Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสถานศึกษาการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

หลักสูตรสถานศึกษาการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

Published by siwakorn099, 2021-05-23 02:48:19

Description: หลักสูตรสถานศึกษาการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

Search

Read the Text Version

ท่ี หวั เรือ่ ง ตวั ช้ีวดั เนอื้ หา จำนวน (ชวั่ โมง) ern = direction etc. 2.2รูปประโยคท่ใี ช้ในสัญลกั ษณ์/ป้ายประกาศ/ คำแนะนำในการใช/้ คำแนะนำ/คำเตอื นตา่ ง ๆ ซึง่ จะใชร้ ปู ประโยคคำสัง่ (Imperative Sentence) ทั้งในลกั ษณะบอกเล่าและปฏิเสธ เชน่ - Don’t smoke. - No smoking. - No entry. - Put some oil in the pan, then put the garlic and stir until it become yellow. etc. 3. สญั ลักษณ์และป้ายประกาศตา่ ง ๆ (Signs & 4 Notices) รจู้ ักความหมายของสญั ลกั ษณ์และ ป้ายประกาศที่พบในชีวิตประจำวันและการ ประกอบอาชีพ เชน่ การปฏบิ ตั ิตนในแหลง่ ท่องเทยี่ ว โรงแรม พิพธิ ภัณฑ์ โรงงาน สำนักงาน ยานพาหนะ เป็น ตวั อยา่ ง เชน่ = Don’t take photograph. = No smoking หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย = Don’t take หนา้ 50 durian inside. = Handicapped = elevation or lift

ท่ี หวั เร่ือง ตัวชี้วัด เนื้อหา จำนวน (ชวั่ โมง) = do not disturb Make up = make up the room the room = danger = safety first = no parking = Disabled Symbol etc. 4 4. สลากยาและค่มู ือในการใชอ้ ุปกรณ์ตา่ ง ๆ (Instructions) การอ่าน ทำความเขา้ ใจและปฏิบตั ิ ตามคำแนะนำในการใช้ยาและอปุ กรณต์ า่ ง ๆ ทใ่ี ช้ในชวี ิตประจำวัน เช่น หมอ้ หงุ ข้าวไฟฟา้ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 51

ที่ หวั เรอื่ ง ตัวช้ีวดั เนือ้ หา จำนวน (ชัว่ โมง) เครือ่ งซักผา้ คอมพวิ เตอร์ โทรศัพท์มือถือ เปน็ ต้น โดยใหเ้ ข้าใจสำนวนหรือโครงสรา้ งของประโยคท่ีมกั ใช้ เช่น - Keep out of reach of children. - Take one tablet after each meal. - Shake well before use. การใช้ Active Voice และ Passive Voice Modal verb Direct Speech, Indirect speech, Conjunction และ Connective words ทสี่ ำคญั เช่น - You should have it directly after meal. - The doses must not be divided. - Don’t use if the package is open. - First open the can with the opener. Pull it in a bowl. Then put some chopped chili, lemon juice and fish sauce. After that mix them together. 5. คำแนะนำและคำเตือนตา่ ง ๆ (Tips and 4 Warning) รจู้ ักวิธกี ารอา่ นและตคี วามคำแนะนำ คำ ชี้แจง และคำอธบิ ายตา่ ง ๆ เช่น พยากรณ์อากาศ ประกาศ เตอื นภัย คำแนะนำในการเข้าไปใน สถานทีต่ า่ ง ๆ คำอธิบายสนิ ค้าและสว่ นประกอบ หรือเคร่ืองปรุง วธิ ีการปรงุ อาหาร เปน็ ต้น หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 52

ที่ หัวเร่อื ง ตัวชว้ี ดั เน้ือหา จำนวน (ชว่ั โมง) 3 Hello, could ตดิ ต่อสือ่ สารทาง 1. การตดิ ต่อทางโทรศัพทก์ ับผู้ที่คุ้นเคย you tell 5 me.............? โทรศัพท์ได้ รู้จักวธิ ีการพูดโต้ตอบทางโทรศัพท์กบั เพ่ือน คลอ่ งแคล่ว ญาติ พีน่ อ้ งและผู้ท่ีค้นุ เคยในเรอ่ื งต่าง ๆ โดยใช้ สำนวนและภาษาทเ่ี หมาะสม เช่น - Is ……………. at home? - Could I speak to………., please? - May I speak to ……..…., please? - She/he is out. - Sorry, she’s not here now. - Would you like to wait? - Will you leave a message? - May I take a message for her/him? - Wait a minute, please. - Will you hole on? - Just a moment, please. - Please tell ............... to call me at....................... 2. การติดต่อทางโทรศพั ทเ์ พ่ือสอบถามขอ้ มูลตา่ ง ๆ 5 การใช้สำนวนภาษาทใ่ี ชพ้ ดู ทางโทรศัพท์เพ่ือ สอบถามข้อมลู ต่าง ๆ ทีต่ ้องการทราบโดยใช้ รปู ประโยคขอร้อง /ขอร้องอย่างสภุ าพ (request, polite, request) ประโยค direct/ indirect speech ประโยคคำถามลักษณะตา่ ง ๆ ประโยค แสดงความคดิ เห็นและการขอบคุณ เช่น การ สอบถามเส้นทางการเดินทางไปทต่ี า่ ง ๆ สอบถาม ตารางรถไฟ เครื่องบนิ สอบถามขอ้ มลู ดา้ นการ คุ้มครองผบู้ ริโภค/ สุขภาพอนามัย/ พยากรณ์อากาศ เปน็ ต้น ตวั อยา่ งประโยคท่ใี ช้ - Hello, I’d like to ask about......................... หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 53

ท่ี หัวเรือ่ ง ตวั ช้ีวดั เนื้อหา จำนวน (ช่วั โมง) - Could you tell me......................, please? - Would you mind giving me the information about.................................? - Can/Could you...............................? - May/Can/Could I.................................? - Don’t............................, please? - At what time...........................? - How many.................................? - How far..............................? - How much..............................? - I need your help..............................? - Pradon. - I think.............................. - Well, I must.............................. - In my opinion, .............................. - Thanks. /Thank you. - Sorry. /I’m sorry. - You’re welcome. 3. การติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อการประกอบอาชพี 10 วธิ กี ารพดู โตต้ อบทางโทรศัพท์ เพื่อถาม-ให้ข้อมูล เกยี่ วกับการประกอบอาชพี โดยใชส้ ำนวนและภาษา ที่เหมาะสมในการสอบถามข้อมลู เกยี่ วการสมัครงาน การซอ้ื -ขายสนิ คา้ การให้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพและ ราคาของสนิ ค้า การสง่ เสรมิ การขาย การต่อรอง ราคา การรบั และสง่ ของ ตวั อยา่ ง ประโยคทีใ่ ช้ - Hello. I’d like to ask/know about...................... - Can/could you tell me about...........................? - May/Could I speak to.........................., please? หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 54

ท่ี หัวเร่ือง ตัวชีว้ ัด เนื้อหา จำนวน (ชั่วโมง) - Can/Could you inform me about..................? - What is the position required? - What is the qualification? - How can I apply for this position? - When is the dateline of the application? - Do I have to send the application form? - Should I also send the resume/reference? - When/Where will the interview take place? - What kind of goods are available? - How much does it cost? - How can I send the order? - Is there any discount? - How about the present promotion? - How about the quality? - Where/When can I buy this product? - What is the product’s significance? - Please let me know if............................ - I’m interested in........................... - That’s very interesting. - I’m very appreciated......................... - When will I receive the product? - How should I pay for the product? - By cash/check /credit. - Thanks for your interest /kindness/information. - It’s my pleasure. - You’re welcome. - Sorry. /I’m sorry. หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 55

ท่ี หัวเรื่อง ตัวชีว้ ดั เนอื้ หา จำนวน (ชวั่ โมง) 4 Cultural 1. ปฏิบตั ิตน 1. การใชภ้ าษาในการส่อื สารไดเ้ หมาะสมตาม 5 Difference ตามมารยาท มารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของ วัฒนธรรมและ ภาษา ประเพณตี ่าง ๆ การใช้ภาษา นำ้ เสียงและภาษาทา่ ทางได้อย่าง ไดอ้ ย่างถูกต้อง เหมาะสมกับบุคคล เวลา สถานทแ่ี ละโอกาส เช่น การสัมผัสมอื การโบกมือ การใชส้ หี นา้ ทา่ ทาง และ 2. เปรยี บเทยี บ นำ้ เสยี งประกอบการพดู การแนะนำตวั เอง ความแตกตา่ ง การแสดงความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ การแต่งกาย ระหว่าง การรับประทานอาหาร ร่วมงานงานเลยี้ ง วัฒนธรรม งานสงั สรรค์ และกจิ กรรมทางสังคมตา่ ง ๆ องั กฤษกบั วฒั นธรรมไทย ตวั อย่าง เช่น - Blow a kiss. (ส่งจบู ) - I love you. (ภาษาใบ)้ - Be quiet. (เงียบ) - That’s bad. (ยกหวั แม่มอื ช้ลี งไปท่ีพื้น) หนา้ 56 หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย

ท่ี หวั เรื่อง ตวั ช้ีวัด เน้ือหา จำนวน (ช่ัวโมง) - How’s everything? - How have you been? - What’s going on with your life? - How’s life? - What’s up? - May I introduce myself? - Let me introduce myself, ............................... - Allow me to introduce.................. to................ - Have you met......................? - Congratulations on........................ - Happy Birthday. - Merry Christmas. - Happy New Year. - I’m sorry for......................... - May god bless you. - May god be with you. - I feel sorry............................... - Please pass my warm regards to..................... - Toast! - I wish you................................... - Would you mind................................... - Please let me know................................... - Would you please................................... - May I have................................... - Can you help me................................... - You look smart. - How nice............................... - I wonder if.............................. - How to cook.............................. หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 57

ท่ี หวั เร่ือง ตัวชี้วัด เน้ือหา จำนวน etc. (ชวั่ โมง) 2. ความเชอ่ื และขนบธรรมเนียม ประเพณขี อง 5 เจา้ ของภาษา ความเปน็ มาของความเชือ่ ขนบธรรมเนยี มและ ประเพณีต่าง ๆ ในสังคมของเจา้ ของภาษา การทำ กิจกรรมตามความเช่ือ ขนบธรรมเนยี มและประเพณตี ่าง ๆ ในด้าน บทเพลง การแต่งกาย อาหาร เครื่องด่ืมและ การประกอบพิธีกรรมทีเ่ กีย่ วข้อง ไดแ้ ก่ วัน คริสตม์ าส วนั ขอบคณุ พระเจา้ วนั วาเลนไทน์ และวนั พอ่ 3. การเปรยี บเทยี บโครงสรา้ งภาษาไทยกับ 5 ภาษาองั กฤษ เปรียบเทยี บลกั ษณะคำท่ีมาของคำความหมายและ การประยุกต์คำในภาษาองั กฤษใชใ้ นภาษาไทยและ คำในภาษาไทย ทีน่ ำไปในภาษาอังกฤษ ตวั อยา่ ง เช่น - ศพั ทข์ องภาษาไทยสว่ นใหญม่ าจากภาษาบาล/ี สนั สกฤตในขณะทศี่ ัพทข์ องภาษาองั กฤษ สว่ นใหญ่จากภาษากรีกและโรมัน - คำในภาษาองั กฤษที่นำมาใชใ้ นภาษาไทย เชน่ กโิ ลกรัม กิโลเมตร เซนตเิ มตร คำในภาษาไทยที่ นำไปใช้ในภาษาอังกฤษ เชน่ Tom Yam Kung, Muai Thai เปน็ ต้น โครงสรา้ งของประโยคตา่ งๆ - ประโยคความเดยี ว (Simple Sentence) - ประโยคความรวม (Compound Sentence) - ประโยคความซอ้ น (Complex Sentence) - ประโยคความผสม (Compound-Complex Sentence) หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 58

ท่ี หัวเร่อื ง ตัวชีว้ ดั เนอื้ หา จำนวน (ช่ัวโมง) - การใช้ Transitive / intransitive/ auxiliary verbs - Tense ตา่ งๆ - ลกั ษณะของประโยคคำถาม - ประโยคเงือ่ นไข - การใช้สนั ธาน (Conjunction) และบุพบท (Preposition) etc. 4. เปรยี บเทียบ สำนวน คำพังเพย สภุ าษิต บทกลอน 5 ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ 4.1คำและสำนวนท่ีได้รับอิทธิพลจากศาสนา เช่น - Oh, god! = คุณพระชว่ ย - Oh, my god! = พทุ โธ ธมั โม สังโฆ etc. 4.2คำพงั เพย สุภาษติ ที่มกั จะใช้ในชีวติ ประจำวนั เชน่ - It’s a piece of cake. = ปลอกกลว้ ยเข้าปาก - Silence is gold. = นง่ิ เสยี ตำลึงทอง - Time and tide wait for no one. = เวลาและวารไี มเ่ คยคอยใคร ลักษณะของบทกลอนภาษาไทยกบั ภาษาอังกฤษที่ เหมือนและแตกต่างกนั แรงบันดาลใจของกวีในการ แตง่ คำประพันธ์พรอ้ มตวั อย่างที่มักได้ยินเสมอ ๆ เชน่ Roses are red, violets are blue, sugar is sweet, but not as sweet as you. แมเ้ นอ้ื เยน็ เป็นห้วงมหรรณพ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 59

