แผน.ไทย ป. 3 62 หน่วย 6-10docx

แผนการ ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ที่ 9 แผนการสอนท่ี 4 เร รายวชิ าภาษาไทย ช้ันประถม ครผู สู้ อน นางสมพร อ่ินใจ ตาแห ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้ เนอ้ื หาสาระ ภาระงาน/ชิ้นงาน การวัดและ ประเมินผล ท 4.1 -การศึกษาเร่อื ง 1.แบบฝกึ หัด 1.ตรวจแบบฝึกหัด ข ป.3/5 แตง่ คาคลอ้ ง คาขวัญ จะตอ้ ง 2. ใบงาน เร่ือง 2.ตรวจใบงาน บอกลักษณะ ลกั ษณะของคา 1 จองและคาขวัญ ของคาขวญั ได้ ขวัญ ค ก 2 จ อ 3 แ

รจัดการเรยี นรู้ ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ 9 ถกั ทอเส้นใยไทยทาเอง ร่อื ง ลักษณะของคาขวญั ถมศึกษาปีที่ 3 รหัสวิชา ท13101 หนง่ พนกั งานราชการ เวลาที่ใช้ 3 ชัว่ โมง กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเข้าส่บู ทเรยี น 1.หนงั สือเรียน 2.ใบความรู้ 1.ครใู ห้นกั เรียนชว่ ยกนั บอกคาขวญั วันเดก็ ประจาปี 2562 จากนนั้ 3.ใบงาน เร่อื ง ครูเขียนตามที่นักเรียนบอกบนกระดาน แลว้ ให้นักเรียนอ่านพร้อม ลักษณะของคาขวัญ กันอยา่ งชดั เจนอีก 1 รอบ รักษาวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ เพ่ิมพูนปัญญา นาพาไทยสอู่ าเซียน 2.ครูส่มุ นักเรยี นอธบิ ายความหมายของคาขวัญวันเดก็ หรือ จุดประสงคท์ ีใ่ ห้คาขวัญแกเ่ ด็ก จากนนั้ ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนคน อ่ืนๆ แสดงความคิดเหน็ เพมิ่ เติมได้ 3.ครูอธิบายให้นกั เรยี นเขา้ ใจว่า คาขวญั วันเดก็ จะมุ่งใหค้ ติขอ้ คดิ แก่เด็ก เพ่ือให้เด็กประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตนตามคุณลกั ษณะ ทตี่ อ้ งการ

ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน/ชิ้นงาน การวดั และ ประเมนิ ผล ข 1 ห 2 เข ข 1 เส 2 คร นัก นา ข้อ เพ

กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื /แหลง่ เรยี นรู้ ขน้ั ตงั้ คาถาม 1.ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่ม ร่วมกันศึกษาความรเู้ ร่ือง คาขวัญ จาก หนงั สือเรียน และใบความรู้ 2.ครูสุ่มนักเรียน 2-3 กลุ่ม อธิบายลักษณะของคาขวัญตามความ ข้าใจของนักเรยี น ข้นั เตรยี มการค้นหาคาตอบ 1.นักเรียนแต่ละคนทาใบงาน เรื่อง ลักษณะของคาขวญั เมอ่ื ทา สร็จแล้วใหต้ รวจสอบความเรยี บร้อย 2.ครูใหน้ กั เรียนแต่ละคนนาเสนอคาขวัญในใบงาน คนละ 1 คาขวัญ รตู รวจสอบความถกู ต้อง แล้วอธิบายลักษณะของคาขวญั ให้ กเรียนเกดิ ความเขา้ ใจอีกครงั้ 3. ครูอธบิ ายลักษณะของคาขวัญให้นักเรียนเขา้ ใจและสามารถ าไปใชใ้ นการเขียนคาขวญั ได้ โดยบอกวา่ คาขวัญทดี่ ตี อ้ งเป็น อความทีใ่ ชค้ าสัน้ ๆ กะทดั รดั และคล้องจองกัน ความ หมายดี พือ่ จงู ใจใหข้ อ้ คดิ คตเิ ตอื นใจในเรอื่ งใด เรื่องหนึ่ง ขน้ั การสรุปและนาเสนอผลการคน้ หาคาตอบ 1.นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั สรุปลักษณะของคาขวญั

แผนการ ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 9 แผนการสอนที่ 5 รายวชิ าภาษาไทย ช้นั ประถม ครูผสู้ อน นางสมพร อ่ินใจ ตาแห ตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ เนื้อหาสาระ ภาระงาน/ชิ้นงาน การวดั และ ประเมินผล ท 4.1 -การเขยี นคา 1.แบบฝึกหดั 1.ตรวจแบบฝกึ หัด ข ป.3/5 แต่งคาคลอ้ ง ขวญั เปน็ การ 2. ใบงาน เร่ือง 2.ตรวจใบงาน เขียนสื่อสารท่ี การแตง่ คาขวัญ ข จองและคาขวัญ 1 ร มุ่งใหข้ ้อคิดคติ ส เตอื นใจ โดย เลือกใช้คาคล้อง จอง มี ความหมายดี กะทัดรดั และ สื่อความหมาย ไดช้ ดั เจน

รจัดการเรียนรู้ สื่อ/แหล่งเรียนรู้ 9 ถกั ทอเส้นใยไทยทาเอง เรือ่ ง การแตง่ คาขวญั ถมศกึ ษาปีท่ี 3 รหัสวชิ า ท13101 หน่ง พนกั งานราชการ เวลาทใี่ ช้ 3 ชั่วโมง กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเข้าสูบ่ ทเรียน 1) แบบฝกึ หดั 2. 1.ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สนทนาเก่ยี วกับลกั ษณะของ ภาษาไทย ป.3 คาขวญั และการแตง่ คาขวญั 2) ใบ ขั้นต้ังคาถาม งานท่ี 9.5 เรือ่ ง การ 1.นักเรียนแตล่ ะกลุ่ม (กลุ่มเดิมจากแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2) แตง่ คาขวญั ร่วมกันแตง่ คาขวัญในใบงานท่ี 9.5 เรอื่ ง การแตง่ คาขวญั โดยให้ สมาชกิ แต่ละคนปฏบิ ตั ิกิจกรรม ดังนี้ 1) สมาชิกคนที่ 1 เร่ิมเขยี นคาขวญั วรรคท่ี 1 ข้อ 1 แล้วสง่ ต่อใหส้ มาชกิ คนท่ี 2 2) สมาชกิ คนที่ 2 อา่ นคาขวญั วรรคที่สมาชิกคนท่ี 1 เขยี นไว้ แล้วเขียนเพ่มิ เตมิ และส่งต่อให้สมาชิกคนท่ี 3 3) สมาชกิ คนท่ี 3 อ่านคาขวัญวรรคทส่ี มาชิกคนท่ี 2 เขยี นไว้ แลว้ เขียนเพิม่ เติม และส่งต่อให้สมาชกิ คนท่ี 4

ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน/ช้นิ งาน การวดั และ ประเมนิ ผล ข 1 เพ ส 2 ห 3 จ ข 1 ป

กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ 4) สมาชกิ คนที่ 4 อ่านคาขวัญวรรคทีส่ มาชกิ คนท่ี 3 เขียนไว้ แลว้ เขียนเพ่ิมเติมให้สมบูรณ์สมาชิกแตล่ ะกลุ่มผลัดกนั ปฏิบตั ิ กิจกรรมเช่นน้ีหมนุ เวยี นไปเรื่อยๆ จนครบทัง้ 4 ข้อ ขนั้ เตรยี มการคน้ หาคาตอบ 1.ตวั แทนนกั เรยี นแต่ละกลุม่ นาเสนอคาขวัญในใบงานท่ี 9.5 แลว้ ให้ พ่อื นกลุ่มอื่นๆ รว่ มกันแสดงความคิดเห็น ปรับปรุงและแก้ไขใน ส่วนทบ่ี กพร่อง 2.ครูตรวจสอบความถกู ต้อง แลว้ คดั เลือกผลงานทด่ี ีตดิ ป้ายนเิ ทศ หนา้ ชน้ั เรยี น และกล่าวคาชมเชยกลมุ่ ทมี่ ีผลงานดี 3.นกั เรยี นแต่ละคนทากิจกรรมรวบยอด ขอ้ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 จากแบบฝกึ หดั ฯ เป็นการบ้าน แล้วนาสง่ ครใู นช่วั โมงเรียนถัดไป ขั้นการสรุปและนาเสนอผลการคน้ หาคาตอบ 1.ครแู ละนักเรียนร่วมกนั อภปิ รายและแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับ ประโยชน์ท่ไี ด้รับจากการแต่งคาขวญั

แผนการ ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 9 แผนการสอนที่ 6 เรื่อง ก รายวิชาภาษาไทย ชน้ั ประถม ครผู สู้ อน นางสมพร อ่นิ ใจ ตาแห ตวั ช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน/ชน้ิ งาน การวดั และ ประเมินผล ท 1.1 -การอ่านบท 1.แบบฝึกหดั 1.ตรวจแบบฝกึ หัด ข ป.3/2 อธบิ าย อาขยาน เด็ก 2. ใบงาน เร่อื ง 2.ตรวจใบงาน ความหมายของคา นอ้ ย จะต้อง การบอก 1 อธบิ าย ความหมายของ และข้อความท่อี ่าน ความหมายของ คาศพั ท์ 1 คาได้ 2 อ อ 3 ค ข 1 ข ค 2 ร

รจดั การเรียนรู้ ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ 9 ถกั ทอเสน้ ใยไทยทาเอง การบอกความหมายของคาศพั ท์ ถมศกึ ษาปีที่ 3 รหสั วิชา ท13101 หนง่ พนักงานราชการ เวลาที่ใช้ 2 ช่วั โมง กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1.แบบฝกึ หดั ภาษาไทย 1.นักเรียนทกุ คนทอ่ งบทอาขยาน เด็กนอ้ ย ให้ครฟู งั พรอ้ มกนั 2.ใบงาน เรื่อง การ บอกความหมายของ 1 รอบ คาศัพท์ 2.ครูสุ่มเลขท่ีนักเรียน 1 คน ออกมาเขียนคาศัพท์ที่ไดจ้ ากบท อาขยาน เดก็ นอ้ ย 1 คา บนกระดาน แล้วให้เพ่ือนนักเรียนรว่ มกนั อธิบายความหมายของคาศัพท์ดงั กล่าว 3.ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ ง แล้วอธิบายให้นักเรยี นเข้าใจเก่ยี วกบั ความหมายของคาศัพท์ ขัน้ ต้ังคาถาม 1.นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันทาใบงาน เรอ่ื ง การบอกความหมาย ของคาศัพท์ โดยให้สมาชิกในแต่ละกลุ่มแบ่งหนา้ ที่กนั ค้นหา ความหมายของคาศัพท์ คนละ 2 คา 2.สมาชิกแต่ละคนค้นหาความหมายของคาศพั ทต์ ามคาที่ตน ได้ รับผดิ ชอบ จากพจนานุกรม ฉบับราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. 2554

ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ เนื้อหาสาระ ภาระงาน/ช้นิ งาน การวดั และ ประเมนิ ผล ข 1 ร จ 2 ป 3 น เส 4 ร 2 จ ข 1 ก

กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ ข้ันเตรยี มการคน้ หาคาตอบ 1.สมาชกิ แต่ละคนค้นหาความหมายของคาศัพท์ตามคาท่ีตน ได้ รับผดิ ชอบ จากพจนานกุ รม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 จากนนั้ นาความหมายของคาศพั ทม์ าอภิปรายร่วมกนั ในกลุม่ จนทุก 2.สมาชิกในแต่ละกลุม่ รว่ มกันนาคาศพั ท์ในใบงานท่ี 9.6 มาแตง่ ประโยคลงในสมุด เสรจ็ แล้วสง่ ตัวแทนออกมานาเสนอหน้าชั้นเรยี น 3.ครูตรวจสอบความถกู ต้อง และกล่าวชมเชยนักเรยี นกลุ่มท่ี นาเสนอความหมายของคาศพั ทแ์ ละแต่งประโยคได้ถูกต้อง เพอ่ื สริมกาลังใจ 4.สมาชิกแต่ละคนค้นหาความหมายของคาศพั ทต์ ามคาที่ตน ได้ รบั ผิดชอบ จากพจนานกุ รม ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 จากนั้นนาความหมายของคาศัพท์มาอภปิ รายร่วมกันในกล่มุ จนทกุ ข้นั การสรปุ และนาเสนอผลการค้นหาคาตอบ 1.ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายและแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับ การค้นหาความหมายของคาศพั ท์

