สุขใจ.. ไรเ้ ศรา้ .. ไรเ้ ส่อื ม รบี ปรกึ ษาแพทย์ เพราะคณุ ปเู่ รม่ิ มอี าการของโรคสมองเสอ่ื ม เนอ่ื งจาก ลกู ชายสงั เกตวา่ คณุ ปจู่ ะมคี ำ� ถามหรอื ประโยคซำ้� ๆ เมอื่ คยุ โทรศพั ทก์ บั ลูกชาย ตอ่ มาแพทย์ได้วินิจฉยั วา่ คณุ ปูเ่ ป็นโรคสมองเส่อื ม จงึ ไดเ้ ขา้ รว่ มโครงการยาทร่ี กั ษาโรคสมองเสอื่ มอลั ไซเมอรก์ บั ภาค วชิ าจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซ่งึ ยา ทใี่ ชก้ ใ็ หผ้ ลเปน็ ทน่ี า่ พอใจ โดยผลขา้ งเคยี งทพี่ บในชว่ งแรก คอื คลนื่ ไส้ เบอื่ อาหาร แตแ่ พทยก์ ไ็ ดใ้ หย้ าลดอาการดงั กลา่ ว รว่ มกบั การดแู ลดา้ น อาหารทมี่ กี ารสลบั สบั เปลย่ี นอาหารทเี่ คยชอบรบั ประทาน หรอื พาออก ไปรับประทานอาหารนอกบ้านเพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ พาไป เท่ียวนอกบ้านก็ดขี ้ึนบา้ ง แตห่ ลังจากน้นั ประมาณสองเดือน คณุ ปเู่ ร่มิ มีอาการซึมลงอีก พูดน้อย เบ่ืออาหารมากขึ้น น้�ำหนักลดลงมาก ซูบ ผอมลงกว่าเดิมมาก มักแยกตัวและเก็บตัวอยู่คนเดียวบ่อยครั้ง งด กจิ กรรมทกุ อยา่ ง ความเหงาและความทอ้ แทเ้ ปน็ สงิ่ ทส่ี มั ผสั ไดจ้ ากคณุ ปู่ ต่อมาได้รับทราบภายหลังว่าเป็นอาการของโรคซึมเศร้า ซ่ึงมักพบ อยเู่ สมอในผปู้ ว่ ยโรคสมองเสอ่ื ม และอาจสง่ ผลใหค้ วามจำ� แยล่ งไปอกี จติ แพทยจ์ งึ ใหย้ าตา้ นเศรา้ มารบั ประทาน แตต่ อ้ งรอสกั ระยะใหย้ าออก ฤทธ์ิ ชว่ งนท้ี กุ คนในบา้ นกพ็ ยายามชว่ ยกนั สรา้ งบรรยากาศทดี่ ี ชวนคยุ ใหก้ ำ� ลงั ใจ พาออกไปนอกบา้ น พาชมสวน หากจิ กรรมทเ่ี คยชอบใหท้ ำ� และตอ้ งให้เวลาคณุ ปคู่ อ่ ยๆ ท�ำไมเ่ ร่งรบี พบปะผูค้ นทีค่ ุ้นเคย เพ่ือลด เวลาทตี่ อ้ งอยคู่ นเดยี ว และเมอ่ื ยาออกฤทธคิ์ ณุ ปอู่ ารมณด์ อี ยา่ งเหน็ ได้ ชดั กลบั กลายเปน็ คนละคน มกั จะมเี รอื่ งราวในอดตี มาเลา่ ใหฟ้ งั อยเู่ สมอ 151
สขุ ใจ.. ไร้เศรา้ .. ไรเ้ สือ่ ม และตอนทคี่ ณุ ปเู่ ลา่ กด็ มู คี วามสขุ ถงึ แมว้ า่ จะเลา่ ซำ้� ไปซำ้� มา นอกจาก นีย้ ังหยอกลอ้ กับภรรยา และทกุ คนในบ้านอยเู่ ปน็ ประจ�ำ ซ่ึงลักษณะ ยิม้ แยม้ แจม่ ใส และพูดจาหยอกลอ้ ก่อนหน้านี้ไม่พบเลย เพราะคณุ ปู่ เปน็ คนจริงจังกบั ชวี ติ พูดจาเสียงดังมาก หรืออาจจะถามค�ำถามซำ�้ ๆ ซึ่งก็ตอบทุกคร้ัง เพื่อลดความสงสัย หากไม่ตอบอาจเป็นการเพิ่ม ความเครยี ดให้ ตอ้ งคอ่ ยๆ ตอบและมน่ั ใจวา่ ไดย้ นิ และเขา้ ใจ สว่ นใหญ่ เป็นค�ำถามเก่ียวกับเหตุการณ์หรือเร่ืองราวในปัจจุบัน หรืออาจถาม เกี่ยวกับสิ่งท่ีกังวลอยู่ในใจ เช่น อาจถามเรื่องวันเดือนปี ประมาณ 10-20 ครั้งตอ่ วัน หรือถามวา่ ลูกชายให้เงินเดอื นแล้วหรือยงั ประมาณ 15 คร้ังต่อวัน หรือถามถึงทรัพย์สิน และที่ดิน เงินในบัญชีธนาคาร จ�ำนวนทรัพย์สิน เรื่องนี้ถามบ่อยมาก ถามได้ท้ังวันมากกว่า 20 ครั้ง ต่อวัน ส่วนเร่ืองราวในอดีตคุณปู่จ�ำได้อย่างแม่นย�ำ ลักษณะการพูด คุยโตต้ อบ การสนทนาในปัจจบุ นั คุณปกู่ ต็ อบคำ� ถามไดด้ ี ตดั สินใจได้ ดี สามารถใหค้ �ำแนะน�ำบางอย่างได้ดี กิจกรรมท่ีร้ือฟื้นขึ้นมาอีกคร้ังหลังจากห่างหายไปนาน คือ การนบั เงนิ (นบั บอ่ ยมากๆ และเปน็ สง่ิ แรกทที่ ำ� หลงั ตนื่ เชา้ อาจนบั 2-3 คร้ัง ก่อนไปล้างหน้าและโดยรวมแล้วอาจนับได้มากกว่า 12 คร้ังใน หนง่ึ วัน) หลงั จากนับแล้วเพอ่ื เปน็ การชว่ ยจ�ำ ก็จะมีกระดาษแผน่ เล็กๆ จดจำ� นวนเงนิ และวนั ที่ แนบเกบ็ พรอ้ มกบั เงนิ ในกระเปา๋ แดง นอกจาก นย้ี งั มสี มดุ จดบนั ทกึ เพอ่ื ทำ� รายการรายรบั รายจา่ ยแจกแจงรายละเอยี ด อีกคร้ัง จะช่วยเตือนความเขา้ ใจให้อกี วิธหี น่ึงหากลืม อกี ทั้งหอ้ งนอนก็ 152
สุขใจ.. ไรเ้ ศรา้ .. ไรเ้ ส่อื ม ตอ้ งจดั ให้เปน็ ระเบยี บ เพ่ือความสะดวกในการค้นหา เพราะคุณปมู่ กั จะซ่อนกระเป๋าเงินอยู่เสมอ เพราะกลัวคนแปลกหน้าเข้าบ้านแล้วมา หยิบไป จดจ�ำต�ำแหน่งท่ีมักจะซ่อนไว้เสมอ นอกจากนี้ต้องหาท่ีซ่อน และทำ� ความตกลงว่า จะหาทซ่ี อ่ นดงั กลา่ ว ต้องคอยบอกแมว้ ่าจะไม่ ได้ผลก็ตาม อาจเป็นเพราะในอดีตที่คุณปู่เคยท�ำงานด้านบัญชี และ ค้าขายจึงไดส้ มั ผัสเงินมาตลอด คดิ วา่ นา่ จะสง่ ผลถึงปัจจบุ นั ท่ีเมอ่ื คุณ ปู่มีเงินในกระเป๋ามากๆ และได้นับเงิน คุณปู่จะมีความสุขมาก และ คุณปู่ก็ยินดีที่จะแจกจ่ายอย่างสมเหตุผลหรือท�ำบุญสุนทาน เป็นต้น ส่ิงที่ต้องระมัดระวังคือ กระเป๋าเงินหายเพราะเหตุการณ์ท�ำนองน้ีเกิด ขึ้นจริง และได้ส่งผลกระทบต่อคุณปู่อยู่ตลอดเวลา ส่ิงที่ท�ำได้คือการ ปลอบโยนวา่ ยงั คน้ หาไมพ่ บ และกำ� ลงั พยายามคน้ หาอยู่ จวบจนกระทง่ั สามารถหากระเป๋าใหม่ท่ีมีแบบ และลวดลายเหมือนกันได้พร้อมน�ำ เงนิ ใส่ลงไป แลว้ นำ� ไปให้ และบอกวา่ เปน็ กระเปา๋ ถือของคุณปูใ่ บเดิม (แท้จริงแล้วเป็นใบใหม่ จ�ำนวนเงินน้อยกว่าเดิมเล็กน้อย) เหตุการณ์ ต่างๆ และสภาวะอารมณข์ องคุณป่จู ึงกลับเขา้ สู่ภาวะปกติ ทกุ เชา้ และ/หรอื ทงั้ วนั อาจจะเจอคำ� ถามถงึ วนั เดอื น ปี ประมาณ 10-20 ครัง้ ก็จะตอ้ งตอบทกุ ครัง้ นอกจากน้กี ็จะหาปฏิทิน และนาฬกิ า แขวนไวใ้ นตำ� แหนง่ ทสี่ ามารถมองเหน็ ไดอ้ ยา่ งชดั เจน ถงึ กระนนั้ กต็ าม คุณปู่ก็ยังต้องถามเพ่ือความมั่นใจทุกคร้ัง กิจกรรมอ่ืนที่มักท�ำอยู่เป็น ประจำ� ชว่ งนค้ี อื อา่ นหนงั สอื พมิ พร์ ายวนั พรอ้ มนำ� มาพดู คยุ และสามารถ ทจี่ ะจดจำ� ขา้ มวนั ได้ หากเปน็ หวั ขอ้ ทป่ี ระทบั ใจ อา่ นหนงั สอื ธรรมะบา้ ง 153