ที่ หัวเรื่อง ตวั ชว้ี ดั เนื้อหา จำนวน (ช่วั โมง) จะขอพบศรสี วสั ด์ิเปน็ มจั ฉา แม้เปน็ บวั ตวั พ่ีเปน็ ภมุ รา เชยผกาโกสมุ ภ์ประทุมทอง แม้เปน็ ถ้ำอำไพใคร่เป็นหงส์ จะร่อนลงสิงสู่เป็นคสู่ อง จะตดิ ตามทรามสงวนนวลละออง เปน็ คคู่ รอง พิสวาส ทกุ ชาติไป etc. ที่ หัวเรอ่ื ง ตัวช้วี ัด เนื้อหา จำนวน (ช่ัวโมง) 5 News & 1. เขา้ ใจและใช้ 1. เสียง คำศพั ท์ วลี สำนวน ที่ มักใช้บอ่ ย ๆ News ประโยคที่ซบั ซ้อนใน ในขา่ ว 2 Headline สถานการณ์ต่าง ๆ 2 2. ใช้ Tenses ท่ี 2. องค์ประกอบของข่าว ประกอบดว้ ย 2 ย่งุ ยากและซบั ซ้อน Headline, Sub headline, Lead และ 6 3. ศกึ ษาค้นควา้ Detail ความรู้และข้อมลู จาก 5 สอ่ื หนงั สือพิมพ์ 3. ประเภทของขา่ ว เชน่ ขา่ วการเมือง 4. แลกเปล่ยี นข้อมูล ขา่ วการศึกษา ข่าวกฬี า ข่าวสังคม 2 ขา่ วสารความรอู้ ย่าง ขา่ วเศรษฐกิจ เป็นตน้ เปน็ ทางการ 5. สืบค้นข้อมลู ในด้าน 4. โครงสรา้ งของการเขยี นพาดหวั ข่าว ตา่ ง ๆ จาก Internet (News Headline) ไดแ้ ก่ 4.1 ข่าวและพาดหัวข่าว 4.2 การถามและตอบคำถามจากขา่ วด้วย คำถามที่ เปน็ Wh-Question และ Yes/No Question 4.3 การถามและแสดงความคดิ เหน็ วา่ เห็นดว้ ยหรือไม่เห็นด้วย เช่น - Do you agree with this....................? - What do you think about.................. 4.4 Website ของหนังสือพิมพ์ The Nation หรอื Bangkok Post เพือ่ ศกึ ษาขา่ วประเภทต่าง ๆ ทีส่ นใจแล้ว วเิ คราะห์โครงสร้างของพาดหัวขา่ วน้ัน ๆ หรอื บอกประเภทของข่าวน้นั ๆ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 60

ท่ี หัวเรอื่ ง ตวั ช้ีวดั เนอื้ หา จำนวน (ช่ัวโมง) - Subj. + V1 - Subj. + V3 - Subj. + to + V1 - Subj. + V. ing Noun phrase 6 Self - 1. ศึกษาค้นควา้ ความรู้ 1. บทความเกยี่ วกบั เศรษฐกจิ พอเพยี งจาก 2 Sufficiency 2 Economy และข้อมลู จากส่ือ หนงั สือ หนงั สือพมิ พ์ หรือ Website 2 2 7 Have you ตา่ ง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 2 exercised today? 2. สืบคน้ ขอ้ มลู ในดา้ น 2. คำศัพท์ วลี สำนวน ท่ีเกยี่ วข้องกับเศรษฐกจิ 2 2 ต่าง ๆ จาก Internet พอเพียง เช่น moral , moderation, 2 3. เข้าใจและใช้ reasonable, knowledge, saving เป็นต้น 2 4 ประโยคซับซ้อนใน 3. โครงสร้าง Conditional sentence (If - สถานการณต์ ่าง ๆ clause) 4. การแลกเปลยี่ น 4. โครงสรา้ ง Imperative ข้อมลู ขา่ วสารความรู้ 5. การนำเสนอการนำเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ใน รปู แบบต่าง ๆ เช่น การตดิ คำขวัญ การสัมภาษณ์ การทำ Poster เป็นต้น 6. การเล่นเกม Cross word 1. ศกึ ษาคน้ ควา้ ความรู้ 1. แบบสอบถาม (Questionnaire) เกีย่ วกบั และข้อมูลจากส่ือ การดแู ลสุขภาพจากหนังสือหรอื Website ตา่ ง ๆ เกย่ี วข้อง 2. สืบคน้ ข้อมลู ในด้าน 2. การอา่ นออกเสยี ง คำศัพท์ สำนวน วลี ตา่ ง ๆ จาก Internet ทีเ่ กย่ี วข้องกบั สขุ ภาพ เชน่ aerobics, 3. เขา้ ใจและใช้ once, relaxed, health, healthy, firm, ประโยคซบั ซ้อนใน have a headache เปน็ ต้น สถานการณ์ต่าง ๆ 3. ประโยคท่เี ขียนด้วย Modal Verb เชน่ 4. ใช้ Tense ทีย่ งุ่ ยาก should, must, ought to, had better, และซบั ซ้อน will เปน็ ตน้ 5. แลกเปลี่ยนข้อมูล 4. Present Perfect Tense ขา่ วสารความรู้ 5. การสำรวจแบบสอบถามเกีย่ วกบั สุขภาพ ทั้งอย่างเป็นทางการ บุคคลใกล้ชิด แลว้ นำเสนอขอ้ มูลเป็น และไมเ่ ปน็ ทางการ รปู กราฟหรือแผนภูมิ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 61

ที่ หวั เรอ่ื ง ตัวชว้ี ดั เนื้อหา จำนวน (ชวั่ โมง) 8 Shall we 1. ศกึ ษาคน้ ควา้ ความรู้ 1. บทความเกีย่ วกบั การประหยัดพลงั งาน 2 save the และข้อมลู จากสื่อ (Energy Saving) จากหนังสอื หนังสือพิมพ์ 2 energy? ต่าง ๆ หรือ Website ทเ่ี กยี่ วข้อง 2 2. สืบคน้ ขอ้ มลู ในด้าน 2. เสยี ง คำศัพท์ วลี สำนวนทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั การ 1 2 ต่าง ๆ จาก Internet ประหยดั พลงั งาน เช่น reuse, recycle, 2 3. เข้าใจและใช้ประโยค plug in, unplug, turn on, turn off, 2 ซับซ้อนในสถานการณ์ reduce เป็นตน้ 2 2 ตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง 3. โครงสร้าง เรือ่ ง Imperative + V1 2 4. ใช้ Tense ท่ียุ่งยาก _________. และซับซอ้ นได้อยา่ ง ถกู ต้อง Don’t + V1+ ........................... 5. แลกเปลีย่ นข้อมูล ขา่ วสารความรูท้ ้งั อย่าง 4. Game “Find someone who..............” เป็นทางการและไม่เป็น 5. การสมั มนาเรื่องการประหยดั พลังงาน ทางการ 9 What have I 1. ศกึ ษาค้นควา้ ความรู้ 1. บทสนทนาเกีย่ วกบั การไปตดั เสือ้ done? และข้อมูลจากส่อื ตา่ ง ๆ 2. การอา่ นออกเสยี ง คำศัพท์ วลี สำนวน ท่ี 2. อา่ นออกเสยี งคำศัพท์ เกี่ยวข้องกับการไปตัดเสื้อ เชน่ measure, วลี สำนวน ได้อย่าง sleeves, seam, shorten เป็นต้น ถกู ต้อง 3. เขา้ ใจและใช้ประโยค 3. โครงสร้าง have something done ซับซ้อนในสถานการณ์ 4. โครงสรา้ ง Reported Speech ต่าง ๆ 5. การเลา่ เร่อื ง (สถานการณ์) 4. ใช้ Tense ที่ยงุ่ ยาก และ ซับซ้อน 5. แลกเปล่ียนข้อมูล ขา่ วสารความรู้ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 62

ท่ี หัวเรอื่ ง ตวั ชี้วัด เนือ้ หา จำนวน (ช่ัวโมง) 10 What is your 1. การสบื คน้ ขอ้ มลู 1. การขอมี e-mail 2 e-mail ด้านต่าง ๆ จาก 2. การเปิด/ปิด e-mail 1 2 address? Internet และรบั สง่ 3. ภาษา e-mail 2 1 e-mail 4. บทอ่านแนะนำตนเองท่ีพมิ พ์มาจาก e-mail 1 1 2. ศกึ ษาคน้ ควา้ ความรู้ 5. การสร้างประโยคคำถามจากคำตอบที่ให้มา 2 และข้อมูลจาก 6. การถามและการตอบข้อมูลการเปรยี บเทียบ 1 ส่อื ตา่ ง ๆ 7. การเขียนแนะนำตนเองถึง Pen pal 3 3. เข้าใจและใช้ โดยส่งทาง e-mail 2 1 ประโยคซบั ซ้อนใน 1 สถานการณต์ ่าง ๆ 2 4. แลกเปลี่ยนขอ้ มูล 2 ข่าวสารความรู้ ทั้งอย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ 11 Natural 1. ศกึ ษา คน้ คว้า 1. บทอา่ นเก่ียว Earthquake, Tornado หรอื Disaster ความรู้ และข้อมลู จาก Flood จากหนงั สือพมิ พ์ หรือ Website สอ่ื ต่าง ๆ ของหนงั สือพิมพ์ The Nation หรือ 2. สืบคน้ ขอ้ มูลในดา้ น Bangkok Post ตา่ ง ๆ จาก Internet 2. คำศัพท์ วลี สำนวนท่ีเกีย่ วขอ้ ง เช่น kill, 3. เข้าใจและใช้ injured, die, homeless, help, shelter, ประโยคท่ซี บั ซ้อนใน landslide เปน็ ต้น สถานการณ์ต่าง ๆ ได้ 3. Past Simple Tense, Past Continuous อยา่ งถูกต้อง Tenseและ Past Perfect Tense. 4. การใช้ Tense ท่ี 4. Compound Sentence และ Complex ยุ่งยากและซับซ้อน Sentence 5. แลกเปลี่ยนขอ้ มูล 5. การถามและการตอบคำถามจากบทอา่ น ข่าวสารความรู้ ท้ังเปน็ 6. การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Play) เป็น ทางการและ ผู้สอ่ื ขา่ ว นำเสนอขา่ วที่เกี่ยวกับ Natural ไมเ่ ป็นทางการ Disaster 12 Let’s Travel 1. ศกึ ษาคน้ ควา้ ความรู้ 1. ตารางเวลาของ Bus, Train, Airplane, และข้อมลู จาก Boat หรือ Subway จากส่ือต่าง ๆ เชน่ ส่ือตา่ ง ๆ แผ่นพบั หนังสือพมิ พ์ หรือ Website ที่ 2. สืบค้นข้อมลู ในดา้ น เก่ียวขอ้ ง ตา่ ง ๆ จาก Internet 2. Asking & giving Information เช่น และรับส่ง E-mail - Could you please tell me....................? หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 63

ท่ี หวั เรื่อง ตวั ช้วี ัด เนื้อหา จำนวน (ช่ัวโมง) 3. เข้าใจและใช้ - Please tell me.............................. ประโยคท่ซี บั ซ้อนใน - Excuse me. Do you 2 สถานการณต์ ่าง ๆ know.......................? 4. ใช้ Tense ที่ย่งุ ยาก 3. การบอกทศิ ทาง (Direction) เชน่ 2 และซบั ซ้อนได้ - Go straight. 2 5. แลกเปลยี่ นข้อมลู - Keep walking to.......................... 2 ข่าวสารความรู้ - Walk past.................................. - It’s at the opposite of.......................... - Next to.................................... 4. Past Simple Tense และ Past Simple Tense 5. การเขียนเลา่ เร่ืองหรือประสบการณ์ในการ ท่องเทย่ี ว 6. การวางแผนการเดนิ ทางทอ่ งเทย่ี ว 13 Will it rain 1. ศกึ ษาคน้ ควา้ ความรู้ 1. บทอ่าน การพยากรณ์อากาศ (Weather 2 tomorrow? 1 และข้อมูลจากส่ือตา่ งๆ Forecast) ทัง้ ในประเทศและตา่ งประเทศ 2 14 Global Warming เช่น หนังสือพิมพ์ 2. การถาม-ตอบ คำถามจากบทอ่าน 2 1 ภาษาองั กฤษและ การพยากรณ์อากาศ (Weather Forecast) 2 Website 3. การถามและการขอข้อมูล (Asking & Giving 2 2. แลกเปล่ยี นข้อมูล Information) ขา่ วสารความร้ทู ้ังอยา่ ง เสียง คำศัพท์ วลี สำนวนท่ีมักใชบ้ อ่ ยๆ ใน เปน็ ทางการและไมเ่ ปน็ ขา่ วพยากรณ์อากาศ เชน่ shower, ทางการ windy, heavy, scatter, stormy, sunrise, 3. เขา้ ใจและใช้ sunset, ประโยคที่ซับซ้อนใน maximum, minimum, Northeast สถานการณต์ ่าง ๆ ได้ 4. Parts of Speech การทำคำนาม Noun ให้ อย่างถูกต้อง เป็น Adjective 4. สบื คน้ ขอ้ มลู ในดา้ น 5. Website ท่เี ก่ียวกับการพยากรณ์อากาศ ตา่ ง ๆ จาก Internet Role play เป็นผ้ปู ระกาศข่าวการ พยากรณ์ อากาศ 1. ศึกษาคน้ คว้าความรู้ 1. บทความเกี่ยวกับภาวะโลกรอ้ น (Global และข้อมลู จาก Warming) สาเหตุของภาวะโลกร้อนหรือ สอ่ื ตา่ ง ๆ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 64