แผนการ ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ที่ 9 แผนการสอนที่ 7 เรอ่ื รายวิชาภาษาไทย ชน้ั ประถม ครผู สู้ อน นางสมพร อ่นิ ใจ ตาแห ตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ เน้ือหาสาระ ภาระงาน/ชิ้นงาน การวัดและ ประเมนิ ผล ท 2.1 -การเขยี นบรรยาย 1.แบบฝึกหดั 1.ตรวจ 2.ใบงาน เรอื่ ง โครง แบบฝกึ หัด ป.3/2 เขียนบรรยาย จะต้องอาศัยการ เร่อื งการเขยี น 2.ตรวจใบงาน บรรยายภาพ เกยี่ วกบั สง่ิ ใดสิ่งหน่งึ ได้ สังเกตและจดจา อย่างชดั เจน ป.3/6มมี ารยาทใน รายละเอียดต่างๆ เก่ยี วกับลักษณะของ การเขยี น+ คน สัตว์ ส่ิงของ สถานที่ ผู้เขียนต้อง ฝึกฝนการใช้ความคิด รเิ ริม่ สร้างสรรค์ และ รวบรวมความรู้ ความคิดอย่างเปน็ ข้ันตอน และมี มารยาทในการเขียน

รจดั การเรียนรู้ สื่อ/แหล่งเรียนรู้ 9 ถักทอเสน้ ใยไทยทาเอง อง หลักการเขยี นบรรยาย ถมศึกษาปีท่ี 3 รหสั วิชา ท13101 หน่ง พนกั งานราชการ เวลาทใ่ี ช้ 2 ชว่ั โมง กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1.แบบฝึกหดั 2. ครชู ภู าพให้นักเรียนดู แลว้ ใหน้ ักเรยี นแต่ละคนเขียนบรรยาย ภาษาไทย สิ่งที่เหน็ ในภาพว่ามอี ะไรบา้ ง 2.ใบงาน เรอ่ื ง โครง ขั้นตง้ั คาถาม เรื่องการเขยี น 3. นกั เรียนช่วยกันบอกสิ่งท่ีนกั เรียนเห็นในภาพ จากนั้นครถู าม บรรยายภาพ นักเรียนวา่ ภาพดงั กลา่ วบอกเล่าเรอื่ งราวอะไรแก่ นกั เรียน ได้บา้ ง 4. ครบู รรยายภาพจากส่งิ ต่างๆ ท่นี กั เรยี นชว่ ยกันบอก แลว้ เรียบเรียงเป็นเรอ่ื งราวท่ีเกดิ จากการบรรยายภาพ 5. นกั เรียนเขียนบรรยายภาพตามที่นกั เรียนเข้าใจ จากนน้ั ครขู ออาสาสมัครนกั เรยี น

ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ เนื้อหาสาระ ภาระงาน/ช้นิ งาน การวัดและ ประเมนิ ผล ข 1 ร บ 2 เข 3 บ ต ข 4 เพ

กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื /แหล่งเรียนรู้ ขนั้ เตรยี มการคน้ หาคาตอบ 1.นกั เรียนแต่ละกล่มุ (กล่มุ เดิมจากแผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2) ร่วมกันศกึ ษาความรู้เรื่อง การเขยี นบรรยาย และตวั อย่างการเขียน บรรยาย จากหนังสอื เรยี น 2.ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ร่วมกันอธบิ ายเกีย่ วกบั ขนั้ ตอนในการ ขียนบรรยาย และสรุปประเด็นความรู้ ดังน้ี 1) การวางแผน หรอื คิดเรือ่ งท่จี ะเขียน 2) การวางโครงเรอ่ื ง และเรยี งลาดับเหตุการณใ์ นเรอื่ ง 3) การเขยี นตามโครงเรอ่ื งด้วยภาษาที่ถกู ต้อง สละสลวย และเขา้ ใจงา่ ย 4) การอ่านทบทวนส่ิงทเี่ ขยี น และปรบั ปรงุ แก้ไข 5)มารยาทในการเขยี น 3.นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ทาใบงาน เรื่อง โครงเรอ่ื งการเขียน บรรยายภาพ โดยให้สมาชิกแตล่ ะคนในกลุม่ เขียนโครงเรื่องด้วย ตนเอง จากน้ันจบั คกู่ ับเพ่อื นในกลมุ่ ผลดั กนั อธิบายโครงเรอ่ื งให้คู่ ของตนเองฟัง 4.นักเรียนรวมกลมุ่ 4 คน ให้แต่ละคู่ผลดั กันอธิบายโครงเรื่องให้ พ่อื นอกี คู่หน่งึ ในกลุ่มฟงั เพือ่ ชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง แลว้

ตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ เนื้อหาสาระ ภาระงาน/ช้นิ งาน การวดั และ ประเมนิ ผล ส ข 1 ต 2

กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ/แหล่งเรียนรู้ สรุปเปน็ โครงเรื่องของกลุม่ ขนั้ การสรปุ และนาเสนอผลการค้นหาคาตอบ 1. ครูสุ่มตวั แทนนักเรยี น 1-2 กลุ่ม นาเสนอผลงานในใบงาน ครู ตรวจสอบความถูกต้องและเสนอแนะเพิ่มเติม 2.นกั เรียนและครูรว่ มกนั สรุปขน้ั ตอนการเขียนบรรยาย

แผนการ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 9 แผนการสอนที่ 8 เรอ่ื รายวชิ าภาษาไทย ช้นั ประถม ครูผสู้ อน นางสมพร อิ่นใจ ตาแห ตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ เน้ือหาสาระ ภาระงาน/ชิ้นงาน การวัดและ ประเมนิ ผล ท 2.1 การเขียนบรรยาย 1.แบบฝกึ หดั 1.ตรวจ ป.3/2 เขียน ภาพ ผู้เขียนตอ้ งฝึก 2.ใบงาน เร่อื งการ แบบฝึกหัด บรรยายเกยี่ วกับสงิ่ ใด การสังเกต เขียนบรรยายภาพ 2.ตรวจใบงาน สงิ่ หนึง่ ได้อยา่ งชดั เจน รายละเอียดของภาพ ป.3/6 มมี ารยาทใน ใช้ความคิดริเร่ิม การเขยี น สร้างสรรค์ และ รวบรวมความรู้ ความคิดอย่างเป็น ขนั้ ตอน และมี มารยาทในการเขียน

