบญั ชาการ ณ ทเี่ กดิ เหตุ ใหเ้ หมาะสมตามแต่ละสถานการณเ์ พ่ือใหเ้ กิดการบริหารจดั การทรัพยากรให้เกิดประโยชนส์ ูงสดุ และการ ตอบโตเ้ หตุอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล กรอบแนวคิด กรอบแนวคดิ ในการศึกษาครง้ั น้ี อาศัยหลกั แนวคิดเกย่ี วกับนโยบายการปอู งกันและบรรเทา สาธารณภัยแหง่ ชาติ แนวคดิ การฝึกซอ้ มแผนปูองกนั และบรรเทาสาธารณภยั และแผนปูองกนั และ บรรเทาสาธารณภยั ระดบั กลมุ่ จังหวัด ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ของศูนยป์ อู งกนั และบรรเทาสา ธารณภัย เขต 1 4 อดุ รธานี และแผนปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั จากการคมนาคมและขนส่ง สานักงานปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั ที่ประสบภัย โดยสอดคล้องกบั แผนปอู งกนั และบรรเทา สาธารณภัยแห่งชาติ รว่ มกบั แนวคดิ ทฤษฎที เ่ี กย่ี วขอ้ ง ตวั แปรอสิ ระ ตวั แปรตาม ผู้จัดการฝกึ ซอ้ มแผนฯและ ความสาเรจ็ ในการฝึกซ้อมแผน ผรู้ ว่ มฝึกซ้อมแผนฯ ระดบั กลุ่มจังหวัด ปัจจัยส่วนบคุ คล 1.เพศ ภัยคมนาคมและการขนสง่ 2.อายุ 3.ระดบั การศกึ ษา ปัจจยั ที่มีผลต่อการ ดาเนินการ เช่น บทบาท หนา้ ท่ี การคดั เลือกภยั ความร่วมมอื เปน็ ตน้
บทที่ 3 วธิ ดี าเนนิ การวจิ ัย การศกึ ษาในคร้ังน้ี เปน็ การศกึ ษาเกยี่ วกบั ปัจจัยท่ีมผี ลต่อ ความสาเรจ็ ใน การฝกึ ซอ้ มแผน ปูองกันและบรรเทาสาธารณภยั ระดับกลมุ่ จงั หวัด กรณีศึกษา : การฝึกซอ้ มแผน ภยั คมนาคมและการ ขนส่ง อาเภอเมอื ง จงั หวัดหนองคาย โดยการศกึ ษาคร้งั น้ี ผู้ศกึ ษาคน้ คว้าไดด้ าเนนิ วธิ กี ารศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ ซ่ึงได้ ค้นคว้า ตามลาดับขัน้ ตอน ดังต่อไปน้ี 1. ขอบเขตและพ้ืนท่กี ารศึกษา การศกึ ษาในคร้งั นี้ เปน็ การศกึ ษาปจั จยั ทม่ี ผี ลตอ่ ความสาเรจ็ ใน การฝกึ ซอ้ มแผนปูองกัน และบรรเทาสาธารณภัย ระดบั กลุ่มจงั หวัด กรณศี ึกษา : การฝึกซ้อมแผน ภัยคมนาคมและการขนส่ง อาเภอเมอื ง จังหวดั หนองคาย ณ.จุดตัดทางรถไฟสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 1 ตาบลหนอง กอมเกาะ อาเภอเมอื งหนองคาย จงั หวดั หนองคาย เพื่อศกึ ษาถงึ ศกึ ษาถึงปัจจัยที่มผี ลตอ่ ความสาเร็จ ในการฝกึ ซอ้ มแผนอุบัติเหตทุ างถนน ของอาเภอเมอื ง จงั หวดั หนองคาย และเพื่อเปน็ แนวทางในการ พฒั นาศักยภาพในการฝึกซอ้ มแผนอย่างมปี ระสิทธภิ าพต่อไป พรอ้ มทง้ั ศึกษาถงึ ปัญหาและอปุ สรรค ต่อการ ฝกึ ซ้อมแผนอุบตั เิ หตุทางถนน อาเภอเมือง จังหวดั หนองคาย จากความเสีย่ งต่อสาธารณภัย ดังกล่าวขา้ งต้น อาจสง่ ผลกระทบต่อชวี ิตและทรัพยส์ นิ ของ ประชาชนและของรฐั ดังนั้นศนู ยป์ ูองกนั และบรรเทาสาธารณภัย เขต14 อดุ รธานี จงึ ร่วมกบั จังหวัดในเขต พนื้ ทรี่ บั ผดิ ชอบจดั ทาแผนการปูองกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวรดั ะดบั กลุ่มจังหวดั ปี พ.