ที่ หัวเรื่อง ตวั ชวี้ ัด เน้อื หา จำนวน (ช่วั โมง) 2. สืบค้นข้อมูลในดา้ น ผลกระทบของภาวะโลกร้อนจากหนงั สือหรือ ต่างๆ จาก Internet หนังสอื พิมพ์หรือWebsite ทีเ่ ก่ียวขอ้ ง 2 3. เข้าใจและใช้ 2. การอา่ นออกเสยี งคำศัพท์ วลี สำนวน ท่ี ประโยคซบั ซ้อนใน เกี่ยวขอ้ ง เชน่ temperature, increase, สถานการณ์ต่าง ๆ melt, burn, earth, hot เปน็ ต้น 2 4. ใช้ Tense ท่ียุ่งยาก 3. โครงสร้าง Passive Voice และซับซ้อน Subj + V to be + V3 2 5. แลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารความรู้ทงั้ อยา่ ง 4. บทสนทนาทีเ่ กี่ยวกับการป้องกนั หรอื ลดภาวะ เปน็ ทางการและไมเ่ ปน็ โลกร้อน 2 ทางการ 5. Mind map แสดงเหตผุ ลและผลกระทบของ ภาวะโลกรอ้ น 15 Urgently 1. ศึกษาค้นคว้าความรู้ 1. โฆษณาตำแหน่งงาน (Job Advertisement) 2 Wanted และข้อมูลจาก 2. จากหนงั สอื หนังสือพมิ พ์ หรือ Website 2 ส่ือตา่ ง ๆ 3. เกี่ยวข้อง 2 2. สบื คน้ ข้อมลู ในด้าน คำศัพท์ สำนวน วลี โครงสร้างท่ีเก่ยี วข้อง ต่าง ๆ จาก Internet เช่น qualification, salary, graduation, และ รบั สง่ age, photo, apple เป็นต้น e-mail การเขียนประวตั ิ (Resume) เพอ่ื สมัครงาน 3. เขา้ ใจและใช้ การส่ง e-mail สมคั รงาน ประโยคซับซ้อนใน สถานการณต์ ่าง ๆ 4. การแลกเปลย่ี น ข้อมูลข่าวสารความรู้ ท้ังอย่างเปน็ ทางการ และไมเ่ ป็นทางการ คำอธบิ ายรายวิชาเลอื ก สาระความร้พู น้ื ฐาน วิชาภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) มาตรฐานท่ี รหัสรายวิชา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย หนว่ ยกิต ๒.๑ พต๓๒๐๐๕ รายวิชา ๓ ภาษาอังกฤษเพอ่ื การศึกษาต่อ รวม 3 หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 65

คำอธิบายรายวชิ า พต๓๒๐๐๕ ภาษาองั กฤษเพื่อการศกึ ษาตอ่ สาระความร้พู นื้ ฐาน ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จำนวน ๓ หน่วยกติ (๑๒๐ ช่ัวโมง) มาตรฐานท่ี ๒.๑ มีความรู้ความเขา้ ใจ และทักษะพื้นฐานเก่ียวกบั ภาษาและการส่ือสาร ศึกษาและฝึกทกั ษะเก่ียวกับเรอื่ งต่อไปนี้  โครงสรา้ งทางภาษา (Structure  หน้าท่ีทางภาษา (Function)  คำศัพท์ (Vocabulary)  การอา่ นเพ่อื จับใจความ (Reading comprehension)  การอา่ นกราฟ การต์ ูน ตาราง สัญลกั ษณ์ สถิติ ดัชนี (Reading : Graph Cartoon/Table/Sign/Statistic/Index)  การทำข้อสอบแบบเว้นช่องวา่ งอยา่ งมีระบบ (Cloze Test) ภูมหิ ลงั เจ้าของภาษา วฒั นธรรม(Cultural Background ข่าว (News) เพลงและโคลง (Song and Poetry) การใช้พจนานุกรม (Using dictionary) การตรวจจบั ทผ่ี ดิ (Error Detection) การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ฝึกฟัง พูด อ่าน เขียน คำศัพท์ กราฟ การ์ตูน ตาราง สัญลักษณ์ สถิติ ดัชนี สารบัญ และ การทำข้อสอบแบบเว้นช่องว่างอย่างมีระบบ อ่านข่าว ร้องเพลงและอ่านโคลง ตลอดจนการใช้พจนานุกรมใน การตรวจสอบคำผดิ การวัดและประเมนิ ผล  ทักษะในการปฏบิ ัติ  การทดสอบ  การมีสว่ นรว่ ม หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 66

รายละเอยี ดคำอธิบายรายวิชา พต 32005 ภาษาองั กฤษเพอื่ การศึกษาต่อ มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั มคี วามรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่า และประโยชน์ท่ีจะนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ที่ หวั เร่ือง ตวั ชวี้ ดั เนอ้ื หา จำนวน (ชัว่ โมง) 1 สนทนา 1. สนทนาเปน็ ภาษาองั กฤษได้ 1. การสนทนาภาษาองั กฤษ ภาษาอังกฤษ 2. โตต้ อบการสนทนาท่ีเก่ียวขอ้ ง -การทกั ทาย 1 อยา่ งเหมาะสม -การกล่าวลา 1 -การแนะนำตนเอง 1 -การแนะนำบุคคลอ่นื 1 -การขอโทษ 1 -การขอบคณุ 1 -การนัดหมาย 1 -การเช้ือเชญิ 1 -การขอร้อง 1 -การเสนอใหค้ วามชว่ ยเหลอื 1 -การขอความชว่ ยเหลือ 1 -การสอบถามข้อมูล 1 -การใหค้ ำแนะนำ 1 -การถามตอบเกี่ยวกบั ความชอบไม่ 1 ชอบ -การอนญุ าต 1 2 การอา่ น 1. อา่ นออกเสยี งตวั อกั ษร 2. การอา่ นออกเสยี ง สระได้ -การอ่านตวั เลข 2. สะกดคำ ประโยคและ -การอ่านจุดทศนยิ ม 2 ขอ้ ความได้ -สญั ลกั ษณ์ 2 -การอ่านเพือ่ จบั ใจความ 2 -การอ่านข่าว 2 -การอา่ นประกาศ 2 -การอ่านโฆษณา 2 -การอ่านพยากรณ์อากาศ 2 2 3 การเขียน 3. เขยี นจดหมายและกรอกใบ 3. การเขยี นจดหมายและกรอกใบ สมคั รงานเป็นภาษาองั กฤษได้ สมัครงาน -การเขยี นจดหมายส่วนตัว 5 -การเขียนจดหมายธุรกจิ 5 -การกรอกใบสมัครงาน 5 หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 67

ท่ี หัวเรอ่ื ง ตวั ชว้ี ัด เนอ้ื หา จำนวน (ชว่ั โมง) 4 การใช้ภาษาอังกฤษ 4. อธบิ ายการใช้ ประโยคคำนาม 4. การใช้ภาษาอังกฤษ 5 สรรพนาม กริยา คำสนั ธาน และ -Noun clause 5 คำคณุ ศพั ทไ์ ด้ -Relative Pronoun 5 -Emphatic pronoun 5 คำศัพท์ บอกและอธิบาย คำศัพท์ -Auxiliary Verb 5 5 ความหมายของคำศัพท์ได้ -Conjunction 5 -Adjective 5 - Tag – Questions 5 -Tenses 5 -Complex Sentence 5 -Compound Sentence 5 -Gerund 5 -Infinitive 1 5. คำศพั ทท์ ่ีเกี่ยวข้องกับ 1 ชวี ิตประจำวนั 1 -บุคคล 1 -อาชพี 1 -สตั ว์ 1 -พชื /ดอกไม้ 1 -สง่ิ ของ 1 -เครอื่ งใช้ไฟฟา้ ,ในครวั ,ห้องนอน 1 -ทพี่ ัก 1 -อาหารและเคร่อื งดม่ื 1 -เครอ่ื งแต่งกาย 1 -สี 1 -วนั /เวลา/ทิศทาง 1 -ครอบครัว -ศาสนา -อารมณ์/ความรสู้ ึก หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 68

วชิ าคณติ ศาสตร์ เป้าหมายการเรียนรู้ ๑. แกป้ ญั หาด้วยกระบวนการและเหตผุ ลทางคณติ ศาสตรเ์ พ่ือนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ๒. เปน็ คนชา่ งคดิ ชา่ งริเรม่ิ สร้างสรรค์ มรี ะบบ มีระเบยี บในการคิด ๓. ปฏบิ ตั กิ ารคดิ กระบวนการและเหตผุ ลคณติ ศาสตร์ตามข้ันตอนทถ่ี ูกต้องจนเป็นลกั ษณะ นสิ ัย มาตรฐานการเรียนรู้ระดับผลการเรยี นรูท้ ี่คาดหวัง มาตรฐานท่ี ๒.๒ มคี วามรู้ความเข้าใจ และทักษะพื้นฐานเกีย่ วกบั คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั คณติ ศาสตร์ ๑. ระบุหรือยกตวั อย่างเกย่ี วกบั จำนวนและการ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับจำนวนและการ ดำเนนิ การ เลข ยกกำลงั ที่มเี ลขช้ีกำลงั เป็น ดำเนนิ การ เลขยกกำลงั ที่มีเลข ชี้กำลังเป็น จำนวนตรรกยะ เซต และการใหเ้ หตุผล อตั ราส่วน จำนวน ตรรกยะ เซต และ การใหเ้ หตุผล ตรีโกณมติ ิ การใช้เครื่องมือและการออกแบบ อัตราส่วนตรีโกณมติ ิ และการนำไปใช้ การใช้ ผลิตภณั ฑ์ สถติ เิ บื้องตน้ และ ความ นา่ จะเปน็ เครอื่ งมือและการออกแบบผลิตภัณฑ์ สถิติ เบื้องต้นและความน่าจะเป็น ๒. สามารถคดิ คำนวณและแก้โจทยป์ ัญหาเก่ียวกับ จำนวนจรงิ เลขยกกำลังอัตราสว่ นตรีโกณมิติ สถิติ และความน่าจะเป็น หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 69

คำอธิบายรายวชิ าบังคบั สาระความรู้พ้ืนฐาน วิชาคณิตศาสตร์ มาตรฐานที่ รหสั รายวชิ า ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หน่วยกติ ๒.๒ พค๓๑๐๐๑ รายวิชา ๕ คณติ ศาสตร์ ๕ รวม หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 70