รจัดการเรยี นรู้ ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ 9 ถักทอเสน้ ใยไทยทาเอง อง การเขียนบรรยายภาพ ถมศึกษาปีท่ี 3 รหสั วชิ า ท13101 หนง่ พนักงานราชการ เวลาทใี่ ช้ 2 ชว่ั โมง กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1.บัตรภาพ 1.นั กเรียนร่วมกนั ทบทวนขนั้ ตอนในการเขยี นบรรยายภาพ 2.ใบงาน เรอ่ื ง การ ขน้ั ต้ังคาถาม เขียนบรรยายภาพ 1.ครูตดิ บัตรภาพบนกระดาน แล้วใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั พจิ ารณา ภาพแตล่ ะหมายเลขตามประเด็นท่คี รูกาหนด ดงั น้ี 1) สว่ นใดท่เี ปน็ จุดเด่นของภาพ 2) รายละเอียดของภาพมีอะไรบา้ ง 2.ครูอธบิ ายให้นกั เรยี นเข้าใจว่า การเขยี นบรรยายภาพ จะต้อง อาศยั การสังเกต และการเก็บรายละเอยี ดส่งิ ตา่ งๆ ทอ่ี ยู่ในภาพ จงึ จะสามารถเขียนบรรยายได้สอดคล้องกบั ภาพ

ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน/ชิ้นงาน การวดั และ ประเมินผล ข 1 ร 2 เท ก 3 ก ร

กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ ขัน้ เตรยี มการค้นหาคาตอบ 1.นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ เลอื กภาพหมายเลข 1 หรือหมายเลข 2 เพอ่ื ร่วมกนั เขียนบรรยายภาพตามขั้นตอนทีไ่ ดศ้ ึกษา ดังนี้ 1) การวางแผน หรือคิดเร่ืองท่ีจะเขยี น 2) การวางโครงเร่ือง และเรยี งลาดบั เหตุการณ์ในเรือ่ ง 3) การเขียนตามโครงเร่ืองดว้ ยภาษาท่ีถูกตอ้ ง สละสลวย และเขา้ ใจงา่ ย 4) การอา่ นทบทวนสิ่งทเี่ ขียน และปรบั ปรุงแก้ไข 5) มารยาทในการเขยี น 2.นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันเขยี นบรรยายภาพ (คดิ เหตุการณ์ ทา่ กับจานวนสมาชิกในกลมุ่ ) โดยลาดบั เนื้อเร่ืองตามเหตุการณ์ท่ี กาหนด ดงั น้ี 1) สมาชกิ คนท่ี 1 เขยี นตามเหตุการณ์ท่ี 1 แล้วส่งไปให้ คนต่อไป 2) สมาชกิ คนที่ 2 อา่ นเรือ่ งทีส่ มาชิกคนท่ี 1 เขยี นไว้ ถ้าเหน็ ว่าเรอ่ื งท่สี มาชิกคนท่ี 1 เขยี นไวย้ ังไม่สมบรู ณ์กใ็ ห้เขยี น เพ่มิ เติม แลว้ เขยี นเร่อื งตามเหตุการณท์ ่ี 2 และสง่ ให้ สมาชิกคนตอ่ ไป 3.สมาชกิ ในแต่ละกล่มุ จะไดม้ ีโอกาสอา่ นและเขียนเรือ่ งหมุนเวียน กนั ไปเร่ือยๆ จนเสรจ็ กลา่ วคือ สามารถเขยี นเรื่องไปจนจบ มี รายละเอียดตามโครงเรื่องและมีเหตุการณท์ ่ีกาหนดไว้ครบถ้วน

ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน/ชิ้นงาน การวดั และ ประเมินผล 4 ค ล ก 1 เร 2 ร ค

กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ 4.นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนาเนอื้ เรื่องทเี่ ขยี นเสรจ็ แลว้ มาอ่านร่วมกันอีก คร้งั เพอ่ื ตรวจสอบขอ้ บกพรอ่ ง ถา้ สมบูรณแ์ ล้วให้ตวั แทนกลุ่มเขียน ลงในใบงาน เรอื่ ง การเขียนบรรยายภาพ การสรุปและนาเสนอผลการค้นหาคาตอบ 1.ตวั แทนนักเรียนแตล่ ะกล่มุ ออกมานาเสนอใบงานท่ี 9.8 หน้าช้นั รยี น จากนัน้ เกบ็ รวบรวมใบงานสง่ ครูตรวจเพ่อื ประเมินผล 2.ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั นาผลงานของแต่ละกลมุ่ มาจัดทาเป็น รูปเล่มไวใ้ นช้นั เรียน เพื่อใหน้ กั เรียนได้หยบิ อา่ นเป็นการเสรมิ สรา้ ง ความรู้ ฝึกทักษะการอ่าน และใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์

แผนการ ชือ่ หนว่ ยการเรยี นร แผนการสอนท่ี 1 เ รายวิชาภาษาไทย ช้ันประถม ครผู สู้ อน นางสมพร อ่ินใจ ตาแห ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ เน้ือหาสาระ ภาระงาน/ชน้ิ งาน การวดั และ ประเมินผล ท 1.1 การอา่ นออกเสียง 1.แบบฝึกหดั 1.ตรวจแบบ วรรณกรรมเร่อื ง แบบประเมิน ประเมิน ป.3/1 อ่านออกเสียง บนั ทกึ ของหนง่ึ คา ขอ้ ความ เร่ืองส้นั ๆ จะต้องอา่ นออกเสียง และบทร้อยกรอง ให้ถูกตอ้ ง และ ชัดเจน ตามหลักการอ่าน

