Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการ การส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะด้านโค้ดิ้งสู่สังคมดิจิทัล ระดับมัธยมศึกษา

หลักสูตรฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการ การส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะด้านโค้ดิ้งสู่สังคมดิจิทัล ระดับมัธยมศึกษา

Published by Bhuvanai Onsaard, 2020-10-04 09:20:47

Description: หลักสูตรฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการ การส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะด้านโค้ดิ้งสู่สังคมดิจิทัล ระดับมัธยมศึกษา

Search

Read the Text Version

หลกั สูตรฝกƒ อบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร การสง‹ เสร�มการเรย� นรูŒ เพ�่อพัฒนาทกั ษะดาŒ นโคดŒ ดิ�ง ส‹ูสงั คมดจิ ท� ลั ในอนาคต ระดบั มธั ยมศกึ ษา

คำ� นำ� กร ทร งดจิ ิทลเพ่ื เ ร ฐกิจแล งคม โดย ำ� นกงำน ง่ เ รมิ เ ร ฐกจิ ดิจิทล (depa) มนี โยบำย ง่ เ รมิ แล นบ นุนใ เ้ ยำ ชนไทย นใจในด้ำน ิทยำกำรค มพิ เต ร์ เพ่ื กำรพฒนำทก พ้นื ฐำนด้ำนกำร ิเครำ ์ แกป้ ัญ ำ แล ใชค้ ำมคดิ รำ้ ง รรค์ ซ่ึงเป็นทก ทจี่ �ำเปน็ แล เป็นปร โยชน์ในกำรต่ ย ดไปถงึ กำรพฒนำทก ดจิ ิทลในร ดบ ูง ภำยใต้โครงกำร ง่ เ ริมแล รำ้ งค ำมเขม้ แขง็ เ ร ฐกจิ ภำยในปร เท (Big Rock) แล กร ทร ง กึ ำธกิ ำร ได้ดำ� เนิน กำรทบท น ลก ูตรแกนกลำงกำร ึก ำขน้ พ้ืนฐำน พทุ ธ กรำช 2551 แล ได้บรรจุ ำร ิทยำกำรค�ำน ณไ ้ใน ลก ตู ร แกนกลำงกำร กึ ำข้นพืน้ ฐำน ฉบบปรบปรุง 2560 ซงึ่ มคี ำม �ำคญต่ กำรพฒนำปร เท แล เปน็ รำกฐำน ำ� คญทจ่ี ช่ ยใ ้มนุ ย์มีค ำมคิดรเิ รมิ่ รำ้ ง รรค์ คดิ ย่ำงมีเ ตผุ ล เป็นร บบ ำมำรถ ิเครำ ป์ ัญ ำ รื ถำนกำรณไ์ ด้ ย่ำง ร บค บแล ถ่ถี ้ น ำมำรถน�ำไปใช้ในชี ติ ปร จำ� น ตล ดจนกำรใชเ้ ทคโนโลยที ี่เ มำ มในกำรบูรณำกำรกบค ำมรู้ ทำงดำ้ น ิทยำ ำ ตรแ์ ล คณิต ำ ตร์ เพื่ แกป้ ญั ำ รื พฒนำงำนด้ ยกร บ นกำร กแบบเชิง ิ กรรมที่น�ำไป ู่กำร คดิ ค้น ่ิงปร ดิ ฐ ์ รื ร้ำงน ตกรรมตำ่ ง ๆ ท่เี ื้ ปร โยชน์ต่ กำรดำ� รงชี ติ กำรใชท้ ก กำรคดิ เชงิ คำ� น ณ ค ำมร้ทู ำง ดำ้ น ทิ ยำกำรค มพิ เต ร์แล เทคโนโลย ี แล กำร ่ื ำรในกำรแก้ปัญ ำทพี่ บในชี ิตจริงได้ ย่ำงมีปร ิทธิภำพ ถำบนเทคโนโลยีพร จ มเกล้ำเจำ้ คุณท ำรลำดกร บง แล เครื ข่ำยม ำ ทิ ยำลยในพืน้ ท่ี 4 ภมู ภิ ำค ปร ก บ ด้ ย ม ำ ิทยำลยเชยี งใ ม ่ ม ำ ทิ ยำลยข นแก่น ม ำ ิทยำลย งขลำนครนิ ทร์ ทิ ยำเขตปตั ตำนี แล ม ำ ิทยำลย บรู พำ จงึ ดำ� เนินกำรพฒนำ “ ลก ตู รฝึก บรมเชงิ ปฏบิ ตกิ ำร ง่ เ รมิ กำรเรยี นรเู้ พ่ื พฒนำทก ดำ้ นโค้ดดง้ิ ู่ งคมดิจิทล ใน นำคต” เพื่ ร้ำงค ำมรูค้ ำมเข้ำใจ แล เพื่ เตรียมครผู ู้ น ทิ ยำกำรค�ำน ณโรงเรยี นเครื ข่ำยกำรเรียนร้ ู ใ เ้ ปน็ ผทู้ ี่ มีค ำมพร้ มในกำร กแบบกจิ กรรมกำรเรียนรู้ ทิ ยำกำรค มพิ เต ร์ (Computer Science) เพื่ ใ ผ้ เู้ รียนมที ก กำร แกป้ ญั ำ ยำ่ งเป็นขน้ ต น ใช้ ่ื เทคโนโลยใี นกำรพฒนำน ตกรรม แล ร มถงึ เป็นโ กำ ในกำรแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ใ ้เกดิ กำร ท้ นคิดในปร เด็นต่ำง ๆ ท่เี กย่ี ข้ ง นจ เป็นปร โยชน์ต่ กำร กแบบกำรเรยี นร้ขู ง ถำน ึก ำต่ ไป โดยได้ ดำ� เนินกำรในรปู แบบกำร บรมเชงิ ปฏิบตกิ ำร มกี ำรบรรยำยทฤ ฎี ค ำมร ู้ กำรฝึกปฏิบตจิ ำกกจิ กรรมต่ำง ๆ แล กำร ปร เมนิ คุณลก ณ แล พฤตกิ รรมข งผเู้ ขำ้ รบกำร บรม ลก ูตรฝึก บรมเชิงปฏิบติกำร ่งเ ริมกำรเรียนรู้เพ่ื พฒนำทก ด้ำนโค้ดด้ิง ู่ งคมดิจิทลใน นำคต ร ดบ มธยม ึก ำเล่มนี้ จึงเป็นเ ก ำรแน ทำงที่จ น�ำไป ู่กำรเ ริม ร้ำง กยภำพด้ำนกำรจดกำรเรียนรู้ใ ้แก่ผู้เข้ำรบกำร บรมได้บรรลุตำมเป้ำ มำย ข ข บคณุ ผมู้ ี ่ นเกีย่ ข้ งทใี่ ้ค ำมร่ มมื เป็น ย่ำงดียงิ่ โครงกำร ่งเ ริมกำรเรยี นรู้เพ่ื พฒนำทก ดำ้ นโค้ดด้งิ ู่ งคมดิจทิ ลใน นำคต มถิ ุนำยน 2562

สำรบญั ตอนท่ี 1: บทนำ� นำ้ ตอนที่ 2: 3 โครง ร้ำงและเนอื้ ำกำรอบรม 7 น่ ยท่ี 1 11 นโยบำย ลกเกีย่ กบ Computer Science แล กำรใช ้ Coding Thailand ำ� รบกำร กึ ำขน้ พ้ืนฐำน 20 น่ ยที ่ 2 กำร ึก ำ ิเครำ ์ ลก ูตรแล กำรเรียนกำร นกำร น ิทยำกำรคำ� น ณ 31 ตำม ลก ูตรแกนกลำงกำร ึก ำขน้ พนื้ ฐำน 98 น่ ยท่ี 3 กิจกรรมกำรเรียนรู้ ทิ ยำกำรค มพิ เต ร ์ (Computer Science) ร ดบมธยม ึก ำ น่ ยที ่ 4 กำรปร ยกุ ตใ์ ชก้ ิจกรรมกำรเรียนรู้ ทิ ยำกำรค มพิ เต ร์ (Computer Science) ร ดบมธยม ึก ำ

ตอนท่ี 1 บทน�ำ สภาพปญั หาและความจา� เป็น ปร เท ไทยก�ำ นดปร เด็นยุทธ ำ ตร์ชำติด้ำนกำรพฒนำแล เ ริม ร้ำง กยภำพทรพยำกรมนุ ย์ ใน ยทุ ธ ำ ตร์ชำติ 20 ป ี (พ. . 2561-2580) ไ ้ ่ำเปน็ กำรพฒนำ กยภำพคนตล ดช่ งชี ติ โดยช่ ง ยเรียน/ ยรุน่ ปลูกฝังค ำมเป็นคนดี มี นิ ย พฒนำทก ค ำม ำมำรถกำรเรียนรู้ที่ ดรบกบทก ใน ต รร ท ่ี 21 ตล ดจนกำรพฒนำทก กำรเรียนรทู้ ่ีเช่ื มต่ กบโลกกำรท�ำงำน ร มถึงทก ำชพี ที่ ดคล้ งกบค ำม ต้ งกำรข งปร เท มีทก ชี ติ ำมำรถ ยรู่ ่ มแล ท�ำงำนกบผู้ นื่ ไดภ้ ำยใต้ งคมท่ีเป็นพ ุ ฒนธรรม โดยกำรปรบ เปลย่ี นร บบกำรเรียนรู้ใ ้เ ้ื ต่ กำรพฒนำทก �ำ รบ ต รร ที ่ 21 กแบบกร บ นกำรเรยี นรใู้ นทุกร ดบชน้ ยำ่ ง เปน็ ร บบ ต้งแต่ร ดบปฐม ยจนถึง ุดม กึ ำทม่ี ่งุ เนน้ กำรใช้ฐำนค ำมรู้แล ร บบคิดในลก ณ ทิ ยำกำร ำท ิ ค ำม รทู้ ำง ทิ ยำ ำ ตรแ์ ล กำรตง้ คำ� ถำม ค ำมเข้ำใจแล ค ำม ำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี ค ำมรู้ทำง ิ กรรม ำ ตรแ์ ล กำรคดิ เพ่ื ำทำงแกป้ ัญ ำ ค ำมร้แู ล ทก ทำง ลิ ป แล ค ำมร้ดู ้ำนคณติ ำ ตร์ ร บบคดิ ข งเ ตผุ ลแล กำร ำค ำม มพนธ ์ กำรพฒนำร บบกำรเรยี นรู้เชงิ บรู ณำกำรทเี่ นน้ กำรลงมื ปฏิบตมิ ีกำร ท้ นค ำมคิด/ทบท นไตร่ตร ง กำร ร้ำงผู้เรียนใ ้ ำมำรถก�ำกบกำรเรยี นรขู้ งตนได ้ กำร ล่ ล มทก กำรเรียนร้แู ล ค ำมคดิ รำ้ ง รรค์ท่ผี ูเ้ รยี น ำมำรถน�ำ งค์ค ำมรู้ไปใชใ้ นกำร รำ้ งรำยได้ ลำยช่ งทำง ร มท้งกำรเรยี นรดู้ ำ้ น ิชำชีพแล ทก ชี ิต และเปล่ียน บทบำท ‘คร’ู ใ เ้ ปน็ ครูยุคใ ม่ โดยปรบบทบำทจำก “ครู น” เป็น “โค้ช” รื “ผู้ �ำน ยกำรกำรเรยี นร”ู้ ทำ� นำ้ ท่ี กร ต้นุ รำ้ งแรงบนดำลใจ แน นำ� ิธเี รียนรู้แล ิธีจดร เบยี บกำร ร้ำงค ำมร ู้ กแบบกจิ กรรมแล ร้ำงน ตกรรมกำร เรยี นร ู้ ใ ผ้ ู้เรียนมีบทบำทเปน็ นก จิ ยพฒนำกร บ นกำรเรยี นรเู้ พื่ ผล มฤทธ์ขิ งผ้เู รียน ร มทง้ ปรบร บบกำรผลติ แล พฒนำครตู ง้ แตก่ ำรดึงดดู คด รรผู้มีค ำม ำมำรถ งู ใ ้เขำ้ มำเปน็ ครูคณุ ภำพ มรี บบกำรพฒนำ กยภำพแล มรรถน ครู ย่ำงต่ เน่ื งคร บคลมุ ท้งเงนิ เดื น เ ้นทำง ำย ำชพี กำร นบ นุน ื่ กำร นแล รำ้ งเครื ขำ่ ยพฒนำครูใ ้มกี ำร แลกเปล่ียนเรยี นรู้ร ำ่ งกน ร มถงึ กำรพฒนำครูทมี่ คี ำมเช่ยี ชำญด้ำนกำร นมำเป็นผู้ รำ้ งครูรนุ่ ใ ม่ ย่ำงเปน็ ร บบ แล ดผลงำนจำกกำรพฒนำผู้เรยี นโดยตรง กร ทร ง ึก ำธกิ ำร ไดด้ �ำเนนิ กำรทบท น ลก ตู รแกนกลำงกำร ึก ำข้นพื้นฐำน พทุ ธ กรำช 2551 แล ได้ บรรจุ ำร ิทยำกำรค�ำน ณ ไ ใ้ น ลก ตู รแกนกลำงกำร ึก ำขน้ พืน้ ฐำน ฉบบปรบปรงุ 2560 ซง่ึ มีค ำม ำ� คญต่ กำร พฒนำปร เท แล เป็นรำกฐำน ำ� คญทจี่ ช่ ยใ ้มนุ ย์มคี ำมคิดรเิ ริ่ม ร้ำง รรค ์ คิด ย่ำงมีเ ตุผล เปน็ ร บบ ำมำรถ ิเครำ ์ปัญ ำ รื ถำนกำรณไ์ ด้ ย่ำงร บค บแล ถีถ่ ้ น ำมำรถน�ำไปใช้ในชี ติ ปร จำ� น ตล ดจนกำรใชเ้ ทคโนโลยี ที่เ มำ มในกำรบูรณำกำรกบค ำมรู้ทำงด้ำน ิทยำ ำ ตร์แล คณิต ำ ตร์ เพ่ื แก้ปัญ ำ รื พฒนำงำนด้ ย กร บ นกำร กแบบเชิง ิ กรรมท่นี �ำไป กู่ ำรคิดค้น งิ่ ปร ดิ ฐ ์ รื ร้ำงน ตกรรมต่ำง ๆ ท่ีเ ื้ ปร โยชน์ต่ กำรด�ำรง ชี ิต กำรใชท้ ก กำรคิดเชงิ ค�ำน ณ ค ำมรู้ทำงด้ำน ทิ ยำกำรค มพิ เต ร ์ แล เทคโนโลยีแล กำร ื่ ำรในกำรแก้ ปัญ ำทพ่ี บในชี ิตจรงิ ได้ ย่ำงมปี ร ิทธภิ ำพ Computer Science เปน็ รำกฐำน ำ� คญข งทุก ำชพี เมื่ เ ร ฐกิจเขำ้ ู่ยุคดจิ ทิ ล คนไทยจำ� เป็นต้ งมคี ำมรู้ ดำ้ นโลก มยใ ม ่ กำรเรยี น Computer Science ไมไ่ ด้เรยี นเขียนโปรแกรมเทำ่ น้น แต่เป็นกำรเรียนด้ ยกำรใช้ ม ง - 3 -

รำ้ ง รรคผ์ ลงำนในกำรทำ� งำน รจู้ กกำรทำ� งำนเปน็ ทมี แล มีปฏิ มพนธ์กบคน นื่ ๆ ด้ ย ซง่ึ Computer Science จ รำ้ งเด็กไทยท่ ปร เท ใ ้มีรำกฐำนค ำมคิด ทีแ่ ขง็ แกรง่ เพรำ ำ่ รำกฐำนค ำมคดิ ดำ้ น Computer Science ไม่ ำ่ จ ทำ� ำชีพ ไร เกีย่ ข้ งกบค มพิ เต ร์ รื ไมจ่ เปน็ รำกฐำนค ำมคิดที่ด ี เป็นกร บ นกำรค ำมคดิ ท่ีเปน็ รำกฐำน ำ� คญ ข งทกุ เรื่ ง ครูผู้ นจึงต้ งมีค ำมรู้ ค ำม ำมำรถในกำร กแบบ กำรจดกำรเรียนกำร น ิทยำกำรค มพิ เต ร์ เพ่ื พฒนำผเู้ รยี นใ ้บรรลเุ ป้ำ มำยตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้ได้ ยำ่ งมปี ร ิทธภิ ำพ ลก ูตรฝกึ บรมเชิงปฏบิ ตกิ ำร ง่ เ ริมกำรเรียนรู้เพ่ื พฒนำทก ดำ้ นโคด้ ดิ้ง ู่ งคมดจิ ทิ ลใน นำคต ไดพ้ ฒนำ จำกแน คดิ แล ทฤ ฎีท่ีเก่ีย ข้ งกบ Computer Science เพ่ื น งต่ เจตนำรมณ์ข ง ลก ูตรแกนกลำงกำร กึ ำขน้ พ้ืนฐำน พุทธ กรำช 2551 (ฉบบปรบปรงุ 2560) ท่ีผูเ้ ก่ีย ข้ งกบกำรจดกำรเรียนกำร น ต้ งมคี ำมรคู้ ำม ำมำรถใน กำร กแบบกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ทิ ยำกำรค มพิ เต ร ์ (Computer Science) เพื่ พฒนำใ ้ผเู้ รียนบรรลุเป้ำ มำยตำม มำตรฐำนกำรเรียนรไู้ ด้ ย่ำงมีปร ิทธิภำพ จงึ ก�ำ นด ลกกำรข ง ลก ตู ร ดงนี้ 1. ง่ เ ริมกำรคิดคน้ แล พฒนำ ลก ตู รกำรฝึก บรมกำรจดกำรเรียนรู้ ิทยำกำรค มพิ เต ร์ (Computer Science) ท่ี ำมำรถพฒนำ งคค์ ำมรู้ ค ำม ำมำรถ ในกำร กแบบกจิ กรรมกำรเรียนรูใ้ เ้ ต็มตำม กยภำพข ง แตล่ บุคคล 2. กร บ นกำรฝึก บรมมงุ่ เนน้ กำรปฏิบติกำรมำกก ่ำทฤ ฎี ่งเ ริม นบ นนุ กำร กแบบกจิ กรรม กำรเรียนกำร นใน ้ งเรยี นใ ถ้ ึงมื ครผู ู้ น ย่ำงแท้จรงิ 3. กำรฝกึ ตำม ลก ูตรฝกึ บรมมงุ่ เนน้ กำรมี ่ นร่ มข งผู้เขำ้ รบกำร บรม 4. กำร นบ นุน ด ุ ุปกรณ์เ ก ำร ดทุ ใ่ี ช้ปร ก บกำร บรมทีใ่ ชป้ ร ก บกำรเรียนกำร น จุดหมายของหลักสูตร 1. เพื่ ใ ผ้ เู้ ขำ้ รบกำร บรมตร นกถงึ ค ำม ำ� คญแล ค ำมจำ� เปน็ ข ง ทิ ยำกำรค มพิ เต ร ์ (Computer Science) แล CodingThailand 2. เพ่ื ใ ้ผ้เู ข้ำรบกำร บรม ำมำรถ เิ ครำ ม์ ำตรฐำนแล ต ช้ี ดท่ีเก่ีย ข้ งกบ ทิ ยำกำรค มพิ เต ร ์ (Computer Science) 3. เพ่ื ใ ผ้ ู้เขำ้ รบกำร บรมมที ก ในกำรจดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ิทยำกำรค มพิ เต ร ์ (Computer Science) 4. เพ่ื ใ ผ้ เู้ ขำ้ รบกำร บรม ำมำรถนำ� กจิ กรรมกำรเรียนรู้ ิทยำกำรค มพิ เต ร์ ไปปร ยุกตใ์ ช้ โครงสร้างของเนื้อหาหลักสูตร ลก ตู รฝึก บรมเชิงปฏบิ ติกำร ง่ เ รมิ กำรเรยี นร้เู พื่ พฒนำทก ดำ้ นโค้ดด้ิง ู่ งคมดิจิทลใน นำคต เป็น ลก ตู รฝกึ บรมร ย ้นทีม่ ุง่ พฒนำค ำมต้ งกำรจ�ำเป็นในค ำมรแู้ ล ทก เฉพำ เร่ื ง โดยเฉพำ ทก ดำ้ นกำรจด กิจกรรมกำรเรียนรู้ ทิ ยำกำรค มพิ เต ร์ (Computer Science) โดยปรบเปล่ียนร บบกำรเรยี นร้ใู ้เ ื้ ต่ กำรพฒนำ ทก ำ� รบ ต รร ที่ 21 จึงก�ำ นดร ย เ ลำในกำรฝึก บรม 3 น 18 ช่ โมง โดยแบง่ เนื้ ำข ง ลก ูตรฝึก บรม เปน็ 5 น่ ย กำรฝกึ บรม ดงน้ี - 4 -

ลำ� ดับท่ี น่ ยฝึกกำรอบรม จำ� น นชั่ โมง ภำคทฤ ฎี ภำคปฏิบัติ 1 นโยบำย ลกเกยี่ กบ Computer Science แล กำรใช ้ Coding Thailand ำ� รบกำร ึก ำขน้ พื้นฐำน 1.30 - 2 กำร ึก ำ เิ ครำ ์ ลก ูตรแล กำรเรยี นกำร น ทิ ยำกำรคำ� น ณ 1.30 - ตำม ลก ูตรแกนกลำงกำร กึ ำ ข้นพนื้ ฐำน 13.00 3 กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ทิ ยำกำรค มพิ เต ร ์ (Computer Science) ร ดบปร ถม กึ ำ - 2.00 3.00 15.00 4 กำรนำ� กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ิทยำกำรค มพิ เต รไ์ ปปร ยุกต์ใช้ ร มเ ลำทีใ่ ชใ้ นกำรฝกึ อบรม เปา้ หมายของหลักสตู ร ครผู ู้ นกลุม่ ำร กำรเรียนรู้ ทิ ยำ ำ ตร์ ำร เทคโนโลยี โรงเรียนเครื ขำ่ ย 2,000 โรงเรยี น กจิ กรรมการฝึกอบรม กำรจดกิจกรรม ลก ูตรฝกึ บรม ได้ปร ยุกตใ์ ช้ ลกกำรตำมทฤ ฎ ี Constructionism แล ทฤ ฎีกำรเรยี นรู้ ำ� รบผใู้ ญ่ มยใ ม่ (Modern Adult Learning Theory) แล Active Learning เป็นแน ทำงในกำรจดกิจกรรมใ ้ ดคล้ งกบจดุ มุ่ง มำยแล เนื้ ำ ำร ข ง ลก ูตรฝกึ บรม โดยมุ่งเน้นใ ผ้ เู้ ขำ้ รบกำรฝกึ บรมได้ รำ้ ง รรคช์ ้นิ งำน แล เกดิ กำรเรยี นร้เู พ่ื ร้ำง รรคด์ ้ ยปัญญำเปน็ แน ทำงในกำรจดกจิ กรรมกำรฝกึ บรม ดงนี้ 1. กิจกรรม ร้ำงค ำมเร้ำใจ กร ตุ้นใ ้เกิดเช่ื มโยงเข้ำ ู่ ิง่ ท่ีจ เรียนร ู้ กำรทด บค ำมรู้ก่ นเข้ำรบกำร บรม 2. กิจกรรมทบท นตร จ บพนื้ ฐำนค ำมร ู้ ร ดมค ำมคดิ ึก ำคน้ ค ำ้ 3. กิจกรรมกำรปฏบิ ตกิ ำร ใ ผ้ ูเ้ ขำ้ รบกำร บรมได้ปฏิบตชิ ิน้ งำนแลกเปลยี่ นค ำมคิดข้ ง ยทพ่ี บในขณ ลงมื ปฏบิ ติ 4. กิจกรรมกำรน�ำเ น ชน้ิ งำน ลงจำกปฏบิ ตชิ ิ้นงำน ิ้น ดุ แล้ โดยใช ้ Interactive Training ในกำรแลกเปลีย่ นเรยี น รู้ ซกถำม ร ่ำงผเู้ ขำ้ รบกำรฝึก บรม ผดู้ ำ� เนนิ กำรฝกึ บรม เพ่ื ใ เ้ กิดกำรเรยี นรู้ แล มกี ำรปร เมินชน้ิ งำนร่ ม กน 5. กิจกรรม รปุ ค ำมรทู้ ี่ได้จำกกำรปฏบิ ตทิ ง้ ในทำงทฤ ฎแี ล ทำงปฏบิ ติกำรจำกช้นิ งำนที่ไดน้ �ำเ น กำรทด บ ดำ้ นค ำมรู้ ลงกำรฝึก บรม - 5 -

ส่อื ประกอบการฝึกอบรม 1. เ ก ำรปร ก บกำรฝึก บรม 2. ใบงำน, ใบกจิ กรรม 3. ดุ โปรแกรม �ำเรจ็ รูปต่ำง ๆ 4. ดิ ที น์ 5. PowerPoint ปร ก บกำรบรรยำย เกณฑก์ ารผา่ นการอบรม ผเู้ ข้ำรบกำร บรมต้ งผำ่ น กำรปร เมนิ 5 ด้ำน ดงนี้ 1. ต้ งมีเ ลำเขำ้ รบกำร บรมไมน่ ้ ยก ่ำ ร้ ยล 80 ข งจำ� น นช่ โมงที่กำ� นดใน ลก ูตร 2. ผ่ำนกำรทด บด้ ยแบบทด บค ำมรู้ค ำมเขำ้ ใจเกย่ี กบ Computing Science ก่ นแล ลงกำร บรม ต้ ง ผำ่ นร้ ยล 70 ข งจ�ำน นข้ บ 3. ผลงำนกำร กแบบกิจกรรมกำรเรยี นรู ้ Computing Science ร ำ่ งกำร บรม 4. กำรนำ� ค ำมรูแ้ ล ทก ไปปร ยกุ ตใ์ ชใ้ นกำร กแบบกิจกรรมกำรเรียนร ู้ Computing Science ลงกำร บรม โดยพจิ ำรณำจำกแผนกำรจดกำรเรียนรู้ ในรำยงำนผลกำรดำ� เนนิ งำน 5. เข้ำร่ มกิจกรรมแลกเปลย่ี นเรียนรู้ ท่เี ครื ข่ำยม ำ ทิ ยำลยจดขึ้น เพื่ ร้ำงชมุ ชนแ ่งกำรเรียนรู้ทำง ิชำชีพ - 6 -

ตอนที่ 2 โครงสร้างและเนื้อหาการอบรม น่ ยท่ี 1 นโยบำย ลกเกย่ี กบ Computer Science แล กำรใช ้ Coding Thailand ำ� รบกำร กึ ำขน้ พื้นฐำน น่ ยที่ 2 กำร กึ ำ เิ ครำ ์ ลก ูตรแล กำรเรียนกำร น ิทยำกำรคำ� น ณ ตำม ลก ตู รแกนกลำงกำร กึ ำขน้ พ้ืนฐำน พ. .2551 น่ ยท่ี 3 กจิ กรรมกำรเรียนรู้ ทิ ยำกำรค มพิ เต ร ์ (Computer Science) ร ดบ มธยม ึก ำ น่ ยท่ี 4 กำรนำ� กิจกรรมกำรเรียนรู้ ทิ ยำกำรค มพิ เต ร์ไปปร ยุกต์ใช้ โครงกำร ่งเ ริมกำรเรียนรเู้ พื่ พฒนำทก ดำ้ นโค้ดด้งิ ู่ งคมดจิ ิทลใน นำคต เป็นกำร ง่ เ ริม นบ นนุ แล เพ่มิ พนู ค ำมรู ้ ค ำม ำมำรถแล ทก ในกำร กแบบกิจกรรมกำรเรียนร ู้ ใ แ้ ก่ผูเ้ ขำ้ รบกำร บรม ซง่ึ ผเู้ ข้ำรบกำร บรม ต้ งน�ำไปปร ยุกต์ใช้ใน น่ ยกำรเรียนรู้/แผนกำรจดกำรเรียนรู้ที่ก�ำ นดเป้ำ มำยกำรเรียนรู้ท่ีเน้นค ำม ำมำรถในกำร กแบบ ลก ริทมึ ทีใ่ ช้แน คดิ เชิงนำมธรรมเพื่ แก้ปญั ำ กำรปร ยกุ ตใ์ ชแ้ น คิดเชงิ คำ� น ณในกำรพฒนำโครงงำนที่มี กำรบรู ณำกำรกบ ชิ ำ ืน่ ย่ำง ร้ำง รรค์ แล เชื่ มโยงกบชี ิตจรงิ เพ่ื ใ ้ผเู้ รียนเกดิ มรรถน ำ� คญตำม ลก ูตรแกน กลำงกำร กึ ำข้นพ้ืนฐำน แล เปน็ ทก ข งคนใน ต รร ที ่ 21 ท่ีจำ� เปน็ ต้ งทำ� ใ ้เกิดกบผู้เรียนทกุ ร ดบตง้ แต่ปฐม ย จนถงึ กำร กึ ำข้นพ้นื ฐำน ในกำร บรมครง้ น้ี ใช้ ิธีกำร บรมเชงิ ปฏิบตกิ ำร โดยรูปแบบกำร บรมมีทง้ กำรบรรยำยใ ค้ ำมร ู้ กำรฝึกปฏิบติ กิจกรรม กำรทด บค ำมรขู้ งผู้เข้ำรบกำร บรมทง้ ก่ นแล ลงกำร บรม เพื่ เปน็ กำรปร เมินปร ิทธิภำพข งกำร บรม มที มี ิทยำกรค ยเป็นพ่เี ลยี้ งใ ค้ �ำปรกึ ำแล ชแ้ี น ในร ำ่ งกำรฝกึ ปฏบิ ตกิ จิ กรรม ร ย เ ลำกำร บรม 2 น โดยมีข บข่ำยโครง รำ้ งข งกำร บรม ดงนี้ - 7 -

โครงสร้าง โครงสร้ำงเนือ้ หำ โครง รำ้ งเนื้ ำปร ก บด้ ย ำร ำ� คญ จำ� น น 5 น่ ยกำรฝึก บรม ดงนี้ น่ ยที่ ชื่อเรือ่ ง ตั ถุประ งค์ บทบำทของผูเ้ ข้ำรบั กำรอบรม 1 นโยบำย ลักเก่ีย กบั Computer Science และกำรใช้ Coding Thailand ำ� รับกำร กึ ำขน้ั พ้ืนฐำน กร บแน คดิ Computer เพ่ื ใ ้ผู้เข้ำรบกำร บรมตร นก 1. ตร จ บค ำมรู้ Science แล กำรใช้ Coding ถึงค ำม �ำคญ แล ค ำมจำ� เป็น 2. ฟงั กำรบรรยำย/ดูคลิป ดิ โี Thailand �ำ รบกำร กึ ำข้น แล มคี ำมรคู้ ำมเขำ้ ใจเกีย่ กบ 3. กึ ำเ ก ำรเ ริมค ำมร้ ู พื้นฐำน ทิ ยำกำรค มพิ เต ร์ (Computer Science) 2 กำร กึ ำ ิเครำะ ์ ลัก ูตรและกำรจดั กำรเรยี นกำร อน ทิ ยำกำรค�ำน ณ ตำม ลกั ูตรแกนกลำง กำร กึ ำขน้ั พ้ืนฐำน พ. .2551 กำร ึก ำ เิ ครำ ์ ลก ูตร เพื่ ใ ผ้ ู้เข้ำรบกำร บรม ำมำรถ 1. ฟงั กำรบรรยำย/ดคู ลิป ิดีโ แล กำรจดกำรเรยี นกำร น เิ ครำ ม์ ำตรฐำนแล ต ชี้ ด 2. กึ ำเ ก ำรเ ริมค ำมร ู้ ิทยำกำรคำ� น ณตำม ลก ูตร ทีเ่ กย่ี ข้ งกบ ทิ ยำกำร แกนกลำงกำร กึ ำขน้ พืน้ ฐำน ค มพิ เต ร ์ (Computer พ. . 2551 Science) แล Coding 3 กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ิทยำกำรคอมพิ เตอร์ (Computer Science) ระดบั มัธยม ึก ำ กิจกรรมกำรเรียนรู้ ิทยำกำร เพื่ ใ ้ผเู้ ขำ้ รบกำร บรมมที ก 1. ฝกึ ปฏบิ ตใิ บกิจกรรม ค มพิ เต ร์ (Computer ในกำรจดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ 2. นำ� เ น ผลงำนแล ท้ นผล Science) ร ดบมธยม ึก ำ ิทยำกำรค มพิ เต ร ์ (Comput- er Science) ร ดบมธยม ึก ำ 4 กำรน�ำกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ทิ ยำกำรคอมพิ เตอรไ์ ปประยกุ ต์ใช้ กำรน�ำกิจกรรมกำรเรยี นรู้ เพื่ ใ ้ผูเ้ ข้ำรบกำร บรมน�ำ 1. ฝึกปฏิบตใิ บกิจกรรม ทิ ยำกำรค มพิ เต ร ์ ค ำมรแู้ ล ทก กำรจดกิจกรรม 2. น�ำเ น ผลงำน ท้ นผล (Computer Science) ไป กำรเรยี นรเู้ กี่ย กบ ทิ ยำกำร ปร ยุกต์ใช้ ค มพิ เต ร์ (Computer Science) ไปปร ยุกตใ์ ชใ้ นกำร เรียนกำร นได้ -8-

ตารางการอบรมและรายละเอยี ด กำ� หนดกำรงำนอบรม โครงกำรสง่ เสรมิ กำรเรยี นร้เู พอ่ื พัฒนำทกั ษะดำ้ นโคด้ ดงิ้ สู่สงั คมดจิ ิทลั ในอนำคต ระดบั มัธยมศกึ ษำ ันท่ี 1 08:00 – 08:30 น. ลงท เบียน รบเ ก ำรปร ก บกำร บรม 08:30 – 09:00 น. 09:00 – 10:30 น. Pre Test - ชี้แจงรำยล เ ียดกำรดำ� เนินงำนโครงกำร 10:30 – 10:45 น. - นโยบำย ลกเก่ีย กบ Computer Science แล กำรใช ้ Coding Thailand �ำ รบกำร 10:45 – 12:00 น. กึ ำขน้ พน้ื ฐำน 12:00 – 13:00 น. พกรบปร ทำน ำ ำร ำ่ งแล เคร่ื งดม่ื 13:00 – 14:30 น. กำร ึก ำ เิ ครำ ์ ลก ตู รแล กำรเรียนกำร น ิทยำกำรค�ำน ณ ตำม ลก ตู รแกนกลำง กำร กึ ำขน้ พนื้ ฐำน พ. .2551 14:30 – 14:45 น. พกรบปร ทำน ำ ำรกลำง น 14:45 – 18:00 น. กำรจดกิจกรรมกำรเรยี นรรู้ ดบมธยม กึ ำ ปร เภทกจิ กรรม Unplugged แล Plug-in - กิจกรรม Move it, Move it - กจิ กรรม Computational Thinking - กิจกรรม Coding Thailand 18:00 – 19:00 น. 19:00 – 21:00 น. พกรบปร ทำน ำ ำร ำ่ งแล เคร่ื งด่ืม กำรจดกิจกรรมกำรเรียนรรู้ ดบมธยม กึ ำ ปร เภทกจิ กรรม plug-in - กิจกรรม micro:bit Mission - กำรจดกำรเรยี นรู้โดยใชโ้ ครงงำนเปน็ ฐำน PBL (Project Based Learning Using CT) - นำ� เ น ข้ โครงงำน (กำ� นดปร เภทใ ้ เช่น เก ตร คำ้ ขำย ง่ิ แ ดล้ ม ท่ งเทีย่ โดยมีกำรร บุต บง่ ชี)้ พกรบปร ทำน ำ ำรเยน็ ปฏบิ ตโิ ครงงำน -9-

นั ที่ 2 08.00 – 08.30 น. ลงท เบียน 08.30 – 10.30 น. ปฏบิ ตกิ ำรโครงงำน (ต่ ) 10.30 – 10.45 น. พกรบปร ทำน ำ ำร ำ่ งแล เครื่ งดื่ม 10.45 – 12.00 น. น�ำเ น โครงงำน (ทกุ กล่มุ ) 12.00 – 13.00 น. พกรบปร ทำน ำ ำรกลำง น 13.00 – 14.30 น. กำรปร ยุกตใ์ ชก้ ิจกรรมกำรเรยี นรู้ 14.30 – 14.45 น. พกรบปร ทำน ำ ำร ่ำงแล เคร่ื งดม่ื 14.45 – 15.45น. นำ� เ น แล แลกเปล่ยี นเรยี นร ู้ 15.45 – 16.00 น. Post Test มำยเ ตุ ก�ำ นดกำร ำจมกี ำรเปลยี่ นแปลงตำมค ำมเ มำ ม - 10 -

หนว่ ยที่ 1 นโยบายหลกั เก่ียวกับ Computer Science และการใช้ Coding Thailand สา� หรบั การศึกษาข้นั พื้นฐาน วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ื ใ ผ้ เู้ ขำ้ รบกำร บรมตร นกถงึ ค ำม ำ� คญแล ค ำมจำ� เปน็ ข ง ทิ ยำกำรค มพิ เต ร ์ (Computer Science) แล Coding Thailand 2. เพ่ื ใ ผ้ เู้ ขำ้ รบกำร บรมมีค ำมรูค้ ำมเขำ้ ใจเกยี่ กบ ทิ ยำกำรค มพิ เต ร์ (Computer Science) แล Coding Thailand เน้อื หา 1. กำรปร กนคุณภำพกำรเรยี นรขู้ งผเู้ รยี น 2. ทก กำรเรียนรูใ้ น ต รร ที ่ 21 3. ิทยำกำรค มพิ เต ร ์ (Computer Science) แล กำร Coding กิจกรรม - ทด บก่ นกำร บรม (10 นำท)ี - ฟงั บรรยำย (1 ช่ โมง 30 นำที ) รูปแบบกจิ กรรม - ฟงั บรรยำย/ชมคลปิ ิดีโ - 11 -

หลกั สูตรและกิจกรรมหน่วยท่ี 1 เรื่อง นโยบายหลักเก่ยี วกบั Computer Science และ การใช้ Coding Thailand สา� หรบั การศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน 1. สาระสา� คัญ Computer Science เป็นรำกฐำน �ำคญข งทุก ำชพี เม่ื เ ร ฐกจิ เข้ำ ู่ยุคดจิ ทิ ล คนไทยจ�ำเปน็ ต้ งมคี ำมรู้ ด้ำนโลก มยใ ม่ กำรเรียน Computer Science ไม่ได้เรียนเขียนโปรแกรมเท่ำน้น แต่ต้ งใช้กำรคิดเชิงค�ำน ณ (Computational Thinking) ซึ่งเปน็ ิธีคิดแล แกป้ ญั ำเชิง ิเครำ ์ ำมำรถใช้จินตนำกำรม งปญั ำด้ ยค ำมคิดเชิง นำมธรรม ซ่ึงจ ท�ำใ ้เ ็นแน ทำงในกำรแก้ปัญ ำ ย่ำงเป็นขน้ ต นแล มีลำ� ดบ ธิ ีคดิ โดย ิธคี ิดแบบ ทิ ยำกำรค�ำน ณน้ ี ไมใ่ ชเ่ พยี งแคก่ ำรเขียนโปรแกรม เพรำ ภำ ำโปรแกรมมกี ำรเปลีย่ นแปลงตล ดเ ลำ แตจ่ ดุ ปร งคท์ ี่ ำ� คญก ำ่ คื กำร นใ เ้ ด็กคดิ แล เช่ื มโยงปญั ำตำ่ ง ๆ เปน็ จน ำมำรถแก้ปญั ำได้ ยำ่ งเปน็ ร บบ แล น�ำมำ Coding คื กำรเขียน โค้ดด้ ยภำ ำค มพิ เต ร์เพื่ น�ำไปพฒนำน ตกรรมในกำรแก้ปญั ำ รื น ตกรรม ร้ำง รรค์ ื่นๆ 2. วัตถุประสงค์ 1. เพ่ื ใ ้ผเู้ ขำ้ รบกำร บรมตร นกถึงค ำม ำ� คญแล ค ำมจ�ำเปน็ ข ง ทิ ยำกำรค มพิ เต ร์ (Computer Science) แล Coding 2. เพื่ ใ ผ้ ้เู ขำ้ รบกำร บรมมคี ำมร้คู ำมเข้ำใจเก่ยี กบ ิทยำกำรค มพิ เต ร์ (Computer Science) แล Coding 3. รปู แบบการจัดกจิ กรรม ระยะเ ลำ อ่ื และเอก ำรประกอบ 10 นำที Kahoot - ฟังบรรยำย/ชมคลิป ิดีโ 1 ช่ โมง 30 นำที - ปฏบิ ติกจิ กรรม PowerPoint/VDO Clip 4. ข้นั ตอนการจัดกิจกรรม ข้นั ตอน 1. ทด บก่ นกำร บรม 2. ฟังบรรยำย - 12 -

สือ่ รายการที่ 1/1 เอกสารเสรมิ ความรู้ เรอ่ื งนโยบายหลกั เกี่ยวกับ Computer Science และการใช้ Coding Thailand สา� หรับการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน งคมในยคุ นเ้ี ปน็ งคมยุคดิจทิ ลท่ี ื่ แล เทคโนโลยีมี ิทธิพลต่ กำรด�ำเนินชี ติ โลกถูกย่ ใ ้เลก็ ลงด้ ยเทคโนโลยี กำรตดิ ต่ ื่ ำร กำร ืบคน้ ข้ มลู ต่ำง ๆ เป็นไป ย่ำง ด กแล ร ดเร็ นน้ ่งผลต่ ธิ คี ดิ ต้งแต่ ยเด็กจนถงึ คน ูง ย กำร ยู่ ยำ่ งคนร่ ม มยในยุคดจิ ทิ ลต้ งมีกำรปรบต ย่ำงไร เพื่ ใ ้มีปร ทิ ธภิ ำพแล เทำ่ ทนเทคโนโลย ี งคมที่มีกำร เปลีย่ นแปลงตล ดเ ลำน้น ต้ งพฒนำค ำมร ู้ กำรคดิ เิ ครำ ข์ ้ มลู ขำ่ ำรแล กำรแ ดงค ำมคดิ เ ็นตำ่ ง ๆ ในโลก นไลน ์ เพ่ื นำ� มำ ูก่ ำรใช้ข้ มูล ำร นเท เพื่ กำรตด ินใจได้ ย่ำงถูกต้ ง แล เทำ่ ทน ถำนกำรณต์ ่ กำรเติบโตข ง งคม โลกธุรกิจแล บริกำร นไลนท์ เ่ี ปลย่ี นแปลง ตล ดจนรปู แบบกำร กึ ำท่ีเปลีย่ นเป็นกำรเรียนรู้ตล ดชี ติ กำร บริกำรทำงดำ้ น ขุ ภำพทง้ จำกภำคเ กชนแล ภำครฐ กำรเพม่ิ โ กำ ด้ำนกำรปร ก บ ำชีพต่ำง ๆ กำรปรบต เพ่ื เปน็ คนร่ ม มยในยุคดจิ ทิ ลร มถึงกำรปรบเปล่ยี นค ำมคดิ ใ ้เท่ำทน ย่ำง รำ้ ง รรค์ ผ มผ ำนกำรย มรบค ำมแตกต่ำงข ง แต่ล บคุ คลแล ค ำมแตกต่ำงข ง ฒนธรรมทมี่ คี ำม ลำก ลำยภำยใตแ้ น คดิ น กกร บ ยำ่ ง รำ้ ง รรค ์ ในฐำน คน ไทยค รรก ำค ำมเป็นต ตนด้ ย ตปิ ัญญำ ไมเ่ ช่ื รื เปล่ียนแปลง ย่ำงไร้เ ตุผล กำรแ ดงเ กลก ณข์ งตนเ งในเชงิ เพ่ื พฒนำ ต่ ย ด แล กำร ่ื ำรท่มี ีปร ิทธิภำพใน งคมภำยใต้ค ำมแตกต่ำงทำงค ำมคดิ จำกคน ่นื ๆ แตย่ งคงเ ลื พ้นื ทข่ี งตนเ งเพื่ ใช้ชี ิต ย่ำง ร้ำง รรค์ ยำ่ งคนร่ ม มยในยุคดจิ ิทล Computer Science เปน็ รากฐานส�าคัญของทกุ อาชีพ เม่ื เ ร ฐกิจเข้ำ ู่ยคุ ดิจิทลคนไทยจำ� เป็นต้ งมคี ำมรดู้ ำ้ นโลก มยใ ม ่ กำรเรยี น Computer Science ไมไ่ ด้ เรยี นเขยี นโปรแกรมเท่ำน้น แต่เปน็ กำรเรียนด้ ยกำรใช้ ม ง รำ้ ง รรคผ์ ลงำนในกำรท�ำงำน รจู้ กกำรท�ำงำนเปน็ ทมี แล มี ปฏิ มพนธก์ บคน ื่น ๆ ด้ ย ซึ่ง Computer Science จ ร้ำงเดก็ ไทยท่ ปร เท ใ ม้ รี ำกฐำนค ำมคดิ ด้ำน Computer Science ทีแ่ ขง็ แกร่ง เพรำ ำ่ รำกฐำนค ำมคดิ ดำ้ น Computer Science ไม่ ่ำจ ท�ำ ำชพี ไร เกี่ย ข้ งกบค มพิ เต ร์ รื ไม่จ เปน็ รำกฐำนค ำมคดิ ทด่ี ี เป็นกร บ นกำรค ำมคิดทเี่ ปน็ รำกฐำน �ำคญข งทกุ เรื่ ง แนวคดิ เชิงค�านวณเป็นทักษะทีจ่ �าเป็นในศตวรรษท่ี 21 เดก็ ทกุ คนค รเรียน Computer Science ก็เพรำ ในโลกนี้เรำถกู ล้ มร บด้ ยเทคโนโลยีมำกมำย ค มพิ เต ร์ เป็นรำกฐำนข งร บบกำร ึก ำ เปน็ ง่ิ ทค่ี รูแล นกเรียนต้ งใช ้ แล เ ตผุ ลที่ �ำคญคื เรำจ ใ ้เด็กเรยี นรู้ ำ่ จ “ รำ้ ง” ยำ่ งไร เพรำ ำกเคำ้ เรียนรทู้ ่ีจ ร้ำง ก็จ รำ้ ง ิง่ ต่ำง ๆ ได้มำกมำย แล เ ตผุ ลที่ ำ� คญมำก ๆ คื เมื่ ตลำดแรงงำน เปลย่ี นแปลงไปมีกำรคำดกำรณ์ ำ่ กี 15 ปี ครง่ึ นง่ึ ข งตลำดแรงงำนจ ถกู แทนทดี่ ้ ยค มพิ เต ร์ ดงนน้ เรำจ ต้ ง เตรยี มเด็กใ ้พร้ ม กู่ ำรทำ� งำนทกุ ๆ ปีเรำจ เ ็นได้ ำ่ Computer Science เพิ่มค ำม �ำคญข้นึ เรื่ ย ๆ กี 5-10 ป ี คำด ำ่ งำนตำ่ ง ๆ จ ต้ งใช ้ Computer Science มำกขน้ึ แล ่ิงที่ �ำคญท่ี ดุ ก็คื เม่ื นกเรียนเรียนจบไปจ ได้รบกำรเตรยี ม พร้ ม มที ก ดีพ ทจ่ี ไปท�ำงำนด้ำนดจิ ิทล - 13 -

ปร เท ไทยมกี ำรปรบเปลย่ี น ำร กำรเรยี นร้ใู นกลุ่ม ำร กำรเรียนรู้ ิทยำ ำ ตร ์ โดยเพม่ิ ทิ ยำกำรค�ำน ณเขำ้ มำ โดยมขี บเขตข งกำรเรยี นกำร น ิชำ ิทยำกำรค�ำน ณ ่ำเน้นใน 3 งค์ค ำมรู้ ดงนี้ • กำรคดิ เชิงค�ำน ณ (Computational Thinking) เป็น ธิ ีคิดแล แกป้ ญั ำเชิง ิเครำ ์ ำมำรถใช้จนิ ตนำกำร ม งปญั ำด้ ยค ำมคดิ เชงิ นำมธรรม ซึง่ จ ทำ� ใ ้เ น็ แน ทำงในกำรแกป้ ญั ำ ย่ำงเป็นขน้ ต นแล มลี ำ� ดบ ธิ คี ดิ โดย ิธีคิดแบบ ทิ ยำกำรค�ำน ณน ี้ ไม่ใชเ่ พยี งแคก่ ำรเขียนโปรแกรม เพรำ ภำ ำโปรแกรมมกี ำรเปลยี่ นแปลงตล ด เ ลำ แตจ่ ุดปร งค์ที่ �ำคญก ่ำคื กำร นใ ้เด็กคดิ แล เชื่ มโยงปัญ ำต่ำง ๆ เป็น จน ำมำรถแก้ปัญ ำได้ ย่ำง เป็นร บบ • พ้ืนฐำนค ำมรดู้ ้ำนเทคโนโลยดี จิ ิทัล (Digital Technology) เปน็ กำร นใ ร้ ู้จกเทคนคิ ธิ กี ำรต่ำง ๆ เกย่ี กบ เทคโนโลยีดจิ ทิ ล โดยเฉพำ ในยคุ 4.0 จ เน้นในด้ำนร บบ ตโนมต ิ (Automation) ท่ี ยใู่ นชี ิตปร จำ� น ไม่ ่ำจ เป็นด้ำนกำรเก ตร ตุ ำ กรรม รื คมนำคม ใ เ้ ด็กได้เรยี นรู้ ยำ่ งร บด้ำน แล ปร ยกุ ต์ รำ้ ง รรค์งำนได้ ย่ำง เ มำ ม • พืน้ ฐำนกำรรู้เท่ำทัน อ่ื และข่ำ ำร (Media and Information Literacy) เป็นทก เกย่ี กบกำรรเู้ ท่ำทน ่ื แล เทคโนโลยีดจิ ิทล แยกแย ได้ ่ำข้ มูลใดเปน็ ค ำมจริง รื ค ำมคิดเ ็น โดยเฉพำ ข้ มลู บน ื่ งคม นไลน ์ น กจำกนน้ ยงเปน็ เร่ื งข งค ำมปล ดภยในโลกไซเบ ร ์ รูก้ ฎ มำยแล ลขิ ิทธิท์ ำงปญั ญำต่ำง ๆ เพื่ ใ เ้ ดก็ ใช้ ช่ งทำงน้ีได้ ย่ำงรู้เทำ่ ทนแล ปล ดภย Coding คืออะไร Coding คื กำรเขยี นโค้ดด้ ยภำ ำค มพิ เต ร์ เชน่ BASIC C, Pascal, Assemble เป็นตน้ ,0ซึง่ เปน็ ข้นต น น่งึ ข งกำรเขยี นโปรแกรม เรำเรียกโคด้ ทไี่ ด้ ำ่ Source code แล เมื่ เรำท�ำกำร Coding เเล้ เรำจ น�ำเ ำโคด้ ทไ่ี ด้ไป ทด บแล ปร ม ลผล เพ่ื ดู ่ำโปรแกรมทีไ่ ด้จำกกำร Coding นเี้ ป็นไปตำมทเ่ี รำต้ งกำร รื ไม่ ก่ นจ นำ� โปรแกรมท่ี เรียบร้ ยแล้ ไปปร ยกุ ตใ์ ชง้ ำนต่ ไป กำรโคด้ ดง้ิ คื ่ น นึ่งข งกร บ นกำรเขียนโปรแกรม เรำเรียกข้นต นนี้ ำ่ เป็นกำรท�ำโปรแกรมขน้ึ จริง (Imple- mentation of the Algorithm) โดยใช้ภำ ำโปรแกรมใด ๆ ท่เี มำ มกบงำนข งเรำ ในขน้ ต นข งกำรโค้ดด้ิงน้ี ิ่งท่ีต้ งทำ� ก็คื เขียนโคด้ ขน้ึ มำ โดย งิ ตำมแผนกำรแก้ปญั ำ รื แผนกำรเขยี น โปรแกรม โดยเขยี น ิง่ เ ล่ำน้น กมำโดยใชค้ ำ� ่งตำมท่ภี ำ ำโปรแกรมน้น ๆ ร บุไ ้ ผลลพธ์ทไ่ี ดจ้ ำกข้นต นนเ้ี รำเรียก ่ำ Source code รื Source file ลงจำกน้นต้ งน�ำ Source code ทไ่ี ด้ไปเข้ำ ูก่ ร บ นกำรถดไป ซ่ึงก็คื กำรท�ำใ ้เปน็ โปรแกรมท�ำงำนได ้ ลำยๆ คน ำจจ เขำ้ ใจ ่ำโคด้ ดิง้ มนคื ท้ง มดข งกำรเขยี นโปรแกรมแล้ แตท่ แ่ี ทจ้ ริง ำ ตรแ์ ง่ กำรเขียนโปรแกรม ต้ งปร ก บด้ ยกร บ นกำรตน้ แตต่ ้นข งปญั ำ นำ� ไป ่กู ำรคิด ิธแี ก้ไข เขียนโปรแกรม กมำ แล น�ำไปใช้จริง Coding Thailand เป็นโครงกำรพฒนำแพลตฟ ร์ม นไลนร์ ดบปร เท โดย �ำนกงำน ่งเ รมิ เ ร ฐกิจดิจทิ ล (depa) แล กร ทร งดจิ ิทลเพื่ เ ร ฐกจิ แล งคม ซง่ึ เป็น นึ่งในโครงกำร ง่ เ รมิ แล รำ้ งค ำมเข้มแขง็ เ ร ฐกิจ ภำยในปร เท (Big Rock) โดยพฒนำแพลตฟ ร์ม ใ เ้ ปน็ แ ลง่ เรยี นรู้ ทิ ยำกำรค มพิ เต ร์ในรปู แบบ นไลน ์ โดยร่ ม - 14 -

มื กบ code.org งค์กรไม่แ ง ำกำ� ไรในกำร ง่ เ รมิ ค ำม นใจในดำ้ น ิทยำกำรค มพิ เต ร์ เพ่ื กำรพฒนำทก พืน้ ฐำนในกำร ิเครำ ์ แก้ปญั ำ แล ใชค้ ำมคดิ ร้ำง รรค ์ ซึง่ เป็นทก ทีจ่ ำ� เปน็ แล เป็นปร โยชน์ในกำรต่ ย ด ไปถึงกำรพฒนำทก ดจิ ิทลในร ดบ ูง Coding Literacy เม่ื โลกเข้ำ ่ยู ุคดจิ ิทล ีก น่ ย นุ่ ยนตแ์ ล AI ก็ยิง่ จ มำเป็น ่ น �ำคญข งโลกธรุ กจิ แล กำรผลติ ดงน้น ‘ภำ ำ’ �ำคญในโลกยุคต่ ไปจึงไม่ใช่ภำ ำท่ีใช้ ่ื ำรร ่ำงมนุ ย์ แต่เป็นภำ ำท่ีเรำใช้ ่ื ำรเข้ำใจแล จดกำรกบร บบ ค มพิ เต ร์ ทก ค ำมเข้ำใจเรื่ งโคด้ แล ร บบกำรเขียนโค้ด (Coding) จึงเป็นทก �ำคญ ค ำมเข้ำใจเร่ื ง Code ก�ำลงจ กลำยเป็น ่ น นึ่งข งกำรเรยี นร้ภู ำ ำ (Literacy) เปน็ ทก ทไ่ี มค่ รจ ยแู่ ค่ในภำค ิชำค มพิ เต ร ์ แต่คื ทก ำ� รบทกุ คน การจดั การเรียนการสอน Computer Science และ Coding จำกกำร ึก ำพฒนำกำรข งเดก็ พบ ่ำ เดก็ ปร ถมตน้ ค รเนน้ ใ ้ได้ มผ กบข งจรงิ ในธรรมชำติ ไม่ ่ำจ เปน็ โต๊ เก้ำ ้ี ตน้ ไม ้ ใบ ญำ้ เ ลำท่ี ยู่กบ น้ำกร ดำ ค รจ น้ ย เ ลำ ยู่ นำ้ จ ค มพิ เต รค์ รจ น้ ย รื ไมม่ เี ลย แตค่ ร ยู่ กบเพ่ื นมนุ ย ์ ดงนน้ กจิ กรรมท่ี นใ เ้ ด็ก ป.1 ได้ล งเขยี นโปรแกรม ต้ งใ ม้ กี ำรเคล่ื นไ ทำงกำยภำพ เชน่ กำรเดนิ ไปซื้ ไ กรมี รื กแบบพื้น ้ งเรยี นใ ้เ มื นใน นง ื แล ใ เ้ ด็กเขยี นโปรแกรม เดนิ ตำมด้ ยบตรคำ� ่ง เด็ก ๆ จ รู้ ่ำ ่งิ ที่เขำเขยี นลงกร ดำ มีผลจริงแล จบต้ งได ้ รื ท่ีเรยี ก ่ำเรียนรู้แบบ Unplugged พ ต่ มำ เด็กชน้ ป.4 จ ได้เริ่ม ยู่ น้ำค มพิ เต ร์บ้ำง กจ็ เริ่มใ ้ Plug In โดยที่โปรแกรมเป็น Bฺ lock-based Programming จ มีบล็ กบตรคำ� ่งท่ี เปน็ ี เ ำเมำ้ ล์ ำกบล็ กมำต่ กนได ้ ง่ ต ล ครใ เ้ ดนิ ตำม เด็กก็จ รู้ ึก ่ำนี้เป็นภำคต่ ข ง ิง่ ที่เขำจบต้ ง แล มนแค่ ขึ้นไป ยู่บนจ เท่ำน้นเ ง โฟก ยู่ทีก่ ำรคิดไมไ่ ด้โฟก ท่ีกำรท่ งจำ� ่ นชน้ มธยม ึก ำต นต้นต้ งเนน้ ใ เ้ ขยี นโปรแกรม โดยใช้ภำ ำต่ำง ๆ ร มทง้ ปุ กรณท์ ่ชี ่ ยใ เ้ กดิ กำรพฒนำชนิ้ งำนทที่ �ำงำนได้ตำมคำ� ่ง เพ่ื เป็นพนื้ ฐำนในกำรพฒนำโครง งำนดจิ ิทลในช้นมธยม ึก ำต นปลำยต่ ไป - 15 -

สือ่ รายการที่ 1/2 เอกสารเสรมิ ความรู้ เร่ืองทักษะการคิดเชิงคา� นวณ (Computational Thinking) เพอ่ื การพฒั นาผเู้ รียนส่พู ลโลก แผนกำร กึ ำแ ง่ ชำต ิ พ. . 2560-2579 ก�ำ นด ิ ยท น ์ (Vision) ไ ด้ งน้ี “คนไทยทกุ คนได้รบั การ ึก าและเรยี นรู้ตลอดชี ิตอยา่ งมีคณุ ภาพ ดา� รงชี ติ อย่างเปน็ ขุ อดคล้องกับ ลกั ปรชั ญาของ เ ร ฐกจิ พอเพยี ง และการเปลยี่ นแปลงของโลก ต รร ท่ี 21” โดยมี ตถุปร งค์ในกำรจดกำร กึ ำ 4 ปร กำร คื 1) เพื่ พฒนำร บบแล กร บ นกำรจดกำร ึก ำทมี่ ีคุณภำพแล มีปร ทิ ธิภำพ 2) เพื่ พฒนำคนไทยใ ้เป็นพลเมื งดี มีคุณลก ณ ทก แล มรรถน ที่ ดคล้ งกบบทบญญติข งรฐธรรมนูญ แ ง่ รำช ำณำจกรไทยพร รำชบญญติกำร กึ ำแ ง่ ชำต ิ แล ยทุ ธ ำ ตรช์ ำต ิ 3) เพ่ื พฒนำ งคมไทยใ เ้ ปน็ งคมแ ่งกำรเรยี นรู้ แล คุณธรรม จรยิ ธรรม รรู้ ก ำมคคี แล ร่ มมื ผนกึ กำ� ลงมุ่ง ู่ กำรพฒนำปร เท ย่ำงยง่ ยืน ตำม ลกปรชญำข งเ ร ฐกจิ พ เพยี ง 4) เพ่ื น�ำปร เท ไทยกำ้ ข้ำมกบดกปร เท ทม่ี รี ำยได้ปำนกลำง แล ค ำมเ ล่ื มลำ�้ ภำยในปร เท ลดลง เพ่ื ใ ้บรรลุ ิ ยท น์แล จดุ มุง่ มำยในกำรจดกำร กึ ำดงกล่ำ ขำ้ งต้น แผนกำร ึก ำแ ง่ ชำตไิ ด้ ำงเป้ำ มำย ด้ำนผเู้ รยี น (Learner Aspirations) โดยมงุ่ พฒนำผู้เรยี นทุกคนใ ้มีคุณลก ณ แล ทก กำรเรยี นรใู้ น ต รร ท ่ี 21 (3Rs8Cs) ปร ก บด้ ย ทก แล คุณลก ณ ต่ ไปนี้ 8Cs 3Rs Reading 3Rs ได้แก ่ กำร ำ่ น ก (Reading) กำรเขียนได้ (Writing) แล กำรคดิ เลขเป็น (Arithmetics) (W)Riting 8Cs ได้แก ่ ทก ด้ำนกำรคดิ ยำ่ งมี ิจำรณญำณ (A)Rithmetics แล ทก ในกำรแก้ปญั ำ (Critical Thinking Critical Thinking&Problem Solving and Problem Solving) ทก ด้ำนกำร Creativity&Innovation ร้ำง รรค์แล น ตกรรม (Creativity and Cross-cultural Understanding Innovation) ทก ด้ำนค ำมเข้ำใจต่ำง Collaboration, Teamwork & Leadership ฒนธรรม ตำ่ งกร บ นท น ์ (Cross-cultural Communications Information & Media Literacy Understanding) ทก ด้ำนค ำมร่ มมื กำร Computing&ICT Literacy ทำ� งำนเป็นทมี แล ภำ ผู้น�ำ (Collaboration, Career&Learning Skills Teamwork and Leadership) ทก ด้ำนกำร Compassion - 16 -

ื่ ำร ำร นเท แล กำรรเู้ ท่ำทน ่ื (Communications, Information and Media Literacy) ทก ดำ้ นค มพิ เต ร์ แล เทคโนโลยี ำร นเท แล กำร ่ื ำร (Computing and ICT Literacy) ทก ำชพี แล ทก กำรเรียนร้ ู (Career and Learning Skills) แล ค ำมมีเมตตำ กรุณำ มี นิ ย คุณธรรม จริยธรรม (Compassion) ในกำรพฒนำผู้เรียนใ ้มีทก กำรเรียนรู้ใน ต รร ท่ี 21 (3Rs8Cs) เพ่ื ใ ้ ำมำรถปรบต ได้ทนกบกำร เปลี่ยนแปลงในยคุ ดจิ ิทล ที่เนน้ กำร รำ้ ง รรคน์ ตกรรมเพื่ กำรแข่งขนนน้ จ�ำเป็นต้ งพฒนำทก กำรคิดเชงิ ค�ำน ณ (Computational Thinking) เพื่ ใ ้ผเู้ รยี นเกดิ กร บ นกำรคิดเชงิ ิเครำ ์ คดิ ยำ่ งเป็นร บบด้ ยเ ตผุ ล ย่ำงเปน็ ขน้ เปน็ ต นเพ่ื แก้ปัญ ำต่ำงๆ ำมำรถนำ� ไปปรบใช้เพื่ แก้ไขปัญ ำใน ำขำ ิชำต่ำงๆ ไดท้ ง้ คณิต ำ ตร ์ มนุ ย ำ ตร์ รื ิชำ น่ื ๆ Computational Thinking (CT) เป็นกร บ นกำรคดิ ท่ตี ้ งใชท้ ก แล เทคนคิ เพ่ื แก้ไขปัญ ำ ยำ่ งเช่นท่ี นก พฒนำซ ฟต์แ ร์ (Software Developer) รื ิ กรซ ฟต์แ ร ์ (Software Engineer) ใช้ในกำรเขยี นโปรแกรม ซ่งึ แก่น แทค้ ื กำรแก้ปญั ำแบบมลี �ำดบขน้ ต นใ ้กลำยเปน็ เร่ื งที่ ำย ำชีพ นื่ ๆ ำมำรถน�ำแน คิดลำ� ดบข้นต นไปแก้ปญั ำ ในเชิงนำมธรรม ยำ่ งกำรจดกำรแถ ขบ นข งเจำ้ ข งรำ้ น ำ ำรที่จ ทำ� ยงไงใ ้ไม่เกิดภำ ต่ คิ ยำ นำน รื ปัญ ำ Classics ที่ใ ้นกท�ำบญชี ำ ิธีกำรใช้เคร่ื งมื น่ื ๆ มำช่ ยบนทกึ ย ดมำกก ำ่ จดลงกร ดำ แล้ ใชเ้ ครื่ งคิดเลขกร ทบ ย ด เป็นตน้ การคิดเชิงคา� นวณ (Computational Thinking) คอื อะไร กำรคดิ เชิงค�ำน ณ (Computational Thinking) คื กร บ นกำรแก้ปัญ ำใน ลำก ลำย ลก ณ เช่น กำรจด ลำ� ดบเชิงตรรก ำ ตร ์ กำร เิ ครำ ์ข้ มูล แล กำร รำ้ ง รรค์ ธิ ีแก้ปัญ ำไปทีล ขน้ ทลี ต น ร มทง้ กำรย่ ยปัญ ำที่ ช่ ยใ ้รบมื กบปัญ ำท่ีซบซ้ น รื มีลก ณ เป็นค�ำถำมปลำยเปิดได้ ิธีคิดเชิงค�ำน ณมีค ำมจ�ำเป็นในกำรพฒนำ แ ปพลิเคชนต่ำง ๆ �ำ รบค มพิ เต ร ์ แต่ในขณ เดีย กน ธิ คี ิดน้ียงช่ ยแก้ปัญ ำใน ชิ ำต่ำง ๆ ไดด้ ้ ย ดงนน้ เ ง เมื่ มีกำรบูรณำกำร ิธีคิดเชิงค�ำน ณผ่ำน ลก ูตรใน ลำก ลำยแขนง ิชำ นกเรียนจ เ ็นค ำม มพนธ์ร ่ำงแต่ล ิชำ ร มทง้ ำมำรถน�ำ ธิ ีคดิ ทีเ่ ป็นปร โยชน์นี้ไปใชแ้ ก้ปญั ำในชี ติ จรงิ ได้ - 17 -

สรปุ คา� จ�ากัดความของการคิดเชงิ คา� นวณ o ไม่ไดจ้ �ำกด ยู่เพยี งกำรคดิ ใ ้เ มื นค มพิ เต ร์ o ไม่ไดจ้ �ำกด ย่เู พียงกำรคดิ ใน ำ ตร์ข งนก ิทยำ ำ ตร์ค มพิ เต ร์ o แตเ่ ปน็ กร บ นกำรคดิ แกป้ ญั ำข งมนุ ย ์ เพื่ ง่ ใ ค้ มพิ เต รท์ ำ� งำนแล ช่ ยแกป้ ญั ำตำมทเ่ี รำต้ งกำรได้ ยำ่ ง มีปร ทิ ธภิ ำพ o ิธคี ิดเชิงคำ� น ณ ช่ ยท�ำใ ้ปัญ ำทีซ่ บซ้ นเขำ้ ใจได้ง่ำยข้นึ เป็นทก ท่ีเปน็ ปร โยชน์ ย่ำงยิ่งต่ ทกุ ๆ ำขำ ิชำ แล ทุกเรื่ งในชี ติ ปร จ�ำ น 4 เสาหลกั ของการคิดเชิงค�านวณ 1. Decomposition (กำรยอ่ ยปัญ ำ) มำยถึงกำรย่ ยปญั ำ รื ร บบที่ซบซ้ น กเป็น ่ นเล็กๆ เพ่ื ใ ง้ ำ่ ยต่ กำรจดกำรแล แกป้ ญั ำ เชน่ กำรบ ก ำ่ ำ ำรทเี่ รำไม่เคยทำนแล้ ไดท้ ดล งทำนดูน้นมรี ชำติ กล่นิ มำจำก ่ น ปร ก บ ไรบำ้ ง (Materials) รปู แบบเบื้ งต้นคื กำรแจกแจงปัญ ำไป ู่ ่ นปร ก บย่ ยเพื่ ปรบปรงุ ใ ้ดีข้ึน 2. Pattern Recognition (กำรจดจ�ำรปู แบบ) คื กำรม ง ำรปู แบบข งปญั ำ รื ถำนกำรณ์ (Pattern) ทเ่ี กิด ขึน้ ซ�้ำๆ เมื่ เรำย่ ยปญั ำ กเปน็ ่ นเลก็ ๆ ขน้ ต นต่ ไปคื กำร ำรูปแบบ รื ลก ณ ที่เ มื นกนข งปญั ำ เลก็ ๆ ที่ถูกย่ ย กมำ เชน่ ำกต้ ง ำดซีรี ์รปู แม แม ท้ง ลำยย่ มมลี ก ณ บำง ยำ่ งทเี่ มื นกน พ กมนมตี ำ ำง ขน แล ช บกนิ ปลำ แล ร้ งเ มีย ๆ ลก ณ ทีม่ รี ่ มกนนี้ เรำเรียก ่ำรปู แบบ เมื่ เรำ ำมำรถ ธิบำยแม ต นึ่งได้ เรำจ ธิบำยลก ณ ข งแม ต ื่น ๆ ได ้ ตำมรปู แบบที่เ มื นกนนน่ เ ง 3. Abstraction (ค ำมคิดดำ้ นนำมธรรม) คื กำรม งภำพร มเพื่ นยิ ำม ิ่งท่เี ปน็ รำยล เ ยี ดปลกี ย่ ย มงุ่ ค ำมคิด ไปทขี่ ้ มลู �ำคญ แล คดกร ง ่ นท่ไี ม่เก่ีย ข้ ง กไป เพื่ ใ ้จดจ่ เฉพำ ิ่งท่เี รำต้ งกำรจ ทำ� เชน่ แม้ ่ำแม แต่ล ต จ มลี ก ณ เ มื นกน แต่มนกม็ ลี ก ณ เฉพำ ต ท่ีตำ่ งกน เช่น มตี ำ ีเขีย ขน ีดำ� ช บกินปลำทู ค ำม คดิ ด้ำนนำมธรรมจ คดกร งลก ณ ท่ไี มไ่ ด้ร่ มกนกบแม ต น่ื ๆ เ ลำ่ นี้ กไป เพรำ รำยล เ ยี ดท่ีไม่เก่ีย ข้ ง เ ล่ำนี ้ ไมไ่ ดช้ ่ ยใ ้เรำ ธบิ ำยลก ณ พ้นื ฐำนข งแม ในกำร ำดภำพมน กมำได้ กร บ นกำรคดกร ง ่งิ ทไ่ี ม่ เกี่ย ข้ ง กไป แล มุ่งท่รี ูปแบบซงึ่ ช่ ยใ เ้ รำแกป้ ัญ ำได้เรยี ก ่ำแบบจำ� ล ง (Model) เม่ื เรำมีค ำมคิดด้ำน นำมธรรม มนจ ช่ ยใ เ้ รำรู้ ำ่ ไมจ่ �ำเปน็ ทแี่ ม ทกุ ต ต้ ง ำงยำ แล มขี น น้ รื ทำ� ใ ้เรำมีโมเดลค ำมคดิ ท่ี ชดเจนข้นึ นน่ เ ง 4. Algorithm Design (กำรออกแบบอลั กอรทิ มึ ) คื กำรพฒนำแน ทำงแก้ปัญ ำ ยำ่ งเป็นขน้ เป็นต น รื รำ้ ง ลกเกณฑข์ ้นึ มำเพ่ื ดำ� เนนิ ตำมทลี ข้นต นในกำรแก้ไขปัญ ำ เชน่ บรุ ุ ไปร ณียท์ ี่เคยเดนิ ทำงไป ง่ จด มำยใน พื้นท่ตี ่ำงก็ ำมำรถ ร้ำงแผนทก่ี ำรเดนิ ทำงทซ่ี บซ้ นไ ้ใ ้ ำ� รบคนใ มท่ ่ีต้ งมำท�ำแทนก็จ ไม่ ลงทำง น่นก็คื กำร รำ้ งล�ำดบกำรทำ� งำน กี เช่นกน รื เมื่ เรำต้ งกำร ่งค มพิ เต รใ์ ท้ ำ� งำนบำง ยำ่ ง เรำต้ งเขียนโปรแกรม ค�ำ ่งเพ่ื ใ ม้ นท�ำงำนไปตำมขน้ ต น กำร ำงแผนเพื่ ใ ้ค มพิ เต ร์ทำ� งำนต บ น งค ำมต้ งกำรข งเรำนีเ้ ง ท่เี รยี ก ่ำ ิธคี ิดแบบ ลก รทิ ึม ค มพิ เต รจ์ ทำ� งำนไดด้ เี พยี งใด ขนึ้ ยู่กบชดุ ค�ำ ่ง ลก ริทึมทีเ่ รำ ง่ ใ ม้ นท�ำงำน - 18 -

น่นเ ง กำร กแบบ ลก ริทึมยงเปน็ ปร โยชน์ต่ กำรค�ำน ณ กำรปร ม ลผลข้ มลู แล กำร ำงร บบ ตโนมติ ต่ำง ๆ แต่เมื่ นำ� แน คดิ 4 เ ำ ลกน ี้ ไปใช้ใน ลก ูตร พบ ่ำมคี ำมซบซ้ นมำกเกินก ำ่ ท่ผี ูเ้ รยี นร ดบปร ถม กึ ำจ เข้ำใจได ้ จงึ มกี ำร ร้ำงคำ� จำ� กดค ำมขึ้นมำใ ม่เพื่ ใ เ้ มำ มกบ ยมำกขึ้น ร มทง้ เ มำ กบครู รื ผู้ปกคร ง ในกำร ปร ยกุ ต์ค�ำจำ� กดค ำมเ ลำ่ น้ีไปใชเ้ พื่ กร ตุน้ กำรคิดเชงิ คำ� น ณ • Tinkering ( รำ้ งค ำมช�ำนำญ) เป็นกำรฝึกทก ผ่ำนกำรเล่น กำร �ำร จ โดยไม่ไดม้ ีเปำ้ มำยแน่ชด เ มื น เป็นกำรทดล ง ่ิงใ ม ่ ๆ โดยเด็กจ ฝึกค ำมช�ำนำญผ่ำนกำรทำ� ซำ�้ ๆ รื ล ง ิธกี ำรใ ม ่ ๆ ในแต่ล ถำนกำรณท์ ่ี ต้ งเผชญิ • Collaborating ( ร้ำงค ำม ำมัคคี, ทำ� งำนร่ มกัน) เปน็ กำรท�ำงำนร่ มกบผู้ ่ืน ไม่ ่ำจ เป็นกจิ กรรมใด ๆ รื งำน ดิเรกในยำม ำ่ ง เป็นกำรร่ มมื กนเพ่ื ใ ง้ ำนนน้ ๆ ไดผ้ ลลพธ์ทีด่ ที ี่ ดุ • Creating ( ร้ำงค ำมคิด รำ้ ง รรค์) เป็นกำรคดิ คน้ ง่ิ ท่เี ปน็ ตน้ แบบ รื ร้ำง รรค์คุณคำ่ ใ ก้ บกิจกรรมใด ๆ เชน่ กำร ร้ำงเกม แ นิเมชน รื ุ่นยนตง์ ำ่ ย ๆ เปิดโ กำ ใ เ้ ดก็ ได้มี ่ นร่ มในกำร กแบบแล รำ้ ง ิ่งต่ำง ๆ แทนทจ่ี แค่ฟงั งเกต แล ลงมื ใช้ ตำมทีค่ รู น • Debugging ( ร้ำง ิธกี ำรแก้ไขจุดบกพรอ่ ง) เป็นกำรเรียนร้ทู ่ีจ แกไ้ ขข้ ผดิ พลำดต่ำง ๆ ทีเ่ กิดขึน้ โดยเฉพำ ยำ่ งย่ิงกจิ กรรมใด ๆ ทตี่ ้ งทำ� แบบเป็นข้นเป็นต น เมื่ เจ จุดทผ่ี ดิ พลำด ต้ งคดิ ิเครำ ์ ย่ำงเปน็ เ ตเุ ปน็ ผล เพ่ื แก้ไขแล ไม่ใ ้เกดิ ิ่งนน้ ข้นึ ีก • Persevering ( ร้ำงค ำมอดทน, ค ำมพยำยำม) เปน็ กำรเผชญิ นำ้ กบค ำมท้ำทำยในกำรท�ำกิจกรรมท่ียำก แล ซบซ้ น แมจ้ ลม้ เ ล แต่ต้ งไม่ล้มเลกิ ต้ งใชค้ ำมพำกเพียรในกำรทำ� งำนชน้ิ นน้ ๆ แมจ้ ต้ งรบมื กบ ิ่งที่ ยำกแล ร้ำงค ำม บ นใ ใ้ นบำงครง้ แต่ต้ งมคี ำมม่งุ มน่ ไมย่ มแพ้ เพ่ื ผลลพธ์ทด่ี ตี ำมท่ตี ้ งกำร การคดิ เชงิ ค�านวณ เป็น “วิธคี ิด” ให้เข้าใจกระบวนการแกป้ ญั หา สามารถวิเคราะห์และคดิ อย่างมีตรรกะ เป็นระบบ และสรา้ งสรรค์ รวมทั้งสามารถนา� วิธคี ดิ เชิงค�านวณไปปรับใช้แก้ไขปัญหาในสาขาวชิ าตา่ ง ๆ ได้อยา่ งกวา้ งขวาง เปน็ ประโยชน์ในการต่อยอดองค์ความร้ตู า่ ง ๆ ไปตลอดช่ัวชีวิต - 19 -

หน่วยท่ี 2 การศกึ ษาวิเคราะหห์ ลักสตู รและการจัดการเรยี นการสอนวทิ ยาการคา� นวณ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน วัตถุประสงค์ เพ่ื ใ ผ้ ู้เขำ้ รบกำร บรม ำมำรถ เิ ครำ ์มำตรฐำนแล ต ช้ี ดทเี่ กยี่ ข้ งกบ ิทยำกำรคำ� น ณ แล น�ำไป กแบบกำร เรียนรู้ได้ เนือ้ หา มำตรฐำน 4.2 แล ต ชี้ ดทุกร ดบชน้ ใน ำร เทคโนโลย ี ตำม ลก ตู รแกนกลำงกำร ึก ำข้นพื้นฐำน พ. . 2551 (ฉบบปรบปรงุ 2560) กจิ กรรม - ฟงั บรรยำย (90 นำที) รปู แบบกจิ กรรม - ฟังบรรยำย/ชมคลปิ ดิ ีโ - ึก ำเ ก ำรเ รมิ ค ำมรู้ - 20 -

หลกั สูตรและกจิ กรรมหน่วยที่ 2 เรื่อง การศึกษาวิเคราะห์หลักสตู รการสอน วิทยาการคา� นวณ ตามหลกั สตู รแกนกลาง การศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน 1. สาระสา� คัญ ลก ตู รแกนกลำงกำร กึ ำข้นพ้ืนฐำน พ. . 2551 เป็น ลก ูตร ิงมำตรฐำน ผู้ นจงึ จ�ำเปน็ ต้ ง เิ ครำ ์ มำตรฐำนแล ต ช้ี ดในแตล่ ร ดบชน้ ่ำ ผลลพธท์ ่ีต้ งกำรใ เ้ กิดกบผเู้ รียนคื ไร ผูเ้ รยี นต้ งรู้เรื่ ง ไร แล มที ก ปฏิบติใดบำ้ ง ร มถงึ ต้ งพฒนำคุณลก ณ �ำคญใดใ ้เกดิ ขน้ึ เพ่ื ก่ ใ ้เกิด มรรถน �ำคญในผูเ้ รียน ิทยำกำรคำ� น ณ เป็น ำร ที่เนน้ ใ ผ้ ้เู รยี นมคี ำม ำมำรถในกำรคิดแล แกป้ ญั ำเชงิ ิเครำ ์ ำมำรถใช้จินตนำกำรม งปญั ำด้ ยค ำม คิดเชงิ นำมธรรม ซง่ึ จ ท�ำใ เ้ ็นแน ทำงในกำรแกป้ ญั ำ ยำ่ งเปน็ ข้นต นแล มลี ำ� ดบ ิธีคิด มีทก ในกำรคน้ ำข้ มูล รื ำร นเท ปร เมิน จดกำร ิเครำ ์ งเครำ ์ แล น�ำ ำร นเท ไปใชใ้ นกำรแกป้ ญั ำ ร มถงึ กำรปร ยุกตใ์ ช้ค ำม รดู้ ำ้ น ทิ ยำกำรค มพิ เต ร์ ่ื ดิจิทล เทคโนโลยี ำร นเท แล กำร ื่ ำร ในกำรแกป้ ญั ำในชี ติ จรงิ กำรทำ� งำนร่ ม กน ย่ำง ร้ำง รรคเ์ พื่ ปร โยชนต์ ่ ตนเ ง รื งคม แล ใช้เทคโนโลยี ำร นเท แล กำร ื่ ำร ย่ำงปล ดภย รูเ้ ท่ำทน มีค ำมรบผิดช บ มีจริยธรรม 2. วตั ถุประสงค์ แล น�ำไป เพื่ ใ ้ผู้เข้ำรบกำร บรม ำมำรถ ิเครำ ์มำตรฐำนแล ต ช้ี ดท่ีเกี่ย ข้ งกบ ิทยำกำรค�ำน ณ กแบบกำรเรียนรู้ได ้ 3. รูปแบบการจัดกจิ กรรม - ฟงั บรรยำย/ชมคลปิ ิดโี - ปฏบิ ตกิ ิจกรรม 4. ขน้ั ตอนการจดั กจิ กรรม ขนั้ ตอน ระยะเ ลำ ่ือและเอก ำรประกอบ ฟังบรรยำย 90 นำท ี PowerPoint/VDO Clip - 21 -

สอ่ื รายการท่ี 2/1 เรื่อง การศกึ ษาวเิ คราะห์หลกั สตู รละการเรยี นการสอน วิทยาการคา� นวณ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน 1. วิทยาการค�านวณ สอนใหค้ ิดเป็น ใชเ้ ป็น และร้เู ท่าทนั เทคโนโลยี เพื่ เปน็ พ้ืนฐำนข งค ำมคดิ ยำ่ งเปน็ ร บบ (Systematic) มีจินตนำกำร มีค ำมคิด รำ้ ง รรค ์ คิดแบบนำมธรรม เปน็ ชิ ำนค้ี ื กำรพฒนำค ำมคดิ ข งผเู้ รยี น ข บเขตข งกำรเรยี นกำร น ชิ ำ ทิ ยำกำรคำ� น ณเนน้ ใน 3 งคค์ ำมร ู้ ดงน ้ี 1.1 กำรคดิ เชงิ ค�ำน ณ (Computational Thinking) เป็น ิธคี ิดแล แก้ปัญ ำเชงิ เิ ครำ ์ ำมำรถใช้จนิ ตนำกำร ม งปญั ำด้ ยค ำมคดิ เชิงนำมธรรม ซ่ึงจ ท�ำใ ้เ ็นแน ทำงในกำรแกป้ ญั ำ ย่ำงเปน็ ข้นต นแล มลี ำ� ดบ ธิ คี ดิ โดย ธิ คี ดิ แบบ ทิ ยำกำรค�ำน ณนี้ ไม่ใชเ่ พียงแค่กำรเขียนโปรแกรม เพรำ ภำ ำโปรแกรมมกี ำรเปล่ยี นแปลงตล ด เ ลำ แตจ่ ดุ ปร งคท์ ี่ ำ� คญก ่ำคื กำร นใ เ้ ดก็ คิดแล เชื่ มโยงปัญ ำตำ่ ง ๆ เปน็ จน ำมำรถแกป้ ญั ำได้ ยำ่ ง เป็นร บบ 1.2 พน้ื ฐำนค ำมรูด้ ้ำนเทคโนโลยดี จิ ทิ ัล (Digital Technology) เป็นกำร นใ ร้ ้จู กเทคนิค ิธีกำรตำ่ ง ๆ เกี่ย กบ เทคโนโลยีดิจทิ ล โดยเฉพำ ในยุค 4.0 จ เน้นในดำ้ นร บบ ตโนมต ิ (Automation) ท่ี ยู่ในชี ติ ปร จ�ำ น ไม่ ่ำจ เป็นดำ้ นกำรเก ตร ุต ำ กรรม รื คมนำคม ใ เ้ ดก็ ไดเ้ รยี นรู้ ยำ่ งร บด้ำน แล ปร ยุกต์ รำ้ ง รรค์งำนได้ ย่ำง เ มำ ม 1.3 พื้นฐำนกำรร้เู ท่ำทัน ื่อและขำ่ ำร (Media and Information Literacy) เป็นทก เก่ยี กบกำรร้เู ทำ่ ทน ่ื แล เทคโนโลยดี ิจิทล แยกแย ได้ ำ่ ข้ มูลใดเป็นค ำมจริง รื ค ำมคดิ เ น็ โดยเฉพำ ข้ มูลบน ่ื งคม นไลน ์ น กจำกนน้ ยงเป็นเร่ื งข งค ำมปล ดภยในโลกไซเบ ร์ รกู้ ฎ มำยแล ลิข ทิ ธ์ิทำงปญั ญำต่ำง ๆ เพื่ ใ ้เดก็ ใช้ ช่ งทำงนี้ได้ ยำ่ งรเู้ ท่ำทนแล ปล ดภย 2. เป้าหมายของหลกั สูตร กำรจดกำรเรียนกำร น ิชำ ทิ ยำกำรคำ� น ณ มีเปำ้ มำยที่ �ำคญในกำรพฒนำผ้เู รยี น ดงนี้ 2.1 เพื่ ใชท้ ก กำรคิดเชิงค�ำน ณในกำรคิด ิเครำ แ์ ก้ปญั ำ ย่ำงเปน็ ขน้ ต นแล เปน็ ร บบ 2.2 เพื่ ใ ม้ ีทก ในกำรคน้ ำข้ มูล รื ำร นเท ปร เมนิ จดกำร ิเครำ ์ งเครำ ์ แล นำ� ำร นเท ไปใช้ใน กำรแกป้ ญั ำ 2.3 เพ่ื ปร ยุกตใ์ ช้ค ำมรูด้ ำ้ น ทิ ยำกำรค มพิ เต ร ์ ื่ ดิจิทล เทคโนโลยี ำร นเท แล กำร ่ื ำร ในกำรแก้ปัญ ำ ในชี ติ จรงิ กำรท�ำงำนร่ มกน ย่ำง รำ้ ง รรค์เพื่ ปร โยชน์ต่ ตนเ ง รื งคม 2.4 เพื่ ใช้เทคโนโลยี ำร นเท แล กำร ่ื ำร ย่ำงปล ดภย รู้เท่ำทน มคี ำมรบผิดช บ จริยธรรม - 22 -

3. สาระการเรยี นรู้เทคโนโลยี (วิทยาการคา� นวณ) มุ่งหวงั ใหผ้ เู้ รียนได้เรยี นร้แู ละมที กั ษะ กำรคิดเชิงค�ำน ณ กำรคิด ิเครำ ์ แก้ปัญ ำ เป็นข้นต นแล เป็นร บบ ปร ยุกต์ใช้ค ำมรู้ด้ำน ิทยำกำร ค มพิ เต รเ์ ทคโนโลยี ำร นเท แล กำร ื่ ำร ในกำรแกป้ ัญ ำท่พี บในชี ติ จรงิ ได้ ย่ำงมปี ร ทิ ธิภำพ โดยได้ก�ำ นด ำร ำ� คญดงน้ี 3.1 ทิ ยำกำรคอมพิ เตอร์ กำรแก้ปญั ำ ย่ำงเปน็ ขน้ ต นแล เปน็ ร บบ กำรใช้แน คิดเชงิ ค�ำน ณในกำรแกป้ ัญ ำใน ชี ิตปร จำ� น กำรบูรณำกำรกบ ชิ ำ นื่ กำรเขยี นโปรแกรมกำรคำดกำรณผ์ ลลพธ์กำรตร จ ำข้ ผดิ พลำด กำร พฒนำแ ปพลิเคชน รื พฒนำโครงงำน ยำ่ ง ร้ำง รรค์เพ่ื แกป้ ัญ ำในชี ิตจริง 3.2 เทคโนโลยี ำร นเท และกำร ื่อ ำร กำรร บร มข้ มูล กำรปร ม ลผล กำรปร เมินผลกำรนำ� เ น ข้ มลู รื ำร นเท เพ่ื แกป้ ญั ำในชี ิตจริง กำรคน้ ำข้ มลู แล แ ง ำค ำมรู้บน นิ เท รเ์ น็ต กำรปร เมนิ ค ำมนำ่ เช่ื ถื ข งข้ มูล กำรเลื กใชซ้ ฟต์แ ร์ รื บริกำรบน นิ เท ร์เนต็ ข้ ตกลงแล ข้ กำ� นดในกำรใช้ ่ื รื แ ล่ง ข้ มลู ต่ำง ๆ ลกกำรทำ� งำนข งค มพิ เต รแ์ ล เทคโนโลยีกำร ื่ ำร 3.3 กำรรู้เทำ่ ทันดจิ ทิ ัล กำรใชเ้ ทคโนโลยี ำร นเท และกำร ือ่ ำรอยำ่ งปลอดภยั กำรจดกำร ตลก ณก์ ำรรเู้ ท่ำทน ่ื กฎ มำยเกี่ย กบค มพิ เต ร ์ กำรใช้ลิข ิทธข์ิ งผู้ ืน่ โดยช บธรรม น ตกรรมแล ผลกร ทบข งเทคโนโลยี ำร นเท แล กำร ่ื ำรต่ กำรด�ำเนินชี ิต ำชีพ งคม แล ฒนธรรม 4. มาตรฐานการเรียนรู้ ต ชี้ ดแล ำร กำรเรยี นรู้แกนกลำง กลุ่ม ำร กำรเรียนรู้ ทิ ยำ ำ ตร์ (ฉบบปรบปรงุ พ. . 2560) ตำม ลก ูตร แกนกลำงกำร ึก ำขน้ พ้ืนฐำน พทุ ธ กรำช 2551 นี ้ ได้ก�ำ นด ำร กำรเรียนรู้ กเปน็ 4 ำร ได้แก่ ำร ท ่ี 1 ิทยำ ำ ตรช์ ี ภำพ ำร ท ี่ 2 ิทยำ ำ ตร์กำยภำพ ำร ที่ 3 ทิ ยำ ำ ตร์โลก แล กำ ำระท่ี 4 เทคโนโลยี กำร กแบบแล เทคโนโลยี เรียนรู้เกีย่ กบเทคโนโลยเี พ่ื กำรดำ� รงชี ิตใน งคมท่ีมกี ำรเปลี่ยนแปลง ย่ำงร ดเร็ ใช้ค ำมรู้แล ทก ทำงด้ำน ิทยำ ำ ตร ์ คณติ ำ ตรแ์ ล ำ ตร์ ่ืน ๆ เพื่ แกป้ ัญ ำ รื พฒนำงำน ย่ำงมีค ำมคิด ร้ำง รรค์ด้ ยกร บ นกำร กแบบเชงิ ิ กรรม เลื กใช้เทคโนโลยี ยำ่ งเ มำ มโดยคำ� นงึ ถงึ ผลกร ทบต่ ชี ติ งคม แล ิง่ แ ดล้ ม ทิ ยำกำรคำ� น ณ เรยี นรู้เกยี่ กับกำรคิดเชิงคำ� น ณ กำรคิด ิเครำะ ์ แก้ปญั ำ เปน็ ขนั้ ตอนและเป็นระบบ ประยกุ ต์ใช้ค ำมรูด้ ำ้ น ิทยำกำรคอมพิ เตอร์และเทคโนโลยี ำร นเท และกำร ื่อ ำร ในกำรแก้ปญั ำท่ีพบในชี ติ จรงิ ได้อยำ่ งมปี ระ ิทธภิ ำพ - 23 -

ตั ชี้ ัดและ ำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง กลุม่ ำร กำรเรยี นรู้ ทิ ยำ ำ ตร์ (ฉบบปรบปรุง พ. . 2560) ำร เทคโนโลย ี ตำม ลก ตู รแกนกลำงกำร กึ ำขน้ พ้ืนฐำน พุทธ กรำช 2551 ำระที่ 4 เทคโนโลยี มำตรฐำน 4.1 เข้ำใจแน คดิ ลกข งเทคโนโลยีเพื่ กำรด�ำรงชี ิตใน งคมทม่ี กี ำรเปลยี่ นแปลง ย่ำงร ดเร็ ใช้ ค ำมรแู้ ล ทก ทำงดำ้ น ิทยำ ำ ตร ์ คณิต ำ ตร ์ แล ำ ตร์ ่นื ๆ เพ่ื แกป้ ญั ำ รื พฒนำงำน ยำ่ งมคี ำมคดิ ร้ำง รรคด์ ้ ยกร บ นกำร กแบบเชิง ิ กรรม เลื กใชเ้ ทคโนโลยี ยำ่ งเ มำ มโดยค�ำนงึ ถึงผลกร ทบต่ ชี ิต งคม แล ่งิ แ ดล้ ม มำตรฐำน 4.2 เข้ำใจแล ใช้แน คิดเชิงค�ำน ณในกำรแก้ปญั ำทพี่ บในชี ติ จริง ยำ่ งเปน็ ข้นต นแล เปน็ ร บบ ใชเ้ ทคโนโลยี ำร นเท แล กำร ่ื ำรในกำรเรยี นร ู้ กำรทำ� งำน แล กำรแกป้ ัญ ำได้ ยำ่ งมปี ร ทิ ธภิ ำพ รูเ้ ท่ำทน แล มี จรยิ ธรรม คณุ ภำพผ้เู รียน จบชั้นประถม ึก ำปีท่ี 3 แก้ปัญ ำ ย่ำงง่ำยโดยใช้ข้นต นกำรแก้ปัญ ำ มีทก ในกำรใช้เทคโนโลยี ำร นเท แล กำร ื่ ำรเบ้ื งต้น รก ำข้ มูล ่ นต จบชนั้ ประถม กึ ำปีท่ี 6 ค้น ำข้ มลู ย่ำงมปี ร ทิ ธภิ ำพแล ปร เมินค ำมน่ำเชื่ ถื ตด นิ ใจเลื กข้ มลู ใชเ้ ตุผลเชิงตรรก ในกำรแก้ ปญั ำใช้เทคโนโลยี ำร นเท แล กำร ื่ ำรในกำรทำ� งำนร่ มกนเขำ้ ใจ ทิ ธแิ ล นำ้ ทขี่ งตน เคำรพ ิทธขิ งผู้ น่ื จบชั้นมัธยม กึ ำปีที่ 3 นำ� ข้ มูลปฐมภมู ิเขำ้ ู่ร บบค มพิ เต ร์ เิ ครำ ์ ปร เมิน นำ� เ น ข้ มูลแล ำร นเท ได้ตำม ตถุปร งค ์ ใช้ทก กำรคิดเชิงค�ำน ณในกำรแก้ปัญ ำท่ีพบในชี ิตจริงแล เขียนโปรแกรม ย่ำงง่ำยเพ่ื ช่ ยในกำรแก้ปัญ ำ ใช้ เทคโนโลยี ำร นเท แล กำร ื่ ำร ย่ำงร้เู ทำ่ ทนแล รบผดิ ช บต่ งคม จบช้ันมัธยม กึ ำปีที่ 6 ใช้ค ำมรทู้ ำงดำ้ น ิทยำกำรค มพิ เต ร ์ ่ื ดจิ ทิ ล เทคโนโลยี ำร นเท แล กำร ่ื ำร เพื่ ร บร มข้ มูลในชี ิต จริงจำกแ ล่งตำ่ ง ๆ แล ค ำมรูจ้ ำก ำ ตร์ น่ื มำปร ยกุ ตใ์ ช้ รำ้ งค ำมรใู้ ม่ เขำ้ ใจกำรเปลย่ี นแปลงข งเทคโนโลยีทม่ี ี ผลต่ กำรดำ� เนินชี ติ ำชีพ งคม ฒนธรรม แล ใช้ ย่ำงปล ดภย มจี ริยธรรม - 24 -

5. โครงสร้างเวลาเรยี น ถำน กึ ำ ำมำรถน�ำ ลก ตู รนไี้ ปจดกำรเรยี นรโู้ ดยกำ� นดจำ� น นช่ โมงไดต้ ำม ค ำมเ มำ มแล ค ำมพร้ ม ข ง ถำน กึ ำ ทง้ น้ีเพ่ื ใ ผ้ ูเ้ รียนไดม้ เี ลำในกำร ึก ำเนื้ ำ ฝึกทก แล รำ้ งปร บกำรณใ์ นกำรเรียนรู้ ยำ่ งเพยี ง พ จน ำมำรถบรรลุต ชี้ ดตำมเป้ำ มำย ข ง ลก ูตร ค รจดจ�ำน นช่ โมงข้นต่ำ� ดงน ี้ ระดับช้นั เ ลำเรยี นจ�ำน นชั่ โมงตอ่ ปี มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ ป.1 - ป.3 20 4.2 ป.4 - ป.6 40 4.2 ม.1 - ม.3 40 ม.4 – ม.5 40 4.1 4.2 4.1 4.2 ม.6 4.2 * มำยเ ตุ ำมำรถเพิ่ม รื ลดจ�ำน นช่ โมงจำกที่แน น�ำได้ตำมจุดเน้นแล บรบิ ทข ง ถำน กึ ำ - 25 -

ความสอดคลอ้ งกบั ตัวช้วี ัดในหลักสตู ร สำระท่ี 4 เทคโนโลยี มำตรฐำน ว 4.2 เขำ้ ใจแล ใชแ้ น คดิ เชงิ คำ� น ณในกำรแกป้ ญั ำทพี่ บในชี ติ จรงิ ยำ่ งเปน็ ขน้ ต นแล เปน็ ร บบ ใชเ้ ทคโนโลยี ำร นเท แล กำร ื่ ำรในกำรเรยี นรกู้ ำรท�ำงำน แล กำรแกป้ ญั ำได้ ย่ำงมปี ร ทิ ธภิ ำพ รเู้ ทำ่ ทน แล มจี ริยธรรม ชน้ั ตั ช้ี ดั ำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง ม.1 1. กแบบ ลก ริทึมทใ่ี ชแ้ น คดิ เชิงนำมธรรมเพื่ • แน คดิ เชิงนำมธรรม เปน็ กำรปร เมินค ำม �ำคญ แก้ปัญ ำ รื ธิบำยกำรท�ำงำนทพ่ี บในชี ติ จรงิ ข งรำยล เ ยี ดข งปญั ำ แยกแย ่ นทเี่ ปน็ ำร �ำคญ กจำก ่ นท่ไี มใ่ ช่ ำร ำ� คญ • ต ย่ำงปัญ ำ เชน่ ต้ งกำรปู ญำ้ ใน นำม ตำม พื้นท่ีทกี่ �ำ นด โดย ญ้ำ นึง่ ผนื มีค ำมก ้ำง 50 เซนติเมตร ยำ 50 เซนตเิ มตร จ ใช้ ญ้ำทง้ มดกี่ ผืน 2. กแบบแล เขยี นโปรแกรม ย่ำงง่ำย เพ่ื แก้ • กำร กแบบแล เขียนโปรแกรมที่มกี ำรใช้ต แปร ปัญ ำทำงคณติ ำ ตร์ รื ิทยำ ำ ตร์ เง่ื นไข นซ้�ำ • กำร กแบบ ลก รทิ มึ เพ่ื แก้ปัญ ำทำง คณติ ำ ตร์ ทิ ยำ ำ ตร์ ย่ำงงำ่ ย ำจใช้แน คิด เชงิ นำมธรรมในกำร กแบบ เพ่ื ใ ก้ ำรแกป้ ญั ำ มปี ร ทิ ธภิ ำพ • กำรแกป้ ญั ำ ยำ่ งเปน็ ขน้ ต นจ ช่ ยใ ้แก้ปญั ำ ได้ ยำ่ งมีปร ทิ ธภิ ำพ • ซ ฟตแ์ ร์ท่ใี ชใ้ นกำรเขยี นโปรแกรม เชน่ Scratch, python, java, c • ต ย่ำงโปรแกรม เช่น โปรแกรม มกำรกำร เคลื่ นที ่ โปรแกรมค�ำน ณ ำพื้นที่ โปรแกรม คำ� น ณดชนีม ลกำย 3. ร บร มข้ มูลปฐมภูม ิ ปร ม ลผล ปร เมินผล • กำรร บร มข้ มูลจำกแ ลง่ ข้ มูลปฐมภมู ิ ปร ม ล น�ำเ น ข้ มูล แล ำร นเท ตำม ตถปุ ร งค์ ผล ร้ำงทำงเลื ก ปร เมินผล จ ท�ำใ ไ้ ด้ โดยใช้ซ ฟต์แ ร์ รื บรกิ ำรบน นิ เท รเ์ นต็ ท่ี ำร นเท เพ่ื ใช้ในกำรแกป้ ัญ ำ รื กำรตด ินใจ ลำก ลำย ได้ ย่ำงมีปร ิทธภิ ำพ • กำรปร ม ลผลเป็นกำรกร ทำ� กบข้ มูล เพ่ื ใ ไ้ ด้ ผลลพธ์ท่มี คี ำม มำยแล มปี ร โยชนต์ ่ กำรน�ำไป ใช้งำน ำมำรถท�ำได้ ลำย ธิ ี เชน่ ค�ำน ณ ตรำ ่ น ค�ำน ณค่ำเฉลย่ี - 26 -

ช้ัน ตั ชี้ ัด ำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง • กำรใช้ซ ฟตแ์ ร์ รื บรกิ ำรบน ินเท ร์เนต็ ที่ ลำก ลำยในกำรร บร ม ปร ม ลผล รำ้ งทำงเลื ก ปร เมนิ ผล นำ� เ น จ ช่ ยใ ้แกป้ ญั ำได้ ยำ่ ง ร ดเร็ ถูกต้ ง แล แม่นย�ำ • ต ย่ำงปัญ ำ เน้นกำรบรู ณำกำรกบ ิชำ ่นื เชน่ ต้มไข่ใ ต้ รงกบพฤตกิ รรมกำรบริโภค ค่ำดชนมี ล กำยข งคนในท้ งถ่ิน กำร ร้ำงกรำฟ ผลกำร ทดล งแล เิ ครำ ์แน โน้ม 4. ใช้เทคโนโลยี ำร นเท ย่ำงปล ดภย ใช้ ื่ แล • ใชเ้ ทคโนโลยี ำร นเท ย่ำงปล ดภย เชน่ กำร แ ล่งข้ มลู ตำมข้ ก�ำ นดแล ข้ ตกลง ปกป้ งค ำมเปน็ ่ นต แล ตลก ณ์ • กำรจดกำร ตลก ณ์ เชน่ กำรต้งร ผำ่ น กำร ปกป้ งข้ มูล ่ นต • กำรพจิ ำรณำค ำมเ มำ มข งเนื้ ำ เชน่ ล เมดิ ค ำมเป็น ่ นต ผู้ ื่น นำจำร ิจำรณผ์ ู้ ่ืน ย่ำง ยำบคำย • ข้ ตกลง ข้ ก�ำ นดในกำรใช้ ื่ รื แ ล่งข้ มลู ต่ำง ๆ เชน่ Creative commons ม.2 1. กแบบ ลก รทิ ึมทใี่ ชแ้ น คดิ เชิงคำ� น ณในกำร • แน คิดเชงิ ค�ำน ณ แก้ปัญ ำ รื กำรทำ� งำนท่ีพบในชี ิตจรงิ • กำรแก้ปัญ ำโดยใช้แน คดิ เชิงค�ำน ณ • ต ยำ่ งปญั ำ เช่น กำรเขำ้ แถ ตำมล�ำดบค ำม ูง ใ เ้ ร็ ที่ ุด จดเรยี งเ ้ื ใ ้ ำไดง้ ำ่ ยท่ี ดุ 2. กแบบแล เขียนโปรแกรมทใี่ ช้ตรรก แล • ต ดำ� เนินกำรบลู ีน ฟังกช์ นในกำรแกป้ ญั ำ • ฟงั ก์ชน • กำร กแบบแล เขยี นโปรแกรมทีม่ กี ำรใช้ตรรก แล ฟังก์ชน • กำร กแบบ ลก รทิ มึ เพื่ แก้ปญั ำ ำจใช้ แน คดิ เชิงคำ� น ณในกำร กแบบ เพื่ ใ ก้ ำรแก้ ปญั ำมีปร ิทธภิ ำพ • กำรแกป้ ัญ ำ ย่ำงเป็นขน้ ต นจ ช่ ยใ ้แก้ปัญ ำ ได้ ยำ่ งมีปร ิทธิภำพ • ซ ฟตแ์ รท์ ใ่ี ช้ในกำรเขยี นโปรแกรม เช่น Scratch, python, java, c • ต ยำ่ งโปรแกรม เชน่ โปรแกรมตดเกรด ำค�ำ ต บทง้ มดข ง มกำร ลำยต แปร - 27 -

ชั้น ตั ชี้ ดั ำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง 3. ภิปรำย งค์ปร ก บแล ลกกำรทำ� งำนข ง • งค์ปร ก บแล ลกกำรท�ำงำนข งร บบ ร บบค มพิ เต ร ์ แล เทคโนโลยกี ำร ่ื ำร ค มพิ เต ร์ เพ่ื ปร ยุกต์ใชง้ ำน รื แก้ปญั ำเบ้ื งต้น • เทคโนโลยีกำร ื่ ำร • กำรปร ยุกตใ์ ชง้ ำนแล กำรแก้ปัญ ำเบื้ งต้น 4. ใช้เทคโนโลยี ำร นเท ย่ำงปล ดภย มคี ำมรบ • ใชเ้ ทคโนโลยี ำร นเท ยำ่ งปล ดภย โดยเลื ก ผดิ ช บ ร้ำงแล แ ดง ิทธใิ นกำรเผยแพรผ่ ล แน ทำงปฏิบติเม่ื พบเนื้ ำท่ไี ม่เ มำ ม เช่น งำน แจง้ รำยงำนผ้เู ก่ีย ข้ ง ป้ งกนกำรเข้ำมำข ง ข้ มลู ท่ีไมเ่ มำ ม ไม่ต บโต้ ไม่เผยแพร่ • กำรใช้เทคโนโลยี ำร นเท ย่ำงมีค ำมรบผิดช บ เช่น ตร นกถงึ ผลกร ทบในกำรเผยแพรข่ ้ มลู • กำร ร้ำงแล แ ดง ทิ ธ์ิค ำมเปน็ เจ้ำข งผลงำน • กำรก�ำ นด ิทธิกำรใช้ข้ มูล ม.3 1. พฒนำแ ปพลเิ คชนทมี่ กี ำรบรู ณำกำรกบ ิชำ ืน่ • ขน้ ต นกำรพฒนำแ ปพลเิ คชน ยำ่ ง ร้ำง รรค์ • Internet of Things (IoT) • ซ ฟต์แ รท์ ่ีใชใ้ นกำรพฒนำแ ปพลิเคชน เช่น Scratch, python, java, c, AppInventor • ต ยำ่ งแ ปพลิเคชน เช่น โปรแกรมแปลง กลุ เงนิ โปรแกรมผนเ ยี ง รรณยกุ ต ์ โปรแกรมจ�ำล งกำร แบง่ เซลล ์ ร บบรดนำ้� ตโนมติ 2. ร บร มข้ มลู ปร ม ลผล ปร เมินผล นำ� เ น • กำรร บร มข้ มูลจำกแ ลง่ ข้ มลู ปฐมภูมแิ ล ข้ มูลแล ำร นเท ตำม ตถุปร งค์ โดยใช้ ทตุ ิยภูม ิ ปร ม ลผล รำ้ งทำงเลื ก ปร เมนิ ผล ซ ฟต์แ ร์ รื บริกำรบน นิ เท รเ์ นต็ ท่ี ลำก จ ท�ำใ ้ได้ ำร นเท เพื่ ใชใ้ นกำรแกป้ ญั ำ รื ลำย กำรตด นิ ใจได้ ยำ่ งมปี ร ทิ ธภิ ำพ • กำรปร ม ลผลเปน็ กำรกร ท�ำกบข้ มลู เพื่ ใ ้ได้ ผลลพธท์ ่มี ีค ำม มำยแล มีปร โยชนต์ ่ กำรนำ� ไป ใชง้ ำน • กำรใช้ซ ฟต์แ ร์ รื บริกำรบน นิ เท ร์เน็ตท่ี ลำก ลำยในกำรร บร ม ปร ม ลผล ร้ำงทำงเลื ก ปร เมินผล นำ� เ น จ ช่ ยใ ้แก้ปัญ ำได้ ย่ำง ร ดเร็ ถกู ต้ ง แล แมน่ ย�ำ • ต ยำ่ งปัญ ำ เช่น กำรเลื กโปรโมชนโทร พท์ใ ้ เ มำ กบพฤติกรรมกำรใชง้ ำน ินค้ำเก ตรที่ ต้ งกำรแล ำมำรถปลูกได้ใน ภำพดนิ ข งท้ งถนิ่ - 28 -

ช้นั ตั ช้ี ดั ำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง 3. ปร เมนิ ค ำมนำ่ เช่ื ถื ข งข้ มูล ิเครำ ์ ื่ • กำรปร เมนิ ค ำมน่ำเชื่ ถื ข งข้ มลู เชน่ ตร จ แล ผลกร ทบจำกกำรใ ้ข่ำ ำรทผ่ี ดิ เพ่ื กำรใช้ บแล ยนื ยนข้ มลู โดยเทียบเคียงจำกข้ มลู งำน ยำ่ งรเู้ ท่ำทน ลำยแ ลง่ แยกแย ข้ มูลทเ่ี ปน็ ข้ เทจ็ จริงแล ข้ คิดเ น็ รื ใช้ PROMPT • กำร ืบค้น ำแ ล่งตน้ ต ข งข้ มูล • เ ตผุ ล ิบต ิ (logical fallacy) • ผลกร ทบจำกข่ำ ำรทผ่ี ดิ พลำด • กำรรเู้ ท่ำทน ื่ เชน่ กำร เิ ครำ ์ถงึ จุดปร งค์ ข งข้ มลู แล ผู้ใ ้ข้ มูล ตคี ำม แยกแย เน้ื ำ ำร ข ง ื่ เลื กแน ปฏบิ ตไิ ด้ ย่ำงเ มำ มเมื่ พบข้ มูลต่ำง ๆ 4. ใชเ้ ทคโนโลยี ำร นเท ย่ำงปล ดภย แล มี • กำรใชเ้ ทคโนโลยี ำร นเท ย่ำงปล ดภย เช่น ค ำมรบผิดช บต่ งคม ปฏิบตติ ำมกฎ มำย กำรทำ� ธรุ กรรม นไลน์ กำรซ้ื ินค้ำ เกย่ี กบค มพิ เต ร ์ ใช้ลิข ทิ ธิ์ข งผู้ ื่นโดยช บ ซื้ ซ ฟตแ์ ร ์ ค่ำบริกำร มำชิก ซ้ื ไ เท็ม ธรรม • กำรใชเ้ ทคโนโลยี ำร นเท ย่ำงมคี ำมรบผดิ ช บ เชน่ ไม่ รำ้ งข่ำ ล ง ไม่แชร์ข้ มูลโดยไม่ตร จ บ ข้ เทจ็ จรงิ • กฎ มำยเก่ยี กบค มพิ เต ร์ • กำรใช้ลิข ทิ ธขิ์ งผู้ ื่นโดยช บธรรม (fair use) ม.4 1. ปร ยุกตใ์ ชแ้ น คดิ เชิงคำ� น ณในกำรพฒนำโครง • กำรพฒนำโครงงำน งำนทม่ี กี ำรบูรณำกำรกบ ิชำ ่นื ยำ่ ง ร้ำง รรค ์ • กำรน�ำแน คดิ เชิงค�ำน ณไปพฒนำโครงงำนท่เี ก่ีย แล เช่ื มโยงกบชี ติ จริง กบชี ติ ปร จำ� น เชน่ กำรจดกำรพลงงำน ำ ำร กำรเก ตร กำรตลำด กำรค้ำขำย กำรท�ำธรุ กรรม ุขภำพ แล ง่ิ แ ดล้ ม • ต ย่ำงโครงงำน เช่น ร บบดแู ล ขุ ภำพ ร บบ ตโนมตคิ บคมุ กำรปลูกพชื ร บบจดเ ้นทำงกำร ขน ่งผลผลติ ร บบแน น�ำกำรใชง้ ำน ้ ง มุดท่ีมี กำรโตต้ บกบผ้ใู ชแ้ ล เชื่ มต่ กบฐำนข้ มลู ม.5 1. ร บร ม ิเครำ ข์ ้ มลู แล ใชค้ ำมรดู้ ำ้ น • กำรนำ� ค ำมรู้ด้ำน ิทยำกำรค มพิ เต ร์ ่ื ดิจทิ ล ทิ ยำกำรค มพิ เต ร ์ ่ื ดิจิทล เทคโนโลยี แล เทคโนโลยี ำร นเท มำใช้แกป้ ญั ำกบชี ิต ำร นเท ในกำรแก้ปญั ำ รื เพ่มิ มลู คำ่ ใ ้กบ จรงิ บรกิ ำร รื ผลติ ภณฑ์ที่ใชใ้ นชี ิตจรงิ ย่ำง • กำรเพิม่ มูลคำ่ ใ บ้ รกิ ำร รื ผลิตภณฑ์ ร้ำง รรค์ • กำรเกบ็ ข้ มลู แล กำรจดเตรียมข้ มลู ใ ้พร้ มกบ กำรปร ม ลผล - 29 -

ชั้น ตั ชี้ ดั ำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง • กำร เิ ครำ ์ข้ มูลทำง ถิติ • กำรปร ม ลผลข้ มูล แล เคร่ื งมื • กำรทำ� ข้ มูลใ เ้ ป็นภำพ (data visualization) เช่น bar chart, scatter, histogram • กำรเลื กใช้แ ล่งข้ มูล เชน่ data.go.th, wolfram alpha, OECD.org, ตลำด ลกทรพย์, world economic forum • คณุ ค่ำข งข้ มูลแล กรณี กึ ำ • กรณี กึ ำแล ิธีกำรแก้ปัญ ำ • ต ยำ่ งปญั ำ เช่น - รปู แบบข งบรรจุภณฑ์ท่ีดึงดูดค ำม นใจ แล ตรงตำมค ำมต้ งกำรผ้ใู ช้ในแต่ล ปร เภท - กำรก�ำ นดต�ำแ นง่ ปำ้ ยรถเมลเ์ พ่ื ลดเ ลำ เดินทำงแล ปัญ ำกำรจรำจร - ำ� ร จค ำมต้ งกำรรบปร ทำน ำ ำรในชุมชน แล เลื กขำย ำ ำรทจี่ ไดก้ �ำไร งู ดุ - กแบบรำยกำร ำ ำร 7 น �ำ รบผ้ปู ่ ย เบำ ำน ม.6 1. ใช้เทคโนโลยี ำร นเท ในกำรน�ำเ น แล แบ่ง • กำรน�ำเ น แล แบง่ ปันข้ มลู เช่น กำรเขียนบล็ ก ปันข้ มูล ย่ำงปล ดภย มจี ริยธรรม แล ปโ ลด ดิ โี ภำพ ินโฟกรำฟิก เิ ครำ ก์ ำรเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี ำร นเท ท่ี • กำรนำ� เ น แล แบ่งปันข้ มูล ย่ำงปล ดภยเชน่ มผี ลต่ กำรดำ� เนินชี ิต ำชีพ งคม แล ร มดร งผลกร ทบท่ีตำมมำ เม่ื มกี ำรแบง่ ปนั ฒนธรรม ข้ มลู รื เผยแพรข่ ้ มลู ไม่ รำ้ งค ำมเดื ดร้ น ต่ ตนเ งแล ผู้ ่นื • จรยิ ธรรมในกำรใชเ้ ทคโนโลยี ำร นเท • เทคโนโลยเี กดิ ใ ม ่ แน โน้มใน นำคตกำร เปล่ียนแปลงข งเทคโนโลยี • น ตกรรม รื เทคโนโลยีดำ้ นตำ่ ง ๆ ที่เก่ยี ข้ งกบ ชี ิตปร จำ� น • ำชีพเก่ีย กบเทคโนโลยี ำร นเท • ผลกร ทบข งเทคโนโลยี ำร นเท ต่ กำรดำ� เนนิ ชี ติ ำชพี งคม แล ฒนธรรม - 30 -