คำอธบิ ายรายวิชา พค๓๑๐๐๑ คณิตศาสตร์ จำนวน ๕ หนว่ ยกติ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี ๒.๒ มีความรู้ความเขา้ ใจ และทักษะพ้นื ฐานเก่ยี วกบั คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั จำนวนและการดำเนินการ เลขยกกำลงั ทม่ี ีเลข ชีก้ ำลังเป็น จำนวน ตรรกยะ เซต และ การใหเ้ หตุผล อตั ราสว่ นตรโี กณมติ ิ และการนำไปใช้ การใช้เครื่องมอื และการ ออกแบบผลิตภัณฑ์ สถิติเบ้อื งตน้ และความน่าจะเป็น ศกึ ษาและฝกึ ทกั ษะเก่ยี วกบั เรอื่ งดังตอ่ ไปน้ี จำนวนและการดำเนินการ จำนวนจริง สมบัติของจำนวนจรงิ เก่ยี วกับการบวกและการ คูณ สมบตั กิ ารเท่ากัน และการไมเ่ ท่ากัน คา่ สมั บรู ณ์ เลขยกกำลังท่ีมเี ลขช้ีกำลังเป็นจำนวนตรรกยะ การบวก การลบ การคณู การหาร จำนวน ท่ีมีเลขชี้กำลังเปน็ จำนวนตรรกยะ และจำนวนจรงิ ท่อี ยู่ในรูปกรณฑ์ เซต เซต การดำเนนิ การของเซต แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์และการแก้ปญั หา การให้เหตุผล การให้เหตุผลแบบอปุ นัยและนิรนัย การอา้ งเหตผุ ล อัตราสว่ นตรโี กณมิตแิ ละการนำไปใช้ อตั ราส่วนตรีโกณมิติ อัตราสว่ นตรีโกณมติ ิของมมุ ๓๐  ๔๕ และ ๖๐ การนำอัตราสว่ นตรีโกณมิตไิ ปใช้ในการแกป้ ัญหาเกย่ี วกับการหาระยะทางและความสูง การใชเ้ ครอ่ื งมือและการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ การสร้างรูปทางเรขาคณิตโดยใช้เคร่ืองมือและการ ออกแบบผลิตภัณฑ์ สถติ เิ บอื้ งต้น การวิเคราะห์ข้อมลู เบือ้ งตน้ การหาคา่ กลางของข้อมลู โดยใชค้ ่าเฉลย่ี เลขคณิต มธั ยฐานและฐานนิยม และการนำเสนอข้อมลู ความนา่ จะเปน็ กฎเกณฑ์เบ้ืองต้นเกยี่ วกบั การนบั ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ การจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ จดั ประสบการณ์หรือสถานการณ์ในชวี ิตประจำวนั ให้ผเู้ รียนได้ศกึ ษาค้นคว้า โดยการปฏบิ ัติจริง ทดลอง สรปุ รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแกป้ ัญหาการให้เหตผุ ล การสื่อ ความหมายทางคณิตศาสตร์และนำประสบการณด์ ้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใชใ้ นการเรียนรู้ สง่ิ ตา่ งๆ และใช้ในชวี ิตประจำวันอยา่ งสรา้ งสรรค์ รวมทัง้ เห็นคณุ คา่ และมีเจตคติทีด่ ตี ่อคณติ ศาสตร์ สามารถ ทำงานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ มคี วามรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มวี จิ ารณญาณและมีความเชอ่ื ม่ัน ในตนเอง การวดั และประเมินผล ใช้วธิ กี ารท่ีหลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคลอ้ งกับเนือ้ หาและทักษะที่ต้องการ วัด หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 71

รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา พค31001 คณิตศาสตร์ จำนวน 5 หนว่ ยกิต ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรูร้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับจำนวนและการดำเนินการ เลขยกกำลังทีม่ เี ลขช้ี กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ เซต และการใหเ้ หตุผล อัตราส่วน ตรโี กณมิติ และการ นำไปใช้ การใชเ้ ครื่องมือและการออกแบบผลติ ภัณฑ์ สถติ เิ บื้องตน้ และความ น่าจะเป็น ท่ี หัวเรือ่ ง ตวั ชวี้ ัด เน้ือหา จำนวน (ชั่วโมง) 1 จำนวนและการ 1. แสดงความสัมพนั ธข์ องจำนวน 1. ความสมั พนั ธ์ของระบบ 1 ดำเนนิ การ ตา่ งๆ ในระบบจำนวนจริง จำนวนจริง 2. อธิบายความหมายและหาผลลพั ธ์ 2. สมบัติของการบวก การลบ 7 ทเี่ กิดจากการบวก การลบ การคณู และการหาร การคูณ และการหารจำนวนจรงิ จำนวนจรงิ 3. อธิบายสมบัติของจำนวนจรงิ 3. สมบัติการเทา่ กันและ 7 ท่เี ก่ียวกบั การบวก การคณู การไม่เทา่ กนั การเทา่ กัน และการไม่เท่ากนั และนำไปใช้ 4. อธบิ ายเกี่ยวกับค่าสมั บูรณ์ของ 4. คา่ สัมบูรณ์ 5 จำนวนจริงและหาค่าสัมบูรณ์ของ จำนวนจริง 2 เลขยกกำลงั ทีม่ ี 1. อธิบายความหมายและบอก 1. จำนวนตรรกยะ และ 1 เลขชก้ี ำลังเปน็ 8 จำนวนตรรกยะ ความแตกต่างของจำนวน อตรรกยะ 11 3 เซต ตรรกยะ และอตรรกยะ 1 2. อธิบายเกีย่ วกับจำนวนจริงท่ีอยู่ 2. เลขยกกำลังที่มเี ลขชี้กำลงั 11 ในรูปเลขยกกำลังท่ีมีเลขชกี้ ำลัง เปน็ จำนวนตรรกยะและ เป็นจำนวนตรรกยะ และ จำนวนจริงในรูปกรณฑ์ จำนวนจริงในรปู กรณฑ์ 3. อธิบายความหมายและหา 3. การบวก การลบ การคูณ ผลลัพธ์ทเี่ กิดจากการบวก การลบ การหาร จำนวนท่มี ีเลขชี้ การคณู การหาร จำนวนจริงที่อยู่ กำลงั เปน็ จำนวนตรรกยะ ในรปู เลขยกกำลังท่ีมเี ลขช้กี ำลงั และจำนวนจรงิ ในรปู กรณฑ์ เป็นจำนวนตรรกยะ และ จำนวนจรงิ ในรูปกรณฑ์ 1. อธบิ ายความหมายเกยี่ วกับเซต 1. เซต 2. การดำเนินการของเซต หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 72

ที่ หัวเรือ่ ง ตวั ชี้วัด เนื้อหา จำนวน (ช่ัวโมง) 4 การใหเ้ หตุผล 2. สามารถหายูเน่ยี น 8 5 อตั ราส่วน อนิ เตอร์เซกช่นั คอมพลีเมนต์ และ ตรีโกณมติ ิและ 10 การนำไปใช้ ผลต่างของเซต 3. แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ 10 6 การใชเ้ ครอ่ื งมือ 3. เขียนแผนภาพแทนเซต และ และการแกป้ ัญหา 5 และการ 5 ออกแบบ นำไปใชแ้ ก้ปัญหาท่ีเก่ียวกับ การ 10 ผลิตภณั ฑ์ หาสมาชิกของเซต 5 12 1. อธิบายและใช้การใหเ้ หตผุ ล 1. การใหเ้ หตผุ ลแบบอุปนยั แบบอปุ นัยและนริ นัย และนริ นยั 8 2. บอกได้ว่าการอา้ งเหตุผล 2. การอา้ งเหตผุ ลโดยใช้ สมเหตสุ มผลหรือไม่ โดยใช้ แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ 1. อธบิ ายการหาค่าอัตราส่วน 1. อัตราสว่ นตรโี กณมติ ิ ตรโี กณมิติ 2. หาคา่ อตั ราสว่ นตรโี กณมติ ิ 2. อัตราสว่ นตรีโกณมติ ิ ของมมุ 30,45และ 60 ของมุม 30,45และ 3. นำอตั ราส่วนตรโี กณมติ ิไปใช้ 60 แกป้ ัญหาเก่ียวกับระยะทาง 3. การนำอตั ราส่วนตรีโกณมิติ ความสงู และการวดั ไปใช้แกป้ ัญหาเกี่ยวกับ ระยะทาง ความสูงและการวดั 1. สร้างรูปทางเรขาคณิตโดยใช้ 1. การสร้างรูปทางเรขาคณติ เครอ่ื งมอื โดยใชเ้ คร่อื งมือ 2. วิเคราะห์และอธบิ าย 2. การแปลงทางเรขาคณิต ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งรูปตน้ แบบ - การเล่ือนขนาน และรูปที่ได้จากการเลือ่ นขนาน - การหมุน การสะท้อนและการหมนุ - การสะท้อน 3. นำสมบัตเิ ก่ยี วกบั การเล่ือนขนาน 3. การออกแบบสรา้ งสรรค์ การหมนุ และการสะทอ้ นจากการ งานศิลปะจากการแปลง แปลงทางคณติ ศาสตร์และทาง ทางคณิตศาสตรแ์ ละ เรขาคณิตไปใชใ้ นการออกแบบ ทางเรขาคณิต งานศิลปะ 7 สถติ ิเบ้อื งตน้ 1. อธิบายข้ันตอนการวิเคราะห์ 1. การวเิ คราะห์ข้อมลู เบือ้ งต้น 7 ข้อมูลเบื้องต้น และสามารถ นำผลจากการวเิ คราะห์ข้อมลู หนา้ 73 เบือ้ งต้นไปใชใ้ นการตัดสนิ ใจ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย

ที่ หัวเรื่อง ตัวชวี้ ดั เนื้อหา จำนวน (ช่วั โมง) 2. เลือกใช้ค่ากลางทเ่ี หมาะสมกบั 2. การหาคา่ กลางของข้อมูล 18 ขอ้ มลู ที่กำหนดและวัตถุประสงค์ท่ี โดยใช้ค่าเฉลย่ี เลขคณิต ตอ้ งการ มัธยฐาน และฐานนยิ ม 3. นำเสนอขอ้ มลู ในรปู แบบต่างๆ 3. การนำเสนอขอ้ มูล 10 รวมท้ังการอา่ นและตคี วามหมาย จากการนำเสนอข้อมูล 8 ความน่าจะเปน็ 1. หาจำนวนผลลัพธท์ ่อี าจเกดิ ขึน้ 1. กฎเกณฑ์เบ้ืองต้นเกยี่ วกับ 10 ของเหตุการณ์ โดยใชก้ ฎเกณฑ์ การนับ และแผนภาพต้นไม้ 25 เบอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั การนับและ 5 แผนภาพต้นไม้อย่างงา่ ย 2. ความนา่ จะเป็นของ เหตกุ ารณ์ 2. อธิบายการทดลองสุ่มเหตุการณ์ ความนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณ์ 3. การนำความนา่ จะเป็นไปใช้ และหาความนา่ จะเป็นของ เหตกุ ารณท์ ี่กำหนดให้ 3. นำความรู้เกี่ยวกับความน่าจะ เป็นไปใชใ้ นการคาดการณ์และ ชว่ ยในการตัดสินใจ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 74

วชิ าวิทยาศาสตร์ เป้าหมายการเรียนรู้ ๑. เขา้ ใจกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งมีชีวิต และส่ิงแวดลอ้ ม สารเพ่อื ชวี ิต แรงและพลงั งานเพอื่ ชวี ิต ดาราศาสตร์เพื่อชวี ิต ๒. มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ ปฏบิ ัติตนในการดำเนนิ ชวี ติ ตามกระบวนการวทิ ยาศาสตร์ ๓. ดำเนนิ ชีวิตตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จนเป็นลักษณะนิสยั มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับผลการเรยี นรูท้ คี่ าดหวัง มาตรฐานท่ี ๒.๒ มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจและทกั ษะพนื้ ฐานเกย่ี วกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรูท้ ี่คาดหวงั วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๑. ใชค้ วามรแู้ ละกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเห็นคุณค่า วิธกี ารทางวิทยาศาสตร์ ทกั ษะกระบวนการทาง เก่ียวกับกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ เจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ ทำ สิ่งมชี วี ติ ระบบนิเวศทรัพยากรธรรมชาติและ โครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละนำผลไปใช้ได้ สิ่งแวดล้อม ในท้องถิ่นประเทศและโลก สาร แรง ๒. อธบิ ายเกีย่ วกับการแบ่งเซลล์ พันธุกรรมและ พลังงาน กระบวนการเปลย่ี นแปลงของโลก และ การถ่ายทอดทางพนั ธุกรรม การผ่าเหลา่ ความ ดาราศาสตร์ มีจิตวิทยาศาสตร์และนำความรู้ไปใช้ หลากหลายทางชวี ภาพ เทคโนโลยีชวี ภาพ การ ประโยชน์ในการดำเนนิ ชวี ติ ใช้ประโยชน์ และผลกระทบที่เกดิ จากการใช้ เทคโนโลยชี วี ภาพตอ่ สังคม และสิง่ แวดลอ้ มได้ ๓. อธบิ ายเกยี่ วกบั ปญั หาท่เี กิดจากการใช้ ทรัพยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดล้อมในระดับ ทอ้ งถิน่ ประเทศและโลกปรากฏการณ์ทาง ธรณวี ทิ ยาทมี่ ผี ลกระทบต่อชวี ิต และส่งิ แวดลอ้ ม วางแผนและปฏิบัตริ ่วมกบั ชุมชนเพื่อป้องกัน และแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ และ สงิ่ แวดล้อมได้ มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวัง ๔.อธบิ ายเก่ยี วกบั โครงสร้างอะตอมตารางธาตุ สมการและปฏิกิรยิ าเคมีท่ีพบในชีวติ ประจำวนั คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน ปโิ ตรเลยี มและ ผลิตภณั ฑ์ พอลิเมอร์ สารเคมีกับชีวิต การ นำไปใชแ้ ละผลกระทบต่อชีวติ และสง่ิ แวดล้อมได้ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 75

