Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การสร้างและพัฒนาเครือข่ายในการบริหารจัดการศึกษา_ดร.สุวิทย์ มูลคำ

การสร้างและพัฒนาเครือข่ายในการบริหารจัดการศึกษา_ดร.สุวิทย์ มูลคำ

Published by dongthong.da, 2020-09-14 07:52:53

Description: การสร้างและพัฒนาเครือข่ายในการบริหารจัดการศึกษา_ดร.สุวิทย์ มูลคำ

Search

Read the Text Version

การสรา้ งและพฒั นาเครอื ขา่ ย ในการบรหิ ารจดั การศกึ ษา ดร.สวุ ทิ ย์ มลู คา

25 85 29 14 58 70 1 61 18 6 42 46 34 81 53 49 37 30 54 2 33 13 69 97 50 86 5 21 93 66 82 78 10 17 45 41 73 94 90 22 98 89 77 57 9 74 62 26 38 65 28 60 68 36 23 75 59 83 27 92 4 20 64 12 32 56 47 15 43 51 7 96 84 44 35 40 76 8 52 63 55 87 16 80 31 71 67 99 91 48 39 88 24 95 3 19 72 79 11

25 85 29 14 58 70 1 61 18 6 42 46 34 81 53 49 37 30 54 2 33 13 69 97 50 86 5 21 93 66 82 78 10 17 45 41 73 94 90 22 98 89 77 57 9 74 62 26 38 65 28 60 68 36 23 75 59 83 27 92 4 20 64 12 32 56 47 15 43 51 7 96 84 44 35 40 76 8 52 63 55 87 16 80 31 71 67 99 91 48 39 88 24 95 3 19 72 79 11

ขอบขา่ ยเนอ้ื หา 1. การบรหิ ารจดั การระบบขอ้ มลู สารสนเทศ และเครอื ขา่ ย การจดั การศกึ ษา : ระบบขอ้ มลู สารสนเทศเครอื ขา่ ยเพอื่ 1.1 การเรยี นการสอน 1.2 การบรหิ ารจดั การ 1.3 การวจิ ยั 2. การสรา้ งและพฒั นาเครอื ขา่ ยการจดั การศกึ ษาภายในจงั หวดั 2.1 การสรา้ งและพฒั นาเครอื ขา่ ยบคุ คล/กลมุ่ บคุ คล 2.2 การสรา้ งและพฒั นาเครอื ขา่ ยองคก์ าร 2.3 การสรา้ งและพฒั นาเครอื ขา่ ยเทคโนโลยี

3. การสรา้ งและพฒั นาเครอื ขา่ ยการจดั การศกึ ษา รว่ มกบั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ และหนว่ ยงานทง้ั ในและ ตา่ งประเทศ 4. การสรา้ งความเขม้ แข็งและความยง่ั ยนื ใหก้ บั เครอื ขา่ ยการจดั การศกึ ษา 5. กจิ กรรมเสรมิ สรา้ งเครอื ขา่ ยความสมั พนั ธท์ างการศกึ ษา

กรอบแนวคดิ การบรหิ ารจดั การ ทม่ี งุ่ ผลสมั ฤทธิ์ ผลสมั ฤทธ์ิ (RESULTS) วตั ถปุ ระสงค์ ปจั จยั นาเขา้ กระบวนการ ผลผลติ ผลลพั ธ์ (OBJECTIVES) (INPUTS) (PROCESS) (OUTPUTS) (OUTCOMES) ประสทิ ธภิ าพ (Efficiency) ประสทิ ธผิ ล (Effectiveness)

การบรหิ ารจัดการมงุ่ ผลสมั ฤทธ์ิ ใชท้ รพั ยากร บรรลตุ ามวตั ถปุ ระสงค์ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ สอดคลอ้ งกบั วสิ ยั ทศั น์ เกดิ ประโยชนส์ งู สดุ ประสทิ ธภิ าพ ประสทิ ธผิ ล (Efficiency) (Effectiveness)

ความสามารถในการ กาหนดวธิ กี ารทางาน ทดี่ ที ส่ี ดุ มคี วาม ยดื หยนุ่ พลกิ แพลงได้ ภายใตส้ ภาวการณ์ตา่ งๆ เพอ่ื บรรลเุ ป้ าหมาย ทต่ี อ้ งการ

การวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ ม การวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ ม ภายนอก ภายใน • โอกาส(Oppotunities) • จดุ แข็ง(Strengths) • อปุ สรรค(Threats) • จดุ ออ่ น(Weaknesses) • สงั คมและวฒั นธรรม(S) • โครงสรา้ งและนโยบาย(S1) • เทคโนโลย(ี T) • บรกิ าร&คณุ ลกั ษณะผเู้ รยี น(S2) • เศรษฐกจิ (E) • บคุ ลากร(M1) • การเมอื งและกฎหมาย(P) • การเงนิ (M2) • วสั ดอุ ปุ กรณ์(M3) • การบรหิ ารจดั การ(M4)

1. การบรหิ ารจัดการระบบขอ้ มลู และสารสนเทศ เพอื่ สรา้ งเครอื ขา่ ยการจัดการศกึ ษา

ค.ศ.2001 - 2100

กระแสใหญข่ องโลกในศตวรรษท่ี 21 ❑ โลกเทคโนโลยี (Technologicalization) ❑ โลกของเศรษฐกจิ และการคา้ (Commercialization & Economy) ❑ โลกาภวิ ตั นก์ บั เครอื ขา่ ย (Globalization and Network) ❑ สง่ิ แวดลอ้ มและพลงั งาน (Environmentalization & Energy) ❑ ความเป็ นเมอื ง (Urbanization) ❑ คนอายจุ ะยนื ขนึ้ (Ageing & Health) ❑ อยกู่ บั ตวั เอง (Individualization)

“7 Cs” skills of 21st century learning 1. Critical thinking and problem solving การคดิ วเิ คราะห์ คดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ และการแกป้ ญั หา 2. Creativity and innovation ความคดิ สรา้ งสรรค์ และพฒั นานวตั กรรม 3. Collaboration, teamwork and leadership ความรว่ มมอื การทางานเป็ นทมี และภาวะผนู้ า

4. Cross - cultural understanding ทกั ษะการเรยี นรขู้ า้ มวฒั นธรรม และสนใจตอ่ โลก 5. Communications, information and media literacy ทกั ษะในการสอื่ สาร ขอ้ มลู และรเู้ ทา่ ทนั สอ่ื 6. Computing and ICT literacy ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี 7. Career and learning self-reliance การงานอาชพี และการเรยี นรเู้ พอื่ พง่ึ พาตนเอง

พฒั นาเศรษฐกจิ ใหม่



ไทยแลนด์ 4.0 คอื อะไร? • “ไทยแลนด์ 4.0” เป็ นวสิ ยั ทศั นเ์ ชงิ นโยบายการ พฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศไทย หรอื โมเดลพฒั นา เศรษฐกจิ ของรฐั บาล ภายใตก้ ารนาของพลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา นายกรฐั มนตรแี ละหวั หนา้ คณะ รกั ษาความสงบแหง่ ชาติ (คสช.) ทเ่ี ขา้ มาบรหิ าร ประเทศ

วสิ ยั ทศั นไ์ ทยแลนด์ 4.0 คอื อะไร? • บนวสิ ยั ทศั นท์ ่ี วา่ “มน่ั คง มง่ั คง่ั และยง่ั ยนื ” ทมี่ ี ภารกจิ สาคญั ในการขบั เคลอ่ื นปฏริ ปู ประเทศดา้ นตา่ ง ๆ เพอ่ื ปรบั แก้ จดั ระบบ ปรบั ทศิ ทาง และสรา้ งหนทาง พฒั นาประเทศใหเ้ จรญิ สามารถรบั มอื กบั โอกาสและ ภยั คกุ คามแบบใหม่ ๆทเี่ ปลยี่ นแปลงอยา่ งเร็ว รนุ แรง ในศตวรรษท่ี 21 ได้

• ยคุ แรก ขอเรยี กวา่ “ประเทศไทย 1.0” เนน้ การเกษตร เป็ นหลกั เชน่ ผลติ และขาย พชื ไร่ พชื สวน สตั วเ์ ลย้ี ง เป็ น ตน้ • ยคุ ทสี่ อง ขอเรยี กวา่ “ประเทศไทย 2.0” เนน้ อตุ สาหกรรมแตเ่ ป็ นอตุ สาหกรรมเบา เชน่ การผลติ และ ขายรองเทา้ เครอ่ื งหนงั เครอื่ งดมื่ เครอ่ื งประดบั เครอื่ งเขยี น กระเป๋ า เครอ่ื งนงุ่ หม่ เป็ นตน้

