Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา (ระดับประถมศึกษา)

รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา (ระดับประถมศึกษา)

Published by thezeroii, 2021-08-20 04:37:17

Description: รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา (ระดับประถมศึกษา)

Search

Read the Text Version

ทางหลวงทม่ี ีเลขสามตวั คอื ทางหลวงแผน่ ดนิ สายรอง เช่น ทางหลวงแผ่นดนิ หมายเลข 202 หมายถึง ทางหลวงแผ่นดินสายรองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สายชัยภูมิ-เขมราฐ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 314 หมายถึงทางหลวงแผ่นดนิ สายรองในภาคกลางสายบางปะกง-ฉะเชิงเทรา ทางหลวงทมี่ เี ลขสตี่ วั คอื ทางหลวงแผน่ ดนิ ทเ่ี ชอื่ มระหวา่ งจงั หวดั กบั อำ� เภอ หรอื สถานทส่ี ำ� คญั ของจงั หวดั นนั้ เช่น ทางหลวงหมายเลข 4006 หมายถึงทางหลวงในภาคใตส้ ายแยกทางหลวงหมายเลข 4 (ราชกรดู -หลังสวน) ปรากฏดงั ตารางภาพ ปา้ ยทางหลวง ปา้ ยทางหลวง การแบ่งภาค ทางหลวงทข่ี น้ึ ต้นดว้ ยหมายเลข 1 แสดงว่าทางสายนั้น อยู่ในภาคเหนอื และบางส่วนของภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ทางหลวงท่ีขึ้นตน้ ด้วยหมายเลข 2 แสดงวา่ ทางสายนั้น อยใู่ นภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื และบางสว่ นของ ภาคเหนอื และภาคกลาง ทางหลวงทข่ี ึน้ ตน้ ดว้ ยหมายเลข 3 แสดงว่าทางสายนน้ั อยใู่ นภาคกลาง ภาคตะวนั ออก ภาคตะวันตก และ บางสว่ นของภาคใต้ ทางหลวงท่ีขึน้ ต้นด้วยหมายเลข 4 แสดงวา่ ทางสายน้นั อยใู่ นภาคใต้ 1. ทางหลวงแผน่ ดนิ ทางหลวงแผน่ ดิน คอื เป็นเส้นทางสารธารณะ ทางหลวงสายหลักทีเ่ ป็นโครงขา่ ยเชอ่ื มระหว่างภาค จังหวัด อ�ำเภอ ตลอดจนสถานที่ส�ำคัญ ที่กรมทางหลวงเป็นผู้ด�ำเนินการก่อสร้าง ขยาย บูรณะและบ�ำรุงรักษา และไดล้ งทะเบียนไว้เปน็ ทางหลวงแผ่นดิน จังหวัดนครศรีธรรมราช มีสายหลัก 1 สายทาง สายรอง 3 เส้นทาง ทางหลวงแผ่นดินจังหวัด 45 สายทาง โดยมที างลาดยาง 1,018.864 กิโลเมตร คอนกรีต 8.92 กโิ ลเมตร โครงข่ายทางหลวงแผน่ ดนิ (สายหลกั ) ทเี่ ข้าสู่เมืองนครศรธี รรมราช ไดแ้ ก่ 1.1 ทางหลวงชนบท 401 ตอน เขาหวั ชา้ ง - นครศรีธรรมราช ระยะทาง 83 กิโลเมตร 1.2 ทางหลวงหมายเลข 403 ตอน นครศรีธรรมราช-เสาธง-แยกสวนผัก ระยะทาง 52.3 กโิ ลเมตร 1.3 ทางหลวงหมายเลข 408 ตอน นครศรีธรรมราช - ปากระวะ ระยะทาง 71 กโิ ลเมตร 42 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดับประถมศึกษา

2. ทางหลวงชนบท ทางหลวงชนบท คือ ทางหลวงท่กี รมทางหลวงชนบทเป็นผ้ดู �ำเนนิ การกอ่ สรา้ ง ขยาย บรู ณะ และ บ�ำรุงรักษา และไดล้ งทะเบยี นไว้เปน็ ทางหลวงชนบท โครงข่ายทางหลวงชนบทของกรมทางหลวงชนบท ปี 2560 ในจังหวัดนครศรีธรรมราช จ�ำนวน 70 สาย ทาง ระยะทาง รวม 995.071 กิโลเมตร แยกเป็นถนนลาดยาง 955.398 กโิ ลเมตร ถนนคอนกรตี 16.512 กโิ ลเมตร และถนนลกู รงั 23.161 กโิ ลเมตร ระยะทางจากอ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราชไปยงั อ�ำเภอต่าง ๆ ระยะทางจากอ�ำเภอเมอื งนครศรธี รรมราชไปยงั อ�ำเภอต่าง ๆ พระพรหม 12 กโิ ลเมตร จฬุ าภรณ์ 54 กโิ ลเมตร กิโลเมตร พรหมคีรี 22 กิโลเมตร นาบอน 56 กิโลเมตร กโิ ลเมตร ลานสกา 22 กโิ ลเมตร ลชิ ล 61 กโิ ลเมตร กโิ ลเมตร เฉลิมพระเกียรติ 28 กโิ ลเมตร ชะอวด 63 กโิ ลเมตร กิโลเมตร ท่าศาลา 29 กิโลเมตร หัวไทร 71 กิโลเมตร กิโลเมตร รอ่ นพบิ ลู ย์ 32 กโิ ลเมตร ฉวาง 75 กโิ ลเมตร ปากพนงั 38 กิโลเมตร บางขนั 78 กโิ ลเมตร กโิ ลเมตร ชา้ งกลาง 40 กิโลเมตร ขนอม 100 กโิ ลเมตร เชียรใหญ่ 51 กโิ ลเมตร พิปูน 100 นบพิตำ� 52 กิโลเมตร ทงุ่ ใหญ่ 102 ท่งุ สง 53 กิโลเมตร ถ้าํ พรรณรา 108 ระยะทางจากจังหวดั นครศรธี รรมราชไปยังจงั หวัดใกลเ้ คยี ง พัทลุง 112 กิโลเมตร กระบี่ 233 ตรงั สุราษฎร์ธานี 123 กิโลเมตร พังงา 245 สงขลา 134 กิโลเมตร ภูเก็ต 336 161 กโิ ลเมตร 43เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา

การคมนาคมทางบก รถโดยสารประจ�ำทาง การเดนิ ทางขา้ มจังหวัดใช้รถบสั รถมินบิ ัส รถทวั ร์ รถตู้ รถโดยสารประจำ� ทาง (รถทัวร)์ การเดินทาง รถมนิ ิบสั การเดนิ ทางระหว่างอำ� เภอ รถสาธารณะท่ีมีบริการประชาชน ได้แก่ รถบสั รถตู้ รถสองแถว และรถท่ยี ังคงความ เปน็ เอกลักษณ์ รถสองแถวไปบ้านชะเมา อำ� เภอเมอื งใช้รถไม้ และรถสามลอ้ ในบริเวณตวั เมอื ง รถโดยสารประจ�ำทาง (รถเมล)์ 44 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา

รถสองแถว รถสามลอ้ รถไม้ 45เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา

เรือ่ งท่ี 2 การคมนาคมทางรถไฟของจังหวดั นครศรีธรรมราช ทางรถไฟสายใต้ทุกขบวน เข้าด่านแรกพื้นที่อ�ำเภอชะอวด ผ่านชุมทางเขาชุมทองอ�ำเภอร่อนพิบูบลย์ ผา่ นชุมทางทงุ่ สงเพื่อเดินทางไปทางเหนือ ได้แก่ ภาคใต้ตอนบน กรงุ เทพมหานคร และมที างรถไฟแยกจากชมุ ทาง เขาชุมทอง อ�ำเภอรอ่ นพิบลู ย์ไปยงั สถานีรถไฟจังหวัดนครศรีธรรมราช ส�ำหรับขบวนรถจากนครศรีธรรมราช ได้แก่ ขบวนรถจากนครศรีธรรมราช - กรุงเทพ และกรุงเทพ - นครศรีธรรมราช ขบวนรถธรรมดาและรถไฟสายใตท้ ีผ่ ่านชมุ ทางทุ่งสง สถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ต้ังอยู่ท่ี ถนนยมราช ต�ำบลท่าวัง อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นสถานีปลายทางท่ีแยกมาจากสถานีชุมทางเขาชุมทอง เป็นสถานีรถไฟชั้น 1 ของทาง รถไฟสายใต้ การเดินทางส�ำหรับคนจังหวัดนครศรีธรรมราช การเดินทางเดินทางมาท่องเท่ียว ในประเทศไทย จากนครศรีธรรมราช ไปจังหวัดต่าง ๆ โดยเส้นทางรถไฟ ดังน้ัน เส้นทางรถไฟเป็นทางเลือกของประชาชนใน จังหวัดนครศรีธรรมราชในการเดินทางข้ามต�ำบล ชุมชน อ�ำเภอ จังหวัดท่ีมีเส้นทางรถไฟผ่านท่ีเป็นท่ีนิยมในหมู่ ชาวบา้ นในพน้ื ที่จงั หวดั นครศรธี รรมราช สถานรี ถไฟนครศรธี รรมราช รถไฟจากนครศรีธรรมราช ไป กรงุ เทพฯ 46 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา

เรอ่ื งท่ี 3 การคมนาคมทางอากาศของจงั หวัดนครศรีธรรมราช ท่าอากาศยานจังหวดั นครศรีธรรมราช มีเทยี่ วบนิ ให้บริการ 26 เท่ียวบินต่อวัน โดยมี 3 สายการบิน คือ นกแอร์ ไทยแอรเ์ อเชยี และไทยไลออนแอร ์ ท่าอากาศยานนครศรธี รรมราช ทา่ อากาศยานนครศรธี รรมราช ทา่ อากาศยานนครศรธี รรมราช (เดมิ ) หรอื เรยี กทวั่ ไปวา่ “สนามบนิ ชะเอยี น” ตงั้ อยใู่ นคา่ ยวชริ าวธุ กองทพั ภาคท่ี 4 โดยการผลักดันของข้าราชการและพอ่ คา้ ประชาชน ในจงั หวดั ท่ีอยากใหม้ ีการบรกิ ารผู้โดยสารทางอากาศ จงึ อาศัยทา่ อากาศยานของกองทัพบกในค่ายวชริ าวธุ ซ่ึงกรมการบินพาณิชย์ปรับปรุงสนามบนิ เพ่อื ใชใ้ นเชิงพาณชิ ย์ โดยการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารและปรับปรุงทางว่ิง แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2527 ใช้เป็นท่าอากาศยานร่วมกัน ระหวา่ งทหารและพลเรอื น ขนาดทางวง่ิ 30X1,700 เมตรหลงั จากเปดิ ใหบ้ รกิ ารในปี พ.ศ. 2531 มผี ใู้ ชบ้ รกิ ารมากขนึ้ ประกอบกับพ้ืนที่โดยรอบไม่สามารถขยายได้ จึงพิจารณาเลือกพื้นท่ีใหม่ ได้แก่ บริเวณต�ำบลปากพูน อำ� เภอเมอื งนครศรีธรรมราช และก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2541 โดยประกาศเป็นสนามบิน อนญุ าต เม่อื วันท่ี 20 เมษายน 2541 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเม่ือวันท่ี 10 มิถุนายน 2543 ซึ่งในปัจจุบันท่าอากาศยาน นครศรีธรรมราช มีอัตราการเติบโตของจ�ำนวนผู้โดยสาร และจ�ำนวนเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้น กรมท่าอากาศยาน จึงไดจ้ ดั ท�ำแผนพฒั นาทา่ อากาศยานนครศรีธรรมราช เพ่อื ให้เพยี งพอตอ่ ความต้องการของผใู้ ช้บรกิ ารในปจั จบุ ัน สายการบนิ ทีใ่ ห้บริการ สายการบนิ นกแอร์ 47เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา

สายการบนิ ไทยแอร์เอเชีย สายการบินไทยไลออนแอร์ 48 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา

เรื่องที่ 4 การคมนาคมทางนำ้� ของจังหวดั นครศรีธรรมราช จงั หวดั นครศรีธรรมราชเปน็ เมอื งตดิ ต่อทางนำ�้ ในอดตี เป็นเมืองท่าท่ีส�ำคัญ เป็นเสน้ ทางการขนสง่ ทางนำ�้ ได้แก่ อ�ำเภอปากพนัง อ�ำเภอขนอม อ�ำเภอท่าศาลา ปัจจุบันมีท่าเทียบเรือใช้ในการขนส่งสินค้า มีท้ังของรัฐบาล และเอกชน ดงั นี้ ทา่ เทียบเรอื ท่ีใช้ในการขนสง่ สนิ คา้ มดี งั นี้ อำ� เภอปากพนัง ทา่ เทียบเรอื บางพระ อ.ปากพนงั เรือขา้ มฟากอำ� เภอปากพนัง ท่าเทยี บเรอื อ�ำเภอขนอม ท่าเทยี บเรือโรงไฟฟา้ ขนอม แหลมประทับอ�ำเภอขนอม เรอื ขนถ่านหินอำ� เภอทา่ ศาลา ท่าเทียบเรือเชฟรอนอำ� เภอทา่ ศาลา ท่าเทียบเรอื อำ� เภอทา่ ศาลา การเดนิ ทางของประชาชน ยงั มคี วามตอ้ งการและหลากหลายตามสภาพพนื้ ที่ พน้ื ทใ่ี ดใกลแ้ มน้ ำ้� ลำ� คลอง กย็ งั มกี ารสญั จรทางนำ�้ แตป่ จั จบุ นั ความเจรญิ ทางดา้ นเศรษฐกจิ การขนสง่ การคมนาคมมกี ารสรา้ งถนนเพมิ่ มากขน้ึ ท�ำให้ความคล่องตัวในการเดินทาง คนส่วนใหญ่ของประชาชนใช้การเดินทางทางบก ทางอากาศ และทางน้�ำ ลดล่ันกันตามล�ำดับ วิถีชีวิตเปลี่ยนไป ท�ำให้บางชุมชนที่เคยเป็นท่าเรือ ยังคงเหลือไว้เป็นท่าเรืออนุสรณ์สถาน ไมม่ ีการเดินทางทางนำ้� เดก็ รนุ่ หลานก็ตอ้ งมกี ารเรียนรู้ ว่าชุมชนใดที่ภูมหิ ลังอยา่ งไร ท�ำความเข้าใจ เรยี นรู้ วถิ ชี ีวิต ของคนในจงั หวัดนครศรธี รรมราชได้ดีย่งิ ข้ึน 49เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา

กิจกรรมหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 การคมนาคมทางบกของนครศรธี รรมราช จงตอบค�ำถามตอ่ ไปนที้ ุกข้อ 1. ให้วาดแผนที่การเดินทางจากอ�ำเภอขนอม ไปยังอ�ำเภอหัวไทร พร้อมระบุเส้นทางหมายเลข ทางหลวงหลัก …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................…………………………………………………………………………………………………………………………… …………........................…………………………………………………………………………………………………………………………… …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. 2. อธิบายและยกตัวอยา่ งการคมนาคมทางรถไฟของนครศรธี รรมราช พอเป็นสังเขป …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. 50 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมจังหวดั นครศรีธรรมราช ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม เปน็ สงิ่ ทมี่ ผี ลกระทบตอ่ ความเปน็ อยขู่ องประชาชนชาวนครศรธี รรมราช ดงั นน้ั “เราชาวนครศรธี รรมราช” ควรจะต้องเรยี นรู้สภาพทรพั ยากรป่าไมแ้ ละสัตว์ปา่ ทรัพยากรน้ำ� ทรัพยากรแร่ และทรัพยากรดินของถิน่ ของตนเอง เปน็ หน้าที่ของเราทุกคน ทีต่ อ้ งเรยี นรู้ อนรุ ักษ์ รักษาทรัพยากรไปสู่รนุ่ ลูกหลาน ได้ใช้ประโยชน์ และเป็นการกระต้นุ ในการสรา้ งจติ สำ� นึกในการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม เรือ่ งที่ 1 ทรพั ยากรป่าไมแ้ ละสตั ว์ป่าจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช มีพ้ืนท่ีทั้งจังหวัด 9,942.502 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 6,214,064 ไร่ เป็นพ้ืนท่ีป่าไม้ทั้งส้ิน 2,147.20 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,342,000 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 21.60 ของพื้นที่ท้ังจังหวัด สภาพพ้ืนท่ปี ่าของจงั หวดั นครศรธี รรมราช ประกอบดว้ ยพื้นทปี่ า่ ดังน้ี 1. เขตอุทยานแห่งชาติ ซ่ึงประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติเขาหลวง อุทยานแห่งชาติเขาปู่ – เขาย่า อุทยานแห่งชาติน้ำ� ตกโยง อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขานนั อุทยานแห่งชาตนิ �ำ้ ตกสขี่ ีด อทุ ยานแหง่ ชาติหาดขนอม –หมู่เกาะ ทะเลใต้ 1) อุทยานแห่งชาติเขาหลวง มพี น้ื ที่ 356,250 ไร่ มพี ้นื ที่ครอบคลุมอย่ใู นท้องที่ อ�ำเภอลานสกา อ�ำเภอฉวาง อำ� เภอเมือง อ�ำเภอพิปูน อำ� เภอพรหมคีรี อำ� เภอช้างกลาง และอ�ำเภอนบพิตำ� จังหวัดนครศรธี รรมราช ครอบคลุมเทือกเขานครศรีธรรมราชตอนกลาง ประกอบ ดว้ ยเทอื กเขาสงู สลบั ซบั ซอ้ นทอดยาวเหนอื จรดใตข้ นานไป กบั ชายฝง่ั ทะเลดา้ นตะวนั ออก มที รี่ าบตามหบุ เขาเลก็ นอ้ ย ดินบนภูเขาเป็นดินที่เกิดจากการผุสลายของหินแกรนิต มียอดเขาสูงสุด คือ ยอดเขาหลวงเป็นยอดเขาที่สูงท่ีสุด ในภาคใต้ สงู จากระดบั นำ้� ทะเล 1,835 เมตร เปน็ ตน้ กำ� เนดิ ของต้นนำ�้ ล�ำธารหลายสาย เชน่ แมน่ ำ�้ ตาปี แม่นำ้� ปากพนัง คลองกรุงชิง คลองเขาแก้ว คลองท่าแพ คลองระแนะ และคลองละอาย 2) อุทยานแห่งชาติเขาปู่ - เขาย่า มีพ้ืนท่ีครอบคลุม อยู่ในท้องที่ อ�ำเภอทุ่งสง อ�ำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช อ�ำเภอรัษฏา อ�ำเภอห้วยยอด อ�ำเภอเมือง อ�ำเภอนาโยง จังหวัดตรัง และอ�ำเภอศรีนครินทร์ อ�ำเภอศรีบรรพต อำ� เภอป่าพะยอม อำ� เภอกงหรา จังหวัดพทั ลงุ ตัง้ อยใู่ นบริเวณเทอื กเขาบรรทดั สลบั ซบั ซ้อนปกคลุมด้วยป่าดงดิบข้ึนเขียวสะพรั่งทุกฤดูกาล จนได้รับสมญานามว่า “ปา่ พรหมจรรย”์ สภาพภมู ปิ ระเทศเปน็ เทอื กเขาสงู ซง่ึ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของเทอื กเขาบรรทดั มีภูเขาสูงสลับซับซ้อนมากมายที่วางตัวตามแนวเหนือ - ใต้ ประกอบด้วยภูเขาบรรทัด ภูเขานครศรีธรรมราช เขาปู่ - เขาย่า เขาปา้ แหร้ เขาสามรอ้ ยยอด เขาวดั ถำ้� เขาพระยา ถ�้ำวังนายพฒุ เขาปู่ เขาย่า 51เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา

กรุงจีน เขาป่าโฮง้ มเี ขาหินแทน่ เป็นยอดเขาสงู สุด มีความสงู ประมาณ 877 เมตรจากระดบั น�้ำทะเล ในจงั หวดั ตรงั เปน็ ตน้ แมน่ ำ�้ ตรงั กำ� เนดิ ของคลองลำ� ภรู า คลองละมอ โดยในฝง่ั จงั หวดั พทั ลงุ เปน็ แหลง่ กำ� เนดิ คลองลาไม คลองไมเ้ สยี บ คลองน�้ำใส ซ่งึ จะไหลรวมเปน็ คลองชะอวดและแม่น้ำ� ปากพนงั 3) อุทยานแห่งชาติน้�ำตกโยง มีเนื้อท่ีท้ังหมดประมาณ 128,125 ไร่ หรือ 205 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นท่ีป่าในเขตต�ำบลช้างกลาง อ�ำเภอฉวาง (ปัจจุบันเปล่ียนเป็นอ�ำเภอช้างกลาง) ต�ำบลเขาแก้ว ต�ำบลลานสกา อ�ำเภอลานสกา ต�ำบลนาบอน อ�ำเภอนาบอน ต�ำบลนาหลวงเสน ต�ำบลถ้ำ� ใหญ่ อำ� เภอทุ่งสง และ ตำ� บลหนิ ตก ตำ� บลร่อนพบิ ูลย์ อำ� เภอรอ่ นพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีสภาพปา่ ท่สี มบรู ณ์ประกอบด้วยทวิ ทัศน์ และน้�ำตกที่สวยงามหลายแห่งด้วยกัน เช่น ยอดเขาเหมน ยอดเขารามโรม น�้ำตกโยง น�้ำตกปลิว น�้ำตกคลองจัง น�ำ้ ตกหนานเตย น�ำ้ ตกหนานปลิว น�้ำตกหนานตากผา้ น�้ำตกหนานโจน น�้ำตกคูหาสวรรค์ 4) อุทยานแห่งชาติเขานัน มีเน้ือที่ ประมาณ 256,121 ไร่ หรือ 409.79 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพ้ืนที่ อ�ำเภอนบพิต�ำ อ�ำเภอท่าศาลา และอ�ำเภอสิชล มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงทอดยาว ตามแนวเหนอื -ใต้ สลบั ซบั ซอ้ น โดยเปน็ สว่ นหนง่ึ ของเทอื กเขานครศรธี รรมราช สภาพปา่ เปน็ ปา่ ดงดบิ ชน้ื ทอ่ี ดุ มสมบรู ณ์ เปน็ แหล่งต้นนำ�้ ลำ� ธารที่สำ� คญั ของ จงั หวัดนครศรีธรรมราช และประกอบไปด้วย พนั ธุ์ไมท้ ีส่ ำ� คญั และมคี า่ มจี ุดเดน่ ทางธรรมชาติ ทสี่ วยงามหลายแห่ง เช่น น�ำ้ ตกสุนันทา (น้ำ� ตกเขาบัน) น�้ำตกกรุงนาง น้ำ� ตกคลองเผียน น้�ำถ�ำ้ กรุงนาง นำ้� ตกเขาได เป็นต้น โดยมียอดสงู ท่สี ดุ คอื ยอดเขาใหญ่ โดยสูงประมาณ1,438 เมตร จากระดบั นำ้� ทะเล 5) อุทยานแห่งชาติน้�ำตกส่ีขีด มีพื้นที่ประมาณ 90,625 ไร่ หรือ 145 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ ในแนวทวิ เขานครศรธี รรมราชทสี่ งู ชนั สลบั ซบั ซอ้ น ในเขตอำ� เภอสชิ ล จงั หวดั นครศรธี รรมราช และอำ� เภอกาญจนดษิ ฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเทือกเขาแนวแบ่งเขตจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีแนวเขาวางตัว ในแนว ทศิ เหนอื -ใต้ เปน็ แนวยาวขนานกบั ฝง่ั ทะเล ตะวนั ออก ตอนกลาง เปน็ เทอื กเขาทสี่ งู ชนั สลบั ซบั ซอ้ นมลี กั ษณะ เปน็ สันปนั น้�ำ โดยลาดต�่ำไปทางตะวนั ออกและทางตะวนั ตก ทรี่ าบสว่ นใหญอ่ ยทู่ างตะวันออก พืน้ ท่ีน้ี มยี อดเขาท่ีสงู ทสี่ ุด คอื ยอดเขาคีโหมด สูง 1,303 เมตร ยอดเขาอ่ืน ๆ เช่น ยอดเขานาง สูง 881 เมตร ยอดเขาวังพงุ สงู 600 เมตร ยอดเขาปลายครามสงู 599 เมตร ยอดเขาขนุ หว้ ยแกว้ สงู 582 เมตร ความสงู ของพน้ื ท่จี ากระดบั น�ำ้ ทะเลปานกลาง โดยเฉลย่ี ประมาณ 700 เมตร มีหบุ เขาทีเ่ ป็นแหลง่ กำ� เนิดของลำ� ห้วยต่าง ๆ มากมาย ซง่ึ ทำ� ให้เกดิ แอง่ น้ำ� และน�ำ้ ตก เป็นชัน้ ๆ ต่อเน่ืองกันเป็นล�ำดบั มีเขาบางลกู เป็นภเู ขาหนิ ปนู จงึ เกดิ ถ�ำ้ ที่สวยงามนา่ พศิ วง มากมายหลายแห่ง เช่น ถ้ำ� เขาพับผ้า ถ้ำ� สวนปราง เปน็ ต้น 6) อุทยานแหง่ ชาติหาดขนอม – หมูเ่ กาะทะเลใต้ เปน็ อทุ ยานแห่งชาตทิ างทะเล อยูใ่ นเขตพ้นื ท่ี จังหวัดนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี ประกอบด้วยพ้ืนที่ทางบกและทางทะเลรวมกัน มีเน้ือท่ี ประมาณ 197,500 ไร่ หรอื ประมาณ 316 ตารางกิโลเมตร เปน็ พ้นื ทท่ี างบกประมาณ 116.74 ตารางกิโลเมตร หรอื 36.94% และเปน็ พน้ื นำ้� ประมาณ 199.26 ตารางกโิ ลเมตร หรอื 63.06% พื้นท่ีทางบกประกอบด้วย แนวเทือกเขา น้อยใหญ่ สลับซับซ้อนทอดตัวจากทิศเหนือสู่ทิศใต้มีพ้ืนที่ราบผืนใหญ่ เชิงภูเขาเปิดสู่ฝั่งทะเล ด้านอ่าวไทย มียอดเขาหลวง เป็นจุดสูงที่สุดประมาณ 814 เมตรจากระดับน้�ำทะเล ส่วนพ้ืนที่ทางทะเลประกอบด้วยเกาะ จ�ำนวน 11 เกาะ ได้แก่ เกาะแตน เกาะราบ เกาะมัดโกง เกาะมดั แตง เกาะวงั นอก เกาะวงั ใน เกาะมัดสุ่ม เกาะราใหญ่ เกาะทำ� ไร่ เกาะผี และเกาะนอ้ ย 52 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา

อทุ ยานแหง่ ชาตหิ าดขนอม - หมู่เกาะทะเลใต้ 2. ปา่ สงวนแหง่ ชาติ จ�ำนวน 69 ป่า เดมิ มเี นอ้ื ท่รี วม 1,925,663 ไร่ ได้มอบเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 ให้กับประชาชนเข้าท�ำประโยชน์ จ�ำนวน 471,210 ไร่ และตัดพ้ืนท่ีทับซ้อนเขตอุทยานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 638,528 ไร่ คงเหลอื พน้ื ท่ี 815,931 ไร่ 3. เขตรักษาพันธ์สุ ตั ว์ปา่ และเขตหา้ มล่าพันธุ์สัตว์ปา่ 1) เขตรกั ษาพนั ธส์ุ ตั วป์ า่ กะทนู พนื้ ท่ี62,800ไร่ตง้ั อยตู่ ำ� บลกระทนู อำ� เภอพปิ นู จงั หวดั นครศรธี รรมราช 2) เขตห้ามล่าสัตว์ป่าแหลมตะลุมพุก พ้ืนที่ 35,456 ไร่ พื้นที่ป่าแหลมตะลุมพุก ป่าชายเลน ปากพนงั ตะวันออก อ�ำเภอปากพนงั จังหวดั นครศรธี รรมราช 3) เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ่อล้อ พ้ืนท่ี 62,599 ไร่ ท้องที่ต�ำบลสวนหลวง ต�ำบลทางพูน อ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติ ต�ำบลแม่เจ้าอยู่หัว ต�ำบลการะเกด อ�ำเภอเชียรใหญ่ ต�ำบลบ้านตูล ต�ำบลชะอวด อำ� เภอชะอวด ตำ� บลควนพัง อ�ำเภอร่อนพบิ ลู ย์ จังหวดั นครศรีธรรมราช 4) เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย พื้นที่ 150,000 ไร่ ท้องท่ีต�ำบลการะเกด เภอเชียรใหญ่ ตำ� บลขอนหาดหาด อำ� เภอชะอวด ตำ� บลแหลม ต�ำบลควนชลิก อำ� เภอหัวไทร จงั หวดั นครศรีธรรมราช การจ�ำแนกพนื้ ท่ีป่าในจงั หวดั นครศรธี รรมราช แบ่งออกเป็น 4 ชนดิ ไดแ้ ก่ 1. ป่าดงดบิ 2. ปา่ ชายเลน 3. ปา่ พรุ และ 4. ปา่ ชายหาด 1. ป่าดงดิบ เปน็ ปา่ รกทบึ มคี วามลากหลายทางชวี ภาพสงู ประกอบไปดว้ ยพนั ธไ์ุ มแ้ ละสตั วป์ า่ ชนดิ ตา่ งๆ มากมาย ปา่ ดงดบิ 1) ปา่ ดิบช้ืน มพี นั ธ์ุไม้ที่มีค่าและมีขนาดใหญ่อยู่เปน็ จ�ำนวนมาก เชน่ ยาง หลมุ พอ ตะเคียนทอง ไข่เขียว ตะเคียนทราย สยาขาว กระบากด�ำ พนั จา่ หลมุ พอ เอยี น เสยี ดช่อ จำ� ปา นาคบตุ ร เลอื ดนก ขนุนปาน พกิ ุลปา่ กอ่ รักเขา กระทอ้ น สะตอ เหรียง เขียด อบเชบ ฯลฯ พืชพื้นล่างมจี �ำพวกเฟินตน้ ชนิดต่าง ๆ เต้ารา้ งยักษ์ หวาย ไผ่เกรียบ ก้ามกุ้ง พืชตระกูลขิงข่า ไม้เลื้อย และเถาวัลย์ขึ้นเกาะตามไม้ใหญ่มากมายพืชท่ีพบ (สภาพป่า แตล่ ะอทุ ยานจะมคี วามคลา้ ยคลงึ กนั ความโดดเดน่ อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขานนั จะมไี ม้ “ไมป้ ระ” ทปี่ ระชาชนนยิ มนำ� เมลด็ มารบั ประทาน) และมหาสดำ� เปน็ พืชประจ�ำถิน่ ของอทุ ยานเขาหลวง 53เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา

2) ป่าดบิ เขา เปน็ ป่าทีม่ ีความโปรง่ กวา่ ปา่ ดิบช้ืนอยู่ในระดับความสูง 800 เมตรขนึ้ ไป เนื่องจากมี ตน้ ไมใ้ หญข่ ึ้นอยนู่ ้อย พันธุ์ไมเ้ ดน่ ไดแ้ ก่ ก่อตาหมู ก่อนก กอ่ เดอื ย ก่อแป้น พชื พ้นื ลา่ งทีพ่ บได้แก่ มังเส เฟนิ มอส กลว้ ยไมด้ นิ เปน็ ต้น 3) ปา่ ดบิ แลง้ พบบรเิ วณไหลเ่ ขาตามรอ่ งนำ้� ทมี่ เี นอ้ื ดนิ เปน็ ชนั้ บางของปา่ เขาทอ้ งโหนด ปา่ เขาชยั สน และตามเกาะตา่ ง ๆ พนั ธ์ุไม้ท่ีสำ� คญั ได้แก่ ตะเคียนหนิ พลองใบใหญ่ หวั คา่ ง จิกเขา ชะมัง และขแ้ี รด ฯลฯ 4) ป่าเขาหินปูน บริเวณเขาหินปูนท่ีมีชั้นดินน้อยมากยากต่อการเจริญเติบโตของ พันธุ์ไม้ชนิด ต่าง ๆ ส�ำหรับพืชที่พบเป็นพวกแป้งและว่านสบู่ด�ำ พืชส�ำคัญ ได้แก่ จันทน์ผา เป้ง สลัดได พลับพลึง บุก เขียด และยอป่า จะพบในอทุ ยานแห่งชาตหิ าดขนอม – หม่เู กาะทะเลใต้ 2. ปา่ ชายเลน จงั หวดั นครศรธี รรมราชมพี นื้ ทปี่ า่ ชายเลนทง้ั หมด 149,748.78 ไร่ อยใู่ นความรบั ผดิ ชอบของทรพั ยากร ทางทะเลและชายฝั่ง ท้ังหมด 108,212.26 ไร่ กระจายในพ้ืนท่ีเขตอ�ำเภอขนอม อ�ำเภอสิชล อ�ำเภอท่าศาลา อ�ำเภอปากพนัง และอ�ำเภอเมือง การส�ำรวจความ ห ล า ก ห ล า ย ข อ ง สั ง ค ม พื ช ใ น ป ่ า ช า ย เ ล น ใ น บ ริ เ ว ณ ตำ� บลปากนคร ตำ� บลปากพนู ต�ำบลท่าไร่ และต�ำบลท่าซัก อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ต�ำบลแหลมตะลุมพุก ต�ำบลคลองน้อย ต�ำบลปากพนังฝั่งตะวันตก และ ต�ำบลปากพนังฝั่งตะวันออก อ�ำเภอปากพนัง พบพันธุ์ไม้ ทงั้ หมด จำ� นวน 19 ชนดิ ชนดิ พนั ธท์ุ พ่ี บมากทสี่ ดุ คอื โกงกาง ใบเลก็ รองลงมา คอื แสมทะเล ถว่ั ขาว ตะบนู ลำ� พู ลำ� แพน ถวั่ ด�ำ ถ่ัวขาว ฯลฯ ปา่ ชายเลน 3. ปา่ พรุ “ป่าพรุ” เป็นป่าดิบช้ืน มีน้�ำท่วมขัง เป็นแหล่งสร้างความอุดม สมบูรณ์ให้กับธรรมชาติ และความหลากหลายทางชวี ภาพใหก้ บั ระบบนเิ วศ เนอ่ื งจากในดนิ มกี ารสะสมของซากพชื ซากสตั ว์ เศษซากของตน้ ไม้ ใบไมท้ ท่ี บั ถม และยอ่ ยสลายอยา่ งชา้ ๆ กลายเปน็ “ดนิ พที ” หรอื ดนิ อนิ ทรยี ท์ ม่ี ลี กั ษณะหยนุ่ ยวบเหมอื นฟองนำ้� ทม่ี คี วาม หนาแน่นน้อย อุ้มน้�ำได้มาก ลักษณะดังกล่าวถือเป็น ประโยชนท์ สี่ ามารถปอ้ งกนั การเกดิ ไฟไหมป้ า่ ไดม้ าก ปา่ พรุ ในพนื้ ทจ่ี งั หวดั นครศรธี รรมราช ชอื่ วา่ “ปา่ พรุ ควนเครง็ ” ป่าพรุควนเคร็ง ครอบคลุมพ้ืนที่ในเขตอ�ำเภอเชียรใหญ่ อ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติ อ�ำเภอร่อนพิบูลย์ อ�ำเภอชะอวด และอ�ำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตรอยต่อ ระหว่างลุ่มน้�ำปากพนังและลุ่มน้�ำทะเลสาบ สงขลา ป่าพรุควนเคร็ง ครอบคลมุ พนื้ ทก่ี ว่า 1 แสนไร่ แต่ถา้ รวมพืน้ ที่ ระดบั ภูมิทศั น์แล้ว พรุควนเครง็ มีพนื้ ทีก่ ว่า 4 แสนไร่ ซง่ึ เปน็ อันดบั สอง รองจากพรุโต๊ะแดง จังหวัดนราธิวาส สภาพทั่วไปเป็นพ้ืนท่ีซึ่งฟื้นสภาพจากพื้นที่พรุ ท่ีถูกคุกคามด้วยไฟป่า 54 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดับประถมศึกษา

และการบกุ รกุ พรรณไมด้ งั้ เดมิ ถกู ทดแทนดว้ ยไมเ้ สมด็ ขาว และไมพ้ น้ื ลา่ งกระจดู กก ปรอื เปน็ แหลง่ กกั เกบ็ คารบ์ อน ที่ส�ำคัญในชนั้ พรุ ทอ่ี ินทรยี วตั ถุยังไมส่ ลายตวั อยา่ งสมบรู ณ์ 4. ปา่ ชายหาด ป่าชายหาดเป็นป่าละเมาะหรือป่าโปร่งไม่ผลัดใบขึ้นอยู่ตามบริเวณชายหาดหรือเนินทราย ริมทะเล หรอื ชายฝง่ั เปน็ ปา่ ทมี่ ขี นาดเลก็ เกดิ ขนึ้ ดา้ นหลงั ของสนั ทรายตามแนวชายฝง่ั นำ้� ทะเลทว่ มไมถ่ งึ สภาพดนิ เปน็ ดนิ ทราย และมคี วามเคม็ สงู เปน็ ปา่ ทมี่ คี วามแตกตา่ งจากปา่ ทว่ั ๆ ไปอยา่ งเหน็ ไดช้ ดั เจน คอื ไมม่ คี วามอดุ มสมบรู ณ์ สภาพโดย ท่ัวไปแห้งแล้ง ใบไม้ในป่าจะเป็นลักษณะหงิกงอ ซึ่งเป็น ลกั ษณะของปา่ ชายหาดทส่ี มบรู ณ์ ปา่ ชายหาด เปน็ ปา่ ทไี่ ด้ รับอิทธิพลจากกระแสลม กระแสคล่ืน รวมถึงไอเค็ม จากทะเล แสงแดดรอ้ นจัด สภาพความชน้ื สุดขวั้ ทง้ั ชื้นจัด ชน้ื นอ้ ย และชน้ื ปานกลาง ระบบนเิ วศจงึ ประกอบดว้ ยเนนิ ทรายหรือหาดทรายและมีพืชประเภทไม้เถา หรือไม้เล้ือย ไมท้ มุ่ และไม้ยืนตน้ ทีม่ ีล�ำตน้ คดงอ และมคี วามสงู เพมิ่ ข้ึน เรื่อย ๆ เมื่ออยู่ห่างจากชายหาดออกไป ประเภทไม้ มี 3 ประเภท ป่าชายหาด 1) ประเภทหญา้ หรือไม้เล้อื ย ไดแ้ ก่ หญ้าลิงลม ผกั บงุ้ ทะเล หญ้าทะเล เตย ซึ่งรากของไมเ้ หล่านี้ จะชว่ ยในการยดึ เกาะพ้ืนทรายทำ� ใหพ้ นื้ ทรายมีความแน่นหนาแขง็ แรงมากขนึ้ เพอื่ ที่จะใหร้ ากของไม้ที่ใหญก่ วา่ เช่น ไม้พุ่ม ไดเ้ กาะตอ่ ไป 2) ประเภทของไม้พุ่ม ได้แก่ รักทะเล ปอทะเล เสมา ซิงซ่ี หนามหัน ก�ำจาย ขึ้นเป็นกลุ่ม ๆ ช่วยบังลมทะเล เปน็ ปราการใหแ้ กไ่ ม้ชนดิ ท่ีไม่สามารถทนเคม็ ได้ 3) ประเภทของไมย้ ืนตน้ เชน่ กระทงิ หูกวาง โพทะเล ตนี เปด็ ทะเล หยีนำ�้ มะนาวผี ขอ่ ย แต่ลำ� ต้น ไม่สูงมากนัก ใบมีความหงิกงอตามกระแสลม เรือนยอดอยู่ติดกันและมักมีหนามแหลม บางพ้ืนที่อาจมีไม้ยืนต้น ขนาดใหญ่ เชน่ ยางหรือตะเคยี น เป็นต้น เน่ืองจากมีข้อจำ� กัดในเรอ่ื ง ความเค็มของดนิ ปริมาณธาตอุ าหารพืชในดนิ ที่มีอยู่น้อย และสภาพดินท่ีเก็บความชื้นไว้ได้ไม่นาน พืชส่วนใหญ่จึงเจริญเติบโตได้ช้า และจากไอเค็มที่พัดเข้ามา จากทะเลและความรุนแรงของลมพายุท�ำให้ ไม้ใหญ่หักโค่นได้ง่าย นอกจากนี้การขาดแคลนน้�ำ ในดินส่งผลต่อ การสงั เคราะหแ์ สงของพชื บญั หาที่ มกั เกดิ ขน้ึ กค็ อื ซากของใบสนทะเลทม่ี กี ารผสุ ลายชา้ และปกคลมุ ดนิ คอ่ นขา้ งหนา เป็นการสกดั ก้ันการสบื ต่อพนั ธขุ์ องไม้ชนิดอื่น ๆ อกี ทั้งอาจกอ่ ให้เกดิ ไฟผวิ ดินขึน้ ได้ สภาพปัญหาทรพั ยากรป่าไมใ้ นจังหวัดนครศรธี รรมราช ปญั หาราษฎรบกุ รกุ พนื้ ทปี่ า่ อนรุ กั ษ์ บกุ รกุ แผว้ ถางพนื้ ทป่ี า่ เพอื่ ทำ� การเกษตรกรรม และทอี่ ยอู่ าศยั และ มนี ายทนุ บางกลุม่ เข้ามาซือ้ ขายทดี่ นิ ไมม่ เี อกสารสทิ ธิ (ท่ีปา่ ) จากราษฎรเพ่ือสร้างรสี อร์ท โรงแรมหรือสงิ่ ก่อสร้างอน่ื ใด อนั เปน็ การละเมิดต่อกฎหมายอยา่ งรา้ ยแรง 55เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา

สัตว์ปา่ 1) สตั ว์ปา่ ท่สี ำ� รวจพบในป่าเขาบรเิ วณน้ีท่สี �ำคญั เชน่ สมเสรจ็ เลียงผา ลงิ กัง ลงิ เสน ค่างด�ำ คา่ ง เสอื ด�ำ เสอื ลายเมฆ เกง้ กวางป่า หมูปา่ กระจง อีเหน็ ชะมด ลิงเสน คา่ ง ชะนี กระรอก เมน่ นกหว้า นกยงู เหยย่ี ว ไกป่ า่ นกเขาเปล้า นกเงือก นกขมิน้ นกกางเขนดง นกแซงแววหางปลา นกปรอดหวั โขน ตะพาบน�ำ้ ตะกวด กิ้งก่า จง้ิ เหลน งกู ะปะ กบ เขยี ด คางคก ปลาแงะ ปลาซวิ ปลากระทงิ ปลา ชะโด ปูน้�ำตก ผีเส้ือกลางวัน ผีเส้ือกลางคืนและแมลงปีก แข็งตา่ งๆ สตั วป์ ระเภทนก “นกกนิ ปลหี างยาวเขยี ว” เปน็ นกประจำ� ถน่ิ ของ อุทยานแหง่ ชาตเิ ขานัน “โลมา” เปน็ สตั วเ์ ลยี้ งลกู ดว้ ยนำ�้ นมทอี่ าศยั ในนำ�้ พบในเขตอทุ ยานหมเู่ กาะทะเลใต ้ โลมาสชี มพู สตั ว์ป่า สัตวป์ ่าทพ่ี บในพ้ืนท่ปี า่ พรคุ วนเคร็ง สัตวจ์ �ำพวกนก เชน่ นกกระสาแดง นกยางโทนใหญ่ นกยาง โทนนอ้ ย นกยางควาย นกยางกรอกพนั ธจ์ุ นี เหยีย่ วแดง ฯลฯ สัตว์เลอ้ื ยคลาน เช่น เตา่ เหลือง ตะพาบ เต่าหับ เต่าด�ำ จิ้งจกหางหนาม จ้ิงจกหนิ สีจาง งูลายสอ กิ้งกา่ หวั แดง เห้ีย งูเหลือม งูเหา่ หม้อ งูสามเหลีย่ ม และงกู ะปะ สตั ว์สะเทนิ นำ้� สะเทนิ บก เชน่ กบนา เขียดจะนา กบหนอง เขยี ดจิก อง่ึ อ่างบ้าน เขียดตะปาด และอ่งึ ข้างดำ� ฯลฯ 2. ปญั หาการลกั ลอบลา่ สตั วป์ า่ ทงั้ เพอื่ นำ� เนอื้ สตั วป์ า่ ไปรบั ประทาน นำ� ซากสตั วป์ า่ ไปประดบั เกบ็ รกั ษา และล่าเพ่อื น�ำลกู สัตว์ป่ามาขายต่อ เปน็ ตน้ ท�ำให้สตั วป์ า่ หลายชนดิ มคี วามเส่ียงท่ีจะสูญพันธม์ุ ากข้นึ เรอ่ื งท่ี 2 ทรพั ยากรนำ้� ทรัพยากรน้�ำเป็นสิ่งส�ำคัญต่อการด�ำรงชีวิตของมนุษย์ ที่ได้ใช้อุปโภค บริโภค ตลอดจนใช้ในการ ทำ� การเกษตร การนำ� ทรพั ยากรนำ้� มาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ ของการดำ� รงชวี ติ เราชาวนครศรธี รรมราช ควรไดศ้ กึ ษา เรยี นร้แู หลง่ นำ�้ ท่มี ีอยใู่ นจังหวดั นครศรีธรรมราช 1) แหลง่ น�ำ้ ทีเ่ กดิ ขึน้ เองตามธรรมชาติ 2) แหล่งน�้ำ ท่มี นุษย์ได้สร้าง ข้นึ มา 1. แหลง่ น�้ำธรรมชาติ แม่น�้ำล�ำคลองในจังหวัด ส่วนใหญ่เกิดจากเทือกเขานครศรีธรรมราช และเทือกเขาบรรทัด แม่น้�ำ ลำ� คลองทสี่ �ำคญั ๆ ในจังหวดั มดี ังนี้ 1.1 แหลง่ น�ำ้ ชายฝ่งั ทะเลตะวันออก 1) แม่น้�ำปากพนัง ต้นน้�ำเกิดจาก เทอื กเขาบรรทดั ในเขตตำ� บลวงั อา่ ง อำ� เภอชะอวด ไหลผา่ น อำ� เภอเชยี รใหญ่ และมีสาขาจากอำ� เภอหัวไทร ไหลมารวม กนั ทบ่ี า้ นปากแพรก กลายเปน็ แมน่ ำ�้ ปากพนงั ไหลสอู่ า่ วนคร 2) แม่น้�ำหลวง เป็นสาขาหนึ่งของ แมน่ ำ้� ปากพนงั ตน้ น้�ำเกิดบริเวณทิศตะวนั ตกของเทอื กเขา 56 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศึกษา

นครศรธี รรมราช และเทอื กเขาภเู กต็ สว่ นทเี่ กดิ จากเทอื กเขานครศรธี รรมราช มตี น้ นำ้� อยใู่ นอำ� เภอพปิ นู และอำ� เภอฉวาง ไหลผ่านอ�ำเภอฉวาง และอ�ำเภอทุ่งใหญ่ เข้าเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในเขตอ�ำเภอพระแสง อ�ำเภอบ้านนาสาร ไปรวมกบั แมน่ ำ�้ ครี รี ฐั นคิ มทอี่ ำ� เภอพนุ พนิ เรยี กวา่ “แมน่ ำ้� ตาป”ี ไหลลงสอู่ า่ วบา้ นดอน จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี เปน็ แมน่ ำ�้ สายที่ยาวท่ีสดุ ของภาคใต้ 3) คลองปากพูน ต้นน้�ำเกิดจากเทือกเขานครศรีธรรมราช ไหลไปทางตะวันออก ผ่านอ�ำเภอพรหมคีรี อำ� เภอเมอื งไหลลงสู่อ่าวนครศรธี รรมราช 4) คลองปากพญา-คลองปากนคร ต้นน�้ำเกิดจากแหล่งน้�ำหลายสาขาในเขตเทือกเขา นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะที่เขาคีรวี ง ต�ำบลก�ำโลน อำ� เภอลานสกา ไหลผา่ นอำ� เภอเมอื ง คลองแยกเปน็ หลายสาขา สายหนึ่งไหลเลียบตัวเมืองไปทางตะวันออก ออกทะเลท่ีปากพญาเรียก “คลองปากพญา” ก่อนไหลลงสู่อ่าวไทย ตำ� บลปากนคร อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช 5) คลองเสาธง ต้นน้�ำเกิดจากเทือกเขานครศรีธรรมราชในเขตอ�ำเภอลานสกา คลองนี้มีช่ือ เรียกกนั หลายชอ่ื ตามท้องท่ีทค่ี ลองไหลผ่าน 6) คลองกลาย ตน้ น�ำ้ เกิดจากเทอื กเขานครศรธี รรมราช ในเขตต�ำบลนบพิตำ� ไหลออกทะเล ทอี่ ำ� เภอทา่ ศาลา 7) คลองทา่ ทน ตน้ น�ำ้ เกดิ จากเทือกเขานครศรีธรรมราช ไหลลงสู่อา่ วไทยทอ่ี �ำเภอสิชล 8) คลองน้�ำตกโยง ต้นน�้ำเกิดจากเทือกเขานครศรีธรรมราช ด้านตะวนั ออกอ�ำเภอทงุ่ สงไหล เข้าสู่อ�ำเภอหว้ ยยอด จงั หวดั ตรงั กลายเปน็ สาขาหน่งึ ของแม่น�ำ้ ตรัง 9) คลองมัน ต้นน้�ำเกิดจากสามจอม ซ่ืงเป็นเขาลูกหน่ึงในเขตอ�ำเภอทุ่งใหญ่ไหลลงมาทาง ตะวันออกเฉียงเหนอื ไหลไปเปน็ สาขาหน่ึงของแม่น�้ำหลวง ออกอา่ วบ้านดอนจังหวัดสุราษฎร์ธานี 10) คลองท่าเลา ต้นน้�ำจากเขาวังหีบ ในอ�ำเภอทุ่งสงไหลลงทางใต้ ออกทะเลอันดามัน ทอี่ �ำเภอกันตงั จงั หวัดตรงั 11) คลองท่าโลน ต้นน้�ำเกิดจากเขาปลายเปิดใกล้ๆกับเขาวังหีบ ในอ�ำเภอทุ่งสงไหลสู่ทางใต้ ออกทะเลอันดามันในเขตอำ� เภอกันตงั ทีบ่ า้ นปนั หยี 1.2 แหล่งนำ�้ ธรรมชาติลุ่มน้ำ� ชายฝ่งั ทะเลภาคใต้ฝ่งั ตะวนั ตก แหลง่ น้�ำธรรมชาตลิ มุ่ น�ำ้ ชายฝ่ังทะเลภาคใตฝ้ งั่ ตะวันตก ประกอบด้วยแมน่ �ำ้ สายหลัก 1 สาย คือ แม่น้�ำตรัง บริเวณต้นน�้ำอยู่ในเขต อ�ำเภอทุ่งสง เป็นท่ีลาดชันสูง สภาพป่าไม้มีความอุดมสมบูรณ์ แม่น้�ำตรัง ไหลจากทศิ ตะวนั ออกเฉยี งเหนือ ของอ�ำเภอท่งุ สงไปทางทศิ ตะวันออกเฉียงใต้ 1.3 แหลง่ น้�ำธรรมชาตลิ มุ่ น�ำ้ ตาปี แหล่งนำ้� ธรรมชาตลิ ุ่มน�้ำตาปี ประกอบดว้ ยแม่น�ำ้ สายหลัก 2 สาย คอื 1) คลองจนั ดี ต้นน้ำ� อยบู่ รเิ วณเทอื กเขาหลวง อำ� เภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ไหลผ่าน บา้ นจนั ดี ลงสแู่ ม่น�ำ้ ตาปี 2) คลองสนิ ปนุ เกดิ จากเทอื กเขาในเขตอำ� เภอคลองทอ่ ม จงั หวดั กระบไ่ี หลเขา้ สอู่ ำ� เภอทงุ่ ใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช 57เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดับประถมศึกษา

1.4 แหลง่ น�ำ้ ธรรมชาตลิ มุ่ น�้ำทะเลสาบสงขลา พรุควนเคร็ง อ�ำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นปลายน�้ำท่ีรองรับน�้ำจากแหล่งน้�ำ ธรรมชาติลมุ่ น้�ำทะเลสาบสงขลา ประกอบดว้ ยแม่น้�ำสายหลัก 1 สาย คอื คลองปา่ พะยอม ตน้ นำ้� เกดิ จากเทือกเขา หนิ กล้ิงและควนหินแก้ว อำ� เภอควนขนนุ จงั หวัดพัทลุง 1.5 น�้ำพุรอ้ นธรรมชาติ 1) นำ�้ พรุ ้อนอุทยานบอ่ นำ้� รอ้ น อุทยานบ่อน้�ำร้อน อยู่ในเขตพ้ืนที่ของวัดอุทยานบ่อน้�ำร้อน หมู่ท่ี 13 ต�ำบลวังหิน อำ� เภอบางขัน จงั หวดั นครศรธี รรมราช มลี ักษณะเป็นบ่อน้ำ� ร้อนรวม 9 บ่อ เสน้ ผา่ ศูนย์กลางของแตล่ ะบอ่ ประมาณ 3 - 4 เมตร มีบอ่ เล็ก ๆ อกี หลายบ่อ มีอณุ หภูมิที่ผิวดนิ ประมาณ 55 องศาเซลเซียส เปน็ พื้นทร่ี าบริมคลอง พบน�้ำผุด อยูใ่ นห้วยหลายแห่ง คณุ ภาพน้�ำดี ใส ไมม่ กี ล่นิ กำ� มะถนั 2) นำ�้ พรุ ้อนกรงุ ชงิ น้�ำพุร้อนกรุงชิง ต้ังอยู่ต�ำบลกรุงชิง อ�ำเภอนบพิต�ำ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีลักษณะ เปน็ บอ่ นำ�้ อุน่ จำ� นวน 1 บอ่ มีการก่อปนู รอบบรเิ วณปากบอ่ และมกี ารสร้างศาลา สำ� หรับดงึ นำ้� จากน้ำ� พุร้อนไปใช้ ประโยชน์ในการแชอ่ าบ 3) น�้ำพุร้อนหว้ ยปริก น�ำ้ พุร้อนหว้ ยปริก ตงั้ อยู่ตำ� บลห้วยปรกิ อ�ำเภอฉวาง จงั หวดั นครศรธี รรมราช มีลกั ษณะ เปน็ บอ่ น้�ำอนุ่ 1 บ่อ มกี ารกอ่ ปูนรอบปากบอ่ เพ่ือไว้ส�ำหรับดึงนำ�้ พรุ ้อนมาใช้อาบแช่น้�ำพุร้อน 4) น�ำ้ พรุ อ้ นบ้านหูนบ (วงั ฆอ้ ง) ตงั้ อยตู่ ำ� บลพปิ นู อำ� เภอพปิ นู จงั หวดั นครศรธี รรมราช เปน็ บอ่ นำ�้ อนุ่ การกอ่ ปนู รอบบรเิ วณ ปากบ่อ มบี นั ไดไว้ส�ำหรบั ลงไปอาบ/แชน่ �ำ้ พรุ ้อน 5) นำ้� พรุ อ้ นหนองบวั นำ้� พรุ อ้ นหนองบวั ตงั้ อยบู่ า้ นหนองบวั ตำ� บลเขาพระ อำ� เภอพปิ นู จงั หวดั นครศรธี รรมราช มลี กั ษณะเปน็ บอ่ นำ้� อนุ่ ปากบ่อกวา้ งประมาณ 3 x 3 เมตร มีการกอ่ ปนู รอบบริเวณปากบอ่ 2. แหลง่ น้ำ� ผวิ ดินท่มี นุษย์สรา้ งข้ึน อา่ งเก็บน�้ำหว้ ยน�ำ้ ใส 2.1 อา่ งเกบ็ น้�ำหว้ ยน�้ำใส ต้ังอยู่ท่ี หมู่ท่ี 5 ต�ำบลวังอ่าง อ�ำเภอชะอวดจังหวัดนครศรีธรรมราช มีความจุ 80 ล้าน ลูกบาศก์เมตร เป็นโครงการกอ่ สรา้ งแหลง่ น�ำ้ เพอ่ื ปอ้ งกัน และบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นท่ีลุ่มน�้ำปากพนัง ในเขตอำ� เภอชะอวด เพอ่ื ปอ้ งกนั หรอื บรรเทาปญั หานำ�้ เคม็ เนอ่ื งจากนำ�้ ทะเลหนนุ ในลมุ่ นำ้� ปากพนงั และเพอ่ื เปน็ แหลง่ น้�ำอุปโภค บรโิ ภค ในบรเิ วณใกล้เคยี ง 58 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา

2.2 อ่างเกบ็ นำ�้ คลองกระทนู ต้ังอยู่ท่ีหมู่ท่ี 2 ต�ำบลกะทูน อ�ำเภอพิปนู จงั หวดั นครศรีธรรมราช มคี วามจุ 70.50 ลา้ น ลกู บาศก์เมตร เป็นโครงการพัฒนาแหลง่ น�ำ้ เพอ่ื ประโยชน์ การบรรเทาอทุ กภยั พนื้ ทส่ี องฝง่ั คลองกะทนู และแมน่ ำ้� ตาปี ทางตอนล่าง นอกจากน้ันพ้ืนที่ น�้ำในอ่างเหนือเขื่อนยังใช้ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา น้�ำจืดและบริเวณอ่างเก็บน�้ำ มีความสวยงาม ใช้เป็นสถานทีท่ ่องเทยี่ วพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ 2.3 อ่างเกบ็ น้�ำคลองดินแดง อ่างเก็บน�้ำคลองกระทูน ตั้งอยู่ท่ีหมู่ที่ 12 ต�ำบลเขาพระ อ�ำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช มีความจุ 60 ล้าน ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาอุทกภัย ในเขตพื้นที่ ของลุ่มแม่น้�ำตาปีตอนล่าง และเพ่ือการเกษตรในพื้นท่ี ชลประทาน 9,900 ไร่นอกจากนั้น พ้ืนที่น�้ำในอ่างเหนือ เขื่อนยังใช้เป็นแหล่งพันธุปลา น�้ำจืด และใช้เป็นสถานที่ ทอ่ งเท่ียวของจังหวัด 2.4 อา่ งเกบ็ น้ำ� เสม็ดจวน อา่ งเก็บน้�ำคลองดนิ แดง ตั้งอยู่หมู่ท่ี 3 และหมู่ที่ 4 ต�ำบลกุแหระ อ�ำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีความจุ 60 ลา้ นลกู บาศก์เมตร 2.5 โครงการขดุ คลองระบายน้ำ� ชะอวด-แพรกเมอื ง โครงการขุดคลองระบายน�้ำชะอวด - แพรกเมือง พร้อมประตูระบายน้�ำ และคันก้ันทราย (โครงการพัฒนาพื้นท่ีลุ่มน้�ำปากพนัง โดยกรมชลประทานด�ำเนินการขุดคลอง ชะอวด - แพรกเมือง ก้นคลอง กว้าง 150 เมตร ลึก 5 เมตร ยาว 27 เมตร พร้อมประตูระบายน�้ำและคันก้ันทราย สามารถระบายน�้ำได้ 540 ลบ.ม. ตอ่ วินาที) 3. ปัญหาด้านทรพั ยากรนำ�้ ในจังหวดั นครศรธี รรมราช สภาพปัญหาด้านทรัพยากรน�้ำของจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วย ปัญหาขาดแคลนน�้ำ ปัญหาพนื้ ที่เส่ยี งภยั น�ำ้ ทว่ ม และปัญหาดา้ นการจดั การปา่ ตน้ น้ำ� โดยภาพรวมของปัญหาสามารถสรุปได้ดังนี้ 3.1 ปัญหาขาดแคลนน้�ำ เนื่องจาก ขาดระบบหนว่ งนำ�้ ตามธรรมชาติ ชว่ งฤดแู ลง้ ระหวา่ งเดอื น กมุ ภาพนั ธถ์ งึ เดอื นเมษายน มปี รมิ าณฝนตกนอ้ ย อกี ทงั้ การ พัฒนาแหล่งกักเก็บน�้ำยังมีน้อย พื้นที่การเกษตรส่วนใหญ่ ปลกู ยางพารา ปาลม์ นำ�้ มนั และการทำ� นาทตี่ อ้ งการนำ�้ มาก ท�ำให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้�ำ นอกจากน้ี การเติบโตของแหล่งท่องเท่ียวขนาดใหญ่และภาคธุรกิจ ต่าง ๆ มีความต้องการใช้น�้ำในฤดูแล้งสูงข้ึน การถมที่ สถานการณน์ ำ�้ ทว่ ม ในจงั หวดั นครศรีธรรมราช 59เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา

เพอ่ื ทำ� ทอี่ ยอู่ าศยั มากขนึ้ เรมิ่ ประสบปญั หา การจดั หาระบบสาธารณปู โภคและทรพั ยากรสำ� หรบั ผทู้ อี่ าศยั อยใู่ นเมอื ง เกดิ ปัญหาขาดแคลนน�ำ้ อปุ โภค 3.2 ปญั หาพ้นื ท่ีเสยี่ งภัยนำ้� ท่วม จังหวัดนครศรีธรรมราชพบท้ังปัญหาน�้ำท่วมและน�้ำหลากในช่วงฤดูฝน เดือนตุลาคม ถงึ เดือนธันวาคม ทำ� ให้พ้นื ท่ีจังหวัดนครศรธี รรมราช ประสบปญั หานำ้� ทว่ มทุกปี และปรมิ าณน้�ำที่หลากมาจากพ้นื ท่ี ตอนบน ทเ่ี ป็นพื้นทต่ี น้ น�้ำ เนอ่ื งจากขาดโครงสร้างชะลอและกกั เก็บนำ้� คลองธรรมชาตเิ ดิมถูกบกุ รกุ ท�ำให้มีสภาพ ไม่เหมาะสมในการกักเก็บและชะลอน้�ำ ประกอบกับ คลองระบายน้�ำตื้นเขิน มีสิ่งก่อสร้าง กีดขวางทางน�้ำไหล จงึ ท�ำใหน้ �้ำไหลลน้ ตล่ิงเขา้ ทว่ มพน้ื ท่เี สียหาย 3.3 ปญั หาดา้ นการจัดการตน้ น้�ำ การบุกรุกพื้นท่ีป่าเพ่ือท�ำการเกษตรท�ำให้มีพ้ืนท่ีป่าลดลง ส่งผลให้ปริมาณน�้ำป่าเปลี่ยนแปลง พบมากในพน้ื ทปี่ า่ สงวนแหง่ ชาตทิ ปี่ ระกาศเปน็ เขตปา่ เพอ่ื การอนรุ กั ษ์ สำ� หรบั เขตอทุ ยานแหง่ ชาตแิ ละเขตรกั ษาพนั ธ์ุ สัตว์ป่า มีการบุกรุกบริเวณเขตติดต่อ พื้นท่ีที่มีการบุกรุกจ�ำนวนมากมักพบปัญหาการชะล้างพังทลายของดิน ซง่ึ มสี าเหตุ มาจากการทำ� การเกษตรในพนื้ ทลี่ าดชนั และไมม่ มี าตรการอนรุ กั ษด์ นิ และนำ้� ทเ่ี หมาะสม และเมอ่ื ปา่ ตน้ นำ�้ ถกู ทำ� ลาย สมดลุ น�ำ้ จึงลดลง 3.4 ปัญหาน้ำ� เค็มบกุ รกุ เนื่องจากปริมาณน้�ำจืดท่ีลดลงไม่สามารถช่วยผลักดันน้�ำเค็ม รุกเข้าพ้ืนที่ได้ โดยน�้ำเค็ม แพร่กระจายเข้าไปในแม่น�้ำปากพนัง ในช่วงฤดูแล้ง เน่ืองจากท้องแม่น�้ำมีความลาดชันน้อยมาก ท�ำให้น้�ำ ในแม่น�้ำลำ� คลองในพ้นื ที่มคี วามเคม็ ถึง 9 เดือนตอ่ ปี (มกราคม-กนั ยายน) ส่งผลกระทบตอ่ การปลกู พชื โดยทว่ั ไป 3.5 ปัญหานำ�้ เปรี้ยว ตอนกลางของพื้นท่ีลุ่มน้�ำปากพนัง มีสภาพลุ่มต่�ำ น้�ำท่วมขังตลอดปี คือ พรุควนเคร็ง และ พรุคลองฆ้อง ดินพรุมีสารประกอบไพไรท์ตกตะกอนอยู่ เม่ือระดับน้�ำลดลงจนชั้นไพไรท์สัมผัสกับ อากาศ จะเกิดปฏกิ ิริยาเคมี ทำ� ให้ดนิ มีสภาพเปน็ กรด และนำ้� เปรยี้ ว สง่ ผลต่อระบบการผลติ ของเกษตรกร 3.6 ปญั หาการถา่ ยเทนำ�้ เสีย ซึ่งเป็นน้�ำเค็มจากบ่อเลี้ยงกุ้งระบายสู่แหล่งน้�ำธรรมขาติ ท�ำให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพน�้ำ บรเิ วณชายฝง่ั อกี ทงั้ นำ�้ เคม็ ยงั ลกุ ลาม เขา้ ไปในพนื้ ทน่ี าขา้ วและไมส่ ามารถปลกู พชื ชนดิ ใดไดจ้ นกลายเปน็ ความขดั แยง้ ทรี่ ุนแรงระหว่างราษฎรผู้เล้ียงก้งุ กลุ าดำ� กับราษฎรผู้ท�ำนาข้าว 3.7 ปญั หาการทง้ิ ขยะ ปล่อยน้�ำเสียและส่ิงปฏิกูลลงแหล่งน้�ำสาธารณะ ท�ำให้เกิดปัญหา มลพิษทางน้�ำ และ การระบายน้�ำไมส่ ะดวกในฤดูน้ำ� หลากหรือในภาวะอทุ กภัย 60 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศึกษา

เร่ืองท่ี 3 ทรัพยากรแรจ่ ังหวดั นครศรีธรรมราช นครศรีธรรมราชมีทรัพยากรแร่ท่ีส�ำคัญทางเศรษฐกิจหลายชนิด ได้แก่ หินปูน โดโลไมต์ ยิปซัม ถ่านหิน ดีบุก ทังสเตน พลวง แบไรต์ ดินขาว บอลเคลย์ เฟลด์สปาร์ และทรายแก้ว มีเนื้อที่รวมกันประมาณ 499 ตารางกิโลเมตร คิดเปน็ รอ้ ยละ 5 ของเนื้อท่ีจงั หวัด ทรัพยากรแร่ในจงั หวัดนครศรธี รรมราช พบแร่ ดงั น้ี 1) แรด่ ีบุก พบพ้นื ท่ีอ�ำเภอสชิ ล ร่อนพิบูลย์ นบพติ ำ� พรหมคีรี ลานสกา นาบอน พปิ ูน 2) แร่โคโลไมต์ พบพ้ืนที่อำ� เภอขนอม สชิ ล นบพติ ำ� ทุ่งใหญ่ จฬุ าภรณ์ ชะอวด 3) ถา่ นหนิ พบพ้นื ท่อี �ำเภอทุ่งใหญ่ 4) แรบ่ อลเคลย์ พบพ้นื ทอี่ �ำเภอทงุ่ ใหญ่ ลานสกา รอ่ นพบิ ูลย์ ฉวาง 5) แร่แบไรต์ พบพน้ื ทอ่ี �ำเภอทา่ ศาลา นบพิตำ� 6) แรเ่ ฟลดส์ ปาร์ พบพืน้ ทอ่ี ำ� เภอทา่ ศาลา นบพิต�ำ 7) พลวง พบพน้ื ท่อี �ำเภอถา้ํ พรรณรา ชะอวด 8) แร่ยิปซัม พบพน้ื ที่อำ� เภอฉวาง ถํ้าพรรณรา ทุ่งใหญ่ 9) ทรายเพ่ือการกอ่ สร้าง พบพื้นท่ีอำ� เภอทา่ ศาลา สิชล ฉวาง ทุ่งใหญ่ 10) ดินขาว พบพื้นทอี่ �ำเภอทงุ่ ใหญ่ ลานสกา ร่อนพิบลู ย์ ฉวาง 11) ทรายแก้ว พบพืน้ ทีอ่ �ำเภอสิชล 12) หินปูนเพ่ืออุตสาหกรรมซิเมนต์ พบพื้นท่ีอ�ำเภอ ขนอม สิชล นบพิต�ำ ถ้ําพรรณรา ทุ่งใหญ่ บางขัน ทุ่งสง ร่อนพบิ ลู ย์ 13) หินปูนเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง พบพ้ืนที่อ�ำเภอขนอม สิชล ทุ่งสง ร่อนพิบูลย์ ลานสกา ถา้ํ พรรณรา จุฬาภรณ์ พรหมคีรี 14) หนิ ปนู จำ� แนกประเภทไมไ่ ด้ พบพ้นื ทีอ่ �ำเภอขนอม สชิ ล นบพติ �ำ ถํ้าพรรณรา ทงุ่ ใหญ่ บางขัน ทงุ่ สง ลานสกา จุฬาภรณ์ ชะอวด 15) หนิ ปนู เพื่ออตุ สาหกรรมเคมี พบพ้นื ท่อี �ำเภอทุ่งใหญ่ 16) หินปูนเพ่ืออตุ สาหกรรมอนื่ พบพนื้ ที่อ�ำเภอขนอม สชิ ล พรหมครี ี ลานสกา ร่อนพบิ ลู ย์ ทุง่ สง 61เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา

สถานการณด์ า้ นทรัพยากรแรใ่ นจงั หวัดนครศรธี รรมราช 1) ปัญหาสิ่งแวดล้อมบริเวณท่ีท�ำเหมืองแร่ อาจท�ำให้คุณภาพน้�ำในแหล่งน�้ำใกล้เคียง เสื่อมโทรม เพราะเกิดจากการชะล้างท่ีเกิดจากการท�ำเหมืองแร่ลงสู่แหล่งน้�ำ เช่น แหล่งน้�ำ มีสารหนู เงิน สังกะสี ทองแดง ตะกว่ั ปนเปอ้ื น อาจเปน็ อนั ตรายตอ่ ผนู้ ำ� นำ�้ ไปใชเ้ พอ่ื บรโิ ภค และอปุ โภค 2) การเปดิ หนา้ เหมอื งแร่ เปน็ การพลกิ หนา้ ดนิ ท�ำให้ผวิ ดนิ บริเวณน้นั ขาด 3) ปัญหาการใช้แร่ธาตุ บางประเภท เป็นจ�ำนวนมาก หรือการใช้แร่ไม่คุ้มค่า ไม่ประหยัด อาจท�ำให้ขาดแคลนตลอดไปความอุดมสมบูรณ์ สกปรก พน้ื ทขี่ รขุ ระ มหี ลมุ บอ่ มากมาย จงึ ถกู ปลอ่ ยทง้ิ ใชป้ ระโยชน์ ไม่เต็ม เหมืองแรใ่ นจังหวดั นครศรีธรรมราช 4) การท�ำเหมืองในพ้ืนท่ีเส่ียงดินโคลนถล่ม ยิ่งท�ำให้เกิดความเสี่ยงจากดินโคลนถล่มหนัก มากย่ิงข้ึน เพราะการท�ำเหมอื งแร่มกี ารทำ� ลายปา่ และเปดิ หน้าดนิ มีการระเบิดหินเพ่อื เอาแร่ ซ่ึงทำ� ลายความมัน่ คงของธรณี 62 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา

กจิ กรรมหน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6 ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมจงั หวัดนครศรีธรรมราช จงตอบค�ำถามต่อไปนีท้ กุ ขอ้ 1. ให้ผู้เรียนวิเคราะห์สภาพปัญหาทรัพยากรป่าไม้ในจังหวัดนครศรีธรรมราช และอธิบายแนวทาง แก้ปญั หามาพอสงั เขป ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... 2. ให้ผเู้ รียนอธิบายปญั หาทรพั ยากรนำ�้ ในจังหวดั นครศรธี รรมราช มาพอสังเขป ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... 63เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา

3. ให้ผู้เรยี นอธิบายสาเหตทุ ม่ี ผี ลกระทบต่อสัตวท์ ะเลหายาก มาพอสังเขป ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... 64 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 7ประชากรกบั การเมืองการปกครองจงั หวัดนครศรีธรรมราช ประชากรกับการเมืองการปกครองจังหวดั นครศรีธรรมราช เปน็ การเรยี นร้เู กยี่ วกบั ประวตั ิความเป็นมา การตั้งถ่ินฐานของประชากรจังหวัดนครศรีธรรมราช ประวัติบุคคลส�ำคัญ ๆ และลักษณะอุปนิสัยใจของคน จังหวัดนครศรีธรรมราช การเปลี่ยนแปลงของประชากรจังหวัดนครศรีธรรมราชทุกระดับทุกเพศและวัยท่ีเกี่ยวข้อง และผูกพันกับการเปล่ียนแปลงทางการเมืองการปกครอง ตลอดจนประโยชน์ที่ประชากรจะได้รับจากการเมือง การปกครองและการบรหิ ารขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ เรอ่ื งท่ี 1 ประชากรนครศรธี รรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดใหญ่ในภาคใต้ของประเทศไทย มีความส�ำคัญในทางประวัติศาสตร์ มาแต่อดีตควบคู่กับความเป็นมาของชนชาติไทย มีพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะการแปรเปล่ียน จ�ำนวนประชากร ที่เป็นไปตามปัจจัยแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก ท�ำให้เราจ�ำเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับประชากร จังหวัดนครศรีธรรมราช การตั้งรกรากถ่ินฐาน การย้ายที่อยู่อาศัย เช้ือชาติ ศาสนาและวัฒนธรรม อัตราการเกิด และตายของประชากรจังหวดั ตัง้ แตอ่ ดตี สมยั ก่อนประวัติศาสตรจ์ งั หวดั นครศรธี รรมราชจนถงึ ปัจจบุ นั 1. สมัยกอ่ นประวตั ิศาสตร์นครศรีธรรมราช ในทางโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ คือ ชว่ งเวลา ทมี่ นษุ ยย์ งั ไมร่ จู้ กั บนั ทกึ เรอ่ื งราวอนั เปน็ ตวั อกั ษรใหม้ นษุ ย์ สมัยปัจจุบันสามารถอ่าน แปลความหมายออกมาได้จากหลักฐาน ทางโบราณคดีปรากฏว่าจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นท่ีอยู่อาศัย ของมนษุ ยส์ มยั กอ่ น ประวตั ศิ าสตรพ์ นื้ ทเี่ ปน็ ปา่ เขามากอ่ นทจ่ี ะเปน็ พน้ื ที่ราบชายฝ่ังทะเล 2. การตงั้ ถิ่นฐานและชมุ ชนโบราณพุทธศตวรรษ ท่ี 12-18 ร่องรอยชุมชนโบราณตั้งแต่พุทธศตวรรษท่ี 12 มีปรากฏในท่ีราบเชิงเขา และท่ีราบริมแม่น้ําทางทิศตะวันออก ของเทือกเขาหลวงภูมิประเทศบริเวณน้ีด้านหน่ึงติดทะเล ถัดไป มีแนวสันทรายทอดยาวตามแนวทิศเหนือและทิศใต้ ส่วนทาง ตะวันตกเป็นแนวเทือกเขานครศรีธรรมราช เป็นแหล่งต้นนํ้า ของคลองหลายสาย จากแนวเทอื กเขาจดฝง่ั ทะเล ประมาณ 15 - 20 กโิ ลเมตร เปน็ แผน่ ดนิ ทอี่ ดุ มดว้ ยปยุ๋ จากธรรมชาตจิ ากตะกอนทบั ถม ของแม่นํ้า และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดผ่าน จึงเหมาะ แกก่ ารทำ� นาเล้ยี งชุมชนขนาดใหญ่ 65เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศึกษา

ลักษณะชุมชนเม่ือแรกต้ังเป็นชุมชนการค้า ซ่ึงการติดต่อกับดินแดนโพ้นทะเลมีวัฒนธรรม และเทคโนโลยี ก้าวหน้ากวา่ ยงั ผลใหเ้ กิดความเปลีย่ นแปลงทางสังคม เศรษฐกิจและวฒั นธรรมอยา่ งชา้ ๆ จนชุมชน พัฒนาเติบโตเปน็ ศูนย์กลางการค้าทางทะเลบนคาบสมทุ รไทยในพทุ ธศตวรรษท่ี 18 โดยเหตุท่ีภูมปิ ระเทศเป็นปา่ ดบิ ท่ีอดุ มสมบูรณ์ จึงมผี ลผลิตจากปา่ อย่มู าก เช่น ขผ้ี ้ึง ไม้ฝาง งาช้าง หนงั สตั ว์ ซง่ึ เปน็ สนิ คา้ ออกชายฝงั ตะวนั ออกจงึ เปน็ แนวชายฝงั ทนี่ ยิ มตง้ั ถนิ่ ฐาน เพราะสะดวกในการตดิ ตอ่ คา้ ขายกนั กับดินแดนโพ้นทะเล เช่น อินเดยี จนี เวยี ดนามและภาคกลางของประเทศไทย สังคมและชุมชนจังหวัดนครศรีธรรมราช มีพัฒนาการที่ยาวนาน ซ่ึงจากหลักฐานทางโบราณคดี และประวัติศาสตร์ พอจะสันนิษฐานได้ว่าคนจังหวัดนครศรีธรรมราชยุคก่อนประวัติศาสตร์อาศัยอยู่ในถํ้า บริเวณ ป่าเขา และบนเกาะต่าง ๆ รวมท้ังที่ราบตามริมฝั่งน้ํา ยังชีพโดยการล่าสัตว์ จับสัตว์นํ้าและหาของป่า รู้จักการท�ำ ภาชนะเคร่ืองมอื และเคร่อื งนงุ่ ห่ม มคี วามเช่ือในเรอ่ื งสง่ิ ศกั ดิ์สทิ ธิ์ และเคารพภูตผี การตั้งถิ่นฐานของชุมชนโบราณของจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ค้นพบตามหลักฐานร่องรอย การตง้ั ถนิ่ ฐานของชมุ ชนโบราณสมยั ประวตั ศิ าสตรก์ อ่ นพทุ ธศตวรรษที 19 ตามหลกั ฐานวรรณคดแี ละวตั ถโุ บราณคดี ที่ปรากฏ ได้แก่ 1) ชุมชนโบราณบนหาดทรายแก้ว ปรากฏ ร่องรอยการตั้งถ่ินฐาน ตามแนวล�ำนํ้าใหญ่ไหลมาจากภูเขา ทางตะวันตก ผ่านสันทรายออกไปสู่ทะเลอ่าวไทยในหลายพ้ืนที่ โดยเฉพาะบริเวณแนวสันทรายหรือท่ีเรียกว่า หาดทรายแก้ว พบปรากฏร่องรอยตามนกั โบราณคดี 2) ชุมชนโบราณบ้านท่าเรือ ต�ำบลท่าเรือ อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราชนักโบราณคดีสันนิษฐานว่า เป็นศูนย์กลางของตามพรลิงค์ในยุคแรก เนื่องจากเป็นจุดท่ี คลองท่าเรือไหลออกทะเล ในอดีตน่าจะเป็นร่องนํ้าลึกท่ีเรือ เดินทะเลสามารถแล่นเข้ามาจอดได้ และพบหลักฐานส�ำคัญ คือ เครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์ถัง อายุราวพุทธศตวรรษท่ี 12 - 15 เคร่ืองถ้วยจีนสมัยราชวงศ์ซ้อง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 18-19 เคร่ืองสังคโลกสมัยสุโขทัยและเงินตราต่างชาติจ�ำนวนมาก ในซากเรือบรรทุกสินค้าหลายล�ำท่ีจมอยู่บริเวณปากอ่าว และ ล�ำคลองแหง่ น้ี 3) ชุมชนโบราณเมืองพระเวียง ต�ำบลพระเวียง ต�ำบลในเมือง อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ลักษณะของเมือง เปน็ รูปส่ีเหลยี่ มผืนผา้ ขนาด 450 X 1,100 เมตร วางตามแนว ทิศ- ทศิ ใต้ มคี เู มอื ง และแนวกำ� แพงดนิ ลอ้ มรอบอยา่ งละชน้ั ภายในเมอื ง มีวัดโบราณหลายแห่ง เช่น วัดสวนหลวงตะวันออก ปัจจุบัน เป็นท่ีตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ วัดพระเวียง ปัจจุบัน เป็นท่ีต้ัง สถานสงเคราะหเ์ ดก็ ชายบา้ นศรธี รรมราช (กรม ประชาสงเคราะห)์ 66 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา

4) ชมุ ชนเมอื งโบราณคดนี ครศรธี รรมราช ตง้ั อยตู่ ำ� บลในเมอื ง อำ� เภอเมอื งนครศรธี รรมราช ลกั ษณะ เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 500 X 2,239 เมตร วางยาวตามแนวเหนือใต้บนแนวสันทรายขนาบด้วย ที่ราบลุ่ม มีคูเมืองก�ำแพงเมืองล้อมรอบ จากต�ำนานเมืองนครศรีธรรมราช และพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราชกล่าวถึง ประวัติ การสร้าง เมืองบนหาดทรายแก้ว สถานที่ฝัง พระทันตธาตุของสมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้ากับการสร้าง พระบรมธาตุเจดีย์ว่าเมืองน้ีสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 11 โดยพระเจ้า ศรีธรรมโศกราช แต่ไม่มีปรากฏหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์ที่ยืนยันได้ว่า นครศรีธรรมราช สร้างข้ึนได้แต่โบราณสถานที่เก่าที่สุด สามารถก�ำหนดอายุ จากรูปศิลปกรรมได้ คือ พระบรมธาตุเจดีย์ ท่ีวัดมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นเจดีย์ทรงกลมศิลปะลังกา แบบท่ีพบ ในเมืองโปโลนาก�ำหนดอายุราวพุทธศตวรรษท่ี 18 การตั้งถิ่นฐานของชุมชนโบราณของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ค้นพบตามหลักฐาน รอ่ งรอย 3. ลักษณะอปุ นิสัยของคนจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยทว่ั ไปลกั ษณะอปุ นสิ ยั ของคนจงั หวดั นครศรธี รรมราช มลี กั ษณะคลา้ ย ๆ กบั คนภาคใตท้ วั่ ไป ดงั น้ี 1) ชอบนบั ญาติ หมายถงึ ความสมั พนั ธใ์ นสายสกลุ เดยี วกนั หรอื มคี วามเกย่ี วขอ้ งกนั บางครงั้ เรยี กวา่ “เป็นดอง” กนั จงึ มีการ “นับญาต/ิ ชุมญาติ” หรือเรยี กว่า “สาวย่าน” กันถึงจะรกั กันอยา่ งเหนียวแน่น เมอื่ มีงาน หรอื กจิ กรรมใด ๆ สำ� คญั กจ็ ะกลบั มา “รวมญาติ” กนั อยา่ งพรอ้ มเพรยี ง 2) รกั พวกพอ้ ง แมว้ า่ ไมไ่ ดเ้ ปน็ ญาตกิ นั แตห่ ากเปน็ คนจงั หวดั เดยี วกนั พดู ภาษาเดยี วกนั จะเกดิ การ รวมกลมุ่ กนั “ผกู เกลอ” โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ เมอ่ื ออกไปอยตู่ า่ งถนิ่ กจ็ ะปรากฏเหน็ ชดั คนนครศรธี รรมราช มกั รวมกลมุ่ พบปะสังสรรค์เพ่ือรู้จักกัน เช่ือมความสามัคคีระหว่างกัน ท�ำกิจกรรมเพ่ือสาธารณะประโยชน์ และมีโอกาสท่ีจะ “แหลงใต”้ กนั 3) รักภาค/ถ่ินฐาน ในภาพรวมเป็นคนนครศรีธรรมราชท่ีมีความรู้สึกภาคนิยมสูง มีความหยิ่ง และภมู ใิ จในทอ้ งถน่ิ ทีอ่ ยู่ รวมถงึ การใช้ภาษาใต้ด้วย แมว้ า่ จะตกไปอยทู่ ้องถิ่นอืน่ ยงั มคี วามภมู ใิ จลกึ ๆ ว่าเขาเกิดมา เป็นคนใต้นบั วา่ เปน็ เอกลักษณศ์ ักดิศ์ รีประการหน่ึง 4) รกั ตายาย คำ� ว่าตายายในท่นี ้ี หมายถึง บรรพบรุ ษุ เน้นการนบั ถอื ผีตายาย (เดิมคงเน้นสายสกลุ แม่เป็นส�ำคัญ) แต่ค�ำว่าตายายโดยทั่วไป หมายถึง บรรพบุรุษของทุกฝ่าย เป็นพฤติกรรมท่ีเป็นแบบอย่าง ของความเคารพ กตัญญูกตเวทีส�ำนึกในบุญคุณบรรพบุรุษ สืบต่อมาช้านานจนเป็นวัฒนธรรมที่เด่นชัด “งานสารท เดือนสบิ ” ของจงั หวดั เป็นงานใหญแ่ ละเปน็ วนั “ชมุ ญาติ/รวมญาต”ิ กันอีกด้วย 5) ใจสู้ หมายถงึ การมใี จกลา้ นนั่ เอง กลา้ สู้ กลา้ คดิ กลา้ ทำ� กลา้ ทเี่ ผชญิ หนา้ กบั เหตกุ ารณห์ รอื อปุ สรรค ทเี่ กิดข้ึน พร้อมท่จี ะออกหน้า มีลักษณะที่คอ่ นขา้ งจะไมก่ ลวั ใคร จงึ กลา้ ทจี่ ะตดั สนิ ใจเปน็ ลกั ษณะแหง่ ผูน้ ำ� ได้ 6) ใจใหญ่ ค�ำวา่ “ใหญ่” หรือบางทวี ่าใจนักเลง แตม่ ิใช่นักเลงหวั ไม้ เปน็ คนกลา้ ไดก้ ล้าเสีย ใจกวา้ ง ยอมเสียสละเพ่ือช่ือเสียง แมต้ ัวเองจะตอ้ งเสียผลประโยชน์ไปบ้าง เอาหน้าไว้กอ่ น 7) ไมห่ วาน หมายถงึ การพดู คนนครศรธี รรมราชพดู หยาบ สำ� เนยี งหว้ นสน้ั ไมม่ หี างเสยี ง อาจมสี ว่ น อยู่บ้างเพราะสภาพแวดล้อมทางภูมศิ าสตรเ์ ป็นตัวก�ำหนด แตใ่ หด้ ูกันท่คี วามจรงิ ใจถา้ บอกวา่ ชว่ ยกช็ ว่ ยจริงไมท่ ง้ิ กัน ถ้าบอกวา่ รักก็รักจริงไมห่ ลอกกัน 8) หัวหมอ เป็นมุมมองหนึ่งของคนต่างถ่ิน คงเป็นเพราะว่าคนนครศรีธรรมราช มักไม่ยอมก้มหัว ใหใ้ ครงา่ ย ๆ ซงึ่ ความจรงิ ลกั ษณะคนหวั หมอ คอื การทม่ี คี วามคดิ อา่ นทนั คน รมู้ าก จงึ ไมย่ อมสยบใหก้ บั ความอยตุ ธิ รรม ทั้งปวงอย่างงา่ ยน่ันเอง 67เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา

9) ชอบความเปน็ อสิ ระ เปน็ ลกั ษณะหนงึ่ ของคนนครศรธี รรมราช อาจสบื ลกั ษณะนสิ ยั มาจากโบราณ ที่คนใต้ปกครองตนเองมาโดยตลอดสมัยประวัติศาสตร์ ด้วยเป็นดินแดนไกลศูนย์กลางการปกครอง จึงสร้างสม คุณลกั ษณะตอ้ งพ่งึ ตนเอง ทำ� ใหห้ ยง่ิ และรกั ศักดศิ์ รขี องมาตภุ มู ิ เกดิ คา่ นยิ มช่วยเหลอื ตนเองมากกว่าแบมือขอคนอ่นื 10) รกั ศกั ดิ์ศรี พฤติกรรมน้ีเกดิ จากลกั ษณะรวม ๆ เกดิ ข้นึ ตามสภาวการณห์ ลายอยา่ งจึงเกดิ ความ ภูมิใจจึงไม่แสดงพฤติกรรมใด ๆ ที่ท�ำให้คนอ่ืนดูถูกประณามท้องถ่ินของตน สังเกตได้จากคนใต้ท่ีเป็นขอทาน หรือโสเภณีน้อยนิดโดยสถิติ เช่ือเร่ืองกรรม ความเช่ือดังกล่าวคงสืบเน่ืองมาจากศาสนาท่ีสืบทอดมาถึงลูกหลาน อันเป็นเหตุปัจจัยไม่ให้คนท�ำช่ัวเพราะกลัวกรรมสนอง ศัพท์ภาษาถิ่นท่ีว่า “ใช้ชาติ” จะเป็นค�ำตอบของความเชื่อ ของคนนครศรีธรรมราชเป็นอย่างดี เป็นวฒั นธรรมความเช่อื ท่วี า่ ผลมาจากเหตนุ ่ันเอง เรอ่ื งที่ 2 บุคคลส�ำ คญั จงั หวัดนครศรธี รรมราช จงั หวดั นครศรธี รรมราช มปี ระวตั แิ ละบคุ คลสำ� คญั ๆ ทม่ี ผี ลงานเปน็ ทปี่ รากฏตอ่ สงั คม ชมุ ชน และทอ้ งถน่ิ โดยมีรายละเอยี ด ดงั นี ้ 1. พระเจา้ ศรีธรรมาโศกราช พระเจา้ ศรธี รรมาโศกราช เปน็ ปฐมกษตั รยิ ์ เปน็ ตน้ ราชวงศ์ปทุมวงศ์ แห่งอาณาจักรตามพรลิงค์ เป็นผู้สร้างเมือง นครศรีธรรมราช จากชุมชนเดิมซึ่งมีช่ือเรียกว่า ตามพรลิงค์ บนหาดทรายแก้ว ปัจจุบันอยู่บริเวณต�ำบลในเมือง อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปลายพุทธศตวรรษที่ 17 จนกลายเป็นนครรัฐหรือเป็นอาณาจักรใหญ่ในคาบสมุทรไทย ก่อนที่จะเข้ารวมอยู่ในราชอาณาจักรไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตอนต้นพุทธศตวรรษที่ 20 ผลงานและพระเกยี รตคิ ุณ พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชเป็นผู้สร้างเมืองนครศรีธรรมราช และสร้างสถูปเจดีย์ท่ีเรียกว่า “พระบรมธาต”ุ ทีเ่ ป็นปูชนยี สถานท่สี ำ� คัญคบู่ า้ นคเู่ มอื งของไทย 2. พระเจ้าจันทรภาณุ พระเจ้าจันทรภาณุตามประวัติจากหลักฐานต�ำนานเมืองและต�ำนานพระธาตุทราบว่าพระเจ้าจันทร ภาณุ เปน็ พระอนชุ าของพระเจา้ ศรธี รรมาโศกราช เมอื่ พระเจา้ นครศรธี รรมาโศกราชถงึ แกก่ รรม เมอ่ื ศกั ราช 1200 ปี พระยาจันทรภาณุ เป็นเจ้าเมืองมีพระนามว่า “พระเจ้าจันทรภาณุ” นับเป็น พระมหากษตั รยิ ท์ ยี่ ง่ิ ใหญพ่ ระองคห์ นงึ่ ในราชวงศศ์ รธี รรมาโศกราช หรอื อาณาจกั ร ตามพรลิงค์ เปน็ กษตั ริยท์ ี่ทรงเผยแผพ่ ระเดชานุภาพขจร ไปยงั แควน้ ไกลท่สี ดุ คอื เกาะลังกา โดยการยกทัพไปตีถึง 2 คร้ัง ตามประวัติจากหลักฐานต�ำนานเมือง และต�ำนานพระธาตุทราบว่า พระเจ้าจันทรภาณุได้ต้ังอารามก่อพระเจดีย์ ปลูกพระศรีมหาโพธิรายทางมาจนถึงเมืองนคร มีข้อความปรากฏอยู่ในศิลาจารึก ตอนหนงึ่ วา่ “พระเจา้ ผปู้ กครองเมอื งนครตามพรลงิ คเ์ ปน็ ผอู้ ปุ ถมั ภต์ ระกลู ปทมุ วงศ์ พระหัตถ์ของพระองค์มฤี ทธ์มิ อี ำ� นาจ ด้วยอนภุ าพแห่งบญุ กศุ ล 68 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา

ผลงานและพระเกยี รตคิ ณุ 1) ประกาศอิสรภาพจากอาณาจักรศรีวิชัยให้แก่นครศรีธรรมราช ตอนนั้นนครศรีธรรมราช เปน็ รฐั หนง่ึ ของศรวี ชิ ยั ในขณะทอ่ี าณาจกั รศรวี ชิ ยั ออ่ นแอพระเจา้ จนั ทรภาณจุ งึ ประกาศเอกราชจากอาณาจกั รศรวี ชิ ยั ในราว พ.ศ.1773 และอาณาจักรศรวี ชิ ัยก็ถึงกาลอวสานในราวปี พ.ศ. 1838 2) ยกทัพไปตีลังกา 2 ครั้ง ดงั นี้ ครง้ั ที่ 1 ยกไปตีลังกาในราวปี พ.ศ.1750 ในสมัยของพระเจ้าปรักกรมพาหุกษัตริย์แห่งลังกา ในการรบคร้ังน้ีได้รับชัยชนะ เป็นเหตุให้แสนยานุภาพของพระองค์แผ่ไปตลอดแหลมมลายู และเกิดมีอาณานิคม ของตามพรลิงค์อยู่ในลังกา และเป็นสาเหตุหน่ึงท่ีลังกาต้องมอบพระพุทธสิหิงค์ให้ในโอกาสต่อมา และชาวลังกา เรยี กพระนามของพระองคว์ า่ “ชวากะ” ครงั้ ที่ 2 ยกทพั ไปตีลังกาคร้ังนี้ อยู่ในระหวา่ ง พ.ศ. 1801 - 1803 การไปรบลังกาในคร้ังหลงั น้ี พระเจ้าจันทรภาณุ ได้รับความช่วยเหลือจากทหารชาวทมิฬโจฬะ และพวกปาณฑย์ ซ่ึงเป็นศัตรูกับชาวลังกา มาแต่โบราณ และได้ยกพลข้ึนบกที่มหาติตถะ ทางฝ่ายนครศรีธรรมราช มีเจ้าชายวีรพาหุเป็นแม่ทัพ ในระยะแรก ฝ่ายพระเจ้าจันทรภาณุมีชัยชนะในการรบแต่ระยะหลังกองทัพของพวกปาณฑย์เกิดกลับใจไปร่วมรบกับพวกลังกา ตีพวกทมิฬโจฬะแตกพ่าย ท�ำให้ทัพของพระเจ้าจันทรภาณุถูกล้อม นักประวัติศาสตร์บางท่านกล่าวว่า พระองค์ สิ้นพระชนม์ในสนามรบ แต่บางท่านบอกวา่ พระองคเ์ สดจ็ กลบั มาได้ และอยู่ตอ่ มาอกี หลายปจี ึงส้นิ พระชนม์ 3. เจ้าพระยานคร (พัฒน์) เจ้าพระยานคร (พัฒน์) หรือเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์) เป็นเจ้าเมืองอันดับท่ี 2 ของนครศรีธรรมราชในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เจ้าพระยานครผู้นี้เดิมเป็นหม่อมเจ้าในกรมหมื่นอินทรพิทักษ์ (รัชกาลที่ 3) ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ซ่ึงในพงศาวดาร เรียกว่า พระอุปราช หรือ เจ้าพัฒน์ ในสมัยกรุงธนบุรี ได้ท�ำราชการสนองพระเดชพระคณุ พระเจา้ อยู่หวั และประเทศชาติ ผลงานและพระเกยี รติคณุ เจา้ พระยานคร (พฒั น)์ หรอื พระอปุ ราช (พฒั น)์ ถงึ แก่ อสัญกรรม เมื่อ พ.ศ.2358 นับเป็นแบบอย่างข้าราชการท่ีดีผู้หน่ึง คือ เปน็ ผทู้ ไี่ มย่ ดึ ถอื ในตวั บคุ คลจนเกนิ ไป แตย่ ดึ ถอื ในหลกั การ และประโยชน์ ของส่วนรวม คือ ประเทศชาติเป็นท่ีต้ัง ไม่ว่าเหตุการณ์บ้านเมือง จะเปล่ียนแปลงอย่างไร ก็ยังสามารถปฏิบัติราชการงานเมืองในหน้าท่ี ด้วยดีเสมอมา มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าท่ี และต่อผู้บังคับบัญชา มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นสมัยกรุงธนบุรี หรือกรุงรัตนโกสินทร์ จะเห็นว่าเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าแผ่นดิน มาทั้งสองสมัย นอกจากน้ันยังเป็นท่ีรู้จักกาล รู้จักประมาณตน ปราศจากความโลภ ความหลง เช่น เมื่ออายุมาก ไมส่ ามารถปฏบิ ตั ริ าชการดว้ ยดไี ด้ กก็ ราบถวายบงั คมทลู ลาออกเพอ่ื เปดิ โอกาสใหผ้ อู้ น่ื ทม่ี คี วามสามารถกวา่ ทำ� หนา้ ท่ี แทน คุณลกั ษณะเช่นน้จี งึ ทำ� ใหเ้ จา้ พระยานคร (พฒั น)์ มีวถิ ีชีวติ ท่ีด�ำเนินมาด้วยความราบรนื่ ตราบสิ้นอายุขัย 69เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา

4. เจ้าพระยานคร (นอ้ ย) เจ้าพระยานคร (น้อย) หรือเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) เป็นเจ้าเมืองล�ำดับท่ี 3 ของเมืองนครศรีธรรมราชในสมัย กรุงรัตนโกสินทร์ นับเป็นเจ้าเมืองท่ีมีชื่อเสียงโดดเด่นกว่าเจ้าเมืองใด ๆ ในสมัยเดียวกัน เพราะเป็นท้ังนักรบ นักปกครอง และเป็นผู้สันทัด ในการช่างเป็นอย่างยอดเยี่ยม รับราชการสนองพระเดชพระคุณชาติ บ้านเมืองด้วยความอุตสาหะ จงรักภักดีซ่ือสัตย์ต่อพระบรมราโชบาย ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์อย่างแน่วแน่ มนั่ คงถงึ สามรชั กาล คอื พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั และพระบาทสมเดจ็ พระนงั่ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ตามลำ� ดบั นบั ไดว้ า่ เปน็ ขา้ ราชการชน้ั ผใู้ หญท่ ไี่ ดบ้ ำ� เพญ็ กรณยี กจิ ที่ส�ำคัญแก่ชาติบ้านเมืองมายาวนาน ตั้งแต่วัยฉกรรจ์จนกระท่ังถึง เจ้าพระยานคร (น้อย) อสัญกรรม เกดิ เมอื่ วนั จันทรท์ ี่ 27 สิงหาคม 2319 ตามหลกั ฐานทางราชการกล่าวว่า เป็นบุตรพระยาสธุ รรมมนตรี (พัฒน)์ มารดาช่ือ ปราง หรอื หนเู ล็ก เรมิ่ เขา้ รับราชการอยา่ งจริงจงั ในต้นรัชสมยั พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หล้า นภาลัย คอื ใน พ.ศ.2354 ผลงานและพระเกียรตคิ ณุ 1) ด้านการปกครอง การตีเมืองไทรบุรี เป็นเมืองท่ีมีปัญหาในการปกครองของไทยตลอดเวลา เจ้าพระยานคร (น้อย) ปกครองเมืองนคร ต้องใช้ความรู้ ความสามารถท้ังในด้านการสงคราม การทตู การปกครอง และการบริหารอยา่ งย่ิงยวด จงึ สามารถรักษาเมอื งไทรบรุ ีใหอ้ ยูภ่ ายในราชอาณาจกั รไทยตลอดชวี ติ ของท่าน 2) ดา้ นการทูต บทบาทของเจา้ พระยานคร (น้อย) วา่ เป็นนกั การทูตคนสำ� คัญในยุคนั้น โดยเฉพาะ การทตู ระหวา่ งไทยกบั อังกฤษในสมยั รัชกาลที่ 2 - 3 เจา้ พระยานคร (น้อย) มคี วามเฉลยี วฉลาด มีปฏภิ าณไหวพรบิ ในการเจรจาความเมืองและผลแห่งการเป็นนักการทูตผู้มีปฏิภาณท�ำให้เมืองนครศรีธรรมราช มีอิทธิพลต่อหัวเมือง มลายู และเปน็ ทีน่ ับถือย�ำเกรงแก่บริษัทอังกฤษ ซึง่ ก�ำลังแผอ่ ทิ ธพิ ลการคา้ และการเมืองมายังภาคพ้ืนเอเชยี อาคเนย์ 3) การตอ่ เรือ เจา้ พระยานคร (น้อย) มีความเชีย่ วชาญในการต่อเรอื มาก คอื ไดต้ อ่ เรอื กำ� ป่นั หลวง สำ� หรบั บรรทกุ ขา้ วไปขายทอี่ นิ เดยี ทำ� ใหป้ ระเทศชาตมิ รี ายไดม้ าก และทสี่ ำ� คญั คอื ไดต้ อ่ เรอื รบขนาดยอ่ มไปจนถงึ เรอื ขนาดใหญ่ ท่ีตอ้ งใช้กรรเชียงสองช้ัน 4) การพฒั นาเครอื่ งถม “เครอื่ งถม” เปน็ หตั ถกรรมชน้ั สงู ทชี่ าวนครทำ� สบื ทอดกนั มาแตค่ รง้ั สมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยาตอนกลาง บา้ งกว็ า่ เปน็ ฝมี อื การรงั สรรคข์ องชาวนครครง้ั โบราณ บา้ งกว็ า่ ไดร้ บั สบื ทอดความรจู้ ากชาวโปรตเุ กสทมี่ าตดิ ตอ่ คา้ ขาย แตไ่ ม่ว่าจะมกี ำ� เนดิ มาอยา่ งไร งานศิลปหตั ถกรรมประเภทน้ีกก็ ลายเป็นงานฝมี อื เอกลักษณ์ของเมือง 70 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา

5. พระรัตนธัชมนุ ี (มว่ ง ศิริรตั น์) พระรัตนธัชมุนี มีนามเดิมว่า “ม่วง ศิริรัตน์” เกิดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2396 ท่ีบ้านหมาก หมู่ท่ี 5 ต�ำบลบ้านเพิง อ�ำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตรของนายแก้ว และนางทองค�ำ สิริรัตน์ มีพนี่ อ้ ง 7 คน เป็นบุตรคน สุดท้อง เมื่ออายุได้ 7 ปี ไดศ้ ึกษาเบือ้ งต้นในสำ� นักอาจารย์สดี �ำ วัดหลมุ พอ อ.ปากพนัง อายุ 9 ปี ย้ายไปศึกษาในส�ำนักอาจารย์เพชรวัดแจ้ง อ�ำเภอปากพนัง ไดศ้ ึกษาเล่าเรียน มลู กจั จายน์ในสำ� นกั นี้ อายไุ ด้ 15 ปี ได้บรรพชาอยู่ที่ วัดแจ้งน้ัน เมื่ออายุได้ 17 ปี ได้ย้ายมาอยู่ที่วัดมเหยงคณ์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมจาก พระครูการาม (จู) ในพ.ศ. 2416 ได้อุปสมบทเป็นภิกษุฝ่ายมหานิกาย โดยพระครูการาม (จู) เป็นพระอุปัชฌาย์ มีฉายาว่า “รัตนธโช” เมื่อ อุปสมบทแลว้ ไดจ้ ำ� พรรษาอยู่ที่ วดั มเหยงคณ์ 1 พรรษาตอ่ มาเมื่อพระครู การาม (จู) ย้ายไปอยู่ท่ีวัดท่าโพธิ์ฯ จึงย้ายตามไปด้วยในปี พ.ศ 2427 เมื่อพระครูการาม (จู) มรณภาพก็ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าโพธ์ิสืบแทน ต่อมาได้รับการแต่งต้ังจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ใหเ้ ป็นพระราชาคณะมรี าชทนิ นามวา่ “พระสิรธิ รรมมุน”ี พระรัตนธัชมณุ ี (มว่ ง ศริ ริ ตั น์) ผลงาน/เกียรตคิ ุณทไ่ี ด้รบั 1) ด้านการศาสนา เป็นท่ียอมรับและได้รับการยกย่องมาก สามารถแก้ไขปัญหาในการปกครองคณะสงฆ์ ใหเ้ ปน็ ระเบียบเรยี บร้อยได้ จนกระทง่ั กรมหมื่นวชริ ญาณวโรรสและกรมหม่ืนดำ� รงราชานภุ าพ ทรงเห็นพอ้ งตอ้ งกัน วา่ เป็นแบบแผนทดี่ ี ควรใหผ้ ู้อำ� นวยการการศึกษา รบั ไปจดั ให้ตลอดเหมือนกันทว่ั ทกุ มณฑล 2) ดา้ นการศกึ ษา เปน็ ผูร้ เิ ร่มิ จัดการศึกษาฝา่ ยสามัญและวสิ ามัญข้นึ ในมณฑลนครศรีธรรมราชและมณฑลปตั ตานี จ�ำนวนโรงเรยี นที่ทา่ นไดจ้ ดั ตง้ั ทัง้ หมด 21 แหง่ เชน่ 2.1 โรงเรียนหลวงหลังแรกตั้งอยู่ท่ีวัดท่าโพธิ์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีช่ือว่า “สขุ ุมาภิบาลวิทยา” ได้พระยาสขุ มุ นัยวินิต (ป้ัน สขุ มุ ) ขา้ หลวงเทศาภบิ าล เปน็ ผู้อปุ ถมั ภ์ (โรงเรียนนต้ี อ่ มาเปลย่ี น ซื่อเปน็ “เบญจมราชูทศิ ”) 2.2 โรงเรยี นราษฎรผดงุ วิทยา ตง้ั อยทู่ ี่วดั พระนครใต้ พระครูกาชาตเิ ปน็ ผ้อู ุดหนนุ 2.3 โรงเรียนวฑั ฒนานุกูล อยู่ทวี่ ัดหมาย อ�ำเภอท่าศาลา 2.4 โรงเรยี นเกษตราภสิ จิ น์ ต้ังอยู่ท่ีวัดร่อนนอก อ�ำเภอร่อนพิบลู ย์ 2.5 โรงเรียนนิตยาภริ มย์ ต้ังอย่ทู ่วี ัดโคกหม้อ อ�ำเภอทงุ่ สง 2.6 โรงเรียนวิทยาคม นาคะวงศ์ ต้งั อยูท่ ี่วดั วงั ม่วง อำ� เภอฉวาง 2.7 โรงเรยี นวิสามญั ให้มกี ารสอนวิชาช่างถมขนึ้ ทว่ี ดั ทา่ โพธ์ิเปน็ ครั้งแรก ในพระราชอาณาจักร เม่ือ พ.ศ. 2456 71เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา

3) ด้านกวนี พิ นธ์ พระรตั นธชั มนุ ี มีความสามารถทางกวนี ิพนธ์ดว้ ย ทงั้ กลอนสด กลอนเพลงบอกและโคลงกลอน อนื่ ๆ อกี มาก เชน่ แตง่ คำ� รอ้ งรบั เสดจ็ ในสมยั รชั กาลท่ี 5 เพอื่ ใหน้ กั เรยี นรอ้ งรบั เสดจ็ เมอ่ื เสดจ็ ถงึ จงั หวดั นครศรธี รรมราช แต่งโคลงรบั เสด็จพระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั เมื่อเสด็จประพาส จังหวดั นครศรีธรรมราช พ.ศ. 2441 แต่งเพลงบอกเรือ่ งศาลาโกหก 6. พระครพู ิศษิ ฐ์อรรถการ (พอ่ ท่านคล้าย) พระครูพิศิษฐ์อรรถการ หรือ พ่อท่านคล้าย มีชื่อเดิมว่า คล้าย สีนิล (ศรีนิล) เกิดเมื่อวันอังคาร เดือน 4 ปีชวด พ.ศ. 2407 ทบี่ ้านโคกกะทือ ต.ชา้ งกลาง อ.ฉวาง จ.นครศรธี รรมราช บิดาชอื่ นายอนิ ทร์ มารดาชอื่ นางเนีย่ ว มพี ่ีสาวคนหนงึ่ ชอื่ เพิง ไดเ้ สียชวี ิตตงั้ แต่เยาว์วัย การศกึ ษา ทา่ นได้ศึกษาเลา่ เรียนอกั ษร จากบิดาของท่าน อายุ 10 ขวบ กเ็ รยี นจบ เมื่ออายุ 13 ปี ได้โปเรยี นเลขกับอาจารย์ขา้ํ ไม่นานก็ชำ� นาญ เมือ่ อายุ 20 ปี ก็ไดอ้ ปุ สมบท ที่วัดจังม่วง อ.ฉวาง พ่อท่านคล้ายเป็นพระเถระท่ีมีความเคร่งครัดในวิชาวินัย มีคุณธรรม และบ�ำเพ็ญประโยชน์ อยา่ งใหญห่ ลวง จงึ ไดร้ บั การยกยอ่ งนบั ถอื จากประชาชนทวั่ ไปวา่ เปน็ เกจอิ าจารยท์ ส่ี ำ� คญั รปู หนง่ึ ของภาคใตใ้ นฐานะ ท่ีเปน็ ผู้มี “วาจาสิทธิ์” ผลงาน/เกยี รติคุณท่ไี ดร้ บั 1) งานดา้ นศาสนา พระครูพิศิษฐ์อรรถการ เป็นผู้น�ำในการสร้างวัดพระเจดีย์ พระพุทธรูป และร่วมกัน ในการปฏิสังขรณ์ บูรณะศาสนสถานเป็นจ�ำนวนมาก เช่น สร้างวัด พ่อท่านคล้ายเห็นความส�ำคัญของปูชนียสถาน จึงไดส้ รา้ งวดั ขนึ้ หลายแห่ง ได้แก่ วัดมะปรางงาม ต�ำบลละอาย อำ� เภอฉวาง ใน พ.ศ. 2490 ต่อมา พ.ศ. 2500 ทายาท องึ่ คา่ ยทา่ ย ถวายทดี่ นิ ใกลต้ ลาดนาบอน จงึ สรา้ งวดั ขน้ึ เรยี กชอ่ื ตามสมณะคกั ดว์ิ า่ วดั พศิ ษิ ฐอ์ รรถการามและวดั ทส่ี ำ� คญั ทส่ี ดุ คอื วดั พระธาตนุ อ้ ยหรอื คนทว่ั ไปเรยี กวา่ วดั พอ่ ทา่ นคลา้ ย พระครพู ศิ ษิ ฐอ์ รรถการไดส้ รา้ งขน้ึ ใหม่ และสรา้ งเจดยี ์ องค์ใหญไ่ วเ้ ป็นอนุสรณ์ 2) งานดา้ นพฒั นาทอ้ งถิน่ พ่อท่านคล้าย จัดได้ว่าเป็นนักพัฒนาท่ีย่ิงใหญ่ตลอดชีวิต ท�ำางานโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพ่ือประโยชน์ส่วนรวม ได้เดินทางไปพัฒนาในที่ต่าง ๆ มากมาย สร้างถนน สะพานมากมาย ด้วยเมตตาบารมี และความเคารพศรัทธาของศิษย์และประชาชน เช่น สร้างถนนเข้าวัดจันดี ถนนจากต�ำบลละอายไปพิปูน ถนนจากวัดสวนขนั ไปยังสถานีรถไฟคลองจันดี ถนนจากตำ� บลละอายไปนาแว ถนนระหว่างหม่บู า้ นในตำ� บลละอาย สะพานข้ามคลองคุดดว้ น เข้าวัดสวนขนั สะพานขา้ มแม่ 3) ด้านความมีเมตตาและวาจาสทิ ธ์ิ ศิษย์ยานุศิษย์และประชาชนท่ีเคารพนับถือ ศรัทธาพ่อท่านคล้ายได้เช่ือถือถึงความศักดิ์สิทธิ์ ของวาจา พดู อย่างไรเป็นอยา่ งนนั้ พ่อท่านคล้ายจะพูดจากับทุกคนดว้ ยใบหนา้ ยิ้มแยม้ และแจม่ ใสอารมณ์เยือกเย็น อยู่ตลอดเวลา ท่านมักจะให้พรกับทุกคน “ขอให้เป็นสุข เป็นสุข” ผู้ท่ีเคารพนับถือท่านต่างพากันกลัวค�ำต�ำหนิ เพราะผู้ท่ีถูกต�ำหนิทุกรายล้วนแต่พบความวิบัติ คนส่วนมากจึงหวังท่ีจะได้รับค�ำอวยพร เพราะค�ำเหล่าน้ัน เป็นการพยากรณ์ที่แม่นย�ำทั้งในทางดีและทางเสื่อมเสีย คนท่ีไปนมัสการหวังท่ีจะได้วัตถุมงคล บ้างขอน้�ำมนต์ ชานหมาก แหวน ผา้ ยนั ต์ เหรียญ รปู หล่อ รูปพมิ พ์ ซง่ึ พอ่ ท่านคล้ายก็ได้มเี มตตาใหก้ ับทกุ คน ย่งิ ชานหมากของท่าน หากใครไดร้ บั จากมอื ท่านเปน็ ต้องหวงแหนอย่างท่สี ดุ 72 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา

ผลงานและเกยี รติคุณท่ไี ด้รบั 1. ดา้ นส่งเสริมพระพุทธศาสนา 1) ตำ� แหน่งพระปลัดฐานานกุ รมของพระอรยิ กวี (เซง่ ) วดั ราชาธิวาสวหิ าร กรงุ เทพ ในปี 2454 เปน็ พระครปู ระสาทพทุ ธรปู วติ ร ฐานานกุ รมของสมเดจ็ พระมหาสมณะเจา้ กรมพระวชริ ญาณวโรรส วดั บวรนเิ วศวหิ าร กรุงเทพฯ ใน พ.ศ. 2457 2) พระครูปลัดศีลวัฒน์ ฐานานุกรมของพระธรรมโกศาจารย์ (พระรัตนธัชมุนี ม่วง) เจา้ คณะมณฑล นครศรีธรรมราชและปัตตานี ใน พ.ศ.2463 3) พระครปู ลดั ศรธี รรมวฒั น์ฐานานกุ รมของพระรตั นธชั มนุ ี(มว่ ง)เจา้ คณะมณฑลนครศรธี รรมราช และปตั ตานี ใน พ.ศ.2466 4) พระครูเหมเจตยิ านรุ กั ษ์ ตำ� แหนง่ รองเจ้าคณะจงั หวัดนครศรีธรรมราช ใน พ.ศ. 2468 5) พระศรีธรรมประสาธน์ มหาธาตเุ จตยิ านุรกั ษ์ สังฆปาโมกข์ ต�ำแหน่งพระราชาคณะช้นั ราช ในนามเดิม และใน พ.ศ.2499 เปน็ พระราชาคณะชั้นเทพในนามเดิม 6) เป็นพระราชาคณะช้ันธรรม ท่ีพระรัตนธัชมุณีศรีธรรมราช ธรรมสาธก ตรีปีฏกคุณา ลังการศลี สมาจาก วินยั สนุ ทร ธรรมิกคณสิ สร บวรสงั ฆาราม คามวาสี ใน ปี พ.ศ.2505 ผลงานทสี่ �ำคญั 1. การพฒั นาศาสนาบุคคล พระรัตนธชั มุณี (แบน) เป็นผ้มู ีเมตตา สรา้ งสรรค์บุคคลให้ได้รับความ เจริญรุ่งเรือง ให้การศึกษาอบรม แนะน�ำ โดยเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม เป็นครูท่ีส�ำนักวัดท่าโพธ์ิ วัดมเหยงค์ วดั พระมหาธาตุวรมหาวิหาร 2. การพัฒนาศาสนสถานและศาสนวัตถุ เม่ือได้รับหน้าที่เป็นเจ้าอาวาส เป็นเจ้าคณะ ไดบ้ รู ณปฏสิ งั ขรณศ์ าสนสถานทช่ี ำ� รดุ ใหค้ งสภาพดขี น้ึ ไดส้ รา้ งวดั และแนะนำ� ใหผ้ อู้ น่ื สรา้ งวดั ขนึ้ ในสถานทท่ี ค่ี วรสรา้ ง เพิม่ ข้นึ เป็นจ�ำนวนมาก เช่น 2.1 บูรณปฏิสังขรณ์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จัดการให้บูรณปฏิสังขรณ์ องค์พระบรมธาตุ เจดยี ์ พระวิหารหลวง พระระเบียง พระวหิ ารภูตเถร (พระแอด) พระวิหารสามจอม วิหารทับเกษตร วหิ ารตามศาลา สรา้ งกฏุ ไิ ม้ 1 ช้นั รวม 7 หลัง สร้างหอระฆงั สร้างถนนระหวา่ งพระเจดยี บ์ รวิ าร ภายในบริเวณพระบรมธาตเุ จดีย์ สรา้ งศาลาพระรตั นธชั มนุ ี และสงิ่ กอ่ สรา้ งอนื่ ๆ ภายในบรเิ วณวดั อกี เปน็ จำ� นวนมาก รวมทง้ั สรา้ งโรงเรยี น พระปรยิ ตั ิ ธรรม ใช้เปน็ สถานท่ีศึกษาพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกธรรมและแผนกบาลี 2.2 บูรณปฏสิ งั ขรณว์ ัดมเหยงค์ โดยปรับปรุงเสนาสนะทวั่ ท้ังวดั 2.3 เปน็ พระนกั เทศนท์ มี่ คี วามสามารถ จนไดร้ บั การยกยอ่ งเปน็ “พระคณาจารยโ์ ททางเทศนา” เพราะมีความรทู้ ันตอ่ เหตุการณ์และทนั สมัยอยู่ตลอดเวลา เนอ่ื งจากหากมีเวลาวา่ ง พระรตั นธชั มนุ ี (แบน) จะอ่าน ตำ� ราทางพระพทุ ธศาสนา สารคดี และขา่ วสารตา่ ง ๆ อยเู่ ปน็ ประจำ� การแสดงพระธรรมเทศนา จงึ แสดงโดยปฏภิ าณ มคี ารมคมคาย ชวนใหผ้ ฟู้ งั ตง้ั อกตง้ั ใจฟงั ถนดั ทง้ั การแสดงธรรมรปู เดยี ว และแสดงธรรมโดยปจุ ฉาวสิ ชั นา 2 ธรรมาสน์ ได้จาริกไปแสดงพระธรรมเทศนาอบรมประชาชนท่ัวภาคใต้ อีกท้ังยังจัดให้มีการประกอบศาสนกิจ ในวันส�ำคัญ ทางพระพทุ ธศาสนา จัดการฝกึ อบรมศลี ธรรมแก่นักเรียนในโรงเรยี นในเขตปกครองเปน็ ประจำ� 73เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา

7. พลต�ำรวจตรีขุนพนั ธรกั ษร์ าชเดช ประวัติ พลต�ำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช ชื่อนามสกุลเดิม นายบุตร พันธรักษ์ เกิดเม่ือวันท่ี 18 กุมภาพันธ์ 2446 ท่ีบ้านอ้ายเขียว หมูที่ 5 ต�ำบลดอนตะโก อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตร ของนายอว้ น นางทองจันทร์ พันธรักษ์ พลตำ� รวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นอดีตนายต�ำรวจช่ือดัง ของวงการต�ำรวจไทย เป็นบุคคลที่ส�ำนักงาน ตำ� รวจแหง่ ชาติ เนอ่ื งจากทา่ นเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ขี องกรมตำ� รวจ มชี อื่ เสยี ง เป็นอันมากในการปราบโจรร้ายในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย เช่น เสือฝ้าย เสือย่อง เสือผ่อน เสือครึ้ม เสือปลั่ง เสือใบ เสืออ้วน เสือไหว เสือมเหศวรท่ีพัทลุง ปราบเสือลัง หรือเสือพุ่ม ท่ีนราธิวาส เป็นต้น จากผลงานท่ีโดดเด่นที่สามารถปราบปรามโจรผู้ร้ายได้มากมาย จึงได้รับ ฉายาตา่ งๆ ว่า “นายพลต�ำรวจหนงั เหนยี ว” “นายพลต�ำรวจหนวดเซยี้ ว” “ขนุ พันธๆ์ ดาบแดง” “รายอกะจิ” “จอมขมงั เวท” ต่อมาไดร้ บั พระบรม ราชานุญาตให้ใช้ราชทินนามเป็นชื่อสกุล “ขุนพันธรักษ์ราชเดช” และ เป็นคนสุดทา้ ยของประเทศไทยที่ได้รบั พระราชทินนาม ผลงานทางวิชาการ พลต�ำรวจตรี ขุนพนั ธรักษ์ราชเดช ขนุ พนั ธรกั ษร์ าชเดช เปน็ ทง้ั นกั อา่ นและนกั เขยี น ไดเ้ ขยี นเรอ่ื งราวตา่ ง ๆ ลงพมิ พใ์ นหนงั สอื และวารสาร ต่าง ๆ หลายเรื่อง และเป็นคนหน่ึงท่ีมีความสนใจในเร่ืองไสยศาสตร์ เรื่องท่ีเขียนส่วนใหญ่จึงเป็นเร่ืองเกี่ยวกับ ความเชอ่ื ทางไสยศาสตร์ เชน่ ความเชอ่ื ทางไสยศาสตรใ์ นภาคใต้ สองเกลอ หวั ลา้ นนอกครู มวยไทย เชอื่ เครอื่ ง กรงุ ชงิ ช้างเผือกงาดำ� ศษิ ยเ์ จ้าคุณ นอกจากนัน้ ก็มเี ร่ืองเก่ยี วกบั ประวตั ศิ าสตร์ทั้งประวตั บิ คุ คลและสถานที่ ต�ำนานท้องถ่นิ มวย และเร่อื งเกีย่ วกบั ประสบการณข์ องตนเอง ผลงานด้านทะนบุ �ำรงุ ศาสนา เป็นผู้ริเริ่มให้มีการบวงสรวงพระธาตุนครศรีธรรมราช อันเปีนที่มาของการสร้างจตุคามรามเทพ รุ่นแรกในปี พ.ศ. 2530 ตามความเช่ือว่า องค์จตุคามรามเทพน้ัน เป็นกษัตริย์ของอาณาจักรนครศรีธรรมราช ทรงมีพระนามที่เป็นทางการ คือ พระเจ้าจันทรภาณุ โดยที่พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์องค์ท่ีสองของราชวงศ์ ศรีธรรมาโศกราช พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์นักรบที่แกร่งกล้า และไดร้ บั สมญั ญานามว่า พญาพังพกาฬ หรือ ราชนั ตำ� แห่งทะเลใต้ พระองค์ทรงมีพระวรกายสีเข้ม และพระองค์ทรงศึกษาวิชาจตุคามศาสตร์ และบ�ำเพ็ญอธิษฐานจิต เปน็ พระโพธิสัตว์ จตุคามรามเทพ มีความหมายว่า เทพรักษาพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซ่ึงมีอยู่ด้วยกัน สององคน์ นั้ กค็ อื ทา้ วขตั ตคุ ามและทา้ วรามเทพ ในอดตี มคี วามเชอื่ วา่ ทา้ วขตั ตคุ าม และทา้ วรามเทพนนั้ เปน็ เทพชนั้ สงู ประเทศไทยได้รับอิทธิพลของพุทธศาสนา ก็ท้าให้ท้าวขัตตุคามและท้าวรามเทพ เปลี่ยนสถานะเป็นเทวดา ทที่ รงปกปักรักษาพระบรมธาตุ และถูกเปลี่ยนชอื่ ใหมเ่ พอ่ื ใหค้ วามเปน็ มงคล เป็นทา้ วจตคุ าม 74 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา

8. ดร.สรุ ินทร์ พิศสุวรรณ ดร.สรุ นิ ทร์ พศิ สวุ รรณ เกดิ เมอื่ วนั ที่ 28 ตลุ าคม พ.ศ. 2492 เป็นคนบ้านตาล ต�ำบลก�ำแพงเซา อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช พอ่ ชอื่ ฮจั ยี อสิ มา แอล แม่ซื่อ ซอฟียะห์ พิศสวุ รรณ เปน็ ลกู ชายคนโต จากทั้งหมด 11 คน คณุ ตาซ่ือ ฮจั จยี ะโกบ พิศสุวรรณ ผกู้ ่อตั้งโรงเรียน ปอเนอะบ้านตาล หรือโรงเรียนประทปี ศาสน์โรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม ชองเอกชน ส่วนคุณตาทวด ของ ดร.สุรินทร์ เป็นผู้บุกเบิกชุมชนมุสลิม ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ช่ือ อิหม่าม ตูวันฆูอัลมัรฮูม ฮัจยีซิดฎิก พิศสุวรรณ ดร.สรุ นิ ทร์มีช่ือในภาษาอาหรับว่า อับดุลฮาลมื บินอสิ มาแอล พศิ สวุ รรณ ซงึ่ แปลว่า “ผมู้ ีจติ ใจสขุ ุมเยือกเย็น โกรธยาก อภยั เร็ว” ดร.สรุ นิ ทร์ พศิ สวุ รรณ สมรสกบั อลสิ า พศิ สวุ รรณ (ฮจั ยะท์ ดร.สุรนิ ทร์ พิศสุวรรณ อาอีซะฮ)์ เมอ่ื พ.ศ. 2526 มลี ูกชายด้วยกนั 3 คน ดร.สรุ นิ ทร์ พศิ สวุ รรณ ถงึ แกอ่ นจิ กรรม เมอ่ื วนั ท่ี 30 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2560 ทโ่ี รงพยาบาลรามคำ� แหง ดว้ ยอาการหัวใจวายเฉยี บพลัน สิริอายุได้ 68 ปี การเมือง ดำ� รงตำ� แหนง่ สำ� คัญ ๆ ทางการเมอื ง ดงั นี้ 1) เป็นสมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎรจังหวดั นครศรีธรรมราช พรรคประชาธปิ ตั ย์ ปี พ.ศ. 2529, 2531, 2535/1, 2535/2, 2538, 2539, 2548 2) เปน็ เลขานกุ ารประธานสภาผู้แทนราษฎร ปี พ.ศ. 2529 - 2531 3) ผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปี พ.ศ. 2531 - 2534 4) รฐั มนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐบาล ชวน หลกี ภัย ปี พ.ศ. 2535 - 2538 5) รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการต่างประเทศ รัฐบาล ชวน หลีกภยั ปี พ.ศ. 2540 - 2544 6) เปน็ เลขาธิการอาเซียน ปี พ.ศ. 2551 – 2556 ผลงานที่ส�ำคัญในทางการเมือง 1) เปน็ ผูร้ ณรงคห์ าเสียง และสนบั สนนุ ดร.ศภุ ชัย พานชิ ภกั ด์ิ ไดร้ ับการเลือกตั้งเป็นผู้อ�ำนวยการ ใหญข่ ององคก์ ารการคา้ โลก (World Trade Organization; WTO) 2) ดร.สรุ นิ ทร์ เปน็ คนสำ� คญั ทไี่ ปเจรจาของบประมาณชว่ ยเหลอื จากญป่ี นุ่ เพอ่ื ใชใ้ นการสง่ กองกำ� ลงั รกั ษาสนั ตภิ าพไทยฟลิ ปิ ปนิ ส์ เพอื่ ไปรกั ษาสนั ตภิ าพในตมิ อรเ์ ลสเต (Timor-Leste) หรอื ตมิ อรต์ ะวนั ออก (EastTimor) ซึ่งเพง่ิ แยกตัวออกและจากอนิ โดนเี ซีย เพอื่ ลดความชดั แยง้ ระหว่างอนิ โดนเี ซียตมิ อร-์ เลสเต เนอื่ งจากไมม่ ปี ระเทศ มหาอำ� นาจใดเขา้ มาควบคุมสถานการณท์ เ่ี กิดขน้ึ ถงึ แม้วา่ บริเวณดังกล่าวจะอยภู่ ายใตเ้ ขตอทิ ธพิ ลของ ออสเตรเลีย ดร.สุรนิ ทร์ ได้ไปเจรจาของบประมาณสนบั สนุนดงั กล่าวจากญปี่ ุ่น และญ่ีปนุ่ ไดอ้ นุมัติเงนิ ทำ� ใหก้ ารสง่ กองกำ� ลงั ร่วม ไทย-ฟิลปิ ปินส์ เพ่อื ไปรักษาสนั ติภาพท่ีตมิ อรเ์ ลสเต ประสบความสำ� เร็จในท่ีสุด 3) ดร.สรุ ินทร์ มีส่วนสำ� คัญในการผลักตันในประเทศสมาชิกอาเซียน ทัง้ 10 ประเทศใหส้ ตั ยาบัน ตอ่ กฎบัตรอาเซียน (ASEAN Charter) จนแลว้ เสร็จ ในวันท่ี 14 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2551 และไดป้ ระกาศใช้ ในทีส่ ดุ นอกจากนี้แล้ว ดร.สุรนิ ทร์ยังไดร้ ณรงคแ์ ละประชาสมั พันธเ์ พ่อื ใหป้ ระชาชน ทัง้ 10 ชาติ ตระหนกั และรูจ้ ักอาเซยี น ให้มากข้นึ อีกดว้ ย 75เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดับประถมศึกษา

9. องั คาร กลั ยาณพงศ์ นายองั คาร กลั ยาณพงศ์ เกดิ เมอ่ื วนั ที่ 13 กมุ ภาพนั ธ์ 2469 พ้ืนเพเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช บิดานายเข็บ กัลยาณพงศ์ (อดีตกำ� นัน ต�ำบลทา่ วงั ) มารดา นางขมุ้ กัลยาณพงศ์ องั คารไดเ้ ป็นศษิ ย์ ของ ศิลปินใหญ่อยา่ ง ศ.ศิลปี พรี ะศร,ี อ.เฟ้อ หริพิทกั ษ์ และ อ.เฉลิม นาคี รักษ์ จึงได้ติดตามและร่วมมือกับอาจารย์ในด้านศิลปกรรม โบราณคดี และประวัติศาสตร์อย่างต่อเนื่อง ความเป็นกวีนั้นเป็นพรสวรรค์ที่ อาจารย์อังคารเชื่อมั่นและฝึกฝนมาตั้งแต่อยู่ช้ันมัธยม เม่ือออกจาก มหาวิทยาลัยศิลปากรแล้ว ได้ร่อนเร่เรียนรู้ และสร้างสรรค์การวาดภาพ และเขยี นบทกวี ไดม้ โี อกาสคุ้นเคยกบั ศลิ ปินและกวีร่วมยุคสมยั หลายคน มีผลงานบทกวีปรากฏในหนังสือ “อนุสรณ์น้องใหม่” มหาวิทยาลัย นายอังคาร กลั ยาณพงศ์ ศิลปากร กระทั่งได้พบกับ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ผู้ก่อต้ังและเป็นบรรณาธิการคนแรกของ “สังคมศาสตร์ปริทัศน์” บทกวขี องอาจารย์องั คาร กัลยาณพงศ์ จงึ ไดพ้ มิ พเ์ ผยแพร่อย่างกว้างขวาง มผี ลงานท่จี ดั พมิ พส์ ร้างความตนื่ ตวั ต่ืนใจ ใหว้ รรณกรรมไทยมาเนน่ิ นาน เชน่ กวนี ิพนธ์ ปี 2507, ลำ� น�ำภกู ระดึง ปี 2512, สวนแก้ว ปี 2515, บางกอกแกว้ ก�ำสรวล หรือนิราศนครศรีธรรมราช ปี2512 จนได้รับการยกย่องว่าเป็น กวีนิพนธ์สมัยใหม่ อังคาร ได้เสียชีวิต เมื่อวนั ท่ี 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555 รวมอายุ 86 ปี 6 องั คาร ผลงานและเกยี รตคิ ุณ นายอังคาร กัลยาณพงศ์ เป็นกวีร่วมสมัยผู้ได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้สร้างสรรค์กวีนิพนธ์สมัยใหม่ ให้แก่วรรณศิลป์ไทย จึงได้รับการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติจากส�ำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ หรอื กรมสง่ เสรมิ วฒั นธรรม ใหเ้ ปน็ ศลิ ปนิ แหง่ ชาติ สาขาวรรณศลิ ป์ (กวนี พิ นธ)์ ประจำ� ปี พทุ ธศกั ราช 2532 รางวลั ซไี รต์ ปพี ุทธศักราช 2529 ชื่อผลงงาน “ปณธิ านกว”ี รางวลั วรรณกรรมยอดเยีย่ มแห่งเอเชีย ปีพุทธศักราช 2529 เป็นต้น เรื่องท่ี 3 ประชากร การเมอื ง และการปกครอง จังหวัดนครศรธี รรมราช เมอื่ ประชากรมาอยรู่ วมกนั มากขน้ึ ความตอ้ งการปจั จยั พน้ื ฐานทง้ั ในเชงิ ปรมิ าณและคณุ ภาพความปลอดภยั ในชวี ติ และทรพั ยส์ นิ ตอ้ งการปจั จยั ดา้ นตา่ งๆ ยอ่ มมมี ากขนึ้ จำ� เปน็ ตอ้ งศกึ ษาเรยี นรจู้ ำ� นวนประชากร สถติ อิ ตั ราการ เพม่ิ - ลดของประชากร อตั ราการเกดิ ตาย การยา้ ยเขา้ การยา้ ยออกของประชากร รายไดป้ ระชากรศาสนา และอาชพี จงั หวดั นครศรีธรรมราช 1. จ�ำนวนประชากร จังหวัดนครศรีธรรมราชมีประชากร จ�ำนวน 1,560,433 คน (31 ธันวาคม 2561) แยกเป็นชาย จำ� นวน 771,530 คน หญงิ จำ� นวน 788,903 คน จำ� นวน 565,568 ครวั เรอื น โดยเฉลยี่ มคี วามหนาแนน่ ของประชากร เท่ากับ 156.95 คน ต่อตารางกิโลเมตร อ�ำเภอท่ีมีประชากรมากที่สุด ได้แก่ อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จ�ำนวน 272,502 คน จ�ำนวน 108,767 ครัวเรือน และอ�ำเภอท่ีมีประชากรน้อยท่ีสุด ได้แก่ อ�ำเภอถํ้าพรรณรา จำ� นวน 19,277 คน จ�ำนวน 7,234 ครวั เรือน 76 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา

2. อตั ราการเกิด ตาย การยา้ ยเข้า การยา้ ยออก ของประชากร จังหวัดนครศรีธรรมราช มีอัตราการเกิด การตาย การย้ายเข้า การย้ายออก ข้อมูลของกระทรวง มหาดไทย ปี 2561 พบว่า อ�ำเภอท่มี อี ตั ราการเกิดมากทส่ี ุด ไดแ้ กอ่ ำ� เภอเมืองนครศรธี รรมราช จ�ำนวน 6,133 คน อำ� เภอทมี่ อี ตั ราการเกดิ นอ้ ยทส่ี ดุ จำ� นวน 1 คน ไดแ้ ก่ อำ� เภอเฉลมิ พระเกยี รติ อำ� เภอชา้ งกลาง และอำ� เภอพระพรหม อ�ำเภอที่มีอตั ราการตายมากท่สี ดุ ไดแ้ ก่ อ�ำเภอเมอื งนครศรีธรรมราช จำ� นวน 3,148 คน อ�ำเภอทมี่ อี ัตราการตาย น้อยที่สุด ได้แก่ อ�ำเภอถํ้าพรรณรา จ�ำนวน 80 คน การย้ายท่ีอยู่อาศัยการย้ายเข้ามากท่ีสุด ได้แก่ อำ� เภอเมืองนครศรธี รรมราช จำ� นวน 12,852 คน การย้ายเข้านอ้ ยทีส่ ุด ไดแ้ ก่ อำ� เภอถา้ํ พรรณรา จำ� นวน 734 คน การย้ายออก มากที่สุด ได้แก่ อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จ�ำนวน 16,748 คน การย้ายออก น้อยท่ีสุด ได้แก่ อ�ำเภอจฬุ าภรณ์ จ�ำนวน 934 คน 3. รายได้ประชากร เศรษฐกิจโดยทั่วไปของจังหวัดข้ึนอยู่กับผลผลิตทางด้านการเกษตร และการค้า อาชีพหลัก คือ การทำ� สวน ยางพารา ปาลม์ นาํ้ มนั ทำ� ไร่ การปลกู ผลไม้ ทำ� สวนมะพรา้ ว การประมง และการเลยี้ งสตั ว์ จากการสำ� รวจ ของส�ำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปี 2560 ประชากรมีรายได้ เฉล่ียต่อคนต่อปี เทา่ กบั 90,033 บาท อยใู่ นลำ� ดบั ท่ี 3 ของกลมุ่ จงั หวดั ลำ� ดบั ที่ 11 ของภาคใตอ้ นั ดบั ท่ี 32 ของประเทศ จากการสำ� รวจ ภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครวั เรอื น พ.ศ. 2560 ของสำ� นักงานสถติ ิแห่งชาติ ประชากรจงั หวัดนครศรีธรรมราช มคี า่ ใช้จ่ายโดยเฉล่ีย 20,756 บาท ต่อเดือนตอ่ ครวั เรอื น และมีรายได้ตอ่ ครวั เรอื น 29,970 บาท จ�ำนวนหน้สี ินเฉลี่ย 102,741 บาทตอ่ เดอื นตอ่ ครวั เรอื น แยกเปน็ หนสี้ นิ ในระบบ98,246 บาท และ หนส้ี นิ นอกระบบ จำ� นวน 4,495 บาท ผลติ ภัณฑม์ วลรวมจังหวัด (GPP) เท่ากบั 155,862 ลา้ นบาท เปน็ อันดับท่ี 3 ของภาคใต้ รองจาก จงั หวดั สงขลา และสรุ าษฎรธ์ านี รายไดส้ ว่ นใหญข่ นึ้ กับสาขาเกษตรกรรม จำ� นวน 50,249 ลา้ นบาท คดิ เป็น 32.23 % 4. ศาสนา ประชากรจงั หวดั นครศรีธรรมราช ส่วนใหญ่นบั ถอื ศาสนาพทุ ธ ประมาณ 92.08% รองลงมา คอื ศาสนาอิสลาม ประมาณ 7.03% ศาสนาคริสต์ ประมาณ 0.89% นอกจากนี้เป็นศาสนาอื่น ๆ (ข้อมูลประชากร 1,560,433 คน ปี พ.ศ. 2561) 5. อาชพี ด้านอาชีพ ประชากรร้อยละ 33.82 ประกอบอาชพี การเกษตร (ทำ� สวน ท�ำนา ท�ำไร่ ประมง ปศสุ ัตว)์ รองลงมา คือ อาชีพรับจ้างท่ัวไป คิดเป็นร้อยละ 21.05 และมีประชากรไม่ประกอบอาชีพ จ�ำนวน 77,372 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 8.73 (ข้อมูลประชากร 1,560,433 คน ปี พ.ศ. 2561) 77เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดับประถมศึกษา

เรอื่ งท่ี 4 การเมอื งการปกครองจงั หวดั นครศรธี รรมราช จงั หวดั นครศรธี รรมราช มกี ารแบง่ เขตเลอื กตง้ั ตามรฐั ธรรมนญู ฉบบั ปจั จบุ นั ภายในจงั หวดั ออกเปน็ 8 เขต เลือกตัง้ สามารถมสี มาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ 8 คน เขตเลอื กตง้ั ละ 1 คน โดยมรี ายละเอียด ดังนี้ 1. เขตการเลอื กตงั้ ภายในจังหวดั นครศรีธรรมราช เขตเลอื กตั้งท่ี 1 พน้ื ทปี่ ระกอบดว ย อาํ เภอเมอื งนครศรธี รรมราช (เฉพาะ ตำ� บลทา่ ไร ตำ� บลปากนคร ตาํ บลบางจาก ตำ� บลไชยมนตรี ตําบลมะมวงสองตน ตําบลโพธ์ิเสด็จ ตาํ บลทา เรือ ตําบลทา ซกั และเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช) เขตเลือกต้ังท่ี 2 พนื้ ท่ปี ระกอบดวย 2 อำ� เภอปากพนงั , อำ� เภอเชยี รใหญ่ และอำ� เภอหัวไทร เขตเลือกตั้งที่ 3 พ้ืนท่ีประกอบดวย อ�ำเภอพระพรหม, อ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติ อ�ำเภอชะอวด และอ�ำเภอจุฬาภรณ์ เขตเลือกต้งั ท่ี 4 พนื้ ทีป่ ระกอบดวย อ�ำเภอทงุ่ สงและอ�ำเภอบางขนั เขตเลือกตั้งท่ี 5 พนื้ ทปี่ ระกอบดว ย อำ� เภอทงุ่ ใหญ,่ อำ� เภอถา้ํ พรรณรา, อำ� เภอฉวาง และอำ� เภอพปิ นู เขตเลอื กต้ังที่ 6 พ้ืนท่ีประกอบดวย อ�ำเภอร่อนพิบูลย์, อ�ำเภอลานสกา, อ�ำเภอช้างกลาง และอำ� เภอนาบอน เขตเลอื กตงั้ ท่ี 7 พน้ื ท่ปี ระกอบดวย อำ� เภอท่าศาลาและอ�ำเภอเมอื งนครศรธี รรมราช [เฉพาะ ต�ำบล ปากพนู ต�ำบลท่างว้ิ ต�ำบลก�ำแพงเซา ตำ� บลนาทราย และต�ำบลนาเคียน (นอกเขตเทศบาลนครนครศรธี รรมราช)] เขตเลือกตง้ั ที่ 8 พ้ืนทป่ี ระกอบดว ย อําเภอสิชล อาํ เภอขนอม อาํ เภอนบพิตํา อําเภอพรหมคีรี 2. การปกครอง การปกครองและการบริหารราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชแบ่งเขตการปกครองและการบริหาร ราชการ ตามลักษณะพื้นท่ีออกเป็น 2 ส่วน คือ การปกครองส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย อ�ำเภอ ต�ำบล หมู่บ้าน และการปกครอง ส่วนท้องถ่ิน ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนต�ำบล ดังนี้ 2.1 การปกครองส่วนภมู ภิ าค 1) การบรหิ ารราชการหนว่ ยงานในส่วนภมู ภิ าค ประกอบด้วย อำ� เภอ 23 แห่ง ตำ� บล จำ� นวน 165 แห่ง หมูบ่ า้ น จ�ำนวน 1,551 แหง่ และส่วนราชการที่อยูใ่ นสว่ นภมู ิภาคข้นึ ตรงกับจังหวัดอีก จำ� นวน 34 แห่ง สงั กดั กระทรวงมหาดไทย จำ� นวน 7 แหง่ และสังกดั กระทรวง ทบวง กรมอื่น ๆ อีก จ�ำนวน 27 แห่ง 2) ส่วนราชการภายในจังหวัดที่ข้ึนตรงต่อส่วนราชการในส่วนกลาง จ�ำนวน 98 แห่ง ประกอบด้วย สังกัดกระทรวงมหาดไทย จ�ำนวน 10 แห่ง สังกัดกระทรวง ทบวง กรมอื่น ๆ จ�ำนวน 75 แห่ง และหนว่ ยงานอิสระ จำ� นวน 13 แห่ง 2.2 การปกครองส่วนท้องถิ่น การปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ�ำนวน 185 แห่ง คือ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั จ�ำนวน 1 แหง่ เทศบาลนคร จำ� นวน 1 แห่ง เทศบาลเมอื ง จำ� นวน 3 แห่ง เทศบาลตำ� บล จ�ำนวน 50 แหง่ และองคก์ ารบริหารสว่ นต�ำบล จำ� นวน 130 แห่ง 78 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา

1) องค์การบริหารส่วนจังหวัด คือ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ เลขท่ี 309 หมู่ที่ 7 ตำ� บลโพธิเ์ สด็จ อำ� เภอเมอื งนครศรีธรรมราช จังหวดั นครศรธี รรมราช 2) เทศบาล ประกอบด้วย เทศบาลนคร เทศบาลเมอื ง เทศบาลต�ำบล โดยมีรายละเอยี ด ดังนี้ (1) เทศบาลนคร เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นส�ำหรับเมืองขนาดใหญ่ที่มีประชากร ต้งั แต่ 50,000 คนขน้ึ ไป และมีรายได้พอเพยี งต่อการใหบ้ ริการสาธารณะตามหนา้ ที่ทีก่ ฎหมายบัญญตั ิไว้ การจดั ตงั้ เทศบาลนคร กระท�ำโดยประกาศกระทรวงมหาดไทยยกฐานะเป็นเทศบาลนครตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 ปจั จบุ นั มีเทศบาล นครอยู่ 30 แห่งทัว่ ประเทศ เทศบาลนคร แหง่ แรกของไทย 3 แห่ง คอื เทศบาลนคร กรุงเทพ เทศบาลนครธนบรุ ี และ เทศบาลนครเชยี งใหม่ (2) เทศบาลเมือง ท้องถ่ินที่จะได้รับการจัดต้ังเป็นเทศบาลเมืองน้ัน คือ ท้องถิ่นอัน เปน็ ทตี่ งั้ ศาลากลางจงั หวดั หรอื ทอ้ งถนิ่ ทมี่ จี ำ� นวนราษฎรมากกวา่ 10,000 คน และมรี ายไดเ้ พยี งพอทจี่ ะปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ของเทศบาลเมืองตามที่กฎหมายก�ำหนดไว้ แต่ก็มีท้องถิ่นบางแห่งที่ไม่ได้เป็นที่ต้ังศาลากลางจังหวัดและมีจ�ำนวน ประชากรไม่ถึง 10,000 คน แต่ก็มีฐานะเป็นเทศบาลเมือง เนื่องจากได้รับการจัดต้ังข้ึนตามกฎหมายเทศบาล สมัยแรก ๆ ซึ่งวางเกณฑต์ า่ งจากปัจจบุ ัน (3) เทศบาลต�ำบล เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินส�ำหรับเมืองขนาดเล็ก โดยท่ัวไป เทศบาลตำ� บล มีฐานะเดมิ เปน็ สุขาภบิ าลหรอื องคก์ ารบริหารส่วนตำ� บล (อบต.) การจดั ตงั้ เทศบาลต�ำบลกระท�ำโดย ประกาศกระทรวงมหาดไทย ยกฐานะท้องถิ่นขึ้นเป็นเทศบาลต�ำบลตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 เทศบาลตำ� บลมนี ายกเทศมนตรคี นหนงึ่ ทำ� หนา้ ทห่ี วั หนา้ ฝา่ ยบรหิ ารและสภาเทศบาล ซงึ่ ประกอบดว้ ยสมาชกิ จำ� นวน 12 คน ที่ราษฎรในเขตเทศบาล เลือกตั้งมาท�ำาหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ นายกเทศมนตรีมาจากการเลือกต้ังโดยตรง ของราษฎรเขตเทศบาล 3) องคก์ ารบริหารส่วนต�ำบล จงั หวดั นครศรธี รรมราช มอี งคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บล จำ� นวน 130 แหง่ มฐี านะเปน็ นติ บิ คุ คล และเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่นรูปแบบหนึ่ง ซ่ึงจัดต้ังข้ึนตามพระราชบัญญัติสภาต�ำบลและองค์การบริหาร ส่วนต�ำบล พ.ศ. 2537 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติมจนถึง ฉบับท่ี 6 พ.ศ.2552 โดยยกฐานะจากสภาต�ำบลที่มีรายได้ โดยไมร่ วมเงินอดุ หนุนในปีงบประมาณทล่ี ว่ งมาติดต่อกนั สามปเี ฉล่ยี ไมต่ ่ํากวา่ ปีละหนง่ึ แสนหา้ หมืน่ บาท 2.3 โครงสร้างการบริหารราชการ จงั หวดั มฐี านะเปน็ นติ บิ คุ คล การตงั้ ยบุ และการเปลยี่ นแปลงเขตจงั หวดั ใหต้ ราเปน็ ราชบญั ญตั ิ ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั เปน็ หวั หนา้ บงั คบั บญั ชา ขา้ ราชการของหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ทงั้ ในและนอกสงั กดั กระทรวงมหาดไทย สว่ นราชการท่ีสำ� คัญและสงั กดั กระทรวงมหาดไทย คอื ส�ำนักงานจังหวดั และทท่ี �ำการจงั หวดั อ�ำเภอ เป็นหน่วยงานราชการบริหารรองจากจังหวัด การตั้ง ยุบ และเปล่ียนเขตอ�ำเภอ ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา มีนายอ�ำเภอเป็นหัวหน้าปกครอง บังคับบัญชาข้าราชการในอ�ำเภอ และงานบริหาร ราชการของอ�ำเภอ ส่วนราชการท่ีสำ� คัญ คอื ทีท่ �ำการปกครองอ�ำเภอ และส�ำนกั งานอ�ำเภอ ต�ำบล และหมบู่ า้ น เปน็ หนว่ ยงานปกครองสว่ นยอ่ ยของอำ� เภอ หรอื กงิ่ อำ� เภอ ตงั้ ตามกฎหมาย ลกั ษณะปกครองทอ้ งท่ี พ.ศ.2457 ตำ� บลจดั ตง้ั ขนึ้ โดยประกาศของกระทรวงมหาดไทย มกี ำ� นนั เปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบตำ� บล ส่วนหม่บู ้านจดั ต้งั โดยประกาศจงั หวัด มผี ูใ้ หญบ่ ้านเป็นผรู้ ับผดิ ชอบ 79เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา

กิจกรรมหน่วยการเรียนร้ทู ี่ 7 ประชากรกบั การเมืองการปกครองจังหวดั นครศรธี รรมราช จงตอบค�ำถามตอ่ ไปนี้ทุกขอ้ 1. บอกลกั ษณะอปุ นสิ ัยของคนจงั หวัดนครศรีธรรมราช ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… 2. ให้เขียนประวัติของบุคคลส�ำคัญจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีผลงานเป็นท่ีปรากฏต่อสังคม ชุมชน และทอ้ งถิน่ มาพอสงั เขป จ�ำนวน 3 คน และศกึ ษาเพิม่ เตมิ จัดท�ำเปน็ รายงานให้ครบจำ� นวน 2 คน ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………..……………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………..……………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… ……..……………………………………………………………………………………………..……………………….……………………………… 80 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดับประถมศึกษา

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 8การจัดการศกึ ษาจังหวดั นครศรีธรรมราช การจดั การศกึ ษาจงั หวดั นครศรธี รรมราช เปน็ การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ประวตั คิ วามเปน็ มาของการจดั การศกึ ษา หน่วยงานการศึกษาและสถานศึกษาที่จัดการศึกษาในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยจังหวัดนครศรีธรรมราช มกี ารจดั การศกึ ษาในระบบและนอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ทใ่ี หค้ วามสำ� คญั ดา้ นความรู้คณุ ธรรม กระบวนการ เรยี นรู้ และบรู ณารการตามความเหมาะสมของแตล่ ะระดบั การศกึ ษา ใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทและเออ้ื ตอ่ ความตอ้ งการ ของผเู้ รยี น เรอ่ื งท่ี 1 ความเปน็ มาของการศึกษาในจงั หวัดนครศรธี รรมราช ความเป็นมาของการศกึ ษาในจังหวดั นครศรีธรรมราช เม่อื พ.ศ. 2441 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ เวลาท่ีประทับแรม อยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พระมหาม่วงได้เข้าเฝ้า หลายคร้ัง ทรงไต่ถามถึงการพระพุทธศาสนาในจังหวัดน้ี ท่านได้ชี้แจงเป็นท่ีชอบ พระอัธยาศัย ทรงเห็นว่า เป็นผู้ทรงธรรมวินัยอนั นา่ เลื่อมใสหลายประการ และทราบวา่ เปน็ สหชาติ (ผ้เู กดิ ในวัน เดือน ปเี ดียวกับพระองค)์ จึงทรงตั้งให้เป็นพระราชาคณะ มีราชทินนามว่า พระศิริธรรมมุนี ใน พ.ศ. 2442 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้เป็นผู้อ�ำนวยการศึกษา เป็นเจ้าคณะมณฑลนครศรีธรรมราช ตลอดไปจนถึงปัตตานีด้วย ได้จัดตั้งคณะสงฆ์ การศึกษาและการศาสนา จึงเกิดผลสมพระราชประสงค์ ดังปรากฏในรายงาน การศึกษา ร.ศ. 119 ลงวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2443 จำ� นวนโรงเรยี น ซึ่งทา่ นได้ตั้งทั้งหมด 21 แหง่ โดยโรงเรยี นหลวงหลังแรกตงั้ อยู่ท่วี ัดทา่ โพธิ์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีชื่อว่า “สุขุมภิบาลวิทยา” ท้ังนี้เพ่ือให้สอดคล้องกับผู้อุปถัมภ์โรงเรียน คือ พระยาสุขุมนัยวินิต (ปั้น สุขุม) สมุหเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรมราชในสมัยนั้น นับเป็นโรงเรียนหลวงแห่งแรก ของจังหวัดนครศรีธรรมราช และภาคใต้ ในปีการศึกษา 2447 ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชก็เริ่มให้ความสนใจ ส่งบุตรหลานเข้าเรียนมากข้ึน พระศิริธรรมมุนี (ม่วง รัตนธโช) จึงได้สร้างอาคารเรียนเพ่ิมเติมขึ้นอีก 1 หลัง และได้เปลี่ยนช่ือโรงเรียนมาเป็น “ศรีธรรมราช” โดยประสงค์ให้เป็นโรงเรียนประจ�ำจังหวัดนครศรีธรรมราช และโอนกิจการให้กรรมการ การด�ำเนินการเรียนการสอนก็เปลี่ยนไปตามแบบกรมศึกษาธิการ ขยายเวลาเรียนออกเป็น 5 ปี ตั้งแต่ชั้นมูล จนถงึ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 และยงั ไดเ้ ปดิ แผนกฝกึ หดั ครขู นึ้ ในโรงเรยี นอกี ดว้ ย ดา้ นการเรยี นการสอน เรม่ิ เปดิ สอนในระดบั ประถมศึกษากอ่ น แลว้ จึงขยายชัน้ เรียนถึงระดบั มัธยมศกึ ษา ครั้นเม่อื จำ� นวนนักเรยี นเพ่ิมขน้ึ จึงย้ายแผนกประถม ไปเรียน ณ วัดท่ามอญ หรือวัดศรีทวีในปัจจุบัน นอกจากแผนกประถม และมัธยมศึกษา ทางโรงเรียนยังเปิดสอน แผนกฝึกหัดครู ซง่ึ เรยี กในสมัยน้ันว่า โรงเรยี นฝึกหัดครมู ณฑล และมโี รงเรยี นชา่ งถมอีกแผนกหนึง่ ดว้ ย จึงเป็นเหตุ ให้สถานท่ีเรียนไม่พอ ทางโรงเรียนแก้ปัญหาโดยให้นักเรียนมัธยมปีท่ี 1 ไปเรียน ที่วัดศรีทวี และวัดจันทาราม พ.ศ. 2468 แผนกฝึกหัดครู ยกเลิกไป ส่วนโรงเรียนช่างถมแยกออกไป เป็นโรงเรียนศิลปหัตถกรรม หรือวิทยาลัย ศิลปหตั ถกรรมนครศรีธรรมราช ในปจั จุบัน ปี พ.ศ. 2456 พระธรรมโกษาจารย์ (ม่วง รตั นธโช) ไดส้ รา้ งตกึ ชน้ั เดยี วใหเ้ ป็นสถานทีเ่ รยี น ณ บริเวณ กำ� แพงวดั ทา่ โพธท์ิ างดา้ นทศิ ใต้ และไดเ้ ปลยี่ นชอ่ื โรงเรยี นเปน็ “เบญจมราชทู ศิ ” อนั เปน็ มงคลนาม ทไ่ี ดร้ บั พระราชทาน 81เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดับประถมศึกษา

จากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว อันมีความหมายว่า “อุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่รัชกาลที่ 5” เพื่อเป็นการน้อมร�ำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและอุทิศส่วนกุศลในพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปี พ.ศ. 2476 ด้วยเหตุท่ีโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ซึ่งตั้งอยู่ในวัดท่าโพธิ์ มีเนื้อท่ีคับแคบ ไม่อาจขยายเน้ือท่ี เพื่อสร้างอาคารใหม่เพิ่มเติมได้ จึงได้ย้ายไปปลูกสร้างยังบริเวณวัดพระสูง บนเนื้อที่ 8 ไร่ และแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2479 ในปี พ.ศ. 2490 เปิดสอนระดับเตรียมอุดมศึกษา มีทั้งแผนกวิทยาศาสตร์ แผนกอักษรศาสตร์ แต่ในปี พ.ศ. 2504 ได้ย้ายแผนกอักษรศาสตร์ไปเรียนทโี่ รงเรียนกลั ยาณีศรธี รรมราช ปี พ.ศ. 2507 โรงเรียนเปดิ รับ สมคั รนกั เรยี นชั้น ม.ศ.1 แทนการรับเข้าเรยี นในชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1 อย่างเดิม ปี พ.ศ.2514 โรงเรียนได้เข้าโครงการโรงเรียนมัธยมแบบประสมและได้จัดซ้ือท่ีดินบริเวณ หมู่ที่ 3 ตำ� บลโพธิเ์ สด็จ อำ� เภอเมอื ง จงั หวัดนครศรีธรรมราช ไดง้ บประมาณกอ่ สรา้ งประมาณ 30 ลา้ นบาท และไดย้ า้ ยมา ที่เรียนใหมใ่ นปี พ.ศ. 2519 ในปี พ.ศ. 2523 โรงเรยี นไดจ้ ดั สรา้ งรปู หลอ่ พระรตั นธชั มนุ ี (มว่ ง รตั นธโช) ผใู้ หก้ ำ� เนดิ โรงเรยี น และอญั เชญิ จากวิหารหลวงวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ซงึ่ เปน็ สถานท่ีหลอ่ มาประดษิ ฐานไว้ ณ ศาลาหนา้ อาคาร 1 วันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2536 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามบรมราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์ทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเปิดหอสมดุ เฉลมิ พระเกยี รติสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ีนาถ เร่ืองท่ี 2 การจัดการศกึ ษาในจังหวดั นครศรีธรรมราช ระบบการศึกษา ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีการจัดการศึกษาสามรูปแบบ คือ การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย 1) การศึกษาในระบบ เป็นการศึกษาท่ีก�ำหนดจุดมุ่งหมาย วธิ กี ารศกึ ษาหลกั สตู รระยะเวลาของการศกึ ษา การวดั และประเมนิ ผล ซงึ่ เปน็ เงอ่ื นไขของการสำ� เรจ็ การศกึ ษาทแี่ นน่ อน 2) การศึกษานอกระบบ เป็นการศึกษาท่ีมีความยืดหยุ่นในการก�ำหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการ จัดการศึกษา ระยะเวลาของการศกึ ษา การวดั และประเมนิ ผล ซงึ่ เปน็ เงอ่ื นไขสำ� คญั ของการสำ� เรจ็ การศกึ ษา โดยเนอื้ หาและหลกั สตู ร จะตอ้ งมคี วามเหมาะสมสอดคลอ้ งกบั สภาพปญั หาและความตอ้ งการของบคุ คลแตล่ ะกลมุ่ 3) การศกึ ษาตามอธั ยาศยั เปน็ การศกึ ษาทใ่ี หผ้ เู้ รยี นไดเ้ รยี นรดู้ ว้ ยตนเอง ตามความสนใจ ศกั ยภาพ ความพรอ้ ม และโอกาส โดยศกึ ษาจากบคุ คล ประสบการณ์ สังคม สภาพแวดล้อม สอื่ หรอื แหล่งความรู้อนื่ ๆ สถานศึกษาอาจจัดการศึกษาในรูปแบบใดรูปแบบหน่ึงหรือทั้งสามรูปแบบก็ได้ ให้มีการเทียบโอน ผลการเรียนที่ผู้เรียนสะสมไว้ในระหว่างรูปแบบเดียวกันหรือต่างรูปแบบได้ไม่ว่าจะเป็นผลการเรียนจากสถานศึกษา เดยี วกนั หรอื ไมก่ ต็ าม รวมทงั้ จากการเรยี นรนู้ อกระบบ ตามอธั ยาศยั การฝกึ อาชพี หรอื จากประสบการณก์ ารทำ� งาน การศึกษาในระบบมี 2 ระดับ คือ การศึกษาขั้นพื้นฐานและการศึกษาระดับอุดมศึกษา การศึกษาข้ันพื้นฐาน ประกอบด้วย การจัดการศึกษาซึ่งจัดไม่น้อยกว่าสิบสองปีก่อนระดับอุดมศึกษา การศึกษาข้ันพ้ืนฐานแบ่งระดับ และประเภทการจัดการศึกษา ออกเปน็ 3 ระดับ ดังน้ี 1) การศึกษาก่อนระดับประถมศึกษา โดยปกติเป็นการจัดการศึกษาให้แก่เด็กอายุสามปีถึงหกปี เพ่ือเป็นการวางรากฐานชวี ิตและการเตรยี มความพรอ้ มของเด็กทงั้ ร่างกายและจิตใจ สติปญั ญา อารมณ์ บุคลิกภาพ และการอยรู่ ่วมในสังคม 82 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา

2) การศึกษาระดับประถมศึกษา เป็นการศึกษาที่มุ่งวางรากฐานเพ่ือให้ผู้เรียนได้พัฒนาคุณลักษณะ ท่พี ึงประสงค์ ทง้ั ในดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ความรแู้ ละความสามารถขน้ั พ้ืนฐานโดยปกติใช้เวลาเรียนหกปี 3) การศกึ ษาระดบั มธั ยมศึกษา แบ่งเป็นสองระดับ ดงั น้ี (ก) การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นการศึกษาที่มุ่งให้ผู้เรียนได้พัฒนาคุณลักษณะ ทีพ่ ึงประสงคใ์ นดา้ นต่าง ๆ ต่อจากระดับประถมศึกษา เพ่อื ใหร้ ู้ความตอ้ งการ ความสนใจ และความถนดั ของตนเอง ท้ังในด้านวิชาการและวิชาชีพ ตลอดจนความสามารถในการประกอบการงาน และอาชีพตามควรแก่วัย โดยปกติ ใชเ้ วลาเรียนสามปี (ข) การศึกษาระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เปน็ การศกึ ษาทมี่ ่งุ สง่ เสริมให้ผู้เรยี นไดศ้ ึกษาตามความ ถนดั และความสนใจ เพอ่ื เปน็ พน้ื ฐานสำ� หรบั การศกึ ษาตอ่ หรอื การประกอบอาชพี รวมทง้ั การพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และทกั ษะทางสงั คมท่จี �ำเป็น โดยปกติใชเ้ วลาเรียนสามปี การศึกษาระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย แบ่งเปน็ สองประเภท ดังน้ี 1. ประเภทสามัญศึกษา เป็นการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนตามความถนัดความสนใจ ศกั ยภาพ และความสามารถพิเศษเฉพาะด้าน เพ่ือเปน็ พ้ืนฐานสำ� หรบั การศึกษาตอ่ ในระดบั อดุ มศึกษา 2. ประเภทอาชวี ศกึ ษา เปน็ การจดั การศกึ ษาเพอื่ พฒั นาความรแู้ ละทกั ษะในการประกอบอาชพี ใหเ้ ป็นกำ� ลงั แรงงานที่มีฝมี ือ หรอื ศกึ ษาต่อในระดบั อาชีพขนั้ สงู ตอ่ ไป การแบ่งระดับหรือการเทียบระดับการศึกษานอกระบบหรือการศึกษาตามอัธยาศัย การศึกษานอก ระบบใหแ้ บ่งออกเปน็ สองระดับ ดังนี้ 1. การศึกษาข้ันพ้นื ฐาน แบ่งออกเปน็ สามระดับ คือ (ก) การศึกษาระดบั ก่อนประถมศึกษา (ข) การศกึ ษาระดบั ประถมศึกษา (ค) การศกึ ษาระดบั มธั ยมศกึ ษา แบง่ ออกเปน็ สองระดบั คอื การศกึ ษาระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และการศกึ ษาระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย โดยแบง่ ออกเปน็ ประเภทสามญั ศกึ ษา และประเภทอาชวี ศกึ ษา 2. การศึกษาระดับอุดมศกึ ษา แบง่ ออกเปน็ สองระดับ คอื (ก) การศึกษาระดับต่ำ� กวา่ ปริญญา (ข) การศกึ ษาระดบั ปรญิ ญา การศกึ ษาภาคบงั คบั จำ� นวนเกา้ ปี โดยใหเ้ ดก็ ซงึ่ มอี ายยุ า่ งเขา้ ปที เ่ี จด็ เขา้ เรยี นในสถานศกึ ษา ขนั้ พน้ื ฐาน จนอายุย่างเข้าปีที่สิบหก เว้นแต่สอบได้ชั้นปีท่ีเก้าของการศึกษาภาคบังคับ หลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุให้ เป็นไปตามที่กำ� หนดในกฎกระทรวง การจดั การศกึ ษาปฐมวยั และการศึกษาขน้ั พ้ืนฐานให้จดั ในสถานศกึ ษาดังต่อไปนี้ 1. สถานพัฒนาเดก็ ปฐมวยั ไดแ้ ก่ ศนู ยเ์ ดก็ เล็ก ศูนย์พัฒนาเดก็ เลก็ ศูนยพ์ ฒั นาเดก็ กอ่ นเกณฑ์ ของสถาบนั ศาสนา ศนู ยบ์ รกิ ารชว่ ยเหลอื ระยะแรกเรมิ่ ของเดก็ พกิ ารและเดก็ ซงึ่ มคี วามตอ้ งการพเิ ศษ หรอื สถานพฒั นา เด็กปฐมวัยที่เรยี กช่อื อย่างอน่ื 2. โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนของรัฐโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนท่ีสังกัดสถาบันพุทธศาสนา หรือศาสนาอื่น 3. ศนู ยก์ ารเรียน ได้แก่ สถานทเ่ี รียนทหี่ นว่ ยงานจัดการศกึ ษานอกโรงเรยี นบคุ คล ครอบครัว ชมุ ชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ องคก์ รเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ 83เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา

โรงพยาบาล สถาบนั ทางการแพทย์ สถานสงเคราะห์และสถาบันสังคมอืน่ เป็นผูจ้ ัดการจัดการศกึ ษาระดบั อดุ มศกึ ษา ให้จัดในมหาวิทยาลัย สถาบันวิทยาลัย หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น ท้ังน้ีให้เป็นไปตามกฎหมายเกี่ยวกับ สถานศกึ ษาระดบั อุดมศกึ ษา กฎหมายวา่ ด้วยการจดั ตั้งสถานศกึ ษาน้นั ๆ และกฎหมายทเี่ กยี่ วขอ้ ง การจดั การอาชีวศึกษา การฝกึ กอบรมวิชาชพี ให้จัดในสถานศกึ ษาของรัฐ สถานศึกษาของเอกชน สถาน ประกอบการ หรอื โดยความรว่ มมอื ระหวา่ งสถานศกึ ษากบั สถานประกอบการ ทง้ั นใ้ี หเ้ ปน็ ไปตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการ อาชวี ศึกษาและกฎหมายท่ีเกย่ี วข้อง เรอ่ื งท่ี 3 หนว่ ยงานการศึกษาและสถานศกึ ษาที่จัดการศึกษา หนว่ ยงานการศกึ ษาและสถานศกึ ษาทจ่ี ดั การศกึ ษาทงั้ 3 ระดบั ไดแ้ ก่ หนว่ ยงานการศกึ ษาสงั กดั สำ� นกั งาน คณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน หนว่ ยงานการศกึ ษาสงั กดั สงั กดั สำ� นกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน หน่วยงานการศึกษาสังกัดส�ำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หน่วยงานการศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช หน่วยงานการศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนต�ำบล (อบต.) หน่วยงานการศึกษาสังกัดเทศบาล หน่วยงานการศึกษาสังกัดอาชีวศึกษา (รัฐบาล) หน่วยงานการศึกษาสังกัด อาชีวศึกษา (เอกชน) หน่วยงานการศึกษาสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม หน่วยงานการศึกษาสังกัดสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม หน่วยงานการศึกษาสังกัดส�ำนักบริหาร งานการศกึ ษาพเิ ศษ มสี ถานศกึ ษาในสงั กดั หนว่ ยงานการศกึ ษาสงั กดั มหาวทิ ยาลยั การกฬี าแหง่ ชาติ สงั กดั กองกำ� กบั การตำ� รวจตระเวนชายแดนที่ 42 มรี ายละเอยี ดดงั นี้ หนว่ ยงานการศึกษาและสถานศึกษาท่ีจดั การศึกษาทั้ง 3 ระดับ ดังน้ี 1. สังกดั ส�ำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน ประกอบด้วย 1.1 ส�ำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 1 มีสถานศึกษาในสังกัด จำ� นวน 110 โรงเรียนประกอบดว้ ย 4 อ�ำเภอ คือ 1) อ�ำเภอเฉลมิ พระเกยี รติ 2) อ�ำเภอพระพรหม 3) อำ� เภอเมอื ง 4) อ�ำเภอลานสกา 1.2 ส�ำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 2 มีสถานศึกษาในสังกัด จ�ำนวน 189 โรงเรยี นประกอบดว้ ย 8 อ�ำเภอ คอื 1) อำ� เภอทุ่งสง 2) อ�ำเภอทุ่งใหญ่ 3) อำ� เภอฉวาง 4) อำ� เภอถาํ้ พรรณรา 5) อ�ำเภอนาบอน 6) อ�ำเภอบางขนั 7) อำ� เภอพปิ ูน 8) อำ� เภอชา้ งกลาง 84 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศึกษา

1.3 ส�ำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 3 มีสถานศึกษา ในสงั กดั จ�ำนวน 240 โรงเรียน ประกอบดว้ ย 6 อำ� เภอ คือ 1) อ�ำเภอจฬุ าภรณ์ 2) อำ� เภอชะอวด 3) อำ� เภอเชียรใหญ่ 4) อ�ำเภอปากพนัง 5) อำ� เภอร่อนพบิ ูลย์ 6) อ�ำเภอหวั ไทร 1.4 ส�ำนักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 4 มีสถานศกึ ษาในสงั กัด จ�ำนวน 140 โรงเรียนประกอบด้วย 5 อำ� เภอ คอื 1) อำ� เภอขนอม 2) อ�ำเภอท่าศาลา 3) อำ� เภอนบพติ ำ� 4) อ�ำเภอพรหมครี ี 5) อำ� เภอสิชล 1.5 ส�ำนกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 12 มีสถานศึกษาในสงั กดั จำ� นวน 71 โรงเรยี น ซึ่งครอบคลมุ ทง้ั 23 อำ� เภอ 2. สังกัดส�ำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ประกอบด้วย ส�ำนักงานศึกษาธิการ จังหวัดนครศรีธรรมราช มสี ถานศกึ ษาเอกชนในสังกัด จ�ำนวน 139 โรงเรยี น ซึ่งครอบคลุมทัง้ 23 อ�ำเภอ 3. สงั กดั ส�ำนกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย สำ� นกั งานปลัดกระทรวง ศกึ ษาธกิ าร จ�ำนวน 24 แหง่ ประกอบดว้ ย 1) ส�ำนกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จงั หวดั นครศรธี รรมราช 2) ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อ�ำเภอ จ�ำนวน 23 สถานศึกษา 4. สังกัดองค์การบริหารสว่ นจังหวัดนครศรธี รรมราช มีสถานศึกษาในสังกัด จ�ำนวน 5 โรงเรียน 5. สงั กัดเทศบาล มีสถานศกึ ษาในสังกดั จำ� นวน 42 โรงเรียน 6. สังกดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�ำบล (อบต.) มีสถานศึกษาในสังกดั จ�ำนวน 399 โรงเรยี น 7. สังกัดอาชีวศึกษา (รฐั บาล) มสี ถานศึกษาในสังกัด จำ� นวน 11 โรงเรียน 1) วทิ ยาลัยอาชวี ศึกษานครศรธี รรมราช 2) วิทยาลัยศลิ ปหัตถกรรมนครศรีธรรมราช 3) วทิ ยาลยั เทคนคิ นครศรธี รรมราช 4) วทิ ยาลยั เทคนิคทุ่งสง 5) วทิ ยาลยั เทคนคิ สชิ ล 6) วทิ ยาลยั การอาชพี นครศรีธรรมราช 85เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศึกษา

7) วทิ ยาลยั การอาชพี หัวไทร 8) วทิ ยาลัยการอาชพี พรหมครี ี 9) วทิ ยาลยั สารพัดช่างนครศรีธรรมราช 10) วิทยาลยั เทคโนโลยีและอตุ สาหกรรมการต่อเรอื นครศรีธรรมราช 11) วิทยาลยั เกษตรและเทคโนโลยนี ครศรีธรรมราช 8. สงั กัดอาชวี ศกึ ษา (เอกชน) มสี ถานศึกษาในสงั กัด จ�ำนวน 14 โรงเรยี น 1) วิทยาลยั เทคโนโลยธี ุรกิจบณั ฑิต 2) วทิ ยาลยั เทคโนโลยีทกั ษณิ อาชวี ศกึ ษา 3) วทิ ยาลยั เทคโนโลยีเจรญิ มิตรพณิชยการ 4) วทิ ยาลัยอาชวี ศึกษานครพณิชยการ 5) วิทยาลัยเทคโนโลยสี ถาปตั ย์นคร 6) วิทยาลัยเทคโนโลยีจรสั พชิ ากร 7) วิทยาลัยเทคโนโลยภี าคใต้ (เอส.เทค.) 8) วิทยาลัยเทคโนโลยรี ชั ต์ภาคย์ 9) วิทยาลัยอาชีวศกึ ษาวรี ศิลปนิ 10) วิทยาลยั อาชีวศึกษาพณิชยการศักดิศลิ ปิน 11) โรงเรยี นพณิชยการทุ่งสง (ท.ี ซ.ี ซ.ี ) 12) โรงเรยี นประทปี ศาสนพ์ ณชิ ยการ 13) วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาปากพนัง 14) วทิ ยาลัยเทคโนโลยีพณชิ ยการสิชล 9. สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม มีสถานศึกษาในสังกัด จำ� นวน 5 แหง่ 1) มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลศรวี ิชยั วทิ ยาเขตตรัง 2) มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรวี ิชยั วิทยาเขตนครศรธี รรมราช 3) มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั วทิ ยาเขตนครศรีธรรมราช 4) มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครศรีธรรมราช 5) มหาวิทยาลยั วลัยลักษณ์ 10. สงั กดั สถาบนั พระบรมราชชนก ได้แก่ วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนนี ครศรธี รรมราช 11. สังกัดสถาบนั บัณฑติ พัฒนศลิ ป์ กระทรวงวฒั นธรรม มสี ถานศึกษาในสังกัด จำ� นวน 2 แหง่ 1) วิทยาลัยนาฏศลิ ป์นครศรีธรรมราช 2) วทิ ยาลยั ชา่ งศลิ ปะนครศรธี รรมราช 12. สงั กัดส�ำนกั งานพระพทุ ธศาสนาจงั หวดั นครศรธี รรมราช มสี ถานศกึ ษาในสังกดั จ�ำนวน 5 แห่ง 1) พระบรมธาตุพทิ กั ษว์ ิทยา 2) พระปริยตั ธิ รรมวัดขนาน 3) พระปรยิ ตั ิธรรมวัดไตรวิทยาราม 4) พระปริยัตธิ รรมวัดมะนาวหวาน 5) พระปริยตั ธิ รรมสามัญศึกษาวดั สระเรียง 86 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา

13. สงั กดั ส�ำนกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ มีสถานศกึ ษาในสังกัด จำ� นวน 5 แห่ง 1) ศูนย์การศึกษาพิเศษจงั หวัดนครศรีธรรมราช 2) โรงเรียนนครศรีธรรมราชปญั ญานุกูล จงั หวดั นครศรธี รรมราช 3) โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 19 จังหวัดนครศรธี รรมราช 4) โรงเรยี นส�ำหรับคนพกิ ารทางด้านรา่ งกายและการเคล่ือนไหวของจังหวัดนครศรีธรรมราช 5) โรงเรียนโสตศึกษาจังหวดั นครศรธี รรมราช 14. สงั กดั มหาวิทยาลยั การกฬี าแห่งชาติ ไดแ้ ก่ โรงเรียนกฬี าจงั หวดั นครศรธี รรมราช 15. สงั กดั กองก�ำกบั การต�ำรวจ ตระเวนชายแดนท่ี 42 มสี ถานศึกษาในลงั กดั จำ� นวน 3 โรงเรยี น 1) บ้านเขาจงั 2) ศกร.ตชด.บา้ นหลงั อ้ายหมี 3) ศกร.ตชด.บ้านห้วยตง 87เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศึกษา

กจิ กรรมหน่วยการเรียนรู้ท่ี 8 การจัดการศกึ ษาจงั หวัดนครศรธี รรมราช จงตอบค�ำถามตอ่ ไปนี้ทุกข้อ 1. ใหอ้ ธบิ ายความเปน็ มาของการศึกษาในจังหวัดนครศรีธรรมราช พอสังเขป …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 88 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา

9หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ศาสนาจงั หวดั นครศรธี รรมราช ศาสนาจงั หวดั นครศรธี รรมราช ประกอบดว้ ยประวตั ทิ างศาสนาในจงั หวดั นครศรธี รรมราช ศาสนา ท่ีชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชส่วนใหญ่นับถือและความเช่ือทางศาสนาและพิธีกรรมอื่น ๆ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยศาสนาต่าง ๆ ท่ีชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชส่วนใหญ่นับถือ ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ลักษณะส�ำคัญที่ศาสนิกชนพึงปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมเม่ือต้องเข้าร่วมใน ศาสนพิธีอย่างมีมารยาท การปฏิบัติตน ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งในการเขา้ รว่ มพธิ กี รรมและกจิ กรรมในวนั สำ� คญั ทางศาสนาตามทก่ี ำ� หนด เรือ่ งที่ 1 ประวัตทิ างศาสนาในจงั หวัดนครศรธี รรมราช ศาสนาทุกศาสนาล้วนมีจุดมุ่งหมายในการจัดระเบียบสังคมมนุษย์ เพ่ือให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ เกิดประโยชน์ท้ังส่วนตนและส่วนรวมเปรียบเสมือนธรรมนูญแห่งชีวิต และอยู่ในวิถีชีวิตของมนุษย์ทุกคนโดยท่ัวไป ด้วยเหตุน้ีทุกศาสนาย่อมวางหลักศาสนาไว้ให้ปฏิบัติตาม รวมทั้งชี้ให้เป็นประโยชน์และโทษแห่งการปฏิบัติตาม หรือฝ่าฝืนหลักศาสนานั้น ๆ ไว้แล้วต้ังแต่โบราณกาล ในการนี้ค�ำขวัญจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ให้ความส�ำคัญ กบั ศาสนาเป็นอยา่ งมาก ดังค�ำขวัญประจ�ำเมือง ดงั น้ี เราชาวนครฯ อยเู่ มอื งพระ มัน่ อย่ใู นสจั จะ ศีลธรรม กอปรกรรมดี มีมานะ พากเพียร ไม่เบียดเบียน ท�ำอนั ตรายผู้ใด ศาสนาเปน็ สง่ิ ทสี่ ำ� คญั มาก ไมว่ า่ ศาสนาใด ๆ กต็ าม ลว้ นแตม่ ลี กั ษณะสำ� คญั ทเี่ หมอื นกนั คอื สอนใหท้ กุ คน เป็นคนดี อยู่ในสังคมได้อย่างสันติสุข อีกท้ังยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ และมีหลักในการด�ำเนินชีวิตท่ีถูกต้อง และปลอดภัย ดงั นน้ั ศาสนาจงึ เป็นเรือ่ งทเ่ี กี่ยวข้องกบั ชวี ิตของมนุษย์ทุกคน ไม่ว่ามนษุ ยจ์ ะเจริญหรอื ลา้ หลงั ก็ตาม กย็ อ่ มมศี าสนาประจำ� บา้ นเมอื งประจำ� หมคู่ ณะหรอื อยา่ งนอ้ ยกป็ ระจำ� ตระกลู หรอื ครอบครวั ความสำ� คญั ของศาสนา มดี ังนี้ 1. ศาสนาเป็นเครื่องส่ังสอนให้มนุษย์ประพฤติปฏิบัติในทางที่ถูกต้องดีงาม เป็นประโยชน์ต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ 2. ศาสนาเป็นบ่อเกิดแหง่ ศลี ธรรมจรรยาและขนบธรรมเนียมประเพณที ช่ี อบ อนั เป็นเครอ่ื งประกอบให้ เกดิ ความสมัครสมานสามัคคี มีเอกลกั ษณ์ อารยธรรม และวฒั นธรรมอันดีงาม เปน็ ของตนเอง 3. ศาสนาเป็นเครอื่ งบำ� บดั ทกุ ขแ์ ละบ�ำรุงสุขใหแ้ กม่ นุษย์ ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ 4. ศาสนาเปรียบเสมือนดวงประทีปโคมไฟที่ให้ความสว่างไสวแก่เส้นทางการด�ำเนินชีวิตของมนุษย์ผู้ อาศยั อยใู่ นโลก 5. ศาสนาช่วยท�ำใหช้ วี ติ ครอบครวั อบอุ่น เปน็ แหลง่ ผลิตทรพั ยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าให้แก่สังคม 6. ศาสนาเปน็ พลงั ใจให้มนษุ ย์สามารถเผชญิ ชีวติ ด้วยความกลา้ หาญ ไม่หวนั่ ไหวต่อปัญหาและอุปสรรค ทำ� ให้มคี วามสงบสขุ และผาสุกในชวี ติ 89เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา

7. ศาสนาช่วยยกระดับจิตใจ ท�ำให้เป็นผู้ควรแก่การเคารพนับถือ อีกท้ังยังช่วยสร้างจิตส�ำนึกในคุณค่า ของความเปน็ มนษุ ยใ์ หก้ บั คนในสงั คมอกี ด้วย 8. ศาสนาชว่ ยสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธอ์ นั ดตี อ่ กนั ชว่ ยขจดั ชอ่ งวา่ งทางสงั คม สรา้ งความไวว้ างใจซง่ึ กนั และกนั ให้เกิดข้ึน เป็นรากฐานแห่งความสามัคคี การร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาชุมชน และสร้างความสงบสุขความม่ันคง ให้แก่ชุมขน 9. ศาสนาช่วยให้มนุษย์ได้ประสบความสุขสงบและสันติสุขข้ึนสูง จนกระท่ังบรรลุถึงเป้าหมายสูงสุด ของชวี ติ คือ หมดทกุ ขโ์ ดยส้ินเชิงได้ 10. ศาสนาเป็นมรดกล้ําค่าแห่งมนุษยชาติ เป็นความหวังและวิถีทางสุดท้ายแห่งความอยู่รอดของ มวลมนุษยชาติ จากคำ� ขวญั ประจำ� เมอื งนครศรธี รรมราชสถานศกึ ษาสามารถนำ� มาสกู่ ารปฏบิ ตั แิ ละยกยอ่ งผเู้ รยี นทป่ี ฏบิ ตั ิ ตนไดด้ ีและเหมาะสม เชน่ เราชาวนครฯ อยเู่ มอื งพระ ผเู้ รยี นทนี่ บั ถอื ศาสนาพทุ ธสามารถสวดมนต์ หรอื ทำ� กจิ วตั รอน่ื ๆ ทางพทุ ธศาสนา ไดด้ ีและเหมาะสม คัดเลือกและมอบเกยี รติบัตรเพ่อื ยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ มั่นอยู่โนสจั จะ ศลี ธรรม ผเู้ รยี นท่นี บั ถอื ทกุ ศาสนาทปี่ ฏิบตั ติ น มีสัจจะ ได้แก่ มคี วามซอื่ สัตย์ ทัง้ ทางกาย วาจา และใจ คัดเลือกและมอบเกียรติบตั รเพือ่ ยกย่องเชดิ ชูเกียรติ กอปรกรรมดี มีมานะ พากเพียร ผู้เรียนที่นับถือทุกศาสนาที่ปฏิบัติตนเป็นคนดีของชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ เปน็ พลเมอื งดขี องสงั คม มคี วามขยนั พากเพยี รจนประสบความสำ� เรจ็ ดา้ นใดกไ็ ดท้ โี่ ดดเดน่ คดั เลอื ก และมอบเกยี รติบตั รเพอื่ ยกย่องเชดิ ชเู กียรติ ไม่เบียดเบียนท�ำอันตรายผู้ใด ผู้เรียนท่ีนับถือทุกศาสนาที่ไม่ประพฤติช่ัว ไม่ท�ำลายผู้อื่น มุ่งท�ำความดี เจริญด้วยศักด์ิศรี ตั้งจิตผ่องใส ผูกไมตรี มีมารยาทต่อทุกคน คัดเลือกและมอบเกียรติบัตรเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติ สถานศกึ ษาทกุ แหง่ สามารถทำ� ปา้ ยคำ� ขวญั ประจำ� เมอื งนครศรธี รรมราช ไวใ้ นบรเิ วณสถานศกึ ษาเพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ หน็ ทกุ วันและเป็นแรงจงู ใจในการประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ นตามค�ำขวัญดังกลา่ ว ประวตั ทิ างศาสนาในจงั หวดั นครศรีธรรมราช ประวตั ิของเมอื งนครศรีธรรมราช จากการขุดค้นและโบราณสถานโบราณวัตถุตา่ ง ๆ สามารถยอ้ นไปได้ ถึงสมัยก่อนประวัติศาสตร์นับพัน ๆ ปี จนกระทั่งเข้าสู่ยุคประวัติศาสตร์ที่มีหลักฐานบันทึกปรากฏช่ือเป็นที่รู้จัก ในหมู่นักเดินเรือและพอ่ ค้าชาวอนิ เดียอาหรบั และจนี ในจังหวดั ว่า ตามพรลิงค์/กะมะลงิ /ตัง้ มาหลิง่ บ้าง ตัง้ แต่ชว่ ง พ.ศ. 600-700 และชุมชนนครศรีธรรมราชได้พัฒนาจนเป็นขุมชนใหญ่ รับอิทธิพลศาสนาพราหมณ์จากอินเดีย ตลอดแนวชายฝงั ตง้ั แตเ่ ขตสชิ ลจนถงึ เขตตำ� บลทา่ เรอื ของอำ� เภอเมอื งในปจั จบุ นั มโี บราณสถานหลงเหลอื อยมู่ ากมาย โดยเฉพาะทบี่ รเิ วณอทุ ยานประวตั ศิ าสตรเ์ ขาคา และเขตอำ� เภอสชิ ล ซง่ึ ไดค้ น้ พบเทวรปู พระวษิ ณศุ ลิ า ทมี่ อี ายเุ กา่ แก่ ทสี่ ุดในเอเชียอาคเนย์ คอื ประมาณพทุ ธศตวรรษที่ 9 - 10 กบั ยงั พบศิลาจารึกขนาดใหญ่ ทเ่ี กา่ แกท่ ีส่ ดุ หลกั หน่ึงของ ประเทศไทย คอื มอี ายุครัง้ พุทธศตวรรษท่ี 11 ณ หุบเขาชอ่ งคอยอ�ำเภอรอ่ นพิบูลย์ มีข้อความบชู าพระศวิ ะและเชดิ ชู คนดวี ่า “ถา้ คนดอี ยใู่ นหมบู่ า้ นของชนเหล่าใด ความสุขและผล (ประโยชน)์ จกั มีแกช่ นเหลา่ นน้ั ” อกี ด้วย หลังพุทธศตวรรษท่ี 10 เริ่มพบร่องรอยพุทธศาสนาในนครศรีธรรมราช และเชื่อว่านครศรีธรรมราช พัฒนาจนเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัยดังปรากฏหลักฐานบน ศิลาจารึกหลักท่ี 23 วัดเสมาเมืองที่จารึกไว้ ตงั้ แต่ พ.ศ. 1318 วา่ “พระเจา้ กรงุ ศรวี ชิ ยั ผปู้ ระกอบดว้ ยคณุ ความดแี ละเปน็ เจา้ แหง่ พระราชาทงั้ หลายในโลกทง้ั ปวง 90 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศึกษา

ได้ทรงสร้างปราสาทอิฐทั้งสามนี้เป็นท่ีบูชาพระโพธิสัตว์เจ้าผู้ถือดอกบัว (ปทุมปาณี) พระผู้ผจญพระยามาร (พระพทุ ธเจ้า) และพระโพธสิ ัตว์ เจ้าผูถ้ อื วชั ระ (วชรปาณี) พระองคไ์ ด้ถวายปราสาททง้ั สามนี้ แก่บรรดาพระชนิ ราช อันประเสริฐสุด ซ่ึงสถิตอยู่ในทศทิศ ณ สถานที่แห่งนี้ร่วมกับศิลาจารึกอีกหลายหลัก เช่น ศิลาจารึก หลักที่ 29 วัดพระบรมธาตุเมืองนคร ภาษาทมิฬ พุทธศตวรรษท่ี 9 - 10 ศิลาจารึกหลักที่ 28 วัดพระบรมธาตุเมืองนคร ภาษามอญโบราณ พุทธศตวรรษท่ี 12 และศิลาจารึกหลักที่ 27 วัดมเหยงค์ ภาษาสันสกฤตอักษรคล้ายเขมร พทุ ธศตวรรษท่ี 12 - 14 ทจี่ ารกึ ไวว้ า่ “...บญุ กศุ ลอน่ื ๆ ตามคำ� สอน คอื การปฏบิ ตั พิ ระธรรมไมข่ าดสกั เวลา การบรบิ าล ประชาราษฎร์ การทนต่ออฏิ ฐารมณแ์ ละอนิฏฐารมณก์ ารช�ำระอนิ ทรยี .์ ..” ชว่ งทน่ี ครศรธี รรมราชมน่ั คงทสี่ ดุ ในประวตั ศิ าสตรค์ อื ในพทุ ธศตวรรษท่ี 17 - 19 อนั เปน็ รชั สมยั ของราชวงศ์ ศรธี รรมาโศกราช ซง่ึ ได้สถาปนาพระพทุ ธศาสนาลัทธิลงั กาวงศ์ลงในนครศรธี รรมราชอย่างมนั่ คง กอ่ นทจ่ี ะแผข่ ยาย ไปยงั ดนิ แดนของแหลมทอง นครศรธี รรมราชครงั้ นนั้ กวา้ งขวาง มเี มอื งขนึ้ รายรอบ 12 เมอื ง เรยี กวา่ เมอื งสบิ สองนกั ษตั ร ตง้ั แตช่ มุ พรลงไปถงึ เมอื งปาหงั กลนั ตนั และไทรบรุ ี กบั นครศรธี รรมราชยงั เคยกรธี าทพั เรอื ทมี่ แี สนยานภุ าพ ไปตลี งั กา ถึง 2 คร้ัง นอกจากน้ียังพบร่องรอยความสัมพันธ์และยกทัพสู้รบระหว่างกันของนครศรีธรรมราชกับเขมรโบราณ ละโว้ ตลอดจนชวาโบราณอีกด้วย เรื่องที่ 2 ศาสนาที่ชาวจังหวัดนครศรธี รรมราชสว่ นใหญ่นบั ถือ ชาวนครศรธี รรมราชสว่ นใหญน่ บั ถอื ศาสนาพทุ ธ ประมาณ 93.61% รองลงมา ไดแ้ ก่ ศาสนาอสิ ลาม 6.17% ศาสนาครสิ ต์ 0.20% ศาสนาซกิ ข์ 0.01% ศาสนาอน่ื ๆ 0.01% (ศนู ยข์ อ้ มลู การทอ่ งเทย่ี วจงั หวดั นครศรธี รรมราช 2557) ในท่ีนจ้ี ะมรี ายละเอียดเฉพาะศาสนาท่ีชาวนครศรีธรรมราชสว่ นใหญน่ ับถือดังน้ี ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาท่ีแพร่หลายท่ีสุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีโบราณสถานและโบราณวัตถุ ทางพทุ ธศาสนาทแ่ี สดงถงึ ความรงุ่ เรอื งมาชา้ นาน (ขอ้ มลู ณ วนั ที่ 30 กนั ยายน 2557) มวี ดั ทางพทุ ธศาสนา 605 แหง่ มีพระภิกษุ 3,267 รูป สามเณร 703 รูป ชาวนครศรีธรรมราชยึดม่ันในประเพณีทางศาสนา และมีความผูกพัน กับพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้จังหวัดว่าเป็น “เมืองพระ” เมือ่ ถงึ วนั สำ� คญั ทางศาสนา เชน่ วนั มาฆบูชา ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ วนั วสิ าขบชู า ฯลฯ จะมปี ระชาชนจากท่ัวสารทศิ หล่ังไหลกันมาสักการะองค์พระบรมธาตุเจดีย์อย่างล้นหลาม จังหวัดนครศรีธรรมราช มีวัด 621 แห่ง มหานิกาย 539 แห่ง และธรรมยตุ ิ 82 แห่ง ทีพ่ กั สงฆ์ 157 แห่ง มพี ระภิกษุสงฆร์ วมท้งั จงั หวดั 3,307 รูป สามเณร 778 รปู มีมหาวทิ ยาลยั สงฆ์ 2 แห่ง โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญ 7 แห่ง (ขอ้ มลู ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2560) ศาสนาอิสลาม ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้นับถือศาสนาอิสลาม ส่วนใหญ่มีบรรพบุรุษ มาจากเมืองกลันตัน ปัตตานี และไทรบุรี อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม มีมัสยิด 122 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในเขตอ�ำเภอเมือง นอกจากนนั้ กระจดั กระจายอยใู่ นเขตอำ� เภอทา่ ศาลา อำ� เภอหวั ไทร อำ� เภอสชิ ล อำ� เภอปากพนงั และอำ� เภอรอ่ นพบิ ลู ย์ มีศนู ยอ์ บรมศาสนาอิสลามและจรยิ ธรรมประจ�ำมัสยดิ 101 แหง่ (ขอ้ มูล ณ วนั ที่ 31 พฤษภาคม 2560) ศาสนาครสิ ต์ มผี นู้ บั ถอื จำ� นวนเพยี งเลก็ นอ้ ยในเขตอำ� เภอเมอื งนครศรธี รรมราช อำ� เภอทงุ่ สง อำ� เภอทงุ่ ใหญ่ และอ�ำเภอร่อนพิบูลย์ มีท้ังนิกายโปรแตสแตนท์และโรมันคาธอลิค มีโบสถ์คริสต์ 27 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2560) 91เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook