กจิ กรรมการเรียนการสอน(คาบท่ี5) กระบวนการปฏิบตั ิ 1.ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูสอบถามนกั เรียนเกี่ยวกบั สญั ลกั ษณ์โดยใชป้ ระโยค - Do you know what is symbols meaning? - What is composition art? - What do you know about drawing by used symbol? 2.ขน้ั กจิ กรรม 2.1 การสงั เกต ครูอธิบายเกีย่ วกบั องคป์ ระกอบศลิ ป์ การวจิ ารณ์โดยใชอ้ งคป์ ระกอบศลิ ป์จากสญั ลกั ษณ์ 2.2 การทาตามแบบ นกั เรียนจบั คู่เพอ่ื สรา้ งผลงานจากสญั ลกั ษณ์ทางองคป์ ระกอบศิลป์ และเขยี นสานวนท่ใี ช้ ในการวจิ ารณ์ผลงานจากสญั ลกั ษณ์ 2.3 การทาโดยไม่มแี บบ นกั เรียนฝึกเขยี นสานวนการวจิ ารณ์และพดู สนทนาโดยการวจิ ารณผ์ ลงานของคู่ ตนเอง ซง่ึ นกั เรยี นปฏบิ ตั งิ านตามขนั้ ตอนทว่ี างไว้ 2.4 การฝึกใหเ้กดิ ทกั ษะ นกั เรยี นฝึกวาดรูปตามสญั ลกั ษณแ์ ละฝึกเขยี นประโยคหรอื สาวนและนาไปฝึกพูด วจิ ารณ์ผลงาน นกั เรียนปฏบิ ตั งิ านเสรจ็ ตามเวลา 3. ขน้ั สรปุ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ เน้อื หาเกยี่ วกบั ประโยคและสานวน ร่วมกนั แกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ งตามหลกั โครงสรา้ ง ภาษาของการเขยี นของนกั เรียนแต่ละคนใหถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม 4.ขน้ั ประเมนิ ผล 4.1 เครอื่ งมอื วดั ผล -ใบความรูต้ วั อยา่ งการเขยี นวจิ ารณผ์ ลงานทางองคป์ ระกอบศิลป์ 4.2 วธิ กิ ารประเมนิ ผล - สงั เกตการณ์ปฏบิ ตั ิ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรียนสามารถเขยี นสานวนการวจิ ารณผ์ ลงานทางองคป์ ระกอบศิลป์ไดแ้ ละสามารถพดู ตามขน้ั ตอนได้ ถกู ตอ้ ง ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - กจิ กรรมเสนอแนะ - พดู นาเสนอในผลงานประเภทอ่นื ๆเพอ่ื ความหลากหลายของสานวน มากข้นึ สอ่ื การเรยี นการสอน
- เอกสารอา้ งองิ - สุชาติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศลิ ป์. กรงุ เทพฯ :อจท
เน้ือหา(คาบท่ี6)
กจิ กรรมการเรยี นการสอน (คาบที่6) กจิ กรรม 3 p 1.ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูสนทนากลา่ วทกั ทายนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค How are you ? 1.3 ครูยกตวั อย่างองคป์ ระกอบศิลป์ทน่ี ่าสนใจโดยใชค้ าศพั ท์ -what is Unity meaning? - what is movement meaning? 2.ขน้ั กจิ กรรม 2.1ขน้ั นาเนอ(P1=Presentation) นกั เรียนศกึ ษาประโยคและสานวนใช่ในการสนทนาเก่ยี วกบั องคป์ ระกอบ ศิลป์ 2.2 ขนั้ ฝึก (P2=Practice) นกั เรียนฝึกอา่ นคาศพั ทแ์ ละฝึกแปลความหมายเพอ่ื สนทนาเรอ่ื งราวซง่ึ กนั 2.3ขนั้ นาไปใช้ (P=Production) นกั เรียนสามารถสนทนาโดยใชป้ ระโยคและสานวนเพ่อื สนทนา รวมถงึ รู้ ความหมายศพั ทเ์ ฉพาะทางงานศิลปกรรม นกั เรียนปฏิบตั ิงานเสร็จตามเวลา 3.ขน้ั สรปุ นกั เรยี นและครูช่วยกนั วจิ ารณ์เรื่องขององคป์ ระกอบศิลป์โดยเรียนรูจ้ ากคาศพั ทท์ ใ่ี ห้ 4. ขน้ั ประเมนิ ผล 4.1 เคร่อื งมอื วดั - แบบบนั ทกึ คะแนน 4.2 วธิ กี ารประเมนิ ผล - สงั เกตการปฏบิ ตั ิ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นสนทนาและออกเสยี งคาศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - กจิ กรรมเสนอแนะ - การแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ ของนกั เรียน ส่อื การสอน - ใบความรูเ้กีย่ วกบั งานศลิ ปกรรม หนงั สอื อา้ งองิ สุชาติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศิลป์. กรงุ เทพฯ :อจท
วิทยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญอ่ านวยวทิ ย์ สปั ดาหท์ ี่ 4 ชวั่ โมงท่ี 7-8 ท-ป-น 0-2-1 เวลา 2 ชวั่ โมง 120 นาที รหสั วิชา 20000-1211 วิชา ภาษาองั กฤษสาหรบั งานศิลปกรรม หน่วยที่ 1 ช่ือหน่วย Art criticism **************************************************************************************** รายการสอน Write a lecture in fine arts สาระสาคญั เร่ืองของการวจิ ารณ์ศลิ ปะถอื เป็นเคร่ืองมอื สาคญั ในการเปิดเผยสง่ิ ต่าง ๆทซ่ี อ่ น เรน้ อยู่ในผลงานศลิ ปะ การเรยี นรูก้ ารวจิ ารณศ์ ิลปะ จงึ เป็นหลกั สาคญั ทช่ี ่วยให้ ผูเ้รียนไดเ้ขา้ ถงึ ศิลปะโดยตรง ทฤษฎกี ารวจิ ารณศ์ ิลปะ จงึ น่าจะเป็นแนวทางการ วนิ ิจฉยั และการประเมนิ คูณค่าทางความงาม ซง่ อาจจะช่วยใหผ้ ูเ้รยี นมองเหน็ ภาพความสาคญั และประโยชนจ์ าการวจิ ารณเ์ พม่ิ มากข้นึ คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1. นกั เรียนมพี ฒั นาการทางภาษาเพม่ิ ข้นึ 2.นกั เรยี นมวี นิ ยั ในตนเอง คุณธรรมชน้ั นา ตรงต่อเวลา มคี วามรบั ผดิ ชอบ สมรรถนประจาหน่วย 11 แสดงความรูเ้กี่ยวกบั ความหมายและข่อยข่ายของงานศลิ ปกรรม จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 12 พูดอธบิ ายประเภทของศิลปะ 13 เขยี นเก่ียวกบั องคป์ ระกอบศิลป์ 14 เขยี นบรรยายเกย่ี วกบั ภาพ รูปแบบ สดั สว่ นและรายละเอยี ดของผลงานใน งานศิลปกรรม 15 แสดงพฤตกิ รรมใฝ่หาความรูห้ มนั่ ศกึ ษาเลา่ เรยี นทง้ั ทางตรงและ ทางออ้ ม 141 เขยี นอธิบายรายละเอยี ดรูปแบบ และสดั สว่ นในงานศลิ ปกรรมไดถ้ กู ตอ้ ง 142 เขยี นรายละเอยี ดของผลงานในงานศิลปกรรมไดถ้ ูกตอ้ ง 154 มคี วามเพยี รพยายามในการเรยี นและปฏบิ ตั งิ าน เน้ือหา Describe the techniques Describe about tone, color Describe about line, shape, pattern Art theory and value.