หน่วยที่ 3 การฝึกปฏิบตั กิ ิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาการคอมพวิ เตอร์ (Computer Science) ระดับมธั ยมศึกษา วตั ถุประสงค์ เพื่ ใ ้ผู้เขำ้ รบกำร บรมมีทก ในกำรจดกิจกรรมกำรเรยี นร ู้ ิทยำกำรค มพิ เต ร์ (Computer Science) ร ดบ มธยม กึ ำ เนอ้ื หา กิจกรรมกำรเรียนรู้ ิทยำกำรค มพิ เต ร ์ (Computer Science) ตำมต ช้ี ดในมำตรฐำน 4.2 ใน ลก ูตรแกนกลำง กำร ึก ำขน้ พื้นฐำน พ. . 2551 (ปรบปรงุ 2560) ร ดบมธยม ึก ำ กิจกรรม - บรรยำย/คลิป ดิ โี - แบง่ กลุม่ ท�ำกจิ กรรม เ น ผล แลกเปลย่ี นแล รุป งคค์ ำมรู้ (8 ช่ โมง) รปู แบบกิจกรรม - ฟังบรรยำย/ชมคลิป ดิ โี - ท�ำใบกจิ กรรม - แลกเปล่ียนเรยี นรู้แล ท้ นผลกำรปฏิบตงิ ำน - 31 -

หลกั สตู รและกิจกรรมหนว่ ยที่ 3 การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ วิทยาการคอมพวิ เตอร์ (Computer Science) ระดับมธั ยมศกึ ษา 1. สาระสา� คัญ กำรจดกิจกรรมกำรเรียนรู้ใ ผ้ ู้เรยี นไดล้ งมื ปฏิบตจิ รงิ โดยใช้ ื่ ปุ กรณ ์ เป็นกร บ นกำรเรยี นรทู้ ีใ่ ้ผู้เรียนได้ เรียนรู้ ย่ำงมีค ำม มำย โดยกำรร่ มมื ร ำ่ งผู้เรยี นด้ ยกน ดคล้ งกบกำรทำ� งำนข ง ม งท่เี กีย่ ข้ งกบค ำมจ�ำ โดย ำมำรถเกบ็ แล จำ� ง่ิ ท่ีผู้เรียนเรยี นรู้ ย่ำงมี ่ นร่ ม มปี ฏิ มพนธ์กบเพ่ื น ผู้ น ิ่งแ ดล้ ม กำรเรยี นรไู้ ด้ผำ่ นกำร ปฏิบตจิ ริง จ ำมำรถเก็บจำ� ในร บบค ำมจำ� ร ย ยำ (Long Term Memory) ทำ� ใ ้ผลกำรเรยี นรู้ ยงคง ย่ไู ดใ้ นปรมิ ำณ ที่มำกก ่ำ ร ย ยำ ก ำ่ ในกำรนีค้ รูต้ งลดบทบำทในกำร นแล กำรใ ้ข้ ค ำมรแู้ กผ่ เู้ รยี นโดยตรงลง แต่ไปเพม่ิ กร บ นกำรแล กจิ กรรมทจี่ ทำ� ใ ้ผู้เรียนเกิดค ำมกร ตื รื รน้ ในกำรจ ท�ำกจิ กรรมตำ่ ง ๆ มำกข้ึน แล ยำ่ ง ลำก ลำย ไม่ ่ำจ เป็นกำรแลกเปลย่ี นปร บกำรณ์ โดยกำรพูด กำรเขียน กำร ภิปรำยกบเพ่ื น ๆ 2. วตั ถปุ ระสงค์ เพื่ ใ ผ้ ูเ้ ขำ้ รบกำร บรมมีทก ในกำรจดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ทิ ยำกำรค มพิ เต ร์ (Computer Science) ร ดบ ปร ถม กึ ำ 3. รปู แบบการจัดกิจกรรม - ฟังบรรยำย/ชมคลิป ิดโี - ปฏิบตกิ ิจกรรม - 32 -

4. ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นตอน ระยะเ ลำ ือ่ และเอก ำรประกอบ 1. กิจกรรม Move it, Move it 15 นำที 1. PowerPoint 2. กจิ กรรม Computational Thinking 30 นำที 2. ใบกิจกรรม 3.1 2. ใบกจิ กรรม 3.2 3. กิจกรรม Coding Thailand 45 นำที 1. เ ็บไซต ์ Code.org ค ร์ ท ่ี 1 ใน Lesson 7 2. ค มพิ เต ร์ รื มำรต์ โฟน 3. ใบกิจกรรม 3.3 4. กจิ กรรม micro:bit Mission 1 ช่ โมง 30 นำที 1. เ ็บไซต์ makecode.microbit.org 2. ื่ micro:bit 3. ใบกจิ กรรม 3.4 ใบกจิ กรรม 3.4.1 ใบกิจกรรม 3.4.2 ใบกจิ กรรม 3.4.3 ใบกิจกรรม 3.4.4 5. กจิ กรรมกำรจดกำรเรียนรโู้ ดยใช้โครงงำน 4 ช่ โมง 30 นำที 1. เ ก ำรเ ริมค ำมรู้ เปน็ ฐำน 2. ใบกิจกรรม 3.5 - 33 -

ส่อื รายการท่ี 3/1 ใบกิจกรรมท่ี 3.1 กิจกรรม Move it Move it ค�ำชีแ้ จง ใ ้ผู้เขำ้ บรม ำข้ ผิดพลำดข ง ลก ริทมึ (Algorithm) แต่ล ข้ แล้ ขีด ก พร้ มกบแกไ้ ขใ ้ถกู ต้ ง 1) Yay! Move North Move North Start 2) Move East Yay! Move North Move East Start 3) Start Move South Move East Move South Yay! - 34 -

ค�ำชี้แจง ใ ้ผู้เข้ำ บรม กึ ำท่ำทำงข งคำ� ง่ เพื่ ่ง ญญำณในกำรเดินทำงที่ถูกต้ ง 1. ด้ำนล่ำงเป็นทำ่ ทำงที่ใ ผ้ เู้ ลน่ ่ง ญญำณแขน ใ ้ผเู้ ล่น ีกคนเดนิ ตำม 2. ฝกึ ฝน 2-3 คร้ง เพ่ื ใ แ้ น่ใจ ำ่ ผเู้ ลน่ ทง้ 2 คน เขำ้ ใจแตล่ ญญำณน้ีตรงกน - 35 -

คำ� ชีแ้ จง ใ ้ผู้เข้ำ บรม กึ ำท่ำทำงข งคำ� ่ง เพ่ื ่ง ญญำณในกำรเดินทำงทถ่ี ูกต้ ง 1. กระจำย แบ่งนกเรียนเป็นกลุ่ม กลมุ่ ล 2-3 คน แจกชดุ ข งแผนท่ี Move It, Move It แล กร ดำ ตำรำงเปล่ำใ ้ แต่ล กลุม่ ำจใ น้ กเรยี นตด รื พบแผนท่ี กเป็นครึง่ น่งึ 2. Set-Up ในแตล่ กลุ่ม ผ้เู ล่นคนที ่ 1 เลื กแผนทท่ี จี่ เลน่ ผเู้ ลน่ คนที่ 2 Programmer ผู้เล่นคนท ี่ 3 นุ่ ยนต์เคลื่ นท่ี 3. ดำ� เนินกิจกรรม ดงค�ำช้ีแจงดำ้ นล่ำง 3.1 เลื ก ำ่ ใครจ ท�ำ นำ้ ที่ ไร 3.2 ใ ผ้ ู้เลน่ คนท ่ี 1 ทำ� แผนที่กร ดำ บนพืน้ (แผนท ่ี 1 ชุด ปร ก บด้ ยกร ดำ A4 ท่ีมีรูปเขม็ ทิ 1 แผ่น กร ดำ ท่มี รี ูปเพชร 1 แผน่ กร ดำ เปล่ำ กี 4 แผ่น) โดยใ ้มีขนำดใ ญพ่ ใ ้นกเรียนยนื ได้ (แผนที่มี ลก ณ เ มื นกบทแี่ ดงในแผนที่ Move It) ยกเ น้ ตรงทเี่ ป็น มบต ิ (เพชร) ใ ค้ �ำ่ ไ ้ 3.3 ใ ้ผู้เล่นคนที ่ 3 เริม่ ตน้ ด้ ยกำรยนื ทเ่ี ขม็ ทิ 3.4 ใ ผ้ ู้เลน่ คนท่ ี 2 บ กใ ผ้ ู้เล่นคนท ่ี 3 เดนิ ไปทีล ขน้ ต น โดยใช้ ญญำณแขน 3.5 เม่ื ผเู้ ล่นคนที ่ 2 ใ ้ ญญำณ ่ำ “ ยุด” ใ ้ผู้เล่นคนที ่ 3 พลิกกร ดำ แผน่ ที่ยนื ยู่ ถ้ำกร ดำ แผน่ น้นเปน็ รปู เพชร ก็จบเกม 3.6 ำกยงไม่ มดเ ลำ ใ ้ผู้เล่นแตล่ คน ลบ นำ้ ทกี่ นบำ้ ง ชุดแผนท่ี Move It, Move It 1 ชดุ แผนท่ี Move It, Move It 2 Yay! Yay! Start Start - 36 -

สือ่ รายการท่ี 3/2 เอกสารความรู้ เรอ่ื ง แนวคดิ เชิงค�านวณ (Computational Thinking) ค�าชี้แจง แน คดิ เชิงค�ำน ณ (Computational Thinking) คื กร บ นกำรแก้ปญั ำเพื่ ใ ้ได้แน ทำงกำร ำคำ� ต บ ยำ่ ง เปน็ ร บบเพื่ ใ ้ผู้ ืน่ ำมำรถน�ำไปปฏิบตติ ำมได้ ย่ำงถกู ต้ งแล แม่นย�ำ แน คดิ เชิงคำ� น ณมี งค์ปร ก บท่ี ำ� คญ 4 ่ นไดแ้ ก ่ 1. กำรแบง่ ปัญ ำใ ญ่เป็นปัญ ำย่ ย (Decomposition) 2. กำรพจิ ำรณำรปู แบบ (Pattern Recognition) 3. กำรคดิ เชิงนำมธรรม (Abstraction) 4. กำร กแบบ ลก รทิ มึ (Algorithm) กำรแบง่ ปัญหำใหญเ่ ป็นปญั หำย่อย (Decomposition) เปน็ กำรแบ่งปัญ ำทีม่ ีค ำมซบซ้ นใ ้เป็นปัญ ำย่ ยทมี่ ีค ำมซบซ้ นน้ ยลง เพ่ื ใ ้กำรแกป้ ัญ ำ รื กำร ำค�ำ ต บทำ� ไดง้ ่ำยขึน้ กำรพิจำรณำรปู แบบ (Pattern Recognition) เปน็ กำร ิเครำ ์ปัญ ำย่ ยทีเ่ รำแบ่ง กมำเพื่ ำค ำมคล้ำยคลงึ กนร ่ำงปัญ ำย่ ยทเ่ี รำแยก กมำ รื กบปญั ำ นื่ ๆ ที่มีผู้ กแบบ ิธีกำรแกไ้ ขปัญ ำไ ก้ ่ นแล้ กำรคดิ เชงิ นำมธรรม (Abstraction) เปน็ กำรแยกรำยล เ ยี ดท่ีจ�ำเป็นต่ กำรแกป้ ัญ ำ กจำกรำยล เ ยี ดทไี่ ม่จ�ำเป็นต่ กำรแกไ้ ขปัญ ำ รื กำรร ม กร บ นกำรท่ีมรี ำยล เ ยี ดปลกี ย่ ย ลำยขน้ ใ เ้ ป็นกำรทำ� งำนขน้ ต นใ มเ่ พียงข้นต นเดีย (Function) กำรออกแบบอัลกอรทิ ึม (Algorithm) เป็นกำร ำค�ำต บข งปัญ ำท่ีเป็นข้นต นแล บุคคล ื่น รื ค มพิ เต ร์ ำมำรถน�ำไปปฏิบติตำมได้ ย่ำงถูกต้ ง แม่นย�ำ ตั อย่ำง กำรเปรยี บเทียบรำคำผงซกฟ ก 5 ชนดิ ชนดิ ปรมิ ำณ นิ คำ้ รำคำ ินค้ำ A 1700 กรม 340 บำท B 2700 กรม 486 บำท C 900 กรม 198 บำท D 3500 กรม 875 บำท E 3200 กรม 736 บำท - 37 -

ในกำร ำ ิธีกำรเปรยี บเทยี บรำคำผงซกฟ ก 5 ชนิดทีม่ ปี รมิ ำณ ินค้ำแตกตำ่ งกนน้นเป็นปัญ ำทม่ี คี ำมยุ่งยำก เพรำ ปรมิ ำณ ินค้ำข งแตล่ ชนิดไมเ่ ท่ำกน ดงนน้ เรำจ ใชแ้ น คดิ เชงิ คำ� น ณเขำ้ มำช่ ยในกำรจดกำรปญั ำแล ำ ธิ ี กำรเปรยี บเทยี บรำคำ นิ ค้ำ กำรแบ่งปญั ำใ ญเ่ ป็นปัญ ำยอ่ ย (Decomposition) กำรเปรยี บเทยี บรำคำผงซกฟ ก 5 ชนดิ ำ่ ในปริมำณทเี่ ทำ่ กน นิ คำ้ ชนดิ ไ นมรี ำคำถูกท่ี ดุ เรำ ำมำรถแบง่ ปัญ ำ ได้ ่ำ รำคำ นิ คำ้ 2 ชนดิ ำมำรถเปรียบเทียบได้ ยำ่ งไร ำ่ ินค้ำชนดิ ใดมรี ำคำถกู ก ำ่ กน กลำ่ คื แทนทจี่ เปรยี บ เทยี บทง้ 5 ชนดิ พร้ มกนเรำแบ่งเป็นเปรียบเทยี บทีล 2 ชนดิ เพ่ื ลดค ำมซบซ้ นข งปญั ำลงได้ กำรพจิ ำรณำรูปแบบ (Pattern Recognition) กำรเปรียบเทียบรำคำผงซกฟ กชนดิ ท ี่ 1 กบชนิดที่ 2 เรำจ ต้ ง ำ ำ่ ในจ�ำน นเงนิ ที่เทำ่ กนเรำ ำมำรถซื้ ินคำ้ ชนดิ ไ นได้มำกก ่ำ กำรเปรยี บเทยี บรำคำ ินคำ้ ชนดิ ที ่ 3 กบชนิดท่ี 4 เรำจ ต้ ง ำ ่ำในจ�ำน นเงินทเ่ี ทำ่ กนเรำ ำมำรถซื้ นิ ค้ำชนดิ ไ นได้มำกก ำ่ จ เ น็ ่ำกำรเปรียบเทียบรำคำ นิ คำ้ ชนิดท ่ี 1 กบชนดิ ท ี่ 2 รื กำรเปรยี บเทียบรำคำ ินค้ำชนิดท ี่ 3 กบชนดิ ท่ี 4 มี ธิ กี ำร ำค�ำต บท่เี มื นกน ำมำรถใช้ ิธกี ำรเดีย กนในกำร ำคำ� ต บได้ กำรคดิ เชงิ นำมธรรม (Abstraction) รำยล เ ียดที่ �ำคญ �ำ รบกำรแกป้ ัญ ำกำรเปรยี บเทียบรำคำผงซกฟ ก 2 ชนดิ ่ำ ินค้ำชนดิ ใดมรี ำคำถกู ก ่ำกน คื ปริมำณ ินคำ้ แล รำคำ นิ ค้ำ ่ นขนำดกล่ ง นิ ค้ำ ค ำม งู ข งกล่ ง ขี งกล่ ง รื ช่ื ข ง นิ คำ้ ทง้ มดนี้ เปน็ รำยล เ ยี ดทีไ่ มจ่ �ำเปน็ ต่ กำรแก้ปญั ำ กำรออกแบบอัลกอริทึม (Algorithm) กำรแก้ปัญ ำกำรเปรียบเทยี บรำคำผงซกฟ ก 2 ชนดิ ำ่ ชนิดใดมรี ำคำถกู ก ่ำกน ขน้ ต นที ่ 1 ผงซกฟ กชนดิ ท่ี 1 ำปริมำณ นิ คำ้ แล รำคำ ินค้ำ ข้นต นท ่ี 2 ำ ่ำเงนิ 1 บำท ำมำรถซื้ ผงซกฟ กชนิดท ี่ 1 ไดก้ ก่ี รม โดยกำรนำ� ปรมิ ำณผงซกฟ กชนดิ ท่ ี 1 ำรด้ ยรำคำผงซกฟ กชนดิ ที่ 1 ขน้ ต นที่ 3 ผงซกฟ กชนิดท ่ี 2 ำปริมำณ ินคำ้ แล รำคำ ินค้ำ ขน้ ต นท่ ี 4 ำ ่ำเงนิ 1 บำท ำมำรถซื้ ผงซกฟ กชนิดที่ 2 ได้กก่ี รม โดยกำรน�ำปรมิ ำณผงซกฟ กชนดิ ท่ี 2 ำรด้ ยรำคำผงซกฟ กชนิดท ่ี 2 ข้นต นที่ 5 เปรยี บเทียบ ่ำเงิน 1 บำท ำมำรถซ้ื นิ คำ้ ชนดิ ใดได้มำกก ำ่ แ ดง ำ่ รำคำ ินคำ้ ชนดิ นน้ ถูก ก ่ำ - 38 -

กำรใช้แน คดิ เชงิ คำ� น ณ (Computational Thinking) ในกำรแกป้ ัญ ำไม่จ�ำเป็นจ ต้ งเรียงล�ำดบขน้ ต นในกำร แก้ปัญ ำเปน็ 1. กำรแบง่ ปัญ ำใ ญ่เป็นปญั ำย่ ย (Decomposition) 2. กำรพจิ ำรณำรปู แบบ (Pattern Recognition) 3. กำรคดิ เชงิ นำมธรรม (Abstraction) 4. กำร กแบบ ลก รทิ มึ (Algorithm) แต่บำงขน้ ต น ำมำรถใช้ร่ มกนได้เช่น เรำ ำจใชก้ ำรคดิ เชิงนำมธรรมช่ ยในกำร ำรำยล เ ยี ดที่ ำ� คญก่ นแล้ จึงแยกปญั ำย่ ย เป็นต้น - 39 -

สื่อรายการที่ 3/3 ใบกจิ กรรมที่ 3.2 กจิ กรรม Computational Thinking คา� ชแ้ี จง 1. แบง่ กลุม่ ผู้เขำ้ ร่ มรบกำร บรมกลมุ่ ล 5 คน 2. ใ ้แตล่ กล่มุ ท�ำใบกิจกรรมท่ี 3.2 โดยใ ้เ ลำในกำรทำ� ใบกิจกรรม 20 นำที ครู.................................................................................. โรงเรยี น.......................................................................................... ครู.................................................................................. โรงเรยี น.......................................................................................... คร.ู ................................................................................. โรงเรียน.......................................................................................... ครู.................................................................................. โรงเรียน.......................................................................................... ครู.................................................................................. โรงเรียน.......................................................................................... ปัญ ำ ถำ้ ต้ งกำรปกู ร เบื้ งรปู กเ ลี่ยมดำ้ นเท่ำที่ยำ ดำ้ นล 6 เซนติเมตร มำปู ้ งรปู ีเ่ ลี่ยมจตรุ ขนำดยำ ด้ำน ล 3 เมตร แล ้ งรูป ี่เ ลี่ยมผนื ผำ้ ขนำดก ำ้ ง 3 เมตร ยำ 6 เมตร จ ต้ งใช้เงนิ น้ ยที่ ดุ เทำ่ ไร ถ้ำกร เบ้ื งรำคำแผน่ ล 100 บำท 12 เซนติเมตร 10.4 เซนติเมตร ต ยำ่ งกำรปูกร เบ้ื ง - 40 -

ส่ือรายการท่ี 3/4 ใบกิจกรรมท่ี 3.3 กจิ กรรม Coding Thailand คา� ช้ีแจง 1. ทิ ยำกรแน น�ำเ บ็ ไซต ์ Code.org 2. ใ ้ผเู้ ขำ้ ร่ ม บรมเขำ้ ใช้งำน เ บ็ ไซต์ Code.org 3. ใ ผ้ ูเ้ ข้ำร่ ม บรมทำ� กิจกรรมใน Lesson 7 มีท้ง มด 15 กิจกรรม 4. เม่ื ท�ำเ รจ็ แตล่ กจิ กรรมล งพจิ ำรณำดู ่ำ ำมำรถเขยี นโปรแกรม รื ใช้ Block คำ� ่งได้น้ ยก ่ำเดิมได้ ีก รื ไม่ 6. เพ่ื รุปค ำมเขำ้ ใจเกีย่ กบ ลก ริทึม โดย ทิ ยำกรมีกิจกรรมพิเ ใ ผ้ เู้ ขำ้ ร่ ม บรมล งแกป้ ญั ำ โดยจบเ ลำ 5 นำที อุปกรณ์ที่ใช้ 1. เ ็บไซต ์ Code.org ค ร์ ที่ 1 ใน Lesson 7 2. ค มพิ เต ร์ รื มำร์ตโฟน ผลทคี่ าดว่าจะได้รบั 1. ผเู้ ขำ้ ร่ ม บรมไดฝ้ กึ ทก กำรแก้ปญั ำโดยกำร ล งผิดล งถกู แล กำรเปรียบเทียบ 2. ผเู้ ขำ้ ร่ ม บรมไดฝ้ ึกกำรแ ดงข้นต นกำรแก ้ ปัญ ำโดยใช้ ญลก ณ์ 3. ผเู้ ขำ้ ร่ ม บรม ำมำรถ กแบบจดกำรเรียนรู้กำร คดิ กำรแก้ปญั ำ ย่ำงเป็นลำ� ดบขน้ ต นได้ - 41 -

สอื่ รายการท่ี 3/5 เอกสารเสรมิ ความรู้ เร่อื ง ทา� ความร้จู กั กบั micro:bit micro:bit เป็นบ ร์ดไมโครค นโทรลเล รเ์ พื่ กำร กึ ำที่เริม่ โครงกำรโดย ถำนีโทรท น ์ BBC (จำก งกฤ ) ผลิต โดย element14 โดยในโครงกำรไดจ้ ดท�ำบ รด์ micro:bit ขน้ึ มำแจกใ ้กบนกเรยี นในปร เท งกฤ จำ� น น 1 ล้ำน บ ร์ด ก่ น น้ำนี้ ถำนโี ทรท น์ BBC ได้จดทำ� ค มพิ เต ร์ทช่ี ื่ ่ำ Micro ทีผ่ ลิตโดย Acore แจกใ ้กบเด็ก ๆ ในป ี 1980 ซึ่งผลกำรด�ำเนินโครงกำรทำ� ใ ้เด็ก ๆ เ ลำ่ นน้ โตขน้ึ มำ แล้ ท�ำธุรกจิ ดำ้ น IT ท่ขี บเคล่ื นเ ร ฐกิจข งปร เท งกฤ ใน ขณ น้ี ในครง้ น้ที ำง ถำนีโทรท น ์ BBC จึง ง ำ่ บ รด์ micro:bit จ ใ ้ผลแบบเดยี กน micro:bit เปน็ บ ร์ดไมโครค นโทรลเล รท์ ี่มจี ดุ เดน่ ด้ำนกำรเขยี นโปรแกรมท่ีงำ่ ยโดยใช้ภำ ำบล็ ก แปลง กมำ เป็นภำ ำ JavaScript รื Python ต บ รด์ มำพร้ มกบชิปไมโครค นโทรลเล รท์ ี่มีบลทู ูธในต มเี ซน็ เซ ร์ ดค ำม เ ียง (Accelerometer) แล เซ็นเซ รแ์ ม่เ ล็กโลก รื เข็มทิ (Magnetometer) มี ล ด LED 25 ด ง แ ดงผลแบบ Dot matrix แล ิตซ์กดติดปล่ ยดบ 3 ต ใชก้ ำร ปโ ลดโปรแกรมผำ่ นค มพิ เต ร ์ รื แ พพลิเคชน่ บน Android แล iOS คณุ สมบัตทิ างเทคนคิ • ใชไ้ มโครค นโทรลเล ร ์ ARM Cortex 32 บติ • น่ ยค ำมจ�ำแรม 16 กิโลไบต์ • ร งรบกำรเช่ื มต่ ไร้ ำยแบบบลูทูธ 4.0 ใชพ้ ลงงำนต่ำ� • มี LED บนบ ร์ด 25 ด ง (5×5) • มปี มุ่ แบบปมุ่ กดบนบ ร์ด 2 ต • มโี มดูลเข็มทิ • มีโมดูลตร จจบค ำมเ ยี ง • มีพ รต์ แ น ล็ กแล ดิจิทล 3 พ ร์ต • มจี ุดต่ จำ่ ยไฟบนบ ร์ดแล ค นเน็กเต ร์ ำ� รบต่ รำงถ่ำน 3 โ ลต์ • ใช้แ ล่งจ่ำยไฟตรง 3 โ ลต์ - 42 -

21 2 1 5 67 ด้ำน นำ้ 2 ดำ้ น ลงั 3 4 8 บอดร์ด micro:bit สว่ นประกอบของ Micro:bit มีดงั นี้ ดำ้ น นำ้ 1 ล ด LED แี ดง จำ� น น 25 ด ง เรยี งแบบ 5x5 แ ดงผลแบบเมตริก �ำ รบเปน็ นำ้ จ แ ดงผล 2 ิตซก์ ดติดปล่ ยดบ เชื่ มต่ กบ GPIO ทดล งเช่ื มต่ กบค มพิ เต ร ์ ด้ำน ลงั 1 ชิปไมโครค นโทรลเล ร์ทม่ี ำพร้ มบลทู ูธ 4.0 ใชช้ ิป Nordic nRF51822 32-bit ARM Cortex-M0 ค ำมถ ่ี 16MHz พืน้ ทภ่ี ำยใน 265KB แรม 16KB 2 ชปิ ไมโครค นโทรลเล รใ์ ช้ ปโ ลดโปรแกรมใ ช้ ปิ ลกผำ่ น USB ใช้ชิป NXP/Freescale KL26Z ถำปตั ยกรรม ARM Cortex-M0+ ร งรบกำรเชื่ มต่ แบบ USB 2.0 3 ชปิ เซน็ เซ ร์ นำมแมเ่ ล็ก รื เข็มทิ ดิจทิ ล (Magnetometer) ใช้ชิป NXP/Freescale MAG3110 จำก NXP/ Freescale ำมำรถ ดคำ่ ได ้ 3 แกน เช่ื มต่ กบไมโครค นโทรลเล รผ์ ่ำนบ I²C 4 ชปิ เซ็นเซ ร์ ดค ำมเ ยี ง/ค ำมเรง่ (Accelerometer) ใช้ชปิ NXP/Freescale MMA8652 จำก NXP/Frees- cale ำมำรถ ดค่ำได้ 3 แกน เชื่ มต่ กบไมโครค นโทรลเล รผ์ ่ำนบ I²C 5 ช่ ง MicroUSB ำ� รบจำ่ ยไฟ รื เชื่ มต่ กบค มพิ เต รเ์ พื่ ปโ ลดโปรแกรม 6 ปุ่ม Reset 7 ช่ งเ ียบแบตเต รี่ ร งรบไฟ 2.8 - 5V ำมำรถใชถ้ ่ำน AA AAA จ�ำน น 2 ก้ นได้ 8 ขำ ญญำณ ช่ ง GPIO จ เ น็ ำ่ พนิ ขนำดใ ญ่ทีม่ ี มำยเลข 0 1 แล 2 จ กแบบเปน็ พ ร์ตรบ ่งข้ มูลท่ ไป แล รบ ่ง ญญำณแ น ล็ กได ้ ่ นพนิ 3V แล Gnd ใชต้ ่ กบไฟเล้ียง รำยล เ ยี ดดงภำพ - 43 -

GND GND SDA 12C1 GPP+213N90vD3 SCL +3v3 MOSI +3v3 MISO SPI1 P16 SCK PP1154 P13 P2 Reserved: Accessibility PPPPP81119201 BUTTON B LED Col 3 ANALOG IN LED Col 7 P1ANALOG IN LED Col 8 PPPP6574 LED Col 9 BUTTON A LED Col 2 ANALOG IN P0ANALOG IN LED Col 1 ANALOG IN P3 GPIO ของบอดร์ด micro:bit รูปลักษณ์ภำยนอก LEDs Buttons Pins Light Sensor Temperature Sensor ใช ้ LED เปน็ Light Sensor ใช้ต ด ณุ ภมู ิข ง CPU ด ุณภูมิ ภำพแ ดล้ ม Accelerometer Compass ด ตรำค ำมเรง่ ข ง micro:bit ในกำรเคลื่ นท่ี เปน็ เขม็ ทิ เิ ล็กทร นกิ ์ - 44 -

Radio Bluetooth ่ง ญญำณ ทิ ยุ ่ื ำร ำกนร ำ่ ง micro:bit ด้ ยกน ำมำรถ ่ื ำรด้ ย ญญำณ Bluetooth ชนดิ พลงงำนต�ำ่ โดยเชื่ ต่ เข้ำกบเคร่ื งค มพิ เต ร์ USB Interface โทร พท์ แล Tablet ได้ มีช่ ง ญญำณเชื่ มต่ ด้ ย micro-USB เพื่ Download โปรแกรม แล จ่ำยพลงงำนไฟฟ้ ำ้ ใ บ้ ร์ด ขัน้ ตอนกำรพฒั นำโปรแกรม micro:bit 1. ไปยงเ บ็ ไซต ์ makecode.microbit.org 2. ลำกแล ำงบล็ กค�ำ ่งเพื่ รำ้ งโค้ด 3. เชื่ มต่ micro:bit กบค มพิ เต ร์ ผ่ำนพ รต์ USB 4. บนทึกไฟล ์ .hex แล ดำ นโ์ ลดไปยง micro:bit (ทำ� น้ำทีแ่ ทนแฟลชไดรฟ์) - 45 -

กำรเขียนโปรแกรม กำรเขยี นโปรแกรม ำมำรถทำ� ได้โดยเขยี นผำ่ นเ บ็ ไซต์ makecode.microbit.org รื จ ติดต้งโปรแกรม makecode ในเคร่ื งค มพิ เต ร ์ PC เปน็ แบบ ฟไลนก์ ็ ำมำรถทำ� ได้ น้ำตำข งโปรแกรมจ เป็นดงนี้ กำร ร้ำงช้นิ งำนในแตล่ ช้นิ จ เปน็ กำร รำ้ งโปรเจก็ ต ์ ำมำรถเกบ็ ไ บ้ นเ ็บไซต์ รื โ ลดมำเกบ็ ใ ้ในเครื่ ง ค มพิ เต ร์ได ้ ในกรณี รำ้ งงำนใ มใ่ ก้ ดท ่ี New Project จำกนน้ กจ็ เขำ้ ู่ นำ้ เขยี นโปรแกรม โดยมเี ครื่ งมื ต่ำง ๆ ดงน้ี พ้ืนที่ ำ� รับเขียนโปรแกรม - 46 -

กำรเขยี นแกรมเม่ื เข้ำ ู่ นำ้ เขียนโปรแกรมแล้ ในโปรแกรมจ มเี คร่ื งมื แบง่ เปน็ ่ นตำ่ ง ๆ ดงนี้ กำรจำ� ล งกำรทำ� งำนข งบ ร์ด เพื่ ใชท้ ด บโปรแกรมแล กำรทำ� งำน ำ่ ตรงตำมเง่ื นไขทีเ่ ขยี นโปรแกรมไ ้ รื เปล่ำ ก่ นท่จี ปโ ลดโปรแกรมท่ีเขียนเขำ้ ู่บ รด์ จริง บล็ กชดุ ค�ำ ่ง เปน็ ทีร่ บร มชุด ำ� ่งข งโปรแกรมใ ้เลื กใชง้ ำนเป็นแบบบล็ กค�ำ ง่ ร บร มไ ้เป็นกลุม่ ๆ ำก คลกิ กลุม่ ใดโปรแกรมจ แ ดงค�ำ ง่ ตำ่ ง ๆ ทเี่ ก็บไ ม้ ำใ เ้ ลื กใชง้ ำน ยกต ยำ่ ง กล่มุ Basic จ เ ็นคำ� ่งตำ่ ง ๆ เกบ็ ไ ้ดงนี้ เมนูชดุ ค�ำสั่งต่ำงๆ ใชแ้ ดงต เลข ใช้แ ดงกำร ่ำงข งแ ล ีดตี ำมทก่ี ำ� นด ใชแ้ ดงไ ค นทำง ล ดแ ล ดี ี ใช้แ ดงข้ ค ำม ทำ� ซำ้� น่ งเ ลำเปน็ มลิ ลิ นิ ำทีตำมท่กี �ำ นด เริม่ ต้น �ำ รบพืน้ ทีเ่ ขยี นโปรแกรม จ มีบล็ กเริม่ ตน้ ใ ้ 2 บล็ ก คื on start แล forever บล็อกเร่ิมตน้ on start แล forever คำ� ง่ ในบล็ กนจ้ี ทำ� งำน ค�ำ ่งในบล็ กนี้จ ทำ� งำน คร้งเดีย เม่ื โปรแกรม ซ�ำ้ ตล ดโปรแกรม เร่ิมท�ำงำน - 47 -

กำรเรมิ่ ตน้ กำรเขยี นโปรแกรม เมื่ เปดิ เ ็บไซต ์ makecode.microbit.org รื เปิดโปรแกรม makecode ท่ตี ิดต้ง ในกรณีแบบ ฟไลน์ ใ เ้ ร่มิ โดยกำร รำ้ งช้ินงำนใ ม่ กด New Project โปรแกรมกจ็ เข้ำ ู่ น้ำกำรเขียนโปรแกรม ใน ต ยำ่ งแรกจ ใ ้ทดล งนำ� บล็ กแ ดงข้ ค ำมมำ ำงใน on start จำกนน้ เมื่ RUN โปรแกรมใ ้แ ดงผล ่ำ microbit จำกต ย่ำงเม่ื เขียนโปรแกรมแบบเปน็ บล็ ก ในบล็ ก on start เมื่ กด RUN โปรแกรม บ รด์ จำ� ล งก็จ แ ดง คำ� ำ่ mircobit แล้ ยดุ กำรท�ำงำน **ถำ้ ต้ งกำรใ ท้ ำ� ซำ้� ไปโดยไม่ ยดุ จ ต้ งใช้บล็ ก forever แทนบล็ ก on start เม่ื ไดท้ �ำกำรเขยี นโปรแกรมแล ไดท้ ด บกำรทำ� งำนข งโปรแกรมเป็นท่เี รยี บร้ ยแล้ กจ็ ถงึ ขนึ้ ต นกำรน�ำไฟล์ .hex ไปเก็บในบ รด์ microbit ใ ต้ ง้ ช่ื ไฟลช์ ิน้ งำนตำมท่ตี ้ งกำรแล กดปมุ่ Downlond รื ป่มุ save ก็จ ไดไ้ ฟล์ microbit-test-1.hex แล ใ ้เช่ื มต่ บ ร์ด microbit แล เครื่ งค มพิ เต ร์ ผ่ำน ำย USB จำกน้น นำ� ไฟล์ไปใ ่ลง ไดรฟข์ ง microbit ได้เลย แล ท�ำกำรปิด-เปดิ บ รด์ microbit รื กดปุ่ม reset เพ่ื ใ ้ ำรด์ แ รท์ ำ� งำนตำมค�ำ ง่ ใน โปรแกรมท่ีเขียนไ ้ ตง้ั ชอื่ ไฟล์ กดบันทกึ save ไฟล์ .hex เขำ้ ไปในไดรฟ์ microbit - 48 -

สื่อรายการที่ 3/6 เอกสารเสรมิ ความรู้ เรือ่ ง ข้ันตอนการพฒั นาโปรแกรมและอัลกอริทึม ผพู้ ฒนำโปรแกรมค รฝกึ ทก ในกำรแกป้ ญั ำโดยใชข้ น้ ต นกำรแกป้ ญั ำ ยำ่ งงำ่ ย กแบบ รื เขยี นโปรแกรม ยำ่ งง่ำยโดยใชซ้ ฟตแ์ ร์ รื ื่ เพื่ แก้ไขปัญ ำทำงคณติ ำ ตร์ รื ทิ ยำ ำ ตร์ น กจำกนผ้ี ูพ้ ฒนำโปรแกรมค รเ น็ แน ทำงกำรบรู ณำกำรแน คิดแล ค ำมรตู้ ำ่ ง ๆ มำพฒนำต่ ย ด ปรบปรุงผลงำน รำ้ ง รรค์ เช่ื มโยงกบชี ิตจริงได ้ ำมำรถ ร้ำงร บบ ตโนมติ ย่ำงง่ำยได ้ แล เ ็นแน ทำงกำรพฒนำใน นำคต ก่ นท่ีผพู้ ฒนำจ เขียนโปรแกรม ผพู้ ฒนำ ค ร ำงแผนงำนกำรทำ� งำน รื แ ดงขน้ ต นกำรแกไ้ ขปัญ ำ กมำเ ียก่ น รื ทเ่ี รยี กกน ่ำ ลก รทิ ึม แล้ เปลยี่ น ลก ริทึมเปน็ คำ� ่งทรี่ บบเขำ้ ใจ ลก ริทึม (Algorithm) มำยถงึ ข้นต น รื ล�ำดบกำรปร ม ลผลในกำรแกป้ ัญ ำใดปญั ำ นึ่งซงึ่ จ ช่ ยใ ้ผู้ พฒนำโปรแกรมเ ็นข้นต นกำรเขียนโปรแกรม ย่ำงง่ำยขึ้น รปู แบบข ง ลก ริทมึ กำรเขยี น ลก ริทึมมี ลำยรปู แบบ โดยผู้เขียน ำมำรถใช้ ลก ริทึม ลำยรปู แบบปร ก บ กนในกำร กแบบ ลก ริทมึ น้นเพ่ื ใช้ในกำรแกป้ ัญ ำกำรเขียนโปรแกรมได้ 1. แบบล�ำดบั (Sequential) มลี ก ณ กำรทำ� งำนจ เปน็ ไปตำมข้นต น ก่ น- ลง ต่ เน่ื งกนไปเป็นล�ำดบ โดยกำร ทำ� งำนแต่ล ข้นต นต้ งท�ำใ ้เ ร็จก่ น แล้ จงึ ไปทำ� ขน้ ต นต่ ไป ตั อย่ำง ลก ริทึม กำรท ดไข่เจยี ข้ันตอ นที่ 1 1. ยิบไข่ไก่ ขัน้ ตอ นที่ 2 2. ต กไข่ไก่ใ ่ภำชน 3. ปรุงร ด้ ยเคร่ื งปรุง 4. ตีไขด่ ้ ยช้ น ้ ม ขนั้ ตอ นที่ 3 5. ต้งกร ท บนเตำ 6. เปิดแก๊ แล ตดิ ไฟ ข้นั ตอ นท่ี N 7. ใ น่ �้ำมนพืช 8. นำ� ไขท่ ปี่ รุงร แล้ ใ ล่ งในกร ท ท่รี ้ น 9. ท ดจน กุ 10. ตกขน้ ใ ่จำนที่เตรียมไ ้ อัลกอรทิ ึมแ บบล�ำดบั - 49 -