ศ. 2556 ขึน้ 2. ประชากรและกลุม่ ตัวอย่าง ประชากรกลุ่มตัวอยา่ งท่ีใช้ในการศกึ ษาคร้งั น้ี ได้แก่ 2.1 กลุ่มผู้จดั การฝกึ ซอ้ มแผนปูองกันและบรรเทาสาธารณภยั ระดบั กลุ่มจงั หวดั กรณีศึกษา : การฝึกซอ้ มแผนอบุ ัติเหตทุ างถนน อาเภอเมือง จังหวัดหนองคาย จานวน 10 คน คือ เจา้ หนา้ ทีศ่ ูนยป์ ูองกันและบรรเทาสาธารณภยั เขต 14 อุดรธานี (โดยใช้แบบสัมภาษณ์) 2.2 กลุ่มผรู้ ่วมฝกึ ซ้อมแผน ปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดับกลมุ่ จงั หวัด กรณศี กึ ษา : การฝกึ ซอ้ มแผนอุบตั ิเหตทุ างถนน อาเภอเมือง จงั หวัดหนองคาย จานวน 10 คน คือ เจ้าหนา้ ทขี่ องสานักงานปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองคา(ยโดยใชแ้ บบสัมภาษณ์) 3. เคร่ืองมือทีใ่ ช้ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล การศึกษาในครง้ั นเ้ี ป็นการศึกษาในเชงิ คณุ ภาพ โดยดาเนินการศกึ ษาค้นควา้ ดงั นี้
3.1 ศึกษาข้อมูลจากเอกสารต่างๆ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั การปูองกนั และบรรเทาสาธารณภัย 3.2 การสัมภาษณ์กลมุ่ ผู้จดั การฝกึ ซ้อมแผนปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดบั กลุ่ม จงั หวัด กรณีศึกษา : การฝกึ ซอ้ มแผนภยั คมนาคมและการขนส่ง อาเภอเมือง จงั หวัดหนองคาย จานวน 10 คน 3.3 การสัมภาษณ์กลุ่มผู้รว่ มฝึกซอ้ มแผน ปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดับกลมุ่ จงั หวัด กรณศี กึ ษา : การฝึกซอ้ มแผนภยั คมนาคมและการขนสง่ อาเภอเมือง จงั หวัดหนองคาย จานวน 10 คน -27- 4. การสร้างและการหาคณุ ภาพเครือ่ งมอื 4.1 สร้างแบบสัมภาษณ์ตามแนวคดิ ทฤษฎี และผลงานทเี่ กี่ยวข้องท่ไี ดจ้ ากการศกึ ษา คน้ คว้า เพื่อให้ได้คาถามครอบคลมุ ทง้ั หมด 4.2 นาแบบสัมภาษณ์ท่ีสรา้ งเสร็จแล้วเสนออาจารยท์ ีป่ รึกษาเพอื่ รบั การตรวจสอบพร้อม ทัง้ ขอคาแนะนา ซึ่งจะได้นาไปแกไ้ ขปรับปรงุ แบบสอบถามใหม้ ีความเทีย่ งตรงสมบรู ณม์ ากที่สุด กอ่ นนาไปทดลองใช้กบั กลุ่มตัวอย่างต่อไป 5. การเกบ็ รวบรวมข้อมลู ขอ้ มูลทเี่ กบ็ รวบรวมแบง่ ไดเ้ ปน็ 2 กลมุ่ คือ 5.1 ขอ้ มูลทีไ่ ดจ้ ากการสมั ภาษณก์ ล่มุ ผจู้ ดั และกลุม่ ผู้รว่ มการ ฝึกซ้อมแผนปอู งกนั และ บรรเทาสาธารณภัย ระดับกลมุ่ จังหวัด กรณศี ึกษา : การฝึกซ้อมแผนภัยคมนาคมและการขนสง่ อาเภอ เมอื ง จงั หวดั หนองคาย รวมจานวนทง้ั ส้ิน 20 คน โดยติดต่อประสานงานกับกลุ่มตวั อยา่ งทตี่ อ้ งการ สัมภาษณ์ นดั หมายวันเวลาทจ่ี ะทาการสมั ภาษณ์ แลว้ ทาการสมั ภาษณ์ตามแบบสัมภาษณ์ทไี่ ด้จัดทาไว้ 5.2 ข้อมลู ทีผ่ ู้วิจัยได้ทาการศกึ ษาค้นคว้าจากเอกสารทีเ่ กีย่ วขอ้ งการรวบรวมข้อมูลจาก หนงั สือ เอกสารเผยแพร่ของหนว่ ยงานราชการ งานวจิ ัย เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ 6. การจัดกระทากับข้อมลู ผทู้ าการศกึ ษาได้นาแบบสมั ภาษณ์ทีไ่ ด้จากการสมั ภาษณก์ ล่มุ ตวั อยา่ ง ตรวจสอบ ความถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ของข้อมูล นามาจดั ระบบและทาการวิเคราะห์ข้อมูลบรรยายเชิงพรรณนา (Descriptive Analysis) 7. การวิเคราะหข์ ้อมลู ในการศกึ ษาครงั้ น้ี ผทู้ าการศกึ ษา ไดท้ าการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ท่ไี ดม้ าจากการ ศึกษาคน้ คว้า จากเอกสารท่ีเกีย่ วขอ้ งการรวบรวมขอ้ มูลจากหนังสอื เอกสารเผยแพร่ของหน่วยงานราชการ งานวจิ ัย เอกสารอเิ ล็กทรอนกิ ส์ และใชข้ ้อมูลจากการสัมภาษณ์มาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา
บทที่ 4 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู ผลจากการศกึ ษาเรอื่ ง ปจั จยั ท่ีมีผลต่อความสาเรจ็ ในการฝกึ ซ้อมแผนปูองกันและบรรเทา สาธารณภยั ระดับกลมุ่ จงั หวัด กรณศี กึ ษา : การฝึกซ้อมแผนภยั คมนาคมและการขนส่ง อาเภอเมือง จงั หวัดหนองคาย โดยการใช้วธิ กี ารเกบ็ ข้อมูล แบบสัมภาษณ์ ในจานวนกลมุ่ ตัวอย่างทง้ั สนิ้ 20 ตัวอยา่ ง โดยแบง่ ออกเปน็ ดงั น้ี 1. กลมุ่ ผจู้ ัดการ ฝกึ ซอ้ มแผนปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภัย ระดบั กลุ่มจังหวดั กรณีศึกษา : การฝึกซอ้ มแผนภัยคมนาคมและการขนสง่ อาเภอเมือง จังหวัดหนองคาย จานวน 10 คน ประกอบดว้ ย 1.1 นายสนอง คาชมภู หวั หน้ากลุ่มงานฝึกอบรม 1.2 นายพทิ กั ษศ์ ลิ ป์ ศรีพรหม หัวหน้ากล่มุ งานสนับสนุนทรัพยากรก้ภู ยั 1.3 นายเกรยี งไกร จิตธรรม หวั หนา้ กล่มุ งานยุทธศาสตรแ์ ละการจัดการ 1.4 นายจรญู วทิ ยา วิรยิ ปยิ ะ หัวหนา้ กลมุ่ งานปอู งกันและปฏบิ ตั กิ าร 1.5 นายโอภาส บญุ เติมนิติกลุ นกั วเิ คราะห์นโยบายและแผนชานาญการ 1.6 นายปัณณวชั ญ์ ทองธริ าข พนกั งานราชการ 1.7 นายพิสิทธิ์ พรหมคาซาว ลูกจ้างประจา 1.8 นายโกวทิ ย์ โสภา เจ้าหน้าทช่ี ดุ เผชิญเหตุสถานการณฉ์ ุกเฉิน 1.9 นายโกศล โสภา เจ้าหน้าทช่ี ดุ เผชิญเหตสุ ถานการณ์ฉุกเฉิน
1.10. นางนติ ยา พันธรุ ะ เจา้ หนา้ ท่ชี ุดเผชิญเหตสุ ถานการณ์ฉุกเฉนิ 2. กล่มุ ผู้เข้ารว่ มผจู้ ดั การฝกึ ซอ้ มแผนปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดบั กลุ่มจังหวัด กรณศี ึกษา : การฝกึ ซอ้ มแผนภัยคมนาคมและการขนส่ง อาเภอเมือง จงั หวดั หนองคาย จานวน 10 คน ประกอบด้วย 2.1 นายธรนศิ เทพแพงตา หัวหน้าฝาุ ยปอู งกันและปฏิบตั กิ าร 2.2 นายปรชี ารตั น์ แจ้งอักษร หวั หนา้ กลุ่มงานยุทธศาสตรแ์ ละการจัดการ 2.3 นายภาณุพันธ์ ธนาฤกษม์ งคล หวั หนา้ ฝาุ ยสงเคราะห์ผ้ปู ระสบภยั 2.4 นางสาวอรพนิ หาญคา เจ้าหนา้ ท่ีวเิ ค ราะหน์ โยบายและแผนชานาญ 2.5 นายปฏิวตั ิ เยยี่ มเวหา เจา้ หนา้ ทีว่ เิ คราะหน์ โยบายและแผนชานาญ 2.6 นายกติ ติ ยมจนิ ดา นายชา่ งโยธาชานาญงาน 2.7 นายวฒุ ิศกั ดิ์ ธรรมดี นายชา่ งโยธาชานาญงาน 2.8 นายสรุ พล มัง่ ค่ัง เจา้ พนกั งานธรุ การชานาญงาน 2.9 นายปรีชา โพธเิ สน พนักงานขับเครอื่ งจกั รกลขนาดหนัก 2.10 นายสเุ ทพ ฉายจิตต์ พนกั งานขับเครอื่ งจกั รกลขนาดหนัก -29- ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู จากการใชแ้ บบสมั ภาษณ์ สว่ นท่ี 1 ขอ้ มูลทัว่ ไปของประชากรกลุ่มตวั อยา่ ง 1.1 ข้อมลู ท่วั ไปในภาพรวมของกล่มุ ตัวอย่างทใี่ ชแ้ บบสมั ภาษณ์ ดงั นี้ 1. เพศ ในการวเิ คราะห์ข้อมูล เพศของกลมุ่ ตัวอยา่ ง ผตู้ อบแบบสัมภาษณ์ ทง้ั กลุ่ม ผ้จู ดั การฝกึ ซอ้ มและผเู้ ขา้ รว่ มการฝึกซอ้ มแผนปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั ระดบั กลุม่ จังหวดั สรุปไดว้ า่ เป็นชาย จานวน 19 คน เปน็ หญงิ จานวน 1 คน 2. อายุ ในการวิเคราะหข์ อ้ มลู เพศของกลมุ่ ตัวอยา่ ง ผตู้ อบแบบสมั ภาษณ์ ทงั้ กลมุ่ ผจู้ ัดการฝกึ ซอ้ มและผเู้ ข้ารว่ มการฝกึ ซ้อมแผนปูองกนั และบรรเทาสาธารณภยั ระดบั กลุม่ จงั หวัด สรปุ ไดว้ า่ อายุระหว่าง 31-40 ปี จานวน 4 คน อายุระหว่าง 41-50 ปี จานวน 16 คน 3. ระดบั การศึกษา ในการวิเคราะหข์ ้อมูล เพศของกลุ่มตัวอยา่ ง ผู้ตอบแบบสมั ภาษณ์ ทั้งกลมุ่ ผจู้ ดั การฝึกซ้อมและผ้เู ข้าร่วมการฝึกซอ้ มแผนปูองกนั และบรรเทาสาธารณภยั ระดบั กลุ่มจงั หวดั สรุปไดว้ า่ ระดับการศกึ ษา ระดบั อนปุ ริญญา จานวน 5 คน ระดบั ปริญญาตรี จานวน 13 คน และ สงู กว่าปริญญาตรี จานวน 2 คน
สว่ นที่ 2 ปจั จยั ทม่ี ผี ลตอ่ ความสาเรจ็ ใน การฝึกซอ้ มแผนปูองกันและบรรเทา สาธารณภัยกรณศี ึกษา : การฝกึ ซอ้ มแผนภัยคมนาคมและการขนสง่ อาเภอเมือง จงั หวดั หนองคาย ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูลจากการใช้แบบสมั ภาษณ์ กลมุ่ ผู้จัด การฝกึ ซ้อมแผนปูองกนั และ บรรเทาสาธารณภัยระดบั กล่มุ จังหวดั 1. ทา่ นมนี โยบายในการจัดการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อยา่ งไร นายสนอง คาชมภู หวั หน้ากลมุ่ งานฝึกอบรมผู้รับผิดชอบหลกั ในการดาเนนิ การฯ ใหข้ อ้ มูลวา่ ภยั พบิ ตั ทิ ีเ่ กิดข้นึ ในปัจจบุ นั มแี นวโน้มทวคี วามซับซอ้ น และรุนแรงขึ้น ซ่ึงในแต่ละครั้งน้ัน กอ่ ให้เกิดความสูญเสียอย่างมหาศาลทั้งชวี ติ ทรพั ยส์ นิ ของประชาชนและของทางราชการ การลดความ สญู เสียใหน้ อ้ ยลงหรือไมส่ ญู เสียเลย จาเปน็ ตอ้ ง มกี ารเตรยี มพรอ้ มต้ังแต่ก่อนเกดิ เหตทุ ั้งในเร่อื งของ บคุ คลากร เครอ่ื งมืออุปกรณ์ สถานท่ีปลอดภัยหรือจดุ อพยพประชาชน และสิง่ ท่ีสาคัญอยา่ งยิ่ง คือ การฝึกซ้อมแผนปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย ในระดบั ตา่ งๆ โดยเฉพาะการฝกึ ซอ้ มแผนฯระดบั กลุ่ม จังหวัด ซง่ึ มคี วามรุนแรงระดบั สาม ตอ้ งมกี ารฝึกซ้อมแผนฯ ท่สี ามารถดาเนนิ การไดต้ ามขัน้ ตอนของแผนท่ี กาหนดไว้โดยไม่พบจดุ บกพร่อง ย่อมแสดงถงึ ความพรอ้ ม และความมีศกั ยภาพของระบบปฏิบัติการตา่ งๆ ของหน่วยปฏิบตั กิ ารในพนื้ ท่ที ่ีจะสามารถรบั มือกับสถานการณว์ ิกฤตไดอ้ ยา่ ง มีประสทิ ธิภาพ ของหนว่ ย ปฏบิ ัตกิ าร ในพื้นที่ ซึ่งทางศนู ย์ปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั เขต 14 อดุ รธานีได้จัดใหม้ กี ารฝกึ ซอ้ ม แผนเปน็ ประจาทุกปี ร่วมกับสานกั งานปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัดในเขตพนื้ ที่รบั ผดิ ชอบ โดย เลือกภัยท่จี ะฝกึ ซ้อม หรอื วิธีการ รูปแบบการฝกึ ซ้อม ตามเหตกุ ารณ์ ความถ่ขี องการเกดิ ภัยในพื้นท่ี และงบประมาณที่ได้รับ และจากการสมั ภาษณ์ นายพิทักษ์ศลิ ป์ ศลี พรหม หวั หน้ากลุ่มงาน สนบั สนุน ทรพั ยากรกภู้ ัย นายจรูญวทิ ยา วิริยะปิยะ หวั หน้ากลุ่มงานปอู งกันและปฏิบัติการ นายโอภาส