เน้ือหา คาบท่ี(7) The table shows the link between art theory and value. Art Theory Aesthetic qualities Qualitative Criteria 1.Imitationalism Aesthetics value that arises (Being real) The perceived 2.Formalism 3.Emotionlism from the verbal description value is true or realistic. 4.Instrumentalism of what is seen or perceived. Aesthetics from the analysis The values that arise from of the perception. the collision with perception. The aesthetic value of Values arising from perception through perception, interpretation of interpretation of the senses. thoughts, feelings and emotions. Aesthetics value from The value of the recognition perception or through of trust, faith, vitality. And perceptual interpretation. concentration in meaningful communication
กจิ กรรมการเรยี นการสอน (คาบท่ี7) กจิ กรรม 3 p 1.ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1.3 ครูสนทนากลา่ วทกั ทายนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.4 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค How are you ? 1.3ครูยกตวั อย่างประโยคทใ่ี ชส้ นทนาในพพิ ธิ ภณั ฑห์ รือใชว้ จิ ารณผ์ ลงานทางศลิ ปะโดยใชโ้ ยค - Who is your favorite artist? - Favorite art type? - The name of favorite work of art? 2.ขน้ั กจิ กรรม 2.1ขนั้ นาเนอ(P1=Presentation) นกั เรยี นศึกษาประโยคและสานวนใช่ในการสนทนาเพอ่ื วจิ ารณผ์ ลงานทาง ศิลปะ 2.2 ขนั้ ฝึก (P2=Practice) นกั เรียนฝึกอา่ นสานวนและคาศพั ทแ์ ละฝึกสนทนากนั เป็นคู่และนกั เรียนมีความ เพยี รพยายามในการเรียนและปฏบิ ตั ิงาน 2.3ขนั้ นาไปใช้ (P=Production) นกั เรียนสามารถสนทนาโดยใชป้ ระโยคและสานวนเพ่อื สนทนาในสถานการท่ี ตอ้ งวจิ ารณ์ผลงสนทางศิลปะร่วมกนั ได้ รวมถงึ รูค้ วามหมายศพั ทเ์ ฉพาะทางงานศิลปกรรม 3.ขน้ั สรปุ นกั เรยี นช่วยกนั วจิ ารณผ์ ลงานทางศิลปะโดยใชป้ ระโยคและคาศพั ทท์ ศ่ี ึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยกนั รวมถงึ รู้ ความหมายและเขา้ ใจในการใชค้ าศพั ท์ และบทสนทนาไดถ้ ูกตอ้ งตามขน้ั ตอน 4. ขน้ั ประเมินผล 4.1 เคร่ืองมอื วดั - แบบบนั ทกึ คะแนน 4.2 วธิ ีการประเมนิ ผล - สงั เกตการปฏบิ ตั ิ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นสนทนาและออกเสยี งคาศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - กจิ กรรมเสนอแนะ - การแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ ของนกั เรียน สอ่ื การสอน - ใบความรูเ้ก่ยี วกบั งานศิลปกรรม
หนงั สอื อา้ งองิ สชุ าติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศลิ ป์. กรงุ เทพฯ :อจท
เน้ือหา(คาบท่ี8)
กจิ กรรมการเรียนการสอน(คาบท่ี8) กระบวนการปฏิบตั ิ 1.ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูสอบถามนกั เรียนเกี่ยวกบั การพูดหรอื สนทนาเกี่ยวกบั ศิลปะ - Do you know what is emotional meaning? - What is complex in art meaning? - What do you know about art vocabulary? 2.ขน้ั กจิ กรรม 2.1 การสงั เกต ครูอธิบายเกีย่ วกบั คาศพั ทท์ ใ่ี ชอ้ ธิบายถงึ งานศลิ ปกรรม 2.2 การทาตามแบบ นกั เรียนจบั คู่เพอ่ื สรา้ งผลงานจากคาศพั ทท์ ใ่ี หแ้ ละสามารถอธบิ ายความหมายในเชงิ ศลิ ปะ 2.3 การทาโดยไม่มแี บบ นกั เรยี นฝึกเขยี นสานวนการวจิ ารณ์และพดู สนทนาโดยการวจิ ารณ์ผลงานโดยใช้ คาศพั ทด์ งั ตวั อยา่ ง 2.4 การฝึกใหเ้กดิ ทกั ษะ นกั เรยี นฝึกวาดรูปตามคาศพั ทท์ ใ่ี ชอ้ ธิบายลกั ษณะของงานศิลปะและนกั เรยี นมีความ เพยี รพยายามในการเรียนและปฏิบตั งิ าน 3. ขน้ั สรุป ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเน้อื หาเก่ียวกบั ประโยคและสานวน ในการใชอ้ ธบิ ายศลิ ปะ พูดสนทนาศิลปะใน เชงิ ต่าง ๆร่วมกนั 4.ขน้ั ประเมินผล 4.1 เครอ่ื งมอื วดั ผล -ใบความรูต้ วั อย่างการเขยี นวจิ ารณผ์ ลงานทางองคป์ ระกอบศิลป์ 4.2 วธิ กิ ารประเมนิ ผล - สงั เกตการณ์ปฏบิ ตั ิ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรียนสามารถเขยี นสานวนการวจิ ารณ์ผลงานทางองคป์ ระกอบศิลป์ไดแ้ ละสามารถพดู ตามขน้ั ตอนได้ ถกู ตอ้ ง ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - กจิ กรรมเสนอแนะ - พูดนาเสนอในผลงานประเภทอน่ื ๆเพอ่ื ความหลากหลายของสานวน มากข้นึ สอ่ื การเรยี นการสอน -
เอกสารอา้ งองิ - สุชาติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศลิ ป์. กรงุ เทพฯ :อจท
วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญอ่ านวยวิทย์ สปั ดาหท์ ี่ 5 ชวั่ โมงที่ 9-10 ท-ป-น 0-2-1 เวลา 2 ชวั่ โมง 120 นาที รหสั วชิ า 20000-1211 วชิ า ภาษาองั กฤษสาหรบั งานศลิ ปกรรม หน่วยที่ 2 ช่ือหน่วย The 10 Elements of Composition in Art ************************************************************************************ รายการสอน Elements of visual Art สาระสาคญั องคป์ ระกอบของทศั นศลิ ป์ ทศั นศิลป์เป็นศลิ ปะทม่ี ที ม่ี าและตอ้ งรบั รูจ้ ากการ มองเหน็ เป็นศลิ ปะทอ่ี าศยั พ้นื ทใ่ี นการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน จงึ ประกอบดว้ ย องคป์ ระกอบสาคญั ทเ่ี ป็นมลู ฐาน 10 ประการ ตวั อยา่ งเชน่ เสน้ รูปร่างรูปทรง ช่องวา่ ง พ้นื ผวิ มวล สี จดุ มติ ิ สดั สว่ น บรรยากาศ แสงและเงา ซง่ ในสว่ นของ เรอ่ื งทจ่ี ะเรยี นจะเป็น เรือ่ งของ จดุ เสน้ และรูปร่างรูปทรง ทจ่ี ะเนน้ ในสว่ นนน้ี และส่วนอ่นื ๆโดยภาพรวมเพอ่ื ใหน้ กั เรียนสามารถบอกความแตกต่างอย่างคร่าวๆ คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ 1. นกั เรยี นมพี ฒั นาการทางภาษาเพม่ิ ข้นึ 2.นกั เรียนมวี นิ ยั ในตนเอง คณุ ธรรมชน้ั นา ตรงต่อเวลา มคี วามรบั ผดิ ชอบ สมรรถนประจาหน่วย 21 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั สว่ นประกอบของทศั นศลิ ป์ 22 พดู อธบิ ายความหมายของมติ ิ สดั ส่วนและบรเิ วณวา่ งของงานศลิ ปกรรม 23 ยกตวั อย่างสานวนและคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั การบอกแสงเงา พ้นื ผวิ ผวิ และสใี นงาน ศิลปกรรม 24 สนทนาโตต้ อบสถานการณ์ในงานศิลปกรรม 25 แสดงพฤตกิ รรมความสนใจใฝ่รูใ้ นเร่อื งต่าง ๆ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 211 บอกลกั ษณะความหมายและความแตกต่างของส่วนประกอบของทศั นศลิ ป์ ไดถ้ กู ตอ้ ง 212 บอกความแตกต่างของสว่ นประกอบของทศั นศลิ ป์ไดถ้ กู ตอ้ ง 215 ซกั ถามปญั หาขอ้ สงสยั เน้ือหา Point and line Shape and form
เน้ือหา คาบท่(ี 9)
กจิ กรรมการเรียนการสอน(คาบที่9) กระบวนการปฏบิ ตั ิ 1.ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สขุ ภาพของนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูสอบถามนกั เรยี นเก่ียวกบั สญั ลกั ษณแ์ ละองคป์ ระกอบศลิ ป์โดยใชป้ ระโยค - How many types of element of visual art? - Could you explain about element of visual art meaning in your opinion? 2.ขน้ั กจิ กรรม 2.1 การสงั เกต ครูอธิบายเกยี่ วกบั ประโยคและสานวนใช่ในการบอกลกั ษณะและความหมายและความ แตกต่างขององคป์ ระกอบศลิ ป์ เสน้ รูปร่าง รูปทรง เป็นตน้ 2.2 การทาตามแบบ นกั เรียนจบั คู่เพอ่ื ฝึกอ่านสานวนและคาศพั ทแ์ ละฝึกสนทนากนั เป็นคู่ 2.3 การทาโดยไมม่ แี บบ นกั เรียนฝึกเขยี นสานวนการวจิ ารณ์และพดู สนทนาโดยการวจิ ารณ์ผลงานของคู่ ตนเอง ซง่ึ นกั เรียนซกั ถามปญั หาขอ้ สงสยั 2.4 การฝึกใหเ้กดิ ทกั ษะ นกั เรียนฝึกวาดรูปตามองคป์ ระกอบศิลป์ เสน้ รูปร่าง รูปทรง และฝึกเขยี นประโยค หรอื สาวนและนาไปฝึกพดู วจิ ารณผ์ ลงาน 3. ขน้ั สรปุ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเน้อื หาเกีย่ วกบั ประโยคและสานวน ร่วมกนั แกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ งตามหลกั โครงสรา้ ง ภาษาของการเขยี นของนกั เรยี นแต่ละคนใหถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม 4.ขน้ั ประเมินผล 4.1 เครื่องมอื วดั ผล -ใบความรูต้ วั อยา่ งการเขยี นวจิ ารณผ์ ลงานทางองคป์ ระกอบศิลป์ 4.2 วธิ กิ ารประเมนิ ผล - สงั เกตการณ์ปฏบิ ตั ิ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรียนสามารถสนทนาโดยใชป้ ระโยคและสานวนเพอ่ื สนทนาหรือเพอ่ื บอกและสามารถใชค้ าเช่อื มเพอ่ื อธบิ ายรูปร่างลกั ษณะไดถ้ กู ตอ้ งตามขนั้ ตอนความสมั พนั ธก์ บั วชิ าอ่นื กจิ กรรมเสนอแนะ - พูดนาเสนอในผลงานประเภทอน่ื ๆเพอ่ื ความหลากหลายของสานวน มากข้นึ ส่อื การเรียนการสอน -
เอกสารอา้ งองิ - สุชาติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศลิ ป์. กรงุ เทพฯ :อจท
เน้ือหา คาบท่(ี 10)
กจิ กรรมการเรียนการสอน (คาบท่ี7) กจิ กรรม 3 p 1.ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1.1 ครูสนทนากลา่ วทกั ทายนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สขุ ภาพของนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูยกตวั อย่างประโยคทใ่ี ชส้ นทนาในเรอ่ื งของรูปร่างและเสน้ ในการสรา้ งงานศลิ ปกรรม - What is the difference between shape and line? - How to drawing shape and line? 2.ขน้ั กจิ กรรม 2.1 ขน้ั นาเนอ(P1=Presentation) นกั เรียนศึกษาประโยคและสานวนใช่ในการสนทนาเกีย่ วกบั รูปร่างและเสน้ 2.2 ขนั้ ฝึก (P2=Practice) นกั เรยี นฝึกอ่านสานวนและคาศพั ทแ์ ละฝึกสนทนากนั ในเร่อื งของรูปร่างและเสน้ ซง่ึ นกั เรยี นซกั ถามปญั หาขอ้ สงสยั 2.3ขนั้ นาไปใช้ (P=Production) นกั เรียนสามารถสนทนาโดยใชป้ ระโยคและสานวนเพอ่ื สนทนาในสถานการท่ี ตอ้ งวจิ ารณ์ผลงสนทางศิลปะร่วมกนั ได้ รวมถงึ รูค้ วามหมายศพั ทเ์ ฉพาะทางงานศิลปกรรม 3.ขน้ั สรปุ นกั เรยี นช่วยกนั วจิ ารณ์ผลงานทางศิลปะโดยใชป้ ระโยคและคาศพั ทท์ ศ่ี กึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยกนั รวมถงึ รู้ ความหมายและเขา้ ใจในการใชค้ าศพั ท์ และบทสนทนาไดถ้ ูกตอ้ งตามขนั้ ตอน 4. ขน้ั ประเมินผล 4.1 เครอื่ งมอื วดั - แบบบนั ทกึ คะแนน 4.2 วธิ กี ารประเมนิ ผล - สงั เกตการปฏบิ ตั ิ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรียนสนทนาและออกเสยี งคาศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - กจิ กรรมเสนอแนะ - การแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ ของนกั เรยี น ส่อื การสอน - ใบความรูเ้กยี่ วกบั งานศิลปกรรม หนงั สอื อา้ งองิ - สชุ าติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศลิ ป์. กรงุ เทพฯ :อจท