๕.อธิบายเก่ียวกบั แรงและความสัมพนั ธข์ องแรง กับการเคล่ือนที่ในสนามโน้มถ่วง สนามแมเ่ หล็ก สนามไฟฟา้ การเคลือ่ นท่ีแบบตา่ งๆ และการ นำไปใช้ประโยชนไ์ ด้ ๖. อธิบายเก่ียวกับ สมบตั ิ ประโยชน์และ มลภาวะจากเสียง ประโยชนแ์ ละโทษของธาตุ กมั มนั ตรงั สีต่อชีวติ และส่งิ แวดล้อมได้ ๗. ศกึ ษา คน้ ควา้ และอธิบายเกีย่ วกบั การใช้ เทคโนโลยอี วกาศในการศึกษาปรากฏการณต์ ่างๆ บนโลกและในอวกาศ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 76

คำอธบิ ายรายวชิ าบังคับ สาระความรูพ้ ื้นฐาน วิชาวิทยาศาสตร์ มาตรฐานที่ รหสั รายวชิ า มัธยมศึกษาตอนปลาย หนว่ ยกติ ๒.๒ พว๓๑๐๐๑ รายวชิ า ๕ ๕ วิทยาศาสตร์ รวม หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 77

คำอธิบายรายวิชา พว๓๑๐๐๑ วิทยาศาสตร์ จำนวน ๕ หน่วยกิต ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานทีก่ ารเรยี นรรู้ ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะ และเห็นคุณค่าเก่ียวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิ่งมีชวี ิต ระบบนเิ วศ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ในทอ้ งถิน่ ประเทศและโลก สาร แรง พลังงาน กระบวนการเปล่ยี นแปลงของโลก และดาราศาสตร์ มีจิตวทิ ยาศาสตร์และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการดำเนิน ชวี ติ ศกึ ษาและฝกึ ทกั ษะเกีย่ วกบั เรอื่ งต่อไปน้ี 1. กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และโครงงานวิทยาศาสตร์ 2. สง่ิ มีชีวิตและสิ่งแวดล้อม เซลล์ พนั ธกุ รรมและความหลากหลายทางชีวภาพเทคโนโลยีชวี ภาพทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม 3. สารเพอ่ื ชีวิต ธาตแุ ละสมบตั ขิ องธาตุ กัมมันตภาพรังสี สมการเคมี และปฏกิ ริ ยิ าเคมี โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมนั ปโิ ตรเลียม และพอลเิ มอร์ สารเคมกี ับชวี ติ และส่ิงแวดล้อม 4. แรงและพลังงานเพื่อชีวติ แรง และการเคลือ่ นท่ี 5. ดาราศาสตร์เพ่อื ชวี ติ เทคโนโลยอี วกาศเพ่ือให้ผ้เู รียนเกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ความคดิ มคี วามสามารถใน การตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวนั มีจติ วิทยาศาสตร์ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ ใหผ้ ู้เรยี นศึกษา ค้นคว้า สำรวจ ตรวจสอบ ทดลอง จำแนก อธบิ าย นำเสนอด้วยการ จดั กระบวนการเรยี นรดู้ ้วยการพบกลุ่ม การสอนเสรมิ การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง การรายงาน การศกึ ษาจากแหลง่ เรียนรู้ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ และประสบการณจ์ ากผู้เรียน การวัดและประเมนิ ผล ประเมนิ จากการสงั เกต การอภิปราย การสัมภาษณ์ ทักษะปฏิบัติ รายงานการทอลองการมี สว่ นรว่ มในกิจกรรมการเรียนรู้ ผลงาน การทดสอบ การประเมนิ การนำไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 78

รายละเอียดคำอธบิ ายรายวชิ า พว31001 วทิ ยาศาสตร์ จำนวน 5 หนว่ ยกิต ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเห็นคุณค่าเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ส่งิ มชี ีวิต ระบบนิเวศทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในท้องถ่ินประเทศและโลก สาร แรง พลังงาน กระบวนการเปล่ยี นแปลงของโลก และดาราศาสตร์ มีจิตวิทยาศาสตร์และนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในการดำเนิน ชีวติ ที่ หวั เรือ่ ง ตวั ชว้ี ดั เนอ้ื หา จำนวน (ชั่วโมง) 1 กระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี 1.1 กระบวนการ 1. อธิบายธรรมชาติและ 1. กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 15 ทางวทิ ยาศาสตร์ ความสำคญั ของวทิ ยาศาสตร์ 1.1 ความหมายและ และเทคโนโลยี และเทคโนโลยี ความสำคัญของวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยี 2. อธบิ ายกระบวนการทาง 1.2 กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ วธิ กี ารทาง วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ทกั ษะ 1.2.1 วธิ ีการทาง กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ 5 ขั้น และเจตคติทางวิทยาศาสตร์ 1.2.2 ทักษะกระบวนการ 3. นำความรู้ และกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ 13 ทกั ษะ ทางวิทยาศาสตร์ไปใช้แกป้ ัญหา ต่างๆ 4. เกิดเจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ 1.2.3 เจตคตทิ าง วิทยาศาสตร์ 6 ลักษณะ 5. มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ 1.2.4 จติ วิทยาศาสตร์ 6. อธิบายความหมาย 2. เทคโนโลยี ความสำคัญ และความสมั พันธ์ 2.1 ความหมาย และความ ของเทคโนโลยีตอ่ ชีวิต และ สำคัญของเทคโนโลยีที่เหมาะสม สังคม 7. นำความรู้ และเลอื กใช้ 2.2 ความสัมพันธ์ของ เทคโนโลยไี ดอ้ ยา่ งเหมาะสม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ต่อชวี ิต และสังคม 2.3 ความก้าวหนา้ ของ เทคโนโลยีในปจั จบุ นั หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 79

ท่ี หวั เรือ่ ง ตัวชีว้ ัด เนอ้ื หา จำนวน (ชว่ั โมง) 1.2 โครงงาน 2.4 เทคโนโลยกี บั การ วทิ ยาศาสตร์ 10 ประกอบอาชีพ และการนำ เทคโนโลยไี ปใช้ในชวี ติ 2.5 การเลอื กใช้เทคโนโลยที ่ี เหมาะสมในการประกอบอาชพี กบั การดำรงชีวิต 8.มีทกั ษะในการเลือกใช้วัสดุ 2.6 เทคโนโลยพี ้ืนบา้ น อุปกรณ์ทางวทิ ยาศาสตร์ และ 3. การใชว้ ัสดุ อุปกรณส์ ารเคมี สารเคมไี ด้ และห้องปฏบิ ตั ิการทาง วิทยาศาสตร์ 1. อธบิ ายประเภท เลือกหัวข้อ 1. ประเภทของโครงงาน วางแผน วิธีทำ นำเสนอและ 2. การเลือกหัวข้อโครงงาน ประโยชนข์ องโครงงาน 2. นำความรู้เกย่ี วกบั วทิ ยาศาสตร์ กระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์และโครงงาน ไปใช้ 3. วางแผนการทำโครงงาน 3. การวางแผนการกระทำ 4. ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ โครงงาน 5. อธบิ ายและบอกแนวได้ใน 4. การนำเสนอโครงงาน การนำผลจากโครงงานไปใช้ 5. ประโยชนข์ องโครงงานเพ่ือการ 6. นำความรู้เก่ียวกับวิทยาศาสตร์ พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และโครงงานไปใช้ 2 ส่ิงมชี ีวิตและ 1. อธิบายรปู ร่าง สว่ นประกอบ 1. เซลล์ 20 สิ่งแวดลอ้ ม 2.1 เซลล์ ความแตกต่าง ระบบการทำงาน 1.1ระบบการทำงานของเซลล์ การรักษาดุลยภาพของเซลล์พืช พืชและเซลลส์ ัตว์ และการรกั ษา และเซลล์สัตว์ ดลุ ยภาพ 2. อธบิ ายการรักษาดลุ ยภาพ 1.2 กลไกและการรกั ษาดุลย ของพชื และสัตว์ และมนษุ ย์ ภาพของพชื สัตว์ และมนุษย์ และการนำความรไู้ ปใช้ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 80

ท่ี หวั เรอ่ื ง ตวั ชวี้ ดั เน้ือหา จำนวน (ชว่ั โมง) 1.3 การป้องกันดแู ลรักษา 20 3. ศึกษา สบื ค้นข้อมลู และ ภูมิคุ้มกันรา่ งกายและการนำ อธบิ ายกระบวนการแบง่ เซลล์ ความรไู้ ปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั แบบไมโทซลิ และไมโอซิล 2. กระบวนการแบง่ เซลล์ 2.1 การแบ่งเซลลแ์ บบ ไมโทซิส 2.2 การแบง่ เซลล์แบบ ไมโอซสิ 2.2 พนั ธกุ รรมและ 1. อธบิ ายกระบวนการถ่ายทอด 1. พันธุกรรม การถา่ ยทอดทาง ความหลากหลายทาง ทางพันธกุ รรม การแปรผันทาง พนั ธุกรรม การแปรผนั ทาง ชวี ภาพ พนั ธุกรรม การผา่ เหลา่ และการ พันธุกรรม และการผ่าเหล่า เกิดความหลากหลายทาง 2. ความหลากหลายทางชวี ภาพ ชวี ภาพ 2.1 กระบวนการถ่ายทอดทาง 2. อธิบายลกั ษณะทาง พนั ธุกรรม พันธุกรรมของบุคคล 2.2 การเกิดการผา่ เหลา่ 2.3 การเกดิ ความหลากหลาย ทางชวี ภาพ 3. โรคทีเ่ กิดจากการถ่ายทอดทาง พนั ธกุ รรม และการนำไปใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั 3. อธิบายปัจจยั ทีท่ ำให้ 4. ชนดิ พันธ์ตุ า่ งถนิ่ ท่ีสง่ ผลกระทบ สง่ิ แวดลอ้ มเกิดการเปลยี่ นแปลง ตอ่ ระบบนเิ วศและสิง่ แวดล้อม 2.3 เทคโนโลยี 1. อธบิ ายเกย่ี วกับ 1.ความหมายและลักษณะ 15 ชีวภาพ เทคโนโลยีชวี ภาพ ของเทคโนโลยชี ีวภาพ ประโยชน์ 2. อธิบายผลของ 2. ปจั จัยท่มี ีผลตอ่ เทคโนโลยีชวี ภาพต่อชีวติ และ เทคโนโลยีชวี ภาพ ส่งิ แวดลอ้ ม 3. เทคโนโลยีชวี ภาพ ในชวี ติ ประจำวัน 3. อธบิ ายบทบาทของภมู ิ 4. ภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ เก่ยี วกับ ปัญญาท้องถิ่นเกีย่ วกบั เทคโนโลยีชวี ภาพ เทคโนโลยีชีวภาพ 5. ประโยชนแ์ ละผลกระทบของ 5.1ความหลากหลายทาง ชีวภาพ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 81

ท่ี หัวเรื่อง ตวั ชี้วดั เนื้อหา จำนวน (ชัว่ โมง) 2.4 ทรัพยากร 5.2 ชวี ติ และสงิ่ แวดล้อม ธรรมชาติและ 20 สิ่งแวดลอ้ ม 1. อธบิ ายกระบวนการ 1. กระบวนการเปลย่ี นแปลง เปล่ียนแปลงแทนที่ของสง่ิ มชี วี ิต แทนท่ีของส่ิงมชี วี ิตและ 2. อภิบายการใช้ ส่งิ แวดล้อมในชมุ ชน ทรพั ยากรธรรมชาติ สภาพ 2. การใช้ทรัพยากธรรมชาติ ปญั หาสิ่งแวดลอ้ มในระดับ ระดบั ท้องถน่ิ ประเทศและ ท้องถิน่ ระดับ ระดบั ประเทศ ระดับโลก และระดบั โลก 3. อธิบายสาเหตุของปญั หา วางแผน และลงมือปฏิบตั ิ 4. อธบิ ายปอ้ งกนั แกไ้ ข เฝา้ ระวงั อนรุ ักษ์ และพฒั นา ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ ม 5. อธิบายปรากฏการณ์ ของ ธรณีวทิ ยาทีม่ ีผลกระทบต่อชวี ติ 3. ปรากฏการณ์ทางธรณี และสง่ิ แวดลอ้ ม วิทยาทีม่ ผี ลกระทบต่อชวี ติ และ สงิ่ แวดล้อม 4. ปญั หาและผลกระทบของระบบ นเิ วศและสภาพส่งิ แวดลอ้ มใน ชุมชน ท้องถ่นิ ประเทศ และโลก 5. แนวทางการแก้ไขปัญหา ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในชุมชน 6. การวางแผนพัฒนา ทรพั ยากรธรรมชาติและ ส่งิ แวดลอ้ ม 7. การปฏบิ ัติตน หรือการรว่ มมือ กบั ชุมชนในการป้องกัน พฒั นา 6. อธบิ ายปรากฏการณ์ สภาวะ หรอื แก้ไขปัญหา ทรัพยากร โลกร้อน สาเหตแุ ละผลกระทบ ธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม ตอ่ ชีวติ มนุษย์ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 82