•ยคุ ทส่ี าม ขอเรยี กวา่ ”ประเทศไทย 3.0” เป็ นอตุ สาหกรรมหนกั และการสง่ ออก เชน่ การผลติ และขาย สง่ ออกเหล็กกลา้ รถยนต์ กลนั่ นา มนั แยกกา๊ ซธรรมชาติ ปนู ซเี มนต์ เป็ นตน้ แต่ ไทย ในยคุ 1.0 2.0 และ 3.0 รายไดป้ ระเทศยงั อยใู่ น ระดบั ปานกลาง

•ยคุ ทสี่ ่ี ใหร้ หสั ใหมว่ า่ ”ประเทศไทย 4.0” ใหเ้ ป็ น เศรษฐกจิ ใหม่ (New Engines of Growth)มรี ายไดส้ งู โดยวางเป้ าหมายใหเ้ กดิ ภายใน 5-6 ปี นี้ คลา้ ย ๆ กบั การ วางภาพอนาคตทางเศรษฐกจิ ทช่ี ดั เจนของประเทศ ทพี่ ฒั นา เชน่ • สหรฐั อเมรกิ า “ A Nation of Makers ” • องั กฤษ “ Design of Innovation” • อนิ เดยี “ Made in India” หรอื “ • เกาหลใี ตท้ วี่ างโมเดลเศรษฐกจิ ในชอ่ื “ Creative Economy”

ยคุ ทส่ี ่ี (THAILAND 4.0) • มกี ารขบั เคลอื่ นดว้ ยนวตั กรรม(Innovation) • เนน้ การใชเ้ ทคโนโลย(ี Technology) • เนน้ การคดิ สรา้ งสรรค์ (Creativity) • SMART THAILAND (Smart Industry, Smart City, Smart People ฯลฯ )

• นวตั กรรม คอื สง่ิ ประดษิ ฐห์ รอื แนวดดิ ทเี่ กดิ ขนึ้ ใหมๆ่ ทมี่ ี ประโยชน์ มกี ารเผยแพรแ่ ละยอมรบั ในวงแคบๆ เทคโนโลย ี คอื สง่ิ ประดษิ ฐห์ รอื แนวคดิ ทเ่ี กดิ ขนึ้ นานแลว้ มปี ระโยชน์ มกี ารเผยแพรแ่ ละยอมรบั ในวงกวา้ งขวาง

การศกึ ษาไทย 4.0 1. สรา้ งงานวจิ ัยสนู่ วัตกรรม 2. ผลติ คนป้อนอตุ สาหรรม มที กั ษะ สมรรถนะ ชอ่ งทางประกอบอาชพี ตามกลมุ่ อตุ สาหกรรม 4.0 3. สรา้ งผนู ้ า ผปู ้ ระกอบการทสี่ ามารถแขง่ ขนั ได ้ 4. มที ักษะภาษาองั กฤษ 5. มที กั ษะดา้ น ICT 6. อา่ นเขา้ ใจ วเิ คราะหไ์ ด ้ 7. Active Learner 8. เรยี นรดู ้ ว้ ยตนเอง และมคี วามรปู ้ ระยกุ ตใ์ ชไ้ ด ้ 9. มที ักษะการคดิ วเิ คราะหแ์ ละคดิ สรา้ งสรรค์ 10. มจี ติ สาธารณะ มคี ณุ ธรรม จรรยาบรรณ ฯลฯ