วทิ ยาลยั เทคโนโลยีหาดใหญอ่ านวยวทิ ย์ สปั ดาหท์ ี่ 6 ชวั่ โมงท่ี 11-12 ท-ป-น 0-2-1 เวลา 2 ชวั่ โมง 120 นาที รหสั วิชา 20000-1211 วชิ า ภาษาองั กฤษสาหรบั งานศิลปกรรม หน่วยที่ 2 ช่ือหน่วย The 10 Elements of Composition in Art ************************************************************************************ รายการสอน Dimension/Space/Proportion สาระสาคญั มติ ิ พ้นื ท่ี และสดั ส่วน เป็นองคป์ ระกอบของทศั นศลิ ป์ทแ่ี บง่ ออกมาเป็นสามส่วนยอ่ ยทส่ี ามารถเรียนรูไ้ ด้ ในระยะเวลา 2 ชวั่ โมง และสามารถนามาเป็นส่วนหน่งึ ในกจิ กรรมร่วมกนั ได้ คือ ช่องวา่ ง มติ แิ ละ สดั สว่ น ซง่ึ ในส่วนทส่ี องเป็นองคป์ ระกอบของทศั นศลิ ป์ทส่ี าคญั ซง่ึ ตอ้ งมคี วามเขา้ ใจและสามารถบอกความหมายของศพั ทเ์ ฉพาะต่าง ๆได้ คณุ ลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ 1. นกั เรยี นมพี ฒั นาการทางภาษาเพม่ิ ข้นึ 2.นกั เรียนมวี นิ ยั ในตนเอง คุณธรรมชน้ั นา ตรงต่อเวลา มคี วามรบั ผดิ ชอบ สมรรถนประจาหน่วย 21 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั ส่วนประกอบของทศั นศิลป์ 22 พดู อธิบายความหมายของมติ ิ สดั ส่วนและบริเวณว่างของงานศลิ ปกรรม จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 23 ยกตวั อยา่ งสานวนและคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั การบอกแสงเงา พ้นื ผวิ ผวิ และสใี นงาน เน้ือหา ศลิ ปกรรม 24 สนทนาโตต้ อบสถานการณใ์ นงานศลิ ปกรรม 25 แสดงพฤตกิ รรมความสนใจใฝ่รูใ้ นเรือ่ งต่าง ๆ 221 พดู อธิบายผลงานทม่ี มี ติ ิ สดั สว่ นและบริเวณวา่ งและบอกคาศพั ทท์ างเทคนคิ ไดถ้ กู ตอ้ ง 222 พดู อธิบายคาศพั ทท์ างเทคนคิ ไดถ้ กู ตอ้ ง 252 แสวงหาประสบการณ์และคน้ หาความรูใ้ หม่ๆ Dimension and space Light and shade and color Texture and atmospheric
เน้ือหา คาบท่ี (11)
กจิ กรรมการเรยี นการสอน (คาบท่ี11) กจิ กรรม 3 p 1.ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1.5 ครูสนทนากลา่ วทกั ทายนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.6 ครูซกั ถามถงึ สขุ ภาพของนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค How are you ? 1.3 ครูยกตวั อยา่ งประโยคท่ใี ชส้ นทนาหรอื ใชว้ จิ ารณผ์ ลงานทางศิลปะโดยใชโ้ ยค - what is space and dimension meaning? - Could you explain about proportion? - Cloud you tell me a story of you draw? 2 ขน้ั กจิ กรรม 2.1ขนั้ นาเนอ(P1=Presentation) นกั เรียนศึกษาคาศพั ทท์ เ่ี ก่ียวกบั มติ พิ ้นื ทแ่ี ละสดั ส่วนของงานศิลปะ 2.2 ขน้ั ฝึก (P2=Practice) นกั เรยี นฝึกอ่านสานวนและคาศพั ทแ์ ละฝึกสนทนากนั เป็นคู่ 2.3ขนั้ นาไปใช้ (P=Production) นกั เรียนสามารถสนทนาและแปลคาศพั ทท์ เ่ี กีย่ วกบั มติ ิ พ้นื ทแ่ี ละสดั ส่วนเพอ่ื อธบิ ายช้นิ งานทต่ี นเองวาดได้ 3.ขน้ั สรุป นกั เรียนช่วยกนั สรา้ งผลงานทางศลิ ปะรวมถงึ รูค้ วามหมายและแปลคาศพั ท์ และบทสนทนาไดถ้ ูกตอ้ งตามขน้ั ตอน 4. ขน้ั ประเมินผล 4.1 เครือ่ งมอื วดั - แบบบนั ทกึ คะแนน 4.2 วธิ ีการประเมนิ ผล - สงั เกตการปฏบิ ตั ิ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรียนสนทนาและออกเสยี งคาศพั ทไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - กจิ กรรมเสนอแนะ - การแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ ของนกั เรียน สอ่ื การสอน - ใบความรูเ้ก่ียวกบั งานศิลปกรรม หนังสอื อา้ งองิ สชุ าติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศลิ ป์. กรุงเทพฯ :อจท
เน้ือหา(คาบท่ี12)
กจิ กรรมการเรียนการสอน(คาบที่12) กระบวนการปฏบิ ตั ิ 1.ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูสอบถามนกั เรยี นเก่ียวกบั องคป์ ระกอบศิลป์โดยใชป้ ระโยค - How many types of shapes? - Could you explain about 2D shape and 3D shapes? 2.ขน้ั กจิ กรรม 2.1 การสงั เกต ครูอธิบายเก่ยี วกบั ความแตกต่างขององคป์ ระกอบศิลป์ รูปร่าง รูปทรง 2มติ แิ ละ3มติ ิ 2.2 การทาตามแบบ นกั เรยี นฝึกอา่ นและแปลคาศพั ทแ์ ละทาแบบฝึกจบั คู่คาศพั ทแ์ ละรูปทรง รูปร่าง 2.3 การทาโดยไม่มแี บบ นกั เรียนฝึกเขยี นสานวนและพดู สนทนาโดยการวจิ ารณผ์ ลงานของตนเอง ซง่ึ นกั เรยี นซกั ถามปญั หาขอ้ สงสยั 2.4 การฝึกใหเ้กิดทกั ษะ นกั เรียนฝึกวาดรูปตามองคป์ ระกอบศลิ ป์ เสน้ รูปร่าง รูปทรง และฝึกเขยี นประโยค หรอื คาศพั ท์ 3. ขน้ั สรุป ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ เน้อื หาเก่ยี วกบั การบอกความหมายของรูปทรง รูปร่างแต่ละรูป 4.ขน้ั ประเมินผล 4.1 เคร่อื งมอื วดั ผล -ใบความรูต้ วั อยา่ งการเขยี นวจิ ารณ์ผลงานทางองคป์ ระกอบศลิ ป์ 4.2 วธิ ิการประเมนิ ผล - สงั เกตการณ์ปฏบิ ตั ิ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นสามารถสนทนาโดยใชป้ ระโยคและสานวนเพอ่ื สนทนาหรือเพอ่ื บอกและสามารถใชค้ าเชอ่ื มเพอ่ื อธิบายรูปร่างลกั ษณะไดถ้ กู ตอ้ งตามขนั้ ตอนความสมั พนั ธก์ บั วชิ าอน่ื กจิ กรรมเสนอแนะ - พูดนาเสนอในผลงานประเภทอ่นื ๆเพอ่ื ความหลากหลายของสานวนมากข้นึ สอ่ื การเรียนการสอน -