สขุ ใจ.. ไร้เศรา้ .. ไรเ้ ส่อื ม อยา่ งบทสวดวถิ ชี าวพทุ ธ พดู คยุ ถงึ ธรรมะ และพระสงฆท์ เ่ี ลอ่ื มใส เปน็ ตน้ หากเปน็ รายการทวี จี ะชอบดมู วยปลำ้� มาก เปน็ อนั ดบั หนง่ึ กฬี าชกมวย บ้าง รวมถงึ สารคดีชวี ิตสตั ว์โลก (Animal Planet ทาง UBC) ชอบเปน็ อันดบั รองลงมา นอกจากนี้ยงั ชอบนงั่ ดู พดู คุยกบั สุนขั แมว ฟงั เสยี ง นกร้องเพลงในสวนใกล้บ้าน แนวเพลงท่ีชอบเป็นแนวเพลงไทย สนุ ทราภรณ์ ลกู กรงุ รำ� วง สามารถนง่ั ฟงั ได้นานๆ สำ� หรบสง่ิ ทป่ี ระทบั ใจต่างๆ เชน่ มวยปล้�ำ ชกมวย ขา่ วต่างๆ หรือแมแ้ ตบ่ รรดาสตั วก์ ็จะ เป็นหัวข้อทจ่ี ะหยิบยกขึ้นมาสนทนาบ่อยๆ นอกจากนกี้ ารพาเดนิ ออกกำ� ลงั กายกเ็ ปน็ อกี กจิ กรรมหนง่ึ เพราะ พื้นฐานเดิมของปู่ชอบชมสวน และชอบปลูกต้นไม้ดอกไม้ก็สามารถ สรา้ งความเพลิดเพลินให้ไดไ้ มน่ อ้ ยทเี ดียว บางคร้งั อาจมปี ญั หาเก่ียว กบั การเคลอื่ นไหว หากเปน็ ในบา้ นกม็ รี าวเกาะเพอื่ ใหค้ ณุ ปจู่ บั ยดึ ขณะ เดิน บางคร้ังอาจใช้ไม้เท้าหากเดินออกไปข้างนอก เน่ืองจากคุณปู่ ต้องการช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด แม้แต่การเดินก็ไม่ต้องการ ความชว่ ยเหลอื เพราะฉะนน้ั กต็ อ้ งคอยสงั เกตอารมณ์ และสถานการณ์ ชว่ งใดทตี่ อ้ งการความชว่ ยเหลอื หรอื ไมต่ อ้ งการเพราะบางครง้ั การชว่ ย เหลอื ทีม่ ากเกนิ ไปอาจท�ำให้ผู้ปว่ ยเกดิ ความเครียดขน้ึ ได้ กจิ วตั รประจ�ำวันบางอย่าง อาจจะลมื อยบู่ ้างก็อาจจะชว่ ยเหลือ เชน่ เวลาอาบน้ำ� รบั ประทานอาหาร ล้างปากหลงั ทานข้าว โกนหนวด แตค่ ุณปู่ก็สามารถช่วยตัวเองได้ดที ุกอย่าง 154
สุขใจ.. ไร้เศรา้ .. ไรเ้ สือ่ ม โรคสมองเสอ่ื มเมอื่ มกี ารดำ� เนนิ ไปของโรค อาจพบความผดิ ปกติ ดา้ นความจำ� บางครั้งอาจพบกบั คำ� ถามซ้�ำๆ หากไม่เขา้ ใจอาจคดิ วา่ ผู้ป่วยแกล้งหรือกา้ วร้าว ก็จะสร้างความทกุ ข์จากปัญหาดงั กล่าวไดไ้ ม่ นอ้ ย ส่วนตวั คนไข้เอง ก็จะไดร้ ับความทุกขจ์ ากการตอบสนองของคน รอบขา้ ง ในกรณขี องคณุ ปู่ สายตาอยใู่ นเกณฑป์ กตดิ ี คณุ ปสู่ ามารถรบั ส่อื ทางกายได้ดี เพราะฉะนั้นตอ้ งใจเยน็ ๆ คอ่ ยๆ พดู และอธิบาย แต่ก็ นับว่าเปน็ ความโชคดอี ย่บู ้างทคี่ ุณปู่เปน็ คนอารมณด์ ีมาก สดุ ทา้ ยน้ี หวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ บทความนจี้ ะสะทอ้ นมมุ มองอกี แง่ มมุ หนงึ่ ของผปู้ ว่ ยโรคสมองเสอื่ มสคู่ นรอบขา้ ง เพอื่ รว่ มกนั มอบความรกั และความเข้าใจให้กับผู้ป่วยโรคดังกล่าว เพ่ือความสงบสุขทั้งผู้ป่วย และคนรอบขา้ งเอง 155
สขุ ใจ.. ไร้เศร้า.. ไรเ้ ส่ือม จดหมายจากญาติ – ผปู้ ว่ ยอลั ไซเมอร์ 4 ครง้ั แรกท่ีทราบขา่ วของแม่ ว่าแกหนอี อกจากบ้านซึ่งปกตกิ ็มคี น คอยดแู ลอยแู่ ลว้ ทำ� ใหเ้ รารสู้ กึ ตกใจมาก วา่ แมข่ องเราเปน็ อะไร ไมเ่ คย มีวแ่ี ววมากอ่ นเลยวา่ แกจะเปน็ อยา่ งน้ี เพราะเม่อื 3-4 ปีกอ่ น แกยงั มา ช่วยเลยี้ งหลานท่กี รงุ เทพฯ ตอนนนั้ แกเปน็ ปกติดี พดู จารเู้ รื่อง อาการ แปลกๆ กย็ งั ไมม่ ี แตพ่ อปจั จบุ นั แกมาอยทู่ กี่ รงุ เทพฯ กป็ ระมาณ 5 เดอื น แลว้ ตอนแรกทม่ี าอยู่ใหม่ๆ พดู อะไรแกจำ� ไม่ค่อยได้ หลงลมื มาก และ แกจะร้องกลับบ้านท่ีต่างจังหวัดตลอด จะน่ังคอยหลานมารับทุกวัน แม้ว่าเราจะพร�่ำบอกว่ายังไม่มีใครมารับ เพราะแกต้องไปหาหมอทุก เดือนแกกไ็ มเ่ คยฟัง เสื้อผา้ ทใี่ ส่แล้วกไ็ มใ่ ห้เอาไปซัก เพราะแกบอกวา่ เดี๋ยวมคี นมารับแล้วผา้ จะไมแ่ ห้ง ถา้ เผลอแกกจ็ ะไปเกบ็ ผา้ เปียกๆ มา ยดั ใส่กระเป๋า สว่ นตอนกลางคืนจะยงิ่ หนัก แกจะนอนไมไ่ ดเ้ ลย เพราะ กลัวคนจะมาท�ำรา้ ย หแู กจะแวว่ ไปว่ามคี นเรยี กแกตลอด ซึ่งตอนน้ัน เรากไ็ ม่เข้าใจว่าแมเ่ ป็นอะไรกันแน่ เป็นโรคหลงลืมตามประสาคนแก่ หรอื วา่ เปน็ โรคทางประสาท ทำ� ใหเ้ ราหงดุ หงดิ ทแ่ี กพดู ไมร่ เู้ รอื่ ง ไมย่ อม ฟงั เหตผุ ลเลยพาลทะเลาะกันเกือบทุกวัน เราก็ร้สู ึกเสียใจมากทที่ ำ� ให้ แมต่ ้องรอ้ งไหเ้ กอื บทุกครง้ั 156
สุขใจ.. ไรเ้ ศรา้ .. ไร้เสื่อม ตอนแรกกพ็ าไปหาหมอทโี่ รงพยาบาลเอกชนแหง่ หนง่ึ หมอทนี่ น่ั กแ็ นะนำ� ใหม้ าทโ่ี รงพยาบาลจฬุ าเพราะมโี ครงการรกั ษาผปู้ ว ยอลั ไซเมอร์แต่ ก็ต้องมาพบหมอ และตรวจร่างกายก่อนจะเข้ารว่ มโครงการ ตอนน้ีแม่ รบั ประทานยาฟน้ื ฟสู มอง พรอ้ มกบั ยาชว่ ยลดอาการหวาดกลวั ซมึ เศรา้ และอาการทางจิตต่างๆ ประมาณ 4 เดอื น เรากร็ สู้ กึ อาการแมค่ ่อยๆ ดีข้ึน อาการผดิ ปกตติ า่ งๆ ที่เลา่ มาแทบจะหายไปเลย ทำ� ให้เรารูส้ กึ มี ความหวัง ถงึ แมว้ า่ แกจะไม่กลับมาเหมอื นเดิม แต่ก็ขออย่าใหอ้ าการ แย่ไปกว่านอ้ี ีกเลย 157
สขุ ใจ.. ไร้เศร้า.. ไรเ้ สอื่ ม จดหมายจากญาติ - ผูด้ ูแลผู้ปว่ ยอลั ไซเมอร์ 5 ดฉิ นั อายุ 49 ปี เปน็ บตุ รของผปู้ ว่ ยโรคสมองเสอ่ื มอลั ไซเมอร์ กอ่ น ทจี่ ะพาคณุ แมไ่ ปพบแพทยท์ โ่ี รงพยาบาล คณุ แมม่ กั มพี ฤตกิ รรมแปลกๆ ท่ไี มเ่ คยปฏบิ ัตมิ าก่อน เชน่ มักก้าวรา้ ว พูดจาไมส่ ุภาพ ดุดา่ ทกุ คนที่ อยใู่ นบา้ นไม่ว่าจะเปน็ ผใู้ หญ่หรอื เดก็ เลก็ ลกู หลานก็ไมเ่ ว้น แมก้ ระท่งั สุนขั แมว หรือนกทเี่ กาะอยบู่ นตน้ ไม้ ใครหา้ มปรามก็ไมไ่ ด้ กลายเปน็ เรื่องใหญโ่ ตไป กวา่ จะหยุดได้กป็ วดหัว เครยี ดกันไปหมด แล้วยังถา่ ย ปสั สาวะรดทนี่ อนโดยไมร่ สู้ กึ ตวั เมอ่ื ปลกุ ใหต้ นื่ กป็ ฏเิ สธวา่ ไมใ่ ชป่ สั สาวะ กลับถามว่าเอาน้�ำไปราดให้เปียกตัวท่านท�ำไม พูดจาซ้�ำๆ กันหลาย คร้ัง เมอื่ บอกวา่ พดู แล้วทา่ นก็จะบอกว่ายงั ไม่ได้พูด อาการเหลา่ นเี้ ปน็ มากขน้ึ เรอื่ ยๆ เมอ่ื ไดป้ รกึ ษากนั ระหวา่ งพน่ี อ้ งวา่ จะพาทา่ นไปพบแพทย์ เพ่ือจะได้ช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ให้ดีขึ้น ไม่มีใครทราบเลยว่าท่าน เป็นโรคสมองเส่ือมอัลไซเมอร์ คิดแต่เพียงว่าเป็นอาการเครียด หรือ อาการเหงาของผสู้ ูงอายทุ ข่ี าดผดู้ ูแลใกล้ชดิ เนื่องจากคณุ พ่อเสยี ชวี ติ ไปนานแล้ว แตท่ า่ นกอ็ ย่กู บั บุตรหลานอีกหลายคน ซ่ึงลกู หลานกม็ ิได้ ทอดทง้ิ ท่าน เมอ่ื ไปพบแพทย์ ระยะแรกๆ กด็ ูเก่ยี วกบั อาการซมึ เศรา้ และให้ ยาไปรบั ประทาน อาการเหลา่ น้เี ป็นๆ หายๆ คุณหมอเลยให้ทำ� MRI ซง่ึ เปน็ การตรวจสมองดว้ ยคลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ผลปรากฏวา่ พบชอ่ งวา่ ง ในสมองมาก ร่วมกับการวินจิ ฉัยด้วยแบบทดสอบตา่ งๆ แล้วจงึ ทราบ วา่ เปน็ โรคสมองเสอื่ มอลั ไซเมอร์ คณุ หมอรกั ษาดว้ ยการใหร้ บั ประทาน 158
สขุ ใจ.. ไรเ้ ศรา้ .. ไรเ้ สอื่ ม ยาเพื่อช่วยให้สมองเส่ือมช้าลง คุณหมอบอกว่าถ้าไม่รับประทานยา สมองจะคอ่ ยๆ เสื่อมเร็วกว่า คุณแม่รับประทานยาช่วยเรื่องความจ�ำอย่างสม�่ำเสมอมิได้ขาด ลกู ๆ ทอ่ี ยกู่ บั ทา่ นกเ็ อาใจใสด่ แู ลมไิ ดล้ ะเลยในการใหย้ า แตท่ า่ นกท็ ำ� ให้ ทุกคนตกใจเปน็ อย่างย่ิง เม่อื มีเหตุการณท์ ไ่ี มค่ าดคดิ คอื ท่านได้เข้า นอน แลว้ ตื่นมาประมาณ 4 ท่มุ ทา่ นนอนอยใู่ นห้องนอนบนช้นั 2 ของ บ้าน โดยปกติจะนอนอย่กู ับลกู สาว แต่คนื นี้ลูกๆ ได้คุยกนั อยู่ชน้ั ลา่ ง ท่านจึงปีนหน้าตา่ งแล้วกระโดดลงมาขา้ งล่างโดยทา่ นอธบิ ายว่า ทา่ น เข้าไปบา้ นใครก็ไม่รู้เพ่อื ไปหาหลาน ไมพ่ บกจ็ ะกลบั แตไ่ ม่มีประตูที่จะ ออกมา มองเห็นหน้าต่างเปิดอยู่มองลงมาข้างล่างก็ไม่สูงจึงกระโดด ลงมา ผลก็คือ กระดูกข้อเท้าหัก กระดูกนิ้วนางเท้าซ้ายหัก กระดูกท่ี สะโพกหัก กระดูกหลงั หัก ตอ้ งเข้าเฝือกขาท้งั สองข้าง หา้ มเดนิ หา้ มลุก จากเตียง ต้องนอนอยู่โรงพยาบาลเป็นเดือน แลว้ ถงึ ได้กลับไปพักฟื้น ทบ่ี า้ น เมอ่ื คณุ หมอทางกระดกู นดั ตรวจ แตล่ ะครง้ั ตอ้ งเรยี กรถพยาบาล ไปรับไปส่ง เพราะว่านั่งไม่ได้เลยต้องนอนตลอดเวลา จนกระทั่งเข้า เดอื นที่ 5 จงึ พอท่ีจะนัง่ ได้ แต่ก็ไดไ้ มน่ าน จนถงึ ขณะนพี้ อท่จี ะเดินได้ บ้างโดยใชเ้ ครื่องช่วยพยงุ เดนิ หากเดนิ อยูท่ ีบ่ า้ น และหากจะไปตรวจท่ี โรงพยาบาลก็จะใสเ่ สื้อท่มี เี หลก็ ดามหลงั ใหน้ ่ังรถไปได้ 159
สขุ ใจ.. ไรเ้ ศร้า.. ไร้เส่ือม จากเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนท้ังหมดน้ีเป็นผลเน่ืองมาจากอาการของ โรคสมองเสอ่ื มอัลไซเมอรท์ �ำใหพ้ วกเราทีเ่ ป็นลูกๆ หลานๆ ทกุ คนรูส้ กึ เสยี ใจ และทอ้ แท้ กวา่ จะมาถงึ ณ วนั นี้ พวกเราทกุ คนตอ้ งรว่ มมอื รว่ มใจ กนั ทั้งกำ� ลังกาย กำ� ลงั ใจ และกำ� ลงั ทรัพย์ของพวกเราทกุ ๆ คน เพื่อให้ บุคคลอันเป็นท่ีรักของเรามีชีวิตที่ยืนยาว โดยมีสุขภาพท่ีแข็งแรง ปราศจากโรคภยั ไข้เจ็บ มีสภาพร่างกายทสี่ มบรู ณ์ ปกตดิ ีทุกอย่าง 160
สขุ ใจ.. ไรเ้ ศร้า.. ไร้เสอ่ื ม 161
สขุ ใจ.. ไรเ้ ศร้า.. ไรเ้ ส่อื ม 162