รจัดการเรียนรู้ สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ รู้ท่ี 10 บนั ทึกของหน่งึ เรื่อง การอ่านออกเสยี ง ถมศกึ ษาปีท่ี 3 รหัสวชิ า ท13101 หนง่ พนกั งานราชการ เวลาท่ใี ช้ 3 ชัว่ โมง กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน 1.หนงั สือเรยี น 1.ครูและนักเรียนรว่ มกนั สนทนาเกีย่ วกบั การเขยี นบนั ทกึ ภาษาไทย ประจาวนั จากนนั้ ครูแจง้ ใหน้ ักเรยี นทราบว่า ครจู ะให้นักเรียน 2.แบบประเมินการ อา่ นเรือ่ งส้นั ๆ เก่ียวกับการเขียนบนั ทึกประจาวัน อ่านออกเสยี งคา ขนั้ ตัง้ คาถาม 1.ครูอา่ นออกเสียงวรรณกรรมเร่ือง บันทึกของหนงึ่ จาก หนังสอื เรยี น ให้นกั เรียนฟงั เปน็ ตวั อยา่ ง 2 ย่อหน้า จากนั้น อธบิ ายการแบ่งวรรคตอนในการอ่านใหน้ ักเรียนเขา้ ใจ 2.นักเรียนจบั คู่กนั ตามความสมัครใจ จากนัน้ ให้นักเรยี นแตล่ ะคู่ ฝึกอา่ นออกเสยี งวรรณกรรมเรอ่ื ง บันทึกของหนง่ึ จากหนงั สอื เรียน ตามย่อหน้าท่ีครูอ่านเป็นตวั อยา่ ง

ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน/ชิ้นงาน การวัดและ ประเมินผล ข 1 เพ 2 ข เส แ น 3 แ แ 4 ห ม ก 1 จ ก

กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ ข้นั เตรียมการค้นหาคาตอบ 1.ครูสังเกตการอ่านออกเสียงของนกั เรียนแต่ละคู่ และให้คาแนะนา พิม่ เติม 2.ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะคนฝึกอา่ นออกเสียงวรรณกรรมเร่ือง บนั ทกึ ของหนงึ่ ตามยอ่ หน้าท่คี รกู าหนด โดยผลดั กนั อ่านออก สยี ง แลว้ ให้เพ่ือนท่ีจบั คู่กับนักเรียนเป็นฝ่ายสงั เกต ตรวจสอบ และ แสดงความคิดเห็น เพอื่ เสนอแนะข้อบกพรอ่ งในการอา่ นใหเ้ พื่อน นาไปปรับปรงุ แกไ้ ข 3.นกั เรียนแตล่ ะคสู่ รุปปญั หาทีพ่ บมากในการอ่านออกเสยี ง เพอื่ แลกเปลีย่ นข้อมูลกับคอู่ นื่ ๆ จากนัน้ ครเู สนอแนะ แนวทางการ แกไ้ ขท่ถี ูกต้อง และเหมาะสม 4.นักเรยี นแต่ละคนฝกึ อา่ นออกเสยี งวรรณกรรมเรอื่ ง บันทึกของ หนึง่ จากหนงั สือเรียน ตอ่ เนอ่ื งไปจนจบ โดยนาขอ้ เสนอแนะของครู มาเป็นแนวทางในการแก้ไขขอ้ บกพร่องในการอ่าน การสรุปและนาเสนอผลการค้นหาคาตอบ 1.นกั เรียนแต่ละคนอ่านออกเสียงวรรณกรรมเรอื่ ง บันทึกของหน่ึง จากหนงั สอื เรียน ให้เกดิ ความคล่องแคล่ว แลว้ มาทดสอบ การอ่านกับครนู อกเวลาเรียน เพื่อใหค้ รูประเมนิ ผล

แผนการ ช่อื หนว่ ยการเรียนร แผนการสอนที่ 2 เรือ่ ง รายวชิ าภาษาไทย ช้ันประถม ครูผสู้ อน นางสมพร อ่ินใจ ตาแห ตวั ชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ เนือ้ หาสาระ ภาระงาน/ชิน้ งาน การวดั และ ประเมนิ ผล ท 1.1 การรู้ความหมายของ 1.แบบฝกึ หดั 1.ตรวจ คา จะทาให้เข้าใจ 2.ใบงาน เร่อื ง แบบฝกึ หัด ป.3/2 อธิบาย เรอ่ื งราวของ คาศพั ท์กับ 2.ตรวจใบงาน ความหมายของคาและ วรรณกรรมเร่ือง ความหมาย ข้อความท่ีอา่ น บันทกึ ของหนงึ่

รจดั การเรียนรู้ สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ รู้ที่ 10 บันทึกของหน่ึง ง การการบอกความหมาย ถมศึกษาปีท่ี 3 รหสั วิชา ท13101 หน่ง พนกั งานราชการ เวลาที่ใช้ 3 ชั่วโมง กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1.หนงั สอื เรยี น 1.ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกยี่ วกับปัญหาในการอา่ น 2.แบบฝกึ หัด จากนนั้ ช่วยกนั ยกตวั อยา่ ง เช่น อา่ นสะกดคาผิด ไม่รู้ความหมาย 3.ใบงาน เรือ่ ง ของค คาศพั ท์กบั 2.ครูอธบิ ายแนวทางในการแก้ปัญหาการอ่านดังกล่าว ความหมาย ใหน้ ักเรียนเข้าใจและสามารถนาไปปฏบิ ัติได้ ขนั้ ตัง้ คาถาม 1.ครูแบง่ นกั เรียนเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความ สามารถ คอื เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเกง่ ปานกลางค่อนข้างออ่ น และออ่ น 2.นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ร่วมกนั รวบรวมคาศพั ทย์ ากท่ีนักเรยี นไมร่ ู้ ความหมายจากวรรณกรรมเรอ่ื ง บันทกึ ของหนงึ่ ลงในกระดาษ ทคี่ รูแจกให้ 3.สมาชกิ กลมุ่ ร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของการสะกดคา

ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ เนื้อหาสาระ ภาระงาน/ช้นิ งาน การวดั และ ประเมนิ ผล ท ข 1 ไว 2 ใน 3 จ 4 5 ค แ ข 1 น

กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้ ที่ไดร้ วบรวมไว้ จากนนั้ หาความหมายของคาจากพจนานกุ รม ขน้ั เตรียมการค้นหาคาตอบ 1.ตัวแทนนกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ออกมาเขยี นคาศัพท์ยากที่ไดร้ วบรวม วบ้ นกระดาน จากนัน้ อธบิ ายความหมายของคา 2.ครูตรวจสอบความถกู ต้อง และให้ขอ้ เสนอแนะเพมิ่ เตมิ นแต่ละกลมุ่ 3.นกั เรียนแตล่ ะคนอ่านออกเสยี งคาศพั ท์บนกระดานพรอ้ มกัน จากนั้นเขียนบนั ทึกลงในสมุด 4.นักเรยี นแต่ละคนทาใบงาน เร่ือง คาศพั ทก์ ับความหมาย 5.ครูให้นกั เรยี นแต่ละคนผลัดกนั อา่ นออกเสยี งคาศัพท์และ ความหมายของคาในแต่ละข้อให้เพือ่ นในกลุ่มฟงั แล้วใหเ้ พอ่ื น แสดงความคิดเห็น และรว่ มกันหาคาตอบที่เปน็ ข้อสรุปของกลมุ่ ขน้ั การสรุปและนาเสนอผลการคน้ หาคาตอบ 1.ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับความหมายของคาศัพทแ์ ล้วให้ นกั เรียนออกมานาเสนอคาศพั ท์ ท่ตี รงกับความหมายในใบงาน