เอกสารอา้ งองิ - สุชาติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศลิ ป์. กรงุ เทพฯ :อจท
วิทยาลยั เทคโนโลยีหาดใหญอ่ านวยวิทย์ สปั ดาหท์ ่ี 7 ชวั่ โมงท่ี 13-14 ท-ป-น 0-2-1 เวลา 2 ชวั่ โมง 120 นาที รหสั วิชา 20000-1211 วชิ า ภาษาองั กฤษสาหรบั งานศิลปกรรม หน่วยท่ี 2 ช่ือหน่วย The 10 Elements of Composition in Art ************************************************************************************ รายการสอน Light &Spade/Texture/Color สาระสาคญั เป็นองคป์ ระกอบของทศั นศลิ ป์ทแ่ี บ่งออกมาเป็นสามสว่ นยอ่ ยทส่ี ามารถเรยี นรู้ ไดใ้ นระยะเวลา 2 ชวั่ โมง และสามารถนามาเป็นสว่ นหน่งึ ในกิจกรรมร่วมกนั ได้ แสง เงา พ้นื ผวิ และสี ซง่ึ ในส่วนทส่ี องเป็นองคป์ ระกอบของทศั นศิลป์ทส่ี าคญั ซง่ึ ตอ้ งมคี วามเขา้ ใจและสามารถบอกความหมายของศพั ทเ์ ฉพาะต่าง ๆได้ คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1.นกั เรยี นมพี ฒั นาการทางภาษาเพม่ิ ข้นึ 2.นกั เรียนมวี นิ ยั ในตนเอง คุณธรรมชน้ั นา ตรงต่อเวลา มคี วามรบั ผดิ ชอบ สมรรถนประจาหน่วย 21 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั สว่ นประกอบของทศั นศิลป์ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 22 พดู อธิบายความหมายของมติ ิ สดั สว่ นและบริเวณวา่ งของงานศิลปกรรม 23 ยกตวั อย่างสานวนและคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั การบอกแสงเงา พ้นื ผวิ ผวิ และสใี น งานศลิ ปกรรม 24 สนทนาโตต้ อบสถานการณใ์ นงานศิลปกรรม 25 แสดงพฤตกิ รรมความสนใจใฝ่รูใ้ นเรอื่ งต่าง ๆ 231 ยกตวั อย่างคาศพั ทเ์ ก่ยี วการบอกแสงและเงา พ้นื ผวิ สมั ผสั และสใี นงานของ ตนเองไดถ้ กู ตอ้ ง 232 พดู ความหมายคาศพั ทเ์ กย่ี วการบอกแสงและเงา พ้นื ผวิ สมั ผสั และสใี นงาน ของตนเองไดถ้ กู ตอ้ ง 253 มคี วามกระตอื รือรน้ ในการใฝ่หาความรู้ เน้ือหา Light and shade and color Texture and atmospheric
เน้ือหา คาบท่ี (13)
กจิ กรรมการเรยี นนการสอน (คาบท่ี13) กจิ กรรม 3p 1.ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1.1 ครูสนทนากลา่ วทกั ทายนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูยกตวั อย่างประโยคทใ่ี ชส้ นทนาเกย่ี วกบั แสงและเงาพ้นื ผวิ และสีโดยใชโ้ ยค - what is light &spade meaning? - Could you explain about texture? - What color do you like? 2ขน้ั กจิ กรรม 2.1ขนั้ นาเนอ(P1=Presentation) นกั เรียนศึกษาเกีย่ วกบั การสรา้ งแสงและเงา พรอ้ มกบั เรยี นรู้ คาศพั ทท์ ใ่ี ชเ้รียกและบอกอธบิ ายลกั ษณะของสง่ิ เหล่าน้ี 2.2 ขน้ั ฝึก (P2=Practice) นกั เรียนฝึกอา่ นสานวนและคาศพั ทแ์ ละฝึกสนทนากนั เป็นคู่ 2.3ขน้ั นาไปใช้ (P=Production) นกั เรียนสามารถสนทนาโดยใชป้ ระโยคและสานวนเพอ่ื สนทนาในการบอก ลกั ษณของการสร้ างแสงและเงาได้ 3.ขน้ั สรุป นกั เรียนช่วยกนั สรา้ งผลงานทางศลิ ปะรวมถงึ รูแ้ ละเขา้ ใจในคาศพั ท์ และบทสนทนาไดถ้ ูกตอ้ งตามขน้ั ตอน 4. ขน้ั ประเมนิ ผล 4.1 เครื่องมอื วดั - แบบบนั ทกึ คะแนน 4.2 วธิ ีการประเมนิ ผล - สงั เกตการณ์ปฏบิ ตั ิ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นสนทนาและออกเสยี งคาศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - กจิ กรรมเสนอแนะ - การแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ ของนกั เรยี น สอ่ื การสอน - ใบความรูเ้กย่ี วกบั งานศลิ ปกรรม หนงั สอื อา้ งองิ - สุชาติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศลิ ป์. กรุงเทพฯ :อจท
เน้ือหา(คาบท่ี14)
กจิ กรรมการเรยี นการสอน (คาบท่ี14) กจิ กรรม 3 p 1.ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูสนทนากลา่ วทกั ทายนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สขุ ภาพของนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3ครูยกตวั อยา่ งประโยคทใ่ี ชส้ นทนาเกี่ยวกบั แสงและเงาพ้นื ผวิ และสโี ดยใชโ้ ยค - What is texture & color meaning? - Could you explain about texture? - What color do you like? 2.ขน้ั กจิ กรรม 2.1ขนั้ นาเนอ(P1=Presentation) นกั เรียนศึกษาเกยี่ วกบั พ้นื ผวิ และสพี รอ้ มกบั เรยี นรูค้ าศพั ทท์ ใ่ี ชเ้รียกและ บอกอธบิ ายลกั ษณะของสง่ิ เหลา่ น้ี 2.2 ขน้ั ฝึก (P2=Practice) นกั เรียนฝึกอา่ นสานวนและคาศพั ทแ์ ละฝึกสนทนากนั เป็นคู่ 2.3ขนั้ นาไปใช้ (P=Production) นกั เรียนสามารถสนทนาโดยใชป้ ระโยคและสานวนเพอ่ื สนทนาในการบอก ลกั ษณของพ้นื ผวิ หรือของสไี ด้ 3.ขน้ั สรุป นกั เรียนช่วยกนั สรา้ งผลงานทางศลิ ปะรวมถงึ รูแ้ ละเขา้ ใจในคาศพั ท์ และบทสนทนาไดถ้ ูกตอ้ งตามขนั้ ตอน 4. ขน้ั ประเมินผล 4.1 เคร่อื งมอื วดั - แบบบนั ทกึ คะแนน 4.2 วธิ กี ารประเมนิ ผล - สงั เกตการณ์ปฏบิ ตั ิ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรียนสนทนาและออกเสยี งคาศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - กจิ กรรมเสนอแนะ - การแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ ของนกั เรยี น ส่อื การสอน - ใบความรูเ้ก่ยี วกบั งานศิลปกรรม หนงั สอื อา้ งองิ - สชุ าติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศิลป์. กรุงเทพฯ :อจท
วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญอ่ านวยวทิ ยศ์ ลิ ปะวจิ ารณ์ สปั ดาหท์ ่ี 8 ชวั่ โมงท่ี 15-16 ท-ป-น 0-2-1 เวลา 2 ชวั่ โมง 120 นาที รหสั วิชา 20000-1211 วชิ า ภาษาองั กฤษสาหรบั งานศลิ ปกรรม หน่วยที่ 2 ช่ือหน่วย The 10 Elements of Composition in Art *********************************************************************************** รายการสอน Conversation in the museum สาระสาคญั การพดู บทสนทนาสถานการณ์ในงานศลิ ปกรรม เป็นการยกตวั อยา่ งบทสนทนา ในเมอ่ื มกี ารเยย่ี มชมผลงานศลิ ปะในพพิ ธิ ภณั ฑ์ และสาระสาคญั ของการเรยี นรู้ คอื การสนธนาทใ่ี ชใ้ นการสนทนาและแบบสานวน คาศพั ทเ์ ฉพาะ ทน่ี ามาใชใ้ น พพิ ธิ ภณั ฑ์ คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ 1. นกั เรียนมพี ฒั นาการทางภาษาเพม่ิ ข้นึ 2.นกั เรียนมวี นิ ยั ในตนเอง คณุ ธรรมชน้ั นา ตรงต่อเวลา มคี วามรบั ผดิ ชอบ สมรรถนประจาหน่วย 21 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั ส่วนประกอบของทศั นศิลป์ จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 22 พดู อธบิ ายความหมายของมติ ิ สดั สว่ นและบรเิ วณวา่ งของงานศลิ ปกรรม 23 ยกตวั อย่างสานวนและคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั การบอกแสงเงา พ้นื ผวิ ผวิ และสใี น งานศิลปกรรม 24 สนทนาโตต้ อบสถานการณ์ในงานศลิ ปกรรม 25 แสดงพฤตกิ รรมความสนใจใฝ่รูใ้ นเรื่องต่าง ๆ 241 เขยี นบทสนทนาโตต้ อบในสถานการณ์ดา้ นงานศลิ ปกรรมไดถ้ กู ตอ้ ง 242 สนทนาโตต้ อบในสถานการณด์ า้ นงานศลิ ปกรรมไดถ้ กู ตอ้ ง 254 มคี วามร่วมมอื ในการทางานกลมุ่ ร่วมกบั ผูอ้ น่ื เน้ือหา Conversation at the museum Role play
เน้ือหา คาบท่ี(15) - Vocabulary Vocabulary Free admission ค่าชมฟรี No photography หา้ มถ่ายรูป Oil paintings ภาพวาดสนี า้ มนั Cloakroom หอ้ งฝากคลุม Watercolors ภาพวาดสนี า้ Café รา้ นกาแฟ Portraits ภาพเหมอื น Gift shop รา้ นขายของขวญั Landscapes ภาพทวิ ทศั น์ Souvenir ของทร่ี ะลกึ Sculptures รูปปน้ั Classical painting ภาพวาดแบบคลาสสกิ Ancient artifacts ของเก่า Impressionist paintings ภาพวาดแบบอิมเพลสชนั นสิ Pottery เคร่ืองปนั้ ดนิ เผา Modern art ศลิ ปะสมยั ใหม่
กจิ กรรมการเรียนการสอน(คาบท่ี15) กจิ กรรม 3p 1.ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1.1 ครูสนทนากลา่ วทกั ทายนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค How are you ? 1.3 ครูยกตวั อย่างคาศพั ทใ์ นพพิ ธิ ภณั ฑห์ รอื ใชว้ จิ ารณผ์ ลงานทางศลิ ปะโดยใชโ้ ยค - What is museum meaning? - Could you explain about Landscapes? - The latest exhibition did go to? 2.ขน้ั กจิ กรรม 2.1ขนั้ นาเนอ(P1=Presentation) นกั เรียนศึกษาประโยคและสานวนใช่ในการสนธนาเมอ่ื เยย่ี มชมพพิ ธิ ภณั ฑ์ 2.2 ขนั้ ฝึก (P2=Practice) นกั เรียนฝึกอ่านสานวนและคาศพั ทแ์ ละฝึกสนทนากนั เป็นคู่ ซง่ึ มคี วามร่วมมอื ใน การทางานกล่มุ รว่ มกบั ผูอ้ น่ื 2.3ขน้ั นาไปใช้ (P=Production) นกั เรียนสามารถสนทนาโดยใชป้ ระโยคและสานวนเพ่อื สนทนาในสถานการ เฉพาะได้ รวมถงึ รูค้ วามหมายศพั ทเ์ ฉพาะทางงานศิลปกรรม 3.ขน้ั สรปุ นกั เรียนช่วยกนั สรา้ งผลงานทางศลิ ปะรวมถงึ รูแ้ ละเขา้ ใจในคาศพั ทไ์ ดถ้ กู ตอ้ งตามขนั้ ตอน 4. ขน้ั ประเมนิ ผล 4.1 เคร่อื งมอื วดั - แบบบนั ทกึ คะแนน 4.2 วธิ กี ารประเมนิ ผล - สงั เกตการปฏบิ ตั ิ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นสนทนาและออกเสยี งคาศพั ทไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - กจิ กรรมเสนอแนะ - การแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ ของนกั เรียน ส่อื การสอน - ใบความรูเ้กี่ยวกบั งานศลิ ปกรรม หนงั สอื อา้ งองิ - สุชาติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศิลป์. กรุงเทพฯ :อจท
เน้ือหา (คาบที่16) Conversation at the museum 1. Museum พพิ ธิ ภณั ฑ์ - How much is it to get in? - Is there an admission charge? 2. Admission การรบั เขา้ ,ราคาสาหรบั เขา้ ไป - How much do they charge for admission? - The admission charge is ฿200 / The admission fee is ฿200. 3. Exhibition นิทรรศการ, งานมหกรรม - All the latest cars are on exhibition at the Motor Show. - What time do you close? - The museum’s closed on Mondays. - Can I take photographs? 4. Photograph ภาพถา่ ย, รูปถา่ ย - Would you like an audio-guide? - Are there any guide tour today? - What time dose the next guided tour start? - We have to leave our bags in the cloakroom. - Where’s the cloakroom? - Do you have a plan of the museum? - Who’s thus painting by? This museum got a very good collection of ...
กจิ กรรมการเรยี นการสอน(คาบที่16) กระบวนการปฏบิ ตั ิ 1.ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูยกตวั อย่างบทสนทนาในการสนทนาในพพิ ธิ ภณั ฑโ์ ดยใชป้ ระโยค - All the latest cars are on exhibition at the Motor Show. - What time do you close? - The museum’s closed on Mondays. 2.ขน้ั กจิ กรรม 2.1 การสงั เกต ครูอธิบายเกยี่ วกบั บทสนทนาในการวจิ ารณง์ านศิลปะรวมถงึ บทสนทนาทวั่ ไปในพพิ ธิ ภณั ฑ์ 2.2 การทาตามแบบ นกั เรยี นฝึกอ่านและแปลคาศพั ทแ์ ละทาแบบฝึกจบั คู่เพอ่ื สรา้ งบทสนทนา 2.3 การทาโดยไมม่ แี บบ นกั เรียนฝึกเขยี นสานวนและพูดสนทนาโดยการวจิ ารณผ์ ลงานในพพิ ธิ ภณั ฑ์ ซง่ึ นกั เรียนมคี วามรว่ มมอื ในการทางานกล่มุ รว่ มกบั ผูอ้ น่ื 2.4 การฝึกใหเ้กิดทกั ษะ นกั เรียนฝึกวาดรูปตามองคป์ ระกอบศลิ ป์ เสน้ รูปร่าง รูปทรง และฝึกเขยี นประโยค หรอื คาศพั ท์ 3. ขน้ั สรุป ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรา้ งเน้อื หาเกี่ยวกบั บทสนาและตรวจสอบความถูกตอ้ งของไวยกรณ์ 4.ขน้ั ประเมินผล 4.1 เคร่อื งมอื วดั ผล -ใบความรูต้ วั อยา่ งการเขยี นวจิ ารณผ์ ลงานทางองคป์ ระกอบศิลป์ 4.2 วธิ ิการประเมนิ ผล - สงั เกตการณ์ปฏบิ ตั ิ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรียนสามารถสนทนาโดยใชป้ ระโยคและสานวนเพอ่ื สนทนาหรอื เพอ่ื บอกและสามารถใชค้ าเช่อื มเพอ่ื อธบิ ายรูปร่างลกั ษณะไดถ้ ูกตอ้ งตามขน้ั ตอนความสมั พนั ธก์ บั วชิ าอน่ื กจิ กรรมเสนอแนะ - พูดนาเสนอในผลงานประเภทอน่ื ๆเพอ่ื ความหลากหลายของสานวนมากข้นึ ส่อื การเรียนการสอน - เอกสารอา้ งองิ - สชุ าติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศลิ ป์. กรงุ เทพฯ :อจท
วิทยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญอ่ านวยวิทย์ สปั ดาหท์ ี่ 9 ชวั่ โมงที่ 17-18 ท-ป-น 0-2-1 เวลา 2 ชวั่ โมง 120 นาที รหสั วิชา 20000-1211 วชิ า ภาษาองั กฤษสาหรบั งานศิลปกรรม หน่วยท่ี 2 ช่ือหน่วย The 10 Elements of Composition in Art ************************************************************************************ รายการสอน Art composition guidelines สาระสาคญั งานศลิ ปะแต่ละประเภทจะใชอ้ งคป์ ระกอบมากนอ้ ยแตกต่างกนั ไป บางครง้ั สง่ิ เหลา่ นน้ั กม็ คี วามสมสบรู ณใ์ นตวั เองเช่น คน สตั ว์ ตน้ ไม้ ภูเขา ผูส้ รา้ งงานมี ความจาเป็นตอ้ งหาอะไรมาแต่งเสริมใหเ้ปลย่ี นธรรมชาตไิ ป เช่น มคี น 3 คน การ งานสง่ิ ทส่ี มบูรณ์แลว้ น้มี าจดั ใหเ้กดิ รูปแบบข้นึ ใหมก่ เ็ พยี งแตจ่ ดั ตาแหน่งทศิ ทางท่ี ควรจะเป็น ใหไ้ ดล้ กั ษณะงานทศั นศิลป์เทา่ นนั้ นอกจากนน้ั ยงั เป็นการช่วยใหผ้ ูด้ ู เกดิ ความสขุ ใจพอใจ ความสบายตา และอารมณค์ ลอ้ ยตามข้นึ คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1. นกั เรยี นมพี ฒั นาการทางภาษาเพม่ิ ข้นึ 2.นกั เรยี นมวี นิ ยั ในตนเอง คณุ ธรรมชน้ั นา ตรงต่อเวลา มคี วามรบั ผดิ ชอบ สมรรถนประจาหน่วย 31 แสดงความรูเ้กยี่ วกบั หลกั เกณฑก์ ารจดั องคป์ ระกอบงานศลิ ปะ 32 อธบิ ายเกีย่ วกบั การปฏบิ ตั งิ าน ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั งิ านดา้ นการออกแบบงาศลิ ปะ 33 เขยี นอธบิ ายเกยี่ วกบั เอกภาพและกฎเกณฑข์ องเอกภาพ 34 สนทนาโตตอบเกย่ี วกบั บทความ และโครงสรา้ งทางทศั นศิลป์ 35 แสดงพฤตกิ รรมดา้ นการมมี นุษยส์ มั พนั ธ์ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 311 บอกหลกั เกณฑก์ ารจดั องคป์ ระกอบงานศลิ ปะไดถ้ ูกตอ้ ง 312 อธิบายหลกั เกณฑก์ ารจดั องคป์ ระกอบงานศิลปะไดถ้ กู ตอ้ ง 351 แสดงกิรยิ าทา่ ทางสุภาพ เน้ือหา 3 approaches to artistic composition Material 5 Art Material
เน้ือหา (คาบท่ี17) Principles of composition in visual arts (Composition) is to bring together the elements such as points, lines, shapes, shapes, light weight, spaces, colors, and surfaces to assemble them together until they are fit and suitable, making a piece of art that has the highest value. It includes the following criteria: - meaning of dimensions In the visual arts, it means something that makes an image shallow, deep, and thin according to reality. from sight and tangible - Dimensional components 1. dot (dot) 2. Line (line) 3. Shape 4. Shape (form) - Picture dimensions 1. Three dimensionality formed by color. 2. Three dimensionality created by light and shadow. 3. Three dimensions formed by empty spaces. 4. Three dimensions formed by covering, overlapping, or overlapping. 5. Three dimensions are formed by different sizes. 6. Three-dimensionality formed by lines and points of sight 7. Three-dimensionality formed by lines and shadows 8. Three dimensionality created by lines, colors and shadows. dimensions in shape 1. Three-dimensionality arises from the visual perception of volumetric shapes, i.e. geometric shapes, nature, freedom, with the width, length, depth or thickness of the picture. 2. Three-dimensionality arises from the perception of touching volumetric shapes, i.e. geometric shapes, nature, and freedom that are wide, long, deep or thick according to actual conditions.
กจิ กรรมการเรยี นการสอน (คาบท่ี17) กจิ กรรม 3 p 1.ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูสนทนากล่าวทกั ทายนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูยกตวั อยา่ งประโยคทใ่ี ชส้ นทนาเกย่ี วกบั องคป์ ระกอบศิลป์โดยใชโ้ ยค - What is material meaning? - Do you know about art composition? - Could you answer one of art material? 2.ขน้ั กจิ กรรม 2.1ขนั้ นาเนอ(P1=Presentation) นกั เรยี นศึกษาหลกั เกณฑก์ ารจดั องคป์ ระกอบศลิ ป์รวมถงึ คาศพั ทแ์ ละ ประโยคท่ใี ชส้ นทนาวางแผนการสรา้ งสรรคผ์ ลงานทางศิลปะร่วมกนั 2.2 ขนั้ ฝึก (P2=Practice) นกั เรียนฝึกอ่านคาอธิบายความหมายและคาศพั ทแ์ ละฝึกสนทนากนั เป็นคู่ นกั เรียน แสดงกริ ิยาทา่ ทางสภุ าพต่อกนั 2.3 ขนั้ นาไปใช้ (P=Production) นกั เรยี นสามารถสนทนาโดยใชป้ ระโยคและสานวนเพอ่ื สนทนาในการ วางแผนเพอ่ื จดั ทาผลงานตามหวั เรอ่ื ง รวมถงึ รูค้ วามหมายศพั ทเ์ ฉพาะทางงานศลิ ปกรรม 3.ขน้ั สรปุ นกั เรยี นช่วยกนั สรา้ งผลงานทางศลิ ปะรวมถงึ รูแ้ ละเขา้ ใจในคาศพั ท์ และบทสนทนาไดถ้ ูกตอ้ งตามขน้ั ตอน 4. ขน้ั ประเมนิ ผล 4.1 เครื่องมอื วดั - แบบบนั ทกึ คะแนน 4.2 วธิ ีการประเมนิ ผล - สงั เกตการปฏบิ ตั ิ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นสนทนาและออกเสยี งคาศพั ทไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - กจิ กรรมเสนอแนะ - การแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ ของนกั เรียน สอ่ื การสอน - ใบความรูเ้กยี่ วกบั งานศิลปกรรม หนงั สอื อา้ งองิ สุชาติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศลิ ป์. กรุงเทพฯ :อจท
เน้ือหา(คาบท่ี18) Visual arts composition criteria 1.Regardless of what kind of work you create, consider first how you will do it or how you will use it. For example, writing in pencil, ink, paint, molding, clay, sculpt wax, carving, or photography. In short, the design, structure or layout. 2.Components used in the creation or design of art, such as various shapes. 3.How is it organized? Consider three principles in mind: unity, focus, and equilibrium. Principles of composition in visual arts Material (สอ่ื วสั ด)ุ Materials for creating works of art which are indispensable are materials. The creator of the art should know each of the qualities. This is in order to be able to choose the appropriate use. Type Art Material 1. Natural material - Such as: Stones, soil, sand, horns, coconut residue, branches, leaves, gravel, shells, grass. 2. Synthetic material - Materials produced by scientific processes - Such as: paper, glass, plastic, foam, metal, zinc brick, nylon fabric 3. Ready made - Ready-made is the combination of two materials by inventing and creating a pattern. - Such as: doll, bottle, vase, basket - Including materials that are damaged or not working may be นายาประสาน วตั ถcุ ombined into a visual art such as paper, foam, plastic 4. Intermediate สอ่ื กลาง หรือสง่ิ ทอ่ี ยู่ระหวา่ งกลาง - This kind of medium can be combined with various components to achieve a perfect visual art such as glue. 5. Technique - There are many ways to create a work of art. In order to get the desired format, the creator of the work must use an appropriate method, which can be used in a variety of ways, such as painting, drawing, labeling, collage, bindings, bending, curling, winding, saw etc.