สขุ ใจ.. ไร้เศร้า.. ไรเ้ ส่อื ม ประสบการณก์ ารดูแลผ้ปู ่วย โรคสมองเสือ่ มอลั ไซเมอรข์ น้ั รนุ แรง ด้วยอาชีพการงานของผมท�ำให้ผมต้องไปปฏิบัติงานอยู่ใน ตา่ งประเทศเปน็ ช่วงๆ แตล่ ะช่วงเปน็ เวลาหลายปี การดูแลคุณแมจ่ ึง ตกเป็นภาระของพ่ีสาวของผมมาเป็นล�ำดับ แต่ต่อมาพี่สาวของผม ปว่ ยเปน็ โรคแพ้ภูมิตนเอง (Systemic Lupus Erythematosus - SLE) ประกอบกับผมได้จังหวะวางมือจากงานประจ�ำ ผมจึงมาดูแลคุณแม่ ไดอ้ ย่างเต็มท่ี และเมอ่ื ผมเริ่มมาดแู ลคุณแม่นนั้ คุณแมอ่ ายุได้ 92 ปี (ปจั จบุ นั อายุ 94 ปี 9 เดอื น) มอี าการปว่ ยดว้ ยโรคสมองเสอื่ มอลั ไซเมอรม์ า แลว้ ประมาณ 10 ปี อาการปว่ ยอยใู่ นระยะรนุ แรง (ผปู้ ว่ ยสญู เสยี ความ ทรงจำ� ระยะยาว เฉยเมยอยา่ งรนุ แรง สญู เสยี ความสามารถในการสอื่ สาร การทรงตวั ยนื และเดนิ ไมส่ ามารถชว่ ยเหลอื ตนเองได้ ตอ้ งอาศยั ผดู้ แู ล 100 เปอร์เซน็ ต)์ แมว้ า่ ประสบการณข์ องผมในการดแู ลคณุ แมจ่ ะเปน็ ประสบการณ์ ในระยะสั้น แต่ผมก็ได้เห็นพัฒนาการของคุณแม่ไปในทางท่ีดี กล่าว คือ คุณแม่มีความสงบสุขท้ังทางกายและทางจิตใจมากย่ิงขึ้น และ อาการป่วยก็ค่อยๆ ชะลอลง ซ่ึงผมเห็นว่าเป็นเร่ืองท่ีน่ายินดี เพราะ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีที่จะรักษาผู้ป่วยให้หายขาดจากโรคอัลไซเมอร์ได้ และการรักษาผู้ป่วยก็คือ การชะลออาการป่วยซ่ึงรวมถึงการเส่ือม สมรรถภาพทางสมอง ใหม้ ลี กั ษณะคอ่ ยเปน็ คอ่ ยไป และการดแู ลผปู้ ว่ ย ให้ไดร้ บั ความสงบสุขท้ังกาย และใจอยา่ งดที ีส่ ุด 163
สขุ ใจ.. ไร้เศร้า.. ไร้เสอ่ื ม ประสบการณ์ที่ผมเหน็ ว่ามคี วามสำ� คญั และควรจะกลา่ วถึงนน้ั มดี ว้ ยกัน 3 เรอื่ ง คือ 1. การดแู ลรกั ษาอย่างใกลช้ ิดโดยแพทย์ โดยที่โรคสมองเส่ือมอัลไซเมอร์เกิดจากการเส่ือมถอยของ การท�ำงานของสมองจนกระท่ังส่งผลกระทบต่อกิจวัตรประจ�ำวัน ของผู้ป่วย และอาการป่วยจะยิ่งหนักขึ้นเร่ือยๆ เนื่องจากเซลล์สมอง ตายมากข้นึ เร่อื ยๆ เมอื่ เวลาผา่ นไป ดังนนั้ การใหผ้ ปู้ ่วยไดร้ บั การดแู ล รกั ษาโดยแพทย์จิตเวชโรคสมองเสอ่ื มอัลไซเมอร์โดยใกลช้ ิด และโดย เร็วท่ีสุดเท่าที่จะท�ำได้นั้น นับเป็นเรื่องที่มีความส�ำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งน้ีเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาท้ังอาการทางจิตโดยเฉพาะอาการ ซึมเศร้า อาการก้าวร้าว อาการนอนไม่หลับ และอาการทางกาย โดยเฉพาะอาการเกยี่ วกบั ความจำ� ทเ่ี สอ่ื มถอย ใหไ้ ดร้ บั การบำ� บดั รกั ษา ใหก้ ารเสอื่ มสมรรถภาพของสมองชะลอตวั ลงอย่างไดผ้ ลดี นอกจากน้ีการพบแพทย์จิตเวชยังมีความส�ำคัญเป็นอย่างมาก ตอ่ ผดู้ ูแลผู้ป่วย เพ่อื ให้ได้รับความรจู้ ากแพทยใ์ นการดแู ลผปู้ ว่ ยอยา่ ง ถูกตอ้ ง โดยเฉพาะความเขา้ ใจเกี่ยวกบั โรคอัลไซเมอร์ การดูแลในสว่ น ท่ีเก่ียวกับการให้ยาผู้ป่วย การดูแลกิจวัตรประจ�ำวัน อาทิ สุขภาพ ชอ่ งปาก การอาบน�ำ้ การแตง่ ตัว กิจกรรมในบา้ น การจดั สงิ่ แวดลอ้ ม ให้เหมาะสมและปลอดภยั และทสี่ �ำคญั มากเชน่ กนั ก็คือ การปรบั ตวั ของผู้ดแู ลผูป้ ว่ ยใหร้ ู้เทา่ ทันพัฒนาการทางอาการของผู้ป่วย ตลอดจน 164
สขุ ใจ.. ไร้เศรา้ .. ไร้เสอ่ื ม การดูแลร่างกาย และจิตใจของผู้ดูแลผู้ป่วยให้พร้อมท่ีจะดูแลผู้ป่วย อยา่ งมีประสิทธภิ าพ คณุ แม่ และตวั ผมเองนบั วา่ โชคดเี ปน็ อยา่ งยง่ิ ทไ่ี ดร้ บั ความกรณุ า จาก ศาสตราจารย์ พญ.นันทิกา ทวิชาชาติ (กรรมการเลขานกุ ารคณะ กรรมการอำ� นวยการ และบรหิ าร มลู นธิ โิ รคอลั ไซเมอรแ์ หง่ ประเทศไทย) ในการใหก้ ารดแู ลรกั ษาคณุ แมข่ องผม อนั เปน็ ผลใหค้ ณุ แมม่ พี ฒั นาการ ด้านรา่ งกาย และจติ ใจท่สี งบสขุ ยิ่งข้ึนเป็นล�ำดบั ตลอดระยะเวลา 3 ปี ทผ่ี า่ นมา และในการใหค้ วามรแู้ กผ่ มอยา่ งกวา้ งขวางและลกึ ซง้ึ ในการ ดแู ลคณุ แม่ และแกผ่ ดู้ แู ลผปู้ ว่ ยทเี่ กยี่ วขอ้ ง อนั เปน็ ผลใหก้ ารดแู ลรกั ษา คุณแมม่ ีประสทิ ธิภาพ และไดผ้ ลเป็นที่นา่ พอใจ 2. การดแู ลสุขภาพจิตของผปู้ ่วย แม้ผู้ป่วยโรคสมองเส่ือมอัลไซเมอร์จะประสบกับปัญหา การสูญเสียสมรรถภาพด้านความทรงจ�ำไปเร่ือยๆจากการเส่ือมของ เซลล์ประสาทสมอง และสูญเสียมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปก็ตาม แต่ ผปู้ ว่ ยมไิ ด้สญู เสยี การรับรู้ด้านความร้สู ึกไปดว้ ย กลา่ วคือ ผ้ปู ่วยยังคง มคี วามรกั สขุ เกลยี ดทกุ ขเ์ หมอื นคนปกตทิ ว่ั ไป และกลบั ยงิ่ มคี วามทกุ ข์ เพมิ่ พนู อยา่ งสาหสั เพราะพยาธสิ ภาพของโรค ทำ� ใหผ้ ปู้ ว่ ยบงั เกดิ ความ สบั สน หวาดระแวง หวาดกลัว และซึมเศรา้ อาจถงึ ข้ันกินไม่ได้นอนไม่ หลับ และมีพฤติกรรมท่ีก้าวร้าว ดังนั้นการดูแลด้านจิตใจของผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าได้รับความรัก ความอบอุ่น และก�ำลังใจ จึงเป็น 165