ที่ หวั เรื่อง ตัวช้ีวดั เนือ้ หา จำนวน (ชว่ั โมง) 3 สารเพอ่ื ชวี ิต 8. สภาวะโลกร้อน สาเหตุและ 3.1 ธาตุ สมบัตขิ อง ผลกระทบ การปอ้ งกัน 10 ธาตุ และธาตุ และแก้ไขปัญหาโลกร้อน กัมมันตรงั สี 15 1. อธิบายทฤษฏี โครงสรา้ งและ 1. โครงสรา้ งอะตอมและทฤษฏี 3.2 สมการเคมีและ 15 ปฏิกิรยิ าเคมี การจดั เรียงอิเล็กตรอนใน อะตอม 3.3 โปรตีน อะตอม 2. การจดั เรยี งอเิ ลก็ ตรอนใน คารโ์ บไฮเดรต และ ไขมัน อะตอม 3. การจัดเรยี งธาตใุ นตารางธาตุ 2. อธบิ ายสมบัติของธาตตุ าม 4. สมบัติของธาตตุ าม ตารางธาตุ ตารางธาตุ 3. บอกประโยชน์ของตารางธาตุ 5. ประโยชนข์ องตารางธาตุ 4. อธิบายสมบัตธิ าตุกมั มันตรังสี และกมั มนั ตภาพรังสี 6.ความหมายและการเกิด 5. บอกประโยชน์ และผลกระทบ กมั มนั ตภาพรังสี จากกัมมนั ตภาพรงั สี 7. ประโยชน์และโทษของ กัมมนั ตภาพรังสี 8. ผลกระทบของสารกมั มันตรงั สี ต่อสงิ่ มีชวี ิตและสง่ิ แวดลอ้ ม 1. อธิบายการเกิดสมการเคมี 1. ความหมายของสมการเคมี และปฏิกริ ยิ าเคมี และดุลสมการ ปฏกิ ริ ิยาเคมี และสัญลักษณ์ใน เคมี สมการเคมี 2. การเขยี นและการอ่านสมการ เคมี 2. อธิบายปัจจัยทม่ี ผี ลตอ่ 3. ปจั จัยทมี่ ผี ลต่อปฏกิ ิริยาเคมี ปฏกิ ริ ิยาเคมี 3. อธิบายผลทีเ่ กดิ จากปฏกิ ริ ิยา 4. ปฏิกิริยาเคมีในชีวติ ประจำวนั เคมตี ่อชวี ติ และส่ิงแวดลอ้ ม และผลของปฏิกิริยาเคมีตอ่ ชีวิต และส่ิงแวดล้อม 1. อธบิ ายสมบตั ิ ชนดิ ประเภท 1. สมบตั ิ ชนดิ ประเภท การเกิด การเกดิ และประโยชน์ของ และประโยชนข์ องโปรตีน โปรตนี 2. อธบิ ายสมบัติ ชนดิ ประเภท 2. สมบัติ ชนิด ประเภท การเกดิ การเกิด และประโยชนข์ อง และประโยชนข์ องคารโ์ บไฮเดรต คาร์โบไฮเดรต หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 83

ท่ี หัวเร่ือง ตัวชวี้ ัด เนือ้ หา จำนวน (ชัว่ โมง) 3. อธิบายสมบัติ ชนิด ประเภท 3. สมบัติ ชนดิ ประเภท การเกิด การเกิด และประโยชนข์ อง และประโยชนข์ องไขมัน ไขมนั 3.4 ปโิ ตรเลียม และ 1. อธิบายหลักการกลัน่ ลำดบั 1. ปโิ ตรเลียม 15 พอลเิ มอร์ สว่ น 1.1 การกล่นั ลำดับส่วน 2. บอกผลติ ภัณฑแ์ ละประโยชน์ 1.2 ผลติ ภณั ฑท์ ่ีได้ จากการ ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลยี ม กลัน่ ปโิ ตรเลยี ม 3. อธบิ ายผลกระทบท่เี กิดจาก การใชผ้ ลติ ภัณฑป์ ิโตรเลยี มได้ 1.3 ผลกระทบของการใช้ 4. อธิบายความหมายประเภท ปโิ ตรเลียม ชนดิ การเกดิ และสมบตั ขิ อง 2. พอลิเมอร์ พอลิเมอร์ 2.1 ความหมาย ประเภท ชนิด การเกดิ และสมบตั ิของ 5. อธิบายสมบัติการเกดิ และ พอลิเมอร์ ผลกระทบที่เกิดจากการใช้ 2.2 พอลิเมอร์ในชวี ติ พลาสตกิ ยาง ยางสังเคราะห์ ประจำวนั เส้นและเสน้ ใยสงั เคราะห์ 1.2.1 พลาสตกิ 1.2.2 ยางและยาง สังเคราะห์ 1.2.3 เส้นใยธรรมชาติ และใยสังเคราะห์ 2.3 ผลกระทบของการใช้ พอลิเมอร์ 3.5 สารเคมกี ับชวี ิต 1. อธิบายความสำคัญและความ 1.ความสำคัญของสารกบั ชวี ติ และ 10 และส่ิงแวดล้อม จำเปน็ ท่ตี อ้ งใช้สารเคมี ส่งิ แวดลอ้ ม 2. ความจำเปน็ ที่ตอ้ งใช้สารเคมี 2. อธบิ ายวิธกี ารใช้สารเคมีบาง 3. การใช้สารเคมที ีถ่ ูกต้อง ชนิดไดถ้ กู ต้อง 3. อธิบายผลกระทบท่ีเกดิ จาก 4. ผลกระทบท่ีเกดิ จากการใช้ การใช้สารเคมีได้ สารเคมี 4 แรงและพลงั งาน 20 เพือ่ ชวี ติ แรงและการเคล่ือนที่ 1. อธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหว่าง 1. แรงและความสัมพันธ์ระหวา่ ง แรงกบั การเคลือ่ นท่ใี นสนามโน้ม แรงกบั การเคลอื่ นท่ีของอนุภาค หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 84

ที่ หวั เรอ่ื ง ตวั ชว้ี ดั เนอ้ื หา จำนวน (ช่วั โมง) ถ่วง สนามแม่เหล็กและ สนามไฟฟา้ 2. ระบแุ ละอธิบายการเคลอ่ื นที่ 2. ความสมั พันธ์ระหวา่ งแรงและ ของแรงแบบตา่ งๆ และการ การเคล่ือนทข่ี องอนภุ าคในสนาม นำไปใชป้ ระโยชน์ โน้มถว่ ง สนามแมเ่ หลก็ ไปใช้ ประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวัน 5 ดาราศาสตร์เพื่อชีวติ เทคโนโลยีอวกาศ 1. บอกความหมาย ความสำคัญ 1. ความหมายความสำคัญและ 15 และความเป็นมาของเทคโนโลยี ความเป็นมาของเทคโนโลยอี วกาศ อวกาศ 2. ประเภทของเทคโนโลยีอวกาศ 2. อธิบายและระบปุ ระเภทของ 2.1 ดาวเทยี ม เทคโนโลยีอวกาศ 2.2 ยานสำรวจอวกาศ 2.3 ยานขนส่งอวกาศ 2.4 สถานที ดลองอวกาศ 3. ประโยชน์ของการใชเ้ ทคโนโลยี 3. อธิบายการนำเทคโนโลยี อวกาศ อวกาศมาใชป้ ระโยชน์ 3.1 ปรากฏการณ์บนโลก 3.2 ปรากฏการณ์ในอวกาศ 4.โครงการสำรวจอวกาศท่ีสำคัญ 4. บอกโครงการสำรวจอวกาศที่ ในปจั จุบนั สำคญั ในปัจจบุ นั หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 85

คำอธิบายรายวิชาเลือกบังคบั สาระความร้พู นื้ ฐาน วิชาวิทยาศาสตร์ มาตรฐานท่ี รหสั รายวชิ า มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนว่ ยกิต ๒.๒ พว๓๒๐๒๓ รายวชิ า ๓ การใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ในชีวิตประจำวัน ๓ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 86

คำอธบิ ายรายวชิ า พว๓๒๐๒๓ การใชพ้ ลังงานไฟฟ้าในชวี ิตประจำวัน ๓ จำนวน ๓ หนว่ ยกิต ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเห็นคุณค่าเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นประเทศและโลก สาร แรง พลังงาน กระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก และดาราศาสตร์ มีจิตวิทยาศาสตร์และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการ ดำเนินชีวิต ศกึ ษาและฝึกทักษะเก่ียวกบั เรื่องต่อไปนี้ ๑. พลังงานไฟฟา้ การกำเนิดของไฟฟ้า สถานการณ์พลังงานไฟฟา้ ของประเทศไทย ประเทศในกลุ่มอาเซียน และโลก ๒. การผลติ ไฟฟา้ หน่วยงานที่เกีย่ วข้องด้านพลงั งานไฟฟ้าในประเทศไทย เชือ้ เพลงิ และพลงั งานที่ใชใ้ นการผลติ ไฟฟ้า โรงไฟฟ้ากับการจัดการด้านสิ่งแวดลอ้ ม ๓. อุปกรณไ์ ฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ ๔. การใชแ้ ละการประหยดั พลังงานไฟฟ้า การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ ใหผ้ ้เู รยี น ศึกษา ค้นคว้า สำรวจ ตรวจสอบ ทดลอง จำแนก อธบิ าย อภปิ ราย นำเสนอด้วยการจดั กระบวนการเรยี นรดู้ ว้ ยการพบกลุ่ม การสอนเสริม การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง การรายงาน การศึกษาจากแหลง่ เรียนรู้ ประสบการณ์ตรงโดยใชส้ ถานการณ์จริง ปรากฏการณ์ธรรมชาติ และประสบการณ์จากผู้เรียน การวัดและประเมินผล ประเมนิ จากการสังเกต การอภปิ ราย การสัมภาษณ์ ทักษะปฏบิ ตั ิ รายงานการทดลอง การมสี ่วนรว่ ม ในกิจกรรมการเรยี นรู้ ผลงาน การทดสอบ การประเมิน การนำไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 87

รายละเอียดคำอธิบายรายวิชา พว๓๒๐๒๓ การใชพ้ ลังงานไฟฟ้าในชวี ติ ประจำวนั ๓ จำนวน ๓ หนว่ ยกติ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะ และเห็นคณุ ค่าเก่ียวกับกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงิ่ มีชวี ติ ระบบนิเวศ ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในทอ้ งถิ่นประเทศและโลก สาร แรง พลังงาน กระบวนการเปลยี่ นแปลงของโลก และดาราศาสตร์ มีจติ วิทยาศาสตร์และนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ในการดำเนินชวี ติ ท่ี หัวเรือ่ ง ตัวช้ีวัด เนอ้ื หา จำนวน (ชั่วโมง) ๑ การกำเนิดของไฟฟา้ บอกการกำเนดิ ของไฟฟ้า การกำเนิดของไฟฟ้า ๒ 1. ไฟฟ้าที่เกิดจากการเสียดสี ของวตั ถุ 2. ไฟฟ้าท่ีเกิดจากการทำ ปฏิกิรยิ าทางเคมี 3. ไฟฟ้าท่ีเกิดจากความร้อน 4. ไฟฟา้ ทีเ่ กิดจากพลงั งาน แสงอาทิตย์ 5. ไฟฟา้ ทเ่ี กิดจากพลงั งาน แม่เหลก็ ไฟฟา้ ๒ สถานการณ์พลงั งาน ๑. บอกสดั สว่ นเชอ้ื เพลงิ ทใ่ี ช้ ๑. สถานการณพ์ ลังงานไฟฟา้ ของ ๑๐ ไฟฟ้าของประเทศ ในการผลิตไฟฟา้ ของประเทศ ประเทศไทย ไทย ประเทศในกลุ่ม ไทย ประเทศในอาเซียนและ ๑.๑ สดั สว่ นการผลิตไฟฟ้า อาเซยี น และโลก โลก จากเชอื้ เพลงิ ประเภทต่าง ๆ ของ ๒. ตระหนักถึงสถานการณ์ ประเทศไทย ของเชื้อเพลิงทใี่ ช้ในการผลิต ๑.๒ การใชไ้ ฟฟ้าในแต่ละ ไฟฟา้ ของประเทศไทย ชว่ งเวลาในหนงึ่ วนั ของประเทศ ๓. วเิ คราะหส์ ถานการณ์ ไทย พลงั งานไฟฟ้าของประเทศ ๑.๓ สภาพปัจจุบันและ ไทย แนวโน้มการใช้พลงั งานไฟฟ้า ๔. เปรยี บเทยี บสถานการณ์ ๑.๔ แผนพัฒนากำลังการ พลังงานไฟฟา้ ของประเทศ ผลติ ไฟฟ้าของประเทศไทย ไทย ประเทศในอาเซียนและ (PDP) โลก ๒. สถานการณพ์ ลงั งานไฟฟ้าของ ประเทศในกลุ่มอาเซียน หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 88