ลกั ษณะพเิ ศษ Education 4.0 1. การเขา้ ถงึ เนอื้ หาความรมู ้ ลี กั ษณะเปิด Open Education Resource เขา้ ถงึ ไดง้ า่ ย 2. การศกึ ษายคุ ใหม่ Next Generation Education ตอ้ งเนน้ แสวงหาเรยี นรู ้ ไดเ้ อง อยา่ งทา้ ทาย สรา้ งสรรคค์ วามรใู ้ หม่ ตอ่ ยอดความรเู ้ ดมิ คดิ และประยุกตใ์ ช ้ ความรใู ้ หเ้ กดิ ประโยชนไ์ ด ้ เหมาะกบั ตนเอง สงั คม 3. การจัดการศกึ ษาทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ การทางานรว่ มกนั บนไซเบอร์ โดยใชข้ ดี ความสามารถ ของระบบเชอื่ มโยงทาง Physical กบั Cyber ทม่ี อี ปุ กรณ์ Smart สมัยใหมช่ ว่ ย เชน่ Smart phone, Tablet ฯลฯ

4. ใชเ้ ครอ่ื งมอื สมัยใหม่ เพอ่ื การแสวงหาเรยี นรจู ้ ากความรอู ้ ันมหมึ า บน Cloud โดยการใชเ้ ครอ่ื งมอื ท่ี Smart สมยั ใหมเ่ ชอ่ื มโยงสงิ่ ตา่ ง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั 5. สรา้ งกจิ กรรมใหม่ ๆ บน Cyber โดยมเี ครอ่ื งมอื ทางดจิ ทิ ลั (Digital) และเทคโนโลยเี กดิ ใหม่ ใช ้ IT เป็ นสงิ่ ทนุ่ แรง 6. ใชร้ ปู แบบเสมอื นจรงิ (Virtualization) ใหผ้ เู ้ รยี นใชร้ ปู แบบการใช ้ เชอื่ มตอ่ บน Cloud แบบเสมอื นจรงิ

“หอ้ งเรียน 4.0” คือหอ้ งเรียนทจี่ ะสร้างใหเ้ ดก็ ก้าวสู่ Thailand 4.0 โดยจะมุ่งใหเ้ ดก็ และเยาวชน มที กั ษะในศตวรรษท่ี 21 สามารถทางานร่วมกนั เป็ นทมี มที กั ษะของการเรียนรู้ ใฝ่ รู้ใฝ่ เรียน มีความสามารถ ในดา้ นการคิดสร้างสรรค์

1.1 ระบบขอ้ มลู สารสนเทศเครอื ขา่ ยเพอ่ื การเรยี นการสอน



ขอ้ มลู (Data) ขอ้ เท็จจรงิ หรอื เหตกุ ารณเ์ กย่ี วกบั สงิ่ ตา่ ง ๆ เชน่ คน สถานที่ สงิ่ ของ ตา่ ง ๆ ซง่ึ มกี ารเก็บรวบรวมเอาไว ้ และสามารถนาไปประมวลผล ดว้ ยเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ทงั้ นส้ี ามารถเรยี กเอามาใชป้ ระโยชนไ์ ดใ้ น ภายหลงั โดยขอ้ มลู อาจเป็ นตวั เลข สญั ลกั ษณ์ ตวั อกั ษร เสยี ง ภาพ ภาพเคลอื่ นไหว เป็ นตน้ Company Logo www.themegallery.com

สารสนเทศ (Information) • ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ทไ่ี ดผ้ า่ นการประมวลผลและสามารถนามาใช ้ ประโยชนต์ ามจดุ ประสงค์ ผา่ นการเลอื กสรรใหเ้ หมาะสมกบั การ ใชง้ านใหท้ นั เวลา • ทงั้ นขี้ อ้ มลู ทจี่ ะเป็ นสารสนเทศทด่ี นี ัน้ จะตอ้ งผา่ นกระบวนการที่ เรยี กวา่ การประมวลผล (Processing)ซง่ึ หมายถงึ การจัดการกบั ขอ้ มลู เพอ่ื ใหไ้ ดม้ าซง่ึ ขอ้ สรปุ อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ และสามารถ นาเอาขอ้ สรปุ หรอื สารสนเทศนัน้ ไปชว่ ยในการตดั สนิ ใจได ้ Company Logo

แผนภมู ิ ความสมั พนั ธข์ องขอ้ มลู และสารสนเทศ ข้อมูล ประมวลผล สารสนเทศ Company Logo www.themegallery.com