การจดั องคป์ ระกอบของศลิ ปะ มหี ลกั ที่ควรคานึง อยู่ 5 ประการ คือ 1. สดั ส่วน (Proportion) 2. ความสมดลุ (Balance) 3. จงั หวะลลี า (Rhythm) 4. การเนน้ (Emphasis) 5. เอกภาพ (Unity) 6.เสน้ (line)
กจิ กรรมการเรยี นการสอน(คาบท่ี12) กระบวนการปฏบิ ตั ิ 1.ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรยี นโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูสอบถามนกั เรียนเก่ียวกบั องคป์ ระกอบศิลป์และสอ่ื หรือวสั ดใุ นการสรา้ งผลงานโดยใชป้ ระโยค - How many types of shapes? - Could you explain about 2D shape and 3D shapes? - How many types of Art material? 2.ขน้ั กจิ กรรม 2.1 การสงั เกต ครูอธิบายเก่ยี วกบั เกณ์การจดั องคป์ ระกอบศิลป์ โดยใชส้ อ่ื หรือวสั ดุทางศิลปะ เช่นวสั ดุ ธรรมชาติ วสั ดุสงั เคราะห์ อ่นื ๆ 2.2 การทาตามแบบ นกั เรยี นฝึกอ่านและแปลคาศพั ทแ์ ละทาความเขา้ กบั เรื่องของหลกั เกณ์การจดั องคป์ ระกอบทางศลิ ปะ 2.3 การทาโดยไม่มแี บบ นกั เรียนฝึกเขยี นสานวนและคาศพั ท์ ซง่ึ นกั เรียนแสดงกริ ิยาท่าทางสภุ าพ 2.4 การฝึกใหเ้กิดทกั ษะ นกั เรียนฝึกวาดรูปตามองคป์ ระกอบศิลป์ เสน้ รูปร่าง รูปทรง และฝึกเขยี นประโยค หรอื คาศพั ท์ 3. ขน้ั สรุป ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ เน้อื หาเก่ยี วกบั หลกั เกณฑก์ ารจดั วางขององคป์ ระกอบทางศิลปะโดยใชว้ สั ดุตาม ประเภทต่าง ๆ 4.ขน้ั ประเมนิ ผล 4.1 เครือ่ งมอื วดั ผล -ใบความรูต้ วั อยา่ งการเขยี นวจิ ารณผ์ ลงานทางองคป์ ระกอบศลิ ป์ 4.2 วธิ ิการประเมนิ ผล - สงั เกตการณ์ปฏบิ ตั ิ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรียนสามารถสนทนาโดยใชป้ ระโยคและสานวนเพอ่ื สนทนาหรอื เพอ่ื บอกและสามารถใชค้ าเชอ่ื มเพอ่ื อธิบายรูปร่างลกั ษณะไดถ้ กู ตอ้ งตามขนั้ ตอนความสมั พนั ธก์ บั วชิ าอ่นื กจิ กรรมเสนอแนะ - พดู นาเสนอในผลงานประเภทอน่ื ๆเพอ่ื ความหลากหลายของสานวนมากข้นึ ส่อื การเรยี นการสอน -
เอกสารอา้ งองิ - สุชาติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศลิ ป์. กรงุ เทพฯ :อจท
วทิ ยาลยั เทคโนโลยีหาดใหญอ่ านวยวิทย์ สปั ดาหท์ ่ี 10 ชวั่ โมงท่ี 19-20 ท-ป-น 0-2-1 เวลา 2 ชวั่ โมง 120 นาที รหสั วิชา 20000-1211 วชิ า ภาษาองั กฤษสาหรบั งานศิลปกรรม หน่วยท่ี 2 ช่ือหน่วย The 10 Elements of Composition in Art ************************************************************************************ รายการสอน Design principles สาระสาคญั หลกั การออกแบบหรอื การจดั องคป์ ระกอบศิลปะ คอื การนาเอา เสน้ รูปทรง ค่า ของนา้ หนกั สี และพ้นื ผวิ มาจดั วางลงในทว่ี า่ ง สว่ นประกอบของการออกแบบ ไดม้ าปรากฏตวั อยู่ในทว่ี า่ ง ซง่ึ ไดก้ ลา่ วมาแลว้ ในขา้ งตน้ ในเรอ่ื งของการสรา้ งภาพ 2 มติ ิ และ 3 มติ ิ ข้นึ ในทว่ี ่างของภาพ ซง่ึ เรยี กว่าองคป์ ระกอบทางรูปธรรม และ ยงั มอี งคป์ ระกอบทางนามธรรม ซง่ึ หมายถงึ เน้อื หาสาระอกี สว่ นหน่งึ ดว้ ย และใน ทนี ้จี ะกลา่ วถงึ หลกั การออกแบบ ซง่ึ เป็นพ้นื ฐานของการสรา้ งงานศิลปะ คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ 1. นกั เรยี นมพี ฒั นาการทางภาษาเพม่ิ ข้นึ 2.นกั เรียนมวี นิ ยั ในตนเอง คุณธรรมชน้ั นา ตรงต่อเวลา มคี วามรบั ผดิ ชอบ สมรรถนประจาหน่วย 31 แสดงความรูเ้กยี่ วกบั หลกั เกณฑก์ ารจดั องคป์ ระกอบงานศลิ ปะ 32 อธบิ ายเกย่ี วกบั การปฏบิ ตั งิ าน ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านดา้ นการออกแบบงานศิลปะ 33 เขยี นอธบิ ายเกย่ี วกบั เอกภาพและกฎเกณฑข์ องเอกภาพ 34 สนทนาโตตอบเกี่ยวกบั บทความ และโครงสรา้ งทางทศั นศิลป์ 35 แสดงพฤตกิ รรมดา้ นการมมี นุษยส์ มั พนั ธ์ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 321 อธิบายเก่ยี วกบั การปฏบิ ตั ติ งิ านไดถ้ กู ตอ้ ง 322 อธบิ ายขน้ั ตอนดา้ นการออกแบบงานศลิ ปะไดถ้ ูกตอ้ ง 352 พดู จาสภุ าพ เน้ือหา Unity Emphasis Gradation design principle Proportion, Harmony
เน้ือหา(คาบท่ี19) http://www.ideazign.com/port/graphic/content0303_01.htm
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153