บุญเติม นติ กิ ลุ เจ้าหน้าทว่ี เิ คราะหน์ โยบายและแผนชานาญการ และนางนติ ยา พันธุระ เจ้าหนา้ ท่ีชุดเผชิญเหตุ สถานการณ์ฉกุ เฉิน ใหข้ ้อมูลทีต่ รงกนั วา่ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย ไดก้ าหนดใหม้ ีการฝกึ ซอ้ มแผนการปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั ระดบั กลุม่ จังหวดั เปน็ ประจาทุกปี -30- ในพ้นื ท่เี ส่ยี งภัย เสีย่ งภยั ทวั่ ประเทศ ซง่ึ การฝกึ ซอ้ มแผนปูองกันและบรรเทาสาธารณ ภยั เป็นสง่ิ ท่ีจาเป็น ในการเตรยี มความพร้อมให้กบั ท้ังเจา้ หนา้ ท่ขี องรฐั และประชาชน ในการปูองกันและ บรรเทาสาธารณภยั การฝกึ ซอ้ มแผนฯ เป็น กจิ กรรม ในการ ฝึกฝนหรือฝึกปฏิบัติ ทัง้ กบั เจ้าหน้าที่และ ประชาชนทว่ั ไป เป็นการทดสอบความสามารถในการปฏิบัตกิ ารของเจา้ หน้าทที่ ีเ่ ก่ียวข้อง และความพร้อม ของประชาชน ตลอดจนเป็นการทดสอบ แผนทม่ี อี ยู่ของหน่วยงานหากเกิดเหตุการณข์ ้นึ จรงิ ด้วยเหตุน้ี การฝกึ ซอ้ มแผนฯ จงึ เปน็ ตัวชว่ ยในการทดสอบเตรยี มความพรอ้ มของหน่วยงานทมี่ หี นา้ ทร่ี บั ผิดชอบตาม แผนทีม่ ีอยู่ รวมท้ังเป็นการทดสอบแนวทางปฏบิ ตั ิใหป้ ระสานสอดคล้องกันอย่างมรี ะบบ และมี ประสิทธภิ าพ ขณะเดยี วกนั ยงั ทาให้ทราบถึงจุดบกพรอ่ ง และช่องวา่ งในการปฏิบัตงิ านอันนาไปสู่การ
ปรบั ปรุงแผนใหม้ คี วามสมบรู ณย์ ่งิ ขึน้ ต่อไป ส่วนนายปัณณวัชญ์ ทองธิราข พนักงานราชการ นายพิสิทธ์ิ พรหมคาซาว ลกู จ้างประจา นายโกวทิ ย์ โสภาและ นายโกศล โสภา เจ้าหนา้ ท่ชี ดุ เผชญิ เหตุ สถานการณฉ์ ุกเฉิน ได้ให้ขอ้ มลู สอดคล้องกัน ว่า ในระดบั เจา้ หนา้ ทผี่ ู้ปฏิบัติตามคาสั่งน้ันได้รบั คาสัง่ จาก หวั หนา้ กลุ่มงานฝกึ อบรมใหด้ าเนินการตามที่คณะกรรมการฯกาหนด และตามสถานการณ์สมมติ แตไ่ มไ่ ด้ รับทราบขอ้ ส่งั การหรอื นโยบายใดโดยตรงจากกรม และไดร้ ับทราบว่าจะต้องมกี ารฝกึ ซ้อมแผนทกุ ปี 2. ทา่ นมีบทบาทและกระบวนการจัดการฝึกซอ้ มแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั อย่างไร นายสนอง คาชมภู หัวหนา้ กลมุ่ งานฝกึ อบรมให้ขอ้ มลู วา่ ในกระบวนการจัดการฝึกซ้อมแผน ปูองกันและบรรเทาสาธารณภยั ระดับกลุ่มจังหวัด ในการฝึกซอ้ มแผนปูองกันและบรรเทาสาธารณภยั ใน แต่ละครง้ั จะตอ้ งผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการอานวยการ ซึ่งเปน็ หนง่ึ ในคณะกรรมการการ ฝึกซอ้ มแผนปูองกนั และบรรเทาสาธารณภยั ระดับกลมุ่ จงั หวดั ประจาปี 2556 ของศนู ย์ปอู งกันและ บรรเทาสาธารณภยั เขต 14 อดุ รธานี ซึ่งประกอบด้วย ผ้วู ่าราชการจังหวดั หนองคาย เป็นประธาน กรรมการ ผูอ้ านวยการ ศูนย์ปูองกันและบรรเทาสาธารณภยั เขต ๑๔ อุดรธานี เป็นเลขาฯและไดม้ ีการ มอบหมายภารกจิ ใหแ้ ต่ละหนว่ ยงานดาเนินการในการฝึกซ้อมแผน และรว่ มกันพจิ ารณาจากความเสี่ยงของ ภยั ในพืน้ ท่ี ความรุนแรง ความถ่ีของการเกิดภยั แนวโนม้ และปจั จัยที่จะเกิดภยั พรอ้ มทงั้ กาหนด จดุ ประสงคข์ องการฝึกซ้อมแผนฯ คอื เพอื่ ทดสอบ และประเมินความพรอ้ มของแผน เพอ่ื พฒั นาองค์ ความรู้ ทักษะการปฏบิ ตั งิ านให้มศี กั ยภาพ และประสทิ ธภิ าพของบคุ ลากร ใหร้ ู้ถงึ ขอ้ บกพร่องของแผนการ ปฏบิ ัติ รวมทั้งศักยภาพในการปฏิบัติตามแผนในด้านการจดั การ และทรพั ยากรทง้ั วสั ดุ เคร่ืองมือเครือ่ งใช้ อปุ กรณ์ตา่ งๆ และทีส่ าคัญเพ่อื ฝึกฝนให้เจ้าหน้าท่ีทราบถงึ บทบาทหน้าที่ความรับผดิ ชอบของตนอยา่ ง ชัดเจน รวมทงั้ ไดท้ บทวนองค์ความรู้ ทักษะการทางาน และพฒั นาปรับปรงุ ประสิทธิภาพในการปฏิบตั ิการ ตอ่ เหตุฉกุ เฉนิ ของแต่ละบุคคลภายใต้สถานการณ์สมมติในการฝึกซอ้ มต่าง ๆ และจะเข้าร่วมการประชมุ คณะทางานฝกึ ซอ้ มแผนฯ ทกุ คร้ัง สมั ภาษณ์ นายพทิ กั ษศ์ ิลป์ ศีลพรหม หวั หนา้ กล่มุ งานสนบั สนนุ ทรพั ยากรกภู้ ยั นายจรญู วิทยา วริ ิยะปิยะ หวั หน้ากลมุ่ งานปอู งกันและปฏิบัตกิ านรายโอภาส บญุ เติมนติ ิกุล เจ้าหน้าท่ีวเิ คราะห์นโยบายและ แผนชานาญการ เจ้าหน้าทช่ี ดุ เผชญิ เหตุสถานการณ์ฉกุ เฉนิ ใหข้ ้อมูลทค่ี ล้ายกนั วา่ ในการฝึกซ้อมแผน ปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยระดบั กลมุ่ จงั หวัด จะมีคาส่ังแตง่ ตง้ั คณะกรรมการการฝึกซอ้ มแผน ปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ระดับกลุม่ จงั หวัด โดยประกอบไปด้วย คณะกรรมการอานวยการ ซึง่ มี หน้าท่ี ในการอานวยการควบคุม กากบั ดแู ลและตดิ ตามผลการปฏบิ ัตขิ องหนว่ ยงานใหป้ ฏิบตั ติ าม แผนปฏิบัติการปอู งกนั และบรรเทาภยั ฝุายพลเรอื น กาหนดนโยบายและแนวทางปฏิบตั ิวางแผนการ -31- ดาเนนิ งานประสานการปฏิบัติและสนบั สนนุ บคุ ลากรในการฝึกซ้อมแผนปอู งกันและบรรเทา ในฐานะท่ีเปน็ หวั หนา้ กลุ่มงาน ก็ไดร้ ับการแตง่ ตัง้ ให้เป็นคณะกรรมฯ และสง่ เจา้ หนา้ ท่ี เครือ่ งมอื เครื่องจักรเข้ารว่ มการ ฝกึ ซ้อมฯ เชน่ กนั และ เมอ่ื คณะกรรมการอานวยการ การฝึกซ้อมแผนปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั
ระดบั กลมุ่ จงั หวัด กาหนดภัยที่ดาเนินการฝึกซ้อมแล้ว ซงึ่ ในปี 2556 ไดก้ าหนดใหม้ ีการฝึกซ้อมแผนภยั คมนาคมและการขนสง่ มีการกาหนดพ้นื ท่ใี นการฝึกซอ้ มแผนฯ โดยพจิ ารณาจากพื้นทเี่ ส่ียง สภาพชุมชน ในพน้ื ท่ี และองค์ประกอบด้านอ่ืนๆท่ีเกยี่ วขอ้ งและพิจารณาจากแผนฯ จากการพจิ ารณาและสภาพปจั จัย ของอาเภอเมืองหนองคาย วา่ เป็นพน้ื ทหี่ น่ึงท่ีประสบกบั ภัยคมนาคมและการขนสง่ เน่ืองจากมเี สน้ ทางการ เดินทางไปสปู่ ระเทศลาว โดยมีสะพานมิตรภาพไทย -ลาว และมโี ลจสิ ตกิ ส์ส่งสนิ ค้าไปยงั ประเทศลาว มี การคา้ เสรี ทาให้รถยนต์รถบรรทกุ จากประเทศเพอ่ื นบ้านเขา้ ยังประเทศไทยโดยเขา้ ผา่ นมายงั อาเภอเมอื ง จงั หวัดหนองคาย เส้นทางถนนมติ รภาพ เป็นผลให้มีการจราจรหนาแน่น และเกดิ อบุ ตั ิเหตุเพม่ิ มากขน้ึ จึง ได้กาหนดให้มกี ารฝึกซอ้ มแผนฯ ภยั คมนาคมและการขนสง่ ณ.จุดตัดทางรถไฟสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 1 ตาบลหนองกอมเกาะ อาเภอเมอื งหนองคาย จงั หวัดหนองคาย จากนน้ั ก็กาหนดระดบั ความ รนุ แรงของสาธารณภัย โดยพจิ ารณาจากความรนุ แรงของภัย จานวนบคุ ลากร เครือ่ งมือ อุปกรณ์ ท่ี จาเป็นตอ้ งใชใ้ นการระงบั เหตุสาธารณภยั ดงั กลา่ วท่มี ีอยู่ โดยดจู ากข้อมูลในแผนปูองกันการปูองกันและ บรรเทาภยั จากการคมนาคมและขนส่งจังหวดั หนองคายประจาปี 255 5 และแผนปอู งกันและบรรเทาสา ธารณภยั ระดบั กลมุ่ จงั หวัด ประจาปี พ.