สขุ ใจ.. ไร้เศร้า.. ไรเ้ สอื่ ม เรอื่ งทมี่ คี วามสำ� คญั อยา่ งยงิ่ เพราะความรสู้ กึ ทางจติ ใจทด่ี ี และแจม่ ใส ของผู้ปว่ ย นอกจากจะกอ่ ให้เกิดความสงบสุขทางจติ แลว้ ยงั เป็นสว่ น สำ� คญั ทชี่ ว่ ยใหร้ า่ งกายของผปู้ ว่ ยมพี ฒั นาการทด่ี ขี น้ึ ดว้ ย อาทิ มอี าการ เกรง็ ของกลา้ มเนื้อลดน้อยลง มีปฏิกริ ยิ าตอบสนองดขี นึ้ มพี ฒั นาการ ดา้ นปฏสิ มั พนั ธก์ บั สงิ่ รอบตวั ดขี นึ้ ซง่ึ ทก่ี ลา่ วมานล้ี ว้ นยอ้ นกลบั มามผี ล ดีต่อสภาพจิตของผู้ป่วย ท่ีส�ำคัญคือ ลดความสับสน หวาดระแวง หวาดกลัว และทำ� ใหผ้ ปู้ ว่ ยกลับมคี วามแจม่ ใส มอี ารมณ์ และจติ ใจท่ี เบกิ บานเป็นสุขยง่ิ ขน้ึ สิ่งที่ผมเห็นว่ามีความส�ำคัญต่อการดูแลสุขภาพจิตของผู้ป่วย ได้แก่ 2.1 การตระหนกั วา่ ผปู้ ว่ ยยงั มคี วามเข้าใจ และตอ้ งการเหตผุ ล เม่อื แรกท่ีผมเข้ามาดูแลคณุ แมน่ นั้ ผมเคยไดย้ นิ มาว่า ผปู้ ่วยโรค สมองเส่ือมอัลไซเมอร์ไม่อยู่ในสภาพท่ีจะรับรู้ และเข้าใจเหตุผลได้ ดงั นน้ั จงึ ไมค่ วรพยายามทจี่ ะใหเ้ หตผุ ลแกผ่ ปู้ ว่ ย มเิ ชน่ นนั้ ผดู้ แู ลผปู้ ว่ ย อาจจะย่ิงบังเกิดความเครียด และไม่อาจดูแลผู้ป่วยต่อไปได้ด้วยดี อยา่ งไรก็ดี นอกเหนือจากทผ่ี มไดร้ บั ความรู้ และความเข้าใจทีถ่ กู ตอ้ ง จาก ศาสตราจารย์ พญ.นนั ทิกาฯ ในเวลาต่อมาแล้ว ยังมีเหตกุ ารณ์ท่ี ผมประสบ และบังเกิดความเข้าใจว่า อันที่จริงผู้ป่วยยังมีและเข้าใจ เหตผุ ล กล่าวคอื วนั หน่ึงในชว่ งตน้ ท่ผี มมาดแู ลคณุ แม่ ท่านบอกผมว่า “อยา่ มาเรยี กฉนั วา่ แม่ เพราะเธอไมใ่ ชล่ กู ฉนั ” และไมก่ อี่ ดึ ใจตอ่ จากนนั้ 166
สขุ ใจ.. ไร้เศร้า.. ไรเ้ สือ่ ม ท่านก็กล่าวต่อไปว่า “ถ้าเธอเปน็ ลูกของฉัน ฉนั กต็ อ้ งจ�ำเธอได้สิ” ทันที ท่ีได้ยินค�ำพูดของท่านเช่นน้ัน ผมก็เริ่มตระหนักว่า คุณแม่ยังมีและ เขา้ ใจเหตุผล โรคอัลไซเมอร์ท�ำใหท้ า่ นสูญเสียความทรงจ�ำลงเป็นอัน มากและโดยทท่ี า่ นไมท่ ราบวา่ ตวั ทา่ นปว่ ยดว้ ยโรคสมองเสอ่ื มอลั ไซเม อร์ การท่ีท่านบอกผมว่าท่านจ�ำผมไม่ได้ จึงเป็นเร่ืองท่ีถูกต้องตาม ความเปน็ จรงิ และเมอื่ ทา่ นจำ� ผมไมไ่ ด้ ผมกย็ อ่ มไมใ่ ชล่ กู ของทา่ นอยา่ ง แน่นอน ซง่ึ กเ็ ปน็ เรื่องทีช่ อบดว้ ยเหตผุ ลอกี เชน่ กัน นอกจากน้ี ผู้ป่วยยังต้องการการให้เหตุผลด้วยโดยเฉพาะในส่ิง ทเี่ ราตอ้ งการให้ผูป้ ่วยให้ความรว่ มมอื ยกตัวอย่างในกรณขี องคณุ แม่ ของผมน้ัน เมื่อจะพาทา่ นไปอาบน้ำ� ท่านกช็ อบใหบ้ อกท่านก่อนว่าตัว ท่านเหม็น หรือสกปรก จ�ำเป็นต้องอาบน้�ำแล้ว ท่านจะยินดีให้ความ รว่ มมอื เพราะทา่ นเปน็ คนทไี่ มช่ อบสง่ิ ทเี่ หมน็ และเนอ้ื ตวั ทสี่ กปรก เมอื่ จะอ้มุ ทา่ นไปที่รถเข็น ท่านกช็ อบที่จะให้ขออนุญาตทา่ นกอ่ นและบอก เหตผุ ลวา่ จะอมุ้ ทา่ นไปไหนและเพอ่ื เหตใุ ด ยงิ่ ถา้ บอกวา่ จะพาไปเทยี่ ว ท่านกม็ ักจะให้ความรว่ มมือดว้ ยดี เป็นต้น 2.2 การให้เหตผุ ลแกผ่ ู้ป่วยผา่ นความรัก และความจรงิ ใจ ดังท่ีผมไดเ้ ล่าว่า คณุ แมจ่ �ำไม่ไดว้ ่าผมเป็นลกู ของท่านน้นั อยู่มา วันหนึ่งผมเห็นคุณแม่จ้องดูผมอย่างพินิจพิเคราะห์ด้วยแววตาและ ใบหน้าทแี่ จม่ ใส มีรอยยิ้ม พร้อมกบั เอ่ยวา่ “ฉันไมร่ วู้ ่าคณุ เป็นใคร แต่ รสู้ กึ ว่าเราร้จู กั กันมานานแลว้ และฉนั รู้สกึ ว่าฉันรักคุณมาก” ค�ำพดู ดัง 167
สขุ ใจ.. ไร้เศรา้ .. ไร้เสือ่ ม กล่าวของคุณแมท่ ำ� ให้ผมซาบซ้ึงใจ และมกี �ำลงั ใจข้ึนอย่างมาก แตท่ ่ี ส�ำคัญก็คือ ท�ำให้ผมย่ิงมีความม่ันใจว่า แม้ว่าผู้ป่วยโรคสมอง เส่ือมอัลไซเมอร์จะสูญเสียความทรงจ�ำไปเป็นอันมาก แต่ยังคงมี ความสามารถทจ่ี ะรับรู้ความรสู้ กึ ไมว่ า่ สขุ หรอื ทุกข์ และตอ้ งการทีจ่ ะ ส่อื สารกับผูท้ ี่อย่ใู กลช้ ดิ ใหท้ ราบว่าผปู้ ่วยรู้สกึ อยา่ งไร และต้องการให้ ผอู้ ยใู่ กล้ชดิ ให้ความรัก และความเข้าใจแกผ่ ้ปู ว่ ยด้วย แม้ว่าผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์สูญเสียทั้งความทรงจ�ำและ ความสามารถทจ่ี ะพดู คดิ ทำ� รวมทงั้ เตม็ ไปดว้ ยความรสู้ กึ หวาดระแวง แตผ่ ปู้ ว่ ยยงั สามารถรบั รสู้ ิ่งตา่ งๆได้ดีในระดบั หน่ึงผา่ นความร้สู ึก ยงั มี และเข้าใจเหตุผลในระดบั หนง่ึ และตอ้ งการการให้เหตุผล ดงั ที่ผมได้ กลา่ วไปแลว้ ขา้ งตน้ ดงั นนั้ การใหเ้ หตผุ ลแกผ่ ปู้ ว่ ยจงึ เปน็ เรอ่ื งทจี่ ำ� เปน็ แต่ต้องมิใช่โดยการใช้ค�ำพูดที่ยากหรือประโยคท่ียาว แต่ต้องเป็นค�ำ พดู ส้ันๆ เขา้ ใจงา่ ย พดู บอ่ ยๆ และทส่ี ำ� คัญ คอื ต้องเปน็ ค�ำพดู และน�้ำ เสยี งทอ่ี อ่ นโยน สงิ่ ทด่ี ที สี่ ดุ คอื การส่ือสารกบั ผปู้ ว่ ยดว้ ยการแสดงออก ถึงความรกั และความเขา้ ใจ เพ่อื ให้ผปู้ ่วยไดร้ ับรวู้ า่ ผปู้ ว่ ยได้รบั ความ รกั และความอบอนุ่ เชน่ การมองผปู้ ว่ ยดว้ ยสายตาทม่ี เี มตตา การสมั ผสั ผ้ปู ว่ ยด้วยความรักโดยเฉพาะการโอบกอดผู้ปว่ ย การย้ิมและหัวเราะ รว่ มกับผปู้ ว่ ย การร่วมทำ� กิจกรรมต่างๆ ทผ่ี ้ปู ่วยช่ืนชอบ เป็นตน้ หาก ผูป้ ่วยไดร้ บั การปฏิบัติในลักษณะดังกลา่ วโดยสม่ำ� เสมอ ผูป้ ่วยก็ยอ่ ม รู้สึกว่าผู้ป่วยยังคงเป็นที่รัก ชีวิตของผู้ป่วยจึงไม่ได้ว้าเหว่ มีความหวาดระแวงนอ้ ยลง มีสภาวะจติ ทีส่ งบยง่ิ ขน้ึ สขุ ภาพจติ กย็ ่อม ดขี น้ึ ด้วย 168