ท่ี หัวเรอ่ื ง ตัวชวี้ ดั เนื้อหา จำนวน (ชว่ั โมง) ๓ หนว่ ยงานท่ี ๓. วิเคราะห์สถานการณ์ ๓. สถานการณ์พลงั งานไฟฟา้ ของ เก่ียวขอ้ งด้าน ๓ พลงั งานไฟฟา้ ใน พลงั งานไฟฟ้าของประเทศ โลก ประเทศไทย ๓๕ ไทย ๔ เชือ้ เพลิงและ พลังงานที่ใชใ้ นการ ๔. เปรยี บเทยี บสถานการณ์ ผลติ ไฟฟ้า พลังงานไฟฟา้ ของประเทศ ไทย ประเทศในอาเซยี นและ โลก ๑. ระบชุ ่ือและสงั กดั ของ หนว่ ยงานท่ีเก่ียวข้องด้านพลังงาน หน่วยงานที่เก่ยี วข้องดา้ น ไฟฟ้าในประเทศไทย ได้แก่ พลงั งานไฟฟ้าในประเทศไทย 1. การไฟฟา้ ฝา่ ยผลติ แห่ง ๒. อธิบายบทบาทหนา้ ท่ีของ ประเทศไทย (กฟผ.) หนว่ ยงานทเี่ ก่ยี วข้องด้าน 2. การไฟฟ้าสว่ นภูมิภาค พลงั งานไฟฟา้ (กฟภ.) ๓. แนะนำบรกิ ารของ 3. การไฟฟ้านครหลวง หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องดา้ น (กฟน.) พลงั งานไฟฟ้าในประเทศไทย 4. คณะกรรมการกำกับ กิจการพลังงาน (กกพ.) ๑. อธบิ ายกระบวนการผลติ ๑. เชื้อเพลงิ ฟอสซิล ไฟฟ้าจากเช้ือเพลิงแตล่ ะ ๑.๑ ถ่านหนิ ประเภท ๑.๒ น้ำมนั ๒. เปรยี บเทียบต้นทนุ การ 1.3กา๊ ซธรรมชาติ ผลิตพลังงานไฟฟ้าต่อหนว่ ย ๒. พลงั งานทดแทน จากเช้อื เพลิงแต่ละประเภท 2.1 พลงั งานลม ๓. เปรยี บเทยี บข้อดี ข้อจำกัด 2.2 พลังงานน้ำ ของเชื้อเพลงิ และพลังงานทใ่ี ช้ 2.3 พลังงานแสงอาทิตย์ ในการผลติ ไฟฟ้า 2.4 พลังงานชีวมวล ๔. วเิ คราะห์ศักยภาพพลงั งาน 2.5 พลงั งานความร้อนใต้ ทดแทนที่มีในชมุ ชนของ พิภพ ตนเอง 2.6 พลังงานนวิ เคลียร์ ๔. การวิเคราะห์ศักยภาพ พลังงานทดแทนในชมุ ชน ๓. พลงั งานทดแทนในชมุ ชน ๓.๑ พลงั งานทดแทนจาก กระแสลม ๓.๒ พลังงานทดแทนจาก พลงั น้ำ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 89

ที่ หัวเร่ือง ตัวชีว้ ดั เนอื้ หา จำนวน (ชว่ั โมง) ๕ โรงไฟฟ้ากับการ ๔. ตน้ ทนุ การผลิตพลังงานไฟฟ้า จัดการด้าน ๑๐ ส่ิงแวดล้อม ตอ่ หน่วยจากเชือ้ เพลิงแตล่ ะ ประเภท ๕. ข้อดีและข้อจำกดั ของการผลิต ไฟฟ้าจากเชื้อเพลงิ แต่ละประเภท ๑.อธิบายผลกระทบด้าน ๑. ผลกระทบและการจดั การด้าน สิ่งแวดล้อมทเี่ กดิ จากโรงไฟฟ้า สิ่งแวดล้อม ๒. อธบิ ายการจดั การด้าน ๑.๑ ดา้ นอากาศ สิง่ แวดล้อมของโรงไฟฟา้ ๑.๒ ด้านน้ำ ๓. อธิบายขอ้ กำหนดเก่ียวกับ ๑.๓ ดา้ นเสยี ง การวเิ คราะหผ์ ลกระทบ ๒. ขอ้ กำหนดท่ีเก่ียวข้องกับ สงิ่ แวดล้อม (EIA) และการ โรงไฟฟ้าดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม วิเคราะห์ผลกระทบ ๒.๑ การวเิ คราะห์ผลกระทบ สิ่งแวดลอ้ ม สังคม และ สง่ิ แวดล้อม (Environmental สุขภาพ (EHIA) Impact Assessment : EIA) ๔. เปรยี บเทยี บการวิเคราะห์ ๒ .๒ ก า ร ว ิ เ ค ร า ะ ห์ ผลกระทบสิง่ แวดล้อม (EIA) ผลกระทบส่ิงแวดล้อม สงั คม และ และการวิเคราะหผ์ ลกระทบ ส ุ ข ภ า พ (Environmental ส่งิ แวดลอ้ ม สงั คม และ Health Impact Assessment : สขุ ภาพ (EHIA) EHIA) ๕. มเี จตคติที่ดีตอ่ โรงไฟฟา้ แต่ ละประเภท ๖ วงจรไฟฟ้าและ ๑. อธิบายการต่อวงจรไฟฟา้ ๑. อปุ กรณไ์ ฟฟ้า ๓๐ อปุ กรณ์ไฟฟา้ แบบตา่ ง ๆ ๑.๑ ฟิวส์สายไฟ ๒. ตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบต่าง ๆ ๑.๒ อุปกรณต์ ดั ตอนหรือ หนา้ 90 ๓. เลือกใชอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้าได้ ถูกต้อง เบรกเกอร์ ๑.๓ สวติ ซ์ ๑.๔ สะพานไฟ ๑.๕ เครือ่ งตดั ไฟฟ้ารว่ั ๑.๖ เต้ารบั และเต้าเสียบ ๑.๗ สายไฟ ๒. การต่อวงจรไฟฟ้า ๒.๑ แบบอนุกรม ๒.๒ แบบขนาน ๒.๓ แบบผสม หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย

ท่ี หวั เรอ่ื ง ตวั ช้ีวดั เนอ้ื หา จำนวน (ชั่วโมง) ๗ การใชแ้ ละการ ๑. อธิบายกลยุทธ์การ ๓. สายดินและหลักดนิ ประหยดั พลังงาน ประหยดั พลังงานไฟฟ้า ๑. กลยุทธ์การประหยดั พลังงาน ๓๐ ไฟฟา้ ๒. จำแนกฉลากเบอร์ ๕ ของ ไฟฟ้า ๓ อ. แทก้ บั ของลอกเลยี นแบบ ๓. เลือกใช้เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ได้ ๑.๑ กลยทุ ธ์ อ. ๑ อปุ กรณ์ เหมาะสมกับสถานการณ์ท่ี ประหยัดไฟฟ้า กำหนดให้ ๔. วางแผนการประหยดั ๑.๒ กลยุทธ์ อ. ๒ อาคาร พลังงานไฟฟา้ ในครวั เรอื น ประหยัดไฟฟ้า ๕. อธิบายวธิ ีการดูแลรักษา เครื่องใช้ไฟฟา้ ในครัวเรอื น ๑.๓ กลยทุ ธ์ อ. ๓ อุปนสิ ัย ๖. อธิบายองคป์ ระกอบของ ประหยัดไฟฟ้า ค่าไฟฟา้ ๒. การเลอื กซื้อ การใช้ และการ ๗. อธบิ ายปจั จยั ท่ีมีผลตอ่ ค่า ดูแลรักษาเครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ภายใน ไฟฟ้าแปรผนั (Ft) บ้าน ๘. คำนวณค่าไฟฟา้ ใน ครัวเรือน ๒.๑ เครอ่ื งทำนำ้ อุ่นไฟฟา้ ๒.๒ กระติกน้ำรอ้ นไฟฟ้า ๒.๓ พัดลม ๒.๔ โทรทัศน์ ๒.๕ เตารีดไฟฟา้ ๒.๖ ตเู้ ยน็ ๓. การวางแผนและการคำนวณ คา่ ไฟฟ้าในครัวเรอื น ๓.๑ การคำนวณคา่ ไฟฟา้ ใน ครัวเรือน 3.1.1องคป์ ระกอบค่า ไฟฟ้า 3.1.2อตั ราคา่ ไฟฟา้ 3.1.3การคำนวณค่า ไฟฟ้า ๓.๒ การวางแผนการใช้ ไฟฟ้าในครวั เรือน หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 91

สาระการประกอบอาชพี เป้าหมายการเรยี นรู้ การงานอาชพี ๑. อธบิ ายความหมาย ความสำคญั วิเคราะหล์ ักษณะงาน ขอบข่ายการงานอาชพี ใน ชมุ ชน ประเทศ และโลก เพ่อื นำไปสคู่ วามมั่นคง ๒. อธบิ ายเหตุปจั จัยความจำเป็นในการนำอาชพี ไปสูค่ วามมัน่ คง เหมาะสมกบั ศกั ยภาพ ของตนเอง ๓. ตรวจสอบระบบการสรา้ งความมน่ั คง ๔. ปฏบิ ตั ิการวเิ คราะหเ์ พื่อการสร้างความมน่ั คงในอาชพี ทกั ษะในอาชพี ๑. วเิ คราะหต์ ลาด ระบคุ ณุ ภาพผลติ ภัณฑ์ ออกแบบผลิตภณั ฑ์ วิเคราะหท์ นุ ออกแบบ ระบบการผลติ และออกแบบระบบการจดั การ ๒. ตรวจสอบระบบความพร้อมการสร้างอาชีพให้มีความม่ันคง ๓. ปฏิบตั กิ ารวิเคราะหใ์ นการสร้างอาชีพให้มคี วามมน่ั คง จดั การในอาชพี ๑. ออกแบบพัฒนาระบบธรุ กิจ เพื่อความมัน่ คง ๒. ตรวจสอบระบบธุรกจิ เพือ่ ความมน่ั คง ๓. ปฏิบัติการจัดทำแผนงานและโครงการพัฒนาธุรกจิ ได้อยา่ งม่ันคง พฒั นาอาชพี ๑. วิเคราะหศ์ ักยภาพธุรกจิ การตลาด การผลติ /บรกิ าร แผนธุรกิจ เพอื่ สร้างระบบ เศรษฐกจิ ให้มีความมั่นคง ๒. ตรวจสอบการพฒั นาอาชีพให้เข้าสู่ความมั่นคง ๓. ปฏบิ ตั ิการทำแผนและโครงการพัฒนาอาชพี ใหม้ ีความมั่นคง าตรฐานการเรียนรู้ระดบั ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวัง มาตรฐานท่ี ๓.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจ และเจตคติที่ดีในงานอาชีพ มองเห็นช่องทาง และตัดสนิ ใจประกอบ อาชพี ได้ตามความต้องการ และศักยภาพของตนเอง มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรูท้ ี่คาดหวงั มีความรู้ ความเข้าใจ และเจตคติที่ดีในงาน ๑. อธบิ ายความหมาย ความสำคญั วเิ คราะห์ อาชพี วิเคราะหล์ กั ษณะงาน ขอบข่ายงานอาชีพ ลักษณะงาน ขอบขา่ ยงานอาชพี ในชุมชน สังคม ในชุมชน สังคม ประเทศ และโลกทเ่ี หมาะสมกับ ประเทศ โลก ที่จะนำไปสู่ความมนั่ คงทเ่ี หมาะสม ศกั ยภาพของตน และสอดคล้องกบั ชมุ ชนเพื่อ กับศักยภาพของตน และสอดคล้องกับชุมชน การขยายอาชีพ สังคม ๒. อธบิ ายเหตผุ ลปจั จยั ความจำเป็นในการนำ อาชพี ไปส่คู วามมัน่ คงที่เหมาะสมกับศักยภาพ ของตนเองได้ ๓.ตรวจสอบระบบการตดั สนิ ใจขยายอาชพี ๔. ปฏิบตั กิ ารวิเคราะห์เพื่อการขยายอาชีพได้ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 92