✓ ขอ้ มลู ตอ้ งครบถว้ นทงั้ ดา้ นปัจจัย กระบวนการ และผลผลติ ✓ ขอ้ มลู ตอ้ งครอบคลมุ ทกุ ผลผลติ ของทกุ หน่วยงานที่ ศธ.จ รับผดิ ชอบ เชน่ ผลสอบ NT, O-net ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น ผลการประเมนิ ภายนอก ผลสอบบาลสี นามหลวงทกุ ประโยค ผลสอบนักธรรม/ธรรมศกึ ษา ฯลฯ จาก สช. สพป. สพม. กศน. สอศ. สานักงานพระพทุ ธศาสนา ฯลฯ ✓ ขอ้ มลู ตอ้ งถกู ตอ้ งและเป็ นปัจจบุ นั

ขอ้ มลู ดา้ นครผู สู้ อน 1.ครสู อนเกง่ ในแตล่ ะสาระการเรยี นรู้ 2.ครทู มี่ จี ติ วญิ าณความเป็ นครู 3.ครดู เี ดน่ /ครแู หง่ ชาต/ิ ครเู จา้ ฟ้ ามหาจกั รฯี 4. ครผู มู้ คี ณุ ธรรมและมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม 5.ฯลฯ

นาขอ้ มลู ทไี่ ดม้ าจัดหมวดหมู่ แลว้ จัดทาระบบสารสนเทศเพอื่ 1. ใชใ้ นการวางแผนการพัฒนางานผา่ นเครอื ขา่ ยในจังหวดั 2. นาเสนอตอ่ ผบู ้ รหิ ารระดับสงู ระดบั จังหวดั ระดบั กรม กระทรวง 3. จดั ทาเป็ นเอกสารรายงานประจาปี 4. ประชาสมั พันธผ์ า่ นเวปไซท์ และ Social Network ตา่ ง ๆ 5. ฯลฯ

ขอครใู หป้ รบั เปลยี่ น 7 ประการ เนน้ แตว่ ชิ าการ เนน้ ชวี ติ จรงิ เนน้ แตเ่ นอ้ื หา เนน้ กระบวนการ เนน้ แตค่ วามจา เนน้ การคดิ เนน้ แตค่ วามคงที่ เนน้ ความเปลย่ี นแปลง เนน้ อดตี เนน้ อนาคต เนน้ แตต่ วั เอง เนน้ สงั คม เนน้ แตค่ วามงา่ ย เนน้ ความเป็ นเลศิ

1.2 ระบบขอ้ มลู สารสนเทศเครอื ขา่ ยเพอ่ื การบรหิ ารจดั การ

ระบบสารสนเทศเพอื่ การบรหิ ารจดั การ 1. ระบบประมวลผลรายการ (Transaction Processing System) 2. ระบบสารสนเทศเพอื่ การจดั การ (Management Information System) 3. ระบบสนบั สนนุ การตดั สนิ ใจ (Decision Support System) 4. ระบบสารสนเทศสานกั งาน (Office Information System) 5. อนื่ ๆ

1.3 ระบบขอ้ มลู สารสนเทศ เครอื ขา่ ยเพอื่ การวจิ ยั



1. สมัครเป็ นสมาชกิ ไดฟ้ รี ถา้ ไมใ่ ชเ้ กนิ 2 เดอื น หมดสมาชกิ ภาพ 2. สามารถดาวนโ์ หลดเอกสารวทิ ยานพิ นธท์ กุ ภาษา ไดท้ กุ เลม่ ทกุ มหาวทิ ยาลยั ทกุ ปีการศกึ ษา โดยใชแ้ ค่ Key word ในการสบื คน้ เทา่ นัน้ (สนับสนุนจากงบประมาณกระทรวงศกึ ษาธกิ าร)





2. การสรา้ งและพัฒนาเครอื ขา่ ย การจัดการศกึ ษาภายในจังหวดั

เครอื ขา่ ย : NETWORK

ความหมายของเครอื ขา่ ย ❑ เชอื่ มโยงของกลมุ่ คน หรอื กลมุ่ องคก์ รทสี่ มัครใจ ❑ แลกเปลยี่ นขา่ วสารรว่ มกนั หรอื ทากจิ กรรมรว่ มกนั ❑ จดั ระเบยี บโครงสรา้ งคนในเครอื ขา่ ยดว้ ยความเป็ นอสิ ระ ❑ เทา่ เทยี มกนั ภายใตพ้ น้ื ฐานความเคารพสทิ ธิ เชอื่ ถอื เออ้ื อาทร ซงึ่ กนั และกนั ❑ เป็ นกจิ กรรมเฉพาะกจิ ตามความจาเป็ น หรอื ตอ่ เนอื่ งระยะยาว