สุขใจ.. ไรเ้ ศร้า.. ไร้เสื่อม 2.3 การทำ� กิจกรรมทผ่ี ้ปู ่วยชื่นชอบ กิจกรรมที่ผู้ป่วยช่ืนชอบมักจะเป็นกิจกรรมท่ีผู้ป่วยชอบท�ำมา ต้งั แตก่ อ่ นทจ่ี ะป่วยด้วยโรคอลั ไซเมอร์ ผู้ดูแลผปู้ ่วยพึงทราบในเรื่องนี้ และควรพยายามช่วยเหลือผู้ป่วยให้ได้ท�ำกิจกรรมดังกล่าวบ้างเท่าที่ พอจะเปน็ ไปได้ ผมจะขอยกตัวอยา่ งกจิ กรรมทค่ี ุณแม่ของผมช่นื ชอบ และผมยงั ชว่ ยใหท้ า่ นได้ทำ� ในขณะน้ี ไดแ้ ก่ 2.3.1 การชมตน้ ไม้ และรับแดดยามเชา้ คุณแม่เป็นคนชอบต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจ ท่านเคยลงท�ำสวนเอง เกอื บทกุ วนั และใชเ้ วลานานในการดแู ลตน้ ไมใ้ หอ้ ยใู่ นทที่ างอยา่ งเปน็ ระเบยี บสวยงาม ท่านไม่กลวั แดด และชอบแดดยามเช้า ดังน้นั เกือบ ทกุ เชา้ ทอี่ ากาศดี ผมจะเขน็ รถพาคณุ แมช่ มตน้ ไมร้ อบบรเิ วณบา้ นและ ให้คุณแม่ได้สัมผัสแดดยามเช้า ซ่ึงผมสังเกตว่าท่านมีปฏิกิริยาร่าเริง และมีความสดช่ืนกระปรี้กระเปร่า เอ่ยชมว่าต้นไม้ ใบไม้ ดอกไม้ สวยงาม และถามว่าขอเอากลับบา้ นไดไ้ หม 2.3.2 การสวดมนต์ และแผ่เมตตา คณุ แมช่ อบสวดมนต์ และแผเ่ มตตารวมทงั้ อา่ นทบทวนบทเทศน์ ของพระอาจารย์ท่ีคุณแม่เคารพนับถือ ดังนั้นในช่วงท่ีผมเข็นรถพา 169
สขุ ใจ.. ไร้เศร้า.. ไรเ้ ส่ือม คณุ แมช่ มสวน ผมมกั จะหาจดุ ทส่ี บายๆ นำ� ทา่ นสวดมนต์ และแผเ่ มตตา เพราะเปน็ ชว่ งเวลาทที่ า่ นรา่ เรงิ แจม่ ใส ผมพบวา่ คณุ แมม่ กั จะพดู แทรก ข้ึนมาเป็นครั้งคราวระหว่างสวดมนต์ว่า “ดีมาก ฉันชอบมาก ขอบใจ นะ” พร้อมกับยกมือขน้ึ พนม 2.3.3 การรอ้ งเพลง ในสมัยท่ียังแข็งแรง คุณแม่เคยชอบร้องเพลง เล่นเปียโน และ เต้นร�ำมาก ดงั น้นั ผมจงึ รอ้ งเพลงกับท่านแทบทุกวนั โดยเลอื กเพลงที่ คุณแม่ช่ืนชอบและเคยสอนให้ลูกๆ ร้องเพลงเหล่านั้น ผมเลือกที่จะ รอ้ งรำ� ทำ� เพลงดงั กลา่ วในระหวา่ งการทำ� กายภาพบำ� บดั ใหค้ ณุ แม่ โดย ขยับแขน และขาของท่านให้เข้ากับจังหวะของเพลงเสมือนหน่ึงเรา เต้นรำ� ไปดว้ ยกัน บางทีท่านก็ร้องเพลงคลอตามไปด้วย หรือบางครั้ง ก็มีเสยี งบ่น “เจบ็ ๆๆๆ” เข้าทำ� นองเพลงที่ร้อง! 3. การดแู ลสขุ ภาพร่างกายของผู้ป่วย ผู้ป่วยโรคสมองเส่ือมอัลไซเมอร์ประสบปัญหาความผิดปกติ เก่ียวกับความจ�ำ บกพร่องในการตัดสินใจ บกพร่องในการรับรู้ ความเหมือนกับความแตกต่างของส่ิงของต่างๆ มีความผิดปกติทาง ระบบการเคลื่อนไหว และเม่ือผปู้ ่วยมีอาการถงึ ขั้นรนุ แรง ดงั เชน่ กรณี ของคณุ แมข่ องผมนน้ั ผปู้ ว่ ยจะไมส่ ามารถชว่ ยเหลอื ตนเองไดเ้ ลย และ ต้องมีผู้ดแู ล 100% การดแู ลสขุ ภาพร่างกายของผปู้ ว่ ยจึงเปน็ เรื่องทม่ี ี ความสำ� คญั มาก 170
สขุ ใจ.. ไร้เศรา้ .. ไรเ้ สื่อม 3.1 การดแู ลใหผ้ ู้ป่วยได้รบั สารอาหาร และนำ�้ ในปรมิ าณที่เพียง พอต่อความต้องการของร่างกาย อาหารและนำ�้ มคี วามสำ� คญั ตอ่ รา่ งกายและจติ ใจของคนเรามาก สังเกตได้ว่า ถ้าร่างกายได้รับสารอาหารและน้�ำไม่เพียงพอ นอกจาก รา่ งกายจะผา่ ยผอม ผวิ หนงั เหยี่ วแหง้ แลว้ เรายงั หมดพลงั ทจี่ ะเคลอ่ื นไหว สมองเฉือ่ ยชาลง เกิดสภาวะตึงเครยี ดทางอารมณ์ ฯลฯ ในกรณขี องผู้ป่วยโรคสมองเสอื่ มอลั ไซเมอร์ เซลลป์ ระสาทสมอง สญู เสยี ลงในอตั ราทร่ี วดเรว็ กวา่ คนปกตมิ าก รา่ งกายของผปู้ ว่ ยจงึ จำ� เปน็ ตอ้ งไดร้ บั สารอาหารและนำ�้ ในปรมิ าณทเี่ พยี งพอตอ่ ความตอ้ งการของ ร่างกายเพื่อช่วยชะลอการสูญเสียเซลล์ประสาทสมอง และช่วย การหมุนเวียนของโลหิตซ่ึงจ�ำเป็นอย่างมากต่อสมอง และร่างกาย โดยรวม ผู้ดูแลผู้ป่วย และญาติใกล้ชิดพึงตระหนักว่าผู้ป่วยมักจะอยู่ใน สภาวะสงู วยั มากแลว้ ประสทิ ธภิ าพของรา่ งกายในการดดู ซมึ สารอาหาร จงึ ลดลงเปน็ ลำ� ดบั แมก้ ารใหผ้ ปู้ ว่ ยรบั ประทานอาหารทปี่ น่ั จนละเอยี ด แลว้ กอ็ าจจะยงั ไมส่ ามารถชว่ ยใหผ้ ปู้ ว่ ยไดร้ บั สารอาหาร และนำ�้ อยา่ ง เพยี งพอ ประกอบกับผู้ป่วยอาจจะไมส่ ามารถสอื่ สารไดว้ า่ ตนตอ้ งการ อาหารและน�้ำ ดังนนั้ นอกเหนือจากการใหผ้ ู้ป่วยอยภู่ ายใต้การดูแล อย่างใกล้ชิดของแพทย์แล้ว ผู้ดูแลผู้ป่วย และญาติใกล้ชิดต้องคอย หมนั่ สงั เกตว่า ผปู้ ว่ ยมอี าการ และสภาวะของการขาดสารอาหารและ น�้ำหรอื ไม่ อาทิ ผ้ปู ว่ ยมีน�ำ้ หนกั ตัวลดลงอย่างตอ่ เนอ่ื ง งว่ งซมึ ระหวา่ ง 171