แผนการ ชอ่ื หน่วยการเรียนร แผนการสอนท่ี 3 เร่ือ รายวชิ าภาษาไทย ช้ันประถม ครผู สู้ อน นางสมพร อนิ่ ใจ ตาแห ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ เน้ือหาสาระ ภาระงาน/ชนิ้ งาน การวดั และ ประเมินผล ท 1.1 การอ่านวรรณกรรม 1.แบบฝกึ หดั 1.ตรวจ ป.3/3 ตงั้ คาถาม เร่ือง บันทึกของหนึง่ 2.แบบประเมนิ การ แบบฝกึ หัด และตอบคาถามเชิง จะตอ้ งสรปุ ใจความ อ่าน 2.ประเมินการ เหตผุ ลเก่ียวกบั เร่ืองท่ี สาคัญและ อา่ น อ่าน รายละเอยี ดของเรื่อง ทีอ่ ่านได้

รจัดการเรียนรู้ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ รู้ที่ 10 บนั ทกึ ของหนง่ึ อง การสรปุ ใจความสาคญั ถมศึกษาปีท่ี 3 รหสั วชิ า ท13101 หนง่ พนกั งานราชการ เวลาทใี่ ช้ 3 ช่ัวโมง กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1.หนังสือเรียน 1.ครสู นทนากับนักเรยี นเกีย่ วกบั ความจาเปน็ และประโยชน์ของ 2.แบบฝึกหัด การสรุปใจความสาคญั จากเร่อื งท่ีอา่ น 3.แบบประเมินการ ขน้ั ต้ังคาถาม อ่าน 1.ครใู หน้ กั เรียนแต่ละกลุ่ม (กล่มุ เดมิ จากแผนการจัดการเรยี นรู้ ที่ 2) ร่วมกนั สรปุ ใจความสาคญั ของวรรณกรรมเรอื่ ง บนั ทกึ ของ หนงึ่ สาคัญเม่อื เสรจ็ แลว้ ให้สมาชกิ แต่ละคู่เปล่ยี นบทบาทกนั

ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน/ช้นิ งาน การวดั และ ประเมนิ ผล ข 1 ก ส 2 ต ค ข 1 ส ห ต

กิจกรรมการเรยี นรู้ สือ่ /แหลง่ เรยี นรู้ ข้นั เตรียมการค้นหาคาตอบ 1.สมาชกิ ในแต่ละกล่มุ จบั ค่กู นั เป็น 2 คู่ แลว้ ใหแ้ ต่ละค่ปู ฏบิ ตั ิ กจิ กรรม ดังน้ี - สมาชกิ คนที่ 1 อา่ นออกเสยี ง และเขยี นสรุปใจความสาคัญ - สมาชกิ คนที่ 2 สงั เกต ตรวจสอบความถูกต้องของใจความ สาคญั เม่ือเสร็จแลว้ ให้สมาชิกแต่ละคูเ่ ปลี่ยนบทบาทกนั 2.นกั เรียนรวมกลมุ่ เดมิ (4 คน) ให้แต่ละคู่นาใจความสาคญั ของคู่ ตนเองมานาเสนอให้เพ่ือนอกี คหู่ นงึ่ ฟงั เพือ่ ช่วยกนั ตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง ข้นั การสรปุ และนาเสนอผลการค้นหาคาตอบ 1.นักเรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอการสรปุ ใจความ สาคญั และรายละเอยี ดของวรรณกรรมเร่ือง บนั ทกึ ของหนึ่ง หนา้ ช้ันเรียน แล้วให้นักเรยี นแต่ละกลุม่ ผลัดกนั ตรวจสอบความถูก ตอ้ ง ดังน้ี - กลมุ่ หมายเลข 1 นาเสนอใจความสาคัญ - กล่มุ หมายเลข 2 ตรวจสอบ แลว้ นาเสนอใจความสาคัญ

แผนการ ชือ่ หนว่ ยการเรียนร แผนการสอนท รายวชิ าภาษาไทย ชั้นประถม ครูผสู้ อน นางสมพร อ่นิ ใจ ตาแห ตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ เนอื้ หาสาระ ภาระงาน/ช้ินงาน การวดั และ ประเมนิ ผล ท 1.1 แผนภาพ เปน็ การใช้ 1.ใบงาน เรือ่ ง การ 1.ตรวจใบงาน ป.3/8 อธิบาย รปู ภาพในการ อา่ นแผนภาพ ความหมายของข้อมลู นาเสนอขอ้ มลู จากแผนภาพ แผนที่ เพื่อให้สามารถ และแผนภูมิ เช่ือมโยงข้อมูลให้ เขา้ ใจง่ายขน้ึ

รจัดการเรียนรู้ ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ รู้ที่ 10 บันทกึ ของหน่ึง ที่ 4 เร่ือง แผนภาพ ถมศึกษาปที ่ี 3 รหสั วิชา ท13101 หน่ง พนกั งานราชการ เวลาทใี่ ช้ 2 ชั่วโมง กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนาเข้าสู่บทเรียน 1) แผนภาพเร่ือง ยานพาหนะ 1.ครนู าแผนภาพเร่อื ง ยานพาหนะ มาแสดงให้นักเรียนดู ที่หน้าชั้นเรยี น แลว้ ให้นกั เรยี นพิจารณาความสมั พันธข์ องภาพ 2) ใบ ต่างๆ ทอี่ ยู่ในแผนภาพ งานท่ี 10.2 เรื่อง 2.นักเรยี นจบั คู่กนั ตามความสมัครใจ จากนนั้ ใหแ้ ตล่ ะคชู่ ่วยกัน การอ่านแผนภาพ อธบิ ายความสัมพนั ธ์ของภาพต่างๆ ท่อี ยู่ในแผนภาพ ตาม ความเข้าใจของนกั เรียน ข้นั ตัง้ คาถาม 1.นักเรยี นแตล่ ะคอู่ ธิบายความสมั พันธข์ องภาพตา่ งๆ ที่อยใู่ น แผนภาพ จากน้ันครอู ธิบายใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจว่า แผนภาพ ดังกล่าวเปน็ การแสดงขอ้ มูลของยานพาหนะท่ีจาแนกออกเปน็ 3 ประเภท คอื ยานพาหนะที่ใช้ทางบก ทางนา้ และทางอากาศ

ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ เนื้อหาสาระ ภาระงาน/ช้นิ งาน การวดั และ ประเมนิ ผล ข 1 เข 2 แ 3 แ 4 แ ผ เส ข 1 ได

กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ ข้นั เตรยี มการคน้ หาคาตอบ 1.ครูอธบิ ายหลักการอ่านแผนภาพให้นักเรยี นมคี วามรู้ ความ ขา้ ใจ และสามารถนาความรูไ้ ปอา่ นไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ดังน้ี 2.อา่ นชือ่ แผนภาพทีต่ อ้ งการศึกษา แล้วทาความเขา้ ใจว่าเปน็ แผนภาพแสดง 3.ทาความเข้าใจสญั ลักษณ์ภาพว่าหมายถงึ สิง่ ใด หรือใช้แทนสง่ิ ใด แล้วเชอ่ื มโยงความสัมพนั ธข์ องแผนภาพ 4.นักเรยี นแตล่ ะค่รู ่วมกนั ทาใบงานท่ี 10.2 เรอ่ื ง การอ่าน แผนภาพ โดยใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนคิดหาคาตอบด้วยตนเอง จากนั้น ผลดั กนั อภิปรายคาตอบจนได้ข้อสรปุ แลว้ เขียนคาตอบลงในใบงาน สรจ็ แลว้ นาส่งครตู รวจ ข้นั การสรปุ และนาเสนอผลการค้นหาคาตอบ 1.นกั เรียนร่วมกันสรปุ หลกั การอา่ นแผนภาพ และประโยชน์ ที่ ด้รบั จากการอา่ นแผนภาพ

แผนการ ชือ่ หนว่ ยการเรียนร แผนการสอน รายวชิ าภาษาไทย ช้ันประถม ครผู สู้ อน นางสมพร อิ่นใจ ตาแห ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ เนอ้ื หาสาระ ภาระงาน/ชิ้นงาน การวัดและ ประเมนิ ผล ท 1.1 การอา่ นแผนที่ 1.ใบงาน เร่ือง การ 1.ตรวจใบงาน ป.3/8 อธบิ าย จะต้องทาความเข้าใจ อ่านแผนที่ ความหมายของขอ้ มูล มาตราส่วน จากแผนภาพ แผนที่ สัญลักษณต์ า่ งๆ ทใี่ ช้ และแผนภมู ิ ในแผนที่ จึงจะอา่ น ข้อมลู ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง

รจัดการเรยี นรู้ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ รู้ที่ 10 บนั ทึกของหนงึ่ นท่ี 5 เรื่อง แผนที่ ถมศึกษาปที ี่ 3 รหสั วชิ า ท13101 หน่ง พนกั งานราชการ เวลาที่ใช้ 3 ชว่ั โมง กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรยี น 1.แผนท่ปี ระเทศไทย 1.ครูนาแผนทปี่ ระเทศไทยมาแสดงใหน้ ักเรยี นดทู ่ีหนา้ ช้ันเรียน 2.แผนทแ่ี สดงภูเขา แลว้ ใหน้ กั เรียนชว่ ยกันหาท่ีต้ังของจงั หวดั ท่เี ป็นท่ีต้งั ของโรงเรียน และแมน่ า้ ในประเทศ จากนนั้ สง่ ตวั แทนออกมาชีบ้ นแผนท่ี แลว้ ชว่ ยกันตรวจสอบ ไทย ความถกู ตอ้ ง 3.ใบความรู้ เร่อื ง ขั้นตง้ั คาถาม การอ่านแผนท่ี 1.ครกู าหนดช่อื จงั หวัดต่างๆ แล้วใหน้ กั เรียนออกมาชีบ้ นแผนท่ี เป็นรายบุคคล จากนั้นใหเ้ พื่อนนกั เรยี นคนอนื่ ๆ ตรวจสอบ ความถูกต้อง 2.นกั เรียนอธิบายความหมาย และความสาคัญของแผนท่ี ตามความเขา้ ใจของนักเรยี น ข้ันเตรียมการคน้ หาคาตอบ 1.นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่ม ร่วมกันศกึ ษาใบความรู้ เรอื่ ง การอ่านแผน

ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ เนื้อหาสาระ ภาระงาน/ช้นิ งาน การวดั และ ประเมนิ ผล ท ข 1 2 จ จ ข 3 ค ค น ก 4 แ ล 5 แ แ

กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหล่งเรียนรู้ ท่ี แลว้ สรปุ ประเด็นสาคัญรว่ มกัน ข้ันเตรียมการคน้ หาคาตอบ 1.นกั เรียนแต่ละกลุม่ รว่ มกนั ศึกษาใบความรู้ เร่อื ง 2.ครูอธบิ ายให้นักเรียนเขา้ ใจว่า แผนที่เปน็ แบบท่เี ขียนยอ่ เพ่อื จาลองลักษณะของพ้นื ผิวโลก ซึง่ ไม่สามารถหากระดาษแผ่นใหญท่ ี่ จะวางทาบลงบนพ้ืนผวิ โลกทงั้ หมดได้ จึงย่อส่วนพ้ืนผิวโลกใหม้ ี ขนาดเล็กลง แต่ยังคงรักษาลักษณะใหเ้ หมอื นของเดิม 3.นกั เรยี นรว่ มกันอธบิ ายสญั ลกั ษณต์ ่างๆ ท่ีอยู่ในแผนท่ใี ห้เข้าใจ ความหมายและสามารถอา่ นขอ้ มูลในแผนทีไ่ ด้อย่างถูกตอ้ ง ครูนาแผนที่แสดงภูเขาและแม่นา้ ในประเทศไทย มาแจก ให้ นักเรยี นแต่ละกล่มุ จากน้นั ใหส้ มาชิกแต่ละคนในกลุม่ ผลัดเปล่ยี น กันอธิบายวธิ กี ารอา่ นแผนท่ี เพ่ือตรวจสอบ ความเขา้ ใจ 4.ครูกาหนดชื่อเมอื งหลวง ช่ือเมอื ง ช่ือแม่นา้ ชอื่ ภเู ขา ในแผนที่ แสดงภูเขาและแม่นา้ ในประเทศไทย จากน้ันใหน้ ักเรียน แต่ ละกลุ่มช่วยกันหาพิกดั แลว้ รว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง 5.นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันกาหนดชื่อเมอื งหลวง ชอ่ื เมือง ชื่อ แม่นา้ หรอื ชอ่ื ภเู ขา ในแผนทแี่ สดงภเู ขาและแมน่ ้า ในประเทศไทย แล้วให้นักเรยี นกลมุ่ อื่นๆ หาพกิ ัดในแผนที่

ตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ เนื้อหาสาระ ภาระงาน/ช้นิ งาน การวดั และ ประเมนิ ผล ข 1 แ 2 จ

กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ ขั้นการสรุปและนาเสนอผลการคน้ หาคาตอบ 1.นกั เรียนแต่ละกลุม่ สง่ ตัวแทนออกมาระบพุ กิ ัดบนแผนที่ จากน้ันครู และเพอื่ นนักเรยี นกลุ่มอน่ื ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง 2.นักเรียนรว่ มกนั สรุปหลักการอ่านแผนท่ี และประโยชนท์ ีไ่ ด้รบั จากการอ่านแผนท่ี

แผนการ ชอื่ หน่วยการเรยี นร แผนการสอนท รายวชิ าภาษาไทย ชน้ั ประถม ครผู สู้ อน นางสมพร อ่ินใจ ตาแห ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ เนอื้ หาสาระ ภาระงาน/ชิ้นงาน การวัดและ ประเมินผล ท 1.1 แผนภูมิ เป็นการใช้ 1.ใบงาน เรื่อง การ 1.ตรวจ ป.3/8 อธบิ าย รูปภาพ หรือรูป อา่ นแผนภูมริ ูปภาพ แบบฝึกหดั ความหมายของขอ้ มูล เรขาคณิตแทน 2.ตรวจใบงาน จากแผนภาพ แผนที่ จานวนสง่ิ ตา่ งๆ ที่ และแผนภมู ิ เปน็ ข้อมูลทางสถติ ิ ดังนนั้ ต้องเขา้ ใจ สัญลกั ษณแ์ ละ เปรียบเทียบขอ้ มลู จงึ จะสามารถอธบิ าย ความหมายของ ขอ้ มลู ในแผนภมู ิได้

รจัดการเรียนรู้ ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ รู้ที่ 10 บันทกึ ของหนึ่ง ที่ 6 เรอื่ ง แผนภมู ิ ถมศึกษาปที ี่ 3 รหัสวชิ า ท13101 หนง่ พนกั งานราชการ เวลาท่ใี ช้ 3 ช่ัวโมง กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนาเข้าสู่บทเรยี น 1.หนงั สอื เรยี น 1.ครตู ิดบัตรภาพบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนแต่ละคนเลอื ก 2. แบบฝกึ หัด ผลไม้ทีน่ ักเรียนชอบรับประทานจากบัตรภาพ 1 ชนิด จากนนั้ ให้ 3.แผนภมู ริ ูปภาพ ตวั แทนนักเรียนนับจานวนนักเรยี นท่ชี อบรับประทานผลไมช้ นิด 4.บัตรภาพ ต่างๆ 5.ใบงาน เร่อื ง การ 2.ครูนาแผนภูมริ ปู ภาพ แสดงจานวนผลไมท้ ีน่ ักเรียนในชนั้ เรียน อ่านแผนภมู ริ ูปภาพ ชอบรับประทาน มาแสดงให้นักเรียนดู จากน้ันให้นกั เรียนอา่ น ขอ้ มลู ในแผนภูมิรูปภาพว่า ตรงกับจานวนทต่ี วั แทนนักเรียนนบั ไว้หรือไม่ อยา่ งไร ข้นั ตงั้ คาถาม 1.นักเรียนรว่ มกันตอบคาถามท่ีครูกาหนด ดังน้ี 1) ผลไม้ชนิดใดที่นักเรยี นชอบรับประทานมากทีส่ ุด และ มีจานวนกี่คน 2) นักเรยี นท่ีชอบรับประทานกล้วย มจี านวนก่คี น

ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ ภาระงาน/ชิ้นงาน การวดั และ ประเมินผล น 3) 2 ให ค ส ข ส

กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ นักเรยี นท่ีชอบรับประทานสม้ และมงั คดุ รวมกันมีจานวนกี่คน 2.นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนนั้ ครอู ธบิ าย ห้นักเรียนเข้าใจว่า การอ่านขอ้ มลู จากแผนภูมิ จะต้องเขา้ ใจ ความหมายของสัญลกั ษณ์ และการกาหนดจานวนในการใช้ สญั ลกั ษณ์ จึงจะทาใหเ้ ข้าใจข้อมูลทนี่ ามาแสดง ข้นั เตรยี มการค้นหาคาตอบ 1.ความเขา้ ใจสัญลกั ษณ์ ภาพ มาตราสว่ น ว่าหมายถึง สงิ่ ใด หรอื ใชแ้ ทนสงิ่ ใด แล้วจงึ อ่านขอ้ มูลในแผนภูมิ 2.นกั เรียนดูตวั อย่างแผนภูมิรปู ภาพ จากหนังสอื เรียน จากน้นั ให้ นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ (กลมุ่ เดมิ จากแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2) ร่วมกนั อธิบายวิธกี ารอ่านแผนภมู ริ ูปภาพ แสดงจานวน ทแ่ี ม่ค้าขายสม้ ได้ใน 1 สัปดาห์ 3.นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ผลัดกันตงั้ คาถามเพอ่ื ให้สมาชกิ ในกลุม่ ตอบ โดยใชข้ อ้ มูลจากการอา่ นแผนภมู ริ ูปภาพ เชน่ - แม่ค้าขายสม้ ในวนั ใดไดม้ ากท่ีสุด และจานวนก่ี กิโลกรมั - แม่ค้าขายสม้ ในวนั ใดไดจ้ านวนเทา่ กัน และรวมกนั ก่ีกิโลกรัม