ศ. 2553-2557 ของศูนยป์ ูองกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 14 อุดรธานี จากนั้นจัด ประชุมเพ่ือพิจารณากาหนดรายละเอยี ด ข้ันตอนการฝกึ ซอ้ มแผน เชิญหน่วยงานท่ี เก่ยี วข้องทกุ หน่วยงานเข้าร่วมฝกึ ซ้อมแผนฯ แบบในทบ่ี ังคับการ( Command Post Exercise : CPX) เพอื่ เปน็ การเตรียมความพรอ้ มกอ่ นฝกึ ซอ้ มแผนแบบปฏิบตั ิจรงิ ( Field Training Exercise : FPX ) จัดเตรียมเอกสารรายละเอยี ดข้ันตอนการฝึกซ้อมแผนฯ และเอกสารอน่ื ๆ ประชาสมั พนั ธ์การฝึกซอ้ มแผน ฯ โดยประชาสัมพันธ์ทาง โทรทัศนเ์ คเบ้ิลท้องถนิ่ ปูายประชาสมั พนั ธ์ ในพื้นทีช่ ุมชนโดยรอบและพ้ืนที่ ใกล้เคียงจดุ ดาเนินการฝึกซอ้ มแผนฯ การตดิ ปาู ยประชาสมั พันธ์ตามจุดตา่ งๆทเี่ หน็ สมควร เพ่ือ ประชาสมั พนั ธ์เชญิ ชวนเขา้ รว่ มสังเกตการณ์และปูองกันการตื่นตระหนักของประชาชน และนางนิตยา พันธรุ ะ นายปัณณวชั ญ์ ทองธริ าข พนักงานราชการ นายพสิ ทิ ธิ์ พรหมคาซาว ลกู จ้างประจา นาย โกวิทย์ โสภาและ นายโกศล โสภา เจา้ หน้าท่ชี ุดเผชิญเหตสุ ถานการณฉ์ ุกเฉิน ไดใ้ หข้ ้อมูลสอดคลอ้ งกนั ว่า ในฐานะท่เี ป็นเจ้าหน้าทชี่ ุดเผชิญเหตุสถานการณ์ฉกุ เฉิน ไดร้ บั มอบหมายใหเ้ ป็น ผูแ้ สดงเข้า ชว่ ยเหลือผูป้ ระสบภัย โดยรว่ มกันกับเจา้ หนา้ ท่กี ้ภู ัยขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน และมูลนิธิ ตาม บทบาทและขน้ั ตอนท่ีกาหนด 3. จากการฝกึ ซอ้ มแผน ภยั คมนาคมและการขนสง่ ระดับกลมุ่ จงั หวดั อาเภอเมือง จังหวดั หนองคาย ในปี 2556 ท่านคิดวา่ ประสบความสาเร็จหรือไม่ เพราะอะไร นายสนอง คาชมภู หัวหน้ากลุ่มงานฝึกอบรมกล่าวว่า จากการดาเนินการฝกึ ซอ้ มแผนฯ ในครัง้ นเี้ ป็นการทดสอบเจา้ หน้าทท่ี ีมกชู้ พี กภู้ ัย ทง้ั ในระดบั อาเภอ ระดับจังหวดั ระดับกล่มุ การบญั ชาการ ณ จดุ เกดิ เหตุ โดยมี ขน้ั ตอนดาเนนิ การฝกึ ซ้อม คอื ดาเนนิ การฝกึ ซอ้ มเฉพาะหน้าท่ี (Functional Exercises :FEX) ในวันศุกร์ท่ี 15 มีนาคม 2556 ณ โรงแรมอศั วรรณ อาเภอเมอื ง หนองคาย จงั หวดั หนองคาย โดยมี นายอนสุ รณ์ แก้วกงั วาน รองอธบิ ดีกรมปูองกนั และบรรเทา สาธารณภยั เปน็ ประธานในพิธี ชว่ งเชา้ เปน็ การบรรยายให้ความรูเ้ รื่องการฝกึ ซ้อมแผนปูองกนั และบรรเทา
-32- สาธารณภัย และระบบบัญชาการเหตกุ ารณ์ ชว่ งบ่ายเป็นการบรรยายการซอ้ มแผนเฉพาะหนา้ ท่ี และ ร่วมกนั ดาเนินการฝึกซ้อมแผนเฉพาะหน้าท่ี (Functional Exercises :FEX) หลงั การฝึกซอ้ มเสร็จส้ินไดม้ ี การวจิ ารณ์ /ประเมนิ ผลการฝกึ อบรม และนาสง่ิ ทไ่ี ด้จากการฝึกซอ้ มแผนไปทาเปน็ บทบาทสมมุติ (Scenario) เพอื่ ใชใ้ นการฝึกซ้อมแผนชนดิ บนโต๊ะ( Table Top Exercise :TTX) และฝกึ ซอ้ มเต็มรปู แบบ (Full-scale Exercise :FSX) ในวันพธุ ที่ 20 มีนาคม 2556 ตอ่ ไป และเม่อื