สขุ ใจ.. ไร้เศร้า.. ไรเ้ สอื่ ม วนั ไม่คอ่ ยมปี ฏิสัมพันธ์ และปฏกิ ริ ยิ าโต้ตอบ มอี าการโยกเยกเหมอื น วิงเวียนศีรษะ เวลาขยับตัวให้ผู้ป่วยลุกขึ้นจากเตียง หรือปรับเปล่ียน อริ ิยาบถจากท่านอน หรือทา่ นัง่ ผ้ปู ว่ ยมสี หี น้า และอารมณ์ท่ีขุ่นมวั อนงึ่ ผปู้ ว่ ยที่ไมไ่ ด้รบั สารอาหาร และน�้ำอย่างเพียงพอตดิ ต่อกนั เป็นเวลานาน จะยิ่งมีอาการง่วงซึมและ/หรือหลับเกือบทั้งวัน ท�ำให้ การใหอ้ าหาร และนำ้� แกผ่ ปู้ ว่ ยกระทำ� ไดย้ ากขน้ึ อนั จะเปน็ ผลใหผ้ ปู้ ว่ ย ย่ิงตกอยู่ในสภาพขาดสารอาหารและน�้ำรุนแรงขนึ้ ไปอีก สภาวะเชน่ นี้ท�ำให้ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันโรคลดต�่ำลง และสุ่มเส่ียงต่อการที่ผู้ป่วยจะ ตดิ เชอื้ โรคตา่ งๆ โดยเฉพาะโรคของระบบทางเดนิ หายใจ ตลอดจนเปน็ อนั ตรายอยา่ งมากต่ออวัยวะภายใน เชน่ หวั ใจ เปน็ ต้น ในกรณีของคุณแม่ของผมนั้น แพทย์ได้แก้ไขปัญหาของการที่ ร่างกายได้รบั สารอาหาร และน้�ำไม่เพียงพอดว้ ยการใหอ้ าหาร และน�้ำ ผา่ นทางสายยางใหอ้ าหาร (Tube Feeding) ผา่ นจากจมกู ตรงไปจนถงึ กระเพาะอาหาร โดยเปน็ อาหารทางการแพทย์ (Medical Food) ซง่ึ มี สารอาหารครบถว้ น นำ� มาผสมกบั นำ้� ในอตั ราสว่ นทแ่ี พทยก์ ำ� หนด โดย แพทยจ์ ะพจิ ารณากำ� หนดชนดิ และจ�ำนวนแคลอรีข่ องอาหาร จ�ำนวน ซีซีของอาหารและน้�ำ ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วยแต่ละ คน ซ่ึงหลังจากทค่ี ณุ แม่ของผมได้รบั สารอาหารและน�้ำอย่างพอเพยี ง เป็นเวลาต่อเน่ือง ก็ปรากฏว่าคุณแม่มีน�้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น มีการนอน หลบั ระหวา่ งคนื ทด่ี ี ระบบขบั ถา่ ยดี มพี ละกำ� ลงั มปี ฏกิ ริ ยิ าโตต้ อบ และ มปี ฏิสัมพันธก์ ับผ้คู นโดยรอบดีขน้ึ มาก โดยสรปุ แล้วคุณแมก่ ลับมามี ชีวติ ชีวาน่นั เอง 172
สขุ ใจ.. ไรเ้ ศร้า.. ไรเ้ ส่อื ม 3.2 การดแู ลสขุ ภาพชอ่ งปากของผปู้ ่วย สขุ ภาพช่องปากของผู้ปว่ ยมคี วามส�ำคัญมาก เนือ่ งจากช่องปาก มีสงิ่ ปฏกิ ลู เกิดข้นึ อย่ตู ลอดเวลาตามธรรมชาติ เช่น น�้ำลาย เซลล์เยือ่ บุผนงั ปากทเี่ สอ่ื มไป เศษอาหารตกคา้ ง เป็นตน้ ช่องปากท่ีไม่ไดด้ แู ล ใหส้ ะอาดยอ่ มเปน็ แหลง่ เพาะเชอื้ โรคซงึ่ สามารถแพรก่ ระจายไปยงั สว่ น ต่างๆ ของร่างกาย ก่อให้เกิดการติดเชื้อได้โดยง่าย และอาจถึงชีวิต ถา้ การตดิ เชื้อมขี ึ้นในจดุ ท่ีส�ำคญั เช่น การติดเชื้อท่ปี อด เป็นตน้ ในกรณีของผูป้ ่วยท่ียังพอช่วยเหลอื ตัวเองได้ ผปู้ ว่ ยอาจจำ� ไม่ได้ ว่าตนไดแ้ ปรงฟนั หรือทำ� ความสะอาดช่องปากแล้วหรอื ยงั ดังน้นั จงึ ควรให้ผู้ป่วยได้รับการตรวจรักษาสุขภาพช่องปากโดยทันตแพทย์อยู่ เป็นระยะๆ และเตือนให้ผู้ป่วยบ้วนปาก และแปรงฟันโดยสม�่ำเสมอ อยา่ งไรกต็ าม ในกรณีของผ้ปู ่วยในขน้ั รุนแรง ปัญหาท่ผี ้ดู ูแลประสบก็ คือการที่ผู้ป่วยอาจไม่อ้าปากให้แปรงฟันให้ และไม่ยอมบ้วนปาก ผดู้ แู ลจงึ จำ� เปน็ ตอ้ งอดทนหาวธิ โี นม้ นา้ วใหผ้ ปู้ ว่ ยอา้ ปาก และบว้ นปาก และใช้ยาสฟี ันแต่นอ้ ย หลงั จากทำ� ความสะอาดฟันและชอ่ งปากแลว้ แทนท่ีจะให้ผู้ป่วยบ้วนปาก ก็ให้ท�ำความสะอาดแปรงสีฟันแล้วน�ำ แปรงสีฟันมาชุบน�้ำก่อนท่ีจะน�ำกลับเข้าไปท�ำความสะอาดช่องปาก และฟันของผู้ป่วย ท�ำสลับไปมาอยู่เช่นน้ีจนกว่าช่องปากจะสะอาด และไมม่ ยี าสฟี นั หลงเหลอื อยใู่ นชอ่ งปาก นอกจากน้ี อาจตอ้ งใชอ้ ปุ กรณ์ เสรมิ สำ� หรบั แปรงซอกฟนั (Interdental Brushes) ชว่ ยในการทำ� ความ สะอาดฟันของผปู้ ่วยดว้ ย ทัง้ นีค้ วรแปรงฟันและทำ� ความสะอาดช่อง 173
สขุ ใจ.. ไร้เศร้า.. ไรเ้ สือ่ ม ปากผู้ป่วยทุกครงั้ หลงั ม้ืออาหาร นอกจากนี้ ระหว่างวันกค็ วรใชส้ ำ� ลี ชุบนำ�้ ยาบว้ นปาก (Antiseptic Mouth Wash) เชด็ ถฟู นั และชอ่ งปาก ของผปู้ ว่ ยเพอื่ ปอ้ งกนั โรคเหงอื กอกั เสบและเชอื้ ราในชอ่ งปากของผปู้ ว่ ย ดว้ ย อน่ึง ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่ได้รับอาหารผ่านทางช่องปากแล้ว โดย อาจได้รับอาหาร และน�้ำผ่านทางท่อสายยาง (Feeding Tube) การแปรงฟัน และท�ำความสะอาดช่องปากก็ยังต้องกระท�ำตามปกติ เพราะส่ิงปฏิกูลในช่องปากเกิดข้ึนตามธรรมชาติอยู่ตลอดเวลา ดังท่ี กล่าวมาแล้วขา้ งตน้ 3.3 การจัดเตรียมสถานทพี่ กั และการใชอ้ ปุ กรณท์ างการแพทย์ การจัดเตรียมสถานท่พี ัก และการใชอ้ ุปกรณท์ างการแพทยเ์ พอ่ื อำ� นวยประโยชนแ์ กผ่ ปู้ ว่ ยนนั้ มดี ว้ ยกนั หลากหลายประการ แตท่ ผี่ มจะ กล่าวถึงน้ัน จะจำ� กดั อยู่เฉพาะเรอ่ื งทีผ่ มมีประสบการณ์ และเหน็ ว่ามี ความจำ� เปน็ ในเชงิ ปอ้ งกนั มใิ หผ้ ปู้ ว่ ยไดร้ บั อนั ตรายจากสภาพรา่ งกาย ของผ้ปู ่วยท่อี อ่ นแอลง ดงั ตอ่ ไปนี้ 3.3.1 การจดั เตรยี มเส้นทางเขน็ รถผปู้ ว่ ย การจดั เตรยี มเสน้ ทางสำ� หรบั เขน็ รถผปู้ ว่ ยทง้ั ใน และนอกบา้ นนบั เปน็ เรอื่ งสำ� คญั เพราะผปู้ ว่ ยชราภาพลงตามสงั ขาร การมเี สน้ ทางสำ� หรบั 174