กรอบแนวคดิ ในการสรา้ ง/พฒั นาเครอื ขา่ ยทางการศกึ ษา WHAT WHERE WHEN • สรา้ งเครอื ขา่ ย ? • สรา้ งทไี่ หน • สรา้ งเครอื ขา่ ยเมอ่ื ไร • วัตถปุ ระสงค์ ? • เชอ่ื มโยงไปทใ่ี ด • พัฒนาเครอื ขา่ ยเมอื่ ไร 6 คำถำมหลักกบั กำรสร้ำงเครือข่ำยทำงกำรศกึ ษำ HOW TO WHO WHY • สรา้ งวธิ กี ารใด • ใครสรา้ ง • ทาไมตอ้ งสรา้ งเครอื ขา่ ย • บรหิ ารอยา่ งไร • ใครรับผดิ ชอบ • ทาไมตอ้ งพัฒนาฯ • พัฒนาอยา่ งไร • ใครพัฒนา • ใครสนับสนุน

องคป์ ระกอบของเครอื ขา่ ย 1. มกี ารรับรแู ้ ละมมุ มองทเ่ี หมอื นกนั (common perception) 2. การมวี สิ ยั ทัศนร์ ว่ มกนั (common vision) 3. มคี วามสนใจหรอื มผี ลประโยชนร์ ว่ มกนั (mutual interests/benefits) 4. การมสี ว่ นรว่ มของสมาชกิ ในเครอื ขา่ ย (stakeholders participation) 5. มกี ารเสรมิ สรา้ งซงึ่ กนั และกนั (complementary relationship) 6. มกี ารเกอื้ หนุนพงึ่ พากนั (interdependent) 7. มปี ฏสิ มั พันธก์ นั ในเชงิ แลกเปลย่ี น (interaction)

1.มกี ารรับรแู ้ ละมมุ มองทเ่ี หมอื นกนั (COMMOM PERCEPTION) ❖ มคี วามรสู ้ กึ นกึ คดิ และรับรเู ้ หมอื นกนั ถงึ เหตผุ ลเขา้ รว่ มเป็ นเครอื ขา่ ย เชน่ ประสบปัญหาเดยี วกนั หรอื ตอ้ งการความชว่ ยเหลอื เหมอื นกนั ❖ สง่ ผลใหส้ มาชกิ ของเครอื ขา่ ยเกดิ ความรสู ้ กึ ผกู พนั ในการดาเนนิ กจิ กรรมรว่ มกนั เพอ่ื แกป้ ัญหาหรอื ลดความเดอื ดรอ้ นทเ่ี กดิ ขนึ้ ❖การรับรรู ้ ว่ มกนั ถอื เป็ นหัวใจของเครอื ขา่ ยทที่ าใหเ้ ครอื ขา่ ยดาเนนิ ไป อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ❖สมาชกิ ของเครอื ขา่ ยอาจจะมคี วามเห็นทตี่ า่ งกนั ได ้ เพราะชว่ ยใหเ้ กดิ การสรา้ งสรรคใ์ นการทางาน

2.การมวี สิ ยั ทศั นร์ ว่ มกนั (COMMON VISSION) • สมาชกิ มองเห็นจดุ มงุ่ หมายในอนาคตทเ่ี ป็ นภาพเดยี วกนั • มกี ารรบั รแู้ ละเขา้ ใจไปในเป้ าหมายและทศิ ทางทจี่ ะเดนิ ทาง ไปดว้ ยกนั เพอ่ื ใหก้ ระบวนการขบั เคลอื่ นเกดิ พลงั มคี วาม เป็ นเอกภาพ • ถา้ สมาชกิ มวี สิ ยั ทศั นส์ ว่ นตวั อยแู่ ลว้ ก็ตอ้ งปรบั ให้ สอดคลอ้ งกบั วสิ ยั ทศั น์ ของเครอื ขา่ ยใหม้ ากทสี่ ดุ