ดาเนินการฝกึ ซอ้ มชนิดบนโต๊ะ (Table Top Exercise :TTX) ในวันพุธที่ 20 มนี าคม 2556 ชว่ งเช้า ณ กองอานวยการฝกึ ซ้อมแผน บริเวณจุดตดั ทางรถไฟ ทางขึ้นสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งท่ี 1 ตาบลหนองกอมเกาะ อาเภอเมอื ง หนองคาย จังหวัดหนองคาย โดยมีหัวหนา้ ทีมปฏบิ ตั ิการตอบโตเ้ หตกุ ารณ์ของหนว่ ยงานเครือขา่ ยเขา้ รว่ ม ฝกึ ซอ้ ม จานวน 23 คน เพื่อเป็นการซักซอ้ มขน้ั ตอนและวิธกี ารปฏิบตั ิในการฝึกซอ้ มตามแผนปฏบิ ัติการ โดยมีเจา้ หน้าทีจ่ ากศูนย์ปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 14 อดุ รธานี เป็นผู้ดาเนินการฝึกซ้อม จาก การฝกึ ซอ้ มชนดิ บนโตะ๊ (Table Top Exercise :TTX) ทาใหแ้ ตล่ ะหน่วยเข้าใจในขน้ั ตอน และวิธกี าร ปฏบิ ตั ยิ ่งิ ข้ึน และพร้อมที่จะทาการฝกึ ซ้อมเต็มรปู แบบ (Full-scale Exercise :FSX) ในช่วงบา่ ยยิง่ ข้ึน โดยหนว่ ยงานเครอื ขา่ ยได้ร่วมกันปฏิบตั ิการฝกึ ซ้อมแผนตามที่ไดม้ ีการซักซ้อมกนั ตามบทบาทสมมุติ (Scenario) ตามบทที่กาหนดไว้ ดงั นี้ เกดิ เหตรุ ถแท็งคบ์ รรทกุ กรดเกลือ วงิ่ จากโรงงาน THAI AGC จงั หวัดระยอง มุง่ ส่สู ปป. ลาว ชนท้ายขบวนรถไฟ ตรงจดุ ตดั ทางรถไฟ ทางขึน้ สะพานมติ รภาพ ไทย-ลาว แหง่ ที่ 1 ทาให้พนักงาน ขบั รถไดร้ บั บาดเจบ็ สาหัสติดอยูใ่ นรถจานวน 2 ราย มผี ู้โดยสารบนรถไฟบาดเจบ็ 5 คน กรดเกลือ ประมาณ 25 กก. ไหลนองพน้ื ใตท้ อ้ งรถ ทาให้มีไอกรดฟูงุ กระจาย และมเี หตุการณ์ซ้าซ้อนคือ รถโดยสาร นานักทอ่ งเท่ยี วจากหนองคายมุ่งสู่จาก สปป.ลาว วงิ่ มาถงึ จดุ เกดิ เหตุ แล้วชนกับทา้ ยขบวนรถไฟ ทาใหม้ ี ผ้โู ดยสารเสียชีวติ ๓ ราย บาดเจ็บสาหสั 7 ราย บาดเจ็บเลก็ นอ้ ย 28 ราย จากน้นั ไดม้ รี ถบรรทกุ ขนาดเล็ก ลักลอบขนสาร ซีเซยี ม 137 จากจังหวัดอดุ รธานี ม่งุ สู่เวียงจนั ทน์ สปป.ลาว เฉ่ียวชนกับรถจักรยานยนต์ ทาใหม้ ผี บู้ าดเจบ็ 2 ราย ตรงสามแยกมิตรภาพ แล้วขับหลบหนีการติดตามของ เจา้ หน้าทต่ี ารวจ แลว้ ชน กับรถกภู้ ัยทีก่ าลงั ปฏิบัติงาน ทาใหภ้ าชนะบรรจุสารซีเซยี ม 137 หล่นกระจาย ซึ่งการดาเนินการฝึกซ้อม เป็นไปตามแผนท่ไี ด้กาหนดไวห้ น่วยงานที่เข้าร่วมการฝึกซ้อมไดร้ ว่ มกนั ปฏิบัตงิ านอยา่ งเต็มทีแ่ ละไดร้ ับ ความสนใจจากประชาชน /นกั ทอ่ งเท่ียว และผ้สู ่อื ข่าวทไี่ ด้ร่วมสงั เกตการณใ์ นการฝึกซอ้ มแผนครั้งนี้เป็น อยา่ งย่งิ จนกระท่ังการฝึกซ้อมได้เสรจ็ สิน้ กระบวนการโดยใช้เวลาในการดาเนนิ การฝกึ ซอ้ มเต็มรูปแบบ (Full-scale Exercise :FSX) ไปทงั้ ส้ิน 54 นาที จากน้นั ฝุายควบคมุ การฝกึ ซ้อม (Controller) ได้แจง้ ให้ แตล่ ะหนว่ ยตง้ั แถวเพ่ือร่วมพธิ ปี ดิ การฝึกซอ้ มแผนโดยนายวิเชยี ร ปิยะวรากร รองผวู้ ่าราชการจังหวดั หนองคาย เปน็ ประธานในพิธปี ดิ การฝึกซอ้ มแผนฯ จากน้นั ตัวแทนแต่ละหน่วยงานไดร้ ่วมกันประเมินผล การฝึกซ้อมแผนทนั ทหี ลงั จากเสร็จสนิ้ การฝกึ ( Hot Watch) เพ่ือนาส่ิงท่ไี ด้จากการฝึกซอ้ มคร้งั น้ีไป ปรับปรุงแผนฯ ตอ่ ไป
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150