สขุ ใจ.. ไร้เศร้า.. ไร้เสื่อม เขน็ รถผปู้ ว่ ยจะชว่ ยใหผ้ ดู้ แู ลสามารถเคลอ่ื นผปู้ ว่ ยจากเตยี งไปยงั สถาน ท่ีประกอบกิจวัตรประจ�ำวันได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยเฉพาะ ในกรณีท่ีต้องพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาล นอกจากน้ียังอ�ำนวย ความสะดวกในการเคลอื่ นยา้ ยผปู้ ว่ ยไปยงั สถานทร่ี อบบรเิ วณบา้ นเพอ่ื ใหผ้ ูป้ ่วยไดเ้ ปลีย่ นบรรยากาศ อันเป็นผลดีตอ่ ร่างกายและจิตใจ 3.3.2 ทนี่ อนลมกนั แผลกดทบั (Alternating Pressure Mattress) อปุ กรณด์ งั กลา่ วมมี อเตอรท์ ำ� หนา้ ทป่ี ม๊ั ลม และปรบั ความดนั ของ ลมในที่นอนสลับไปมาโดยอัตโนมัติ ท�ำให้ผิวเน้ือของผู้ป่วยไม่ถูกกด อยู่บนท่ีนอนเป็นเวลานานๆ โดยไม่ขยับเขยื้อน จึงสามารถป้องกัน การเกิดแผลกดทับ และช่วยให้บรเิ วณท่ีเคยมแี ผลกดทบั อยูก่ ่อนคอ่ ย บรรเทาอาการลงและหายได้เร็วย่ิงขึ้น นอกจากน้ี ยังช่วยลดความถี่ ในการพลิกตัวผู้ป่วย ท�ำให้การรบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วยลดน้อย ลงด้วย 3.3.3 เตียงไฟฟา้ ปรบั ระดบั (Electric Home Care Bed) เปน็ เตียงผู้ปว่ ยท่ปี รับระดบั ได้ 3 สว่ น คอื สว่ นบน (ส่วนท่ีสัมผัส หลงั ) ส่วนกลาง (ส่วนที่สัมผัสขาตอนบน) และสว่ นลา่ ง (สว่ นทีส่ ัมผัส ขาตอนล่าง) และปรบั ระดบั สูง-ต่ำ� ของเตยี งได้ เตียงลักษณะดงั กลา่ ว เป็นเตยี งชนิดเดียวกนั กับท่ีใชใ้ นโรงพยาบาล 175
สขุ ใจ.. ไร้เศร้า.. ไร้เสื่อม เตยี งไฟฟา้ ปรบั ระดบั มปี ระโยชนม์ ากในการชว่ ยใหผ้ ดู้ แู ลสามารถ เคลื่อนตัวผู้ป่วยให้ท�ำกิจวัตรในขณะท่ียังอยู่บนเตียง หรือไป-กลับมา ท่ีเตียงโดยง่าย ท�ำให้เกิดความคล่องตัว ลดการรบกวนผู้ป่วย และมี ความปลอดภัยมากขึ้นส�ำหรบั ตัวผู้ป่วยเองด้วย และยังลดโอกาสท่ีจะ เกดิ การบาดเจบ็ ของผดู้ แู ลจากการแบกรบั นำ้� หนกั ผปู้ ว่ ย หรอื ผปู้ ว่ ยได้ รับบาดเจ็บในขณะท่ีถูกเคลือ่ นตวั ไปประกอบกิจวัตรต่างๆ 3.3.4 เคร่อื งผลติ ออกซิเจน (Oxygen Concentrator) ออกซิเจนมีความจ�ำเป็นในการช่วยการท�ำงานของเซลล์สมอง ของผปู้ ว่ ยทอี่ อ่ นแอลง และยงั ชว่ ยบำ� รงุ รกั ษาปอด ทางเดนิ หายใจ และ การไหลเวียนของโลหิต อย่างไรก็ดี การท่ีผู้ป่วยมีร่างกายที่อ่อนแอลงและอาจต้องนอน ติดเตียง จึงมีความสามารถลดลงในการรับออกซิเจนตามธรรมชาติ ดังน้ัน การใช้เครื่องผลิตออกซิเจนเพ่ือน�ำออกซิเจนเข้าสู่ปอด จึงช่วย ให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ทั้งนี้ การใช้เครื่องผลิตออกซิเจนควรอยู่ภายใต้การดูแลแนะน�ำของแพทย์ วา่ ผปู้ ว่ ยควรจะไดร้ บั ออกซเิ จนในอตั รามากนอ้ ยเพยี งใด และเปน็ ระยะ เวลาเท่าใดในแต่ละวัน เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของผู้ป่วย แตล่ ะราย 176
สุขใจ.. ไร้เศร้า.. ไรเ้ สื่อม 4. กายภาพบำ� บัด โดยท่ัวไปกายภาพบ�ำบัดจะช่วยในการฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วย ในเร่ืองขอ้ กล้ามเนอื้ หัวใจ และท�ำให้รู้สึกผ่อนคลาย แตใ่ นกรณขี อง ผปู้ ว่ ยโรคสมองเสอื่ มอลั ไซเมอรน์ น้ั กายภาพบำ� บดั จะชว่ ยใหข้ อ้ ตอ่ และ เอ็นแขนขาของผู้ป่วยมีการเคล่ือนไหวบ้างในขณะที่ผู้ป่วยไม่สามารถ ช่วยตัวเองได้ และตอ้ งนอนตดิ เตยี ง อันจะช่วยปอ้ งกันข้อต่อติด และ เส้นเอ็นแขนขายึดเกร็ง ซึ่งนอกจากจะเป็นผลให้ผู้ป่วยไม่สามารถ เคลอ่ื นไหวแลว้ ยงั ทำ� ใหเ้ กดิ อาการนวิ้ หงกิ งอ สรา้ งความเจบ็ ปวดทรมาน ให้แก่ผูป้ ว่ ยเป็นอนั มาก ในชว่ งทค่ี ณุ แมข่ องผมตอ้ งเขา้ รบั การรกั ษาทโ่ี รงพยาบาลเปน็ ระยะๆ ผมไดถ้ อื โอกาสนนั้ ขอรบั ความรจู้ ากนกั กายภาพบำ� บดั สำ� หรบั ผสู้ งู อายุ และน�ำความรู้ดงั กล่าวมาทำ� กายภาพบำ� บัดให้คณุ แม่ และแมว้ า่ ต้อง ใช้เวลาในการท�ำกายภาพบ�ำบัดนานพอสมควร แต่เมื่อท�ำอย่างต่อ เนอื่ ง กป็ รากฏผลดอี ยา่ งมากในการแกป้ ญั หาขอ้ มอื และขอ้ แขนมอี าการ ตดิ และเสน้ เอ็นแขนยึดเกร็ง ปจั จุบนั คณุ แม่สามารถใชม้ อื และแขนท่ี เคยมีปัญหาดงั กลา่ วได้ดีขนึ้ เปน็ ลำ� ดบั และไม่บ่นเจบ็ ดงั แต่กอ่ น 177
สุขใจ.. ไรเ้ ศร้า.. ไร้เส่ือม ผมยังได้ผสมผสานกายภาพบ�ำบัดดังกล่าวเข้ากับการนวดเพื่อ ผอ่ นคลายศีรษะ หลัง แขน และขาใหค้ ุณแม่ ซ่งึ เหมือนเปน็ การอบอนุ่ ร่างกายของคุณแม่ให้พร้อมส�ำหรับการท�ำกายภาพบ�ำบัด และยัง เปน็ การชว่ ยการไหลเวยี นของโลหติ ในรา่ งกาย ตลอดจนชว่ ยผอ่ นคลาย ให้แก่คณุ แม่ดว้ ย ในกรณขี องคณุ แมข่ องผมนั้น ทา่ นจะแสดงให้ร้วู ่า ทา่ นพอใจมากเมื่อผมนวดผ่อนคลายใหท้ ่าน โดยทา่ นมกั จะร้องเพลง ควบคู่ไปกับการย้ิม ซึ่งเป็นการให้ก�ำลังใจท่ีดียิ่งแก่หมอนวดจ�ำเป็น อยา่ งผม 178
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180