มาตรฐานท่ี ๓.๒ มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะในอาชพี ที่ตัดสนิ ใจเลอื ก มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรูท้ คี่ าดหวัง มีความรู้ ความเขา้ ใจทักษะในการขยายอาชีพ ๑. อธิบายทกั ษะท่เี กยี่ วขอ้ งใน เพอ่ื สร้างความมั่นคงบนพืน้ ฐานความรู้ ใน กระบวนการผลิตและการตลาดทใี่ ช้ กระบวนการผลิตกระบวนการตลาดท่ีใช้ นวตั กรรม เทคโนโลยีในการขยายอาชพี ที่ นวตั กรรม เทคโนโลยีทเ่ี หมาะสม มคี วาม ตัดสนิ ใจเลอื ก หลากหลายทางชีวภาพ พฒั นาต่อยอดและ ๒. ตรวจสอบระบบความพร้อมในการขยายอาชีพ ประยกุ ตใ์ ชภ้ ูมปิ ัญญา ให้มคี วามมัน่ คง มาตรฐานที่ ๓.๓ มีความรู้ ความเข้าใจ ในการจดั การอาชีพอย่างมีคุณธรรม มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถจัดทำ ๑. อธิบายความหมาย ความสำคญั ของการ แผนงาน และโครงการธรุ กิจ เพอ่ื ขยายอาชีพ จดั การอาชีพ เพ่ือการขยายอาชพี ได้ เขา้ สูต่ ลาดการแขง่ ขัน ตามแนวคดิ ปรัชญาของ ๒. ดำเนินการจดั ทำและหรือปรับปรุงแผนธรุ กจิ เศรษฐกิจพอเพียง เพือ่ สคู่ วามม่ันคง ด้านการจัดการการผลิตหรอื การบริการ และดา้ น การจัดการการตลาด ตามแนวคดิ ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงได้ ๓. ตรวจสอบระบบธรุ กจิ เพ่อื การขยายอาชีพได้ ๔. ปฏบิ ัตกิ ารจัดทำแผนและโครงการขยายอาชีพ ได้ มาตรฐานท่ี ๓.๔ มคี วามรู้ ความเข้าใจ ในการพัฒนาอาชีพใหม้ ีความมัน่ คง มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรูท้ ่ีคาดหวัง มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการพัฒนาอาชพี ใหม้ ี ๑. อธิบายความหมาย ความสำคัญ ความจำเปน็ ผลิตภัณฑ์หรืองานบริการ สร้างรายไดพ้ อเพยี ง ในการพฒั นาอาชีพให้มผี ลิตภัณฑ์หรอื งานบริการ ต่อการดำรงชีวติ มเี งนิ ออมและมีทุนในการ สร้างรายได้พอเพยี งต่อการดำรงชีวติ มีเงินออม ขยายอาชีพ และมีทนุ ในการขยายอาชีพ ๒. วิเคราะห์ศกั ยภาพธุรกิจ การตลาด การผลติ หรอื การบรกิ าร แผนธรุ กิจเพ่ือสรา้ งธรุ กจิ ให้มี ความม่นั คง ๓. อธบิ ายวิธกี ารตรวจสอบการพฒั นาอาชีพให้ เขา้ ส่คู วามมั่นคง ๔. ปฏบิ ตั ิการจัดทำแผนและโครงการพฒั นา อาชพี ให้มคี วามมน่ั คง หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 93

คำอธบิ ายรายวิชาบังคับ สาระการประกอบอาชพี มาตรฐานที่ รหสั รายวิชา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หน่วยกติ ๓.๑ อช๓๑๐๐๑ รายวชิ า ๒ ๓.๒,๓.๓ อช๓๑๐๐๒ ช่องทางการขยายอาชีพ ๔ ๓.๔ อช๓๑๐๐๓ ทกั ษะการขยายอาชพี ๒ ๘ พัฒนาอาชีพให้มีความมั่นคง รวม หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 94

คำอธิบายรายวิชา อช๓๑๐๐๑ ชอ่ งทางการขยายอาชีพ จำนวน ๒ หน่วยกติ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั มีความรู้ ความเข้าใจ และเจตคติที่ดีในงานอาชีพ วิเคราะห์ลักษณะงาน ขอบข่าย งานอาชีพในชุมชนสังคม ประเทศ และโลกที่เหมาะสมกับศักยภาพของตน และสอดคล้องกับชุมชนเพื่อการ ขยายอาชีพ ศึกษาและฝึกทกั ษะเกย่ี วกบั ชอ่ งทางการขยายอาชีพ ดังนี้ คือ ความหมาย ความสำคัญและความจำเป็นของการขยายอาชีพ วเิ คราะหล์ ักษณะขอบข่ายการ งานอาชีพ กระบวนการทำงาน การบริหารจัดการของอาชพี ต่างๆ ในชุมชน สังคม ประเทศ และโลก เพื่อการ ขยายอาชพี จากการงานอาชีพต่างๆ เช่น งานบ้าน เป็นการวิเคราะห์เกี่ยวกับงานบ้านและชีวิตความเปน็ อยู่ในบ้าน ผ้าและเครื่องแต่ง กาย อาหารและโภชนาการ โดยเนน้ การแกป้ ัญหาในการทำงาน มคี วามรับผดิ ชอบ สะอาด มรี ะเบยี บ ประหยดั อดออม อนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมเพือ่ จะนำไปสูก่ ารสร้างงานอาชีพท่ีเหมาะสมกบั ศักยภาพของตนและ สอดคลอ้ งกับชุมชน สงั คม งานเกษตร เป็นการวิเคราะห์เกี่ยวกับการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และการประมง ตาม กระบวนการผลิตและการจัดการผลผลติ มีการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเพิ่มผลผลิต ปลูกฝังความรับผิดชอบ การ อนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมเพื่อนำไปสู่การสร้างงานอาชีพ เพื่อจะนำไปสู่การสร้างงานอาชีพที่เหมาะสม กับศกั ยภาพของตนและสอดคลอ้ งกับชุมชน สังคม งานช่าง เป็นการวิเคราะห์เกี่ยวกับการทำงานตามกระบวนการของงานช่าง ซึ่งประกอบด้วยการบำรุงรักษา การติดต้ัง ประกอบ การซ่อมและการผลิตเพื่อนำไปสู่การสร้างอาชีพท่ี เหมาะสมกับศกั ยภาพของตนและสอดคล้องกบั ชุมชน สงั คม งานประดิษฐ์ เป็นการวิเคราะห์เกี่ยวกับการทำงานด้านการประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้ที่เน้น ความคิดสร้างสรรค์ โดยเน้นความประณีตสวยงามตามกระบวนการงานประดิษฐ์และเทคโนโลยี และเน้นการ อนุรักษ์และสืบสานศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ตามภูมิปัญญาท้องถิ่นและสากล เพื่อจะ นำไปสู่การสร้างงานอาชีพทีเ่ หมาะสมกับศกั ยภาพของตนและสอดคล้องกบั ชมุ ชน สังคม งานธุรกิจ เป็นการวิเคราะห์งานหรือกิจกรรมที่เป็นการนำเอาทรัพยากรต่างๆ มาใช้ร่วมกัน หรือเปลี่ยนสภาพเพื่อที่จะก่อให้เกิดคุณค่าที่สูงกว่าเดิม โดยที่ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของหรือผู้จัดการหวังว่า สิ่งที่ตนทำ นั้นจะยั่งยืน และเจริญก้าวหน้าต่อไปในอนาคต โดยในงานหรือกิจกรรมทางธุรกิจจะกล่าวถึงงานการตลาด งานการผลติ หรอื การบรกิ าร งานการเงินและบัญชี และงานทรัพยากรมนษุ ย์ ความหมาย ความจำเป็นในการขยายอาชีพในชุมชน สังคม ที่เหมาะสมกับตนเอง วิเคราะห์ ความเป็นไปได้ต่างๆ ได้แก่ การลงทุน การตลาด กระบวนการผลิต การขนส่ง การบรรจุหีบห่อ การแปรรูป และผลกระทบต่อชุมชนและสิง่ แวดล้อม ความรู้ความสามารถของตนเองต่ออาชีพน้ันๆ การลำดับความสำคัญ ของอาชีพที่มีความเป็นไปได้ต่อการขยายอาชีพ เพื่อนำข้อมูลที่วิเคราะหไ์ ว้นำไปปรกึ ษาผูร้ ู้ การตัดสินใจขยาย อาชพี ที่เหมาะสมกับตนเอง โดยวเิ คราะหค์ วามพร้อมของตนเอง ความตอ้ งการของตลาด เทคนิคความรู้ ทกั ษะ ในอาชีพ และความรับผิดชอบตอ่ สงั คม ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 95

การจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ เป็นการสำรวจอาชีพในชุมชน ประเทศ และโลก แล้วนำมาวิเคราะห์ รวมทั้งแลกเปลี่ยน เรียนรซู้ ่งึ กนั และกัน สรุปเป็นองค์ความรเู้ พ่อื การขยายอาชพี ของตน หรอื ชุมชน การวดั และประเมินผล ประเมินจากสภาพจริง ผลงานปฏิบัติ สังเกตความสนใจ ความร่วมมือในกระบวน การเรียนรู้ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 96

รายละเอียดคำอธิบายรายวชิ า อช31001 ชอ่ งทางการขยายอาชีพ จำนวน 2 หนว่ ยกิต ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดบั มคี วามรู้ ความเข้าใจ และเจตคติท่ีดใี นงานอาชีพ วเิ คราะหล์ ักษณะงาน ขอบขา่ ยงานอาชพี ในชุมชน สงั คม ประเทศ และโลกทเี่ หมาะสมกับศักยภาพของตน และสอดคลอ้ งกับชุมชนเพ่ือการขยายอาชีพ ท่ี หวั เรอ่ื ง ตวั ช้ีวัด เน้ือหา จำนวน (ชวั่ โมง) 1 การงานอาชพี 1.อธบิ ายความสำคัญ และ 1.ความสำคญั และความ 50 ความจำเป็นในการขยายอาชีพ จำเปน็ ในการขยายอาชีพ 2.อธิบายลักษณะขอบขา่ ย 2.การขยายอาชีพในชมุ ชน กระบวนการผลิตงานอาชพี ใน ประเทศ และโลก ชมุ ชน สังคม ประเทศ และโลก - งานบ้าน เพ่ือนำมาวเิ คราะห์ขยายอาชีพ - งานเกษตร - งานช่าง - งานประดษิ ฐ์ - งานธุรกิจ ฯลฯ 3.อธิบายการจดั การในงาน 3.การขยายกระบวนการ อาชีพในชุมชน สังคม ประเทศ จดั การงานอาชพี ในชมุ ชน และโลก เพ่ือนำมาวเิ คราะหใ์ น สงั คม ประเทศ และโลก การขยายอาชีพ 3.1 การจดั การการผลติ - การวางแผน - การจดั ทำโครงการ - การใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์ - การใช้แรงงาน - การใช้สถานที่ - การใชท้ นุ ฯลฯ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย 3.2 การจดั การการตลาด - การกำหนดทิศทาง การตลาด - การหาความตอ้ งการ ของตลาด - การขนส่ง - การขาย - การกำหนดราคาขาย หนา้ 97

ที่ หวั เรอื่ ง ตวั ชีว้ ดั เนอื้ หา จำนวน (ช่ัวโมง) 2 ชอ่ งทางการขยาย 4.อธบิ ายคุณธรรม จริยธรรม - การทำบัญชีประเภท อาชพี ในการขยายอาชพี ต่างๆ 20 5.อธบิ ายการอนรุ ักษ์พลังงาน ฯลฯ และสงิ่ แวดล้อมในการขยาย 4.คณุ ธรรม จริยธรรม อาชพี ในชมุ ชน สังคม ประเทศ และโลก - ความรบั ผดิ ชอบ 1.อธบิ ายความจำเป็นในการ - การประหยดั มองเหน็ ช่องทางในการขยาย - การอดออม อาชพี ไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั - ความสะอาด ตนเอง - ความประณีต - ความขยนั - ความซื่อสัตย์ ฯลฯ 5.การอนุรกั ษ์พลงั งาน และ ส่งิ แวดลอ้ มในการขยายอาชพี ในชมุ ชน สงั คม ประเทศ และ โลก 1.ความจำเป็นในการมองเหน็ ช่องทางการประกอบอาชีพ 2.ศึกษาอาชพี ในชมุ ชน สงั คม 2.ความเปน็ ไปได้ในการขยาย ประเทศ และโลก เพื่อวเิ คราะห์ อาชีพ ความเป็นไปไดใ้ นการขยาย - การลงทนุ อาชพี - การตลาด - กระบวนการผลิต - การขนสง่ - การบรรจหุ ีบหอ่ - การแปรรปู - ผลกระทบตอ่ ชุมชน และ สภาพแวดลอ้ ม - ความรู้ความ สามารถ ฯลฯ 3.กำหนดวิธกี ารและข้นั ตอน การขยายอาชีพโดยพจิ ารณา หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 98

ท่ี หัวเร่อื ง ตวั ชี้วัด เนอื้ หา จำนวน (ชว่ั โมง) 3 การตดั สนิ ใจเลอื ก ความเป็นไปไดข้ องการขยาย 3.การกำหนดวิธกี ารและ ขยายอาชีพ อาชพี พร้อมทง้ั ให้เหตุผลใน ข้นั ตอนการขยายอาชพี พรอ้ ม 10 การขยายอาชีพท่ีเลอื ก ใหเ้ หตผุ ล 1.ตดั สินใจเลอื กขยายอาชพี ได้ 1.การตัดสนิ ใจเลอื กขยาย เหมาะสมกับตนเอง อาชีพ - ความพร้อม - ความตอ้ งการของตลาด - ความรู้ ทกั ษะและเทคนิค ตา่ งๆ - ทรพั ยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อม - สถานที่ - แรงงาน - เงนิ ทนุ ฯลฯ หลกั สูตรสถานศึกษา-กศน.อาเภอลาทบั -มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 99